คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : สปอยล์ ตอนที่ 31 - END
+ +
บทที่ 31 - The Battle of Hogwarts
ที่ฮอกวอตส์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลและภาคีนกฟีนิกซ์ยืนอยู่ที่แท่นอาจารย์ใหญ่ และสั่งให้พรีเฟคของแต่ละบ้านอพยพนักเรียนของบ้านตัวเองออกไปจากฮอกวอตส์ทันทีภายใต้การดูแลของมาดามพอมฟรีย์และฟลินซ์ เออร์นี่ถามว่า แล้วถ้าต้องการจะอยู่และต่อสู้ต้องทำอย่างไร มักกอนนากัลอนุญาตให้อยู่ได้กรณีที่อายุถึงเกณฑ์ มีนักเรียนถามถึงเสนป มักกอนนากัลบอกว่าเสนปจากไป โดยไม่ได้บอกใคร ระหว่างนั้นแฮรี่พยายามมองหารอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ แต่ยังหาไม่เจอ มักกอนนากัลพยายามเร่งให้นักเรียนรีบออกไป แต่คำพูดของศ.มักกอนนากัลก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงปริศนาเสียงหนึ่ง เสียงสูง เยือกเย็น และชัดเจน
...ฉันรู้ว่าพวกเธอทุกคนพร้อมจะสู้ แต่ความพยายามของพวกเธอนั้นไร้ประโยชน์ ฉันนับถืออาจารย์ในฮอกวอตส์
...ส่งแฮรี่ พอตเตอร์มาแล้วทุกคนจะปลอดภัย
...พวกเธอมีเวลาถึงเที่ยงคืนเท่านั้น...
หลังโวลเดอร์มอร์ดพูดจบ แพนซี่ พาร์กินสัน กรีดร้องให้ทุกคนจับแฮรี่ส่งไป แต่เด็กบ้านกริฟฟินดอร์ ฮัฟเฟิลพัพ และเรเวนคลอ ยืนขึ้นปกป้องแฮรี่ มักกอนนากัลสั่งให้แพนซี่ออกไป และตามด้วยพวกสไลธีริน มักกอนนากัลสั่งให้บ้านอื่นๆออกไปด้วย แต่เด็กปีสูงๆบ้านเรเวนคลอ เด็กฮัฟเฟิลพัพหลายคน และกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กกริฟฟินดอร์ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้
แฮรี่พยายามถามหาเฮอร์กับรอน นายวิสลีย์เริ่มกังวลถึงสองคนนั้น แต่ความสนใจก็ถูกดึงไป เมื่อคิงสลีย์ขึ้นมาประกาศว่าเหลือเวลาครึ่งชั่วโมง และแบ่งนักเรียนสามกลุ่มให้ไปกับ มักกอนนากัล สเปราต์ และฟลิตวิก ไปประจำการที่สามหอคอยที่สูงที่สุด ส่วนคิงสลีย์ อาเธอร์ ลูปิน เฟรด จอร์จ จะไปที่สนาม มักกอนนากัลป์เตือนแฮรี่ให้รีบหาของที่แฮรี่ตั้งใจจะหา แฮรี่พยายามมุ่งคิดถึงฮอร์ครักซ์ แต่ก็อดคิดถึงรอนและเฮอร์ไม่ได้เพราะโดยปกติแล้วสองคนนั้นจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
แฮรี่เดาว่า โวลจะต้องคิดว่าแฮรี่จะต้องไปที่หอคอยของบ้านเรเวนคลอ เพราะโวลให้อะเลคโตมาเฝ้าไว้ ซึ่งมีเหตุผลที่เป็นไปได้ข้อเดียวคือ โวลกลัวว่าแฮรี่จะรู้ถึงฮอร์ครักที่มีความเชื่อมโยงกับเรเวนคลอ แฮรี่หลับตาและนึกถึงของที่หายไปของบ้านเรเวนคลอ และนึกถึงมงกุฎที่หายสาบสูญไป เป็นไปได้หรือไม่ที่มงกุฏจะเป็นฮอร์ครักซ์ แล้วแฮรี่ก็นึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ เลยไปถามนิคถึงผีประจำบ้านของเรเวนคลอ ซึ่งก็คือ the grey lady เมื่อแฮรี่เห็นก็จำได้ว่า เคยเจอ the grey lady เสมอๆที่ทางเดินในปราสาท เพียงแต่ไม่เคยพูดด้วย แฮรี่ถามถึงมงกุฎที่สาบสูญ แต่ the grey lady ปฏิเสธว่าคงช่วยอะไรแฮรี่ไม่ได้ มีนักเรียนมากมายหลายต่อหลายรุ่นตามหามันมาตลอด แฮรี่ขอร้องและบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโวลเดอร์มอร์ต
The grey lady บอกว่าเธอคือลูกสาวของเรเวนคลอ ผู้ก่อตั้งบ้านเรเวนคลอ และเธอเป็นคนขโมยมงกุฎนั้นจากแม่ของเธอเพราะคิดว่าจะทำให้เก่งกว่าแม่ และหนีไปเรเวนคลอไม่ยอมรับว่ามงกุฎหายไป แต่แสร้งทำว่าอยู่กับตัวเองมาตลอด ปิงบังแม้กระทั่งผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์คนอื่นๆ
ต่อมาเรเวนคลอป่วย และอยากจะพบลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย จึงส่งผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเชื่อว่าจะตั้งใจตามหา เพราะชายคนนี้หลงรักลูกสาวเธอมานาน ผู้ชายคนนั้นคือ บารอนเลือด !!!เมื่อตามมาจนพบ แต่เธอปฏิเสธที่จะกลับไป ด้วยความโมโหชั่ววูบ บารอนเลยแทงเธอตาย แต่เมื่อได้สติเขาก็เสียใจ และใช้มีดนั้นฆ่าตัวตายตาม ส่วนมงกุฎนั้นถูกซ่อนอยู่ในป่าที่เธอตาย ที่แอลเบเนีย แฮรี่ถามว่าเธอได้บอกเรื่องนี้ใครบ้างหรือเปล่า เธอจำได้ว่าเคยบอกเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แฮรี่เดาได้ว่าคือทอม ริดเดิ้ล ซึ่งน่าจะไปค้นหาตั้งแต่จบจากเรียน และป่าในแอลเบเนียนี้เองที่ริดเดิลซ่อนตัวอยู่ในช่วงสิบปีที่สูญเสีญอำนาจ แต่เวลานั้น มงกุฎที่กลายเป็นฮอร์ครักซ์ไม่น่าจะอยู่ที่ป่าอีกต่อไปแล้ว แต่กลับสู่บ้านของมัน ซึ่งก็คือ ฮอกวอตส์!! ...และน่าจะมีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น คือวันที่โวลกลับมาสมัครเป็นอาจารย์สอนป้องกันตัวจากศาสตร์มืด มงกุฏจึงน่าจะถูกซ่อนแถวๆห้องทำงานของดัมบิลดอร์
เหลือเวลาเพียงห้านาทีก่อนถึงเที่ยงคืน แฮรี่มั่นใจว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าฮอครักซ์อันสุดท้ายคืออะไร แต่ปัญหาคือ มันอยู่ที่ไหนกันเล่า ในเมื่อมันไม่เคยถูกค้นพบแม้ว่านักเรียนหลายรุ่นจะค้นหามาตลอด แสดงว่ามันไม่ได้ซ่อนอยู่ในหอคอยของเรเวนคลอ แฮรี่เดินคิดจนมาเจอแฮกริด และกอร์ป ในที่สุดก็ถึงเวลาเที่ยงคืน แฮรี่เห็นแสงจากด้านนอก เป็นสัญญาณที่บอกว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว แฮกริดเล่าว่าได้ยินเสียงโวลตอนอยู่ในถ้ำ เลยมาช่วย และถามถึงรอนกับเฮอร์ แฮรี่ตอบว่าไม่รู้ และชวนแฮกริดออกไปค้นหาแถวทางเดินห้องพักอาจารย์ แฮรี่มองเห็นรูปปั้นสัตว์ประหลาดหน้าห้องอาจารย์แล้วนึกถึงรูปปั้นเรเวนคลอที่บ้านเลิฟกูด และที่หอคอย และในที่สุดก็นึกออกว่ามงกุฎของเรเวนคลออยู่ที่ไหนแฮรี่วิ่งต่อไป ผ่านเฟรด ดีน เนวิลล์ (ที่กำลังไปช่วยเมนเดรก) และคนอื่นๆ และเจอกับรอนและเฮอร์ เฮอร์เล่าว่าทั้งสองคนเข้าไปในห้องแห่งความลับ โดนรอนเคยฟังแฮรี่และเลียนเสียงพาเซลเมาท์ได้ ทั้งสองคนใช้เขี้ยวของบาสิลิสทำลายถ้วยของฮัฟเฟิลพัพที่เป็นฮอครักซ์ไปแล้ว
แฮรี่บอกว่าตนเองรู้แล้วว่าฮอร์ครักสุดท้ายอยูที่ไหน เป็นที่ๆนักเรียนใช้ซ่อนของมานานนับศตวรรษ แฮรี่รู้เพราะเคยเอาหนังสือปรุงยาไปซ่อนที่นั่น ที่ทางเดินหน้าห้องต้องประสงค์ แฮรี่ เฮอร์ รอน เจอ จินนี่ ทองก์ และย่าของเนวิลล์ แฮรี่อยากให้จินนี่กลับไป แต่ขณะที่เถียงกันรอนก็นึกได้ว่าควรไปปล่อยเอลฟ์ประจำบ้านให้หนีไปด้วย พอได้ยินแบบนี้เฮอร์เลยวิ่งเข้าไปจูบรอน (ที่ปากซะด้วย โอ้ว) แฮรี่เตือนแบบเกรงใจว่าเราต้องหาฮอครักซ์กันต่อ และท่องในใจว่าต้องการห้องที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกซ่อนอยู่ ประตูบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้น แฮรี่ และหาเจอรูปปั้นที่สวมมงกุฏเก่าๆหมองๆที่แฮรี่นำมาทำสัญลักษณ์เพื่อซ่อนหนังสือปรุงยา แฮรี่หยิบมงกุฎขึ้นมา แต่มีคนสามคนปรากฏตัวข้างหลัง คือ แครบ กอยน์ และมัลฟอย ซึ่งบอกว่าจะมาจับแฮรี่เพราะต้องการรางวัลจากโวล รอนได้ยินเสียงจึงเข้ามาตามแฮรี่ แครปอยากเสกคาถาแต่มัลฟอยห้ามเพราะกลัวทำมงกุฎพัง มัลฟอยเดาว่ามงกุฎน่าจะสำคัญเพราะแฮรี่มาเอา แต่แครปบอกว่า มัลฟอยไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งคนอื่นอีกแล้ว เฮอร์โผล่ออกมาพอดี แครปเลยเสกอะวาดา เคดาฟรา ใส่เพราะเป็นเลือดสีโคลน แต่แฮรี่เสกคาถางุนงงใส่แครป แครปเลยเซไปชนมัลฟอยและทำไม้กายสิทธิ์หล่น ทั้งหมดต่อสู้กัน แครปเสกคำสาปที่แฮรี่ไม่รู้จักมาก่อน เกิดไฟไหม้ กอยน์หมดสติ แฮรี่ไปช่วยมัลฟอยเอากอยน์ออกมา แฮรี่สังเกตว่าของที่เกี่ยวข้องกับเวทย์มนตร์ถูกไฟนี้เผาไปได้ แฮรี่พามัลฟอยออกมาเจอกอยน์ รอน เฮอร์ และรู้ว่าแครปตายแล้ว มงกุฎในมือแฮรี่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เฮอร์บอกว่าไฟนี้คือ fiendfyre สามารถทำลายฮอครักซ์ได้ เท่ากับว่าตอนนี้ภารกิจของพวกเขาเหลือเพียงงูนากินี...
แต่แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนและต่อสู้ ผู้เสพความตายบุกเข้าฮอกวอตส์ได้แล้ว เฟรดและเพอร์ซี่กำลังต่อสู้ ทั้งสามคนเข้าไปช่วย ผู้เสพความตายคนนึงทำผ้าคลุมหลุดออก และปรากฏว่าเป็น รมต.กระทรวงเวทย์มนตร์ เพอร์ซี่เลยบอกว่างั้นลาออกเลยละกัน เฟรดเหมือนจะดีใจและแปลกใจหน่อยๆที่เพอร์ซี่ยิงมุขตลกๆกะเค้าด้วย เฟรดกำลังแซวเพอร์ซี่ก่อนเสียงจะขาดหายไป แล้วก็เกิดระเบิดขึ้นจนพวกเขาล้มระเนระนาด
No no no! someone was shouting. No! Fred! No!
And Percy was shaking his brother, and Ron was kneeling beside them, and Fred's eyes stared without seeing, the ghost of his last laugh still etched upon his face.
เฮอร์และแฮรี่ได้แต่เพียงยืนมอง ทั้งสองคนเศร้ามากๆ แฮรี่รู้สึกเหมือนว่าโลกนี้มืดลงไป และกลัว...อย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อนในชีวิต
Note : - แครปตาย
บทที่ 32 - The Elder Wand
ทุกคนไม่เชื่อว่าเฟรดจะตายแล้ว แต่คำสาบยังล่องลอยอยุ่ในอากาศ แฮรีกับรอน ดึงแขนเฮอร์ ให้หมอบลงกับพื้น เพอร์ซี่ ยังคงคุกเข่าอยุ่ข้างศพของเฟรด แฮรีพยายามดึงเขาออกมา ตอนนั้นเองที่เฮอร์ ร้องกรี๊ด แฮรี่หันไปดู แมงมุมยักษ์ (คาดว่ามาจากป่าต้องห้าม) ก็กรูเข้ามา พวกเขาพยายามหนีตาย แฮร์รี่ให้คาถาซัดพวกมันออกไป รอนกำลังอยากแก้แค้นพวกผู้เสพความตายที่ฆ่
"นายท่าน " เป็น ลูเชียส มัลฟอย นั่งอยุ่ที่มุมมืด ร้องขอชีวิต มัลฟอย แต่เวอร์ดี้ บอกว่า ถ้ามัลฟอย จะตายก็เพราะไม่ยอมมาอยู่ข้างเวอร์ดี้ เขาอาจอยากเป็นเพื่อนแฮรี่ก็ได้ ลูเชียส พยายามแก้ตัว แต่ไม่สำเร็จ เวอร์ดี้ยังรุ้ด้วยว่า ลูเชียส อยากรีบไปตามหาลูก เวอร์ดี้ สั้งให้ ไปตามสเนป มา มีงานจะให้ทำ แล้วเวอร์ดี้ก็นั่งรอ
เฮอร์ไมโอนี่โกรธมากที่รู้ว่าโวลเดอมอร์แค
พวกเขามาถึงต้นวิลโล่ว์จอมหวด และเข้าไปข้างในใต้ผ้าคลุมล่องหน และแอบดูตรงช่องกำแพง เขาเห็นโวลเดอมอร์และสเนป นากินี่ลอยอยู่ในวงคาถากลางอากาศ สเนปบอกว่าเขาจะไปพาแฮร์รี่มาให้ แต่โวลเดอมอร์ถามเขาว่าทำไมไม้กายสิทธิ์ถึ
กรงขังงูลอยขึ้นมาทับสเนปที่ศีรษะและบ่า โวลเดอมอร์สั่งนากินีให้ไปฆ่าสเนป มันฉกกัดไปที่คอของสเนปที่ยังไม่ทันร่ายมน
แฮร์รี่ค่อย ๆ เข้าไปหาสเนปที่กำลังจะตาย สเนปคว้าคอเสื้อคลุมดึงแฮร์รี่เข้ามาใกล้ ๆ และบอกว่าให้นำมันไป ... แฮร์รี่รู้ดีว่ามันคืออะไร สีฟ้าเงินลื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทั้งของเหลวหรือก๊าซไหลออกมาจากป
บทที่ 33 - The Prince's Tale
แฮร์รี่นั่งข้างร่างไร้ชีวิตของสเนปอยู่พั
รอนบอกแฮรี่ว่าอย่าไปฟังโวลเอดร์มอร์ เฮอมี่บอกให้รีบกลับไปที่ปราสาท เพราะถ้าโวลดี้ไปที่ป่าต้องห้าม พวกเขาจำเป็นที่จะต้องวางแผนกันใหม่ แฮรี่คว้าผ้าคลุมล่องหนมา และจ้องมองดูไปที่ศพของสเนป เขาไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับสเนป แต่เขาช็อคกับการตายของสเนป และสาเหตุที่สเนปต้องตาย แฮรี่ รอน เฮอไมโอนี่ เข้ามาในปราสาท ซึ่งเงียบผิดปกติ พวกเขาเจอกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ห้องโถงใหญ่ มาดามพรอมฟรีย์กำลังรักษาคนเจ็บอยู่ มีศพนอนเรียงเป็นแถวอยู่กลางห้องโถง ศพของเฟรดถูกล้อมรอบไปด้วยคนในครอบครัวของเขา ศพของลูปินและท็องอยู่ถัดไปจากศพของเฟรด ทั้งสองดูเหมือนหลับอย่างสงบ แฮรี่รู้สึกผิด เขาคิดวาถ้าเขายอมมอบตัวแต่แรก ทุกคน คงไม่ต้องมาตายแบบนี้ แฮร์รี่กลับไปยังห้องทำงานของดัมเบิลดอร์เ
สเนปในวัยเด็ก แอบเฝ้ามองเด็กสาวสองคนหลังพุ่มไม้ ลิลลี่กับเพ็ตทูเนียกำลังเล่นกัน โดยลิลลี่ใช้เวทมนต์กับดอกไม้ ทูนีย์(ป้าเพตทูเนีย ลิลลี่เรียกว่าทูนีย์อะ) หวาดกลัวบอกว่าแม่พวกเธอห้ามลิล
สเนปกับลิลลี่ในวัยเด็กนั่งคุยกันใต้ต้นไม
ที่สถานีรถไฟ สเนปเฝ้ามองครอบครัวมาส่งลิลลี่ ลิลลี่ยังคงขอโทษเพ็ตทูเนียอยู่ บอกว่าเมื่อเธอไปถึงโรงเรียน จะพยายามขอร้องอาจารย์ให้รับเพ็ตทูเนียเข้
ลิลลี่นั่งร้องไห้อยู่ในรถไฟ สเนปเข้ามานั่งด้วยและปลอบเธอโดยบอกเรื่อง
สเนปเฝ้ามองอย่างผิดหวังเมื่อลิลลี่ถูกประ
ลิลลี่กับสเนปเดินคุยกัน แต่เหมือนจะทะเลาะกันมากกว่าที่ลานโรงเรีย
ฉากในเพนซีฟตัดกลับตอนที่แฮรี่เคยดูมาแล้ว คือตอนที่เจมส์จับสเนปห้อยหัวลง ลิลลี่กับพวกเพื่อน ๆ เข้ามาห้าม สเนปตะโกนด่าเธอว่าพวกเลือดสีโคลนด้วยความ
ฉากตัดมาที่สเนปกำลังเฝ้ารอใครบางคนอย่างหวาดผวาโดยในมือกำไม่กายสิทธิ์แน่น และทันใดนั้นเองก็มีลำแสงเหมือนฟ้าผ่าปรากฎขึ้น สเนปเข่าอ่อนและทำไม่กายสิทธิ์หลุดมือ ดัมเบิลดอร์น่ะเอง สเนปร้องขอชีวิตต่อดัมเบิลดอร์ แต่ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาไม่ได้มาด้วยความตั้งใจที่จะฆ่าสเนป สเนปก็ได้เล่าว่าเขาได้เล่าคำพยากรณ์ที่ได้ยิน(คำพยากรณ์ของทรีลอว์นีย์ที่ดัมเบิลดอร์เป็นคนได้ฟังในเล่ม5)ให้กับโวลดี้ฟังทั้งหมด ทำให้โวลดี้คิดว่าคำพยากรณ์นั้นหมายถึงลิลลี่ อีแวนส์ ดัมเบิลดอร์จึงรู้ถึงความรู้สึกของสเนปที่มีต่อลิลลี่ ดัมเบิลดอร์เลยถามสเนปว่าถ้าลิลลี่สำคัญต่อเขาขนาดนี้ ทำไมเขาไม่ขอให้โวลดี้ปล่อยเธอไปล่ะ สเนปบอกดัมเบิลดอร์ว่าเขาขอแล้ว ดัมเบิลดอร์เลยด่าสเนปว่าน่าขยะแขยง สเนปไม่แคร์เลยว่าจะเกิดอะไรกับสามีและลูกของเธอ สเนปจึงขอร้องให้ดัมเบิลดอร์พาลิลลี่และครอบครัว(ไอ้ครอบครัวนี่ก็ไม่ค่อยเต็มใจจะเอ่ยหรอก)ไปซ่อน ดัมเบิลดอร์ถามว่าสเนปมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับคำขอนี้ สเนปบอกว่าเขายินดีจะให้และทำทุกอย่าง
ที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ สเนปบอกว่าเขาคิดว่าดัมเบิลดอร์จะซ่อนพวกเ
ฉากตัดมาสมัยแฮรี่เข้าเรียนปี1สเนปมีอคติต่อแฮรี่ หาว่าแฮรี่เย่อหยิ่งยะโสอวดดีแบบเจมส์ แต่ดัมเบิลดอร์ยืนยันว่าแฮรี่เป็นเด็กที่อ่อนโยน และบอกให้สเนปคอยจับตาดูควีเรลล์ไว้ ฉากตัดมาที่ตอนในเล่ม4 ดัมเบิลดอร์ยืนคุยกับสเนปหลังงานเลี้ยงเต้
ที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์ดูอิดโรยมาก สเนปใช้ไม้กายสิทธิ์และเอายามารักษาแผลที่
ฉากตัดมาที่สเนปคุยกับดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์พยายามกล่อมให้สเนปเห็นว่าแฮรี่อ่อนโยนเหมือนแม่มากกว่ากวนเหมือนพ่อ สเนปถามดัมเบิลดอร์ว่าคุยอะไรกับแฮรี่2ต่อ2 แต่ดัมเบิลดอร์ไม่ยอมบอก บอกเพียงแค่ว่าเขาปรึกษาและบอกข้อมูลบางอย
ตัดมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์อีกครั้ง ดัมเบิลดอร์เตือนสเนปว่า แฮรี่ต้องไม่รู้อะไรเลยจนกว่าจะถึงช่วงสุดท้ายของแผนการณ์นี้หลังจากที่เขาตาย จนกว่าช่วงเวลาที่โวลดี้กังวลเกี่ยวกับชีวิตของนากินีและพยายามเก็บมันไว้ใกล้ตัวมาถึง เมื่อนั้นจะปลอดภัยที่จะบอกแฮร์รี่ถึงเรื่
สเนปยืนคุยอยู่กับภาพของดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์บอกว่าให้เขาบอกโวลเดอมอร์วันแ
สเนปขี่ไม้กวาดไล่ตามลูปินกับจอร์จในร่างข
สเนปนั่งอยู่ในห้องนอนของซีเรียส น้ำตาไหลเมื่ออ่านจดหมายของลิลลี่ เขาฉีกจดหมาย เอาในส่วนหน้าที่สอง ที่เขียนว่า could ever have been friends with Gellert Grindelwald. I think her mind going personally
lots of love
Lily
สเนปเก็บรูปภาพของลิลลี่ที่กำลังยิ้มแย้มไว้(แต่ฉีกรูปเจมส์ที่อยู่ข้างๆออกไปแล้ว)
ในห้องทำงาน สเนปยืนอยู่เมื่อ ฟีนีแอสไนเจลลัสเข้ามารายงานเขาว่า พวกเลือดสีโคลนมาตั้งค่ายอยู่ที่forrest of deanแล้ว สเปนโต้กลับไปว่าอย่าใช้คำนั้น(คำว่าเลือดสีโคลน) ฟีนีแอสรายงานต่อ ว่าเขาได้ยินนังเด็กเกรนเจอร์นั่นเอ่ยถึงสถานที่ตอนที่เธอเปิดกระเป๋า(รูปฟีนีแอสที่พวกแฮรี่พกมาด้วย) รูปภาพดัมเบิลดอร์ในห้องอาจารย์ใหญ่เตือนสเนปไม่ให้ลืมมอบดาบของกริฟฟินดอร์ให้แฮรี่ และต้องระวังไม่ให้แฮรี่รู้ว่าใครเป็นคนมอบให้ เพราะโวลเดอมอร์อาจจะอ่านใจแฮรี่เจอเรื่องพวกนี้ได้ แล้วสเนปก็ออกจากห้องไป แฮรี่เงยหน้าขึ้นมาจากเพนซีฟ
บทที่ 34 - The Forest Again
ในที่สุดความจริงทุกอย่างเกี่ยวสเนปก็กระจ่าง แฮร์รี่ได้รู้ว่า สเนป เสี่ยงตายเพื่อช่วยดัมเบิลดอร์ และตัวเขาด้วยชีวิต แฮร์รี่ก็เข้าใจว่าเขาไม่ควรมีชีวิตอยู่อีก เขาต้องเสียสละตัวเอง และต้องตายแบบไม่ขัดขืน เขาเข้าใจดัมเบิลดอร์แล้วด้วย แต่ก่อนที่เขาจะตาย เขาต้องบอกเรื่อง Horcruxes สุดท้ายกับรอน และเฮอร์ เพราะเหตุนี้ดัมเบิลดอร์ถึงต้องการให้ทั้งสองคนอยู่เคียงข้างเขาเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ แฮร์รี่ตัดสนิใจกลับเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่ พบเนวิลล์ที่กำลังเก็บร่างของ Colin Creevey เขาฝากให้เนวิลล์บอกรอน หรือเฮอร์ ให้ฆ่างูที่อยู่โวลเดอมอร์ซึ่งเนวิลล์ก็รับปาก และบอกว่าทุกคนพร้อมจะสู้ แฮร์รี่ทำหน้าเศร้าคลุมผ้าคลุมล่องหน แล้วเดินจากมา จนเจอจินนี่กำลังปลอบเพื่อนอยู่ เขาอยากตะโกนบอกจินนี่ให้รู้ว่าเขาที่ใกล้ ๆ อยากให้เธอห้ามเขา พาเขากลับบ้าน แต่ฮอกวอต คือบ้านของเขา ที่แห่งเดียวที่เขา โวลดี้และสเนปเรียกว่าบ้าน..แฮร์รี่ตัดใจเดินจากมา จนถึงกระท่อมของแฮกริด เขาคิดถึงวันเก่า ๆ ที่รอนเคยอ๊วกตัวทากออกมา และมีเฮอร์ที่ช่วยดูแลตัวนอร์ทเบิร์ก
ที่ชายป่า มี Dementors เต็มไปหมด และแฮร์รี่ก็ไม่เหลือแรงกำลังที่จะเสกผู้พิทักษ์อีก เขาจึงหยิบลูกสนิทช์ขึ้นมา กระซิบว่าเขากำลังจะตาย ลูกสนิทช์แตกออก Resurrection Stone อยู่ข้างใน แล้วแฮร์รี่ก็เข้าใจว่า มันไม่ได้เพื่อทำให้คนตายฟื้นคืน เขากำลังจะกลายเป็นคนตายเหมือนพวกนั้น แฮร์รี่หมุนหินสามครั้ง แล้วเขาก็เห็นเจมส์ ลิลลี่ ซีเรียสกับลูปิน ไม่ใช่ผีหรือร่างเนื้อ เหมือนที่เขาเคยเห็นทอม ริดเดิ้ลจากไดอารี่ พวกเขาเหมือนกับเป็นผู้พิทักษ์ให้แฮร์รี่ โดยที่ Dementors ทำอะไรเขาไม่ได้ เขายังอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน เดินลึกเข้าไปในป่า
โวลเดอมอร์อยู่กล่ามกลางผู้เสพความตาย แฮร์รี่เห็น โดโรฮอฟ กับ ยักซี่ ขี่อาราก๊อก กลับมาแจ้งข่าวกับโวลดี้ว่าไม่เจอแฮร์รี่ โวลดี้มั่นใจว่ายังไงแฮร์รี่ก็ต้องมา แฮร์รี่ทิ้งผ้าคลุม ปรากฏตัวขึ้นกลางวง และเผลอทำ Resurrection Stone หล่นจากมือ วิญญาณพวกพ่อหายไป เขาเดินเข้าไปท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้เสพความตาย แฮร์รี่เห็นงูนากินี่ คิดในใจว่าคงฆ่ามันไม่ได้แน่ ๆ โวลดี้ต้องเสกคาถาป้องกันนากินี่ไว้ และผู้เสพความตายตรงนั้นคงฆ่าเขาก่อน แฮกริดจะเข้ามาห้าม แต่ถูกจับไว้ตรงนั้น ได้แต่ตะโกนห้ามไม่ให้แฮร์รี่เข้ามา แฮร์รี่เผชิญหน้ากับโวลดี้
แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิต โวลดี้เรียกเขา
ทุกอย่างหยุดนิ่ง แฮร์รี่นึกถึงจินนี่ สายตา ของเธอ ริมฝีปากของเธอ แฮร์รี่ต้องตัดสินใจเดี๋ยวนั้น ก่อนที่ความกลัวจะครอบงำเขาเสียก่อน โวลเดอมอร์ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น เห็นปากเขาขยับ และเห็นแสงสีเขียวพุ่งออกมาและทุกสิ่งก็ดับวูงลง
บทที่ 35 King’s Cross
ทุกอย่างเงียบไปหมด แฮร์รี่รู้สึกตัวและมองไปรอบ ๆ แล้วดัมเบิลดอร์ก็เดินมาหา แฮร์รี่ถามว่าดัมเบิลดอร์ตายแล้ว เขาก็คงตายแล้วเหมือนกัน ดัมเบิลดอร์ตอบว่าตัวเขาตายแล้วจริง ๆ แต่ส่วนแฮร์รี่ เขาคิดว่ายังไม่ตาย เพราะแฮร์รี่ไม่ได้คิดปกป้องตัวเองเลยและป
แฮร์รี่ถามเรื่องไม้กายสิทธิ์ว่าทำไมไม้ขอ
ในตอนนั้น แฮร์รี่ก็รู้สึกว่าเขากำลังอยู่ในสถานีคิง
ส่วนเรื่องน้องสาว เขายอมรับว่าเขาอยากหนีไปหาความรุ่งโรจน์ แม้เขาจะรักครอบครัวมากก็ตาม แต่ความเห็นแก่ตัวก็ยังมี เขารู้สึกเหมือนถูกขังเมื่อต้องรับผิดชอบน
แล้วดัมเบิลดอร์ก็พบ Resurrection Stone ที่บ้านของ Gaunt เขาคิดว่าจะได้พบน้องสาวและแม่อีก แต่เขาก็โง่มาก ไม่ใช่ใครทุกคนจะรวม Hallows ได้ ดัมเบิลดอร์ยอมรับว่าเขาเป็นผู้ครอง Elder Wand และใช้มันปกป้องผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ตนเอง ส่วนผ้าคลุม เขาเอาไปดูเพราะความอยากรู้อยากเห็น เจ้าของที่แท้จริงคือแฮร์รี่
แฮร์รี่ถามว่าทำไมต้องทำให้ทุกอย่างมันยาก
แฮร์รี่ถามว่าเขาจะกลับไปได้ไหม ดัมเบิลดอร์บอกว่าแล้วแต่เขา แฮร์รี่มีทางเลือก อย่าสงสารคนตาย ให้สงสารคนเป็น โดยเฉพาะผู้ที่มีชีวิตโดยปราศจากความรัก หากกลับไปแล้ว เขาแน่ใจว่าวิญญาณผู้อื่นจะถูกทำร้ายน้อยล
บทที่ 36 - The Flaw in the Plan
แฮร์รี่รู้สึกเหมือนหล่นลงมาจากฟ้าสู่พื้น
โวลเดอมอร์ใช้เวทมนต์ส่งเสียงไปบอกทุกคนใน
ทันใดนั้น ก็มีแสงจากคาถาพุ่งเข้าจะทำร้ายโวลเดอมอร์
เกิดความโกลาหนขึ้นมาอีกครั้ง เซนทอร์เข้าโจมตีพวกผู้เสพความตาย บัคบีคกับกอร์ปสู้กับพวกยักษ์ แฮรี่เห็นว่าการต่อสู้ค่อยๆเคลื่อนเข้าไปทางโถงทางเข้า แฮรี่ตามเข้าไปและพยายามมองหาโวลเดอมอร์และเห็นเขากำลังมุ่งหน้าไปทางห้องโถงใหญ่ กำลังเสกคาถาและสั่งการพวกลูกน้องคนอื่นๆของเขาที่ตามเข้ามา แฮรี่เสกคาถาโล่ห์ป้องกัน เชมัส ฟินิกันและฮันนา แอบบอต เพิ่งจะผ่านเขาเข้าไป แฮรี่เห็นชาลี วีสลีย์ ฮอเรซ สลักฮอร์น พวกครอบครัวและเพื่อนๆของนักเรียนฮอกวอร์ต พวกเจ้าของร้านและคนที่อาศัยอยู่ในฮอกส์มีด และเขาเห็นเอลฟ์ประจำบ้านปรากฏขึ้นที่ทางเข้าห้องโถง ในนั้นมีเอลฟ์ตัวหนึ่งสวมล็อกเก็ตของเรกูลัส แบล็ค ครีเชอร์นั่นเอง มันร้องตะโกนให้สู้ ในนามของเรกูรัส นายของมัน แฮรี่ตามเข้าไปในห้องโถงใหญ่และพบว่าโวลเดอมอร์อยู่ตรงศูนย์กลางของการต่อสู้ แฮรี่พยายามเข้าไปให้ถึง มีคนเข้ามาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นจอร์จและลี จอร์ดันสู้อยู่กับ Yaxley โดโลฮอฟกำลังเพลี่ยงพล้ำฟลิตวิก แมคแนร์ถูกแฮกริดโยนข้ามห้องโถง รอนกับเนวิลช่วยกันเอาชนะเกรย์แบ็ก ลูเซียสกับนาร์ซิสซาไม่ต่อสู้กับใครแต่วิ่งร้องเรียกหาลูกชายของพวกเขา
ตอนนี้โวลเดอมอร์รับมือกับ มักกอนนากัล สลักซ์ฮอร์นและคิงสลีย์ เบลลาทริกซ์สู้อยู่กับเฮอร์ไมโอนี่ ลูน่า จินนี่ เขาเห็นคำสาปพิฆาตพลาดจากจินนี่ไปนิดเดียวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจหันไปทางเบลลาทริกซ์ก่อน แต่นางวีสลีย์เข้ามาแทนทั้งสามคนและสู้กับเบลลาทริกซ์อย่างดุเดือด และเริ่มมีเด็กคนอื่นๆออกมาช่วย เธอบอกให้พวกเขาถอยไป นางวีสลีย์ฆ่าเบลลาทริกซ์ได้ โวลเดอมอร์กรีดร้อง และโกรธยิ่งกว่าเดิม สามคนที่สู้อยู่กับโวลเดอมอร์เริ่มล้าแล้วและถอยออกมา โวลเดอมอร์หันไม้กายสิทธิ์มาทางนางวีสลีย์ แฮรี่เสกคาถา “โพรเทโก้!” เกิดโล่ขึ้นระหว่างห้องโถงคั่นกลางเอาไว้ แฮรี่เอาผ้าคลุมออก เกิดเสียงตะโกนอย่างดีใจที่รู้ว่าแฮรี่ยังไม่ตาย โวลเดอมอร์กับแฮรี่ประจันหน้ากันอยู่กลางวงกลมที่ล้อมรอบโดยคนที่เหลือ เขาตะโกนบอกทุกคนว่าอย่าเข้ามาและเขาต้องทำมันพียงคนเดียวเท่านั้น
ทุกคนต่างโห่ร้องยินดีเพราะเห็นว่าแฮร์รี่
แสงจากไม้กายสิทธิ์ทั้งสองพุ่งใส่กัน โวลเดอมอร์ร่ายคาถาสังหาร แฮร์รี่ใช้คาถาปลดอาวุธ Elder Wand ลอยขึ้นในอากาศ หมุนวนเหมือนกับหัวของนากินี่ แฮร์รี่กระโดดรับ Elder Wand ขณะที่โวลเดอมอร์ล้มลง ตายเพราะการสะท้อนกลับของคาถาตนเอง
แล้วเสียงโห่ร้องยินดีก็ดังขึ้น ทุกคนต่างกรูกันเข้ามายินดีกับแฮร์รี่ เขากลายเป็นส่วนหนึ่งทั้งการแสดงความยินดี
ท้ายที่สุด แฮร์รี่หลบจากห้องโถงได้ และพารอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไปที่ห้องทำงานของ
ความคิดเห็น