ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พาร์ตรีไดส์ : ดิน น้ำ ฟ้า และเรา

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 : ในทางสายหมอก

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.พ. 50


    4    :    ในทางสายหมอก

     

                     "มาแล้ว   มากันแล้ว …. ใช่    ใช่จริง ๆ  ด้วย   ในที่สุดก็มีวันนี้  ฮ่า.. ฮ่า..ฮ่า…"  เสียงทุ้มนุ่มของชายชราเอ่ยขึ้น

                    "ใครเหรอครับ  ท่านผู้เฒ่า"   เสียงเด็กหนุ่มถามขึ้น

                    "คนที่ข้ารอคอยมาถึง  30  ปี   คนที่จะมากอบกู้  เฮเวนน่า"   ชายชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง

                    "ใครเหรอครับ  คน    นั้นคือใครครับ"  เสียงเด็กหนุ่มกระตือรือร้นอยากจะรู้

                    "เจ้าจะได้รู้เร็ว ๆ นี้แหละ  ราฟา แค๊กแค๊ก….."

                    "ท่านผู้เฒ่าครับ"   เด็กหนุ่มเจ้าของนามราฟา  รีบเข้าไปใกล้ชายชราตรงหน้า เมื่อเห็นว่าชายชราตรงหน้ากระแอมไอ จนตัวโยน

                    "ข้าไม่เป็นไรหรอก  ราฟา "  ชายชรารีบบอก  "เจ้าเตรียมตัวเถอะ  ต้องรีบออกเดินทางแล้ว"

                    "ท่านผู้เฒ่า  ท่านจะให้ข้าไปไหน"

                    "ผู้พิทักษ์  เจ้าต้องเดินทางไปเป็นผู้พิทักษ์ให้กับคณะผู้กอบกู้"

                    "ข้าเนี่ยนะ  ผู้พิทักษ์  ท่านผู้เฒ่า  ท่านเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าครับ"  เด็กหนุ่มถามขึ้นด้วยความสงสัย

                    "ไม่หรอกราฟา  เจ้าก็รู้นี่ว่า เจ้าพิเศษยังไง  นี่เป็นเรื่องสำคัญน่ะราฟา  เจ้าต้องติดตามดูแล คอยปกป้องคุ้มครองผู้กอบกู้ของเราให้ดี  ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้  ข้ารู้  เชื่อข้าสิ  เจ้าเท่านั้น  มีเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่ต้องรับหน้าที่นี้  มันได้กำหนดมาแล้ว  ไปเถอะ เจ้าไปได้แล้ว  ออกเดินทางได้แล้ว ในทางสายหมอก   ราฟา เจ้าจะพบพวกเขาในทางสายหมอก"

                    "ครับ  ท่านผู้เฒ่า  ข้าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด  ท่านผู้เฒ่า ไม่ต้องเป็นห่วง"  ราฟารับปาก  โค้งคำนับชายชราตรงหน้า แล้วเดินลับหายไปจากสายตา

     

    ****************************************

     

                    "เอ่อ  เอ่อ  สงสัยว่าซายน์จะละเมอ  คิดถึงแม่มากเกินน่ะ  นายว่ามั๊ย"  เจย์กระซิบถามแซนด์ เมื่อเดินมาทันกัน  โดยมีซายน์เดินนำหน้าอยู่ไม่ห่าง  และนีย์ที่ลอยตัวอยู่ไม่ไกลนัก

                    "ไม่หรอก  ชั้นเชื่อว่าซายน์ได้เจอกับแม่จริง ๆ   แม่คงคอยติดตามและคุ้มครองพวกเราอยู่แน่ ๆ  "  แซนด์ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

                    "นี่ พวกพี่น่ะ  เดินเร็ว ๆ กันหน่อยซิ  ไม่ได้ยินหรือไง  ซายน์บอกแล้วไงว่า แม่ให้พวกเรารีบเดินทาง" 

                    "รู้แล้ว ๆ  ก็รีบอยู่นี่ไง  ไม่ได้เหาะได้เหมือนนีย์นี่นา  จะได้เร็วทันใจ ออกแรงบินวืดเดียวถึงน่ะ ใช่มั๊ยครับนีย์"  แซนด์หันไปถามนีย์

                    "นีย์  ….  นีย์ครับ" 

                    "หา  ว่าไงน่ะ  โทษที ๆ  ไม่ทันได้ฟังน่ะ"  นีย์สะดุ้ง  เมื่อเจย์ตะโกนเรียก

                    "นีย์กำลังคิดอะไรอยู่ครับ"  เจย์ถาม เมื่อเห็นสีหน้ายุ่งยากใจของนีย์  และแววตาของนีย์ที่จับจ้องไปยังซายน์

                    "เอ่อเปล่าหรอก ไม่มีอะไร ๆ     ไม่ใช่สิ  ไม่น่าเป็นไปได้.. "  นีย์พึมพำ ๆ    แล้วบินสูงขึ้นไป จนเจย์มองแทบไม่เห็น เพราะ
    หมอกรอบ ๆ ตัว

                    " อ้าว  หนีไปซะแล้ว  ไม่ยอมตอบ  ไปเถอะเจย์  รีบเดินไปให้ทันยายตัวยุ่งนั่นดีกว่า เดี๋ยวก็ได้บ่นให้ฟังจนหูแฉะอีกหรอก"

                    "แล้วนีย์ล่ะคะพี่"  ซายน์ถามเมื่อไม่เห็นว่านีย์ตามหลังพี่ ๆ ทั้ง  2  มา

                    "ก็อยู่แถวนี้แหละ "  แซนด์ตอบโดยไม่ใส่ใจ

                    "นีย์    นีย์คะ  อยู่ไหน  ซายน์อยากคุยด้วยค่ะ  นีย์.. ได้ยินมั๊ยคะ  นีย์"   ซายน์ตะโกนเรียก

                    "มีอะไรเหรอซายน์"   นีย์โฉบลงมาลอยตัวอยู่ใกล้ ๆ   คนทั้ง  3

                    "นีย์คะ  เมื่อไหร่นีย์จะเล่าเรื่องพาร์ตรีไดส์ ให้พวกเราฟังล่ะคะ"

                    "อืม  โทษที ๆ  มัวแต่คิดอะไรเพลินไปหน่อย  เอาละ ๆ   อยากจะรู้เรื่องอะไรกันก่อนดีล่ะ"

                    "พาร์ตรีไดส์   เป็นยังไงคะ"  ซายน์รีบถามเป็นคนแรก

    "อืม  พาร์ตรีไดส์  เป็นอาณาจักรใหญ่  ประกอบด้วยเมือง  3  เมืองที่เกื้อกูลกัน  ถ้าจะให้มองเห็นภาพ พาร์ตรีไดส์ ง่าย    ก็เอาเป็นว่า  นึกถึงภูเขาใหญ่มาก ๆ ลูกหนึ่ง  ยอดภู ไม่ใช่ยอดแหลม แต่เป็นที่ราบกว้างใหญ่  ที่นั่นเป็นที่ตั้งของเมือง เฮเวนน่า  ส่วนของฐานภูเขาแบ่งเป็น 
    2  ฝั่ง คือ ฝั่งที่เป็นแผ่นดิน  ที่ตั้งของเมือง  แลนด์เดียร์ว่า   และอีกฝั่งเป็นผืนน้ำ  ที่ตั้งของเมือง  ริเวียร์ร่า "    นีย์เริ่มต้นเล่าต่อเมื่อเห็นว่าขณะนี้เด็ก ๆ ทั้ง  3  หยุดเดินหันมามองที่ตนเป็นตาเดียว  "ทั้ง  3  เมืองมีอาณาเขตติดต่อกันก็จริง  แต่การผ่านเข้าออกไปยังเมืองต่าง ๆ ระหว่างกันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะบริเวณอาณาเขตติดต่อกันของทั้ง  3  เมือง ปกคลุมไปด้วยหมอก เหมือนในทางสายหมอกนี่แหละ"

    "อาณาเขตทุก ๆ ด้านเลยหรือครับ"    เจย์เป็นคนแรกที่เก็บความสงสัยไว้ไม่ได้

    "ใช่   ทุก ๆ ด้าน "

    "แล้วเวลาแต่ละเมืองจะติดต่อกัน หรือเดินทางไปหากัน ก็ต้องเดินทางแบบเราในตอนนี้เหรอครับ"  แซนด์ถาม

    "ก็ไม่เชิงหรอกน่ะ  เพราะตามปกติแล้วชาวเมืองแต่ละเมืองก็จะไม่เดินทางไปมาหาสู่กันเท่าไหร่  ส่วนมากถ้าจะมีการพบปะติดต่อสื่อสารกันจะเป็นระดับเจ้าเมืองหรือระดับคนสำคัญต่าง ๆ  ซึ่งเจ้าเมืองแต่ละแห่ง จะมีประตูเชื่อมต่อถึงกันและกันโดยตรง ไม่ต้องเดินทางตามทางสายหมอกอย่างนี้หรอก ส่วนคนสำคัญของแต่ละเมืองก็จะมีวิธีเดินทางเข้าเมืองด้วยวิธีต่าง ๆ ซึ่งบางคนก็มีวิธีเดินทางเป็นความลับ เราไม่สามารถรู้ได้หรอก แต่ชาวเมืองโดยทั่วไปก็คงต้องเดินเท้าเหมือนพวกเรานี่แหละ  อันที่จริงนีย์ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว  ไม่รู้จะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน "

     "แล้วประตูเมืองของแต่ละเมืองอยู่ที่ไหนเหรอครับ"  เจย์ถาม

    "อืม  เป็นคำถามที่ดีเลยทีเดียว    แต่ละเมืองไม่ได้ประตูเมืองแค่เพียงประตูเดียวหรอกน่ะ    แต่ละเมืองจะมีประตูกระจายอยู่ตามอาณาเขตติดต่อระหว่างกัน  และที่สำคัญ ประตูเมืองแต่ละแห่ง  เราไม่สามารถจะเข้าออกได้ตลอดเวลา  บางทีประตูที่เราเจอก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้"

    "ทำไมล่ะค่ะ"   "ทำไมล่ะครับ"  ทั้ง  3  ถามออกมาพร้อม ๆ กัน

    "มันเป็นการป้องกันตัวเองอย่างหนึ่งของแต่ละเมืองน่ะ   ประตูเมืองแต่ละแห่งมีวิธีผ่านเข้าประตูที่แตกต่างกันไป ไว้เราคงได้เห็นกันเร็ว ๆ นี้แหละ  ไม่ต้องวิตกหรอก"  นีย์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเด็ก ๆ 

    "นีย์ครับ  แล้วนี่เราจะไปที่ไหนครับ เอ่อ  ผมหมายถึงเมืองของคุณป้าน่ะครับ ท่านมาจากเมืองไหนครับ"  เจย์ถาม

    "เฮเวนน่า   ซาร่ากับนีย์  มาจาก เฮเวนน่า  เมืองของชาวฟ้า"  นีย์ตอบพร้อมจ้องมองไปยังหน้าของซายน์ และแซนด์

    "เมืองของชาวฟ้า"  เสียงซายน์ดังขึ้นมา พร้อมด้วยสีหน้ามึนงง ของทั้ง  3  คน

    "ใช่  เฮเวนน่า  เมืองของชาวฟ้า   แลนด์เดียร์ว่า  เมืองของชาวดิน   ริเวียร์ร่า  เมืองของชาวน้ำ"  นีย์ตอบ และเมื่อเห็นสีหน้าที่ยังงุนงงของทั้ง  3  นีย์ก็หัวเราะ และพูดต่อ  "อธิบายไปตอนนี้คงยังงงกันอยู่  ไว้ไปเห็นด้วยตาดีกว่า เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน นีย์จะค่อย ๆ อธิบายไปเรื่อย ๆ  ตอนนี้เราออกเดินทางกันต่อดีกว่าน่ะ  เราหยุดมานานแล้วน่ะเนี่ย  มีใครจะถามอะไรอีกมั๊ย  เดินไปคุยไปก็แล้วกัน"

    ชาวฟ้า  ชาวดิน  ชาวน้ำ  เหรอเป็นยังไงน่ะ   ซายน์ได้แต่คิดไปมา  แล้วจะเป็นมนุษย์เหมือนเรารึเปล่า  แต่เอ๊ะต้องเหมือนซิ  แม่ก็เหมือนมนุษย์ธรรมดานี่นา   ทั้งเรา ทั้งพี่แซนด์ก็เป็นมนุษย์ธรรมดา  แต่ต้องมีอะไรประหลาด ๆ ที่เราต้องเจออีกแน่เลย  อย่างนีย์ก็ประหลาดน่ะ มังกรพูดได้  ใช่สิน่ะ  ที่นี่ไม่ใช่โลกมนุษย์  จะให้อะไร ๆ เป็นปกติได้ยังไง  เฮ้อ  ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ  เอาเหอะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ที่สำคัญตอนนี้เราต้องเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมที่จะพบเจอกับอะไรก็แล้วแต่ที่มันจะเกิดขึ้น  แม่คะ  แม่ยังอยู่ใกล้ ๆ พวกเราใช่มั๊ยคะ  แม่ช่วยคุ้มครองพวกเราทุกคนด้วยน่ะคะ

     

    ***************************************

     

                    "อ้าวจะรีบไปไหนล่ะ  ราฟา"

    ชายหนุ่มเจ้าของนามรีบหันกลับมามอง  "อ้อ.. นึกว่าใคร  ที่แท้ก็นายน่ะเอง   แล้วนายล่ะกำลังทำอะไรอยู่ โลนอฟ     หรือกำลังวาง

    แผนการทำอะไรเลว ๆ อยู่ล่ะสิ"

     

    "ยังปากดีเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ"  เจ้าของนาม  โลนอฟ  ตอบกลับด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม

    "ก็คงเหมือนแกล่ะ  โลนอฟ  ที่คงยังคิดแต่เรื่องชั่ว ๆ ไม่เคยเปลี่ยน"  ราฟาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

    "น่าแปลกใจ  หนึ่งในบุรุษจตุรเทพ อย่างนายจะมาเดินเล่นในทางสายหมอก โดยไม่ได้มีภารกิจอะไรพิเศษ"  โลนอฟเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน พร้อมกับเดินวนรอบ ๆ ตัวราฟา  "คราวนี้   ไอ้แก่นั่น มันส่งนายมาทำอะไรล่ะ"

    "หุบปากเน่า ๆ ของแกซะ  โลนอฟ  ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่"  ราฟาตอบด้วยความโกรธ

    "โอ๋..โอ๋ ไม่เอาน่ะ เพื่อน  ล้อเล่นแค่นี้ต้องโมโห ขนาดนี้ด้วย   วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์จะออกกำลังซะด้วย  แต่ข้าว่า ข่าวเรื่องข้าเห็นราฟา
    เร่งรีบเดินอยู่ในทางสายหมอกเนี่ย น่าจะทำให้ท่านร็องดอร์  พอใจน่าดู  นายว่ามั๊ย  เอาเป็นว่าวันนี้ ข้าต้องขอตัวก่อนล่ะกัน ไปล่ะน่ะ วันหน้าไว้เจอกัน  ฮ่าฮ่าฮ่า.."   พูดจบโลนอฟหันหลังกลับ ก้าวเดินไปเพียง  2 – 3 ก้าว  ก็หายวับไป

     

    ***************************************

     

                    "แล้วเราจะเดินทางอย่างนี้อีกนานมั๊ยเนี่ย" 

                    "พี่อย่าบ่นได้มั๊ย  "

                    "เราอยู่ในทางสายหมอกมานานแค่ไหนแล้วน่ะ 2 หรือ  3  วันแล้ว  เห็นแต่หมอก  แล้วก็หมอก  เบื่อผลฟูลฟีลเชี่ยนแล้วน่ะ  อยากกินแซนด์วิช  ไก่ย่าง  ขนมเค้ก  โอ๊ยยิ่งคิดก็ยิ่งอยากกินอ่ะ   "

                    "พี่แซนด์ค่ะ  พี่ยิ่งบ่นมาก ยิ่งเหนื่อยน่ะ  อย่าบ่นเลยน่า  ขี้เกียจจะฟังแล้ว"  ซายน์บ่นอย่างเบื่อ ๆ

                    "นีย์ครับ  เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ"  เจย์ถามขึ้น เมื่อเห็นว่า สองพี่น้องยังเดินไปเถียงกันไป  ไม่ได้สนใจเจย์กับนีย์ ที่ตามหลังมา

                    "ทำไมถึงคิดว่าจะมีอะไรล่ะ  เจย์"  นีย์ถามด้วยความสงสัย

                    "ก็ผมเห็นนีย์ดูแปลก ๆ ไปน่ะครับ    อืม.. น่าจะเป็นตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องกับซายน์   นีย์มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ" 

                    "อืม  ไม่หรอก  ไม่มี  อันที่จริงนีย์อาจจะคิดมากไปเอง  คงไม่ใช่หรอก"  นีย์ตอบแต่ตากลับจ้องมองไปยังร่างของซายน์  เจย์ได้แต่มองตาม และงุนงงกับท่าทีของนีย์ ที่แตกต่างกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง

                    "อ้าว หยุดทำไมล่ะซายน์"   เสียงแซนด์ ทำให้เจย์ตื่นจากภวังค์

                    "มีอะไรเหรอ"  นีย์ถาม พร้อมกับโฉบไปยืนอยู่หน้าซายน์

                    "ไม่รู้ค่ะนีย์  แต่ซายน์รู้สึกแปลก ๆ รู้สึกไม่ค่อยดี"  เสียงซายน์วิตกกังวล

     

                    "ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า….   ช่างมีสัญชาตญาณที่ดีเยี่ยมจริง ๆ น่ะ"  

                    เมื่อนีย์เขยิบออกและหันหลังกลับไปมองยังต้นเสียง  ทำให้ทั้งซายน์  แซนด์  และเจย์  ได้เห็นเจ้าของเสียงเข้มนั้น

                    "พวกนายเป็นใคร  ต้องการอะไร"  เสียงนีย์ถามไปด้วยน้ำเสียงระแวดระวังเต็มที่   พร้อมทั้งกางปีกเพื่อปกป้องคนทั้ง  3  ที่ยืนอยู่ข้างหลัง

                    "ไม่เอาน่า   เราคุยกันดี ๆ ก็ได้  ไม่เห็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนั้นเลย"

                    นีย์หุบปีกลง  ทำให้ซายน์ได้เห็นบุคคลฝ่ายตรงข้ามอย่างชัด ๆ   ชายเจ้าของเสียงที่ซายน์ได้ยินยืนอยู่ข้างหน้าสุด  อายุคงประมาณไม่เกิน  25  ปี  แต่รูปร่างสูงใหญ่ บึกบึน  ผมสั้นเกรียนสีดำสนิท  อยู่ในชุดทะมัดทะแมง สีหน้าและแววตาดูดุดันเหี้ยมเกรียม  แต่ที่สะดุดตาซายน์ที่สุดคือ  ส่วนที่พ้นจากตัวออกมาด้านหลังเป็นปลายดาบขนาดใหญ่  ดูท่าแล้วคงจะหนักและคมมากทีเดียว   ส่วนคนที่ยืนอยู่เยื้องไปทางซ้าย  เป็นชายรูปร่างผอมบาง  ตัวเล็กสูงไม่ถึงอกของชายคนแรกเลย  มีผมสีน้ำตาลเข้มยาวระดับบ่า  ส่วนด้านหน้ายาวลงมาปิดตา ยืนนิ่งก้มหน้าก้มตา ทำให้เห็นหน้าไม่ชัดเท่าไหร่  ชุดที่ใส่ดูขมุกขมอม ทั้งเสื้อและกางเกงมีรอยขาด และรอยปะมากมาย  คงไม่ค่อยสนใจตัวเองมากเท่าไหร่  มาถึงคนด้านขวา  เป็นชายหัวล้านรูปร่างอ้วน  ไม่ได้ใส่เสื้อ ใส่แค่กางเกงตัวใหญ่ ๆ ตัวเดียว ที่คอมีห่วงขนาดใหญ่สีทองห้อยไว้ และห่วงแบบเดียวกันขนาดเล็กห้อยเป็นตุ้มหู  มีใบหน้าที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลา  ท่าทางใจดี  ดู ๆ แล้วคนสุดท้ายนี่ น่าจะมีอายุมากที่สุดในบรรดาคนทั้ง  3  พวกเขาต้องการอะไรน่ะ  หรือเป็นแค่คนเดินทางในทางสายหมอกเหมือนกับพวกเราธรรมดา

                    "ไม่จำเป็น"  เสียงดังของนีย์ ทำให้ซายน์สะดุ้ง  หันไปมองหน้าแซนด์ และเจย์  ที่ขณะนี้แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

                    "นี่เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด ที่พวกข้ามอบให้พวกเจ้าแล้วนะ"  เสียงชายคนเดิมยังคงพูดต่อไป

                    "พวกเราเดินทางกันเองได้  ไม่ต้องการไปกับพวกเจ้า  และที่สำคัญพวกเราไม่ต้องการจะพบกับใครก็ตามที่เจ้าบอกมา"  นีย์ยังคงปฏิเสธ 

                    "แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่าพวกเจ้าคิดผิด   อันที่จริงเราไม่ได้ต้องการเจ้าหรอกนะ เจ้ามังกรสกปรก  แต่นี่เราก็ให้ความสำคัญกับเจ้ามากแล้วที่จะให้พวกเจ้าทุกคนไปพร้อม ๆ กัน  แต่ถ้าพวกเจ้ายังเล่นตัวอยู่อย่างนี้  เราคงต้องพาบุคคลที่เราต้องการไปเพียงคนเดียว"

                    "พวกเราจะไม่แยกกันไปไหน"  ซายน์ตะโกนออกมา  ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าใจ และไม่รู้ว่าทุกคนกำลังพูดเรื่องอะไรกัน  เพียงแต่จับใจความได้คร่าว ๆ ว่า พวกมันต้องการตัวคนใดคนหนึ่งในพวกเราทั้งหมด   แค่นั้นก็ทำให้ซายน์รู้สึกยอมไม่ได้เช่นกันที่แยกพวกเราออกจากกัน

                    "หึ..  หึ..  สาวน้อย  เจ้าคิดเช่นนั้นเหรอ  แต่ข้าว่า คงถึงเวลาที่ข้าต้องพาเจ้าไปจากพวกของเจ้าแล้ว"

                    "ข้า  ข้าเหรอ"  ซายน์อ้ำอึ้งด้วยความตกใจ  เมื่อรู้ว่าคนที่พวกมันต้องการคือ ตัวเอง

                    "ไม่ได้  ไม่ว่าใครหน้าไหน  ก็จะมาแยกพวกเราไม่ได้  ข้าไม่ยอมให้พวกเจ้านำตัวพวกเราคนใดคนหนึ่งไปหรอก"  นีย์ตะคอก

                    "งั้นก็ลองดู  ว่าเจ้าจะปกป้องเด็กเหล่านั้นได้  ไซเทรน  ข้าให้แกได้ออกกำลังกายก่อน" 

                    ชายหัวล้าน ตัวอ้วนใหญ่  เดินยิ้ม มาข้างหน้านีย์ ที่ตอนนี้กางปีกป้องกันคนทั้ง  3  อย่างเต็มที่  จนทำให้ซายน์  แซนด์  และเจย์มองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นตรงหน้า 

                    "ถอยไปเด็ก  "  เสียงนีย์ตะโกน  ทำให้ทั้ง  3  รีบวิ่งไปอยู่ใต้ต้นฟูลฟีลเชี่ยนทางด้านขวา ซึ่งมันอยู่ไม่ไกลมาก  ยังพอจะทำให้เห็นเหตุการณ์ข้างหน้าได้อย่างชัดเจน

                    นีย์อ้าปากพ่นไฟออกไป โดยจุดหมายอยู่ที่ชายร่างอ้วนเจ้าของนาม ไซเทรน   แต่ไซเทรน สามารถหลบไปได้อย่างว่องไวไม่สมกับรูปร่างที่ดูใหญ่เทอะทะเลยสักนิดเดียว  แล้วแทบไม่น่าเชื่อเพียงพริบตาเดียว  ไซเทรนก็วิ่งอ้อมเข้ามาประชิดด้านหลังของนีย์ 

                    "นีย์  ระวัง"  เสียงซายน์ตะโกนออกไป  แต่ช้าไป  ไซเทรนจับหางนีย์  และด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ  ไซเทรนจับนีย์เหวี่ยงขึ้นเหนือหัวพร้อมกับโยนนีย์เข้าใส่ต้นฟูลฟีลเชี่ยนที่ทั้ง  3  ยืนอยู่

                    "กรี๊ด....."  เสียงซายน์กรีดร้อง  พร้อม ๆ กับที่เจย์ฉุดข้อมือซายน์ให้หลบออกจากรัศมีของนีย์ที่เข้ามาปะทะที่ต้นฟูลฟีลเชี่ยน  หลังจากฝุ่นควันทั้งหลายหลายเริ่มจางลง ภาพที่ทั้ง  3  เห็นอยู่ตรงหน้าคือ  นีย์ที่กำลังยืนขึ้นอย่างลำบากข้าง ๆ ต้นฟูลฟีลเชี่ยนที่ตอนนี้เอียงเหมือนจะโค่นลงมาทั้งต้น  แต่แล้ว  ต้นฟูลฟีลเชี่ยนเริ่มสั่น  ค่อย ๆ เอนกลับมาตั้งตรงอีกครั้ง พร้อมกับเลื่อนตัวเองห่างออกไปจากที่เดิมประมาณ4 – 5 เมตร ทั้ง  3  ได้แต่อ้าปากค้างจ้องไปที่ต้นฟูลฟีลเชี่ยนลืมนีย์และคนแปลกหน้าทั้ง  3  เสียสนิท

                    "อะ....  อะไรอ่ะ  ต้นฟูลฟีลเชี่ยนขยับได้ด้วยเหรอ "  เสียงแซนด์ยังคงพูดต่อไป  "เหมือนมันมีชีวิตเลย"

                    "นีย์ ... นีย์คะ  เป็นอะไรหรือเปล่า"  ซายน์ตั้งสติได้คนแรก รีบวิ่งเข้าไปประคองนีย์  ทั้ง    ที่ คงแทบช่วยอะไรไม่ได้เลย เมื่อเทียบขนาดตัวเองกับตัวของนีย์

                    "ถอย...  ถอยไป ซายน์    ทั้ง  3  คนระวังตัวให้ดีนะ"  นีย์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบ ๆ   แล้วก้าวไปเผชิญหน้ากับไซเทรนอีกครั้ง

                    "ข้าว่า พวกเจ้ายอมแพ้ซะเถอะ  ถึงยังไงพวกเจ้าไม่มีทางชนะพวกข้าอยู่แล้ว  ต่อให้เจ้ามังกรนี่สู้จนตาย ก็ปกป้องพวกเจ้าไม่ได้  ว่าไง สาวน้อย อยากเห็นพวกตนเองตายไปทีละคน  ๆ หรือไง  คิดดูให้ดีน่ะ  ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า..."  เสียงชายผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยอีกครั้ง

                    "ซายน์ อย่าไปฟังพวกมันนะ ถึงยังไงพวกเราจะไม่ยอมให้มันเอาตัวซายน์ไปได้หรอก"   แซนด์เอ่ยขึ้นขณะจับมือน้องสาวฝาแฝดแน่น

                    "แต่...  แต่พี่คะ  ถ้าซายน์ยอมไปกับพวกมัน  มันจะไม่ทำร้ายพวกพี่นะคะ"  ซายน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

                    "แต่พี่ไม่ยอม ถ้าจะให้พวกมันเอาตัวซายน์ไป  พี่ยอมตายซะดีกว่า  พี่รับปากกับแม่ไว้แล้ว  ไม่ว่ายังไงพี่จะดูแลซายน์ให้ดีที่สุด" เสียงแซนด์ยังคงหนักแน่น

                    "ใช่  พี่ก็ไม่ยอมเหมือนกัน"  เจย์ยืนยันอีกคน  แล้วทั้ง  3  ก็หันกลับไปมองที่นีย์อีกครั้ง  คราวนี้นีย์กระพือปีก ทำให้เกิดลมพายุรุนแรงพุ่งตรงไปยังคนทั้ง  3   และด้วยความรุนแรงของลมก่อให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายจนมองไม่เห็นภาพอะไร   ทั้ง  3  ทำได้เพียงยกมือขึ้นป้องตาเพื่อป้องกันฝุ่นเท่านั้นเอง

                    "พวกมันหายไปแล้ว  เย้!!!!~   นีย์เก่งจัง"  แซนด์ตะโกนโหวกเหวก เมื่อเห็นว่าข้างหน้านีย์ไม่มีใครเหลืออยู่

                    "ไม่...  พวกเขายังอยู่...  พวกเขายังอยู่"

                    "ไหนละซายน์  เธอคิดมากน่า"  เสียงแซนด์ดูหวาด ๆ  พูดพลางพร้อมกับหันซ้าย หันขวา เพื่อดูรอบ ๆ ตัว  "ไปอยู่ใกล้ ๆ นีย์ดีกว่า อุ่นใจกว่าเยอะ ไปเหอะ"  ว่าแล้วแซนด์ก็ออกวิ่งนำหน้า    เจย์เดินตามไปอย่างเร่งรีบ ทิ้งซายน์ที่ยังคงมีรอยกังวลอยู่บนใบหน้าไว้ที่เดิม

                    "ว้าย!!....."

                    "เอาล่ะ  หมดเวลาเล่นสนุกกันแล้ว  ไปกันได้แล้ว"           

                    เมื่อแซนด์  เจย์  และนีย์หันมาตามเสียงหวีดร้องของซายน์และเสียงดุดันนั้น  ภาพตรงหน้าทำให้ทุกคนถึงกับทำอะไรไม่ถูก เมื่อชายหัวหน้ากลุ่มจับตัวซายน์ไว้   โดยยืนอยู่ข้างหลังซายน์และจับมือซายน์ไขว้หลังไว้ ทำให้ซายน์แทบกระดุกกระดิกไม่ได้

                    "ครูเอล  ไซเทรน  ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของพวกเจ้าล่ะกัน เต็มที่เลยนะ"  หลังจากชายหัวหน้ากลุ่มพูดจบ  ชายตัวเล็กเจ้าของนามครูเอล และไซเทรน  ก้าวออกมาประจันหน้ากับนีย์  แซนด์ และเจย์ 

                    "ข้าจะให้เวลาเจ้ามองพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย สาวน้อย  ดูซะ  วาระสุดท้ายของพวกเจ้า"  ชาวหัวหน้ากลุ่มใช้มือจับหน้าของซายน์ไว้แน่นเพื่อบังคับให้มองภาพตรงหน้า

                    "ไม่...  ไม่นะ  อย่าทำอะไรพวกเค้า  เรายอมไปกับพวกเจ้าแล้ว  อย่านะ"  ซายน์รีบบอกอย่างรวดเร็ว

                    "มันสายไปแล้วสาวน้อย   ลงมือ"   สิ้นเสียงคำสั่ง  ครูเอล และไซเทรนวิ่งกรูเข้าไปหากลุ่มของนีย์  แซนด์  และเจย์ทันที

                    "ไม่.........................................."

                   

    **********************************

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×