ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พ่อมดแห่งเฟลูทีเน่

    ลำดับตอนที่ #5 : การทดสอบของผู้ใช้เวท

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 49


       วันนี้ตัวเมืองซามานน่าดูคึกคักด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาที่ต่างก็มุ่งหน้าเดินไปตามทางเดียวกันคือถนนสายหลักที่ทอดยาวผ่านจตุรัสกลางเมืองมาถึงวิทยาลัย  ทั้งยังประดับประดาสองข้างทางด้วยธงทิวหลากสีสัน

        หน้าประตูใหญ่ของวิทยาลัยเองก็ครึกครื้นเป็นไม่แพ้กันเนื่องมาจากการทดสอบความสามารถที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในตอนสายของวัน  ร้านหาบเร่แผงลอยมากมายตั้งเรียงๆกันไป  บนทางเดินที่ปูด้วยอิฐก้อนโตตั้งแต่ทางเข้าสวนสาธารณะหน้าวิทยาลัยไปจนถึงประตูใหญ่และมีทีท่าว่าจะล้ำเข้าไปเสียด้วย  
       
        ปกติการทดสอบธรรมดาจะทดสอบกันภายในเสียมาก ไม่ค่อยเอิกเกริกนัก แต่คราวนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้   แถมยังมีข่าวลือกันอีกว่าเป็นการทดสอบที่สั่งตรงมาจากกษัตริย์องค์ปัจจุบันของแพนเทีย  ใครๆก็อยากเข้าไปดูด้วยกันทั้งนั้น  บรรดาจอมปราชญ์หัวใสเลยมีการจำหน่ายบัตรเข้าชมหน้าประตูเสียเลย  เพิ่มรายได้ให้วิทยาลัยไปอีกทาง
     
        "ได้ข่าวหรือเปล่า ที่เขาว่าผู้ใช้เวทที่ถูกเรียกตัวมามีแต่คนเก่งๆทั้งนั้น"  หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวลากพื้นซึ่งเดินช้าๆผ่านหน้าไดแอซพูดกับเพื่อนของเธอ  "ใช่ แบบนี้ไงล่ะถึงอยากจะเข้าไปดูนัก"  อีกคนตอบกลับ "ได้ข่าวว่ามีแต่คนหน้าตาดีๆทั้งนั้นเลย" เสียงหัวเราะคิกคักของเหล่าสาวๆดังขึ้น
     
        "เอ้อ  จะเข้าข่ายไหมเนี่ย"  ไดแอซเริ่มเปรียบเทียบมาร์คัสและเวสกับคำว่าหน้าตาดี  มาร์คัส…..ชายหนุ่มมีผมสีทองยาวประบ่า และดวงตาสีน้ำตาลอ่อนยาวเรียว  รวมๆกันแล้วก็จัดว่าดูดีนั่นแหละ สำหรับเวส รายนี้ นัยน์ตาสีเทา  ผมสีแดงที่ทั้งยาวทั้งยุ่งรวบรวมกันไว้เป็นหางม้า ท่าทางขี้เล่นเป็นชีวิตจิตใจ  "เอ่อ…..เอาเป็นว่าดูดีด้วยอีกคน"  เด็กหนุ่มสรุป 
     
         "ส่วนเก่ง เขาเกาหัวเล็กน้อยอันนี้ยังไม่เคยเห็นแฮะ คงต้องรอดูในการทดสอบเสียแล้ว"  เด็กหนุ่มเดินเอื่อยๆกลับที่พักหลังจากออกมาสำรวจร้านค้าเพื่อหาของกินสำหรับตัวเองและติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนทั้งสอง
     
        "วันนี้อากาศสดใสเสียด้วย" ไดแอซเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าของหน้าหนาวที่เขาชื่นชอบ  ด้วยว่ามีสีเหมือนสีตาของเขานัก   เขาเดินฮัมเพลงไปเรื่อยๆอย่างอารมณ์ดีจนถึงห้องพัก  "ของที่สั่งได้แล้วคร้าบ"  เด็กหนุ่มร้องบอกพร้อมเปิดประตูเข้าไป 
     
         บางสิ่งบางอย่างกำลังพุ่งตรงมาหาเขาด้วยความเร็วสูง  "เย่ย……."  ไดแอซเบี่ยงตัวหลบวัตถุแปลกปลอมลงไปนั่งแปะอยู่บนเก้าอี้ซึ่งใครก็ไม่รู้เอามาวางไว้ไปได้อย่างเฉียดฉิว  วัตถุที่ว่าเมื่อพลาดเป้าจากเขามันก็พุ่งต่อไปแตกโพละใส่หน้าของบริกรที่เผอิญเดินผ่านมาเข้าเต็มแรง  
     
        "ขอโทษครับ  ขอโทษจริงๆ"  มาร์คัสกับเวสรีบวิ่งออกไป    พยุงบริกรผู้โชคร้ายพร้อมพร่ำขอโทษขอโพย เด็กหนุ่มนั่งมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างงงๆ  "รอดตัวไป"  เขานึกแล้วทำท่าสยองนี่ถ้าข้าหลบเจ้าวัตถุนั่นไม่ทันละก็ไม่อยากจะคิดเลย  
     
        ไดแอซรีบปิดประตูตามหลัง  เมื่อผู้ใช้เวททั้งสองจัดการกับน้ำหนืดๆบนหน้าและเสื้อผ้าของบริกรซึ่งมีท่าทางมึนงงเสร็จ   เด็กหนุ่มยืนด้วยท่าทางหวาดผวาเล็กน้อยว่าจะมีสิ่งแปลกปลอมจะพุ่งมาอีกเมื่อไหร่
     
        "นั่นพวกท่านทำอะไรกันหรือ"  เขารวบรวมความกล้าถามขึ้น  "ซ้อมเวทนะสิ"  มาร์คัสผู้มีท่าทางอิดโรยเล็กน้อยตอบ  ไดแอซรีบส่งของกินให้มาร์คัสและเวสโดยเร็ว ทั้งสองคนซ้อมหนักมาสองถึงสามวันแล้ว  เนื่องมาจากข่าวที่มาร์คัสได้มาเมื่อวันก่อน  

        "จอมปราชญ์เป็นผู้เตรียมการเองเลยหรือ"  เวสค่อนข้างอย่างแปลกใจ "ข้าว่าแล้วว่ามันต้องไม่ธรรมดา"  มาร์คัสไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรหลังบอกเพื่อนเสร็จก็จัดการอัปเปหิไดแอซออกนอกห้องแล้วปิดประตูซ้อม  ไดแอซเลยยึดครองอีกห้องไปคนเดียว  โชคดีสุดๆ

         "พวกท่านเตรียมตัวเถอะ อีกเดี๋ยวก็จะได้เวลาแล้ว" ไดแอซหาช่องทางแล้วจ้ำอ้าวออกจากห้องให้พ้นเขตอันตรายทันที "เดี๋ยวก่อน"  เป็นเวสที่เรียกเขาไว้ เด็กหนุ่มค่อยๆหันหน้าไปหา  "มี..มีอะไรรึเปล่า" ชายหนุ่มจัดการหยิบเสื้อชุดหนึ่งส่งให้ไดแอซ  เขามองของในมืออย่างสงสัย  "วันนี้มีพยากรณ์ว่าจะหนาวแล้ว ชุดของเจ้าบางจ๋อยอย่างนั้นเดี๋ยวจะไม่สบายเอา"  เด็กหนุ่มพึมพำขอบคุณเบาๆ
     
        ไดแอซกำลังพยายามจัดการกับผมสีดำที่ปรกหน้าปรกตาและระปกเสื้อซึ่งทั้งหนาทั้งตั้งขึ้นมาสูง  "ผมข้าชักจะยาวเสียแล้ว" เด็กหนุ่มบ่นพลางมองดูเงาในกระจก เขาสวมเสื้อคอตั้งสีขาวมีเสื้อนอกค่อนข้างหนาสีดำยาวทับอีกชั้น กางเกงขายาวจนเกือบจะลากพื้นก็เป็นสีเดียวกับเสื้อนอกซึ่งเข้ากับสีผมของเขาเป็นอย่างดี   เจ้าตัวทำหน้าบูดเล็กน้อยเมื่อจัดการผมไม่ได้ดั่งใจ "ปล่อยให้มันปรกตาไว้นั่นแหละ จะได้ไม่มีใครสงสัยข้าเรื่องสีตาอีก"  เด็กหนุ่มนึก  "เฮ้อ ไปตามมาร์คัสกับเวสดีกว่า"
     
         นาทีต่อมาพวกเขาออกมายืนอยู่บนถนนหน้าที่พัก  ผู้ใช้เวททั้งสองอยู่ในชุดเต็มยศ อันประกอบด้วยเสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาวคลุมทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวสีดำเดินดิ้นตามธาตุ  ไดแอซเอียงคอมองทั้งคู่จน…… "มองอะไรหนักหนา"  มาร์คัสขมวดคิ้ว  "เปล่าครับ เปล่า" 
     
        พวกเขาเดินเรื่อยๆจนถึงประตูใหญ่ของวิทยาลัยซึ่งไม่ไกลนัก  สูงขึ้นไปเหนือประตูใหญ่มีป้ายผ้าแสดงข้อความต้อนรับซึ่งจะเปลี่ยนข้อความไปเรื่อยๆแขวนอยู่  ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้าไปจับจองที่นั่งในงาน  ผู้ใช้เวทในเครื่องแบบสีดำมีให้เห็นหน้าประตูเพียงประปราย  ดูเหมือนจะเข้าไปด้านในกันหมดแล้ว 
     
         มาร์คัสกับเวสยื่นจดหมายรับรองแล้วพากันเดินเข้าไป  "ช้าก่อน"  คนเฝ้าประตูเรียกไว้  "คนนี้ล่ะ"  เขาชี้มาทางไดแอซ  เจ้าตัวเลยพยายามทำท่าใสซื่อสุดความสามารถ  "คนรับใช้ข้าเอง" 
     
         เวสรีบเอามืออุดปากแล้วลากเด็กหนุ่ม  "ไม่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตูไงล่ะ  ดีออกประหยัดด้วย"     มาร์คัสเดินนำหน้าพวกเขาเข้าไป  โอ้โห!!!   เด็กหนุ่มมีทีท่าประหลาดใจ เนื่องจากทิวทัศน์ในวิทยาลัยเปลี่ยนไปมาก ต้นไม้ต่างๆที่เคยเป็นสีเขียวพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีแดงอมส้ม ทั้งยังผลิดอกเต็มต้นอีกต่างหาก ตามต้นใหญ่ๆมีการห้อยแขวนเครื่องประดับพวกกระดิ่งและเชือกห้อยกระดาษสีต่างๆ 
     
         พวกเขาเดินตามทางเดินเลียบอาคารซึ่งมีลูกศรชี้ทางกันหลงที่เรืองแสงแวบๆบนทางเดิน มาเรื่อยๆจนถึงลานกว้าง  ขนาบซ้ายขวาด้วยอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ ส่วนตรงกลาง….เบื้องหน้าพวกเขาเป็นยกพื้นอย่างง่ายๆหน้ากำแพงเก่าค่อนข้างสูงมีเถาวัลย์และไม้เลื้อยปกคลุมกั้นอยู่  "วงกตนี่"  มาร์คัสทำท่าเหมือนนึกอะไรได้ "ข้าจำได้ว่าเคยเจอแบบนี้ตอนสอบเอาใบประกาศนี่นา"  ใบประกาศของมาร์คัสนั้นหมายถึงใบรับรองความเป็นผู้ใช้เวท ซึ่งนักเรียนของวิทยาลัยทุกคนจะต้องสอบเพื่อจบการศึกษา 
     
        "จริงด้วย"  เวสพยักหน้ารับ "ข้าว่าคงไม่ง่ายเหมือนที่สอบครั้งก่อนหรอก" นั่นเรียกว่าง่ายด้วยหรือ   มาร์คัสแอบคิด ผู้ใช้เวทมากมายกระจุกตัวกันอยู่หน้ากำแพงยักษ์จนมองเห็นแต่สีดำเต็มหน้ายกพื้นไปหมด 

         มาร์คัสหันไปหาไดแอซที่ยืนอยู่ข้างๆ  "เจ้าขึ้นไปนั่งรอข้าบนโน้นแล้วกัน  เอานี่ไปด้วย"  ชายหนุ่มยัดกำไลเงินใส่มือ "อุปกรณ์ติดตามตัวอย่างไรล่ะ พอข้าเสร็จจะไปหา อย่าให้หาย"  เขากำชับ 
     
         ไดแอซพยักหน้ารับแล้วสวมกำไลเงิน  "โชคดีนะครับ"  เขาบอกคนทั้งคู่  มาร์คัสและเวสพยักหน้าก่อนจะเดินหายไปในกลุ่มผู้ใช้เวท เด็กหนุ่มออกเดินไปทางอัฒจันทร์พลางคิดหาที่นั่ง 
     
         ผู้ใช่เวทในชุดดำยาวกลัดสัญลักษณ์แปลกๆก้าวขึ้นบนยกพื้น เขาวาดมือเป็นวงกลม พร้อมๆกับที่กระดาษสีรุ้งพุ่งออกมาจากทุกทิศทุกทางของอัฒจันทร์เป็นการเปิดพิธี  "การทดสอบกำลังจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้" เสียงหนึ่งในเจ็ดจอมปราชญ์สะท้อนก้องทั่วลานด้วยอำนาจเวท   ขอให้ผู้ใช้เวททั้งหมดมารวมตัวกันหน้าวงกตด้วย  ฝูงชนสีดำเริ่มขยับเข้าไปหาต้นเสียงที่ยืนพิงกำแพงอย่างสบายใจ  "มีกฎง่ายๆว่าเจ้าต้องกลับออกมาให้ได้ 
     
         ทางออกอยู่อีกด้านหนึ่ง  เข้าใจใช่ไหม" ผู้ใช้เวทรับคำ  "ทีนี้ใครอยากประเดิมสนามเป็นคนแรก"  ชายชราท่าทางใจดี ไว้เครายาวสีขาวในชุดคลุมยาวของผู้ใช้เวทธาตุดินเอ่ยถาม "ท่านวาริด"  มาร์คัสหันไปสะกิดเวสผู้ได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์ตัวแสบ  "เจ้าจะไม่….."  พร้อมๆกับที่บรรดาผู้ใช้เวทพากันสามัคคีก้าวถอยหลังพร้อมๆกัน   "เจ้าใช่ไหม"  ชายชราถามเมื่อชายหนุ่มค้นพบว่าตัวเองออกมายืนอยู่ด้านหน้าของกลุ่มได้อย่างไรก็ไม่รู้   

         "ข้า…."  

         "เจ้ากล้าหาญมากทีเดียว  เช่นนั้นขอให้โชคดี"
     
         กำแพงค่อยๆแยกออกจากกันเผยให้เห็นทางเดินวกวนซับซ้อนภายใน  เสียงลมพัดอู้ๆ เสียงถล่มโครมคราม  ตามมาด้วยเสียงขู่คำรามของสัตว์ดังแว่วมาจากภายในเป็นระยะ  มาร์คัสเริ่มหน้าซีด  เขากำลังนึกจะก้าวถอยหลัง แต่ท่านวาริดจัดการรุนหลังชายหนุ่มไปหน้าทางเข้าแล้วผลักเขาเข้าไป  กำแพงค่อยๆเคลื่อนเข้ามาประกบกันดังเดิม 
     
         "คราวนี้ครั้งละสิบคน"  ชายชราหันไปบอก  "คนแรกเข้าไปในวงกตแล้ว"  เสียงพากย์ดังขึ้นพร้อมปรากฏภาพสามมิติลอยอยู่เหนือวงกต  ชายหนุ่มกำลังยืนมองทางแยกนับสิบๆสายเบื้องหน้า "พระท่านสอนว่าให้เราเดินทางสายกลาง  มัชฌิมาปฏิปทา"  มาร์คัสนึกขึ้นมาได้ ดังนั้นเขาจึงเดินตรงไปเรื่อยๆ  พลางเงี่ยหูฟัง แต่ทว่าทุกสิ่งรอบกายกลับเงียบสนิทไร้สรรพเสียงใดๆ
     
         "ผู้ใช้เวทรอบที่สองเข้าสู่วงกตแล้ว"  เสียงประกาศดังขึ้น  ภาพฉายให้เห็นเหล่าผู้ใช้เวทที่ต่างคนต่างเลือกเดินกันไปคนละทิศละทาง
     
         ผู้ใช้เวททยอยเข้าสู่วงกตเรื่อยๆ  ไดแอซซึ่งนั่งอยู่บนอัฒจรรย์ชั้นล่างๆ เนื่องจากขี้เกียจปีน จึงต้องแหงนคอตั้งบ่าเพื่อดูภาพที่ตัดไปตัดมา  บางครั้งเป็นการต่อสู้กับสัตว์อสูรหลายสายพันธุ์ที่ไม่รู้ว่าบรรดาจอมปราชญ์ไปสรรหามาจากไหน บางครั้งก็เป็นการไขปริศนา  ซึ่งอันนี้เวสสามารถตอบคำถามได้ถูกใจคนฟังเอามากๆ มีอยู่ครั้งสองครั้งที่ภาพตัดไปหามาร์คัส ซึ่งรายนั้นไม่เจออะไรสักอย่างและยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินลูกเดียว 
     
         ไดแอซหาวออกมาสองสามครั้งเพราะเบื่อ เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงกลุ่มผู้ใช้เวทหน้าวงกตลดจำนวนลงเรื่อยๆแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดในเร็วๆนี้  
     
         เด็กหนุ่มกระโดดลงมาจากที่นั่ง เขาซื้ออาหารมื้อกลางวันติดที่มีขายในบริเวณงานติดไม้ติดมือแล้วเริ่มออกเดินเล่น เขาก้มหน้าก้มตาเดินออกมาจนพ้นเขตลานทดสอบ เสียงเอะอะทั้งหลายเงียบลง ดูเหมือนว่าจะมีการใช้เวทกักเสียงไม่ให้รบกวนผู้ที่ไม่ได้เข้าชม ด้านนอกจึงได้ยินเพียงเสียงกระดิ่งต้องลมดังแว่วมา  
     
         กลีบสีขาวอมชมพูปลิวมาต้องหน้าเขา  เด็กหนุ่มพบว่าตนยืนอยู่บนพรมหญ้าเขียวกลางวงล้อมของต้นไม้ซึ่งผลิดอกเต็มต้น  เขาเลือกนั่งพิงโคนต้นไม้ใหญ่ใช้กลีบดอกที่ร่วงลงมาไม่ขาดสายแทนเบาะรองนั่ง  จากมุมนี้เมื่อเงยหน้าขึ้นไปจะสามารถมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดเจน 
      
         เด็กหนุ่มนั่งกินอาหารอย่างสบายอารมณ์  ในบรรยากาศที่แสนสบาย  กว่าจะจัดการกับอาหารตรงหน้าหมดก็เริ่มบ่าย  ไดแอซลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะหาทางกลับเข้าไปในบริเวณงาน
     
         "หลงอีกแล้ว"  เด็กหนุ่มบ่นเมื่อพบว่าตนเองยืนอยู่ในโถงทางเดินที่ว่างเปล่าและเงียบสงัด  เขาเลือกเดินเรื่อยๆจนโผล่ออกมายังสวนหย่อมแปลกประหลาด  ต้นไม้ในสวนนี้ถูกตัดแต่งเป็นรูปสัตว์อสูรหลากชนิดชวนสยอง  เด็กหนุ่มตัดสินใจเดินตรงเข้าไปเผื่อจะมีใครอยู่ในสวนบ้าง
     
         เขาเดินตัดไปตัดมาจนพบโถงทางเดินด้านใหม่เข้า  เด็กหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรยิ่งเดินยิ่งหลง เลยนั่งพักบนเก้าอี้ยาวริมสวน  เขามองกำไลข้อมือแล้วถอนใจ  "กว่ามาร์คัสจะสอบเสร็จข้าคงรากงอกกันพอดี"  
     
        "เจ้าหนุ่ม  มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้" เสียงของชายชราดังขึ้นจากด้านหลังเขา  ราวสวรรค์มาโปรดก็ไม่ปาน  "ท่าน"   เด็กหนุ่มหันกลับไปหาต้นเสียงทันที  เขาพบชายชราเครายาวในชุดคลุมแบบผู้ใช้เวทยิ้มให้อย่างใจดี  "คือ….ข้าหลงทางครับ"  
     
        "หลงทางหรือ  จะไปไหนล่ะ"  คนผู้นั้นถาม  "ลานที่ทดสอบความสามารถครับ"  เด็กหนุ่มมองคนตรงหน้าอย่างมีความหวัง  "มากับข้าสิ ข้ากำลังจะไปที่นั่นอยู่พอดี"  เจ้าตัวกระโดดลุกขึ้นมายืนข้างๆอย่างรวดเร็ว  "เจ้าชื่ออะไร" อีกฝ่ายถาม  
     
        "ข้าชื่อไดแอซครับ"  เด็กหนุ่มแนะนำตัว  "ไดแอซ ……ผู้สูญเสีย"  ชายชราเอ่ย  ครับ?  เด็กหนุ่มหันมองอีกฝ่าย  "มีคนตั้งให้เพราะว่าข้าเสียความทรงจำ"  ชายชราพยักหน้า "อย่างนั้นหรือ"  ไดแอซเอียงคอเล็กน้อย แสงแดดลำหนึ่งสาดเข้ามากระทบใบหน้าเขา  ชายชรามองดวงตาสีฟ้าหม่นของเด็กหนุ่ม
      
         "เจ้า……ได้สูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดของตนไป"  ชายชราเอ่ย  "เจ้ารู้จักทวีปทางตะวันตกไหม"  เด็กหนุ่มส่ายหน้า  "มีนครแห่งหนึ่งตั้งอยู่ค่อนไปทางเหนือของทวีปนั้น  นครอันกอปรขึ้นด้วยอำนาจแห่งมนตราซึ่งทรงฤทธิ์ยิ่ง ……..เฟลูทีเน่"  
     
         "เฟลูทีเน่"  เด็กหนุ่มชะงักเมื่อได้ยิน เขาเอ่ยทวนเบาๆ  "ชื่อนี้…….คุ้นเคยเหลือเกิน"  ทั้งโหยหาอาลัย          ทั้งโศกเศร้า  ทั้งชิงชัง  ความรู้สึกต่างๆมากมายท่วมท้นขึ้นมาภายในหัวใจเขา
     
         "จงนึกให้ดีว่าสิ่งใดกันที่เจ้าสูญเสียไป  เมื่อนั้น….บางทีข้าอาจช่วยเจ้าได้บ้าง"  ชายชรามองดูเด็กหนุ่มด้วยแววตาอ่อนโยน    ไดแอซพยักหน้ารับทั้งๆที่ยังสับสนกับความรู้สึกของตน  "เหตุใดเขาจึงรู้สึกผูกพันกับนามนั้นนัก"  เด็กหนุ่มถามตนเอง 
     
         ลมหนาวพัดผ่านมาวูบหนึ่ง  พาเอากลิ่นหอมหวานพร้อมกลีบบางของดอกไม้ปลิวมาต้องจมูกเขา  "เมื่อใดที่เซเรนดาทิ้งดอกและใบ  จงรู้ไว้เถิด เหมันต์เข้ามาเยือนแล้ว"  ชายชราบอกเขา เหมันต์…ฤดูแห่งความเงียบงัน  
     
         "เย็นนี้  ที่นี่จะมีงานฉลองรับเหมันต์ด้วย"  เด็กหนุ่มทำหน้าสงสัย  "รับเหมันต์?  งานอะไรหรือครับ?"  ชายชราเล่าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล  "งานนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองฤดูใหม่ที่จะมาเยี่ยมเยือน สำหรับงานรับเหมันต์นั้น พวกเราเชื่อกันว่า เทพธิดาหิมะผู้ดลบันดาลให้หิมะตกจะผ่านมาพร้อมคำอวยพรซึ่งโปรยปรายลงมาพร้อมหิมะแรก  จึงถือเป็นการเตรียมตัวเพื่อต้อนรับเทพธิดาองค์นี้ หรือ การเข้าสู่หน้าหนาวนั่นเอง"
     
         เสียงอึงอลดังขึ้นเมื่อพวกเขาล่วงเข้าสู่ลานทดสอบ  บนอัฒจรรย์ยังมีคนนั่งอยู่เต็ม "ข้าว่าเราไปรอที่ทางออกดีกว่าไหม"  เด็กหนุ่มรีบก้าวตามชายชราที่เดินนำลิ่วๆ ไปยังอีกด้านของลานซึ่งมีผู้มายืนรออยู่ประปราย   ทางออกมีลักษณะคล้ายทางเข้า ต่างกันตรงที่เปิดรอไว้ตลอด  "ข้าต้องขอตัวไปธุระก่อน"  ผู้ใช้เวทบอกลา  "ขอบคุณครับ" เด็กหนุ่มค้อมศรีษะส่ง  เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นพบว่าชายชราเดินหายลับไปกลางฝูงชนแล้ว
     
         ไดแอซยืนรอมาเกือบชั่วโมงแต่ยังไม่มีวี่แววว่าผู้ใช้เวทคนใดจะเดินออกมาจากวงกตอันซับซ้อนเสียที  ภาพการต่อสู้ยังคงมีฉายให้เห็นเรื่อยๆ  เขาหันไปถามชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่ก็ได้รับคำตอบว่า  "ไม่มีใครออกมาเลยแม้แต่คนเดียว"  อีกนานแน่ๆไดแอซเริ่มมองหาที่นั่ง
     
         เด็กหนุ่มเลือกเสาหินต้นใหญ่ของอาคารที่อยู่ด้านข้างลานเป็นที่นั่ง  เนื่องมาจากตรงนี้อยู่บนพื้นหินเล่นระดับ จึงสูงขึ้นมานิดหน่อยทำให้เขาสามารถมองเห็นทางออกได้ชัดเจนทีเดียว  เด็กหนุ่มกระชับเสื้อนอกกันความหนาวที่เริ่มล่องลอยอยู่ในอากาศ  เขาเอนตัวพิงเสาแล้วหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า และความคิดที่ยังสับสนปนเปกันอยู่
     
         เด็กหนุ่มเดินไปตามทางมืดสนิท  เขาลองยกมือขึ้นโบกตรงหน้าแต่ก็ไม่เห็นอะไร  ไดแอซพยายามคลำทางสะเปะสะปะไปเรื่อยๆ หวังว่าจะหลุดพ้นจากความมืดนี้เสียที  เขาเดินไปเป็นเวลานาน เพ่งมองทางข้างหน้า แต่ก็ไม่มีแม้แสงสว่างสักจุดหนึ่งปรากฏให้เห็น
     
         เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืดมนนั้น  "เจ้าเฝ้าอธิฐานซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าให้หลุดพ้นออกมามิใช่หรือ  เหตุใดจึงอยากหวนกลับไปที่นั่น"    อธิฐาน…..  ที่นั่น……..ที่ใดกัน  ทว่าไม่มีคำตอบ เสียงนั้นสะท้อนประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา  เด็กหนุ่มทรุดตัวลงกับพื้นหินอันเย็นเยียบ
     
         พอ!!!  พอเสียที!!! เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหู  เสียงนั้นแผ่วหายไป  "เกิดอะไรขึ้น  ทำไม….ทำไม!"  เขาเฝ้าย้ำถามตนเองท่ามกลางความมืดมิดนั้น
      

    -------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×