ปี2549:นี่เรากำลัง “เสียสละ”หรือ “เสียสติ”กันแน่? - ปี2549:นี่เรากำลัง “เสียสละ”หรือ “เสียสติ”กันแน่? นิยาย ปี2549:นี่เรากำลัง “เสียสละ”หรือ “เสียสติ”กันแน่? : Dek-D.com - Writer

    ปี2549:นี่เรากำลัง “เสียสละ”หรือ “เสียสติ”กันแน่?

    ลองคิดดูนะครับ ถ้าเราโง่เท่ากับกบ แล้วเราจะเลือกนายดีได้ยังไง แล้วถ้าเราฉลาดอย่างคน เป็นนายตัวเองไม่ดีกว่าหรือ

    ผู้เข้าชมรวม

    146

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    146

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ต.ค. 49 / 12:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      "เราจำเป็นต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม" ชั่วชีวิตผม บ่อยครั้งที่ผมได้ยินได้ฟังถ้อยคำประโยคนี้จากปากผู้คนมากมายในทุกหนทุกแห่ง รวมถึงเคยเป็นผู้พูดเองด้วยความเชื่อมั่น ทว่า ในนาทีนี้ ผมชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่า ที่จริงแล้ว พวกเรากำลัง "เสียสละ" หรือ "เสียสติ" กันแน่

      ผมเลยพยามนึกหาเหตุผลว่า ในเมื่อสังคมไทยมีแต่คนที่เสียสละเพื่อส่วนรวมกันทั้งนั้น แล้วทำไมผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เมื่อ30กว่าปีก่อน ท่านจอมพลและเหล่านิสิตนักศึกษาก็เสียสละเพื่อส่วนรวม มาวันนี้ คุณทักษิณก็เสียสละ คณะปฏิรูปฯก็เสียสละ

      แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนที่เสียสละจริงๆอย่างที่พูด แต่ส่วนใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม พวกเราต่างก็ได้เสียสละกันเพื่อส่วนรวมกันมาตลอด

      อะไรล่ะที่เราๆท่านๆเสียให้กับสังคมนี้ ก็โอกาสในการเป็นนายของตัวเองไงครับ 30กว่าปีก่อนเราก็เสียสละให้คนส่วนน้อยมาเป็นนาย มาวันนี้ก็เหมือนเดิมใช่ไหมใช่ครับ

      แล้วทำไมเราถึงยอม ก็เพราะเราเชื่อว่า เราต่างก็โง่ จน เจ็บ เห็นแก่ตัว ขาดความสามารถ สังคมที่ผาสุกจึงต้องมีผู้ที่เสียสละมาปกครอง พูดง่ายๆก็คือ เรากลายเป็นคนที่หลงคิดว่าตัวเองเป็นกบ กบที่ต้องเลือกนาย แล้วอย่างนี้ไม่เรียกว่าเสียสติอีกหรือครับ

      ลองคิดดูนะครับ ถ้าเราโง่เท่ากับกบ แล้วเราจะเลือกนายดีได้ยังไง แล้วถ้าเราฉลาดอย่างคน เป็นนายตัวเองไม่ดีกว่าหรือ

      มิหนำซ้ำ ทุกครั้งที่เราได้นายใหม่ เราก็เชื่ออีกว่า พวกเขาคือผู้เสียสละ ทั้งที่เราต่างหากคือผู้ที่เสียสละให้เขา ถามจริงๆเถอะครับว่า พวกเขาเสียอะไรไปบ้างในการต่อสู้แย่งชิงกันมาเป็นนายเรา เพื่อมาเอาภาษีอากร หยาดเหงื่อแรงงาน ทรัพย์สินและทรัพยากรณ์ต่างๆของเราไปแบ่งกัน

      นานมาแล้วมีพรรคการเมืองหนึ่งลงไปปราศรัยที่จังหวัดหนึ่งในภาคใต้ พอใกล้จะจบก็มีลุงคนหนึ่งยกมือแล้วลุกขึ้นพูดว่า "ที่พวกคุณพูดมาทั้งหมด สรุปแล้วหมายความอย่างนี้ใช่ไหม พวกคุณเอาวัวผมไปทั้งตัว แล้วก็แบ่งแกงเนื้อมาให้ถ้วยเดียว มาวันนี้จะมาทวงบุญคุณใช่ไหม" นี่สิครับคำของคนมีสติ

      รู้ไหมครับว่า การเลือกที่จะไม่เป็นนายตัวเอง มันทำให้สังคมไทยเสียสติหนักขึ้นทุกที ทำไมหรือครับ ก็เพราะว่า สังคมแบบที่เป็นอยู่นี้ พอมองหน้ากันเองก็เห็นแต่กบ พอเราเห็นคนไม่ใช่คนแล้ว เราก็เลยทำร้ายกันเองได้ ทำร้ายตัวเองก็ได้ เพียงเพราะรักนายเชื่อนาย

      พวกที่เป็นนายจะคิดจะทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่ยังเป็นนาย ฉะนั้นก็แค่รู้จักว่าทำยังไงให้ดูดี จะได้อยู่เป็นนายไปนานๆ แต่ถ้าพลาดถ้าเสียทีก็ไม่เป็นไร เป็นนายด้วยกันยังไงก็ยังพอคุยกันได้ แค่สมบัติผลัดกันชม จะไปซีเรียสทำไม

      ส่วนพวกเราก็ได้แต่รับกรรมที่พวกท่านก่อ แต่พอเขาชนะก็ดีใจ ต้องรีบไปบอกว่าอยากได้อะไร ทำยังกับว่าเราเป็นนายเขา แล้วพอเขาไม่ให้ เราก็เปลี่ยนข้างเชีย

      เวลานี้ก็เห็นมีแต่ชาวบ่อนอกและบ้านกรูดเท่านั้น ที่ออกมายืนยันว่าพวกเขาเป็นคนไม่ใช่กบ ฟังแล้วก็ดีใจว่าวันนี้เมืองไทยยังเหลือคนมีสติหลงอยู่บ้างครับ ฟังคนกันเองบ้างสิ เลิกบ้าเรื่องนายเสียทีเถอะ เสียเวลาเปล่า ไม่อยากเป็นนายตัวเองก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าใครอยากเป็นก็อย่าไปขัดเขาเลย เคารพกันบ้าง ก็คนด้วยกันนะครับ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×