คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1st 100%
ห้าทุ่มกว่าของวันพุธ อาจจะเลยเวลานอนของใครหลายๆคน แต่กับเขา... มันไม่ใช่
นิ้วเรียวกดเม้าส์คอมพิวเตอร์ด้วยความเร็วสูง ถ้าเขาเกิดเร็วกว่านี้ซักสี่ห้าสิบปีคงได้ไปนั่งกดยิกอยู่ที่ทำการโทรเลข คิ้วสวยที่ขมวดเป็นปมคลายออกพร้อมกับรอยยิ้มสะใจที่ถูกจุดขึ้น
“จะ kill กูเหรอ ไอ้ noob ?? หึหึ นี่ป๋านะเว้ยย” ยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ หลังจากส่งศัตรู(ในเกม)ไปเกิดใหม่ ยังไม่ทันที่ตัวขี้เกียจจะได้ขยับไปมากกว่านั้นศัตรูอีกตัวก็กระโจนเข้าใส่
“เกรียนนน! ลอบกัดเหรอมึง” คิ้วเริ่มเกี่ยวกันเป็นเงื่อนตายหนึ่งชั้น นิ้วขาวๆที่ได้พักไปครู่เดียวกลับมากดกริ๊กๆอีกคำรบ พลันคิ้วสวยก็อัพเลเวลขึ้นเป็นเงื่อนพิรอดเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เห็นรูปที่โชว์อยู่แล้วนึกโมโห
“นัท” เสียงที่ปลายสายทักมาไม่ได้รับความสนใจ เนื่องจากผู้ (ถูกคาดหวังให้) ฟังกำลังมีสมาธิ (?)
“เชี่ยทาร์ตครับ กูดอทรอมึงสองชั่วโมงแล้วครับ ไม่ทราบแม่งหายไปไหนมา??” สบถใส่อย่างอารมณ์เสีย มันน่าไหมล่ะ นัดเขาเองแท้ๆ
“คืนนี้กูนอนหอมึงนะ” เสียงหงอยกว่าปกติ หากแต่นัทก็ไม่ได้สังเกต เพราะกำลังยุ่งอยู่กับการไล่ kill ไอ้เกรียนเมื่อครู่ สมองที่ใครก็ชมว่าฉลาดนักหนากำลังรับบทหนักกับการแยกประสาทเพื่อประมวลคำพูดและตอบสนองกับเกม
“พรุ่งนี้มีควิซเหรอ?” ถามช้ากว่าปกติ หึ มิน่าล่ะ ปล่อยกูรอซะ
“เปล่า... แต่ ไม่อยากอยู่คนเดียวว่ะ” ทาร์ตเสียงอ่อนลงจนอีกฝ่ายรู้สึกได้ เป็นไรวะ เมื่อวานยังลั้ลลาอยู่เลยว่าพ่อกับแม่ไปต่างจังหวัด พี่สาวก็ไม่กลับจากค่าย แล้วมันก็เลยมีเวลาดอทกับเขาถึงเช้า
“ก.. กู” ปลายสายอ้ำอึ้ง
“สัดด เลือดหมด” สบถไปตามสถานการณ์ในมอนิเตอร์ เผลอไปหน่อย โดนซะหลายที
“อะไรนะ”
“เปล่าๆ เออ มึงอยู่ไหนเนี่ย” เปลี่ยนเรื่องคุย ช่างมัน ไหนๆก็ตายแล้วนี่หว่า ร่างโปร่งละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ถือโทรศัพท์เดินไปเดินมาทั่วห้อง
“หน้าห้อง เปิดประตูด้วย”
“อ๋อ.. อืม ห๊ะ!!” นัทเออออไปตามเรื่อง ก่อนจะอุทานอย่างประหลาดใจ อันที่จริงควรจะชินได้ตั้งนานแล้ว ไอ้เพื่อนคนนี้มันเหมือนใครซะที่ไหน
ส่องดูที่ตาแมวก็พบเพื่อนรักในชุดนักเรียนทำหน้าเป็นหมาหงอยอยู่หน้าห้อง เอื้อมมือไปเปิดประตู
“นี่ยังไม่ถึงบ้าน?” เจ้าของห้องถามอย่างเป็นห่วง คำตอบที่ได้กลับกลายเป็น
“...” เจ้าเพื่อนตัวดีแทรกตัวเข้ามาในห้อง ไม่พูดไม่จา ทำหน้าเซ็งโลกอยู่นั่น อะไรของมัน..?
ขายาวๆก้าวฉับๆไปที่โซฟา เหวี่ยงกระเป๋าลงกับพื้นข้างๆแล้วเหยียดตัวนอนยาวบนโซฟาเก่าสีน้ำตาลตัวใหญ่
‘ใหญ่เกินกว่าจะนอนคนเดียว’ นัทเคยคิดแบบนั้น อดขำไม่ได้ว่าโซฟาในห้องที่เขาคิดว่าใหญ่นักหนา ไอ้เพื่อนตัวโตตาเล็กนอนคนเดียวก็เต็ม
ร่างโปร่งโยนผ้าเช็ดตัวสีครีมใส่หน้าหล่อๆของคนที่นอนเหม่อไม่รู้เดือนรู้ตะวันเป็นเชิงไล่ให้ไปอาบน้ำหลังจากปล่อยให้นอนซึมเป็นชั่วโมง เขารู้นิสัยเพื่อนคนนี้ดีพอที่จะปล่อยให้สงบสติอารมณ์ซักพัก ถึงยังไงคืนนี้เขาก็ต้องรู้สาเหตุที่ทำให้มันป่วงได้ขนาดนี้ ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวมันนักหรอก แต่ก็อดห่วงไม่ได้เหมือนกัน ไม่บ่อยนักที่เพื่อนหน้ารื่นแบบทาร์ตจะอยู่แบบไม่พูด ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะเป็นชั่วโมง
ไม่นานนักร่างสูงของเพื่อนร่วมชมรม (ที่กำลังจะกลายเป็นเพื่อนร่วมเตียงในคืนนี้) ก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมายืนอยู่หน้าห้องน้ำ หุ่นดีจนเขานึกอิจฉา เล่นบาสก็เล่นด้วยกัน ทำไมมันบึ้กอยู่คนเดียวก็ไม่รู้ มองยังไงก็แมนกว่าเขามากอยู่ ยังไงก็ช่าง บรรดาสาวแท้สาวเทียมที่โรงเรียนก็ปลื้มนัทมากกว่าอยู่ดี ผู้ชายหน้าหวานๆน่ะมีเสน่ห์จะตาย
...หรือคุณว่าไง...?
ตีสองกว่าเข้าไปแล้ว กว่าสองชั่วโมงที่เจ้าของห้องรับรู้ถึงการขยับตัวและถอนหายใจของคนข้างๆ
“นอนไม่หลับเหรอวะ” เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“มึงก็ยัง”
“ก็เล่นพลิกตัวทุกครึ่งนาที” นัทเหน็บแนมเล็กน้อยพอเป็นพิธี มีอย่างที่ไหน คนอุตส่าห์ใส่ใจยังจะมาย้อน
“นัท ไหนๆก็นอนไม่หลับแล้ว” เสียงทุ้มเริ่มบทสนทนาใหม่ หลังจากเงียบไปเป็นนาที
“แล้ว...?” เหลือบตาสวยๆไปมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างสงสัย แล้วอะไร
“เรา ทำอะไรกันดี” พูดเหมือนคุยเรื่องทั่วๆไป แต่คนข้างๆดันดีดตัวขึ้นนั่งถลึงตามองเขาเสียฉิบ ทาร์ตลอบยิ้มกับใบหน้าตื่นตระหนกที่เลือนรางจากความมืด มันคิดอะไรของมัน!
“น้าทททท...~”
“มึงอย่ามา กูขนลุก” คนถูเรียกยกมือขึ้นลูบต้นแขน ที่บรรดาประชากรขนทั้งหลายพร้อมใจกันลุกโดนไม่ได้โทรนัด
“น้าทอ่า...” แอ๊บแบ๊วอย่างผิดวิสัย กระตุกชายเสื้อนอนเพื่อนอย่างอ้อนตรีน
“...” = =*
“กูอยากดูดาว”
ไม่เกินอึดใจ ทั้งสองหน่อก็ย้ายสะโพกงามๆมานอนแผ่อีแหรดบนดาดฟ้า ชี้ชวนกันดูกลุ่มดาวต่างๆที่เรียงตัวสวยงามอยูบนท้องฟ้าสีดำสนิท คนตัวบางกว่าโชว์เทพบอกทั้งชื่อทั้งประวัติของดาวสารพัด ทั้งดาวนายพราน ดาวจระเข้ ดาวแม่น้ำ ไปจนถึงดาวมหาลัยรั้วข้างๆ เรียกรอยยยิ้มบางๆจากคนข้างๆได้เป็นอย่างดี
เงียบกันไปครู่หนึ่ง
“นัท” เรียกชื่อเพื่อนทำลายความเงียบ “มึงว่ากูเลวมากป่ะวะ” เสียงทุ้มซีเรียสจนน่าใจหาย พาลความคิดที่อยากจะแกล้งเพื่อนของนัทเมื่อครู่ก็หายไปจนหมด
“ก็... ไม่ อยู่ๆถามทำไมเนี่ย”
“แค่สงสัย ทำไมกูคบกับใครไม่รอดซักคน ขนาดคนที่กูคิดว่า ใช่ ที่สุด คนที่กูสัญญาว่าจะดูแลให้ดีที่สุดก็ยัง...” หางเสียงขาดหายไป ในที่สุดนัทก็ทราบสาเหตุความนอยด์ของได้ตัวแสบ ‘ไม่อยากอยู่คนเดียว’ แหม... อกหักแล้วถึงเห็นหัวกู! จะว่าไปไอ้เพื่อนคนนี้เปลี่ยนแฟนบ่อยกว่าแปรงสีฟัน รู้จักกันมาสองปี จำนวนแฟนเก่าของมันมากเกินว่าจะนับได้ด้วยมือข้างเดียว แต่ละคนก็สวยเลิศ เพอร์เฟคซะ และต่อให้คนจีบเยอะขนาดไหนไอ้หมอนี่ก็คว้ามาควงได้ทุกที แต่ไม่รู้เพราะอะไร คบกันได้แป๊บเดียวมันไม่ทิ้งเขาก็โดนเขาทิ้งตลอด ซึ่งทาร์ตเองก็ดูไม่ทุกข์ร้อนกับมันเท่าไหร่
“กูรอเค้าอยู่นะเว้ย คนที่เค้ารักกูจริงๆ เข้าใจกู คนที่จะอยู่ข้างๆกูไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ละสายตาจากอาการเหม่อมามองหน้าเพื่อนข้างกาย “มึงว่าเค้ามีอยู่จริงๆรึเปล่าวะ”
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าคนข้างๆจริงจังกับความรัก ทั้งยังมีมุมมองช่างฝันอย่างกับเด็กผู้หญิง
“มีสิ” ย้ำหนักแน่น “แค่ยังหาไม่เจอ... หรืออาจจะเจอแล้วแต่มึงเสือกโง่ไม่รู้เองนั่นแหละ” ลูบหลังแล้วตบหัวตามแบบฉบับนัทแล้วเงียบต่อ ต่างคนต่างจมในความคิดตัวเอง
ทาร์ตเป็นคนดี นัทยืนยันได้ ความจริงใจและนิสัยใจกว้างแบบนักกีฬาทำให้มีเพื่อนสนิทเยอะ ผิดกับเขาที่มีแต่คนรู้จัก เพื่อนสนิทน้อยยิ่งกว่าน้อย มีมันนี่แหละเป็นหนึ่งในไม่กี่คนนั้น ทาร์ตรักเพื่อนมาก นี่แหละมั้งที่ทำให้คบกับใครเขาไม่ยืด นิสัยติดเพื่อนมากกว่าแฟนมีข้อเสียอย่างนี้นี่เอง
ฟุ้งซ่านเกินไปหรืออย่างไรไม่ทราบ ตอนนี้นัทมองท้องฟ้าเป็นหน้าเพื่อนสนิทไปเสียแล้ว กว่าจะตั้งสติได้และรู้ว่าภาพตรงหน้าไม่ใช่ภาพลวงตาที่เกิดจากความกังวล ริมฝีปากสีหวานก็รับรู้ถึงสัมผัสอุ่น ลิ้นร้อนๆที่แตะไล้เพียงแผ่วเบาแต่ก็เพียงพอที่จะกระชากสติให้หลุดไปไกลแสนไกล
เพียงชั่วอึดใจสัมผัสนั้นก็ผละออก พร้อมๆกับตัวต้นเหตุที่วิ่งลงบันไดไป ปล่อยให้ร่างโปร่งนอนจมอยู่กับความสับสน และความรู้สึกร้อนซ่านบนใบหน้า
นัทกลับลงห้องมาด้วยอาการเลื่อนลอย พบร่างสูงของเพื่อนสนิทนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม
“นัท” กล่าวทักขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า “กู... ขอโทษ”
“ช่างเหอะ กูไม่ถือ” ไหล่บางยกขึ้นสื่อว่าไม่ได้แยแส เพื่อนเขาคงจะอกหักจนเพี้ยนไปแล้วนั่นแหละ
“แต่มึงตาแดง...”
“ง่วง” ตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก “มึงก็นอนได้แล้วทาร์ต จะสว่างอยู่แล้ว”
“อืม เดี๋ยวตามไป”
นัทนอนไม่หลับจนเช้า โดนเพื่อนผู้ชายจูบ มันก็น่าตกใจอยู่ แต่ที่น่าตกใจว่าคือเผลอใจเต้นไปแล้วนี่สิ สมัยอยู่อเมริกาก็เคยเล่นกับเพื่อนแบบนี้ เล่นกันจนเป็นปกติ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ติดใจกับรสสัมผัสนั้น
มือบางยกขึ้นแตะริมฝีปากอย่างเผลอไผล แต่ก็สลัดความคิดบ้าๆนั่นอย่างรวดเร็ว
“มันก็แค่เผลอเท่านั้นแหละนัท ...ก็แค่เผลอ”
ความคิดเห็น