ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] Realize {Baeklay}

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 57


    เสียงเงียบที่ผมบอกว่าเบื่อในตอนแรกตอนนี้ผมอยากจะได้มันกลับมาเสียเหลือเกิน ตั้งแต่ผมไปโกหกว่าหากุญแจรถไม่เจอ คนอ่อนต่อโลกอย่างอี้ชิงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดบ่นเลยสักนิด... นี่ผมทำถูกแล้วใช่มั้ย... ก็ผมเบื่อหน้าไอชานยอลอะไรนั่นจะแย่อยู่แล้ว ให้ทำไงได้ ขืนนั่งต่อไปผมคงเกลียดขี้หน้ามันพอดี
     
    และทำไมผมต้องไม่ชอบขี้หน้ามันด้วยเนี่ย...
     
    "ทีหลังก็หาให้ดีๆก่อนกระโตกกระตากได้มั้ยแบคฮยอน" ร่างบางยืนกอดอกทำหน้าเข้มคิ้วขมวดด้วยความโมโหตรงหน้าของแบคฮยอนที่นั่งอยู่บนเตียงสักพักแล้วหลังจากแกล้งทำเป็นหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าแล้วเสแสร้งว่าเพิ่งเจอ... วิชามารชัดๆ 
    "คนเรามันก็ผิดพลาดกันได้นี่หน่า"
    "เสียเวลาฉันจริงๆเลย"
    "ยังคุยกันไม่พออีกหรอ เช้ายันเย็นก็หน้าจะพอได้แล้วนะ!" อยู่ๆร่างหนาก็ตะคอกขึ้นมาเล่นเอาร่างบางที่ปรับอารมณ์ไม่ทันได้แต่มองกลับอย่างมึนๆ
    "ก็ฉันบอกนายแล้วว่าไม่ต้องลงๆ เดี๋ยวนายจะบ่น นายก็ยังรั้นอยู่ได้" อี้ชิงมุ่ยหน้าใส่ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆแบคฮยอน
    "ถ้าฉันไม่ลง ป่านนี้นายคงอยู่ในห้องของไอชานยอลแล้วหละ" 
     
    ไม่อยากจะนึกภาพ ใจง่ายอย่างนายนี่ไม่เหลือแน่ๆ ดูแววตาดุ้กดิ้กๆสดใสของชานยอลแบบนั้นก็เถอะ... ร้ายลึก หึ! ผมรู้ทันหรอก 
     
    "ฉันจะไปอยู่ห้องชานยอลหรือห้องใครมันไปเดือดร้อนนายหรือยังไง สบายหูสบายตานายเสียมากกว่า ไม่ดีหรอ" อี้ชิงเหลือบมองร่างหนาด้านข้างหลังจากพูดจาเหน็บแนมใส่
    "ฉันเกรงว่านายจะโดนหลอกเสียมากกว่า คนอย่างนายจะมีใครมาจริงจังด้วยกันเชียว"
    "นายเลิกพูดจาทำร้ายจิตใจฉันสักทีได้มั้ย..." ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวด้วยความน้อยใจกับคำพูดของร่างหนา ดวงตาแดงกลำบ่งบอกว่าร่างบางพยายามกลั้นน้ำตาไว้มากแค่ไหนแต่ดูเหมือนแบคฮยอนจะไม่ทันสังเกตเอาเสียเลย
    "คำพูดแค่นี้มันยังไม่เท่ากับสิ่งที่นายทำไว้กับฉันและครอบครัวฉันหรอก"
    "...." ร่างบางได้แต่เงียบข่มอารมณ์เจ็บปวดนั้นไว้และนั่นก็ทำให้ร่างหนาหันไปมองด้วยความสงสัยว่าอยู่ๆทำไมถึงเงียบไป ทุกครั้งเห็นเถียงไม่หยุด 
     
    ร้องไห้งั้นหรอ...
     
    "หยุดบีบน้ำตาเลิกทำสีหน้าแบบนั้นได้แล้วจาง อี้ชิง..."
    "...." อี้ชิงได้แต่นั่งจ้องหน้าแบคฮยอนราวกับโดนสตาฟเอาไว้ติดตรงที่ว่าน้ำตามันดันเคลื่อนที่ไหลออกมาเรื่อยๆอย่างห้ามไม่ได้
    "ฉันไม่ใช่พี่ฮันจานะที่จะคอยเป็นห่วงเป็นใยนายหรือคอยปลอบใจนายเวลาเสียใจ หยุดอ่อนแอได้แล้ว!"
     
    ผมเกลียดสีหน้าแบบนี้ ผมเกลียดเวลาเห็นอี้ชิงร้องไห้ มันทำให้ผมรู้สึกโกรธ เพราะสิ่งที่เขาทำมันเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่สาวผมต้องจากไป... ถ้าเขาไม่ร้องไห้ ถ้าเขาไม่อ่อนแอ เรื่องพวกนี้มันคงจะไม่เกิด...
     
    ร่างหนาได้แต่นั่งจ้องหน้าร่างบางอย่างหัวเสียแต่ยิ่งเห็นแววตาเจ็บปวดของอี้ชิงเขาก็ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่คำพูดแรงๆที่เขาชอบพูดใส่อี้ชิง เขายังพูดไม่ออกเลย...
     
    "นายคิดว่าพี่ฮันจาจะรับรู้ถึงสิ่งที่นายทำมั้ยแบคฮยอน.." ร่างบางเงยหน้ามองร่างหนาด้วยดวงตาที่ปวมตุยเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดซึ่งร่างบางไม่สามาระที่จะกลั้นมันไว้ได้ ร่างหนาได้ยินประโยคนั่นบวกกับใบหน้าของร่างบางที่เห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บแป้บขึ้นมา
    "ฉันคิดว่าพี่ฮันจาจะสะใจเสียด้วยซ้ำ นายคงไม่คิดว่าพี่ฮันจาจะให้อภัยนายหรอกนะ?"
    "...."
    "ได้ยินที่ฉันพูดมั้ย?" แบคฮยอนคว้าแขนของคนตรงหน้าอย่างแรงจนร่างบางร่างสั่น
    "ถ้านายเกลียดฉันมากนักนะแบคฮยอน ฉันไม่นอนที่นี่ก็ได้!" ร่างบางทนไม่ไหวกับแรงกดดันที่ส่งผ่านมาจากคนตรงหน้าจนปล่อยมันออกมาสุดตามอารมณ์
    "ถ้านายไปมันก็ง่ายเกินหนะสิ ฉันรู้ว่านายอยากจะโวยวายมากแค่ไหนเวลาอยู่กับฉัน" 
    "นายต้องการอะไรนักหนา..."
    ร่างบางพยายามแกะมือที่รัดกุมแขนทั้งสองข้างของตนอยู่อย่างโมโห
    "ต้องการให้นายทรมาณ... ต้องการให้นายอยู่คนเดียว นายไม่มีวันที่ใครจะมามอบความรักให้นายหรอก นายจะสูญเสียทุกอย่างที่นายรัก... เหมือนกับสิ่งที่นายทำไงจาง อี้ชิง" แววตาชิงชังจับจ้องไปที่ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาณ 
     
     
    "ต้องการให้นายทรมาณ... ต้องการให้นายอยู่คนเดียว นายไม่มีวันที่ใครจะมามอบความรักให้นายหรอก นายจะสูญเสียทุกอย่างที่นายรัก... เหมือนกับสิ่งที่นายทำไงจาง อี้ชิง"
     
    ประโยคเหล่านั่นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของร่างบางถึงแม้ว่าจะผ่านไปแล้วหลายวันแต่เสียงที่ฟังดูจริงจังและแววตาที่ชิงชังของแบคฮยอนยังไม่อาจเลือนหายไปจากหัวของจางอี้ชิง
     
    "นี่ ทำไมนายไม่เห็นกินไรเลยละอี้ชิง"
    ชานยอลที่นั่งอยู่ตรงข้ามอี้ชิงถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วงหลังจากเห็นว่าร่างบางตรงหน้านั่งเขี่ยข้าวไปมาอยู่นานสองนาน เจ้าตัวที่โดนถามก็ได้แต่ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มก่อนจะส่งยิ้มไปให้ร่างสูงตรงหน้า
    "ฉันไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หนะ แล้วนายมีเรียนอีกทีกี่โมงเนี่ย" อี้ชิงก้มดูนาฬิกาก่อนจะตระหนักได้ว่ามันบ่ายโมงกว่าได้แล้ว ชานยอลที่ยังคงเคี้ยวอาหารอย่างเอร็ดอร่อยตอบร่างบางอย่างปัดๆ
    "ไม่มีแล้ว เรียนอะไรเยอะแยะ" 
    "นายแน่ใจนะชานยอล..." อี้ชิงจ้องหน้าคนตรงหน้าอย่างจับผิดเล่นเอาชานยอลที่พยายามเกร็งสีหน้าให้ปกติถึงกับหลุดสีหน้ามีพิรุธออกมา
    "ก็...ฉันไม่อยากเข้าตัวนี้หนิ และอีกอย่างฉันเรียนตัวนี่พร้อมกับแฟนนายด้วย"
    "แฟนฉัน?" อี้ชิงชี้หน้าตัวเองอย่างแปลกใจ
    "ก็แบคฮยอนไง แฟนนายไม่ใช่หรอ?" 
    ชานยอลจับตามองปฏิกิริยาของคนตรงหน้าว่าอี้ชิงจะตอบว่าอะไร ร่างบางได้แต่ส่ายหัวก่อนจะตอบความจริงไป
    "ฉันกับแบคฮยอนเป็นเพื่อนกันเท่าน้ันเอง ฉันไม่เคยบอกสักครั้งเลยว่าเราเป็นแฟนกัน"
    "แล้วทำไมนายต้องหน้าแดงด้วย" 
    ชานยอลแกล้งถามคนตรงหน้าทั้งๆที่จริงแล้วอี้ชิงไม่ได้มีปฏิกิริยาเขินอายเลยสักนิด
    "ฉันหนะหรอ? บ้า ไม่มีอะ เลิกพูดจาเลอะเทอะได้แล้วหน่าชานยอล" อี้ชิงหยิบน้ำขึ้นมาดื่มอีกครั้งแก้เก้อ ชานยอลเห็นแบบนั้นก็อดยิ้มไม่ได้ แต่เหตุผลที่เขายิ้มคือสิ่งที่ร่างบางเพิ่งพูดออกมา
     
    ทางสะดวก... 
     
    "งั้นฉันก็จีบนายได้อะสิ?" ชานยอลยิ้มให้ร่างบาง อี้ชิงแทบจะสำลักน้ำ เขาพยายามสู้สายตาร่างสูงแต่ผลสุดท้ายก็ต้องเป็นคนหลบสายตาไปเอง
    "นะ นี่นายพูดจริงหรอ?"
    "และทำไมฉันต้องโกหกด้วยละ นายออกจะน่ารัก แถมเวลานายยิ้มนะ ฉันเห็นแล้วจะละลาย" ร่างสูงสาธยายความคิดของเขาอย่างจริงจังเล่นเอาร่างบางตรงหน้าถึงกับหน้าแดงเถือก
    "แต่..."
    "หวัดดี!" อี้ชิงยังไม่ทันจะพูดจบเสียงทุ้มก็ดังขัดขึ้น ทั้งสองหันไปมองจึงเห็นว่าเสียงนั้นมาจากเด็กหนุ่มผมน้ำตาลเข้มใส่แว่นใหญ่ๆตามสไตล์ผู้ชายกวนประสาทเดินตรงดิ่งเข้ามาหาอี้ชิงกับชานยอล
     
    ตัวขัดจริงๆเลยนะแบคฮยอน...
     
    ชานยอลถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะแสร้งยิ้มออกมาพร้อมคำทักทาย
    "หวัดดี"
    "ทำไมมากินข้าวไม่โทรชวนกันบ้างเลย"
    แบคฮยอนที่เดินมานั่งลงข้างๆร่างบางโดยไม่สนใจร่างสูงที่เอ่ยทักตรงหน้าเลยสักนิดถามขึ้นไม่วายจ้องหน้าร่างบางยิ้มหวานส่งให้ซึ่งดูก็รู้ว่าเขาเสแสร้งมากแค่ไหนเพื่อต้องการคำตอบ
    "ไม่อยากรบกวน"
    อี้ชิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
    "ถ้านายโทรมันไม่รบกวนหรอก ฉันรับได้ตลอดเวลาแหละ" แบคฮยอนยิ้มหวานให้อี้ชิงก่อนจะเหลือบไปมองเห็นชานยอลที่นั่งมองอยู่ฝั่งตรงข้าม
    "อ้าว นี่นายไม่มีเรียนหรอ นี่มันเวลาเรียนนะ"
    แบคฮยอนถามขึ้น
    "ฉันก็เรียนตัวเดียวกับนายนั่นแหละ" 
    หลังจากชานยอลพูดจบแบคฮยอนก็หุบยิ้มทันที
     
    จะหลอกด่าก็ไม่ได้ เดี๋ยวเข้าตัว...
     
    "พวกนายสองคนควรที่จะเข้าเรียนนะ"
    "แล้วนายไม่มีเรียนหรอไง ถึงได้มานั่งกินข้าวกับ... ชานยอลอะ" 
    แบคฮยอนเบนสายตาไปมองชานยอล
    "ไม่ ฉันไม่มีเรียนรอบบ่ายวันนี้"
    "งั้นก็ดี เราจะได้รีบกลับห้องสักที" แบคฮยอนถือวิสาสะยกแก้วน้ำของร่างบางขึ้นมาดื่ม
    "ฉันยังไม่อยากกลับ"
    แบคฮยอนหันมองร่างบางทันทีด้วยความประหลาดใจ เมื่อก่อนผมพูดอะไรนายนี่ก็ทำตามหมด ทำไม... 
    "ฉันจะไปเที่ยวกับชานยอล" อี้ชิงมองหน้าชานยอลทันทีเมื่อพูดประโยคนั้น ร่างสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับหลุดยิ้มออกมาถึงแม้จะแปลกใจแต่ก็รู้สึกดีที่ร่างบางพูดแบบนั้น
    "แต่นาย..."
    "ถ้านายจะนอนก่อนก็ได้นะ ถ้ามันดึกมากฉันอาจจะไม่กลับ จะได้ไม่รบกวนนาย" 
    "ถ้านายไม่กลับและนายจะไปนอนไหน" แบคฮยอนเริ่มทำหน้าไม่ถูก
    "นอนบ้านฉันก็ได้ อยู่ใกล้หอนายนิดเดียว" ชานยอลตอบขึ้นมาแทนโดยที่ร่างบางก็ไม่ได้เตรียมการไว้ด้วยเลยเผลอทำหน้าเหวอออกมา ส่วนแบคฮยอนถึงกับหน้าตึงใส่เมื่อได้ยินประโยคนั้น
    "อยู่ใกล้กันนายนี่ก็กลับมานอนห้องเราเลยไม่ดีกว่าหรอ" แบคฮยอนรีบแทรกขึ้นมาทันทีโดยไม่ลืมที่จะเน้นคำว่า 'เรา'
    "เลิกพูดเรื่องนี้สักที ฉันเบื่อจะคิดละ รีบไปกันเถอะชานยอล ฉันอยากดูหนัง" อี้ชิงลุกขึ้นยืนเล่นเอาชานยอลทำตัวไม่ถูกที่ว่าร่างบางนึกจะลุกก็ลุกนึกจะชวนก็ชวนแต่ที่หนักกว่าจะเป็นใครไปไม่ได้ ร่างหนาที่นั่งเก๊กหน้าอยู่ข้างๆเริ่มรนรานแต่ก็ไม่อยากห้ามอะไร ถ้าคนตรงหน้าอยากจะไปไหนกับใครก็ไป มันไม่ได้เดือนร้อนผมอยู่แล้ว นายนี่จะกลับไม่กลับมันก็หนักหนาอะไรหัวผมหรอก จะไปไหนก็ไป....
    "อ่ะ ครับผม" ชานยอลรีบลุกขึ้นตอบกลับทันทีเหมือนรู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร
    "ถ้าว่างมากก็เข้าเรียนซะแบคฮยอน" อี้ชิงพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินนำหน้าชานยอลออกไป ชานยอลหันไปยิ้มให้แบคฮยอนก่อนจะรีบเดินตามร่างบางออกไป
     
    อี้ชิง... นายทำตัวของนายเองนะ นายเลือกทำในสิ่ที่ฉันไม่พอใจ แล้วนายจะรู้กัน...
     
    "แบคฮยอน!" ร่างหนาละสายตาจากคนสองคนที่เดินออกไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง
    "ทำไมไม่เข้าเรียน" แบคฮยอนรับรู้ทันทีว่านั้นคือเสียงของใครหลังจากเจ้าของเสียงเดินมานั่งข้างๆ ดีโอ...
    "เข้าไม่ทันเลยไม่เข้าเลยดีกว่า แล้วนายละ ไม่เข้าหรอมาเดินอะไรแถวนี้?" 
    "เขาปล่อยแล้ว สั่งงานคู่นิดหน่อยแล้วก็ปล่อย"
    "งานคู่?" แบคฮยอนหันไปมองดีโอด้วยสีหน้าวิตก
     
    แล้วผมจะมีคู่มั้ยเนี่ย...
     
    "ใช่ แต่นายไม่ต้องห่วง เพราะฉันเลือกนายเป็นคู่แล้ว" ดีโอยิ้มให้แบคฮยอนซึ่งรอยยิ้มของดีโอเป็นรอยยิ้มที่ดูไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่
    "ขอบใจมากนะ"
    "เดี๋ยวฉันบอกรายละเอียดอีกทีว่าแต่เราจะไปทำที่ไหนอะ"
    "ที่..." แบคฮยอนเงียบไปสักพักก่อนจะนึกอะไรออกมาได้
    "ทำที่คอนโดฉันแล้วกัน นายว่าไง"
    แบคฮยอนมองหน้าดีโอเพื่อรอคำตอบ
    "ก็ดีนะ งั้นไปทำที่คอนโดนายก็แล้วกัน" 
     
    ...นายคิดว่านายมีอะไรทำแค่คนเดียวหรือไงอี้ชิง ฉันไม่มีนายฉันก็อยู่ได้...
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×