ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] Realize {Baeklay}

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 57


    ตั้งแต่ที่เรามาถึงห้องร่างบางก็ไม่เอ่ยพูดหรือกวนประสาทผมด้วยหน้าตามึนๆของเขาสักนิด ผมเห็นแบบนั้นก็รู้สึกขัดใจยังไงชอบกล หน้าเบื่อชะมัด...
    "นี่" 
    "..." ร่างบางที่นั่งจิ้มโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาไม่มีปฏิกิริยาใดๆเกิดขึ้นกับเสียงเรียกของคนร่างหนาเลย
     
    ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วยังไม่ได้เคลียร์เลย...
     
    "นี่!" แบคฮยอนที่ให้โอกาสร่างบางอีกครั้งตะโกนเรียกเสียงดังขึ้น แต่ก็ได้รับผลตอบรับเดิมกลับไป คือความเงียบ...
    "จาง อี้ชิง เลิกทำหูทวนลมได้แล้ว!" ร่างหนาที่ยืนเรียกอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนตัวเองอยู่นานทนไม่ไหวเลยตรงปรี่เข้าไปหาอย่างหัวเสีย ร่างบางที่ดูเหมือนจะรับรู้ถึงแรงอาฆาตของอีกคนจึงรีบเงยหน้าขึ้น
    "ก็นายมัวแต่เรียก นี่ นี่ ฉันไม่ได้ชื่อนี่ ฉันก็ไม่ขานสิ" ร่างบางเบ้ปากใส่ก่อนจะก้มลงจิ้มโทรศัพท์เหมือนเดิม แบคฮยอนเห็นแบบนั้นก็มีสีหน้าฟึดฟัดขึ้นมาด้วยอารมณ์โมโห
     
    ย๊า! ถ้าผมบีบหน้านายนี่แรงๆผมจะกลายเป็นคนโหดร้ายมั้ยเนี่ย ทำตัวหน้าหมั่นไส้จริงๆเลย...
     
    "ทำตัวน่ารำคาญจริงๆเลยนายหนะ"
     
    ใครกันแน่ ชิ... เอาแต่โหวกเหวกโวยวาย ออกคำสั่งอยู่ได้ ยังมาบอกว่าฉันน่ารำคาญอีก... ไม่ดูตัวเองเลย 
     
    ร่างบางได้แต่คิดอยู่ในใจแต่ก็แอบเงยหน้าจิกตาใส่ร่างหนาที่ยืนค้ำหัวอยู่ แบคฮยอนเห็นแบบนั้นก็ถือวิสาสะคว้าโทรศัพท์ของคนตัวเล็กออกจากมือก่อนจะโยนมันไปที่โซฟาอีกตัวอย่างเอาแต่ใจโดยไม่สนใจหน้าตาเหวอหวาที่ร่างบางแสดงออกมาอย่างงวยงง โยนเสร็จเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆร่างบางหน้าตาเฉยพรางกอดอกสบายใจ
     
    ไอบ้านี่หนิ! ถ้ามันไม่มีจิตสำนึกป่านนี้โทรศัพท์ผมกระดอนลงพื้นไปแล้วมั้งเนี่ย นิสัยแย่จริงๆเลยเด็กคนนี้ ...
     
    "นี่! ถ้าโทรศัพท์ฉันตกพื้นขึ้นมานายจะทำยังไง?" ร่างบางโวยวายด้วยความโมโหที่ร่างหนาทำอะไรไม่คิดกับข้าวของส่วนตัวของเขา แต่ดูเหมือนแบคฮยอนไม่เห็นจะรู้สึกผิดอะไรยังไม่วายอมยิ้มออกมาอีกตั้งหาก
    "ชอบโวยวายกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นนะนายหนะ" แบคฮยอนยกขาพาดโต๊ะตรงหน้าด้วยท่าทางที่ยียวนกวนประสาทร่างบางเป็นอย่างมาก อี้ชิงเห็นแบบนั้นก็ดันตัวเองลุกขึ้นก่อนจะดันขาของแบคฮยอนออกอย่างแรงเพื่อให้พ้นทางก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่โดนแบคฮยอนโยนไปไว้ที่โซฟา
    "เดี๋ยวนี้สู้หรอ?" แบคฮยอนที่ดูจะแปลกใจกับการกระทำของคนตัวเล็กตรงหน้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วก็รู้ว่าพยายามข่มเอาไว้มากแค่ไหน
    "ใครจะไปกล้าสู้นายกันแบคฮยอน เอะอะอะไรนายก็ชนะไปซะหมดแหละ" อี้ชิงที่หยิบโทรศัพท์ของตัวเองเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้ซึ่งความจริงใจทั้งสิ้น
    "เมื่อไหร่นายจะหยุดเถียงฉันสักที"
    "เมื่อนี้แหละ ฉันจะลงไปข้างล่างแล้ว" พูดจบร่างบางก็คว้ากระเป๋าตังค์ที่วางอยู่บนตู้ชั้นวางตรงประตูก่อนจะเปิดประตูจะเดินออกไปแต่แบคฮยอนก็ตะโกนขึ้นมาเสียก่อน
    "ลงไปไหน?" ร่างหนารีบดีดตัวขึ้น
    "ไปหาอะไรกิน" 
    "นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกินจริงๆเลยนะ"
    "ฉันไปกินในปากนายหรือไงกัน" ร่างบางพูดประโยคนั้นจบร่างหนาถึงกับสตั๊นไปแวบนึงกับคำพูดของคนตรงหน้า
     
    นะ...นี่นายนั่นคิดก่อนพูดบ้างมั้ยเนี่ย - -*
     
    "ฉันไปด้วย" แบคฮยอนพูดพรางเดินตรงไปหาอี้ชิงที่ยืนอยู่หน้าประตู
    "จะกินอะไรฉันซื้อขึ้นมาฝากให้ก็ได้ นายรออยู่นี่แหละ" อี้ชิงพูดเหมือนไม่อยากให้ผมไปด้วย อะไรที่ขัดใจนายนี่ผมต้องรีบทำ...
    "ไม่ ฉันจะไปกับนาย" แบคฮยอนว่าพรางดันตัวคนตัวเล็กให้ออกไปนอกห้องพร้อมทั้งตัวเขาด้วยก่อนจะปิดประตู
    "อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน แบคฮยอน" อี้ชิงหันหน้ามาบอกผม
     
    ไปกับนายนี่ก็ยังดีกว่าอยู่ในห้องคนเดียวก็แล้วกัน... อยู่กับอี้ชิง มีอะไรให้ทำมากกว่าเยอะ
     
     
    "เจอเช้าเจอเย็นแบบนี้ มีความสุขจัง"
    ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆร่างบางพูดขึ้นด้วยสีหน้ามีความสุข ร่างหนาที่นั่งดูดโกโก้ปั่นอยู่ตรงข้ามถึงกับสำลักเบาๆออกมาทันที ร่างบางที่เห็นกิริยาเสียมารยาทของคนตรงหน้าก็ได้แต่ส่งสายตาปราบใส่
     
    ถึงว่าทำไมอี้ชิงถึงอยากจะลงมาข้างล่างนัก ไอนี่นี่เองที่เป็นคนพาอี้ชิงโดดเรียน... คนอะไรหน้าเหมือนโยดาชะมัด
     
    แบคฮยอนนั่งจ้องหน้าร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านข้างอี้ชิงอยู่ตลอดเวลาอย่างพิจารณา
    "นายอยู่คณะเดียวกันกับอี้ชิงหรอ" แบคฮยอนเอ่ยถามขึ้นหลังจากสงสัยมาสักพัก
    "ฉันอยู่นิเทศฯ" ชานยอลละสายตาจากอี้ชิงมามองแบคฮยอนเพื่อตอบคำถามอย่างเป็นมารยาท
    "นิเทศฯเขามีแต่คนหน้าตาดีๆไม่ใช่หรอ"
    น้ำเสียงยียวนกวนประสาทของแบคฮยอนไม่ได้ทำให้ชานยอลชายหนุ่มผู้ร่าเริงรู้สึกขัดเคืองแต่อย่างใด เขากับยิ้มให้ด้วยซ้ำ 
     
    เห้อ... นายนี่มันใจเย็นจริงๆเลยนะชานยอล อี้ชิงคิดในใจก่อนจะหันไปจ้องหน้าแบคฮยอนอย่างไม่พอใจ แบคฮยอนพูดประโยคเดียวกันกับชานยอลเรื่องที่ว่านิเทศฯมีแต่คนหน้าตาดี แต่ทำไมผมรู้สึกแตกต่างจากชานยอลพูดนะ นายนี่พูดแล้วมันหน้าหมั่นไส้สิ้นดี...
     
    "แต่ผมว่าคณะบริหารน่ารักกว่านะครับ" ชานยอลหันมามองหน้าอี้ชิงอีกครั้ง ร่างบางเห็นรอยยิ้มที่ส่งมาให้ก็อดยิ้มตอบกลับไปไม่ได้
    "ตานายมีปัญหาแล้วหละ" แบคฮยอนเหล่มองอี้ชิงอย่างหมั่นไส้ พยายามดูดน้ำในแก้วไปด้วยทั้งๆที่มันแทบจะไม่เหลืออะไรให้ไหลตามหลอดขึ้นไปอยู่แล้ว
    "ผมว่าโกโก้รสชาติแปลกๆนะ ฝีมือนายยังไม่ถึงเลยนะชานยอล" แบคฮยอนที่ดูดแล้วดูดอีกจนน้ำหมดชูแก้วเปล่าให้ร่างสูงดูก่อนจะวางมันลงตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ 
    "ผมเพิ่งมาลองทำได้ไม่กี่วันเอง จริงๆร้านนี้เป็นของพี่สาวผมนะครับ" ชานยอลตอบอย่างสุภาพเห็นแบบนั้นอี้ชิงก็แทบจะกินหัวแบคฮยอนด้วยความไม่พอใจ
    "จริงหรอ? ผมว่านายทำอร่อยดีนะ ไม่งั้นผมไม่ลงมาซื้อบ่อยขนาดนี้หรอก" อี้ชิงหันไปตอบตามความจริงเล่นเอาเจ้าตัวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก็มันอร่อยจริงๆนี่หน่า...
    "ฉันว่าแถวนี้มันมีร้านเดียวมากกว่า นายเลยไม่รู้จะไปซื้อร้านไหน" 
    "นายช่วยนั่งเงียบๆทีได้มั้ยแบคฮยอน" ร่างบางที่ชักจะทนไม่ไหวกับกิริยาที่แย่ๆบวกกับคำพูดชอบทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ของเขาเต็มทนจนต้องพูดออกมา
    "ฉันแค่อยากออกความคิดเห็นบ้างหนิ ไม่ได้มีนายอยู่กันสองคนบนโลกใบนี้นะ"
    แบคฮยอนดูท่าทางไม่พอใจกับการโต้ตอบของร่างบางที่ดูเหมือนจะปกป้องร่างสูงนี่เสียเหลือเกิน
    "ไม่เป็นไรหรอก ผมรับฟังได้ ผมจะได้นำมาปรับปรุง" แบคฮยอนเห็นร่างสูงตรงหน้ายังคงยิ้มได้ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
     
    ทำตัวเป็นพ่อพระเสียเหลือเกิน... นายชอบคนแบบนี้หรอเนี่ยอี้ชิง งี่เง่าชะมัด...
     
    "ว่างๆสอนผมทำเค้กบ้างสิ" จบคำพูดของร่างบาง แบคฮยอนถึงกับหันไปมองอย่างตกใจ
    "นายสนใจการทำเค้กตั้งแต่เมื่อไหร่กัน"
    "สนมานานก่อนที่นายจะเกิดเสียอีกแบคฮยอน" อี้ชิงยู่หน้าใส่แบคฮยอนก่อนจะหันไปมองหน้าชานยอลที่กำลังยิ้มกับท่าทางน่ารักของคนข้างๆ แบคฮยอนได้แต่เงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ก็ได้แต่นั่งมองสองคนนั้นคุยกันเป็นเต่าหัวหดอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ หึ ผู้ชายที่ไหนทำขนมเค้ก บ้าบอกันไปใหญ่แล้ว!
    "ได้ดิ ว่าแต่นายสองคนพักอยู่ด้วยกันหรอ"
    ชานยอลเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกว่าเขาหน้าจะรู้จักกับอี้ชิงมากพอที่จะถามคำถามส่วนตัวพวกนี้
    "ใช่" แต่คนที่ตอบกลับเป็นเด็กหนุ่มหน้าตากวนประสาทที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา
    "คอนโดค่อนข้างแคบ มันเลยมีห้องเดียว เราเลยนอนห้องเดียวกันด้วย" สิ่งที่แบคฮยอนพูดต่อเล่นเอาอี้ชิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน
     
    ...พูดจาบ้าบออะไรของเขากันเนี่ย!
     
    "ยังไม่มีใครเขาถามเลย แล้วอีกอย่าง นายบังคับให้ฉันนอน..."
    "นอนข้างๆฉันไง ก็เห็นนายกลัวผีจะตาย ฉันเลยบังคับให้นายนอนใกล้ๆฉันไว้ ชอบทำตัวเกรงใจคนอื่น ก็บอกอยู่ว่าไม่ต้องเกรงใจ นอนด้วยกันมาหลายครั้งแล้ว" แบคฮยอนพล่ามอะไรของเขาไปเรื่อย แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาพูดจะทำให้ชานยอลที่นั่งฟังอยู่มีสีหน้าเปลี่ยนไปนิดนึง
    "คงจะสนิทกันมากเลยสิครับเนี่ย"
    ชานยอลพูดขึ้นมา อี้ชิงรีบส่ายหัวยกใหญ่
    "อย่าไปฟังแบคฮยอนมากเลย รกหูเปล่าๆ"
    "นายว่าไงนะ" แบคฮยอนส่งสายตาปราบไปยังร่างบางที่พยายามทำความเข้าใจกับอารมณ์มโนของคนตรงหน้าอยู่
    "หยุดพูดได้แล้ว นายคิดว่าชานยอลเขาอยากจะฟังเรื่องพวกนี้มากนักหรอไง"
    "ก็นายนี่ถาม..."
    "เห้ยไม่เป็นไร เล่าได้" ชานยอลพูดแทรกขึ้นมา รอยยิ้มของเขาดูเปลี่ยนไปเหมือนกำลังฝืนยิ้มอยู่ยไงชอบกล
    "เอ้ย!" เสียงร้องของแบคฮยอนเรียกความสนใจจากคนสองคนให้หันไปมองทันที
    "อะไรของนาย" อี้ชิงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
    "เพิ่งนึกได้ว่าฉันเอากุญแจรถไว้ไหนไม่รู้ ให้ตายเถอะ" แบคฮยอนทำท่าควานหากุญแจรถกับตัวตัวเอง 
    "ของสำคัญทำไมไม่เก็บไว้ดีๆละแบคฮยอน!" อี้ชิงโวยวายขึ้น
    "ฉันว่าอยู่บนห้องแหละ ไม่เป็นไรหรอก" แบคฮยอนสงบสติอารมณ์ลงแต่ก็ยังมีสีหน้าไม่มั่นใจ
    "ไม่ได้ รีบขึ้นไปหาเลย นายนี่มัน! งั้นผมขอตัวก่อนนะชานยอล ไว้เจอกันพรุ่งนี้" อี้ชิงรีบลุกขึ้นยืนทำให้ชานยอลต้องลุกตาม
    "ไม่เป็นไร ไว้เจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน" ชานยอลยิ้มให้ก่อนจะหันไปมองหน้าแบคฮยอนที่แอบอมยิ้มอยู่ตรงหน้า
    "อ้ะ ขอบใจมากนะสำหรับโกโก้ เดี๋ยวผมรีบไปหากุญแจก่อน" แบคฮยอนเมื่อเห็นว่าชานยอลหันมามองก็รีบปรับสีหน้าเป็นเคร่งเครียดก่อนจะโค้งขอบคุณ 
    "ครับผม" ชานยอลดูเหมือนจะตามสถานการณ์ทันอยู่คนเดียวได้แต่ตอบรับไปเมื่อเห็นว่าร่างบางดูจริงจังกับคำพูดของร่างหนาจนทำให้ชานยอลไม่กล้าที่จะพูดออกมา
    "ขอตัวนะชานยอล" อี้ชิงบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบเดินตามแบคฮยอนออกไป
     
    ไม่มีใครหรอกที่อยู่ใกล้อี้ชิงแล้วจะไม่อ่อนไหว... ดูก็รู้ว่านายกำลังฝืนตัวเองอยู่แบคฮยอน นายหนีฉันไม่พ้นหรอก ตราบใดที่อี้ชิงยังไม่เป็นของนาย...
     
    ชานยอลมองตามแผ่นหลังของคนสองคนที่เพิ่งออกจากร้านไปก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีหวัง...
    -----------------------
     
    แล้วฉันจะฝืน ฝืนหัวใจ ตัวเองได้มั้ยยยย ย๊าาา แบคฮยอนนา ~ พูดจาเลอะเทอะใหญ่ละนะลูก ฮาๆ
    ขอบคุณผู้อ่านที่ติดตาม ถึงแม้บางคนจะไม่ได้เม้นแต่ไรต์เห็นว่ามีคนอ่านก็สุขใจ T^T ส่วนคนที่เม้น... เก๊าเป็นของตัวแล้วน้าา ฮาๆ
    อยากเพิ่มเติมอะไรออกความคิดเห็นได้นะ ไรต์ยินดี ซาราง ซาราง ~
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×