ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : องค์องรัชทายาท 100%
#2 องค์องรัชทายาท
แก้คำผิด สมบูรณ์100%
วันนี้ท่านพ่อคัดหญิงงามเข้าวัง หญิงงามน่าตาน่ารักเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบเพื่อเข้ามาเป็นไฉเหริน เสียงคุยกันเจื้อยแจ้วเป็นระยะ บางทีก็รู้สึกสงสารพวกนางเช่นกัน ต้องมารุ่มรอมกับผู้ชายแค่คนเดียว..."นั้นก็คือฮ่องเต้ผู้เป็นใหญ่พ่อของข้า"... แต่หากข้าได้สนใจไม่ หญิงงามมากมายโดนคัดเลือกมาให้ปรนเปรอพ่อข้า เพราะท่านแม่ทรงเลือกมาทั้งนั้น หาได้รักนางสักคนไม่ ทรงแต่งตั้งให้เป็นพระสนมระดับแปดเพียงคืนเดียว ใช่อยู่ว่าพระองค์คือผู้ทรงมหาอำนาจ แต่เพียงอดสงสารไม่ได้ คนๆหนึ่งมาทิ้งชีวิตตัวเองเพียงเพราะต้องทำตามคำสั่งพ่อแม่ตนต้องการเข้ามามีบทบาทด้านการเมือง ไม่รู้ต่อไปว่าตนจะเป็นเช่นไร ในเมืองอันโสมมแห่งนี้ จะเป็นใหญ่หรือเป็นหญิงท้ายวัง
ขบวนเกี้ยวไม้สีแดงวางลงตรงหน้าวังหลัง เป็นไฉเหรินคนใหม่งั้นหรือ เป็นลูกใครกันจึงได้รับการต้อนรับอย่างดี ทั้งขันทีคนสนิทของพ่อข้ายังไปรับมาอีกด้วย คนร่างเล็กลงจากเกี้ยว คนตัวเล็กในชุดสีขาว ตากลมโตใสแจ๋วแฝงความเศร้า ชะเง้อคอมองประหนึ่งว่าสนใจในวังหลวงหนักหนา เจ้าต้องเจอกับอะไรเยอะแยะในวังหลวงแห่งนี้เจ้านกน้อยอย่าพึงสนใจกับของมายา..
"สนใจพระนางหรือพะยะค่ะ" ร่างสูงหลุดจากภวังค์
"เปล่า... " หันมองขันทีเฉินที่ยืนยิ้มขำ ข้าทำอะไรน่าตลกหรือ
"จริงหรอพะยะค่ะ แต่พระองค์ทรงมองตาไม่กระพริบเลยพะยะค่ะ" หน้าตายียวนของขันทีเฉิน ส่งขิกระแนะกระแหนกับท่าทีของข้า
"...เฉิน... ถ้าหากข้าสนใจนาง นางก็ใช่ของข้าไม่ เกณฑ์หญิงงามครั้งนี้ของท่านพ่อข้าต่างหาก อีกทั้งเชิญด้วยตนเองเช่นนี้เป็นสนมแถวหน้าเป็นแน่" สายตาเสียดคมมองขันทีคนสนิท ถึงกลับหุบยิ้มแทบไม่ทัน
"แต่พระองค์ทรงใกล้จะครองราชแล้วนะพะยะค่ะ ทำไมถึงไม่หาพระชายาให้พระองค์เล่า" คิ้วของขันทีขมวดมองอย่างสงสัย มันก็จริงอย่างที่เฉินว่า แต่ข้าไม่ได้ถูกใจหญิงใดจะสมรสเลยก็ไม่ใช่ คนอยู่ด้วยกัน ต้องมีความรักสิจึงจะถูก หันไปมองคนตัวเล็กยืนพิงประตู สักพักมีไฉเหรินอีกคนทักนาง
"เจ้าดูสิ นกน้อยกำลังจะมีเพื่อน" ร่างสูงพุดยิ้มมุมปากเล็กน้อย ตอนตากลมๆเบิกกว้างด้วยความตกใจยิ่งน่ารัก....
"เอ่อ... ไหนพะยะค่ะ" ขันทีมองตามองค์รัชทายาท
"ไม่เห็นจะมีนกสักตัวนะพะยะค่ะ เห็นเพียงแต่.... ไฉเหรินคนใหม่นะพะยะค่ะ" ขันทีรูปงามพลันกลับมามององค์รัชทายาท ความซื่อของขันทีข้านี่ ไม่เคยเปลี่ยน
"....ช่างเถอะ" ร่างสูงก้าวเข้าหอสมุด หาสนใจขันทีที่มองหาตัวนกอยู่อีกไม่
"อะอ้าวว... องค์องรัชทายาทพะยะค่ะ รอหม่อมชั้นด้วย" เสียงเรียกตามพร้อมรีบก้าวเดินตามร่างสง่านั้น
------------------------------------------------------
"ท่านคือไฉเหรินคนใหม่ใช่หรอไม่!"
ผู้หญิงที่ตัวสูงกว่าข้าเล็กน้อย ถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ชุดสีชมพูอ่อนๆยิ่งทำให้นางดูอ่อนหวาน ก้มมองเห็นแผ่นไม้ประจำตำแหน่ง 'หลีเต๋อเฟย'
"หม่อมชั้นโจ่วจิงชวู่ คาระวะหลีเต๋อเฟย" มือเล็กซับทับกันแขนตั้งฉาก ก้มหน้าโน้มตัวลง แสดงถึง ความน้อมเคารพ เต๋อเฟย คือตำแหน่งพระสนมลำดับที่สาม ในฮ่องเต้ มียศสูงศักดิ์เช่นนี้กลับอยุู่ในชุดรับรองสบายๆไม่มีเครื่องยกทองซูพระยศ อย่างกับไฉเหรินเข้ามาใหม่ กำลังทำให้เราประหม่า มือเรียวยังอ่อนวัยประคองแขนข้า
"ไม่ต้องมีพิธีนักหรอก โจ่วจิงชวู่ ข้ามา ข้าไม่ได้บอกใคร" พระนางส่งรอยยิ้มหวานดังน้ำผึ้ง อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม
"ลูกอดีตเสนาบดีกลมการคลัง จิงชวู่ เจ้าเข้าไปตรวจร่างกายแล้วหรือยัง" มือเรียวสวยแตะไหล่ร่างเล็กเบาๆ
"จิงชวู่ ยังไม่ได้....เข้าไปเลยเพคะ" พูดเสียงตะกุกตะกัก พระนางจะมองเราบกพร่องหรือไม่
" อีกไม่กี่เพลานี้ เจ้าจะต้องเข้าเฝ้าซื่อฟูเหรินทั้งสาม และองค์ฮองเฮา เผื่อจะได้ดูตัวเข้ารับใช้ฝ่าบาทไม่ใช่หรือ" พระนางเอ่ยด้วยน้ำเสียงชึ้งดูจริงจัง
"ง...งั้นหม่อมชั้นถวายบังคมลาเพคะ" ก้มหน้าย่อขาประหม่าเสียจริง ถ้าผิดพลาดเราอาจโดนรัดคอเป็นแน่ เราทำให้เสียชื่อเสียงท่านพ่อรึเปล่านะความคิดในหัวตีกัน สองขาเล็กวิ่งเข้าประตูใหญ่ไปต่อแถวกับผู้หญิงงามมากมาย ก้าวขาอย่างเป็นระเบียบสองมือซ้อนทับกัน แขนตั้งฉากใบหน้าเล็กก้มลง
"ทำไมเจ้าดูขี้กลัวนัก แล้วเจ้าจะสู้คนในวังหลวงได้หรือ" อดขำกับท่าทีของจิงชวู่ไม่ได้จริงๆ หลีเต๋อเฟยแอบมองอยู่ตรงประตูใหญ่ แล้วหัวเราะเบาๆ
静夜思 - 李白 - ความคิดถึงในคืนสงบ
床前明月光 หน้าเตียงนอนแสงจันทร์ส่องนวลใย
疑是地上霜 ให้สงสัยน้ำค้างหล่นบนพื้นดิน
舉頭望明月 ยกหัวมองแสงจันทร์พลันถวิล
低頭思故鄉 ก้มหน้าอินคิดถึงถิ่นดินแดนเกิด
ผู้แต่งบทกวี หลี่ไป่
บทกลอนบทนี้วิ่งเข้าหัว ท่านแม่ท่านพ่อข้านั้น คิดถึงท่านอีกแล้ว
"แม่นางนามว่าอะไรฤาขอรับ" ขันทีกล่าวถาม ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย มองในมือมีพู่กันกับกระดาษเพื่อจดชื่อหญิงงามทั้งหมดที่ถูกเกณฑ์เข้ามา
"โจ่วจิงชวู่เจ้าค่ะ" มองตามพู่กันที่เขียนจดลงในกระดาษสีขาว มีขันทีอีกคนส่งชุดฮั่นฟู่ชีฟ่องสีชมพูอ่อนแล้วพายมือเชิญไปหลังม่าน
"เชิญแม่นางเปลี่ยนชุดขอรับ" ใบหน้าเล็กพยักหน้าเล็กน้อย รับเอาชุดสีหวานขาเล็กก้าวเดินไปหลังม่าน หันกลับไปมอง หญิงงามตั้งมากมายเดินเปลี่ยนชุดหลังม่านกันให้วุ่น มือเล็กค่อยๆแกะผ้าผูกเอว ถอดชุดไหมสีขาวที่แสนธรรมดา แต่มีคุณค่าทางจิตใจ สวมชุดสีชมพูอ่อน ผ้าหนาแต่ดูบางนุ่ม ผ้าพันรอบอกผูกเชือกสีเขียวอ่อนให้เป็นโบว์แก้มปรั้งอมชมพูด้วยความเขิน เกิดมาไม่เคยใส่แบบนี้เลย พับชุดผ้าไหมให้เป็นระเบียบ ก้าวขาออกจากหลังม่านยืนชุดให้ขันที ที่ยืนรอรับอยู่ด้านหน้า ขันทีอีกสองคนเข้ามาประกบ คนหนึ่งวัดสัดส่วน คนหนึ่งตรวจเล็บมือและเท้า ขันทีที่จดชื่อเมื่อครู่มาจดสัดส่วนเพื่อตรวจตามมาตรฐานกฎมนเทียรบาล
"ผ่าน... แม่นางเชิญเข้าไปในหอไฉเหรินด้านใน และเลือกเตียงที่แม่นางอยากนอนได้เลย คนต่อไป!" หันกลับมาพูด แล้วเรียกคนต่อไป ทำงานขยันขันแข็งเสียจริง ข้าก็อยากมีเพื่อนนะ เข้ามาในวังหลวงเพื่อนเราก็ยังหาไม่ได้สักคนเลย คิดถึงกลิ่นกระดาษหอมที่บ้านเหลือเกิน หัวสมองคิดเพลินเดินเข้าหอใน หญิงงามมากมายหัวเราะคิกคักกับเพื่อน เลือกของใช้ที่ถูกเตรียมไว้ให้อย่างสนุกสนาน เหลือบมองหาเตียงที่ว่างอยู่ที่ติดกับหน้าต่างหลังสุด มุมมืดๆนั้นแหล่ะที่ข้าชอบร่างเล็กอมยิ้มหน่อยๆวิ่งไปหาเตียงผ้าสีแดงทองนั้น
โคร่มมมม
ขาเรียวสะดุดเข้ากับขาของหญิงงามหน้าตาหวานแต่อารมณ์ของนางฉุนเฉียวที่ยื่นออกมาอย่างตั้งใจ พร้อมหันไปหัวเราะกับเพื่อนๆด้านหลัง เจ็บราวไปหมดตั้งแต่หัวเข่าถึงข้อเท้าร่างเล็กพยายามลุกขึ้น แต่มีมือสวยประคองร่างเล็กขึ้น นางเงยหน้ามอง คุ้นๆแหน่ะ "หลีเต๋อเฟย!!" ตาโตเบิกขึ้นด้วยความตกใจ
"ถวายบังคมหลีเต๋อเฟย" หญิงงามทั้งหมดคำนับรวมทั้งจิงชวู่ด้วย ลืมความเจ็บไปด้วยเลย เงยมองหน่อยๆ พระสนมตรงหน้าเปลี่ยนชุดเสียแล้ว บัดนี้อยู่ในชุดผ้าไหมสีฟ้าอ่อนปักดิ้นทองลายดอกโบตั๋น เครื่องทองประจำตำแหน่งเต็มยศ ช่างสวยงามเหลือเกิน ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันเยี่ยงข้ายังตะลึงกับความงามนี้
"ลุกขึ้นได้" พระสนมยังคงประคองแขนเดินไปส่งที่เตียงพร้อมประทับข้างๆ ร่างเล็กเล็กก้มหน้างุด สายตามากมายจ้องมองเราเป็นตาเดียว เอาเข้าแล้วข้าคงไม่มีเพื่อนเสียแล้วล่ะ เขาต้องว่าข้าเป็นคนของเต๋อเฟย
"ข้าไม่อยากตำหนิพวกเจ้าหรอก พวกเจ้าไม่ได้อยู่ในการดูแลของข้า แยกย้ายกันทำหน้าทีของตนเถอะ อีกไม่กี่เพลาจะต้องเข้าเฝ้าฮองเฮา" เสียงหวานกล่าวเป็นคำสั่ง หญิงงามแต่ละนางแยกย้ายหยิบเอาเสื้อผ้ามาเตรียมไว้เพื่อทำธุระต่อไป
"เจ็บหรือไม่" มือสวยแตะขาเรียวเบาๆ ร่างเล็กมองตามขาลงข้อเท้าที่กำลังมีอาการบวมเสียแล้ว
"ไม่ค่อยเจ็บเพคะ" ร่างเล็กส่งยิ้มหวานให้พระองค์ทรงเห็น ว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ
"วังหลวงมีอะไรตั้งมากมาย ที่เจ้าต้องระวัง" คนพึ่งได้รับบททดสอบพยักหน้ารับเล็กน้อย
"เจ้าก็เตรียมตัวเองเสีย แต่งตัวให้สวย ข้าจะกลับแล้ว ไม่ต้องมีพิธีนะ เจ้าเตรียมตัวเถอะ" มือสวยลูบลงบนผมนุ่มดุจใยไหมดำขลับ คนตัวเล็กยิ้มรับ พระสนมยืนเต็มความสูงก่อนจะหันหลังก้าวเดินกลับไป
มือเล็กดึงหีบผ้าสีแดงปักลายดอกเหมยบนเตียงพร้อมแกะเปิดเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆตามตำแหน่ง มือเล็กหยิบมาทีล่ะอย่าง อย่างรัญจวนใจ หยิบชุดสีชมพูที่ถูกเตรียมไว้กับปิ่นดอกเหมย เดินไปตรงห้องสรวงน้ำที่ไฉเหรินคนอื่นๆอาบกันสนุกสนาน กลิ่นหอมที่ลอยมาจากสระทำให้ยิ่งก้าวขาเร็วขึ้น กลิ่นนี้.... กลิ่นที่ท่านแม่ใช้อาบ..... เดินเข้าไปในห้องกว้าง สระน้ำขนาดใหญ่โรยด้วยกลีบดอกไม้นานาพันธ์ คนตัวเล็กค่อยๆก้าวขาลงสระน้ำ ทุกคนที่อาบอยู่ก่อนเงียบแล้วลุกหนี ประหนึ่งว่ารังเกียจ อืม... ไม่เป็นไร ข้าพอจะรู้ผลมันอยู่แล้ว เจ้าอยู่คนเดียวก็ได้นี่จิงชวู่ ร่างเล็กลงแช่น้ำ มือสวยวักน้ำรดตัวลูบไล้เบาๆ ล้างเนื้อล้างตัว
"ช่างน่าไม่อาย รู้ทั้งรู้ว่าโดนรังเกียจ กลับทำเป็นไม่สนใจ เพราะมีหลีเต๋อเฟยหนุนหลัง ซูหางให้นี่เอง ก็อย่างว่า คนเหมือนๆกัน" ร่างเล็กแม่มปากไว้แน่น ท่องไว้ เราอย่าสนใจกับพูดพวกนั้น ศัตรูจะแพ้ภัยตนเอง ต้องอาบให้เร็วเลย จิงชวู่ มือเล็กถูเอากลีบดอกไม้นานาพันธุ์ทั่วแขนและลำคอ
"หึ ทำเป็นไม่สนใจงั้นหรือ!!" มือเรียวกระชากเข้ากลุ่มผมจนคนตัวเล็กใจหายลงไปอยู่ข้อเท้า
"อ๊ะ โอ๊ยยยย!!! ปล่อยยยข้าาา " มือเล็กพยายามแกะมือเรียวที่เอาแต่ฉุดรั้งผมไม่หยุด อีกกลุ่มที่เป็นเพื่อนของนางฉีกเสื้อผ้าที่ข้าเตรียมไว้ หัวเราะกันคิกคัก น้ำตาคลอหน่วง เบื้องหลังความงามมากมายของวังหลังนั้น ต้องเจอกับอะไรเช่นนี้เหมือนกันทุกช่วงเพลาหรือไม่
"ปล่อยยข้าาา" เสียงหวานเริ่มสั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม เสียงหัวเราะดังลั่น ประสานกันก่อนจะปล่อยกลุ่มผมและก้าวเดินออกไป ร่างเล็กค่อยๆเดินขึ้นไปหยิบชุด ขาดหลุดลุ้ย
อึก.. ท่านแม่.... สะอื้น ร้องไห้จนตัวโยก กลั้นเสียงนั้นเอาไว้ ถอดเสื้อผ้าที่เปียกแล้วใส่ชุดที่ขาดหลุดลุ้ยอย่างจำใจ จนเห็นผิวเนียนตรงรอยฉีกกว้างพอให้เห็นทั้งแผ่นหลัง ขาดเป็นย่อมๆทั่วทั้งชุด วิ่งกลับไปดูชุดที่หีบกลับไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
"โจ่วจิงชวู่" เสียงเรียกของผู้อาวุโสผู้ดูแล ร่างเล็กเดินออกไปตามเสียงเรียก ไฉเหรินตั้งแถวเป็นแนว รอเพียงแต่ข้าคนเดียวทั้งที่แดดแสนร้อน ถ้าหากไม่เข้าเฝ้าก็โดนตัดหัวขาด มันไม่มีสิทธิเลือกตั้งแต่ได้เข้ามาในนี้นั้นแหล่ะ ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นใช่ว่าจะเลือกได้ที่ไหน
"หม่อมชั้นมาแล้วเจ้าค่ะใต้เท้า" คนตัวเล็กต่อท้ายแถว วาบหวิวไปทั้งตัว แก้มกลมแดงระรื่น ไฉเหรินคนอื่นก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับชุดที่ใส่ เพราะรู้ว่ามันต้องเป็นยังไงกันทั้งนั้น แม่มปากแน่นไว้
เดินไปเรื่อยๆ ในวังมีดอกไม้ประจำแต่ละตำหนัก ตำหนักแต่ละตำหนักก็ช่างสวยงาม ก่อนจะก้มหน้าชิกอก เล่าคนขุนนางที่ผ่านหันมามองทุกคนไป ถ้าข้าเลือกได้ ใช่ว่าจะใส่มันนะ ร่างเล็กเอามือปิดหน้า ตัวเริ่มแดง ทั้งแดดร้อนเลียเข้ากับผิวนาง ทั้งความอับอาย
พรื้บบบบบ
เสี้อคลุมด้านนอกสีดำมาคลุมตัวเล็ก ร่างเล็กเงยหน้ามองคนตัวสูงหน้าตาคมปนหวานหล่อเหลาเอางานเลยทีเดียวใส่ชุดสีดำทั้งตัว
"ขะ...." กำลังจะกล่าวคำขอบคุณต้องกลืนหาย เมือคนหน้าตานิ่งเฉยก็มากระซิบเบาๆว่า
"เก็บไว้ยั่วสวาทฮองเต้เถอะเจ้านกน้อย หยุดยั่วขุนนางได้แล้ว เจ้าจะไปไหนลำบากนะ" ก่อนจะหัวเราะในลำคอ ร่างเล็กกลืนก่อนสะอึก มือใหญ่ตบไหล่เล็กเบาๆ แล้วเดินหนี ข้าจะไม่เก็บคำพูดที่ไม่ใช่ความจริงมาคิด
------------------------------------------------------
Talk:
สรุปสนหรือไม่สนเพค่ะองค์รัชทายาท ตั้งฉายาให้เขาด้วย ฮั่นน้ออออ
-2
ใครช่างว่าแรงจังเลย น้องเขาไม่ได้อยากใส่ไม่รู้เหรอออ
แบบนี้เซ็กซี่
หม่อมชั้นมาต่อให้เท่านี้ก่อนนะพะยะค่ะ องค์หญิง/ชาย ของไรท์
เห็นคอมเม้นเลยอยากต่อ 555
ตอนแรกว่าจะไม่ต่อแล้วเหมือนมีคนไม่สนใจT^T พร้อมยุงเรื่องเรียนต่อนิดหน่อย แต่พอเห็นคนมาอ่านมาเม้นก็แบบมีกำลังใจและเลยแต่งต่อ ขอบคุณที่ให้กำลังใจด้วยน้อออ ขอบคุณคนที่คอมเม้นตอนก่อนด้วยนะคะ เพราะเราเลยนะ จึงแต่งต่อ (^W^)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น