ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : password
บทที่ 5 password
"นี่นายจะบอกว่านายเปิดไฟล์นั้นไปก่อนแล้วเหรอ" ฉันว่ากล่าวชูเฮ
"อืม นั่นแหล่ะที่ฉันจะบอกเธอ เพราะว่า ฉันเปิดแล้วรู้สึกว่ามันจะเป็นไฟล์ของเกม perfect crime นี่แหล่ะ แต่มันไม่มีอะไรเลย มันให้ลงชื่อผู้เล่นทั้งหมด 5 คนถึงจะเริ่มเล่นได้ด้วย"
"แล้วยังไงอีก"
"เกมมันบอกว่าต้องลงชื่อจริงและวันเดือนปีเกิดจริงเท่านั้นน่ะสิ ฉันว่ามันแปลกๆเลยไม่ได้เล่นน่ะ"
"ยังงั้นหรอกเหรอ"
ฉันพูดขึ้นมาเรียบๆแต่ในใจก็คิดว่าทำยังไงต่อดีนะหรือว่าจะเล่นจริงๆเลย
"แต่ฉันไม่อยากเอาข้อมูลของฉันให้เว็บบ้าๆแบบนี้ แล้วที่สำคัญต้องลากคนมามีเอี่ยวถึง 5 คนเชียวรึ"
"อืม กฎของเกมเค้าว่ามาแบบนั้นน่ะ แต่เรื่องสำคัญกว่านั้นไม่ใช่เกมหรอกนะ คือรู้สึกว่ามันจะเช็คได้ว่าใครเคยเล่นเกมนี้มาบ้าง" ชูเฮมองหน้าฉันแบบที่ว่า ฉันต้องเดาได้ว่าใครเล่น
"โมโม เหรอ โมโมเธอเล่นเกมนี้ด้วยหรือเนี่ย" ฉันรู้สึกตำหนิโมโมขึ้นมาในใจแต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้เรื่องนึง
"จริงสิ ชูเฮ แล้วโมโมใส่ชื่อใครลงไป 5 คนน่ะ" ฉันถาม
ชูเฮส่ายหน้า "เรื่องนั้นเช็คจาก user อื่นไม่ได้หรอก คงต้อง log in เข้าด้วยชื่อของโมโมเท่านั้นแหล่ะถึงจะรู้ว่าเธอใส่ชื่อใคร 5 คนลงไป"
เอาแล้วสิเหตุการณ์มันย้อนกลับมาอีกครั้งที่ฉันต้องหาพาสเวิ่ดของโมโมอีกแล้ว แล้วฉันก็นึกถึงโปรแกรมช่วยจำพาสเวิ่ด อัตโนมัติที่มีตามเครื่องคอม แทบทุกเครื่อง
"ถ้าเป็นคอมที่บ้านโมโม เธออาจจะ สั่งให้จำพาสเวิ่ดลงไปก็ได้"ฉันพูดขึ้น
"ฮะๆโง่จริงทำไมเราไม่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนนะ ชูเฮ เราไปบ้านของโมโมกันเถอะ " ฉันชวนชูเฮ
"เธอนี่ใจร้อนจริง นี่เพิ่งพักเที่ยงเองนะ ต้องรออีกตั้งนานกว่าจะเลิกเรียน" ชูเฮตัดบท
นั่นสินะ... ฉันคงต้องเข้าเรียนซะบ้างแล้วล่ะ โดดบ่อยๆเดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบกันพอดี ฉันก็เลยตั้งใจเรียนเต็มที่เพราะตอนนี้เหมือนหนทางข้างหน้าเริ่มจะมีเบาะแสอะไรขึ้นมา วิชานี้เรียนเกี่ยวกับพวกบทกวีภาษาอังกฤษพอดี ฉันว่ามันก็ฟังดูลึกซึ้งกินใจไม่ใช่เล่น อาจารย์อ่านบทกวีไปจนถึงท่อนว่า
"Baby, please kill me under the sunlight" (ที่รักโปรดฆ่าฉันใต้แสงอาทิตย์ซะเถอะ)
เพราะอะไรไม่รู้ ฉันรู้สึกว่าคำพูดนี้มันลึกซึ้งกินใจฉันขึ้นมาฉับพลัน ยิ่งได้ฟังคำอธิบายแบบลึกซึ้งของอาจารย์แล้ว ฉันนี่อยากจะยกขึ้นเป็นหนึ่งในคำพูดที่ฉันชอบต้นๆเลย
"นี่เธอ ทำหน้าเยิ้มเชียว" ชูเฮ หันมาแซวฉัน
"พูดอะไรน่ะ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจเรียนอยู่นะ"
"เธออยากถูกฉันฆ่าใต้แสงอาทิตย์หรือแสงจันทร์ดีล่ะ" ชูเฮพูดติดตลก แต่ทำไมฟังดูลามก
"อ๊าคค หน้าไม่อาย... นายไปฆ่าสาวคนอื่นเถอะ คงมีหลายคนยอมให้นายฆ่าอย่างเต็มใจนะ" ฉันแขวะใส่เข้าให้
"พูดจริงเหรอ" อยู่ๆชูเฮ ก็ทำหน้าจริงจังขึ้นมา ฉันเลยตกใจ
จริงๆพอเห็นเขาใต้แสงสว่างแบบนี้เหมือนจะถูกเขาฆ่าจริงๆนะ ปกติฉันมองหน้าเขาแต่ตอนเย็นๆเลยมองไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่พอตอนกลางวัน ชูเฮ ดูเปล่งประกายจนฉันแสบตามากเลย
อืม... ชักจะเข้าใจขึ้นมานิดๆแล้วว่าทำไมเข้าถึงดังนัก
"โอ๊ย นายเป็นคนดีอย่าฆ่าฉันเลย" ฉันเลยพูดติดตลกกลับไปมั่ง
"ไม่ๆ เธอต้องให้ฉันฆ่า เข้าใจไหม ฉันคนเดียวด้วย" ชูเฮสวนกลับมาทันทีทันใด
"นายพูดอะไรเนี่ย ฉันงงๆไปหมดแล้วนะ คำว่า ฆ่า ของนายน่ะ หมายถึงอะไรเหรอ "
แต่ชูเฮยังไม่ทันตอบ อาจารย์ก็เดินเข้ามา พร้อมพ่นภาษาว่ากล่าวตามสไตล์อาจารย์
"โอ๊ยย ฉันเห็นพวกเธอแล้ว deadpan(ไร้อารมณ์) วัยรุ่นอย่าทำตัวให้ฉัน dead end (สิ้นหวัง)ในตัวพวกเธอ"
ฉันกับชูเฮอึ้งในคำว่ากล่าวของอาจารย์
"ถ้าจะจีบกันก็ออกไปข้างนอก !!" อาจารย์พูดจบแล้วไล่ฉันกับชูเฮออกมา
ฉันหันไปมองหน้าชูเฮอย่างเคืองๆ "ฉันอุตส่าห์ตั้งใจเรียนได้แล้วเชียว"
ฉันว่า ฉันกำลังต่อว่าชูเฮอยู่นะแล้วทำไม เขาดูไม่สะทกสะท้านเลยเนี่ย เขาจับมือฉัน แล้วยังมองหน้าฉันสลับกับกลั้นหัวเราะไปด้วยเล่า ชูเฮอมยิ้มตลอดการโดนทำโทษเลย ดูเขามีความสุขจังนะ แต่ฉันเมื่อยแล้ว ทำไมต้องมายืนข้างนอกทั้ง ชั่วโมงแบบนี้ด้วย ฉันยิ่งไม่ค่อยได้เรียนอยู่ แต่สักพักอาจารย์ก็มาบอกให้ฉันเข้าห้องได้ เพื่อนในห้องแซวพวกเรา 2 คนกันใหญ่
(โอ๊ยเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว เอ หรือว่าเข้าใจถูกหว่า)
แต่พอเข้ามาเรียนอีกครั้งเราทั้งคู่ก็ตั้งใจเรียนกันจริงๆจังๆ
จนถึงเวลาเลิกเรียน....
"โทคิโกะ บ้านโมโมไปยังไง" ชูเฮ เลื่อนรถของเขาออกมาแล้วถามฉันฉันกำลังจะบอกแต่ก็ถูกเขาลากขึ้นรถซะก่อน
"อืมก็ไปทางถนนT แล้วก็หาซอย S นะพอถึงแล้วเลี้ยวเข้าไป" ฉันพยายามอธิบายวิธีไปบ้านโมโมให้ชูเฮฟัง
แต่เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นมาก่อน
"ฮัลโหลคุณโทคิโกะรึเปล่าครับ" เสียงนี้ เอ.... ใช่แล้วเสียงคุณตำรวจ
"เอ้อ คุณตำรวจที่สืบเรื่องของทนายวากะใช่ไหมค่ะ"
"ครับ เย็นนี้ทางเราขอความร่วมมือในการสืบสวนกับคุณหน่อยนะครับ"
เอาแล้วสิ ฉันกำลังจะได้ พาสเวิ่ดอยู่แล้วเชียว แต่ฉันไปบ้านโมโมวันนี้ไม่ได้ซะแล้ว ชูเฮเลยอาสาว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย ฉันเลยโทรไปขอโทษคุณแม่ของโมโม
"เอ้อ คุณคุณป้าค่ะ พอดีตำรวจที่ทำคดีของทนายวากะเรียกตัวหนูไปสืบสวนกระทันหันน่ะคะ วันนี้หนูคงไม่ได้เข้าไปบ้านของคุณป้าแล้วนะคะ ยังไงหนูคิดว่าจะไปพรุ่งนี้เลยน่ะคะ คุณป้าสะดวกไหมค่ะ" ฉันพูดขอโทษ
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะโทคิโกะ ไว้วันพรุ่งนี้ก็ได้"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณป้า"
ก่อนจะวางสาย ฉันได้ยินเสียงลอดเข้ามาจากทางโทรศัพท์เสียงเหมือนบทสวดเลย แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินมาจากไหน....เย็นวันนั้นฉันเสียเวลากับการถูกซักถามว่าเกี่ยวข้องกับทนายวากะยังไง แล้วก็เรื่องบทสนทนากับทนายวากะก่อนเขาตายด้วย โชคดีที่ชูเฮไปด้วยพอดีเลยพูดกันรู้เรื่องมากขึ้น เพราะฉันมีพยานที่ยืนยันคำพูดฉันมั่งแล้วแต่จริงๆฉันก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับทนายวากะเค้าหรอก คุณตำรวจเลย สืบสวนฉันเสร็จอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อยฉันกลับบ้าน
"โทคิโกะ ไปบ้านฉันมั้ย" ชูเฮกล่าวชวนเหมือนทุกครั้ง
" อืม โอเค ฉันอยากจะดูตอนเปิดไฟล์นั่นด้วยตาตัวเองซักครั้ง"
จริงๆความหมายที่ ชูเฮ ชวนกับสิ่งที่ฉันตอบค่อนข้างต่างกันทีเดียว แต่ยังไงผลก็เหมือนกัน คือฉันไป...
นี่เป็นวันที่ 4 ที่โมโมจากพวกเราไปแล้ว และเป็นวันที่ 3 ที่ฉันไปบ้านชูเฮติดๆกัน
พวกเราก็เข้าเว็บ funny dead duck เหมือนอย่างทุกวัน เว็บนี้ก็ยังน่ารังเกียจเหมือนทุกที ดูเหมือนว่าตอนนี้จะอัพเดทเพิ่มเกมใหม่ที่ให้เราบังคับคลื่นซูนามิได้แล้ว ฉันหงุดหงิดพวกที่เห็นความตายของคนอื่นเป็นเรื่องล้อเล่นชะมัด
พอฉันกดเข้าไปในโซนเกม dead duck ก็พบเกมแฟลชที่มีกราฟฟิกงั้นๆแต่ดูขลัง ส่วนซาวน์ประกอบก็เป็นอย่างเคย
ซาวน์ประกอบ.........
ที่เหมือนเสียงสวดมนต์...........
โอ้ ไม่!! ฉันทำไมเพิ่งจะมาระลึกได้ตอนนี้ เสียงสวดมนต์ที่ได้ยินลอดโทรศัพท์ออกมาจาก โทรศัพท์บ้านของแม่โมโม คือเสียงนี้นี่เอง ฉันนึกเชื่อมเหตุการณ์ของทนายวากะกับโมโมขึ้นมา สิ่งที่เชื่อมพวกเขาไว้ด้วยกันคือ พวกเขาเล่น funny dead duck เท่านั้นแหล่ะ ฉันก็กลัวขึ้นมาถึงขีดสุด!!
"เธอเป็นอะไร โทคิโกะ" ชูเฮมองหน้าฉันงงๆแล้วถามขึ้น
"แย่แล้วชูเฮ คุณป้า คุณป้าเล่น funny dead duck แล้ว ทั้งที่ฉันไม่เคยบอก urlเลยนะ" ฉันเริ่มพูดตะกุกตะกัก
"อะไรนะ" ชูเฮยังงงว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่
"ฉันมันโง่จริงๆ คุณป้าน่ะต้องใช้คอมเครื่องเดียวกับโมโมอยู่แล้ว เขาจะเจอ url ของเว็บนี้ได้ไม่ยากเลย ทำไงดี ถ้าคุณป้าเป็นอะไรขึ้นมา...ฉัน"
ชูเฮเริ่มกังวลแบบเดียวกับที่ฉันคิดแล้วแต่ เขาบอกว่าอย่าเพิ่งสรุปความเอาเองให้โทรเข้าไปหาคุณป้าเลยเพื่อความแน่ใจ ชูเฮพยายามปลอบฉันแต่ฉันกลัวจริงๆนะ ฉันว่าเขาก็กลัวเหมือนกัน...
--ตรู๊ดดดดดด
ฉันโทรเข้าโทรศัพท์บ้านของโมโม .........สายว่างแต่ไม่มีคนรับสาย
(ไม่นะเหมือนตอนของทนายวากะเลย)
ฉันเริ่มกระวนกระวายใหญ่แล้ว ทั้งเหงื่อทั้งน้ำตาเริ่มไหลออกมา จริงๆแล้วคุณป้าอาจจะไม่เป็นอะไรเลยก็ได้แต่ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก ชูเฮทนดูไม่ไหวเลยอาสาจะพาฉันไปบ้านโมโมตอนนี้เลย
"โทคิโกะ ใจเย็นๆนะ" ถึงชูเฮจะพูดแบบนั้นแต่เขาก็เสียงสั่นไปเหมือนกัน
ชูเฮ ถามทางฉัน เขาขับได้ไม่ผิดเพี้ยนเลยแม้แต่น้อยแล้วเราถึงบ้านของโมโม อย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นชูเฮพยายามโทรเข้าไปในบ้านแทนฉัน ส่วนฉันยืนกดกริ่งอยู่หน้าประตูบ้านไม่มีใครออกมาเปิดประตูบ้าน ฉันเริ่มกดกริ่งและทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง
"คุณลุง คุณป้า หนูโทคิโกะนะคะ เปิดประตูที!!"
"คุณลุง คุณป้าค่ะ...."
"เปิดประตูที "
"เปิดประตูหน่อย เปิดประตูหน่อยยยยยย .."
ตอนนี้ฉันเริ่มร้องไห้ไปตะโกนไปแล้ว
ชูเฮเองก็โทรเข้าบ้านไม่ติดเหมือนกัน เขาเลยหยิบเก้าอี้แถวหน้าบ้าน พังประตูบ้านเข้าไป
มีควันไฟพุ่งออกมาจากทางประตูทันที
"ไฟไหม้ๆ ทำไมไฟไหม้ล่ะ" ช้างนอกไม่เห็นควันอะไรเลย"
--เพล้งงงงง!!! เพล้งงงงง!!! เพล้งงงงง!!!-
พูดยังไม่ทันขาดคำ กระจกหลายบานในบ้านก็แตกออกเพราะความร้อนควันเริ่มลอยออกมานอกบ้าน แล้วเสียงถล่มภายในบ้านก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนบ้านออกมาดู
ฉันตะโดนเรียกคุณลุงคุณป้าแต่ไม่มีเสียงตอบ ฉันพยายามจะวิ่งเข้าไปแต่ชูเฮมาห้ามฉันเอาไว้ เขาบอกจะเข้าไปเองแต่พอชูเฮ จะวิ่งเข้าไปก็ถูกเพื่อนบ้านแถวนั้นรั้งตัวเอาไว้อีก
ฉันร้องเรียกคุณลุงคุณป้าอย่างสุดเสียงก่อนที่...ภาพเบื้องหน้าทั้งหมดจะมืดลง....
...ฝันร้ายปรากฏขึ้นอีกครั้ง...
โมโมยืนอยู่ท่ามกลางกองไฟ พร้อมกับพ่อแม่
"โมโม คุณลุง คุณป้า ออกมาจากตรงนั้นน่ะค่ะ"
พวกเขาทั้ง 3 คนพ่อแม่ลูก ยืนนิ่งปล่อยให้ร่างถูกเผาไปเรื่อยๆ ฉันเลยจะวิ่งเข้าไปช่วย
"อันตรายนะโทคิโกะอย่าเข้ามา!!"
พวกเขาไม่เป็นห่วงตัวเองเลย แต่กลับมาพูดเป็นห่วงฉัน
"ไม่ คุณลุงคุณป้า รีบออกมาจากองไฟนั่นสิค่ะ"
"ขอโทษนะ โทคิโกะ......" คุณลุงคุณป้ามองหน้าฉันน้ำตาอาบแก้ม
"มันเป็นโรคติดต่อของความตาย"
แล้วเปลวไฟก็ลุกโชติช่วงขึ้นกลายเป็นกองไฟขนาดมหึมาที่เผาบ้านทั้งหลังไปในพริบตา
ฉันกรีดร้องไม่หยุดในความฝัน...แล้วฉันก็สะดุ้งตื่นขึ้นอีกครั้ง
"คนไข้ฟื้นแล้วครับ โทคิโกะฟื้นแล้ว" ฉันได้ยินเสียงชูเฮก่อนใครเลย
หลังจากที่ได้สติฉันก็มองไปรอบๆแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล พ่อกับแม่แล้วก็น้องชายของฉันก็อยู่ด้วย
"เธอ เธอ หมดสติไปนานมากเลยนะ ฉันนึกว่าเธอจะตายไปด้วยอีกคนแล้ว "
ชูเฮไม่ได้ร้องไห้แต่ตาของเข้าดูช้ำๆ ฉันว่าเค้าร้องให้มาก่อนหน้านี้แล้วล่ะ
"เดี๋ยวก่อน ที่เธอว่าอีกคน หมายถึง คุณลุงคุณป้า..." ฉันร้องไห้ออกมาอย่างรวดเร็ว
ชูเฮพูดอะไรไม่ออก แล้วพ่อแม่ก็ลุกขึ้นมากอดฉัน พวกท่านสองคนพยายามปลอบฉัน
เวลาแบบนี้ฉันคิดถึงครอบครัวมากเลย ฉันกอดพ่อและแม่พร้อมกัน แล้วยังร้องให้ไปด้วย น้องชายมองฉันแล้วก็รู้สึกว่าฉันแปลกๆไป
"แม่ฮะ ผมจะไปเดินกับพี่คนนี้ก่อนนะ แม่รีบทำให้พี่หยุดร้องไห้เร็วๆทีเถอะ เหมือนคนบ้าขึ้นทุกทีแล้ว"
"โทมะ ทำไมพูดแบบนั้นกับพี่หา" แม่ดุน้องชายฉัน
แต่โทมะน้องชายฉันอยู่ๆก็ลาก ชูเฮ ออกจากห้องพยาบาลไปพร้อมกันเฉยเลย
"นายเป็นใครวะ" โทมะอยู่ๆก็หยาบคายขึ้นใส่ชูเฮ
"เอ้อ เพื่อน ......หรืออาจจะมากกว่านั้น" ชูเฮ ตอบ
"เหรอ ไม่คิดว่าอย่างนายพี่ฉันจะเอานะเนี่ย" จริงๆแล้วโทมะน่าจะกลับคำพูดว่า อย่างฉันชูเฮจะเอาเรอะมากกว่า
ชูเฮ ยืนนิ่ง มองหน้าโทมะ ชูเฮน่ะตัวสูงแล้วก็หล่อกินขาดอยู่แล้ว โทมะเลยหงอๆไปบ้าง
แต่แล้วอยู่ๆโทมะก็พูดกับชูเฮอย่างจริงจังขึ้นมา
"นายต้องดูแลไม่ให้พี่ฉันไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอันตรายแบบนี้อีกนะ"
โทมะพูดเสร็จก็เดินออกไปเลย ชูเฮ เลยตะโกนตอบ
"ฉันดูแลพี่นายแน่ๆ นายเองก็เหมือนกันช่วงที่ฉันอยู่กับโทคิโกะไม่ได้ นายต้องดูแลเธอนะ"
โทมะหันมายิ้มให้ชูเฮแล้ว วิ่งเข้ามาในห้องฉันอีกรอบ
"ยัยเพิ้ง !! ได้แฟนดีนี่นา "
พ่อกับแม่มองหน้าน้องฉันอย่างดุๆอีกแล้ว แต่น้องชายฉันชิ่งหนีไปโรงเรียนก่อน ฉันดูเวลาว่ามันสายมากแล้วเลยบอกให้พ่อแม่ไปทำงาน ฉันดูแลตัวเองได้ พ่อกับแม่ลูบหัวฉันด้วยความเป็นห่วงแล้วออกจากโรงพยาบาลไป
ชูเฮเดินสวนกับพวกเขาเข้ามาในห้อง
"นายก็ควรไปโรงเรียนได้แล้ว" ฉันบอกกับชูเฮ
ชูเฮไม่ยอมทำตามที่ฉันพูดเลยเอาแต่มองหน้าฉัน เขาเริ่มมองหน้าฉันแล้วกลั้นหัวเราะอีกแล้ว ฉันเริ่มรำคาญเลยล้มตัวลงนอน ชูเฮพลิกตัวฉันกลับมา แล้วเขาก็พูดเรื่องที่ทำให้ฉันนอนไม่ติดเตียงซะแล้ว
"ฉันได้พาสเวิ่ด member funny dead duck ของโมโมมาแล้ว "
-------------------------------------------------------------------------------------
vic:โปรดระวัง "สายว่างแต่ไม่มีคนรับสาย"
"นี่นายจะบอกว่านายเปิดไฟล์นั้นไปก่อนแล้วเหรอ" ฉันว่ากล่าวชูเฮ
"อืม นั่นแหล่ะที่ฉันจะบอกเธอ เพราะว่า ฉันเปิดแล้วรู้สึกว่ามันจะเป็นไฟล์ของเกม perfect crime นี่แหล่ะ แต่มันไม่มีอะไรเลย มันให้ลงชื่อผู้เล่นทั้งหมด 5 คนถึงจะเริ่มเล่นได้ด้วย"
"แล้วยังไงอีก"
"เกมมันบอกว่าต้องลงชื่อจริงและวันเดือนปีเกิดจริงเท่านั้นน่ะสิ ฉันว่ามันแปลกๆเลยไม่ได้เล่นน่ะ"
"ยังงั้นหรอกเหรอ"
ฉันพูดขึ้นมาเรียบๆแต่ในใจก็คิดว่าทำยังไงต่อดีนะหรือว่าจะเล่นจริงๆเลย
"แต่ฉันไม่อยากเอาข้อมูลของฉันให้เว็บบ้าๆแบบนี้ แล้วที่สำคัญต้องลากคนมามีเอี่ยวถึง 5 คนเชียวรึ"
"อืม กฎของเกมเค้าว่ามาแบบนั้นน่ะ แต่เรื่องสำคัญกว่านั้นไม่ใช่เกมหรอกนะ คือรู้สึกว่ามันจะเช็คได้ว่าใครเคยเล่นเกมนี้มาบ้าง" ชูเฮมองหน้าฉันแบบที่ว่า ฉันต้องเดาได้ว่าใครเล่น
"โมโม เหรอ โมโมเธอเล่นเกมนี้ด้วยหรือเนี่ย" ฉันรู้สึกตำหนิโมโมขึ้นมาในใจแต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้เรื่องนึง
"จริงสิ ชูเฮ แล้วโมโมใส่ชื่อใครลงไป 5 คนน่ะ" ฉันถาม
ชูเฮส่ายหน้า "เรื่องนั้นเช็คจาก user อื่นไม่ได้หรอก คงต้อง log in เข้าด้วยชื่อของโมโมเท่านั้นแหล่ะถึงจะรู้ว่าเธอใส่ชื่อใคร 5 คนลงไป"
เอาแล้วสิเหตุการณ์มันย้อนกลับมาอีกครั้งที่ฉันต้องหาพาสเวิ่ดของโมโมอีกแล้ว แล้วฉันก็นึกถึงโปรแกรมช่วยจำพาสเวิ่ด อัตโนมัติที่มีตามเครื่องคอม แทบทุกเครื่อง
"ถ้าเป็นคอมที่บ้านโมโม เธออาจจะ สั่งให้จำพาสเวิ่ดลงไปก็ได้"ฉันพูดขึ้น
"ฮะๆโง่จริงทำไมเราไม่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนนะ ชูเฮ เราไปบ้านของโมโมกันเถอะ " ฉันชวนชูเฮ
"เธอนี่ใจร้อนจริง นี่เพิ่งพักเที่ยงเองนะ ต้องรออีกตั้งนานกว่าจะเลิกเรียน" ชูเฮตัดบท
นั่นสินะ... ฉันคงต้องเข้าเรียนซะบ้างแล้วล่ะ โดดบ่อยๆเดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบกันพอดี ฉันก็เลยตั้งใจเรียนเต็มที่เพราะตอนนี้เหมือนหนทางข้างหน้าเริ่มจะมีเบาะแสอะไรขึ้นมา วิชานี้เรียนเกี่ยวกับพวกบทกวีภาษาอังกฤษพอดี ฉันว่ามันก็ฟังดูลึกซึ้งกินใจไม่ใช่เล่น อาจารย์อ่านบทกวีไปจนถึงท่อนว่า
"Baby, please kill me under the sunlight" (ที่รักโปรดฆ่าฉันใต้แสงอาทิตย์ซะเถอะ)
เพราะอะไรไม่รู้ ฉันรู้สึกว่าคำพูดนี้มันลึกซึ้งกินใจฉันขึ้นมาฉับพลัน ยิ่งได้ฟังคำอธิบายแบบลึกซึ้งของอาจารย์แล้ว ฉันนี่อยากจะยกขึ้นเป็นหนึ่งในคำพูดที่ฉันชอบต้นๆเลย
"นี่เธอ ทำหน้าเยิ้มเชียว" ชูเฮ หันมาแซวฉัน
"พูดอะไรน่ะ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจเรียนอยู่นะ"
"เธออยากถูกฉันฆ่าใต้แสงอาทิตย์หรือแสงจันทร์ดีล่ะ" ชูเฮพูดติดตลก แต่ทำไมฟังดูลามก
"อ๊าคค หน้าไม่อาย... นายไปฆ่าสาวคนอื่นเถอะ คงมีหลายคนยอมให้นายฆ่าอย่างเต็มใจนะ" ฉันแขวะใส่เข้าให้
"พูดจริงเหรอ" อยู่ๆชูเฮ ก็ทำหน้าจริงจังขึ้นมา ฉันเลยตกใจ
จริงๆพอเห็นเขาใต้แสงสว่างแบบนี้เหมือนจะถูกเขาฆ่าจริงๆนะ ปกติฉันมองหน้าเขาแต่ตอนเย็นๆเลยมองไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่พอตอนกลางวัน ชูเฮ ดูเปล่งประกายจนฉันแสบตามากเลย
อืม... ชักจะเข้าใจขึ้นมานิดๆแล้วว่าทำไมเข้าถึงดังนัก
"โอ๊ย นายเป็นคนดีอย่าฆ่าฉันเลย" ฉันเลยพูดติดตลกกลับไปมั่ง
"ไม่ๆ เธอต้องให้ฉันฆ่า เข้าใจไหม ฉันคนเดียวด้วย" ชูเฮสวนกลับมาทันทีทันใด
"นายพูดอะไรเนี่ย ฉันงงๆไปหมดแล้วนะ คำว่า ฆ่า ของนายน่ะ หมายถึงอะไรเหรอ "
แต่ชูเฮยังไม่ทันตอบ อาจารย์ก็เดินเข้ามา พร้อมพ่นภาษาว่ากล่าวตามสไตล์อาจารย์
"โอ๊ยย ฉันเห็นพวกเธอแล้ว deadpan(ไร้อารมณ์) วัยรุ่นอย่าทำตัวให้ฉัน dead end (สิ้นหวัง)ในตัวพวกเธอ"
ฉันกับชูเฮอึ้งในคำว่ากล่าวของอาจารย์
"ถ้าจะจีบกันก็ออกไปข้างนอก !!" อาจารย์พูดจบแล้วไล่ฉันกับชูเฮออกมา
ฉันหันไปมองหน้าชูเฮอย่างเคืองๆ "ฉันอุตส่าห์ตั้งใจเรียนได้แล้วเชียว"
ฉันว่า ฉันกำลังต่อว่าชูเฮอยู่นะแล้วทำไม เขาดูไม่สะทกสะท้านเลยเนี่ย เขาจับมือฉัน แล้วยังมองหน้าฉันสลับกับกลั้นหัวเราะไปด้วยเล่า ชูเฮอมยิ้มตลอดการโดนทำโทษเลย ดูเขามีความสุขจังนะ แต่ฉันเมื่อยแล้ว ทำไมต้องมายืนข้างนอกทั้ง ชั่วโมงแบบนี้ด้วย ฉันยิ่งไม่ค่อยได้เรียนอยู่ แต่สักพักอาจารย์ก็มาบอกให้ฉันเข้าห้องได้ เพื่อนในห้องแซวพวกเรา 2 คนกันใหญ่
(โอ๊ยเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว เอ หรือว่าเข้าใจถูกหว่า)
แต่พอเข้ามาเรียนอีกครั้งเราทั้งคู่ก็ตั้งใจเรียนกันจริงๆจังๆ
จนถึงเวลาเลิกเรียน....
"โทคิโกะ บ้านโมโมไปยังไง" ชูเฮ เลื่อนรถของเขาออกมาแล้วถามฉันฉันกำลังจะบอกแต่ก็ถูกเขาลากขึ้นรถซะก่อน
"อืมก็ไปทางถนนT แล้วก็หาซอย S นะพอถึงแล้วเลี้ยวเข้าไป" ฉันพยายามอธิบายวิธีไปบ้านโมโมให้ชูเฮฟัง
แต่เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นมาก่อน
"ฮัลโหลคุณโทคิโกะรึเปล่าครับ" เสียงนี้ เอ.... ใช่แล้วเสียงคุณตำรวจ
"เอ้อ คุณตำรวจที่สืบเรื่องของทนายวากะใช่ไหมค่ะ"
"ครับ เย็นนี้ทางเราขอความร่วมมือในการสืบสวนกับคุณหน่อยนะครับ"
เอาแล้วสิ ฉันกำลังจะได้ พาสเวิ่ดอยู่แล้วเชียว แต่ฉันไปบ้านโมโมวันนี้ไม่ได้ซะแล้ว ชูเฮเลยอาสาว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย ฉันเลยโทรไปขอโทษคุณแม่ของโมโม
"เอ้อ คุณคุณป้าค่ะ พอดีตำรวจที่ทำคดีของทนายวากะเรียกตัวหนูไปสืบสวนกระทันหันน่ะคะ วันนี้หนูคงไม่ได้เข้าไปบ้านของคุณป้าแล้วนะคะ ยังไงหนูคิดว่าจะไปพรุ่งนี้เลยน่ะคะ คุณป้าสะดวกไหมค่ะ" ฉันพูดขอโทษ
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะโทคิโกะ ไว้วันพรุ่งนี้ก็ได้"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณป้า"
ก่อนจะวางสาย ฉันได้ยินเสียงลอดเข้ามาจากทางโทรศัพท์เสียงเหมือนบทสวดเลย แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินมาจากไหน....เย็นวันนั้นฉันเสียเวลากับการถูกซักถามว่าเกี่ยวข้องกับทนายวากะยังไง แล้วก็เรื่องบทสนทนากับทนายวากะก่อนเขาตายด้วย โชคดีที่ชูเฮไปด้วยพอดีเลยพูดกันรู้เรื่องมากขึ้น เพราะฉันมีพยานที่ยืนยันคำพูดฉันมั่งแล้วแต่จริงๆฉันก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับทนายวากะเค้าหรอก คุณตำรวจเลย สืบสวนฉันเสร็จอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อยฉันกลับบ้าน
"โทคิโกะ ไปบ้านฉันมั้ย" ชูเฮกล่าวชวนเหมือนทุกครั้ง
" อืม โอเค ฉันอยากจะดูตอนเปิดไฟล์นั่นด้วยตาตัวเองซักครั้ง"
จริงๆความหมายที่ ชูเฮ ชวนกับสิ่งที่ฉันตอบค่อนข้างต่างกันทีเดียว แต่ยังไงผลก็เหมือนกัน คือฉันไป...
นี่เป็นวันที่ 4 ที่โมโมจากพวกเราไปแล้ว และเป็นวันที่ 3 ที่ฉันไปบ้านชูเฮติดๆกัน
พวกเราก็เข้าเว็บ funny dead duck เหมือนอย่างทุกวัน เว็บนี้ก็ยังน่ารังเกียจเหมือนทุกที ดูเหมือนว่าตอนนี้จะอัพเดทเพิ่มเกมใหม่ที่ให้เราบังคับคลื่นซูนามิได้แล้ว ฉันหงุดหงิดพวกที่เห็นความตายของคนอื่นเป็นเรื่องล้อเล่นชะมัด
พอฉันกดเข้าไปในโซนเกม dead duck ก็พบเกมแฟลชที่มีกราฟฟิกงั้นๆแต่ดูขลัง ส่วนซาวน์ประกอบก็เป็นอย่างเคย
ซาวน์ประกอบ.........
ที่เหมือนเสียงสวดมนต์...........
โอ้ ไม่!! ฉันทำไมเพิ่งจะมาระลึกได้ตอนนี้ เสียงสวดมนต์ที่ได้ยินลอดโทรศัพท์ออกมาจาก โทรศัพท์บ้านของแม่โมโม คือเสียงนี้นี่เอง ฉันนึกเชื่อมเหตุการณ์ของทนายวากะกับโมโมขึ้นมา สิ่งที่เชื่อมพวกเขาไว้ด้วยกันคือ พวกเขาเล่น funny dead duck เท่านั้นแหล่ะ ฉันก็กลัวขึ้นมาถึงขีดสุด!!
"เธอเป็นอะไร โทคิโกะ" ชูเฮมองหน้าฉันงงๆแล้วถามขึ้น
"แย่แล้วชูเฮ คุณป้า คุณป้าเล่น funny dead duck แล้ว ทั้งที่ฉันไม่เคยบอก urlเลยนะ" ฉันเริ่มพูดตะกุกตะกัก
"อะไรนะ" ชูเฮยังงงว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่
"ฉันมันโง่จริงๆ คุณป้าน่ะต้องใช้คอมเครื่องเดียวกับโมโมอยู่แล้ว เขาจะเจอ url ของเว็บนี้ได้ไม่ยากเลย ทำไงดี ถ้าคุณป้าเป็นอะไรขึ้นมา...ฉัน"
ชูเฮเริ่มกังวลแบบเดียวกับที่ฉันคิดแล้วแต่ เขาบอกว่าอย่าเพิ่งสรุปความเอาเองให้โทรเข้าไปหาคุณป้าเลยเพื่อความแน่ใจ ชูเฮพยายามปลอบฉันแต่ฉันกลัวจริงๆนะ ฉันว่าเขาก็กลัวเหมือนกัน...
--ตรู๊ดดดดดด
ฉันโทรเข้าโทรศัพท์บ้านของโมโม .........สายว่างแต่ไม่มีคนรับสาย
(ไม่นะเหมือนตอนของทนายวากะเลย)
ฉันเริ่มกระวนกระวายใหญ่แล้ว ทั้งเหงื่อทั้งน้ำตาเริ่มไหลออกมา จริงๆแล้วคุณป้าอาจจะไม่เป็นอะไรเลยก็ได้แต่ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก ชูเฮทนดูไม่ไหวเลยอาสาจะพาฉันไปบ้านโมโมตอนนี้เลย
"โทคิโกะ ใจเย็นๆนะ" ถึงชูเฮจะพูดแบบนั้นแต่เขาก็เสียงสั่นไปเหมือนกัน
ชูเฮ ถามทางฉัน เขาขับได้ไม่ผิดเพี้ยนเลยแม้แต่น้อยแล้วเราถึงบ้านของโมโม อย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นชูเฮพยายามโทรเข้าไปในบ้านแทนฉัน ส่วนฉันยืนกดกริ่งอยู่หน้าประตูบ้านไม่มีใครออกมาเปิดประตูบ้าน ฉันเริ่มกดกริ่งและทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง
"คุณลุง คุณป้า หนูโทคิโกะนะคะ เปิดประตูที!!"
"คุณลุง คุณป้าค่ะ...."
"เปิดประตูที "
"เปิดประตูหน่อย เปิดประตูหน่อยยยยยย .."
ตอนนี้ฉันเริ่มร้องไห้ไปตะโกนไปแล้ว
ชูเฮเองก็โทรเข้าบ้านไม่ติดเหมือนกัน เขาเลยหยิบเก้าอี้แถวหน้าบ้าน พังประตูบ้านเข้าไป
มีควันไฟพุ่งออกมาจากทางประตูทันที
"ไฟไหม้ๆ ทำไมไฟไหม้ล่ะ" ช้างนอกไม่เห็นควันอะไรเลย"
--เพล้งงงงง!!! เพล้งงงงง!!! เพล้งงงงง!!!-
พูดยังไม่ทันขาดคำ กระจกหลายบานในบ้านก็แตกออกเพราะความร้อนควันเริ่มลอยออกมานอกบ้าน แล้วเสียงถล่มภายในบ้านก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนบ้านออกมาดู
ฉันตะโดนเรียกคุณลุงคุณป้าแต่ไม่มีเสียงตอบ ฉันพยายามจะวิ่งเข้าไปแต่ชูเฮมาห้ามฉันเอาไว้ เขาบอกจะเข้าไปเองแต่พอชูเฮ จะวิ่งเข้าไปก็ถูกเพื่อนบ้านแถวนั้นรั้งตัวเอาไว้อีก
ฉันร้องเรียกคุณลุงคุณป้าอย่างสุดเสียงก่อนที่...ภาพเบื้องหน้าทั้งหมดจะมืดลง....
...ฝันร้ายปรากฏขึ้นอีกครั้ง...
โมโมยืนอยู่ท่ามกลางกองไฟ พร้อมกับพ่อแม่
"โมโม คุณลุง คุณป้า ออกมาจากตรงนั้นน่ะค่ะ"
พวกเขาทั้ง 3 คนพ่อแม่ลูก ยืนนิ่งปล่อยให้ร่างถูกเผาไปเรื่อยๆ ฉันเลยจะวิ่งเข้าไปช่วย
"อันตรายนะโทคิโกะอย่าเข้ามา!!"
พวกเขาไม่เป็นห่วงตัวเองเลย แต่กลับมาพูดเป็นห่วงฉัน
"ไม่ คุณลุงคุณป้า รีบออกมาจากองไฟนั่นสิค่ะ"
"ขอโทษนะ โทคิโกะ......" คุณลุงคุณป้ามองหน้าฉันน้ำตาอาบแก้ม
"มันเป็นโรคติดต่อของความตาย"
แล้วเปลวไฟก็ลุกโชติช่วงขึ้นกลายเป็นกองไฟขนาดมหึมาที่เผาบ้านทั้งหลังไปในพริบตา
ฉันกรีดร้องไม่หยุดในความฝัน...แล้วฉันก็สะดุ้งตื่นขึ้นอีกครั้ง
"คนไข้ฟื้นแล้วครับ โทคิโกะฟื้นแล้ว" ฉันได้ยินเสียงชูเฮก่อนใครเลย
หลังจากที่ได้สติฉันก็มองไปรอบๆแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล พ่อกับแม่แล้วก็น้องชายของฉันก็อยู่ด้วย
"เธอ เธอ หมดสติไปนานมากเลยนะ ฉันนึกว่าเธอจะตายไปด้วยอีกคนแล้ว "
ชูเฮไม่ได้ร้องไห้แต่ตาของเข้าดูช้ำๆ ฉันว่าเค้าร้องให้มาก่อนหน้านี้แล้วล่ะ
"เดี๋ยวก่อน ที่เธอว่าอีกคน หมายถึง คุณลุงคุณป้า..." ฉันร้องไห้ออกมาอย่างรวดเร็ว
ชูเฮพูดอะไรไม่ออก แล้วพ่อแม่ก็ลุกขึ้นมากอดฉัน พวกท่านสองคนพยายามปลอบฉัน
เวลาแบบนี้ฉันคิดถึงครอบครัวมากเลย ฉันกอดพ่อและแม่พร้อมกัน แล้วยังร้องให้ไปด้วย น้องชายมองฉันแล้วก็รู้สึกว่าฉันแปลกๆไป
"แม่ฮะ ผมจะไปเดินกับพี่คนนี้ก่อนนะ แม่รีบทำให้พี่หยุดร้องไห้เร็วๆทีเถอะ เหมือนคนบ้าขึ้นทุกทีแล้ว"
"โทมะ ทำไมพูดแบบนั้นกับพี่หา" แม่ดุน้องชายฉัน
แต่โทมะน้องชายฉันอยู่ๆก็ลาก ชูเฮ ออกจากห้องพยาบาลไปพร้อมกันเฉยเลย
"นายเป็นใครวะ" โทมะอยู่ๆก็หยาบคายขึ้นใส่ชูเฮ
"เอ้อ เพื่อน ......หรืออาจจะมากกว่านั้น" ชูเฮ ตอบ
"เหรอ ไม่คิดว่าอย่างนายพี่ฉันจะเอานะเนี่ย" จริงๆแล้วโทมะน่าจะกลับคำพูดว่า อย่างฉันชูเฮจะเอาเรอะมากกว่า
ชูเฮ ยืนนิ่ง มองหน้าโทมะ ชูเฮน่ะตัวสูงแล้วก็หล่อกินขาดอยู่แล้ว โทมะเลยหงอๆไปบ้าง
แต่แล้วอยู่ๆโทมะก็พูดกับชูเฮอย่างจริงจังขึ้นมา
"นายต้องดูแลไม่ให้พี่ฉันไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอันตรายแบบนี้อีกนะ"
โทมะพูดเสร็จก็เดินออกไปเลย ชูเฮ เลยตะโกนตอบ
"ฉันดูแลพี่นายแน่ๆ นายเองก็เหมือนกันช่วงที่ฉันอยู่กับโทคิโกะไม่ได้ นายต้องดูแลเธอนะ"
โทมะหันมายิ้มให้ชูเฮแล้ว วิ่งเข้ามาในห้องฉันอีกรอบ
"ยัยเพิ้ง !! ได้แฟนดีนี่นา "
พ่อกับแม่มองหน้าน้องฉันอย่างดุๆอีกแล้ว แต่น้องชายฉันชิ่งหนีไปโรงเรียนก่อน ฉันดูเวลาว่ามันสายมากแล้วเลยบอกให้พ่อแม่ไปทำงาน ฉันดูแลตัวเองได้ พ่อกับแม่ลูบหัวฉันด้วยความเป็นห่วงแล้วออกจากโรงพยาบาลไป
ชูเฮเดินสวนกับพวกเขาเข้ามาในห้อง
"นายก็ควรไปโรงเรียนได้แล้ว" ฉันบอกกับชูเฮ
ชูเฮไม่ยอมทำตามที่ฉันพูดเลยเอาแต่มองหน้าฉัน เขาเริ่มมองหน้าฉันแล้วกลั้นหัวเราะอีกแล้ว ฉันเริ่มรำคาญเลยล้มตัวลงนอน ชูเฮพลิกตัวฉันกลับมา แล้วเขาก็พูดเรื่องที่ทำให้ฉันนอนไม่ติดเตียงซะแล้ว
"ฉันได้พาสเวิ่ด member funny dead duck ของโมโมมาแล้ว "
-------------------------------------------------------------------------------------
vic:โปรดระวัง "สายว่างแต่ไม่มีคนรับสาย"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น