คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [คำแนะนำ] การเตรียมตัว 2
5. กลับมาทบทวน
ในส่วนนี้ถือเป็นส่วนที่สำคัญยิ่ง ใครหลายๆ คนไม่เคยปฏิบัติหรือไม่ชอบที่จะปฏิบัติ เมื่อได้เรียนแล้วต้องอย่าลืมว่าควรจะนำกลับมาทบทวนบ้างเพื่อไม่ให้ลืมในเนื้อหาที่ได้เรียนมา มิเช่นนั้นจะถือว่าสูญเปล่ากับการที่อุตส่าห์เหนื่อยกายตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนพิเศษ บุคคลที่หักโหมกับการเรียนพิเศษมากเกินไปจะไม่มีเวลานั่งทบทวนบทเรียน และเมื่อถึงเวลาใกล้สอบจริงๆ ทำให้ไม่สามารถทบทวนเนื้อหาได้หมดทัน เพราะฉะนั้นหลังเรียนพิเศษทุกครั้งควรนำมานั่งทบทวนอีกครั้ง อาจจะเป็นภายในวันนั้นหรืออาจจะเป็นหนึ่งวันให้หลังก็ได้
ต่อไปนี้คือเทคนิคการอ่านทบทวนที่ทางผู้เขียนสามารถหาได้จากสื่อต่างๆ หรืออาจมาจากตัวผู้เขียนเอง หนึ่ง หาบรรยากาศที่เหมาะแก่การอ่านหนังสือ งดเว้นสื่อสารสนเทศทุกชนิดในรัศมี 1 เมตร งดขนมขบเคี้ยว ตั้งสติมั่นกับการอ่านหนังสือ หาดินสอหรือปากกาสวยๆ ซักแท่ง เน้นประโยคที่สำคัญ อาจอ่านผ่านตาก่อนหนึ่งรอบและอ่านซ้ำอีกครั้งพร้อมหาจุดที่เป็นเนื้อหาสำคัญ ขีดไว้เพื่อนำมาอ่านอีกครั้งจะได้ไม่ต้องหา หรืออาจเขียนแยกเป็นชอร์ตโน้ต ที่ทำให้ง่ายต่อการทบทวนมากยิ่งขึ้น เมื่ออ่านเข้าใจมากพอแล้ว ลองประเมินตัวเองโดยการทำโจทย์ ลองหาหนังสือดีๆ ซักเล่มที่รวบรวมโจทย์เพื่อใช้สอบเข้า ยิ่งถ้าเป็นข้อสอบปีเก่าๆ จะยิ่งเพิ่มความขลังและทำให้เราพอเดาแนวทางของข้อสอบได้ จับเวลาทำข้อสอบบ้างก็ดี เผื่อว่าตอนสอบจะได้คำนวณเวลาถูก
6. อย่าหักโหม หาเวลาให้ตัวเองบ้าง
การเตรียมตัวที่หักโหมเกินไปไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อสุขภาพของผู้ที่จะสอบเข้าเลย เราควรหาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้าง อย่างเช่นถ้าเป็นตัวผู้เขียนเอง ผู้เขียนจะตั้งเป้าหมายว่า อ่านศัพท์ครบร้อยคำเท่ากับหนังสือการ์ตูนหนึ่งเล่ม นั่นจะเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ซึ่งทำให้เราประสบความสำเร็จ และอีกประการที่ก็สำคัญคือห้ามนอนดึกเด็ดขาด ห้ามทรมานตัวเอง ถ้าร่างกายง่วงหมายความว่าร่างกายต้องการการพักผ่อน ถ้าอยากนอนก็ปล่อยร่างกายให้นอนไป แล้วค่อยตื่นขึ้นมาอ่านใหม่ ห้ามทำลายสุขภาพตัวเองเป็นเด็ดขาด ลองนึกภาพว่าถ้าเรานอนเที่ยงคืนแต่ตื่นตีห้าเพื่อมาสอบ จะดีหรือที่ต้องมาอดหลับอดนอนแล้วสอบครั้งสำคัญ เผลอๆ สมองยังไม่ทันสั่งการ จำอะไรที่เรียนมาไม่ได้อีกต่างหาก
7. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนวันสอบและวันสอบ
การเข้าสนามสอบที่อื่นก่อนเข้าสนามสอบจริง เป็นการสร้างบรรยากาศให้กับเรา เป็นการทำให้เรารู้สึกถึงความรู้สึกตอนที่จะสอบ ว่าเรารู้สึกอย่างไร ลนลานมั้ย ตื่นเต้นเกินไปหรือเปล่า เพื่อที่ว่าวันสอบจริงเราจะได้จัดการกับอารมณ์ความรู้สึกเราได้
หนึ่งวันก่อนเข้าสนามสอบจริง ควรเตรียมปากกา ยางลบ ดินสอ ไม้บรรทัด เสื้อกันหนาว ควรเอาไปเผื่อด้วยเพราะสนามอาจจะหนาวได้ เตรียมบัตรผู้เข้าสอบ ใส่กระเป๋าไว้ให้ดี เช็คของให้ครบ สุดท้าย เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมสติปัญญา ทำจิตใจให้แจ่มใส ร่างเริง วันสุดท้ายก่อนสอบหนึ่งวันไม่ควรอ่านหนังสืออย่างหนัก อ่านเพียงทบทวนเป็นพอ เข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อตื่นแต่เช้า ไม่ควรโดยสารรถส่วนตัวไปสอบในสนามสอบที่รวมผู้สมัครสอบไว้ที่เดียว เพราะจะทำให้ลำบากต่อการจราจรได้ และที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้นคือหากเข้าสอบไม่ทัน อาจถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าสอบได้ และถ้าจะดีที่สุด การเช่าหอพักอยู่ในย่านนั้นๆ ก่อนวันสอบ จะทำให้เราไม่เป็นกังวล เดินตัวปลิวเข้าห้องสอบโดยไม่ต้องห่วงเรื่องรถติด
ก่อนถึงเวลาสอบจริง ควรเข้าไปเช็คที่นั่งก่อน หรือเข้าไปนั่งรอก่อนเวลาซักครึ่งชั่วโมงเพื่อทำสมาธิ สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เมื่อได้ข้อสอบ เปิดดูให้ครบทุกหน้า เพื่อเช็คดูว่ามีครบหรือเปล่า อ่านรายละเอียดชี้แจงให้ดี อย่าสะเพร่าเด็ดขาด คำนวณเวลาว่าจะทำวิชาไหนก่อนหลัง ให้เวลากับวิชาไหนเยอะสุด ทำตัวสบายๆ เหมือนนั่งทำโจทย์อยู่ที่บ้าน
8. กำลังใจ
สำคัญมากต่อความรู้สึก กำลังใจคือคำพูดที่จะผลักดันเราไป เมื่อเราท้อ เมื่อเราเหนื่อย เรามีความรู้สึกไม่อยากทำแล้ว ใครๆ ก็เก่งไปหมด แล้วตัวเราจะเอาอะไรไปสู้ แต่ทำไมถึงคิดเช่นนั้น ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันลงสนามสอบเลยด้วยซ้ำไป ตัวของเราเองต้องให้กำลังใจตัวเอง คิดไว้เสมอๆ ว่า ถ้าคนอื่นทำได้ ตัวเราเองก็ย่อมทำได้ เราก็คน เขาก็คน ไม่มีอะไรที่ไม่เหมือนกัน คนทุกคนมีสมอง มีมือสองมือที่สามารถจับหนังสือขึ้นมาอ่านได้ บังคับตัวเองหน่อย บังคับให้ทำในสิ่งที่ทุกคนควรทำคือตั้งใจ ขยัน ไขว่คว้า อย่าฟังคำพูดของคนอื่นมากนัก ใครเล่าจะไปรู้ดีไปมากกว่าตัวเราเอง ลองถามตัวเองดูก่อนว่าต้องการอะไร ต้องการมากแค่ไหน เมื่อได้มาแล้วมันน่าภูมิใจรึเปล่า อย่าพยายามกดดันตัวเอง เพราะยิ่งทำตัวเราเองก็ยิ่งจมลงสู่หนทางแห่งความพ่ายแพ้ จงอย่าคิดว่าเรากำลังสู้กับคนอื่น จงคิดว่าเรากำลังสู้กับตัวเอง สู้กับความขี้เกียจ สู้กับความท้อแท้ที่ตัวเราเป็นคนสร้างอย่าไปสนใจว่าใครจะเก่งขนาดไหน อย่าสนใจคำครหาดูถูกของคนอื่น พยายามทำส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันจะเหนื่อยซักแค่ไหนกันเชียวกับการแค่นั่งอ่านหนังสือ นั่งเรียนหนังสือในห้องแอร์เย็นๆ ในขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องหาเงินมาให้เราเรียน อย่าทำให้ความพยายามเหล่านั้นที่ได้สร้างมาสูญเปล่า และผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร จะสอบติดหรือไม่นั้น ไม่สำคัญมากไปกว่าการที่เราได้พยายาม เราจะได้ภูมิใจว่าในครั้งหนึ่งนั้นเราได้พยายามอย่างที่สุด แม้ว่ามันอาจไม่สำเร็จก็ตาม จงถือให้มันเป็นประสบการณ์ เป็นคำสอนที่จะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ผู้ใดที่ไม่เคยปฏิบัติก็จะไม่มีทางได้รับรู้ถึงความรู้สึกแห่งความพยายามนี้อย่างแน่นอน
ความคิดเห็น