ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

    ลำดับตอนที่ #94 : ตอนที่ 34 ปฏิบัติการณ์ฟลีทเจอนีย์ขั้นที่ 5 เป้าหมายของคาร์ทตันเผยโฉม การพลิกสถานการณ์ของไทรเวเซอร์ ครึ่งแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9
      0
      23 ก.ค. 63

              ภายในยานเอลอาควิทีเรีย วันถัดมา (วันที่ 18 ของการปฏิบัติการณ์)
              "ว่ายังไงน่ะ ไม่มีงานให้พวกเราหรือ" จายด์กล่าว เมื่อยิปเซทแจ้งมา
              เจเนลบอก "ตลกละ วันนี้เป็นเวรเช็คเครื่องยนต์มิใช่หรือ ทำไมถึงบอกว่าไม่มีงานให้น่ะ"
              "ความจริงแล้ว ฉันให้ทีมลูกเรือไปเช็คก่อนหน้าที่พวกนายจะมา ซึ่ง ฉันไม่บอกหรอก ว่าเพราะอะไรน่ะ" ยิปเซทบอก เจเนลหน้าบึ้งตึงนิดๆ "แล้วก็ ไม่ต้องไปยุ่งกับยานบินเหล่านั้นด้วย ทั้งหมดนี้ฉันเช็คแล้วละ" ยิปเซทกล่าว
              ดีแนคบอก "ทั้งๆที่ลูกเรือแผนกคุณทำงานช้า แถมทำน็อตหรือสกรูหลุดหายไปเลยหรือ มันไม่เข้าท่าเลยน่ะ"
              "ก็ยังดีกว่าปล่อยให้พวกนายมาทำพัง แล้วฉันโดนท่านนายพลด่ากันพอดีนะสิ ดังนั้น ฉันขอให้พวกนายกลับไปที่ห้องพักได้แล้ว" ยิปเซทบอก
              เจเนลรู้สึกยั้วะจึงทำได้แค่ "ไปเหอะ ดีแนค จายด์ จิล ในเมื่อหัวหน้าแผนกช่างเล่นทำล่วงหน้าแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้น่า" พาทั้งหมดเดินออกไป
              "นี้พวกเขาคงไม่อยากให้ผมทำยานพังเลยหรือ" ดีแนคบอก
              จิลกล่าว "เปล่าเลย ฉันรู้สึกได้ว่า หัวหน้าแผนกและนายพลคาร์ทตันจะไหวตัวเสียแล้วนะสิ"
              "พวกเขาไม่น่ารู้ความลับที่พวกคุณปิดบังไปได้เลยนิครับ" ดีแนคถาม
              เจเนลบอก "แต่ตอนนี้ ไอ้เวรนั้นมันรู้และปากโป้งบอกไปแล้ว เพียงแต่สภาพการณ์ในภารกิจที่แล้ว มันไม่อำนวยให้นะสิ"

              "เกรงว่าตอนนี้ งานของพวกนายคงหมดเพียงเท่านี้แหละ" แฮงโก้บอกต่อพีวิล สเปียริท คลอเวฟ มาเทอุส ดรากูลิค และเรจเจที่มาด้วย
              "หมดเลยหรือวะ นี้เอาจริงหรือ" คลอเวฟสบถ
              "นี้แปลว่า พวกคุณได้รับคำสั่งให้ออกรบแบบเต็มพิกัดเลยสิครับ" พีวิลบอก
              แฮงโก้ตอบ "ถูกเผงเลยละ ท่านนายพลได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพวกศัตรูกันแล้ว ซึ่งท่านสั่งให้ทุกแผนกเตรียมพร้อมไว้เต็มที่ โดยที่ฉัน สั่งให้แผนกของฉันเตรียมพร้อมช่วยทีมฝูงบินกันนี้แหละ"
              "ด้วยสภาพแบบนี้ คงทำงานได้ทันกระมั่งน่ะ" สเปียริทบอก "แล้วท่านนายพลจะให้เราทำอะไรมิทราบละ"
              แฮงโก้บอก "พวกนายทำได้แค่ไปรอในห้องกันก็พอ ไว้มีคำสั่งจากท่านนายพล พวกนายถึงออกไปได้นี้แหละ"
              "งั้นหรือ...." คลอเวฟกล่าวและมองหน้าพีวิล ซึ่งพยักหน้าแทนคำตอบ แต่ไม่หันมาทางสเปียริท เพราะได้คำตอบมาแล้ว "ก็ได้ แต่ถ้านายกับพวกมีปัญหา ถ้าพวกเราไม่มาช่วย ก็อย่ามาโทษพวกเราแล้วกัน"
              แฮงโก้บอก "แน่นอนอยู่แล้วละ หึๆๆๆๆ"
              "ท่าทางของหัวหน้าแผนกคลังเสบียงนั้น ฟังแล้วมันน่าโมโหจริงๆน่ะ" เรจเจบอก
              มาเทอุสกล่าว "ทำไมคุณถึงไม่บีบให้หัวหน้าแผนกพูดเลยหรือ คุณคลอเวฟ"
              "มันยั่วะโมโหให้ฉันพลาด จนมีเรื่องให้นายพลคาร์ทตันคาดโทษพวกเราและพวกนายไปด้วยนะสิ" คลอเวฟบอก
              สเปียริทกล่าว "ถึงไม่พูดออกมา ฉันเดาได้ว่าตอนนี้หัวหน้าแฮงโก้ทราบเรื่องของพวกเราแล้วน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ หัวหน้าแผนกช่างเจอตัวนักโทษที่รู้เรื่องของพวกคุณมาก่อนสิครับ" ดรากูลิคบอกอย่างหวั่นเกรง พีวิลพยักหน้า แล้วก็ "ตี้ดๆๆๆๆ" รับสายที่ติดต่อมา
              "พีวิลหรือ ตอนนี้นายกับคลอเวฟยังทำงานอยู่หรือเปล่าละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              "ตอนนี้หัวหน้าแฮงโก้ไม่มีงานให้พวกเราและแจ้งให้เราไปรอในห้องพักแล้วน่ะ" พีวิลกล่าว
              คลอเวฟบอก "ว่าแต่ ไอ้คุณหัวหน้าเฮฟฟอนคงไล่นายกับพวกกลับมาเลยสิ"
              "ใช่ เจเนลกับพวกกลับมาบอกกับเราแล้ว คลอเวฟ ดูท่าว่าสังหรณ์ใจของฉันมาถูกทางแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "ตอนนี้ฉันแจ้งให้แอนเดรียพาพวกริดีน่ากลับมาที่ห้องพักแล้ว พวกนายรีบกลับมาโดยด่วนเลย" คลอเวฟพยักหน้า แล้วทั้งหมดก็เดินกลับมาในห้อง ซึ่งเดรมเกอร์ ดรันนิค เดรเชล วีเซ่มาอยู่ในห้อง พร้อมกับเจเนไซด์ทีมและดีแนค จากนั้น ฮีเรมิล กลาสแทค เคลเบีย ริดีน่า แอนเดรียและแอบไบออส กลับมาที่ห้องในภายหลัง
              "มากันครบแล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              "มาครบแล้วละ มาส ว่าแต่ เนคมาดูซัม ชุดกระสุนที่นายกับลิเนียร์ตี้เบิกจากหัวหน้าเฮฟฟอนละ" พีวิลบอก เนคมาดูซัมและลิเนียร์ตี้ทำหน้าบึงตึง แต่ก็นำถาดใส่ชุดกระสุนที่ได้รับมา
              "ตลกละ นี้มัน น้อยกว่าที่คิดไว้เลยนะเนี้ย" เจเนลบอก เพราะเฮฟฟอนให้กระสุนสำหรับปืนสั้นเพียง 20 นัด ปืนกลเล็ก 30 นัด ตลับพลังงานสำหรับอิมแพคชู้ตเตอร์ 3 นัด และกระสุนสำหรับปืนยาว 40 นัดมาให้
              "ใช่ หัวหน้าเฮฟฟอนบอกมา ว่านี้เป็นชุดสุดท้ายที่เขาจะอนุญาตให้เราเบิกได้น่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              สเปียริทบอก "แต่มันน้อยเกินกว่าที่เราจะใช้ได้เลยนะ ลิเนียร์ตี้ ทำไมถึงไม่ขอเพิ่มเลยละ"
              "ฉันลองแล้ว สเปียริท แต่หัวหน้าเฮฟฟอนท้าให้ฉันไปขอจาก จอมพลแฮซกริฟเองนะสิ" เนคมาดูซัมบอก
              แอบไบออสกล่าว "ไม่ต้องบอกหรอก นายพลคาร์ทตันและพวก รู้แล้วว่าเราเป็นใครน่ะ"
              "เพียงแต่ เราก็รู้เช่นกัน ว่าใครเป็นต้นเหตุที่ทำให้นายพลคาร์ทตันกับพวกก่อเรื่องกันด้วยน่ะ" จิลบอก
              แอนเดรียกล่าว "แม้ว่าหัวหน้าพอเทนด้าและหมอเฮเดรียนไม่มีท่าทีแบบหัวหน้าแผนกทั้งสามเลยก็ตาม แต่ถ้าเป็นคำสั่งของนายพลคาร์ทตัน ทั้งคู่ก็คงจะ...."
              "โฮ่ย เนคเกอร์ เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ววะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้าแล้วก็ลุกขึ้น "ช่วยไม่ได้ มาส พีท ถึงเวลาที่เราต้องเบรคนายพลคาร์ทตันกันแล้วละ" มาสวาร์ทาร์และพีวิลพยักหน้า จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินตามเนคมาดูซัม

              "ครืดดด แกร็ก ปี้บ!!!!" ไม่ทันไร ประตูห้องก็เลื่อนปิดและล็อกทันที ลิเนียร์ตี้และพลัสเชอริทรีบตรงไปอีกบาน "ครืดดด แกร็ก ปี้บ!!!!!" ซึ่งก็ปิดลงด้วย
              "แย่ละสิ นายพลคาร์ทตันล็อกพวกเราแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก คลอเวฟเลยเดินมาตรงประตู "ฟึ่บ ป้างงงง" แต่พอถีบเข้าไป กลับถูกดีดออก
              "ประตูครอบด้วยสนามพลังเลยหรือวะ" คลอเวฟกล่าว
              "พอจะเปิดล็อกออกได้มั้ยละ ลิเนียร์ตี้" เนคมาดูซัมบอก ลิเนียร์ตี้คิดจะเปิดแผงใกล้กับประตู "เปรี้ยะ" แต่แผงนั้นปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อตนิ้วเธอไปเต็มๆ
              แอนเดรียเลยใช้โฮโลแพดบนฝ่ามือเพื่อเช็คดูอยู่ห่างๆ "เกรงว่า นายพลคาร์ทตันจะล็อกประตู โดยเซตค่าการป้องกันการแฮคเข้าไปในระดับสิบด้วยนะคะ"
              "แสดงว่า นายพลคาร์ทตันคงให้เรเชียลขังพวกเราไว้เลยสิน่ะ" เจเนลกล่าว
              พลัสเชอริทบอก "ท่านนายพลคงรู้ว่าพวกเราบางตนมีความว่องไวมากพอ จนเข้าถึงตัวท่านนายพลและหยุดเรเชียลได้ เลยต้องหยุดเราแบบนี้น่ะ"
              "แล้วช่องอากาศนั้น พอให้คุณจิลปีนเข้าไปได้มั้ยคะ" เดรเชลบอกชี้ไปที่ช่องอากาศบนเพดาน
              สเปียริทบอก "ถ้าเป็นช่องอากาศบนนี้ละก็ ฉันกับยัยเปี้ยกลองแล้ว ช่องมันเล็กเกินหัวยัยเปี้ยกจะเข้าไปได้"
              "งั้นนายก็เจาะพื้นลงไปเหมือนที่ทำในภารกิจก่อนก็ได้นิ" เรจเจบอก
              คลอเวฟกล่าว "ถึงทำเช่นนั้นได้ แต่ถ้านายพลคาร์ทตันฉาบสนามพลังไว้ที่ประตูได้ เพดานห้องที่อยู่ใต้เท้าพวกเราเองก็ต้องมีเช่นกัน"
              "ว่าแต่ เราจะทำเช่นไรกันดีละคะ" ริดีน่าบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "จากตรงนี้ เราต้องนิ่งกันไว้ก่อน ถึงนายพลคาร์ทตันแม้จะรู้เรื่องของเราไปแล้ว เขาคงจะรอให้เราปริปากบอกด้วยตัวเองแน่ๆน่ะ"
              "หรือไม่ก็ คิดจะใช้พวกริดีน่าเป็นเครื่องมือมาบีบบังคับพวกเราให้ทำตามคำสั่งเลยสิน่ะ" คลอเวฟบอก พีวิลพยักหน้า
              มาสวาร์ทาร์บอก "แม้เราไม่รู้ว่านายพลคาร์ทตันจะไปที่ไหนก็ตาม เราทำได้แค่รอก็พอน่ะ"

              "แน่ใจนะคะ ว่าทำแบบนี้มันดีแล้วละคะ" เรเชียลถาม
              คาร์ทตันตอบ "แม้ว่านั้นจะทำให้พวกไทรเวเซอร์มีท่าทีต่อต้านมากขึ้น แต่เพื่อไม่ให้พวกคนทรยศได้ตัวพวกไทรเวเซอร์ไป ฉันจำต้องทำเช่นนี้แหละ" แล้วก็แจ้งให้ "เฮฟฟอน ยิปเซท แฮงโก้ ทุกอย่างพร้อมมั้ย"
              "ฝูงบินต่อสู้พร้อมปฏิบัติการณ์ตามคำสั่งแล้วละครับ" แฮงโก้บอก
              ยิปเซทกล่าว "แผนกช่างพร้อมซ่อมแซมยานจากการโจมตีของพวกคนทรยศกันแล้วครับ"
              "หน่วยรบบุกขึ้นยานเองก็พร้อม หากท่านสั่งมาเลยนะครับ" เฮฟฟอนบอก "หากแต่ หมอเฮเดรียนและพอเทนด้านิ ไม่แจ้งไปเลยหรือ"
              คาร์ทตันกล่าว "ฉันให้พอเทนด้าและเหล่าลูกเรือที่ไม่เกี่ยวกับแผนการนี้ ไปอยู่ในโรงอาหารกันแล้ว เฮเดรียนกับทีมแพทย์เองก็พร้อมสำหรับการรักษาพยาบาลหรือจัดการกับสมุนของวิชเฮสเลอร์ที่เราจับมาได้ ถ้าเราไม่สามารถจับตัววิชเฮสเลอร์มาน่ะ"
              "แล้วไม่กลัวว่าไอ้พวกไทรเวเซอร์จะมาขวางเลยหรือ" เฮฟฟอนกล่าว
              คาร์ทตันกล่าว "พวกนั้นทำอะไรเราไม่ได้หรอก เพราะเราจะไม่ให้พวกเขาออกไปเจอกับไอ้คนทรยศได้หรอก พอฉันนำยานเข้าประชิดยานของวิชเฮสเลอร์ ฉันจะสั่งให้บุกจับตัววิชเฮสเลอร์มาให้ได้น่ะ"
              "โดยที่พวกเรามีตัวประกันอยู่ในมือด้วยสิครับ" แฮงโก้บอก
              คาร์ทตันพยักหน้าโดยมองดูปืนสั้นในซองเข็มขัดที่อยู่บนโต๊ะ "คราวนี้ฉันจะช่วยครอบครัวของฉันและทุกๆคนที่อยู่ในกำมือของวิชเฮสเลอร์มาให้ได้ จะไม่มีคำว่าล้มเหลวกันอีกต่อไป" โดยหารู้ไม่ว่า มีใครแอบฟังอยู่และเดินออกไป โดยที่เรเชียลไม่สังเกตุเห็นเลย

              ในเวลาเดียวกัน ที่ซ่อนลับ ที่ไหนสักแห่งในเขตอวกาศภาคกลาง
              "ลูกน้องของคาร์ทตันให้นายมาบอกเลยสิน่ะ" ชายในชุดเสื้อโค้ทสีกรมท่าแต่มีรอยไหม้ดำและสวมหมวกติดตราหัวกระโหลกกล่าวกับบรอสแดน ซึ่งตอบไปว่า
              "ครับ และผมเองก็....ปริปากบอกเรื่องพวกไทรเวเซอร์ให้มันรับรู้ไว้ แม้ว่าผมจะพูดไปโดยไม่รู้ตัวเลยก็ตาม"
              "นายไม่ผิดหรอกน่ะที่โดนสะกดจิตให้ต้องพูดไว้ เพราะนั้นจะช่วยให้คาร์ทตันรู้ว่า ไอ้ที่ทำอยู่นี้ มันผิดพลาดมาแต่แรกแล้ว" ชายชุดดำบอก
              บรอสแดนกล่าว "ว่าแต่ ท่านคิดจะไปตามที่ฝ่ายนั้นท้าไว้หรือครับ"
              "ใช่ แม้ว่าคาร์ทตันจะได้เปรียบในเรื่องที่เขามีกองกำลังหัวหอกชื่อดังอยู่ในมือ แต่เขาก็ระแวงด้วย ว่าพวกไทรเวเซอร์จะหันมาหยุดเขากับพวกด้วยเช่นกัน คาร์ทตันคงจะใส่กรงขังพวกเขาไว้ เพราะแน่ใจว่าเขาคุมอยู่แน่นอน" ชายชุดดำเดินเข้ามา "เพียงแต่ ครั้งนี้ คาร์ทตันจะต้องยอมจำนนแบบพวกเรา และจะไม่มีทางได้กลับไปพร้อมกับพวกไทรเวเซอร์ได้แน่นอน"
              บรอสแดนบอก "แปลว่าท่านเตรียมแผนการไว้แล้วสิครับ"
              "ต่อให้คาร์ทตันนำยานมาเพื่อจับกุมฉัน แต่เกรงว่า ฉันจะจับตัวเขาไปหาครอบครัว และจะไม่ยอมให้เขากับพวกไทรเวเซอร์หลุดมือไปได้แน่ๆ ไม่เช่นนั้น จักรวาลทั้งปวงจะวายวอดทันที เหมือนที่นายเกือบตายไปแล้วน่ะ" ชายชุดดำกล่าว "นายเองก็กลับไปพักก่อนดีกว่าน่ะ เดียวนายพลเคทแทมจะเป็นห่วงเอา"
              บรอสแดนบอก "ขอให้โชคดีกับแผนการของท่านนะครับ ท่านวิชเฮสเลอร์"

    TriVeser Manigator Saga: Hyperstar Trooper
    ตอนที่ 34 ปฏิบัติการณ์ฟลีทเจอนีย์ขั้นที่ 5 เป้าหมายของคาร์ทตันเผยโฉม การพลิกสถานการณ์ของไทรเวเซอร์


              กลับมาที่เฟิร์สฮิลล์ แคสเซเดี่ยน-3 อีสทาล่าฟรอนเทียร์
              "ปลอดภัยดีนะ พวกเธอ" โฟรซ่าบอก
              มาริกล่าว "พวกเราไม่เป็นไรนะคะ ท่านพี่โฟรน่า" โดยตอนนี้น็อกกี้และเฟรดช่วยนำศพทหารแมทเฟลิมมาวางกองบนท่าเรือ พร้อมกับซากทหารเมคครอฟิคที่ถูกแรมเพจและแด็กซ์ขนมากองใกล้ๆ
              "ไม่คิดเลย ว่าพวกเดลอาเนี่ยนจะกล้าโผล่ในเมืองกันน่ะ" ช็อปเปอร์บอก โดยชี้มายังโครงประตูที่โผล่ตรงหน้าเสาประตูแบบจีนในชุมชนจีน ซึ่งพังเสียหายไปส่วนหนึ่ง
              นาเดียถาม "แต่พวกมันบุกเข้ามาในเมืองได้ไง ในเมื่อพวกทหารของนายพลเพอซิอัสคุมอยู่ แถมพวกคุณลิเนียร์ตี้เองก็ป้องกันการบุกไว้ทุกครั้งเลยนิคะ"
              "เกรงว่า มันเป็นไปได้นะสิ เพราะในช่วงที่พวกเรารับมือกับการบุกของพวกเดลอาเนี่ยน พวกมันส่วนหนึ่งคงจะสแกนพื้นที่ทั้งหมดของเมืองไว้ เพื่อหาตำแหน่งส่งประตูมิติในจุดลับอย่างแน่นอน" ไซโคลเนียบอก โดยตอนนี้ทีมลูกเรือของบริคซ์เจอโครงประตูอยู่ในหุบเขา ตรงส่วนท่อประปา ท่อแก็สและท่อส่งพลังงาน
              นิคบอก "แสดงว่าพวกเดลอาเนี่ยนยืมมือพวกริดโอที่บุกเมืองในครั้งนั้น เพื่อทำแผนที่ของเมืองไม่ว่าจะอยู่บนหรือใต้ดินเลยสิครับ"
              "ใช่ และไม่ใช่แค่ภายในเมืองทั้งด้านล่างและบนอย่างเดียว ในป่าหลังเมืองเองก็มีอยู่ 3 จุด ซึ่งฉันกับพวกไปรื้อออกหมดแล้วน่ะ" ฟิเกซบอก
              บาร์ทกล่าว "ดีที่พวกเรารู้ตัวก่อน จนเข้าขัดขวางพวกเดลอาเนี่ยนไปได้ ก่อนที่พวกมันจะยึดเฟิร์สฮิลล์ และใช้ที่นี้บุกเมืองหลวงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยน่ะ"

              "ตี้ดๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร มือถือของสเตฟอร์ดก็ดังขึ้นมา "ลุง เรามีปัญหาแล้วละครับ" ไกซ์ติดต่อเข้ามา
              สเตฟอร์ดบอก "ว่าแต่ปัญหาที่เธอกับพวกเจอมานั้น มันคืออะไรกันน่ะ"
              "จะดีกว่ามาก หากพวกคุณเข้ามาหาพวกเรานะคะ" เมดิน่าบอก แล้วพวกสเตฟอร์ดก็รีบกลับมาในอู่จอดยานไทรแองเกิ้ล
              โฟรซ่ากล่าว "โอ้ว นี้พวกเธอยังไม่ได้ทำลายโครงประตูเลยหรือไงน่ะ" เพราะเธอเห็นโครงประตูที่ตั้งอยู่ในโรงเก็บกัน
              "คือเรายังไม่รู้ ว่าโครงประตูที่พวกเดลอาเนี่ยนใช้มานิ มันมาจากไหนกันนะคะ" เวลลิทบอก
              มิลด์กล่าว "เราเลยทำการตรวจเช็คระบบโครงประตูของพวกเดลอาเนี่ยนดู จนพบว่า นอกจากโครงประตูมันยังทำงานอยู่ ทั้งๆที่เราถอดเซลพลังงานออกแล้ว พิกัดต้นทางที่เชื่อมต่อโครงประตูนี้ กับอีก 15 บานนั้น มันมาจากแถบนี้นะคะ" แล้วก็เปิดแผนที่จักรวาลทางช้างเผือก ซึ่งมีวงกลมระบุตำแหน่งปรากฎขึ้นบนวงในของจักรวาลกันทั้งหมด
              "เยี่ยม นี้พวกเดลอาเนี่ยนบุกเขตอวกาศภาคกลางไปได้ไกลกว่าที่คิดเลยนะเนี้ย" ไซโคลเนียบอก
              แอมเบอร์บอก "เปล่าคะ ระบบป้องกันมันหลอกเรา เพื่อซ่อนพิกัดต้นทางที่แท้จริงไว้ ซึ่งถ้าเราเข้าประตูนี้ไป มันจะพาไปดาวอื่นที่ถูกสุ่มจากตำแหน่งที่ปรากฎในแผนที่ได้ในทันทีนะคะ"
              "พูดๆง่ายคือ มันพาไปที่ดาวในระบบดาวที่อยู่ไกลจากระบบดาวของเราอย่างมาก แต่ไม่มีพวกเดลอาเนี่ยนอยู่จริงเลยสิน่ะ" โฟรซ่าบอก "แอมเบอร์ จำกัดวงแคบให้อยู่ในช่วงตะวันออกได้มั้ยละ"
              แอมเบอร์บอก "ทำแล้วคะ แต่ระบบมันยังหลอกแบบนี้อยู่ จนกว่า ต้นทางจะเชื่อมต่อกับโครงประตูนี้ได้นะคะ"
              "ตะกี้นี้ฉันได้รับแจ้งว่ามีโครงประตูที่ยังอยู่ในโรงเก็บ แต่ยังไม่ทำลายทิ้งเลยนิ มันเพราะอะไรละ" จูเดทต้าบอก
              ฟิเกซบอก "คือว่า...." แล้วก็เล่าเรื่องให้จูเดทต้าฟัง ซึ่งเธอก็พิจารณาไปว่า
              "แปลว่า ตราบใดที่ต้นทางยังไม่เชื่อมต่อ พวกเธอยังไม่รีบเลยสิน่ะ"
              "คะ เพราะว่าพวกเราเคยถูกพวกเดลอาเนี่ยนลักพาตัวไปก่อนแล้ว เราไม่อยากจะพลาดท่าอีกนะคะ" โฟรซ่าบอก
              ไม่ทันไร "โอ้ มีสัญญาณส่งผ่านประตูบานนี้เข้ามานะคะ" มิลด์กล่าวเมื่อเธอได้ยินเสียงเข้ามาในหูของเธอ
              "ว่าแต่ ใครส่งสัญญาณเข้ามากันละ" สเตฟอร์ดถาม
              มิลด์ตอบ "คุณลิเนียร์ตี้คะ เธอต้องการความช่วยเหลือจากทางเรา และต้องการ ยานไทรแองเกิ้ลโดยด่วนด้วยคะ"

              ย้อนกลับไปยังพวกไทรเวเซอร์ ก่อนหน้านั้น 2 ชั่วโมง นอกดาวทาบาเรียค-5
              "พอจะดักฟังได้มั้ยละ ลิเนียร์ตี้" สเปียริทกล่าว
              ลิเนียร์ตี้ใช้แอพในมือถือเพื่อดักฟัง "แม้เรเชียลปรับระบบป้องกันการแฮคเข้า แต่ ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนสร้างช่องว่างในข่ายสื่อสารของยานกันอยู่เลยน่ะ"
              "แต่เรเชียลเป็นเอไอดรอยมิใช่หรือ เธอคงจะรู้ถึงช่องว่างและจัดการอุดไปแล้วนิ" จิลบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "แต่เคสนี้เหมือนมีคนรู้จังหวะและช่องว่างของข่ายสื่อสารกันแล้วนะสิ" ไม่ทันไรก็ "งี้งๆๆๆๆๆ" สปีคเกอร์ภายในห้องดังขึ้น "อ่า.... ดูท่าว่าเขาช่วยเจาะช่องแอบฟังให้แล้วน่ะ"
              "คิดว่าคนที่ทำนั้น เป็นมิตรหรือศัตรูละคะ" เดรเชลกล่าว
              พลัสเชอริทบอก "เรายังไม่รู้หรอกนะ แต่รู้อย่างเดียวคือ มีกลุ่มคนแอบแฝงอยู่ในเอลอาควิทีเรีย โดยที่นายพลคาร์ทตันและพวก รวมถึงพวกเรา ไม่รู้ตัวนะสิ"
              "เราเข้าใกล้ดาวทาบาเรียค-5 ตามเส้นทางเดิม ซึ่งเราเสียกองรบเขียวไปให้ฝ่ายตรงข้ามแล้วละคะ" เรเชียลรายงานต่อคาร์ทตัน
              ซึ่งมีเสียงดังเข้าลำโพงมา วีเซ่กล่าว "กองรบเขียวนะหรือ"
              "กรีนยูโรเปี้ยน หรือกรีนพลาเน็ต หนึ่งในสี่กองรบของฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์นะสิ" พีวิลบอก เจเนลพยักหน้าพร้อมกับใช้มือถือบันทึกเสียงอยู่
              "ดี ตอนนี้แจ้งให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อม แฮงโก้ เตรียมนำฝูงยานบินบุกถล่มใส่ยานรบของวิชเฮสเลอร์ โดยใช้มิไซล์ EMP ดับทุกระบบในยานของมัน จากนั้น ฉันจะนำยานบุกเข้าชนใส่ยานของมัน เฮฟฟอน เธอกับหน่วยใช้อาวุธทุกอย่าง ยิงทุกคนที่อยู่ในยานให้ราบคาบ เหลือเพียงวิชเฮสเลอร์เพียงตนเดียว ให้จับเป็น จากนั้น เราจะส่งสัญญาณเพื่อดึงกองยานของพวกเทรอมทั้งสี่มา ให้เป็นเป้าของพวกเรา ซึ่งนำยานไปอยู่หลังดวงจันทร์ ยิงถล่มพวกมันให้ราบคาบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโมบิลลอยด์ ยานบินขับไล่ หรือแม้กระทั่งยานรบ ต้องไม่เหลือพวกเทรอมรอดกลับไปสักราย"
              "แล้วจะเอายังไงกับชาวอาณานิคมละคะ" เรเชียลถาม
              คาร์ทตันบอก "พาไปยังดาวฮาแซงค์-3 ตามคำแนะนำของนายพลกาโกรินที่ให้ไว้ ชาวอาณานิคมที่นั้นจะช่วยปกปิดและปกป้องพวกเขา ก่อนที่กองยานจากดาวแม่ของเรา ไม่สิ พวกเทรอมและจอมพลแฮซกริฟทราบเรื่องเสียก่อน" แล้วก็กล่าว "แน่นอน ว่าฉันจะให้พวกไทรเวเซอร์จัดการกับพวกตัวเอ้ที่อยู่ในยานของวิชเฮสเลอร์ด้วย จากนั้น ฉันจะบีบให้พวกเขาปกป้องชาวอาณานิคมและไม่ให้กลับไปอีสทาล่าฟรอนเทียร์ตลอดไปนี้แหละ"
              "นี้กะจะไม่ให้เรากลับไปเลยสิ" คลอเวฟสบถ
              เนคมาดูซัมกล่าว "พวกเราอาจจะโกรธตามที่สายลับเหล่านั้นต้องการ แต่.....พวกนั้นไม่รู้หรอกน่ะ ว่ากำลังเล่นกับใครอยู่"
              "ดีเหมือนกันเลยนะครับ ในเมื่อพวกมันหลอกพวกเราเช่นนี้ แถมยังไปได้พวกเกษตรตาดำๆและทาสโคลอสเซี่ยมกันด้วย เท่ากับว่าเรามีข้ออ้างที่จะลงโทษพวกมันได้น่ะ" เฮฟฟอนบอก
              เรเชียลบอก "แล้วไม่กลัวว่า พวกแคลเกียสที่ยึดดาวของเบย์บาลิคจะทราบ และบุกมาเลยหรือคะ"
              "เนคเกอร์กับพวกจะต้องบดขยี้พวกแคลเกียสเหล่านั้นได้แน่นอน ถึงแม้เราไม่รู้ว่าพวกมันหลุดออกมาจากโคลอสเซี่ยมกันได้ไง แต่เราจะไม่ยอมให้พวกมันเหิมเกริมจนชาวอาณานิคมทั้งหลายต้องเดือดร้อนกันอีกแล้ว" คาร์ทตันบอก "ก่อนที่ดาวแม่ของเราหรือจอมพลแฮซกริฟกับบาโธโรมิวและผู้นำของมันรู้เรื่อง เราต้องชิงลงมือก่อน เพื่อปกป้องกองยานบุกเบิกเขตอวกาศภาคกลางของเรากันให้จงได้" แล้วเฮฟฟอน แฮงโก้และยิปเซทตะโกนลั่น "โฮ่ว"
              สเปียริทส่ายหน้า "นายพลคาร์ทตัน ท่านตัดสินใจผิดมหันต์แล้วละ"

              "ตื้ดๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไรก็มีสัญญาณเตือนขึ้นมา "ยานเอสเวอไดซ์มาตรงหน้าเราแล้วคะ" โอเปเรเตอร์กล่าวแบบเสียงเรียบ เมื่อเห็นยานทรงเรือโจรสลัดสีทองปรากฎอยู่ตรงหน้า คาร์ทตันพยักหน้า
              "ทุกหน่วย เตรียมพร้อม รอคำสั่งจากฉันให้ลงมือได้ทันที" แล้วก็แจ้งให้ "เรเชียล เชื่อมการติดต่อ"
              "รับทราบคะ" เรเชียลทำการเชื่อมต่อข่ายสัญญาณจากยานรบ ซึ่งเผยภาพของชายไว้หนวดและเคราแหลมในชุดเสื้อโค้ทสีน้ำเงินมีรอยเปื้อนสีดำเข้มนั่งอยู่บนเก้าอี้
              "ไม่ได้เจอซะนานเลยน่ะ ผู้การ ไม่คิดเลยว่า ผู้การยังดื้อด้านและไม่เข็ดหลาบเสียเลยน่า" ชายคนนั้นทักทายขึ้นมา "ว่าแต่ งวดนี้ไม่เอากองยานมาถล่มพวกผมกันเลยหรือ"
              "นายไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันว่า ผู้การอีกต่อไปแล้วน่ะ วิชเฮสเลอร์ ที่อยู่ตรงหน้าฉัน คือโจรสลัดอวกาศ ผู้ทรยศต่อพวกเราและดาวแม่ ด้วยการยึดลูกเรือของฉันและชาวอาณานิคมทั้งหมดไปสวามิภักดิ์กับพวกมัน แล้วเนรเทศฉันกับพวกออกไปเช่นนี้ ซึ่งฉันจะมาจัดการกับนายและพวกแบบขั้นเด็ดขาดไปซะ" คาร์ทตันบอก
              ชายชุดดำนามวิชเฮสเลอร์บอก "ผู้การพูดแบบนี้มาสี่รอบแล้ว และผู้การก็เสียพวกพ้องไปให้กับผมกันด้วย เหตุที่เป็นเช่นนี้ มันเพราะผู้การเองต่างหากละ ที่โกหกกองรบทั้งสี่กองไว้"
              "พวกเทรอมเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะมาโต้แย้งหรือคัดค้านความต้องการของฉันไปได้หรอก ในสายตาของฉัน ใครไม่ทำตามคำสั่ง ฉันถือว่าเป็นพวกทรยศ เช่นเดียวกับนายเองแหละ" คาร์ทตันบอก
              วิชเฮสเลอร์บอก "ผมมิได้ทรยศ ท่านเองต่างหากที่ทรยศพวกเขา ด้วยคำหลอกลวงจนพวกเขาต้องมาอยู่ข้างผม อีกอย่าง ผมทำเพื่อปกป้องทุกชีวิตที่อยู่ในกำมือของผม และจักรวาลทั้งปวงกันด้วย"
              "สำหรับฉันแล้ว คำพูดของนายมันโกหกชัดๆ นายกำลังจะทำให้ชาวอาณานิคมพลอยเป็นเหมือนนายไม่ว่า นายยังจะทำให้ครอบครัวของฉันพลอยเป็นไปด้วย ซึ่งฉันอภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด" คาร์ทตันกล่าว "ครั้งนี้ ฉันจะจัดการกับนายลงแบบขั้นเด็ดขาดไปเลย"
              วิชเฮสเลอร์บอก "ดูเหมือนว่าท่านจะมั่นใจมากๆ เพราะท่านมี กองกำลังหัวหอกที่เก่งกาจถึงขั้น พิฆาตเทพทั้งสามลงได้เลยสิน่ะ แต่เกรงว่า ท่านพลาดอีกแล้วละ"
              "หมายความว่ายังไงกันละ" คาร์ทตันบอก
              วิชเฮสเลอร์กล่าว "หึๆๆๆๆๆๆๆ ต่อให้ท่านคิดจะปิดมิให้พวกไทรเวเซอร์รู้สิ่งที่ท่านทำอยู่ก็ตาม ท่านก็พลาดตรงที่ท่านเผลอพูดให้พวกเขาได้ยินจนได้นี้แหละ"
              "เป็นไปไม่ได้ ฉันสั่งเรเชียลปิดลำโพงเพื่อมิให้พวกเขารู้เรื่องกันไปแล้วน่ะ" คาร์ทตันอ้าง
              วิชเฮสเลอร์บอก "แย่หน่อยนะครับ ที่ท่านได้ไล่ลูกน้องแผนกวิจัยและค้นคว้าออกไปเมื่อรอบที่สาม จนทำให้ผมได้ตัวช่วยตัวสำคัญ ซึ่งทำให้ผมรู้จุดอ่อนของพวกผู้การไปแล้วน่ะ"
              "จุดอ่อนนะหรือ แกคงไม่ได้ให้ดัลเบนท์แอบเข้ามานะหรือ ทั้งๆที่ฉันใส่ระบบป้องกันมิให้พวกนั้นกลับเข้ามาเลยนิ" คาร์ทตันบอก
              วิชเฮสเลอร์กล่าว "ท่านผู้การประเมินความสามารถของลูกน้องเดิมของท่านต่ำไปแล้วน่ะ การที่ดัลเบนท์เคยอยู่ในยานของท่านมาตลอด 2 ครั้งนั้น ได้ทำให้เขารู้ถึงระบบภายในยานลำนี้ทั้งหมด และรู้ช่องทางหลบเลี่ยงการตรวจจับของระบบป้องกัน ซึ่งมาจากการที่หุ่นเอไอดรอยของท่านคุมอย่างอื่นที่ไม่ได้เป็นระบบป้องกันภัยเลยน่ะ"
              "แกพยายามจะสื่ออะไรมิทราบละ" คาร์ทตันกล่าว
              วิชเฮสเลอร์บอก "ท่านควรจะฟังลูกน้องของท่านเสียบ้างน่ะ จะได้ไม่ต้องพลาดแบบนี้เองแหละ" แล้วก็ "ปี้บ" กดปุ่มสีน้ำเงินบนพนักเก้าอี้ข้างซ้าย

              "อา อ่า อ่า อา....." เรเชียลร้องขึ้นสี่ที พร้อมกับส่วนหัวที่ช็อตอย่างจังๆ "วืออออออออ" ส่งผลให้ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบไฟฟ้าภายในทุกส่วนของยานดับวูบลง "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ" แต่ไฟฉุกเฉินสีน้ำเงินส่องสว่างพร้อมกับดวงตาของพวกไทรเวเซอร์เรืองแสงในที่มืด
              "มันเกิดอะไรขึ้นนิ เจ้าหน้าที่ รายงานมาสิ" คาร์ทตันโวยขึ้นมา
              แต่เจ้าหน้าที่ที่สลบอยู่ก็รู้สึกตัว และกล่าวไปว่า "เออ ฉะ ฉันอยู่ที่ไหนกันละคะ"
              "โฮ่ย พวกนาย เป็นอะไรไป ทำไมถึงล้มกันหมดเลยน่ะ" แฮงโก้บอก
              เมื่อเห็นนักบินล้มลง และลุกขึ้นยืนก่อนบอกว่า "นี้คุณเป็นใครกันน่ะ แล้วพวกเรา อยู่ไหนกันละเนี้ย"
              "มัวทำบ้าอะไรอยู่วะ รีบไปทำงานโดยเร็ว" เฮฟฟอนโวย เพราะลูกเรือเกิดความสับสนกันขึ้นมาแล้ว แต่มีอีกกลุ่มรีบวิ่งเข้าไปยังตู้เก็บอาวุธ "เฮ้ พวกแก ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้เอาอาวุธเลยน่ะ"
              ลูกเรือชายผมตั้งบอก "ไม่รู้หรอกน่ะ ว่าเรามานี้ได้ไง แต่ขออาวุธมาใช้เลยแล้วกันนะเฟ้ย ไอ้พวกทหารหน้าโง่" แล้วก็ "ป้าก" ลูกเรือสองคนพุ่งถีบใส่เฮฟฟอนจนล้มลง
              "วิชเฮสเลอร์ นี้แกทำอะไรกับเรเชียลและลูกเรือกันมิทราบละ" คาร์ทตันกล่าว แม้ไฟจะดับ แต่ตนก็เปิดระบบคอมพิวเตอร์สำรองเอาไว้
              วิชเฮสเลอร์ติดต่อไป "เกรงว่าคำถามนี้ ผมควรถามท่านมากกว่า ว่าท่านบ้ามากใช่มั้ย ที่ไปเอาพวกพลเรือนมาเป็นลูกเรือบนยานลำนี้ และใช้เรเชียลคอนโทรลพวกเขาให้อยู่ในคำสั่ง โดยไม่มีการไต่ถามหรือโต้แย้งกันเลยน่ะ"
              "โกหก ทีมลูกเรือจากกองรบที่ 18 และหน่วยฝูงบินยานฟลอบเทนจากกองรบที่ 15 นั้น ฉันให้เรเชียลพาพวกเขามาตามการนัดหมายแล้ว ไม่มีการไปพาผิดตัวหรอกน่ะ" คาร์ทตันบอก
              วิชเฮสเลอร์บอก "แต่หัวหน้าแผนกวิจัยกลับไม่คิดอย่างงั้นนะสิ เพราะเขารู้จักกับเพื่อนทหารในกองรบที่ 18 มาก่อน แต่พอมาเห็นกลุ่มลูกเรือที่นอกจากจะไม่ใช่พวกเดียวกับที่เขารู้จัก ซ้ำยังมีคนที่ดูแล้วไม่ใช่คนดีแฝงมาด้วย เขาเลยรวบรวมข้อมูลของทุกๆคนมาเพื่อหวังจะนำไปแจ้งให้ท่านทราบ ซึ่งนอกจากท่านจะไม่เชื่อแล้ว ท่านยังคาดโทษไล่เขาลงจากยานกลางคันด้วย จนเขาไม่มีทางเลือกนอกจากมาช่วยผมเปิดโปงเรื่องของท่านไว้นี้แหละ" แล้วก็บอก "ทั้งหมดมันเป็นความผิดของท่านเองน่ะ"
              "แฮงโก้ ยิปเซท เฮฟฟอน ตอบด้วย ตอบด้วยสิ เจ้าหน้าที่ รีบเชื่อมต่อการสื่อสาร....." คาร์ทตันกล่าว
              แต่เจ้าหน้าที่รีบลุกจากเก้าอี้ก่อนบอกว่า "พวกเรามาอยู่ในยานอวกาศได้ไง คุณช่วยบอกพวกเราได้มั้ยละ"
              "พวกเราควรจะอยู่ในบริษัทเครือริซฟอนเทนมิใช่หรือ แล้วพวกเราอยู่ในอวกาศได้ไง" เจ้าหน้าที่อีกคนบอก
              เจ้าหน้าที่ชายหัวร้อนโวยไปว่า "เราต้องการคำอธิบายเดียวนี้เลยน่ะ ไอ้บ้า แกพาเรามาทำไมกัน"
              "รู้สึกว่าข้างนอกจะวุ่นวายเอาเรื่องเลยนะคะ" ริดีน่าบอก เพราะได้ยินเสียงดังมาจากนอกห้อง
              คลอเวฟบอก "ตอนนี้สนามพลังเคลือบประตูหายไปแล้ว แม้ระบบพลังงานเหมือนจะเปิดอยู่เลยก็ตามน่ะ"

              "ครืดดดด" ไม่ทันไร ก็มีนักวิทยาศาสตร์ริมฟ่าซัลคาเลี่ยนหมวกสีดำ ผมสั้นสีแสดเดินเข้ามาพร้อมกับทหารชุดดำ "พวกคุณคงเป็นพวกไทรเวเซอร์เลยสิน่ะ" นักวิทยาศาสตร์กล่าว
              เนคมาดูซัมกล่าว "และคุณ คงจะเป็นดันเบนท์ หัวหน้าแผนกวิจัย ซึ่งทำงานให้กับนายพลคาร์ทตันเลยสิน่ะ"
              "คุณกับพวกคงจะได้ยินเรื่องที่ผู้การคาร์ทตันและรองผู้การวิชเฮสเลอร์พูดเลยสิครับ" ดัลเบนท์กล่าว "ตอนนี้ ที่นี้ไม่ปลอดภัย ดังนั้นผมพาพวกมาช่วยพวกคุณออกไปจากนี้โดยเร็วนะครับ"
              พีวิลบอก "ว่าแต่ คุณเคยเป็นเจ้าหน้าที่ในยานซัลคาล่ามาก่อนสิครับ"
              "ใช่ ผมทำงานอยู่ในแผนกค้นคว้าของกองรบที่ 18 มาก่อน โดยผมอาสาไปกับกองยานบุกเบิกเพื่อช่วยเหลือชาวอาณานิคมจากสิ่งที่พวกเขาพบเจอแต่ไม่คุ้นเคยกันนะครับ" ดัลเบนท์บอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "พอดีเลยครับ พวกเรามีหนังสือจากจอมพลแฮซกริฟมอบให้ หากพบตัวเจ้าหน้าที่ที่มาจากกองยานบุกเบิกด้วยนะครับ"
              "จอมพลแฮซกริฟนะหรือ เยี่ยม ผมคิดว่ากองกำลังหัวหอกจะไม่รู้จักกับท่านจอมพลเสียอีกนะ" ดัลเบนท์บอกอย่างวางใจ และถามขึ้นมา "แล้วหนังสือละครับ"
              แอนเดรียพยักหน้า "นี้ไงละคะ" แล้วก็หยิบมือถือมา "เปรี้ยงงงง" สาดแสงจ้าใส่ดัลเบนท์กับพวกให้ชะงัก "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ" เปิดช่องให้คลอเวฟและพวกรุมสกัมพวกดัลเบนท์ในทันที

              "คุณไม่ทำอะไรสักอย่างเลยหรือครับ" ลูกเรือแผนกครัวกล่าวกับพอเทนด้า เพราะมีลูกเรือคนหนึ่งหยิบมีดยาวที่อยู่ในครัวออกมาขู่ทุกๆคนในโรงอาหารกันไม่ว่า ยังจับตัวประกันเอาไว้ด้วย
              "พวกแก พวกแก บอกให้กัปตันยานขอยานเล็กมาเดียวนี้ ไม่งั้น อีนี้คอขาด..."
              "พอแค่นั้นแหละคะ นี้เจ้าหน้าที่ไทรเวเซอร์ กรุณาปล่อยตัวประกันและวางอาวุธเถอะคะ" แอนเดรียตะโกน และเดินเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกับปืนริมฟ็อกซ์ในมือ
              "แก ไอ้กองกำลังโคตรเทพ ถ้าแกคิดจะมาจับกูไปละก็ อย่าหวังเลย เพราะกูไม่กลับไปที่ดัลทาลิฟกันหรอก" ลูกเรือบ้าคลั้งกล่าว "ถ้าแกไม่อยากให้อีนี้คอขาดละก็ วางปืนลงซะ"
              "ถึงฉันวาง คุณก็หาเรื่องเชือดเธอ เหมือนกับที่คุณ ฆ่าคนจากดาวอื่นไป 4 ดวง ฆ่าตำรวจอวกาศไป 10 นายด้วยการหลบอยู่ในโกดัง และหลบหนีการจับกุมจาก 5 ระบบดาวกันอยู่ดี ทางที่ดี คุณอย่าทำอะไรไปมากกว่านี้ดีกว่า" แอนเดรียเกลี้ยกล่อมโดยที่ยังถือปืนอยู่
              แต่คนร้ายกลับโวยลั่นขึ้นมา "กูไม่ปล่อยหรอก จนกว่า กูจะได้แก้แค้นให้กับผู้การคัลแดนซ์ที่พวกแกฆ่าทิ้งกัน ด้วยการไปฆ่าประธานาธิบดีของแก โทษฐานใส่ความผู้การว่าเป็นผู้ทรยศและทำลายอนาคตของฉันลง ซึ่งฉัน จะทำลายชีวิตของอีนี้ไปก่อน"
              "คุณไม่มีทางทำลายใครได้หรอกคะ" แอนเดรียบอก
              ไม่ทันไรก็ "อะๆๆๆๆ อ้า อ้ากกกก เจ็บ ข้อมือกู หัวกู นี้แก แกทำอะไรกับกูกัน" คนร้ายกล่าวด้วยความเจ็บปวด เพราะตนถูกจิลใช้พลังจิตบีบข้อมือจนมีดยาวร่วงลงพื้น "ฟึ่บบบ หวับบบ ป้ากกก" เปิดช่องให้แอนเดรียใช้ฝ่ามือฟาดเข้าที่ไหปลาร้าขวาในจังหวะที่มันปล่อยตัวประกันไปแล้ว จากนั้นก็ "ฟึ่บบ แว้งงง แกร็กๆๆๆ" ใช้วงแหวนล็อกตัวคนร้ายตรงเท้า ต้นขา ลำตัว รวมถึงคอด้วย
               "พวกคุณปลอดภัยนะคะ" แอนเดรียบอก
              "นี้ตกลงเธอเป็นทหารหรือตำรวจกันแน่ ถึงได้พูดเหมือนถูกฝึกมาน่ะ" พอเทนด้าถาม
              แอนเดรียกล่าว "ฉันแค่ต้องช่วยตัวประกันไว้เท่านั้นเอง แม้พวกเราจะรู้ตัวคนร้ายนี้มาก่อนเลยนะคะ"
              "จ่าสิบเอกโยฮาน ซานดีเก้ นายทหารฝ่ายกฎหมายจากกองรบที่ 4 ของพันธมิตรมนุษย์ เป็นนายทหารที่ทำผลงานได้ดีและมีอนาคตสดใส จากการส่งเสริมของผู้การคัลแดนซ์ โดยเขาจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนายร้อยกันอยู่แล้ว แต่ ด้วยเหตุที่ผู้การคัลแดนซ์กลายเป็นคนทรยศไปนั้น ได้ทำลายอนาคตของจ่าสิบเอกโยฮาน จนเขาทำเรื่องฟ้องร้อง แต่ถูกตีกลับจนเบื้องบนต้องสั่งปลดเขาไปประจำการอยู่ดาวอื่น" จิลกล่าวโดยมองดูประวัติจากมือถือ หลังจากที่สแกนนิ้วมือมาแล้ว "หลังจากนั้น เขาก็ติดยากระตุ้น ยาเสพติด ยาแก้ปวด และดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง 3 ขวดทุกวัน เบื้องบนสั่งให้เขาไปรับการบำบัดมาหลายครั้ง แต่เขาไปไม่แถมยังหลบหนีพร้อมกับสภาพจิตแปรปรวนถึงขั้นคลุ้มคลั้ง กล่าวโทษพวกเราว่าเป็นตัวการทำลายอนาคตของเขา และพยายามหลบหนีและหาทางตรงมาที่แคสเซเดียน-3 โดยมีหมายแจ้งจากกรมตำรวจอวกาศส่งมาเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วน่ะ"
              พอเทนด้าบอก "คัลแดนซ์ ทิลเทอแรน 1 ใน 10 พี่น้องทิลเทอแรน ทรยศนะหรือ มันหมายความว่ายังไงน่ะ"
              "เรื่องที่เกิดนั้น เกรงว่ามันจะยาวและซับซ้อนมากเลยนะคะ" แอนเดรียบอก
              ไม่ทันไรก็ "แต่ดูเหมือนว่าเธอกับยัยตัวเปี้ยกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกแก ทำกับท่านนายพลวอลเลนซ์ไว้น่ะ" ลูกเรือในแผนกคลังเสบียงกลุ่มหนึ่งมาพร้อมกับอาวุธปืนในมือ แอนเดรียและจิลเลยต้องยกมือขึ้น
              "พวกคุณควรจะยอมรับได้แล้วนะคะ ว่านายพลวอลเลนซ์กับเสนาธิการวอลเดน ทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยได้นะคะ" แอนเดรียบอก
              ลูกเรือชายหัวเกรียนถือปืนตะคอกใส่ "สิ่งที่ท่านนายพลวอลเลนซ์ทำนั้นมันถูกแล้วละ เพราะว่าพวกเราไม่มีทางสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนกันได้ แต่การยอมจำนนต่อพวกมัน เพื่อที่จะเด็ดหัวมหาจักรพรรดิ์ลงไปนั้น คือทางเดียวที่เราจะสามารถกำชัยชนะและทำให้ท่านวอลเดนกลายเป็นวีรบุรุษกอบกู้ มากกว่าพวกกองกำลังหัวหอกที่มาขวางแผนการของพวกเราน่ะ"
              "ด้วยการหักหลังชาวซัลคาเลี่ยนและเหล่าแมนิเกเตอร์จนพวกเขาล้มตายไปไม่น้อย เหมือนที่ตาแก่นั้นร่วมมือกับเฮซเทิร์ซนะหรือ ถึงทำเช่นนั้น มันไม่สามารถลบความเป็นคนทรยศออกไปได้หรอกน่ะ" จิลบอก
              ลูกเรือกล่าว "พวกเราจะไม่ลงเอยแบบเดียวกันกับหัวหน้าโฟมเมคได้หรอก เพราะเราจะกลับไปที่เกาะเอฟซีตรอน เพื่อแก้แค้นให้ท่านนายพลนี้แหละ เตรียมตัวตายได้แล้ว...."
              "อ้านนนนน ป้ากๆๆๆๆ โครมมมม" ไม่ทันไร วีเซ่พุ่งเข้ามากระแทกอัดพวกลูกเรือที่เป็นทหารของวอลเลนซ์เข้ากับกำแพง ส่วนตัวจ่าฝูงนั้น
              "ไอ้ตาดำ นี้แกมาด้วยนะ...." เห็นเดรมเกอร์กระโจนเข้ามา "ปั้กๆๆๆๆ เปรี้ยงงง" รั่วถีบใส่กลางหลังอย่างต่อเนื่องแล้วก็หมุนตัวเตะก้านคอจนล้ม "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นจิลก็ใช้ไซโคบิทพุ่งขึ้นและลงมาตรึงตัวนายทหารของวอลเลนซ์เข้ากับพื้นโดยเร็ว
              "ปลอดภัยดีนะครับ คุณจิล คุณแอนเดรีย" เดรมเกอร์กล่าว
              "เราไม่เป็นไรหรอกน่ะ ดีที่พวกเธอมาทีหลังเลยน่ะ" แอนเดรียบอก และส่งวงแหวนให้วีเซ่ล็อกตัวคนร้ายไว้ "คุณพอจะช่วยพาพวกลูกเรือไปห้องนิรภัยก่อนได้มั้ยละคะ"
              พอเทนด้ากล่าว "ได้อยู่แล้ว เออ พวกเธอ ฉันขอให้พวกเธอตามฉันมาดีๆละ"

              "ไอ้พวกบ้า ต่อให้พวกแกมีปืน ก็ใช่ว่าพวกแกจะใช้ได้น่ะ" เฮฟฟอนบอก เพราะเขากับลูกเรือส่วนมาก โดนพวกลูกเรือยึดอาวุธปืนมาได้
              "งั้นแกก็ปลดล็อกให้เดียวนี้ หรือจะให้มีใครคนรายต้องตายน่ะ" ลูกเรือชายคางยาวโวยลั่นโดยมีปืนยาวในมือ
              "รีบวางอาวุธลงซะ" เนคมาดูซัมกล่าวโดยมากับลิเนียร์ตี้ ซึ่งชักปืนออกมา
              "ไอ้พวกไทรเวเซอร์ เพราะพวกแก ลูกพี่ริดโอแบทต้องตาย และพวกเราต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนมาตลอด 1 ปี แถมยังโดนพวกกรีเดี้ยนโร็คเยาะเย้ยเช่นนี้ พวกเราจะจัดการกับพวกแกก่อน"
              "ปืนของพวกคุณโดนล็อคอยู่ พวกคุณใช้มันไม่ได้หรอกคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว ลูกเรือกลุ่มริดโอเดิมคนหนึ่งเลย "ฟึ่บบบบ" หยิบปืนสั้นที่พกไว้ออกมา
              "ปืนทหารอาจจะยิงไม่ได้ แต่มิใช่กับปืนของเราได้หรอกน่ะ" ตัวหัวหน้าบอก "เอาละ พวกแก ทิ้งปืนเดียวนี้ หรือไม่ก็ ส่งมันมาให้เราซะ"
              "ไม่ต้องฟังมัน รีบยิงแม่มเดียวนี้เลย" เฮฟฟอนโวย
              เนคมาดูซัมเลยลดอาวุธลง และหันมายังลิเนียร์ตี้ "ฟึ่บ หวับๆ กึกๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก้มลงและวางเดริงเจอร์แมกนั่ม พร้อมกับโยนให้ไถลกับพื้น จนลูกน้องทั้งสองรีบวิ่งมาหยิบไว้ "สุดท้าย พวกเราก็ได้ปืนเทพของพวกแกมาใช้แล้ว ดังนั้น...." หัวหน้าบอก โดยลูกน้องที่มีเดริงเจอร์แมกนั่ม หันปืนมายังลูกเรือที่เหลือ ".....แกช่วยให้เราสังเวยผู้บริสุทธิ์ให้แล้ววะ ไอ้โง่"
              "ถ้านายเหนี่ยวไกมา นายจะต้องเสียใจเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              ลูกน้องทั้งสองเลย "แกร็กๆ ปุ๊กๆ" เหนี่ยวไก แต่ปืนกลับส่งเสียงออกมาและ "อ้ากกกกกก ขะๆๆๆๆ ข้อมือ เจ็บ" ลูกน้องคนหนึ่งโวยลั่นตรงข้อมือจนปืนหล่น อีกรายนั้น "พะๆๆๆ พวกแก พวกแกทำอะไรกับปืนกันแน่ละเนี้ย แขนถึงเจ็บได้น่ะ" เจ็บตรงแขนท่อนล่าง จนลูกน้องที่เหลือรีบเอาปืนมาเพื่อยิงใส่ "แกร็กๆๆๆๆ ปุ๊กๆๆๆๆ เจี้ยกกกก อ้ากกกก ว้ากกกก จ้ากกกกก กรี้ดดดด โอ้ววววว" ซึ่งก็ลงไปพร้อมกับข้อมือเจ็บ จนหัวหน้าเห็นเลยรีบวิ่งไปหยิบปืน "ตึงๆๆๆๆ หวับบบ ป้ากกก" เนคมาดูซัมวิ่งเข้ามาใช้พานท้ายปืนซีคเก้ไรเฟิ่ลกระแทกเข้าที่หน้าผากหัวหน้าไปเต็มๆ จนมันล้มลง "ตรึงงง แกร็กๆ" จากนั้นเนคมาดูซัมเหยียบบนหน้าอกและจ่อปืนลงมา
              "มันเกิดอะไรกันขึ้นละ ทำไมพวกมันถึงเจ็บหลังเหนี่ยวไกออกละ" เฮฟฟอนบอก และพยายามหยิบปืนเดริงเจอร์มา ซึ่งก็เปิดเพื่อเอาแมกกาซีนออก "เอ้ย นี้ปืนไม่มีลูกเลยหรือ"
              ลิเนียร์ตี้หยิบปืนเดริงเจอร์อีกกระบอกขึ้นมา "เดริงเจอร์แมกนั่มนั้น ต่อให้ไม่ใส่กระสุน แรงถีบของปืนที่ส่งกระสุนสองนัดออกจากลำกล้องคู่พร้อมกันนั้น มากพอที่จะทำความเสียหายให้กับเส้นเอ็นและข้อต่อกระดูกได้ ไม่ว่าแมนิเกเตอร์จะมีกระดูกเหล็กเลยก็ตามนะคะ" แล้วก็หยิบปืนที่อยู่ในมือของเฮฟฟอนมา จากนั้นก็ช่วยเนคมาดูซัมล็อกตัวนักโทษต่อ
              "ดีที่เธอกับเนคเกอร์ไม่บรรจุกระสุนไว้ อีกอย่าง ถึงเธอตายด้วยปืนของเธอเอง รีเบิร์ทมาเธอร์ก็ไม่ฟื้นคืนชีพให้หรอกน่ะ" เฮฟฟอนบอก
              เนคมาดูซัมบอก "ถ้าเราบอกว่า เหตุผลที่รีเบิร์ทมาเธอร์ไม่อยู่นั้น เพราะมารดรเทพสั่งมานั้นล่ะ"
              "แกพยายามจะพูดอะไรกันมิทราบละ" เฮฟฟอนถาม
              ลิเนียร์ตี้บอก "คุณสมควรจะได้รับรู้ไว้นะคะ" แล้วก็เล่าเรื่องรีเบิร์ทมาเธอร์ให้ฟัง จน.... "เธอบอกว่า ฟรีทเทรเซียกับพวกสโทรเพธของหล่อน นำรีเบิร์ทมาเธอร์ไปชุบชีวิตพวกสโทรเพธที่เข้ารบในมหาสงคราม จนพวกเธอสิ้นชีพไปหมดเลยหรือ แล้วเดรทิสซ่ากับมอร์ทิสซ่าล่ะ"
              "เดรทิสซ่าสิ้นชีพไปพร้อมกับพี่น้องของเธอแล้ว ส่วนมอร์ทิสซ่า เธอเหลือพลังหน่วยสุดท้าย เพื่อชุบชีวิตลิเนียร์ตี้ ที่ถูกไซมาเทนฆ่าจนร่างแหลกไปแล้วนะสิ" เนคมาดูซัมบอก
              ลิเนียร์ตี้บอก "คุณแม่มอร์ทิสซ่าเคยเล่าเรื่องคุณและคุณเดรทิสซ่าไว้แล้ว ว่าคุณ ไม่เคยสำนึกในบุญคุณหรือกลับมาช่วยเธอในยามที่เธอตกที่นั่งลำบาก จนเธอสิ้นชีพลงไปไม่ว่า คุณยังมาพูดในเชิงเห็นแก่ตัวและเห็นพวกคุณเดรทิสซ่าเป็นเครื่องมือให้คุณมีชีวิตกลับมาหลายครั้งเช่นนี้ มันแทบจะทำให้ฉันโกรธมากเลยน่ะคะ"
              "แล้วเธอคงไม่คิดจะเอาคืนฉันที่เกือบตายงั้นสิ" เฮฟฟอนบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "คุณตกที่นั่งลำบากและเกือบถูกลูกน้องริดโอจ่อปืนยิงไป ก็เหมือนคุณรู้สึกเหมือนกับคุณเดรทิสซ่าแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องซ้ำเติมคุณกันหรอกคะ ไอ้คุณพี่ชาย"
              "แต่ตอนนี้ คุณควรจะพาลูกเรือไปที่ห้องนิรภัยกันก่อนเถอะ หัวหน้า" เนคมาดูซัมบอก
              ไม่ทันไรก็ "ป้ากกก โครมมมม เปรี้ยงงง โครมมมม ป้ากกก ป้ากกก ป้ากกก" เสียงดังมาจากแผนกคลังแสง "ฟึ่บ ปังๆๆๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมหันปืนมายิงใส่ทหารชุดดำเข้าที่ขาจนล้มไปส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ "หวับๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆๆ" โดนลิเนียร์ตี้ใช้สลัคเกอร์ซัดอัดให้ล้มตาม "ยังมีอะไรที่นอกเหนือจากการเลียนแบบท่าซัดบูมเมอแรงแบบคิวตี้ฮัลลี่กันละ" เฮฟฟอนถามกลับ

              "ปลอดภัยดีนะครับ หัวหน้าแฮงโก้" พีวิลกล่าว หลังจากที่เขา สเปียริท เรจเจ และเดรเชลเข้าต่อกรกับทหารโจรสลัดของวิชเฮสเลอร์จนน็อกหมด
              แฮงโก้บอก "ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกนาย ฉันก็เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว" จากนั้นก็หันมาสั่งพวกนักบิน "มั่วทำอะไรอยู่ รีบขึ้นยานและรีบไปสู้กับพวกศัตรูเดียวนี้เลย"
              "คุณไปสู้เองเถอะคะ เพราะว่าพวกเราเป็นนักบินอากาศยานพาณิชย์นะคะ มิใช่นักบินขับไล่กันน่ะ" นักบินหญิงกล่าว
              นักบินหญิงผิวเข้มบอก "พวกเราสมัครงานมาเป็นแอร์โฮสเตสกันด้วย แต่คุณพาพวกเรามาอยู่ในที่แบบนี้ มันหมายความว่าไงคะ"
              "ฉันไม่รู้นะว่าพวกเธอจะพูดยังไง แต่นี้เป็นคำสั่ง...." แฮงโก้บอก
              สเปียริทกล่าว "....ฉันไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไม ลุงเบติสถึงไม่อนุมัติให้คุณออกแนวหน้า แต่ให้ไปอยู่แนวหลัง ก็เพราะว่าคุณชอบสั่งให้ผู้อื่นทำตามโดยไม่ฟังคนอื่นก่อนน่ะ"
              "ลุงเบติสนะหรือ โกหกน่า มังกรร้อนเย็นร็อดดิเกรสตายไปพร้อมกับเหยี่ยวสาวเฟรมิเดรก้ากันนิ พวกแกไม่มีทางอ้างชื่อยอดฮีโร่ทั้งสองได้หรอก" แฮงโก้อ้าง
              พีวิลกล่าว "พวกเราไม่ได้อ้างหรอก แต่พวกเรา ร่วมรบพร้อมกับยอดฮีโร่ทั้งสองที่คุณพูดถึงกันในช่วงมหาสงครามกับแรซัลก้า แล้วก็เดลอาเนี่ยนกันด้วย" แล้วก็บอก "อีกอย่าง ผมเองก็เคยตายไปแล้วทีหนึ่ง จะกล้าโกหกได้ไงกันละ"
              ".........." แฮงโก้ได้ฟังก็ถึงกับนิ่ง ก่อนถามไปว่า "แล้วป้าเฟรมิเดรก้าก็อยู่ด้วยนะหรือ"
              สเปียริทพยักหน้า "ป้าฝากเรามาบอกด้วยน่ะ ว่านาย ไม่ควรจะเป็นจ่าฝูงคุมทีมสกรีแทนทั้งมาร์ควันและมาร์คทูเสียด้วยซ้ำ อย่างมาก แค่ให้เป็นนักบินผู้ช่วยก็พอแล้ว เพราะ คะแนนด้านมนุษยสัมพันธ์นั้น ป้ายังให้เอฟเหมือนเคย"
              "รู้งี้ตอนอยู่โรงเรียนทหาร น่าจะอยู่คลาสของอาจารย์ท่านอื่นจะดีกว่าน่ะ" แฮงโก้บอก "หวังว่าคงไม่มีอะไรที่นอกเหนือจากนี้กันอีกน่ะ"
              สเปียริทบอก "นั้นขึ้นกับว่า หัวหน้าอยากสู่รู้มากแค่ไหนละคะ"

              "พวกนี้แทบไม่ครานามือเลยนะ คุณเจเนล" ดรันนิคบอก หลังจากที่ช่วยเจเนล จายด์และดีแนคจัดการกับเหล่าสมุนของวิชเฮสเลอร์ที่แฝงตัวเข้ามา
              เจเนลบอก "นั้นบ่งบอกได้ว่า ไอ้ดัลเบนท์มันหาที่ซ่อนในยานในจุดที่เรเชียลมองไม่ออก หรือยิปเซทมองข้ามไปเสียสนิท โดยหลบซ่อนอยู่ในยานนี้ในช่วงที่อยู่ในเขตอวกาศภาคกลางแน่นอน"
              "ถึงฉันจะมองข้าม แต่ฉันยังคิดว่าพวกนายคงมานี้เพื่อมาจัดการกับฉันเลยละสิ" ยิปเซทบอก โดยที่ตนกับทีมช่าง ซึ่งได้สติกลับมานั้น ได้โผล่ออกจากกำบังแล้ว "ว่าแต่ นอกจากซัลวาสนิ นายจัดการกับใครไปแล้วบ้างละ"
              เจเนลเลยตอบไปว่า "เนลโดส เมฟิสต้า ฟรีทเทรเซีย ที่ว่ามานั้น เดี้ยงคามือพวกเราไปแล้วนะสิ"
              "แล้วนายยังเก็บใครไว้บ้างละ" ยิปเซทถาม
              เจเนลตอบ "ทาลดีสกับพวกสโทรเพธที่เหลือ ยังอยู่ หากแต่อยู่ในความดูแลของป้ารัคชูมี่ อ้อ ซาบัลท์และซาเบล่ากับหน่วยห้าสี่ของพวกเขา ก็ด้วยนะสิ"
              "ให้ตายสิ นายน่าจะปล่อยให้สองตัวเห้กับสมุนทั้งหลายโดนพวกสมาพันธ์อวกาศถล่มกันเลยน่า" ยิปเซทได้ฟังถึงกับสบถ
              จายด์กล่าว "แต่ตอนนี้ คุณควรจะคุมพวกลูกเรือบางพวกกันก่อนนะ เพราะมีส่วนหนึ่งหนีไปแล้วน่ะ" โดยเห็นลูกเรือจำนวน 6 รายวิ่งหนีออกจากกลุ่มกัน "อ้านนนน" ดีแนคพุ่งแซงมาดักหน้า พอพวกเขารีบหนีก็เจอดรันนิคกระโดดขวางไว้อีก
              "ไหนดูสิ โอ้ว แก็งค์ลิมบีสกินพาร์ค ไอ้พวกแว้นซิ่งยานอวกาศ มีชื่อเสียงจากการแว้นจากโคโลนี่นอกแรซัลก้าจนก่อกวนยานขนส่งไปหลายสิบครั้ง ขนาดอยู่แคสเซเดี่ยน-3 ก็ยังไม่เข็ดหราบสิน่ะ" เจเนลกล่าว โดยจำหน้าพวกลูกเรือตัวแสบเหล่านั้นได้
              จายด์บอก "สงสัยว่าพวกเธอคงต้องไปอยู่ในห้องขังรวมแล้วละมั่ง"

              "ตี้ดๆๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณติดต่อสื่อสารดังขึ้นมา พีวิล เนคมาดูซัมและเจเนลรับสาย
              "มาส ตอนนี้นายกับพลัสเชอริทอยู่ที่ห้องคอมใช่มั้ยละ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์ตอบ "ต้องขอบใจเครื่องสื่อสารของหัวหน้าแผนกวิจัยด้วย ที่ช่วยหลอกให้พวกทหารฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ข้างในให้พาเราเข้ามา ซึ่งเราจัดการกับพวกเขากันหมดแล้วน่ะ" โดยตอนนี้ตน พลัสเชอริท กลาสแทค เคลเบีย ริดีน่า และฮีเรมิลอยู่ในห้อง ส่วนพวกทหารนั้นโดนเล่นงานจนสลบและถูกมัดด้วยวงแหวนเหล็กกันหมดแล้ว
              "สิบเอก แล้วฝั่งคุณละ" พีวิลถาม
              แอบไบออสบอก "ดูท่าว่า หมอเฮเดรียนจะรับมือกับพวกศัตรูกันได้แล้วนะสิ" เพราะเขาเห็นเฮเดรียนมีปืนยิงกระสุนไฟฟ้า เล่นงานพวกทหารโจรสลัดสีดำจนล้มหมด "ตอนนี้ เราจะทำไงกับพวกลูกเรือทั้งหลายดีละ"
              "พาพวกเขาไปอยู่ในห้องนิรภัยโดยด่วน ส่วนหัวหน้าลูกเรือนั้น เราขอให้พวกเขาช่วยคุม แม้บางรายอาจจะใช้กำลังทำร้ายลูกเรือเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              เฮฟฟอนบอก "ว่าแต่ พวกนายติดต่อด้วยกันเอง แล้วต่อสายไปหาท่านนายพลได้หรือเปล่าละ"
              "นั้นแหละ ปัญหาละ การสื่อสารภายในสะพานเดินเรือถูกตัดขาดจากกัน ซึ่งฉันพยายามจะเชื่อมต่อระบบกันอยู่น่ะ" พลัสเชอริทบอก โดยที่เขาคีย์ข้อมูลบนโฮโลแกรมคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว
              เนคมาดูซัมบอก "ฉันจะส่งลิเนียร์ตี้ไปช่วยนายแล้วกันนะ มาส"
              "เดียวฉันจะไปสมทบด้วยนะคะ" แอนเดรียบอก
              ไม่ทันไรก็ "ครืนนนนนน" ภายในยานเกิดสั่นขึ้นมา จนเกือบทำให้ทุกๆคนสะดุดล้มเข้า พลัสเชอริทกล่าว "แย่ละ ท่านนายพลคุมพวงมาลัยและระบบขับเคลื่อน นำยานพุ่งตรงไปแล้วน่ะ"
              "ถึงนายจะช่วยพวกเราได้ แต่คงจะหยุดท่านนายพลไม่ให้ไปจัดการกับไอ้วิชเฮสเลอร์ได้หรอก เพราะท่านจะนำยานชนกับยานของมัน แล้วบุกเข้าไปรุกฆาตให้จบเรื่องเลยน่ะ" แฮงโก้กล่าว
              สเปียริทได้ฟังก็โกรธจัดมาก พีวิลบอก "คลอเวฟ นายกับพวกไปถึงสะพานเดินเรือหรือยังละ"
              "เกรงว่าไอ้สมุนของวิชเฮสเลอร์ที่แฝงตัวอยู่ในยานนั้น มันขวางทางกันอยู่น่ะ" คลอเวฟติดต่อมา โดยที่ตน มาเทอุสและดรากูลิคหลบตรงมุมทางเดินหมายเลข 4 อยู่
              เนคมาดูซัมบอก "เจเนล จายด์ พีวิล สเปียริท แอบไบออส ตามฉันไปช่วยพวกคลอเวฟโดยด่วน แอนเดรีย ลิเนียร์ตี้ จิล ตรงไปช่วยมาสวาร์ทาร์ในห้องคอมเดียวนี้เลย"

              "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆๆ" ทหารโจรสลัดระดมยิงปืนกลและปืนยาวเลเซอร์ใส่พวกคลอเวฟกันอย่างหนักหน่วง ขนาดดรากูลิคพยายามยื่นหน้ามา คลอเวฟเลยจับหัวกลับเข้ามาโดยเร็ว "โฮ่ย พวกโจรเหล่านี้กะไม่ให้เราออกไปเลยหรือ" ดรากูลิคบอก
              มาเทอุสกล่าว "ถ้าฉันยิงเลเซอร์ได้ละก็น่า...." แล้วก็หันมาถาม "คุณคลอเวฟ พอจะทำน้ำตกถล่มใส่พวกนี้ได้มั้ยละ"
              "ไม่ได้หรอก เพราะตำแหน่งเหนือหัวพวกมัน ไม่มีท่อน้ำอยู่ หากแต่เวลาไฟไหม้ ระบบดับเพลิงจะปล่อยสารดับไฟลงมาเอง" คลอเวฟกล่าว "อีกอย่าง ทางเดินตรงนี้ ต่อให้ใช้ระเบิดได้ แต่แรงระเบิดจะเป่ายานให้เป็นรู จนสภาวะสูญญากาศสูบทุกคนออกจากยานได้น่ะ"
              ดรากูลิคบอก "แถมฝ่ายตรงข้ามยิงรั่วไม่ยั้งเช่นนี้ คงไม่ยอมให้เราทำซ่าอะไรได้เลยน่ะ"
              "กระหน่ำยิงเข้าไป เราจะยอมให้พวกนั้นบุกเข้าไปช่วยไอ้นายพลเควลเฮงซวยไม่ได้เด็ดขาด" จ่าฝูงบอกกับเหล่าทหารโจรสลัดดำให้รีบกราดยิงใส่โดยเร็ว "รับทรา..." ทหารนายหนึ่งกล่าวและเตรียมปืนกล "แฟ้วววว ป้ากกกก" พีวิลพุ่งเข้าต่อยใส่ทหารนายนั้นจนล้มและปืนบุบหักคาหมัดอย่างจังๆ
              "ไอ้มือโตพีวิล พวกเรา รีบยิงมันก่อน" จ่าฝูงรีบสั่ง แต่ "แว้งงงงง" ตนถูกวงเวทย์ตรึงเอาไว้ เปิดช่องให้คลอเวฟ มาเทอุสและดรากูลิคโผล่มา "อ้านนน ป้ากกก" มาเทอุสพุ่งอัดใส่ทหารที่หันมาและใช้โลห์กระแทกให้ล้ม "ฟ้าวววว เปรี้ยงงงง" ดรากูลิคกระโจนเข้าถีบใส่ทหารอีกรายก่อนที่มันจะเหนี่ยวไกยิงปืนเลเซอร์ "เฮ้ยยยย" คลอเวฟกระโจนเข้า "ป้ากกกก" ใช้วอร์ชิฟดรอปถีบใส่จ่าฝูงที่ถูกตรึงจนล้มลง ส่วนพวกทหารที่เหลือนั้น "แกร็กๆๆๆๆๆ" รีบวางปืนยาวลงเพราะเห็นเจเนล จายด์และแอบไบออสโผล่มาพร้อมกับสเปียริท ซึ่งกำมือลง
              "รู้อะไรมั้ย ว่าพวกนายคงไม่ได้กลับไปรายงานต่อหัวหน้าใหญ่ของนายแล้วละ" เจเนลกล่าว โดยที่เขาจัดการช็อตพวกทหารโจรสลัดที่เหลือลง
              สเปียริทบอก "แม้ว่านายเกือบทำให้ฉันมือหักเพราะนายโดดถีบเลยก็ตามน่ะ" แล้วก็ใช้มือถือ "เอท วัน ทรี ซีโร่ ซีโร่ ไนน์" ส่องไปที่แผงปุ่มลิพท์ที่เป็นสีแดง "ปี้บๆๆๆๆ กรี้ง" เพื่อเปิดระบบลิพท์ให้ทำงานในทันที
              "ปานนี้ ลูกน้องของฉันที่แฝงตัวอยู่ในยานของนายคงจะเล่นงานลูกน้องของท่านผู้การไปหมดแล้ว ดังนั้น...." วิชเฮสเลอร์บอก โดยต้นหน "ครืนนนนนนน" นำยานพุ่งเคลื่อนนำไป "ถึงเวลาที่ท่านจะต้องยอมรับในความจริงกันเสียที ว่าท่านไม่มีทางเอาชนะผมกับพวกได้หรอก"
              คาร์ทตันได้ฟังเช่นนั้นก็.... "ฟึ่บบบ" หยิบกุญแจออกมา "ครี้ก แกร็ก ปี้บๆๆๆ" เสียบเข้าช่องและบิดเพื่อเปิดระบบควบคุมสำรอง "แกสิ ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เพราะฉันจะจัดการกับแกก่อน" จากนั้นพวงมาลัยก็เปิดออก พร้อมกับคันเร่งโผล่จากแผงบังคับของตนเอง "ครืนนนนนน" จากนั้นก็นำเอลอาควิทีเรียเคลื่อนตาม
              "แย่แล้วละ นายพลคาร์ทตันเปิดระบบขับเคลื่อนสำรองจากแผงควบคุมของเขา นำยานตรงดิ่งไปชนฝ่ายตรงข้ามแล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              สเปียริทบอก "พอจะโอเวอร์ไรด์ระบบได้มั้ยละ"
              "นายพลคาร์ทตันใช้ระบบฉุกเฉินพิเศษ ซึ่งเราไม่สามารถโอเวอร์ไรด์ระบบควบคุมของเขาได้" พลัสเชอริทบอก
              แอนเดรียกล่าว "แต่เราสามารถควบคุมระบบส่วนมากของยานลำนี้ได้ เพราะคุณเรเชียลไม่อยู่ในสภาพที่ควบคุมยานได้นะคะ"
              "เจเนล จายด์ พาลูกทีมหนึ่งราย ตรงไปส่วนควบคุมพลาสม่าเรลกันฝั่งซ้ายและขวา แล้วส่งอีกสองไปช่วยฉันและแอบไบออส ตรงไปที่ส่วนควบคุมปืนหลักและรอง โดยด่วนเลย" เนคมาดูซัมบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "ตอนนี้ฉันโปรเทคระบบฉุกเฉินของนายพลคาร์ทตันไว้ แต่พวกนายควรจะไปให้เร็วก่อนที่นายพลคาร์ทตันจะนำยานในระยะห่างน้อยกว่า 3 เมตรน่ะ"

              "นี้คุณบ้าไปแล้วหรือ คุณจะนำยานชนยานของฝ่ายตรงข้ามเลยหรือ" เจ้าหน้าที่ลูกเรือโวย
              จนคาร์ทตันจ่อปืนมา "กลับไปนั่งที่ซะ เจ้าหน้าที่ หาไม่ฉันจะสั่งลงโทษเธอกับพวก ฐานฝ่าฝืนขัดคำ...."
            "โฟร์ เซเว่น ทู ไฟว์ วัน ซีโร่" ไม่ทันไรก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก
              "เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน" คาร์ทตันกล่าวเพราะได้ยินเสียงขัดจังหวะ จน "แกร็กๆๆๆๆ" พนักเก้าอี้ล็อกตัวคาร์ทตันเอาไว้
              "ระบบป้องกันผู้บุกรุกยึดยาน ทำงาน" เสียงคอมพิวเตอร์ดังขึ้น พร้อมกับพวกพีวิลเดินเข้ามาในสะพานเดินเรือ
              "ทุกๆคน ปลอดภัยกันดีนะครับ" พีวิลบอก
              เจ้าหน้าที่ที่เป็นพลเรือนบอก "พวกคุณ ไทรเวเซอร์นิน่า พวกคุณมาช่วยพวกเราใช่มั้ยละครับ"
              "ว่าแต่ พาพวกเราออกจากนี้ได้มั้ยละคะ เพราะกัปตันยานผู้นี้ บ้าไปแล้วนะคะ" เจ้าหน้าที่หญิงบอก
              สเปียริทกล่าว "ตอนนี้เราอยากให้พวกคุณไปอยู่ในห้องนิรภัยกันเสียก่อน และช่วยให้ความร่วมมือกันเถอะคะ" แล้วคลอเวฟรีบวิ่งมาตรงส่วนพวงมาลัยคุมหางเสือยาน มาเทอุสและดรากูลิคนั่งประจำเคาน์เตอร์ควบคุมระบบขับเคลื่อนอื่นๆ ส่วนสเปียริทรีบพาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกไปยังห้องนิรภัยโดยเร็ว
              "ให้ตายสิ นี้ใช้คันบังคับแบบยานบินเลยหรือวะ" คลอเวฟสบถ
              พีวิลกล่าว "คิดซะว่า นายได้ลองอะไรที่ท้าทายกันนี้แหละ" แล้วหันมาทางมาเทอุสและดรากูลิค "สภาพระบบขับเคลื่อนเป็นไงบ้างละ"
              "เออ ระบบแอเรียลไดร์ฟอยู่ในสภาพเขียวหมดเลยนะครับ" ดรากูลิคบอก
              มาเทอุสบอก "อัตราเร่งของเครื่องยนต์ อยู่ในระดับ 5 และยังเร่งอยู่ตลอดเลยนะ คุณคลอเวฟ"
              "ถ้าคิดจะหยุดเครื่องยนต์ละก็ คงทำไม่ได้หรอก เพราะฉันเซตให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มที่ไปแล้ว และฉันจะสั่งให้พวกเธอ บุกขึ้นยานกันเดียวนี้แหละ" คาร์ทตันกล่าว
              คลอเวฟได้ฟังก็ยั้วะ "เกรงว่า เรามีอีกแผนที่ดีกว่านี้แล้วละ ไอ้ท่านนายพล" พร้อมกับ "ปี้บๆๆๆๆ" กดปุ่มเพื่อเรียกหน้าจอโฮโลวินโดว์ออกมาสี่อัน เผยภาพของเนคมาดูซัม แอบไบออส เจเนล จายด์ขึ้นมา "เฮ้ พวกนาย ตอนนี้เป็นไงบ้างละ"
              "โว้ว สุดยอด นี้คงเป็นระบบควบคุมปืนด้านข้างยานเลยหรือเนี้ย" ดีแนคกล่าว โดยที่เขาอยู่กับเจเนล ซึ่งคุมฝั่งซ้าย จายด์มีเดรมเกอร์คุมฝั่งขวา ดรันนิคอยู่กับแอบไบออสที่ส่วนปืนรอง และเรจเจอยู่กับเนคมาดูซัมที่ส่วนปืนใหญ่
              "ระบบปืนพลาสม่าเรลกันและปืนใหญ่สามลำกล้องอยู่ในมือของพวกเราแล้วละ พีท" เจเนลบอก
              "ร้อยเอก เราจำต้องยิงแล้วละ เพราะยานรบของฝ่ายศัตรูเคลื่อนมาหาเราแล้วน่ะ" แอบไบออสบอก
              พีวิลพยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น รีบยิงเดียวนี้เลย เพราะนายพลคาร์ทตันอาจจะดิ้นหลุดมาได้น่ะ"
              "พวกเธอคิดจะยิงยานของไอ้วิชเฮสเลอร์เลยหรือ พวกเธอบ้าไปแล้วหรือ" คาร์ทตันกล่าว
              คลอเวฟบอก "ที่บ้านั้น มันท่านเองต่างหากละ ไอ้ท่านนายพล" แล้วก็บอก "โฮ่ย เนคเกอร์ เจเนล จายด์ แอบไบออส ไม่ต้องสนคาร์ทตัน ยิงแม่มเลย"
              "เอาตอนนี้เลยหรือครับ ผมยังไม่รู้ว่าจะปรับเซตปืนใหญ่กันยังไงน่ะ" เดรมเกอร์บอก
              ไม่ทันไรก็มีวินโดว์ระบุการปรับพลังงานไว้ จายด์บอก "ปรับปืนบนและล่างในระดับที่ 60 เพื่อให้โหมดยิงต่อเนื่องทำงานได้เต็มที่น่ะ"
              "ได้เลยครับ" เดรมเกอร์เลยเลื่อนปุ่มปรับพลังงานไปที่ 60 เปอร์เซนต์ เช่นเดียวกับฝั่งซ้าย ดีแนคปรับไปที่ระดับ 60 เปอร์เซนต์กัน
              "พลาสม่าเรลกันบนล่างซ้ายขวา โหมดยิงต่อเนื่อง ยิงได้" เนคมาดูซัมบอก
              "รับทราบ" เจเนลและจายด์กล่าว "แกร็ก" แล้วก็เหนี่ยวไกพร้อมกัน "ครืดด เปรี้ยะๆๆๆๆๆ แฟ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ปืนพลาสม่าเรลกันสี่ลำกล้องระดมยิงกระสุนไฟฟ้าออกไป
              "เปิดสนามพลังป้องกันและเตรียมปืนหลักปืนรองพร้อมยิงถล่มใส่ หลังจากสนามพลังดับลงไปแล้วน่ะ" วิชเฮสเลอร์กล่าว
              "แว้งๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปริๆๆๆๆๆๆ เพล้งงงง ป้ากๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" ยานรบของวิชเฮสเลอร์กางสนามพลังป้องกันไว้ แต่ต้านทานกระสุนพลังไฟฟ้าได้ไม่นานจนสนามพลังแตกกระจุย และยานถูกระดมยิงจนเสียหายในระดับหนึ่ง "ตอนนี้แหละ ปืนหลัก ยิงใส่มันเดียวนี้" วิชเฮสเลอร์บอก
              คลอเวฟกล่าว "มาเทอุส เลื่อนยานไปด้านข้างด้วยกำลังเครื่องสูงสุด"
              "แล้วจะให้เลื่อนไปทางไหนละครับ" มาเทอุสถามกลับ
              คลอเวฟบอก "ทางไหนก็แล้วแต่นายเหอะ" มาเทอุสเลยกดปุ่มตรงแผงบังคับ พร้อมกับจับยานเลื่อนไปข้างขวา "ครืนนนนน ซูมมมมมมมม" ไอพ่นด้านกราบซ้ายจุดประทุด้วยกำลังเครื่องเต็มที่จากเครื่องยนต์หลัก "แชดดดดดดดด" ซึ่งก็เลื่อนหลบลำแสงที่ยิงเข้าใส่ได้อย่างฉิวเฉียด
              "เกือบแล้วมั้ยละเนี้ย" มาเทอุสบอกอย่างโล่งอก
              "ต่อให้เธอถอยไปได้ แต่คงเร่งไม่ทันพอที่จะบุกขึ้นยานได้หรอก" คาร์ทตันกล่าว
              คลอเวฟบอก "แล้วใครบอกละ ว่าเราจะบุกขึ้นยานของมันน่ะ" แล้วก็บอก "จังหวะนี้แหละ พวก สอยแม่มเลย"
              "เดียว เธอจะยิงไอ้วิชเฮสเลอร์ไม่ได้น่ะ ฉันต้องการจับมันเป็นๆ" คาร์ทตันโวย แล้วก็ติดต่อไป "เฮฟฟอน ยิปเซท แฮงโก้ ออกมาหยุดพวกไทรเวเซอร์ที"
              พีวิลกล่าว "เกรงว่าพวกเราต้องให้พวกเขารอดกลับไปให้ได้เท่านั้นแหละครับ" โดยตอนนี้ หัวหน้าลูกเรือตัวแสบทั้งสามโดนล็อกพร้อมกับพวกลูกเรือในห้องนิรภัยแล้ว
              "ได้เลย ทริปเปิ้ลบลัสต์แคนน่อน ทั้งหลักและรอง หันปืนไปทางซ้าย แล้วยิงได้เลย" เนคมาดูซัมกล่าว จากนั้นปืนใหญ่ก็หมุนหันมาพร้อมกับปืนรอง
              เรจเจบอก "ปืนหลักหันไปแล้ว จะยิงละน่ะ" แล้วก็ "แกร็ก ตรุ้งๆๆๆๆๆ" ระดมยิงใส่กราบขวาของยานรบของวิชเฮสเลอร์พร้อมกับปืนรองอย่างหนักหน่วง "แฟ้วววว ป้ากกก ป้ากกก ป้ากก ป้ากกก ป้ากกก ตรูม บรึม บรึม บรึม บรึม" แม้วิชเฮสเลอร์จะสั่งหันปืนใหญ่ แต่ก็โดนกระสุนพลาสม่าบดขยี้ปืนใหญ่กระจุยตาม
              "ยานของเรารับความเสียหายจากการโจมตีต่อเนื่องไม่ไหวแล้วละครับ" โอเปเรเตอร์ยานกล่าว
              วิชเฮสเลอร์บอก "ไม่มีทางเลือก สละยานฉุกเฉินเดียวนี้" แล้วก็ "แกร็กๆๆๆๆ ซูมมมมม" สะพานเดินเรือพร้อมกับส่วนยานที่เหลือปลดยานส่วนมากออกไป พร้อมกับบินออกจากระบบดาวด้วยระบบขับเคลื่อนความเร็วเหนือแสง ส่วนยานที่เหลือนั้น "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมมมม" ระเบิดแหลกเป็นจุลพร้อมกับ "ครืนนนนน" แรงระเบิดได้ผลักเอลอาควิทีเรียไปเต็มๆ จนลูกเรือที่อยู่ในส่วนนิรภัย และพวกไทรเวเซอร์เกือบล้มตาม

              "ให้ตายสิ วิชเฮสเลอร์คิดทำลายยานของฉันเลยหรือเนี้ย" คาร์ทตันสบถ โดยตอนนี้ "ครืนนนนนนนน" เอลอาควิทีเรียถูกแรงดึงดูดของดาวดึงจนฝ่าชั้นบรรยากาศของดาว ทำให้กราบขวาเสียดสีกับชั้นบรรยากาศอย่างรวดเร็ว
              "มาเทอุส ประคองยานเพื่อชะลอการตกของยานให้ช้าลงด่วน" คลอเวฟกล่าว
              "โอเคเลยครับ คุณคลอเวฟ" มาเทอุสรีบทำตาม "ซูมมมมมมมมมมมมม" ไอพ่นด้านกราบขวาจุดประทุและดันยานที่ฝ่าชั้นบรรยากาศของดาว และทะลุชั้นเมฆเบื้องบนมาแล้ว
              "ตื้ดๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร ก็มีหน้าจอสีแดงเตือนขึ้นมา "ยุ่งแล้วละครับ คุณคลอเวฟ ระบบฉุกเฉินตัดการทำงานของไอพ่นกราบขวาโดยฉับพลัน เพื่อมิให้เกิดการระเบิดใส่ส่วนนิรภัยที่อยู่ใกล้กันนะครับ"
              คลอเวฟบอก "ไม่มีทางเลือกแล้ว เปลี่ยนมาใช้กราบซ้าย แต่ปรับให้สามตัวหน้าทำงานก็พอ"
              "นายคิดจะแลนดิ้งฉุกเฉินเลยสิน่ะ" พีวิลกล่าว
              คลอเวฟพยักหน้า โดยตอนนี้ยานเลื่อนไปจนอยู่ในแนวตรงแล้ว "ดรากูลิค เปิดแอเรียลไดร์ฟด้านหน้าแถวหนึ่งถึงสี่ ใช้กำลังเครื่อง 60-70 เปอร์เซนต์ ให้ยานทำระนาบกับภาคพื้นเป็นมุม 40 องศา ด่วน"
              "แล้วไม่กลัวว่าตัวไดร์ฟพังเลยหรือครับ" ดรากูลิคบอก
              คลอเวฟกล่าว "ยังไงมันก็ต้องพังอยู่แล้วละ รีบทำตามเร็วเข้า" แล้วก็ติดต่อไปหา "มาสวาร์ทาร์ นายเช็คสภาพแวดล้อมของภาคพื้นจะได้มั้ยละ"
              "เกรงว่ายานลำนี้มีข้อมูลแล้วละ ดาวทาบาเดียค-5 ที่เราลงจอดนั้น มันเป็นดาวป่า ความหนาทึบของป่านั้น ไม่หนาทึบแบบดงดิบ ยังพอแลนดิ้งได้บ้างน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              คลอเวฟกล่าว "งั้นแจ้งบอกทุกคนไว้เลย ว่าให้ที่ยึด เพื่อเตรียมการลงจอดฉุกเฉินเดียวนี้"
              "ได้เลย" มาสวาร์ทาร์บอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "ถึงทุกๆคนในยาน ตอนนี้เราจะทำการลงจอดฉุกเฉินในเขตป่าเขาบนดาวกันแล้ว ดังนั้น เราขอความร่วมมือให้พวกคุณอยู่ในที่เดิม ห้ามขยับตัวไปไหนทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยของพวกคุณเองนะคะ"
              "ว่าแต่ จะให้เปิดเครื่องกันตอนไหนละครับ" ดรากูลิคบอก
              คลอเวฟกล่าว "พอผ่านระยะ 400 เมตรลงไปแล้ว เปิดเครื่องเดียวนี้เลย"
              "เออ เรามีปัญหาแล้วละครับ คุณคลอเวฟ ระบบฉุกเฉินตัดการทำงานแล้ว" มาเทอุสบอก โดยตอนนี้เครื่องยนต์หลักติดตัวห้ามสีแดงขึ้นมา
              พีวิลบอก "แล้วเครื่องยนต์รองยังทำงานหรือเปล่าละ"
              "เครื่องยนต์รองจะปิดการทำงานในอีก 1 นาที หากเครื่องยนต์หลักดับลง ซึ่งนั้นหมายถึง พวกเธอจะใช้แอเรียลไดร์ฟไม่ได้เลยน่ะ" คาร์ทตันบอก
              คลอเวฟกล่าว "แต่คิดว่าเราแลนดิ้งไม่ได้โดยไม่มีกำลังเครื่องยนต์ละก็ คิดผิดแล้วละ เชื่อมเตาพลังงานเข้ากับแอเรียลไดร์ฟด่วนเลย"
              "ได้เลยคะ" เดรเชลกล่าว แล้วจัดการเชื่อมต่อเตาพลังงานในยานเข้ากับแอเรียลไดร์ฟจากห้องคอมพิวเตอร์โดยเร็ว "ปี้บๆๆๆ" จนระบบขับเคลื่อนจ่ายพลังงานไปที่แอเรียลไดร์ฟกันแล้ว
              "ตอนนี้แหละ เปิดแอเรียลไดร์ฟเต็มกำลัง เพื่อเบรคยานลำนี้ให้ลงจอดฉุกเฉินเลย" คลอเวฟบอก และพยายามดึงคันบังคับเพื่อเชิดยานขึ้นมา
              "รับทราบ" ดรากูลิคกล่าวหลังจากที่จัดการกับแอเรียลไดร์ฟแล้ว "ปี้บบบ" ตนจึงกดปุ่มขึ้น "แว้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แอเรียลไดร์ฟใต้ท้องยานด้านหน้าทำงานเต็มกำลัง ในขณะที่เอลอาควิทีเรียแลนดิ้งลงมา "หวือออออออออออออออออออ ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็ชนกับป่าจนต้นไม้กระเจิดกระเจิงอย่างจังๆ "โครมมมมมมมมม" แล้วก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นมา คาร์ทตันที่โดนล็อกตัวบนเก้าอี้ถึงกับสูดหายใจด้วยความโล่งใจ และพยายามหันมาหยิบปืนสั้น แต่พีวิลถือซองปืนที่มีปืนไว้
              "พวกนายทุกคน เป็นไงบ้างละ" พีวิลติดต่อเข้ามา
              "เจ้าหน้าที่ประจำสะพานเดินเรือ แม้จะหวาดเสียวไม่น้อย แต่ฉันก็ปลอบใจพวกเขาแล้วละ" สเปียริทบอก
              เจเนลกล่าว "ส่วนปืนใหญ่ทั้งหลักรอง รวมถึงพลาสม่าเรลกันซ้ายขวา โอเคแล้วละ พีท"
              "ทุกๆคนในห้องคอม รวมถึงในห้องนิรภัยนั้น ไม่เป็นไรแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "แต่ดูเหมือนว่า นายคงจะทำยานเสียหายในระหว่างแลนดิ้งละสิ"
              "ก็มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วน่า พวก อย่างน้อย เราก็เซฟทุกคนในยานไว้ได้ และเขี่ยไอ้เวรเฮสเลอร์ไปไกลๆแล้วด้วยน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              ดรากูลิคบอก "แต่ไม่คิดเลย ว่าเราต้องมาควบคุมยานลำโตในสถานการณ์ฉุกเฉินเลยน่ะ"
              "แสดงว่า คุณไม่ได้เก่งแค่รบอย่างเดียวละสิ แต่คุณเก่งเรื่องยานรบมากละสิ" มาเทอุสบอก
              คลอเวฟกล่าว "ที่ถูกนั้น คือฉันเก่งเรื่องทำยานและเรือจมมากกว่า ถ้าไม่ติดว่ายานลำนี้มีความสำคัญมากละก็น่ะ"

              แล้วหลังจากนั้น พวกไทรเวเซอร์ก็จัดการกับพวกลูกเรือให้อยู่ในความดูแลกันไว้ โดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีด้วยกัน
              "สภาพยานของเราเป็นไงบ้างละ" คาร์ทตันกล่าว
              ยิปเซทรายงาน "ดูเหมือนว่าเครื่องยนต์ทั้งตัวหลักและตัวรองถูกเซตให้ทำงานเต็มกำลัง ซึ่งผมคิดว่ามันต้องเกิดจากพวกไทรเวเซอร์แน่ๆ" แล้วก็ส่งรายงานมา "แต่กลายเป็นว่า เครื่องยนต์ของพวกเราทั้งสองตัว ถูกไอ้ดัลเบนท์กับพวกเซตให้ทำงาน เมื่อท่านนายพลเสียบกุญแจเปิดระบบควบคุมฉุกเฉินไว้แล้วละครับ"
              "แล้วดัลเบนท์และพวกเข้ามาในยานของเราตั้งแต่เมื่อไหร่กันละ" คาร์ทตันกล่าว
              ยิปเซทบอก "จากปากคำของลูกสมุนของดัลเบนท์นั้น มันบอกว่า ดัลเบนท์นำยานขนส่งติดระบบซ่อนพลางเข้ามาในโรงเก็บใต้ท้องยานหมายเลข 4 ซึ่งมีกล้องวงจรปิดอยู่เพียง 2 ตัว หากแต่ ดัลเบนท์อาศัยจุดอ่อนที่เรเชียลควบคุมระบบภายในยานของเราไม่ครอบคลุมไปถึง ส่วนเก็บวัตถุอันตราย และส่วนวิจัยพิเศษ ที่ถูกปิดไปเมื่อเราเสียกองรบเหลืองในครั้งที่สาม ให้พวกพ้องแอบซ่อนอยู่ข้างในส่วนนั้น ในช่วงที่เรานำยานออกไปเก็บวัตถุดิบภายในอวกาศกันนะครับ"
              "เป็นไปไม่ได้น่า เรเชียลควบคุมระบบทั้งหมดภายในยาน ก็น่าจะเห็นตัวดัลเบนท์กับพวกไปแล้วนิน่า" คาร์ทตันกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "เกรงว่ามันเป็นไปแล้วละครับ ท่านนายพล เหตุที่เรเชียลควบคุมระบบภายในยานได้ไม่เต็มที่นั้น เพราะว่าเธอ ควบคุมพวกลูกเรือทั้งหมดที่อยู่ในยาน ผ่านป้ายแทคที่ห้อยคอพวกเขากันอยู่นะครับ" แล้วก็วางถาดใส่แทคสีเงินทั้งหมด "จากการตรวจสอบของแอนเดรีย เราพบว่าป้ายแทคเหล่านี้ เป็นเครื่องควบคุมสมองของลูกเรือทุกคนที่สวมมัน ซึ่งทุกป้าย มีข้อมูลบทบาทของลูกเรือที่ใส่ไว้ โดยที่ตัวลูกเรือจะต้องทำตามบทบาทที่ระบุไว้ทุกอย่าง โดยที่พวกเขาไม่สามารถทำอย่างอื่น นอกเหนือจาก การรับและปฏิบัติตามคำสั่ง เท่านั้นนะครับ"
              "พวกเธอจะบอกว่า พวกเราใช้ป้ายแทคเหล่านี้กับพลเรือนเลยหรือ" คาร์ทตันกล่าว
              พีวิลส่ายหน้าและบอก "แม้ว่าตัวป้ายนั้นจะมีเลขทะเบียนที่กองยานซัลคาลาสใช้มาก่อน อีกทั้งตัวโปรแกรมเอง เราตรวจเช็คแล้ว พบว่ามันถูกใช้งานครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน แต่เวลานั้น มันเกิดขึ้นก่อนหน้าที่พวกคุณจะนำเอลอาควิทีเรียออกจากดาวเป็นรอบแรกเท่านั้นเองนะครับ"
              "แล้วไอ้ที่ดัลเบนท์มันบอกว่า เรเชียลมีบางอย่างที่ผิดปกติ จนต้องขอให้เราเช็คให้นั้น ก็เป็นเรื่องจริงละสิ" เฮฟฟอนบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "เพียงแต่ พวกคุณรวมถึงท่านนายพล กลับคิดว่าเรเชียลไม่มีความผิดปกติใดๆ เพราะเธอยังคอนโทรลยานได้ตามปกติ ไม่ถึงกับทำให้ยานเสียหายอย่างชัดเจนก็เท่านั้นเอง" แล้วก็บอก "แน่นอน ว่าทหารเทรอมที่ขึ้นมาบนยานก็พูดทำนองนี้ แต่ท่านคงจะไม่ฟังและสนใจกันเลยสิครับ"
              "พวกเธอคงจะรู้แล้วสิ ว่าฉันตั้งใจจะจัดการกับวิชเฮสเลอร์ แล้วก็พวกทหารใต้บังคับบัญชาของมัน และไอ้พวกเทรอมที่ทรยศเข้ากับฝ่ายมันไว้น่ะ" คาร์ทตันบอก "แต่พวกเธอคงไม่รู้หรอกน่ะ ว่าวิชเฮสเลอร์ มันผิดสัญญากับพวกเราก่อนน่ะ"
              เฮฟฟอนบอก "และพวกเราจะไม่บอกหรอกน่ะ เพื่อมิให้พวกแกไปฟ้องตาแก่แฮซกริฟ จนลากพวกเรากลับไปลงโทษน่ะ"
              "ถึงท่านกับพวกจะฆ่าพวกเราเพื่อปิดปากและปิดบังความจริงไม่ให้ไปถึงจอมพลแฮซกริฟกันก็จริง แต่ตอนนี้ ท่านจอมพล ทราบเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้วละครับ" เนคมาดูซัมบอก
              คาร์ทตันได้ฟังก็ชะงัก "เธออย่ามาล้อเล่นน่า จอมพลแฮซกริฟไม่มีทางที่จะรู้เรื่องของฉันและไอ้วิชเฮสเลอร์เลยนิ"

              "มันถึงเวลาที่ท่านกับพวก สมควรจะยอมรับความจริงได้แล้วละครับ" เนคมาดูซัมกล่าวพร้อมกับนำแพดที่อยู่ในอกซ้ายมา "แว้งงงงงง" เปิดแผ่นโฮโลแกรมสีฟ้ามาให้นายพลคาร์ทตันอ่านดู "เพราะพวกเรา ได้รับคำสั่งจากจอมพลแฮซกริฟ ให้มาสืบเรื่องพฤติกรรมของคุณที่เป็นต้นเหตุให้กองรบฝ่ายเทรอมของผบ.บัลโต้หายสาปสูญไปในการติดตามหากองยานบุกเบิกทั้งสี่ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งท่านจอมพลอนุมัติให้พวกเราทำตามคำสั่งของท่านนายพล และมีสิทธิ์ที่จะขัดขวางการกระทำของท่านกับพวกได้ทุกเมื่อ เนื่องจากว่าท่านได้กระทำการปิดบังเจตนาและความจริงต่อเบื้องบนอย่างตั้งใจ และรู้เจตนาของท่านมาตั้งแต่วันแรกที่ท่านกับพวกกลับมา โดยไม่มีรองผู้การวิชเฮสเลอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายยุทธการ ผู้เดินทางไปกับกองยานบุกเบิกด้วยกันกับพวกท่านนะครับ"
              เฮฟฟอนกล่าว "ที่เนคเกอร์ว่ามานิ มันโกหกกันหรือเปล่าละ ท่านนายพล"
              "เนคเกอร์พูดถูก ตราประทับที่อยู่บนหนังสือนั้น เป็นของกองยานซัลคาล่า มีลายเซ็นของท่านจอมพลอยู่" คาร์ทตันกล่าว "รวมไปถึง ลายเซ็นของนาวาโทร็อดดิเกรสและนาวาอากาศโทเฟรมิเดรก้า ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อกองยานบุกเบิก พร้อมกับของเพอซิอัสเลยสิน่ะ"
              พีวิลบอก "ครับ อีกอย่าง เหตุที่ท่านไม่ได้กองยานรบ 10 กองไปด้วยนั้น เพราะว่าท่านนายพลเพอซิอัส คุณเบติสและคุณวิลด้าเอง เซ็นชื่อไม่อนุมัติให้มอบกองยานรบกันไปแล้วนะครับ"
              "เดียวน่ะ งั้น มังกรร้อนเย็นและเหยี่ยวสาวเฟรมิเดรก้า ก็รู้เรื่องของพวกเราด้วยสิ" แฮงโก้บอก เนคมาดูซัมพยักหน้า
              มาสวาร์ทาร์บอก "เอาละ ท่านนายพล ท่านควรจะบอกเราได้แล้ว ว่าเหตุใด รองผู้การวิชเฮสเลอร์ ถึงกลายเป็นโจรสลัดกลุ่มกรัมสกิซไปเสียได้น่ะ"
              "ที่เธอกับพวกรู้เรื่องนิ เพราะว่าไอ้พวกโจรสลัดอวกาศมันบอกพวกเธอไว้เลยสิน่ะ" คาร์ทตันบอก
              พีวิลกล่าว "มาถึงขั้นนี้ ท่านไม่ต้องปิดบังพวกเราแล้วละครับ ท่านนายพล"
              "ได้ ฉันจะเล่าให้พวกเธอฟังเลยแล้วกัน" คาร์ทตันกล่าวแล้วก็เล่าเรื่อง "หลังจากที่กองยานของพวกเราเดินทางต่อไป โดยที่กลุ่มยานส่วนหนึ่งต้องลงจอดฉุกเฉินที่ดาวตามเส้นทาง ซึ่งรวมไปถึง วิลดอน เฟรมิเดรก้า หัวหน้าคุมกองยานคนปัจจุบัน ซึ่งรับตำแหน่งต่อจากท่านลอร์ดเฟรมิเดรก้า ผู้ที่อยู่กับยานรั้งท้ายพร้อมกับนาวาโทร็อดดิเกรสและนาวาอากาศโทเฟรมิเดรก้า หลังจากที่เราขาดการติดต่อกับกองยานแนวหลังไปได้ 4 เดือนเต็ม โดยที่คุณวิลดอนกับพวก ต้องลงจอดที่ดาวอังซามารี-4 ด้วยเหตุฉุกเฉิน เขาจึงส่งมอบตำแหน่งหัวหน้ากองยานให้กับฉันและวิชเฮสเลอร์รับผิดชอบต่อ เพื่อนำกองยานสำรวจหาดาวดวงใหม่กัน แต่ทว่า....."
              มาสวาร์ทาร์บอก ".....กองยานของพวกคุณ เจอกับพวกกรัมสกิซจู่โจมเลยสิครับ"  
              "ถูกต้อง พวกโจรสลัดกรัมสกิซนั้น มันโผล่มาจู่โจมกองยานของเราแบบสายฟ้าแลบ ชนิดที่พวกเราเองไม่ทันโต้ตอบ จนทำให้มีทหารบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย พร้อมกับชาวอาณานิคมที่โดนลูกหลงอีกเป็นร้อยรายด้วยกัน ซึ่งนั้นก็ทำให้วิชเฮสเลอร์แค้นไม่น้อย เพราะในกลุ่มผู้เสียชีวิต มีญาติพี่น้องและคนรักของเขารวมอยู่ด้วย ถึงขั้นที่ขอร้องให้ฉันนำกองยานส่วนหนึ่ง ตามไปเอาคืนพวกมันถึงถิ่น ซึ่งฉันก็ปฏิเสธคำขอและนำกองยานออกสำรวจระบบดาวต่อ โดยไม่ไปปะทะกับพวกมัน" คาร์ทตันกล่าว "จนกระทั่งวันหนึ่ง วิชเฮสเลอร์แจ้งให้ฉันกับพวกมาคุยกัน เพราะฉันคิดว่าวิชเฮสเลอร์คงทำใจได้แล้ว แต่ก็...."
              เฮฟฟอนกล่าว "มันกับพวกทหารใต้บังคับบัญชาของท่านนายพลที่มีความแค้นกับไอ้พวกโจรสลัดเฮงซวย รวมหัวกันจับพวกเราไปขังไว้ในยานฉุกเฉิน พร้อมกับส่งพวกเราไปไกลๆ เพื่อให้มันกับพวกนำกองยานทั้งหมด ซึ่งมียานของพลเรือนอยู่เป็นจำนวนหลายร้อยลำ ออกไปโค่นพวกกรัมสกิซให้ราบคาบเป็นการแก้แค้น ซึ่งพวกเรา ต้องอยู่ในระบบจำศิลของยานฉุกเฉินมาเป็นปี กว่าจะมียานรบมาช่วยเราไว้น่ะ"
              "หลังจากที่ท่านนายพลกับพวกกลับมาที่แคสเซเดี่ยน-3 ท่านคงจะทราบเรื่องยานรบลำใหม่ เลยรีบเสนอตัวในที่ประชุมเพื่อที่จะคุมยานรบเลยสิครับ" เนคมาดูซัมกล่าว
              คาร์ทตันบอก "ใช่ เพราะฉันทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในเขตอวกาศภาคกลาง ว่ากลุ่มโจรสลัดที่มาเล่นงานพวกเรานั้น มีกลุ่มโจรชุดใหม่ปรากฎขึ้นมา ฉันเลยขอกองยานรบจากท่านจอมพล แต่ท่านจอมพลนอกจากจะปฏิเสธแล้ว ยังให้ผบ.บาโธโรมิว ส่งกองรบเทรอมฝีมือเยี่ยมไปกับพวกเรา แม้ฉันจะได้กลุ่มลูกเรือจากกองยานอื่นแล้วก็ตาม จนกระทั่ง ทีมกองกำลังแดงได้เจอกับทหารเก่าของฉันที่สวมชุดเกราะอวกาศและติดอาวุธผิดกฎหมายของพวกโจรสลัดเข้าจู่โจม ฉันกับพวกจึงรู้ว่า วิชเฮสเลอร์กลายเป็นพวกโจรสลัดอวกาศพวกเดียวกับพวกที่จู่โจมพวกเรา แถมยังมีกองยานนับร้อยอยู่ในกำมือ ซึ่งนั้นหมายถึง กองยานบุกเบิก กลายเป็นพวกโจรสลัดอวกาศกันหมดแล้ว"
              "แสดงว่าท่านคงเข้าใจว่า วิชเฮสเลอร์และพวกทหารใต้บังคับบัญชา ทรยศต่อท่านเพราะสัญญาว่าจะบดขยี้พวกโจรสลัดให้ราบคาบ แต่ดันเข้าเป็นพวกมันไปเสียเองน่ะ" พีวิลบอก "และถ้าให้เดา กองรบเรดเมลแกนที่ตามท่านมาด้วยก็ทราบเรื่องนี้ และตั้งใจจะแจ้งเรื่องนี้ให้ผบ.บัลโต้รับทราบเลยสิครับ"
              คาร์ทตันบอก "พวกกองรบแดงเหล่านั้น กำลังจะบอกให้เบื้องบนทราบเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ฉันยอมให้จอมพลแฮซกริฟรู้เรื่องและส่งกองยานมาถล่มกองยานบุกเบิกไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันเลยตัดสินใจ สั่งลงโทษพวกกองกำลังแดงฐานขัดคำสั่ง และคาดโทษสูงสุดกับพวกเขาไว้ ซึ่งฉันคิดว่านั้นจะช่วยปิดปากพวกเขาได้ แต่ก็...."
              "วิชเฮสเลอร์รู้เรื่องและส่งคนมาเกลี้ยกล่อมกองรบเรดเมลแกน จนโยกย้ายมาอยู่กับกองยานฝ่ายตรงข้าม ซึ่งบูลโรเซี่ยน เยลโลว์เอเชี่ยน และกรีนยูโรเปี้ยนก็โดนแบบเดียวกันเลยสิครับ" พีวิลกล่าว
              แฮงโก้บอก "พวกเทรอมเหล่านั้นอวดฉลาดและอวดดีเกินไป พวกนั้นคิดว่าเป็นเพื่อนร่วมรบกับไอ้บาโธโรมิว จึงกล้ามากร่างกับพวกเราที่เป็นซัลคาเลี่ยนได้ พอเราลงโทษพวกนั้นเข้า พวกนั้นก็หาเรื่องเข้ากับไอ้วิชเฮสเลอร์เสียเอง ซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกเราแล้วน่ะ"
              "แต่ผมคิดว่า พวกคุณเองต่างหากละที่ทำให้พวกเขาแปรพักตร์ เพราะพวกเขาไม่อยากจะทำร้ายพลเรือนที่อยู่ในอวกาศ ซึ่งไม่รู้ว่า พวกเขาเป็นโจรสลัดกันทั้งหมดหรือเปล่า และต้องการที่จะแจ้งข่าวให้ผบ.บัลโต้ทราบ เพื่อขอความเห็นจากจอมพลแฮซกริฟในการแก้ไขเรื่องนี้ แต่พวกคุณกลับทำให้เรื่องมันวุ่นวาย เพราะคิดว่าพวกคุณสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้เอง และสามารถปิดบังเรื่องที่ว่า กองยานบุกเบิกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโจรสลัดที่น่าเกรงขามที่สุดในเขตอวกาศภาคกลาง ไม่ให้ท่านประธานาธิบดีและท่านจอมพลแฮซกริฟทราบเรื่องเลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              คาร์ทตันบอก "และมันจะดีกว่านี้ หากพวกเธอไม่คิดและทำแบบเดียวกับพวกเทรอมเหล่านั้น จนมาขัดขวางแผนการที่จะช่วยกองยานบุกเบิกจากการลงโทษของฝ่ายจักรวรรดิ์กันได้ เพราะหากดาวแม่ของเรารู้ว่า พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของพวกโจรสลัด กองยานที่มีครอบครัวของฉันรวมอยู่ด้วยจะต้องโดนโทษสถานหนักถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน"
              "ต่อให้ท่านนายพลและพวกจะปิดบังยังไง ความลับนี้ก็ต้องมีคนอื่นล่วงรู้เข้าจนได้ละน่า ท่านนายพล พวกทหารเทรอมเองที่แปรพักตร์กับวิชเฮสเลอร์ไปนั้น เขาตั้งใจจะช่วยพวกท่านกัน แต่ท่านกลับปฏิเสธและลงโทษพวกเขา เป็นการบีบให้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นเอง ซึ่งนั้นถือเป็นความผิดร้ายแรงที่พวกท่านคิดจะปกปิดไว้ด้วย ต่อให้ท่านพ่อและลุงนาไลน์ หรือแม้กระทั่งแม่ทัพใหญ่โอลดาธไม่อยู่ ผมกับพวก คงปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปเฉยๆไม่ได้หรอกน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              คาร์ทตันบอก "แล้วพวกเธอ คงไม่คิดจะส่งฉันกับพวกไปรับโทษเหมือนที่พวกเธอทำกับเสนาธิการวอลเดนและวอลเลนซ์เลยหรือ"
              "เสนาธิการวอลเดนและนายพลวอลเลนซ์ทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยต่อฝ่ายเราและแรซัลก้า พวกเราจำต้องทำ เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับเหล่าแมนิเกเตอร์ที่เสียชีวิตในโฟรเดริม-4 คืนความถูกต้องให้กับผู้ที่ถูกท่านนายพลและเสนาธิการหลอกใช้ และคืนความสงบสุขให้กับแมนิเกเตอร์ทั้งหมดจากการที่เดลอาเนี่ยนได้รับความช่วยเหลือของทั้งสองกันด้วย" เนคมาดูซัมกล่าว "และต่อให้จอมพลแฮซกริฟไม่มอบคำสั่งให้ พวกเราต้องหยุดยั้งไม่ให้ท่านกับพวกทำผิดไปมากกว่านี้นะครับ"
              คาร์ทตันกล่าว "แล้วเธอกับพวก มีสิทธิ์อะไรที่จะมาห้ามฉันได้ ในเมื่อพวกเธอเป็นแค่หน่วยรบแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้น่ะ"

              "เพราะว่า ปัญหาของพวกท่านและกองยานบุกเบิกของวิชเฮสเลอร์นั้น เป็นปัญหาของพวกเรา ที่ต้องแก้ไขให้มันถูกต้องนะครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              คาร์ทตันบอก "แก้ไขให้มันถูกต้องนะหรือ พวกเธอเป็นแค่อดีตมนุษย์ เป็นแมนิเกเตอร์แบบเทรอม ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของซัลคาเลี่ยนอย่างพวกเราได้หรอก"
              "จะเป็นเทรอม เป็นซัลคาเลี่ยน เป็นอดีตมนุษย์ เป็นแมนิเกเตอร์ธรรมดา หรือไทป์ต่อสู้ พวกเราไม่สนใจหรอก เพราะพวกเรากับพวกท่าน ต่างเป็นแมนิเกเตอร์นะครับ" พีวิลกล่าว "และในเมื่อแมนิเกเตอร์อย่างพวกท่านเองประสบปัญหา แมนิเกเตอร์อย่างพวกเรา คงนิ่งเฉยและไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยพวกท่าน ไม่ได้เป็นอันขาดเลยละครับ"
              คาร์ทตันบอก "ด้วยการที่พวกเธอขัดขวางแผนการของฉัน จนทำให้วิชเฮสเลอร์แค้นถึงขั้นที่เอาครอบครัวของฉันมาขู่อย่างงั้นนะหรือ"
              "ที่ท่านพูดมานั้น เป็นคำพูดของพวกมโนและคิดไปเอง แถมยังไม่เชื่อต่อคำพูดของอีกฝ่าย เพราะความโกรธแค้นบวกกับความเห็นแก่ตัวเลยสิครับ ท่านนายพล" เนคมาดูซัมบอก "เพราะความปราชัยของโฟรเดริม-4 นั้นเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้ผมรู้ว่า ถ้าเราไม่หัดเชื่อใจซึ่งกันและกัน ยอมรับในความช่วยเหลือโดยไม่สนใจถึงความแตกต่างด้านชาติพันธุ์ และร่วมมือกันในฐานะแมนิเกเตอร์เหมือนกันแล้วละก็ การรบที่โฟรเดริม-4 คงจะลงเอยด้วยชัยชนะไปนานแล้ว ซึ่งผมได้เห็นสิ่งเหล่านั้นจากกลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ ว่าเหตุผลที่พวกเขากำชัยชนะต่อบิดรเทพและกองรบของเขา ทั้งๆที่มีความแตกต่างกันด้านหน้าตาและเชื้อชาติ พวกเขาก็ร่วมรบเพราะมีชาตะกรรมและสถานะเป็นแมนิเกเตอร์เหมือนกันนะครับ"
              คาร์ทตันบอก "ทั้งๆที่เธอกับพวกเป็นพวกทรยศต่อจักรวรรดิ์ถึงสองครั้ง และทำให้เทพต้องสิ้นชีพเลยหรือ"
              "ถ้าเราไม่ลุกขึ้นต่อสู้กับจักรวรรดิ์แมนิเกเตอร์บนโลกและจักรวรรดิ์แรซัลก้ากันละก็ ทั้งโลกและสมาพันธ์อวกาศจะต้องถูกคุกคามจนมีผู้เสียชีวิตไปไม่น้อย โดยเฉพาะแรซัลก้า ที่กล้าใช้แผนเปลี่ยนทุกชนเผ่าของสมาพันธ์อวกาศให้เป็นแมนิเกเตอร์กันนั้น เป็นเรื่องร้ายแรงมากพอจนสมาพันธ์อวกาศมีเหตุผลที่ต้องถล่มดาวแม่ของพวกคุณนะครับ" มาสวาร์ทาร์บอก แฮงโก้ เฮฟฟอนและยิปเซทได้ฟังก็ตกใจ เช่นเดียวกับพอเทนด้าและคาร์ทตัน
              "นี้มันแรงเกินไปแล้วน่ะ ดาวแม่ของเราทำเช่นนี้เลยหรือ" พอเทนด้าบอก
              "แต่ด้วยความเสียสละของมารดรเทพ ที่รู้ถึงผลลัพธ์ของการกระทำ ดาวของพวกท่านจึงรอดมาได้ เช่นเดียวกับท่านประธานาธิบดีได้ใช้ความเชื่อมั่นว่าเขาสามารถคุมไม่ให้การคุกคามเกิดขึ้นได้อีกด้วย จึงเป็นเหตุผลที่พวกเราต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กัน" พีวิลบอก "ตอนนี้ กองยานบุกเบิกเองก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโจรสลัด จนกองรบของผบ.บัลโต้พลอยเป็นไปด้วยนั้น ถึงพวกท่านจะแก้ไขมันไม่ได้ แล้วทำไมพวกท่านถึงไม่ให้พวกเราช่วยแก้ไปเลยละครับ"
              คาร์ทตันบอก "แล้วพวกเธอไม่กลัวว่ามันจะล้มเหลวเลยหรือ"
              "ต่อให้ท่านกับพวกเป็นคนฉลาด พวกเราเก่งกาจกันแค่ไหน ก็ไม่มีทางแก้ไขปัญหาอันใหญ่หลวงกันไปได้หรอกนะครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เนคมาดูซัมบอก "เพราะว่าพวกเราอยากช่วยพวกท่านอย่างใจจริง หากแต่ เราเชื่อว่า วิชเฮสเลอร์มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ เหมือนที่ท่านทำอยู่ด้วย เพียงแต่ เราเลือกที่จะช่วยทำให้มันถูกต้องกันอย่างแท้จริง ต่อให้ท่านไม่อยากได้เลยก็ตาม เพราะเราไม่อยากจะให้เหตุซ้ำรอยเดิมแบบโฟรเดริม-4 เกิดขึ้นอีกต่อไปกันแล้วน่ะ ท่านนายพล"
              "................" คาร์ทตันนิ่ง และมองหน้าเนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ และพีวิลที่มีสีหน้าจริงจังอย่างมาก ยิปเซทบอก "ท่านนายพลครับ"
              แฮงโก้บอก "ท่านคงไม่เออออไปกับพวกมันเลยหรือครับ"
              "พวกเธอบอกว่า พวกเธอคิดจะช่วยพวกเรากัน เพียงแต่ช่วยทำในสิ่งที่มันถูกต้องเลยละสิน่ะ" คาร์ทตันกล่าว
              พีวิลบอก "พวกเราไม่คิดจะซ้ำเติมท่านกับพวกที่กำลังเดือดร้อนอยู่ เพราะพวกเรา ยังเห็นท่านเป็นผู้บังคับบัญชาการของพวกเราอยู่ เช่นเดียวกันกับรู้ผิดชอบชั่วดีกันด้วย ซึ่งเราจะไม่ทำผิดซ้ำสอง จากการที่เราได้ทรยศต่อพวกเดียวกันในช่วงสงครามบนโลกมาก่อนนะครับ"
              "นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเธอยังยืนหยัดมาได้เลยสิน่ะ" คาร์ทตันบอก "ในเมื่อพวกเธอกล้าพูดกับฉันได้แบบนี้ ฉันจะลองเชื่อพวกเธอสักครั้งแล้วกัน"
              เฮฟฟอนบอก "ท่านนายพล มันจะดีหรือครับ ในเมื่อมันทำยานของเราพังไปแล้วน่ะ"
              "ยานรบของพวกเรานั้น สามารถซ่อมแซมให้กลับมาได้ แต่ชีวิตนับร้อยที่อยู่บนยาน ถึงเราซ่อมได้ แต่ทดแทนมันไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าไม่เพราะพวกไทรเวเซอร์ พวกเราคงสิ้นชีพกันหมดแน่นอน" คาร์ทตันกล่าว "ดังนั้น ฉันจะสั่งการให้พวกเธอไปจัดการกันสักหน่อยน่ะ"
              เนคมาดูซัมถาม "แล้วท่านจะให้พวกเราทำอะไรละครับ ท่านนายพล"
              "งั้นก็ช่วยทำยังไงก็ได้ ให้พวกเราออกไปจากดาวดวงนี้ กลับสู่ดาวดวงที่สามของอีสทาล่าฟรอนเทียร์ได้มั้ยละ" คาร์ทตันกล่าว สามทหารเสือเวเซอร์ถึงกับชะงัก ในขณะที่ลูกน้องสามตัวเอ้ถึงกับยิ้มร่า
              พอเทนด้าบอก "มันไม่เกินไปหน่อยหรือคะ"
              "ถ้าพวกเธอเก่งกาจมากพอ จนมีบทบาทในมหาสงครามของดาวดวงที่สามในระบบสุริยะจักรวาลก็ดี ในมหาสงครามกับดาวแม่ของเราก็ดี หรือแม้กระทั่งขับไล่พวกเดลอาเนี่ยน ทรอยอาร์ สเตรดาร์ธ รวมถึงบดขยี้แก็งค์ริดโอ และจับคนทรยศมาลงโทษได้ พวกเธอก็ต้องทำเรื่องที่ฉันมอบหมายให้ได้เช่นกันน่ะ" คาร์ทตันบอก "ในเมื่อพวกเธอบอกว่าพวกเธอจะทำเพื่อช่วยพวกเราได้ละก็ ฉันหวังว่าพวกเธอคงไม่ผิดคำพูดที่ให้ไว้กันหรอกน่ะ"
              เนคมาดูซัมเลยจำต้องตอบไปว่า "ในเมื่อท่านนายพลสั่งมา พวกเราจะไปจัดการให้โดยเร็วเลยนะครับ"
              "เพียงแต่ ทางเราเองก็ต้องการแรงสนับสนุนจากพวกท่าน ในแง่ของพาหนะและเสบียงอาวุธกันสักหน่อยนะครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลบอก "เพราะเราต้องพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แม้พวกท่านส่วนมากจะไม่สามารถทำอะไรได้ก็ตาม เราหวังว่าพวกท่านคงจะให้ความร่วมมือกันบ้างนะครับ"
              "ถ้าเพื่อให้พวกเธอปฏิบัติภารกิจสำเร็จละก็ ฉันอนุมัติให้ แต่ถ้าทางเรารู้ว่าพวกเธอทำไม่ได้หรือล้มเหลว ฉันคงไม่มีทางเลือก นอกจากจะต้องลงโทษพวกเธอสถานหนัก ซึ่งคงจะรู้ดีบ้างน่ะ" คาร์ทตันบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น พวกเราขอไปเตรียมตัวกันก่อนนะครับ ท่านนายพล" แล้วสามทหารเสือไทรเวเซอร์ก็เดินออกจากห้องประชุมโดยทันที
              "นี้ท่านคิดดีแล้วหรือคะ ที่ให้ภารกิจแบบนั้นกับพวกเขาเลยน่ะ" เฮเดรียนบอก
              คาร์ทตันกล่าว "ฉันไม่หวังอะไรจากพวกไทรเวเซอร์หรอกน่ะ แม้ว่าพวกเขาจะมีสายตาและความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า จนทำให้ฉันคาดไม่ถึงเลยว่า แมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้อย่างพวกเขา จะมีความเชื่อมั่นแบบนี้อยู่ แม้จะอยู่ในสถานการณ์แย่ๆเลยน่ะ"
              "แล้ว ท่านไม่กลัวว่า พวกเขาจะทำสำเร็จจริงหรือคะ" พอเทนด้าบอก
              คาร์ทตันบอก "เรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้นั้น มันก็เป็นไปไม่ได้แน่นอนละ ต่อให้พวกเขาแน่แค่ไหน พวกเขาก็ต้องได้รับบทเรียนอยู่ดี"
    ต่อช่วงที่ 2
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×