ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

    ลำดับตอนที่ #72 : ตอนที่ 26 แผนปฏิบัติการณ์บนโลกสิ้นสุด จุดเริ่มของปัญหาที่ใหญ่ยิ่งของไทรเวเซอร์ พาร์ทสุดท้าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15
      0
      21 ก.ค. 63

              "นายหมายถึงเรื่องดีสเครดิตพวกเรา รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับแทแรนเซียเลยละสิน่ะ" พีวิลบอก
              เกซิคพยักหน้า "ถูกเผงเลยละ เบรซซิ่งฟิสท์พีวิล พวกมนุษย์ที่ร่วมรบกับองค์ราชินีมากาเล็ต ซึ่งรวมหัวกับพวกนายในการโค่นท่านโอเวอร์เดส และบีบให้ฉันต้องหลบซ่อนมาตลอด 1 ปีนั้น สมควรจะได้รับการโดนเล่นงานด้วยอำนาจที่เหนือกว่ากันนี้แหละ เพราะว่า แนวทางขององค์ราชินีนั้นเป็นอุปสรรค์ขัดขวางแผนการของฉันไว้น่ะ"
              "แผนการที่คุณหลอกลวงชาวโลกให้เข้าร่วมกองทัพเพื่อทำสงครามกับพวกเราเต็มรูปแบบ แต่เปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นแมนิเกเตอร์อย่างงั้นละสิคะ" แอนเดรียบอก
              เกซิคกล่าว "ใช่แล้วละ คุณเอเดรียน ราชินีมากาเล็ตมีแนวทางที่ต้องการให้ชาวโลกฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสียหายให้กลับสู่สภาวะเดิม รวมไปถึงการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับชาวอาณานิคมบนดวงจันทร์และดาวทั้งแปด เพื่อที่จะให้มนุษย์ในระบบสุริยะจักรวาล เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมนุษย์ในอวกาศของเฮนรี่ ไนท์ ซึ่งนำพาความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองมาให้ น่าขัน ถ้าทำแบบนั้น พวกมนุษย์โลกก็คงออกไปจากโลกกันเป็นจำนวนมาก จนไม่มีกำลังมากพอที่ฉันจะแปรเปลี่ยนเป็นแมนิเกเตอร์เหมือนที่ฉันทำกันได้นะสิ"
              "เพราะอย่างงั้น นายเลยเริ่มโครงการสร้างเสาลิพท์วงโคจรและวงแหวนวงโคจรขึ้นมา เพื่อที่นายและสหพันธ์โลกใหม่ของนาย สามารถสร้างสถานีปืนใหญ่วงโคจรขึ้นมาใช้เล่นงานฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยทั้งในและนอกโลกเลยสิยะ" โฟรซ่าบอก
              เกซิคกล่าว "ฉันทำทุกวิถีทาง เพื่อกำจัดทุกฝ่ายที่กล้ามาขวางทางแผนการของฉัน ที่ต้องการก่อสงครามกับพวกนายและแรซัลก้ากัน ซึ่งพวกมนุษย์ส่วนมากที่หลงเชื่อและร่วมมือกับฉันนั้น ช่วยให้งานของฉันเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยที่พวกมนุษย์เหล่านั้นโง่และไม่รู้เลยสักนิด ว่าพวกนั้นคิดจะใช้ฉันเป็นเครื่องมือเพื่อสนองความต้องการของพวกมัน ทั้งๆที่ พวกมันต่างหากละ เป็นแค่ตัวหมากที่ฉันพร้อมจะเขี่ยหรือทำลายทิ้งก็ยังได้น่ะ"
              "เหมือนที่นายจัดการกับเชอริตัลด้วยลำแสงจากปราการต้องห้ามของพวกครอสตรีมเลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก "และถ้าให้เดา นายคงจะรู้เรื่องที่แทแรนเซียกักตัวโอเวอร์เดสไว้ เช่นเดียวกับ ช่วยเหลือดร.เดลวีแองนู พร้อมให้ที่พำนักพักพิงแก่เขามาตลอด 24 ปีเต็ม ผ่านทางชาวแทแรนเซียที่นายชักใยอยู่สิน่ะ"
              เกซิคกล่าว "ครองคอร์ดคงจะบอกกับนายไปแล้วสิ ว่าฉันคิดจะใช้ดร.เดลวีแองนูมาช่วยสร้างเครื่องมือมาจัดการกับโอเวอร์เดสกันแต่แรก หากแต่ ไอ้หัวแหลมนั้นมันขวางทางฉัน ด้วยการสั่งยิงปืนใหญ่ทำลายเรือลำเลียงพ่อลูกเดลวีแองนูไว้ ซึ่งนายเองก็ห้ามก็ไม่ทันการณ์เช่นนี้ ไม่คิดเลย ว่าไอ้หัวแหลมมันช่วยคุณหนูเอเดรียน ซึ่งฉันคิดจะใช้เป็นเครื่องมือในการบีบบังคับให้ดร.เดลวีแองนูร่วมมือกับฉันแบบหลีกเลี่ยง ให้ไปอยู่กับดร.รีไลฟ์เวอรี่ที่กบดานอยู่ที่เอเวอเรสท์น่ะ"
              "ถึงแม้จะเจ้าเล่ห์และไว้ใจไม่ได้ ครองคอร์ดก็ฉลาดยิ่งกว่านายและรู้ว่า นายมันแค่แมนิเกเตอร์อวดดีที่ปากพาตัวเองให้ถูกอัปเปหิออกไปนอกดาว เพียงเพื่อช่วยเจ้านายให้ดำเนินโปรเจคที่โคตรระยำยิ่งกว่าต่อไปได้น่ะ" จิลบอก
              เจเนลกล่าว "และนายเองก็คงจะรู้แต่แรกแล้วสิ ว่าครองคอร์ดใกล้จะตายแล้ว รวมไปถึงเรื่องสร้างกองรบด้วยน่ะ"
              "รู้อยู่แล้วละ เพราะต่อให้มันประสบกับความล้มเหลวในการสร้างกองทัพแมนิเกเตอร์ที่ใช้คุณลักษณะของสโทรเพธ ครีซีแทนและเพรโทรน็อกซ์รวมกันไปแล้วครั้งหนึ่ง นึกหรือว่ามันจะไม่สานต่อให้สำเร็จไปได้น่ะ" เกซิคกล่าว "ถ้าให้เดา นายคงจะจัดการกับไอ้หัวแหลมลงไปแล้ว ซึ่งแบบนั้นก็ดีเลย เพราะพอฉันจัดการกับพวกนายและพวกมนุษย์ที่เข้าข้างแทแรนเซียลง ฉันจะตามไปยึดกองรบของครองคอร์ดมาเป็นของฉันเองแหละ"
              พลัสเชอริทกล่าว "ก่อนที่นายจะไปหาพวกเขานั้น พวกเราคงต้องขวางนายไว้แล้วละ"

              "ถึงพวกนายจะขวางฉันได้ แต่พวกนายขวางมนุษย์ทั้งโลกได้มั้ยละ เพราะฉันมีความสามารถในการควบคุมสื่อทั่วโลกกันไว้ แน่นอน ว่าถ้าพวกนายทำอะไรบ้าๆ ฉันจะทำให้พวกนายเป็นฝ่ายอธรรมแบบไม่มีทางลบเลื่อนได้อีกเลย ถึงตอนนั้นแหละ สงครามของมวลมนุษยชาติที่แท้จริงก็จะได้เริ่มขึ้นเสียที และมนุษย์ทั้งปวงก็จะเป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้ ในฐานะของทาสที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของฉันนั้นแหละ" เกซิคกล่าว
              แอบไบออสบอก "เพราะว่านายจะเปลี่ยนมวลมนุษยชาติให้เป็นแมนิเกเตอร์กันทั้งโลกเลยสิน่ะ แล้วนายคิดจะทำเช่นไรกับวีรบุรุษสงคราม หลังจากที่กำชัยชนะต่อพวกเราไปแล้วน่ะ"
              "พวกมนุษย์ที่ได้รับชัยชนะนั้นจะได้รับรางวัลสุดพิเศษที่พวกเขาสมควรได้ นั้นก็คือ รายชื่อของพวกเขาบนอนุสรณ์สถานยังไงละ เพราะว่าโลกใบนี้ ไม่มีที่ยืนสำหรับพวกมนุษย์ที่กลายเป็นแมนิเกเตอร์กันอย่างแท้จริงหรอกน่ะ ฮะๆๆๆๆๆๆๆ" เกซิคบอก
              คลอเวฟบอก "แล้วทีมึงละ เกซิค มึงเป็นชาวซัลคาเลี่ยนมาจากแรซัลก้า ซึ่งเป็นดาวของพวกแมนิเกเตอร์อวกาศกันมิใช่หรือ ทำไมมึงถึงไม่กลัวเลยน่ะ"
              "ใครจะไปสนใจกันละ ว่าผู้นำสหพันธ์โลกใหม่คนปัจจุบันนี้ จะเป็นแมนิเกเตอร์กัน เพราะพวกมวลมนุษยชาติทั้งหลายสนเพียงอย่างเดียว นั้นคือการได้อยู่บนจุดสูงสุดของทุกอารยธรรมในอวกาศทั้งปวง และอยู่เหนือพวกแกที่ถูกถีบลงไปเบื้องล่างสุด ในฐานะของทาสรับใช้ของพวกมนุษย์ขนานแท้อีกทีหนึ่ง แน่นอน ว่าโอเวอร์เดสในตอนนี้ ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้หรือคิดแผนบ้าๆในการทำลายกองกำลังตัวเอง ด้วยกองรบกบฎของแอคเมนโด้หน้าโง่ที่ปฏิเสธคำแนะนำของฉันไว้ทุกครั้ง จากการมีเพื่อนอวดฉลาดอย่างเฮลิค นอร์มังดีและพวกอยู่เคียงข้าง ซึ่งเฮลิคฉลาดมากเกินจนตายแบบหยั่งเขียดเช่นนี้ ฟังแล้วมันสมน้ำหน้าจริงๆ" เกซิคกล่าว
              พีวิลบอก "การเสียสละของผู้การเฮลิคนั้น คือการเสียสละเพื่อปกป้องพวกเราจากการปองร้ายทุกรูปแบบ ถ้านายดูถูกผู้การเฮลิค นายก็ดูถูกแม้กระทั่งดยุคเคราซไซท์ ผู้เป็นหัวหน้าของนายเลยสิน่ะ"
              "สำหรับฉันแล้ว ท่านเคราซไซท์ก็แค่ขั้นบันไดที่ช่วยให้ฉันประสบความสำเร็จ และการช่วยให้ท่านเคราซไซท์ดำเนินสุดยอดโปรเจคเพื่อความมั่นคงอันยิ่งใหญ่ของแรซัลก้านั้น คือตั๋วฟรีที่ทำให้ฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่นี้แหละ ถ้าไม่เพราะจักรพรรดินีโอเวอร์เรสและสภาสูงในเวลานั้นมาขวางทางไว้ ฉันก็คงไม่ต้องถูกถีบออกจากดาวมาเป็นผู้คุมกฎเพียงในนาม พร้อมกับสถานะนักโทษประหารกันหรอก" เกซิคบอก
              ฟิเกซกล่าว "โปรเจคของเคราซไซท์นั้นมันคือการสังเวยแมนิเกเตอร์ทุกฝ่ายเพื่อเอามาสร้างยานรบขนาดยักษ์ การที่นายเข้ามาในกองรบของโอเวอร์เดสนั้น นายคงคิดจะหลอกพวกมนุษย์มาเป็นชิ้นส่วนประกอบยานรบ เพื่อช่วยให้เคราซไซท์ดำเนินงานได้เร็วกว่าเดิม ตามที่นายคิดไว้แต่แรกเลยสิน่ะ"
              "แต่พอนายรู้ว่าเคราซไซท์เฉดหัวนายออกไป นายเลยเปลี่ยนแผนมาหลอกใช้พวกมนุษย์ให้ร่วมมือกับนายในการป่วนแผนการของโอเวอร์เดส ด้วยการแอบอ้างตนเป็นคนของฝ่ายสหพันธ์โลกในเวลานั้น เหมือนที่นายทำในตอนนี้เลยสิน่ะ" สเตฟอร์ดกล่าว
              เกซิคบอก "ถูกต้อง เพราะว่าพวกจนท.ฝ่ายความมั่นคงและสายลับทางรัฐบาลบางรายนั้น ยังไม่คิดล้มเลิกที่จะก่อสงครามกับพวกนาย รวมไปถึง เคมแรนและพวกทหารหน้าโง่ที่ดื้อด้านมาก ชนิดที่พอทางเราคืนชีพไปแล้ว มันยังคิดว่าตัวเป็นมนุษย์อยู่ ทั้งๆที่ความจริงแล้ว มันกับพวกพ้อง เป็นแค่แมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์พันธุ์ผสม เหมือนกับพวกมนุษย์หน้าโง่ทั้งหลายนี้แหละ"
              "คำก็โง่ สองคำก็โง่ นี้นายมองพวกมนุษย์โลกทั้งหมดกันแบบนี้เลยหรือ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              เกซิคบอก "ถ้าพวกมนุษย์ฉลาดมากจริง พวกนั้นก็คงฉลาดมากพอที่จะเป็นก้างขวางคอฉันได้ เหมือนกับพวกฟรินท์แฟนดิแอโรว เหมือนกับนายบ้านโซลราฟและลูสนาร์ค เหมือนกับบราวน์เดคและไวโอเลฟ รวมไปถึงราชินีมากาเล็ตเองด้วย ซึ่งฉันได้ให้พวกเฮซเทิร์ซที่เหลือรอด แฝงตัวอยู่ในมหาสหรัฐอเมริกาเหนือ ให้นายทหารของฉันคุมพวกเทอร่าสควอดอน และให้นายทหารอีกส่วนนั้นจัดการกับพวกดาวทั้งแปดและดวงจันทร์ไว้อีกที" แล้วก็พูดต่อ "แต่รายหลังนั้น นางพยายามไม่น้อยที่จะทำความเข้าใจกับประชากรของนาง ถึงเจตจำนงที่นางต้องปิดบังเรื่องของพวกนายไว้ ทั้งๆที่ นางควรจะยอมรับได้แล้ว ว่าประชาชนส่วนมาก เขาต้องการผู้นำที่ไม่มีแมนิเกเตอร์อย่างพวกนายมาช่วย ผู้นำที่แข็งแกร่งและไว้ใจได้ ซึ่งก็คือฉันเองแหละ ที่จะคุมประชาชนทุกฝ่ายให้อยู่ในกำมือ ส่วนพระนางและลูกๆ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายนั้น สมควรจะไสหัวไปอยู่ในทะเลทรายกันได้แล้ว ตามความต้องการส่วนมากของประชาชนทั้งหมดน่ะ"
              "แล้วนายก็คงจะเปลี่ยนประชาชนของนาย ให้กลายเป็นแมนิเกเตอร์กันอีกละสิ" สเปียริทบอก
              เกซิคกล่าว "แน่นอน ไม่ว่าประชาชนหรือขั้วอำนาจที่เป็นพวกเดียวกันหรือเป็นปรปักษ์กับองค์ราชินี ฉันเปลี่ยนมันได้หมดนี้แหละ เพราะในสายตาของฉัน มนุษย์มิได้ยิ่งใหญ่เลย มันก็เป็นได้แค่ ขี้ข้าและทาส ที่สมควรจะเป็นในสิ่งที่พวกมันเกลียดและกลัวกันนี้แหละ หึๆๆๆๆๆ"
              "แล้วนายไม่กลัวว่ามีใครหน้าไหนได้ยินเลยหรือ" เนคมาดูซัมกล่าว
              เกซิคบอก "อย่าลืมสิ ว่าฉันมีอำนาจการคุมสื่ออยู่ ฉันสามารถลบคำพูดของพวกนายทิ้งและเปลี่ยนบทสนทนาในแง่ร้ายกันไว้ แน่นอน ว่าน้ำหน้าอย่างพวกนายไม่มีทางขัดขวางหรือทำอะไรได้ในช่วงก่อนหน้าที่พวกนายเข้ามาในนี้กันหรอก" แล้วก็หยิบรีโมทออกมา "อีกไม่ช้า พวกนายทั้งหลาย รวมถึงพวกทหารที่เป็นฝ่ายราชินี จะต้องถูกกองรบของฉันกำจัดทิ้งแล้วละ ฮะๆๆๆๆๆ"

              "แล้วนายจะต้องเสียใจกันแน่นอนน่ะ" จายด์บอก
              เกซิคเลยกดรีโมทพร้อมกับติดต่อไปหา "เอาละ คุณแกนนำ เปิดหน้าจอโปรเจคเตอร์ เพื่อให้ประชาชนของพวกคุณได้รับรู้ความจริงกันแล้วละ"
              "ท่านผู้นำ ท่านเห็นเราเป็นไอ้โง่ใช่มั้ยละ ที่มาหลอกพวกเราให้ต่อต้านองค์ราชินีของเราเลยน่ะ" แกนนำกล่าว
              เกซิคบอก "พวกเธอเข้าใจผิดแล้ว พวกแมนิเกเตอร์นั้นมีแผนหลอกลวง ซึ่งฉันตั้งใจที่จะแจ้งให้ทุกๆคนรับทราบกัน โดยให้เธอเปิดหน้าจอโปรเจคเตอร์ไว้น่ะ"
              "หรือ แต่ผมเปิดไว้นานแล้ว และทั้งผมและพวกเรา ได้ยินในสิ่งที่ท่านพล่ามเอาไว้ด้วยน่ะ" แกนนำบอก "และที่สำคัญก็คือ ไม่ใช่แค่แทแรนเซีย แต่ทั่วโลก ต่างได้ยินกันหมดแล้วด้วยน่ะ"
              เกซิคหน้าซีดขึ้นมา แล้วก็รีบเปลี่ยนไปติดต่อหา "นายพลซุนเฮม นำกองรบตรงไปแทแรนเซียเดียวนี้เลย"
              "ผมขอปฏิเสธน่ะ ไอ้ท่านผู้นำแมนิเกเตอร์" ซุนเฮมกล่าว "ท่านไม่เพียงหลอกลวงพวกเรามาตลอด 23 ปี ท่านยังหลอกชาวโลกที่เข้าร่วมกองทัพ เพื่อแปรสภาพพวกเขาเป็นแมนิเกเตอร์กันเช่นนี้ แถมยังมาหลอกพวกเราว่าเป็นมนุษย์มาตลอด 44 ปีด้วยนั้น มันเป็นเรื่องไม่น่าให้อภัยกันอย่างมากเลยน่ะ"
              เกซิคถาม "แล้วท่านกับพวกคิดจะขัดคำสั่งของผมนะหรือ"
              "เปล่า ผมกับพวกวางอาวุธต่อกองรบอดีตสหพันธ์มวลมนุษยชาติเดิมที่ถูกท่านเปลี่ยนแปลงแล้วต่างหากละ เพราะมันไม่มีประโยชน์อันใดเลย ที่พวกเราจะมาตีกันเอง เพียงเพราะความคิดบ้าๆของแกกันน่ะ" ซุนเฮมบอก โดยตอนนี้ตนกับพวกอยู่ในความควบคุมของคงเดชและพวกแล้ว "และอย่าคิดที่จะติดต่อกับนายทหารรายอื่นเลย ทุกคนพร้อมจะกุดหัวแกได้ทุกเมื่อน่ะ"
              เกซิคได้ฟังก็กัดฟันกรอดๆ "พวกแกทำอะไรกับระบบสื่อสารของฉันน่ะ"
              "เกรงว่าไม่ได้มีแต่นายเท่านั้นแหละ ที่ควบคุมสื่อได้น่ะ" พลัสเชอริทกล่าว
              โฟรซ่ากล่าว "ก่อนที่ครองคอร์ดจะสิ้นใจนั้น เขาไม่เพียงให้พิกัดที่ตั้งของนายอย่างเดียว แต่ให้แอปตัดการเชื่อมต่อกับระบบสื่อสารจากสำนักงานใหญ่ไปยังแทแรนเซียมาด้วยน่ะ"
              "แต่ พวกนายปะทะกับเหล่าสมุนของฉันมาแต่แรกแล้ว ไม่น่าจะมีใครหน้าไหนเข้าใกล้คอมพิวเตอร์ได้เลยน่ะ" เกซิคกล่าว
              พีวิลบอก "พวกเราไม่จำเป็นต้องใส่แอปนี้เข้าไปในคอม จนระบบปฏิบัติการณ์ของคอมตัวหลักแจ้งและลบทิ้งกลางคันหรอกน่ะ เพราะทันทีที่พวกเราบุกเข้าไปข้างในตัวอาคารแห่งนี้ ก็ถือว่าได้ใส่แอปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หลักไปโดยปริยายไปแล้วละ" โดยที่พวกเขาให้แอมเบอร์เชื่อมต่อเข้าระบบคอมพิวเตอร์ไว้ ซึ่งเธอจัดการใช้แอปตัดระบบทิ้ง
              "และพอเราเข้าใกล้นายปุ๊บ เราก็คุยกับนายไปเรื่อยๆ เพื่อให้นายพูดทุกอย่างออกไป โดยไม่รู้เลยว่า พวกเราทำหน้าที่เป็นผู้บันทึกภาพและเสียงของนายไปให้แล้วละ" จิลบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "แน่นอน ว่าไม่ใช่แค่แทแรนเซีย แต่เราเชื่อมต่อกับสถานีส่งคลื่นสื่อสารกับดาวเทียมนอกโลกให้กระจายไปทั่วโลกในคราวเดียวด้วย" แล้วก็ชี้ไปข้างหลัง "อีกอย่าง ไม่ใช่นายคนเดียวหรอกที่ใช้โดรนถ่ายภาพได้น่ะ" ซึ่งมีโดรนบินอยู่ข้างหลังพวกเมนซิกส์ทีนอยู่
              "บัดซบที่สุด ไอ้หัวแหลมตายไปแล้ว ยังกล้าหัวเราะเยาะเย้ยฉันไม่ว่า พวกแกยังกล้ามาลองดีกับฉันเช่นนี้ มันไม่น่าให้อภัยเลยน่ะ" เกซิคกำรีโมทจนแหลกกระจุยไป
              มาสวาร์ทาร์บอก "ที่ไม่น่าให้อภัยนั้น มันนายต่างหากละ เกซิค นายโกหกคนทั้งโลกให้คล้อยตามและทำตามคำสั่งของนายกันไม่ว่า นายยังสังเวยพวกเขาด้วยการเปลี่ยนเป็นแมนิเกเตอร์ เพียงเพื่อให้พวกนั้นโค่นพวกเราและแรซัลก้า สนองต่อความแค้นบ้าๆที่นายเป็นคนก่อเช่นนี้ พวกเรายอมให้นายรอดต่อไปไม่ได้แล้วละ"
              "หรือ แต่ฉันยังมีไพ่ตายที่น่ากลัวกันอีกด้วยน่ะ" เกซิคกล่าวและหยิบกุญแจออกมา "ไอ้หัวแหลมคงจะบอกนายเรื่องเทรแซทกันสิน่ะ ดีเลย เพราะฉันจะปล่อยมันออกมา แล้วให้มันทำลายโลกนี้ไปซะ"
              เจเนลบอก "พวกเราไม่กลัวหรอก ว่านายจะงัดอะไรที่แย่กว่าออกมากันแล้วน่ะ" โดยโต๊ะทำงานของเกซิคเปิดเอาช่องกุญแจของระบบฉุกเฉิน
              "แล้วพวกแกจะเสียใจกันน่ะ" เกซิคบอก แล้วเสียบกุญแจลงช่อง "แกร็ก" จากนั้นก็หมุนไป แต่ "ปี้บๆๆๆๆๆ" ระบบกลับส่งเสียงและเปิดโฮโลแกรมวินโดว์สีแดงขึ้นมาว่า "ไม่มีเป้าหมายอยู่ในผนึก" และฉายภาพภายในถ้ำ ซึ่งมีแคปซูลแก้วที่ไม่มีอะไรเลย เกซิคยิ่งหน้าบึ้งมาก และหันมาถาม "เป็นฝีมือของพวกแกและไอ้หัวแหลมหรือเปล่า"
              เนคมาดูซัมบอก "ถึงพวกเรารู้จากครองคอร์ด แต่ครองคอร์ดเตือนเราเรื่องเทรแซทไว้ ซึ่งพวกเราไม่ได้เข้าไปแตะต้องแคปซูลผนึกเลยสักนิดเดียวเลยน่ะ"
              "ครองคอร์ดเองก็รู้ว่าเทรแซทอันตรายแค่ไหน เขาคงไม่เสี่ยงเข้าไปใกล้แคปซูลให้นายรู้ตัวกันได้หรอกน่ะ" พลัสเชอริทบอก "ความเป็นไปได้เพียง 150 เปอร์เซนต์ก็คือ ถ้าเทรแซทไม่หายไปเอง ก็ต้องเป็นกาเบลแบนเยอร์และมาโดว์เวลเดอร์ที่มาหานายเลยสิน่ะ"
              เกซิคบอก "กะแล้วว่าทำไมไอ้กาเบลแบนเยอร์ถึงชิลๆนัก แต่ก็ดี เพราะฉันจะจัดการกับพวกนายทั้งหมดนี้ และยึดทุกอย่างคืนกลับมากันนี้แหละ" แล้วก็ดีดนิ้ว "ครืดดดด แกร็กๆๆๆๆๆ ครืดดด ตรึงงง" เตียงในห้องเลื่อนออกมา โดยแยกออกเป็นสองข้างเพื่อนำชุดเกราะขนาดใหญ่ออกมา "ตึกๆๆๆๆ ฟึ่บบบ แกร็กๆๆๆๆ" เกซิควิ่งเข้าไปสวมเกราะอันใหญ่โตไว้ โดยส่วนแผงหน้าแข้งต้นขาเลื่อนปิด ส่วนหัวไหล่เลื่อนปิดส่วนแขนตาม รวมถึงส่วนเกราะลำตัวด้านหน้า
              "ถ้าให้เดา นายสร้างชุดเกราะนี้เลียนแบบชุดเกราะขนาดใหญ่ที่เทอร่าสควอดอนใช้งาน แต่ใส่วิทยาการของกองรบจักรวรรดิ์แมนิเกเตอร์เข้าไปเลยสิน่ะ" พีวิลบอก
              เกซิคกล่าว "แน่นอน เพราะฉันจะไม่ยอมโดนพวกแกจับกุมโดยไม่สู้ไม่ได้หรอก" แล้วก็สวมหมวกที่มีหงอนตัวยูบนหัวปิดหน้าเอาไว้ "ครืดดดดดดดดด ตรึงงงง" จากนั้นห้องทำงานก็เลื่อนขึ้นมาบนยอดตึกสูง "ถึงเวลาที่ฉันจะจัดการกับพวกแกกันแล้วละ"
              "เกซิค เกรงว่านายหาเรื่องกับศัตรูผิดกลุ่มแล้วละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "ถ้านายคิดว่าพวกเราหาเรื่องกับครองคอร์ด รวมถึงสมุนของนาย จนไม่มีพลังเหลือละก็ นายคิดผิดไปได้เลย"

              "สามหาวนะ พวกแก เตรียมตัวตายซะ" เกซิคเปิดนำด้วยการยิงลำแสงจากปลายนิ้วใส่พีวิลมาอย่างเร็ว "หวับๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆๆ" สเปียริทควงพลองปัดลำแสงให้กระเด็นออกไป "แคลกเกอร์บอมส์" จายด์ยิงลูกระเบิดเข้าใส่ "ตรูมมมม บรึมๆๆๆ" โดยแตกสะเก็ดระเบิดเป่าใส่เกซิคอย่างจังๆ ซึ่งตัวเกราะกลับไม่เป็นอะไรเลย           "เกราะหุ้มด้วยพลังอีเนลเซี่ยม ทั้งๆที่นายยิงลำแสงแบบโซลูนาสตี้เลยนะหรือ" พีวิลกล่าว
              "แล้วถ้าเป็นไอ้นี้ละ โอเชี่ยนเกย์เซอร์" คลอเวฟชกพื้นให้เกิดพื้นเสาน้ำพุ่งอัดใส่เกซิค แต่ "ซูมมมมมมมมมมม" เกซิคใช้ไอพ่นปล่อยพลังงานน้ำเข้าสาดต้านเสาน้ำพุของคลอเวฟและพุ่งลงมา "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จายด์เลยรีบเข้าป้องกันแทน เกซิคฉวยโอกาสบินเข้าไปอ้อมด้านหลังเพื่อจัดการกับพวกเมนซิกส์ทีนแบบไม่ให้ตั้งตัว "แนชเชอรอลบาเรีย" จิลใช้บาเรียพายุดอกไม้และใบไม้เข้าพัดใส่เกซิค ซึ่งใช้ดาบผลึกครอสเซี่ยมจากหลังแขนเข้า "ชรี้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" รั่วตัดใบไม้และกลีบดอกไม้ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พร้อมกับพุ่งเข้าใส่ "หวับๆๆๆๆๆ" พวกเมนซิกส์ทีนรีบโผหลบออกด้านข้างกันหมด แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดดด แชดด แชดด ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยะๆๆ" ระดมยิงใส่เกซิคอย่างไม่ยั้ง แต่... "ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ปิ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ เปร้งๆๆ" กระสุนกลับไม่ระคายผิวเกราะของเกซิคเลยแม้แต่น้อย
              "อาวุธปืนสั่วๆของพวกแกไม่มีทางทำอะไรเกราะเกรทรูลเลิร์ท-แซทของฉันไปได้หรอก" เกซิคบอก
              "ต่อให้นายมีเกราะแกร่งกันก็จริง แต่ก็มิได้หมายความว่าพวกเราจะทำอะไรแกไม่ได้หรอกน่ะ เกซิค" สเตฟอร์ดบอก
              สเปียริทกล่าว "จีเนฟารี่บอกกับเราทำนองนี้ แล้วเธอก็แพ้หมดรูปด้วยนั้น นายยังจะเป็นแบบเธอเลยหรือ"
              "จีเนฟารี่ก็แค่อีโง่ที่ใฝ่สูงเกินตัวไปหน่อย ฉันกะให้เธออยู่ที่โลก แต่เธอกลับหนีออกจากโลกไปอยู่ระบบอวกาศอื่นซะ ซึ่งนั้นก็ทำให้ฉันต้องขัดขวางพวกมนุษย์ไม่ให้ออกนอกโลกด้วยปืนใหญ่วงแหวนวงโคจรกันนี้แหละ" เกซิคบอกพร้อมกับ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงมิไซล์ออกจากข้างขาเข้าใส่พวกเมนซิกส์ทีนไปเต็มๆ
              "นายห้ามมนุษย์ไม่ให้ออกนอกโลก เพราะขวางจีเนฟารี่ไม่ได้เช่นนี้ มันวัวหายแล้วล้อมคอกกันชัดๆน่ะ" เจเนลกล่าว
              "แน่นอน ว่าเธอคงจะตายด้วยน้ำมือของพวกแกเช่นนี้ ฉะนั้น ฉันจะจัดการกับพวกแกทั้งหมดนี้ในทันทีนี้แหละ รวมถึงแกด้วย บุตรีคนสุดท้ายแห่งโอเวอร์เดส" เกซิคบอก
              สเปียริทบอก "ถึงนายจะรอดจากการลงโทษของท่านพ่อได้ แต่นายเจอการลงทัณฑ์จากพวกเรากันได้แล้วละ ผู้คุมกฎเกซิค"

              "ไม่มีใครหน้าไหนลงทัณฑ์ฉันไปได้หรอก" เกซิคบุกเข้ามาด้วยความเร็วสูง แต่ "แฟ้ววว แฟ้วววว" แฟงค์สไลเซอร์สองอันพุ่งเข้าใส่ เกซิคเลยก้มหลบอันแรกและหมุนตัวหลบอันที่สองให้ผ่านลำตัวไปอย่างฉิวเฉียด "อีวิลเฟรมคลอว์" แอบไบออสกระโจนเข้าขวางเกซิคและสาดเพลิงกรดใส่เกซิคไปเต็มๆ "หน้าโง่ เพลิงสั่วๆของพวกเวโนมิไนซ์ทำอะไรฉันไม่ได้...." เกซิคกล่าว โดยใช้ฝ่ามือปัดเพลิงที่ครอกหน้าออกไป แต่ก็ต้องตกใจเพราะคลอเวฟกระโจนมา "ทุเรียนเหล็กดังค์" ทุ่มลูกตุ้มของเด็ดของตน "กร้องงงงง" เข้าที่หน้าอกซ้ายของเกซิคอย่างจังๆ "หวับบบบ ป้ากกกก" แอบไบออสเลยวิ่งเข้ามาเตะทุเรียนเหล็กที่กระเด้งออกมาให้ย้อนกลับไป "เปรี้ยงงง" อัดใส่หัวไหล่ซ้ายไปเต็มๆ แม้จะทำให้หน้าแข้งแตกหักเลยก็ตาม แต่ตนก็รักษาตัวเองได้ "หวับๆๆๆๆๆๆ" แฟงค์สไลเซอร์สองอันหมุนวกกลับมา "กรี้กๆ แฟ้ววววว กรี้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ป้ากกก" ต่อประกอบกับไวเปอร์เชนที่พลัสเชอริทยิงออกไปกรีดใส่เกซิคไปเต็มๆ จนหน้าอกมีรอยครูดไหม้สองข้างด้วยกัน "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆ" จิลปล่อยไซโคบิทพุ่งเข้ายิงลำแสงใส่เกซิคอย่างต่อเนื่อง แม้มันจะสร้างเกราะพลังอีเนลเซี่ยมไว้ "สปาร์คช็อค ชาร์จช็อต" เจเนลยิงกระสุนไฟฟ้าขนาดใหญ่ช็อตตัวเกซิคไว้ แต่มันเป่ากระแสไฟฟ้าออกไป "โรลลิ่งสโตนแอทแทค" จายด์พุ่งขดตัวเข้า "ป้ากกกกก" อัดใส่เกซิคไปเต็มแรง "แชดด แชดด แชดด" เกซิคสาดลำแสงเข้าใส่จายด์แบบไม่ยั้ง "พลาซอนบอมเบอร์" ฟิเกซซัดลูกบอลพลังพลาซอนขนาดใหญ่เข้า "ป้ากกก ตรูมมมม" เป่าระเบิดใส่เกซิคจากข้างขวา "แฟ้ววววว" เกซิคเลยพุ่งเข้าจู่โจมใส่ฟิเกซด้วยดาบครอสเซี่ยมข้างซ้าย "กร้องงงง เพล้งงงง" สเตฟอร์ดหวดค้อนทุบดาบครอสเซี่ยมจนแตกกระจุย แล้วก็ "หวับบบบบ กร้องงงง" ทุบเข้าที่ท้องไปเต็มๆ จนทำให้สนามพลังอีเนลเซี่ยมหายไป "ฟ้าววววววววว" ไซโคลเนียให้โฟรซ่าขี่หลังและพุ่งเข้ามา "หวับบบบบ เชร้งงงง" ใช้เรซเซอร์อาร์มฟันใส่ต้นขาขวาให้เป็นรอย "เบิร์ดแทคเกิ้ล ดับเบิ้ลแอร์ฟอสคัตเตอร์" ไซโคลเนียชูแขนสองข้างที่งัดเอามีดออกมา โดยจู่โจมพร้อมกับ "ครอสชาร์จเจอร์" ของโฟรซ่า "เปรี้ยงงงง ป้ากกกก" ไซโคลเนียพุ่งแทงเข้าตรงท้อง พร้อมกับโฟรซ่าที่พุ่งชาร์จไขว้กากบาทเข้าตรงเกราะหน้าอกไปเต็มแรง จนเกซิคต้องถอยห่างออกไป
              "ร้ายนักนะ พวกแก" เกซิคยั้วะและเตรียมยิงลำแสงจากปลายนิ้วเข้าใส่พวกโฟรซ่า "แฟ้ววววว เกร้งงง กร้องงง" ลิเนียร์ตี้ซัดสลักเกอร์เข้าหน้าเกซิคไปเต็มๆ จนทำให้มันบุกตรงเข้ามาด้วยหมัดทั้งสองข้าง "กร้องงงงง กร้องงงงง" สเปียริทใช้โฮลด์เซอเคิ้ลเบรคหมัดซ้าย ในขณะที่แอนเดรียวิ่งเข้ามาใช้อัมเบรแลนซ์กางร่มป้องกันหมัดขวา "ถ้าคิดจะใช้กำแพงพลังขวางฉันละก็ ไม่มีทางหรอก เพราะฉันจะเผาพวกแกทั้งคู่นี้แหละ" เกซิคกล่าวแล้วก็ชูเท้าเพื่อสาดพลังไอพ่นเข้าใส่ "ฟอสโบลท์ บลูมบอมเบอร์" ลิเนียร์ตี้สะสมพลังแล้วซัดเข้า "เปรี้ยงงงง" แตกระเบิดออกเป็นกลีบดอกไม้เป่าใส่เกซิคไปเต็มๆ
              "อยู่นิ่งๆเสียเหอะคะ คุณเกซิค" แอนเดรียปล่อยโปรเทคชั่นสเฟียร์เอนเคจเมนต์เข้าใส่เกซิค ซึ่งทะยานบินหลบ จน "ซวบบบบ ตรึงงงง" ท่อนล่างโดนลูกบอลสนามพลังตรึงจนบินไม่ขึ้น
              "ขอสักทีหนึ่งเหอะ ไอ้ผู้คุมกฎ ลูกถีบมังกรบิน" สเปียริทวิ่งเข้ามาแล้วกระโจนเข้า "เปรี้ยงงงงง" ถีบใส่ยอดโค้งบนหมวกจนหักไป แม้จะไม่ถูกถีบเข้าที่หัวตรงๆ ก็ทำให้เกซิคกลัวจนตัวสั่นไป 15 วินาทีด้วยกัน
              "จังหวะนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์กล่าวแล้ววิ่งนำเนคมาดูซัมและพีวิล ซึ่งถือดาบใหญ่และเอนเนอจี้ร็อดทั้งสองเล่ม "ตึกๆๆๆๆๆ เชร้งๆๆๆ" มาสวาร์ทาร์พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูง พร้อมกับใช้ดาบฟันใส่เกซิคไปสี่ที เกซิคเลยหวดดาบครอสเซี่ยมขนาดใหญ่ "กร้องงงงง" เนคมาดูซัมใช้ดาบใหญ่ตั้งบล็อกคมดาบไว้ โดยที่มาสวาร์ทาร์โผหลบออกด้านข้าง "กร้อง กร้อง กร้อง กร้อง" แล้วเนคมาดูซัมก็ใช้ดาบฟาดปะทะใส่เกซิคไปสี่ทีเต็มๆ จากนั้นก็ "หวับบบบ ฉั้วะ" ฟันใส่เกซิคเข้าตรงหน้าอก "แฟ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลเลยพุ่งเข้าจู่โจมเกซิคด้วยความเร็วสูงและระดมหวดตีใส่เกซิคแบบไม่ยั้ง "นี้แน่" พีวิลประกบเอนเนอจี้ร็อดให้กลายเป็นพลองแล้วก็ "เปรี้ยงงงงง" ฟาดใส่กลางหลังเกซิคอย่างจังๆ "เครเซนท์เรซเซอร์" มาสวาร์ทาร์หวดดาบซัดคลื่นคมดาบขนาดใหญ่เข้า "ปั้กๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" แม้เกซิคจะยกแขนสองข้างเพื่อป้องกัน แต่ก็ต้านไม่อยู่จนแขนกระจุยทั้งสองข้าง
              "มันจะมากไปแล้วนะ แก!!!!!" เกซิคยั้วะแล้วก็เปิดส่วนหน้าอกเพื่อยิงลำแสงใส่ "สุพรีมบลัสต์" พีวิลปล่อยลูกพลังขนาดใหญ่เข้า "ป้ากกกก ตรูมมมม" อัดใส่เกซิคที่รีบปิดเกราะหน้าอกไว้จนเกราะพัง แต่มันก็ยิงลำแสงเข้าใส่
              "แย่หน่อยนะ เกซิค ที่แม้นายจะยิงลำแสงได้ แต่ กับลำแสงจากดาวหางควอตไซเซอร์นั้น มันคนละเรื่องกันนะเฟ้ย" เนคมาดูซัมกล่าวพร้อมกับกำดาบที่เรืองแสงแล้วก็ "เกรทสเตรทเตอร์ซอร์ด" แทงดาบเข้า "แวบบบบบ ซูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม" ยิงลำแสงสีทองพุ่งเข้า "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงงงง ตรูมมมมม" ปะทะลำแสงของเกซิคและดันให้เป่าระเบิดใส่เกซิคอย่างจังๆจนปลิวร่วงตกตึกลงมา "หวืออออออออออ โครมมมมมมม" กระแทกกับพื้นด้านหน้าอาคารอย่างจังๆ
              "เจ็บใจนักเชียว" เกซิคลากตัวเองออกจากชุดเกราะขนาดใหญ่ที่พังยับ "หวืออออ ตรึงงงง ซูมมมมม ตึก ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แล้วเมนซิกส์ทีนทั้งหมดก็โดดลงจากตึกมาขวางทางเกซิคไว้

              "บอกตามตรงน่ะ เกซิค ว่ามึง โคตรกระจอกงอกง่อยมากเลย ไม่แปลกใจแล้ว ว่าทำไมโอเวอร์เดสถึงให้มึงอยู่ในฐานทัพเพียงอย่างเดียวน่ะ" คลอเวฟบอก พร้อมกับใช้ตรีศูลจ่อคอ
              เกซิคกล่าว "เป็นไปไม่ได้น่า ชุดเกราะของฉันที่ได้รับการดัดแปลงอย่างเต็มที่นั้น ไม่น่าที่จะแพ้พวกแกกันได้เลยนิ"
              "จะบอกอะไรให้ก็ได้น่ะ ว่าต่อให้นายได้ข้อมูลของพวกเรามาแบบเต็มร้อยเปอร์เซนต์ จนโต้ตอบการต่อกรของเราได้จริง แต่ นายไม่มีทางสู้กับความพยายามและความกล้าของพวกเราที่ไม่มีอยู่ในข้อมูลกันมิได้หรอกน่ะ" ไซโคลเนียบอก "แน่นอน ว่าคนอวดฉลาดอย่างนายไม่มีทางเข้าใจอะไรได้หรอกน่ะ"
              เกซิคกล่าว "ความเข้าใจของฉันคือ การที่ฉันยึดครองโลกเพื่อนำพวกมนุษย์มาสร้างกองกำลัง ทำสงครามกับพวกแกและแรซัลก้า จากนั้น ฉันจะทำให้เคราซไซท์ก้มหัวลง ฐานที่มันเฉดหัวและทำเหมือนฉันเป็นเศษขยะน่ะ"
              "เคราซไซท์ก็เหมือนกับนายเองนี้แหละ ที่คิดถึงแต่ตนเอง โดยไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อนกันหรือไม่ แน่นอน ว่าความแค้นของนายนั้นมันน่าเจ็บปวดกันก็จริง" มาสวาร์ทาร์กล่าว "แต่นายไม่มีสิทธิ์ใช้ความเจ็บปวดมาเบียดเบียนผู้อื่น และขัดขวางความสงบสุขของมวลมนุษยชาติในระบบสุริยะจักรวาลนี้ สนองต่อความต้องการของนายเองไว้นะ"
              แอนเดรียบอก "และเพราะความเห็นแก่ตัวของคุณที่อยากจะเหนือกว่าโอเวอร์เดส ได้ทำให้คุณพ่อของฉันจากโลกนี้ไปแล้ว หลังจากคุณคิดจะใช้ฉันและคุณพ่อเพื่อโค่นโอเวอร์เดสไว้น่ะ"
              "ถ้าเช่นนั้นก็จบชีวิตของฉันเสียเลยสิ อย่างน้อยก็เพื่อทำให้พ่อแก่ๆของเธอไปอย่างสงบได้น่ะ" เกซิคพูดท้าทาย แอนเดรียเลยคิดจะชักปืน
              มาสวาร์ทาร์เลยตบไหล่ซ้ายของแอนเดรียไว้ "ไม่จำเป็น แอนเดรีย ความตายนั้นง่ายและเร็วเกินไป มันไม่ทำให้เกซิคสำนึกผิดในสิ่งที่เขาได้ทำไว้กับมวลมนุษยชาติเลยน่ะ"
              "มาสวาร์ทาร์พูดถูกแล้ว พวกเรามานี้ เพื่อให้เกซิครับการลงโทษอย่างสาสมจากมนุษย์ด้วยกันเองจะดีกว่าน่ะ" พีวิลบอก
              โฟรซ่ากล่าว "ดร.เดลวีแองนูไม่คิดจะเป็นศัตรูกับเกซิคมาแต่แรก ดังนั้น เธอไม่ต้องหลั่งเลือดชั่วๆไปมากกว่านี้เลยน่ะ"
              "ขอบคุณมากนะคะ ที่ทุกๆคนเตือนสติไว้น่ะ" แอนเดรียบอก แล้วก็ลดมือออกจากปืนไว้
              สเปียริทบอก "เกซิค ถ้าคิดจะบีบให้พวกเราลงโทษด้วยความตายกับนายละก็ นายคิดผิดไปแล้วละ เพราะพวกเราจะไม่เป็นปีศาจร้ายให้มวลมนุษยชาติเกลียดชังตามที่นายต้องการไปได้หรอก" แล้วก็ก้าวเดินมาตรงหน้าเกซิค "ที่สำคัญ แม้เราจะลงโทษนายหนักหนาแค่ไหน พวกเรารวมถึงท่านพ่อเอง ก็รู้สาแก่ใจดี ว่าน้ำหน้าอย่างนายต้องหาเรื่องเอาตัวรอดไปได้แน่นอน"
              "องค์หญิงพยายามพูดกับผมเช่นนี้ คงเพราะว่าเกลี้ยกล่อมจีเนฟารี่ไม่สำเร็จ เลยต้องสังหารทิ้งเลยสิน่ะ" เกซิคบอก
              สเปียริทกล่าว "จีเนฟารี่แส่หาเรื่องเอง ฉันพยายามเตือนแล้ว เธอไม่รับเองกัน" แล้วก็จับเกซิคมายืนขึ้น "ในฐานะของบุตรีองค์สุดท้ายของบิดรเทพและมารดรเทพ ฉันขอสั่งให้ นายหยุดและล้มเลิกความคิดที่จะก่อสงครามต่อแรซัลก้าเลยจะดีกว่าน่ะ"
              "เกรงว่า องค์หญิงจะต้องผิดหวังแล้ว เพราะข้าพเจ้า ตราบใดที่ยังไม่เห็นเคราซไซท์ก้มหัวอยู่ใต้ฝ่าเท้า ข้าพเจ้าก็จะรวบรวมพรรคพวกที่เชื่อในตัวข้าพเจ้าก่อสงครามกับแมนิเกเตอร์ต่อไป ถึงตอนนั้นแหละ ที่องค์หญิงจะต้องอยู่แทบเท้าข้าพเจ้าด้วย" เกซิคตอบด้วยคำตอบเดิม
              สเปียริทถอนใจแล้วก็บอกว่า "ฉันเก็ตแล้วละ ว่าทำไมนายกับจีเนฟารี่ถึงเข้าขากันได้น่ะ" แล้วก็จ้องหน้าเกซิคพร้อมกับบอกว่า "แล้วนายจะต้องเสียใจที่ปฏิเสธคำสั่งของฉันไว้ ที่สำคัญ นายเป็นชาวซัลคาเลี่ยนที่รอดไปได้เมื่อ 24 ปีก่อน ซึ่งจีเนฟารี่ คงไม่ได้เล่าให้นายฟังละสิน่ะ ว่าฉันทำอะไรกับแมนิเกเตอร์อย่างนายน่ะ"
              "องค์หญิงคงไม่คิดจะกุดหัวข้าพเจ้ากันละสิ" เกซิคบอก
              สเปียริทกล่าว "เปล่า แต่ก่อนที่นายจะโดนลงโทษจากพวกมนุษย์โลกนั้น ฉันจะลงโทษนายด้วย บทลงโทษตามแบบฉบับองค์หญิงแอสเซนกันนี้แหละ ซึ่งตัวแสบๆอย่างนาย สมควรจะได้รับแล้วละจ๊ะ"
              "โอ้ว นี้คงจะเป็นวิธีลงโทษแบบที่เธอทำกับพวกตัวแสบๆในแรซัลก้าเลยสิน่ะ" โฟรซ่าบอก
              คลอเวฟกล่าว "เธอน่าจะเอามันไปไว้บนยอดเสาธงเลยก็ได้นิ ไม่น่าจะมัดใกล้ๆกับธงเลยน่ะ"
              "ไม่แปลกใจแล้วละคะ ว่าทำไมชาวซัลคาเลี่ยนส่วนมากถึงไม่ชอบเธอเช่นนี้น่ะ" แอนเดรียกล่าว
              สเตฟอร์ดบอก "ว่าแต่ นายกับฟิเกซ คงไม่ได้เห็นแบบนี้อยู่เลยสิน่ะ"
              "เห็นที่ไหนละ ฟิเกซออกผจญภัยนอกระบบดาวเจเนซิล ส่วนฉันติดตามกลุ่มของพวกแลมซีนีไนซ์ที่ออกนอกระบบดาวเช่นกันน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              ฟิเกซบอก "แต่อย่างน้อย เราก็ได้เห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายแล้วละ"
              "เออ เกรงว่าเราต้องรีบไปจากนี้โดยเร็วแล้วละ แอมเบอร์บอกว่ากองรบพวกมนุษย์มาถึงแล้วน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              พีวิลบอก "ถ้าเช่นนั้น กองรบไทรเวเซอร์ สลายตัวโดยเร็วเลย"
              "ให้ตายสิ นี้เล่นกันแบบนี้เลยหรือวะ" เฟอร์นันเดอร์บอก โดยตอนนี้ตนกับพวกเทอร่าสควอดอนมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว
              "นิโคล่า ริโคน่า ตัวเป้าหมายเป็นยังไงบ้างละ" เทนยะกล่าว เมื่อริโคน่าและนิโคล่าบินขึ้นไปนำตัวเกซิค ซึ่งถูกมัดบนเสาธงในสภาพสะบักสะบ่อมไปไม่น้อย แถมยังมีกระดาษเขียนติดตัวไว้ด้วย
              "ผู้นำจอมปลอมนั้นปลอดภัยดี แต่ดูเหมือนว่าพวกไทรเวเซอร์จะประจานเสียๆหายๆกันไม่น้อยด้วยน่ะ" ริโคน่าบอก
              นิโคล่ากล่าว "เดียวพวกเราจะนำตัวลงมา เพื่อพาเข้าคุมขังกันเดียวนี้เลยน่ะ"
              "ว่าแต่ เราจำเป็นต้องติดตามหาพวกไทรเวเซอร์เลยมั้ยละ" มิลโดว์บอก
              เวคตันกล่าว "นั้นสิ พวกนั้นจัดการกับกองรบที่เหลือของเกฟสตัลท์เบิร์ทจนยับเยิ่นกันเช่นนี้ เราเองก็อยากจะขอบคุณพวกนั้นด้วยน่ะ"
              "ไม่ต้องหรอกคะ เพราะยังไงเสีย พวกเราคงได้เจอพวกเขาอยู่แล้วละคะ" เรดดิลบอก
              บลูดัสท์กล่าว "นั้นสิครับ เพราะว่าบ้านเกิดของพวกเขาก็อยู่ในอวกาศอันกว้างใหญ่กันแล้ว เราอาจจะได้เจอกับพวกเขากันอีกก็ได้น่ะ"
              "ถ้าไม่เพราะว่าพวกเกฟสตัลท์เบิร์ทก่อเรื่องกันละก็ พวกเขาคงไม่มาช่วยเหลือพวกเราจนมาถึงจุดนี้ได้หรอกน่ะ" ไวโอเลฟบอก
              บราวน์เดคพยักหน้า "และพวกเขามีทีที่ต้องเดินทางกลับไปกันแล้วน่ะ"

              หลังจากนั้น กองกำลังฝ่ายมนุษย์ได้ควบคุมตัวเกซิค ผู้นำกลุ่มสหพันธ์โลกใหม่จอมปลอมไว้ได้เป็นผลสำเร็จ ในขณะที่การประชุมระหว่างแทแรนเซียและกลุ่มสหพันธ์นพเคราะห์ ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี จนถึงเช้าวันถัดมา
              "ประชาชนทุกๆท่าน พวกท่านคงจะทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นแล้ว ว่าเกฟสตัลท์เบิร์ทหลอกลวงพวกท่าน และประชาชนชาวโลกทั้งปวงกันไว้นะคะ" มากาเล็ตกล่าว
              แกนนำกล่าว "พวกเราไม่เพียงได้ยิน แต่ได้เห็นภาพอันสยดสยอง จากพวกทหารเกณฑ์ที่เข้าร่วมกันด้วย ไม่คิดเลย ว่าสหพันธ์โลกใหม่จะทำกับพวกเราเช่นนี้ได้นะ"
              "แม้สิ่งที่พวกท่านได้เห็นนั้น ทารุณและโหดร้าย แต่มันก็เป็นความจริง ซึ่งข้าพเจ้าพยายามเตือนพวกท่านและชาวโลกกันไว้แต่แรก ถึงความไม่ชอบมาพากล แต่เพราะการกระทำของคนของสหพันธ์โลกใหม่ที่แฝงตัวมานั้น ได้ทำให้พวกท่านมีกระแสต่อต้านทางเรากันมากขึ้น โดยเฉพาะ เรื่องที่ข้าสืบทอดราชบัลลังก์ต่อจากท่านแม่" มากาเล็ตกล่าว
              ประชาชนหญิงบอก "แล้วที่ท่านปิดบังเรื่องพวกสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์กันนั้น เพื่อปกป้องพวกเรากันจริงๆหรือคะ"
              "นั้นสิ ต่อให้พวกเขาช่วยองค์ราชินีกอบกู้พระราชบัลลังก์ได้ แต่พวกเขาก็ทำให้ท่านเสื่อมเสียกันเลยน่ะ" ประชาชนชายกล่าว
              มากาเล็ตบอก "แล้วพวกท่านละคะ ตอนที่ข้าพเจ้าและทุกๆคนต้องการความช่วยเหลือ พวกท่านได้ทำอะไรที่ช่วยให้ข้าพเจ้าทวงราชบัลลังก์กันมั้ย พวกท่าน มีความกล้าที่จะร่วมสู้กับเหล่ากังฉินกันเหมือนที่พวกท่านทำอยู่เมื่อ 24 ปีหรือเปล่า แม้พวกท่านไม่เคยยื่นมือหรือไม่กล้าที่จะเข้ามาช่วย แต่โคเคสและเหล่าสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ก็ยื่นมือช่วยเหลือข้าพเจ้า โดยไม่หวังอะไรมากไปกว่า การคืนโลกให้กับพวกท่านอยู่อย่างสงบสุขกัน และไม่คิดรุกรานโลกของพวกเรากันอีก เหมือนที่พวกท่านหวาดระแวงกันมาตลอด 24 ปีด้วยกันน่ะ" แล้วก็พูดต่อ "ส่วนเรื่องแมนิเกเตอร์ที่แรซัลก้านั้น ข้าพเจ้าบอกเลยว่า พวกเขามีอยู่จริง และข้าพเจ้าไม่แนะนำให้พวกท่านไปหาเรื่องกับพวกเขา เหมือนกับสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์กันด้วย"
              "แล้วจะให้พวกเราก้มหัวให้กับพวกแมนิเกเตอร์กันเลยหรือ หากเวลาที่พวกนั้นเดินทางมาที่โลกกันน่ะ" ประชาชนวัยกลางคนกล่าวอย่างหวาดระแวง
              มากาเล็ตบอก "พวกเขาจะเป็นศัตรูกับเรา ก็ต่อเมื่อ พวกท่านคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ซึ่งความน่ากลัวและความน่าเกรงขามของแรซัลก้านั้น พวกเราต่างทราบกันดี และรู้ด้วยว่า พวกเขามิใช่กลุ่มแมนิเกเตอร์ที่พวกท่านจะสามารถต่อกรกันได้เลย และ ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้พวกท่านเสียสละเลือดเนื้อ เพื่อเปลี่ยนเป็นสิ่งที่พวกท่านกลัวและเกลียดกันได้แน่นอน" แล้วก็บอก "ดังนั้น เกฟสตัลท์เบิร์ท ผู้นำของสหพันธ์โลกใหม่ ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวแห่งความวุ่นวายที่ทำให้แรเนอซองค์ของมวลมนุษยชาติต้องชะงักลงไปนั้น จะได้รับการลงโทษอย่างสาสม ด้วยการจองจำในฐานะนักโทษอาชญากรสงคราม ด้วยการมีส่วนร่วมในการรุกรานเมื่อ 44 ปีก่อน รวมถึงการกระทำในช่วง 24 ปีที่ผ่านมาด้วย ส่วนกลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดรายอื่นๆนั้น ทางเราจะติดตามหาเพื่อนำพวกเขามาปรับทัศนคติกันต่อไป"
              "แล้วพวกเราจะทำยังไง เมื่อพวกแมนิเกเตอร์จากแรซัลก้ามันโผล่มาได้ละ" ประชาชนส่วนหนึ่งถาม
              มากาเล็ตบอก "ข้าพเจ้ารู้ดี ว่าลำพังโลกคงไม่มีทางสู้กับกองกำลังจากแรซัลก้าที่อาจจะมาตอนไหน หรือมาในลักษณะไหนที่ไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงกันอย่างแน่นอน ซึ่งข้าพเจ้าได้หารือกับเหล่าบุคคลสำคัญจากทั่วโลกและนอกโลก จนได้ข้อสรุปเป็นที่แน่ชัดกันแล้ว"
              "แล้วผลออกมาเป็นเช่นไรละครับ องค์ราชินี" แกนนำกล่าว
              มากาเล็ตกล่าว "นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ราชอาณาจักรแทแรนเซียและทุกประเทศบนโลกนั้น จะเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มที่ 10 ของ กลุ่มสหพันธ์ระบบสุริยะจักรวาล ซึ่งไม่เพียงโลกจะมีชาวอาณานิคมจากดวงจันทร์ลงมาที่โลก แต่รวมถึงดาวพุธถึงดาวพลูโตกันด้วย ซึ่งข้าพเจ้าอนุญาตให้มีการเปิดการค้าขายและการเดินทางระหว่างโลกไปยังดาวดวงอื่นกันอย่างเป็นทางการแล้ว" ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมต่างก็ดีใจกันขึ้นมา "แน่นอน ว่ากลุ่มสหพันธ์ระบบสุริยะฯนั้น จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ภายใต้การนำของเฮนรี่ ไนท์กันในไม่ช้านี้ โดยพวกเราจะเริ่มออกเดินทางกันในอีกสองวันข้างหน้าแน่นอน"
              "นี้แปลว่า พวกเราจะได้ออกเดินทางสู่อวกาศกันจริงๆแล้วหรือเนี้ย" หญิงผิวดำกล่าว
              ชายชาวอเมริกาใต้บอก "....แบบนี้ก็ดีเลย พวกเราต้องทนอยู่ในเมืองมาตั้ง 20 ปี และหวาดกลัวต่อเลเซอร์จากฟากฟ้ากันเช่นนี้ องค์ราชินี ขอบพระทัยมากเลยพะยะคะ"
              "ข้าพเจ้ารู้ ว่าพวกท่านดีใจและตื่นเต้นกันไม่น้อย แต่....ข้าพเจ้าอยากจะบอกให้พวกท่านจงจำไว้อย่างหนึ่งก็คือ...." มากาเล็ตบอก "....พวกเรามิได้อยู่เพียงลำพังในจักรวาลเดียวแล้ว เฮนรี่ ไนท์ได้เจริญสัมพันธไมตรีต่อเหล่ามนุษย์ต่างดาวทั้งหลายกันมานาน ซึ่งพวกเรา ลูกหลานของบรรพบุรุษที่ต้องอยู่บนโลกมาตลอดหลายสิบปีเต็มนั้น รอคอยเวลาที่พวกเราจะได้ออกจากโลกสู่แดนดินอันห่างไกล แม้เราจะต้องพบเจอกับเหล่าแมนิเกเตอร์เลยก็ตาม ตราบใดที่พวกเรามิได้ไปหาเรื่องกับพวกเขาจนเกิดความวุ่นวาย พวกเขาก็จะไม่โผล่มาเอาเรื่องกับพวกเราได้อย่างแน่นอน พวกเราจำต้องก้าวเดินหน้าต่อไป โดยละทิ้งอคติไว้ข้างหลัง และนำเอาอดีตมาเป็นบทเรียนสอนใจลูกหลานรุ่นต่อไป ว่าอย่าซ้ำรอยเดิมอีก และอย่าได้ละทิ้งความเป็นมนุษย์ เพียงเพื่อทำให้พวกเราเหนือกว่าพวกเขา เพราะนั้นเป็นการทำให้ตัวเรา กลายเป็นสิ่งที่แย่กว่าพวกแมนิเกเตอร์กันอีก"
              เควนตินเฝ้ามองดูมากาเล็ตตรัสต่อประชาชนของเธอ พร้อมกับบอกว่า "แม้ท่านมากาเล็ตรู้ดี ว่ามวลมนุษย์บนโลกนั้น จำได้ก็ต้องลืมได้กันก็จริง แต่...พระนางทรงอดกลั้นข่มพระทัยด้านแย่ ไม่ให้โอนอ่อนตามกระแสของผู้ไม่หวังดีและหวังจะเหนือกว่าแมนิเกเตอร์ โดยเฉพาะคนแบบเกฟสตัลท์เบิร์ท ที่อาจจะปรากฎขึ้นตอนไหนก็ได้ เพราะไม่เช่นนั้น โลกก็คงวิบัติและความสงบสุขคงจบสิ้นลงอย่างแน่นอน"

              ทางด้านพวกไทรเวเซอร์นั้น ได้ออกจากระบบสุริยะเพื่อตรงกลับไปยังระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์ ระบบดาวบ้านเกิดที่พวกเขาจากมาแล้ว
              "พวกคุณไม่คิดที่จะอยู่ต่อเลยหรือครับ" เฟอร์กินซ์บอก
              โฟรซ่ากล่าว "พวกเราคงไม่คิดที่จะอยู่บนโลกแล้วตกเป็นเป้าของกลุ่มคนที่เข้าข้างเกซิคกันได้หรอกน่ะ"
              "เพราะว่าตอนนี้ พวกเราได้ช่วยเหลือพวกมนุษย์โลกให้สามารถออกเดินทางสู่อวกาศกันไปแล้ว ดังนั้น ภารกิจของเราในการเข้าทำลายต้นตอของกองกำลังรุกรานจากโลกนั้น เสร็จสิ้นลงหลังจากที่เราส่งเกซิคไปให้พวกมนุษย์ลงโทษแล้วน่ะ" พีวิลบอก
              เฟอร์กินซ์กล่าว "แล้วพวกคุณไม่คิดว่า เกซิคจะรอดออกจากการคุมขังหรือมีคนเข้าช่วยเหลือเลยหรือครับ"
              "เรารู้ ว่ายังมีพวกมนุษย์ที่โง่งมและยังหลงเชื่อในคำพูดของเกซิค แต่ก็ยังมีพวกมนุษย์ที่รู้ว่าเกซิคเป็นแมนิเกเตอร์และคิดใช้เขาเป็นเครื่องมือ ซึ่งพวกมนุษย์เหล่านี้แหละ ที่จะทำให้เกซิคเหมือนเป็นนักโทษยิ่งกว่าเดิมน่ะ" โฟรซ่าบอก
              สเปียริทกล่าว "แน่นอน กว่าเกซิครู้ว่าตนเองถูกหลอกใช้อีกต่อ มันก็สายเกินไปแล้วน่ะ"
              "แต่มันน่าหงุดหงิดมากเลย ก็ตรงที่พวกเอฟซีตรอนนี้แหละ" ไซโคลเนียกล่าว
              เจเนลบอก "พวกนี้โผล่มาขัดจังหวะพวกเรากันไม่ว่า ขนาดเรารู้โฉมหน้าของพวกมันไปแล้ว แต่เรากลับทำอะไรไม่ได้เลยน่ะ"
              "อย่างน้อยก็ดีกว่า เราไปกล่าวหาพวกเขาผิดๆ โดยมีหลักฐานเพียงแค่คำพูดของพวกเราเพียงฝ่ายเดียวนะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              สเตฟอร์ดบอก "พอเรากลับไปแล้ว ฉันคิดว่าเราควรจะสืบเรื่องของพวกเอฟซีตรอนกันลับๆเสีย...."

              "หวอๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร ยานก็ส่งสัญญาณเตือนขึ้นมา "แอมเบอร์ มันเกิดอะไรขึ้นกันวะ" คลอเวฟกล่าว
              แอมเบอร์บอก "มีวัตถุขนาดใหญ่พุ่งตรงมาทางพวกเราจากระยะห่าง 15 ปีแสง ฉันจำต้องหยุดการเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงไว้ เพื่อเตรียมการป้องกันนะคะ"
              "หวืออออออ" ยานไทรแองเกิ้ลลดความเร็วลงจนมาถึงระบบดาวแห่งหนึ่ง "อิรีแดมเซต้า ประจวบเหมาะเลยหรือไงกันวะ" คลอเวฟสบถ โดยตอนนี้พวกเขามาอยู่ใกล้กับดาว ซึ่งก็ "แว้งงงง" ปรากฎยานบินสีขาวทรงยาวโผล่เข้ามา
              "ถึงยานไม่ทราบสัญชาติ ระบุสถานะของคุณมาเดียวนี้เลยนะคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              "ระบุให้นะหรือ น้ำเสียงของเธอมันน่ารำคาญ พอๆกันกับพวกพ้องของแกกันเลยวะ" เสียงนั้นตอบกลับ
              เจเนลบอก "เสียงนี้มัน ไอ้ทรูปสตรัคเทเซอร์นิหว่า" แล้วก็กล่าว "นี้แก มาทำอะไรกันมิทราบวะ"
              "มาทำอะไรนะหรือ ถามได้ ฉันมานี้ เพื่อมากวาดขยะเสร็งเคร็งอย่างพวกแกกันนี้แหละ" ทรูปสตรัคเทเซอร์บอก "ทั้งไอ้เดรมมัสค์ อีมิสตี้ ไอ้โง่ซอลดอส แม้กระทั่งเทรซซัคเคิ้ลกับวอลการ์ดเอง หยุดพวกแกไม่อยู่กันเช่นนี้ ฉันเลยต้องมาสะสางกันนี้แหละ"
              แอนเดรียบอก "คุณทำแบบนั้น เท่ากับว่าคุณขัดคำสั่งนายพลกาโกรินกันมิใช่หรือ คุณควรจะถอยห่างไปเสียจะดีกว่านะคะ"
              "จะบอกอะไรให้ก็ได้นะ ว่านายพลกาโกรินเป็นคนอนุมัติให้ฉันจัดการกับพวกแกเองแหละ" ทรูปสตรัคเทเซอร์กล่าว แล้วก็ "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยานรบก็ระดมยิงเลเซอร์เข้าใส่ "แว้งง ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" เลเซอร์ทะลวงสนามพลังยานไทรแองเกิ้ลกันอย่างจังๆ
              "บาเรียต้านเลเซอร์ไม่อยู่ ความเสียหายของยานอยู่ในระดับ 40 เปอร์เซนต์นะคะ" แอมเบอร์บอก
              "พอจะยิงซีคเกอร์มิไซล์โต้ตอบได้มั้ยละ" เนคมาดูซัมกล่าว
              แอมเบอร์กล่าว "เกรงว่าเลเซอร์เมื่อครู่นั้นปะทะโดนช่องยิงซีคเกอร์มิไซล์ไป 8 หน่วยแล้วละคะ"
              "หึๆๆๆๆๆ พวกแกอาจจะมีเอไอที่ชาญฉลาดมากก็จริง แต่ ฉันมีมันสมองที่สามารถคำนวณทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว โดยผ่านการวิเคราะห์แพทเทิร์นของพวกแกทุกอย่างภายในเวลา 2.04 นาทีด้วยกัน ซึ่ง สภาพโมบิลลอยด์ของพวกแกไม่มีทางสู้อะไรฉันได้หรอก แม้กระทั่ง ไอ้หุ่นคลาสเพรโทรน็อกซ์สองตัวด้วย" ทรูปสตรัคเทเซอร์กล่าว
              คลอเวฟบอก "แกพูดโม้รับประทานกันหรือเปล่าวะ"
              "เออ เกรงว่ามันจะจริงแล้ววะ เพราะว่าโมบิลลอยด์ของพวกนายทุกตัวนั้น อยู่ในสภาพใช้งานได้เพียง 40-60 เปอร์เซนต์ ซึ่งต่อให้รีบซ่อม ก็คงรับมือกับฝ่ายตรงข้ามกันไม่ได้แล้ววะ" บริคซ์ติดต่อมา
              ฟูแรมบอก "ส่วนอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนนั้น พลังงานที่มีเพียงแค่ 30 เปอร์เซนต์ คงไม่พอที่จะใช้สู้กับฝ่ายตรงข้ามได้เลยนะครับ"
              "บ้าชะมัดเลย แล้วปืนใหญ่ก็คงยิงไม่ได้เลยละสิ" คลอเวฟบอก โดยตอนนี้ยานถูกระดมโจมตีอย่างหนักหน่วงแล้ว
              แอมเบอร์กล่าว "ไม่มีทางหรอกคะ เพราะเราไม่มีพลังพอที่จะใช้ยิงปืนใหญ่ได้เลยคะ"
              "พวกแกคงไม่มีพลังมากพอที่จะยิงปืนหลักเลยสิน่ะ แย่หน่อย ที่พวกแกต้องแหลกด้วยเจ้านี้เองแหละ" ทรูปสตรัคเทเซอร์บอก แล้วก็ "แว้งงงงงง" นำปราการขนาดใหญ่โผล่ออกมา
              "ปราการวอลเดมอร์ท นี้นายไปเอามาได้ไงกันละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              "เหตุที่ฉันเอามาได้นั้น ฉันไม่จำเป็นต้องตอบไอ้พวกโง่อย่างพวกแกกันได้หรอกน่ะ เพราะว่าฉันจะบดขยี้แกด้วยปราการแห่งนี้แหละ" ทรูปสตรัคเทเซอร์กล่าว พร้อมกับกดสวิตซ์ "ซูมๆๆๆๆๆๆ" ไอพ่นที่ปราการเคลื่อนตรงมายังไทรแองเกิ้ลทันที
              "แอมเบอร์ พอแก้ระบบอาวุธให้สามารถใช้งานได้มั้ยละ" เนคมาดูซัมกล่าว
              "ไม่ได้คะ การโจมตีเมื่อครู่นั้นได้ตัดการเชื่อมต่อระหว่างฉันกับระบบอาวุธไปแล้วคะ" แอมเบอร์บอก
              บริคซ์กล่าว "ถึงฉันจะส่งลูกเรือเข้าไปประจำระบบปืนใหญ่ มันก็คงไม่ทันการณ์อยู่แล้วนะ"

              "ตื้ดๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณเตือนดังขึ้นมาอีก "คราวนี้อะไรกันอีกละ" ไซโคลเนียบอก
              แอนเดรียเลยรีบรับสายของ "คุณมินอร์ตี้ ว่าแต่ ที่คุณแจ้งมานิ ฟูลออเรสและเมดิน่านำหุ่นออกไปเลยหรือคะ"
              "เปล่าหรอก ฟูลออเรสและเมดิน่ายังไม่ได้ขึ้นหุ่นออกไปเลย แต่พวกเขามาแจ้งให้ฉันทราบไว้น่ะ" มินอร์ตี้กล่าว "ผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์ นำเทอเรลเครชติดบางอย่างที่ไม่เข้าท่าออกไปจากยานแล้วละ"
              พีวิลบอก "ผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์นะหรือ...." ซึ่งเขาไม่เห็นตัวเฟอร์กินซ์อยู่ในสะพานเดินเรือเลย โดยตอนนี้เทอเรลเครชเครื่องหนึ่งบินออกจากใต้ท้องยานแล้ว
              "แอมเบอร์ เชื่อมต่อกับระบบสื่อสารของเทอเรลเครชเครื่องที่บินออกไปโดยเร็วเลย" เนคมาดูซัมกล่าว
              แล้วภาพมอนิเตอร์ก็ฉายภาพของเฟอร์กินซ์ที่สวมชุดอวกาศ "เฟอร์กินซ์ นายทำบ้าอะไรกันมิทราบละ" เฟอร์กินซ์บอก "ผมจะช่วยพวกคุณให้รอดพ้นจากสถานการณ์ย้ำแย่นี้เองแหละครับ"
              "ช่วยพวกเรานะหรือ เทอเรลเครชเครื่องนั้นไม่ติดอาวุธสักชิ้น แล้วเธอจะหยุดปราการวอลเดมอร์ทที่มีขนาดใหญ่กันได้เลยหรือ" สเปียริทบอก
              เฟอร์กินซ์กล่าว "ได้สิครับ เพราะว่า ผมจะใช้เทเลพอร์เตอร์โมดูลที่เสียหายนั้น ส่งปราการนี้หายไปโดยเร็วนะครับ"
              "เทเลพอร์ตเตอร์โมดูลที่ชำรุดนะหรือ นี้อย่าบอกน่ะ ว่าเธอแอบฟังพวกเราคุยกับคุณมินอร์ตี้ไว้น่ะ" แอนเดรียกล่าว
              เฟอร์กินซ์บอก "ผมรู้นะครับ ว่าพวกคุณคิดจะทำลายอุปกรณ์ชิ้นนี้ทิ้งหลังจากที่จบเรื่องแล้ว แต่อย่างน้อย ผมคิดว่ามันควรมีประโยชน์มากกว่านี้ ผมเลยแอบนำมันมาติดตั้งไว้ และใช้เตาพลังงานของตัวหุ่นกระตุ้นให้เทเลพอร์ตเตอร์ทำงานขึ้นมา" แล้วก็นำแบ็คแพ็คมายื่นไว้ข้างหน้า "ทันที ที่ผมเอาโมดูลนี้ไปทาบด้านหน้าปราการ ผมจะส่งมันให้หายไปโดยเร็วเลยนะครับ"
              "แต่เธออาจจะโดนไปด้วยเลยน่ะ มันไม่คุ้มเสี่ยงกันหรอก" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เฟอร์กินซ์กล่าว "ผมเข้าใจดีครับ ว่าพวกคุณต้องเสี่ยงอันตรายกันไม่น้อย และเอาตัวเข้าแลกเพื่อกอบกู้สถานการณ์กันขึ้นมา แม้ว่าผมอาจจะต้องตายหรือหายสูญไปเลยก็ตาม อย่างน้อย ให้ผมช่วยเหลือพวกคุณให้สมกับเป็นทหารกันบ้างนะครับ" แล้วก็ "แกร็กๆๆๆ" ดันคันเร่งเพื่อเร่งเครื่องจากบูสเตอร์กลางหลังและออลเทอเรี่ยนเบสไว้ "ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผม พวกคุณช่วยนำของที่อยู่ในห้องของผมมา แล้วอธิบายกับคุณพ่อกันด้วย ว่าผมตัดสินใจทำเอง มิใช่พวกคุณบังคับแต่อย่างใดเลยน่ะ"
              "เฟอร์กินซ์ เราจะบอกกับพ่อของเธอได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ เธอรีบกลับมากันเดียวนี้เลยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              เฟอร์กินซ์กล่าว "ผมไม่เป็นไรอยู่แล้วละครับ เพราะผมจะเสี่ยงเพื่อให้พวกคุณรอดกลับไปบอกกับทุกๆคนให้รับทราบ ต่อให้พ่อของผมทำร้ายพวกคุณหนักหนาเลยก็ตาม อย่าไปถือสาเขาเลยนะครับ" แล้วก็บอก "ตอนนี้ผมเข้าใกล้เป้าหมายกันแล้ว ผมจะเปิดพลังงานเต็มที่ เพื่อสตาร์ทเทเลพอร์ตเตอร์ให้ทำงานกันเดียวนี้เลยนะครับ"
              "เทอเรลเครชเข้าใกล้เป้าหมายในอีก 30 วินาที และเทเลพอร์ตเตอร์สตาร์ทขึ้นภายใน 10 วินาทีแล้วละคะ" แอมเบอร์บอก
              โดยตอนนี้ "ครืนนนนน ตรึงงงง" เฟอร์กินซ์นำเทอเรลเครชปะทะกับวอลเดมอร์ทแล้ว เฟอร์กินซ์เลยเปิดเครื่องเทเลพอร์ตเตอร์เข้า "โอ้ว มันเร็วกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีกน่ะ แต่อย่างน้อย..... ผมก็ได้ช่วยเหลือพวกคุณกันอย่างเต็มที่เลยนะครับ" โดยตอนนี้เทเลพอร์ตเตอร์โมดูลถูกกระตุ้นด้วยพลังงานจนทำให้ระบบของตัวเครื่องที่พังเสียหายนั้น "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ แวบบบบบบ" เกิดเปล่งแสงขึ้น โดยที่เฟอร์กินซ์รีบนำหุ่นถอยมา แต่ "แว้งงงงงงงง" ลูกบอลแสงจากโมดูลนั้นขยายตัวอย่างฉับพลัน โดยกลืนปราการวอลเดมอร์ทให้หายไปพร้อมกับเทอเรลเครชของเฟอร์กินซ์ด้วย พอลูกบอลแสงขยายตัว "วูบบบบ" ลูกบอลนั้นก็หายสูญไป พร้อมกับหน้าจอดับวูบหายไปด้วย
              "แอมเบอร์ เทอเรลเครชของเฟอร์กินซ์...." เนคมาดูซัมกล่าว
              แอมเบอร์ส่ายหน้า ".....สัญญาณของเทอเรลเครช หายไปเรียบร้อยแล้ว แถมเรดาห์เองไม่สามารถจับสัญญาณได้แล้วละคะ"
              "บ้าเอ้ย ไอ้บ้าเฟอร์กินซ์ ทำไมต้องทำเช่นนี้ด้วยวะ" คลอเวฟสบถ แล้วหันมาถาม "แล้วไอ้ทรูปสตรัคเทเซอร์ละ"
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "ยานของเอฟซีตรอนนั้น มันหายไปจากเรดาห์ด้วยน่ะ คาดว่ามันคงหนีไปในทันทีที่เฟอร์กินซ์หายไปพร้อมกับวอลเดมอร์ทแล้วละ"
              "เออ พวกเราจำกันได้มั้ยละ ว่าโพโบโวโล่พูดกับเราไว้ยังไง ว่าเฟอร์กินซ์ไม่ควรประสบอุบัติเหตุถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเลยน่ะ" สเปียริทกล่าวและหันมาถาม "แล้วเราจะรายงานกับเบื้องบนกันยังไงละ" พีวิลและทุกๆคนในสะพานเดินเรือชะงักขึ้นมา
              "เกรงว่าเราต้องรายงานไปตามความจริง ดีกว่ามาปิดบังแล้วโดนจับได้ในภายหลังเลยน่ะ" โฟรซ่าตอบ
              "รวมไปถึงบอกกับพ่อของผู้ตรวจการณ์ด้วยละสิน่ะ" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แม้เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เฟอร์กินซ์พูดถึงพ่อของเขานั้น จะทำให้พวกเราเดือดร้อนเช่นไร แต่ ยังไงเสีย เราควรจะต้องแจ้งให้กับพ่อของผู้ตรวจการณ์รับทราบกันดีกว่าน่ะ"
              "ถ้าเช่นนั้น แอมเบอร์ ใช้พลังงานของยานไทรแองเกิ้ลที่มีอยู่ เดินเครื่องบินตรงกลับระบบดาวของเราได้เลย" เนคมาดูซัมกล่าว แอมเบอร์พยักหน้า
              คลอเวฟบอก "บอกตรงๆน่ะ ว่านี้เป็นการเดินทางกลับที่ไม่เข้าท่าอย่างแรงแล้ววะ"

              "แสดงว่า พวกเธอรู้มาตลอดเลยสิน่ะ ว่าในระหว่างปฏิบัติการณ์ พวกเธอถูกพวกเอฟซีตรอนจู่โจมหรือโผล่มาขัดขวางเลยน่ะ" ไวโอเลฟกล่าว หลังจากที่ฟังเรื่องจากพวกไทรเวเซอร์เล่ามาแล้ว
              เพอซิอัสกล่าว "แล้วทำไมพวกเธอถึงไม่รายงานเรื่องที่เกิดให้พวกเรารับทราบกันเลยละ"
              "คือ พวกเราอยากจะรายงานกันอยู่แล้วละครับ เพียงแต่...." เนคมาดูซัมบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว ".....พวกเรามีแค่หลักฐานการพบเจอกับพวกเอฟซีตรอนโผล่มา ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานเพียงฝ่ายเดียว ถ้าเรารายงานแล้วพวกคุณไปแจ้งกับนายพลกาโกริน ซึ่งตอบกลับมาว่า เขาไม่รู้เรื่องและไม่ได้เป็นคนสั่ง พวกท่านจะเป็นฝ่ายถูกตำหนิ ส่วนพวกเราจะถูกมองว่าเป็นกองกำลังรุ่นพี่หาเรื่องรังแกรุ่นน้องอย่างเอฟซีตรอนนะครับ"
              "ฉันก็เห็นด้วยนะคะ เพราะถึงแม้เป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ถ้าฝ่ายที่ทำปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง พวกเราจะมีแต่เสียเปรียบเลยนะคะ" จูเดทต้ากล่าวอย่างเห็นด้วย "แต่พวกเธอควรจะรายงานเป็นระยะๆกันด้วย ต่อให้พวกเรายังไม่รีบลงมือตามที่พวกเธอต้องการเลยก็ตามน่ะ"
              สเตฟอร์ดบอก "เราแค่อยากจะรายงานเรื่องนี้ให้ท่านทราบกันในตอนนี้ ดีกว่ามาติดต่อในระหว่างปฏิบัติการณ์ แล้วพวกเอฟซีตรอนดักฟังจนรู้เรื่องได้เลยนะครับ"
              "แสดงว่า ผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์หายสูญไป เพราะเขาแอบเอาเทเลพอร์ตโมดูลที่พังเสียหาย และเตรียมจะนำไปทำลายทิ้งในเวลาต่อมา ไปส่งปราการวอลเดมอร์ทที่พวกเอฟซีตรอนนำไปให้หายไปเลยสิน่ะ" เพอซิอัสกล่าว
              พีวิลบอก "ทุกอย่างเป็นไปตามที่เรารายงานไปแล้วละครับ ท่านนายพล อีกอย่าง ถึงพวกเราอยากจะช่วย แต่สภาพที่พวกเราได้รับในตอนนั้น มันไม่เอื้ออำนวยกันจริงๆนะครับ"
              "แปลว่าพวกเธอไม่อยู่ในสภาพที่เข้าช่วยหรือห้ามปรามเฟอร์กินซ์กันเลยสิน่ะ" เพอซิอัสบอก เนคมาดูซัมและทุกๆคนพยักหน้า
              สเปียริทกล่าว "ถ้าพวกเราไม่ถูกไอ้ทรูปสเตทรัคชั่นอะไรนั้นมาขวางทาง พวกเราคงไม่ต้องโดนสส.คัลลาร์ดเล่นซะหนักหนาแบบนี้นะคะ"
              "และต่อให้เราอธิบายเรื่องนี้ให้สส.คัลลาร์ด ก็คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะสส.คัลลาร์ดในตอนนี้ไม่มีทางรับฟังคำพูดจากเราได้แน่นอนนะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              แอนเดรียกล่าว "เพียงแต่ เราไม่ทราบเลยนะคะ ว่าสส.คัลลาร์ดเป็นพ่อของผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์ไปได้นะ"
              "นั้นสิ แถมสส.คัลลาร์ดรู้เรื่องที่เฟอร์กินซ์หายสาปสูญไปได้ยังไงกันน่ะ ทั้งๆที่เรื่องที่เกิดนั้น เป็นเรื่องที่เกิดภายในช่วงการปฏิบัติการณ์ของพวกเราเลยน่ะ" แอบไบออสบอก
              เจเนลบอก "เรื่องภายในกองทัพนั้น นักการเมืองที่เป็นบุคลากรของฝ่ายพลเรือนจะรู้เรื่องนี้ไปได้ไงกันน่ะ มันชักจะไม่เข้าท่าอยู่น่า"
              "วิลด้า ฉันรู้น่ะ ว่าเธอเคยมีความสงสัยในตัวผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์มาโดยตลอด เพียงแต่ไม่รู้ว่าเฟอร์กินซ์มีตรงไหนที่ผิดปกติอยู่เลยสิน่ะ" จูเดทต้ากล่าว
              วิลด้าพยักหน้า "คะ รุ่นพี่ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรานั้น มันจะเป็นคำตอบที่เข็มขัดสั้นเกินไปสำหรับพวกเรากันแล้วละคะ"
              "เออ ท่านนายพลครับ ช่วยอธิบายเรื่องของผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์กันได้มั้ยละครับ เพราะพวกเราจับต้นชนปลายกันไม่ถูกแล้วละครับ" เนคมาดูซัมถาม
              เพอซิอัสกล่าว "ดูท่าว่า พวกเธอคงต้องการคำตอบและคำอธิบายที่เกิดขึ้นเลยสิน่ะ"

              "ครืดดดดดดด" ประตูห้องเปิดออก โพโบโวโล่เดินเข้ามาในห้อง "พวกนายทำบ้าอะไรกับเฟอร์กินซ์กันละสิน่ะ ฉันบอกแล้วไง ว่าให้พวกนายระวังๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเป็นไงละ พวกนายเจอเรื่องซวยระดับชาติเข้าให้เลยน่ะ" มาถึงก็โวยใส่ในทันที
              โฟรซ่ากล่าว "นายมาโวยใส่เราแบบนั้น ยิ่งทำให้เราไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่เลยนะยะ โพโบโวโล่"
              "นั้นสิ ที่เราโดนสส.คัลลาร์ดสั่งให้ผู้บังคับการของเราปลดพวกเราทั้งกองออกไปนั้น ส่วนหนึ่งมันเพราะนายเองต่างหากละยะ" สเปียริทบอก
              จิลกล่าว "นายเป็นคนพาเฟอร์กินซ์มา ดังนั้น นายต้องรู้เรื่องของเฟอร์กินซ์กันมาแต่แรก แต่ไม่ยอมบอกกับพวกเราเช่นนี้ พวกเรามีสิทธิ์ที่จะโทษนายก่อนเป็นรายแรกเลยน่ะ"
              "ผู้ตรวจการณ์มาคารอตตัน อธิบายให้พวกไทรเวเซอร์ทราบเดียวนี้เลย ถึงความเกี่ยวข้องกับสส.คัลลาร์ดและผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์เลยน่ะ" จูเดทต้ากล่าว
              โพโบโวโล่พยักหน้า "พวกนายรู้แล้วสิน่ะ ว่าพ่อของผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์นั้น คือสส.คัลลาร์ดกันแล้วน่ะ"
              "เรารู้เรื่องนี้แล้ว และเราจะถูกเฉดหัวออกจากกองทัพก็เพราะลุงสส.เฮงซวยนี้แหละ" เจเนลบอก
              โพโบโวโล่กล่าว "ความจริงแล้ว นามเต็มของสส.คัลลาร์ดที่แท้จริงนั้น คือ คัลลาร์ด เฟอร์กินซ์ ฮอเรเดรส ซีเนียร์ กันนะสิ"
              "คัลลาร์ด เฟอร์กินซ์ ฮอเรเดรส ซีเนีย.... เอ้ย เดียวก่อนน่ะ แล้วไอ้ผู้ตรวจการณ์เฟอร์กินซ์นั้นก็...." คลอเวฟบอก
              โพโบโวโล่บอก "คัลลาร์ด เฟอร์กินซ์ ฮอเรเดรส จูเนียร์ เป็นลูกคนโตของสส.คัลลาร์ด ซึ่งคนพ่อ มักจะให้ทุกๆคนเรียกชื่อว่าคัลลาร์ด ส่วนลูกตัวเองให้เรียกว่าเฟอร์กินซ์ไป อีกทั้งโทรทัศน์เองมักจะเสนอชื่อสส.คัลลาร์ดด้วยชื่อจริงมากกว่า โดยไม่ได้เผยชื่อเต็มมาให้ เลยทำให้พวกนายและคนส่วนมากจะจำกันเพียงแค่นี้เลยนะสิ"
              "งั้นเฟอร์กินซ์ก็เป็นลูกนักการเมืองละสิ แล้วเขาทำงานอะไรกันน่ะคะ" แอนเดรียถาม
              โพโบโวโล่กล่าว "โปรแกรมเมอร์ในบริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่งที่เซาท์บัลดีมอร์ท เดิม สส.คัลลาร์ดต้องการให้เฟอร์กินซ์สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง แต่เฟอร์กินซ์รู้ว่าสส.คัลลาร์ดเป็นพวกเกลียดทหารเข้าไส้ ตนเลยต้องการหลักฐานแสดงให้พ่อของเขาเห็นว่า กองทหารไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พ่อเกลียดชังมาตั้งแต่ต้น โดยใช้พวกนายเป็นหลักฐานในการเปลี่ยนทัศนคติแย่ๆของสส.คัลลาร์ด เพราะเฟอร์กินซ์เห็นว่าพวกนายเป็นกองทหารระดับวีรบุรุษระดับเทพกันเลยน่ะ"
              "คุณโพโบโวโล่ คุณทราบดีมิใช่หรือ ว่ากองทัพห้ามมิให้บุคลากรพาพลเรือนปลอมแปลงตนเองเป็นทหารเข้าไปในกองทัพ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่งถ้าเฟอร์กินซ์ถูกจับได้ นอกจากจะถูกจับขึ้นศาลทหารด้วยบทลงโทษสถานหนักแล้ว คุณเองก็จะพลอยซวยไปด้วยนะ" พีวิลบอก
              สเปียริทถาม "แล้วนายปล่อยให้เฟอร์กินซ์เข้ามาได้ไงกันละยะ"
              "คือๆๆๆๆๆ คือว่า คือ....." โพโบโวโล่พูดแบบกระอักกระอ่วน เพอซิอัสจ้องหน้าเขม่งในขณะที่จูเดทต้ากระแอ่มไว้ "ฉันปฏิเสธเฟอร์กินซ์ไปหลายทีกับคำขอของเขา รวมถึงอธิบายตามที่พวกนายว่ามากันก็จริง แต่ก็...."
              โฟรซ่าบอก "แต่อะไรกันมิทราบละยะ"
             
              ".......เฟอร์กินซ์ เขาขู่ด้วย.....ภาพถ่ายของฉันตอนไปเต้นกับพวกหนุ่มในบาร์เกย์กันนะสิ" โพโบโวโล่กล่าว เท่านั้นแหละ "โครมมมมมม" เมนซิกส์ทีนล้มคว่ำไปกันหมด คลอเวฟลุกขึ้นพร้อมกับสบถด้วยอารมณ์โกรธ
              "โพ โบ โว โล่ นี้มึงอัพเกรดจากกระเทยเป็นเกย์แล้วหรือ แล้วมึงปิดบังเรื่องนี้ต่อพวกเราเช่นนี้ มันน่าให้กระทืบอย่างแรงเลยวะ"
              "แบบนั้นมันไม่ดีเลยนะคะ คุณโพโบโวโล่ ในเมื่อคุณถูกขู่เช่นนี้ คุณก็น่าจะรีบมาบอกพวกเรากันก่อนก็ได้นิคะ" แอนเดรียกล่าว
              โพโบโวโล่บอก "ก็ฉัน แค่พยายามที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเองไว้ เพราะว่าพวกนายในตอนนั้นถูกลงโทษจนไม่ได้ออกปฏิบัติการณ์มาตั้ง 2-3 เดือนกันแล้ว ซึ่งฉันคิดว่ามันน่าจะจบลงกันแล้วแท้ๆ" แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "แต่เฟอร์กินซ์ยังไม่หยุดส่งรูปภาพของฉันตอนอยู่บาร์เกย์กัน ขนาดลบไปหลายที ปิดเครื่องคอมมาใช้มือถือ เฟอร์กินซ์ก็หาช่องทางส่งรูปเข้ามาอีกจนได้ จนกว่าฉันจะช่วยให้เขาเข้ามาในกองรบของพวกนายกันได้ ซึ่งฉันได้เห็นมาหลายทีจนเข้าป่าเขาไปกรีดร้องในห้องน้ำไปหลายทีแล้วละ"
              "เดียวก่อนน่ะ งั้นไอ้ที่นายเป็นคออักเสบไปนั้น ก็เพราะไอ้เรื่องนี้เองนะหรือ" เจเนลบอก
              โพโบโวโล่พยักหน้า "พอฉันตอบตกลงไป ฉันเลยติดต่อให้เฟอร์กินซ์แต่งตัวเป็นชุดทหารไว้ เพื่อนำเขาเข้ามาทำงานร่วมกับพวกนาย โดยที่เฟอร์กินซ์ทำหน้าที่แค่ ถ่ายภาพการทำงานภายในยานรบของนาย การใช้ชีวิตประจำวันบนยาน รวมไปถึงหาหลักฐานเป็นภาพการต่อสู้ของพวกนาย มาหักล้างความอคติเกลียดทหารของสส.คัลลาร์ด โดยเฟอร์กินซ์จะส่งข้อมูลภาพประจำวันนี้ไปให้สส.ดูทุกครั้งไปน่ะ"
              "แม้กระทั่งมาถามเรื่องของพวกเราด้วยละสิน่ะ" พีวิลกล่าว
              โพโบโวโล่บอก "แล้วว่าแต่ พวกนายยังเก็บกล้องและคอมของเฟอร์กินซ์ไว้หรือเปล่าละ"
              "หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับเฟอร์กินซ์เราได้นำข้าวของของเฟอร์กินซ์มา เพียงแต่เราต้องส่งมันมาให้ท่านนายพลพิจารณากันนี้แหละ" สเตฟอร์ดบอก โดยตอนนี้ทั้งกล้องและคอมของเฟอร์กินซ์อยู่บนโต๊ะหมดแล้ว
              โพโบโวโล่กล่าว "แล้วพวกนายมีลบข้อมูลกันบ้างหรือเปล่าละ อย่างภาพน่าอายของพวกนายหรือลูกเรือกันน่ะ"
              "เรายังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างกับสิ่งของของเฟอร์กินซ์เลยน่ะ" สเปียริทบอก "เพียงแต่ นายเป็นคนก่อเรื่องนี้ทั้งหมด นายต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ด้วยน่ะยะ"
              เพอซิอัสบอก "ถ้าเป็นเรื่องของโพโบโวโล่ละก็ ทางเราได้ลงโทษด้วยการทำรายงานส่ง พร้อมกับทำงานโดยมีลูกสาวของเราคุมอีกทีไปแล้ว หากแต่ สิ่งที่เราเป็นกังวลก็คือเรื่องของพวกเธอนี้แหละ"
              "แต่สส.คัลลาร์ดยืนกรานไปแล้วนิคะ ว่าเขาไม่ยอมรับฟังคำพูดจากพวกเรา ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่งเลยน่ะ" แอนเดรียกล่าว
              เบติสถาม "ว่าแต่ พวกท่านแจ้งกับจอมพลแฮซกริฟกันหรือเปล่าละ"
              "ทางเราได้แจ้งไปแล้ว ท่านจอมพลเองต้องการคำอธิบายจากฝั่งพวกเธอมา เพื่อพิจารณาดูว่าเขาพอจะทำอะไรได้บ้างน่ะ" เพอซิอัสบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "งั้นก็ดีเลยครับ เพราะอย่างน้อยท่านจอมพลก็ต้องการคำอธิบายจากพวกเราเลยน่ะ"

              "แสดงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเฟอร์กินซ์เป็นเหตุสุดวิสัย โดยที่พวกเธอไม่อยู่ในสภาพที่เข้าไปช่วยได้เลยสิน่ะ" แฮซกริฟกล่าว
              บัลโต้บอก "แต่ไม่คิดเลยน่ะ ว่าพวกนายกลัวว่าพวกเราจะโดนตำหนิเรื่องเอฟซีตรอนกัน เลยไม่คิดจะแจ้งให้ฉันทราบแม้แต่ครั้งเดียวเลยหรือ"
              "แล้วผบ.มาตำหนิพวกเราว่าเป็นกองกำลังชุดเดิมหาเรื่องแกล้งชุดใหม่กันเช่นนี้ พวกเราเลือกที่จะรอหาหลักฐานที่แน่นหนายิ่งกว่ามายืนยันเองจะดีกว่านะคะ" โฟรซ่าบอก
              สเตฟอร์ดกล่าว "แต่ผบ.กับท่านจอมพลสีหน้าไม่ค่อยดีนิ เรื่องมันหนักหนามากเลยสิครับ"
              "ความจริงแล้ว ฉันอยากจะมาบอกกับพวกนายน่ะ ว่าสส.คัลลาร์ดเล่นแรงกับพวกเราเสียแล้วนะสิ" บัลโต้บอก
              คลอเวฟบอก "อย่าบอกน่ะ ว่าสส.คัลลาร์ด ลามปามมาถึงเบื้องบนกันแล้วน่ะ"
              "สส.คัลลาร์ดอาศัยเสียงส่วนใหญ่ของพรรคการเมืองที่อยู่ฝ่ายเขานั้น บีบบังคับให้ทางรัฐบาล ปลดกองทัพทั้งหมดที่อยู่บนดาวภายในวันพรุ่งนี้กันแล้วนะสิ" แฮซกริฟบอก "ซึ่งสส.คัลลาร์ดต้องการให้นายทหารทุกนายเข้าร่วมการประชุม เพื่อลงนามในสัญญาปลดกำลังพลออกอย่างเป็นทางการเลยน่ะ"
              เนคมาดูซัมกล่าว "นี้เป็นเรื่องจริงเลยหรือครับ ผบ.บัลโต้"
              "จริงแท้แน่นอน ทันทีที่สส.คัลลาร์ดรู้เรื่องลูกชายของเขา เขาเลยเล่นหนักกับพวกเรา โดยใช้พวกนายเป็นตัวจุดไฟกันก่อน ซึ่งฉันเองก็รู้สึกโกรธแต่สงสัยไม่น้อย ว่าพวกนายไปทำอีท่าไหนให้สส.คัลลาร์ดยั้วะกันถึงเพียงนี้" บัลโต้บอก "แต่ไม่คิดเลย ว่าเอฟซีตรอนจะอยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นวายทุกอย่าง ซึ่งคงไม่มีความหมายแน่ๆ หากสส.คัลลาร์ดไม่รับฟังคำแก้ตัวใดๆจากฝ่ายนายเลยน่ะ"
              พีวิลบอก "แล้วท่านประธานาธิบดีเองก็ต้องยอมเลยสิครับ"
              "งวดนี้ ท่านประธานาธิบดีคงช่วยอะไรพวกนายและพวกเราไม่ได้แล้วละ เพราะสส.คัลลาร์ดมีเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองที่เข้าข้างมากเกินครึ่งหนึ่งด้วยกัน ซึ่งเราไม่แน่ใจว่า หัวหน้าพรรคการเมืองเหล่านั้น เห็นด้วยตามสส.คัลลาร์ดกันจริงๆหรือเปล่าน่ะ" บัลโต้บอก "แต่เกรงว่างวดนี้ อย่าว่าแต่พวกนายเลย เพราะพวกเราคงจะรอดยากแล้วละ"
              แฮซกริฟบอก "เพอซิอัส เธอเตรียมตัวเดินทางไปที่ทำเนียบเงิน พร้อมกับเหล่านายทหารต่างๆด้วย จูเดทต้า ให้คุมฐานทัพอยู่ที่นี้ไว้ รอคำสั่งจากทางฉัน ว่าจะให้ย้ายกองรบกันตอนไหนเลยน่ะ"
              "แล้วว่าแต่ นายพลกาโกรินเข้าร่วมด้วยหรือเปล่าละครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              บัลโต้บอก "ด้วย เพราะนายพลกาโกรินเองเป็นนายทหารระดับอาวุโส จำเป็นต้องมาร่วมในการลงนามด้วยน่ะ"
              "แต่ตอนนี้ ฉันอยากให้พวกเธอเตรียมพร้อมเก็บข้าวของทุกอย่างไว้ รวมถึงเตรียมส่งมอบอาวุธคืนให้กับกองรบที่ 11 ซึ่งจะต้องโยกย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอน ว่าพวกเธอต้องย้ายออกจากเฟิร์สฮิลล์กันด้วย เมื่อการลงนามจบสิ้นลงแล้วน่ะ" แฮซกริฟบอก
              แอบไบออสบอก "ว่าแต่ พวกเราพอจะแจ้งให้ต้นสังกัดรับทราบเลยมั้ยละครับ"
              "เกรงว่าคงไม่ได้หรอกน่ะ เพราะสส.คัลลาร์ดมีคาดโทษด้วย ว่าหากไปแจ้งแมนิเกเตอร์จากดาวอื่น พวกเธอจะโดนกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายอีกหนึ่งกระทงไปด้วย ซึ่งฉันได้ให้ผบสส.บาโธโรมิวไปชี้แจงให้กับทางแคสเซรอน-4 กันไว้แล้วละ" แฮซกริฟกล่าว
              จิลบอก "ทำแบบนั้นมันไร้เหตุผลสิ้นดีเลยน่ะ สส.คัลลาร์ดโกรธแบบไม่มีหัวคิดเช่นนี้ พวกเรารับไม่ได้เลยนะคะ"
              "จากรูปการณ์ในตอนนี้ พวกเธอควรจะทำตามกฎเสียจะดีกว่าน่ะ เพราะสส.คัลลาร์ดเองหาเหตุผลจากความโชคร้ายที่พวกเธอประสบกันมาเล่นงานพวกเราไว้เลยน่ะ" จูเดทต้าบอก "ตอนนี้ฉันได้แจ้งให้พวกจนท.ในกองกำลังแบ็คไซด์รับทราบกันไว้แล้ว แม้ผู้การโดโรซีนจะไม่ชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยก็ตาม แต่กฎก็ต้องเป็นกฎกันนี้แหละ"
              เพอซิอัสบอก "และนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเธอจะได้มารายงานตัวในห้องนี้ ดังนั้น พวกเธอ กลับไปที่พักได้เลย"
              "นี้มันเฮงซวยกันชัดๆเลยน่ะ" เจเนลสบถ
              คลอเวฟกล่าว "ช่างบทลงโทษของไอ้แก่คัลลาร์ดสิ ต่อให้เอาโมบิลลอยด์มา กูก็ไม่ไปจากเมืองนี้กันหรอกโว้ย"
              "พอเหอะน่า คลอเวฟ ในเมื่อสส.คัลลาร์ดบีบบังคับกองทัพและท่านประธานาธิบดีกันเช่นนี้ พวกเราทำอะไรไม่ได้กันหรอกน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              พีวิลบอก "นั้นสิ แม้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเฟอร์กินซ์เป็นเหตุสุดวิสัย แต่พวกเราจำต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกันอยู่แล้วน่ะ" แล้วพวกพีวิลก็เดินออกจากห้องไป

              "นี้พวกนายยังอยู่ในห้องกันอีกหรือ" เพอซิอัสกล่าว เมื่อเห็นเบติส วิลด้า สเตฟอร์ด และโฟรซ่ายังไม่ออกไปจากห้อง
              จูเดทต้าแบมือ "อย่า ฉันรู้น่ะ ว่าเธอกับพวกคิดจะทำเช่นไรกับสส.คัลลาร์ดเลยน่ะ"
              "รุ่นพี่เองก็รู้ดีนิคะ ว่าทั้งฉันและเบติสต่างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่มีสถานะเป็นพลเรือนมาก่อน ต่อให้ถูกปลด ฉันกับเบติสก็พร้อมที่จะสู้เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับพวกเนคเกอร์นะคะ" วิลด้าบอก
              สเตฟอร์ดเสริม "พวกเราอาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรนั้น เราพอยอมรับได้ เพราะว่าพวกเราไม่อยู่ในสภาพที่เข้าไปช่วยเฟอร์กินซ์ได้จริงๆ แต่ ที่ผิดจริงๆนั้น คือพวกเอฟซีตรอนเองต่างหากละครับ"
              "เบติส วิลด้า นายสองคนยังอยากจะโดนหนักมากกว่านี้เลยหรือ เพราะตอนที่พวกนายทวงความยุติธรรมให้กับเหล่าทหารที่ถูกเกรนิฟซ์กลั้นแกล้งนั้น พวกนายต้องหาเรื่องหนีไปอยู่ดาวครีเฟียกันเลยน่ะ" เพอซิอัสบอก "ส่วนเธอ พันตรีแลงครูท และพันโทแวนแซน ก่อนที่พวกเธอมาอยู่ไทรเวเซอร์ พวกเธออยู่สังกัดเดียวกับผบ.บาโธโรมิว ถ้าพวกเธอเคลื่อนไหวแล้วล้มเหลวขึ้นมา สส.คัลลาร์ดก็หาเรื่องโจมตีผบ.บาโธโรมิวหนักข้อกว่าเดิมเลยน่ะ"
              โฟรซ่าบอก "เรารู้ดีคะ ว่าเราเสี่ยงเอาหน้าที่การงานมาช่วยเหลือพวกพีทที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม และรู้ด้วยว่าหากเราพลาด ทุกอย่างก็จะจบเห่ลงได้ในทันทีเลยน่ะ"
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าการกระทำของสส.คัลลาร์ดนั้น เหมือนใช้ความแค้นส่วนตัวเป็นเครื่องมือในการสั่งปลดพวกเราและกองทัพทุกกองกันหน้าด้านๆ โดยไม่รับฟังเหตุและผลใดๆเลย ซึ่งนั้นไม่แปลกใจเลย ที่เฟอร์กินซ์ต้องลงทุนสวมรอยเป็นผู้ตรวจการณ์เข้ามาหาข้อมูลที่มาหักล้างความอคติของสส.คัลลาร์ดกัน ซึ่งเฟอร์กินซ์คงไม่มีความสุขแน่ ที่พ่อของเขาใช้การตายของเขามาทำแบบนี้น่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              เบติสกล่าว "แม้ว่าเรามีกฎว่า ห้ามทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องภายในการเมือง เช่นเดียวกับฝ่ายการเมืองห้ามสอดยุ่งเรื่องภายในกองทัพกันด้วย แต่เรื่องนี้ สส.คัลลาร์ดอาศัยเรื่องของเฟอร์กินซ์มาทำแบบนี้ แล้วเราจะนิ่งเฉยได้ไงละครับ ท่านนายพล"
              "มันก็จริงอยู่น่ะ ที่การกระทำของสส.คัลลาร์ดในคราวนี้ มีพิรุธกันหลายจุด หนึ่งในนั้นก็คือ เรื่องที่เฟอร์กินซ์ตายไปนั้น สส.คัลลาร์ดรู้เรื่องเร็วเกินไป ทั้งๆที่พวกเรายังไม่รู้เลยว่าเฟอร์กินซ์เป็นตายร้ายดีกันหรือเปล่า" เพอซิอัสบอก
              จูเดทต้ากล่าว "และเท่าที่ฟังจากพวกเธอเล่ามานั้น ต่อให้สส.คัลลาร์ดมิได้เป็นคนสั่ง แต่ในเคสนี้ ทางเราสามารถยื่นฟ้องสภาสูงได้ ว่าสส.คัลลาร์ดเป็นคนส่งเฟอร์กินซ์เข้ามาหาจุดด่างพล้อยภายในกองรบของพวกเธอ และอยู่เบื้องหลังการตายของเขาเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการปลดกองทัพทั้งกองได้เลยน่ะ"
              "เพราะอย่างงั้นแหละคะ ถ้าสส.คัลลาร์ดอ้างเสียงจากพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายเดียวกับเขาได้ ทางเราก็มีเสียงของนายทหารที่ไม่พอใจกับผลการตัดสินเพียงฝ่ายเดียวได้อยู่นะคะ" วิลด้าบอก
              จูเดทต้ากล่าว "แม้ว่าการลงนามเสร็จสิ้นลงไปได้ จนทำให้เหล่านายทหารทั้งหลายไม่ว่าจะเทรอมและซัลคาเลี่ยนเกิดความไม่พอใจอย่างมาก แต่....เรายังขาดหลักฐานชิ้นสำคัญที่ช่วยยืนยันได้ว่า คัลลาร์ดติดต่อกับเฟอร์กินซ์และรู้เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดของเฟอร์กินซ์ได้นะสิ"
              "เพียงแต่ตอนนี้ พวกเธอไม่อยู่ในสภาพที่จะทำอะไรได้เลยนะสิ" เพอซิอัสบอก "แต่ถ้าพวกเธอยังเชื่อมั่นในความเป็นไปได้เพียงน้อยนิดละก็ ฉันไม่ว่าหรอกนะ เพราะฉันเห็นว่า เรื่องที่สส.คัลลาร์ดทำอยู่นี้ มันไม่ยุติธรรมอย่างมากเลยน่ะ" แล้วก็หยิบหมวกมาสวม
              เบติสกล่าว "ท่านนายพลเองก็ระวังตัวด้วยนะครับ"
              "พวกนายเองก็เช่นกันน่ะ เพราะฉัน ไม่สิ พวกเรารู้สึกได้ถึง ความไม่ชอบมาพากลของเรื่องนี้กันเสียแล้วน่ะ" เพอซิอัสบอก
              โฟรซ่ากล่าว "เพราะลมแผ่วเบาจากคัลลาร์ด อาจจะเป็นพายุขนาดใหญ่พัดมาก็เป็นได้เลยนะคะ"

    โปรดติดตามตอนต่อไป กับตอนที่ 27 เอฟซีตรอนเผยลาย จุดจบของสหายที่หายหน้าไปนาน กับการโต้ตอบของไทรเวเซอร์
    ตอนหน้า กาโกรินเผยตัวในช่วงลงนามปลดกำลังทหารภายในทำเนียบเงิน โดยสั่งเหล่าทหารเอฟซีตรอนเข้าก่อกวนทุกเมืองในช่วงที่เหล่าทหารรอคำสั่งปลด ทำให้โคเคสต้องส่งทุกกองรบออกปราบพวกเอฟซีตรอน หากแต่ฝ่ายนั้นมีอาวุธที่น่ากลัว บีบให้คลอเวฟต้องงัดเอาอาวุธเด็ดที่เก็บซ่อนเอาไว้ออกมาใช้งานกัน แต่ทว่า....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×