ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 7 ศึกหนักกลางดาวมหาสมุทร มือสังหารที่คาดไม่ถึง กับความจริงที่น่ากลัวของแอนเดรีย ครึ่งแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26
      0
      19 ก.ค. 63

              ณ.โรงเก็บวอร์บอทในไฮด์เดาท์ ซึ่งอยู่ในความมืดมิด
              "เกิดอะไรขึ้นละเนี้ย" แอนเดรียกล่าว โดยที่เธอเดินอยู่ในโรงเก็บเพียงลำพัง ซึ่งเธอเห็น เครนิสถูกจับหักคอ พร้อมกับลูกทีมของเธอที่ถูกเชือดกองใกล้กับอิลมิคที่ถูกฆ่าอยู่ใกล้กับเสา เซรีนและโครวเชดนอนจมกองเลือด ทั้งๆที่มีอาวุธในมือ จากนั้นก็หันมายังอาชิลน่าที่กอดยูเรน่าในสภาพเดียวกัน ดอลฟูลนิส เจกรอน่า กับลูกทีมตายด้วยแผลผ่ากรีด วิเวลลี่และอาแรคคัสร่างขาดเป็นท่อนๆ อิลมิค เฟลิคนอนพิงกำแพง โดยที่ยังถือปืนยาวอยู่ แล้วก็เดินมาเห็นทริฟตันและโอแอดแหลกเป็นชิ้นๆ ใกล้กับกำแพงที่ทะลุเป็นรู แม้กระทั่งเร็กซอน กริซซิก ครีซ ริชาร์ท รวมถึงโคเซวิค ก็ถึงคราวเป็นศพจมกองเลือด พร้อมกับเหล่าลูกเรือด้วยกัน แอนเดรียถึงกับเอามือปิดปาก แล้วรีบวิ่งผ่านศพทั้งหลายไป จนถึง.... "ไม่ ไม่น่ะ" แอนเดรียมาโผล่ที่โรงเก็บของไทรแองเกิ้ล ที่ตอนนี้ สภาพพังพินาศไม่ต่างกัน พวกไทรเมร่าถูกฆ่าและกระจัดกระจายไป เนคกี้ เนคกัส ฟูแรมนอนพิงเสาในสภาพที่มีรอยเลือดสีดำติดเสาและที่พื้น บริคซ์และลูกเรือนอนล้มตายไปหลายราย เจเนลกับพีวิลตายในท่ายืน โฟรซ่าหน้าคว่ำกับพื้นพร้อมกับปืนฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลของเธอ ไซโคลเนียตายในสภาพแขนขากลถูกฉีกขาด ฟิเกซสิ้นชีพในท่าคุกเข่า พลัสเชอริทอยู่ในสภาพหัว ลำตัวและแขนขาหลุดกระจุย ไม่ต่างจากแอบไบออสที่แขนขาขาด และมีโบนเซเบอร์ปักคากลางหลังกับพื้น จิลนอนหงายโดยที่แบ็คแพ็คกระจุยคาพื้น จายด์ยืนตัวแข็งในสภาพที่มีรูทะลุลำตัว สเตฟอร์ด คลอเวฟและเนคมาดูซัม ก็มีสภาพไม่ต่างกัน จนแอนเดรียเดินถอยออกมา เท้าของเธอแตะกับ เอโอลีนที่กอดแมบิลีนจมกองเลือด เช่นเดียวกับเบติส วิลด้า ไกซ์ มิลด์ อีธาน ฟูลออเรส และเมดิน่าด้วย เช่นเดียวกับ "หนีไป แอน เดรีย" ลิเนียร์ตี้กล่าวด้วยลมหายใจโรยริน ในสภาพที่เธอหน้าอกทะลุ เช่นเดียวกับสเปียริทที่ถูกพลองของเธอแทงทะลุอยู่ใกล้ๆ กับมาสวาร์ทาร์ที่ยืนในสภาพหน้าอกทะลุด้วย
              "หึๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะเล็กๆดังขึ้นมา และกึกก้องไปทั่วโรงเก็บในไทรแองเกิ้ลกัน จากนั้นแอนเดรียก็มาอยู่ใน
              "อี อีกแล้วหรือเนี้ย" เธออุทาน เพราะเธอเห็นพวกกองกำลังหลังฉาก ที่ตายในสภาพสวมเกราะแต่ไม่สวมหมวก ลูกเรือในยาน แทน หมอเบ็ตตี้  รวมถึงโดซี่เองด้วย ซึ่งนั้นทำให้แอนเดรียรู้สึกกลัวอย่างมาก "กึก" จากนั้นก็มีอุ้งมือแตะไหล่ของเธอ จนแอนเดรียหันมาเห็น อสูรกายสีดำที่มีอุ้งเล็บขนาดใหญ่
              "แก....เตรียมตัวตายได้แล้ว" มันกล่าวขึ้นพร้อมกับจ้วงกงเล็บเข้าใส่แอนเดรียอย่างรวดเร็ว

              "อ้า!!!!!!" แอนเดรียกรีดร้องขึ้น เธอมิได้อยู่ในยานอินสเปคทรัลแล้ว เธออยู่ในห้องผู้ป่วยในยานไทรแองเกิ้ล ซึ่งตอนนี้ เวลาในยานคือตี 4 15 นาที ทุกอย่างที่เธอเห็นและประสบมานั้น "ฝะ ฝันร้ายนั้น....ไม่เพียงมันกลับมา แต่....นั้นยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าเลยน่ะ" แอนเดรียลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับสูดหายใจขึ้น ให้เธอผ่อนคลายจากความหวาดกลัวที่เธอเจอมา
              "เออ เกิดอะไรขึ้นหรือ แอนเดรีย" แอมเบอร์ติดต่อเข้ามา
              "ขอโทษทีน่ะ แอมเบอร์ ฉัน....เจอฝันร้ายที่น่ากลัวมากเลยน่ะ" แอนเดรียบอก
              แอมเบอร์กล่าว "ความฝันนะหรือ อืมมมม แล้วฝันที่เธอเห็นนิ มันเลวร้ายมากเลยหรือ"
              "มากสิ เพราะว่า ฉันอยู่ท่ามกลาง ความ...." แอนเดรียกล่าว และถอนใจขึ้นมา "....ความตายรอบด้าน โดยที่ฉันยืนอยู่เพียงลำพังเลยน่ะ"
              แอมเบอร์บอก "งั้นหรือคะ แล้วคุณพอรู้มั้ย ว่าอะไรที่เป็นต้นเหตุน่ะ"
              "ฉันรู้แค่ว่า มีตัวประหลาดสีดำที่โผล่มาอยู่ข้างหลัง ซึ่งฉันเห็นเพียงเท่านี้ แล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา..." แอนเดรียกล่าว และหันมาถาม "ว่าแต่ เธอคงไม่คิดจะบอกใครกันใช่มั้ย"
              แอมเบอร์กล่าว "ถ้านี้เป็นแค่ความฝันที่เกิดจากความคิดของตัวผู้ที่ฝันขึ้นมา มันก็คงไม่เป็นจริง ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องที่ไม่มีทางเกิดได้กันหรอกน่ะ"
              "ฉันก็ คิดเช่นนั้นแหละ" แอนเดรียบอก จากนั้นก็นอนต่อ
              จนกระทั่ง เวลาผ่านไป แปดโมง 21 นาที เวลาภายในยาน แอนเดรียเข้าประชุมพร้อมกับเมนซิกส์ทีน เบติส วิลด้า และบริคซ์ "บอกตามตรงน่ะ ว่าการรบกับทรอมเบตและพวกแอรอทฝ่ายตรงข้ามนั้น ทำเราอ่วมไปไม่น้อย เพราะทั้งเราและยูเนี่ยนพีช ผลาญอาวุธอย่างมากเลยละ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซีคเกอร์มิไซล์น่ะ" บริคซ์กล่าว
              "นั้นไม่แปลกใจหรอก เพราะไอ้เวรทรอมเบตนั้นมันใช้ฝนอุกกาบาตถล่มเรา ในขณะที่กำลังสู้กับพวกแอรอทที่มากับอัลแทเรี่ยนและอินเซคเที่ยนกันน่ะ" คลอเวฟบอก และหันมาถาม "ว่าแต่ เราได้อะไรทดแทนจากการสู้รบครั้งนี้บ้างละ"
              บริคซ์บอก "โชคดีมาก ที่พวกแอรอทภายใต้การนำของเลดี้สตาทรอฟ่า ได้เก็บกู้เศษซากยานรบและยุทโธปกรณ์ของพวกอัลแทเรี่ยน และอินเซคเที่ยนที่ร่วงลงทะเลเมฆขึ้นมาเป็นจำนวนมาก รวมถึงกองยานและยุทโธปกรณ์ของพวกอัลแทเรี่ยนและอินเซคเที่ยนที่สร้างเสร็จ แต่ยังไม่ได้นำออกมาใช้ ซึ่งอยู่ในเกาะลอยที่ปลิวขึ้นไปนอกดาวกันอยู่ รวมถึง...ตัวมิไซล์ต่อต้านอากาศยานกันด้วย ที่ทางเราและยูเนี่ยนพีชจะใช้ทดแทนส่วนที่เราเสียไปมาก แม้จะไม่มากเท่าเดิมเลยก็ตามน่ะ"
              "อย่างน้อย เราก็ไม่เสียอะไรมากเกินควรเลยน่ะ" วิลด้าบอก
              เบติสบอก "และโชคดีมาก ที่พวกเราได้ทรัพยากรแร่ธาตุจากฝนอุกกาบาตที่พวกแอรอทฝ่ายทรอมเบตเรียกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งนั้นทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องทรัพยากรสำหรับซ่อมแซมโมบิลลอยด์กันแล้วน่ะ" โดยตอนนี้ "อี้ดดด แกร็กๆๆๆๆๆๆ ชรี้ดดดดดดด ฟู้ววววว กึก" ภายในโม่ปูนสีขาว แขนกลขนาดเล็กได้ทำการต่อชิ้นส่วนน้อยใหญ่ที่ถูกขึ้นรูปอย่างรวดเร็ว ให้กลายเป็นแขนซ้าย เพื่อให้ทีมช่างใช้เครนดึงมา ต่อประกอบฟาลครีด้าแอทแทคก้าของลิเนียร์ตี้ที่พังเสียหายจากการใช้ตอกหน้าอกอาร์ควิทให้เป็นแผล หลังจากที่ปลดแขนขวาที่พังกุด เพื่อประกอบกับแขนใหม่ที่กำลังประกอบขึ้น เช่นเดียวกับ "อี้ดดดด กรึกกกก" ดีเฟนด้าของแอนเดรียที่ผ่านการซ่อมได้ประกอบกับโปรเทคต้าไคท์ชุดใหม่ที่สร้างขึ้นมาแทนอันเดิมแล้ว
              "แต่ตอนนี้ เรามีปัญหาเรื่องเสบียงอาหารกันแล้วน่ะ แม้ว่า เราได้เสบียงอาหารที่มาจากยานแทนทารัสที่มาตั้งแต่แรก ซึ่งมีเยอะพอที่จะให้พวกเราอยู่ได้ราว 2 สัปดาห์ด้วยกัน แต่ตอนนี้ เราเหลือเสบียงที่อยู่ได้ ในอีก 4 วันแล้วละ" บริคซ์บอก
              เจเนลบอก "แน่ละ พวกเราต้องพึ่งเสบียงในยานกันแล้วนิ แม้ว่า เราประทังชีวิตด้วยเนื้อแพะไฟฟ้าบนดาวแซนดอม กับเนื้อนกเมฆที่ดาวแอรอทไปบ้าง แต่มิใช่กับตะกวดบนดาวแฟคม่าและปลาในดาวไอซ์ติค ที่อาจจะทำให้กระเพาะทะลุหรือเครื่องในแข็งจากภายในกันหรอกน่ะ"
              "พวกยูเนี่ยนพีชเอง มันได้เปรียบตรงที่มันได้เสบียงอาหารจากพวกเดลอาเนี่ยนที่เก็บกู้มา เลยทำให้พวกนั้นบริโภคได้โดยไม่น่ามีปัญหาเลยน่ะ" คลอเวฟบอก
              แอนเดรียบอก "ว่าแต่ เราไม่มีเรือนกระจกไว้ปลูกผักในยานเลยหรือคะ"
              "ก็มีอยู่น่ะ แอนเดรีย เพียงแต่....พื้นที่มันไม่กว้างพอที่จะปลูกผักเลี้ยงลูกเรือที่อยู่ในยานกันหรอกน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว "เว้นเสียแต่ ต้องเปลี่ยนห้องว่างอย่างห้องฝึก ห้องซ้อมยิงปืน หรือไม่ก็ ห้องที่ไม่มีความจำเป็นอย่าง สนามบอลขนาดเล็ก เป็นพื้นที่เรือนกระจกกันเลยน่ะ"
    คลอเวฟบอก "แล้วศพไอ้พวกเดลอาเนี่ยนที่ขยายใหญ่นั้น คงกินไม่ได้อย่างงั้นละสิ"
              "ถ้าเป็นพวกศพทหารเผ่าหลักของเดลอาเนี่ยนที่ขยายตัวใหญ่ยักษ์นั้น พอจะให้กิซเซเบอร์ประทังชีวิตได้นานพอตัวอยู่ แต่....เอาเข้าจริงน่ะ เนื้อศพเหล่านั้นเน่าจนฉันหรือพวกเรา เอาไปบริโภคกันไม่ได้หรอก" แอบไบออสบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "เรื่องปรับแต่งส่วนเรือนกระจกนั้น เราคงต้องพักไว้ก่อน เพราะ....เรามีเรื่องที่ต้องรีบหยุดยั้งกันโดยเร็วเลยน่ะ"
              "เรื่องที่พวกเดลอาเนี่ยนและเดธซิลเวอร์พลาเนตบุกเขตอวกาศฝ่ายสมาพันธ์อวกาศ แล้วก็ระบบดาวของเรากับของยูเนี่ยนพีชละสิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว มาสวาร์ทาร์พยักหน้า สเตฟอร์ดบอก "ถึงพวกเราที่แคสเซเดี่ยน-3 และแคสเซรอน-4 เอาอยู่ได้ก็จริง แต่ถ้าพวกมันเอากองยานจำนวนมากหลุดเข้าประตูดารากันได้ละก็....นั้นไม่ดีแน่ๆเลยละ"

              "เราจัดการกับตัวผู้นำของอัลแทเรี่ยนและอินเซคเที่ยนกันไปแล้ว เหลืออีก 4 เผ่าที่โผล่มาในเขตดาวแปดดวง ที่ตอนนี้...." ฟิเกซบอก โดยเปิดแผนที่ดาวแปดดวง ที่เหลือเพียงดาววอเทเชี่ยน และดาวจังกรอเรส กับดาวสโตนยอนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของมันเทิร์ค ".....เหลือเพียงสองดวงที่ต้องจัดการกับพวกเดลอาเนี่ยนลงซะ แม้ว่าเศษเดนของอาร์ควิทและคราแค็กซ์ส่วนหนึ่ง ได้หนีออกจากดาวแอร์คราวนด์ ไปสมทบกันที่ดาวสโตนยอนแล้วน่ะ"
              คลอเวฟบอก "ถ้าจะหยุดไอ้พวกเดลอาเนี่ยนไม่ให้รุกรานระบบอวกาศของฝ่ายเรากันด้วยกองยานรบละก็....ดาววอเทเรี่ยนคือเป้าหมายต่อไปกันนี้แหละ"
              "นายคงอยากจะใช้ไทรแองเกิ้ลไปฟัดกับเผ่าเทรโอเซี่ยม ที่ชำนาญเรื่องการสู้รบทางทะเลและใช้ยานกับเรือรบเลยสิน่ะ" สเปียริทเดา
              คลอเวฟพยักหน้า "ฉันกับแอมเบอร์ได้เช็คดาวดวงนั้นในช่วงตีสองกันไว้แล้ว พบว่า...ดาววอเทเชี่ยน ไม่เพียงมีพวกเทรโอเซี่ยมโผล่ประจำอยู่ใต้น้ำกันอย่างเดียว แต่ยังมีพวกซอร์แรคอยู่เหนือผิวน้ำกันอีกด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ เหนือผิวน้ำและใต้น้ำ มีศูนย์กลางผลิตยานรบขนาดใหญ่ของพวกเดลอาเนี่ยนอยู่ถึง 10 แห่ง ซึ่งมีการคุ้มกันของพวกวอเทลกลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเนตเสริมด้วยอีกทีเลยน่ะ"
              "นายแน่ใจเลยหรือ ว่าที่ดาววอเทเชี่ยนมีศูนย์กลางผลิตยานรบกันจริงๆ เผลอๆอาจจะเป็นกลลวงก็เป็นได้น่ะ" เนคมาดูซัมถาม
              คลอเวฟกล่าว "แอมเบอร์เคยเตือนฉันแบบนี้มา แต่....ในช่วงที่พวกเราต่อกรกับไอ้พวกลูกน้องของทรอมเบตที่นอกดาวกันนั้น มีกลุ่มอุกกาบาต 3 กลุ่มที่มีแต่ก้อนใหญ่เป้งๆพุ่งตรงมาที่ดาววอเทเชี่ยน แล้วหยุดกึกกันนอกดาว ก่อนที่จะอุกกาบาตเหล่านั้นถูกบางอย่างพาเข้าไปในดาวอย่างช้าๆ กันทั้งหมด จนแล้วเสร็จภายในช่วงตีสามแล้วนะสิ"
              "แสดงว่าพวกวอเทเชี่ยนคงต้องใช้วัตถุดิบจากฝนอุกกาบาตขนาดใหญ่จำนวนมากนั้น มาใช้สร้างยานรบให้กับพวกเดลอาเนี่ยนเลยสิน่ะ" เบติสบอก
    เจเนลกล่าว "แต่ในเมื่อพวกแอรอทส่งฝนอุกกาบาตตรงไปยังดาววอเทเชี่ยนกันนิ มันน่าจะส่งแบบเร็วๆกันมิใช่หรือ อย่างน้อย พวกมันไม่น่าทำอะไรยุ่งยากให้คลอเวฟจับได้กันเลยนิ"
              "ลืมไปแล้วหรือ เจมส์ วอเทเชี่ยนเป็นดาวมหาสมุทรล้วน ต่อให้มีแผ่นดินน้อยนิดหรือไม่ ฝนอุกกาบาตที่พุ่งมาอย่างเร็วก็เหมือนกับการโยนก้อนหินลงตู้ปลาทอง จนน้ำกระพึมเป็นวงกว้างให้เกิดเป็นคลื่นที่ซัดอะไรก็ตามที่อยู่เหนือผิวน้ำให้หายไปได้น่ะ" พีวิลบอก "และจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนอกดาววอเทเชี่ยนนั้น แปลว่าสิ่งที่คลอเวฟตรวจสอบมาก็ต้องเป็นจริงแน่นอน"
              พลัสเชอริทบอก "พูดง่ายๆก็คือ ถ้าพวกแอรอทไม่ทำให้ฝนอุกกาบาตอยู่ในความควบคุม ฝนอุกกาบาตจะสร้างความเสียหายให้กับศูนย์ผลิตยานรบขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือผิวน้ำกันอย่างมากเลยสิน่ะ"
              "พวกนายเองคิดจะไปวอเทเชี่ยนสิน่ะ" โคเซวิคติดต่อเข้ามา
              เนคมาดูซัมพยักหน้า มาสวาร์ทาร์บอก "นายมิได้มีความเห็นที่ต่างออกไปกันสิน่ะ"
              "ที่จริงแล้ว อาชิลน่าตรวจจับข้อมูลการสื่อสารของพวกเดลอาเนี่ยนที่ดาววอเทเชี่ยนกับดาวจังกรอเรลกันแล้ว ปรากฎว่า จักรพรรดิ์ไทโรนอฟและฮาชูลั่ม อยู่ที่ดาวดวงนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วน่ะ" เฟลิคบอก พวกไทรเวเซอร์ได้ฟังก็ตกใจมาก
              โคเซวิคบอก "จากบทสนทนาที่เราได้ฟังมานั้น ไทโรนอฟและฮาชูลั่ม ทราบเรื่องความพ่ายแพ้ของอาร์ควิทและคราแค็กซ์ไปแล้ว โดยได้แจ้งเตือนให้มิวนัสและอุลซาร์ฟที่กบดานอยู่ในจังกรอเรลให้เตรียมพร้อมไว้ด้วย ซึ่งเรายังไม่รีบบุกไปที่จังกรอเรลกันเดียวนั้นหรอก ตราบใดที่...เราปล่อยให้พวกมันสร้างกองยานขึ้นเสร็จหมดทุกลำและหลุดเข้าประตูดารากันไปได้น่ะ"   
              "ทางเราก็มีความเห็นแบบเดียวกันกับนายนี้แหละ แม้ว่าตอนนี้ ทางเรากำลังประสบกับปัญหาปากท้องเรื่องเสบียงอาหารเลยก็ตามน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โคเซวิคกล่าว "ดีเลย เพราะเทคเนล่าเจอกับเพื่อนชาววอเทลผู้หนึ่งที่จะช่วยพวกเราพาไปหาตัวองค์ราชาของดาวดวงนี้ ซึ่งกำลังถูกพวกวอเทลฝ่ายเดธซิลเวอร์พลาเนตไล่ต้อนกันอยู่ แม้ว่าเขามีขุมกำลังไว้รับมือ แต่คงไม่ดีแน่ หากทหารซอร์แรคและเทรโอเซี่ยมมาร่วมแจมกันด้วยน่ะ"
              "งั้นพวกเราตรงไปหาเพื่อนรายดังกล่าวกันดีกว่าน่ะ" โฟรซ่าออกความเห็น
              มาสวาร์ทาร์บอก "งั้นพวกนายไปเจอกันที่เมนเครมได้เลยน่ะ" โคเซวิคพยักหน้าก่อนจะปิดการติดต่อ จากนั้นทุกๆคนก็ออกจากห้องไป โดยที่เนคมาดูซัมกำลังจะเดินตามไปด้วย "ขอคุยกับนายเป็นการส่วนตัวหน่อยนะ เนคมาดูซัม" มาสวาร์ทาร์บอก

              "อะไรน่ะ นายจะให้ฉัน ถอดแอนเดรียออกจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์ภาคสนามนะหรือ..." เนคมาดูซัมบอก
    มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "แอนเดรียเสี่ยงอันตรายมาไม่น้อย แม้ว่าเธอจะรอดมาได้กันก็จริง แต่....ฉันกลัวว่าเธออาจจะตายได้แน่ๆ ฉันจึงอยากจะให้นาย....ช่วยเธอในเรื่องนี้กันเสียหน่อยน่ะ"
              "มาส...ฉันเข้าใจดีน่ะ ว่านายเป็นห่วงแอนเดรียไม่น้อย ว่าเธอเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยปกป้องพวกเราและนายกันก็จริง...." เนคมาดูซัมกล่าว "แต่.....ในเวลานี้ งานของพวกเราก็คือความเสี่ยงที่ทวีความหนักหน่วงกันมากขึ้น ถ้าเราตัดใครคนใดคนหนึ่งออก นั้นหมายถึงประสิทธิภาพจะลดทอนลงไปกันด้วย และนั้นหมายถึงการให้ลูกทีมที่เหลือต้องมาทำหน้าที่แทน ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระมากขึ้นไปด้วย ดังนั้น ฉันจึงยังไม่ตัดแอนเดรียออกด้วยเหตุนี้ไปได้หรอกน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "แต่...ต่อให้เธอรอดมาได้ก็จริง มันก็มีความเป็นไปได้ที่เธอจะ...."
              "มาส สามปีก่อน นายลืมไปแล้วหรือ ว่าฉันให้นาย เชื่อมั่นในตัวแอนเดรียไว้ ว่าเธอต้องรอดมาได้แน่นอน อีกอย่าง แอนเดรียเองก็ยังมีพวกเราอยู่ด้วย ถึงนายเข้าไปปกป้องเธอไม่ได้ พวกเราตนใดตนหนึ่งเองก็ต้องทำ แม้กระทั่งแอนเดรียเองก็ด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
    มาสวาร์ทาร์บอก "เรื่องนั้น ฉันก็รู้ดีแล้วละน่า เพียงแต่ว่า...."
              "หรือว่า นายมีเหตุผลอะไรที่ทำให้แอนเดรียออกรบต่อไม่ได้กันละ มาส" เนคมาดูซัมบอก มาสวาร์ทาร์นิ่ง จนเฮฟวี่คอมมานโด้กอดอกและจ้องหน้าดาบมือหนึ่งด้วยสายตาที่จริงจังอย่างมาก
              มาสวาร์ทาร์จำต้องตอบไปว่า "ไม่มี ฉันไม่มีเหตุดังกล่าวที่ยกขึ้นมาอ้าง เพื่อให้นายปลดแอนเดรียออกจากหน้าที่ปฏิบัติการณ์กันแล้วน่ะ"
              "หวังว่าที่นายพูดมานั้น ขอให้เป็นจริงกันบ้างน่ะ มาส" เนคมาดูซัมบอก "อีกอย่าง นายเองก็มีหน้าที่คอยดูแลแอนเดรียกันไว้ ถ้านายเห็นว่าเธอมีความผิดปกติ นายควรจะบอกฉัน บอกพีวิล สเปียริท ลิเนียร์ตี้ แล้วก็พวกเราทุกๆคน แม้กระทั่งหมอเดเมี่ยนเองด้วย ถ้ามันร้ายแรงมากแค่ไหน อย่างน้อย พวกเราก็พอมีทางแก้ไขมันได้อยู่แล้ว ดังนั้น อย่างเดียวที่นายทำในตอนนี้ ก็คือต้องเชื่อมั่นในตัวแอนเดรียและปกป้องเธอต่อ เพราะว่าแอนเดรียไม่ได้เป็นแค่ความรับผิดชอบของนาย แต่เป็นของพวกเราทั้งหมดด้วยน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ในเมื่อนายว่าเช่นนั้น ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วละ เนคมาดูซัม" แล้วก็เดินออกจากห้องไป
              "แอมเบอร์" เนคมาดูซัมสั่งการให้แอมเบอร์.... "ติดต่อเนคกี้และเนคกัสโดยเร็ว ฉันมีเรื่องจะมอบหมายให้ทั้งคู่กันหน่อยน่ะ"
              ซึ่งแอมเบอร์ถามกลับไปว่า "คงไม่ได้หมายถึงเรื่องของคุณแอนเดรีย ที่พักนี้เธอ...." แล้วก็เล่าบางอย่างให้เนคมาดูซัมรับทราบไว้ จนเขาเหล่มาเห็นใครบางคนที่แอบฟังกันอยู่.....

    TriVeser Manigator Saga: Hyperstar Troopers ภาคแปดดารา
    ตอนที่ 7 ศึกหนักกลางดาวมหาสมุทร มือสังหารที่คาดไม่ถึง กับความจริงที่น่ากลัวของแอนเดรีย

              ณ.ยานเมนเครม ในตอนนี้ เปิดใต้ท้องยานเพื่อนำยานทรงปลายาวสีขาวเข้ามา
              "สงสัยว่ายานอวกาศของชาววอเทลที่เดินทางมากับยานของพวกเทคนอตนั้น มาจากไหนกันละ" สเปียริทบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "น่าจะเป็นยานของผู้ลี้ภัยออกจากดาววอเทเชี่ยนกันแน่ๆเลยละ"
              "เปล่าเลย ลิเนียร์ตี้ ถ้ามียานบินออกจากดาววอเทเชี่ยนกันจริงๆ พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่อยู่ในดาว หรือพวกเดลอาเนี่ยนต้องเข้ามาขัดขวางจนยานร่วงเสียซะมากกว่าน่ะ" โฟรซ่าคาดเดา
              พีวิลบอก "แสดงว่ายานของวอเทลลำนี้ ที่เป็นเพื่อนกับเทคเนล่านั้น มาจากนอกเขตอวกาศเลยสิครับ" โดยตอนนี้ ยานปลายาวเปิดออก พร้อมกับหญิงชาววอเทลสวมผ้าโพกหัวสีฟ้า ชุดเสื้อแขนยาวและกางเกงสีครามเดินลงมา
              "นึกว่าเธอจะไม่กลับมาเสียแล้วน่ะ ดีฟรอต้า" เทคเนล่ากล่าวต่อชาววอเทลหญิงที่เดินมาด้วยความกังวลใจมาก
              "ฉันได้รับแจ้งมาจากหุ่นโดรนที่เธอส่งไปติดตามฉัน ในช่วงที่ฉันออกเดินทางอยู่ที่ระบบดาวเลอเทมัล ซึ่งไม่มีอะไรเลย นอกเสียจากรูปปั้นเหล็กที่อยู่กลางทุ่งหิมะเลยน่ะ" ดีฟรอต้าบอก แล้วก็เดินมา "ว่าแต่ มันเกิดอะไรขึ้นกับดาวของฉันล่ะ"
              "เกรงว่าพวกเดธซิลเวอร์พลาเนต ได้เข้าครอบงำประชาชนชาววอเทลมาก่อกบฎต่อท่านเดฟทรอล พร้อมกับอีก 6 ดาวที่เหลืออยู่นะสิ" เทคเนล่ากล่าว
              ดีฟรอต้าได้ฟังก็ถึงกับส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด "แล้วเธอกับพวกไม่คิดลงไปช่วยท่านพ่อกับทุกๆคนที่เหลือรอดกันเลยหรือ ในเมื่อเธอกับพวกเทคนอตของเธอน่าจะคลี่คลายสถานการณ์กันได้น่ะ"
              "ถ้าพวกเราทำอย่างที่เธอว่ามา ฉันคงไม่เรียกเธอให้กลับมาที่ระบบดาวกันหรอกน่ะ" เทคเนล่าบอก "ถ้าไม่เพราะว่าพวกเดธซิลเวอร์พลาเนต ได้แรงสนับสนุนจากพวกรุกรานจากเขตอวกาศฝั่งตะวันออกให้มาช่วยในการยึดอำนาจขององค์ราชา ซึ่งมันเกินขอบเขตที่พวกเราทำได้แล้วนะสิ"
              ดีฟรอต้าถึงกับโมโห "ไอ้พวกเผ่าถ่อยของเดลอาร์น มันกล้าถึงขั้นนี้เลยหรือเนี้ย พูดแล้วมันน่าโมโหจริงๆ"
              "ยัยนี้เป็นใครกันละเนี้ย ทำไมถึงโมโหฉุนเฉียวอย่างมากเลยน่ะ" สเปียริทบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "จำได้แล้วละ ยัยนี้คือดีฟรอต้า ยอดนักผจญภัยเดียวดาย เธอไม่เพียงออกผจญภัยไปตามดาวต่างๆ ในเขตอวกาศภาคกลาง ซึ่งไม่เพียงเธอโผล่ตามโบราณสถานอันเก่าแก่ที่อยู่บนดาวดวงต่างๆ แต่....เธอเองยังปะทะกับกลุ่มนักล่ากันอีกด้วย จนมีข้อมูลของเธอปรากฎอยู่ในมิดโดราเคิ้ลขึ้นมา" แล้วก็เปิดมือถือแสดงข้อมูลของดีฟรอต้าไว้ "แน่นอน ว่าถึงแม้เธอจะไม่เปิดเผยใบหน้าอย่างชัดเจนมาก แต่เป็นเพราะว่าเธอได้สลักชื่อของเธอไว้บนแผ่นเหล็กที่ปักตามพื้นดิน หุบเขา ป่าไม้เอาไว้ เลยทำให้นักล่าเงินรางวัลจำชื่อของเธอได้นะสิ"
              "เธอคงไม่ได้หาเรื่องขัดแข้งขัดขากับพวกนักล่าเงินรางวัลเลยสิน่ะ" เจเนลบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "เปล่า แต่เป็นพวกนักล่าสมบัติอวกาศต่างหากละ จากการที่เธอไปเล่นงานพวกนักล่าพร้อมกับขโมยสมบัติที่พวกเขานำออกมาจากโบราณสถานกลับไปคืนที่ไม่ว่า เธอยังทำยานของพวกนั้นพัง เพื่อให้พวกเขาบินออกนอกดาวไม่ได้ ซึ่งรวมถึงกลุ่มนักล่าเงินรางวัลที่ได้รับว่าจ้างให้จับตัวเธอมาชดใช้ค่าเสียหายกันด้วย"
              "แล้วพวกนายคงไม่ได้ตามล่าเธอเลยละสิ" เนคมาดูซัมบอก
              ฟิเกซกล่าว "พวกเราเคยเจอกับดีฟรอต้ามาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเราเจอเธอในช่วงที่เธอแอบนำยานลงจอดใกล้กับทะเลสาปที่ดาวโฮลีส-7 แน่นอน ว่าเราล้อมตัวเธอไว้ แต่ก็ต้องปล่อยเธอไป หลังจากที่เธอให้เหตุผลว่า เธอทำไป เพราะต้องการให้สมบัติอยู่ในที่เดิม และอยู่ในมือเจ้าของตามเดิมไว้น่ะ"
              "แล้วถ้าเกิดว่าเจ้าของสมบัติที่พวกนักล่าสมบัติได้ไปนั้น ไม่มีชีวิตอยู่แล้วละ" แอบไบออสถาม
              ฟิเกซตอบ "ดีฟรอต้าให้คำตอบว่า ดวงดาว คือเจ้าของสมบัติล้ำค่าที่หลงเหลืออยู่ ด้วยเหตุผลที่ว่า ดวงดาวมีชีวิต แม้จะเป็นก้อนหินที่ลอยอยู่ในอากาศ แต่ก็ให้น้ำ ให้อากาศ ให้แรงดึงดูด ให้พลังงาน เกื้อหนุนสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในดาว ดังนั้น อะไรก็ตามที่มีชีวิต ก็คือเจ้าของกันนี้แหละ" แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "นั้นก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่เราต้องปล่อยให้เธอไป โดยไม่มีการไล่ตามเธอไปน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ เหตุผลของเธอก็เหมือนกับของป้ารัคชูมี่ ในฐานะผู้ติดตามสมบัติละสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โคเซวิคบอก "แต่เกรงว่าแขกชาววอเทลคงจะไม่ชอบขี้หน้าพวกเรากันแน่ๆเลยละ" จากการที่เขาเห็นสีหน้าของดีฟรอต้ากัน
              "หวังว่าเทคเนล่าคงให้เหตุผลกับเพื่อนชาววอเทลผู้นี้กันบ้างนะ" อาชิลน่ากล่าว
              พีวิลบอก "ไม่เช่นนั้น เกรงว่าการปลดปล่อยดาววอเทเชี่ยน คงไม่มีพวกนายอยู่ช่วยแน่ๆ"

               "ฉันทราบเรื่องของพวกนายทั้งสองกลุ่มจากเทคเนล่าแล้วน่ะ แม้ว่า กลุ่มหนึ่งจะเคยเป็นส่วนหนึ่งของพวกเดลอาร์ทเลยก็ตามน่ะ" ดีฟรอต้าบอก "แล้วฉันจะแน่ใจได้ไง ว่าพวกนายตีจากกลุ่มดาวบ้านเกิดที่รุกรานระบบดาวของเรากันแล้ว เผลอๆ พวกนายอาจจะเป็นไส้ศึกของพวกมันก็เป็นได้น่ะ"
              อิลมิคบอก "ยูเนี่ยนพีชอย่างพวกเรานั้น ภักดีกับอดีตหัวหน้าสูงสุดอาร์ซไพล์ม ชาวเดลอาเนี่ยนที่ต่อต้านแนวทางบ้าๆของเดลมูดัล และรวมตัวกันกับพวกพ้องที่เจอแนวทางเดียวกัน ต่อกรกับพวกที่ก้มหัวให้กับเดลมูดัลไว้ แม้ว่านั้นจะทำให้เราต้องถอยหนี เพราะสู้กับขุมกำลังที่มากเกินไปไม่ได้เลยน่ะ"
              "แต่อย่างน้อย เราโชคดีมาก ที่เรามีสหายดีที่เคยช่วยพวกไทรเวเซอร์และฝ่ายสหพันธมิตรในช่วงมหาสงคราม ยื่นมือมาช่วยพวกเราจนหาทางรอดมาได้ แม้ว่า เราต้องเสียหัวหน้าอาร์ซไพล์มที่เสียสละตนเองไปเลยก็ตาม" เฟลิคบอก
              "อีกทั้งตอนนี้ เดลวาท องค์ชายลำดับสุดท้ายของเดลอาเนี่ยนนั้น ได้ตัดขาดจากมหาจักรวรรดิ์ เพื่อเป็นผู้นำของพวกเรามาได้สามปีแล้ว ผู้ที่ตัดขาดจากมหาจักรวรรดิ์อยู่กับอดีตกองกำลังกบฎต่อต้านกลุ่มดาวเดิมของพวกเรานั้น สำหรับพวกเดลอาเนี่ยน คือศัตรูอันดับหนึ่งที่สมควรจะต้องกำจัดให้สิ้นซาก พอๆกันกับพวกไทรเวเซอร์นี้แหละ" โคเซวิคบอก
              "ฉันเคยได้ยินมาบ้าง ว่ากองกำลังไทรเวเซอร์นั้น ไม่เพียงเป็นกองกำลังหัวหอกที่เก่งกาจจนนำพากลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ ช่วยฝ่ายสมาพันธ์อวกาศทางใต้จากภัยคุกคามแบบเดียวกัน แต่ไม่คิดเลยว่า พวกหน้าเหลืองทั้ง 3 และหน้าขาวสี่แขนจะเป็นสมาชิกในกองกันด้วยน่ะ" ดีฟรอต้าบอก
              สเปียริทกล่าว "แสดงว่าเธอเอาแต่ผจญภัย จนไม่ได้สนใจเรื่องข่าวสารความเป็นไปในเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์ที่กระจายเข้ามาเลยละสิ"
              "ฉันพอจะได้ยินข่าวของพวกนายมาบ้าง เพียงแต่ เป็นแค่คำเล่าลือที่มิได้บรรยายถึงตัวตนของพวกนายกันเท่านั้นแหละ" ดีฟรอต้าบอก "เพียงแต่ ถึงแม้ว่าพวกนายจะช่วยเทคเนล่า องค์ชายไฟโรน ท่านแอทเทรติค เลดี้สตาทรอฟ่ากอบกู้ดาวคืนมา และช่วยให้ลาคาเมสกลับมาครองดาวแทนที่ลาคาดัล ซึ่งหายสูญไปต่อหน้าต่อตากันนั้น ฉันยังไม่แน่ใจว่าพวกนายจะทำได้หรือเปล่านะสิ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ ฝ่ายตรงข้ามบนดาวของเธอ มีกองเรือรบที่แข็งแกร่งเลยสิน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              "นั้นแค่ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งนั้น คือเขตเมืองของเราส่วนมากนั้น อยู่ใต้ท้องทะเลเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง ต่อให้นายมียานรบดีๆ หรือมีเทคโนโลยี่ของชนเผ่าที่สิ้นสูญไปครึ่งสหัสวรรษนั้น คงเอาไม่อยู่กันอย่างแน่นอน" ดีฟรอต้ากล่าว "แล้วพวกนายแน่ใจหรือว่าจะชนะพวกศัตรูกันได้น่ะ"
               "ต่อให้พวกเราประมาทศัตรูและเสียเปรียบในแง่ภูมิประเทศกันก็ตาม แต่...นั้นไม่เป็นปัญหาต่อพวกเราที่ต้องการหยุดยั้งพวกเดลอาเนี่ยนกันหรอกน่ะ" เฟลิคบอก
              "เพราะว่าพวกเรามีความเชื่อมั่นว่า ต่อให้เจออุปสรรค์หนักหนาแค่ไหน พวกเราก็ไม่มีทางยอมแพ้กันได้แน่นอน ขอเพียงแค่ให้คุณเชื่อมั่นในตัวพวกเราไว้ พวกเราจะก็ช่วยเหลือพวกคุณกอบกู้ดาวคืนมากันได้อยู่แล้วละครับ" พีวิลบอก
              ดีฟรอต้าได้ฟังก็กล่าวไปว่า "ดูเหมือนว่าพวกนายต่างมีเหตุผลในการช่วยฉันกับท่านพ่อปกป้องดาววอเทเชี่ยนกันสิน่ะ" แล้วก็บอก "แต่จะดีกว่ามาก หากฉันทำหน้าที่เป็นผู้นำทางพวกนายไปยังเขตเมืองหลวงของท่านพ่อของฉันไว้ แม้ว่าฉันไม่ได้กลับมาบ้านนานมากแล้วน่ะ"
              "แล้วเราจำต้องปรับแต่งยานอะไรบ้างมั้ยละ" คลอเวฟถาม
              ดีฟรอต้าบอก "ฉันได้ให้เทคเนล่าปรับแต่งแดนเจอร์ชิลด์ให้สามารถทำงานในน้ำแล้ว แม้ว่าพวกนายมียานเยอะ กลุ่มละสามลำด้วยกันน่ะ" เธอหมายถึงยานไทรแองเกิ้ลที่มีเฮฟไดซ์อินสเปคทรัลและแทนทารัสของพวกไทรเวเซอร์ และยานไฮด์เดาท์ที่พวงยานเดาท์เทรสสองลำมาด้วย "แต่ขอบอกไว้เลยน่ะ ว่าใต้ท้องทะเลนั้น อาวุธลำแสงของพวกนายไม่มีผลใดๆทั้งนั้นน่ะ"
              "เรื่องนั้นเราทราบดีแล้วละ" โคเซวิคบอก
              ดีฟรอต้ากล่าว "ถ้าเช่นนั้น พวกนายรีบกลับไปที่ยานของพวกนายกันได้เลย เพราะเวลาไม่คอยท่าแล้วละ เผื่อว่าฝ่ายตรงข้ามจะนำวอร์มูนมาขวางไว้เสียก่อนน่ะ"

              "ฟ้าวววววววววววว" ยานทรงปลาของดีฟรอต้าบินออกจากยานเมนเครม พร้อมกับกองยานของไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชกัน "ว่าแต่ เธอเคยเข้ารับการฝึกเป็นผู้พิทักษ์ดวงดาวกันบ้างหรือเปล่าละ" โฟรซ่าติดต่อไปหาดีฟรอต้าที่นำทางกันอยู่ เธอตอบไปว่า
              "เคย แต่ไม่ผ่านการทดสอบมา 3 ครั้ง เว้นแต่พี่ชายทั้งสองของฉันที่ผ่านน่ะ"
              "แปลว่าตอนนี้พี่ชายทั้งสองของเธอคงเป็นผู้พิทักษ์กันบ้างสิน่ะ ว่าแต่ มีใครกันบ้างละ" สเปียริทถาม
              ดีฟรอต้ากล่าว "ฉันไม่คิดจะพูดให้พวกเธอรับรู้กันไปได้หรอก"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ พี่ชายของเธอดูถูก เยาะเย้ยและถากถางเธอที่ไม่ผ่านการทดสอบเลยสิน่ะ" จิลกล่าว
              ดีฟรอต้าได้ฟังก็สะดุ้ง "นี้เธอคงไม่ได้มีพลังจิตที่อ่านใจฉันผ่านจอมอนิเตอร์กันเลยละสิ"
              "เธอควรจะบอกเรากันเดียวนี้ดีกว่า ไม่เช่นนั้น เดียวจิลจะเฉลยให้หมดทั้งหัวเลยนะยะ" โฟรซ่าขู่
              ดีฟรอต้าหน้าบึ้งอย่างมาก เลยจำต้องบอกไปว่า "ท่านพี่ดีฟเทรค พี่คนโตนั้น ไม่เพียงมีร่างกายแข็งแรง และเก่งกาจในด้านการต่อสู้อย่างมาก แต่เขายังโอ้อวดตน ดูถูกผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่อ่อนด้อยและอ่อนแอกว่า ว่ายังไงก็ไม่มีทางสู้กับเขาได้แน่นอน รวมถึงฉัน ที่โดนปรามาสว่า ไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่มีทางได้เป็นผู้พิทักษ์กันได้หรอก" แล้วก็พูดต่อ "ส่วนท่านพี่ดีฟชาร์ฟ ซึ่งเป็นพี่คนรองนั้น ชาญฉลาด หลักแหลม เป็นอัจฉริยะ ใช้การวางแผนและกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหา แม้จะเจอการทดสอบที่ต้องใช้กำลัง เขาก็ฉลาดพอจนรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นจนผ่านการทดสอบมาได้น่ะ" ในระหว่างนั้น สเปียริทนั่งนิ่งๆอยู่
              "แต่สีหน้าของเธอบ่งบอกว่า พี่คนนี้ ปากไม่ดียิ่งกว่าพี่ใหญ่ของเธอละสิ" โฟรซ่ากล่าว
              ดีฟรอต้าพยักหน้า "พี่ดีฟชาร์ฟนั้นสบประมาทผู้อื่นที่ไม่ฉลาดหรือพลาดท่าเสียทีอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับฉันนั้น คืออ่อนหัดและยังเร็วไป ซึ่งนั้นเป็นคำพูดที่เจ็บมาก หลังจากที่พี่รองเป็นผู้พิทักษ์รายที่สองต่อ บอกตามตรงน่ะ ว่านั้นรู้สึกทำให้ฉันเจ็บใจไม่น้อยน่ะ"
              "ถ้ามองในแง่ดี ดีฟชาร์ฟอาจจะพูดให้กำลังใจเธอให้เข้มแข็งต่อไปกันได้ละน่า" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              ดีฟรอต้าส่ายหน้า "ถ้ามันเป็นอย่างงั้นจริง ฉันคงต้องผ่านการทดสอบไปนานแล้ว แต่....ทั้งฉันและอีก 10 รายที่เคยล้มเหลวในการทดสอบเอง ก็ไม่ผ่าน ทั้งหมดมันเพราะว่าคำดูถูกของพี่ใหญ่และคำสบประมาทของพี่รองกันนี้แหละ ที่ยังมีผลอยู่น่ะ"
              "แล้วเธอก็ออกไปผจญภัยนอกดาวกันอย่างงั้นสิน่ะ" สเปียริทบอก "แล้วทำไมเธอไม่กล้าสู้ต่อเลยละ ทั้งๆที่ยังมีโอกาสกันได้น่ะ"
              ดีฟรอต้าบอก "บอกตามตรงน่ะ ว่าฉันลองแล้ว แต่....ถึงฉันจะพยายามแค่ไหนก็สู้กับพี่ใหญ่และพี่รองไม่...."

              "ได้ไม่ได้ อย่าด่วนตัดสินเองสิยะ!!!! ต่อให้เธอล้มไปตั้งสามครั้ง เธอก็ต้องลุกให้ได้ซะทุกครั้ง แม้ว่านั้นจะทำให้ใครต่อใครหาว่าเธอดื้อด้าน แต่เธอไม่ควรจะยอมแพ้กันง่ายๆ และต้องสู้ให้ถึงที่สุด จนกว่าเธอจะกำชัยชนะเหนือพี่ทั้งสองของเธอให้ได้เลยน่ะ" สเปียริทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวและดุดันอย่างมาก จนทำเอาเนคมาดูซัม โฟรซ่า พีวิล มาสวาร์ทาร์ ลิเนียร์ตี้ จิล และคลอเวฟ รวมถึงดีฟรอต้าสะดุ้งขึ้นมา
              "โว้ว คุณสเปียริทพูดดุดันน่าดูนะเนี้ย" แอมเบอร์กล่าว
              "แต่ฉันจะชนะได้ไง ในเมื่อคำพูดทั้งสองนั้นมัน...." ดีฟรอต้าบอก
              สเปียริทกล่าว "ใครจะว่าอะไร ก็อย่าไปสนมันสิ สนแค่อย่างเดียว คือเชื่อมั่นในตัวเอง ว่าต้องทำให้ได้ ต้องชนะให้ได้ ต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ผ่านพ้นไปได้ นั้นแหละคือการแสดงให้พี่ตัวแสบทั้งสองให้เห็นกันไปข้างหนึ่งเลย ว่าเธอ ไม่ใช่ไอ้กระจอกและไอ้ขี้แพ้อย่างที่เขาคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการต่อสู้ที่เราต้องชนะสถานเดียวนั้น ไม่ว่ายังไง ก็อย่ายอมแพ้สิ"
              "............." ดีฟรอต้านิ่งไปพักหนึ่ง และกล่าว "ที่เธอพูดนิ เธอเคยเจอเคสเดียวกับฉันหรือเปล่าละ ยัยผิวม่วง"
              สเปียริทบอก "ฉันจำไม่ได้ว่าเคยเจอเรื่องทำนองนี้ แต่....จิตใต้สำนึกของฉันบ่งบอกเช่นนั้น และเพราะเหตุนั้นแหละ ฉันถึงเอาชนะมาได้หลายต่อหลายครั้ง แม้จะไม่รู้ว่า มันเพราะอะไรเลยก็ตามน่ะ"
              "ดูท่าว่า เธอคงจำอดีตไม่ได้สิน่ะ แต่....ฉันไม่เคยโดนใครสบประมาทกันแบบนี้ โดยตอนที่เธอขึ้นเสียงใส่ก็ตาม" ดีฟรอต้าบอก "อย่างน้อย ฉันต้องขอบใจเธอด้วย ที่ช่วยเตือนสติให้ฉันฮึดสู้ขึ้นมา และหวังว่าเธอกับพวกคงจะช่วยเหลือฉันได้บ้างน่ะ"
              คลอเวฟบอก "กูไม่ชอบเลย ที่ยัยบื้อให้กำลังใจตัวแทนชาววอเทลกันก็ตามวะ"
              "อย่างน้อย สเปียริทก็เปิดเรื่องได้สวยอยู่แล้วน่ะ" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "งั้น เธอช่วยพาเราไปหาราชาเดฟทรอลกันได้เลย" โดยที่จ้องมองคลอเวฟกันอยู่
              ย้อนเหตุการณ์กลับไปก่อนหน้า "โฮ่ย คลอเวฟ นายกลับมานี้เพราะลืมของ หรือว่าแอบฟังฉันคุยกับแอมเบอร์อยู่ละสิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              "เออ นายฟังผิดหรือเปล่า ฉันสเตฟอร์ดน่า ฉันแค่ลืมของเองน่ะ" คลอเวฟแอบแปลงเสียงใส่ แต่เนคมาดูซัมและแอมเบอร์นิ่งเป็นการแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่า ทั้งคู่ไม่เชื่อ จนกราดิเอเตอร์มารีนที่อยู่หลังเสาต้องเดินออกมา "นายไม่ทำเป็นโง่สักครั้งจะได้มั้ยวะ ไอ้เนคเกอร์" คลอเวฟบ่น
              เนคมาดูซัมกล่าว "ต่อให้แอมเบอร์ไม่อยู่ใกล้กับฉัน ฉันก็จำเกราะหัวไหล่กลมของนายได้อยู่ ต่อให้มันโผล่มาให้เห็นเพียง 2 มิลลิเมตรก็ตามน่ะ ซึ่งแค่นี้ก็มากพอที่ทำให้นายไม่เหมาะกับภารกิจแอบซ่อนและแทรกซึมเข้าฐานศัตรูกันได้หรอกน่า"
              "แน่ละ เพราะว่าฉันเหมาะกับภารกิจบุกไปกระทืบศัตรูถึงรังกันโต้งๆ เอาเฮฟโวลไปชนกับฝ่ายตรงข้าม แล้วก็เอาไทรแองเกิ้ลไปถล่มปราการและกองเรือให้จมสักกองสองกองกันแล้วนิ" คลอเวฟบอก "แต่นายจะสงสัยมาสวาร์ทาร์กันไปทำไมวะ ทั้งๆที่เรื่องที่มาสปกป้องแอนเดรียนั้น เพราะว่าเขาทำตามคำขอของดร.รีไลฟ์เวอรี่ ให้ปกป้องเธอ ผู้ซึ่งเป็นบุตรีของดร.เดลวีแองนู ผู้ที่สร้างโอเวอร์เดธขึ้นมากันน่ะ"
              เนคมาดูซัมบอก "เรื่องนั้นฉันเองก็รู้อยู่แล้ว แต่ ฉันสงสัยว่ามาสจะปิดบังเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับแอนเดรียต่อพวกเรากันไว้นะสิ"
              "บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับแอนเดรียนะหรือ ฮึย ถ้าเป็นเรื่องสุขภาพละก็ แอนเดรียเป็นมิวแทนอยด์ ต่อให้เธอบาดเจ็บ เธอก็ฟื้นตัวกลับมาทำงานตามเดิมก็ไม่เห็นแปลกกันแล้วนิ อีกอย่างหนึ่ง มาสวาร์ทาร์จะเป็นห่วงแอนเดรียนั้น มันก็เป็นเรื่องที่เรารู้สาแก่ใจดีแล้วมิใช่หรือ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ถ้ามาสวาร์ทาร์กังวลเรื่องความปลอดภัยของแอนเดรียนั้น ฉันคงไม่ต้องสงสัยกันมากหรอกน่ะ" แล้วก็พยักหน้าให้แอมเบอร์ "ครืดดด แกร็ก" ปิดซัตเตอร์ห้องประชุมกัน และอธิบายไปว่า "แต่มาสวาร์ทาร์มาขอร้องให้ฉัน ถอดแอนเดรียจากหน้าที่ภาคสนาม แล้วให้เธออยู่ดูแลเรื่องภายในยานแทนน่ะสิ"           
              "มาสจะถอดแอนเดรียออกจากหน้าที่แนวหน้านะหรือ แอนเดรียปลอดภัยดีก็น่าจะให้เธออยู่ช่วยเราไปเลยสิ จะไปถอดเธอออกทำไมกันวะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมบอก "ฉันก็คิดเหมือนกับนายนี้แหละ แต่พอถามเหตุผลกับมาส มาสก็บ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธไป ซึ่งฉันเห็นเช่นนั้น เลยไม่คิดไต่ถามอะไรเพิ่ม เพราะฉันรู้ดี ว่ามาสวาร์ทาร์เองรู้ แต่...ไม่กล้าหรือไม่ยอมบอกกับฉันไว้ และไม่คิดที่จะให้เรารู้อีกด้วยนะสิ"
              "มาสมันจะมีเหตุผลอะไรกันวะ ที่ต้องปิดบังเรื่องของแอนเดรียกันได้น่ะ ทั้งๆที่เธอเป็นมิวแทนอยด์ที่มีปัญหาเรื่องสมดุลย์พลังในตัว จนต้องใส่ชุดคอมแบทโปรเทคสูทตลอดเวลาที่ต้องต่อสู้เลยน่ะ" คลอเวฟบอก "ว่าแต่ นายถามหมอเดเมี่ยนบ้างหรือเปล่าวะ เนคเกอร์"
              เนคมาดูซัมบอก "ฉันยังไม่ได้ถามหมอเดเมี่ยนกันหรอกน่ะ เพราะ...ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตอนที่ผลตรวจสุขภาพและเช็คสภาพภายในร่างกายของพวกเรานั้น หมอเดเมี่ยนจะส่งผลมาให้กับทางเรา แล้วก็พูดคุยกับพวกเราด้วยตัวเองกันแล้วน่ะ"
              "ใช่ และฉันมักจะโดนหมอติเรื่องลดแอลกอฮอลล์ลง หลังจากที่ฉันแอบกินเหล้าหลังเวลางานเลยน่ะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "แต่ในกรณีของแอนเดรีย หมอเดเมี่ยนเรียกมาสไปคุย แล้วเอาผลตรวจไปให้เธอดู ซึ่งมันไม่ปกติเอาเสียเลยน่ะ"
              "มาสวาร์ทาร์เองก็คงไม่อยากให้แอนเดรียไม่สบายใจกันกระมั่ง เลยต้องเอาผลไปให้แอนเดรียรับทราบเองน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              เนคมาดูซัมส่ายหน้า "ถ้าเป็นงั้นจริง ตอนที่หมอเดเมี่ยนตรวจลิเนียร์ตี้ สเปียริทหรือโฟรซ่า หมอต้องเรียกฉัน พีวิล หรือสเตฟอร์ดมาคุยกันไปนานแล้วนะสิ" แล้วก็กอดอก "ดังนั้น ฉันเลยต้องให้แอมเบอร์ไปแจ้งเนคกี้และเนคกัสให้ไปทำงานอย่างหนึ่ง และ ฉันขอให้นายปิดปากในเรื่องนี้เอาไว้ด้วย"
              "แล้วนายคงไม่ได้คิดที่จะให้อะไรกับฉัน เพื่อเป็นการไม่ให้ฉันปากสว่างกันอย่างงั้นสิ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมยิ้ม "ถ้าเกิดว่าฉันให้นายคุมงานในเรื่องปฏิบัติการณ์ทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องใต้ทะเลและการถล่มยานรบใต้น้ำกันละ นายจะว่ายังไง"
              "แอมเบอร์ หวังว่าเธอคงไม่ปากสว่างบอกบริคซ์หรือใครหน้าไหนในยานกันบ้างน่ะ" คลอเวฟกล่าวกับแอมเบอร์ และหันมายังเนคมาดูซัม "แล้ว นายจะบอกกับพวกพีวิลเลยหรือเปล่าละ"
              เนคมาดูซัมให้คำตอบไปว่า "ตอนนี้ยังก่อน จนกว่าฉันจะได้รับคำยืนยัน และจบเรื่องนี้ไปได้เสียก่อน เพื่อมิให้เราเสียงานกลางคันเลยน่ะ"

              แล้วก็กลับสู้สภาวะปัจจุบัน ที่ตอนนี้ "ฟ้าววววววว" กองยานของไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชแล่นผ่านชั้นบรรยากาศดาววอเทเชี่ยน ซึ่งเป็นดาวที่มีฟากฟ้าสีครามและมีเมฆเปกคลุมเพียงเล็กน้อย "ซ้ายขวาหน้าหลังเป็นทะเลหมดแบบนี้ คงหาแผ่นดินได้ยากแน่ๆเลยละ" ลิเนียร์ตี้บอก
              คลอเวฟบอก "แน่ละ เพราะนี้เป็นดาวมหาสมุทรเลยนะ ลิเนียร์ตี้" แล้วก็บอก "ว่าแต่ ตำแหน่งไหนที่เป็นที่ตั้งของราชาเดฟทรอลกันละ"
              "เทคเนล่าให้ข้อมูล่าสุดมา ดังนั้น ฉันจึงอยากจะให้พวกนายเปิดสนามพลังเอาไว้หน่อยน่ะ" ดีฟรอต้ากล่าว โดยที่ยานสี่ลำ "แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง" เปิดสนามพลังแดนเจอร์ชิลด์เอาไว้ ดีฟรอต้าจึง "ปี้บๆๆๆๆๆ" กดปุ่มบนแผงโฮโลแกรมที่ล้อมรอบเธอในห้องควบคุมยาน เพื่อให้ "แว้งงงง" จมูกยานที่แหลมสร้างวงแหวนพลังงานขึ้น พร้อมกับ "แชด แว้งๆๆๆๆ" ท้ายยานยิงลำแสงเชื่อมต่อกับหัวยานไทรแองเกิ้ล อินสเปคทรัล แทนทารัสและไฮด์เดาท์เอาไว้ แล้วก็ "หวับบบ ฟ้าววว ซ่า" นำยานทรงปลาทะยานขึ้นและโดดลงไปกลางทะเล
              "เหวอออออ อ้ายยยยย เราถูกดึงลงทะเลไปแล้วละ" แอมเบอร์ร้องลั่นเมื่อยานไทรแองเกิ้ลถูกดึงลงทะเลไปพร้อมกับยานอีกสามลำด้วยกัน
              "ว่าแต่ เราไม่ทำอะไรกันบ้างเลยหรือวะ โดซี่" ทันกุนบอก โดยที่ตัวยึดกับพื้นไว้ เช่นเดียวกับทุกๆคนในยานหาที่ยึดกันไว้แล้ว
              โดซี่บอก "หวังว่าเธอคงไม่พาเราลงไปใต้ท้องทะเลที่ลึกกว่า 40,000 ฟุตกันเลยน่ะ"
              "ซูมมมมมมมมม วืออออออ" ยานทั้งสี่ลำที่ดิ่งลงมาได้ตั้งลำขนานในแนวราบกันแล้ว "นึกว่าจะต้องดิ่งลงแล้วเสียอีกน่ะ" เจกรอน่าบอก
              ครีซกล่าว "แต่บอกตามตรงน่ะ ว่าการดิ่งลงมานั้น มันส์ได้โลห์จริงๆเลยวะ"
              "แบบนั้นไม่สนุกเลยน่ะ ครีซ" เฟลิคตำหนิ แล้วแจ้ง "เช็คตามบล็อกภายในยานไว้ด้วย เผื่อมีจุดไหนที่เสียหายกันบ้างน่ะ"
              โคเซวิคกล่าว "ว่าแต่ พวกนายมีใครหัวหกคะเมนตีลังกากันหรือเปล่าละ"
              "พวกเราไม่เป็นไรกันหรอก เพราะพวกเราหาที่ยึดได้หมดแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว โดยตอนนี้เขากับบุคลากรคาดเข็มขัดไว้แน่นๆ ในขณะที่บริคซ์กับบุคลากรในยานหาที่ยึดไว้นานแล้ว
              มาสวาร์ทาร์บอก "แอมเบอร์ รายงานสภาพการณ์ภายในยานสิ"
              "คะ คือ ภายในยานไม่มีรูรั่วให้น้ำซึมเข้ามาได้ บาเรียแดนเจอร์การ์ดทำงานได้ตามปกติภายใต้ความลึก 12,000 ฟุตกันนะคะ" แอมเบอร์รายงาน "แน่นอน ว่าเราปรับเปลี่ยนบูสเตอร์ให้เป็นโหมดใช้งานใต้น้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้วคะ"
              เนคมาดูซัมบอก "โดซี่ ฝั่งเธอกับยานแทนทารัสเป็นยังไงบ้างละ"
              "สภาพยังโอเคน่ะ แม้ว่ายานแทนทารัสที่ตามมาด้วยเอง เหมือนจะทำให้ลูกเรือส่วนหนึ่งอ่วมไม่น้อยเลยน่ะ" โดซี่บอก
              สเปียริทถาม "จำเป็นด้วยหรือ ที่ต้องทำเช่นนี้น่ะ ในเมื่อเราเอายานแล่นลงน้ำเองก็ได้นิ"
              "ถ้าไม่ใช้วิธีวาฬโดดลงน้ำ ซึ่งก็คือการนำยานแลนซ์ฟิชพุ่งลงน้ำอย่างรวดเร็วละก็ โดรนเหนือน้ำที่ฝ่ายตรงข้ามปล่อยขึ้นมา ตรวจจับพบกันพอดีนะสิ" ดีฟรอต้าบอก "เพราะถ้าลงน้ำทั้งอย่างงั้น ขอบข่ายของโซนาร์สแกนเนอร์ที่ติดไว้ในโดรนทุกตัวจะจับทางได้ทันที ว่าพวกเราเดินทางมาถึง และนั้นเท่ากับว่าพวกเราโดนศัตรูเล่นงานได้ก่อนแน่นอน เว้นเสียแต่ เราทำให้โดรนเชื่อว่าปลาใหญ่พุ่งขึ้นจากน้ำไปสู่ฟากฟ้าและลงน้ำอย่างรวดเร็วไว้ เพราะโดรนเหนือน้ำมันแยกไม่ออกระหว่างยานอวกาศกับปลาใหญ่และวาฬทะเลยักษ์กันน่ะ"
              คลอเวฟกล่าว "แสดงว่าดาวบ้านเธอก็เป็นบ้านของพวกปลาตัวยักษ์อย่างงั้นละสิ"
              "ใช่ และฉันขอแนะนำ ว่าอย่าพยายามไปยุ่งกับพวกมันเด็ดขาดเลยน่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวที่ใหญ่และมีอาคารทั้งหลายแปะติดหลังหรือตามตัวนะ" ดีฟรอต้าบอก โดยตอนนี้เธอนำกองยานมุ่งหน้าไป จนเจอกับปลาเก๋ายักษ์ที่มีโหลแก้วทรงกลม ซึ่งมีตึกรามบ้านช่องทำด้วยหินอ่อนสีงาขาว รูปร่างทรงแหลมสูงอยู่ข้างในว่ายผ่านมา ตามด้วยปลาตัวกลมคล้ายปลาปั้กเป้า แต่มีอาคารทรงกลมติดตามท้อง ลำตัวและคลีบอยู่หลายหลังด้วยกัน
              "ไม่กลัวว่า ปลาเหล่านี้จะบริโภคผู้อาศัยเป็นอาหารเลยหรือ" สเปียริทถาม
              "พวกเรากับปลาใหญ่นั้นเกื้อหนุนค้ำจุนมาตลอด 400 ปีกันแล้วละ ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่ยังอาศัยอยู่บนปลาใหญ่ ในขณะที่ส่วนมากอยู่ในเมืองแก้วครอบนี้แหละ" ดีฟรอต้ากล่าว แล้วเธอก็พากองยานมาที่โหลแก้วขนาดย่อม ที่มีปราสาทสีเงินขาว ล้อมรอบแม่น้ำและน้ำตกจากภายใน ซึ่งมีบ้านเรือนตั้งอยู่เหนือแม่น้ำกันหลายหลัง และมีกำแพงตั้งอยู่รอบนอก โดยมีเรืออยู่ในอู่เพียง 5-6 ลำด้วยกัน "แว้งงงงง" ยานแลนซ์ฟิชว่ายทะลุโดมแก้วเข้ามา ตามด้วย "แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง" ไทรแองเกิ้ล เฮฟไดซ์อินสเปคทรัล แทนทารัส และไฮด์เดาท์ทะลุตามมา แล้วแล่นลงสู่อู่จอด แม้นั้นจะทำให้ชาววอเทเชี่ยนในโดมตื่นตะลึงไปไม่น้อยก็ตาม
              "ขอต้อนรับสู่ ไอเควิส นครโดมแก้ว ท่าเรือระดับกลาง ฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายที่ท่านพ่อของฉันอยู่น่ะ" ดีฟรอต้าบอก "แม้เทคเนล่าจะบอกว่า ตอนนี้ท่านพ่อหนีรอดจากการคุกคามของฝ่ายเดธซิลเวอร์พลาเนตกัน แต่ ฉันเห็นสภาพแล้ว ไม่ค่อยดีเสียเลยน่ะ"      
              เฟลิคกล่าว "แต่อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของเราสำหรับการปะทะกับพวกศัตรูและเดลอาเนี่ยนแล้วน่ะ"
              "คิดว่า อากาศมีพอสำหรับพวกเราหรือเปล่าละ" อิลมิคถาม
              ดีฟรอต้ากล่าว "วางใจได้ โดมแก้วที่ครอบเมืองนี้ กลั่นกรองออกซิเจนที่อยู่ในน้ำเข้ามาในโดม จากนั้นก็กรองคาร์บอนไดอ็อกไซด์ด้วยต้นสาหร่ายในโดม ซึ่งทำให้พวกนายที่เป็นพวกเหนือน้ำหายใจได้ตามปกติ" แล้วก็ปลดเข็มขัดออก เพื่อเดินลงจากยาน ในเวลาเดียวกันที่พวกเนคมาดูซัมลงจากยานพร้อมพวกโคเซวิคแล้ว "เว้นเสียแต่มีการทำลายล้างหรือมีการเผาบางอย่างในโดม นี้แหละ ที่เป็นปัญหาใหญ่กันละ"
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าอยู่ในโดมแก้วนั้น เหมือนเรื่องแย่ๆเมื่อ 3 ปีก่อนหวนกลับมาแล้วละ" ไซโคลเนียบอก
              คลอเวฟกล่าว "แต่อย่างน้อย เธอก็ได้ไอ้คุณพี่อิงก็อตกับพวกเดฟวอชมาพร้อมกับพวกโซลูนาสตี้กลุ่มหนึ่งช่วยไว้ ก็เกินพอแล้วละน่า"
              "และโดมแก้วนั้นมันก็กว้างกว่าปีรามิดแก้วใต้น้ำของไอ้คุณพี่ใหญ่ของนายกับพวกกันบ้างน่า" สเปียริทบอก
              คลอเวฟบอก "ถ้าชาวเทคนอตอนุญาตให้ถ่ายรูปกลับไปได้ละก็น่า จะได้เอารูปไปอวดไอ้คุณพี่แพนแทคกันเสียทีน่ะ"

              ที่ปราสาทไอเควิส ทหารวอเทเชี่ยนที่คุ้มกันหน้าประตูรีบหลีกทางออกไป เมื่อดีฟรอต้าเดินนำพวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชเข้ามา
              "ท่านหญิงสามกลับมาแล้วละครับ" ทหารวอเทเชี่ยนหน้าประตูท้องพระโรงกล่าว โดยตอนนี้ดีฟรอต้าเข้ามาในห้องโถง พร้อมกับเนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ พีวิล คลอเวฟ โคเซวิค เฟลิค อิลมิค และอาชิลน่า ซึ่งพวกเขายืนอยู่ตรงหน้าราชาชาววอเทลวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ พร้อมกับทหารวอเทลจำนวน 8 นายที่อยู่ตรงหน้า
              "กลับมาจนได้แล้วสิน่ะ ลูกรัก แม้พ่อจะรู้ว่าเจ้าออกไปแล้วจะเจอเรื่องแย่ๆกันเลยก็ตามน่ะ" จากนั้นก็กล่าวต่อพวกเนคมาดูซัมและโคเซวิคไปว่า "และโชคดีมาก ที่พวกเจ้าพาลูกสาวกลับมาได้ หลังจากที่ช่วยกอบกู้ดาวจากพวกคนทรยศเหล่านั้นแล้วน่ะ"
              "องค์ราชาเดฟทรอล พวกเรามา เพื่อช่วยเหลือท่านกับพวกในการปลดปล่อยดาว จากพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตและเดลอาเนี่ยนที่ให้การสนับสนุนการคุกคามครั้งนี้นะครับ" พีวิลบอก
              เดฟทรอลพยักหน้า "ถ้าเป็นพวกเจ้าละก็ ข้าพอหวังพึ่งได้ดีกว่า ลูกชายไม่ได้ความทั้งสองรายนี้แหละ ที่ออกไปเพื่อยับยั้งพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตบนดาวของเรา แล้วไร้เงาหัวมานานมาก จนข้ากับพวกถูกฝ่ายตรงข้ามขับไล่ออกไปจากนครหลวงไฮโดรโฟลิน ลี้ภัยมาอยู่ที่แห่งนี้แหละ"
              "พี่ดีฟเทรคและพี่ดีฟชาร์ฟ หายหัวไปงั้นหรือคะ" ดีฟรอต้ากล่าว
              เดฟทรอลพยักหน้าแล้วก็เล่าไปว่า "ในช่วงที่ลูกไม่อยู่นั้น พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตคุกคามเขตชุมชนของเราจนประชาชนต้องลี้ภัยอยู่บนชุมชนปลาใหญ่กันหลายตัว ซึ่งข้าตั้งใจจะนำทัพไปเคลียร์เรื่องนี้ จนกระทั่งดีฟเทรคตัดสินใจนำทหารวอเทลที่แข็งแกร่งจำนวน 180 นายออกไปถล่มพวกศัตรูที่นำทัพไล่ล่ากลุ่มประชาชนที่ลี้ภัยกันอยู่ ส่วนดีฟชาร์ปนั้นพาคนไป 120 นายประจำการที่เมืองเวตกลาส เพื่อรับมือกับการบุกของฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เข้าใกล้เมืองหลวงไปมากกว่านี้" แล้วก็ถอนใจยาว และพูดว่า "แล้วเวลาก็ผ่านไป 3 วัน ดีฟเทรคกับพวกก็ขาดการติดต่อไป ส่วนดีฟชาร์ป ก็หายเงียบไปพร้อมกับข่าวว่าเวตกลาสถูกยึดไปแล้วด้วย"
              "แล้วไม่มีใครที่ติดตามพี่ใหญ่และพี่รองกลับมารายงานข่าวท่านพ่อเลยหรือคะ" ดีฟรอต้ากล่าว
              เดฟทรอลส่ายหน้า "พ่อแน่ใจว่า ถ้าไม่ถูกพวกรุกรานจากฝั่งตะวันออกฆ่าตาย ก็ต้องกลายเป็นพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตแน่นอน ซึ่งตอนนี้เราเสียกองเรือไปมาก จนไม่น่าที่จะชนะพวกมันได้เลยน่ะ"
              "แล้วทำไม พ่อไม่ให้หนูช่วยเหลือพ่อเลยหรือคะ" ดีฟรอต้ากล่าว
              เดฟทรอลบอก "ลูกนะหรือ ลูกไม่ผ่านการทดสอบการเป็นผู้พิทักษ์ดวงดาว แล้วลูกจะทำอะไรได้กันละ ในเมื่อลูกดีแค่ขับยานออกไปผจญภัยนอกดาวอยู่ตลอดน่ะ"
              "แต่ตอนนี้ พ่อกำลังย้ำแย่อย่างมากเลยนะคะ ซึ่งหนูทนไม่ได้หรอกคะ ที่จะมาเห็นพ่อ ผู้ซึ่งเป็นราชาของวอเทเชี่ยนต้องเซื่องซึมจากการที่พ่ออยู่ในห้วงแห่งความสิ้นหวัง หลังจากที่พี่ใหญ่และพี่รองหายกันเช่นนี้น่ะ" ดีฟรอต้าบอก แล้วก็พูดคำขาดขึ้นมา "แม้ว่าหนูไม่ผ่านการทดสอบการเป็นผู้พิทักษ์ดวงดาว พ่อก็ให้หนูช่วยปกป้องดาวดวงนี้จากไอ้พวกที่คิดเรียกดาวมรณะออกมากลืนกินทุกดาวในจักรวาลแห่งนี้ เหมือนที่มันทำกับดาวแบบเดียวกับเราอีก 40 กว่าดวงในอดีตกันบ้างสิคะ" โดยที่เธอมีสีหน้าที่จริงจังอย่างมาก
              เดฟทรอลได้เห็นก็บอกไปว่า "รู้อะไรมั้ย ว่าพ่อเป็นห่วงลูกไม่น้อย หลังจากที่เห็นลูกไปจากดาวดวงนี้ เพราะพ่อกลัวว่าลูกจะมีอันตรายกัน โดยเฉพาะอันตรายจากนอกระบบดาวที่ลูกต้องเผชิญ เลยไม่อยากให้ลูกไปเสี่ยงมากกว่านี้น่ะ"
              "ท่านพ่อคะ" ดีฟรอต้าบอก
              "แต่....ตอนนี้ พ่อหวังว่าลูกคงจะไม่ทำพลาดเหมือนกับพี่ทั้งสองกันอีกแล้วน่ะ แม้ลูกจะไม่ใช่ผู้พิทักษ์ดวงดาวอย่างเป็นทางการ แต่ลูกคือความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่จะช่วยปกป้องดาวดวงนี้แล้วละ" เดฟทรอลกล่าว
              "ขอบคุณมากคะ ท่านพ่อ" ดีฟรอต้ากล่าวอย่างดีใจ
              เดฟทรอลบอก "กองกำลังไทรเวเซอร์ กองกำลังยูเนี่ยนพีช พอจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยกอบกู้ดาวดวงนี้จะได้มั้ยละ"
              "ว่าแต่ เราจะเริ่มจากไหนก่อนดีละครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เดฟทรอลกล่าว "องค์หญิงเทคเนล่าคงจะให้รายละเอียดเรื่องฐานผลิตยานรบของพวกรุกรานฝั่งตะวันออกกันมาบ้างแล้ว ว่าฐานเหล่านั้นมีตั้งอยู่เหนือน้ำและใต้น้ำ รวมถึงเมืองที่ถูกยึดอยู่เป็นจำนวนมากด้วย" แล้วก็เปิดแผนที่ภายในดาว "ถ้าจะยกทัพส่วนมากขึ้นเหนือน้ำ พวกที่อยู่ใต้น้ำก็จะจู่โจม ถ้าคิดจะปลดปล่อยเมืองใต้น้ำ พวกที่อยู่เหนือน้ำก็จะลงมือถล่มจากเบื้องบนกันด้วย ยิ่งฝ่ายตรงข้ามมีแรงหนุนเป็นกองรบจากฝั่งตะวันออกนั้น ยิ่งยากเข้าไปใหญ่"
              "แม้จะเสี่ยงไม่น้อยกับการถูกขุมกำลังที่มากกว่าเล่นงาน แต่แผนแบ่งกำลังออกเป็นสองกองคือทางเลือกเดียวแล้วน่ะ" เฟลิคบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เราจะแบ่งกำลังด้วยการส่งกลุ่มหนึ่งขึ้นเหนือน้ำและบุกจู่โจมทางอากาศ อีกกลุ่มนั้นบุกใต้น้ำด้วยการใช้ยานรบในการจู่โจมเป็นหลัก เพราะฝ่ายตรงข้ามต้องมีเรือรบใต้น้ำที่มีเกราะหนาอย่างแน่นอน"
              "แล้วพวกเจ้าจะนำกองรบออกไปจากนี้ได้ยังไง เพราะฝ่ายตรงข้ามอาจจะรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเจ้าก็เป็นได้น่ะ" เดฟทรอลบอก
              คลอเวฟกล่าว "อย่าห่วงไปเลยน่า องค์ราชา เราก็ทำให้พวกขบถเหล่านั้นรู้ว่า มันกำลังเล่นกับใผกันอยู่น่ะ"
              "นายคิดถูกแล้วหรือวะ ที่ให้กัปตันทีมสแมคบอลที่ปากดีและกวนส้นเท้าที่สุด เป็นหัวหน้าคุมการปฏิบัติการณ์ใต้ท้องทะเลในคราวนี้น่ะ" อิลมิคบอก
              พีวิลบอก "ในกองของเรา คลอเวฟเก่งในเรื่องเรือรบอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องจมเรือนั้น ของถนัดของคลอเวฟเลยละ"
              "หวังว่ามันคงไม่เผลอจมไฮด์เดาท์ หรือเดาท์เทรสซะก่อนน่า" โคเซวิคบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "วางใจได้ ฉันให้มาสวาร์ทาร์ช่วยงานคลอเวฟไว้แล้ว อย่างน้อย ก็ช่วยรับประกันได้ว่าคลอเวฟจะไม่ทำพลาดแบบนั้นได้น่ะ"

              หลังจากนั้น วันต่อมา ท้องทะเลทางหรดีของไอเควิส ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานผลิตยานรบของพวกซอร์แรคและกลุ่มกบฎวอเทล
              "คอยระวังไว้ด้วยละ หัวหน้าสั่งการแจ้งมา ว่าฝ่ายตรงข้ามจะบุกแห่มาทางอากาศ เพื่อมายึดฐานผลิตยานรบแห่งนี้ จึงขอให้เราตั้งการป้องกันตามแผนไว้ด้วย" จ่าฝูงวอเทลกล่าว
              ทหารวอเทลบอก "ทำไมเราไม่เรียกกองเรือรบมาหนุนเลยละ"
              "กองทหารพันธมิตรจะช่วยทางนี้เอง ส่วนกองเรือรบให้เฝ้าเขตเมืองอาคเนย์ไป เพราะต่อให้ฝ่ายตรงข้ามมียานกี่ลำ ก็ไม่มีทางผ่านเข้าไปยึดเมืองกันได้หรอก" จ่าฝูงวอเทลบอก
              ทหารวอเทลกล่าว "แน่ละ เพราะพวกมันไม่มีทางฝ่าทุ่นระเบิดที่เราวางใต้ผิวน้ำทะเล ซึ่งมีตัวเซนเซอร์จับระยะในรัศมี 45 ไมล์ทะเลกันไปได้...."
              "ฟ้าววววววว" ยานแลนซ์ฟิชบินตรงดิ่งเข้ามา "อี้ดดดดดด ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำยิงกระสุนพลังจากปืนที่โผล่ใต้ท้องยานลงน้ำมาจน "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เป่าทุ่นระเบิดใต้น้ำจนน้ำทะเลพุ่งกระจายขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับบินวกกลับไปโดยเร็ว "แลนซ์ฟิชนั้น...เป่าดงทุ่นระเบิดเหนือน้ำไปแล้วน่ะ หัวหน้า" ทหารวอเทลบอก
              จ่าฝูงบอก "อย่าปล่อยให้ยานลำนั้นมันลอยนวลไปได้ สอยให้ร่วงลงไปในดงทุ่นนั้น...." โดยสตาร์วอติคเตรียมใช้อควอติคแคนน่อน...เพื่อสอยแลนซ์ฟิชที่บินอยู่ให้ร่วง...
              "ปุ๊ ตรูมมมม" ไม่ทันไรปากกระบอกตรงหน้าอกสตาร์วอติคก็ยุบอย่างฉับพลันและระเบิดในทันที พร้อมกับ "แชดดดด เปรี้ยงงง ตรูมมมม" ยานขนส่งวอร์บอทของซอร์แรคถูกลำแสงยิงทะลุจนอัปปางลง "ฝ่ายตรงข้ามมันบุกมาแล้ว รีบออกไปโดยเร็วเลย" จ่าฝูงวอเทลสั่ง แล้วก็ "แฟ้วววววว แฟ้วววววว แฟ้ววววว แฟ้วววววว แฟ้วววววว" สตาร์วอติคพุ่งทะยานด้วยบูสเตอร์บินบนฟ้าข้ามกำแพงไป เนื่องจากว่าพวกเขาวางทุ่นระเบิดอยู่ข้างหน้าฐาน โดยบินตามจูลาสโต้ที่พุ่งเหนือน้ำและบินอยู่ ซึ่งแห่มาด้วยจำนวน 80 เครื่อง พร้อมกับโกแซคซอนและโรดแซคซอนที่เคลื่อนตัวเหนือผิวน้ำด้วยความเร็วสูงแบบละ 50 เครื่อง บุกเข้าใส่พวกไทรเวเซอร์ ซึ่งมี ไซน์เกนกันเนอร์ ฟาลครีด้าพรีม่าฟลอร่าสเตลล่า เกรฟเซนบ็อกเซอร์ กันสตาร์คแอสเซาท์ กานีสต้ามัคซ์บริซครีท ฟอสเทสซิกัสแอสโทรปเปอร์ 3 เครื่อง ควอตเทตทรอสพัลเลทอร์น ไวลด์แฟงค์ทีม ฟาสท์วิงค์ทีม อินเซคทีม อัลติเมทเอทเฮฟวี่เวพพ่อน แพนเซสเซนไนน์เฮฟวี่เมทัลอาร์ม ไคโอเบิร์นเนอร์บลัสต์บอมเบอร์ แอสโทรเกเซอร์คริมสันสไปรัล มาพร้อมกับทีมท็อปเกลบินตามมา ส่วนแนวหลังนั้น โฟรซ่า สเตฟอร์ด และวอลเกนทีมช่วยจู่โจมใส่ "เปรี้ยะ เปรี้ยะ เปรี้ยะ ตรุ้งงง ตรุ้งงงง ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดดดด" โดยโฟรซ่าสอยจูลาสโต้ที่บินเข้ามาจนร่วงไปสามเครื่อง สเตฟอร์ดใช้บลัสต์บาซูก้าเป่าถล่มจูลาสโต้และสตาร์วอติคจนชิ้นส่วนกระจายไป 4-5 เครื่อง เจกรอน่าและพวกทหารแมทเฟลิมใช้อิคนีสไรเฟิ่ลและมิไซล์ยิงใส่โรดแซคซอนจนกระเจิดกระเจิง "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" ไกซ์เปิดนำด้วยทริปเปิ้ลวัลแคนอาร์มและโชลเดอร์ไมโครลันเชอร์ กราดยิงใส่โกแซคซอนและสตาร์วอติคที่พุ่งเข้ามาจนร่วงไปส่วนหนึ่ง แม้โกแซคซอนจะเตรียมยิงมิไซล์และปืนใหญ่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" พีวิลเข้ามาขัดขวางด้วยทริปเปิ้ลอาร์มชู้ตเตอร์และอีเนลเซี่ยมมิไซล์เข้าทำลายทิ้งไปเสียก่อน
              "ปริซึมเชนแอทแทค" จายด์ซัดหมัดสว่านติดโซ่กงจักรพุ่งทะลวงใส่จูลาสโต้ที่บุกเข้ามาจนทะลุไป 4 ตัว แล้วก็พุ่งเข้ามา "ฟ้าวววววว เปรี้ยงงง" จู่โจมด้วยเชนนัคเคิ้ลทะลวงใส่จูลาสโต้ที่บินโฉบลงมาจนกระจุยไป "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สตาร์วอติคยิงอะตอมมิคตอปิโดจากแขนซ้ายเข้าใส่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งงงง ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมกราดยิงแอสโทรไรเฟิ่ลสองกระบอกถล่มตอปิโดให้ร่วงไปเป็นจำนวนมาก เนคกี้ใช้อิมแพคไรแอทยิงเป่าทำลายห่ามิไซล์ส่วนที่หลุดเข้ามาจนกระจุย ส่วนเนคกัสใช้ไดนามิคลันเชอร์ยิงมิไซล์ทำลายห่าตอปิโดส่วนที่เหลือลง "ย้ากกกกก" เจเนลพุ่งเข้าถีบใส่สตาร์วอติคที่ยิงตอปิโดไปก่อนจนปลิวไป "ตรูมมมม" โดนทุ่นระเบิดเหนือน้ำจนระเบิดไป แล้วก็ "ป้ากกก เปรี้ยงงง ป้ากกก" พุ่งถอยหลังมาเตะและถีบสตาร์วอติคจนกระเด็นกระดอนไป "ฟ้าวววววว ชรี้ดดดดด เปรี้ยงๆ" วิลด้าบินเข้ามาใช้ทวินเจ็ทดริลทะลวงใส่สตาร์วอติคให้กระจุยไปสองตัว "ตรุ้ง ตรุ้ง ตรุ้ง ตรุ้ง ตรูมๆๆๆๆๆ" เบติสยิงกระสุนระเบิดเพลิงและน้ำแข็งเล่นงานโกแซคซอนให้กระเจิง "ฟ้าววว แคว้กกกก" ฟลาแน็กซ์พุ่งเข้าถีบด้วยกงเล็บความร้อนสูงใส่จูลาสโต้ติดปีกจนพังไป 5 ตัว "เกร้งงงงง ฉั้วะ" สวอนน่าใช้โลห์ฟลามิงโก้ที่เลื่อนมาป้องกันขวานของจูลาสโต้ พร้อมกับใช้ดาบที่ซ่อนเอาไว้ฟันตัดหัวจูลาสโต้ให้ขาด "ฟ้าวววว ฉับๆๆๆๆๆๆ" จูลาสโต้ 7 ตัวโดนอิคกรีทพุ่งโฉบตัดด้วยปีกใบมีดจนได้รอยบนหน้าอกกันหมด "ฟ้าววววว เปรี้ยงงงง" ตัวแรกโดนมัลแด็กซ์พุ่งลงมาถีบจนปลิวลงไปโดนทุ่นระเบิดจนกระจุยไป "ฟ้าวววว จึก ป้ากๆ" บีทเทมพุ่งถีบอ้าขาใส่จูลาสโตสองตัวโดยแทงด้วยเพคบัสเตอร์ตรงหน้าอกเพื่อตอกส่งลงไปปลิวตกทะเล "ทิ้วๆๆๆๆๆ" บัลตาฟรียิงกระสุนแสงเป่าใส่จูลาสโต้ที่เหลือให้ชะงัก จูลาสโต้บินได้ส่วนหนึ่งเลยบินตามมา "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มิลด์เลยสวนคืนด้วยมิไซล์พ็อดใต้ปีกเป่าระเบิดเข้าใส่ทั้งกลุ่มที่ชะงักกับกลุ่มที่มาสมทบ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆ" เปิดช่องให้จิลใช้ไคท์บัสเตอร์ที่เสริมความเร็วพุ่งกระแทกใส่พวกจูลาสโต้และยิงเลเซอร์ซ้ำจนระเบิดไป "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะๆๆๆ" สตาร์วอติคโดนฟิเกซและไวลด์แฟงค์ทีมจู่โจมจนยับเยิ่นไปกันหมด "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" เครนิสและทีมท็อปเกลยิงห่ามิไซล์จากป้อมบนหัวไหล่และข้างขาด้านนอกถล่มทุ่นระเบิดจนกระจุยไป
              "รีบจู่โจมด้วยอควอติคแคนน่อนโดย...." จ่าฝูงสั่ง "แชดดดดด ตรูมมมมม" แต่สเปียริทชิงลงมือยิงเรย์แซทแคนน่อนเรฟอาร์มเข้าถล่มจนระเบิด
              "แก ไอ้พวกบ้า เตรียมตัวโดนลากลงน้ำไปเสียเหอะ" หัวหน้ากองซอร์แรคยั้วะที่เห็นลูกน้องถูกยำเละเลยนำไดเรปซาร์ทบุกเข้ามา โดยมีไดเรปซาร์ทมาสมทบอีก 11 ตัวเข้ามา

              "โว้ว ลูกพี่ ลุงเบติส ไอ้ตะกวดเดลอาเนี่ยน เอาหุ่นตัวโตมาเยอะกว่าที่คิดเลยน่ะ" ไกซ์บอก พร้อมกับใช้เฮฟวี่บัสเตอร์ไรเฟิ่ลยิงใส่ แต่ "ตูมๆๆ" ลำแสงแม้ปะทะใส่ตัวไดเรปซาร์ทจนระเบิด แต่ก็ไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
              "ฟูลออเรส เมดิน่า ออกมาช่วยหน่อย" เบติสกล่าว พร้อมกับยิงกระสุนระเบิดเพลิงและน้ำแข็งขัดจังหวะไดเรปซาร์ทส่วนหนึ่งไว้
    "ฟ้าววววว ฟ้าววววว ชรี้ดดดดด ป้ากก ป้ากกก แฟ้ววววววววว แฟ้วววววว ชรี้ดดดดดดด เปรี้ยงๆ ตรูมๆ" ไดเรปซาร์ทสองตัวจากฝั่งซ้ายถูกหมัดจรวดสว่านหมุนเจาะทะลวงเข้าที่ท้อง จากนั้นก็วกกลับมาทะลุใส่อีกสองตัวที่อยู่ด้านหลัง "แชดดดด ป้ากกกก ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆ แว้งงง แว้งง ตรูมมม บรึมมมม บรึมมมม" ไดเรปซาร์ทสามตัวจากฝั่งขวานั้น ตัวแรกโดนลำแสงสองเส้นพุ่งทะลุหน้าอก ตัวที่สองถูกห่ากระสุนผลึกปักคาลำตัวเข้าถึงส่วนเตาพลังงาน ตัวที่สามถูกกระสุนระเบิดแสงถากตรงหน้าอกจนระเบิดไปพร้อมกันกับอีกสองตัว "แฟ้ววววว แฟ้ววววว ฉั้วะ ฉับบบ" เซรีนและโครว์เชดใช้ดาบบูมเมอแรงและสเปคเทรี่ยนเซเบอร์ ฟาดฟันใส่ไดเรปซาร์ทจนหัวหลุดไปก่อนที่พวกมันจะใช้ขวานฟันใส่ "ฟ้าวววว เปรี้ยงงงงงง ชรี้ดดดด กรี้กกกก ปั้กๆๆๆๆๆ ตรูมมมม" อาแรคคัสกระโดดถีบไดเรปซาร์ทพร้อมกับใช้แขนสว่านสองข้างเจาะตรงหน้าอกให้เป็นรู แล้วยิงหมุดร้อนเข้าไปข้างในจนเป่าระเบิดไป อีกสองตัวรีบบุกเข้ามาเล่นงานอาแรคคัส "ฟ้าวววววววว หวับๆๆๆๆ" แต่อาแรคคัสกระโดดตีลังกากลับหลัง พร้อมกับหมุนควงสว่านเข้า "ป้ากกก เปรี้ยงงง" ถีบใส่ไดเรปซาร์ทสองตัวให้ปลิวไปยังเขตทุ่นระเบิด "ตูมๆๆๆๆๆๆ บรึมมม บรึมมมม" จนถูกทุ่นระเบิดเป่ากระจุยไป "เตรียมตัวแหลกได้เลย ไทแทนบลัสเตอร์แฟลช" ทริปตันในสภาพคริฟไฟแทนแทรซครอนสาดลำแสงจากส่วนหน้าอกเข้าใส่แนวกำแพงจน "ตรูมมมมม" แนวกำแพงของพวกวอเทลที่คุ้มกันฐานผลิตยานรบจนระเบิด "แค่กำแพงพังก็มิได้หมายความว่าพวกแกจะถล่มฐานแห่งนี้ไป" หัวหน้ากองซอร์แรคบอก แต่ "ครืนนนนนน ป้ากกกกก ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆ บรึมมมมม" ลำแสงคู่สีแดงเข้มขนาดย่อมพุ่งเข้าไปในส่วนจอดยานและส่วนต่อประกอบยาน จนพังพินาศไปอย่างรวดเร็วและระเบิดวินาศสันตะโรไปพร้อมกับทหารซอร์แรคกัน
              "พวกนายเล่นแรงเกินไปหน่อยแล้วน่ะ" ดีฟรอต้ากล่าวโดยที่เธอบินวกกลับมายังยานเดาท์เทรส ซึ่งดูนบัลติคาร์ดของกริซซิกขยายปืนใหญ่ประทับหัวไหล่สองอันที่มีควันขึ้นตรงปากลำกล้องยืนอยู่
              "อย่างน้อย เรายอมทำลายศูนย์ผลิตยานนี้ทิ้ง มากกว่าปล่อยให้พวกเดลอาเนี่ยนยกพวกยึดคืนกลับไปกันแล้วน่ะ" กริซซิกบอก
              "นั้นพอจะทำให้เจ้าไทโรนอฟหัวร้อนขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว" โคเซวิคบอก "ว่าแต่ พวกที่จู่โจมกองหนุนเป็นไงบ้างละ"
              เนคมาดูซัมบอก "โดซี่แจ้งมาแล้ว ว่ากองหนุนซอร์แรคที่พวกมันเรียกมานั้น ไม่มีทางหนีรอดไปได้แล้วละ" ทั้งนี้ โดซี่พากองกำลังหลังฉากถล่มพวกซอร์แรคที่กำลังมาสมทบจนพินาศไปหมดแล้ว

              "เยี่ยม ที่เหลือก็คือยุทธการบุกของเฟลิคกันละ" โคเซวิคกล่าว โดยในตอนนี้เขตเมืองใต้น้ำฝั่งอาคเนย์ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกวอเทลเดธซิลเวอร์พลาเนต และพวกเทรโอเซี่ยม ด้วยยานรบใต้น้ำของทั้งสองฝ่าย
              "ตื้ดๆๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณเตือนภัยของพวกเทรโอเซี่ยมดังขึ้น "โซนาร์พิสัยไกลตรวจจับสัญญาณยานรบสองลำเคลื่อนตรงมาทางเราแล้วละคะ" ทหารเทรโอเซี่ยมกล่าว
              กัปตันยานบอก "ยานสามเหลี่ยมและไฮด์เดาท์แน่ๆ ส่งกองรบออกไปรับมือเดียวนี้เลย" แล้วยานขนาดใหญ่ที่มีโหลแก้วติดตามยานปล่อยวอร์บอทเมอมาร์ค วอร์แมชชีนเวฟสไตรเดอร์และดีฟแอทแทคเกอร์ออกมา ในขณะที่ยานสองลำที่มุ่งหน้ามานั้นไม่ส่งอะไรมาเลย "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" ดีฟแอทแทคเกอร์ยิงตอปิโดออกจากใต้ท้องยานเข้าใส่
              "ตอปิโดพุ่งมาทางเราแล้วคะ" แอมเบอร์รายงาน
              มาสวาร์ทาร์บอก "เปิดม่านสนามพลังป้องกันตอปิโด แล้วยิงสวนกลับไปได้เลย" แล้วยานไทรแองเกิ้ลและไฮด์เดาท์ก็ "แว้งๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" กางสนามพลังป้องกันตอปิโดเอาไว้ แม้แรงระเบิดจะส่งแรงส่วนหนึ่งเข้ามา "เหวอๆๆๆๆ" เขย่ายานทั้งสองลำจนลูกเรือตื่นตระหนกไปตามๆกัน "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นยานทั้งสองลำก็ยิงตอปิโดเข้าใส่ฝูงเวฟสไตรเดอร์ที่พุ่งเข้ามาจน "ตูมๆๆๆๆๆ" เป่ายานร่วงไปเพียงบางส่วน สตาร์วอติคพุ่งเข้ามาด้านข้างเพื่อที่จะยิงอะตอมมิคตอปิโดเข้าใส่ "ฟ้าววว เปรี้ยงงงงง" หัวงูติดสปริงพุ่งเข้าขบกัดสตาร์วอติคอย่างจังๆ แล้วก็ดึงเข้ามา "เปรี้ยงงงง" ถูกจู่โจมจนท่อนบนแหลกจากกัน "ตรุ้งงง เปรี้ยงงงง" สตาร์วอติคอีกตัวที่ว่ายเข้ามาถูกยิงจนตัวทะลุและระเบิดไป "ฟ้าวววว วืดดด ป้ากๆๆๆ" จากนั้นก็มีหุ่นสีฟ้าพุ่งเข้ามาหวดขาติดปล้องปะทะใส่สตาร์วอติคจนล้มไป 3 ตัว "หวับบบ เปรี้ยงงงงง" จากนั้นหุ่นสีน้ำเงินหัวฉลามพุ่งเข้ามาหวดแส้เรียวเล็กอัดใส่สตาร์วอติคให้พังยับ "ฟิ้วๆๆๆๆๆ" สตาร์วอติคเลยยิงตอปิโดขนาดเล็กพุ่งเข้าใส่ "ตรูมๆๆๆๆๆ" แต่มีหุ่นสีส้มพุ่งขึ้นมาบล็อกป้องกันเอาไว้ "ฟ้าววว ตรูมมมม" ตามด้วยตอปิโดพุ่งออกจากกลุ่มควันระเบิดอัดใส่สตาร์วอติคจนระเบิดไป
              "พวกเธอเป็นยังไงบ้างละ" แอนเดรียกล่าว โดยหน้าจอมอนิเตอร์เปิดภาพของพวกเฮเรเค้น เวลลิท ไรแกทและเทรอนเร็กซ์ขึ้นมา
              แบร็อคบอก "ลุงบริคซ์และทีมช่างช่วยเสริมคอกพิตให้แกร่งจนน้ำไม่รั่วเข้ามาแล้วละครับ" แล้วก็พุ่งเข้ามา "หวับบบ เปรี้ยงงงง แกร็กๆๆๆๆ เพล้งงง" ถีบเมอมาร์คเข้าพร้อมกับแช่แข็งให้แตกกระจุยไป "ฟ้าวววววว ป้ากกกก" บุลฟลาทยิงบูสเตอร์ฟิสท์พุ่งอัดใส่สตาร์วอติคที่มากับฉมวกคมยาวจนกระจุย แม้หมัดจะพุ่งไปได้ไม่เร็วนัก
              "ระวังด้วยละ อควอไดร์ฟที่ทางเราติดตั้งไว้ให้พวกเธอใช้อยู่นั้น มันทำให้พวกเธอแหวกว่ายในน้ำได้ก็จริง แต่คงไม่ดีแน่ๆ กับการถูกเล่นงานในน้ำกันน่ะ" ไซโคลเนียบอก โดยในตอนนี้เรฟไซท์บุกมายิงตอปิโดลันเชอร์เป่าเมอมาร์คจนระเบิดไป บราไทน่าบุกเข้าใช้ดาบผ่าเมอมาร์คที่ถือตรีศูลอนุภาคจนขาดครึ่ง
    "ทีมไดนอน วอร์แมชชีนเคลื่อนตัวมาที่ 12 นาฬิกาแล้วละ" ลิเนียร์ตี้แจ้งบอก "แฟ้วววว แฟ้ววววว ตรูมมมม บรึมมมม" พาลกีสและพาแรมใช้ตอปิโดลันเชอร์แบบถือมือยิงสอยเมอมาร์คและเวฟสไตรเดอร์ให้ร่วงไป "ฟึ่บ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆ" เทรอนเร็กซ์หยิบปืนกลพวงยิงฉมวกเล็กพุ่งปักสตาร์วอติคให้ยับลง
              "ครูน่าจะให้ผมถือตอปิโดลันเชอร์หรือไม่ก็โซนาร์แคนน่อนก็ได้นิ" เทรอนเร็กซ์บอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "การ์เซนครีทของพวกเธอไม่ได้โมดิฟายให้ใช้พลังงานเยอะๆเหมือนที่พวกครูใช้กันหรอกน่ะ เลยทำให้ใช้อาวุธที่กินพลังงานมากอย่างปืนใหญ่พลาสม่าไม่ได้ด้วยน่ะ" แล้วก็กล่าว "ตอนนี้พวกเธอรีบบุกเข้าจู่โจมยานเพื่อช่วยพวกยูเนี่ยนพีชเลยดีกว่า"
              "ทั้งๆที่ลุงฉลามทำหน้าที่แทนลุงครอฟกันเลยหรือ" เรฟไซท์บุกใช้ดาบใบเลื้อยสู้กับพวกเมอมาร์คที่ดาหน้าเข้ามา
    โดยฝั่งยูเนี่ยนพีชนั้น "ตรุ้งๆๆๆๆๆ" ครีซเปิดนำด้วยการยิงปืนใหญ่ชิฟแคลชเชอร์แคนน่อน "ป้ากกก ตรูมมมม บรึมมมม เพล้งงงงง ซ่า...." ถล่มใส่ยานรบของพวกเทรโอเซี่ยมจนสร้างความเสียหายทั้งนอกยานและในยาน จากส่วนกระจกแก้วแตกจนน้ำทะเลไหลเข้าตัวยาน "แชดดด แชดดด แชดดด แชดดด" ทีมเทรลเวฟของดอลฟูลนิสแหวกว่ายเข้ามายิงอาบีสไรเฟิ่ลเข้า "ตรูมมม บรึมมม บรึมมมม" ถล่มใส่เวฟสไตรเดอร์และเดฟแอทแทคเกอร์ที่เคลื่อนตัวมาจนอัปปางลง ทำให้ยานรบของเทรโอเซี่ยมต้องส่งไบดัลโวลออกมา 10 ตัวด้วยกัน "ฟ้าววววว ฉั้วะ ฉับบบ ฉั้วะ" ไม่ทันไร เดซาร์ไกสต์ของริชาร์ทพุ่งเข้ามาใช้เดซาร์ไกสต์แอ็กซ์ฟาดฟันใส่ไบดัลโวลได้ก่อน ที่มันจะหวดหอกสองง่ามแทงใส่ไป 3 ตัว "ชรี้ดดด แฟ้ววววว" ไบดัลโวลตัวที่ 4 ยิงตอปิโดหัวสว่านออกจากส่วนแขนหมายจะเล่นงานริชาร์ท "ฟ้าววว ฉั้วะ ฉั้วะ" เร็กซอนพุ่งเข้ามาใช้ทวนหางหนามฟันตอปิโดหัวสว่านให้ขาดสะบั้น พร้อมกับ "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ" ยิงใบมีดจากหลังแขนเล่นงานสตาร์วอติคที่พุ่งเข้ามาช่วยจนจมไป 6 ตัว ไบดัลโวลอีก 6 ตัวเลยบุกเข้ามาหมายจะเล่นงานริชาร์ทและเร็กซอน "ฟ้าวๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ ตรูมมมมม" ซึ่งก็โดนเพเรเนเทรจฮาร์ปูนปักทะลุท้องไปจนระเบิดทั้งหมด
              "ยานรบของวอเทลฝ่ายตรงข้ามยังขวางทางปืนไว้ เราเสี่ยงยิงปืนใหญ่อนุภาคเข้าไปไม่ได้แน่ๆเลยละ" อาชิลน่าบอก
              "วางใจได้ เพราะเราหาทางแก้แล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก และแจ้งให้ "ตานายลงมือได้แล้ว คลอเวฟ"

              ไม่ทันไรก็ "แว้งงงงง" เฮฟโวลทริสตรอนติดบูสเตอร์หนาโผล่มาข้างหลังสะพานเดินเรือยานของพวกวอติค "เฮ้ย มันโผล่มาได้ไงเนี้ย" ทหารวอเทลที่พึ่งนำสตาร์วอติคออกมาเห็นเฮฟโวลทริสตรอนโผล่มา พร้อมกับ "ฟึ่บบบ ครี้งงงงง" สบัดอาวุธทรงขวานผสมกับตรีศูลที่ยืดด้ามออกมา แล้วก็ "หวับบบบ ฉับบบบ เปรี้ยงงง ซ่า...."  หวดขวานสับตรงฐานสะพานเดินเรือจนน้ำเข้าสะพานเดินเรืออย่างฉับพลัน จากนั้นก็ "ครืนนนนน หวับบบ ฉึกกกก" ใช้ขวานตรีศูลแทงลงบนดาดฟ้ายาน พร้อมกับ "ฟิ้วๆ ตรูมมมม บรึมมมม" ยิงตอปิโดลันเชอร์ที่อยู่ในหลังแขนซ้ายลงไประเบิดจากภายใน สตาร์วอติคจำนวนหนึ่งเห็นเลย "ฟิ้วๆๆๆๆๆ" ยิงอะตอมมิคตอปิโดเข้าใส่ "หึ" คลอเวฟยิ้มพร้อมกับ "ฟึ่บบบ แว้งงง" เฮฟโวลทริสตรอนเขย่งตัวและผลุบหายไปจากยานที่จมจนถูกอะตอมมิคตอปิโดพุ่งเป่าใส่ยานแทน แล้วก็ "แว้งงงงง" โผล่มาใต้ท้องยานของพวกวอเทลที่อยู่ใกล้ๆ และ "หวับๆๆๆๆ ฉึก กรี้กกกกกกกก แคว้กกกก" แทงขวานตรีศูลเข้าใต้ท้องยาน แล้วกรีดให้เป็นรอยเพื่อให้น้ำทะเลทะลักเข้าไปข้างใน โดยที่ฝูงเมอมาร์คส่วนหนึ่งแห่มา "แว้งงงง" คลอเวฟเลยหายตัวไป โดยให้ยานที่อัปปางและจมลง บดขยี้ฝูงเมอมาร์คลงไปทันที
    "นั้นเป็นวิธีที่ขี้โกงเอาเรื่องเลยน่ะ แม้ว่าเพื่อนกัปตันทีมของนายจมยานใต้น้ำของพวกวอเทลไปได้ง่ายๆน่ะ" เฟลิคบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แน่ละ เพราะเราไม่ได้เผยพาร์ทเทอมิเนตัส ซึ่งติดระบบไดฟ์จัมป์ อันเป็นระบบเทเลพอร์ตด้วยการโดดดำลงและโผล่ขึ้นมาในตำแหน่งที่คาดไม่ถึงไว้ แน่นอน ว่าภายในน้ำนั้น ช่วยได้มากในการอำพรางช่องทางโยกย้ายเปลี่ยนจุดได้น่ะ" โดยตอนนี้คลอเวฟโผล่มาด้านข้างยานรบของเทรโอเซี่ยมเพื่อใช้ออคตาแกรมแฮมเมอร์ "ฉึก เปรี้ยงๆๆๆๆๆ" และตอกด้วยไฮโดรควอดเดนท์เข้าใส่ แล้วก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆ" ยิงตอปิโดลันเชอร์เข้าใส่ฝูงเมอมาร์คที่ว่ายเข้ามาจนร่วง พร้อมกับ "แว้งงงงง" โผล่มาตรงหน้ายานรบเทรโอเซี่ยมอีกลำ ในจังหวะที่ไบดัลโวลบุกเข้ามา "แชดดดด แฟ้วววว" คลอเวฟใช้ออกตาแกรมแฮมเมอร์ฝั่งซ้ายยิงเลเซอร์ดันตัวเองถอยออกไปจน "โครมมมม" ไบดัลโวลพุ่งอัดกับสะพานเดินเรือด้านหน้าไปเต็มๆ เปิดช่องให้ "ฟิ้วๆ ตรูมๆ บรึมมมม" คลอเวฟวกอ้อมหลังมายิงตอปิโดลันเชอร์สอยเข้าหลังไบดัลโวลให้ระเบิดไปพร้อมกับสะพานเดินเรือด้วย พวกวอเทลเลยรีบเตรียมปืนใหญ่เพื่อเล่นงานคลอเวฟ "ฟ้าวววว โครมมมม ตรูมมมม" เดสทรอยแฮมเมอร์พุ่งเสยป้อมปืนจนพังและระเบิดไป พร้อมกับ "ฟ้าวววว โครมมม" พุ่งถีบสะพานเดินเรือจากหักขาดไป "หวับๆๆๆๆ โครมมม โครมมม ตรูมมมม บรึมมมม" ริชาร์ทซัดเดซาร์ไกสต์แฮมเมอร์พุ่งบดขยี้ป้อมปืนยานของวอเทล แล้วก็ "เปรี้ยงงงง" ชกหมัดเข้าใส่สะพานเดินเรือจนพัง "ซูมมมมม หวับบบ แคว้งงงง ครืนนนนน" ส่วนครีซบุกมาด้วยดาบเวฟสปริตเตอร์ซอร์ดผ่าหัวยานขาดครึ่งจนอัปปางไป
              "บ้าชะมัด พวกเรา รีบกดสวิตซ์เพื่อให้ประชาชนฝ่ายเรามา...." หัวหน้าวอเทลกล่าว
              แต่... "ตรูม ตูม บรึม ตรูม บรึม ตรูม" เสียงระเบิดดังขึ้นจากภายในโดมแก้วครอบเมืองฝั่งอาคเนย์อย่างจังๆ ซึ่งพวกวอเทลฝ่ายตรงข้ามได้เห็นเฮฟโวลทริสตรอนอยู่ข้างใน และส่งไซโคลเนียไปทำลายเครื่องล้างสมองที่อยู่เหนือเขตชุมชนจนพังไปหมด ส่งผลให้.... "นี้พวกเรา เกิดอะไรขึ้นกันละเนี้ย" ชาววอเทลที่เมืองอุทานหลังจากที่รู้สึกตัวกันหมดแล้ว
              "พวกนายได้รับการปลดปล่อยจากการครอบงำของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันแล้วละ" ไซโคลเนียประกาศด้วยการใช้โทรโข่งขนาดใหญ่ขึ้นมา
              คลอเวฟบอก "และเรามีข่าวจะมาบอก ราชาเดฟทรอลยังไม่ตาย พระองค์ยังอยู่เพื่อปลดปล่อยพวกนายออกไปกันแล้วละ"
              "จริงหรือเนี้ย นี้องค์ราชารอดแล้วสิน่ะ" ประชาชนชาววอเทลบอก
              อีกตนบอก "ดูนั้นสิ ยานของฝ่ายตรงข้ามมันล่าถอยไปแล้วละ" โดยได้เห็นยานรบของวอเทลฝ่ายตรงข้ามล่าถอยออกไปพร้อมกับยานของพวกเทรโอเซี่ยมด้วย
              "ภารกิจแรกของเราเสร็จสิ้นแล้วละ" เฟลิคบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เนคมาดูซัมและโคเซวิคแจ้งมา ว่าพวกเขาจัดการกับฐานผลิตยานจนพังไปแล้ว เตรียมแจ้งเดฟทรอลเรื่องภารกิจแรกของเราได้เลย"

              หลังจากนั้น การปฏิบัติการณ์ปลดปล่อยเมืองในวอเทเชี่ยนก็ดำเนินต่อไป
              "ครืนนน ซ่า" เมืองโหลแก้วใต้สมุทรเคลื่อนโผล่ขึ้นมา โดยฝีมือของพวกวอเทลที่อยู่ในเมือง เพื่อนำกำลังเสริมเข้าไปช่วยกองรบซอร์แรคที่กำลังถูก "แคว้กๆๆๆๆ" กิซเซเบอร์เบอร์เซอร์เกอร์ข่วนจูลาสโต้ที่ดาหน้าเข้ามาจนแหลกเป็นชิ้นๆ "ฉืบๆๆๆๆ" สตาร์วอติคโดนไรเดนโควควิกเรซเซอร์ฟาดฟันใส่สตาร์วอติคที่พุ่งขึ้นจากน้ำจนขาดสะบั้นลง "ฟ้าวๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆ" เครนิสและอาชิลน่านำทีมระดมยิงโกแซคซอนที่อยู่บนยานรบของซอร์แรคจนกระเจิง โดยไม่กลัวเกรงขีปนาวุธหรือปืนใหญ่อนุภาคที่ยิงโต้ตอบไป "ฟ้าววว ป้ากๆๆๆๆ" เซรีนเจาะทะลวงเรปแทงเกอร์ที่เคลื่อนบนพื้นน้ำจนกระจุยไปห้าหน่วย "ฟ้าววววว แชดดดดด ตรูมๆๆๆๆๆๆ" ไซโคลเนียนำสกายไฮซ์บัสเตอร์ยิงเทมเพสต้าบัสเตอร์ไรเฟิ่ลถล่มป้อมปืนยานของพวกซอร์แรคให้พัง "แฟ้วววววววว" เพริบาทรอสบินผ่านเมืองอย่างรวดเร็วพร้อมกับ "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทีมนักรบชุดเกราะของกองกำลังหลังฉากลงมาในเขตเมือง ซึ่งทหารวอเทลฝ่ายตรงข้ามสวมเกราะหนากำลังวิ่งตรงมา           "พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้ามาขวางทางพวกเราเลยน่ะ" จ่าฝูงชาววอเทลบอก บาร์ทกล่าว "พวกเรามานี้เพื่อหยุดพวกนายไม่ให้ไปช่วยพวกพ้องได้หรอก" แล้วก็กระโจนเข้า "เชร้งงงง เชร้งงงง" ทิ้มกระบี่แทงใส่เกราะของทหารวอเทลจนแตกร้าว แล้วก็ "ป้าบบบบ" ฟาดฝ่ามือใส่จนเกราะแตกกระจุย "แชดๆๆๆๆๆๆ" พวกวอเทลเลยใช้ปืนยาวยิงลำแสงเข้าใส่ "เปร้งๆๆๆๆๆ" แฮรี่ ช็อปเปอร์และแด็กซ์ยืนป้องกันตัวเอาไว้ โดยแฮรี่และช็อปเปอร์ป้องกันด้วยโลห์พลังงาน ส่วนช็อปเปอร์ใช้วิชากายาเหล็กเพิ่มพลังการป้องกันต้านกระสุนพลังอนุภาค "ชาละวันฟาดหาง" "หมัดเมขลาล่อแก้ว" เฟรดและนาเดียกระโจนเข้าปะทะด้วยการเตะก้านคอและหมัดตรงเข้าใส่ทหารวอเทลที่ถือปืนให้ล้ม "เทอโบพันช์!!!!" "โฮกิลดงคิกกกก" น็อกกี้และคีธพุ่งจู่โจมใส่ทหารวอเทลถือปืนยาวที่อยู่ใกล้ๆอีกสองตนอย่างรวดเร็ว "หวับๆๆๆ เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง" รีฟใช้ไลท์นิ่งเซเบอร์ฟาดฟันใส่ทหารวอเทลจนถูกช็อตล้มลง "แคร้งงง แกร็กๆๆๆๆ ฉั้วะ ฉับบบบ" รอมมิชใช้ง้าวโต้ตอบหอกสองง่ามของทหารวอเทล ที่จู่โจมเข้าใส่พร้อมกับกดให้คมง้าวฝ่ายตรงข้ามโน้มใกล้ตัวและฟันซ้ำอีกที "ฟ้าว ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าวว ป้าก โครมม พล็อก เปรี้ยงงง ฉั้วะๆๆๆ" แจ็ส มาริและโรซารี่พุ่งเข้าจู่โจมด้วยความรวดเร็ว ใส่กลุ่มทหารวอเทลที่วิ่งเข้ามาด้วยฉมวกสีเงินจนล้มกลิ้งไปกันหมด "ฮึยยย ย้ากกกก" แรมเบจหวดดาบอาบไฟฟาดใส่ทหารวอเทลเกราะหนาจนแตกกระจุยไปกันหมด "เฮ้ยยยยย" แต่มีทหารวอเทลตัวโตวิ่งเข้ามา "แกร้งงงงง" ใช้ปลอกแขนหมัดชกใส่จนแรมเบจต้องใช้ดาบเสริมพลังธาตุเหล็กป้องกันไว้ ซึ่งก็ทำให้แรมเบจถอยหลังไป 5 ก้าวด้วยกัน "โว้ววววว" แล้วทหารวอเทลตัวโตก็พุ่งเข้าใส่แรมเบจหมายจะใช้กำปั้นใหญ่ชกซ้ำ

              "ช่วยไม่ได้แล้ว ควิกบูมเมอแรงคัตเตอร์" นิคกระหน่ำยิงบูมเมอแรงใบมีดความเร็วสูงเข้า "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แม้ตัวทหารวอเทลจะสวมเกราะหนา แต่บูมเมอแรงใบมีดความเร็วสูงก็ปะทะใส่ตัวฝ่ายตรงข้ามให้ล้มเสียหลักลง "ระดมยิงพร้อมกันเลย" แฮรี่บอก แล้วเฟรด นาเดีย มาริ คีธ และสติลลิมป์ที่รับมือกับคู่ต่อสู้อยู่ รีบมารวมกลุ่มกัน "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆ แชด แชด แชด แชด" กราดยิงวอลแกรมไรเฟิ่ล ดับเบิ้ลแอสเซาท์ไรเฟิ่ล เอ็นบัสเตอร์และแอลเลเซอร์กันเข้าอัดใส่ทหารวอเทลตัวโตจน "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงง" หน้ากากและเกราะท่อนบนแตกกระจุยไป แต่มันก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์นัก "ดรรชนีหกชีพจร กระบี่เถียนป๋อกวง" "ฝ่ามือสยบมังกร มังกรขบเต่านิล" "เคล็ดวิชา ระเบิดนางพญาสิงห์" "ลูกเตะสิงโตคำราม" "หมัดคลื่นกิเลนเพลิงผยอง" บาร์ทจู่โจมด้วยวิชาดรรชนียิงคลื่นปราณรูปกระบี่จากนิ้วกลางและนิ้วก้อย รอมมิชฟาดฝ่ามือออกเป็นพลังรูปมังกร โรซารี่ใช้สองฝ่ามือปล่อยลูกบอลพลังออกไป ช็อปเปอร์เสยขาหวดกระสุนพลังปราณเป็นคลื่นเสียง ส่วนแรมเบจเสยหมัดซ้ายปล่อยเป็นพลังกิเลนสีแดงพุ่งเข้า "ฉึกๆ แกว็กกกก กร็อบบบบบ ตรูมมมมม โฮกกก เปรี้ยงงงง ฟ้าวววว ป้ากกก พรึ่บบบบ" กระบี่ยาวสองเล่มปักคาหน้าอกวอเทลตัวโตจนผงะ คลื่นมังกรพุ่งมาอ้าปากขย้ำใส่แล้วแหลกกระจุยเพราะกระสุนระเบิดที่พุ่งตามมา จากนั้นคลื่นเสียงก็อัดให้วอเทลตัวโตเสียหลักและถูกกิเลนเพลิงพุ่งเสยจนไฟลุกตามตัว
              "เร็ว รีบพาท่านดีฟเทรคกลับไปเร็วเลย" ทหารวอเทลหัวหน้าหน่วยเห็นเช่นนั้นเลยรีบสั่งทหารเข้านำตัววอเทลตัวโต หลบหนีออกจากเมืองไปทันที
              แรมเบจบอก "เมื่อกี้มันบอกว่า ไอ้ตัวโตนั้น คือองค์ชายใหญ่ของราชาเดฟทรอลงั้นหรือ"
              "สงสัยว่าพวกเดลอาเนี่ยนเปลี่ยนองค์ชายใหญ่ของราชาเดฟทรอล ให้เป็นมนุษย์ปลาบึกแล้วละครับ" เฟรดกล่าว
              นิคพยักหน้า และเก็บเศษชุดเกราะที่มีรอยแดงติดอยู่ข้างใน "และโชคดีมากที่เรามีหลักฐานไว้ เพื่อให้ราชาเดฟทรอลยืนยันว่าที่เราปะทะนั้น เป็นองค์ชายดีฟเทรคกันจริงๆน่ะ" โดยตอนนี้ กองรบไทรเวเซอร์มากับยานแทนทารัสเดินทางมาถึงแล้ว

              "ตูมๆๆๆๆ" ปลายักษ์ใหญ่ที่พยายามหนีถูกยานทรงปลาซีลาแคนตัวโต กุ้งมังกร ปูปักกิ่ง เอ้ย ปูเสฉวนไล่ล่ากันอยู่ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สตาร์วอติคของฝ่ายปกป้องเขตชุมชนบนตัวปลาต่างระดมยิงอะตอมมิคตอปิโดกันยกใหญ่ "เอนเชี่ยนเครท ลอบสตาร์ค ฮอยมิสซอน เตรียมถล่มปลายักษ์นั้นให้ร่วงซะ" ทหารเทรโอเซี่ยมกล่าว โดยยานปลาอ้าปาก กุ้งมังกรและปูเสฉวนอ้าก้ามเอาปืนอนุภาคออกมา "ฟ้าวววว ฉืบบบ ฉืบบบ ตรูมมม บรึมมม" แต่มีบางอย่างพุ่งตัดก้ามปูขาดสองข้างจนแขนระเบิดอย่างจังๆ ตามด้วย "ซูมมมมม ปั้กๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" พายุวังน้ำวนสองสายพุ่งบดขยี้กระดองปูเสฉวนจนแตกกระจุย พร้อมกับระเบิดทำลายลูกเรือที่ประจำสถานีรบพังพินาศไปกันหมด แล้วอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนมัคซ์สไตร์คโผล่มา
              "ไอ้หุ่นเทพสองตัวนั้นอีกแล้วหรือ แต่แกเองคงไม่มีทางสู้ในทะเลกันได้หรอก" ทหารเทรโอเซี่ยมกล่าว แล้วยานเอนเชี่ยนเครทก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงกระสุนอนุภาคเข้าใส่ "หวับ ชรี้ดดดด ซูมมมมมมม" ฟูลออเรสเลยหมุนดริลสไตร์คที่แขนขวาปล่อยเป็นพายุน้ำเป่ากระสุนอนุภาคให้กระจุยพร้อมกับ "ปั้กๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" ถากเกราะเอนเชี่ยนเครทจนพังเสียหายไปส่วนหนึ่ง "ฟ้าวววว" ลอบสตาร์คบุกมาเพื่อเล่นงานเมดิน่า แต่ "ฟ้าววว เกร้งๆ" เมดิน่าถอยหลังหลบพร้อมกับ "ฉั้วะ ฉับบบบ" พุ่งกลับมาใช้ปริซึมอาร์มซอร์ดฟันตัดก้ามทิ้งทั้งสองข้าง พร้อมกับ "ฉึก" แทงใส่ตรงหัวกุ้งพร้อมกับ "ธันเดอร์ช็อค" ช็อตไฟฟ้าแรงสูงเข้าใส่ลอบสตาร์คจน "ตูมๆๆๆๆๆๆ บรึมมม" ลัดวงจรจากภายในอย่างต่อเนื่องและระเบิดกระจุยไป ฮอยมิสซอนที่ไร้กระดองบุกเข้าชนใส่ "หวับๆๆๆๆๆ ตรุ้งงงงง กรี้กกกกกก ชรี้ดดดด ป้ากๆ" เมดิน่าซัดวิงค์สไลเซอร์ให้หมุนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับดริลซัดเด้นนัคเคิ้ลเจาะเข้ายานปูเสฉวนจนกระจุยไป แล้วก็ "หมับบบ หวับบบบ โครมมมมม" ช่วยกันจับฮอยมิสซอนอัดกับเอนเชี่ยนเครทไปเต็มๆ "ฟาร์โอเวี่ยน มัคซ์ไดรเวอร์เบรค" เมดิน่าทิ้มปริซึมอาร์มซอร์ดที่ยืดยาวปล่อยคลื่นพุ่งเข้า"แฟ้ววววว เปรี้ยงงงง" เจาะฮอยมิสซอนเข้าถึงเอนเชี่ยนเครทจนระเบิดอย่างหนักหน่วง ตามด้วย "อิชเชเตียน สติงเกอร์แคลชเชอร์" ฟูลออเรสพุ่งทะลวงเจาะใส่ซ้ำจนบดขยี้ยานปลาเปลือกแข็งที่พังเสียหายให้กระจุยไป "ไหวหรือเปล่าละ ฟูลออเรส" เมดิน่าหอบเหนื่อย
              "ไหวสิ แม้ว่าจะใช้บูสเตอร์เร่งความเร็วแล้ว แรงดันใต้น้ำลดสปีดลง 30 เปอร์เซนต์เลยน่ะ" ฟูลออเรสบอก โดยตอนนี้ไทรแองเกิ้ลเคลื่อนตัวมารับเข้ามาในยาน ทีมพยาบาลของเดเมี่ยนรีบเอาถังอ็อกซิเจนมาให้ทั้งคู่สูดดมกัน ในขณะที่ทีมช่างเช็คอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนกันอยู่ "ฟึ่บ ฟึ่บ" เมดิน่าสังเกตุเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ด้านบน "มีอะไรหรือ เมดิน่า" ฟูลออเรสถามโดยที่ยังสูดยาหอมเพื่อให้ผ่อนคลาย
              เมดิน่าบอก "ฉันเห็นบางอย่างอยู่บนเพดานเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วน่ะ"
              "เธอคงตาฝาดไปแล้วละมั่ง" ฟูลออเรสบอก เพราะเขาไม่เห็นอะไรเลย เว้นแต่ลูกเรือที่เข้ามาเช็คสภาพเพรโทรแน็กซ์สองเครื่องด้วยกัน
              เมดิน่ากล่าว "หวังว่าคงไม่มีอะไรแย่ๆเกิดขึ้นหรอกน่า แม้ว่ายานไทรแองเกิ้ลจะกลับมาเร็วไปหน่อยน่ะ"
              "พวกเธอไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เมดิน่ากล่าว "พวกเราไม่เป็นไรนะคะ" และหันมาถาม "ว่าแต่ พวกคุณน่าจะมุ่งหน้าไปยังเมืองเวตกลาส เพื่อสืบหาร่องรอยขององค์ชายดีฟชาร์ปที่คิดว่ายังอยู่ในเมืองมิใช่หรือคะ"
              "เกรงว่าตอนนี้เราต้องรีบถอนกำลังกลับมา และรับพวกเธอไปด้วย เช่นเดียวกับเฟลิคที่พาครีซและทีมของดอลฟูลนิสออกตรวจสอบฐานทัพของพวกเทรโอเซี่ยมกันด้วยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก "ตอนนี้พวกเธอทั้งสองกลับไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่าน่ะ เพราะเราจะมุ่งหน้ากลับไปที่ไอเควิสกัน" เมดิน่าและฟูลออเรสพยักหน้า แล้วเดินออกไปพร้อมกับมาสวาร์ทาร์ โดยยานไทรแองเกิ้ลมุ่งหน้ากลับเมืองพร้อมกับพวกยูเนี่ยนพีชกัน
              "หึๆๆๆๆ ยังไม่ใช่ตอนนี้...." บุรุษลึกลับที่อยู่ในเงามืดด้านบนเพดานโรงเก็บโมบิลลอยด์กล่าว

              "เป็นความจริงอย่างงั้นนะหรือ" เดฟทรอลกล่าว เมื่อทราบข่าวเรื่องลูกชายทั้งสอง
              ดีฟรอต้ากล่าว "คะ ในช่วงที่หนูโดยสารยานไฮด์เดาท์ที่มุ่งหน้าไปยังเวตกลาส เพื่อสืบหาร่องรอยของท่านพี่ดีฟชาร์ป ที่อาจจะหายตัวไปในช่วงที่เมืองถูกยึดนั้น กลายเป็นว่า กองรบวอเทลของพี่รองยังอยู่ในเมืองเหมือนเดิม เพียงแต่....." เธอส่ายหน้าพร้อมกับบอกไปว่า "....มียานรบใต้น้ำของพวกต่างดาวจากฝั่งตะวันออกจอดอยู่นอกเมืองกันหลายลำ แถมยังมียานเลียนแบบปลายักษ์ใหญ่ของพวกเราอยู่ด้วยนะคะ"
              "ที่ลูกข้าว่ามานิ เป็นความจริงอย่างงั้นนะหรือ" เดฟทรอลถามกลับ
              เฟลิคพยักหน้า "จากที่เห็นมานั้น พวกเทรโอเซี่ยมคงไม่ยอมให้เรายึดเมืองคืนได้แน่ๆ เราเลยต้องรีบถอนกำลังกลับมาตั้งหลักใหม่เสียก่อน เพราะแค่ยานลำเดียว คงไม่สามารถจัดการกับกองยานเบลซีฟรีทที่มีเยอะเป็นสิบได้แน่นอน เผลอๆอาจจะมีกับดักที่คาดไม่ถึง จากบุตรชายคนรองของท่านก็เป็นได้นะครับ"
              "แสดงว่าดีฟชาร์ปทรยศพวกเราเลยสิน่ะ แล้วดีฟเทรคล่ะ" เดฟทรอลรำพัน และถามถึงบุตรชายคนโต
              พีวิลบอก "เกรงว่า ทางเราอยากจะให้ท่านช่วยยืนยันของเหล่านี้หน่อยนะครับ" แล้วก็นำถาดเหล็กใส่เศษชุดเกราะที่กระจัดกระจาย ซึ่งนิคและพวกรวบรวมเศษชิ้นส่วนไว้ได้ "ท่านพอจะทราบมั้ย ว่าของเหล่านี้ เป็นอะไร และของใครละครับ"
              "ชุดเกราะปะการังเงิน ของดีฟเทรคนะสิ" เดฟทรอลกล่าว "ฉันได้สร้างชุดเกราะนี้ให้ดีฟเทรคใส่ หลังจากที่เขาผ่านการทดสอบเป็นผู้พิทักษ์ดวงดาว ซึ่งเขาภูมิใจกับชุดเกราะสุดแกร่งนี้อย่างมาก ถึงขั้นที่ไม่ยอมถอดออกจากตัว เพื่อชำระล้างร่างกายให้สะอาดกันนะสิ"
              ดีฟรอต้าบอก "ถ้าชุดเกราะของพี่ใหญ่อยู่กับพวกนาย แล้วพี่ใหญ่ละ"
              "ท่านหญิงกับองค์ราชาคงไม่ชอบแน่ๆนะคะ เพราะทีมของข้าพเจ้า พึ่งจะปะทะกับทหารวอเทลตัวโตๆ แต่มีท่าทางดุร้าย บ้าคลั้ง เขายังดันทุรังสูงมาก ขนาดเราเล่นงานไปหลายที ก็ยังลุกขึ้นมาได้อีกน่ะ" โดซี่บอก แล้วก็นำภาพของวอเทลตัวโตออกมาให้เดฟทรอลเห็น
              "นี้มัน....แย่มากเลย แค่เวลาปกติ ดีฟเทรคมีนิสัยตามที่เจ้าว่ามาก็แย่พออยู่แล้ว นี้ดีฟเทรคกลายมาเป็นแบบนี้ เฮ้ออออออ...." เดฟทรอลเห็นภาพแล้วก็ถอนใจยาวๆ "ดูท่าว่างานนี้คงจะยากขึ้นกว่าเดิมแล้วสิน่ะ"
              "แต่อย่างน้อย แค่เราเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือกับฝ่ายตรงข้ามได้ ก็ถือว่าเกินพอแล้วละครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เฟลิคกล่าว "ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เราได้ปลดปล่อยเมืองใต้น้ำไป 4 เมือง อู่ต่อเรือใต้สมุทรและเหนือน้ำอีก 5 แห่ง ช่วยเขตเมืองบนปลาใหญ่อีก 5 เขต และได้ทำลายฐานที่มั่นของพวกเทรโอเซี่ยมและซอร์แรคไปเผ่าละ 3 แห่ง ซึ่งก็ทำให้เรามีขุมกำลังพอในระดับหนึ่งบ้างนะครับ"
              "แต่จะดีกว่ามาก หากเราหยุดการคุกคามของดีฟเทรคและดีฟชาร์ปได้ก่อนน่ะ เพราะข้าต้องรู้ให้ได้ ว่าอะไร ที่ทำให้ลูกข้าทั้งสองกลายเป็นแบบนี้ขึ้นมาน่ะ" เดฟทรอลบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "ทางเราจะสืบเรื่องนี้ให้ หากว่าเรามีโอกาสมากพอนะครับ"

              "อิๆๆๆๆๆๆๆๆ" จู่ๆก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นในหัวของแอนเดรีย "ใคร ใครกันน่ะ" เธออุทานขึ้นมา โดยพยายามหันไปรอบๆ แต่ก็ไม่มีใครปริปากเอ่ยขึ้น
    "เธอไม่มีทางหาตัวฉันเจอหรอก เพราะฉันไม่ได้อยู่รอบๆนี้ และถึงเธอพยายามตามหา ปัญหานั้นก็มาถึงแล้วน่ะ"
              "ปัญหานะหรือ เธอรู้ใช่มั้ยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นน่ะ" แอนเดรียบอก
              เสียงนั้นกล่าว "เธอรู้สาแก่ใจดีแล้วนิ ว่าสิ่งที่เธอเห็นเมื่อคืนนั้นเป็นอะไร และตอนนี้ มันกำลังปรากฎตัวแล้วน่ะ"
              "แอนเดรีย คุณเป็นอะไรหรือเปล่า" มาสวาร์ทาร์ถาม เพราะเห็นแอนเดรียมองซ้ายมองขวาและพูดเพียงคนเดียวอยู่
              "ฉันไม่เป็นไรหรอกคะ คุณมาสวาร์ทาร์ แค่รู้สึกถึงบางอย่างที่เลวร้ายอย่างมาก ซึ่งมันอาจจะโผล่มาก็เป็นได้คะ" แอนเดรียกล่าว และเธอเงยหน้ามาเห็น บุรุษตัวสีดำที่เกาะกำแพงอยู่ เธอจึงสะดุ้งขึ้นและชี้ตรงไป "นั้น ตรงนั้นนะคะ!!!!"
              "หึๆๆๆๆๆๆ" บุรุษสีดำนั้นหัวเราะแบบนิ่งๆ แล้วพุ่งเข้ามาด้วยกงเล็บอันแหลมคม ตรงมายังหลังบัลลังก์ของเดฟทรอล "แฟ้วววว ป้ากกกก" แต่กลับถูกฟักดาบของมาสวาร์ทาร์พุ่งกระแทกจนล้มลงกับพื้น
              "แกเป็นใครกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว บุรุษลึกลับนั้นจึงจ้วงแขนลงกับพื้นจน "ครี้งงงงง" ปรากฎใบมีดสีดำขนาดยาวสี่เล่มขึ้นจากพื้นตรึงมาสวาร์ทาร์ให้อยู่กับที่ แต่ดาบมือหนึ่งรีบก้มลงได้เสียก่อน จนบุรุษลึกลับที่รีบวิ่งไป
              "หยุดเดียวนี้นะคะ" แอนเดรียรีบวิ่งไล่ตามบุรุษลึกลับนั้นโดยเร็ว
              "มาส นายไม่เป็นไรน่ะ" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า แล้วก็ "หวับบบ ฉืบๆๆๆ เพล้งงง" หมุนตัวในท่าคุกเข่าโดยฟาดฟันอย่างรวดเร็วจนใบมีดดำแตกกระจุยกัน "แอนเดรียไล่ตามไปเพียงลำพัง คงไม่ดีแน่ๆ พีวิล แจ้งใครก็ได้ให้ตามแอนเดรียหน่อย" มาสวาร์ทาร์บอก
              "สเปียริท ลิเนียร์ตี้ เธอเห็นแอนเดรียวิ่งออกมาหรือเปล่าละ" พีวิลติดต่อไปให้สเปียริทและลิเนียร์ตี้ที่นั่งรอนอกห้องท้องพระโรง
              สเปียริทหยิบมือถือมาติดต่อ "เห็นสิ พีวิล และเห็นตัวบุคคลที่ดำเมี่ยมวิ่งออกมาก่อนหน้ากันด้วยนะสิ"
              "ข้างในเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ" ลิเนียร์ตี้ถาม
              พีวิลบอก "เมื่อกี้มีผู้ไม่หวังดีบุกเข้าจู่โจมราชาเดฟทรอล แต่มาสวาร์ทาร์สกัดกั้นไว้ได้ก่อน จนทำให้มันเกือบเล่นงานมาสวาร์ทาร์เข้า แอนเดรียที่เห็นตัวการก่อนเป็นรายแรกรีบไล่ตามไป เธอกับสเปียริท รีบตามแอนเดรียไปโดยเร็วเลย เดียวฉันจะแจ้งให้พวกเจเนลและเนคมาดูซัมให้ตามไปสมทบอีกทีน่ะ"
              "เข้าใจแล้วละ พีวิล แล้วพวกนายรีบตามมาเร็วๆด้วยละ" สเปียริทบอก แล้วก็รีบพาลิเนียร์ตี้ วิ่งตามแอนเดรีย ซึ่งวิ่งออกนอกพระราชวัง ตามติดบุรุษลึกลับที่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยในเขตชุมชนกัน จนกระทั่ง แอนเดรียมาถึงโกดังเก็บสินค้าในเขตกำแพงอันมืดมิด
              "ทำไมแอนเดรียถึงไล่ตามมือสังหารกันได้ ทั้งๆที่เธอไม่เคยเห็นตัวมันมาก่อนน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก

              "ฉันเองก็สงสัยเหมือนกับเธอนี้แหละ ลิเนียร์ตี้ เพราะในกลุ่มพวกเรา แอนเดรียตอบสนองกับอันตรายได้ช้าที่สุดเลยน่ะ" สเปียริทบอก แล้วค่อยๆย่องเข้าไปใกล้กับประตู โดยแง้มมองดูภายในโกดัง ซึ่งแอนเดรียยืนอยู่เพียงลำพังกัน
              "ออกมาเดียวนี้เถอะคะ ต่อให้คุณหนีไปได้ คุณก็ไม่มีทางออกจากเมืองที่อยู่ใต้น้ำลึกกันได้หรอกคะ" แอนเดรียตะโกนบอก
              "หึๆๆๆๆๆ ไม่คิดเลยน่ะ ว่าเธอจะมาขวางทางฉันเป็นหนที่สองกันแล้วน่ะ" บุรุษสีดำกล่าวโดยก้าวออกมาจากเงามืด
              แอนเดรียบอก "หนที่สองนะหรือ เออ นี้คุณพูดเหมือนกับว่าฉันทำกับคุณมาก่อนเลยนิคะ"
              "เธอแกล้งโง่หรือลืมไปแล้วสิน่ะ ว่าเธอได้ทำให้ฉันมีสภาพเป็นเช่นนี้น่ะ" บุรุษสีดำบอก พร้อมกับ "ตึก" กระทืบพื้นด้วยเท้าซ้าย "ครี้งงงง" มีดยาวสีดำพุ่งขึ้นมาตรงหน้าแอนเดรียอย่างจังๆ ซึ่งเธอใช้หลังมือซ้ายป้องไว้จนปลายมีดทิ้มเกราะหลังมือ แต่ไม่ทะลุถึงมือ "แสดงว่าเหตุการณ์ในตอนนั้น ได้ทำให้เธอแกร่งขึ้นกว่าเดิมสิน่ะ"
              แอนเดรียบอก "ตอนนั้นนะหรือ นี้คุณเป็นใครกันแน่ละคะ ถึงได้คิดปองร้ายราชาเดฟทรอลน่ะ"
              "ฉันไม่ได้หมายหัวไอ้ปลาจวดตัวโตนั้น ฉันเล็งเธอไว้ต่างหากละ" บุรุษสีดำตะคอกพร้อมกับ "หวับบบ ฟิ้วๆๆๆๆๆ" สบัดแขนซัดมีดสั้นสีดำ 6 เล่มพุ่งเข้ามา "แว้งงงงง ปั้กๆๆๆๆๆ" แอนเดรียรีบใช้โปรเทคชั่นสเฟียร์ป้องกันมีดสั้นไว้โดยเร็ว แม้มีดจะปักทะลุบาเรียทรงกลมเข้าไปไม่มากก็ตาม "ย้า" เธอจึงปล่อยบาเรียพุ่งกลับไป "เฮ้ยยยย" บุรุษสีดำหวดแขนขวาที่เป็นดาบผ่าบาเรียขาด พร้อมกับ "ฟึ่บบบบ หมับบบบ" ชี้นิ้วลงพื้น เพื่อให้เงาตรึงขาทั้งสองข้างของแอนเดรียไว้ "เตรียมชดใช้ในสิ่งที่เธอทำกับฉันไว้ซะ" บุรุษสีดำกล่าวพร้อมกับบุกเข้ามาด้วยแขนดาบหมายจะแทงใส่แอนเดรีย "โท้วววว โท้ววววว" สเปียริทและลิเนียร์ตี้กระโดดเข้ามา "ฟอสโบลท์ ไฟว์บลัสต์ช็อต" ลิเนียร์ตี้ซัดลูกบอลพลังห้าสี อันมีสีชมพู ส้ม เหลือง เขียวและฟ้าพุ่งลงมา "ตรูมๆๆๆๆ" เป่าระเบิดใส่บุรุษสีดำที่สบัดผ้าคลุมดำป้องกันเอาไว้ "แฟลชแอโรว์" สเปียริทยิงธนูแสงสามดอกพุ่งลงมา "ปั้กๆๆ" บุรุษสีดำรีบพุ่งหลบธนูแสงที่พุ่งปักพื้น แต่ "แว้งงงง ครี้งงงงง" วงเวทย์ที่พื้นซึ่งอยู่ด้านหลังนั้นปรากฎขึ้นเพื่อดักทางบุรุษสีดำด้วยเทาซันอาร์มแทรปไว้อย่างทันควัน
              "สเปียริท ลิเนียร์ตี้ นี้พวกเธอตามฉันมาหรือ" แอนเดรียบอก ลิเนียร์ตี้พยักหน้า
              สเปียริทกล่าว "เธอไม่สามารถต่อกรกับศัตรูที่ใช้เงาเป็นอาวุธได้หรอก โดยเฉพาะตัวที่เลียนแบบเมทัลเบลดของเจเนล และท่าไม้ตายจู่โจมบนพื้นของฉันเลยน่ะ"
              "แกสองตัวเข้ามาขวางฉันไว้สิน่ะ แต่....พวกเธอไม่มีทางทำอะไรฉันได้หรอก" บุรุษสีดำบอก พร้อมกับ "หวับบบ ฟ้าวววว" จ้วงแขนในท่ากำหมัด ซึ่งซัดหมัดสีดำขนาดใหญ่เข้ามา "หวับบบ กร้องงง หวับๆๆๆ โครมมม" สเปียริทเลยหวดด้วยคริสทรัลร็อดเฮฟวี่ดัมเบลฟอร์มปัดหมัดบินสีดำกลับไปอัดกับกล่องสินค้าจนพัง "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" บุรุษสีดำปล่อยจรวดออกมาจากต้นแขนและต้นขาออกมายังแอนเดรีย "ลิเนียร์ตี้สลัคเกอร์" ลิเนียร์ตี้ซัดกงจักรสามมีดเข้า "ฉืบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ตัดจรวดสีดำจนขาดสะบั้นและสลายตัวไปกันหมด
              "นั้นไม่ดีแล้ว มันเลียนแบบหมัดของจายด์และไมโครมิไซล์ของไซโคลเนียกันได้น่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              "ฉันทำได้มากกว่าที่พวกแกคิดไว้อีกน่ะ" บุรุษสีดำกล่าวพร้อมกับ "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แยกร่างออกเป็นสิบกว่าร่างพร้อมกับ "แฟ้ววววว" ร่างแรกพุ่งกระโจนแทงเข่าใส่สเปียริท ซึ่งรีบใช้พลองบล็อกต้านไว้ "ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าวววว" ตัวที่สองกระโดดเหยียดหมัดชก ตัวที่สามจ้วงนิ้วชี้ กลางและนางเข้าใส่ ตัวที่สี่มากับง้าว "ดีสคัสเซอคูล่าแดนซ์ กังหันลมพิฆาต" สเปียริทเลยควงพลองหมุนด้วยความเร็วสูง "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ" บดขยี้ร่างเงาทั้งสามจนสลายไป แต่.... "ฟ้าววว ฟ้าววว" ร่างเงาตัวที่ 5 และ 6 โผล่มาข้างหลัง และโดดถีบเข้าใส่สเปียริท "ไฮย้า" ซึ่งเธอเลือกกระโจนและหวดพลองที่หมุนตัดร่างเงาทั้งสองขาด "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าววว" ร่างเงาทั้งสี่บุกเข้าจู่โจมใส่ลิเนียร์ตี้ด้วยขวานสอง และแขนดาบอีกสอง จนเธอตีลังกาหลบหลีกการโจมตีต่อเนื่อง พร้อมกับ "คิวตี้เซเบอร์" ชักกระบี่โก่งหัวใจเข้า "ฉั้วะๆๆ ฉับ" ฟาดฟันใส่ร่างเงาทั้งสี่จนหายไป
              "แม้กระทั่งเลียนแบบท่าของกองกำลังหลังฉากก็ด้วยหรือ ตกลงแกเป็นใครกันแน่ละยะ" สเปียริทบอก
              "หึ" บุรุษสีดำชูนิ้วขึ้น "แฟ้วๆๆๆๆๆๆๆ ครี้งๆๆๆๆๆๆ หมับ หมับ" โซ่หลายเส้นพุ่งออกมาจากเงาของลิเนียร์ตี้และสเปียริท เข้ามัดแขนและขาของทั้งคู่ไว้ "แย่ละสิ รู้สึกเหมือนตัวหนักขึ้นกว่าเดิมน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              สเปียริทกล่าว "ฉันขยับแขนขาไม่ได้ไม่ว่า โซ่นั้นเหมือนจะมัดเราทั้งตัวเลยน่ะ"
              "แย่ละสิ" แอนเดรียกล่าวและพยายามจะขยับขาขึ้นมา บุรุษชุดดำเลย "ครืดดดดด" เปลี่ยนแขนซ้ายให้เป็นแขนแบบเนคมาดูซัม พร้อมกับ "ครืดดดดดด" ทำให้ลิเนียร์ตี้และสเปียริทเลื่อนมาใกล้ๆ "เตรียมตัวตายได้เลย ว้ากกกก" บุรุษสีดำกล่าวและพุ่งเข้าหมายจะชกด้วยหมัด หมัดมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ลิเนียร์ตี้กับสเปียริททำอะไรไม่ได้เลย
              "เปรี้ยงงงงงง" เสียงหมัดปะทะเข้าใส่อย่างจังๆ เพียงแต่ "แอนเดรีย" สเปียริทและลิเนียร์ตี้ตะโกนลั่น เมื่อแอนเดรียกระโจนเข้ามาเอาตัวเข้ารับกับหมัดไว้             "เสร็จละ" บุรุษสีดำแสยะยิ้มและ "กึกๆๆๆๆๆ ครืดดดดด" เปลี่ยนแขนขวาให้เป็นหมัดแบบจายด์ โดยที่ลิเนียร์ตี้กับสเปียริทถูกดึงให้ออกด้านข้างพร้อมกับ "หวับบบ เปรี้ยงงงงง" ชกใส่แอนเดรียที่ไขว้แขนป้องกันด้วยโหมดเซฟการ์ดจนแตกกระจุย "อ้า....." และเป่าเธอกลิ้งกระเด็นกระดอนลงพื้น "อือ...." พร้อมกับหมดสติลง "นึกแล้วเชียวว่าเธอคงไม่ยอมให้เพื่อนๆของเธอตายสิน่ะ ถึงได้เข้ามาป้องกันไว้ ซึ่งทุกอย่าง อยู่ในแผนการของฉันไว้แล้ว" บุรุษสีดำกล่าวอย่างลำพองใจ พร้อมกับเดินมาตรงหน้าแอนเดรีย โดยที่ "ตรึงงง ตรึงงง" ใช้พลังควบคุมโซ่ตรึงร่างลิเนียร์ตี้และสเปียริทให้นอนราบกับพื้น ปล่อยให้บุรุษชุดดำดึงดาบโค้งยาวออกจากฝ่ามือขวา
              "แก.....ถ้าแกทำอะไรแอนเดรียละก็ ฉันจะจัดการกับนายก่อนเลยน่ะ" สเปียริทโวยลั่นขึ้นมา
              "ต่อให้เธอกับพวกเพื่อนๆแกร่งแค่ไหน ก็หาได้มาขัดขวางฉันแก้แค้นในสิ่งที่ยัยนี้ ทำกับฉันไว้ได้หรอก" บุรุษสีดำกล่าว ก่อนเอาเท้าเขี่ยหัวแอนเดรียเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้สติขึ้นมา "ก่อนที่ฉันจะไปฆ่าไอ้คามาลตัส ฉันจะเชือดยัยผมยาวนี้ก่อนแล้วกัน"
              ลิเนียร์ตี้บอก "ไม่ได้น่ะ แอนเดรีย รีบตื่นขึ้นมาเร็วๆเข้าสิ"

              "เธอไม่ได้ยินหรอก และเธอจะไม่ตื่นอีกยาวเลยละ" บุรุษสีดำบอกพร้อมกับเงื้อดาบยาวขึ้นแล้วจ้วงลงไป "หมับบบบ" แต่อยู่ๆ แอนเดรียก็ใช้มือซ้ายกำข้อเท้าของบุรุษสีดำนั้นไว้
              "น่ารำคาญจริงๆ เสียงเจือยแจ้วของเธอทำให้ฉันควรจะตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ดี กลับต้องมาหงุดหงิดมากกว่าเดิม" แอนเดรียกล่าว แต่น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไป และเงยหน้าพร้อมกับเผยดวงตาสีเหลืองส้ม แววตาสีดำที่กลมเปลี่ยนเป็นทรงยาวรีเหมือนสัตว์ร้าย "และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น เมื่อฉันได้กลิ่นเหม็นจากตัวแกอย่างมากเช่นนี้ มันน่าโมโหจริงๆ"
              "แก ทำไมแกถึง....กะ อ้ากกกกกก" บุรุษสีดำกล่าวและร้องลั่นขึ้นเมื่อแอนเดรียบีบข้อเท้าซ้ายจน "กร็อบบบบบบ" หักอย่างจังๆ แต่ก็เตรียมมีดมาแทงใส่หัว "ครี้งงงง เคร้งงงง" ทว่ามีดกลับปลิวกระเด็น เพราะแอนเดรีย งอกเขายาวแบนสองเขาบนหัวออกมา "แก แกเป็น ตัวอะไรกันเนี้ย" บุรุษสีดำเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว จนทำให้โซ่ที่ตรึงลิเนียร์ตี้และสเปียริทไว้ "ฟู่ววววว" สลายหายไปในทันที
              แอนเดรียลุกขึ้นพร้อมกับบอกว่า "แปลกใจละสิ ที่แกได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของฉัน แม้ว่านั้นจะเป็นแบบเดียวกับแก เลยก็ตามน่ะ" แล้วก็ "กึกๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงๆๆๆ" เกราะแขนข้างซ้ายตั้งแต่หัวไหล่ ต้นแขน ปลอกแขนและหลังมือแตกออก จนเผยหัวไหล่แหลมและท่อนแขนทรงแปดเหลี่ยม กับนิ้วมือที่แหลมคมด้วยอุ้งเล็บสีแสดทั้งห้านิ้ว ตามด้วย "เปรี้ยงๆๆๆ" แขนขวาเปลี่ยนตามไปด้วย "กึกๆๆๆๆๆๆ แคว้กกกก ครี้งๆๆๆๆๆๆๆ ตรึง" ถุงน่องที่ขาฉีกขาดเพราะท่อนขาสองข้างมีปล้องเหล็กปรากฎขึ้นมา โดยที่ยังเหลือกางเกงในสีดำ ส่วนเท้าเปลี่ยนเป็นเท้าทรงอิฐบล็อกทั้งสองข้างที่กระทืบพื้นจนพื้นร้าว "กึกๆๆๆๆ แคว้กกกก" ชุดท่อนบนฉีกขาดพร้อมกับเกราะสีขาวที่มีผลึกสีส้มทรงกลมติดอยู่ตรงกลาง กลางหลังงอกเงายาวสองข้างออกมา "ครี้งๆๆๆๆๆๆๆ แกร็กๆๆๆๆ ครี้งงงง" ปอยผมของแอนเดรียหุ้มปลอกเหล็กสีส้มจากปลายมาถึงหัว ซึ่งหุ้มผมด้วยเปลือกหมวกสีขาว อันมีดวงตาที่สามเปิดขึ้นมา ส่วนใบหน้าของแอนเดรียซีดลงจนขาวสนิท พร้อมกับดวงตาสีแดงก่าทั้งสองข้างด้วยกัน
              "แอนเดรีย กลายร่างแล้วหรือเนี้ย" สเปียริทบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "แต่ เธอกลายร่างกันตั้งแต่ตอนไหนละเนี้ย"
              "หึๆๆๆๆๆ ในที่สุด ฉันก็ได้ออกมากันเสียทีแล้วละ" แอนเดรียกล่าวขึ้น
              บุรุษสีดำเห็นก็กล่าวไปว่า "ที่แท้แกก็เป็นเหมือนกับฉันเองสิน่ะ งั้นก็ ตายเสีย...." แต่ยังไม่ทันทำอะไร แอนเดรียในร่างอสูรก็ "เปรี้ยงงงง" ถีบเข้าที่ท้องไปเต็มๆ จนบุรุษชุดดำชะงัก ตามด้วย "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฉึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" การระดมจ้วงแทงด้วยอุ้งเล็บทั้งสิบใส่บุรุษสีดำอย่างต่อเนื่องไป "หึๆๆๆๆ ฮะๆๆๆๆๆๆ โฮ่ๆๆๆๆๆๆๆๆ" พร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้น จนบุรุษสีดำนั้นมีรูพรุนยับไปทั้งตัว แล้วก็ "หวับบบ เปรี้ยงงง" สบัดปอยผมยาวด้านหลังฟาดบุรุษสีดำปลิวไป "โครมมมม" อัดกับตู้คอนเทนเนอร์เปล่าจนพังและเป่าฝุ่นให้คลุ้งไป
              "หึ หนีไปจนได้สิน่ะ รู้งี้น่าจะหักคอตามไปด้วยน่ะ" แอนเดรียร่างอสูรกล่าวเมื่อไม่เห็นตัวบุรุษสีดำแล้ว
              "แอนเดรีย นี้เธอไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" สเปียริทกล่าวโดยที่เธอลุกขึ้นมาพร้อมกับลิเนียร์ตี้
              แอนเดรียเลยหันมากล่าวแบบไม่สบอารมณ์ "เธอสองตนนิ ทำให้ฉันที่อยู่ด้านหลังยัยนี้ รำคาญใจอย่างมากมายเช่นนี้แล้ว" แล้วก็สบัดมือทั้งสองข้างมา "ในเมื่อฉันฆ่าไอ้เวรนั้นไม่ได้แล้ว ฉันขอเชือดพวกเธอทิ้งแล้วกัน"
              "ว่าไงน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก แต่ "แฟ้ววววว หมับๆ" แอนเดรียในร่างอสูรพุ่งมาใช้มือตะบบหัวลิเนียร์ตี้และสเปียริทอย่างฉับพลัน "จะๆๆๆ เจ็บ แอนเดรีย นิเธอทำอะไรกันน่ะ" ลิเนียร์ตี้ถามโดยที่อุ้งเล็บจิ้มหัวของเธออยู่
              แอนเดรียบอก "น้ำเสียงเจื้อยแจ้วและบาดหูนั้น ทำให้ฉันรำคาญหูมานานเกินไปแล้ว ฉันจำต้องทำให้เธอเงียบนี้แหละ"
              "เธอไม่ใช่แอนเดรียนิ แอนเดรียไม่มีทางทำแบบนั้นกับพวกเราได้หรอก" สเปียริทกล่าวโดยที่เธอโดนแรงกำจากมือขวาของแอนเดรียเข้า
              แอนเดรียบอก "ฉันนี้แหละ คือแอนเดรียตัวจริงยังไงละ และฉันก็เกลียดเธอมาก ที่คิดว่าเธอแข็งแกร่งกว่าใครมากละสิน่ะ" แล้วก็ "กึกๆๆๆๆ" กำหัวสเปียริทอย่างแรง "บอกตามตรงน่ะ ว่าต่อให้เธอเปลือกหนา ฉันก็บีบให้หัวเธอแหลกได้เช่นกันน่ะ"
              "แสดงว่าเธอคงเป็น... อี้กก เจ็บๆๆๆๆ" ลิเนียร์ตี้กล่าว แต่ยังกล่าวไม่จบ เพราะแอนเดรียจิกหัวเธออยู่ "ดูท่าว่า เราคงไม่มีทางเลือกแล้วน่ะ"
              สเปียริทบอก "เสี่ยงเป็นเสี่ยง ตายเป็นตายแล้วกัน ฮา....." แล้วก็เบ่งพลังในตัวออกมา เช่นเดียวกับลิเนียร์ตี้ "ฮา......." เปล่งพลังไปด้วย โดยไม่กลัวแอนเดรียจะจิกหัวเธอเข้าไป เช่นเดียวกับบีบหัวสเปียริทหนักไป ซึ่งทั้งคู่ระเบิดพลังอันรุนแรงก่อเกิดเป็นออร่าขึ้นมา
              "อะ อะไรกันเนี้ย...." แอนเดรียร่างอสูรอุทาน เพราะเธอเห็นร่างเทพธิดาทับซ้อนร่างลิเนียร์ตี้ ส่วนของสเปียริทนั้น ออร่าก่อตัวเป็นร่างเทพีขนาดยักษ์ใหญ่ ซึ่งงอกแขนทั้งสิบออกมา จนทำให้แอนเดรียร่างอสูร "หวับบ หวับบบ โครมมม" เขวี้ยงทั้งคู่ลงกับพื้นและถอยออกไป
              "แฮกๆๆๆๆๆๆๆๆ ลิเนียร์ตี้ ไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" สเปียริทหอบเหนือยขึ้นมา แม้จะรู้สึกปวดตรงรอบหัวก็ตาม
              "ไม่รู้ว่าเล็บของแอนเดรียทิ้มถึงสมองกลแค่ไหนเลยนะสิ แล้วของเธอละ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              สเปียริทบอก "แอนเดรียทำให้ฉันมึนหัวมาก จากการถูกบีบรัดด้วยอุ้งมือที่แรงผิดปกติกันเช่นนี้น่ะ"

              "ในเมื่อเธอทั้งสองทรงพลังมากเช่นนี้ งั้นก็ตายก่อนที่เธอจะทำอะไรไปมากกว่านี้เลยแล้ว...." แอนเดรียร่างอสูรกล่าว และเตรียมบุก
              "โคเมทคิก" โฟรซ่าพุ่งเข้ามาโดดถีบใส่แอนเดรีย ที่รีบไขว้แขนบล็อกเอาไว้จนถอยผงะลง "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆ" ตามด้วยไซโคบิทบินว่อนเข้ามายิงลำแสงใส่ แอนเดรียร่างอสูรเลยเอี้ยวตัวหลบอย่างรวดเร็ว
               "สเปียริท ลิเนียร์ตี้ ไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" พีวิลบอก โดยตอนนี้ตนกับพวกรีบตามมาสมทบกัน เว้นแต่มาสวาร์ทาร์ที่ไม่มาด้วย
              "ฉันกับลิเนียร์ตี้แค่เจ็บเล็กน้อยน่ะ" สเปียริทบอก
              เจเนลกล่าว "นี้คงเป็นตัวมือสังหารที่แอนเดรียเห็นเลยสิน่ะ" แล้วก็เห็นบางอย่างจากตัวประหลาดขึ้นมา "เอ้ มือสังหารตัวนั้น มันคุ้นๆอยู่น่ะ"
              "คุ้นสิ เจเนล นั้นนะ คือแอนเดรียละ" ลิเนียร์ตี้กล่าว ทั้งหมดตกใจขึ้นมา
              คลอเวฟกล่าวอย่างไม่เชื่อ "ตลกน่า ไอ้ตัวประหลาดนั้นนะหรือ คือแอนเดรียกันน่ะ"
              ไม่ทันไร แอนเดรียร่างอสูรพุ่งเข้าใส่คลอเวฟ "ไวเปอร์เชน" พลัสเชอริทยิงมีดติดโซ่จากบ่าพุ่งเข้า "หมับๆ" มัดตรงข้อมือของแอนเดรียร่างอสูรพร้อมกับ "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" ช็อตไฟฟ้าใส่ แต่แอนเดรียร่างอสูรไม่สะทกสะท้านและ "กึกๆๆๆๆๆๆ" ใช้มือทั้งสองดึงโซ่ทั้งสองเส้นอย่างแรง "เชน ดีแทชเอาท์" พลัสเชอริทจำต้องปลดโซ่ทั้งสองเส้นทิ้งโดยเร็ว แต่แอนเดรียร่างอสูรพุ่งตรงมาในท่าถีบ "กร้องงงงงงงงง" สเตฟอร์ดวิ่งเข้ามาป้องกันด้วยเกราะหัวไหล่ซ้ายอย่างทันควัน
    "หึๆๆๆๆๆ" แอนเดรียร่างอสูรหัวเราะพร้อมกับ "กึกๆๆ" ใช้เท้าซ้ายกดจนเกราะหัวไหล่บุบอย่างรวดเร็ว "ย้ากกก ว้ากกกก" เจเนลและฟิเกซพุ่งโดดถีบใส่ "ป้ากกก ป้ากกก" แอนเดรียร่างอสูรรีบบล็อกด้วยหลังแขนทั้งสองข้างอย่างทันควัน แต่ "หมับ หวับบบ โครมมมม" เธอตะบบขาและจับกระแทกใส่พร้อมกับทุ่มทั้งคู่พุ่งเข้า "ป้ากกก โครมมมม" อัดใส่จายด์อย่างจังๆ "ย้าๆๆๆๆๆๆ" โฟรซ่าบุกเข้าจู่โจมด้วยเรซเซอร์อาร์มใส่แอนเดรีย "ว้าก ย้าก เฮ้ย" พร้อมกับแอบไบออสหวดคลอว์ทาลอนข่วนใส่ตาม จนแอนเดรียเอี้ยวหลบอย่างรวดเร็ว และลอยถอยหลังไป พร้อมกับ "ครี้งงงง ครี้งงงง" งอกใบมีดยาวสีส้มจากหลังแขนออกมา "เจอกิลตี้แฟงค์หนอยเป็นไง" แอนเดรียบุกเข้า "แคร้งงงง แคว้กกกก" ปะทะใส่โฟรซ่าจนเกราะหน้าอกมีรอยกรีดยาวสองรอย แม้เธอจะรีบโดดถอยหลังไปแล้วก็ตาม "แฟ้วววว ฉับ ฉับ" ตามด้วยสับข้อเท้าขวาและแขนขวาของแอบไบออสขาด จากกัน "ทุเรียนเหล็กสักหน่อยมั้ยละ" คลอเวฟซัดลูกตุ้มเข้าใส่ "ป้ากกก" แอนเดรียร่างอสูรถีบใส่ทุเรียนเหล็กจนพุ่งย้อนศรใส่คลอเวฟ "กร้องงงง" ซึ่งรีบเอาเกราะหัวไหล่กลมมาป้องกันเอาไว้ จนแอนเดรียพุ่งเข้ามาเอาหัวยื่นส่วนเขายาวทั้งสองไปข้างหน้าเพื่อแทงใส่คลอเวฟ "หมับบบบ" ซึ่งรีบใช้สองมือกดเขายาวแบนคู่ หวังให้แอนเดรียร่างอสูรคว่ำลงกับพื้น "เสียใจด้วยละ" เธอกล่าวแล้วก็ "ย้า" สบัดหัวขึ้นขวิดคลอเวฟ "โว้วววว" ปลิวขึ้นไป "โครมมมม" อัดทะลุเพดานไปเต็มๆ แล้วก็ "เดสแพร์ฮอร์น" สบัดหัวเพื่อปล่อยพลังไฟฟ้าจากส่วนเขาโค้งสองข้างสาดใส่ลิเนียร์ตี้และสเปียริท "เอนเนอจี้การ์ด" พีวิลพุ่งเข้ามาสร้างกำแพงพลังงานปกป้องสเปียริทไว้ เช่นเดียวกับ "โบลท์รีเฟรคเตอร์" เนคมาดูซัมเข้ามาใช้โลห์พลังป้องกับไฟฟ้าช่วยลิเนียร์ตี้อย่างทันควัน "ฮึยยย ว้ากกก" พีวิลและเนคมาดูซัมกู่ร้องพร้อมกับ "เปรี้ยงงง" พีวิลเป่ากำแพงพลังระเบิดพลังไฟฟ้าให้สลายไป "แว้งงง แฟ้ววว ตรูมมม" เนคมาดูซัมสะท้อนพลังไฟฟ้ากลับคืนใส่แอนเดรียร่างอสูร "เปร้งงงง" ซึ่งเธอสร้างบาเรียป้องกันไว้ "ฟ้าวววว ตรูมๆๆๆ" แม้ไซโคลเนียยิงมิเดี้ยมมิไซล์เข้าใส่ ก็ไม่ทำให้แอนเดรียร่างอสูรสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "เหวอออ" คลอเวฟร่วงลงพื้นอย่างจัง
              "ไม่นึกเลย ว่าแอนเดรียจะมีพลังเยอะเพียงนี้น่ะ" พีวิลบอกโดยที่หอบเหนื่อยไปด้วย
              คลอเวฟกล่าว "แน่ละ ถ้าเธอไม่มีพลังเยอะขนาดนี้ เธอคงขวิดฉันปลิวขึ้นจนหัวปักทะลุหลังคาไม่ได้กันหรอก" และสบถขึ้นมา "มาสวาร์ทาร์หายหัวไปไหนกันวะ"

              "หึๆๆๆๆๆ ตกใจละสิน่ะ พวกแกทั้งหลาย ที่พึ่งจะได้เห็นถึงความร้ายกาจของฉันผู้นี้แล้ว แม้ว่าพวกแกจะมีพลังและความแข็งแกร่งที่ฉันยังไม่รู้อีกเยอะเลยก็ตาม" แอนเดรียบอก แล้วก็ไขว้แขนสร้างคมดาบพลังสีส้มขึ้นมา "ดังนั้น ฉันจะเชือดแกก่อนที่ดาบมือหนึ่งตัวยุ่งจะมา...."
    ไม่ทันไร เธอก็ "หวับบบ แคร้งงงง" สบัดปอยผมรับกับคมดาบของมาสวาร์ทาร์ที่พุ่งกระโจนเข้าฟันผ่าลงมา "ไม่คิดเลยว่าเธอจะร้ายกาจมากขึ้น ทั้งๆที่เธอถูกปิดตายไปแล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              "แย่หน่อยนะ ที่ฉันเห็นผ่านสายตาของตัวตนที่อ่อนแอของฉันไว้ เลยทำให้ฉันรับมือกับแก แล้วก็ทุกๆคนได้น่ะ หึๆๆๆๆๆๆ" แอนเดรียร่างอสูรกล่าวอย่างมั่นใจ และ "เปรี้ยงงง" ใช้ปอยผมปัดมาสวาร์ทาร์พุ่งอัดกับคอนเทนเนอร์ไปเต็มๆ "ดาบของแกทำให้ฉันรู้สึกเจ็บกันเช่นนี้ ก่อนที่แกจะจัดการกับฉัน ฉันจะจัดการกับแกก่อน" แอนเดรียบอกพร้อมกับนำกิลตี้แฟงค์ออกมา
              มาสวาร์ทาร์บอก "เกรงว่า ฉันไม่ให้แกได้ทำเช่นนั้นหรอก" แล้วก็ "ทิ้วๆๆๆๆ" ใช้โชลเดอร์บีมกันยิงใส่แอนเดรียร่างอสูร แต่ "ฟึ่บๆๆๆๆ ปิ้วๆๆๆๆ" เธอใช้กิลตี้แฟงค์ปัดกระสุนออกไปกันหมด และเตรียมจะจ้วงแทงใส่
              "อี้กกกก" แต่เธอสะดุ้งร้องขึ้น เพราะเจเนลใช้เมทัลเบลดทิ้มปอยผมใส่ "ลูกพี่ ทุ่มอาเจ้มาเลย" เจเนลตะโกน
              "โอ้ว" สเตฟอร์ดตะโกนพร้อมกับจับโฟรซ่าทุ่มเข้าใส่ โดยที่เจเนลก้าวถอยหลังและดึงปอยผมที่ปักเมทัลเบลดเอาไว้ "เรซเซอร์อาร์ม ครอสแทคเกิ้ล" โฟรซ่าจ้วงฝ่ามือที่ไขว้เป็นกากบาท "เปรี้ยงงงง ฉืบบบบบ" ปะทะใส่ต้นปอยผมยาวจนขาดออกจากหัวของแอนเดรียร่างอสูร "ฟู่ววววววว" ทันทีที่ปอยผมหลุดออกมา มันก็สลายเป็นฝุ่นไป "บะ บ้าที่สุด แอ้................" ส่วนแอนเดรียร่างอสูรกู่ร้องขึ้นพร้อมกับ "พรึบบบบบ" เพลิงสีส้มลุกท่วมร่างของเธอกลับคืนเป็นแอนเดรียตามเดิม แม้เธออยู่ในสภาพเกือบเปลือยเหลือแต่กางเกงในไว้ก็ตาม
              "แอนเดรียเป็นไงบ้างละ โฟรซ่า" มาสวาร์ทาร์กล่าวโดยที่พยายามประคองตนเองให้ลุกขึ้น โดยที่โฟรซ่าเดินเข้ามาจับตัวแอนเดรีย พร้อมกับใช้นิ้วจ่อตรงจมูกไว้
              "เธอแค่หมดสติไปเท่านั้นเองแหละ มาสวาร์ทาร์" โฟรซ่าบอก
              เนคมาดูซัมเดินมา "มาส ดูท่าว่า นายต้องอธิบายเรื่องนี้ให้เราทราบกันแล้วละ"
              "ฉันคงไม่มีอะไรปิดบังกันแล้วละ กับเรื่องของแอนเดรียน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า แล้วก็สั่ง "จิล พาแอนเดรียไปห้องหมอ แล้วแจ้งหมอเดเมี่ยนให้รักษาพวกเรา โดยให้เช็คหัวลิเนียร์ตี้และสเปียริทก่อนเลยน่ะ" จิลพยักหน้า แล้วก็ตรงมายังแอนเดรีย พร้อมกับ "แว้งงงง" เทเลพอร์ตตัวเธอกับแอนเดรียหายไป

              หลังจากนั้น ที่ห้องพยาบาลในยานไทรแองเกิ้ล
              "ฉันเช็คหัวของสเปียริทและลิเนียร์ตี้กันแล้ว แม้ว่าเล็บของแอนเดรียจะจิกหัวลิเนียร์ตี้ และบีบหัวสเปียริทแบบแรงมาก แต่ก็ไม่ทะลุถึงสมองกลของลิเนียร์ตี้ และไม่แรงพอจนทำให้กระโหลกเหล็กของสเปียริทแหลกได้ในทันทีหรอกน่ะ" เดเมี่ยนกล่าวโดยเช็คภาพเอ็กซ์เรย์หัวของลิเนียร์ตี้และสเปียริท ซึ่งทั้งสองคาดผ้าพันแผลเอาไว้ "แม้ว่าทั้งสองรอดมาได้เพราะใช้พลังที่เหนือกว่าทำให้อีกฝ่ายปล่อยมือได้ แต่ยังต้องพักรักษาตัวสักระยะหนึ่งอยู่ดีนี้แหละ"
              คลอเวฟบอก "นี้ตกลงกระโหลกของยัยบื้อ แข็งพอๆกันกับเปลือกผิวของเธอเลยหรือวะ"
              "อย่างน้อย หัวนายคงไม่บุบหลังพุ่งกระแทกกับเพดานกันหรอกน่า" สเปียริทบอก
              เจเนลกล่าว "บอกตามตรงน่ะ แอนเดรียเล่นงานฉันกับฟิเกซเหมือนกับไอ้แลมแซนไม่มีผิดเลยน่ะ" โดยที่ตนกับฟิเกซมีผ้าพันแผลตามตัวอยู่
              "เธอเล่นงานเราทั้งคู่ไม่ว่า จายด์เองก็อ่วมพอกันเลยน่ะ" ฟิเกซบอก โดยตอนนี้จายด์มีผ้าพันแผลตรงท้องและหน้าอกด้วย สเตฟอร์ดต้องเอาเกราะหัวไหล่อันใหม่มาใส่แทน เช่นเดียวกับแอบไบออสที่งอกแขนและข้อเท้ากลับมาใหม่
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าแอนเดรียในสภาพนั้น อันตรายกว่าที่คิดไว้เลยน่ะ" แอบไบออสบอก
              "แต่อย่างน้อย ถ้าไม่เพราะเจเนลและรุ่นพี่โฟรซ่ามาช่วยไว้ แอนเดรียคงจะอาละวาดไปมากกว่านี้แน่ๆ" พีวิลบอก เจเนลพยักหน้า โดยตอนนี้แอนเดรียหลับอยู่บนเตียง
              เนคมาดูซัมบอก "เอาละ มาส ถึงเวลาที่นายจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับแอนเดรียกันได้แล้วละ"
              "เออ ถ้าเช่นนั้น หมอขอตัวก่อนละ" เดเมี่ยนบอกปัด
              เนคมาดูซัมกระแอ่ม "หมอเดเมี่ยน หมอควรจะอยู่อธิบายเรื่องนี้กับมาสวาร์ทาร์กันด้วยน่ะ"
              "ถ้าจะคุยกันละก็ ต้องไม่ใช่ที่นี้น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "แอมเบอร์ เช็คดูแอนเดรียให้หน่อยน่ะ" จากนั้น ทั้งหมดเลยมาอยู่ในห้องประชุมของเมนซิกส์ทีนกัน "มาส จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแอนเดรียนั้น มันตรงกับสิ่งที่ฉันสงสัยกันมานานแล้วน่ะ"
              "สงสัยมานานหรือ นายสงสัยอะไรในตัวมาสวาร์ทาร์กันละ เนคมาดูซัม" พีวิลถาม
              เนคมาดูซัมบอก "ก่อนอื่นเลยน่ะ ตามปกติแล้ว เวลาหมอเดเมี่ยนเช็คสุขภาพของพวกเรานั้น หมอจะเรียกพวกเรามาคุยเป็นรายตัวกันใช่มั้ย แต่ในกรณีของแอนเดรีย มาสวาร์ทาร์จะเข้าไปคุยก่อน แล้วให้เธอเข้าไปคุยทีหลังกัน ซึ่งเป็นอย่างงั้นมาตลอด 3 ปีแล้วน่ะ"
              "มันก็เป็นปกติกันแล้วนิน่า เนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ทำเพื่อตัวแอนเดรียเลยน่ะ" เจเนลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ถ้าเป็นอย่างที่นายว่า ฉันคงไม่คิดสงสัยมากหรอกน่ะ แต่มันน่าสงสัยตรงที่.... ในรายงานเกี่ยวกับตัวแอนเดรีย ที่ระบุว่า หลังอุบัติเหตุเตาพลังงานเพเรเนี่ยมระเบิดใส่จนตาของเธอเกือบบอดนั้น สภาวะพลังงานเพเรเนี่ยมในตัวของเธอเสียสมดุลย์จนอาจเกิดระเบิดได้ จำต้องให้เธอใส่ชุดคอมแบทโปรเทคสูทเพื่อป้องกันไว้ตลอดเวลา" แล้วก็บอกไปว่า "ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เวลาที่เธอสู้กับไซมาเทนในช่วงที่ปรากฎตัวครั้งแรกนั้น เธออาจจะต้องตายจากพลังเพเรเนี่ยมในตัวระเบิดอย่างรุนแรงซะมากกว่า แต่เธอกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวเช่นนี้ แสดงว่าสิ่งที่เธอเป็น กับสิ่งที่เขียนไว้ในรายงานข้อมูลประวัติของเธอนั้น มันตรงข้ามกันเลยน่ะ"
              "จะว่าไปก็ใช่น่ะ ไซมาเทนแกร่งและทรงพลังอย่างมาก ถ้าขนาดมันจัดการกับลิเนียร์ตี้จนร่างแหลก และเป่านายปลิวไปที่แคสเซเดี่ยน-3 กันได้ แอนเดรียที่โดนกระทบกระทั่งอย่างแรง คงมีปฏิกิริยาพลังระเบิดจากภายในได้แน่ๆ หากเป็นตามในรายงานเลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
    เนคมาดูซัมกล่าว "แน่นอน ว่าถึงฉันถามหมอเดเมี่ยนไป ฉันคงจะได้คำตอบในทำนองที่ว่า แอนเดรียไม่มีปัญหาอะไร แอนเดรียเป็นปกติดี และแอนเดรียยังแข็งแรงเหมือนเดิม จนไม่ได้ความจริงที่ฉันสงสัยมานานอย่างแน่นอน" แล้วก็บอก "จนกระทั่ง ฉันทราบมาว่า แอนเดรียได้โดซี่และกองกำลังหลังฉากมาช่วยเอาไว้ ซึ่งในกลุ่มนั้น มีหมอเบ็ตตี้ที่ถอนตัวจากแนวหน้ามาทำงานในแนวหลัง และเป็นผู้เดียว ที่เป็นผู้ตรวจเช็คสุขภาพของแอนเดรียในช่วงนั้น ซึ่งเนคกี้และเนคกัสได้ข้อมูลจากเธอมา ตามที่ฉันสั่งทั้งคู่ให้ไปสอบถามเธอ พบว่าข้อมูล ตรงกับที่ฉันสงสัยไว้ทุกประการเป๊ะ ว่าแอนเดรียมีบางอย่างที่ไม่ปกติ แต่มันไม่แมทซ์กับในรายงานที่นายกับหมอเดเมี่ยนให้ไว้ก่อนหน้าเลยน่ะ"
              "กะแล้วเชียว ว่าเบ็ตตี้หัวไวอย่างมากเลยน่า" เดเมี่ยนถอนใจขึ้นมา
              คลอเวฟบอก "มาส กูถามอะไรหน่อยได้มั้ย ว่านาย รู้เรื่องที่แอนเดรียกลายเป็นอสูรกายแบบเดียวกันกับพวกบรอนเซอรูท มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ"

              "ฉันกับเดเมี่ยน รู้เรื่องที่แอนเดรีย กลายร่างเป็นอสูรร้ายที่พวกนายเห็นอยู่นี้ ในเวลาเดียวกันที่พวกบรอนเซอรูทถูกไวซ์ไมเซลเปลี่ยนเป็นอสูรร้ายออกอาละวาดในเอ็กโซดัสอาร์คแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              ไซโคลเนียกล่าว "ตอนนั้นนะหรือ นี้แปลว่า แอนเดรียกลายร่างมาเป็นแบบนี้พร้อมพวกบรอนเซอรูทเลยหรือ"
              "นี้นายปิดบังพวกเราจากเรื่องนี้มาตลอด 4 ปีเลยหรือ มาส" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "ฉันขอโทษด้วยนะ ทุกๆคน แต่เรื่องนี้ ฉันยอมให้พวกนายรับรู้กันไม่ได้หรอก ถึงตัวตนที่น่ากลัวอีกด้านหนึ่งของแอนเดรีย ซึ่งถ้าเธอหรือพวกท่านประธานาธิบดีรับรู้ว่า เธออันตรายเกินไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วละก็ เธอคงถูกฆ่าตายไปนานแล้วละ"
              "อย่าบอกน่ะ ว่าแอนเดรีย มิได้เป็นมิวแทนอยด์คลาสเอ ตามที่เราเข้าใจกัน แต่เธอ....มีระดับที่สูงกว่าเลยสิน่ะ" โฟรซ่าบอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "แอนเดรีย เป็นมิวแทนอยด์เพอโซเนลไทป์ ซึ่งเป็นมิวแทนอยด์ที่มีบุคลิกด้านตรงข้ามปรากฎขึ้นพร้อมกับบุคลิกดั่งเดิมของตัวแอนเดรียเอง ซึ่งเธอเปลี่ยนร่างได้แบบบรอนเซอรูท แต่ควบคุมได้ยากและอันตรายยิ่งกว่า" แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "และผลลัพธ์นั้น ทำให้แอนเดรียเป็นมิวแทนอยด์ ระดับเอสคู่ ซึ่งเป็นระดับอันตรายสูงสุด ที่ผบ.บัลโต้ตั้งระดับเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่ได้ตั้งรกรากบนดาวแคสเซเดี่ยน-3 กันน่ะ"
              "เดียวก่อนน่ะ มาส นายบอกว่า แอนเดรียมีตัวตนที่ตรงข้ามและสวนทางอย่างมาก เฉกเช่นเดียวกับอีกร่างหนึ่งของเธอเองละสิน่ะ" จิลกล่าว และหันมาถาม "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เวลาเธอโดนเล่นงานจนหมดสติ เธอก็จะกลายเป็นเช่นนั้นไปหลายครั้งแล้ว ทำไมเธอยังเป็นปกติกันได้ละ"
              ฟิเกซกล่าว "ถ้าให้เดาน่ะ คุณเมซ่า เป็นผู้ปิดผนึกตัวตนอีกด้านของแอนเดรียเอาไว้สิน่ะ"
    "จริงสิ คุณเมซ่าเป็นแมนิเกเตอร์ที่มีพลังในการฟื้นฟูและควบคุมอำนาจชีวิตที่ทรงพลังอย่างมากได้ เธอก็มีพลังมากพอที่จะสะกดด้านมืดของแอนเดรียได้ละสิน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ใช่ มัดตราสังของคุณเมซ่านั้นทำหน้าที่ได้ดีมาก แต่....มันได้สลายลงไปแล้ว นับตั้งแต่ คุณเมซ่า รวมร่างกับผู้การแพททริคที่ใกล้ตายด้วยน้ำมือของไซมาเทน จนกลายร่างเป็นแพทรีเซียแล้วนะสิ"
              "ถึงว่าสิ ว่าทำไมนายไปหาหมอเดเมี่ยนถี่และบ่อยขึ้นกันน่ะ" จิลบอก
              ไซโคลเนียบอก "แต่ก็ไม่สลายไปทั้งหมดเลยน่ะ เพราะถ้าหายไปหมดจริง แอนเดรียคงได้ฆ่าเราตายก่อนได้สู้กับพวกเดลอาเนี่ยนแน่ๆเลยละ"
              "ใช่ แต่พลังมัดตราสังของคุณเมซ่าในตอนนั้นเริ่มลดทอนลงไปทีละนิด ในช่วงที่เธอปะทะกับพวกเดลอาเนี่ยนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และตอนที่เธอถูกลักพาตัวแยกจากฉันไปนั้น คือเรื่องที่ฉันกังวลอยู่ตลอดเวลา ในช่วงที่ฉันช่วยงานอากาเมมนอสกับพวกครอสตรีม ที่ล่วงหน้าไปเอาเรื่องพวกเดลอาเนี่ยนในเขตอวกาศของพวกมันเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เนคมาดูซัมบอก "นั้นไม่แปลกใจหรอก ที่อากาเมมนอสมาเตือนฉันให้จับตาดูนายเอาไว้ แม้ในตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่าอากาเมมนอสรู้อะไรมา แต่ตอนนี้ ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้วละ"
              "ถ้าเป็นแบบนั้น แอนเดรียก็คงทำงานเยอะกว่ามาก ทั้งช่วยแฮรี่ มาริ นิค และรีฟปกป้องยาน หลังจากที่พวกคุณแดนโดนเล่นงานจนออกรบไม่ได้ ไหนจะช่วยฝึกพวกเฟรดและพวกน็อกกี้ที่อุตริสวมเกราะหน่วยรบวิหคและเกราะเกซตัลท์ออกรบกันอีก นั้นคงทำให้เธอรับภาระหนักอึ้งเกินตัวเพียงลำพังเลยน่ะ" สเปียริทบอก และนึกขึ้นมาได้ "จริงสิ แอสเทลน่าไง เธอพาเบย์แทนด์และหน่วยต่อสู้ชาวดาวฤกษ์ลงมาช่วยนักโทษในฮิชเลไบน์-4 ไป ซึ่งเธอคงใช้พลังจิตสร้างมัดตราสังอันใหม่ปิดตายด้านมืดของแอนเดรียได้แน่ๆเลยละ"
              เนคมาดูซัมส่ายหน้า "แม้แอสเทลน่าจะเป็นนักรบชาวดาวฤกษ์ที่กล้าแกร่งและทรงพลังกันก็จริง แต่....เธอมิได้มีพลังที่ล้ำลึกและแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเอสเซคาร่าซารีทิสและซาดีริลกัน ต่อให้เธอสร้างผนึกมัดตราสังอันใหม่ให้แอนเดรียได้ มันก็ไม่แกร่งพอที่จะกักด้านมืดที่กล้าแกร่งยิ่งกว่าไปได้หรอกน่ะ"
              "และมัดตราสังนั้นค่อยๆอ่อนแรงลงจากภาระหน้าที่ที่แอนเดรียได้รับมาตลอด 3 ปี ซึ่งฉันรู้สึกเป็นกังวลแอนเดรียในเรื่องนี้อย่างมาก และหวังแค่ว่า เธอจะไม่เป็นไรกันอย่างแน่นอน" มาสวาร์ทาร์กล่าว "จนกระทั่งเธอเอาตัวเข้าป้องกันฉันจากทรอมเบตนั้น แม้เธอจะรอดกลับมาได้ แต่นั้นก็ทำให้ มัดตราสังที่เปราะบางอย่างมากนั้น แตกสลายลงอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ด้านมืดแอนเดรีย พร้อมที่จะออกอาละวาดได้ทุกเมื่อ หากเธอ ถูกเล่นงานจนสติสัมปะชัญญะเดิมของเธอหลับไหลลงน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "เหมือนเช่นที่เธอโดนตัวมือสังหารเล่นงาน ซึ่งเราคิดว่า มันมาเพื่อจัดการกับราชาเดฟทรอล แต่จริงๆแล้ว มันเพื่อฆ่าแอนเดรียกันจริงๆน่ะ"

              "มือสังหารนั้นมันเล็งแอนเดรียไว้แต่แรกแล้วหรือ ลิเนียร์ตี้" โฟรซ่าถาม ลิเนียร์ตี้พยักหน้า
              สเปียริทบอก "และดูเหมือนว่า มือสังหารนั้น มีความแค้นต่อแอนเดรียอย่างมาก ถึงขั้นที่จะฆ่าให้ตายไปข้างหนึ่งนะสิ"
              "จะบ้าหรือ แอนเดรียเป็นคนดีจะตาย เธอไม่มีทางสร้างศัตรูกับใครได้หรอกน่า" ไซโคลเนียบอก
              สเปียริทส่ายหน้า "ไม่เลย ไซโคลเนีย ไอ้บ้านั้นมันโทษแอนเดรีย ว่าเป็นตัวการที่ทำให้มันมีสภาพเป็นอมนุษย์ตัวดำกันไม่ว่า มันอ้างด้วยน่ะ ว่าหลังจากจัดการกับแอนเดรีย มันจะบุกไปเชือดคามาลตัสกันก่อนน่ะ"
              "คามาลตัสนะหรือ...." ฟิเกซกล่าว สเปียริทพยักหน้า ฟิเกซได้ฟังก็นึกออกได้ในทันที "พวกนายจำได้มั้ย ว่าใครเป็นตัวการที่ทำให้แอนเดรียเป็นแบบนี้ในช่วงมหาสงครามกับแรซัลก้า จนเธอก่อเรื่องในอาร์ค ช่วงเดียวกันกับที่พวกบรอนเซอรูทออกอาละวาดกันน่ะ ซึ่งผบ.บัลโต้และพวกประธานาธิบดี จับเพื่อนร่วมก๊วนไปได้สองตน จนซาดูร่าพาพวกเข้ามาในยานอาร์คในภายหลังกันน่ะ โดยที่ตัวการนั้น หนีหายสูญไปแล้วนะสิ"
              คลอเวฟได้ฟังก็ร้องอ้อ "เฮ้ย เดียวก่อนน่ะ นี้อย่าบอกนะ ว่าไอ้มือสังหารที่แอนเดรียไล่ตามจนมันเล่นงานเธอให้กลายเป็นนางมารนั้น คงไม่ใช่ไอ้เวรนั้น..."
              "ถูกแล้วละ คลอเวฟ พวกเราทุกคน ไอ้มือสังหารที่คิดจะเล่นงานแอนเดรียในตอนนี้ คืออัลบาดอฟ สมุนแก็งกริเดี้ยนโร็ครายที่สาม ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เตาพลังงานเพเรเนี่ยมส่วนหนึ่งระเบิดใส่แอนเดรีย และหนีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยกันนี้แหละ" ฟิเกซบอก
              เจเนลบอก "และการที่มันโผล่มาเล่นงานแอนเดรียพร้อมกับสเปียริทและลิเนียร์ตี้กันนิ แปลว่ามันโผล่มาอยู่ในเขตอวกาศภาคกลางเลยสิน่ะ"
              "แต่ปัญหาคือ ตัวอัลบาดอฟมันโผล่มาได้ยังไงกันน่ะ เพราะถ้าเขาแอบขึ้นยานของเราหรือยานลำใดลำหนึ่งเข้ามาที่ดาวดวงนี้ กล้องวงจรปิดในทุกจุดที่ไอเควิสเองก็จะต้องจับภาพตัวอัลบาดอฟกันบ้างสิ" พลัสเชอริทบอก
              สเปียริทบอก "กล้องวงจรปิดไม่มีทางจับภาพอัลบาดอฟได้หรอก เพราะมัน....กลายร่างเป็นเงาและใช้เงาเป็นอาวุธมาเล่นงานพวกเรากันนะสิ"
              "มันใช้เงานะหรือ ว่าแต่ มันใช้เงาในลักษณะไหนกันละ" โฟรซ่าถาม
              ลิเนียร์ตี้ตอบ "อัลบาดอฟไม่เพียงเลียนแบบอาวุธและท่าไม้ตายของพวกเรากันอย่างเดียว แต่มันแยกร่างเงาเลียนแบบท่วงท่าของกองกำลังหลังฉากกันอีกด้วย ทั้งๆที่อัลบาดอฟหนีมาอยู่ในเขตอวกาศภาคกลางมาตลอด 3-4 ปีเต็ม ไม่น่าจะรู้ว่าพวกเราหรือพวกกองกำลังหลังฉากใช้ไม้ตายอะไรได้นะสิ"
              "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าอัลบาดอฟอยู่ใกล้พวกเรา โดยที่พวกเราไม่รู้ตัวกันแล้วละ และมันคงจะรับรู้ท่วงท่าของพวกเราทั้งหมด ผ่านเงาหรือจากการมองเพียงแค่นิดเดียว ซึ่งถ้าอัลบาดอฟสามารถควบคุมเงาได้ดั่งใจนึก เขาก็สามารถหลบหนีลงไปในเงามืดได้แน่นอน" มาสวาร์ทาร์คาดเดา
              จายด์กล่าว "แบบนั้น ระบบเซนเซอร์รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดก็ใช้ไม่ได้เลยละสิ"
              "แสดงว่า การระเบิดของเตาพลังงานเพเรเนี่ยมในตอนนั้นได้ทำให้อัลบาดอฟเป็นมิวแทนอยด์มนุษย์เงาเลยสิน่ะ" พีวิลบอก "และถ้าฟังจากที่สเปียริทเล่ามานั้น สาเหตุนั้นคงเป็นมูลเหตุจูงใจที่กระตุ้นให้อัลบาดอฟแค้นแอนเดรียมาก ถึงขั้นต้องฆ่าให้ตายได้แน่ๆเลยละ"
              เจเนลบอก "ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ไอ้เวรนั้นมันเป็นตัวการมิใช่หรือวะ พีท มันเป็นคนที่ทำให้เตาพลังงานเพเรเนี่ยมระเบิดใส่ตัวมันและแอนเดรียมิใช่หรือ"
              "แต่ถ้าแอนเดรียไม่โผล่มาเจอเข้า อัลบาดอฟก็คงไม่ทำอะไรบ้าๆจนก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นกันหรอกน่ะ เจมส์ เพียงแต่ มันคงไม่รู้เลยว่า การกระทำของมัน ก็ได้เปลี่ยนแอนเดรียเป็นมิวแทนอยด์ที่อันตรายกว่าเท่านั้นเองน่ะ" โฟรซ่าบอก
              สเตฟอร์ดกล่าว "แต่ไม่ว่าใครผิด ความเสียหายก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว แม้ว่านั้นจะทำให้แอนเดรียเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา แต่....นั้นก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนเราทำเรื่องไม่น่าให้อภัยกันด้วย แม้ว่านั้นเป็นเรื่องที่ทำเพื่อปกป้องผู้อื่นเลยก็ตามน่ะ"
              "มาส แล้วก็หมอเดเมี่ยน นอกจากนายทั้งสอง แล้วก็คุณเมซ่า กับอากาเมมนอสนั้น ยังมีใครรู้เห็นในเรื่องนี้กันบ้างมั้ยละ" เนคมาดูซัมบอก
              เดเมี่ยนเลยต้องตอบไปว่า "เบย์แทนด์เองก็อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย ซึ่งเขาเป็นคนเขียนประวัติของแอนเดรียให้ โดยที่ผู้การเฮลิค เป็นผู้เซ็นอนุมัติยืนยันให้ เพราะมีแต่ผู้การเฮลิคเท่านั้นที่ค้านผบ.บัลโต้ ในเรื่องที่ให้มิวแทนอยด์เข้ามามีส่วนร่วมในกองทัพกันน่ะ"
              "เยี่ยม สองรายที่ว่ามา ล้วนไม่อยู่กับเรา และเราไม่สามารถลงโทษได้เลยน่ะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "เบย์แทนด์เสียสละตนเป็นนักโทษทางการเมืองอยู่ในความดูแลของแอสเทลน่านั้น ส่วนหนึ่งเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่มีส่วนร่วมในการปกปิดข้อมูลของแอนเดรียไว้ เท่ากับว่าเบย์แทนด์ยอมรับโทษที่ได้ก่อ เราจึงไม่ต้องลงโทษเขาซ้ำอีกน่ะ" แล้วก็ถอนใจ "ส่วนผู้การเฮลิคเองก็เสียชีวิตไปแล้ว พวกเราเองก็เอาผิดกับแมนิเกเตอร์ที่ตายไปแล้วไม่ได้เสียด้วย เพราะการตายของผู้การเฮลิค ก็คือได้ชดใช้ในความผิดที่เคยก่อไว้ด้วยชีวิตไปแล้วละ"

              "เท่ากับว่าเราต้องลงโทษมาสวาร์ทาร์กับหมอเดเมี่ยนเลยสิน่ะ" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า และกล่าวขึ้น "มาสวาร์ทาร์ ถึงแม้ว่านายมีเจตนาที่จะปกป้องแอนเดรียจากความจริงที่โหดร้ายเกี่ยวกับตัวเธอ โดยมิให้พวกเรารับรู้เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเองกันมากแค่ไหน ต่อให้นายเป็นรองหัวหน้า เป็นอดีตหัวหน้ากองกำลังเวเซอร์เดิม และเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและยึดถือกฎเกณฑ์มากที่สุดในหมู่พวกเราทั้ง 16 ตน แต่นาย ได้ทำผิดในการปิดบังข้อมูลประวัติของเธอให้เบื้องบนรับรู้กันไว้ แถมปิดบังเรามาตลอด 4 ปีเต็มกันนั้น ในฐานะของหัวหน้ากอง ฉันปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้เด็ดขาดแล้วละ"
              "ในเมื่อฉันทำผิดกฎเช่นนี้ ฉันไม่มีอะไรที่จะโต้แย้งอะไร นอกจากยอมรับการลงโทษตามกฎแล้วละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ดังนั้น ด้วยคำสั่งของหัวหน้ากองกำลังไทรเวเซอร์ ฉันขอสั่งปลดนาย ออกจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์ภาคสนาม และสั่งกักบริเวณนาย ให้อยู่ในยานไทรแองเกิ้ล ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนยุทธการ นายสามารถสั่งการพวกไทรเมร่าได้ตามเดิม เพียงแต่ เวลานายออกจากยาน นายจะต้องไปกับพวกเราเท่านั้น ซึ่งนายจะไม่สามารถใช้อาวุธได้ แม้นายถือมันได้ก็ตาม เว้นแต่สถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น ที่นายจะใช้มันได้เท่านั้น เพราะในตอนนี้เรายังสู้รบกันอยู่น่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "และ ฉันต้องการให้นายเขียนรายงานสิ่งที่นายกระทำไว้ เพื่อเตรียมส่งให้ผบ.บัลโต้รับทราบ ทันทีที่เราเสร็จจากภารกิจในระบบดาวทั้งแปดและกลับถึงอีสทาล่าฟรอนเทียร์แล้วน่ะ"
              "ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผบ.บัลโต้คงไม่เอาแอนเดรียไว้แน่ๆเลยละ เนคมาดูซัม" ลิเนียร์ตี้บอก
              เนคมาดูซัมบอก "วางใจได้น่า ลิเนียร์ตี้ เพราะฉันกับพีวิลจะอธิบายเหตุผลกับผบ.บัลโต้เอง อีกอย่าง ตอนนี้ผบ.บัลโต้อ่อนลงในเรื่องมิวแทนอยด์กันบ้างแล้ว เพียงแต่ยังระวังในเรื่องที่มิวแทนอยด์ก่อเรื่องหรือไม่อยู่ในการควบคุมกันจริงๆน่ะ"
              "ภาวนาว่า ผบ.บัลโต้จะเห็นอกเห็นใจอย่างที่นายว่ามากันบ้างน่ะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมหันมา "หมอเดเมี่ยน หมอเองก็ร่วมมือกับมาสวาร์ทาร์ปิดบังและแก้ไขข้อมูล ก็ถือว่ามีความผิดตามไปด้วย แต่เนื่องจากว่า เรายังอยู่ในช่วงภารกิจ ดังนั้น ฉันขอลงโทษหมอด้วยการตัดเงินเดือน 3 ใน 4 ลง กักบริเวณหมอให้ทำงานอยู่ในห้องหมอในยานลำนี้ตามเดิม และ...." แล้วก็เดินมาหยิบซองบุหรี่ในเสื้อโค้ทหมอเดเมี่ยนออกมา "....ห้ามหมอซื้อบุหรี่ครึ่งปีกันด้วย ซึ่งนั้นเป็นโทษก่อนที่หมอจะถูกสอบสวนจากเบื้องบน หลังจากที่เรากลับดาวบ้านเกิดกันแล้วน่ะ"
              "ฉันพร้อมจะรับการสอบสวนจากเบื้องบน มากกว่ามาห้ามฉันเคี้ยวบุหรี่กันครึ่งปีน่ะ" เดเมี่ยนบอกอย่างไม่พอใจกับเรื่องบุหรี่
              แอบไบออสบอก "หมอควรหาอย่างอื่นมาเคี้ยวแทนบุหรี่ไปก่อนน่ะ อย่างน้อย คนไข้จะได้ไม่บ่นเรื่องกลิ่นนิโคตินออกปากหมอน่ะ"
              "แล้วแอนเดรียละ จะทำยังไง" จิลถาม
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "นั้นสิ ถ้าเราบอกความจริงกับเธอตอนนี้ เกรงว่านอกจากเธอจะไม่เชื่อแล้ว เผลอๆ เธออาจจะรับไม่ได้เสียด้วยซ้ำน่ะ ว่าตัวเธออันตรายแค่ไหนน่ะ"
              "แต่เราจะปิดบังแอนเดรียกันไปได้เลยหรือ เพราะไม่ช้าก็เร็ว เธอก็ต้องรู้เรื่องนี้เข้าอยู่ดี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามน่ะ" โฟรซ่ากล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "อย่าห่วงไปเลย เพราะตราบใดที่ดิเรนท์และเฮเรเค้นไม่เผลอบอก แอนเดรียก็คงไม่รู้เรื่องหรอกน่ะ"
              "นึกแล้ว ว่าทำไม นายถึงให้ทั้งคู่อยู่ใกล้ตลอด ทั้งๆที่เฮเรเค้นนิสัยเสียอย่างมากเลยน่ะ" สเปียริทบอก
              พีวิลบอก "แต่ตอนนี้ เราคงต้องปิดเรื่องที่แอนเดรียเป็นตัวอันตรายนี้เอาไว้ก่อนน่ะ เพราะเรายังอยู่ในช่วงปฏิบัติการณ์กันน่ะ"
              "ลิเนียร์ตี้ สเปียริท พวกเธอช่วยอยู่เป็นเพื่อนแอนเดรียไปสักระยะหนึ่ง เพราะเธอสองตนยังบาดเจ็บอยู่น่ะ" เนคมาดูซัมสั่ง
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "ถึงนายไม่สั่ง ฉันก็ตั้งใจจะไปดูแลแอนเดรียแล้วละน่า"
              "แล้วพวกนายจะบอกเรื่องนี้กับยูเนี่ยนพีชและกองกำลังหลังฉากกันหรือเปล่าละ" สเปียริทบอก
              พีวิลบอก "คงต้องบอกกันนี้แหละ เพียงแต่ ต้องค่อยๆอธิบายไปทีละนิด และคอยห้ามมิให้เผยเรื่องนี้ให้แอนเดรียรู้ด้วยน่ะ"

              "นี้มันแย่กว่าที่คิดไว้นะคะเนี้ย" เมดิน่ากล่าว หลังจากที่พลัสเชอริทและโฟรซ่ามาคุย
              อีธานถอนใจขึ้นมา "ทีจริง ผมเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้พร้อมกับเบย์แทนด์ด้วยน่ะ"
              "รุ่นพี่ช่วยรุ่นพี่เบย์แทนด์ปิดบังข้อมูลกันนะหรือครับ" ฟูลออเรสกล่าว อีธานพยักหน้า
              เอโอลีนบอก "เหตุผลที่เราถูกส่งมาอยู่ใกล้กับพวกคุณก็เพื่อจับตาดูว่าแอนเดรียมีความผิดปกติอะไรหรือเปล่า แม้จะรู้ว่าแอนเดรียมีสภาพเป็นเช่นไรกันก็ตาม" แล้วก็รำพันขึ้นมา "แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พวกเราคงช่วยอะไรไม่ได้มาก นอกจากต้องส่งแอนเดรียไปให้วูลลิเซอร์กักตัวเอาไว้อยู่ดีนี้แหละ"
              "และพวกคุณคงจะรายงานเรื่องนี้ให้กับรัฐมนตรีวูลลิเซียและหัวหน้าสถาบันวูลลิเซอร์เลยสิน่ะ" พลัสเชอริทบอก อีธานและเอโอลีนพยักหน้า
              แมบิลีนกล่าว "คุณลุงพลัสเชอริท คุณป้าโฟรซ่าคะ พวกคุณไม่มีทางไหนช่วยคุณน้าแอนเดรียเลยหรือคะ"
              "เออ แมบิลีน พวกเราพยายามจะหาหนทางช่วยแอนเดรียกันให้ได้นะจ๊ะ แม้ว่าป้าอยากให้หนูกับพวกอย่าพึ่งบอกแอนเดรียในเวลานี้จะดีกว่าน่ะ" โฟรซ่าบอก
              เมดิน่าบอก "รวมถึงพวกเราด้วยสินะคะ" พลัสเชอริทพยักหน้า
              "ดีแล้วละ ที่เธอสั่งลงโทษมาสวาร์ทาร์แบบนั้นไว้ เพราะเรายังอยู่ในสนามรบกันน่ะ" วิลด้าบอก เมื่อเนคมาดูซัม พีวิลและฟิเกซมาเล่าให้ฟังแล้ว
              ไกซ์บอก "กะแล้วเชียว ว่าทำไมคุณมาสวาร์ทาร์ถึงให้ดิเรนท์และเฮเรเค้นอยู่ใกล้ตัวก่อน เพราะว่าทั้งคู่รู้เห็นในเรื่องคุณแอนเดรียกันด้วยนะสิ"
              "และพวกเธอคงจะช่วยอธิบายให้ผบ.บัลโต้รับทราบเพื่อไม่ให้แอนเดรียโดนหนักไปกว่านี้ละสิน่ะ" เบติสกล่าว
              ฟิเกซบอก "แม้ว่ามาสวาร์ทาร์จะทำผิดมากแค่ไหน แต่ก็ทำบนเจตนาที่ปกป้องแอนเดรียกันไว้นะครับ คุณลุง แน่นอน ว่าเขาคงไม่อยากให้เราเป็นกังวลมากไปกว่านี้ ในสถานการณ์ที่เราเจอปัญหารอบตัวกันอยู่นะครับ"
              "แต่ก็คาดไม่ถึงเลย ว่าคนร้ายที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณแอนเดรียมีสภาพเป็นเช่นนั้น จะหวนกลับมาตรงหน้าเราเสียได้นะคะ" มิลด์บอก
              วิลด้าถาม "แล้วทีนี้ พวกเธอจะทำเช่นไรกันต่อละ เพราะตอนนี้ คู่กรณีของแอนเดรียโผล่ออกมาในเวลาที่เราอยู่ในสนามรบกันน่ะ"
              "ในช่วงนี้ ช่วยปิดเรื่องของแอนเดรียไปสักระยะหนึ่งก่อนนะครับ เพราะเราต้องการให้สภาพการณ์ในยานดูเป็นปกติเหมือนเดิมน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              พีวิลบอก "ไกซ์ มิลด์ ช่วยไปอธิบายให้พวกไทรเมร่าที่เหลือกับพวกเฟรดกันดีๆด้วยละ และช่วยปิดเป็นความลับกันด้วย เพราะตอนนี้ เราให้รุ่นพี่สเตฟอร์ดและสิบเอกไปคุยกับคุณโดซี่แล้วละ"
              "ที่แท้มึงกับยัยดิเรนท์รู้เรื่องนี้มาแต่แรกเองหรือวะ ไอ้งูเห่า" เทรอนเร็กซ์บอก หลังจากที่มิลด์เล่าเรื่องให้ฟัง
              ไลเอิร์ทบอก "นี้มึงเห็นพวกเราเป็นไอ้โง่หรือไงกันวะ ถึงกล้าปิดบังพวกเราเรื่องครูแอนเดรียกันน่ะ"
              "แต่จะโทษเฮเรเค้นและดิเรนท์ก็ไม่ได้ด้วยน่ะ เพราะ....ครูมาสวาร์ทาร์สั่งห้ามเอาไว้แต่แรกนะสิ" ฟลาแน็กซ์บอก
              เวลลิทบอก "แต่คาดไม่ถึงเลย ว่าครูแอนเดรียเองก็กลายร่างเป็นอสูรและออกอาละวาดในช่วงเดียวกับพวกคุณบรอนเซอรูทก่อเรื่องกันด้วยนะ"
              "ฉันต้องขอโทษพวกนายด้วย ที่ไม่ได้บอกกับพวกนายไว้เลยน่ะ" ดิเรนท์บอก
              บัลตาฟรีบอก "ต่อให้คุณกับเฮเรเค้นไม่ได้ไปก่อน แต่เป็นพวกเรารายใดรายหนึ่งไปแทน พวกเราก็คงทำแบบเดียวกับที่คุณทำอยู่แล้วนะสิ"
              "อีกอย่างน่ะ ตอนนี้ คุณมาสวาร์ทาร์กับหมอเดเมี่ยนเองก็โดนลงโทษไปแล้ว พวกนายเองก็อย่าทะเลาะด้วยเหตุนี้จะดีกว่าน่ะ" มิลด์บอก
              มัลแด็กซ์กล่าว "มันก็จริงอยู่น่ะ เพราะ....เรายังกอบกู้ดาวทะเลแห่งนี้กันไม่เสร็จไม่ว่า ไอ้มือสังหารตัวดีมันยังลอยนวลไปด้วยเช่นนี้ ถ้าขืนเราทะเลาะกัน จนไอ้บ้านั้นโผล่มาเล่นงานพวกเรา มันก็แย่พอดีนะสิ"
              "และเธอคงจะได้รับคำสั่งให้มาบอกกับพวกเรา ไม่ให้พูดเรื่องนี้กันละสิน่ะ" เรฟไซท์บอก มิลด์พยักหน้า
              ชาร์เครฟบอก "แม้มันจะน่าโมโหกันอย่างมาก แต่ ถ้าเกิดครูแอนเดรียไม่มีทางกลับมาเป็นครูแสนดีตามเดิมได้ละ...."
              "ถ้าขนาดพวกหัวหน้าใหญ่ยังเกือบจะเอาไม่อยู่ แล้วพวกเราจะไปเหลือหรือ" บุลฟลาทกล่าว
              เทรอนเร็กซ์กล่าว "ครูมาสวาร์ทาร์เองก็โดนลงโทษให้อยู่ในยานกันเช่นนี้ สงสัยว่าเราคงต้องร่วมมือกัน เพื่อช่วยครูแอนเดรียกันบ้างแล้วละ"
              "เพียงแต่ นายกับดิเรนท์เอง ต้องมาแจ้งเรากันด้วย ฐานที่นายทั้งคู่ปิดบังพวกเราเอาไว้น่ะ" ไลเอิร์ทกล่าว
              ดิเรนท์บอก "กลัว่า ครูแอนเดรียอาจจะรู้เรื่องนี้จากฝ่ายตรงข้ามซะมากกว่าน่ะ"

              "จริงดิ นี้คุณแอนเดรียมีด้านมืดที่สุดขั้วเช่นนี้เลยหรือวะ" น็อกกี้กล่าว เมื่อได้ฟังไกซ์ว่ามา
              นาเดียบอก "แล้วคุณแอนเดรีย ก็ออกอาละวาดพร้อมกับพวกคุณบรอนเซอรูท แต่อยู่คนละที่กันแบบนี้ ถ้าอยู่ใกล้กับพวกคุณลิเนียร์ตี้ละก็...ไม่อยากจะคิดเลยน่ะ"
              "งั้นพวกเรา คงจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณแอนเดรียเป็นเช่นนี้ด้วยสิน่ะ" เฟรดบอก
              รอมมิชกล่าว "หมายถึง ตอนที่พวกเธอติดกับของพวกเดลอาเนี่ยน จนทำให้แอนเดรียต้องออกมาปกป้องด้วยสนามพลังป้องกันอย่างงั้นสิน่ะ"
              "ครับ คุณแอนเดรียปกป้องพวกเราที่พลาดพลั้งเอาไว้ แม้นั้นจะทำให้คุณแอนเดรียอ่อนแรงไปมากเลยก็ตาม" นิคบอก "เคราะห์ดีที่เราเข้าใจในคำเตือนของคุณแอนเดรีย และออกไปโต้ตอบฝ่ายตรงข้ามที่ล้อมจับไว้เป็นผลสำเร็จเลยน่ะ"
              รีฟกล่าว "โดยที่เราไม่รู้เลยว่า คุณแอนเดรีย รับภาระหนักเกินตัวเองเลยนะสิ"
              "แต่อย่างน้อย ซีคเทมพลาร์ก็ใส่ผนึกปิดตายด้านมืดของคุณแอนเดรียไปแล้วมิใช่หรือ ไกซ์" คีธกล่าว
              ไกซ์ส่ายหน้า "คุณแอสเทลน่ามีพลังสูงส่งก็จริง แต่....มัดตราสังของเธอมีพลังไม่มากพอที่จะสะกดด้านมืดของคุณแอนเดรียไว้โดยสมบูรณ์ แค่ทำให้คุณแอนเดรียเป็นปกติไปได้แค่ 3 ปีเท่านั้นเองน่ะ" แล้วก็บอก "อีกอย่าง คุณแอนเดรียเองก็ต่อกรกับศัตรูที่เก่งกาจและแข็งแกร่งเกินไปกันมาหลายต่อหลายครั้ง ยิ่งทำให้ด้านมืดของเธอแข็งแกร่งตามเธอไปด้วย เลยมีผลทำให้มัดตราสังพลอยอ่อนลงตามด้วยน่ะ"
              "คุณแฮรี่ ถ้าเกิดว่าคุณแอนเดรียเป็นมิวแทนอยด์อันตรายมากนิ คิดว่าผบ.บัลโต้จะทำเช่นไรละครับ" เฟรดถาม
              แฮรี่กล่าว "ถ้าคุณแอนเดรียมีระดับอันตรายเป็นเอสคู่ ผบ.บัลโต้จะส่งเธอไปที่สถาบันวิจัยมิวแทนอยด์ เพื่อกักตัวเธอเอาไว้ แต่จะอยู่นานแค่ไหน ขึ้นกับว่าสภาพของคุณแอนเดรียหนักหนาแค่ไหนน่ะ" และถอนใจขึ้นมา "แต่ ถ้าคุณแอนเดรียมีระดับเป็นตองเอสละก็ เกรงว่าคุณแอนเดรียอาจจะถูกฆ่าตายได้ทันทีนะสิ"
              "มันไม่น่าร้ายแรงขนาดนั้นหรอกนะคะ" นาเดียบอก
              โรซารี่ส่ายหน้า "ไม่เลย นาเดีย ระดับตองเอสนั้นถือว่าร้ายแรงที่สุด ถ้าแอนเดรียไม่สามารถควบคุมตนเองลงไปได้ละก็ เท่ากับว่าเธอสามารถอาละวาดได้อย่างเต็มที่และสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกันแน่นอน ซึ่งผบ.บัลโต้ต้องกำจัดเธอก่อนที่เธอจะทำอะไรไปมากกว่านี้นะสิ"
              "วางใจได้เลยครับ เพราะว่าระดับอันตรายของคุณแอนเดรียนั้น เป็นเอสคู่แน่นอน จากข้อมูลการตรวจล่าสุดไว้นะครับ" ไกซ์บอก
              แด็กซ์ถอนใจขึ้นมา "เฮ้อออ นึกว่าลุงบัลโต้จะส่งทหารมารุมยิงคุณแอนเดรียแล้วน่ะ"
              "แต่เราจะวางใจไม่ได้หรอกน่ะ เพราะต่อให้พวกพีวิลหยุดแอนเดรียไม่ให้อาละวาดลงได้ก็จริง แต่....คราวต่อไปละ" แรมเบจถาม
              ช็อปเปอร์บอก "หวังว่าแอนเดรียคงจะควบคุมตนเองได้บ้างน่ะ เพราะไม่มีใครหยุดด้านมืดของเธอได้นอกจากตัวเธอเองน่ะ"
              "แล้วตอนนี้ มาสวาร์ทาร์โดนลงโทษแล้วละสิน่ะ" โดซี่บอก สเตฟอร์ดพยักหน้า
              ทันกุนบอก "ใครจะไปคิดละเนี้ย ว่าแอนเดรียมีความน่ากลัวที่แฝงมาด้วย" และหันมายังเบ็ตตี้ "เธอเองคงรู้เรื่องนี้มาแล้วสิ เพราะเห็นเธอคุยกับเนคกี้และเนคกัสกันน่ะ"
              "ฉันแค่สงสัยไปตามการคาดเดาของฉันมาแต่แรกเอง แต่ไม่คิดเลยว่า เธอจะเป็นเหมือนบรอนเซอรูทกับพวกเลย รวมถึงความน่ากลัวของร่างอสูรมิวแทนอยด์ของเธอกันเลยน่ะ" เบ็ตตี้บอก และหันมาถาม "แล้วหมอเดเมี่ยนที่ร่วมมือกับมาสวาร์ทาร์ละ"
              เจเนลกล่าว "หมอเดเมี่ยนโดนกักบริเวณด้วย และหมอคงเคี้ยวบุหรี่ไม่ได้ไปครึ่งปีเลยน่ะ"
              "สมควรแล้วละ เพราะเวลาพูดคุยกับเดเมี่ยนทีไร มักจะได้กลิ่นเหมือนคนพึ่งสูบบุหรี่ออกจากปากกันทุกทีเลยน่ะ" เบ็ตตี้บอก
              โดซี่กล่าว "แล้วแอนเดรียนิ ไม่เป็นไรมากใช่มั้ยละ"
              "นั้นแหละ ปัญหาละ เพราะเราช่วยปิดบังเธอไว้เพื่อให้เธอสบายใจได้ก็จริง....แต่....มือสังหารตัวดีอาจจะบุกมาเล่นงานเธอจนทำให้เธอรู้เรื่องที่เราปิดบังไปได้น่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              เจเนลกล่าว "ยิ่งในตอนนี้เราอยู่ในช่วงภารกิจกัน เราต้องโฟกัสไปที่เรื่องกอบกู้วอเทเชี่ยนให้ได้โดยเร็ว แม้เราไม่รู้ว่า ไอ้อัลบาดอฟมันหนีไปไหนแล้วน่ะ"
              "ถ้าเป็นผู้ที่ออกมาจากยานของคุณดีฟรอต้าละก็ คิดว่าเป็นไงบ้างละครับ" กีลบอก และนำภาพจาก.... "หลังจากเกิดเรื่องราชาเดฟทรอลหวิดถูกลอบปลงพระชนม์นั้น คุณดีฟรอต้าสั่งการให้หน่วยรักษาความปลอดภัยเช็คระบบกล้องวงจรปิดหาตัวการที่ก่อเรื่องขึ้นมา ซึ่งผมจับภาพตรงโรงเก็บยานแลนซ์ฟิชของคุณดีฟรอต้า ในช่วงที่ทีมช่างเข้าไปเช็คเครื่องกันนะครับ" โดยเผยภาพตรงส่วนกราบซ้ายของยาน ซึ่งประตูปิดอยู่ "ครืดดดด" ทันใดนั้น อัลบาดอฟในชุดดำเปิดประตูยานออก และกระโดดลงมา พร้อมกับ "ครืดดดด" ผลุบหายไปกับเงาตรงเสาอย่างรวดเร็ว
              "แย่ละสิ องค์หญิงสามนำเข้าตัวอันตรายมาด้วยกัน โดยที่เธอไม่รู้ตัวเสียแล้วน่ะ" เจเนลบอก
              "มั่นใจน่ะ ว่านี้เป็นตัวการที่ก่อเรื่องนี้ขึ้นมาน่ะ" ทันกุนบอก
              กีลบอก "มั่นใจอยู่แล้วละครับ โชคดีมากที่เรามีข้อมูลกล้องวงจรปิดภายในอาร์ค ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ในช่วงที่คุณแอนเดรียประสบอุบัติเหตุกัน รวมถึงตามทางเดินที่ตัวคนร้ายดังกล่าวหลบหนีขึ้นยานที่จอดไว้แต่แรก จึงทำให้เราได้ข้อมูลหน้าตาของตัวคนร้ายรายที่สามไว้ หากเขากลับมาอีกรอบกันนะครับ" แล้วก็คีย์ข้อมูลภาพเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจับภาพตอนที่มันอยู่ตรงหน้าแอนเดรีย และเปรียบเทียบกับภาพที่เห็นในคราวนี้ พบว่าตรงกัน 97 เปอร์เซนต์ "เพียงแต่ มันยังไม่รู้ว่า ตอนออกมานั้น ในโรงเก็บมีกล้องวงจรปิดอยู่ตรงมุมด้านบนที่มองไม่เห็นเลยนะครับ"
              "คิดว่าไอ้ตัวการนั้นมันยังอยู่หรือเปล่าละ" โดซี่บอก
              เจเนลกล่าว "ลิเนียร์ตี้และสเปียริทบอกไว้ ตอนที่อัลบาดอฟกำลังจะฆ่าแอนเดรีย แอนเดรียกลายร่างและเข้าเล่นงานอัลบาดอฟจนอ่วมสาหัส ซึ่งในสภาพนั้น คงได้แค่หลบหนีออกจากที่นี้เหมือนเช่นเคย เพียงแต่อาศัยยานดำน้ำที่เตรียมเอาไว้ เพราะดาวดวงนี้เป็นดาวมหาสมุทรล้วนน่ะ"
              "แต่ต่อให้มันสาหัสแค่ไหน มิวแทนอยด์อย่างมันคงต้องฟื้นตัวได้เร็วกว่าปกติแน่ๆละสิน่ะ" โดซี่บอก
              สเตฟอร์ดพยักหน้า "เอาเป็นว่าตอนนี้ พวกเราควรจะระมัดระวังตัวกันไว้ก่อนน่ะ เพราะดูจากสภาพของอัลบาดอฟนั้น ต่อให้มันแน่แค่ไหน ก็แค่ตัวคนเดียวน่ะ"
              "สงสัยว่าเราต้องปฏิบัติการณ์กันให้ถึงที่สุดแล้วละน่า" ทันกุนบอก
              เจเนลบอก "ตอนนี้แอนเดรีย ลิเนียร์ตี้และสเปียริทออกรบไม่ได้ไปสักระยะหนึ่ง คงต้องทุ่มเทกับภารกิจกันให้มากแล้วละ"
    ต่อช่วงที่ 2 กัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×