ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #98 : ตอนที่ 48 สงครามครูเสดอวกาศยุติ ในยามที่ศึกครั้งสุดท้ายของพวกเดลอาเนี่ยนมาถึง ครึ่งแรก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5
      0
      12 ต.ค. 64

    ที่เฟิร์สฮิลล์ วันถัดมาหลังงานศพของพวกบรอนเซอรูทผ่านไปแล้ว
              "ไม่นึกเลยน่ะ ว่าไอ้เบื้อกคลอเวฟจะไปเสียได้น่า" ทันกุนกล่าวเมื่อเห็นฟูลบาร์ถูกปิดป้ายว่า "ปิดทำการถาวร ห้ามเข้ามาในบาร์ทุกกรณี" เอาไว้หน้าประตู
              คีธกล่าว "ทำไงได้ละ ลุง พวกคุณบรอนเซอรูทเป็นพวกพ้องที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่พวกไทรเวเซอร์กันมาตลอด การจากไปของพวกเขาเองก็คงเป็นเรื่องที่....เศร้าใจมากๆเลยน่ะครับ ลุง"
              "เดเมี่ยนเองก็ขอลาออกด้วย ซึ่งนายพลเพอซิอัสเองก็อนุญาตไว้แล้วน่ะ" เบ็ตตี้กล่าวโดยที่เธอเดินมาจากศูนย์พยาบาลกัน "ว่าแต่ พวกไทรเมร่าล่ะ"
              คีธบอก "พวกน็อกกี้มาบอก ว่าพวกเฮเรเค้นย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์กันหมด โดยพวกเขาขอตามพวกไทรเวเซอร์ไปกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แม้กระทั่งไกซ์และมิลด์กันด้วยน่ะ"
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าแม้ฉันไม่ชอบขี้หน้าคลอเวฟกันเลยก็ตาม แต่พอมารู้ว่ามันเคยสูญเสียพวกพ้องในการรบกับพวกแอตแลนไทซ์บนโลกมาก่อน พอมาเจอเรื่องแบบนี้....ฉันอดเห็นใจมันไม่ได้เลยน่ะ" ทันกุนบอกพร้อมถอนใจลง ไม่ทันไร แฮรี่กับมาริก็เดินขึ้นมา "ว่าแต่ พวกเธอเสร็จงานจากการตรวจตราภายในเมืองกันละสิ" ทันกุนถาม
              แฮรี่บอก "นิคมาบอกกับผมว่า เนคกี้และเนคกัสออกจากหอพักกันแล้ว แถมไปโดยไม่ทิ้งจดหมายไว้ด้วยน่ะ"
              "พวกท่านพี่โฟรซ่าคงจะไปไว้ทุกข์โดยอยู่กับพวกคุณทินเหมาลีที่เวลฟอร์เรสกันแน่นอนนะคะ" มาริบอก "แม้ว่าพวกคุณพี่จะจัดการกับศัตรูตัวหลักๆสามกลุ่มไปได้ แต่.....นั้นก็ทำให้พวกเขาต้องเสียคนดีๆไปไม่น้อยน่ะ"
              คีธพยักหน้า "แถมความพ่ายแพ้ของไอ้แพนเนสและเทเนดีนเองก็เป็นกุญแจเปิดประตูให้พวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธอีกกลุ่มเข้ามา ในยามที่เดลอาเนี่ยนเข้าใกล้ระบบดาวของเราเช่นนี้ ไม่ค่อยดีเลยนะครับ ลูกพี่"
              "ใช่ แต่ถึงยังไงเสีย พวกเราก็ต้องสู้ต่อไปกันนี้แหละ คีธ" แฮรี่กล่าว โดยที่อพาร์ทเมนต์ยูธสเตย์ในตอนนี้ เหลือเพียงพวกน็อกกี้กันแล้ว
              "รู้สึกเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูกเลย ว่ามั้ยละ" แด็กซ์บอก โดยที่เขานั่งบนเก้าอี้ม้าหิน พร้อมกับแจ็สและน็อกกี้กัน
              "แน่ละ เพราะว่าพวกเฮเรเค้นต่างก็สนิทกับพวกคุณบรอนเซอรูทกันมานานแล้ว พอรู้ว่าพวกเขาจากไปแบบไม่หวนกลับกันเช่นนี้ พวกเขาคงจะทำใจได้ยากกันน่ะ" แจ็สบอก
              น็อกกี้พยักหน้า "ไม่แปลกใจแล้ว ว่าพวกเขาเศร้าใจแค่ไหน จากการที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่พวกเขาให้ความเคารพและรู้จักกันมานาน ต้องมา....เฮ้อออ ถ้าพวกเราแข็งแกร่งและเก่งกว่านี้ก็คงจะ...."
              "ต่อให้พวกเราแน่และแกร่งกว่าฝ่ายตรงข้ามอย่างไอ้เซอร์คนบ้าและไอ้องค์ชายโหดนั้นได้จริง พวกเราคงโดนสับเละไปนานแล้วละ" แจ็สกล่าว
              น็อกกี้บ่น "แต่มันน่าหงุดหงิดก็ตรงที่ พวกคุณพีวิลน่าจะฆ่าพวกมันทั้งสองไปเลย จะได้จบเรื่องกันน่ะ"
              "นายก็น่าจะรู้ดีแล้วน่ะ ว่าพวกเขารู้ ว่าถึงฆ่าฝ่ายตรงข้ามที่โหดเหี้ยมกว่ายังไง พวกบรอนเซอรูทที่โดนเล่นงานจนสาหัสใกล้ตายก็ไม่มีทางฟื้นหรอก เพราะฝ่ายตรงข้ามมันใช้ทั้งพิษ ทั้งกัมตภาพรังสี แถมมีแรงหนุนจากพวกอัศวินโฉดด้วยอีกน่ะ" แด็กซ์บอก "แค่ทำให้ตัวหัวหน้าทั้งสองตัวตายทั้งเป็น โดยที่สูญเสียลูกน้องตัวเป้งไปคนละ 3 ตัวก็ถือว่าเกินพอแล้วละ"
              แจ็สบอก "แต่ พวกเฮเรเค้นไปพร้อมกับไกซ์แล้วก็มิลด์กันด้วยนิ คงเหลือแต่พวกเรากันจริงๆแล้วสิน่า"
              "คุณนิคและคุณรีฟก็ขออยู่ที่นี้เพื่อช่วยเรา แล้วก็หน่วยรบวิหค ปกป้องเมืองแห่งนี้กันไว้น่ะ" น็อกกี้กล่าว "แน่นอน ว่าพวกเราคงไม่ยอมให้พวกองค์ชายจาฟฟาร์ลมายึดเมืองแห่งแรก ที่พวกไทรเวเซอร์ทุ่มแรงกายแรงใจพร้อมกับทุกๆคนในชุมชน ไม่สิ พวกเราทั้งหมดร่วมสร้างขึ้นมากันได้หรอกน่ะ" แจ็สพยักหน้า
              แด็กซ์กล่าว "รวมถึงพวกทรอยอาร์กันด้วย หวังว่าพวกคุณพ่อคงจะหยุดพวกศัตรูที่อาจจะแห่มาถล่มทุกเมืองในเวลาที่ระบบดาวของเรา กำลังจะถูกพวกเดลอาเนี่ยนบุกเข้ามาได้ทุกเมื่อกันน่ะ"

              "นึกยังไง ถึงทำข้าวเช้ากันละคะ พี่" แครอลบอก เมื่อเห็นนาเดียทำอาหารเช้าเป็นผัดผักบุ้ง ต้มแกงจืดหมูสับ และไก่ผัดขิงมาให้
              นาเดียกล่าว "อย่างน้อย ก็ดีกว่าที่พ่อทำกันอยู่นี้แหละ จะได้กินข้าวตามปกติกันได้น่ะ"
              "คิดว่าอาหารที่พ่อทำนิ ไม่อร่อยอย่างงั้นสิ" เจฟบอกอย่างหงุดหงิดนิดๆ โดยที่นาเดียตักข้าวให้เจฟ แครอลแล้วของเธอเอง พร้อมกับนั่งลงเพื่อกินข้าวกัน "อืมมมม นี้ลูกทำเองหรือว่าแอบเอาตังค์ไปซื้อกันละ" เจฟกล่าวอย่างไม่ค่อยเชื่อ แม้กับข้าวจะอร่อยกันก็ตาม
              นาเดียถึงกับบ่นขึ้นมา "พ่อพูดแบบนี้ หนูไม่ทำให้ทานกันเลยนะคะ"
              "เอาเถอะ อย่างน้อย พ่อก็เชื่อว่าลูกทำกับข้าวได้กันบ้างน่ะ" เจฟบอก พอทั้งสามกินข้าวเสร็จแล้ว นาเดียก็ลงมือล้างจานกัน จากนั้นก็เดินออกมาข้างนอกบ้าน ซึ่งเจฟยืนอยู่
              "ว่าแต่ พ่อไม่ไปที่อู่แล้วหรือคะ" นาเดียถาม
              "พักนี้ลูกดูเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยนิ คงเป็นเพราะเรื่องที่พวกบรอนเซอรูทเสียชีวิตแล้วละสิน่ะ" เจฟกล่าว นาเดียได้ฟังก็ตกใจมาก เจฟเลยต้องอธิบายไปว่า "ลูกลืมไปแล้วหรือ ว่าต่อให้พ่อไม่ได้อยู่ในกองทัพแล้ว พ่อยังรับรู้ข่าวสารจากเพื่อนพ่อที่เป็นทหารในกองกำลังของผบ.บัลโต้กันอยู่ แม้จะรู้ว่าลูกไปร่วมในงานนี้กันด้วยก็ตาม แต่พ่อหวังว่าลูกคงไม่หาเรื่องเสี่ยงอันตรายกันบ้างละน่ะ"
              นาเดียบอก "หนูอดสงสัยไม่ได้เลยนะคะ ว่าทำไมพ่อถึงไม่พอใจมากๆที่ต้องให้หนูไปกับพวกคุณโดซี่กันนะคะ"
              "ลูกรู้มั้ย ว่าลูกน่ะ เหมือนกับแม่ของลูกไม่มีผิดนี้แหละ" เจฟบอก "ตอนลูกยังเด็กๆนั้น ลูกซนเหมือนลิง เวลาให้อยู่นิ่งก็ไม่อยู่นิ่ง จนพ่อคิดว่าลูกสมาธิสั้นไปแน่ๆ แต่พอพ่อฟังแม่เล่าให้ฟัง พ่อถึงรู้ว่า ตอนแม่ของลูกยังเด็กนั้น แม่ก็ซนแบบนี้เหมือนกัน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลย ที่แม่ของลูกจะกล้าบ้าบิ่นได้ถึงเพียงนี้ ทั้งๆที่ตั้งท้องลูกและแครอลกันไว้น่ะ"
              นาเดียกล่าว "งั้นที่พ่อเข้มงวดกับหนูและแครอลนิ เพราะกลัวว่าหนูกับน้องจะเป็นเหมือนแม่ละสิคะ"
              "แน่ละ เพราะทันทีที่พ่อรู้ว่าลูกฝึกมวยไทยตามเฟรดไปนั้น พ่อเดาได้ว่าลูกคงต้องเป็นเหมือนแม่ที่บ้าบิ่นและหาเรื่องเจ็บตัวกันได้แน่ๆ ถึงแม้ว่าลูกฝึกไปเพื่อป้องกันตัวเองจากพวกคนเลวๆหรือพวกที่ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น แต่ลูกก็เป็นผู้หญิงกันด้วยน่ะ" เจฟกล่าว
              นาเดียบอก "แต่ที่พ่อยังทำเป็นไม่พอใจ เพราะกลัวว่าคุณโดซี่จะให้หนูออกไปช่วยต่อสู้กันละสิคะ"
              "พ่อรู้น่ะ ว่าโดซี่แม้จะทำงานเป็นหัวหน้าคุมงานในท่าเรือที่เดียวกันกับบริคซ์กันก็จริง แต่พ่อก็รู้ ว่าโดซี่เป็นหัวหน้ากองกำลังที่ทำงานภายใต้คำสั่งของผู้การเฮลิคกันมาก่อนน่ะ" เจฟบอก "แม้พ่อวางใจได้ว่าลูกทำงานในตำแหน่งลูกมือทีมช่างซ่อมบำรุงภายในยานกันก็จริง แต่พ่อก็อนุมานได้เช่นกัน ว่าลูกต้องมีส่วนร่วมในการต่อสู้ของหน่วยรบลับกันด้วยหรอกน่ะ"
              นาเดียถามกลับ "แล้วถ้าพ่อรู้เรื่องนี้นิ คิดว่าพ่อจะห้ามหนูอย่างงั้นหรือคะ"
              "นาเดีย พ่อไม่รู้หรอกน่ะ ว่าตอนที่ลูกถูกจับไปพร้อมกับพวกเฟรดนั้น ลูกไปเจอเรื่องอะไรกันมาบ้างก็ตาม แม้พ่อรู้ดีว่าถึงห้ามไป ลูกก็คงไม่ฟังแน่นอน แม้ลูกจะเป็นคนก่อเรื่องหรือไม่ก็ตามน่ะ" เจฟกล่าวแล้วก็ตบไหล่นาเดียไว้ "แต่พ่อรู้ได้อย่างหนึ่งก็คือ ลูกเหมือนแม่ในตรงที่ แม่ของลูกไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยปล่อยให้ใครหน้าไหนมาสร้างความเดือดร้อน หรือละเลยกับปัญหาที่หนักหนาเกินตัวไว้ ในฐานะที่ลูกเป็นลูกคนโต พ่ออยากให้ลูกรู้จักคิดเวลาที่ลูกกำลังทำบางอย่างกันอยู่ และทำให้มันเป็นเรื่องถูกต้องกันเสียด้วย เพราะลูกในตอนนี้ ไม่ใช่เด็กๆแล้ว แต่กำลังจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ แม้ความรับผิดชอบนั้นจะหนักเกินตัวไปสักหน่อย อย่างน้อย ลูกก็ต้องมีคนอื่นช่วยอยู่บ้างน่ะ"
              นาเดียกล่าว "แล้วพ่อไม่คิดว่าการที่หนูขึ้นเขาไปกับพวกไทรเวเซอร์นิ จะเป็นการที่...."
              "พ่อคิดว่าถ้าพวกเขาฝึกลูกเพื่อดัดนิสัยแก่นแก้วและห้าวเป้งให้อ่อนลงไปได้ อย่างน้อยพ่อก็คิดถูกแล้วละ แม้จะหวั่นเกรงว่าพวกเขาจะฝึกลูกให้เป็นนักสู้เหมือนแม่ก็ตาม" เจฟบอก "ถ้าลูกไม่ไหวจริงๆ พ่อกับน้องก็ยังอยู่เคียงข้างกันบ้างน่ะ"
              นาเดียพยักหน้า "ขอบคุณมากคะ คุณพ่อ แค่นี้หนูก็วางใจได้แล้วละคะ"

              "เฟรด ลูกคิดดีแล้วสิน่ะ" เมย์กล่าว เมื่อเห็นเฟรดเปิดตู้เสื้อผ้าจนเจอบางอย่างขึ้นมา
              "ครับแม่ ในเมื่อผมได้ทำบางอย่างไปแล้ว ผมต้องตัดสินใจที่จะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้กันไว้นะครับ แม่"
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าลูกเหมือนพ่อมากเลยนะ เฟรด แม้ว่าแม่อยากจะห้ามปรามลูกไว้เลยก็ตามที เพราะแม่ก็ไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนกับพ่อเลยก็ตาม" เมย์บอก "แต่....พอแม่ได้เห็นสายตาของลูกนั้น แม่ถึงได้รู้ว่า ลูกสานต่อในสิ่งที่พ่อของลูกทำอยู่นี้แหละ"
              เฟรดกล่าว "แม่พูดเหมือนกับว่า แม่รู้ว่าพ่อเองก็...."
              "ใช่จ๊ะ พ่อของลูกนั้นคือเหยี่ยวดินระเบิด นักรบสวมเกราะในหน่วยปฏิบัติการณ์ลับ หน่วยรบวิหคเงา ซึ่งเดิมเป็นชื่อหน่วยที่พ่อของลูกฟอร์มขึ้น เพื่อช่วยเหลือเหล่าแมนิเกเตอร์อย่างแม่และทุกๆคนจากพวกมนุษย์ที่ปองร้ายและคุกคาม รวมถึงพวกสมุนของจักรพรรดิ์โอเวอร์เดสกันด้วย" เมย์กล่าว "พ่อได้ช่วยชีวิตเหล่าแมนิเกเตอร์ทุกตนให้รอดพ้นจนมาถึงหมู่บ้านลับนี้ไว้ แน่นอน ว่าแม่คือหนึ่งในผู้เดือดร้อนที่พ่อได้ช่วยเหลือกันไว้ ซึ่งแม่ ก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพ่อของลูกนี้แหละ"
              เฟรดกล่าว "แสดงว่า แม่รู้แต่แรกแล้วสิ ว่าพ่อทำงานเป็นทหารปฏิบัติการณ์ลับอยู่หลังการปฏิบัติการณ์แนวหน้ากันละสิน่ะ"
              "ถูกแล้วละ ตอนที่แม่รู้โฉมหน้าของพ่อนั้น ก็เป็นช่วงที่พ่อเอาตัวรับแผลแทนแม่เอาไว้ แน่นอน ว่าแม่เลยต้องรีบช่วยเหลือพ่อของลูก จนได้เห็นโฉมหน้าของพ่อขึ้นมา แน่นอน ว่าพ่อขอร้องให้แม่เก็บเป็นความลับไว้ ซึ่งแม่ก็ตอบตกลง เพราะแม่เห็นว่าพ่อเป็นผู้พระคุณที่ช่วยเหลือแม่เอาไว้" เมย์กล่าว "หลังจากนั้น แม่กับพ่อก็เจอกันบ่อยๆในตัวหมู่บ้าน โดยกลับมาพร้อมบาดแผลกันอยู่เนื่องๆ ซึ่งแม่เองก็ไม่ได้บ่นอะไรมากนัก แค่ตักเตือนพ่ออยู่เสมอ ด้วยความเป็นห่วงพ่อกัน ไม่นาน แม่กับพ่อก็ตกหลุมรัก แล้วก็แต่งงานจนมีลูกเกิดขึ้นมากันนี้แหละ"
              เฟรดบอก "ในเมื่อแม่รู้เช่นนี้ แม่ก็ยังปฐมพยาบาลพ่อ เหมือนกับที่แม่ดูแลคนป่วยในหมู่บ้าน แล้วก็ในโรงหมอที่ยานอาร์คด้วยละสิครับ"
              "ถูกแล้วละจ๊ะ แม้ว่าพ่อของลูกจะเจ็บตัวมาหลายครั้งจากการปกป้องผู้อื่นมา ซึ่งรวมถึงจากกลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อแม่เองด้วยน่ะ" เมย์บอก
              เฟรดถาม "แล้วใครกันละครับ ที่ไม่หวังดีกับแม่ไว้น่ะ"
              "เดิมที แม่เป็นลูกคนใช้ในคฤหาสน์ของมหาเศรษฐีตระกูลหนึ่งในแถบภาคเหนือ ซึ่งแม่กับคุณยายถูกคุณนายและลูกๆ หาเรื่องกลั้นแกล้งสารพัด ด้วยความอิจฉาริษยาและความหวาดกลัวที่พวกเขาจะไม่ได้มรดกพันล้าน ซึ่งแม่กับคุณยายไม่อยากได้เลยสักนิดเลยน่ะ" เมย์กล่าว "แม้ว่าเรื่องที่แม่เล่ามามันจะเหมือนละครน้ำเน่าในช่วงศตวรรษที่ 20 กันก็ตาม แน่นอน ว่าคุณยายได้ให้คุณแม่ออกไปจากบ้าน เพื่อให้แม่ไปเรียนพยาบาลที่กรุงเทพ จะได้หลีกหนีจากการปองร้ายของพวกคุณนายและลูกๆกัน แต่หลังจากนั้น ลูกๆของคุณนายไปแต่งงานกับผู้มีอิทธิพลกว้างขวาง ตั้งแต่มหาเศรษฐีพันล้าน นักธุรกิจเจ้าของกิจการใหญ่โต นักการเมืองท้องถิ่น ไปจนถึงนายทหารระดับสูง ซึ่งคุณนายต้องการใช้ประโยชน์จากลูกเขยเหล่านี้ ไล่ล่าและตามหาคุณแม่ให้เจอ เพื่อกำจัดทิ้งไปซะ หลังจากที่คุณยายเสียเพราะพวกเขากัน ทั้งๆที่ คุณยายและคุณแม่ได้สละสิทธิ์ในมรดกของคุณผู้ชายไปแล้ว"
              เฟรดถาม "แล้วคุณแม่ก็คงจะหนีจนมีเรื่องที่ทำให้คุณแม่กลายเป็นแมนิเกเตอร์ไปเลยสิครับ"
              "แม่กลายเป็นแมนิเกเตอร์ให้กับบริษัทยาในตัวเมือง ซึ่งถูกดัดแปลงเพื่อให้เป็นหนูลองยา หลังจากนั้นแม่ก็ถูกกลุ่มคนไม่หวังดีที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลและกษัตริย์เพื่อขึ้นปกครองประเทศ ดัดแปลงให้เป็นมือสังหารกัน ซึ่งโชคดีมาก ที่แม่เป็นผลงานที่ครึ่งๆกลางๆ ซึ่งไม่ผ่านการประเมินจนแม่ต้องถูกกำจัดทิ้ง โชคยังดี ที่มีคนในองค์กรเห็นใจและสงสารแม่ เลยช่วยให้แม่หนีออกมา แต่....คนของลูกเขยของคุณนายจอมโหด กับพวกมือสังหารในองค์กรแห่แหนกันมาไล่ล่าแม่อย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่เพราะพ่อของลูกและพวกมาพบแม่แล้วเข้าช่วยขับไล่ศัตรูไปได้เสียก่อนละก็ แม่ก็คงไม่ได้มาถึงที่ดาวนี้กันแล้วละ" เมย์บอก
              เฟรดกล่าว "เออ ที่แม่เล่ามานิ แม่เจอมาเองหรือว่าแต่งเรื่องกันแน่ละครับ"
              "มันเป็นเรื่องจริงที่แม่ประสบกับเรื่องโชคร้ายกันขึ้นมา แต่....โชคยังดีที่แม่ยังมีบุญและกรรมดีมาจากชาติก่อน เลยทำให้แม่รอดมาเจอพ่อของลูกกันได้นี้แหละ" เมย์กล่าวและถอนใจอย่างโล่งอก "แน่นอน ว่าพวกศัตรูที่ปองร้ายแม่กันนั้น แม่ทราบมาจากพ่อกันแล้ว ว่าพวกเขาทั้งหลายนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนของคุณนายก็ดี เหล่าองค์กรมือสังหารล้มเจ้าก็ดี ต่างก็....ตายด้วยน้ำมือของโซลูนาสตี้ภายใต้การนำของเฮคไซน์และเทคไคด์ ที่เทเลพอร์ตทะลุสนามพลังปกป้องประเทศเข้ามา ในช่วงที่พวกเขาส่งสเตฟอร์ดมาก่อเรื่องที่พื้นที่โดยรอบของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์กันน่ะ"
              เฟรดบอก "แม่เองก็รู้สึกโล่งใจ และคงจะสงสารพวกเขาเลยสิครับ"
              "แม่จะไปสนใจพวกเขาทำไม เพราะว่าแม่เป็นแมนิเกเตอร์ไปแล้ว และแม่ได้ตัดขาดจากพวกเขากันไปนานแล้วด้วย ที่พวกเขาประสบกับความเดือดร้อนไปนั้น เพราะคุณนายไม่ยอมปล่อยวางความเกลียดชังและความแค้นกันไว้ ต่อให้แม่มีพลังจิตอยู่จริง แม่ก็คงรู้สึกสงสารต่อเขาไม่น้อย ที่ต้องอยู่บนความทุกข์จากความเกลียดชังที่เกาะติดแน่นเป็นสันดานไปแล้วน่ะ" เมย์บอก
              เฟรดพยักหน้า "ถ้าให้ผมเดา คุณนายกับลูกๆเองก็คงไม่เคยเข้าวัด เพื่อฟังธรรมะจากพระกันเลยสิครับ"
              "คุณนายและลูกเข้าวัดไปก็เพื่อหวังทำบุญเอาหน้า และไม่ได้คิดที่จะอยู่ปฏิบัติธรรมะกันจริงๆ เหมือนกับคุณยายและแม่นี้แหละ" เมย์กล่าว "ที่ลูกฟังแม่เล่ามานิ แม่คงหวังว่าลูกไม่คิดที่จะกลับไปที่โลกเพื่อหาเรื่องกับพวกเขากันหรอกน่ะ"
              เฟรดส่ายหน้า "ถึงแม้ว่าเรื่องที่แม่เล่ามาจะจริงหรือไม่ มันไม่สำคัญไปกว่า เรื่องที่ผมต้องเผชิญกันในเวลานี้แล้วละครับ แม่"
              "ลูกคงจะรู้ใช่มั้ย ว่าเรื่องที่ลูกทำอยู่นิ มันเกินกำลังของลูกเพียงลำพังน่ะ" เมย์กล่าว
              เฟรดบอก "ผมไม่ได้สู้เพียงลำพังกันหรอกครับ แม่ เพราะผมมีทุกๆคนร่วมสู้ไปด้วยกันน่ะครับ"

              "กองรบของพวกเราประจำที่ตามคำสั่งของท่านแล้วละครับ" โฟมเมคบอก
              วอลเลนซ์พยักหน้า "ดี พรุ่งนี้ พวกเดลอาเนี่ยนกำลังจะมาแล้ว เราจะลงมือจัดการกับพวกกองรบของผบ.บาโธโรมิว และตัวผบ.บาโธโรมิวกันก่อน จากนั้น พวกเราจะมุ่งหน้าไปถล่มเฟิร์สฮิลล์ให้ราบคาบกันในทันที ที่พวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธบุกเข้าเฟิร์สฮิลล์และเมืองอื่นๆกันด้วยน่ะ"
              "แล้วท่านไม่กลัวพวกแกตไทซ์กับพวกแมนิเกเตอร์จากแคสเซรอน-4 เลยหรือครับ" โฟมเมคกล่าว
              วอลเลนซ์บอก "พอพวกเราลงมือจัดการกับพวกทหารเทรอมจนเสร็จ เราก็ใส่ความพวกแกตไทซ์และพวกแมนิเกเตอร์หน้าโง่จากแคสเซรอน-4 เพื่อโยนความผิดให้พวกมันรับไปเสีย ท่านประธานาธิบดีจะได้ถูกบีบบังคับให้ต้องกักดาวนั้นเป็นการถาวรไปเลย" แล้วก็ลุกขึ้น "เพราะถึงตอนนั้น ท่านพ่อก็จะกำชัยเหนือสงครามพวกเดลอาเนี่ยนกันแล้ว พวกเราแค่จัดการกับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธที่บุกดาวไปซะ ต่อให้พวกไทรเวเซอร์รู้เรื่อง พวกนั้นก็ทำอะไรไม่ได้เสียแล้วละ"
              "สมแล้วที่ท่านกับท่านเสนาธิการวางแผนมาน่ะครับ" โฟมเมคบอก
              วอลเลนซ์พยักหน้า "พอพวกแมนิเกเตอร์จากแคสเซรอน-4 ถูกใส่ความแล้ว พวกไทรเวเซอร์จะต้องถูกบีบบังคับจากฝ่ายรัฐบาลที่ถูกเหล่าประชาชนกระตุ้น ให้ต้องจัดการกับพวกแมนิเกเตอร์เหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กันแน่นอน ซึ่งนั้นจะทำให้ความน่าเชื่อถือของกองกำลังหัวหอกที่รวมเหล่าแมนิเกเตอร์ อันเป็นตัวแทนเผ่านั้นถูกทำลายลงไป ถึงตอนนั้น พวกมันก็ต้องยุบกองหรือไม่ก็ถูกทำลายโดยกองรบพวกเดียวกันเสียเองแล้วนะ"
              "แล้วดัสท์คิลเลอร์ละครับ" โฟมเมคถาม
              วอลเลนซ์บอก "ฉันมอบหมายให้แรชจัดการไปแล้ว ซึ่งเขาได้กำจัดแดน มาร์ตินลงไป พร้อมกับแฝงตัวอยู่ในยานของพวกกองกำลังหลังฉากจนกระทั่งยานกลับมาพร้อมพวกไทรเวเซอร์กัน ซึ่งตอนนี้เขารู้ที่ทางทุกอย่างในเฟิร์สฮิลล์กัน แน่นอน ว่าแรชและลูกทีมทั้งหมดต่างหลบซ่อนกันในคราบของพลเมืองเฟิร์สฮิลล์ โดยที่พวกไทรเวเซอร์กับกองทหารของเพอซิอัสเองก็ทำอะไรไม่ได้เสียด้วยน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะท่านดักทางพวกเขาเอาไว้เลยสิครับ" โฟมเมคกล่าว
              วอลเลนซ์พยักหน้า "พวกไทรเวเซอร์คงไม่อยากจะสร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชนในเขตเมืองที่พวกเขาอยู่อาศัยและปกป้องกันแน่นอน อีกอย่าง พวกนั้นก็คงรู้ ว่าพวกดัสท์คิลเลอร์จะไม่ลงมือ หากไม่ถึงเวลาและเหตุการณ์ที่เหมาะสมกันไว้ รวมถึงหาเรื่องกับพวกไทรเวเซอร์ที่เป็นพวกแมนิเกเตอร์ต่อสู้ รวมถึงคนใกล้ตัวกันด้วยน่ะ"
              "เพราะแค่คนของดัสท์คิลเลอร์เผลอหาเรื่องกับมังกรร้อนเย็น เหยี่ยวสาวเฟรมิเดรก้า หรือลูกๆกับคนใกล้ตัวกันละก็ เท่ากับว่าวอนหาเรื่องให้พวกไทรเวเซอร์รู้ตัวกันได้สิครับ" โฟมเมคบอก
              วอลเลนซ์กล่าว "ตอนนี้ มันถึงเวลาที่พวกเราจะเด็ดปีกวิหคนั้น พร้อมกับพวกแขนขาเหล็ก ไปพร้อมกับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธ รวมถึงประชาชนในเฟิร์สฮิลล์ส่วนมากกันด้วย แน่นอน เพอซิอัสคงทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากต้องยอมรับในความผิดชอบของตนเองกันบ้างละ"
              "แสดงว่า ท่านพร้อมที่จะจัดการกับเพื่อนสนิทของท่านเลยสิครับ" โฟมเมคกล่าว
              วอลเลนซ์พยักหน้า "ฉันยอมให้เพอซิอัสและจูเดทต้ามาขวางทางของฉันและของพ่อกันไม่ได้แล้วละ เพราะพวกเขาภักดีต่อจอมพลแฮซกริฟมากเกินไปแล้ว ฉันต้องหยุดพวกเขาไว้ ซึ่งนั้นจะทำลายพวกไทรเวเซอร์กันด้วย เพื่อชื่อเสียงของพ่อของฉันนี้แหละ"
              ในขณะที่กองรบของนายพลวอลเลนซ์ได้แยกย้ายไปตามฐานในอีสทรอนและเวสทรอน โดยดักซุ่มอยู่ห่างจากฐานทัพของกองกำลังเทรอมกันนั้น "พรุ่งนี้เช้า พวกเราจะไปถึงที่หมายแล้วละ" วินเซนท์กล่าวกับสไปค์ที่สวมเกราะนอนเตียง เช่นเดียวกับพวกบัฟด้วย
              เช่นเดียวกับ "แม้จะไม่มีพวกไทรเวเซอร์อยู่ แต่ก็ดีแล้ว เพราะพวกเราจะชนะพวกกองกำลังชุดเกราะนั้นให้จงได้เลย" จาฟฟาร์ลบอก ซึ่งฝ่ายตนนำยานมาฮาลครอสดำน้ำลึกเคลื่อนตัวมายังเฟิร์สฮิลล์จากทิศตะวันออก ในขณะที่พวกวินเซนท์ ฟรีเซียและอัศวินกางเขนขาว พุ่งตรงมาจากทิศใต้ วอลเลนซ์ได้นำยานซัลคาลาสบินออกจากที่มั่นเพื่อตรงมายังเฟิร์สฮิลล์กันในวันพรุ่งนี้ แต่ไปช้ากว่าสองฝ่ายด้วยกัน

    การต่อสู้ครั้งสุดท้ายได้มาถึงแล้ว กับ
    TriVeser Manigator Saga:The Del-Arnian War
    ตอนที่ 48 สงครามครูเสดอวกาศยุติ ในยามที่ศึกครั้งสุดท้ายของพวกเดลอาเนี่ยนมาถึง


              เช้าวันต่อมา หน้าทำเนียบเงิน กลุ่มประชาชนในเขตเมืองและจากเขตอื่นมารวมตัวกัน โดยที่โคเคสและแฮซกริฟมาชี้แจงให้ฟัง
              "จากเหตุการณ์การบุกถล่มทำเนียบเงินของพวกแก็งค์ริดโอนั้น ข้าพเจ้าขอสรุปเลยว่า พวกริดโอได้ถูกปราบปรามกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" โคเคสกล่าว "เพียงแต่ล่าสุดนั้น กองกำลังทรอยอาร์หัวรุนแรงและกลุ่มผู้ก่อการร้ายสเตรดาร์ธได้บุกเข้าจู่โจมค่ายผู้ลี้ภัยที่บางระจันใหม่ ซึ่งทางเราได้สูญเสียเหล่าพี่น้องจอมยุทธ์ทั้งห้า อดีตสมาชิกกองกำลังเวเซอร์ และสมาชิกกองกำลังพิทักษ์ดวงดาวไป โดยทางเราได้ทำพิธีศพให้กับพวกเขา ในฐานะผู้ปกป้องกันไปแล้วละครับ"
              นักข่าวถาม "แล้วท่านไม่คิดที่จะให้พวกเขาคืนชีพกลับมาเลยหรือคะ ในเมื่อพวกเขาเองก็เป็นเพื่อนร่วมรบของท่านเลยนะคะ"
              "พวกบรอนเซอรูทอาการสาหัสปางตาย ซึ่งเขาโดนทั้งพิษและกัมตภาพรังสี รวมถึงร่างกายได้รับความเสียหายอย่างหนักหนามาก ต่อให้คืนชีพได้ พวกเขาก็คงต้องทรมานอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาเลือกที่จะจากไปแต่โดยดีเลยนะครับ" โคเคสบอก
              แมนิเกเตอร์ชาวเยอรมันบอก "แล้วพวกไทรเวเซอร์ก็คงหายหัวไปกันเช่นนี้เลยสิครับ"
              "กองกำลังไทรเวเซอร์อยู่ในเวลฟรอเรสเพื่อไปปรับทุกข์กับญาติของบรอนเซอรูทที่อยู่ที่นั้น โดยพวกเขาติดต่อมาหาทางเรา ว่าจะกลับมาทำงานได้ในทันทีที่พร้อมกันน่ะ" แฮซกริฟบอก "เพียงแต่ ทางเรามีข่าวร้ายจะต้องแจ้งกับพวกคุณกันด้วยน่ะ"
              หญิงชาวซัลคาเลี่ยนถาม "คงไม่ได้หมายความว่า กองกำลังเดลอาเนี่ยนมาถึงในไม่ช้ากันละสิคะ"
              "สถานีป้องกันภัยนอกวงโคจรจับสัญญาณกองยานของฝ่ายเดลอาเนี่ยน เคลื่อนตัวมายังระบบดาวของเราตั้งแต่เมื่อวานกัน ซึ่งพวกเดลอาเนี่ยนมีกองยานของทุกเผ่ารวมกันเกือบร้อยลำด้วยกัน" แฮซกริฟกล่าว "เพียงแต่ทางเราได้รับการแจ้งมาจากกองลาดตระเวนในอีสทรอนและเวสทรอนมา ว่ากองยานของทรอยอาร์และสเตรดาร์ธอีกกลุ่มมาถึงดาวดวงนี้กันด้วย ซึ่งเท่ากับว่า กองรบภาคพื้นต้องรับศึกหนักจนไม่สามารถเข้ามาช่วยกองยานรบคุ้มกันไปได้เลย"
              แมนิเกเตอร์ชาวแอฟริกาถาม "แล้วพวกท่านไม่มีหนทางอื่นใด นอกเหนือจากเรียกพวกไทรเวเซอร์กลับมากันเลยหรือครับ"
              "พวกท่านอย่าหวาดกลัวไปเลย เพราะยังมีพวกเรากันอยู่นี้แหละ" เสียงนั้นกล่าวขึ้น ซึ่งดังมาจากเวทีด้านหลัง ที่มีทีวีหน้าจอแบนติดอยู่ เผยภาพของวอลเดนสไตน์อยู่ในสะพานเดินเรือ
              อดีตพลเมืองดาวคูลดาลนัสกล่าว "แล้วคุณเป็นใครกันแน่ละ"
              "ข้าพเจ้าคือวอลเดนสไตน์ วาลโทรน่า เสนาธิการของกองยานของฝ่ายสหพันธมิตร กองกำลังพิทักษ์ดาวของพวกเรา ข้าพเจ้าได้ฝึกฝนกองยานรบที่แคสแนค-2 กันไว้ เพื่อรับมือกับการบุกครั้งใหญ่ของพวกเดลอาเนี่ยนกันโดยเฉพาะ" วอลเดนสไตน์กล่าว "แน่นอน ว่าข้าพเจ้ากับกองยานของข้าพเจ้า จะปกป้องระบบดาวแห่งนี้จากพวกเดลอาเนี่ยนกันเอง" โดยโชว์ภาพกองยานซัลคาลาสส่วนของเขาที่มีจำนวนถึง 50 ลำ แทนทาเรส 100 ลำ แซลเดรด 200 ลำ เคลื่อนตัวออกมา
              นักข่าวชายแมนิเกเตอร์ชาวโปรตุเกสถาม "ท่านประธานาธิบดี ท่านจอมพล แน่ใจหรือครับ ว่ากองยานของท่านเสนาธิการจะรับมือได้กันนะครับ"
              "แม้ว่าข้าพเจ้าจะร่วมงานพร้อมกับท่านเสนาธิการมาตลอด 40 ปีของจักรวรรดิ์แรซัลก้ามาก่อน แต่ด้วยความสามารถของเสนาธิการวอลเดนสไตน์ที่ช่วยเหลือทางกองทัพกันมานาน ข้าพเจ้าเชื่อว่าเสนาธิการจะสามารถกำชัยเหนือพวกเดลอาเนี่ยนได้แน่นอน" แฮซกริฟกล่าว
              โคเคสบอก "ผมหวังว่าท่านคงจะรับมือกับพวกเดลอาเนี่ยนกันได้นะครับ"
              "ขอรับ ท่านประธานาธิบดี แล้วก็จอมพลแฮซกริฟ ในฐานะของผู้นำกองยานปกป้องแคสเซเดี่ยน-3 ข้าพเจ้าจะนำกองยานที่ข้าพเจ้าฝึกฝนมาเพื่อการรับมือกับการรุกรานของเดลอาเนี่ยนในครั้งนี้ กำชัยชนะมาให้จนได้นี้แหละ" วอลเดนสไตน์กล่าว "กองยานรบสหพันธมิตร เคลื่อนพลได้" แล้วกองยานของวอลเดนสไตน์ก็เคลื่อนตัวออกมาจากแคสแนคตรงมายังแคสเซเดี่ยนโดยเร็ว
              โคเคสบอก "ทุกท่านจงวางใจได้ในเรื่องของพวกเดลอาเนี่ยนแล้ว ส่วนเรื่องพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธนั้น ข้าพเจ้าได้ให้กองทหารทุกกองในอีสทรอนและเวสทรอนออกปฏิบัติการณ์...."
              "ขอโทษด้วยนะครับ มีเหตุฉุกเฉินจะแจ้งให้ทราบนะครับ" พลทหารนายหนึ่งรีบมารายงาน
              แฮซกริฟถาม "มีอะไรเกิดขึ้นเลยหรือ พลทหาร"
              "คือว่า.....กองรบเทรอมของเรดเมลแกน เยลโลว์เอเชี่ยน กรีนยูโรเปี้ยน และบลูโรเซียทส่วนมาก ขาดการติดต่อไปอย่างฉับพลันเลยนะครับ" พลทหารกล่าว "และที่แย่ก็คือ ตอนนี้พวกสเตรดาร์ธและทรอยอาร์ แบ่งกำลังกันจู่โจมเมืองสำคัญๆกันไว้แล้วละครับ" แฮซกริฟและทุกๆคนที่อยู่ด้านหน้าเวทีตกใจมาก แต่ก็ถามกลับมาว่า
              "แล้วกองกำลังพิทักษ์ดวงดาวของผบ.บาโธโรมิวกันละ"
              "ทั้งผบ.บาโธโรมิว ทั้งผู้การนอร์มังดี ผู้การยานมอร์แลน ล้วนขาดการติดต่อไปก่อนที่กองรบอื่นๆ ตั้งแต่กองรบนาวิคที่ 29 และกองรบอื่นๆ รวมไปถึงกองรบที่ 67 กับกองรบของนายพลกาลิเทน เดเรนซ่า พิคานัส รวมถึงนายพลท่านอื่นๆที่รับคำสั่งจากท่านจอมพลด้วยนะครับ" พลทหารรายงาน
              โคเคสกล่าว "คิดว่านั้นเป็นฝีมือของพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันหรือเปล่าละ"
              "เป็นไปได้ยากนะครับ เพราะตำแหน่งเมืองที่พวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธแยกย้ายกันจู่โจม มันอยู่ห่างจากกองรบที่ขาดการติดต่อกันไปไม่น้อยนะครับ" พลทหารบอก
              โคเคสกล่าว "ภาวนาว่ากองกำลังไทรเวเซอร์จะทราบเรื่องและรีบมาช่วยกันบ้างน่ะ" แล้วก็สั่งการให้ "แจ้งให้นายพลอาซิมอฟติดต่อพวกไทรเวเซอร์กันโดยด่วนเลย"
              "เกรงว่า ทางเราแจ้งไปไม่ได้เลยนะครับ เพราะด้านหน้าท่าเรือของเฟิร์สฮิลล์มีพลังงานบางอย่างขวางการสื่อสารกันไว้นะครับ" พลทหารบอก
              แฮซกริฟกล่าว "พลังงานบางอย่างหรือ....อย่าบอกน่ะว่า เฟิร์สฮิลล์เองก็..."

              ที่เฟิร์สฮิลล์ ชาวเมืองทั้งหมดต่างมาดูจอโทรทัศน์กัน
              "พ่อคะ แล้วกองรบของพวกคุณพี่ลิเนียร์ตี้ทำไมถึงไม่มาละคะ" แครอลถาม
              เจฟบอก "พวกเขาคงมาไม่ได้หรอกน่ะ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็คงทราบเรื่องแล้วก็ต้องมากันนี้แหละ"
              "เอาละคะ ทุกๆท่าน ตอนนี้ทางเราจึงขอร้องให้พวกท่านทั้งหลาย รีบเข้าหลุมหลบภัยกันโดยเร็วเถอะคะ" โดรารี่กล่าว
              โดเรร่าบอก "และกรุณาไปอย่างเป็นระเบียบกันด้วยนะคะ อย่างน้อยพวกคุณจะได้เข้าหลุมหลบภัยกันแบบไม่ต้องเจ็บตัวกันนะคะ"
              "พวกเรากับเหล่าทหารจะช่วยคุ้มกันพวกท่านไปจนถึงหลุมหลบภัยกัน ดังนั้นพวกท่านจึงวางใจได้...." โดโรรีนกล่าว ไม่ทันไรก็ "โครมมมมมม" โพโบโวโล่ได้ยินแม้จะตกใจ แต่ก็โวยไปว่า
              "เกิดอะไรขึ้นกันวะเนี้ย" ซึ่งก็โวยแบบผู้ชายโดยไม่หลุดแต๋วกันให้ใครได้ยินไว้
              "แย่แล้วละครับ พวกทรอยอาร์มันขึ้นฝั่งมาได้แล้วละครับ" ทหารกองรบที่ 11 มารายงาน ซึ่งตอนนี้ "ตึกๆๆๆๆๆๆๆ" เหล่าอัศวินทรอยอาร์ตระกูลบาลานซ์และโคลานซ์ส่วนหนึ่ง พร้อมกับอัศวินของทัพหลักที่มีจำนวนมากกว่าเคลื่อนตัวเข้ามาตรงกลางเขตเมืองด้านล่างกัน เช่นเดียวกับ "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆ" เหล่านักรบสเตรดาร์ธกรูกันเข้ามาด้วย
              "นี้มันแย่กว่าที่คิดแล้วสิเนี้ย" เพอซิอัสบอก โดยที่นีลเซนท์นำภาพภายในเมืองมา
              "พอจะติดต่อขอความช่วยเหลือกันได้มั้ยคะ" จูเดทต้ากล่าว
              นีลเซนท์ส่ายหน้า "อนุภาคทรอเจนจำนวนมากรบกวนการสื่อสารของพวกเรากัน จนทำให้รัศมีของเรดาห์ถูกตัดทอนลงเหลือแค่ภายในเขตเมืองด้านล่างและด้านบนเท่านั้น ซึ่งระบบกล้องวงจรปิดยังพอทำงานได้อยู่บ้าง แต่ไม่ทุกตัวนะครับ"
              "หวังว่ามาตราการสำรองที่นอกเหนือจากพวกไทรเวเซอร์จะช่วยได้กันบ้างน่ะ" จูเดทต้ากล่าว
              เพอซิอัสพยักหน้า "หวังว่าพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธคงไม่บุกมาที่เวลเซน่ากันหรอกน่ะ"

              แต่ทว่า..... "หวออออ หวออออ หวออออ หวออออ หวออออ" สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น พลสื่อสารของเอสคอมรายงาน "พวกสเตรดาร์ธโผล่มาแล้วละคะ" โดยนำภาพของ....
              "บ้าเอ้ย พวกมันไม่ได้ลอสแซงเทส เลยมาหาเรื่องกับที่นี้เลยหรือวะ" ลันโด้บอก เมื่อได้เห็นตราแมงมุมถือดาบ อันเป็นสัญลักษณ์ของกองรบของดูแรนซิน
              "ชักไม่ดีแล้วละ พวกเราขาดการติดต่อกับกองรบอื่นจนไม่มีกองหนุนมาช่วยกันในตอนนี้เลยน่ะ" ซามูเอลบอก
              วูลลิเซียกล่าว "ขนาดนายพลกาลิเทนเหลือทหารส่วนหนึ่งไว้คุ้มกันเมืองนี้ ก็ยังไม่พอสิน่ะ"
              "แต่อย่างน้อย พวกเราก็ยังอยู่ด้วยนี้แหละ" บาร์ทกล่าวโดยสวมเกราะพร้อมต่อสู้กันแล้ว เช่นเดียวกับรอมมิช แรมเบจ ช็อปเปอร์และโรซารี่กันแล้ว
              เบททริคซ์บอก "นั้นสิน่ะ เพราะไม่ว่ายังไง พวกเราก็ต้องปกป้องเมืองแห่งนี้ รวมถึงพวกผู้ป่วยที่อยู่ในสถาบันกันด้วยน่ะ" โดยตอนนี้เขาสวมเกราะบู๊ทกันอยู่
              "สงสัยว่างานนี้พวกเราคงต้องสู้กันให้ถึงที่สุดแล้วละ" สมิธกล่าว ลันโด้พยักหน้า แล้วพวกวูเซียทก็ออกจากกำแพงเมืองเวลเซน่าพร้อมกับพวกเอสคอมและเหล่าทหารภาคพื้นของกาลิเทนกัน ซึ่งดูแรนซินลงมาพร้อมกับนักรบองครักษ์ของตนแล้ว
              "นี้ตกลงพวกนายมีเพียงเท่านี้เองสิน่ะ ที่ยังคงเหลืออยู่ปกป้องเมืองนี้ไว้ ทั้งๆที่เทเนดีนน่าจะเล่นงานพวกนายให้มากกว่านี้แล้วน่ะ" ดูแรนซินกล่าว
              "ปากดีไปเหอะ องค์ชายยักษ์ ต่อให้แกใช้น้องสุดโหดมาถล่มหลายเมือง หรือฆ่าพวกพ้องของเราทั้งแมนิเกเตอร์มนุษย์ปกติและสหายมิวแทนอยด์ไปไม่น้อยหรือไม่ เรายังเห็นแกกับพวกเป็นศัตรูอยู่ดีนี้แหละวะ" แรมเบจบอก
              อักนีดบอก "แล้วพวกนายเองละ คงจะอยู่ไกลจนไปช่วยไม่ทัน หรือพวกแกปอดแหกจนกลัวพวกองค์ชายเทเนดีนงั้นสิ"
              "พวกเราไม่ได้กลัวพวกเทเนดีนกันหรอก เพียงแต่ สหายของพวกเราไม่ต้องการให้พวกเราต้องเจ็บตัวไปมากกว่านี้กันต่างหากละ" รอมมิชบอก
              ช็อปเปอร์กล่าว "สหายของพวกเราได้เสียสละตน เพื่อให้โอกาสพวกเราในการต่อสู้กับพวกนายกันไว้ แม้ว่าพวกเขาจะต้องตายไปก็ตาม พวกเขาก็ทำให้เทเนดีนและพวกสมุนสาหัสปางตายตามไปด้วยน่ะ"
              "เรื่องที่เทเนดีนจะตายหรือปางตายไปนั้น ฉันก็รู้อยู่แล้วละ ว่าผลลัพธ์ต้องออกมาเป็นเช่นนี้กันน่ะ" ดูแรนซินบอก "เพราะต่อให้พวกพ้องมิวแทนอยด์อย่างพวกนายหรือพวกพ้องจัดการกับเทเนดีนไม่ได้ สหายกองกำลังไทรเวเซอร์ก็ต้องเป็นฝ่ายจัดการกับไอ้น้องชายเฮงซวยนี้เอง แม้พวกมันไม่สามารถฆ่าเทเนดีนลงได้เลยก็ตาม แค่ทำให้มันเจ็บช่ำและทุกข์ทรมานจนอยากจะตายให้ได้ก็ถือว่าเกินพอแล้วละ"
              โรซารี่บอก "แสดงว่า นายคาดเดาเรื่องทุกอย่างว่ามันต้องเกิดอย่างงั้นจริงๆ เช่นเดียวกับการที่พวกนายแห่มาถล่มพวกเราเพื่อยึดเมืองนี้กันสิน่ะ"
              "ท่านดูแรนซินไม่ได้แค่ยึดเมืองที่พวกแกปกป้องกันอย่างเดียวน่ะ แต่....เกรงว่าทุกเมืองที่อยู่บนดาวดวงนี้จะถูกบุกพร้อมกันแล้วละ" ไดซ์ซี่บอก
              ดอสเซอร์กล่าว "กองรบของเราและขององค์ชายจาฟฟาร์ลได้แยกย้ายไปตามเมืองสำคัญๆบนดาวของพวกแกกันแล้ว เพื่อทำการยึดครองไว้ ก่อนที่พวกทรอยอาร์จะมาตัดหน้าแล้วทำลายทิ้งให้ราบคาบกันไว้ด้วยน่ะ"
              "แน่นอน ว่าเมืองแห่งแรกของพวกคุณเอง น่าจะถูกองค์ชายจาฟฟาร์ลและพวกยึดไปก่อนแล้วละน่า" ธาลเดนบอก
              ซามูเอลกล่าว "บ้าที่สุด นี้พวกแกไม่รู้เลยหรือไง ว่าพวกแกบุกยึดดาวของพวกเราผิดเวลากันเลยน่ะ"
              "พวกเราแค่ต้องการจะช่วยพวกนายกันเท่านั้นแหละ เพราะอย่างน้อย พวกเดลอาเนี่ยนที่บุกเข้ามานั้นมันจะต้องกลับไปแบบเสียเที่ยวกันอยู่แล้ว เมื่อพวกมันรู้ว่าดาวของพวกนายโดนยึดครองไปแล้ว แน่นอน ว่าพวกมันคงไม่กล้ามาถล่มดาวของพวกนายที่อยู่ในกำมือของพวกเรากันได้หรอก" ดูแรนซินกล่าว
              สมิธบอก "แสดงว่านายคงไม่ยอมฟังเหตุผลจากปากของพวกเรากันเลยสิน่ะ เพราะพวกนายคิดว่าพวกนายจะเอาชนะพวกเรากันได้ใช่มั้ยละ"
              "แต่อย่างน้อย ฉันก็ไม่อยากจะเสียกำลังทหารไปกับการเอาเปรียบพวกนายกันหรอก" ดูแรนซินกล่าว "เพราะก่อนที่ฉันจะสั่งให้กองรบของฉันบุกยึดเมืองแห่งการค้นคว้านี้ พวกเราจะขอท้าดวลกับพวกนายกันก่อนนี้แหละ"
              แรมเบจบอก "แล้วแกแน่ใจได้ไง ว่าแกจะดวลกับพวกเราโดยไม่มีแผนตุกติกหรือมีการบิดพริ้วกันง่ายๆน่ะ"
              "วางใจได้น่า เพราะพวกเราสั่งเหล่านักรบไม่ให้ลงมือในช่วงที่ดวลกับพวกแกกันนี้แหละ" ดอสเซอร์บอก บาร์ทพยักหน้า
              สมิธกล่าว "ถ้าพวกนายมีปัญหา พวกเราที่อยู่ข้างหลังจะช่วยพวกนายเองน่ะ"
              "ที่เหลือฝากด้วยแล้วกันน่ะ" บาร์ทกล่าว แล้วก็เดินไปพร้อมกับรอมมิช แรมเบจ ช็อปเปอร์ และโรซารี่กัน ดูแรนซินเลยพาธาลเดน ไดซ์ซี่ อักนีดและดอสเซอร์ลงสนามมา
              อีธานกล่าว "หวังว่าพวกเราจะรอดจากสถานการณ์ในตอนนี้น่ะ"

              วกกลับมาที่เฟิร์สฮิลล์กัน พวกอัศวินกางเขนขาวเดินนำหน้าออกมา
              "ให้ตายสิ นี้มีแค่ทหารเฝ้าคุ้มกันเองหรอกหรือเนี้ย" ฮีธบ่น เมื่อเห็นทหารของกองรบที่ 11 เข้าคุ้มกัน
              ฟรีเซียกล่าว "แสดงว่าข่าวลือที่พวกไทรเวเซอร์ไว้ทุกข์ หลังจากที่พวกพ้องของพวกเขาสิ้นชีพด้วยมือของเซอร์แพนเนสกับพวกตำรวจนักบุญ จนต้องออกจากเมืองกันทั้งหมดก็เป็นจริงสิน่ะ"
              "แต่ยังไงก็ช่าง เนคเกอร์และฟิเกซอทไม่อยู่ขวางทางกันก็เกินพอแล้วละ" สไปค์บอก
              บัฟกล่าว "พวกเราต้องรีบลงมือแล้ว เพราะพวกสเตรดาร์ธอาจจะบุกมาตอนไหนก็ได้น่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะลูกน้องจาฟฟาร์ลเคยมาที่เมืองนี้มาก่อน ยังไงเราต้องระวังตัวกันด้วยน่ะ" เวนดี้กล่าว โดโรรีนเลยชักปืน พร้อมกับเหล่าทหารด้วย
              "ถ้าคิดจะเข้ามากันละก็ ผ่านพวกเราให้ได้ก่อนสิ"
              "พวกเราไม่ยอมให้พวกคุณจับตัวประชาชนในเมืองแห่งนี้กันได้หรอกคะ" โดรารี่บอก
              โดเรร่ากล่าว "ต่อให้พวกไทรเวเซอร์ไม่อยู่ คิดหรือ ว่าจะให้พวกคุณเข้ามาจับกุมผู้คนกันได้น่ะ"
              "ป่วยการเปล่าน่า พลาสม่าไรเฟิ่ลของพวกพี่สาว ยิงไม่เข้าเกราะของพวกเรากันหรอก" รีกัลกล่าว "อีกอย่าง ผู้ดูแลเมืองคงปกป้องพวกชาวเมืองแห่งนี้ไม่ได้หรอกมั่ง"
              โพโบโวโล่สบถ "กรอดดดด ถ้ากูตะเบ็งเสียงจนเกราะของพวกแกพังได้ละก็น่า...."
              "ทางที่ดี ส่งตัวผู้ป่วยของพวกเราที่ถูกพามาที่เมืองนี้มาเลยดีกว่า หรือไม่ก็....ให้พวกหน่วยรบวิหคออกมากันเดียวนี้น่ะ" สไปค์บอก
              แฮซอคกล่าว "หน่วยรบวิหคนะหรือ อยู่ที่เมืองนี้หรือ เออ พวกเราไม่รู้เรื่องกันเลยน่ะ"
              "พวกเราไม่ทราบนะคะ ว่าเรามีผู้ป่วยมาที่เมืองนี้กันด้วยนะคะ" โดเรร่าบอก แม้จะรู้เรื่องมาก่อนหน้าแล้วก็ตาม
              โพโบโวโล่บอก "พวกไทรเวเซอร์ไม่ได้บอกกับทางเรา ดังนั้นพวกเราเองก็ไม่รู้...."
              "แชดดดด" ฮีธเลยเอาคาเทลิฟมาสเก็ตยาวยิงขึ้นฟ้า ซึ่งโพโบโวโล่ตกใจแต่ก็รักษาอาการไว้ เนื่องจากพวกโดโรรีนยังอยู่ "นัดที่สองจะไม่ยิงขึ้นฟ้ากันอีกละน่ะ" ฮีธบอก
              วินเซนท์กล่าว "พวกเราไม่มีเวลามากพอกันแล้ว พวกท่านเอง ถ้าอยากจะรักษาชีวิตกันละก็ ให้ความร่วมมือกับพวกเรากันดีหน่อยเถอะ"

              "เกรงว่า พวกเขาคงไม่ร่วมมือกับพวกคุณกันหรอกมั่ง" เสียงของแฮรี่ดังขึ้น จนชาวเมืองต่างก็หันหลังมา
              "พี่คะ นี้พี่สวมชุดอะไรกันคะเนี้ย" แครอลอุทาน เมื่อเห็นนาเดียสวมยูนิฟอร์มของหน่วยรบวิหคเงา เช่นเดียวกับเฟรด และคีธ ส่วนแฮรี่และมาริยังสวมยูนิฟอร์มเดิม เพียงแต่ของมาริเปลี่ยนมาใส่เสื้อของเบ็ตตี้ ซึ่งเป็นบริซสวอลโลว์รุ่นแรก โดยมาพร้อมกับพวกน็อกกี้ ซึ่งสวมยูนิฟอร์มตามนิคและรีฟกันแล้ว
              "มาจนได้สิน่ะ เฟรด มาร์ติน เพียงแต่ฉันไม่คิดเลยว่า นายจะกล้ามาในสภาพนี้กันน่ะ" สไปค์กล่าว
              เฟรดยิ้มและบอกว่า "ว่ากันตามจริงแล้ว ฉันยังไม่ควรจะใส่ชุดนี้ไว้ แต่เพราะว่านี้เป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญ ฉันจำต้องใส่ชุดนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเผลอๆอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็เป็นได้เลยน่ะ เพราะ....ไม่พวกนายก็พวกเรานี้แหละ ที่จะเป็นฝ่ายล้มกองกับพื้นกันน่ะ สไปค์"
              "สุดท้ายเธอก็เผยโฉมกันจริงๆสิน่ะ นึกว่าจะใส่ชุดอื่นที่ตรงข้ามกันแบบนี้น่ะ ยัยบื้อ" ฮีธกล่าว
              นาเดียตอบ "แม้ว่าจะต้องเผยตัวต่อหน้าคนอื่นหรือคนที่สำคัญมากต่อฉันกันก็ตาม แค่สั่งสอนให้นายหลาบจำได้ก็ถือว่าเกินพอแล้วละ ไอ้กุ๊ยมังกรเพลิงชักดาบ เพราะนายจะต้องชดใช้มากกว่าค่าข้าวกันเสียแล้วละ"
              "พวกนายมันคนละทีมกับพวกหน่วยรบวิหคกันมิใช่หรือ มันไม่ใช่กงการอะไรของพวกนายกันเลยนิ" วินเซนท์บอก
              น็อกกี้บอก "มันไม่ใช่กงการอะไรที่เราจะร่วมรบพร้อมกับพวกเขากันก็จริง แต่....เกรงว่าเมืองนี้ไม่ใช่เป้าหมายของพวกท่านฝ่ายเดียวกันหรอกมั่ง ท่านบารอนบาลานซ์" วินเซนท์ชะงักและนึกขึ้นมาได้ ว่าจาฟฟาร์ลและพวกเองก็บุกเข้ามาแล้ว "อีกอย่าง ท่านพูดก็ถูกน่ะ ว่าพวกท่านไม่มีเวลา แน่นอนว่าพวกเราเองก็ไม่มีเช่นกัน"
              "เรารู้น่ะ ว่าพวกท่านคิดจะมายึดเมืองแห่งนี้พร้อมกับอีกหลายเมืองบนดาวดวงนี้ให้ได้ทัน ก่อนที่พวกเดลอาเนี่ยนจะมากันละสิคะ แต่บอกตามตรงนะคะ ว่าถึงไง พวกเรายอมให้พวกคุณทำสำเร็จไปไม่ได้หรอกคะ" รีฟบอก
              แจ็สตะโกนลั่น "โฮ่ย ไอ้พวกสเตรดาร์ธหน้าโง่ ถ้าพวกแกอยู่รอบๆนี้ละก็ หยุดซ่อนตัวแล้วโผล่หัวออกมาได้แล้วน่า!!!!"
              "ชิ มันโวยแบบนี้ คงรู้แล้วสิ ว่าพวกเราอยู่ด้วยน่ะ" คมกริชบอก
              อับดุลลอยด์กล่าว "เอาไงดีละครับ องค์ชาย...."
              "ให้พวกหน่วยรบวิหคและสติลลิมป์ปะทะกับพวกทรอยอาร์ก่อน แล้วพวกเราก็บุกเข้าผสมโรงตามแผนเลย" จาฟฟาร์ลบอก โดยที่ทั้งหมดพยักหน้าตาม
              รีกัลบอก "เกรงว่านายควรจะให้เพื่อนของแกหุบปากกันได้แล้วละน่า"
              "พวกนายคงไม่คิดจะเผยโฉมหน้ากันต่อหน้าประชาชนกันอีกสิน่ะ" สไปค์กล่าว
              เฟรดบอก "บอกตามตรงน่ะ ว่าถึงพวกเราตายไป พวกเขาก็ต้องรู้เรื่องนี้กันอยู่ดี แน่นอนว่าฉันอาจจะไม่ใช่คนที่รักษาความลับได้นานกันก็ตาม" แล้วก็เลิกแขนเสื้อด้านซ้ายมา "แต่....อย่างน้อยฉันก็มิใช่คนที่ปิดบังแล้วหาทางหลบหนีจนผู้อื่นเดือดร้อนกันไปได้หรอก ยิ่งอยู่ต่อหน้านายด้วยแล้ว ฉันยิ่งไม่ควรหลีกเลี่ยงการปะทะกันอยู่ดีนี้แหละ" เพื่อเผยกำไลแปลงร่างสวมเกราะไว้
              "แสดงว่านายกับพวก พร้อมที่จะตายอย่างงั้นสิน่ะ" สไปค์บอก แล้วก็ปิดหน้ากากเพื่อเตรียมรบ เช่นเดียวกับพวกรีกัลด้วย เฟรดพยักหน้า
              แฮรี่บอก "ทุกคน เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กันเดียวนี้เลย"
              "รับทราบ!!!" พวกเฟรดและน็อกกี้กล่าวพร้อมกัน "แปลงร่างสวมเกราะ!!!!" เฟรดและหน่วยรบวิหคข่านรหัสพร้อมกับ "ปี้บๆๆๆๆ แว้งๆๆๆๆๆ ครี้ง" กดปุ่มตรงกำไลแปลงร่างเพื่อทำการสวมเกราะประจำตัวโดยทันที "อาร์มเครด ออน!!!" น็อกกี้กล่าวโดยไขว้แขนเป็นกากบาทขึ้นเพื่อให้เกราะเกซตรัลสวมทับตัวพวกเขาไว้ โดยที่นิคและรีฟสบัดชุดออกเผยชุดเกราะที่สวมทับในไว้ "เฮมเมท ออน!!!" จากนั้นก็ชูแขนสองข้างเพื่อนำหมวกมาสวม โดยทันที่สวมหมวกแล้ว หน้ากากก็ทำการปิดหน้าและส่วนตาไว้
              "พวกเราจำเป็นต้องแนะนำตัวกันบ้างมั้ยละ" แจ็สบอก
              ฮีธกล่าว "พวกเราขี้เกียจเบื่อรอพวกแกแนะนำตัวกันแล้วละ ไอ้พวกแขนขาเหล็ก เพราะยังไงเรามองว่าพวกแกเป็นหน่วยรบวิหคกันทั้งนั้นแหละ"
              "หรือ แต่นายเดาผิด เพราะพวกเรา สติลลิมบ์ไม่ได้เป็นพวกเดียวกันกับหน่วยรบวิหคเงากันหรอก แค่....เป็นอีกทีมในกองกำลังหลังฉากก็เท่านั้นเองนี้แหละ" นิคกล่าว "แต่จงรู้เอาไว้เลย ว่านอกเหนือจากไดนาไมท์ฟอลคอน ไอรอนวิงค์อีเกิ้ล อเวนเจอร์วอลเจอร์ บริซสวอลโลว์ และไรซิ่งพีเจี้ยนนั้น ยังมีอีโบนิค แพนเธอร์ เกรชเลโอนิส คริมสันอัลฟ่า อาชัวร์เบต้า และโกลเด้นแกมม่า ยืนอยู่ตรงหน้าพวกนายกันด้วยนะ"
              น็อกกี้บอก "เออ นี้กะเหมารวมหมดในคราวเดียวจนไม่ให้เราแนะนำตัวเลยหรือ"
              "อย่างน้อยก็ดีแล้วละ เพราะ....พวกเราจะได้เข้าประเด็นหลักกันเสียทีนี้แหละ" คีธกล่าวแล้วก็นำกริฟทวินเบลดออกมา เช่นเดียวกับพวกเฟรดด้วย
              มาริกล่าว "ผู้ว่าการ พวกคุณทั้งสาม คุ้มกันทุกๆคนเข้าที่หลบภัยโดยเร็ว พวกเราจะยันพวกนี้ไว้เอง"
              "เข้าใจแล้วละคะ" โดรารี่กล่าว แล้วก็รีบพาชาวเมืองไปหลุมหลบภัยโดยเร็ว ส่วนเจฟเอง แม้อยากจะพูดกับนาเดีย แต่ตนจำต้องพาแครอลไปที่ปลอดภัยกันเสียก่อน
              สไปค์กล่าว "แบบนั้นดีแล้วละ เพราะพวกเราเองก็ไม่อยากจะทำร้ายผู้คน แม้ว่าจะมีบางส่วนมาจากโลกกันก็ตาม เป้าหมายของพวกเรานอกเหนือจากการยึดเมืองก็คือ ปราบพวกนายลงตรงนี้เองแหละ"
              "เกรงว่าเราไม่ยอมให้เมืองแห่งแรกที่พวกเราและพวกไทรเวเซอร์ร่วมแรงร่วมใจสร้างขึ้นมา ต้องตกอยู่ในกำมือของพวกรุกรานอย่างพวกเดลอาเนี่ยน รวมถึงพวกนายและพวกสเตรดาร์ธกันไม่ได้หรอก" เฟรดบอก "ถ้าคิดจะได้เมืองนี้ละก็ แน่จริงก็ผ่านพวกเราให้ได้ก่อนสิ!!!!!"
              ฮีธกล่าว "แกมันโอหังกันมากไปแล้วน่ะ ไอ้เหยี่ยวดินระเบิด แกกับพวกอีก 9 ตัวจะทำอะไรได้ละ"
              "นายกับพวกวอนหาเรื่องกันเองแล้วน่ะ พวกเรา จัดการ!!!" สไปค์กล่าว แล้วเหล่าอัศวินทรอยอาร์ก็แห่กันมา
              แฮรี่บอก "หน่วยรบวิหคเงา สติลลิมบ์ ประจัญบาน!!!!"

              "โว้ววววว" ทั้งหมดกล่าวพร้อมกัน แล้วบุกเข้าจู่โจมในทันที "ฟอลคอนเบรค กริฟซอร์ด" เฟรดเปิดนำด้วยการพุ่งกระโจนเข้าฟันใส่พวกซิลเลเจี้ยนตระกูลโคลานซ์ 3 ตนให้ล้ม จากนั้นก็ "ป้ากกก" เสยโก่งสนับมือชกเข้าที่หน้าซิลเลเจี้ยนที่อยู่ใกล้และหันมาจนล้ม "หวับบบบ เกร้งงงง" จากนั้นก็หลบดาบเครย์มอลของซิลเลเจี้ยนที่ฟันลงมาจนดาบปักพื้น แล้วก็ "เปรี้ยงงง ฉั้วะ ป้าก" วิ่งมาแทงศอกเข้าหน้า จากนั้นก็ฟันดาบเสยขึ้น แล้วก็ถีบให้อัดกับอัศวินตนที่สามไปเต็มๆ "กร้องงงงง" แลนไซท์แทงหอกใส่แฮรี่ ซึ่งใช้แขนซ้ายป้องกันไว้ "ป้ากกก" จากนั้นก็สบัดแขนซ้ายปัดหอกให้กระเด็น จากนั้นก็ "ฉั้วะๆ ฉึก" ฟาดกริฟสเปียร์ฟันใส่แลนไซท์ไปสองทีจากนั้นก็ทิ้มเข้าที่หน้าตาม "หวับบบบ หมับบบบบ หวืบบบ เปรี้ยงงง" จากนั้นก็เอี้ยวหลบหอกที่ซิลเลเจี้ยนแทงใส่ พร้อมกับใช้มือขวาจับด้ามหอก เพื่อดึงเข้ามาชกด้วยหมัดซ้ายที่จับโก่งสนับกริฟสเปียร์อัดเข้าที่หน้าไปเต็มๆ จนตัวปลิวตีลังกาล้มหน้าคว่ำกับพื้นตาม "ชิลด์เบรคเกอร์ฟิสท์" จากนั้นก็ใช้หมัดขวา "เปรี้ยงงงงง" ต่อยโลห์ของซิลเลเจี้ยนจนแตกกระจุยและอัดตัวอัศวินปลิวตาม "แคร้งๆๆๆๆ" คีธหวดกริฟทวินเบลดฟันใส่ซิลเลเจี้ยนตระกูลบาลานซ์จนล้มไป 5 ตน มาสเก็ตซิลของทัพหลักเลยใช้คาเทลิฟมาสเก็ตสั้นเพื่อยิงใส่ "เลเซอร์วิป" คีธมือไวกว่าเลยใช้แส้เลเซอร์แย่งปืนผาหน้าไม้มา "แชดๆๆๆๆๆ" ยิงใส่มาสเก็ตซิลที่แห่มาล้อมให้ล้มลงไป 5-6 ตน มาสเก็ตซิลเจ้าของปืนเลยบุกมาเพื่อใช้มีดสั้นแทงใส่ "หวับบบ ฟึ่บ หวับๆๆๆๆ หมับ" คีธเอี้ยวตัวหลบพร้อมกับโยนปืนคาบศิลาขึ้นมา แล้วจับตรงปากกระบอกในทันทีที่ปืนตกลงมา "เปรี้ยงงง" ทุบด้วยปลายด้ามจับเข้าหลังหัวไปเต็มๆ แล้วก็ "วาช้ากกกก" ถีบเข้ากลางหลังซ้ำไปอีกที "กริฟแดกเกอร์คลอว์" มาริใช้สนับมือติดมีดคุไนสามเล่มด้านหน้าจนเหมือนกงเล็บทั้งสองอันพุ่งเข้า "ฟ้าวๆๆๆๆๆ ฉั้วะๆๆๆๆๆๆ" จู่โจมใส่ซิลเลเจี้ยนฝ่ายบาลานซ์และโคลานซ์จนโดนข่วนตรงหน้าอกกันทั้งหมด "โว้ยยยยย" ซิลเลเจี้ยนทัพหลักหวดขวานเข้าใส่ "แฟ้วววว เชร้งง แฟ้วๆๆๆ เชร้งๆๆๆ" มาริเลยพุ่งจู่โจมใส่ซิลเลเจี้ยนในจังหวะที่โดดหลบขวานที่ฟาดเข้ามาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับ "ลูกถีบนางแอ่นสลาตัน" พุ่งถีบเข้าที่หัวของซิลเลเจี้ยนจนตัวบิดเกรียวควงสว่านไป 3 ตลบ ก่อนจะลงมากองกับพื้นไป "กริฟทอนฟ่า" นาเดียหวดทอนฟ่าอัดใส่ซิลเลเจี้ยนถือตะบองและขวานจนทุบอาวุธแตกกระจุยไปกันหมด "ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก" จากนั้นก็ฟาดทอนฟ่าอัดใส่ซิลเลเจี้ยนทั้งห้าจนล้มกลิ้งลง "เฮ้ยยยย" ฟลาแลคซอนบุกเข้ามาหวดฮัลบาร์ดใส่นาเดีย "แฟ้วววววว" แต่เธอกระโดดสูงหลบคมขวานที่ฟาดมาได้ทัน แล้วก็ "หมัดรามสูรผ่าเขาไกรลาส" ชกด้วยโก่งสนับลงหัวฟลาแลคซอนจนหมวกแตกและล้มลง "หวับบบ ป้ากกก" จากนั้นก็กระทุ้งใส่แลนไซท์ของตระกูลบาลานซ์ให้จุก "ป้ากกก" แล้วก็กระโดดเหยียบหน้าอกไปเต็มแรงและ "เปรี้ยงงง" เตะก้านคอใส่ข้างหัวด้านซ้ายไปเต็มแรงในท่า "นาคีสะบัดหางสายฟ้าสลาตัน โรมรันโจมตีทันที" จนแลนไซท์ปลิวลงไปกองกับพื้นกันอย่างจังๆ

              "อ้านนนน อ้านนนน อ้านนนน ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ หวับบบ เปรี้ยงงง" น็อกกี้บิดคันเร่งให้กับไนโตรแอ็กซ์จนคมขวานเรืองแสงสีแดง พร้อมกับใช้ฟาดฟันใส่ซิลเลเจี้ยนของฝ่ายโคลานซ์ที่บุกเข้ามาจนล้มไป 3 แล้วก็หวดขวานสู้กับซิลเลเจี้ยนของทัพหลักที่ใช้ขวานมา จนผ่าขวานของฝ่ายทรอยอาร์จนกระจุย "เตรียมตัวตายเสียเหอะ ไอ้เกราะแดงเข้ม" มาสเก็ตซิลของทัพหลักเตรียมบริซครอสโบว์เพื่อยิงใส่ "ดับเบิ้ลแมกนั่ม" น็อกกี้เลยยิงสวนใส่พวกมาสเก็ตซิลโดยยิงปืนหน้าไม้ของพวกมันให้พังก่อน จากนั้นก็.... "ฟ้าวววว เปรี้ยงงง ป้ากกก โครมมม" พุ่งเข้าต่อยด้วยเทอโบฟิสท์ใส่มาสเก็ตซิลร่วงไป 3 แล้วก็ "พลาสม่าโบลท์" ยิงกระสุนพลาสม่าทะลวงใส่มาสเก็ตซิลอีกสองตนให้ร่วงตาม "ชรี้ดดดด ชรี้ดดดด ชรี้ดดดด เคร้งๆๆ" แจ็สใช้ชาร์แครมคัตเตอร์ฟาดตัดขวานของพวกซิลเลเจี้ยนทัพหลักจนขาดสะบั้น พวกมันเลยรีบใช้คาเทลิฟมาสเก็ตเพื่อยิงใส่ "เลเซอร์โซนิคบีม โฮลด์ช็อต" แจ็สเลยยิงเลเซอร์ออกจากฝ่ามือโดยยิงค้างให้ลำแสงยาว เพื่อสบัดมือจากขวาไปซ้ายและซ้ายไปขวาฟาดอัดใส่พวกซิลเลเจี้ยนจนล้ม "ป้ากกก โครมมม เปรี้ยงงงง" แด็กซ์ต่อยด้วยหมัดใส่โลห์ของซิลเลเจี้ยนทัพหลักจนพังไปพร้อมกับตัวผู้ถือไป 3 ราย แล้วก็ "ฟ้าวววว เปรี้ยงงง" พุ่งเข้าถีบขาคู่อัดใส่แลนไซท์จนล้มกองกับพื้นโดยที่โลห์และทวนหลุดมือ "หมับบบ หวับบบบ ฉึก" จากนั้นก็คว้าทวนมาซัดปักตรงท้องฟลาแลคซอนอย่างจังๆ "ชรี้ดดดดดด ป้าก ป้าก ป้าก" จากนั้นใช้เฮฟวี่ดริลอาร์มแทงทำลายทวนของแลนไซท์ที่บุกเข้ามาจนกระจุย แล้วก็ "ป้ากกก" หวดสว่านอัดใส่แลนไซท์ให้ล้มกลิ้งไป "ย้า ว้ากกกกก" นาตาเช่และมิวนิสบุกไปพร้อมกับเหล่าอัศวินของบาลานซ์และโคลานซ์กัน "ดริฟท์ไดรมอนด์ ชาร์จช็อต" นิคหยุดพวกซิลเลเจี้ยนของบาลานซ์ด้วยกระสุนเกล็ดน้ำแข็งจนล้ม ตามด้วย "นีดเดิ้ลแกตลิ่ง" กราดยิงกระสุนเข็มเจาะทะลุเกราะและโลห์ของฟลาแลคซอน 4 ตนจนล้ม "ไชน์นิ่งแฟลร์" รีฟหยุดพวกซิลเลเจี้ยนโคลานซ์ให้ชะงักกันหมด ก่อนที่พวกเขาจะใช้คาเทลิฟมาสเก็ตยาวยิงใส่ "วอเตอร์วัลแคน ชาร์จช็อต" จากนั้นก็ระดมยิงกระสุนน้ำอัดใส่พวกโคลานซ์จนล้มไปกันหมด "ย้า" นาตาเช่บุกมาหวดดาบยาวใส่รีฟ ซึ่งรีบชักกราฟลองค์ซอร์ดไว้ ส่วนนิค "แคร้งงงงงง" ใช้กราฟเซเบอร์ป้องกันดาบของมิวนิสที่บุกเข้ามาอย่างทันท่วงที
              "เฮ้......" ไม่ทันไร พวกสเตรดาร์ธภายใต้การนำของจาฟฟาร์ลก็แห่เข้ามา โดยพวกนั้นบุกเข้าจัดการกับเหล่าอัศวินทรอยอาร์ส่วนหนึ่ง "น็อกกี้ เตรียมพร้อมรับมือกับอริของพวกนายด้วยละ" เฟรดบอก
              น็อกกี้กล่าว "ก่อนจะมาบอกพวกเรา นายเคลียร์ฝั่งของนายกันก่อนดีกว่าน่า"

              "เฮ้ยยยยยย" สเตรมทรูปเปอร์กลุ่มนักรบคชสารทองบุกเข้ามายังหน่วยรบวิหคเงากัน "ดับเบิ้ลแมกนั่ม!!!" แต่ก็โดนกระสุนกระหน่ำยิงจนล้มลงกันหมด โดยที่เฟรด นาเดีย คีธยิงตรงต้นขา ต้นแขน ที่ท้อง เหนือหมวก หน้าแข้ง หลังแขนจนล้ม ในขณะที่แฮรี่และมาริยิงให้ทะลุอกและสีข้างไป "ย้ากกก ว้ากกก ย้ากกก" แต่มีนักรบสวมเกราะฟลายคาร์เพทกระโจนเข้ามา "สปาร์คสตั่นเนอร์ช็อต" เฟรดยิงกระสุนไฟฟ้าช็อตพวกฟลายคาร์เพทให้ชะงักกลางอากาศและร่วงลงมากองกับพื้น แล้วก็ยิงใส่พวกที่ถือโลห์และดาบโค้งจนชะงักแน่นิ่งไป "วอลแกรมไรเฟิ่ล ชูริเคนแมชชีนกัน" มาริประกอบกับปืนกลยิงดาวกระจายเข้ากับปืนหลักเพื่อยิงใส่พวกสเตรดาร์ธทัพหลัก ซึ่งคาดผ้าสีทองมีตราดวงจันทร์ ต่างจากพวกสมุนของจาฟฟาร์ลที่คาดผ้าสีทองแต่มีแถบเหลืองไว้ "ดับเบิ้ลแอสเซาท์ไรเฟิ่ล" แฮรี่กราดยิงใส่ฟลาแลคซอนที่ดาหน้าเข้ามาหลังจากที่จัดการกับสเตรมทรูปเปอร์ที่บุกมาจนล้มไปก่อนแล้ว ซึ่งโลห์ของฟลาแลคซอนทะลุเพราะแฮรี่ใช้กระสุนเจาะเกราะ "ฟรีซซิ่งกัน เมลติ้งกัน" นาเดียยิงกระสุนแช่แข็งเล่นงานนักรบสเตรมทรูปเปอร์ของจาฟฟาร์ล จนแขนที่ถืออาวุธตะบองถูกน้ำแข็งเกาะอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยิงแช่แข็งตรงส่วนขาให้พวกสเตรดาร์ธชะงักลง ส่วนคีธยิงใส่โลห์ให้หลอมละลายตามตะบองไปด้วย แล้วก็ยิงใส่ขวานและหอกที่สมุนจาฟฟาร์ลซัดเข้ามาจนหลอมละลายไปหมด "เฮ้ยยยยย ว้ากกก ย้ากกกกก" ไม่ทันไร อับดุลลอยด์ คมกริช และโมฮัมมัคกระโจนเข้ามา "ไดซ์คัตเตอร์" "ดัสท์บอมเบอร์" "ฮาเทเดียทททททท" โดยจู่โจมด้วยใบมีด กระสุนระเบิดและคลื่นเสียงโซนิคพร้อมกัน "ตรูมมมมม" แต่หน่วยรบวิหครีบโดดถอยออกมาโดยเร็ว "วังวนพายุเพลิง" กฤษณาสาดคลื่นเพลิงเข้าใส่ "แชดๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ ฟู้วววววว" นาเดียเลยโต้ตอบด้วยฟรีซซิ่งกันโดยเร็ว "หลบได้ไวเลยนิ แต่พวกนายเองคงเจอกับพวกเราสักหน่อยแล้วละ หน่วยรบวิหคเงา" คมกริชกล่าวแล้วก็บุกเข้าจู่โจมด้วยดาบโค้งสองเล่ม "ชรี้ดดดด เกร้งงงง" แจ็สกระโจนมาจากข้างหลังซัดชาร์แครมคัตเตอร์อัดใส่คมกริช ซึ่งรีบไขว้ดาบป้องกันไว้ "ตรุ้งๆๆๆ ตรูมๆๆๆ" แด็กซ์ยิงอิมแพคเกรเนดเข้าใส่โมฮัมมัคและอับดุลลอยด์ จนอับดุลลอยด์ต้องสร้างกำแพงเสียงป้องกันแรงระเบิดโดยทันที
              "เกรงว่าพวกนายต่างหากละ ที่ต้องเจอกับพวกเราทั้งสามกันนี้แหละ" น็อกกี้บอก
              "พวกนายเองรีบไล่ตามพวกอัศวินกางเขนขาวกันโดยเร็วเลย" แจ็สบอก
              นาเดียกล่าว "ไล่ตามนะหรือ...." แล้วก็หันมาเห็นพวกสไปค์บุกฝ่าพวกสเตรดาร์ธที่กระโจนเข้ามาขัดขวางกันอยู่ "หนอยยยย พวกนี้ฉวยโอกาสกันเลยน่ะ" นาเดียสบถ
              "ตอนนี้คุณนิคและคุณรีฟรับมือกับพวกอัศวินทรอยอาร์สองตระกูลกันอยู่ พวกเราทั้งสามจะยันพวกสมุนเอกขององค์ชายจาฟฟาร์ลเอง อย่างน้อย แค่จัดการกับพวกนี้ได้ องค์ชายตัวโตก็ต้องโผล่มากันอย่างแน่นอน" แด็กซ์กล่าว
              น็อกกี้บอก "เฟรด ไม่อยากบอกหรอกน่ะ แต่....นายกับพวกลูกพี่แฮรี่ หยุดพวกอัศวินกางเขนขาวให้ได้เดียวนี้เลย อย่าให้พวกมันบุกขึ้นไปถึงกองบัญชาการของนายพลเพอซิอัส เพื่อชิงตัวน้องสาวของไอ้ตัวหัวหน้าอัศวินพร้อมกับองค์ชายรองของทรอยอาร์กันด้วยน่ะ"
              "ถึงนายไม่บอก ฉันก็รู้อยู่แล้ว และพวกนายเองก็อย่าประมาทองค์ชายจาฟฟาร์ลแล้วกันน่ะ" เฟรดบอก แล้วก็กล่าว "รีบไปเถอะ คุณแฮรี่ คุณคาเซคาว่า เซวอน นาเดีย" ทั้งสี่พยักหน้าแล้วรีบวิ่งตามเฟรดไปโดยเร็ว
              โมฮัมมัคบอก "พวกนายสามตัวนิ คงบ้าแน่ๆที่คิดจะหาเรื่องพวกเราทั้งสี่พร้อมกันเลยน่ะ" แล้วก็ตั้งท่าตะบองเพื่อเตรียมจะใช้สู้กันแล้ว
              "แม้ว่านี้จะเป็นผิดกฎการดวลเพราะบุรุษเพศไม่ควรจะสู้กับสตรีเพศกันก็ตาม แต่ฉันคงปล่อยให้พวกนายรอดจนขัดขวางท่านจาฟฟาร์ลกันมิได้หรอก" กฤษณากล่าว
              คมกริชบอก "ถึงเวลาที่พวกเราจะกระทืบพวกนายให้ร่วงคาเท้ากันเดียวนี้เลย"
              "คำพูดนั้นควรจะเป็นของฝ่ายเรากันซะมากกว่าน่า" แจ็สบอก
              แด็กซ์กล่าว "เพราะว่าการดวลของพวกนายและการทะเลาะวิวาทของพวกเรา อาจจะเป็นคนละเรื่องกันก็ตาม แต่....โดยรวมแล้ว นี้เป็นการต่อสู้ของพวกเรากันทั้งหมดนี้แหละ"
              "เสร็จจากพวกนายแล้ว ก็ถึงคราวองค์ชายตัวโตที่เป็นบอสของพวกนายกันบ้างละ ที่เราจะตามไปคิดบัญชีกันต่อน่ะ" น็อกกี้กล่าว
              อับดุลลอยด์บอก "แม้พวกเราจะต้องพ่ายแพ้ด้วยมือของพวกนาย พวกนายเองก็ต้องเสียใจ ที่แส่หาเรื่องกับท่านจาฟฟาร์ลกันแล้วละ" แล้วก็งัดอาวุธเป็นดาบตะขอคู่ออกมา "ไอ้พวกสติลลิมบ์ เตรียมตัวตายได้แล้ว!!!!"
              "ไอ้ที่ตายนั้นมันเป็นพวกนายเองต่างหากเล่า แจ็ส แด็กซ์ ลุยแม่มเลย!!!!" น็อกกี้บอก
              แจ็สและแด็กซ์กล่าว "โอ้ว!!!" แล้วทั้งสามก็บุกเข้าใส่
              อับดุลลอยด์กล่าว "พวกเรา สั่งสอนพวกมันเลย ลุย!!!" แล้วก็ "โฮ่ววววว" ยอดนักรบองครักษ์ทั้งสี่ขององค์ชายสามบุกเข้าปะทะกับสามเกลอแขนขาเหล็กกันโดยเร็ว

              "แชบๆๆๆๆๆ" มิวนิสหวดดาบเพลิงเข้าใส่นิคที่ใช้ดาบยาวพลังน้ำแข็งโต้ตอบกันอยู่ ในขณะที่รีฟใช้ดาบพลังงานแสงสู้กับดาบพลังสายฟ้าของนาตาเช่ที่ฟาดฟันมาอย่างเร็ว "เคร้งงงงงง" มิวนิสหวดดาบปะกับดาบของนิคอย่างจังๆ โดยเงื้อหมัดซ้ายเพื่อชกใส่ "เปรี้ยงงงง" แต่นิคโต้กลับด้วยการถีบสวน แม้จะโดนมิวนิสต่อยไปก่อนทีหนึ่งก็ตาม "เคร้งงง หวับ ปั้ก ป้ากกก" ด้านรีฟเองก็กดดาบของนาตาเช่ให้ปักพื้นพร้อมกับถีบให้เธอถอยห่างไป "ย้า" จากนั้นก็จ้วงแทงใส่ โดยที่นาตาเช่หมุนตัวหลบออกด้านข้างทางซ้ายและ "เปรี้ยงงง" ตบหน้ารีฟไปทีหนึ่งจนเธอเสียหลัก เปิดช่องให้นาตาเช่รีบโดดมาคว้าเก็บดาบได้อีกครั้ง "ไลท์นิ่งแบนิชแฟงค์ ย้าๆๆๆๆๆ" เพื่อฟาดดาบซัดคลื่นคมดาบพลังสายฟ้าออกไปห้าอัน "อควอฟินเซอร์เวฟ" รีฟเลยใช้อาวุธวอเตอร์วัลแคนกับกราฟลองค์ซอร์ดจ้วงแทงให้เกิดคลื่นน้ำพุ่งเข้า "ป้ากๆๆๆๆ เปรี้ยงงง" แทงทำลายคลื่นคมดาบพลังสายฟ้าทั้งห้าให้กระจุย พร้อมกับดูดซับพลังสายฟ้ามาที่คลื่นน้ำซึ่งพุ่งมายังนาตาเช่ "หวับบบบ เปรี้ยงงงง" ซึ่งเธอรีบโผหลบจนเกราะหัวไหล่ด้านซ้ายของเธอถูกแทงถากเข้า แม้จะโดนแทงแบบถาก แต่ก็ทำให้ต้นแขนซ้ายของเธอชาจากการถูกช็อตไปด้วย "ว้ากกก" มิวนิสพุ่งเข้ามาอย่างเร็วพร้อมกับแทงดาบใส่ นิคเลยรีบหวดดาบน้ำแข็งเข้า "เสร็จละ" มิวนิสยิ้มแล้วก็ "ฟ้าวววว" กระโดดกลับหลังหลบการฟันของนิคได้อย่างฉิวเฉียด เพื่อจู่โจมด้วย "เบรซซิ่งไดฟ์เบรค" การพุ่งโฉบลงมาเพื่อหวดดาบที่ลุกโชนเป็นไฟอย่างรวดเร็ว "หวับๆๆๆๆๆๆๆ" แต่นิคที่หวดดาบฟันหวืดนั้นกลับหมุนดาบอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นเสาพายุ ด้วยพลังจากดริฟไดรมอนด์ขึ้นมาโต้ตอบมิวนิสด้วยท่า "ทุนดร้าทวิสเตอร์!!!!" เข้าปะทะกัน "เกร้งๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" ซึ่งนิคหมุนตัวหวดดาบอย่างต่อเนื่องใส่ดาบเพลิงของมิวนิส จนเป่าอัศวินหนุ่มตระกูลโคลานซ์ให้กระเด็นไปพร้อมกับสะเก็ดน้ำแข็งที่ปักบนเกราะหน้าอกของเขาอยู่ "ฉันไม่มีทางแพ้นายกันได้หรอก" มิวนิสบอก โดยบุกเข้าใส่ด้วยการจ้วงดาบ
              ในขณะที่นาตาเช่ลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้ามา "ลงไปกองกับพื้นเดียวนี้เลย" พร้อมกับเงื้อดาบเพื่อฟันใส่
              "เคร้งงงงงงง แคร้งงงงง ฉั้วะๆ" เสียงดาบปะทะกันทั้งสองครั้ง ซึ่งดาบของผู้แพ้ทั้งสองนั้น "หวับๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆ" ปลิวกระเด็นลงมาปักพื้น โดยผลออกมานั้น "บะ บ้าที่สุด..." มิวนิสกล่าวเพราะดาบของเขาถูกนิคปัดออกด้านข้างและถูกฟันขาดสะพายแล่งขวาลงมา ส่วนนาตาเช่....
              "รู้ผลกันแล้วละคะ" รีฟกล่าวโดยที่เธอเสยดาบปัดดาบของนาตาเช่ให้กระเด็นก่อนจะฟันผ่าสะพายแล่งซ้ายตาม จนทั้งสองถึงกับล้มเข่าทรุดลง
              "ฉันยังไม่แพ้หรอกน่ะ...." มิวนิสบอกโดยพยายามลุกขึ้น
              "พอได้แล้วละ มิวนิส เธอสู้ได้ดีแล้ว อย่าทำลายตัวเองด้วยความดันทุรังไปมากกว่านี้เลย" ฟรีเซียกล่าวห้ามมิวนิสไว้ เช่นเดียวกับ
              "นาตาเช่ พยายามได้ดีมากเลยน่ะ แม้จะแพ้ แต่ก็แพ้เพื่อที่จะชนะในโอกาสต่อไปได้อยู่น่ะ" วินเซนท์กล่าว โดยให้ซิลเลเจี้ยนของตนมาประคองตัวนาตาเช่ไว้ ส่วนฟรีเซียก็ส่งคนมาประคองตัวมิวนิสให้ลุกขึ้นตาม "ส่วนพวกเธอสองคนเอง แม้จะไม่ใช่นักรบโดยกำเนิด แต่เป็นผู้เคราะห์ร้ายจากคูลดาลนัสที่ถูกจับมาเป็นนักรบกัน จนพวกเธอมีฝีมือไม่ได้เก่งกว่านาตาเช่หรือมิวนิสกันเลยน่ะ"
              "แต่จากที่พวกเธอเอาชนะมิวนิสแล้วก็นาตาเช่ไปได้นั้น บ่งบอกได้ว่าพวกไทรเวเซอร์ฝึกพวกเธอทั้งสองให้เก่งขึ้นกว่าที่คิดไว้เลยน่ะ" ฟรีเซียกล่าว
              รีฟบอก "ที่พวกคุณพูดมานิ คงไม่ได้คิดที่จะ.... ดวลกับพวกเราละสิคะ"
              "ถูกต้องแล้วละ" วินเซนท์กล่าวแล้วก็ชักดาบของตนออกมา เช่นเดียวกับฟรีเซียด้วย "คิดว่าพวกเรามานี้เพื่อสั่งการเหล่าอัศวินให้ยึดเมืองแห่งแรกนี้กัน พวกเธอคิดผิดอย่างมากแล้วละ" วินเซนท์บอก
              ฟรีเซียกล่าว "ในเมื่อดาบมือหนึ่งและพวกไม่อยู่ให้ดวลละก็ เหลือแต่พวกเธอทั้งสองกันแล้ว ที่้ต้องดวลกับพวกเรากันน่ะ"
              "พี่ครับ ยังไงก็ระวังด้วยละ" มิวนิสบอก
              นาตาเช่กล่าว "เอาชนะให้ได้นะคะ พี่ชาย พวกเราจะเอาใจช่วยกันน่ะ" โดยที่วินเซนท์และฟรีเซียตั้งท่าจับดาบขึ้นมา นิคและรีฟเลยพยักหน้าโดยถือดาบเพื่อสู้ต่อ
              "พวกเธอทั้งสองโชคดีมากแล้ว ที่ได้ดวลกับมังกรอัสนีบาตคราม และปักษีอัคคีชาดพร้อมกัน แม้ว่าพวกเธอมีอาวุธอยู่ในแขนทั้งสองข้างไว้ แต่ดาบมือหนึ่งคงจะสอนหลักการดวลด้วยอาวุธกันมาก่อนสิน่ะ" วินเซนท์บอก
              นิคกล่าว "พวกเราได้ใช้อาวุธพิเศษในแขนกับพวกลูกน้องของพวกท่านไปแล้ว เพื่อที่ดวลกับท่านได้เต็มที่เลยน่ะ"
              "อย่าคิดว่าเอาชนะน้องชายของฉัน และน้องสาวของวินเซนท์ไปได้นั้น จะเอาชนะพวกเราทั้งสองกันได้หรอก" ฟรีเซียกล่าวโดยก้าวมาตรงหน้ารีฟ ส่วนวินเซนท์จับคู่กับนิค
              รีฟบอก "พวกเรารู้ดีคะ ว่าถึงแม้ชนะพวกคุณทั้งสองไม่ได้ อย่างน้อย แค่ขัดขวางพวกคุณไม่ให้ขึ้นไปได้ก็ถือว่าเกินพอแล้วละคะ"
              "งั้นก็อย่าเสียเวลากัน แล้วเข้ามาได้เลย บารอนบาลานซ์ เลดี้โคลานซ์" นิคกล่าว
              วินเซนท์กล่าว "ในเมื่อเธอท้าพวกเราเช่นนี้ ถึงคราวที่พวกเธอจะได้เห็นสายฟ้าสีครามฟาดลงใส่พวกเธอกันบ้างละ"
              "เพลิงสีแดงจะแผดเผาความโอหังของพวกเธอกันด้วย ว่าพวกเธอไม่ควรมาหาเรื่องกับพวกเราและพวกทรอยอาร์กันนี้แหละ" ฟรีเซียกล่าว แล้วทั้งสองบุกเข้าใส่นิคและรีฟกัน
              "พวกพี่ๆและผู้ว่าการพาประชาชนชาวเมืองเข้าที่หลบภัยกันได้แล้วละครับ พ่อ" นีลเซนท์รายงานโดยได้รับแจ้งจากโพโบโวโล่กัน
              "ดีแล้วละ อย่างน้อย เราก็เซฟประชาชนกันได้นี้แหละ" จูเดทต้าบอก
              ทหารสื่อสารรายงาน "กองยานของพวกเดลอาเนี่ยนมาถึงเขตดาวของพวกเรากันแล้วละครับ" โดยตอนนี้กองยานหลักของเดลอาเนี่ยนเคลื่อนตัวมาใกล้กับดาวแคสเซเดี่ยน-3 แล้ว ซึ่งวอลเดนสไตน์นำกองยานของตนเองมารออยู่นานแล้ว
              "หวังว่าท่านเสนาธิการคงจะรับมือกับพวกเดลอาเนี่ยนได้ตามที่พูดกันไว้นะคะ" จูเดทต้ากล่าว
              เพอซิอัสพยักหน้า "แต่วอลเลนซ์ไม่มาด้วยเช่นนี้ ชักจะกังวลเสียแล้วละสิ"

              "ท่านแม่ทัพใหญ่บูเรนนอฟ มีกองยานของพวกแมนิเกเตอร์มาดักหน้าพวกเรากันนะครับ" นายกองยานชาวเดลอาเนี่ยนกล่าวต่อบูเรนนอฟที่ไม่ได้ไปกับยานเดลทรอสตรัลที่เป็นยานธง
              "แล้วกองยานนั้นมีพวกไทรเวเซอร์กันหรือเปล่าละ"
              "ไม่ปรากฎพวกนั้นอยู่ในกองยานกันนะครับ ท่านแม่ทัพใหญ่" นายกองยานรายงาน
              บูเรนนอฟบอก "หึ สงสัยว่าพวกนั้นคงจะเตรียมตัวอยู่ละสิน่ะ แต่ก็ดีแล้วละ ที่ทำให้ภารกิจของพวกเราง่ายดายขึ้นกันน่ะ"
              "ถึงกองยานมหาจักรวรรดิ์เดลอาเนี่ยน พวกแกไม่มีทางผ่านกองยานของข้า วอลเดนสไตน์ผู้นี้กันไปได้หรอก" วอลเดนสไตน์กล่าว
              นายกองยานเดลอาเนี่ยนที่นำทัพยานรบกล่าว "เจ้าช่างโอหังกันเช่นนี้ เกรงว่าพวกเจ้าจะไม่ได้ตายดีแน่นอน" แล้วก็แจ้งบอก "ท่านบูเรนนอฟ ออกคำสั่งให้พวกเราด้วยละครับ"
              "คาจอลเทส ทักแทน พวกท่านนำกองรบอัลแทเรี่ยนและอินเซคเที่ยนสนับสนุนกองรบของแม่ทัพพูฟมาสแห่งแมทเฟลิมเป็นทัพหน้า ฮิสซอน มอคซอน เวเดม นำกองรบซอร์แรค บรูซาเรม และเทรโอเซี่ยมของพวกท่านถล่มใส่ยานรบของพวกสหพันธมิตรเพื่อสร้างความเสียหายให้หนักที่สุด มอร์ราโคว อาโดลวี่ พวกท่านทั้งสองนำกองรบซีรีสตรัลและเมคครอฟิค ไปกับกองรบของแม่ทัพโชดอลแห่งแดคน็อกซ์หาช่องว่างและจู่โจมใส่ แม่ทัพโดซอนแห่งไซเอมนอยด์ แม่ทัพบิคคอยแห่งโกลเดี้ยม สนับสนุนแม่ทัพเดอาและเฟลาเลี่ยมที่บุกจู่โจมกองรบหลักไว้ กำชัยชนะมาให้มหาจักรวรรดิ์กันซะ" บูเรนนอฟสั่งการ
              เหล่าแม่ทัพกล่าว "รับทราบ" แล้วกองรบเผ่าหลัก 12 เผ่าแห่แหนกันมา "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กองรบทัพหน้าที่มีพวกอัลแทเรี่ยน อินเซคเที่ยนและแมทเฟลิมบุกนำไปก่อน "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยานแซลเดรดยิงเลเซอร์กระจายเข้าทำลายวอร์บอทและวอร์แมชชีนความเร็วสูงของพวกทัพหน้าจนกระเจิงไปไม่น้อย แม้พวกอัลแทเรี่ยนพยายามจะหลบหลีกเลเซอร์กระจายกันแค่ไหน "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยานแซลเดรดปล่อยห่ามิไซล์ติดตามเป้าหมายพุ่งเข้าสอยอัสแทรมิค และวิงค์เซปเตอร์ให้กระจุยไปกันหมด ในขณะที่ฝูงคอร์อินเซปและสวอร์มมิสนั้นถูกเลเซอร์กระจายยิงถล่มกันไปไม่น้อยด้วย ส่งผลให้พวกทัพหน้าต้องเพิ่มกำลังเสริมโดยเร็ว
              "กองยานของเลนอฟ ไอน์ดรัดและดองเกรสเคลื่อนตัว เพื่อเข้าสกัดกั้นพวกแมทเฟลิมที่บุกมาตามแผนกันแล้วละคะ" โอเปเรเตอร์กล่าว โดยตอนนี้เรนอฟ ไอน์ดรัดและดองเกรสส่งสกรีแทนความเร็วสูงเข้าจู่โจมพวกแมทเฟลิมที่ใช้ทั้งแคทครอฟและเพรเดแคทกันโดยเร็ว "พวกซอร์แรค บรูซาเรมและเทรโอเซี่ยมเคลื่อนตัวมาในจังหวะเดียวกันกับพวกเมคครอฟิค ซีรีสตรัลและแดคน็อกซ์กันแล้วละคะ"
              วอลเดนสไตน์บอก "กองยานรบที่ 26 กองรบที่ 17 19 และ 21 ถึงคราวพวกเธอแล้วละ"
              "รับทราบ" แม่ทัพกองยานรบที่ 26 กล่าวโดยให้กองรบสกรีแทนมาร์คทู "ครืนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้ดีทอเนเตอร์บ็อกซ์ยิงไฮเปอร์พลาสม่าแคนน่อนพุ่งเข้าใส่พวกเทรโอเซี่ยม บรูซาเรมและซอร์แรคที่บุกเข้ามาหมายจะจมยานรบ ซึ่งจรวดแตกระเบิดเล่นงานวอร์บอทและวอร์แมชชีนที่ถูกดัดแปลงให้ใช้งานในอวกาศกัน ตามด้วยการให้สกรีแทนมาร์ควันของกองรบที่ 17 19 และ 21 รวมถึงกองรบอื่นๆ "แฟ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงจรวดลูกยาวเข้าใส่ "แฟ้วๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆ" จรวดลูกยาวส่วนหนึ่งแตกระเบิดคลื่นเสียงโซนิคเล่นงานคริฟเจ็ท คริฟเดลต้า คริฟแทงค์ คริฟโทซัสทั้งปกติและแบบรวมกับวอร์แมชชีนจนเกราะผลึกและเศษหินแตกร้าวกัน "แฟ้วๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆ" ชุดที่สองซึ่งพุ่งมายังพวกเมคครอฟิคนั้นเป็นจรวดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เข้าช็อตพวกบรอซทรูปเปอร์กันอย่างพร้อมเพียงกัน "แฟ้วๆๆๆๆๆๆๆ แว้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" ชุดที่สามเป็นจรวดระเบิดแสงจ้าเข้าเล่นงานพวกแดคน็อกซ์ จนสาหัสด้วยพลังแสงที่แผดเผากันอย่างพร้อมเพียงกัน เปิดช่องให้ "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กองรบสกรีแทนมาร์ควันและทูของกองยานรบที่ 26 บุกเข้าตีซ้ำอีกที
              "ร้ายกาจกันจริงๆนะเนี้ย ไอ้ตัวหัวหน้ากองยานของพวกสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์กันน่ะ" โชดอลกล่าวอย่างตกใจ แต่ก็รีบเรียกกองหนุนมาเสริมเพิ่มเติมอีก
              "แบ่งกำลังเข้าช่วยกองรบทัพหน้า กองรบหนักและกองรบจู่โจมฉาบฉวยกันเดียวนี้เลย ฝ่ายตรงข้ามรู้วิธีรับมือกับฝ่ายเรากันแล้วละ" เดอาร์กล่าว โดยส่งเหล่าเฟลาเลี่ยม โกลเดี้ยมและไซเอมนอยด์เข้าช่วยกองรบกันโดยเร็ว "แชดดดด แชดดด แชดดด แชดดด แชดดด แชดดด แชดดด" กองยานแซลเดรดระดมยิงปืนใหญ่ลำแสงเข้าเล่นงานกองรบสนับสนุนของเดอาร์เข้า "แว้งงง ป้ากกก ตรูมมมม" อมาซอเนลเจอแลคและวอคซิคกางสนามพลังป้องกันพวกบรูซาเรมที่ตกเป็นเป้า แต่ความแรงของปืนใหญ่พลังพลาสม่ากำลังสูงเหนือกว่าจนพวกเธอโดนถล่มเสียเอง กองรบคัลซั่มพยายามหันส่วนล่างที่สร้างสนามพลังอนุภาคป้องกัน แต่ก็ต้านไม่อยู่ โกลบดรอยและโกล์บเจ็ทบินมาก็รีบบินหนีแต่ก็โดนลำแสงสาดทำลายทิ้งไป
              "กองรบที่รับมือกับพวกตัวหนักๆนั้นถอยกลับมาเติมอาวุธก่อน จากนั้นกองรบชุดที่สองและสามเข้ามาหนุนซ้ำ เพื่อให้การจู่โจมเป็นไปอย่างต่อเนื่องกัน กองยานแซลเดรดฝั่งซ้ายและขวา พยายามยิงถล่มใส่ยานรบของพวกเดลอาเนี่ยนให้เสียหาย ด้วยการเล็งไปที่ยานรบและยานขนส่งกำลังพลกันซะ" วอลเดนสไตน์สั่งการเป็นชุดๆไว้
              "ไม่อยากเชื่อเลยว่าเสนาธิการสามารถรับมือกับพวกเดลอาเนี่ยนที่มีจำนวนมากกันจริงๆด้วยน่ะ" แมนิเกเตอร์เทรอมบอก
              ชาวซัลคาเลี่ยนกล่าว "สุดยอด ท่านเสนาธิการได้ช่วยเหลือพวกเรากันแล้วละ" โดยที่เขาเป็นหน้าม้าที่ช่วยเสริมไปให้อีกที
              "แล้วว่าแต่กองรบอื่นๆทำไมถึงไม่มากันเลยละเนี้ย" แมนิเกเตอร์ชาวลาวกล่าว
              หญิงซัลคาเลี่ยนบอก "สงสัยว่าพวกเขาคงจะรับมือกับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันกระมั่ง"
              "ตอนนี้พวกท่านเองควรใจเย็นกันก่อนนะครับ เพราะการรบของเสนาธิการวอลเดนสไตน์นั้น พึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง" โคเคสกล่าว
              แฮซกริฟบอก "ตอนนี้ทางเราได้แก้ไขปัญหาของกองกำลังที่ขาดการติดต่อไปกันอยู่ ซึ่งเรายังบอกไม่ได้ว่าสถานการณ์ในดาวของเราจะจบลงเช่นไร และผลออกมาเป็นยังไง ขอให้พวกท่านอดทนกันไว้นะครับ"
              "สงสัยว่าพวกไทรเวเซอร์คงหมดไฟแล้วละมั่ง ถึงได้ไม่โผล่หน้ามาเลยน่ะ" หน้าม้าตะโกนขึ้นทันที
              อีกคนบอก "นั้นสิ เพื่อนฝูงตายไปทั้งที พวกเขาคงจะกลัวจนหัวหดกันไป...."
              "อะแอ่ม ผมรู้นะครับ ว่าพวกท่านรู้สึกเช่นไรกันบ้าง แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ มันไม่ใช่เวลาที่จะมาด่วนสรุปกันเช่นนี้เลยนะครับ" โคเคสกล่าว
              แฮซกริฟบอก "อีกทั้งเราไม่รู้ว่าสถานการณ์ต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร ดังนั้น ทางเราขอให้พวกท่านรับทราบกันอย่างสงบก็พอนะครับ" โดยที่ในใจนั้น "วอลเดน รู้น่ะ ว่าการหายไปของกองรบภาคพื้นของเทรอมและของฉันส่วนหนึ่งมันเป็นฝีมือของนาย แต่ฉันไม่อยากจะทำเช่นนี้เลยน่ะ"

              วกกลับมาที่เฟิร์สฮิลล์ ในตอนนี้....
              "ป้ากกก โครมมม ป้ากกก ป้ากกก" เหล่านักรบเบลดไดซ์ของจาฟฟาร์ลโดนรีกัลเล่นงานจนล้มลง เช่นเดียวกับ "หลีกไปโว้ย ไอ้พวกสเตรดาร์ธ" รีกัลพุ่งทะลวงใส่พวกเอคคอร์ทที่มากับจาฟฟาร์ลจนล้มตายไป 5 ตน "แชดดดด แชดด แชดดด" นักรบสเตรมทรูปเปอร์หญิงใช้ไชน์นิ่งแคนน่อนยิงใส่พวกสไปค์ "ป้ากๆๆ" บัฟเข้ามาป้องกันด้วยโลห์พลังและสวนกลับด้วย "ชิลด์บลัสต์" พลังรูปโลห์เข้ากระแทกใส่พวกสเตรมทรูปเปอร์หญิงจนล้มไปกันหมด "ฉั้วะๆๆๆๆๆ" สไปค์และเวนดี้ใช้ดาบฟันใส่สเตรมทรูปเปอร์ชายจนล้มไปกันหมด แล้วทั้งห้ารีบตรงไป
              "สายของเราสืบมา ถ้าไปตามทางนี้ จะสามารถขึ้นไปยังเขตเมืองด้านบนที่เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองรบที่ 11 กันน่ะ" เวนดี้บอก
              สไปค์กล่าว "สัญญาณมือถือของเซาท์เวสท์ยังทำงานอยู่ แสดงว่านายพลเพอซิอัสคงกักตัวออสเทรย์ไว้แน่ๆเลยละ"
              "หวังว่าหน่วยรบวิหคคงจะโดนพวกสเตรดาร์ธสกัดกั้นกัน...." บัฟกล่าว โดยตอนนี้พวกเขาเดินผ่านเขตชุมชนชาวจีนมา "ปังๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆ ปิ้วๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร นาเดียและคีธระดมยิงดับเบิ้ลแมกนั่มจากบนหลังคาลงมาอย่างจังๆ
              "ตะกี้นี้ นายว่าอะไรกันแน่ละ พี่สาธุคุณ" ฮีธสบถแล้วก็เสยทวนซัดคลื่นความร้อนเข้า "ตรูมมมมม" นาเดียรีบกระโดดหลบออกมาได้ทัน เช่นเดียวกับคีธที่ระดมยิง "แชดๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" ด้วยเมลติ้งกันลงพื้นเล่นงานสไปค์และพวกกันไว้
              "ลูกพี่ พี่พาพี่สาวและพี่บาทหลวงล่วงหน้าไปก่อนเลย ผมกับฮีธจะยันพวกนี้ไว้เอง" รีกัลบอก สไปค์พยักหน้า
              เวนดี้บอก "ระวังตัวด้วยละ" แล้วเธอก็รีบตามบัฟและสไปค์เดินไปโดยเร็ว
              "เฮ้ๆๆๆๆ พี่สาว นี้พี่กับไอ้ตาโตยังขวางเราไม่เลิกเลยหรือ" รีกัลกล่าว
              "คงยากมั่ง ไอ้มนุษย์หมาข้างถนน เพราะเรามานี้เพื่อมาสั่งสอนนายกับพวกนี้แหละ" คีธกล่าวพร้อมกับนำกริฟทวินเบลดออกมา
              ฮีธกล่าว "เกรงว่าพวกเราเองต่างหากละ จะสั่งสอนแกกับอีพิราบปีกหักนี้เองแหละ ฐานที่เข้ามาสอดยุ่งเรื่องไม่เข้าเรื่องกันน่ะ"
              "ดูท่าว่านายคงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่รู้จักหลาบจำจนพ่อของนายต้องตัดหางปล่อยวัดเลยละสิ" นาเดียบอกแล้วนำกริฟทอนฟ่าออกมา "แม้ว่านายกับพวกจะไม่ได้เป็นพวกเลวเหมือนกับพวกที่มาเล่นงานพวกคุณบรอนเซอรูทก็ตาม แต่คนหัวดื้ออย่างนายที่มีเป็นสิบเป็นร้อย คงต้องได้รับการสั่งสอนให้หลาบจำกันแล้วละ"
              ฮีธบอก "เธอเองคงจะกลัวไอ้แพนเนสมาก จนไม่กล้าออกไปสู้กันละสิ"
              "พวกเราไม่ได้กลัวกันหรอกน่ะ แต่พวกไทรเวเซอร์ห้ามไม่ให้พวกเราสู้ ก็เพื่อให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับพวกนายกันนี้แหละ" คีธกล่าว "ยิ่งพวกนายมาผิดเวลา ผิดเหตุการณ์ และผิดกาละเทศะกันเช่นนี้ พ่อแม่ไม่สั่งสอนเลยหรือไง กับการเข้าไปในบ้านที่กำลังโดนรื้อด้วยลูกตุ้มพังบ้านกันอยู่น่ะ"
              รีกัลกล่าว "ถ้าคิดจะพูดเพื่อถ่วงเวลาให้พวกไทรเวเซอร์มาละก็ อย่าดีกว่าน่า เพราะนายกับพี่สาวขายาวจะโดนพวกเราจัดการกันนี้แหละ"
              "ในเมื่อเธอกับแฟนขวางพวกเราแบบนี้ ย่อมได้ เพราะฉันมานี้เพื่อเล่นงานให้เธอแบบยับเยิ่นเลยละ" ฮีธกล่าว
              นาเดียบอก "เซวอนไม่ใช่แฟนของฉันสักหน่อยนะยะ ไอ้กุ๊ย ฉันจะทุบปากเสียของนายลงกันโดยเร็วแล้วละ"
              "งั้นก็เข้ามาเลย ไอ้กุ๊ยมังกรเพลิง ไอ้มนุษย์หมาข้างถนน เราไม่ยอมให้พวกนายสองตัวไปสมทบกับพวกพ้องของนายได้หรอก" คีธร้องท้าพร้อมกับเตรียมกริฟทวินเบลดไว้
              รีกัลกล่าว "งั้นก็เตรียมตัวตายได้เลย โบ้ววววว" หลังจากที่หอนเสร็จก็กระโจนเข้าใส่พร้อมกับฮีธที่พุ่งมาอย่างแรง "หวับบบบ แฟ้ววววว ตึกๆ" คีธและนาเดียรีบโดดถอยหลังมาตั้งหลักและวิ่งเข้าใส่ฮีธและรีกัลพร้อมกัน

              "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆ" สไปค์ บัฟและเวนดี้วิ่งผ่านเขตชุมชนเกาหลีกันอยู่ แม้ว่าพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธยังเข้าไปไม่ถึงพื้นที่กันก็ตาม.... "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ปิ้วๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไรก็มีกระสุนปืนยิงลงพื้นใส่บัฟกัน ซึ่งเกราะฟลาแลคซอนของบัฟช่วยป้องกันเอาไว้ได้ "แฟ้ววววววว ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นมาริก็โพกระโจนพร้อมกับกราดยิงวอลแกรมไรเฟิ่ลทั้งกระสุนจริงและดาวกระจายเข้าใส่ "โฟลด์แอคเซลเบลด สปินการ์ด" เวนดี้ถือโฟลด์แอคเซลเบลดในแนวตั้งและหมุนตัวด้วยความเร็วสูงเพื่อปัดกระสุนและดาวกระจายให้ออกไปโดยเร็ว "เฮ้ยยยย" แฮรี่กระโจนออกมาจากหลังคาบ้านพร้อมกับ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่สไปค์จากด้านบน "ฟึ่บบบ ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กี้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แต่บัฟเข้ามาป้องกันสไปค์ไว้ จนกระสุนที่ยิงออกร่วงลงมาในสภาพบุบเข้าใน "แกร็กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แฮรี่ยิงจนกระสุนหมดแมกกาซีน เช่นเดียวกับของมาริด้วย "ชิ ตามมาทันจนได้สิน่า" สไปค์บ่นอย่างหงุดหงิด
              บัฟกล่าว "นายล่วงหน้าไปก่อนเลย สไปค์ เดียวพวกเราตามไป"
              "มีแต่นายเท่านั้นที่ช่วยพอลลีนและท่านออสเทรย์ออกมาได้ แม้ว่าฉันกับบัฟจะต้านรับพวกหน่วยรบวิหคกันไม่ได้ก็ตามน่ะ" เวนดี้บอก สไปค์พยักหน้า แล้วรีบวิ่งออกไป มาริโยนวอลแกรมไรเฟิ่ลลงพื้น พร้อมกับนำกริฟแดกเกอร์คลอว์ออกมา "ถ้าให้เดาน่ะ ไม่เธอก็ต้องเป็นเหยี่ยวดินระเบิดแน่ๆ ที่คิดแผนขวางทางพวกเราไว้น่ะ" เวนดี้บอก
              มาริส่ายหน้า "แย่หน่อยนะ ที่เฟรด มาร์ตินมีประสบการณ์น้อยและไม่ใช่ตัวหัวหน้าอย่างที่เธอและพวกคิดกันจริงๆหรอกน่ะ"
              "แปลว่านายเองคงเป็นหัวหน้าทีมกันจริงๆสิน่ะ ถึงได้ให้เหยี่ยวดินระเบิดหรือเฟรด มาร์ติน มาขวางสไปค์เอาไว้นะ" บัฟกล่าว
              แฮรี่โยนปืนดับเบิ้ลแอสเซาท์ไรเฟิ่ลลง "เรื่องที่ฉันเป็นหัวหน้าทีมนะใช่ แต่เรื่องที่ให้เฟรดมาขวางสไปค์ละก็ นั้นเป็นความตั้งใจของเฟรดเอง ที่ต้องการให้พวกเราสะสางกับพวกนายเป็นรายบุคคลกัน แน่นอน ว่าที่พวกเราหาเรื่องมาสู้กับพวกนาย ก็เป็นความตั้งใจของพวกเราด้วย" แล้วก็นำกริฟสเปียร์ออกมา "และคราวนี้ การต่อสู้ของพวกเราควรจะรู้ผลกันจริงๆแล้วละ"
              "นั้นสิน่ะ เพราะว่าพวกเรามานี้เพื่อยึดเมืองแห่งแรกพร้อมกับอีก 4-5 แห่งให้ได้ก่อนที่พวกสเตรดาร์ธจะมาถึง แม้ว่าพวกเรามาในช่วงที่เดลอาเนี่ยนกำลังจะมากันก็ตามน่ะ" บัฟบอก
              มาริกล่าว "เดลอาเนี่ยนมาจ่อตรงนอกดาวของพวกเรากันแล้ว และเข้าปะทะกับกองยานของพวกเรากันด้วย ไม่ว่าจะตีฝ่าเข้ามาหรือไม่ ดาวดวงนี้ก็ต้องพินาศด้วยน้ำมือเดลอาเนี่ยน ซึ่งหมายถึงพวกเรา พวกนายและพวกสเตรดาร์ธก็ต้องไม่รอดแน่นอนน่ะ"
              "เพราะอย่างงั้นแหละ พวกเรามานี้ก็เพื่อตัดหน้าพวกเดลอาเนี่ยนกันนี้แหละ ต่อให้เราต้องเชือดพวกเธอทิ้งไปเลยก็ตามน่ะ" เวนดี้บอก
              แฮรี่กล่าว "แล้วหลังจากนั้นละ พวกนายคงไม่คิดจะกลับไปก้มหัวให้ริชเชลลิอาร์ลกันอีกรอบสิ เพราะพวกนายคงสาบานว่าจะไม่ทรยศต่อองค์ราชากันสิน่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "แย่หน่อย ที่พวกนายซึ่งเป็นอัศวินที่ยึดถือความถูกต้อง แต่ดันไปก้มหัวให้กับคนชั่วที่บิดเบือนเจตนาของโอเวอร์เรสให้พวกนายทั้งหลายเข้าใจผิดกันเช่นนี้ พวกเราคงต้องเตือนสติพวกนายสักหน่อยแล้วละ"
              "ขนาดกระสุนปืนของนายยังยิงไม่เข้าเกราะของฉัน พอๆกันกับเพื่อนสาวของนายที่ทำอะไรเวนดี้ไม่ได้ก็ตาม เกรงว่าพวกนายคิดผิดที่มาท้าทายพวกเรากันน่ะ" บัฟกล่าว "เพราะบัฟ ไบเบิ้ล อาชาเกราะเหล็กนี้ จะเด็ดปีกของนายลงซะ อินทรีปีกเหล็ก"
              เวนดี้บอก "ถึงเวลาที่ต้องตัดสินว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะกันละ บริซสวอลโลว์"
              "แย่หน่อยนะ ที่หมัดของฉัน แฮรี่ ไมท์จะทะลวงเกราะของนายให้ทะลุกันบ้างละ คุณบาทหลวง" แฮรี่กล่าว
              มาริบอก "ถึงเวลาที่เสืออย่างเธอจะต้องพ่ายให้กับสายลมมรณะจากสปีดี้มาริกันบ้างแล้วละ เวนดี้ ไทเกอร์ ถึงเธอไม่ตาย เธอจะต้องเจ็บไปอีกนานเลย" แล้วทั้งสองก็บุกเข้าใส่ "แกร้งงงง เคร้งงงงง" แฮรี่หวดฟาดกริฟสเปียร์ใส่บัฟที่ใช้ดาบเครย์มอลป้องกันไว้ ส่วนเวนดี้ใช้โฟลด์แอคเซลเบลดป้องกันกริฟแดกเกอร์คลอว์โดยเร็ว

              "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆ" สไปค์รีบวิ่งผ่านเขตเมืองย่านที่พักอาศัยกัน เพื่อตรงดิ่งขึ้นบันไดไปด้านบน "ฟ้าวววว ตึกกกก" เฟรดกระโดดเข้ามาดักหน้าสไปค์เอาไว้ "นึกแล้วเชียว ว่านายต้องมาขวางทางฉันไว้จนได้สิน่ะ เฟรด" สไปค์กล่าวอย่างรู้ทัน โดยที่เปิดหน้ากากออก เช่นเดียวกับเฟรดด้วย
              "แย่หน่อยน่ะ ที่ฉันรู้ที่ทางในเขตเมืองแห่งแรกนี้มาก่อนแล้ว เลยรู้ว่านายคิดจะรีบไปช่วยน้องสาวของนายและองค์ชายสองที่กองบัญชาการที่อยู่ด้านบนสุดเลยสิน่ะ" เฟรดกล่าว
              "ถ้าเป็นเรื่องที่นายต้องมาขวางทางฉันละก็ ฉันรู้อยู่แล้วละ เพราะว่านายยังอ่อนประสบการณ์เกินไป ที่คิดแผนส่งพวกพ้องมาสกัดกั้นรีกัลและฮีธ บัฟและเวนดี้กันไว้ แต่ฉันยอมรับได้น่ะ ว่านายกล้ามากพอที่จะท้าทายกับฉัน จากการที่นายประกาศท้าฉันให้มาที่เมืองนี้กันแล้วน่ะ" สไปค์บอก "เพราะก่อนที่ฉันจะพาพอลลีนและออสเทรย์ออกมา ฉันขอสะสางกับนายก่อน"
              เฟรดกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะนายยังคิดว่าฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้นายเสียศักดิ์ศรีจากเรื่องที่ลอสแซงเทสละสิ"
              "ถ้าเป็นเรื่องนั้น ฉันถือว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะฉันกับพวกมาเห็นโฉมหน้าของนายกับพวก ผ่านอุบายของแพนเนส ซึ่งไร้ศักดิ์ศรีกันอย่างมากๆ แต่ด้วยหน้าที่และภาระอันหนักอึ้ง ต่อให้เป็นนายหรือไม่ ฉันก็ต้องจัดการกับนายและพวกกันให้ได้นี้แหละ" สไปค์กล่าวพร้อมกับชักดาบออกมา
              เฟรดนำกริฟซอร์ดออกมา "องค์ชายรองของทรอยอาร์คงจะรู้สถานะของนายกันแล้วละสิน่ะ เพียงแต่ แล้วนายจะทำยังไงกับน้องสาวของนายกันละ นายคงไม่คิดที่จะปิดบังและโกหกเธอกันอีกละสิ"
              "เนคเกอร์และฟิเกซอทคงจะพูดให้นายขู่ฉันอย่างงั้นละสิ" สไปค์บอก
              เฟรดส่ายหน้า "นั้นเป็นเจตจำนงของฉันเองนี้แหละ สไปค์ ถึงแม้ว่านายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งและชุดเกราะต่อจากพ่อของนาย โดยปิดบังสถานะอีกด้านกันไว้มิให้คนรอบข้างที่นายรู้จักได้รับรู้มาโดยตลอดเลยก็ตาม ในเมื่อฉันกับพวกเตรียมใจพร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อโฉมหน้าของเราถูกเปิดเผยกันไปได้ ทำไมนายถึงคิดที่ปิดบังน้องสาวของนายกันได้เลยละ"
              "ก็เพราะว่า ฉันไม่อยากให้พอลลีนมาพัวพันกับการต่อสู้กันนะสิ" สไปค์กล่าว "รู้มั้ย ว่าชาวทรอยอาร์ที่เป็นโรคบลัดครอสนั้น ถ้าไม่ได้รับการบำบัดให้โรคบรรเทาลงไปชั่วขณะหนึ่ง ก็ต้องให้ผู้ป่วย เดินตามเส้นทางอัศวินเหมือนกับน้องสาวของพี่วินเซนท์ และน้องชายของพี่ฟรีเซียกัน ซึ่งนั้นหมายถึง พอลลีนต้องเป็นอัศวินตามฉันไปด้วย ดังนั้น เพื่อมิให้น้องสาวของฉันต้องพบเจอกับความเจ็บปวดในสนามรบ ต้องเสี่ยงอันตรายที่อาจจะถึงตายได้ หรือพบเจอกับเรื่องเลวร้ายจนเปลี่ยนน้องสาวแสนดีของฉันไปอย่างสิ้นเชิงกัน ฉันจำต้องเป็นผู้เสียสละเอง และทำทุกวิถีทาง เพื่อมิให้ริชเชลลิอาร์ลนำตัวเธอไปเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าอัศวินเทวดา และของพวกนายกันด้วยน่ะ"
              เฟรดบอก "ที่นายพูดเช่นนี้ เพราะนายกลัวว่าพวกเราจะเปลี่ยนความคิดของน้องสาวของนายละสิน่ะ สไปค์ แต่บอกตามตรงน่ะ ว่าพอลลีนจะตัดสินใจยังไง นายเองก็ไม่มีสิทธิ์มาบงการชีวิตของเธอไปได้ตลอด เหมือนที่ริชเชลลิอาร์ลทำกับพวกนายกันไว้หรอกน่ะ"
              "นายไม่มีสิทธิ์มาพูดชื่อน้องสาวของฉันกันตรงๆหรอกน่ะ เฟรด มาร์ติน เพราะฉันเห็นนายเป็นศัตรูกันไปแล้ว ศัตรูไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้กับฉันได้หรอก ต่อให้นายคิดจะอ้างว่านายเป็นเพื่อน แต่ความเป็นเพื่อนของฉันและนาย มันจบลงไปนานแล้วละ" สไปค์กล่าว
              เฟรดพยักหน้าอย่างยอมรับ "ฉันรู้อยู่แล้วละ ว่านายคงยอมรับไม่ได้ละสิน่ะ แต่.....ฉันจะหยุดยั้งนาย ไม่ใช่ในฐานะของเหยี่ยวดินระเบิดรุ่นที่สอง ไม่ใช่แค่เป็นคนของสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ เป็นลูกของเหยี่ยวดินระเบิดรุ่นแรก หรือแม้กระทั่งศัตรูคู่อาฆาตในสายตาของนายกันหรอก" แล้วก็จับดาบกริฟซอร์ดขึ้นมา "แต่ฉันจะสู้ในฐานะของเด็กหนุ่มเทรอม แมนิเกเตอร์ลูกครึ่งอเมริกา-ไทย บุตรของแมนิเกเตอร์ซุปเปอร์โซลเยอร์และแมนิเกเตอร์หญิงที่เคราะห์ร้ายปลายดี ลูกผู้ชายที่กล้าเลือกเส้นทางแห่งการต่อสู้อันหนักอึ้ง เหมือนที่นายเดินตามกันนี้แหละ แม้ว่าฉันจะต้องตัดเส้นทางของนายทิ้ง หรือทำลายเส้นทางของฉันเองก็ตาม ฉันไม่มีทางกลัวเกรงนายกันได้หรอก สไปค์ เอสเวิร์ดเลี่ยน!!!"
              "แม้ฉันไม่ชอบเลยที่นายพูดจาตีตนเสมอตัวฉันเลย จากการอ้างว่านายเหมือนกับฉันก็ตาม แต่ก็ดีแล้ว เพราะนายคู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉันกันแล้วละ" สไปค์กล่าวและปิดหน้ากากเพื่อเข้าสู่การสู้รบกัน "ฉะนั้น ต้องมีใครสักคนที่ต้องเป็นฝ่ายชนะ อีกคนต้องปราชัยลง ซึ่งคนที่ต้องปราชัยนั้นต้องเป็นนายแน่นอน เฟรด มาร์ติน!!!!!"
              เฟรดปิดหน้ากากพร้อมกับบอกว่า "เกรงว่านายคงได้อีกแผลสองแผลกลับไปแล้วละมั่ง แน่จริง เข้ามาเลย!!!!" สไปค์เลยกระโจนเข้ามา เฟรดเลยวิ่งเข้าใส่และ "แกร้งงงงงง" หวดดาบปะทะใส่ดาบของสไปค์กัน "แกร็กๆๆๆๆ เคร้งงงง" ซึ่งทั้งคู่ก็กดแรงปะดาบกันไปสักพักก็กระโดดถอยหลังออก แล้วก็ "เคร้งๆๆๆๆๆ" เข้าปะดาบใส่กันโดยเร็ว
              "เป้าหมายทั้งหมดปะทะกับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธตามคาดไว้ละครับ" สมุนดัสท์คิลเลอร์กล่าวโดยมองดูพวกสติลลิมบ์และหน่วยรบวิหคจากจุดบอดภายในเมือง พร้อมกับสมาชิกรายอื่นๆที่แฝงตัวอยู่ในเมืองกัน
              แรชบอก "ดี อย่าพึ่งลงมือตอนนี้ ปล่อยให้ฝ่ายหน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์เป็นฝ่ายชนะกันเสียก่อน แล้วค่อยลงมือกันน่ะ" โดยที่แรชยืนอยู่หลังตึกที่อยู่อาศัยที่อยู่ด้านบน
              "หัวหน้ามั่นใจเลยหรือ ว่าพวกเขาจะชนะเลยน่ะ" สมุนดัสท์คิลเลอร์ตนหนึ่งที่ถือปืนยาวเตรียมไว้กล่าว
              แรชกล่าว "ถ้าพวกเขาไม่แน่จริง ก็คงไม่หาเรื่องเป็นศัตรูกับทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันได้หรอกน่ะ"

              "กร้องๆๆๆๆๆ" อักนีดหวดตะบองเพลิงสู้กับตะบองเพลิงคู่ของโรซารี่กันอย่างดุเดือด "แคร้งๆๆๆๆๆๆ" รอมมิชกวาดแกว่งง้าวธาตุดินสู้กับหอกของดอสเซอร์ "กร้องงง กร้องงง กร้องงงง" ธาลเดนหวดขวานสู้กับขวานเหล็กกล้าของช็อปเปอร์ "แชดดด แชดดด แชดดด" ไดซ์ซี่ใช้ไวโดว์เลคแคนน่อนยิงใส่บาร์ทที่บุกเข้ามา "ป้ากกกก" แรมเบจใช้ดาบโค้งใหญ่ธาตุเหล็กป้องกันลำแสงไว้ บาร์ทที่อยู่ด้านหลังกระโจนขึ้นมา "กระบี่วารีกัมปนาท ย้าๆๆๆๆ" จ้วงแทงกระบี่พลังธาตุน้ำเล่นงานไดซ์ซี่ให้ชะงักงันไป
              "หนอยยยย แกไม่มีทางหยุดฉันลงได้หรอก" ดอสเซอร์พุ่งเจาะลงดินไป แต่.... "เพลงง้าวปฐพี จูล่งฝ่าทัพโจโฉ" รอมมิชตวัดง้าวฟาดลงพื้นให้เกิดแผ่นดินแยกจนทำให้ดอสเซอร์ที่เจาะดินถูกตรึงอย่างจังๆ "ร้ายนักน่ะ งั้นแกถูกเจาะทะลวงไปเสียเหอะ" ดอสเซอร์บุกควงสว่านตรงมายังรอมมิชโดยเร็ว "เพลงง้าววารี กวนอูจมทัพเคาทู" รอมมิชตวัดง้าวสาดคลื่นน้ำเข้าอัดใส่ดอสเซอร์ ซึ่งก็ใช้แขนสว่านเจาะทะลวงเข้ามา บวกกับขาสว่านที่เสริมความแรงเพื่อใช้หอกที่ติดใบมีดคีมหนีบเข้าจัดการกับรอมมิช "ย้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แต่รอมมิชรั่วแทงใส่ดอสเซอร์อย่างไม่ยั้งจนเกราะและใบมีดคีมพังยับ แล้วก็ "วาช้าก" รอมมิชปักง้าวลงพื้นพร้อมกับหมุนตัวเตะขาคู่เสยหัวดอสเซอร์จนปลิวลงไปกองกับพื้นอย่างจังๆ "กรอดดดด แก...." อักนีดยั้วะเลยหวดตะบองเพลิงใส่โรซารี่ แต่.... "เปรี้ยงงงง" โรซารี่หวดตะบองหัวสว่านที่อัดพลังธาตุดินจนตะบองหินเพลิงแตกกระจุยไป "ย้าๆๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นเธอก็ระดมตีใส่อักนีดแบบไม่ยั้ง จนเกราะของอักนีดบุบพังเสียหายไปไม่น้อย "หนอยยย ไฟร์แอนท์เบิร์น" อักนีดเลยพ่นคลื่นความร้อนใส่ "ป้ากกก พรึบบบบ" โรซารี่เปลี่ยนมาใช้ตะบองเพลิงดูดซับความร้อนเข้า แม้จะถูกผลักให้ถอยห่างไปเพื่อจู่โจมด้วยท่า "เพลงตะบองพิฆาต มังกรแดงเพลิงกัมปนาท" พุ่งเข้าจู่โจมเข้าใส่โดยพลังเพลิงที่ถูกดูดซับไปนั้นกลายเป็นมังกรไฟปกคลุมตัวโรซารี่เข้า "ฟ้าววววววววว กรรรร กร็อบบบบ ตรูมมมม" ในจังหวะที่ตะบองปะทะตัวอักนีด มังกรเพลิงก็เข้าขย้ำใส่พร้อมกับระเบิดใส่อักนีดจนลงไปกองกับพื้น โดยที่โรซารี่โดดลงพื้นตาม
              "นายไม่มีทางเฉาะทะลุโลห์ของฉันได้หรอก" ธาลเดนบุกเข้าจู่โจมด้วยขวานสองเล่มใส่ช็อปเปอร์ ซึ่งงัดขวานที่อัดพลังธาตุเหล็กจนมีคมใหญ่เข้า "กร้องงงง งึงๆๆๆๆๆๆๆ" พอขวานของธาลเดนปะทะกับคมขวานของช็อปเปอร์ก็ส่งเสียงก้องขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้ธาลเดนปวดแก่นอย่างจังๆ
              "นายพลาดแล้วละ ที่มาจู่โจมใส่ฉันที่สวนกลับด้วยวิชาระฆังวัดเส้าหลินกับวิชาสิงโตคำรามของราชสีห์ขนทองกัน ซึ่งไม้ตายอย่างหลังอาจจะไม่ทะลุเกราะของนาย แต่พอทำให้นายเสียสูญได้เช่นกัน" แล้วก็ "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" อัดพลังจนคมขวานมีพลังสายฟ้าขึ้นมาและ "หวับบบ ฉั้วะๆๆ" ฟาดขวานปาดจากขวาไปซ้ายเพื่อทำลายขวานของธาลเดน แล้วก็ฟันจากซ้ายไปขวาและฟันย้อนกลับอีกรอบเล่นงานธาลเดนในท่า "เพลงขวานพิฆาต เทพอัสนีบาตผ่ามารพิณหยก" จนธาลเดน "เปรี้ยงงงง" ปลิวกระเด็นในสภาพที่เกราะพังจนเหลือส่วนเกราะแขนและขาไว้
              "ฮึยยยย" แรมเบจใช้ดาบจีนพลังเพลิงทำลายไวโดวเลคแคนน่อนทิ้งจนหมด ทำให้ไดซ์ซี่บุกเข้าจู่โจมบาร์ทด้วยการกระโดดเหยียบหน้าแรมเบจไป "เคร้งๆๆๆๆๆๆ" แน่นอน ว่าบาร์ทใช้ความเยือกเย็นโต้ตอบดาบของไดซ์ซี่ที่ฟาดฟันด้วยความโกรธจัด "เคร้งงง ป้ากกก" จนบาร์ทจ้วงกระบี่แทงใส่ดาบของไดซ์ซี่จนหัก แต่เธอรีบชักปืนออกมา "เพลงกระบี่แม่น้ำห้าสาย" บาร์ทจ้วงแทงกระบี่ห้าทีใส่ไดซ์ซี่จน "ป้ากๆๆๆๆ" พลังคลื่นน้ำปะทะใส่ปืนสั้นของไดซ์ซี่และเกราะของเธอจน "เปรี้ยงงง" เกราะแมงมุมแม่ม่ายดำของเธอพังเสียหายตาม
              "ต้องให้ได้อย่างงี้สิ พวก" ซามูเอลกล่าว
              ลันโด้บอก "แต่เรายังวางใจไม่ได้หรอกน่ะ เพราะยังเหลือองค์ชายสองตัวโตๆอยู่กันนี้แหละ"
              "อีกอย่าง ถึงพวกวูเซียทจะใช้พลังไปเกือบครึ่งในการพิชิตสมุนองครักษ์ทั้งสี่กันด้วย แต่กับไอ้องค์ชายสองนั้น คงประมาทไม่ได้แน่ๆเลยละ" เบททริคเสริม
              สมิธพยักหน้า "เพราะมันยังไม่เจ็บตัวจากการปะทะใดๆมาก่อนหน้าเลยน่ะ"
              "ฮึยยย ยังหรอกน่า" ไดซ์ซี่กล่าวและพยายามลุกขึ้นเพื่อสู้กับบาร์ทและแรมเบจด้วยกริช
              ดูแรนซินบอก "พอได้แล้วละ ไดซ์ซี่ อักนีด ธาลเดน และดอสเซอร์ด้วย พวกเจ้าแพ้พวกนักสู้แมนิเกเตอร์กันแล้ว อย่าดันทุรังจนตายแบบไร้ศักดิ์ศรีเลยจะดีกว่า" ธาลเดนและไดซ์ซี่ได้ฟังก็ต้องพยักหน้ารับอย่างจำยอม ส่วนอักนีดและดอสเซอร์ถึงกับโมโห แต่ก็วางใจที่ดูแรนซินเข้ามาเคลียร์เรื่องนี้ต่อเอง "พวกเจ้าทั้งห้าคงอยากจะตายมากสิน่ะ ถึงได้หาเรื่องกับพวกเรากันน่ะ"
              "พวกเราไม่ยอมให้พวกนายเข้าไปก่อความเดือดร้อนภายในเมืองแห่งการค้นคว้ากันหรอกน่ะ" รอมมิชบอก
              แรมเบจกล่าว "คราวก่อนเราเอาชนะแกไม่ได้ก็จริง แต่คราวนี้ รับรองว่าแกเสร็จแน่เลยละ"
              "เทเนดีนทำให้พวกนายสูญเสียพวกพ้องของนายไปห้าตน จนทำให้พวกไทรเวเซอร์เสียกำลังไปไม่น้อยกันก็ตาม ถึงคราวที่ฉันจะส่งพวกนายไปหาพวกพ้องของนายกันบ้างละ" ดูแรนซินชักดาบโค้งทั้งสองเล่มออกมา
              ช็อปเปอร์บอก "ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ชนะองค์ชายกัน แต่นึกหรือว่าพวกเราจะยอมให้พวกแกหลุดเข้าไปได้น่ะ"
              "พวกเรา หน่วยวูเซียทจะหยุดยั้งท่านไม่ให้เข้าไปยึดเมือง เช่นเดียวกับอีกหลายเมืองที่ตกเป็นเป้าหมายกันไปได้หรอก" โรซารี่กล่าว
              บาร์ทบอก "ถ้าท่านมั่นใจมากขนาดนั้นละก็ แน่จริงเข้ามาเลย องค์ชายดูแรนซิน" แล้วดูแรนซินก็บุกเข้าใส่พวกบาร์ทกัน โดยที่มีบุคคลไม่พึ่งประสงค์เดินอยู่บนกำแพงด้านหน้าเมืองเพื่อเตรียมปืนยาวซุ่มยิงไว้ หากแต่มีคนหนึ่งมาเห็นเข้าพอดี

              "กร้องๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โมฮัมมัคหวดฟาดตะบองดำใส่เฮฟวี่ดริลอาร์มของแด็กซ์แบบไม่ยั้ง แม้จะใช้ตะบองป้องกันการโจมตีด้วยหมัดและฝ่าเท้าของแด็กซ์ไว้ก็ตาม "เคร้งๆๆๆๆๆๆ" คมกริชใช้ดาบโค้งสองอันสู้กับแจ็สที่ใช้ชาร์แครมคัตเตอร์สองอันโต้ตอบกันอย่างต่อเนื่อง "เคร้งงงง ฟ้าววว เกร้งๆๆ" น็อกกี้เจออับดุลลอยด์ฟันดาบตะขอคู่ใส่จนต้องใช้ไนโตรแอ็กซ์ป้องกันไว้ โดยที่กฤษณาพุ่งเข้ามาฟาดกระบี่เพลิงใส่ "นายตนเดียวกับขวานเล่มเดียวสู้กับฉันและอับดุลไม่ได้หรอก" กฤษณากล่าว
              น็อกกี้ยิ้มและบอกไปว่า "แน่ใจหรือ...ว่าฉันถือขวานมาเพียงเล่มเดียวน่ะ" จากนั้นก็โชว์เซอร์ไพร์สด้วยการนำไนโตรแอ็กซ์อีกเล่มออกมาจากด้านหลัง แล้วก็ "อ้านๆๆๆๆๆ ครี้งงง" บิดด้ามจับคันเร่งเพื่อดึงดาบที่ซ่อนไว้ออกมา "เคร้งๆๆๆๆ" ฟาดสู้กับกระบี่ยาวของกฤษณาไปด้วยดาบยาวที่เรืองแสงสีแดงด้วย "และฉันก็โมดิฟายไนโตรแอ็กซ์ให้รับมือกับคู่ต่อสู้ที่ถือดาบหรือกระบี่กันไว้แล้วด้วยน่ะ"
              "นายนิมันร้ายไม่เบาเลยน่ะ แต่นายคงมาได้เพียงเท่านี้แหละ" อับดุลลอยด์บุกจู่โจมด้วยการใช้คลื่นเสียง "ฮ็อดร็อดเบิร์นเนอร์" น็อกกี้สวนกลับด้วยการพ่นเพลิงต้านใส่คลื่นเสียงของอับดุลลอยด์ "พรึบบบบ" กฤษณาเอากระบี่สองเล่มมาดูดซับพลังไฟเพื่อโจมตีด้วย "ธนูเพลิงแดงพิโรธ" การจ้วงแทงกระบี่ให้เกิดคลื่นเพลิงรูปธนูเข้าใส่ "อ้านนนน ฉั้วะ" น็อกกี้เลยหวดดาบฟันทำลายธนูเพลิงจนสลายไป กฤษณาเลยกระโดดเพื่อฟันใส่น็อกกี้ "แฟ้ววววว" แต่น็อกกี้ตีลังกากลับหลังพร้อมกับ "อ้านๆๆๆๆๆ แฟ้ววววว" จับไนโตรแอ็กซ์สองอันโดยหันคมดาบประกบ จนเหมือนน็อกกี้จับแฮนด์มอเตอร์ไซด์อยู่ "ฮ็อดโรดไบค์แคลช" น็อกกี้หวดขวานติดคมดาบยาวในแนวขวาง "เชร้งงงงงง" ฟันใส่กฤษณากลางอากาศจนเกราะหน้าอกไฟครอกและ "เปรี้ยงงงง" เกราะหน้าอกและหน้ากากของเธอแตกออกจนล้มลงกองกับพื้น
              "จบเห่ละ ไอ้หมวกแดง แซนด์ร็อคแคลชเชอร์" อับดุลลอยด์กระโจนขึ้นสูงเพื่อเงื้อดาบตะขอที่อัดพลังขึ้นมา
              "ฉันไม่โง่ขึ้นไปโดดให้นายผ่าแขนของฉันขาดหรอก เอ็กซ์ไฟร์เยอร์สแลช" น็อกกี้บิดคันเร่งไนโตรแอ็กซ์สองเล่มไว้ก่อนหน้า แล้วก็ตวัดขวานติดดาบเสยขึ้นสร้างคมดาบเพลิงรูปตัวเอ็กซ์พุ่งขึ้นมา "ฟ้าววววว เปรี้ยง!!!!!" ปะทะอัดใส่อับดุลลอยด์กันกลางอากาศจน "ตรูมมมม" ร่วงลงมากองกับพื้นในสภาพที่เกราะหมวกและลำตัวพังเสียหายไป ส่วนดาบติดไนโตรแอ็กซ์สองเล่มก็ "ฟู่วววววว" เป่าลมดับความร้อนลง
              "อับดุลและกฤษณาพลาดท่าแล้ววะ" คมกริชบอก
              โมฮัมมัคกล่าว "หนอยยยย งั้นพวกเราจัดการกับพวกแกกันก่อนเลย" แล้วก็บุกเข้าจู่โจมด้วยตะบองที่อัดพลังไว้ โดยที่คมกริชบุกมาด้วยการซัดใบมีดรอบเกราะเข้าใส่ แจ็สเลยบุกนำไปก่อน
               "ถ้าคิดจะใช้กระสุนดูดใบมีดของฉันละก็ ไม่มีทางหรอก" คมกริชเลยซัดไดซ์คัตเตอร์ออกจากเกราะเข้าใส่แจ็สไปก่อน "แฟ้วววว" แจ็สเห็นเลยรีบหลบออกข้างเพราะแด็กซ์ยิงอิมแพคเกรเนดเข้าใส่ "ตรูมๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็เป่าระเบิดใส่ใบมีดที่คมกริชซัดมากันทั้งหมด คมกริชและโมฮัมมัคเลยกระโจนเข้ามาเพื่อจัดการกับแจ็สและแด็กซ์ด้วย "เรซเซอร์เครฟ" คมกริชกระโดดหวดดาบคู่ที่อัดพลังเข้าใส่ เช่นเดียวกับ "เกรเนดสแมช" โมฮัมมัคหวดตะบองที่อัดพลังฟาดลงไป แต่.... "ฟ้าวววว ฟ้าววววว" แจ็สและแด็กซ์กระโจนเข้ามาจู่โจมด้วย "ธันเดอร์ครอสสแลช" แจ็สหวดชาร์แคลมคัตเตอร์ที่หมุนด้วยความเร็วสูงใส่คมกริช "ฉั้วะๆ" ซึ่งก็ฟาดเป็นกากบาทลงบนหน้าอก "เฮฟวี่ดริลแคลช" แด็กซ์หวดฟาดสว่านที่หมุนด้วยความเร็วสูงฟาดทำลายตะบองจนแตก แล้วก็ "ฟ้าววว เปรี้ยงงง" ฟาดซ้ำตรงหน้าอกไปเต็มๆ จน "เปรี้ยงงงงง เปรี้ยงงงง" เกราะของโมฮัมมัคแตกกระจุยไปพร้อมกับของคมกริชกันด้วย "โครมมมม โครมมม" จนทั้งคู่ร่วงกระแทกพื้นอย่างจังๆ ส่วนแจ็สและแด็กซ์เองก็หอบเหนือยกันบ้าง
              "บ้าเอ้ยยยย" คมกริชสบถและพยายามจะลุก แต่ก็ล้มด้วยความอ่อนแรงลง
              โมฮัมมัคบอก "ถึงแกสามตัวจะชนะเรา แต่ท่านจาฟฟาร์ลคงไม่ให้อภัยพวกนายกันแน่ๆเลยละ" แล้วก็สลบลงไป แจ็สและแด็กซ์เลยรีบมาสมทบกับน็อกกี้ในเขตชุมชนไทยกัน
              "พวกนายจัดการกับไอ้สองตัวนั้นแล้วสิน่ะ" น็อกกี้บอก แด็กซ์และแจ็สพยักหน้า "ที่เหลือคือต้องตามหาตัวองค์ชายจาฟฟาร์ลกันเดียวนี้เลย"
              แด็กซ์บอก "แต่ปัญหาคือ องค์ชายตัวโตแบบนั้นคงจะไปซ่อนที่ไหนได้กันละ"
              "โครมมมมมม" ไม่ทันไร บ้านไม้ที่อยู่ด้านหน้าก็พังลงเมื่อจาฟฟาร์ลกระโจนออกมา "พวกเจ้าคิดว่าฉันไม่เก่งในเรื่องซ่อนแอบ รวมถึงคิดว่าตัวใหญ่อย่างฉันถึงซ่อนได้แต่ออกมาไม่ได้นิ พวกเธออ่อนหัดมากๆเลยน่ะ" จาฟฟาร์ลกล่าว "แต่จากสภาพของพวกเธอในตอนนี้ คงไม่มีพลังพอที่จะหยุดฉันได้ หลังจากที่ใช้พลังไปครึ่งหนึ่งเพื่อเอาชนะพวกอับดุลลอยด์กันน่ะ"
              น็อกกี้กล่าว "แล้วองค์ชายปล่อยให้ลูกน้องโดนเล่นงานฟรีๆนิ คงจะเป็นคนดีมากสิน่ะ"
              "ทีจริง ฉันควรจะช่วยพวกอับดุลลอยด์กันอยู่แล้ว แต่พวกเขาเป็นคนขันอาสาเข้าต่อสู้กับพวกเธอ เพื่อตัดกำลังพวกเธอไม่ให้มาซ่ากับฉันได้มากขึ้นกันน่ะ" จาฟฟาร์ลกล่าว แล้วก็ชักดาบใหญ่ออกมา "และพวกเธอทั้งสาม มิอาจเอาชนะฉันได้ในตอนนี้กันหรอก"
              แจ็สบอก "สงสัยว่างานนี้เราต้องสู้กับองค์ชายสามอย่างระมัดระวังเสียแล้วละ"
              "แน่ละ ขนาดลูกพี่แฮรี่กับพวกเฟรดเองยังรับมือแทบแย่ขนาดนี้ หวังว่าเกราะเกซตัลท์ที่เราใส่อยู่คงมีพลังเหลือพอกันบ้างน่ะ" แด็กซ์บอก
              น็อกกี้กล่าว "งานนี้พวกเราต้องเอาจริงเอาจังกันสักหน่อยแล้วละ" แล้วทั้งหมดก็งัดอาวุธในมือ เพื่อสู้กับองค์ชายสามในเวลาเดียวกันกับพวกวูเซียทปะมือกับดูแรนซินกันอยู่

              แต่ทว่า.... "ตรูมมมมมม" ไม่ทันไรก็เกิดการระเบิดขึ้น
              "แย่แล้วละคะ ท่าจอดยานไทรแองเกิ้ลถูกถล่มจากระยะไกลแล้วละคะ" เจ้าหน้าที่สื่อสารรายงานอย่างตกใจมาก
              เพอซิอัสบอก "คงไม่ใช่ฝีมือของพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันหรอกนะ"
              "เกรงว่า พลังงานอนุภาคทรอเจนและพลังงานอนุภาคแสงอาทิตย์ยังอยู่ที่ท่าเรือเหมือนเดิมนะครับ...." นีลเซนท์บอก "เพียงแต่.....การโจมตีมาจากระยะห่างจากท่าเรือ 35 กิโลเมตรกันนะครับ" ฉับพลันก็ "ตรูมมม บรึมมม บรึมมม" ท่าเรือและเมืองใกล้เคียงระเบิดสามหนด้วยกัน
              "ท่าเรือริมทะเลและตึกรามบ้านช่องพังไปแล้วละคะ" เจ้าหน้าที่สื่อสารบอก
              "ระยะทำการที่สามารถยิงใส่ท่าจอดยานไทรแองเกิ้ลและท่าเรือริมเขตเมืองนั้น นีลเซนท์ ใช้เรดาห์กำลังสูงทะลวงไปทางทิศใต้ในระยะ 28 กิโลเมตรเดียวนี้เลย" จูเดทต้าบอก
              นีลเซนท์พยักหน้าแล้วก็ "ปี้บๆๆๆๆ" เปิดระบบเรดาห์กวาดรัศมีจนพบเจอจุดสัญญาณขึ้นมา "พ่อครับ พบยานรบซัลคาล่าของนายพลวอลเลนซ์ปรากฎขึ้นเพียงลำเดียวนะครับ"
              "นีลเซนท์ ต่อสายเข้าไปเดียวนี้เลย" เพอซิอัสกล่าว นีลเซนท์เลยทำตาม แล้วภาพมอนิเตอร์ก็เผยภาพนายพลวอลเลนซ์อยู่ในสะพานเดินเรือ เพอซิอัสเลยกล่าวไปว่า "วอลเลนซ์ นายทำบ้าอะไรของนายกันแน่ละ"
              วอลเลนซ์บอก "ฉันมานี้เพื่อที่จะคลี่คลายสถานการณ์ในเฟิร์สฮิลล์ให้มันจบเรื่องกันไปเองแหละ"
              "นายจะบ้าหรือ หน่วยรบวิหคเงาและสติลลิมบ์ยังปฏิบัติการณ์สู้กับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันอยู่ ซึ่งนายทำแบบนั้นถือเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่กันเลยน่ะ" จูเดทต้ากล่าว
              วอลเลนซ์บอก "ใช่ เพราะฉันจะสั่งสอนให้นายกับพวก รู้จักแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของพวกนายให้เร็วขึ้นกันนี้แหละ"
              "วอลเลนซ์ ในเมืองนั้นมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในหลุมหลบภัยกันด้วยน่ะ การกระทำของนายนั้นมันเข้าข่ายคุกคามความปลอดภัยของประชาชนกันไปด้วยน่ะ" เพอซิอัสบอก
              วอลเลนซ์บอก "หรือ แล้วทีนายกับพวก ให้ความคุ้มครองญาติของพวกห้าพี่น้องริดโอที่เป็นอาชญากรกันไว้ละ พวกนายเองก็ผิดเองนี้แหละ เพราะฉันจำเป็นต้องกำจัดพวกริดโอให้สิ้นซากไปซะ"
              "ที่นายพูดเช่นนี้ แปลว่านายกับท่านเสนาธิการรู้เรื่องที่ริบอยและริเกิร์ลอยู่ในความดูแลของพวกเรา และช่วยพวกไทรเวเซอร์หยุดพวกริดโอกันตลอด ซึ่งนั้นก็ทำให้ท่านเสนาธิการรู้ว่าตัวการที่ขัดขวางแผนการของริดโอบาราน่าเมื่อ 10 ปีก่อนก็คือแม่ของริบอยและริเกิร์ลเองสิน่ะ" เพอซิอัสบอก "และถ้าให้เดา นายคิดที่จะกวาดล้างพวกเราที่รู้ถึงแผนการของท่านเสนาธิการ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการหลอกใช้ริดโอบาราน่าและลูกๆก่อเรื่องในแรซัลก้าและแคสเซเดี่ยน-3 กันเลยสิน่ะ"
              วอลเลนซ์บอก "นายกับจูเดทต้า รวมถึงพวกไทรเวเซอร์คงจะทราบเรื่องของพ่อฉัน ผ่านหลักฐานและพยานที่มีอยู่ในมือเลยสิน่ะ ฉันทราบดีแล้ว ว่าพวกนายสงสัยในตัวฉัน นับตั้งแต่ฉันหลอกใช้กูมิชส่งพวกเด็กเวรที่ผบ.บาโธโรมิวเลือกให้ไปอยู่ในกองกำลังหลังฉาก แต่ดันส่งผิดชุดไปเสียได้น่ะ"
              "งั้นแปลว่า นายยอมรับแล้วสิ ว่านายหลอกใช้กูมิชเชือดพลทหารในสังกัดของผบ.บัลโต้ทิ้ง รวมถึงอยู่เบื้องหลังการให้ความช่วยเหลือพวกริดโอในการติดต่อกับพวกเดลอาเนี่ยน ทรอยอาร์และสเตรดาร์ธ ตามคำสั่งของท่านเสนาธิการกันน่ะ" เพอซิอัสบอก
              จูเดทต้ากล่าว "งั้นเรื่องที่นายสมคบคิดกับริชเชลลิอาร์ลให้ปกครองพวกทรอยอาร์ ในเวลาเดียวกันที่นายติดต่อกับพวกสเตรดาร์ธ ให้มารุกรานแรซัลก้าจนปะทะกับทรอยอาร์กันนั้นก็เป็นเรื่องจริงละสิ"
              "ฉันแค่ต้องการให้ริชเชลลิอาร์ลมีอำนาจมากพอที่จะกดพวกภักดีต่อองค์ราชาออสเฟรย์ก็เท่านั้นแหละ" วอลเลนซ์บอก "และฉันเองก็ทราบด้วยว่าพวกแมนิเกเตอร์ที่สเตรมเซคเตอร์นั้น ก็คิดที่จะขยับขยายอิทธิพลกัน ฉันเลยต้องดึงพวกมันเข้ามาผ่านการปล่อยสายลับที่พวกนั้นส่งไปตามดาวให้กลับไปรายงานพวกพ้องที่โน่น เพื่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างทรอยอาร์และสเตรดาร์ธที่แรซัลก้ากันเมื่อ 25 ปีก่อน จนทำให้พวกทรอยอาร์เป็นที่รู้จักกันไปมากกว่านี้ โดยที่ทั้งสองฝ่ายนั้นไม่รู้เลยว่า สงครามศักดิ์สิทธิ์ของพวกมัน อยู่ในกำมือของพ่อของฉันเองแหละ"
              เพอซิอัสบอก "วอลเลนซ์ นายทำแบบนั้นมันเป็นการชักศึกเข้าบ้านเลยน่ะ ถึงแม้ว่าคนอื่นไม่รับรู้ แต่นายไม่กลัวเลยหรือว่ามีใครจะทราบเรื่องกันน่ะ"
              "นายคิดว่าฉันจะทำให้พวกทหารที่อยู่ในสะพานเดินเรือรับรู้กันนะหรือ ไม่มีทางหรอก เพราะว่าฉันให้พวกเขาสวมแว่นและใส่ที่อุดหูไว้ เพื่อให้พวกเขามีสมาธิกับการปฏิบัติการณ์กันมากขึ้น และสั่งไม่ให้พวกเขาถามไถ่ในข้อสงสัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจกันด้วย แน่นอน ว่ารวมไปถึงสั่งไม่ให้โต้เถียงหรือคัดค้านในทุกเรื่องกันไว้ไปเรียบร้อยแล้ว" วอลเลนซ์บอก "อีกอย่าง ทหารใต้บังคับบัญชาของฉันเองก็เป็นญาติของผู้ที่เสียชีวิตด้วยฝีมือของพวกเฮซเทิร์ซ ซึ่งฉันได้รวบรวมพวกเขามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพผ่านการช่วยเหลือของพ่อฉันเอาไว้ อีกทั้งพวกเขาได้ให้คำสาบานกับฉัน ว่าจะภักดีและเชื่อฟังคำสั่งของฉันทุกอย่าง ต่อสู้กับพวกศัตรูเพื่อแก้แค้นให้กับครอบครัว ญาติพี่น้องและคนรักที่เสียชีวิตไปในการรุกรานของพวกเฮซเทิร์ซ โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่า การสูญเสียทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของพ่อของฉันเองนี้แหละ"
              จูเดทต้าถาม "ในเมื่อนายรู้อย่างงี้ ทำไมนายไม่ห้ามท่านเสนาธิการกันเลยหรือ นายปล่อยให้ท่านเสนาธิการก่อเรื่องแบบนี้มาตลอด 30-40 ปีไปได้ไงละ"
              "ฉันยอมเป็นคนทรยศ ดีกว่าเป็นลูกอกตัญญูต่อพ่อตนเองกันนะสิ ที่ปล่อยให้คนในกองทัพมาดูถูกพ่อของฉัน ที่อุตสาห์วางแผนช่วยเหลือเหล่านักรบและทหารต่อสู้ร่วมกับมารดรเทพมาก่อนที่พวกบิดรเทพจะมาถึง ว่าเป็นไอ้แก่ไม่มีผลงาน ได้ตำแหน่งมา เพราะเป็นเพื่อนกับท่านจอมพลแฮซกริฟ ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในกองทัพของฝ่ายเรากันน่ะ" วอลเลนซ์บอก "อีกอย่าง กองทหารที่ตายด้วยน้ำมือของพวกเฮซเทิร์ซเองก็เป็นพวกปากดีดูถูกพ่อของฉันเช่นนี้ รวมถึงพวกที่เห็นกฎเกณฑ์ของฉันไม่มีค่ากันด้วยนั้น พวกมันสมควรตายแล้วละ"
              เพอซิอัสบอก "พวกเขาไม่สมควรตายด้วยความเกลียดชังของนายและท่านเสนาธิการกันเลยน่ะ วอลเลนซ์ อีกอย่าง เสนาธิการไม่ได้แค่ฆ่าเพื่อนพ้องร่วมรบของท่านเสนาธิการที่เป็นเพื่อนพ่อของฉัน แต่รวมถึงประชากรชาวซัลคาเลี่ยนส่วนหนึ่งที่ถูกรุกราน จนต้องเสียชีวิตกันไปไม่น้อยและมีบางส่วนต้องถูกจับกุมไปในถิ่นของพวกมันกันอีกด้วย ที่พวกเขาพูดแบบนั้นไป เพราะพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าท่านเสนาธิการเสียสละมากแค่ไหนกันละ"
              "แค่ท่านเสนาธิการเกี่ยวข้องกับพวกริดโอรุ่นพ่อก็ถือว่าเป็นอาชญากรรมแล้ว นายไปเกี่ยวในเรื่องนี้ได้ไงกันละ" จูเดทต้าบอก
              วอลเลนซ์กล่าว "เพราะว่าริดโอบาราน่ามันรู้จากพวกสเตรดาร์ธที่มาค้าอาวุธให้นะสิ ว่าพวกมันมาที่ดาวดวงนี้เพราะฉันเป็นคนนำทางมา มันเลยคิดแบล็คเมล์ฉันมาตลอด โดยที่มันไม่รู้เลยว่า ฉันช่วยเหลือดัสท์คิลเลอร์เอาไว้ หลังจากที่โอลดาธและทุกๆคนคิดว่าพวกนั้นถูกกวาดล้างไปแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ทราบกันหรอก ว่ามันตายด้วยน้ำมือของสมุนของฉันที่อยู่ในคราบของทหารใต้บัญชาของฉันไว้นี้แหละ"

              "งั้นนายก็คือคนที่สั่งการดัสท์คิลเลอร์กันจริงๆสิน่ะ แล้วที่ดัสท์คิลเลอร์ทำเกินหน้าที่ไปนั้น เป็นคำสั่งของนายด้วยสิ" เพอซิอัสบอก
              วอลเลนซ์บอก "ตราบใดที่ภายในกองทัพยังมีนายทหารงี่เง่า ปากดี อวดเก่ง อวดฉลาด ดูถูกคนอื่น ไม่ให้ความเคารพต่อผู้อาวุโส โดยเฉพาะกับพ่อของฉันละก็ พวกมันจะได้ตายในทันที ต่อให้พวกมันไม่รู้เลยว่า การตายของพวกมัน คือบทลงโทษจากฉัน ผู้ที่ออกกฎหมายทางทหารมาเพื่อจัดระเบียบภายในกองทัพให้ดีขึ้น แต่ถูกไอ้พวกทหารสถุลมองข้ามและฝ่าฝืนมันบ่อยๆ ซึ่งนายกับจูเดทต้าน่าจะช่วยเป็นกำลังสำคัญในการช่วยฉันให้มากกว่านี้ ไม่คิดเลย ว่านายกับจูเดทต้าจะตอบแทนฉันด้วยคำปฏิเสธกันน่ะ"
              "วอลเลนซ์ กฎหมายที่นายตั้งขึ้นมานั้น มันก็ดีอยู่หรอกที่ช่วยลงโทษพวกทหารและนายทหารที่ผิดระเบียบได้อย่างเต็มที่ จนทำให้พวกเขาไม่กล้าทำผิดกันจริงๆ อย่างเช่นที่นายทำให้พวกไทรเวเซอร์ไม่กล้าทำผิดกฎกันนี้แหละ" จูเดทต้าบอก "แต่เพราะว่ากฎของนายแต่ละข้อในตอนนั้นกับตอนนี้ มันแน่นเกินไป จนกดดันให้ผู้ที่ไม่ได้ทำผิดต้องกลายเป็นคนผิดไปเสียเอง และยิ่งทำให้มีผู้ออกมาคัดค้านกันยิ่งขึ้น เพราะนายไม่ผ่อนปรนหรือโอนอ่อนกับใครกันอย่างแท้จริงเลยน่ะ"
              วอลเลนซ์บอก "คนที่เข้มงวดอย่างเธอพูดขัดแย้งกันอย่างมากเลยนะ จูเดทต้า พวกไทรเวเซอร์คงล้างสมองเธอกับเพอซิอัสให้ต่อต้านฉันเลยละสิ"
              "พวกไทรเวเซอร์มิได้ทำให้พวกเราทั้งหมดนี้ต่อต้านนายกับเสนาธิการกันหรอกน่ะ วอลเลนซ์ แต่เพราะการกระทำของนายและท่านเสนาธิการมันผิดมาตั้งแต่แรกแล้วนะสิ ทั้งการติดต่อกับพวกศัตรูให้มารุกราน ไม่ว่าจะเฮซเทิร์ซก็ดี สเตรดาร์ธก็ดี หรือแม้กระทั่งเดลอาเนี่ยนก็ดี รวมถึงส่งเสริมให้ริชเชลลิอาร์ลมีอำนาจเหนือทรอยอาร์ ให้ความช่วยเหลือริดโอบาราน่าและลูกๆที่เหลือรอดของพวกเขาให้ก่ออาชญากรรมตามคำสั่ง และที่แย่ก็คือ นายกับท่านเสนาฯ อยู่เบื้องหลังการสูญเสียในสมรภูมิโฟรเดริม-4 เมื่อ 3 ปีก่อนกันด้วย ถามหน่อยเถอะ แค่นี้มันยังไม่พอกันอีกหรือ" เพอซิอัสกล่าว
              วอลเลนซ์บอก "จนกว่าพ่อของฉันจะเป็นวีรบุรุษอย่างแท้จริงกันนี้แหละ แน่นอน ไม่มีใครหน้าไหนเข้ามาขัดขวางทางพ่อของฉันได้อีกแล้ว ทั้งผบ.บาโธโรมิวกับพวกเทรอมก็ดี พวกกองรบที่ภักดีกับท่านจอมพลแฮซกริฟก็ดี แม้กระทั่งพวกไทรเวเซอร์เองก็ด้วย ขนาดพวกมันถูกพวกเดลอาเนี่ยนลักพาตัวไปสองทีแล้ว ยังรอดกลับมาพร้อมกับเหล่าแมนิเกเตอร์ที่ถูกจับไป ที่โผล่อยู่ในเขตอวกาศเดลอาเนี่ยนก็ดี รวมถึงพวกแกตไทซ์ ที่ควรจะมาพร้อมกับพวกเดลอาเนี่ยนกันในคราวนี้ กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มแมนิเกเตอร์ที่แคสเซรอน-4 กันนั้น ไอ้เผ่าหุ่นตัวหนากับไอ้พวกสี่แขนที่บังอาจมาแย่งความดีความชอบที่พ่อฉันควรจะได้ไปนั้น กับพวกอดีตศัตรูรับใช้บิดรเทพและมารดรเทพ สมควรตายกันไปนานแล้วละ"
              "วอลเลนซ์ สหพันธมิตรแมนิเกเตอร์มิใช่สภาขุนนางที่แรซัลก้ากันเสียหน่อยน่ะ ต่อให้มีชาวซัลคาเลี่ยนลี้ภัยมา ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพลเมืองในเขตเมืองชั้นนอกและชนบทที่เดือดร้อนกันทั้งนั้น ท่านมหาประธานาธิบดีให้โอกาสพวกเราทั้งหมดในการต่อสู้เพื่อปกป้องระบบดาวแห่งนี้ รวมถึงพวกไทรเวเซอร์ ซึ่งพวกเขาร่วมรบกับพวกท่านมหาประธานาธิบดีและพวกเรากันในมหาสงครามเอง เพราะพวกเขาสำนึกในบุญคุณของท่านมหาประธานาธิบดีที่ให้โอกาสกับพวกเขากันไว้ ถึงแม้จะมีบางส่วนที่ออกนอกลู่นอกทางและก่อเรื่องเดือดร้อนตามที่นายว่าไว้กันก็ตาม" เพอซิอัสบอก "แต่พวกเขามิได้มีความเห็นแก่ตัวเหมือนที่นายและท่านเสนาธิการเป็นอยู่ พวกเขาเสียสละตนเพื่อปกป้องพวกเรา ประชาชนที่ดาวดวงนี้และแคสเซรอน-4 พวกท่านมหาประธานาธิบดี รวมถึงสมาพันธ์อวกาศที่ให้โอกาสพวกเรามีระบบดาวแห่งใหม่ที่ดีกว่าแรซัลก้ากัน แน่นอน ว่าพวกเขารู้แล้วว่านายกับท่านเสนาธิการ ทำอะไรลงไปกันด้วยน่ะ"
               จูเดทต้ากล่าว "จากที่นายพูดมานิ แสดงว่านาย ส่งกองทหารส่วนหนึ่งออกไปจัดการกับพวกผบ.บาโธโรมิว กองรบฝ่ายเทรอม รวมถึงฝ่ายที่ภักดีกับท่านจอมพลไปแล้วละสิ"
              "เธอเดาเก่งดีนิ จูเดทต้า ที่จริง ฉันควรจะรวมเธอกับลูกสาวทั้งสาม ให้เป็นเหยื่อดัสท์คิลเลอร์ที่แฝงตัวมาฆ่าลูกชายของเธอสองตนกันไปแล้วแท้ๆ ไม่น่าปล่อยให้เธอรอดมาจนถึงตอนนี้กันได้หรอกน่ะ" วอลเลนซ์บอก
              นีลเซนท์กล่าว "เป็นคุณเองละสิน่ะ ที่ฆ่าพี่ชายสองคนของผม แล้วก็ทำให้พี่นาธาเอลท์เกือบพิการกันน่ะ"
              "ใช่ ที่จริง ฉันควรจะส่งดัสท์คิลเลอร์มาฆ่าเธอ ที่บังอาจมาฟังพวกเราประชุมกันด้วย แต่ติดตรงที่ว่าด้านหน้าเธอกับพวกพ่อของเธอคือพวกไทรเวเซอร์ ฉันจึงไม่อยากจะเสียลูกน้องให้กับกองกำลังหัวหอกของท่านมหาประธานาธิบดี จนรู้เรื่องทุกอย่างกันในเวลาอันสั้นด้วย" วอลเลนซ์กล่าว "แน่นอน ว่าท่านพ่อเลือกที่จะให้แพนเนสและเทเนดีนเป็นฝ่ายไปฆ่าพวกไทรเวเซอร์เสียด้วยซ้ำ แต่เพื่อนมิวแทนอยด์ทั้งห้าดันมาตายแทน หลังจากที่มิวแทนอยด์หญิงสองรายพิการ อีกคนก็ตั้งท้องไปก่อน โดยที่พี่ใหญ่นั้นทำลูกพี่ลูกน้องหญิงของพวกห้าพี่น้องริดโอท้องกันด้วยแล้ว จนทำให้พวกมันไม่มีแรงใจจะสู้นี้แหละ"
              เพอซิอัสบอก "แปลว่าตอนนี้ในเมือง มีพวกดัสท์คิลเลอร์แฝงตัวมาจริงๆ สิ"
              "ถูกต้อง หลังจากที่หน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์ชนะหรือแพ้พวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันนั้น มือสังหารดัสท์คิลเลอร์จะลงมือจัดการกับพวกนั้นทิ้งในทันที จากนั้นก็บุกเข้าไปในกองบัญชาการของนาย เพื่อฆ่าองค์ชายออสเทรย์และนำศพส่งไปให้ริชเชลลิอาร์ล เพื่อใช้เป็นเครื่องมือปลุกเร้าพวกทรอยอาร์ทั้งหลายให้เข้าร่วมกองทัพกันมากขึ้น และส่งมาถล่มพวกนายกัน ซึ่งท่านพ่อกับพวกคงจะขับไล่และจัดการกับพวกเดลอาเนี่ยนกันไปเรียบร้อยแล้ว ท่านพ่อกับกองรบจะได้กวาดล้างพวกทรอยอาร์ให้ราบคาบ และสั่งนำกองยานไปถล่มพวกทรอยอาร์ซ้ำเป็นการตอบแทนริชเชลลิอาร์ลที่หมดประโยชน์แล้ว แน่นอน ว่าเราจะทำแบบนั้นกับพวกสเตรดาร์ธกันด้วย" วอลเลนซ์กล่าว "แน่นอน ว่าทั้งนาย ทั้งจูเดทต้า ทั้งกองรบของฝ่ายประธานาธิบดี รวมถึงที่แคสเซรอน-4 และพวกไทรเวเซอร์จะถูกลืม เพราะประชาชนจะจดจำท่านพ่อวอลเดนสไตน์ วีรบุรุษแห่งสงครามเดลอาเนี่ยนกันนี้แหละ"
              เพอซิอัสกล่าว "แล้วนายไม่กลัวว่าจะมีใครรู้เรื่องกันนิ เพราะนายมีพวกดัสท์คิลเลอร์ที่พร้อมจะปิดปากใครก็ได้ที่ปากโป้งบอก แม้กระทั่งพวกลูกน้องของนายเองก็ด้วยใช่มั้ย"
              "ใครหน้าไหนที่กล้าขัดแย้งกับฉันและพ่อ หรือแม้กระทั่งสงสัยใคร่รู้เรื่องที่ไม่สมควรจะรู้ ฉันกับพ่อ มีสิทธิ์ที่จะปิดเรื่องนี้ให้เงียบไปนี้แหละ แต่ก็ดีแล้วละ เพราะประชาชนส่วนมากคงจะโง่พอจนหลงเชื่อว่าพ่อของฉันคือผู้กอบกู้ระบบดาวแห่งนี้ แทนที่จะเป็น คนทรยศต่อแรซัลก้าและสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ ตามที่นายกับพวกกล่าวหาแบบเลื่อนลอยกันเลยน่ะ" วอลเลนซ์บอก "ตอนนี้ นายกับพวกให้ฉันจัดการกับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธที่อยู่ในเมืองนี้ จากนั้น นายก็รายงานต่อเบื้องบน ว่าพวกกองกำลังหลังฉากเหล่านั้นขัดคำสั่งให้ถอยหนีกลับไปจนถูกลูกหลง พร้อมกับประชาชนที่แตกตื่นจนออกจากหลุมหลบภัยกันด้วย ซึ่งนายกับพวกห้ามแต่พวกนี้ไม่ฟังเอง...."
              เพอซิอัสกล่าว "เกรงว่า ฉันกับจูเดทต้าและทุกๆคนในกองรบที่ 11 มีอีกทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว ใช่มั้ยละ ผู้การโดโรซีน"
              "ว่ายังไงน่ะ" วอลเลนซ์กล่าว

              ไม่ทันไรก็ "ซ่า!!!! แฟ้ววววววว" มีฟาลครีด้าขับคอสมิคไฟต์เตอร์บินขึ้นจากทะเลตรงมา "แชดดดด ป้างงงงง ตรูมมม" ยิงเรย์แซทแคนน่อนเข้าใส่ยานซัลคาล่า ซึ่งลำแสงปะทะกับสนามพลังเอาไว้จนยานไม่เสียหายเลย "นี้นาย แอบซ่อนลูกสมุนกันไว้เลยนิ เท่ากับว่านายผิดกฎเรื่องส่งทหารมาทำร้ายพวกเรากันน่ะ" วอลเลนซ์อ้างกฎ
              เพอซิอัสกล่าว "นายอาจจะอ้างได้เพราะนายมีอำนาจเต็มจากท่านเสนาธิการกันสิน่ะ แต่....ในฐานะของนายทหาร พวกเราเลือกจะหยุดยั้งนายและพวกกันไว้ เพื่อมิให้พวกนายทำร้ายประชาชนที่อยู่ในเมืองนี้และอีกหลายเมือง เพียงเพื่อช่วยคนทรยศได้ชื่อเสียงที่แลกมาด้วยซากศพของเพื่อนร่วมชาตินับร้อย และผู้บริสุทธิ์นับพันให้สำเร็จกันไปได้หรอกน่ะ" โดยตอนนี้โดซี่บินเข้ามา "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงโฮมิงค์มิไซล์ออกจากป้อมด้านข้างเข้าใส่ยานซัลคาลาส "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ป้อมปืนเลเซอร์ยิงเร็วโต้ตอบห่ามิไซล์ทั้งหมด พร้อมทั้งระดมยิงใส่โดซี่ จนเธอต้องหักเลี้ยวออกโดยเร็ว
              "เฮ้ จะเลี้ยวออกทำไม โดซี่ ยังมีโอกาสให้ยิงสวนได้เลยนิ" ทันกุนบ่นโดยที่เขาคุมอยู่ในส่วนหัวยานคอสมิคไฟต์เตอร์กัน
              โดซี่บอก "ต่อให้แขนขาของนายใช้งานได้ แต่คงไม่ดีแน่ที่นายโดนยิงจนเหลือเพียงครึ่งตัวกัน แล้วโดนพวกน็อกกี้เยาะเย้ยกันเลยหรือยะ"
              "เธอว่ามาก็ถูกเผงเลยน่า" ทันกุนแม้ไม่ชอบใจแต่ก็เห็นด้วย "หวังว่าเธอคงจะบินหลบหลีกการโจมตีของยานรบกันได้บ้างน่ะ"
              โดซี่กล่าว "คิดว่าประสบการณ์การบิน 12 ปีของฉันเสียเปล่าไปเพราะน้ำหนักตัวที่มากขึ้นนะหรือ คิดผิดถนัดแล้วละยะ" แล้วก็บินวกกลับมา ทันกุนเลย "แกร็ก" เหนี่ยวไกยิงปืนใหญ่พลังงานกำลังสูงใส่แบบต่อเนื่อง "แชดๆๆๆๆๆๆ ป้างๆๆๆๆๆ" โดยยิงใส่กราบขวาจนระเบิดอย่างต่อเนื่อง "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" วอลเลนซ์สั่งยิงมิไซล์ติดตามเป้าหมาย "ครืดดด ตรุ้งๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" ทันกุนนำคลัสเตอร์กันออกมาจากใต้ท้องยานยิงใส่ด้านหลังเพื่อทำลายห่ามิไซล์ให้กระจุย "ครืดดด ครืดดดด กึก ตรุ้ง ตรุ้ง แชดดด แชดดดด แชดดดดด" จากนั้นก็เก็บคลัสเตอร์กันเข้าไป แล้วนำบัสเตอร์บาซูก้าสองอันออกมายิงใส่ยานพร้อมกับปืนใหญ่พลังงานกำลังสูงและเรย์แซทแคนน่อนตาม "ตูมๆๆๆๆๆ" ซึ่งวอลเลนซ์ป้องกันยานไว้ได้เหมือนเช่นเคย
              "ฉันรู้น่ะ ว่านายไม่เหลือใครในสนามแล้วก็ตาม และคนในกองรบของนายก็ไม่มีโมบิลลอยด์มาประจำการกันด้วย แค่ฉันสอยแมลงวันนี้ร่วง นายก็จบลงแล้ว เพราะพวกไทรเวเซอร์ไม่มีทางมาทันได้แน่ๆ" วอลเลนซ์บอก
              เพอซิอัสกล่าว "แค่หยุดยั้งไม่ให้นายทำร้ายประชาชนเพื่อสนองความต้องการของท่านเสนาธิการกันได้หรอกน่ะ วอลเลนซ์ และที่สำคัญ ถึงนายและท่านเสนาธิการชนะเราได้ ก็ใช่ว่าพวกเดลอาเนี่ยนจะถอยกลับไปพร้อมกับความพ่ายแพ้อย่างที่คิดกันน่ะ"
              "หมายความว่าไงกันละ" วอลเลนซ์บอก
              เพอซิอัสกล่าว "เพราะพวกเดลอาเนี่ยน ไม่ได้มาเพื่อยึดระบบดาวของพวกเรากันหรอก แต่มาเพื่อทำลายทิ้งกันต่างหากละ แน่นอน ว่านายอาจจะรู้อยู่แล้ว เลยรีบลงมือจัดการให้มันจบๆไปกันนี้แหละ"
              "อย่าห่วงไปน่า เพราะต่อให้พวกไทรเวเซอร์ไม่มา พ่อของฉันก็นำกองยานรบกำชัยเหนือพวกเดลอาเนี่ยนจนกลายเป็นวีรบุรุษกันในไม่ช้านี้แหละ" วอลเลนซ์กล่าว
              เพอซิอัสบอก "นายนิมัน เหลือเกินเลยน่า วอลเลนซ์...." แล้วก็คิดในใจขึ้นมา "ที่เหลือฝากด้วยละ ไทรเวเซอร์ หน่วยรบวิหคเงา สติลลิมบ์ วูเซียท แล้วก็ ผบ.บาโธโรมิว" โดยที่ไม่รู้ว่า มีใครบางคนเดินมาผ่านห้องกักตัวไว้
    ต่อช่วงที่ 2 กัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×