ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #94 : ตอนที่ 46 การเสียสละของริบอย การโต้ตอบอันคาดไม่ถึงของริดโอบิทอันไร้การควบคุม ครึ่งแรก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11
      0
      12 ต.ค. 64

              ที่ห้องพักของบรอนเซอรูท ในสถาบันวิจัยมิวแทนอยด์ 3 วันก่อนการเข้าช่วยเดลวาทและไซเมี่ยนของพวกไทรเวเซอร์
              "ริเกิร์ล นี้เธอมาทำไมกันละ" บรอนเซอรูทกล่าว เพราะเห็นริเกิร์ลเดินเข้ามาในห้อง
              ริเกิร์ลบอก "ฉันมาตามคำขอของพวกคุณพีวิลให้มาดูแลคุณไว้นะคะ อย่างน้อยก็เพื่อให้แน่ใจว่าคุณรักษาตัวให้หายดีกันนะคะ"
              "งั้นหรือ ไม่แปลกใจหรอกน่า เพราะว่าพวกพีวิลเองก็เป็นห่วงฉันไม่น้อยเลยละ" บรอนเซอรูทกล่าว และหันมาถาม "ว่าแต่ เธอมาคนเดียวนิ แล้วริบอยล่ะ" ริเกิร์ลกล่าวโดยนำตะกร้าผลไม้มาวางไว้บนโต๊ะ
              "พี่ริบอยยังอยู่ที่เฟิร์สฮิลล์เพื่อช่วยตรวจสอบข้อมูลบางอย่างที่พวกคุณพีวิลได้มานะคะ แน่นอน ว่าฉันมานี้เพื่อนำระบบโอมนิโอราเคิ่ลเซนเตอร์ซิสเทมให้กับทางสถาบันริดิวิเนี่ยน ผ่านคุณวูลลิเซอร์กันนะคะ"
              "อย่างน้อย ก็ดีกว่าปล่อยให้ระบบนั้นตกอยู่ในมือคนไม่ดีกันนี้แหละ" บรอนเซอรูทบอก
              ริเกิร์ลกล่าว "แล้วว่าแต่ พวกคุณเซเทธไม่อยู่นี้เลยหรือคะ"
              "ตอนนี้พวกเขาพักฟื้นจนหายดีและกลับไปช่วยงานผบ.บัลโต้กันแล้วละ" บรอนเซอรูทกล่าว "แต่อย่างน้อย ก็ไม่มีใครเข้ามาขัดจังหวะกันเลยสิน่า"
              ริเกิร์ลกล่าว "คุณบรอนเซอรูทคะ คุณยังไม่หายดี อย่าออกแรงเกินตัวจะดีกว่านะคะ"
              "ฉันรู้ดีแล้วน่า ว่าฉันยังบาดเจ็บกันอยู่น่ะ แม้ว่าตอนนี้ เธอถูกส่งมาเพื่อหลีกเลี่ยงการตามหาของพวกริดโอกันไว้น่ะ" บรอนเซอรูทบอก
              ริเกิร์ลพยักหน้า "ฉันทราบดีคะ เพราะเช่นนั้น พวกคุณพีวิลเลยทำเรื่องส่งฉันมาที่นี้ไว้ เพื่อให้คุณช่วยดูแลฉันต่อ แม้ว่าฉันอยากจะให้พี่ริบอยมาด้วยเลยก็ตามนะคะ"
              "ถ้าพวกเธอทั้งคู่มานี้ แล้วถูกพวกริดโอแกะรอยตามมาถูกจุดก็แย่กันพอดีละน่า" บรอนเซอรูทกล่าว "ที่เหลือนั้น คงต้องขึ้นกับพวกพีวิลกันบ้างละนะ"
              ริเกิร์ลกล่าว "คะ แม้ว่าช่วงนี้พวกเขาเข้าไปยุ่งกับพวกริดโอกันไม่ได้เลยก็ตาม ฉันคิดว่าพวกเขาคงจะช่วยเหลือกันได้บ้างนะคะ"

              หลังจากนั้น 4 วันถัดมา ที่กองบัญชาการกองรบที่ 11 เฟิร์สฮิลล์ หลังยุทธการช่วยเดลวาทและไซเมี่ยนจบลงไปได้ 1 วัน (เหลือ 2 เดือนกับอีก 30 วันก่อนที่เดลอาเนี่ยนจะมาถึง)
              "ท่านนายพลเรียกพวกเรามานี้ มีเรื่องอะไรกันหรือครับ" เนคมาดูซัมถาม เมื่อเขา มาสวาร์ทาร์ และพีวิลเข้ามาในห้อง
              เพอซิอัสกล่าว "ตอนนี้เรามีปัญหาเกิดขึ้นแล้วละ"
              "พวกริดโอก่อเรื่องกันอีกหรือครับ" พีวิลถาม
              เพอซิอัสส่ายหน้า พร้อมกับบอกว่า "เปล่าหรอก เมื่อเช้านี้ รัฐมนตรีวูลลิเซียมาแจ้งกับผบ.บัลโต้มา เห็นว่ามีคนลักลอบเข้ามาในส่วนเมนคอมพิวเตอร์ภายในสถาบันเมื่อช่วงตี 4 ที่ผ่านมา แล้วก็หนีหายไปจากกล้องวงจรปิด และออกจากสถาบันไปอย่างรวดเร็วกันนะสิ"
              "คนลักลอบเข้ามาที่เมนคอมพิวเตอร์ของสถาบันริดิวิเนี่ยนนะหรือ อย่าบอกนะครับ ว่าคนๆนั้นมาเพื่อแฮคข้อมูลคอมพิวเตอร์กันไว้น่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              เพอซิอัสกล่าว "ทีแรก ฉันก็คิดเช่นนั้น เพราะทางสถาบันบันทึกข้อมูลการค้นคว้าและวิจัยซากโบราณสถานของออร์เลี่ยนบนดาวดวงนี้และที่เมลลอท-4 กันแล้ว แต่....ทางนั้นได้ตรวจสอบคอมพิวเตอร์กันอย่างละเอียดนั้น ข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกแตะต้อง แต่มีบางอย่างถูกใส่เข้าไปในระบบพิเศษของทางสถาบันกันเลยน่ะ"
              "พอจะทราบมั้ยละครับ ว่าคนๆนั้นใส่อะไรเข้าไปในระบบพิเศษที่ว่ากันนะครับ" มาสวาร์ทาร์ถาม
              เพอซิอัสเลยเคาะโต๊ะเพื่อเรียกริบอยที่อยู่ข้างนอกให้เข้ามา "หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ท่านนายพลเลยเรียกผมให้มาตรวจสอบดู จนรู้เลยว่า...." ริบอยเล่ารายละเอียดให้พวกเนคมาดูซัมรับทราบกันไว้
              "นั้นเป็นแผนที่แยบยลเอามากๆที่ทำให้พวกเราเข้าใจผิด ว่าคนดังกล่าวนั้นพยายามจะแฮคเข้าเมนคอมพิวเตอร์ของทางสถาบันเพื่อขโมยข้อมูลของออร์เลี่ยนกันจริงๆน่ะ" มาสวาร์ทาร์พยักหน้าและออกความเห็น
              "แล้วเธอเตรียมการแก้ไขเอาไว้แล้วหรือยังละ" พีวิลถาม
              ริบอยบอก "ถ้าเป็นเรื่องโปรแกรมที่แฝงมากับข้อมูลที่ถูกใส่เข้าไปนั้น นายพลเพอซิอัสเลยส่งผมไปกับนายพลจูเดทต้ากันอย่างลับๆ เพื่อทำการแก้ไขกันไว้แล้ว รวมถึงได้ทำโปรแกรมโปรเทคให้กับเมนคอมพิวเตอร์กันด้วย เพราะผมแน่ใจว่า คุณริดโอบิทคงใช้รูรั่วเพียงน้อยนิด ในการแทรกเข้าไปสร้างความเสียหายให้กับเมนคอมพิวเตอร์กันอย่างแน่นอนนะครับ"
              "นั้นก็ดีแล้วละ เพราะว่าเราจะส่งพวกทรอยอาร์ที่ป่วยอยู่ ให้ทางสถาบันริดิวิเนี่ยนพาไปรักษากันด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว "ว่าแต่ เธอพอจะช่วยดูข้อมูลชุดนี้ได้มั้ยละ" แล้วก็นำแพดมาให้ริบอยเช็คดู
              "อืมมมมม ถึงนี้จะเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่ผมหรือริเกิร์ลทำได้กันก็ตาม แต่ผมจะทำให้ดีที่สุดเลยแล้วกันนะครับ"
              "งั้นฝากด้วยแล้วกันน่ะ ริบอย" พีวิลกล่าว ริบอยพยักหน้า แล้วเดินออกจากห้องไป
              เพอซิอัสบอก "นอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นมานั้น ขอให้พวกเธอกลับไปทำตัวตามปกติกันก็พอ"
              "ดีแล้วละ ที่พวกเราส่งริเกิร์ลให้ไปดูแลบรอนเซอรูทกันไว้ อย่างน้อย บรอนเซอรูทควรจะมีคนห้ามปรามเวลาอยากจะออกจากห้องพักกันน่ะ" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เท่าที่ทราบจากคุณวูลลิเซอร์มา เซเทธ ทอฟคานิค ฟันดิวเรคและเลอแชน ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ และกลับมาทำงานกันต่อแล้วละ"
              "ใช่ สำคัญในตอนนี้ก็คือ การเตรียมพร้อมรับมือกับพวกเดลอาเนี่ยนที่จะมาถึงในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้แหละ" เนคมาดูซัมบอก
              พีวิลกล่าว "เมื่อคืนเราได้แจ้งเตือนพวกอากาเมมนอสให้เตรียมพร้อมกันไว้แล้ว แม้นั้นจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ก็ตามน่ะ"
              "งั้นตอนนี้เราฝึกพวกเฮเรเค้นไปตามปกติกันดีกว่าน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วทั้งสามก็เดินกลับมาที่เวเซอร์เฮาส์กัน
              คลอเวฟบอก "พวกนายมาพอดีเลย ไอ้หมีควายมันติดต่อมาหาเราเรื่องไอ้ปากดีนั้นแล้ววะ"

              "เยี่ยม โคเซวิคมีเรื่องมาถามพวกเรากันเลยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก โดยทั้งสามเดินเข้ามาในบ้าน ซึ่งเปิดระบบสื่อสารควอนตั่มโดยเปิดภาพโฮโลแกรมกันแล้ว
              "พวกนายคงจะทราบไปแล้วสิ ว่าเพื่อนพ้องที่แปรพักตร์นั้นโผล่มาหาพวกเรากันแล้วน่ะ"
              "เฮโลลิคเตอร์ส่งข้อความบอกกับพวกเรากันไว้แล้วน่ะ โคเซวิค เพียงแต่ ตอนนี้อดีตองค์ชายเดลวาทและนายทหารนามแอลิลกับพวกยังต้องอยู่ที่นี้ไปสักระยะหนึ่งก่อนน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              เฟลิคบอก "ถึงว่าสิ ว่าทำไมพวกเฮฟบัสเตอร์ถึงโผล่มา แทนที่จะเป็นแอลิลและพวกกันเสียได้น่ะ" แล้วก็ถาม "พวกนายได้ข้อมูลของซาบราดร้าแล้วสิน่ะ"
              "พวกเราได้มาแล้วละ ที่เหลือก็แค่เตรียมการต่อสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนกันในอีก 2-3 เดือนข้างหน้ากันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              อิลมิคกล่าว "ดีแล้วละ ที่พวกนายรีบเตรียมตัวกันไว้ แต่....ก่อนที่พวกนายจะทำเช่นนั้น ทำไมพวกนายไม่คิดจะจัดการกับไอ้ตัวเอ้ที่ขายความลับของพวกนายให้กับพวกเดลอาเนี่ยนกันบ้างละ"
              "พวกเรากำลังหลอกให้คนทรยศเชื่อว่าพวกเราโง่มากพอที่จะไม่ทราบเรื่องของเขากันเลยนะสิ เพราะคนทรยศผู้นี้ไม่ได้แค่ก่อเรื่องให้กับระบบดาวของเรา แต่ที่ระบบเจเนซิลกันด้วยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เฟลิคพยักหน้า "พวกนายไม่อยากให้ตัวการร้ายไหวตัวทันเลยสิน่ะ" แล้วก็แจ้งบอก "ตอนนี้พวกนายคงมีสุดยอดอาวุธที่ทรงพลังจากเขตระบบดาวเทรสตีดกันไว้ในครอบครองกันด้วยสิ"
              "สุดยอดอาวุธจากเทรสตีด....เดียวก่อนนะคะ ว่าแต่ พวกคุณได้ข้อมูลมาจากใครกันมิทราบละคะ" ลิเนียร์ตี้ถาม
              โคเซวิคบอก "พวกเราแอบฟังการสื่อสารของพวกสเตรดาร์ธมานะสิ เห็นว่ามูราดีนได้ข้อมูลมาจากสายข่าวที่ไว้ใจได้ เอาไปแจ้งให้กับจาฟฟาร์ลและดูแรนซินที่อยู่นอกดาวอื่นรับทราบ และเตรียมการบุกจู่โจมกันในอีก 1 เดือนนี้แหละ"
              "แน่นอนว่าเราเกิดความสงสัยมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เราเลยมาติดต่อหาพวกนายเพื่อถามสาเหตุดังกล่าวกันนะสิ" เฟลิคบอก
              อิลมิคบอก "ว่าแต่ ไอ้สุดยอดอาวุธที่ว่ามานิ มันหน้าตาเป็นเช่นไรกันละ"
              "สงสัยว่าพวกเราต้องอธิบายให้พวกนายทราบความจริงกันเสียแล้วละน่า" เนคมาดูซัมกล่าว แล้วก็เฉลยเรื่องทั้งหมดให้รับทราบไว้
              โคเซวิคได้ฟังก็ถึงกับบ่นไปว่า "ให้ตายสิ นี้ตกลงผู้นำทางจิตวิญญาณของพวกเทรสตีดมันเล่นพวกนายกันแบบนี้เลยหรือ"
              "บอกตรงๆว่านี้เป็นอุบายที่แยบคายมากๆ กับการกุเรื่องใส่ไฟให้กับกลุ่มอัศวินที่ภักดีต่อผู้นำต้องทำตามคำสั่งกันไม่ว่า ยังสร้างข่าวลือผิดๆให้พวกนักรบจากสเตรมเซคเตอร์กันด้วยอีกน่ะ" เฟลิคกล่าว
               อิลมิคบอก "และไม่คิดเลยว่าผู้นำทางจิตวิญญาณจะกล้าใช้ผู้ป่วยโรคร้าย เป็นเครื่องมือต่อรองกับพวกอัศวินภักดีกันเช่นนี้ ได้ยินแล้วรู้สึกอยากจะจัดการกับไอ้บ้านั้นจริงๆ"
              "ถึงมหาสังฆราชริชเชลลิอาร์ลจะก่อเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยกันยังไงก็ตาม ทั้งพวกเราและพวกนายไม่มีสิทธิ์ไปหาเรื่องกับพวกนั้นกันเลยน่ะ" พีวิลบอก
              โคเซวิคบอก "เพราะพวกอัศวินที่เทรสตีดนั้นไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ์แรซัลก้าที่พวกนายเอาชนะมา แต่ถ้าพวกเทรสตีดไม่อยู่ ก็เท่ากับว่าพวกเฮซเทิร์ซก็จะรุกรานเขตอวกาศของสมาพันธ์อวกาศกันอย่างแน่นอนสิน่ะ แม้ว่าพวกเทรสตีดนี้จะมีแสนยานุภาพไม่ต่างจากพวกนาย หากแต่มีจำนวนที่น้อยกว่ากันก็ตาม"
              "แถมยังมาเจอปัญหาภายในที่คาราคาซังกันเช่นนี้ แสดงว่าผู้นำของพวกเทรสตีดเป็นผู้นำที่เลวกว่าเดลมูดัลหรือไร้ประสิทธิภาพในการปกครองอย่างมากสิน่ะ ผู้นำทางจิตวิญญาณถึงได้เข้ามาก้าวก่ายอำนาจการปกครองกันได้น่ะ" อิลมิคกล่าว
              ฟิเกซกล่าว "ถ้าราชาออสเฟรย์เลวและเป็นผู้นำที่ไม่ดีอย่างที่นายว่ามาจริง ก็คงไม่มีกลุ่มอัศวินที่จงรักภักดีต่อองค์กษัตริย์ คอยต่อต้านการกระทำของริชเชลลิอาร์ลกันไปนานแล้วนะ"
              "ที่ทรอยอาร์มันเป็นแบบนี้เพราะริชเชลลิอาร์ลปลูกฝังความเชื่อบ้าๆไว้ในหัวของพวกทรอยอาร์ และอาศัยความเป็นที่ปรึกษาและตัวแทนองค์ราชา ในการสร้างอิทธิพลของตนเองให้เหนือกว่าพวกทรอยอาร์ที่ภักดีกันไว้ โดยเขาทำแบบนี้มาตลอด 25 ปีแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โคเซวิคบอก "และพวกนายก็คงอยากให้พวกที่ภักดีต่อองค์ราชารอดกลับไปจัดการกับไอ้ผู้นำทางจิตวิญญาณกัน ทั้งๆที่พวกนั้นกับพวกสเตรมเซคเตอร์จะมาหาเรื่องพวกนาย ก่อนเดลมูดัลจะยกทัพมาบดขยี้พวกนายกันสิน่า"
              "พอพวกนายทราบเรื่องนี้ แล้วพวกนายคิดจะทำยังไงกันละ" เนคมาดูซัมถาม
              โคเซวิคบอก "ตอนนี้ผู้การทอมมี่สั่งการให้กองรบพันธมิตรมนุษย์และกองรบสมาพันธ์อวกาศ แบ่งกำลังไปขับไล่พวกสเตรมเซคเตอร์ที่ดาวไอราน-4 และพวกเทรสตีดที่เทลเฮม-6 ให้ออกไปจากดาวกัน ซึ่งแม้ว่านั้นจะทำให้พวกนี้หันมาทางดาวของพวกนายเร็วขึ้น ซึ่งผู้การทอมมี่ไม่ให้พวกเราคงเข้าไปยุ่งในเรื่องนี้เลยน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะสมาพันธ์อวกาศยังไม่อยากให้พวกนายที่ลี้ภัยจากเดลอาเนี่ยนถูกเปิดเผยเลยสิน่ะ" พีวิลกล่าว
              อิลมิคบอก "ที่ถูกนั้นก็คือ พวกเราพร้อมจะสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนกันต่างหากละ แม้ว่าในตอนนี้ คนของเอสเซคาร่าซาดีริลมาคอยคุมพวกเราไว้ เพื่อมิให้พวกเราตนใดตนหนึ่งหาเรื่องกับฝ่ายสมาพันธ์ฯกันในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานกันเลยน่ะ"
              "หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ หาตัวสายลับเดลอาเนี่ยนที่แฝงตัวเข้ามาด้วยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
               เฟลิคกล่าว "จากรูปการณ์ในตอนนี้ พวกเราต้องให้พวกนายปกป้องท่านเดลวาทกับเหล่าผู้ลี้ภัยไปพลางๆก่อนน่ะ เพราะเดลวูลรู้ว่าพวกนายไม่ได้ส่งท่านเดลวาทกับแอลิลมาให้ทางเรา และต้องส่งกองทหารมารังควานพวกนายต่อแน่นอน"
              "และหวังว่าพวกนายคงจะเตรียมพร้อมรับมือกับพวกเดลอาเนี่ยนกันอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเคลียร์ปัญหาที่อยู่ในดาวของพวกนายให้จบลงไปซะ แม้ว่าพวกนายจะใช้เวลานานมากจนสายเกินแก้ก็ตาม" อิลมิคบอก
              โคเซวิคบอก "ถ้าเดลมูดัลโผล่มาละก็ พวกเราจะเป็นกลุ่มแรกที่ล่วงหน้ามาจัดการกับพวกเดลอาเนี่ยนกันก่อน เพราะเรามีเรื่องต้องฉะกับตัวจักรพรรดิ์เหล่านั้นกันน่ะ"
              "ถึงตอนนั้น พวกนายอย่าวอนหาเรื่องตายเสียละ เพราะพวกนายหนีพวกเดลอาเนี่ยนมาอยู่ในเขตอวกาศของสมาพันธ์ด้วยความช่วยเหลือของไซเมี่ยนมา คงไม่ทำให้ความพยายามของไซเมี่ยนสูญเปล่าไปได้หรอกน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โคเซวิคกล่าว "และของอาร์ซไพล์มกันด้วย ที่ช่วยให้พวกเราชุดแรกมาถึงเขตของสมาพันธ์อวกาศกันอย่างปลอดภัยไว้ แม้ว่าเราเคยอยู่ฝ่ายศัตรูกับพวกนายมา แต่ตอนนี้ เราต่างมีศัตรูเหมือนกันแล้วละ"
              "เรามีเวลาราว 2-3 เดือนในการเตรียมพร้อมรับมือกับการมาของพวกเดลอาเนี่ยนกัน หวังว่าพวกนายคงจะพร้อมมากกว่าพวกเรากันบ้างละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เฟลิคกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะคนทรยศนั้นไม่ยอมให้พวกนายหยุดพวกเดลอาเนี่ยนกันได้สิน่ะ หวังว่าพวกนายคงจะเตรียมพร้อมให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้แล้วกัน"
              "งั้นเราขอยุติการติดต่อเพียงเท่านี้แหละ" โคเซวิคกล่าวและปิดการติดต่อในทันที
              คลอเวฟสรุป "กูว่าน่ะ มันต้องเป็นฝีมือของไอ้แก่วอนเดนนั้นแน่ๆเลยวะ ไม่เช่นนั้น เรื่องที่ฝ่ายเราได้ช่วยพวกผู้ป่วยจากทรอยอาร์มานั้น คงไม่หลุดถึงหูของพวกสเตรดาร์ธกันหรอก"
              "เป็นไปได้สูง ถึงแม้ว่าไวล์สเลฟตายไปแล้ว เสนาธิการวอลเดนสไตน์ยังมีพวกริดโอที่เป็นตัวกลางในการติดต่อกับพวกสเตรดาร์ธกันอยู่ เพียงแต่ตอนนี้ วอลเดนสไตน์คิดจะเขี่ยพวกริดโอออกไปด้วยการอาศัยการปราบปรามของนายพลวอลเลนซ์นี้แหละ" พลัสเชอริทกล่าว "เพียงแต่ พวกเราคงเข้าไปก้าวก่ายกันไม่ได้ก็เท่านั้นเองน่ะ"
              ฟิเกซบอก "เพราะถ้าเราเข้ามายุ่ง ก็จะเป็นการเปิดเผยว่าพวกเรายังพยายามเกี่ยวข้องกับพวกริดโอกันอยู่น่ะ"
              "แล้ว ถ้าพวกเราเข้ามาช่วย เพราะเราทำตามคำสั่งของท่านนายพลเพอซิอัสที่รู้ว่าพวกริดโอกำลังเล่นตุกติกกันละคะ" แอมเบอร์ออกความเห็น
              แอนเดรียบอก "นั้นสิ เพราะเรารู้ว่าตอนนี้พวกริดโอกำลังได้รับความเสียหาย จากการปราบปรามอย่างหนักหน่วงของนายพลวอลเลนส์และกองกำลังที่ 16 กันอยู่ ซึ่งนั้นเป็นการกระตุ้นให้พวกริดโอก่อเรื่องร้ายแรงที่หนักหนาเกินกว่าที่กองรบที่ 16 ของนายพลวอลเลนซ์จะทำอะไรได้นะคะ"
              "แอนเดรียและแอมเบอร์พูดถูกน่ะ แค่เราบอกว่าเราทำตามคำสั่งของนายพลเพอซิอัส โดยมีการจับตาดูของนายพลจูเดทต้าด้วยแล้ว นั้นพอจะทำให้นายพลวอลเลนซ์เชื่อได้แน่นอน" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              จายด์บอก "เพราะกองทหารฝ่ายเราทุกกอง ต่างก็รู้ ว่าตอนนี้พวกเราปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งของนายพลวอลเลนซ์กันอยู่ แน่นอน ว่าท่านเสนาธิการวอลเดนสไตน์เอง คงคิดว่าพวกเราไม่มีทางก้าวก่ายในเรื่องนี้ได้ หากนายพลเพอซิอัสและนายพลจูเดทต้าไม่อนุญาตกันน่ะ"
              "เอาเป็นว่าตอนนี้ เราต้องฝึกพวกเฮเรเค้นและกองกำลังหลังฉากเหมือนเดิมไปก่อน คลอเวฟ พลัสเชอริท พวกนายไม่ต้องมาช่วยเราฝึกกัน แต่ให้ไปช่วยบริคซ์และพวกลูกเรือปรับแต่งไทรแองเกิ้ลให้พร้อมรับมือกันด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              คลอเวฟกล่าว "ถึงนายไม่บอก ฉันก็จะไปช่วยพวกบริคซ์กันอยู่แล้วละน่า เนคเกอร์"
              "ส่วนเรื่ององค์ชายออสเทรย์และพวกทรอยอาร์ที่มาด้วยนั้น ตอนนี้ถูกกักตัวไว้ในฐานของกองรบที่ 11 กันแล้ว เพื่อปกป้องจากพวกไม่หวังดีที่แฝงตัวเข้ามาในเขตเมืองของเรากัน เพราะโพโบโวโล่มาแจ้งกับพวกเราเมื่อวานตอนเย็น ว่ามีคนต้องสงสัยปรากฎอยู่ในเขตชุมชนกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เจเนลกล่าว "นั้นอาจจะเป็นแค่ตีนแมวหรือหัวขโมยในระแวกนี้ก็เป็นได้น่า"
              "ตีนแมวหรือหัวขโมยที่นายพูดถึงน่ะ มันด้อมๆมองๆอยู่รอบๆบ้านของคุณเมย์และนายช่างเจฟ แม้กระทั่งที่พักของคาเซคาว่า ของแฮรี่ ของทันกุน รวมถึงอพาร์ตเมนต์ที่พวกน็อกกี้อยู่ด้วยนะสิ" สเตฟอร์ดกล่าว
              ฟิเกซบอก "ตอนนี้ นายพลวอลเลนซ์ส่งพวกดัสท์คิลเลอร์แฝงตัวเข้ามาใกล้กับพวกเรากันแล้วละ แม้พวกมันไม่คิดจะเล่นงานพวกเราโดยตรง แต่จากที่ฟังโดรารี่และพวกเล่ามา เราต้องระวังตัวให้มากแล้วละ"
              "แล้วเราไม่หาทางจับตัวพวกมันเลยหรือ ไม่เช่นนั้นคนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์จะพลอยรับเคราะห์เหมือนกับหัวหน้าแดนเลยน่ะ" จิลบอก
              ฟิเกซส่ายหน้า "ดัสท์คิลเลอร์นั้นทำงานแฝงตัวได้เนียนที่สุด ซึ่งพวกนั้นไม่ยอมให้ถูกจับก่อนที่พวกมันจะได้ลงมือแน่นอน และถึงจับตัวมาได้ พวกมันก็ต้องใช้ชีวิตเพื่อทำลายความลับที่พวกเราอยากรู้ให้สูญหายไปด้วยน่ะ"
              "งั้นทางเดียวที่พวกเราจัดการกับพวกนี้ได้ก็คือ ตอนที่พวกมันลงมือกันเท่านั้นแหละ เพราะเป็นโอกาสเดียวเท่านั้นที่เราจะหยุดพวกมันได้น่ะ" พีวิลบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "เพียงแต่ พวกเรายังไม่รู้ว่าพวกมันจะลงมือในตอนไหนและตรงไหนกันนะสิ"
              "เอาเป็นว่า....ในช่วงฝึกนั้น เราจะบอกกับพวกบาร์ท แฮรี่ คาเซคาว่า นิคและรีฟให้คอยระมัดระวังตัวไว้ ที่สำคัญเรื่องนี้นายพลเพอซิอัสได้แจ้งให้เหล่าทหารที่อยู่ในเขตเมือง คอยสอดส่องดูความเรียบร้อยกันไปตามปกติแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "และตอนนี้ เราต้องเรียกรวมพลเพื่อเข้าป่าไปฝึกซ้อมกันแล้วละ"
              คลอเวฟบอก "งั้นฉันกับพลัสเชอริทจะไปจัดการกับไทรแองเกิ้ลก่อนแล้วกัน แม้ว่านั้นจะต้องทนฟังป้ามินอร์ตี้พล่ามยาวเยียดถึงข้อมูลซุปเปอร์วอร์บอทของเฟลาเลี่ยมกันก็ตามน่ะ"

              "คนของผมแทรกซึมเข้าไปในเฟิร์สฮิลล์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพวกเขาจะลงมือตามที่ผมสั่งและนัดแนะไว้ก่อนหน้าแล้วละครับ" วอลเลนซ์กล่าว
              วอลเดนสไตน์บอก "ดี เพราะจากรูปการณ์ในตอนนี้ พวกไทรเวเซอร์เองคงทำอะไรไม่ได้มาก ส่วนหนึ่งเพราะ เนคเกอร์และฟิเกซอทคงจะรู้เรื่องดัสท์คิลเลอร์มาจากแม่ทัพเนคคูคัสและแม่ทัพนาไลน์กันก่อนแล้ว แค่เรายังไม่ลงมือ ก็ทำให้พวกนั้นไม่กล้าทำอะไรกันด้วยน่ะ"
              "แม้กระทั่งเรื่องการปราบปรามพวกริดโอกันด้วย คิดว่าพวกนั้นจะโผล่มาเกี่ยวด้วยหรือเปล่าละครับ" วอลเลนซ์ถาม
              วอลเดนสไตน์บอก "ถ้าพวกนี้มาตามคำสั่งของนายพลเพอซิอัสละก็ ลูกไม่ต้องกลัวหรือสงสัยกันได้หรอกน่ะ เพราะไม่ว่าพวกเขาจะรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหน พวกเราก็กำจัดพวกเขาไปพร้อมกับกองกำลังของฝ่ายผบ.บาโธโรมิวและแฮซกริฟกันไปแล้วละ"
              "นั้นสิครับ เพราะว่าพวกริดโอได้แจ้งข่าวปลอมของพวกทรอยอาร์ให้พวกสเตรดาร์ธกันเรียบร้อยแล้ว แค่เรื่องนี้ก็ทำให้พวกไทรเวเซอร์และกองกำลังหลังฉากนั้นไม่มีทางขวางพ่อได้แน่นอนนะครับ" วอลเลนซ์กล่าว
              วอลเดนสไตน์พยักหน้า "ตอนนี้พ่อจะไปควบคุมการฝึกที่แคสแนค-2 กันก่อน หวังว่าลูกคงจะจัดการเรื่องริดโอให้พ่อได้บ้างน่ะ"
              "ครับ คุณพ่อ ถ้าพ่อฝึกเสร็จแล้ว ก็ลงมาได้เลยนะครับ" วอลเลนซ์บอก
              วอลเดนสไตน์ถาม "ว่าแต่ วอลทิโน่ยังทำงานเป็นปกติอยู่หรือเปล่าละ"
              "ก็ยังเหมือนเดิมนี้แหละครับ พ่อ ตอนนี้ผมเลิกหวังในตัวเขากันแล้วละครับ" วอลเลนซ์กล่าว
              วอลเดนสไตน์บอก "ดีแล้วละ เพราะหลานคนนี้อ่อนแอและปวกเปียกกันอย่างมาก จนฉันเห็นว่าเขาคงไม่มีทางเป็นคนของตระกูลวาลกันโด้กันอย่างแน่นอน ซึ่งฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่เธอไปเอาสะใภ้ที่จืดชืดมาเป็นภรรยาและแม่ของหลานกันน่ะ"
              "ผมก็เห็นด้วยนะครับ วอลทิโน่ไม่มีความแข็งแกร่งของพวกเราอยู่ ทั้งหมดเพราะภรรยาสอนลูกไม่ดีเอง จนเขาไม่สามารถทำคุณประโยชน์ให้กับพวกเราได้เลยนะครับ" วอลเลนซ์บอก
              วอลเดนสไตน์กล่าว "ตอนนี้ฉันไม่หวังให้วอลทิโน่สานต่องานจากเธอกันอีกแล้ว แม้ว่าเขาจะเข้ามาเป็นทหารได้อย่างหวุดหวิดโดยที่เธอกับฉันมิได้ใช้อิทธิพลช่วยกันก็ตาม แต่ในไม่ช้า ฉันก็จะกลายเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้ระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์อย่างแท้จริง มิใช่ไอ้กองกำลังหัวหอกของผู้นำแอคเมนโด้ มิใช่กองรบเทรอมภายใต้คำสั่งของผบ.บาโธโรมิว รวมถึงพวกที่อยู่ใต้บัญชาของแฮซกริฟกันด้วย เผลอๆฉันอาจจะกลายเป็นผู้นำของกลุ่มสหพันธมิตรนี้ แล้วพวกซัลคาเลี่ยนที่ถูกกักอยู่ในแรซัลก้า พวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธจะต้องจดจำชื่อของฉัน วอลเดนสไตน์ วาลโทรน่าไปชั่วนิรันดร์"
              "แต่ตอนนี้ พวกเราควรเตรียมการถึงตอนนั้นเสียก่อนนะครับ" วอลเลนซ์กล่าว
              วอลเดนสไตน์พยักหน้า "ดังนั้น เรื่องจัดการกับพวกริดโอครั้งเด็ดขาดนั้น คงต้องให้เธอจัดการแล้วละ วอลเลนซ์" โดยหารู้ไม่ว่า มีคนแอบฟังอยู่ข้างๆกันแล้ว

    TriVeser Manigator Saga:The Del-Arnian War
    ตอนที่ 46 การเสียสละของริบอย การโต้ตอบอันคาดไม่ถึงของริดโอบิทอันไร้การควบคุม


              ในเขตป่าหลังเมืองเฟิร์สฮิลล์ การฝึกช่วงเช้าเริ่มขึ้น
              "ฟึ่บบบบ ฟึ่บบบ หวับๆๆๆ" คีธบุกเข้าเตะกวาดใส่เฟรดที่ถอยหลังหลบอย่างทันควัน แม้กระทั่งการรั่วถีบต่อเนื่องเอง เฟรดก็รีบโดดหลบออกมาพร้อมกับ "ฟึ่บบบบ" กระโจนแทงเข่าเข้าใส่ "ปึกกกก" คีธไขว้แขนบล็อกเข่าไว้ แม้จะถอยผงะตามแรงปะทะจากเข่าเฟรดที่พุ่งมาอย่างเร็วก็ตาม "เฮ้ยยย" เฟรดตะโกนพร้อมกับกระโดดเพื่อเตะก้านคอใส่ "ย้า" คีธกระโดดเข้าและ "หวับบบ ป้ากกก" เตะสวนปะทะกับขาของเฟรดไปเต็มๆ จนทั้งคู่ล้มกับพื้น แต่ก็ลุกกลับมาตั้งท่าโดยเร็ว "ให้ตายสิ นายเริ่มจับทางฉันได้แล้วสิน่า" คีธกล่าวแบบไม่สบอารมณ์
              เฟรดบอก "ที่ฉันจับทางได้ เพราะนายคิดว่านายสามารถเอาชนะฉันได้อย่างง่ายดายและเร็วกันซะมากกว่า จนนายไม่ทันระวังตัวกันดีๆเลยนะสิ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะนายเริ่มมีสมาธิจดจ่อกันมากขึ้นสิน่ะ แต่ฉันไม่ยอมให้นายแซงหน้าฉันได้หรอก" คีธกล่าวแล้วก็วิ่งเข้ามา เพื่อเตะก้านคอ ซึ่งเฟรดก้าวเท้าถอยไปข้างหลัง แต่ "หวับบบ ฟึ่บบบ หวับบบ ฟึ่บบบ" แม้เตะก้านคอจะพลาด แต่คีธจงใจเตะพลาดโดยก้มลงในจังหวะที่เท้าผ่านหน้าเฟรด แต่ก้าวเท้าไปข้างหน้าในท่านั่งย่องเพื่อเตะตัดขา ซึ่งโชคดีที่เฟรดรีบเขย่งตัวหลบได้ทันเสียก่อน
              "นายเอาชนะใครหน้าไหนด้วยการเล่นทีเผลอกันไม่ได้หรอกน่า" เฟรดบอก แล้วก็กระทุ้งศอกต้านรับลูกถีบของคีธที่พุ่งเข้ามา จนคีธเจ็บและอยู่ในท่าเขย่งขาเดียว แต่ก็รีบหลบการกระโดดตีเข่าของเฟรดที่พุ่งเข้ามาซ้ำได้ทัน จากนั้นทั้งคู่ก็ปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
              "บอกตรงๆนะ พีท เห็นเฟรดและคีธสู้กันนั้น เหมือนเห็นพวกเราฝึกมวยทหารในค่ายกันไม่มีผิดเลยน่ะ" เจเนลบอก
              พีวิลพยักหน้า "เพียงแต่ในตอนนั้น เราทั้งคู่ยังเป็นเด็กวัยรุ่นเลือดร้อนพอกัน เพียงแต่นายเลือดเดือดและวู่ว่ามมากกว่ากันน่ะ"
              "ส่วนนายก็ทำเป็นเก่งและอวดดีจนฉันรู้สึกหมั่นไส้กันบ้างน่ะ" เจเนลกล่าว แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "แม้นายอยากจะบอกว่านี้ไม่ใช่เวลามาระลึกความหลังกันก็ตาม เพราะเรามีเรื่องยุ่งอีกเพียบกันด้วยน่ะ"
              พีวิลเห็นด้วย "แม้พวกเราจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อย เราก็ทำในส่วนที่เราควรทำได้กันละน่า"
              "ใช่ ตอนนี้ริบอยกำลังทำงานร่วมกันกับนีลเซนท์ในการตรวจสอบแผนที่โครงสร้างของไอ้ซาบราดร้านั้น ซึ่งริบอยคงออกไปนอกเฟิร์สฮิลล์ไม่ได้แน่ๆ จนกว่าพวกริดโอจะถูกปราบไปจนหมดน่ะ" เจเนลบอก
              พีวิลกล่าว "แต่นั้นก็เป็นการไล่ต้อนพวกริดโอให้ทำอะไรบ้าๆได้ทุกเมื่อกันน่ะ ยิ่งพวกนั้นยังมีเฮเลนอยู่ด้วยแล้ว เกรงว่างานนี้นายพลวอลเลนซ์อาจจะเสียกำลังคนไปไม่น้อยด้วยน่ะ"
              "หวังว่าพวกริดโอคงไม่รู้กันบ้างน่ะ ว่าตอนนี้ ไซเมี่ยนกลับมากันแล้วน่ะ" เจเนลกล่าว
              พีวิลบอก "อย่าห่วงไปเลย เรื่องของไซเมี่ยนนั้น ผบ.บัลโต้แจ้งกับท่านประธานาธิบดีเป็นการส่วนตัวแล้ว นายพลวอลเลนซ์คงไม่มีทางคาบข่าวนี้ไปได้หรอกน่ะ" โดยตอนนี้เฟรดและคีธอ่อนแรงหลังการฝึกต่อสู้กันเองแล้ว
              "ฉันคิดว่า นายไม่น่าจะสู้กับฉันได้ เพราะนายคงจะคิดเรื่องน้องสาวของสไปค์กันอยู่สิน่ะ" คีธกล่าวพลางเหนือยหอบในท่านอนราบกับพื้นหญ้ากันแล้ว เช่นเดียวกับเฟรดด้วย
              "แม้ฉันรู้สึกเป็นห่วงกันก็จริง แต่....ฉันก็รู้ ว่าเรื่องที่คุณเนคมาดูซัมเล่ามาเกี่ยวกับสาเหตุที่สไปค์เลือกที่จะสืบทอดตำแหน่งอัศวินต่อจากพ่อเขา ก็เพราะน้องสาวของเขาที่ป่วยอยู่นี้แหละ" เฟรดบอก "เพียงแต่ถึงฉันรู้ไป ก็คงไม่ใช่กงการอะไรของฉันที่เข้าไปสอดยุ่งในเรื่องนี้กันได้หรอกน่ะ"
              "เพราะถ้านายเข้าไปยุ่ง จนทำให้น้องสาวของสไปค์ตายขึ้นมา นั้นไม่เพียงเป็นตราบาปที่นายแกะไม่ออกเป็นการถาวร แต่นั้นหมายถึงสไปค์แค้นนายมากเลยสิน่ะ" คีธกล่าว
              เฟรดบอก "และฉันก็รู้ว่า สไปค์แล้วก็ทรอยอาร์ทั้งหมดคงไม่ยอมรับฟังความจริงจากปากฝ่ายตรงข้ามอย่างฉันและพวกเราไปได้แน่ๆ หลังจากที่พวกเขาเชื่อในคำพูดของคนอื่นแบบสนิทใจไปตั้งนานแล้วนะสิ"
              "แต่ฉันก็รู้น่ะ ว่านายก็อยากจะเข้าไปช่วยด้วย อย่างน้อยก็เพื่อบรรเทาปัญหาที่หนักหนาให้อ่อนลงอย่างดีสิน่ะ" คีธบอก
              เฟรดพยักหน้า "น้องของสไปค์ป่วยเป็นโรคร้ายเหมือนกับคนอื่นๆ แต่สไปค์กับเหล่าอัศวินทรอยอาร์ส่วนมากนั้น ป่วยหนักยิ่งกว่า ยาดีหรือวิธีรักษาที่ทันสมัยและล้ำยุคไปไกลแค่ไหน คงเยียวยาพวกเขาไม่ได้แน่ๆแล้วละ"
              "นี้ตกลง นายพูดเหมือนนายเป็นหมออย่างงั้นสิ" คีธแซว
              เฟรดยิ้มและบอกไปว่า "หมอมีหน้าที่รักษาคนไข้ที่ป่วย ไม่ว่าจะดีหรือเลว หมอก็ต้องเข้าไปรักษา แม้จะรู้ว่าอาการของผู้ป่วยอาจจะหนักหนาเกินกว่าจะรักษาได้ก็ตาม ทั้งพวกทรอยอาร์ สเตรดาร์ธ แล้วก็เดลอาเนี่ยน ต่างก็ติดโรคร้ายกันหมด แม้สุขภาพกายของพวกเขาเหมือนจะดี แต่สุขภาพจิตของพวกเขา อยู่ในระดับที่ควรจะอยู่ในห้องไอซียูเสียด้วยซ้ำ" พร้อมกับลุกขึ้นยืนไปว่า "นั้นไม่แปลกใจแล้วละ ที่พวกคุณพีวิลแล้วก็พวกเราก็ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับภัยคุกคามทั้งหลาย มิใช่เพราะว่าพวกเขารบเพื่อเอาชนะศัตรู เพื่อแก้แค้น เพื่อเกียรติยศและความเป็นใหญ่ หรือเพื่อที่อยากจะเป็นวีรบุรุษกันอย่างเดียว แต่เพื่อรอยยิ้มของทุกๆคนทั้งหมดนี้ด้วย ซึ่งกำลังตกอยู่ในโรคสิ้นหวังกันอยู่น่ะ"
              "แน่ละ เพราะว่าพวกเราและพวกไทรเวเซอร์ เป็นเหมือนวัคซีนแก้โรคระบาดระดับร้ายแรงที่มีชื่อว่าภัยคุกคามความสงบสุขกันแล้วน่ะ" คีธบอก และหันมาถาม "แล้วนายคงไม่คิดว่าพวกศัตรูที่เราปะทะกันนี้ เป็นพวกเชื้อร้ายที่สมควรกำจัดให้สิ้นซากเลยละสิ"
              เฟรดส่ายหน้า "ถ้าฉันคิดเช่นนั้น ฉันก็ไม่ต่างอะไรไปกว่าฆาตกรหลายศพ คนเลวที่ฆ่าคนอย่างเลือดเย็น สนองด้านมืดของตนเอง และเพื่อความปลอดภัยของตนเองกันนะสิ อีกอย่าง ศัตรูบางรายก็ใช่ว่าจะเลวร้ายกันเสมอไปหรอกน่ะ เพราะบางรายทำไปเพราะถูกบีบบังคับ ทำไปเพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ หรือเพราะพวกเขายึดติดกับศักดิ์ศรีและตัวตนของพวกเขามากจนเกินไปนะสิ"
              "แต่ถ้าเชื้อร้ายนั้นจัดการกับพวกเราจนสิ้นชีพไปเลยละ" คีธถาม
              เฟรดบอก "แม้ว่าฉันไม่อาจจะฆ่าเชื้อโรคนั้น แต่ฉันเชื่อในกฎแห่งกรรมกัน ว่าต่อให้เชื้อร้ายนั้นหนีไปสุดขอบจักรวาลหรือไปก่อเรื่องร้ายแรงกันมากแค่ไหน ไม่ช้าก็เร็ว กรรมก็ต้องตามสนองกันอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานมาก เพราะกรรมเก่าเมื่อชาติก่อนที่เป็นกรรมดีช่วยชะลอมิให้กรรมเลวตามมาทันได้ก็ตาม ต่อให้เขาอยู่สุขสบายและวางใจได้ว่าเขาไม่มีทางเจ็บตัวหรือตาย หรือหนีไปสุดขอบจักรวาลกันก็จริง แต่จริงๆแล้ว เขารู้สึกทุกข์ทรมาน หวาดกลัว ท้อแท้ สิ้นหวัง หรือไม่ก็เกลียดแค้นชิงชังอย่างมาก และคงต้องเป็นเช่นนี้ต่อ ตราบใดที่ยังไม่รู้สึกสำนึกในการกระทำของตนเอง และไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดมาตั้งแต่ต้นเลยน่ะ"
              "นายพูดเหมือนรู้ทันความคิดของไอ้เซอร์แพนเนสกันแล้วสิ ทั้งๆที่นายไม่ได้มีพลังจิตเหมือนกับคุณจิลเลยน่ะ" คีธกล่าว
              เฟรดยิ้ม "ต่อให้มีพลังจิตหรือไม่ อัศวินทรอยอาร์ที่มีพลังอันมหาศาลที่สูงส่งกว่าพวกคุณพีวิลตั้งหลายเท่านั้น ต่อให้ทรงพลังแค่ไหน คิดหรือว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือทรมาน หรือแม้กระทั่งสูญเสียบางอย่างในตัวไปกันน่ะ" แล้วก็บอก "และต่อให้ตายแล้วฟื้นคืนชีพกันหลายๆรอบเพื่อกลับสู่สนามกันอีกครั้ง คิดหรือ ว่าร่างกายที่ได้รับการฟื้นฟูแบบถ่ายสำเนาได้นั้น จะมีทุกอย่างครบ 32 กัน มันต้องมีสักอย่างตกหล่นหายไปหรือมีบางอย่างปนเปื้อนร่างกายกันมา และยิ่งทำซ้ำๆกันมาเป็นร้อยๆปีกันด้วยนั้น ไม่แปลกใจเลย ที่มหาจักรพรรดิ์เดลอาเนี่ยนองค์ปัจจุบันจะมีอาการป่วยหลายโรคพร้อมกันเลยน่ะ"
              "ถ้านายพูดแบบนั้นอีก ฉันว่านายควรทำงานแทนหมอเบ็ตตี้ไปเลยไม่ดีกว่าเลยหรือ" คีธบ่น "แต่นายก็พูดถูกอยู่อย่างน่ะ ว่าการสู้รบไม่ว่าจะสงครามไหน ก็ย่อมมีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นของธรรมดา เพียงมหาสงครามบนโลกนั้น แย่ยิ่งกว่า เพราะเหล่าผู้เคราะห์ร้ายที่ตายด้วยน้ำมือของพวกโอเวอร์เดสนั้น ส่วนมากก็ต้องกลายเป็นบริวารของพวกมัน แม้กระทั่งพวกคนดีๆอย่างพวกท่านประธานาธิบดีเองก็ยังโดนใส่ความบีบให้ต้องกลายเป็นศัตรูกันจริงๆ จนกลายเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พวกเราทั้งหมดนี้ต้องอพยพออกจากโลกอันเสร็งเคร็งมาอยู่บนดาวดวงนี้เลยน่ะ"
               เฟรดบอก "ส่วนหนึ่งเพราะ พ่อแม่ของนายอยู่ในกลุ่มผู้เคราะห์ร้ายอย่างงั้นสิ"

              "ใช่ เพียงแต่พวกเขาไม่มีโอกาสได้คืนชีพมาก็เท่านั้นเอง เช่นเดียวกับมนุษย์บางส่วนกันด้วย มหาสงครามที่โอเวอร์เดสก่อขึ้นมานั้น แม้จะสร้างความเสียหายให้กับโลกมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมาอย่างมากมายเลยก็ตาม แต่นั้นก็ช่วยทำให้พวกเรารู้ถึงธาตุแท้ของพวกมนุษย์ส่วนมากอย่างเห็นได้ชัด ว่าส่วนมากนั้นเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เอารัดเอาเปรียบ ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอดชีวิต โดยไม่สนใจว่าคนที่เหลือจะเป็นเช่นไร จึงไม่แปลกใจเลย ที่จะต้องมีหลายสิบเมืองที่วอดวายเหมือนกับเทนเดมกัน" คีธบอก "แม้จะมีพวกคนดีๆหลงเหลืออยู่บ้าง แต่พวกเราก็ไม่อยากให้เป็นภาระของพวกเขา จนพลอยทำให้พวกเขาเดือดร้อนจากการถูกพวกมนุษย์เลวๆและเห็นแก่ตัวบนโลกคุกคามกัน ยิ่งกับพวกที่อยากจะเป็นวีรบุรุษจากการมีหัวของพวกเราประดับไว้บนผนังด้วยนั้น หรือพวกที่ขโมยความดีความชอบของคนอื่นมาเป็นของตนเองนั้น ยิ่งเป็นเหตุผลที่ท่านประธานาธิบดีกับพวกต้องพาพวกเราออกนอกโลกมาที่ระบบอวกาศของสมาพันธ์กันนี้แหละ"
              เฟรดบอก "ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาถูกความกลัวที่แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธและเกลียด ครอบงำจนไม่สามารถใช้คุณงามความดีชำระล้างได้เลยสิน่ะ"
              "แน่ละ เพราะพวกมนุษย์ในช่วง 40 ปีหลังจากมหาสงคราม 1 ปีของโอเวอร์เดสกับพวกที่ออกอาละวาดในครั้งแรกสุดเลยนั้น ได้สร้างความหวาดกลัวต่อมวลมนุษยชาติส่วนมากไปแล้ว เหมือนกับที่ไอ้แก่ริชเชลลิอาร์ลปลูกฝังความเชื่อว่าตนเอง เหนือกว่าแมนิเกเตอร์ทุกเผ่าให้กับพวกทรอยอาร์กัน แน่นอน ว่าพวกเราที่เกิดในช่วง 20 ปีหลังจากที่โอเวอร์เดสพากองรบจักรวรรดิ์ลงมาที่โลกอีกครั้ง ไม่มีทางทำอะไรได้แน่นอนเลยน่ะ" คีธกล่าว "เรื่องที่ฉันเล่าให้นายฟังนั้น แม้จะไม่ได้ฟังจากผู้การเฮลิคโดยตรง แต่พ่อแม่ของฉันซึ่งเกิดอยู่ในช่วง 20 ปีก่อนที่โอเวอร์เดสจะกลับมาอีกครั้งนั้น ได้บอกเล่ากับฉันให้จดจำเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นบนโลกอันเป็นดาวบ้านเกิดแห่งแรกสุดของพวกเรากันน่ะ"
               เฟรดบอก "เพียงแต่ตอนนี้ ดาวบ้านหลังที่สองของเรา ยังมีปัญหาทั้งศึกนอกที่ใกล้ถึงจุดสุดท้ายกัน และยังมีปัญหาภายในด้วยสิน่า"

              "ฟึ่บๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆ" นาเดียจู่โจมใส่มาริอย่างรวดเร็ว โดยที่มาริใช้ฝ่ามือปัดป้องการเตะและต่อยของนาเดียได้ทุกดอก "ย้า" นาเดียกระโดดถีบใส่มาริเข้าตรงที่หน้า "หวับบบบ" แต่มาริหายตัวไปอย่างรวดเร็ว และมาโผล่อยู่ข้างหลังนาเดีย "หวับบบ ปึกกกก" ซึ่งรีบแทงศอกขวาไปข้างหลัง แต่มาริบล็อกด้วยการไขว้แขนเป็นกากบาทเอาไว้ก่อน และ "ป้ากกก" ถีบนาเดียจากข้างหลังให้ล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นหญ้า "ตั้งรับการจู่โจมด้านหลังได้ดีมากเลยน่ะ แม้ว่าท่าถีบเมื่อครู่นั้น เหมือนเธอจงใจจะถีบให้โดนกันจริงๆก็ตามน่ะ" มาริบอก
              นาเดียกล่าว "แต่ก็ไม่น่าจะถีบให้แรงแบบนี้เลยนิคะ"
              "ฝ่ายตรงข้ามเองไม่สนหรอก ว่าจะเล่นแรงแค่ไหน แค่ได้จัดการกับเธอจากข้างหลังได้ก็เกินพอแล้วละ" มาริบอก โดยที่นาเดียรีบลุกขึ้น มาริเลยพูดต่อ "บอกตามตรงน่ะ ว่าเธอเหมือนฉันในตอนเด็กๆอยู่น่ะ"
              นาเดียบอก "เหมือนคุณตอนเด็กนะหรือคะ"
              "ใช่ เพราะว่าตอนเด็กๆของฉันนั้น ไม่เคยมีเพื่อนเล่นเลย เนื่องจากว่าฉันใช้เวลาส่วนมากหมดไปกับการฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้แบบนินจา แม้ฉันจะเรียนหนังสือเหมือนกับเด็กอื่นๆ แต่วิชานินจาประจำตระกูลนั้นก็ไม่ควรขาดการฝึกฝนไว้ เพราะกฎของบ้านฉันนั้น หากใครล้มเหลวหรือสอบไม่ผ่าน ก็คือต้องไปนอนในโลงกันน่ะ" มาริบอก
              นาเดียได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย "และคุณก็ถูกพ่อแม่ของคุณเคี่ยวเข็ญให้ฝึกโหดอย่างมากจนคุณเป็นแบบนี้เลยสิคะ"
              "พ่อแม่ของฉันมิได้สอนให้ฉันโหดร้ายเลือดเย็นหรอก แค่คุณปู่ต่างหากละ ที่ปลูกฝังลูกหลานให้ลงมือฆ่าคนได้โดยไร้ความลังเลใจและสงสารเห็นใจใดๆ แน่นอน ว่าฉันได้เห็นลูกพี่ลูกน้องจากที่อื่นต้องมาตายตั้งหลายคน เพราะถ้าฉันไม่ลงมือ ฉันจะเป็นฝ่ายถูกลงมือเสียเอง" มาริกล่าว โดยแบมือซ้ายของเธอ "แม้ฉันจะสอบผ่านไปได้จริง ฉันกลับไม่รู้สึกดีใจเลย เพราะไม่มีใครที่ใกล้ชิดอยู่เคียงข้างสักคน และนั้นทำให้ฉันต้องสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง จนเริ่มรู้สึกเย็นชาต่อผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าฉันพยายามไม่น้อยที่จะปรับตัวเข้ากับผู้อื่นในกลุ่ม รวมถึงพวกเธอเลยก็ตามน่ะ"
              นาเดียบอก "แต่อย่างน้อย คุณก็มีคุณโฟรซ่าเป็นตัวอย่างที่คุณชื่นชอบกันนิคะ"
              "ใช่ แม้ว่าคุณพี่โฟรซ่าจะเคยเป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งร่วมอยู่ในกลุ่มศัตรูที่รุกรานประเทศบ้านเกิดของฉันและของคุณมาสวาร์ทาร์กันก็ตาม แต่เพราะว่าความเฉียบขาด แม่นยำ ชาญฉลาด และอุทิศตนเพื่อปกป้องผู้อื่นจากระยะห่างของเธอนั้น เหมือนกับญาติผู้พี่จากอิบารากิเป๊ะ หากแต่เธอจบชีพด้วยความล้มเหลว จากความพยายามจะลอบสังหารคุณปู่จากหอฝั่งตรงข้ามไว้น่ะ" มาริกล่าว
              นาเดียบอก "แต่พอคุณเห็นคุณโฟรซ่า คุณเลยนึกถึงญาติผู้พี่ที่เสียไปเลยสิคะ"
              "แม้ว่าพี่โฟรซ่าจะเป็นคนเข้มงวดและทำตามกฎเกณฑ์ ต่างจากญาติผู้พี่ของฉันที่รักอิสระและไม่สนกฎเกณฑ์ของวงศ์ตระกูลกันก็ตาม ฉันก็รู้สึกภูมิใจไม่น้อยที่ยังพอมีคนที่เหมือนกับญาติผู้พี่ของฉันบ้าง แม้ในตอนนี้เธอจะเคยเป็นศัตรูมาก่อนก็ตาม" มาริกล่าว "เพียงแต่ฉันต้องขอบใจการเสียสละของญาติผู้พี่ของฉันด้วย ที่ช่วยให้ฉันกล้าพอที่จะพาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ออกจากขอบเขตของวงศ์ตระกูลอื่น ที่ต้องการชิงอำนาจการปกครองของตระกูลคาเซคาว่า มาร่วมกับฝ่ายสหพันธมิตรจนถึงบัดนี้เองแหละ"
              นาเดียบอก "แสดงว่าคุณเองก็คงไม่ชอบใจเรื่องภายในบ้านของคุณตามที่ฟังจากพวกคุณลิเนียร์ตี้เล่ามาเลยสินะคะ"
              "ใช่ พอฉันเห็นเธออยู่ในกลุ่มและใช้ชุดเกราะเดิมของฉันออกไปต่อสู้นั้น มันเหมือนกับฉันในตอนเด็กๆ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นคนเลือดเย็นนั้น ฉันรู้สึกได้ว่าชาตะกรรมมันเล่นตลกกันชัดๆ ว่าเธออาจจะต้องกลายเป็นฉันอีกคนในไม่ช้า เพียงแต่ เธอยังมีพ่อและน้องสาวอยู่ด้วยก็เท่านั้นเอง" มาริบอก
              นาเดียกล่าว "เดียวก่อนนะคะ ที่คุณแสดงความเย็นชาต่อฉันและพยายามเข้าช่วยฉันตลอดเวลานั้น คงไม่ได้เพราะว่า...."
              "ฉันแค่อยากให้เธอระมัดระวังตัวมากกว่านี้ และคุมสติให้มากกว่านี้ ซึ่งเธอน่าจะได้ยินที่คุณแอนเดรียเตือนตอนอยู่ที่ฮิชเลไบน์กันแล้ว น่าจะจำกันได้บ้างน่ะ" มาริบอก
              นาเดียพยักหน้า "แต่ถึงไง ฉันคงไม่มีทางเป็นเหมือนคุณไปได้หรอกนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คุณสักหน่อยนิ แม้ว่าฉันจะไม่พอใจอย่างมาก กับการที่มารู้ว่าไอ้กุ๊ยนั้นเป็นถึงอัศวินทรอยอาร์ที่หัวร้อนมากที่สุดและเกรียนมากที่สุดเลยน่ะ"
              "เธออาจจะคิดแค่นั้นแล้วไม่สนใจเลยก็ได้ แต่เธอก็อย่าลืมน่ะ ว่าการที่เธอเป็นส่วนหนึ่งในทีมของเรานั้น มันจะกระทบต่อคนรอบข้างกันอย่างมาก ถึงแม้ว่านายช่างเจฟ พ่อของเธอจะเคยเป็นทหารและเคยใช้ปืนมาก่อน แต่ลำพังเขาคงรับมือกับอัศวินทรอยอาร์ที่เป็นพวกโหดร้ายและอำมหิตมากไม่ได้แน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม่ชีมรณะลิมิลเตญ่า เธอผู้นี้ฆ่าคนได้โดยไร้ซึ่งความรู้สึก เป็นตัวอันตรายที่ขนาดฉันเอง ยังรู้สึกหนาวเข้าถึงแก่นกระดูกทุกส่วนของร่าง ว่าฝ่ายตรงข้ามมีมือสังหาร ที่น่ากลัวยิ่งกว่านินจาจากตระกูลหลักที่สังหารใครต่อใครมานับร้อยนับพันอยู่ด้วยน่ะ" มาริกล่าว "ในฐานะที่ฉันเคยเจอเรื่องที่มีอันตรายรอบด้านมาก่อน อยากจะให้เธอระมัดระวังตัวให้มาก แต่อย่าหวาดระแวงมากจนไม่สามารถคุมสติได้ด้วย เพราะการที่กลัวมากจนเกินควรนั้น ยิ่งทำให้เราโดดเดี่ยวมากขึ้นกว่าเดิม เหมือนที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้แหละ"
              นาเดียกล่าว "เพราะอย่างงั้นคุณถึงทำเป็นหวาดระแวงและไม่ไว้ใจพวกเรา แม้กระทั่งเฟรดด้วยสิคะ"
              "แม้ฉันจะรู้ว่าพวกเธอแต่ละรายนั้นเป็นยังไง แต่ฉันยังวางใจพวกเธอเต็มร้อยเหมือนกับแฮรี่หรือคุณแอนเดรียกันไม่ได้หรอกน่ะ ยิ่งในกรณีของเฟรดที่แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจกันก็ตาม" มาริกล่าว "แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเฟรดจะไม่ผิดซ้ำถึงขั้นที่ขายความลับของฝ่ายเราให้กับตัวแทนของฝ่ายทรอยอาร์กันจริงๆ ฉันเลยต้องทำแบบนั้นกับเฟรดกันต่อ อย่างน้อย ก็ช่วยกระตุ้นให้เขาตื่นตัวและรู้ว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ"
              นาเดียบอก "แบบนั้นก็ยิ่งทำให้เฟรดหงุดหงิดมากกว่าเดิมละสิคะ"

              "ผมเองก็ไม่ทำตามที่คุณระแวงกันหรอกน่ะ คุณคาเซคาว่า" เฟรดบอก จนมาริตกใจมาก เช่นเดียวกับนาเดียด้วย
              "เฟรด เซวอน นี้พวกนายมายืนตรงนี้กันนานแล้วหรือ"
              "เรากำลังเดินกลับไปหาพวกคุณพีวิลกันอยู่ แล้วบังเอิญมาเจอเธอคุยกับเจ้คาเซคาว่ากันนะสิ" คีธกล่าว "แต่ดูเหมือนว่าเจ้คงต้องฝึกอีกเยอะเลยน่า โดยเฉพาะตอนที่คุยกับนาเดียแบบเป็นกันเองเลยน่ะ"
              มาริได้ฟังเช่นนั้นเลยส่ายหน้า และหันมายังเฟรดพร้อมกับบอกว่า "เธอคงจะได้ยินที่ฉันพูดมาสิน่ะ"
              "ผมรู้อยู่แล้วว่า ถึงไงคุณเองก็ไว้ใจผมไม่ได้อยู่แล้ว ทีแรกผมกะจะพูดกับคุณตรงๆกันไปเลย จะได้ไม่ต้องมีอะไรค้างคากันน่ะ" เฟรดบอก "อันที่จริงผมเองก็มีจุดเสียมากพอที่คุณไม่ไว้ใจผมกันก็จริง แต่กับเรื่องสไปค์นั้น มันเป็นเรื่องที่ผมควรจะรับผิดชอบ กันตั้งแต่ตอนที่โฉมหน้าของพวกเราถูกเปิดเผยกันที่ลอสแซงเทสกันแล้ว ผมถือว่าเรื่องนี้น่าจะจบลงกันไปแล้วน่ะ"
              มาริกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะพวกเราต่างก็พลาดกันทั้งนั้นเลยสินะ แต่...ถึงเรื่องของสไปค์กับเธอจะได้ข้อสรุปกันก็จริง ฉันก็ยังวางใจเธอเต็มร้อยเปอร์เซนต์ไม่ได้อยู่ดี"
              "ส่วนหนึ่งเพราะว่าผมไม่เหมือนกับพ่ออย่างงั้นสิน่ะ" เฟรดกล่าว
              มาริบอก "แม้ว่าเธอจะเหนือกว่าพวกน็อกกี้ตรงที่ว่าเธอมีความสุขุมรอบคอบ มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ และทำได้ดีกว่าคนอื่นกันก็จริง แต่....เธอมีจุดอ่อนตรงที่เธอเชื่อและไว้ใจคนอื่นง่ายไป โดยเฉพาะกับศัตรูฝ่ายตรงข้ามนั้น เธอมีความสุ่มเสี่ยงที่ความลับของพวกเราจะถูกเปิดเผยได้ง่ายกันอยู่แล้ว แม้ว่าเธอและนาเดียจะด้อยประสบการณ์กันก็จริง แต่นั้นก็ทำให้คนรอบข้างของพวกเธอพลอยเดือดร้อนตามไปด้วย ซึ่งเธอโชคดีมากที่เธอยังไม่ไว้ใจถึงขั้นนั้นเลยก็ตาม แต่ภายภาคหน้านั้น...."
              "อนาคตยังไม่แน่นอนเช่นนี้ คุณยังไม่ควรจะด่วนสรุปกันเสียเลยนะครับ" เฟรดบอก "แม้คุณจะระแวงในการกระทำของผมจนมีความเชื่อมั่นในตัวผมได้ไม่เต็มที่เลยก็ตาม แต่....คนที่รู้ข้อผิดพลาดของตนเองดีและรู้จักแก้ไขให้มันถูกต้องนั้น ยังดีกว่าคนที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด แล้วยังทำผิดซ้ำซากกันต่อ ซึ่งอย่างหลังนั้น คุณไม่ให้อภัยก็ไม่เป็นไรกันก็จริง แต่อย่างแรกนั้น ถ้าคุณไม่ให้อภัยก็คือการตัดโอกาสให้เขาแก้ตัวไปอย่างสิ้นเชิงนิ มันไม่เลวร้ายไปมากกว่าพวกที่ผิดซ้ำซากกันเลยหรือครับ"
              มาริได้ฟังแล้วก็นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะถามว่า "แล้วเธอแน่ใจหรือ ว่าฉันจะให้โอกาสเธอแก้ตัวกันได้น่ะ"
              "แม้ผมไม่รู้ว่าคุณจะทำยังไงหรือตัดสินใจยังไง เพราะนั้นเป็นสิทธิ์ของคุณกัน ไม่ใช่กงการอะไรของผมที่เข้าไปก้าวก่ายหรือสอดรู้ลึกไปมากกว่านี้ก็ตาม" เฟรดกล่าว "....คุณเองก็พูดถูกน่ะ ว่าผมไม่เหมือนกับพ่อของผมกันจริงๆ เพราะผมก็ไม่ได้เป็นพวกโลกสวย ไม่ได้คาดหวังอะไรไว้สูงมากจนเกินควร ไม่ได้ฉลาดหลักแหลมและเป็นผู้นำที่ดีพอเหมือนกับที่พ่อเป็น แม้ว่าผมจะมีสถานะเป็นลูกของคุณพ่อ ที่เป็นนักรบชุดเกราะเหยี่ยวดินระเบิดกันก็ตาม ผมมันก็แค่ลูกแมนิเกเตอร์ชาวไทยเชื้อสายอเมริกันธรรมดาๆ ที่อยากจะปกป้องทุกๆคนด้วยสองมือของผมนี้ไว้ก็เท่านั้นเอง"
              มาริกล่าว "แต่ตอนนี้เธอสานต่อในสิ่งที่พ่อของเธอเคยเป็นและเคยทำเอาไว้กันอยู่ เธอแน่ใจหรือว่าเธอจะทำมันต่อได้จริงๆน่ะ"
              "คุณคาเซคาว่า ในเมื่อคุณเองกล้าพอที่จะออกจากวงศ์ตระกูลที่ตีกรอบให้คุณต้องเป็นในสิ่งที่คุณไม่ได้เป็น แม้ว่าคุณในตอนนี้จะเป็นเหมือนกับที่พวกเขาต้องการกันก็ตาม มันเหมือนกับที่ผม นาเดีย เซวอน แล้วก็พวกน็อกกี้ อยากจะออกไปสู้ ไม่ใช่แค่อยากเด่นอยากดังอยากโก้เก้เป็นฮีโร่ แต่พวกเขาอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของพวกไทรเวเซอร์ ช่วยหยุดยั้งการกระทำของพวกทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธที่ยังไม่ราวีกับพวกเรา และช่วยปกป้องทุกๆคนที่สำคัญต่อพวกเราทุกๆคน ต่อให้พวกเขาไม่อยากจะให้พวกเราช่วย หรือไม่ต้องการให้เรามาเป็นภาระกันก็ตาม ผมเองก็สู้ด้วยเจตจำนงเดียวกันกับพวกคุณพีวิล แม้ผมจะรู้ว่า ผมอาจจะสร้างความผิดพลาดเล็กๆน้อยที่อาจจะลุกลามเป็นเรื่องใหญ่โตกันเลยก็ตาม ผมก็เลือกที่จะรับผิดชอบในการกระทำของผม เช่นเดียวกับที่พ่อของผม เลือกที่รับผิดชอบในการดูแลทุกๆคน จนต้องกลับมาบ้านในสภาพที่มีบาดแผลเต็มตัวกันด้วย" เฟรดกล่าว "และถ้ามันเกิดเรื่องเช่นนั้นจริง ผมก็อยากให้คุณหยุดยั้งผมหรือใครก็ตามที่ก่อเรื่องนี้ไว้ เพราะอย่างน้อย มันต้องมีใครสักคนที่ต้องทำเช่นนี้เองแหละ"
              มาริยิ้มแล้วก็บอกว่า "บอกตรงๆน่ะ เฟรด ว่ามันยากมากที่ใครสักคนจะไว้ใจคนอื่นที่เราไม่รู้จักกันได้ดี เหมือนที่เขาเป็นเพื่อนและสหายกันก็ตาม แม้ฉันยังไม่ไว้ใจเธอกับพวกได้อย่างเต็มที่ เพราะพวกเธอต่างมีข้อเสียกันก็จริง แต่....พอได้ยินที่เธอพูดออกมาเช่นนี้ ฉันถึงได้รู้ว่า พ่อของเธอเองก็เชื่อมั่นในตัวของเธอไม่น้อยเช่นกันน่ะ"
              "พ่อนะหรือ" เฟรดกล่าว
              มาริบอก "พ่อของเธอเป็นหัวหน้าที่ดีมากเลยน่ะ แม้ว่าในทีแรก ฉันเห็นว่าพ่อของเธอคงไม่น่าเป็นหัวหน้าที่เข้มแข็งมากพอ หรือเป็นหัวหน้าทีมที่เก่งกาจมากมาย จนเขาไม่สามารถคุมทีมไปรอดตลอดทุกศึกกันแน่นอน" แล้วก็ยืนกอดอกก่อนจะพูดไปว่า "แต่พอได้ร่วมงานกับเขานั้น กลายเป็นว่า พ่อของเธอรู้นิสัยของคนอื่นและมีความเชื่อมั่นในตัวผู้อื่น ทั้งที่อยู่ใกล้และอยู่ห่างกันอย่างมาก เขาเป็นห่วงเป็นใยต่อทุกคนอย่างมาก ถึงขั้นที่เขาเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายและรับแทนผู้อื่นที่ตกอยู่ในอันตรายกันเสมอ ต่อให้อีกฝ่ายไม่ได้ขอหรือไม่ต้องการให้ช่วยก็ตาม แต่พ่อของเธอก็ไม่ได้สนใจกันมากนัก แค่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นให้รอดพ้นจากปัญหาได้ก็เกินพอแล้ว แน่นอน ว่ารวมถึงพวกเรากันด้วย ที่รอดมาได้เพราะพ่อของเธอเป็นผู้เสียสละกันไว้น่ะ"
              "นั้นสิคะ ลุงแดนเป็นคนที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อทุกๆคนกันด้วยน่ะ" นาเดียบอก
              คีธกล่าว "ถ้าหัวหน้าแดนไม่ดีจริง ก็คงไม่มีใครเหลือรอดไปนานแล้วละ"
              "เฟรด ในเมื่อเธอยืนยันตัวเองให้ฉันรับรู้กันเช่นนี้ แม้ฉันยังไม่เชื่อใจเธอเต็มร้อยกันก็ตาม เพราะเธอยังมีข้อเสียแย่ๆที่ติดตัวกันอยู่ พอๆกันกับเซวอนและนาเดียกันด้วยก็ตาม" มาริบอก "แต่ตอนนี้ พวกเรารีบกลับไปกันดีกว่าน่ะ เดียวคุณพี่โฟรซ่าจะมาตามจนเจอเสียก่อนน่ะ"
              โฟรซ่าบอก "เกรงว่าเธอคงต้องฝึกด้านการระมัดระวังตัวรอบด้านกันสักหน่อยน่ะ" เพราะโฟรซ่าเปิดระบบพลางตัวล่องหนมายืนฟังอยู่หลังต้นไม้กันแล้ว
              "คุณพี่โฟรซ่าคะ....นี้พี่มายืนอยู่นานแล้วหรือ" มาริบอก โฟรซ่ากล่าว "ถึงเธอจะมีความสามารถในฐานะนินจาระดับกลางๆที่เก่งพอตัวกันก็จริง แต่....เธอก็น่าจะรู้น่ะ ว่าฉันเก่งในเรื่องซ่อนตัวกันอยู่แล้ว ซึ่งเธอควรจะระวังหลังไว้ให้ดีแล้วกันน่า" แล้วก็บอกไปว่า "ทุกคนนั่งเก้ออยู่นานเป็นนาทีแล้ว ได้เวลากลับไปรวมกลุ่มกันแล้วละ"
              "สรุปคือ เฟรดตัดสินใจพูดให้คาเซคาว่าเชื่อในตัวเขา นาเดียและคีธเลยสิคะ" แอนเดรียบอก หลังจากที่ฟังโฟรซ่าเล่ามาแล้ว
              พีวิลบอก "เฟรดทำถูกแล้วละ อย่างน้อย พวกเขาจะได้ไม่ต้องมีเรื่องค้างคาติดค้างเอาไว้กับตัวแล้วไม่ได้รับการแก้ไขกันเลยน่ะ"
              "เพราะเรามีปัญหาเรื่องทรอยอาร์และสเตรดาร์ธ ในเวลาเดียวกันกับที่เดลอาเนี่ยนจะส่งกองรบมาถล่มระบบดาวของเรากันแล้วนะสิ" เจเนลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "รวมถึงเรื่องพวกดัสค์คิลเลอร์ที่แฝงตัวเข้ามากันด้วย ซึ่งพวกเขาคงปิดบังซ่อนตัวกันต่อ เพราะพวกเขารู้ข้อมูลของพวกเรามาพอสมควรกันแล้วน่ะ"
              "นายคงไม่ได้ให้พวกเราเฝ้าเวรยามตอนกลางคืนกันละสิ" สเปียริทบอก
              ฟิเกซกล่าว "ไม่หรอก นายพลจูเดทต้าจะให้ทหารภายใต้บัญชารับผิดชอบเฝ้าภายในเมืองตอนกลางคืนตั้งแต่ 3 ทุ่มถึง ตี 4 กันแล้วน่ะ"
              "นั้นก็ดีกว่าพวกเราเกิดง่วงหลับในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เพราะนอนน้อย แล้วโดนเชือดโดยง่ายดายกันนะสิ" แอบไบออสบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "พวกดัสท์คิลเลอร์กดดันเราหนักเช่นนี้ นายพลวอลเลนซ์คงไม่ยอมให้เราอยู่เป็นสุขเลยละสิ"

              ในขณะเดียวกันนั้นเอง พวกอัศวินทรอยอาร์ที่ดาวเทลเฮม-6
              "เป็นความจริงหรือครับ ท่านแม่ทัพใหญ่" สไปค์กล่าว
              อาวเซนพยักหน้า "ริชเชลลิอาร์ลแจ้งมา ว่าคนของคูลิแนนซ์ไม่เพียงหลอกใช้พวกอัศวินทรอยอาร์ส่วนที่อยู่กับครอสพอล ให้ลักพาตัวองค์ชายออสเทรย์กันอย่างเดียว ล่าสุด พวกเขาได้ลักพาตัวเหล่าผู้ป่วยบลัดครอสทั้งหมด ที่พร้อมจะถูกรับการรักษาเยียวยาจากริชเชลลิอาร์ลไปที่ดาวหลักของพวกสหพันธมิตรแล้วละ"
              "ถ้าให้เดาน่ะ ไอ้หน่วยรบวิหคมันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยละสิ" ฮีธด่วนสรุปหลังจากที่ทราบเรื่องไปแล้ว
              เบอดอสออกความเห็น "ไม่ ถ้าหน่วยรบวิหคเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ พวกเราก็ต้องได้ข่าวว่าพวกเขาปรากฎตัวกันที่ดาวทรอเจียนกันไปนานแล้วนะสิ"
              "เพียงแต่ว่า หน่วยรบวิหคและกองกำลังชุดเกราะลับนั้น ได้ขัดขวางกองรบอัศวินเทวดาที่บุกมาชิงตัวเหล่าผู้ป่วยให้กลับดาวไป จนจัดการกับตัวอัศวินเทวดาเหล่านั้นราบคาบไปแล้ว ตามข้อมูลที่ริชเชลลิอาร์ลสั่งมากันน่ะ" อาวเซนบอก "และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ในระหว่างการต่อสู้นั้น กองกำลังชุดเกราะโต้ตอบหนักมากจนทำให้ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดเสียชีวิตกันไปด้วยน่ะ"
              วินเซนท์กล่าว "แต่ เหล่าอัศวินเทวดาที่ถูกส่งไปยังแคสเซเดี่ยน-3 นั้น ล้วนเป็นคนของริชเชลลิอาร์ลกันทั้งสิ้นนิ ไม่คิดว่านี้เป็นการกุข่าวของพวกริชเชลลิอาร์ลกันเลยหรือครับ ท่านแม่ทัพใหญ่"
              "นั้นสิคะ และเราเองก็ไม่แน่ใจว่า การรักษาโรคบลัดครอสของริชเชลลิอาร์ลที่อ้างมานั้น จะเป็นการรักษาจริงๆ หาใช่การแอบสร้างขุมกำลังอัศวินเทวดาชุดใหม่เพื่อเล่นงานพวกเราทางอ้อมกันนะคะ" ฟรีเซียกล่าว
              บัฟบอก "เพราะเหล่าอัศวินที่อยู่กับพวกเรานั้น ล้วนเป็นญาติพี่น้องของพวกผู้ป่วย รวมถึงพอลลีน น้องสาวของสไปค์ด้วยนะครับ"
              "มันก็จริงอยู่น่ะ ที่เธอจะแสดงความโกรธกริ้วกันบ้าง แต่ปัญหาจริงๆก็คือองค์ชายออสเทรย์กันนี้แหละ ที่ริชเชลลิอาร์ลไม่ได้บอก ว่าทรงสิ้นพระชนม์กันหรือเปล่า" อาวเซนบอก "อีกอย่าง ฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์เองก็ไม่ได้มีท่าทีมารุกรานพวกเราถึงระบบดาวกันแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาคงจะได้ข้อมูลจากเหล่าทหารจากแรซัลก้ามา ดังนั้นเรื่องที่พวกเขาก่อเรื่องขึ้นมานั้น และเรื่องเหล่าผู้ป่วยที่เสียชีวิต ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าน่ะ"
              สไปค์บอก "พูดง่ายๆก็คือ ไม่ว่ายังไง พวกเราก็ต้องบุกไปที่ดาวดวงนั้นเพื่อบีบให้พวกเขาส่งเหล่าผู้ป่วยมาเลยสิครับ"
              "เกิดเรื่องแล้ว หน่วยลาดตระเวนนอกดาวแจ้งมา พบกองยานของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศกลุ่มหนึ่งเคลื่อนตัวมาใกล้กับดาวของเรากันแล้วน่ะ" บาแจ็คเข้ามาแจ้งโดยเร็ว
              มิวนีสบอก "สงสัยว่าพวกไทรเวเซอร์คงแจ้งให้ฝ่ายสมาพันธ์อวกาศเบรคพวกเรากันแล้วละสิ"
              "และไม่ใช่แค่พวกเราด้วย เพราะกองยานส่วนหนึ่งนั้นมันมุ่งหน้าไปยังไอราน-4 ซึ่งเป็นดาวที่พวกสเตรดาร์ธไปกบดานกันที่นั้นด้วยน่ะ" บาแจ็คบอก
              เบอดอสบอก "แถมล่าสุด กองรบขององค์ชายรองดูแรนซินก็ไปที่ดาวดวงนั้น หลังจากที่บุกไปแคสเซเดี่ยน-3 กันแล้ว สงสัยว่างานนี้พวกเราคงต้องย้ายไปดาวอื่นที่ใกล้ระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์กันแล้วน่ะ"

              ส่วนทางด้านดาวไอราน-4 ของพวกสเตรดาร์ธนั้น
              "กองยานของฝ่ายสมาพันธ์เข้าใกล้ดาวของพวกเราเลยหรือขอรับ องค์ชาย" ดันฮิลบอก จาฟฟาร์ลพยักหน้า
              ดูแรนซินบอก "เรดาห์ตรวจการณ์นอกดาวของเราจับสัญญาณกองยานของฝ่ายสมาพันธ์เคลื่อนตัวมาสามกลุ่มเล็กๆ ซึ่งเป็นของดาวแมงป่อง ดาวมังกร และดาวโค หยุดลงตรงดวงจันทร์รอบดาวที่เราอยู่กันนี้แหละ"
              "ทำไมพวกเราไม่รอจัดการกับพวกมันตอนที่แล่นลงจอดไปเลยละ องค์ชาย" อักนีดถาม
              ดูแรนซินส่ายหน้า "ถ้าเราทำแบบนั้น แล้วเกิดมีเหล่านักรบชาวดาวฤกษ์ผสมรวมกันอยู่ด้วยละก็ เกรงว่าพวกเราคงวอดวายกันในเวลาอันสั้นแล้วนะสิ"
              "คิดว่านั้นเป็นฝีมือของพวกไทรเวเซอร์ที่ต้องการปิดบังเรื่องสุดยอดอาวุธ ที่ไปขโมยมาจากทรอยอาร์กันเลยหรือเปล่าละครับ" อับดุลลอยด์บอก
              จาฟฟาร์ลบอก "ตามรูปการณ์แล้ว เรื่องขโมยอาวุธจากดาวของพวกทรอยอาร์นั้น เป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะสหพันธมิตรไม่คิดที่จะส่งกองยานไปหาเรื่องกับพวกทรอยอาร์ถึงระบบดาวของพวกนั้น เนื่องจากพวกเขายังติดพันเรื่องเดลอาเนี่ยนกันอยู่ ถึงจะส่งหน่วยรบวิหคกับหน่วยเสริมอีกสองหน่วยแทรกซึมเข้าไป มันก็เสี่ยงเกินไป เพราะพวกทรอยอาร์พร้อมที่จะจัดการกับศัตรูที่เป็นต้นเหตุให้มารดรเทพจักรกลของพวกนั้น สิ้นชีพลงไปในช่วงมหาสงครามใกล้กับแรซัลก้ากันได้ทุกเมื่อเลยน่ะ"
              "องค์ชายสามคงไม่ได้บอกว่า พวกทรอยอาร์ส่วนหนึ่งจะโผล่มาที่ดาวแล้วยื่นมอบอาวุธให้ฝ่ายสหพันธมิตรเองละสิคะ" ไดซ์ซี่บอก
              จาฟฟาร์ลพยักหน้า "ฉันรู้มาว่า พวกทรอยอาร์เข้มแข็งได้เพราะว่าพวกเขาทำตามคำสั่งขององค์ราชาผู้เป็นประมุขอาณาจักรกัน เพียงแต่ อำนาจเกือบทั้งหมดตกอยู่ในมหาสังฆราชของทรอยอาร์ที่กุมบังเหียนอยู่ ด้วยเหตุนี้เลยทำให้พวกทรอยอาร์แตกแยกเป็นสองฝ่ายกัน โดยฝ่ายที่ภักดีกับองค์ราชาคงเป็นฝ่ายขนอาวุธเข้ามากันแน่ๆน่ะ"
              "ไม่ว่าอาวุธนั้นจะมีรูปร่างอะไร เราคงไม่ยอมให้พวกทรอยอาร์ได้มันกลับคืนไปแน่นอน เพราะพวกเราจะยึดอาวุธนั้นมาใช้กับพวกทรอยอาร์เสียเองน่ะ" ดูแรนซินสรุป "แต่ตอนนี้ เราต้องรีบโยกย้ายออกจากดาวดวงนี้ ไปอยู่ใกล้กับระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์กัน ก่อนที่พวกสมาพันธ์อวกาศจะพบเจอ แล้วเรียกกองยานดาวฤกษ์มาเผาพวกเราให้ราบคาบกันน่ะ"
              จาฟฟาร์ลบอก "และคอยระวังพวกทรอยอาร์ด้วย เพราะพวกนั้นคงรู้ว่าอาวุธอยู่ในมือของฝ่ายสหพันธมิตรแล้ว และคงไม่ยอมให้พวกเราได้มันไปแน่นอน"

              แล้วหลังจากนั้น เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ด้วยกัน (เหลือ 2 เดือนกับอีก 3 สัปดาห์ก่อนที่พวกเดลอาเนี่ยนจะมาถึง)
              "ยังไม่ได้ข่าวคราวเรื่องพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันเลยหรือครับ ผู้ฝูงทริปเปิ้ลที" แอบไบออสกล่าวกับทิคแซท โทมาสและฮัลไทร์ที่ติดต่อเข้ามา
              "ทั้งสองฝ่ายออกจากเทลเฮม-6 และไอราน-4 ไปอยู่ในระบบดาวอื่นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หน่วยลาดตระเวนอวกาศคอยติดตามหากันที่ดาวในระบบต่างๆที่คาดว่าน่าจะเป็นที่หลบซ่อน แต่ก็ไม่พบเจอทั้งทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันเลยนะสิ" ทิคแซทกล่าว
              "คิดว่าพวกนั้นเดินทางกลับระบบดาวบ้านเกิดกันหรือเปล่าละ" ฮัลไทร์กล่าว
              ไซโคลเนียส่ายหน้า "จากสถานการณ์ในตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายคงไม่กลับระบบดาวของพวกเขากันหรอกน่ะ เพราะพวกทรอยอาร์ส่วนที่เป็นปรปักษ์กับมหาสังฆราชที่กุมอำนาจโดยสมบูรณ์นั้น เอาเหล่าผู้ป่วยโรคร้ายที่เตรียมจะถูกจับดัดแปลงเป็นอัศวินเทวดาอันทรงพลังกันแล้วน่ะ"
              "แถมข่าวเรื่องผู้ป่วยโรคร้ายนั้น ดันมีคนปากโป้งเอาไปบอกพวกสเตรดาร์ธโดยอ้างว่าผู้ป่วยเป็นอาวุธอันทรงพลังกันด้วย ตามที่พวกโคเซวิคแจ้งมาเมื่อสองอาทิตย์ก่อนแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โทมาสกล่าว "แสดงว่าคนทรยศที่อยู่ในกลุ่มพวกนายคิดจะเสี้ยมพวกทรอยอาร์ฝ่ายภักดีกับผู้นำ และพวกสเตรดาร์ธให้มาบดขยี้พวกนายกับกองกำลังหลังฉาก ในช่วงที่พวกเดลอาเนี่ยนพร้อมจะมาถล่มพวกนายด้วยสุดยอดอาวุธกันในไม่ช้าเลยสิน่ะ" และหันมาถาม "แล้วพวกนายยังจัดการกับคนทรยศไม่ได้ใช่มั้ยละ"
              "คนทรยศส่งเหล่ามือสังหารอันน่ากลัวที่มิใช่พวกแดคน็อกซ์เข้ามาเหยียบถึงถิ่นของพวกเรามาตลอด 2 อาทิตย์แล้วละครับ" แอบไบออสบอก
              ฮัลไทร์กล่าว "พวกนี้น่ากลัวถึงขั้นที่พวกนายกลัวมากเลยสิน่ะ"
              "พวกเราแค่ระมัดระวังตัวไว้ เพราะเรารู้ว่าพวกนี้เป็นมืออาชีพและมีประสบการณ์ในการลงมือที่แรซัลก้ามาก่อน และรอดพ้นจากการกวาดล้างทั้งกลุ่ม แฝงตัวมากับกลุ่มผู้อพยพหรือกองยานจักรวรรดิ์เข้ามาในสหพันธมิตรโดยที่พวกเราไม่รู้เรื่องกันด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              โทมาสบอก "ขนาดพวกนายเองยังไม่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเพราะพวกมือสังหารอยู่ใกล้กับคนที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังหลังฉากเลยสิน่ะ"
              "เกรงว่าข้อสันนิษฐานของผู้การจะเป็นจริงละครับ ผู้การฮาซาเดน" พีวิลบอก โทมาสพยักหน้า
              ทิคแซทบอก "ถ้าเช่นนั้น พวกเราขอยุติการติดต่อเลยแล้วกัน เพื่อที่จะนำหน่วยรบออกลาดตระเวนค้นหาพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธให้เจอ ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใกล้ระบบดาวของพวกนายกันได้เลยน่ะ"
              "ไทรเวเซอร์ ยุติการติดต่อเลยแล้วกันนะครับ" มาสวาร์ทาร์กล่าวและปิดสายติดต่อลง "สงสัยว่าพวกทรอยอาร์ฝั่งภักดีและสเตรดาร์ธภายใต้การนำของจาฟฟาร์ลและดูแรนซิน จะเคลื่อนตัวมาใกล้กับระบบดาวของพวกเราแล้วละ"
              สเปียริทบอก "แบบนั้นไม่ดีแล้วละ เพราะทางเรายังพึ่งรักษาเหล่าผู้ป่วยชาวทรอยอาร์กันอยู่ ถ้าทั้งสองฝ่ายมาผิดจังหวะละก็...."
              "เกรงว่าไอ้ทรอยอาร์และสเตรดาร์ธที่มาขัดจังหวะมันจะไม่ใช่พวกสไปค์หรือจาฟฟาร์ลกันหรอก แต่เป็นไอ้เซอร์แพนเนสและไอ้เทเนดีนกันมากกว่าน่ะ" คลอเวฟบอก "แค่พูดแล้วมันน่าหงุดหงิดเสียเหลือเกินวะ"
              เจเนลเลยเดินมาหยิบรีโมทเพื่อเปิดโทรทัศน์... "อีกแล้วหรือเนี้ย นี้ตกลงข่าวนายพลวอลเลนซ์จะจบกันเมื่อไหร่เลยน่ะ" เจเนลบ่น เมื่อเห็นข่าวนายพลวอลเลนซ์ปราบเครือข่ายค้ายาเสพติดของแก็งค์ริดโอกันแล้ว
              "แต่อย่างน้อยนั้นก็ดีแล้วละ เพราะตอนที่เราไล่จัดการกับพวกริดโอในช่วงก่อนที่เนคมาดูซัมยอมไปกับพวกเกฟฟาร์ดนั้น เรายังไม่เจอฐานการผลิตยาของพวกริดโอเลยนะ" โฟรซ่าบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "คงไม่คิดจะพูดประโยคเดียวกับคลอเวฟกันละสิคะ"
              "ตอนนี้ เราต้องแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธให้ท่านนายพลเพอซิอัสรับทราบก่อนดีกว่าน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              หลังจากนั้นพวกไทรเวเซอร์ก็กินข้าวเช้าจนเสร็จและมารายงานตัวกับนายพลเพอซิอัส "นั้นเป็นข่าวที่ไม่ดีเสียเลยน่ะ เพราะการที่พวกทรอยอาร์ฝั่งภักดี และพวกสเตรดาร์ธภายใต้การนำขององค์ชายรองและองค์ชายสามเข้าใกล้ระบบดาวของพวกเรากัน ย่อมหมายถึงพวกเขาพร้อมจะเอาเรื่องพวกเราได้ทุกเมื่อ เพียงเพื่อกลุ่มผู้ป่วยทรอยอาร์ที่มากับองค์ชายออสเทรย์กันน่ะ"
              "ว่าแต่ ผมไม่สามารถเกลี้ยกล่อมพวกเขาได้เลยหรือครับ อย่างน้อยก็น่าที่จะ...." ออสเทรย์กล่าว
              เนคมาดูซัมกล่าว "ถ้าองค์ชายโผล่หน้าออกไป พวกทรอยอาร์ที่ยังภักดีอยู่นั้นได้เข้าใจพวกเราผิดอย่างรุนแรงเลย ว่าพวกเรามีส่วนในแผนการลักพาตัวท่านและชิงตัวเหล่าผู้ป่วยกันไว้ โดยที่พวกริชเชลลิอาร์ลมีข้อมูลเรื่องคนของคุณคูลิแนนซ์ ลักลอบเข้ามาชี้แจงกับองค์ราชาและราชทายาทไปแล้วน่ะ"
              "อีกอย่าง ภายในเมืองเองก็ไม่ปลอดภัยอย่างมากด้วย เพราะมีมือสังหารดัสท์คิลเลอร์แฝงตัวเข้ามา โดยที่พวกเราไม่สามารถเจอตัวพวกนั้นได้เลยนะ" ฟิเกซกล่าว
              ออสเทรย์ถอนใจขึ้นมา "ผมทราบดีนะครับ ว่าพวกคุณเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยกัน ยิ่งในตอนนี้ดาวของพวกคุณเองก็กำลังถูกพวกเดลอาเนี่ยนรุกรานกันด้วยน่ะ"
              "ท่านคงจะได้ยินเหล่าทหารพูดคุยกันในฐานมาก่อนสินะครับ" พีวิลบอก "แต่วางใจได้ เพราะทางเราจะช่วยปกป้องท่านจากการคุกคามของพวกไม่หวังดีเองนะครับ"
              คลอเวฟบอก "โดยเฉพาะไอ้แพนเนสกับพวกนั้น เราจะกระทืบพวกมันได้ในทันทีที่กล้าโผล่มาน่ะ"
              "นั้นก็ดีแล้วละครับ เพราะเหล่าอัศวินฝ่ายเราในเวลานี้ ต่างหวาดกลัวเซอร์แพนเนสอย่างมาก รวมถึงลูกสมุนของเขาที่มีแม่ชีลิมิลเตญ่ากันด้วย มีแต่พวกคุณและพวกหน่วยรบวิหคเท่านั้นที่สามารถหยุดยั้งได้นะครับ" ออสเทรย์บอก
              จูเดทต้าบอก "องค์ชายออสเทรย์ แต่หน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์ในตอนนี้ด้อยประสบการณ์กัน คงไม่น่าที่จะ..."
              "ถึงพวกเขาหยุดองค์ชายองค์สุดท้ายผู้โหดเหี้ยมกับกลุ่มนักรบโฉดกับพวกเซอร์แพนเนสไม่ได้ ก็ใช่ว่าจะหยุดพวกคุณสไปค์กันไม่ได้หรอกนะครับ" ออสเทรย์บอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ถึงท่านไม่พูด พวกเราก็มีความคิดเห็นเช่นนี้กันอยู่แล้วละครับ"
              "แล้วว่าแต่ การรักษาเป็นเช่นไรบ้างละครับ" ออสเทรย์กล่าว จูเดทต้าเลยให้มินอร์ตี้รับผิดชอบเรื่องการอธิบายการรักษาให้ออสเทรย์ฟัง ซึ่งองค์ชายสองแห่งทรอยอาร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ หลังจากนั้น จูเดทต้าก็พาองค์ชายออสเทรย์ไปที่ห้องพักกักบริเวณตามเดิม
              "บอกตามตรงนะครับ ว่าดัสท์คิลเลอร์สร้างความกดดันให้กับพวกท่านด้วยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก เพราะเห็นพวกทหารต่างเดินไปตามทางเดินด้วยความหวาดระแวงอย่างมาก
              "ถ้าไม่เพราะว่าวอลเลนซ์สั่งให้พวกดัสท์คิลเลอร์กบดานและไม่ให้ลงมือก่อนที่จะมีคำสั่งลงมาละก็ ปานนี้คงมีชาวเมืองผู้เคราะห์ร้ายกลายเป็นศพในวันต่อมาไปนานแล้วละ" เพอซิอัสบอก "และพวกดัสท์คิลเลอร์เองคงจะเลือกจังหวะที่พวกเราและพวกเธอเกิดความวุ่นวายกัน เป็นช่วงลงมืออย่างแน่นอน โดยเฉพาะช่วงที่...."
              เนคมาดูซัมกล่าว "ตอนนี้ประตูและหน้าต่างเปิดอ้าซ่ากันทุกบานอยู่นะครับ ท่านนายพล"
              "เอาเป็นว่าตอนนี้ พวกเธอยังเหมือนเดิมไปก่อนแล้วกันน่ะ" เพอซิอัสกล่าว เนคมาดูซัมและพวกพยักหน้า แล้วก็....
              "ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะกดดันไปบ้าง แต่....เรื่องที่พวกคุณไหว้วานมานั้น สวนทางกับสภาพการณ์ในตอนนี้เลยนะครับ" ริบอยกล่าวโดยที่เขาอยู่ทำงานกับนีลเซนท์ในฐานะผู้ช่วย
              "ขอให้เป็นข่าวดีกันบ้างน่ะ เพราะสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเรากดดันกันน่าดูเลยน่ะ" ฟิเกซกล่าว ริบอยพยักหน้าแล้วก็ส่งบางอย่างมาให้
              คลอเวฟบอก "ตอนนี้ พวกริดโอหัวเสียกันไม่น้อยในเรื่องการปราบปรามของวอลเลนซ์แล้วน่ะ"
              "ใช่ เพียงแต่ตอนนี้ผมปิดมือถือไปแล้ว คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกันบ้างนะครับ" ริบอยบอก
              นีลเซนท์บอก "ทั้งๆที่ตอนนี้มีมือสังหารสุดฉาวโฉ่อยู่ในเขตเมือง แถมยังทำตามคำสั่งของนายพลวอลเลนซ์กันด้วยนั้น ผมเริ่มจะรู้สึกเหมือนในช่วงที่สูญเสียพี่ชายสองคนไปแล้วละครับ"
              "แล้วเธอยังกลัวอยู่เหมือนเดิมละสิ" พีวิลถาม
              นีลเซนท์ยิ้มก่อนบอกไปว่า "ผมรู้สึกวางใจได้แล้วละครับ นับตั้งแต่มีคุณเนคเกอร์ คุณฟิเกซอท แล้วก็พวกคุณทั้งหลายคอยเป็นกันชนพวกดัสท์คิลเลอร์อยู่ เลยทำให้พวกนั้นไม่กล้าลงมือให้พวกคุณไหวตัวได้น่ะ"
              "ถ้าเช่นนั้น เราหมดธุระกันแล้วละน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก "เออ เกือบลืมไป ริเกิร์ลยังสบายดีอยู่ เธอฝากพวกเราทักทายให้ด้วยน่ะ"
              ริบอยพยักหน้า "ตราบใดที่ผมยังอยู่นี้ ริเกิร์ลจะไม่ถูกคุกคามกันได้หรอกนะครับ"

              "โอเค พวกเรา สองอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น นายพลวอลเลนซ์รับผิดชอบคดีพวกริดโอมาตั้ง 10 คดี ซึ่งล้วนแล้วสร้างความเสียหายให้กับพวกมันไปไม่น้อยเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าวโดยเปิดประชุมเรื่องการปราบปรามพวกริดโอของวอลเลนซ์ให้กับพวกเมนซิกส์ทีน โดยมีเบติสและวิลด้ามานั่งฟังด้วย
              เบติสกล่าว "รุ่นพี่วอลเลนซ์ไม่เพียงนำทีมปราบปราม 6 ทีม บุกถล่มทีมรับซื้ออาวุธจากพวกเดลอาเนี่ยนกันในวันแรก วันที่สามนั้น บุกจับกลุ่มขายข้อมูลทางทหารให้กับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธที่ลักลอบเข้ามา จากนั้นวันที่ 5 และ 6 นำทีมโมบิลลอยด์ถล่มเรือเหาะขนส่งวอร์บอทของพวกเดลอาเนี่ยน ทำให้พวกริดโอเสียลิ้วล้อไป 45 ราย และวอร์บอท 60 ตัวคละชนิดกันไว้น่ะ"
              "จากนั้นวันที่ 7 ซึ่งเป็นช่วงที่ริดโอโบลพาพวกบุกเข้าจู่โจมธนาคารที่ทรอตสกีฟฟาร์ค เพื่อปล้นเงินจำนวน 60 ล้านแกลดอลที่ทางสมาพันธ์อวกาศส่งมาที่ธนาคารเพื่อให้เป็นงบประมาณของสหพันธมิตรไป ก็โดนทีมปราบปรามของกองที่ 16 ซึ่งปลอมเป็นพนักงานธนาคารยิงถล่มพวกริดโอโบลจนต้องหนีไปพร้อมกับลูกน้องเพียง 2 รายจาก 40 รายด้วยกันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              คลอเวฟบอก "พวกนี้มีอาวุธหนักจากกองทัพของกรีนยูโรเปี้ยนที่ไปก็อปมา ซึ่งสู้กับอาวุธพลังพลาสม่าของฝ่ายนายพลวอลเลนซ์ไม่ได้อยู่แล้วน่า"
              "ต่อด้วยวันที่ 8 และ 9 นั้น พวกริดโอกลุ่มปล้นรถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์และรถตู้ไว้สำหรับดัดแปลงเป็นรถหุ้มเกราะติดอาวุธนั้น ก็ถูกทีมปราบปรามจากกองที่ 16 ดักสกัดไว้ รถที่ถูกขโมยมาอยู่ครบ ทั้งสองวันนั้น พวกริดโอที่บุกปล้นเหลือเพียง 3 จาก 40 ที่เข้าร่วมการปล้นในครั้งนี้น่ะ" ไซโคลเนียบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "หลังจากนั้นผ่านไป 2 วัน พวกริดโอวางแผนสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อทำการแฮคระบบปฏิบัติการณ์ของกองทัพทั้งทวีปตะวันตกและตะวันออกพร้อมกัน ซึ่งกองรบที่ 16 เข้าแฝงตัวและบุกถล่มฐานคอมพิวเตอร์เหล่านั้นจนราบคาบ ลูกน้องริดโอบิทที่เข้าร่วมในฐานจำนวน 40 ฐานนั้น ล้วนเสียชีวิตหมด เว้นแต่ริดโอบิทที่รอดไปได้อย่างหวุดหวิดน่ะ"
              "แล้วก็วันที่ 13 กับวันนี้ พวกนั้นพยายามจะสร้างฐานประตูมิติเพื่อเรียกพวกเดลอาเนี่ยนให้โผล่มาอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดเรื่อง โดยเฉพาะกับพื้นที่ที่ของกองทหารที่ไปร่วมฝึกกับเสนาธิการวอลเดนสไตน์ เพื่อสะสมกองรบและส่งไปก่อความเดือดร้อนในคราวเดียวกัน แน่นอน รุ่นพี่วอลเลนซ์ก็เคลียร์พวกนั้นให้ราบคาบในเวลาเดียวกันไปโดยปริยายน่ะ" วิลด้าบอก "คิดว่านายพลวอลเลนซ์จะรู้มั้ย ว่าระบบที่เขาได้มานั้นมัน....."
              เบติสบอก "รุ่นพี่เพอซิอัสยืนยันกับรุ่นพี่วอลเลนซ์มาทั้งที ถ้าเขาไม่เชื่อก็แย่แล้วละ ที่รัก"
              "แม้ว่านี้จะเป็นการดึงความสนใจของพวกริดโอให้มารวมกันที่นายพลวอลเลนซ์และกองรบที่ 16 กันให้มากจนเกินควรเลยก็ตาม" เนคมาดูซัมบอก "แต่พวกริดโอคงไม่ได้เลิกล้มกันง่ายๆ แน่ๆ เพราะเรารู้ว่าพวกริดโอวางแผนคุกคามท่านประธานาธิบดีกันยังไงน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "และโชคดีมากที่พวกนั้นไม่รู้ว่าไซเมี่ยนอยู่กับพวกเราแล้วน่ะ"

              "เออ ต้องขออภัยนะคะ แต่ สายตรงจากคุณมือป่วนน้องชายหมอเดเมี่ยนเข้ามานะคะ" แอมเบอร์พูดขัดจังหวะขึ้นมา
              คลอเวฟบอก "นั้นไง พูดไม่ทันขาดคำเลยวะ"
              "แอมเบอร์ เซตระบบโปรเทคในระดับ 5 เดียวนี้เลย" เนคมาดูซัมกล่าว แอมเบอร์พยักหน้าแล้วก็ "กรี้ง" ติดป้ายห้ามดักฟังและสอดแนมสีขาวเอาไว้ เพื่อเปิดระบบสื่อสารด้วยการฉายโฮโลแกรม
              "อ่า ได้เจอกับพวกนายผ่านระบบนี้กันเสียที นึกว่าจะต้องติดต่อผ่านหน้าจอมอนิเตอร์เล็กกว่าทีวีจอแบนยาวของพวกนายเสียแล้วละ"
              "เออ ไซเมี่ยน นายติดต่อเข้ามาหลังเสร็จกิจเลยหรือ" ฟิเกซกล่าว เพราะเห็นไซเมี่ยนใส่กางเกงบ็อกเซอร์ติดต่อเข้ามา
              วิลด้าบ่น "รู้น่ะ ว่าไม่ได้มีอะไรกับซาดูร่าบนเตียงมาหลายเดือน แต่เธอทำทุกวันนิ มันไม่ดีต่อสุขภาพเลยน่า"
              "และถ้านายมีเรื่องสำคัญละก็ รีบบอกมาเร็วๆเลย เพราะระบบโปรเทคระดับสูงนั้นมันลิมิตเวลาการสื่อสารกันไว้น่ะ" เนคมาดูซัมบอก โดยตอนนี้มีเวลาเหลือ 3 นาที 54 วินาทีแล้ว
              ไซเมี่ยนบอก "ตอนนี้ ฉันได้รับงานจากผบ.บัลโต้ให้สืบหาฐานที่มั่นของพวกริดโอกันน่ะ"
              "แล้วนายสืบจนเจอที่ตั้งแล้วหรือยังละ" พีวิลบอก
              ไซเมี่ยนกล่าว "ถ้าเป็นที่พักของพวกริดโอ ตามข้อมูลที่ลูกพี่ลูกน้องคนรับใช้สองรายให้มาละก็ ฉันคงไม่ยื่นหน้าไปให้พวกมันเห็นกันหรอกน่ะ" แล้วก็บอก "เพราะฉันจะตามหาฐานที่พวกนั้นจะใช้เป็นตัวแฮคระบบคอมพิวเตอร์ของกองทัพทั้งปวงกันอยู่นะสิ"
              "แล้วก่อนหน้านี้นายไม่ได้ออกจากบ้านกันเลยหรือ" เจเนลบอก
              ไซเมี่ยนบอก "ถ้าออกไปแล้วโดนพวกดัสท์คิลเลอร์หักคอขึ้นมา พวกนายก็แย่พอดีนะสิ ว่าแต่ ตอนนี้พวกมันยังไม่ออกมาก่อเรื่องในถิ่นของพวกนายสิน่ะ"
              "เรารู้ว่าพวกมันน่ากลัวกันแค่ไหน พวกมันก็รู้ว่าเราก็หนักหนามากด้วย ตราบใดที่เราหรือพวกนั้นไม่เริ่มก่อน ปัญหาก็ยังไม่เกิดขึ้นกันหรอกน่ะ" ฟิเกซบอก
              ไซเมี่ยนพยักหน้า "เพราะฉันก็รู้ ว่าพวกมือสังหารตัวเอ้นั้น ไม่เสี่ยงหาเรื่องกับพวกแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้อย่างพวกนายกันได้หรอก ถ้าพวกนั้นกล้าจริง ปานนี้แลมซีนีไนซ์ก็ดี เวสเทิร์ซก็ดี บาร์ซอลก็ดี แม้กระทั่งเควโทรดิมัสก็ดี คงไปอยู่ในโลงศพตั้งนานแล้วละ"
              "รวมไอ้แก่ริชเชลลิอาร์ล แล้วก็พวกทรอยอาร์ตัวเอ้เลวระยำอีกหลายสิบตัวด้วยน่ะ" คลอเวฟบอก
              เบติสกล่าว "ในเมื่อเธอออกไปทำงาน แล้วซาดูร่าล่ะ"
              "ผบ.บัลโต้จะพาเธอไปอยู่ในความคุ้มกันเอาไว้ ในช่วงที่ผมปฏิบัติงานกันอยู่ เพียงแต่ผมคงปกปิดให้มิดชิดกว่านี้ เพราะพวกริดโอหวังได้ตัวผมมาเพื่อจัดการกับพวกนาย แล้วก็ไอ้คามาลตัสกันด้วย" ไซเมี่ยนกล่าว "ไว้มีความคืบหน้าอะไร จะมาแจ้งกันอีกทีแล้วกันน่ะ" เพราะเห็นว่าเวลาของระบบโปรเทคระดับ 5 เหลือ 30 วินาทีแล้ว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ระวังตัวไว้ให้มากแล้วกันน่ะ อย่างน้อยก็เห็นแก่หมอเดเมี่ยนกันบ้างละ"
              "งั้นฝากบอกพี่ให้ด้วยแล้วกันน่ะ ลาล่ะ" ไซเมี่ยนกล่าวและตัดการติดต่อไป
              พีวิลบอก "แม้ว่านี้เป็นเรื่องดีที่ไซเมี่ยนช่วยงานเราในส่วนที่พวกเราไม่อยู่ในสภาพที่ทำอะไรได้ก็จริง แต่....ก็อดเป็นกังวลไม่ได้เลยน่ะ"
              "กังวลว่าไซเมี่ยนจะถูกพวกริดโอจับได้ละสิ" เจเนลบอก
              พีวิลส่ายหน้า "ฉันกังวลว่า พวกริดโอในตอนนี้ถูกนายพลวอลเลนซ์ปราบปรามอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง คงต้องทำอะไรที่เลวร้ายหนักหนามากกว่าเดิมแน่นอน"
              "พีทพูดมาก็ตรงน่ะ ยิ่งนายพลวอลเลนซ์กดดันมากเท่าไหร่ พวกริดโอก็กริ้วกราดมากขึ้น และคงทำทุกวิธีทางเพื่อชนะต่อให้ต้องแลกอะไรมาแน่นอนน่ะ" โฟรซ่าบอก
              วิลด้าบอก "แน่ละ พวกริดโอรุ่นลูกไม่มีอะไรจะเสียแล้วนิ"
              "งั้นเรามารอดูอีกหนึ่งสัปดาห์เลยแล้วกัน ว่าพวกริดโอจะยอมมอบตัวกันหรือเปล่าน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "เพราะถ้าพวกริดโอยังดื้อด้านเช่นนี้ เกรงว่าการปราบปรามพวกริดโอแบบเดียวกันกับรุ่นพ่อคงได้เกิดแน่นอน"
              เบติสพยักหน้า "เพียงแต่งวดนี้ รุ่นพี่วอลเลนซ์คงได้แก้แค้นสมใจแน่นอน เพราะเขาได้เปรียบในแง่ข้อมูลกันอยู่แล้วละ"

              หลังจากนั้น เวลาผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ต่อมา (เหลืออีก 2 เดือนกับอีก 2 สัปดาห์ก่อนที่พวกเดลอาเนี่ยนจะมาถึง)
              "คราวนี้ นายพลวอลเลนซ์ได้หน้ามากกว่าที่คิดแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก เมื่อข่าวเช้ารายงานมาว่า
              "กองรบที่ 16 ได้ทำการบุกกวาดล้างฐานซ่องสุ่มเก็บสัตว์ประหลาดไฮบริดจ์ทั้งน้อยใหญ่เอาไว้ ซึ่งการปราบปรามในครั้งนี้เป็นการลงมืออย่างรวดเร็วมากๆ จนทำให้แก็งค์ริดโอไม่สามารถนำสัตว์ประหลาดก่อความเดือดร้อนทั้งโดยตรงและโดยอ้อมกันแล้วละคะ" นักข่าวสาวชาวซัลคาเลี่ยนกล่าว
              "โดยอ้อมหรือ หมายความว่ายังไงกันละครับ" นักข่าวชายแมนิเกเตอร์แอฟริกันอเมริกาถาม
              นักข่าวสาวรายงาน "จากการตรวจสอบค้นภายในฐานนั้น พบว่ามีสมุนริดโอกลุ่มหนึ่งที่เป็นพวกแฮคเกอร์ระดับสูง ได้ออกแบบไวรัสคอมพิวเตอร์ในรูปลักษณ์ของสัตว์ประหลาดพันธุ์ผสมของพวกเดลอาเนี่ยน หมายจะใช้พวกนี้สร้างความเสียหายให้กับระบบคอมพิวเตอร์กัน แม้ว่าทางกองรบที่ 16 จะไม่สามารถจับกุมริดโอบิทที่เป็นหัวหน้าคุมฐานแห่งนี้ แต่ทางนั้นได้ควบคุมตัวและยึดเครื่องไม้เครื่องมือเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วละคะ" โดยนำภาพโปรแกรมเมอร์ทั้งชายและหญิงซึ่งสวมแว่นกันทั้งนั้น โดยมีอยู่คนหนึ่งที่เป็นหญิงผมสั้นสีม่วงอ่อน ซึ่งถูกสวมกุญแจมือพยายามจะดิ้นหนีแต่โดนทหารใช้ปืนช็อตให้เธอสงบลงเสียก่อน
              "ดีแล้วละ ที่พวกนายพลวอลเลนซ์หยุดพวกนี้ไว้ เพราะทางเราแทบไม่มีวัคซีนหรือโปรแกรมปราบไวรัสที่เป็นสัตว์ประหลาดกันเสียด้วยนะคะ" แอนเดรียบอก
              เบติสบอก "ทั้งสัปดาห์นั้น พวกริดโอสูญเสียวอร์บอทของพวกเดลอาเนี่ยน และโมบิลลอยด์จากฝั่งทรอยอาร์และสเตรดาร์ธ รวมถึงกำลังคนที่เหลือน้อยเต็มทนแล้ว จากการปราบปรามของรุ่นพี่วอลเลนซ์ 4 ครั้งล่าสุดนี้เลยน่ะ"
              "ริดโอแบท ริดโอโบล ริดโอบิทและริดโอเบล่าก็เกือบเอาตัวแทบไม่รอด ถ้าลูกน้องไม่ตายก็ต้องถูกจับกุมกัน ซึ่งอย่างแรกนั้นทำให้พวกริดโอยั้วะมากกว่าที่คิดแน่ๆ แต่อย่างหลังนั้น...." จายด์บอก
              ฟิเกซบอก "....กลัวว่านายพลวอลเลนซ์จะยื่นข้อเสนอให้พวกนี้ได้รับการปล่อยตัว ด้วยการช่วยเหลือในแผนการของวอลเดนสไตน์แน่ๆเลยละ"
              "ที่พวกริดโอแบทหนีไปได้นั้น เพราะว่าเฮเลนมาช่วยเอาไว้เลยน่ะ ถ้าไม่เพราะเธอ วอลเลนซ์คงจัดการกับห้าพี่น้องริดโอลงไปนานแล้ว" เจเนลบอก "แต่ที่ปล่อยให้รอดไปได้นั้น ถ้าให้เดาน่ะ คงต้องเป็นการแก้แค้นให้กับวอลเดนสไตน์แน่ๆ"
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "เพียงแต่พวกริดโอยังไม่รู้ว่าวอลเดนสไตน์เป็นผู้หวังดีที่ให้ความช่วยเหลือกันเลยน่ะ"
              "ตี้ดๆๆๆๆๆ" แอมเบอร์แจ้งติดต่อมา "แคร์เรี่ยนต้องการจะคุยกับพวกคุณสักหน่อยนะคะ" พีวิลบอก "งั้นต่อสายมาเลย"
              แล้วภาพโฮโลแกรมของแคร์เรี่ยนโผล่มา "ว่าแต่ที่ติดต่อหาเรานิ มีเรื่องอะไรกันหรือ แคร์เรี่ยน"
              "ก่อนอื่นเลย นายควรฟังจากดีสแฮทกับซิลเวเทรทถึงเรื่องที่พวกเขาทราบมานะสิ" แคร์เรี่ยนเลยให้ดีสแฮทเทอร์และซิลเวเทรทเดินมา
              "เกรงว่าพวกนายพลวอลเลนซ์คงเจองานเข้าเสียแล้วละสิ" ดีสแฮทเทอร์กล่าว
              "นายพลวอลเลนซ์จะเจองานเข้านะหรือ หมายความว่าไงกันน่ะ" เจเนลบอก
              ซิลเวเทรทกล่าว "ทีมสอดแนมฮาร์ฟครีซีแทนที่อยู่ในท้องที่คารินด้า หลังจากที่ทีมพบเจอสมุนมือขวาที่เหลือรอดของไวล์สเลฟ อยู่กับริดโอบุลท์และลูกสมุนส่วนหนึ่ง...." แล้วก็นำภาพริดโอบุลท์กับเฮเลน และลูกสมุนอีก 6 รายพบกับ.... "เจอกับเซอร์แพนเนสและองค์ชายเทเนดีนกันอยู่นะสิ"
              "ว่าแต่ ริดโอบุลท์พบปะกับพวกแพนเนสและเทเนดีนกันเมื่อไหร่น่ะ" ฟิเกซถาม
              ดีสแฮทเทอร์บอก "วันเดียวกันที่กองรบที่ 16 กวาดล้างฐานสะสมสัตว์ประหลาดของริดโอบิท เพื่อนำข้อมูลมาสร้างเป็นไวรัสคอมพิวเตอร์จู่โจมระบบคอมพิวเตอร์ของกองทัพทั้งหมดกันนะสิ ซึ่งนั้นไม่แปลกใจเลย ที่เหล่าอัศวินเทวดาส่วนที่เหลือรอดจากการจู่โจมยานขององค์ชายออสเทรย์เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนนั้น มันหายออกจากเลนิลเกลดไปอย่างเงียบๆเลยน่ะ"
              "และพวกนายคงไม่คิดจะไล่ตามเลยสิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              ซิลเวเทรทกล่าว "ทีมของเราได้ภาพนี้เสร็จก็รีบกลับมาโดยเร็ว เพื่อมิให้พวกแพนเนสและเทเนดีนรู้ตัว จนให้ลิมิลเตญ่ามาเชือดพวกทีมสอดแนมที่พลางตัวตลอดเวลากันน่ะ"
              "ถ้าให้เดาน่ะ แพนเนสคงอยากให้พวกเรารู้ว่า พวกเขายังอยู่ที่นี้ เพื่อมากำจัดองค์ชายออสเทรย์และเหล่าผู้ป่วยทรอยอาร์ตามคำสั่งของริชเชลลิอาร์ลกันนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลกล่าว "เกรงว่าพวกเราคงจะไม่ยื่นมือมาช่วยพวกนายพลวอลเลนซ์ไม่ได้กันแล้วน่ะ"
              "ขอบใจสำหรับข้อมูลมากน่ะ แคร์เรี่ยน ซิลเวเทรท แล้วก็ดีสแฮท พวกนายกลับไปทำงานได้แล้วละ" เนคมาดูซัมบอก
              แคร์เรี่ยนกล่าว "พวกนายก็ระวังตัวเรื่องพวกดัสท์คิลเลอร์กันด้วยละ แคร์เรี่ยน ยุติการติดต่อ" จากนั้นเนคมาดูซัมและพวกรีบไปรายงานกับนายพลเพอซิอัสถึงความเคลื่อนไหวกันแล้ว

              ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ที่คฤหาสน์ของพวกริดโอ
              "เจ็บใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้นายพลวอลเลนซ์ มันทำลายโปรเจคมาสเตอร์พีชของผมจนพังพินาศกันเช่นนี้ คิดแล้วมันแค้นเสียจริงๆ" ริดโอบิทแค้นจัดอย่างมาก
              ริดโอโบลบอก "ไม่ใช่นายตนเดียวหรอกที่โกรธจัดน่ะ แต่พวกเราเองก็ด้วยนะสิ"
              "เรากำจัดราฟโฟ่ที่เป็นตัวปล่อยข่าวและมีระบบรู้เรื่องทุกอย่างไว้ในกำมือกันแล้วก็จริง เพียงแต่....พวกเราในตอนนี้เหมือนถูกดักทางกันอีกรอบแล้วน่ะ" ริดโอแบทคาดเดา "เคราะห์ยังดี ที่ศูนย์ส่งคลื่นควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ของพวกเรานั้น ยังไม่ถูกค้นพบกัน แต่คงไม่ดีแน่ ตราบใดที่นายพลวอลเลนซ์ยังดักทางพวกเรากันได้น่ะ"
              ริดโอเบล่าบอก "กลัวว่าพี่ใหญ่กับพวกจะพลอยซวยไปด้วยนี้แหละ"
              "พี่กับพวกไม่เป็นไรกันหรอกน่ะ เบล่า เพราะวอลเลนซ์และกองรบที่ 16 เบนเข็มมาจัดการกับริดโอบิทกันอยู่ เลยไม่มาถึงพวกพี่กันนี้แหละ" ริดโอบุลท์กล่าว โดยที่เขาเดินมาพร้อมกับเฮเลนหรือเบอร์กันดี้แล้ว
              ริดโอโบลถาม "ว่าแต่ การเจรจากับเซอร์แพนเนสและไอ้องค์ชายเทเนดีนนั้น ผลออกมาเป็นเช่นไรละ"
              "ข่าวดี เซอร์แพนเนสและองค์ชายเทเนดีน ยินดีจะช่วยเหลือพวกเรากันไว้ โดยรับผิดชอบในการปกป้องและคุ้มกันสถานีควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ของกองทัพฝ่ายสหพันธมิตรไว้ รวมถึงช่วยเหลือพวกเราในกรณีที่พวกไทรเวเซอร์และกองกำลังหลังฉากสอดยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยน่ะ" ริดโอบุลท์บอก
              ริดโอแบทกล่าว "ถึงแม้ว่าพักนี้พวกไทรเวเซอร์ไม่ออกมาเคลื่อนไหวเลยก็ตาม อย่างน้อยเราก็มีความช่วยเหลืออยู่บ้างนะครับ หลังจากที่....องค์ชายเดลวูลยกเลิกการติดต่อกับพวกเราเป็นการถาวรเลยน่ะ"
              "แสดงว่าพวกเดลอาเนี่ยนจะรุกรานระบบดาวแห่งนี้แล้วละสิ" ริดโอบุลท์บอก "แต่ก่อนที่เกิดเรื่องนี้ พวกเราจะต้องบดขยี้ประธานาธิบดีและกลุ่มกองรบของฝ่ายสหพันธมิตรกันเสียก่อน โดยเริ่มจาก นายพลวอลเลนซ์กันนี้แหละ"
              ริดโอเบล่าบอก "แล้วพี่ไม่กลัวว่านายพลวอลเลนซ์จะดักทางเราเลยหรือคะ"
              "นั้นสิ คิดแล้วมันน่าโมโหเหลือเกิน ถ้ารู้ว่าใครมันให้ความช่วยเหลือนายพลวอลเลนซ์ละก็ ผมไม่เอามันไว้แน่ๆ" ริดโอบิทยั้วะจนทุบโซฟาไปเต็มแรง เฮเลนเห็นบางอย่างเลยเดินเข้ามา
              ริดโอบุลท์บอก "เบอกันดี้ เธอเจออะไรกันหรือ"
              "ฉันเจอบางอย่างที่ติดอยู่ใต้โซฟากันนะคะ และคิดว่าคงไม่ได้ติดอยู่ที่นั้นเพียงที่เดียวแน่ๆ" เฮเลนบอก โดยที่เธอมองเห็นตรงหลังภาพ โคมไฟสว่าง และตามมุมต่างๆภายในห้อง
              ริดโอบุลท์กล่าว "แสดงว่าในกลุ่มพวกเรามีเกลือเป็นหนอนอยู่ด้วยแน่ๆ ริดโอบิท เช็คตัวสัญญาณสิ ว่ามันมาจากไหนน่ะ"
              "จัดให้ครับ พี่ใหญ่...." ริดโอบิทเลยนำตัวสัญญาณจากเบอกันดี้มาเช็คดู ซึ่งก็มีสีหน้าที่โกรธกริ้วอย่างมาก
              ริดโอโบลบอก "บิท นายโกรธแบบนี้ แสดงว่านายรู้แล้วสิ ว่าใครเป็นหนอนปากโป้งบอกพวกกองทัพกันน่ะ"
              "พี่ใหญ่ พี่รอง พี่กลาง เบล่า สงสัยว่าไอ้ลูกคนใช้มันไม่ได้ตายจริงตามที่เราคิดแล้วละ" ริดโอบิทบอก
              ริดโอบุลท์กล่าว "อธิบายมาสิ ว่ามันหมายความว่าไงกันละ"

              หลังจากนั้น เช้าวันต่อมา ที่กองบัญชาการที่ 11 (เหลืออีก 2 เดือนกับ 1 สัปดาห์)
              "อ้าว ริบอย นายไม่ได้สวมหมวกเลยนิ นายจะออกไปไหนกันละ" นีลเซนท์เดินมาเห็นริบอยสวมชุดเสื้อแจ็คเก็ตสีดำและกางเกงสีเทาเดินผ่านมาพอดี
              "เออ ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการกันเสียหน่อยน่ะ ซึ่งฉันอนุญาตนายพลจูเดทต้ากันแล้วละ"
              "นั้นก็ดีแล้วละ เพราะนายช่วยให้ฉันทำกุญแจดอกสำคัญจนเสร็จสิ้นแล้วน่ะ" นีลเซนท์บอก ริบอยพยักหน้า แล้วก็เดินออกไป จากนั้นนีลเซนท์เลยเดินมาที่ห้องทำงานของตนตามเดิม จนกระทั่ง.... "อ้าว คุณแม่ มีอะไรกันหรือครับ" นีลเซนท์ถาม เมื่อเห็นจูเดทต้าเดินเข้ามา
              "ลูกแอบมาปิดระบบกุญแจข้อเท้าของริบอยกันหรือเปล่าละ"
              "เปล่าครับ ผมพึ่งเข้ามาเช็คงานตั้ง 5 นาทีในห้องนี้เองนะครับ" นีลเซนท์กล่าว และหันมาถาม "ว่าแต่ แม่อนุญาตให้ริบอยออกนอกเมืองกันหรือเปล่าละครับ"
              จูเดทต้าส่ายหน้า "ตราบใดที่แม่ไม่อนุญาต ริบอยไม่ควรออกนอกเมืองกันเลยน่ะ"
              "งั้นหรือครับ.....อืมมมม...." นีลเซนท์ได้ฟังเช่นนั้น เลยมาเช็คกับบางอย่างมาจนพบว่า... "โอ้ว ตายละ แม่ครับ แจ้งบอกพวกไทรเวเซอร์โดยเร็วเถอะครับ" จูเดทต้าพยักหน้าและเดินออกไปโดยเร็ว
              "นั้นไม่ดีแล้วละครับ นายพลจูเดทต้า อย่างเดียวที่ริบอยจะออกจากเมืองได้นั้น คงต้องเป็นพวกริดโอแน่นอน" เนคมาดูซัมกล่าว
              "ว่าแต่ ริบอยเดินผ่านหน้าบ้านพวกเธอไปนานแค่ไหนละ" จูเดทต้าบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "เห็นรีบร้อนผ่านหน้าบ้านของเราไปได้ครู่ใหญ่แล้วละคะ"
              "ตี้ดๆๆๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณดังมาจากคอมแพดของพีวิลดังมา "ลูกพี่พีวิล นี้ไกซ์เองนะครับ ผมกับพวกพึ่งเห็นริบอยวิ่งผ่านหน้าพวกเราไปนะครับ" ไกซ์ติดต่อเข้ามา
              พีวิลถาม "แล้วพวกเธอตามริบอยไปหรือเปล่าละ"
              "ริบอยคงรู้ว่าพวกเราต้องตามมาแน่ๆ ผมเลยโยนตัวส่งสัญญาณแบบสั่นไว้หลังเสื้อแจ็คเก็ตของริบอย โดยให้มันติดกับหลังคอไว้ อย่างน้อยให้มันแจ้งกับพวกคุณว่าริบอยไปไหนละครับ" ฟูลออเรสกล่าว
              มิลด์ถาม "ว่าแต่ ทำไมริบอยถึงรีบออกไปกันละคะ"
              "นีลเซนท์เช็คข้อความในมือถือของริบอยเข้ามา มันเป็นข้อความข่มขู่จากริดโอบิทให้โผล่มาที่โกดังท่าเรือที่ไวซ์อาร์วี่เพียงลำพัง ซึ่งถ้าไม่ปรากฎตัว เขาจะตามหาริเกิร์ลให้เจอกันนะสิ" จูเดทต้ากล่าว
              เมดิน่าบอก "ถ้าริดโอบิทส่งข้อความเข้ามาถึงริบอยได้นิ คงไม่ได้หมายความว่า...."
              "เฮ้ ตะกี้นี้ ริบอยมันเอาเรือเร็วออกจากท่าไปแล้วน่ะ ไกซ์" น็อกกี้บอก
              แจ็สถาม "ว่าแต่ ทำไมริบอยถึงรีบร้อนกันขนาดนั้นเลยละ"
              "พวกเธอรีบไปที่อพาร์ตเมนต์กันเลย เดียวฉันจะแจ้งบอกพวกเธอทั้งหมดเองน่ะ" พีวิลบอก
              ไกซ์กล่าว "เข้าใจแล้วละครับ ลูกพี่ ผมจะได้แจ้งกับเฟรดและนาเดีย รวมถึงพวกพี่คาเซคาว่ากันไว้นะครับ" แล้วไกซ์ก็ปิดสายไป
              "....สงสัยว่างานนี้เราต้องรีบตามตัวริบอยกันโดยเร็วแล้วละ ก่อนที่ริดโอบิทและพวกริดโอจะสังหารทิ้งกันเสียก่อนน่ะ" จูเดทต้าบอก
              โฟรซ่ากล่าว "ไซโคลเนีย พาเจเนลและจิลตามริบอยไปเดียวนี้เลย" แล้วก็โยนเข็มขัดสามเส้นมา "ใส่เข็มขัดสเตลท์นี้ไว้ อย่างน้อยริดโอบิทจะได้ไม่รู้ว่าพวกเธอตามริบอยมาด้วยน่ะ"
              "เดียวก่อน พวกเธอต้องไปในสภาพนอกเครื่องแบบกันน่ะ" จูเดทต้ากล่าว
              เจเนลบอก "นั้นเสี่ยงมากเลยน่ะ ท่านนายพล เพราะเราไม่รู้ว่าพวกริดโอมีอาวุธหนักติดมือมาด้วยหรือเปล่าน่ะ"
              "อย่างน้อย เราต้องไม่ให้นายพลวอลเลนซ์รู้ว่าพวกเธอเกี่ยวข้องกับพวกริดโอด้วย เพราะเขารู้ว่าพวกเธอคุมริบอยและริเกิร์ลเอาไว้ ซึ่งฉันคิดว่า นายพลวอลเลนซ์ก็ต้องรู้ว่าทั้งคู่เป็นลูกของผู้ให้ความช่วยเหลือแม่ทัพโอลดาธกันมาตลอดแน่นอน" จูเดทต้ากล่าว "ดังนั้น พวกเธอทั้งสามเอง ระมัดระวังตัวเอาไว้ด้วยละ" ไซโคลเนียพยักหน้า แล้วรีบเดินเข้าบ้านไปเพื่อแต่งตัวเป็นชุดกางเกงสามส่วนและเสื้อเกาะอกแบบเปิดหลัง โดยเอาบูสเตอร์พาร์ทมาติดหลังไว้ จิลอยู่ในชุดกระโปรงสั้นแต่ยังติดแบ็คแพ็ค เจเนลสวมเสื้อยืดและกางเกงขาว แต่ยังสวมบู้ทเหมือนเดิมอยู่ "แฟ้ววววววววววว" แล้วทั้งสามก็รีบมุ่งหน้าตามริบอยไปโดยเร็ว
              เนคมาดูซัมกล่าว "คลอเวฟ เราตามไปด้วยจะดีกว่า อย่างน้อยเราต้องพาริบอยกับพวกเจเนลกลับมาที่นี้โดยไม่ให้ใครรู้ตัวกันน่ะ"
              "หรือไม่ก็ไอ้ริดโอโบลมันเตรียมของใหญ่มาเล่นดักทางพวกเจเนลกันด้วยน่ะ" คลอเวฟบอกแล้วรีบเดินไปกับจายด์และเนคมาดูซัมกัน
              ฟิเกซบอก "ขอให้พวกเราไปทันเวลาทีเหอะน่ะ"

              "บรืนๆๆๆๆๆ ครืดดด" ริบอยจอดเรือตรงท่าและขึ้นจากเรือ เพื่อเดินไปยังโกดังโดยเร็ว "อ่า แย่ละ สัญญาณหายไปแล้วนะ" ไซโคลเนียบอกโดยที่เจเนลและจิลขี่หลังอยู่
              เจเนลกล่าว "ริดโอบิทคงจะติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณก่อกวนกันที่ท่าเรือ เพราะมันรู้ว่าพวกเราต้องตามริบอยมาแน่นอน"
              "ภาวนาว่าบริเวณท่าเรือนี้ ลิมิลเตญ่าคงไม่อยู่ด้วยน่ะ" จิลกล่าว ไซโคลเนียพยักหน้าแล้วก็ "วืออออออ" บินลงจอดโดยที่เจเนลและจิลโดดลงมา ส่วนไซโคลเนียก็ถอดบูสเตอร์ลง แล้วทั้งสามก็เดินไปที่ท่าเรือ โดยที่ริบอยเดินเข้ามายังโกดังลับเพียงลำพัง
              "ผมมาตามที่แจ้งไว้แล้วน่ะ ออกมาได้แล้วละ" ริบอยกล่าว
              "แว้งงง แว้งงง แว้งงง" จากภายในโกดังที่มืดมิดได้สว่างขึ้นมาจากไฟสว่างที่เปิดออก พี่น้องริดโอทั้งห้าพร้อมลูกสมุนราว 10 ตนยืนอยู่ตรงหน้า "โผล่หัวมาจนได้เลยน่ะ ไอ้ลูกคนใช้ ฉันคิดว่าแกกับน้องแกเป็นศพอยู่ใต้ท้องทะเลเสียอีกน่า" ริดโอบิทกล่าว แล้วเหล่าสมุนสองตนเดินตรงมาจับตัวริบอยเอาไว้ "แต่แย่หน่อย ที่การแกล้งตายของนายมันไร้ผล เพราะฉันได้เช็คแฟ้มคดีในการบุกยึดไวซ์อาร์วี่หนที่สองกันมา โดยเช็คตรงรถบรรทุกคันที่แกกับริเกิร์ลขับแหกโค้งลงทะเลไปด้วยนั้น ปรากฎว่า รถร่วงโดยที่ไม่เจอศพคนขับและผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย แม้ทางกรมตำรวจจะบอกว่าแกกับน้องเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แถมลูกน้องส่วนนั้นก็โดนตำรวจจับกุมไปในคราวนั้น ก็บอกด้วย ว่าเจเนลมันเกาะตรงรถบรรทุกของแกแล้วร่วงไปด้วยกันน่ะ"
              ริบอยบอก "ที่คุณรู้ขนาดนี้ แปลว่าคุณคงจะเจอตัวสัญญาณแอบฟังของผมที่แอบไปติดตั้งไว้แล้วสิน่ะ"
              "ฉันไม่คิดเลยน่ะ ว่าไอ้ลูกคนใช้อย่างแกจะฉลาดเหนือกว่าฉันไปเสียได้น่ะ และแกก็คงจะฉลาดมากพอที่จะสั่งมอบเครื่องมือที่เราควรจะได้จากไอ้ราฟโฟ่ ไปให้พวกไทรเวเซอร์และพวกนายพลวอลเลนซ์กันเลยสิน่ะ" ริดโอบิทบอก
              ริดโอโบลบอก "แกรู้มั้ย ว่าแกได้ทำให้ฉันต้องเสียลูกน้องไปไม่น้อย เสียสินค้าสำคัญและอาวุธที่เราควรจะได้ไป แถมยังเสียฐานที่มั่นลับอีกหลายสิบแห่งกันด้วยน่ะ"
              "รวมถึงใบหน้าของฉันเสียโฉมเพราะพวกไทรเวเซอร์ด้วยนิ เธอคงไม่มีอะไรแก้ตัวเลยสิน่ะ" ริดโอเบล่ากล่าว
              ริดโอบิทบอก "ในเมื่อแกโผล่หัวมาเช่นนี้ ฉันขอจัดการกับแกก่อนเลยแล้วกัน"
              "เดียว ริดโอบิท อย่าพึ่งลงมือ....เราต้องการรู้บางอย่างกันเสียก่อนน่ะ" ริดโอบุลท์กล่าวห้ามไว้ ริดโอบิทได้ฟังก็เดินออกห่างไป ริดโอบุลท์และริดโอแบทเลยเดินเข้ามา ริดโอบุลท์เริ่มด้วยคำถามแรกก่อน "ในเมื่อนายรอดมาเช่นนี้ แล้วริเกิร์ลล่ะ"
              "ริเกิร์ลหมดสติในช่วงที่รถร่วงลงทะเล ทำให้น้ำเข้าปอดของเธออย่างรวดเร็ว แม้ผมจะลากเธอออกจากรถมาได้ เธอก็จากไปแล้วละครับ" ริบอยอ้าง
              ริดโอบิทกล่าว "โกหก เจเนลอยู่ด้วยทั้งที มันก็ต้องช่วยยัยลูกคนใช้มาพร้อมแกแน่ๆ..."
              "ริดโอบิท ฉันไม่ได้สั่งให้พูด อย่าสอดเรื่องไม่เข้าเรื่องได้มั้ยละ" ริดโอแบทต่อว่า จนริดโอบิทเดินออกไป
              ริดโอบุลท์กล่าว "ก่อนที่พวกเราจะจัดการกับนายนั้น ฉันเกิดความสงสัยบางอย่างที่ไม่เข้าท่ากันขึ้นมา เพราะเหตุการณ์ที่พวกเราเสียท่าให้กับทางการนั้น มันเหมือนในกรณีเดียวกับที่พ่อและลุงป้าน้าอาประสบมาเป๊ะๆกันแน่นอน" แล้วก็หยิบปืนสั้นออกมา แต่ยังไม่จ่อที่หัว "ซึ่งนายกับริเกิร์ลนั้นยังเด็กอยู่ เช่นเดียวกับพวกเราทั้งห้ากันด้วยนั้น ฉันอยากจะรู้ว่า ใครเป็นคนปากโป้งบอกแม่ทัพโอลดาธให้ขัดขวางแผนการของคุณพ่อและพวกกันด้วยละ"
              "พวกคุณคงจะไม่รู้กันหรอกน่ะ ว่าคุณแม่ของเราที่เป็นแค่คนใช้ที่พวกคุณคิดว่าเธอไม่ฉลาดและโง่งมอย่างมากนั้น คือคนที่หยุดท่านพ่อด้วยการแจ้งบอกกองทัพจักรวรรดิ์กันมาโดยตลอด ซึ่งผมก็สานต่อในสิ่งที่คุณแม่ฝากฝังเอาไว้กันนะสิ" ริบอยบอก โดยในตอนนี้ พวกเจเนลเข้าใกล้มาแล้ว ในช่วงที่ริดโอแบทบอก
              "คุณเพดูน่านะหรือ....นี้อย่าบอกน่ะ ว่าไอ้อุปกรณ์ที่ริดโอบิทเจอในบ้านของเรานั้น เป็นผลงานของคุณเพดูน่าเลยน่ะ"
              "บ้าที่สุด ไอ้คนใช้นั้นมันฉลาดเหนือกว่าที่พวกเราคิดไว้เช่นนี้เลยน่ะ" ริดโอโบลสบถ
              ริดโอบิทกล่าว "งั้นไอ้เครื่องเล่นเพลงนั้น ก็เป็นผลงานสร้างของแม่แกจริงๆนะหรือ ทั้งๆที่แม่แกเป็นแค่คนใช้ต๊อกต๊อยกันแล้วน่ะ"
              "ก่อนที่แม่จะมาเป็นคนใช้ คุณแม่เก่งในเรื่องประดิษฐ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือสื่อสารแบบต่างๆ รวมถึงเป็นโปรแกรมเมอร์ฝีมือเยี่ยมที่หาตัวจับยาก ซึ่งคุณแม่ควรจะอยู่ในบริษัทคอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็ทำงานให้กับกองทัพในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์กันไปนานแล้ว น่าเสียดาย ที่ฐานะของคุณแม่เป็นแค่พลเมืองระดับล่างที่ไม่มีใครสนใจ ทุกๆคนเลยเมินเฉยต่อท่านแม่ จนกระทั่งเจ้าสั่วริธฟอนโซ่ คุณปู่ของเราเห็นถึงพรสวรรค์ของคุณแม่ เลยให้คุณแม่ทำงานในตำแหน่งพนักงานบัญชีในเบื้องหน้า แต่เป็นเลขาส่วนตัวในเบื้องหลังไว้ ก่อนที่คุณพ่อของพวกเรา ผู้ซึ่งเข้าใจผิดว่าคุณแม่เป็นแค่พนักงานระดับล่างของคุณปู่ จับข่มขืนจนมีผมและริเกิร์ลขึ้นมา พอคุณพ่อก่อตั้งแก็งค์ริดโอจนทำให้คุณปู่เสียใจและป่วยตาย คุณพ่อก็เอาคุณแม่และพวกเรามาทำงานเป็นคนใช้กันนี้แหละ" ริบอยเล่าให้ฟัง "แน่นอน ว่าคุณนายเองก็รู้ แต่ปิดเป็นความลับเอาไว้ เพื่อมิให้คุณพ่อรู้และใช้คุณแม่ทำเรื่องที่ไม่ดีเอาไว้ ซึ่งโชคดีมาก ที่คุณพ่อและพวกคุณยังเห็นเราเป็นแค่พวกคนใช้ที่สมองน้อยและไม่น่ามีพิษมีภัย จึงเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่ในการขัดขวางพวกคุณพ่อและแก็งค์ริดโอกันนี้แหละ"
              ริดโอแบทกล่าว "งั้นตอนที่พวกเราหนีออกมาพร้อมพวกนายนิ แปลว่า คุณเพดูน่าก็รู้ว่าในบ้านเดิมของเรามีทางลับซ่อนไว้แต่แรก และอาสาเป็นผู้พาพวกเราไปหลบซ่อนในชนบทกันสิน่ะ"
              "แต่ฉันต้องการจะรู้ว่า ทั้งนายและแม่ของนาย ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันละ" ริดโอบุลท์ถาม
              ริบอยกล่าว "ในเมื่อผมอยู่ในกำมือของพวกคุณเช่นนี้ ผมไม่มีอะไรปิดบังกันแล้วละ" แล้วก็บอกไปว่า "เพราะว่าคุณแม่ รับคำสั่งเสียจากคุณปู่ริธฟอนโซ่ที่จากไปนั้น ให้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ หยุดยั้งคุณพ่อและพวกให้หยุดก่อกรรมทำชั่ว และก่อการเป็นกบฎต่อจักรวรรดิ์แรซัลก้า แล้วก็สหพันธมิตรแมนิเกเตอร์กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกคุณและคุณพ่อ พ่ายแพ้และได้รับการตัดสินลงโทษตามกฎหมายโดยสมบูรณ์กันนี้แหละ"
              "ว่ายังไงน่ะ....นี้แม่แกและพวก กล้าถึงขั้นนั้นเลยหรือ" ริดโอบิทโวยลั่น
              ริดโอบุลท์บอก "เข้าใจแล้วละ พอคุณเพดูน่าเสีย นายกับริเกิร์ลก็สานต่อเจตนารมณ์ที่คุณเพดูน่าได้รับจากคุณปู่เจ้าสั่วกัน โดยให้ความช่วยเหลือต่อพวกไทรเวเซอร์ แล้วก็กองรบที่ 16 ของนายพลวอลเลนซ์อย่างงั้นสิน่ะ"
              "ใช่ เพราะผมกับริเกิร์ลเชื่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังหัวหอกของฝ่ายสหพันธมิตรที่กำชัยเหนือแรซัลก้าในมหาสงครามแมนิเกเตอร์กันละก็ พวกคุณก็จะถูกกดดันอย่างหนักจนต้องยอมจำนนต่อกฎหมายภายในเวลาอันสั้นกัน อย่างน้อย พวกคุณจะได้ไม่ต้องประสบชาตะกรรมเดียวกับที่คุณพ่อบาราน่าและพวกลุงป้าน้าอาที่ร่วมอุดมการณ์กันไว้นะ" ริบอยบอก "เพียงแต่ ทั้งพวกคุณพ่อและพวกคุณเอง คงจะมีผู้หวังดีที่ให้ความช่วยเหลือ จนรอดมาได้กันเลยสิน่ะ"
              ริดโอแบทบอก "แม้ว่าเขายังไม่ได้บอกเราเรื่องนายกันเลยก็ตาม และเราไม่รู้ว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ แต่นั้นไม่สำคัญแล้ว เพราะแผนการโค่นรัฐบาลสหพันธมิตรเพื่อแก้แค้นให้กับพวกพ่อของเรานั้นกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วละ"
              "พวกเราจะเริ่มจากการบดขยี้กองรบของวอลเลนซ์ก่อน จากนั้นก็เก็บสแปรที่เหลือตาม แน่นอน ว่ากองกำลังไทรเวเซอร์ไม่มีทางทำอะไรได้หรอกน่ะ" ริดโอโบลบอก
              ริดโอบิทกล่าว "เพราะว่าเรามีไอ้เซอร์แพนเนสกับพวกซอมบี้ทรอยอาร์ กับไอ้องค์ชายเทเนดีนกับกองรบผีเน่าโลงพุอยู่ในกำมือ แน่นอนว่าไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาหาเรื่องกับพวกเราได้หรอก"
              "แต่คุณคงไม่รู้หรอกน่ะ ว่าใครเป็นคนฆ่าคุณพ่อริดโอบาราน่ากันแล้วน่ะ" ริบอยกล่าว โดยที่เจเนล จิลและไซโคลเนียแอบเข้ามาอยู่ด้านหลังลังเหล็กในโกดังกันแล้ว
              ริดโอบุลท์บอก "ก็พวกทหารซัลคาเลี่ยนกันนะสิ พวกมันยิงพ่อเราจนพรุนในช่วงที่หนีออกทางประตูหลังไว้ แล้วยังมาไล่ล่าพวกเรากันด้วยน่ะ"
              "เปล่าเลย ก่อนหน้าที่คุณพ่อบาราน่าจะถูกยิงพรุนไปทั่วร่างนั้น คุณพ่อถูกผู้หวังดีที่ให้ความช่วยเหลือกับเขามาตลอดเล่นงาน และผู้หวังดีนั้นก็คิดจะเก็บพวกคุณกันในไม่ช้าแล้วด้วยน่ะ" ริบอยบอก
              ริดโอแบทถาม "ผู้หวังดีนะหรือ นายพูดเหมือนรู้ว่า ผู้หวังดีนั้นเป็นใครอย่างงั้นละสิ ริบอย"
              "ผู้หวังดีที่ให้ความช่วยเหลือพวกคุณพ่อ แล้วก็พวกคุณทั้งห้ากันนั้น คือนายทหารชราที่พยายามจะเกลี้ยกล่อมคุณพ่อที่ถูกไล่ต้อนอยู่ในบ้านให้ออกมามอบตัว แต่คุณพ่อกลับให้คำตอบด้วยการยิงสวนจนเกือบตาย จนทำให้เขาแค้นมาก เลยเอาคืนคุณพ่ออย่างสาสมก็เท่านั้นแหละ" ริบอยกล่าว
              ริดโอบุลท์เลยจ้องหน้าริบอยในระยะประชิด "นายหมายถึง เสนาธิการวอลเดนสไตน์นะหรือ ที่ฆ่าพ่อของเรากันน่ะ" ริบอยพยักหน้า ริดโอบุลท์เลยถอยออกมาแล้วถามต่อ "แล้วหลักฐานล่ะ"
              "คุณริดโอบิททำลายเครื่องบันทึกเสียงนั้นทิ้งไปแล้ว เพราะเขาคิดว่าเครื่องบันทึกเสียงนั้น แม่ของพวกเราซื้อมา ทั้งๆที่เราบอกว่านั้นเป็นของที่คุณแม่ทำขึ้นแล้ว...." ริบอยอ้าง
              ริดโอแบทกล่าว "แปลว่านายไม่มีหลักฐานแต่แรกแล้วสิ น่าเสียดายนะ ริบอย ที่พวกเราไม่เชื่อในสิ่งที่นายเล่ามากันหรอกน่ะ"
              "เพราะว่าลูกคนใช้อย่างนายคงจะอ้างเพื่อเอาตัวรอดกันเลยสิน่า ขนาดแกและแม่ของแกก่อกวนพวกเรากันเช่นนี้ นึกหรือว่าที่แกพูดมานั้น ใครจะไปเชื่อเลยละ" ริดโอบิทบอก
              ริบอยกล่าว "ผมรู้อยู่แล้วละ ว่าพวกคุณคงไม่เชื่อที่ผมเล่าแน่ๆ เพียงแต่ ผมกลัวว่าพวกคุณจะซ้ำรอยเดิมที่คุณพ่อเป็นกันในไม่ช้าแล้วละ"
              "หรือ....แต่ถึงตอนนั้น พวกเราก็จะเป็นฝ่ายชนะแล้ว ต่อให้มีใครหน้าไหนหลอกใช้พวกเรา พวกเราก็จะจัดการกับพวกมันให้สาสมกับที่มันทำกับพ่อของเรากันนี้แหละ ไอ้ลูกคนใช้" ริดโอบิทเลยเดินมา พร้อมกับชักปืนสั้นมา "ก่อนที่แกจะตาย ฉันรู้น่ะ ว่าแกมันเจ้าเล่ห์พอๆกันกับแม่ของแก และฉันก็ไม่เชื่อแน่ๆ ว่ายัยริเกิร์ลตายไปแล้วแน่นอน ดังนั้น บอกมา ไทรเวเซอร์เอายัยริเกิร์ลไปไว้ไหนละ"
              ริบอยบอก "น้ำเสียงของคุณดูตะคอกไปนิ มันไม่หนักหนาไปหน่อยเลยหรือ ทั้งๆที่คุณน่าจะใจเย็นได้แล้วน่ะ"
              "ป้ากกกก" ริดโอบิทถีบริบอยจนล้มลงกับพื้น จนทำให้ลูกน้องทั้งสองที่ล็อกตัวล้มตามไปด้วย "เพราะแก โปรเจคมาสเตอร์พีชของฉันหลายอย่างต้องพังพินาศพร้อมกับทุกอย่างที่เราสร้างมาไปไม่ว่า แกยังใส่ความลอลาคดินให้ต้องตายแทนพวกแกกันเช่นนี้ แต่ฉันยังไม่ให้แกตาย จนกว่าฉันจะฆ่าทั้งแกและน้องสาวแกที่หลบซ่อนอยู่ไหนสักแห่ง ให้สาสมกับการที่แกสองตัว มาก่อกวนพวกเรากันน่ะ"
              ริบอยกล่าว "ทั้งหมดนั้นเพราะว่าพวกคุณเลือกที่จะสานต่อในสิ่งที่คุณพ่อกับพวกคุณลุงกันเองต่างหากละ การที่พวกเราและพวกคุณรอดจากการจับกุมไปได้นั้น เพราะว่าจักรวรรดิ์ต้องการให้พวกเราใช้ชีวิตใหม่ในฐานะพลเมืองของแรซัลก้า พลเมืองของสหพันธมิตร โดยที่ไม่ต้องก่อความเดือดร้อนแบบเดียวกับที่คุณพ่อทำกัน เพราะการกระทำของพ่อและพวกนั้น ล้วนมาจากการชี้นำของวอลเดนสไตน์ที่ต้องการให้พวกพ่อและพวกคุณ กลายเป็นองค์กรอาชญากรรมที่โด่งดังมาก จนเป็นโอกาสให้เขาได้สร้างผลงานผ่านการจับกุมของพวกคุณไว้ ซึ่งคุณปู่ริธฟอนโซ่รู้เรื่องแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยขอร้องให้คุณแม่ขัดขวางพวกเขากัน เพราะการกระทำของพวกคุณพ่อและพวกคุณในตอนนี้ คือการตั้งตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งความล้มเหลวของการกระทำนี้คือตายสถานเดียวเท่านั้นน่ะ" แล้วก็ส่ายหน้ามา "แน่นอน ว่าพวกคุณที่สนแค่ต้องการชำระแค้นให้กับคุณพ่อบาราน่า และต้องการข่มคามาลตัสที่เยาะเย้ยพวกคุณกันนั้น คงไม่มีทางฟังผมและริเกิร์ลห้ามได้แน่ๆ เพราะว่าพวกคุณ คิดว่าตัวเองเหนือกว่ากฎหมายกันหรือ ถึงได้กล้าทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ในสถานการณ์ที่ระบบดาวของเรากำลังจะถูกเดลอาเนี่ยนทำลายล้างกันแล้วน่ะ"

              "ปากดีนักน่ะ ไอ้ลูกคนใช้ ฉันไม่จำเป็นต้องพึงแกหรอก เพราะฉันจะตามหาน้องของแกจนเจอเองแหละ" ริดโอบิทกล่าว และชักปืนยิง "ปุ๊ ป้ากกก" แต่ปืนกลับกระเด็นหลุดมือ ซึ่งเป็นฝีมือของ....
            "พอแค่นั้นแหละ ไอ้พวกริดโอ" เจเนลกล่าวโดยที่ใช้ริมฟ็อกซ์ติดกระบอกเก็บเสียงยิงใส่ปืนของริดโอบิท เดินมาพร้อมกับจิลและไซโคลเนียด้วย
              "ไทรเวเซอร์....พวกแกไม่น่าตามพวกเรากันได้เลยนิ ในเมื่อเรามีเครื่องส่งสัญญาณก่อกวนกันแล้วน่ะ" ริดโอแบทบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "พวกเราตามมาได้ เพราะน้องชายปากดีของพวกนายส่งเสียงดังจนพวกเรารำคาญกันแล้วน่ะ"
              "ต่อให้พวกแกมา มันไม่ทันการณ์กันหรอก จัดการเดียวนี้เลย" ริดโอเบล่าส่งลูกน้องออกมา โดยที่ลูกน้องถือดาบอนุภาคของเดลอาเนี่ยนออกมา "ฟ้าวๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" ลูกน้องหกรายแรกโดนไซโคบิทกระแทกใส่จนเสียหลัก "ฟ้าววว ซูมมมม ป้าก โครมมม ป้ากกก" เจเนลใช้ชาร์จคิกถีบใส่ลูกน้องรายแรกจนปลิวกระเด็นอัดกับเสาไปเต็มๆ ส่วนไซโคลเนียใช้เบิร์ดแทคเกิ้ลกระแทกรายที่สองจนล้ม แล้วก็จับตัวมา "หวับ ฟ้าวว เปรี้ยงงง" พุ่งอัดกระแทกกับลูกน้องรายที่ 3 ตาม "ฟ้าววว แว้งง โครมๆๆๆ" ลูกน้องอีก 4 รายกระโดดมารุมเล่นงานจิล แต่เธอเทเลพอร์ตหนีจนพวกนั้นล้มกองกับพื้น "แว้งง ฟิ้ว แกร็กๆๆๆๆ" และยิงฟรีซสแปรชเชอร์แช่แข็งลูกสมุนริดโอทั้งสี่อย่างจังๆ "เฮ้ย" เจเนลถีบลูกสมุนรายที่ 4 เข้ากลางหลัง ในจังหวะที่รายที่ห้าถูกไซโคลเนียต่อยที่ท้องแล้วจับตรงหน้าและบินพาขึ้นไปทุ่มลงไปอัดกับลูกน้อง 4 รายที่ถูกแช่แข็งและลูกน้องที่ถูกเจเนลถีบ "เพล้งงงง" จนลูกน้องทั้งสี่แตกกระจายไป "ปุ๊ๆๆ" เจเนลใช้ริมฟ็อกซ์ยิงใส่ลูกสมุนรายที่ 6 เข้าที่หน้าผากและตาทั้งสองข้างดับอนาจลง "เฮ้ยยยยย" ริดโอโบลกระชากเสาเหล็กในโกดังออกมา "หวับบบ กร้องงงง กร้องงง กร้องงงง" ไล่ตีเจเนล จิล และไซโคลเนียกันอย่างดุเดือด "แฟ้ววว ป้าก แกร็กๆๆๆๆ" จิลยิงฟรีซสแปรชเชอร์แช่แข็งเท้าของริดโอโบลไว้ แต่ริดโอบุลท์ ริดโอแบทและริดโอเบล่าบุกเข้ามา "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ แกร็กๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆๆ" ไซโคลเนียใช้มิเดี้ยมมิไซล์แบบหัวกงเล็บเข้าล็อกตัวริดโอบุลท์และริดโอเบล่าตรงต้นแขน ต้นขา และคอเอาไว้ แต่ริดโอแบทใช้ดาบฟันจรวดทิ้งลง และบุกเข้ามา "เกร้งงง" เจเนลเลยใช้เมทัลเบลดต้านรับไว้อย่างทันท่วงที แล้วก็ "ป้ากกก เปรี้ยงงง" ถีบใส่ริดโอแบทให้เสียหลัก และใช้เครเซนท์คิกเสยปลายคางริดโอแบทไปเต็มๆ โดยที่ริดโอบิทรีบวิ่งไปหยิบปืนมาเพื่อยิงใส่ริบอย "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" จิลเลยใช้ไซโคบิทพุ่งกระแทกใส่ริดโอบิทขัดจังหวะเอาไว้ "หวับ เพี้ยะ" ริดโอเบล่าหวดแส้ฟาดใส่จิล ซึ่งรีบหลบออกมาได้ทัน จนทำให้ไซโคบิทหยุดทำงานลง "ย้ากกกกก" ริดโอโบลกระเทาะน้ำแข็งออกและพุ่งเข้าใส่จิล "เปรี้ยงงงง" เจเนลเลยกระโดดถีบด้วยเจเนลคิกใส่ริดโอโบลจนล้มหลังกระแทกพื้น "ฮา" ไซโคลเนียใช้วินด์สแลชหยุดริดโอเบล่าไว้ แต่ริดโอบุลท์บุกเข้ามา "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" กลับถูกกระสุนไฟฟ้ายิงโดย
              "ริบอย นี้นาย...." ริดโอบุลทสบถเพราะริบอยใช้ปืนยิงกระสุนไฟฟ้าเอาไว้
              "อย่างน้อย ผมก็ทำให้พวกคุณรับการลงโทษด้วยกฎหมายอย่างสาสมกันนี้แหละครับ" ริบอยบอก "อย่างน้อยถ้าไม่เห็นแก่คุณพ่อที่ตายไปเพราะคนที่หลอกใช้พวกคุณ ก็ควรเห็นแก่คุณแม่ของคุณด้วยนะครับ"
              เจเนลบอก "ริบอยพูดถูกแล้วละ พวกนายควรจะหยุดได้แล้ว ก่อนที่พวกนายจะจบเห่เหมือนพ่อของนายกันน่ะ"
              "นายหวังดีกับพวกเรามากเช่นนี้ มันก็ดีอยู่หรอกน่ะ" ริดโอบุลท์กล่าว "แต่ พวกเรามาไกลเกินกว่าที่จะถอยหลังกลับแล้วละ" จากนั้นลูกน้องแก็งค์ริดโอ 3 รายโผล่มาพร้อมกับเครื่องยิงจรวด "แฟ้ววว ตรูมมม" เข้าจู่โจมใส่พวกเจเนลจนรีบถอยออกมาแทบไม่ทัน โดยตอนนี้ริดโอบุลท์ ริดโอแบท ริดโอโบล และริดโอเบล่ารีบลุกขึ้นมาแล้ว "ฟิ้วๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆ" ริบอยรีบยิงปืนไฟฟ้าหยุดพวกริดโอบุลท์โดยเร็ว "ปัง" แต่เสียงปืนดังขึ้น
              "คุณริดโอบิท" ริบอยกล่าวโดยที่หน้าอกมีรูทะลุ เพราะริดโอบิทถือปืนเอาไว้
              "สมน้ำหน้าแล้วละ ไอ้ลูกคนใช้ แกกล้าหยุดพวกเรา งั้นแกก็ตายไปพร้อมพวกไทรเวเซอร์กันเสียเหอะ" ริดโอบิทกล่าวแล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่ริบอยอย่างต่อเนื่อง "ฟ้าว ป้ากกก"  จิลเลยใช้พลังจิตควบคุมลังเหล็กให้พุ่งกระแทกใส่ริดโอบิทจนล้มลง "ฟ้าวๆๆๆ ป้ากๆๆๆ" แล้วก็ควบคุมกล่องเหล็กอีก 4-5 ใบให้กระแทกใส่ลูกน้องที่ถือเครื่องยิงจรวดไปด้วย
              เจเนลเลยรีบคว้าตัวริบอยไว้ "ทำใจดีๆไว้น่ะ ริบอย" แล้วก็บอก "ไซโคลเนีย จิล ถอยด่วนเลย"
              "เข้าใจแล้วละ" ไซโคลเนียกล่าว แม้เธอไม่อยากจะปล่อยพวกริดโอให้ลอยนวลเลยก็ตาม "แกร็ก ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" เธอจำต้องใช้ไมโครมิไซล์ตรงหัวไหล่ทั้งสองข้างยิงใส่พวกริดโอให้ชะงัก แล้วรีบหนีตามเจเนลและจิลที่ได้ตัวริบอยออกมาข้างนอก "ซ่า ซ่า" เฮฟโวลและฟอร์เทสซิกัสโผล่ขึ้นจากน้ำมา พร้อมกับการ์เซนท์ติดมารีนครุยเซอร์ด้วย
              "ริบอยเป็นไงบ้างละ เจเนล" เนคมาดูซัมถามโดยที่เปิดคอกพิตออกมาแล้ว
              "ริดโอบิทมันกราดยิงใส่ริบอยแล้วนะสิ" เจเนลบอก
              คลอเวฟบอก "ดีที่เราพาหมอเดเมี่ยนมาด้วย หลังจากที่เราเคลียร์ไอ้สกรีแทนของพวกริดโอที่อยู่ใต้น้ำกันไปแล้วน่ะ" แล้วเจเนลแบกริบอยลงมาที่การ์เซนท์มารีนครุยเซอร์พร้อมกับจิลและไซโคลเนียโดยเร็ว แล้วเนคมาดูซัมกับคลอเวฟก็รีบพาดำน้ำออกไปจากท่าเรือโดยเร็ว
              "หนอยยย มัวทำอะไรอยู่ รีบไล่ตามไปฆ่าไอ้ลูกคนใช้นั้นเดียวนี้เลย" ริดโอบิทโวยวาย
              ริดโอแบทบอก "ใจเย็นสิ ริดโอบิท นายยิงใส่ริบอยเยอะขนาดนั้น ต่อให้พวกไทรเวเซอร์มาช่วยก็คงไม่น่ารอดได้หรอกน่ะ"
              "นั้นสิ ตอนนี้พวกไทรเวเซอร์คงไม่คิดที่จะไล่ตามพวกเรากันได้หรอก" ริดโอบุลท์กล่าว "แต่ตอนนี้ เราควรจะหลบออกจากที่นี้เสียก่อน เพื่อเริ่มแผนการทำลายพวกกองทัพของสหพันธมิตรที่เราวางไว้แล้วน่ะ"
               ริดโอโบลกล่าว "ดีเลย เพราะผมหงุดหงิดมากกับคำพูดพร่อยๆของริบอยกันแล้วนะ"
              "ถ้าเช่นนั้น ริดโอเบล่า เธอกับลูกสมุนส่วนหนึ่ง ช่วยเบอกันดี้คุ้มกันสถานีก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์ลับกันไว้ เผื่อว่าพวกไทรเวเซอร์อาจตามพวกเรามาได้น่ะ ฉันกับริดโอแบทและริดโอโบลจะเตรียมทีมไว้จัดการกับนายพลวอลเลนซ์ในวันมะรืนนี้" ริดโอบุลท์สั่งการ "ริดโอบิท ตอนนี้นายวางใจเรื่องริบอยกันแล้ว ฉะนั้น ฉันจึงขอให้นายโฟกัสไปที่ภารกิจหลักเดียวนี้เลย เพราะคำพูดชุดสุดท้ายของริบอยนั้น ทำให้ฉันรู้สึกหวั่นเกรงเสียแล้วละ"
              ริดโอบิทบอก "บอกตรงๆน่ะ ว่ามันไม่น่าเป็นจริงได้เลย ที่พวกเดลอาเนี่ยนจะบดขยี้ดาวของพวกเรากัน ทั้งๆที่พวกเราช่วยให้พวกเดลอาเนี่ยนมายึดครองดาวกันแท้ๆ แต่ก็ดีแล้ว ที่ไอ้ลูกคนใช้นั้นมันก็ตายไปเสียได้น่ะ (แต่จะดีมาก ถ้าฉันเจอตัวริเกิร์ลแล้วสั่งให้ฆ่าหล่อนทิ้งไปซะ อย่างน้อยลูกคนใช้ทั้งสองจะได้ไปเจอแม่มันในนรกนี้แหละ)" แล้วทั้งหมดก็ถอนตัวไป โดยหารู้ไม่ว่าบางอย่างในตัวริดโอบิทสำแดงบางอย่างที่ไม่ปกติกัน

              ส่วนพวกไทรเวเซอร์นั้น ก็พาริบอยกลับมาที่เฟิร์สฮิลล์เพื่อทำการรักษากันแล้ว ที่ห้องฉุกเฉินในฐานบัญชาการที่ 11
              "ถ้าพวกเราไม่พลาดท่าให้กับพวกริดโอ ริบอยก็คง..." เจเนลกล่าว
              พีวิลปลอบใจ "นายทำดีที่สุดแล้วละ เจมส์ อย่างน้อยก็ดีกว่าริบอยตายโดยที่พวกนายไปช่วยไม่ทันการณ์เลยน่ะ"
              "แน่ละ เพราะพวกริดโอแอบเอาสกรีแทนมาดักซุ่มไว้ใต้ทะเลห่างจากอ่าว เพื่อหวังจะใช้มันส่งไปก่อความเดือดร้อนเพื่อดึงความสนใจของพวกเราให้ห่างจากพวกริดโอไว้กันน่ะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมบอก "และพวกที่ดักซุ่มเองคงไม่ได้รับคำสั่งให้ลงมือ เพราะระบบสื่อสารของสกรีแทนเหล่านั้นมันเกิดลัดวงจรในช่วงลงน้ำกันเสียก่อน จนเปิดโอกาสให้ฉันกับคลอเวฟจัดการลงไปได้นี้แหละ"
              "คิดว่านายพลวอลเลนซ์รู้เรื่องนี้หรือเปล่าละคะ" จิลบอก
              จูเดทต้ากล่าว "ยังดีหน่อยหนึ่งที่โกดังเหล่านั้นกล้องวงจรปิดพังเสียหายมาก่อนแล้ว และพื้นที่ท่าเรือโดยรอบเองก็ไม่มีใครเดินผ่านมา บวกกับเครื่องส่งสัญญาณก่อกวนช่วยปกปิดการกระทำของพวกริดโอและพวกเธอไว้ได้ในระดับหนึ่ง นายพลวอลเลนซ์ก็คงไม่ทราบเรื่องกันเลยน่ะ" แล้วก็บอก "แน่นอน ว่าพวกริดโอตั้งใจจะฆ่าริบอยให้ตายโดยทำให้คนอื่นคิดว่าริบอยถูกโจรปล้นฆ่าชิงทรัพย์กันไว้น่ะ"
              "หวืออออ" ไฟหน้าห้องผ่าตัดดับลง "ชักจะไม่ใช่เรื่องดีแล้วละสิ" สเปียริทบอก แล้วเดเมี่ยนก็เดินออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวั่นเกรงว่า
              "คงต้องให้พวกนายรบกวนไปแจ้งริเกิร์ลถึงข่าวร้ายแล้วละ"
              "หมอ หมอคงไม่ได้หมายความว่า...." เจเนลกล่าว
              เดเมี่ยนส่ายหน้า "ริดโอบิทยิงกระสุนเข้าจุดสำคัญของริบอยกันไม่ว่า กระสุนที่ฝังอยู่ในร่างของริบอยนั้น อาบไซยาไนต์เอาไว้ด้วย บ่งบอกว่า ริดโอบิท ต้องการให้ริบอยตายอย่างแน่นอนเลยละ" แล้วก็บอกว่า "แม้ว่าฉันจะใช้ยาต้านพิษเอาไว้แล้ว แต่ริบอยเสียเลือดมาก จนพิษส่วนหนึ่งเข้าไปสร้างความเสียหายอย่างหนักหนาตาม ฉันจึงทำได้แค่ให้เวลาเขาอยู่ได้ในเวลาสั้นๆแล้วละ"
              "....." เจเนลได้ฟังเลย "เปรี้ยงงง" ถีบตรงผนังจนยุบลึกเข้าไป
              สเตฟอร์ดบอก "เจมส์ ถึงนายถีบผนังให้เป็นรูโตๆ ริบอยก็ไม่ฟื้นกันหรอกน่ะ"
              จายด์เสริม "จริงด้วย ริบอยเสียสละตนเพื่อช่วยปกป้องพวกนายเอาไว้ นายไม่ควรทำให้เขาตายด้วยความเป็นห่วงกันหรอกน่ะ"
              "ถ้าผมอดทนมากกว่านี้หรือคิดวิธีที่นอกเหนือจากนี้ได้ละก็ ผมคงไม่ทำให้พวกคุณลำบากกันหรอกนะครับ" ริบอยบอกโดยที่พวกไทรเวเซอร์อยู่ในห้องผ่าตัดกันแล้ว
              เจเนลบอก "ริบอย ฉันน่าจะจัดการกับริดโอบิทลงไปซะ อย่างน้อย นายก็ไม่น่าที่จะ...."
              "ต่อให้คุณริดโอบิทตาย คุณริดโอบุลท์และที่เหลือก็คงไม่เอาผมไว้กันนี้แหละครับ ซึ่งนั้นหมายถึงริเกิร์ลก็ต้องเดือดร้อนตามไปด้วย" ริบอยกล่าว "อีกอย่าง ถึงผมจะตาย แต่ก็ใช่ว่าคุณริดโอบิทจะรอดไปได้ เพราะเขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้างน่ะ"
              จิลกล่าว "เราเองก็รู้เช่นกัน และโชคดีมากที่เธอยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เพราะฉันรู้ ว่าพวกริดโอบุลท์ที่เหลือเองก็รู้แต่ปิดเงียบเอาไว้ก็เท่านั้นเองแหละ"
              "แต่ผมก็รู้สึกดีใจมากๆนะครับ ที่ผมได้ทำในสิ่งที่ผมทำลงได้จนครบถ้วนแล้ว แต่อย่างเดียวที่ผมกังวลกันก็คือริเกิร์ลนี้แหละ" ริบอยบอก "หลังจากที่ผมและพวกคุณริดโอบุลท์จากไปกันหมดแล้ว ริเกิร์ลก็ต้องอยู่เพียงลำพังกัน และไม่รู้ว่า เธอจะอยู่ต่อไปได้ยังไงกันน่ะ"
              พีวิลบอก "อย่าห่วงไปเลย เราให้บรอนเซอรูทดูแลริเกิร์ลกันไว้แล้ว เขากับพวกพี่น้องจะช่วยดูแลริเกิร์ลให้เองน่ะ"
              "นั้นก็ดีแล้วละครับ เพราะผมเชื่อว่าคุณบรอนเซอรูทน่าจะช่วยดูแลริเกิร์ลแทนผมได้แน่นอน" ริบอยกล่าว "และผมอยากให้พวกคุณอย่าถือสากับการกระทำของคุณบรอนเซอรูทกันด้วยนะครับ"
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ตราบใดที่บรอนเซอรูทไม่ออกนอกลู่นอกทางกันละก็ เขาก็คงไม่ก่อปัญหากันได้หรอกน่ะ"
              "ผมหวังว่ามันคงจะเป็นเช่นนั้นกันนะครับ" ริบอยกล่าวและหันมายังจูเดทต้าและนีลเซนท์ "ผมขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำผิดกฎเอาไว้จนไม่ได้อยู่รับการลงโทษกันด้วยน่ะ"
              จูเดทต้าบอก "เธอทำไปเพราะถูกพวกริดโอข่มขู่เอาชีวิตริเกิร์ลไว้ ฉันไม่ถือว่าเธอทำผิดหรอกน่ะ"
              "แต่นายไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ก็ได้นิ นายก็ขอให้พวกไทรเวเซอร์ช่วยก็ได้เลยน่ะ" นีลเซนท์บอก
              ริบอยส่ายหน้า "ถึงทำเช่นนั้น พวกริดโอก็หาเรื่องจัดการกับฉันได้อยู่ดีนี้แหละ เพราะผมรู้ว่าดัสท์คิลเลอร์อยู่ในตัวเมืองนี้ คงจะหาทางจับตัวฉันมาส่งกับพวกริดโอในภายหลัง และพาไปที่ลับตาเพื่อเค้นข้อมูลแล้วก็สังหารทิ้งจนไม่มีใครพบเจอกันซะมากกว่า" แล้วก็บอก "แต่ฉันก็รู้สึกดีใจแล้วที่ได้แสดงความกล้าให้พวกคุณริดโอบุลท์เห็น แม้นี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายเลยก็ตามน่ะ"
              "นายไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้น่ะ ริบอย นายทำให้พวกนั้นรู้ว่า นายมิใช่แค่ลูกคนใช้กระจอกงอกง่อย แต่นาย เป็นลูกของยอดโปรแกรมเมอร์และนักประดิษฐ์ที่เก่งกาจมากที่สุด แต่ไม่มีใครเห็นคุณค่าและเมินเฉยกัน ซึ่งนายกับริเกิร์ล ช่วยเหลือพวกเรากันมาโดยตลอด และยอมรับว่านายสองตนนั้น ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยของพวกเรา แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา กองกำลังไทรเวเซอร์กันด้วยน่ะ" เจเนลบอก
              ริบอยยิ้มและบอกว่า "ผมกับริเกิร์ลทำไปเพราะอยากจะช่วยเหลือพวกคุณกันจริงๆนะครับ และพวกเราภูมิใจที่พวกคุณเห็นคุณค่าของพวกเรา เช่นเดียวกันกับคุณปู่ริธฟอนโซ่ที่เห็นความสามารถของคุณแม่กันได้นะครับ" แล้วก็บอกว่า "แน่นอน ที่พวกเรามาถึงตรงนี้ พวกเราควรจะขอบคุณคุณซะมากกว่านะครับ คุณเจเนล ที่เข้ามาช่วยพวกเราไว้น่ะ"
              "ฉันแค่ทำในสิ่งที่ควรทำไว้ แม้จะสงสัยในทีแรกว่าพวกนายทั้งสองไปอยู่ในรถบรรทุกที่ติดระเบิดแรงสูงกันได้ไงก็ตามน่ะ" เจเนลบอก
              ริบอยกล่าว "ดูเหมือนว่าทั้งคุณและผมเองก็มีอะไรเหมือนกันจนได้สินะครับ" แล้วก็พูดไปว่า "แน่นอน ว่าผมคงต้องขอโทษด้วย ที่ไม่สามารถหยุดพวกคุณริดโอบุลท์ไม่ให้ซ้ำรอยเดียวกับท่านพ่อไว้เลยนะครับ"
              "พวกริดโอบุลท์เลือกที่สานต่อในสิ่งที่ริดโอบาราน่าทำเอาไว้ เธอ ริเกิร์ลแล้วก็แม่ของเธอทำดีที่สุดแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก
              ริบอยกล่าว "เพราะว่าพวกเขาเลือกเองเช่นนี้แล้วละก็... ผมอยากให้พวกคุณหยุดยั้งพวกเขาเอาไว้ ก่อนที่พวกเขาช่วยให้วอลเดนสไตน์ได้ในสิ่งที่เขาควรจะได้กันนะครับ"
              "เธอขอให้พวกเรา กำจัดพวกริดโออย่างงั้นนะหรือ" มาสวาร์ทาร์บอก
              ริบอยพยักหน้า "พวกคุณริดโอบุลท์ไม่คิดที่จะถอยหลังกลับกันแล้ว แม้ว่าการกระทำของพวกเขานั้น ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ตระกูลริดโอก็ต้องจบเห่ลงอย่างแน่นอน และผมกับริเกิร์ลเอง ก็ไม่อยากจะสานต่อในการกระทำเหล่านั้นกันด้วย เพราะว่าผมกับริเกิร์ลรับปากกับคุณแม่ให้สานต่อในเจตนารมณ์ของคุณปู่ริธฟอนโซ่ไว้ ดังนั้น ผมจึงอยากให้ชื่อของตระกูลริดโอถูกลบเลือนไปกับกาลเวลาที่ยาวนานซะ เพื่อมิให้มีใครต้องถูกหลอกใช้ให้ทำความเลวเหมือนกับพวกคุณริดโอบุลท์กัน จนมีจุดจบน่าเศร้าเช่นนี้ด้วย" แล้วก็บอกว่า "แต่ผมโชคดีมาก ที่สหพันธมิตรยังมีพวกคุณยืนอยู่ แม้ผมจะจากไป ผมก็ไปโดยหมดห่วงแล้ว เพราะผมเชื่อเสมอ ว่าพวกคุณต้องหยุดยั้งปัญหาอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับแรซัลก้ามาตลอด 40 ปีลง จนสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์อยู่กันอย่างสงบสุขกันแน่นอน"
              "ถึงเธอไม่บอก พวกเราก็ต้องหยุดยั้งพวกริดโอกันอยู่แล้วละ ริบอย" พีวิลกล่าว
              เจเนลบอก "และไม่ต้องห่วงเรื่องริเกิร์ลหรอกน่ะ เพราะพวกเราจะดูแลเธอเอาไว้เองน่ะ"
              "ขอบคุณมากนะครับ คุณเจเนล แล้วก็พวกคุณทั้งหมดด้วย...." ริบอยกล่าว "บอกตามตรงนะครับ คุณเจเนล ว่าผมปลาบปลื้มคุณมากๆ หวังว่าคุณคงจะจดจำผมไว้ เพื่อเล่าให้ริเกิร์ลและคนรุ่นหลังรับทราบกันนะครับ"
              เจเนลบอก "นายไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วนะ"
              "แน่ละครับ เพราะว่าคุณปู่และคุณแม่ รออยู่นานแล้ว....ผมคงต้องไปกับพวกเขาแล้วละครับ" ริบอยกล่าวแล้วก็หลับตาลง "ตี้ดดดดดดด" เครื่องวัดเครื่องหัวใจดังลั่น บ่งบอกว่าริบอยได้จากไปอย่างสงบแล้ว ทั้งหมดในห้องต่างโศกเศร้ากันขึ้นมา
              "ริบอย.....ฉันภูมิใจมากที่นายยังเห็นฉันเป็นฮีโร่กันเช่นนี้ ฉันไม่มีทางลืมชื่อนายไปได้อีกเลยแล้วละ" เจเนลกล่าวโดยที่น้ำตานองหน้าขึ้นมา

              หลังจากนั้น วิลด้าก็รีบพาสเปียริทและลิเนียร์ตี้ ไปแจ้งกับริเกิร์ลที่วอลฟอร์เรสถึงการตายของริบอยไว้ ซึ่งริเกิร์ลได้ฟังก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก โดยที่เธอไปกับพวกวิลด้าเพื่อแวะพบริบอยที่จากไปแล้ว แน่นอน ว่าพวกไทรเวเซอร์ตัดสินใจจะจัดงานศพของริบอยกันในวันต่อมา โดยให้ฌาปนากิจศพริบอย เพื่อมิให้มีผู้ไม่หวังดีนำร่างไปดัดแปลงคืนชีพกันต่อ โดยเฉพาะคนของพวกริดโอ หลังจากนั้น พวกวิลด้าก็พาริเกิร์ลกลับมาอยู่กับพวกบรอนเซอรูทต่อ
              "ฉันเสียใจแทนพวกไทรเวเซอร์ด้วยน่ะ ถึงการสูญเสียที่คาดไม่ถึงที่เกิดจากการกระทำของพวกริดโอไว้น่ะ" วอลเลนซ์กล่าวหลังจากที่เขาทราบเรื่องจากเพอซิอัสกันแล้ว
              เพอซิอัสถาม "ส่วนหนึ่งเพราะเราประมาทพวกริดโอกันไปหน่อยน่ะ วอลเลนซ์ จนทำให้คนดีๆต้องตายไปแบบไม่หวนกลับเช่นนั้นน่ะ"
              "แต่อย่างน้อย พวกริดโอทำอะไรไว้ มันก็ต้องได้รับกรรมอย่างสาสมกันอยู่แล้วละ เพอซิอัส" วอลเลนซ์บอก "พรุ่งนี้ ฉันจะเตรียมกองรบทั้งหมดบุกเข้ากวาดล้างพวกริดโอกันถึงที่พัก เพื่อให้พวกนั้นชดใช้ในสิ่งที่พวกมันก่อเรื่องไว้น่ะ"
              เพอซิอัสกล่าว "แต่นายเองก็ต้องระวังกันด้วยน่ะ วอลเลนซ์ พวกริดโอในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรไปจากริดโอบาราน่ากัน ฉันกลัวว่านายจะ...."
              "ฉันไม่มีทางถูกพวกมันยิงสวนกลับเหมือนกับพ่อของฉันหรอกน่ะ เพอซิอัส" วอลเลนซ์กล่าว "และฉันมั่นใจว่าพวกเราจะกวาดพวกริดโอให้ราบคาบกันไปซะ ก่อนที่ไทรเวเซอร์จะมาถึงกันเสียอีกน่ะ"
              เพอซิอัสบอก "นายดูมั่นใจอย่างมากเลยสิน่ะ วอลเลนซ์ ฉันคงไม่ห้ามนายกันอีกแล้วละ"
              "ถ้าเช่นนั้น นายรอฟังข่าวดีเลยแล้วกัน" วอลเลนซ์บอกและตัดสายโดยทันที
              วอลเดนสไตน์บอก "ดูเหมือนว่า ญาติของพวกริดโอที่ไม่ร่วมด้วยนั้นจะตายด้วยน้ำมือของริดโอเลยสิน่ะ ช่างน่าสงสารเสียจริงๆเลย ที่ไม่น่าตายด้วยน้ำมือของพวกริดโอไปได้น่ะ"
              "นั้นสิครับ เพียงแต่คนของเรารายงานมา ว่าญาติผู้น้องอีกคนพึ่งจะปรากฎตัวในงานศพญาติคนนั้นด้วย บ่งบอกว่าพวกไทรเวเซอร์ให้เธอไปอยู่ที่อื่นกันไว้นะครับ" วอลเลนซ์บอก "ท่านพ่อจะให้ผมจัดการกับเธอเลยมั้ยละ"
              วอลเดนสไตน์กล่าว "ไม่จำเป็นหรอก ญาติที่เป็นแค่ลูกคนรับใช้กระจอกๆนั้น ไม่มีพิษภัยต่อพวกเราและไม่มีค่าสำหรับพวกไทรเวเซอร์กันด้วย มือสังหารของลูกก็ไม่ควรจะเปลืองแรงกับเธอคนนั้นไปได้หรอกน่ะ เพราะเธอสูญเสียพี่ชายไปแล้ว เธอก็ไม่มีแรงใจจะทำอะไรได้แล้วละ"
              "แต่เรื่องที่ทั้งคู่อยู่ในความดูแลของนายพลจูเดทต้านิ ผมก็อดสงสัยไปไม่ได้อยู่ดีนะครับ" วอลเลนซ์กล่าว
              วอลเดนสไตน์บอก "จูเดทต้าแค่ทำหน้าที่ปกป้องพยานเอาไว้ แม้ว่าเธอจะบกพร่องจนปล่อยให้พยานรายหนึ่งตายด้วยอุบายของพวกริดโอกันก็ตาม ส่วนหนึ่งเพราะพวกริดโอฉลาดกว่านี้แหละ" แล้วก็บอก "แต่อีกเดียว พวกมันก็ต้องได้รับการชดใช้กันในไม่ช้านี้แล้วละ"
              "ครับ ท่านพ่อ ผมเตรียมกองรบที่ 16 ไว้จัดการกับพวกริดโอกันแล้วละครับ" วอลเลนซ์บอก
              วอลเดนสไตน์กล่าว "ดี เพราะต่อให้พวกมันลงมือกันยังไง สุดท้าย พวกริดโอก็เดินอยู่บนฝ่ามือของพ่อไปนานแล้วละ"

              ที่เวเซอร์เฮาส์ หลังงานศพของริบอยจบลงไปแล้ว
              "นายยังเก็บมือถือของริบอยไว้เลยหรือ เจเนล" แอบไบออสบอก เมื่อเห็นเจเนลมองดูมือถือของริบอยกันอยู่
              คลอเวฟกล่าว "นายน่าจะส่งคืนริเกิร์ลไปเลยไม่ดีกว่าหรือ"
              "แล้วริดโอบิทส่งข้อความมาบั่นทอนริเกิร์ลกันนั้น ฉันยอมให้ไม่ได้หรอกน่ะ" เจเนลกล่าว "แม้ริเกิร์ลจะโชคดีมากที่เธอใช้มือถือร่วมกับริบอยกัน แต่ฉันก็อดสงสัยไม่ได้ในการกระทำของริบอยในช่วงที่พากลับเฟิร์สฮิลล์น่ะ"
              เนคมาดูซัมบอก "ริบอยกระทำอะไรที่ทำให้นายสงสัยกันเลยหรือ"
              "ริบอยจับมือถือเอาไว้ในมือ แล้วหันมาทางยัยเปี้ยกนี้ จากนั้นก็ใช้นิ้วกดปุ่มไปสองทีด้วยกัน ซึ่งฉันไม่รู้ว่าริบอยจะสื่อถึงอะไรกันนะสิ" เจเนลบอก
              สเปียริทกล่าว "ซึ่งนายคงไม่คิดว่านั้นเป็นการล้อเล่นเลยสิน่ะ"
              "ริบอยใกล้ตายแล้ว ไม่น่าทำแบบนั้นได้หรอกน่ะ สเปียริท" พีวิลบอก
              โฟรซ่ากล่าว "แต่ฉันกลับคิดว่า ริบอยคงทำอะไรสักอย่างกับริดโอบิทกันแน่ๆ และการเอามือถือมาจ่อตรงจิลนิ ก็คือสิ่งที่ริบอยทำกันอยู่น่ะ"
              "อืมมมมมมมม" เจเนลได้ฟังก็ครุ่นคิดหนักขึ้นมา "ตี้ดๆๆๆๆ" ไม่ทันไรก็มีเสียงดังขึ้น "มือถือของริบอยไม่ดัง แล้วของใครดังกันละเนี้ย" เจเนลกล่าว
              ฟิเกซบอก "ของฉันเองแหละ" แล้วก็ใช้มือรองกดปุ่มรับ "โอ้ว ไซเมี่ยนส่งข้อความแสดงความเสียใจเรื่องริบอยด้วยนะ"
              "ผบ.บัลโต้คงจะแจ้งเรื่องนี้ให้ไซเมี่ยนทราบแล้วน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              ฟิเกซกล่าว "แต่ไซเมี่ยนแจ้งบอกด้วยนะ ว่าเขาเจอบางอย่างกันแล้ว และคงไม่ใช่เรื่องดีเสียด้วยน่ะ" แล้วก็นำมือถือมาให้พวกเนคมาดูซัมดู
              "นั้นคงเป็นส่วนหนึ่งของแผนจู่โจมกองรบฝ่ายเราของพวกริดโอกันแน่ๆเลยละ" ไซโคลเนียบอก
              จิลบอก "และถ้าให้เดาน่ะ ริดโอบิทต้องอยู่ที่นั้นเพื่อคุมเครื่องแน่ๆ"
              "ว่าแต่ ไซเมี่ยนอยู่ห่างมากแค่ไหนน่ะ" พีวิลบอก
              ฟิเกซกล่าว "ยังดีหน่อยหนึ่งที่เขาบันทึกภาพนี้ห่างไปค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งเพราะ เขาคงทราบว่าพวกริดโอใช้บริการของเซอร์แพนเนสและเทเนดีนมา เลยต้องอยู่ให้ห่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้น่ะ"
              "ไซเมี่ยนก็คงจะทราบเรื่องลิมิลเตญ่ากันอยู่แล้วละ" เนคมาดูซัมบอก
              ลิเนียร์ตี้เดินมาเพราะได้ยินเสียงกดกริ่งกัน "โพโบโวโล่อยู่หน้าบ้านเราแล้วละ"
              "ถ้าไม่มาเก็บภาษีประจำเดือนนี้ ก็ต้องเป็นเรื่องด่วนแน่ๆเลยละ" สเปียริทบอก แล้วทั้งหมดก็เดินออกมาจากบ้าน
              "วันนี้ขอไม่เก็บภาษีกันดีกว่าน่ะ เพราะฉันเห็นว่าพวกนายเจอเรื่องสูญเสียมาแล้วน่ะ" โพโบโวโล่กล่าวด้วยความเห็นใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไปว่า "ท่านนายพลสั่งให้ฉันแจ้งกับพวกนายด้วยเรื่องสำคัญบางอย่างน่ะ"

              ในขณะเดียวกันนั้นเอง ที่สถานีก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์ลับของพวกริดโอ ซึ่งตอนนี้ พวกริดโอดำเนินแผนการกันแล้ว
              "ริดโอบิท ทุกอย่างโอเคมั้ยละ" ริดโอบุลท์กล่าวโดยเขาอยู่ในลีมูซีนสีเทาพร้อมกับริดโอแบทและริดโอโบล ริดโอบิทที่อยู่ในห้องควบคุมทรงกลมที่มีหน้าจอคอมพิวเตอร์กล่าว
              "ผมได้จัดการเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ภายในกองรบต่างๆในดาวดวงนี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็คือ สร้างความก่อกวนให้กองรบนั้นๆไว้ โดยเหลือเพียงพวกไทรเวเซอร์และกองรบที่ 16 กันเท่านั้นแหละ" และหันมาถาม "ตอนนี้พวกพี่ไปถึงไหนแล้วละครับ"
              "พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังกองรบที่ 16 กันครึ่งทางแล้ว ดังนั้น นายลงมือกันเดียวนี้เลย" ริดโอโบลบอก
              ริดโอบิทกระแอ่มก่อนจะบอกไปว่า "ครับ พี่รอง ที่เหลือนั้น รอรับฟังผลได้เลย" แล้วก็ปิดหน้าจอไป "เอาละ จะเริ่มจากไหนกันดีหน่อ หึๆๆๆๆๆๆ"
              "ตรูมมมมมม" ในกองบัญชาการของกองรบที่ 67 เกิดระเบิดขึ้นอย่างจังๆ "แย่แล้วละครับ ระบบไฟฟ้าภายในคลังแสงระเบิดขึ้นจากการลัดวงจรนะครับ" ทหารแจ้งข่าวกับลากูด้า ซึ่งกล่าวไปว่า
              "เป็นไปไม่ได้น่า คอมพิวเตอร์ควบคุมระบบไฟฟ้าน่าจะตัดไฟในช่วงที่เกิดลัดวงจรมิใช่หรือ" ไม่ทันไร สกรีแทนมาร์ควันในฐานก็เคลื่อนตัวออกมาจากโรงเก็บ ไล่กวดพวกทหารที่วิ่งรอบสนามกันอย่างดุเดือด
              "แฟ้ววววววว แฟ้วววว แฟ้วววว ตรูม บรึมมมม บรึมมม" รถเกราะยิงจรวดในหน่วยยานเกราะของเยลโลว์เอเชียนยิงจรวดเข้าใส่หอวิทยุและโรงอาหารกัน "ยุ่งแล้วละครับ พวกเราหยุดการยิงไม่ได้ไม่ว่า รถมันขับเคลื่อนเองแล้วละครับ" พลขับกล่าวเพราะเขาควบคุมรถเกราะที่ติดตั้งคอมพิวเตอร์ควบคุมการขับเคลื่อนไม่ได้ จน "โครมมมม" ชนกับห้องน้ำและอาคารหลักกันอย่างจังๆ "งี้งงงงงงงง งี้งงงงงง งี้งงงงงง งี้งงงงงงง" เสารับส่งสัญญาณส่งเสียงดังรบกวนเหล่าทหารที่อยู่ในกองสื่อสารจน "เพล้งๆๆๆๆ หวอๆๆๆๆๆๆๆๆ ปริๆๆๆๆ" กระจกตามอาคารแตกกันทุกบาน รวมถึงรถยนต์และรถจี้บด้วย ผนังอาคารแตกร้าวกันอย่างรวดเร็ว
              "ปิดมันไม่ได้เลยหรือเนี้ย โอ้ย" หัวหน้ากองกล่าวโดยพยายามจะปิดสวิตซ์ก็ดี ถอดปลั้กก็ดี สับคัตเอาท์ปิดพลังงานก็ดี ล้วนแล้วหยุดการส่งเสียงรบกวนกันมิได้เลย
              "แฟ้ววววว แฟ้วววว แฟ้ววววว ฟ้าวววว ฟ้าววว แฟ้วววว โครมมมม โครมมม ตรูมมม บรึมมม บรึมมม" สกรีแทนมาร์คทูบินออกจากฐานพุ่งเข้าชนใส่เครื่องบินขับไล่ที่ถูกเจาะระบบให้บินออกนอกเส้นทางไป ในขณะที่ส่วนหนึ่งบินชนกับอาร์ซโทรนที่ถูกแฮคไปด้วย เช่นเดียวกับอีกกลุ่มที่พุ่งชนอาคาร ตึกรามบ้านช่องกันอย่างหนักหน่วง "กองรบโมบิลลอยด์ของพวกคุณชนกับฝูงบินลาดตระเวนของเรากันแล้วน่ะ" นายทหารหญิงจากกรีนยูโรเปี้ยนต่อว่านายทหารซัลคาเลี่ยนชาย ในขณะที่ทหารซัลคาเลี่ยนผมทองโวยใส่นายกองบินจากบลูโรเซียท
              "ฝูงบินโมบิลลอยด์ของนายปะทะกับหน่วยตรวจตราของเรากันแบบนี้ มันหมายความว่าไงกันน่ะ"
              "เกิดเรื่องยุ่งแล้วละครับ ผู้การโซเฟียท โมบิลลอยด์ของฝ่ายเราและฝ่ายซัลคาเลี่ยนเสียการควบคุมและปะทะกันเอง จนเกิดความเสียหายอย่างหนักแล้วละครับ" ทหารชายเทรอมรายงาน เช่นเดียวกันกับ
              "นายพลกาลิเทนคะ ยานรบในความดูแลของท่านบินผ่านเขตชุมชนนิวเบอลินและถล่มด้วยขีปนาวุธกันอย่างหนักหน่วงเช่นนี้ ทางเราขอคำสั่งหยุดยั้งโดยด่วนนะคะ" หัวหน้าทีมสกรีแทนมาร์คทูที่อยู่ในพื้นที่รีบมุ่งหน้ามา แต่ก็ถูกแฮคระบบให้พุ่งเข้าใส่ยานอย่างรวดเร็วจน "ฟ้าววว ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ บรึมมมม หวือออออ โครมมมม" ยานซัลคาลาสร่วงลงใส่นิวเบอลินจนพังพินาศไปพร้อมกัน แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้นลุกลามไปทั่วดาวกันแล้ว
              "พี่ใหญ่ พี่รอง พี่กลาง ได้ยินเพลงเหล่านี้แล้วเป็นไงบ้างละครับ" ริดโอบิทบอก
              ริดโอโบลหัวเราะก่อนไปว่า "บอกตรงๆน่ะ ว่าฟังแล้วรู้สึกสะใจอย่างมากเลยละ"
              "แบบนี้ กองกำลังไทรเวเซอร์คงไม่มีทางแก้ไขอะไรได้ทันอยู่แล้วละนะ หึๆๆๆๆๆ" ริดโอแบทยิ้มและหัวเราะเบาๆ
              ริดโอบุลท์กล่าวอย่างมั่นใจไปว่า "ทำต่อไปเลยน่ะ ริดโอบิท จนกว่าไอ้ประธานาธิบดีแอคเมนโด้ไม่เหลือกองทหารไว้คุ้มกะลาหัวอีกเลย"
              "รับทราบครับ" ริดโอบิทบอก โดยที่ด้านหลังของเขาเกิดสั่นอย่างต่อเนื่อง "รู้สึกเหมือนเจ็บแปล็บนิดๆ คงจะนั่งนานไปหน่อย แต่ขอสักแป๊บแล้วกัน แล้วค่อยออกไปสูดอากาศข้างนอกเลยน่ะ" แล้วริดโอบิทก็บรรเลงบทเพลงแห่งความโกลาหลต่อ ด้วยการควบคุมหุ่นรบและยานรบของฝ่ายสหพันธมิตรให้เกิดความหนักหน่วงไปไม่น้อย ในขณะที่ฝั่งริดโอบุลท์นั้น....
              "พวกเราใกล้เข้าถึงฐานทัพของกองบัญชาการที่ 16 กันแล้วละครับ" คนขับรถกล่าว
              "ดี เตรียมแจ้งพวกเราให้พร้อม เวลาแห่งการแก้แค้นมาถึงแล้วละ" ริดโอบุลท์กล่าว แล้วก็ "บรืนนนนนน บรืนนนนน บรืนนนนน บรืนนนนนน บรืนนนนนน" ขบวนรถของแก็งค์ริดโอพุ่งเข้ามาลานกว้างของกองบัญชาการกองที่ 16 กันแล้ว โดยที่วอลเลนซ์ยืนอยู่พร้อมกับวอลเดนสไตน์กัน "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ แกร็กๆๆๆๆ" เหล่าสมุนแก็งค์ริดโอรีบลงจากรถ รถตู้และรถบรรทุกกัน พร้อมกับชักอาวุธปืนที่อยู่ในมือ ตามด้วยริดโอโบล ริดโอแบท และริดโอบุลท์เดินลงจากลีมูซีน "เอาละ นายพลวอลเลนซ์ ถึงเวลาตายของพวกแกแล้วละ" ริดโอบุลท์กล่าวประกาศกัน ซึ่งเหล่าทหารที่อยู่ในลาน รวมถึงนายพลวอลเลนซ์กับเสนาธิการวอลเดนสไตน์ยืนนิ่งขึ้นมา
               "พวกแกคิดว่าจะจัดการกับพวกเรากันอย่างงั้นสิน่ะ แก็งค์ริดโอ" นายพลวอลเลนซ์
              "ถูกต้อง พวกแกไล่ปราบปรามพวกเรากันอย่างหนักหน่วงไม่ว่า พวกแกยังรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเรากันมาตลอด จนพวกเราสูญเสียทุกอย่างกันไปไม่น้อยแล้วน่ะ" ริดโอโบลกล่าว "ดังนั้น ก่อนที่พวกเราจะกำจัดไอ้ผู้นำแอคเมนโด้ แกกับพวกต้องตายก่อน"
              ริดโอแบทบอก "และเราเจอกันอีกแล้วน่ะ ท่านเสนาธิการวอลเดนสไตน์ ไม่นึกเลยว่า ท่านจะรอดพ้นจากการไล่ของท่านพ่อของเราไปได้น่ะ"
              "ฉันเกือบตายไปได้ก็ถือว่าเป็นโชคดีของฉันแล้วละน่ะ แม้ว่า.....นั้นจะเป็นโชคร้ายของพ่อเธอกับพวกในเวลาต่อมากันก็ตาม" วอลเดนสไตน์บอก
              ริดโอบุลท์บอก "ทั้งหมดนั้น เพราะแก....แจ้งให้กับแม่ทัพโอลดาธส่งพวกแกตไทซ์และควอเดี่ยมให้แห่แหนมาบดขยี้พวกลุงป้าน้าอาของเรา บีบให้พ่อของเราที่พยายามหนีไปนั้น ให้ต้องถูกรุมยิงตายกันเช่นนี้ พวกเราในฐานะบุตรของคุณพ่อบาราน่ากาไรแมกม่า เราจะให้แกกับนายพลวอลเลนซ์ ตายแบบเดียวกันกับที่พ่อของเราเป็นกันนี้แหละ"
              "พวกแกคิดว่าจะจัดการกับพวกเรากันแบบนี้เลยหรือ ไม่กลัวว่าพวกเราจะเรียกกองทหารให้มาช่วยเลยหรือไง" วอลเลนซ์บอก
              ริดโอแบทกล่าว "กองทหารกองอื่นไม่มีทางมาช่วยแกหรอก เพราะพวกเรา ได้ทำให้พวกมันทำลายกันเองไปแล้ว เผลอๆพวกมันอาจจะบุกมาทำลายพวกไทรเวเซอร์กันก็เป็นได้น่ะ"
              "แล้วจะแน่ใจได้ไง ว่าที่พวกแกว่ามาเป็นเช่นนั้นจริงๆน่ะ" วอลเลนซ์ถาม
              ริดโอโบลเลยกดปุ่มมือถือจนเปิดเสียงของ "วอลเลนซ์ ยุ่งแล้วละ ยานรบของผบ.บาโธโรมิวเคลื่อนตัวมาถล่มเขตเมืองของเราไม่ว่า โมบิลลอยด์ของพวกไทรเวเซอร์เสียการควบคุมพุ่งเข้าไปจู่โจมยานแรคแทซกันด้วยน่ะ" เพอซิอัสแจ้งบอก โดยที่มีเสียง "ตรูมมม บรึมๆๆๆๆๆๆ ตรูมมม บรึม บรึมม บรึมมม บรึมมม ตรุ้งๆๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดด แชดดด แชดดด ตรูมๆๆๆๆ"
              "คุณคะ อิชเชเตียนถล่มเวเซอร์เฮาส์ที่พวกเมนซิกส์ทีนอยู่ด้วยหมัดจรวดแล้วละคะ" จูเดทต้ากล่าว เพราะมีเสียงดัง "แฟ้วววว เปรี้ยงง โครมมมม"
              เพอซิอัสบอก "วอลเลนซ์ ฉันขอให้นายรีบมาช่วยด่วน ได้ยิน อย่างด่วน" แต่มีเสียง "หวือออ ตรึงงง"
              "อัลติเมทเอทมาตรงหน้าเราแล้วละครับ พ่อ" นีลเซนท์กล่าว ไม่ทันไรก็ "หวับบบบ ฉั้วะ ซ่า......" เสียงติดต่อดับลง
              ริดโอบุลท์กล่าว "ทีนี้ได้ยินแล้วหรือยัง ตอนนี้เหลือแต่พวกแกกันแล้วละ"
              "พ่อครับ...." วอลเลนซ์กล่าว เมื่อวอลเดนสไตน์เดินมาตรงหน้า
              ริดโอโบลบอก "แกคงจะสิ้นหวังมากจนอยากตายก่อนสิน่ะ ดีเลย เพราะว่าพ่อยิงแกแล้วรอดไปได้เช่นนี้ รับรองว่าแกได้ตายจริงๆแล้วละ"

              "บอกตรงๆน่ะ ว่าพวกเธอเองก็เหมือนกับพ่อของเธอนี้แหละ ที่เป็นคนคิดว่าตนเองฉลาดหลักแหลมและไม่มีทางถูกหลอกได้ง่ายอย่างแน่นอน โดยที่ไม่รู้เลยว่า ตนเองนี้แหละที่ทำลายความยิ่งใหญ่ของแก็งค์ริดโอลงด้วยมือของเขาเองน่ะ" วอลเดนสไตน์บอก
              ริดโอบุลท์กล่าว "ถึงคุณพ่อบาราน่าจะล้มเหลว แต่มิใช่กับพวกเราที่กำจัดตัวอุปสรรค์นั้นไปได้แล้ว ดังนั้น เตรียมตัวตายได้แล้วละ" แล้ววอลเดนสไตน์ก็เอานิ้วลูบตรงต้นคอ "ถ้าคิดจะส่งสัญญาณอะไรละก็ แกได้แม้แต่คิดเลยน่ะ"
              "งั้นหรือ.....พวกแกคงไม่กล้ายิงผู้ที่หวังดีและให้ความช่วยเหลือกับเธอกันได้หรอกน่ะ" วอลเดนสไตน์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป จนริดโอแบทถึงกับตกใจ เช่นเดียวกับริดโอโบลและริดโอบุลท์ด้วย
              "สะ เสียงนี้ ไม่จริงน่ะ....นี้แก...." ริดโอโบลโวยลั่น
              "จริงแท้แน่นอน พวกเธอในตอนนี้ก็เหมือนกับพ่อของเธอนี้แหละ ที่พึ่งจะมารู้ความจริงในวินาทีสุดท้าย และพยายามที่จะเอาตัวเองให้รอด แต่สุดท้าย ก็ต้องมีจุดจบที่น่าสมเพชกันมากๆเลยน่ะ" วอลเดนสไตน์กล่าว
              ริดโอบุลท์ได้ฟังก็นึกขึ้นมาในทันที "วอลเดนสไตน์คือผู้หวังดีที่ช่วยเรา และคุณพ่อนะหรือ ถ้าเช่นนั้น ที่ริบอยพูดไว้เมื่อวานซืน ก็คือเรื่องจริงละสิ" แล้วก็หันมาถามไปว่า "ที่แกพูดมานิ แสดงว่า แกคิดจะเอาคืนพ่อของเราที่ไล่กราดยิงกันอย่างงั้นสิน่ะ ทั้งๆที่แกส่งพวกแกตไทซ์และควอเดี่ยมเข้ามากันน่ะ"
              "แย่หน่อยน่ะ ที่พวกแกตไทซ์กับพวกควอเดี่ยมบุกมากวาดล้างพวกพ่อของเธอนั้น มันเป็นคำสั่งของโอลดาธที่ทำข้ามหัวฉันไว้ต่างหากละ" วอลเดนสไตน์บอก "พ่อของเธอกับพวกนั้น ควรจะยอมจำนนตามแผนการที่ฉันวางไว้ แต่แย่หน่อย ที่พวกเขาตัดสินใจพลาดเอง และทำให้ฉันตัดสินใจที่จะมอบจุดจบให้กับพ่อของเธอกัน ซึ่งต้องขอบใจวอลเลนซ์ด้วยน่ะ ที่ทำตามคำสั่งไว้น่ะ"
              วอลเลนซ์กล่าว "พ่อของเธอมายิงพ่อของฉันกันเช่นนี้ เขาสมควรได้รางวัลเป็นห่ากระสุนนับไม่ถ้วนกันนี้แหละ"
              "แต่เกรงว่า พวกแกจะเป็นฝ่ายโดนยิงพรุนกันแล้วละมั่ง" ริดโอโบลกล่าวอย่างเป็นต่อ
              ริดโอแบทบอก "แล้วไม่กลัวว่าทหารจะได้ยินกันเลยหรือ"
              "พวกเขาคงไม่ได้ยินกันหรอก เพราะพวกเขาสวมหมวกที่กันเสียงภายนอกเข้ามาได้เต็มร้อยเปอร์เซนต์โดยที่ฉันสั่งปิดไมค์กันไว้แล้วน่ะ" วอลเลนซ์บอก
              ริดโอบุลท์กล่าว "คงจะไม่หรอกมั่ง เพราะพวกเราได้เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของกองรบทุกกอง ซึ่งรวมถึงของพวกแกกันด้วย ฉันจะสั่งปิดระบบหมวกและระบบอาวุธของพวกแกกันไว้นี้แหละ"
              "งั้นก็ลองเลยสิ" วอลเดนสไตน์กล่าว
              ริดโอบุลท์กล่าว "แล้วอย่ามาโทษเราแล้วกันน่ะ ริดโอบิท สั่งปิดระบบทุกอย่างของกองรบที่ 16 กัน....." แต่.... "อะไรเนี้ย สัญญาณถูกรบกวนนะหรือเนี้ย"
              "เกรงว่าพวกเธอจะพลาดเสียแล้วละน่ะ" วอลเดนสไตน์บอก โดยตอนนี้ "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เหล่าทหารที่อยู่ในอาคารกองบัญชาการแห่แหนมาพร้อมกับอาวุธปืนพลาสม่ากันทั้งหลาย รวมถึงเหล่าทหารที่อยู่ในลาน ซึ่งชักอาวุธปืนออกมาด้วย "เพราะพวกเรารู้ว่าพวกเธอต้องใช้ขุมกำลังที่มีเพื่อกำจัดพวกเรากันอย่างแน่นอน และคงจะเหลือส่วนหนึ่งอยู่ในที่พักของเธอเลยสิน่ะ"
              วอลเลนซ์กล่าว "แต่เกรงว่าพวกเธอจะไม่ได้กลับไปเสียแล้ว"
              "หมายความว่าไงกันน่ะ" ริดโอแบทกล่าว
              วอลเลนซ์เลยให้ทหารเปิดหน้าจอโฮโลแกรมจนพบกับ "หัวหน้าริดโอบุลท์ นายพลวอลเลนซ์ตลบหลังพวกเรากันแล้ว พวกเราคงไปช่วยพวกหัวหน้ากันไม่ได้แล้วละ" ลูกน้องคนหนึ่งกล่าวโดยที่มีลูกน้องถูกทหารของวอลเลนซ์ควบคุมตัว ซึ่งคฤหาสน์ของพวกริดโอได้พังเสียหายและมีร่างของลูกน้องที่ล้มตายไปด้วย วอลเลนซ์จึงดีดนิ้วขึ้น "แกร็กๆๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆ" เพื่อให้เหล่าทหารกระหน่ำยิงใส่เหล่าลูกน้องในคฤหาสน์จนดับอนาจกันหมด แล้วก็ปิดหน้าจอไว้
              "พวกแก.....มันจะมากไปแล้วน่ะ" ริดโอโบลตะคอกใส่
              วอลเดนสไตน์กล่าว "พวกแกทั้งหลายเองต่างหากละ ที่โง่มากกว่าพ่อของเธอเสียอีก แม้ว่าพวกเธอช่วยกำจัดตัวขัดขวางกันไว้ได้ก็จริง แต่....น่าเสียดาย ที่พวกเธอคงไปไม่ทันช่วยพี่น้องอีกสองรายที่เหลือกันหรอก"
              "พวกแกคงไม่ได้คิดจะส่งคนไปจัดการกับริดโอบิทและริดโอเบล่าละสิ" ริดโอแบทบอก
              วอลเลนซ์กล่าว "ที่ถูกนั้น ควรเป็นน้องชายแฮคเกอร์ของพวกแกกันซะมากกว่าน่ะ คิดว่าพวกเราไม่รู้เลยหรือ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาแล้วน่ะ"
              "สถุลเอ้ย แกหลอกใช้พวกเรากันเช่นนี้ แกต้องการอะไรกันแน่ละ" ริดโอบุลท์กล่าว
              วอลเดนสไตน์บอก "ฉันต้องการชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่กอบกู้ระบบดาวจากภัยคุกคามกันนะสิ แต่เดิมนั้น พ่อและญาติผู้ใหญ่ของเธอควรจะช่วยฉันให้บรรลุเป้าหมายกันอยู่แล้ว น่าเสียดายที่พ่อของเธอทำพลาดเองแล้วไม่รู้จักหาทางแก้จนทุกอย่างสายเกินไปไม่ว่า ยังดันทุรังดิ้นรนแบบโง่ๆกันด้วย ที่บ้านริดโอต้องล่มจมมันไม่ใช่ความผิดพวกเรา แต่เป็นความผิดของพ่อของเธอเองต่างหาก"
              "หุบปากไปซะไอ้แก่.... เตรียมตัวตายได้แล้ว" ริดโอโบลบอก
              ริดโอแบทกล่าว "แกกับลูกของแกทำกับเราไว้มากเช่นนี้ ได้เวลาที่เราจะส่งแกไปนรกกันแล้วละ"
              "ช่วยไม่ได้เลยน่า สงสัยว่างานนี้พวกเธอหมดประโยชน์กันจริงๆแล้วละ" วอลเดนสไตน์บอก
              วอลเลนซ์กล่าว "ทหารทั้งหลาย กำจัดพวกริดโอที่อยู่ตรงหน้าไปซะ"

              ตัดมาทางด้านพวกริดโอบิท ก่อนหน้าที่พวกริดโอบุลท์ติดกับพวกวอลเลนซ์กัน
              "พี่ใหญ่ พี่รอง พี่กลาง เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมถึงติดต่อไปไม่ได้ละเนี้ย" ริดโอเบล่ากล่าว และติดต่อไปยังริดโอบิท "ริดโอบิท ต่อสายไปหาพี่ใหญ่กันได้มั้ยละ"
              ริดโอบิทบอก "ผมยังไม่ว่างกันน่ะ ตอนนี้ผมกำลังควบคุมโมบิลลอยด์ของพวกไทรเวเซอร์ออกตามหาริเกิร์ลกันอยู่ เดียวจะทำให้แล้วกัน"
              "พี่ใหญ่บอกให้เธอวางมือจากริบอยกันแล้ว เธอมาช่วยพี่ใหญ่กันดีกว่า เพราะฉันสังหรณ์ใจไม่ดีเลยน่ะ" ริดโอเบล่าบอก
              ริดโอบิทโวยลั่นทันที "ไม่ได้ จนกว่ายัยริเกิร์ลตายเท่านั้นแหละ ผมถึงจะช่วยพี่ใหญ่ได้ เพราะว่าผมไม่ยอมให้ไอ้ลูกคนใช้ที่อวดฉลาดยิ่งกว่าผมรอดมาเยาะเย้ยผมไปได้กันหรอกน่ะ"
              "ผมมิได้อวดฉลาดสักหน่อยนะครับ คุณริดโอบิท" ริบอยโผล่หน้ามา
              ริดโอบิทกล่าว "แก....แกตายไปแล้วมิใช่หรือ แกคงเป็นผีละสิน่ะ ไอ้ริบอย" แล้วก็หวดมือตบใส่ แต่ริบอยหายไป และมาโผล่ตรงหน้า "อย่าหลบสิ ไอ้ลูกคนใช้ ต่อให้แกเป็นผี ฉันต้องกำจัดแกและน้องสาวแกให้ไปอยู่กับแม่ชั้นต่ำของแกกันนี้แหละ" ริดโอบิทตามไปชก แต่ไม่โดน ริบอยปรากฎอยู่หลายหน ริดโอบิทเลยลุกขึ้นมาตบใส่ไม่ยั้ง ซึ่งนอกจากไม่โดนแล้ว มือยังตบโดนแป้นคีย์บอร์ดจนพัง ทุบสวิตซ์บางอย่างจนปิดระบบสำคัญๆลง
              "คุณไม่มีทางทำร้ายคนตายกันไปได้เลยนะครับ" ริบอยกล่าว
              ริดโอบิทโวย "หนวกหูน่า ไอ้ลูกคนใช้ แม้แกตายไป ฉันก็หาเรื่องจัดการกับแกกันได้นี้แหละ และแกเองก็คงหยุดฉันไม่ได้แล้ว เพราะ ฉันได้ทำลายพวกไทรเวเซอร์ลงไปแล้วละ" ริบอยยังทำหน้านิ่งอยู่ "เหอะ เป็นไงละ ยอดฮีโร่ที่แกหวังจะให้พวกเขามาหยุดพวกเราตอนนี้ตายไปแล้ว คงจะตกใจกันละสิท่า"
              "คุณแน่ใจหรือครับ ว่าคุณได้สร้างความเสียหายให้กับกองทหารของสหพันธมิตรกันจริงๆน่ะ" ริบอยถาม
              ริดโอบิทบอก "ก็จริงนะสิ ฉันได้แฮคเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของกองทหารทุกกอง แม้กระทั่งยานสามเหลี่ยมของพวกไทรเวเซอร์ที่ใช้เอไอแม่บ้านเป็นตัวควบคุมกันแล้ว แน่นอน ว่าตอนนี้พวกมันก็วายวอดพร้อมกับกองทหารทั้งหลายกันด้วย และตอนนี้ ฉันก็ได้ควบคุมโมบิลลอยด์ให้บดขยี้น้องแกให้ราบคาบไปแล้วน่ะ"
              "แล้วคุณมองดูมอนิเตอร์ดีๆกันแล้วหรือครับ ว่ามันเกิดเรื่องเช่นนั้นจริงๆน่ะ" ริบอยบอก
              ริดโอบิทยิ้มและกดปุ่มเพื่อเปิดภาพดู แต่กลายเป็นว่า.... "อะไรเนี้ย ทำไม ทำไมเมืองแห่งแรก ถึงไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆที่ หุ่นยักษ์ไร้เทียมทานมันยิงหมัดจรวดถล่มบ้านพวกไทรเวเซอร์ เช่นเดียวกับโมบิลลอยด์ของพวกมันที่ถล่มทั้งเมืองและฐานทัพของนายพลเพอซิอัสไปแล้วนิ" ริดโอบิทถึงกับผิดหวัง และเช็คดูมอนิเตอร์ทุกจอก็พบว่า "เป็นไปไม่ได้ ฉันสั่งให้ไวรัสควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ของทุกกองให้ก่อความเดือดร้อนกัน ทำไมถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปได้ละเนี้ย"
              "คุณน่ะ ได้ทำตามคำสั่งของคุณริดโอบุลท์ที่ให้ไว้กันแล้วจริงๆ แต่คุณแค่ทำให้พวกเขาเชื่อตามที่คุณถูกหลอกเอาไว้ โดยที่คุณไม่ได้ก่อความเสียหายกันอย่างแท้จริงเลยนะครับ" ริบอยกล่าว
              ริดโอบิทบอก "หลอกงั้นหรือ ไม่มีทางหรอก ไม่มีใครหน้าไหนหลอกฉันไปได้หรอกน่ะ น้ำหน้าอย่างแกกับน้องแกไม่มีพลังจิตที่กล้าแกร่งกว่ายัยเปี้ยก G3 มาหลอกฉันไปได้ละน่า"
              "พวกเราไม่ใช่ไซคิกเกอร์กันก็จริง และคงไม่เก่งพอที่จะหลอกคุณที่มีเลือดเนื้อเหมือนกับคุณริดโอบุลท์กันได้อยู่แล้ว" ริบอยบอก "เว้นเสียแต่....ผมได้ทำให้คุณมีสภาพเหมือนถูกพลังจิตหลอกให้เชื่อของคุณจิลลงได้ โดยที่คุณเองได้ลงมือตามที่คุณถูกหลอกให้คิดเช่นนี้กันไปแล้วนะสิครับ"
              ริดโอบิทบอก "ทำให้ฉันมีสภาพเหมือนถูกหลอกให้มโนงั้นนะหรือ อย่ามาพูดเล่นน่า ไอ้ลูกคนใช้ ยังไงฉันไม่เชื่อกันหรอก"
              "แล้วทำไมคุณไม่ดูที่แขนของคุณเสียเลยละครับ" ริบอยกล่าว
              ริดโอบิทเลยชูแขนซ้ายมา แต่ก็ต้องตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นแขนของตนเป็นแขนคีบหนีบกัน "ขะ แขนหุ่นยนต์ ของเมคครอฟิคนะหรือ....โกหกน่า มันจะเป็นไปได้ไง ในเมื่อฉันได้รับการช่วยเหลือจากราชทายาทเดลวูล ให้รอดพ้นจากพวกนักล่าเงินรางวัลกันมิใช่หรือ"
              "เกรงว่านักล่าเงินรางวัลจะฆ่าคุณลงไปแล้วละครับ เพราะว่าพวกเขาทำตามคำสั่งของเดลวูลให้ลงมือกำจัดคุณที่หลุดเข้ามาในเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนกัน แต่เพราะเดลวูลรู้ว่าคุณเป็นน้องของคุณริดโอบุลท์ ที่ติดต่อเรื่องค้าอาวุธกันนั้น เดลวูลเลยสร้างร่างเมคครอฟิคเปล่าๆดัดแปลงให้เป็นร่างเดิมของคุณ จากนั้นก็โอนถ่ายข้อมูลความจำของคุณจากสมองเข้าสู่ร่างใหม่ โดยปรับเปลี่ยนความจำของคุณให้คุณเชื่อว่าคุณรอดจากการถูกลอบฆ่า แล้วเดลวูลช่วยส่งคุณกลับมาให้พวกคุณริดโอบุลท์พบเจอเข้ากันไว้ ดังนั้น ที่คุณเป็นอยู่นี้ คือร่างจักรกลขนานแท้ก็เท่านั้นเอง" ริบอยกล่าว "และเพราะว่าร่างคุณเป็นร่างจักรกลที่มีสมองกลพร้อมข้อมูลความทรงจำของคุณที่ยังสมบูรณ์อยู่ ผมจึงใส่โปรแกรมอิลลูชั่นแอคชั่นให้คุณ คิดว่าคุณได้ลงมือตามคำสั่งของคุณริดโอบุลท์ ด้วยการทำให้พวกเขาหลงเชื่อไว้ ทั้งๆที่คุณยังไม่ได้ก่อความเสียหายกันจริงๆเสียหน่อยนะครับ"
              ริดโอบิทบอก "แล้วแกใส่โปรแกรมบ้าๆในตัวฉันนิ คงไม่ได้ใส่ในช่วงที่แกถูกฉันยิงตายเลยสิน่ะ"
              "ผมรู้ครับ ว่าคุณเกลียดผมและริเกิร์ลมากมาย ผมเลยทำให้คุณสมหวังตามที่คาดไว้ เพื่อให้ผม...ใช้มือถือที่มีโปรแกรมของผมทำขึ้นไว้ โดยอิงจากข้อมูลพลังจิตสร้างภาพมโนของคุณจิลเป็นต้นแบบ ส่งไปให้คุณโดยที่คุณเองไม่รู้ตัวเลยว่า ที่คุณทำอยู่นี้ คุณถูกหลอกกันแล้วน่ะ" ริบอยบอก
              ริดโอบิทกล่าว "ในเมื่อแกกับพวกไทรเวเซอร์รู้ว่าฉันตายไปแล้ว แล้วร่างของฉันละ"
              "ร่างของคุณนั้น ถูกพบอยู่ในฮิชเลไบน์-4 ซึ่งร่างของคุณไม่เพียงถูกควักสมองออกไป แต่...ยังติดระเบิดพลาสม่าแผดเผาร่างอยู่ เพื่อมิให้ใครหน้าไหนพบศพแล้วนำกลับไปได้กันนะครับ" ริบอยบอก "แน่นอน ว่าเหล่าเพชรฆาตห้าสีได้พบเจอศพของคุณที่ถูกนักล่าเงินรางวัลฆ่าตายกัน และได้เห็นการกระทำของพวกเดลวูลไว้ จนเอามาบอกกับพวกไทรเวเซอร์ให้รู้ว่า ที่พวกคุณริดโอบุลท์ได้คุณกลับมา จริงๆแล้ว เป็นแค่ร่างเทียมที่ใส่ความจำของคุณที่ถูกปลอมแปลงกันไว้แล้วละครับ"
              ริดโอบิทบอก "ถ้าเช่นนั้น แปลว่าฉันตายไปแล้วอย่างงั้นนะหรือ แล้วทำไม พี่ใหญ่กับพวกพี่ๆถึงไม่บอกกันเลยละ"
              "พวกเขาคงไม่อยากให้คุณรู้นะครับ เพราะเขาต้องการให้คุณทำตามแผนการไว้ เนื่องจากว่าข้อมูลความจำของคุณที่ถูกถ่ายโอนเข้ามาในสมองกลนั้น เกิดความเสียหายจากการถูกฆ่ากัน ส่งผลให้อารมณ์ของคุณเกิดความฉุนเฉียวอย่างรุนแรงมาก เหมือนเช่นที่คุณโกรธผมแบบสุดๆถึงขั้นโวยวายใส่พวกคุณริดโอบุลท์ และไม่ทำตามคำสั่งของเขาที่ปล่อยริเกิร์ลกันไว้น่ะ" ริบอยบอก
              ริดโอบิทกล่าว "ไม่จริง แกต้องหลอกฉันให้เชื่อเช่นนั้นแน่ๆ ฉันน่ะ ฉันน่ะ ฉันไม่เชื่อแกน่ะ" แต่ทว่า... "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ" ร่างเกิดลัดวงจรขึ้นมา "กะ เกิดอะไรขึ้นกับฉันละเนี้ย เป็นฝีมือแกงั้นสิ" ริดโอบิทบอกโดยที่ยังช็อตอยู่
              "เกรงว่าโปรแกรมเฟลเซฟที่เดลวูลวางเอาไว้ หากคุณรู้ว่าคุณเป็นแค่ร่างก็อปปี้ของคุณริดโอบิทที่ตายไปแล้ว ได้ทำงานขึ้นมากันนะครับ แน่นอน ว่าเดลวูลเองก็เหมือนกับวอลเดนสไตน์ ตรงที่คุณกับพวกคุณริดโอบุลท์ได้ถูกหลอกใช้กันไว้แล้วละครับ" ริบอยบอกแล้วก็หายตัวไป เมื่อริดโอเบล่าเข้ามา
              "ริดโอบิท ทำใจดีๆไว้นะ" เธอกล่าว
              "เหอะๆๆๆๆๆๆๆ ทุกๆคนหลอกฉัน พี่ใหญ่หลอกฉัน พี่รองหลอกฉัน พี่กลางก็หลอกฉัน แม้กระทั่งเธอก็ด้วยสิน่ะที่หลอกฉันไว้" ริดโอบิทโวยวายลั่นโดยที่ร่างของเขามีชิ้นส่วนจักรกลงอกออกมาอย่างรวดเร็ว ตามด้วยสายเคเบิ้ลพุ่งเข้ามา "จึก ปี้บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียบเข้ากับหน้าจอมอนิเตอร์ คีย์บอร์ด และแผงคอมพิวเตอร์กันไว้ "ฉันไม่ยอมให้ถูกหลอกอีกแล้ว เพราะฉันจะกำจัดทุกคนที่มองฉันเป็นตัวตลกไร้ค้านี้ลงไปซะ"
              ริดโอเบล่าเลยรีบวิ่งหนีโดยเร็ว "ใครก็ได้ รีบมาหยุดริดโอบิทที" เธอเรียกลูกน้องให้รีบมาช่วย เช่นเดียวกับเบอกันดี้ที่รีบตรงเข้ามาในห้อง
    ต่อช่วงที่ 2 กัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×