ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #64 : ตอนที่ 31 ยุทธการทวงคืนขั้นที่ 6 สงครามแมลงหลากสีและขาวดำ แอตทาเวี่ยนปะทะกับเฟลาเลี่ยม ครึ่งหลัง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15
      0
      3 ต.ค. 64

    ช่วงที่ 2

              "ซอฟิส แจ้งให้ยานทุกลำของกองยานแพลตตินั่มอามาด้าเข้าสู่สภาวะการรบเต็มพิกัด และสร้างสนามพลังปกป้องเหล่านักโทษกันไว้ด้วยน่ะ" แอสเทลน่าติดต่อไปหาซอฟิสที่ยาน ซึ่งตอบกลับไปว่า

              "ว่าแต่ จะให้เหล่านักโทษออกมาช่วยเลยมั้ยละคะ"

              "ไม่จำเป็น เพราะถ้าขืนปล่อยพวกนั้นออกไป เกิดพวกเขาหลุดหนีในช่วงชุลมุน นั้นจะยิ่งทำให้เราตามหาได้ลำบากขึ้นกว่าเดิมเลยน่ะ" แอสเทลน่าบอก "เลือกพวกพ้องของเราส่วนหนึ่งลงสนามพร้อมฉันและแอนเดรียไว้ ที่เหลือ อยู่คุมนักโทษในยานของเราตามเดิม"

              ซอฟิสตอบ "รับทราบคะ ท่านพี่แอสเทล เดียวฉันจะจัดการเรื่องนี้เองคะ" แล้วก็ตัดการติดต่อไป

              "แน่ใจนะครับ ว่าคุณสู้ไหวน่ะ" เบย์แทนด์กล่าวเมื่อทราบว่าแอนเดรียจะออกรบด้วย

              "คะ แม้ว่าระบบชุดคอมแบทโปรเทคสูทนั้นจะมีเสียหายไปบ้าง แต่อย่างน้อย ฉันก็ซ่อมแซมมันอยู่นะคะ" แล้วก็เปิดระบบโฮโลแกรมจากหลังแขนซ้ายของเธอไว้ ซึ่งมีการสั่นไหวของจอโฮโลแกรมแสดงผลด้วย

              "คุณทุ่มเทเยอะไปหน่อยน่ะ ระบบเลยเรรวนอย่างที่เห็น ถ้าคุณออกไปทั้งอย่างงั้น กลัวว่าคุณจะใช้โปรเทคชั่นสเฟียร์ไม่ได้เลยนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว แล้วก็นำตลับแพดมา "ปี้บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เชื่อมต่อกับระบบในชุดสูทของแอนเดรีย "โชคดีน่ะที่คุณซ่อมสายเชื่อมต่อพลังงานภายในชุดมาอย่างดี โดยเฉพาะส่วนแขนนั้น คุณคงจะดูแลรักษาเยอะมาก เพียงแต่การใช้พลังเกินอัตราของคุณนั้น ย่อมทำให้ฟังค์ชั่นบางตัวเสียหาย ซึ่งผมต้องซ่อมกันเสียหน่อยนะครับ" แล้วเบย์แทนด์ก็เปิดจอโฮโลแกรมพร้อมกับกดปุ่มตรงจอเพื่อทำการซ่อมแซมระบบดังกล่าว

               แอนเดรียกล่าว "แล้วทำไมถึงไม่ให้ฉันถอดชุดมาเลยละคะ"

              "ถ้าทำแบบนั้นแล้วผมไม่มีสมาธิละก็ ผมเลือกทางนี้จะดีกว่านะครับ" เบย์แทนด์กล่าว เพราะเขาเขินที่ต้องมาทำงานในสภาพที่แอนเดรียไม่ได้ใส่ชุด และเขาแตะเนื้อต้องตัวแอนเดรียกันโดยตรงไม่ได้ด้วย "อืมมมมมม แผ่นกลั่นกรองและตัวดูดซับพลังเพเรเนี่ยมส่วนเกินมีกลุ่มตะกอนติดขัดอยู่ ผมได้ใช้สิ่วพลังไฟฟ้าแกะตะกอนเหล่านั้นออกไป ก่อนที่มันจะจับตัวเป็นก้อนแข็งทิ้มออกจากแผงหลังแขนของคุณไว้น่ะ" เบย์แทนด์เลยเอาเครื่องเข็มมาจิ้มตรงจุด เพื่อให้เข็มปล่อยพลังไฟฟ้าเข้าไปเจาะตะกอนออกอย่างละเอียดถี่ถ้วน

              นิคบอก "เออ คุณนิรู้ดีนะครับ ว่าต้องใช้อะไรแก้ตรงไหนของชุดของคุณแอนเดรียนะครับ"

              "ชุดของคุณแอนเดรียนั้น เป็นโปรเทคสูทที่ดัดแปลงขึ้นด้วยการนำข้อมูลการแปรสภาพพลังงานของพวกคุณพีวิลมาประยุกต์ใช้ แม้ว่านี้จะเป็นรุ่นต้นแบบเลยก็ตามน่ะ" เบย์แทนด์บอก ซึ่งหลังแขนขวาของแอนเดรียมีฝุ่นหลุดออกมา

              รีฟถาม "ในเมื่อคุณรู้วิธีซ่อมแซมแบบนี้ คุณแอนเดรียก็น่าจะรู้สิคะ"

              "แย่หน่อยน่ะ ที่ฉันไม่รู้วิธีซ่อมตรงจุดที่ละเอียดอ่อนไม่ได้เลยนะจ๊ะ" แอนเดรียบอก จากนั้นเบย์แทนด์จัดการกับแขนซ้ายของแอนเดรียต่อ

              "แต่อย่างน้อย ผมก็ช่วยสอนคุณในเรื่องจัดการส่วนนั้น เพื่อให้คุณจัดการตรงนี้ได้นะครับ" เบย์แทนด์กล่าว หลังจากที่เขาใช้เข็มยิงไฟฟ้าตอกสะเก็ดตะกอนเพเรเนี่ยมออกไปแล้ว "ตอนนี้ผมซ่อมแซมตรงจุดที่สำคัญให้แล้ว ถึงแม้ว่าแผงกระจกบนหลังแขนทั้งสองข้างจะร้าวเลยก็ตาม ผมจึงหวังว่าคุณคงจะไม่หักโหมมากจนเกินไปนะครับ"

              "ฉันจะจำเอาไว้นะคะ" แอนเดรียกล่าว โดยเธอลองนำสไตร์คเมซแบทออกมา ซึ่งก็ก่อตัวคงสภาพเอาไว้เหมือนเช่นเคย เช่นเดียวกับอัมเบรแลนซ์ด้วย

              เบย์แทนด์บอก "งั้นผมขอให้คุณโชคดีแล้วกันนะครับ" แล้วแอนเดรียก็เดินออกไป

              "เออ ว่าแต่ คุณซ่อมส่วนแขนของคุณแอนเดรียแค่นี้ ไม่ซ่อมส่วนอื่นๆเลยหรือไงกันละครับ" นิคบอก

              เบย์แทนด์กล่าว "ส่วนชุดที่คลุมลำตัวและส่วนขานั้น มีระบบซ่อมแซมตัวเองด้วยการดูดซับอนุภาคพลังเพเรเนี่ยมในตัวคุณแอนเดรียมาใช้กันแล้ว จนไม่จำเป็นต้องซ่อมกันก็จริง แค่เช็คว่าระบบยังทำงานได้ดีหรือมีตัวไหนลัดวงจรกันหรือเปล่า ซึ่งฉันได้ซ่อมตรงนั้นไปก่อนหน้าแล้วละ" แล้วก็บอก "และพอดีเลย ที่ฉันเพิ่มเติมระบบบางอย่างให้กับคุณแอนเดรีย เพราะลำพังแค่โหมดอาร์มสวิปเปอร์เบรคคงไม่พอแน่ๆ แม้ว่าจะยืมลักษณะอาวุธของพวกคุณแอสเทลน่ามาใช้ก็ตามน่ะ"

              "หวังว่าคุณคงจะมีคำอธิบายที่ดีกับคุณแอสเทลน่ากันนะคะ" รีฟบอก และหันมาถาม "แล้วคุณจะทำเช่นไรกับชุดเกราะทั้งแปดชุดละคะ"

              เบย์แทนด์บอก "ตอนนี้ ฉันต้องมาเพิ่มเติมในส่วนที่ผมยังไม่ได้ติดตั้งไว้ในชุดเกราะทั้งห้าตัว แม้ว่าพวกเธอสองคนและกีล ดิสตันจะจัดการกับชุดเกราะเกซตัลท์กันแล้วก็จริง แต่ยังต้องปรับอีกเยอะกันด้วยน่ะ" จากนั้นก็หันมาตรงแผงคอนโซลของชุดเกราะของหน่วยรบวิหคทั้งห้า เช่นเดียวกับชุดเกราะเกซตัลท์ทั้งสามกันด้วย 

              "ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณเบย์แทนด์จะทำอะไรกับชุดเกราะของเราหรือเปล่าน่า" น็อกกี้กล่าวอย่างกังวลไม่น้อย โดยช่วยแจ็สขนกล่องสัมภาระขนาดใหญ่ไปวางไว้ เช่นเดียวกับแด็กซ์ที่แบกกล่องขนาดกลางสองกล่องด้วยกัน

              แด็กซ์กล่าว "ไม่ต้องห่วงน่า คุณเบย์แทนด์เป็นคนสร้างชุดเกราะให้พวกคุณแดนใช้ เขาก็คงจะซ่อมแซมตรงจุดที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้น่ะ"

              "ขอให้เป็นเช่นนั้นน่า แม้ว่าตอนนี้คุณแอนเดรียต้องออกรบพร้อมกับกองกำลังดาวฤกษ์เลยก็ตามน่ะ" แจ็สบอก

              น็อกกี้กล่าว "แน่ละ เพราะว่ากองรบที่มาในคราวนี้ เป็นกองรบหญิงล้วนกันทั้งนั้นน่ะสิ"

              "ให้ตายสิ แอนเดรียไม่น่าช่วยแอสเทลน่าสู้กับพวกเฟลาเลี่ยมกันได้หรอกน่ะ ในเมื่อเธออ่อนเชิงในการต่อสู้มากที่สุด แม้ว่าเธอจะสามารถปกป้องพวกนักรบชุดเกราะได้ก็ตามน่ะ" โฟรซ่ากล่าวหลังจากที่ได้ฟังเรื่องจากกอสเทรย์ไปแล้ว

              "แต่...นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกันไปแล้วน่ะ แม้ลูกบาศก์แห่งแสงไม่สามารถรับรู้เรื่องหลังจากนี้ เพราะพวกนักรบอิสตรีอันกล้าแกร่งนั้นใช้พลังปิดกั้นดาวดวงนั้นไว้แล้ว แต่ข้าเชื่อว่า สหายหญิงคนนั้นผู้ซึ่งร่วมรบกับเหล่าบุตรแห่งแสงทั้งหลายนี้ ต้องรอดแน่นอน"

              "ขอให้เป็นเช่นดั่งที่คุณว่ามาเถอะคะ" โฟรซ่าบอก แล้วก็ "แว้งๆๆๆๆๆๆๆ ครืนนนนน" ยานเซปเทเรี่ยนเบต้าเคลื่อนตัวมาที่เขตชุมชน แล้วก็แล่นลงจอดอย่างช้าๆ

              อัลเทมิตต้าแจ้งบอก "ขอบคุณมากนะ ทุกๆคนที่รีบนำยานออกมากันน่ะ"

              "พวกเราแน่ใจว่าพวกมันต้องเจอเราแน่นอน เราเลยต้องนำยานของเรามาจอดไว้กันนะคะ" เจ้าหน้าที่พลูโตนอยด์กล่าว

              โฟรซ่าตอบ "ถ้าเช่นนั้นก็รีบไปเตรียมตัวก่อนดีกว่าน่ะ เพราะฉันแน่ใจว่า บาคราน่า ต้องให้กองยานมาเร็วก่อนกำหนดการกันแน่นอนน่ะ"

              "คุณกลัวว่าพวกกองยานของอินเซคเที่ยนจะมามะรืนหรือพรุ่งนี้เลยสิคะ" อัลเทมิตต้าบอก

              โฟรซ่ากล่าว "และอาจจะแย่สุดก็คือ เดียวนี้ กันเองนะสิ" 


              ที่ดาวแครคยัค-3 2 วันถัดมา หลังจากที่พวกโฟรซ่าโต้ตอบการบุกของพวกยัคซอทมาตลอดแล้ว จนกระทั่ง...

              "สังหรณ์ของคุณมาถูกแล้วละ เพราะว่าลูกบาศก์แห่งแสงได้รับรู้การมาของกองยานฝ่ายมหานางพญาที่บาคราน่าร้องขอกันแล้วละ" กอสเทรย์ติดต่อมาหาโฟรซ่าและอัลเทมิตต้าที่สะพานเดินเรือยานเซปเทเรี่ยนกัน

              อัลเทมิตต้าบอก "พอจะยืนยันได้มั้ย ว่ากองยานของพวกคราแค็กซ์มากี่ลำนะคะ"    

              "ฉันสัมผัสถึงจิตของพวกอินเซคเที่ยนที่โดยสารมากับยานเหล่านั้น ซึ่งมันมีจำนวนนับพันตนด้วยกัน และมียานอยู่สองสามลำที่อยู่แถวหน้าหายไปจากกองยานกันด้วยน่ะ" กอสเทรย์กล่าว

              โฟรซ่านำภาพนั้นมา "เกรงว่า ยานเหล่านั้นล่วงหน้ามาก่อนกันแล้วคะ" แล้วก็บอก "รีบแจ้งบอกทหารของคุณให้โยกย้ายประชากรฝ่ายคุณทั้งหมดไม่ว่าอยู่บนหรือใต้ดิน ออกไปจากเขตชุมชนนี้โดยเร็วเถอะคะ"

              "ฉันได้ให้อาดิยอลและพวกจัดการเรื่องนี้ และให้ฟิวโก้อยู่คุมที่นี้พร้อมกับอาเซรัคด้วยน่ะ" กอสเทรย์บอก

              อาเซรัคกล่าว "ผมหวังว่าพวกคุณคงจะรับมือกับพวกยัคซอทและอินเซคเที่ยนของคราแค็กซ์ได้บ้างนะครับ"

              "พวกยัคซอทและอินเซคเที่ยนเคลื่อนตัวข้ามฟากมาแล้วละคะ" เจ้าหน้าที่ลูนาสตี้รายงาน

               อัลเทมิตต้าพยักหน้า "คุณโฟรซ่า ระวังตัวด้วยนะคะ เพราะฉันแน่ใจว่าพวกศัตรูไม่ปล่อยพวกเราและจอยนัสไว้แน่ๆ" 

              "วางใจได้น่า ฉันรู้ว่าฉันควรจะทำเช่นไรกันน่ะ" โฟรซ่าบอก

              ในขณะที่พวกยัคซอท ซึ่งสวมเกราะหนาเอาไว้ทั่วทั้งตัว มากับพวกอินเซคเที่ยนทั้งแบบปกติและแบบไซบอร์คกันด้วย "พวกเราต้องกำจัดไอ้พวกสวมหน้ากากเหล่านี้ทิ้งไปพร้อมกับยัยพลปืนนั้น แก้แค้นที่พวกไทรเวเซอร์กวาดล้างพวกพ้องของเรากันไว้น่ะ" ทหารอินเซคเที่ยนทรงปลวกกล่าว

              "รวมถึงพวกพ้องของเราที่ตายไปในช่วงที่พวกมันปรากฎตัวด้วย เราจะเอาหน้ากากของพวกมันมาเป็นของรางวัลหรือของประดับเมืองกันไปเลย" ยัคซอทด้วงดำกล่าว

              "แชดดดด ป้ากกก" ไม่ทันไรก็โดนลำแสงพุ่งทะลุหัวจนเป็นรูและล้มลงกับพื้นไป "ฟ้าววว ปุ๊ๆๆๆ ตรูมๆๆๆ" ตามด้วยพวกอินเซคเที่ยนที่บินอยู่สี่ตัวถูกยิงจนหัวและตัวระเบิดไป "ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ พวกมันดักซุ่มอยู่ข้างในกัน...." ทหารอินเซคเที่ยนที่ใช้แว่นสแกนเข้าไปในป่าดอกไม้ใหญ่กล่าว แต่ก็พูดไม่จบเพราะ.... "เปรี้ยงงงง" ถูกยิงจนแว่นสแกนแตกกระจุยไปด้วย

              "เรื่องอะไรจะให้พวกแกเจอตัวพวกเรากันละ ฝันไปเหอะ" โฟรซ่ากล่าวหลังจากที่คัดกระสุนออกจากรังเพลิงของลองค์ไซน์ไรเฟิ่ล พร้อมกับ "ฟิ้ววววว ปุ๊ เปรี้ยงงงง" ยิงใส่อินเซคเที่ยนทรงแมงง่องแง่งจนสีข้างซ้ายทะลุเป็นรูโตๆ "หน่วยที่ 1 ถึง 4 กระจายกำลังออกไป พยายามยิงใส่พวกที่สวมแว่นไฮเทค เช่นเดียวกันกับพวกที่มีอาวุธพิสัยไกลอยู่ในมือ หน่วยที่ 5 ถึง 8 จัดหนักพวกศัตรูตัวหนาๆได้เต็มที่เลย" แล้วก็ "ฟิ้ว ฟิ้ว ปุ๊ๆ" สอยพวกยัคซอทปลวกดำจนทะลุตัวไป 3-4 ตัวด้วยกัน 
    "รับทราบครับ คะ" ทั้งหมดตอบรับ แล้วก็"ฟ้าวๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" พวกเมอคิวรอยด์ใช้ปืนยาวยิงกระสุนความเร็วสูงเข้าเล่นงานพวกอินเซคเที่ยนแบบปกติและพวกสแกนหาพวกโซลูนาสตี้ให้ร่วงอย่างรวดเร็ว "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกวีนาซอยด์ใช้กริฟแมกไรเฟิ่ลและกริฟเกาซ์ไรเฟิ่ลยิงกระสุนพลังแม่เหล็กเข้าเจาะหัวพวกสวมแว่นสแกนจนเป็นรู และทำให้ระบบอาวุธของพวกยัคซอทสวมเกราะหนาเกิดเรรวนขึ้นมา "แชดๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดด แชดดด" พวกลูนาสตี้กับพลูโตนอยด์ ซึ่งมีทั้งเซนเครูท ฟาร์ครูท เบทชอน เกรมฮอร์ทและแลนแกรนระดมยิงกริฟพิสทอล กริฟแรปิดกัน กริฟไรเฟิ่ล กริฟลันเชอร์และกริฟสไนเปอร์เข้าถล่มใส่พวกยัคซอทและอินเซคเที่ยนด้วยลำแสงและพลังแรงดึงดูด "ป้ากกกก ตรูมมมม บรึมมมม เปรี้ยงงงง" พวกที่ถูกลำแสงจากพวกลูนาสตี้ล้มลงกับพื้นด้วยรูที่ไหม้ตามตัวและหัว ส่วนพวกที่ถูกพลูโตนอยด์ถล่มนั้น ล้วนแขนขาและตัวถูกบีบอัดจนแบนคาชุดเกราะ หรือถูกเป่ากระเด็นไปไกลจนร่วงตกน้ำเข้า

              "พวกมันหาตัวพวกเราเจอแล้วคะ อดีตหัวหน้าโฟรซ่า" เบทชอนพลูโตนอยด์จากหน่วยที่ 6 กล่าวเมื่อเห็นแสงสาดโดนตัว

              โฟรซ่าบอก "เห็นแล้วละ ดูท่าว่าพวกมันจะบินมาหาเอาเรื่องพวกเรา เพื่อให้พวกที่ตามหลังมาเล่นงานเราซ้ำกันนะสิ" แล้วก็ "ป้างงง ป้างง ป้าง ป้างงง" ยิงใส่พวกยัคซอทและอินเซคเที่ยนที่พกอาวุธหนักจนล้มและ "ตรูมมมม บรึมมม บรึมมม ตรูมมมม" เป่าระเบิดใส่หน่วยรบที่อยู่ใกล้ๆอย่างจังๆ "พวกแกมาเพื่อเผาป่าแห่งนี้ แย่หน่อยที่พวกแกจะถูกย่างสดซะมากกว่าน่ะ" โดยรีบถอยไปพร้อมกับพวกพลูโตนอยด์ เมอคูรอยด์ วีนาซอยด์ และลูนาสตี้ทั้งสองหน่วย

              "คุณโฟรซ่าถอนตัวจากจุดเอไปยังจุดบีแล้วละครับ" เจ้าหน้าที่เมอคูรอยด์รายงาน

              อัลเทมิตต้าบอก "แถวสองเตรียมการเอาไว้พร้อมเดียวนี้เลย หน่วยเดินเท้าให้รีบออกมาช่วยหากพวกคุณโฟรซ่าไปไม่ถึงจุดที่กำหนดไว้น่ะ"

              "ฟ้าววววววว ฟ้าวววววว ฟ้าววววววว" พวกโฟรซ่ารีบขี่สเปซไบค์ถอยหนีไป พร้อมกับทะยานขึ้นเหนือป่า ซึ่งพวกโซลูนาสตี้ส่วนที่ซ้อนท้ายนั้น "แชดๆๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ แท้ว แท้ว แท้ว ตรุ้งงง ตรุ้งงง แชร้ววว แชร้ววว แชร้ววววว" หันหลังเพื่อยิงใส่พวกยัคซอทและอินเซคเที่ยนที่บินไล่กวดตามหลังมาจนล้มกลิ้งไปเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มากพอที่จะกวาดไปได้ทั้งหมด "ปล่อยลูกบอลออกไปเลย" โฟรซ่ากล่าวแล้วก็ "ปี้บบบบ" กดปุ่มเพื่อให้ "ฟิ้ว ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" เครื่องยิงลูกบอลที่อยู่ท้ายรถยิงลูกบอลออกไป "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ หมับๆๆๆๆๆๆ" กลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่เข้าคลุมพวกอินเซคเที่ยนและยัคซอทที่บินไล่หลังมาจนร่วงลงไปกับพื้น ซึ่งตัวลูกบอลนั้นยังมี "ตี้ดๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆ" ตัวช็อตไฟฟ้าแรงสูงแสนโวลท์จัดการกับพวกอินเซคเที่ยนและยัคซอทไป "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ" แต่พวกมันส่วนหนึ่งบินสูงขึ้นไป และทิ้งดิ่งลงมา "ฟ้าว ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ" แต่พวกโฟรซ่าเร่งเครื่องสเปซไบค์ออกตัวไปเสียก่อน จนทำให้แมลงต่างดาวสองพวกจั่วอากาศไปเสียเอง "แชดๆๆๆๆๆ" แล้วก็ถูกยิงซ้ำไปเต็มๆ "ถ้าคิดจะชนท้ายพวกเราละก็ ยังเร็วไปร้อยปีนะยะ" โฟรซ่ากล่าวเยาะเย้ย

              อัลเทมิตต้าบอก "พวกคุณรีบแล่นลงพื้นด่วนเลยคะ เพื่อให้ทีมต่อสู้ภาคพื้นเข้ามาช่วยนะคะ" 

              "เข้าใจแล้วละ พวกเรา แล่นลงเลย" โฟรซ่ากล่าวแล้วก็สั่งให้ทั้งหมดร่อนลงไปอยู่ในป่า ซึ่งพวกอินเซคเที่ยนและยัคซอทบินไล่ตามไป "ปึ้ก ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จนถูกกับดักเส้นลวด โซ่แม่เหล็ก และตาข่ายพลังงานที่ติดตามโคนต้นไม้สกัดขัดขวางกันอย่างต่อเนื่อง "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ" พวกอินเซคเที่ยนทั้งสองพวกเลยแล่นลงสู่พื้นนำหน้าพวกที่เสียท่าไป โดยบินตรงมาเพื่อตามหาพวกโฟรซ่าอยู่ "ฟ้าววว ฉึกๆๆๆๆๆๆ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ส่วนหนึ่งก็ถูกโซ่ติดใบมีดและกงจักรพุ่งอัดใส่พวกยัคซอทจนล้มลง "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉับ ฉึก ฉั้วะ ป้ากๆๆๆๆ" พวกเซนเครูท เบทชอน ฟาร์ครูททั้งเมอคูรอยด์และลูนาสตี้กระโจนเข้าจู่โจมด้วยกริฟไนฟ์ เรซเซอร์อาร์ม และกริฟซอร์ดเข้าจู่โจมใส่พวกอินเซคเที่ยนที่ถือมีดดาบและหอกยาวจนล้มไปกันหมด พวกยัคซอทแบบแมลงวัน แมลงสาปและยุงเลยรีบบุกฝ่าเข้าใส่ "หวับบบ ฉั้วะ" เซนเครูทพลูโตนอยด์กระโดดเข้าใช้กริฟซิกเกิ้ลเบลด ซึ่งเป็นดาบทรงเคียวเข้าฟันตัดหัวยัคซอทแมลงวันจนหัวขาด "หวับๆๆๆ ฉั้วะๆๆๆๆ" เบทชอนพลูโตนอยด์จู่โจมด้วยซิคเกิ้ลอาร์ม ซึ่งสร้างคมเคียวพลังแรงดึงดูดฟันใส่พวกยัคซอทแมลงสาปขาดพร้อมกับเกราะที่พวกมันสวมใส่ พวกยุงที่มีจำนวนเยอะเลยบุกเข้าใช้เข็มยาวแทงใส่เบทชอนพลูโตนอยด์ "กราวิตี้บอม" ฟาร์ครูท 5 ตนยิงกระสุนระเบิดแรงดึงดูดเข้า "ป้ากๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งลูกระเบิดได้ดูดพวกยุงต่างดาวเข้าไปบีบอัดกับพวกเดียวกันและ "เปรี้ยงงง" เป่าร่างให้กระจุยกระจายไป "หวับบบบ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" พวกเกรมฮอร์ทพลูโตนอยด์ใช้เคียวแบล็คริปเปอร์ฟันใส่พวกยัคซอทแมลงวันจนตัวขาดเป็นสองท่อน ในขณะที่ยัคซอทแมลงสาปบินข้ามหัวมา "ว้ากกกกกก ย้า" แลนเกรนจำนวน 6 ตนกระโดดเข้ามา "เปรี้ยงงงง ป้ากกก ป้ากกก โครมมมมม เปรี้ยงงงง" ใช้หมัดและฝ่าเท้าพลังแรงดึงดูดปะทะกับพวกยัคซอทแมลงสาปเข้าจนตามหน้าอกและใบหน้ายุบ พร้อมกับเป่าให้อัดกับพวกอินเซคเที่ยนที่บินมาสมทบจนล้มกลิ้งไป "ฟ้าววว ฟ้าวว ฟ้าววว ฟ้าววว" เซนเครูทเมอคูรอยด์ใช้กริฟคลอว์ฟาดฟันใส่พวกอินเซคเที่ยนแบบตั้กแตนตำข้าวจนขาดสะบั้นลง เซนเครูทเมอคูรอยด์กระโดดเข้าจู่โจมด้วยใบมีดโซนิคเรซเซอร์อาร์มฟันใส่อินเซคเที่ยนแบบมดแดง โดยที่ฟาร์ครูทใช้กริฟมัลเชทสามเล่มเข้าฟาดฟันใส่อินเซคเที่ยนแบบด้วงเขี้ยวกางขาดสะบั้น ด้วยดาบในมือทั้งสองและเล่มที่สามซึ่งคาบบนปากไว้ อินเซคเที่ยนแบบปลวก 6 ตัวเลยบุกแห่มาหมายจะจัดการกับพวกเมอคูรอยด์ "ไฮย้า" โฟรซ่ากระโจนเข้ามาพร้อมกับแบล็คริปเปอร์ในมือทั้งสอง "หวับ ฉั้วะ" เข้าฟาดฟันตัดร่างอินเซคเที่ยนปลวกขาดไปทั้งหกตัว "หวับบบ ฉั้วะ" ยัคซอทแมลงสาปขาดครึ่งด้วยการฟันเสยขึ้นจากหว่างขาของมันไป "หวับ ฉึก โครมมมม" แล้วก็ทิ้มปลายเคียวแทงกลางหัวยัคซอทแมลงวันจนติดพื้น "แชดๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นก็รีบใช้กริฟพิสทอลยิงลำแสงเข้าใส่ยัคซอทยุงที่บินอยู่ให้ร่วงไป แต่พวกอินเซคเที่ยนแมลงสาปอีก 5 ตัวบินเข้ามา "เฮ้ยยย หวับ ฉั้วะๆๆๆๆ" เกรมฮอร์ทลูนาสตี้ 5 ตนถือเครเซนท์เกลฟ์ ง้าวทรงจันทร์เสี้ยวคู่ฟันใส่พวกยัคซอทแมลงสาปขาดสะบั้นลงไป "แง้งงงงงงงง" ไม่ทันไรก็มีเสียงคำรามอันกึกก้องมาจากข้างนอกป่า พร้อมกับ อินเซคเที่ยนปลวก มด ด้วงและตั้กแตนขนาดใหญ่โผล่มาชนิดละ 10 ตัวด้วยกัน

              อัลเทมิตต้าเห็นจากกล้องบนหมวกที่โฟรซ่าสวมกล่าว "เออ พวกแมลงต่างดาว มันอัพไซส์จากเอสเป็นเอ็กซ์แอลตั้งแต่เมื่อไหร่ละคะ คุณโฟรซ่า"
    "มันขยายมาตั้งแต่ตอนที่พวกมันได้ยาเพิ่มขนาดร่างกายกันแล้วนะสิ" โฟรซ่ากล่าว โดยที่อินเซคเที่ยนปลวกยักษ์ทิ้มแขนลงพื้นไปเต็มแรง จนพวกเกรมฮอร์ทและแลนเกรนลูนาสตี้กับพลูโตนอยด์รีบโดดออกมาแทบไม่ทัน "ป้างงง ป้างงง ป้างงง แชดๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ แท้วๆๆๆ แชร้วๆๆๆ" โฟรซ่าและเหล่าเบทชอนของลูนาสตี้ เมอคูรอยด์ วีนาซอยด์และพลูโตนอยด์งัดปืนยาวมายิงถล่มใส่ปลวกยักษ์ ตั้กแตนยักษ์ มดยักษ์ให้ล้ม ส่วนด้วงยักษ์นั้นโดนยิงจนเกราะยุบเข้าถึงเนื้อในไป แต่ยังเบรคพวกอินเซคเที่ยนด้วงยักษ์กันไม่อยู่ "ย้ากกก ว้ากกก ย้า" แลนเกรนของลูนาสตี้และพลูโตนอยด์ต่างก็บุกเข้าปะทะกับอินเซคเที่ยนมดและด้วงยักษ์กันอย่างยกใหญ่ จนอินเซคเที่ยนตัวโตอีกสองชนิดบินข้ามหัวไป

              "แย่ละสิ เมอคูรอยด์และวีนาซอยด์ไม่มีพวกแลนเกรนหรือเกรมฮอร์ทกันแบบนี้ แถมเกรมฮอร์ทที่เหลือเองก็...." โฟรซ่ากล่าวเพราะตอนนี้แกรมฮอร์ทของลูนาสตี้และพลูโตนอยด์ต่างเข้าช่วยพวกสมุนที่เหลือ จัดการกับพวกยัคซอทและอินเซคเที่ยนที่พยายามจะตีฝ่าไปด้วย "หวือออออออออ ป้ากกกก เปรี้ยงงง โครมมมมม ป้ากกกก" แต่มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เกรมฮอร์ทและแลนเกรนเกราะสีส้มกระโดดเข้ามา ชกหมัดคู่และถีบขาคู่ส่งพวกอินเซคเที่ยนตั้กแตนยักษ์และปลวกยักษ์จนล้มกลิ้งมา "ฟ้าววววว ป้ากก ป้ากก ป้ากก ป้ากกก" โดนปะทะจนตัวปลิวอัดกับดอกไม้ใหญ่จนล้มระเนระนาดไป โดยฝีมือของ....

              "ปลอดภัยดีน่ะ อดีตหัวหน้าโฟรซ่า" เกรมฮอร์ทและแลนเกรนเกราะสีเขียว ซึ่งมีรูปร่างที่สูงโปร่งกันทุกตน

              "เดียวก่อนน่ะ เมอคูลอยด์และวีนาซอยด์ไม่มีพวกเกรมฮอร์ทและแลนเกรนเลยนิ แล้วไอ้พวกนี้....คงไม่ใช่ลูนาสตี้สวมเกราะเลยละสิ" โฟรซ่าบอก

              อัลเทมิตต้ากล่าว "คิดว่ากลุ่มดาวพุธและดาวศุกร์จะมีแต่พวกร่างเพียวกันอย่างเดียวนะหรือคะ ทั้งสองกลุ่มรู้ดีคะ ว่าความว่องไวและความแม่นยำที่พวกเขามี สู้กับพวกหนักๆไม่ได้แน่นอน ทั้งสองกลุ่มเลยฝึกฝนทางร่างกายอย่างเต็มที่ จนพวกเมอคูรอยด์มีขนาดกายเท่านักบาสเก็ตบอล ซึ่งมีทั้งความเร็วและพลังการกระโดดสูงมากขึ้น ส่วนพวกวีนาซอยด์นั้น สง่างามด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งและมีประสาทการมองเห็นที่เฉียบไวยิ่งขึ้น ตามความอดทนและความอึดทางร่างกายที่เพิ่มขึ้นกันนะคะ" แล้วพวกเกรมฮอร์ทและแลนเกรนวีนาซอยด์ไม่ว่าหญิงหรือชายก็เบ่งกล้ามกันยกใหญ่ ถึงแม้ว่าแลนแกรนจะมีแขนเป็นแขนกลกันก็ตาม

              "แจ่ม ทำไปได้นะ พวกเธอนิ...." โฟรซ่าบ่นอย่างหงุดหงิด แล้วก็ "เปรี้ยงงงง" ใช้กริฟพิสทอลยิงใส่หัวยัคซอทปลวกจนทะลุเป็นรูไป

              "ถึงพวกเราจะไม่ตัวโตเท่ากับอดีตหัวหน้าสเตฟอร์ด แต่....พวกเราภูมิใจในร่างกายของพวกเรากันนี้แหละ" เกรมฮอร์ทวีนาซอยด์ชายกล่าวพร้อมกับ "หวับบบ เปรี้ยงงง" กระโดดเสยแขนขวาลาเรียตใส่หน้าอินเซคเที่ยนตั้กแตนยักษ์จนหัวปลิวไปไกลมากๆ เกรมฮอร์ทเมอคูรอยด์บอก "พวกเราฝึกฝนมาอย่างเต็มที่นั้น ก็เพื่อพุ่งชนเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้ากันนั้นแหละครับ" แลนแกรนเมอคูรอยด์กล่าวแล้วก็ "ฟ้าววววว เปรี้ยงงง" วิ่งเข้าชนด้วยเกราะหัวไหล่ติดใบมีดอัดใส่อินเซคเที่ยนมดยักษ์จนลำตัวติดหัวไหล่ จนส่วนที่เหลือหลุดร่วงลงพื้นไปกันหมด แล้วแลนเกรนและเกรมฮอร์ททั้งสองกลุ่มก็เข้าโรมรันใส่พวกอินเซคเที่ยนมด และตั้กแตนยักษ์ที่เหลือกันอย่างหนักหน่วง "ฟ้าววววว" อินเซคเที่ยนตั้กแตนตำข้าว 2 ตัวขนาดใหญ่โผล่เข้ามา โฟรซ่าเลยกระโดดเข้าใส่ "หวับ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" พร้อมกับใช้แบล็คริปเปอร์ฟันตัดหัวและตัวของอินเซคเที่ยนตั้กแตนตำข้าวขาดไปทั้งสองตัวด้วยกัน

              "คุณโฟรซ่าคะ อินเซคเที่ยนไซส์เอ็กซ์แอลมีเพิ่มเข้ามาอีกหลายสิบตัว ซึ่งเยอะเกินกว่าที่พวกเราในตอนนี้จะรับไหวนะคะ" อัลเทมิตต้าบอก

              โฟรซ่าตอบ "ช่วยไม่ได้แล้ว ทุกหน่วยไม่ว่าจะตัวบางร่างน้อยหรือตัวโตล้ำบึกทั้งหลาย ถอยไปที่จุดซีโดยเร็วเลย"

              "รับทราบครับ คะ" ทั้งหมดตอบ แล้วรีบวิ่งและกระโจนออกไปพร้อมกับโฟรซ่า หลังจากที่จัดการกับพวกอินเซคเที่ยนและยัคซอทมา เนื่องจากตอนนี้อินเซคเที่ยนและยัคซอทตัวใหญ่จำนวนมาก ซึ่งมีทั้งแบบฉีดยาขยายร่างโตไปจนถึงสวมเกราะหุ่นยนต์เข้ามา "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไรก็มีกระสุนสีดำพุ่งข้ามหัวพวกโฟรซ่าที่รีบถอนตัวมา "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จนทำให้เกิดโดมระเบิดแรงดึงดูดเข้าบดขยี้พวกอินเซคเที่ยนและยัคซอทตัวโตจนแหลกเป็นจุลกันอย่างต่อเนื่อง ตามด้วย "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แท้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" โทเทมโม่ลูนาสตี้และวีนาซอยด์ยิงปืนใหญ่ลำแสงและปืนใหญ่พลังแม่เหล็ก ซึ่งพวกลูนาสตี้ยิงจัดการกับพวกทหารตัวโต ส่วนพวกวีนาซอยด์เล็งจัดการกับพวกยัคซอทสวมชุดหุ่นยนต์ตัวโตให้ "เปรี้ยงง" ชิ้นส่วนหลุดกระจุยเพราะอนุภาคของแม่เหล็กไป "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โทเทมโม่ของเมอคูรอยด์ระดมยิงกระสุนลูกดอกความเร็วสูงทะลวงเข้าสอยพวกอินเซคเที่ยน และยัคซอทที่บินเข้ามาเป็นแนวกำแพงเข้าป้องกันไว้ "ป้าง ป้าง ป้าง ป้าง แชดๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ แท้วๆๆๆๆๆๆ แชร้วๆๆๆ" พวกโฟรซ่าที่มาถึงรีบระดมยิงสนับสนุนถล่มใส่ไปด้วย

              "พวกศัตรูถอยไปพร้อมกับสร้างความเสียหายให้กับกองรบของเราแบบนี้ พวกมันเตรียมการมาดี แม้กองรบของมหาราชินีจะมาถึงเสียก่อนน่ะ" กราโบลบอก

              "แต่การที่พวกนั้นถอยไปหลังจากที่ถล่มกองรบส่วนหนึ่งนั้น ทำให้เรารู้ว่าพวกมันมีจำนวนกำลังพลด้อยกว่าฝ่ายเราอยู่ แม้ว่าพวกมันได้เปรียบในแง่ยุทโธปกรณ์กันน่ะ" เทคคราตัสกล่าว

              กราโบลบอก "นั้นก็ดีเลย เพราะพวกเราจะถล่มพวกมันไปพร้อมกับพวกจอยนัสกันอยู่แล้ว พวกมันดิ้นรนไปก็เท่านั้นแหละน่า"

              "แล้วกองยานของพวกไทรเวเซอร์ล่ะ" บาคราน่าบอก

              นายกองอินเซคเที่ยนบอก "กว่าพวกมันจะมานั้น ก็อีกวันสองวัน ซึ่งคงไม่น่ามาทันเวลาได้หรอกนะครับ ท่านราชินีบาคราน่า...." แล้วก็กล่าว "ว่าแต่ จะให้พวกเรานำวอร์แมชชีนลงมาเลยมั้ยละครับ"

              "ส่งลงไปเดียวนี้เลย พวกแมนิเกเตอร์สวมหน้ากากและเพชรฆาตระยะไกลไม่มีทางรับมือกันได้หรอก" บาคราน่ากล่าวและสั่งให้ "ท่านกราโบล สั่งให้หน่วยรบใต้ดินขึ้นไปจัดการกับพวกเพชรฆาตระยะไกลเดียวนี้เลย"

              กราโบลตอบ "ข้าได้สั่งการลงไปแล้วละครับ" โดยตอนนี้พวกยัคซอทจำนวนหนึ่งเคลื่อนตัวในโพรงใต้ดิน มายังตำแหน่งที่พวกโฟรซ่ายืนสู้กับพวกยัคซอทและอินเซคเที่ยนตัวโตกันอยู่

              "เตรียมตัวตายเสียเหอะ ไอ้พวกแมนิเกเตอร์" คาชาพัลกล่าวแล้วก็เอาปืนกระบอกโตติดหัวสว่านแฉก "ตรุ้ง ชรี้ดดดดดดดดดด" ยิงเข้าใส่เพดานโพรงใต้ดินให้หัวสว่านเจาะทะลวงขึ้นไป แต่ก็.... "หัวสว่านคงจะติดแน่ๆ ทุกหน่วย ยิงซ้ำไปเลย" คาชาพัลสั่งให้พวกที่เหลือ "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" ยิงหัวสว่านเจาะขึ้นบนเพดานตามไปด้วย ซึ่งก็.... "ปึกๆๆๆๆๆๆ" หัวสว่านนั้นไม่ได้เจาะขึ้นจากพื้น แต่ไปปะทะโดนกับระเบิด "ตรุ้ง ตรุ้งๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งเป่าระเบิดลูกแรกที่คาชาพัลยิงโดน และลูกที่เหลือที่พุ่งผ่านหรือกระทบกับตัวกับระเบิดจน "ครืนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เพดานโพรงใต้ดินถล่มลงมาจนทำให้เขตป่าที่อยู่เหนือโพรงนั้นยุบตัวลงไป ฝังกลบพวกคาชาพัลทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากว่าพวกโฟรซ่าโยนกับระเบิดแรงดึงดูดให้มันฝังลงพื้นในช่วงที่จู่โจมพวกยัคซอทและอินเซคเที่ยน ซึ่งทำให้พื้นดินยุบตัวลงไปอย่างพร้อมเพียงกัน จนทำให้ด้วงรถถังของพวกยัคซอทที่ไล่ตัดดอกไม้เป็นจำนวนมากจมลงไป พร้อมกับพื้นดินถล่มด้านหน้าและเขตป่าทั้งแถบกันด้วย

              "ดีแล้วละ ที่พวกเธอวางกับระเบิดแรงดึงดูดเอาไว้ในช่วงก่อนจะนำยานขึ้นแล้วน่ะ และคงจะวางเยอะกว่าที่คิดไว้สิน่ะ" โฟรซ่าบอก

              "แต่ฉันไม่แน่ใจว่าทำแบบนี้มันจะดีหรือ กับการทำให้โพรงใต้ดินถล่มลงมาปิดเส้นทางไม่ให้พวกยัคซอทบุกเข้าถึงเขตชุมชนของจอยนัสไปได้ แต่พวกที่อยู่ข้างใต้นั้นคงออกมาไม่ได้แน่ๆน่ะ" อัลเทมิตต้าบอก

              โฟรซ่ากล่าว "ฉันคิดว่าพวกยัคซอทไม่ยอมให้ประชาชนที่อยู่ใต้ดินต้องโดนฝังกลบกันแน่ๆ คาดว่าพวกมันคงพาพวกที่อยู่ในโพรงไปไว้ที่เมืองแล้วละ" ซึ่งโฟรซ่าก็คาดการณ์ถูก บาคราน่าให้พวกประชาชนยัคซอทที่อยู่ในโพรงใต้ดินไปอยู่ในเมืองกันทั้งหมดเมื่อตอนกลางคืนกันแล้ว

               "หวังว่าพวกยัคซอทคงไม่ใช่ทางใต้ดินกันอีกเลยนะคะ แม้ว่านั้นจะทำให้พวกมันเลือกบุกมาทางอากาศกัน ซึ่งนั้นหมายถึง กองยานของพวกอินเซคเที่ยนลงมาได้อย่างเต็มที่เลยนะคะ" อัลเทมิตต้ากล่าวอย่างกังวล

              โฟรซ่าบอก "ฉันแค่เร่งให้พวกมันลงมือเร็วเท่านั้นเอง แม้จะรู้ว่ามันเสี่ยงแก่การที่เราโดนกองยานถล่มยับเยิ่นกันก็ตาม" แล้วก็กล่าว "แต่อย่างน้อย เราต้องทำให้กองยานของพวกอินเซคเที่ยนลงมาให้เยอะ พอที่จะลดจำนวนยานให้พวกพีวิลเข้ามาช่วยได้ง่ายๆหน่อยน่ะ"

              "ทั้งๆที่คุณรู้ดีว่าอาวุธของพวกเราแรง แต่รับมือกับกำลังรบที่มีจำนวนเป็นร้อยเป็นพันไม่ได้เลยนะคะ" อัลเทมิตต้าบอก

              โฟรซ่ากล่าว "พวกอินเซคเที่ยนนะใช่ แต่มิใช่กับพวกยัคซอทกันสักหน่อยน่ะ" แล้วก็พาหน่วยรบทั้งหมดกลับขึ้นยานเซปเทเรี่ยนเบต้าโดยเร็ว "วึ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โฟรซ่าขึ้นหุ่นอาร์ซโทรมลูนอนในทันทีที่มาถึงยานกันแล้ว "ถ้าให้ฉันเดา บาคราน่าไม่ยอมให้ทหารของเธอตายเยอะเพราะพวกเราได้แน่ๆ แม้ว่าเธอตั้งจะกวาดล้างพวกจอยนัสให้สิ้นซากไปเลยก็ตาม เธอต้องควบคุมลูกน้องให้ออกห่างเพื่อให้พวกอินเซคเที่ยนทำแทน เพื่อให้เธอกับพวกยัคซอทตลบหลังเราแน่นอน"

              "แปลว่าเธอให้พวกอินเซคเที่ยนกวาดล้างพวกจอยนัส ที่มีองค์ชายอาเรซัสอยู่ด้วยนะหรือคะ" อัลเทมิตต้ากล่าว

              โฟรซ่าพยักหน้า "เพราะเป้าหมายของบาคราน่า มันอยู่ที่ลูกบาศก์แห่งแสงกันนะสิ ต่อให้เธออ้างว่าจะกวาดล้างพวกจอยนัสด้วยมือของเธอเอง แต่....เธอไม่ทำเช่นนั้นจริงๆหรอก เพราะเธอต้องการให้พวกจอยนัสเห็นชัยชนะของเธอซะมากกว่าน่ะ" แล้วก็นำปืนยาวออกมา พร้อมกับนำหุ่นบินออกทางประตูด้านข้าง "แน่นอนว่ามันหมายรวมถึงพวกอินเซคเที่ยนด้วย ไม่รู้ว่ากำลังถูกหลอกใช้กันอยู่น่ะ"

              "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าววววว" ไม่ทันไร ไฮฟ์ชิฟของพวกอินเซคเที่ยนสามลำบินข้ามผ่านแม่น้ำใหญ่เข้ามาทางพวกจอยนัส พร้อมกับนำสวอร์มมิสและคอร์อินเซปกับพวกโดรนคอร์ออกมาเป็นจำนวนมาก "ไม่นึกเลยว่า ครั้งก่อน พวกเราเป็นฝ่ายบุก โดยที่คุณกับพวกสหพันธมิตรเป็นฝ่ายตั้งรับกันถึงสองครั้ง มาคราวนี้ พวกเรากลับเป็นฝ่ายตั้งรับแบบนี้ ไม่รู้ว่านี้เป็นผลกรรมของพวกเรากันหรือเปล่าละคะ" อัลเทมิตต้าบอก

              โฟรซ่ากล่าว "มันก็จริงอย่างที่เธอว่ากันนี้แหละ ดังนั้น พวกเราต้องโต้ตอบพวกอินเซคเที่ยนกันไว้ให้ได้น่ะ" 

              ในเวลาเดียวกันที่โฟรซ่าและพวกโซลูนาสตี้ทีมเบต้ากำลังสู้กับพวกอินเซคเที่ยนที่แครคยัค-3 นั้น ฝั่งแอนเดรียและกองรบชาวดาวฤกษ์ที่มีแอสเทลน่าเป็นหัวหน้าทีมนำ ได้พร้อมเข้าปะทะกับกองรบเฟลาเลี่ยมกันแล้ว

              "แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงงง" ยานรบของพวกเฟลาเลี่ยมโผล่มาตรงหน้าพวกแอตทาเวี่ยน ที่ตอนนี้ แอสเทลน่ามีแอนเดรียร่วมรบกับนักรบอัลดรามัลจากหน่วยต่อสู้ที่ 78 ซึ่งมี เฮย์ซีฟ เซเวยน์ แจซครา แทรอน่า เทรก้า เลออซ่า คอสเมียร์ เมบิลล่า และฮิคคาริมลงสนามพร้อมกับเหล่านักรบแอตทาเวี่ยนจำนวนพันตน ซึ่งมากับยานรบออร์บิทอล 2 ลำด้วยกัน "แง้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" เหล่าทหารนักรบเฟลาเลี่ยมจำนวนมากปรากฎตัวลงตรงหน้าฝ่ายแอตทาเวี่ยนเข้า

              "โอ้ว ฝ่ายตรงข้ามมาเยอะกว่าที่คิดเลยนะคะ คุณโดซี่" มาริบอก

              โดซี่พยักหน้า "และเกรงว่าเราได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเหล่านักรบหญิงสองพวก ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าการตบตีระหว่างผู้หญิงด้วยกันเสียแล้วละ"

              "ไม่นึกเลยนะ ว่าจะได้มีส่วนร่วมในการรบกับพวกคุณกันนะคะ" แอนเดรียกล่าว

              แอสเทลน่าพยักหน้า "เตรียมอาวุธเอาไว้พร้อมเถอะ เพราะว่าเรา...." แล้วก็กำหมัดทั้งสองพร้อมกับสะบัดลงจน "วึมมมม วึมมมมม" ไซโคคัตเตอร์ที่แขนขวาและวอยด์เอดจ์ที่แขนซ้ายจุดคมดาบแสงขึ้นทั้งสองข้าง "วึมๆๆๆๆๆ" เฮย์ซีฟ เซเวยน์ แจซครา แทรอน่า เทรก้า เลออซ่า คอสเมียร์ เมบิลล่า และฮิคคาริมสบัดแขนที่สวมกำไลเพื่อสร้างคมดาบแสงขึ้นมา ส่วนแอนเดรียก็ "แว้งงงง" นำอัมเบรแลนซ์ออกมาด้วย "......พร้อมที่จะสู้กันไว้แต่แรกแล้วน่ะ" แอสเทลน่าบอกพร้อมกับเปลี่ยนใบหน้าจากหน้ามนุษย์เป็นหน้ามนุษย์ต่างดาวไร้ปากและจมูกกัน เช่นเดียวกับเหล่านักรบแอตทาเวี่ยนตนอื่นๆด้วย

              "ในเมื่อพวกเจ้าพร้อมเช่นนี้ อย่าได้เสียเวลาเลย เหล่าบุตรแห่งดาวฤกษ์เอ๋ย" เดอาร์ยืนอยู่บนราชรถระบบโฮเวอร์คราฟสีทองพร้อมกับชูหอกหัวขวานสองคมออกไป "....ด้วยเกียรติแห่งเฟลาเลี่ยม เหล่าบุตรีแห่งเฟลาเรม่า ประจัญบาน" เดอาร์ตะโกนลั่น เหล่าทหารเฟลาเลี่ยมในชุดเกราะเต็มตัวจึงชูหอกรบขึ้นพร้อมเพียงกันแล้วก็ "เฮ้......" บุกประจัญบานไปอย่างรวดเร็ว

              แอสเทลน่าบอก "ซารีทิสฮาริกัล แชลอวาแลค คาดาซันก้า!!!(ขอให้ซารีทิสคุ้มครองพวกเราทั้งหลายกันแล้ว พวกเราทั้งหมด บุก!!!!)" แล้วทั้งหมดรวมถึงแอนเดรียก็วิ่งเข้าใส่พวกเฟลาเลี่ยมกันอย่างรวดเร็ว แม้ว่าแอนเดรียจะวิ่งช้ากว่าพวกแอตทาเวี่ยนที่ว่องไวกว่ากันก็ตาม "ฟ้าววววว แคร้งงง แชบบบ แคร้งๆๆๆๆ แชบๆๆๆ" นักรบเฟลาเลี่ยมปะมือกับนักรบแอตทาเวี่ยนที่ใช้ปลอกแขนดาบแสงทั้งไซโคคัตเตอร์ วอยด์เอดจ์ อัลดร้าแฟลชเบลดกันอย่างรวดเร็วและว่องไว "ฉึกกกก ป้ากกก" นักรบกลุ่มโพททร้าโดนนักรบเฟลาเลี่ยมแทงด้วยหอกคมขวานคู่เข้าตรงท้อง โดยทะลุโลห์สนามพลังจนแตกกระจุยไป ในขณะที่นักรบเฟลาเลี่ยมโดนนักรบแอตทาเวี่ยนใช้ไซโคคัตเตอร์ฟันโลห์พลังอนุภาคที่แขนซ้ายจนแตก และฟันใส่นักรบเฟลาเลี่ยมเข้าที่ตัวจนสิ้นชีพลง "แชดดด แชดดด แชดดด" นักรบเฟลาเลี่ยมส่วนหนึ่งยิงลำแสงจากปลอกแขนข้างขวาเข้าใส่พวกนักรบแอตทาเวี่ยนกลุ่มโพททร้า "แว้งๆๆๆ" ไฮเซนจูรี่ นักรบพลังจิตสายโพททร้าเทเลพอร์ตเข้าป้องกันลำแสงจากพวกเฟลาเลี่ยมและสวนกลับด้วย "เปรี้ยงงงงง" สายฟ้าพลังจิตสาดใส่นักรบเฟลาเลี่ยมทั้งสามจนแดดิ้นไป แล้วก็ยิงลำแสงจากฝ่ามือทั้งสองจัดการกับนักรบเฟลาเลี่ยมที่เตรียมปืนใหญ่ออกมาด้วย "วึมมม ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" เฮย์ซีฟใช้กำไลสร้างกงจักรแปดแฉกสีส้มเข้าฟาดฟันใส่พวกเฟลาเลี่ยมที่ถือกงจักรพลังอนุภาคเข้าจนล้มลงไป 4 ตนด้วยกัน "หวับๆๆๆๆ" นักรบเฟลาเลี่ยม 5 ตนซัดกงจักรเข้าใส่ "หวับๆๆๆๆๆ เกร้งๆๆๆๆๆ" แต่เซเวยน์ซัดใบมีดโค้งยาวพลังแสงเข้าปะทะกับกงจักรจนแตกกระจุย พร้อมกับกระโดดคว้ารับมา "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ใช้ฟาดฟันใส่พวกเฟลาเลี่ยมที่เสียกงจักรพลังแสงและใช้ดาบยาวแทนจนล้มลงไป "ฉับ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" แจซคราใช้หอกยาวที่แปรสภาพจากกำไลข้อมือ ซึ่งมีเธอตนเดียวที่ไม่ได้ใช้กำไลดาบแสงเข้าสู้กับพวกเฟลาเลี่ยมที่ถือหอกขวานสองคมอย่างหนักหน่วง ในขณะที่ส่วนหนึ่งบุกเข้าใช้ปลอกแขนฝ่ามือเรืองแสงเข้าสู้กับซีลเทมพลาร์ที่ถืออาวุธง้าวพลังจิต จนเสียหลักไป

              "ย้า ย้า ย้า" แทรอน่า เลออซ่า และเมบิลล่าสู้ด้วยฝ่าหมัดและลูกถีบพลังแสงร้อนจัดการกับเฟลาเลี่ยมฝ่ามือพลังแสงกันอย่างหนักหน่วง ในขณะที่ส่วนหนึ่งใช้ปลอกแขนสร้างคมดาบแสง ที่ยาวกว่าคมดาบพลังจิตจากปลอกแขนไซโคคัตเตอร์และวอยด์เอดจ์กันนั้น "แฟ้วววว เชร้งๆๆๆๆ" เทรก้าบุกเข้าจู่โจมด้วยดาบแสงที่กำไลข้อมือข้างขวาเข้าฟาดฟันใส่พลติดปลอกแขนดาบแสงล้มไป 3 ตน "หวับบบ ป้าก ป้าก หวืบบบ ป้ากกก" คอสเมียร์ใช้ยุทธวิธีอ่อนสยบแข็งหลบหลีกการจู่โจมอันดุดันของฝ่ายเฟลาเลี่ยม ด้วยท่าทางอันอ่อนช้อยและใช้ฝ่ามือพลังจิตฟาดใส่ โดยที่ฮิคคาริมเข้าใช้ดาบแสงสีน้ำเงินเข้มที่กำไลข้อมือเข้าโรมรันใส่พลติดปลอกแขนดาบแสงอย่างเฉียบขาด

              "แกร้งๆๆๆๆ" แอนเดรียสู้กับเหล่านักรบเฟลาเลี่ยมที่ฟาดหอกคมขวานด้วยอัมเบรแลนซ์อย่างแน่วแน่ โดยที่เธอทิ้มทวนปัดหอกคมขวานของนักรบเฟลาเลี่ยมจนหลุดมือไป บางตนบุกมาจากข้างหลัง "ปึกกกก" แอนเดรียกระทุ้งท้ายด้ามอัดเข้าที่ท้อง และ "หวับบ เพี้ยะ" หวดด้วยเปียผมใหญ่ยาวอัดใส่หน้านักรบเฟลาเลี่ยมจนล้ม "ย้า" แอนเดรียจ้วงแทงใส่นักรบเฟลาเลี่ยมที่บุกมาด้วยโลห์จนหัวทวนปักทะลุโลห์พลังงานจนแตก แต่นักรบเฟลาเลี่ยมรีบโดดออกมาก่อนที่ปลายทวนจะแทงหลังแขนซ้ายของเธอไป "หวับบ ป้าก ป้าก ป้าก" จากนั้นแอนเดรียก็กวาดแกว่งทวนเล่นงานพวกนักรบเฟลาเลี่ยมที่บุกมาอย่างเร็ว "ฟ้าวๆๆๆๆ" ซึ่งพวกเธอรีบถอยตั้งหลักแล้วจ้วงแทงหอกเข้าใส่พร้อมกัน "ฟ้าวววว" แอนเดรียเลยรีบกระโดดพร้อมกับ "หวับบบ ฟึ่บบบ แกร้งงงง" กางร่มพลังเพเรเนี่ยมเข้ากดหัวหอกคมขวานให้จมดินในทันที แล้วก็กระโดดออกจากวงล้อมพวกเฟลาเลี่ยมไป "ฟึ่บบ ครี้งๆๆๆ" นักรบเฟลาเลี่ยมที่เสียฮัลบาร์ดไปก็รีบชักดาบเข้ามา "แว้งงงง เกร้งๆๆๆๆ" แอนเดรียเปลี่ยนจากทวนมาเป็นตะบองเข้าสู้กับพวกเฟลาเลี่ยม "หวับบบ ปึกกก เกร้งงง ป้ากกก" โดยที่เธอหลบการหวดฟันจากนักรบเฟลาเลี่ยมตนแรกแล้วก็เตะเข้าที่ท้องไปเต็มแรง จากนั้นก็ใช้ตะบองปัดดาบที่นักรบตนที่สองแทงพร้อมกับหมุนตัวและก้มลงฟาดฝ่ามือเข้าที่ท้องไปเต็มแรง "ปึกกกก" แต่นักรบตนที่สามถีบแอนเดรียจนทำสไตร์คเมซแบทหลุดมือแล้วก็บุกเข้าหวดดาบฟันใส่ "หวับบ หมับบบ ฟ้าวววว โครมมมม" แอนเดรียเลยหมุนตัวหลบและคว้าจับแขนที่ถือดาบทุ่มข้ามหัวลงมาอัดกับพื้นไปเต็มแรง แล้วก็กระโจนเข้าคว้าอาวุธที่หลุดมือเข้ามา "ป้ากก ป้ากก เกร้ง เกร้ง เกร้ง" ปัดป้องดาบของนักรบเฟลาเลี่ยมตนที่ 4 และ 5 จนหลุดมือแล้วก็ถีบและหวดหลังแขนขวาซ้ำ

              "ตึกๆๆๆๆ หวับ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" พวกนักรบเฟลาเลี่ยมที่บุกเข้าจู่โจมแอสเทลน่าด้วยปลอกแขนดาบแสงนั้น กลับถูกซีคเทมพลาร์จู่โจมด้วยปลอกแขนดาบพลังงานทั้งสองสีจนล้มลงไปอย่างจังๆ "ฟ้าววว แชบบบ แชบบบ" แต่นักรบเฟลาเลี่ยมสวมปลอกแขนดาบแสงขนาดยาวบุกเข้ามาหวดฟาดฟันใส่แอสเทลน่า "หวับบบบบ" จนเธอต้องรีบโดดถอยหลังออกมา พร้อมกับ "ฟ้าววว ฉั้วะๆๆๆ" พุ่งเข้าฟาดฟันใส่นักรบสวมปลอกแขนดาบแสงขนาดยาวอย่างรวดเร็ว แม้พวกนักรบเฟลาเลี่ยมมีบาดแผลฟาดฟันบนเกราะไปทั่วตัวด้วยกัน "ฟ้าววววว" แต่พวกนักรบเฟลาเลี่ยมพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วหมายจะจู่โจมใส่แอสเทลน่าด้วยการแทงปลอกแขนดาบแสงที่ยืดยาว "ฟ้าววววว ฉึกกก ป้ากกกก" แอสเทลน่าเธอไวกว่าและพุ่งเข้าแทงไซโคคัตเตอร์ใส่ท้องของนักรบเฟลาเลี่ยม พร้อมกับถีบตัวเพื่อดึงดาบออกมา "หวับๆๆๆๆๆ วืมมมม ฉั้วะๆๆๆๆ" จากนั้นก็หมุนตัวดุจลูกข่างโดยใช้วอยด์เอดจ์ ยืดคมดาบสีเขียวฟาดฟันใส่นักรบเฟลาเลี่ยมตนที่สองไปหลายทีด้วยกัน 

              "สุดยอด นั้นเป็นการต่อสู้ระหว่างเทพกับเทพเลยหรือเนี้ย" น็อกกี้กล่าว โดยที่เขากับพวกเฟรดอยู่ในสะพานเดินเรือกันอยู่

              นาเดียกล่าว "เร็วมากเลยน่ะ ไม่ยักกะรู้เลย ว่าเหล่านักรบดาวฤกษ์จะสู้กับพวกเฟลาเลี่ยมได้อย่างว่องไวและทรงพลังถึงเพียงนี้เลยน่ะ ถ้าไม่ใช้โหมดสโลว์โมชั่นดู ก็คงดูไม่รู้เรื่องกันหรอก"

              "ที่คุณห้ามพวกเราไม่ให้ออกปฏิบัติการณ์นั้น เพราะว่าพวกเราอาจจะสู้กับพวกเฟลาเลี่ยมที่เร็วกว่า แข็งแกร่งกว่า เก่งกว่า และทรงพลังมากกว่าเลยสิครับ" เฟรดบอก

              โดซี่พยักหน้า "นั้นเป็นการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์เก่าแก่และทรงอิทธิพลระหว่างฝ่ายสมาพันธ์และมหาจักรวรรดิ์ แม้ว่าฝ่ายเฟลาเลี่ยมจะอาวุโสน้อยกว่ากันก็ตาม ซึ่งนั้นคงเป็นเหตุผลที่แอสเทลน่าไม่ให้พวกเธอเข้ามายุ่งไปด้วยน่ะ"

              "แล้วคุณแอนเดรียจะไหวหรือ ในเมื่อคุณแอนเดรียไม่ได้ว่องไวกว่าพวกคุณแอสเทลน่าเลยน่ะ" แจ็สบอก

              มารีกล่าว "แต่อย่างน้อย คุณแอนเดรียก็พยายามสู้เท่าที่เธอควรจะทำได้กันน่ะ"

              "ตอนนี้ชุดเกราะของพวกเฟรดเข้าที่เข้าทางกันบ้างแล้ว แม้ว่าตอนนี้ ฉันปรับปรุงเกราะเกซตัลท์ทั้งสามกัน จนต้องใช้เวลาเลยก็ตามน่ะ" เบย์แทนด์บอก โดยที่เขาซ่อมตรงแผงหน้าอกของคริมสันอัลฟ่า อาชัวร์เบต้า และเวอมิเรี่ยนแกมม่ากันอยู่

              นิคบอก "ดูคุณใจเย็นกว่าที่ผมคิดไว้เลยนะครับ ทั้งๆที่สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนั้นน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าได้อิทธิพลจากพวกคุณพีวิลมาน่ะ แม้ว่าพวกเขาจะเจอสถานการณ์ย้ำแย่แค่ไหน ห้ามแสดงออกว่าตนเองหวาดกลัวหรืออ่อนแอจนทำอะไรไม่ถูกกันเป็นอันขาด ซึ่งนั้นทำให้ผมรู้ว่า ต่อให้อยู่ในสถานการณ์ไหน สติของตนเองก็ต้องนิ่งอยู่เสมอ สมาธิต้องไม่วอกแวก จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ เฉกเช่นเดียวกับพวกคุณพีวิลแล้วก็พวกคุณแอสเทลน่ากันด้วยนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว

              รีฟตอบ "ส่วนหนึ่งเพราะว่าพวกเขาต้องมีสมาธิและความตั้งใจในการต่อสู้กันเลยสิคะ"

              "แม้ว่าผมไม่ได้อยู่ในสนามรบเลยก็ตาม คู่ต่อสู้ที่ผมกำลังเผชิญอยู่ก็คือ ความลังเล ความวิตกกังวล ความหวาดกลัว ความท้อแท้ ความสิ้นหวัง ซึ่งดร.รีไลฟ์เวอรี่บอกว่า สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดกับเรากันแน่นอน ดังนั้น เราจึงต้องมีสมาธิแน่วแน่กับสิ่งที่ทำอยู่ มีความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมีสติรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ด้วย และเชื่อว่าเราสามารถทำเช่นนั้นได้ แน่นอนว่า ความสำเร็จจะไม่ไปไหนไกลอย่างแน่นอนเลยละ" เบย์แทนด์กล่าวไป พร้อมกับใส่โปรแกรมลงในแผงวงจรขนาดเล็กทั้งสามอันเอาไว้

              นิคบอก "ผมคิดว่าดร.รีไลฟ์เวอรี่จะเก่งเรื่องงานวิจัยและค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ จนไม่ได้มีแนวคิดอย่างอื่นด้วยน่ะ"

              "เธอก็น่าจะรู้น่ะ ว่าศจ.รีไลฟ์เวอรี่มีประสบการณ์จากโลกภายนอกเยอะกว่าที่ฉันและทุกๆคนคาดคิดกันไว้ เขาจึงมีปรัชญาและแนวคิดที่ลึกซึ้งกันไม่น้อย รวมถึงมีคติความคิดที่แนะนำแนวทางให้กับพวกเรา รวมถึงฉันเองด้วยน่ะ" เบย์แทนด์บอก "เพียงแต่ตอนนี้ พวกเธอตั้งใจช่วยฉันทำงานไปด้วยน่ะ"

              นิคพยักหน้า "เป็นเกียรติไม่น้อยนะครับที่ได้ทำงานร่วมกันกับคุณเบย์แทนด์กันนะครับ"

              "หวังว่าตอนนี้ พวกคุณแอสเทลน่าและคุณแอนเดรียคงจะปลอดภัยกันบ้างนะคะ" รีฟกล่าว โดยนั่งลงเพื่อช่วยงานเบย์แทนด์ในเรื่องเซตชุดเกราะกันไปด้วย

              เบย์แทนด์บอก "และการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่เราอยู่กันแล้ว เพราะ กองรบแพลตตินั่มอามาด้าภายใต้คำสั่งของเอสเซคาร่าซาดีริลได้กระจายไปทั่วทุกจุดบนดาวดวงนี้ เพื่อนำพาเหล่านักโทษที่ถูกกักขังตามที่ต่างๆ ออกไปพร้อมกันเลยน่ะ" จริงอย่างที่เบย์แทนด์เล่ามา เพราะกองรบแพลตตินั่มอามาด้าได้ปะมือกับพวกเฟลาเลี่ยมภายใต้การนำของเดอาร์ จนเกิดการต่อสู้กันบนฮิชเลไบน์-4 ถึง 10 กว่าแห่งด้วยกัน


              เฉกเช่นเดียวกับการรบระหว่างโซลูนาสตี้ของโฟรซ่ากับพวกอิคเซคเที่ยนและยัคซอทอินเซคเที่ยนบนดาวแครคยัค-3 กันด้วย           

              "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆ" ฝูงโดรนคอร์อินเซปบินฝ่าเข้ามายังพวกโซลูนาสตี้ทีมเบต้ากันอย่างรวดเร็ว "สปีดเลเซอร์เทอเลต ยิง" อัลเทมิตต้าสั่งยิงป้อมปืนเลเซอร์ยิงเร็วเข้า "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็ระดมยิงฝูงโดรนคอร์อินเซปจนระเบิดวินาศสันตะโรไปอย่างหนักหน่วง แต่ฝูงโดรนคอร์มากับคอร์ปาปิยาสและคอร์ฮอร์เนท ซึ่งคอร์ฮอร์เนทบินหลบหลีกเลเซอร์อย่างว่องไว ส่วนคอร์ปาปิยาสกางบาเรียใต้ปีกเข้าป้องกันเลเซอร์ยิงเร็วมา สวอร์มมิสเลยประกอบกับคอร์บีสต้าและคอร์มันทิสเพื่อบุกประจัญบานเข้าพร้อมกับฝูงโดรนคอร์ "พวกศัตรูเอายานมาประกอบกับวอร์บอทแบบนี้กันเลยหรือเนี้ย" อัลเทมิตต้าอุทาน

              โฟรซ่าบอก "พวกมันคงรู้ว่าวอร์แมชชีนและวอร์บอทอย่างเดียว เอาพวกเราไม่อยู่กันแน่ๆเลยละ" แล้วก็ "หึมๆๆๆๆๆ แชดดดด ป้ากกกก ตรูมมม" เหนี่ยวไกยิงลูนาร์ลองค์บีมไรเฟิ่ลทะลวงเข้าใส่โดรนคอร์ไปถึงคอร์ปาปิยาสทะลุกลางลำจนระเบิดไปพร้อมกัน

              "ถ้าเช่นนั้น ทุกหน่วย โต้ตอบการบุกของพวกศัตรูกันไว้ให้ได้เลย" อัลเทมิตต้าสั่งการให้อาร์ซโทรมลูนอนและสตารอนของเมอคูรอยด์ วีนาซอยด์และพลูโตนอยด์ต่อกรกับการบุกโดยเร็ว "แว้งๆๆๆๆๆๆ" สวอร์มมิสรวมร่างกับคอร์ปาปิยาสยิงวงแหวนเลเซอร์เข้าใส่ "แท้วๆๆๆๆๆ" สตารอนวีนาซอยด์ใช้ปืนยาวส่องยิงเข้าโต้ตอบวงแหวนเลเซอร์จนเป่าปีกของสวอร์มมิสปาปิยาสจนกระจุย คอร์ฮอร์เนทส่วนที่บุกมาพร้อมกับพวกโดรนคอร์ก็ตรงเข้ามา "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สตารอนเมอคูรอยด์ยิงกระสุนลูกดอกจากปืนหลังแขนขวาและปืนเล็กติดโลห์ พร้อมใบมีดสอยให้ฝูงโดรนคอร์และคอร์ฮอร์เนทให้ทะลุจนระเบิดไปหลายสิบลำด้วยกัน ฝูงคอร์มันทิสและสวอร์มมิสมันทิสบินเข้ามาหมายจะจู่โจมพวกเมอคูรอยด์ด้วยใบมีดเคียวอันคมกริบ "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ ฉับ เชร้งงง แชร้งงงง เชร้งงงง" แต่พวกเมอคูรอยด์ใช้โลห์ติดดาบยาวและกงเล็บมีดดาบฟาดฟันใส่คอร์มันทิสและสวอร์มมิสมันทิสขาดสะบั้นไป "ฟ้าวววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ" แม้ว่าสวอร์มมิสมันทิสหวดเคียวฟันใส่อาร์ซโทรมจนเสียหายไปด้วย "ฟ้าวววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะๆๆๆ" อาร์ซโทรมลูนอนส่วนหนึ่งบินเข้ามาใช้ดาบแสงลูนาร์อาร์มฟันใส่สวอร์มมิสมันทิส 4-5 ตัวจนขาดสะบั้น ลูนอนอีกส่วนก็.... "แชดๆๆๆๆๆๆ" ใช้ลูนาร์เลเซอร์ไรเฟิ่ลยิงสอยคอร์อินเซปจนร่วง และสอยพวกคอร์ฮอร์เนทไปพร้อมกับกระสุนเหล็กไนความเร็วสูงให้มอดไหม้ไป "แชดดดดด ป้าก ตรูมๆๆๆๆๆ" โฟรซ่าสอยสวอร์มมิสฮอร์เนทที่บินเข้ามาอย่างเร็วจนร่วงไป 8 ตัวรวด โดยที่สวอร์มมิสฮอร์เนท 3 ตัวบุกเข้ามาด้วยเข็มเหล็กไนยาวทั้งสี่แขนหมายจะจัดการกับโฟรซ่า แต่.... "วึมมมมมม หวับ ฉั้วะ ฉั้วะ ฉับ" ใช้ฝ่ามือลูนาร์เรซเซอร์แฮนด์ฟาดฟันใส่สวอร์มมิสฮอร์เนทขาดสะบั้นไป 3 ตัวได้ก่อนที่พวกมันจ้วงแทงด้วยเข็มเหล็กไน "ฟ้าววววว ตุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกคอร์บีสต้าและสวอร์มมิสบีสต้าบินตรงเข้ามายังหน่วยอาร์ซโทรมลูนอนอย่างรวดเร็วด้วยปีกบูสเตอร์ โดยระดมยิงกระสุนพลังกระจายจากปืนบนหัวไหล่ ที่หลังแขนและเขายาวอย่างต่อเนื่อง "แว้งงงง ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกลูนาสตี้รีบป้องกันด้วยบาเรียเอาไว้

              "กระสุนพลังอนุภาคลดบาเรียของเราเร็วมากเลยละคะ" เซนเครูทลูนาสตี้หญิงกล่าว โดยตอนนี้ความทดทานของบาเรียลดลงจาก 60 ไป 24 จากการรับการโจมตีไป

              "แชร้ว แชร้ว แชร้ว ป้ากๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" แต่พวกบีสต้าถูกถล่มโดยอาร์ซโทรมพลูโตนอยด์ยิงกราวิตี้ไรเฟิ่ลและลันเชอร์ เข้าบดขยี้จนเกราะของพวกคอร์บีสต้าและสวอร์มมิสบีสต้าบุบแหลกในทันทีที่ลำแสงแรงโน้มถ่วงปะทะไป จนร่วงลงระเบิดบนพื้นไปหลายตัว "วึมมมมม" แล้วก็ใช้เคียวยาวพลังแรงดึงดูดแบบหนึ่งคมและสองคมเข้า "หวับบบ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ฟาดฟันใส่สวอร์มมิสบีทเทิ้ลทั้งแบบเขากว่างและเขี้ยวก่างจนขาดสะบั้นภายในดอกเดียว "ฟ้าววววว ป้ากกก เปรี้ยงงงง โครมมมม" อาร์ซโทรมวีนาซอยด์ยิงโซ่แม่เหล็กพุ่งทิ้มแทงใส่คอร์ปาปิยาสและสวอร์มมิสปาปิยาสให้ร่วงไป "แฟ้วๆๆๆๆๆๆ ชรี้ดดดดด ป้ากๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" คอร์มันทิสและสวอร์มมิสมันทิสโดนอาร์ซโทรมเมอคูลอยด์ยิงกงจักรใบเลื้อย เข้ากรีดจนตัวขาดสะบั้นและร่วงลงพื้นจนระเบิดไปหลายตัว โดยที่พวกเมอคูรอยด์พุ่งเข้าฟาดฟันใส่สวอร์มมิสมันทิส ที่พุ่งเข้ามายังเซปเทเรี่ยนเบต้าอย่างว่องไวกันด้วย "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โฟรซ่ากราดยิงลูนาร์แมกนั่มเข้าใส่โดรนคอร์ที่บินฝ่าเข้ามาให้ร่วงไปหลายลำด้วยกัน "คุณโฟรซ่าคะ ยานของพวกอินเซคเที่ยน 2 ลำเคลื่อนตัวมาทางเสาศูนย์กลางแล้วละคะ" อัลเทมิตต้าบอก

              โฟรซ่าเห็นและกล่าวไปว่า "สั่งให้ลูนอนส่วนหนึ่งเข้าสู่โหมดจมยานได้เลย" แล้วก็ "ครืดดด แกร็กกก" เครื่องช่วยเล็งเป้าเลื่อนลงมาพร้อมกับ "ปี้บ วึ่งๆๆๆ" กดปุ่มตรงคันบังคับด้านขวา จนหน้าจอปรากฎเป้ารูปตัวเอ็กซ์ที่มีจันทร์เสี้ยวอยู่ด้านข้าง "ครืดดดดด" ปืนยาวลูนาร์ลองค์บีมไรเฟิ่ลขยายกระบอกปืน ซึ่งกระบอกปืนด้านบนและล่างขยับจนกลายเป็นโก่งคันธนูขึ้นมา "แว้งงงงงง" บูสเตอร์สองข้างด้านหลังเกราะหัวไหล่ของอาร์ซโทรมลูนอนของโฟรซ่าเรืองแสงขึ้น โดยที่อาร์ซโทรมลูนอนจำนวน 20 เครื่องบินเข้ามาสมทบกับโฟรซ่า โดยที่ปืนยาวลูนาร์เลเซอร์ไรเฟิ่ลเปิดโหมดยิงแบบเดียวกัน "ปิ้บๆๆๆๆๆๆ กี้งงงงง" โฟรซ่ากับพวกลูนาสตี้ล็อกเป้ายานรบที่บินเข้ามา "ลูนาร์แฟลชแคนน่อน ออลอิน ชู้ต" แล้วก็ "แกร็กๆๆๆๆๆๆๆๆ" เหนี่ยวไกยิงพร้อมกันจน "หึมๆๆๆๆๆๆๆๆ ครืนนนนนนนนนนนน" ปืนโตยิงลำแสงขนาดย่อมพุ่งเข้าใส่ "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งลำแสงทั้ง 21 เส้นเข้าปะทะกับยานบินไฮฟ์ชีฟสองลำบินเข้ามาจน "เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆ" ลำแสงพุ่งทะลวงยานไฮฟ์ชิฟลำโตสองลำอย่างพร้อมเพียงกัน แล้วก็ "แวบบบบบ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บรึมมมมมม บรึมมมมมม" ไฮฟ์ชีฟลำโตทั้งสองลำระเบิดแหลกเป็นจุลไปในทันที

              "อาวุธนี้เป็นยังไงบ้างละคะ คุณโฟรซ่า" อัลเทมิตต้าบอก

              "บอกตรงๆน่ะ ว่าอาวุธนี้แรงมาก แต่เทคไครด์คงรู้ว่าเอามาใช้บนโลกคงไม่ดีแน่ๆ เพราะแสงอาทิตย์ที่สาดส่องดวงจันทร์ลงมาที่โลกนั้น ต้องถูกชั้นบรรยากาศที่ปนเปื้อนด้วยมลภาวะลดทอนพลังงานลง เลยสงวนอาวุธนี้ให้ลูแนชเอาไปใช้กันนะสิ" โฟรซ่าบอก "แม้ว่าฟากฟ้าแถบนี้จะปลอดโปร่งและปราศจากมลภาวะที่พวกยัคซอทก่อขึ้นมา ปืนใหญ่พลังแสงกำลังสูงนี้ดึงพลังจากอาร์ซโทรมไปตั้ง 3 ใน 4 เลยน่ะ"

              อัลเทมิตต้ากล่าว "ฉันนึกว่า กำลังต่อต้านบนโลกนั้นอ่อนด้อยอย่างมากมาย เลยทำให้อาวุธนี้เกินจำเป็นเสียอีกน่ะ"

              "ที่ถูกคือ เทคไครด์และเฮคไซน์ไม่อยากจะเสียอาวุธให้กับทางเรากันซะมากกว่าน่ะ" โฟรซ่าบอก

              ไม่ทันไรก็.... "ตื้ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณเรดาห์ดังขึ้น "แย่แล้วละคะ มีสัญญาณบุกรุกผ่านพวกเราไปยังเขตชุมชนของพวกจอยนัสแล้วละคะ" อัลเทมิตต้าตะโกนขึ้นมา


              "เดียวสิ พวกอินเซคเที่ยนเสียยานบินที่พุ่งเข้ามาไปเมื่อกี้นี้ แถมพวกเราพึ่งจะตัดเส้นทางใต้ดินไปด้วยการทำให้แผ่นดินยุบลงไปแล้วด้วย....แย่ละสิ...." โฟรซ่าสบถ "....บาคราน่าใช้พวกอินเซคเที่ยนดึงความสนใจพวกเรา เพื่อที่นางกับพวกมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายได้นะสิ" แล้วก็ "ครืนนนนนนนนนนนนนนนน" ยานทรงด้วงขนาดใหญ่แล่นเหนือพื้นดินที่ยุบตัวไปอย่างรวดเร็ว โดยที่มีราชินีบาคราน่าโดยสารมาด้วย....

              อัลเทมิตต้าบอก "คุณพูดถูกแล้วคะ คุณโฟรซ่า ดูเหมือนว่าเราจะถูกหลอกเสียแล้วคะ"

              "พอให้ใครก็ได้มาชาร์จพลังให้อาร์ซโทรมของฉัน เพื่อไล่ตามบาคราน่าได้มั้ยละ" โฟรซ่าบอก พร้อมกับเตรียมกริฟลองค์ไซน์ไรเฟิ่ลมา ซึ่งอาร์ซโทรมลูนอนเครื่องเบอร์ 4 ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมยิงปืนใหญ่ลำแสงบินเข้ามา "ครืดดด แกร็ก" ใช้สายต่อจากหลังแขนซ้ายต่อเข้าช่องด้านข้างหน้าอก เพื่อถ่ายพลังงานเข้าไป "ตี้ดๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น

              อัลเทมิตต้าบอก "ฉันคิดว่า คุณคงต้องใช้พลังเพียง 60 เปอร์เซนต์ในการไล่ตามไปจะดีกว่านะคะ" เพราะพวกอินเซคเที่ยนแห่เข้ามาสมทบกัน ด้วยไฮฟ์ชิฟ 6 ลำด้วยกัน ซึ่งลูนอนส่วนที่ยิงปืนใหญ่ก็รีบบินกลับยานโดยเร็ว

              "งั้นก็รับมืออย่างระมัดระวังด้วยละ" โฟรซ่ากล่าวแล้วก็ "กรึก" ดึงคันโยกตรงด้านข้างพนักขวา "ครืนนนน แกร็กๆๆ" เพื่อเปลี่ยนอาร์ซโทรมลูนอนเป็นโหมดยาน "ฟ้าวววววววว" แล้วบินไล่ตามยานด้วงโฮเวอร์คราฟของบาคราน่าไป

              "ดูท่าว่านางไม่ยอมให้พวกเราไปกันได้สิน่ะ" กราโวลกล่าว "ระดมยิงใส่ยานลำนั้นโดยเร็วเลย"

              "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" ป้อมปืนบนยานทรงด้วงระดมยิงใส่อาร์ซโทรมลูนอนของโฟรซ่าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเธอรีบบินหลบด้วยการหมุนควงสว่าน พร้อมกับ "แกร็ก แชดดด" เหนี่ยวไกยิงปืนแสงลงพื้นไล่หลังยานของบาคราน่า "ฟ้าววว ตรูมมมม" แต่ยานนั้นกลับพุ่งออกข้างซ้ายอย่างรวดเร็วจนลำแสงพุ่งลงพื้นแทน "ระบบเร่งแบบฉุกเฉิน นึกว่าพวกยัคซอทจะเป็นพวกหลังเขาเสียอีกน่ะ" โฟรซ่าบอก

              เทคคราตัสบอก "กองรบสกัดกั้น อย่าให้นางไล่ตามพวกเราไปได้" แล้วก็ "ฟ้าวๆๆๆๆๆ" ส่งคอร์มันทิสและคอร์บีสต้าที่บรรทุกอยู่ในยานออกไป "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" คอร์บีสต้ากระหน่ำยิงกระสุนลูกบอลอนุภาคกระจายเข้าใส่ "ฟ้าวววววว ซูมมมมม" โฟรซ่ารีบบินทะยานขึ้นพร้อมกับ "ครืด หวับๆๆๆๆ แกร็กๆๆๆ" หมุนตัวเปลี่ยนสลับฟอร์มจากโหมดยานมาเป็นโหมดหุ่นแล้วก็ "แชดๆๆๆๆ" ใช้ลูนาร์ลองค์ไรเฟิ่ลยิงใส่คอร์บีสต้า "ป้ากๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" จนหุ่นด้วงระเบิดไป 5 ตัว "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" คอร์มันทิสยิงกระสุนอนุภาคเข้าใส่โฟรซ่า โดยที่เธอบินหลบออกมาอย่างฉิวเฉียด แล้วก็แล่นลงพื้นมา "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ แว้ง ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" คอร์มันทิสก็กระหน่ำยิงปืนกลกระสุนอนุภาคเข้าใส่โฟรซ่า ซึ่งรีบกางบาเรียต้านไว้ "หวับๆๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆ" แต่คอร์มันทิส 2 ตัวซัดใบมีดเคียวเข้าปะทะใส่จนทำความเสียหายให้ระบบไอพ่นตรงข้างหน้าอก และเครื่องยนต์ด้านหลังเกราะหัวไหล่ทั้งสองข้างเข้า "ป้ากก" บีบให้โฟรซ่าทุบปุ่มบนแผงมอนิเตอร์ด้านซ้ายที่กระพริบแสงสีแดง เพื่อปลดเครื่องยนต์บูสเตอร์ที่เสียหายทั้งสองตัว "แกร็กๆ หวับๆๆๆๆ ตรูมมม บรึมมม" ซึ่งก็ระเบิดในทันทีที่กระเด็นออกจากอาร์ซโทรมลูนอนแล้ว "ปี้บๆๆๆ" แล้วโฟรซ่าก็รีบปรับพลังทั้งหมดไปที่ระบบขับเคลื่อนที่ส่วนเท้าทั้งสองข้าง "วึมๆๆๆๆ ซูมมมมมมมม" จนทำให้อาร์ซโทรมของเธอพุ่งมาอย่างรวดเร็ว "แชดดด แชดดด แชดดด" โดยที่เธอสอยคอร์มันทิสร่วงไปสามตัว แล้วก็ "แกร็ก ซูมมมมมม" เร่งเครื่องมายังยานด้วงของบาคราน่า "หวับบบบ ฉั้วะ ตรูมมมม" เพื่อใช้ลูนาร์เรซเซอร์แฮนด์ฟันใส่กราบขวาจนเครื่องยนต์ระเบิด และทำให้ยานล้มเอาข้างครูดกับพื้น "เปิดโหมดยานฉุกเฉินเดียวนี้เลย" เทคคราตัสสั่ง แล้วก็ "แกร็กกก ฟ้าววววววว" ยานทรงจี้งหรีดสีดำโผล่ออกมาจากกลางหลัง ได้บินออกจากยานเดิมที่ล้มจน "ครืดดดดดด ตรูมมมม" ระเบิดแหลกเป็นจุลไป แล้วบาคราน่าและพวกก็มุ่งหน้าไปยังหอคอยดอกไม้ใหญ่ของพวกจอยนัสเข้า "ฟ้าววววววววว" โฟรซ่าเลยบินตามไป จนบินเลียดใกล้กับส่วนหอคอยขึ้นไปแล้ว

              "ตื้ดๆๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณเตือนว่าพลังงานเหลือเพียง 15 เปอร์เซนต์ขึ้นที่มอนิเตอร์ด้านหน้า ทั้งๆที่ยานของบาคราน่าอยู่ห่างจากอาร์ซโทรมลูนอนไปมาก โฟรซ่าเลย "ปี้บๆๆๆๆ" กดปุ่มตรงแผงคอนโซลด้านขวาเพื่อให้ "ครืดดด แกร็กๆๆๆ" ทำให้อาร์ซโทรมลูนอนของโฟรซ่าเปลี่ยนเป็นโหมดกึ่งยานกึ่งหุ่นเพื่อเลื่อนส่วนหัวยานออกมา "กึก ซูมมมมมมมมม" จากนั้นก็เหยียบคันเร่งเต็มแรงจนหุ่นทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็ "ปึ้ก" ทุบปุ่มดีดตัวที่อยู่ข้างซ้ายซึ่งเป็นคนละปุ่มที่ใช้สละบูสเตอร์คู่ออกจน "ครืดดด เปรี้ยงงงง" ดีดเก้าอี้ที่โฟรซ่านั่งอยู่ให้ลอยพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ส่วนอาร์ซโทรมลูนอนที่ไร้คนขับนั้น "แว้งงงงง" ได้ถูกเทเลพอร์ตหายไปในทันที และ "แว้งงง โครมมมม" โผล่มาอยู่ในโรงเก็บที่เซปเทเรี่ยนเบต้าจนหุ่นกระแทกกับพื้นอย่างจังๆ ส่วนโฟรซ่านั้นนั่งเก้าอี้ที่ดีดตัวและพุ่งทะยานด้วยจรวดที่อยู่ข้างใต้ ซึ่งเธอเห็นยานของบาคราน่าแล่นลงจอดบนดอกมอร์นิ่งกอรี่ "โท้วววว" โฟรซ่าเลยปลดเข็มขัดออกและยืนบนเก้าอี้พร้อมกับกระโดดขึ้นไปยังลานจอดดอกมอร์นิ่งกอรี่ ซึ่งมีทหารยัคซอทอยู่รั้งท้ายกันถึง 15 ตน "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" โฟรซ่ากระโดดขึ้นมาพร้อมกับกราดยิงกริฟพิลทอสสองกระบอกเข้าใส่พวกทหารยัคซอทจนล้ม แล้วก็ลงสู่ลานจอด ซึ่งพวกยัคซอทแบบด้วงรีบงัดหอกเข้ามา "หวับ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" แต่กลับถูกโฟรซ่าใช้เคียวแบล็คริปเปอร์เข้าตัดหัวกันไป 6 ตนด้วยกัน แล้วก็ "ตึกๆๆๆๆๆ" วิ่งเข้าไปในหอคอยโดยเร็ว แม้ว่าในตอนนี้ "ตรึงงงง" บาคราน่า กราโบลและเทคคราตัสโผล่ขึ้นมาที่ห้องศูนย์กลางกันแล้ว

              "ท่านแม่ นี้ท่าน...." อาเซรัคกล่าว ฟิวโก้เลยรีบนำกีตาร์เข้ามา "แปร้งๆๆๆๆ โป๊ะๆๆๆๆ" ยิงกระสุนสีเข้าใส่ แต่เทคคราตัสเปิดบาเรียสีดำป้องกันเอาไว้

              กราโบลบอก "มุขของพวกแกใช้กับพวกเราไม่ได้ผลกันหรอก และท่านเองก็หยุดองค์ราชินีไม่ได้ด้วยน่ะ องค์ชาย"

              "พวกเราไม่ยอมให้ท่านทำให้ลูกบาศก์แห่งแสงแปดเปื้อนไปได้กันหรอก" กอสเทรย์กล่าว บาคราน่าก้าวเดินเข้ามา พร้อมกับพวกทหารยัคซอทที่เตรียมอาวุธปืนยาวไว้

              "มันจบลงแล้วละ พลังของลูกบาศก์นี้จะทำให้พวกแกกลับมาอยู่ใต้อำนาจของข้าตามเดิม และข้าจะส่งมอบมันให้กับนางพญาคราแค็กซ์กันในไม่ช้านี้แหละ" แล้วก็บอก "แน่นอน ว่าไม่มีใครหน้าไหนเข้ามาช่วยได้หรอก ต่อให้เพชรฆาตสาวไล่ตามมา แต่ก็คงมาไม่ทันการณ์หรอกน่ะ"


              "ฉึบๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" ไม่ทันไร ผนังห้องโถงก็ถูกฟาดฟันอย่างต่อเนื่องและทหารยัคซอทด้วงตัวโต ทะลุผนังเข้ามาโดยมีสภาพถูกฟาดฟันเป็นแผลตามตัว พร้อมกับ.... "แน่ใจหรือยะ บาคราน่า ทหารของเธอตอนนี้แดดิ้นไปเป็นสิบแล้ว อย่าให้พวกนี้ต้องจบเห่กันไปได้หรอกน่ะ" โฟรซ่าก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับสบัดเคียวที่เปื้อนเลือดสีดำ เนื่องจากเธอใช้เคียวฟาดฟันใส่พวกทหารที่ติดตามบาคราน่าเข้ามา

              ฟิวโก้บอก "คุณโฟรซ่า ระวังด้วยนะครับ พวกยัคซอทมีโลห์ป้องกันไว้น่ะ"

              "ฉันรู้ดีแล้วละน่า และเกรงว่าฉันจะจบเรื่องกันเดียวนี้แหละ" โฟรซ่ากล่าวแล้วก็วิ่งเข้ามา แต่... "แว้งงง แว้งงงง" ทหารยัคซอนตั้กแตนตำข้าวดำตัวโตสองตัว ปรากฎตัวเข้ามาหวดแขนเคียวเข้าใส่โฟรซ่าตรงหัว "ฉึก โครมมม" ซึ่งแขนเคียวทิ้มเข้าใส่ตรงหัวของโฟรซ่าไป แต่มันทิ้มแค่ส่วนหมวกเปล่าไปเท่านั้น ส่วนตัวจริงนั้น "ฟ้าวว ฉั้วะ ฉับ หวับ ฉั้วะ" นอกจากหัวไม่หลุดจากบ่าแล้วยังพุ่งเข้าตัดขายัคซอนตั้กแตนตำข้าวขาดไปตัวละข้าง แล้วก็ฟันเข้าใส่กลางหลัง ก่อนจะปิดฉากด้วยการกระโดดฟันตัดหัวขาดไปทั้งสองตัว แล้วก็กระโดดข้ามหัวกราโบลและเทคคราตัส ตรงมายังบาคราน่า "ตรุ้งงง เปรี้ยงงง" เทคคราตัสยิงปืนเข้าใส่โฟรซ่า ซึ่งรีบยกแบล็คริปเปอร์ขึ้นป้องกันจน "เกร้งๆ" หัวเคียวถูกยิงจนหักร่วงลงพื้นมา "ตรุ้ง ฟ้าวววว หมับ ตึก" แล้วก็ถูกเทคคราตัสยิงด้วยกระสุนใยแมงมุมดำจนตัวถูกมัดล้มลงกับพื้นไป

              "เจ้าล้มเหลวกันแล้วละ ต่อให้เจ้าเชือดทหารของข้าทิ้ง เจ้าไม่มีทางหยุดข้าในการได้ลูกบาศก์พลังนี้กันหรอก"

              "ถึงแกจะนำกองรบอินเซคเที่ยนของคราแค็กซ์มา แต่พวกเราโยกย้ายพลเมืองของเราไปอยู่ในที่ปลอดภัยกันแล้วละ" กอสเทรย์กล่าว

              กราโบลบอก "แน่ใจหรือ" แล้วก็นำภาพที่หลบภัยซึ่งอาดิยอลและพวกจอยนัสถูกพวกยัคซอทนำกำลังมาล้อมรอบกันเป็นจำนวนมาก "แย่หน่อยนะ ที่เราส่งกองรบฝ่ายเราเดินทางไกลมาอยู่ข้างหลังพวกแกกันตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว แน่นอน ว่าพวกแกทั้งหมดนี้ต้องกลายเป็นพวกเรา หลังจากที่พวกเราได้ลูกบาศก์นี้ไปแล้วละ"

              "ที่ถูกก็คือพวกแกต้องถูกกวาดล้างกันมากกว่า ถึงแม้ว่าพวกแมนิเกเตอร์จะรับมือไว้ได้ ก็คงเอาไม่อยู่กันหรอก" เทคคราตัสบอก แล้วนำภาพของพวกโซลูนาสตี้ ที่ตอนนี้ "กราวิตอนแคนน่อน ฟูลเฮฟวี่อิมแพคชู้ต" กองรบพลูโตนอยด์ถล่มด้วยปืนใหญ่แรงดึงดูดถล่มกองรบสวอร์มมิสและจมยานไฮฟ์ชิฟลง แต่กองยานรบของพวกอินเซคเที่ยนก็ลงมาหนุนอีก โดยส่งกองรบเข้ามา จนอัลเทมิตต้าต้องสั่งกองรบที่มีอยู่ถอยกลับไป

              "พวกแกนิมัน...." โฟรซ่าสบถ

              "ท่านแม่ ผมไม่ยอมให้ท่านแม่ช่วงชิงของสำคัญเหล่านี้ไปให้พวกคราแค็กซ์กันได้หรอก" อาเซรัคกล่าวพร้อมกับชักมีดเข้ามา

              บาคราน่าบอก "อย่ามาขวางทางดีกว่า อาเรซัค เจ้าหยุดข้ามิได้หรอก" แล้วก็ก้าวเดินมาและ "เพี้ยะ" ใช้มือตบอาเรซัคจนล้มกลิ้งไป จากนั้นก็ก้าวเดินมาตรงหน้าลูกบาศก์แห่งแสง

              "แกมันเป็นแม่ที่เลวมากเลยน่ะ ที่ตบลูกของตนเองไปได้ เพียงเพราะต้องการบรรลุเป้าหมายของแกเองน่ะ แกไม่รู้สึกเสียใจบ้างเลยหรือไงกันยะ" โฟรซ่าถาม

              บาคราน่าบอก "แล้วแกไม่รู้สึกกันบ้างเลยหรือ ที่เห็นพี่น้องของเรากลายเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่พวกเราควรจะเป็นแบบเดิมกันดีอยู่แล้วนะ ผู้นำยัคซอทก่อนหน้าฉันนั้น พยายามไม่น้อยที่จะทวงเอาพี่น้องของเรากลับมา ทั้งหมดก็เพราะว่าไอ้ลูกบาศก์นี้แหละที่มันไม่ควรจะลงมาที่ดาวดวงนี้น่ะ ทำให้พี่น้องของเราเป็นปรปักษ์กับเรา และแถมพยายามเกลี้ยกล่อมให้พลเมืองที่อยู่กับพวกเรากลายเป็นพวกมันแบบนี้ ถ้าไม่จัดการที่ต้นเหตุซะ ฉันก็คงไม่เสียลูกของฉันไปได้หรอก"

              "ถึงแกอาจจะมองว่าพวกพ้องของแกกลายเป็นจอยนัสนั้น เพราะลูกบาศก์นั้นก็จริง แต่ที่พวกแกยังเป็นศัตรูกับพวกจอยนัสนั้น จริงๆแล้ว มันเพราะว่าผู้นำก่อนหน้าแก ยังยึดติดกับสิ่งที่พวกแกทำกันอยู่ หวาดกลัวความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ไม่สิ ที่ถูกนั้น พวกแกมองพวกจอยนัสเป็นเชื้อโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายกันเลยสิน่ะ ทั้งๆที่พวกแกเองก็ไม่ต่างอะไรไปกว่าคนที่ป่วยและอยู่อย่างสิ้นหวัง แล้วโยนความผิดทุกอย่างให้กับพวกจอยนัสกันซะมากกว่าน่ะ" โฟรซ่าบอก

               บาคราน่ากล่าว "ถึงแกพยายามจะพูดให้ฉันรู้สึกสำนึกผิด แต่มันสายไปแล้ว เพราะความสิ้นหวังและความเศร้าโศกของฉันกำลังจะจบลง ด้วยชัยชนะของฝ่ายเราที่เหนือกว่าพวกจอยนัสและพวกแกกันแล้ว" แล้วก็เดินมา "เอาละ ลูกบาศก์เอ๋ย ถึงคราวที่เจ้าจะต้องเป็นบรรณาการณ์ให้กับท่านคราแค็กซ์กันเสีย...."

              "แว้งงง" ลูกบาศก์แห่งแสงเรืองแสงขึ้น จากนั้นก็ "แว้งๆๆๆๆ" กระพริบแสงถี่ๆไป 5 ทีด้วยกัน ฟิวโก้กล่าว "ท่านกอสเทรย์ ลูกบาศก์แห่งแสงนั้น..." แล้วก็ "แวบบบบบ แชดดดดด" ลูกบาศก์นั้นก็ยิงลำแสงเข้าใส่ร่างบาคราน่าในทันที

              "ทะ ท่านแม่" อาเรซัคร้องลั่นขึ้นมา เช่นเดียวกับกราโบลและเทคคราตัสที่ตกใจไม่น้อย

              "นี้มัน แกคิดจะทำอะไรกับฉันละ อาๆๆๆๆๆ" บาคราน่าร้องลั่นเพราะพลังแสงที่ลูกบาศก์แห่งแสงสาดใส่ไปนั้นได้เข้าร่างของเธอกันแล้ว ซึ่งก็ทำให้ "อือ อาๆๆๆๆ ว้าก อ้า" ทหารยัคซอทที่เข้ามาในที่กำบังของพวกจอยนัสนั้นรู้สึกทรมานขึ้น รวมถึงพวกที่อยู่ด้านนอกที่กำบัง เช่นเดียวกับ...

              "ท่านกราโบล ช่วยพวกเราด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรากันน่ะ ว้าก อะๆๆๆ อ้า" ผู้ว่าการเมืองชาวยัคซอทกล่าวโดยที่รู้สึกทรมานกันด้วย

              "มันจะมากไปแล้วน่ะ ไอ้ลูกบาศก์เฮงซวย" เทคคราตัสเลยรีบยิงปืนเข้าใส่

              กราโบลห้ามไว้ "อย่าพึ่ง ถ้ายิงตอนนี้เกิดองค์ราชินีของเราตายไปขึ้นมา มันจะแย่เอาได้น่ะ อีกอย่าง ลืมไปแล้วหรือว่า....นั้นเป็นเป้าหมายของพวกเรากันน่ะ" โดยที่โฟรซ่าได้ยินเข้าพอดี

              "อาๆๆๆ แอ้........." บาคราน่าร้องลั่นเมื่อดวงตาและปากของเธอเรืองแสงขึ้น แล้วก็

            "หมอบลงเร็ว" โฟรซ่ากล่าวโดยที่เธอรีบเอาตัวหมอบกับพื้น ฟิวโก้ อาเซรัคและกอสเทรย์ รวมถึงพวกจอยนัสที่อยู่ในห้องโถงนั้นทำตาม จน.... "แว้งงงงง" ร่างของบาคราน่าเปล่งแสงสร้างคลื่นพลังแห่งแสงกระจายออกไปทั่วดาวแครคยัค-3 กันอย่างรวดเร็ว "แฟ้ววววว แว้งงงงงง" ไม่ว่าจะอยู่บนดินหรือใต้ดิน พวกยัคซอทต่างก็ถูกพลังแสงสาดส่องจน "

              อะ อะไรกันเนี้ย นี้พวกเรา...." ทหารยัคซอทปลวกกล่าว เพราะตอนนี้สีตัวของพวกเขามิได้เป็นสีดำหรือสีสนิมแล้ว แต่มีสีสันเป็นสีขาวสลับฟ้าขึ้นมา เช่นเดียวกับ...

              "นี้พวกเราทั้งหมด กลายเป็นพวกจอยนัสไปแล้วนะหรือเนี้ย" ทหารยัคซอทด้วงกว่างกล่าว เมื่อมันมีสีเป็นสีส้มแสดเช่นเดียวกับพวกทหารตนอื่นๆกันแล้ว

              "ทะ ท่านแม่....นี้ท่านแม่...." อาเรซัคอุทาน เพราะเขามีสีกายเป็นสีเขียวใบเตยแล้ว บาคราน่าในตอนนี้มิได้มีสีตัวเป็นสีสนิมแก่กันแล้ว แต่มีสีตัวเป็นสีเขียวอ่อนสลับกับชมพูและม่วงกันด้วย

              "นี้แม่....รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ทั้งๆที่แม่ไม่เคยได้รับมานานแสนนานแล้ว นั้นนะหรือคือชีวิตที่ได้จากแสงสว่างกันน่ะ" บาคราน่ากล่าวและรีบตรงมายังอาเรซัค "ลูกแม่ ลูกไม่เป็นไรใช่มั้ยละ"

              "ผมไม่เป็นไรหรอกครับ แม่ แค่ผมเห็นแม่ปลอดภัยผมก็ดีใจแล้วละ" อาเรซัคบอก

              กอสเทรย์กล่าว "หรือว่า ลูกบาศก์แห่งแสงนั้นได้ชำระล้างบาคราน่าจนทำให้เธอกลายเป็นพวกเราด้วย ถ้างั้นก็หมายความว่า...."

              "ฉันคิดว่าลูกบาศก์แห่งแสงนั้น ต้องการจะเยียวยาพวกยัคซอทกันทั้งหมดนะคะ และคงรู้ว่าบาคราน่าใช้เครือข่ายกระแสจิตรังในการเชื่อมโยงชาวยัคซอทกันไว้ ซึ่งลูกบาศ์กก็รู้ ว่าบาคราน่าต้องมาถึงนี้กันแน่นอน เลยส่งพลังแสงใส่เธอ ซึ่งเชื่อมโยงจิตกับเหล่ายัคซอททั้งพลเมืองและทหารกันทั้งหมด เพื่อชำระล้างพวกยัคซอททั้งหลายให้ได้รับการปลดปล่อยกันทั้งหมดเองนะคะ" โฟรซ่าบอกโดยตอนนี้เธอสลัดหลุดจากพันธนาการไว้ เพราะอำนาจแห่งแสงที่แผ่กระจายกันแล้ว

              บาคราน่าพยักหน้า "ลูกบาศก์นั้น ต้องการให้พวกเราได้รับรู้ว่าพวกเราเป็นพวกเดียวกัน และให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างสงบสุขกันมานาน เพียงแต่ ผู้นำก่อนหน้าฉันเกิดความหวาดกลัวอย่างที่เธอว่ามา และไม่ยอมรับความเห็นจนโต้ตอบกัน ก่อเกิดการต่อสู้ระหว่างพวกเราทั้งสองฝ่ายมาหลายต่อหลายรุ่นกันแล้ว ซึ่งพลังของลูกบาศก์นั้น ทำให้ฉันและทุกๆคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพวกจอยนัสกันแล้วละ"

              "ถ้าเช่นนั้น ท่านยังคิดอยากได้ลูกบาศก์กันหรือเปล่าละคะ" โฟรซ่าถาม

              บาคราน่าส่ายหน้า "ถึงฉันได้ไป แต่....พลังที่ได้มานั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการมาแต่แรก บวกกับว่าพวกเราได้ตาสว่างกันทั้งหมดแล้ว การต่อสู้ระหว่างยัคซอทและจอยนัส ก็คงต้องยุติเพียงเท่านี้กันแล้วละ" และหันมายังอาเรซัคและฟิวโก้ "ลูกกับสหายของลูกเอง คือตัวอย่างของการอยู่ร่วมกันแล้ว อย่างน้อย หวังว่าพวกยัคซอทและจอยนัสที่เหลือเองก็...."


              "เหอะๆๆๆๆ สุดท้ายท่านก็ติดโรคตามที่พวกเราคิดไว้จริงๆด้วยสิน่ะ เหอะๆๆๆ" กราโบลหัวเราะขึ้นมา กอสเทรย์ อาเรซัค ฟิวโก้และบาคราน่าหันมาเห็นกราโบลและเทคคราตัส ซึ่งทั้งคู่ยังไม่เปลี่ยนสีสันตามตัวกันเลย

              "เป็นไปไม่ได้น่า ท่านทั้งสองน่าจะได้รับการชำระล้างกันแล้ว แต่ทำไมถึงได้...." บราคาน่าอุทาน

              "พวกเรานะ ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงตามเพราะผลจากการเชื่อมโยงเครือข่ายรังของท่านได้หรอก เพราะพวกเราส่วนหนึ่งได้ตัดขาดจากท่านไปนาน โดยที่ท่านไม่รู้ตัวก็เท่านั้นแหละ" กราโบลเฉลย

              อาเรซัคบอก "แต่พวกท่านทั้งสองรับฟังคำสั่งจากท่านแม่มาแล้วมิใช่หรือ แล้วท่านตัดขาดการเชื่อมโยงของท่านแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ"

              "ก็ตั้งแต่เราสองตนรู้ว่า องค์ราชินีคิดจะใช้พลังจากลูกบาศก์มาจัดการกับท่านคราแค็กซ์ เพื่อปลดแอกดาวดวงนี้ออกจากอำนาจของเผ่าอินเซคเที่ยนหลักโดยถาวรกันนะสิ" เทคคราตัสบอก "หลังจากที่เราได้รับรู้ผ่านบันทึกขององค์ราชินีมา พวกเราสองตนถึงกับโกรธแค้นมากๆ เพราะการกระทำขององค์ราชินีของพวกเรา มันก็คือการตั้งตนเป็นศัตรูต่อท่านคลาแค็กซ์ ซึ่งถ้ามันยุติลงด้วยการที่องค์ราชินีบรรลุเป้าหมายได้ขึ้นมา นั้นหมายถึงพวกเราต้องถูกกวาดล้างด้วยอำนาจกองยานของพวกเดลอาเนี่ยนกันในไม่ช้าแน่นอน"

               บาคราน่าบอก "ข้าทำไป เพราะเชื่อว่าพลังจากลูกบาศก์นี้ทรงพลังมากพอที่จะทำให้เราเป็นอิสระจากมหานางพญา และกลุ่มมหาจักรวรรดิ์ที่มหานางพญารับใช้กันอยู่ แต่ ข้าคิดผิด พลังจากลูกบาศก์นั้นทรงพลังนะใช่ หากพลังนั้นมิได้ใช้ทำลายล้าง แต่เป็นการชำระล้างและฟื้นฟูเยียวยา ตามที่ข้ารู้สึกได้กันนี้แหละ"

              "แต่ที่พวกแกสองตัวยังเหมือนเดิมกันนิ แสดงว่า....พวกแกสองตนเชื่อมต่อกับเครือข่ายรังของมหานางพญาคลาแค็กซ์แล้วละสิ เพราะฉันได้ยินเสียงพวกแกสองตัวกระซิบกันอยู่น่ะ" โฟรซ่าบอก

              เทคคราตัสกล่าว "และแย่หน่อยนะ ที่แกฆ่าคนของท่านคราแค็กซ์ลง โดยที่ไม่รู้ว่า พวกเราให้สมุนฝั่งของเราอยู่ในยานลำนั้นมาน่ะ" แล้วพวกทหารยัคซอทร่างโตก็เข้ามาในห้องโถงกัน "ทีแรก เรากะจะลงมือจัดการกับท่านบาคราน่าในทันทีที่ได้ลูกบาศก์มา แต่ลูกบาศก์นั้นกลับทำให้งานของเราง่ายขึ้นกว่าเดิมนี้แหละ"

              "รวมถึงกวาดล้างพี่น้องของพวกแกที่ถูกชำระล้างผ่านบาคราน่า ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นพวกจอยนัสกันแล้วสิน่ะ" โฟรซ่าบอก

              กราโบลกล่าว "ใช่ แม้กระทั่งพวกพ้องของแกกันด้วย ซึ่งพวกไทรเวเซอร์ไม่มีทางมาทันเวลาไปได้หรอก" แล้วก็ชักปืนออกมา "พอเรากวาดล้างพวกแก องค์ราชินี องค์ชายและพวกจอยนัสจนราบคาบเสร็จ ต่อไปก็ถึงคราวพวกไทรเวเซอร์กันละ"

              "พวกแกนิมันร้ายจริงๆเลยน่ะ คราแค็กซ์คงจะคำนวณไว้เพื่อเตะถ่วงให้พวกเดลอาเนี่ยนโผล่มาถล่มพวกไทรเวเซอร์งั้นสิ" โฟรซ่าบอก

              เทคคราตัสบอก "ต่อให้เดอาร์และกองรบเฟลาเลี่ยมไม่มา พวกเราก็สามารถกำจัดพวกแกพร้อมกับได้ความดีความชอบกันอยู่แล้วละ"
     


              ตัดมาทางด้านแอนเดรียและเหล่านักรบดาวฤกษ์ที่กำลังต่อสู้กันที่ฮิชเลไบน์-4 กันนั้น

              "ฟ้าวววว แชบบบบบ หวับๆๆๆๆๆ แชบๆๆๆๆๆ" เดอาร์กระโจนเข้าใช้ฮัลบาร์ดพลังอนุภาคหวดใส่แอสเทลน่า ซึ่งใช้ไซโคคัตเตอร์และวอยด์เอดจ์โต้ตอบใส่อย่างรวดเร็ว "แชบบบบ" เดอาร์หวดฮัลบาร์ดฟาดใส่แอสเทลน่าที่ไขว้แขนใช้คมดาบแสงคู่รับคมขวานเอาไว้ พร้อมกับโถมแรงเพื่อกดแอสเทลน่าให้ล้ม แต่ "ครืดดดดด" แอสเทลน่าใช้วิธีโพไปข้างหน้าพร้อมกับใช้คมดาบแสงทั้งสองสีครูดจากคมขวานไปยังด้ามและ "หวับบบ เปรี้ยงงง" สบัดแขนทั้งสองข้างเพื่อสับฮัลบาร์ดหัก "ชิ" เดอาร์เลยตัดสินใจ "ป้ากกก" เตะแอสเทลน่าจนล้มกลิ้งลงกระเด็นกระดอนไปสามตลบ ก่อนที่เธอจะโดดขึ้นมายืนขึ้นโดยเร็ว เดอาร์จึงชักดาบสองเล่มออกมา "ฟ้าววว หวับๆๆๆๆ แชร้งๆๆๆๆๆ" และพุ่งเข้าใส่แอสเทลน่าดุจสายฟ้าแลบ พร้อมกับหวดฟาดฟันดาบยาวใส่แอสเทลน่าที่ใช้ปลอกแขนดาบแสงฟาดฟันใส่ "หวับบบบ แชบบบบบบ" แล้วทั้งสองก็หวดอาวุธทั้งสองมือฟาดใส่พร้อมกัน "ฮึยยย ย้า" เดอาร์และแอสเทลน่าตะโกนลั่นแล้วก็ปัดอาวุธและรีบโดดถอยออกมาพร้อมกัน "ข้าไม่นึกน่ะ ว่าการที่ฟาเดลน่าไม่อยู่สอนวิชาต่อสู้ให้กับเจ้าเลยนั้น เจ้ากลับยิ่งเก่งกาจกว่าที่นางเป็นเสียอีก แม้ว่าเจ้าจะอ่อนกว่าข้าตั้งหลายปีด้วยกันน่ะ" เดอาร์กล่าวโดยที่เธอยังหอบเหนือยอยู่

              แอสเทลน่าบอก "ท่านเก่งกาจสมกับที่ท่านแม่พูดถึงไว้ไม่มีผิด แม้ว่าฉันจะไม่เก่งกาจเท่ากับที่แม่เป็น แต่ฉันขัดเกลาฝีมือการต่อสู้อยู่เสมอ เพื่อมิให้ทักษะการต่อสู้ที่ฝึกฝนมาโดยตลอดนั้นบกพร่องจนคมดาบทื่อลงไปกันนี้แหละ"

              "แต่การที่ข้าได้สู้กับเจ้านั้น เจ้าทำให้ข้าจดจำฟาเดลน่าได้ แม้ในตอนนั้น ข้าเป็นแค่นายกองภายใต้การนำของแม่ทัพคนก่อนเลยก็ตาม แต่ข้าได้รับรู้ถึงความทระนงตน ความเด็ดเดี่ยว ความกล้าหาญ และความเข้มแข็งทางใจจากการปะมือกับนาง ซึ่งข้าเห็นเงาของนางทับซ้อนกับเจ้าอยู่ แม้ว่าเจ้าจะใช้ท่วงท่าที่ต่างไปจากนางเลยก็ตามน่ะ" เดอาร์บอก

              แอสเทลน่ากล่าว "และการที่ท่านยังอยู่นี้ได้นั้น เพราะว่าท่านอยากจะสู้กับแม่ของท่านให้รู้แพ้รู้ชนะกันเลยสิน่ะ แม้ว่าตอนนี้ ท่านแม่ไม่อยู่แล้วก็ตาม"

              "ข้ารู้สึกเสียดายมาก ที่ไม่ได้สู้กับแม่ของเจ้า แต่ข้าก็ภูมิใจที่เจ้ายังสืบทอดสิ่งที่นางมอบให้ แม้ว่านางไม่ได้สอนวิชาต่อสู้ให้เจ้าเลยก็ตาม" เดอาร์บอก "และการต่อสู้นี้ จะไม่มีใครหน้าไหนเข้ามายุ่งย่ามกันได้แน่นอน ต่อให้เจ้ามีสหายจากไทรเวเซอร์เพียงหนึ่งเดียวกันแล้วก็ตามน่ะ"

               แอสเทลน่ากล่าว "ฉันรู้ ว่าคุณคงไม่ยอมให้แอนเดรียเข้ามาขวางได้ เลยสั่งองครักษ์เข้ามาขวางทางเลยสิน่ะ"

              "ป้ากก ป้ากก" แอนเดรียทิ้มอัมเบรแลนซ์เล่นงานพวกนักรบเฟลาเลี่ยมจนล้มไปกันหมด พร้อมกับรีบวิ่งตรงไป "ย้า ย้า" พวกนักรบเฟลาเลี่ยมเทเลพอร์ตมาจากด้านข้างทั้งซ้ายและขวา กับด้านหลังของแอนเดรียพร้อมกับโลห์พลังอนุภาคในมือซ้าย "ป้ากกก ป้ากกก ป้ากกก" แทรอน่า เลออซ่า และเมบิลล่ารีบกระโดดเข้าสกัดนักรบเฟลาเลี่ยมทั้งสามไว้ "รีบไปช่วยท่านพี่แอสเทลโดยเร็วเลย พวกเราจะรับมือพวกนี้เอง" เลออซ่ากล่าว

              แอนเดรียบอก "แล้วพวกคุณล่ะ"

              "ตอนนี้พี่เฮย์ซีฟและพวกกำลังรับมือกับกองรบกันอยู่ มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่รีบไปช่วยท่านพี่แอสเทลกันน่ะ" เมบิลล่ากล่าวพร้อมกับใช้กำไลดาบแสงเข้าสู้กับนักรบเฟลาเลี่ยมที่ใช้ปลอกแขนดาบอนุภาคกันอยู่ แอนเดรียพยักหน้าเลยรีบวิ่งรุดหน้าไปต่อ จนเข้าใกล้จุดที่แอสเทลน่าและเดอาร์สู้อยู่ "แว้ง!!!!!" ไม่ทันไร นักรบเฟลาเลี่ยมทั้ง 12 ตนซึ่งสวมเกราะสีเงินขาวสลับสีน้ำเงินม่วงโผล่มาพร้อมกับโลห์ใหญ่และหอกสองคม เทเลพอร์ตเข้ามาขวางหน้าแอนเดรียเข้า

              "พวกคุณกรุณาถอยไปห่างๆได้มั้ยละคะ" แอนเดรียกล่าว

              "พวกเรา 12 นักรบหญิงองครักษ์ได้รับคำสั่งจากท่านแม่ทัพเดอาร์ ให้มาขัดขวางไม่ให้ใครเข้ามาสอดยุ่งกับการต่อสู้ของท่านแม่ทัพเดอาร์กันนี้แหละ" นักรบเฟลาเลี่ยมหญิงสีเงินขาวทั้ง 12 นางกล่าว แล้วก็ "แว้งงงงง" เทเลพอร์ตหายตัวไปและมาโผล่ล้อมรอบแอนเดรีย ทั้ง 12 จุดด้วยกัน "ฟ้าววววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" นักรบหญิงตำแหน่งบ่ายโมง ตีสี่และสามทุ่มบุกเข้าใส่แอนเดรียอย่างรวดเร็ว จนแอนเดรียรีบกระโดดสูงเพื่อหลบการโจมตี "ฟ้าวววววว" นักรบหญิงในตำแหน่งเที่ยงและหกโมงกระโดดเข้าใช้โลห์ปะทะ "แว้งงงงง" แอนเดรียรีบกางโปรเทคชั่นสเฟียร์ป้องกันไว้ แต่ "หวับบบบ จึก เพล้งงงง" นักรบหญิงทั้งสองจ้วงแทงหอกทะลุสนามพลังป้องกันจนแตกกระจุยไป ส่วนแอนเดรียรีบทิ้งตัวลงสู่พื้นโดยเร็ว "ย้า..." นักรบหญิงในตำแหน่งเจ็ดโมงพุ่งเข้าจู่โจมใส่แอนเดรีย "หวับๆๆๆ ป้ากๆๆๆ" จนเธอรีบใช้ทวนแทงโต้ตอบแทบไม่ทันและ "ปึกกก" ถูกถีบจนล้มก้นกระแทกลง แม้แอนเดรียจะรีบลุกขึ้น "ย้าๆๆๆๆ" นักรบหญิงในตำแหน่ง 10 โมงและห้าทุ่มพุ่งเข้ามากวาดแกว่งหอกใส่แอนเดรีย ซึ่งรีบถอยออกมาแทบไม่ทัน "โท้ววว" และรีบกระโดดข้ามหัวนักรบหญิงทั้งคู่ไปก่อนที่จะโดนหอกแทงพร้อมกัน "แว้งๆ" นักรบหญิงจากตำแหน่งตีสองและบ่ายสามเทเลพอร์ตหายไป แล้วก็ "แว้งงง" นักรบหญิงตำแหน่งบ่ายสามโผล่มากระแทกโลห์ใส่แอนเดรีย ซึ่งเธอรีบใช้ทวนบล็อกไว้ได้ "หวับบบบ" แต่นักรบหญิงจากตำแหน่งตีสองจ้วงแทงหอกผ่านวงแขนซ้ายที่จับด้ามทวนส่วนล่างเข้าแล้วก็ "ย้า" โดนนักรบหญิงจับด้ามหอกทุ่มข้ามหัวกระเด็นไป "โครมมมม" จนทำให้แอนเดรียล้มหลังกระแทกพื้นไปเต็มๆ แม้เธอจะลุกขึ้นยืนเลยก็ตาม "ย้า" นักรบหญิงจากตำแหน่งตีห้าและสองทุ่มกระโดดเข้าฟาดหอกลง "แกร้งงงงง" แอนเดรียรีบยกด้ามหอกมาป้องกันไว้ แม้คมหอกจะไม่โดนนิ้วมือของแอนเดรียเลยก็ตาม "ย้า" แอนเดรียจึงต้องฮึดสู้พร้อมกับปัดคมหอกของนักรบเฟลาเลี่ยมหญิงให้กระเด็นไปและฟาดทวนเข้าใส่ แต่ก็ฟันหวืดเพราะนักรบหญิงทั้งสองกระโดดกลับประจำที่เดิม "ดูท่าว่าเจ้าพยายามไม่น้อยเลยน่ะที่จะสู้กับเรา แม้ว่าพวกเราได้รับการฝึกมา เพื่อสู้กับสหายผิวม่วงของเจ้ากันแล้วก็ตาม แต่เจ้ายังอ่อนหัดยิ่งกว่ากันน่ะ" นักรบหญิงบอก

              แอนเดรียกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะคุณคนใดคนหนึ่งใช้ท่างัดทุ่มข้ามหัวของสเปียริทกับฉันได้ แม้ว่าพวกคุณไม่ได้มีพละกำลังเหมือนกับสเปียริทก็ตาม"

              "แต่เจ้าก็รู้วิธีป้องกันตัวมิให้ตนเองเจ็บตัวไปมากกว่านี้ เพื่อเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุดสิน่ะ" นักรบเฟลาเลี่ยมตัวหัวหน้าที่อยู่ตำแหน่งหกโมงเย็นกล่าว แล้วเหล่านักรบที่เหลือกล่าวพร้อมกันไปว่า "แย่หน่อย ที่พวกเราจะเอาจริงกันแล้ว เพราะพวกเราไม่ปล่อยให้เจ้าเข้าขัดขวางการต่อสู้ของท่านเดอาร์กันหรอก" 

              แอนเดรียเลยกำด้ามอัมเบรแลนซ์เอาไว้ "ถึงฉันจะชนะพวกคุณไม่ได้ แต่ก็ยอมให้พวกคุณช่วงชิงอิสรภาพของทุกๆคนที่ถูกกักขังไว้ในดาวดวงนี้กันไม่ได้หรอกคะ" 

              "เอาละ จุดจบของพวกแกมาแล้ว...." เทคคราตัสกล่าว

              ไม่ทันไรก็ "ฟ้าววววววววววววววววว" มีเครื่องบินบินผ่านเหนือดอกไม้ใหญ่ไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับ "เพล้งงง ตึก ตึก ตรึงง ตรึงงง" พีวิล เจเนล เนคมาดูซัม และคลอเวฟโดดทะลุหลังคากระจกเข้ามาในทันที สร้างความตกใจให้กับพวกจอยนัส(ซึ่งรวมบาคราน่าและอาเรซัคเข้าไปแล้ว) และยัคซอท (พวกเทคคราตัส)กันไม่น้อย ส่วนโฟรซ่ายิ้มขึ้นมา "ไทรเวเซอร์ มาแล้ว!!!!" พีวิลและพวกตะโกนขึ้น

              "พวกนี้คงจะเป็นพวกไทรเวเซอร์ที่คราแค็กซ์และพลเมืองของเราเล่าลือกันสิน่ะ" บาคราน่ากล่าว

              กอสเทรย์บอก "ใช่ และการมาของพวกเขานั้น คงหมายถึงความหวังของพวกเรายังพอมีอยู่น่ะ"

              "ปลอดภัยดีนะครับ รุ่นพี่" พีวิลกล่าว

              โฟรซ่าพยักหน้า "ฉันนึกว่าพวกเธอจะไม่มาเสียอีกน่ะ แต่ฉันเองก็ไม่เป็นไรแล้วละ" และหันมาถาม "แล้วสตีฟล่ะ"

              "ลูกพี่ปลอดภัยดีครับ เจ้ เช่นเดียวกับพวกพ้องของเรากันด้วย ที่ต้องเสียเวลาไปช่วยสักหน่อยนะ" เจเนลกล่าว

              คลอเวฟบอก "ว่าแต่ พอจะบอกได้มั้ยว่าใครเป็นศัตรูกันแน่น่ะ เพราะดูเหมือนว่าพวกเราจะพลาดอะไรไปบางอย่างแล้วละ"

              "พวกไทรเวเซอร์ พวกแกโผล่มาแบบนี้ แสดงว่าพวกแกก็คงจะ...." เทคคราตัสกล่าว

              ไม่ทันไรก็ "ฟ้าวววววววว" ยานไทรแองเกิ้ลบินมาพร้อมกับเซปเทเรี่ยนอัลฟ่ากันแล้ว "แฟ้วๆๆๆๆๆๆ" อาร์ซโทรมของพวกอโพลอฟบินเข้ามาพร้อมกับ "แฟ้วววว แฟ้ววว แฟ้วววว แฟ้วววว ฟ้าวววว ตรึงงง ตรึงงงง" อัลติเมทเอทเฮฟวี่เครด แพนเซสเซนไนน์เฮฟวี่เมทัลอาร์ม ไคโอเบิร์นเนอร์เทอโบแอทแทคเกอร์ แอสโตรเกเซอร์แอสโตรวิช อิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนมัคซ์สไตร์คเกอร์บินลงมา ตามด้วยฟาลครีด้าพรีม่า แอทแทคก้า และกานีสต้าแบบมัคซ์บริซครีท กิซเซเบอร์อีเรดิเคเตอร์บินเข้ามาใกล้กับหอคอยสูงกัน คลอเวฟบอก "เอาละ ไอ้แม่ทัพเฮงซวย ถ้าคิดจะเรียกกองหนุนจากนอกดาวดวงนี้ละก็ คิดผิดแล้ววะ เพราะกองยานรบที่มากับเราจัดการตรงนั้นไปแล้วละ" โดยตอนนี้กองยานอินเซคเที่ยนส่วนที่อยู่นอกดาวนั้น ได้ถูกอีเนอไมนด์นำโดยฮารีค พวกเวโนมิไนซ์ที่นำโดยเบเลียร์ และพวกควอเดี่ยมภายใต้การนำของเทาฟาดิล ซึ่งฟิเกซลงสนามร่วมรบเข้าต่อกรกับกองยานอินเซคเที่ยนกันอย่างหนักหน่วง

              "บัดซบเอ้ย แต่ถึงพวกแกสี่ตัวโผล่มาก็ใช่ว่าจะสู้กับทหารของเรากันได้หรอก" เทคคราตัสกล่าวและดีดนิ้วเพื่อให้พวกทหารยัคซอทร่างโตบุกเข้ามา โดยด้วงตัวโตบุกเข้าเล่นงานเนคมาดูซัมและคลอเวฟ "กร้องงง ป้ากกก" คลอเวฟจบเรื่องด้วยการซัดทุเรียนเหล็กไหลอัดเข้าหน้ายัคซอทด้วงตัวโตไปเต็มๆ ส่วนเนคมาดูซัมก็... "โบลท์นัคเคิ้ล" ชกด้วยหมัดพลังแสงเข้าที่ท้องของยัคซอทด้วงไปเต็มๆจนตัวมันทรุดตัวเพราะต้านแรงหมัดของเนคมาดูซัมไม่ไหว ยัคซอทแบบตั้กแตนตำข้าวสองตัวเลยบุกเข้ามาหมายจะจัดการกับพีวิลและเจเนล "เอนเนอจี้โบลท์" พีวิลซัดลูกบอลพลังเข้าอัดใส่หน้าอกของยัคซอทตั้กแตนตำข้าวจนทำให้มันชะงัก แต่มันก็ไม่สามารถลงมือได้ เพราะ "เซเคนด์สไตร์ค" โดนพีวิลพุ่งมาตรงหน้าและเตะก้านคอใส่ดุจสายฟ้าแลบ ส่วนเจเนลเองก็ "ฉั้วะๆๆๆ" ใช้เมทัลเบลดฟันขาของตั้กแตนตำข้าวตัวโตจนขาฝั่งซ้ายขาดไปสองขา แล้วก็กระโดดขึ้นบนตัวมาอยู่ด้านหลังและ "ฉั้วะ" ฟันตัดหัวขาดลงโดยเร็ว

              "งืงงงงง" ยัคซอนยุงตัวโตบินเข้ามาหมายจะแทงใส่โฟรซ่า ชนิดที่พีวิล เจเนล คลอเวฟและเนคมาดูซัมไปช่วยไม่ทัน "ย้า" โฟรซ่าเลยตวัดฝ่ามือทั้งสองข้างฟาดใส่ยัคซอนยุงที่พุ่งเข้ามา "กะ อา...." ยัคซอทยุงชะงักหยุดตรงหน้าโฟรซ่าพร้อมกับ "กึกๆๆๆ แคว้กกก โครมๆ" ร่างถูกผ่าขาดเป็นสองซีกในทันที โฟรซ่าเห็นเช่นนั้นเลยมองดูที่ฝ่ามือของเธอ ซึ่งปลายฝ่ามือใกล้กับนิ้วก้อยทั้งสองข้างเรืองแสงสีฟ้าขึ้นมา "ฝ่ามือผ่าขาดของอาเจ้กลับมาแล้วสิน่ะ" เจเนลบอก เรซเซอร์อาร์มของโฟรซ่ากลับมาใช้งานได้แล้ว

              "แม้จะช้าไปนิด แต่อย่างน้อย ฉันก็ดีใจแล้วละ" โฟรซ่ากล่าว แล้วก็กระโดดหลบการบุกของยัคซอทปลวกยักษ์ที่ใช้หอกแทงใส่พร้อมกับ "ฟ้าวววว ฉั้วะ" ดิ่งลงมาฟาดฝ่ามือขวาลงไปทีหนึ่งแล้วก็ "หวับ หวับ หวับ หวับ" เสยฝ่ามือขวาฟันขึ้น ตามด้วยฝ่ามือซ้าย จากนั้นก็ฟาดฝ่ามือซ้ายฟันด้านบนและมือขวาฟันด้านล่างเข้ามา และสบัดแขนสองข้างฟันในแนวกลาง จนทำให้ยัคซอทปลวกยักษ์ถูกผ่าไปหกรอยจนขาดเป็นสิบหกซีกในทันที "ฉั้วะๆๆ" คลอเวฟใช้แองเกอร์แอ็กซ์ฟันสับหัวและขาของยัคซอทด้วงกว่างขาดสะบั้น "ป้าก ป้าก เปรี้ยงง" เนคมาดูซัมใช้ทริปเปิ้ลรัชเชอร์เบรคชกใส่ยัคซอทด้วงกว่างตัวโตจนเขาหักและกระดองยุบไป

             "ทอร์เนโดว์สไปค์" พีวิลหมุนตัวจู่โจมด้วยการหวดหลังแหวนที่อัดเพลิงอีเนลเซี่ยม เล่นงานยัคซอทมดยักษ์จนตัวมอดไหม้ด้วยเพลิงสีน้ำเงินไป "เครเซนท์คิก" เจเนลเตะซัมเมอซอลท์ฟาดใส่ยัคซอทจี้งหรีดดำที่กระโดดเข้ามา และฟาดส้นลงกลางหัวส่งมันไปกระแทกกับพื้นดับดิ้นในทันที

              "แย่แล้วละครับ ท่านแม่ทัพเทคคราตัส พวกเราต้านพวกแมนิเกเตอร์กันไม่ได้เลยนะครับ" ทหารอินเซคเที่ยนบอกและนำภาพการต่อสู้ที่อยู่นอกเขตชุมชนของจอยนัสขึ้นมา "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดด แชดดดด แชดดดด" วิลด้าใช้ทั้งสครูว์อิมพัลซ์ลันเชอร์และฟาสท์แทรคมิไซล์สอยพวกปาปิยาสจนระเบิด โดยที่บาเรียต้านการโจมตีไม่อยู่ "ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว ฉืบๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" คอร์ฮอร์เนทที่บินเข้าใส่ยานเซปเทเรี่ยนเบต้าถูกลิเนียร์ตี้ จิลและสเปียริทพุ่งเข้าฟาดฟันใส่จนตัวยานผึ้งขาดสะบั้นไปกันหมด ส่วนพวกสวอร์มมิสประกอบกับฮอร์เนทซึ่งจู่โจมด้วยกระสุนเหล็กไนทั้งขนาดสั้นและขนาดยาวนั้น "แชดๆๆๆ แชดดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดด ตุ้งๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" แอบไบออสโผล่มาสาดยิงเดธอายบีม กิซซาร์ดบัสเตอร์ไรเฟิ่ล กิซซาร์ดแคนน่อน มิวทาริมดาร์ทถล่มทั้งห่ากระสุนเหล็กไนและฝูงสวอร์มมิสฮอร์เนทจนกระจุยไปกันหมด "ตรุ้งๆๆๆ ตรูมๆๆๆ บรึมมมม" ยานไฮฟ์ชีฟถูกไทรแองเกิ้ลยิงปืนใหญ่พลังคลื่นสอยจนร่วงไปหนึ่งลำ แล้วก็ยิงซีคเกอร์มิไซล์ถล่มพวกโดรนคอร์ที่แห่มาจนร่วงไปส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ "ครืด ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดนแรปิดเดเตอร์พันนิชเชอร์สอยยิงทิ้งจนร่วงไปหมด "ฟ้าวๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆ" ฝูงยานคอร์อินเซตบินเข้ายิงลำแสงใส่ยานไทรแองเกิ้ล และยานเซปเทเรี่ยนทั้งสองลำเข้า "แชดดดดดดดด ป้าก ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" มิลด์เลยสาดยิงมาสแตงค์บัสเตอร์ลันเชอร์คู่สอยฝูงยานคอร์อินเซตปกติทิ้งไปเป็นสิบ แล้วก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงมิไซล์แพ็คเข้าถล่มพวกที่เหลือจนร่วงไป สวอร์มมิสมันทิสจำนวนหนึ่งบินเข้ามา "หวับ ฉั้วะๆๆๆๆ" มิลด์เลยใช้สปาร์คเซเบอร์เข้าฟาดฟันใส่จนสวอร์มมิสมันทิสขาดสะบั้นลงไป 4-5 ตัว แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งบุกมาจากข้างหลัง "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็ถูกจิลใช้บริซซาร์ดแอทแทคแช่แข็งสวอร์มมิสมันทิส 8 ตัว ที่เหลืออีก 12 ตัวก็ "แชดดด แชดดด ตูมๆๆๆๆๆ" โดนลิเนียร์ตี้และสเปียริทยิงลำแสงกระจายทำลายทิ้งไปกันหมด "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆๆ" เบติสกราดยิงเมลเบิร์นแกตลิ่งและฟรีซเวฟวัลแคนสอยสวอร์มมิสบีทต้าที่บินเข้ามาใกล้ โดยมีไกซ์กราดยิงแกตลิ่งชิลด์และโชลเดอร์มาโครลันเชอร์ถล่มพวกคอร์บีทต้าให้ร่วงกระจุยไป "ดริลซัดเด้นนัคเคิ้ล" ฟูลออเรสซัดหมัดจรวดสว่านความเร็วสูงพุ่งเข้า "ป้ากกกก" ทะลวงใส่แอทเทอไบน์จนหน้าอกทะลุเป็นรูและล้มระเบิดเป็นจุลไป "ปริซึมวิงค์สไลเซอร์" เมดิน่าซัดบูมเมอแรงรูปปีกยาวพุ่งเข้า "ฉั้วะๆๆๆ" ผ่าแอทเทอไบน์ขาดไป 4 ตัวจนระเบิดไป "วือออออ ตรึงๆๆๆๆ" ไม่ทันไร แอทเทอไบน์ 5 ตัวเข้ามาสมทบพร้อมกับ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" เรียกคอร์ปาปิยาส คอร์ฮอร์เนท คอร์บีสต้า และคอร์มันทิสเข้ามาประกบกับท่อนแขนทั้งสี่จน "ป้ากๆๆๆๆๆ ครี้งงงง แว้งงงง" จนเรืองแสงขึ้น เปลี่ยนส่วนแขนทั้งสี่เป็นแขนอาวุธสี่สีขึ้นมา

              "มันรวมร่างได้เลยหรือเนี้ย" ฟูลออเรสกล่าว

              นักบินอินเซคเที่ยนบอก "นี้คือเทคนิคเสริมอาวุธของแอทเทอไบน์ที่จะนำมาใช้กับพวกแกกันนี้แหละ" แล้วก็ "ปาปิยาสริปเปิ้ล" ยิงลำแสงวงแหวนจากแขนซ้ายบนที่ติดโลห์ปีกผีเสื้อ "ป้ากกก ตรูมๆๆๆๆ" เข้าใส่อิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนอย่างจังๆ "ฮอร์เนทสไปน์" จากนั้นก็ยิงปืนท้องผึ้งที่แขนขวาบนเข้า "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หวับๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็ยิงใส่พวกลิเนียร์ตี้ จนพวกเธอหลบแทบไม่ทัน "แชดดดด แชดดด แชดดดดด" แอบไบออสสาดยิงบัสเตอร์ไรเฟิ่ลทั้งสองกระบอกทำลายกระสุนเหล็กไนยาวไปได้เพียงประปราย "แชดดดดดด แชดดดดดดดด ฟิ้วๆๆๆๆๆ" มิลด์และวิลด้าเลยบินเข้ามาช่วยถล่มซ้ำอีกที โดยที่พวกโซลูนาสตี้ทั้งสองกลุ่มบินเข้ามาช่วยถล่มไปด้วย "บีทต้าแคนน่อน" จากนั้นก็ยิงกระสุนจากเขาด้วงกว่างที่แขนซ้ายล่างลงพื้น "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" จนทำให้ไกซ์และเบติสรีบถอยออกมาก่อน "อิชเชเตียนบีม" "ปริซึมอายบีม" ฟูลออเรสและเมดิน่ายิงลำแสงจากหน้าผากและดวงตาเข้าสวนกลับ แต่กลับโต้ตอบด้วย "มันทิสคัตเตอร์" ใบมีดตั้กแตนตำข้าวพุ่งเข้า "หวับๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆ" ปะทะใส่หน้าอกของหุ่นทั้งคู่ไปอย่างจังๆ

              "หึๆๆๆๆ พวกแกไม่มีทางหยุดยั้งพวกเราในการถล่มที่นี้และแย่งชิงลูกบาศก์แห่งแสงไปได้หรอก" เทคคราตัสกล่าว

              "ที่ถูกควรเป็นแกมากกว่าวะ" คลอเวฟกล่าวแล้วก็ "ป้างง ป้างงง ป้างงง" กราดยิงช็อคแคนน่อนเข้าใส่ "เปรี้ยงๆๆ" แต่ยัคซอทด้วงเขี้ยวก่างเข้ามาบล็อกเอาไว้ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมเลยกราดยิงซีคเก้ไรเฟิ่ลคู่และบ็อกซ์บัสเตอร์ถล่มจนยัคซอทด้วงระเบิดไป พีวิล เจเนลและโฟรซ่าเลยโต้ตอบกับด้วยอาวุธประจำตัวเข้าใส่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หึมๆๆๆๆๆ ฟ้าววววว ป้างงง" เทคคราตัสและกราโบลเลย "แว้งงงง ปิ้วๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมม เปรี้ยงงง" เทเลพอร์ตหายไปจนห่ากระสุน กระสุนพลาสม่าและกระสุนสังหารทะลุผนังไปเสียเอง พร้อมกับ...."ครืดดดด ตรึงงงงง" หุ่นยักษ์ที่มีท่อนล่างเป็นขาแมลงยาวสี่ขา พร้อมกับท่อนแขนปืนใหญ่ขนาดยาว และหัวทรงแมลงตากลมโผล่ออกมาจากยานแม่ของพวกอินเซคเที่ยนขึ้นมา

              "แย่แล้วละคะ ยานแม่ของพวกอินเซคเที่ยนส่งหุ่นระดับคอมมานด์ไทแทนออกมาแล้วละคะ" แอมเบอร์กล่าว โดยตอนนี้พวกเนคมาดูซัมรีบวิ่งออกมาข้างนอกกันแล้ว 

              "ดูท่าว่า พวกเราคงต้องออกโรงเองเสียแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะต้องบดขยี้พวกแกกันทั้งหมดนี้ให้ราบคาบกันนี้แหละ" กราโบลกล่าวโดยที่มันควบคุมอยู่ที่ส่วนท้อง

              ส่วนเทคคราตัสอยู่ในคอกพิตส่วนหัว "จุดจบของพวกแกและพวกจอยนัสทั้งหลายมาถึงแล้ว ด้วยมือของพวกเรานี้แหละ" แล้วก็ "ตรึง ตรึง ตรึง ตรึง" ขยับคอมมานด์ไทแทนแบบสี่ขายาวๆก้าวเดินไปอย่างช้าๆ "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆ ตุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ แท้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆ แชร้ววว แชร้วๆๆๆ" กองรบอาร์ซโทรน 7 ดาวระดมถล่มใส่คอมมานด์ไทแทนกันอย่างยกใหญ่ โดยที่ยานเซปเทเรี่ยนทั้งสองลำระดมยิงปืนใหญ่ลำแสงพร้อมกับยานไทรแองเกิ้ลไปด้วย เพียงแต่ "ป้ากๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" ยานไฮฟ์ชีฟกลับบินเข้ามากำบังเอาไว้ "ป่วยการเปล่า เกราะของคอมมานด์ไทแทนที่ท่านคราแค็กซ์ให้มานั้น ทำด้วยโลหะที่แข็งแกร่งระดับเทพ อาวุธของพวกแกไม่ระคายผิวกันหรอก" เทคคราตัสกล่าว แล้วก็สั่งกองรบบุกเข้าไปด้วย จนพวกไทรเวเซอร์ต้องรีบรับมือโดยเร็ว

              "ไอ้เวรเอ้ย มันเอาหุ่นยักษ์เป้งๆออกมาแบบนี้ ชักไม่เข้าท่าแล้ววะ" คลอเวฟบอก

              โฟรซ่าบอก "ช่วยไม่ได้แล้วละ" แล้วก็สบัดแขนเปิดเครื่องติดต่อที่ข้อมือข้างซ้าย "แอมเบอร์ ส่งมิลซากันและโมบิลลอยด์ของพวกพีวิลมาหาพวกเราโดยเร็วเลย"

              "รับทราบคะ" แอมเบอร์กล่าวแล้วก็ "เทเลพอร์ตซิสเทม ส่งโมบิลลอยด์ไปยังตำแหน่งเรียกเดียวนี้เลยคะ" กดปุ่มเพื่อ "แว้งงงงง" ส่งฟาลครีด้ามิลซากัน-5 ออกไป "แว้งงงงง" โผล่ตรงหน้าโฟรซ่า โดยที่หุ่นเปิดระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติกันอยู่ เช่นเดียวกับฟอสเทสซิกัส เฮฟโวลทริสตรอนดีวาสเทรด ไซน์เกนและเกรฟเซนบ็อกเซอร์โผล่มา "ฟึ่บบบบ ตึก ปี้บๆๆ วี้งงง" โฟรซ่ารีบโดดเข้าไปพร้อมกับปิดระบบออโตไพลอทเพื่อให้เธอควบคุมหุ่นคู่ใจของเธอกัน รวมถึงพวกพีวิลด้วย ซึ่งก็ "ครืนๆๆๆๆๆ โครมๆๆๆๆๆๆ" พื้นดินที่ยุบตัวนั้นปรากฎพวกยัคซอทตัวยักษ์ใหญ่เท่าโมบิลลอยด์ขึ้นมา

              "เออ นั้นเป็นกำลังเสริมของพวกศัตรูกันนะหรือคะ" แอมเบอร์บอก

              "เกรงว่านั้นเป็นพวกที่ฉันคิดว่ามันควรจะโดนทับแบนไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าพวกมันจะมียาฉีดอัพไซส์ยักษ์ใหญ่กันได้เลยน่ะ" โฟรซ่ากล่าว

              คลอเวฟบ่น "ฉันรู้สึกโมโหเธอครึ่งหนึ่ง แต่ก็ดีใจมากที่ยังมีศัตรูเหลือไว้ให้ออกแรงกันบ้างแหละ" แล้วก็บอก "แอมเบอร์ บอกกองหนุนลงมาช่วยไกซ์และเบติสกันหน่อยเร็ว" เพราะตอนนี้คาชาพัลตัวใหญ่พาพวกยัคซอทตัวบิ้กบุกเข้ามากันแล้ว "หวับบบ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ไกซ์ใช้โซลิดเบลดฟาดฟันสับพวกยัคซอทที่บุกเข้ามาพร้อมกับกราดยิงแกตลิ่งชิลด์ไปด้วย "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ป้ากกก ป้ากกก เปรี้ยงงง" เบติสกราดยิงปืนกลพลังความร้อนและเย็นเล่นงานพวกยัคซอท พร้อมกับสวนกลับด้วยเทมเพจเจอร์นัคเคิ้ลตามไปด้วย แต่พวกยัคซอทแห่มาเยอะเกินไป "ฟ้าววว โครมๆๆๆๆๆๆ" พวกเฮเรเค้น ไลเอิร์ท ไรแกท เวลลิทและเทรอนเร็กซ์พุ่งลงมายันโครมใส่พวกยัคซอทตัวยักษ์กันอย่างยกใหญ่ "ฟ้าวววว ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" คลอเวฟและเนคมาดูซัมประเดิมด้วยการกราดยิงไฮโดรเลเซอร์ กราฟเฮฟวี่ไรเฟิ่ลและไดนามิคลันเชอร์ลงพื้นใส่พวกยัคซอทตัวยักษ์จนกระเจิดกระเจิง "ฟ้าววว โครมมม ป้ากกก" แล้วก็โดนพีวิลและเจเนลเข้ามาถีบใส่พวกยัคซอทตัวโตซ้ำจนพวกมันล้มกลิ้งไป ทำให้พวกอินเซคเที่ยนต้องส่งสวอร์มมิสบีสต้าและมันทิสลงมากันด้วย "ฟ้าววววว แชดดดด แชดดด แชดดด" โฟรซ่านำมิลซากันยิงใส่พวกสวอร์มมิสฮอร์เนทจนร่วงไปเพื่อช่วยพวกลูนาสตี้ที่กำลังถอยกลับยานกันอยู่ "หวับ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ซึ่งเธอใช้แบ็คแฮนด์ซอร์ดฟาดฟันใส่พวกสวอร์มมิสปกติจนตัวขาด แต่สวอร์มมิสปาปิยาส 3 ตัวบินเข้าใส่พร้อมกับกงจักรใบเลื้อย "ฟิ้วๆๆๆ ฉึกๆๆๆ ฟ้าววว จึก เปรี้ยงงง" จิลใช้ไคท์บัสเตอร์พุ่งทะลวงปีกผีเสื้อจนทะลุแล้วก็บินเข้ามาใช้พิกซี่นีดเดิ้ลสไปค์ แทงเข้าตรงสวอร์มมิสและตอกถึงเตาพลังงานจนระเบิด อีกสองตัวที่เหลือถูกสเปียริทและลิเนียร์ตี้บินเข้ามาฟันทิ้งใส่โดยเร็ว มิลด์และวิลด้าเองก็มาช่วยพร้อมกับพาพวกฟลาแน็กซ์และมัลแด็กซ์มาเสริมอีกที

              "ต่อให้พวกแกแห่มากันแค่ไหน ก็เอาชนะพวกเราไม่ได้หรอก" นักบินอินเซคเที่ยนกล่าว โดยตอนนี้พวกแอทเทอไบน์เอาคอร์อินเซปมาประกอบกับส่วนแขนกันแล้ว ซึ่งพวกมันยิงกระสุนเข็มเหล็กไนและใบมีดเคียวเข้าใส่ "เอาไปเลย อิชเชเตียนเฮอริเคน" ฟูลออเรสโต้ตอบด้วยพลังพายุอนุภาคโชนโครคิฟเข้าบดขยี้ห่าเหล็กไนและใบมีดเคียว พร้อมกับทำความเสียหายให้กับพวกแอทเทอไบน์ไปในระดับหนึ่ง พวกมันเลยยิงกระสุนอนุภาคและลำแสงวงแหวน "ปริซึมสเปคตรัมลันเชอร์" เมดิน่ายิงลำแสงกระจายเข้าทำลายกระสุนอนุภาคและลำแสงวงแหวนทิ้ง จนทำให้พวกแอทเทอไบน์แห่แหนเข้ามา "อาร์มซอร์ด ลองค์สแลช" เมดิน่าอัดพลังขึ้นที่คมดาบยาวทั้งสองเล่มและฟาดฟันใส่แอทเทอไบน์จนขาดไป 5 ตัว ส่วนอีกห้าตัวนั้น "ปริซึมดริลสไตร์ค" โดนฟูลออเรสเจาะทะลวงร่างด้วยความเร็วสูงทีเดียวห้าตัวด้วยกัน "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" เทคคราตัสเลยยิงกระสุนออกจากแขนปืนข้างขวาเข้าใส่ "ปึกๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกยัคซอทตัวโตๆจำนวนหนึ่งเข้า

              "พวกมันยิงพวกเดียวกันเลยหรือวะ" ไลเอิร์ทกล่าว

              กราโบลบอก "พวกไร้ประโยชน์เหล่านี้ เรื่องอะไรจะให้ถูกฆ่าตายกันได้ละ พวกแกจงเป็นพลังให้กับยักษ์ผู้พิชิตนี้เสียเหอะ" แล้วก็กดปุ่มเพื่อ "ฟู้ววววววววว" ดูดเอาพวกยัคซอทตัวโตส่วนหนึ่งเข้าไปในกระบอกปืนจน "แว้งๆๆๆๆๆๆๆ" เกจด้านข้างกระบอกปืนส่องแสงขึ้นเป็นช่องๆ ขึ้นมา แล้วก็ "ตรุ้งๆๆๆๆๆ" ใช้แขนปืนข้างขวายิงกระสุนพลังขนาดใหญ่ลงพื้นเข้าใส่พวกพีวิลกันอย่างจังๆ

              "นี้พวกแกใช้พวกเดียวกันเป็นเชื้อเพลิงและกระสุนอย่างงั้นนะหรือ" โฟรซ่าบอก

              เทคคราตัสกล่าว "เราแค่ใช้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเองแหละ เพราะอีกส่วนนั้น...." แล้วก็กดปุ่มเพื่อส่งพวกยัคซอทที่ถูกแปรสภาพเป็นสวอร์มมิสโดยโผล่ออกมาจากส่วนหน้าอกกัน "เราอัพเกรดพวกที่เราเห็นสมควรให้รอดกันมาใช้กับพวกแกกันนี้แหละ" โดยพวกสวอร์มมิสยัคซอทบินแห่เข้ามา "แชดๆๆๆๆๆ" ซึ่งพวกวิลด้าและโฟรซ่าระดมยิงปืนแสงแบบกระจายกันก็ยังสอยพวกมันได้ไม่หมด 

              "ว่าแต่ สตีฟไม่ออกมากันเลยหรือ" โฟรซ่าถาม

              พีวิลบอก "หมอเดเมี่ยนยังให้รุ่นพี่สตีฟพักต่อนะครับ รุ่นพี่" แล้วก็ "เปรี้ยงงง ป้ากกก" ต่อยเข้าใส่สวอร์มมิสบีสต้าที่พุ่งเข้ามาด้วยใบมีดเขี้ยวก่างจนกระจุย ในขณะที่เจเนลหมุนตัวถีบใส่สวอร์มมิสมันทิสจนท่อนบนกระเด็นไป

              "ขืนเป็นแบบนี้ พวกเราไม่มีทางหยุดพวกมันได้แน่ๆเลยละ" โฟรซ่ากล่าวไป พร้อมกับส่องยิงสวอร์มมิสยัคซอทไม่ให้เข้ามาเล่นงานพวกโซลูนาสตี้กันอยู่


              "แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง" ฉับพลัน หอคอยดอกไม้ก็เรืองแสงขึ้น คลอเวฟบอก "คราวนี้มันเกิดอะไรกันอีกละเนี้ย" จิลชะงักขึ้นจนเกือบเป็นเป้านิ่งให้สวอร์มมิสฮอร์เนทเข้า "แชดดดด ป้ากกกก ตรูมมม" สเปียริทเลยยิงเรย์แซทแคนน่อนเลฟอาร์มเป่าหุ่นแมลงผึ้งให้กระจุยไป

              "เธอสัมผัสถึงจิตบางอย่างขึ้นมาเลยหรือ" สเปียริทกล่าว

              "ฉันรับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่จากดอกไม้สูงใหญ่นั้นแผ่กระจายลงไปปลุกบางอย่างที่อยู่ใต้ดาวดวงนี้ลึกลงไป ให้พุ่งขึ้นมากันนะสิ" จิลกล่าว

              โฟรซ่าบอก "ปลุกบางอย่างอยู่ข้างใต้ให้พุ่งขึ้นมา นี้อย่าบอกนะว่า...."

              ไม่ทันไรก็ "แวบบบบบ" พื้นดินก็ส่องสว่างขึ้นคั้นขวางระหว่างฝ่ายแมนิเกเตอร์และฝ่ายอินเซคเที่ยนเข้า "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ" พร้อมกับมีบางอย่างพุ่งขึ้นมาจากใต้ดาวเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ปรากฎเป็นร่างเรืองแสงขึ้นและ "แว้งงงงง ควี้งงงงงง" แสงที่ปกคลุมร่างเหล่านั้นก็ดับลงจนเผยให้เห็น

              "สะ สวอร์มมิสขนาดใหญ่นะหรือ" จิลอุทานอย่างอึ้งๆ เมื่อเห็นเหล่านักรบสวอร์มมิสขนาดใหญ่หลากสีสันโผล่ขึ้นมา

              "ไวเทลฟอลครูเสด ไม่นึกเลยว่า เหล่านักรบเมื่ออดีตกาลที่อยู่ใต้ดาวดวงนี้ ซึ่งควรจะหลับไหลนั้นได้โผล่ขึ้นมากันได้น่ะ" บาคราน่ากล่าว

              กอสเทรย์บอก "นั้นคงจะเป็นเพราะพลังของลูกบาศก์แห่งแสงแน่ๆเลยละ" เพราะตอนนี้ลูกบาศก์นั้นได้ส่องแสงลงมากันแล้ว

              "ไอ้พวกนักรบศักดิ์สิทธิ์มันตื่นขึ้นมาแบบนี้ พวกเราแย่แน่ๆเลยละ" กราโบลบอก

              เทคคราตัสบอก "ก็แค่ผีที่ถูกปลุกขึ้นจากหลุมมาก็เท่านั้นแหละ พวกเราไม่กลัวมันหรอก" แล้วพวกอินเซคเที่ยนก็บินเข้าใส่พวกไวเทลฟอลครูเสด ซึ่งก็ "แว้งงงง" นักรบด้วงสีน้ำเงินชักดาบยาวสีดำที่เรืองแสงสีขาวแล้วพุ่งเข้า "หวับบบ ฉั้วะ" ฟาดฟันใส่สวอร์มมิสบีสต้าจนขาดสะบั้นและ "ตรูมมม" ร่างระเบิดไปในทันที ตามด้วย "แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง" นักรบแมลงหุ้มเกราะตัวโตชักดาบออกมา ซึ่งก็เปล่งพลังแสงขึ้นและ "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฉั้วะ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" บุกเข้าฟาดฟันใส่สวอร์มมิสยัคซอทจนขาดสะบั้นและระเบิดไปตามๆกัน "ชรี้งงงง พรึ่บบบบบ" นักรบแมลงสีแดงที่มีปีกตรงเอวชักดาบยาวที่ลุกโชนด้วยเพลิงบินเข้า "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ฟาดฟันใส่ยัคซอทมดดำจนขาดสะบั้นและมอดไหม้ไป ตามด้วยนักรบแมลงผีเสื้อดำที่บินเข้ามาใช้ดาบเพลิงพุ่งฟันใส่แอทเทอไบน์ตัวโตๆจนกุดหัวขาดออกจากกัน และมีอีกหลายตัวที่บินเข้ามาด้วยดาบที่เรืองแสงฟาดฟันใส่แอทเทอไบน์จนขาดสะบั้นไปด้วย

              "สุดยอดนะเนี้ย นั้นนะหรือคือพลังของหุ่นนักรบแมลงเลยน่ะ" ฟูลออเรสบอก

              ไกซ์กล่าว "เออ ว่าแต่ พวกนี้เป็นอาวุธลับของชาวดาวดวงนี้เลยหรือครับ ป้า"

              "สงสัยว่าฉันคงต้องเล่าให้พวกเธอฟังยาวสักหน่อยแล้วละ" โฟรซ่าบอก โดยตอนนี้พวกไวเทลฟอลครูเสดบินเข้ามา "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ เคร้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" รุมล้อมคอมมานด์ไทแทนกันอย่างยกใหญ่

              "โอ้ว นั้นคงเป็นการรุมตอมกันระหว่างฝูงแมลงถือดาบกับแมลงจักรกลตัวใหญ่งั้นละสิเนี้ย" สเปียริทบอก

              "แต่ หุ่นตัวโตนั้นมันเกราะหนาแข็งป้ากขนาดนี้ กลัวว่าพวกนักรบแมลงเหล่านั้นจะสู้ไม่ไหวกันนะคะ" มิลด์บอก

              วิลด้ากล่าว "ไม่หรอก เพราะต่อให้หุ่นแมลงขนาดยักษ์นั้นแข็งแกร่งก็จริง แต่น้ำที่หยดลงหินมาหลายหยด ก็ย่อมกัดเซาะหินลงได้เมื่อนั้นแหละ" และจริงอย่างที่วิลด้าพูดไว้ เพราะตอนนี้คอมมานด์ไทแทนที่กราโบลและเทคคราตัสควบคุมอยู่นั้น "ฉั้วะๆๆๆๆ" ความทนทานที่แข็งแกร่งจนไม่มีอะไรทำอะไรได้นั้น บัดนี้เกราะได้ถูกกรีดตัดผ่านจนมีรอยฟันลึกเข้าไปข้างในกันหลายรอยแล้ว

              "รีบดีดตัวเร็วๆเข้าสิ" กราโบลกล่าว

              เทคคราตัสบอก "ไม่ได้น่ะ ระบบดีดตัวไม่ทำงาน คงจะได้รับความเสียหายจากการถูกรุมโจมตีกันแน่ๆเลยละ" ไม่ทันไร พวกไวเทลฟอลครูเสดก็บินเข้ามาตรงหน้าพร้อมกับดาบในมือ ซึ่งก็ "แวบบบบบบบบ" เรืองแสงขึ้น บางตัวก็ใช้ดาบเพลิงที่ลุกโชนขึ้นมา

              "อย่าน่ะๆๆๆๆๆ ไม่น่ะ นี้พวกเราโดนพวกนักรบศักดิ์สิทธิ์ลงโทษกันแล้วหรือเนี้ย อ้า....." กราโบลร้องลั่น

              "บ้าที่สุด นั้นนะหรือ คือพลังของลูกบาศก์แห่งแสงกันน่ะ มันทำได้ถึงขั้นนั้นเลยหรือ" เทคคราตัสร้องลั่นแล้วก็ "หวับบบบ ฉึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกไวเทลฟอลทิ้มดาบเข้าใส่บนหัว ตามตัวกันอย่างพร้อมเพียง จน "แวบบบบบบ ตรูมมมมม บรึมมม" ร่างหุ่นระเบิดแหลกเป็นจุลไปพร้อมกับเสาพลังระเบิดพุ่งทะลวงขึ้นจากดวงดาวไปอย่าง โดยที่เหล่านักรบไวเทลฟอลนั้นบินออกมากางบาเรียบีบการระเบิดให้พุ่งขึ้นไป แทนที่จะกระจายตัวออกมา จนการระเบิดยุติลง "วือออออ ตรึงๆๆๆ" เหล่านักรบแมลงยักษ์ทั้งหลายต่างก็ล้มลงไปในทันที

              "พวกนั้นหมดพลังลงไปแล้วสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              "เป็นเช่นนั้นแหละ เพราะว่าพวกเขากำจัดปัญหาที่ร้ายแรงเกินกำลังของพวกเรากันไปแล้วละ" โฟรซ่าบอก

              สเปียริทกล่าว "ที่เธอรู้นิ เพราะว่าเธอกับพวกอยู่บนดาวดวงนี้มานานมากเลยสิน่า"

              "ว่าแต่ ตอนนี้ พวกอินเซคเที่ยนข้างนอกเป็นไงบ้างละ" เนคมาดูซัมบอก

              ฟิเกซกล่าว "ตอนนี้พวกเราจัดการกับพวกมันไปแล้วละ" ซึ่งยานไฮฟ์ชีฟได้ถูกรีนเวลแดมขบกัดกินกันอย่างยกใหญ่ ส่วนพวกอินเซคเที่ยนที่ออกมาจากยานนั้น ต่างก็ถูกทำลายกันหมด ส่วนฝูงโดรนก็หยุดการทำงานลง หลังจากที่ยานไฮฟ์ชิฟกลายเป็นอาหารปลาวาฬอวกาศไปแล้ว

              "สงสัยว่าภารกิจของพวกเราบนดาวดวงนี้จบลงแล้วสิคะ" ลิเนียร์ตี้บอก

              โฟรซ่ากล่าว "ใช่ นั้นแค่สำหรับฉันกับพวกเอง แต่สำหรับพวกเธอทั้งหมดนี้ คงไม่จบกันเลยละสิ"


              แน่นอนครับ ว่าเรื่องของโฟรซ่าและพวกโซลูนาสตี้เบต้าทีมจบลง แต่ที่ฮิชเลไบน์-4 ใกล้จะจบลงแล้ว

              "แฮกๆๆๆๆๆ" แอนเดรียหอบเหนือยโดยที่เธอยืนจนเข่าสองข้างจะชนกันแล้ว จากการที่เธอ.... "เธอพยายามไม่น้อยที่จะสู้กับพวกเรากันได้ แม้ว่าเธอจะอ่อนหัดมากเลยก็ตาม" จ่าฝูงนักรบเฟลาเลี่ยมซึ่งยืนบนตำแหน่ง 12 นาฬิกาบอก

              ที่เหลือกล่าว "ถึงคราวที่พวกเราจะจัดการกับเจ้าลงแล้วละ" แล้วทั้งหมดก็ "ฟึ่บบบ" จ่อหอกกันไว้

              "เหวอ พวกมันจะจัดการกับคุณแอนเดรียแล้วละ" นาเดียอุทาน

              แจ็สบอก "คุณโดซี่ คุณไม่คิดจะให้พวกเราเข้าไปช่วยเลยหรือครับ" และหันมาถาม "แล้วคุณเบย์แทนด์จัดการกับชุดเกราะของพวกเราเสร็จหรือยังละ"

              "บอกตามตรงน่ะ ว่าต่อให้เบย์แทนด์ทำเสร็จหรือไม่ ฉันยอมให้พวกเธอหาเรื่องเจ็บตัวจนถึงตายไม่ได้เป็นอันขาด" โดซี่กล่าว โดยที่เธอแสดงสีหน้าอย่างจริงจัง "ที่สำคัญ ถึงแอนเดรียอาจจะเสียเปรียบเพราะสู้กับนักรบระดับเก่งกาจมากกว่าเธอ แถมมีเป็นสิบกันก็จริง แต่....ฉันรู้ ว่าแอนเดรียไม่ยอมให้เธอพลาดพลั้งไปได้แน่นอนน่ะ"

              มาริกล่าว "คุณพูดเหมือนจะเชื่อว่าคุณแอนเดรียจะรอดจากสถานการณ์นี้ได้สิคะ"

              "ย้า...." นักรบเฟลาเลี่ยมทั้งหมดบุกเข้าจู่โจมใส่แอนเดรียพร้อมกัน ซึ่งเธอจับด้ามทวนอัมเบรแลนซ์เอาไว้ แต่ก็ไม่ทันการณ์แล้ว "ฟ้าวววว จึกกกกก" หัวหอกขวานพุ่งทิ้มใส่ร่างแอนเดรียพร้อมกัน หากแต่เสียงกลับเป็นเสียงปะทะกับบางอย่าง ซึ่งไม่ได้แทงทะลุร่างของเธอแน่นอน "นิ นี้มัน.....อะไรกันน่ะ" แอนเดรียอุทานเพราะเธอเห็นหัวหอกของเธอทิ้มถูก

              "นี้เจ้ามีเกราะเสริมงั้นหรือ...." นักรบเฟลาเลี่ยมกล่าว เมื่อเห็นเกราะพลังเพเรเนี่ยมหุ้มตามแขน ขาและลำตัวด้านหน้าและด้านหลัง ครอบถึงหลังคอเอาไว้เข้ารับหัวหอกของพวกนักรบเฟลาเลี่ยมกันขึ้นมา แล้วก็ "แว้งงงง เปรี้ยงงง" ตัวเกราะก็เปล่งพลังเป่าพวกนักรบเฟลาเลี่ยมออกไปกันหมด

              "แปลกใจสิน่ะครับ ที่คุณมีเกราะเพิ่มอีกส่วนหนึ่งกันน่ะ" เบย์แทนด์ติดต่อเข้ามา

              แอนเดรียกล่าว "นี้แปลว่า เกราะนั้นคงเป็นฝีมือของคุณเลยสิคะ แม้ว่าฉันเองยังไม่รู้เลยก็ตามนะคะ"

              "นี้คือ เซฟการ์ดอาร์มเมอร์ เกราะโฮโลแกรมพลังงานเพเรเนี่ยม ซึ่งใช้เสริมความปลอดภัยในการปฏิบัติการณ์บนดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย เกินกว่าที่โปรเทคชั่นสเฟียร์จะป้องกันไว้ได้ แม้ว่าเกราะนี้ไม่ได้พัฒนามาเพื่อใช้สู้รบโดยตรงกันก็ตาม และผมเองก็ไม่แน่ใจว่าคุณจะใช้เกราะนั้นได้หรือเปล่า เลยเซตตัวเกราะนี้ให้เป็นอาร์มสวิปเปอร์เบรคไว้เท่านั้นเองนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว "แน่นอน ว่าตัวเกราะไม่เพียงระเบิดตัวเองเมื่อมันได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วงกัน แต่มันยังสามารถฟื้นฟูร่างกายของคุณได้ในระดับหนึ่งกันด้วยนะครับ"

              แอนเดรียพยักหน้าโดยที่เธอรู้สึกได้ว่า "จริงด้วยน่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นด้วย ความอ่อนแรงลดลงไปบ้างแล้วละ" แล้วก็จับด้ามทวนอัมเบรแลนซ์ขึ้นมา "แว้งๆๆๆๆ" จนหัวทวนเรืองแสงขึ้น 

              "เราไม่รู้น่ะ ว่าเจ้ามีพลังอะไร แต่เราไม่ยอมให้เจ้าได้ใช้หรอก" นักรบเฟลาเลี่ยม 3 ตนบุกเข้ามาด้วยหอกเข้าใส่ "ย้า" แอนเดรียจ้วงแทงทวนเข้าใส่นักรบทั้งสองจนทั้งคู่รีบใช้หอกไขว้ต้านหัวทวนไว้ ส่วนนักรบตนที่ 3 บุกเข้ามาฟาดหอกเข้าใส่ "แกร้งงงงง" แต่ต้องเจอกับโลห์พลังเพเรเนี่ยมแบบห้าเหลี่ยมยาวออกมาตรงต้นแขนและหลังแขนป้องกันคมขวานติดหอกไว้ แล้วก็ "ย้า...." แอนเดรียกู่ร้องพร้อมกับกำด้ามทวนด้วยมือขวาจนหัวทวนเรืองแสงและกระทุ้งจน "เปรี้ยงงง" หัวหอกติดขวานของนักรบทั้ง 2 แตกกระจุยและเป่าทั้งคู่ปลิวไปโดยทำให้เกราะของพวกเธอร้าวขึ้นมา ส่วนนักรบตนที่สามนั้น "แว้งงงง เคร้งงงง" แอนเดรียสบัดแขนปัดหอกหัวขวานปลิวพร้อมกับ "ป้ากกก" ฟาดฝ่ามือเข้าใส่นักรบตนที่สามจนล้ม แม้เธอจะรีบเอาโลห์หลังแขนขวามาป้องกันไว้ก็ตาม "ย้า" นักรบเฟลาเลี่ยมอีกสามตนเลยบุกเข้าจู่โจมด้วยหอกหัวขวานพร้อมโลห์หลังแขนซ้ายเข้าใส่แอนเดรีย "แกร้งงงง ป้ากกก หวับบ จึ้กกก" แอนเดรียรีบโต้ตอบด้วยการหวดอัมเบรแลนซ์ปัดหอกของนักรบตนที่ 4 ให้เสียหลักแล้วก็แทงใส่ตรงเกราะหัวไหล่ขวาให้ล้มลง จากนั้นก็ใช้โลห์พลังเพเรเนี่ยมโต้ตอบการกระแทกด้วยโลห์พลังอนุภาคของนักรบตนที่ 5 ซึ่งบุกเข้ามาจากด้านข้าง แล้วก็ "ปึ้กกกก" แทงใส่นักรบตนที่ห้า แม้นักรบตนที่ 5 รีบลงมือก่อน "ป้ากกก" แอนเดรียรีบกางร่มพลังเพเรเนี่ยมป้องกันเอาไว้จนทำให้หัวหอกแทงไม่เข้า แล้วก็ "หมับบบ ฟึ่บบบ ป้ากกก" จับด้ามหอกเพื่ออัดพลังใส่ในหัวทวนจนยิงลำแสงเป่านักรบตนที่ 5 ให้ล้ม แล้วก็ "หวับบบ ป้าก ป้าก ป้าก" หวดทวนสู้กับหอกของนักรบตนที่ 6 ไปสามทีด้วยกัน "ย้า ฟลอร์สวิปเปอร์เวฟ" แอนเดรียหวดทวนจนหัวกรีดพื้นไปข้างหน้าเต็มแรงจนเกิดพลังคลื่นวิ่งเข้า "ป้ากกก" ปัดนักรบเฟลาเลี่ยมตนที่ 6 ปลิวกระเด็นเหมือนฝุ่นผงที่ถูกไม้กวาดปัดออกจากซอกใต้โต๊ะอย่างจังๆ "ฟูลพาวเวอร์ชาร์จ" แอนเดรียเลยบุกเข้าใส่นักรบตนที่ 7 ถึง 9 ที่วิ่งเข้ามาจน "ป้ากกก ตรูมมมม" เป่านักรบทั้ง 3 จนกระเด็นและเสียหัวหอกไป "แว้งงง แว้งงงง แว้งงง" แต่สามนักรบชุดที่สามก็ใช้โลห์อนุภาคหลังแขนทั้งสองข้างสร้างใบมีดยาวออกมา "การ์ดอาร์ม เซต" แอนเดรียสร้างโลห์ขึ้นที่หลังแขนขวา โดยแถมตรงส่วนข้อศอกด้วยโลห์ทรงกลมเล็กกันด้วยเข้า "แกร้งๆๆๆๆ" แอนเดรียบุกเข้าใช้แขนติดโลห์ปัดป้องดาบติดโลห์อนุภาคที่ฟาดเข้ามา จากนั้นก็ "ป้ากกก ป้ากกก หวับบบ ปึกกก" ฟาดฝ่ามืออัดใส่นักรบเฟลาเลี่ยมล้มไปทั้งสองตน ตนที่ 9 บุกเข้ามาจากด้านข้าง ก็โดนแอนเดรียถีบตรงท้องให้เซถอยหลังไป แต่ก็เปิดช่องให้นักรบตนที่ 9 จู่โจมด้วยโลห์ติดดาบเข้าใส่

              "นี้เจ้าอ่อนเชิงในเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธติดปลอกแขนหรือไง เจ้าถึงไม่ใช่คมดาบติดโลห์มาสู้กับข้าเลยน่ะ" นักรบตนที่ 9 บอกโดยที่ฟาดดาบเข้าใส่แอนเดรีย ซึ่งยกแขนติดโลห์มาป้องกันไว้

              "ฉันมิได้ถูกฝึกมาเพื่อฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม แต่ฉันฝึกต่อสู้มาเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่น เหมือนที่คุณกับพวกได้รับการฝึกมาเพื่อปกป้องอธิปไตยจากผู้รุกรานกันนั้นแหละคะ" แล้วก็ "หมับบบ หวับบบ ปึกกก โครมมม" คว้าจับข้อมือของนักรบเฟลาเลี่ยมตนที่ 9 พร้อมกับทิ้งตัวเอาหลังลงและใช้ขาขวาถีบตัวนักรบตนที่ 9 ข้ามหัวลงไปกองกับพื้น โดยที่แอนเดรียรีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับนำอัมเบรแลนซ์ออกมา เพราะนักรบตนที่ 10 11 และจ่าฝูงบุกเข้ามากันแล้ว "ท่าไม้ตายพิฆาต เพลงหอก 4 กระบวนไร้พ่าย" แอนเดรียกล่าวแล้วก็วิ่งเข้าใส่โดยที่หัวทวนเรืองแสงขึ้นมา ซึ่งนักรบตนที่ 10 และ 11 รีบเข้ามาบล็อกด้วยโลห์ ซึ่งแอนเดรียบุกเข้า "หวับบบ ป้ากกก" ฟาดทวนจากซ้ายไปขวาอัดใส่โลห์ของนักรบเฟลาเลี่ยมทั้งสองให้เสียหลัก แล้วก็ "ฟ้าววว จึก ป้ากกก" จ้วงแทงทวนเข้าใส่ไปเต็มแรงจนโลห์อนุภาคของนักรบเฟลาเลี่ยมทั้งสองแตกกระจุย จากนั้นก็ "ฟ้าวววว หวับบบ ป้ากกก" กระโดดฟันเสยขึ้นในจังหวะที่นักรบเฟลาเลี่ยมทั้งสองจ้วงแทงหอกหัวขวานเข้ามาจนหัวหอกแตกกระจุยไปทั้งสอง ซึ่งแอนเดรียกระโดดข้ามนักรบทั้งสองตรงมายังนักรบจ่าฝูง แล้วก็ "ย้า" พุ่งทิ้งดิ่งลงมาแทงหอกลงนักรบจ่าฝูง "เกร้งงงง" ซึ่งรีบชูหอกเสยขึ้นรับการโจมตีของแอนเดรียได้ทันและ "ย้า" ปัดแอนเดรียจนล้มลงไป แต่ก็ลุกขึ้นมา แม้จะลุกช้าไปเลยก็ตาม 
     

              "ดูเหมือนว่า เจ้าจะมีสหายที่เก่งพอตัวเลยน่ะ ถึงแม้ว่าสหายผู้นั้น อ่อนเชิงในการต่อสู้มากกว่าพวกไทรเวเซอร์ตนอื่นๆเลยก็ตาม นางก็มีความพยายามไม่แพ้เจ้าเสียอีกน่ะ" เดอาร์กล่าวหลังจากที่เธอใช้เวลาในการดวลกับแอสเทลน่ากันมานานแล้ว

              "แต่ท่านก็คงจะรู้แล้วสิ ว่าสหายของข้านั้นมีพิษสงแค่ไหนน่ะ"

              "แม้ว่าเจ้าพยายามจะปิดตายด้านมืดที่น่ากลัวของนางไว้ด้วยพลังของเจ้า แต่พลังของเจ้ายังถือว่าห่างชั้นกว่าซารีทิสหรือฟาเดลน่าตั้งเยอะ บวกกับว่านางเองก็มีพลังความสามารถที่เพิ่มพูนได้ทุกครั้งที่ต่อสู้กันด้วยแล้ว เจ้าไม่กลัวว่าด้านมืดที่น่ากลัวของนางจะทำลายทุกอย่างที่นางพยายามปกป้องเลยน่ะ" เดอาร์ถาม

              แอสเทลน่าบอก "คำถามของท่าน น่าจะเป็นของข้าที่ถามท่านในเรื่องพยายามปกป้องเดลมูดัล และพวกเดลอาเนี่ยนที่เหิมเกริมจนเกินกำลังของพวกท่านซะมากกว่าน่ะ"

              "แม้ว่าเจ้าจะปากดีมากกว่าแม่ของเจ้า แต่เจ้าก็น่าจะรู้ ว่าพวกเราถือคำสัตย์เป็นสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความเป็นนักรบกันอยู่แล้วน่ะ" เดอาร์บอก แล้วก็กระทุ้งปลายหอกไปแรงๆ จนเหล่านักรบเฟลาเลี่ยมที่กำลังสู้และบาดเจ็บจากการปะทะกับเหล่านักรบดาวฤกษ์ แม้กระทั่งพวกที่ปะมือกับแอนเดรียก็ต้องหยุดมือลง "ตามสัญญา ตัวประกันที่อยู่ในเรือนจำทุกแห่งบนดาวดวงนี้ เป็นของพวกเจ้ากันแล้วละ"

              แอสเทลน่าคลายมือลงจนปลอกแขนดาบแสงดับคมดาบไปทั้งสองข้างแล้ว "แล้วข้าจะแน่ใจได้ไง ว่าพวกท่านจะไม่บิดพริ้วเหมือนกับเหล่าพันธมิตรของเดลอาเนี่ยนกันน่ะ"

              "นี้เป็นคำสัตย์จริงจากปากของข้าและเป็นคำสั่งตรงจากท่านออมนิม่า รวมถึงเป็นคำเตือนจากเฟลาเลี่ยมส่งไปยังสภาอาวุโสของพวกเจ้าไว้ ว่าอย่าริอาจโผล่มาที่เขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนกันอีก ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตามน่ะ" เดอาร์บอก

              แอสเทลน่ากล่าว "แล้วถ้าข้ากับพวกไม่ทำตามขึ้นมาละ จะว่ายังไง"

              "ข้าเกรงว่า อารยธรรมอันเก่าแก่อยู่คู่จักรวาลทั้งปวงนี้จะสิ้นสุดลงในยุคของพวกเจ้ากันเสียแล้วนะสิ เพราะความทะเยอะทะยานของเดลอาเนี่ยนในตอนนี้ มากเกินกว่าที่พวกเราจะหยุดยั้งกันได้แล้วละ และระบบดาวฝั่งตะวันออกที่เหล่าสหายที่เจ้ากับพวกช่วยเหลือกันมานั้น อาจจะประสบเหตุเดียวกันกับชาวออร์เลี่ยนก็เป็นได้ ซึ่ง สหายนักรบหญิงและพวกพ้องต่างก็รู้เรื่องนั้นไปแล้วละ" เดอาร์กล่าว

              แอสเทลน่าบอก "เห็นแก่ว่าท่านเป็นคู่ปรับของท่านแม่ และคำพูดของท่านกับท่านออมนิม่านั้น ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันด้วยแล้ว ข้าจะแจ้งให้ประมุขคัลทานิสและประธานสภาแห่งสมาพันธ์อวกาศรับทราบเองกันแล้วน่ะ"

              "คุณแอสเทลน่า ปลอดภัยดีน่ะ" แอนเดรียกล่าวโดยรีบมาทั้งๆที่ยังเหนือยอยู่

              เดอาร์บอก "เจ้าเก่งกาจไม่น้อยเลยนะ แม้ว่าเจ้ามีฝีมือที่อ่อนด้อยมากที่สุดในหมู่ไทรเวเซอร์เลยก็ตาม แค่เจ้าสามารถเอาชนะนักรบองครักษ์ของข้าลงได้ ก็ถือว่าดีแล้วน่ะ"

              "ฉันแค่ทำในสิ่งที่ควรทำเท่านั้นเองนะคะ" แอนเดรียตอบแบบตรงไปตรงมาต่อเดอาร์ ซึ่งเหล่าองครักษ์เดินเข้ามารวมกัน

              "....ข้าหวังว่า พวกเราจะได้เจอกับเจ้าหรือพวกพ้องของเจ้ากันอีก แม้ว่าข้ากับพวกมานี้ตามคำสั่งของท่านออมนิม่าเลยก็ตาม" เดอาร์เลยดึงหอกขึ้นพร้อมกับบอกว่า "ฝากไปบอกพวกพ้องของเจ้ากันซะ ว่าให้เตรียมตัวเตรียมใจรับกับการมาของทหารของราชทายาทเดลวูลกันเดียวนี้เลย"

              "ฉันจะจำเอาไว้กันนะคะ" แอนเดรียกล่าว เดอาร์พยักหน้า แล้วก็ "แว้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกเฟลาเลี่ยมได้เทเลพอร์ตหายไปกันหมด รวมถึง....

              "ท่านพี่แอสเทล พวกเฟลาเลี่ยมถอนตัวกลับขึ้นยานกันหมด ไม่ว่าจะยังอยู่หรือบาดเจ็บกันแล้วละคะ" ซอฟิสรายงาน

              "ดี งั้นรีบโยกย้ายเหล่านักโทษทั้งหมดออกจากเรือนจำทุกแห่งโดยเร็วเลย" แอสเทลน่าติดต่อเข้ามา และหันมายังแอนเดรีย พร้อมกับบอกว่า "ทีหลัง ถ้าฉันไม่ได้ขอให้ช่วย ก็อย่าเข้ามาจะดีกว่าน่ะ"

              แอนเดรียกล่าว "ต่อให้คุณไม่ขอ แต่เรื่องที่คุณประสบกันอยู่ ฉันคงนิ่งดูดายไปไม่ได้เลยนะคะ แม้ว่านั้นจะหมายถึงความเดือดร้อนที่ฉันเองจะได้รับก็ตาม"

              "แม้ว่าเรื่องที่เธอมีระบบป้องกันที่นักโทษ 369 เปิดออกมาโดยที่เธอเองไม่ทราบ จะช่วยเธอไว้ได้จริง แต่...จงจำเอาไว้เสมอ ว่าเธอต้องพยายามให้มากกว่านี้กันหน่อยน่ะ" แอสเทลน่าบอก "แต่สภาพของเธอในคราวนี้ ฉันควรเตือนเธอว่าอย่าหักโหมกันด้วย แม้ว่า หัวหน้าสั่งการหน่วยหลังฉากของพวกเธอนั้นจะเตือนแบบนี้มาก่อนก็ตามน่ะ หวังว่าเธอคงจะดูแลตัวเองเหมือนเช่นเดียวกับดูแลคนอื่นๆกันด้วยน่ะ"

              แอนเดรียพยักหน้า "ฉันคิดว่า คุณเป็นคนที่สนเพียงแค่หน้าที่ แต่ไม่แยแสต่อรอบด้านหรือคนใกล้ตัวกันเลยนะคะ"

              "ถ้าฉันไม่สน เกิดนักโทษ 369 โดนนักโทษคนอื่นๆทำร้ายขึ้นมา ฉันก็แย่พอดีนะสิ" แอสเทลน่าบอก โดยเรียกเหล่านักรบดาวฤกษ์ที่ยังสภาพเกือบดีและบาดเจ็บสาหัสกลับขึ้นยานไป ซึ่งก็เรียกเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งให้เตรียมการโยกย้ายผู้ลี้ภัยและเหล่านักโทษขึ้นยานกัน "ส่วนพวกที่ยังตั้งค่ายเพื่อก่อการนั้น ทางเราจะส่งหุ่นไปดึงพวกเขาออกจากค่ายกันเดียวนั้นแหละ"

              แอนเดรียกล่าว "นั้นก็ดีแล้วคะ เพราะอย่างน้อย พวกเราคงไม่ต้องเป็นห่วงว่าพวกเขาจะถูกพวกอัลแทเรี่ยนทำร้ายกันแล้วละคะ"

              นอกดาวแครคยัค-3 ยานเซปเทเรี่ยนอัลฟ่า เบต้า และไทรแองเกิ้ลได้บินออกจากดาวกันแล้ว

              "กะแล้วว่านายยังไม่หายดีเลยละสิ ถึงได้ลุกจากเตียงออกมาไม่ได้กันน่ะ" โฟรซ่าบ่นหลังจากที่เธออยู่ในห้องพักฟื้นเช่นเดียวกับสเตฟอร์ด พลัสเชอริท ฟิเกซและแอบไบออส ซึ่งกลับมาพักตามเดิมหลังออกไปรบกันแล้ว

              สเตฟอร์ดบอก "ว่าแต่ อยู่ในดาวแมลงนิ คงจะหายกลัวแมลงหรือแมงกันบ้างหรือยังละ"

              "ต่อให้ฉันไม่เจอแมงมุมหรือตัวอ่อนแมลงกันก็ตาม แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่กลัวพวกแมลงกันหรอกน่ะ" โฟรซ่าบอกอย่างมั่นใจมากๆ

              สเตฟอร์ดบอก "หรือ แล้วอะไรอยู่ใกล้กับตรงขอบหัวเตียงของเธอละ"

              "ไหน...." โฟรซ่าหันมาเห็นหนอนแก้วอยู่ใกล้กับขอบหัวเตียง ก็ "แอ้ อ่า แอ้ หนอนๆๆๆๆ อ้า เอามันออกไปที" มือสังหารระยะไกลถึงกับวีนแตกขึ้นในทันที

              จิลเลยใช้พลังจิตเอาหนอนแก้วออกมา "เออ นี้เป็นหนอนของเล่น ไม่ใช่ของจริงสักหน่อยน่ะ"

              "ถึงไม่ใช่ของจริง แต่มันก็เหมือนหนอนจริงๆนี้แหละ" โฟรซ่าบ่นแม้เธอจะโล่งอกเลยก็ตาม และหันมาเห็นเจเนลหัวเราะ โดยที่พีวิลกอดอกและส่ายหน้าเพราะรู้นิสัยชอบแกล้งของเจเนลเป็นอย่างดี "พอเลย เจมส์ ถ้าแกล้งแบบนี้อีก จะโดนตบไม่เลี้ยงเลยนะยะ" โฟรซ่าตำหนิเจเนลเสียงดัง จนตัวการสามเขาถึงกับสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว แต่ก็อ้างไปว่า

              "ก็แหย่และล้อเล่นกับอาเจ้หลังจากที่โดนพวกอินเซคเที่ยนแห่แหนไล่กวดมาก็เท่านั้นเองแหละน่า"

              "เจมส์ คราวที่นายกับพีวิลโดนพวกเมคครอฟิคไล่กวดจนหัวซุกหัวซุนนิ นายลืมไปแล้วหรือ" สเตฟอร์ดพูดย้ำแบบจริงจัง จนเจเนลหงอลงในทันที

              จิลถาม "พอจะเล่าให้พวกเราในห้องนี้ฟังกันได้มั้ยละ ว่าตอนอยู่บนดาวดวงนั้น เธอเจอเรื่องอะไรบ้างน่ะ"

              "งั้นคงต้องเริ่มตั้งแต่ ตอนที่ฉันร่วงตกเหวกันเลยมั้ยละ" โฟรซ่ากล่าวแล้วก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่เธอประสบมาตั้งแต่ตอนที่ถูกจับมาอยู่ที่ดาวดวงนี้ จนกระทั่งจบเรื่องด้วยการอยู่ในห้องพักฟื้นขึ้นมา ซึ่งก็ใช้เวลาราว 20 นาทีเต็มๆ

              พีวิลบอก "ไม่นึกเลยว่า ยังมีพวกอินเซคเที่ยนที่รักสันติและอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งได้รับพลังจากลูกบาศก์แห่งแสงที่ร่วงลงที่ดาวดวงนี้ จนกลายเป็นเหตุแตกแยกระหว่างสองเผ่าพันธุ์บนดาวดวงนี้กันเลยสินะครับ"

              "แต่ไม่นึกเลยน่ะ ว่าพวกยัคซอทจะมีพวกที่ทรยศเข้ากับนางพญาคลาแค็กซ์กันด้วยน่ะ" แอบไบออสบอก

              พลัสเชอริทกล่าว "กราโบลและเทคคราตัสนั้น คงจะก่อการทรยศ หลังจากที่รู้แผนของราชินีบาคราน่าที่ต้องการพลังจากลูกบาศก์ มาใช้ปลดแอกพวกเธอและดาวดวงนี้ให้เป็นเอกราช เพราะเธอคงคิดว่า ลูกบาศก์นั้นทรงพลังมากพอที่จะทำลายกองยานได้ทั้งกองสิน่ะ"

              "เพียงแต่ เธอกับพวกคาดผิด เพราะลูกบาศก์นั้นมันถูกส่งมาจากชนเผ่าในเขตอวกาศภาคกลาง มาเพื่อฟื้นฟูดวงดาว มิใช่ทำลายล้างกันแต่แรกเลยน่ะ" พีวิลบอก

              เจเนลกล่าว "แถมตอนนี้ ราชินีกับพวกยัคซอทที่อยู่ในเครือข่ายสื่อสารทางจิตก็ได้รับชำระล้างกันแล้ว ทุกอย่างคงจะสงบสุขกันแล้วละสิ"

              "เออ เกรงว่าทางนั้นได้ติดต่อเข้ามาทางเราแล้วละคะ" แอมเบอร์บอก แล้วภาพมอนิเตอร์บนเพดานก็เปิดภาพของกอสเทรย์ อาเรซัค ฟิวโก้ และอาดิยอลอยู่

              อาเรซัคบอก "ทางเราต้องขอบคุณพวกคุณที่ช่วยกอบกู้สถานการณ์บนดาวดวงนี้ไว้ แม้ว่านั้นหมายถึงการได้ช่วยให้ท่านราชินีบาคราน่ากับพวกยัคซอทเดิมให้เป็นพวกเรากันแล้วนะคะ"

              "นั้นก็ดีแล้วละ เพราะว่าเรากำจัดตัวเอ้ไปสองตัวกันแล้ว พวกคุณก็คงจะต้องลำบากกันหน่อยนะครับ" พีวิลกล่าว

              ฟิวโก้บอก "แม้ว่าเราไม่มีพวกยัคซอทตนอื่นๆเป็นศัตรูกันก็จริง แต่....การตายของแม่ทัพเทคคราตัสนั้น ได้ถึงหูมหานางพญาคราแค็กซ์กันแล้ว ซึ่งนั้นหมายถึง ดาวของพวกเราคงไม่ปลอดภัยแน่นอน"

              "แล้วเหล่านักรบแมลงนั้นละ คงไม่ใช่ว่าพวกนั้นไปแล้วไปลับกันหรอกน่ะ" เจเนลบอก

              อาเรซัคบอก "เหล่านักรบไวเทลฟอลนั้น แม้ว่าพวกเขาได้รับการคืนชีพ แต่พวกเขาเองก็ยังงุนงงกับการที่พวกเขาตื่นขึ้นมาพบกับความเปลี่ยนแปลงบนดาวดวงนี้กันก็ตาม สภาพของพวกเขาในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไปที่จะต่อสู้ได้เลยนะครับ" แล้วลูกบาศก์แห่งแสงก็เรืองแสงขึ้น "และลูกบาศก์เองก็ให้คำตอบกับทางเรากันแล้ว ว่า....ดาวของพวกเราต้องย้ายออกจากเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนไปอยู่ที่อื่นกันนะครับ"

              "ถึงขั้นนั้นเลยหรือ....แล้วไม่คิดจะใช้เครื่องไม้เครื่องมือจากในเมืองเดิมของบาคราน่ากันเลยหรือ" โฟรซ่าบอก

              อาเรซัคบอก "ท่านแม่ตัดสินใจที่จะฟื้นฟูดาวดวงนี้หลังจากที่เราย้ายไปอยู่ในเขตอวกาศอื่นกันนะครับ และจะไม่กระทำซ้ำเดิมกันอีกแล้วนะครับ ถึงแม้ว่าเราอาจจะไปโผล่ในระบบดาวที่เราไม่รู้จัก แต่อย่างน้อย พวกคุณก็เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเรามีชีวิตอยู่ต่อไปได้กันนะครับ"

              "ทางเราหวังว่าพวกคุณคงจะช่วยเหลือพวกพ้องของคุณที่อยู่ในกำมือของพวกมหาจักรวรรดิ์กันได้นะคะ" อาดิยอลบอก

              ฟิวโก้กล่าว "ถ้าเป็นพวกคุณแล้ว พวกเรามั่นใจว่า พวกคุณจะเอาชนะนางพญาคราแค็กซ์และเหล่าสมุนกันแน่นอนนะครับ"

              "ลูกบาศก์พร้อมจะโยกย้ายดาวของพวกเรากันแล้วละ" กอสเทรย์บอก "ตอนนี้เราต้องยุติการติดต่อแล้ว และเราขอให้พวกคุณนำกองยานไปจากระบบนี้โดยเร็วที่สุดด้วยนะ"

              พีวิลพยักหน้า "ส่วนหนึ่งเพราะพวกอินเซคเที่ยนต้องบุกมาที่ระบบดาวนี้เลยสิครับ งั้นพวกเราจะรีบไปกันโดยเร็วนะครับ"

              "หวังว่าพวกเราคงจะได้เจอกับพวกคุณกันในไม่ช้าแน่นอน ขอให้พวกคุณโชคดีแล้วกันน่ะ" กอสเทรย์กล่าว แล้วก็ "หึมๆๆๆๆ แวบบบบ แว้งงงงง" หน้าจอก็กระพริบและเรืองแสงสว่างจ้า พร้อมกับการติดต่อขาดหายไป

              "ลูกพี่ครับ ดาว ดาวหายไปแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะครับ" ไกซ์กล่าวอย่างตกใจมากๆ 

              "สงสัยว่าพวกเขาคงจะย้ายออกจากระบบดาวของพวกเดลอาเนี่ยนเป็นการถาวรแล้วนะสิ ไกซ์" พีวิลบอก "และพวกเราเองก็ต้องพากองยานทั้งหมดย้ายออกไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยน่ะ"

              เนคมาดูซัมติดต่อเข้ามาจากสะพานเดินเรือ "ฉันเห็นด้วยน่ะ เพราะว่าพวกเราอ่วมมาก และจำเป็นต้องรีบหนีออกไปจากระบบดาวนี้ก่อนที่พวกคราแค็กซ์ส่งกองรบไล่ตามมาน่ะ"

              "งั้นพวกเราคงต้องแจ้งกองยานที่ติดตามเราให้พร้อมเผ่นออกไปจากระบบดาวนี้ เพื่อตรงไปช่วยไซโคลเนียกันแล้วละ" พีวิลกล่าวพร้อมกับแจ้งไปหานายกองฮารีค เช่นเดียวกับฟิเกซ แอบไบออสด้วย อัลเทมิตต้าติดต่อเข้ามา

              "ตอนนี้ฉันได้ให้ลูกทีมนำอาร์ซโทรมลูนอนที่คุณใช้งานเข้าไปในยานเรียบร้อยแล้ว และคราวหลังกรุณาย้ำเตือนกันหน่อยนะคะ ทางเราจะได้หลบทันเลยน่ะ" พร้อมกับนำภาพอาร์ซโทรมลูนอนที่โฟรซ่าเทเลพอร์ตส่งมา ซึ่งเกือบจะทับโดนลูกเรือเข้าให้แล้ว

              "ขอโทษทีน่ะ ที่ทำให้พวกพ้องของเธอเกือบโดนเข้าให้น่ะ" โฟรซ่าบอก โดยตอนนี้ทีมช่างในยานได้เข้ามาเช็คอาร์ซโทรมลูนอนที่มีสภาพพังเพราะกระแทกกับพื้นมาแล้ว

               อัลเทมิตต้าบอก "ตอนนี้ทางเราได้ทีมอัลฟ่ากลับมาแล้ว เหลือแต่ทีมเซต้าของเรมิลญ่ากันแล้วละคะ ซึ่งหวังว่าพวกเขาคงจะช่วยคุณไซโคลเนียได้บ้างนะคะ"

              "ตอนนี้ทางเราได้เตรียมออกเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงกันแล้ว เพียงแต่ เราอาจจะไปช้าสักหน่อยนะครับ" อโพลอฟกล่าว

              สเตฟอร์ดพยักหน้า "แม้ว่านั้นจะไปช่วยพวกไซโคลเนียช้า แต่ก็ยังดีกว่าไปแล้วยานเกิดระเบิดเสียก่อนน่ะ"

              "แม้ว่าตอนนี้ ฉันรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับแอนเดรียและพวกแบ็คไซด์คอมแบทกันแล้ว ว่าเธอกับพวกต้องเจออะไรแย่ๆเลยน่ะ" โฟรซ่าบอก

              พีวิลกล่าว "ทางเราเองก็ทราบเช่นเดียวกันมาจากผบ.บัลโต้กันนะครับ รุ่นพี่ และทางเราเองก็เป็นห่วงพวกแอนเดรียด้วยนะครับ"

              "ถึงเรารู้ว่าแอนเดรียปกป้องตนเองได้ และแอสเทลน่ากับพวกเองก็อยู่ในเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนกันด้วยแล้ว พวกเราจึงวางใจได้แค่ส่วนหนึ่งเองน่ะ" ฟิเกซกล่าว

              เจเนลบอก "แต่เรารู้ดีว่า มีคนหนึ่งที่กังวลเรื่องแอนเดรียมากที่สุดอยู่แล้วน่ะ รุ่นพี่"

              "ถึงเธอไม่บอก มาสวาร์ทาร์เองก็กังวลอยู่บ้าง ต่อให้เขาได้อากาเมมนอสคอยเบรคไว้เลยก็ตามน่ะ" โฟรซ่ากล่าว

              สเตฟอร์ดบอก "เพราะแอนเดรียต้องรับภาระตั้ง 7-8 หน่วยที่เป็นมือใหม่กันแล้วนิ" 
     

     

             วกกลับมาที่ฮิชเลไบน์-4 ที่ยานอินสเปคทรัล

              "ตอนนี้ ฉันจัดการดัดแปลงชุดเกราะของพวกเธอเสร็จสิ้นกันแล้วละ" เบย์แทนด์กล่าว

              น็อกกี้บอก "พึ่งจะมาเสร็จเอาหลังจากที่คุณแอนเดรียและคุณซีคเทมพลาร์เสร็จเรื่องแล้วหรือ มันไม่ตลกเลยหรือไงกันน่ะ"

              "ทำไงได้ละ ชุดเกราะที่พวกนายใส่นั้น มันต้องใช้เวลาเยอะและต้องละเอียดอ่อนกันมากขึ้น ต่อให้ชุดนี้ใช้ชิ้นส่วนเมคทรูปเปอร์ของพวกนายมาใช้ก็ตามน่ะ" นิคบอก

              รีฟกล่าว "และเราต้องกลับมาเช็คชุดเกราะหน่วยรบวิหคทั้ง 5 ชุดกันอีกรอบ เพื่อให้แน่ใจว่าชุดเกราะ 5 ชุดแรกไม่มีปัญหากันได้เลยนะคะ"

              "แล้วคุณจัดการกับชุดเกราะของเรากันยังไงละคะ" มาริถาม

              เบย์แทนด์บอก "เริ่มจากชุดเกราะหน่วยรบวิหคเลยน่ะ ฉันพบว่าขอบข่ายการปฏิบัติการณ์ของชุดเกราะนั้นสั้นเกินไป และเกือบทุกครั้งที่พวกคุณแดนไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายเลย เพราะชุดเกราะนี้มีขีดจำกัดด้านพลังงานที่น้อยเกินกว่าที่คิดไว้ บวกกับว่าพลังจากท่าไม้ตายต่างๆหรือการเพิ่มพลังด้วยโอเวอร์ไดร์ฟนั้นมันก็เยอะพอตัวด้วย ฉันเลยติดตั้งเอนเนอจี้เอ็กเทนเดอร์เอาไว้ในตัวชุดเกราะ ขยายขีดจำกัดพลังงานให้มากขึ้นเป็นสองเท่า มากพอที่จะทำให้ชุดเกราะมีความทนทานมากขึ้น และใช้พลังได้ง่ายขึ้นไปด้วยน่ะ"

              "ว้าว แบบนั้นก็เท่ากับว่าพวกเราสามารถปล่อยพลังได้เลยสิคะ" นาเดียบอก

              เบย์แทนด์กล่าว "ถึงทำเช่นนั้นได้ แต่ก็อย่าลืมน่ะ ว่าชุดเกราะนี้มีข้อจำกัดในเรื่องพลังงานของตัวชุด ซึ่งสามารถหมดลงได้หากพวกเธอใช้พลังอย่างต่อเนื่องกันนี้แหละ เพราะว่าพวกเธอเป็นแมนิเกเตอร์ปกติ ไม่ได้เป็นไทป์ต่อสู้อย่างพวกคุณพีวิลที่มีแกนหัวใจที่ให้พลังงานได้ตลอดน่ะ"

              "คุณจะบอกว่า พวกเราต้องคิดเผื่อไว้ว่าต้องใช้พลังมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะต่อสู้ได้ตลอดเลยสิครับ" เฟรดบอก

              เบย์แทนด์พยักหน้า "แม้ว่าฉันอัพเกรดให้พวกเธอใช้ชุดเกราะนี้ได้นานเท่ากับพวกคุณพีวิล แต่ถ้าพวกเธอใช้พลังแบบหักโหมก็ยิ่งแย่กว่าสภาพดั่งเดิมของตัวชุดเกราะกันนี้แหละ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าพวกเธอทั้งหมดนี้ ล้วนมีขีดความสามารถในการต่อสู้เกินครึ่งหนึ่ง ซึ่งมีผลให้ชุดเกราะต้องตอบสนองกับตัวพวกเธอมากขึ้นไปด้วยน่ะ" แล้วก็หันมายังชุดเกราะเกซตัลท์ "ในเมื่อฉันขยายขอบเขตการปฏิบัติการณ์ของชุดเกราะหน่วยรบวิหคได้แล้ว ฉันจำต้องลดอัตราพลังงานที่มากเกินของชุดเกราะตัวปัญหาทั้งสามชุดนี้ลงตามไปด้วยน่ะ"

              "นี้คงไม่คิดจะลดให้เท่ากับพวกเฟรดเลยละสิครับ" แด็กซ์บอก

              เบย์แทนด์กล่าว "ใช่ ชุดเกราะเกซตัลท์ทั้งสามชุดนี้ได้ติดตั้งเอนเนอจี้คอนเวิร์ทเตอร์ เปลี่ยนพลังงานส่วนเกินอัตราที่รับไว้ให้เป็นพลังงานสำรอง และพลังงานสำหรับโอเวอร์ไดร์ฟซิสเทมที่ฉันเพิ่มเข้ามากันด้วย  ซึ่งด้วยปริมาณพลังงานที่แปรเปลี่ยนมานั้น ก็มากพอที่จะทำให้พวกเธอสาดพลังงานออกเป็นลำแสงจากหน้าอก หรือแม้กระทั่งระเบิดพลังกระจายออกเป็นวงกว้างได้แน่นอนน่ะ"

              "สุดยอด คุณเบย์แทนด์ดัดแปลงให้พวกเราเทพยิ่งกว่าเดิมแบบนี้ พวกเราชอบมากเลยนะครับ" แจ็สบอก

              เบย์แทนด์ส่ายหน้า "แต่ฉันขอแนะนำกันหน่อยนะ ว่าการใช้ท่าแบบนั้นไปออกไปนั้น ไม่เพียงมันจะดึงพลังงานจากชุดเกราะที่มากเกินไปเยอะมากก็จริง แต่กลัวว่าพวกเธอจะไม่ไหวด้วยเช่นกัน เพราะพลังท่าดังกล่าวนั้นก็แรงจนสร้างภาระให้ร่างกายของเธอมากเป็นเงาตามตัวด้วยเช่นกัน" แล้วก็บอก "ที่สำคัญ ตอนที่พวกเธอสามคนใช้โอเวอร์ไดร์ฟไปแล้ว พวกเธอจะยิงลำแสงหรือระเบิดพลังออกไปก็ไม่ได้ด้วยเช่นกันน่ะ"

              "แบบนั้นก็ได้อย่างก็เสียอย่างละสิ" น็อกกี้บ่นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย

              เบย์แทนด์กล่าว "อย่างน้อยก็ช่วยให้พวกเธอรู้จักคิดใช้เกราะเกซตัลท์กันบ้างน่ะ แม้ว่าฉันพยายามลดอัตราชุดเกราะไม่ให้เป็นอันตรายต่อพวกเธอกันแล้วก็ตาม แต่จะดีกว่ามาก หากพวกเธอฝึกฝนให้ร่างกายของพวกเธอแข็งแกร่งพอที่จะรับภาระอันหนักอึ้งนี้ไปด้วยน่ะ"

              "แล้วคุณคงไม่ได้อัพเกรดชุดเกราะของเราให้เหมือนกับที่คุณแอนเดรียใช้กันเลยสิครับ" คีธบอก

              เบย์แทนด์บอก "ลืมไปแล้วหรือ ว่าชุดเกราะหน่วยรบวิหคของพวกเธอนั้นใช้พลังงานจากการชาร์จใส่แบตเตอรี่ที่อยู่ในตัวเกราะไว้ เลยทำให้มีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่ แม้จะมีพลังงานมากขึ้นไปเลยก็ตาม อีกทั้งระบบเกราะโฮโลแกรมพลังเพเรเนี่ยมเองก็ใช้พลังค่อนข้างมาก หากเอาไปใช้ในการต่อสู้กันด้วย ฉันเลยไม่ได้ใส่ตรงนั้นไว้เลยนะสิ"

              "และยังไม่ได้อัพเกรดชุดเกราะของเราเพิ่มเติมกันเลยสิคะ" นาเดียบอก

              นิคบอก "เรื่องอัพเกรดนั้น เรายังไม่รีบ เพราะเรายังมีวัสดุอุปกรณ์ไม่พอ อีกทั้งชุดเกราะของพวกนายเองก็พึ่งจะขยายขีดจำกัดการใช้งาน ด้วยการขยายพลังงานในชุดเกราะให้มากขึ้นด้วยแล้ว การอัพเกรดชุดเกราะในสภาพนั้นอาจจะทำให้พวกนายปรับตัวไม่ทันก็เป็นได้น่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะเรายังไม่ได้ใช้ชุดเกราะกันเลยสิน่ะ" แฮรี่กล่าว "แต่อย่างน้อย ภารกิจหน้าของพวกเราก็คงเป็นการทดสอบการใช้งานกันบ้างหลังจากที่คุณเบย์แทนด์อัพเกรดให้แล้วก็ตามน่ะ"

              แอนเดรียบอก "ต้องขอบคุณคุณมากเลยนะคะ คุณเบย์แทนด์ ที่มาช่วยทางเราไว้ แม้ว่านั้นจะ...."

              "ผมเองต่างหากที่ต้องขอโทษคุณที่ต้องให้คุณมาลำบากแบบนี้กันน่ะ" เบย์แทนด์กล่าว "ตอนนี้ งานของผมในเรื่องชุดเกราะของพวกเธอก็หมดลงแล้ว ผมคงต้องกลับไปรับภาระอื่นต่อแล้วละ" แอนเดรียพยักหน้า

              เฟรดกล่าว "คุณเองก็รักษาตัวให้ดีด้วยนะครับ"

              "พวกเธอเองก็เช่นกันน่ะ รักษาตัวเองไว้ด้วยละ" เบย์แทนด์กล่าว โดยตอนนี้แอสเทลน่ากับเหล่านักรบแอตทาเวี่ยนมารอ และพาตัวเบย์แทนด์กลับขึ้นยานเรือนจำรัลดานาส ซึ่งลอยลำขึ้นไปพร้อมกับยานของชาวดาวฤกษ์ จากนั้นก็... "แว้งๆๆๆๆๆๆๆ" อันตราธานหายไปกันหมด

              แอนเดรียบอก "เท่านี้เราก็ไม่ต้องห่วงว่ามีผู้ลี้ภัยตกค้างให้ตกเป็นเป้าของพวกเดลอาเนี่ยนกันแล้วสิคะ"


              "มันก็จริงอยู่น่ะ ที่ชาวดาวฤกษ์พาพวกนักโทษที่เป็นชนเผ่ากลุ่มน้อยที่ถูกขับไล่ออกจากดาวไปกันก็จริง...." โดซี่บอก "แต่การที่พวกอัลแทเรี่ยนเจ้าถิ่นรู้ว่าเหล่านักโทษหายไปจากค่าย แถมเกิดขึ้นพร้อมกับทุกค่ายด้วยแล้ว นั้นยิ่งทำให้แม่ทัพอัลแทเรี่ยนเบนเข็มมาทางเราได้เต็มที่กันแล้วนะสิ"

              แอนเดรียบอก "แบบนั้นก็แย่พอดีนะสิคะ ต่อให้พวกอัลแทเรี่ยนไม่รู้ว่านั้นเป็นการกระทำของพวกคุณแอสเทลน่า ซึ่งพวกเฟลาเลี่ยมเข้ามายุ่งเกี่ยวสกัดกั้นพวกอัลแทเรี่ยนกันไว้น่ะ"

              "ใช่ และเกรงว่าพวกอัลแทเรี่ยนจะเรียกพันธมิตรมากันแบบเต็มสตีม เพื่อถล่มพวกเราให้ราบกันด้วยนะสิ" โดซี่กล่าว และถอนใจขึ้นมา "ถ้าพวกไทรเวเซอร์ไม่รีบมาเสียแต่ตอนนี้ กลัวว่าพวกเราจะเป็นฝ่ายถูกบดขยี้เสียเอง เพราะเนื่องจากว่า เราพึ่งทำลายป้อมปราการที่แข็งแกร่งลงไปกันแล้วน่ะ"

              แอนเดรียบอก "แถมตอนนี้พวกคุณแอสเทลน่าก็ออกเดินทางกันไปแล้ว มีแต่พวกเราเท่านั้นที่ต้องสู้กับพวกศัตรูเองแล้วสิคะ"

              "ฉันรู้น่ะ ว่านายเป็นห่วงแอนเดรีย เพราะเธอรับภาระในการดูแลพวกนักรบชุดเกราะรุ่นใหม่ และการต่อสู้ที่มากเกินตัวเธอไปบ้างก็ตาม....แต่นายก็ต้องเข้าใจด้วย ว่าทางเราเองก็บอบช้ำเหมือนกับที่เธอเป็นบ้างน่ะ" แอสเทลน่ากล่าวโดยเดินมาคุยกับเบย์แทนด์ที่มานั่งเขียนบันทึกประจำวันกันไว้

               "ส่วนหนึ่งเพราะว่าคุณรู้เรื่องที่พวกเดลอาเนี่ยนมีของอันตรายไว้ในครอบครองเลยสิครับ"

              "แสดงว่านายคงจะอ่านบันทึกประจำวันของโดโรเซียละสิน่ะ แม้ว่าฉันให้นายจัดการแก้ไขปรับปรุงชุดเกราะทั้ง 8 ชุดให้สมบูรณ์แบบกันก็จริง แค่นายสะสางเรื่องนี้จนจบลงได้ก็ถือว่าดีแล้วละ" แอสเทลน่าบอก

              เบย์แทนด์กล่าว "แล้วคุณคงจะสาหัสจากการสู้กับอดีตคู่ปรับของนักล่าฟาเดลน่ามาก่อนเลยสิครับ"

              ".....ถึงฉันจะเจ็บตัวเพราะแม่ทัพเดอาร์เก่งกาจกว่าที่ฉันคิดไว้ แต่ ฉันก็คิดเหมือนกับพวกไทรเวเซอร์นี้แหละ ว่าการต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลับมาในสภาพที่ไม่เจ็บตัวกันเลยน่ะ" แอสเทลน่ากล่าว "แล้วนาย ยังไม่ได้บอกกับแอนเดรียเรื่องที่เธอ มีตัวตนที่น่ากลัวอยู่เลยละสิน่ะ"

              เบย์แทนด์ถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไปว่า "แล้วคุณคงไม่ได้ปากโป้งบอกกับคุณแอนเดรียเลยสิครับ"

              "ฉันคิดว่า แอนเดรียยังกังวลกับสิ่งที่เธอทำอยู่ ซึ่งฉันไม่อยากให้มันมาบันทอนกำลังใจของเธอที่ยังเชื่อว่าพวกไทรเวเซอร์จะต้องมาช่วยกันแน่นอน และนั้นคงไม่ดีแน่ๆ ถ้าเธอรู้ความจริงนั้นโดยเร็ว เพราะนอกจากนายจะโดนเธอตำหนิแล้ว ฉันกลัวว่าเธอจะสูญเสียความเชื่อถือต่อดาบมือหนึ่งไปจนหมดสิ้นเลยต่างหากละ" แอสเทลน่าบอก "แม้ว่าฉันจะปิดตายตัวตนด้านมืดของแอนเดรียไว้ได้จริง แต่....ก็แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง ถ้าไม่นานเป็นปีก็คงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แค่ 10 หรือ 2-3 นาทีก็เป็นได้น่ะ"

              เบย์แทนด์ถาม "คุณกำลังจะบอกว่า ด้านมืดของคุณแอนเดรีย กล้าแกร่งมากเลยหรือ"

              "ถ้าเธอมีจิตใจที่เข้มแข็งกันละก็ เธออาจจะสยบด้านมืดกันได้แน่นอน เพียงแต่....ความแข็งแกร่งของเธอที่มากขึ้นทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับอันตรายนั้น จะทำให้มัดตราสังที่คุณเมซ่าปิดตายเอาไว้โดยที่ฉันเสริมความแข็งแกร่งนั้นอ่อนลง ไม่สิ ที่ถูกนั้นคือมันจะเสริมให้ด้านมืดของแอนเดรียแกร่งยิ่งกว่ามัดตราสังปิดตายกันได้นะสิ" แอสเทลน่าบอก "ยิ่งเธอปะมือกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเกินตัวของเธอไปไกลโขอย่างแม่ทัพเดอาร์กันด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เธอถูกด้านมืดกลืนกินได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะเธอไม่รู้ตัวเลยว่า เธอมีด้านมืดที่เป็นหนึ่งเดียวกับจิตใจของเธอเองกันอยู่น่ะ"

              เบย์แทนด์กล่าว "นั้นเพราะว่า คุณแอนเดรีย เป็นมิวแทนอยด์แบบเพอโซเนล ซึ่งมีระดับอันตรายขั้นตองเอสกันนะสิครับ" 
     

              ที่ยานเดลทรอสตัล กองยานเฟลาเลี่ยมได้เดินทางมาถึงกันแล้ว

              "ท่านแม่ทัพเดอาร์ ข้าทราบเรื่องที่กองรบของท่านไม่ไปขัดขวางพวกอินเซคเที่ยนที่ดาวแครคยัค-3 กันแล้วน่ะ ว่าท่านรับคำสั่งจากท่านออมนิม่ากันไว้น่ะ" เดลวูลบอก

              เดอาร์กล่าว "ข้าไม่มีอะไรจะแก้ตัว เพราะพวกเราทำเช่นนั้นจริงๆกันนะคะ องค์ราชทายาท"

              "แล้วท่านรู้มั้ย ว่าพวกอินเซคเที่ยนบนดาวดวงนั้นได้โยกย้ายดาวออกไปจากระบบอวกาศของพวกเรากันแล้ว และพวกแมนิเกเตอร์กับพวกไทรเวเซอร์ก็ช่วยพวกพ้องออกมาจากดาวดวงนั้น พร้อมกับออกเดินทางไปแล้วด้วยน่ะ" เดลวูลกล่าว

              เดอาร์พยักหน้า "แล้วท่านคงจะไม่คิดลงโทษพวกเรากันเลยหรือ ในเมื่อท่านเป็นผู้สั่งการแม่ทัพทั้งหลายกันแล้วน่ะ"

              "ข้าจะลงโทษท่านไปทำไม ในเมื่อข้ายังเห็นว่าพวกท่านมีเหตุผลที่ต้องไป เพราะทราบว่ากองยานแพลตตินั่มอามาด้ามาที่ฮิชเลไบน์-4 เพื่อโยกย้ายเหล่านักโทษทั้งหลายบนดาวออกไปกันแล้วน่ะ" เดลวูลบอก "ถึงแม้ว่าพวกดาวฤกษ์จะรู้ว่าพวกเรามีสุดยอดอาวุธอันน่ากลัว และทรงพลังมากพอที่จะกวาดล้างพวกดาวฤกษ์ให้หายสูญไปจากจักรวาลนี้กันก็ตาม ข้าแค่จะให้พวกนี้ส่งข้อความบอกกับทางสมาพันธ์อวกาศให้ยอมจำนนกันก็แค่นั้นเอง อย่างน้อย นั้นช่วยให้พวกไทรเวเซอร์ไม่กล้าขัดคำสั่งต่อสภาสูงของสมาพันธ์อวกาศกันบ้างละน่า"

              เดอาร์บอก "แล้วท่านคงไม่คิดจะรายงานให้กับองค์มหาจักรพรรดิ์ให้ทราบเลยหรือคะ"

              "ข้ารู้ ว่าข้าสามารถเบรคท่านพ่อไม่ให้กริ้วมาก ถึงขั้นอนุมัติให้ใช้สุดยอดอาวุธนี้กันไปได้หรอกน่ะ เพราะท่านเองก็รู้ ว่าพวกเราได้โกหกพันธมิตรของพวกเรา ว่าได้ทำลายสุดยอดอาวุธนี้ทิ้งกันไปแล้ว เพื่อที่จะให้เหล่าพันธมิตรของพวกเราทุ่มกำลังลงไปให้พวกแมนิเกเตอร์ทำลายทิ้งกันแต่แรกน่ะ" เดลวูลกล่าวและยืนขึ้น

              เดอาร์บอก "เพราะถ้าพวกพันธมิตรทั้ง 11 เผ่ารู้ว่า พวกท่านยังมีสุดยอดอาวุธอยู่ในกำมือมาตลอดเวลานั้น ก็ย่อมหมายถึงความแตกแยกจะเกิดขึ้นในกองยานอันเกรียงไกร ถึงขั้นเป็นสงครามภายในที่อาจจะทำให้การรุกรานขององค์มหาจักรวรรดิ์พังทลายลงได้เลยสิคะ"

              "รวมถึงกองกำลังต่อต้านและเหล่ากบฎกันด้วย แม้ว่ากองปราบปรามของพวกเราจะกวาดล้างพวกนี้ลงไปได้ แต่ก็แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะตัวผู้นำและสมาชิกระดับเป้งนั้นยังลอยนวลอยู่ และก่อตั้งกองกำลังขึ้นมาใหม่พร้อมกับกลุ่มต่อต้านใหม่ๆอีกหลายสิบกลุ่มกันด้วย ถ้าพวกนั้นรู้ว่าเรามีสุดยอดอาวุธกันขึ้นมา นั้นจะยิ่งทำให้พวกเรารับมือได้ยากกว่าเดิมแน่นอน" เดลวูลกล่าว "ตอนนี้ ฉันจึงอยากจะให้พวกเธอทั้งหมดปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับกันไว้ เพราะตอนนี้เรายังมีปัญหาเรื่องพวกไทรเวเซอร์ และเรื่องฮิชเลไบน์-4 กันอยู่เลยน่ะ"

              เดอาร์ถาม "พวกเราจะรับคำสั่งจากท่านไว้ ถือว่านั้นเป็นการลงโทษจากท่านที่พวกเราขัดคำสั่งไว้น่ะ"

              "ดีแล้วละ เพราะข้าเคารพและนับถือการตัดสินใจของพวกท่านไว้ ในฐานะชนเผ่าที่เก่าแก่เคียงคู่กับเผ่าเรากันมาหลายรุ่นด้วยกันน่ะ" เดลวูลกล่าว แล้วเดอาร์ก็เดินออกไปหลังจากที่เธอทำความเคารพด้วยการคุกเข่าและลุกขึ้นมาแล้ว จากนั้นก็....

              "เดลวูล ข้าอาจจะลงโทษเจ้าในเรื่องไม่ลงโทษพวกเฟลาเลี่ยมที่ขัดคำสั่งเจ้ากันไปก็ตาม" เดลมูดัลกล่าว โดยเดลวูลติดต่อไปหาเพื่อรายงานเรื่องทุกอย่างไว้ "แต่...พอเจ้าอธิบายเหตุและผลให้ข้าฟังถึงผลเสียจากการที่ข้าคิดจะนำสุดยอดอาวุธมาเพื่อกวาดล้างกองกำลังดาวฤกษ์ที่โผล่มาที่ฮิชเลไบน์-4 ไปพร้อมกับพวกแมนิเกเตอร์นั้น ข้าก็เกือบที่จะทำลายความลับที่บรรพบุรุษก่อนหน้าข้าปิดบังลงไปเสียแล้วละ"

              "แม้ว่าตอนนี้พวกแมนิเกเตอร์ได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของสุดยอดอาวุธกันเลยนะหรือครับ ท่านพ่อ" เดลวูลถาม

              เดลมูดัลกล่าว "....ถึงพวกมันจะรู้ แต่ก็ไม่รู้ว่าสุดยอดอาวุธอยู่ที่ไหนกันด้วย ยิ่งพวกมันรู้ถึงแสนยานุภาพของพวกเราที่ยังมากอยู่ แม้จะมีสถานการณ์อันย้ำแย่เกิดขึ้นภายในมหาจักรวรรดิ์กันก็ตาม นั้นยิ่งทำให้พวกแมนิเกเตอร์ทำได้แค่เป็นฝ่ายตั้งรับกันเท่านั้นเองแหละ" แล้วก็บอก "แล้วเจ้าจะทำยังไงกับพวกไทรเวเซอร์และเหล่าแมนิเกเตอร์กันละ เพราะข้าทราบว่าตอนนี้ดาวดวงหนึ่งภายใต้การปกครองของคลาแค็กซ์หายไปดวงหนึ่งกันแล้วน่ะ"

              "ถ้าเป็นเรื่องเทรออลไพล์มละก็ ข้าได้สั่งการให้แม่ทัพเวเดมกันไปแล้วละครับ ท่านพ่อ" เดลวูลกล่าว

              เดลมูดัลพยักหน้า "และหวังว่าเจ้าคงจะคุมพวกเฮฟบัสเตอร์กันบ้างน่ะ แม้ว่าตอนนี้พวกนั้นไม่ได้มีส่วนร่วมกับพวกกองกำลังต่อต้านเลยก็ตาม เจ้าคงจะให้พวกแปรพักตร์นี้หาเรื่องบันทอนพวกเรากันไม่ได้หรอกน่ะ"

              "อย่าห่วงไปเลยครับ ท่านพ่อ เฮโลลิคเตอร์กับพวกอยู่ในสายตาและกำมือของข้าแล้ว พวกเขาไม่มีทางทำการใหญ่ก่อกวนพวกเราได้สำเร็จแน่นอนนะครับ" เดลวูลบอก

              เดลมูดัลพยักหน้า "แล้วก็ สหายของเจ้าอีกกลุ่มหนึ่งด้วย เจ้าคงจะไม่นิ่งดูดายกันบ้างน่ะ"

              "วางใจได้เลยครับ คนของข้ารายงานมาแล้วว่าสหายของข้ากำลังดำเนินการกันอยู่น่ะ" เดลวูลกล่าว

              เดลมูดัลบอก "ข้าหวังเช่นนั้นเหมือนกันน่ะ เดลวูล และเจ้าคงจะรับมือกับเรื่องนี้ได้ทันก่อนที่บูเรนนอฟจะมาถึงกันน่ะ" เดลวูลพยักหน้า แล้วเดลมูดัลก็ยุติการติดต่อไป ส่วนพวกไทรเวเซอร์ก็มุ่งหน้าไปยังดาวเทรออลไพล์ม เพื่อช่วยไซโคลเนียและพวกแมนิเกเตอร์กันต่อ

    โปรดติดตามตอนต่อไป ในตอนที่ 32 ยุทธการทวงคืนขั้นที่ 7 ปฏิบัติการณ์ต่อต้านเหนือฟ้าใต้น้ำ เมื่อดาบมือหนึ่งกับเหล่านักรบเดินทางมาถึง
    ตอนหน้า ไซโคลเนียได้พวกโซลูนาสตี้ทีมเซต้ากับพวกแอตแลนไทซ์เดฟท์การ์ดเข้ามาช่วย และต้องร่วมมือกันต้านทานการบุกของพวกเทรโอเซี่ยมที่บุกมาทั้งใต้น้ำและบนฟ้า ในเวลาเดียวกันที่พวกแอนเดรียต้องเจอศึกหนักรอบด้านด้วยกัน ซึ่งก็....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×