ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #54 : ตอนที่ 26 ยุทธการทวงคืนขั้นที่ 1 เหล่าดาบหอกปะทะกองพันวิหค เมื่อเหล่าวิหคเงาพลาดพลั้ง ครึ่งหลัง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12
      0
      3 ต.ค. 64

    ช่วงที่ 2

              หลังจากนั้น เช้าวันต่อมา

              "หนาวมากเลยน่ะเนี้ย ให้ตายสิ" นาเดียกล่าว เพราะเธอตัวสั่นตลอดเวลา

              น็อกกี้บอก "ที่หนาวนั้น เพราะเธอใส่ขาสั้นมาทำไมกันละ" แล้วก็ส่งชุดลูกเรือที่เป็นชุดเสื้อและกางเกงขายาวมา "ไปเปลี่ยนชุดมาก่อนเลยจะดีกว่าน่ะ"

              "แล้วพวกนายไม่มีชุดเปลี่ยนเลยหรือ" นาเดียย้อนถามกลับ

              แจ็สบอก "วางใจได้น่า ชุดของพวกเราใช้ได้ราวสามวันก็เกินพอแล้วละน่า" แต่ลูกเรือบางคนถอยหนีไปโดยทันที

              "ฉันแนะนำว่า พวกนายเอาชุดเก่งของพวกนายไปซักก่อนจะดีกว่ามั่ง" คีธบอก โดยตอนนี้เขาแต่งชุดลูกเรือแล้ว แล้วก็ส่งชุดลูกเรือสามชุดให้กับพวกน็อกกี้

              นาเดียถาม "แล้ว เฟรดละ ไม่มาด้วยหรือ"

              "เฟรดไปช่วยงานหมอเบ็ตตี้กันนะสิ เพราะต้องช่วยเช็คสุขภาพผู้ลี้ภัยที่ติดตามเรามาด้วยน่ะ" คีธกล่าว "ส่วนคุณแอนเดรีย ก็ออกจากห้องครัวหลังจากที่ทำกับข้าวให้พวกเราแล้ว และตอนนี้ก็อยู่กับพวกคุณแดนด้วยน่ะ"

              แด็กซ์บอก "คงจะมีเรื่องสำคัญมากเลยสิน่า"

              "ว่ายังไงนะคะ นี้แปลว่า นอกจากยานของพวกเรานั้น ยังมีค่ายกักกันของพวกเดลอาเนี่ยนเลยหรือคะ" แอนเดรียกล่าวโดยตอนนี้ เธออยู่ในห้องประชุมพร้อมกับพวกแดน (เว้นแต่เบ็ตตี้ที่ไม่มา)และโดซี่แล้ว แทนพยักหน้า

              แดนอธิบาย "ในช่วงที่เราใช้เรดาห์กวาดรัศมีโดยรอบ ไปพร้อมกับดักฟังสัญญาณสื่อสารของพวกเดลอาเนี่ยนที่อยู่ในและนอกดาวดวงนี้ ปรากฎว่า ดาวดวงนี้ เป็นที่ตั้งของค่ายกักกันชนกลุ่มน้อยของพวกอัลแทเรี่ยน ซึ่งไปจับตัวมาหลังจากที่จัดการไล่ที่ เพื่อเอาที่ว่างนั้นสร้างเป็นที่อยู่อาศัยของชาวดาวต่างๆมาจับจองกันไว้แล้วนะสิ"

              "นี้มันแย่มากเลยนะคะ พวกเดลอาเนี่ยนไม่เพียงขับไล่เจ้าของเดิมออกไป ยังทำลายที่อยู่อาศัยของพวกเขา แถมยังกักขังพวกเขาจนไร้อิสระแบบนี้กันน่ะ ในเมื่อ พวกเขามีดาวอยู่หลายๆดวงที่อยู่ในเขตครอบครองของพวกเขาแล้วนิ" แอนเดรียบอก

              แทนกล่าว "ถึงพวกเดลอาเนี่ยนจะมีดาวตั้งพันดวง แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถอาศัยอยู่ได้ทุกดวงกันหรอกน่ะ เพราะบางดวงมีสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย บางดวงไม่เหมาะกับมนุษย์ต่างดาวไปซะทุกราย และบางดวงเองก็เป็นก้อนแมกม่าบ้าง ก้อนน้ำแข็งล้วนบ้าง ซึ่งพวกเดลอาเนี่ยนเอง คงไม่รอให้เจ้าของที่ย้ายออกไปกันดีๆหรอกน่ะ"

              "แต่ ถ้ามีผู้ถูกขังอยู่ในนั้น ก็ต้องมีคนคุมพวกเขาเพื่อกันมิให้พวกชนเผ่าที่ถูกกักขังมาหลบหนีออกไปได้ ซึ่งรวมถึงสถานีอวกาศสำหรับขนส่งอาหาร ยา อุปกรณ์ที่จำเป็น ร่วมถึงบุคลากรที่เข้ามาแทนที่คนที่ประจำการนี้ด้วย แน่นอน ว่าหมายถึงสถานีสื่อสารระหว่างดวงดาว เพื่อใช้ติดต่อไปยังฐานใหญ่ ทั้งการรายงานผลการทำงาน รวมถึงรับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ด้วยคะ" มาริวิเคราะห์อย่างละเอียด "และโชคดีมาก ที่เราอยู่ในดาวที่มีค่ายกักกันขนาดใหญ่อยู่ เราพอจะมีโอกาสที่จะใช้ตรงนี้ บุกยึดสถานีสำคัญไปทีละจุดสองจุดกันนะคะ"

              แอนเดรียบอก "แต่....ถึงเราจะทำอย่างงั้นได้ ก็ใช่ว่าจะสำเร็จเลยน่ะ เพราะ เราไม่รู้ว่าแต่ละสถานีมีทหารเดลอาเนี่ยนจากเผ่าไหน มาเท่าไหร่ และมีการเตรียมการป้องกันแค่ไหนด้วยน่ะ"

              "เพราะอย่างงั้นแหละ เราจึงต้องรีบลงมือบดขยี้พวกเดลอาเนี่ยนให้ได้ก่อนที่พวกมันจะเล่นงานพวกเรากันนี้แหละ" แทนกล่าว "เพราะจากการแอบฟังการสื่อสารมา พวกทหารเหล่านั้นได้รับคำสั่งตรงจากฐานใหญ่ ให้รีบอพยพออกไปจากดาว หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่เข้าท่าอย่าง นักโทษหลบหนีหรือก่อจราจลขึ้นมา จากนั้นก็เรียกกองยานให้มาถล่มดาวดวงนี้ให้ราบคาบไปพร้อมกับเหล่านักโทษทั้งหมด แม้กระทั่งพวกเราเองด้วย หากพวกทหารรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี้กันน่ะ"

              แอนเดรียบอก "แล้วว่าแต่ มีข่าวความเคลื่อนไหวของพวกไทรเวเซอร์กันมั้ยคะ"

              "พอดีเลย พวกเราได้ยินข่าวมา ว่าพวกไทรเวเซอร์ช่วยพวกอีเนอไมนด์จู่โจมสถานีศูนย์กลางค้าทาสของคริมสันดรูจอท โดยมีซีคเทมพลาร์และหน่วยคุมเรือนจำที่ 5 ของชาวดาวฤกษ์เข้าช่วยผู้ลี้ภัยและนักโทษอีเนอไมนด์ที่เตรียมถูกขายผ่านการประมูลลงได้ ซึ่งกองยานอินเซคเทรี่ยนที่ถูกส่งมาช่วยคุ้มกันนั้น หยุดพวกเขาไม่อยู่กันแล้วนะสิ" แดนบอก

              แอนเดรียบอก "ดีแล้วละคะ ที่พวกคุณเนคมาดูซัมมาช่วยไว้ได้ แล้วคุณมาสวาร์ทาร์ละคะ"

              "เห็นว่าตอนนี้ดาบมือหนึ่งหนีไปที่ดาวเอลวัล-6 ซึ่งพวกอัลแทเรี่ยนได้ปะทะกับกองรบอัศวินมรกตที่ปรากฎตัวมาเมื่อ 9 วันก่อนแล้วนะสิ" แดนบอก

              แอนเดรียกล่าว "แสดงว่าพวกครอสตรีมที่ออกไปก่อนหน้าเราสองสามวันคงจะอยู่ที่ดาวที่เวลาผ่านไป 3 เท่าแน่ๆเลยละคะ แล้วมีความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติมมั้ยละคะ"

              "เกรงว่าผลของการที่พวกไทรเวเซอร์และพวกครอสตรีมก่อเรื่องขึ้นมา ได้ทำให้พวกอัลแทเรี่ยนมีความตื่นตัวขึ้นมาอย่างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการที่พวกเราเข้าช่วยคุณและพวกไปด้วยนะสิ" แดนบอก "เพราะนอกจากคำสั่งให้ทำลายดาวทั้งดวงหากสถานการณ์บนดาวไม่ดีขึ้นแล้ว เบื้องบนของอัลแทเรี่ยนสั่งการให้พวกอัลแทเรี่ยนที่ประจำทั่วดาว สอดส่องตามหาพวกเราและจัดการพวกเราได้ในทันทีที่พบเจอกันน่ะ"

              แอนเดรียกล่าว "แสดงว่า พวกเราหลีกเลี่ยงการปะทะกับพวกอัลแทเรี่ยน ไม่ได้เลยละสิคะ"

              "ก่อนที่เราจะโดนพวกมันถล่มยับ เราต้องชิงลงมือกันก่อน แม้ว่าพวกมันจะรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี้กันก็ตามน่ะ" แทนกล่าว "โดซี่ ว่าแต่ เราเร่งเวลาซ่อมแซมกันไม่ได้เลยหรือ"

              โดซี่ส่ายหน้า "เครื่องยนต์ของเราจะให้รีบซ่อมนั้น เกิดเอายานขึ้นอยู่ดีๆแล้วเครื่องระเบิดขึ้นมา นั้นหมายถึง เราต้องติดแหงกอยู่ที่ดาวดวงนี้กันเลยน่ะ แทน"

              "แต่ปัญหาจริงๆก็คือเรื่องเสบียงอาหารกันนะครับ ซึ่งด้วยจำนวนผู้ลี้ภัยและพวกเราร่วมกัน คงไม่น่าอยู่ได้ถึงสัปดาห์หนึ่งแน่ๆนะครับ" แฮรี่บอก

              โดซี่บอก "แดน ว่าแต่ นายทำแผนที่ระบุตำแหน่งสถานที่สำคัญบนดาวดวงนี้ได้มั้ยละ"

              "จัดให้แล้วละ" แดนกล่าวและกดรีโมทเพื่อเปิดแผนที่ขึ้นมา

              "เยี่ยม ยังดีมากที่มีสถานีสำคัญอยู่ใกล้ๆกับที่พวกเราอยู่ด้วย นั้นเหมาะแก่การบุกเข้าไปยึดเป็นอย่างดีนี้แหละ" แทนกล่าว

              "แต่ถ้าทำแบบนั้น เกิดพวกอัลแทเรี่ยนรู้เข้าละคะ" แอนเดรียบอก

              มาริกล่าว "งั้นก็จัดการตัดตอนมิให้ฝ่ายตรงข้ามรู้เรื่องกันนี้แหละ แม้ว่าเราจะมีสเตลท์ไดร์ฟอยู่ด้วยก็จริง แต่พลังงานในยานคงไม่พอด้วย ซึ่งเราต้องรีบลงมือโดยมิให้พวกศัตรูไหวตัวด้วยนะคะ"

              "เออ ผมคิดว่าเรามีปัญหาเรื่องการเก็บความลับกันแล้วละครับ" แฮรี่บอกเพราะเหล่มาเห็นใครเปิดประตูแง้มเข้ามา แล้วก็เดินไปจนเห็นแจ็สยืนแอบฟังอยู่

              แทนบ่น "กะแล้ว ว่าไอ้พวกเด็กเกรียนมันไม่เลิกกันจริงๆด้วยวะ"

              "ถ้าเช่นนั้นก็.....แทน นายพามาริและแอนเดรียไปสำรวจที่สถานีนั้นไว้ ว่าที่นั้นเป็นสถานที่ใช้ทำอะไรบ้าง ที่สำคัญ ห้ามลงมือเป็นอันขาด เว้นแต่พวกอัลแทเรี่ยนมันเล่นงานเราก่อนน่ะ" แดนสั่ง

              โดซี่บอก "ตอนนี้ฉันให้เบ็ตตี้สแตนด์บายอยู่ในยานตลอด แดน เธอช่วยติดตามการทำงานของแทนและพวกไป แฮรี่ ดูแลพวกเฟรดไว้ด้วยละ" แดนและแฮรี่พยักหน้า มาริมองแอนเดรียแล้วก็ส่ายหน้าขึ้นมา

              "ว่าแต่ ตอนไปที่ค่ายผู้ลี้ภัยที่เวลแซนดร้านิ มีเอาอาวุธมาด้วยหรือเปล่าละ" แทนพาแอนเดรียและมาริมาที่คลังแสงอาวุธของยานลำนี้ ซึ่งเป็นที่พักของเขาเอง

              แอนเดรียบอก "คือว่า ฉันคิดแค่ว่ามาช่วยดูแลผู้ลี้ภัยและเหล่าทหารในเรื่องที่ควรทำได้ เลยไม่ได้เอาอาวุธมา อีกอย่างพวกคุณมาสวาร์ทาร์เองก็อยู่ด้วย ถึงฉันพกไป พวกเขาก็ต้องรับมือกับศัตรูได้อยู่แล้วนะคะ"

              "อย่างน้อย คุณต้องมีอาวุธไว้ป้องกันตัวบ้างนะคะ เพราะต่อให้คุณเป็นมิวแทนอยด์ และชุดคุณสร้างบาเรียป้องกันได้ก็จริง แต่ฝ่ายตรงข้ามเองก็มีอาวุธปืนที่น่ากลัวอยู่ เกรงว่าคุณคงไม่รอดแน่นอน" มาริกล่าว แล้วก็ดึงลิ้นชักที่มีปืนสั้นแบบต่างๆอยู่ในนั้น พร้อมกับหยิบปืนสั้นสีเงินมา "ดีหน่อยหนึ่ง ที่คุณแทนมีริมฟ็อกซ์อยู่หลายกระบอก นี้พอจะช่วยได้บ้างนะคะ" แล้วก็มอบให้กับแอนเดรีย ซึ่งให้แมกกาซีนกระสุนที่บรรจุไว้แล้ว

              "ถึงจะทำอะไรพวกอัลแทเรี่ยนไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมีอะไรป้องกันตัวไว้อยู่ดีน่ะ" แอนเดรียเลยรับมาเก็บใส่ซองปืนและติดไว้ตรงเข็มขัดปืนที่เอวด้านซ้าย

              "ว่าแต่ เธอใช้อาวุธปืนแบบไหนละ" แทนกล่าวและกดปุ่มเพื่อเอาผนังเก็บปืนแบบต่างๆ ตั้งแต่อาก้า-49 คาไบน์เอ็ม-16 ปืนกลแบบต่างๆตั้งแต่ติดดาบปลายปืน เครื่องยิงลูกระเบิดอาร์ฟเอลฟ์ ปืนลูกซองช็อคแคนน่อน ปืนลูกซองแฝดดับเบิ้ลบัคซ์ ปืนกลเล็ก ปืนยาวสำหรับซุ่มยิง ไปจนถึงอาวุธหนัก

              แอนเดรียบอก "สปีดครอสโบว์กันนะคะ เพราะฉันไม่ถนัดถือปืนกลหนักแบบที่คุณเนคมาดูซัมใช้นะคะ"

              "หน้าไม้ยิงเร็วต่อเนื่องของพวกทรอยอาร์ละสิน่า ดีเลย ถึงแม้ว่าฉันเก็บสะสมปืนเหล่านี้เอาไว้เพียบเลยน่ะ" แทนกล่าวและทุบบนโต๊ะที่อยู่กลางห้อง จนปรากฎปืนยาวคาเทลิฟมาสเก็ตทั้งเล็กและใหญ่ หน้าไม้ยิงเร็วบริซครอสโบว์ จูดัสฟ์ไทรปูเซตวางเรียงรายเอาไว้ เช่นเดียวกับ ปืนยาวคาดัลท์ไรเฟิ่ลแบบต่างๆ ตั้งแต่ติดดาบปลายปืน เครื่องยิงระเบิด เครื่องพ่นไฟเล็ก และปืนเลเซอร์ด้วย เครื่องยิงระเบิดและจรวดเดรคัสลันเชอร์ แล้วก็ไชน์นิ่งแคนน่อนด้วย

              "แต่ อาวุธเหล่านี้ มันเป็นชุดเดียวกันที่พวกคุณยึดมาจากพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธ ที่แลกอาวุธจากพวกริดโอในการบุกป่าเลนิลเกรดครั้งแรกมิใช่หรือคะ" แอนเดรียบอก

              "ตามกฎนั้นระบุไว้ อาวุธที่ยึดมาและอยู่ในความครอบครองของเราประมาณ 1-2 เดือน เรามีสิทธิ์ที่จะใช้อาวุธเหล่านั้นมาได้นะสิ" แทนบอกแล้วก็เอาหน้าไม้บริซครอสโบว์มาให้

              แอนเดรียส่ายหน้า "ฉันไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธถึงบุกมาที่ดาวของเรา ถ้าไม่เพราะว่าพวกคุณเอาอาวุธของพวกเขามาเก็บไว้นี้เองน่ะ" แต่ก็รับปืนหน้าไม้เอาไว้อยู่ดี

              "พวกเดลอาเนี่ยนบีบให้เราไม่มีทางเลือกเองนะสิ เพราะพวกมันร้ายกาจมากจนอาวุธที่เรามีแต่แรก เอาไม่อยู่กันแล้วน่ะ" แทนกล่าวแล้วก็เอาวอลแกรมไรเฟิ่ลแบบติดเครื่องยิงระเบิดมา

              มาริบอก "หวังว่าคุณคงไม่ทำให้แผนปฏิบัติการณ์ของเราล่มกลางคันเลยนะ"

              แล้วทั้งสามก็เดินออกจากยานและเข้าในป่า ซึ่งค่อยๆเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ จนไปถึงสถานีแห่งแรกของพวกอัลแทเรี่ยน "อา....จานดาวเทียมบนอาคาร พวกนกต่างดาวคิดจะตามหาพวกเราที่ดาวดวงนี้แน่ๆเลยละ" แทนบอก โดยตอนนี้ตนสวมเกราะอเวนจ์วอลเจอร์ เช่นเดียวกับมาริที่ใส่ชุดไรซิ่งพิเจี้ยนกันแล้ว เธอใช้ก็อกเกิ้ลสแกนหาพวกอัลแทเรี่ยนที่อยู่รอบๆ

              "ศัตรูมีอาวุธปืนพร้อม แสดงว่าพวกเขาคิดจะบุกจู่โจมพวกเราในทันทีที่หาตำแหน่งของพวกเราเจอเลยนะคะ"

              "งั้น เราชิงลงมือก่อนเลยแล้วกัน" แทนบอก

              แอนเดรียห้าม "ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณใช้ระเบิด นอกจากจะทำให้พวกอัลแทเรี่ยนรู้ตัวเร็วแล้ว พวกเราเองก็พลอยแย่ไปด้วยนะคะ"

              "ถ้าเราไม่ถล่มพวกมัน แล้วจะจัดการยังไงกันละ" แทนบ่น

              มาริกล่าว "ให้ฉันจัดการเองดีกว่าคะ" แล้วก็ "ฟึ่บบบบ" กระโดดขึ้นบนต้นไม้แล้วก็ "ฟึ่บ ฟึ่บบบ ฟึ่บบบ ฟึ่บบบ" กระโดดไปตามยอดไม้จากต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว จนอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ใกล้ฐาน "อืมมมมม นึกแล้วว่าพวกนี้มีกำแพงสนามพลังกั้นเอาไว้ด้วย ฉันไม่สามารถโดดเข้าไปได้แน่ๆ คุณแทน จัดการให้ได้มั้ยละ" มาริบอกโดยที่เธอมองเห็นสนามพลังผ่านก็อกเกิ้ลสแกน ซึ่งตาของแอนเดรียมองไม่เห็นแน่นอน

              "อยากจะให้ฉันกับแอนเดรียดึงดูดความสนใจละสิน่ะ งั้น พอพวกอัลแทเรี่ยนตรงมาทางเรา เธอรีบบุกเข้าไปโดยเร็วเลย และลงมือให้ไวด้วย" แทนกล่าว โดยเห็นพวกอัลแทเรี่ยนเดินลาดตระเวนอย่างระมัดระวังรอบฐานจากระยะห่าง แล้วก็ "ตรุ้งงงง ฟ้าววววว ตรูมมม" ยิงมิไซล์ออกจากเครื่องยิงเข้าถล่มใส่ทหารอัลแทเรี่ยนสามนายจนกระเจิงไป ซึ่งก็....

              "หน่วยที่ 6 ถูกจู่โจมแล้วละครับ" เจ้าหน้าที่ประจำฐานกล่าว

              "ต้องเป็นฝีมือของพวกแมนิเกเตอร์ที่ชิงตัวผู้ลี้ภัยมาแน่ๆ ส่งหน่วยที่อยู่ในฐานออกไป และแจ้งให้หน่วยอื่นที่อยู่ใกล้ๆรับทราบกัน...." หัวหน้าฐานบอก แต่ "ตรูมมม" นอกฐานก็เกิดการระเบิด ซึ่งก็... "วือออออออ" ทำให้ไฟในฐานดับอย่างรวดเร็ว "ไอ้พวกศัตรูมันคิดจะจัดการกับพวกเราที่ไม่สามารถตรวจหาหรือใช้กับดักได้ รีบใช้พลังงานสำรองกันเร็วเข้า"

              "ฟ้าวววว ฟ้าววว" พวกอัลแทเรี่ยนที่ประจำในฐานโผล่ออกมา "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวววว" แทนโผล่ขึ้นมากราดยิงวอลแกรมไรเฟิ่ลเข้าใส่ "ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆ แกว็กกก ตรูมมมม" ซึ่งทหารอัลแทเรี่ยนต่างถูกยิงจนเกราะทะลุและร่วงเพราะโดนระเบิดไป 5 ตัวด้วยกัน "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แอนเดรียกราดยิงบริซครอสโบว์เข้าใส่พวกอัลแทเรี่ยนจนล้มลงไปด้วย ซึ่งบางตนล้มลงในสภาพที่แขนขาขาดหรือตัวทะลุเป็นรูพรุนหลายรูด้วยกัน "คงจะไม่คุ้นกับแรงถีบของปืนหน้าไม้เลยละสิ" แทนกล่าว

              แอนเดรียบอก "พลังการยิงและความเร็วนั้นแรงไปนะคะ ไม่แปลกเลยที่พวกทรอยอาร์ต้องใส่เกราะไว้น่ะ"

              "พวกทรอยอาร์ผลิตอาวุธปืนเหล่านี้เพื่อใช้จัดการกับศัตรูจากเขตอวกาศดาวเหนือกันน่ะ และคงเป็นพวกที่แข็งแกร่งและน่ากลัวมากๆ เลยต้องเน้นยิงเร็วและรุนแรงกว่าฝ่ายตรงข้ามไว้น่ะ" แทนกล่าว "อีกอย่าง ลูกดอกนั้น ไม่ได้แต่งหัวให้มันเจาะเกราะได้เองหรอก ตัวปืนมันเสริมพลังการยิงให้ลูกดอกปาเป้าธรรมดา ทำให้เป้าทะลุเป็นรูใหญ่กว่าลูกดอกได้เลยน่ะ" แล้วก็ยิงจรวดเข้าจัดการกับพวกอัลแทเรี่ยนที่บินอยู่ โดยจรวดที่ยิงไปนั้น "เป๊าะ ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" แตกกระเปาะออกเป็นจรวดพลุยาวที่พุ่งเข้าใส่พวกอัลแทเรี่ยนจนทำให้พวกมันลงสู่พื้นไว้ "แชดๆๆๆๆ" และยิงปืนจากหลังแขนเข้าใส่ "แว้ง เปร้งๆๆๆๆๆๆๆ" แอนเดรียรีบกางโปรเทคชั่นสเฟียร์ป้องกันไว้โดยเร็ว แล้วก็ "ย้า" ซัดฟลอบบี้ดิสก์คัตเตอร์พุ่งเข้า "ปั้กๆๆๆๆๆ" ปักตามหน้าผาก คอ หัวไหล่และต้นขาอย่างจังๆ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็โดนแทนกราดยิงใส่ไม่ยั้ง "ฟ้าวววววววว" แต่อัลแทเรี่ยนสามตัวบุกเข้ามาจากด้านบน โดยที่แอนเดรียเข้าไปช่วยไม่ทัน "หวับบบบ เพี้ยะๆๆๆ" แต่ก็โดนแส้เลเซอร์วิปหวดฟาดใส่พวกอัลแทเรี่ยนให้ล้ม แต่ "กวี้กกกกก" อัลแทเรี่ยนตนหนึ่งกระโดดเข้ามาพร้อมกับดาบแสงในมือ โดยอยู่ใกล้แทนในระยะประชิด ซึ่งไม่เร็วพอที่จะยิงสวนกลับไปได้ "ปัง" แต่ทหารอัลแทเรี่ยนกลับชะงักกลางอากาศ เพราะแอนเดรียรีบใช้ริมฟ็อกซ์ยิงใส่เข้าตรงสีข้างอย่างจังๆ "ปังๆๆๆๆๆๆๆ" และโดนแทนกราดยิงใส่ไปในทันที

              "เกือบไปแล้วนะคะ" แอนเดรียบอกอย่างหอบเหนือย แต่ทหารอัลแทเรี่ยนก็โผล่มาจากข้างหลังของแอนเดรีย "ปังงง เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งถูกยิงและช็อตไปอย่างจังๆ โดยฝีมือของแทน ที่ใช้ดับเบิ้ลแมกนั่มแบบติดปืนยิงกระสุนไฟฟ้าไว้

              "แม้จะเสี่ยงกับการที่ยิงโดนฉัน แทนที่จะยิงไอ้นกต่างดาวนั้นไว้ แต่ถ้าเธอช้าหรือไม่ยิงละก็ ฉันคงตายไปแล้วละ ดังนั้นดอกเมื่อกี้นี้ ถือว่าเจ๊ากันแล้วน่ะ" แทนบอก โดยพวกทหารอัลแทเรี่ยนพยายามจะบุกต่อ แต่.... "ฟ้าวววว" พวกนั้นรีบวิ่งกลับฐานไปโดยเร็ว "ฟ้าววววว" มาริกระโดดเข้ามาพร้อมกับนีออนเบลดในมือ ซึ่งก็ "ฟ้าวววว วืมๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้นีออนเบลดสองเล่มฟาดฟันใส่พวกอัลแทเรี่ยนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับโดดลงพื้นในท่าคุกเข่าและยืนขึ้น "หวับๆๆๆๆๆๆ แกร็กกก" จากนั้นก็หุบหลอดพลังงานลงและเก็บเข้าเกราะต้นขา "เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆ กวี้กกกกก ตรูมมมมม บรึมมมม" พวกอัลแทเรี่ยนกระตุกอย่างต่อเนื่องเพราะโดนการจู่โจมของมาริจนล้มลงและระเบิดแหลกไปในทันที "พวกที่อยู่ในอาคาร เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยละ" แทนกล่าว โดยเลื่อนส่วนหน้ากากขึ้นพร้อมไวเซอร์ด้วย

              มาริเลยเลื่อนเฟสการ์ดและก็อกเกิ้ลเข้าไปในหมวกพร้อมบอกไปว่า "จะแวะไปดูก็ได้นะคะ หากว่ายังเหลือเศษให้คุณจัดการต่อน่ะ"

              "ดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อย ต้องให้แน่ใจว่าในฐานไม่เหลือใครหน้าไหนรอดไปได้สักตัวกันน่ะ" แทนกล่าว แล้วก็แจ้งไปยัง "อีแร้งแจ้งถึงกระสวยเงา ตอนนี้ฉัน พิราบและจนท.ผมยาว เคลียร์สถานีแรกไปแล้วละ"

              โดซี่บอก "กระสวยเงาถึงอีแร้ง เดียวฉันจะส่งเหยี่ยวไปดูให้เดียวนี้แหละ"

              "รับทราบ และขอลูกเรือสัก 30 หน่วยมาเก็บกวาดไอ้พวกนี้กันหน่อยน่ะ" แทนแจ้งบอก

              โดซี่กล่าว "ฉันให้ได้ 20 พอแล้วกันน่ะ" แล้วก็แจ้งไปยัง "แอนเดรีย เธอไม่เป็นไรใช่มั้ยละ"

              "ก็เกือบไม่รอดแล้วนะคะ ดีนะคะ ที่คุณแทนมาช่วยไว้" แอนเดรียติดต่อผ่านโฮโลแพดจากหลังแขนซ้าย มาริกระแอ่มไว้

              โดซี่บอก "ฉันยกให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวน่ะ เรื่องสื่อสารบอกชื่อคนในทีมออกไปน่ะ คราวหน้าต้องเรียกเป็นรหัสเลยน่ะ"

              "รับทราบคะ ผู้การกระสวยเงา" แอนเดรียกล่าว โดซี่พยักหน้า หลังจากนั้น ลูกเรือของกองกำลังแบ็คไซด์รีบรุดมาที่สถานีพร้อมกับแดน เพื่อมาจัดเก็บกวาดฐานทัพโดยเร็ว แล้วก็กลับไปที่อินสเปคทรัลกัน

              "โชคยังดีมาก ที่สถานีแรกที่เราบุกไปนั้นเป็นสถานีสื่อสาร ซึ่งไม่เพียงทำให้เราสามารถควบคุมและรับรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขาเพียงอย่างเดียว แต่...ยังทำให้เรารู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของฐานทัพกันอีกด้วยนะคะ" มาริกล่าว

              "ซึ่งนั้นหมายถึงตำแหน่งของคลังเสบียงและความเคลื่อนไหวของกองขนส่งเสบียงด้วยสิน่ะ" โดซี่กล่าว "แต่การที่สถานีสื่อสารนั้นถูกจู่โจมนั้น ได้ทำให้พวกอัลแทเรี่ยนรู้ว่าเราอยู่ที่นี้กันแล้ว ดังนั้น งานนี้เราต้องระมัดระวังกันให้มากแล้วละ" พวกแดนและแอนเดรียพยักหน้า แล้วทั้งหมดก็เดินออกไป

              แดนบอก "คงต้องลำบากเธอแล้วน่ะ แม้ว่าเราจะเป็นห่วงเธอเลยก็ตามน่ะ"

              "ฉันแค่ประมาทไปก็เท่านั้นเอง ที่ไม่ระวังให้มากกว่านี้นะคะ แล้วก็ ขอตัวก่อนนะคะ" แอนเดรียบอก แล้วก็เดินออกไปจากห้องกัน เพื่อไปหา

              "ดีแล้วละ ที่เธออยู่กับทันกุนไว้ ไม่เช่นนั้น เธอคงไม่รอดแล้วละ" เบ็ตตี้เช็คอาการของแอนเดรียดู โดยใช้ไฟฉายส่องตาของแอนเดรียอย่างละเอียด

              "ทั้งๆที่คุณสามารถป้องกันคนอื่นและตัวเองได้ ก็น่าจะเอาตัวรอดได้เหมือนกับพวกคุณพีวิลกันบ้างสิครับ" เฟรดบอก

              แอนเดรียบอก "ไม่หรอกจ๊ะ ต่อให้ฉันมีพลังในการสร้างม่านป้องกันไว้ก็จริง แต่ก็ไม่ว่องไวพอที่จะหลบหรือโต้ตอบศัตรูที่มาเร็วเกินไป เหมือนเช่นที่คุณพีวิลหรือคุณพลัสเชอริททำได้หรอกน่ะ"

              "แสดงว่าเธอเองก็มีข้อจำกัดเลยสิน่ะ" เบ็ตตี้บอก หากแต่เธอรู้สึกถึง "เออ เฟรด นี้เธอเช็ดแว่นหรือเปล่าละ"

              เฟรดกล่าว "ผมเช็ดมานะครับ เพราะต่อให้แว่นของคุณไม่มัว ยังไงก็ต้องเช็ดให้สะอาดกันเสียก่อนนะครับ"

              "ลองถอดแว่นและมองตาเปล่าได้มั้ยละคะ" แอนเดรียแนะนำ เบ็ตตี้ลองถอดแว่นดู ซึ่งก็.... "เออ เอิ่ม อา...." เธอพยายามกระพริบตาถี่ๆกันไว้ จนกระทั่ง...

               "ภาพค่อนข้างชัดขึ้นมาแล้วน่ะ ฉันไม่เป็นไรมากหรอกน่ะ" เบ็ตตี้บอก แล้วก็เอาแว่นมาสวมใหม่

               "หวังว่าคุณคงไม่เป็นไรกันจริงๆบ้างนะคะ"

              "ผมอดเป็นห่วงหมอเบ็ตตี้ไม่ได้เลยนะครับ แม้ผมจะไม่รู้เลยว่าหมอทำสองหน้าที่พร้อมกัน ทั้งดูแลแม่และช่วยงานพ่อในแนวหน้ากันน่ะ" เฟรดบอก "ถ้าเกิดว่าหมอเบ็ตตี้เป็นอะไรไปขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะครับ"

              แอนเดรียพยักหน้า "ตอนนี้ เราได้แค่หวังว่า หมอเบ็ตตี้คงจะไม่ทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้กันน่ะ เพราะในยานมีหมอเพียงแค่คนเดียว และไม่มีใครมาทำงานแทนได้น่ะ"

              "งั้นผมขอออกไปสูดอากาศกันนะครับ" เฟรดบอก โดยเดินออกมานอกยานกัน

              "คงจะกังวลถึงเรื่องหมอเบ็ตตี้เลยสิน่ะ เฟรด" แฮรี่กล่าวจนทำให้เฟรดตกใจไม่น้อย

              "คุณแฮรี่ อย่าทำให้ผมตกใจแบบนี้สิครับ" เฟรดกล่าว และหันมาถาม "แล้วนี้คุณไม่มีอะไรทำเลยหรือ ถึงได้มาทำแบบนี้กันน่ะ"

              แฮรี่บอก "คุณแทนจัดการเรื่องพวกน็อกกี้ให้แล้ว ฉันเลยว่างมาหานายกันนี้แหละ ถึงแม้ว่าฉันอดเป็นห่วงคุณเบ็ตตี้เลยก็ตาม"

              "ที่คุณเป็นห่วงนิ เพราะว่าคุณร่วมทีมเดียวกันกับหมอเบ็ตตี้และคุณพ่องั้นละสิ" เฟรดกล่าว และหันมาถาม "แล้วคุณรู้จักพ่อกันมานานแค่ไหนน่ะ"

              แฮรี่บอก "ฉันควรจะเริ่มต้นยังไงกันดีน่า คงต้องเริ่มตั้งแต่ตอนที่ฉันอยู่ในกองรบเดียวกันกับบรูโน่ น้องชายของผบ.บัลโต้ ซึ่งฉันเป็นยอดนักมวยที่เก่งหาตัวจับยากมากๆ และอวดดีมากที่สุดด้วย ถึงขั้นที่ไปท้าต่อยทหารระดับเป้งๆ และเสนอว่าใครแพ้จะต้องถูกจับโกนหัวให้โล้นกันนี้แหละ"

              "แล้วคุณก็ท้าชกกับพวกเขาจนทำคนอื่นหัวเกลี้ยงงั้นสิ" เฟรดบอก

              แฮรี่กล่าว "ฉันชกชนะนายทหารไปสามนายด้วยกันน่ะ จนกระทั่ง มาเจอกับพ่อของเธอ ซึ่งเป็นซุปเปอร์โซลเยอร์รุ่นเดียวกันกับผู้การเดลิคเข้า แน่นอน ว่าความลำพองและหยิ่งผยองของฉันที่คิดว่าจะเอาชนะพ่อเธอได้นั้น กลับทำให้ฉันเสียท่าให้กับพ่อของเธอ ที่สู้อย่างสุขุมรอบคอบมากๆ จนแพ้น็อกแบบหมดรูป และลงเอยด้วยการเสียทรงผมที่ไว้ยาวมา 5 ปี เพราะพ่อเธอเสนอว่าถ้าแพ้ต้องไว้สกินเฮดตลอดน่ะ"

              "แน่ละ พ่อเป็นยอดทหารที่เก่งกาจไม่น้อยนะสิ แม้ว่าพ่อจะลงเอยด้วยการกลับมาบ้านด้วยแผลเต็มตัวแบบนั้นน่ะ" เฟรดบอก "แล้วคุณลงเอยด้วยการเป็นลูกน้องของพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ"

              แฮรี่กล่าว "ก็หลังจากที่แพ้พ่อเธอมา 3 วันแล้วนะสิ เพราะพ่อของเธอสนใจในความสามารถของฉัน เลยเรียกตัวฉันไปช่วยงานของเขา แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเชื่อฟังและชอบขัดคำสั่งอยู่เป็นบางครั้งเลยก็ตาม แต่เขาก็อดทนมากพอ แม้จะไม่พูดตำหนิติเตียนฉันแต่อย่างใด จนฉันเกิดความลำพองใจขึ้นมา จนกระทั่ง....พ่อของเธอเล่นไม้แข็งด้วยการไม่สนใจใยดีต่อฉันเลยแม้แต่น้อย แถมทำเป็นไม่รู้จักกันอีกด้วยน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะพ่อคงเห็นคุณเกินเยียวยาแล้วสิ" เฟรดกล่าว

              แฮรี่บอก "ทีแรก ฉันกะจะโวยเพื่อเรียกให้พ่อของเธอได้ยิน จนกระทั่งเพื่อนร่วมงานของพ่อเธอมาบอก ว่าเขาสั่งสอนฉันที่ทำตัวนอกลู่นอกทางกันแบบนี้ เพื่อให้ฉันหัดเชื่อฟังคำสั่งคนอื่นกันบ้าง ถึงแม้ว่าฉันรู้สึกเจ็บใจไม่น้อยที่โดนพ่อของเธอหลอก แต่....นั้นก็ทำให้ฉันรู้ตัวเองดี ว่าฉันทำตัวแย่มากขนาดที่พ่อของเธอเมินเฉยตลอดกัน กว่าพ่อของเธอจะเลิกเมินใส่ ก็ปาไปตั้งสองสามสัปดาห์ด้วยกัน" แล้วก็บอกไปว่า "หลังจากนั้นฉันกับเพื่อนต่างกองก็ทำงานอยู่ภายใต้คำสั่งของพ่อของเธอมาตลอด จนฉันรู้ว่าพ่อของเธอนั้น ไม่เพียงรู้จักนิสัยใจคอคนอื่นได้ดี และรู้จักปรับตัวเข้าหาคนอื่นได้เก่งแล้ว ยังปรับตัวเข้ากับสภาพการณ์ภายนอกได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องพวกพ้องและคนรอบข้าง พ่อของเธอให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องของตนเองกันด้วย แม้ว่าความเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นนั้นจะมากถึงขั้นที่ ทำให้เขาเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยคนนอกกองหรือลูกน้องที่ตกอยู่ในอันตรายมาหลายต่อหลายครั้ง แม้กระทั่งฉันเองก็ด้วย ที่ถูกพ่อของเธอพาหนีออกจากวงล้อมของพวกแอตแลนไทซ์กันน่ะ"

              "เพราะอย่างงั้น คุณเลยซาบซึ้งต่อความช่วยเหลือของพ่อ เลยยอมเป็นลูกน้องเลยสิน่า" เฟรดกล่าว "แม้กระทั่งตอนที่พ่อเข้าเป็นหัวหน้าหน่วยรบวิหคก็ด้วยสิน่ะ"

              แฮรี่กล่าว "ใช่ ตอนนั้นฉันถูกสั่งย้ายอยู่หน่วยลาดตระเวนของบลูซัน ซึ่งอยู่ในกองรบนั้นในช่วงสู้กับโอเวอร์เดสในช่วงท้ายๆ พอออกนอกโลกมายังเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศ พ่อของเธอก็เรียกฉันมาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคหน่วยรบพิเศษของผู้การเฮลิคที่จัดตั้งไว้ ซึ่งฉันก็ตอบตกลง เพราะอย่างน้อยฉันก็อยากจะตอบแทนบุญคุณของพ่อของเธอกันบ้าง แม้ว่าจะต้องทำงานพร้อมกันกับคุณทันกุนที่เป็นยอดทหารระดับเก่งแต่ห้าวเป้งพอกัน หมอเบ็ตตี้ที่เป็นทหารแพทย์สนามมากประสบการณ์ แล้วก็มาริ แมนิเกเตอร์นินจาหญิง ซึ่งผู้การเฮลิคเลือกเธอให้อยู่ในทีม เพราะเห็นถึงความสามารถอันโดดเด่นของเธอในการแทรกซึมเข้าจู่โจมกลุ่มศัตรูได้อย่างว่องไวเลยก็ตาม"

              "คุณคาเซคาว่า เป็นนินจานะหรือ แต่ทำไมสายตาของคุณคาเซคาว่าถึงเย็นชามากเลยน่ะ" เฟรดบอก

              แฮรี่กล่าว "เท่าที่ฉันรู้มาน่ะ ว่ามาริถูกฝึกอย่างเข้มงวดในศาสตร์วิชาของนินจากันไม่น้อย และคงจะถูกบีบบังคับให้ฆ่าเพื่อนร่วมรุ่นหรือญาติพี่น้องกันไว้ รวมถึงถูกบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากจะทำแน่ๆ ซึ่งเหตุผลสองอย่างหลัง น่าจะเป็นเหตุผลที่เธอกับพวกเข้าร่วมกับกองกำลังของท่านประธานาธิบดีกันนี้แหละ" แล้วก็บอกไปว่า "แต่ถึงกระนั้น มาริก็เป็นคนมีเหตุมีผลกันบ้าง แม้ว่าจะไม่พอใจกับท่าทีของพ่อของเธอ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของพ่อของเธอที่เป็นหัวหน้ากันมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะว่ามาริคงจะให้ความเคารพต่อพ่อของเธอในฐานะลูกน้องกันไม่น้อย เพราะรู้ว่าพ่อของเธอเป็นคนดีอยู่แล้วน่ะ"

              "ถ้าพ่อดีจริง ก็คงไม่ปิดบังผมกับแม่มาจนถึงบัดนี้กันหรอกน่า" เฟรดกล่าว

              แฮรี่บอก "ดีแล้วละ ที่นายรู้เรื่องของพวกเราเร็วกว่านี้ แม้ว่านั้นจะทำให้นายไม่พอใจเลยก็ตาม" แล้วก็บอกไปว่า "ยิ่งเป็นญาติของเจ้าหน้าที่สืบสวนและสายลับที่แฝงตัวทำงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ อย่างแฝงตัวไปอยู่ในถิ่นของผกก.และพลาดท่าเสียชีวิตหรือถูกจับไป แล้วรัฐบาลก็ปิดบังหรือพูดเป็นอย่างอื่นให้กับญาติขึ้นมา นั้นยิ่งไม่ดีเข้าไปใหญ่"

              "ส่วนหนึ่งเพราะว่า ญาติคงไม่คิดว่าพ่อหรือแม่ที่แฝงตัวตายแบบโง่ๆ เลยหาทางพิสูจน์ความจริงกันเลยสิน่ะ" เฟรดบอก

              แฮรี่พยักหน้า "ญาติของจนท.นั้น ไม่ใช่พวกปลงตกหรือยอมรับความจริงกันง่ายๆหรอก เพราะเท่าที่ฉันได้ยินจากนายทหารในบลูโรเชียทเล่ามา ว่าอเมริกาและชาติต่างๆ มักจะมีปัญหาความลับทางทหารถูกขโมยและเผยแพร่ออกสู่ภายนอกกันบ่อยๆ เพราะกองทัพให้คำตอบที่ไม่เป็นที่พอใจและไม่บอกความจริงกับญาติของจนท.ให้กระจ่างกันเสียเอง ซึ่งส่วนหนึ่งมันมาจากการตัดสินใจของเบื้องบนที่ไม่คิดหน้าคิดหลังไว้ให้ดีเลยนะสิ"

              "แล้วทำไมพวกเขาไม่บอกกับญาติไปตรงๆเสียเลยละ อย่างน้อยเรื่องที่คุณว่ามามันคงไม่วุ่นวายถึงเพียงนี้หรอกน่ะ" เฟรดกล่าว

              แฮรี่ส่ายหน้า "ทำไงได้ละ นายทหารระดับสูงไม่อยากจะเอาความมั่นคงมาเสี่ยงกันหรอก และถ้านายรู้ว่าพ่อของนายตายแบบโง่ๆขึ้นมา นายเองที่เชื่อว่าพ่อของนายเป็นฮีโร่ ไม่สมควรตายแบบนั้น ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ความจริงกระจ่าง จนถึงขั้นต้องฆ่าคนไปไม่น้อยด้วย ซึ่งวายร้ายที่ก่อเรื่องแบบนี้ ทำได้ทุกอย่างโดยไม่แยแสต่อส่วนรวมอยู่แล้ว" แล้วก็ชี้ไปว่า "นั้นจึงเป็นเหตุผลที่พ่อของนายปิดเรื่องนี้ไว้ เพราะเขาไม่อยากให้นายลงเอยเหมือนคนเหล่านั้นนะสิ"

              "เว่อร์เกินไปแล้วละมั่ง คุณแฮรี่ ผมไม่บ้าจี้ตามคนที่คุณว่ามากันหรอกน่ะ" เฟรดฟังแต่ไม่ค่อยเชื่อตามที่แฮรี่เล่า

              แฮรี่พูดอย่างจริงจังไปว่า "หรือ แต่บอกตามตรงน่ะ ว่านายในตอนนี้ ก็เหมือนฉันตอนก่อนที่จะเจอกับพ่อของนายเลยน่ะ" เฟรดได้ฟังก็ชะงักขึ้นมาและไม่พอใจในระดับหนึ่ง แฮรี่เลยต้องบอกไปว่า "เพราะถึงแม้ว่านายจะไม่แสดงความไม่พอใจออกมาจนรุนแรงเกินไปก็จริง แต่ถ้านายขาดสติยั้งคิดหรือใช้อารมณ์ความรู้สึกของตนเองเป็นที่ตั้ง โดยที่ไม่นึกถึงเหตุและผลขึ้นมา ถึงตอนนั้นนายก็จะไม่มีใครหน้าไหนห้ามได้แน่นอน จนทำให้คนรอบข้างพลอยเดือดร้อนไปด้วย"

              "คุณพูดเหมือนกับว่าผมจะเป็นอย่างงั้นจริงๆละสิ" เฟรดบอก

              แฮรี่พยักหน้า "รู้อะไรมั้ย ในกลุ่มคนที่หัวหน้าโดดเอาตัวเข้าไปแลกเพื่อช่วยเหลือนั้น มีฉันคนหนึ่งแหละ ที่อยู่ในนั้นน่ะ"

              "......." เฟรดได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย แฮรี่ยิ้มก่อนบอกไปว่า "ที่จริง นายอยากจะหาเรื่องเล่นงานฉันก็ได้น่ะ เพราะว่าฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้หัวหน้าเจ็บตัวฟรีแบบนั้น และมีส่วนที่ทำให้นายไม่พอใจพวกทหาร หรือแม้กระทั่งพวกไทรเวเซอร์กันไว้น่ะ"

               เฟรดบอก "แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกกับผมตั้งแต่ตอนนั้นเสียเลยละ"

              "เพราะฉันรู้ ว่านายไม่ได้เกลียดทหารกันจริงๆหรอก หาไม่แล้ว นายก็พลอยเกลียดหัวหน้าซึ่งเป็นพ่อของนายด้วยนะสิ" แฮรี่กล่าว "และตอนนี้นายก็มีโอกาสแล้ว หาเวลาพูดคุยกับหัวหน้าดีๆด้วยละ" แล้วก็เดินออกไป โดยปล่อยให้เฟรดคิดหนักไม่น้อย

              "เฮ้อ พ่อนิ มีมิตรเยอะเลยน่า หวังว่าคงจะเยอะพอๆกันกับศัตรูบ้างละนะ" แต่หารู้ไม่ว่า มีใครบางคนแอบดูการพูดคุยของเฟรดและแฮรี่กันอยู่ พอเฟรดเดินกลับเข้าไปในยาน คนลึกลับนั้นก็รีบหายเข้าป่าไปทันที


              วกกลับมายังฝั่งมาสวาร์ทาร์ ที่ดาวเอลวัล-6

              "ท่านที่ปรึกษาคะ เราเหลือเพียง 5 นาทีแล้ว ยังไม่มีวี่แววของท่านไฮลอร์ดและคาตานะลอร์ดเลยคะ" แชปแลคหญิงกล่าว

              บาทรัลบอก "สงสัยว่าคงต้องฝ่าฝืนคำสั่งฉุกเฉินกันแล้ว กองรบทั้งหมด เตรียมพร้อมบุกฝ่าแนวปืนใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามไปให้ได้กัน...."

              "เออ ท่านที่ปรึกษาครับ ดูเหมือนว่าป้อมปืนตามหุบเขาที่เล็งมาทางเรานั้น มีปฏิกิริยาพลังงานเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วกันนะครับ" พาราไดน์หนุ่มตาเดียวกล่าว

              บาทรัลกล่าว "สงสัยว่าพวกนั้นคงจะเตรียมยิงก่อนที่ท่านไฮลอร์ดจะไปถึงแล้วสิ...."

              "แต่....ปริมาณพลังงานนั้น มันเพิ่มมากจนเกินไปแล้ว แถมเพิ่มมาอย่างเร็วนั้น คงทำให้ปืนเหล่านั้นยิงไม่ออกจน...." พาราไดน์หนุ่มตาเดียวรายงาน แล้วก็ "ตรูมมมม บรึมมมม บรึมมมม ตรูมมมม" ป้อมปืนอนุภาคระยะไกลที่อยู่ตามเขาได้ระเบิดไปตามลำดับ ซึ่งแรงระเบิดนั้น ไม่เพียงกวาดทหารอัลแทเรี่ยนที่ประจำการ แต่ก็ทำลายป้อมปืนต่อสู้อากาศยานกันอีกด้วย

              "เรียนท่านที่ปรึกษา ปืนใหญ่ของฝ่ายศัตรูระเบิดพร้อมกันแล้วละคะ" พาราไดน์หญิงจากกองดรากูนัสเซเบอร์รายงานจากด้านนอก

              "เดียวก่อนนะ ลักษณะแบบนี้ หรือว่า..." บาทรัลกล่าว แล้วภาพมอนิเตอร์ก็ปรากฎภาพอากาเมมนอสและมาสวาร์ทาร์ขึ้นมา

              "....คงจะรู้แล้วสิน่ะ ว่าปืนใหญ่โอเวอร์โหลดไปนั้นมันเกิดจากอะไรน่ะ บาทรัล" อากาเมมนอสบอก

              "ผมรู้อยู่แล้วน่ะ เพราะครอสตรีมที่รู้ระบบกลไกและโครงสร้างภายในของป้อมปืนใหญ่พลังพลาสม่าที่ไปยึดมาจากกองกำลังมนุษย์โลก รวมถึงรู้วิธีสั่งยิงและควบคุมพลังงาน ก็มีแค่คาตานะลอร์ดเท่านั้นนะครับ" บาทรัลกล่าวและหันมาถาม "แต่ โรงพลังงานอนุภาคนั้นมีเวรยามเฝ้าอยู่นิ ต่อให้พวกท่านใช้เส้นทางใต้ดินก็ใช่ว่าจะรอดจากพวกทหารกันได้น่ะ"

              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกเราได้รับความช่วยเหลือจากชนเผ่าที่ถูกกักขังเอาไว้นะสิ" โดยตอนนี้พวกอัลแทเรี่ยน ได้ถูกพวกปาเยฮัตใช้พลังจิตทำให้พวกทหารอัลแทเรี่ยนร้องรำทำเพลงกันยกใหญ่ แล้วก็ควบคุมให้พวกนี้ออกไปจากโรงพลังอนุภาคโดยเร็ว

              "ผมไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมกองกำลังกบฎของโคเคสถึงกำชัยได้ง่ายเลยน่ะ" บาทรัลบอก และหันมาถาม "ท่านไฮลอร์ด อนุมัติให้เรานำยานออกไปได้หรือยังละครับ"

              อากาเมมนอสบอก "เรื่องเอายานขึ้นนั้น ทำได้อยู่แล้วละ เพียงแต่....ฉันคิดแผนดีๆออกแล้วละ"

              "อากาเมมนอส นายคิดจะทำอะไรกันแน่ละ" มาสวาร์ทาร์ถาม

              อากาเมมนอสบอก "ฉันแค่จะลองดีกับแม่ทัพใหญ่ของพวกมหาจักรวรรดิ์ก็เท่านั้นเองแหละ" แล้วก็ "ฟึ่บบบ" เอาแท่งบางอย่างมาสบัดออกมา "หวังว่าบูเรนนอฟจะติดกับของนายกันบ้างน่า"

              "ถ้าเช่นนั้นก็ บาทรัล ขอยานมังกรลำหนึ่ง มารับฉันและมาสวาร์ทาร์โดยด่วนเลย เพราะเราต้องเตรียมพร้อมกันสักหน่อยน่ะ" อากาเมมนอสบอก แล้วก็เดินออกไปจากโรงผลิตพลังอนุภาค พร้อมกันกับมาสวาร์ทาร์ที่ยืนอยู่ จนอากาเมมนอสเสร็จกิจกันแล้ว "ฟ้าวววววว" ยานมังกรได้บินมาโดยรับตัวอากาเมมนอสและมาสวาร์ทาร์กลับไปยังยานแซคไรเซอร์กัน ซึ่งเหล่านักรบครอสตรีมออกมายืนตรงหน้ากัน อากาเมมนอสโดดลงจากส่วนปีกพร้อมกับมาสวาร์ทาร์ถาม "ทำไมพวกเจ้าถึงเงียบกันละ ไม่พูดอะไรบ้างเลยหรือ"

              บาทรัลกล่าว "ยินดีด้วยนะครับ ท่านไฮลอร์ด แล้วก็ ท่านคาตานะลอร์ดด้วย ที่กลับมาอย่างปลอดภัยกันน่ะ"

            "ท่านนะหรือ นี้มันหมายความว่ายังไงกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

              แชปแลคชายบอก "ถึงแม้ว่า ท่านจะเคยมีสถานะเป็นคนทรยศต่อพวกเรากันมาก่อนก็จริง แต่ ท่านได้สู้กับพวกเราอย่างองค์อาจและสมศักดิ์ศรียอดนักรบที่คู่ควรของท่านลอร์ดโครเต้กันมา จนกำชัยชนะอย่างขาวสะอาดกัน แม้ว่านั้นหมายถึงจุดจบของบิดรเทพกันเลยก็ตาม ท่านเป็นยอดนักรบที่พวกเราเคารพยกย่องไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ท่านไฮลอร์ด ท่านลอร์ดโครเต้ และท่านไพล์มลอร์ดอาทรัสเตอร์ด้วย"

              "ความฉลาดรอบรู้ของท่านนั้น แม้ว่าท่านได้ใช้มันในการเล่นงานพวกพ้องของเรา รวมถึงท่านไฮลอร์ดเองก็ตาม แต่ด้วยความฉลาดของท่านนั้นก็ได้ทำให้พวกเรารอดพ้นจากสถานการณ์อันย่ำแย่ลงได้ เหมือนที่ท่านช่วยพวกไทรเวเซอร์กันไว้นะคะ" เซนรอทหญิงกล่าว

              พาราไดน์ชายบอก "แม้ว่าตอนนี้ท่านเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังไทรเวเซอร์กันแล้วก็จริง แต่....พวกเราภูมิใจที่ท่านอยู่เคียงข้างพวกเรากันอีกครั้งหนึ่ง....ท่านคาตานะลอร์ด เอชมาสวาร์ทาร์ ดาบมือหนึ่งของครอสตรีม"

              "ฟึ่บบบบ" แล้วเหล่านักรบครอสตรีมก็คุกเข่าขึ้นมา มาสวาร์ทาร์ถึงกับตกใจไม่น้อย "อากาเมมนอส นี้อย่าบอกน่ะว่า...."

              อากาเมมนอสยิ้มก่อนจะตบหลังมาสวาร์ทาร์ไปว่า "....ใช่ ยินดีด้วยน่ะ สหายคาตานะลอร์ด ที่นายติดกับฉันจนได้เลยน่ะ"

              "แปลว่านายเตี้ยมกับทุกคนเอาไว้แล้วละสิ ว่าฉันต้องใช้ความฉลาดรอบคอบในการลงมือเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก และหันมายังบาทรัลที่ยิ้มและก้มโค้งทำความเคารพไปด้วย

              อากาเมมนอสกล่าว "นั้นแค่ครึ่งหนึ่งน่ะ แต่ฉันเชื่อเต็มเหนี่ยวแล้วละ ว่านายต้องโผล่หัวมาอยู่กับพวกเราจนได้นี้แหละ แม้ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาไม่นานถาวรก็ตามเลยน่ะ"

              "ท่านไฮลอร์ดรู้ดีนะครับ ว่าดาบมือหนึ่งอย่างท่านนั้น ไม่มีทางนิ่งดูดายพวกเรากันได้แน่ๆ แม้ว่า ผมจะคิดว่าคุณที่ห่างเหินพวกเราไปนานนั้น คงไม่คิดจะช่วยพวกเราแน่นอนน่ะ" บาทรัลกล่าว

              มาสวาร์ทาร์บอก "แต่ในเมื่อนายให้บาทรัลเป็นที่ปรึกษากันแล้ว นายคงไม่คิดที่จะให้ฉัน...."

              "ใช่ ฉันจะให้นายเป็นนายกองใหญ่นำกลุ่มอัศวินครอสตรีมปฏิบัติการณ์กันนี้แหละ ซึ่งฉันหวังว่าการที่นายอยู่ในกองรบที่ถืออาวุธปืนบ่อยๆ คงจะไม่ลืมยุทธวิธีการใช้อาวุธดาบและหอกกันหมดเลยน่ะ" อากาเมมนอสบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ว่าแต่ นายจะให้ฉันนำกองรบไปจัดการตรงไหนกันละ สหายไฮลอร์ด

              ที่กองบัญชาการหลักประจำดาวเอลวัล-6 ที่สถานีอวกาศโชโซบาล

              "ว่ายังไงน่ะ เป็นความจริงนะหรือ" แม่ทัพอัลแทเรี่ยนนกกาเหว่ากล่าว เมื่อทหารอัลแทเรี่ยนรายงาน

              "ขอรับ ตอนนี้ ฐานรอบนอกของเรา 6 แห่งถูกโจมตีหลังจากที่พวกมัน ยึดโรงพลังงานอนุภาคและทำลายป้อมปืนใหญ่ที่ใช้ยิงยานของพวกมันไปได้แล้วละครับ" โดยนำภาพที่... "แชดๆๆๆๆๆ" พวกทหารอัลแทเรี่ยนหน่วยที่ 4 ระดมยิงปืนยาวพลังอนุภาคเข้าใส่พวกครอสตรีม แต่ครูซาเดนใช้โลห์ใหญ่เข้าบล็อกป้องกันไว้ พร้อมกับบุกเข้าใส่อย่างรวดเร็ว พวกทหารอัลแทเรี่ยนเลยทะยานขึ้นเพื่อใช้ปืนยาวอนุภาคยิงใส่ "แชดดดด แชดดด แชดดด" พาราไดน์ที่อยู่แถวหลังยิงครอสเซี่ยมมาสเก็ตเข้าใส่ทหารอัลแทเรี่ยนที่โดดสูงจนร่วงลงมากันหมด "ฟ้าวว ฟ้าววว" เทมพาร่า 2 ตนซัดหอกที่อัดพลังครอสเซี่ยมเข้าใส่ป้อมปืนเลเซอร์ยิงเร็ว "ปั้กก ป้ากกก ตรูมมม บรึมมม" จนระเบิดวินาศสันตะโร โดยที่พวกทหารอัลแทเรี่ยนรีบใช้ดาบยาวเข้าสู้ แต่ก็.... "ป้ากกก ฉั้วะ ฉับบบ ฉั้วะ ฉึกกก ฉั้วะ" โดนนักรบชั้นพาราไดน์และครูเซเดนจัดการกันอย่างรวดเร็ว ในขณะที่หน่วยที่ 6 นั้น "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" บุกเข้าใส่ด้วยการติดปีกและขี่ยานบินผ่านช่องเขา แต่.... "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววววว แชดดด แชดดดด แชดดดด" กลุ่มนักรบจากกองเวอเด้คาเวลลี่ขี่โฮฟไบค์ทรงยูนิคอร์น เข้าจู่โจมด้วยปืนยาวแสงครอสเซี่ยมที่ถือมาและจากเขาม้ายูนิคอร์นเข้าเล่นงานพวกอัลแทเรี่ยนจนล้ม แม้จะมีพวกซิลเวอร์เบิร์ดบินเข้ามา "ฉึกกกกก" แต่เซนรอทใช้หอกอัดพลังครอสเซี่ยมแทงทะลุบอดี้เกราะโลหะพิเศษจนแตกกระจุยกันอย่างจังๆ แล้วก็ "แชดดดด แชดดดด ตรูมๆๆๆๆ" ยิงลำแสงทำลายแนวป้องกันด้านหน้าฐานจนกระจุย

              หน่วยที่ 8 ซึ่งมุ่งหน้าไปเพื่อยึดโรงพลังงานอนุภาคนั้นก็.... "เฮ้ยยยย" กลุ่มนักรบจากเจดกราเดี้ยนบุกเข้าใส่โดยไม่กลัวเกรงลำแสงอนุภาค เพราะพวกเขาเสริมด้วยเกราะเจดอาร์มเมอร์เอาไว้ จนบุกเข้ามา "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉึกกก ฉั้วะ" ฟาดฟันใส่พวกอัลแทเรี่ยนหน่วยที่ 8 จนแดดิ้นไปกันหมด หน่วยที่ 7 และ 9 เองก็.... "แชดดดด ป้ากกก ตรูมมม" ฐานของหน่วยที่ 7 ถูกลำแสงครอสเซี่ยมยิงทะลุกำแพงพลังงานเข้าถึงฐานบัญชาการจนระเบิดวินาศสันตะโรไป ตามด้วยกลุ่มนักรบกองไชน์นิ่งเฟนเซอร์บุกเข้ามา "แชร้งๆๆๆๆๆ" ใช้ดาบยาวและกระบี่เข้าฟาดฟันใส่พวกทหารอัลแทเรี่ยนทั้งปกติและพวกซิลเวอร์เบิร์ดให้แดดิ้น "กวี้กกกก วืมมม แชบๆๆๆๆๆ" ซิลเวอร์เบิร์ด 6 กองบินโฉบเข้ามาพร้อมกับใช้ดาบแสงจากหลังมือเข้าเล่นงานพาราไดน์ 6 ตน แม้เซนรอทที่เป็นหัวหน้าหน่วยเองก็ "ป้ากกก เปรี้ยงงง ป้ากกก" โดนฟันจนได้แผลที่หน้าอกไปตนละแผล "หวับๆๆๆๆๆๆ ป้ากกกก" แต่พวกซิลเวอร์เบิร์ดกลับพ่ายให้กับมาสวาร์ทาร์ที่จู่โจมด้วยเพลงดาบกงล้อเข้า จนบดขยี้ซิลเวอร์เบิร์ดแหลกไปสามตน จากนั้นก็ "ตึกๆๆๆๆๆๆ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" วิ่งเข้ามาฟาดฟันใส่อัลแทเรี่ยนซิลเวอร์เบิร์ดอีกสามตนให้ล้ม ส่วนหน่วยที่ 9 นั้น "กวี้กกกกก" อัลเซคเทรี่ยน และอัลเฟลิม ซึ่งเป็นอัลแทเรี่ยนผสมกับแมทเฟลิมถูกผ่าขาดสะบั้นลงโดยฝีมือของ

              "ไอ้พวกนกต่างดาวนิ มันกล้ารวมผสมกับเผ่าอื่นแบบนี้ แย่หน่อยที่มาเจอกับกองรบดาบแห่งอาทรัสเตอร์กันเสียแล้วละ" อากาเมมนอสกล่าว หลังจากที่ดึงดาบลิเบรตัสเบลดออกจากหัวของอัลเซคเทรี่ยนออกไป แล้วก็ "ฟึ่บบบบ ปั้กกก" ซัดธงครอสตรีมปักคาฐานทัพไป

              "ท่านบาลเพลนครับ เราต้องทำยังไงสักอย่างแล้วละครับ ก่อนที่ท่านแม่ทัพใหญ่บูเรนนอฟจะมาถึงนะครับ" ทหารอัลแทเรี่ยนบอก

              บาลเพลนกล่าว "งั้นก็....ขอกองกำลังส่วนหนึ่งมาแทนที่พวกเราโดยเร็ว เช่นเดียวกับขอกองยานมาช่วยถล่มพวกแมนิเกเตอร์เกราะเขียวเหล่านี้ให้ราบคาบไปซะ"

              "ข้ากลัวว่าท่านจะติดกับของพวกศัตรูที่วางแผนกันไว้แต่แรกแล้วนะสิ" เสียงนั้นกล่าวขึ้น แล้วเจ้าของเสียงนั้นก็เดินเข้ามา

              บาลเพลนเห็นก็ถึงกับตกใจไม่น้อย "ทะๆๆๆๆ ท่านบูเรนนอฟ นี้ท่านมาที่นี้ล่วงหน้าโดยไม่บอกทางเราเลยหรือครับ"

              "ใช่ ข้าได้รับทราบเรื่องที่พวกไทรเวเซอร์จู่โจมสถานีแจกจ่ายทาสของคริมสันดรูจ และมีพวกหน่วยรบพิเศษของพวกแมนิเกเตอร์ชิงตัวนักโทษและผู้ลี้ภัยจากยานของกัปตันคุกคูส รวมถึงเรื่องที่ดาบมือหนึ่งหลบหนีลงมาที่ดาวดวงนี้ด้วยนั้น ข้าเลยต้องรีบนำกองรบส่วนหนึ่งล่วงหน้ามาที่นี้ก่อนนะสิ" บูเรนนอฟบอก "สถานการณ์ในตอนนี้ย้ำแย่มากเลยสิน่ะ"

              บาลเพลนกล่าว "ขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ และข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรละครับ"

              "ถ้าเช่นนั้นก็ ทำให้พวกนั้นตายใจเสียเลยสิ เพราะว่าจุดมุ่งหมายของพวกมันก็คือข้าอยู่แล้วน่ะ ต่อให้พวกมันมีแผนหลายชั้นแค่ไหน ก็ไร้ความหมายกันอยู่แล้วละ" บูเรนนอฟบอก "แจ้งทหารที่ยังหลงเหลือให้เริ่มการทดสอบกองยานในวันพรุ่งนี้เลย รายละเอียด ข้าจะส่งคนไปชี้แจงให้ฟังแล้วกัน"

              บาลเพลนบอก "รับทราบขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่"

              "เออ ท่านอากาเมมนอสครับ ดูเหมือนว่า บูเรนนอฟจะอยู่ที่ดาวดวงนี้ก่อนกำหนดการแล้วนะครับ" บาทรัลกล่าวหลังจากที่ตรวจสอบการสื่อสารของพวกอัลแทเรี่ยนในช่วงนี้ไว้

              อากาเมมนอสบอก "นี้แปลว่า แม่ทัพใหญ่ของพวกเดลอาเนี่ยน มันรู้แล้วสิ ว่าพวกเราอยู่ที่ดาวดวงนี้และก่อเรื่องให้พวกนกต่างดาวกันแล้วน่ะ"

              "ขอรับ เพราะพวกอัลแทเรี่ยนได้รับคำสั่งจากแม่ทัพประจำดาวว่า บูเรนนอฟขอให้มีกองรบคุ้มกันที่น้อยนิดเอาไว้ ซึ่งผมคิดว่า เขาทำให้การป้องกันน้อย เพื่อรอกองหนุนที่เยอะกว่าฝ่ายเราเดินทางมาถึงในไม่กี่วันนี้ พร้อมกับกองยานจำนวนมากกว่าเดิมแน่นอนนะครับ" บาทรัลกล่าว

              มาสวาร์ทาร์บอก "และการทดสอบกองยานในวันพรุ่งนี้ คงไม่ใช่การซ้อมรบหรอก แต่เป็นการปฏิบัติจริงด้วยการนำกองยานถล่มพวกเราที่อยู่ตามฐานที่เราบุกไปแล้วน่ะ ซึ่งนั้นก็เข้าแผนของนายเป๊ะๆเลยน่ะ"

              "ใช่ และหวังว่าไอ้แม่ทัพใหญ่มันคงไม่อ่านแผนเราออก และหาเรื่องตลบหลังพวกเรากันได้หรอกน่ะ" อากาเมมนอสบอก "นั้นขึ้นกับการวัดดวงแล้วละ"

              มาสวาร์ทาร์บอก "แล้วมีความเคลื่อนไหวของพวกอัลแทเรี่ยนที่อยู่นอกดาวกันบ้างหรือเปล่าละ"

              "สงสัยว่าพวกอัลแทเรี่ยนที่ดาวดวงนี้กำลังมีปัญหาเรื่องขอกองหนุนจากดาวอื่นนะครับ เพราะ....ที่ดาวฮิชเลไบน์-4 มีปัญหาเรื่องสถานีและฐานของพวกอัลแทเรี่ยนที่อยู่ตามจุดของดาวถูกจู่โจมต่อเนื่องมาตลอด 3 วันบนดาวแล้วละครับ" บาทรัลบอก

              อากาเมมนอสบอก "แล้วไอ้ดาวฮิชเลไบน์-4 นั้น เป็นดาวแบบไหนกันละ ไอ้พวกนกต่างดาวถึงได้ขอกำลังเสริมจากระบบดาวอื่นน่ะ"

              "เป็นค่ายกักกันชนกลุ่มน้อยของพวกอัลแทเรี่ยนกันนะครับ และเป็นชนเผ่าระดับล่างที่ถูกพวกอัลแทเรี่ยนขับไล่ออกจากดาวบ้านเกิด เพื่อขายดาวให้กับพวกเผ่าหลักที่เลือกและจับจองไว้ ซึ่งมีทั้งสร้างอาณานิคมขึ้นบนแผ่นดินของเจ้าถิ่นที่ถูกกักขัง เก็บเกี่ยวรวบรวมทรัพยากรทุกอย่างบนดาวด้วยการทำเหมืองและโรงงาน รวมถึงใช้เป็นสถานที่สำหรับทดสอบสิ่งประดิษฐ์แบบต่างๆที่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมของดาวกันด้วย" บาทรัลกล่าว "รายงานระบุอีกด้วยว่า มีแมนิเกเตอร์สวมเกราะปรากฎตัวราว 3-4 ตน มากับแมนิเกเตอร์หญิงผมยาว ซึ่งนั้นคงจะเป็นสมาชิกหญิงของคุณละสิครับ" โดยนำภาพที่แอนเดรียไปกับแดน แฮรี่ และมาริบุกจู่โจมฐานเสบียงกันไว้

              อากาเมมนอสบอก "ทีนี้ นายก็หายห่วงแล้วละสิ"

              "ถึงแอนเดรียจะอยู่กับหน่วยรบวิหคก็จริง แต่....ต่อให้พวกเขาเก่งแค่ไหน ก็คงรับมือกับพวกอัลแทเรี่ยนที่มีจำนวนเยอะกันไม่ได้อยู่ดีหรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว "ตอนนี้ เรารีบเข้าแผนการของนายเลยจะดีกว่าน่ะ"

              อากาเมมนอสบอก "และหวังว่าพรุ่งนี้ นายคงจะไม่เสียสมาธิจนทำแผนของฉันเสียกันน่ะ"


              วกกลับมาที่ดาวฮิชเลไบน์-4 กัน

              "นี้เป็นฐานที่ 8 แล้วน่ะ ที่พวกเราช่วยกันตัดทอนพวกอัลแทเรี่ยนลงไปได้มากเลยน่ะ" แดนกล่าว หลังจากที่พวกเขาจัดการกับพวกอัลแทเรี่ยนไปแล้ว

              แฮรี่บอก "นั้นทำให้เราได้อะไหล่มาซ่อมแซมเครื่องยนต์เพิ่มเติมแล้วนะครับ" โดยตอนนี้พวกน็อกกี้ช่วยลูกเรือขนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่อยู่ข้างใน ซึ่งคีธและนาเดียมาช่วยขนกล่องเครื่องไม้เครื่องมือออกจากโกดังด้วย

              "ไม่นึกเลยว่าพวกอัลแทเรี่ยนจะมีชิ้นส่วนเครื่องยนต์เหล่านี้ไว้ด้วย แต่ไม่เห็นเครื่องผลิตชิ้นส่วนเลยน่า" นาเดียบอก โดยเช็คชิ้นส่วนทรงกระบอกด้วยตาเปล่า

              แด็กซ์กล่าว "ไม่หรอก แค่สถานีแห่งนี้รับชิ้นส่วนที่ผลิตจากโรงงานที่ตั้งอยู่บนดาวดวงอื่นไว้ก็เท่านั้นเองน่ะ"

              "แต่พวกอัลแทเรี่ยนนั้นมันคงใช้ยานบินบ่อยละสิ ถึงต้องมีชิ้นส่วนพวกนี้อยู่เลยน่ะ" น็อกกี้กล่าว "แต่จะดีกว่ามากหากมีชิ้นส่วนแจ่มๆที่ช่วยซ่อมชุดหุ่นของพวกเราด้วยนะสิ"

              แจ็สบอก "แย่หน่อยน่ะ ที่ชุดของพวกเรานั้นไม่อยู่แล้วนะสิ"

              "คงไม่ได้ถูกพวกนักรบแขกอวกาศที่พวกนายหาเรื่องทำลายทิ้งไปแล้วสิ" นาเดียกล่าว

              คีธกระแอ่มขึ้นเพื่อห้ามนาเดียพูดอีก "ตอนนี้ เราขนชิ้นส่วนขึ้นรถบรรทุกไปก่อนดีกว่าน่ะ"

              "แต่มันก็น่าหงุดหงิดกันน่ะ วันที่สามแล้วน่ะ ที่ยัยเบ็ตตี้ไม่มาด้วย เลยทำให้ไม่มีใครมาช่วยอย่างรวดเร็วเลยน่ะ" แทนบ่น

              แอนเดรียกล่าว "แต่อย่างน้อย เจ้าหน้าที่คาเซคาว่าก็ทำได้เลยนิคะ"

              "ต่อให้เป็นนินจา แต่ก็ไม่เร็วกว่าเบ็ตตี้ที่สวมเกราะนางแอ่นพริ้วลมกันละน่า" แทนพูดย้ำ และหันมาถามเฮนรี่ "ว่าแต่ เมื่อไหร่ยัยเบ็ตตี้จะออกปฏิบัติการณ์กันได้ละเนี้ย"

              แฮรี่ส่ายหน้า "ผมเองก็ไม่รู้นะครับ คุณแทน ต่อให้ผมถาม แต่หมอเบ็ตตี้มักจะพูดไม่เป็นไรให้อยู่เสมอกันนะครับ"

              "นั้นสิคะ หมอเบ็ตตี้คงไม่อยากจะให้เรากังวล ทั้งๆที่ตอนนี้ฉันเองก็อดเป็นกังวลไม่ได้เลยนะคะ" แอนเดรียบอก แดนพยักหน้าเห็นด้วย แล้วก็ "ปี้บๆๆๆ" เสียงดังตรงหมวกข้างหูซ้ายจนทุกคนต้องกดรับไว้

              "เออ พวกเธอยังอยู่ที่นั้นใช่มั้ย คือเรามีปัญหาขึ้นมาแล้วละ" โดซี่ติดต่อมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีกันเสียเลย

              "อย่าบอกนะ ว่าเราต้องติดแหงกอยู่ที่ดาวนี้เป็นการถาวรเลยน่ะ โดซี่" แทนบ่น

              โดซี่กล่าว "เปล่าเลย แทน แต่เป็นเรื่องของเบ็ตตี้ต่างหากละ ซึ่งพวกนายทุกคนรวมถึงแอนเดรียต้องมาฟังด้วยน่ะ" แอนเดรียและทุกๆคนได้ฟังก็ตกใจขึ้นมา แต่ก็ทำใจนิ่งๆพร้อมกับช่วยงานเก็บกวาดสถานีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

              "เออ คุณเบ็ตตี้ นี้มันไม่เป็นจริงใช่มั้ยละคะ" มาริกล่าว หลังจากที่ทุกๆคนกลับมาที่ยานกันแล้ว เบ็ตตี้ได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ

              แทนกล่าว "โดซี่ เธอบอกว่า เบ็ตตี้ถอนตัวและออกจากการปฏิบัติการณ์นั้นนิ คงไม่ใช่เรื่องโกหกใช่มั้ยละ"

              "คุณเบ็ตตี้ นี้อย่าบอกน่ะคะ ว่าที่คุณวางมือจากการปฏิบัติการณ์แนวหน้านั้น คงเป็นปัญหาเรื่องสายตาของคุณกันน่ะ" แอนเดรียกล่าว เบ็ตตี้พยักหน้า พร้อมกับ "ครืดดด แป๊ะ" เปิดลิ้นชักเอาแฟ้มเอกสารออกมาให้แอนเดรียอ่าน ซึ่งเธออ่านอย่างละเอียดจนเธอตกใจขึ้นมา

              แฮรี่ถาม "เออ คุณแอนเดรีย ว่าแต่ แฟ้มนี้มันเป็นแฟ้มอะไรกันนะครับ"

              "มันเป็นแฟ้มข้อมูลการตรวจสุขภาพของหมอเบ็ตตี้นะสิ ผลการตรวจ ปรากฎว่า คุณหมอเบ็ตตี้ กำลังมีปัญหาเรื่องสายตาที่เข้าสู่สภาวะตาบอด อันเนื่องมาจากการที่ประสาทตาไปไม่ทันกับประสาทสัมผัสอื่นๆ ที่ถูกกระตุ้นให้มีความว่องไวมากจนเกินควรนะสิ" แอนเดรียบอก แดน แฮรี่ แทนและมาริถึงกับตกใจมาก แอนเดรียเลยบอก "แถม สภาพร่างกายของคุณนั้นก็เหมือนกับผู้ว่าการเซริซ่า ตรงที่ว่า คุณเคยตายมาก่อนและได้รับการคืนชีพมา เพียงแต่ เส้นประสาทบางจุดในร่างกายอ่อนแออย่างมากหลังจากกระบวนการคืนชีพดังกล่าว จึงไม่แนะนำให้ออกแรงหรือขยับร่างกายอย่างรวดเร็วเกินควร เพราะจะทำให้เส้นเอ็นและเส้นประสาทขาด ส่งผลให้คุณขยับหรือใช้อวัยวะใดๆไม่ได้เป็นการถาวรเลยนะคะ"

              แทนบอก "เดียวก่อนนะ ในเมื่อเธอเป็นแบบนี้ แล้วทำไมถึงไม่บอกพวกเรากันละ"

              "เบ็ตตี้เป็นห่วงพวกนายทั้งหมดกันนะสิ ว่าจะมีบางคนรับไม่ได้ ไม่พอใจกับผลลัพธ์ดังกล่าว ซึ่งนายก็อยู่ในเคสหลังด้วยนะสิ หากเบ็ตตี้พูดแบบนั้นออกไปกันน่ะ" โดซี่บอก "ซึ่งฉันก็ได้รู้ข้อมูลนี้ และขอร้องให้เบ็ตตี้อยู่แต่ในห้องหมอตลอด ไม่ว่าพวกนายอยากให้เธอมาหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้งานในห้องพยาบาลต้องเสียหมอไปคนหนึ่ง ที่กลายเป็นคนพิการไปแล้วนะสิ"

              แดนบอก "แล้วอาการของเธอ แย่มากแค่ไหนกันละ"

              "บอกตรงๆน่ะ ว่าฉันไม่สามารถใช้สายตาเล็งปืนได้นานๆแล้วน่ะ เพราะต่อให้ยิงได้ กระสุนก็ต้องพลาดเป้าและโดนคนอื่น ซึ่งพวกนายเองก็โดนด้วยแน่นอน" เบ็ตตี้บอก พร้อมกับสวมแว่นครอบส่วนตาเอาไว้ "ที่จริง ฉันสามารถออกมาร่วมรบกับพวกนายได้อยู่แล้วก็จริง แต่....ฉันต้องขอโทษด้วย ที่ทำให้พวกนายผิดหวังกันแล้วละ"

              มาริบอก "คุณโดซี่คะ ว่าแต่ ไม่มียาหรือการรักษาคุณเบ็ตตี้ให้หายเลยหรือไงกันคะ แล้วก็ คุณแอนเดรีย คุณมีพลังเพเรเนี่ยมอยู่มิใช่หรือ น่าจะรักษาอาการตาของคุณเบ็ตตี้...."

              "คาเซคาว่า แว่นไวเซอร์นี้ใช้เยียวยาและช่วยให้มองเห็นได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งถ้าจะให้หายได้จริงๆ เบ็ตตี้ต้องถูกส่งไปทำกายภาพบำบัดและรักษาตัวกันที่ดาวของเรา และด้วยสภาพกายของเบ็ตตี้ในตอนนี้ คงต้องใช้เวลานานเสียหน่อยน่ะ" โดซี่บอก

              แอนเดรียกล่าว "ถึงฉันจะมีพลังเพเรเนี่ยมที่ใช้รักษาได้ก็จริง แต่มันแค่เยียวยาสมานบาดแผล แก้ไขอาการบาดเจ็บและสลายพิษร้ายไปได้ก็จริง แต่อาการของคุณเบ็ตตี้มันระดับปานกลางถึงหนัก ซึ่งคงไม่มีทางทำให้หายได้ในเวลาเฉียบพลันแน่นอน เผลอๆ อาจจะทำให้ร่างกายของคุณเบ็ตตี้เกิดสภาวะปรับตัวกับอาการกลายพันธุ์ของเซลล์ ที่ถูกเร่งให้หายเร็วไม่ได้ขึ้นมานะสิ"

              "และนั้นก็เป็นความผิดพลาดของฉันเอง ที่เป็นหมอแต่ดันทำร้ายตัวเองกันแบบนี้ แม้ว่าพวกนายอาจจะมีส่วนด้วยก็ตาม ฉันก็ไม่ถือโทษพวกนายกันหรอกน่ะ เพราะเรื่องนี้ ได้ทำให้ฉันรู้ว่าตนเองควรจะอยู่ในที่ตนเองอยู่ก็เท่านั้นเองแหละ" เบ็ตตี้กล่าวอย่างยอมรับเสียแต่โดยดี "ในเมื่อฉันไม่อยู่ช่วยพวกนายแล้ว พวกนายเองก็ระวังตัวไว้ให้มากแล้วกันน่ะ" แฮรี่มองหน้าแดน ซึ่งส่ายหน้าให้ แม้ว่าแทนและมาริเองจะไม่พอใจกับผลที่เกิดขึ้นเลยก็ตาม

              "ตอนนี้คุณเบ็ตตี้ออกปฏิบัติการณ์ภาคสนามไม่ได้แล้ว คุณจะทำเช่นไรดีละคะ" แอนเดรียถามโดซี่ขึ้นมา

              "ฉันคงต้องรบกวนเธอกันแล้วน่ะ แอนเดรีย ทีมวิหคเงาขาดเบ็ตตี้ไปแล้ว เท่ากับว่าเราเสียแขนไปข้างหนึ่ง ซึ่งฉันจำต้องเสริมและทดแทนส่วนที่ขาดไว้" โดซี่บอก "แต่เพราะว่าจำนวนคนที่น้อยมากนั้น ซึ่งพวกนายสี่คนที่เหลือคงเอาไม่อยู่แน่ๆ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกเสียจาก...."

              แทนโวยลั่นไปในทันที "อย่าดีกว่าน่ะ โดซี่ ฉันไม่เอาไอ้พวกเด็กเกรียนเข้ามาเป็นตัวถ่วงหรือตัวป่วนแผนปฏิบัติการณ์ของเรากันได้หรอกน่า"

              "......." โดซี่ได้ฟังก็ทำหน้าบึ้งใส่เพราะแทนเดาทางเธอออกเสียแล้ว มาริบอก "ถึงคุณเบ็ตตี้ออกปฏิบัติการณ์ไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะปฏิบัติการณ์ต่อไม่ได้เลยนะคะ คุณโดซี่ อีกอย่าง สถานการณ์ตอนนี้เราไม่ควรเอาคนนอกมาเสี่ยงอันตรายเกินไปกันน่ะ"

              แทนกล่าว "ก่อนที่พวกเราจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ โดซี่ ออกคำสั่งให้เอาโมบิลลอยด์ออกไปถล่มพวกอัลแทเรี่ยนให้มันจบๆเรื่องไปเลยจะดีกว่าน่ะ"

              "ไม่ได้หรอก แทน เรื่องการใช้โมบิลลอยด์ออกต่อสู้นั้น เราทำได้ก็ต่อเมื่อรู้ว่าพวกอัลแทเรี่ยนเรียกวอร์บอทและวอร์แมชชีนเข้ามาที่ดาวแล้วน่ะ" แดนห้ามไว้ "อีกอย่าง ตอนนี้พวกอัลแทเรี่ยนรู้แล้วว่าพวกเราเล่นงานพวกมันจนเสียสถานีสำคัญไป 8 แห่งแล้ว พวกนั้นคงต้องเตรียมการป้องกันการบุกของพวกเราด้วยขีปนาวุธหรือป้อมปืนจู่โจมกันแน่นอน การพลีพล่ามเอาโมบิลลอยด์บุกไปจู่โจมใส่ฐานทัพของพวกเดลอาเนี่ยนแบบบ้าระห่ำ นอกจากนายจะโดนเล่นงานจนอ่วมแล้ว พวกเราที่เหลือจะพลอยแย่ไปด้วยน่ะ"

              แทนแย้ง "แต่....จะให้เรารออยู่นี้แล้วมีใครบางคนเป็นเหมือนยัยเบ็ตตี้กันขึ้นมาล่ะ"

              "พอทีเถอะคะ นี้ไม่ใช่เวลามาทะเลาะกันเลยนะคะ เพราะนั้นจะทำให้คุณเบ็ตตี้ไม่สบายใจจนอาจเธอรักษาใครไม่ได้แน่นอนน่ะ" แอนเดรียโวย

              โดซี่ตอบ "แอนเดรียพูดถูกแล้วละ ถ้าพวกศัตรูรู้ว่าพวกเรามีปัญหาขัดแย้งขึ้นมา นั้นก็เท่ากับว่าพวกนายทำลายพวกเราและทุกๆคนที่อยู่ในยานลำนี้ไปเลยน่ะ"

              "แล้วเรื่องของเฟรดและทุกๆคนละครับ" แฮรี่บอก

              โดซี่กล่าว "ตอนนี้ เราแค่แจ้งพวกเขาเรื่องเบ็ตตี้กัน แต่เรื่องให้พวกเขาออกปฏิบัติการณ์นั้น ฉันจะทำก็ต่อเมื่อสถานการณ์มันแย่ระยำที่สุดกันน่ะ" แทนและมาริได้ฟังก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

              "ไม่นึกเลยนะคะ ว่าหมอเบ็ตตี้จะเสียสละจนตัวเองเกือบตาบอดไปได้นะคะ" นาเดียบอก หลังจากที่แฮรี่มาชี้แจงกันแล้ว

              แจ็สบอก "แล้วทีนี้พวกคุณจะทำเช่นไร หลังจากที่หมอเบ็ตตี้ต้องอยู่ในห้องหมอ เพื่อรักษาอาการทางสายตากันละ"

              "ถ้าให้พวกเธอเข้าร่วมในปฏิบัติการณ์ละก็ ทางเรายังทำไม่ได้หรอกน่ะ" แฮรี่กล่าว

              น็อกกี้บอก "แล้วจะให้รอให้พวกคุณเดี้ยงหมดเลยนะหรือ นั้นไม่เข้าท่าเลยน่ะ คุณแฮรี่ อย่างน้อยพวกเราก็ควรทำอะไรให้กับพวกคุณบ้างสิ"

              "แต่ถ้าให้พวกเธอออกไปแล้วมีส่วนทำให้พวกเราคนใดคนหนึ่งมีอันเป็นไปสิ นั้นยิ่งแย่กว่าเลยน่ะ" แฮรี่บอก

              คีธกล่าว "แล้วนิคและรีฟกันละ คุณคงไม่ให้เข้ามาร่วมในทีมด้วยสิ"

              "แย่หน่อยนะ ที่คุณโดซี่ยังไม่รีบให้นิคและรีฟออกปฏิบัติการณ์ภาคสนามกันหรอก" แฮรี่กล่าว โดยในเวลานี้

              "นี้แปลว่า คุณยังไม่ให้เราออกภาคสนามเลยสิครับ" นิคกล่าว เมื่อโดซี่และแอนเดรียเข้ามาแจ้งข่าวเบ็ตตี้ให้ฟัง

              "ใช่ เพราะฉันไม่อยากจะเสียใครไปกับการปฏิบัติการณ์ต่อจากนี้ด้วยนะสิ" โดซี่บอก "และเพื่อมิให้มีใครเป็นอะไรไปมากกว่านี้ พวกเธอช่วยเร่งพลังงานในเกราะให้มากขึ้นสัก 30 เปอร์เซนต์ได้มั้ยละ"

              รีฟตอบ "ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่หนักหนา ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเลยสิคะ"

              "แล้วพวกเธอพอทำได้มั้ยละ" โดซี่บอก

              นิคส่ายหน้าพร้อมกับอธิบายไปว่า "ว่ากันตามจริงแล้ว ผมก็กะจะทำเช่นนั้นอยู่แล้วละครับ เพราะตอนนี้คุณแดน คุณแทนและคุณเบ็ตตี้ ดึงเอาขีดความสามารถของเกราะมาใช้ได้สูงสุดเพียงแค่ 40-60 เปอร์เซนต์กันเท่านั้น เว้นแต่คุณแฮรี่และคุณมาริ ที่ดึงขีดความสามารถของเกราะมาใช้ถึง 70-80 เปอร์เซนต์ โดยเฉพาะกับคุณมารินั้น ขีดความสามารถของคุณมาริเริ่มจะมากจนเกราะนกพิราบจะรับได้แล้วนะครับ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะคาเซคาว่าเก่งกาจมากพอ จนเกราะที่เธอใส่ตอบสนองไม่ทันเลยสิน่ะ" โดซี่กล่าว

              แอนเดรียบอก "และที่ไม่ให้เพิ่มพลังนั้น เพราะไม่อยากให้ใครเป็นตามคุณเบ็ตตี้เลยสิน่ะ"

              "โดยเฉพาะกับหัวหน้าแดนและคุณทันกุนนั้น ถึงทำเช่นนั้นจนปฏิบัติการณ์ได้สำเร็จก็จริง แต่สภาพกายของพวกเขาที่ย้ำแย่มาจากการต่อสู้อันหนักหน่วงนั้น คงทำให้พวกเขาตายได้แน่นอนนะครับ" นิคบอก โดซี่และแอนเดรียได้ฟังก็รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมา

              แอนเดรียกล่าว "นี้แปลว่า คุณแดนและคุณแทน มีสภาพกายที่หนักหนามากเลยหรือ"

              "หมอเบ็ตตี้หรือหมอเดเมี่ยนไม่ได้แจ้งให้คุณทราบเรื่องสุขภาพของคุณแดนกับคุณแทนเลยหรือคะ" รีฟบอก แอนเดรียส่ายหน้า รีฟเลยส่งแฟ้มเอกสารนี้มาให้แอนเดรียอ่านดู

              "ฉันเข้าใจแล้วละคะ ว่าทำไมผบ.บัลโต้ต้องให้เฟรดและพวกอยู่ในค่ายลี้ภัยกันน่ะ"

              "แม้ผมจะเสียใจไม่น้อยที่หมอเบ็ตตี้อาจจะรักษาใครไม่ได้เลยก็ตาม แต่อย่างน้อย หมอก็คิดถูกแล้วที่วางมือไปได้น่ะ" เฟรดกล่าว เมื่อแดนมาคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว "แล้วพ่อจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีนะครับ"

              แดนตอบ "ตอนนี้พ่อคงต้องทำงานหนักมากขึ้นแล้วละ เพราะคนขาดไป แม้ว่าแอนเดรียจะอยู่ด้วยก็จริง แต่....เนื่องจากเธอมีประสบการณ์ภาคสนามน้อยกว่าพวกพีวิลที่เป็นทหาร และผ่านการปฏิบัติการณ์มาทั้งตอนก่อนและหลังเป็นแมนิเกเตอร์แล้ว จึงทำให้พ่อต้องระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะคุณแอนเดรียคงไม่สามารถปกป้องพวกพ่อได้ดีกว่าพวกเขาเลยสิครับ" เฟรดกล่าว

              แดนบอก "ว่าแต่ ลูกจะอยู่ในยานนี้อย่างเดียวเลยนะหรือ....ไม่คิดหรือตัดสินใจที่จะทำอย่างอื่นเลยหรือไง"

              "พ่อกำลังจะพูดอะไรกันละครับ" เฟรดถามอย่างสงสัยขึ้นมา

              แดนบอก "มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าลูกอยากปิดบังความต้องการของลูกเองกันละก็ เกิดพ่อเป็นอะไรไปขึ้นมา ลูกก็จะต้องเสียใจไปชั่วชีวิตเลยน่ะ ที่ลูกไม่ได้เผยความรู้สึกที่แท้จริงและความต้องการของลูกให้พ่อได้รับรู้ไว้ ว่าลูกอยากทำอะไรที่นอกเหนือจากการเป็นหมอบ้างน่ะ"

              "ถึงผมพูดออกไป ผมกลัวว่าพ่อต้องออกตัวห้ามผมไว้อยู่ดีนี้แหละ เลยพูดแบบนั้นออกไปก็เท่านั้นเองน่ะ" เฟรดกล่าว

              แดนตอบ "แปลว่า ลูกคิดที่อยากจะไปแทนพ่ออย่างงั้นละสิน่ะ" เฟรดได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย เพราะแดนเดาใจได้เก่ง จนเฟรดอึ้ง

              "พ่อพูดเหมือนกับว่า ผมจะทำเช่นนั้นเลยละสิ"

              "ถึงลูกจะพูดออกมาว่าไม่ชอบทหาร ไม่ชอบพวกไทรเวเซอร์ และอยากเป็นหมอมากกว่านั้น พ่อก็เดาการกระทำของลูกในช่วงที่ผ่านๆมาได้เลยละ ว่าลูกคิดอะไรกันจริงๆน่ะ" แดนกล่าว "และถึงพ่อไม่ได้ยินจากปากของแฮรี่หรือคีธมาเอง คนอื่นก็เดาทางลูกได้ จากการกระทำที่เหมือนจะทำให้คนอื่นคิดเช่นนั้นได้ก็จริง แต่ดันลูกคิดอีกอย่างไว้และไม่กล้าแสดงออกมาก็เท่านั้นเองแหละ"

              เฟรดบอก "แล้วถ้าผมตอบว่าเป็นอย่างงั้นจริง พ่อคงจะห้ามผมงั้นสิ"

              "ลูกก็น่าจะรู้เหตุผลของพ่อดีแล้วนิ ว่าพ่อทำแบบนั้นมาตลอด ก็เพราะเหตุใดกันน่ะ" แดนบอก และตบไหล่เฟรดไว้ "แต่พ่อก็ภูมิใจอยู่บ้างน่ะ ที่ลูกเผยความรู้สึกแท้จริงขึ้นมา ต่อให้ลูกไม่เปิดเผยออกมาให้พ่อรับรู้กันทั้งหมด เพราะเกรงใจพ่อและทุกๆคนไว้ เพียงแต่ตอนนี้ มันยังไม่ถึงเวลาของลูกก็เท่านั้นเองน่ะ"

              เฟรดบอก "แล้วพ่อไม่กลัวว่าเวลาของพ่อจะหมดลงเหมือนกับหมอเบ็ตตี้เลยหรือ"

              "........เมื่อพ่อตัดสินใจที่จะเป็นทหารและเป็นซุปเปอร์โซลเยอร์กันแล้ว นั้นหมายถึง พ่อต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่จะต้องสิ้นชีพลงอย่างไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว เรื่องกลัวตายนั้นจึงไม่มีแน่นอนน่ะ" แดนกล่าวแล้วก็เดินออกไป

              เฟรดได้ฟังก็พูดด้วยความกังวลไปว่า "พ่อพูดเหมือนรู้วันตายของตนเองแบบนี้ รู้สึกไม่ดีเลยน่ะ"

              "คุณแอนเดรียคะ มีข้อมูลอัพเดตเพิ่มเติมเกี่ยวข้องกับพวกคุณมัตสึดะแล้วคะ" มาริกล่าวเมื่อแอนเดรียมาที่สะพานเดินเรือ

              "พอจะทราบมั้ยละ ว่าคุณมาสวาร์ทาร์ทำอะไรกันบ้างน่ะ"

              "ดูเหมือนว่าดาบมือหนึ่งจะร่วมมือกับกองรบครอสตรีมที่ดาวเอลวัล-6 จนถล่มฐานทัพไป 7-8 แห่งในเวลาช่วงเย็นของดาวแล้วนะคะ" มาริบอก

              แอนเดรียกล่าว "นั้นดีแล้วละ ที่คุณมาสวาร์ทาร์ยังมีพวกคุณอากาเมมนอสอยู่ด้วยน่ะ แม้ว่าเขาจะบังคับให้คุณมาสวาร์ทาร์เป็นที่ปรึกษาในยุทธการบุกจู่โจมเดลอาเนี่ยนก็ตามน่ะ"

              "แต่มันจะดีหรือ เพราะเท่าที่ทราบมา คุณมัตสึดะเป็นครอสตรีมตนแรกที่แปรพักตร์เข้ากับฝ่ายท่านประธานาธิบดีกันไว้น่ะ แม้ว่าเขาจะสู้อย่างองอาจและตรงไปตรงมากันก็ตามน่ะ ฉันกลัวว่าพวกครอสตรีมอาจจะจัดการกับคุณมัตสึดะก็เป็นได้นะคะ" มาริกล่าว

              แอนเดรียบอก "สถานการณ์ที่ตอนนี้พวกเขาลำบากไม่ต่างจากพวกเรากันก็ตาม ถ้าไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน และยังถืออคติกันไว้ ก็จะทำให้พวกครอสตรีมไม่สามารถผ่านอุปสรรค์ใดๆได้เลยนะสิ" แล้วก็พูดต่อไปว่า "ถึงแม้ว่าคุณคลอเวฟจะเขม่นคุณเนคมาดูซัมกันอย่างมาก แต่ก็ไม่คิดที่จะมีเรื่องถึงขั้นแตกหักแต่อย่างใดเลย เพราะคุณคลอเวฟที่แม้จะเก่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถจัดการกับศัตรูที่เก่งกาจเหนือกว่าได้อยู่ดี หากปราศจากการร่วมแรงร่วมใจกันน่ะ"

              "แปลว่า คุณคลอเวฟเองก็เคารพในตัวเนคมาดูซัม แต่ก็แสร้งทำว่าเป็นคู่แข่งกันเลยสิคะ" มาริกล่าว

              แอนเดรียส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า "เปล่าเลย เพราะนิสัยของคุณคลอเวฟที่อยากจะเหนือกว่าคุณเนคมาดูซัมนั้น ยังไงก็แก้ไม่หายได้หรอกนะจ๊ะ"

              "แต่ถ้าคุณพูดเพื่อให้ฉันยอมคลายความสงสัยที่ฉันมีต่อเฟรดละก็ อย่าดีกว่านะคะ" มาริบอก

              แอนเดรียกระแอ่มและพูดอธิบายไปว่า "ฉันยังไม่ได้บอกเสียหน่อยน่ะ ว่าอยากให้เธอเชื่อใจเฟรดแล้วก็ทุกๆคนไว้ เพราะ....ฉันก็รู้ว่ามันยังเร็วไปสำหรับเฟรด นาเดีย คีธและพวกน็อกกี้ ที่จะให้เผชิญหน้ากับศัตรูที่พวกเราและพวกเธอเผชิญกันอยู่น่ะ"

              "แล้วทำไมคุณถึงไม่แสดงความเห็นออกมากันเสียเลยละ ในเมื่อคุณเองก็รู้ฐานะของพวกเรากันแล้วน่ะ" มาริกล่าว

              แอนเดรียบอก "ฉันก็อยากจะทำเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ตราบใดที่คนอื่นไม่ยอมให้ฉันทำ แล้วฉันจะดื้อดึงกันไปทำไมละ" แล้วก็บอกไปว่า "บอกตามตรงว่าฉันเองก็รู้เรื่องของพวกคุณมาหลังจากนั้น แต่ก็ไม่ลึกซึ้งไปกว่าตัวพวกคุณเองอยู่แล้วน่ะ ฉันจึงไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรเพื่อให้ทุกๆคนสบายใจได้บ้างน่ะ"

              "ฉันเข้าใจความเป็นห่วงของคุณ และรู้ว่าคุณอยากจะช่วยพวกเรามากแค่ไหนกัน แต่....เรื่องของฉัน ฉันตัดสินใจได้เองอยู่แล้วละคะ" มาริบอก

              แอนเดรียกล่าว "ดีแล้วละ อย่างน้อย มันจะเป็นการดีมากๆที่เธอตัดสินใจอะไรได้เองน่ะ"

              วกกลับมายังมาสวาร์ทาร์และพวกครอสตรีมที่ดาวเอลวัล-6 กัน ในเช้าวันต่อมา

              "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆ" มาสวาร์ทาร์และอากาเมมนอสบุกตะลุยเข้ามายังสถานีอวกาศโชโซบาลกัน "ตามแผน พอเราจัดการกับบูเรนนอฟเสร็จ บาทรัลจะนำยานบุกฝ่าออกไปจากวงล้อมในทันที โดยลงมือพร้อมกับหน่วยรบที่ประจำฐาน ซึ่งจะมาช่วยพวกเราตามที่ได้นัดแนะไว้น่ะ" อากาเมมนอสกล่าว แต่ทหารเดลอาเนี่ยนแห่มาทั้งขนาดปกติ ซึ่งถือโลห์ติดหนามอนุภาคและถือดาบกับปืนมา รวมถึงพวกตัวโตด้วย

              มาสวาร์ทาร์บอก "สมแล้วที่เป็นแม่ทัพใหญ่ของพวกเดลอาเนี่ยนน่ะ แต่คงให้พวกนั้นขวางเราไม่ได้หรอก" แล้วก็ "แชดดด แชดดด แชดดด" ใช้ครอสเซี่ยมมาสเก็ตยิงใส่ทหารเดลอาเนี่ยนที่ถือโลห์จนล้มโดยโลห์แตกกระจุยไป 3 ตนด้วยกัน "แชดๆๆๆๆๆ" พวกเดลอาเนี่ยนก็ระดมยิงปืนยาวพลังอนุภาคเข้า "เปร้งๆๆๆๆๆ" อากาเมมนอสใช้เลอ้อนฮาร์ทชิลด์เข้าป้องกันแล้วก็ "ว้ากกกก" ตะเบ็งเสียงลั่นจนโลห์หัวสิงห์คำรามเป่าลำแสงอนุภาคให้กระจุยแล้วก็ "นี้แน่ ว้ากก ย้ากกก" ฟาดดาบลิเบรตัสเบลดให้เกิดคลื่นคมดาบขนาดใหญ่พุ่งเข้า "ฉั้วะ ฉับบบ ฉั้วะ" ผ่าพวกทหารเดลอาเนี่ยนให้ขาดพร้อมโลห์ไป แต่ทหารตัวโตแห่เข้ามาเล่นงานอากาเมมนอสด้วยกำปั้น "ป้ากกก" ไฮลอร์ดใช้โลห์หัวสิงห์ปัดหมัดที่ชกมาให้ทหารตัวโตเสียหลักแล้วก็ "ฉั้วะ ฉับบบ" หวดดาบฟันท้องและผ่าร่างทหารเดลอาเนี่ยนตัวโตขาดเป็นสี่ท่อนอย่างฉับพลัน "ตรึงๆๆๆๆ" แต่ทหารตัวโตเบนเข็มมาทางมาสวาร์ทาร์พร้อมกับใช้ดาบพลังอนุภาคคมใหญ่ฟาดใส่ "หวับบบ เกร้งงงงง" แต่คมดาบอนุภาคได้ปะทะกับคมดาบขนาดยาวใหญ่ของมาสวาร์ทาร์ไว้ "ฮึย ว้ากก" มาสวาร์ทาร์โถมแรงเพียงน้อยนิดด้วยการสาวเท้าไปข้างหน้า และปัดดาบอนุภาคขนาดใหญ่ของทหารตัวโตจนทำให้ศัตรูเสียหลักไปข้างหลัง แล้วก็ "หวับบบ เปรี้ยงงง" พุ่งเข้าฟันดาบครอสเซี่ยมเกรทซอร์ดใส่ทหารตัวโตตรงส่วนท้องจนขาดออกเป็นสองท่อนในทันที "ถึงพวกนายจะมีดาบใหญ่พลังอนุภาคอยู่ในมือ แต่แย่หน่อย ที่ต้านทานเกรดซอร์ดของเราไม่ได้หรอก" มาสวาร์ทาร์กล่าวและหวดดาบครอสเซี่ยมใหญ่ฟันใส่พวกทหารตัวโตด้วย "เพลงดาบวงล้อยักษ์ใหญ่" จนผ่าพวกทหารเดลอาเนี่ยนตัวโตขาดครึ่งและผ่าแขนขาขาดไป 5-6 ตนด้วยกัน แล้วตนกับอากาเมมนอสรีบวิ่งตรงไปที่อาคารสถานีอวกาศโดยเร็ว

              "พวกเจ้ามาได้เพียงเท่านี้แหละ" บูเรนนอฟกล่าวขัดจังหวะมาสวาร์ทาร์และอากาเมมนอสที่บุกเข้ามา โดยตอนนี้ "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ" เหล่าทหารเดลอาเนี่ยนและอัลแทเรี่ยนแห่ล้อมทั้งคู่ไว้

              "แกคงจะเป็นแม่ทัพใหญ่บูเรนนอฟกันละสิน่ะ" อากาเมมนอสบอก

              "ใช่ ข้าคือบูเรนนอฟ แม่ทัพใหญ่ของกองยานของมหาจักรวรรดิ์สหัสดาราเดลอาเนี่ยนกันนี้แหละ" บูเรนนอฟบอก "ต่อให้เจ้าร่วมมือกับดาบมือหนึ่งมาเพื่อที่จะจัดการกับข้ากัน แต่....ข้าไม่ยอมแพ้ให้กับพวกเจ้าได้หรอกน่ะ"

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แสดงว่านายไม่เพียงมีความฉลาดหลักแหลมยิ่งกว่ากุนซือที่เก่งกาจ แต่นายยังมีฝีมือในด้านการต่อสู้ดีมากเลยสิน่ะ"

              "แม้ว่าข้ามีอายุ 75 ปีกันแล้วก็จริง แต่ประสบการณ์ของข้าในฐานะผู้รวบรวมเหล่าพันธมิตรทั้ง 12 เผ่าของข้านั้น ถือว่าเยอะกว่าที่พวกเจ้าทั้งสองมีเสียอีกกันน่ะ" บูเรนนอฟบอก พร้อมกับ "แว้งงงงง" กำหมัดซ้ายเพื่อสร้างโลห์พลังอนุภาคสีครามขึ้นที่หลังแขน แล้วก็ "ฟึ่บบบ แว้งงงงง" สบัดด้ามดาบสร้างคมดาบอนุภาคขึ้นมา "ข้าอยากจะรู้ว่าเพลงอาวุธของพวกเจ้าจะสามารถผ่านข้าได้หรือเปล่าน่ะ"

              อากาเมมนอสบอก "หึ ดูท่าว่าแกคงต้องกลับลงโลงแล้วละ ตาแก่ ว้ากกกก" แล้วก็บุกชาร์จเข้ามาโดยใช้โลห์นำ และ "หวับบบ กร้องงงง แชบบบบ" กระแทกด้วยโลห์ใส่ แต่บูเรนนอฟใช้โลห์ปะทะเข้าใส่จนทำให้อากาเมมนอสผงะ แล้วก็บุกเข้าใช้ดาบฟาดใส่ "แคร้งงงง" อากาเมมนอสเลยหวดดาบลิเบรตัสคาลิเบอร์สวนกลับ และ "แกร้งๆๆๆๆๆๆ" ทั้งคู่ก็ฟาดฟันใส่อย่างหนักหน่วง เพียงแต่อากาเมมนอสตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบขึ้นมา "ร้ายกาจจริงๆ ขนาดเราหวดดาบให้แรงกว่า แม่ทัพแก่นั้นกลับหวดดาบมาแต่ละทีจนมือสั่นจนจับด้ามดาบไม่อยู่แล้วสิ" บูเรนนอฟเลยแทงดาบเข้าใส่ "ฟึ่บบบ ป้ากกก" อากาเมมนอสรีบโยกโลห์มาป้องกันไว้ จนทำให้ปากสิงห์ติดโลห์มีรอยผ่าขึ้นมา ส่วนไฮลอร์ดครอสตรีมถูกผลักจนถอยไปตามแรงดาบแทงของบูเรนนอฟ โดยแม่ทัพใหญ่แห่งเดลอาเนี่ยนบุกเข้ามาพร้อมกับหวดดาบฟาดใส่

              "แคร้งงงงง" มาสวาร์ทาร์บุกเข้ามาใช้มาสวาร์ทาร์เบลดฟาดใส่ดาบของบูเรนนอฟ พร้อมกับ "ป้ากกก" ถีบใส่บูเรนนอฟให้ถอยผงะไปเพียงครึ่งก้าวก่อนจะโดดถอยหลังมาตั้งหลัก "เจ้าบุกมาเข้ามาปกป้องพวกพ้องอย่างรวดเร็วแบบนี้ สมแล้วที่เป็นยอดนักดาบที่เก่งกาจมากที่สุดในกลุ่มสหพันธมิตร แม้ว่าเจ้าจะหันดาบมาผิดทางเลยก็ตามน่ะ" บูเรนนอฟบอก โดยปิดโลห์ที่แขนซ้ายพร้อมกับจับดาบแบบเต็มสองมือแล้วบุกเข้ามา มาสวาร์ทาร์เลยจับดาบสองมือและวิ่งเข้าใส่ "แกร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พร้อมกับฟาดฟันดาบสู้กับบูเรนนอฟอย่างรวดเร็ว "หวับ เคร้งงง แกร็กๆๆๆๆๆๆๆ" พร้อมกับหวดดาบฟาดปะทะใส่กันอย่างหนักหน่วง "ฮึยยยย" ทั้งดาบมือหนึ่งและแม่ทัพใหญ่เดลอาเนี่ยนก็รีบโผละถอยออกมา "เพลงดาบของเจ้าไวสมคำเล่าลือ อนิจจาที่เจ้าเอาความสามารถมาท้าทายข้า ผู้ซึ่งผ่านการรบมาหลายสิบปีกันแบบนี้เลยน่ะ" บูเรนนอฟกล่าว

              มาสวาร์ทาร์บอก "แต่การที่ท่านสามารถโต้ตอบพวกเราได้แบบนี้ แสดงว่าท่านขัดเกลาฝีมืออยู่เสมอละสิ นั้นไม่แปลกใจแล้ว ว่าทำไมเหล่าแม่ทัพจากเผ่าต่างๆถึงภักดีกับท่านมากนักน่ะ"

              "ข้าต้องเก่งกาจมากพอที่จะสู้กับภัยคุกคามอันแข็งแกร่ง และคุมทุกเผ่าที่กระด้างกระเดื่องให้อยู่ในกำมือด้วยความเข้มแข็งที่เหนือกว่า มิให้มีปัญหาภายในเกิดขึ้นจนทำให้มหาจักรวรรดิ์ต้องล่มสลายลงด้วยน้ำมือของพวกเจ้านี้แหละ" บูเรนนอฟกล่าว

              อากาเมมนอสบอก "เพราะอย่างงั้น พวกแกเลยส่งกองยานมาถล่มระบบดาวของเรา เพราะกลัวพวกเรามากเลยสิ"

              "บูเรนนอฟ ถึงพวกเราเป็นแมนิเกเตอร์ที่โอเวอร์เดสและโอเวอร์เรสสร้างมา เพื่อก่อความเดือดร้อนและรุกรานผู้อื่นกันก็จริง แต่นั้นมันเป็นแค่อดีตไปแล้ว เพราะมหาสงครามระหว่างแมนิเกเตอร์ด้วยกันเองมันจบลงกันแล้ว ท่านเองก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องทำตามคำสั่งของมหาจักรพรรดิ์ในการรุกรานเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์ฯเลยนิ" มาสวาร์ทาร์บอก

              บูเรนนอฟกล่าว "แล้วจะปล่อยให้มหาจักรพรรดิ์ต้องตายโดยที่ไม่ได้เห็นจักรวาลเป็นอันหนึ่งอันเดียว ภายใต้อำนาจของเขาหรือลูกหลานกันนะหรือ ข้าทำไม่ได้หรอก เพราะว่าข้าได้สาบานว่าจะปกป้องมหาจักรวรรดิ์นี้ด้วยการทำตามคำสั่งของมหาจักรวรรดิ์ ต่อให้คำสั่งนั้นคือการระรานระบบดาวอื่นในเขตอวกาศของเรา แต่ถ้าเพื่อให้เป้าหมายของมหาจักรพรรดิ์บรรลุก่อนตายละก็ แค่นี้ก็ถือว่าเกินพอแล้วละ"

              "มาส แม่ทัพใหญ่ผู้นี้ เกลี้ยกล่อมไปก็เท่านั้น เพราะเขายึดติดจนเราแกะด้วยคำพูดไม่ออกกันแล้วละ" อากาเมมนอสบอกแล้วก็ลุกขึ้นพร้อมกับตั้งท่าขึ้นมา

              มาสวาร์ทาร์บอก "ใช่ และเราคงยอมให้เขาอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วน่ะ" แล้วก็ตั้งท่าดาบด้วยการจับสองมือ พร้อมกับสาวเท้าก้าวเดินไปด้านข้าง ในขณะที่อากาเมมนอสตั้งท่าไปพลางเดินตามไปด้วย

              "ถ้าไม่คิดจะจู่โจมหรือคิดหาช่องทางละก็ พวกเจ้าไม่มีทางชนะหรอก" บูเรนนอฟกล่าวพร้อมกับก้าวเท้าออกมา "ทริปเปิ้ลเครเซนต์เอดจ์" อากาเมมนอสฟาดคลื่นคมดาบสามอันพุ่งเข้าใส่ พร้อมกับ "เครเซนต์เรซเซอร์" มาสวาร์ทาร์ดฟาดดาบให้เกิดคลื่นคมดาบขนาดใหญ่พุ่งเข้ามา "ฮึยยยย" บูเรนนอฟเลยใช้ดาบอนุภาคเล่มแรกฟันทำลายคลื่นคมดาบของมาสวาร์ทาร์ทิ้ง แล้วก็ "ป้ากกก ป้ากก ป้ากกก" ใช้โลห์ป้องกันคลื่นคมดาบสามประสานของอากาเมมนอสโดยที่ตัวไม่ถูกผลักให้ถอยหลังไปแต่อย่างใด แล้วก็ "ฟ้าววววว หวับบ ป้ากกกก" พุ่งเข้าใส่อากาเมมนอสพร้อมกับกระแทกด้วยโลห์อนุภาคอย่างรวดเร็วจนไฮลอร์ดที่ยกโลห์ป้องกันไม่ทันล้มลง แล้วก็ "ฟ้าววววว หวับบบ แกร้งงงง หวับๆๆ โครมมม" พุ่งเข้าใส่มาสวาร์ทาร์พร้อมกับหวดดาบใส่ แม้มาสวาร์ทาร์จะตั้งท่าป้องกันไว้ แต่บูเรนนอฟใช้ดาบเหวี่ยงตัวคาตานะลอร์ดวนสามรอบก่อนจะเหวี่ยงให้ล้มกองกับพื้นไป

              "พละกำลังต่างจากหน้าตาอย่างชัดเจนแบบนี้ เหนือกว่าอาจารย์เราเสียอีกน่ะ" อากาเมมนอสบอก

              "ใช่ เพียงแต่บูเรนนอฟเก่งกาจอย่างมาก เราคงต้องสู้แบบระมัดระวังเสียแล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าวพลางลุกขึ้นมาตั้งท่าสู้ต่อ อากาเมมนอสก็รีบลุกขึ้นมาเช่นกัน     

              บูเรนนอฟบอก "ถ้าคิดจะเตะถ่วงเวลาข้า เพื่อให้ลูกน้องของเจ้าแห่มาพร้อมกันละก็ เกรงว่าพวกเจ้าตัดสินใจพลาดไปแล้วละ"

              "ว่ายังไงน่ะ นี้แก รู้แผนของฉันได้ไงน่ะ" อากาเมมนอสโวยลั่น

              เมื่อได้ยินบูเรนนอฟพูดขึ้นมา "อย่าคิดน่ะ ว่าฉันมาถึงที่นี้แล้วไม่รู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนดาวดวงนี้ได้หรอกน่ะ ว่าเจ้าวางแผนอะไรไป" แล้วก็อธิบายให้ฟังอย่างละเอียดว่า "แผนการของเจ้าที่ลงมือหลังจากที่พวกเจ้าสองตนบุกยึดโรงพลังงานอนุภาค โดยเร่งพลังทำให้ป้อมปืนใหญ่ที่ยิงใส่ยานหลักของพวกเจ้านั้นระเบิดจากการโอเวอร์โหลดไป ก็คือการบุกจู่โจมฐานทัพย่อยของหน่วยต่างๆแบบสายฟ้าแลบพร้อมกัน แล้วยึดฐานเหล่านั้นเพื่อสร้างความได้เปรียบในการบุกสถานีอวกาศแห่งนี้ จากการที่เจ้ามีฐานที่มั่นมากมาย โดยที่มีคนของพวกเจ้าประจำอยู่ตามฐานเอาไว้แล้ว ซึ่งเจ้าสองตนสามารถเรียกกองหนุนมาได้ง่ายและรวดเร็วแน่นอน แต่.....การที่พวกเจ้าบุกเข้ามาที่ดาวของเราเพียงแค่ยานลำเดียวนั้น และต้องส่งเหล่านักรบของพวกเจ้าไปอยู่ตามฐานหลายๆแห่ง ย่อมหมายถึงการกระจายกำลังรบที่มีมากให้น้อยลงตามจำนวนฐานที่บุกยึดไว้ ต่อให้พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจมากก็ตาม"

              "แต่นั้นก็มากพอที่จะกุดหัวแกและพวกได้อยู่แล้วละน่า" อากาเมมนอสบอกโดยที่ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

              บูเรนนอฟบอก "แย่หน่อยน่ะ ที่การลงมือของพวกเจ้าในตอนนี้ คือการสังเวยลูกน้องจำนวนมากเสียแล้วละ" แล้วก็ชูมือขึ้น "ท่านแม่ทัพบาลเพลน ลงมือเลย"

              "รับทราบ กองยานที่ 1-6 บุกจู่โจมฐานที่ถูกพวกแมนิเกเตอร์ยึดเดียวนี้เลย" แม่ทัพบาลเพลนกล่าว แล้วกองยานอัลแทเรี่ยนจำนวน 6 กอง กองละ 5 ลำเคลื่อนตัวมา ซึ่งเหล่านักรบครอสตรีมที่อยู่ตามฐานนั้น "แชดดด แชดดด แชดดด" พยายามจู่โจมด้วยปืนใหญ่ลำแสง แต่ก็ทำอะไรกองยานของอัลแทเรี่ยนที่กางสนามพลังป้องกันไม่ได้เลย แล้วก็ "หึมๆๆๆๆ แชดดด ตรูมมม" ยิงลำแสงเข้าใส่อาคารฐานทัพจนระเบิดไป แล้วก็ "แชดๆๆๆๆๆๆ" ยานอีก 4 ลำระดมยิงใส่ไม่ยั้งจน

              "อ้ากกก ว้ากกก อ้า...." เสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดของลูกน้องดังเข้าหูของอากาเมมนอสจนต้องคุกเข่าลง

              "ท่านไฮลอร์ด มาช่วยพวกเราโดยเร็วเลยคะ อ้า....." เทมพาร่าจากกองไดรแฮสต้าร้องลั่นก่อนที่จะโดนปืนลำแสงยิงใส่

              เช่นเดียวกันกับพวกดรากูนัสเซเบอร์ด้วย "ไม่ทัน พวกเราขึ้นยานมังกรไม่ทันแล้วละ คาตานะ...ลอร์...."

              "ท่านไฮลอร์ด ท่านคาตานะลอร์ด แย่แล้วละครับ ตอนนี้ยานรบของพวกอัลแทเรี่ยนเข้าถล่มใส่ยานของเราแล้วละครับ" บาทรัลกล่าวอย่างตกใจ แล้วก็ "แชดดด แชดด แชดด ตรูมมมม บรึมมมม บรึมมมม" กองยานอัลแทเรี่ยนยิงถล่มด้วยปืนแสงเข้าใส่ยานแซคไรเซอร์ที่อยู่กลางหุบเขาอย่างหนักหน่วง

              "สนามพลังป้องกันยานของเราต้านไม่อยู่แล้วคะ อ้า" เทมพาร่าหญิงกล่าวและโดนยิงถล่มขึ้นมา

              "พวกเราเอาคาเมเรดออกไปไม่ได้เลยนะครับ พวกมันยิงถล่มปากทางเข้าออกและโรงเก็บด้วยนะ" แชปแลคชายบอก

              เซนท์รอทหญิงกล่าว "เครื่องยนต์หมายเลข 4 และ 5 ถูกยิง เราเอายานขึ้นไปไม่ได้แล้วคะ"

              "รีบยิงปืนใหญ่สวนกลับเดียวนี้เลย" บาทรัลบอก

              เซนท์รอทหญิงบอกอย่างตกใจมาก "ไม่ทันแล้วคะ พวกมันยิงใส่พวกเราแล้ว....อ้า...." แล้วก็ "ตรูมมม" เสียงระเบิดดังเข้าหูอากาเมมนอสและมาสวาร์ทาร์อย่างจังๆ

              "นั้นคงจะทำให้พวกเจ้าเจ็บปวดไม่น้อยกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดเลยสิน่ะ ที่กล้ามาท้าทายพวกเราและกองยานของเรากันน่ะ" บูเรนนอฟบอก "ต่อให้พวกเจ้าดิ้นรนกันแค่ไหน ก็ไม่มีทางหยุดพวกเราได้หรอก ซึ่งไม่ใช่แค่เจ้าสองตน แต่หมายถึงพวกไทรเวเซอร์เองด้วย เพราะว่าข้าสั่งให้ทุกฝ่ายจัดการกับพวกไทรเวเซอร์และพันธมิตรได้ในทันทีที่พบเห็นกันน่ะ"

              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะนายมั่นใจมาก ว่าจะจัดการกับพวกเรา เหมือนเช่นที่พวกนายจะยึดสมาพันธ์อวกาศได้ละสิ"

              "ไม่มีใครหน้าไหนต่อต้านอำนาจของมหาจักรวรรดิ์สหัสดารากันได้หรอก แน่นอน ว่าจักรวาลทั้งปวงจะต้องเป็นของท่านเดลมูดัลในทันทีแล้วน่ะ" บูเรนนอฟบอก "และข้าเองก็เสียดายฝีมือของพวกเจ้าไม่น้อย ดังนั้น ข้าขอเสนอให้...."

              อากาเมมนอสบอก "....แย่หน่อยน่ะ ที่พวกเราไม่ยอมจำนนต่อพวกแกกันไปได้หรอกน่ะ เพราะถึงพวกเราอยู่ต่อและมีแผนจัดการกับพวกแกจากภายในได้ พวกแกก็ไม่ไว้ชีวิตพวกเรากันอยู่ดี และการอยู่ภายใต้พวกแกก็ไม่ต่างอะไรไปกว่าการทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นนักรบต้องแปดเปื้อน ทำให้ลูกน้องที่ตายไปของฉันต้องผิดหวังและสาปแช่งฉันไปจนวันตายกันด้วยน่ะ"

              "แต่การดิ้นรนสู้ต่อไปนั้น ก็ไม่มีทางชนะพวกเราได้หรอก ต่อให้มีความหวังอยู่ ก็แค่ความหวังลมๆแล้งๆแบบเดียวกันกับที่ออร์เลี่ยนหวังไว้กันน่ะ ซึ่งการต่อต้านของพวกเจ้า ก็ไม่ต่างอะไรไปจากพวกออร์เลี่ยนกันแล้วละน่า" บูเรนนอฟบอก

              อากาเมมนอสบอก "ส่วนหนึ่งเพราะว่าแกมีกองยานรบที่พร้อมจะทำตามคำสั่งโดยไม่มีการโต้เถียง และภักดีกับแกที่ยิ่งใหญ่กว่าเลยสิน่ะ" แล้วก็ยิ้มขึ้นมา "น่าเสียดายจริงๆที่ต่อให้แกมีประสบการณ์เยอะและมีฝีมือเก่งกาจแค่ไหน สุดท้าย แกก็ตกม้าตายจนได้ละน่า"

              "ถ้าเจ้าคิดจะพูดให้ข้าเสียขวัญละก็ มันไม่มีทางอยู่แล้วละน่า เพราะต่อให้เจ้าคิดแผนมา ข้าก็ดูออกกันนี้แหละ ว่าตอนนี้เจ้าไม่มีลูกน้องเหลือกันแล้วน่ะ" บูเรนนอฟบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "งั้นหรือ....บูเรนนอฟ" แล้วก็สบัดมือขึ้น "บาทรัล ออกมาได้เลย"
     
              "แว้งงงงงง ครี้งงงงง" ยานแซคไรเซอร์โผล่มาข้างหลังมาสวาร์ทาร์และอากาเมมนอสในทันที บูเรนนอฟและเหล่าทหารเดลอาเนี่ยนที่อยู่ก็ถึงกับตกใจไม่น้อย "ปะ เป็นไปไม่ได้น่า ก็ยานของเจ้าและกองรบของพวกเจ้านั้น....ถูกกองยานของบาลเพลนถล่มไปแล้วนิ แต่ ทำไม...." บูเรนนอฟบอก

              อากาเมมนอสบอก "....ก็เพราะว่า เราทำให้แกเชื่อเช่นนั้นละสิ ว่าแกเป็นต่อพวกเราอย่างมาก และมั่นใจว่าพวกแกจัดการกับลูกน้องของฉันจนราบคาบไปกันหมด จนฉันไม่เหลือใครไว้เลยกันน่ะ ซึ่งนายคิดว่าหลังจากที่เรายึดโรงพลังงานอนุภาคไปนั้น จะทำให้เราได้ใจถึงขั้นยึดอีกหลายหน่วยมาเป็นฐานของพวกเรามากเลยสิน่ะ" แล้วก็พูดไปว่า "ที่แกรู้มานั้น เพราะทหารของแกเจอกับทหารนกต่างดาวที่พึ่งได้สติและมาเห็นธงรบของฉันปักไว้อย่างงั้นใช่มั้ยละ"

              "ใช่ เพราะตามกลศึกนั้น ถ้ามีธงหรือหลักฐานอะไรสักอย่างของพวกศัตรูปักอยู่บนสถานที่สำคัญอย่างฐานทัพ โรงงาน คลังแสง หรือป้อมรบ ก็เท่ากับว่าสถานที่แห่งนั้นตกเป็นของพวกศัตรูกัน....นี้เจ้า....ปักธงไว้เฉยๆแต่ไม่ยึดเอาไว้เลยนะหรือ แล้วพวกทหารของพวกเจ้านั้น....คงไม่ใช่....." บูเรนนอฟบอก

              มาสวาร์ทาร์บอก "เหล่านักรบของเราที่ประจำฐานที่เราบุกยึดไปนั้น แค่ภาพลวงเท่านั้นแหละ แม่ทัพบูเรนนอฟ เพราะพวกเราต่างรู้ดี ว่าการยึดฐานทัพบนแผ่นดินของพวกศัตรูนั้น มันจะทำให้เราเสียเปรียบอย่างมาก หากพวกแกนำกองยานรบออกมาเพื่อจัดการกับพวกเราแบบเด็ดขาดเลยน่ะ"

              "และยานหลักของฉันก็เช่นกัน ฉันแสร้งทำให้มันเป็นตัวล่อกองยานที่แกส่งไป ซึ่งฉันเดาได้ว่ากองยานของแกต้องเคลื่อนตัวจากด้านหลังและด้านข้างมา เพื่อประกบไม่ให้แซคไรเซอร์บินหนีออกไปได้แน่นอน ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดไว้จริงๆ" อากาเมมนอสบอก "ดังนั้น ฉันเลยให้ยานแซคไรเซอร์ที่มีขุมกำลังรบของพวกเราทั้งหมดนี้ บินเหนือหัวกองยานของพวกแกที่บินต่ำลงมาเพื่อถล่มกองรบลวงตาที่เป็นเป้าล่อลำแสงไว้ ซึ่งฉันได้ให้เหล่านักรบอำพรางยานลำนี้ เพราะเชื่อว่ากองยานของแกที่ไล่ถล่มกองรบลวงตาแบบขี้โกงนั้น คงไม่สนยานที่บินข้ามหัวพวกนั้นไปได้หรอกน่ะ เพราะแกคงจะสั่งให้กวาดฐานทัพที่พวกเราแสร้งว่ายึดไปแล้วให้ราบคาบเพื่อจบเกมส์ในเวลาอันสั้นนะสิ"

              มาสวาร์ทาร์บอก "บวกกับว่าทหารอัลแทเรี่ยนเหมือนกับทหารใต้บังคับบัญชาของท่าน ที่สนใจเพียงแค่กำจัดพวกเราให้ราบคาบไปซะ จนทำให้เหล่าทหารทั้งหลายไม่สนต่อรอบข้างว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น ไม่รับรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนไหวในมุมบอดที่คาดไม่ถึง และไม่ระวังตัวเพราะสำคัญว่ามียานรบอันเกรียงไกรอยู่หลายลำอยู่ที่สถานีอวกาศแห่งนี้คอยหนุน หากว่าพวกเราจมยานทิ้งไปแล้ว ซึ่งสามอย่างเหล่านี้ ท่านซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เก่งกาจและชาญฉลาดเองก็น่าจะรู้ แต่ลูกน้องใต้บังคับบัญชากลับมองข้ามจุดนี้ไปเสียสนิท ไม่สิ ไม่สนใจคำเตือนของท่านเสียซะมากกว่าน่ะ"

              "งั้นที่พวกเจ้าโผล่มานั้น ก็เพื่อดึงความสนใจของข้ามาทางพวกเจ้า เพราะเชื่อว่าพวกเจ้ามาแค่จัดการกับข้า โดยมีการเตรียมกองรบสำรองไว้ ซึ่งพวกเจ้ารู้ว่าข้าต้องจัดการกับพวกนั้นลงก่อนเลยสิน่ะ" บูเรนนอฟกล่าวแม้จะรู้ว่าตนเสียรู้และพลาดท่าให้กับอากาเมมนอสและมาสวาร์ทาร์กันแล้ว แต่แม่ทัพใหญ่เดลอาเนี่ยนบอก "เพียงแต่นั้นไม่ทำให้พวกเจ้าหนีพ้นไปได้หรอก เพราะกองยานรบของอัลแทเรี่ยนและของข้าที่จอดอยู่นี้ พร้อมจะทะยานขึ้นได้ทันทีที่ข้าสั่งกัน....."

              ไม่ทันไร  "ฟ้าวววววว ฟ้าวววว ฟ้าววว แชดดดด แชดดด แชดดด ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" ก็มีฝูงยานบินทรงนกสี่ปีกยิงลำแสงวงแหวน เข้าใส่ยานรบของเดลอาเนี่ยนและอัลแทเรี่ยนที่จอดอยู่จนระเบิดไปเป็นสิบ "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว บรึมมมม บรึมมม บรึมมมม บรึมมมม" ฝูงยานบินทรงนกสี่ปีกอีกฝูงก็ยิงมิไซล์ลงมาทำลายยานรบที่จอดเรียงรายจนพังพินาศไป แล้วก็....

              "อย่าห่วงไปเลย เหล่าผู้มีพระคุณ พวกเรามาตอบแทนพวกท่านแล้วละ" เสียงของชาวปาเยฮัตดังเข้ามา

              "ฝูงยานรบของพวกปาเยฮัตนะหรือ แต่ ข้าทราบมาว่าพวกนี้โดนกวาดล้างราบคาบไปจากดาวดวงนี้มิใช่หรือ" บูเรนนอฟบอก

              อากาเมมนอสกล่าว "ถึงพวกนกเหล่านี้จะเพี้ยนๆ แต่พวกมันก็ดีกว่าพวกแกกันอยู่แล้วละน่า แม้จะรู้ว่าบนดาวดวงนี้ พวกแกคิดจะกำจัดพวกนกต่างดาวสติเฟื่องกันให้ราบคาบ ซึ่งแม่ทัพนกที่ประจำบนดาวดวงนี้คงโป้ปดต่อแกไปแล้วน่ะ"

              "พวกเราไม่อยากจะเยาะเย้ยท่านหรอกน่ะ แต่ ดูเหมือนว่าผลลัพธ์นั้น ถือว่าเสมอตัวแล้วกัน" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วก็ "แว้งงงงงงง" ยานแซคไรเซอร์ฉายลำแสงดึงตัวอากาเมมนอสและมาสวาร์ทาร์กลับขึ้นยานโดยเร็ว

              อากาเมมนอสบอก "พวกเจ้าแอ็คติ้งได้ดีมากเลยน่ะ แม้ว่านั้นเป็นแผนลิงหลอกเจ้าที่เราไม่อยากจะใช้เลยก็ตามน่ะ" โดยกล่าวกับเหล่านักรบที่ประจำอยู่ที่สะพานเดินเรือไว้

              "แค่ทำให้พวกศัตรูลงมือพลาด จนเข้ามาช่วยพวกท่านได้ก็ถือว่าเกินพอแล้วละครับ" บาทรัลบอก

              มาสวาร์ทาร์ถาม "แล้วว่าแต่ อีกเรื่องที่สั่งไว้นั้นละ ทำเสร็จหรือยัง"

              "แม้ว่านี้จะเป็นยุทธวิธีที่ขี้โกงกันก็ตาม แต่เพราะพวกเดลอาเนี่ยนเหลี่ยมจัดกว่าพวกเรา เราก็ต้องสนองตอบกลับไปกันนะครับ" บาทรัลกล่าว

              อากาเมมนอสกล่าว "ดี งั้นรีบเคลื่อนยานออกจากดาวเดียวนี้เลย"

              "บาลเพลน รีบกลับมาโดยด่วน กองรบแมนิเกเตอร์หลอกพวกเจ้ากันแล้วน่ะ" บูเรนนอฟบอก

              บาลเพลนบอก "คงยากนะครับ ท่านบูเรนนอฟ ไอ้พวกปาเยฮัตมันโผล่มาป่วนพวกเรากันยกใหญ่เลย หลังจากที่พวกเราถล่มฐานของพวกแมนิเกเตอร์ไปแล้วน่ะ"

              "พวกมันไม่ได้อยู่ที่ฐานที่ถูกยึดกันแต่แรกหรอก รีบจัดการกับพวกปาเยฮัตให้ราบคาบและรีบมาโดยด่วน" บูเรนนอฟกล่าว แล้วก็สั่งให้ "พวกเจ้า รีบไปหยุดพวกแมนิเกเตอร์โดยเร็ว อย่าให้พวกมันหนีออกนอกดาวไปได้เป็นอันขาด" ทหารอัลแทเรี่ยนและเดลอาเนี่ยนตอบรับ แล้วรีบขึ้นยานบินลำเลียงพลไล่ตามไป

              "แย่แล้วละคะ ศัตรูไล่ตามประกบยานของเรา เพื่อส่งทหารเข้าไปในยานกันแล้วละคะ" เซนต์รอทหญิงรายงาน

              "แย่ชะมัด ไฮเทมพาร่าและเทมพาร่าเองก็เหนือยอ่อนจากการคงสภาพกองรบภาพลวงและภาพลวงของยานลำนี้เสียด้วยน่ะ แล้วยานไวเบิร์นและยานมังกรละ" อากาเมมนอสบอก

              แชปแลครายงาน "กำลังซ่อมเครื่องยนต์อยู่นะครับ ไฮลอร์ด"

              "ช่วยไม่ได้ งั้นเราไล่พวกมันด้วยตัวเองแล้ว" อากาเมมนอสบอก แล้วก็ส่งตนเอง มาสวาร์ทาร์และเหล่านักรบครอสตรีมโผล่มาบนดาดฟ้ายาน ซึ่งทหารอัลแทเรี่ยน ทหารเดลอาเนี่ยนติดเจ็ทแพ็คโผล่ออกมาจากยานลำเลียงกำลังพล โดยยิงปืนแสงเข้าใส่ "เปร้งๆๆๆ" พาราไดน์ ครูเซเดนเอาโลห์มาป้องกันลำแสงพร้อมกับ "แชดดด แชดดด แชดดด" ยิงสวนกลับด้วยครอสเซี่ยมาสเก็ตและลันเชอร์เข้าใส่ "ตรูมมม ป้ากก เปรี้ยงงง ตรูมมม" ซึ่งก็ถล่มใส่ทหารอัลแทเรี่ยนและทหารเดลอาเนี่ยนร่วงไปบางส่วน โดยที่มีส่วนหนึ่งบินโฉบเข้ามา "แชดดดดด ป้ากกก" มาสวาร์ทาร์ใช้ครอสเซี่ยมลองค์มาสเก็ตยิงทะลุใส่ทหารเดลอาเนี่ยนติดเจ็ทแพ็คให้ร่วงไป 3 ตนด้วยกัน "ฟ้าวววว หวับ หวับ หวับ" แต่ทหารอัลแทเรี่ยนพุ่งโฉบเข้าจู่โจมกงเล็บใส่มาสวาร์ทาร์ ซึ่งรีบโดดหลบออกมาโดยเร็ว เช่นเดียวกับเหล่านักรบครอสตรีมตนอื่นๆด้วย "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวว ฉึกๆๆๆ" อากาเมมนอสเลยซัดหอกออกจากโลห์เลออนฮาร์ทปักใส่พวกอัลแทเรี่ยนให้ล้ม "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าวววว" แต่หน่วยพิเศษของอัลแทเรี่ยนบุกเข้ามาด้วยยานทรงนกขนาดเล็ก "แชดด แชดด แชดด เปร้งๆๆๆๆ" และยิงลำแสงเข้าใส่ แม้พวกเทมพาร่าและแชปแลคส่วนหนึ่งจะป้องกันด้วยกำแพงพลังครอสเซี่ยมเลยก็ตาม

              "พวกแกไม่มีทางหนีหน่วยสตอร์มเบิร์ดอย่างพวกเราไปได้หรอก" นักรบอัลแทเรี่ยนกล่าวพร้อมกับใช้ปืนยาวยิงลำแสงเข้าใส่ "เปร้งงง ปร้างงง" ซึ่งก็อัดพาราไดน์ที่ถือโลห์จนล้มไปสองตนด้วยกัน แถมพวกซิลเวอร์เบิร์ดก็บินเข้ามา "ฟ้าววว ป้ากกก ป้ากกก" โฉบเฉี่ยวเล่นงานเซนท์รอทและครูเซเดนไปด้วย "ฮึยยยย" เซนท์รอทอีกตนฉาบดาบพลังออร่าสีเขียวเข้า "ฉับบบ ฉั้วะ ฉับบบ" ผ่าร่างซิลเวอร์เบิร์ดขาดสะบั้นลง  "ฮึยยย ฮา ว้ากกก" แชปแลค 3 ตนพุ่งเข้าจู่โจมใส่ซิลเวอร์เบิร์ดด้วยดาบพลังครอสเซี่ยมอันทรงพลัง ซึ่งฉาบพลังออร่าที่มีประกายไฟฟ้ารอบคมเข้า "ป้ากก ป้ากก ป้ากกก" ซึ่งก็ผ่าพวกซิลเวอร์เบิร์ดขาด แล้วก็ "เปรี้ยงงง เปรี้ยงงงง เปรี้ยงงงง" สาดพลังสายฟ้าเข้าเล่นงานยานขนหน่วยซิลเวอร์เบิร์ดให้ร่วงไป แต่พวกทหารเดลอาเนี่ยนบุกเข้ามา "ฟ้าวววว ป้าก" หัวหน้าหน่วยเดลอาเนี่ยนที่นำหน้ามาถูกฟักดาบของมาสวาร์ทาร์กระแทกเข้าหน้า แล้วก็ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆ แชดดด" โดนมาสวาร์ทาร์กระหน่ำยิงด้วยโชลเดอร์บีมกันใส่ทั้งหน่วยให้ชะงัก แล้วก็ "แชดดดด แชดดด แชดดดด" โดนพาราไดน์สามตนยิงสวนกลับให้ร่วงไป "แชดดด แชดดด แชดดด แชดดดด" แซคไรเซอร์เองก็นำปืนใหญ่ลำแสงจากกราบซ้ายและขวา ไล่ยิงใส่ยานขนลำเลียงพลของพวกเดลอาเนี่ยนและอัลแทเรี่ยนให้ร่วงไปกันหมด

              "ไฮลอร์ด คาตานะลอร์ด ยานของเราพร้อมลอยลำฝ่าชั้นเมฆเพื่อเข้าสู่โซนชั้นบรรยากาศของดาวดวงนี้กันนะครับ" บาทรัลบอก แล้วแซคไรเซอร์ก็ "ซูมมมมมม" ทะยานขึ้นด้วยบูสเตอร์จากใต้ท้องยานโดยฝ่าชั้นเมฆไปโดยเร็ว กองยานของบาลเพลนที่บุกถล่มฐานทัพกลวงและตำแหน่งฐานที่มั่นปลอมของพวกครอสตรีมลอยลำขึ้นมา แต่.... "แชดดดด ป้ากกกก ตรูมมม ตรูมมมม" ยานรบกลับถูกลำแสงยิงใส่

              "เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ" บาลเพลนบอก

              "แย่แล้วละครับ กองยานของฝ่ายเราถูกกองยานกวาดล้างนอกดวงดาวที่เดินทางมาถึงยิงถล่มใส่กันแล้วละครับ" กัปตันยานอัลแทเรี่ยนนกขุนทองบอก ซึ่งตอนนี้ลำแสงยิงถล่มใส่ยานจนหักกลางลำและระเบิดไป

              บาลเพลนกล่าว "กองยานกวาดล้าง ฉันไม่ได้สั่งให้มีการกวาดล้างดาวกันเลยน่ะ"

              "หุบปากไปเลย ไอ้พวกปาเยฮัต พวกแกร่วมมือกับพวกแมนิเกเตอร์มายึดยานของเรากันไม่ว่า ยังได้กำจัดท่านบูเรนนอฟจนราบคาบเช่นนี้ พวกเรามีสิทธิ์ที่จะถล่มดาวดวงนี้กันได้อยู่แล้วละ" แม่ทัพนกเพนกวินจักรพรรดิ์ที่เป็นหัวหน้านำกองยานกวาดล้างกล่าว

              "บ้าน่า พวกเราไม่ใช่ไอ้พวกนกสติเฟื่องที่เป็นแกะดำพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องที่เป็นนกล่าเนื้อนั้นสักหน่อย ท่านแม่ทัพเพนกลิม สั่งให้กองยานหยุดยิงเดียวนี้"

              "ยิงให้โง่สิ ไอ้ปาเยฮัต แกปลอมเสียงเป็นแม่ทัพบาลเพลนติดต่อกับพวกเรากันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นึกหรือว่าเราจะโดนหลอกง่ายๆกันน่ะ" แม่ทัพเพนกลิมบอก "ถล่มกองยานของพวกปาเยฮัตให้ราบคาบไปพร้อมกับพวกแมนิเกเตอร์ที่โชโซบาลเดียวนี้" แล้วกองยานจากนอกชั้นบรรยากาศก็ "แชดดด ตรูมมม ตูมมม บรึมมม แชดดด แชดดด แชดด แชดดด ตรูมมมม บรึมมม บรึมมม ตูมมมม" ยิงลำแสงไล่ถล่มกองยานที่ยังจอดอยู่ ทั้งของพวกเดลอาเนี่ยนและของอัลแทเรี่ยนจนราบคาบไปไม่น้อย ขนาดยานรบที่พยายามจะบินขึ้นก็ถูกยิงจนร่วงลงมากระแทกพื้นสร้างความเสียหายอย่างยกใหญ่

              บูเรนนอฟได้เห็นก็รีบสั่ง "แม่ทัพเพนกลิม รู้ตัวมั้ย ว่าได้ทำอะไรลงไปกันน่ะ"

              "ทะ ท่านแม่ทัพบูเรนนอฟ ท่านยังไม่ตายนะหรือ ในเมื่อพวกเราทราบมาว่าท่านกับแม่ทัพบาลเพลนโดนศัตรูกำจัดไปแล้วน่ะ...." เพนกลิมกล่าวอย่างตกใจไม่น้อย

              บูเรนนอฟบอก ".....ข้าไม่เป็นไรหรอก แต่ท่าน ถูกพวกแมนิเกเตอร์หลอกให้ถล่มกองยานของแม่ทัพบาลเพลนและกองยานของข้าจนเสียหายไปไม่น้อยแล้ว รู้ตัวหรือเปล่าละ"

              "เออ แล้วไอ้พวกแมนิเกเตอร์นั้นละ" เพนกลิมถามอย่างร้อนรน

              บูเรนนอฟกล่าว "พวกนั้นพยายามจะหนีออกนอกดาวกันอยู่ แต่ท่านกลับถูกหลอกให้ถล่มกองยานที่ไล่ตามจนเกิดความเสียหายเช่นนี้ ข้าขอสั่งให้เจ้า นำกองยานกวาดล้าง ไล่ล่าพวกแมนิเกเตอร์เหล่านั้นโดยเร็ว อย่าให้พวกนั้นหนีออกนอกระบบดาวเป็นอันขาด"

              "รับทราบ" เพนกลิมกล่าวและสั่งการให้ "กองยานกวาดล้าง เบนเข็มไปยังยานรบของพวกแมนิเกเตอร์เดียวนี้ เราต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกมันหลอกพวกเราทำร้ายพวกเดียวกันอย่างสาสมไปซะ" แล้วกองยานก็เคลื่อนตัวตรงมายังแซคไรเซอร์ที่บินออกจากดาวกันแล้ว

              "ศัตรูส่งกองหุ่นรบออกมากันแล้วละคะ" เซนต์รอทหญิงรายงาน

              "ดูท่าว่าเราจะทำให้บูเรนนอฟพิโรธไม่น้อยแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก

              อากาเมมนอสกล่าว "แต่ตราบใดที่มีกองยานเหล่านี้อยู่ พวกพ้องของนายที่อยู่บนดาวดวงไหนสักแห่ง คงไม่รอดแน่ๆเลยละ เช่นเดียวกับพวกเราด้วยน่ะ" แล้วก็สั่งการให้ "แจ้งให้เหล่านักรบที่พร้อมรบได้อยู่ ขึ้นคาเมเรดออกปกป้องยานลำนี้พร้อมกับมาสวาร์ทาร์ด้วย"

              "เดียวก่อนสิ อากาเมมนอส นายสั่งลูกน้องให้เอาลอร์ดวาทรัลของฉันไปแล้ว แล้วฉันจะออกปฏิบัติการณ์ด้วยคาเมเรดตัวอื่นนิ มันไม่เป็นการผิดกฎเลยหรือ" มาสวาร์ทาร์กล่าว เพราะเขารู้ว่า แมนิเกเตอร์แบบครอสตรีมต้องควบคุมหุ่นคาเมเรดที่เลือกเอาไว้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ถ้าหุ่นพังเสียหายก็ต้องหาตัวใหม่มาแทน

              อากาเมมนอสเลยลุกขึ้นและพามาสวาร์ทาร์มายังโรงเก็บหุ่น ซึ่งก็.... "ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าถ้าเบรซซิ่งแฮนด์ เมดเดนออฟสเปียร์กับเจเนไซด์ทีมถูกลักพาตัวไปยังเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนได้ พวกมันก็หาเรื่องจับตัวนายมาได้เช่นกัน และเป็นอย่างที่ฉันคาดไว้ไม่มีผิดเสียด้วยน่ะ" พามายังหุ่นที่ถูกคลุมผ้าเอาไว้

              "แปลว่านายรู้อยู่แล้วว่าฉันต้องมาเจอกับพวกนายเลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              อากาเมมนอสพยักหน้า "และฉันรู้ ว่าคาเมเรดที่ฉันมี คงจะรับกับพลังของนายที่มากขึ้นไม่ได้แน่ๆ ดังนั้น...." แล้วก็ดึงผ้าคลุมออกมา "พรึ่บบบบ" จนเผยคาเมเรดลอร์ดวาทรัลที่ถูกล็อกด้วยแขนกลเอาไว้ ".....ฉันเลยเอาคู่หูของนายมาไว้ในยานลำนี้เลย และได้ถือวิสาสะอัพเกรดคู่หูของนายให้สามารถใช้พาร์ทเสริมของพวกเราได้น่ะ"

              "ดูเหมือนว่านายจะวัดดวงได้ถูกทางแล้วละ สหาย" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยตอนนี้แขนกลถูกปลดออกมา เพื่อให้มาสวาร์ทาร์เข้าไปในคอกพิต "แว้งๆๆๆๆๆๆ" โดยระบบสตาร์ทเครื่องขึ้นมาในทันทีที่มาสวาร์ทาร์นั่งประจำที่แล้ว

              "ตอนนี้ฉันส่งลูกน้องออกไปกันแล้ว แต่นายมีเวลาเปลี่ยนพาร์ทกันสักหน่อยน่ะ" อากาเมมนอสบอก

              "ย่อมได้อยู่แล้ว แต่หวังว่าพวกเราคงจะรับมือกับพวกอัลแทเรี่ยนกันได้น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก "และนายมีแผนพาเราออกจากระบบดาวนี้ได้หรือเปล่าละ"

              อากาเมมนอสบอก "คิดว่าฉันไม่เตรียมการมาดีเลยหรือ สหาย"

              "ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว" พวกอัลแทเรี่ยนภายใต้คำสั่งของเพนกริมส่งวิงค์ฮาเคนออกมา 40 ลำ พร้อมกับอัสแทรมิคจำนวน 80 เครื่องบุกเข้ามาระดมจู่โจมใส่กองรบคาเมเรดที่มีจำนวนเพียง 70 หน่วย "แชดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดด" คาเมเรดบริสคาดิลใช้ครอสเซี่ยมแลนซ์ลันเชอร์ยิงลำแสงเข้าใส่วิงค์ฮาเคน แต่ "แคร้งงง" ยานวิงค์ฮาเคนแยกออกเป็นวิงค์เซปเตอร์ วิงค์ลิบรอนและยานหลักวิงค์เซนเตอร์หลบลำแสงที่พุ่งออกมาได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำยิงกระสุนพลังเข้าใส่ "เปร้งๆๆๆๆๆๆ" คาเมเรดเคาน์การ์ดใช้ครอสเซี่ยมคาทาร์คลอว์ชิลด์สองอันเข้าป้องกันไว้ "ฟ้าววว ฟ้าววว แชดด แชดด แชดดด" คาเมเรดแบบแวนดรีทใช้ครอสเซี่ยมซอร์ไดเฟิ่ลโหมดปืนยิงลำแสงเข้าใส่อัสแทรมิคที่บินเข้ามาจนร่วงไป 8 เครื่องด้วยกัน "ทิ้วๆๆๆๆ แชดดด แชดด แชดด" แต่อัสแทรมิคหน่วยหนึ่งระดมยิงเฟเธอร์วัลแคนและปืนแสงหลังแขนเข้าใส่ "เปร้งๆๆๆๆๆ" หน่วยแวนดรีทเลยใช้โลห์เข้าป้องกันไว้พร้อมกับ "แว้งงงงง" ใช้ซอร์ไดเฟิ่ลโหมดดาบผลึกสีเขียวเข้า "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉับ" ฟันใส่อัสแทรมิคทั้งห้าจนพัง แต่ "ฟ้าวววว แชดๆๆๆๆ" ยานวิงค์เซปเตอร์ 2 ลำ วิงค์ลิบรอน 2 ลำ และยานวิงค์เซนเตอร์ 1 ลำยิงลำแสงเข้าใส่แวนดรีทจนแขนขวาพังไป 3 เครื่องด้วยกัน "เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง" เทมเพร่าที่ควบคุมบริสคาดริลยิงพลังสายฟ้าจากไบน์เดอร์ด้านหลังใส่ แต่ "ฟ้าวววว ครี้งงงง" ยานทั้งห้าประกอบกันเป็นวิงค์ฮาเคนพร้อมกับสร้างบาเรียป้องกันไว้ และพุ่งชนใส่บริสคาดิล "ป้ากกก" แต่คาเมเรดเคาน์การ์ดใช้โลห์ข้างหนึ่งป้องกันไว้พร้อมกับ "ครี้งงงงง" ใช้โลห์ข้างซ้ายแยกออกและสร้างคมดาบทั้งสามจนกลายเป็นกงเล็บเข้า "ฉึกกก ป้ากกก" แทงใส่หัวยานตรงกลางอย่างจังๆ แล้วก็ "แว้งงง" สร้างคมดาบใหญ่ขึ้นที่กลางโลห์และ "ฉั้วะ" ผ่าขาดเป็นสองท่อนและระเบิดไป ซึ่งเปิดช่องให้อัสแทรมิคจำนวน 12 หน่วยบุกมาพร้อมกับวิงค์ฮาเคนอีก 8 ลำด้วยกัน "แชดดด แชดดด แชดดด แชดดด" บริสคาดิลจำนวน 20 หน่วยพยายามยิงด้วยแลนซ์ลันเชอร์และปล่อยพลังสายฟ้ากระจายออกไป แต่พวกอัลแทเรี่ยนควบคุมหุ่นและยานได้ว่องไวจนหลบหลีกการโจมตีได้ทั้งหมด "พวกนกต่างดาวมันว่องไวกว่าที่คิดไว้น่ะ ไฮลอร์ด" แชปแลคชายที่ควบคุมเคาน์การ์ดบอก โดยพยายามยิงลำแสงจากส่วนกลางโลห์เข้าใส่วิงค์ฮาเคนและอัสแทรมิค แต่ก็หลบได้อีกเช่นเคย จนวิงค์ฮาเคนพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเพื่อชนใส่กองรบคาเมเรดกัน

              "เตรียมตัวตายได้เลย ไอ้อัศวินเขียว" นักบินอัลแทเรี่ยนกล่าว

              "แชดดดดดดดดดดดด ป้ากกกกก" แต่ก็มีลำแสงยิงทะลวงใส่หัวยานวิงค์ฮาเคนไปถึงท้ายลำจน.... "อะไรกันเนี้ย โว้วววว" นักบินอัลแทเรี่ยนตนนั้นร้องลั่นก่อนจะดับดิ้นไปในทันที โดยเป็นฝีมือของ....

              "แน่ใจหรือ ว่านายใช้พาร์ทถูกน่ะ เพราะนายไม่ได้เก่งด้านใช้อาวุธปืนสองกระบอกเหมือนกับเฮฟวี่คอมมานโดเลยน่ะ" อากาเมมนอสกล่าว เพราะมาสวาร์ทาร์เอาลอร์ดวาทรัลติดพาร์ทบริสคาดิลออกมา ซึ่งดาบมือหนึ่งใช้ครอสเซี่ยมแลนซ์ลันเชอร์ข้างซ้ายยิงลำแสงสาดใส่

              "แต่อย่างน้อย ฉันใช้ปืนทีละข้างได้อย่างแม่นยำก็เกินพอแล้วละ แม้ว่าต้องสลับแขนยิงเลยก็ตามน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก แล้วก็ใช้แลนซ์ลันเชอร์ข้างขวา "แชด แชด แชด" ยิงกระสุนแสงต่อเนื่องเข้าใส่อัสแทรมิคและยานวิงค์ฮาเคนให้เสียหายไป

              อากาเมมนอสบอก "บอกตรงๆน่ะ ว่าถึงนายใช้แลนซ์ลันเชอร์ได้ก็จริง แต่ไบน์เดอร์ลันเชอร์นั้น นายไม่ใช่เทมพาร่า นายจึงใช้พลังสายฟ้าคาออสติคไลท์นิ่งไม่ได้หรอกน่ะ" อากาเมมนอสบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "คิดว่าฉันปรับแต่งอาวุธของคู่หูฉันไม่ได้เลยหรือ สหาย" แล้วก็ "ปี้บๆๆๆ" กดปุ่มบนแป้นใกล้มอนิเตอร์ข้างขวาเพื่อเซตระบบอาวุธตรงไบน์เดอร์ทั้งสองไว้ "ครืดดด แกร็กกก" โดยไบน์เดอร์ทั้งสองเลื่อนขึ้นมา "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงเลเซอร์กระจายติดตามเข้าใส่วิงค์ฮาเคนที่แยกยานออก "ฟ้าวววว ป้าก ป้าก ป้าก" วิงค์เซปเตอร์ถูกยิงเข้ากลางลำ เช่นเดียวกับวิงค์ลิบรอนสองลำ และอัสแทรมิค 5 เครื่องที่บินเข้ามาด้วย แล้วก็ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงเลเซอร์กระจายติดตามเข้าใส่ฝูงบินวิงค์ฮาเคนที่แยกตัวออกมาจนกระจุยไปด้วย "ฟ้าววววววว" อัสแทรมิค 25 เครื่องและฝูงบินวิงค์ฮาเคน 10 หน่วยบินเข้ามาล้อมตัวมาสวาร์ทาร์ไว้ "แกร็ก แกร็ก" มาสวาร์ทาร์จึงกดปุ่มบนคันบังคับคู่ แล้วก็ "ฟึ่บบบ ฟึ่บบบ ซูมมมมมม หวับ" สบัดแขนลอร์ดวาทรัลบรีสคาดิลที่ยิงลำแสงจากแลนซ์ลันเชอร์ออกมาทั้งสองข้าง แล้วก็หมุนตัวเหวี่ยงลำแสงเข้า "ซูมมมมมม ป้ากกก ป้ากก ป้ากก ป้ากกก ป้ากกก" กวาดหน่วยรบอัสแทรมิคและฝูงบินวิงค์ฮาเคนจนราบคาบไป และ "หวับบบบบบ ป้ากกกก" หวดฟาดแขนขวาที่ยังยิงลำแสงลากยาวจนเป็นดาบแสงขนาดยาวใหญ่เข้าใส่วิงค์ฮาเคน 3 ลำที่พุ่งเข้ามาจนขาดครึ่งลำและระเบิดไป "ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าวววว" แต่กองรบของพวกอัลแทเรี่ยนแห่แหนออกมากันอีก "เปรี้ยงงงงงงง เปรี้ยงงงง" คาเมเรดบริสคาดิลสาดสายฟ้าเข้าช็อตฝูงบินวิงค์เซปเตอร์และวิงค์ลิบรอนให้ระเบิด ในขณะที่แวนดรีทบุกเข้าใช้ซอร์ไดเฟิ่ลฟาดฟันสู้กับอัสแทรมิคจนกระจุย เคาน์การ์ดเข้าป้องกันด้วยโลห์ใหญ่ต้านลำแสงจากวิงค์ฮาเคน แล้วใช้คลอว์คาทาร์ชิลด์ฟาดฟันใส่วิงค์ฮาเคนให้พังไป "นายไม่ยอมให้ฉันเสียท่าเร็วละสิ" มาสวาร์ทาร์บอก

              "นายตนเดียวเอาพวกนกต่างดาวไม่อยู่หรอก หากไม่มีพวกพ้องอยู่ด้วยน่ะ" อากาเมมนอสบอก "ดังนั้น นายกับทุกหน่วย รีบมารวมตัวกันที่ยานเดียวนี้เลย"

              มาสวาร์ทาร์เห็นคาเมเรดเคลื่อนถอยทัพไปรวมพลที่แซคไรเซอร์กัน "แปลว่านายเตรียมแผนหนีแล้วสิ" แล้วก็นำลอร์ดวาทรัลลงจอดบนดาดฟ้ายานกัน

              "ลอร์ดวาทรัลและคาเมเรดจำนวน 54 หน่วยประจำที่แล้วละคะ" เซนต์รอทหญิงรายงาน

              อากาเมมนอสบอก "เดินเครื่องยนต์เต็มกำลัง เร่งพลังครอสเซี่ยมในระดับสูงสุด หันหน้าไปยังกองยานของพวกนกต่างดาวเดียวนี้เลย" แล้วก็แจ้งให้ "ทุกหน่วยที่อยู่บนดาดฟ้า จัดการสอยพวกนกต่างดาวที่บินเข้ามาให้ร่วงไปซะ"

              "รับทราบ" ทั้งหมดรวมถึงมาสวาร์ทาร์ตอบ พลขับที่เป็นพาราไดน์หนุ่มพยักหน้าและ "ครืดดด" ดันคันเร่งไปข้างหน้า "ซูมมมมมมมม" เพื่อทำให้แซคไรเซอร์ทะยานไปข้างหน้าเต็มกำลัง และพุ่งตรงมายังกองยานของเพนกลิมโดยเร็ว

              "มันจะมากไปแล้วน่ะ ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ กองยานทุกลำ กองรบทุกหน่วย จัดการกับพวกมันเดียวนี้" แล้วกองรบวอร์บอทและวอร์แมชชีนบุกเข้าใส่ยานแซคไรเซอร์ที่พุ่งมาอย่างรวดเร็ว "แว้งๆๆๆๆ วี้งงง" ซึ่งยานก็เรืองแสงสีเขียวขึ้นมา และ.... "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงงง แชดดด แชดดด แชดดดด" มาสวาร์ทาร์และเหล่านักรบครอสตรีมระดมยิงใส่อัสแทรมิคและฝูงยานบินที่ดาหน้าเข้ามาขวางจนร่วงไปกันหมด "แชดดดด แชดดดด แชดดด แชดดดด" กองยานระดมยิงปืนใหญ่อนุภาคเข้าใส่ แต่ "วึงๆๆๆๆๆๆๆ ซูมมมมม" หัวยานได้สร้างคมดาบพลังครอสเซี่ยมขึ้นมา "แชบบบ แชบบบ แชบบ แชบบบ" จนทำให้ลำแสงที่ยิงใส่นั้นกลับถูกดูดซับจนคมดาบขยายใหญ่ขึ้นมา "บะ บ้าน่า ลำแสงอนุภาคของเราทำให้ดาบแสงของมันใหญ่ขึ้นเลยหรือเนี้ย" เพนกลิมบอก

              "ถ้าคิดว่าจะหยุดยานของพวกเราที่ใช้เดโมคลีดไรเซอร์ละก็ คิดผิดแล้วละ ไอ้พวกนกต่างดาว พลังครอสเซี่ยมของเราเป็นกัมตรังสีกลางซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับพลังอนุภาคที่แกยิงใส่มาเพิ่มพลังให้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องชาร์จพลังให้มากจนเสียไปโดยใช่เหตุกันน่ะ" อากาเมมนอสบอก แล้วก็ "ซูมมมมมมม" เร่งเครื่องเต็มกำลังจนยานพุ่งเข้าใส่ ซึ่งพวกมาสวาร์ทาร์ไม่ล้มเอียงเพราะเท้าถูกตรึงบนพื้นดาดฟ้าไว้แล้ว "ฟ้าววววววววววว" เมื่อยานแซคไรเซอร์พุ่งผ่านกองยานของเพนกลิมไป คมดาบแสงก็สลายหายไป ส่วนกองยานนั้น ยานส่วนหนึ่งมีรอยกรีดบนตัวยานที่เรืองแสงสีเขียวขึ้นมา จน.... "ตรูมมมม บรึมมมม บรึมมม ตูมมมม ตูมมมมม บรึมมมม" ยานรบเหล่านั้นระเบิดวินาศสันตะโรอย่างหนักหน่วง แม้ยานธงของเพนกลิมไม่เสียหายมากมายเลยก็ตาม

              "ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ มันจะมากไปแล้วน่ะ ไอ้...." เพนกลิมโวยลั่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะ "หึมๆๆๆ ซูมมมม" อากาเมมนอสเอาแซคไรเซอร์บินหนีด้วยความเร็วเหนือแสงไปแล้ว

              "ท่านบูเรนนอฟครับ" บาลเพลนกล่าว

              บูเรนนอฟบอก "บาลเพลน รีบแจ้งไปยังนครหลวงให้ส่งยานมารับโดยเร็ว แล้วก็ เพนกลิม ข้าขอให้กองยานที่เหลือของเจ้าลงมาเดียวนี้เลย เพราะข้าต้องคุยกับเจ้าในเรื่องที่เจ้าได้ทำลงไปกันน่ะ"

              "เออ เกรงว่าเรามีปัญหาแล้วละครับ ระบบสื่อสารของพวกเราที่ใช้ติดต่อไปยังระบบดาวอื่นนั้น ได้ถูกพวกแมนิเกเตอร์หลอกเพนกลิมให้ทำลายทิ้งลงไป จนทำให้เราติดต่อได้แค่ดาวดวงนี้เท่านั้นนะครับ" บาลเพลนบอก

              บูเรนนอฟกล่าว "แสดงว่า พวกแมนิเกเตอร์คงไม่ยอมให้พวกเราขวางทางพวกไทรเวเซอร์เลยสิน่ะ สมกับเป็นดาบมือหนึ่งเลยน่ะ"

              "นับว่าพวกเราทำได้ไม่เลวเลยน่ะ มาสวาร์ทาร์ แม้ว่านั้นเป็นเรื่องเสี่ยงไม่น้อย เพราะฝ่ายตรงข้ามมีกองยานที่ติดอาวุธหนักไว้ถล่มจากนอกดาว ซึ่งอาจจะทำให้เราโดนถล่มยับเยิ่นก็เป็นได้น่ะ" อากาเมมนอสกล่าวกับมาสวาร์ทาร์หลังจากที่กลับเข้ายานมาแล้ว

              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะพวกปาเยฮัตช่วยเราเอาไว้เลยน่ะ แม้ว่าพวกเราไม่ได้ขอให้พวกเขาช่วย เพราะฉันอยากจะให้พวกเขาไปจากดาวดวงนี้ ไม่สิ ไปให้ไกลจากพวกอัลแทเรี่ยนกันซะมากกว่าน่ะ"

              "พวกนกสติเฟื่องเหล่านั้น หาทางหนีได้เองอยู่แล้วน่า มาสวาร์ทาร์ เพราะพวกนั้นทำให้พวกนกต่างดาวมันเป็นนกแก้วนกขุนทองกันแล้ว พลังจิตของพวกนั้นก็คงช่วยพวกนี้รอดออกไปได้อยู่น่ะ" อากาเมมนอสบอก "แต่บอกตรงๆน่ะ ว่าแม่ทัพใหญ่ของเดลอาเนี่ยนนั้น ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่ฝึกกับท่านอาทรัสเตอร์ไม่มีผิดเลยน่ะ ทั้งฝีมือ ทั้งความสามารถในการวางแผน รวมถึงอิทธิพลกันด้วยน่ะ"

              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "หากแต่ต่างกันตรงที่ ท่านอาทรัสเตอร์ ไม่ใช่คนที่ยึดติดกับสิ่งใดมากมายนัก ทั้งๆที่เขาควรจะเป็นผู้นำคอยชี้แนะแนวทางให้กับพวกเรากันได้ เพราะว่าเราต้องการคำสอนของเขาอีกมาก เพียงแต่ ท่านรู้ตัวเองดี ว่าถ้าท่านออกรบต่อก็คงไม่รอดกันแน่นอน เลยเลือกที่จะวางมือและสละตำแหน่งให้โครเต้รับไว้ ทั้งๆที่รู้ว่าโครเต้มีความแค้นต่ออาณาจักรแทแรนเซีย ซึ่งคนเลวที่นั้นได้ทรยศเขาก่อนน่ะ" 

              "กลัวว่าแม่ทัพใหญ่ของเดลอาเนี่ยนจะเล่นพวกนายหนักกว่าเดิมนะสิ เพราะว่าเราทำกับพวกนกต่างดาวไว้เยอะเลยละ" อากาเมมนอสบอก "แต่นั้นก็ดีแล้ว ที่เราแยกแม่ทัพใหญ่ออกจากกองยานของดาวอื่นๆกันได้ อย่างน้อยก็ช่วยให้สหายไทรเวเซอร์ของนายรอดไปได้กันละน่า"

              มาสวาร์ทาร์ส่ายหน้า "เปล่าเลย อากาเมมนอส ถึงเราจะทำให้สายการบังคับบัญชาของพวกเดลอาเนี่ยนเสียหาย เพราะขาดคำสั่งและอำนาจจากบูเรนนอฟกันก็จริง แต่ เดลอาเนี่ยนก็ยังมีราชทายาทเดลวูลอยู่น่ะ"

              "หมายถึงราชทายาทองค์โตที่เป็นสหายของเฮโลลิคเตอร์ สายลับสองหน้าที่ประธานาธิบดีโคเคสส่งไปเป็นพวกแปรพักตร์กันสิน่ะ เหอะ ฉันกลัวว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยเดิม หากแต่ เฮโลลิคเตอร์และหน่วยของมัน ไม่น่ารอดกลับมาฟอร์มกองกำลังต่อต้านได้เหมือนกับประธานาธิบดีโคเคสและพวกกันหรอกน่ะ" อากาเมมนอสกล่าว

              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "และที่แย่ก็คือ เรื่องที่เราทำกับพวกอัลแทเรี่ยนที่เอลวัล-6 นั้น จะทำให้พวกที่ไล่ตามแอนเดรียและพวกนั้น เล่นแรงเป็นการเอาคืนกันนะสิ"


              สังหรณ์ใจไม่ดีของมาสวาร์ทาร์นั้น เป็นจริงขึ้นมาเสียแล้ว ที่ดาวฮิชเลไบน์-4 ตอนค่ำคืน

              "หวออออ หวออออ หวออออ หวอออออ" สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นมา ได้ปลุกทุกคนในยานตื่นขึ้น "เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ" โดซี่กล่าว

              รีฟรายงาน "แย่แล้วละคะ หน่วยรบของอัลแทเรี่ยนตรงดิ่งมาทางพวกเราแล้วคะ"

              "บ้าน่า พวกมันบุกมาตอนกลางคืนเลยหรือ" แทนบ่นอย่างหงุดหงิดไม่น้อย

              แฮรี่กล่าว "มันไม่ปกติแล้วน่ะ พวกอัลแทเรี่ยนไม่น่าบุกมาตอนกลางคืนกันได้เลยนิ"

              "ตอนนี้ เรารีบป้องกันยานให้รอดจากพวกอัลแทเรี่ยนกันก่อนดีกว่า เพราะต่อให้พวกนี้ไม่ได้เอาวอร์บอทและวอร์แมชชีนมา ก็ใช่ว่าเราจะปลอดภัยไปได้หรอกน่ะ" แดนบอก

              โดซี่พยักหน้าเห็นด้วย "แต่ฝ่ายเราด้อยในเรื่องจำนวนคนแบบนี้...." และหันมาบอกไปว่า "แทน อย่าขัดคำสั่งของฉันเลยจะดีกว่าน่ะ ต่อให้นายไม่เห็นด้วยเลยก็ตามน่ะ"

              "ก็ได้ แต่เธอช่วยจับตาไอ้พวกเด็กเกรียนกันไว้ด้วยละ" แทนบ่นและเดินออกจากสะพานเดินเรือไป

              โดซี่บอก "นิค เธอเคยร่วมปฏิบัติการณ์พร้อมกับพวกไทรเวเซอร์มาก่อน ฉันอนุมัติให้เธอปฏิบัติการณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่แอนเดรีย เพราะสถานการณ์ฉุกเฉินและความจำเป็นบังคับกันไว้ด้วยน่ะ"

              "รับทราบแล้วละครับ หัวหน้าโดซี่" นิคกล่าวและลุกจากเก้าอี้ แอนเดรียพยักหน้าและเดินไปพร้อมกับนิคโดยเร็ว แฮรี่และมาริรีบลุกออกจากสะพานเดินเรือไป น็อกกี้ แจ็ส แด็กซ์และคีธเลยมาที่ห้องสรรพวุธกัน

              "มันไม่ช้าไปหน่อยเลยหรือ ลุง ที่ให้พวกเราออกรบกันน่ะ" น็อกกี้บ่น และพยายามเลือกปืนกระบอกโตๆ แต่โดนแทนเขกหัวกลับ พร้อมกับส่งอาก้า-49 ให้น็อกกี้ไปใช้

              "ทำไงได้ละ น็อกกี้ ตอนนี้หมอเบ็ตตี้วางมือไปแล้ว เพราะไม่อยากให้ตาของหมอบอดถาวรหรอกน่ะ" คีธกล่าว แล้วก็รับปืนอาก้า-49 มาจากแทนที่หยิบมา แจ็สเอาปืนยาวสำหรับซุ่มยิง ส่วนแด็กซ์ได้เครื่องยิงลูกระเบิดอาร์ฟเอลฟ์มาใช้ จากนั้นก็รีบวิ่งไปยังห้องกำบังสำหรับยิงไล่ผู้บุกรุกจากฝั่งใต้ เพื่อมาจู่โจมยานตรงกราบซ้าย

              "โอเค แดน แทน เธอสองคนปกป้องยานกราบขวาไว้ แฮรี่ มาริ ป้องกันท้ายยาน แอนเดรียและนิค หยุดศัตรูไม่ให้เข้าใกล้หัวยานกันด้วย อย่าให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเข้ามาในยานได้เป็นอันขาด" โดซี่บอก ทุกคนพยักหน้า

              "แกว็กกกกก" ทหารอัลแทเรี่ยนทั้งแบบหัวนกและหัวปูเทราโนดอนบุกออกมาจากป่าฝั่งที่แดนและแทนอยู่ "ป้างงงงงง" แดนเปิดฉากยิงวอลแกรมไรเฟิ่ลช็อคกันโหมดเป่าพวกอัลแทเรี่ยนปูเทราโนดอนให้ปลิว "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แทนกระหน่ำยิงปืนกลเล่นงานทหารอัลแทเรี่ยนจนล้ม แล้วก็ "วืมมมม ป้ากกก" ใช้เลเซอร์วิปฟาดใส่อัลแทเรี่ยนที่กระโจนเข้ามาจนร่วงกองกับพื้นแล้วก็เดินมา "ปังๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงในระยะเผาขนให้ดับดิ้นลง "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แฮรี่กราดยิงดับเบิ้ลแอสเซาท์ไรเฟิ่ลเข้าใส่พวกอัลแทเรี่ยนที่พุ่งเข้ามาจนร่วง และ "หวับบบบ เปรี้ยงงง" ใช้กำปั้นเหล็กชกเข้าที่หน้าของทหารอัลแทเรี่ยน ที่พุ่งเข้ามาจนตัวหมุนควงสว่านไปหลายรอบก่อนลงพื้นแน่นิ่งไป "ฟ้าวววววว ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" มาริกระโดดขึ้นสูงเข้าจัดการกับพวกอัลแทเรี่ยนที่บินมาด้วยชูริเคนแมชชีนกันจนจัดการกับพวกมันล้มไป แล้วก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำยิงลงมาเล่นงานพวกอัลแทเรี่ยนที่พุ่งเข้าใส่แฮรี่ไปด้วย "ทิ้วๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" นิคยิงบัสเตอร์อาร์มเข้าใส่พวกอัลแทเรี่ยนที่บินเข้ามาให้ร่วง โดยที่แอนเดรียกราดยิงบริซครอสโบว์ช่วยสอยพวกอัลแทเรี่ยนไปด้วย แต่หน่วยซิลเวอร์เบิร์ดก็โผล่มา "แอร์ชู้ตเตอร์ ชาร์จช็อต" นิคยิงกระสุนพายุขนาดใหญ่ 5 อันพุ่งอัดเสยใส่ซิลเวอร์เบิร์ดจนตัวถูกบิดเกรียวและร่วงลงพื้นดับอนาจไปสี่ตัว ที่เหลืออีก 6 ตนนั้น "เมดเดนสแลชเชอร์" แอนเดรียจำต้องใช้คลื่นคมมีดใหญ่ซัดผ่าตัดท่อนบนของพวกซิลเวอร์เบิร์ดขาดสะบั้นไป "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" น็อกกี้และคีธระดมยิงใส่พวกอัลแทเรี่ยนกันอย่างหนักหน่วง "ป้างงง ป้างงง" แจ็สส่องยิงพวกอัลแทเรี่ยนเข้าที่หัวจนร่วง "ตรุ้งงงงง ตรูมมมม" แด็กซ์ยิงระเบิดเป่าพวกซิลเวอร์เบิร์ดให้กระเจิงไป 3 กลุ่มด้วยกัน "ข่าวร้าย รีฟตรวจจับสัญญาณหน่วยรบของอัลแทเรี่ยนอีก 2 ระลอกเคลื่อนตัวมา หากแต่พวกมันส่งมาทีละ 2-3 หน่วยเพื่อตัดกำลังพวกเราเลยน่ะ" โดซี่บอก

              "ว่าแต่ จะให้เราเร่งพลังชุดเกราะได้หรือยังละ" แทนบอก

              โดซี่กล่าว "ไม่ดีหรอก เพราะพวกมันต้องการให้เรากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหมดแรง แล้วค่อยรุมตรงนั้นไว้น่ะ" แล้วก็บอก "ดังนั้น ฉันอนุมัติให้พวกนายใช้อาวุธของพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินกันเลยน่ะ" จากนั้นรีฟก็ส่งกล่องอาวุธมาให้ ส่วนพวกน็อกกี้นั้น.... เฟรดและนาเดียช่วยยกกล่องเข้ามาด้วย

              "หมอเบ็ตตี้ไล่นายออกจากห้องหมอแล้วสิ" น็อกกี้แซว

              เฟรดบอก "แค่หมอสั่งให้ฉันช่วยเท่านั้นเองละน่า" แล้วก็วางกล่องลง คีธเลยเปิดกล่องดู จนเจอแค่เลเซอร์ไรเฟิ่ล 2 กระบอก เลเซอร์สไนเปอร์ไรเฟิ่ล และเฮฟวี่เลเซอร์แมชชีนกัน "เออ หมอบอกไว้ว่า พวกนายยังเร็วไปที่จะใช้อาวุธหนักที่พวกคุณพ่อไปยึดมาน่ะ" เฟรดเตือน

              "เอาเถอะ อย่างน้อยพวกคุณโดซี่คงไม่ให้เราใช้ปืนแบบเดียวไปได้หรอกน่ะ" แด็กซ์กล่าว แล้วก็รีบหยิบเฮฟวี่เลเซอร์แมชชีนกันออกมา น็อกกี้ คีธและแจ็สรีบหยิบปืนออกมาจนหมดกล่อง แล้วนาเดียและเฟรดก็รีบขนกล่องออกไป

              "เจ้าหน้าที่ทุกนาย ประจำสถานีรบ เราต้องการให้ยานลำนี้และเหล่าผู้ลี้ภัยรอดจากการบุกของพวกอัลแทเรี่ยนให้ได้" โดซี่บอก แล้วเหล่าลูกเรือรีบมาหยิบปืนเลเซอร์ไรเฟิ่ลและอาวุธหนักที่โผล่ตามทางเดินเข้าประจำสถานีรบกันโดยเร็ว

              "ระลอกสองส่งมา 12 หน่วยแรกแล้วละคะ" รีฟบอก แล้วพวกทหารอัลแทเรี่ยนก็แห่มาพร้อมกัน "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แฮรี่และมาริใช้คาดัลท์ไรเฟิ่ลกราดยิงใส่พวกอัลแทเรี่ยนที่บุกมาจนล้ม "ซูมมมมมมมมมมมมม" มาริใช้เครื่องฉีดไฟใต้ปืนเล่นงานพวกอัลแทเรี่ยนที่พุ่งโฉบเข้ามาจนมอดไหม้ "ตรุ้งงงงง ตรูมมมม" ส่วนของแฮรี่ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดถล่มใส่หน่วยอัลแทเรี่ยนจนกระเด็นไป "แชดดดดด" แดนใช้ไชน์นิ่งแคนน่อนยิงใส่หน่วยรบอัลแทเรี่ยนที่โผล่ออกมาจากป่าจนกระเจิงพร้อมกับ "ฟ้าววววว ตรูมมม" แทนใช้เดรคัสลันเชอร์ยิงจรวดเป่าหน่วยรบอัลแทเรี่ยนสองหน่วยจนล้มไปเกินครึ่ง "แชดดด แชดดดด" แอนเดรียใช้คาเทลิฟมาสเก็ตยาวยิงใส่พวกอัลแทเรี่ยน โดยที่นิคช่วยยิงด้วยจูดัฟซ์ไทรปูเซตจัดการกับพวกอัลแทเรี่ยนที่ยังไม่มาถึง ซึ่งก็จัดการกับหัวหน้าหน่วยที่อยู่หลังต้นไม้จนต้นไม้ทะลุแหว่งเป็นรูขึ้นมา

               "ปืนของพวกทรอยอาร์แรงทั้งอนุภาพการยิงและแรงถีบอย่างเห็นได้ชัดเลยนะครับ" นิคบอก เพราะตนไม่ได้สวมเกราะหนามา เลยถูกแรงถีบของปืนผลักให้เกือบจะเสียหลักไปด้วย

              "ให้ตายสิ นึกว่าปืนของพวกแขกอวกาศมันไม่ถีบแรงเหมือนกับของทรอยอาร์เสียอีกน่ะ" แทนบ่น

              แดนกล่าว "อย่างน้อย เกราะที่เบย์แทนด์สร้างให้ก็ช่วยป้องกันตรงนี้ไปได้บ้างละน่ะ"

              "แชดๆๆๆๆๆๆ แชดดดด แชดดด" พวกน็อกกี้ระดมยิงใส่พวกอัลแทเรี่ยนที่บุกมาอย่างไม่ลดละ โดยที่มีพวกทหารในยานช่วยยิงใส่ "ไม่ชอบเลยที่ให้ทหารของป้าโดซี่มาช่วยไว้น่ะ" น็อกกี้บอก

              คีธกล่าว "อย่างน้อย เราก็มีคนช่วยไว้กันอยู่แล้วละน่า" แล้วก็ยิงใส่ทหารอัลแทเรี่ยนให้ดับดิ้นไป 

              "แกว็กกกก" เหล่าทหารอัลแทเรี่ยนพุ่งออกมาหมายจะเล่นงานนิคและแอนเดรีย "วึมมม ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" นิคใช้ไนท์แฟลชเบลดฟันใส่พวกอัลแทเรี่ยนที่บุกเข้ามาจนตัวขาด "หวับบบ ป้ากกก ปึกกก เปรี้ยงงงง" แอนเดรียหลบการจู่โจมของทหารอัลแทเรี่ยนที่หวดกงเล็บใส่ พร้อมกับฟาดอาร์มสวิปเปอร์เบรคอัดใส่ ทั้งหวดหลังแขนอัดใส่ ตบด้วยหลังมือ และฟาดฝ่ามืออัดเข้าที่หน้าไปเต็มๆ "แชดดด แชดด แชดดด" พวกซิลเวอร์เบิร์ดบุกมายิงเลเซอร์เข้าใส่แอนเดรีย โดยที่เธอหลบไม่ทัน "วืบบบ หวับ เพี้ยะๆๆๆ" แต่เปียใหญ่กลับหมุนปัดเลเซอร์ออกไป "เมื่อกี้เปียผมยาวคุณขยับได้นิ คุณทำมันหรือ" นิคบอก

              แอนเดรียส่ายหน้า "ฉันก็ไม่รู้น่ะ นิโคลัส ตอนนี้เรารีบหยุดพวกอัลแทเรี่ยนก่อนเถอะ" แล้วก็ "แกร็กๆ ป้างงงงง โครมมม" ใช้ช็อคแคนน่อนยิงใส่อัลแทเรี่ยนซิลเวอร์เบิร์ดให้กระเด็นไป "ดริฟท์ไดรมอนด์" นิคยิงกระสุนเกล็ดน้ำแข็งเข้าแช่แข็งพวกซิลเวอร์เบิร์ดให้ร่วงลงมาแตกกระจายไป

              "เฮ้ยย ว้ากกก" แทนหวดแส้เลเซอร์วิฟเล่นงานพวกซิลเวอร์เบิร์ดให้ล้มแน่นิ่งไป พร้อมกับ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวววว ตรูมมม" ใช้วอร์แกรมไรเฟิ่ลกราดยิงทั้งกระสุนปืนและจรวดเป่าซ้ำไป "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ป้างงงงงง" แดนเองก็สู้ด้วยวอร์แกรมไรเฟิ่ลทั้งกระสุนปืนและลูกซองพลังคลื่นเล่นงานทหารอัลแทเรี่ยน แล้วก็สลับมาใช้ "แชดดดด ตรูมมมมม" ไชน์นิ่งแคนน่อนยิงใส่พวกซิลเวอร์เบิร์ดที่บินมาให้ร่วงลงสู่พื้น "ว้ากกกกกก" ทหารอัลแทเรี่ยนหน่วยหนึ่งบุกชาร์จเข้ามา "ฮึยยยย" แดนไม่มีทางเลือกนอกจาก "แวบบบบ เปรี้ยงงง" ใช้หมัดดินระเบิดเป่าพวกอัลแทเรี่ยนให้กระเจิงไป "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แฮรี่กราดยิงใส่พวกอัลแทเรี่ยนให้ล้มไป และสลับมาใช้บริซครอสโบว์ยิงไปด้วย แต่.... "อื้ดๆๆๆๆๆ" เสียงเตือนดังให้มาริได้ยิน "แย่ละสิ จัมป์บู๊ตเกิดขัดข้อง คุณโดซี่ ช่วยแก้ให้หน่อยสิคะ" มาริกล่าว

              โดซี่บอก "จัมป์บู๊ตไม่ได้ขัดข้องหรอก คาเซคาว่า หากแต่เกราะมันตอบสนองต่อการต่อสู้ของเธอไม่ได้แล้วต่างหากละ"

              "แบบนั้นก็แย่ละสิ ถ้าขืนปล่อยให้พวกนกบ้ามันระเบิดบั้นท้ายกระสวยได้ เราไม่มีทางออกไปจากดาวได้แน่ๆเลยวะ" แทนบ่น

              โดซี่กล่าว "รีฟ ออกไปแทนคาเซคาว่าเดียวนี้เลย" รีฟพยักหน้า โดซี่เลยกระทืบพื้น "ครืดดด ฟ้าววววว" เพื่อให้เก้าอี้เด้งส่งรีฟออกนอกยานไป "หวับๆๆๆ ตึก ฟ้าวววว" เมื่อเธอตีลังกาลงสู่พื้นแล้ว เธอรีบพุ่งแดชไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งพวกอัลแทเรี่ยนตรงมาเพื่อจัดการกับมาริที่เริ่มขยับตัวไม่ได้แล้ว "ไชน์นิ่งแฟลร์" รีฟเปิดฉากยิงกระสุนระเบิดดอกไม้ไฟเข้าเล่นงานพวกอัลแทเรี่ยนในทันที พร้อมกับโดดลงมา "ไลท์นิ่งเซเบอร์" ฟาดฟันด้วยกระบี่ไฟฟ้าช็อตพวกอัลแทเรี่ยนแบบซิลเวอร์เบิร์ดจน "ตรูมมม บรึมม" ร่างระเบิดขึ้นในทันที

              "รีบกลับยานโดยเร็วคะ" รีฟกล่าวพร้อมกับใช้บัสเตอร์อาร์มยิงไล่พวกอัลแทเรี่ยนไป มาริแม้ไม่ยอมรับ แต่แฮรี่ส่ายหน้าแทนคำพูด เธอเลยต้องรีบถอยออกมาก่อน "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกน็อกกี้และเหล่าลูกเรือต่างระดมยิงปืนแสงใส่พวกอัลแทเรี่ยนแบบไม่ยั้ง

              "ไม่ไหวแล้วละครับ หัวหน้า พวกเราเข้าไปไม่ได้เลยนะครับ" ทหารอัลแทเรี่ยนที่บุกจู่โจมฝั่งที่พวกน็อกกี้อยู่กล่าวขึ้น และถูกยิงจากระยะไกลเข้าที่หัวโดยแจ็สในทันที

              "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟ้าววววว ตรูมมมมม" แทนระดมยิงวอร์แกรมไรเฟิ่ลถล่มใส่พวกอัลแทเรี่ยนอย่างหนักหน่วง จน... "แชดดดดด ป้ากกกก" ทหารอัลแทเรี่ยนตนหนึ่งยิงปืนแสงเข้าใส่หน้าตักขวาของแทนอย่างจังๆ "กะ ว้ากกกก" ซึ่งก็ทำให้แทนร้องลั่นขึ้นมา แต่เจ้าตัวก็ฮึดและพยายามยกปืนยิง "แชดดดด เปรี้ยงงง" ทหารอัลแทเรี่ยนอีกตนก็ยิงใส่ตรงต้นแขนซ้ายของแทนให้เป็นรูโตๆไปอีก จนเปิดช่องให้พวกทหารอัลแทเรี่ยนแห่แหนเข้ามา "แชดดดด แชดดด แชดดด" แดนเลยรีบเข้ามาช่วยโดยใช้ไชน์นิ่งแคนน่อนยิงใส่ทหารอัลแทเรี่ยนให้ล้ม เช่นเดียวกับพวกที่บุกประจัญบานมา "ป้างงงง ป้างงงงง" แดนยิงช็อคแคนน่อนเป่าอัลแทเรี่ยนตัวที่เล่นงานแทนจนปลิวกระเด็นไป จากนั้นก็ "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว ตรูมมม บรึมมม บรึมมม" หยิบเดรคัสลันเชอร์มายิงถล่มใส่พวกอัลแทเรี่ยนที่มาสมทบจนล้มกลิ้งไป "ไอ้พวกแมนิเกเตอร์นั้น....ขนาดเราเล่นงานพวกพ้องแล้ว พวกมันยังโต้ตอบกลับแบบนี้ ถอยกลับเร็ว" นายกองเห็นท่าไม่ดีจึงรีบสั่งพวกทหารกลับไปโดยเร็ว

              "ศัตรูไปแล้วละคะ" รีฟรายงานเพราะตอนนี้พวกอัลแทเรี่ยนถอยไปแล้ว

              แอนเดรียบอก "ฝั่งของฉันก็ด้วยนะคะ แต่ เมื่อกี้ได้ยินเสียงของคุณแทนดังแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอะไรไปหรือเปล่าน่ะ"

              "ไหวมั้ยละ ทันกุน" แดนกล่าวโดยที่เปิดหน้ากากออกแล้ว เช่นเดียวกับทุกๆคนรีบรุดมา พร้อมกับเฟรดและนาเดียที่มาพร้อมกับหน่วยพยาบาลด้วย

              แทนกล่าวทั้งๆที่เจ็บอยู่ "ไอ้พวกนกต่างดาวมันยิงฉันเข้าที่แขนและขา จนฉันขยับนิ้วไม่ได้แล้วน่ะ" แดนเลยรีบกดปุ่มสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนบนท้องของแทนจนปลดเกราะให้อยู่ในกำไลข้อมือข้างซ้ายแล้ว

              "ทนเอาหน่อยนะครับ" เฟรดกล่าวพร้อมกับเอาผ้าพันแผลมาพันตรงแผลตรงต้นแขนและต้นขาโดยเร็ว แล้วก็ช่วยแดนยกตัวแทนขึ้นเปล ซึ่งตนก็ยกตรงรักแร้ของแทน ส่วนแดนจับตรงต้นขาทั้งสองไว้

              "แฮรี่ รีบพาแทนไปให้เบ็ตตี้รักษาโดยเร็วเลย" แดนบอก แฮรี่พยักหน้าแล้วรีบไปกับแทนและทีมพยาบาลโดยเร็ว ซึ่งนาเดียช่วยตามไปดูด้วยอีกที

              "ไม่รู้ว่าคุณแทนจะเป็นอะไรบ้างมั้ยละคะ" มาริบอก

              แดนกล่าว "หวังว่าอาการของแทนคงจะไม่เลวร้ายไปมากกว่าที่คิดหรอกน่ะ" และหันมาบอก "ต้องขอบใจลูกมากเลยน่ะ ที่ช่วยแทนไว้น่ะ เฟรด"

              "ผมแค่ ทำในสิ่งที่ควรทำเท่านั้นเองนะครับ แม้ว่าคุณแทนมีสีหน้าไม่อยากจะช่วยก็ตาม แต่ผมไม่ยอมให้ใครต้องมาทรมานไปมากกว่านี้นะครับ" เฟรดบอก

              แอนเดรียกล่าว "ดีแล้วละ เฟรด ที่ตัดสินใจลงมือโดยทันทีเลยน่ะ ที่เหลือ คงต้องขึ้นกับคุณเบ็ตตี้แล้วละ"

              "หวังว่าคงไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกเลยนะ" แฮรี่บอก

              แดนพยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น เรารีบกลับเข้ายานดีกว่าน่ะ อย่างน้อย เราก็ต้องมีใครสักคนดูแลแทน หลังจากผ่าตัดไปแล้วน่ะ"

              "ดีเลยนะครับ เพราะว่าพ่อกับพวกเหนื่อยกันมาแล้วน่ะ...." เฟรดบอก

              แต่แดนสังเกตุเห็นบางอย่างเข้า "เฟรด อันตราย!!!!" แล้วรีบวิ่งเข้าผลักเฟรดให้ออกไปจน "ป้างงงงง" เสียงปืนดังขึ้นมา แดนก็ชักกระตุกเพราะถูกยิงเข้าที่หน้าอกซ้ายอย่างจังๆ และล้มในท่าคุกเข่าไว้ ซึ่งก็ทำให้ทุกๆคนที่อยู่ใกล้ตกใจไม่น้อย

              "พ่อ!!!" เฟรดร้องลั่นพร้อมกับรีบวิ่งเข้ามาประคองตัวแดนเอาไว้ "พ่อ ทำใจดีๆไว้นะ พ่อ" เฟรดกล่าว

              แดนกระอักเลือดก่อนจะพูดไปว่า "เฟรด อย่าโวยวายสิ พ่อรู้สึกไม่ดีเลย ถ้าลูกยังโวยเหมือนเด็กๆแบบนั้นน่ะ"

              "คุณแดนคะ อย่าพูดอะไรเลยนะคะ" แอนเดรียกล่าว โดยรีบวิ่งเข้ามาใกล้ๆ

              มาริเลยเงยหน้ามาเห็น.... "นั้นใครน่ะ!!!!" ไอ้โม่งชุดดำที่อยู่บนกิ่้งไม้สูงพร้อมกับปืนยาว ซึ่งก็ตกใจขึ้นเมื่อมาริตะโกนลั่นขึ้นมา มันจึงพยายามจะเล็งปืนหมายจะยิงใส่เฟรด "โปรเทคชั่นสเฟียร์ เอนเคจเมนต์" แอนเดรียเลยใช้บาเรียซัดเข้าใส่ไอ้โม่งพลซุ่มยิงจนร่วงตกต้นไม้ไป มาริและนิคเลยรีบรุดมาพาตัวออกมาโดยเร็ว

              "บอกมา ใครใช้ให้แกเล่นงานหัวหน้าแดนกันมิทราบละ" มาริกล่าวพร้อมกับเอามีดสั้นนินจาออกมาจ่อตรงคอไอ้โม่ง ซึ่งถูกนิคดึงหน้ากากออกไปแล้ว มือสังหารไม่พูดอะไร

              แอนเดรียบอก "คุณคงเป็นทหารฝ่ายเราอย่างงั้นละสิคะ คุณมีเหตุผลอะไร ที่ต้องยิงคุณแดนกันด้วย ในเมื่อ คุณแดน ไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้คุณเสียหน้าหรืออับอายกันเลยนิ"

              "นั้นสิ คุณแอนเดรียว่ามาเช่นนี้ แล้วคุณยิงพ่อผมทำไมละ" เฟรดถาม

              มือสังหารเลยตอบไปว่า "พ่อของเธอ รู้เยอะจนเกินไป ฉันได้รับคำสั่งให้ตามเก็บพ่อของเธอ พร้อมกับทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะรู้เรื่องที่พ่อของเธอทราบมาลงไปซะ" แล้วก็แสยะยิ้มขึ้นมา "แต่....เกรงว่าฉันจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาขัดขวางแผนการของท่านไปได้หรอก แม้กระทั่งพวกไทรเวเซอร์เลยก็ตาม....ไม่มีใครขวางแผนของท่านผู้นั้นไปได้หรอก....ฮึก" พูดจบก็ชักตาตั้งไปในทันที

              "คุณคาเซคาว่า ชีพจรของคนๆนี้...." นิคกล่าว

              มาริส่ายหน้า และหันมายังเฟรด พร้อมกับ ตะโกนลั่นไปทันที ".....เฟรด มัวทำอะไรอยู่ รีบพาหัวหน้าแดนไปรักษาเดียวนี้เลย เร็วเข้าสิ"

              "ครับๆๆ อดทนหน่อยนะ พ่อ" เฟรดกล่าวและรีบประคองแดนเข้ายานไปโดยเร็ว แอนเดรียเลยรีบตามไปด้วย ซึ่งก็....

              "นี้มันแย่มากเลยน่ะ แทนโดนยิงเข้าตรงต้นแขนและต้นขายังไม่ว่า หัวหน้าแดนยังถูกลอบยิงแบบนี้เลยน่ะ" เบ็ตตี้กล่าว หลังจากที่เธอทำแผลตรงต้นขาของแทนไปแล้ว

              "แล้วไอ้ตัวคนยิงนั้นละ มันรอดหรือเปล่า" แทนบอก และพยายามจะลุก แต่กลับถูกแด็กซ์ห้ามไว้

              แอนเดรียส่ายหน้า "เกรงว่าเขาไม่ยอมให้เรารู้ว่า ใครสั่งเขาให้มาจัดการกับคุณแดน เขาเลยปลิดชีพตนเองไปแล้วคะ"

              "ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า มีคนส่งมือสังหารมาเก็บพวกเราแฝงตัวมาอยู่ในยานลำนี้กันแต่แรกน่ะ" แฮรี่กล่าว และหันมาถาม "แล้วตัวมือสังหารนั้นละครับ"

              แอนเดรียบอก "มาริและนิคพาศพเข้ามากันแล้วละ"

              "แบบนี้ไม่ดีแน่ๆเลยละ เฟรด เธอรีบแกะกระสุนออกจากตัวแดนเดียวนี้เลย" เบ็ตตี้บอก

              น็อกกี้บอก "เฮ้ย ป้า ไม่ดีหรอกมั่ง เฟรดเป็นแค่ผู้ช่วยหมอ ไม่เก่งพอที่จะผ่าตัดเอากระสุนออกได้หรอกน่า"

              "ตอนนี้ฉันต้องห้ามเลือดให้แทนก่อน แฮรี่ รีบพาพวกน็อกกี้ออกนอกห้องไปรอข้างนอกเดียวนี้เลย" เบ็ตตี้กล่าว

              แฮรี่เลยต้องรีบพาพวกน็อกกี้ไปรอข้างนอก ซึ่งนาเดียรีบมา "เมื่อกี้นี้ ลุงแดนถูกยิงอย่างงั้นนะหรือ เป็นความจริงหรือ"

              "จริงแท้แน่นอนนะ นาเดีย" แฮรี่บอก

              นาเดียกล่าว "แต่ ในเมื่อพวกคุณและคุณแอนเดรียอยู่ด้วยแบบนี้ ก็น่าจะหยุดยั้งมิให้ลุงแดนโดนเหมือนกับลุงแทนกันบ้างสิ"

              "เหตุการณ์มันเกิดเร็วมากเลยน่ะ นาเดีย พวกเราเองก็อ่อนแรงมาก จนไม่รู้ถึงอันตรายที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าหัวหน้าแดนจะเห็นมือสังหาร ที่เล็งปืนมาทางเฟรด เลยผลักเฟรดออกไปจนโดนกระสุนเข้าให้นะสิ" แฮรี่เล่า

              นาเดียถาม "แล้วเฟรดเป็นอะไรบ้างมั้ยละ"

              "หมอนั้นเกือบโดนยิงแล้วละ แต่ตอนนี้ป้าหมอให้ไอ้เฟรดอยู่ในห้องไว้ เพื่อช่วยแกะกระสุนออกน่ะ" น็อกกี้บอก

              นาเดียกล่าว "ไม่ไหวหรอกน่า ฉันกลัวว่าเฟรดจะทำพลาดนะสิ"

              "พ่อแน่ใจหรือ ว่าผมต้องทำเช่นนั้นจริงๆน่ะ" เฟรดกล่าว แดนไม่พูดแต่ก็พยักหน้าแทนคำตอบไว้

              แอนเดรียกล่าว "หมอเบ็ตตี้คะ มันจะดีหรือคะ ที่ให้เฟรดลงมือ ทั้งๆที่เฟรดไม่มีประสบการณ์เลยน่ะ"

              "ฉันเองก็รู้ ว่าเฟรดไม่เคยฝึกการผ่าตัดอย่างจริงๆจังๆ ได้แต่ช่วยในเรื่องจัดยาและอุปกรณ์แพทย์กันไว้ และการบีบบังคับให้เฟรดทำนั้น ย่อมหมายถึงมีโอกาสที่เขาทำพลาดสูงมากแน่นอน เพราะไม่ได้เตรียมใจให้มาทำแบบนั้นแต่แรกไว้" เบ็ตตี้บอก พร้อมกับทำแผลที่ถูกยิงตรงต้นแขนของแทนไว้ "แต่ ถ้าเขาทำพลาดหรือทำไม่ได้ขึ้นมา มันจะกลายเป็นตราบาปติดตัวเฟรดไปตลอดกาล ดังนั้น เฟรดจะต้องทำได้สถานเดียวนี้แหละ ต่อให้เขาไม่มั่นใจหรือกลัวกันก็ตามน่ะ"

              แอนเดรียบอก "ที่คุณพูดมานิ แปลว่าคุณรู้แล้วว่าเฟรดต้องทำได้เลยสิคะ"

              "......" เฟรดมองหน้าแดนที่จ้องตาเขาอย่างจริงจังขึ้นมา เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจ สวมถุงมือพร้อมกับเอาคีมจ้วงเข้าไปในรูแผล "กือ อืออ" แดนรู้สึกเจ็บมากๆ จนเฟรดชะงัก แต่ผู้เป็นพ่อกลับห้ามด้วยการส่ายหน้าไว้ ซึ่งก็ทำให้เฟรดที่คลายมือออกนั้น... "กึกๆๆ ฟึ่บบบ" คีบเอากระสุนออกมาจากรูแผล พร้อมกับ "แก็ก" เอากระสุนวางบนถาดไป พร้อมกับรีบเอาสำลีมาเช็ดเลือดตรงแผลโดยเร็ว แอนเดรียก็ถอนใจขึ้นมา เบ็ตตี้ซึ่งทำแผลให้แทนเรียบร้อยจึงรีบเดินมา "ขอบใจมากน่ะ เฟรด ที่ช่วยแบ่งเบาภาระนี้ไว้ ตอนนี้เธอรีบออกไปได้แล้วละ"

              แอนเดรียกล่าว "งั้นฉันขอพาเฟรดออกไปกันนะคะ" เบ็ตตี้พยักหน้า แล้วแอนเดรียก็พาเฟรดออกไปข้างนอกห้องหมอ

              "เฟรด ลุงแดนล่ะ" นาเดียถาม เฟรดไม่ตอบอะไร ได้แต่เดินออกไป น็อกกี้พยายามจะตามไปถาม

              "พอเหอะ น็อกกี้ คุณแดนโดนยิงเพราะเอาตัวเองปกป้องเฟรดไปนั้น ก็ทำให้เฟรดเสียใจมากพอแล้ว อย่าไปซ้ำเติมเลยดีกว่า" คีธห้ามไว้ และหันมาถาม "แล้ว เฟรดถอนกระสุนได้หรือเปล่าละครับ คุณแอนเดรีย"

              "ฉันพูดความจริงเลยนะ ว่าเฟรด ทำได้แล้วนะสิ" แอนเดรียกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงไม่น้อย นาเดียและคีธได้ฟังก็อดเป็นห่วง ขนาดน็อกกี้ แจ็ส และแด็กซ์เองก็ไม่กล้าพูดอะไรแย่ๆออกมา ส่วนเฟรดถึงกับไปนั่งกุมหน้าเอาไว้ โดยที่แฮรี่ยืนมองด้วยความเห็นใจขึ้นมา

              "คุณแฮรี่ ผม....ผมไม่รู้ว่า ผมควรจะทำยังไงในตอนนี้ดีละครับ" เฟรดกล่าว "และคุณคงจะโกรธผมที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อของผมนั้น..."

              "ที่ถูก ควรเป็นพวกเรามากกว่าน่ะ เฟรด ไม่ใช่แค่นายคนเดียวหรอก เพราะพวกเราเองก็ไม่รู้ว่าจะมีคนปองร้ายเอาชีวิตพวกเราและพวกนายกันแต่แรกน่ะ" แฮรี่กล่าว "อีกอย่าง เรื่องที่เกิดขึ้นกับหัวหน้านั้น หัวหน้าเป็นคนช่วยนายเอาไว้เอง ซึ่งเป็นสิ่งที่หัวหน้าทำกันเสมอ ต่อให้ไม่มีใครร้องขอหรือต้องการก็ตาม ดังนั้น นายจะคิดยังไงก็ได้ แต่เรื่องมันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วละ"

              เฟรดบอก "ส่วนหนึ่งเพราะตอนนี้ อันตรายอาจจะเกิดกับพวกเราได้ทุกเมื่อ ต่อให้เราหนีหรือหลบซ่อนกันเลยสิครับ"

              "ใช่ นั้นเป็นเรื่องที่พวกทหารอย่างเรา อย่างคีธและพวกน็อกกี้ อย่างหัวหน้าและทุกๆคน รวมถึงฉัน แม้กระทั่งพวกไทรเวเซอร์เองด้วย ต่างก็รู้ ว่าการต่อสู้ต้องมีบาดเจ็บสาหัสหรือได้บาดแผลมาแน่นอน แต่ที่พวกเราเลือกที่จะเผชิญหน้านั้น ไม่ใช่เพราะว่าเราเห็นเป็นเรื่องสนุกหรือคิดว่านี้เป็นเกมส์ แต่เพราะเราไม่อยากให้ใครหน้าไหนต้องเดือดร้อนจากน้ำมือของพวกศัตรูที่ไม่หวังดีต่อพวกเรา ไม่มีใครต้องมาเดือดร้อน ไม่มีใครสมควรต้องตายกันทั้งนั้น ต่อให้เราทำให้ศัตรูต้องตายไปเลยก็ตาม" แฮรี่บอก "เพราะทหารมีหน้าที่ปกป้องประชาชนและเสียสละแรงกายและแรงใจ เพื่อปกป้องอธิปไตยจากศัตรูผู้รุกราน ซึ่งนั้นหมายถึงการสละชีพเพื่อความสงบสุขของทุกๆคน รวมถึงนายและพรรคพวกกันด้วยน่ะ"

              เฟรดบอก "แต่ผมไม่รู้ว่าพ่อจะรอดหรือเปล่า และถ้าพ่อจากไปขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าผมจะทำยังไงกับเรื่องหลังจากนี้ดีละ"

              "ถึงนายไม่ถามฉัน ฉันก็เดาคำตอบของนายได้อยู่แล้วน่ะ เฟรด ว่านายต้องการอะไรกันแน่น่ะ" แฮรี่กล่าวและเดินจากไป โดยที่เฟรดมองดูฝ่ามือของเขาขึ้นมา

              "ความต้องการจริงๆของฉันนะหรือ" เขากล่าว ซึ่งแอนเดรียและนาเดียเดินมาปลอบใจเฟรดต่อ

              หลังจากนั้น ที่ห้องสะพานเดินเรือ โดซี่เรียกเฟรด นาเดีย คีธ น็อกกี้ แจ็ส แด็กซ์ และแอนเดรีย โดยที่แฮรี่และมาริ นิคและรีฟยืนอยู่ด้วย

              "ถึงแม้เบ็ตตี้จะต้องใส่แว่นเพื่อรักษาการมองเห็นของเธอในการผ่าตัดทำแผล แต่เธอก็ทำได้ดีจนช่วยแดนและแทนเอาไว้ได้แล้วละ" โดซี่กล่าว ทุกๆคนในห้องรู้สึกดีใจ ส่วนเฟรดเองก็นิ่งแม้จะได้ยินข่าวดีขึ้นมา

              นาเดียบอก "ดีแล้วละ เฟรด ที่ลุงแดนและลุงแทนไม่เป็นไรแล้วน่ะ" เฟรดก็พยักหน้าแทนคำตอบไว้

              "แล้วอาการของหัวหน้าและคุณแทนละครับ" แฮรี่ถาม

              โดซี่ได้ฟังก็ถอนใจก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความวิตกไปว่า "แดนอาการทรงตัวแล้ว แม้ว่ากระสุนจะไม่ทะลุถึงหัวใจและออกไปข้างหลังได้ เพราะเกราะที่แดนใส่ช่วยลดทอนความเสียหายไปได้ก็จริง แต่...เบ็ตตี้ต้องการให้แดนพักรักษาตัวตลอดเพื่อให้แน่ใจว่าปอดไม่มีอาการติดเชื้อขึ้นมากันน่ะ" แล้วก็พูดอีกว่า "ส่วนทันกุนแย่หน่อย เพราะลำแสงได้ทะลุเส้นเอ็นต้นแขนซ้ายและต้นขาขวา จนทำให้เขาไม่สามารถขยับแขนและขาดังกล่าวได้เลยน่ะ"

              "แล้วไม่มีเครื่องเชื่อมเส้นเอ็นใหม่เลยหรือครับ" แจ็สถาม

              โดซี่ส่ายหน้า "แย่หน่อย ที่เราเตรียมยารักษาโรคมาเพื่อใช้รักษาลูกเรือและผู้ลี้ภัยที่เราช่วยเหลือมาเท่านั้นเอง และถึงพาแทนกลับถึงดาวเพื่อทำการรักษาจนขยับแขนขาได้ ก็คงออกรบเหมือนเมื่อก่อนได้ไม่ดีพอแน่นอนเลยละน่ะ"

              "แปลว่า ต่อให้ตัดแขนขาของลุงที่ใช้การไม่ได้ออก ก็เท่ากับว่าลุงแทนต่อสู้ไม่ได้เหมือนเก่าเลยละสิครับ" แด็กซ์กล่าว

              โดซี่พยักหน้า "ตอนนี้ แดนและแทนไม่อยู่ในสภาพที่จะต่อสู้หรือออกปฏิบัติการณ์ได้ เหมือนกับเบ็ตตี้กันแล้ว แฮรี่ คาเซคาว่า ฉันเสียใจจริงๆ ที่ควรจะต้องบอกว่า...."

              "ไม่นะคะ ฉันกับแฮรี่สามารถออกปฏิบัติการณ์ได้ โดยไม่ต้องพึ่งใครช่วยเลยนะคะ" มาริพูดออกตัวไปทันที

              โดซี่บอก "หรือ แต่ฉันเกรงว่า เธอในตอนนี้ ไม่ต้องสวมชุดเกราะนกพิราบกันแล้วละ เพราะขีดความสามารถของเธอเกินอัตราที่ชุดเกราะเดิมของเธอจะรับได้แล้ว แม้เธอจะบอกว่าพร้อมก็จริง แต่...." แล้วก็ลงมานั่งไขว้ห้างตามเดิม "....ฉันจำเป็นต้องยุบหน่วยรบวิหคนี้ซะ นับแต่วันนี้เป็นต้นไปแล้วละ"

              "เดียวสิ ป้า นี้ป้าไม่คิดจะฟอร์มทีมใหม่กันเลยหรือ" น็อกกี้บอก

              แจ็สกล่าว "นั้นสิครับ เพราะยังมีพวกเราอยู่ อย่างน้อยให้พวกเราทำหน้าที่นี้แทนพวกคุณแดนจะดี..."

              "ป้ากกก" โดซี่ตบพนักเก้าอี้ซ้ายไปเต็มแรงจนเกิดเสียงดังขึ้นมา "แดนและแทนมีอันเป็นไปภายในคราวเดียวก็แย่พออยู่แล้ว ฉันไม่อยากจะเสียใครหน้าไหนไปอีกสักคนสองคนกันแล้ว ถึงแม้ว่าฉันอยากจะทำอย่างงั้นก็จริง แต่ฉันจะแน่ใจได้ไง ว่าพวกเธอซึ่งมีประวัติเสียและชอบหาเรื่องใส่ตัวอยู่ตลอดนั้น จะทำได้ตามที่ว่ามากันจริงๆเลยน่ะ"

              แอนเดรียบอก "แต่ ถ้าคุณยุบหน่วยรบวิหคทิ้ง แล้วคุณจะเหลือใครไว้ปกป้องทุกๆคนจากพวกอัลแทเรี่ยนละคะ"

              "เจ้าหน้าที่แอนเดรีย.....ด้วยคำสั่งพิเศษของผู้บังคับบัญชากองกำลังแบ็คไซด์คอมแบท ขอตั้งให้เธอ....เป็นหัวหน้าหน่วย โดยมีแฮรี่ มาริ นิคและรีฟเป็นสมาชิกในทีม ปกป้องทุกคนในยานลำนี้จากพวกอัลแทเรี่ยน รวมถึงนำทีมออกปฏิบัติการณ์ตามปกตินี้แหละ" โดซี่กล่าว

              แอนเดรียได้ฟังก็บอกปัดไปว่า "เดียวสิคะ คุณโดซี่ มันไม่เร็วไปหน่อยหรือคะ ในเมื่อฉัน...."

              "มันก็จริงอยู่น่ะ ที่มันเสี่ยงมากกับการมอบหมายงานให้กับคนที่ไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ไม่สิ มอบให้กับคนที่ไม่เคยเป็นหัวหน้าสั่งการใครมาเลยก็ตาม" โดซี่บอก แล้วก็ส่งตราดาวห้าแฉกสีเงินให้กับแอนเดรีย "แต่....ฉันเชื่อเสมอ ว่าเธอต้องทำได้แน่ๆเลยละ"

              แอนเดรียถาม "แล้วจะแน่ใจได้ไงละคะ ว่าฉันจะทำได้จริงๆ"

              "บอกตามตรงนะ ว่าตอนที่เลือกใครมาเป็นหัวหน้าหน่วยรบวิหคนั้น ฉันลังเลไม่น้อย ที่ต้องเลือกระหว่างแดนและทันกุน เพราะคนหนึ่งฉันดูแล้วไม่เข้มแข็งเลย อีกคนมุทะลุดุดันห้าวเป้งแม้ว่าจะมีประสบการณ์มากกว่าแดนอยู่หน่อยหนึ่งก็ตาม ฉันเลยให้แดนเป็นหัวหน้าคุมทั้งทีมไว้ โดยไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าการให้ทั้งหน่วยปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี" โดซี่กล่าว "แต่พอได้เห็นความเสียสละของแดนที่ปกป้องคนอื่น ทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตนเอง เข้าใจความรู้สึกของทุกๆคนได้ดียิ่งกว่าที่ฉันคิดไว้ ซึ่งนั้นก็ทำให้ฉันคิดถูกแล้ว ที่เลือก คนที่ดูแลและปกป้องลูกน้องไม่ให้เป็นอันตรายอย่างแดน เป็นหัวหน้าหน่วยรบวิหคในตอนนี้ ซึ่งเธอก็เหมือนกับแดนด้วยนี้แหละ"

              แอนเดรียบอก "มันก็จริงนะคะ ที่ฉันเลือกที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องมิให้คนอื่นต้องเดือดร้อนกันนะคะ แต่นั้นไม่เป็นการบีบบังคับกันเลยหรือคะ"

              "ฉันไม่ได้บีบบังคับให้เธอเป็นหัวหน้ากันหรอกน่ะ เพราะเธอจะเป็นหัวหน้าหรือไม่ มันก็ขึ้นกับความสมัครใจของเธอกันด้วยน่ะ" โดซี่กล่าว แอนเดรียเลยมองแฮรี่ มาริ เฟรด นาเดียและพวกน็อกกี้กัน เธอจึงตัดสินใจที่จะ...

              "คุณโดซี่ ฉันจะรับผิดชอบตรงนี้ไว้ แม้จะรู้ว่าฉันอาจจะพึ่งพาอะไรไม่ได้เลยก็ตาม แต่ฉันจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังนะคะ" รับเหรียญตราไว้ "เพียงแต่ ฉันจะรับผิดชอบตรงนี้ จนกว่าพวกไทรเวเซอร์จะมาถึงกันได้นะคะ"

              "คุณแอนเดรีย....ถ้ามีปัญหาอะไรก็ ถามผมได้เลยนะครับ" แฮรี่กล่าว มาริได้แต่พยักหน้ารับแทนคำตอบ

              แอนเดรียกล่าว "นิค รีฟ คงต้องรบกวนพวกเธอสองคนกันแล้วละน่ะ"

              "เข้าใจแล้วละครับ คุณแอนเดรีย อย่างน้อย มีคุณเป็นหัวหน้าก็วางใจได้บ้างนะครับ" นิคกล่าว

              รีฟบอก "พวกเราจะช่วยคุณอย่างเต็มที่นะคะ" แอนเดรียพยักหน้า

              "ไม่ไหวหรอกมั่ง โดซี่ กับการให้คุณครูแสนดีมีเมตตามาเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์กันน่ะ" แทนบอก "ต่อให้เธอสามารถยิงปืนได้ ต่อสู้กับพวกนกต่างดาวได้เหมือนกับพวกไทรเวเซอร์ก็จริง แต่....ฉันก็รู้ว่าแอนเดรียไม่น่าพาทีมรอดไปได้หรอกมั่ง"

              โดซี่บอก "นายอ้างเรื่องที่แอนเดรียเกือบถูกศัตรูลอบกัดจากด้านหลัง และไม่ระมัดระวังตัวดีเท่ากับโฟรซ่า จนทำให้หน่วยปฏิบัติการณ์ชั่วคราวประสบกับความล้มเหลวได้อย่างงั้นสิน่ะ"

              "แต่คุณก็อย่าลืมนะครับ ว่าในกลุ่มไทรเวเซอร์ คุณแอนเดรียมีพลังในการสร้างบาเรียป้องกันตนเองและผู้อื่นอยู่ ถึงเธอจะไม่เน้นจู่โจมหนักหน่วงเหมือนกับคุณเนคมาดูซัม ไม่ว่องไวและเด็ดขาดเหมือนกับคุณพีวิลและคุณเจเนล แต่ผมเชื่อว่าเธอต้องทำได้แน่นอนนะครับ" แฮรี่กล่าว

              แทนบอก "กลัวว่าเธอจะคุมทีมไม่เป็นทีม แต่จะเหมือนชั้นเรียนมัธยมกันซะมากกว่าน่ะ"

              "แต่เธอคิดถูกแล้วละ โดซี่ ที่ให้แอนเดรียเป็นหัวหน้าทีม แม้ว่าจะเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่งกันน่ะ" แดนบอก และไอไปสามทีด้วยกัน "แม้เธอไม่เคยที่จะเป็นหัวหน้าทีมคุมใครได้ก็จริง แต่จากการที่เธอร่วมทีมกับพวกพ้องไทรเวเซอร์มาตั้งแต่มหาสงครามในอวกาศจนถึงบัดนี้ เธอก็คงได้ประสบการณ์จากการทำงานเป็นทีมกันมาบ้าง แม้ว่าเธอไม่เคยนำทีมเองเลยสักครั้งก็ตามน่ะ"

              โดซี่บอก "แต่เพราะว่าเธอเป็นครูสอนวิชาให้กับพวกเฮเรเค้นมาก่อน เธอจึงรู้นิสัยเสียของเด็กนักเรียนที่เธอสอนได้เป็นอย่างดี และรู้วิธีจัดการได้ แม้ว่าเธอจะสู้กับบางคนที่กร่างมากกว่าเธอก็ตาม แต่การที่เธอสามารถใช้ความเป็นครูในการสอนพวกบีสทอยด์เกรียนๆลงได้นั้น ก็คือเหตุผลที่ฉันให้แอนเดรียเป็นหัวหน้ากันนี้แหละ"

              "พวกบีสทอยด์เกรียนๆมันเชื่อฟังเพราะกลัวเกรงดาบมือหนึ่งกันซะมากกว่ากระมั่ง" แทนยังไม่เชื่อถือในตัวแอนเดรียสักเท่าไหร่

              เบ็ตตี้บอก "เอาเถอะ เพราะตอนนี้ เราประสบปัญหากันขึ้นมาโดยที่รู้สาแก่ใจดีว่ามันต้องเกิดขึ้นกันแล้ว เราจึงไม่ควรมีเรื่องและปัญหาในเวลานี้จะดีกว่าน่ะ"

              "เบ็ตตี้พูดถูกแล้วละ แม้ว่าฉันจะสั่งยุบหน่วยรบวิหคกันไปแล้ว ถึงจะเหลือแฮรี่และมาริอยู่เลยก็ตาม แต่ฉันก็ตัดสินใจไปแล้ว ฉันจะไม่ยอมแปรเปลี่ยนหรือบิดพริ้วไปได้แน่ๆ" โดซี่บอก และหันมาถาม "เบ็ตตี้ เธอคิดว่ามาริเก่งมากเลยหรือเปล่าละ"

              เบ็ตตี้บอก "ฉันรู้อยู่ตลอดแล้วละ โดซี่ ว่ามาริพร้อมอยู่ตลอดเวลาแล้ว ที่จะรับความท้าทายและภาระอันหนักอึ้งกันมากขึ้นแล้ว ซึ่ง...ฉันเห็นว่ามันถึงเวลาแล้วละ"

              "คุณเบ็ตตี้ นี้คุณคงไม่ได้หมายความว่า...." มาริกล่าว

              เบ็ตตี้พยักหน้าแล้วก็เอากำไลข้อมือแปลงร่างของเธอมา "คาเซคาว่า มาริ ต่อจากนี้ไป เธอไม่ใช่ไรซิ่งพีเจี้ยน พิราบทะยานฟ้ากันแล้ว แต่เธอ.... คือบริซสวอลโลว์ นางแอ่นเหินลม คนที่สองต่อจากฉันแล้วน่ะ"

              "นี้แปลว่า คุณตั้งใจให้ฉันสืบทอดชุดเกราะของคุณกันแต่แรกแล้วนะหรือคะ" มาริบอกอย่างตกใจไม่น้อย

              เบ็ตตี้พยักหน้า "ที่จริง ฉันควรจะให้เธอตั้งนานแล้ว แต่....เรื่องเดียวที่ฉันกังวลก็คือ เธอยังยึดติดกับการมองคนอื่นที่ภายนอกและปัญหาในอดีต มากกว่าความสามารถและการกระทำในตอนนี้ ซึ่งฉันที่เป็นหมอยังแก้ไม่ได้เลย เพราะเรื่องนี้ มันต้องแก้ที่เธอเองก็ตาม" แล้วก็มอบกำไลแปลงร่างให้กับมาริ "ดังนั้น ฉันจึงอยากจะให้เธอรู้จักปรับตัวกันเสียบ้าง เพราะการยึดติดกับอะไรสักอย่างโดยไม่รับเอาสิ่งอื่นมา นั้นจะทำให้เธอโดดเดี่ยวเดียวดายกันอย่างแน่นอนน่ะ"

              "แต่ว่า ฉันเองก็....คุณก็รู้นิสัยฉันดีแล้วนิ ว่ามันเป็นเรื่องยากมากเลยนะคะ" มาริบอก

              เบ็ตตี้ยิ้มก่อนจะบอกว่า "เรื่องมันจะยากหรือง่าย มันไม่ได้ขึ้นกับใครหรืออะไรหรอก แต่ขึ้นกับตัวเธอเองนี้แหละ มาริ" และหันมายังแฮรี่ "ฉันฝากให้เธอช่วยดูแลมาริด้วยละ"

              "เข้าใจแล้วละครับ คุณโดซี่" แฮรี่กล่าว และกล่าวกับแดนและแทนไปว่า "พวกคุณก็รักษาตัวให้หายกันนะครับ" ทั้งสองพยักหน้า ซึ่งโดซี่ แฮรี่และมาริก็เดินออกไป

              แทนถอนใจไปว่า "นี้แสดงว่า หน่วยรบวิหคของเรานั้น จะจบแค่พวกเรากันแล้วหรือวะ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆกันวะ"

              "ไม่หรอก ทันกุน ตรงข้ามเลยต่างหากละ หน่วยรบวิหคยังคงอยู่ต่อไปได้นี้แหละ แม้ว่า....นั้นอาจจะหมายถึงเฟรด ต้องรับช่วงต่อจากฉันเลยก็ตามน่ะ" แดนบอก

              แทนกล่าว "บ้าน่า นี้นายเชื่อว่าลูกนายจะสืบทอดต่อจากนายได้หรือ ทั้งๆที่ฉันเห็นว่าลูกนายไม่ชอบทหารอย่างพวกเรา และอยากจะเป็นหมอซะมากกว่าน่ะ" แล้วก็สบถ "ถ้าไม่เพราะไอ้มือสังหารที่ไม่รู้ว่าใครส่งมันมาละก็น่า...."

              "ต่อให้มือสังหารไม่จัดการกับฉันก็จริง พวกอัลแทเรี่ยนก็ต้องเล่นงานฉันจนเสียชีวิตไปซะเองนะสิ ซึ่งนั้นเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ช่วยให้โดซี่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกับเรื่องนี้ แม้จะรู้ว่าเธอไม่ยอมให้เฟรดและพวกเสี่ยงอันตรายได้แน่นอนน่ะ" แดนบอก

              แทนถาม "แล้วเธอพอจะรู้มั้ย ว่าไอ้มือสังหารนั้น มันตายยังไงละ"

              "ฉันได้เช็คศพมือสังหารคนนั้นแล้ว พบว่ามีแคปซูลพิษไซยาไนต์ฝังติดอยู่ ซึ่งมันจะแพร่พิษเข้าสู่หัวใจโดยตรงในทันทีที่มือสังหารนั้นถูกจับได้แล้วนะสิ" เบ็ตตี้บอก "ถึงแม้ว่าตัวมือสังหารไม่มีหลักฐานบ่งชี้ตัวตนได้ อย่างรอยสัก รอยปาน รอยแผลเป็น หรือร่องรอยของการผ่าตัดใบหน้ามา แต่ฉันก็รู้ ว่าทหารคนนี้เป็นชาวซัลคาเลี่ยนกันน่ะ"

              แทนบอก "แน่ใจหรือ เบ็ตตี้ เพราะว่าทหารซัลคาเลี่ยนมันก็เหมือนๆกับพวกเรากันน่ะ"

              "แต่พวกเรามีใช้แคปซูลยาพิษติดไว้ตรงหัวใจกันหรือเปล่าละ" เบ็ตตี้ถามกลับ

              แทนส่ายหน้าเพราะรู้ว่า "พวกที่มีของแบบนี้อยู่ ก็มีแค่พวกนักโทษเลวที่ขังคุกแล้วไม่หลาบจำและถูกส่งมาเป็นทหารแนวหน้าให้พวกแมนิเกเตอร์เชือดเท่านั้น ซุปเปอร์โซลเยอร์อย่างฉันและแดน รวมถึงพวกท่านประธานาธิบดี ไม่ยอมให้มียาพิษติดไว้ในตัวกันได้หรอกน่ะ"

              "ใช่ เพราะว่าตัวแคปซูลนี้ ฉันได้เช็คข้อมูลมาแล้ว พบว่ามันคือแคปซูลยาพิษที่ทหารซัลคาเลี่ยนเอาไปใส่ให้กับพวกนักโทษระดับอุกฉกรรจ์ หลังจากที่แรซัลก้าไม่เหลือสถานีเรือนจำตายดาบหน้าแล้วนะสิ ซึ่งมันควรจะหายสูญไปในการรบที่โฟรเดริม-4 กันแล้วน่ะ" เบ็ตตี้บอก

              แดนกล่าว "และคนๆนั้นคงจะเก็บของสิ่งนี้ไว้อย่างลับๆ เอาไปติดตั้งให้กับมือสังหารพร้อมออกคำสั่งเก็บฉันแน่นอน"

              "แสดงว่า ตัวการมันตั้งใจจะจัดการกับนาย แต่ใช้ลูกนายเป็นตัวล่องั้นละสิ" แทนบอก แดนพยักหน้า

              เบ็ตตี้กล่าว "และตัวการคงจะเตรียมการมาดี เพราะแน่ใจว่าพวกเราต้องไม่ได้อะไรจากมือสังหารตนนี้แน่นอนน่ะ"

              "ฉันเชื่อเสมอ ว่าเธอต้องทำได้แน่นอน เธอจะเป็นหัวหน้าหรือไม่ มันขึ้นกับความสมัครใจของเธอเองน่ะ" แอนเดรียนึกถึงคำพูดของโดซี่ พร้อมกับมองเหรียญตราดาวสีเงินอยู่บนมือ

              "คุณมาสวาร์ทาร์ ทุกๆคน ฉันคิดถูกแล้วหรือคะ ที่ตอบรับข้อเสนอ แม้จะไม่มั่นใจว่าฉันจะทำได้เหมือนกับที่พวกคุณทำหรือเปล่า" แล้วก็เงยหน้าขึ้นมา "แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วละ ว่าทำไมพวกคุณถึงตัดสินใจลงมือกระทำเดียวนี้กัน เพราะพวกคุณไม่อยากจะให้ใครต้องเดือดร้อนจากการที่พวกคุณไม่ได้ลงมือเอง และพร้อมจะรับภาระความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้ทุกเมื่อ เฉกเช่นเดียวกันกับที่ฉัน ต้องรับเพื่อปกป้องทุกๆคนจากพวกอัลแทเรี่ยนไว้น่ะ"

              โดยในเวลานี้ เฟรดนั่งนิ่งอยู่ในห้อง ซึ่งคีธยืนเฝ้าอยู่ นาเดียช่วยทีมช่างซ่อมแซมเครื่องยนต์ในยานไป โดยที่พวกน็อกกี้ช่วยเรื่องเก็บกวาดอาวุธของพวกอัลแทเรี่ยนเข้ามา ซึ่งแฮรี่คอยดูอยู่ด้วย ด้านนิคและรีฟก็ทำการซ่อมแซมเกราะของแดนและแทน ไปพร้อมกับเกราะนกพิราบที่ตอนนี้มาริไม่ได้ใส่แล้ว ด้านมาริเองก็อยู่ในห้องพักของเธอ "แกร็กกก" โดยเปิดกล่องยาวสีเทาออกมา ซึ่งมีดาบคาตานะอยู่ข้างในหนึ่งเล่มด้วยกัน "ฟึ่บบบบบ ครี้งงงง" มาริหยิบดาบออกจากกล่องพร้อมกับดึงออกจากฟัก แล้วก็ "ฟึ่บบบ ฟึ่บบบ ฟึ่บบบบ" ฟาดไปรอบๆสามทีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะ "ครี้งงงง กรี้กกก" เสียบดาบเก็บเข้าฟักตามเดิม 

    โปรดติดตามตอนต่อไป ในตอนที่ 27 ยุทธการทวงคืนขั้นที่ 2 เหล่านักรบสี่แขนผ่าดงหมี เมื่อเหยี่ยวตัวใหม่อุบัติขึ้นมา
    ตอนหน้า ฟิเกซได้พบกับเหล่านักรบควอเดี่ยมที่นำโดยคนที่คาดไม่ถึง เข้ามาช่วยต่อกรกับพวกบรูซาเรมที่พยายามจะบดขยี้พวกเขาให้ราบคาบ ในเวลาเดียวกันที่ เฟรดตัดสินใจบางอย่าง ซึ่งจะเปลี่ยนชาตะกรรมของเขาไปตลอดกาล

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×