ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3 การเรียกเกณฑ์พวกพ้องอันแสนวุ่นวาย นามใหม่ของกองรบเดิม ไทรเวเซอร์ ครึ่งแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24
      0
      25 ก.ย. 64

              ราชวังที่ดาวเดลานอน จักรวรรดิ์เดลมูดัลนั่งเครียดอย่างมากกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
              "ข้าไม่คิดเลยว่า ขนาดดาวล่มสลาย เผ่าพันธุ์สูญสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลงด้วยมือของพวกเรา พวกออร์เลี่ยนก็ยังหัวเราะเยาะเย้ยพวกเราเป็นครั้งสุดท้ายกันเสียได้" เดลมูดัลกล่าว "บูเรนนอฟ ทีนี้เจ้าจะทำเช่นไร ในเมื่อตอนนี้ การรุกรานของพวกเรานั้น ไม่เพียงข้าต้องเสียทหารและราชฑูตที่ส่งไปพร้อมกับชนเผ่าของเราและของพันธมิตรนับสิบนับร้อย ขนาดคอมมานด์ไทแทนอันทรงอำนาจยังต้องพ่ายแพ้ให้กับยานรบออร์เลี่ยนไปได้กันน่ะ"
               บูเรนนอฟกล่าว "หนึ่งเหตุผลที่พวกเราพ่ายแพ้ต่อพวกแมนิเกเตอร์กันนั้น เพราะว่า....เราสู้กับพวกศัตรูที่เรารู้เพียงแค่ผิวเพิ่น และสู้โดยไม่ได้คาดคิดว่าฝ่ายตรงข้าม มีการเตรียมพร้อมเอาไว้เป็นอย่างดีกันแต่แรก พวกเราถึงได้เสียหายมากมายมหาศาลกันนะครับ"
              "ท่านแม่ทัพใหญ่พูดมามีเหตุผลนะครับ เสด็จพ่อ ถ้าเราจะเอาชนะศัตรูให้ได้เต็มประสิทธิภาพ เราจำต้องมีข้อมูลของพวกศัตรูให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะ ข้อมูลที่ทำให้พวกเราได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามกันด้วยนะครับ" เดลวูลแนะนำ
              เดลมูดัลกล่าว "เจ้ากำลังจะบอกว่า ถ้าเรารู้ถึงความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามได้ละก็ เราก็สามารถเอาชนะศัตรูจากตรงนั้นได้เลยสิน่ะ เดลวูล"
              "ขอรับท่านพ่อ แต่สิ่งสำคัญในตอนนี้ก็คือ เราไม่ควรจะเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามฟื้นตัวขึ้นมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกเวเซอร์กันด้วยแล้ว เราต้องกำจัดพวกนี้ไปให้ได้เสียก่อนนะครับ" เดลวูลกล่าว เดลมูดัลพยักหน้า
              บูเรนนอฟบอก "ทั้งอัลแทเรี่ยน เทรโอเซี่ยม อินเซคเที่ยม เมคครอฟิค ไซเอทนอยด์ แมทเฟริม บรูซาแรม และซอร์แรคต่างก็เสียกำลังคนไปไม่น้อยแล้ว ถ้าเป็นเรื่องจารกรรม การแทรกซึมเพื่อล้วงหาข้อมูลและก่อวินาศกรรมให้พวกศัตรูเสียหายได้มากมายมหาศาลกันละก็....แต่มันเป็นเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีไม่น้อยนะขอรับ องค์จักรพรรดิ์"
              "ถ้ามัวแต่ห่วงศักดิ์ศรีในฐานะนักรบ แล้วปล่อยให้ศัตรูชนะได้อย่างต่อเนื่องละก็ ข้าคงต้องลบสมญาผู้ชนะสิบทิศออกโดยถาวรแล้วละ บูเรนนอฟ" เดลมูดัลตำหนิ แล้วก็สั่งการให้ "เรียกจักรวรรดิ์แดคน็อกซ์และซิรีสตรัลให้มาเดียวนี้เลย"
              บูเรนนอฟพยักหน้าเพื่อให้ทหารตะโกนเรียก "อัญเชิญจักรพรรดิ์นาซดอลแห่งแดคน็อกซ์ และจักรพรรดิ์แคสเฟียสแห่งซิรีสตรัล เข้ามาได้"
              "ตึงงงง ตึงงงงง ตึงงงง" "ตึก ตึก ตึก" จักรพรรดิ์ทั้งสองจึงก้าวเดินมา โดยตนหนึ่งเป็นมนุษยผลึกที่มีใบหน้าหยักประทับเป็นลูกตาและปาก สวมชุดรัดรูปสีเทาแม้จะมีผลึกงอกโผล่มาก็ตาม ก้าวเดินด้วยฝ่าเท้าที่หนักแน่น ส่วนตนหนึ่งนั้นเป็นต่างดาวในเสื้อคลุมสีดำมืดเหมือนเงา โดยที่เผยร่างกายซึ่งปกคลุมด้วยผ้าสีน้ำเงินเข้มที่รัดร่างอันผอมสูงเอาไว้ "แด่องค์มหาจักรพรรดิ์เดลมูดัล พวกเรามารายงานตัวแล้วละขอรับ" จักรพรรดิ์ทั้งสองกล่าว
              เดลมูดัลพยักหน้า "ท่านทั้งสอง ลุกขึ้นได้แล้ว" แล้วก็กล่าวกับ "ท่านแคสเฟียส ท่านทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกันหรือเปล่าละ"
              "ท่านเดลมูดัล.....ข้าทราบเรื่องความปราชัยของพวกท่านในการสู้รบกับพวกแมนิเกเตอร์กันแล้ว....เหตุผลของความพ่ายแพ้ในคราวนี้ เพราะ....พวกเราไม่ได้ถูกส่งไปช่วยกันแต่แรก จึงทำให้ฝ่ายพันธมิตรของท่านต้องสูญเสียผู้คนไปไม่ใช่น้อย เช่นเดียวกับต้องเสียทรัพยากรแร่ธาตุที่พวกเรามอบให้ รวมถึงคอมมานด์ไทแทนของพวกท่านด้วย" แคสเฟียสกล่าว
              จักรพรรดิ์นาซดอลเผยใบหน้าเต็มไปด้วยเกล็ดสีเทาดำ ดวงตากลมรีทั้งสองและปากยาวกล่าวว่า "และ....ความปราชัยส่วนหนึ่งของพวกท่านนั้น เพราะว่าฝ่ายตรงข้าม เจอสุดยอดอาวุธที่ชนเผ่าออร์เลี่ยนค้นพบมา อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามเองก็มีการเตรียมพร้อม ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะสมาพันธ์อวกาศคงชี้แจงรายละเอียดต่อโคเคสและพวกแมนิเกเตอร์กันไว้ อีกทั้งพวกท่านได้ข้อมูลมาแค่ผิวเพิ่น และคิดว่าพวกท่านส่วนมากสามารถเอาชนะกองกำลังที่เคยเอาชนะจักรพรรดิ์และจักรพรรดินีของแรซัลก้าลงไปได้อย่างง่ายๆ สุดท้าย พวกท่านกลับเป็นฝ่ายที่แพ้พ่ายมาง่ายดายเสียเองกันนะครับ"
              "ด้วยเหตุนี้แหละ ที่ข้าเรียกท่านมา ก็เพื่อขอให้พวกท่านรับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา และ....หาทางทำลายแหล่งทรัพยากรของพวกมันไม่ให้ใช้สร้างยุทโธปกรณ์ใดๆได้อีก แม้กระทั่งการทำลายสิ่งที่ชาวออร์เลี่ยนเหลือไว้เองด้วย ก่อนที่พวกสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ค้นพบสิ่งที่ชาวออร์เลี่ยนเหลือไว้และนำมาใช้หยุดยั้งพวกเรากันนี้แหละ" เดลมูดัลกล่าว
              บูเรนนอฟบอก "ซึ่งข้าหวังว่า ความแข็งแกร่งของพวกซีรีสตรัล และความสามารถในการจารกรรมอันยอดเยี่ยมของแดคน็อกซ์ จะช่วยกำชัยชนะมาให้พวกเรากันบ้าง ในช่วงที่พันธมิตรส่วนมากอยู่ในระหว่างการเตรียมพร้อมและการฟื้นฟูกำลังพลกันอยู่น่ะ"
              "วางใจได้ครับ ท่านบูเรนนอฟ เรื่องการแทรกซึมเข้าไปในดาวแคสเซเดี่ยน-3 นั้น ข้าพเจ้าได้จัดการไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อนแล้วละครับ" นาซดอลกล่าว
              เดลวูลเอ่ยชม "สมกับที่เป็นท่านนาซดอล ท่านลงมือได้เร็วเหมือนเช่นเคยเลยน่ะ"
              "มิบังอาจครับ องค์ราชทายาทเดลวูล เพราะพวกศัตรูเก่งกล้า เราจำต้องลงมือให้ไวและแนบเนียนมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แม้ว่านั้นจะเป็นความเสี่ยงที่เราต้องสูญเสียคนของเรา ในการรุกรานครั้งแรกกันก็ตามนะครับ" นาซดอลกล่าว
              บูเรนนอฟบอก "ท่านแคสเฟียส ตอนนี้ข้าอยากจะให้ท่าน นำกำลังคนของท่าน บุกจู่โจมเขตชุมชนสำคัญๆ รวมถึงพื้นที่แหล่งทรัพยากรธรรมชาติสำคัญๆบนดาวแคสเซเดียน-3 พร้อมกับ ส่งกองรบของท่านลงไปพร้อมกับพวกพันธมิตรที่เหลือ บุกยึดแคสเซรอน-4 ให้ได้ก่อนที่พวกเวเซอร์จะไหวตัวได้ทันเลยน่ะ"
              "เรื่องนี้ข้าพร้อมไว้นานแล้ว ด้วยบัญชาของท่านแม่ทัพใหญ่และองค์มหาจักรพรรดิ์ ข้าจะทำให้ดาวดวงที่ 2 ของพวกมันพังพินาศลงจงได้นะครับ" แคสเฟียสกล่าว
              เดลมูดัลพยักหน้า "ต่อให้พวกมันมียานรุ่นใหม่ของออร์เลี่ยนที่หลงเหลือไว้ แต่พวกมันคงโต้ตอบอะไรไม่ได้กันแล้วละ"

              กลับมาที่ดาวแคสเซเดี่ยน-3 หน้าบ้านเวเซอร์เฮาส์ตอน 2 ทุ่มหลังจากเหตุการณ์รุกรานนั้นจบลง พีวิล มาสวาร์ทาร์และเนคมาดูซัมมานั่งอยู่บนโต๊ะม้าหินใต้ต้นซากุระ
              "ว่ากันตามตรงเลยน่ะ ว่าการตัดสินใจของบรอนเซอรูทนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องกันแล้วน่ะ พีวิล" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              พีวิลพยักหน้า "ใช่ การสู้รบกับพวกเดลอาเนี่ยนในคราวนี้ หนักหนากว่าที่เราคิดเอาไว้ พวกนั้นไม่เพียงเล่นงานให้พวกเราเสียหายมากมายกันอย่างเดียว แต่ยังเล็งมาที่ประชาชนแมนิเกเตอร์ที่ไม่มีทางสู้ได้เลยด้วย ครั้นพวกเราจะพาพวกพ้องไปกันทั้งหมด ก็เท่ากับว่าเราไม่เหลือใครไว้ปกป้องประชาชนที่อยู่ที่ดาวดวงนี้เลยน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งก็เพราะ....เราเคยพลาดท่าให้กับไอ้เควโทรดิมัสกันนี้แหละ" เนคมาดูซัมเอ่ยถึงอาชญากรตัวเป้งที่ร้ายกาจมากที่สุดในช่วงมหาสงคราม "ในช่วงที่พวกเรารับมือกับพวกไซมาเทนกันนั้น เควโทรดิมัส ผู้ซึ่งแทรกซึมมากับพวกผู้อพยพได้จู่โจมพวกแมนิเกเตอร์ที่อยู่ในอาร์คด้วยการใช้พลังล้างสมองควบคุมจิต รวบรวมสมัครพรรคพวกขึ้นมาเป็นจำนวนมาก จนทำให้ผู้นำโคเคสพลอยถูกครอบงำตามไปด้วย แม้ว่าผบ.บัลโต้และผบ.เฮลิคที่รู้เรื่องนี้และรวบรวมพวกพ้องที่ยังพอช่วยได้ หนีมาสมทบกับพวกเรา เพื่อหาโอกาสต่อสู้กับพวกโคเคสต่อนั้น เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะพวกเราไม่ได้อยู่ปกป้องหรือหยุดยั้งเควโทรดิมัสไปได้เลย ไม่สิ ถึงพวกเราอยู่ ก็ต้องพลอยกลายเป็นสมุนของมันอยู่ดีนี้แหละ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "แม้ว่าเราจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์จนช่วยโคเคสและพวกที่ถูกครอบงำเอาไว้ได้ก็จริง แต่นั้นก็บ่งบอกถึงจุดอ่อนและปัญหาหลักสำคัญที่อันตรายมากที่สุด นั้นคือ เราไม่ได้ให้ใครอยู่เฝ้าปกป้องที่นี้กันไว้ จนผู้คนตกอยู่ในอันตรายไปเลยน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ พวกเราทุกคน ต้องร่วมแรงร่วมใจกันสู้กับพวกศัตรูที่มีจำนวนมากและมีความร้ายกาจมาก ซึ่งในตอนนี้ กำลังทหารส่วนมากล้วนบาดเจ็บเพราะการจู่โจมของพวกเดลอาเนี่ยนกันด้วยน่ะ" พีวิลกล่าว "ซึ่งแม้พวกบรอนเซอรูทจะยอมอยู่ที่นี้ เพื่อปกป้องชาวเมืองในเขตเฟิร์สฮิลล์ ร่วมกันกับพวกแอร์ไพล์มมิสที่ทำงานให้กับผบ.บัลโต้ และเหล่าทหารของพวกเราที่ยังคงปฏิบัติงานได้อยู่ แต่พวกเราที่เหลือนั้น ยังมีภารกิจอันใหญ่หลวงรอคอยกันอยู่ และจำต้องออกไปจากดาวเพื่อปฏิบัติการณ์นอกระบบกันด้วยน่ะ"
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ตอนนี้ เรามียานไทรแองเกิ้ลแล้ว บริคซ์และพวกลูกเรือพร้อมทำงานได้อยู่แล้ว ที่เหลือคือ....เราต้องดึงทีมผู้ช่วยกลับมากันเสียก่อนน่ะ"
              "ตอนนี้เรามียานอวกาศแล้ว ก็เท่ากับว่า พวกเราสามารถเดินทางไปยังเขตอวกาศเจเนซิล มุ่งหน้าไปที่ดาวเมลลอท-4 อันเป็นดาวของพวกบีสทอยด์ เพื่อเกณฑ์พวกเฮเรเค้นกลับมาเข้าเทอมสองกันแล้วนะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "เรื่องที่เราไปไกลยังระบบดาวอื่นนั้น ไว้ทีหลังก็ได้น่ะ มาส เพราะเรายังปรับแต่งยานไทรแองเกิ้ลได้ไม่สมบูรณ์พอที่จะบินออกนอกระบบดาวเลยน่ะ"
              "ถ้าอย่างงั้น ฉันจะไปตามไกซ์และมิลด์มา รวมถึงตามตัวคุณเบติสและคุณวิลด้ากลับมาด้วย เรื่องที่พวกเราถูกเล่นงานไปนั้น คุณเบติสและคุณวิลด้าคงไม่ปฏิเสธกันแน่นอนน่ะ" พีวิลกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "ส่วนเรื่องสรรพวุธนั้น ฉันได้ติดต่อฟูแรมและปู่ฟูริแกรมให้มาช่วยงานกันแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะแวะไปหาและพามาที่นี้กันเลย"
              "แต่เราจำเป็นต้องหาใครมาช่วยพวกเรา ในส่วนที่พวกบรอนเซอรูทไม่อยู่กันเสียก่อนน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลบอก "ถ้าเป็นรุ่นพี่สตีฟ รุ่นพี่โฟรน่า แล้วก็ไซโคลเนียละก็....พวกเขาเหมาะที่สุดกันแล้วละ"
              "แล้วก็ฟิเกซด้วย แม้หมอนี้ไม่ชอบอยู่กันเป็นทีม แต่ด้วยเรื่องที่ระบบดาวของเราโดนบุกไปนั้น ฟิเกซคงไม่นิ่งดูดายและรีบกลับมาเช็คดูความปลอดภัยของเพื่อนพี่น้องและป้ารัคชูมี่กันแน่นอนน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "นั้นก็ได้ข้อสรุปกันแล้วละ ว่าแต่....พวกเราจะทำยังไงกับทีมเวเซอร์ในตอนนี้กันละ"
              "ฉันคิดมานานแล้วละ ว่าการต่อสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนก็ดี การรับมือกับพวกศัตรูที่นอกเหนือจากพวกเดลอาเนี่ยนที่เราเองยังไม่รู้นั้น ไม่ใช่แค่พวกเราต้องแข็งแกร่ง แต่....เราต้องงัดทักษะความสามารถเฉพาะตัวของพวกเราออกมาให้ได้มากที่สุดกันด้วย เพราะศัตรูในคราวนี้ มันจ้องจะเล่นงานพวกเรา รวมถึงทุกเผ่าในอีกดาวหนึ่งกันด้วย" เนคมาดูซัมกล่าว "ถึงแม้ว่าเราจะมียานรบที่ทรงพลัง แต่เราก็มีแค่ยานลำเดียว แล้วก็ลูกทีมเพียงไม่ถึงร้อยหน่วย เรายังต้องการแรงสนับสนุนจากทุกฝ่ายกันด้วย เพราะไม่ใช่แค่พวกเราฝ่ายเดียวที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ เผลอๆ พวกอีเนอไมนด์ก็ดี พวกครอสตรีมก็ดี ทุกเผ่าที่อยู่ที่ดาวแคสเซรอน-4 ก็ดี พอรู้ว่าดาวของเราหรือของพวกเขาถูกบุก เลยคิดอยากจะบุกเดลอาเนี่ยนกลับบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนเลยละ"
              พีวิลบอก "โดยเฉพาะกับหัวหน้าเผ่าบางคนที่อารมณ์ร้อนและใจร้อนด้วยแล้ว เราต้องหยุดพวกเขาไม่ให้ถูกพวกเดลอาเนี่ยนเล่นงานจนสิ้นชีพและถูกจับไปเพื่อเค้นข้อมูลมากันด้วยน่ะ"
              "แล้วนายเองก็คงอยากจะตามหาพี่น้องชาวแกตไทซ์ที่ยังไม่มีวี่แววกันด้วยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ถึงพวกเขาจะไม่ยอมรับในการกระทำของฉัน หรือคิดว่าสิ่งที่ฉันกับพวกนายทำมันผิดก็ตาม ฉันก็ต้องพิสูจน์ให้พวกเขารู้ถึงเจตจำนงของฉัน ของพ่อของฉันไว้ด้วย แม้ว่านั้นจะหมายถึงการปะทะกับพวกแกตไทซ์กันเลยก็ตามน่ะ"
              "เพราะพวกเขา คงจะรู้ถึงชาตะกรรมของโอเวอร์เรสกันแล้วสิน่ะ" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า และกล่าวไปว่า "มาสวาร์ทาร์ ฉันอยากจะให้นาย....นำกองกำลังเวเซอร์กันเลยมั้ย...."
              "เนคมาดูซัม ฉันรู้ดีนะ นายเชื่อใจฉันในฐานะผู้นำกันมาก่อนก็จริง แต่....ฉันรู้ดี ว่าการต่อสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนที่ใช้ทุกวิธีเพื่อชัยชนะกันนั้น ไม่ใช่แค่แผนการที่สามารถรับมือกับฝ่ายตรงข้ามได้กันอย่างเดียวหรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก "แต่ชัยชนะที่แท้จริงนั้น มันอยู่ที่....การลงมือกระทำอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ซึ่งพร้อมด้วยความระมัดระวังและได้ตัดสินใจเอาไว้ก่อนแล้ว กับการตัดสินใจที่แน่วแน่เปี่ยมด้วยความกล้าหาญอย่างแรงกล้า ซึ่งสามารถผลักดันพวกเราไปยังชัยชนะกันได้ สามอย่างนี้แหละ คือกุญแจแห่งชัยชนะกันนี้แหละ"
              พีวิลบอก "พูดง่าย นายพูดถึงฉันที่มีความว่องไวในการลงมือ และการกระทำที่เด็ดขาดและมีการคาดคิดไว้ก่อนแล้ว กับการตัดสินใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความกล้าของเนคมาดูซัมเลยสิน่ะ"
              "ใช่ ว่ากันตามจริงแล้ว คนที่ควรจะเป็นหัวหน้านั้น น่าจะเป็นนายมากกว่าน่ะ เนคมาดูซัม" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "แต่ มันจะดีหรือ ในเมื่อคลอเวฟเองก็ไม่เห็นด้วยกันน่ะ"
              "เหตุผลหนึ่งที่นายควรจะเป็นหัวหน้านั้น เพราะฉันเห็นว่า มีแต่นายเท่านั้นแหละที่เบรคคลอเวฟไม่ให้ก่อเรื่องกันได้ แม้ว่านั้นจะทำให้คลอเวฟไม่พอใจเลยก็ตาม แต่ก็จำเป็นจริงๆ เพราะฉันคงใช้เหตุผลกับคลอเวฟไม่ได้แน่ๆเลยละ" มาสวาร์ทาร์บอก "ที่สำคัญ นายก็ผ่านการรบอย่างหนักหน่วงทั้งการรบที่โฟลเดริม-4 แล้วก็ร่วมรบกับพวกเรามาหลายต่อหลายครั้งนั้น นายช่วยเหลือพวกเราไว้ได้มาหลายครั้ง ก็เท่ากับว่านายกล้าพอที่จะช่วยปกป้องพวกเราและทุกๆคนกันไว้ เท่ากับว่านายมีประสบการณ์มากพอที่จะเป็นหัวหน้าได้ ส่วนฉันกับพีวิล ก็จะช่วยนายอีกแรงหนึ่งด้วยน่ะ"
              พีวิลบอก "ต่อให้ใครเป็นหัวหน้านั้น มันไม่สำคัญไปกว่า การที่พวกเราต้องทำเพื่อปกป้องความสงบสุขของระบบดาวที่พวกเราอยู่ รวมถึงของสมาพันธ์อวกาศกันด้วยน่ะ เพราะนี้เป็นโอกาสที่พวกเราได้ปฏิบัติการณ์เพื่อไถ่บาปในส่วนที่ฝ่ายแรซัลก้าก่อการรุกรานขึ้นมากันด้วยน่ะ"
              "เฮ้อ นายสองคนนิ ให้ความหวังฉันมากถึงเพียงนี้เลยน่า" เนคมาดูซัมบอก "แต่....ในเมื่อพวกนายให้ฉันเป็นหัวหน้ากันก็ตาม ฉันก็....คงปฏิเสธพวกนายไม่ได้อยู่แล้วละ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ถ้านายยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรน่ะ เพราะ...พวกเรายังขาดอะไรอีกอย่างมากเลยน่ะ กับการที่เราต้องปรับปรุงกองกำลังเวเซอร์ขึ้นมาใหม่น่ะ"
              "เพราะเราสามคนไม่ได้แค่นำทีมกันอย่างเดียว แต่พวกเราร่วมแรงร่วมใจกันต่างหากละ ถึงจะได้ชัยชนะมา" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ตอนนี้ เราต้องกลับไปพักกันก่อนน่ะ เพราะพรุ่งนี้เรามีงานที่ต้องทำกันสักหน่อย แม้ว่า ผู้ว่าการของเราคงไม่ชอบเลยก็ตาม"
              "เอาเถอะ ตอนนี้ผู้ว่าการโพโบโวโล่ก็รู้แล้วว่า พวกเรามีหน้าทีอะไร แต่ในเวลานี้ เราก็เป็นแค่พลเรือนของเมืองนี้อยู่น่ะ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "แม้ว่าตอนนี้ พวกเดลอาเนี่ยนจะพ่ายแพ้เรา แต่ตราบใดที่ฝ่ายนั้นยังไม่เลิกรา เรายังวางใจไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยหรอกน่ะ"
              "ถ้าพวกมันกล้าถึงขั้นที่วาร์ปกองรบมาถล่มกองทหารจนเสียหายไป 8 ใน 10 และสามารถวาร์ปหุ่นยักษ์ลงมาสร้างฐานทัพบนดาวของเราได้ พวกมันก็หาเรื่องส่งกองยานโผล่มาเหนือหัวพวกเราได้เช่นกันน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              พีวิลพยักหน้า "หรือไม่ก็ลงมือเล่นงานพวกเราโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ได้น่ะ"

    TriVESER Manigator Saga:The Del-Arnian War
    ตอนที่ 3 การเรียกเกณฑ์พวกพ้องอันแสนวุ่นวาย นามใหม่ของกองรบเดิม ไทรเวเซอร์

              เช้าวันต่อมา.... ที่เวเซอร์เฮาส์
              "กรี้งงงงงงงงงงงงงง เนคมาดูซัม ตื่นได้แล้วจ้า!!!!!!" เสียงนาฬิกาปลุกที่เป็นเสียงของลิเนียร์ตี้ดังขึ้นจนทำให้เนคมาดูซัมสะดุ้งตื่นขึ้นมา และหันเหลียวไปซ้ายขวา ก็เห็นนาฬิกาปลุกดังลั่นขึ้น พอๆกันกับ.... "กร้องงงง กร้องงงง กร้องงงง" เสียงฆ้องดังขึ้นจากนาฬิกาทรงกล่องในห้องนอนของพีวิลและสเปียริท ได้ปลุกบุรุษหมัดเหล็กให้ตื่นจากภวังค์
              "สเปียริทเปิดวอลลุมดังถึงระดับ 5 อีกแล้วหรือ....เฮ้อ" พีวิลบ่นพร้อมกับเดินไปกดปุ่มปิดระบบปลุกลง แล้วก็เดินออกจากห้องพร้อมกับเนคมาดูซัม ที่เดินลงบันไดมาก่อน
              "นี้แปดโมงแล้วน่ะ ร้อยเอก พึ่งจะตื่นเอาปานนี้เลยหรือ" แอบไบออสพูดไปแปรงฟันไปด้วย เจเนลนอนพิงบนโซฟายาวด้านซ้าย จายด์นั่งตรงกลาง ส่วนจิลเปิดโทรทัศน์ดูรายการช่วงเช้า
              "โทษทีนะครับ สิบเอก เราหลับยาวไปหน่อยน่ะ" พีวิลบอก แล้วมาสวาร์ทาร์ก็เดินออกมา
              "มาส นาฬิกาปลุกนายเสียหรือ ถึงได้มาช้าเป็นคนสุดท้ายน่ะ" เนคมาดูซัมถาม
              "เปล่า แอนเดรียไม่ได้กดปลุก แต่ที่ตื่นเพราะแดดมันแยงเข้าตาน่ะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยตอนนี้ลิเนียร์ตี้ แอนเดรียและสเปียริททำกับข้าวเช้ากันอยู่
              เนคมาดูซัมถาม "พลัสเชอริทและคลอเวฟไปไหนกันละ เจเนล"
              "พลัสเชอริทนะหรือ....ออกไปตรวจตราความเรียบร้อยกันตั้งแต่เช้า ปานนี้น่าจะกลับมากันแล้วละ ส่วนคลอเวฟ ออกไปช่วยบริคซ์ดัดแปลงไทรแองเกิ้ลในส่วนของอาวุธกันนะสิ" เจเนลบอก
              จายด์กล่าว "เออ จิล ย้อนกลับไปอีกสองช่องหน่อยนะ"
              "งั้นหรือ โอ้ว โทษทีน่ะ" จิลกล่าวและเปิดช่องย้อนไปสองช่องตามที่จายด์บอก ซึ่งเป็นช่องสถานีข่าว IGNN (Inter-Galactic News Network) ซึ่งได้ออกข่าว....
              "เมื่อ 2 ทุ่มเมื่อคืนวานซืนในระบบดาวอีสทาล่าฟรอนเทียร์ กองกำลังของมหาจักรวรรดิ์เดลอาเนี่ยนได้บุกจู่โจมดาวแคสเซเดียน-3 ของฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ โดยเบนเข็มมาที่เขตเมืองหลวงและเขตเมืองแห่งแรกในเวลาเดียวกัน ซึ่งด้วยการสู้รบของฝ่ายแมนิเกเตอร์นั้น สามารถผลักดันให้พวกเดลอาเนี่ยนล่าถอยกลับไปได้ถึง 2 ครั้งกันก็ตาม แต่....การมาของพวกเดลอาเนี่ยนนี้ ได้บ่งชี้ถึง เจตจำนงของฝ่ายมหาจักรวรรดิ์สหัสดาราที่ต้องการจะควบคุมและปกครองสมาพันธ์อวกาศกันไว้ แม้ว่าฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ ผู้ซึ่งกำชัยชนะเหนือโอเวอร์เรสในมหาสงครามแมนิเกเตอร์เมื่อ 4 เดือนก่อนกันนั้นจะสามารถผลักดันและขับไล่การรุกรานของฝ่ายเดลอาเนี่ยนไปได้ก็ตาม พวกเขาต้องเสียกำลังรบกันไปไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งทางมหาประธานาธิบดีแอคเมนโด้ ได้ให้สัมภาษณ์กันไว้ว่า...." นักข่าวสาวกล่าวและเปิดภาพการสัมภาษณ์ของโคเคสในทำเนียบเงิน
              "แม้ว่าพวกเราจะได้ชัยชนะจากการรุกรานของพวกเดลอาเนี่ยนกันก็จริง แต่....เราแน่ใจได้ว่า พวกเดลอาเนี่ยนคงไม่รามือกันเพียงเท่านี้แน่นอน พวกเราจะต่อสู้และต่อกรกับการคุกคามของฝ่ายมหาจักรวรรดิ์ทุกรูปแบบเท่าที่พวกเราจะทำได้กันนะครับ" โคเคสบอก
              นักข่าวชายกล่าว "แล้วท่านไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยของประชาชนกันเลยหรือครับ แม้กระทั่งเรื่องของกลุ่มแมนิเกเตอร์ที่ออกมาคัดค้านและต้องการให้ท่านเจรจากับทางเดลอาเนี่ยนกันนะครับ"
              "เราทราบดีครับ ว่าการเจรจาของเดลอาเนี่ยนนั้น คือการบีบบังคับให้พวกเรามอบดวงดาวให้ ซึ่งถ้าเราทำเช่นนั้น ก็เท่ากับว่าพวกเดลอาเนี่ยนสามารถนำกำลังไประรานระบบดาวอื่นๆของทางสมาพันธ์ฯ พวกเราไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นได้แน่นอน และขอให้ทุกๆท่านเข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้ด้วยนะครับ" โคเคสบอก
              แอบไบออสกล่าว "นึกแล้ว ว่าการรุกรานของพวกเดลอาเนี่ยนย่อมหมายถึงต้องมีใครออกมาคัดค้านและไม่เห็นชอบในสงครามอย่างแน่นอนเลยละ"
              "นี้พวกเรา ทำอะไรไม่ได้กันเลยหรือคะ กับเรื่องที่เกิดขึ้นในเขตนครหลวงกันนะคะ" แอนเดรียถามโดยที่เธอเดินมาได้ยินข่าวพอดี
              มาสวาร์ทาร์ส่ายหน้า "นั้นเป็นความเห็นของแมนิเกเตอร์แต่ละตน พวกเราไม่มีสิทธิ์ไปบีบบังคับพวกเขากันได้หรอกน่ะ เราหวังว่าพวกเขาคงจะยอมรับในสถานการณ์ที่ตอนนี้ พวกเดลอาเนี่ยนบีบให้เราต้องลุกขึ้นต่อสู้กันแล้วน่ะ"
              "พวกเดลอาเนี่ยนเล่นพวกเราซะแรงแบบนี้ โคเคสคงทำงานหนักมากกว่าเดิมแน่นอนน่ะ" เจเนลกล่าว
              สเปียริทบอก "ขนาดพวกเราและพวกกองทหารที่เตรียมความพร้อมมายังโดนพวกนั้นเล่นซะอ่วมเช่นนี้ ไม่มีทางไหนที่เราเอาชนะพวกมันได้อย่างรวดเร็วกันละ"
              "คงยากน่ะ สเปียริท เพราะพวกเราไม่มีทางเอาชนะพวกเดลอาเนี่ยน ที่ไม่รู้ว่าพวกมันแต่ละเผ่านั้น ถนัดการต่อสู้และโดดเด่นในทางไหนกันนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก "ที่สำคัญ พวกเดลอาเนี่ยนเองก็เสียหายกันด้วย แม้ว่านั้นเป็นความเสียหายเพียงผิวเพิ่นกันก็ตาม ส่วนหนึ่งเพราะว่าพวกนั้นประเมินพวกเราต่ำเกินและไม่ได้เตรียมการรับมือกับสถานการณ์ที่พลิกผันเมื่อเช่นเมื่อวานนี้กันด้วย จึงเป็นเหตุแห่งความปราชัยของพวกนั้นเองแหละ"
              จายด์บอก "ฉันบอกตามตรงน่ะ ว่าชาวออร์เลี่ยนที่สร้างยานไทรแองเกิ้ลมานั้น คาดการณ์ไว้ถูกต้องกันแล้วละ ว่าพวกเดลอาเนี่ยนต้องนำกองรบที่มีบุกมารุกรานดาวของเรากันแน่นอน เลยสร้างยานที่ติดตั้งอาวุธอันทรงพลังเอาไว้ เพื่อเป็นไพ่ตายในการหยุดยั้งการรุกรานของฝ่ายเดลอาเนี่ยนกันนี้แหละ"
              "แต่ก่อนที่จะพูดอะไรเกี่ยวกับการต่อสู้นั้น ทำไมเราไม่กินข้าวเช้ากันเสียก่อนละคะ" แอนเดรียบอก
              จิลบอก "นั้นสิน่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พวกเราต้องมีแรงพอที่จะทำงานต่างๆกันได้น่ะ"
              "ดีเหมือนกันน่ะ เพราะเรามีเรื่องที่ต้องทำกันอยู่แล้วน่ะ" พีวิลกล่าว หลังจากที่ล้างหน้าล้างตากันแล้ว ก็มานั่งทานข้าวเช้ากัน
              เจเนลบอก "ว่าแต่ นายคิดจะไปพาไกซ์และมิลด์กลับมาร่วมงานกันเลยสิน่ะ"
              "ถูกแล้วละ ฉันกับสเปียริทจะออกไปที่กองทหารที่ไกซ์กับมิลด์ประจำการกันอยู่ โชคดีมากที่ฉันได้เบอร์โทรของบรูโน่มา จะได้เช็คว่าทั้งคู่ยังอยู่ดีหรือเปล่าน่ะ" พีวิลบอก
              แอบไบออสกล่าว "หวังว่าความรู้ความสามารถที่ผ่านการฝึกฝนจากเบติสและวิลด้าคงจะช่วยให้ทั้งคู่รอดมาได้แล้วละ"
              "แล้วคุณเบติสและคุณวิลด้าละคะ" แอนเดรียบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "เท่าที่ทราบมาน่ะ คุณเบติสและคุณวิลด้าพาชาวบ้านที่มาจากดาวมาซ่ากูฟเบต้าไปตั้งรกรากที่เขตหุบเขานิวมิโรเรี่ยมในช่วงที่มีการบุกเบิกเขตทวีปทั้งสองฝั่งด้วยกัน ซึ่งมีแต่ไกซ์และมิลด์ที่ติดต่อไปหาทั้งคู่ไว้ เพื่อปรึกษาหารือกับเรื่องที่ทั้งคู่ยังไม่เข้าใจกันนะสิ"
              "แปลว่า มีแต่ไกซ์และมิลด์ที่รู้ว่าคุณเบติสและคุณวิลด้าอยู่ที่ไหนเลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์สรุป เนคมาดูซัมพยักหน้า
              สเปียริทกล่าว "หวังว่าไกซ์หรือมิลด์คงไม่เผลอลบเบอร์โทรติดต่อของลุงเบติสและป้าวิลด้ากันเสียก่อนน่า ไม่งั้นคงแย่แน่ๆ"
              "แล้วเรื่องที่ให้ไปพาพวกเฮเรเค้นกลับมากันละคะ" แอนเดรียถาม
              มาสวาร์ทาร์ตอบ "ตอนนี้เราออกจากระบบดาวของพวกเราไปยังระบบดาวอื่นในเขตสมาพันธ์อวกาศไม่ได้น่ะ เพราะ...ถึงแม้เดลอาเนี่ยนไม่สามารถบุกยึดดาวไปได้ก็จริง พวกนั้นคงไม่รามือและไม่ปล่อยให้พวกเรามีโอกาสฟื้นตัวไปได้แน่นอน ไว้ให้กองทหารบนดาวดวงนี้สามารถปกป้องการรุกรานของพวกเดลอาเนี่ยนกันเสียก่อน เราก็จะมุ่งหน้าไปที่เมลลอท-4 เพื่อพาพวกเฮเรเค้นกลับมากันนี้แหละ"
              "นายกำลังจะบอกว่า พวกเดลอาเนี่ยนอาจจะส่งสปายเข้ามาก่อกวนอย่างงั้นสิน่ะ" จิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ด้วยเหตุผลที่ฝ่ายเดลอาเนี่ยนเสียกำลังรบในการบุกยึดนครหลวงแล้วก็เฟิร์สฮิลล์ ทำให้พวกนั้นต้องหาทางรวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวของพวกเรากันอย่างลับๆ ซึ่งนั้นไม่แปลกหรอก ที่พวกเดลอาเนี่ยนต้องทำเช่นนั้น เพราะพวกเขารู้จักพวกเราเพียงแค่ผิวเพิ่นผ่านเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมานี้แหละ"
              "ถ้าขนาดรู้แค่ผิวเพิ่นยังทำให้กองทหารของฝ่ายเราเสียหายไปมากแบบนี้ นั้นไม่ค่อยดีแล้วน่า มาส" เจเนลกล่าว
              พีวิลบอก "เอาเป็นว่าตอนนี้ พวกเรารีบพาทีมของพวกเราที่ยังอยู่บนดาวดวงนี้กลับมาเสียก่อน แล้วก็รีบไปเบิกโมบิลลอยด์ของพวกเราที่อยู่ในสถาบันรีดิวิแนนท์กลับมาด้วย เผื่อว่าพวกเดลอาเนี่ยนอาจจะส่งกองรบลงมากันอีกนะสิ"
              "ใช่ เพราะฉันไม่คิดว่าฉันกับกิซเซเบอร์จะรับมือกับหุ่นรบของฝ่ายเดลอาเนี่ยนกันได้หรอกน่ะ" แอบไบออสบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "งั้น ฉันกับลิเนียร์ตี้จะไปพาฟูแรมกันก่อนน่ะ เพราะฉันติดต่อกับแอร์ไพล์มมิสกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วละ"
              "แล้ว คุณฟูริแกรมไม่มากับเราเลยหรือคะ" แอนเดรียถาม
              เนคมาดูซัมบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบายใจว่า "ปู่ฟูริแกรม สุขภาพไม่ดีมาตั้งแต่ 3 เดือนก่อน ด้วยปัญหาระบบขับดันโลหิตเทียมขัดข้อง แถมสภาพร่างกายที่ผ่านการทำงานมาอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง โดยมีเวลาพักที่น้อย ทำให้เขาเดินเหินได้ไม่สะดวก จนต้องอยู่ในความดูแลของพยาบาลที่สถานพักฟื้นแมนิเกเตอร์สูงอายุ ซึ่งฟูแรมแวะไปดูทุกๆ 4 วันหรือทางพยาบาลเรียกให้มาคุยกันน่ะ"
              "จริงหรือเนี้ย ไม่คิดเลยน่า ว่าปู่ฟูริแกรมทำงานหนักมาตลอดเวลาเลยน่ะ" จายด์กล่าวอย่างตกใจไม่น้อย
              พีวิลกล่าว "หวังว่าการรุกรานในครั้งนั้นคงไม่ทำให้คุณฟูริแกรมอาการทรุดลงไปบ้างน่ะ"
              "แล้วนายกับแอนเดรียละ" สเปียริทถาม
              มาสวาร์ทาร์บอก "ตอนนี้ รัฐมนตรีวูลลิเซียได้ส่งทีมวิจัยมาที่นี้เพื่อตรวจสอบฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของไทรแองเกิ้ล เช่นเดียวกันกับตรวจเช็คแอมเบอร์กันไว้ด้วย แน่นอนว่า ฉันกับแอนเดรียก็ต้องไปช่วยแอมเบอร์ให้ร่วมมือกันด้วยน่ะ"
              "นั้นก็ดีแล้วละ เพราะอย่างน้อย ต้องมีใครคอยดูแอมเบอร์กันไว้น่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              เจเนลถาม "ที่เหลือก็คือเรื่องให้ใครมาแทนพวกบรอนเซอรูทที่ถอนตัวไปอยู่กับกองกำลังพิทักษ์ดวงดาวของผบ.บัลโต้กันนี้แหละ นายคิดเห็นกันยังไงละ พีท"
              "นายไม่จำเป็นต้องถามเรื่องนี้หรอกน่ะ เจมส์ เพราะนายกับฉันต่างก็รู้ดี ว่าจะให้ใครมาเสริมกันน่ะ" พีวิลกล่าว
              เจเนลบอก "แปลว่า มีแต่ลูกพี่สตีฟ อาเจ้โฟรน่า แล้วก็ไซโคลเนีย รวมถึงฟิเกซสิน่ะ ที่จะมาช่วยพวกเรากันน่ะ"
              "งั้นพวกเราจะเดินทางไปที่เวลแซนดร้าเพื่อเอาโมบิลลอยด์ของพวกเรามาก่อนแล้วกันน่ะ" จายด์บอก
              เนคมาดูซัมบอก "งั้น ก่อนที่จะไปพาฟูแรมมา ฉันคงต้องแวะไปคุยกับหมอเดเมี่ยนกันสักหน่อย...."

              "กิ้งก้อง กิ้งก้อง" เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ลิเนียร์ตี้เลยแง้มหน้าไปดู "อ่า....ผู้ว่าการของเรามาแล้วคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              เจเนลบ่น "อะไรกันเนี้ย คราวนี้จะมาตำหนิอะไรเราอีกกันละ"
              "สงสัยว่า เราต้องคุยกับผู้ว่าการก่อนแล้วค่อยออกไปกันดีกว่าน่ะ" พีวิลกล่าว แล้วทั้งหมดก็ออกจากบ้าน
              "โอ้ว มากันครบเลยสิยะ ว่าแต่ พวกนายคิดจะไปก่อเรื่องที่ไหนกันมิทราบละ" โพโบโวโล่กล่าวทัก
              "ก่อเรื่องนะหรือ เออ....เข้าใจผิดแล้วคะ คือว่าพวกเรามีธุระที่จำเป็นต้องความมั่นคงของพวกเรากันนะคะ" แอนเดรียบอก
              โพโบโวโล่พูดเหมือนไม่เชื่อ "หรือ แต่....ฉันไม่คิดอย่างงั้นหรอกน่า เพราะเพื่อนตัวบึกของพวกนายตนหนึ่งพึ่งข้ามไปที่เขตเมืองหลวงกันแล้วย่ะ"
              "เพื่อนตัวบึก.... คลอเวฟนะหรือ....แต่ หมอนั้นมันแวะไปหาบริคซ์ที่ไทรแองเกิ้ลมิใช่หรือไงกันน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าวและเดาได้ในทันที แต่ถามเพื่อเอาความแน่ใจ
              โพโบโวโล่บอก "เพื่อนหัวหน้าลูกเรือของพวกนายบอกกับฉันมา ว่าเพื่อนตัวบึกของพวกนายรีบออกไปโดยมีธุระด่วนสำคัญไว้ ซึ่งฉันได้อ่านประวัติของพวกนายกันมาทั้งคืนแล้ว รับรองว่า หมอนี้คงได้ติดคุกยาวแน่นอน ฐานขัดคำสั่งลงโทษกักบริเวณกันน่ะ"
              "ไอ้บ้านิ มันจะมีธุระอะไรกันนักกันหนาวะ" เนคมาดูซัมสบถ
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เนค นายกับลิเนียร์ตี้รีบไปตามคลอเวฟกันดีกว่า ส่วนเรื่องปู่ฟูริแกรม ฉันกับแอนเดรียจะคุยกับหมอเดเมี่ยนเองแล้วกัน"
              "งั้น ฉันกับสเปียริทจะแวะไปทำธุระกันเดียวนี้แหละ" พีวิลบอก
              โพโบโวโล่ตะโกนลั่น "เดียวก่อน ก่อนที่พวกนายจะออกไปทำธุระนั้น ขอเก็บค่าซ่อมแซมบ้านเรือนจากพวกนายกันก่อน" แล้วก็เอาแพดมาให้ทุกๆคนดู พีวิลเลยมองหน้าสเปียริท ซึ่งต้องล้วงกระเป๋าจ่ายเงินจำนวนเป็นแสนแกลดอลให้โพโบโวโล่แต่โดยดี "ขอบคุณสำหรับความร่วมมือกันน่ะ"
              "ถ้าเป็นเรื่องปู่ฟูริแกรมละก็ ความจริงแล้ว ฉันรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วละ" เดเมี่ยนกล่าว โดยที่มาสวาร์ทาร์ แอนเดรียและแอบไบออสแวะมาที่สถานพยาบาล
              แอนเดรียถาม "ในเมื่อหมอรู้เรื่องนี้ แล้วทำไมถึงไม่บอกกับพวกเรากันละคะ"
              "เฮ้อ ทีแรก ฉันกะจะแจ้งให้พวกนายทราบกันก่อน แต่...ปู่ฟูริแกรมขอไว้ เพราะไม่อยากจะให้พวกนายไม่สบายใจจนไม่มีสมาธิในการฝึกซ้อมกันนะสิ" เดเมี่ยนบอก "ที่สำคัญ ฉันได้แนะนำให้ฟูแรมพาปู่ฟูริแกรมไปที่สถานพักฟื้นแมนิเกเตอร์สูงอายุกันแล้ว ซึ่งฟูแรมติดต่อฉันมาเป็นระยะๆ เกี่ยวกับสุขภาพของปู่ฟูริแกรมกันไว้ โดยไม่ให้ฉันบอกกับพวกนายกันด้วย แม้กระทั่งช่วงที่พวกนายออกเดินทางไปแข่งประลองยุทธกันด้วยน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "แล้วหมอคิดว่า อาการของปู่ฟูริแกรม อยู่ในขั้นที่รักษาได้มั้ยละ"
              "บอกตรงๆน่ะ ว่าฉันก็พยายามรักษากันแล้ว แต่....เครื่องเคราภายในร่างของปู่ฟูริแกรมมันใช้งานหนักเกินอัตรามานาน แม้ฉันจะซ่อมได้ แต่ปู่ก็คงไม่สามารถทำงานได้ตามเดิมกันแล้วละ" เดเมี่ยนกล่าว
              แอนเดรียบอก "ถ้าเรารู้ว่าปู่ฟูริแกรมโหมงานหนักมากขนาดนั้น เราน่าจะขอร้องให้ปู่พักผ่อนกันเสียจะดีกว่าน่ะ"
              "เราหวังแค่ว่าปู่ฟูริแกรมคงจะหายดีกันบ้างน่ะ" เดเมี่ยนกล่าว
              แอบไบออสบอก "ว่าแต่ นายได้ข้อมูลพวกศัตรูที่เป็นพวกพันธมิตรของเดลอาเนี่ยน จากซากศพที่พวกเราส่งไปให้กองทัพชันสูตรกันแล้วหรือยังละ"
              "แย่หน่อยนะ ที่ข้อมูลจากทางหน่วยชันสูตรของกองทัพหลักนั้น กว่าจะมา ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนนี้ ซึ่งนั้นก็เร็วมากที่สุดกันแล้วน่ะ เพราะเดลอาเนี่ยนคงไม่เปิดโอกาสให้พวกเราได้ข้อมูลสำคัญมาแน่นอนน่ะ" เดเมี่ยนกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะว่าที่นครหลวง ก็มีต่างดาวส่วนหนึ่งบุกทำเนียบเงินมาแล้วสิน่ะ เลยทำให้การชันสูตรล่าช้าลงไปด้วยน่ะ"

              "นี้พวกคุณ ยังคิดที่จะต่อสู้กันอีกหรือ" เสียงเด็กหนุ่มดังขึ้น จนทั้งสามได้ยินก็หันมา "พวกคุณเกือบถูกพวกต่างดาวโหดๆนั้นฆ่าตายกันไปแล้ว พวกคุณไม่เคยกลัวตายกันบ้างเลยหรือไงน่ะ" เห็นเฟรดยืนตำหนิพวกมาสวาร์ทาร์กันอยู่
              แอบไบออสถาม "เออ นี้เธอ เป็นใครกันแน่น่ะ ถึงกล้ามาขึ้นเสียงกับพวกเราน่ะ"
              "เฟรเดอริค อย่าเสียมารยาทจะดีกว่าน่า เพราะมาสวาร์ทาร์ แอนเดรีย และแอบไบออสเป็นผู้หลักผู้ใหญ่กันน่ะ" เดเมี่ยนกล่าว
              เฟรดบอก "ผมทราบดีแล้วน่ะ หมอ แต่....ผมอดรนทนไม่ได้จริงๆที่พวกคุณยังคิดที่จะทำสงครามกับต่างดาว ทั้งๆที่พวกนั้นมาเพื่อถล่มพวกเรากันแบบนี้ พวกคุณยังดิ้นรนต่อสู้กับพวกนั้นไปทำไม ในเมื่อพวกคุณทำไปแล้วไม่ได้รางวัลอะไรกลับมา เผลอๆอาจจะมีใครคนหนึ่งต้องตายก็เป็นได้น่ะ พวกคุณมันเย็นชากันไปแล้วจริงๆน่ะ"
              "เธอคงไม่รู้หรอกน่ะ ว่า พวกเราส่วนมาก ล้วนผ่านความตายมาก่อนแล้ว ล้วนต้องสูญเสียความเป็นมนุษย์มาก่อนแล้ว และเคยเผชิญหน้ากับการสูญเสียคนดีๆกันมาแล้ว มิใช่ว่าพวกเราด้านชาจนไม่รู้สึกเสียใจกันจริงๆหรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เฟรดกล่าว "ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกคุณจะชนะพวกต่างดาวเหล่านั้นได้น่ะ ต่อให้พวกคุณเป็นเพื่อนหมอเดเมี่ยน แต่สักวันพวกคุณก็ต้อง......"
              "เราเตรียมใจมานานแล้วละ ว่าเราต้องเผชิญหน้ากับความตายแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน ทั้งที่เกิดกับตัวเรา แล้วก็กับคนอื่นที่อยู่กับเรากันก็จริง" แอนเดรียกล่าว "แล้วถ้าเกิดว่าคนๆนั้นตายไปโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไร หรือมีโอกาสแต่เธอไม่ทำขึ้นมา โดยเฉพาะคนที่เธอรักและห่วงใยมากที่สุดด้วยนั้น ต้องจากไปขึ้นมา กว่าเธอจะรู้มันก็สายไปแล้วน่ะ"
              เฟรดได้ฟังก็ไม่ค่อยพอใจมากนัก "คุณอย่ามาพูดเหมือนรู้ล่วงหน้ามาก่อนเลยจะดีกว่าน่า มันไม่มีทางเกิดขึ้นกับผมไปได้หรอก"
              "ถึงเธอจะคิดเช่นนั้นได้ แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าเธอไม่คิดที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อคนอื่นกันละก็ เธอจะไม่มีโอกาสนั้นอีกเลยน่ะ" แอบไบออสบอก
              เดเมี่ยนเห็นเฟรดไม่พอใจอย่างมากเลยเข้าไปปรามไว้ "ฉันแนะนำว่าเธอควรกลับบ้านไปดูแลแม่ของเธอจะดีกว่าน่ะ เฟรด การมาโวยวายหรือโต้เถียงกันนั้น มันไม่ช่วยให้เธอสบายใจไปได้หรอกน่ะ"
              "แต่ แต่หมอเองก็เป็นเพื่อนกับคนพวกนี้ น่าจะ...." เฟรดโวย เดเมี่ยนทำหน้าถมึงทึงใส่ จนทำให้เฟรดต้องเดินออกจากสถานพยาบาลด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
              แอบไบออสถาม "หมอ หมอน่าจะตักเตือนเด็กนี้ให้หลาบจำกันไปเลยไม่ดีกว่าหรือ"
              "พอเถอะคะ เด็กคนนี้แค่ไม่พอใจในการกระทำของพวกเรา เพราะไม่รู้ถึงจุดมุ่งหมายที่พวกเราต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กันนะคะ" แอนเดรียกล่าว
              มาสวาร์ทาร์ถาม "หมอ ว่าแต่ เด็กคนนี้....หมอรู้จักกันมาก่อนหรือ"
              "รู้จักสิ เฟรเดอริค มาร์ติน เป็นลูกชายของพยาบาลเมย์ ซึ่งเป็นพยาบาลของกองทัพเยลโลว์สตาร์ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเยลโลวเอเซี่ยนกันแล้ว โดยตอนนี้ พยาบาลเมย์และเฟรเดอริค มาอยู่ที่นี้ในฐานะพลเมืองของเฟิร์สฮิลล์ หลังจากที่มหาสงครามจบลง เพราะว่าคุณเมย์ ป่วยไข้เนื่องจากทำงานหนักโดยไม่พักผ่อนกันเลยน่ะ" เดเมี่ยนเล่า "ที่สำคัญ เฟรเดอริคมาขอหนังสือการแพทย์จากฉันไป ซึ่งฉันก็ยอมให้เขาไป อย่างน้อยเขาคงจะเอาไปอ่านเพื่อหาความรู้มาช่วยเยียวยาอาการคุณเมย์ให้ดีขึ้น และรู้ด้วยว่า เฟรเดอริคคิดจะเป็นหมอรักษาคนไข้ มากกว่าจะเป็นทหารกันนะสิ"
               แอบไบออสถาม "แล้วทำไมเด็กนั้นถึงไม่ชอบหน้าพวกเรา ถึงขั้นมาขึ้นเสียงกับเราได้น่ะ"
              "เท่าที่ฉันทราบจากคุณเมย์มาน่ะ พ่อของเฟรด เป็นทหารที่ทำงานอยู่ในกองทัพเยลโลว์สตาร์ และยังทำงานให้กับกองทัพกันอยู่ หลังจากที่มหาสงครามจบลงไปแล้ว ซึ่งฉันทราบมา ว่าพ่อของเฟรดมักจะชอบเสี่ยงอันตรายจนเกือบตายมาหลายต่อหลายครั้ง กลับมาบ้านแต่ละครั้งมักจะมีบาดแผลกลับมา ซึ่งเฟรดพยายามขอร้องให้พ่อของเขาวางมือ แต่พ่อของเขายังกลับไปทำงานในกองทัพเหมือนเช่นเคย จนเขามีอคติกับพวกทหารกันขึ้นมานะสิ" เดเมี่ยนบอก "และยิ่งเขารู้ว่าฉันเป็นเพื่อนกับพวกนาย ที่เป็นยอดทหารนักรบวีรบุรุษที่เสี่ยงตายและเสี่ยงอันตรายเพื่อความสงบสุขของพวกเราและของจักรวาลกันด้วยนั้น เขายิ่งไม่ชอบพวกนาย ที่ชื่นชอบการสู้รบโดยไม่แยแสถึงชีวิตของคนอื่น ท้าทายกับพวกศัตรูที่โหดร้ายจนหาเรื่องเจ็บตัวกลับมาเหมือนกับที่พ่อของเขาเป็นอยู่ ต่อให้ฉันอธิบายให้เฟรดฟังหลายต่อหลายครั้ง เฮ้อ.... ฉันก็ทำได้เท่านี้แล้วละ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "พ่อของเฟรเดอริค เป็นทหารที่ยังทำงานในกองทัพนะหรือ อืมมมมม หมอพอรู้มั้ยว่าพ่อของเฟรดชื่ออะไรกันน่ะ"
              "คุณเมย์บอกให้แค่ว่า คุณแดน สามีของเธอและพ่อของเฟรด ได้รับภาระหน้าที่สำคัญจากกองทัพให้ปฏิบัติงานสำคัญบางอย่าง โดยที่เขาจะไม่ติดต่อกับทางบ้านไปสักระยะหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของเธอและเฟรด ซึ่ง การที่ครอบครัวมาร์ตินมาอยู่ที่เฟิร์สฮิลล์นั้น ก็เพราะว่าการมีพวกนายอยู่ด้วยจะช่วยให้ครอบครัวปลอดภัยกันบ้างน่ะ" เดเมี่ยนกล่าว
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ปฏิบัติการที่สำคัญและลับสุดยอดนะหรือ....แค่นี้ก็เกินพอแล้วละ หมอเดเมี่ยน ไว้ให้เรามีโอกาสจะได้สอบถามกับผบ.บัลโต้กันบ้างน่ะ"
              "แต่ตอนนี้เราต้องไปเช็คแอมเบอร์กันก่อนน่ะ" แอนเดรียกล่าว แล้วก็เดินออกไป

              ส่วนเฟรดนั้น.... เดินกลับมายังชุมชนแมนิเกเตอร์ชาวไทย "เฮ้ เฟรด ทำหน้าแบบนี้ รอคิวยาวมาเลยละสิ" เด็กสาวผมสีชมพูติดกิ้ปดอกไม้บนหัว เสื้อยืดสีม่วงกางเกงขาสั้นเสมอน่องกล่าวขึ้น เฟรดเลยเดินผ่านจนเด็กสาวไม่พอใจ "นี้ เดินหนีไปโดยไม่ฟังคนอื่นเรียกนั้น มันไม่ดีเลยน่ะ"
              "เฮ้อ ฉันอารมณ์ไม่ดีกันอยู่น่ะ นาเดีย กับพวกเพื่อนของหมอเดเมี่ยนกันน่ะ" เฟรดบอก
              เด็กสาวนามนาเดียบอก "พวกเวเซอร์อย่างงั้นสิน่ะ แล้ว คุณลิเนียร์ตี้อยู่ด้วยหรือเปล่าละ"
              "คุณลิเนียร์ตี้ของเธอไม่อยู่ อยู่แต่ดาบมือหนึ่งแล้วก็แฟนสาวผมยาวของเขา แล้วก็เดธเทนกันนะสิ" เฟรดกล่าว
              นาเดียได้ฟังก็ถอนใจด้วยความเสียดาย "งั้นหรือ....แต่อย่างน้อย นายก็ดีใจมิใช่หรือ ที่ยอดนักรบวีรบุรุษของพวกเรา มิตรแห่งความยุติธรรมได้กลับมากันแล้ว หลังจากที่พลาดพลั้งเสียทีไปกันได้น่ะ"
              "มิตรแห่งความยุติธรรมของเธอ ไม่ใช่ของฉันสักหน่อยนะ นาเดีย พวกเขาก็แค่แส่หาเรื่องเจ็บตัวและวอนหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ก็เท่านั้นเองน่ะ" เฟรดบอก
               นาเดียตำหนิ "นายมันอคติกันเกินไปหน่อยแล้วนะ เฟรด นายมองโลกในแง่ร้ายกันเกินไปหน่อยแล้วน่ะ ถ้าไม่เพราะพวกเขา พวกเราคงไม่รอดมาจนถึงปานนี้กันหรอกน่ะ" แล้วก็พูดไปว่า "แล้วนายไม่มีฮีโร่ในดวงใจกันบ้างหรือไง อย่างเฮฟวี่คอมมานโดเนคมาดูซัม เบรซซิ่งแฮนด์พีวิล หรือคิกบัสเตอร์เจเนล เจเนไซด์ทีมลีดเดอร์กันละ"
              "แต่ละคนที่เธอว่ามานั้น ตัวดีๆทั้งนั้นเลยน่ะ และแส่หาเรื่องเจ็บตัวไปซะทุกครั้งนี้แหละ" เฟรดยังพูดด้วยอคติเหมือนเช่นเคย "แล้วเธอไม่คิดที่จะทำงานทำการ ที่นอกเหนือจากช่วยงานซ่อมเครื่องจักรของพ่อกันบ้างเลยหรือ เพราะดูหน้าตาแล้วเธอควรจะไปทำอะไรที่เหมาะกับเธอมากกว่าน่ะ"
              นาเดียบอก "นายคิดว่าตัวนายเป็นผู้ใหญ่มากเลยหรือ เฟรด ทั้งๆที่ฉันกับนายอายุพอๆกัน แถมโตมาด้วยกันแบบนี้ นายน่าจะมีใครเป็นแรงบันดาลใจกันบ้างสิ"

              "ช่างเถอะน่า เพราะว่าเพื่อนเธอนั้นเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจกันซะมากกว่า แถมโกหกก็ไม่เก่งด้วยน่ะ" เสียงเด็กหนุ่มตาขวาโตมาดกวนๆกล่าว โดยที่เขายืนพิงเสาไฟสว่างอยู่ข้างหน้า แล้วก็เดินมาหาเฟรดและนาเดีย
              "นายยังชอบกวนประสาทคนอื่นเป็นประจำสิน่ะ คิมเซวอน นายไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันเลยหรือ"
              "เรียกฉันว่า คีธ สตาร์ จะดีกว่าน่า แม้ว่าฉันจะเป็นลูกครึ่งเหมือนกับนายและนาเดียเลยน่ะ" เด็กหนุ่มตาขวาโตนามคีธกล่าว "อีกอย่างน่ะ เฟรด ถ้านายไม่ชอบการต่อสู้ เกลียดการเสี่ยงอันตราย และไม่อยากเจ็บตัวกันขึ้นมา แล้วนาย เข้าคลาสเรียนวิชาแม่ไม้มวยไทยไปทำไมกันละ คนที่อยากจะเป็นหมอ ไม่น่าเล่นกีฬาที่เป็นอันตรายกับร่างกายของตัวนายเลยน่า โดยเฉพาะ วิชาต่อสู้ที่เน้นทำหัวร้างข้างแตกด้วยอวัยวะทุกส่วนกันน่ะ"
              เฟรดบอก "ฉันแค่เรียนเพื่อที่รู้กายภาพก็เท่านั้นเอง และอยากออกกำลังกายเพื่อให้หัวโล่งก็แค่นั้นน่ะ แต่ ถ้าให้เดา นายคงชอบแส่หาเรื่องทะเลาะวิวาทมาจนถูกเป่าออกจากหน่วยทหารที่นายสังกัดอยู่กระเด็นมาที่นี้เลยสิน่ะ"
              "แล้วจะทำไมกันละ เฟรด ว่ากันตามจริงแล้ว ฉันแค่ถูกลงโทษในสิ่งที่ฉันไม่ได้ก่อเอง และอยู่ระหว่างการคุมประพฤติกันน่ะ ฉันจึงไม่คิดจะเสียเวลากับคนอย่างนายหรอกน่ะ" คีธบอก "อีกอย่าง ฉันรู้จักกับเพื่อนมนุษย์โคลนคนหนึ่งในหน่วยที่มีคุณเฮลิคสั่งการกันไว้ด้วยน่า ว่าเขา ตอนแรกๆก็เหมือนนายที่ไม่ชอบขี้หน้าพวกเวเซอร์ โดยเฉพาะกับเบรซซิ่งแฮนด์พีวิลกันนี้แหละ"
              เฟรดบอก "เพื่อนนายคนนั้นคงจะแค้นเบรซซิ่งแฮนด์พีวิลมากจนถึงกับอยากจะแก้แค้นเลยสิ"
              "นายคงไม่รู้หรอกน่ะ เพื่อนมนุษย์โคลนของฉันน่ะ เคยปลื้มพีวิลในสภาพที่ยังไม่ถูกพวกอีเนอไมนด์ฆ่าและจับดัดแปลงกันมาก่อน และนับถือเขาเป็นวีรบุรุษในดวงใจ หากแต่ไม่ค่อยชอบและไม่พอใจที่เขาถูกดึงกลับจากหลุมในฐานะศัตรู ซึ่งเขาก็มีท่าทีเหมือนกับนายกันนี้แหละ" คีธเล่า "หลังจากที่พีวิลมาหาโคเคส เออ ท่านประธานาธิบดี ซึ่งในตอนนั้นเป็นหัวหน้ากลุ่มกบฎต่อต้านโอเวอร์เดสมาก่อนนั้น เพื่อนของฉันก็ไม่พอใจกันทีแรก เช่นเดียวกันกับ ไอ้เพื่อนตัวดีหัวดื้อนั้น ซึ่งเป็นตัวเสี้ยมสอนเพื่อนฉันส่วนหนึ่งให้เกลียดพีวิลกับพวกไว้ แต่หลังจากนั้น พีวิลซึ่งเดิมคิดจะจากไปเพราะไม่อยากมีเรื่องกับพวกพ้องของเรา ก็ย้อนกลับมาช่วยพวกเรารวมถึงเพื่อนมนุษย์โคลนด้วย ซึ่งก็ได้เปลี่ยนทัศนคติจากที่ไม่ชอบและเกลียดมาเป็นให้ความเคารพเหมือนเป็นลูกพี่คนหนึ่ง ส่วนเพื่อนหัวดื้อนั้น จบไม่สวยเพราะหัวแหลกคาตีนช้างกันน่ะ"
              นาเดียบอก "แล้วนายคงไม่ได้ตาโตๆเพราะไปวอนหาเรื่องกับพวกศัตรูกันเลยละสิ"
              "ที่ตาฉันโต เพราะดันได้ลูกตาของเพื่อนเก่าที่ตายในการรบมาใส่ แม้ว่ามันจะเหมาะและกรุ๊ปเลือดตรง แต่แววตาของหมอนั้นโตไปหน่อย เลยทำให้ฉันหงุดหงิดแบบนี้แหละ" คีธกล่าว
              เฟรดบอก "แต่ส่วนหนึ่งที่นายเป็นอย่างงี้เพราะนายมันแส่หาเรื่องเจ็บตัวกันชัดๆเลยน่ะ และนายโชคดีมากที่นายไม่ถูกลงโทษหนักมากกว่านี้กันน่ะ"
              "ก่อนที่ว่าใครนั้น นายดูตัวเองไม่ดีก่อนหรือ เฟรด ว่าจริงๆแล้วนายต้องการอะไรกันน่ะ" คีธบอก "จริงอยู่ที่ฉันรู้ว่านายไม่ชอบพวกเวเซอร์นั้น ฉันไม่คิดที่จะบีบบังคับนายกันหรอกน่ะ แต่....นายควรจะจำไว้ ถ้าไม่เพราะพวกเขาเสียสละตนเองออกไปต่อสู้กับพวกศัตรูที่หนักหนาและเลวร้ายเกินกำลังของฉัน ของนาย และของเพื่อนหญิงของนาย แล้วก็ของพวกเราทุกๆคนกันด้วยนั้น ปานนี้่นายกับแม่นายแล้วก็เพื่อนๆของนายคงไม่อยู่สุขสบายบนดาวดวงนี้หรอกน่ะ"
              เฟรดบอก "นายกำลังพูดเข้าข้างพวกเขา เพราะว่านายก็เป็นทหารเหมือนที่พวกเขาและพ่อของฉันเป็นอยู่อย่างงั้นละสิ"
              "ฉันไม่ได้พูดเข้าข้างพวกเขากันหรอกน่ะ แต่ที่ฉันอยากเตือนไว้คือ ถ้านายไม่ชอบพวกเขาก็ไม่เป็นไร แต่อย่า มาดูถูกเจตจำนงของพวกเขาที่ต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตของพวกนายและของพวกเรากันทั้งหมดเลยจะดีกว่า พวกเขาสละเวลาอันมีค่าหมดไปกับการหยุดยั้งภัยคุกคามที่พร้อมจะเอาชีวิตใครก็ได้ แม้กระทั่้งแม่ของนาย หรือญาติของใครก็ได้มา พวกเขายอมเสี่ยงอันตราย ยอมเผชิญหน้ากับศัตรูตัวเป้งๆทั้งแข็งแกร่ง ทั้งมีจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะชนะได้ แต่พวกเขาก็ทำมันจนกำชัยชนะและความสงบสุขมาให้ โดยที่พวกเขาไม่หวังอะไรตอบแทนไปกว่ารอยยิ้มของพวกนายกันนี้แหละ" คีธก้าวเดินมาพูดกับเฟรดตรงหน้าไว้ ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง "การที่นายไปตวาดใส่พวกเขา ไม่ใช่แค่ไม่ให้ความเคารพต่อพวกเขาที่เสียสละทุกอย่างเพื่อให้พวกนายอยู่อย่างผาสุขไปได้ แต่มันหมายถึงการดูถูกการเสียสละของคนที่ไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ไม่ได้กลับมามีชีวิตใหม่เหมือนเดิม แม้กระทั่งไม่หวนกลับมากันอีกเลยด้วย เพราะคนที่เลือกเป็นทหารนั้น ก็คือคนที่พร้อมจะสละทุกอย่างเพื่อปกป้องอธิปไตย ปกป้องความสงบสุข และปกป้องผู้คนทุกคน โดยได้เตรียมตัวและเตรียมใจที่จะต้องเสียเลือดเสียเนื้อกันไปด้วย คนที่นายไม่เคยมีใครเป็นทหารมาก่อน ไม่มีสิทธิ์มาดูถูกทหารกันเป็นอันขาด"
              เฟรดบอก "แล้วนายละ นายคงไม่มีพ่อไม่มีแม่ที่คอยห้ามปรามนายกันเลยหรือ"
              "พ่อแม่ของฉัน หลับอยู่ใต้แผ่นหลุมศพบนโลกมนุษย์ไปนานแล้ว ฉันคงไม่ได้อยู่มาต่อว่านายกันตรงนี้ หากไม่เพราะ.....พ่อทูนหัวของฉัน มาช่วยอุปการะเด็กบ้าที่ไม่เอาไหน เด็กบ้าที่พร้อมจะหาเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครก็ได้ที่มาดูถูกดูแคลน ให้รู้ถึงความสำคัญของการต่อสู้ในยุคสมัยที่มีแต่สงครามเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้ฉันไม่ค่อยเข้าใจในทีแรก แต่....เพราะเขา เสียสละเพื่อปกป้องฉันและทุกๆคนมาโดยตลอด จนต้องเสียอวัยวะที่พ่อแม่เขาให้มาไปทีละส่วน และเกือบจะเสียความสามารถในการต่อสู้กันไปแล้ว" คีธกล่าว โดยที่มองดูป้ายด็อกแท็คของตนเอง แล้วก็เก็บใส่ไว้ในเสื้อ "ขนาดวาระสุดท้าย เขาได้ตายเพื่อให้พวกเราทั้งหมดอยู่ต่อไปแล้ว แม้คนไม่เอาไหนอย่างฉัน ยังระลึกนึกถึงพ่อทูนหัวคนนี้ ยอดทหารแสนดีที่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตพวกเราทุกๆคนไว้น่ะ ซึ่งฉัน ไม่ยอมให้อภัยแก่คนที่มาพูดจาดูถูกการเสียสละของเขากันไปได้หรอก"
              เฟรดถาม "แล้วพ่อทูนหัวของนายนั้น เป็นใครกันมิทราบละ คงเป็นทหารหน่วยใดหน่วยหนึ่งในกองทัพกันละสิ"
              "พูดไป นายกับเพื่อนหญิงของนายคงไม่มีทางเชื่อหรอก เพราะว่าพ่อทูนหัวของฉัน คือเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของมหาประธานาธิบดีนี้แหละ" คีธกล่าว "โอ้ว แล้วนายจะยืนบื้อรอให้แม่นายป่วยกันอีกหรือ รีบไปเร็วสิ" เฟรดได้ฟังก็ไม่สบอารมณ์เลยรีบวิ่งไป
              นาเดียกล่าว "แสดงว่านายก็เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ดันทำตัวเองเสียได้น่ะ" แล้วก็วิ่งตามเฟรดไปด้วย

              ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เนคมาดูซัมได้ขับโฮฟไบค์ออกไปพร้อมกับลิเนียร์ตี้ ซึ่งก็ไปพร้อมกับพีวิลและสเปียริทด้วย เพียงแต่ว่า....
              "นายกับลิเนียร์ตี้ล่วงหน้าไปก่อนแล้วกันน่ะ ฉันต้องถามบรูโน่ว่าตอนนี้ไกซ์และมิลด์อยู่ที่ไหนกันบ้างน่ะ" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ดีเหมือนกันน่ะ อ้อ หวังว่านายคงมีบัตรขึ้นแอร์บัสบ้างน่ะ"
              "เราไปทำไว้เผื่อว่าจะได้ใช้มาเมื่อสองเดือนแล้วละ ถ้าไม่ติดว่านายบื้อไปก่อเรื่องเสียก่อนน่า" สเปียริทกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "หวังว่าพวกนายคงจะไปตามไกซ์และมิลด์กลับมากันได้น่ะ" แล้วพีวิลและสเปียริทเลยต้องเข้าปั้มกลางสะพานไป
              "ตัวสัญญาณที่ติดไว้ในโฮฟไบค์ของคลอเวฟนั้น แจ้งว่าคลอเวฟได้ไปถึงฝั่งตรงข้ามแล้วละ" ลิเนียร์ตี้บอกโดยเช็คผ่านตลับคอมแพดเล็กๆไว้
              เนคมาดูซัมถาม "แล้วพอรู้มั้ย ว่าคลอเวฟจะไปที่ไหนกันน่ะ"
              "เออ....จากเส้นทางที่คลอเวฟจะไปถึงนั้น เห็นว่ามุ่งหน้าไปยังฟอร์ทด็อดซ์กันน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "ฟอร์ทด็อดซ์นะหรือ พีวิลเล่าว่าที่นั้นเป็นเขตที่พักของทหารนาวิกโยธินในกองทัพของเรา ซึ่งสร้างขึ้นมาหลังจากสงครามไปแล้วนิ นั้นเหมาะกับคลอเวฟที่เป็นพวกชื่นชอบเรือรบกันน่ะ"
              "ใช่ และฉันคิดว่า คลอเวฟคงจะรู้จักกับนาวิกโยธินในช่วงก่อนเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันแน่นอนน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "หวังว่า คลอเวฟคงไม่หาเรื่องไปกระทืบตรงสวนหน้าบ้านกันหรอกน่ะ" แล้วถามไปว่า "แล้วตอนนี้ คลอเวฟเข้าไปในฟอร์ทด็อดซ์แล้วหรือยังละ ลิเนียร์ตี้"
              "เกรงว่า โฮฟไบค์ของคลอเวฟคงหยุดอยู่ตรงปากทางเข้าเขตชุมชน เพราะประวัติการทะเลาะวิวาทเมื่อสามสัปดาห์ก่อนนะสิ" ลิเนียร์ตี้กล่าวและปิดตลับคอมแพดลง
              เนคมาดูซัมบอก "เยี่ยม งั้นจับไว้ให้แน่นๆน่ะ ลิเนียร์ตี้" แล้วก็บิดคันเร่งตรงไปหาคลอเวฟกันโดยเร็ว จนเห็นคลอเวฟยืนทำหน้าเซ็งตรงปากทางเข้าฟอร์ทด็อดซ์ไว้ "ชัดเลย คงหัวเสียกับการไม่ได้เข้าไปเลยสิน่า"
              "โอ้ว พวกนายจะมาทำไมกันว้า" คลอเวฟบ่นอย่างหงุดหงิดไม่น้อย เมื่อเห็นเนคมาดูซัมและลิเนียร์ตี้มาถึงพอดี
              เนคมาดูซัมกล่าว "อย่างน้อย ประวัติความผิดของนายก็ช่วยให้เรามาเจอนายได้ทันเวลาก่อนที่นายจะไปหาเรื่องกับนาวิกโยธินตัวดีของนาย เพื่อกระทืบซ้ำกันถึงหน้าบ้านกันนี้แหละน่า"
              "กระทืบกันหน้าบ้าน โอ้ย เนคเกอร์เอ้ย ไอ้เวรเฮโลลิคเตอร์มันไม่ได้อยู่ฟอร์ทด็อดซ์นะโว้ย มันนอนอยู่ในห้องพักบนเรือรบต้นสังกัด ซึ่งออกจากท่ากลับไปที่ฐานทัพเดิมไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนแล้ว" คลอเวฟบ่น
              ลิเนียร์ตี้บอก "เอ้....นี้นายไม่ได้มาเพื่อระบายอารมณ์กับคู่กรณีกันนะหรือ แล้ว....นายมาที่ฟอร์ทด็อดซ์ทำไมกันละ"
              "ก็เพื่อมาคุยกับผู้พันไบท์ แฟรงค์ ที่พักอยู่ที่ฟอร์ทด็อดซ์กันนะสิ" คลอเวฟกล่าว
              เนคมาดูซัมได้ยินชื่อก็นึกออกได้ในทันที "ไบท์ แฟรงค์นะหรือ นายหมายถึง นาวาโทไบเทน แฟรงคลิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสัมภาวุธประจำกองยานรบซัลคาลาสภายใต้บัญชาการของจอมพลแฮซกริฟ ซึ่งรับผิดชอบในการพัฒนาปรับปรุงป้อมปืนและอุปกรณ์ยานรบกันนะหรือ เดียวก่อนน่ะ งั้นที่นายมาที่นี้ เพราะเรื่องไทรแองเกิ้ลละสิ"
              "ใช่ ฉันรู้จักกับผู้พันไบท์ แฟรงค์มาตั้งแต่ ประธานาธิบดีของเราเกณฑ์อดีตกองยานฝ่ายแรซัลก้ามาอยู่กับฝ่ายเราได้ 3 วันก่อน ซึ่งผู้พันได้เห็นนอร์ติลุสของฉันมา เลยให้คำแนะนำให้ฉันปรับแต่งปืนใหญ่และป้อมมิไซล์ประจำยานกันไว้ ซึ่งไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวหรอกน่ะ แต่บริคซ์เองก็ยังทึ่งกับความรู้ความสามารถของผู้พันไบท์ ในเรื่องการจัดหาและพัฒนาอาวุธให้กับยานรบกันด้วย ฉันเลยมักจะเรียกผู้พันคนนี้มาคุยกันที่ฟูลบาร์ในแกรนเอ็กโซดัสอาร์คเป็นประจำ ถึงประสบการณ์ออกเรือรบกันน่ะ" คลอเวฟบอก "และเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน ฉันก็เจอกับผู้พันไบท์อีกครั้งในบาร์เหล้า เขาบอกว่า เขาพึ่งได้ออเดอร์ปืนใหญ่รุ่นล่าสุดที่ผลิตขึ้นมา ทีแรก เขากะจะนำลิสต์และข้อมูลดังกล่าวมาให้ฉันช่วยพิจารณา เพื่อให้ฉันนำปืนใหญ่ดังกล่าวเอาไปติดตั้งและทำการรวบรวมข้อมูลการใช้งานไว้น่ะ"
              เนคมาดูซัมบอก "แต่นายดันไปก่อเรื่องชกต่อยเสียก่อน จนเสียโอกาสทองนั้นไปเลยสินะ แล้วนายมาที่นี้ นายมาเองอย่างงั้นนะหรือ"
              "คือ....ผู้พันไบท์แกติดต่อเข้ามาถามหลังจากเหตุการณ์เมื่อวานจบลง เพราะคิดว่าฉันคงโดนต่างดาวกระทืบจนกลายเป็นเศษเหล็กไปแล้ว ฉันเลยต้องเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม้กระทั่งเรื่องของไทรแองเกิ้ลด้วย ซึ่งผู้พันก็สนอกสนใจเรื่องยานรบของพวกเราไม่น้อย เลยเรียกฉันมาคุยเพื่อแนะนำว่ายานลำนี้ควรจะติดตั้งป้อมปืนอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ซึ่งก็คือเช้าวันนี้แหละ" คลอเวฟบอก
              ลิเนียร์ตี้ถาม "แต่ นายโดนโทษกักบริเวณอยู่น่ะ นายก็น่าจะให้ใครก็ได้ หรือพวกเราไปแทนไม่ดีกว่าเลยหรือ"
              "ผู้พันไบท์เขาต้องการให้ฉันไปคุยกับเขาเท่านั้น หรือไม่ก็ให้บริคซ์มาแทนก็ได้ แต่บังเอิญว่า บริคซ์มีงานที่ต้องให้รายละเอียดกับทีมนักวิจัยที่มา ฉันเลยก็ต้องมาเอง ซึ่งผู้พันเขาพูดอย่างจริงจังมากๆเลยน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "นายน่าจะบอกเราก่อนก็ได้น่า คลอเวฟ เพราะว่าพ่อของฉันก็รู้จักกับผู้พันไบท์ แฟรงค์มาเหมือนกันน่ะ"

              "เออ ตอนนี้ เรามีปัญหาแล้วละครับ" ทหารยามหน้าชุมชนกล่าว
              ลิเนียร์ตี้ถาม "ว่าแต่ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นหรือคะ"
              "เราพยายามติดต่อไปหาผู้พันไบท์ตามที่เรือโทคลอเวฟอ้างไว้ แต่....ผู้พันกดปุ่มสีแดงแจ้งเตือนฉุกเฉินขึ้นมากันนะครับ" ทหารยามบอก
              คลอเวฟได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย "แจ้งเตือนฉุกเฉินนะหรือ....แล้วผู้พันไบท์โทรอะไรมาหรือเปล่าละ"
              "ไม่มีการตอบรับจากตัวผู้พันเลยนะครับ" ทหารยามกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "รีบให้พวกเราสามคนเข้าไปดูที่บ้านผู้พันไบท์โดยเร็วเลย เหตุฉุกเฉินที่เกิดอาจเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอย่างแน่นอน ชีวิตผู้พันสำคัญกว่าน่ะ"
              "เข้าใจแล้วละครับ" ทหารยามได้ฟังก็รีบเปิดตัวกั้นทาง เนคมาดูซัมพยักหน้าให้คลอเวฟและลิเนียร์ตี้เข้าไป คลอเวฟเลยนำทางมายังบ้านพักของผู้พันไบท์
            "ผู้พันไบท์ ผู้พันไบท์ ผู้พันไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" คลอเวฟตะโกนเรียก และเคาะตรงประตูหน้าบ้าน โดยที่ลิเนียร์ตี้และเนคมาดูซัมมองดูผ่านกระจก
              "เออ ไม่ต้องเคาะหรอก คลอเวฟ เกรงว่า...ผู้พันไบท์ ไม่มีทางได้ยินเสียงเคาะกันอีกแล้วน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าวเพราะเห็น ผู้พันไบท์นอนจมกองเลือดอยู่
              คลอเวฟได้เห็นก็สบถขึ้นมา "บ้าเอ้ย ใครกันวะที่ฆ่าผู้พันไบท์ แฟรงค์ไปได้น่ะ เจอเมื่อไหร่จะกระทืบให้...หือ.. ทำไมมีกลิ่นเหม็นๆออกมากันวะ" แต่อารมณ์โมโหก็ถูกขัดจังหวะเพราะตนได้กลิ่นบางอย่างออกมา
              "กลิ่นนั้นมัน ก๊าซหุงต้มนิน่า หรือว่า...." เนคมาดูซัมดมดู และมองผ่านกระจกไปยังห้องครัว ซึ่งมีแท่งสีดำวางบนเตาอบ "....คลอเวฟ ลิเนียร์ตี้ ออกไปจากบ้านนี้โดยด่วน บ้านหลังนี้กำลังจะระเบิดแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมตะโกน แล้วทั้งสามก็รีบวิ่งออกห่างจากบ้านโดยเร็ว ซึ่งก็.... "ตรูมมมมมมมมมมม" บ้านของไบท์ แฟรงค์ระเบิดเป็นจุล และเป่าเนคมาดูซัม ลิเนียร์ตี้และคลอเวฟที่วิ่งไปแค่ครึ่งทางของสวนหน้าบ้านล้มกลิ้งไปอย่างจังๆ
              คลอเวฟลุกขึ้นก็สบถด้วยความโมโห "สถุลเอ้ยยยยย นี้มันเล่นแรงกันไปแล้ววะ ไอ้...."
              "อ้า โน่น มีคนต้องสงสัยสองคนอยู่ตรงเสาไฟฟ้าใกล้กับสี่แยกกันน่ะ" ลิเนียร์ตี้ลุกขึ้นและเห็นบุรุษในชุดดำสองคนยืนอยู่ ทั้งคู่ที่ได้เห็นเลย "แว้งงงงง" หายตัวไปโดยเร็ว
              คลอเวฟบอก "ไอ้สองตัวนั้น แม่มต้องเป็นตัวการแน่ๆเลยวะ"
              "ทั้งฆาตกรรมผู้พันไบเทน แล้วก็วางระเบิดเป่าทำลายบ้านไปพร้อมกับศพนั้น แสดงว่าคนร้าย คิดที่จะทำลายหลักฐานทุกอย่าง และทำให้ดูเหมือนว่าก๊าซในบ้านรั่วและระเบิด ผู้พันไบเทนออกมาไม่ทันเลยถูกไฟครอกจนเสียชีวิตไปน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "โดยทำให้คนอื่นคิดว่า การตายของผู้พันคืออุบัติเหตุอย่างงั้นละสิน่ะ"
              ไม่ทันไรก็.... "หวออออ หวออออ หวออออ หวอออ" ได้ยินเสียงไซเรนดังขึ้นมา พร้อมกับ "บรืนนนน บรืนนนน บรืนนนน" รถตำรวจโผล่มา 5 คันพร้อมกับรถตู้สีดำ 2 คันด้วย "โว้ว ตำรวจมาไวกว่าที่คิดเสียอีกนะเนี้ย" ลิเนียร์ตี้อุทาน
              "โอ้ว เวรละ เอ็นซิส ก็มาด้วยหรือวะ" คลอเวฟกล่าวอย่างรู้ทัน เมื่อเห็นตัวอักษรสีตัวบนรถตู้สีดำ
              เนคมาดูซัมบอก "เออ....นายหมายถึงตำรวจสืบสวนกองทัพเรืออย่างงั้นสิน่ะ แต่ มันควรอ่านว่า เอ็นซีไอเอส มิใช่หรือ"
              "ก็กูจะอ่านว่าเอ็นซิสกันน่ะ มีอะไรอะเปล่าวะ" คลอเวฟโวย
              ไม่ทันไร เจ้าหน้าที่ตำรวจเอ็นซิสสองนายก็ชักปืนมาจ่อ "ยกมือขึ้น วางมือไว้หลังหัว แล้วคุกเข่าเดียวนี้" เนคมาดูซัมและคลอเวฟได้ฟังก็ทำตาม ลิเนียร์ตี้ที่ยังงงๆ แต่เมื่อเห็นตำรวจแห่มากันเพียบ เธอเลยต้องทำตามด้วยความหวาดกลัวไว้
              "แต่ พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยน่า" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              คลอเวฟบอก "ถึงไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เอ็นซิสก็ต้องสงสัยเราอยู่แล้วละ ว่าพวกเรามีส่วนในการตายของผู้พันไบท์แน่นอน ซึ่งคติของพวกเอ็นซิสนั้น พวกนี้จะโผล่มาก็เมื่อนาวิกหรือทหารเรือตายขึ้นมานะสิ" แล้วเจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้กุญแจมือไซส์ใหญ่มาใส่ข้อมือของเนคมาดูซัมและคลอเวฟ เช่นเดียวกับลิเนียร์ตี้ด้วย

              จากนั้น ทั้งสามก็มาลงเอยที่ห้องสอบสวนของเอ็นซิส "แกร็ก" ประตูห้องเปิดออก พร้อมกับเจ้าหน้าที่เอ็นซิสผมขาวคนหนึ่ง แต่มีส่วนหูเป็นลำโพงจักรกลเข้ากับส่วนตาแบบคาเมร่าอายข้างขวาไว้ โดยมากับเจ้าหน้าที่หนุ่มผิวขาว ซึ่งมีแถบเหล็กติดบนหน้าผากไว้ "โอ้ว อะไรเนี้ย กราดิเอเตอร์มารีน เฮฟวี่คอมมานโดว์ แล้วก็ผู้ช่วยแสนน่ารักของเขา วันนี้มาแวะเยือนเอ็นซิสกันเลยหรือเนี้ย เป็นวันที่โชคดีกันเสียจริงๆ" เจ้าหน้าที่หนุ่มทักทายด้วยรอยยิ้มแบบกวนๆ
              เนคมาดูซัมกล่าว "บอกตรงๆน่ะ ว่าตอนนี้ไม่ใช่ฟิคชั่นหรือนิยายแล้ว เหมือนพวกเราถูกถีบให้มาอยู่ในช่องซีรีย์อะไรสักอย่างน่ะ"
              "อะไรๆก็เกิดขึ้นได้วะ เนคเกอร์ นายบ่นไปก็ไม่ได้ช่วยให้ออกจากห้องสอบปากคำสุดเครียดนี้ได้หรอก" คลอเวฟบอก
              เจ้าหน้าที่ผมขาวกล่าว "ซีนอสโต้ เงียบไม่เป็นหรือไงกันน่ะ" แล้วก็เดินมา "โป้งงงง" ใช้มะเหงกเคาะเข้าหลังหัวเจ้าหน้าที่ชายไปเต็มๆ
              "พวกเธอเป็นเจ้าหน้าที่ของกองรบเวเซอร์ชื่อดังละสิน่ะ ฉัน เจ้าหน้าที่พิเศษ ดีทรอส เจซอน ดริฟท์ หัวหน้าทีมสืบสวนในครั้งนี้ และได้ยินชื่อเสียงของพวกเธอกันมานานมากแล้ว นับแต่พวกเธอมีส่วนร่วมในยุทธการของประธานาธิบดีของเรามาโดยตลอดกันน่ะ" เจ้าหน้าที่ผมขาวแนะนำตัว แล้วก็พูดตำหนิไปว่า "แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเธอก็ยังมีวีรกรรมแย่ๆกับการก่อเรื่องสร้างความเดือดร้อนติดตัวกันด้วย ซึ่งนั้นไม่ดีสำหรับพวกเธอเสียเลยน่ะ"
              เนคมาดูซัมบอก "คุณคือเจซอนดริฟท์นะหรือ โอ้ว พ่อผมเล่าเรื่องคุณให้ผมฟัง แต่ไม่คิดว่า คุณจะ...แก่มากกว่าที่ผมคิดเสียอีกน่ะ"
              "เนคเกอร์ มึงรู้จักกับเจ้าหน้าที่หัวหงอกนี้นะหรือ" คลอเวฟถาม
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ดีทรอส เจซอน ดริฟท์ เป็นนายทหารนาวิกโยธินภายใต้การบัญชาการของจอมพลแฮซกริฟ ซึ่งยังเป็นแค่ผบ.กองทัพเรือของแรซัลก้ากันมาก่อน เป็นยอดสไนเปอร์มือดีที่มีฝีมือแม่นราวจับวาง สามารถจัดการกับเป้าหมายที่อยู่ห่างไปเป็นสิบหรือร้อยกิโลเมตรลงได้สบาย และเคยรับใช้กองทัพของแรซัลก้ากันมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมาด้วยกัน ซึ่งคุณพ่อเคยเล่าให้ผมฟังในช่วงที่อยู่บนแรซัลก้ากันมาแล้ว" แล้วก็กอดอกขึ้นพร้อมกับบอกว่า "แต่น่าเสียดาย ที่คุณดันใช้ความสามารถของคุณ แก้แค้นส่วนตัว จนคุณหวิดถูกเบื้องบนสั่งประหารไปซะได้น่ะ"
              "ว่าแต่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันละคะ" ลิเนียร์ตี้ถาม
              เนคมาดูซัมตอบ "เพราะว่าลูกเมียของเขา เกือบตายเพราะน้ำมือของมาเฟียทางตอนใต้กันนะสิ เพราะพวกเขาเป็นพยานเอาผิดในคดีฆาตกรรมเจ้าของร้านเนื้ออยู่ต่อหน้า ทำให้เขาแค้นจัดเลยตัดสินใจแก้แค้น ด้วยการใช้ปืนยาวสไนเปอร์แอบซุ่มอยู่ หมายจะเด็ดหัวเจ้าพ่อยาเสพติดให้แดดิ้นในช่วงที่เขาขับรถออกนอกเขตเมือง ซึ่ง หนึ่งนัดของเขา ได้ฆ่าคนไปสามคนด้วยกัน เพราะ มีลูกสาวและลูกชายของเขา โดยสารมาด้วย แถมรถที่เจ้าพ่อคนนั้นใช้ อยู่ๆเร่งเร็วแบบกะทันหัน เลยทำให้กระสุนที่ควรจะเจาะเข้าหัวเจ้าพ่อ พุ่งทะลุไปโดนถังเชื้อเพลิงหลังรถ เป่าระเบิดสามพ่อลูกกระจุยไปในคราวเดียวกัน ส่งผลให้แก็งค์มาเฟียที่เจ้าพ่อนั้นดูแล ต้องจบเห่ลงในเวลาอันสั้น เพราะไม่มีใครสืบทอดต่อนะสิ"  
              "จริงดิ แต่ทำไมเขาถึงยังเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ได้กันละ" คลอเวฟกล่าว
              เนคมาดูซัมกล่าว "เพราะเขาพึ่งมารู้ทีหลังนะสิ ว่าผลลัพธ์ที่เขาลงมือมันรุนแรงกว่าที่คิดไว้ เลยกลับไปสารภาพกับทางกองทัพ และต่อหน้าคุณพ่อด้วย ซึ่งคำสารภาพนั้น ช่วยลดหย่อนผ่อนโทษให้ จากเดิมคือโทษประหารชีวิต มาเป็นถูกขับออกจากกองทัพ ถูกกักบริเวณเป็นเวลา 8 ปี ก่อนที่ไซมาเทนจะยื่นอภัยโทษให้ เพราะพวกเฮซเทิร์ซนำกองรบบุกเข้ามาเสียก่อน และทางกองทัพเองก็ต้องการทหารฝีมือดีไปด้วย ซึ่งไม่คิดเลยว่า คุณจะรอดตายจากสมรภูมิที่ล้างผลาญทหารทุกเผ่าไปมากเมื่อ 3 ก่อนที่โฟลเดริล-4 กันเสียได้น่ะ"
              "สมแล้วที่เธอเป็นลูกของแม่ทัพใหญ่เนคคูคัส แม้ว่าเธอจะออกจากกองทัพแล้วไปก่อเรื่องต่อต้านฝ่ายจักรวรรดิ์กันในภายหลังเลยน่ะ" ดริฟท์กล่าว "ซึ่งไม่แปลกเลย ที่เธอเข้ากับเพื่อนๆในกลุ่มเวเซอร์ได้ดีนัก เพราะว่าพวกเธอเคยมีประวัติก่อเรื่องกันมาก่อนน่ะ"
              จนท.ซีนอสโต้เลยวางแฟ้มลงบนโต๊ะ "อย่างมิสเตอร์กราดิเอเตอร์มารีนนั้น ประวัติบนโลกก่อนเข้ากับฝ่ายประธานาธิบดี ได้จมเรือรบของมหาสหรัฐอเมริการ่วงไป 68 ลำ จัดการกับทหารเรือและนาวิกโยธิน เจ็บ 650 คน ตาย 480 คน แม้กระทั่งทหารบกเองก็โดนกระทืบไป 280 คน ส่วนใหญ่ถ้าไม่กระอักเลือดตายก็ต้องเสียแขนเสียขา หนึ่งในนั้นก็คือ สิบโทฟรินท์ เฟอร์นันเดอร์ แฟนดิแอร์โรว์ นายทหารชั้นผู้น้อยของนายพลเวสวิงตัน นายทหารชั้นสูงของฝ่ายมหาสหรัฐอเมริกา จนแขนซ้ายขาดไป พอเข้ามาในกองรบของท่านประธานาธิบดี ก็มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอยู่เป็นเนืองๆ โต้เถียงด่าทอกับเพื่อนร่วมทีมแต่ไม่ถึงกับมีการลงไม้ลงมือ แถมการทะเลาะเบาะแว้งในบางครั้งก็มีอาการเมาสุรากันเสียด้วย เหมือนเช่นที่เกิดเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนนี้แหละ"
              "ถึงกูเมา กูก็ยังมีสติมากพอที่รับรู้ว่าใครด่ากูยังไงกันนะสิ และไอ้คู่กรณีที่เป็นนาวิกตัวดีนั้น มันปากเสียก่อนทำไมละ" คลอเวฟอ้าง
              ดริฟท์บอก "แต่ก่อนหน้านั้น เธอคุยกับผู้พันไบท์ แฟรงค์กันในบาร์เหล้านั้นด้วย พอนาวิกคู่กรณีคนนี้ไม่อยู่...." แล้วก็เอาภาพของนาวิกโยธินที่เป็นคู่กรณี ซึ่งในแฟ้มระบุชื่อ เฮโลลิคเตอร์ ขึ้นมา ดริฟท์เลยพูดต่อ "เธอก็เลยระบายอารมณ์ด้วยการระเบิดบ้านผู้พันไบท์เองสิน่ะ"
              "จะบ้าหรือคะ คุณจนท.ดริฟท์ พวกเราอยู่หน้าบ้านผู้พัน ก็เห็นผู้พันนอนเสียชีวิตไปนานแล้ว ทหารยามหน้าฟอร์ทด็อดซ์เป็นพยานได้คะ ว่าพวกเรายังไม่เข้าไปในตัวบ้าน เพราะพวกเขาไม่ให้คลอเวฟที่โดนลงโทษมาก่อนหน้าเข้าไปได้นะคะ" ลิเนียร์ตี้ยืนยัน
              ซีนอสโต้กล่าว "โอ้ว คุณคงคิดจะช่วยเพื่อน ทั้งๆที่เพื่อนคนนี้เป็นคู่ปรับของหัวหน้าคุณกันแล้วสิ แม้ว่า คุณกับหัวหน้าเองก็มีโทษหนักติดตัวมา ซึ่งไม่เป็นผลดีกันเสียเลยน่ะ"
              "โทษหนักนะหรือ....หมายความว่าไงกันละ" เนคมาดูซัมถาม
              ดริฟท์เลยเอาแฟ้มประวัติของเนคมาดูซัมมา "หลังจากที่เธอแยกจากแม่ทัพเนคคูคัส เธอก็ไปประจำการที่ดาวทาเดม-7 จนได้เจ้าหน้าที่ลิเนียร์ตี้มาเป็นผู้ช่วย จากนั้นก็ออกไปประจำการที่เอสเปรโด้-4 ทำงานให้กับแลมเซน น้องชายของแลมซีนีไนซ์ ซึ่งในระหว่างนั้น เธอกับลิเนียร์ตี้ แอบแฝงไปอยู่ในเขตเมืองดอลเฟลัน เพื่อถล่มโรงพลังงานไฟฟ้าที่โน่น แต่ภารกิจผิดพลาด เพราะมีนักรบชาวแอตทาเวี่ยนมาเห็นเข้า เลยเกิดการต่อสู้ จนเธอใช้พลังถล่มตึกพังไป 10 หลัง แม้จะไม่มีต่างดาวที่อาศัยอยู่เสียชีวิต แต่เธอก็ทำให้มีคนเจ็บสาหัสไปไม่น้อย แล้วนี้ไม่ถือว่าเธอมีความผิดติดตัว จนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในการตายของผู้พันไบท์เลยหรือ เนคเกอร์ มาสซั่ม"
              "เดียวก่อนนะ นี้ประวัติอันนี้ยังอยู่เลยหรือ ผมคิดว่าผบ.บัลโต้น่าจะลบข้อมูลนั้นไป...." เนคมาดูซัมกล่าว
              คลอเวฟบอก "....ผบ.บัลโต้ไม่ได้ลบข้อมูลความผิดของนายและของฉันหรอก ไม่สิ ของคนอื่นๆเองก็ด้วยน่ะ"
              "ถึงว่าสิ ว่าทำไม ใบสมัครงานที่ฉันส่งไปตามบริษัทต่างๆ ดันถูกตีกลับไปเสียได้น่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              ซีนอสโต้กล่าว "และตอนนี้ พวกคุณสามคน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการตายของผู้พันไบท์ แล้วก็นายทหารเรือระดับสูงอีก 6 คนกันด้วยแล้ว ถ้าสารภาพตอนนี้ก็...."
              "ก็อกๆๆๆๆ" เสียงเคาะประตูจากข้างนอกดังขึ้น พร้อมกับชายหน้าอวบที่มีแว่นตาสีเขียวอยู่บนหน้าผาก "มีอะไรหรือ แมพกรีท" ดริฟท์กล่าวกับเจ้าหน้าที่ชายหน้าอวบ แล้วเดินออกมา
              "หัวหน้าครับ หมอดัดลีย์ตรวจสอบศพผู้พันไบท์ที่กู้ขึ้นมาจากซากบ้านที่ระเบิดมา ผู้พันถูกฆ่าตายก่อนที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยเวเซอร์ทั้งสามจะไปถึงกันนะครับ" และนำแพดบันทึกภาพมาให้ "นี้คือภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าฟอร์ทด็อดซ์ เจ้าหน้าที่ทั้งสามอยู่หน้าทางเข้า กราดิเอเตอร์มารีนมาถึง แต่เข้าไปไม่ได้เพราะถูกทหารยามห้ามไว้ จนอีกสองคนตามมาสมทบ แล้วมายืนคุยกัน ทหารยามข้างหน้าทางเข้า เป็นพยานให้ได้นะครับ"
              "แล้วทั้งสามก็เข้ามาใกล้กับที่เกิดเหตุ ซึ่งบ้านก็ระเบิดในเวลาต่อมา กันอย่างงั้นสิน่ะ" ดริฟท์กล่าว
              แมพกรีทพยักหน้า "ครับ และ....ผอ.แจ้งมานะครับ ว่าผบ.บาโทโรมิวทราบเรื่องและมาถึงที่นี้กันแล้วละครับ"

              "กะแล้ว ว่าพวกนายสามตนมาผิดที่ผิดเวลากันเสียได้ ให้ตายสิวะ" บัลโต้สบถต่อเนคมาดูซัม คลอเวฟ และลิเนียร์ตี้ ซึ่งตอนนี้ พ้นจากข้อกล่าวหาไปแล้ว โดยมาอยู่ที่ห้องผู้อำนวยการของเอ็นซิส "ผบ.แรคซ์ ผมต้องขอโทษแทนพวกนี้ด้วย ที่เข้ามาขัดจังหวะการสอบสวนใหญ่ของพวกคุณกันน่ะ"
              ผบ.แรคซ์ ผู้ซึ่งเป็นบุรุษผิวดำเข้มและมีดวงตาหุ่นยนต์สีเงินข้างซ้ายกล่าว "นั้นก็ดีแล้วละ ผบสส.บาโทโรมิว แม้ว่าอดีตลูกทีมที่คุณและท่านประธานาธิบดีสั่งการมา จะอยู่ผิดจุด แต่อย่างน้อย พวกเขาก็ไม่เข้าขัดขวางการสืบสวนก็ถือว่าเป็นอันใช้ได้แล้วละครับ"
              "ที่ผบ.มาหานิ บริคซ์แจ้งมาอย่างงั้นสิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              บัลโต้พยักหน้า "บริคซ์ติดต่อมาหาฉัน เพราะเห็นว่าคลอเวฟข้ามฟากมา แล้วมีนายกับลิเนียร์ตี้ตามมาด้วย โดยที่บริคซ์เล่าถึงผู้พันไบท์ให้ฟัง ซึ่งฉันก็ตกใจไม่น้อย เลยรีบไปที่ฟอร์ทด็อดซ์เพื่อแจ้งให้พวกนายรับทราบกันก่อน แต่ไม่คิดเลยว่า เอ็นซิสจะโผล่มาเสียก่อนน่ะ เพราะฉันทราบว่าผู้พันไบท์มีอันตรายมาเยือนถึงตัวกันน่ะ"
              "มีอันตรายถึงตัว อย่าบอกนะคะว่า ผู้พันไบท์ตกเป็นเป้าลอบสังหารกันนะคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              ผบ.แรคซ์เลยอธิบายไปว่า "ใช่ ไบท์ แฟรงค์เป็นเหยื่อรายที่ 7 ในคดีฆาตกรรมนายทหารเรือระดับสูงของกองทัพฝ่ายสหพันธมิตรของเรา โดยทหารระดับสูง 6 คนก่อนหน้านั้น เป็นเทรอม 3 ซัลคาเลี่ยน 2 แมนิแฟคเตอร์จากเขตดาวของฝ่ายพันธมิตรมนุษย์ 1 ซึ่งล้วนแล้วเป็นบุคคลสำคัญในกองทัพเรือด้วยกันทั้งสิ้น ทางเราได้ร่วมมือกับแผนกสืบสวนทุกหนแห่งที่ได้จัดตั้งมาเมื่อ 4 เดือนก่อน มาช่วยให้การสืบสวนหาตัวคนกระทำผิดนั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น เพราะว่าทหารเรือที่ตายนั้น ไม่ได้ตายแค่ท้องที่ในนครหลวงกันอย่างเดียวนะสิ"
              "แล้วผู้พันไบท์ ที่ทำหน้าที่จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับกองยานรบนั้น เกี่ยวอะไรด้วยกันละ" คลอเวฟบอก
              บัลโต้กล่าว "เกี่ยวสิ เพราะว่าผู้พันไบท์....เป็นบุคคลเดียวที่ติดต่อกับพ่อค้าอาวุธที่เป็นแมนิแฟคเตอร์ และแมนิเกเตอร์ที่หนีออกมาจากแรซัลก้ากันได้นะสิ ยิ่งกับพวกพ่อค้าอาวุธที่เดลอาเนี่ยนด้วยแล้ว ผู้พันไบท์ที่มีความรู้เรื่องอาวุธของยานรบนั้น เหมาะสุดกับภารกิจติดต่อกับพวกพ่อค้าเหล่านั้น โดยเขาปฏิบัติการณ์ลับให้กับกองทัพมาตลอด 2-3 เดือน ซึ่งผู้พันได้กลับมาที่นี้เพื่อรายงานความคืบหน้าต่อท่านจอมพล แล้วก็เหล่าทหารระดับสูง รวมถึงฉันเองด้วย" แล้วก็เอาไม้ยืดมาชี้ตรงหน้านายทหารทั้งภาพถ่ายประจำตัว และภาพถ่ายในสภาพที่เป็นศพ "แต่ในระหว่างนั้น อยู่ๆ ทหารเหล่านี้ก็ถูกฆ่าตายโดยทำให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุมา 5-6 คนด้วยกัน ซึ่งเหตุฆาตกรรมนี้ก็เกิดขึ้นก่อนที่พวกเดลอาเนี่ยนจะส่งกองรบมาหยามน้ำหน้าเราเมื่อคืนวานซืนด้วยแล้ว แถมผู้พันไบท์เองก็มีติดต่อกับฉันไว้ ว่าตนถูกจับตามองโดยใครบางคนที่ไม่หวังดีมาตลอดจนกระทั่งถึงบัดนี้ ทางเราจึงสรุปได้ว่า ตัวการต้องเป็นสายลับที่พวกเดลอาเนี่ยนส่งมาแน่นอน แต่พวกนายสามตนดันอยู่ในที่เกิดเหตุและถูกกล่าวหาเป็นคนร้ายแทนตัวจริงที่ยังลอยนวลอยู่ นั้นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องมาเพื่ออธิบายให้ผบ.แรคซ์ และชี้แจงให้พวกนายทราบกันนี้แหละ"
              "ผบ.บัลโต้คะ หลังจากที่บ้านผู้พันไบท์ระเบิดไปนั้น ฉันเห็น ผู้ต้องสงสัยสองคนอยู่ห่างออกไปกันนะคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              ดริฟท์ถาม "เธอเห็นผู้ต้องสงสัยนะหรือ แล้วทำไมถึงไม่บอกกันละ"
              "ถ้าฉันบอกว่า อยู่ๆพวกนั้นหายตัวไปเอาดื้อๆแบบนี้ คุณจนท.ก็ต้องคิดว่าฉันพูดแบบลอยๆไม่มีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของพวกเรากันนะสิคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              คลอเวฟบอก "และเราสามคนก็หวิดเดี้ยงเพราะบ้านบึ้มมาแล้ว ยังคิดว่าเราเป็นคนร้ายกันอีกหรือ"
              "ผบ.บาโทโรมิว คิดว่าคำพูดของเจ้าหน้าที่ลิเนียร์ตี้ เชื่อถือได้มั้ยละ" ผบ.แรคซ์กล่าว
              บัลโต้ตอบ "ด้วยความเคารพ ต่อให้ลิเนียร์ตี้กับพวกไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ชัดเจน แต่การที่เธอเห็นตัวการต้องสงสัยอยู่ในพื้นที่ก่อนที่จะหายตัวไปนั้น บวกกับสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ว่าดาวของเราถูกฝ่ายตรงข้ามคุกคามจากเงามืดกันแล้วละ"
              "ในเมื่อผบ.ว่ามาเช่นนั้นก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว หากแต่....ผมขอให้เจ้าหน้าที่ของคุณ ออกห่างจากการสอบสวนของพวกเรา เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบสวนของเราจะไม่ถูกขัดจังหวะหรือก่อกวนกันด้วยนะครับ" ผบ.แรคซ์กล่าว
              บัลโต้พยักหน้า "นั้นเป็นข้อเสนอที่ดีมากเลยนะครับ ผบ.แรคซ์ เว้นแต่ว่าเรื่องที่พวกคุณทำอยู่นี้ หรือคนร้ายที่พวกคุณตามตัวกันอยู่นั้น เป็นเป้าหมายของทางเราและทางเวเซอร์กันนะครับ"
              "หวออออ หวอออออ หวอออออ หวอออออ" ฉับพลัน สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ผบ.แรคซ์ถาม "มีเรื่องเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ"
              เลขานุการกล่าว "เกิดเรื่องแล้วละคะ มีกลุ่มศัตรูบุกจู่โจมเข้าไปในอาคาร กราดยิงปืนเลเซอร์สังหารเจ้าหน้ารปภ.ล้มตายไป ศัตรูเหล่านั้น มีหัวเป็นนก เป็นกิ่งก่า หมี และแมวนะคะ"
              "พวกเดลอาเนี่ยน....ว่าแต่ ทีมผ่าศพของคุณทำงานอยู่หรือเปล่าละ" บัลโต้ถาม
              ผบ.แรคซ์ตอบ "เรามีทีมผ่าศพจากสถาบันสเทรโซเดี่ยนจากทางตอนเหนือของนครหลวงมา รวมถึงนักวิจัยด้านกายภาพของมนุษย์ต่างดาวจำนวนมากมาอยู่ที่นี้ ซึ่งทางเรารีบแจ้งให้พวกเขาเตรียมอพยพออกไปกันนะคะ"
              "นั้นไม่เข้าท่าแล้วละ พวกเดลอาเนี่ยนคงแห่มานี้เพื่อมาชิงศพกลับไปแน่ๆเลยละ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "หรือมานี้เพื่อฌาปนกิจพวกพ้องเพื่อไม่ให้พวกเราได้ข้อมูลสำคัญไป ซึ่งอย่างหลังนั้นคงหมายรวมถึง บดขยี้ที่นี้ให้ราบแล้วนะสิ" แล้วทั้งหมดรีบออกจากห้องไปโดยทันที

              วกมายังพีวิลและสเปียริท ตอนนี้ได้ขับโฮฟไบค์ออกจากเขตเฟิร์สฮิลล์ไปตามถนนผ่านสะพานข้ามทะเลกันแล้ว และมาจอดตรงปั้มกลางสะพาน เพื่อติดต่อไปหาบรูโน่ ในเวลาเดียวกันกับที่เนคมาดูซัมและลิเนียร์ตี้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
              "อะไรน่ะ ตะกี้นี้เธอบอกว่า ไกซ์กับมิลด์ ไม่ได้อยู่ในกองรบเดียวกับที่เธออยู่อย่างงั้นนะหรือ" สเปียริทกล่าว
              บรูโน่ติดต่อมาตามสายว่า "ครับ คือว่า ไกซ์กับมิลด์ถูกหัวหน้ากองที่ผมสังกัดอยู่โยกย้ายไปอยู่หน่วยอื่น ฐานที่พวกเขาทั้งสองพยายามเข้าไปในห้องข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนหวงห้ามกันไว้ แม้นั้นจะมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด แต่ไกซ์กับมิลด์ยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ทำ เพราะพวกเขาไม่ได้แวะไปที่เขตหวงห้ามกันจริงๆ และอยู่ในห้องพักมาตลอดกันน่ะ"
              "แล้วเธอมียืนยันเรื่องนี้หรือเปล่าละ บรูโน่" พีวิลถาม
              บรูโน่ตอบ "ครับ ผมเองก็ยืนยันด้วยการโทรไปหาทั้งคู่ว่าเย็นพรุ่งนี้ให้ไปกินข้าวนอกฐานทัพกันไว้ โดยในเวลาที่เกิดเหตุนั้น ผมก็อยู่กับทั้งคู่ตลอด แม้กระทั่งช่วงที่ผมเจอกับเพื่อนทหารต่างกองทะเลาะวิวาทกัน ผมกับไกซ์เลยเข้าไปห้ามมวยด้วย เพราะรู้ว่าเพื่อนคนนั้นโดนคู่กรณีไล่กระทืบกันนะครับ"
              "เพื่อนทหารนะหรือ อยู่ในบาร์เดียวกันที่คลอเวฟไปหรือเปล่าละยะ" สเปียริทถาม
              บรูโน่บอก "คนละที่และคนละเวลาเลยนะครับ เพราะเหตุเกิดนั้นมันเกิดเมื่อ 3 เดือนก่อน แม้ว่าพวกผมจะพาเพื่อนผมไปโรงพยาบาลและไปให้ปากคำในโรงพัก โดยฝากขังเพื่อนผมเอาไว้ สุดท้าย หัวหน้ากองเลยสั่งไล่เพื่อนตัวดีของผมออก และไล่ไกซ์และมิลด์ที่แม้จะมีหลักฐานยืนยัน แต่ก็มีส่วนในเรื่องทะเลาะวิวาทกันด้วย แถมไล่ไปพร้อมกับอัลติเมทเอทและแพนเซสเซนไนน์ด้วยนะครับ"
              "แล้วพอจะทราบมั้ย ว่าเพื่อนตัวดีที่ก่อเรื่องนั้นเป็นใครละ" สเปียริทบอก
              บรูโน่กล่าว "พวกคุณน่าจะเจอหมอนั้นบ้างนะ หมอนั้นเป็นทหารแมนิเกเตอร์มนุษย์ ลูกครึ่งเกาหลีเหนือกับอเมริกากลาง เคยโดนพวกโซลูนาสตี้เป่าจนตาขวาแตก แล้วหมอเซริซ่าต้องเอาตาของเพื่อนร่วมทีมที่ตัวตายแต่ตายังดีอยู่ เพียงแต่มันต้องอยู่โดยที่มีดวงตาข้างขวาใหญ่กว่าของมันก็เท่านั้นเอง อายุอานามก็แก่กว่าไกซ์และมิลด์ 1-2 ปี แถมยังเป็นทหารที่อยู่ในความดูแลของผู้การเฮลิคมาก่อนนะสิ"
              "พอจะรู้ชื่อบ้างมั้ยละ ฉันจะได้เจอและพูดคุยถามเขากันไว้น่ะ" พีวิลถาม
              บรูโน่บอก "ชื่อเกาหลีของไอ้หมอนั้น คือคิมเซวอน ตามที่แม่ตั้งให้ ส่วนชื่อที่พ่อตั้งให้ คือคีธ แลนเทน สตาร์ เห็นว่าหลังจากเรื่องเมื่อคืนนั้น พี่ใหญ่เลยสั่งลงโทษด้วยการไล่ออกจากกองรบให้ไปเป็นพลเรือน ทำงานให้สาธารณชนกันนะครับ"
              "ตะกี้นี้เธอบอกว่า เราน่าจะเจอกับคีธนิ  หมายความว่าเขาอยู่ที่เฟิร์สฮิลล์นะหรือ" พีวิลกล่าว
              บรูโน่ตอบ "ครับ เพียงแต่ เขาไม่ได้ติดต่อกับไกซ์และมิลด์มานาน เช่นเดียวกับผมด้วยนะครับ เพราะเขาคงโมโหที่ผมกับพวกเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาถูกปลดน่ะ"
              "แล้วตอนนี้ เธอรู้มั้ยว่าเราจะหาไกซ์และมิลด์ที่กองรบไหนละ" พีวิลถาม
              บรูโน่กล่าว "หลังจากที่ทั้งคู่ถูกปลดและถูกส่งไปประจำการที่หน่วยนั้นหน่วยนี้ ล่าสุดก็....เป็นหน่วยรบที่ 67 ของกองยานซัลคาลาส ซึ่งตั้งฐานประจำรัฐมิสเตอร์ซีปซี่นะครับ"
              "สงสัยว่าเราคงต้องใช้บริการแอร์บัสแล้วละน่า" สเปียริทกล่าว
              พีวิลตอบ "ขอบใจมากนะ บรูโน่ ที่ให้ข้อมูลกับเราไว้ ตอนนี้เธอกลับไปทำงานตามเดิมได้แล้วละ" แล้วพีวิลก็พาสเปียริทตรงไปยังสนามบินในเขตเมือง ซึ่งมีแอร์บัสจอดไว้มากมาย ทั้งคู่จึงเลือกเดินทางไปยังมิสเตอร์ซีปซี่ เพื่อมุ่งหน้าไปยังกองบัญชาการหน่วยรบที่ 67 ด้วยโฮฟไบค์โดยเร็ว และมาถึงด่านประตูหน้า "พวกเราสองคนมาที่นี้ด้วยเรื่องสำคัญทางราชการทหารกันน่ะ" พีวิลกล่าว
              "งั้นขอตรวจบัตรหน่อยนะครับ" ทหารยามกล่าว พีวิลและสเปียริทเลยเอาบัตรประจำตัวมา "ร้อยเอกปีเตอร์ แอนเดอร์สัน แล้วก็ ร้อยโทหญิงเอลซ่า สฟีร่า แรคน่าราสต้า จากหน่วยเวเซอร์สิน่ะ งั้นเชิญเข้าไปได้เลยครับ"
              สเปียริทบอก "หน่วยหรือ เราเป็นกองรบต่างหากละ" แล้วพีวิลก็ขับโฮฟไบค์ไปจอดในที่จอด ซึ่งก็ได้เห็นซากรถจี้ปและรถยนต์ต่างๆที่เสียหายเรียงราย พอๆกันกับสภาพฐานทัพในหน่วยที่ 67 ที่พังเสียหายไปด้วย
              "ผู้การลากูด้าครับ พีวิลและสเปียริทจากหน่วยเวเซอร์มาแล้วละครับ" ทหารลิมฟ่าซัลคาเรี่ยนชายกล่าว ผู้การลากูด้า นายทหารของอดีตกองยานรบฝ่ายจักรวรรดิ์ ลิมฟ่าซัลคาเลี่ยนผิวสีส้มผมสีเหลืองสัปปะรดหันมา พีวิลและสเปียริททำวันธยาหัตถ์ไว้
              "ไม่ต้องมากพิธีกันหรอกน่ะ ร้อยเอก ร้อยโทหญิง ที่จริงผมดีใจไม่น้อยที่คุณกับพวกรอดจากการจับตัวของพวกต่างดาวกันไว้น่ะ" ลากูด้ากล่าว
              "และพวกคุณเองก็รอดจากการจู่โจมของพวกเดลอาเนี่ยนกันด้วย ไกซ์และมิลด์ช่วยพวกคุณได้ดีเลยสิครับ" พีวิลบอก
              ลากูด้าพยักหน้า "แม้ว่าทั้งคู่ถูกส่งมาในฐานะนักบินทดสอบการต่อสู้ด้วยโมบิลลอยด์กันก็ตาม แต่ด้วยเหตุผลที่ทั้งคู่ต้องสงสัยในเรื่องจารกรรมข้อมูลมาโดยตลอดนั้น แม้ทั้งคู่จะอ้างว่าไม่ได้เป็นคนทำ แต่ด้วยหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ยืนยันว่าทั้งคู่ผิดยังอยู่นั้น ทางเราจึงต้องควบคุมตัวทั้งคู่กันไว้ เช่นเดียวกันกับจัดการถอดชิ้นส่วนโมบิลลอยด์ทั้งคู่กันไว้นะครับ"
              "ถอดชิ้นส่วนอัลติเมทเอทและแพนเซสเซนไนน์นะหรือ พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างงั้นโดยไม่มีความเห็นชอบจากพวกเราที่เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบไกซ์และมิลด์เลยนะคะ" สเปียริทไม่เห็นด้วย
              ลากูด้าบอก "แต่ เราเห็นทั้งคู่อยู่กับหุ่นประจำตัวกันแล้ว ทางเราต้องสงสัยว่าทั้งคู่คงจะแอบลักลอบส่งข้อมูลเข้าไปในตัวหุ่น ซึ่งทางเราจำต้องทำก่อนแล้วค่อยมารายงานเบื้องบนกันทีหลังนะครับ"
              "ถ้างั้น พวกคุณอย่าพึ่งลงมือกันก่อนนะครับ ให้พวกเราสอบถามไกซ์และมิลด์กันไว้ ว่าพวกเขาทำอะไรกับหุ่น และสอบถามว่าพวกเขาต้องสงสัยอย่างที่พวกคุณคิดกันจริงหรือเปล่านะครับ" พีวิลบอก
              ลากูด้าพิจารณาแล้ว "ได้ เพราะว่าพวกเราเชื่อว่าพวกคุณสามารถแก้ปัญหาได้ตามที่จอมพลแฮซกริฟและผบสส.บาโทโรมิวว่าไว้ แต่หวังว่าพวกคุณคงไม่คิดพาทั้งสองหนีไป แม้ว่าคุณจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งสอง เช่นเดียวกับสองสามีภรรยาโอดิลกันนะครับ"

              "ลูกพี่พีวิล อาเจ้สเปียริท โอ้ว ดีจังเลยนะเนี้ย ที่มาถึงที่นี้ได้น่ะ" ไกซ์กล่าวอย่างดีใจเมื่อได้เห็นหน้าพีวิลและสเปียริทกันไว้
              มิลด์บอก "นึกว่าพวกคุณจะถูกต่างดาวจับไปแล้วไปลับเสียอีกนะคะ"
              "แย่หน่อยนะจ๊ะ ที่พวกเราดวงแข็ง ไม่ยอมให้ต่างดาวนำตัวไปได้ง่ายๆเลยน่ะ" สเปียริทกล่าว และหันมาถาม "ว่าแต่ จริงหรือเปล่าที่พวกเธอสองคนถูกสงสัยว่าจารกรรมข้อมูลความลับกันมาโดยตลอดน่ะ"
              ไกซ์กล่าว "อาเจ้ พวกเราจะทำอย่างงั้นได้ไง ในเมื่อ....พวกเราเป็นแค่พลทหารเองนะครับ ต่อให้มิลด์สามารถแฮคข้อมูลเข้าไปได้ เธอก็ไม่มีทางทำอย่างงั้นได้แน่ๆนะครับ"
              "ที่ไกซ์ว่ามานั้น เป็นความจริงอย่างงั้นหรือ" พีวิลถาม
              มิลด์พยักหน้า "คะ....เพราะฉันรู้ว่าการแอบแฮคข้อมูลทางการทหารไปนั้นเป็นโทษร้ายแรงกันอยู่แล้ว ซึ่งแม้ฉันจะอยู่ใกล้คอมพิวเตอร์กันก็จริง แต่....ฉันใช้พิมพ์รายงาน เขียนบันทึกประจำวัน แล้วก็มีแชทกับเพื่อนทหารนอกค่ายกันด้วย แน่นอนว่าฉันส่งคอมพิวเตอร์ให้ทุกๆคนเช็คมาทุกครั้ง ผ่านการรีบู้ตมาหลายครั้งกันแล้วนะคะ"
              "แต่ แล้วเรื่องที่พวกเธอแอบไปที่หุ่นยนต์ในช่วงยามวิกาลกันละ" ลากูด้าบอก "หัวหน้าทุกหน่วยล้วนรายงานมาว่า ช่วงเวลา 4 ทุ่มถึง 5 ทุ่มเป็นช่วงเวลาที่ทหารทุกนายที่ไม่ได้เข้าเวรกะดึกต้องเข้าที่พัก รวมถึงพลทหารเองด้วย แล้วพวกเธอไปทำอะไรกับหุ่นประจำตัวของพวกเธอกันละ ซึ่งไม่ใช่แค่ที่นี้ทีเดียวน่ะ อีก 8 หน่วยเองก็รายงานมาอย่างงั้นด้วยน่ะ" ไกซ์ได้ฟังก็หน้าบึ้งตึงขึ้นมา
              พีวิลกล่าว "ไกซ์ บอกมาเหอะ อย่างน้อย เธอควรจะแก้ต่างกันบ้างน่ะ ว่าเธอกับมิลด์ต้องมีเหตุผลที่ทำไปเช่นนั้นน่ะ" โดยที่พีวิลมีสีหน้าที่จริงจังขึ้นมา
              "ก็ได้ครับ ลูกพี่.....ที่ผมกับมิลด์แอบไปหาคู่หูนั้น ก็เพื่อ....ไปซ่อมบำรุงให้พร้อมใช้งานก่อนเช้าของวันถัดมากันนะครับ" ไกซ์บอก
              สเปียริทถาม "ซ่อมบำรุงเองนะหรือ แล้วทีมช่างประจำหน่วยไม่ได้ซ่อมให้เธอเลยหรือไง"
              "คือว่า....เราขอร้องให้พวกเขาช่วยซ่อมให้กันนะคะ แต่....." มิลด์บอก "....พลทหารประจำหน่วยเขาห้ามไม่ให้ทีมช่างประจำหน่วย มาช่วยซ่อมหุ่นให้พวกเราสองคนที่เป็นทหารคนนอกกันนะคะ"
              ลากูด้าบอก "เป็นความจริงนะหรือ แต่....ทำไมฉันถึงไม่ได้รับแจ้งข่าวเรื่องนี้กันเลยละ"
              "จะแจ้งได้ไงละครับ ก็พวกเราโดนพลทหารของพวกคุณ ไม่สิ ทุกหน่วยที่พวกเราไปช่วยงานนั้น รุมล้อมข่มขู่มิให้พวกเราไปฟ้องหัวหน้าประจำหน่วย หรือแม้กระทั่งรองหัวหน้าด้วย ไม่เช่นนั้น พวกเขาจะแอบไปพังคู่หูของผมและของมิลด์ให้เสียหายชนิดที่ซ่อมไม่ได้อีกเลยนะครับ" ไกซ์กล่าว
              มิลด์บอก "และพวกเราโดนข่มขู่มาหลายต่อหลายครั้ง พอเราจะหาโอกาส พลทหารเหล่านั้นก็ขวางได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะกับ....ผู้ฝูงนีแกน เขาล็อกประตูห้องพักของเราเอาไว้ แล้วแอบเอาหุ่นบุกไปรบก่อนที่พวกเราจะไปช่วย จน....ถูกเดลอาเนี่ยนใช้ดาบแสงแทงทะลุคอกพิตตายไปกันนะคะ"
              "แล้วพลทหารตัวดีเหล่านั้น ยังอยู่หรือเปล่าละคะ" สเปียริทถาม
              ลากูด้าได้ฟังก็เรียกทหารมากระซิบและสั่งการโดยเร็ว แล้วเหล่าพลทหารก็ถูกเรียกตัวมา "พวกเธอมีเหตุผลอะไรที่ขัดขวางมิให้ทีมช่างมาช่วยซ่อมบำรุงโมบิลลอยด์ของพลทหารฮาสตันและพลทหารอัลเดย์ ทั้งๆที่ทั้งสองคนเป็นคนในกองทัพเหมือนๆกันกับพวกเธอ และมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเธอกันน่ะ"
              "ที่พวกเราทำแบบนั้นไปนั้น เพราะว่า ทั้งคู่ มีพวกเวเซอร์หน้าตาแบบนี้สองคนส่งเสริมให้ท้ายไม่ว่า ขนาดวีรบุรุษสองสามีภรรยาโอดิลที่เป็นตำนานของกองทัพโมบิลลอยด์สกรีแทนของพวกเรานั้น ทั้งคู่ยังเป็นลูกทีมกันแบบนี้ ถือว่าทั้งคู่ดูหมื่นหยามเหยียดพวกเราทางอ้อมกันด้วยนะครับ" พลทหารกล่าว
              พลทหารอีกคนเสริม "พวกเราต่างหากละที่ควรจะเป็นลูกทีมของมังกรร้อนเย็นร็อดดิเกรส และเหยี่ยวสาวเฟรมิเดรก้า มิใช่มนุษย์โคลนนิ่งและแอนดรอยจากโลกมนุษย์กันสักหน่อย ใครใช้ให้ทั้งคู่โผล่มากันมิทราบละ"
              "นี้แปลว่า พวกเธอทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่หน่วยนี้และอยู่ทุกหน่วย ล้วนทำแบบนั้นกับพลทหารฮาสตันและพลทหารอัลเดย์อย่างงั้นสิน่ะ" ลากูด้าบอก
              พลทหารหญิงกล่าว "พวกเราจะทำอย่างงี้จนกว่าทั้งคู่จะถูกขับไล่จากกองทัพเป็นการถาวรเองละคะ นั้นก็สมควรแล้วที่บังอาจมาสะเอ่อะทำตัวเด่นเป็นฮีโร่มาช่วยพวก..."
              "โครมมมม" สเปียริทกระทืบพื้นจนพื้นคอนกรีตร้าวด้วยความโมโห "พวกเธอรู้มั้ย ว่าเพื่อนเธอคนหนึ่งที่เป็นหัวโจกนั้น กับเพื่อนหัวดื้อที่อยู่กับไกซ์และมิลด์ตอนที่ประธานาธิบดียังเป็นหัวหน้ากบฎบนโลกนั้น เหมือนกันเลย ก็คือตายด้วยความคิดโง่ๆบวกอคติจนฝ่าฝืนคำสั่งกันแบบนี้ พวกเธอคิดว่าตัวเองแน่นักหรือ ถึงสามารถเอาชนะพวกศัตรูโดยปราศจากความช่วยเหลือของเพื่อนต่างกลุ่มที่มีความหวังดีกันไปได้น่ะ" แล้วก็ตำหนิด้วยเสียงที่ดังมากๆจนพลทหารหวั่นเกรงกันไม่น้อย
              พีวิลบอก "และ....ฉันหวังว่าพวกเธอซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการปกป้องอธิปไตย ร่วมกันกับจอมพลแฮซกริฟ กับกองทหารทั้งหมด รวมถึงพวกเราเองด้วยนั้น จะไม่เป็นเหมือนพวกเคอแรซทรูปเปอร์ของแพททริค ทิลเทอแรน ที่เป็นพวกรังเกียจคนดีๆและเอาคนเลวๆเข้ามากันอยู่แล้ว แล้วที่ฉันเห็นนิ พวกเธอแทบจะเหมือนกับสมุนเศษเดนของพวกแพททริค มิใช่ทหารจากซัลคาเลี่ยนที่ติดตามจอมพลแฮซกริฟและเหล่านายทหารที่ร่วมมือด้วยกันสักนิดน่ะ"
              "คิดว่าพวกคุณสองคนแน่นักหรือ ถึงกล้ามาตำหนิต่อว่าพวกเราแบบนั้นน่ะ พ่อแม่ของพวกเรายังไม่เคยว่ากันเลยนิ" พลทหารกล่าว
              ลากูด้าเลยตวาดใส่ไปว่า "แต่สิ่งที่พวกเธอทำอยู่นี้ มันไม่ใช่การกระทำของทหารกันสักหน่อยน่ะ ซึ่งฉันผิดหวังกับพวกเธอไม่น้อยเลยน่ะ ว่าพวกเธอยังมีความคิดแบ่งแยก เห็นตนเองสำคัญกว่าคนอื่นที่เป็นคนนอก ทั้งๆที่พวกเธอกับพลทหารฮาสตันและพลทหารอัลเดย์ล้วนเป็นแมนิเกเตอร์เหมือนกัน อยู่ภายใต้กฎระเบียบเหมือนกัน และปกป้องถิ่นฐานบ้านเกิดแห่งใหม่นี้เหมือนกันแล้ว ฉันน่าจะ....ให้พวกเธอถูกขังอยู่ในแรซัลก้ากันเสียจริงๆ"
              "........." พลทหารได้ฟังลากูด้าตำหนิก็ถึงกับหวั่นเกรงไปไม่น้อย พลทหารหญิงคนหนึ่งยังไม่ยอมแพ้ "แต่ หัวหน้าเองก็คงช่วยเหลือคนผิดทั้งสอง โดยที่มีพวกเวเซอร์ทั้งสองให้ท้ายกันอยู่ดีเช่นนี้ ยังไงพวกเราก็คงไม่ยอมรับกันอยู่แล้วละ" สเปียริทได้ฟังก็ถึงกับโมโห พีวิลเลยทำได้แค่ส่ายหน้า จนกระทั่ง.... มีทหารยาม 4 คนวิ่งเข้ามา
              "โอ้ะ ผู้การลากูด้า นี้ ทั้งสองคน อยู่กับผู้การตลอดเลยหรือครับ" ทหารยามคนหนึ่งกล่าวด้วยความแปลกใจ ที่เห็นไกซ์กับมิลด์อยู่
              "พลทหาร มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนะหรือ" ลากูด้าถาม
              ทหารยามคนที่สองบอก "คือว่า กล้องวงจรปิดจับภาพของพลทหารฮาสตันและพลทหารอัลเดย์จากโรงเก็บสกรีแทนหมายเลข 5 กันไว้ โดยทั้งคู่ใช้ปืนเลเซอร์ไรเฟิ่ลไล่ยิงใส่สกรีแทนมาร์คทูที่เตรียมซ่อมบำรุงจนพังไปกันแล้ว" และกล่าวไปว่า "แต่ ทั้งคู่อยู่ตรงนี้ตลอดเวลาเลยหรือครับ"
              "ฉันยืนยันได้น่ะ ไกซ์และมิลด์อยู่กับพวกเราตลอด ไม่ไปไหนกันเลยแม้แต่ก้าวเดียวเลยน่ะ" พีวิลกล่าว
              สเปียริทบอก "ถ้าไกซ์กับมิลด์อยู่นี้ แล้วที่พวกคุณเห็นนั้น...." และนึกขึ้นมาได้จึงหันหน้ามายังพีวิล "โอ้ว แย่แล้วละ....พีวิล"
              "เดียวก่อนนะ ลูกพี่ อาเจ้ หรือว่า..." ไกซ์กล่าว พีวิลพยักหน้า แล้วทั้งหมดก็วิ่งมายังโรงเก็บสกรีแทนที่ตอนนี้ "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" ไกซ์กับมิลด์ระดมยิงเลเซอร์ไรเฟิ่ลเข้าใส่สกรีแทนมาร์คทูของพวกทหารกันอยู่
              พลทหารหญิงถาม "นี้คงจะเป็น ร่างโคลนเสริมและหุ่นก็อปปี้อย่างงั้นละสิ"
              "ไม่มีทางน่า พวกเราไม่มีทางเมคขึ้นมาได้เองหรอกน่า" มิลด์แย้ง
              พีวิลตอบ "นั้นพออธิบายได้แล้วละ ว่าทำไมพวกเธอสองคนถึงถูกสั่งย้ายไปหน่วยนั้นหน่วยนี้ เพราะว่าพวกเธอสองคนถูกปรักปรำโดยใครสักคนที่ก็อปปี้อัตลักษณ์ของพวกเธอไปก่อเรื่องเอาไว้กันนี้แหละ" แล้วก็ตะโกนกลับไปว่า "หันหน้ากลับมาเดียวนี้เลยน่ะ"

              "หือๆๆๆๆๆ" ไกซ์กับมิลด์อีกคนหันหน้ามา ซึ่งพวกเขาทั้งคู่หน้าตาเหมือนกันและสวมชุดแบบเดียวกันกับตัวจริงทุกประการ หากแต่.... "พวกเธอ คิดว่าไกซ์กับมิลด์ตาดำทั้งดวงเหมือนตัวที่เห็นอยู่หรือเปล่าละ" สเปียริทบอก เพราะตัวปลอมทั้งสองตนนั้นดวงตาแหลมและแววตาดำทั้งดวงด้วยกัน ไกซ์กับมิลด์ตัวปลอมเลยชักปืนเข้ามา "ฮึยยยยย" พีวิลเลยพุ่งเข้ามา พร้อมกับสเปียริทที่กระโจนขึ้นสูงแล้วก็ "ฮาร์ดนัคเคิ้ล" พีวิลพุ่งมาตรงหน้าไกซ์ตัวปลอมและ "เปรี้ยงงงง" ตะบันหน้าอัดใส่จนล้มคว่ำไปอย่างจังๆ ส่วนสเปียริทนั้น "ลูกถีบมังกรบิน" กระโดดถีบใส่มิลด์ตัวปลอมจนล้มกลิ้งตาม
              "เหอะๆๆๆๆ นั้นคงเป็นพลังการต่อสู้ของพวกเวเซอร์ที่กล้าท้าสู้กับพวกมหาจักรวรรดิ์ของพวกเราเลยสิน่ะ" มิลด์กล่าว พร้อมกับลุกขึ้นโดยที่ส่วนอกซ้ายของเธอบุบเข้าไปข้างใน ส่วนไกซ์ตัวปลอมนั้นก็ลุกขึ้นทั้งๆที่หน้าเบี่ยวเพราะแรงหมัดของพีวิลไว้
              "มหาจักรวรรดิ์ แกสองคนเป็นสมุนของพวกเดลอาเนี่ยนสิน่ะ พวกแกเป็นใคร" พีวิลกล่าวและถามกลับ
              ไกซ์ตัวปลอมบอก "พวกเราคือสายลับชาวแดคน็อกซ์ พวกเราถูกส่งมาเพื่อแทรกซึมกองกำลังทหารของพวกแก จากนั้นก็บันทอนสร้างความเสียหายจากภายในเพื่อเปิดทางให้กองรบพันธมิตรบุกเข้ายึดดาวดวงนี้ ซึ่งพวกเรา ได้สร้างความปั่นป่วนมาหลายต่อหลายครั้งแล้วละ" โดยร่างของทั้งคู่แปรเปลี่ยนกลับสู่สภาพเดิมไว้
              "ถ้าอย่างงั้น ที่ไกซ์กับมิลด์ลอบเข้าไปขโมยข้อมูลทางทหารนั้น เป็นฝีมือของพวกแกงั้นหรือ" สเปียริทบอก
              มิลด์ตัวปลอมตอบ "ใช่ และโชคดีมากๆที่พวกเรารู้ว่าตัวต้นแบบทั้งสองนั้นเป็นลูกน้องของพวกแกกันด้วยแล้ว การก่อเรื่องของพวกเรานั้นจะเป็นการดึงพวกแกสองตัวให้เข้ามาเจอพวกเรากันเองนี้แหละ"
              "แย่หน่อยนะ ที่พวกเราคงต้องหยุดแผนการบ้าๆของพวกแกกันซะแล้วละ" สเปียริทกล่าว
              ไกซ์ตัวปลอมแสยะยิ้ม แล้วก็ "ครืดๆๆๆๆๆๆๆๆ" ร่างของไกซ์และมิลด์ตัวปลอมเปลี่ยนสีผิวเป็นสีดำพร้อมกับแปรเปลี่ยนร่าง ให้กลายเป็น....  ไกซ์ตัวจริงกล่าว "แม่เจ้า มันแปลงเป็นลูกพี่พีวิลและอาเจ้สเปียริทกันแล้ววะ" เมื่อเห็นพีวิลและสเปียริท มีตัวปลอมอยู่ตรงหน้า ซึ่งมีแววตาแหลมและดวงตาสีดำเข้มกันทั้งนั้น
              "นี้พวกแก....แฝงตัวเข้ามาในกองทหารด้วยการเปลี่ยนร่างแปลงโฉมได้อย่างงั้นนะหรือ" พีวิลบอก แล้วก็ตั้งท่าต่อสู้ เช่นเดียวกับสเปียริทด้วย
              สเปียริทตัวปลอมบอก "ถูกต้อง พวกเราชาวแดคน็อกซ์สามารถแปลงเป็นใครก็ได้ ที่เราเห็นหน้า หรือได้ตัวอย่างชิ้นส่วนอวัยวะหรือของเหลวในตัวออกมา ซึ่ง ลูกน้องของแกทั้งสอง พลาดพลั้งเผลอปล่อยของเหลวจากในห้องน้ำ แล้วพวกเราก็ไปเอามากันนี้แหละ"
              "หว่า ตายแล้ว นี้อย่าบอกน่ะ ว่ามีคนแอบเอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วของฉันออกไปจากถังขยะกันน่ะ" มิลด์ตัวจริงอุทานด้วยความตกใจและเขินอายขึ้นมา
              ไกซ์ตัวจริงบอก "เดียวก่อนน่ะ งั้นไอ้ทหารที่อยู่ๆเอานิ้วไปล้วงในอ่างล้างหน้าที่ฉันเปิดน้ำล้างเสมหะออกไปนั้น เป็นพวกแกสองตัวอย่างงั้นนะหรือ"
              "งั้นที่แกยอมให้เราโจมตีใส่ ก็เพื่อให้พวกแกแปลงเป็นพวกเราได้อย่างงั้นสิน่ะ" พีวิลบอก
              พีวิลตัวปลอมบอก "ใช่ และแย่หน่อยนะ ที่พวกเรา...ไม่ได้แค่แปลงโฉมให้เหมือนกันอย่างเดียวหรอก แต่ลอกเลียนให้ทำแบบนี้ได้เองแหละ" แล้วก็ "ป้ากกกก" ชกใส่ตัวจริงที่รีบไขว้แขนซ้ายบล็อกไว้ได้ทัน ส่วนตัวปลอมของสเปียริทนั้น "ย้า" กระโดดเข้าถีบใส่ตัวจริง ซึ่ง "หมับบบบ" ใช้ฝ่ามือสยบเพลงถีบไปได้ แต่ก็... "หวับบบ เปรี้ยงงง" ตัวปลอมหมุนตัวและหวดขาเตะให้สเปียริทตัวจริงล้มตาม "ย้าๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลตัวปลอมกระหน่ำชกใส่ตัวจริงอย่างรวดเร็ว ซึ่งตัวจริงก็ทำได้แค่เอี้ยวตัวหลบหมัดที่ชกมา "ฮึยย" พีวิลเลยสบัดหมัดฮุคเข้าใส่ตัวปลอม ซึ่งมันคิดจะชกหมัดตรงใส่ แต่ "ฟึ่บบบ" พีวิลรีบชักหมัดฮุคกลับและ "เปรี้ยงงง" หวดหลังแหวนซ้ายอัดใส่ตัวปลอมจนปลิว ในขณะที่สเปียริทนั้น "ฟึ่บบบ ครี้งง หวับๆๆๆๆๆ" รีบใช้คริสทรัลร็อดออกมา พร้อมกับควงพลองไว้ ซึ่งตัวปลอมนั้น "หวับๆๆๆๆๆๆ" ดึงพลองออกมาได้เช่นกัน แล้วทั้งคู่ก็ "กร้องๆๆๆๆๆๆ" หวดพลองยาวใส่กันอย่างรวดเร็ว หากแต่ตัวปลอมไปไวกว่าตัวจริง
              "ทีนี้ นายสองคนแยกออกได้หรือยัง ว่าไหนตัวจริงตัวปลอมกันน่ะ" พลทหารชายถาม
              ไกซ์บอก "ลูกพี่พีวิลตัวจริง แม้จะว่องไวในการหลบหลีกและการออกอาวุธที่เร็ว แต่ตัวปลอมมันออกหมัดได้ไวกว่าตัวจริงมากไปหน่อยน่ะ"
              "ส่วนคุณสเปียริทนั้น มือไม้ของเธอแรงและหนักแน่นมากๆ มีพลังขาที่กระโดดได้สูง หากแต่....คุณสเปียริทออกตัวได้ค่อนข้างช้า ผิดกับตัวปลอมที่พุ่งมาด้วยสปีดที่เร็วกว่าตัวจริงกันน่ะสิ" มิลด์กล่าว โดยที่สเปียริทตัวปลอมนั้น "ย้า" หวดพลองใส่เข้าตรงเอวขวาไปเต็มแรง แต่.... "แกร้งงงงง" ตัวจริงตั้งพลองในแนวตั้งต้านไว้ และ "หวับบบ เปรี้ยงงง" กระโดดเหวี่ยงตัวไปข้างหลังเตะใส่ตัวปลอมจนล้ม ในขณะที่พีวิลนั้น "ย้าก" ตัวปลอมพุ่งเข้ากระโดดเตะก้านคอมาอย่างเร็ว หากแต่.... "หมับบบบ" ตัวจริงใช้หมัดซ้ายหยุดฝ่าเท้าเข้า "เปรี้ยงงง" แล้วก็กดหมัดชกเป่าส่งตัวปลอมให้ล้มกระแทกพื้นไป "ร้ายนักน่ะ" พีวิลตัวปลอมสบถแล้วก็พุ่งเข้า "ฟ้าวๆๆๆๆๆ" วิ่งวนรอบตัวพีวิลอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับสเปียริทที่โดนตัวปลอมของเธอกระโดดข้ามหัวไปมาด้วย "ย้ากกกกก" พีวิลตัวปลอมกระโดดเข้ามาชกใส่ตัวจริงที่รีบหันมาบล็อกจนล้มลงไปกองกับพื้น ในขณะที่ตัวปลอมของสเปียริทนั้น "เพี้ยะ" ฟาดพลองเข้าใส่ตัวจริงจนล้มลงไปกองกับพื้นด้วย
              "ตัวปลอมมือไม่แรง แต่ทำให้มีรอยช้ำแบบนี้ไม่ค่อยดีแล้วละ" สเปียริทบอก
              "ฟึ่บๆๆๆๆ" พีวิลและสเปียริทตัวปลอมกระโดดลงมา "เป็นไงละ ต่อให้พวกแกพยายามแค่ไหน เราก็เล่นงานพวกแกกลับได้เช่นกัน เพราะเราจำท่วงท่าไม้ตายของพวกแกมาเกือบหมดแล้ว คราวต่อไปก็เป็นคราวของเพื่อนแกกันบ้างละ" สเปียริทตัวปลอมกล่าว
              พีวิลลุกขึ้นพร้อมกับสเปียริทด้วย "ตะกี้นี้ แกบอกว่าแกปลอมตัวเป็นใครก็ได้ที่แกเห็น และสัมผัส ไม่ว่าแกสัมผัสโดนหรือคนอื่นเผลอแตะตัวให้ จนสามารถจดจำรายละเอียดตามร่างกายที่แกปลอมมาได้สมบูรณ์แบบเลยสิน่ะ"
              "ใช่ และต่อให้พวกแกพาพวกมา ก็แยกไม่ออกว่าพวกแกกับพวกเรา คนไหนเป็นตัวจริงกันนี้แหละ" พีวิลตัวปลอมบอก
              สเปียริทกล่าว "ถ้าแกเลียนแบบและปลอมเป็นพวกเราสองคนได้ งั้น....พวกแก....เลียนแบบท่านี้ได้หรือเปล่าละยะ" แล้วก็ "ฟึ่บบบ หมับบบบ แว้งงงง" กำหมัดตรงด้ามพลองเพื่อเปลี่ยนพลองเป็นคันศร โดยที่ตัวปลอมนั้น "แว้งงงง ครี้งงงง" ก็ทำแบบนั้นได้เช่นกัน ส่วนพีวิลตัวจริงนั้น "ฟึ่บบบ" เสยแขนสองข้างออกไป พร้อมกับตัวปลอมที่เสยแขนออกมา หากแต่ "แกร็กๆๆ" แขนของพีวิลตัวจริงเปิดปืนอาร์มชู้ตเตอร์ออก ส่วนของสเปียริทนั้น "วี้งงงงงง ฟ้าวววว" สร้างเชือกเลเซอร์โก่งคันศรและใช้สามนิ้วสร้างลูกศรพลังแสงแฟลชแอร์โรวออกมา ส่วนตัวปลอมนั้น.... "อือ อือ" พีวิลตัวปลอมพยายามขยับแขนทั้งสองข้างออก แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอาร์มชู้ตเตอร์ปรากฎที่แขนทั้งสองข้างเลยแม้แต่น้อย ส่วนสเปียริทตัวปลอมนั้น ทำท่าเหมือน แต่ไม่มีธนูแสงและเชือกคันศรแสงออกมา
              "บะ บ้าน่า แขนของแก มิได้เป็นแขนที่แกได้มาแต่แรกงั้นหรือ" พีวิลตัวปลอมบอก
              "กะแล้วเชียว ตัวปลอมมันใช้อาร์มชู้ตเตอร์และแฟลชแอร์โรวไม่ได้จริงๆเลยน่ะ" ไกซ์กล่าว
              สเปียริทตัวจริงบอก "สมแล้วที่เธอรู้เรื่องของฉันและพีวิลมาอย่างดี เลยรู้ว่าพวกเรามีความสามารถติดตัว ซึ่งรวมถึง อาวุธเอกลักษณ์ที่มีแต่ฉันและพีวิลเท่านั้นที่รู้มาแต่แรกกันน่ะ"
              "แต่ พวกเราปลอมเป็นพวกแกได้เหมือนแล้วนิ แต่ ทำไมเราถึงสู้พวกแกมิได้กันละ" พีวิลตัวปลอมบอก
              พีวิลกล่าว "แกอาจจะเลียนแบบไม้ตาย ท่วงท่าการต่อสู้ของเราได้ก็จริง แย่หน่อยนะ ที่พวกแกมิอาจเลียนแบบพลัง เลียนแบบอาวุธที่ติดตั้งไว้ในอวัยวะ ซึ่งต่างดาวที่เปลี่ยนโฉมหน้าด้วยการแปลงสภาพลักษณะทางกายภาพเอง ไม่มีทางเลียนแบบอวัยวะจักรกลกันไปได้หรอก"
              "แต่เราปลอมเป็นลูกน้องแกสองคนแล้วน่ะ ทั้งคู่เป็นแมนิเกเตอร์มนุษย์ก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดแล้วนิ" สเปียริทตัวปลอมแย้ง
              สเปียริทบอก "แกอาจจะปลอมตัวเป็นไกซ์ เพราะไกซ์เป็นแมนิเกเตอร์มนุษย์โคลนนิ่งกันได้อยู่แล้ว แต่....แกปลอมเป็นมิลด์ที่มีสถานะเป็นแมนิเกเตอร์แอนดรอยไม่เนียนเสียเลยน่ะ และถึงแกแปลงเป็นฉันได้ แต่ก็เปลี่ยนผิวกายของแกให้แข็งเหมือนจิวเวลเลี่ยมเคลือบเซรามิคเซี่ยมกันจริงๆไม่ได้หรอก"
              "บ้าชะมัด งั้นพวกแกสองคนเตรียมตัวตาย...." พีวิลตัวปลอมเลยบุกเข้ามา แต่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ตัวจริงจัดการด้วยอาร์มชู้ตเตอร์จนตัวปลอมถูกยิงจนร่างพรุนไปทั้งตัว ส่วนสเปียริทตัวปลอมนั้น "ฟ้าวววว เปรี้ยงงงง" ถูกตัวจริงใช้ธนูแสงยิงทะลุกลางอก ท้องและท้องน้อยไปเต็มๆ จนเลือดสีดำไหลออกจากตัว ล้มลงตามพีวิลตัวปลอมไป แล้วก็.... "ครืดดดดดด วู้วววว" ร่างตัวปลอมกลับกลายเป็นมนุษย์ต่างดาวในชุดรัดรูปดำ ซึ่งมีกายสีดำแกมเทา โดยที่ดวงตาเป็นสีม่วง สองตนด้วยกัน
              ลากูด้าบอก "นั้นคงจะ เป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของสายลับของพวกเดลอาเนี่ยนอย่างงั้นสิน่ะ"
              "ร้ายกาจจริงๆ มันปลอมเป็นไกซ์และมิลด์ยังพอว่า มันยังเลียนแบบฉันกับพีวิลแบบนี้ มันไม่น่าให้อภัยกันน่ะ" สเปียริทกล่าว
              พีวิลวิเคราะห์อยู่ "สายลับพวกนี้มันต้องลงมือในช่วงที่ไกซ์กับมิลด์ไม่อยู่ในที่เดียวกันแบบนี้....ไม่สิ ไกซ์กับมิลด์อยู่ที่เดียวกัน แต่ไปอยู่คนละส่วนกันกับพวกตัวปลอมนั้น คนคุมกล้องวงจรปิดก็ต้องเห็นสิ ว่ามีไกซ์และมิลด์สองคนอยู่น่ะ" แล้วหันมาถาม "ผู้การลากูด้า ตอนนี้ใครคุมระบบรักษาความปลอดภัยและระบบกล้องวงจรปิดกันละครับ"
              "ก็ ผู้คุมรานาลยังไงละ ผู้คุมคนนี้เขาบอกว่าเขามาเพื่อจับตาดูไกซ์และมิลด์ที่ถูกส่งมาจากหน่วยรบแรก หลังจากเกิดเหตุจารกรรมข้อมูลกันขึ้นมานะครับ" ลากูด้าบอก
              ไกซ์กล่าว "ผู้คุมรานาลน่ะหรือ เออ....พวกเราไม่รู้จักกับผู้คุมคนนี้สักหน่อยน่ะ เพราะว่าพวกเรา ได้รับคำสั่งจากผบ.บัลโต้ให้โยกย้ายมาที่หน่วยรบในฐานะนักบินทดสอบอัลติเมทเอทและแพนเซสเซนไนน์ โดยที่เราใส่แค่ปลอกคอคุมประพฤติไว้แบบนี้นะครับ" แล้วชี้มาที่คอ ซึ่งมีปลอกคอสีเงิน เช่นเดียวกับมิลด์ด้วย
              "ไหนดูสิ" พีวิลเลยเดินมาเช็คด้วยคอมมานด์แพดที่แขนขวาไว้ แล้วถาม "เธอกับมิลด์ใส่แบบนี้ตลอดเวลาเลยหรือ"
              มิลด์บอก "คะ บรูโน่ยังบอกอีกว่า ให้ใส่แบบนี้ตลอด ไม่ว่าจะอาบน้ำแต่งตัว เพราะอันนี้เป็นแบบกันน้ำจากภายนอกและจากตัวพวกเรา ถ้าถอด วงแหวนนี้จะแจ้งไปเตือนถึงมือถือของบรูโน่และผบ.บัลโต้ได้ในทันที ซึ่งเราไม่ได้ถอดมา 3 เดือน ก็เพราะอย่างงี้นะคะ"
              "ผู้การลากูด้า คุณมีข้อมูลภาพวงจรปิดจากหน่วยอื่นๆที่พิสูจน์ว่าไกซ์กับมิลด์ยังอยู่ที่ห้องพักหรือเปล่าละคะ" สเปียริทบอก
              ลากูด้ากล่าว "ผมพอมีภาพจากฐานทัพของหน่วยที่ 44 กันนะครับ" แล้วก็นำภาพที่ไกซ์กับมิลด์ตัวปลอมเดินเข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์หลัก ซึ่งในจังหวะที่มิลด์ตัวปลอมหันหน้ามานั้น
              "หยุดภาพนั้นและซูมให้หน่อยสิ" สเปียริทกล่าว ลากูด้าเลยหยุดภาพไว้ จากนั้นก็ซูมภาพ ซึ่งมิลด์ที่เห็นในภาพนั้น ไม่มีปลอกคอใส่อยู่ในคอ เช่นเดียวกับไกซ์ด้วย ซึ่งพลทหารส่วนมากถึงกับตกใจไม่น้อย
              "ผู้คุมรานาลอยู่ที่ไหน ไปพาตัวมาเดียวนี้เลย" ลากูด้าสั่งการโดยเร็ว
              พีวิลบอก "งั้นผมขอแจ้งให้ผบ.บัลโต้ทราบหน่อยแล้วละครับ สเปียริท ตามไกซ์และมิลด์ไปเช็คอัลติเมทเอทและแพนเซสเซนไนน์เดียวนี้เลย"
              "เข้าใจแล้วละ" สเปียริทกล่าวโดยไปกับไกซ์และมิลด์เพื่อเช็คหุ่นคู่ใจหมายเลข 8 และ 9 โดยเร็ว แต่สิ่งที่พีวิลได้รับมานั้น
              "พีวิล เรามีงานเข้าแล้ว เดลอาเนี่ยนส่งกองรบบุกเข้าจู่โจมสำนักงานใหญ่ของเอ็นซิสกันแล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์ติดต่อเข้ามาอย่างร้อนรน
              "จริงหรือ แล้วพวกเนคมาดูซัมล่ะ" พีวิลถาม
              มาสวาร์ทาร์บอก "เกรงว่าพวกเขาจะอยู่ที่สำนักงานใหญ่นั้นด้วย เพราะบรูโน่แจ้งมา ว่าพวกศพเหล่าทหารเดลอาเนี่ยนทั้งหลายที่อยู่ในนครหลวงและเฟิร์สฮิลล์ ไปอยู่ที่นั้นหมดเลยน่ะ"
              "ทางเราเองก็มีปัญหาวุ่นวายอยู่ เดียวพวกเราเสร็จเรื่องค่อยตามไปทีหลังน่ะ" สเปียริทกล่าว โดยตอนนี้เธอจัดการแกะระเบิดที่ติดตามตัวอัลติเมทเอทและแพนเซสเซนไนน์จากข้างนอกและข้างในกันเรียบร้อยแล้ว
              ลากูด้าบอก "เกรงว่า คงจะไม่แล้วละ" เพราะตอนนี้มีพวกทหารแห่แหนมา ซึ่งมีหน้าตาเหมือนพลทหารในหน่วย 67 ทุกประการ เว้นแต่ตาเป็นสีดำทั้งสองดวง
              "พวกเธอมีฝาแฝดกันหรือเปล่าละ" ลากูด้าบอก พลทหารทั้งชายหญิงตัวจริงต่างส่ายหน้ากันไว้ สเปียริทและพีวิลเลยรีบรุดเข้ามา เพราะเหล่าพลทหารตัวปลอมนั้น "แกร็กๆๆๆ" ไปเอาอาวุธปืนมากันแล้ว
              "สงสัยว่าเราเจองานเข้าพร้อมกันแล้วละ" พีวิลบอก

              ที่สำนักงานเอ็นซิส ตอนนี้พวกเนคมาดูซัมเข้ามา ก็ได้เห็น "เพล้งงงงง เพล้งงงง" ทหารอัลแทเรี่ยนกระโดดทะลุหน้าต่างเข้ามา จนเจ้าหน้าที่ในสำนักงานทั้งชายและหญิงต่างตื่นตระหนกตกใจกันไปด้วย "แชดๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆ" ทหารอัลแทเรี่ยนยิงกระสุนแสงสีขาวเข้าใส่ในห้องจนภาพผกก.ที่ติดบนผนังเสียหายขึ้นมา เช่นเดียวกับ "แชด ตรูมมม" ยิงใส่ฉากกั้นสีส้มฝั่งซ้ายจนพัง และยิงถูกเจ้าหน้าที่ชายจนล้มไป 3 คนด้วยกัน "หนอยยย" เจ้าหน้าที่ซีนอสโต้และเจ้าหน้าที่แมพกรีทรีบชักปืนสั้นมายิง "ปังๆๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆๆ" แต่กระสุนกลับสะท้อนเกราะสีเงินเอาไว้
              "โอ้ว นั้นไม่ดีแล้ว กระสุนปืนจากปืนริมฟ็อกซ์ไม่ระคายผิวเกราะนั้นเลยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              บัลโต้ถาม "ว่าแต่ พวกนายมานี้คงไม่ได้พกอาวุธอะไรมาเลยสิ"
              "คือพวกเรามาตามฟูแรมกลับมา เราไม่ได้พกอะไรมาเลยนะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก บัลโต้เลยเอาปืนพกริมฟ็อกซ์ออกมาพร้อมกับ "ปังๆๆๆๆๆๆๆ" ดริฟท์และผบ.แรคซ์กระหน่ำยิงริมฟ็อกซ์จากบนชั้นลอยลงมา ซึ่งก็ยิงเข้าตรงหัวนักรบอัลแทเรี่ยนสองตัวจนล้มไป แต่.... "ตายแล้ว พวกมันคิดจะบุกมาจากกระจกด้านบนเพดานกันแล้วละ" ลิเนียร์ตี้บอก เพราะเห็นเงามาจากด้านบน ซึ่งก็ "เพล้งงงงงง" พวกอัลแทเรี่ยน 4 ตัวพุ่งทะลุกระจกเพดานลงมาจนเศษกระจกแตกกระจุยตาม โดยที่พวกมันหันปืนมา "แชดๆๆๆๆ" ยิงลำแสงเข้าใส่พวกบัลโต้ แต่ "โบลท์รีเฟรคเตอร์" เนคมาดูซัมใช้กำแพงพลังเข้า "เปร้งๆๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" สะท้อนลำแสงย้อนกลับใส่ทหารนกจนร่วงลงไปกองกับพื้น แต่ระลอกสองบุกเข้ามา "เฮ้ย วอร์ชิฟดรอป" คลอเวฟกระโจนเข้าถีบขาคู่อัดใส่ทหารอัลแทเรี่ยนที่บินลงมาจน "ป้ากกกก โครมมมม" ฝ่าเท้าอันหนักอึ้งอัดเข้ากับลำตัวของอัลแทเรี่ยนไปเต็มๆโดยพุ่งลงมาส่งทหารนกต่างดาวอัดเข้ากับกำแพงไปเต็มๆ "ลิเนียร์ตี้คิก" ลิเนียร์ตี้กระโดดถีบเข้าใส่กลางหน้าอกของอัลแทเรี่ยนจนตัวปลิวไปอัดกับผนังแต่ล้มลงมา ส่วนอีกสองตัวนั้น "ดับเบิ้ลเฮฟวี่โครสไลน์" โดนเนคมาดูซัมหวดฟาดท่อนแขนอัดเข้าจนจงอยปากของทหารอัลแทเรี่ยนสองตัวยุบแล้วก็ "โครมมมม" พุ่งลงมายังพื้นที่ทำงานจนโต๊ะและคอมพิวเตอร์กระเจิดกระเจิงไป "ป้าก ป้าก" แล้วเนคมาดูซัมก็ชกซ้ำเข้าไปให้อัลแทเรี่ยนสองตัวน็อกแดดิ้นลง ลิเนียร์ตี้กระโดดลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย
              "ว้าว นั้นสินะ สู้แบบพวกเวเซอร์กันน่ะ" แมพกรีทบอก
              ซีนอสโต้บอก "สุดยอด โดดจากชั้นลอยลงมาถีบยันโครมแบบนี้ ไม่แน่จริงก็ทำไม่ได้แล้วละ"
              "มัวแต่โอ้เอ้อยู่นั้นแหละ รีบลงไปหยุดพวกต่างดาวโดยเร็วเข้าสิ" ดริฟท์กล่าว เจ้าหน้าที่ทั้งสองพยักหน้าและรีบตามดริฟท์คุ้มกันผบ.แรคซ์ไป
              บัลโต้บอก "เออนี้ พวกนายควรมีไว้รับมือกันสักหน่อยน่ะ" แล้วก็เอาเดริงเจอร์แมกนั่มสองกระบอกให้กับลิเนียร์ตี้ และสปีดเพคเกอร์สองกระบอกให้กับเนคมาดูซัมใช้ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงทหารอัลแทเรี่ยนที่อยู่ตรงหน้าจนล้มไปสามตัวด้วยกัน ซึ่งกระสุนปืนจากเดริงเจอร์แมกนั่มและสปีดเพคเกอร์ที่ยิงได้เร็วและรุนแรงกว่า เจาะเกราะเข้าไปได้
              "เออ ผบ.เอาอาวุธผ่านเครื่องตรวจอาวุธกันนิ ไม่กลัวเขาจะหาเรื่องจับเลยหรือคุ" ลิเนียร์ตี้ถาม
              บัลโต้บอก "ฉันมีคำสั่งจากท่านประธานาธิบดี ให้อนุญาตพกพาอาวุธมาได้หลายชิ้นเข้าไปในสถานที่ราชการ แต่ได้แค่คนละสามอย่างเท่านั้น และอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินจำเป็น ซึ่งก็คือตอนนี้เองแหละ" แล้วก็เอาช็อคแคนน่อนสองกระบอกให้ลิเนียร์ตี้และคลอเวฟใช้ พร้อมกับชุดกระสุนด้วย "ตอนนี้ พวกนายรีบไล่พวกเดลอาเนี่ยนออกไปกันดีกว่า"
              "ถึงไม่บอก พวกเราก็หาเรื่องถีบพวกต่างดาวเวรนั้นออกไปจากสำนักงานของเอ็นซิสกันอยู่แล้วละ" คลอเวฟบอก แล้วทั้งสามก็รีบวิ่งลงบันไดไปยั้งชั้นสาม ส่วนบัลโต้ตามสมทบกับพวกผบ.แรคซ์ไป "ตรุ้งงงง" เนคมาดูซัมที่วิ่งนำหน้ารีบโพหลบมาในจังหวะที่ทหารบรูซาแรมยิงกระสุนพลังความร้อนจากปืนกระบอกโตเข้าใส่ จนทำให้ผนังทะลุเป็นรูร้อนๆขนาดใหญ่ขึ้นมา ซึ่งเนคมาดูซัมหวิดถูกยิงเข้าให้เสียแล้ว "ชิ หลบได้หรือ งั้นเจอเทอมอลบาซูก้าอีกดอกหนึ่งไปเลยสิ" ทหารบรูซาแรมสบถแต่ก็คิดที่จะยิงซ้ำอีกรอบ แต่... "จากเพดานลงมา... โอเชี่ยนเกย์เซอร์!!!" คลอเวฟทุบผนังด้านข้างจน "ครืนๆๆๆๆๆ ป้ากกกก" มวลน้ำขนาดใหญ่พุ่งอัดกระแทกเข้าใส่ทหารหมีต่างดาวไปเต็มๆ แต่ "เพล้งๆๆๆๆ" ทหารแมทเฟริมกระโดดจากชั้นบนลงมาถีบทะลุหน้าต่างเข้ามา "แง้ววววว" โดยกระโดดเข้ากระหน่ำถีบใส่คลอเวฟอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อีกตัวที่อยู่ข้างหลังกระโดดเข้ามาพร้อมกับกงเล็บพลังที่หลังมือ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมก็กราดยิงใส่ทหารแมทเฟลิมจนตัวชักดิ้นชักงอกลางอากาศลงไปแน่นิ่งอย่างจังๆ "ป้ากกก ป้ากกก ตรุ้งงงง โครมมมม" ส่วนตัวที่เล่นงานคลอเวฟนั้นถูกชกเข้าไปสองทีจนตัวจุกแล้วก็ยิงช็อคแคนน่อนเป่าทหารแมทเฟลิมปลิวไปอัดกับพวกพ้องจนล้มกลิ้งไป "แกร็กๆ" แล้วก็สบัดช็อคแคนน่อนคัดกระสุนออกจากรังเพลิงเพื่อใส่นัดใหม่ แต่แมทเฟลิมตัวที่สามกระโดดเข้ามา "ลิเนียร์ตี้สลัคเกอร์" ลิเนียร์ตี้ซัดกงจักรเข้าอัดใส่หน้าทหารแมทเฟลิมจนล้มลง โดยที่ใบหน้าของทหารแมวมีรอยกรีดตรงตาซ้าย แม้จะลุกขึ้น แต่ก็ "ป้ากกกก" โดนคลอเวฟถีบยันโครมไปเต็มๆ แล้วทั้งสามรีบรุดตรงไป จนผ่านห้อง...
              "ใครก็ได้ ช่วยด้วยที" มีคนตะโกนดังมาจากในห้อง จนลิเนียร์ตี้เดินเข้ามา เนคมาดูซัมและคลอเวฟเดินตามเข้ามา จนเห็น นักวิจัยในแผนกนิติวิทยาถูกทหารแมวต่างดาวจับล็อกคอ โดยที่มีกงเล็บจ่อคออยู่ แถมยังมีหญิงอ้วนใส่แว่นในชุดหลากสีด้วย ซึ่งโดนทหารแมทเฟลิมเหยียบบนตัวพร้อมจ่อกงเล็บด้วย
              "ไอ้คนที่แต่งตัวเหมือนยัยกริมเบอรี่นิพอเดาได้น่ะ แต่ยัยอ้วนนิ ไม่น่าเกี่ยวตรงไหนกันเลยนิ" คลอเวฟบอก
              ทหารแมทเฟลิมบอก "พวกแกคงเป็นพวกเวเซอร์อย่างงั้นสิน่ะ ดีเลย พวกแกคงรู้ใช่มั้ย ว่าต้องทำยังไงในสภาพแบบนี้"
              "บ้าชะมัดเอ้ย" เนคมาดูซัมกล่าวอย่างไม่พอใจ จนต้องวางสปีดเพคเกอร์สองกระบอกลง เช่นเดียวกับคลอเวฟที่วางช็อคแคนน่อนลงไปด้วย แมทเฟลิมเห็นลิเนียร์ตี้ยังไม่วางปืนลง
              "เธอนั้นก็ด้วย วางปืนเดียวนี้ หรืออยากจะให้กงเล็บทะลุคอยัยขอบตาดำนี้กันละ เหมียว" และมันไม่ได้แค่พูดขู่ มันเงื้อแขนข้างที่ใช้จ่อออกเพื่อยืดกงเล็บให้ยาวขึ้น เนคมาดูซัมเลยส่ายหน้าให้ ลิเนียร์ตี้เลยจำต้องวางเดริงเจอร์แมกนั่มสองกระบอกลง ในจังหวะที่เนคมาดูซัมค่อยๆยกมือขึ้น แต่... "ปังงง ปังงงง" "ปุ๊ ปุ๊ ป้ากกกก" ข้างซ้ายยิงใส่ขาแมทเฟลิมข้างซ้ายจนขาทะลุ ส่วนข้างขวายิงใส่หน้าแมทเฟลิมที่จ่อกงเล็บเข้าตรงหน้าแมทเฟลิมที่เล่นงานหญิงอ้วนอยู่จนทำให้มันเจ็บตัวลง "ฟึ่บบบ หมับบบ" เนคมาดูซัมหยิบช็อคแคนน่อนที่ลิเนียร์ตี้เอาไว้ด้านหลังออก แล้วก็ "ตรุ้งงงง โครมมมม เพล้งงงงง" เดินมายิงใส่แมทเฟลิมจนปลิวกระแทกประตูกระจกจนแตกลงไปแดดิ้นลง "ปึ้กกกก" ตัวประกันหญิงรีบกระทืบใส่เท้าข้างขวาของแมวต่างดาวจนร้อง "เหมี่ยววววว" และทำให้การล็อกตัวประกันหลุดออกไป แต่แมทเฟลิมไม่ยอมเลยกระโจนเข้าใส่ "หมับบบบบ" กลับถูกคลอเวฟเข้ามาจับตะบบหน้า แล้วก็ "หวับบบ ป้ากกกก" จับฟาดกระแทกหน้าตักจนแมทเฟลิมหลังหักลงไปแน่นิ่งอย่างจังๆ
              "ขอบคุณสวรรค์ นึกว่าจะไม่รอดเสียแล้วละเนี้ย" หญิงอ้วนกล่าว โดยที่ลิเนียร์ตี้ค่อยๆพยูงตัวไว้ นักวิจัยหญิงใส่ดำกล่าวอย่างดีใจ "ว้าว แจ่มไปเลย ไม่นึกเลยว่าพวกคุ ณที่เป็นยอดวีรบุรุษในมหาสงครามนั้นจะมาช่วยเสียได้น่ะ" แล้วก็แนะนำตัว "เกือบลืมไป ฉันชื่อ แนนนี่ กรูโทส นักวิจัยของทีมคุณดริฟท์กันนะคะ"
              "แล้วคนๆนี้ มาจากไหนกันละ" คลอเวฟบอก
              หญิงอ้วนแนะนำตัว "ฉันชื่อ ดาร์เซียร์ ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ประจำหน่วยสืบสวนกลาง แผนกวิเคราะห์จิตวิทยาของแมนิเกเตอร์ที่เป็นอาชญากรกันน่ะ"
              "โอ้ว นี้คุณทำงานให้กับเจ้าหน้าที่รัฐเลยหรือ แต่ คุณไม่น่าจะมาทำงานให้กับเอ็นซิสเลยนิคะ" ลิเนียร์ตี้ถาม
              ดาร์เซียร์บอก "คือว่า หนึ่งในอาชญากรโรคจิตที่ถูกคนในแผนกที่ฉันทำงานให้จับกุมไปนั้น บังเอิญว่าไปรู้เห็นการกระทำของสายลับต่างดาวเข้า แถมอาชญากรนั้นมีข้อมูลรหัส ซึ่งดันไปเกี่ยวข้องกับ...."
              "....นายทหารเรือ 1 ใน 6 คนที่ตายในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาอย่างงั้นสิน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              เนคมาดูซัมถาม "แล้วคนร้ายโรคจิตนั้น คงจะเป็นพวกบ้าสงครามเต็มขั้น และทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความไม่สงบกันเลยสิน่ะ"
              "ถูกแล้วละ ซึ่งฉันกับคุณดาร์เซียร์ช่วยกันถอดรหัส แต่ไม่นึกเลยว่า นั้นจะเป็นกับดัก เพราะทันทีที่เอารหัสเข้าเครื่อง ระบบรักษาความปลอดภัยถูกปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว แล้วพวกแมวต่างดาวก็โผล่มาอย่างงี้แหละ" แนนนี่บอก พร้อมกับวิ่งไปที่คอมพิวเตอร์เพื่อจัดการหยุดการคุกคามทางไซเบอร์โดยเร็ว
              "แม้กระทั่งลิพท์ภายในตัวอาคารอย่างงั้นสิ แล้วทางออกฉุกเฉินละ" เนคมาดูซัมถาม
              "ยังปิดอยู่น่ะ แถมไวรัสในนั้นเจาะเข้าไฟร์วอลเร็วกว่าที่คิด จนสกัดกั้นไม่อยู่กันแล้วน่ะ" แนนนี่บอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "งั้นให้ฉันจัดการเองดีกว่า พอมีคีย์บอร์ดสักอันมั้ยละ" แนนนี่เลยเปิดคีย์บอร์ดโฮโลแกรมขึ้นมาเพื่อให้ลิเนียร์ตี้มาช่วย "แล้วคุณละคะ" ลิเนียร์ตี้ถามดาร์เซียร์ที่เปิดแลบท็อปของเธอเพื่อเชื่อมต่อไว้
              "ฉันจะช่วยระบุตำแหน่งของแฮคเกอร์กันนะสิ เพราะการที่เราถูกจับมานั้นทำให้พวกมันลงมือไปครึ่งทางแล้วน่ะ" ดาร์เซี่ยร์บอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "แต่นั้นยังไม่ถือว่าสายเกินแก้หรอกน่ะ เพราะเรายังมีโอกาสหยุดการคุกคามนี้ได้น่ะ"
              "งั้นตรงนี้ฝากด้วยละ ลิเนียร์ตี้ พวกเราจะรีบลงไปก่อนน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว โดยรับช็อคแคนน่อนอีกกระบอกจากลิเนียร์ตี้ไว้ แล้วรีบไปกับคลอเวฟ โดยวิ่งมายังลิพท์ "โอเค ลิเนียร์ตี้ ได้ยินชัดมั้ย ฉันต้องการให้เธอเปิดลิพท์ลงไปยังชั้นใต้ดินกันสักหน่อย...." เนคมาดูซัมติดต่อไปหา แต่คลอเวฟ "แกร็กกกก" ใช้พละกำลังแหกประตูลิพท์ออกมา ซึ่งก็.... "ฟ้าววววววว" ลิพท์พุ่งลงมาผ่านหน้าคลอเวฟไปอย่างฉิวเฉียด จน "โครมมมมมม" ลิพท์ร่วงลงมากระแทกกับเบื้องล่างในทันที ซึ่งก็.... "ฟ้าววววว ตรึงงงง แกร็กกก" เปิดโอกาสให้คลอเวฟโดดลงมายังชั้นล่างและเปิดประตูลิพท์ออก ส่วนเนคมาดูซัมก็โดดตามหลังมา
              ดาร์เซียร์บอก "โอ้ว กราดิเอเตอร์มารีนลงมือไวกว่าที่คิดนะเนี้ย"
              "คลอเวฟเองก็อย่างงี้แหละ รอหน่อยก็ไม่ได้น่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก แล้วก็... "โอเค ฉันทำโปรแกรมดักไวรัสเอาไว้ แล้วจัดการส่งมันย้อนกลับไปเล่นงานตัวมันเองไว้ แม้จะเสี่ยงกับการที่ทำให้ไวรัสแข็งแกร่งขึ้น 24 เปอร์เซนต์ก็ตามน่ะ ส่วนพวกคุณ รีบเปิดระบบรักษาความปลอดภัยกันดีกว่าน่ะ"

              "ตึงๆๆๆๆๆ" นักรบซอร์แรค 4 ตัวกรูกันเข้ามา ซึ่งเนคมาดูซัมและคลอเวฟวิ่งตรงมาด้วย แน่นอนว่า "ชะ....ไอ้พวก...มันจะมาทำไมกันวะ" เนคมาดูซัมสบถพร้อมกับเกิดความหวาดกลัวขึ้น เพราะคู่ต่อสู้หน้าเหมือนไดโนเสาร์
              "เนคเกอร์ ถ้ามึงกลัวไอ้หน้าตะกวดแบบนี้ มึงกลับไปหาลิเนียร์ตี้เลยดีกว่า ไอ้ตัวถ่วง" คลอเวฟกล่าวพร้อมกับ "โครมมมมม" พุ่งเข้ากระแทกหัวไหล่ใส่นักรบซอร์แรคจนล้มแล้วก็เอาหัวโขกซ้ำ
              "นายไม่กลัวนะใช่ แต่ฉันไม่ยอมให้ใครมาหยามแบบนั้นโดยไม่สู้กันหรอกนะโว้ย" เนคมาดูซัมโวยพร้อมกับ "แกร็ก ตรุ้งงงงง ตรุ้งงงงง" ใช้ช็อคแคนน่อนยิงใส่ซอร์แรคเข้าที่หน้าอกและแขนซ้ายจนกุดลง "เรนโบวบริจคิก" แล้วก็กระโดดหวดขาเตะเสยข้างปากซอร์แรคจนตัวปลิวกระเด็นไปอย่างจังๆ แล้วก็ "โบลท์นัคเคิ้ล" ชกด้วยหมัดพลังดาวหางอัดใส่ซอร์แรคจนล้ม แต่ซอร์แรคตัวที่สองบุกมาหวดดาบสองเล่มฟาดใส่ "กร้องงงงง กรี้กกกกกกก" เนคมาดูซัมบล็อกด้วยท่อนแขนสองข้างอย่างทันควัน แล้วก็ "ป้ากกกกก" ถีบอัดใส่ตรงท้องซอร์แรคไปเต็มๆ แล้วก็ "ตรุ้งงงง ตรุ้งงง" จ่อยิงช็อคแคนน่อนเข้ากลางหน้าอกซ้ำอีกที "โฮ่ย คลอเวฟ ฉันได้อาวุธแล้วละ" แล้วก็ก้มลงหยิบดาบสองเล่มมา
              คลอเวฟบอก "นายช้าจังเลยวะ เนคเกอร์ ฉันได้นานแล้วละ" โดยตอนนี้ตนคว้าขวานของซอร์แรคสองเล่มที่ไปแย่งมา ใช้ฟันใส่พวกมันจนกุดหัวขาดไป แล้วทั้งคู่ก็วิ่งไปตามทางเดินที่กว้าง ซึ่งตอนนี้พวกบรูซาแรมกรูกันเข้ามาด้วยกงเล็บที่ร้อนฉ่าขึ้นมาทั้งสองข้าง "ย้ากกกกก" คลอเวฟบุกเข้าใช้ขวานของพวกซอร์แรคฟาดโต้ตอบกงเล็บของพวกบรูซาแรมอย่างรวดเร็วจน "เฉาะ" ขวานข้างหนึ่งสับตัดแขนข้างซ้ายของบรูซาแรมจนขาด แล้วก็หวดขวานสับคอตัดหัวหมีต่างดาวจนปลิว "แกร้งๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมหวดดาบดวลกับกงเล็บหมีที่ร้อนฉ่าอย่างต่อเนื่องจน "ฉั้วะ ฉับ เชร้งๆๆ" ฟันตัดอุ้งมือพร้อมกงเล็บขาดทั้งสองข้างแล้วก็ฟันใส่ที่ลำตัวสองทีและคอไปเต็มๆ จากนั้นก็แทงดาบเข้าใส่บรูซาแรมอีกตัวที่บุกมาจากข้างหลัง แล้วก็ "หมับบบบ โครมมม" ใช้มือจิกตรงคอเพื่อทุ่มข้ามหัวฟาดกับพื้นไปเต็มๆ แล้วก็ "ฟ้าววว ปั้กกก" ซัดดาบปักคาหน้าอกของบรูซาเรมพร้อมกับ "ป้ากกก" กระโดดชกปลายด้ามดาบกดให้ดาบแทงทะลุจนมิดด้ามไป "วอเตอร์เวฟ ทริปเปิ้ลช็อต" คลอเวฟซัดพลังคลื่นทะเลพุ่งเข้า "ป้าก ป้าก ป้าก" อัดใส่หว่างขาของบรูซาแรมสามตัวจนจุก "นี้แน่" แล้วก็ซัดขวานของซอร์แรคพุ่งเข้า "ป้าก ป้าก" ขวานเฉาะหน้าหมีอวกาศไปสองตัว ตัวที่สามนั้น "เอาทุเรียนเหล็กไหลไปกินซะ" โดนคลอเวฟซัดลูกตุ้มหนามที่ยิงออกจากหัวไหล่ซ้ายเข้าอัดใส่หน้าบรูซาแรมตัวที่สามไปเต็มๆ แล้วก็รีบวิ่งตรงไปโดยเร็ว
              "ไอ้พวกแมวหง่าวมันจะแห่มาทำไมกันวะ" คลอเวฟสบถเมื่อเห็นพวกแมทเฟลิมจำนวน 10 ตัวบุกเข้ามา
              เนคมาดูซัมบอก "บ้าชะมัด พวกเราไม่ควรจะเปลืองกระสุนกันเสียเลยน่า" ไม่ทันที่พวกแมทเฟลิมจะวิ่งเข้าใส่ "แกร็กๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆ" กล้องวงจรปิดติดปืนกลโผล่ออกมาจากฝ้าเพดานลงมากราดยิงใส่พวกแมทเฟลิมจนล้มลงไปสี่ตัวด้วยกัน แต่อีก 6 ตัวโดดหลบถอยหลังเพื่อเตรียมใช้ปืนแสงยิงเร็ว "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็ยิงกระสุนเข้ามา "โบลท์รีเฟรคเตอร์" เนคมาดูซัมสะท้อนกระสุนแสงดังกล่าวกลับเข้าใส่พวกแมทเฟลิมจนล้มลง โดยที่กล้องวงจรปิดติดปืนนั้นหันมา
              "อย่าตกใจสิ เนคมาดูซัม ตอนนี้ฉันจัดการไล่ไวรัสที่คุกคามระบบกล้องวงจรปิด ซึ่งใช้รับมือกับพวกอาชญากรและผกก.เอาไว้ได้แล้ว แต่ นายกับคลอเวฟต้องรีบไปกันโดยเร็วเลยน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              คลอเวฟบอก "ทีหลังก็อย่าทำให้เราตกใจกันสิวะ แล้วพวกผบ.บัลโต้ล่ะ"
              "ตอนนี้เจ้าหน้าที่ซิลน่า มาริคและเจ้าหน้าที่เดลลี่ บิชอป มาช่วยกันแล้วละ แม้ว่าปืนสั้นของดริฟท์ยิงพวกต่างดาวไม่ลง แต่ผบ.บาโทโรมิวนั้นเตรียมพร้อมมาดีกันแล้วละ" แนนนี่บอก
              เนคมาดูซัมถาม "แล้วสภาพการณ์ในห้องเก็บศพต่างดาวจำนวนมากกันละ"
              "ฉันคิดว่าพวกนายต้องเร่งมือกันแล้วละ เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ ที่ห้องวิจัยขนาดใหญ่ในโซนใต้ดินมัน...." ลิเนียร์ตี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีนัก เนคมาดูซัมและคลอเวฟได้ฟังก็รีบวิ่งไปโดยเร็ว จนมาถึงด้านหน้าห้องวิจัยขนาดใหญ่ในโซนใต้ดิน ที่...
              "เอ็นซิสยัดห้องวิจัยสำหรับตรวจสอบซากกระดูกคนตายที่เละตุ้มเป๊ะมาไว้ใต้อาคารกันเลยหรือวะ" คลอเวฟอุทาน เพราะเห็นห้องวิจัยขนาดใหญ่ มีแท่นขนาดย่อมอยู่ตรงกลาง และแง้มหน้าเห็นบรูซาแรม แมทเฟลิม ซอร์แรคและอัลแทเรี่ยนยืนล้อมเหล่านักวิจัยทั้งหลาย รวมถึงตำรวจสืบสวนที่ถูกแยกกลุ่มออกจากกันไปด้วย "เวรเอ้ย พวกเดลอาเนี่ยนมันกะไม่ให้เราเข้าไปใกล้ได้เลยหรือวะ"
              "นั้นไม่แย่เท่ากับว่ามีไอ้ตะกวดมาช่วยอีกแรงด้วยนะสิ" เนคมาดูซัมบอก และหันมาถาม "ลิเนียร์ตี้ พอมีตรงไหนที่ช่วยดึงความสนใจของพวกเดลอาเนี่ยนกันไปได้บ้างละ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "เกรงว่าคงยากน่ะ ไวรัสนั้นพยายามขวางไม่ให้ฉัน จัดการปิดไฟสว่างในส่วนวิจัยใต้ดินลง พร้อมกับเปิดล็อกประตูออกไปได้ แถมไม่ใช่แค่ชั้นล่างเท่านั้นทีมีพวกทหารเดลอาเนี่ยน เกรงว่าชั้นลอยอีกสองชั้นก็มีพวกแมวและนกต่างดาวอยู่ด้วย ถ้านายหรือคลอเวฟบุกเข้าไป พวกมันจะระดมโจมตีได้ทันทีเลยน่ะ"
              "แล้วถ้าเป็นสัญญาณแจ้งฉุกเฉินกันละ" เนคมาดูซัมถาม
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "อืมมม แม้ว่านั้นจะเสี่ยงกับการที่ฝ่ายตรงข้ามไหวตัวได้ก็ตาม และทำให้ทุกๆคนแตกตื่นกันไปด้วย หวังว่าคงจะได้ผลกันบ้างน่ะ" แล้วก็คีย์คำสั่งเพื่อเปิดระบบสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น
              "หวอๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณแจ้งเตือนดังขึ้นในทันที ภายในห้องวิจัยจึงเปลี่ยนจากไฟสว่างมาเป็นไฟสีแดงขึ้นมา "เกิดเหตุฉุกเฉิน มีการรั่วไหลของแก๊สเชื้อเพลิงจากท่อใต้ดินหมายเลข 55 ลงมายังส่วนชั้นใต้ดิน ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อพยพไปตามเส้นทางดังกล่าว โปรดฟังอีกครั้ง...." พร้อมกับสัญญาณเสียงดังเตือนมา
              นายกองซอร์แรคกล่าว "แก๊สรั่วนะหรือ คงไม่ใช่อุบายอะไรกันอีกละสิ"
              "เฮ้ นั้น มีคนบุกมาแล้วละ" ทหารอัลแทเรี่ยนตนหนึ่งกล่าว เมื่อเห็นคลอเวฟวิ่งเข้ามา "ตรุ้งๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆ" "เพล้งๆๆๆๆๆๆ" พวกบรูซาแรมใช้เทอมอลบาซูก้ายิงใส่พร้อมกับปืนแสงยิงเร็วของแมทเฟลิมและปืนแสงของพวกอัลแทเรี่ยน ยิงทะลุประตูกระจกจนแตกกระจุยไป โดยที่คลอเวฟพุ่งด้วยไฮโดรแทงค์แพ็คหนีมาได้ทัน แล้วก็เบรคหยุดเพื่อกระโจนเข้าใส่ด้วย "ตรุ้งงงง ตรุ้งงง ตรุ้งงงง ตรุ้งงงง" ช็อคแคนน่อนสองกระบอกยิงใส่แมทเฟลิมที่อยู่แถวหน้าจนล้มกลิ้งไป 7-8 ตน แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมโผล่มากราดยิงใส่พวกอัลแทเรี่ยนจนล้มกลิ้งไปอย่างจังๆ แม้บางตัวพยายามจะบินหนีก็ถูกยิงเข้าที่ขาจนล้ม พวกซอร์แรคและบรูซาแรมเลยก้าวถอยหลังไปโดยเร็ว พร้อมกับ.... "เหอะๆๆๆๆ" นักรบซอร์แรคหัวเราะอย่างเป็นต่อเมื่อมันกับพวกมายืนอยู่ตรงกลุ่มตัวประกันที่เป็นพวกนักวิจัยไว้ เนคมาดูซัมและคลอเวฟที่ก้าวเดินมาพร้อมกับจ่อปืนก็ต้องหยุดชะงักลง
              "พวกแกซ่าและแสบมากเลยน่ะ ไอ้พวกเวเซอร์ คิดว่าพวกแกแน่มากใช่มั้ย งั้น พวกแกยิงผ่านไอ้พวกนี้ได้มั้ยละ" นักรบซอร์แรคกล่าวโดยคว้าจับนักวิจัยหญิงผมสีแดงออกมา พร้อมกับซอร์แรคอีกสองตนไปคว้านักวิจัยหญิงผิวสีอีกสองคนมาด้วย ส่วนบรูซาแรมก็ลากเจ้าหน้าที่ชายผมหยิกคนหนึ่งออกมา พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ชายหน้าแหลมเหลี่ยม กับชายวัยกลางคนออกมากันด้วย โดยที่หันเทอมอลบาซูก้ามาจ่อตรงหน้าไว้
              "พวกแกนิมัน...." เนคมาดูซัมกล่าวพร้อมกับ "ฟึ่บบบ แกร็กๆ" โยนสปีดเพคเกอร์ลงพื้น คลอเวฟที่เห็นแบบนั้นและหันมายังพวกศัตรูที่มีตัวประกันอยู่ ก็....
              "สารเลวจริง...." คลอเวฟเลยโยนช็อคแคนน่อนลงพื้นไปด้วย
              "พวกแกทิ้งอาวุธลงไปแล้วสิน่ะ แย่หน่อย ที่เราจะเชือดพวกแกก่อนนี้แหละ" นายกองบรูซาแรมกล่าว แล้วพวกบรูซาแรมส่วนหนึ่งก็ชักอาวุธปืนเล็งมายังเนคมาดูซัมและคลอเวฟ
              "พวกแกมันไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กันนิหว่า" เนคมาดูซัมกล่าว
              "ช่วยไม่ได้ พวกเราทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งบดขยี้เพื่อนร่วมเผ่าของแกให้แหลกคาฝ่าเท้าของเรากันนี้...." ซอร์แรคบอก

              ไม่ทันไรก็...... "แง้ววววววววว" แมทเฟลิมที่อยู่ชั้นลอยร่วงลงมากระแทกพื้นอย่างจังๆ ต่อด้วย "แง้ววววววว อ้ากกกก" แมทเฟลิมและอัลแทเรี่ยนร่วงลงมากระแทกพื้นกันทีละตัวสองตัวโดยเร็ว "ใคร ใครกันวะที่มาเล่นงานพวกเราได้..." ซอร์แรคตัวหัวหน้ากล่าวยังไม่จบก็ "อุ๊ก" ถูกยิงเข้าที่หลังหัวจนล้มลง ส่งผลให้นักมนุษยวิทยาที่เป็นตัวประกันหลุดมือไปด้วย ตามด้วย "ปุ๊ๆๆๆ" พวกบรูซาแรมที่จับตัวประกันเป็นเจ้าหน้าที่สามคนถูกยิงส่องหน้าผากไปเต็มๆ  ซอร์แรคอีกสองตัวเห็นเลยรีบคว้าดาบมาเชือดตัวประกันอีกสอง "ฟึ่บบบบ หมับบบ ปังงงง" เนคมาดูซัมใช้เกราะต้นขาซ้ายดีดเดริงเจอร์แมกนั่มที่เก็บเอาไว้ ยิงเป่าแสกหน้าซอร์แรคที่อยู่ตรงหน้าจนล้มและปล่อยตัวประกันหญิงผิวสีหลุดตาม ส่วนตัวที่สามนั้น "ปัง" โดนคลอเวฟใช้เดริงเจอร์แมกนั่มยิงเข้าที่หัวเข่าขวาจนทำให้มันล้มลง และ "ฟ้าวววว ปั้ก" ซัดดาบของนักรบซอร์แรคที่ยึดมา (และแอบเก็บเอาไว้) ปักคาหน้านักรบซอร์แรคไปในทันที
              "นี้เธอ เธอเป็นใครกันแน่นะ" เนคมาดูซัมกล่าว เมื่อเห็นนักวิจัยหญิงผมสั้นสีน้ำตาลถือปืนติดกระบอกเก็บเสียงสองกระบอกยืนอยู่กลางกลุ่มตัวประกันไว้
              "เดียวสิ นั้นมันเดริงเจอร์แมกนั่มนิหว่า แมนิเกเตอร์แบบมนุษย์ไม่น่าถือได้เลยนิ" คลอเวฟกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "นั้นสิ ปืนนี้มีแรงถีบที่ผลักกระดูกข้อมือยุบไปได้ จนปืนนี้สงวนไว้สำหรับพวกแมนิเกเตอร์แขนกลหรือพวกแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้อย่างพวกเรากันน่ะ"
              "นี้แก.... เล่นงานพวกเราแบบนี้ แกคิดว่าแกเป็นใครกันมิทราบละ" ทหารบรูซาแรมกล่าว
              นักวิจัยหญิงบอก "หึ พวกแกได้เห็นหน้าของฉันได้แค่ครั้งสุดท้ายเองแหละ" แล้วก็ "ฟ้าววววว" กระโดดขึ้นสูงโดยที่ทหารบรูซาแรมหันปืนโตมาเพื่อยิง แต่.... "แว้งงงงงงง" นักวิจัยหญิงเปล่งแสงพร้อมกับสบัดเสื้อโค้ทออกไป โดยที่เนคมาดูซัมและคลอเวฟยกแขนบังแสงไปด้วย จน.... "ฟึ่บๆๆๆ ตึก" ปรากฎนักรบหญิงในชุดเกราะสีเขียวอ่อน สวมหมวกที่มีแว่นแถบดำปิดหน้ากันไว้ ส่วนหัวไหล่ยาวปิดด้านข้างทั้งสองข้าง ส่วนเอวเป็นเข็มขัดสายสีแดงติดหัวเข็มขัดสี่เหลี่ยม หัวเข่าเป็นสามเหลี่ยมกลับหัวหันปลายแหลมมายังข้อเท้าด้านหน้า โดยที่มีนักรบชุดเกราะ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายเบทชอนของพวกโซลูนาสตี้ หากแต่สีเกราะเป็นสีชมพู สวมหมวกปิดหน้ามีแว่นดำปิดส่วนตา ส่วนเขาติดหูข้างละสองเขา ส่วนสะโพกเป็นสีแดง ข้อเท้าและข้อมือเป็นท่อไอพ่นอยู่ ซึ่งยืนอยู่บนชั้นลอยไว้แล้ว
              "เฮ้ย นั้น ใครกันวะเนี้ย" คลอเวฟบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "นักรบชุดเกราะ แถมเป็นเพศหญิงแบบนี้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยน่ะ"

              "สุดยอด นั้นมัน นักรบเกราะนางแอ่นวายุเหิน บริซสวอลโล่ว์ และพิราบทะยานฟ้า ไรซิ่งพีเจี้ยนกันนิน่า เหลือเชื่อไปเลย ยอดฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมโผล่หน้ามาแล้วน่ะ" แนนนี่บอก
              ลิเนียร์ตี้บอก "ผู้ผดุงความยุติธรรมนะหรือ แต่ พวกเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ ทำไม ถึงไม่มีใครรู้เรื่องเลยน่ะ"
              "นี้คุณตกข่าวไปแล้วหรือไง ไม่เคยได้ยินหรือ หน่วยรบวิหคเงา ยอดนักรบผู้พิทักษ์ความสงบสุข ซึ่งปรากฎตัวมาต่อกรกับเหล่าร้ายที่น่ากลัว แผนสูง โรคจิต และคิดร้ายต่อดาวบ้านเกิดของเรา พวกเขาได้ปรากฎตัวมาเมื่อ 2-3 เดือนก่อนกันแล้วน่ะ" ดาร์เซียร์บอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "2-3 เดือนก่อนนะหรือ ถ้าเป็นตอนนั้นพวกเราไม่ได้อยู่ที่ดาวหรือเฟิร์สฮิลล์หรอก เพราะพวกเราไปเก็บตัวที่ดาวอื่นเพื่อเข้าร่วมการประลองศึกราชาแห่งยอดนักสู้ประจำเขตอวกาศสมาพันธ์กันน่ะ"
              "เหลือเชื่อ นี้คุณ กับพวกคุณ เข้าร่วมการประลองระดับจักรวาลกันด้วยหรือเนี้ย การประลองนั้นถือว่าเป็นการประลองระดับสุดยอดยิ่งกว่าที่จัดขึ้นบนโลกเมื่อปี 94 กันเลยน่ะ แล้วพวกคุณได้แชมป์หรือได้ลำดับที่เท่าไหร่กันน่ะ" แนนนี่ถึงกับกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจไม่น้อย
              ลิเนียร์ตี้ตอบ "เออ...แย่หน่อยที่พวกเราแพ้ยกทีมกันนะสิ แหะๆๆๆๆ"
              "พวกคุณจากหน่วยเวเซอร์ ให้พวกเราจัดการกับพวกนี้เอง คุณรีบช่วยพวกตัวประกันโดยเร็วดีกว่า" นักรบโค้ดเนมพิราบทะยานฟ้ากล่าว แล้วก็ "โท้วววว" กระโดดลงมาเพื่อใช้ท่า "พีเจี้ยนไดฟ์คิก" เหยียดขาขวาที่ปลายเท้าเปล่งแสงขึ้น "ฟ้าววว เปรี้ยงงงง" ถีบเข้าหน้าซอร์แรคไปเต็มๆ นักรบแมทเฟลิมที่อยู่ใกล้ๆเลยกระโจนเข้ามา "ช็อตอัปเปอร์" นักรบพิราบทะยานฟ้าเสยหมัดซ้าย "เปรี้ยงงง" อัปเปอร์อัดเข้าปลายคางนักรบแมทเฟลิมไปเต็มๆ แล้วก็ "ฟ้าวววววว" กระโดดขึ้นสูง "ปีคเบรคเกอร์" เสยแทงเข่าอัดใส่แมทเฟลิมอีกตัวที่กระโจนเข้ามาจนล้มกลิ้งไป
              "ย้า" นักรบโค้ดเนมนางแอ่นเหินกระโดดลงมา "แกร็ก" หยิบปืนแบบเดริงเจอร์แมกนั่มกระบอกสีเทา แต่ลำกล้องส่วนล่างสีเขียวออกจากข้างต้นขาขวามา "ดับเบิ้ลแมกนั่ม เลเซอร์ชู้ต" ยิงเลเซอร์จากปากลำกล้องล่างเข้าใส่อัลแทเรี่ยนตนหนึ่งจนล้มด้วยแผลไหม้ที่คอ ต่อด้วย "แชดด แชดดด แชดดด" ยิงเลเซอร์เข้าใส่ทหารอัลแทเรี่ยนล้มไปสามตัวด้วยกัน คลอเวฟและเนคมาดูซัมเลยรีบคว้าอาวุธมา
              "พวกคุณรีบออกไปเดียวนี้เลย" เนคมาดูซัมกล่าว โดยรีบให้นักวิจัยและเหล่าเจ้าหน้าที่ออกไปโดยเร็ว
              "ชิ" ทหารอัลแทเรี่ยนเลยชักดาบแสงสีแสดออกมา พิราบทะยานฟ้าเห็นเช่นนั้นก็ "แกร็ก หวับๆๆๆๆๆ หมับบบ" เปิดเกราะต้นขาซ้ายปล่อยกระบอกสีเงินออกมา ซึ่งเธอใช้มือขวาคว้าจับเอาไว้ "นีออนเบลด" โดยเธอกำกระบอกนั้นไว้จน "ครี้งงงง แวบๆๆๆๆๆๆ" หลอดแสงสีขาวโผล่ออกมาพร้อมกับเปล่งแสงขึ้น "ย้า" เธอบุกเข้าใส่พวกอัลแทเรี่ยนที่บุกเข้ามา "แชบบบ แชบบบ แชบบบ" โดยที่เธอหวดดาบในลักษณะหันดาบหลอดไฟลงพื้นต้านดาบแสงของฝ่ายอัลแทเรี่ยนอย่างรวดเร็ว "ย้า ย้า ย้า ย้า" จากนั้นก็หวดดาบฟันใส่ท้องของพวกอัลแทเรี่ยนไปสี่ทีเต็มๆ "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" บริซสวอลโลว์พุ่งมาด้วยความเร็วสูงมาก พร้อมกับ "ปังๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆ" ใช้ดับเบิ้ลแมกนั่มยิงทั้งกระสุนจริงและเลเซอร์เข้าใส่พวกแมทเฟลิมจนล้มไปในทันที จากนั้นก็ "ป้ากก ปึกกก ป้ากกก เปรี้ยง ปังงง ปังงง แชดดด แชดดด" ใช้ปืนสั้นตบหน้าแมทเฟลิมตัวแรกจนล้ม จากนั้นก็เตะแมทเฟลิมตัวที่สองเข้าตรงกลางหน้าอกจนจุก แล้วก็เตะเสยสองจังหวะเข้าใส่อีกสองตัวให้เสียหลัก จากนั้นก็ยิงใส่ทหารแมวทั้งสี่จนร่วงลงกับพื้น "ตรึงๆๆๆๆๆๆ" นักรบซอร์แรคบุกเข้าชาร์จใส่บริซสวอลโลว์อย่างรวดเร็ว "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว" ซึ่งเธอก็หลบหลีกการโจมตีด้วยความเร็วสูงอย่างทันควัน "ตรุ้งงง ตรุ้งง ตรุ้ง" ทหารบรูซาแรมกระหน่ำยิงกระสุนความร้อนเข้าใส่ไรซิ่งพีเจี้ยน ซึ่งก็ "ฟ้าวววว" กระโดดหลบกระสุนที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับ "แว้งงงง ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าววว" รูดนิ้วที่นีอ้อนเบลดจนเรืองแสงยิ่งกว่าเดิม แล้วฟาดซัดออกเป็นคลื่นคมมีดพลังไปสามทีเข้า "ตรูมมม ป้ากกก บรึมมมม" อัดใส่ทหารบรูซาแรมจนเกราะหัวไหล่แตกกระจุย แต่... "ว้ากกกกก" นักรบซอร์แรคกระโจนเข้ามาจากข้างหลังบริซสวอลโลว์โดยที่เธอหันหลังมาแต่โต้ตอบไม่ทัน กับไรซิ่งพีเจี้ยนที่โดดลงพื้น ซึ่งกำลังถูกบรูซาแรมตัวหนึ่งเตรียมปืนยาวมายิงใส่จากด้านข้าง
              "เฮ้ย วอร์ชิปดรอป" คลอเวฟตะโกนลั่นแล้วก็ "เปรี้ยงงงง" พุ่งเข้าถีบใส่นักรบซอร์แรคเต็มสองเท้าโตๆ พร้อมกับเหยียบตัวให้สไลด์ไปบนพื้น จากนั้นก็โดดออกมาให้นักรบซอร์แรค "เปรี้ยงงง" พุ่งสไตร์คอัดกับทหารแมทเฟลิมที่กรูกันเข้ามาจนร่วงสิบตัวด้วยกัน ส่วนทหารบรูซาแรมนั้น "บ็อกซ์บัสเตอร์" เนคมาดูซัมยิงมิไซล์จากส่วนหัวไหล่พุ่งเข้า "ตรูมมมม บรึมมมมม ตูมมมม" เป่าระเบิดใส่ทหารบรูซาแรมจนท่อนบนไหม้ไปสอง ส่วนตัวที่สามที่กำลังจะจัดการกับนักรบพิราบเหินนั้น "โท้ววววว" เนคมาดูซัมกระโจนข้ามหัวทหารบรูซาแรมพร้อมกับ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงลงใส่ทหารหมีต่างดาวจากเบื้องบนจนทำให้มันชะงักเพราะถูกกระสุนยิงต่อเนื่อง แม้จะไม่ลงบนหัวกันเลยก็ตาม "ตรึงงงง" เนคมาดูซัมโดดลงสู่พื้น ทหารบรูซาแรมก็หันมาเพื่อกราดยิง แต่.... "เปรี้ยงงงงง ป้ากกก เปรี้ยงงงง" โดนหมัดสามจังหวะด้วยหมัดตรงเข้ากลางหน้าอก และอัปเปอร์คัตซ้ายขวาตามลำดับจนสอยทหารหมีต่างดาวปลิวไปอย่างจังๆ "นั้นมันเสี่ยงและระห่ำเกินไปน่ะ ถ้าพลาดกระสุนเด้งมาโดนพวกเดียวกันจะว่ายังไงละ" นักรบพิราบตำหนิเนคมาดูซัม ซึ่งให้คำตอบไปว่า
              "คำพูดนั้นมันควรจะเป็นของฉันมากกว่า กับการที่เธอดวลกับศัตรูที่ไม่เหมาะกับการรับมือของเธอเอง โดยเฉพาะพวกตัวโตๆนั้น พลองขนาดเล็กนั้นฟาดไม่เข้าตัวมันได้หรอก"
              "แล้วทีพวกคุณละ ที่ให้สมาชิกหญิงที่ตัวเล็กเท่าเด็กออกรบกันได้น่ะ" นักรบพิราบเถียง
              จนนักรบนางแอ่นต้องอธิบายไปว่า "ถ้าหมายถึงจิลละก็ เธอแค่ตัวหดลงเพื่อไม่ให้พลังจิตอันมหาศาลมาทำร้ายคนอื่นกันนั้นแหละ อีกอย่าง เขาก็รุ่นราวคราวเดียวกับเธอด้วยน่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "อย่าถือสาเธอเลยนะคะ เธอแค่ไม่รู้เรื่องพวกคุณก็เท่านั้นเอง"
              "เออ นั้นดีแล้วละ ที่รู้จักมาขอโทษกันได้ แม้ว่าเราไม่ได้รีเควสขอพวกเธอให้มาช่วยสักหน่อยกันน่ะ" คลอเวฟบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "ไว้คุยกันทีหลังดีกว่าน่ะ ตอนนี้ ฉันได้จัดการกับไวรัสเรียบร้อยแล้ว ทหารของผบ.บัลโต้เข้ามากู้สถานการณ์จากภายนอกจนสำเร็จแล้วละ"
              "ขอบใจมากน่ะ ลิเนียร์ตี้ แม้ว่าเธอจะมีคนช่วยอยู่สองคนก็ตามน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "แล้วก็ขอบคุณ....พวกคุณมากเลยน่ะ"
              นักรบนางแอ่นบอก "ตอนนี้พวกเราขอตัวก่อนละ" แล้วก็พาเพื่อนร่วมทีมออกไปโดยเร็ว โดยที่พวกทหารของบัลโต้เข้ามาตรวจสอบภายใน ซึ่งมีหน่วยแพทย์มาเสริมด้วย

              "วันนี้ดูท่าเป็นวันไม่ดีของพวกเรา และของทุกๆคนที่อยู่ในเอ็นซิส กับผู้เกี่ยวข้องกันทั้งหมดด้วยน่ะ" บัลโต้บอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "แต่อย่างน้อย พวกเราร่วมมือกันคลี่คลายสถานการณ์ไปได้ ก็ถือว่าเรียบร้อยดีแล้วนะครับ" และหันมาถาม "แล้วใครเป็นตัวการส่งไวรัสเข้ามากันเลยละ"
              "เกรงว่า คนส่งมานั้นจะเป็นสายลับของพวกเดลอาเนี่ยนกันน่ะ เพราะดาร์เซียร์พยายามจะเช็คตำแหน่งของแฮคเกอร์ที่ส่งสัญญาณเข้ามา แต่ไม่ทันไร สัญญาณก็ขาดหายไปเอาดื้อๆเลยน่ะ ฉันจึงคิดว่าน่าจะเป็นสายลับสองตัวที่โผล่มาอยู่ที่ฟอร์ทด็อดซ์แล้วน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              บัลโต้บอก "นั้นก็ดีแล้วละ เพราะเรารู้แล้วว่า การบุกจู่โจมเอ็นซิสในคราวนี้ ใครสนับสนุนอยู่เบื้องหลังกันน่ะ"
              "เสียอย่างเดียว ก็คือมีคนมาแย่งซีน แถมเป็นผู้หญิงกันเสียด้วยน่ะ ถ้ารู้ว่าเป็นคนจากหน่วยไหนละก็ น่าดู..." คลอเวฟบ่น จนลิเนียร์ตี้กระแอ่มให้
              บัลโต้บอก "....หรือ นายมีความผิดฐานทะเลาะเบาะแว้งกับนาวิกอยู่ นี้คิดจะหาเรื่องกับสมาชิกในกองรบของฉันเลยสิน่ะ อยากอยู่ซังเตมากใช่มั้ยละ ไอ้คลอฟ"
              "เออ เดียวก่อนนะคะ ผบ.บอกว่า นักรบนางแอ่นกับนักรบพิราบที่มาช่วยนั้น เป็น...." ลิเนียร์ตี้กล่าว
              บัลโต้กระแอ่ม "ข้างนอกกว้าง ทุกคำพูดที่ออกมาล้วนมีใครได้ยินกันทั้งนั้น เอาเป็นว่าตอนนี้ นายช่วยแก้ปัญหาไปได้แค่ครึ่งส่วนเองน่ะ"
              "ครึ่งส่วนน่ะหรือ หมายความว่าไงกันครับ" เนคมาดูซัมถาม
              บัลโต้บอก "บรูโน่แจ้งมา ว่าตอนนี้หน่วยรบที่พีวิลและสเปียริทไปตามไกซ์กับมิลด์มานั้น เกิดมีพวกศัตรูโผล่มา ตอนนี้ฉันได้ให้แอร์ไพล์มมิสไปช่วยกันแล้ว" แล้วครีซีแทนสวมหมวกแคปสีแดงก็วิ่งอย่างรีบเร่งมาถึงพอดี "แน่นอนว่าฉันไปรับฟูแรมมา เพราะคิดว่าพวกนายมานี้เพื่อตามตัวฟูแรมมา แต่เกิดปัญหาเข้าเสียก่อนน่ะ"
              "ผมคิดว่าพวกคุณคงไปเจอเรื่องยุ่งที่คุณคลอเวฟก่อขึ้นมาแน่ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าพวกคุณจะมาอยู่ที่เอ็นซิสพร้อมกับผบ.บัลโต้กันนะครับ" ฟูแรมบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "ทั้งหมดก็เพราะ คลอเวฟเองนี้แหละ แต่นั้นก็ดีแล้ว ที่เรารีบช่วยหยุดการบุกยึดสำนักงานใหญ่ของกรมตำรวจทหารเรือกันน่ะ"
              "แต่ตอนนี้ ฉันต้องการให้พวกนายรีบไปช่วยพีวิลและสเปียริทโดยด่วน ฉันได้แจ้งให้มาสวาร์ทาร์กับพวกเจเนลที่แวะไปเอาหุ่นรับทราบกันแล้ว หากแต่พวกเขาไม่ได้เอาไทรแองเกิ้ลมากันหรอก เพราะทีมวิจัยยังตรวจข้อมูลในยานไม่เสร็จกันน่ะ" บัลโต้บอก โดยตอนนี้ โซเฟียทนำเฮอซีคบินมารับแล้ว
              คลอเวฟบอก "นั้นก็ดีแล้วละ ถึงใช้ไทรแองเกิ้ลไม่ได้ เราก็ยังต้องการใช้โมบิลลอยด์โดยด่วนน่ะ"
              "งั้นผมขอไปด้วยนะครับ อย่างน้อยให้ผมช่วยในเรื่องอาวุธกันบ้างน่ะ เผื่อว่าคุณวูลลิเซียถอดอะไรบางอย่างออกไปกันนะครับ" ฟูแรมบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ดีเหมือนกันน่ะ อย่างน้อยเรามาไม่เสียเที่ยวกันแล้วนะ" แล้วก็ยานเฮอซีคก็แล่นลงมา เพื่อให้เนคมาดูซัม คลอเวฟและลิเนียร์ตี้เข้ามา ซึ่งมาสวาร์ทาร์ แอบไบออส แอนเดรีย และเจเนไซด์ทีมมารออยู่ พร้อมกับโมบิลลอยด์ของพวกเขาส่วนมากด้วย
              "ว่าแต่ ไปบู้ที่กรมตำรวจทหารเรือนิ สนุกมั้ยละ" แอบไบออสบอก
              พลัสเชอริทบอก "ความน่าจะเป็น 120 เปอร์เซนต์ นายต้องพังข้าวของในสำนักงานจุดใดจุดหนึ่งพังไปในระหว่างการต่อสู้แน่นอนเลยละ แม้ฉันจะรู้ว่านายกับพวกต้องรอดแน่ๆน่ะ"
              "กูโดนจับไปสอบปากคำในคดีที่กูกับพวกไม่ได้เป็นคนทำไม่ว่า ยังเกือบตายเพราะไอ้พวกเดลอาเนี่ยนส่งกองรบเข้ามาก่อกวนกันด้วยแล้ว อย่าให้กูโมโหอีกจะดีกว่าน่า" คลอเวฟบ่น
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เพราะว่าตอนนี้เรามีพีวิลและสเปียริทที่ต้องรีบไปช่วยกันไว้น่ะ"
              "หวังว่าคุณคงจะพาเราไปถึงที่เกิดเหตุได้ก่อนน่ะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              โซเฟียทกล่าว "อย่าห่วงไปเลย เฮอซีคพึ่งจะติดตั้งเครื่องยนต์แบบใหม่กันไว้ รับรองว่า ภายใน 4 นาทีไปถึงแน่นอน"
              "ขอให้มันเป็นจริงอย่างที่พูดกันนะคะ" แอนเดรียบอก โซเฟียทพยักหน้า
              เนคมาดูซัมบอก "งั้นพวกเราไปเตรียมพร้อมกันก่อนน่ะ เพราะถ้าเราไปถึงที่หมาย พวกเราจะนำโมบิลลอยด์ลงจากยานโดยทันทีน่ะ"
              "ดีเลย แม้ว่าฉันอยากจะลงไปช่วยพีวิลและสเปียริทไปกระทืบต่างดาวกันเสียก่อนน่ะ" เจเนลบอก
              โซเฟียทบอก "เอาเถอะ ตอนนี้พวกนายรีบไปเตรียมตัวกันดีกว่าน่า" แล้วก็นำเฮอซีคออกบินโดยเร็ว
    ต่อช่วงที่ 2
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×