ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่ 18 การแข่งสแมคบอลสุดโหดครั้งแรกของพวกไทรเวเซอร์ กับเดิมพันที่สูงอย่างมาก ครึ่งแรก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10
      0
      30 ก.ย. 64

              ณ.ดาวบาดูอิน ระบบดาวอินกรีด้า ฐานทัพของพวกแมทเฟลิม กองรบของแม่ทัพเพียโดม่า

              "หวอออ หวอออ หวออออ" สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น "ยานรบของพวกไทรเวเซอร์มาถึงแล้วละครับ" ทหารแมทเฟลิมกล่าว

              เพียโดม่าบอก "พวกมันมาคงเพราะต้องการข้อมูลจากกิลด์บาวโฟว์อีกละสิ แล้วกองรบของพวกมันมาเท่าไหร่กันน่ะ"

              "กำลังตรวจสอบจำนวนหุ่นรบของพวกมันอยู่นะครับ" ทหารแมทเฟลิมตอบอย่างร้อนรนไม่น้อย "แชดดดด ตรูมมมม" ไม่ทันไรก็มีลำแสงสีฟ้าสองสายพุ่งเข้าทำลายหอป้อมปืนจนระเบิด ตามด้วย "ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว ตรูมๆๆๆ" กระสุนพลังสีเหลืองทองขนาดย่อมพุ่งเข้าสร้างความเสียหายให้กับอาคารฐานทัพอย่างหนักหน่วง "กระสุนพลังงานของหุ่นหัวสีดำเบอร์แปดถล่มคลังแสงและโรงซ่อมบำรุงวอร์แมชชีนของพวกเราพังไปแล้วละครับ"

              เพียโดม่าบอก "บ้าน่า กระสุนปืนใหญ่ของหุ่นเบอร์แปดนั้นไม่น่ายิงได้ไกลมากเลยนิ ทั้งๆที่มันติดอาวุธดาบสองเล่มไว้สู้ประชิดตัวเลยนิน่า"

              "มีข้อมูลอัพเดตมานะครับ ว่าหุ่นรบเบอร์แปด เบอร์เก้า หุ่นพลังร้อนเย็นและหุ่นติดปีกแดง มันอัพเกรดและเปลี่ยนวิธีสู้กันใหม่แล้วละครับ" ทหารแมทเฟลิมบอก โดยตอนนี้เพรเดแคทแบบยานบินจำนวน 60 เครื่องขึ้นจากลานบินเพื่อเข้าโต้ตอบพวกแมนิเกเตอร์ แต่ "ฟิ้วๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" โดนห่ามิไซล์จำนวนมากถล่มจนร่วงไป 20 กว่าเครื่องจนร่วงลง แม้ว่าจะมีบางส่วนบินหลบไปได้และยิงมิไซล์จากใต้ท้องออกไป "ฟ้าวๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆ" แต่ก็โดนห่ามิไซล์สองชุดพุ่งเข้าระเบิดใส่อย่างจังๆ แล้วก็ "ฟ้าววววววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ฟลาแน็กซ์พาอิคกรีทและสวอนน่าใช้ดาบยาวโครมเมทาเลี่ยมเรเฟียร์ฟันใส่เพรเดแคทโหมดยาน จนขาดสะบั้นลงไปสามลำ

              "ร่วงไปเลยสิ ไอ้หุ่นหน้านก" ทหารแมทเฟลิมกล่าวโดยเตรียมยิงปืนยาวบนหลังเพื่อสอยการ์เซนครีทของพวกฟลาแน็กซ์ "ปังๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" มิลด์นำแพนเซสเซนไนน์เฮฟวี่เมทัลอาร์มกราดยิงสไตร์คแมชชีนกันเข้าสอยเพรเดแคทให้ร่วงไป 5 ตัว เช่นเดียวกับ "ฟ้าววววว ฉั้วะ ฉับ" ไซโคลเนียบุกจู่โจมด้วยสกายไฮซ์ซอร์ดสับปืนยาวบนหลังขาดจากกัน "ฟ้าววว ฉั้วะ ฉึกกกก แง้งๆๆๆๆๆ" มัลแด็กซ์ใช้ดาบตั้กแตนตำข้าวฟันเพรเดแคทติดบูสเตอร์ปีกมีปืนยาวสองกระบอกจนขาด บีทเทมพุ่งแทงด้วยเพคบัสเตอร์ที่หลังขาตอกเป่ากลางหลังให้กระจุย บัลตาฟรีปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงเล่นงานพวกเพรเดแคทอีก 6 ตัวให้ชะงักจน "แชดดดด ครืนนน" โดนวิลด้ายิงสครูวอิมพัลส์ลันเชอร์ทำลายทิ้งไปกันหมด ในขณะที่ภาคพื้นดินนั้น "ฉั้วะ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ลิเนียร์ตี้เข้าโต้ตอบแคทครอฟด้วยเบลดเพคบัสเตอร์อย่างรวดเร็ว โดยที่พลัสเชอริทกระโจนเข้าใช้โซลิดคาตาน่าฟันใส่แคทครอฟที่วิ่งมาหมายจะลอบกัดลิเนียร์ตี้จากข้างหลัง เพรเดแคทแบบภาคพื้นพยายามยิงปืนใหญ่ลำแสงพิสัยไกลเข้าใส่พวกไลเอิร์ทที่บุกเข้าพร้อมกับแอบไบออส ซึ่งแคทครอฟตัวสีน้ำเงินกระโดดเข้ามายิงมิไซล์จากแขนทั้งสองข้าง "ตรุ้งงงง ตรูมมมม" สเตฟอร์ดใช้บัสเตอร์บาซูก้ายิงทำลายจรวดทิ้ง พร้อมกับ "ฟ้าววววว ฉั้วะ ฉับบบบบ" โฟรซ่านำฟาลครีด้ามิลซากัน-5 ใช้แบ็คอาร์มซอร์ดฟันใส่เพรเดแคทตัวสีน้ำเงินให้ขาดสะบั้นไปสองตัว แล้วก็ "เปรี้ยะ เปรี้ยะ เปรี้ยะ" ใช้เมย์ไนซ์บัสเตอร์ไรเฟิ่ลสอยแคทครอฟที่เตรียมปืนยาวมายิงจนหน้าอกทะลุและระเบิดไปสามตัว "แชดๆๆๆๆๆๆๆ" แคทครอฟจำนวน 30 ตัวรีบกระหน่ำยิงปืนยาวพลังงานเข้าใส่ "แว้งงงง เปร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แอนเดรียและเนคมาดูซัมเข้าปกป้องพวกไรแกทและเฮเรเค้น ที่ตกเป็นเป้าห่าลำแสงกระหน่ำยิงใส่ด้วยโปรเทคต้าไคท์และโบล์ทมิลเลอร์วอล จนสะท้อนลำแสงกลับไปจัดการกับแคทครอฟจนพัง แต่ "แว้งงงงงง" แคทครอฟตัวหนึ่งปล่อยแสงสีแดงที่มีตราหัวแมวป่าประทับไว้

              "ยุ่งแล้ว พวกแมวบ้ามันใช้สัญญาณแมวหง่าวเรียกพวกมาแล้วละ" ไลเอิร์ทบอก เพราะเห็นกองรบแมทเฟลิมแห่แหนเข้ามาเป็นจำนวนมาก

              "ป้าโฟรซ่าบอกมาก่อนแล้วละ แต่ไม่คิดเลยว่าไอ้พวกแมวอวกาศนี้จะรู้จักแมวสายฟ้าด้วยน่ะ" ไกซ์บอก พร้อมกับ "ฟ้าววว ฟ้าววววว แกร็ก ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงเบลดซอร์เซอร์เข้ากรีดตัดเพรเดแคทที่วิ่งเข้ามาเช่นเดียวกับใช้วัลแคนชิลด์กราดยิงใส่แคทครอฟที่บุกมา จนล้มเพราะกระสุนเจาะเข้าตรงคอและส่วนหัวไป

              เบติสบอก "ตอนนี้ พวกเรารีบรับมือกับพวกศัตรูกันก่อนดีกว่าน่ะ" แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงเมลเบิร์นแกตลิ่งและฟรีซเวฟวัลแคนเข้าถล่มใส่แคทครอฟและเพรเดแคทให้ล้มพังไป

              "ยิงหนุนช่วยพวกเราหน่อย เนคกี้ เนคกัส" เนคมาดูซัมบอก

              เนคกี้กล่าว "รับทราบคะ พี่ ปืนใหญ่พลังคลื่นพร้อมยิงแล้วคะ" แล้วก็ "ตรุ้งงง ตรุ้งงง ตรุ้งง ตรุ้งงงง" ปืนใหญ่ส่วนใต้ท้องยานสองกระบอกยิงเข้าใส่พวกแมทเฟลิมที่อยู่ภาคพื้นจนกระเจิดกระเจิงไปไม่น้อย ส่วนภาคอากาศนั้น "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เนคกัสใช้ซีคเกอร์ลันเชอร์ยิงโฮมิงค์มิไซล์เข้า "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เป่าทำลายพวกเพรเดแคทโหมดยานที่บุกเข้ามาด้วยจำนวนน้อยกว่าพวกภาคพื้นอยู่เพียงเล็กน้อย โดยวิลด้าและพวกรีบถอยไป เช่นเดียวกับพวกเนคมาดูซัม "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมกราดยิงไล่พวกแมทเฟลิมที่บุกเข้ามาจนล้ม ซึ่งแอบไบออสและพวกไลเอิร์ทรีบถอนตัวไป โดยที่มีฟิเกซ "แชดดดด แชดดดด แชดดดด ตรุ้งๆๆๆ" ใช้ทั้งพลาซอนไรเฟิ่ลและซาลมาร์สแคนน่อนยิงทำลายป้อมปืนใหญ่ที่โผล่มาตรงหน้ากำแพงฐานทัพจนพังไป

              "เราต้องถอยก่อนแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก

              "แน่ละ เพราะไอ้พวกแมวอวกาศนั้นมันมีพวกมาเยอะแบบนี้ พวกเราคงโดนรุมสกัมแน่ๆเลยละ" เทรอนเร็กซ์แม้จะไม่ชอบแต่ก็ต้องรีบหนีไปโดยเร็ว

              เนคมาดูซัมบอก "ที่เหลือก็คือพวกพีวิลกันละ....พยายามถอยหนีไปอย่างช้าๆ และคอยระวังพวกแมทเฟลิมด้วยละ"

              ที่ฮันเตอร์กิลด์บาวโฟว อูดูกิน หัวหน้ากิลด์เริ่มกระวนกระวายขึ้นมา

              "หวังว่าแม่ทัพเพียโดม่าคงจะไล่ไอ้พวกไทรเวเซอร์ไปได้ละน่า" อูดูกินกล่าว "ถึงไอ้พวกนักล่าเดธโฟว์บุกมาก็เหอะ แต่นักล่าเงินรางวัลที่ฉันไปขอมาจากกิลด์อื่น คงจะรับมือได้บ้างกัน...." แต่ก็.... "โครมมมมมม" โฟร์ทโบ็ทพุ่งทะลุกำแพงเข้ามาในตัวกิลด์อย่างจังๆ จนอูดูกินตกใจไม่น้อย เลยรีบวิ่งตรงไปยังประตู "ปึ้กกกก โครมมม" แต่ก็สะดุดล้มไปอย่างจังๆ เพราะเก้าอี้พุ่งมาฟาดหน้าแข้งอูดูกินอย่างจังๆ ซึ่งหัวหน้ากิลด์ก็เงยหน้าขึ้นมา ก็เจอกับ....พีวิล สเปียริทและจิลยืนอยู่ "แกร็ก แกร็ก ครืดดด" พีวิลชักอาร์มชู้ตเตอร์ข้างซ้ายออกมา เช่นเดียวกับอินเกรต้าเพคชู้ตเตอร์ของสเปียริทและจีเลเซอร์กันของจิล อูดูกินตกใจมาก ครั้นหันหลังมา "ตึก ตรึง" เจเนลและจายด์ลงจากหัวรถโฟร์ทโบ็ทมาดักหลังไว้

              "จำได้มั้ยละ หัวหน้ากิลด์ ว่าพวกเราเป็นใครกันน่ะ" เจเนลบอก

              "โอ้ว พวกนายเองสิน่ะ ยินดีด้วย ที่รอดจากการประลองสุดโหดของจักรพรรดินีมิวนัสกันน่ะ" อูดูกินกล่าวแบบใจดีสู้เสือไว้ แต่ก็เอามือซ้ายไปไว้หลังเอวเพื่อหยิบปืน "เจี้ยก เจ็บๆๆๆๆๆๆๆ" จิลรู้ทันเลยใช้พลังจิตหักมือนั้นไว้ สเปียริทเลยรีบรุดเข้ามา "เพี้ยะ" ตบด้วยหลังแหวนจนทำให้ปืนเลเซอร์กระบอกเล็กหล่นจากหลังเอวมา

              "อ่า....กะแล้วว่าหัวหน้ากิลด์อย่างนายมันเล่นไม่ซื่อกันตลอดเลยน่ะ" สเปียริทกล่าวแล้วก็ "หมับบบบ โครมมมม" เอามือกุมตรงหลังคออูดูกินและกระแทกกับโต๊ะกลมอย่างจังๆ

              "อ่า ว่าแต่ พวกนายมาคราวนี้ ต้องการอะไรกันแน่ละ อย่างเช่น รายชื่อนักล่าเงินรางวัลของกิลด์อื่น ที่ตั้งของฐานทัพของพวกเดลอาเนี่ยน หรือไม่ก็....ที่ซ่อนของพวกกองกำลังต่อต้านจักรวรรดิ์กันน่ะ" อูดูกินบอก

              พีวิลกล่าว "มันก็มีประโยชน์อยู่บ้างและเป็นสิ่งที่เราต้องการกันอยู่แล้ว แต่....เรามาด้วยประเด็นอื่นต่างหากละ"

              "ลูกพี่กับอาเจ้บอกกับเรามา ว่าแกรู้จักกับนายทหารระดับสูงของพวกเดลอาเนี่ยนรวมถึงพวกพันธมิตรกันเป็นอย่างดีใช่มั้ย งั้น...." เจเนลบอก "แกก็คงได้ตั๋วที่นั่งชั้นวีไอพีสำหรับการแข่งขันทุกประเภทในเขตอวกาศฝ่ายจักรวรรดิ์ตั้งหลายใบเลยสิน่ะ"

              อูดูกินบอก "ก็ใช่ ไอ้บึกกับยัยหัวฟูนั้นคงจะอิจฉาฉันมากละสิ ที่ฉันมีอภิสิทธิ์มากมายทั้งๆที่เป็นหัวหน้ากิลด์นักล่าเงินรางวัลระดับรากหญ้าน่ะ"

              "ถ้าพวกนายเป็นระดับรากหญ้าจริง งั้นภายในกิลด์ก็คงไม่มีโทรทัศน์หน้าจอโฮโลแกรม ภายในคงไม่สะอาดสะอ้าน หรือแม้กระทั่งมีบาร์สุดแจ่มพร้อมกลไกเชื่อมต่อไปยังห้องทำงานสุดหรูกันได้หรอกน่ะ" จายด์บอก

              จิลกล่าว "ประเด็นหลักของเราคือ นายสามารถเข้าร่วมงานสำคัญๆทุกงาน แม้กระทั่ง การแข่งขันสแมคบอลของพวกเดลอาเนี่ยนที่อาจจะจัดขึ้นในไม่ช้าด้วยละสิน่ะ"

              "พวกนายคิดจะไปก่อวินาศกรรม เพียงเพราะคิดว่า เพื่อนหุ่นสมองกลวงของนายถูกกองกำลังจักรวรรดิ์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจับไปนั้น เลยรีบไปช่วยเลยสิน่ะ" อูดูกินบอก "แต่เกรงว่าพวกนายจะมาเสียเที่ยวแล้วนะสิ เพราะว่าเพื่อนนายไม่อยู่แล้วละ" พีวิลได้ฟังก็หน้าบึ้งพร้อมกับ "แกร็กๆๆๆ" เตรียมอาร์มชู้ตเตอร์มาจ่อตรงหน้าอูดูกิน เช่นเดียวกับ "ครี้งงงงงง" เจเนลใช้เมทัลเบลดมาจ่อตรงหน้าอูดูกินด้วย

              "อย่ามาล้อเล่น ถ้าบอกว่าคลอเวฟเดี้ยงละก็ นายจะโดนมิใช่น้อยๆเลยน่ะ" พีวิลกล่าวอย่างจริงจัง

              "อ่าๆๆๆๆๆ ฉันไม่ได้หมายความว่าเพื่อนตัวบึกของนายถูกพวกทหารเดลอาเนี่ยนฆ่าตายเสียหน่อยน่ะ ฉันแค่จะบอกว่า เพื่อนนายไม่ได้ถูกพวกเดลอาเนี่ยนหรือพันธมิตรจับตัวไปเลยน่ะ" อูดูกินรีบร้องลั่นขึ้นมาเพราะกลัวตาย ".....ความจริงแล้ว เพื่อนตัวบึกของนายนั้นยังอยู่ ยังมีชีวิตอยู่แหละ"

              เจเนลบอก "แล้วคลอเวฟอยู่ที่ดาวไหน ระบบดาวไหนกันวะ" อูดูกินส่ายหน้า เจเนลเลยจ่อมือดาบมาตรงดั้งจมูกกันไว้

              "รีบบอกมาก่อนที่เจเนลจะทิ้มดาบเข้าหน้านายก่อนน่ะ" จายด์บอก

              อูดูกินบอก "ก็ฉันทราบมาแค่นี้เองแหละ ว่าเพื่อนตัวบึกของนายนั้น ไปไม่ทันสถานีอวกาศบนดาวแชแลค-4 ซึ่งพวกเดลอาเนี่ยนได้กลุ่มคนทรยศที่หนีการตามล่าของพวกนายมาที่ระบบอวกาศแห่งนี้ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันสแมคบอลของทางมหาจักรพรรดิ์ ที่จะจัดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ให้หลังนี้แหละ"

              "ดาวแชแลค-4 ที่ว่านั้น อยู่ระบบดาวไหนมิทราบละ" เจเนลพูดถาม อูดูกินส่ายหน้า

              จิลเลยพูดไปหลังจากที่อ่านใจอูดูกินมาว่า "ที่บอกไม่ได้นั้น เพราะว่า ดาวดวงนั้นมีฐานทัพของพวกเดลอาเนี่ยนที่ประจำการอยู่ เพื่อตามหาพวกกองกำลังต่อต้านที่ซ่อนอยู่ในดาวเลยสิน่ะ" อูดูกินถึงกับตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่จิลพูดมา

              "ไม่ใช่สักหน่อย ก็แค่นักล่าเงินรางวัลจากกิลด์เซฮาร์ฟที่ประจำการอยู่ที่โน่น เพื่อไล่ล่าสมาชิกกองกำลังต่อต้านที่กำลังเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ จนพวกนั้นออกเดินทางไปที่ดาวบูจาราดี้-8 ระบบดาวโจวาน่า เพื่อไปหาสมาชิกกองกำลังต่อต้านที่กำลังฝึกซ้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน และฉัน กำลังจะแจ้งเรื่องนี้ให้แม่ทัพเพียโดม่ารับทราบอยู่พอดี" อูดูกินตอบ

              จิลบอก "โกหก.....นายบอกกับแม่ทัพเพียโดม่าไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นับตั้งแต่นายทราบว่าเฮโลลิคเตอร์และเหล่าทหารคนทรยศหนีเข้าระบบอวกาศแห่งนี้จากพวกนักล่าเงินรางวัลที่ดาวแชแลค-4 ไปแล้วน่ะ"

              "......เออๆๆๆๆๆ ได้โปรดเถอะ ฉันแค่ต้องแจ้งเรื่องนี้ให้กับแม่ทัพทุกคนทันทีที่ทราบไว้ เพราะว่าพวกเราได้รับคำสั่งให้ติดตามและไล่ล่าสมาชิกกองกำลังต่อต้านที่ยังตกค้างอยู่ในเขตอวกาศกัน ถ้าเราไม่ไปแจ้ง กิลด์ของฉันคงจะอยู่ในเรือนจำหรือไม่ก็ถูกประหารไปนานแล้ว ไม่น่าอยู่นี้เพื่อให้นายเค้นความลับได้หรอกน่ะ" อูดูกินอ้อนวอน

              สเปียริทบอก "แน่ใจน่ะ ว่าที่พูดมาเป็นเรื่องจริง เพราะถ้านายโกหกอีก รู้ใช่มั้ยว่าจะโดนอะไรบ้างน่ะ"

              "สาบานได้ ว่าฉันพูดจริงๆเลยน่ะ เพราะตอนนี้ฉันต้องทำตามคำสั่งของท่านเพียโดม่ากันน่ะ" อูดูกินให้เหตุผล

              พีวิลพยักหน้าให้สเปียริทปล่อยอูดูกิน "เห็นแก่ว่าที่นายทำไปเพราะความจำเป็นกันน่ะ เราจะยกโทษให้นายสักครั้งนี้แหละ"

              "ดีแล้วละ อย่างน้อย พวกนายคงปราณีเหมือนกับพวกเพื่อนตัวบึกของนายบ้างน่ะ" อูดูกินกล่าวอย่างดีใจไม่น้อย

              พีวิลกล่าว "แต่.....ต้องเป็นครั้งหน้าแล้วละ" แล้วก็ "เปรี้ยงงง" ต่อยเข้าหน้าอูดูกินไปเต็มๆ จนล้มลง "เพราะว่า นายได้บอกแม่ทัพเพียโดม่าเรื่องที่คลอเวฟมาถึงดาวแชแลคให้พวกเดลอาเนี่ยนรับทราบมาก่อนที่เราจะมาถึง คือเหตุผลที่เราละเว้นนายไม่ได้แล้วนะสิ" แล้วก็ชกมือซ้ายไปหลายทีด้วยกัน

              "จายด์ จิล เอาโฟร์ทโบ็ทออกจากกิลด์แห่งนี้โดยเร็วเลย ส่วนเรามีเรื่องต้องสะสางกับไอ้หัวหน้ากิลด์สักหน่อยน่ะ" เจเนลบอกพร้อมกับเปลี่ยนเมทัลเบลดเป็นมือขวาตามเดิม แล้วก็ "ปึก ปั้ก ป้ากๆๆๆๆๆๆๆ โครมมมม ป้ากกก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก" ช่วยพีวิลและสเปียริทจัดการกับอูดูกินจน "โครมมมม" ล้มกระเด็นออกนอกกิลด์ไป ซึ่งอูดูกินเงยหน้าก็เห็น นักล่าเงินรางวัลของตนและกิลด์อื่นโดนพวกพีวิลจัดการจนล้มกลิ้งไปกันหมดแล้ว "ฟ้าวววววววว ฟ้าววววววว" พีวิลนำโฮฟไบค์ออกไปพร้อมกับสเปียริท โดยที่เจเนไซด์ทีมนำโฟร์ทโบ๊ทแล่นออกไปด้วย

              "เนค มาส ตอนนี้เรารู้แล้วละ ว่าคลอเวฟอยู่ระบบดาวไหนกันน่ะ" พีวิลแจ้งบอกโดยเร็ว

              "เยี่ยม เพราะว่าเราดึงกำลังทหารของเพียโดม่าให้ออกห่างจากกิลด์บาวโฟว และเขตเมืองให้พวกนายเข้าใกล้อูดูกินตามแผนที่วางไว้แล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก โดยตอนนี้ยานไทรแองเกิ้ลแล่นเข้ามาในตัวเมืองพร้อมกับ "แว้งๆๆๆๆๆๆๆ" เปิดใต้ท้องยานเพื่อใช้คลื่นแม่เหล็กดึงพวกพีวิลเข้ามาในยานโดยเร็ว พร้อมกับ "แฟ้ววววววววววววววว" ทะยานออกนอกระบบดาวด้วยระบบขับเคลื่อนความเร็วเหนือแสงโดยเร็ว เพียโดม่ากับกองรบเลยรุดหน้ามาที่กิลด์บาวโฟวก็เห็นสภาพภายนอก ก็ถึงกับ....

              "แง้วววววว ไอ้พวกไทรเวเซอร์...." เพียโดม่าโกรธจัดถึงขั้นข่วนเสาให้เป็นรอยข่วนที่ลึกและยาวในคราวเดียว 


              "โอเค ตอนนี้เรารู้ว่า คลอเวฟมาถึงดาวแชแลค-4 กันแล้ว แต่อูดูกินกลับแจ้งให้พวกเดลอาเนี่ยนรู้ โดยทราบจากพวกนักล่าที่อยู่ที่ดาวดวงนั้น ซึ่งมาเพื่อตามหาพวกสมาชิกต่อต้านที่ออกเดินทางไปยังระบบดาวอื่นกัน" เนคมาดูซัมบอก โดยที่ได้ข้อมูลจากพีวิลและพวกมา ซึ่งก็เปิดภาพโฮโลแกรมระบบดาวในเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนไว้ "ถ้าสมาชิกกองกำลังต่อต้านเดินทางไปยังระบบดาวโจวาน่าเพื่อสมทบกับพวกพ้อง ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันสแมคบอลในครั้งนี้จริง เราต้องคิดเผื่อในเรื่องที่คลอเวฟ แอบขึ้นยานโดยสารของพวกเขาไปที่ระบบดาวดังกล่าวด้วยน่ะ"

              แอบไบออสบอก "แต่กองกำลังต่อต้านนั้น คงไม่ยอมให้ตนเองถูกพวกเดลอาเนี่ยนพบเจอและเข้าถล่มทิ้งไปได้ ซึ่งก็คือ พวกนั้นต้องปิดบังที่ตั้งของกองกำลังต่อต้านด้วยเรดาห์แจมเมอร์ ทำให้ยากที่จะสืบหากันได้น่ะ"

              "มันก็จริง ที่เราอาจจะเสียเวลาในการตามหาที่ตั้งของกองกำลังต่อต้านไปไม่น้อย แต่....กองกำลังต่อต้านเหล่านั้นคงจะรู้จักชื่อเสียงของเรากันบ้างน่ะ" พีวิลบอก

              แอนเดรียบอก "และคงจะรู้เรื่องที่เราบุกเข้าช่วยพวกคุณพีวิลจากเงื้อมมือของจักรพรรดินีมิวนัสกันด้วยสิคะ หวังว่าพวกเขาคงจะให้ความร่วมมือกันบ้าง เพราะว่าคุณคลอเวฟลงไปพร้อมกับคุณมาสวาร์ทาร์และคุณเนคมาดูซัมด้วยน่ะ"

              "ใช่ และกองกำลังต่อต้านนั้นคงจะเลือกปลอมตัวเป็นทีมแข่งสแมคบอลปริศนา หรือตั้งชื่อทีมที่ไม่เคยมีใครรู้จักกันไว้แน่นอนน่ะ" สเตฟอร์ดบอก

              โฟรซ่าบอก "เพราะการเข้าร่วมการแข่งขันของพวกกองกำลังต่อต้านในครั้งนี้ เป้าหมายที่พวกนั้นต้องชนะเลิศให้ได้นั้น ก็คือการเข้าลอบสังหารองค์มหาจักรพรรดิ์ในระยะประชิดกันนะสิ"

              "นี้กองกำลังต่อต้านถึงกับต้องทำเช่นนั้นเลยหรือคะ" แอนเดรียถาม โฟรซ่าพยักหน้า

              มาสวาร์ทาร์บอก "ต้องทำ เพราะหลังจากที่มือสังหารหรือคนร้ายเป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันไปแล้วนั้น ประธานงานที่เป็นเป้าหมายจะลงมาแสดงความยินดีด้วยการมอบถ้วยรางวัลให้กับคนร้ายในระยะใกล้ ซึ่งเป็นจังหวะและโอกาสเดียวที่คนร้ายสามารถลงมือได้เพียงแค่ครั้งเดียว หาไม่แล้ว คนคุ้มกันเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปจะเข้าจับกุมเสียเองนะสิ" แล้วก็บอกไปว่า "แต่ปัญหาหลักๆที่เข้ามาแทรกการเข้าใกล้องค์มหาจักรพรรดิ์นั้น มันก็คือทีมอื่นๆ ซึ่งเป็นชาวเดลอาเนี่ยน ชาวต่างดาวพันธมิตรหลักทั้ง 12 เผ่า กลุ่มต่อต้านและกลุ่มกบฎที่มีเป้าหมายเดียวกัน แม้กระทั่งเฮโลลิคเตอร์กับพวกด้วยนี้สิ"

              "เราต่างรู้แล้วว่า พวกเดลอาเนี่ยนคัดเลือกนักรบและทหารระดับหัวกระทิเข้ากองทัพด้วยการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเฮโลลิคเตอร์และพวกก็มีเป้าหมายนี้ด้วยน่ะ" ฟิเกซกล่าว "และเราต่างรู้ดีว่า พวกเผ่าหลักและชาวเดลอาเนี่ยนคงไม่ยอมให้พวกกองกำลังต่อต้านสมหวังกันแน่ๆ และมั่นใจแน่นอนว่าพวกนี้ ไม่มีทางผ่านไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้อย่างแน่นอนน่ะ"

              ไซโคลเนียกล่าว "ซึ่งไม่ใช่แค่การกำจัดทีมของกองกำลังต่อต้านกันในเกมส์สุดโหดนี้อย่างเดียว แต่หมายถึงการลงมือนอกเกมส์การแข่งขันด้วยนะสิ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะว่ากองกำลังต่อต้าน อ่อนด้อยในแง่กำลังคนและอาวุธอย่างมากเลยสิคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว

              สเปียริทบอก "และคงไม่มีหนทางอื่นใดที่จะสู้กับชาวเดลอาเนี่ยนที่เหนือกว่าและแน่กว่าในทุกด้านเลยสิน่า ทั้งๆที่รู้ดีว่า ต่อให้เข้าร่วมการแข่งขันนี้ ก็ไม่มีทางชนะพวกเดลอาเนี่ยนและพันธมิตรได้อยู่ดีนี้แหละ"

              "แล้วเราต้องเข้าร่วมเลยหรือเปล่าละ" จิลถาม

              เนคมาดูซัมกล่าว "เราต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว เพราะ....คลอเวฟรู้ดี ว่าการเข้าใกล้เฮโลลิคเตอร์ได้ดีที่สุด นอกเหนือจากการบุกฝ่าเข้าไปในกองทัพของชาวเดลอาเนี่ยนที่มีการป้องกันแน่นหนาเพียงลำพัง ก็คือเข้าร่วมการแข่งขันสแมคบอล ในเวลาเดียวกับที่เฮโลลิคเตอร์กับพวกเข้าร่วมด้วยนะสิ"

              "แต่ก่อนอื่น เราต้องหาฐานที่มั่นของกองกำลังต่อต้านที่คลอเวฟแอบไปด้วยกันเสียก่อนน่ะ" จายด์กล่าว

              เจเนลถาม "แล้วเราจะหาตัวคลอเวฟกันยังไง ในเมื่อ ทางเดียวที่เราจะแกะรอยได้นั้น ก็ดันอยู่ในมือมาสวาร์ทาร์เลยน่ะ" โดยเอ่ยถึงตรากราดิเอเตอร์มารีน ที่มาสวาร์ทาร์ฝากเก็บเอาไว้

              "เมื่อกี้นี้ อูดูกินบอกว่ากิลด์เซฮาร์ฟอยู่ที่แชแลค-4 อย่างงั้นใช่มั้ยละ" โฟรซ่าบอก

              สเปียริทบอก "เธอคงไม่คิดจะแอบหลอกถามไอ้พวกนี้เพื่อเค้นข้อมูลเลยสิน่ะ"

              "ใช่ เพราะฉันทราบมา ว่ากิลด์เซฮาร์ฟนั้น สมาชิกในกิลด์ส่วนมากจะเก่งในเรื่องการแกะรอยและติดตามเป้าหมายไปถึงรังหรือฐานลับกันไม่น้อย และเคยช่วยกองกำลังเดลอาเนี่ยนในการตามล่าบุคคลที่ไม่พึ่งประสงค์ และเป็นภัยต่อมหาจักรวรรดิ์กันไม่น้อยเลยน่ะ" โฟรซ่าบอก "และบังเอิญว่า ทีมเราก็ร่วมงานกับกิลด์นี้มาถึง 4-5 ครั้งจนมีเบอร์ติดต่อมาด้วย ดังนั้น เราสามารถรู้เรื่องที่พวกนั้นตามล่าสมาชิกกองกำลังต่อต้านที่ดาวบูจาราดี้-8 กันบ้างน่ะ"

              พีวิลบอก "ถ้าพวกเรารู้ว่าพวกนักล่านั้นตามล่าสมาชิกกลุ่มต่อต้านไปที่ไหน ก็จะตามหาคลอเวฟเจอที่นั้นเลยสิน่ะ รุ่นพี่"

              "แอมเบอร์ ช่วยฉันในเรื่องแปลงเสียงเป็นสมาชิกนักล่าในกิลด์บาวโฟวกันหน่อยน่ะ" โฟรซ่าบอก

              แอมเบอร์พยักหน้า "งั้นก็ไปจัดการกันที่ห้องคอมพิวเตอร์เลยนะคะ"

              "ถ้าเช่นนั้น ฉันจะให้บริคซ์นำไทรแองเกิ้ลมุ่งหน้าไปที่ดาวบูจาราดี้-8 กันเดียวนี้เลย" เนคมาดูซัมบอก

              พีวิลกล่าว "แต่ก่อนอื่น เราติดต่อกับผบ.บัลโต้ก่อนดีกว่า เพราะเราต้องอัพเดตสภาพภารกิจกันไว้น่ะ"

              "พีวิลพูดถูกน่ะ เพราะถ้าเราไปโดยไม่ได้แจ้งอะไรให้ทราบ ผบ.บัลโต้และมหาประธานาธิบดีก็คงไม่รู้ว่าเราจะทำอะไรกันอยู่น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก แล้วก็ติดต่อกลับไปที่แคสเซเดี่ยน-3


              "แปลว่า พวกนายจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันสแมคบอล พร้อมกับคลอเวฟเลยสิน่ะ" บัลโต้กล่าว

              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า และบอกไปว่า "มันเป็นวิธีเดียวเท่านั้นแหละครับ ที่จะช่วยหาคลอเวฟเจอ และเข้าใกล้เฮโลลิคเตอร์กันด้วยนะครับ"

              "เพราะว่าเฮโลลิคเตอร์พาพวกไปเข้ากับพวกเดลอาเนี่ยน ซึ่งมีการเตรียมการบุกของพวกเราเอาไว้อย่างแน่นหนามากเลยสิน่ะ" โคเคสบอก "ฉันก็รู้น่ะ ว่าทางเดียวที่พวกนายเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อหยุดยั้งพวกเฮโลลิคเตอร์ไว้ แต่...ฉันมีบางเรื่องที่จะต้องแจ้งให้กับพวกนายทราบก่อนที่จะเจอกับพวกเฮโลลิคเตอร์ไว้น่ะ"

              เนคมาดูซัมถาม "ว่ามาได้เลยครับ ท่านมหาประธานาธิบดี"

              "คือว่า........." โคเคสกล่าวไปพักใหญ่ จนพวกเมนซิกส์ทีนที่เหลือได้ฟังก็ถึงกับตกใจไม่น้อย

              พีวิลบอก "นี้ท่านจะให้พวกเรา ละเว้นชีวิตพวกเฮโลลิคเตอร์กันนะหรือ นี้ท่าน ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย"

              "ทีแรก ฉันก็เป็นเหมือนพวกนายนี้แหละ และมีถามด้วยว่า คิดดีแล้วหรือ ที่ต้องทำเช่นนั้น ทั้งๆที่ไอ้เวรนี้ไม่เพียงทำให้คลอเวฟต้องไล่กวดไปถึงระบบอวกาศของฝ่ายศัตรู แต่ยังประกาศเป็นศัตรูกับพวกเรากันก็ตาม" บัลโต้บอก "แต่พอเดลิคอธิบายให้ฉันทราบกันไว้ แม้ฉันจะรู้สึกโมโหไม่น้อยเลยก็ตามเลยน่ะ"

              สเตฟอร์ดถาม "พอจะทราบมั้ยครับ ว่าผู้การเดลิคบอกอะไรกับท่านไว้น่ะ"

              "เดลิคมันบอกกับฉันว่า.....เฮโลลิคเตอร์กับพวก เป็นเหมือนหนุมานขอเป็นบุตรทศกัณฐ์แล้วนะสิ ซึ่งทีแรก ฉันงงอยู่ไม่น้อย แต่พอมาถามแดน ก็เลยถึงกับบางอ้อแล้วนะสิ" บัลโต้บอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ผมน่าจะรู้นานแล้ว ว่าผู้การเดลิคกำลังทำอะไรอยู่ และ ท่านเองก็เห็นชอบในเรื่องนี้ด้วยสิน่ะ ท่านมหาประธานาธิบดี"

              "ใช่ ตอนนี้พวกนายก็ทราบกันไว้แล้ว หากแต่....คลอเวฟยังไม่รู้เรื่องนี้ก็เท่านั้นเองน่ะ" โคเคสบอก

              บัลโต้กล่าว "หวังว่าพวกนายคงจะอธิบายให้คลอเวฟรู้บ้างน่ะ แม้ว่าพวกนายจะต้องคล้อยตามคลอเวฟกันไว้ หลังจากที่พวกนายติดต่อกับแพนทานิค ผ่านเครื่องสื่อสารที่คลอเวฟแงะจากนอร์ติลุสไปซ่อนไว้ในฟูลบาร์กันน่ะ"

              "เรื่องนั้นเราทราบแล้วละครับ ท่านประธานาธิบดี ผบสส." พีวิลบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "ช่วยแจ้งให้กับท่านนายพลเพอซิอัสรับทราบด้วยนะครับ ถึงเรื่องที่พวกเราทำอยู่นะครับ" แล้วก็ "ไทรแองเกิ้ล ยุติการติดต่อ" ปิดการสื่อสารในทันที

              "ผมน่าจะรู้ได้นะครับ ท่านประธานาธิบดี ว่าท่านและผู้การเดลิค อนุมัติให้มีคำสั่งแบบนั้นขึ้นมา แต่ไม่ได้บอกในที่ประชุมกันเสียเลยน่ะ" เพอซิอัสบอก

              โคเคสตอบ "ผมเองก็ต้องขออภัยด้วยที่ไม่ได้แจ้งให้พวกคุณรับทราบในที่ประชุม แต่ผมเองก็ไม่อยากให้หนอนบ่อนไส้รู้ตัวก่อน ว่าผมทำให้เขาตายใจด้วยเฮโลลิคเตอร์และเหล่าทหารที่ติดตามเขากันอยู่น่ะ"

              "ตอนนี้ เดลิคและฉัน จัดการคุมตัวทหารที่ไม่ได้ไปกับเฮโลลิคเตอร์เอาไว้กันแล้ว เพียงแต่ไม่บอกหรอกน่ะ ว่าให้พวกเขาไปอยู่ไหน แค่ให้โดนลงโทษกักบริเวณกันไว้เลยน่ะ" บัลโต้บอก

              จูเดทต้ากล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะ หนอนบ่อนไส้อาจจะระแวงในเรื่องที่เกิดขึ้น เลยให้พวกเขาอยู่ในความควบคุมเลยสิคะ" และหันมาถาม "....แต่ ท่านคงจะทราบผลที่เกิดขึ้นมาเลยสินะคะ ว่าทำแบบนั้นแล้ว เฮโลลิคเตอร์กับพวกเองก็...."

              "อย่างหนึ่งที่รู้ได้ก็คือ เฮโลลิคเตอร์กับพวกที่หนีไปนั้น ก็ต้องกลายเป็นคนทรยศต่อพวกเรา และเป็นคนร้ายที่พวกเราต้องการตัวกันอยู่แล้ว ซึ่งจะดีกว่ามาก ที่เราทำให้คนทั่วไปคิดเช่นนั้น" โคเคสบอก "แม้ว่านั้นจะทำให้คลอเวฟไม่ค่อยพอใจนิดๆ แต่...ไม่ว่าจะเปิดเผยหรือปิดบังแผนการ พวกเราก็ต้องเจอกับเฮโลลิคเตอร์ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเราอยู่ดีนี้แหละ"

              เพอซิอัสบอก "เพราะว่าเราเป็นต้นเหตุที่ทำให้เฮโลลิคเตอร์กับพวกเป็นเช่นนี้ ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบกันขึ้นมาเลยสิครับ" โคเคสพยักหน้า

              "หวังว่าพวกไทรเวเซอร์คงจะไม่ทำให้เราผิดหวังกันบ้างน่ะ" บัลโต้บอก

              โคเคสกล่าว "เพราะว่าพวกเขา เป็นกองกำลังที่เชื่อถือได้มากที่สุด และมีเหตุผลมากที่สุดกันอยู่แล้วละ"


    TriVESER The Manigator Saga : The Dell-Arnian War
    ตอนที่ 18 การแข่งสแมคบอลสุดโหดครั้งแรกของพวกไทรเวเซอร์ กับเดิมพันที่สูงอย่างมาก

              ที่ระบบดาวโจวาน่า ดาวบูจาวาดี้-8 ยานไทรแองเกิ้ลแล่นผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามาในดวงดาวอย่างรวดเร็ว

              "นั้นคงเป็นดาวบูจาวาดี้เลยสิน่ะ" พีวิลกล่าวเมื่อเห็นสภาพแวดล้อมของดาวเป็นเขตหุบเขาและที่ราบสูง ซึ่งมีเขตชุมชนเมืองตั้งอยู่หลายแห่ง ตั้งแต่บนพื้นราบไปจนถึงอยู่บนหุบเขาด้วยกัน

              วิลด้าบอก "สภาพเหมือนกับมาซ่ากูฟเบต้าไม่มีผิด หากแต่ สภาพอากาศบนดาวนี้หนาวเย็นและแห้งก็เท่านั้นเองแหละ"

              "ว่าแต่ เราจะมองหาอะไรกันก่อนละ สมาชิกกองกำลังต่อต้าน ที่ตั้งฐานลับของพวกเขา หรือว่าคลอเวฟ" จิลถาม

              เนคมาดูซัมกล่าว "ถ้าหาคลอเวฟ หมอนั้นคงไม่ยอมให้เราหาตัวเจอได้แน่ๆ ต่อให้มีบอดี้ที่ตัวใหญ่จนมองเห็นหัวหรือปลายหัวแทงค์บนหลังได้น่ะ" แล้วก็พูดต่อ "ดังนั้น ถ้าจะหาคลอเวฟให้เจอกันจริงๆ หมอนั้นก็ต้องอยู่ในฐานลับของพวกกองกำลังต่อต้านแน่นอน ซึ่งคนที่รู้ว่าที่ตั้งของฐานลับนั้นอยู่ไหน ก็ต้องเป็นสมาชิกกองกำลังต่อต้านแน่นอน"

              "และรวมถึง นักล่าเงินรางวัลกิลด์เซฮาร์ฟด้วย ถ้าพวกนั้นรู้ว่าสมาชิกกองกำลังต่อต้านเดินทางจากดาวแชแลคมาที่ดาวนี้ พวกนั้นก็ต้องเดินทางมาถึงแน่นอนเลยละ" โฟรซ่าบอก

              บริคซ์กล่าว "แต่ เรดาห์บนยานนั้นไม่เห็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า พวกเดลอาเนี่ยนลงมาที่ดาวดวงนี้กันด้วย อย่างน้อย ฉันก็หาทำเลจอดยานได้บ้างกันน่ะ"

              "แต่ถึงพวกเดลอาเนี่ยนไม่มาที่ดาวดวงนี้ เพราะระบบดาวมันเป็นระบบดาวที่ไกลปืนเที่ยง และไม่มีกองบัญชาการตั้งประจำการอยู่ แต่ตราบใดที่ระบบดาวนี้อยู่ในเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยน พวกเราก็ยังไม่ปลอดภัยเสมอไปหรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              พีวิลบอก "หวังว่าสเตลท์ไดรฟ์ที่คุณแดนให้มา คงจะช่วยกำบังพวกเราได้บ้างน่ะ"

              "ตอนนี้ เรามีเวลาไม่มากในการตามหาคลอเวฟและกองกำลังต่อต้านที่อาศัยบนดาวดวงนี้แล้ว และเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกพวกเดลอาเนี่ยนหรือกลุ่มนักล่าเงินรางวัลที่มาถึงพบเจอ ดังนั้น เราคงต้องแบ่งทีมออกเป็นกลุ่มย่อย ไปตามเขตเมืองที่อยู่ใกล้กับไทรแองเกิ้ล เพื่อรวบรวมข้อมูลและหาตัวสมาชิกกองกำลังต่อต้านไว้น่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              แอบไบออสถาม "แต่เราจะหาเจอเลยหรือ เพราะสมาชิกกองกำลังต่อต้านคงไม่ยอมให้เราตามไปถึงที่ซ่อน แม้กระทั่งพาไปที่ฐานด้วยกันน่ะ"

              "แต่ก็อย่าลืมน่ะ ว่าวีรกรรมที่พวกเราโผล่มาช่วยพวกพีวิลและเล่นงานจักรพรรดินีมิวนัสแห่งแมทเฟลิมนั้น ได้แพร่สะพัดไปทั่วเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนกันแล้ว ซึ่งนั้นหมายถึง กองกำลังต่อต้านที่อยู่ตามระบบดาวต่างๆเอง ก็คงจะรู้ชื่อเสียงของพวกเราดีกันบ้าง ในฐานะชนเผ่าจากกลุ่มสมาพันธ์อวกาศที่กล้าลุกขึ้นท้าสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนเหมือนกับพวกเขานะสิ" สเตฟอร์ดบอก

              ลิเนียร์ตี้กล่าว "หวังว่าพวกเขาคงจะไว้ใจพวกเราได้บ้างน่ะ เพราะว่าพวกเรามีศัตรูเดียวกันกับพวกเขาน่ะ"

              "แล้วเราจะให้ใครไปที่เมืองไหนบ้างละคะ" แอมเบอร์กล่าวโดยนำแผนที่เขตเมืองที่เธอจัดการสแกนเอาไว้แล้ว

              เนคมาดูซัมกล่าว "เราจะแบ่งเป็นทีม 4 คนแยกย้ายไปตามเมืองต่างๆไว้ แม้เมืองไม่ได้กว้างขวางอะไรมากมาย แต่การที่มีคนอยู่น้อย เราจึงไม่ควรกระโตกกระตากมากนักน่ะ" แล้วก็บอก "ก่อนอื่นเลย เราจะเริ่มจากเขตเมืองในรัศมีรอบไทรแองเกิ้ล 4 เมืองนี้ก่อนดีกว่า"

              "ฟึ่บๆๆๆๆๆ ตึกๆๆๆๆๆๆ" ดิเรนท์ในชุดผ้าคลุมวิ่งไปตามถนน วูลเฟลล่าโดดไปบนตึกสองชั้นเพื่อมองหาจากมุมสูง เช่นเดียวกับไลเอิร์ทที่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว "ไม่เจอใครที่น่าจะเป็นสมาชิกกองกำลังต่อต้านเลยน่ะ" วูลเฟลล่าติดต่อไปยังพลัสเชอริท ซึ่งยืนอยู่บนเสาส่งสัญญาณ

              "ฉันเช็คคลื่นวิทยุในเมืองนี้และโดยรอบแล้ว ก็แค่รายการวิทยุชุมชนทั่วไปกันนี้แหละ" พลัสเชอริทบอก และหันมาถาม "พวกนายละ เป็นยังไงบ้าง"

              "ฉันกับพวกมัลแด็กซ์พยายามเดินดูกลุ่มผู้คนในเมืองแล้ว แต่ก็แทบไม่เห็นวี่แววกันเลยน่ะ" โฟรซ่าบอก โดยที่ผู้คนในเมืองนั้นมีผิวกายสีชมพูบาง สีฟ้าอ่อนบ้าง และมีสีขาวเผือกเหมือนคนเอาสีทาบ้านที่สว่างจ้ายิ่งกว่าทาครีมไวท์เทนนิ่งสิบกระปุกรวมกันอยู่ด้วย

              ฟิเกซกล่าว "ฝั่งฉันเองก็ด้วยนะสิ เพราะเฮเรเค้นและเรปไซท์จะแอบไปหาอะไรกินโดยที่ฉันมองไม่เห็น แถมบราไทน่าก็พยายามยั่วยุพวกผู้ชายกันด้วยนะ"

              "ฟิเกซ บอกพวกเฮเรเค้นด้วย ว่าฉันจะส่งมาสวาร์ทาร์ลงไปทำแทนนายน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว และติดต่อไปหา "พีวิล ฝั่งนายเป็นไงบ้างละ"

              พีวิลที่ไปกับเจเนล สเปียริทและจิลบอก "พวกเรากำลังดูตามตรอก ตามซอยในเมืองกันอยู่น่ะ เผื่อว่าพวกสมาชิกกองกำลังต่อต้านน่าจะใช้เส้นทางนี้ผ่านมากันน่ะ"

              "แน่ใจหรือคะ ว่าพวกคุณพีวิลทำแบบนั้นแล้วจะเจอคนที่พวกคุณต้องการกันน่ะ" เมดิน่าถามเพราะยังไม่แน่ใจในการสืบหาของพวกพีวิล

              มาสวาร์ทาร์บอก "แน่ใจสิ เพราะพีวิลและสเปียริทไปกับไกซ์และมิลด์ ในภารกิจแทรกซึมเข้าเมืองเทมเดนของผู้การเดลิค เพื่อนำอัลติเมทเอทและแพนเซสเซนไนน์ที่กองกำลังมหาสหรัฐอเมริกาขนส่งมาออกไปจากเขตเมือง ซึ่งกำลังถูกพวกอีเนอไมนด์ใช้เป็นที่ทดสอบหมุดตกผลึกอีเนลเซี่ยมกันนะสิ"

              "เดียวก่อนน่ะ นี้แปลว่าหุ่นเบอร์แปดและเบอร์เก้า พวกคุณไปได้มา มิได้สร้างขึ้นเองแต่แรกเลยหรือ" ฟูลออเรสบอก

              พลัสเชอริทตอบ "มหาสหรัฐอเมริกาพัฒนาสร้างอัลติเมทเอทและแพนเซสเซนไนน์ เพื่อใช้สู้กับโมบิลลอยด์ของฝ่ายกองกำลังจักรวรรดิ์ของโอเวอร์เดสกันนะสิ ซึ่งมหาประธานาธิบดีโคเคสเห็นว่า หุ่นทั้งสองตัว มีค่าเกินกว่าที่จะให้พวกอีเนอไมนด์ถูกทำลาย หรือฝ่ายมหาสหรัฐนำไปใช้ปราบปรามท่านประธานาธิบดีโคเคสและพวก เลยส่งผู้การเดลิคและทีมแทรกซึมเข้าไปกันนี้แหละ"

              "แน่นอน ว่าไกซ์และมิลด์ ก็ต้องสู้กับต้นร่างโคลนนิ่งของไกซ์และผู้ช่วยของร่างต้นซึ่งเป็นเจ้านายของมิลด์ขึ้น ทั้งคู่พ่ายแพ้และเสียชีวิตให้กับไกซ์และมิลด์ที่มีอัลติเมทเอทและแพนเซสเซนไนน์ ซึ่งร่างต้นของไกซ์ก่อนตาย ก็ได้ใช้มิไซล์นิวเคลียร์เพื่อทำลายเทมเดนให้แหลก ไปพร้อมกับพวกพีวิลและเมืองที่ถูกผลึกอีเนลเซี่ยมครอบคลุมกันไปแล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              เมดิน่าบอก "แต่คุณพีวิลก็ทำลายมันทิ้งไปพร้อมกับเมือง จนเมืองแห่งนั้นมีสภาพเหมือนกราวนด์ซีโร่เลยสิคะ"

              "ใช่ และการที่อีเนอไมนด์ของแพทรีออททำกับเทมเดน คือจุดเริ่มที่กองกำลังต่อต้านของท่านประธานาธิบดีโคเคส ลุกขึ้นต่อสู้กับพวกอีเนอไมนด์กับแพทรีออทขั้นแตกหัก โดยที่มีบีสทอยด์เผ่างู เสือและเผ่าอื่นๆที่ตามมาสมทบกันนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนไกซ์และมิลด์เองก็ช่วยในการรบครั้งนั้นมาไม่น้อยเลยน่ะ"

              ฟูลออเรสบอก "ผมแทบไม่เชื่อเลยว่า ไกซ์และมิลด์เจอกับคนที่รู้จักในอดีตและสู้จนชนะแบบนี้ แสดงว่าคนๆนั้นคงเลวมาก จนไกซ์และมิลด์ต้องไปหาผู้การเฮลิคเลยสิครับ"

              "ที่ถูกคือ ผู้การเฮลิคช่วยทั้งสองซะมากกว่าน่ะ แม้ว่ายุทธการที่เทมเดนนั้น จะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายที่ต้องปะมือกันด้วยโมบิลทรูปเปอร์และโมบิลลอยด์กันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              เมดิน่าถาม "และคงจะเคารพต่อผู้การเฮลิคหลังจากที่เขาเสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่แรซัลก้าเลยสิคะ"

              "แล้ว คุณพีวิล คุณสเปียริทที่ไปกับไกซ์และมิลด์นั้น เข้าตรอกและซอยไปเพื่อหาใครกันบ้างละ" ฟูลออเรสถาม

              พลัสเชอริทบอก "จิมมี่ ราวนด์ เพื่อนร่วมรุ่นของไกซ์และมิลด์ สายข่าวที่ส่งไปยังเทมเดนเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวภายในเมืองและรวบรวมข้อมูล เป็นพี่น้องกับบิลลี่ ราวนด์ ซึ่งถูกส่งไปยังนครหลวงแทแรนเซียด้วยภารกิจเดียวกัน ตอนนี้ ทั้งคู่ยังอยู่บนโลกกันนะสิ"

              "สายข่าว เดียวก่อนนะคะ งั้นไอ้เรื่องที่คุณสเปียริทแฉทุกคนกลางเมืองนั้น ก็เป็นฝีมือเพื่อนไกซ์และมิลด์นะหรือคะ" เมดิน่าบอก

              มาสวาร์ทาร์พยักหน้าและบอก "เธอคงจะได้ยินว่าสเปียริททำแบบนี้ที่แทแรนเซียเป็นครั้งแรกสิน่ะ แต่....เทมเดนต่างหาก คือเมืองแรกที่เธอเดบิวในฐานะตัวป่วนสร้างสถานการณ์ดึงพวกตำรวจและทหาร ให้ออกห่างจากพื้นที่เป้าหมายกันนะสิ"

              "สงสัยว่าคงต้องศึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ดีสักหน่อยแล้วละน่า" ฟูลออเรสบอก และหันมาถาม "แล้วแน่ใจหรือว่าพวกเขาจะหาสมาชิกกองกำลังต่อต้านเจอกันน่ะ ในเมื่อพวกเขาอาจจะเป็นคนในพื้นที่หรือในเมืองก็ได้น่ะ"

              เนคมาดูซัมบอก "อย่าลืมสิ ว่าระบบดาวนี้อยู่ในเขตอิทธิพลของพวกเดลอาเนี่ยนกันน่ะ ต่อให้ไม่มีกำลังทหารประจำการ แต่กองทัพมหาจักรวรรดิ์ก็ย่อมมีสายลับและสายสืบ แฝงตัวมาอยู่ในกลุ่มผู้คนที่อาศัยอยู่ที่ดาวดวงต่างๆไว้น่ะ"

              "และที่สำคัญ คนในพื้นที่หรือชนเผ่าตามดาวต่างๆนั้น อาจจะมีผู้จงรักภักดีและเชื่อว่าการกระทำของมหาจักรวรรดิ์เดลอาเนี่ยนเป็นเรื่องที่ถูกต้องด้วยแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายจักรวรรดิ์กันด้วยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก

              มาสวาร์ทาร์บอก "เพราะกลุ่มชนเผ่าในเขตอวกาศเดลอาเนี่ยนเองก็มีเยอะ ย่อมมีความคิดเห็นและเชื่อมั่นที่แตกต่างกันอยู่ด้วยน่ะ"

              "พีท พีท ทางนายเจอใครที่วิ่งเข้ามาในตรอกหรือเปล่าละ" เจเนลกล่าวโดยวิ่งมาหาพีวิลที่ออกมาจากตรอกใกล้ๆ ซึ่งตอบไปว่า

              "เจอ แต่คนๆนั้นวิ่งเร็วมาก แถมวิ่งผ่านหลังฉันไป จนฉันไล่ตามไปก็ไม่เห็นเลยน่ะ"

              "ให้ตายสิ สมาชิกกองกำลังต่อต้านนั้น วิ่งเร็วกว่านายเสียได้เลยน่ะ" เจเนลบอก

              พีวิลตอบ "หวังว่าสเปียริทและจิล คงจะเจออะไรกันบ้างน่ะ" แล้วก็เปิดเครื่องสื่อสาร "สเปียริท เธอกับจิล เจอคนต้องสงสัยหรือเปล่าน่ะ"

              "เออ ฉันคิดว่า ฉันเจอกับคนที่ให้เบาะแสกับเราแล้วละ ว่านายบื้อมาที่ดาวดวงนี้น่ะ" สเปียริทบอก

              เจเนลกล่าว "จริงดิ แต่ มันจะง่ายเกินไปหรือเปล่าละ กลัวว่าคนๆนั้นอาจจะเป็นสายของพวกเดลอาเนี่ยนก็ได้น่า"

              "ไม่มีทางอยู่แล้วละ เจเนล ฉันใช้พลังจิตอ่านใจของคนที่ให้เบาะแสกันแล้ว พบว่าเขาเห็นเราสู้กับพวกแมทเฟลิมที่ดาวทาสแมวกันน่ะ" จิลบอก

              พีวิลกล่าว "งั้นพาคนให้เบาะแสมาหาพวกเราโดยเร็วเลย"

              "พี่ชายทั้งสองดูเท่ห์กว่าตอนที่สู้กับพวกทหารแมวของจักรพรรดิ์แมวแก่กันเลยนะครับ" คนให้เบาะแสนั้น เป็นเด็กผิวสีเขียวใบมินท์ในชุดเสื้อสีน้ำตาลกางเกงขาสั้นขาว ในทันทีที่สเปียริทและจิลพามา

              เจเนลบอก "โอ้ว เธอพูดได้ดีมากเลยนิ ที่ยังรู้จักเรากันได้น่ะ" และหันมาถาม โดยนำภาพของคลอเวฟมา "เธอบอกว่า เธอรู้จักกับคนๆนี้ใช่มั้ยละ"

              "รู้สิครับ เพราะลุงคนนี้พยายามไล่ตามพี่สาวและพี่ชายตัวสูงโย่ง 2 คนที่เข้ามาที่ดาวของเรากันอยู่ ซึ่งผมเห็นและพยายามจะบอกกับพ่อและแม่ว่าเจอยอดฮีโร่สุดแกร่งนี้ แต่ลุงคนนี้ก็ไปแล้วนะสิครับ" เด็กน้อยกล่าว

              พีวิลบอก "แล้วเธอรู้มั้ย ว่าตอนนี้ลุงคนนี้กับพวกพี่สาวนั้นไปอยู่ที่ไหนบ้างละ"

              "เออ ผมมัวแต่ตามหาพ่อและแม่กัน เลยไม่ได้หาคุณลุงเลยนะครับ" เด็กน้อยบอก

              เจเนลกล่าวอย่างน่าเสียดาย "งั้นหรือ...." พอๆกันกับพีวิล สเปียริทและจิลด้วย แต่เจเนลเลยถามกลับ "แล้วเธอเห็นพี่สาวและพวกพี่ชายตัวสูงโย่งมาที่เมืองนี้หรือเปล่าละ"

              "ถ้าเป็นพี่สาวละก็ พี่คงจะวิ่งอยู่ในตรอกไปมา เพื่อคุยกับคุณลุงคุณป้าที่อยู่อาศัยในตึกแถวที่พวกพี่ชายออกมากันน่ะครับ" เด็กชายบอก

              พีวิลหันหลังไปมองดู "เข้าใจแล้วละ พี่สาวคนนั้นคงจะส่งของไปให้เลยสิน่ะ" แล้วก็นั่งลงพร้อมกับบอกว่า "ขอบใจมากเลยน่ะ ที่หนูช่วยพวกพี่ได้มากเลยน่ะ"

              "ว่าแต่ พวกพี่ชายจะลงแข่งแย่งบอลเหมือนกับพวกพี่สาวตัวสูงโย่งใช่มั้ยละครับ" เด็กชายถาม

              จิลได้ฟังเลยถามกลับ "ว่าแต่ พวกพี่สาวตัวสูงโย่งนั้นจะไปแข่งขันแย่งบอลกันนะหรือ เป็นความจริงหรือเปล่าละ"

              "จริงสิครับ เพราะว่า พวกพี่สาวตัวสูงโย่งนั้น พาเพื่อนลงมาแข่งกับพวกคุณลุงที่อยู่ตามเมืองต่างๆ แบบเดียวกันกับที่ผมเห็นในโทรทัศน์จอแก้วไร้กรอบกันตลอดเวลา ซึ่งคุณแม่เองพยายามห้ามไม่ให้ผมเล่น เพราะกลัวว่าผมจะหัวร้างข้างแตกกันนะครับ" เด็กชายบอก

              พีวิลกล่าว "คุณแม่ของหนูพูดถูกแล้วละ กีฬานั้นอันตรายเกินไปสำหรับเด็กอย่างหนู แม่ของหนูเลยพยายามไม่ให้หนูเจ็บตัว จนไม่สามารถวิ่งเล่นกับเพื่อนๆได้เลยน่ะ"

              "และถ้าหนูนอนบนเตียงแต่ลงไปเล่นกับเพื่อนๆไม่ได้นิ หนูก็คงไม่มีความสุขแย่เลยสิน่ะ" จิลบอก

              สเปียริทกล่าว "ถ้าแขนขาหักจนไม่หาย หนูคิดว่าจะวิ่งเล่นได้ หรือเล่นกับเพื่อนๆได้มั้ยละจ๊ะ"

              "อืมมม พวกพี่เหมือนกับคุณแม่เลยนะครับ ที่พูดแบบนี้เลยน่ะ" เด็กชายบอก "แต่ ผมหวังว่าพวกพี่คงจะหาคุณลุงตัวบึกเจอกันบ้างละครับ"

              เจเนลพยักหน้าและบอก "งั้นเวลาหนูกลับไปบ้านนิ อย่าบอกแม่หรือพ่อของหนูน่ะ ว่าเจอกับพวกเรากันน่ะ"

              "ได้สิครับ ผมขอลาละครับ" เด็กชายชาวดาวบูจาวาดี้กล่าวและรีบวิ่งออกไป

              สเปียริทกล่าว "จากที่เด็กคนนี้ว่ามา นายบื้ออยู่ที่ดาวดวงนี้จริงๆแล้วละ"

              "งั้น ที่เหลือก็คือ หาตัวคนที่คลอเวฟแอบติดตามไปด้วย ซึ่งน่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวที่ฉันและเจเนลคลาดกันในตรอกนี้แหละ" พีวิลบอก

              จิลกล่าว "แต่ถ้าพวกเขาเดินผ่านพวกนายสองคนไปแบบนี้ กลัวว่าคงจะหนีออกนอกเมืองนี้ไปแล้วละ"

              "ถ้าเช่นนั้น เรากลับไทรแองเกิ้ลกันดีกว่า" เจเนลกล่าว พีวิลพยักหน้า แล้วทั้งสี่ก็ใช้โฮฟไบค์เดินทางกลับยานไทรแองเกิ้ล ซึ่งตอนนี้ เอามาจอดอยู่หลังหุบเขาทางทิศตะวันออกกันอยู่ ส่วนคนที่พีวิลและเจเนลคลาดกันในตรอกนั้น

              "....อ่า สุดท้ายก็มาจนได้สิน่ะ"
     

              "ดูท่าว่า พวกเราจะมาถูกจุดแล้วละ ว่าคลอเวฟอยู่ที่ดาวดวงนี้แน่นอนน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

              วิลด้าบอก "แต่เสียตรงที่ว่าเด็กกลับไปหาพ่อแม่เพื่อพาพวกเขาไปเจอคลอเวฟกันนะสิ เลยทำให้ไม่รู้ว่าคลอเวฟไปอยู่ตรงไหนของดาวน่ะ"

              "แต่ก็รู้แล้วว่า คลอเวฟติดตามคนของกองกำลังต่อต้านที่กบดานอยู่ที่ดาวดวงนี้กันแล้ว บวกกับว่าพวกเขาแวะเวียนมาแข่งสแมคบอลตามเมืองต่างๆ รวมถึงเมืองที่เราแวะไปกันด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว

              โฟรซ่าบอก "และสมาชิกคนที่พีทและเจมส์คลาดกันนั้น ก็แวะมาที่เมือง โดยเข้ามาทางตรอกซอกซอยนั้นใช่มั้ยละ"

              "ใช่ครับ แต่ดูเหมือนว่าสมาชิกคนนั้นจะชำนาญพื้นที่ดีกว่าพวกเรา เลยทำให้ตามตัวมาไม่ได้ก็เท่านั้นเองน่ะ" พีวิลบอก

              โฟรซ่ากล่าว "เธอกับเจมส์ไม่จำเป็นต้องหากันหรอก ในเมื่อเรารู้ว่าสมาชิกกองกำลังต่อต้านนั้นจะแวะมาแข่งสแมคบอลกับชาวเมืองใช่มั้ย เราก็ต้องไปที่นั้นเพื่อดูการแข่งขันของพวกเขากับทีมในเมืองด้วยน่ะ"

              "แต่....ไม่กลัวว่าเราจะไปเก้อเลยหรือ อย่างไปที่เมืองหนึ่ง แต่พวกเขาไปอีกเมืองหนึ่งกันน่ะ" แอบไบออสบอก

              ไซโคลเนียกล่าว "เว้นเสียแต่กองกำลังต่อต้านนั้น ติดต่อกับคนในเมืองล่วงหน้าว่าพวกเขาจะลงแข่งกับทีมแข่งในเมืองนี้ไว้ หากแต่พวกเขาไม่ได้ไปในฐานะกองกำลังต่อต้าน แต่ไปในฐานะทีมแข่งสแมคบอลกันนะสิ"

              "ลืมไปแล้วหรือ ว่าการแข่งขันสแมคบอลของพวกเดลอาเนี่ยนก็คือตั๋วฟรีสำหรับเข้ากองทัพมหาจักรพรรดิ์กันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก "ซึ่งการที่พวกเดลอาเนี่ยนเสียกำลังพลไปไม่น้อยกับการสู้รบกับพวกเรานั้น พวกเดลอาเนี่ยนจะต้องเกณฑ์คนเพิ่ม ซึ่งนั้นหมายถึงเกณฑ์ชนเผ่าเมืองขึ้นและชนเผ่าบริวารทั้งในและนอกเข้ามาด้วย ที่สำคัญ ชนเผ่ากลุ่มน้อยของเดลอาเนี่ยนเองก็มีเยอะ เท่ากับว่าพวกเดลอาเนี่ยนใช้เวลาในการตรวจสอบก่อนที่จะเกณฑ์เข้ากองทัพกันไม่น้อย ซึ่งจะเสียเวลามากในการฝึกกำลังรบชุดใหม่กันด้วยน่ะ"

              ฟิเกซบอก "ดังนั้น แทนที่จะเสียเวลาในการตรวจสอบกำลังพลเข้าใหม่ สู้ใช้การแข่งขันสุดโหดนี้ในการคัดเลือกกำลังทหารที่แข็งแกร่ง และเหมาะสมกับกองทัพนี้เป็นตัวตัดสินกันนี้แหละ"

              "เข้าใจแล้วละ เพราะการแข่งขันนี้มันก็โหดและเขี้ยวเอาเรื่อง โดยทีมแข่งขันที่อ่อนแอก็จะถูกเขี่ยออกจากการแข่งขันได้ง่ายที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาให้ทหารเป็นคนจัดการเลยสิน่ะ" แอบไบออสบอก "หากแต่ พวกเดลอาเนี่ยนมันจะยอมให้เราเข้าแข่งได้เลยหรือ ทั้งๆที่พวกเราเป็นศัตรูกับพวกนั้นน่ะ"

              พีวิลบอก "กรณีนี้พวกเราต้องลงแข่งด้วยน่ะครับ เพราะเฮโลลิคเตอร์กับพวกนั้น ลงแข่งในฐานะทหารเข้าใหม่ของพวกเดลอาเนี่ยน และพวกเดลอาเนี่ยนก็รู้แล้วว่า พวกเรามา ก็เพื่อกำจัดคนทรยศอย่างพวกเฮโลลิคเตอร์ ซึ่งคลอเวฟเองก็คิดเหมือนที่พวกเราคิดอยู่ เพียงแต่คลอเวฟเล็งแค่เฮโลลิคเตอร์เพียงคนเดียวเท่านั้นเองน่ะ"

              "พีวิลพูดมาก็ตรงประเด็นน่ะ เพราะพวกเดลอาเนี่ยนมีพวกเฮโลลิคเตอร์เป็นเหมือนตัวแทนฝ่ายเราอยู่แล้ว ถ้าเราไม่ลงแข่ง ก็คือว่าพวกเราสละสิทธิ์ไม่เข้าร่วมแข่งด้วยนะสิ" สเตฟอร์ดบอก

              แอนเดรียกล่าว "แปลว่าพวกเราไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้วหรือคะ"

              "เฮโลลิคเตอร์บีบให้เรากับคลอเวฟต้องใช้ทางเลือกนี้เพียงทางเดียวแล้วนะสิ เพราะอีกวิธีที่นอกเหนือจากนี้ ก็คือสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนที่มีแสนยานุภาพเหนือกว่าเราตั้งหลายขุม แล้วถูกปราบราบคาบไปพร้อมกับไทรแองเกิ้ลกันน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              มาสวาร์ทาร์บอก "แม้ว่านั้นหมายถึงการเข้าร่วมการแข่งขันที่อาจจะมีทีมแข่งที่เล่นผิดกติกาและทำทุกทาง เพื่อทำให้พวกเราออกจากการแข่งเป็นการถาวร ซึ่งนั้นหมายถึงพวกเดลอาเนี่ยนจะยิ่งได้ใจมากขึ้นกว่าเดิม แต่เรายอมให้พวกเดลอาเนี่ยนแซงหน้าเราแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้วละ"

              "เออ ขอรบกวนหน่อยนะครับ" เนคกัสบอก โดยเดินเข้ามาในห้องประชุมงาน

              เนคมาดูซัมถาม "เนคกัส มีเรื่องอะไรก็รายงานออกมาได้เลยน่ะ"

              "คือว่า มีคนบอกว่าเป็นตัวแทนของกองกำลังต่อต้านที่หลบอยู่ที่ดาวดวงนี้ เข้ามาหาพวกพี่ใหญ่กันนะครับ" เนคกัสบอก

              พีวิลบอก "แล้วเขายังบอกอะไรอีกบ้างนอกเหนือจากแสดงตัวกันละ"

              "เขาบอกอีกด้วยนะครับ ว่าพวกเขาให้คุณคลอเวฟพักอยู่กับพวกเขาไว้เมื่อ 5 วันก่อนบนดาวดวงนี้ หากแต่หัวหน้ากองกำลังไม่อยากให้คุณคลอเวฟรู้ตัว เลยให้เขามาแจ้งบอกกับพวกพี่ใหญ่นะครับ" เนคกัสกล่าว

              เนคมาดูซัมบอก "แล้วตอนนี้คนที่มาติดต่อนั้นอยู่ข้างนอกยานหรือเปล่าละ"

              "ผมให้ไรแกทและพี่เนคกี้คุมไว้แล้วละครับ เพราะไม่แน่ใจว่าเขาเป็นสายของพวกเดลอาเนี่ยนเข้ามาก่อความเดือดร้อนภายในยานกันนะครับ" เนคกัสบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "งั้นพวกเราก็ต้องออกไปข้างนอกยานกันหน่อยแล้วละ"

              "พวกคุณกลัวว่าผมจะบุกไปถล่มภายในยานรบสุดแกร่งของพวกคุณเลยหรือ ถึงให้ลูกสมุนมากักผมให้อยู่ข้างนอกเลยน่ะ ไม่กลัวว่าพวกเดลอาเนี่ยนหรือนักล่าเงินรางวัลโผล่มายิงผมจนตายเลยหรือ" ตัวแทนของกองกำลังต่อต้าน ซึ่งเป็นชายตัวสูงโย่งผมยุ่งสีดำในชุดเสื้อยืดสีดำและกางเกงสีขาวขุ่นกล่าวขึ้นมา

              สเตฟอร์ดบอก "แล้วถ้าเกิดว่าพวกเราเป็นฝ่ายมาเยือน แต่โดนแบบเดียวกับที่นายเป็นเช่นนี้ จะว่ายังไงละ"

              "หัวหน้าวอฟลี่รู้ชื่อเสียงของพวกคุณมาโดยตลอด นับตั้งแต่พวกคุณท้าสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนที่นำกองทัพบุกยึดระบบดาวของพวกคุณมา แม้กระทั่งพวกคุณบุกฝ่าการตรวจจับกองยานของพวกเดลอาเนี่ยน เพื่อช่วยพวกพ้องของคุณจากอุ้งเล็บของจักรพรรดินีมิวนัสมาแล้ว มีหรือที่หัวหน้าและพวกเราไม่อยากให้พวกคุณเข้ามาพบเจอกันน่ะ" ตัวแทนกล่าว "ที่สำคัญ พวกเขาเองก็เห็นหน้าเพื่อนคุณอยู่ในเหตุการณ์นั้น และรู้ว่าเขามาหาพวกเราเพื่อให้พวกเราช่วยพาเขาเข้าร่วมแข่งขันบ้าง แต่กลับไม่มีเพื่อนติดตามมาด้วยเลย นั้นเป็นเหตุผลที่หัวหน้าวอฟลี่ส่งผมมาหาพวกคุณ ทันทีที่รู้ว่าพวกคุณต้องลงจอดมาหาพวกเรานะครับ"

              เจเนลกล่าว "เดียวก่อนน่ะ ลักษณะของนาย มันผอมสูงโย่งเช่นนี้ นายคงจะแวะไปที่ตรอกในเมืองที่เราอยู่เพื่อติดต่อกับคนของพวกนายเลยละสิ"

              "คุณคงจะเจอกับเมโรลิน เพื่อนของผมในกลุ่มแล้วสินะครับ เพราะว่าหัวหน้าวอฟลี่ส่งเธอไปติดต่อกับแนวร่วมชาวบูจาวาดี้ ในเรื่องติดต่อกับกองกำลังต่อต้านอื่นๆที่ยังหลงเหลือ ให้รอพวกเขาไปก่อนนะ" ตัวแทนบอก

              สเปียริทบอก "แนวร่วมที่เป็นชาวดาวดวงนี้นะหรือ งั้นแปลว่า ดาวดวงนี้ไม่เพียงเป็นฐานที่มั่นลับของพวกนาย แต่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของแนวร่วมด้วยละสิ"

              "ชาวบูจาวาดี้และทุกคนในระบบดาวโจวาน่า ไม่พอใจกับการที่มีชาวเดลอาเนี่ยนเข้ามาทำเหมืองแร่บนที่ทำการเกษตรบนดาวของพวกเขา ซึ่งไม่เพียงผู้คนบนดาวดวงที่ 1 ถึง 3 มีปัญหาอดตายเพราะที่ทำกินกลายเป็นหลุมขุดเจาะหาสินแร่อันมีค่า แถมยังอ้างกรรมสิทธิ์บนดวงดาวโดยไม่ชอบธรรม โดยใช้อิทธิพลของความเป็นคนของมหาจักรวรรดิ์กันนะครับ จนทำให้ทั้งระบบเริ่มมีปัญหาความยากจนขึ้นมา" ตัวแทนบอก "ที่แย่ก็คือ พวกนี้ไม่เปิดโอกาสให้ชนเผ่าในระบบดาวทำมาหากินได้เลย แม้กระทั่งหาที่อยู่ใหม่ที่ออกห่างจากเขตขุดเจาะและโรงคัดกรองแร่ก็ทำไม่ได้ด้วย ส่งผลให้ชาวดาวดวงที่ 1 ถึง 3 โยกย้ายมาอยู่ดาวดวงอื่น นำไปสู่การทะเลาะในเรื่องการแย่งพื้นที่ทำกินกันด้วยน่ะ"

              แอนเดรียกล่าว "พวกเดลอาเนี่ยนเบียดเบียนด้วยการไล่ที่ของเจ้าของเดิมไม่ว่า ยังทำให้เจ้าของต้องทะเลาะกับพวกเดียวกันนั้น พวกเขาเอาเปรียบกันเกินไปหน่อยนะคะ"

              "นั้นแค่ระดับกลางๆเท่านั้นนะครับ เพราะว่าสมาคมเหมืองแร่ของพวกเดลอาเนี่ยนและชนเผ่าหลักบางกลุ่ม ถ้าไม่ใช่วิธีเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมให้เลวร้ายลงจนชนเผ่าที่เป็นเจ้าของต้องย้ายหนี ส่งกองทัพไปไล่ที่หรือใช้อำนาจเวนคืน ระดับหนักที่สุดนั้นก็คือ การระเบิดแกนดวงดาวเพื่อเปลี่ยนเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อยกันนี้แหละ ที่ทำบ่อยกันมากที่สุดด้วยน่ะ" ตัวแทนบอก "และยิ่งเป็นดาวที่มีเจ้าของด้วยแล้ว สมาคมเหมืองไม่สนใจว่าใครจะตาย แค่สนอย่างเดียว ว่าพวกเขาจะทำเงินกับสินแร่อันมีค่ามากแค่ไหน และช่วยเหลือกองกำลังจักรวรรดิ์ได้มากแค่ไหนนะครับ"

              สเตฟอร์ดบอก "ส่วนหนึ่งเพราะว่ามหาจักรวรรดิ์ให้ท้ายสมาคมเหมืองแร่นั้นเลยสิน่ะ"

              "แล้วพวกคุณก็ไม่พอใจพวกเดลอาเนี่ยนกันมากแค่ไหน ถึงต้องลุกขึ้นมาก่อตั้งกองกำลังต่อต้านกันละ" พีวิลถาม

              ตัวแทนบอก "ระบบดาวของพวกเราถูกพวกเดลอาเนี่ยนยึดครองเพื่อขยับขยายสร้างเมือง โดยให้ชนเผ่าหลักเป็นผู้เลือกจับจองว่าให้ใครอาศัยอยู่ ส่วนพวกเรา ชาวดาวไฮกินด้า ถูกพวกเดลอาเนี่ยนจับกุมเป็นทาสระดับรากหญ้าให้กับพวกชนเผ่าหลักไม่ว่า พวกมันยังทำลายเทวสถาน วัดวาอาราม ศูนย์กลางแห่งศรัทธาของพวกเราเพื่อมิให้มีหลักฐานการมีอยู่ของพวกเรากันอีกด้วยน่ะ" ซึ่งตัวแทนก็พูดไปก็กำหมัดไปด้วย "ขนาดพวกเราที่เป็นกลุ่มยอดนักรบที่พยายามต่อสู้เพื่อปลดแอกพวกเราจากอิทธิพลของพวกเดลอาเนี่ยน สุดท้าย พวกพ้องส่วนมากของผมต้องตาย จนเหลือกลุ่มของหัวหน้าวอฟลี่เท่านั้น ที่หนีรอดมาถึงระบบดาวนี้ ซึ่งให้ความช่วยเหลือพวกเรากันอยู่นะครับ"

              "แค่ดาวถูกยึด แถมพลเมืองบนดาวก็ถูกจับให้กลายเป็นทาสก็แย่พออยู่แล้ว นี้พวกเดลอาเนี่ยนกล้าได้แม้กระทั่งทำลายโบราณสถานกันนั้น มันเป็นการซ้ำเติมที่หนักหนาเกินไปแล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              ตัวแทนกล่าว "นั้นไม่แปลกหรอกครับ ที่ชนเผ่าเถื่อนนั้นจะทำเช่นนี้ และยิ่งเป็นมหาจักรวรรดิ์ที่บดขยี้ชนเผ่าที่เก่าแก่และทัดเทียมกับเดลอาเนี่ยนลงไปเมื่ออดีตกาลด้วยแล้ว ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้พวกเราปกป้องดาวของพวกเราจากการคุกคามของไอ้พวกต่างดาวเถื่อนกันด้วยน่ะ"

              "เดลอาเนี่ยนเป็นชนเผ่าต่าวดาวเถื่อนนะหรือ เป็นพวกอารนัยชนอย่างงั้นสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              ตัวแทนกล่าว "พ่อแม่ของผมเล่าเรื่องนี้ให้ฟังมาแล้วนะครับ ว่าก่อนจะเป็นมหาจักรวรรดิ์ เดลอาเนี่ยนเป็นแค่ชนเผ่าต่างดาวเถื่อนที่สร้างความเดือดร้อนกันมาก่อน หากแต่มีชนเผ่าทรงภูมิปัญญาคอยสอนสั่งให้พวกนั้นไม่ก่อสงคราม ซึ่งภายหลัง พวกเดลอาเนี่ยนกลับเนรคุณต่อชนเผ่านั้นถึงกับกวาดล้างจนชนเผ่าโบราณสิ้นสูญไปแล้วนะครับ"

              "เราเข้าใจแล้วละ ว่าพวกคุณลุกขึ้นมาต่อสู้ เพราะถูกเดลอาเนี่ยนกดขี่ข่มเหงเช่นนี้ ซึ่งพวกเราเองก็ทราบเรื่องนี้กันมาแล้วน่ะ" สเปียริทบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "ว่าแต่ เธอพอจะพาพวกเราไปหาหัวหน้าของพวกเธอได้มั้ยละ"

              "เป็นพรุ่งนี้ได้มั้ยละครับ เพราะว่า....ตอนนี้มันไม่เหมาะกันสักเท่าไหร่นะครับ" ตัวแทนบอก เพราะว่าตอนนี้เป็นช่วงพลบค่ำแล้ว

              มาสวาร์ทาร์บอก "สงสัยว่าคงต้องให้พักที่ห้องเป็นการชั่วคราวก่อนน่ะ"

              "แล้วพอมีเบอร์ติดต่อไปที่กองบัญชาการบ้างมั้ยละ" พลัสเชอริทถาม

              ตัวแทนบอก "เออ เกรงว่าหัวหน้าวอฟลี่จำต้องปิดการสื่อสารไว้ เพื่อมิให้พวกเดลอาเนี่ยนหรือกลุ่มสมุนนักล่าเงินรางวัลตรวจพบเจอได้นะครับ และหวังว่าพวกคุณคงจะปิดบังตำแหน่งของพวกคุณกันได้บ้างนะครับ"

              "ถ้าเช่นนั้น คงต้องให้พักห้องพักชั่วคราวกันไปก่อน พรุ่งนี้เช้า เธอต้องพาพวกเราไปที่่กองบัญชาการโดยด่วนเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              เจเนลกล่าว "และอย่าเล่นตุกติกบ้าๆกันด้วยละ ไม่งั้นนายโดนแน่ๆ"

              "หัวหน้าวอฟลี่ครับ ตัวแทนของเราไปถึงยานของพวกไทรเวเซอร์แล้วละครับ" สมาชิกกลุ่มต่อต้านชาวไฮกินด้าแจ้งกับหัวหน้ากองกำลังที่เป็นชาวไฮกินด้าผิวเข้มตัวใหญ่ ซึ่งก็บอกไปว่า

              "ดีแล้วละ อย่างน้อยถ้าพวกเขาอยู่ด้วย งานของเราก็คงง่ายหน่อยน่ะ"

              "แต่ผมกังวลว่า เพื่อนของพวกเขาตนหนึ่งจะไม่ค่อยเอาด้วยนะครับ" สมาชิกบอก โดยในเวลานี้ คลอเวฟวิ่งวนอยู่กลางสนามที่อยู่ในฐาน ซึ่งมีชาวไฮกินด้าวิ่งไล่กวดกันอยู่ตั้งหลายตน โดยที่คลอเวฟถือลูกบอลเอาไว้อยู่

              วอฟลี่กล่าว "ถึงกระนั้น เขาก็มีเหตุผลเดียวกับพวกพ้องของเขาอยู่แล้วนิ เพราะว่า คนทรยศที่เข้ากับพวกเดลอาเนี่ยนก็เป็นพวกทหารจากระบบดาวของพวกเขาด้วยน่ะ"

              "แล้วเราจะหยุดเขายังไงละครับ ในเมื่อ เราเองก็ไม่มีกำลังมากพอที่จะหยุดเขาได้ และกลัวว่ากรงพลาสม่าเองก็เบรคเขาไม่ได้ด้วยน่ะ" สมาชิกคนนั้นกล่าวอย่างเป็นกังวล

              วอฟลี่บอก "แต่มิใช่กับเหล่าสหายไทรเวเซอร์กันหรอกน่ะ หึๆๆๆๆ" และหันมาถาม "แล้ว เมโรลินล่ะ ยังไม่กลับมาเลยหรือ"

              "ฉันพึ่งกลับมาแล้วละคะ แม้ว่าสหายเกราะสีน้ำเงินและสหายสามเขาของบุรุษเกราะหนาตนนี้จะสังเกตุเห็นฉันและไล่ตามไปเลยก็ตามน่ะ" หญิงชาวไฮกินด้าตัวสูงกล่าว โดยมาถึงพอดี

              วอฟลี่กล่าว "ดีแล้วละที่เธอรีบกลับมาได้เสียก่อนน่ะ แล้ว...เรื่องที่สั่งไปนั้นละ"

              "ทุกคนรับทราบแล้ว และทำตามคำสั่งเอาไว้แล้วคะ" เมโรลินรายงานไปพร้อมกับเกาที่หลังไปด้วย "หากแต่ กองกำลังต่อต้านกลุ่มอื่นๆ ดันใช้แผนเดียวกับเราด้วยนะคะ"

              วอฟลี่บอก "นั้นไม่แปลกใจหรอก เพราะการแข่งขันสแมคบอลนี้ เป็นโอกาสเดียวที่ทุกฝ่ายได้เจอกับมหาจักรพรรดิ์โดยตรงกันน่ะ แม้ว่านั้นจะหมายถึงการที่เราต้องปะมือกันเองเลยน่ะ"

              "จะให้ฉันแจ้งให้พวกเขาถอยห่างเลยมั้ยคะ" เมโรลินถาม

              วอฟลี่ส่ายหน้า "ไม่ต้องหรอก เพราะว่า พวกเขามีสิทธิ์เหมือนกับพวกเราในเรื่องจัดการกับมหาจักรพรรดิ์กันอยู่แล้ว แม้ว่านั้นหมายถึง ฝ่ายมหาจักรวรรดิ์จะเตรียมการไว้แล้วน่ะ" 

              ที่พระราชวังของเดลอาเนี่ยนที่ดาวเดลานอน

              "เรียนท่านบูเรนนอฟและองค์มหาจักรพรรดิ์ ท่านเพียโดม่าส่งข่าวมา ว่าพวกไทรเวเซอร์โผล่มาที่ระบบอวกาศของเราอีกแล้วละครับ" ทหารเดลอาเนี่ยนรายงาน

              จากนั้นอีกนายก็เข้ามา "กิลด์บาวโฟวถูกพวกมันเล่นงานอีกรอบแล้ว ท่านเพียโดม่าขออนุมัติให้ท่านบูเรนนอฟส่งกองรบไปไล่ล่าพวกมันด้วยนะครับ"

              "บูเรนนอฟ ดูท่าว่าพวกนั้นคงถูกส่งมาเพื่อเก็บเหล่าทหารแปรพักตร์แล้ว เราควรจะทำเช่นไรกันดีละ" เดลมูดัลกล่าว

              บูเรนนอฟบอก "เรียนองค์มหาจักรพรรดิ์ เท่าที่ข้าวิเคราะห์มา ในช่วงเวลาที่เรากำลังจัดการแข่งขันสแมคบอลเพื่อคัดเลือกทหารกลุ่มใหม่มาทดแทนกำลังรบที่เสียไปกันนั้น คือโอกาสเหมาะที่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นพวกกบฎ กองกำลังต่อต้าน กองกำลังปลดแอกและกอบกู้เอกราช กลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือแม้กระทั่งพวกไทรเวเซอร์เอง จะเข้ามาจัดการกับท่าน ผ่านการแข่งขันสแมคบอลกันนี้แหละครับ"

              "ไอ้พวกที่ไม่ยอมรับในอำนาจการปกครองของพวกเรานั้นยังพอทำเนา แต่พวกศัตรูที่เป็นก้างชิ้นโตที่ขัดขวางเป้าหมายที่พวกเราจะเป็นผู้ปกครองจักรวาลทั้งปวงนั้น ข้ายอมให้พวกมันเข้ามาร่วมการแข่งขันไม่ได้เป็นอันขาด" เดลมูดัลกล่าว แต่ยังไม่สั่งการใดๆ

              เดลวูลก็เข้ามาพอดี "ถึงท่านพ่อจะจัดการกับพวกไทรเวเซอร์จนทำให้พวกนั้นเข้าร่วมการแข่งขันไปไม่ได้ก็จริง แต่.....ก็ใช่ว่าท่านจะหยุดพวกกองกำลังต่อต้านและพวกกบฎกันไปได้นะครับ"

              "ท่านคงจะหมายถึง ถ้าเราห้ามไม่ให้พวกไทรเวเซอร์เข้าแข่งขัน ชนเผ่าอื่นๆรวมถึงชาวเดลอาเนี่ยนที่เห็นต่างจากเราจะวิจารณ์และตำหนิถึงความไม่ยุติธรรมในการแข่งขัน เนื่องมาจากว่า สแมคบอลเป็นกีฬาที่ทุกเผ่าและทุกฝ่ายสามารถเข้าร่วมได้ แม้ว่าฝ่ายที่เข้าร่วมจะเป็นศัตรู หรือมีร่างกายที่ไม่เหมาะสมกับการแข่งเลยสิครับ" บูเรนนอฟบอก เดลวูลพยักหน้า

              เดลมูดัลบอก "เจ้ากำลังจะบอกว่า ข้าไม่สามารถห้ามพวกไทรเวเซอร์ลงแข่งได้เลยหรือ"

              "ตอนนี้ พวกแมนิเกเตอร์ที่แปรพักตร์ก็เข้าร่วมกับพวกเราไปแล้ว ถ้าเราได้พวกไทรเวเซอร์มา ข้าคิดว่าเราน่าจะสามารถยึดระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราจะไม่เสียเลือดเสียเนื้อไปมากกว่านี้ นั้นจะเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเราด้วยนะครับ" เดลวูลแนะนำ

              บูเรนนอฟบอก "แต่ยังไง เราก็ต้องเตรียมการรับมือกับพวกนั้นด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าพวกไทรเวเซอร์จะมาไม้ไหนกัน" แล้วก็บอกไปว่า "โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยขององค์มหาจักรพรรดิ์ ซึ่งข้าได้ข่าวจากสายของเราที่แฝงตัวอยู่ในกองกำลังต่อต้านบางส่วนแล้ว พบว่าพวกนี้พยายามจะลงแข่ง เพื่อลอบปลงพระชนม์ท่านให้จงได้นะครับ"

              "แล้วจะให้ข้าหลบอยู่นี้และไม่เผชิญหน้ากับพวกมันเลยหรือ ข้ายอมให้ไม่ได้หรอกน่ะ" เดลมูดัลยืนยันว่าตนจะไปร่วมงานกันให้ได้

              เดลวูลบอก "พระวรกายของท่านพ่อยังไม่เหมาะที่จะออกไปข้างนอกได้เลยนะครับ ถ้าเกิดว่าฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าท่านพ่อไม่แข็งแรง แล้วพวกนั้นทำร้ายท่านพ่อจนสิ้นพระชนม์ขึ้นมา ก็เท่ากับว่าฝ่ายกบฎได้ใจยิ่งกว่าเดิมนะครับ"

              "ในเมื่อท่านไม่พร้อมที่จะออกไปเป็นประธานจัดงาน ถ้าเช่นนั้น ทำไมถึงไม่ให้ราชทายาทเดลวูลรับผิดชอบแทนละครับ" บูเรนนอฟบอก

              เดลมูดัลได้ฟังเช่นนั้นก็พิจารณาอยู่พักใหญ่จน "เดลวูล ในฐานะที่เจ้าจะต้องสืบทอดราชบัลลังก์แทนข้า ซึ่งอาจจะอยู่ไม่ถึงเวลาที่ข้าได้เป็นเจ้าแห่งจักรวาลกันแล้ว ดังนั้น....ข้าหวังว่าเจ้าคงจะจัดการกับการแข่งขันนี้ได้เอง โดยไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นบ้างน่ะ"

              "ขอบพระทัยมากขอรับ เสด็จพ่อ" เดลวูลกล่าว

              เดลมูดัลบอก "และข้าอยากจะให้เจ้าพาเดลวาทไปด้วย เพราะข้าเห็นว่าเดลวาทเอาแต่อยู่ในหอสมุดจดหมายเหตุกันมานานเกินไปแล้ว ข้าจึงอยากให้เจ้าเป็นครูสอนน้องให้รู้ถึงบทบาทของผู้ปกครอง และผู้ที่ต้องรับผิดชอบในภาระอันยิ่งใหญ่นี้ไว้น่ะ"

              "รับทราบแล้วละครับ" เดลวูลตอบรับแม้จะไม่ค่อยพอใจเล็กน้อยก็ตาม แล้วก็เดินจากไป

              บูเรนนอฟเลยหันมาถาม "ท่านคิดดีแล้วหรือครับ ที่ให้องค์ชายเดลวาทไปกับองค์ราชทายาทน่ะ ในเมื่อ ท่านเดลวาทเองก็...."

              "นับวัน เดลวาทมีทัศนคติตรงข้ามกับข้าและตรงกับความคิดของผู้ที่ต้องการให้ข้ายุติการทำสงคราม ไม่ว่าจะเป็นพวกขุนนางทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายตรงข้าม หรือกลุ่มสมาคมต่างๆที่มีกลุ่มพันธมิตรหนุนหลังอยู่ไปทุกทีแล้ว ข้าต้องการเปลี่ยนทัศนคติของเดลวาทให้เห็นว่า คนที่เป็นศัตรูกับพวกเรานั้น สมควรจะลงเอยเป็นเช่นไรบ้าง เดลวาทจะได้ตาสว่างและเลิกขอร้องให้ข้าหยุดทำสงครามกันเสียทีนี้แหละ" เดลมูดัลให้เหตุผล

              บูเรนนอฟกล่าว "แล้วไม่กลัวว่า ท่านเดลวาทจะมีท่าทีต่อต้านเมื่อได้เห็นการแข่งขัน หรือกลายเป็นว่าท่านทำให้ท่านเดลวาทกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวจากการได้เห็นความรุนแรงบ้างเลยหรือ"

              "เดลวาทอ่อนแอและด้อยกว่าเดลวูลตั้งหลายขุมเช่นนี้ ท่านคิดระแวงเกินไปหรือเปล่าละ ท่านบูเรนนอฟ" เดลมูดัลกล่าว "แม้ว่าคนที่ข้ากลัวนั้นจะเป็นคนที่ข้าไว้ใจให้เขาทำงานชิ้นสำคัญก็จริง แต่ถ้าเขาไม่ได้มีตำแหน่งเป็นองค์ราชทายาทละก็..."

              บูเรนนอฟกล่าว "ถึงกระนั้น ท่านก็ไม่ควรจะบิดพริ้วหรือกลับคำหลังจากที่เอ่ยไปแล้วนะครับ ท่านเดลมูดัล...."

              "เพราะว่าคำพูดขององค์จักรพรรดิ์นั้น ก็คือคำพูดอาญาสิทธิ์ที่ไม่มีทางแปรเปลี่ยนเลยสินะ แม้กระทั่ง เจตจำนงของบรรพบุรุษกันด้วย" เดลมูดัลบอก

               บูเรนนอฟบอก "เฉกเช่นเดียวกับภาระหน้าที่ของข้า ของท่านเดลวูลและเดลวาทด้วยนะครับ"

              เช้าวันต่อมา ที่ดาวบูจาวาดี้-8 หุบเขาลึกโซน 5R อันเป็นที่ตั้งของกองกำลังต่อต้านชาวไฮกินด้า

              "เป็นเกียรติไม่น้อยเลยน่ะที่ได้เห็นตัวพวกท่านตัวเป็นๆกันน่ะ" วอฟลี่กล่าวโดยจับมือกับเนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ และพีวิล หลังจากที่พวกไทรเวเซอร์ตามตัวแทนของกองกำลังต่อต้านนำทางมาที่กองบัญชาการ

              พีวิลกล่าว "พวกเราทราบมาแล้วละครับถึงต้นเหตุที่พวกคุณต้องฟอร์มกองกำลังต่อต้านและต่อสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนกันน่ะ"

              "โดคแชทเป็นตัวแทนที่เราไว้ใจได้มากที่สุดกันนะครับ ซึ่งผมคงไม่จำเป็นต้องเล่าให้เสียเวลากันนะครับ" วอฟลี่บอก

              สเปียริทกล่าว "นั้นก็ดีแล้วละคะ เพราะพวกเรามานี้เพื่อมาตามหานายบื้อ เพื่อนของพวกเราที่แอบติดตามพวกคุณจากดาวปลายทางกันอยู่น่ะ"

              "งั้นหรือครับ หากแต่พวกคุณพึ่งมาช้าไปหน่อย เพราะว่า เพื่อนของพวกคุณพึ่งลงจากเขาไปกับเมโรลินและพวก เพื่อลงแข่งกับทีมที่เขตเมืองหมายเลข 4 กันอยู่นะครับ" วอฟลี่กล่าว

              เจเนลบอก "ว้า คราดกันจนได้สิว้า ให้ตายสิ"

              "แล้วคลอเวฟจะกลับมาเมื่อไหร่ละครับ" พีวิลถาม

              วอฟลี่บอก "เมโรลินกับพวกแข่งในช่วงเช้า กว่าจะแข่งเสร็จก็คือช่วงบ่ายกันนะครับ" แล้วก็บอกว่า "แน่นอนว่า เพื่อนของคุณช่วยได้มากกับพวกเราเลยน่ะ" 

              "ช่วยได้มากเลยหรือ หมายความว่ายังไงกันน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว

              วอฟลี่บอก "งั้นคุณลองดูที่สนามภายในฐานก็ได้นะครับ ว่าเพื่อนคุณช่วยเราได้มากแค่ไหนน่ะ" โดยพามายังสนาม ซึ่งมีสมาชิกกองกำลังต่อต้านกำลังถือไม้ยาวหวดลูกบอลที่ซัดเข้ามาเพื่อตีเข้าไปที่ป้ายตรงกำแพง โดยที่อีก 3 คนวิ่งถือลูกบอลที่กระเด็นออกจากป้ายแล้วคว้ารับมา เพื่อนำบุกเข้าประตูฝั่งตรงข้าม แต่ "ป้ากกกก" ถูกสมาชิกต่อต้านที่ตัวโตพุ่งเข้ากระแทกใส่ จนลูกบอลหลุดมือมาให้อีกฝ่าย "ปึกๆๆๆๆ" เลี้ยงลูกบอลด้วยฝ่าเท้าแบบฟุตบอลตรงไป โดยเตะเข้าใส่โกล ผ่านผู้รักษาประตูที่สวมชุดหนาเหมือนมาเล่นฮ็อกกี้น้ำแข็งกันอยู่ "ปึกกก" ซึ่งผู้รักษาประตูก็ใช้มือตบลูกที่เตะเข้าใส่ออกไปโดยเร็ว

              "นั้นคงเป็นวิธีการเล่นสแมคบอลเลยละสิน่ะ" สเปียริทบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตั้งใจฝึกเพื่อเข้าแข่งขันเลยสิน่ะ"

              "พวกคุณคงจะชอบการแข่งนี้บ้างสิน่ะ ผมเองก็ชอบเล่นเหมือนกันนี้แหละ แม้ว่าจะได้เล่นกับพวกพ้องจนมีเพื่อนเจ็บตัวอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นความสนุกที่เราได้ใช้ความพยายามด้วยตัวเองกันนะครับ" วอฟลี่บอกด้วยน้ำเสียงที่ดีใจแต่ก็เปลี่ยนเป็นทุกข์ใจขึ้นมา

              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะ คุณสูญเสียพวกพ้องจากการสู้รบกับพวกเดลอาเนี่ยนสิน่ะ"

              "พวกเดลอาเนี่ยนทำให้เราต้องพลัดพรากจากเพื่อนฝูง และพี่น้องร่วมเผ่าที่กลายเป็นแรงงานทาสสำหรับสร้างยานอวกาศและผลิตอาวุธ พวกพ้องที่ร่วมรบต้องถูกพวกมันฆ่าตายก็เพื่อให้ผมพาพวกลี้ภัยมาถึงดาวดวงนี้ ซึ่งประสบเหตุร้ายแบบเดียวกันมาก่อน และเป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเรา ต้องยุติสงครามด้วยการกำจัดองค์จักรพรรดิ์เดลมูดัลในพิธีมอบรางวัลหลังจากที่พวกเราชนะเลิศไปแล้ว" วอฟลี่กล่าว "แต่ ผมทราบดี ว่านอกจากพวกผมแล้ว ยังมีกองกำลังต่อต้านอื่นๆที่ลงแข่งด้วยวิธีเดียวกัน และพวกเขาเองก็ต้องการหัวของเดลมูดัลกันด้วย แน่นอนว่า พวกผมคงไม่มีทางผ่านไปถึงจุดนั้นแน่ๆ"

              เจเนลกล่าว "งั้นที่คุณส่งตัวแทนมาหาพวกเรานั้น ก็เพราะคุณแน่ใจว่าพวกเราจะผ่านถึงรอบชิงชนะเลิศเลยสิน่ะ"

              "ถูกต้อง เพราะอย่างงั้นแหละ ผมถึงต้องเรียกพวกคุณมาที่นี้ ก็เพื่อฝึกพวกคุณให้สามารถลงแข่งพร้อมกับพวกเราได้นะครับ" วอฟลี่บอก "ที่สำคัญ ผมสอนเพื่อนของคุณกันมาตลอด 4-5 วันที่ผ่านมาแล้ว อีกอย่าง การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในอีกสองสัปดาห์บนดาวดาเรม-5 ระบบดาวมูสทูแฟสกันแล้ว เราจึงมีเวลาเหลือเฟือมากพอที่จะฝึกพวกคุณได้นี้แหละ"

              พีวิลบอก "ส่วนหนึ่งเพราะ ดาวดวงนี้ เวลา 1 วันในอวกาศคือ 5 วันนะหรือครับ"

              "ใช่ครับ ดาวบูจาวาดี้-8 นั้นมีเวลาเป็น 5 เท่าของเวลาปกตินอกดาวและในเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนอยู่ อีกทั้งเวลาบนดาวดาเรมเองก็ใช้เวลามาตราฐานด้วย ดังนั้น พวกคุณและพวกเราจึงมีเวลา 70 กว่าวันในการแข่งขันเลยนะครับ" วอฟลี่กล่าว

              สเปียริทบอก "ตั้ง 2 เดือนบนดาวดวงนี้เลยหรือ แต่ เสบียงของเราเอามาแค่สามสี่วันเองนะคะ"

              "เรื่องเสบียงนั้น ผมติดต่อกับชาวดาวบูจาวาดี้ให้ช่วยเผื่อพวกคุณไปด้วย แม้ว่าจะทำให้พวกเขาลำบากกันมากก็ตาม เพราะว่าพื้นที่เพาะปลูกบนดาวนี้แม้จะกว้างและไม่ถูกพวกเดลอาเนี่ยนคุกคาม แต่มันก็ไม่แน่เลยนะครับ" วอฟลี่บอก

              มาสวาร์ทาร์ถาม "แล้วพวกคุณ มีการสนับสนุนจาก....ยอดมือป่วนที่มาจากเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์หรือเปล่าละครับ"

              "มีแน่นอนนะครับ แม้ว่าเราคิดว่าเขาตายไปแล้วจากการระเบิดที่หอสื่อสารในสถานีอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยน ในการช่วยพาผู้ลี้ภัยและกองกำลังต่อต้านของอาร์ซไพล์มออกไปจากเขตอวกาศเลยก็ตาม ตอนนี้เขาช่วยเหลือเราในเรื่องเสบียงอาหารของกองกำลังของเรา และรวมถึง...ของพวกคุณด้วยนะครับ" วอฟลี่กล่าว

              เนคมาดูซัมกล่าว "ดีแล้วละ อย่างน้อย หมอประจำยานของเราก็มีเรื่องต้องคุยกับยอดมือป่วนสักหน่อยน่ะ"

              "เฮ้อ ไซเมี่ยนวอนหาเรื่องจนเกือบตายกันเสียได้เลยน่า" เดเมี่ยนพูดด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่เนคมาดูซัมติดต่อกลับมา

              ฟิเกซบอก "อย่างน้อย ไซเมี่ยนก็เอาตัวรอดได้ละน่า แม้ว่าเขาจะอยู่ไม่เป็นที่เลยก็ตามน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะว่าคุณเป็นเหมือนเขาเลยสิคะ นายแม่รัคชูมี่เลยหงุดหงิดไปด้วยน่ะ" แอนเดรียกล่าว จนฟิเกซหน้าจ๋อยขึ้นมา

              เดเมี่ยนบอก "ถึงอย่างงั้น เราก็รบกวนชาวดาวบูจาวาดี้กันเกินไปน่ะ เท่าที่ทราบมา ว่าพวกเดลอาเนี่ยนเบียดเบียนพวกเขาจนไม่มีที่ทำกินกันอยู่แล้ว พอพวกเรามา ก็เหมือนซ้ำเติมพวกเขาในเรื่องปากท้องกันขึ้นมาทางอ้อมเลยน่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "แม้ว่าไซเมี่ยนจะทำตัวเป็นโรบินฮู๊ดเพื่อช่วยชาวบ้านกัน แต่ก็แค่สักระยะหนึ่งนี้แหละ"

              "ประเด็นสำคัญก็คือ เรื่องคลอเวฟกันนี้แหละ" แอบไบออสบอก

              แอนเดรียกล่าว "หวังว่าคุณคลอเวฟจะยอมรับในความช่วยเหลือของพวกเรากันบ้างนะคะ เพราะ เขาไม่มีทางเข้าถึงตัวเฮโลลิคเตอร์ได้เพียงลำพังนะคะ"

              "แอนเดรียว่ามาก็ถูกน่ะ เพราะทีมที่ลงแข่งและฝึกสอนพวกเราอยู่นั้น เป็นกลุ่มกองกำลังต่อต้านกันด้วยน่ะ" โฟรซ่าบอก

              ไซโคลเนียกล่าว "แถมนักล่าจากกิลด์เซฮาร์ฟเองก็น่าจะติดตามหากองกำลังกันด้วย สงสัยว่าเราคงต้องระมัดระวังกันหน่อยแล้วละ"

              "ให้ตายสิ นี้พวกเธอเห็นฉันเป็นตัวตลกหรือไง ถึงได้ทำลูกบอลหลุดมาโดนหัวฉันเนี้ย" คลอเวฟบ่นโดยนั่งรถบรรทุกมากับเมโรลิน สมาชิกกองกำลังต่อต้านชาวไฮกินด้าหญิงที่เป็นสารถีขับรถบรรทุกเก่าๆ ซึ่งมีพวกพ้องโดยสารมา

              "ทำไงได้ละ ก็นายดันอยู่ขอบนอกสนามตรงป้ายแต้มคะแนนกันนิน่า ทั้งๆที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ๆควรเดินดุ้มๆแด้มๆกันสักหน่อยน่ะ"

              "ด้อมๆมองๆต่างหากเล่า" คลอเวฟพูดแก้คำของเมโรลินที่พูดผิดมา

              เมโรลินบอก "แต่ นายอยู่ที่ขอบสนามกันตลอดนิ คงจะชอบฉันละสิ ถึงได้มาดูอยู่ตลอดเวลาเลยน่ะ"

              "ตลกละ ฉันแค่อยากดูว่าพวกเธอเล่นสแมคบอลกันยังไงนะสิ เพราะไม่เคยเลยที่จะได้ดูการแข่งกันจริงๆเลยน่ะ" คลอเวฟกล่าวโดยในใจคิดว่า "แม้จะได้ดูก็เหอะ แต่ถ้าไม่ติดว่าต้องดูแลบาร์เหล้าไปด้วยซะก่อนน่า"

              เมโรลินกล่าว "เอาเถอะๆๆๆ อย่างน้อย นายก็อยู่กับเราและฝึกซ้อมกับเราไปแล้ว ดังนั้น ฉันจึงอยากให้นายช่วยซ้อมกับเราไปด้วย"

              "ขออย่างเดียวน่ะ ว่าอย่าซัดลูกบอลอัดหน้าฉันเลยแล้วกัน" คลอเวฟบ่น แล้วเมโรลินก็ขับรถกลับมาที่ฐานทัพไว้ ซึ่งก็

              "อ้าว พวก พึ่งกลับมาแล้วหรือ เรากำลังรอพวกนายอยู่พอดีเลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก คลอเวฟได้เห็นสเตฟอร์ด ฟิเกซ แอบไบออส โฟรซ่า ไซโคลเนียและจิล ซึ่งมาสมทบกับพวกเนคมาดูซัมที่มาล่วงหน้ามาแล้ว เลยรีบเดินหนี พลัสเชอริทและจายด์เลยก้าวออกมาขวางด้านหลังกัน

              "พวกนายนิ เหลือเกินจริงๆเลยน่ะ ให้ตายสิ" คลอเวฟสบถและตำหนิพวกเนคมาดูซัมซึ่งเดินออกมาข้างนอกสนามซ้อมภายในฐานทัพ

              สเตฟอร์ดบอก "ไม่เอาน่า คลอเวฟ นายอย่าหงุดหงิดเพราะเห็นว่าพวกเราจะมาก่อกวนแผนของนายเลยสิน่า"

              "ขอร้องละ ฉันไม่ได้เรียกพวกนายมาช่วยสักหน่อย เพราะฉันต้องการแฝงตัวกับทีมนี้เพื่อเข้าไปตะบันหน้าไอ้เฮโลลิคเตอร์กันน่ะ" คลอเวฟบอก

              สเปียริทพูดย้อนแกมตอกย้ำไปว่า "หรือ แต่นายไม่รู้หรอกน่ะ ว่าเฮโลลิคเตอร์เรียกพวกมาเสริมอีก 20 กว่าคน หลังจากที่ดึงแนวร่วมไปจากพอร์ตคอร์เบิ้ลกันแบบนี้ นายก็ไม่มีทางเข้าถึงตัวหัวหน้าที่เจ้าเล่ห์มากที่สุดและปากดีมากที่สุดได้หรอกน่า"

              "นายก็น่าจะรู้ดีนิ ว่าต่อให้พวกเฮโลลิคเตอร์ไม่ได้อยู่ในการแข่งหรืออยู่ในการแข่งไว้ พวกนั้นก็มีทหารเดลอาเนี่ยนคอยคุ้มกันและแฝงตัวอยู่ ซึ่งแผนแทรกซึมเพียงคนเดียวของนาย ไม่น่าจะ....เออ ไม่มีทางสำเร็จได้หรอกน่า" มาสวาร์ทาร์บอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "แล้วนายแน่ใจหรือ ว่าทีมที่นายเลือกแฝงตัวไปด้วยจะช่วยได้ หากว่าเขาไปไม่ถึงรอบชิงกันน่ะ นายจะเลือกทีมอื่นที่ดีกว่าเลยหรือ มันไม่เข้าท่าเลยน่ะ"

              "นี้นายพูดเหมือนกับว่าพวกนายรู้จากไอ้ไซเมี่ยน หรือจากไอ้หัวหน้ากิลด์บาวโฟวที่โดนกระทืบไปก่อนเลยละสิน่ะ" คลอเวฟบอก

              พีวิลกล่าว "ถ้าหัวหน้ากิลด์อูดูกินมีพวกแมทเฟลิมคอยคุ้มกันอยู่ด้วยละก็ เกรงว่าพวกเดลอาเนี่ยนก็ต้องปกป้องพวกเฮโลลิคเตอร์จากนายและพวกเราด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง นายไม่มีทางเข้าไปจัดการกับเฮโลลิคเตอร์ตามที่นายคิดได้หรอกน่ะ"

              "และเราพึ่งไปกระทืบหัวหน้ากิลด์ปากดีนั้นไปแล้ว จากการที่มันปากโป้งรายงานแม่ทัพเพียโดม่าแห่งแมทเฟลิม เรื่องที่นายโผล่มาที่เขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนมา ซึ่งต่อให้ระบบดาวนี้ พวกเดลอาเนี่ยนมันไม่ส่งกำลังทหารเข้ามาได้ก็จริง แต่นักล่าเงินรางวัลที่มาจากต่างกิลด์ ล้วนเป็นสุนัขรับใช้ของพวกเดลอาเนี่ยนขึ้นมานั้น ก็ต้องตามมาถึงนี้เพื่อจัดการกับกองกำลังนี้ เพื่อตัดโอกาสของนายไปด้วยน่ะ" เจเนลบอก

              จิลบอก "อีกอย่างน่ะ เฮโลลิคเตอร์เองก็เล่ห์เหลี่ยมเยอะ ถึงพวกนักล่ากับพวกทหารเดลอาเนี่ยนไม่เล่นงานเรา เขาก็ขวางนายได้อยู่ดีนี้แหละ"

              "..........ถึงพวกนายทำให้ฉันหงุดหงิดกันก็จริง แต่ มันไม่ดีแน่ๆที่ไอ้เวรลิคเตอร์มันแซงหน้าฉันไปเยอะแบบนี้เลยน่ะ" คลอเวฟได้ฟังก็ครุ่นคิดหนัก "แต่ฉันก็รู้ดี ว่ากองกำลังต่อต้านนี้พึ่งจะถูกพวกเดลอาเนี่ยนไล่ล่ามา แม้จะด้อยในเรื่องกำลังอาวุธที่มีอยู่ก็ตาม และระบบดาวนี้ก็มีพวกเดลอาเนี่ยนควบคุมอยู่ครึ่งส่วนแบบนี้ บอกตรงๆน่ะ ว่ามันไม่ตลกกันแล้วน่ะ"

              ฟิเกซบอก "เพราะอย่างงั้นแหละ พวกเราถึงต้องรีบมาหานายกันนี้แหละ เพราะถึงพวกเราไม่ช่วยนายในเรื่องตามล่าเฮโลลิคเตอร์ แต่ก็ช่วยนายในเรื่องการแข่งสแมคบอลกันนี้แหละ"

              "ในเมื่อพวกนายอยากจะช่วยฉันละก็ ได้ เพราะว่าฉันเองก็อยากได้ลูกทีมมาร่วมแข่งด้วยน่ะ" คลอเวฟบอก "แต่...เว้ากันซื่อๆเลยน่ะ ว่า...นอกจากจะดูแลบาร์เหล้าแล้วนิ ฉันได้ศึกษาวิธีการเล่นเกมส์นี้ในช่วงที่ปิดบาร์กันแล้วน่ะ"

              ลิเนียร์ตี้ถาม "ศึกษาวิธีการเล่นด้วยตัวเอง หรือว่า ติดต่อไปหาแพนทานิคผ่านเครื่องสื่อสารในบาร์เหล้ากันละ"

              "เฮ้ย เดียวสิ นี้พวกนาย....โว้ย ตกลงนิ พวกนายจะไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ยละวะ" คลอเวฟได้ฟังก็บ่นขึ้นมา

              สเปียริทบอก "เดียวนายจะได้รู้กันแน่ๆแล้วละ กับการเอาชื่อฉันไปตั้งเป็นพาสเวิร์ดโปรเทคคนนอกใช้งานกันน่ะ เพราะฉันจะหวดหัวนายกันนี้แหละ"

              "พอเถอะน่า สเปียริท ตอนนี้เรามีปัญหาที่ต้องสะสางกันอยู่น่ะ" พีวิลบอก "คลอเวฟ เรื่องที่บาร์นั้นเอาไว้ทีหลังเหอะ เพราะเราต้องช่วยนายในเรื่องเข้าถึงตัวเฮโลลิคเตอร์กันน่ะ"

              คลอเวฟพยักหน้า "ก็ได้ ถ้าไม่เพราะว่าไอ้เฮโลลิคเตอร์มันไม่เพียงหาเรื่องให้ฉันโมโหที่พวกนายรู้เรื่องของพวกมันมาก่อน แต่ไม่บอกกล่าวกันไว้แบบนี้ละก็น่า" แล้วก็พากลับมาที่สนามซ้อมซึ่งเดินกลับมาพร้อมกับอุปกรณ์การเล่นและลูกบอลในกล่องด้วย

              "เอาละ คลอเวฟ เรารู้ว่าสแมคบอลเขาเล่นยังไง แต่กับบางคนเองยังไม่รู้หรือรู้แต่ไม่เข้าใจกัน ดังนั้น ช่วยอธิบายดีๆหน่อยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว


              คลอเวฟบอก "ได้อยู่แล้วละ" แล้วก็เริ่มอธิบาย "พวกนายคงจะคิดว่าสแมคบอลนั้น เราจะชนะฝ่ายตรงข้ามด้วยการทำแต้มกันใช่มั้ย แต่จริงๆแล้ว เกมส์นี้มันก็คือการทำสงครามบนสนามแข่งขันกันเท่านั้นเองแหละ เพียงแต่ เราไม่ต้องใช้มีดดาบหอกหรือปืนผาหน้าไม้สู้กันก็เท่านั้นเองแหละ"

              "และคงจะเป็นกีฬาที่รุนแรงเอาเรื่องเลยสิคะ" แอนเดรียบอก

              คลอเวฟกล่าว "ซึ่งคงไม่ดีแน่ๆ ถ้าเกิดว่าฝ่ายตรงข้ามน็อกนักกีฬาอย่างพวกนายลงจนลงแข่งต่อไม่ได้กันน่ะสิ" จากนั้นก็พูดต่อ "เพราะนักกีฬาสแมคบอลนั้น ส่วนมาก จะชอบเล่นงานนักกีฬาฝ่ายตรงข้ามให้เหลือไม่ถึงครึ่ง ซึ่งเป็นอีกวิธีชนะการแข่งที่ง่ายที่สุด จบเกมส์ให้เร็วที่สุด และสนองต่อพวกชื่นชอบความซาดิสต์และสะใจที่เห็นอีกฝ่ายเจ็บตัวจนลงแข่งนัดต่อๆไปไม่ได้แน่นอน ซึ่งพวกที่อยากเล่นแบบขาวสะอาดไม่อยากผิดกติกานั้น ล้วนจบเห่ในการแข่งตอนช่วง 4-5 นาทีแรกกันอย่างไม่ต้องสงสัย"

              "คงไม่ได้หมายความว่า พวกนี้เล่นผิดกติกากันด้วยสิน่ะ" จิลบอก

              คลอเวฟบอก "ถ้าเป็นเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนละก็ มันเป็นเช่นนั้นเองแหละ หากแต่พวกนั้นแน่ใจว่าพวกเราต้องแพ้ในการแข่งนี้แน่ๆ" แล้วก็นำลูกบอลออกมา "แต่จะดีมาก หากเวลา 2 เดือนบนดาวนี้ ช่วยให้พวกนายรู้วิธีการเล่นได้อย่างชัดเจน จนเอาไปสอนพวกเฮเรเค้นให้เล่นด้วยกันน่ะ"

              "ถ้าสอนให้พวกเขาเป็นทีมสำรองก็พอว่าไปอย่าง แต่คงให้เอาไปเล่นด้วยวิธีรุนแรงนั้นก็อีกเรื่องกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              คลอเวฟบอก "งั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน นี้คือ ลูกบอลที่ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งกีฬาที่ใช้ลูกบอลขาดเจ้านี้ไปเหมือนกินกับแกล้มแต่ลืมเทเหล้าลงไปด้วย ซึ่งพวกนายคงรู้น่ะ ว่าสแมคบอลเป็นกีฬาที่รวมกีฬาที่ใช้ลูกบอลเล่นทุกอย่างเอาไว้ด้วยกันน่ะ"

              "รู้นานแล้วละ แต่รอนายอธิบายกันนี้แหละ" เจเนลบอก

              คลอเวฟกล่าว "แต่ การใช้ลูกเพื่อทำแต้มนั้น อยู่ๆพวกนายเลี้ยงลูกด้วยเท้าแล้วใช้มือโยนเลยนั้น ไม่ได้แน่ๆ เพราะว่านักกีฬาสแมคบอลเองก็มีหน้าที่ในสนามเหมือนกับตำแหน่งและหน่วย ว่าต้องทำอะไรในสนามกันบ้างน่ะ" แล้วก็นำกระดานเหล็กที่มีแผ่นกระดาษเขียนชื่อตำแหน่งของผู้เล่น "เริ่มจาก รันเนอร์ มีหน้าที่ในการทำแต้มด้วยการนำลูกบุกฝ่าเข้าแดนของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งรันเนอร์ต้องใช้อวัยวะอย่างใดอย่างหนึ่งกับลูก นั้นคือ เท้า คือเลี้ยงลูก ส่งลูกและเตะลูก กับมือ โดยต้องถือลูก โยนลูกและขว้างลูก ซึ่งคนที่ใช้เท้าเลี้ยงลูกนั้นจะไม่มีสิทธิ์ใช้มือรับลูกเป็นอันขาด คนๆนั้นจะถูกลงโทษด้วยแปะแต้มดำไว้บนหลังด้วยกัน"

              "เดียวสิ ถ้าลูกมันพุ่งเข้ามา เราก็ใช้หน้าอกหยุดลูกหรือโหม่งลูกไม่ได้เลยละสิ" ไซโคลเนียบอก

              คลอเวฟกล่าว "คนที่ต้องหยุดลูกที่ลอยสูงนั้น มีแค่รันเนอร์ที่ใช้มือในการเล่นลูกเท่านั้นแหละ เพราะลูกบอลนี้น่ะ..." แล้วก็โยนลูกบอลไปยังเสาไม้ใกล้ๆ "ป้ากกก โครมมม" ลูกบอลนั้นพุ่งอัดกับเสาไม้ตรงหัวจนหักไปค่อนข้างมาก "หนาเกินกว่าที่หัวเราจะโหม่งเข้าประตูได้นะสิ นอกเสียจากต้องตบด้วยมือที่หนาพอ ซึ่งรันเนอร์ที่ใช้มือเล่น จะต้องสวมถุงมือที่หนาเท่ากับมือเนคเกอร์และพีวิลนี้แหละ"

              "พูดง่ายๆเลยน่ะ คนที่อยู่ในตำแหน่งนี้ก็ต้องเล่นตำแหน่งนี้ และไม่มีทางเปลี่ยนตำแหน่งได้ในระหว่างเกมเลยละสิ" สเตฟอร์ดบอก

              คลอเวฟกล่าว "นั้นขึ้นกับสถานการณ์กันน่ะ ว่าผู้เล่นเก่งด้านใดกันบ้าง อีกอย่าง ตอนพักครึ่งเวลา 10 นาทีเองก็สามารถสลับหน้าที่ของผู้เล่นไว้ด้วย หากว่าในบางเกมส์ เราเจอทีมที่เรารับมือด้วยวิธีการเดิมๆไม่ได้เลยน่ะ"

              "อย่างน้อย ก็ยังพอมีกติกากันบ้างละน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              คลอเวฟพูดต่อ "ต่อมาก็ แคชเชอร์ ทำหน้าที่เหมือนกับรันเนอร์ หากแต่มีหน้าที่แย่งลูกที่อีกฝ่ายขว้างมา สกัดขัดขวางผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ไปจนถึง เอาลูกปักลงพื้นสนามเพื่อโยกย้ายตำแหน่งของพวกเราไปยังตำแหน่งที่แคชเชอร์วางลูกเอาไว้กันน่ะ"

              "พูดง่ายๆ ตำแหน่งนี้ก็เหมือนรักบี้และอเมริกาฟุตบอลเลยสิน่ะ" สเตฟอร์ดบอก

              คลอเวฟกล่าว "ใช่ เพียงแต่....เกมส์นี้ไม่มีทัชดาวน์กันหรอก แถมตำแหน่งใกล้กับประตูนั้น คือแดนต้องห้าม ใครเผลอเอาลูกไปปักตำแหน่งนั้นจะถือว่าล้ำเส้น กรรมการจะให้ฝ่ายตรงข้ามชู้ตลูกเข้ามา ซึ่งถ้าฝ่ายเรารับได้ก็จะมีสิทธิ์ชู้ตเข้าประตูได้ในทันที แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามรับได้ ฝ่ายเราจะต้องออกห่างจากโซนใกล้กับประตู โดยขึ้นกับว่าทั้งสองฝ่ายจะกำหนดให้อยู่ระยะใดบ้าง ซึ่งก็ต้องมาวัดดวงด้วยหัวก้อยกัน ซึ่งคนที่ได้ก็จะเริ่มเล่นจากโซนที่ฝ่ายชนะการวัดดวงกันตรงนั้น ซึ่งคงไม่ดีแน่ หากฝ่ายตรงข้าม เลือกระยะใกล้กับเขตประตูของเรามากไปกันน่ะ"

              "แล้วแคชเชอร์ทำแต้มแบบรันเนอร์ได้หรือเปล่าละ" ฟิเกซบอก

              คลอเวฟส่ายหน้า "ไม่ได้หรอก หน้าที่เดียวก็คือ คว้าแย่งลูกที่หลุดเข้ามา ไม่ว่าฝ่ายเราหรือฝ่ายนั้นโยนมาก็ตาม เอาไปปักบนสนามเพื่อเรียกระยะทำคะแนนให้ใกล้กว่า แต่....งานของแคชเชอร์นั้น ไม่ง่ายเลย เพราะมีผู้เล่นที่ทำหน้าที่เป็น...." แล้วก็ชี้มาที่หน้าที่ที่สาม "....บล็อกเกอร์ ตัวสกัดแคชเชอร์และรันเนอร์เอาไว้ ซึ่งมีหน้าที่ในการกระแทกตัวผู้เล่นทั้งสองหน้าที่ รวมถึงบล็อคเกอร์ด้วยกันเองด้วย ซึ่งตัวบล็อกเกอร์มักจะมาพร้อมกับแคชเชอร์หรือรันเนอร์กันเสมอ ที่สำคัญ คนที่ทำหน้าที่บล็อกเกอร์นั้น ล้วนมีมวลร่างกายที่ใหญ่และหนาหนักได้กันทั้งนั้นแหละ"

              "แล้วอย่างจายด์นิ ลงเล่นได้หรือเปล่าละ" จิลถาม

              คลอเวฟตอบ "ได้นะได้อยู่แล้ว แต่ถ้าให้เป็นผู้รักษาประตูละก็ ไม่ได้แน่ๆ เพราะเท่าที่ฟังจากวอฟลี่เล่ามา มีทีมหนึ่งเอาผู้เล่นตัวใหญ่เท่าจายด์มาเป็นผู้รักษาประตู ซึ่งตัวก็ใหญ่จนบังมิดชนิดที่ทำแต้มไม่ได้กันซะทุกครั้ง เลยทำให้ทีมที่หงุดหงิดต้องไปร้องเรียน จนฝ่ายจัดเกมส์ต้องออกกฎว่า คนตัวใหญ่ยักษ์นั้น ทำหน้าที่เป็นบล็อกเกอร์ได้เท่านั้น เพื่อความยุติธรรมระหว่างเกมส์การเล่นกันน่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "และตามกฎที่แถมมา คนตัวใหญ่อย่างจายด์นั้น จะถือว่าเป็นผู้เล่นสองคนในสนาม เพราะต้องใช้บล็อกเกอร์สองคนขัดขวางกันด้วยนะสิ"

              "แต่เกรงว่า จายด์ต้องใช้มากกว่าสามหน่วยกันซะละมั่ง" สเปียริทบอก

              เนคมาดูซัมถาม "แล้วบล็อกเกอร์นิ ทำแต้มแบบรันเนอร์ได้หรือเปล่าละ"

              "นอกจากบล็อกเกอร์จะต้องสกัดกั้นแคชเชอร์จนลูกออกนอกสนาม โต้ตอบการโจมตีของบล็อกเกอร์ฝ่ายตรงข้าม และขวางการทำประตูของรันเนอร์แล้ว การทำแต้มก็มีแค่ การเตะโด่งผ่านเสาสูงหลังประตูนี้แหละ" คลอเวฟกล่าวโดยชี้ไปที่เสาสูงสองเสาที่อยู่หลังโกลประตู "หากแต่ พวกนายมีเวลาเพียง 10 วินาทีในการชู้ตลูก ซึ่งถ้าพวกนายเตะหวืด เตะพลาด หรือถูกคนสกัดการเตะ แม้กระทั่งลูกถูกแย่งไป ก็จะถือว่าพวกนายทำแต้มไม่สำเร็จเลยน่ะ"

              พลัสเชอริทบอก "พูดง่ายๆ ว่าต้องทำแต้มให้ได้เดียวนั้นเลยสิน่ะ"

              "ใช่ เพราะแต้มที่บล็อกเกอร์เตะผ่านเสาสูงนี้ถือว่าสูงมากเลยน่ะ ซึ่งโดยมากแล้ว บล็อกเกอร์จะทำแต้มได้ก็ต่อเมื่อ แคชเชอร์วางลูกได้ก่อนที่บล็อกเกอร์จะแห่มารุมสกัมได้ก่อน หรือขึ้นกับกรรมการกำหนดไว้น่ะ" คลอเวฟกล่าว

              โฟรซ่าถาม "แล้วไม้เหล่านี้ มีไว้ทำอะไรกับลูกได้ละ คลอเวฟ"

              "หลังจากที่แคชเชอร์วางลูกเพื่อเลื่อนตำแหน่งของเราให้เข้าใกล้ฝ่ายตรงข้ามกันใช่มั้ย หลังจากนั้นแหละคือปัญหาละ เพราะไฟบนมุมเสาโกลด้านล่างจะเป็นสีม่วงขึ้นมา ซึ่งในสภาพนี้ รันเนอร์ไม่มีทางชู้ตลูกหรือทำแต้มได้แน่ๆ ดังนั้น......รันเนอร์เลยต้องส่งลูกมาให้กับ แบทเทอร์ ซึ่งมีหน้าที่ใช้ไม้ตบลูกเข้ากระทบกับแผ่นป้ายที่อยู่ข้างสนาม เพื่อทำแต้มสะสมเอาไว้ ซึ่งจะทำให้ไฟสีม่วงดับวูบลง เป็นสัญญาณที่อนุญาตให้รันเนอร์ทำแต้มกันได้นี้แหละ" คลอเวฟบอก โดยชี้ไปยังป้ายสีม่วงที่แปะด้านข้างไว้หลายๆป้ายด้วยกัน "โดยแบทเตอร์ฝ่ายรุกนั้นต้องตีแผ่นป้ายทั้งสองฝั่ง ซึ่งต้องคอยระวัง แบทเตอร์ฝ่ายตรงข้ามที่บุกเข้ามาเพื่อแย่งลูก และตีป้ายไฟด้านข้างที่ทำเอาไว้ให้ดับและตีให้ได้เยอะกว่า ซึ่งเราก็ต้องรีบแย่งลูกให้ได้โดยเร็ว กับ...แคชเชอร์และบล็อกเกอร์ที่บุกเข้ามาแย่งลูก ซึ่งถ้ารักษาลูกไว้ได้ภายใน 30 วินาทีทอง ฝ่ายบุกจะได้แต้มตามที่ตีป้ายไฟได้ในครั้งนั้น แต่ถ้าถูกแย่งลูกไป นอกจากแต้มที่ทำเอาไว้จะถูกโอนไปฝ่ายตรงข้ามแล้ว หากเราเป็นฝ่ายบุกกันอยู่ ก็จะถูกเปลี่ยนสลับให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายบุกแทนนะสิ"

              "ทางเดียวที่จะเปลี่ยนจากฝ่ายรับมาเป็นฝ่ายบุก ก็คือ แคชเชอร์แย่งลูกมาปักพื้นสนามเพื่อขยับโซนของเราเลยสิน่ะ" สเตฟอร์ดบอก

              คลอเวฟกล่าว "ในกรณีที่ฝ่ายเราเป็นฝ่ายรับและทำแบบที่นายว่ามานั้น แบทเตอร์จะต้องตีให้ป้ายข้างสนามเป็นไป 1 ใน 3 อย่างด้วยกัน นั้นคือ ตีให้จำนวนป้ายเรืองแสงมากกว่าครึ่งหนึ่ง ตีให้ป้ายข้างใดข้างหนึ่งสว่างหมด ไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา หรือ ตีให้ป้ายที่ฝ่ายตรงข้ามตีเอาไว้แต่แรกดับให้หมด ซึ่งก็ต้องหลบบล็อกเกอร์ที่บุกเข้ามาด้วย ถ้าทำสำเร็จ พวกเราจะเปลี่ยนจากฝ่ายรับกลับมาเป็นฝ่ายบุก ถ้าไม่สำเร็จ ฝ่ายตรงข้ามก็จะมีสิทธิ์ทำประตูได้ในเวลาต่อมา และถ้าฝ่ายตรงข้ามทำสำเร็จ การเล่นจะย้อนกลับมาตรงกลางตามเดิมน่ะ"

              "แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามทำไม่สำเร็จกันละ" ลิเนียร์ตี้ถาม

              คลอเวฟบอก "ถ้าฝ่ายตรงข้ามทำประตูไม่ได้ การเล่นจะเริ่มจากตำแหน่งล่าสุดที่เล่นกันอยู่ แล้วจะมาวัดดวงว่าใครเป็นฝ่ายบุกหรือฝ่ายรับกันอีกทีนี้แหละ"

              "แล้วอีกตำแหน่งหนึ่งละ" มาสวาร์ทาร์ถาม

              คลอเวฟกล่าว "ตำแหน่งสุดท้ายก็คือ ผู้รักษาประตู ทำหน้าที่ก็คือหยุดลูกที่รันเนอร์ทำประตูกันไว้ ซึ่งรันเนอร์จะทำลูกด้วยการเตะ โยน ขว้างและตบลูกที่ผู้รักษาประตูชกกลับไป ตำแหน่งนี้ต้องอึดกันสักหน่อย เพราะ...." แล้วก็เปิดผ้าคลุมเอาชุดผู้รักษาประตู ซึ่งมีแป้นกลมติดตามหมวก หัวไหล่ หลังแขน หน้าอก ท้อง หัวเข่า แข้ง... "แต่ละเกมส์ จะมีคนกำหนดจุดอ่อนของผู้รักษาประตูกันไว้ ซึ่งถ้าลูกปะทะกับจุดอ่อนที่มีไฟกระพริบขึ้นมา ตัวแป้นนี้จะทำให้ผู้รักษาประตูชะงักหยุด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกคน โหมกระหน่ำซัดลูกแบบตามใจชอบใส่ผู้รักษาประตูภายในเวลา 1 นาทีทอง ซึ่งหากผู้รักษาประตูต้านรับลูกที่กระทบมาได้โดยไม่เข้าประตู ก็จะถือว่าฝ่ายที่ทำแต้ม จะไม่ได้แต้มเลย แต่ถ้าระดมเล่นงานผู้รักษาประตูจนลูกเข้าประตู ฝ่ายที่เล่นงานก็จะได้แต้มตามจำนวนครั้งที่ทำได้ในช่วง 1 นาทีที่ผ่านมากันนี้แหละ ซึ่ง ทีมที่ลงแข่งส่วนมากนั้น จะชอบทำแต้มกันแบบนี้มากที่สุดนี้แหละ" 

              "แบบนั้นมันไม่ยุติธรรมเสียเลยนะคะ กับการรุมทำร้ายผู้รักษาประตูเพื่อเอาแต้มกันน่ะ" แอนเดรียบอก

              สเปียริทกล่าว "แต่ แล้วถ้าเกิดว่าผู้รักษาประตูโดนแบบนั้น แต่ดันมีคนเข้าสกัดทำแต้มขึ้นมากันละ"

              "ถึงเธอไม่ถามถึง ฉันก็จะบอกอยู่นี้ไงละ ว่าคนที่แห่มาทำแต้มนั้น หากมีใครคนใดคนหนึ่งถูกบล็อกเกอร์เข้าเล่นงาน ถูกแบทเตอร์ แคชเชอร์แย่งลูก หรือรันเนอร์เข้ามาปัดลูกออกไป เวลา 1 นาทีทองก็จะจบลง และฝ่ายที่ทำแต้มก็จะไม่ได้แต้ม ไม่ว่าจะทำแต้มจากการรุมสกัมใส่ผู้รักษาประตูไปมากแค่ไหนกันน่ะ" คลอเวฟบอก "แต่ปัญหาก็คือ เกมส์นี้อัตราเจ็บตัวมีสูงและเกิดบ่อยด้วย ถ้าทีมไหน มีสมาชิกตัวหลักที่เหลือไม่ถึงครึ่ง โดยที่ไม่มีตัวสำรองเหลือในทีมเลย ทีมนั้นก็แพ้ไปเลยนะสิ"

              เนคมาดูซัมบอก "และนายกำลังจะบอกว่า ถ้าผู้รักษาประตูเดี้ยงโดยไม่มีใครมาทำแทน ทีมนั้นก็แพ้ด้วยสิน่ะ"

              "ใช่ นั้นไม่ต้องแปลกใจหรอก ที่ส่วนมากมักจะมีผู้รักษาประตูมากกว่า 2 คนขึ้นไปกันน่ะ" คลอเวฟบอก

              สเปียริทกล่าว "และที่ต้องมีตัวสำรองเยอะตั้งหลายสิบหน่วยนั้น ก็เพื่อเอามาแทนคนที่เจ็บตัวไปเลยสิ"

              "แล้วเราจะทำแต้มกับประตูนี้กันยังไงละ" พีวิลถาม

              คลอเวฟเลยชี้มาที่โครงประตูและอธิบายไปว่า "ถ้านายจะทำแต้มแบบฟุตบอล นั้นก็คือเตะเข้าโกลนั้น บอกตรงๆเลยน่ะ ถ้าบอลผ่านโคนเสาขึ้นมาไม่ถึงครึ่ง นายได้ 1 แต้ม ถ้าสูงกว่านี้ คือ 2 แต้มกันน่ะ"

              "จริงดิ นี้แปลว่าถ้าเตะลูกบอลให้สูงระดับหัวก็ได้สองแต้มเลยหรือ" เจเนลบอก

              คลอเวฟกล่าว "ทำนองนั้น แต่บางเกมส์ ถ้าเตะเข้าโกลไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ อาจจะคิด 1 แต้มบ้าง 2 แต้มบ้าง ซึ่งในแต่ละนัด เขากำหนดคะแนนแตกต่างกันไปนี้แหละ" และมาชี้ตรงแป้นวงกลมบนคานเสาด้านหน้า "สำหรับรันเนอร์ที่ใช้มือเล่นกับลูก ต้องทำแต้มด้วยการปาลูกบอลอัดเป้าบนโคนเสานี้ ซึ่งบางครั้ง เป้าจะขยับบ้าง เปลี่ยนตำแหน่งบ้าง เพิ่มเป้าอีก 2-3 อัน แล้วให้ขว้างโดนเป้าที่ให้แต้มได้เท่านั้น ซึ่งเป้าที่ทำแต้มนั้น จะให้แต้มตั้งแต่ 1-3 แต้ม ขึ้นกับว่ากรรมการจะกำหนดมากันนี้แหละ"

              "แล้ว เราสามารถชู้ตเป้าจากตำแหน่งสามคะแนนแบบบาสเก็ตบอลได้หรือเปล่าละ" พีวิลชี้มาตรงตำแหน่งโซนทำสามแต้มซึ่งอยู่ในแนวเฉียงกับประตู

              คลอเวฟส่ายหน้า "เกรงว่านายทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะถ้านายเลี้ยงลูกและซัดลูกอยู่ในโซนระยะใกล้ประตู ซึ่งอยู่ในตำแหน่งชู้ตสามแต้มแบบบาสเก็ตบอล จะถือว่าล้ำหน้า เว้นแต่ นายกระโดดขึ้นสูงและซัดลูกแบบดังค์เข้าอัดใส่แต้มจากด้านบนนั้น ทำได้อยู่แล้ว แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีแรงโดดสูงเข้าขัดขวางนายไปได้เสียก่อนน่ะ"

              "แล้วเรื่องเตะผ่านเสาสูงหลังประตูนั้นละ" สเตฟอร์ดบอก

              คลอเวฟบอก "ถ้าการเตะเข้าโกลและการซัดลูกเข้าเป้าบนคานโกลนั้นมีการกำหนดแต้มในแต่ละนัดใช่มั้ย การเตะลูกผ่านเสาสูงเองก็พอๆกัน หากแต่ กรรมการและคนกำหนดแต้มจะเลือกว่า เราต้องเตะสูงแค่ไหนของเสา เพื่อให้ได้แต้ม หรือถูกลงโทษ ซึ่งต่อให้เตะสูงจนถึงปลายยอดเสาหรืออยู่ล่างลงมาก็ไม่มีทางได้แต้มกันหรอกน่ะ"

              "แล้วแบทเตอร์นิ สามารถเลี้ยงลูกไปให้คนอื่นๆได้หรือเปล่าละ" ไซโคลเนียบอก

              คลอเวฟกล่าว "ได้ เพราะว่าแบทเตอร์มีหน้าที่สกัดกั้นการซัดลูกขว้างและเตะของรันเนอร์อยู่แล้ว และ....โต้ตอบพวกแคชเชอร์ บล็อกเกอร์และแบทเตอร์ด้วยไม้นี้แหละ ซึ่งเป็นอาวุธป้องกันตัวเพียงหนึ่งเดียวที่แบทเตอร์ใช้นี้แหละ"

              "ว่าแต่ ถ้าหวดโดนพวกเดียวกันนิ จะถือว่าฟาลว์เลยหรือเปล่า" สเปียริทบอก

              คลอเวฟบอก "เกรงว่าอย่างเธอน่าจะให้ออกจากสนามกันตั้งแต่ไม้แรกที่หวดใส่ไปแล้วละมั่ง" สเปียริทได้ฟังก็โมโหขึ้นมา จนพีวิลต้องรีบเข้ามาเบรคโดยเร็ว 

              "แล้วนายจะให้ใครเล่นตำแหน่งไหนกันบ้างละ" เนคมาดูซัมบอก

              คลอเวฟกล่าว "....ก่อนอื่นเลย นาย ไปคุมประตูในฐานะผู้รักษาประตู ยัยบื้อ ลิเนียร์ตี้ โฟรซ่า แอนเดรีย แล้วก็ไซโคลเนีย ให้เล่นในฐานะแบทเตอร์ ยัยเปี้ยกจิล พลัสเชอริท ฟิเกซที่มีฝีเท้าไว จะเล่นเป็นแคชเชอร์ สเตฟอร์ด จายด์ลงในตำแหน่งบล็อกเกอร์ สุดท้ายมาสวาร์ทาร์ แอบไบออส พีวิลและเจเนล เล่นในตำแหน่งรันเนอร์กันนี้แหละ"

              "แล้วนายล่ะ" พีวิลถาม

              คลอเวฟบอก "ฉันจะเล่นเป็นบล็อกเกอร์กันนี้แหละ เพราะอย่างน้อย ฉันก็สามารถเข้าชาร์จอัดใส่เฮโลลิคเตอร์ที่เล่นในตำแหน่งรันเนอร์หรือแคชเชอร์ก็ได้น่ะ"

              "แต่ก่อนอื่นเลยน่ะ ฉันขอดูกฎกติกาและวิธีการเล่นให้เข้าใจสักหน่อยจะได้มั้ยละ" มาสวาร์ทาร์บอก

              คลอเวฟกล่าว "ไม่จำเป็นหรอกน่า แค่เราฝึกซ้อมได้ก็เกินพอแล้วละ ฉะนั้น รีบไปฝึกซ้อมกันดีกว่า" 


              แล้วพวกเมนซิกส์ทีนก็ฝึกซ้อมสแมคบอลกันอยู่ใกล้ๆกับไทรแองเกิ้ล ซึ่งคลอเวฟได้ทำสนามเอาไว้แบบเหมือนและใกล้เคียงมากๆ เพียงแต่ว่า....

              "ตึกๆๆๆๆๆ" พลัสเชอริทวิ่งคว้าลูกที่พีวิลซัดมาให้มาสวาร์ทาร์รับ โดยรีบวิ่งมาปักบนพื้นสนามไว้ "ฟึ่บๆๆๆๆๆ" ป้ายสีม่วงปรากฎขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่า "เออ นี้เราต้องมาหมุนป้ายด้วยมือเลยหรือ มันน่าจะใช้ระบบคอมพิวเตอร์กันได้นิ" เมดิน่าบอก

              ชาร์เครฟบอก "อย่าบ่นเหอะน่า ลุงคลอเวฟไม่มีเงินไปซื้อป้ายที่ติดระบบอัตโนมัติกันหรอก"

              "ป้ายมาแล้ว รีบตีเร็วๆเข้าสิ" คลอเวฟบอกโดยยืนอยู่ข้างสนาม ซึ่งลูกบอลโผล่มาตรงหน้าลิเนียร์ตี้อย่างรวดเร็ว "ฟ้าววว" แต่มาเร็วไปหน่อยจนเธอตีไม่ทัน "ยั้ย" จนโดนไซโคลเนียเสียเอง ครั้นลูกบอลอีกลูกพุ่งเข้ามา "หวับบ ป้ากกก" โฟรซ่าหวดตีไปได้จริง แต่ "ป้ากกก" ป้ายกลับหักอย่างจังๆ ซึ่งเฮเรเค้นอยู่โคนป้ายกันพอดี

              "ระวังหน่อยสิ ป้า อย่าหวดแรงได้มั้ยละ"

              "ยัยบื้อ จะถอยให้ลูกอัดหน้าแอนเดรียนะหรือ มันไม่เข้าท่าเลยนะโว้ย" คลอเวฟโวยสเปียริทกันในเวลาต่อมา แล้วก็หันไปโวย "เฮ้ย สเตฟอร์ด วิ่งเร็วๆสิ เดียวบล็อกเกอร์ฝ่ายตรงข้ามมันเล่นนายได้พอดีสิวะ"

              สเตฟอร์ดกล่าว "ก็พยายามกันอยู่นี้แหละ คลอเวฟ"

              "เออ คลอเวฟ ฉันคิดว่า นายเข้าใจผิดเรื่องลูกบอลกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              คลอเวฟกล่าว "เข้าใจผิดเรื่องลูกบอลนะหรือ หมายความว่าไงกันน่ะ"

              "เท่าที่ฉันอ่านวิธีการเล่นมาเมื่อคืน พบว่า ในช่วงที่แคชเชอร์เอาลูกบอลปักลงพื้นนั้น เป็นช่วงที่แบทเตอร์มีโอกาสหวดลูกเพื่อทำแต้มใช่มั้ยละ" มาสวาร์ทาร์บอก "แต่บอกตรงๆน่ะ ว่าลูกบอลที่รันเนอร์และบล็อกเกอร์ใช้ทำแต้มนั้น เขาไม่ได้ให้แบทเตอร์หวดตีกันหรอก เพราะมันมีลูกบอลสำหรับแบทเตอร์ทำแต้มกันอยู่แล้วน่ะสิ" แล้วก็เอาภาพลูกบอลสีม่วงที่มีขนาดเล็กกว่าลูกบอลที่คลอเวฟถือมา

              "นั้นไม่แปลกเลยนิ ที่ลูกบอลนั้นมันกระแทกป้ายแต้มข้างสนามจนหักได้น่ะ" สเปียริทบอก

              "แล้วลูกนั้นมันมาจากไหนกันละ" ลิเนียร์ตี้บอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ลูกนั้นมันจะพุ่งออกจากข้างสนาม ซึ่งแบทเตอร์ฝ่ายที่แคชเชอร์เอาลูกบอลปักลงพื้นไปแล้วต้องรีบใช้ไม้คว้ารับ และตีใส่แผ่นป้ายทำแต้มตามที่คลอเวฟว่ามา เพียงแต่ แบทเตอร์ฝ่ายตรงข้ามสามารถแย่งลูกเพื่อทำแต้มกลับได้เช่นกันนะสิ" แล้วก็ชี้ไปยังไกซ์ที่มีถุงมือกับลูกเบสบอลอยู่ "ที่สำคัญ แบทเตอร์สามารถใช้ไม้แปะติดลูกด้วยส่วนหลังไม้นี้เหมือนลาคอส หากแต่คนๆนั้นจะมีเวลาเพียง 10 วินาทีในการส่งลูกให้แบทเตอร์อีกคน ตีลูกเล่นงานแบทเตอร์อีกฝ่าย หรือทำแต้ม ซึ่งต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นเองนี้แหละ"

              "แล้วทำไมนายถึงไม่บอกเราก่อนละยะ" สเปียริทถาม

              คลอเวฟบอก "ก็ ฉันไม่ได้อ่านกฎวิธีการเล่นละเอียดเท่ามาสวาร์ทาร์เลยนิหว่า" แล้วก็บอกไปว่า "แต่อย่าเสียเวลาเลยดีกว่า รีบฝึกซ้อมกันต่อเถอะ"

              "มันไม่เร็วไปหน่อยเลยหรือ เพราะพวกเราบางคนก็เหนือยกันอยู่น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              สเตฟอร์ดกล่าว "นั้นสิ เรามีเวลาเหลือเยอะอยู่ นายไม่จำเป็นต้องเร่งรีบกันเลยนิหว่า"

              "....." คลอเวฟได้ฟังก็เถียงไม่ออกเลยเดินออกจากกลุ่มไป ไกซ์กล่าว "ผมว่าลุงคลอเวฟคงหงุดหงิด เพราะไม่ได้ดั่งใจเขาไปซะทุกเรื่องกระมั่งครับ"

              สเปียริทบอก "เกรงว่านายบื้อคงจะหงุดหงิดเพราะไอ้ที่คิดและรู้มานั้นไม่ถูกหรือขาดตกบกพร่องไปกระมั่ง"

              "ไม่หรอก คลอเวฟคงจะหงุดหงิดในเรื่องเฮโลลิคเตอร์มากกว่าน่ะ" พีวิลบอก

              ฟิเกซกล่าว "นั้นสิ เพราะเฮโลลิคเตอร์และพวกนั้นเข้ากับพวกเดลอาเนี่ยนแล้ว ดังนั้น พวกเฮโลลิคเตอร์คงได้ฝึกอย่างสบายๆด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยกว่าและเหนือชั้นยิ่งกว่าแน่ๆเลยละ"

              "แต่ต่อให้ฝึกจนสามารถเล่นแบบชั้นเซียนได้ ก็ย่อมมีปัญหาบาดเจ็บกันขึ้นมาแน่นอน ดังนั้น เราค่อยๆฝึกไปกันดีกว่าน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              จายด์กล่าว "กลัวว่าคลอเวฟจะยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมนะสิ"

              "เออ ว่าแต่ให้เราร่วมฝึกด้วยหรือเปล่าละครับ" ไกซ์บอก

              เจเนลกล่าว "ด้วย เพราะคงไม่ดีแน่ๆ หากพวกเราร่วงหมดทั้งทีม แล้วพวกเธอทำอะไรกันไม่ได้น่ะ" โดยให้เฮเรเค้นและพวกที่อยู่ขอบสนามไปเรียกพวกพ้องลงมาร่วมการฝึกแบบนี้

              "ให้ตายสิน่า ขนาดเอาพวกเฮเรเค้นมาร่วมฝึกนั้น มันไม่ค่อยเวิร์คกันเลยน่ะ" คลอเวฟบ่นหลังจากที่พวกเนคมาดูซัมให้พวกเฮเรเค้นมาร่วมฝึกกันในวันที่ 2 ถึงวันที่ 6 ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย

              "แต่อย่างน้อยพวกเขาก็พยายามได้ดีแล้วน่ะ คลอเวฟ" สเตฟอร์ดบอก

              "แต่มันยังไม่พอนะสิ สวอนน่า บัลตาฟรีทำลูกหลุดยังไม่เท่าไหร่ เทรอนเร็กซ์ แบร็อค บุลพลาทบุกกระแทกและแย่งลูกมาทัชดาวน์กันอีก ทั้งๆที่มันเป็นหน้าที่ของแคชเชอร์กันวะ" คลอเวฟวิจารณ์

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "นั้นเป็นความผิดพลาดเล็กๆสำหรับคนที่พึ่งฝึกหัดกันน่ะ คลอเวฟ ซึ่งเราค่อยๆฝึกให้พวกเขารู้ว่าอันไหนควรทำอันไหนไม่ควรทำน่ะ"

              "กว่าจะฝึกให้รู้ว่าต้องทำอะไรบนสนามได้ พวกเฮโลลิคเตอร์มันก็พร้อมลงแข่งได้ในทันทีแล้ววะ" คลอเวฟบ่น "ถ้าขืนเป็นงี้ เราได้จบเห่แน่ๆเลย เฮโลลิคเตอร์คงไปไกลจนฉันเข้าไปกระทืบมันไม่ได้แล้ววะ" แล้วก็เดินออกไป

              เจเนลบอก "กลัวว่าคลอเวฟจะมโนไปเองกระมั่ง ว่าเฮโลลิคเตอร์อยู่กับพวกเดลอาเนี่ยนแล้ว มันเก่งและแน่กว่าพวกเรากันน่ะ"

              "คลอเวฟระแวงและหวั่นเกรงแบบนั้นก็ไม่แปลกหรอก หากแต่มันไม่ควรจะเป็นเหตุผลที่ไปกระตุ้นให้คลอเวฟเร่งการฝึกซ้อมกันแบบนั้นเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              โฟรซ่ากล่าว "เพราะขนาดพวกนายที่รู้ว่าเกมส์เป็นยังไงเอง ก็ยังไปไม่เป็นแบบนี้ ลูกนกเองไม่มีทางบินได้เหมือนนกตัวโตกันหรอก หากปราศจากขนนกที่เหมาะสมซึ่งได้ตามกาลเวลากันเลยน่ะ"

              "สงสัยว่าฉันคงต้องเตือนคลอเวฟกันสักหน่อยแล้วละ" เนคมาดูซัมกล่าว

              พีวิลบอก "งั้น พวกเราจะอธิบายวิธีการเล่นให้พวกเฮเรเค้นเองแล้วกันน่ะ" แล้วเนคมาดูซัมก็เดินตามหาคลอเวฟที่ยืนอยู่บนเขากันไว้

              "พีวิลและมาสให้นายมาเตือนฉันอีกละสิ" คลอเวฟถาม

              เนคมาดูซัมบอก "ถึงทั้งคู่ไม่ได้ขอร้อง ฉันก็ต้องมาเตือนนายกันอยู่ดีนี้แหละ ว่านายไม่ควรเร่งรีบกันเกินไปน่ะ จนทำให้ลูกทีมตัวรองของพวกเราไม่พอใจกับการฝึกแบบกดดันเลยน่ะ" 
              "แต่ถ้าไม่ทำอย่างงั้น มีหรือที่พวกเราจะเอาชนะไอ้เฮโลลิคเตอร์และลูกทีมเก่งๆของมันได้น่ะ ถ้าขนาดวอฟลี่และพวกยังฝึกแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปแบบนี้ ถึงจะลงสนามได้ ก็คงไม่มีทางชนะไอ้พวกเดลอาเนี่ยนกับพันธมิตรตัวหลักของพวกมันไปได้หรอกน่า" คลอเวฟบอก

              เนคมาดูซัมบอก "เรื่องเฮโลลิคเตอร์และพวกนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาของนายแค่ตนเดียวหรอกน่ะ แต่มันเป็นปัญหาขนานใหญ่ของพวกเราที่ระบบอีสทาล่ากันทั้งหมดด้วย เพราะว่าเฮโลลิคเตอร์เป็นคนทรยศต่อกองทัพของเรา และมันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องหยุดยั้งเฮโลลิคเตอร์กับพวกไม่ให้ไปไกลกว่านั้นน่ะ" แล้วก็เดินเข้ามา "เพียงแต่ ฉันต้องการความร่วมมือจากนายในการช่วยพาพวกเราเข้าใกล้ตัวเฮโลลิคเตอร์กับพวก ซึ่งลงแข่งสแมคบอลที่พวกเดลอาเนี่ยนจัดขึ้นมา อย่างน้อย นายหัดใจเย็นและอดทนอดกลั้นกันบ้างสิ"

              "มึง คงไม่รู้หรอกน่ะ ว่าไอ้เวรปากดีนั้น ไม่ได้แค่ว่าฉันอย่างเดียว แต่มันว่าปมด้อยของฉันที่ถูกเมอริด้าปฏิเสธ ซึ่งมันเป็นเรื่องในอดีตที่ฉันไม่ต้องการให้ใครพูดถึง และฉันควรจะให้เรื่องนี้มันลืมเลือนไปแล้ว แต่ไอ้เวร มันรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาให้รู้สึกเจ็บปวดกันไม่ว่า มันยังล้อเล่นกับฉันเหมือนเรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกันแบบนี้ คิดว่าฉันจะยอมยกโทษให้กับความไม่รู้ของมันเลยหรือ" คลอเวฟอ้าง

              เนคมาดูซัมบอก "แต่ถึงกระนั้น นายก็ไม่น่าไปใช้กำลังกับเฮโลลิคเตอร์กันเลยน่ะ เพราะฉันก็รู้ว่าหมอนี้ยั่วโมโหคนอื่นเพื่อหวังให้คนๆนั้นมันโดนลงโทษที่เป็นคนลงมือกระทำก่อน ทั้งๆที่หมอนั้นเป็นตัวเริ่มแล้วแท้ๆ ซึ่ง ฉันคิดว่าการที่นายโมโหที่ชนะเฮโลลิคเตอร์ไม่ได้นั้น เพราะว่านาย แพ้เฮโลลิคเตอร์ในเรื่องความอดทนอดกลั้นกันไปแล้วนะสิ"

              "ก็นั้นแหละ คือเหตุผลที่ฉันต้องรีบกระตุ้นพวกเฮเรเค้นหรือแม้กระทั่งพวกนายให้รีบเก่งขึ้นยังไงละ อย่างน้อย พวกเราก็ผ่านการแข่งขันไปได้ทุกรอบจนถึงรอบชิงชนะเลิศกันอยู่แล้วละน่า" คลอเวฟอ้าง

              เนคมาดูซัมบอก "แล้วพวกเราบาดเจ็บไปทีละคนสองคนจนไม่เหลือตัวสำรองเลยนะหรือ พ่อของฉันเคยว่าไว้ หัวหน้าที่ทำอะไรโดยใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสินใจหรือแม้กระทั่งเอาความโกรธ โทสะ ความไม่พอใจคนๆหนึ่งมาเป็นตัวกระตุ้น จะเป็นการสร้างความกดดันให้ผู้ใต้บังคับบัญชาการขึ้นโดยไม่รู้ตัว จนทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่ายๆเพราะว่าถูกสั่งให้ทำอย่างงั้นอย่างงี้ แบบเร่งด่วนหรือต้องให้ได้ผลขึ้นมากันน่ะ" แล้วก็พูดต่อไปอีกว่า "ซึ่งเพื่อนพ้องของฉันที่ทำตัวแบบนายนั้น ล้วนทำทีมเจ็งและพังไปไม่รู้กี่ตนต่อกี่ตนกันแล้ว ที่แย่ที่สุดคือ มีทีมหนึ่งที่ยังไม่ออกปฏิบัติการณ์เลย ก็แตกคอกันเองจนถูกปลดจากกองรบโดยถาวรและไล่ให้กลับไปที่แกตโตเดี่ยน แล้วไม่ให้ออกมาอีกเลย เพราะว่าตัวลูกน้องโกรธและเกลียดหัวหน้าที่ใช้อารมณ์กดดันจนเครียดและคุมสติไม่อยู่กันน่ะ"

              "ที่นายพูดมานิ ส่วนหนึ่งเพราะนายเห็นและเจอมากับตัว หรือว่า นายเป็นคนกระทำเสียเองอย่างงั้นละสิ" คลอเวฟกล่าวแบบเป็นต่อ

              เนคมาดูซัมกล่าว "ถึงฉันจะเจอเรื่องแบบนี้กันเยอะหลังจากที่อยู่ในกองทัพของคุณพ่อมาแล้วก็จริง แต่ฉันก็ฉลาดมากพอที่จะไม่ใช้อารมณ์เป็นตัวกระตุ้นกันหรอก ถึงแม้ว่าพวกเรามีสิทธิ์โกรธ มีสิทธิ์แค้น มีสิทธิ์ที่จะแสดงความไม่พอใจกันบ้าง แต่ก็ไม่เกินเลยกันนี้แหละ" แล้วก็บอกว่า "ในฐานะที่คนที่เคยเจอมาแบบนี้ ฉันขอร้องให้นายหยุดทำตัวแบบนี้เสียทีได้มั้ยละ"

              "คงยากวะ โดยเฉพาะกับนายแล้ว ฉันไม่มีทางทำตามที่นายขอกันหรอก เนคเกอร์....ต่อให้นายเป็นหัวหน้าคุมทั้งทีม แต่ฉันคนหนึ่งละ ที่จะไม่รับฟังคำสั่งของนายกันน่ะ" คลอเวฟบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "หรือ....แต่.....ฉันลองมาพิจารณาดูอีกทีกันน่า ว่า....เหตุผลที่เพื่อนพ้องร่วมรุ่นที่นอกเหนือจากการ์ดเชสเตอร์ก็ดี รุ่นน้องของนายที่เป็นเพื่อนกับไพล์มเทคและเมอริด้าก็ดี ล้วนแล้วเลือกจะสวามิภักดิ์และยอมเป็นเครื่องมือให้เกซเฟลิคนั้น คงเพราะว่า...." แล้วก็พูดต่อไปว่า "......นายเป็นซะอย่างงี้นี้เองสิน่ะ ถึงได้ทำให้ลูกน้องใต้บังคับบัญชาหรือแม้กระทั่งรุ่นน้องรวมหัวกับไพล์มเทคและเมอริด้ามาทรยศกับนาย โดยที่การ์ดเชสเตอร์พยายามเตือนแต่นายไม่ฟังเสียเองเลยสิน่ะ"

              "ฉันคิดว่าแค่เฮโลลิคเตอร์คนเดียวก็เกินพอแล้ว สงสัยว่าฉันขอตะบันหน้านายสักหน่อยแล้ววะ" คลอเวฟกล่าวแล้วก็ "เปรี้ยงงง" ต่อยใส่เนคมาดูซัมจนถอยครูดไป

              "โอ้ว นายทำตัวเหมือนตอนที่เฮโลลิคเตอร์ยั่วยุนายแบบนี้จนได้สิน่า สงสัยคงต้องเตือนสติด้วยกำลังแล้วละ" เนคมาดูซัมก็ "ป้ากกก" กระแทกหัวไหล่อัดใส่คลอเวฟให้ถอยไป "ว้ากกกก" คลอเวฟเลยทะยานขึ้นสูงโดยไม่ใช้ไฮโดรแทงค์กลางหลังเป็นตัวทะยาน แล้วก็ "วอร์ชีปดรอป" โดดถีบขาคู่เข้าใส่เนคมาดูซัมอย่างจังๆ ซึ่งก็บล็อกด้วยแขนขวาไว้ และ "หมับบบบบ" ใช้มือซ้ายคว้าจับขาและ "หวับๆๆๆๆๆๆ" จับเหวี่ยงวนรอบไปหลายรอบก่อนจะทุ่มออกไป "ครืดดดดด" แต่คลอเวฟรีบพลิกตัวเอาเท้าลงพื้นจนครูดไปข้างหลังอย่างจังๆ แล้วก็ "กร้องงงง" กระแทกหัวไหล่เข้าใส่เนคมาดูซัมจนถอยไป 4 ก้าวด้วยกัน "กร้องงงง" เนคมาดูซัมพุ่งเอาหัวไหล่กระแทกใส่ไปบ้าง จนคลอเวฟถอยไป 8 ก้าวกว่าจะทรงตัวไว้ได้ "บอกตรงๆน่ะ ว่าถ้านายรู้สึกเหมือนที่นายเคยถูกหักหลังจากพวกเกซเฟลิคละก็ ต่อให้นายพยายามแค่ไหน นายก็ไม่ชนะหรอกน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              "หุบปากไปเถอะน่า นายไม่เคยถูกหักหลังแบบฉัน และไม่เคยถูกล้อเลียนปมด้อยในอดีตกันแบบนั้น นายก็คงไม่รู้สึกแบบฉันเองละวะ" คลอเวฟกล่าว

              เนคมาดูซัมบอก "แต่ถึงกระนั้น นายก็ไม่เอาอารมณ์มาอยู่เหนือสติกันหน่อยเลยดีกว่าน่า" แล้วก็ "ปึกกก" ใช้สองมือประลองพละกำลังใส่กัน "ถ้านายใช้อารมณ์ในการกระทำทุกอย่างขึ้นมา คิดว่านายจะเอาคืนพวกแอตแลนไทซ์ของเกซเฟลิคได้มั้ยละ นายโต้ตอบพวกมันโดยไม่ให้พวกพีวิลต้องตายกันได้มั้ยละ หรือแม้กระทั่งได้ตราของนายคืนมาแถมได้นอร์ติลุสนิ ทั้งหมดนี้มันไม่เกิดขึ้นแน่ ถ้านายรีบร้อนอยากเอาชนะเร็วๆกันน่ะ"

              "แล้วจะปล่อยให้ไอ้เวรปากดีมันแซงหน้าเราไปได้เลยหรือวะ" คลอเวฟบอกโดยที่ถูกเนคมาดูซัมกดลง

              เนคมาดูซัมกล่าว "เราต่างก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่ๆ แต่ก็ไม่ควรให้เรื่องนี้มาบีบบังคับให้นายต้องเร่งรัดทุกๆคนกันไว้ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่พร้อมกันนั้น ถ้าให้เขาลงมือกระทำโดยที่ยังฝึกไม่เข้าที่กันจริงๆ ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้แน่นอนกันน่ะ"

              "กว่าไอ้ปากดีนั้นมันทำพลาดขึ้นมาก็อีกนานเลยวะ" คลอเวฟแย้งพร้อมกับ "ป้ากกกก โครมมม" ใช้สองขาถีบเนคมาดูซัมกระเด็นออกไป แล้วก็รีบลุกขึ้นมาหมายจะทิ้งตัวกระแทกใส่เนคมาดูซัม "หมับบบ" แต่เนคมาดูซัมรีบลุกขึ้นมาคว้าจับคลอเวฟด้วยแขนทั้งสองข้างแล้วก็ "หวับ โครมมม" หมุนตัวไปรอบหนึ่งเพื่อเหวี่ยงคลอเวฟให้ล้มหน้าทิ้มดินไปเอง ซึ่งคลอเวฟรีบลุกขึ้น

              "แปะๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไรก็มีเสียงตบมือขึ้นมา "อ้าว ไม่ต่อยกันเลยหรือ อุตสาห์นั่งดูอยู่ตลอดเวลาเลยน่ะ" และมีเสียงคนพูดมาด้วย

              "เสียงนี้.....มึงโผล่มาตอนไหนกันแน่วะ ไอ้มือป่วน" คลอเวฟได้ฟังก็บ่นแกมด่าตัวการที่เข้ามาห้ามมวยไว้ก่อน ซึ่งคนๆนั้นก็คือ

              "กะแล้วว่านายคงต้องโผล่มาหาเรา แต่แอบอยู่ห่างๆ เพื่อเลี่ยงสายตาจากเราและหมอเดเมี่ยนเลยสิน่ะ ไซเมี่ยน" เนคมาดูซัมบอก

              "แค่รู้ว่ายานรบของพวกนายโผล่มาที่ระบบอวกาศนี้เป็นหนที่สอง เพื่อตามหาคลอเวฟที่โผล่มานั้น มีหรือที่จะไม่มาหากันน่ะ" ไซเมี่ยน แมนิเกเตอร์ยอดมือป่วนชื่อดังกล่าวโดยโดดลงมาจากก้อนหินที่ใช้เป็นเก้าอี้ นั่งดูการต่อยตีของเนคมาดูซัมและคลอเวฟ "แต่คงไม่ต้องให้พวกนายเล่าหรอก ว่าที่นายหลุดเข้ามาในระบบอวกาศนี้ มันเพราะอะไรกันน่ะ"

              คลอเวฟบอก "งั้นก็ดีแล้วละ อย่างน้อยนายก็ไม่ต้องเสียเวลาถามเราแล้ว และช่วยไสหัวไปไกลๆได้มั้ย เพราะนายขัดจังหวะฉันจะหาเรื่องกับเนคเกอร์กันวะ"

              "เกรงว่าถ้าฉันไปแล้ว คงไปยาวเลยน่ะ เผลอๆ ฉันอาจจะไปพร้อมกับข้อมูลอัพเดตล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับเสือผู้หญิงฮัลโหลลิคเตอร์กันน่ะ" ไซเมี่ยนยื่นข้อเสนอแจ่มๆให้กับคลอเวฟ โดยจงใจพูดชื่อเฮโลลิคเตอร์ผิดให้ฟังด้วย ซึ่งก็ได้ผล

              "เดียวๆ เดียวก่อน ไอ้มือป่วน หวังว่าไอ้ที่นายว่ามาคงไม่ได้โกหกใช่มั้ยละ"

              "อย่าลืมสิ ว่าตลอด 4-5 เดือนที่ผ่านมา ฉันอยู่ในระบบอวกาศนี้จนรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเดลอาเนี่ยนอย่างชัดเจน และได้ข้อมูลจากคนวงในที่ไม่พอใจในการกระทำของพวกเดลอาเนี่ยน รวมถึงไปร่วมกับกองกำลังต่อต้านมหาจักรวรรดิ์กันหลายกลุ่มด้วยกัน โดยเฉพาะข้อมูลล่าสุดนิ ไม่ได้มาง่ายๆเลยน่ะ" ไซเมี่ยนกล่าว "ซึ่งฉันมานี้ก็เพื่อแจ้งข้อมูลสำคัญให้กับวอฟลี่และพวก รับทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับกองกำลังต่อต้านกลุ่มอื่นๆกันน่ะ"

              เนคมาดูซัมบอก "แปลว่านายคงมาถึงนี้ก่อนแล้วละสิ"

              "ถูกต้อง เพราะว่ากองกำลังต่อต้านที่ฉันรู้จักด้วยนั้น ส่งข่าวร้ายมาให้ และรีบให้ฉันทำหน้าที่ม้าเร็วมุ่งหน้าไปบอกกับพวกวอฟลี่กันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้น่ะ" ไซเมี่ยนกล่าวอย่างซีเรียส "หากแต่ ฉันจะบอกว่า ไอ้เสือผู้หญิงฮัลโหลลิคเตอร์นั้น มันกับพวกอยู่ฝึกกับกองกำลังทหารเดลอาเนี่ยนกันแล้วนะสิ"

              คลอเวฟบอก "ถึงนายไม่บอก ฉันก็ทราบอยู่แล้วละน่า หากแต่....ที่นายเอ่ยชื่อไอ้ปากดีนั้นว่าเป็นเสือผู้หญิงนิ อิจฉามันมากเลยสิน่ะ"

              "ถ้านายเกลียดไอ้หมอนี้เพราะมันปากดีละก็ ฉันไม่ชอบไอ้หมอนี้ในเรื่องเป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อนะสิ" ไซเมี่ยนกล่าว "พวกเพื่อนหญิงที่ฉันรู้จักกันตั้งแต่เด็กๆมาจนเรียนมหาวิทยาลัยนั้น ติดต่อหาฉันมา ว่าเพื่อนสาวของเธอถูกหักอกจากนายฮัลโหลลิคเตอร์บ้าง คู่อริมาตบหน้าเพราะไปแย่งไอ้หมอนี้บ้าง ไอ้หมอนี้คิดอยากจะแอ้มเธอบ้าง แถมยังหลีผู้หญิงในสถาบันศึกษากันตั้งหลายคนด้วยระบบสื่อสารทุกประเภท ตั้งแต่มือถือยันอินเตอร์เนต แล้วก็ได้แอ้มผู้หญิงตั้งหลายคนแบบนี้ อย่าว่าแต่พวกผู้ชายที่เป็นชาวซัลคาเลี่ยนเหมือนกับฉันเลย ขนาด ครูเรมมิสได้ฟังฉันเล่าเกี่ยวกับไอ้ฮัลโหลลิคเตอร์นั้นมา ยังคอมเมนท์มาเลยน่ะ ว่า รีบแอ้มผู้หญิงที่อยู่ใกล้ฉันมากที่สุดโดยเร็ว เพื่อตัดหน้าไอ้ฮัลโหลลิคเตอร์กัน ซึ่งก็ได้ผล เพราะรายต่อมา ก็คือซาดูร่านี้แหละ"

              คลอเวฟบอก "และนาย ก็คงมีไอเดียที่อยากจะบึมเป้าของไอ้ปากดีนั้นเลยสิน่ะ"

              "นายก็น่าจะรู้ดีแล้วนิ ว่าฉันทำไม่ได้หรอก ถึงทำอย่างงั้นได้ ฉันก็ต้องถูกทหารที่ดาวแรซัลก้าจับได้อยู่ดี เพราะฉันไปก่อคดีมาเยอะจนต้องลี้ภัยมาอยู่ในเขตดาวของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ และอาศัยอยู่กับพวกแมนิแฟคเตอร์ตามดาวต่างๆกันนี้แหละ" ไซเมี่ยนให้เหตุผล

              เนคมาดูซัมกล่าว "นั้นไม่แปลกหรอก เพราะว่านายไปทำร้ายลูกขุนนางจนต้องนั่งรถเข็นโฮเวอร์คราฟ เนื่องจากว่าลูกขุนนางนั้นร่วงตกจากที่สูงกัน แม้ว่าคนเจ็บจะเป็นคนหาเรื่องนาย แต่นายก็ยังเดือดร้อนอยู่ เพราะว่าขุนนางคนนั้นดันเป็นเพื่อนกับคนในกองทัพกัน จนพ่อนายต้องส่งนายไปเรียนนอกระบบดาวพร้อมชาวซัลคาเลี่ยนตนอื่นๆเป็นการถาวรด้วยนะ"

              "แล้วในเมื่อนายรู้ว่าเฮโลลิคเตอร์อยู่กับพวกเดลอาเนี่ยนกันนิ นายรู้อะไรนอกเหนือจากนี้กันบ้างละวะ" คลอเวฟกล่าว

              ไซเมี่ยนบอก "เออ จะว่าอะไรมั้ย หากฉันไปคุยกับพวกนายในยานอวกาศสามเหลี่ยมที่ใครๆต่างเล่าลือกันด้วยน่ะ" คลอเวฟมองหน้าเนคมาดูซัม ซึ่งพยักหน้าให้

              คลอเวฟเลยจำต้อง "ได้ แต่ขออย่างเดียวน่ะ ถ้านายคิดแฮคระบบคอมพิวเตอร์คุมยานของเราละก็ นายได้ทำให้หมอเดเมี่ยนมีงานเยอะแน่ๆ"

              "เออ คนๆนี้นะหรือ ยอดมือป่วนที่เปิดโปงโฉมหน้าของยอดวีรบุรุษแห่งอากรีเดี่ยมและพวก ว่าเป็นคนทรยศและไม่หวังดีต่อพวกท่านประธานาธิบดีและสมาพันธ์อวกาศกันน่ะ" ฟูลออเรสกล่าวเมื่อเห็นไซเมี่ยนมากับเนคมาดูซัมและคลอเวฟ

              ไกซ์บอก "ใช่ คุณไซเมี่ยนเป็นยอดมือป่วนชื่อดังที่ไม่มีใครไม่รู้จักกันแน่นอนนะสิ"

              "ที่ว่าเป็นเพื่อนกับอดีตหัวหน้าแก็งค์โจรกรีเดี้ยนโร็คที่พวกรุ่นพี่อีธานเล่าให้ฟังบ่อยๆนะหรือ" เมดิน่ากล่าว

              ดิเรนท์บอก "ไม่ใช่แค่เพื่อนหรอก เพราะคุณไซเมี่ยน เป็นแฟนของคุณซาดูร่ากันด้วย แถมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากๆเลยน่ะ"

              "ถึงขั้นที่ว่า คุณซาดูร่ากินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน เอาแต่เพ้อถึงคนๆนี้ละสิ" ฟูลออเรสกล่าว

              เฮเรเค้นกล่าว "เปล่า คุณซาดูร่ากับคุณไซเมี่ยนลึกซึ้งถึงขั้นที่ว่า ทั้งคู่มีอะไรกันบนเตียงแบบเร้าร้อนมากๆวะ" เท่านั้นแหละ เมดิน่าหน้าแดงแป้ดขึ้นมา

              "แถมดันไปทำต่อหน้าพวกครูที่มาร่วมแอบดูไซเมี่ยน หลังจากที่เจอเขาแน่นิ่งอยู่ในโคโลนี่ที่พวกโซลูนาสตี้บุกนะสิ" ฟลาแน็กซ์บอก

              ชาร์เครฟกล่าว "ขนาดลุงผบ.บัลโต้เองก็แอบบันทึกคลิปโป๊สดๆมา แต่โดนผู้การเฮลิคและท่านประธานาธิบดีสั่งลบเสียก่อนน่ะ"

              "เออ ดีแล้วละ ที่หนังโป๊สดนี้โดนลบก่อน ไม่งั้น นายคงได้ดูนอกเหนือจากหนังการ์ตูนหุ่นยนต์อีกละสิ" เมดิน่ากล่าว

              ฟูลออเรสหน้าเจือนลงเพราะอยากจะดูหนังโป๊บ้าง แต่นึกขึ้นมาได้ว่า "เอ้ ว่าแต่ ทำไมยอดมือป่วน หน้าตามันเหมือน กับใครบางคนหรือเปล่าละนิ"

              "คุณไซเมี่ยนหน้าตาเหมือนใครบางคนก็ไม่แปลกหรอก เพราะว่าคุณไซเมี่ยน เป็นน้องชายฝาแฝดของหมอเดเมี่ยนนะสิ" ไกซ์กล่าว

              ฟูลออเรสอุทานขึ้นมา "จริงดิ แต่ถ้ายอดมือป่วนนั้นเป็นน้องชายฝาแฝด ก็น่าจะเคี้ยวบุหรี่เหมือนหมอบ้างสิ"

              "คุณไซเมี่ยนไม่สูบบุหรี่กันหรอก เพราะเขาถนัดเรื่องวางระเบิดซึ่งไม่ถูกกับไฟแช็คกันอยู่แล้วละน่า" มิลด์บอก "และเขาเลียนแบบพี่ชายตรงที่เขี้ยวบุหรี่ทั้งซองเหมือนกินของคบเคี้ยวก็ไม่ได้เสียด้วย หากแต่ถ้าใส่ชุดกราวและสวมสายตรวจหน้าอกละก็ น่าจะได้บ้างละน่ะ"

              เมดิน่าบอก "แต่ ถ้าเขาเป็นฝาแฝดกับหมอเดเมี่ยน งั้นพวกนายก็โดนเขาหลอกแบบนั้นด้วยสิ"

              "นั้นแหละคือเรื่องยุ่งที่คุณไซเมี่ยนก่อเรื่องไว้กับเราน่ะ แม้ว่าสิ่งที่เขาจะทำหลังจากที่พวกลูกพี่ช่วยเขาเอาไว้นั้น คือการเปิดโปงโฉมหน้าของแพททริคและพวกให้ทุกฝ่ายในจักรวาลนี้รับรู้กันก็ตาม แต่นั้นก็ทำให้แพททริคที่จนตรอกหาเรื่องหลบหนีไปอยู่ฝ่ายแรซัลก้าตามที่ไซมาเทนต้องการกันจนได้ละน่า" ไกซ์บอก

              ฟูลออเรสกล่าว "และคงจะหนีมาที่ระบบอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยน ก็เพราะไปก่อเรื่องมากมายสารพัดจนมีคนตามล่ากันเลยสิน่ะ"

              "โว้ว นี้มัน ไม่ได้ล้อเล่นแล้วละสิ" สเตฟอร์ดกล่าวหลังจากที่ฟังไซเมี่ยนเล่าในสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับเฮโลลิคเตอร์ "พวกเฮโลลิคเตอร์ได้รับการสนับสนุนจากราชทายาทเดลวูลกัน โดยให้ฝึกกับเหล่านักกีฬาสแมคบอลชาวเดลอาเนี่ยน ซึ่งเป็นระดับพระกาฬและผ่านสมรภูมิรบน้อยใหญ่มาหลายศึกด้วยกันน่ะ"

              คลอเวฟบอก "นายบอกว่าไอ้ปากดีนั้น มันได้ราชทายาทของมหาจักรพรรดิ์สนับสนุนนิ คงไม่ได้หมายความว่าไอ้ราชทายาทนั้นมันทรงอิทธิพลมากละสิ"

              "ใช่ ราชทายาทเดลวูลนั้น เป็นราชทายาทองค์โตของมหาจักรพรรดิ์เดลมูดัลองค์ปัจจุบัน ซึ่งไม่เพียงมีความฉลาดรอบรู้กันอย่างเดียว แต่เขาเป็นเพื่อนกับทายาทของผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ รวมถึงทางทหารกันตั้งหลายคน แถมมีความรู้ความสามารถในการดำเนินการอันชาญฉลาดอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแค่พวกเดลอาเนี่ยนด้วยกันเอง แต่หมายรวมไปถึงเผ่าหลักอีก 12 เผ่ากันอีกด้วย ซึ่งจะสนับสนุนและช่วยเหลือเขาได้อย่างเต็มที่ หากเขาขึ้นครองราชย์แทนเดลมูดัลกันไม่ช้าเลยน่ะ" ไซเมี่ยนกล่าว

              เดเมี่ยนถาม "นายบอกว่า เดลวูลจะขึ้นครองราชย์นิ หมายความว่าองค์มหาจักรพรรดิ์เดลมูดัลมีปัญหาจนว่าราชการไม่ได้ละสิ"

              "ข่าวจากวงในที่เชื่อถือได้บอกมา ว่าหมอหลวงในราชวังได้สั่งยาพวกนี้เข้าวังมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งผมเอาสำเนาลิสต์ชื่อยาเหล่านี้มาเพื่อให้พี่ช่วยดูสักหน่อยนะครับ" ไซเมี่ยนเอาแผ่นโฮโลแกรมที่เป็นลิสต์ชื่อยาดังกล่าวให้เดเมี่ยนตรวจสอบ

              "ไหนดูสิ แอมเพทีน ดาเดนโดมิน นิวจิลิน เจอาซอยดีน บาซูรีน ไวตามินเบต้า เซต้า เดลต้า อีต้า เฮฟต้า อัลฟ่า-4 ลังแคทีน ลิเวอแคทีน สไปน์แคทีน ทรอมแฮทแคทีน ดีฟแคสเซี่ยม-56 ซีรีไบร์ทเที่ยม....โอ้ว มหาจักรพรรดิ์เดลมูดัลอาการหนักมากเลยนะเนี้ย"

              "เออ หมอพอจะบอกได้มั้ย ว่าไอ้ชื่อยาที่ว่ามานั้น มันใช้ทำอะไรได้บ้างละ" เจเนลถาม

              เดเมี่ยนบอก "5 ตัวแรกจาก 40 ตัวยานั้นคือยารักษาโรคที่มีอาการระดับกลางและหนักให้หายขาด ส่วนที่เป็นวิตามิน 6 ตัวจาก 30 ชื่อนั้น เป็นยาบำรุงแบบที่ต้องกินทุกมื้อเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรง ส่วนอีก 6 ตัวท้าย จาก 30 ชื่อทั้งหมดนั้น เป็นเคมีบำบัดมะเร็งระยะยาว และต้องทำตามที่หมอกำหนดเอาไว้ตลอดเวลา ซึ่ง....ยาบางตัวที่มีอยู่ในลิสต์นั้น วัตถุดิบเอามาปรุงยาล้วนมาจากดาวที่แตกต่างกัน ซึ่งบางอย่างล้วนหายาก หรือมีแค่ชนิดเดียวที่ดาวดวงนั้นมี ซึ่งไม่สามารถนำเอาออกนอกดาวได้เลยนะสิ"

              "เดียวก่อนน่ะ งั้นที่พวกเดลอาเนี่ยนมันคิดจะบุกเขตอวกาศของสมาพันธ์นั้น ไม่ได้แค่เพื่อยึดครองไว้ในฐานะดาวบริวาร แต่เพื่อหาวัตถุมาปรุงยาให้ไอ้มหาจักรพรรดิ์อย่างงั้นนะหรือ" คลอเวฟบอก

              เดเมี่ยนพยักหน้า "และวัตถุดิบนำมาปรุงยาเอง ถ้าไม่ได้มาจากพืชก็ต้องมาจากสัตว์ ซึ่งวัตถุดิบดังกล่าวล้วนมาจากสัตว์พื้นเมืองในเขตดาวของทางสมาพันธ์อวกาศเท่านั้นนะสิ"

              "หรือไม่ก็ หาวัตถุดิบมาปรุงยาอายุวัตนะเพื่อทำให้เดลมูดัลไม่เจ็บไข้ได้ป่วยและมีอายุยืนยาวสิน่ะ นั้นไม่ต่างจากจิ๋นซีฮ่องเต้ตอนใกล้จะสิ้นพระชนม์จนต้องสั่งให้ออกตามหายาดังกล่าวเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              แอนเดรียกล่าว "แต่เดลอาเนี่ยนมีพันธมิตรที่มีวิทยาการล้ำหน้ามิใช่หรือ ก็น่าจะให้พันธมิตรเหล่านั้นช่วยได้บ้างสิน่ะ"

              "ถ้าเป็นไซเอมนอยด์ละก็ เกรงว่าคงยากน่ะ เพราะต่อให้พวกเขาคิดค้นวิทยาการทั้งหลายแหล่ได้ แต่น่าเสียดายมากๆ ที่เครื่องมือและยารักษาโรคนั้นมันใช้กับชาวเดลอาเนี่ยนไม่ได้นะสิ" ไซเมี่ยนบอก

              คลอเวฟกล่าว "เดียวก่อนน่ะ ถ้าองค์มหาจักรพรรดิ์ป่วยหนักขนาดนี้แล้วละก็ พวกกองกำลังต่อต้านเลยต้องเบนเข็มมาที่ไอ้ราชทายาทเลยละสิ"

              "นั้นแหละคือปัญหาละ เพราะว่าราชทายาทเดลวูลชาญฉลาดมาก ถึงขั้นที่วางแผนให้กองทัพเข้าขัดขวางแผนการของกองกำลังต่อต้านทั้งหลายที่ยังอยู่นี้ แป็กมาหลายครั้งด้วยกัน แถมยังจับกุมและจัดการกับสมาชิกกลุ่มต่อต้านกันด้วย ขนาดส่งมือสังหารหมายจะปลงพระชนม์ ก็ยังติดกับจนถูกกำจัดลงไปได้ตั้งหลายสิบครั้งด้วยน่ะ" ไซเมี่ยนบอก

              พลัสเชอริทบอก "และนั้นหมายรวมถึง เกลี้ยกล่อมและชักจูงมือสังหารให้เข้าร่วมกับตนด้วยละสิ"

              "ใช่ และเพราะเรื่องเดลวูลนี้แหละ ที่เป็นปัญหาในตอนนี้ที่ฉันต้องรีบมา เพราะว่าตอนนี้ กองกำลังต่อต้านที่เตรียมส่งคนเข้าลงแข่งขันสแมคบอลนั้น ถูกเดลวูลจัดการกวาดล้างไป 5 กลุ่มกันแล้วละ" ไซเมี่ยนบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "5 กลุ่มกันเลยหรือ เดลวูลคงไม่ได้แค่ส่งคนติดตามไปจนเจอที่ตั้งของกองกำลังต่อต้านกันละสิ"

              "ไม่ใช่แค่ส่งคนตามหากันอย่างเดียว แต่ยังติดต่อนักล่าเงินรางวัลที่มีความชำนาญในเรื่องการแกะรอยเป็นพิเศษให้ช่วยตามหา รวมถึงกลุ่มนักล่าที่ถนัดในเรื่องการแฝงตัวและแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มอาชญากรรมกันอีกด้วย ซึ่งอย่างหลังนี้แหละ ที่เป็นคนแจ้งให้เดลวูลส่งกองทัพไปปราบปราม ไม่ว่าจะเป็นพวกที่อยู่ในฐานลับทุกแผนก รวมถึงพวกที่จะลงแข่งสแมคบอลกันด้วยนะ" ไซเมี่ยนกล่าว "กลุ่มที่ห้าซึ่งเป็นกองกำลังกบฎดาวกัลโซเด้นั้น ก่อนที่จะถูกพวกเดลอาเนี่ยนจับกุม หัวหน้ากองรีบสั่งให้ฉันนำข่าวไปบอกกับวอฟลี่และพวกไฮกินด้าที่อยู่ที่ดาวดวงนี้รับทราบ เพื่อเตรียมการหลบหนีกันโดยเร็วนะสิ"

              เจเนลบอก "จะไปกลัวกันทำไม ในเมื่อพวกเราอยู่ตรงนี้ ไอ้พวกเดลอาเนี่ยนมันไม่เล่นงานพวกเรากันหรอก"

              "นี้แหละคือปัญหาละ เพราะระบบดาวที่มีสมาคมเหมืองแร่ของเดลอาเนี่ยนตั้งอยู่ โดยที่พวกนายคิดว่าไม่มีกำลังทหารประจำการด้วยนั้น จริงๆแล้ว ในกลุ่มสมาคมเหมืองจะมีทหารนอกเครื่องแบบแฝงตัวเข้ามาปะปนกับชาวเมืองตามดาวต่างๆ ที่ยังไม่ถูกสมาคมเหมืองหรือกองทัพเดลอาเนี่ยนคุมอยู่ แน่นอนว่าพวกนี้ปลอมแปลงได้เนียนมากจนกลมกลืนกับผู้คนในเมืองโดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า กำลังคุยกับตัวแทนฝ่ายทหารที่กำลังจะยึดระบบดาวแห่งนี้กันอยู่นะสิ" ไซเมี่ยนกล่าว

              โฟรซ่าบอก "แย่ละสิ แปลว่าตอนนี้พวกเราอาจจะถูกชาวดาวบูจาวาดี้เล่นงานก็เป็นได้ละสิน่ะ"

              "เพราะอย่างงั้นแหละ ผมถึงต้องรีบมาบอกวอฟลี่และพวกนายให้รับทราบกันไว้ จะได้เตรียมตัวได้ทันก่อนที่กิลด์เซฮาร์ฟที่อยู่ที่ดาวนี้จะแจ้งให้พวกเดลอาเนี่ยนรับทราบไว้น่ะ" ไซเมี่ยนบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "คงต้องติดต่อไปหาวอฟลี่กันเดียวนั้นแล้วละ"

              "ขอบใจสำหรับความหวังดีกันน่ะ ไซเมี่ยน แต่....พวกเราจะปักหลักอยู่ที่นี้และจะไม่หนีไปไหนกันนี้แหละ" วอฟลี่บอก

              ไซเมี่ยนกล่าว "แต่ พวกเดลอาเนี่ยนมันจะใช้ชาวบูจาวาดี้มาเล่นงานพวกนายกันน่ะ เพราะฉันเห็นนักล่าจากกิลด์เซฮาร์ฟป้วนเปี้ยนอยู่แถวเขตเมืองที่พวกนายเคยผ่านมากันอยู่ ซึ่งแนวร่วมชาวบูจาวาดี้มาบอกกับฉันกันอยู่นะสิ"

              "มันก็จริง แต่...ยานของเราเสียหายอย่างมากจากการถูกพวกกิลด์เซฮาร์ฟจู่โจม ซึ่งทำให้เครื่องยนต์หลักและสำรองเสียหายอย่างหนักจนไม่สามารถซ่อมแซมได้เลย ดังนั้นเรื่องที่เราจะหนีออกจากดาวดวงนี้จึงเป็นไปไม่ได้แน่ๆกันน่ะ" วอฟลี่บอก

              ไซเมี่ยนบอก "แล้วนายไม่ห่วงหัวหน้าอาดาย่าจากกองกำลังดาวโฟวกัลฟ์กันเลยหรือ ก่อนที่เธอจะสิ้นชีพจากการดิ้นรนต่อสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนนั้น เขาเรียกชื่อนายเป็นครั้งสุดท้ายเลยน่ะ"

              "......นั้นเป็นความสูญเสียที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กันน่ะ" วอฟลี่บอก "ดังนั้นในฐานะที่ฉันคุมกองกำลังต่อต้านนี้ ฉันจะอยู่สู้กับพวกมันจนตัวตายไปข้างนี้แหละ แม้ว่านั้นจะหมายถึง ความหวังที่จะปลดปล่อยพวกพ้องของฉันนั้นจะต้องดับสูญไปเลยก็ตาม....แค่ตายไปก็ไม่เสียดายกันแล้วละ"

              ไซเมี่ยนพยายามจะแย้ง แต่... "ที่คุณตัดสินใจเช่นนั้น เพราะว่าคุณเชื่อว่าพวกเราจะสานต่อในสิ่งที่พวกคุณเหลือไว้เลยสิน่ะ"

              "ดังนั้น ก่อนที่พวกเราจะมีอันเป็นไปขึ้นมา พวกเราจะร่วมซ้อมกับพวกคุณด้วยน่ะ" วอฟลี่บอก

              คลอเวฟกล่าว "เดียวสิ แต่พวกเรายังไม่พร้อมกันเลยน่ะ"

              "พวกคุณฝึกกันเองคงไม่สำเร็จกันง่ายๆหรอก ถ้าพวกเราและพวกคุณร่วมฝึกไปด้วยกันละก็ น่าจะช่วยให้พวกคุณรู้วิธีเล่นได้เร็วกว่าฝึกกันเองบ้างน่ะ" วอฟลี่บอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะถ้าเราทั้งสองกลุ่มร่วมมือกันละก็ การฝึกต้องไปได้สวยแน่นอน"

              "คลอเวฟ นายคิดเห็นเป็นเช่นไรละ" พีวิลถามความเห็น

              คลอเวฟได้ฟังก็ตอบ "ช่วยไม่ได้แหะ ถ้าไม่เพราะว่ามีสถานการณ์แย่ๆเกิดขึ้นเสียก่อนน่า"


              หลังจากนั้น พวกไทรเวเซอร์และกองกำลังต่อต้านไฮกินด้าต่างก็ร่วมฝึกซ้อมกันมาตลอด 54 วันด้วยกัน (ข้างนอกในตอนนี้ผ่านไป 12 วันแล้ว)

              "นี้ตกลงยังไม่หมดวันเลยหรือ ดาวดวงนี้มันยาวนานมากเลยนะเนี้ย" เมดิน่าบ่นอย่างหงุดหงิดโดยที่เธอนั่งทำรายงานการวิจัยเรื่องสแมคบอลบนโต๊ะในโรงอาหาร

              ฟูลออเรสบอก "นั้นสิ ขนาดสามวันบนดาวดวงนี้ผ่านไป ข้างนอกยังแค่ครึ่งวันเอง หาววววว" แล้วก็อ้าปากหาวอย่างง่วงๆ และหันมาถามพวกเฮเรเค้น "ตกลงนิ ทุกๆคนไม่รู้สึกเบื่อเลยหรือกับระยะเวลาของดาวที่มันยาวนานกว่าเวลาปกติกันน่ะ"

              "พวกเราไม่เบื่อกันหรอก เพราะว่าเราชินกับเวลาที่ผ่านไปกันแล้วน่ะ" เนคกี้กล่าว

              ดิเรนท์บอก "ถ้าขนาดเวลาบนดาวนี้มีมากกว่าตอนที่อยู่ควอดาน่าตั้ง 1 วันละก็ พวกเราก็ไม่รู้สึกเบื่อกันหรอก เพราะเวลามีเหลือเฟื่อกันน่ะ"

              "เออ ใช่ พวกนายผ่านการฝึกจากดาวควอดาน่ากันนิ ถึงได้ไม่ค่อยรู้สึกกันบ้างน่ะ" ฟูลออเรสบอก และหันมาถาม "แล้วดาวบ้านเกิดของพวกนายสองคนละ"

              เนคกัสบอก "ก็เหมือนกับที่ดาวดวงนี้เองแหละ แม้ว่าดาวดวงนี้จะมีบรรยากาศที่ต่างกันกับแกตโตเดี่ยนอย่างมาก เพราะบางวันก็มีพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งมีสายฟ้าฟาดอันรุนแรงลงมาบ้าง เกิดพายุทอเนโดว์ใต้ฝุ่นขนาดใหญ่บ้าง พายุทรายพัดโหมกระหน่ำกันนานครึ่งวันก็มี แต่ผู้นำและหัวหน้าเผ่ารู้วิธีแก้กันแล้วน่ะ"

              "แสดงว่าที่พวกนายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งนั้น เพราะสภาพแวดล้อมที่รุนแรงบนดาวกันละสิน่ะ" ฟูลออเรสกล่าว "แต่ถ้าดาวของพวกนายมีเวลาเป็นห้าเท่าของเวลาปกติกัน แล้วปรากฎการณ์นั้นมันไม่นานไปหน่อยเลยหรือ"

              เนคกี้กล่าว "ปรากฎการณ์ธรรมชาติของแกตโตเดี่ยนนั้นเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับแมนิเกเตอร์เผ่าอื่น และคิดว่าเวลา 5 วันบนดาวแต่ 1 วันนอกดาวนั้นมันจะนานก็จริง แต่ปรากฎการณ์เหล่านั้น มีน้อยครั้งที่เกิดขึ้นยาวนานตั้งหลายสิบวันเลยน่ะ"

              "นั้นทำให้พวกนายไม่ค่อยมีคนอื่นแวะเวียนมา แต่มีพวกนายออกจากดาวกันบ่อยมากเลยสิน่ะ" เมดิน่าบอก

              เนคกัสกล่าว "เปล่าเลย เพราะดาวของเรารู้ว่าอาคันตุกะจากแรซัลก้าคงอยู่อย่างลำบากแน่ๆ เลยเตรียมให้พวกเขาในเรื่องการป้องกันภัยธรรมชาติมา หากว่าวันที่พวกเขามาเยือนดาวของเรานั้นสภาพอากาศแย่ๆปรากฎขึ้นมากันน่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "ซึ่งตลอด 40 ปีของแรซัลก้ากับ 200 ปีของแกตโตเดี่ยนนั้น แมนิเกเตอร์จากแรซัลก้าจะแวะเวียนกันมาที่ดาวของเรา ซึ่งถ้าไม่ได้มาด้วยเรื่องงานหรือการติดต่อกับหัวหน้าเผ่าและยอดนักรบในดาว ก็ต้องเป็นเรื่องที่พวกเขาอยากท้าทายต่อภัยธรรมชาติบนแกตโตเดี่ยนกันนี้แหละ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะชาวซัลคาเลี่ยนคิดว่าพวกเขาแน่พอที่จะสู้กับภัยธรรมชาติของแกตโตเดี่ยนเลยสิน่ะ" ฟูลออเรสบอก

              เนคกี้กล่าว "และส่วนมาก หากไม่ตายก็สาหัสหนักหนากันนะสิ" แล้วก็บอกไปว่า "ตอนนี้พวกเรารู้วิธีเล่นสแมคบอลกันบ้างแล้ว พวกพี่ใหญ่เองก็ชินกับการเล่นในสนามพอๆกันกับกติกากันด้วย"

              "เช่นเดียวกันกับคุณคลอเวฟกันนี้แหละ ที่รู้กติกาการเล่นกันมากกว่าเดิมแล้ว แม้จะวู่ว่ามกันบ้างเพราะยังหงุดหงิดในเรื่องของเฮโลลิคเตอร์กันอยู่น่ะ" เนคกัสกล่าว

              เมดิน่าบอก "ส่วนหนึ่งเพราะคนที่หนุนหลังพวกเฮโลลิคเตอร์เป็นราชทายาทอันดับหนึ่งผู้ชาญฉลาดอย่างมากเลยสิน่ะ"

              "แล้วคุณไซเมี่ยนเองก็ออกไปจากดาวเมื่อ 20 กว่าวันก่อน เพราะต้องออกไปแจ้งให้กองกำลังต่อต้านที่ยังไม่ถูกกวาดล้างรับทราบกันก่อนนะสิ" เนคกี้บอก

              ฟูลออเรสกล่าว "นั้นก็ดีแล้วละ แม้ว่าเขาจะ..."

              "โว้ว นี้เธอสองคนขับหุ่นไทป์ที่พวกเพรโทรน็อกซ์ใช้งาน แต่เป็นรุ่นล่าสุดเลยสิน่า" ไซเมี่ยนกล่าว โดยมองดูอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนอยู่

              ฟูลออเรสบอก "มันเท่ห์มากเลยสินะครับ อย่างน้อยคุณก็น่าจะมีหุ่นขับกันบ้างน่ะ"

              "ถ้าตัวใหญ่แบบนั้นแล้วเอาไปซ่อนแล้วมีคนเห็นส่วนหัวเพียงนิดเดียว ฉันว่ายานบินของฉันยังจะใช้ได้ดีกว่าน่ะ" ไซเมี่ยนอ้าง และหันมาถาม "แล้วพวกเธอไม่มีสภาพอาการเปลี่ยนแปลงเลยหรือ"

              เมดิน่าถาม "ไม่มีนิคะ ว่าแต่คุณถามทำไมกันน่ะ"

              "ฉันแค่เป็นห่วงเธอสองคนก็เท่านั้นเองแหละ เพราะเท่าที่รู้มา โมบิลลอยด์ของพวกเพรโทรน็อกซ์ก็เหมือนกับสกรีแทนที่พวกเวโนมีไนซ์ยึดและใช้งานกันนี้แหละ เพราะมันเป็นอันตรายต่อแมนิเกเตอร์แบบอื่นที่ไม่ได้เป็นเผ่าดั่งเดิมที่สร้างมันมาน่ะ" ไซเมี่ยนกล่าว

              แอมเบอร์โผล่มา "เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกคะ เพราะว่ารัฐมนตรีวูลลิเซียแก้ไขปัญหาระยะยาวกันไว้ ด้วยเปลือกกำบังรังสีและอนุภาคจากแกนกลางเซจเจนคิวบ์กันแล้วน่ะ"

              "โว้ว ไม่คิดเลยน่า ว่าเธอเป็นเอไอพิเศษที่คุมยานนี้กันน่ะ แม้ฉันจะได้ยินจากลูกเรือเล่าว่า ลิเนียร์ตี้ซื้อเธอจากพ่อค้าของเก่ามาในราคาสามหมื่นกันน่ะ" ไซเมี่ยนบอก

              แอมเบอร์กล่าว "ลิเนียร์ตี้แค่ช่วยฉันให้ดีขึ้นเอง และฉันเองก็ตอบแทนพวกเขาด้วยการช่วยเหลือพวกเขากันไว้ ซึ่งฉันดีใจที่มีส่วนช่วยพวกเขาด้วยยานลำนี้นะคะ"

              "แน่ละคะ คุณแอมเบอร์สามารถเปลี่ยนแปลงอาวุธปืนใหญ่ได้ในพริบตากันด้วยนะคะ" เมดิน่าบอก

              ไซเมี่ยนได้ฟังก็...สะดุ้งขึ้นมา "โว้ว นั้นเป็นเรื่องดีมากเลยน่ะ และคงไม่มีใครเจ็บตัวเลยละสิ"

              "ฉันแค่ช่วยเพราะต้องการปกป้องเขตเมืองเวลเซน่าและสถาบันริดิวิแนนท์กันนะคะ" แอมเบอร์บอก

              ไซเมี่ยนกล่าว "งั้นก็ดีแล้วละ เพราะอย่างน้อย เธอคงไม่ก่อเรื่องเดือดร้อนกันเลยสิน่ะ" แล้วก็ยิ้มและบอกไปว่า "แต่ฉันขอดูหุ่นของพวกเฮเรเค้นที่อัพเกรดใหม่กันสักหน่อยน่ะ เพราะเหมือนเอาชิ้นส่วนสกรีแทนมาติดไว้น่ะ"

              "แต่ขออย่างเดียวนะคะ อย่ายุ่งกับหุ่นของพวกเขาจากระยะไกลด้วยนะคะ" เมดิน่ากล่าว

              ฟูลออเรสบอก "ถ้าไม่ติดว่าคุณเคยก่อเรื่องให้หมอเดเมี่ยนและพวกคุณเนคมาดูซัมปวดหัวกันก่อนละก็...."

              "คุณไซเมี่ยนมีท่าทีกังวลต่อพวกนายสองคนกันกระมั่งเลยพูดไปแบบนั้นน่ะ" เนคกี้บอก

              ฟูลออเรสบอก "มันก็จริงน่ะ แต่เขาก็เหมือนรู้เรื่องบางอย่างแล้วไม่ยอมบอกอะไรกันไว้เลยน่ะ แล้วพวกนายเองก็คงไม่รู้เรื่องเลยละสิ"

              "ขนาดท่านพ่อเองยังไม่ได้บอกกับเรา ท่านพ่อกับท่านลุงนาไลน์เองก็คงไม่อยากให้เรารู้เรื่องที่ไม่จำเป็นกับพวกเรากันนะสิ" เนคกัสกล่าว

              เมดิน่าบอก "ส่วนหนึ่งเพราะ เขาไม่เสี่ยงแฮคคุณแอมเบอร์ เพราะกลัวจะทำยานเจ็งเลยสิน่า"

              เช้าวันต่อมา 

              "ตอนนี้ฉันได้ให้รายงานกับผบ.บัลโต้กันแล้ว ว่าเราจะลงแข่งพร้อมกับทีมไอออนิคัส ซึ่งเป็นทีมของกองกำลังชาวไฮกินด้ากันแล้ว ในฐานะทีมไทรเวเซอร์กันนี้แหละ" เนคมาดูซัมบอก

              คลอเวฟบอก "แจ่ม แล้วตอนนี้พวกเราต้องสมัครเข้าลงแข่งหรือยังวะ"

              "ต้องแน่นอน หากแต่ให้ไซเมี่ยนจัดการเรื่องเงินค่าสมัครไว้ ซึ่งเรารู้ดี ว่าเราไม่มีทางใช้เงินสกุลแกลดอลกับพวกเดลอาเนี่ยนได้แน่นอนน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              ไซโคลเนียกล่าว "ซึ่งเราก็ต้องใช้เงินที่ยอดมือป่วนไปขโมยมาจนได้สิน่า"

              "หวังว่าไซเมี่ยนคงไม่พลาดท่าให้กับพวกทหารที่แฝงตัวมากับกลุ่มสมาคมเหมืองแร่ที่อยู่ที่ดาวดวงที่ 1 ถึง 3 ในระบบดาวนี้กันหรอกน่ะ" เดเมี่ยนกล่าวอย่างเป็นกังวล

              จิลกล่าว "แต่เรามีเรื่องที่กังวลยิ่งกว่าแล้วละ เพราะเมื่อคืนก่อน ฟลาแน็กซ์ได้ดักฟังสัญญาณสื่อสารของพวกเดลอาเนี่ยนมา พบว่าตอนนี้ กองกำลังต่อต้านอีก 8 กลุ่มถูกกวาดล้างไปตลอด 10 วันที่ผ่านมาแล้วนะสิ"

              "อย่าบอกน่ะ ว่าไอ้ปากดียืมแรงของไอ้องค์ราชทายาทมาเขี่ยพวกกองกำลังต่อต้านให้ออกจากเกมส์กันน่ะ" คลอเวฟบอก

              จิลบอก "น่าจะเป็นเช่นนั้นแล้วนะสิ เพราะพวกทหารที่เข้ากวาดล้างนั้น ไม่เพียงรับคำสั่งจากเดลวูลอย่างเดียว แต่พวกเขาสนับสนุนพวกนักล่าเงินรางวัลและทหารที่แฝงตัวเข้าไปในกองกำลังดังกล่าว ให้ลงมือจัดการได้ในทันทีนะสิ" แล้วก็พูดต่อไปว่า "ซึ่งกองรบที่ยังเหลืออยู่และยังไม่ถูกเก็บนั้น ต่างก็รีบถอนตัวออกจากการแข่งขันและหาทางหนีไปกบดานที่อื่นกัน หลังจากที่รับทราบคำเตือนของไซเมี่ยนกันไปแล้วละ จนตอนนี้ กองกำลังต่อต้านที่ยังลงแข่งได้นั้น ก็มีแค่กลุ่มไฮกินด้านี้เองแหละ"

              "ดีแล้ว ถ้าพวกเขาถูกกวาดล้างจนหมดเกลี้ยง ก็เท่ากับว่าไม่มีใครหน้าไหนขัดขวางหรือสกัดกั้นแผนการของพวกเดลอาเนี่ยนได้เลยนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก

               พีวิลกล่าว "และปัญหาก็จะตกอยู่กับพวกเราที่เป็นฝ่ายตั้งรับการรุกรานของพวกเดลอาเนี่ยน ที่เตรียมกองรบแบบเต็มอัตราศึกกันแน่นอนน่ะ"

              "งั้น พวกเราไปร่วมฝึกกับชาวไฮกินด้าต่อแล้วกัน เพราะเราได้แข่งกับพวกเขามา 2-3 ครั้งแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมบอก คลอเวฟพยักหน้า

              แต่.... "ตื้ดๆๆๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น จน... "แอมเบอร์ นี้อย่าบอกน่ะว่า...." คลอเวฟถาม

              "ตรูมมมมมมมม" เสียงระเบิดดังออกมาจากข้างนอก จนทำให้พวกไทรเวเซอร์ได้ยินขึ้นมา "เกิดเรื่องแล้วครับ ที่ตั้งของกองกำลังต่อต้าไฮกินด้าเกิดการระเบิดนะครับ" ไกซ์กล่าว

              คลอเวฟได้ฟังก็บอก "บัดซบเอ้ย....พวกมันลงมือจนได้สิวะ"

              "รีบไปที่ฐานลับของวอฟลี่โดยเร็วเลย" เนคมาดูซัมกล่าว โดยตอนนี้พวกนักล่าเงินรางวัลกิลด์เซฮาร์ฟวนรอบ พร้อมกับทหารเดลอาเนี่ยนจำนวนหนึ่งที่มีอาวุธหนักอยู่ด้านนอกฐาน ซึ่งตอนนี้มีไฟไหม้ลุกโชนพร้อมกับซากศพของสมาชิกกองกำลังแล้ว "ตรึง ตรึง ตรึง ตรึง" พวกเมนซิกส์ทีนโผล่มาพร้อมอาวุธปืนในมือ

              "เป็นไปตามที่องค์ราชทายาทและเพื่อนสนิทของท่านเดลวูลว่าไว้ไม่มีผิด ว่าต้องเจอกับพวกแกอยู่ที่ดาวดวงนี้พร้อมกองกำลังต่อต้านจนได้สิน่ะ" ทหารเดลอาเนี่ยนบอก

              "ไอ้ปากดีนั้นบอกพวกแกแบบนั้นเลยสิน่ะ" คลอเวฟกล่าว

              นักล่ากิลด์เซฮาร์ฟบอก "รวมถึงพวกชาวเมืองบนดาวนี้กันด้วย ที่ให้ความร่วมมือกับทางเราไว้โดยดี จนพาเรามาที่นี้กันเองแหละ ซึ่งก็ได้เจอกับอดีตนักล่าตัวเอ้ที่กล้ามาหลอกอูดูกินจากกิลด์บาวโฟวกันด้วย"

              "แต่เราจะจัดการกับพวกแกได้ก็ต่อเมื่อกองยานของเรามาถึงกันนี้แหละ ฉะนั้น เตรียมตัว......" ทหารเดลอาเนี่ยนกล่าว แต่ก็.... "เปรี้ยงงงง" โดนทุเรียนเหล็กอัดเข้าหน้าจนหมวกยุบและล้มแน่นิ่งไปในทันที

              คลอเวฟบอก "....เตรียมตัวไปลงนรกซะมากกว่ากระมั่ง ไอ้เบื้อก" พวกทหารเดลอาเนี่ยนเห็นเลยเตรียมเอาปืนออกมา "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดดดด แชดดดด ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง โป้งงงง โป้งงงงง แชดดด แชดดด ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" แต่พวกไทรเวเซอร์ลงมือกระหน่ำยิงปืนใส่ไปจนพวกเดลอาเนี่ยนแดดิ้นลง รวมถึงพวกกิลด์เซฮาร์ฟที่พยายามหลบที่กำบัง แต่โดนเนคมาดูซัมและจายด์ถล่มกำบังจนเป่ากระจุยไป ซึ่งพวกพ้องถูกเล่นงานจนเหลือเพียงแค่คนเดียว

              "เป็นไงบ้างละ หมอ" พีวิลถามเดเมี่ยนหลังจากที่เช็คศพเมโรลินที่นอนแน่นิ่งไว้

              เดเมี่ยนส่ายหน้า "พวกเขาเสียชีวิตจากการถูกเป่าระเบิดจากอาวุธหนักไปแล้วละ แม้กระทั่งหัวหน้ากองกำลังด้วย" โดยชี้มายังศพวอฟลี่ที่ไหม้ทั้งตัวด้วยกัน

              "เอาละ ไอ้เวร ไอ้ปากดีมันสั่งแกใช่มั้ยละ" คลอเวฟตะคอกใส่สมาชิกนักล่ากิลด์เซฮาร์ฟที่เหลือรอดไว้ ซึ่งเขากลัวมากจนไม่กล้าพูด

              เนคมาดูซัมบอก "คลอเวฟ นายขู่แบบนั้น เราไม่ได้อะไรจากไอ้หมอนี้กันพอดีนะสิ"

              "แต่ว่ามัน...." คลอเวฟแย้ง

              แต่มาสวาร์ทาร์บอก "เถอะน่า ให้เราจัดการถามนักล่าคนนี้เองดีกว่า นายไปช่วยพวกจายด์รวบรวมศพกันก่อนเถอะ" คลอเวฟได้ฟังเช่นนั้นเลยเดินออกไป มาสวาร์ทาร์บอก "โอเค บอกมาดีกว่า ว่าพวกนายมาอยู่นี้นานแล้วสิน่ะ"

              "ใช่....พวกเราแฝงตัวอยู่นี้ก่อนหน้าที่พวกนายจะมาถึงกันแล้ว เพราะรู้ว่าไอ้ไฮกินด้านั้นมันกบดานมาอยู่ที่ดาวดวงนี้น่ะ" นักล่าบอก "ทางเราเลยส่งคนไปข่มขู่ชาวบูจาวาดี้ที่เป็นสายของพวกมันให้ช่วยเหลือพวกเรา โดยเอาชีวิตพวกญาติพี่น้องมาเป็นเครื่องมือข่มขู่ไว้ แน่นอนว่าพวกเขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยช่วยให้พวกเราส่งคนเข้าไปในฐานลับนั้นไว้ แม้ว่าจะต้องส่งเยอะกันหลายครั้ง เพราะอยู่ๆการติดต่อระหว่างสายภายในกับพวกเราก็ขาดหายไปซะทุกครั้งน่ะ"

              "ทุกครั้งนะหรือ...." ฟิเกซบอก นักล่าพยักหน้า

              พีวิลถาม "แล้วพวกนายก็เลยให้พวกเดลอาเนี่ยนมาจัดการกับวอฟลี่และพวกไฮกินด้า ก่อนที่พวกนายจะเสียคนไปมากกว่านี้เลยสินะ หรือคิดที่จะจัดการกับพวกนั้นก่อนที่พวกเขาจะหาทางหนีไปอีกรอบละสิ" 

              "หาทางหนีนะหรือ เราแค่อยากรู้ว่า ไอ้พวกไฮกินด้ามันรอดได้ไง ทั้งๆที่พวกเรา...." นักล่ากล่าว แต่ก็หยุดพูดเอาไว้ เหมือนปิดบังอะไรบางอย่างขึ้นมา สเตฟอร์ดเลยทำหน้าบึ้งตึงขึ้นมาเช่นเดียวกับ "แกร็กๆ" เนคมาดูซัมใส่แมกกาซีนใส่ซีคเก้ไรเฟิ่ลเอาไว้ จนนักล่ายอมปริปากพูดออกมา

              ฟิเกซบอก ".....จริงหรือ มันเป็นความจริงใช่มั้ยละ" นักล่าพยักหน้าขึ้นมา

              "ได้เรื่องแล้วละ ชาวบูจาวาดี้ที่ถูกทั้งนักล่าและพวกทหารเดลอาเนี่ยนข่มขู่ยอมสารภาพกันแล้ว ว่าพวกเขาถูกสั่งให้ระบุตำแหน่งยานของเราและฐานที่มั่นแห่งนี้ รวมถึงส่งคนแทรกซึมเข้าไปในกองกำลังต่อต้านไว้น่ะ" สเปียริทบอก

              ลิเนียร์ตี้บอก "และโชคดีมาก ที่เราจัดการกับพวกทหารเดลอาเนี่ยนที่แฝงตัวมาอยู่ในเมือง ซึ่งโผล่มาเพื่อมอบรางวัลให้กับชาวบูจาวาดี้ที่ให้ความร่วมมือกันแล้ว แน่นอนว่า ทหารเหล่านั้น ทำตามคำสั่งของเดลวูลด้วยน่ะ"

              "นั้นแสดงว่า เดลวูลไม่เพียงกำจัดกองกำลังต่อต้านที่เข้ามาลงแข่งขันให้มากพอ จนทำให้ที่เหลือนั้นต้องถอยห่างและหลบหนีออกไปเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาไว้สู้กับพวกเดลอาเนี่ยนต่อ แต่ยังคิดที่จะเล่นงานพวกเราด้วยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "เพราะเฮโลลิคเตอร์คิดว่าการกำจัดทีมกองกำลังต่อต้านที่อยู่ใกล้กับเรานั้น จะทำให้เราเสียขวัญและต้องเดินทางกลับไป เพราะไม่มีทีมช่วยในการแข่งขันเลยสิน่ะ"

              "ดูท่าว่า ไอ้ปากดีมันเล่นงานเราฝ่ายเดียวแบบนี้.....สงสัยว่าเราต้องจัดการกับไอ้ปากดีนั้นผ่านการแข่งขันกันแล้ววะ" คลอเวฟบอก

              พีวิลกล่าว "ถึงเวลาที่เราต้องลงสนามกันแล้วละ" 

              "พวกนายจะออกไปกันแล้วสิน่ะ" ไซเมี่ยนกล่าวโดยมาถึงกันและทราบเรื่องจากเดเมี่ยนแล้ว ซึ่งเขามากับกระเป๋าเหล็กใบโตกันไว้

              "แล้วนายละ ไซเมี่ยน นายไม่มากับเราเลยหรือ" พีวิลถาม

              "นั้นสิ เราต้องการความช่วยเหลือของนายในเรื่องหยุดกลโกงบ้าๆของพวกเดลอาเนี่ยนนอกสนามกันน่ะ" ฟิเกซบอก

              ไซเมี่ยนกล่าว "ไม่จำเป็นหรอก เพราะพวกนายมีคนช่วยในเรื่องนี้ไว้แล้ว อีกอย่าง ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำกันอยู่ ดังนั้น พวกนายรีบไปที่ดาวดาเรม-5 ระบบมูสทูแฟทกันโดยเร็วเถอะน่ะ" พร้อมกับนำกระเป๋าเหล็กมา "เงินค่าสมัครของพวกนายพร้อมแล้ว นั้นคงเยอะพอสำหรับลงแข่งได้แล้วน่ะ" 

              "หวังว่าเงินที่นายได้มานั้น คงช่วยได้มาก แต่ขอแค่ครั้งเดียวแล้วกันน่ะ" พีวิลบอก

              ไซเมี่ยนพยักหน้า "งั้นพวกนายรีบไปกันดีกว่าน่ะ ก่อนที่พวกเดลอาเนี่ยนจะรีบนำกองยานมาขวางทางพวกนายไว้น่ะ"

    ต่อช่วงที่ 2

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×