ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #34 : ตอนที่ 17 ปฏิบัติการณ์พอร์ตคอร์เบิ้ลอันคาดไม่ถึง เมื่อนาวิกทรยศเผยตัว ครึ่งหลัง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7
      0
      30 ก.ย. 64

    ช่วงที่ 2
              "เฮโลลิคเตอร์นะหรือ.....โอ้ว นึกว่าเด็กคนนี้จะไม่รอดตอนสมรภูมิรบเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วเสียอีกน่ะ" เบติสบอก
              คลอเวฟกล่าว "นี้ลุงรู้จักกับไอ้ปากดีนั้นมาก่อนเลยหรือ...."
              "อย่าว่าแต่เบติสเลยที่รู้ ขนาดฉันเองก็รู้ถึงวีรกรรมสุดแสบของเด็กนี้มาก่อนแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่า เด็กคนนี้จะรอดมาอยู่กับกองรบของจอมพลแฮซกริฟกันด้วยน่ะ" วิลด้าบอก
              คลอเวฟกล่าว "เดียวก่อนน่ะ ตะกี้นี้ลุงบอกว่าไอ้ปากดีนั้นมันรอดในการรบเมื่อ 3 ปีก่อนนิ" แล้วหันมาถาม "แล้วนายกับฟิเกซก็รู้เรื่องของมันเลยสิน่ะ"
              "รู้ แต่ที่ไม่ได้บอกนั้น เพราะฉันไม่รู้นิ ว่าคู่กรณีนั้นจะเป็นเฮโลลิคเตอร์ไปได้น่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              ฟิเกซบอก "เพราะทั้งฉัน และเนคเกอร์ รวมถึงพวกพ้องร่วมเผ่า ต่างคิดว่าเฮโลลิคเตอร์พลีชีพเพื่อสกัดกั้นการบุกของพวกเฮซเทิร์ซเมื่อ 3 ปีก่อนไปแล้ว และคิดว่าคงไม่รอดแน่ๆ เพราะเขาเอาสกรีแทนมาร์ควันติดระเบิดขับไปชนกับยานขนกำลังรบภาคพื้นกันไว้ ซึ่งหุ่นไปเร็วจนไม่มีทางดีดตัวหนีออกมาได้กันน่ะ"
              "อะไรกันวะ ไอ้ปากดีมันดวงเฮงถึงขั้นนั้นเลยหรือวะ ให้ตายสิ" คลอเวฟสบถ
              วิลด้าบอก "นั้นไม่แปลกหรอก เพราะถึงเฮโลลิคเตอร์จะปากปีจอมากไปหน่อย แต่ความฉลาด หัวไว มีไหวพริบที่ดี รวมถึงปฏิบัติการณ์ตามแผนที่วางไว้ แม้จะมีบางจุดที่ทำนอกเหนือจากแผนการหรือที่สั่งเอาไว้ก็ตาม ซึ่งไอ้ตรงนี้แหละ ที่ทำให้ทหารสารวัตรหรือฝ่ายปกครองปวดหัวกับเด็กนี้ไม่น้อย เพราะเขาใช้ความฉลาดเอาตัวเองรอดไปได้ซะทุกครั้งเลยน่ะ"
              "เออ ทหารสารวัตรเองยังลงโทษเฮโลลิคเตอร์ไม่ได้ แล้วนายพลจูเดทต้าละคะ" โฟรซ่าถาม
              เบติสบอก "ก็มีแต่รุ่นพี่นี้แหละที่เอาเฮโลลิคเตอร์นี้อยู่ หลังจากที่โดนรุ่นพี่ลงโทษฐานปากแมวและล้อเลียนเพื่อนร่วมทีม เฮโลลิคเตอร์พยายามจะใช้วาจาเพื่อใส่ความรุ่นพี่จูเดทต้าให้นายทหารระดับสูงลงโทษ ซึ่งรุ่นพี่โต้ตอบกลับไปได้ด้วยการท้าให้เฮโลลิคเตอร์เอาพยานหลักฐานมา แน่นอนว่าพยานหลักฐานนั้นก็บอกความจริงทุกอย่าง จนทำให้เฮโลลิคเตอร์หน้าแตกยับเลยละ"
              "แต่การที่เฮโลลิคเตอร์ยังเป็นแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องการท้าทายคนอื่นเพื่อให้ตนเองเหนือกว่าอย่างงั้นละสิคะ" สเปียริทบอก
              วิลด้าพยักหน้า "ด้วยความฉลาดหลักแหลมที่เฮโลลิคเตอร์มี แต่เอาไปใช้ผิดทางและทำให้คนอื่นด้อยค่าจนสร้างศัตรูกันตั้งหลายคนแบบนั้น ไม่แปลกหรอก ที่ไม่มีนายทหารหน้าไหนในกองทัพเขาอยากได้เฮโลลิคเตอร์ไปกันน่ะ"
              "แน่ละครับ ป้า ถ้าเอาไป ทั้งกองฉิบหายหมดแน่นอน" เจเนลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "แต่ตอนนี้ เราต้องเตรียมพร้อมกันไว้ก่อนน่ะ เพราะพวกเรารู้ว่าพวกเดลอาเนี่ยนมันบุกมาทุกทาง ทั้งด้านนอกและด้านในไว้น่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "ดังนั้น พวกลุงและป้าเองก็ต้องคุมทีมกันหนักหน่อยน่ะ"
              "แล้วจะให้ใครลงสนามกันละ" วิลด้าถาม
              เนคมาดูซัมบอก "คลอเวฟ อยู่บนไทรแองเกิ้ลคอยสนับสนุนพวกเราจากแนวหลังไว้ แอมเบอร์ ช่วยดูคลอเวฟกันไว้ด้วยน่ะ"
              "ดีเหมือนกัน กูจะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียเวลาเจอหน้าไอ้เฮโลลิคเตอร์กันน่ะ" คลอเวฟบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "ทีมที่อยู่ช่วยปกป้องกองเรือนั้น นอกจากลุงเบติส ป้าวิลด้ากับทีม OD89 แล้ว เนคมาดูซัม ฟิเกซ แอนเดรีย ไซโคลเนีย และแอบไบออสจะรับมือกับกองเรือของพวกเดลอาเนี่ยนที่บุกมา เพราะเรือรบต้องมีกองรบหุ่นยนต์และพาหนะสงครามบรรทุกอยู่ด้วยแน่นอน"
              "เออ ให้รุ่นพี่สเตฟอร์ดและรุ่นพี่โฟรซ่าไปร่วมด้วยมั้ยละ" พีวิลบอก
              เจเนลกล่าว "แต่ไม่จำเป็นต้องให้ลูกพี่และอาเจ้ออกแนวหน้าก็ได้เลยนิ แค่ช่วยเรากระทืบพวกเดลอาเนี่ยนที่บุกเข้ามาก็พอแล้วน่ะ"
              "เจมส์ เธอลืมไปหรือเปล่า ว่าพวกเราสร้างศัตรูให้กับพวกนักล่าเงินรางวัลกันน่ะ" โฟรซ่าบอก
              สเตฟอร์ดกล่าว "อีกอย่าง ถ้าพวกแดคน็อกซ์มันเปลี่ยนร่างเป็นพวกเราขึ้นมา และเล่นงานนายและพีทไปด้วยนั้น มันก็แย่กันพอดีสิน่า"
              "งั้นสเตฟอร์ดและโฟรซ่าอยู่ช่วยปกป้องกองเรือแล้วกัน ที่เหลือนั้นก็คือ ฉัน พีวิล สเปียริท เจเนไซด์ทีม ลิเนียร์ตี้ และพลัสเชอริท จะอยู่รับมือกับพวกแดคน็อกซ์เอง" มาสวาร์ทาร์บอก แล้วก็บอกให้ "เนคมาดูซัม ฝากพวกเฮเรเค้นด้วยละ"
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ตอนนี้เรารีบลงสนามก่อนดีกว่า พวกเดลอาเนี่ยนคงไม่รอให้เราลงมือกันได้หรอกน่ะ"
              "เฮโลลิคเตอร์เป็นยังไงบ้างละครับ" พีวิลถามหลังจากที่พวกเขาลงจากยานไทรแองเกิ้ลซึ่งทะยานออกไปสมทบกับกองเรือ และมาที่อาคารกองบัญชาการ
              ดอเนอร์ดูลบอก "ตอนนี้ฉันให้เขาประจำอยู่ที่อาคารหมายเลข 3 ที่อยู่ทางทิศใต้กันแล้ว คนของฉันที่ส่งไปคุมนั้นก็คอยจับตาดูอยู่ เพื่อมิให้เฮโลลิคเตอร์พูดจาก่อกวนกราดิเอเตอร์มารีนกันบ้างน่ะ"
              "แต่ยังไงก็ระวังหน่อยนะคะ เท่าที่ทราบมา เฮโลลิคเตอร์แม้ถูกจับตาดู แต่ความฉลาดของเขา เขาก็ต้องเตรียมวางแผนเอาไว้แน่ๆนะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              ดอเนอร์ดูลพยักหน้า "ส่วนหนึ่งเพราะเรื่องที่เขาเป็นคนติดต่อพวกเดลอาเนี่ยน ซึ่งผู้การเดลิคแจ้งมาให้ทราบก่อนหน้าแล้ว หวังว่าคงไม่มีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นกันบ้างน่ะ"
              "เออ พวกเราหน่วยที่ 8 มาขอแจ้งเบิกอาวุธใหม่กันหน่อยนะครับ" ทหารในกองสามคนเดินเข้ามา
              ดอเนอร์ดูลบอก "เบิกอาวุธใหม่หรือ แต่ พวกเธอเบิกมาเมื่อวานแล้วมิใช่หรือ"
              "เราเอาอาวุธไปผิดกล่องนะครับ อาวุธที่เราได้ไปนั้นเป็นของกองนาวิกที่ 11 เลยทำให้มีคนจากกองนาวิกมาต่อว่าพวกเรานะครับ" ทหารบอก
              ดอเนอร์ดูลกล่าว "กองนาวิกที่ 11 นะหรือ ไม่น่าเป็นไปได้เลยนิ ว่าพวกเขารายงานกับฉันแบบนี้น่ะ"
              "การสื่อสารคงจะผิดพลาดกันนะครับ เพราะอาคารกองบัญชาการของคุณแทบไม่ได้ซ่อมแซมเสาอากาศกัน...." ทหารกล่าว
              ลิเนียร์ตี้บอก "ถ้าเสาอากาศเสียหาย แล้วผู้การดอเนอร์ดูลส่งสัญญาณมาหาทางเราได้ไงละคะ อีกอย่าง พวกเดลอาเนี่ยนที่บุกมาถล่มกองเรือและป้อมต่อสู้อากาศยานเองก็ไม่ได้ทิ้งระเบิดลงอาคารนั้นเลยน่ะ"
              "พวกเดลอาเนี่ยนอาจจะไม่คิดถล่มอาคารแห่งนี้แต่แรกเลยนะสิ" ทหารอ้าง
              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะไส้ศึกห้ามมิให้กองรบเดลอาเนี่ยนที่อยู่นอกเกาะทิ้งระเบิด เพื่อให้พวกนายที่จะมาลงมือจัดการกับผู้การดอเนอร์ดูล โดนลูกหลงเลยสิน่ะ" แล้วก็ชักดาบออกมา เช่นเดียวกับพวกพีวิลที่ชักอาวุธออกมาด้วย "แต่เสียใจด้วย เพราะทหารที่เข้ามาในตัวอาคารจะไม่สวมหมวกที่ปิดแว่นดำอำพรางสายตาได้หรอก"
              "รู้ได้ไงว่าเป็นพวกเราแฝงตัวเข้ามา ในเมื่อพวกเราปลอมตัวกันเนียนจนพวกแกจับไม่ได้แล้วน่ะ" ทหารถามโดยนำปลอกแขนสีดำที่มีคมดาบพลังอานุภาคสีม่วง
              จายด์บอก "วันนี้แดดจ้าทั้งวัน ทหารที่อยู่รอบๆนั้นถอดชุดเกราะและถอดหมวกออกเพื่อไม่ให้รู้สึกอบอ้าวเกินไป แม้ว่านั้นจะเปิดช่องให้พวกแกสังหารได้ง่ายๆ เลยก็ตาม ซึ่งสภาพอากาศที่มีแสงยูวีสาดส่องมากขนาดนั้น ก็ทำให้พวกแกต้องสวมชุดให้มิดทุกส่วน รวมถึงส่วนตาด้วยน่ะ"
              "ที่พวกแกรู้ เพราะว่าเพื่อนของแกแฝงตัวมาในฐานะนักล่าเงินรางวัลของกิลด์บาวโฟว์เลยสิน่ะ งั้นก็...." ทหารกล่าว
              ทหารอีกคนบอก "เตรียมตัวตายได้...." แต่ "เปรี้ยงงงง" โฟรซ่ายิงเข้าตรงดั้งจมูกของทหารคนซ้ายจนทะลุแว่นดำไปหลังหัว คนที่สองพยายามบุกกระโจนเข้าใส่ "ฟึ่บบบ ปั้ก เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ก็โดนพลัสเชอริทยิงมีดระเบิดไฟฟ้าช็อตร่างจนแน่นิ่ง "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" คนที่สามถูกพีวิลและเจเนลกระหน่ำยิงจนเกราะแตกกระจุยและล้มลง โดยทั้งสามคืนสภาพเป็น....
              "ไอ้พวกนี้สิน่ะ ที่เกือบลอกเลียนแบบนายและสเปียริทกันไว้น่ะ" เจเนลบอก เมื่อทหารกลับกลายเป็นพวกแดคน็อกซ์ไป
              "ดีแล้วละ ที่เรารับมือพวกมันจากระยะไกล ไม่งั้นมันคงก็อปปี้หน้าตาของพวกเราและเอาไปหลอกทหารกลุ่มอื่นๆไปแล้วละ" ลิเนียร์ตี้บอก
              สเปียริทกล่าว "แต่พวกมันก็ตายไปแล้วนิ พวกที่เหลือไม่น่าที่จะทำเช่นนั้นได้หรอกน่ะ"
              "ไม่เลย สเปียริท พวกแดคน็อกซ์ติดอิมแพลนท์ไว้ในตัว ซึ่งใช้สแกนดีเอ็นเอจากการสัมผัสตัวพวกมันไว้ ถ้าเราเข้าใกล้พวกมันในขณะที่ไอ้อิมแพลนท์นี้มันทำงานอยู่ ดีเอ็นเอและหน้าตาของพวกเราจะถูกถ่ายโอนไปยังพวกมันที่เหลือนำไปใช้ก็อปปี้ได้นะสิ" สเตฟอร์ดติดต่อเข้ามา
              ดอเนอร์ดูลบอก "ถ้าเช่นนั้น ก็ต้องมีทหารส่วนหนึ่งถูกแทนที่ไปแล้วสิ"

              "หวอๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ทหารในฐานทัพแจ้งรายงาน "เกิดเรื่องแล้วละครับ ทหารของเรากราดยิงใส่พวกเราที่อยู่ในโรงทหาร โรงอาหาร และกำลังมุ่งหน้าไปยังอู่จอดเรือกันแล้วละครับ" แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" ถูกพวกทหารที่เป็นพวกแดคน็อกซ์กราดยิงจนล้มลง
              พลัสเชอริทบอก "เราต้องรีบลงมือกันเสียแล้วละ"
              "เนคมาดูซัม งานเข้าแล้ว พวกเดลอาเนี่ยนลงมือจากภายในแล้วน่ะ" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "รู้ เพราะว่าตอนนี้แอมเบอร์แจ้งมา ว่าพวกเดลอาเนี่ยนมันมาแล้วละ" โดยตอนนี้กองเรือของเวเดมแห่แหนกันมาเป็นจำนวน 30 ลำด้วยกัน จนทำให้พวกไทรเวเซอร์และกองเรือรีบรับสถานการณ์กันโดยเร็ว
              "ถ้าเช่นนั้น เราแยกย้ายกันไปรับมือกับพวกแดคน็อกซ์กันดีกว่า เนคมาดูซัม นายกับคลอเวฟและพวก หยุดพวกเดลอาเนี่ยนอย่าให้พวกมันหลุดรอดไปได้น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              คลอเวฟบอก "ถ้าเฮโลลิคเตอร์มันโดนเล่นงาน ช่วยบอกด้วยแล้วกัน"
              "นายนิเหลือเกินจริงๆเลยน่า" สเปียริทกล่าว แล้วทั้งหมดแยกย้ายกันไป โดยพวกแดคน็อกซ์แห่เข้ามาเล่นงานพวกทหารนาวิกโยธินที่กระหน่ำยิงใส่ แต่พวกมันวิ่งหลบหลีกพร้อมกับยิงกระสุนดำเข้าใส่จนกำแพงกำบังสลายไป โดยที่มีส่วนหนึ่งกระโจนเข้ามา "หวับๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" กงจักรสามคนพุ่งอัดใส่มือสังหารแดคน็อกซ์ล้มไป 6 ตนด้วยกัน แล้วก็.... "ฟ้าววววว" มาสวาร์ทาร์และพลัสเชอริทพุ่งเข้าใส่พวกแดคน็อกซ์ที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว "หวับๆๆๆๆ กิ้ก" พร้อมกับหมุนควงดาบและเสียบกลับฟักไว้ "ฉั้วะๆๆๆๆๆ" พวกแดคน็อกซ์ที่เหลือถูกฟันล้มแดดิ้นลงไปกันหมด ส่วนดาวกระจายขนาดใหญ่แฟงค์สไลเซอร์ก็กลับมาที่มือของพลัสเชอริทตามเดิม
              "พวกเธอปลอดภัยดีน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยที่ลิเนียร์ตี้โดดลงมาด้วย
              "พวกเราไม่เป็นไรหรอกครับ คาตานะลอร์ด แต่ไม่นึกเลยว่าพวกพ้องของเราที่อยู่ใกล้ชิดจะกลายเป็นพวกเดลอาเนี่ยนไปเสียได้น่ะ" ทหารนาวิกโยธินรายงานอย่างหวั่นเกรงไม่น้อย
              พลัสเชอริทบอก "แปลว่าพวกแดคน็อกซ์คงจะแทรกซึมอยู่ในกองกำลังนี้มาก่อนอย่างแน่นอนแล้วละ" และบอกไปว่า "และเกรงว่า พวกพ้องเดิมของพวกคุณที่ถูกแทนที่ ก็ไม่รอดแล้ว"
              "บ้าชะมัด นี้พวกเดลอาเนี่ยนมันทำอย่างงี้กับพวกพ้องของเราเลยหรือคะ" ทหารหญิงบอก แล้วถาม "แล้วเราจะทำยังไงดีละคะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ตอนนี้พวกพ้องของเรากำลังช่วยเหลือพวกทหารกันอยู่ ดังนั้น พวกเธอรีบไปช่วยพวกไทรเวเซอร์หยุดพวกเดลอาเนี่ยนกันดีกว่า เพราะพวกเธออยู่นี้คงไม่ไหวแน่นอน"

              "ทิ้วๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆ" พวกทหารนาวิกโยธินอยู่ในป้อมบังเกอร์กราดยิงเลเซอร์ไรเฟิ่ลและพลาสม่าไรเฟิ่ลเข้าใส่พวกแดคน็อกซ์ แต่พวกมันไม่เพียงหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่บางตัวกางสนามพลังอนุภาคสีดำป้องกันกระสุนพลาสม่าได้ด้วย "ฟิ้วๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆ" ไซโคบิทบินเข้ามาระดมยิงใส่พวกแดคน็อกซ์จนรีบถอยร่นไปโดยเร็ว "ว้ากกกกกก" เจเนลพุ่งกระโดดถีบใส่แดคน็อกซ์เข้า "ป้ากกกก เพล้งง ฟู้วววววว" ที่หน้าจนหน้ากากแตกกระจุยไป "ตุ้งๆๆๆๆ" จายด์ระดมยิงจีฟิงเกอร์ช็อตเข้าใส่พวกแดคน็อกซ์ที่กางบาเรียจนบาเรียสลายไป แล้วก็ "ตรุ้งงงง ตรูม บรึมๆๆๆ" ยิงแครกเกอร์บอมส์เข้าแตกสะเก็ดระเบิดใส่พวกมันให้กระจุยไป "แว้งงง แชดๆๆๆๆ" จิลเทเลพอร์ตเข้ามายิงจีเลเซอร์กันเข้าใส่พวกแดคน็อกซ์จนล้มไปสามตนด้วยกัน
              "สมแล้วที่พวกแกรอดจากเงื้อมมือของพวกเมคครอฟิคไปได้ แต่เกรงว่าพวกแกคงพลาดเสียแล้วละ" มือสังหารแดคน็อกซ์กล่าว แล้วก็ "แง้งงงง" ร่างเรืองแสงสีดำจนกลายร่างเป็น
               "เจเนล นี้นาย...." จิลกล่าวเพราะพวกแดคน็อกซ์กลายร่างเป็นเจเนลตั้ง 10 ตนด้วยกัน
              "เหอะๆๆๆๆๆ" เจเนลตัวปลอมเลยแห่มายังเจเนลเข้า "ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าวว" พุ่งถีบลงมา ซึ่งตัวจริงรีบตีลังกาหลบโดยเร็ว "บ้าชะมัด พวกมันบุกจู่โจมเร็วเท่าพีวิลเลยหรือวะ" เจเนลกล่าว โดยตัวปลอมนั้น "แชดๆๆๆ" ปล่อยกระสุนอนุภาคออกจากมือทั้งสองข้างไว้ "ตรุ้งงงง ตรูมๆๆๆๆ" จายด์เลยเข้าช่วยโดยยิงแครกเกอร์บอมส์เพื่อต้านกระสุนอนุภาคขึ้นมา "พวกแกทำแบบนี้ได้มั้ยละ...." เจเนลกล่าวพร้อมกับ "ครี้งงงงง" เปลี่ยนมือขวาให้เป็นมือดาบแล้วก็ "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ ป้ากกก ฉั้วะ" ใช้เมทัลเบลดฟาดฟันตัดแขนขาตัวปลอมขาดสะบั้น แล้วก็ถีบตัวปลอมตัวที่ห้าให้ผงะและสับหัวหลุดกระเด็นไป ซึ่งเจเนลตัวปลอมอีก 5 ตัวนั้นก็ "งืงๆๆๆๆๆ" พยายามจะเปลี่ยนมือเป็นมือดาบไว้ แต่ก็.... มือขวากลับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นมือดาบไปได้
              "บะ บ้าชะมัด เราเปลี่ยนมือเป็นวัตถุแข็งไม่ได้เลยหรือไงกันน่ะ" เจเนลตัวปลอมกล่าว จน "ทิ้วๆๆๆๆๆ ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก" โดนตัวจริงกราดยิงจีบัสเตอร์ให้ล้มกระจุยไป
              "กะแล้วว่า ตัวปลอมไม่มีทางเลียนแบบแขนอาวุธของพวกครีซีแทนที่ครองคอร์ดติดตั้งไว้ได้สิน่ะ" จิลกล่าว
              เจเนลบอก "พวกนายไม่เป็นไรใช่มั้ยละ"
              "พวกเราไม่เป็นไรกันละครับ" ทหารนาวิกโยธินกล่าวโดยรีบออกมา แต่ "ฟ้าวววววว" มีพวกทหารคนหนึ่งกระโจนออกจากกลุ่มเข้ามาจู่โจมจายด์ "หวับบบ ปึกกก" จายด์รีบตบทหารตนนั้นอย่างจังๆ ซึ่งก็ตีลังกาลงพื้นไว้
              "สะ เสร็จกัน" เจเนลอุทานลั่นเพราะรู้ว่าแดคน็อกซ์เปลี่ยนร่างได้ จากการแตะตัวเป้าหมายหรือโดนเป้าหมายสัมผัสไว้
              "หึๆๆๆๆๆ ถึงทีของฉันบ้างละ ที่จะบดขยี้พวกแกด้วยร่างอันทรงพลังนี้แหละ" แดคน็อกซ์ตนนั้นกล่าวและ "แว้งงงงงง" เรืองแสงเพื่อแปลงร่างขึ้นทันที แต่....
              "หือ หึๆๆๆๆ ฮะๆๆๆๆ วะฮะๆๆๆๆๆ" เจเนลที่เดิมเหวอและอึ้ง กลับอมยิ้มและหัวเราะขึ้นมา เช่นเดียวกับจิลที่หัวเราะออกมาดังๆ
              "พวกแก หัวเราะอะไรมิทราบกันละ" แดคน็อกซ์ถามอย่างงุนงง โดยที่พวกทหารซัลคาเลี่ยนเกือบทั้งหมดนั้นหัวเราะตามมาด้วย
              จายด์บอก "พยายามได้ดีมากเลยน่ะ กับการทำตัวเป็นคางคกพองตัวเพื่อสู้กับวัวกันน่ะ"
              "แต่ดูเหมือนว่า... การแปลงร่างของแกจะมี ขีดจำกัดมากๆเลยน่า" จิลกล่าวเพราะแดคน็อกซ์ที่แปลงเป็นจายด์นั้น แม้จะเปลี่ยนลำตัวท่อนบนทั้งหน้าอกและแขนทั้งสองให้ใหญ่ได้ แต่ท่อนล่างและหัวยังเป็นแดคน็อกซ์อยู่ แดคน็อกซ์ตัวที่แปลงร่างนั้นเลยรีบวิ่งเข้ามา "ฟึ่บบบ ปึกกกก ป้ากกก โครมมม" โดนเจเนลใช้เท้าเตะกล่องเหล็กให้พุ่งสไลด์เข้ากระแทกขาจนแดคน็อกซ์ตนนั้นล้มลงกับพื้นไป ซึ่งมันก็รีบลุกขึ้นและ "แว้งงงงง" แปลงร่างใหม่อีกครั้ง แต่ที่เปลี่ยนก็คือท่อนขาที่ใหญ่เกินตัวไปหน่อย ซึ่งความไม่สมดุลย์ระหว่างท่อนบนและท่อนล่างที่หนักมาก เลยทำให้ยกขาไม่ขึ้นเลย
              "พอเหอะ อย่าดันทุรังจะดีกว่า มันน่าทุเรศมากเลยวะ" เจเนลเลยยิงสตอร์มบอลชาร์จช็อตเข้า "ปั้กๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมมม" เป่าร่างแดคน็อกซ์กระจุยไปในทันที
              "แต่นั้นก็ทำให้เรารู้ว่า พวกแดคน็อกซ์แปลงร่างได้ แต่ก็ไม่ควรแปลงเป็นร่างที่มีขนาดใหญ่เกินตัวไปได้น่ะ" จายด์กล่าว
              จิลบอก "กว่าพวกนั้นจะรู้ ก็คงมีสภาพเหมือนหมอนี้แล้วละ"

              "ว้ากกกกกก" พีวิลพุ่งเข้าจู่โจมด้วยการฟาดเอนเนอจี้ร็อดสองอันเข้าใส่แดคน็อกซ์สามสี่ตัวจนล้มแดดิ้นลง "มิลเลี่ยนสไปค์" สเปียริทกระหน่ำแทงใส่พวกแดคน็อกซ์ที่ปลอมเป็นพวกทหารซึ่งเข้ามาทำร้ายพวกทหารในโรงช่างจนแดดิ้นไป 15 ตนด้วยกัน "แง้วววววว" ไม่ทันไรก็มีทหารแมทเฟลิมกระโจนเข้ามาจู่โจมสเปียริทจากข้างหลังด้วยกงเล็บ "หวับบบ ฉั้วะ ฉั้วะ" แต่สเปียริทหวดคริสทรัลร็อดทวินเบลดฟอร์มเข้าฟันตัดหัวแมทเฟลิมขาดสะบั้นลง "ฟึ่บ ตึกๆๆๆๆ" ซึ่งพวกแมทเฟลิมโดดลงมาถึง 6 ตน แถมด้วยพวกซอร์แรคอีก 4 ตนด้วย "พวกแกคงจะตามพวกแดคน็อกซ์มาเพื่อเอาเรื่องพวกเราเลยสิน่ะ" พีวิลบอก
              นักรบซอร์แรคบอก "พวกเรามานี้เพื่อมาบดขยี้กองทหารของพวกแกให้ราบคาบลงไปนี้แหละ ไอ้พวกไทรเวเซอร์"
              "ส่วนพวกเรา ได้รับคำสั่งแม่ทัพเพียโดม่าและท่านมิวนิสให้มาเอาหัวพวกแกทั้งคู่ไปนี้แหละ" พวกแมทเฟลิมชักกงเล็บอนุภาคออกมาทั้งสองข้าง และกระโจนเข้ามาหมายจะข่วนใส่สเปียริท "ทอร์เนโดว์สไปค์" พีวิลเลยหมุนตัวหวดเอนเนอจี้ร็อดฟาดใส่พวกทหารแมทเฟลิมที่กระโจนมาจน "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆ" พวกแมวอวกาศถูกฟาดกันกลางอากาศล้มลงไปกันหมด "กรรรรรร ว้ากกกกก" นักรบซอร์แรคทั้ง 4 บุกเข้าจู่โจมด้วยขวานและดาบโค้ง หมายจะจัดการกับพีวิลที่โดดลงพื้น "ฉึกๆๆๆๆ" แต่ถูกหอกและง้าวเรืองแสงพุ่งทิ้มแทงใส่นักรบซอร์แรคเข้าอย่างจังๆ
              "แย่หน่อยนะ ที่พวกแกต้องเป็นตะกวดเสียบไม้กัน ทั้งๆที่ควรจะโดนหวดให้หัวแบะกันแล้ว ถ้าไม่เพราะพวกแกโผล่มาผิดโลเกชั่นกันน่ะ"
              "พีวิล ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่พวกแดคน็อกซ์พวกเดียวแล้วที่โผล่มากันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก เพราะว่าเขากับพลัสเชอริทเจอกับพวกซีรีสตรัลเข้า "ตรุ้งงงง ตรุ้งงง ตรุ้งงงง" ลิเนียร์ตี้เลยใช้โดรมอนอิมแพคชู้ตเตอร์เป่าพวกซีรีสตรัลให้ปลิวกระเด็นกระดอนไปสามตัวด้วยกัน "ตึกๆๆๆๆๆ ฉั้วะๆๆๆ" พลัสเชอริทจู่โจมใส่ทหารซีรีสตรัลด้วยคมดาบคลื่นความถี่สูง
              เจเนลบอก "ของฉันเจอพวกบรูซาเรมและเมคครอฟิคโผล่มาด้วย ซึ่งกลุ่มหลังนั้น คงจะเอาเรื่องพวกเราตอนอยู่บนดาวของพวกมันแล้วละ" โดยตอนนี้ "ฟรีซสแปรชเชอร์ ชาร์จช็อต" จิลถล่มทหารบรูซาเรมและเมคครอฟิคให้ร่วงด้วยกระสุนเข็มน้ำแข็งขนาดใหญ่ปักคาร่างจนถูกแช่แข็งไปด้วย พวกเมคครอฟิคเลยกระโจนเข้ามาใช้แขนดาบอนุภาคหมายจะฟันใส่ แต่ "ฟ้าววว ป้ากกกก" จายด์ซัดจีแฮมเมอร์บอลพุ่งอัดกับเมคครอฟิคจนปลิว แล้วก็ "สปาร์คช็อค ชาร์จช็อต" เจเนลยิงกระสุนไฟฟ้าช็อตพวกเมคครอฟิคให้ลัดวงจรไป "ฟ้าวววว ฟ้าววว ตรูมมม ตรูมมม" เปิดช่องให้จายด์ยิงร็อกเก็ตบัสเตอร์เข้าซ้ำ โดยยิงถล่มใส่พวกบรูซาเรมด้วย
              "สเปียริท เธอรีบไปช่วยพวกเจเนลโดยเร็ว ฉันจะรีบไปช่วยพวกมาสวาร์ทาร์กันน่ะ" พีวิลบอก
              สเปียริทพยักหน้า แล้วก็ "โท้ววว" กระโดดสูงตรงไปช่วยพวกเจเนไซด์ทีมโดยเร็ว ส่วนพีวิลก็วิ่งตรงไปช่วยมาสวาร์ทาร์ พลัสเชอริทและลิเนียร์ตี้ ที่กำลังถูกซีรีสตรัลไล่ต้อนกันอยู่ "เรซเซอร์เอดจ์" มาสวาร์ทาร์ซัดคลื่นคมดาบเข้า "ป้ากกกก เพล้ง" สับแขนผลึกข้างขวาอันใหญ่โตของทหารซีรีสตรัลจนขาดสะบั้นลง แต่ "แกร็กๆๆๆๆๆ" มันงอกแขนด้วยการตกผลึกกลับมาใหม่ได้ในเวลาอันสั้น "ฟอสโบลท์" ลิเนียร์ตี้ซัดลูกบอลพลังอัดเข้าที่หน้าของซีรีสตรัลจนแตกกระจุยไป แต่ซีรีสตรัล 3 ตนนั้น "กึกๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ" แตกตัวออกเป็นก้อนหินและก้อนผลึก แล้วทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่ "หวับๆๆๆๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆๆๆๆๆ" พลัสเชอริทเลยใช้ไวเปอร์เชนหมุนควงด้านหน้า พร้อมกับปัดก้อนหินและก้อนผลึกหลายชิ้นให้กระเด็นไปเช่นเดียวกับ "เชร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มาสวาร์ทาร์ตวัดดาบด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องเข้าทำลายก้อนหินและก้อนผลึก จนทำให้ก้อนหินและก้อนผลึกเหล่านั้นก่อตัวกลับเป็นซีรีสตรัลตามเดิม แม้จะมีรอยร้าวจากการฟาดฟันไปเลยก็ตาม แต่พวกซีรีสตรัลยังบุกเข้ามาอีก "ฟิ้วววววว วี้งๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไรก็มีแสงกระพริบบนท้องฟ้าที่อยู่ด้านหลังพวกมาสวาร์ทาร์พุ่งลงมา "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ฉึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เป็นห่าหลาวและหอกผลึกพุ่งเข้าทิ้มกลางหน้าอกของพวกซีรีสตรัลที่บุกเข้ามาจนล้มลงพร้อมๆกัน "ฟ้าววว ตึกกก" สเปียริทกระโดดลงมาทันเวลาพอดี "พวกนายเกือบไปแล้วมั้ยละ" สเปียริทบอก
              "ดีแล้วละที่เธอมาช่วยไว้ได้น่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว พร้อมกับใส่กระสุนลงในอิมแพคชู้ตเตอร์ไว้
              มาสวาร์ทาร์บอก "พีวิลคงจะไปช่วยพวกเจเนลกันแล้วสิน่ะ" โดยเตรียมครอสเซี่ยมมาสเก็ตเพื่อใช้ยิงใส่พวกซีรีสตรัล ส่วนพลัสเชอริท "แกร็กๆ" เอาช็อคแคนน่อนออกมาด้วย
              "ป้ากกกก โครมมมมม ฉั้วะ ฉับบบ" จายด์ชกใส่พวกบรูซาเรมด้วยหมัดหนักๆ แล้วก็ถีบอีกตัวให้ปลิวไปอัดกับเสา ในขณะที่เจเนลใช้เมทัลเบลดฟาดฟันพวกเมคครอฟิค โดยมีจิลใช้ง้าวลิเวียทรัลฟันใส่พวกเมคครอฟิคกลุ่มที่เล่นงานเจเนลกันอยู่ด้วย "ตายซะ" บรูซาเรมบุกเข้ามาด้วยกงเล็บหมีเข้า "แกร้งๆๆๆ" ข่วนใส่จายด์ให้ล้มไป ส่วนพวกเมคครอฟิคนั้น "แกร็ก ฟ้าววววว ฟ้าววว" ยิงกงจักรติดเลเซอร์เข้าใส่เจเนลและจิล จนทั้งคู่รีบโดดหลบถอยหลังออกมาก่อนที่กงจักรจะเฉี่ยวโดนตัวพวกเขาไว้
              "โอ้ว ดูเหมือนว่ามันเลียนแบบอาวุธกงจักรของนายแล้วละ" เจเนลบอก
              จายด์ตอบกลับไปว่า "นั้นไม่ค่อยดีแล้วละ เพราะมันก็เลียนแบบเมทัลเบลดและจีนีดเดิ้ลด้วยน่ะ" เพราะทหารเมคครอฟิคส่วนหนึ่งสร้างดาบและเข็มยาวออกมากัน แต่ "ฟ้าววววว เปรี้ยงงง" โดนลูกพลังอีเนลเซี่ยมขนาดใหญ่เป่าจนส่วนแขนอาวุธของทหารเมคครอฟิคพังเสียหายไปเป็นแถบๆ โดยเป็นฝีมือของ....
              "นึกว่านายจะไม่มาช่วยเสียอีกน่ะ" เจเนลกล่าวเมื่อรู้ว่าพีวิลมาสมทบทันเวลาพอดี
              "ตอนนี้เรารีบรับมือกับพวกศัตรูที่มาพร้อมกับพวกแดคน็อกซ์กันดีกว่าน่ะ" พีวิลกล่าวพร้อมกับประกอบอีเนลเซี่ยมร็อดให้เป็นตะบองไว้
              จายด์กล่าว "และสงสัยว่าคงต้องเล่นแรงกันสักหน่อยแล้วละ" เพราะตนเอาขวานกิโยตินคัตเตอร์ออกมาแล้ว

              "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆ" วิงค์เซปเตอร์บุกมาพร้อมกับวิงค์ฮาเคนจำนวนหนึ่ง โดยมากับเวฟสไตรเดอร์ และเมอมาร์คจำนวนมากนำหน้าไปก่อน "ตรุ้งๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" เรือรบของกองเรือระดมยิงปืนใหญ่เข้าถล่มใส่กองรบดังกล่าว แต่พวกนั้นกลับบุกฝ่าไปโดยไม่กลัวถูกกระสุนปืนใหญ่เป่ากระจุยไป เช่นเดียวกับ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ แชด แชด แชด แชด แชด แชด" สกรีแทนมาร์ควันใช้ดีทอเนเตอร์พ็อดยิงขีปนาวุธโต้ตอบกองรบของพวกอัลแทเรี่ยนและเทรโอเซี่ยมไว้ แต่ก็ไม่ดีขึ้น เพราะ... "แย่แล้วละ พวกนั้นมีหุ่นกิ่งก่า หุ่นหมีแถมมาด้วยน่ะ" นายกองหน่วยสกรีแทนกล่าวอย่างหงุดหงิดเพราะลาสแบรทและจูลาสโต้บุกเข้ามาด้วย
              "นั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเรากันหรอกน่ะ" ฟิเกซบอกพร้อมกับ "ฟ้าวววว ฟ้าววว แชดดด แชดดด แชดดด" ใช้พลาซอนไรเฟิ่ลยิงใส่ลาสแบรทจากเบื้องบนให้กระจุยไป พร้อมกับบินลงมาใช้พลาซอนเอดจ์ "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ" ฟาดฟันใส่จูลาสโต้ที่พุ่งเข้าใส่สกรีแทนมาร์ควันที่ใช้เมลเบิร์นทอชเซอร์ให้ขาดสะบั้นลง อัสแทรมิคจำนวน 50 เครื่องบินเข้ามายิงกระสุนโฟรตอนวัลแคนจากโคนปีกเข้าใส่สกรีแทนมาร์คทูจนได้รับความเสียหายไป "ฟ้าววววว แชดดดด แชดดดด" ไซโคลเนียบุกเข้าจู่โจมด้วยปืนเทมเพสต้าบัสเตอร์ไรเฟิ่ลเป่าพวกอัสแทรมิคให้กระจุยไป 6 เครื่อง พร้อมกับสอยวิงค์ฮาเคนให้ร่วงลงทะเลไปด้วยกัน พร้อมกับ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" ปล่อยไมโครมิไซล์และอาร์มมิไซล์แคนน่อนเข้าถล่มฝูงวิงค์เซปเตอร์ให้กระจุยไปเป็นสิบลำ แต่พวกเมอมาร์คโผล่ขึ้นมาพร้อมกับดีฟแอทแทคเกอร์จำนวน 15 เครื่องซึ่งทะยานขึ้นจากน้ำหมายจะสอยไซโคลเนียให้ร่วง "แชดดดด ป้ากก ตรูมมม" แอนเดรียยิงดีฟแอทแทคเกอร์ให้พังซึ่งก็ทำให้เมอมาร์คที่ขี่อยู่ร่วงตกลงมา แต่ก็ "แชดๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" ไปทำให้อัลแทเรี่ยน เทรโอเซี่ยมและบรูซาเรมกระหน่ำยิงอาวุธเข้าใส่จนแอนเดรียต้องกางบาเรียป้องกันเอาไว้ "แชดดด แชดดด แชดดดด แชดดดด" แอบไบออสเลยบินเข้ามาสาดยิงกิซซาร์ดเรลลันเชอร์เข้าถล่มใส่จนร่วง แต่จูลาสโต้ทะยานขึ้นสูงเพื่อใช้ขวานฟาดเข้าใส่ "แกร้งงงง เกร้งงงงง" จนแอบไบออสต้องเปลี่ยนลันเชอร์มาเป็นเรซเซอร์โดยทันที เปิดช่องให้จูลาสโต้ส่วนมากบุกมาพร้อมกับแคทครอฟและเพรเดแคทที่พุ่งออกมาจากเรือของพวกเทรโอเซี่ยม สมทบกับเมอมาร์ค อัสแทรมิค และสวอร์มมิสที่โผล่ออกมาด้วย "ป้ากกก โครมมม เปรี้ยงงงง ฉั้วะ ฉับ" พวกเฮเรเค้นรีบบุกเข้าสกัดกั้นกองรบวอร์บอทอย่างทันควัน โดยที่เนคกี้และเนคกัสควบคุมอาร์ซโทรนเข้าใช้เฮฟวี่พลาสม่าซอร์ ดฟาดฟันใส่จูลาสโต้และลาสแบรทที่บุกเข้าประชิดไปด้วย "ฟ้าวววว ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" สเตฟอร์ด และเนคมาดูซัมบินเข้ากราดยิงด้วยสปีดคอนตินิวกันและกราฟเฮฟวี่ไรเฟิ่ล พร้อมไดนามิคลันเชอร์เป่าทำลายพวกเมอมาร์คและสวอร์มมิสที่บุกเข้ามาให้ร่วง "ฟ้าวๆๆๆๆ" คลอเวฟยิงตอปิโดเข้าถล่มใส่กองเรือของพวกเทรโอเซี่ยมเข้า แต่ "แชดๆๆๆๆๆ" ป้อมปืนที่อยู่ในหัวเรือเปิดออกพร้อมกับยิงเลเซอร์ทำลายตอปิโดเอาไว้
              "ไม่เข้าท่าแล้วละ ลุง ไอ้เรือลำนั้นมันติดปืนเลเซอร์สอยตอปิโดลุงร่วงไปแล้วน่ะ" ชาร์เครฟบอก พร้อมกับหลบเมอมาร์คที่ใช้ตรีศูลพลังอนุภาคแทงใส่
              "กะแล้ว ว่าพวกเดลอาเนี่ยนมันต้องมาแบบรวมมิตรจนได้สิน่า" โฟรซ่ากล่าวพร้อมกับ "เปรี้ยะๆๆๆ" ช่วยพวกฟลาแน็กซ์และมัลแด็กซ์ด้วยการสอยอัสแทรมิคและสวอร์มมิสจากระยะไกล
              คลอเวฟบอก "มันไม่ใช่แค่รวมมิตรอย่างเดียวแล้ว แต่มันมาเพื่อยำพวกเราให้เละเป็นโจ๊กกันซะมากกว่าวะ" แล้วก็บอก "เนคเกอร์ ให้กูนำไทรแองเกิ้ลประจัญบานเลยมั้ย"
              "ไม่เวิร์คหรอกคะ ถ้ากองเรือรบของพวกเทรโอเซี่ยมมีป้อมปืนต่อต้านตอปิโดได้ ก็เท่ากับว่ามันต้องติดปืนใหญ่สำหรับจมยานรบได้แน่ๆเลยละคะ" แอมเบอร์บอก
              สเตฟอร์ดบอก "แต่นั้นก็ช่วยให้เรารู้ว่าพวกเดลอาเนี่ยนบุกเล่นงานพวกเรายังไงแล้วละ"
              "ลุงเบติส ป้าวิลด้า ตาพวกลุงออกลุยแล้วละ" เนคมาดูซัมกล่าว โดยตอนนี้ฟิเกซรีบใช้สไตร์คแมชชีนกันกราดยิงทั้งกระสุนปืนและมิไซล์ เข้าเล่นงานลาสแบรทที่กำลังจะสอยพวกฟลาแน็กซ์และมัลแด็กซ์ให้ร่วง
              เบติสบอก "พอดีเลย พวกเราติดตั้งชิ้นส่วนเสร็จแล้ว พร้อมออกลุยกันแล้วละ"

              "เหอะ ถึงพวกแกจะส่งใครมา แต่ก็ไม่มีประโยชน์กันแล้ว เตรียมตัวตายได้...." ทหารอัลแทเรี่ยนกล่าวพร้อมกับจ้วงแทงดาบแสงของอัสแทรมิค เข้าใส่การ์เซนครีทของพวกฟลาแน็กซ์และมัลแด็กซ์ที่หลบไม่ทัน แต่.... "ครืดดดดดด หึมๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวววววว ฟ้าววววว" ส่วนกราบซ้ายและขวาของไทรแองเกิ้ลเลื่อนเปิดพร้อมกับส่งสกรีแทนแอสโตรเกเซอร์และแพนเซสเซนไนน์ออกบินไป "แชดดดดดดดด" "แชดดดดดดด" ลำแสงควงสว่านและลำแสงพลังพลาสม่าสองเส้นพุ่งเข้า "ป้ากกก ป้ากกก ตรูมมมมม บรึมมมมม" ทะลวงใส่หุ่นอัสแทรมิคทั้งสี่ตัวไปอย่างจังๆ โดยเป็นฝีมือของ
              "นี้นะหรือ พาร์ทเสริมรุ่นใหม่กันน่ะ" มัลแด็กซ์กล่าว เมื่อเห็นแพนเซสเซนไนน์ติดตั้งพาร์ทแบ็คแพ็คติดปีกพร้อมปืนใหญ่ยาวสองกระบอก โดยใต้ปีกมีป้อมมิไซล์แบบ 5 ช่องยิงเอาไว้ทั้งสองข้าง ในขณะที่แอสโทรเกเซอร์นั้น ส่วนขาสวมบูสเตอร์ขนาดยาวเอาไว้ทั้งสองข้าง เพิ่มป้อมมิไซล์บนหัวไหล่อีกสองข้าง โดยมีปืนยาวหัวสี่แฉกสครูวอิมพัลช์ไรเฟิ่ลที่ยาวมากกว่าเดิม
              "นี้ป้า อยากเป็นแม่มดอวกาศมากเลยหรือ ถึงติดพาร์ทนี้จนขาดูยาวมากเลยน่ะ" เฮเรเค้นบอก
              วิลด้ากล่าว "ฉันมันเลยวัยของพวกแม่มดน้อยไปไกลมากแล้วน่า เดียวไม่ช่วยเลยมั้ยละ"
              "มิลด์ พาร์ทเธอดูหนักไปหน่อยน่ะ เพราะติดปืนยาวเอาไว้ทั้งสองกระบอกด้วยกัน แถมไม่มีมาสแตงค์ไรเฟิ่ลด้วยน่ะ" สวอนน่าบอก
              มิลด์บอก "ไม่ต้องหรอก เพราะว่ามีมาสแตงค์บัสเตอร์ลันเชอร์ติดตั้งไว้สองกระบอกกันแล้ว แถมยังมีมิไซล์ลันเชอร์ใต้ปีกกันไว้ด้วยน่ะ"
              "พวกศัตรูเอาหุ่นตัวใหม่มาแล้วละครับ" ทหารเทรโอเซี่ยมกล่าว
              พวกอัลแทเรี่ยนเลยนำวิงค์ฮาเคนบุกเข้าใส่พร้อมกับ "เอาฮาเคนมิไซล์บัสเตอร์ไปกิน" ยิงมิไซล์ออกไปจากทั่วยานทั้งลำถึง 15 ลูกด้วยกัน มิลด์เลยต้องเคลื่อนตัวเข้ามา "วอร์เฮดรีเวิร์สเซอร์ ออน" พร้อมกับกดปุ่นสีเขียวเข้า "งึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ตัวแบ็คแพ็คนั้นส่งคลื่นเสียงขึ้นมาในจังหวะที่มิไซล์จำนวน 15 ลูกพุ่งเข้าใส่ "หวืบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งมิไซล์เหล่านั้นได้พุ่งออกห่างจากแพนเซสเซนไนน์กลับมายังวิงค์ฮาเคน "ตูมๆๆๆๆๆๆ" แตกระเบิดใส่ไปเต็มๆ
              "บะ บ้าน่า มันแจมขีปนาวุธของเราได้เลยหรือเนี้ย" ทหารเทรโอเซี่ยมอุทานลั่น
              "ระบบแจมเมอร์ที่ติดตั้งไว้ในพาร์ทนี้โอเคมั้ยละ" ฟูแรมบอก
              มิลด์กล่าว "ถึงจะใช้รีพัลเซอร์ชิลด์ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยในเรื่องรับมือกับขีปนาวุธได้บ้างน่ะ" โดยตอนนี้อัสแทรมิคจำนวน 15 เครื่องบุกมาพร้อมกับวิงค์เซปเตอร์ 30 ลำ และวิงค์ฮาเคนอีก 4 ลำด้วยกัน มิลด์บอก "สงสัยว่าความเร็วของพาร์ทนี้คงไปไม่ทันยานรบของพวกอัลแทเรี่ยนแล้วคะ"

              "ถึงคราวที่ฉันจะทดสอบแอสโตรวิชพาร์ทกันสักหน่อยแล้วละ" วิลด้าบอกพร้อมกับ "แกร็ก" ดันคันเร่งด้านข้างขวาจน "หึมๆๆๆๆ ฟึ่บบบ" ส่วนบูสเตอร์ที่ท่อนขาที่ใหญ่ทั้งสองข้างและด้านหลังนั้นจุดประทุขึ้น วิลด้าเลยนำแอสโตรเกเซอร์อยู่ในท่านอนและ "วึงๆๆๆๆ ซูมมมมมมม" ทะยานออกตัวไปโดยเร็ว ซึ่งแรงจีอันมหาศาลจากพาร์ทนี้ทำให้หลังของวิลด้าติดเก้าอี้ด้วยกัน "พลังขับเคลื่อนเพิ่มขึ้นแบบนี้ ดีน่ะที่เธอใช้เวลาเซตห้องคนขับให้รับมือกับแรงจีอันมหาศาลเอาไว้ได้เสียก่อนน่ะ ฟูแรม"
              ฟูแรมตอบ "ทำไงได้ละครับ ป้า พาร์ทที่สเปซวิชใช้งานซึ่งผ่านการปรับปรุงให้นักบินที่มิได้มีพลังเวทย์มนต์อยู่ในตัวนั้น มันแรงเกินนะครับ"
              "ฉันรู้ดี ว่าพาร์ทนี้แรง แต่...ถ้าไม่ใช้แรงฮึดซะ มีหรือจะคุมม้าที่วิ่งเร็วเกินไม่ได้กันน่ะ" วิลด้าบอก โดยตอนนี้ตนบินผ่านพวกอัสแทรมิคไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้พวกอัลแทเรี่ยนไล่กวดไปทันที "ตี้ดๆๆๆๆๆ" เรดาห์ระบุสัญญาณกลุ่มศัตรูไล่หลังมา "สงสัยว่าคงไม่ยอมให้แซงหรือรอดจากเป้าเล็งเลยสิน่า ช่วยไม่ได้แล้วละที่มาเล่นกับแม่เหยี่ยวน่ะ" วิลด้าซึ่งปรับตัวกับสมรรถนะการขับเคลื่อนที่เร็วมากนั้น ก็ "หวับบบ หวับบ หวับบ" บินหลบหลีกลำแสงที่อัสแทรมิคยิงไล่หลังมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับ "ฟ้าววววว" บินตีลังกาไปข้างหลังฝูงบินวิงค์เซปเตอร์ 10 ลำแล้วก็ "ปี้บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ล็อกเป้ายานจากข้างหลังด้วยสายตาอย่างรวดเร็ว และ "แกร็ก" กดปุ่มตรงคันบังคับซ้ายเพื่อ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงมิไซล์จากด้านข้างและบนหัวไหล่เข้า "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สอยวิงค์เซปเตอร์ทีเดียว 10 ลำร่วงไปในทันที
              "หนอยยยย นี้แกบินไวกว่าพวกเราแบบนี้ คิดหรือว่าแกแน่นักหรือ" ทหารอัลแทรเรี่ยนที่เห็นพวกพ้องถูกสอยก็หันกลับมา "แชดๆๆๆๆๆๆ" ระดมยิงปืนแสงที่หลังแขนเข้าใส่ "หวืบบบบ หวืบบบบ หวืบบบ" วิลด้ารีบโยกหลบเลเซอร์ชุดแรกออกด้านข้าง จากนั้นก็บินขึ้นเพื่อหลบระลอกที่สอง แล้วก็หมุนตัวตีลังกาหลบดอกที่สามที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับ "หวับๆๆๆๆๆๆๆ ครืนนนนนน" เหนี่ยวไกยิงปืนยาวหัวแฉกทั้งสองกระบอกเข้า "ป้ากกกก ป้ากกกก" ทะลวงใส่อัสแทรมิค 4 ตัวจนหุ่นเสียแขนและขาไปพร้อมกับลำตัวที่ระเบิดเป็นจุลไป "ฟ้าวววว ฟ้าวววว" วิงค์ฮาเคน 2 ลำบินวนรอบวิลด้า เพื่อทำให้เธอสับสนจนไม่สามารถยิงได้ "เสร็จเราละ ไอ้แมนิเกเตอร์" นักบินอัลแทเรี่ยนกล่าวพร้อมกับนำวิงค์ฮาเคนพุ่งชนเข้าใส่วิลด้า แต่ "ซูมมมมม" เธอบินหลบการพุ่งชนด้วยความเร็วสูงของวิงค์ฮาเคนพร้อมกับ "หวับๆๆๆๆๆ ครืนนนนนน เปรี้ยงงงงง" ยิงปืนคลื่นพลังควงสว่านเจาะวิงค์ฮาเคนเข้ากลางลำอย่างจังๆ จน "ตรูมมมมม"
              "แย่หน่อยนะ ที่ต่อให้ยานมีเกราะหนาเท่ากับจำนวนยานที่ประกอบกัน ก็หาได้ต้านสครูวอิมพัลซ์ลันเชอร์อันนี้ไปไม่ได้หรอก" วิลด้ากล่าว แต่วิงค์ฮาเคนอีกลำบุกจากข้างหลังพร้อมกับหมุนควงสว่านไว้ "กึกกก" วิลด้าเลยใช้เท้าซ้ายเหยียบคันเร่งตรงกลางไว้ จน "แกร็ก" ส่วนปลายไอพ่นแยกออกพร้อมกับ "ซูมมมมมม" เหยียบคันเร่งเพื่อทำให้ไอพ่นเร่งเครื่องจนเกิดคลื่นไอพ่นอนุภาคแสงขนาดยาวแล้วก็ "หวับบบบบบบบบ" เหวี่ยงขาที่มีไอพ่นอนุภาคขนาดยาวในแนวขวางใส่ "ฉืบบบบบ" วิงค์ฮาเคนที่บินหมุนควงสว่านมาจน "โครมมมม" ยานวิงค์ฮาเคนแยกออกเป็นสองซีกภายในทันที และ "ตรูมมมมม" ยานระเบิดกระจุยไปทั้งสองซีก
              "โว้ว นี้ขาไอพ่นขนาดใหญ่สร้างดาบแสงได้เลยหรือเนี้ย" ชาร์เครฟบอกพร้อมกับหวดแส้ความถี่สูงอัดใส่เมอมาร์คจนพัง
              "แน่ละ เพราะว่าพาร์ทแอสโตรวิชนั้นถูกออกแบบให้สู้รบด้วยอาวุธปืนและจรวดเหมือนกับพวกสเปซวิช หากแต่มันมีข้อเสียก็คือ ลันเชอร์มีขนาดยาวและใหญ่จนไม่สามารถจ่ายพลังงานให้กับส่วนแขนทวินเจ็ทดริลเพื่อใช้สู้ประชิดตัวได้ เลยปรับให้วิชเล็คบูสเตอร์สร้างคมดาบพลังแสงวิซซอร์ดขึ้นมารับมือแทนนะสิ" ฟูแรมบอก
              พาลกีสกล่าว "แต่คงแรงพอที่จะกรีดสับยานรบให้เป็นรอยเหมือนหุ่นยักษ์ของไอ้เนิร์ดได้มั้ยละ"
              "เกรงว่าคมดาบพลังแสงนั้นมันไม่แรงเท่ากับปริซึมเบลดอัดพลังเต็มเหนี่ยวกันหรอกน่า" ฟูแรมกล่าว

              โดยตอนนี้มิลด์ใช้มาสแตงค์บัสเตอร์ลันเชอร์ยิงใส่วิงค์ฮาเคนจนยานด้านข้างสองลำพังเสียหายไป อัสแทรมิค 6 ตัวบุกเข้ามา "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆ" มิลด์เลยต้องยิงสไตร์คแมชชีนกันและมิไซล์พ็อดเข้าถล่มใส่อัสแทรมิคให้ร่วง แต่มีตัวหนึ่งบุกเข้ามาในระยะประชิด "แกไม่มีทางโต้ตอบฉันที่ประชิดใกล้กับแกได้ทันเวลาหรอก...." อัลแทเรี่ยนกล่าวอย่างลำพองใจ แต่ "ฉึกกกก" ตัวหุ่นชะงักลงจนนักบินกระตุกอย่างจังๆ เพราะ.... "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ" อาร์มิคไนฟ์ข้างขวาสร้างคมดาบพลังไฟฟ้าอันยาวแทงเข้าตรงท้องไปในทันที
              "แย่หน่อยนะ ที่เฮฟวี่เมทัลอาร์มพาร์ท มีอะแดฟเตอร์เสริมพลังให้ส่วนหัวไหล่ส่งพลังให้กับอาร์มิคไนฟ์ สร้างสปาร์คเซเบอร์ขึ้นมารับมือกับพวกนายที่บุกเข้ามาใกล้ แต่อยู่ห่างออกไปกันนี้แหละ" มิลด์กล่าวพร้อมกับ "ครืดๆๆๆ" ใช้นิ้วหมุนปุ่มกลมเพื่อเร่งประจุไฟฟ้า "แชบบบบบบบบบบ ตูมๆๆๆๆๆๆ บรึมมมม" ช็อตอัสแทรมิคให้ลัดวงจรและระเบิดแหลกเป็นจุลไป ส่วนมิลด์ก็ถอยออกมาเพราะอัสแทรมิค อีก 5 ตัวบุกเข้าใส่อย่างรวดเร็ว "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" พวกฟลาแน็กซ์และมัลแด็กซ์รีบรุดเข้ามาช่วยฟันอัสแทรมิคด้วยดาบยาวจนขาดสะบั้นลงทั้งสามตัว อีกสองตัวนั้น "ฉั้วะ ฉั้วะ" โดนมิลด์ใช้สปาร์คเซเบอร์สองเล่มฟันใส่ให้ระเบิดไป วิงค์ฮาเคนลำที่ 4 บุกมาพร้อมกับสวอร์มมิสอีกหลายตัว "แชดดดดดดดดด" มิลด์เลยยิงมาสแตงค์บัสเตอร์ลันเชอร์เข้าถล่มใส่สวอร์มมิสให้กระจุย ทว่าวิงค์ฮาเคนพุ่งเข้ามา "ฟ้าววววววว แชดดดดด ป้ากกก ตรูมมมม" เลยโดนวิลด้าบินเข้าด้านข้างและยิงสครูวอิมพัลส์ลันเชอร์เจาะทะลวงให้ระเบิดไป
              "เกือบไปแล้วมั้ยละ" วิลด้าบอก
              "ไม่นึกเลยว่าป้าจะมีพาร์ทเสริมที่เร็วเช่นนี้ คงต้องตามให้ทันเสียแล้วละ" ไซโคลเนียกล่าว โดยบินมาสมทบด้วย
              มิลด์บอก "เออ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาแข่งขันกันนะคะ คุณไซโคลเนีย"

              "เหอะ ไอ้พวกอินเซคเที่ยนและอัลแทเรี่ยนวุ่นอยู่แบบนี้ ข้ามไอ้พวกหน้าสัตว์ไปเล่นงานตัวหลักโดยเร็วเลย" ทหารแมทเฟลิมที่ควบคุมเพรเดแคทกล่าว โดยบุกไปพร้อมกับแคทครอฟกระโจนเข้าจัดการกับพวกเนคมาดูซัมที่เข้าช่วยพวกเฮเรเค้นหยุดพวกเทรโอเซี่ยม บรูซาเรม และซอร์แรคกันอยู่ แต่.... "ฟ้าววววว ซูมมมมมมมมมม ครืนนนนน" เบติสนำสกรีแทนไคโอเบิร์นเนอร์ติดพาร์ทเสริมส่วนแขนให้หนาทั้งหัวไหล่ ไปจนท่อนแขนและติดปืนกลพวงที่แขนทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเสริมเกราะขาให้หนา และติดบูสเตอร์ไว้ที่กลางหลัง แถมด้วยแว่นกันลมบนส่วนหัว ส่วนอัลติเมทเอทของไกซ์นั้น เสริมเกราะบนหน้าอก หลังแขนและหน้าแข้งให้หนาด้วยเกราะสีน้ำตาลเข้ม ติดโลห์พร้อมปืนกลพวงสองกระบอกเอาไว้ที่ด้านข้างหัวไหล่ทั้งสองข้าง "ซูมมมมมม" ด้านหลังติดบูสเตอร์กลางหลังที่ใช้ชะลอการลงพื้น เช่นเดียวกับข้างต้นขาสองข้างติดโซลิดเบลดไว้ "ครืดดด แกร็ก ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" อัลติเมทเอทเลื่อนโลห์ปืนกลที่อยู่ข้างหัวไหล่สองข้างกราดยิงใส่เพรเดแคทจน "ปุ๊ๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมม บรึมมม" ตัวทะลุและระเบิดไปทั้งสองตัว ส่วนเบติสนั้น "ครืด ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงปืนกลพวงที่หลังแขนขวาเข้าใส่แคทครอฟและเพรเดแคทที่กระโจนเข้าใส่ จนรูกระสุนหลอมละลายจากด้านหน้าไปข้างหลังและ "ตรูมมมม บรึมมมมม บรึมมมม" ระเบิดแหลกเหลวไป ส่วนอีกชุดหนึ่งก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปุ๊ๆๆๆๆๆๆๆ แกร็กๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงปืนกลพวงที่หลังแขนซ้ายใส่พวกแคทครอฟที่โดดกลางอากาศ จนลำตัวมีไอเย็นก่อตัวขึ้นจากการแช่แข็งจากภายในอย่างรวดเร็ว จน "หวืออออ ตรูมมมม ซ่าๆๆๆๆ" ร่างหุ่นวอร์บอทและวอร์แมชชีนของแมทเฟลิมร่วงตกทะเลจนแตกกระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป
              "เสร็จเราละ ไอ้หัวดำ...." นักรบแมทเฟลิมที่เหลือกำลังเล็งจัดการกับอัลติเมทเอทด้วยแคทครอฟ แต่ "แกร็ก ฟ้าววว ฟ้าววว ครี้งงงง" ไกซ์ยื่นแขนสองข้างขึ้นและยิงกงจักรสองอันออกไป โดยตกผลึกสร้างคมกงจักรขึ้นอย่างรวดเร็วและ "ฟ้าวววววว กรี้กกกกก กรี้กกกกกก ฉั้วะๆ" กรีดสับแคทครอฟจนลำตัวแยกเป็นสองซีกพร้อมกันทั้งสองตัว "ตูมมมม บรึมมม" จนระเบิดไป "ฟ้าววววว แกร็ก แกร็ก" โดยกงจักรพุ่งกลับมาใส่ที่เกราะหลังแขนอัลติเมทเอทในทันที
              "อะไรวะเนี้ย นี้พาร์ทนายก็แจ่มเลยหรือวะ" ไลเอิร์ทกล่าวอย่างอึ้งๆ
              "ใช่ ไอรอนเครดพาร์ทนี้ มันแจ่มและเท่ห์มากก็จริง แต่...มันหนักเอาเรื่องเลยน่ะ" ไกซ์บอก
              ฟูแรมกล่าว "แน่ละ พาร์ทเสริมความแข็งแกร่งของสกรีแทนมาร์ควันแบบชุดเกราะอัลคาเนี่ยมคลุมตามตัวไว้ ซึ่งใช้สำหรับรับความเสียหายจากพวกเฮซเทิร์ซที่แข็งแกร่งและชอบเล่นรุมสกัมไว้ แน่นอน ว่าเกราะที่แข็งแกร่งมากๆนั้น มันก็หนักจนทำให้ขยับได้ช้าลงตามไปด้วย ฉันเลยติดตั้งเครื่องยนต์แอร์เรียลไดร์ฟ เพื่อช่วยให้นายสามารถนำคู่หูของนายเข้าตะลุมบอนใส่ได้ง่ายเหมือนไม่ได้ใส่เกราะกันนะสิ"
              "แน่ละ ถ้าฟูแรมไม่ติดตั้ง กว่าเธอจะเข้ามา ฉันหรือพวกพ้องของเธอคงโดนเก็บไปนานแล้วนะสิ" เบติสกล่าว "ตอนนี้ รีบออกตัวไปช่วยกันดีกว่า"
              ไกซ์พยักหน้าแล้วก็ "ครืดด ซูมมมมมม" นำอัลติเมทเอทออกทะยานไปช่วยพวกเฮเรเค้นที่กำลังถูกพวกซอร์แรคไล่ต้อนกัน "ว้ากกกกก" ไกซ์บุกเข้ามาพร้อมกับ "หมับบบ ฉั้วะ" ใช้โซลิดเบลดที่ติดต้นขาซ้ายฟันจูลาสโต้ให้ขาดสะบั้นในทันที แล้วก็ "หมับบบบ ฉึกกก" ใช้ดาบเล่มขวาแทงใส่จูลาสโต้ตัวที่สองที่หวดค้อนเข้ามาจนทะลุหน้าอก แล้วก็ "ฉับ" ฟันดาบในมือขวาตัดหัวให้ขาดสะบั้นลง พร้อมกับตวัดดาบเสยขึ้นออกไป จากนั้นก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่เมอมาร์คที่กำลังเล่นงานเวลลิทจากข้างหลังด้วยวัลแคนชิลด์จนทำให้มันชะงักจากแรงระเบิดไป
              "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เบติสกราดยิงฟรีซซิ่งวัลแคนเข้าใส่ลาสแบรทที่เตรียมยิงใส่พวกไรแกทให้ถูกแช่แข็ง และเปิดช่องให้ "ตรุ้งๆๆ เพล้งงงง ตรูมมม บรึมมม" พวกไรแกทสวนกลับด้วยบูสเตอร์ฟิสท์ต่อยจนกระจุยไป "ซ่า....." จูลาสโต้สองตัวโผล่มาจากด้านหน้าเบติสโดยเตรียมขวานหมายจะสับแขนให้ขาด "ครืดดด ซูมมมมม" แต่เบติสเหยียบคันเร่งให้ไคโอเบิร์นเนอร์เร่งความเร็วพุ่งเข้า "ป้ากกกก" กระแทกใส่จูลาสโต้ทั้งสองตัวให้ถอยผงะตามแรงกระแทก แล้วก็ "ครืดดด แกร็ก แกร็ก" เลื่อนสนับมือทั้งสองข้างที่เรืองแสงขึ้นและ "หวับบบบบ ป้ากกก ป้ากกก" ชกใส่จูลาสโต้ทั้งสองตัวเข้าที่หน้าอกอย่างจังๆ "พรึบบบบบ" ตัวที่ถูกหมัดขวาชกไฟลุกจากภายใน ส่วนตัวที่ถูกหมัดซ้ายต่อยนั้น "แกร็กๆๆๆๆๆ" รอยแตกปรากฎน้ำแข็งทะลุออกมาแล้วก็ "ป้ากกก" ดึงมือทั้งสองข้างกลับมา "ป้ากกก เปรี้ยงงงง" ชกซ้ำจนหุ่นจูลาสโต้ทั้งสองตัวกระจุยไป "โว้ว พาร์ทของลุงแรงไม่หยอกนะเนี้ย" เรปไซท์กล่าวโดยรีบหลบจูลาสโต้ที่ไล่ฟันด้วยขวาน ซึ่งก็โดนแอบไบออสฟันตัดหัวด้วยกิซซาร์ดเรซเซอร์ขาดไปในทันที
              "แน่ละ เทอโบแอทแทคเกอร์พาร์ทนั้น เป็นพาร์ทเสริมความแข็งแกร่งสำหรับสกรีแทนมาร์ควัน ด้วยการติดตั้งเทอโบทรัสเตอร์ที่ใช้เร่งความเร็วในขยับตัว เช่นเดียวกับเสริมเกราะส่วนแขนเพื่อใช้จู่โจมด้วยหมัดที่ติดสนับมือเสริมพลังเอาไว้ด้วยน่ะ" เบติสกล่าว
              แอบไบออสบอก "แต่นายก็รู้ดีแล้วนิ ว่าเครื่องยนต์ของหุ่นนายมันก่อเกิดความร้อนมากกว่าปกติแล้วนิ ถ้าเร่งความเร็วเครื่องยนต์ก็โอเวอร์ฮีทได้ง่ายเลยนะ"
              "ถ้าสกรีแทนติดอาวุธเมลเบิร์นทอซเชอร์หรือฟรีซเวฟลันเชอร์เพียวๆ จะติดตั้งพาร์ทนี้ไม่ได้ก็จริง แต่ผมแก้ไขด้วยการปรับให้เครื่องยนต์ใช้ความร้อนไหลเวียนกันไว้แล้วนะครับ" ฟูแรมอธิบาย "ส่วนแขนอาวุธเดิม ผมเปลี่ยนเป็นเมลเบิร์นแกตลิ่ง และฟรีซเวฟวัลแคน เพื่อใช้จู่โจมศัตรูในระยะห่างไว้ แม้ว่าจะไม่แรงเท่ากับของเดิมก็ตามน่ะ"
              เบติสบอก "นั้นก็ดีแล้วละ แม้ว่าจะยิงกระสุนระเบิดที่ขาไม่ได้ เพราะเกราะหน้าแข้งปิดเอาไว้ แต่ก็สามารถช่วยตะลุมบอนได้ก็เกินพอแล้วละ" แล้วก็ "ป้ากกก" ต่อยเข้าใส่ลาสแบรทที่บุกเข้ามาด้วยเล็บหมีจนหัวหมุน 4 รอบด้วยกัน

              "แต่จะดีกว่ามากนะ หากพวกเรามาช่วยด้วยอีกแรงกันน่ะ" สเตฟอร์ดกล่าวพร้อมกับ "ป้ากกกก" พุ่งเข้าชนใส่เมอมาร์คที่โผล่ขึ้นจากน้ำจนกระเจิดกระเจิงไป "เปรี้ยะๆๆๆ" โฟรซ่ายิงเมย์ไนซ์บัสเตอร์ไรเฟิ่ลสอยสวอร์มมิสที่ติดคอร์บีสต้าและมันทิสให้ร่วง โดยแอนเดรียเข้าป้องกันลำแสงที่คอร์ปาปิยาสยิงเข้าใส่และสวนกลับด้วยลองค์ลันเชอร์สอยตรงลำตัวให้พังไป "ฟ้าวววว ป้ากกกก" เนคมาดูซัมพุ่งเข้ามาชกจูลาสโต้ให้กระจุยด้วยไมท์ตี้โบลท์นัคเคิ้ลจนกระจุยไป แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่เมอมาร์คที่โผล่ขึ้นจากน้ำให้ร่วงไป 4 ตัวจาก 6 ตัว ซึ่งอีกสองตัวนั้น "แชดดดดด แชดดดด" โดนเนคกี้และเนคกัสยิงเรย์แซทไรเฟิ่ลไทป์เอสและไทป์แอลทำลายทิ้งไป "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ไกซ์ไล่จัดการกับลาสแบรทที่กำลังเล่นงานพวกไซโคลเนียด้วยปืนใหญ่ด้วยโซลิดเบลด แต่ลาสแบรทแบบติดกงเล็บหมีทั้งสองข้างบุกเข้ามาถึง 8 ตัว "ฉั้วะ ฉับ ป้ากกก โครมมมม" ไรแกท แบร็อค เทรอนเร็กซ์ พาลกีส พาแรม ไลเอิร์ท วูลเฟลล่าและเฮเรเค้นพุ่งเข้าจัดการเป็นรายตัว "เฮ้ ไม่ใช่นายคนเดียวที่ทำเท่ห์กันสักหน่อยน่ะ" บุลพลาทกล่าวโดยพุ่งเข้าใช้เขาควายแทงใส่จูลาสโต้ให้ทะลุไป ซึ่งไกซ์รีบใช้โซลิดเบลดต้านรับขวานของจูลาสโต้อีกตัวและผ่าขาดสองซีกในดาบเดียว แล้วก็ "ฟ้าววว ฟ้าววว ฉั้วะๆ" ยิงซอร์เซอร์เบลดเข้าตัดหัวแคทครอฟขาดสะบั้นลง
              "กองรบวอร์บอทของพวกเราเริ่มแย่แล้วละครับ" ทหารเทรโอเซี่ยมบอก
              เวเดมบอก "สั่งให้เรือรบส่วนหนึ่งดำลงไปเดียวนี้ พวกมันไม่มีทางหยุดเราด้วยวิธีนี้กันได้...." แต่.... "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไทรแองเกิ้ลยิงซีคเกอร์ลันเชอร์พุ่งขึ้นไป "อย่าไปกลัวมัน วิธียิงมิไซล์ขึ้นสู่ที่สูงลงสู่ที่ต่ำนั้น หยุดพวกเรามิได้กันหรอก"
              "ตรุ้งงงงงง ป้ากกกกก ตรูมมมมม" แต่เรือพิฆาตถูกยิงจนเรือมีรูโหว่ขนาดใหญ่จนเรือระเบิดเป็นจุลไป แล้วก็ "ตรุ้งง ป้ากกกก" เรืออีกลำถูกจมร่วงไปในทันที และ "ตรุ้ง ตรุ้ง ตรุ้ง ตรุ้ง" กระหน่ำยิงอีกสี่ทีเข้าใส่กองเรือ แม้จะยิงพลาดจนผลักเรือของพวกเทรโอเซี่ยมให้เสียรูปขบวนไปอย่างจังๆ ซึ่งก็ "วี้วววววว ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดนมิไซล์พุ่งลงมาถล่มซ้ำจนเรืออัปปางเพราะสะพานเดินเรือระเบิดไปถึง 8 ลำด้วยกัน "ถึงป้อมปืนของพวกแกยิงเร็วจนสอยห่ามิไซล์ร่วงไปได้หมดก็จริง แต่เรือของพวกแกที่โดนปัดด้วยกระสุนพลังคลื่นนั้น ไม่มีทางที่พวกแกจะเปิดระบบสอยมิไซล์ร่วงเร็วได้ทันหรอกวะ" คลอเวฟบอก
              แอมเบอร์กล่าว "นั้นเป็นความสามารถของคุณที่ใช้ถล่มกองเรือฝ่ายมนุษย์โลกที่แห่มา 10 กว่าลำให้ร่วงอัปปางอย่างเร็วเลยสิน่ะ แม้ว่าวิธีนี้มันอาจจะพลาดถูกพวกเดียวกันด้วยนะคะ"
              "แชดดด แชดดด แชดดด แชดดดด" เรือรบส่วนที่เหลือของเวเดมโผล่มาพร้อมกับยิงปืนแสงเข้าใส่ "เปร้งงง เปร้งงง เปร้งงงง" เมดิน่าเลยรีบเปิดระบบป้องกันด้วยสนามพลังสะท้อนกลับจนเรือถูกลำแสงย้อนศรเป่าจนอัปปางไปอีก 3 ลำด้วยกัน "ลุง บอกพวกกองเรือให้ทราบด้วย ว่าพวกเงือกอวกาศมันจะเล่นดำใต้เท้าพวกเราและใต้ท้องเรือของพวกนั้นด้วยนะครับ" ฟูลออเรสแจ้งบอก
              เบติสกล่าว "ฉันแจ้งให้กัปตันเรือทุกลำทราบแล้วละ" โดยตอนนี้สกรีแทนมาร์ควันติดพาร์ทต่อสู้ใต้น้ำออกจากใต้ท้องเรือ พร้อมกับ "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้ดีทอเนเตอร์พ็อดที่แขนและหัวไหล่ยิงตอปิโดความเร็วสูง เล่นงานกองรบเมอมาร์คและดีฟแอทแทคเกอร์ที่บุกมาจนร่วง โดยที่ใต้ท้องเรือเองก็ "ครืดดด ตรุ้งงง ตรุ้งงง ตรุ้งงง ตรุ้งงง" เอาป้อมปืนยิงกระสุนโซนาร์พุ่งเป่าทะลวงกองรบใต้น้ำให้กระจุยไป
              "ให้ตายสิ พวกกองเรือเหล่านี้มีอาวุธที่รับมือพวกลักไก่ดำน้ำกันเลยหรือวะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "แน่อยู่แล้วละ นายอย่าลืมสิ ว่าช่วงที่รอชแมนยังอยู่นั้น เขาสู้กับพวกครีซีทาฟอสซึ่งมีกองทัพเรือรวมอยู่ กองเรือของกองกำลังภาคพื้นเองก็ต้องมีอาวุธ สำหรับรับมือพวกที่บุกมาทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำกันได้อยู่แล้วละน่า" แล้วก็จับหางของเมอมาร์คที่รีบโผล่ขึ้นจากน้ำเหวี่ยงไปอัดกับลาสแบรท และยิงไดนามิคลันเชอร์ทำลายซ้ำ
              "แม้กระทั่งพวกเวโนมิไนซ์และเพรโทรน็อกซ์ที่เคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำก็ด้วยสิน่ะ" แอบไบออสกล่าวพร้อมกับใช้มิวทาริมดาร์ทยิงใส่แคทครอฟให้ชะงักลง และถูกฟิเกซยิงซ้ำด้วยพลาซอนไรเฟิ่ลให้กระจุย
              วิลด้าบอก "และถ้าคิดว่ากองเรือของกองกำลังภาคพื้นนั้นรบในอวกาศได้แย่กว่ากองรบสกรีแทนที่รบในอวกาศกันละก็ คิดผิดแล้วละ เพราะพวกเขาล้วนผ่านการฝึกสู้รบนอกดาวกันไปด้วย เผื่อว่ากองกำลังของพวกเขาจะเป็นกำลังสำรองให้กับกองยานจักรวรรดิ์กันน่ะ" แล้วก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงฟาสท์แทรคมิไซล์เข้าเล่นงานคอร์ปาปิยาสให้เสียหายจนถูกไซโคลเนียเข้าจู่โจมด้วยสกายไฮซ์ซอร์ดโดยเร็ว
              "แล้วพวกทรอยอาร์ก็รู้วิธีการฝึกนอกดาวด้วยละสิครับ" ไกซ์บอก วิลด้าพยักหน้า
              เบติสกล่าว "หากแต่พวกทรอยอาร์เลือกฝึกบนดวงจันทร์ที่ปราศจากชั้นบรรยากาศกันไว้ เพื่อใช้ประโยชน์จากการอยู่นอกอวกาศให้เป็นประโยชน์นี้แหละ" แล้วก็ช่วยสเตฟอร์ดกราดยิงลาสแบรทและดีฟแอทแทคเกอร์ที่โผล่ขึ้นจากน้ำจนกระจุยไป
              "เหมือนกับพวกโซลูนาสตี้ของเทคไครด์และเฮคไซน์เลยสิน่ะ" โฟรซ่าบอก
              แอนเดรียกล่าว "ตอนนี้เรารีบสกัดกั้นกองรบของพวกเดลอาเนี่ยนกันก่อนนะคะ เพื่อมิให้พวกนั้นบุกเข้าไปเล่นงานพวกคุณมาสวาร์ทาร์และพวกทหารในพอร์ตคอร์เบิ้ลด้วยคะ"

              "มาส พีวิล สถานะเป็นไงบ้างละ" เนคมาดูซัมถามกลับ
              มาสวาร์ทาร์บอก "ดูเหมือนว่าพวกเดลอาเนี่ยนได้เปิดประตูมิติส่งกองกำลังเข้ามากันแล้วนะสิ" โดยเห็นพวกทหารเดลอาเนี่ยนโผล่ออกมาจากโครงประตูมิติที่เปิดออกมา เช่นเดียวกับพวกเมคครอฟิคด้วย
              "ตอนนี้พวกนายทำลายทิ้งไปหรือยังละ" ฟิเกซถาม
              พีวิลบอก "ฉันได้ทำลายทิ้งไปในทันทีที่เห็นโครงประตูโผล่มาแล้วละ หากแต่โครงประตูของพวกเมคครอฟิคมีสนามพลังป้องกันไว้น่ะ" โดยตอนนี้ประตูมิติสร้างป้อมปืนเลเซอร์เข้ามา "ครี้งงงงง แว้งงงง" จายด์เข้าป้องกันด้วยการตกผลึกโชนโครคิฟที่หลังแขนและที่ท้องเพื่อสะท้อนเลเซอร์กลับไปที่ป้อมปืน แต่ก็มีป้อมปืนโผล่มา "ดราก้อนสเปียร์บีมมมมม" สเปียริทเลยสาดลำแสงจากฝ่ามือขวาเข้า "ป้ากกกกก ตรูมมมมม" เป่าระเบิดป้อมปืนที่กำลังงอกขึ้นมาพร้อมกับโครงประตูมิติของเมคครอฟิคที่แหว่งหายไป ส่งผลให้ "งึงๆๆๆๆๆ" การเปิดช่องทางมิติได้ยุติลง "ตอนนี้เราเคลียร์แล้วละ" พีวิลอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติม
              "เออ เกรงว่าพวกคุณต้องลงมือให้เร็วหน่อยนะครับ เพราะ พวกเดลอาเนี่ยนเปิดประตูมิติเพิ่มจนเกือบทั่วเลยละครับ" ฟูลออเรสบอก
              เจเนลกล่าว "งั้นก็แยกย้ายไปทุบประตูเหล่านั้นทิ้งโดยเร็วดีกว่า"
              "แว้งงงงงง" ประตูมิติของพวกเดลอาเนี่ยนเปิดออกตรงโรงอาหารฝั่งตะวันออก ซึ่งพวกทหารเดลอาเนี่ยนโผล่มาก็เตรียมปืนยาวเพื่อยิงใส่เหล่าทหารที่ตั้งบังเกอร์ป้องกันไว้ "หึมๆๆๆๆ ฟ้าววว ตรูมมม" แต่โดนชาร์จช็อตของเจเนลยิงเข้าใส่จนเป่าพวกทหารเดลอาเนี่ยนกระเด็นไป "หนอยยย ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ วอนหาเรื่องกันเกินไปแล้วน่ะ" ทหารเดลอาเนี่ยนยั่วะมากที่พวกพ้องโดนเล่นงาน เลยบุกเข้าจู่โจมด้วยโลห์ติดหนามพลังงาน "ฟ้าวววว ปั้กๆๆๆๆ" สเปียริทกระโดดยิงแฟลชแอร์โรว์จาเบรินช็อตเข้าปักทะลุโลห์ไปถึงตัวทหารอย่างจังๆ แล้วก็ "ลูกถีบมังกรบิน มังกรทะลวงโลห์กำแพง" พุ่งถีบซ้ำใส่พวกเดลอาเนี่ยนให้ปลิวกระเด็นไป "ป้าก ป้าก ป้าก" เจเนลเตะและถีบพวกทหารเดลอาเนี่ยนที่ดาหน้าเข้ามาจนล้ม พร้อมกับเตะปืนของทหารตนที่ 4 ให้ปลิวพร้อมกับ "ฉั้วะ" ฟันเข้าใส่ตัวทหารจนล้มพร้อมกับ "หมับบบ แชดๆๆๆๆๆ" คว้าปืนมากราดยิงใส่ทหารเดลอาเนี่ยนที่บุกมาจนล้มและกระหน่ำยิงใส่โครงประตูมิติอย่างต่อเนื่องจน "ตรูมมมมม" โครงประตูระเบิดไปอย่างจังๆ จนพวกทหารเดลอาเนี่ยนเห็นก็ตกใจไม่น้อย เพราะตอนนี้ทหารแมนิเกเตอร์เข้าล้อมเอาไว้แล้ว
              เช่นเดียวกับ "หวับๆๆๆๆ ฉับๆๆๆๆๆๆ" ลิเนียร์ตี้ซัดกงจักรลิเนียร์ตี้สลัคเกอร์เข้าอัดใส่พวกเมคครอฟิคที่บุกมาจนตัดแขนขาดไป 7 ตัว โดยที่พลัสเชอริทเข้าช่วยพวกทหารที่ถูกพวกเมคครอฟิคบุกจู่โจมด้วย "ไวเปอร์เชน" โซ่ติดใบมีดทิ้มเข้าใส่นายกองและ "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ ป้ากกก ตรูมมม" ช็อตไฟฟ้าใส่จนตัวนายกองลัดวงจรและล้มลงในสภาพดำตอตะโกไป พร้อมกับ "ฟิ้วๆๆๆ" ซัดมีดสั้นระเบิดไฟฟ้ากัลวาติกแดกเกอร์เข้า "ปั้กๆๆๆ" ปักตรงโครงประตูมิติของพวกเมคครอฟิคพร้อมกับ "เปรี้ยงๆๆๆ ตรูมมม" ระเบิดพลังไฟฟ้าช็อตใส่จนโครงประตูระเบิดไปในทันที "ประตูบานที่สองพังแล้วละ" ลิเนียร์ตี้กล่าวพร้อมกับใช้อิมแพคชู้ตเตอร์เป่าพวกเมคครอฟิคให้ปลิวกระเด็นไป
              "ฝั่งพวกเราเจอพวกเมคครอฟิคโผล่มาตรงประตูบานที่ 3 แล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก พร้อมกับเข้าจู่โจมพวกเมคครอฟิคที่เปลี่ยนแขนเป็นโลห์ด้วย "เพลงดาบวงล้อพิฆาต" การหมุนฟันแบบวงล้อกรีดใส่โลห์ของเมคครอฟิคจนสับแขนขาดและผ่าพวกเมคครอฟิคที่อยู่ข้างหลังให้ขาดสะบั้นลง เปิดช่องให้... "แมกเนตแคนน่อน" จายด์ยิงกระสุนพลังแม่เหล็กเข้าตรึงพวกเมคครอฟิคที่บุกเข้ามาจากด้านข้างคลังแสงให้พุ่งเข้าไป "ป้ากกก ตรูมมม" เป่าระเบิดใส่โครงประตูที่อยู่ใกล้ๆจนระเบิดไป "ตอนนี้เรากำลังจัดการกับบานที่สี่กันอยู่น่ะ" จิลกล่าวโดยตอนนี้เธอรับมือกับพวกซอร์แรคที่บุกเข้ามาด้วยง้าวลิเวียทรัลฟันใส่ตรงตา ตรงคอ และแทงตรงเป้า ในขณะที่พวกแมทเฟลิมบุกเข้ามา "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวว ฟ้าววว" โดนพีวิลใช้มัคแฟนท่อมเข้าจัดการพวกแมทเฟลิมให้ล้มลงได้ก่อน แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงอาร์มชู้ตเตอร์ทำลายโครงประตูบานที่สี่ให้ระเบิดไป

              "ตอนนี้พวกไทรเวเซอร์เข้าทำลายโครงประตูมิติเพิ่มเติมกันแล้วละครับ" พลทหารกล่าวหลังจากที่จิลใช้ไซโคบิทยิงทำลายโครงประตูมิติอันที่ห้า ซึ่งจะนำพวกบรูซาเรมออกมาจากโรงเก็บพาหนะได้เป็นผลสำเร็จ ดอเนอร์ดูลมองดูภาพที่พีวิลจับพวกเดลอาเนี่ยนทุ่มไปอัดกับโครงประตูมิติอันที่หกจนพัง สเปียริทใช้หอกสู้กับพวกแมทเฟลิมเพื่อเปิดช่องให้มาสวาร์ทาร์ "เครเซนท์เรซเซอร์" ฟาดคลื่นคมดาบทำลายโครงประตูของพวกอัลแทเรี่ยนที่โผล่บนดาดฟ้าโรงนอนทหารจนขาดสะบั้น เจเนลและพลัสเชอริทเข้าจัดการกับพวกซอร์แรคที่ดาหน้าเข้ามาจนล้ม เปิดช่องให้จายด์ "ฟ้าวววว ตรูมมม" ยิงทำลายโครงประตูมิติทิ้ง เพื่อตัดตอนกำลังเสริมของพวกซอร์แรคลงในทันที
              "ดีแล้วละ เพราะกองรบของเนคเกอร์และกองเรือของเรานั้นต้านทานพวกเดลอาเนี่ยนไปได้พอสมควรแล้วน่ะ" ดอเนอร์ดูลกล่าวและหันมาถาม "แล้ว ผู้พันเดอแลนบัลท์ละ"
              "เรามีปัญหาแล้วละครับ เจ้าหน้าที่สองคนที่คอยจับตาดูผู้พันเดอแลนบัลท์นั้น เราติดต่อไปไม่ได้เลยละครับ" ทหารกล่าว
              ดอเนอร์ดูลบอก "บ้าชะมัด รีบตามหาผู้พันเดอแลนบัลท์เดียวนี้เลย ก่อนที่เขาจะแกว่งเท้าหาเสี้ยนไปได้น่ะ"
              "รับทราบแล้ว...." ทหารรายงานแต่ "อั้ก" กลับถูกคนเล่นงานจนสลบเหมือดไป ดอเนอร์ดูลได้ยินเช่นนั้นเลยรีบกดปุ่มเพื่อติดต่อพวกไทรเวเซอร์ แต่...
              "พอได้แล้วละครับ ผู้การดอเนอร์ดูล คุณไม่ต้องควานหาผมให้เสียเวลากันนะครับ" เฮโลลิคเตอร์ยืนอยู่ข้างหลังไว้
              "ผู้พันเดอแลนบัลท์....คุณน่าจะอยู่ประจำตำแหน่งของคุณแล้วนิ ทำไมถึง..." ดอเนอร์ดูลบอก
              เฮโลลิคเตอร์กล่าว "ผมไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของคุณกันหรอกน่ะ ในเมื่อ ผม...." แล้วก็ชักปืนสั้นออกมา "รับคำสั่งของคนที่พวกคุณกำลังต่อต้านกันอยู่น่ะ"
              "นี้แก ทำงานให้กับพวกเดลอาเนี่ยนอย่างงั้นนะหรือ งั้นแกก็อยู่เบื้องหลังการฆ่าผู้พันไบท์แฟงค์ด้วยสิ" ดอเนอร์ดูลได้ยินก็ถามกลับ
              เฮโลลิคเตอร์ส่ายหน้า "ถึงผมไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่ตาแก่หัวดื้อที่ไม่ยอมให้ผมออกโรงเสียทีนั้น ถ้าไม่แก่ตายก็ต้องถูกฆ่าตายอยู่ดี ซึ่งก็ ช่วยไม่ได้เลยน่า"
              "งั้นแกก็คงจะส่งพวกเดลอาเนี่ยนเข้ามาในเกาะนี้เพื่อโจมตีพวกเราเลยสิน่ะ แต่เสียใจด้วย ที่พวกไทรเวเซอร์อยู่ด้วยน่ะ" ดอเนอร์ดูลกล่าว
              เฮโลลิคเตอร์ยิ้มและบอกไปว่า "ต่อให้กองกำลังหัวหอกอยู่ใกล้ ก็ทำอะไรผมไม่ได้หรอกน่ะ"
              "ชิ ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ ฮึยยยย ถ้าข้านำคอมมานด์ไทแทนมาด้วยละก็....ฝากไว้ก่อนเหอะ" เวเดมที่เห็นว่ากองรบของตนบุกฝ่าเข้าไปยังพอร์ตคอร์เบิ้ลไม่ได้ เลยจำต้องถอยกลับไปโดยเร็ว ซึ่งกองเรือรบได้แล่นเข้าผ่านประตูมิติหายไป
              คลอเวฟบอก "กูไม่รับไอ้ที่มึงฝากไว้เลยนะโว้ย ไอ้ขี้แพ้และขี้ลืม"
              "โว้ว เราไล่พวกเดลอาเนี่ยนไปได้แบบนี้ นึกว่าเราจะต้านพวกมันไม่ได้เสียอีกน่ะ" มัลแด็กซ์บอก
              ฟลาแน็กซ์กล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะชิ้นส่วนเสริมโมบิลลอยด์รุ่นใหม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์เลยสิน่ะ"
              "ใช่ หวังว่าพวกพีวิลและมาสวาร์ทาร์คงจะไล่พวกที่บุกขึ้นเกาะมาได้กันละน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              วิลด้ากล่าว "หวังว่า เฮโลลิคเตอร์คงจะไม่ก่อเรื่องกันหรอก...."

              "ปังงงงงง" เสียงปืนดังขึ้นจากวิทยุในคอกพิตโมบิลลอยด์ทุกตัว ในสะพานเดินเรือของเรือรบและไทรแองเกิ้ล "เฮโลลิคเตอร์ กรอดดดดด" ดอเนอร์ดูลสบถขึ้นด้วยความเจ็บปวด
              เฮโลลิคเตอร์บอก "ต่อให้คุณกดสปีคเกอร์ไว้ได้ ก็ไม่ทันการณ์หรอกน่ะ ลาก่อนละครับ" แล้วก็เดินออกจากฐานทัพไป
              "หนอยยย ไอ้ปากดีนั้นมันก่อเรื่องจนได้สิวะ" คลอเวฟกล่าว แล้วก็บอก "แอมเบอร์ เอายานจอดเทียบท่าด่วนเลย ฉันจะลงไปจัดการกับไอ้เวรนั้นเอง"
              แอมเบอร์พยักหน้าและพยายามจะห้ามคลอเวฟ แต่กราดิเอเตอร์มารีนวิ่งออกไปจากสะพานเดินเรือแล้ว "เออ แย่แล้วคะ คุณคลอเวฟออกจากยานไป และขอให้ฉันช่วยนำยานลงจอดด้วยคะ"
              "บ้าชะมัดเลย โมบิลลอยด์ของเรามีพลังไม่พอที่จะบินกลับไปถึงเกาะได้เลยน่ะ" ไกซ์กล่าวโดยเกจวัดพลังงานอยู่ที่ 4 เปอร์เซนต์แล้ว เช่นเดียวกับ....
              "คู่หูของฉันอ่อนแรงเกินไปแล้วน่ะ" แอบไบออสบอก โดยที่ฟิเกซและไซโคลเนียช่วยประคองกิซเซเบอร์เอาไว้
              "พีวิล มาสวาร์ทาร์ พวกนายรีบหยุดคลอเวฟและเฮโลลิคเตอร์โดยด่วนเลย เร็ว" เนคมาดูซัมสั่ง
              พีวิลและมาสวาร์ทาร์พยักหน้าและรีบพาพวกวิ่งไล่ตามคลอเวฟที่ "ฟ้าวววว ซูมมมม ตรึงงง" กระโดดลงจากยานด้วยไฮโดรบูสเตอร์ที่หลัง แล่นลงมายังที่เกาะอย่างช้าๆ "แย่แล้วละคะ ทหารตามบังเกอร์รายงานมา ว่าตอนนี้มีทหารส่วนหนึ่งตามเฮโลลิคเตอร์ไปด้วยนะคะ" มิลด์บอก
              "พอจะบอกได้มั้ย ว่ามีทหารที่ตามเฮโลลิคเตอร์ไปนิ มีกี่นายกันล่ะ" พีวิลกล่าว
              มิลด์รายงาน "31 นายนะคะ เป็นชาย 16 หญิง 15 คน ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยัง....ประตูมิติที่ปรากฎขึ้นทางตอนเหนือเลยนะคะ"
              "ตอนเหนือนะหรือ...แต่เมื่อครู่นี้ มันไม่มีประตูมิติโผล่มาอยู่ในนั้นเลยนิน่า" เมดิน่าบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "เกรงว่าพวกเดลอาเนี่ยน ไม่สิ พวกแดคน็อกซ์คงจะอำพรางโครงประตูมิติเอาไว้เพื่อมิให้พวกเราเข้าไปทำลายทิ้งได้แน่ๆเลยละ"
              "หวังว่าคลอเวฟคงไม่ทำอะไรบ้าๆกันหรอกน่ะ" เจเนลบอก แล้วทั้งหมดก็รีบรุดตรงไปทางเหนือ ซึ่งตอนนี้....
              "รีบไปเร็วๆเข้าสิ" เฮโลลิคเตอร์บอกเหล่าทหารที่เป็นแนวร่วมกับตนให้เดินผ่านโครงประตูมิติไว้
              "แน่ใจนะหรือครับ ลูกพี่ ว่าพวกเราเข้าไปแล้วจะไม่เป็นอะไรเลยน่ะ" ทหารร่างผอมถามกลับ
               ทหารร่างบึกตอบ "หัวหน้าบอกยังไงก็ควรเชื่อหน่อยสิ รีบเข้าไปเร็ว" ทหารร่างผอมเลยจำต้องรีบวิ่งเข้าไป โดยที่ทหารร่างบึกคอยพาพวกทหารหญิงเข้าไปกันด้วย และหันมาถาม "หัวหน้า แล้ว....วอลทิโน่ละ"
            "รอด้วยครับ หัวหน้าเฮโลลิคเตอร์" พลทหารคนดังกล่าวร้องลั่นขึ้นมา
               เฮโลลิคเตอร์ตะโกนบอก "เร็วเข้าสิ วอลทิโน่ เธอวิ่งช้าแบบนี้ เดียวพวกไทรเวเซอร์มันตามทันพอดีนะสิ" พลทหารร่างเล็กพยายามวิ่งแบบสุดแรงเกิดไว้
              "เฮโลลิคเตอร์ หยุดเดียวนี้เลยน่ะ" เจเนลตะโกนลั่น จนทำให้วอลทิโน่ได้ยินถึงกับสะดุ้งขึ้นมา
              ทหารร่างบึกกล่าว "เอาไงดีครับ หัวหน้า วอลทิโน่คงตามเราไปไม่ได้แน่ๆเลยละ"
              "ช่วยไม่ได้เสียแล้ว" เฮโลลิคเตอร์เลยต้องหยิบแท่งรีโมทมากด "ปี้บบบบ" เพื่อ.... "ครืดดดดดด" นำป้อมปืนที่ซ่อนไว้ใต้พื้นออกมา 3 กระบอก "ทิ้วๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำยิงกระสุนแสงเข้าใส่พวกไทรเวเซอร์ โดยที่วอลทิโน่เห็นก็ชะงักขึ้นมา "ฟ้าวววววว หมับบบ" พีวิลรีบพุ่งเข้าคว้าตัววอลทิโน่ให้รอดพ้นจากกระสุนแสงที่ยิงเข้าใส่ไปอย่างฉิวเฉียด โดยที่กระสุนแสงเหล่านั้น "เปร้งๆๆๆๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆๆๆ" มาสวาร์ทาร์รีบใช้โชลเดอร์ชิลด์เข้าป้องกันลิเนียร์ตี้และสเปียริทไว้ ส่วนจายด์เอาตัวเองกำบังเจเนลและจิลขึ้นมา "โชลเดอร์บีมกัน" มาสวาร์ทาร์สวนกลับด้วยปืนแสงบนบ่าทั้งสองข้างเข้าทำลายป้อมปืนเลเซอร์ทิ้ง "จีฟิงเกอร์ช็อต" จายด์ถล่มป้อมปืนเลเซอร์ยิงเร็วสองป้อมให้ระเบิดไป "ครืดดดดด" แต่เฮโลลิคเตอร์เรียกป้อมยิงมิไซล์ออกมาอีก 5 ป้อมด้วยกัน "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดยยิงมิไซล์นำวิถีเข้าใส่ "ย้าๆๆๆๆ" สเปียริทเลยยิงแฟลชแอร์โรวให้กระจายออกเป็นกระบี่ยาวหลายเล่มพุ่งทำลายมิไซล์ไปส่วนหนึ่ง จิลก็ใช้ไซโคบิทให้พุ่งเข้า "ฟ้าวๆๆๆ แชดด แชดด แชดด ตูมๆๆๆๆ" ยิงทำลายมิไซล์ส่วนหนึ่งให้ระเบิดไปโดยเร็ว "เอนเนอจี้โบลท์" "ฟอสโบลท์" "สปาร์คช็อค" พีวิล ลิเนียร์ตี้และเจเนลซัดและยิงกระสุนพลังเข้าทำลายป้อมมิไซล์ทิ้ง "แฟงค์สไลเซอร์" พลัสเชอริทซัดดาวกระจายทั้งสองอันเข้า "ฉืบบบ ฉืบบบ ตรูมมม บรึมมมม" ทำลายป้อมมิไซล์จนระเบิดไป "ปี้บบบ" เฮโลลิคเตอร์กดรีโมทอีก เพื่้อให้... "ครืดดดด แว้งงงง" เสาเหล็กโผล่ขึ้นมาสร้างกำแพงพลังงานไว้
              "ดูท่าว่าพวกคุณจะทำให้ผมเสียลูกน้องไปคนหนึ่งเลยน่ะ แต่แย่หน่อยที่พวกคุณเบรคผมกับพวกที่ล่วงหน้าไปก่อนไม่ได้อยู่แล้วน่ะ" เฮโลลิคเตอร์บอก
              สเปียริทกล่าว "ถ้าคิดจะเบรคเราด้วยสนามพลังละก็ คงยากแล้วละยะ" สเปียริทกล่าวแล้วก็พุ่งเข้าไปถีบ แต่.... "กร้องงง ป้ากกก" สนามพลังนั้นผลักสเปียริทให้กระเด็นออกไป ซึ่งเธอรีบตีลังกาลงพื้นอย่างทันควัน
              "กำแพงนั้น....คุณสมบัติเหมือนกับโบลท์รีเฟรคเตอร์เลยนิน่า...." พลัสเชอริทบอก
              เฮโลลิคเตอร์กล่าว "นี้คือรีเพลวอล กำแพงพลังงานอนุภาคเซจเจนที่มีไว้รับมือกับพวกก่อจราจล ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์และใช้วิธีกระโดดสูงเพื่อเข้าไปเล่นงานเป้าหมายที่หลังกำแพงกันนี้แหละ ซึ่งพวกคุณไม่มีทางทำอะไรได้อยู่แล้วน่ะ"
              "และต่อให้พวกนายไล่ตามเรามา ก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะแม่ทัพฮิบินินแห่งแดคน็อกซ์ที่ช่วยเหลือเรานั้น ได้วางระเบิดทำลายโครงประตู ซึ่งจะระเบิดทันทีที่พวกแกตัวใดตัวหนึ่งวิ่งผ่านโครงประตูนี้ไปโผล่ดาวหนึ่งกันน่ะ" ทหารร่างบึกบอก
              เจเนลกล่าว "แม่ทัพแดคน็อกซ์ แสดงว่าแกเป็นคนทรยศทำงานให้กับพวกเดลอาเนี่ยนอย่างงั้นละสิ"
              "การที่ประตูถูกติดระเบิดเอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเราที่ต้องไล่ตามไปนั้น จะต้องถูกจับได้เลยสิน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              เฮโลลิคเตอร์กล่าว "แน่นอน ต่อให้ไอ้หุ่นกระป๋องรู้หรือไม่ ว่าฉันเป็นคนทรยศต่อกองทัพและฝ่ายนายก็ตาม ฉันก็ไปไกลกว่าหมอนี้อยู่แล้วละ"

              "ฟ้าวววว ตรึงงงง" ไม่ทันไร คลอเวฟกระโดดมาถึงพอดี "กะแล้วว่าแกต้องเผยลายจนได้สิน่ะ ไอ้เวร คราวนี้มึงโดนแน่ๆ" คลอเวฟบอก ทหารร่างบึกเลยรีบจะออกไป
              เฮโลลิคเตอร์ยื่นแขนขวางไว้ "ไม่ต้องเลย เนสคาโก้ นายรีบไปสมทบกับพวกเราดีกว่า" ทหารร่างบึกเลยต้องเข้าประตูมิติไป "ถึงนายจะโผล่มาก็จริง แต่เกรงว่านายคงไม่คิดที่จะทิ้งพรรคพวกไปได้หรอกน่ะ"
              "ต่อให้นายหนีไปได้ ฉันก็ตามหานายได้อยู่ดีนี้แหละ เพราะฉันจะกระทืบคนทรยศอย่างแกลงไปเลยน่ะ" คลอเวฟบอก
              เฮโลลิคเตอร์บอก "หรือ แต่ดูเหมือนว่า เพื่อนพ้องของนายจะรู้ว่าฉันเป็นคนทรยศมาก่อน และไม่ได้บอกนายเอาไว้เลยสิน่ะ"
              "....." คลอเวฟได้ฟังก็ชะงักไปบ้าง เฮโลลิคเตอร์บอก "ช่าย เพื่อนพ้องของนายบอกแค่ให้นายอยู่ห่างๆฉันไว้ แต่ไม่ได้บอกว่าฉันเป็นคนที่ทำงานให้กับพวกเดลอาเนี่ยนกันเสียเลยนิ แสดงว่าเพื่อนของนายเห็นนายเป็นไอ้โง่มากๆเลยน่ะ"
              คลอเวฟบอก "อย่ามาเตะถ่วงกูด้วยคำพูดสั่วๆแบบนั้นเลยดีกว่าน่า"
              "งั้นหรือ แต่ถึงไง นายก็จับฉันไม่ได้กันหรอกน่ะ" เฮโลลิคเตอร์กล่าวพร้อมกับโดดไปอยู่ตรงหน้าประตู โดยบอกไปว่า "และถึงนายไล่ตามฉันมาได้ นายก็โง่มากที่สุดกันแล้วละ" แล้วก็ "แวบบบบบ" รีบวิ่งเข้าประตูไปโดยเร็ว คลอเวฟเลยรีบไล่ตามไป
              "คลอเวฟ อย่าตามเฮโลลิคเตอร์ไปนะ หมอนั้นคงเตรียมกับดักเอาไว้เล่นงานนายอยู่แน่ๆเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              "นั้น ถึงนายไล่ตามตัวไปได้ แต่ถ้าปลายทางมันมีพวกเดลอาเนี่ยนอยู่ด้วยละก็ นายก็โดนพวกมันยำเละอยู่ดีนี้แหละ" สเปียริทบอก
              พีวิลกล่าว "ตามพวกเรากลับไปกันดีกว่าน่า คลอเวฟ อย่างน้อย เราต้องวางแผนให้...."
              "เสียใจด้วยวะ ที่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้...." คลอเวฟกล่าว "ฉันยอมให้ไอ้เวรนี้มันลอยนวลไปไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้มันหนีไปสุดขอบจักรวาลหรือไม่ ฉันก็จะตามไปกระทืบไอ้เฮโลลิคเตอร์นี้กันอยู่ดีนี้แหละ แน่นอน ว่าพวกนายไม่ต้องตามฉันมาก็ได้น่ะ"
              เจเนลบอก "แต่นายคนเดียวทำอะไรเฮโลลิคเตอร์ที่เตรียมการไว้ไม่ได้หรอกน่ะ"
              "ยังไงซะ ฉันก็หาหนทางได้อยู่แล้วละ พวกนายไม่จำเป็นต้องห่วงฉันแบบนั้นหรอก...." คลอเวฟบอก "หมดเรื่องแล้ว ฉันขอตัวก่อนละ" แล้วก็ "แว้งงงงง" กระโดดเข้าประตูมิติไปโดยเร็ว แน่นอน ว่าการที่คลอเวฟเข้าประตูมิติไปนั้น "ปี้บๆๆๆๆๆ ตรูมมมม" ระเบิดที่พวกแดคน็อกซ์วางเอาไว้ก็ทำงานขึ้นในทันที
              สเปียริทบอก "นายนิมัน บ้าชะมัดเลยน่ะ นายบื้อ...."
              "คลอเวฟน่ะ คลอเวฟ นายไม่น่าทำเช่นนี้ไปได้เลยนิ" พีวิลกล่าวอย่างเจ็บใจไม่น้อยที่หยุดคลอเวฟไปไม่ได้
              มาสวาร์ทาร์บอก "ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้แล้ว หวังว่าเฮโลลิคเตอร์คงไม่ก่อเรื่องถึงขั้นทำให้คนตายกันหรอกน่ะ"
              "หมอเดเมี่ยน ผู้การดอเนอร์ดูลเป็นไงบ้างละ" เจเนลถาม หลังจากที่ตนกับพวกพีวิลกลับมาแล้ว
              เดเมี่ยนบอก "ยังดีมากที่เฮโลลิคเตอร์ยิงไม่ถูกจุดสำคัญไว้ อีกทั้งผู้การดอเนอร์ดูลอดกลั้นต่อพิษบาดแผลที่ได้รับ จนรอดมาให้ฉันทำแผลเรียบร้อยแล้วละ" โดยตอนนี้ผู้การดอเนอร์ดูลมีผ้าพันแผลตรงที่ท้องข้างซ้ายไว้
              "ว่าแต่ ผู้พันเดอแลนบัลท์ละ...." ดอเนอร์ดูลถามกลับ
              เนคมาดูซัมกล่าว "เดียวก่อนน่ะ คลอเวฟไม่ได้กลับมาพร้อมพวกนายแบบนี้....หรือว่า...."
              "เกรงว่า คลอเวฟจะโกรธเฮโลลิคเตอร์มาก เลยไล่ตามด้วยการเข้าประตูมิติไปแล้วละ" ลิเนียร์ตี้บอก
              พลัสเชอริทกล่าว "และดูเหมือนว่าเฮโลลิคเตอร์จะรู้ว่าพวกเราต้องมีคนไล่ตามมาแน่ๆ เลยรวมหัวกับพวกแดคน็อกซ์ติดตั้งระเบิดเอาไว้เพื่อตัดทางเชื่อมระหว่างดาวดวงนี้ไปยังดาวที่หมายกันนะสิ"
              "แล้วโครงประตูมิตินั้น คงจะเสียหายมากมาย จนไม่รู้ว่าปลายทางของประตูไปโผล่ที่ไหนเลยสิน่ะ" โฟรซ่าถาม เจเนลพยักหน้า
              สเตฟอร์ดบอก "นั้นไม่ดีแล้วละ คลอเวฟบุกไปเพียงคนเดียวโดยไม่มีพวกเราตามไปด้วยเช่นนี้ โอกาสที่โดนพวกเดลอาเนี่ยนรุมกระทืบจนเดี้ยงย่อมมีสูงมากเลยน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะว่ากองรบเดลอาเนี่ยนคงจะเตรียมพร้อมมาหลังจากที่พวกเราช่วยพวกพีวิลกลับไปเลยสิคะ" แอนเดรียบอก มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              เนคมาดูซัมบอก "ตอนนี้เราต้องแจ้งเรื่องนี้ให้ผบ.บัลโต้และนายพลเพอซิอัสรับทราบกันแล้วละ"

              "พวกนายคุมคลอเวฟประสาอะไร ถึงได้ปล่อยให้หมอนี้ไล่ตามเฮโลลิคเตอร์ไปเพียงลำพังเลยน่ะ" บัลโต้ตำหนิ
              เพอซิอัสกล่าว "แล้วพวกเธอก็ไม่รู้ว่าเฮโลลิคเตอร์พาพวกทหารที่เป็นแนวร่วมหนีไปที่ไหนได้ละสิ"
              "โครงประตูมิติพังเสียหายอย่างมาก แม้กระทั่งส่วนระบุตำแหน่งปลายทางด้วยนะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              พีวิลกล่าว "แต่อย่างน้อย มีสมาชิกคนหนึ่งที่ไม่ได้ไปกับเฮโลลิคเตอร์ด้วย ซึ่งก็เกือบโดนกระสุนเลเซอร์ยิงเข้าใส่เลยนะครับ"
              "พอจะทราบมั้ย ว่าสมาชิกคนนั้นเป็นใครละ" เพอซิอัสถาม
              จิลบอก "เห็นว่าชื่อ...พลทหารวอลทิโน่กันนะคะ" เพอซิอัสได้ฟังก็ตกใจขึ้นมา จนจิลต้องถามกลับ "เออ ไม่ทราบว่า ท่านรู้จักกับพลทหารวอลทิโน่หรือคะ"
              "รู้จักสิ พลทหารวอลทิโน่เป็นลูกชายของ นายพลวอลเลนซ์นะสิ" เพอซิอัสกล่าว
              โฟรซ่าบอก "เด็กคนนั้นนะหรือคะ ลูกท่านนายพลที่เสนอให้เพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามพวกริดโอกันมากขึ้นเลยน่ะ"
              "แต่ดูแล้ว เขาแทบไม่เหมือนพ่อของเขาเลยนะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              เพอซิอัสบอก "แม้ว่าวอลทิโน่จะอ่อนแอจนผู้เป็นพ่อไม่แน่ใจว่าจะมอบตำแหน่งผู้สืบทอดกันหรือเปล่า แต่โดยลึกๆแล้ว วอลทิโน่ก็เป็นเด็กดีและพูดจาตรงไปตรงมาแน่นอนน่ะ"
              "สงสัยคงต้องเรียกคุยกันสักหน่อยแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก
              แล้ววอลทิโน่ก็ถูกพาเข้ามาในห้องสอบปากคำ "ผมบอกกับพวกคุณไปแล้วนิครับ ว่าหัวหน้าเฮโลลิคเตอร์ติดต่อกับพวกแดคน็อกซ์มาอย่างลับๆ และรวมหัวกับเพื่อนทหารที่เห็นด้วยกับความคิดของหัวหน้ากันไว้ พวกคุณยังต้องการอะไรกันอีกละ"
              "ถ้าเธอรู้ว่าเฮโลลิคเตอร์วางแผนกับพวกแดคน็อกซ์ก่อความวุ่นวายขึ้น ในเวลาเดียวกันกับที่เดลอาเนี่ยนนำกำลังรบแห่แหนมา เธอก็คงจะรู้ว่าเฮโลลิคเตอร์พูดรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการกันไว้เลยสิน่ะ" โฟรซ่าบอก วอลทิโน่ได้ฟังก็เกิดความโลเล
              พีวิลบอก "ขอร้องละ วอลทิโน่ เพื่อนเราคนหนึ่งกำลังจะแย่ เพราะไม่เพียงไล่ตามเฮโลลิคเตอร์ไปเพียงคนเดียว เผลอๆ เขาอาจจะติดกับดักของพวกมันไปเลยก็ได้ แค่บอกเรามา ว่าเฮโลลิคเตอร์พาพวกทหารหนีไปที่ดาวไหนกันน่ะ"
              "หัวหน้าไม่ได้บอกว่าจะพาไปที่ดาวไหนเลยนะครับ หากแต่..." วอลทิโน่บอก "เขาบอกกับเพื่อนๆที่อยู่ในกลุ่มว่า ก่อนที่พวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของพวกเดลอาเนี่ยน พวกเขาจำต้องผ่านการทดสอบอย่างหนึ่ง ซึ่งสำคัญมากๆ ถึงขั้นที่เรียกพวกพ้องไปซ้อมกันในลานกว้างตอนประมาณ 3-4 ทุ่มนะครับ"
              แอบไบออสบอก "ไปซ้อมกันที่ลานกว้าง คงจะฝึกใช้อาวุธของพวกเดลอาเนี่ยนที่ไปได้มาเลยละสิ"
              "ไม่มีทางหรอกครับ เพราะหัวหน้าเฮโลลิคเตอร์ไม่มีทางส่งเสียงให้ผู้การดอเนอร์ดูลและทุกๆคนได้ยินกันตอนกลางคืนแน่ๆนะครับ หากแต่ การฝึกนี้ ทำให้ผมต้องเดินช้า เพราะผมสะดุดล้มจนขาซ้ายเคล็ด และยังปวดแบบนี้มาตลอดเลยนะครับ" วอลทิโน่กล่าวพร้อมกับยกขามาให้ดู แต่....
               "เออ ไม่ต้องเอาขาขึ้นมาหรอก เพราะเธอไม่ใช่แค่เจ็บอย่างเดียว แต่เท้าเหม็นด้วยน่ะ" สเปียริทกล่าว เพราะเธอกับทุกๆคนเริ่มเหม็นกลิ่นไม่พึ่งประสงค์จากฝ่าเท้าที่มีผ้าพันแผลของพลทหารขึ้นมาแล้ว
              "แล้วเธอสะดุดล้มนิ เธอกำลังทำอะไรกันอยู่หรือ" โฟรซ่าถาม
              วอลทิโน่บอก "คือ ผม พยายามวิ่งเพื่อรับลูกที่เพื่อนหัวตั้งสีเขียวของหัวหน้าเขวี้ยงส่งไปนะครับ แต่....ผมกลับทำพลาดเสียก่อนนะครับ"
              "เดียวก่อนน่ะ ถ้าฟังจากวอลทิโน่เล่ามานั้น...." ฟิเกซพูดโดยที่พิจารณาอยู่นาน จึงบอกไปว่า "ฉันรู้แล้วละ ว่าเฮโลลิคเตอร์กับพวกกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ"
              เนคมาดูซัมบอก "และบังเอิญว่า คลอเวฟเองก็รู้เรื่องเสียด้วยนะสิ เพราะพวกเราพูดถึงกันมาก่อนน่ะ"
              "แต่ตอนนี้ ฉันแนะนำว่าพวกเธอรีบกลับไปรายงานตัวที่เฟิร์สฮิลล์กันดีกว่าน่ะ" ดอเนอร์ดูลบอก
              แอนเดรียถาม "แล้วคุณจะทำยังไงกับพลทหารวอลทิโน่ละคะ"
              "ฉันจะให้พลทหารวอลทิโน่อยู่ในความดูแลของเรา พร้อมกับตักเตือนตำหนิกันไว้ แม้ว่าเขาไม่ได้ไปกับเฮโลลิคเตอร์และพวก แต่ก็ถือว่ามีส่วนในแผนการนี้อยู่ดีนี้แหละ" ดอเนอร์ดูลบอก
              วอลทิโน่กล่าว "ผมหวังว่า เพื่อนของคุณคงจะไม่ทำให้หัวหน้าเจ็บตัวกันนะครับ เพราะผมทราบว่า เขาพึ่งไปก่อเรื่องกับเพื่อนของคุณมาก่อนน่ะ"

              "สแมคบอลนะหรือ...." บัลโต้กล่าว หลังจากที่พวกไทรเวเซอร์ที่เหลือเดินทางกลับเฟิร์สฮิลล์กันแล้ว
              สเตฟอร์ดบอก "มันเป็นกีฬาผสมกันระหว่างฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล อเมริกาฟุตบอล ด็อดจ์บอล ฮอคกี้ และลาครอสรวมไว้ด้วยกัน ซึ่งเดิมเป็นกีฬาแข่งขันของกลุ่มสมาพันธ์อวกาศ แต่แพร่หลายไปยังเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยน จนพวกนั้นนำไปใช้เป็นพิธีการคัดเลือกคนเข้ากองกำลังของฝ่ายจักรวรรดิ์กันนะครับ"
              "เธอหมายถึง การแข่งขันที่รุนแรงมากที่สุดและเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดเลยสิน่ะ" เพอซิอัสถาม "แล้วคลอเวฟรู้เรื่องสแมคบอลด้วยหรือเปล่า"
              พีวิลบอก "รู้สิครับ เพราะตอนเราแวะไปที่ฟูลบาร์ ในช่วงที่มีการแข่งขัน คลอเวฟก็เปิดรายการแข่งขันนี้เพื่อเรียกแขกเข้ามา เนื่องจากว่าแขกที่เข้ามากินเหล้านั้น ก็เคยดูการแข่งขันนี้มาในช่วง 4 เดือนก่อนนะครับ"
              "แม้กระทั่ง เฮโลลิคเตอร์ด้วยสิน่ะ" เพอซิอัสบอก "นั้นไม่แปลกใจแล้วละ ที่เฮโลลิคเตอร์เลือกทหารที่ก่อเรื่องวุ่นวายภายในกองทัพ ตั้งแต่ไม่เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ ก่อเรื่องสร้างความเดือดร้อนระหว่างเพื่อนทหารด้วยกันและนายทหารในกอง โดยเฉพาะพวกชอบใช้ความรุนแรงกับเพื่อนทหารที่อยู่ในกลุ่มของเฮโลลิคเตอร์ ก็มีเกินครึ่งด้วยนะสิ"
              บัลโต้บอก "แต่เท่าที่ทราบมา ว่าไอ้สแมคบอลนั้น มันต้องมีตัวสำรองเยอะเป็นสิบๆเลยนิ เฮโลลิคเตอร์ขนไป 30 แบบนั้นมันไม่น้อยไปเลยหรือ"
              "เกรงว่าพวกที่ติดตามเฮโลลิคเตอร์ไปด้วยนั้นจะไม่ได้มีแค่ที่พอร์ตคอร์เบิ้ลแล้วละครับ" เดลิคบอก "เพราะ....กองทหารในกองยานซัลคาเลี่ยน 5 กองได้รายงานมา พบว่ามีทหารหลบหนีในช่วงที่พวกเดลอาเนี่ยนบุกมาก่อวินาศกรรมกันตรงๆ โดยหนีเข้าประตูมิติไปอย่างรวดเร็วแล้วละครับ"
              บัลโต้บอก "แล้ว มีพวกทหารที่หนีไปได้อยู่กี่นายกันละ"
              "จากที่หนีไปจำนวน 30 นาย เราจับมาได้แค่ 10 นายเองนะครับ" เดลิคบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "เฮโลลิคเตอร์คงได้เพิ่มอีก 20 หน่วยแล้วละมั่ง แล้ว พวกที่หนีเข้าประตูมิติไปนั้น มีความสามารถทางกีฬาด้วยหรือเปล่าละ"
              "มีครับ แม้ว่าพวกเขาเป็นพวกที่มีประวัติความประพฤติที่ไม่ดีอยู่มาก แต่ทั้งหมดล้วนแล้ว เคยผ่านการแข่งขันฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล และรักบี้มาก่อน แต่ก็ถูกปรับแพ้หรือให้ออกจากสนามเพราะไปชกต่อยกับคู่แข่งและกรรมการกันนะครับ" เดลิคกล่าว
              เพอซิอัสถาม "แล้ว 10 นายที่จับมาได้นั้น สารภาพถึงแผนการอะไรกันบ้างหรือยังละ"
              "แย่หน่อยนะครับ ที่พวกเขาไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติม นอกจากได้ยินคำแนะนำของเฮโลลิคเตอร์ให้หนีออกจากกองทัพมาร่วมกับตนไว้นะครับ" เดลิคกล่าว "แต่ก็โชคดีมากที่ทหารที่เราจับมาได้นั้น ล้วนมีความสามารถทางกีฬาที่เหนือชั้นอยู่มาก และพวกที่หนีไปได้นั้นก็ไม่ค่อยเก่งในด้านกีฬามากมายเลยนะครับ"
              แอบไบออสบอก "นั้นช่วยทำให้เฮโลลิคเตอร์ต้องเสียเวลาฝึกฝนพวกอ่อนหัดได้ในระดับหนึ่งสิน่ะ"

              "แต่ปัญหาหลักมันก็คือ คลอเวฟ ดันไล่ตามเฮโลลิคเตอร์ไปด้วยนะสิ" บัลโต้บอก "ทีแรก ฉันคิดว่าพวกนายน่าจะหยุดคลอเวฟเอาไว้ เพราะรู้ว่ามันต้องก่อเรื่องไล่ตามไปเล่นงานเฮโลลิคเตอร์กันแน่ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าพวกนายจะทำไม่สำเร็จเลยน่ะ"
              สเปียริทบอก "ส่วนหนึ่งเพราะเฮโลลิคเตอร์ขวางพวกเราด้วยกำแพงสนามพลังเอาไว้ จนนายบื้อตามไปได้กันนะ ผบ.บัลโต้"
              "ว่าแต่ ท่านคิดจะทำยังไงกับคลอเวฟ หากเขาถูกพวกไทรเวเซอร์เบรคไม่ให้ไล่ตามเฮโลลิคเตอร์ไปได้น่ะ" เพอซิอัสถาม
              บัลโต้ตอบ "จากรูปการณ์ในตอนนี้ เฮโลลิคเตอร์พาพวกทหารเลวๆหนีไปอยู่ฝ่ายเดลอาเนี่ยน ก็เท่ากับว่าเฮโลลิคเตอร์และพวก กลายเป็นคนทรยศต่อฝ่ายเราไปแล้ว ซึ่งเฮโลลิคเตอร์เองก็รู้ตื้นลึกหนาบางภายในกองยานของพวกเรากันไม่น้อย เพื่อป้องกันมิให้พวกเดลอาเนี่ยนเล่นงานกองยานของเราไปมากกว่านี้ พวกไทรเวเซอร์จะต้องออกไปจับกุมเฮโลลิคเตอร์กับพวกมารับการพิพากษาจากศาลทหารโดยทันที" แล้วก็บอกไปอีกว่า "หากแต่ ภารกิจนี้ จะไม่มีคลอเวฟอยู่ในทีม เพราะเกรงว่าคลอเวฟอาจจะเล่นงานเฮโลลิคเตอร์จนสาหัสปางตายไปเลยก็ได้ อันเนื่องมาจากการชกต่อยในบาร์เหล้าที่แมนิเกรโทรโปลิสกันนี้แหละ"
              "แต่ถ้าคลอเวฟ ซึ่งมีหน้าที่เป็นคนคุมหางเสือเรือนั้นไม่อยู่นิ พวกเธอคงจะมีมาตราการสำรองเอาไว้เลยสิน่ะ" เพอซิอัสกล่าว
              จายด์บอก "หัวหน้าลูกเรือบริคซ์ทำหน้าที่เป็นคนคุมหางเสือเรือแทนได้นะครับ ในกรณีที่คลอเวฟออกภาคสนามหรือไม่อยู่ในสภาพที่รบได้เลยนะครับ ท่านนายพล" บัลโต้พยักหน้าเห็นด้วย
              "มันก็จริงอยู่น่ะ แต่....เกรงว่าคลอเวฟจะไม่ยอมรับในความช่วยเหลือของพวกเธอซะมากกว่า เพราะตามประวัติที่ฉันอ่านมา คลอเวฟเคยมีเรื่องกับต้นสังกัดเผ่าเดิมที่นำโดยเกซเฟลิคในขั้นแตกหัก ถึงขั้นรวมหัวกับพวกเธอและท่านมหาประธานาธิบดีก่อกบฎจนพิฆาตเกซเฟลิคได้ แมนิเกเตอร์ที่เคยขัดแย้งกับต้นสังกัดเดิมนั้น มีสิทธิ์ที่จะหาเรื่องกับพวกเธอแบบเดียวกันได้สูงมากเช่นนี้ พวกเธอยังคิดที่จะไปช่วยเลยหรือ" เพอซิอัสกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "เกซเฟลิคใช้ไพล์มเทคและเมอริด้า ที่เป็นรุ่นน้องของเขาให้เป็นเครื่องมือทำให้คลอเวฟเสียใจจนต้องยอมศิโรราบและฆ่าตัวตาย แต่คลอเวฟกลับแค้นอย่างมากกับการกระทำของเกซเฟลิคที่ทำกับเขาและพวกเป็นเครื่องมือ เลยเป็นเหตุผลที่เขาเข้าร่วมกับพวกเรานะครับ"
              "ถึงแม้ว่าคลอเวฟจะไม่ค่อยพอใจกับบางเรื่องของพวกเรา แต่....ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเขาต้องการแสดงความเห็นของเขาให้พวกเรารับฟังบ้างนะครับ" พีวิลกล่าว
              พลัสเชอริทบอก "แม้ว่าความเห็นจะขัดแย้งกับพวกเรา แต่ถ้าคลอเวฟไม่ฟังพวกเราจริง ก็คงโวยลั่นใส่พวกเราด้วยอารมณ์รุนแรงและกราดเกรี้ยวไปเมื่อครู่แล้วละ"
              "เนคเกอร์ แล้วเธอล่ะ" เพอซิอัสถาม
              เนคมาดูซัมบอก "คลอเวฟอาจจะก่อเรื่องก่อราวสร้างปัญหาให้กับพวกเรากันบ้างก็จริง ซึ่งผมยังหงุดหงิดไม่หายในเรื่องที่คลอเวฟยิงปืนใหญ่อัดใส่หลังผมเลยก็ตาม...." แล้วก็บอกไปว่า "....แต่ในฐานะที่ผมเป็นทั้งเพื่อน ทั้งคู่ปรับและหัวหน้าหน่วยนั้น จะปล่อยให้คลอเวฟไปไกลกว่านี้โดยไม่ได้ทำอะไรสักอย่างนั้น ไม่ได้อยู่แล้วละ ท่านนายพล ต่อให้ต้องใช้กำลังพูดคุยกับหมอนั้นก็ตาม"
              "ส่วนหนึ่งเพราะว่าคลอเวฟไม่ชอบที่จะฟังเหตุและผลจากปากคนอื่นเลยสิน่ะ" บัลโต้บอก
              เพอซิอัสกล่าว "และพวกเธอคิดถูกแล้วละที่ให้เนคเกอร์เป็นหัวหน้าไว้" แล้วก็บอกไปว่า "แม้ว่าคลอเวฟจะหาเรื่องบุกเดี่ยวไปเพียงลำพังในเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนกันก็จริง ฉันเห็นว่าพวกเธอต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการช่วยเหลือคลอเวฟกลับมา แม้ว่านั้นจะหมายถึงการที่พวกเธอต้องยอมร่วมมือกับคลอเวฟจัดการกับเฮโลลิคเตอร์กับเหล่าสมุนคนทรยศกันไว้ ถึงขั้นที่อีกฝ่ายต้องปางตายไปด้วยน่ะ"
              "แล้วจะให้พวกเราออกเดินทางตอนไหนละคะ" แอนเดรียถาม
              บัลโต้บอก "ต้องเป็นมะรืนนี้แล้วละ เพราะว่าพวกนายพึ่งอ่อนแรงจากการรบกับพวกเดลอาเนี่ยนมา การที่พวกนายรีบไปโดยที่สภาพยานยังไม่ได้รับการซ่อมแซมหรือเตรียมพร้อมให้ดี ก็มีแต่เละกับเละกันนี้แหละ" แล้วก็บอกไปว่า "อีกอย่าง พวกเธอก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือกับกองรบของเดลอาเนี่ยนที่อาจจะบุกมาจู่โจมกันด้วยน่ะ"
              "เออ ว่าแต่ นิคกับรีฟละคะ" โฟรซ่าถาม
              เพอซิอัสบอก "ตอนนี้ จูเดทต้าได้ให้เจ้าหน้าที่นิโคลัสรับฟังคำอธิบายจากแคร์เรี่ยนและดอนเนลแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่นิโคลัสก็ยอมรับแต่โดยดี แม้ว่า...เจ้าหน้าที่รีฟจะไม่อยากทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่นิโคลัสเลยก็ตามน่ะ"
              "กงกรรมกงเกวียน นิคทำอะไรไว้กับรีฟ ก็ได้รับผลอย่างงั้นเลยสิคะ" แอนเดรียบอก
              เพอซิอัสพยักหน้า "แม้ว่าทั้งคู่ไม่ผ่านการทดสอบด้านอาวุธและได้รับการฝึกฝนจากพวกเธอเพียงแค่ 4 วันก็ตาม ส่วนหนึ่งเพราะว่าเจ้าหน้าที่นิโคลัสไม่เชื่อใจรีฟกันเช่นนี้ แต่ก็รู้ว่าการไล่นิคออกจากกองทัพเองก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เธอเลยสั่งลงโทษให้นิคและรีฟ ทำงานด้วยการทดสอบอาวุธภายในกองบัญชาการนี้ เช่นเดียวกับการฝึกฝนภาคสนามขั้นต้น เพื่อขัดเกลาอุปนิสัยที่ไม่ค่อยทำงานเป็นทีมให้ดีขึ้น ซึ่งฉันหวังว่าทั้งคู่คงจะให้ความร่วมมือกันบ้างน่ะ"
              "กลัวว่า นิคและรีฟจะถูกจับให้ชูแขนสองข้างจนเมื่อยซะมากกว่านะครับ" เจเนลกล่าว จนเพอซิอัสกระแอ่มไว้
              บัลโต้บอก "แม้ว่านั้นจะทำให้คลอเวฟเจ็บตัวกันไปบ้าง พวกนายเองก็ไม่ควรรีบร้อนมากจนทำให้งานเสียหายไปได้เช่นกัน ดังนั้น ฉันหวังว่าพวกนายคงจะแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ไว้ได้บ้างน่ะ"
              "ตอนนี้ พวกเธอไปเตรียมพร้อมสำหรับการออกเดินทางในมะรืนนี้แล้วกัน หมดเรื่องแล้ว พวกเธอกลับไปได้" เพอซิอัสบอก
              บัลโต้กล่าว "และฉันจะรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในพอร์ตคอร์เบิ้ลให้ท่านประธานาธิบดีรับทราบแล้วกันน่ะ เลิกการติดต่อ"

              "ว่าแต่ เธอฟังแคร์เรี่ยนเล่ามานิ คงรู้แล้วใช่มั้ยละ" เจเนลถามนิคที่มานั่งอยู่ในโรงอาหาร ซึ่งพยักหน้า
              "ผมน่าจะรู้นะครับ ว่าคุณดอนเนลนั้น เป็นวิศวกรในโรงงานของทางบริษัท ที่ไม่เพียงรู้เรื่องของรีฟและเฮเลนมาโดยตลอด แต่เขาไม่สามารถออกไปพูดกับผมได้ เพราะว่าเขาเป็นแค่ลูกจ้างที่เป็นพลเมืองระดับล่างเท่านั้นเองนะครับ"
              "และส่วนหนึ่งเพราะเธอไม่เคยแวะมาโรงงานที่เจ้าหน้าที่ดอนเนลทำงานอยู่ละสิ" แอบไบออสบอก
              นิคกล่าว "ผมแวะไปดูการทำงานในโรงงานกันอยู่ และเจอหน้ากับคุณดอนเนลที่มาให้คำปรึกษากับผมกันตั้งหลายครั้ง จนผมมองเขาเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง แม้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกดีไม่น้อยที่เขารอดมาอยู่กับผมเลยก็ตาม...." แล้วก็ส่ายหน้าอย่างไม่สบายใจ "แต่....ถ้าผมเชื่อคำแนะนำของเขาว่าอย่าทำให้รีฟเสียใจกันละก็...."
              "มันก็น่าอยู่หรอกน่ะ นิค ที่เธอทำตัวให้รีฟไม่พอใจก่อนทำไมละ" เจเนลบอก "ถึงฉันไม่เคยมีแฟนและไม่เคยรักใครอย่างลึกซึ้งเหมือนที่เธอเป็นอยู่ก็ตาม แต่ก็รู้สึกดีใจไม่น้อย ที่ไม่ต้องมาทุกข์ใจกับเรื่องความรักที่ยึดติดกันแบบไม่หยั่งคิดเช่นนี้ไปได้น่ะ"
              นิคบอก "ในเมื่อคุณไม่เคยมีใครอย่างจริงจัง แล้วคุณมาแนะนำผมทำไมละ"
              "ก็เพราะว่า แม่ของฉันสอนไว้นะสิ ว่าต่อให้ไม่มีผู้หญิงที่ไหนมาสนหรือรักเรา เราก็อย่าไปทำลายความรู้สึกดีๆของพวกผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเรามากที่สุด คอยดูแลเราโดยไม่บอกกล่าวหรือไม่อยากได้อะไรตอบแทนไปกว่าการได้เห็นเราสบายดีและไม่เป็นไรมากแล้ว และยิ่งรับคำขอจากอีกคนให้ทำตามมาอย่างเต็มใจด้วยนั้น ถ้าเราไปปฏิเสธ ก็เท่ากับทำลายความหวังดีของเธอไปจนหมดสิ้นกันเลยน่ะ" เจเนลบอก
              นิคบอก "แต่ ผมจะไปรู้ได้ไง ว่าที่รีฟทำไปนั้นเป็นประสงค์ดีกันน่ะ"
              "แล้วเธอเปิดใจเล่าให้รีฟฟังหรือรับรู้กันจริงๆหรือเปล่าละ" พีวิลกล่าว "ลูกผู้ชายที่แท้จริงนั้น นอกจากกล้าทำกล้ารับแล้ว ยังต้องกล้าที่จะรับฟังความเห็นของคนอื่น พูดคุยกับคนที่เราไม่อยากจะคุยว่าเขาต้องการอะไรกันบ้าง และกล้าที่จะแสดงความเห็นด้วยหรือเห็นต่างเพื่อให้เขารู้เจตจำนงของเธอว่าเธอคิดเห็นยังไง ซึ่งการที่เธอพูดออกมาตรงๆนั้นมันก็เป็นเรื่องดี แต่....เรื่องที่เธอปฏิบัติกับรีฟแบบนั้นมาตลอด ทั้งๆที่เธอต้องการจะช่วยนั้น มันเป็นคนละเรื่องกันเลยน่ะ"
              นิคบอก "แต่ตอนนี้เธอโมโหและโกรธผมมากเช่นนี้ ถึงผมจะพูดไป เธอก็คงไม่ฟังเลยนะครับ"
              "เกรงว่า เธอต้องแสดงความจริงใจให้รีฟเห็น ด้วยการช่วยเหลือเธอในเวลาที่เธอลำบาก ทำในสิ่งที่รีฟทำกับเธอมาโดยตลอดกันหลายๆครั้งไปเลยสิ" แอบไบออสบอก "แม้ว่ามันจะไม่ได้เห็นผลในทันทีเลยก็จริง แต่....ถ้าเธอมีความพยายามที่จะไล่ตามล่าไวล์สเลฟได้ละก็ เธอก็น่าจะพยายามทำให้รีฟเห็นว่า เธอพยายามปรับปรุงตัวให้สมกับสถานะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์กันบ้างน่ะ ต่อให้ถูกปฏิเสธไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง เธอก็ต้องอดทนให้ได้มากกว่าที่รีฟเป็นอยู่กันด้วยน่ะ"
              นิคบอก "เหมือนที่คุณพยายามอดทนข่มสัญชาตญาณดิบเพื่อรักษาความเป็นมนุษย์ของคุณที่มีอยู่ไว้เลยสิครับ"
              "ใช่ และฉันแนะนำว่า พรุ่งนี้เธอต้องพยายามกันให้มาก ไม่ใช่แค่เพื่อทำให้รีฟยอมรับในตัวเธออย่างเดียว...." แอบไบออสกล่าว "....แต่หมายถึงแคร์เรี่ยน แอร์ไพล์มมิส แล้วก็พวกเราเองด้วย ที่เชื่อว่าเธอสามารถทำงานร่วมกันกับคนอื่นได้แน่นอนเลยละ"
              นิคได้ฟังก็ยิ้มขึ้นมา "ส่วนหนึ่งเพราะว่าพวกคุณต้องพาคุณคลอเวฟกลับมาเลยสิครับ ถ้าพวกคุณทำอย่างงั้นได้ ผมก็ต้องทำได้เช่นกันนะครับ"
              "หากแต่ เรื่องของไวล์สเลฟนั้น อย่าพึ่งลงมือจะดีกว่าน่ะ เพราะ....พวกเราพลาดในเรื่องปล่อยให้คลอเวฟตามเฮโลลิคเตอร์ไป เราไม่อยากให้เธอเป็นเหมือนคลอเวฟด้วยน่ะ" พีวิลบอก
              เจเนลกล่าว "เพราะเธออาจจะทำให้รีฟโกรธจนไม่ไปช่วยเธอเลยก็ได้ ซึ่งจะทำให้เราต้องลำบากไปช่วยเธอกันอีกรอบเลยนะสิ"

              "ถ้าคิดจะเกลี้ยกล่อมให้ฉันยอมคืนดีกับคุณนิคละก็ อย่าดีกว่านะคะ" รีฟบอก เมื่อแอนเดรีย ลิเนียร์ตี้ สเปียริทและโฟรซ่ามาหา
              ลิเนียร์ตี้บอก "เราไม่ได้มาเกลี้ยกล่อมกันสักหน่อยน่ะ เพราะเรารู้ว่าเธอทำไป ก็เพื่อจะสั่งสอนนิคเลยสิน่ะ"
              "เออ นี้พวกคุณรู้เรื่องที่ฉันแสดงความรู้สึกออกไป และทำเหมือนกับคุณนิคกลับอย่างงั้นนะหรือคะ" รีฟกล่าวโดยเปลี่ยนท่าทีอ่อนลง
              แอนเดรียบอก "ดิเรนท์และเวลลิทมาบอกกับฉันแล้วละ ว่าทั้งสองแนะนำให้เธอพูดออกมาจากใจกันน่ะ หากแต่....เรากลัวว่ามันจะซ้ำรอยเดิมเหมือนที่นิคทำกับเธอไว้นะจ๊ะ"
              "ถึงแม้ว่าเธอจะแสร้งทำเป็นโกรธและง้องอนเพราะไม่ชอบนิคขึ้นมา แต่....เธอไม่กลัวว่าเธอจะกลายเป็นนิคไปเสียเองหรือ" โฟรซ่าบอก
              รีฟกล่าว "พอได้ยินคุณพูดมา ฉันก็รู้สึกหวั่นเกรงไม่น้อย แต่....ถ้าฉันกลับมาอ่อนลง คุณนิคก็กลับไปเป็นแบบเดิมอยู่ดีนี้แหละ ต่อให้เขารู้สึกผิดกับการที่เขาทำลายความหวังดีและคำสั่งเสียของพี่เฮเลนเลยก็ตามน่ะ"
              "แล้วเฮเลนสั่งให้เธอโกรธนิคกันหรือเปล่าละ" สเปียริทถาม
              รีฟได้ฟังก็ส่ายหน้า "ไม่ได้โกรธนะคะ แค่หวั่นเกรงและระแวงว่าเขาคงจะโกรธที่ฉันปิดบังเรื่องนี้ไว้ แม้ว่าฉันได้พูดออกไปให้เขาได้ยิน ก็แค่ความรู้สึกโกรธที่เขาดูถูกพี่สาวกันนะคะ"
              "เธอมีสิทธิ์โกรธได้ก็จริง แต่อย่าให้ความโกรธของเธอกลายเป็นความเกลียดชังไปเลยจะดีกว่าน่ะ" โฟรซ่าบอก "เพราะความโกรธแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียด ความเกลียดเปลี่ยนเป็นความแค้น และความแค้นนั้นเป็นต้นเหตุที่ทำลายสามัญสำนึกด้านดีของเราลงไป ถ้าเราไม่เอาชนะความเกลียดชังในตัวของเราเองไว้ นั้นจะเปลี่ยนเธอให้เลวร้ายยิ่งกว่าไวล์สเลฟกันเลยน่ะ"
              สเปียริทบอก "อย่างแม่ทัพใหญ่โอลดาธที่ร่วมมือในแผนการรุกราน เพราะความโกรธที่คุณเมซ่ารักกับนายพลเกรย์สันจนมีแพททริคและพวกผู้การฮาซาเดนมา โดยแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังที่มีต่อตระกูลทิลเทอแรนขึ้น และใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือสนองความแค้นของตนเอง ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อหวังจะทำลายตระกูลทิลเทอแรน ด้วยการอาศัยแพททริคและน้องๆที่ทำตัวเลวทรามต่ำช้าเป็นเครื่องมือ ซึ่งเรา ไม่อยากให้เธอเป็นเหมือนแม่ทัพโอลดาธ จนไวล์สเลฟดีใจไม่น้อยกับการที่เห็นคนใกล้ชิดนิคมีสภาพเช่นนั้นเลยน่ะ"
              "ที่คุณพูดมานิ เพราะว่าคุณเคยเป็นอย่างงั้นมาก่อนสิคะ" รีฟบอก สเปียริทชะงักขึ้นมา จนเธอพูดไม่ออก รีฟเลยบอกไปว่า "คุณแม่เคยบอกไว้ ว่าคนที่ทำตัวไม่ดีนั้น เพราะว่าเขาได้สูญเสียความดีในตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว รวมถึงสูญเสียจิตใจอันดีงาม ความมีเมตตาและความอ่อนโยน ความเป็นห่วงเป็นใย เพราะความเกลียดชังและความโกรธแค้นจากเหตุการณ์บางอย่างมาก่อน คนเหล่านั้นจึงเป็นคนที่ น่าสงสารมากที่สุด เพราะว่าพวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า การกระทำของพวกเขาได้ทำลายความดีงามในตัวไปเป็นส่วนมาก โดยที่พวกเขาไม่ได้นึกถึงความดีที่แท้จริงในตัวเอง การไปจงเกลียดจงชังคนเหล่านั้น ก็ไม่ต่างอะไรไปกว่า การเลียนแบบและกลายเป็นคนเหล่านั้นขึ้นมา เราจึงทำได้แค่ อโหสิให้กับเขา หากว่าเขาไม่ยอมรับคำแนะนำและตักเตือนจากพวกเรานะคะ"
              โฟรซ่าเลยถาม "แล้วสเปียริทนิ เธอคิดว่ายัยนี้เป็นคนเลวอย่างแท้จริงหรือเปล่าละ"
              "ไม่เลยคะ คุณสเปียริทแค่สูญเสียความดีงามและความอ่อนโยนในตัวไปจากความโกรธที่ได้รับแต่ไม่ถึงกับเกลียดชังมากนัก ก็แค่อยากให้คนรอบข้างยอมรับในสิ่งที่คุณสเปียริทต้องการไว้ แม้ว่าจะใช้การลงมือด้วยความรุนแรงกันก็ตาม ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า คุณยังมีความเป็นห่วงเป็นใยและความรู้จักผิดชอบชั่วดีในตัวหลงเหลืออยู่บ้าง คุณสเปียริทเลยไม่ถล่ำลึกไปมากกว่านี้เลยนะคะ" รีฟบอก "บวกกับว่าคุณสเปียริทเคยสูญเสียความทรงจำมาก่อนนั้น แม้จะทำให้คุณจำตัวตนเดิมที่เคยสูญเสียไปไม่ได้เลยก็ตาม แต่นั้นก็ทำให้คุณลืมอดีตอันเลวร้ายที่เคยประสบพบพามาได้ จนกลายเป็นคุณในตอนนี้เองนะคะ"
              สเปียริทบอก "คุณแม่ของเธอสอนได้ดีมากเลยน่ะ แม้ว่านั้นจะทำให้ฉันนึกถึงเรื่องอดีตที่สูญหายไปส่วนหนึ่งก็ตาม แต่หวังว่าเธอคงไม่เป็นเหมือนฉันในตอนนั้นบ้างน่ะ"
              "แล้วพวกคุณจะช่วยคุณคลอเวฟกลับมาได้หรือเปล่าละคะ เพราะเท่าที่ทราบมา คุณคลอเวฟเคยเจอแต่เรื่องในอดีตที่เลวร้ายอย่างมาก แถมเจ้าหน้าที่เฮโลลิคเตอร์ที่เป็นคู่กรณีก็ดันก่อเรื่องให้เขาต้องไล่ล่ากันเลยน่ะ" รีฟบอก
              โฟรซ่าบอก "ถึงคลอเวฟจะนิสัยแย่และชอบหาเรื่องใส่ตัวและพวกเราอยู่บ้าง แต่คลอเวฟก็เป็นเพื่อนพ้องของเราตนหนึ่งด้วยน่ะ"
              "พวกเราไม่ยอมให้คุณคลอเวฟเผชิญหน้ากับปัญหาเพียงลำพังไปได้เลยนะคะ และยิ่งเขามีเรื่องกับเฮโลลิคเตอร์ด้วยแล้ว เราต้องยิ่งตามหาเขาให้เจอโดยเร็วก่อนนะคะ" แอนเดรียบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "อย่าลืมสิ ว่าคลอเวฟหลุดเข้าเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยน แถมตัวใหญ่เพราะสวมเกราะหนาแม้จะหนาน้อยกว่าเนคมาดูซัมก็ตาม คงจะหาเรื่องหลบซ่อนได้ยากละมั่ง"
              "และต่อให้นายบื้อไม่ยอมให้ช่วยก็ตาม แต่ถ้าไม่เพราะว่านายบื้อเคยผ่านเรื่องสูญเสียพวกพ้อง จากถูกหักหลังและทรยศกันมาก่อน ถ้าเราไม่ไปช่วยก็เหมือนทรยศต่อนายบื้อนั้นไปด้วยนะสิ" สเปียริทกล่าว
              รีฟบอก "เพราะว่าพวกคุณไม่เคยทอดทิ้งคนอื่นให้ต้องอยู่เพียงลำพังเลยสิคะ.....หวังว่าพวกคุณคงจะโชคดีกันบ้าง โดยที่ฉันเองก็ต้องพยายามด้วยนะคะ"

              "ตอนนี้ รีฟก็ต้องแสร้งทำเป็นโกรธและงอนเพื่อให้นิคยอมอ้อนวอนและช่วยเหลือเธอกันโดยดีสิน่ะ" พีวิลบอก โดยที่สเปียริทและพวกกลับเข้ามาที่บ้านแล้ว
              สเปียริทบอก "แน่ละ ก็รีฟเล่นทำให้นิคหงอยกันแบบนี้เลยน่ะ" และหันมาถาม "แล้วตอนนี้ พวกนายกำลังทำอะไรอยู่หรือ เห็นนั่งล้อมโต๊ะรับแขกเลยน่ะ"
              "เรากำลังให้แอมเบอร์ค้นหาข่ายสัญญาณของพวกแอตแลนไทซ์นะสิ" เนคมาดูซัมบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "หาข่ายสัญญาณนะหรือ แต่....เราสามารถติดต่อไปที่ดาวแคสเซรอน-4 และขออนุญาตผู้ว่าการเซริซ่าเชื่อมต่อสายก็ได้เลยนิ"
              "อันนี้เราจัดการไปแล้วละ หากแต่...." พลัสเชอริทบอก "....มีแต่พวกแอตแลนไทซ์เท่านั้นแหละ ที่ไม่ให้รหัสข่ายสัญญาณสื่อสารมาให้กับทางเราและนายแม่รัคชูมี่ ไม่ว่าจะติดต่อไปทางไหนเลยก็ตามน่ะ"
              แอนเดรียบอก "พวกเขาคงจะมีงานยุ่งจนไม่มีการสื่อสารเข้ามาเลยสิคะ"
              "หรือว่า แพนทานิคปิดบังการสื่อสารระหว่างกลุ่ม เพื่อใช้เวลาในการสะสมกองรบเพื่อส่งไปหาเรื่องพวกเดลอาเนี่ยนกันสิน่ะ" โฟรซ่าบอก
              สเตฟอร์ดกล่าว "ไม่หรอก ฉันได้ติดต่อไปหาโซแลชและลูแนชมา โดยให้เขาส่งพวกเนปจูนอยด์ลงไปสืบข่าวพวกแอตแลนไทซ์ พบว่าพวกนั้นไม่เพียงนำเมืองลงใต้มหาสมุทรกันอย่างเดียว แต่ มีเรือรบดำเข้าออกเมืองปิรามิดใต้น้ำกันอยู่เป็นเนื่องๆเลยน่ะ"
              "งั้นหรือ แล้วคุณโซแลชและคุณลูแนชติดต่อเข้าไปหาคุณแพนทานิคหรือเปล่าละคะ" แอนเดรียบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "ทีจริงแล้ว พวกเขาก็ติดต่อไปนี้แหละ หากแต่...." แล้วก็ตอบไปว่า "....แพนทานิค จะติดต่อด้วยระบบสื่อสารโฮโลแกรมกันที่ดาว โดยที่ใช้เครื่องสื่อสารรุ่นเก่าของพวกแอตแลนไทซ์บนโลกติดต่อลงไปกันนะคะ"
              "นี้อย่าบอกน่ะ ว่าต่อให้ฟอร์มกองกำลังขึ้นมาใหม่ นายแพนทานิคก็ยังใช้ระบบสื่อสารแบบที่เกซเฟลิคใช้กันมาก่อนละสิ" สเปียริทบอก
              พีวิลตอบ "เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้นแล้วละ เพราะมีแต่พวกแอตแลนไทซ์เท่านั้นที่เราติดต่อไปไม่ได้ ถ้าไม่เพราะว่าแพนทานิคมีงานยุ่งจนไม่มีเวลาสื่อสาร ก็ต้องเป็นเพราะว่าเมืองของพวกเขาส่วนมากที่อยู่บนท้องทะเล ดำลงไปใต้น้ำกันแล้วนะ"
              "เพราะว่าระบบสื่อสารรุ่นเก่าของพวกแอตแลนไทซ์บนโลกนั้น สามารถครอบคลุมไปถึงเรือรบและฐานทัพที่อยู่ในความลึกมากกว่า 20,000 ฟุตด้วยกันน่ะ" พลัสเชอริทวิเคราะห์
              ลิเนียร์ตี้บอก "แต่ถ้าเป็นระบบสื่อสารรุ่นเก่า ก็น่าจะตรวจสอบกันได้นิ เพราะว่าพวกเราเคยมีเรือรบชั้นแคร์แลนด์ตั้งหลายสิบลำ เช่นเดียวกับนอร์ติลุสกันด้วยน่ะ"
              "แย่หน่อยนะ ที่กองกำลังของเซริซ่าลองเจาะเข้าระบบคอมในเรือชั้นแคร์แลนด์กันแล้ว แต่...แพนทานิคเปลี่ยนรหัสสัญญาณเสียก่อนนะสิ" เนคมาดูซัมบอก แล้วโฮโลแกรมของแอมเบอร์ก็โผล่มา
              เจเนลถาม "ได้เรื่องอะไรหรือยังละ แอมเบอร์"
              "เกรงว่า ไม่ได้เลยนะคะ เพราะว่าข่ายสัญญาณของพวกแอตแลนไทซ์ ไม่เพียงแค่ปิดกั้นไม่ให้เชื่อมต่อได้อย่างเดียว" แอมเบอร์บอก "แต่....ฉันได้ตรวจสอบถึงการสื่อสารเข้ามาที่ดาวของเรา เผื่อว่าแอดมิรัลลอร์ดแพนทานิคจะสื่อสารกับคนของเขาที่ถูกส่งมาที่ดาวนี้ จนพบว่า แพนทานิคติดต่อกับใครบางคนกันอยู่นะคะ"
              เนคมาดูซัมกล่าว "แพนทานิคติดต่อเข้ามานะหรือ พอจะทราบได้มั้ย ว่าแพนทานิคติดต่อหาใครกันละ"
              ".....กราดิเอเตอร์มารีนคลอเวฟคะ" แอมเบอร์บอก
              สเปียริทกล่าว "นายบื้อนะหรือ เป็นไปไม่ได้น่า นายบื้อไม่มีทางติดต่อไปหาแพนทานิคได้หรอก เพราะว่าข่ายสัญญาณของพวกแอตแลนไทซ์มันเข้าไม่ได้น่ะ"
              "แต่มันเป็นอย่างงั้นไปแล้วนะสิ เพราะว่าแพนทานิคใช้ข่ายสัญญาณรุ่นเก่า ติดต่อลงมาที่ดาวของเรา และลงมาที่เฟิร์สฮิลล์กันด้วยนะคะ" แอมเบอร์บอก
              เนคมาดูซัมบอก "ไม่น่าจะเป็นไปได้น่า แอมเบอร์ คลอเวฟจมนอร์ติลุสร่วงลงไปแล้ว แพนทานิคไม่น่าเชื่อมต่อข่ายสัญญาณเข้ามากันได้เลยนิน่า"
              "ถึงคลอเวฟจะจมเรือนอร์ติลุสทิ้ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้เอาบางอย่างออกจากเรือไปด้วยเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก แล้วก็คาดเดาบางอย่างก่อน แล้วก็สั่ง "แอมเบอร์ พอจะเช็คได้มั้ย ว่าที่ฟูลบาร์ของคลอเวฟ มีการสื่อสารจากแคสเซรอน-4 เข้ามาในเวลาเดียวกันกับที่เราติดต่อไปที่นั้นบ้างหรือเปล่าละ"
              แอมเบอร์ลองตรวจสอบดู จนพบว่า "ถ้าเป็นช่วงที่พวกคุณติดต่อไปหานายแม่รัคชูมี่เป็นครั้งแรกละก็.....มีการสื่อสารจากแอดมิรัลลอร์ดเข้ามาเลยนะคะ"
              "แพนทานิคติดต่อเข้ามาหาคลอเวฟนะหรือ ถึงว่าสิ ว่าทำไมบางครั้งที่เราติดต่อไปหา คลอเวฟถึงไปอยู่ที่บาร์ตลอดน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              พีวิลกล่าว "ถ้าแพนทานิคติดต่อเข้ามาได้ แสดงว่าคลอเวฟเก็บเครื่องสื่อสารจากนอร์ติลุสเข้ามาในบาร์นี้อย่างลับๆสิน่ะ"
              "กะแล้ว นายบื้อกลับไปที่ฟูลบาร์คงไม่ได้ไปทำความสะอาดบาร์เหล้ากันอย่างเดียวแล้วสิ" สเปียริทบอก
              ฟิเกซบอก "แต่ แพนทานิคจะติดต่อเข้ามาที่ฟูลบาร์อย่างงั้นใช่มั้ยละ ถ้าเราไปเช็คดูที่นั้น บางทีก็คงจะได้คำตอบกันบ้างละน่ะ"
              "ตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้หรอกน่ะ ฟิเกซ เพราะว่าเราเหนือยมากแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมบอก แล้วก็ "โครกกกก" เสียงท้องร้องดังขึ้น โดยเฉพาะดังมาจากท้องของจายด์
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "แอมเบอร์ คอยเช็คข่ายสัญญาณสื่อสารเข้ามาที่ฟูลบาร์ให้หน่อยน่ะ เผื่อว่าแพนทานิคจะติดต่อเข้ามาในวันพรุ่งนี้น่ะ"
              "ได้อยู่แล้วละคะ" แอมเบอร์บอก
              ไซโคลเนียบอก "แต่ ถ้าคลอเวฟเอาเครื่องสื่อสารจากนอร์ติลุสเข้ามานิ นอร์ติลุสมันเดินเครื่องได้เพราะมีตรากราดิเอเตอร์มารีนด้วยใช่มั้ยละ...."
              "จริงด้วยน่ะ คลอเวฟก็เก็บตรานี้เอาไว้กับตัวด้วยนะสิ" เนคมาดูซัมบอก "แถมคลอเวฟเองก็ดันหายตัวแบบนี้ เราคงไม่มีทางใช้เครื่องสื่อสารได้ หากไม่มีกุญแจเปิดอย่างตราของคลอเวฟเลยน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "วางใจได้ เพราะตราอยู่ที่ฉันนี้แหละ" แล้วก็เอาตรากราดิเอเตอร์มารีนออกมา
              "มาส ว่าแต่ นายได้ตรากราดิเอเตอร์มารีนของคลอเวฟมายังไงละ ในเมื่อคลอเวฟหวงตรานี้มากเลยน่ะ" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "หลังจากที่นัดแนะว่าจะให้ใครออกปฏิบัติการณ์ที่พอร์ตคอร์เบิ้ลนั้น ฉันขอให้คลอเวฟฝากตรากราดิเอเตอร์มารีนให้ฉันไว้ หากเกิดเหตุที่คลอเวฟเจอเรื่องที่ทำให้เขาหายตัวไป ซึ่งทีแรก คลอเวฟไม่ยอม แต่ฉันเกลี้ยกล่อมกับคลอเวฟว่า ถ้าถูกฆ่าตายแล้วคนของแพนทานิคไปเก็บกู้มาได้ พวกเราก็จะไม่ได้ตรานี้คืนแน่นอน คลอเวฟเลยยอมให้แต่โดยดี เพราะรู้ว่าฉันกับพีวิลไว้ใจได้มากกว่าเนคมาดูซัมและสเปียริทนี้แหละ"
              "นายบื้อนิ สองมาตราฐานจริงๆให้ตายสิ" สเปียริทบ่น
              จายด์กล่าว "นั้นไม่แปลกหรอก เพราะแพนทานิคเรียกร้องให้กองทัพของผบสส.บัลโต้ส่งแคร์แลนด์ทุกลำคืนกลับมาที่แอตแลนไทซ์ตามเดิม ถ้าตรากราดิเอเตอร์มารีนถูกพวกแอตแลนไทซ์เก็บได้ คลอเวฟก็ต้องตามกลับไปเอาเองเพียงคนเดียวนะสิ เพราะตรานั้นก็เป็นสมบัติของพวกแอตแลนไทซ์ด้วยน่ะ"
              "แต่ตอนนี้เรามีตราของคลอเวฟแล้ว ก็เท่ากับว่าเราสามารถติดต่อสื่อสารกับแพนทานิคได้สิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "หวังว่าที่เราคาดเดามานั้น อาจจะถูกต้องก็ได้น่า"

              แล้วเวลาผ่านไปจนถึงเช้าวันต่อมา
              "มีสัญญาณสื่อสารจากเกาะแอตแลมด้าที่ดาวแคสเซรอน-4 ติดต่อเข้ามาที่ฟูลบาร์แล้วละคะ" แอมเบอร์บอก
              โฟรซ่ากล่าว "เป็นอย่างที่นายคาดไว้จริงๆด้วยสิน่ะ"
              "ถ้าเช่นนั้น เรารีบลงไปดูกันดีกว่า" เนคมาดูซัมกล่าว แต่พอเมนซิกส์ทีนลงไปดู
              "เอ้ย เดียวสิ นี้พวกเธอมามุงอะไรกันมิทราบละ" สเตฟอร์ดกล่าวเพราะเห็นน็อกกี้ แจ็ส แด็กซ์ มากับแทน และแรมเบจด้วย
              "อยู่ๆในบาร์ก็มีเสียงดังขึ้นมาพร้อมกับมีแสงกระพริบหลังเคาน์เตอร์กันด้วยนะครับ" แจ็สบอก
              แด็กซ์กล่าว "กะแล้วว่า บาร์เหล้าของคุณคลอเวฟมันต้องมีบางอย่างน่าสงสัยแอบซ่อนตามที่เราแอบเห็นมาแน่ๆเลยละ"
              "และนั้นเป็นเหตุผลที่คลอเวฟพูดถึงพวกเธอสามคนเลยสิน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              น็อกกี้บอก "แต่ปัญหาคือ ประตูหน้าล็อกกุญแจไว้ เราเลยเรียกคุณแทนกับลุงแรมเบจมาถีบประตูให้พัง เพราะเราพยายามปาหินเพื่อทำให้กระจกร้านแตก แต่ก็ไม่แตกเสียทีน่ะ"
              "พวกเธอปาหินไปหลายก้อน ก็ไม่ทำให้กระจกหนาพิเศษร้าวไปได้หรอกน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              แทนกล่าว "เพราะอย่างงั้นแหละ ฉันกับแรมเบจเลยต้องมาถีบประตูร้านนี้ให้พังยังไงละ"
              "อย่างน้อย ไอ้หุ่นเหล็กมีเหล้านารีแดงเก็บไว้สักไหสองไหบ้างละน่า" แรมเบจอ้าง
              สเปียริทบอกอย่างหงุดหงิด "นี้ยังไม่เลิกคิดว่านายบื้อซื้อเหล้าจีนเก็บไว้เลยหรือไงกันละยะ"
              "เออ ไม่ต้องถีบประตูให้คลอเวฟหงุดหงิดกันหรอก เพราะเราให้บริคซ์มาเปิดประตูกันแล้วละ" พีวิลบอก เพราะบริคซ์รีบวิ่งมา พร้อมกับกุญแจใช้เปิดประตูร้านเข้า
              "ดีแล้วละ ที่ฉันเก็บกุญแจเอาไว้ เพราะต้องมาช่วยดูภายในร้านสักหน่อย เผื่อว่าคลอเวฟลืมปิดน้ำ ปิดแก็สหรือเอาเบรคเกอร์ไฟฟ้าลงหรือเปล่าน่ะ" บริคซ์บอกหลังจากที่ไขกุญแจเข้าร้านไปแล้ว
              "โอเค เราขอเข้าไปดูในร้านก่อนแล้วกัน เผื่อว่ามีอะไรที่เป็นอันตรายกันบ้างน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก แล้วก็เข้าไปในร้านพร้อมกับพวกเนคมาดูซัม ซึ่งตอนนี้ตู้เก็บขวดเหล้าก็มีแสงกระพริบพร้อมส่งเสียงดังอย่างยกใหญ่
              "นั้นไง คลอเวฟเซตที่นั่งประจำตอนมานั่งกินเหล้าเพียงคนเดียว เป็นที่ใส่กุญแจอย่างที่คิดไว้เลยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก โดยเห็นไฟกระพริบบนเคาน์เตอร์ขึ้นมา
              "ส่วนหนึ่งเพราะนายมาหาคลอเวฟหลังจากที่รบกับพวกดีสโทนอฟกันสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วก็ "ปี้บ" กดปุ่มที่กระพริบอยู่ จน "ครืดดด" พื้นเคาน์เตอร์ตรงหน้าแยกออก เผยช่องใส่ตรากราดิเอเตอร์มารีนขึ้นมา มาสวาร์ทาร์เลยนำตราวางไว้ "ปี้บๆๆๆๆ ครืดดดด" ซึ่งก็ทำให้ตู้เก็บขวดเหล้าขยับแยกออกมา เผยให้เห็น.... "อ่า นึกแล้วเชียว คลอเวฟซ่อนคอมพิวเตอร์ระบบสื่อสารภายในนอร์ติลุสเอาไว้หลังตู้เหล้ากันด้วยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอกเมื่อเห็นคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอมอนิเตอร์และหน้าปัดปรากฎออกจากหลังตู้เก็บขวดเหล้า
              โฟรซ่าบอก "และคงจะซ่อนไว้มานานเลยสิน่ะ"
              "งั้น รับการสื่อสารจากแพนทานิคเดียวนี้เลย" เนคมาดูซัมกล่าว แต่ "อื้ดๆๆๆๆ" หน้าจอมอนิเตอร์เปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีแดง แอมเบอร์เลยทำการตรวจสอบดู
              "เออ ดูเหมือนว่าคอมพิวเตอร์มันจะรู้นะคะ ว่าคนที่อยู่ในบาร์ ไม่ใช่คลอเวฟ แต่เป็นพวกคุณ เลยทำให้ระบบโปรเทคทำงานขึ้นมานะคะ" แอมเบอร์รายงานหลังจากที่เชื่อมต่อกับตัวคอมพิวเตอร์ไปแล้ว
              "ระบบทำงานนิ ว่าแต่ เราจะปลดล็อกมันยังไงกันละ" ลิเนียร์ตี้บอก
              แอมเบอร์กล่าว "คอมพิวเตอร์มีโปรแกรมที่บล็อกการบายพาส การแฮคเข้าไปอย่างหนาแน่น จนฉันไม่สามารถเข้าระบบได้เลยนะคะ" แล้วก็บอกไปว่า "แน่นอนว่า คลอเวฟคงจะเซตระบบป้องกันไว้ เผื่อว่ามีพวกคุณคนใดคนหนึ่งโผล่มา หรือเป็นบุคคลภายนอกที่เขาไม่ไว้ใจเข้ามาในร้านไว้นี้แหละ"
              "แจ่ม นายบื้อคงรู้ว่าต้องมีคนมาก่อกวนเลยทำแบบนี้เลยสิน่ะ" สเปียริทบอก "แล้วจะทำให้คอมพิวเตอร์มันยอมให้เราใช้งานได้ยังไงละยะ แอมเบอร์"
              แอมเบอร์บอก "คอมพิวเตอร์ต้องการพาสเวิร์ดไว้ เพื่อยืนยันว่า พวกคุณเป็นพวกเดียวกับคลอเวฟนะคะ" แล้วก็เปิดคีย์บอร์ดเรืองแสงขึ้นมา
              "แค่คีย์พาสเวิร์ดเข้าไปก็ได้แล้วสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก และเดินมาตรงคีย์บอร์ดเลเซอร์ที่ปรากฎบนโต๊ะ "พาสเวิร์ดของคลอเวฟ คงไม่มีอะไรดีไปกว่า กราดิเอเตอร์มารีนไร้เทียมทาน เลยสิน่ะ" แล้วก็คีย์พาสเวิร์ดดังกล่าว แต่ "ตื้ดๆๆๆๆๆ" คอมพิวเตอร์ส่งเสียงพร้อมไฟสีแดงขึ้นมา
              แอมเบอร์บอก "เออ พาสเวิร์ดไม่ถูกนะคะ คุณเนคมาดูซัม และมีข่าวร้ายอีกอย่างหนึ่ง คอมพิวเตอร์ให้โอกาสพวกคุณอีกสองครั้งในการทายพาสเวิร์ดให้ถูกต้องนะคะ"
              "สองครั้งเลยหรือ โอ้ว นั้นไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมคลอเวฟถึงให้ตรากับนายไปง่ายๆกันน่ะ" เจเนลบอก
              แอบไบออสบอก "คลอเวฟคงรู้ว่าเราต้องใช้ตรานี้เพื่อเปิดเข้าระบบสื่อสารไว้ แต่ก็รู้ด้วยเช่นกันว่าเราต้องเจอกับระบบโปรเทคแบบนี้ด้วยสิ"
              "อืมมมม ว่าแต่ เพื่อนและคนรักที่คุณคลอเวฟรู้จักและเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเขา น่าจะใช้ได้บ้างนะคะ" แอนเดรียออกความเห็น
              มาสวาร์ทาร์บอก "ฉันก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน หวังว่า ไพล์มเทคและเมอริด้า คงจะช่วยเราได้บ้างละน่ะ" แล้วก็คีย์พาสเวิร์ดเข้าไป แต่ "ตื้ดๆๆๆๆๆๆๆ" คอมพิวเตอร์ส่งเสียงแบบเดิม "พาสเวิร์ดนี้น่าจะใช้ได้มิใช่หรือ แอมเบอร์" มาสวาร์ทาร์ถาม
              "มันใช้ได้นะคะ หากแต่....คุณคลอเวฟเปลี่ยนพาสเวิร์ดนี้ หลังจากที่ร้านมีโจรพยายามลอบเข้าไปขโมยเมื่อ 3 เดือนก่อนการรุกรานของพวกเดลอาเนี่ยน ซึ่งคอมพิวเตอร์จะลบพาสเวิร์ดเก่าออกไปหากมีการใส่พาสเวิร์ดใหม่เข้ามานะคะ" แอมเบอร์บอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "นั้นคงจะเป็นการป้องกันการแฮคด้วยการใช้พาสเวิร์ดเดิมๆเข้าไปเลยสิน่ะ"
              "นี้เราเหลือโอกาสสุดท้ายเลยหรือ แล้วคลอเวฟใช้พาสเวิร์ดใหม่เป็นอะไรกันละเนี้ย" จิลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "มันน่าจะเป็นคำพูดที่คลอเวฟชอบพูดอยู่เสมอ หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่หมอนี้ชอบอย่างมากเลยน่ะ"
              "หรือว่า บางที...." พีวิลกล่าว และลองเดินดู "....เออ สเปียริท ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำแบบนี้น่ะ"
               สเปียริทบอก "เออ พีวิล นายขอโทษฉันทำไม  ในเมื่อนายไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนิ"
              "เกรงว่าต้องทำสักหน่อยแล้วละมั่ง" พีวิลบอก พร้อมกับคีย์พาสเวิร์ดลงไป ซึ่งก็ "กิ้งก้องๆๆๆๆๆๆๆ" คอมพิวเตอร์ส่งเสียงระฆังขึ้นมาดังๆ บ่งบอกว่า พาสเวิร์ดถูกต้อง
              แอมเบอร์บอก "พาสเวิร์ดถูกต้องคะ คลอเวฟตั้งพาสเวิร์ดใหม่ จากไพล์มเทคและเมอริด้า เป็น ยัยบื้อสเปียริท กันแล้วละคะ" ซึ่งโฟรซ่าก็หัวเราะขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินพาสเวิร์ดดังกล่าว
              "นายหุ่นกระป๋องคิดว่าตัวเองแน่หรือไงกันยะ ถึงกล้าตั้งพาสเวิร์ดแบบนี้กันน่ะ" สเปียริทได้ฟังก็โมโหขึ้นมา "ถ้าเจอเมื่อไหร่จะหวดให้หัวบุบไปข้างหนึ่งเลยน่ะ"
              โฟรซ่าบอก "แต่อย่างน้อย คลอเวฟก็คิดถูกแล้วละที่ตั้งพาสเวิร์ดแบบนี้กันนะสิ" แล้วก็แอบหัวเราะไปด้วย
              "ดีน่ะ ที่ใช้พาสเวิร์ดที่พูดกับสเปียริทแบบนั้น ถ้าเป็นปลาวาฬชุบแป้งทอดละก็ ปานนี้คงเข้าไม่ได้แน่ๆเลยละ" ลิเนียร์ตี้บอก
               แอมเบอร์กล่าว "เอาเถอะคะ ตอนนี้คอมพิวเตอร์ยอมให้พวกคุณใช้งานกันแล้ว และ...ทำการเชื่อมต่อการสื่อสารกับแอดมิรอลลอร์ดได้เลยคะ" แล้วคอมพิวเตอร์ก็เปิดภาพโฮโลแกรมของแพนทานิคขึ้นมา

              "โอ้ว พวกนายเองหรอกหรือ ที่อยู่ที่บาร์ของไอ้น้องตัวดีกันน่ะ" แพนทานิคกล่าวหลังจากที่ได้เห็นพวกเนคมาดูซัมมา
              มาสวาร์ทาร์บอก "และเป็นนายสิน่ะ ที่เป็นตัวดึงคลอเวฟให้อยู่ที่บาร์นี้ตลอดเวลาเลยน่ะ แพนทานิค"
              "แล้วนายติดต่อเข้ามาทำไมกันวะ" เนคมาดูซัมถาม
              แพนทานิคบอก "ฉันแค่ติดต่อมาหาไอ้น้องชาย ก็เพื่อทวงเรื่องสำคัญที่เบี้ยวมาตั้งหลายครั้งตามปกตินี้แหละ ซึ่ง....ไอ้น้องคงไม่ได้บอกกับพวกนายสิน่ะ"
              "ถ้าให้เราเดาน่ะ คงเป็นเรื่องนอร์ติลุสละสิ" พีวิลบอก
              แพนทานิคยิ้มและพยักหน้า "ถ้านายฉลาดให้ได้ยิ่งกว่าเพื่อนร่วมรุ่นของไอ้ไฮลอร์ดอากาเมมนอสละก็ นายก็เป็นผู้นำของพวกอีเนอไมนด์แทนสามใบเถาซ่าไปนานแล้วละ เบรซซิ่งแฮนด์" แล้วก็บอกไปว่า "แต่ไอ้น้องทำพลาดไปหนึ่งเรื่อง หลังจากที่จมเรือไปแล้ว ก็คือการเก็บคอมพิวเตอร์ระบบสื่อสารเอาไว้ในบาร์นี้ เพื่อหวังที่จะติดต่อไปพูดจาดูถูกโอ้อวดพวกเราที่โน่นกันนี้แหละ"
              "เพราะอย่างงั้น นายถึงได้ใช้ระบบสื่อสารรุ่นเก่า ซึ่งติดตั้งไว้ในเรือนอร์ติลุสและเรือชั้นแคร์แลนด์เชื่อมต่อมาที่ฟูลบาร์เลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              แอนเดรียกล่าว "แต่ในเมื่อเรือนอร์ติลุสจมไปแล้ว คุณยังจะเรียกร้องอะไรจากคุณคลอเวฟกันละคะ"
              "ถึงฉันจะไม่ได้เรือรบขนส่งกำลังพลขนาดใหญ่ต้นแบบของเรือชั้นแคร์แลนด์มา แต่....ยานอวกาศสามเหลี่ยมที่พวกนายนำขึ้นมาจากหลุมนั้น คือรางวัลที่มาชดเชยแทนไทรแองเกิ้ลก็ได้กันน่ะ" แพนทานิคบอก
              พีวิลบอก "นายเลยอยากได้ไทรแองเกิ้ลอย่างงั้นสินะ"
              "ใช่ ก็ในเมื่อยานลำนั้นขับโดยไอ้น้องชายตัวดีกันได้ ฉันก็ย่อมได้มันมาลองขับกันบ้างละน่า" แพนทานิคบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แต่นายก็ควรจะรู้ไว้อย่างหนึ่ง ยานของคลอเวฟก็คือยานรบของพวกเรา ไทรเวเซอร์กันด้วยน่ะ"
              "อย่าว่าแต่คลอเวฟไม่อนุญาตเลย ต่อให้มาขอร้องพวกเรา พวกเราก็ไม่ยอมให้กันง่ายๆหรอกน่ะ เพราะไทรแองเกิ้ลก็คือยานรบของพวกเราทุกคนด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมอ้าง
              แพนทานิคพูดด้วยความเสียดาย "ง้านหรือ ฉันคิดว่าถ้าเป็นพวกนายก็น่าจะยอมให้แล้วแท้ๆเลยน่า" แต่ก็ยังไม่วายพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นต่อ "แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ช่วยให้น้องชายตัวดีรอดจากทัณฑ์ที่ฉันเตรียมไว้ หากมันมาเยือนดาวที่พวกเราอยู่กันเลยน่ะ"
              "นี้คงจะไม่ส่งคนมาจัดการเก็บคลอเวฟเลยละสิ" จายด์บอก
              แพนทานิคบอก "ถ้าทำอย่างงั้น ก็เป็นการทำลายตัวแทนของเผ่าเราที่เป็นสมาชิกของกองกำลังของพวกนายกันพอดีนะสิ อีกอย่าง พวกนายก็น่าจะรู้ใช่มั้ย ว่าการฆ่าให้ตายนั้น มันง่ายดายเกินไปและไม่ทำให้คนที่ถูกฆ่ารู้สึกสาสมกับความผิดที่ได้ทำเอาไว้ ต่อให้เรื่องที่คลอเวฟทำกับพวกพ้องของเราบนโลกนั้น เป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดจากเกซเฟลิคก่อขึ้น แต่ตราบใดที่ไอ้น้องชายมันยังไม่สำนึกและยังกร่างแบบนี้ต่อ ในฐานะพี่ชาย ไม่สั่งสอนก็ไม่ได้แล้วละ"
              "นั้นคงเป็นเหตุผลที่คลอเวฟไม่คิดที่จะแวะไปดาวแคสเซรอน-4 เพราะรู้ว่ากลับไปจะต้องโดนอะไรเลยสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              แพนทานิคบอก "ช่าย และฉันหวังว่าพวกนายคงไม่คิดช่วยหรือปกป้องไอ้น้องชายตัวดีนั้นหรอกน่ะ ต่อให้มีบางคนเป็นคู่กัดกันก็ตาม ฉันไม่ยอมให้เข้ามาสอดยุ่งกับลูกน้องของฉัน ที่อยากจะประทับฝ่าเท้าบนตัวกราดิเอเตอร์มารีนสุดเกรียนได้หรอกน่ะ"
              "ถ้าคิดจะถามหานายบื้อละก็ เกรงว่า หมอนั้นไม่อยู่ที่ดาวนี้แล้วละ และไม่ได้อยู่ในระบบดาวของเราด้วย" สเปียริทบอก
              แพนทานิคได้ฟังก็ถามอย่างจริงจังขึ้นมา "เดียวก่อนนะ ไอ้พวกเดลอาเนี่ยน มันจับคลอเวฟไปอย่างงั้นนะหรือ"
              "เปล่า แต่คลอเวฟไล่ตามเฮโลลิคเตอร์และพวกทหารที่ทรยศหนีเข้าฝ่ายเดลอาเนี่ยนผ่านประตูมิติไปแล้วนะสิ" พีวิลบอก
              แพนทานิคกล่าว "โอ้ว พวกนายหมายถึงไอ้หน้าปลาจวดที่ไอ้น้องมันพูดถึงอยู่บ่อยๆนะหรือ นั้นไม่แปลกหรอกที่ไอ้เวรนั้นจะทำให้ไอ้น้องมันโมโหอย่างมากเลยน่ะ"
              "เดียวก่อนน่ะ แพนทานิค นายกับพวกแอตแลนไทซ์ไม่น่าจะรู้เรื่องเฮโลลิคเตอร์ ซึ่งเกิดขึ้นบนดาวของเราเลยนิน่า" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "หรือว่า นายส่งสปายเข้ามาสืบข่าวหรือเปล่าละ"
              "ถ้าฉันส่งไป แล้วพวกนายหรือไอ้น้องจับได้ขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องดีกันพอดีนะสิ แม้ว่าตอนนี้ มือขวาของประธานาธิบดีโคเคสยอมอนุญาตให้ทางเราส่งหน่วยตัวแทนของเราสักหน่วยลงมาประจำการที่นี้ก็ตาม..." แพนทานิคบอก "ที่เรารู้ข้อมูลมานั้น เราได้หลอกถามไอ้พวกครีซีแทนและพวกสโทรเพธที่ป้วนเปี้ยนในเขตท่าเรือที่พวกเราอยู่มา ว่ารู้จักไอ้เวรลิคเตอร์อะไรนั้นหรือเปล่า เท่านั้นแหละ พวกมันก็โพล่งออกมาเลย ว่าไอ้เบื้อกนี้ ฉลาดแต่เกรียนเหนือกว่าไอ้น้องเสียอีกน่ะ"
              เจเนลบอก "แต่นายลืมไปอีกข้อน่ะ ว่าไอ้หมอนี้มันปากดีมากๆเลย ไม่แปลกใจหรอกที่คลอเวฟอยากจะตามไปกระทืบถึงถิ่นของพวกเดลอาเนี่ยนกันละ"
              "ทีแรกฉันคิดว่าไอ้น้องมันหาเรื่องไอ้หมอนี้ก่อน แต่พอไอ้น้องมันบอกว่ามันด่าปมด้อยของมันขึ้นมาก่อน และยิ่งทางเราได้ข้อมูลจากพวกแมนิเกเตอร์ที่มีพื้นเพจากแรซัลก้ามาก่อนนั้นแล้ว เป็นฉัน ฉันก็อยากจะลงไปกระทืบไอ้บ้านี้แทนไอ้น้องแล้วน่ะ" แพนทานิคบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แต่นายก็ทำอย่างงั้นไม่ได้ เพราะว่านายไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากดาว โดยไม่มีคำสั่งของผู้ว่าการเซริซ่าและนายแม่รัคชูมี่สิน่ะ"
              "แล้วพวกนายจะออกตามหาคลอเวฟกันอย่างงั้นสิน่ะ" แพนทานิคบอก เนคมาดูซัมพยักหน้า แอดมิรอลลอร์ดได้ฟังก็บอกไปว่า "งั้น ถ้านายช่วยคลอเวฟกลับมาระบบดาวนี้ละก็ ฉันจะให้ลูกน้องของฉันถอยห่างคลอเวฟออกไป และไม่ให้พวกนั้นมาทำร้ายพวกเขาต่อหน้าพวกนายกันด้วย พร้อมกับช่วยสนับสนุนให้พวกนายด้านอาวุธกันไว้น่ะ"
              สเปียริทบอก "แล้วนายสาบานได้มั้ย ว่านายจะไม่เบี้ยวหรือบิดพริ้วกันน่ะ"
              "ถ้าสาบานแล้วมีอันเป็นไปก็ไม่ดีนะสิ เพราะฉันถือว่าเพื่อนของน้องชายตัวดีของฉันก็คือเพื่อนๆของฉันด้วยน่ะ" แพนทานิคบอก "ฉันไม่มีอะไรมาก นอกจากช่วยพาน้องชายตัวดีกลับมาให้ได้ก็พอ ต่อให้พวกนายไม่อยู่ที่ดาวดวงนี้เป็นสัปดาห์เลยน่ะ"
              เนคมาดูซัมกล่าว "ถึงนายไม่ขอร้อง พวกเราก็ต้องพาคลอเวฟกันมาอยู่แล้วละน่า"
              "ได้ฟังพวกนายพูดมานั้นก็ดีแล้วละ อ้อ รู้ใช่มั้ยว่าจะติดต่อหาฉันยังไง ดังนั้น ถ้าฉันไม่รับสายหรือไม่มีสัญญาณตอบรับ ก็อย่าติดต่อมาเลยจะดีกว่าน่ะ" แพนทานิคกล่าวแล้วก็ตัดสายไป
              เจเนลบอก "กลัวว่าจะไม่ได้ฝึกกองรบเอาไว้ฟัดกับพวกเดลอาเนี่ยนกันซะมากกว่ากระมั่ง ต่อให้พูดออกมาแบบนั้นก็ยังเชื่อไม่ได้อยู่ดีละหว่า"
              "แอมเบอร์ ได้รหัสข่ายสัญญาณของแอตแลนไทซ์แล้วหรือยังละ" ลิเนียร์ตี้บอก
              แอมเบอร์กล่าว "ในระหว่างที่แพนทานิคคุยกับพวกคุณนั้น ฉันได้รหัสสัญญาณเอาไว้แล้ว แน่นอนว่า โอกาสต่อไป นอกจากที่นี้แล้ว พวกคุณสามารถติดต่อหาแอตแลนไทซ์จากเวเซอร์เฮาส์ได้ หากว่าเครื่องสื่อสารที่ฟูลบาร์ไม่อยู่ในสภาพใช้ได้นะคะ"
              "อย่างบาร์พัง เครื่องชำรุด คอมหาย ถูกแฮค ไวรัสกินเรียบอย่างงั้นสิน่ะ" จิลบอก แอมเบอร์พยักหน้า
              ฟิเกซบอก "สงสัยว่า พวกที่อยู่ข้างนอกเองก็รู้แล้วละ ว่าเราทำอะไรกันอยู่"

              "ให้ตายสิ ไอ้คลอเวฟมันมีอาเฮียที่อวดฉลาดยิ่งกว่าเลยหรือวะ" แรมเบจบอก
              แทนกล่าว "แน่ละ ก็เพราะว่าแพนทานิคเป็นแอตแลนไทซ์ที่หัวไบร์ทและเล่ห์เหลี่ยมเยอะที่สุดแล้ว แต่ถูกขับไล่ออกนอกโลกพร้อมพวกพ้องที่ร่วมอุดมการณ์ไปอยู่ระบบดาวอื่น ก็เพราะว่าอวดฉลาดมากก็เท่านั้นเองแหละว้า"
              "แพนทานิคกับพวกต่อต้านการทำงานของเกซเฟลิค ผู้นำแอตแลนไทซ์คนก่อน เพราะเกซเฟลิคปฏิบัติตนต่อลูกน้องทั้งหมดเป็นแค่หมากเบี้ยที่ใช้แล้วทิ้ง และไม่แยแสต่อสมุนที่ทำงานล้มเหลวกันนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              พลัสเชอริทบอก "เดิมแพนทานิคและพวกควรจะถูกจับโยนลงใต้มหาสมุทรแอตแลนติคแล้ว ถ้าไม่เพราะว่าครองคอร์ดเห็นถึงความสามารถอันก้าวหน้า และมีหัวคิดค้นสร้างสรรค์มากจนมีคุณสมบัติเป็นผู้นำแอตแลนไทซ์ต่อจากเกซเฟลิคได้ละก็ แพนทานิคกับพวกคงจะจมดิ่งอยู่ที่โลกไปนานแล้วละ"
              "ถึงว่าสิ ว่าทำไมลุงคลอเวฟถึงหงุดหงิดตอนที่เห็นพวกเราอยู่ข้างนอก ที่แท้เพราะหงุดหงิดกับการคุยกับลูกพี่ใหญ่นี้เองน่ะ" แจ็สบอก
              น็อกกี้กล่าว "ดีแล้วละที่ลุงกับพวกคุณปฏิเสธกันเสียก่อน ไม่งั้นพวกคุณก็ไม่มียานอวกาศออกนอกระบบดาวกันพอดีสิครับ"
              "และไม่มีไพ่ตายเอาไว้จัดการกับพวกเดลอาเนี่ยนด้วย นั้นเป็นเหตุผลที่คลอเวฟไม่ยอมยกไทรแองเกิ้ลให้นี้แหละ" เนคมาดูซัมกล่าว
              แทนถาม "แล้วไม่กลัวว่ามันติดต่อมากวนพวกนายกันหรือ เพราะดูแล้ว คลอเวฟคงจะได้นิสัยเสียจากไอ้หมอนี้มาไม่น้อยเลยน่ะ"
              "แพนทานิคคงไม่งี่เง่าถึงขั้นชูนิ้วกลางเกรียนเทพให้ศัตรูหาเรื่องกันหรอกน่ะ ไม่อย่างงั้น แอตแลนไทซ์คงเสียหายก่อนจะมาปะมือกับพวกเรากันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              น็อกกี้ถาม "แล้วพวกคุณรู้หรือว่าจะตามหาลุงคลอเวฟกันที่ไหนเลยน่ะ"
              "พวกเรามีเบาะแสที่ชัดเจนแล้วละ เพียงแต่ เราต้องเสี่ยงไปเอาข้อมูลบางอย่างมากันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              แรมเบจกล่าว "อย่างบุกไปยังสำนักกลุ่มนักล่าค่าหัวนั้นนะหรือ พวกนายไม่มีแหล่งข้อมูลที่นอกเหนือจากนี้เลยหรือไงกันวะ"
              "เรารู้แค่ว่า คลอเวฟคงต้องออกตามหาทีมแข่งสแมคบอลกันนี้แหละ ซึ่ง คงไม่น่าหาจากทีมที่เป็นเผ่าพันธมิตรกับเดลอาเนี่ยนกันหรอกน่ะ" พีวิลบอก
              เจเนลกล่าว "แต่หวังว่าพวกนายคงไม่คิดที่จะเข้ามาในบาร์เหล้าเลยละสิ"
              "ไม่ๆๆๆ ถ้ามาแล้วพวกเราโดนลุงคลอเวฟกระทืบก็แย่กันพอดีสิครับ" แด็กซ์บอก
              แทนบอก "แรมเบจ เกรงว่าบาร์ของคลอเวฟไม่มีเหล้าที่นายอยากได้แล้วละ" แรมเบจได้ฟังก็เสียดายมากๆจนพูดไม่ออกด้วยกัน

    โปรดติดตามตอนต่อไปในตอนที่ 18 การแข่งสแมคบอลสุดโหดครั้งแรกของพวกไทรเวเซอร์ กับเดิมพันที่สูงอย่างมาก
    ตอนหน้า พวกไทรเวเซอร์เจอคลอเวฟอยู่กับทีมแข่งสแมคบอลระดับล่าง ซึ่งถูกสั่งให้เข้าร่วมแข่งโดยที่ทีมไม่พร้อมทุกด้าน แต่เพื่อขัดขวางและหยุดยั้งเฮโลลิคเตอร์ที่อยู่ในการแข่งขันครั้งนี้ พวกไทรเวเซอร์จำต้องชนะสถานเดียว ถึงแม้ว่า....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×