ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่ 16 เรื่องเกิดที่เฟิร์สฮิลล์และเวลเซน่า การไล่จับสายลับในช่วงที่เมืองถูกรุกราน ครึ่งหลัง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10
      0
      30 ก.ย. 64

    ช่วงที่ 2

              เช้าวันต่อมา ที่เขตป่าด้านหลังเฟิร์สฮิลล์

              "นี้ลูกพี่จะไปอีกหรือ ในเมื่อเมืองนี้แทบไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าชาวเมืองที่น่าเบื่อกันน่ะ" รีกัลถามเมื่อเห็นสไปค์เดินออกไป

              สไปค์กล่าว "ฉันนัดเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นชาวเมืองในเมืองนี้ไว้นะสิ ซึ่งฉันต้องดึงข้อมูลจากเขากันสักหน่อยน่ะ"

              "แต่มันจำเป็นด้วยหรือ ในเมื่อนายน่าจะถามหมอนั้นไปได้เลยนิ" ฮีธบอก

              สไปค์กล่าว "ฉันยังถามเพื่อนคนนั้นไม่ได้หรอกน่ะ เพราะฉันไม่แน่ใจว่าหมอนี้ร่วมมือกับพ่อที่เป็นทหารที่ประจำการในเมืองนี้หรือเปล่า" แล้วก็ลูบคล่ำตรงแขนไว้ "อีกอย่าง ฉันรู้แล้วละว่าทำไมพวกเราต้องต่อสู้กับพวกสหพันธมิตรกันไว้น่ะ"

              "คงไม่ได้หมายความว่าพวกทหารนั้นเจอตัวนายก่อนงั้นสิ" ฮีธกล่าว

              สไปค์บอก "จำเรื่องที่ฉันเจอเด็กเตะบอลเข้ามาได้มั้ยละ"

               ฮีธพยักหน้า "แต่ เด็กเตะบอลมันเกี่ยวอะไรกับเหตุผลที่เราต้องสู้กับพวกสหพันธมิตรกันด้วยวะ"

              "เกี่ยวสิ เด็กเล็กๆนั้น ไม่น่าเตะบอลที่ทำด้วยหนังเทียมหลายชั้นมาอย่างแรงได้หรอก" สไปค์กล่าว "และฉันสังเกตุพื้นที่ที่พวกเด็กๆเล่นบอลนั้น โกลทั้งสองฝั่งวางไกลมาก เด็กเล็กปกติไม่น่าเตะบอลไปได้ไกลแบบนั้น เผลอๆอาจจะหอบเหนื่อยหรือหกล้มกันซะมากกว่า"

              รีกัลบอก "ลูกพี่พูดจริงนะหรือ ไม่ได้ล้อเล่นเลยใช่มั้ย"

              "นายกำลังจะบอกว่า ถ้าเด็กมันเตะบอลแรงจนทำนายเจ็บได้ เด็กโตคนอื่นๆก็คงจะ...." ฮีธบอก

              สไปค์พยักหน้า "ด้วยเหตุผลนี้แหละ ที่ฉันต้องกลับไปอีกครั้ง เพื่อสืบเรื่องหน่วยรบวิหคและหน่วยรบอื่นๆกันไว้ ต่อให้ไม่ได้ข้อมูล แค่รู้ว่าพวกนั้นเคลื่อนไหวยังไงก็เกินพอแล้วละ" แล้วก็เดินเข้าเมืองไปอีกครั้ง

              "ผมรู้สึกว่า มีบางอย่างไม่เข้าท่าเกิดขึ้นแล้วละสิ กลัวว่าลูกพี่อาจจะถูกจับได้ขึ้นมากันน่ะ" รีกัลกล่าว

              ฮีธกล่าว "โธ่โว้ย ถ้าเราเอาชุดเกราะมาด้วยละก็น่า...."

              "ลูกพี่รีกัล ลูกพี่ฮีธ ลูกพี่สไปค์ออกไปแล้วหรือยังละ" ทหารชายผมยุ่งสีดำเดินเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน

              ฮีธบอก "ออกไปแล้วนะสิ เซาท์เวส ว่าแต่ นายทำหน้าแบบนี้ มีเรื่องอะไรแย่ๆเกิดขึ้นนะหรือ"

              "เรามีปัญหาแล้วละครับ บารอนวินเซนท์และเลดี้ฟรีเซียติดต่อเรามาด้วยเรื่องด่วนนะครับ" เซาท์เวสกล่าวและนำแพดซึ่งมีข้อความส่งมาให้รีกัลและฮีธดู จนทั้งคู่ก็ตกใจไม่น้อย

              "เดียวสิ ไอ้สายลับที่โดดร่มไปก่อนนั้น...." ฮีธได้ฟังเลยถาม "เซาท์เวส นายติดต่อกับสายลับสองคนนั้นหรือยังละ"

              "นั้นแหละปัญหาละ ผมติดต่อกับเซอร์อิลดินและท่านเลดี้ลาเวนเด้ที่แทรกซึมไปก่อนหน้าไม่ได้เลย เหมือนทั้งคู่ไม่ตอบกลับมากันนะครับ" เซาท์เวสบอก

              รีกัลบอก "แย่ละสิ ลูกพี่สไปค์เองก็ไม่ทราบเรื่องนี้กันด้วยน่ะ"

              "เซาท์เวส นายกับพวก เฝ้ายานลำนี้เอาไว้ เราสองคนจะรีบไปตามสไปค์เพื่อแจ้งเรื่องนี้ให้ทราบ ถ้าเราสามคนกลับมาแล้วเห็นยานพัง ฉันจะกลับมาอัดนายให้ร่วงเลย" ฮีธสั่ง แล้วรีบพารีกัลเดินลงเขาไป

              เซาท์เวสเลยรีบพยักหน้าโดยเร็ว "เฮ้ย พวกเรา รีบคุ้มกันยานเอาไว้เลย ลูกพี่ฮีธสั่งมา ถ้ายานพังแม้แต่เสี้ยวเดียว เราโดนยำเละแน่ๆ" และรีบสั่งพวกพ้องที่อยู่ใกล้เอาไว้

              "นึกว่านายจะไม่มาเสียอีกน่ะ" เฟรดบอกเมื่อเห็นสไปค์เดินมา

              "ฉันแค่ตื่นสายก็เท่านั้นเองแหละ" แล้วสไปค์ถาม "ว่าแต่ แม่นายสบายดีบ้างมั้ยละ เพราะฉันไม่แน่ใจว่าแม่ของนายป่วยเป็นโรคร้ายน่ะ"

              "แค่คุณแม่ทำงานหนักและพักผ่อนน้อยก็เท่านั้นเองแหละ" เฟรดบอก

              สไปค์กล่าว "แล้วนายก็ดูแลแม่ของนายตลอดเวลาละสิ แล้วพ่อของนายล่ะ ไม่ได้กลับมาเลยหรือ"

              "ถ้าเป็นเมื่อก่อน พ่อฉันกลับมาแบบเจ็บตัวไม่น้อย บางวันก็กลับมาให้แม่ทำแผลไว้ บางวันก็มีคนพาคุณพ่อเข้ามา ลำบากแม่และฉันต้องหากล่องปฐมพยาบาลกันเสมอนี้แหละ" เฟรดกล่าวความในใจขึ้นมา

              สไปค์ถาม "แล้วนายคิดว่า พ่อของนาย คงไปเสี่ยงอันตรายอะไรมา ถึงได้กลับบ้านในสภาพที่สาหัสแบบนั้นหรือเปล่าละ"

              "พ่อฉันเป็นทหารน่ะ และพ่อมักจะออกไปปฏิบัติการณ์ในกองรบของท่านประธานาธิบดี ในช่วงที่สู้กับพวกศัตรูจากแรซัลก้ากันมาก่อน...." เฟรดเล่า "ซึ่งการที่พ่อเจ็บตัวมานั้น ก็ไม่แปลกใจหรอก ที่พ่อไปแส่หาเรื่องกับ....เหล่าสมุนของกองกำลังของเทพแห่งสงคราม จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดไปซะทุกครั้งเลยน่ะ"

               สไปค์ได้ฟังก็คิดในใจด้วยความคลายกังวลและไร้ข้อสงสัย "งั้นหรือ....เฮ้อออ นี้เราระแวงเกินไปหรือเปล่าเนี้ย พ่อของเฟรดเป็นแค่พลทหารที่ไปรบแนวหน้าตามคำสั่งของผู้นำแอคเมนโด้ก็เท่านั้นเองสิน่ะ คงไม่น่าทำซ่ามาปะทะกับเราได้หรอก"

              "แต่ ช่วงนี้คุณพ่อของฉันก็กลับมาบ้านกันแล้วละ แม้ว่าเขาจะอยู่ไม่ติดบ้านก็ตาม" เฟรดบอกแล้วก็ยิ้มไปว่า "อย่างน้อย....ฉันดีใจแล้วละที่คุณพ่อ ยังคอยเป็นห่วงฉันกับแม่กันบ้างละน่ะ"

              สไปค์พยักหน้า "นั้นสิน่ะ เพราะอย่างน้อย นายก็มีพ่อและแม่อยู่บ้างน่ะ"


              "รีกัล ความผิดนายเต็มๆเลย ที่นายพาฉันหลงทางเลยน่ะ" ฮีธบ่นกับรีกัล เพราะตอนนี้เขาทั้งคู่หาสไปค์ไม่เจอ

              รีกัลบอก "ทำไงได้ละ ก็ซุ้มร้านนั้นมีปลาย่างน่ากินอยู่นิ นายน่าจะซื้อมาให้สักตัวไม่ดีกว่าหรือ"

              "โครกกกก" ฮีธยังไม่ทันจะบ่นกลับ ท้องดันร้องเสียก่อน "บ้าชะมัด รู้งี้กินข้าวจะดีกว่าน่า..." และบังเอิญก็เห็นร้านอาหารตามสั่งอยู่

              "ช่วยไม่ได้ กินข้าวให้อิ่มก่อนแล้วตามหาสไปค์ดีกว่า" รีกัลพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วตนก็พารีกัลเข้าไปนั่งในร้าน ซึ่งก็ "ว่าแต่ จะสั่งอะไรบ้างหรือเปล่าละคะ" นาเดีย ออโต้ ซึ่งเข้ามาทำงานหาลำไพ่พิเศษในร้าน เดินมาถามฮีธและรีกัลในทันที

              "อะไรเนี้ย นี้เธอใส่สั้นมากขนาดนั้นเลยหรือ ดูไม่ดีเอาเสียเลยน่ะ" ฮีธเห็นการแต่งตัวของนาเดียก็บ่นใส่ทันที เพราะนาเดียใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวที่มีแขนสั้นสีชมพูมา

              รีกัลบอก "นี้พี่สาวโกรกผมมาหรือ มันดูแล้วเหมือนสตอเบอรี่เลยน่ะ"

              "นี้พวกนายสองคนจะกวนประสาทฉันเลยหรือ ถ้าไม่รีบสั่ง ฉันจะไล่ออกไปจากร้านเลยน่ะ" นาเดียโวยลั่น ฮีธทำหน้าโมโห

              รีกัลบอก "ไม่เอาน่า ถ้าออกจากร้านไป แล้วเราจะหาอะไรกินกันล่ะ"

              "ไม่ต้องไปหรอกน่า เดียวผมจะช่วยเองแล้วกันน่ะ" คีธออกมาจากร้านทันที โดยที่นาเดียพยายามเถียง แต่คีธแบมือห้ามไว้ แล้วก็ถาม "เออ พวกคุณอยากจะทานอะไรบ้างหรือเปล่าละ"

              ฮีธบอก "เอาอะไรก็ได้อร่อยๆมาสองที่แล้วกัน"

              "อะไรอร่อยๆน่ะหรือ นี้นายอ่านป้ายไม่ออกเลยหรือ อ้อ นายคงจะเป็นกุ๊ยที่ไม่ได้มีการศึกษามากมายเลยสิน่ะ" นาเดียพูดตำหนิ

              ฮีธกล่าว "ฉันขี้เกียจเถียงกับผู้หญิงที่กล้าขึ้นเสียงกับฉันแล้ว เฮ้ย ไปบอกพ่อครัวให้ทำอะไรมาให้เราจะดีกว่า"

              "เดียวจัดให้เลยนะครับ" คีธกล่าว แล้วก็ลากนาเดียเข้าไปในครัว

              "นายจะบ้าหรือไง นายไม่รู้เลยหรือว่านายกำลังให้บริการไอ้กุ๊ยสองคนที่ไม่รู้หน้าค่าตากันอยู่น่ะ" นาเดียบ่นพึมพำใส่คีธ

              "รู้....แต่ฉันจะให้เธอจัดเต็มทั้งคู่กันสักหน่อยน่ะ" คีธกล่าวโดยชี้ไปที่ป้ายเมนูอาหารตามสั่ง ซึ่งนาเดียเห็นก็....

              "ถึงนายไม่บอก ฉันก็รู้ว่าจะทำอะไรให้สองคนนี้ทานกันน่ะ" แล้วก็เข้าไปในครัว 5 นาทีต่อมา นาเดียก็กลับมาพร้อมกับข้าวผัดกระเพราหมูไข่ดาวมา "จานอร่อยของพวกคุณมาแล้วละคะ"

              "อะไรเนี้ย ทำไมถึงทำไข่ดาวใหญ่กว่าข้าวกันละเนี้ย แล้วนี้...." ฮีธบอก แล้วก็เอาช้อนมาเขี่ยไข่ดาวจนเห็นหมูสับที่สับละเอียดผัดกับใบกระเพรา "หมูก็สับเล็กๆ แถมเอาผักอะไรมาใส่กับข้าวละเนี้ย"

              รีกัลบอก "ช่างเถอะน่า แค่พี่สาวทำมาให้เรากินก็ถือว่าเกินพอแล้วละ"

              "ถ้าไม่อร่อยละก็น่า...." ฮีธได้ฟังก็เลยต้องกิน เพราะตอนนี้ตนหิวแล้ว ซึ่งรีกัลก็เริ่มต้นกิน หากแต่รีบกินเพราะหิวมากไปหน่อย เช่นเดียวกับฮีธที่กินไข่ดาวหมดก่อน แล้วก็กินหมูกับผัก แต่ก็.... "กุ" ฮีธเคี้ยวถูกพริกอย่างจังๆ เช่นเดียวกับ "แค่กๆๆๆ" รีกัลก็โดนแบบเดียวกันนี้แหละ "อะไรเนี้ย....นี้เธอ ใส่พริกเข้าไปเลยหรือ นี้มันแกล้งกันชัดๆเลยน่ะ"

              นาเดียบอก "ไม่ได้แกล้งสักหน่อยน่ะ ข้าวผัดกระเพรามันก็ต้องใส่พริกพร้อมใบกระเพรากันอยู่แล้ว มันก็เป็นของปกติกันอยู่แล้วนิ"

              "แต่ก็ถือว่าจงใจแกล้งกันอยู่ดีนี้แหละน่า...." ฮีธบอก รีกัลเลยรีบดื่มน้ำเย็นให้หมดเพื่อคลายเผ็ด แล้วก็ยืนขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าให้ฮีธ เพื่อไม่ให้มีเรื่อง ซึ่งฮีธมองหน้าก็บอก "....อาหารมื้อนี้พอกันทีแล้ว พวกเราขอตัวก่อนละ" แล้วก็รีบเดินออกไป

              นาเดียตะโกนไล่หลังมา "จะไปกันง่ายๆเลยหรือ ไอ้พวกกินแล้วไม่จ่าย นายคิดว่าจะไปกันง่ายๆแล้วมันจะจบเรื่องกันเลยหรือ"

              "ฉันจะไปซะอย่างแล้วจะทำไม ผู้หญิงที่แต่งตัวยั่วผู้ชายเหมือนกับคุณโสอย่างเธอ ฉันเห็นแล้วไม่เพียงไม่สบอารมณ์ไม่ว่า การทำอาหารของเธอก็ห่วยและไม่เห็นแก่คนกินแบบนี้ ต่อให้เป็นไอ้หน้าจืดที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มันก็ไม่ขอเป็นสามีของเธอได้หรอกน่ะ" ฮีธได้ฟังก็หันกลับมาด้วยอารมณ์โมโห

              คีธกล่าว "พูดจาดีๆหน่อย ฉันไม่ได้เป็นคนรักของแม่นี้สักหน่อยน่า"

              "ถ้าไม่ใช่ แล้วพาพี่สาวเข้าห้องด้านหลังไปทำไมกันละ" รีกัลบอก "เออ เรารีบไปกันดีกว่าน่ะ"

              ฮีธกล่าวอย่างเห็นด้วย "นั้นสิ ไปเสวนากับคนที่ไม่มีหัวคิด โดยเฉพาะผู้หญิงเพศยาแบบนี้ เสียเวลาจริงๆให้ตายสิ" แล้วก็เดินจากไป

              "นายนิมัน...." นาเดียได้ฟังก็เหลืออดแล้ว เธอจึงกระโดดเข้า "ย้า!!!!" พร้อมกับตะโกนลั่น ซึ่งทำให้ฮีธหันหลังมา "เปรี้ยงงงง" โดนเตะก้านคอเข้าตรงข้างหัวซ้ายไปเต็มๆ จนรีกัลถึงกับอึ้ง พอๆกันกับคนในร้าน ซึ่งแรงเตะของนาเดียนั้น ทำให้ฮีธเซล้มไปด้านข้าง "ยังไม่ล้มเลยหรือ อีกดอกมั้ยละ" นาเดียกล่าวแล้วก็ "หวับบบบบ" กระโดดเตะก้านคอด้วยขาซ้าย ซึ่งก็ "ปึกกกก" โดนแค่หลังแขนขวาของฮีธที่รีบทรงตัวและยกขึ้นมาป้องเอาไว้ จนตัวเซออกด้านข้างไป

              "เธอกล้าด่าฉันไม่เท่าไหร่ ยังกล้าเตะฉันแบบนี้ มันจะมากไปแล้วน่ะ" ฮีธยั้วะแล้วและ "หวับ เพล้งงง" หยิบขวดน้ำอัดลมมาฟาดกับโต๊ะจนเปลื่ยนเป็นขวดปากฉลาม พุ่งเข้าแทงใส่นาเดีย ซึ่งเธอรีบหลบออกมาโดยเร็ว แล้วก็ "ฟึ่บบบบ" หยิบเก้าอี้ไม้เข้ามา "ปึกๆๆๆๆ" กระทุ้งต้านขวดปากฉลามที่ฮีธใช้อยู่โดยเร็ว

              "โว้ว พี่สาวคนนี้มีฝีมือนะหรือ งั้นขอเล่นด้วยสิ" รีกัลเห็นเลยรีบกระโจนเข้าใส่นาเดีย แต่ "วาช้าก" คีธเข้ามาเตะเสยสูงใส่คีธไปเต็มๆ จนตัวกระเด็นออกไป ซึ่งก็ "หวับๆๆๆ ตึก" ตีลังกาทรงตัวลงพื้นไว้ "กรรรรรร นี้นาย กล้าเตะฉันเลยหรือ" รีกัลกล่าวและขู่คำราม ตั้งท่าแบบสุนัขป่า หมายจะจัดการกับคีธ ซึ่งเห็นก็สบประมาทไปว่า

              "โอ้ว นายเป็นมนุษย์หมาข้างถนนนะหรือ แต่ก็น่าอยู่หรอกที่ยื่นหน้ามาให้ถีบเต็มๆน่ะ"

              "หมาป่าต่างหากเล่า" รีกัลเลยกระโดดเข้าใส่คีธอย่างว่องไว ซึ่งคีธก็.... "หวับบบ" รีบหลบออกมาโดยเร็ว โดยที่รีกัลยืนอยู่บนโต๊ะ แล้วก็ "ฟ้าววว" กระโดดเข้าใช้เล็บนิ้วมือข่วนใส่คีธ โดยที่รีบโดดหลบออกมา เปิดช่องให้รีกัล "ย้าๆๆๆๆๆ" ไล่ข่วนใส่คีธแบบไม่ยั้ง

              "ชิ...ไอ้บ้านั้นต้องเป็นนักรบหมาป่า 1 ใน 5 อัศวินกางเขนขาวแน่ๆ เพราะไม่มีเด็กข้างถนนที่ไหนเคลื่อนไหวว่องไวเหมือนเป็นหมาป่าเสียเองเลยน่ะ" คีธคิดในใจพร้อมกับหลบหลีกการข่วนของรีกัล และหันมายังนาเดีย "งั้นไอ้เบื้อกนี้ก็ต้องเป็นนักรบทวนมังกรแน่ๆ นาเดียเจองานเข้าแล้วสิ" คีธรีบโดดออกมาพร้อมกับ "วาโช้ว อาจ้า อาจ้า อาโจ้ว อาจ้า อาจี้ เจี้ยกกกกกก" บุกเข้ากระหน่ำเตะและถีบใส่รีกัล ซึ่งรีบโยกตัวหลบออกมาอย่างรวดเร็ว

              "จึกกก" จริงอย่างที่คีธสังหรณ์ใจไว้ ฮีธใช้ขวดปากฉลามทิ้มเข้าตรงพื้นที่นั่งเก้าอี้จนปลายแหลมทะลุ ซึ่งนาเดียเห็นก็ตกใจไม่น้อย แถมยัง "ว้ากกกก" ฮีธเลยรีบโถมแรงผลักนาเดียหมายจะให้ตัวเธออัดกับผนัง แต่ "ป้ากกกก" เธอถีบเข้าตรงหัวเข่าซ้ายของฮีธไปเต็มๆเพื่อให้ฮีธเจ็บและ "นี้แน่" นาเดียตวัดขาเตะแบบเถรกวาดลานเข้าตรงเท้าซ้ายของฮีธที่เจ็บจากการถีบตรงหัวเข่า ให้ล้มเอาหัวไหล่ซ้ายกระแทกพื้นไปเต็มๆ จนทำให้รีกัลที่หลบเห็นฮีธล้มเลยชะงักตัวและ "ป้ากๆๆ" ถูกคีธถีบไปสองทีและเตะให้ล้มกลิ้งกับพื้น "โอ้ยยยย ยัยบ้านิ...." ฮีธลุกขึ้นมาในสภาพที่เจ็บตัว และเห็น... ทหารนอกเครื่องแบบที่เป็นแม่ค้าหาบเร่หยิบวิทยุออกมา "เฮ้ย รีบลุกเร็ว เราต้องไปกันแล้ว เร็ว" ฮีธเลยรีบบอกรีกัลให้ลุกขึ้น ซึ่งก็รีบลุกเนื่องจากรู้ว่าตอนนี้ทหารเห็นพวกตนทะเลาะกันในร้านและแจ้งให้ทุกคนรับทราบกันแล้ว รีกัลเลยรีบวิ่งตามฮีธออกไปโดยเร็ว

              "คิดจะหนีหรือยะ ไอ้พวกชักดาบ อย่าหนีนะยะ" นาเดียเลยรีบตะโกนพร้อมกับวิ่งไล่ตามไปโดยเร็ว

              "พี่เฟรดๆๆๆ เกิดเรื่องแล้วครับพี่" เจ้าแกละรีบวิ่งมาหาเฟรดโดยเร็ว

              เฟรดกล่าว "แกละ ว่าแต่ เกิดอะไรหรือ ทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาเชียวน่ะ"

              "พี่นาเดียกับพี่ตาโตสู้กับคนแปลกหน้าสองคนกันในร้านอาหารตามสั่ง ตอนนี้คนแปลกหน้าวิ่งหนีไปแล้วละครับ" เด็กแกละบอก

              สไปค์ได้ฟังก็รู้เลยว่า "คนแปลกหน้าสองคน หรือว่า รีกัลกับฮีธ....บ้าชะมัดเลย" เลยบอกกับเฟรดไปว่า "เออ ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อนแล้วละ"

              "เออ สไปค์ นายไม่มาด้วยกันเลยหรือ" เฟรดบอก

              สไปค์กล่าว "ขอโทษด้วยน่ะ ที่ฉัน ไม่อยากจะเจอเรื่องยุ่งจนโดนลูกหลงน่ะ ขอตัวก่อนน่ะ" แล้วก็รีบวิ่งไปโดยเร็ว

              เฟรดเลยบอกกับเด็กแกละไปว่า "เธอพาพี่ไปหานาเดียและพี่ตาโตข้างเดียวหน่อยน่ะ" เด็กแกละเลยรีบพาเฟรดไปโดยเร็ว


              "นายสองคนไม่น่าตื่นสายกันเลยน่า" อับดุลลอยด์ตำหนิคมกริชและโมฮัมมัค ในระหว่างที่เดินออกจากตรอกมา

              คมกริชบอก "ทำไงได้ละ พวกเราไม่รู้นิว่าดาวดวงนี้มันต้องตื่นเช้ากันน่ะ ดูสิ เลยไม่รู้ว่าไอ้หมวกแดงกับเพื่อนมันสองตัวอยู่ไหนแล้วเนี้ย"

              "แต่ดูเหมือนว่าในเมืองเหมือนจะเอิกเกริกเลยนิ คงไม่ใช่งานเทศกาลของเมืองนี้เลยสิน่ะ" โมฮัมมัคบอก โดยที่เดินออกจากตรอก ในจังหวะที่ฮีธและรีกัลรีบวิ่งหนีมา "เออ ตะกี้นี้สองตัวนั้นมันหน้าคุ้นๆหรือไงกันวะ" โมฮัมมัคกล่าว แต่ไม่ทันไรก็ "โครมมมม" โมฮัมมัคและคมกริชล้ม เพราะทั้งคู่ชนกับ

              "อูย เจ็บๆๆๆๆ บ้าชะมัดเลยนะเนี้ย" นาเดียที่วิ่งนำหน้ามา เช่นเดียวกับคีธที่ตามหลังมาด้วย

              "นี้เธอวิ่งชนพวกเราเลยหรือ จะรีบไปไหนกันน่ะ" คมกริชสบถพร้อมกับลุกขึ้นยืน นาเดียเห็นรีกัลและฮีธวิ่งหนีไปแล้วเลยโมโห เช่นเดียวกับคีธที่เห็นหน้าพวกอับดุลลอยด์ก็พูดเตือน

              "นาเดีย ฉันคิดว่าเธอไม่ควรหาเรื่องกับคนพวกนี้กันน่ะ เพราะว่าพวกนี้มัน...."

              "พวกนายสามคน เป็นพวกเดียวกับไอ้พวกกินแล้วไม่จ่ายสองตัวเมื่อกี้ใช่มั้ยละ" นาเดียกล่าวหาพวกอับดุลลอยด์ขึ้นมา "นี้พวกนายคงจะนัดแนะกับสองตัวนี้ให้มาขวางทางเราแบบนี้ มันอภัยให้ไม่ได้แล้วน่ะ"

              อับดุลลอยด์บอก "เธอเข้าใจไปเองแบบนี้ คงไม่รู้หรอกน่ะ ว่ากำลังเล่นกับใครอยู่น่ะ"

              "เล่นกับใครฉันไม่สน แต่เรื่องนี้พวกนายต้องรับผิดชอบแทนเพื่อนนายกันนี้แหละ" นาเดียบอก

              คมกริชบอก "แต่เธอคงต้องรับผิดชอบด้วยเจ้านี้ซะมากกว่ากระมั่ง กับการมากล่าวหาว่าเราเป็นพวกเดียวกับพวกหัวขโมยอะไรนั้นน่ะ" แล้วก็ "ฟึ่บบบ" เอากริชที่อยู่ด้านหลังออกมาสองเล่ม โมฮัมมัคเอาตะบองสั้นจากหลังเสื้อออกมา ส่วนอับดุลลอยด์ดึงมีดยาวออกจากแขนเสื้อด้านซ้ายมา

              "นี้พวกนาย ตั้งใจจะปล้นอย่างงั้นใช่มั้ยละ" นาเดียกล่าวกึ่งหวั่นเกรงขึ้นมา

              "เราไม่ได้มาปล้นอย่างที่เธอคิดไปเองสักหน่อย แต่เรามานี้เพื่อเอาเลือดหัวใครบางคนต่างหากละ" โมฮัมมัคกล่าวพร้อมกับ "หวับบบ" บุกเข้าฟาดตะบองสั้นเข้าใส่นาเดีย ซึ่งเธอรีบถอยออกมาก่อนจะโดนฟาด คีธเลยรีบเข้ามา แต่ "ฮึย" คมกริชบุกเข้าใช้กริชสองเล่มฟาดฟันใส่คีธอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อับดุลลอยด์เข้ามา "หวับๆๆๆ" หวดฟาดมีดยาวเข้าใส่ จนคีธต้องรีบถอยมาอีก "ย้ากกกก" โมฮัมมัคหวดตะบองเข้าใส่นาเดีย แต่ "หวับบบ ป้ากกก" เธอหมุนตัวเตะตะบองของโมฮัมมัคจนหลุดมือ แล้วก็ "หมับ" ใช้มือจับหัวและดึงตัวโมฮัมมัคเข้ามา "ปึกๆๆๆๆ" ตีเข่าใส่ไม่ยั้ง คมกริชเห็นเลยชะงักและรีบวิ่ง แต่ "ป้ากกกก" โดนคีธกระโดดชกเข้าใส่จนล้มไป และรีบตามไปซ้ำ "ปึกกกก" อับดุลลอยด์เข้ามาถีบคีธล้มไป

              "ขอสักทีหนึ่งเหอะ" คมกริชเห็นโอกาสเลยรีบวิ่งเข้ามา "ป้ากกก" เตะคีธล้มลงกับพื้น ส่วนโมฮัมมัคนั้น... "ปึ้ก" รีบถีบนาเดียให้จุกและ "เพี้ยะ" ตบหน้านาเดียให้ล้มไป อับดุลลอยด์พยักหน้าให้โมฮัมมัคและคมกริชรีบวิ่งไป

              "หวับบบบ ป้ากกกก" แต่ไม่ทันไร อับดุลลอยด์โดนเฟรดกระโจนเสยเข่าใส่ แม้ตนจะรีบไขว้แขนมาบล็อก แต่แรงกระแทกจากหัวเข่าของเฟรดที่พุ่งมาอย่างแรงนั้นก็ทำให้นักรบสเตรดาร์ธหนุ่มถอยไปได้ "เฟรด นึกว่าจะไม่มาช่วยแล้วนะเนี้ย" นาเดียกล่าวโดยรีบประคองตัวให้ลุกขึ้น

              เฟรดบอก "นี้พวกนายสามคนหน้าตาไม่คุ้นเช่นนี้ พวกนายมาทำอะไรกันแน่น่ะ"

              "นี้แกมีฝีมือและวิชาต่อสู้กันแบบนี้ ดูท่าว่างานนี้คงไม่ง่ายแล้วสิ" คมกริชบอก

              อับดุลลอยด์บอก "แต่แย่หน่อยที่พวกนายคิดผิดที่มาหาเรื่องพวกเรากันแล้วละ" แล้วก็บุกเข้าใส่เฟรดและพวกพร้อมกัน "หวับ หวับ หวับ หวับ" อับดุลลอยด์ใช้มีดฟาดใส่เฟรด ซึ่งรีบหลบอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โมฮัมมัคฟาดตะบองที่รีบเก็บมาเข้าใส่คีธ ส่วนคมกริชก็หันมาเล่นงานนาเดีย ซึ่งใช้กริชฟันใส่นาเดียอย่างรวดเร็ว

              "ถ้าคิดจะจับฉันมาแทงเข่าใส่ละก็ คิดผิดแล้วละ เพราะฉันจะแทงเธอก่อน" คมกริชจ้วงแทงกริชสองเล่มเข้าใส่นาเดีย ซึ่งก็.... "หวับบบบ" เธอหมุนตัวหลบการจ้วงแทงออกด้านข้างขวาพร้อมกับ "หวับบบ ป้ากกก" ตวัดศอกขวากระแทกใส่หลังคมกริชไปเต็มๆ จนล้ม โมฮัมมัคที่หวดตะบองใส่คีธที่ก้าวเท้าหลบมา ซึ่งไม่มีโอกาสถีบหรือเตะสวนได้เลย "ชิ" คีธเลยซัดบางอย่างเข้าใส่โมฮัมมัคจนชะงักลง แต่ก็รีบวิ่งเข้ามา "ฟึ่บบบ หวับบบ เพี้ยะ" ก็โดนหวดฟาดเข้าตรงบ่าอย่างจังๆ เพราะคีธถอดเข็มขัดมาฟาดเป็นแส้ไว้ และหวดฟาดใส่ไม่ยั้ง ส่วนอับดุลลอยด์นั้น "ว้ากกก" เสยแทงมีดเข้าใส่เฟรด แต่ "หมับบบบบ" เฟรดหลบการแทงและจับแขนของอับดุลลอยด์พร้อมกับ "ป้ากกกก" "โอ้ยยยย" แทงศอกใส่แขนที่ถือมีดของอับดุลลอยด์ไปเต็มๆ จนทำให้แขนเจ็บจนมีดหลุดมือ "ปึกกก" แล้วเฟรดก็ถีบอับดุลลอยด์ซ้ำ จนนักรบสเตรดาร์ธหนุ่มรีบชักมีดอีกเล่มจากหลังเอวออกมา

              "ไม่เป็นไรใช่มั้ย พวก" โมฮัมมัคกล่าว

              คมกริชลุกขึ้นแม้จะเจ็บตรงหลังกันก็ตาม "ยัยบ้านิ กระแทกหลังฉันจนเจ็บแบบนี้ แถมไอ้ผมยาวดันเล่นงานอับดุลจนเจ็บด้วยศอกเหมือนกันนั้น คงไม่ธรรมดาแล้วสิ"

              "ฉันยอมรับน่ะว่านายกับพวกเก่งเรื่องต่อสู้มือเปล่ากัน แต่....เราไม่อยากจะเสียเวลากับพวกนายหรอก" อับดุลลอยด์บอก พร้อมกับ "ว้ากกกก" กระโจนเข้าถีบใส่เฟรดไปเต็มๆ "หวับบบ" คีธเลยรีบหวดเข็มขัดใส่อับดุลลอยด์ แต่ "หมับบบ" โมฮัมมัคใช้ตะบองรับเข็มขัดไว้และดึงเข้ามา "ป้ากกก" เอาหัวโขกใส่คีธไปเต็มๆจนเจ็บหน้า ส่วนคมกริชนั้น "หวับๆ" ข่วนด้วยกริชสองเล่มใส่นาเดียที่ถอยหลังหลบ แต่ "ป้ากกกก" เธอหลบจังหวะสามที่เป็นลูกถีบยันไม่ทันจนล้มลง แล้วพวกอับดุลลอยด์ก็รีบวิ่งไป

              "เจอตัวพวกแกแล้วละ" น็อกกี้กล่าว โดยรีบวิ่งมาดักหน้า ครั้นพวกอับดุลลอยด์วิ่งถอยหลัง แจ็สและแด็กซ์ก็ดักหลังเอาไว้

              "พวกนายมาช้ามากเลยน่ะ" คีธกล่าว

              แจ็สบอก "เราตื่นสายไปหน่อยก็เท่านั้นเองแหละ แต่ก็ดีแล้ว ที่นายกับเพื่อนๆช่วยเราได้มากเลยละ" แล้วก็กระโดดเข้ามาถีบใส่คมกริชอย่างรวดเร็ว โมฮัมมัคเจอกับแด็กซ์กระโดดดรอปคิกเข้าใส่จนรีบโดดออกมา เช่นเดียวกับน็อกกี้ที่กระโจนเข้าเตะต่อยใส่อับดุลลอยด์ที่ใช้มีดฟาดฟันใส่ หากแต่อาวุธที่หวดฟาดไปนั้นไม่มีผลกับพวกน็อกกี้ที่มีแขนและขาจักรกลกันเลย

              "เพื่อนนายมีเรื่องอะไรกับคนพวกนี้กันละเนี้ย" นาเดียถามคีธ ซึ่งให้คำตอบไปว่า

              "ช่างเถอะน่า ตอนนี้พวกนายรีบไปก่อนกันดีกว่า เดียวเพื่อนของฉันจะจัดการให้เอง" โดยตอนนี้น็อกกี้ไล่ต่อยใส่อับดุลลอยด์กันอยู่ ในขณะที่แด็กซ์ "ปึกก ป้ากก ป้ากก" ต่อยเตะถีบใส่โมฮัมมัคจนล้มกลิ้งไป "แกร้งงงง" แจ็สป้องกันกริชของคมกริชด้วยหลังแขนไว้พร้อมกับ "ปึกๆๆๆๆ" ต่อยใส่ท้องคมกริชไปหลายทีก่อนแล้วก็ "ป้ากกก" ตบหลังแหวนใส่ให้ล้มไปอย่างจังๆ "ป้ากก ป้าก ป้าก" น็อกกี้จับอับดุลลอยด์ต่อยใส่ไม่ยั้ง แต่อับดุลลอยด์เองก็ "ป้ากกก ป้ากก" เตะน็อกกี้เข้าสีข้างไปเต็มๆ ส่วนโมฮัมมัคที่โดนเล่นงานไปนั้นก็ "ป้ากกก" กระโดดต่อยแด็กซ์จนเสียหลักไป ในขณะที่คมกริชก็ "ป้ากกก" โขกหัวใส่แจ็สไปเต็มๆจนเซผงะไปข้างหลัง พร้อมกับถีบซ้ำให้ล้มไป

              "เกรงว่าเพื่อนของนายคงรับมือไม่ไหวหรอกมั่ง" เฟรดกล่าวเพราะพวกน็อกกี้เริ่มเสียเปรียบกันแล้ว

              "ฉันไม่รู้น่ะว่าพวกนายรู้ได้ไงว่าเรามา แต่แย่หน่อยที่พวกนายหายซ่ากันแค่นี้แหละ" โมฮัมมัคกล่าวพร้อมไล่กระทืบแด็กซ์เข้า ซึ่งไม่ทันไรก็ "ป้ากกก" โดนนาเดียกระโจนเตะก้านคอไปเต็มๆ คมกริชเองก็ "ป้ากกกก" โดนคีธกระโดดถีบใส่ไปอย่างจังๆ น็อกกี้ที่โดนอับดุลลอยด์ใช้มีดหมายจะแทงใส่ "เฮ้ยย" เฟรดตะโกนลั่นพร้อมกับใช้ท่าจระเข้ฟาดหางเตะใส่อับดุลลอยด์จนตัวปลิวกระเด็นไป

              "โฮ่ย ใครใช้ให้นายมาช่วยกันวะ" น็อกกี้โวย

              เฟรดกล่าว "ถึงนายมีแขนขาแข็ง แต่ตัวนายคงโดนแทงพรุนแน่นอน ถ้าเราไม่ช่วยไว้น่ะ" โดยตอนนี้อับดุลลอยด์ลุกขึ้นพร้อมกับหวดมีดฟาดเข้าใส่ทั้งคู่ เช่นเดียวกับโมฮัมมัคที่ลุกกลับมาสู้กับนาเดียและแด็กซ์ คมกริชปะมือกับแจ็สที่มีคีธมาช่วยด้วยอีกแรง ในขณะที่สไปค์รีบวิ่งหนีขึ้นไปยังเขตเมืองชั้นกลางอยู่

              "โว้ว คุณนิหน้าตาหล่อไม่ว่า ยังบึกบึนมากเลยนะเนี้ย แม้หน้าตาคุณไม่คุ้นก็ตามน่ะ" สไปค์เจอกับโพโบโวโล่ออกอาการแต๋วขึ้นมา

              สไปค์บอก "เออ จะดีกว่ามากหากบอกว่าผมไม่ได้อยู่แถวนี้กันน่ะ"

              "ไม่ได้นะจ๊ะ อย่างน้อยก็ให้ฉันช่วยพาไปจะดีกว่าน่ะ ว่าแต่ พ่อหนุ่มชื่ออะไรกัน..." โพโบโวโล่ถาม แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบจากเจ้าตัว ก็มีคนเฉลยในเวลาอันสั้น

              "เจอตัวจนได้นะ สไปค์ เอสเวิร์ดเลี่ยน ไม่นึกเลยน่ะว่าจะได้เจอกันในสภาพแบบนี้และในที่แบบนี้กันน่ะ" โดโรรีนกล่าว โดยเธอพาพวกทหารแห่มาล้อมจับไว้

              "นี้อีชะนี เธอรู้จักพ่อหนุ่มคนนี้เลยหรือ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องเอาทหารมาล้อมจับด้วยละ" โพโบโวโล่เห็นโดโรรีนมาขัดจังหวะเลยถามแบบอารมณ์เสีย

              ทหารหญิงบึกบึนกล่าว "ต้องจับสิ เพราะว่าเขาเป็นนักรบทรอยอาร์ที่ลอบเข้าเมืองมา คุณพ่อและคุณแม่มีคำสั่งให้จับสายลับที่ลอบเข้าเมืองมาเมื่อวาน กันให้หมดทั้งสองฝ่ายนี้แหละ"

              "เอ้ คนๆนี้นะหรือคือหนึ่งในกลุ่มผู้รุกรานที่ถูกจับกุมพร้อมกับพวกสเตรดาร์ธกันน่ะ มันเป็นไปได้เลยหรือ" โพโบโวโล่กล่าวอย่างไม่เชื่อ

              โดโรรีนบอก "คุณคงไม่ได้รู้จากคุณเนคเกอร์และคุณฟิเกซอทสิน่ะ ไม่สิ คงไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นมากไปกว่าบ้าผู้ชายใช่มั้ยละ" ครั้นเห็นสไปค์คิดจะสู้ "แกร็กๆๆๆ" พวกทหารรีบจ่อปืนยาวออกมาโดยเร็ว "อะๆๆๆๆๆ อย่าได้แม้แต่จะคิดสู้กันน่ะ เพราะคุณมีเพียงคนเดียว แต่พวกเรามีเป็นสิบๆคนเลยน่ะ" โดโรรีนบอก

              "ตะกี้นี้เธอบอกว่าสายลับทั้งสองฝ่ายนิ อย่าบอกน่ะว่า พวกสเตรดาร์ธเองก็มาด้วยน่ะ" สไปค์ถามกลับ

              โดโรรีนบอก "ถูกต้อง และเผลอๆ พวกคุณเนคเกอร์จะจับกุมน้องสาวของบารอนวินเซนท์และน้องชายของเลดี้ฟรีเซียที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ พวกเขาติดกับที่พวกเรารวมหัวกันจับกุมกันไว้ไปนานแล้ว หลังจากที่เรา จัดการกับเซอร์อิลดินและเลดี้เลเวนเด้ไปก่อนหน้าที่พวกคุณจะมาถึงกันนี้แหละ"

              "หมายถึงนาตาเช่และมิวนิสนะหรือ...." สไปค์กล่าว และคิดในใจขึ้นมา "ถึงว่าสิ ว่าทำไมสายลับทั้งสองถึงไม่พูดจา เพราะคงกลัวว่าเราจะจับได้เลยสิน่า"

              โดโรรีนกล่าว "เอาละ คุณสไปค์ ยอมไปกับเราดีๆ หรือว่าจะให้เราต้องใช้กำ...."

              "กรรรรรรร" รีกัลกระโจนเข้า "ป้ากกกก" เล่นงานโพโบโวโล่ด้วยการถีบขาคู่ไปเต็มๆ แล้วก็ "ปึกกก ป้ากก ป้ากก" เข้าต่อยและเตะใส่โดโรรีน จนพวกทหารรีบจ่อปืนหมายจะยิงสไปค์ "เฮ้ยยยยย" ฮีธกระโจนเข้าถีบใส่พวกทหารให้ล้ม โดยที่สไปค์พุ่งกระแทกอัดใส่ทหารที่อยู่ด้านหลังให้ล้มพร้อมกับ "ป้ากก ป้ากก ป้ากกก" ใช้พานท้ายปืนเล่นงานพวกทหารให้ล้ม "โอ้ยยยย มันจะมากไปแล้วนะโว้ยที่กล้าถีบฉันได้วะ" โพโบโวโล่ยั้วะจนคลายความเป็นแต๋วหันมาเล่นงานรีกัล แต่ "หวับๆๆๆ" รีกัลหลบหมัดได้อย่างว่องไว แล้วก็ "ฟึ่บบบ ป้ากกก" กระโดดเหยียบหัวโพโบโวโล่ให้ล้มทับโดโรรีนที่บุกเข้ามาอย่างจังๆ "ปึกๆๆๆๆ" ฮีธไล่ต่อยทหารให้ล้ม จนสไปค์รีบดึงตัวฮีธลุกขึ้นมา

              "ฝากไปบอกนายพลเพอซิอัสและนายพลจูเดทต้าด้วย ว่าแผนการล้มเหลวแล้วละ" สไปค์บอก พร้อมกับ "หวับบบ กึกๆๆๆๆ" โยนกระป๋องระเบิดเข้าจน "ตรูมมมม" เป่าระเบิดออกเป็นกลุ่มควันปกคลุมไปทั่ว สไปค์รีบพาฮีธและรีกัลหนีออกไปโดยเร็ว

              "ลูกพี่ รู้หรือยังละครับ ว่า...." รีกัลบอก

              สไปค์กล่าว "....ฉันรู้แล้วละ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมิวนิสและนาตาเช่กันน่ะ" แล้วก็บอก "ฮีธ บอกเซาท์เวสและพวกแล้วหรือยังละ"

              "บอกแล้วละ สไปค์ หากแต่เราต้องรีบกันหน่อยแล้ว เพราะพวกทหารมันไม่เพียงเล่นงานพวกเรา แต่ยังเล่นงานพวกสเตรดาร์ธกันด้วยน่ะ" ฮีธบอก

              สไปค์บอก "เนคเกอร์และฟิเกซอทรวมหัวกับพวกนายพลเพอซิอัสแล้วก็ที่เมืองเวลเซน่ากันแบบนี้ คงต้องเล่นแรงสักหน่อยแล้วละมั่ง" แล้วทั้งสามก็รีบวิ่งไปโดยเร็ว

              ส่วนพวกอับดุลลอยด์นั้น.... "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ" มีนักรบหญิงในชุดเกราะสีส้มกระโดดเข้ามาขวางไว้ "ย้าๆๆๆๆ" ทั้งหมดซัดลูกบอลไฟเข้าใส่พวกเฟรดจนต้องรีบวิ่งหนีออกไปโดยเร็ว

              "กฤษณา นี้เธอตามเรามาเลยหรือ" คมกริชบอก

              นักรบหญิงในชุดเกราะพยักหน้า "ท่านจาฟฟาร์ลรู้ว่ามันต้องเกิดเรื่องกับพวกนายแน่ๆ เลยสั่งให้ฉันตามพวกนายมาด้วยน่ะ โดยพาทั้งหน่วยมาช่วยกันนี้แหละ" แล้วเธอก็สั่งพวกพ้องให้พาพวกอับดุลลอยด์ถอนตัวหนีไปโดยเร็ว ซึ่งพวกเฟรดไล่ตามไปไม่ได้เพราะไฟขวางทางไว้

              "ซ่า ซ่า ซ่า ซ่า" เซเทธ ทอฟคานิคและโมคุโตะแบกโอ่งน้ำมาเทดับไฟที่ลุกขวางทางพวกเฟรดเอาไว้ได้ทัน "เห็นพวกสายลับผ่านมาบ้างหรือเปล่าล่ะ" เซเทธกล่าว

              น็อกกี้บอก "มันเผ่นหนีไปข้างล่างแล้วละครับ"

              "เกิดเรื่องแล้วคะ คุณโดโรรีนกับคุณโพโบโวโล่โดนสไปค์เล่นงาน จนหนีไปพร้อมกับสายลับอีกสองหน่วยแล้วละคะ" ริเกิร์ลติดต่อเข้ามา โดยเห็นภาพที่โพโบโวโล่โดนโดโรรีนไล่ต่อยแบบไม่ยั้งเพราะมาทับคร่อมตัวเธอไว้

              โมคุโตะบอก "คีธ เธอพาเฟรดและนาเดียไปทำแผลไฟไหม้ก่อน น็อกกี้ แจ็สและแด็กซ์ พวกเธอสามคนตามพวกเรามาเลย"

              "ว่าแต่ สามคนนี้เป็นโจรหรือเปล่าละคะ" นาเดียถาม

              คีธบอก "โจรแน่นอน แต่ตอนนี้ เธอกับเฟรดไปให้หมอทำแผลก่อนดีกว่าน่ะ" เพราะเห็นเฟรดและนาเดียโดนไฟไหม้จนเสื้อดำเป็นบางจุดด้วยกัน แล้วพวกน็อกกี้ก็รีบตามพวกเซเทธไป ส่วนคีธก็พาเฟรดและนาเดียไปส่งที่สถานอนามัย

              "เรานึกว่าสไปค์จะมาแค่คนเดียวเสียอีกน่ะ" จูเดทต้าบอก

              นีลเซนท์กล่าว "ที่จริงแล้ว ดูเหมือนว่ารีกัล วูลฟ์และฮีธ เรย์เดอร์ลงมาที่เมืองนี้กันนะครับ ซึ่งถ้าให้ผมเดา คงเป็นเรื่องของนาตาเช่และมิวนิสนี้แหละ" โดยนำภาพกล้องวงจรปิดแสดงภาพที่ฮีธและรีกัลเข้าไปในร้านอาหารตามสั่ง "หากแต่ ทั้งคู่ดันก่อเรื่องทะเลาะกันในร้านเสียได้นะครับ"

              "คีธรับมือกับรีกัลได้ก็พอว่าไปอย่างน่ะ แต่เด็กสาวคนนั้นไปเตะฮีธแบบนั้น เป็นความคิดที่แย่มากเลยน่ะ" จูเดทต้าบอก

              นีลเซนท์บอก "นาเดีย ออโต้เตะใส่ฮีธล้มก็ไม่แปลกหรอกครับ แม่ เพราะผมทราบมาว่า เธอฝึกวิชาเพลงมวยไทยเหมือนกับเฟรด มาร์ตินกันนี้แหละ แต่ยังไม่ทันจะจับรีกัลและฮีธ พวกสมุนขององค์ชายจาฟฟาร์ลเข้ามาขวางเสียก่อนนะครับ"

              "หวังว่าฝั่งเวลเซน่านั้น คงจะไปได้สวยกันบ้างน่ะ" เพอซิอัสบอก "นีลเซนท์ สั่งให้พวกบรอนเซอรูทที่อยู่ในป่า บุกจัดการกับยานของพวกสไปค์เดียวนี้เลย"

              นีลเซนท์บอก "คุณบาร์ท คุณบรอนเซอรูท จังหวะนี้แหละครับ"

              ในเวลาเดียวกันที่เกิดเรื่องยุ่งที่เฟิร์สฮิลล์ กลับมาที่เวลเซน่ากันบ้าง

              "ตรงนี้ต้องเป็นที่ๆหุ่นยักษ์โผล่มาแน่ๆเลยน่ะ" นาตาเช่กล่าว โดยที่เธอพยายามเดินตามหารอบๆเวลเซสแควร์ เช่นเดียวกับ

              "คุณลาเวนเด้ดันมีธุระเช่นนี้ คงต้องออกตามหากันเองเสียแล้ว" มิวนิสวิ่งวนไปทั่ว เพื่อหา "สวิตซ์ฉุกเฉินสำหรับประตูกลนั้นต้องอยู่ที่ไหนในแถวนี้แน่ๆ ต้องเป็นตามเสาไฟสว่าง หรือป้ายบอกทางแน่นอน" โดยดูตามเสาไฟสว่างและป้ายบอกทางที่อยู่รอบๆนี้ จน.... "โครมมมม" ไปชนกับนาตาเช่ที่เดินควานหาตามพื้นจนล้มไปทั้งคู่

              "โอ้ย เจ็บๆๆๆๆ" นาตาเช่ร้องลั่นขึ้นมา พอเงยหน้ามาในจังหวะที่มิวนิสหันมาพอดี "เอ้ นี้นาย มาที่นี้ได้ไงกันน่ะ"

              มิวนิสที่เห็นหน้านาตาเช่เลยถามกลับ "ฉันควรจะถามเธอมากกว่าน่ะ ยัยม้าดีดกระโหลก นี้เธอตามฉันมาหรือ"

              "นายมาที่นี้ งั้นนายก็คงจะมาด้วยเรื่องเดียวกันสิน่ะ" นาตาเช่บอก

              มิวนิสกล่าว "ก็ใช่นะสิ แล้วนี้เธอคงมีคนช่วยอย่างงั้นสิน่ะ เพราะดูแล้ว น้ำหน้าอย่างเธอไม่น่ามาที่นี้ง่ายๆกันน่ะ"

              "นั้นมันคำพูดของฉันซะมากกว่าน่ะ" นาตาเช่โวยและลุกขึ้นยืน เช่นเดียวกับมิวนิสด้วย "ว่าแต่ นายหาตัวเปิดพื้นเจอหรือยังละ"

              มิวนิสบอก "ที่พูดมานิ คงยังไม่เจอสิน่ะ แต่ ฉันจะหาเจอก่อนเป็นอันดับแรกกันนี้...."

              "คุณสองคนไม่ต้องหาอะไรทั้งนั้นแล้วละ" เสียงนั้นกล่าวขึ้น เป็นเสียงของนิค ที่อยู่ในชุดพร้อมสู้กันแล้ว "เพราะว่าพวกคุณสองคนจะไม่ได้กลับไปกันนี้แหละ"

              นาตาเช่บอก "ลักษณะเกราะแบบนี้ นายสองคนในตอนนั้นเลยนิน่า...."

              "นายเองละสิน่ะ ไอ้หมวกกันน็อกสีแดง นายกับเพื่อนนายเกือบพลาดพลั้งไปแล้ว ยังคิดจะกลับมาเอาคืนเลยสิน่ะ" มิวนิสบอก "แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ เราสองคนไม่ได้กลับไปกันนิ หมายความว่าไงกันน่ะ"

              รีฟบอก "เกรงว่า คุณสองคนติดกับดักที่พวกคุณพีวิลวางเอาไว้ เพื่อจับพวกคุณพร้อมกับพวกคุณสไปค์ที่อยู่ที่เฟิร์สฮิลล์แล้วละคะ"

              "วะ ว่ายังไงน่ะ แต่ มันจะเป็นกับดักไปได้ไงกันละ" นาตาเช่บอก

              นิคตอบ "เซอร์อิลดินและเลดี้ลาเวนเด้ให้ความร่วมมือกับพวกเราในการจับสายลับอย่างพวกนายสองคนนี้แหละ ซึ่งถ้าพวกนายฉลาดสักหน่อยก็คงจะรอดไปได้แล้วน่ะ"

              "....นายหาว่าสายของเราทรยศนะหรือ...." มิวนิสบอก

              รีฟกล่าว "คุณจะเชื่อหรือไม่ มันไม่สำคัญหรอกน่ะคะ ขอแค่พวกคุณสองคนยอมจำนนซะ อย่างน้อยก็เห็นแก่หัวหน้าเนคเกอร์และคุณฟิเกซอทกันบ้างน่ะ"

              "คราวก่อนยังสู้ไม่จบแบบนี้ คราวนี้ยังกล้ามาจับพวกเราเลยสิน่ะ" นาตาเช่บอก และหยิบตรามังกรสีเงินออกมา "แม้จะมาเพียงสองคนเพื่อมาจับพวกเราได้ แต่นึกหรือว่าพวกนายจะทำสำเร็จกันน่ะ"

              มิวนิสกล่าว "ไม่ชอบเลยที่ต้องสู้ร่วมกับเธอ แต่ถ้าพวกแกคิดจะจับพวกพี่สไปค์ไปละก็ เราไม่ยอมแน่ๆเลยละ" แล้วก็หยิบตรารูปนกฟินิกส์สีเงินออกมาด้วย "แกร็กก วี้งงงงง" "สวมเกราะ" ทั้งคู่กดปุ่มบนตราให้เรืองแสงขึ้นพร้อมกับข่านคำสั่งแปลงร่างขึ้นมา "แว้งงงงงง" โดยตอนนี้ นาตาเช่สวมเกราะมาสเก็ตซิลสีน้ำเงิน ส่วนมิวนิสสวมเกราะแลนไซท์สีแดง พร้อมเอาทวนประจำกายออกมา ส่วนนาตาเช่เอาหอกออกมา 

              "สงสัยว่าพวกคุณบีบให้เราต้องใช้กำลังแล้วละคะ" รีฟบอก

              นิคกล่าว "สถานการณ์เช่นนี้ สมควรต้องใช้กันแล้วละ" แล้วก็ "พึบบ ครี้งงงง" นิคปิดใบหน้าด้วยแว่นตาและเฟสการ์ด เช่นเดียวกับรีฟด้วย "คราวนี้ พวกคุณไม่มีทางออกไปได้แน่นอน"

              "แล้วไหนละ ทหารที่จะมาล้อมจับกันละ ไม่เห็นมีเลยสัก..." มิวนิสบอก

              ไม่ทันไรก็ "หวออออ หวออออ หวออออ" สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น "เกิดอะไรขึ้นกันละเนี้ย หรือว่า พวกนายเรียกทหารมาอย่างงั้นนะหรือ" นาตาเช่กล่าว

              "มาตราการฉุกเฉิน ตอนนี้มีผู้บุกรุกได้ลอบเข้ามาที่ดาวของเรากันแล้ว ขอให้ประชาชนทุกคนหาที่หลบภัยตามที่ได้แจ้งไว้เมื่อวาน โดยในเวลานี้ กองกำลังทหารจะเริ่มทำการแก้ไขสถานการณ์กันแล้ว" เสียงของเอเรียเน่แจ้งเตือนมายังในเมือง ซึ่งชาวเมืองที่อยู่ในอาคารรีบลงลิพท์ไปยังหลุมหลบภัยใต้เมืองกันโดยเร็ว พร้อมกับ "ฟ้าวววววว ฟ้าวววววว ฟ้าววววว" ยานแรคแทซ 3 ลำทะยานออกจากท่าอวกาศยานที่อยู่ห่างไกล เช่นเดียวกับ...

              "ยานของพวกไทรเวเซอร์....นี้หรือว่านั้นหมายถึงพวกต่างดาวจากฝั่งตะวันออกได้โผล่มาอย่างงั้นนะหรือ มันไม่เห็นเป็นการกักบริเวณตรงไหนเลยน่ะ" มิวนิสถาม

              "เกี่ยวสิ เพราะด้านหน้าคือกองรบของผบสส.บาโธโรมิวและกองกำลังไทรเวเซอร์ ด้านหลังคือพวกเราและกองหนุนที่จะมาสมทบได้ทุกเมื่อ หากว่าพวกเราหยุดพวกคุณสองคนไม่ได้เลยนะคะ" รีฟบอก

              นิคกล่าว "ด้านหน้ามีการทำสงคราม ด้านหลังมีพวกเรา พวกนายสองคนคงไม่งี่เง่ามากพอที่จะหาเรื่องให้โดนระเบิดจากแนวหน้ากันหรอกน่ะ"

              "สงสัยว่าเราคงต้องสั่งสอนพวกนายที่กล้ามาหลอกเรากันแล้วละ" นาตาเช่บอก

              มิวนิสกล่าว "และคราวนี้เราต้องรอดกลับไปให้ได้เลย คอยดูสิ" แล้วทั้งสองก็บุกเข้าใส่นิคและรีฟโดยเร็ว


              "หวังว่าแผนการนี้ พวกบรอนเซอรูทคงจะทำสำเร็จบ้างน่ะ" พีวิลกล่าวโดยที่เขาสแตนด์บายอยู่ในคอสทารอนไซน์เกนกันแล้ว

              คลอเวฟบอก "แต่กูว่า ไอ้เกรียนสามตัวมันต้องทำแผนการพังแน่นอนเลยวะ ถ้าเกิดว่าสายลับนั้นเป็นสมุนของไอ้จาฟฟาร์ลน่ะ"

              "แล้วนิคและรีฟจะรับมือได้เลยหรือคะ เพราะดูแล้ว ฉันรู้สึกเป็นห่วงทั้งคู่กันไม่น้อยนะคะ" แอนเดรียบอก

              เจเนลกล่าว "เท่าที่เห็นในการฝึกนั้น นิคเองก็ไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากรีฟมากนัก หวังว่านิคคงเห็นแก่งานมากกว่าเรื่องส่วนตัวกันบ้างน่ะ"

              "เนคมาดูซัม นายกังวลว่าสไปค์จะพลาดพลั้งจนเสียท่าอย่างงั้นนะหรือ" มาสวาร์ทาร์ถาม

              เนคมาดูซัมตอบ "เปล่าหรอก ฉันกลัวว่าสไปค์จะเล่นแรงจนพวกบรอนเซอรูทและพวกนายพลเจ็บตัวซะมากกว่าน่ะ"

              "แสดงว่าเพื่อนเก่านายคงจะเก่งกาจพอตัวละสิน่ะ และคงจะขโมยข้อมูลไปได้เยอะ จากการที่หมอนี้หลอกนายและฟิเกซว่าไม่ได้เป็นอัศวินแต่แรกกันน่ะ" คลอเวฟบอก

              เนคมาดูซัมบอก "ถึงฉันไม่รู้ว่าสไปค์ได้รับการฝึกฝนจนเป็นนักรบมายังไง แต่....ถ้าเพื่อไม่ให้ตัวเองและพวกพ้องถูกพวกศัตรูเล่นงานละก็ สไปค์เลือกที่จะเสี่ยงทำเช่นนี้ ซึ่งฉันน่าจะเดาได้อยู่แล้ว ว่าสไปค์ทำไปทั้งหมด ก็เพื่อไม่ให้คนรอบข้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นอัศวินต้องเดือดร้อนกันน่ะ"

              "นายกำลังจะบอกว่า สไปค์มีญาติพี่น้องหลงเหลืออย่างงั้นนะหรือ" สเตฟอร์ดถาม

              ฟิเกซกล่าว "สไปค์มีน้องสาวชื่อ พอลลีน อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกไกซ์นี้แหละ แต่อ่อนกว่าปีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ จากการที่ฉันถามสไปค์มาก่อนแล้ว" โดยติดต่อเข้ามือถือมา "ซึ่งพอลลีนกำลังประสบกับโรคร้ายที่แม่ของเธอและสไปค์เป็นมาก่อน และได้คร่าชีวิตคุณแม่ของทั้งสองไปด้วยน่ะ"

              "แล้วพอจะทราบมั้ยว่าโรคที่แม่ของสไปค์และพอลลีนเป็นอยู่นี้ มันเป็นโรคแบบไหนกันน่ะ" ลิเนียร์ตี้ถาม

              เนคมาดูซัมตอบ "บลัดคลอสซินโดรม เป็นโรคที่ไขกระดูกเกิดความผิดปกติ ทำให้เลือดที่สร้างขึ้นมาทั้งเม็ดเลือดแดงและขาว รวมถึงเกล็ดเลือดเป็นพิษต่อร่างกาย และมีผลทำให้กระดูกเปราะบาง โดยเฉพาะช่วงล่างตั้งแต่สะโพกลงมายังขาและเท้า ส่งผลให้เป็นอัมพาตท่อนล่างแบบเฉียบพลันเลยนะสิ ซึ่งคนที่เป็นโรคนี้ จะมีรอยแดงตรงหลังสะโพกเป็นรูปกางเขนสีแดงขึ้นมากันน่ะ"

              "แล้วนอกจากเด็กแล้ว ผู้ใหญ่เป็นด้วยหรือเปล่าน่ะ" แอบไบออสบอก

              เดเมี่ยนติดต่อมา "เป็น หากแต่จะเกิดเฉพาะกับชาวทรอยอาร์ที่มีภูมิต้านทานโรคระดับต่ำมากๆ เนื่องจากว่าชาวทรอยอาร์เกือบ 84 เปอร์เซนต์ล้วนมีภูมิต้านทานโรคระดับสูง ชนิดที่โรคซาร์อวกาศ อีโบล่าต่างดาว เชื้อหัดออกนอกระบบดาว ไปจนถึงโรคร้ายที่คร่าชีวิตมนุษย์ให้ตายเป็นร้อยเป็นพันภายในเวลาอันสั้นเลยน่ะ" แล้วก็เล่าต่อ "หลังจากเป็นอัมพาตท่อนล่างอย่างฉับพลันแล้ว สภาพร่างกายจะถูกจู่โจมจากภายใน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาฟอกเลือด กระตุ้นให้ไตชำระล้างเลือดที่เป็นพิษออกจากตัว โดยผ่านทางเหงื่อและปัสสาวะอยู่ตลอด ถ้าไม่ได้รับการรักษาภายใน 2-3 วัน เลือดเป็นพิษจะเข้าไปทำลายสมองและระบบประสาททั้งหมดจนเสียชีวิตอย่างฉับพลันนี้เองแหละ"

              "แต่ถ้าแม่ของสไปค์เป็นโรคนี้ สไปค์ก็ต้องติดโรคนี้กันบ้างสิ" แอบไบออสบอก

              เดเมี่ยนกล่าว "ไม่หรอก เชื้อมันทำอะไรเพศชายที่มีโครโมโซมวายที่เป็นตัวต้านทานไม่ได้กันหรอก จึงไม่แปลกที่สไปค์จะไม่เป็นโรคนี้ แต่น้องสาวอย่างพอลลีนกลับโดนเสียเองกันน่ะ" แล้วหันมาถาม "ว่าแต่ พอลลีนเป็นโรคนี้แล้วมีสภาพร่างกายเป็นยังไงละ"

              "ตอนนี้พอลลีนต้องนั่งรถเข็นตั้งแต่แปดขวบจนถึงบัดนี้แล้วละ โดยที่สไปค์ให้เวนดี้ช่วยดูแลให้นี้แหละ" ฟิเกซบอก

              เดเมี่ยนบอก "ดีแล้วละ เพราะถ้าไม่มีการดูแลอย่างใกล้ชิดจากหมอและพยาบาล พอลลีนคงอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนแน่นอน แม้ว่าสามปีให้หลังจากที่ออกจากแรซัลก้านั้น พวกนี้พยายามไม่น้อยในการรักษาโรคร้ายนี้กันอยู่น่ะ"

              "สงสัยว่าโรคนี้คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกทรอยอาร์ต้องสู้กับเราก่อนสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก เนคมาดูซัมพยักหน้า

              แอนเดรียกล่าว "ทั้งๆที่พวกเขาควรจะใช้เวลาที่มีค่าในการรักษาพลเมืองของพวกเขาแล้ว ไม่น่าจะใช้ตรงนี้เป็นแรงกระตุ้นในการทำสงครามกับพวกเราเลยนะคะ นั้นจะยิ่งทำให้ผู้ป่วยต้องทรุดหนักเพราะต้องสูญเสียพี่น้องในการรบไปกันนะคะ"

              "แต่ตอนนี้ เราต้องแก้โรคร้ายที่พวกเรากำลังประสบกันอยู่น่ะ" บัลโต้บอก และหันมาถาม "พวกเดลอาเนี่ยนกลุ่มแรกที่บุกมานั้นเป็นพวกไหนกันละ"

              เอเรียเน่บอก "เรดาห์พิสัยไกลตรวจสอบกลุ่มแรกได้แล้ว เป็นพวกอินเซคเที่ยมนะคะ" โดยตอนนี้ยานคอร์บิทต้า คอร์มันทิส คอร์ปาปิยาส คอร์ฮอร์เนตบินมาพร้อมกับพวกสวอร์มมิสจำนวน 120 หน่วยด้วยกัน

              "โว้ว พวกมันกะจะยึดเมืองของเรากันเลยสิน่ะ" บรูโน่กล่าวอย่างหวั่นเกรงไม่น้อย แต่ก็ฮึดสู้ด้วยการตบมือเต็มแรง "แต่เรื่องอะไรจะปล่อยให้พวกแมลงมันทำลายเมืองจนร้านโปรดต้องกลายเป็นรังแมลงกันเล่า"

              เฮเรเค้นบอก "เออ กูเชื่อแล้วละ ว่ามึงเป็นพวกติ่งโมเอะเต็มขั้นเลยละ"

              "บรูโน่....จบเรื่องและรอดจากสนามรบมา เดียวจะโดนไม่ใช่น้อยๆน่ะ" บัลโต้บอก

              บรูโน่กล่าว "ครับพี่ ทุกหน่วย โต้ตอบระยะไกลไปเลย" แล้วการ์เซนท์มาร์คทูไทป์จีและไทป์เฮช ระดมยิงด้วยปืนใหญ่ โฮมิงค์มิไซล์ ไมโครมิไซล์เข้าใส่ โดยที่เซนครีทแบบลองค์พลาสม่าแคนน่อนคู่ระดมยิงไกลเข้าใส่ยานคอร์อินเซคและสวอร์มมิสจนร่วงระนาวไปกันหมด "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยานแรคแทซและไทรแองเกิ้ลยิงตอปิโดออกไปถล่มซ้ำ จนกวาดพวกอินเซคเที่ยมที่บุกเข้ามาไปได้ส่วนหนึ่งด้วยกัน หากแต่ "ฟ้าววว ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าววว" สวอร์มมิสจำนวน 40 หน่วยบินเข้ามาในสภาพของ "มะ มันติดยานแมลงด้วยหรือเนี้ย" บรูโน่อุทาน เพราะสวอร์มมิสประกอบกับยานคอร์อินเซค โดยกลุ่มหนึ่งติดปีกผีเสื้อ กลุ่มหนึ่งมีเขาด้วงและปีกบนที่หนา กลุ่มหนึ่งติดปีกแบบตั้กแตนและมีเคียวยาวติดแขน และกลุ่มหนึ่งมีท้องของผึ้งติดอยู่ตรงหน้าอก

              "คิดว่าสวอร์มมิสของพวกเรา รวมกับคอร์อินเซคของเราไม่ได้เลยหรือ" ทหารอินเซคเที่ยมกล่าว แล้วสวอร์มมิสบีสต้ายิงกระสุนออกจากส่วนเขาเข้าใส่พวกการ์เซนท์มาร์คทรี โดยที่พวกเซนครีทรีบเอาโลห์คู่มาป้องกันเอาไว้ แล้วก็ "แชดดด แชดดด" การ์เซนท์มาร์คทรีไทป์จียิงปืนใหญ่พลังงานเข้าใส่สวอร์มมิสบีสต้า แต่สวอร์มมิสปาปิยาสบินเข้ามาป้องกันลำแสงและเปลี่ยนเป็นวงแหวนแสงเข้าถล่มใส่กองยานเฮฟไดซ์จนเสียหาย "ตุ้งๆๆๆๆๆๆ" สวอร์มมิสฮอร์เนสยิงกระสุนเหล็กไนออกจากส่วนท้องตรงหน้าอกและที่แขนทั้งสี่ เข้าถล่มใส่กองรบของพวกบัลโต้จนระเนระนาด โดยที่สวอร์มมิสมันทิสบุกชาร์จเข้ามา "งึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" บัลตาฟรีใช้ปีกยิงคลื่นเสียงความถี่สูงพร้อมกับ "แคลชนอยน์ลันเชอร์" คลื่นเสียงความถี่สูงของฟาลครีด้ากานีสต้าเล่นงานพวกสวอร์มมิสมันทิสจนชะงักงัน "หวับๆๆๆๆ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" กงจักรสามคมเข้ากรีดตัดสวอร์มมิสมันทิสจนขาดสะบั้น ต่อด้วย "ฟ้าววววว ฟิ้วๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆ" ไซโคลเนียและวิลด้าบินเข้าจู่โจมสวอร์มมิสปาปิยาสด้วยไมโครมิไซล์และฟาสท์แทรคมิไซล์อย่างจังๆ "ฟ้าววว ฟ้าววว ชรี้ดดดดดด ฉั้วะๆๆๆ" กงจักรของอัลติเมทเอทเข้ากรีดตัดสวอร์มมิสมันทิสจนขาดสะบั้นไป 2 ตัวอย่างจังๆ แต่สวอร์มมิสมันทิสอีก 8 ตัวบุกเข้าใส่อัลติเมทเอท "ฟ้าววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉับ" มัลแด็กซ์และไลเอิร์ทกระโจนฟาดฟันใส่สวอร์มมิสมันทิสจนสับแขนหลักทั้งสี่และแขนเคียวทั้งสองขาด "เชร้งงง เชร้งงง เชร้งงง" ดิเรนท์ วูลเฟลล่าและบีทเทมใช้กงเล็บและดาบเข้าฟันใส่สวอร์มมิสบีทต้าที่บุกเข้ามาจนขาดสะบั้น "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หึมๆๆๆๆๆ ฟ้าววว ตูมๆๆๆๆๆๆ" พีวิลกราดยิงฟูลอาร์มชู้ตเตอร์เข้าใส่สวอร์มมิสบีทต้าและฮอร์เนสส่วนหนึ่งให้พัง ที่เหลือถูกเจเนลยิงชาร์จช็อตถล่มใส่จนวินาศสันตะโรไปในทันที

              "ยิงไอ้ตัวติดปีกผีเสื้อด้วยกระสุนปืนโดยเร็วเลย" บรูโน่สั่งโดยให้การ์เซนท์มาร์คทรีไทป์เอสและเซนครีทติดดาบคู่ กราดยิงแอสเซาท์บลัสต์ไรเฟิ่ลและสไตร์คแมชชีนกัน เข้าถล่มใส่สวอร์มมิสปาปิยาสจนร่วงระนาวกันหมด "ตื้ดๆๆๆๆๆ" สัญญาณเตือนดังเข้ามา "พี่ใหญ่ พวกเดลอาเนี่ยนส่งกองรบใหม่มาแล้วละครับ"

              "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆ" ชุดที่สองนั้นเป็นพวกอัลแทเรี่ยน ซึ่งใช้อัสแทรมิค 80 เครื่อง มากับวิงค์เซปเตอร์และวิงค์ลิบรอนจำนวนละ 110 เครื่องด้วยกัน "ฟ้าววว ทิ้วๆๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆ" โดยพวกอัลแทเรี่ยนระดมโจมตีด้วยมิไซล์และปืนแสงอานุภาค เข้าใส่พวกไทรเวเซอร์และกองรบของบัลโต้อย่างหนักหน่วง เป็นจังหวะเดียวกันกับ "สเปียริท มิวนัสส่งสมุนของเธอมาเสริมแล้วยะ" โฟรซ่ามองจากระยะไกลเห็นแคทครอฟและเพรเดแคทแห่ตามหลังมา ซึ่งก็ "แกร็ก เปรี้ยะ ฟ้าวววว ป้ากกก" เหนี่ยวไกยิงเมย์ไนซ์บัสเตอร์ไรเฟิ่ลเป่าหัวแคทครอฟที่บุกเข้ามาจนกระจุยไป "แชดดดด แชดดดด แชดดดดด ตุ้งๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆ" แคทครอฟระดมยิงปืนอานุภาคที่แขน โดยที่เพรเดแคทยิงปืนใหญ่บนหลังในขณะที่วิ่งไปด้วย แม้เซนครีทจะป้องกันด้วยโลห์ติดโลห์พลังแสงเอาไว้ก็ตาม แต่ก็ต้านไม่อยู่ "แชดดด แชดดด แชดดด แชดดดดด อี้ดด แชบบบ แชบบบ แชบบบ แชบบบบ แชดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดดด" แอนเดรีย มิลด์และสเปียริทระดมยิงปืนแสงเข้าถล่มใส่พวกแมทเฟลิมจนแคทครอฟถูกยิงจนแขนกระจุย เพรเดแคทถูกเป่าตรงหัวจนล้มกลิ้งไปสามสี่ตัว "ฟ้าววว ฟ้าวววว แชดดด แชดดด แชดดด" ไซโคลเนียและวิลด้าบินเข้ายิงเทมเพสต้าบัสเตอร์ไรเฟิ่ลและสครูวอิมพัลส์ไรเฟิ่ล ถล่มใส่ทั้งอัสแทรมิคและวิงค์เซปเตอร์กับวิงค์ลิบรอนจนร่วงกันหมด อัสแทรมิคอีก 20 ตัวแห่มาสมทบอย่างรวดเร็วเพื่อจู่โจมใส่ไซโคลเนียและวิลด้า "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" อาร์ซโทรนคัสตอมระดมโจมตีด้วยไมโครมิไซล์โต้ตอบพวกอัสแทรมิคที่บุกมาให้ชะงักลงจน "ฟ้าวววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ วืมมมมม ฉึกกก ฉั้วะ" เปิดช่องให้หน่วยอาร์ซโทรนฟาดฟันด้วยเฮฟวี่พลาสม่าซอร์ดใส่ โดยฟันขาดไปสองสามตัว ตัวที่สี่ถูกแทงและฟันเสยให้หุ่นขาดสะบั้น "ฟ้าวววว ฉั้วะ ฉับบบ ฉั้วะ" ฟลาแน็กซ์พาอิคกรีทและสวอนน่าสู้กับพวกอัสแทรมิคด้วยดาบยาวกับกงเล็บอีแร้งที่เท้า ใบมีดนกนางแอ่น และทวินเจ็ทดริลที่ขาอย่างรวดเร็ว พวกแมทเฟลิมเลยรีบบุกเข้าใส่ไปบ้าง "ป้ากกกก" แคทครอฟตัวหนึ่งล้มในสภาพที่ตัวถูกหวดฟาดจนเป็นรอยและระเบิดไป ส่วนอีกตัวนั้น "เพี้ยะ ฉั้วะ ตูมมมมม" ถูกหวดเช่นกันหากแต่การหวดได้สับแคทครอฟขาดสะบั้นลง โดยเป็นฝีมือของเฮเรเค้นและเรปไซท์ที่บุกเข้าจู่โจม ส่วนบราไทน่าก็กระโจนเข้ามา "เปร้งๆๆๆๆ" ป้องกันด้วยโลห์กระดองเต่าพร้อมกับใช้แส้งูที่แขนฟาดใส่เพรเดแคทที่กระโจนเข้ามาจนหัวแหว่งและระเบิดไป "ฟ้าววววว ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" แอบไบออสนำกิซเซเบอร์พุ่งเข้ามายิงมิวทาลิมดาร์ทเล่นงานเพรเดแคท 5 ตัวให้ล้มลง แล้วก็ "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะๆๆ" ใช้กิซซาร์ดเรซเซอร์ฟาดฟันใส่แคทครอฟที่ใช้ดาบและกงเล็บพลังงานเข้าสู้จนตัวขาดสะบั้น โดยที่พวกไลเอิร์ทรีบรุดมาช่วยอีกแรงหนึ่ง

              "ยุทธการมันเหมือนตอนที่บุกจู่โจมแคสไลน์กันชัดๆเลยน่ะ" บัลโต้บ่น

              "ใช่ หากแต่คราวนี้พวกนั้นบุกเข้ามาในดาวของเรากันนี้แหละ ซึ่งนั้นหมายถึงบางเผ่าอาจจะส่งกองรบที่รบภาคพื้นดินได้เข้ามาน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              บัลโต้ตอบ "นั้นไม่แปลกใจหรอกน่ะ เพราะเรดาห์พิสัยไกลตรวจจับช่องทางต่างมิติขนาดใหญ่กันด้วย ซึ่งพวกเดลอาเนี่ยน คิดจะเอาของใหญ่ลงสนามกันแล้วละ"

              "หวอๆๆๆๆๆ" สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นมา แอมเบอร์กล่าว "สัญญาณกองรบชุดที่สองมาแล้ว เป็นพวกอัลแทเรี่ยน มากับพวกเทรโอเซี่ยมกันนะคะ"

              คลอเวฟบอก "ไอ้พวกปลาต่างดาวนั้นคงจะกลายเป็นปลาตากแดดแน่ๆเลยวะ"

              "เออ ลุงว่าพวกเราหรือเปล่าละ" แฮมชัคพูดย้อนเพราะคลอเวฟว่าถึงพวกตนด้วย โดยตอนนี้เทรโอเซี่ยมมากับเมอมาร์คจำนวน 120 เครื่อง ยานเวฟสไตรเดอร์และดีฟแอทแทคเกอร์แบบรบเหนือน้ำจำนวนละ 160 เครื่องด้วยกัน โดยเวฟสไตรเดอร์และดีฟแอทแทคเกอร์โจมตีด้วยปืนแสงและตอปิโดเข้าใส่ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" การ์เซนท์มาร์คทูแบบรถถังยิงมิไซล์พ็อดเข้าต้านตอปิโดบกจนพัง ในขณะที่แบบออฟโรดสี่ล้อและฐานรถเกราะหกล้อ โต้ตอบด้วยสปีดโฟรตอนไรเฟิ่ลยิงต้านกระสุนแสงของพวกเทรโอเซี่ยมไว้ได้ หากแต่เมอมาร์คบุกเข้ามาในระยะประชิดเพื่อใช้ตรีศูลอนุภาคทริแลเนี่ยมเข้าแทงใส่ "ฟ้าวๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆ แกร็กๆๆๆๆๆ" แฮมชัคและเบติสยิงกระสุนแช่แข็งเล่นงานเมอมาร์คจนน้ำแข็งเกาะ เปิดช่องให้เซนครีทติดดาบคู่จู่โจมด้วยเพคบัสเตอร์จนเป่าแตกกระจุยไป 10 กว่าเครื่อง เช่นเดียวกับ "หวับๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" เวฟสไตรเดอร์และดีฟแอทแทคเกอร์โดนแองเกอร์แอ็กซ์หมุนเข้ากรีดตัดจนขาดร่วงไปกันหมด พร้อมกับ "ฟิ้วๆๆๆ ตูมๆๆๆๆ" โดนตอปิโดลันเชอร์ของคลอเวฟยิงทิ้งไปกันหมด "หวับๆๆๆๆ หมับๆ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉับ" แล้วก็รับแองเกอร์แอ็กซ์สองเล่มที่หมุนกลับมาฟันใส่เมอมาร์คให้ขาดสะบั้นลง "หวับบบบ เพี้ยะๆๆๆ แกร็กๆๆๆ เพล้งง เพล้งง เพล้งงง" เมอมาร์ค 4 ตัวถูกเวลลิทฟาดด้วยแส้แช่แข็งจนร่วงลงมาแตกกระจุยไป ในขณะที่ชาร์เครฟ "เพี้ยะๆๆๆ ฉั้วะๆๆ" ใช้แส้ความถี่สูงฟาดทำลายแขนของเมอมาร์คจนขาดและใช้ดาบฟันเลื้อยสับหัวขาดจนระเบิดไปสามตัวด้วยกัน โดยที่พวกอัลแทเรี่ยนนั้น "แฟ้ววววว แฟ้ววววว แฟ้ววววว" ส่งยานนกขนาดใหญ่ที่มีหัวนกอยู่ด้านข้างสองและด้านบนส่วนหลังอีกสองหัวอยู่ถึง 5 ลำด้วยกัน

              "นี้พวกอัลแทเรี่ยนมันมียานรบแบบพวกแดคน็อกซ์กันเลยหรือเนี้ย" ไซโคลเนียบอก

              "พวกแกเจอกับวิงค์ฮาเคนของพวกเราหน่อยเป็นไงละ" นักบินอัลแทเรี่ยนกล่าวโดยยิงมิไซล์ออกจากหัวนกอย่างรวดเร็ว "แชดดดดดดดด" ไซโคลเนียเลยยิงเทมเพสต้าบัสเตอร์ไรเฟิ่ลเข้าทำลายห่ามิไซล์ทิ้ง แต่ยานวิงค์ฮาเคนบินหลบหลีกออกไปได้อย่างรวดเร็ว

              "เอามิไซล์นี้ไปกินสิ" ฝูงบินอาร์ซโทรนยิงมิเดี้ยมมิไซล์และไมโครมิไซล์เข้าใส่ แต่ "ฟ้าวววววว แฟ้วๆๆๆๆๆๆ" มิไซล์ที่พุ่งเข้าใส่วิงค์ฮาเคน กลับบินออกห่างจากตัวไปโดยเร็ว

              "ป่วยการเปล่าน่า มิไซล์ของพวกแกไม่มีทางสู้กับแจมเมอร์ของเราได้หรอกน่า" นักบินอัลแทเรี่ยนกล่าวพร้อมกับแยกยานออก โดยด้านข้างเปลี่ยนเป็นยานขนาดเล็ก ในขณะที่ด้านหลังถอดออกมาเป็นยานขนาดยาวพุ่งเข้ายิงกระสุนแสงและมิไซล์เข้าใส่ฝูงบินอาร์ซโทรน "แชดดดด แชดดดด แชดดดด" หน่วยรบฟาลครีด้ายิงเรย์แซทแคนน่อนเข้าถล่มใส่มิไซล์และเล่นงานยานเล็กของวิงค์ฮาเคนจนพังไป "แชดดดด แชดดดด" วิลด้ายิงสครูวอิมพัลส์ไรเฟิ่ลเข้าสอยยานหลักของวิงค์ฮาเคนให้พังไปสองลำด้วยกัน แล้วก็ "ฟ้าวววว ป้ากกกก" พุ่งเสยแทงเข่าอัดใส่ยานขนาดยาวให้โดนตรงคอกพิตจนนักบินอัลแทเรี่ยนกระเด็นออกไป แล้วก็ "ชรี้ดดดดดดด ป้ากกก" ใช้ทวินเจ็ทดริลแทงเข้าใส่ยานเล็กที่มีปีกด้านบนจนทะลุไป "ฟิ้วๆๆๆๆๆ" ฟลาแน็กซ์และสวอนน่ายิงมีดสั้นขนนกยูงและฟลามิงโก้เข้าปักใส่ยานเล็กและยาวจนระเบิด อิคกรีทพุ่งโฉบเฉียวเข้าสอยยานวิงค์ฮาเคนให้พังไป ส่วนพวกอาร์ซโทรนก็โต้ตอบพวกอัสแทรมิคต่อ แม้จะมีบางส่วนบุกเข้ามา "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ก็ต้องเจอกับป้อมปืนแรปิดเดเตอร์พันนิชเชอร์ของยานไทรแองเกิ้ล เฮฟไดซ์และแรคไทซ์เข้า "ปุ๊ๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" สอยอัสแทรมิค วิงค์เซปเตอร์และวิงค์ลิบรอนให้ร่วงไปกันหมด

              "พวกอัลแทเรี่ยนกับยานรบรุ่นใหม่ร่วงแล้วละครับ" ทหารเดลอาเนี่ยนบอก

              นายกองบอก "ช่วยไม่ได้ ส่งพวกบรูซาเรมและซอร์แรคออกไปเลย" แล้วก็ "ตรึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ประตูมิติส่งเอาวอร์บอทลาสแบรทของบรูซาเรมและจูลาสโต้ของซอร์แรคออกมา

              "พวกหมีและตะกวดอวกาศออกมาเป็นกลุ่มที่สามกันแล้ววะ" บัลโต้บอก

              คลอเวฟบอก "แย่หน่อย ที่พวกเราพร้อมตะบันหน้าพวกมันได้ทุกเมื่อกันแล้วละ" โดยตอนนี้สเตฟอร์ด จายด์พาพวกไรแกทและเทรอนเร็กซ์ออกมากันแล้ว

              "แชบบบบ แชบบบบ แชบบบบ" นิคเข้าใช้ไนท์แฟลชเบลดสู้กับมิวนิสที่ใช้ทวนยาวอันใหม่ "แชบบบ แชบบบ แชบบบบ" ในขณะที่รีฟใช้ไลท์นิ่งเซเบอร์โต้ตอบหอกของนาตาเช่ที่ระดมแทงเข้ามา "ว้ากกกกกก" "ย้ากกกก" มิวนิสจ้วงแทงทวนเข้าใส่นิคที่บุกเข้ามา "แคร้งงงง แชบบบบบบบบบ" จนดาบแสงและทวนปะทะกันอย่างรุนแรง "ฮึยยยย" มิวนิสเสยหมัดเข้าชกใส่ในจังหวะที่นิคชกด้วยหมัดซ้ายเข้า "ป้ากกกก" โดยต่อยตรงข้างหมวกไปเต็มๆจนทั้งคู่ผงะไปอย่างจังๆ "หนอย ย้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" นาตาเช่ระดมแทงหอกเข้าใส่รีฟอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอได้แต่หลบหลีกและใช้ดาบสายฟ้าปัดป้องอย่างไม่ทัน "เสร็จฉันละ" นาตาเช่แทงหอกที่อัดพลังสายฟ้าเข้าใส่ โดยที่รีฟไม่ทันโดดหลบได้ แต่.... "ฟ้าวววววว" รีฟรีบย่อตัวและสไลด์ลงพื้นหลบการแทงหอกไปได้อย่างฉิวเฉียดแล้วก็ "ป้ากกกกก" ถีบขาของนาตาเช่ให้สะดุดล้มไปอย่างจังๆ

              "ดูเหมือนว่านายพยายามไม่น้อยเลยนะ ที่กล้ามาสู้กับฉันทั้งๆที่นายไม่มีทางเอาชนะฉันได้น่ะ" มิวนิสบอกพร้อมกับฟาดทวนที่ลุกโชนด้วยไฟ

              นิคกล่าว "ฉันรู้ว่าฉันไม่มีทางเอาชนะนายได้แน่ๆ แต่ก็สามารถกันไม่ให้นายและแฟนของนายหลุดออกไปนอกเมืองกันได้หรอก"

              "ยังพูดไม่รู้เรื่องเลยหรือไง ว่าฉันไม่ใช่แฟนของม้าดีดกระโหลกกันน่ะ" มิวนิสหวดทวนเพลิงเข้าใส่ นิคเลยจ้วงไนท์แฟลชเบลดที่ "แกร็กๆๆๆๆๆ ครี้งงงงง เพล้งงง" กลายสภาพเป็นดาบน้ำแข็งต้านคมทวนเพลิงเอาไว้อย่างรวดเร็ว "แล้วแฟนนายเองละ ไม่คิดไปช่วยเลยหรือ" มิวนิสถามกลับไปบ้าง

              แต่นิคตอบกลับไปว่า "สงสัยว่าเราคงมีอะไรที่เหมือนกันแล้วละมั่ง" บ่งบอกว่าเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรีฟเลย แล้วก็ฟาดฟันใส่มิวนิสต่อ

              "นี้ตกลงเธอเก่งหรือว่าลูกฟลุ๊คกันแน่ละ" นาตาเช่กล่าวพร้อมกับใช้กงเล็บไฟฟ้าที่แขนทั้งสองข้างเข้าสู้กับรีฟ ซึ่งรีบโต้ตอบด้วยไลท์นิ่งเซเบอร์ที่ยืดยาวกันไว้

              รีฟบอก "ก็แค่แพทเทิร์นที่คุณใช้จู่โจมนั้น เหมือนที่ฉันเคยฝึกมากันนี้แหละ" เพราะว่าเธอเจอแคร์เรี่ยนจู่โจมด้วยการรั่วแทงทวินสแลชเชอร์มาก่อนแล้ว "แล้วคุณไม่เคยฝึกกับคนรู้จักกันบ้างเลยหรือ"

              "ฉันคิดไม้ตายและท่วงท่านี้ด้วยตัวเองกันแล้วน่ะ นั้นเป็นความภาคภูมิใจที่ฉันทำอะไรได้เองแล้วน่ะ" นาตาเช่บอก แล้วก็ "แชบบบบ" จ้วงแทงกงเล็บไฟฟ้าเข้าปะทะกับดาบไฟฟ้าของรีฟไว้

              "ไม่ใช่เพราะคุณขอให้คนรู้จักหรือใกล้ชิดสอน แต่เขาไม่สอนให้อย่างงั้นนะหรือ" รีฟกล่าว ซึ่งทำให้นาตาเช่ยั้วะจนใช้แขนซ้ายแทงกงเล็บใส่ แต่ "แคร้งงงง" เธอดันผ่อนแรงแขนขวาที่ใช้ปะทะดาบจนรีฟปัดนาตาเช่ให้ถอยออกไป

              "โครมมมมม ป้ากกก เปรี้ยงงงงงง ป้ากกกก โครมมมม ปั้กๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" คลอเวฟ จายด์ สเตฟอร์ด พวกไรแกทและพวกเทรอนเร็กซ์โต้ตอบจูลาสโต้ที่บุกมาเป็นแถวหน้า ในขณะที่ลาสแบรทนั้น "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ แชด แชดด แชดด แชดดด ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆๆ" โดนเนคมาดูซัม เนคกี้ เนคกัส มาสวาร์ทาร์ ไกซ์และเบติสระดมยิงทั้งกระสุน มิไซล์ ปืนลำแสงและกระสุนแช่แข็งให้ล้มกระจุยไป โดยที่วอร์บอทของบรูซาเรมและซอร์แรคอย่างอุลไซน์ไดซ์และโกแซคซอนจำนวนมากเคลื่อนตัวเข้ามา "บริซซาร์ดแอทแทค" จิลใช้พายุหิมะแช่แข็งอุลไซน์ไดซ์และโกแซคซอนอย่างรวดเร็ว ซึ่งพวกซอร์แรคโดนจนขยับตัวไม่ได้ เนื่องจากเป็นเผ่าเลื้อยคลานที่เป็นพวกสัตว์เลือดเย็น "ฟ้าววววว แชดด แชดดด แชดด แชดดด" เลยถูกสเปียริทและลิเนียร์ตี้ยิงเรย์แซทบลัสต์ช็อตกันและเรย์แซทแคนน่อนไลท์กันยิงถล่มทิ้งไปกันหมด

              "ส่งพวกเมคครอฟิคและซีรีสตรัลเดียวนี้เลย" นายกองเดลอาเนี่ยนสั่ง พร้อมกับส่งคริฟโทซัส คริฟเดลต้า คริฟซีคเกอร์ คริฟแทงค์ไปพร้อมกับบรอซทรูปเปอร์ทั้งแบบสองขาและรถถังออกไป

              "ยิงปืนช็อคเวฟแคนน่อนออกไปพร้อมกับโซนิคแคนน่อนเดียวนี้เลย" บัลโต้บอก

              "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆ" การ์เซนท์แบบฐานรถถังใช้ปืนใหญ่ช็อคเวฟแคนน่อนพร้อมกับแบบหกล้อใช้ปืนใหญ่คลื่นเสียงเข้า "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" พวกเมคครอฟิคโดนลำแสงช็อคเวฟเข้าไปจนทำให้ทุกหน่วยเป็นอัมพาต ในขณะที่พวกซีรีสตรัลถูกคลื่นเสียงโซนิคจนตัวแตกกระจุยไปกันหมด แต่ยังมีบางส่วนตีฝ่าเข้ามาโดยที่คริฟเดลต้าและคริฟซีคเกอร์นำบรอซทรูปเปอร์และคริฟโทซัสขึ้นไป และหย่อนลงมาหมายจะจัดการกับกองรบของบรูโน่ "ฟ้าววววว จึกกก ป้ากกกก ตรูมมม" เซนครีทรบประชิดตัวใช้เพคบัสเตอร์แทงใส่จนตัวแตกกระจุย ในขณะที่การ์เซนท์ไทป์จีใช้ดาบหลังแขนสับคริฟโทซัสขาดสะบั้น โดยที่บางตัวจู่โจมด้วยปืนแสง แต่เซนครีทแบบใช้โลห์คู่เข้าป้องกันลำแสงที่ยิงมา "ฟ้าวๆๆๆ กรี้กกกกกกก ตรูมๆๆ" แล้วก็ยิงกงจักรที่อยู่บนโลห์เข้ากรีดใส่คริฟโทซัสให้ขาดสะบั้นลง "กรี้กกกกก ป้ากกก" การ์เซนท์แบบออฟโรดใช้แขนสว่านกรวยใหญ่แทงใส่คริฟโทซัสพร้อมกับ "ป้ากกกก" ยิงคลัสเตอร์กันเข้าใส่ในระยะเผาขนจนเป่าคริฟโทซัสกระจุย "ชรี้ดดดดดดด กรี้กกกกก" แบบสี่ขาใช้กงจักรติดโซ่เข้ากรีดบรอซทรูปเปอร์ให้ตัวขาดพร้อมกับ "แชดดดดด ป้ากก ตรูมมม" ยิงซ้ำด้วยเรย์แซทไรเฟิ่ลแอลไทป์จนกระจุยไป

              "กองรบของเมคครอฟิคและซีรีสตรัลถูกเล่นงานยับเลยนะครับ" ทหารเดลอาเนี่ยนรายงาน

              นายกองบอก "ช่วยไม่ได้ ส่งอาวุธลับของพวกบรูซาเรมและซอร์แรคลงไปเลย อย่างน้อย ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องส่งหุ่นยักษ์ของพวกมันลงมาอยู่แล้วละ" 

              "ครืนๆๆๆๆๆๆๆๆ" แล้วอาวุธลับของพวกซอร์แรคและบรูซาเรมก็โผล่มา เป็นรถศึกขนาดใหญ่ที่เป็นตะกวดที่มีส่วนแขนเป็นตะกวดสองตัว หัวตะกวดขนาดใหญ่บนหน้าอกและฐานล่างก็มีตะกวดอีก 2 ตัว ตามด้วยรถบรรทุกหัวหมีที่มีหัวรถอยู่ข้างหน้าและมีล้อหลังขนาดใหญ่สองล้อ กับรถบรรทุกหัวสว่านคู่ที่มีหัวหมีติดฐานยิงมิไซล์ออกมา "โว้ว นี้พวกเดลอาเนี่ยนมันสร้างรถถังขนาดใหญ่กันเลยหรือวะ" บัลโต้บอก

              คลอเวฟกล่าว "มาส คิดว่าพวกเดลอาเนี่ยนลอกแปลนรถต่อสู้ที่ประกอบร่างเป็นหุ่นหรือเปล่าวะ"

              "ไม่รู้ แต่ที่รู้ในตอนนี้คือเราต้องเบรควอร์แมชชีนขนาดใหญ่นี้เสียก่อนน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว เพราะ "แชดๆๆๆๆๆๆ" รถถังตะกวดหกหัวระดมยิงปืนแสงจากปากเข้าใส่กองรบของบัลโต้อย่างหนักหน่วง "แกร็ก ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" รถบรรทุกล้อหลังโตเปิดป้อมยิงมิไซล์บนหลังรถบรรทุกและยิงมิไซล์ขึ้นสูงออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็พุ่งลงมา "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ถล่มใส่กองรบการ์เซนท์และเซนครีทพังไปไม่น้อย "ฟ้าวววว ฟ้าวววว" ส่วนรถหัวหมีติดสว่านนั้นยิงมิไซล์ลูกยาวตรงมายังยานแรคแทซ "แชดดดดดดด เปรี้ยะ" มิลด์และโฟรซ่ายิงทำลายมิไซล์ลูกยาวให้ระเบิดไป "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆ" ไทรแองเกิ้ลยิงตอปิโดเข้าใส่รถบรรทุกหัวหมี แต่ "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ส่วนฐานล้อหลังระดมยิงปืนแสงทำลายตอปิโดทิ้ง "ถ้าคิดจะทำลายอุลแลนเดอร์กับอุลแคลชเชอร์ละก็ ไม่มีทางกันหรอกน่ะ"

              "กองรบโรดแซคซอน สนับสนุนเรปแทงเกอร์เดียวนี้เลย" ทหารเดลอาเนี่ยนส่งวอร์แมชชีนตะกวดสี่ขาซึ่งติดล้อเอาไว้ออกมาจากประตูมิติเป็นจำนวนมาก ซึ่งพวกนั้นไม่เพียงยิงปืนแสงจากส่วนหางเข้าใส่พวกการ์เซนท์ติดฐานออฟโรดจนพังไป 15 เครื่องกันอย่างเดียว แต่ "ครืดดดดดดด" โรดแซคซอนขยับท่อนหน้าและหัวขึ้นมา แล้วก็เงยหัวอ้าป้าก "ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าวว" ยิงมิไซล์ออกไปเล่นงานพวกอาร์ซโทรนที่อยู่บนฟ้ากันอย่างหนักหน่วง

              "นั้นไม่ดีแล้วละ พวกเราคิดว่าพวกตะกวดมันยิงอาวุธไม่เป็นเสียอีกน่ะ" บัลโต้บอก

              "เกรงว่าพวกศัตรูคงพัฒนาอาวุธไว้ แต่ยังไม่ได้ใช้เพื่อไม่ให้พวกเราจับทางได้กันนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "คงต้องเล่นแรงกันสักหน่อยแล้วละ"

              "เอนเนอจี้คลัสเตอร์ ชู้ต" พีวิลซัดลูกบอลพลังงานขนาดใหญ่เข้าใส่เรปแทงเกอร์ จน "ป้ากกกก ตรูมมมมมม" ลูกพลังอัดเข้าตรงกลางไปเต็มๆจนระเบิดไป "โชลเดอร์มาโครลันเชอร์ สแปรดชู้ต" ไกซ์ระดมยิงกระสุนพลังหกลูกเข้าใส่อุลแลนเดอร์ที่วิ่งเข้ามา จนส่วนท้ายติดล้อหลังได้รับความเสียหายไปไม่น้อย ในขณะที่อุลแคลชเชอร์นั้น "ไทดัลแคนน่อน ยิง" โดนคลอเวฟยิงคลื่นพลังไฮโดรฟอสขนาดใหญ่เข้า "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงงงง" ซึ่งพลังไฮโดรฟอสได้ทำให้สว่านที่อยู่ด้านหน้านั้นเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งสามคันก็ยังแล่นเข้ามาโดยที่เรปแทงเกอร์เสียหัวตะกวดตรงกลางหน้าอกและที่แขนสองข้างไป อุลแลนเดอร์แล่นต่อโดยปราศจากส่วนล้อหลังไป "ฟ้าวๆๆๆๆ" อุลไซน์ไดซ์ โกแซคซอนและโรดแซคซอนเคลื่อนตัวพร้อมกับระดมโจมตีใส่ "แฟ้วๆๆๆๆๆๆๆ แชดดดด แชดดดด" การ์เซนท์ไทป์จีและเฮชระดมโจมตีใส่วอร์แมชชีนของบรูซาเรมและซอร์แรคให้ร่วงอย่างจังๆ "หึมๆๆๆๆ แชดดดด แชดดดด แชดดดดด" พวกฟาลครีด้าและเซนครีทติดลองค์พลาสม่าแคนน่อนถล่มใส่วอร์แมชชีนขนาดใหญ่ทั้งสามนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งสามก็ยังเคลื่อนตัวต่อไปได้อีก "ฟ้าวววววว ตรุ้งงงงง แชดดด แชดดด แชดดดด แชดดด แชดดด" สเตฟอร์ดใช้บัสเตอร์บาซูก้ายิงพร้อมกับการีสต้าแคนน่อนของจายด์เข้าใส่เรปแทงเกอร์ ในขณะที่แอบไบออส และสเปียริทยิงปืนแสงเข้าใส่อุลแลนเดอร์ ส่วนอุลแคลชเชอร์นั้นโดนแอนเดรีย มิลด์และจิลถล่มใส่จากระยะไกลก็ไม่เป็นผล

              "เตรียมตัวตายได้แล้ว" นักบินบรูซาเรมที่ควบคุมอุลแคลชเชอร์เตรียมบุกเข้าชนใส่พวกคลอเวฟที่อยู่แถวหน้า

              นักบินซอร์แรคบอก "จบเห่กันละ ไอ้พวกแมนิ...."

              "ฟ้าววววววว ป้ากกกกกกก ป้ากกกกกก" ไม่ทันไร เรปแทงเกอร์ก็ถูกปะทะจนส่วนหน้าอกทะลุและหัวตะกวดใหญ่กระจุยไป เช่นเดียวกับ "แชดดดดดด ป้ากกก บรึมมมม" อุลแลนเดอร์ถูกลำแสงยิงจากเบื้องบนจนระเบิด โดยที่อุลแคลชเชอร์ก็โดนแบบเดียวกันจนส่วนหัวรถแล่นไปสักพักก็ชะงักหยุดไปในทันที "ฟ้าวววววว ตรึง ตรึง" ซึ่งหมัดจรวดสองอันพุ่งกลับมายัง "มาช้าจังเลยวะ ไอ้เนิร์ด" แบร็อคโวยลั่นต่อฟูลออเรสที่นำอิชเชเตียนพาวเวิร์ดออกมาจากด้านหน้าของไทรแองเกิ้ล

              "ทำไงได้ละ ก็ฉันเสียเวลาในการเซตกล้องเพื่อฉายภาพการสู้รบเข้าไปในเมืองกันอยู่นะสิ" ฟูลออเรสบอก

              "ที่สำคัญ ฉันบินอยู่สูงจนระบบเรดาห์ตรวจสอบจากระยะไกลของพวกเดลอาเนี่ยนมานานจนมองดูความเคลื่อนไหวของพวกมันไว้ ถ้าคุณมาสวาร์ทาร์ไม่สั่งให้ช่วย ฉันก็ไม่ลงมากันหรอกน่ะ" เมดิน่ากล่าวโดยนำฟาร์โอเวี่ยนพาวเวิร์ดบินลงมากันด้วย

              เทรอนเร็กซ์บอก "ที่ว่าเซตกล้องนิ คงไม่ได้แค่ฉายแกเพียงคนเดียวละสิ"

              "ครูแค่ต้องการให้สายลับที่อยู่ในเวลเซน่ารู้ว่า พวกเราหลอกพวกเขาในเรื่องเอาเพรโทรแน็กซ์ไปซ่อนไว้ในเมืองกันนะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

              ชาร์เครฟบอก "ปานนี้สายลับนั้นคงจะเจ็บใจมากละสิที่เสียรู้แผนการของพวกครูกันไว้น่ะ"

              "อะไรเนี้ย!!!! นี้มันหมายความว่าไงกันน่ะ" นาตาเช่เห็นภาพอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนปรากฎบนจอโทรทัศน์ติดกับตึกสูงอยู่ใกล้กับเวลเซสแควร์ ก็อุทานขึ้นมา เช่นเดียวกับมิวนิส

              "หุ่นยักษ์อิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนอยู่ข้างนอกนะหรือ แต่พวกนายไม่ได้เอาหุ่นใส่ไว้ใต้เมืองนี้เลยหรือไงกันน่ะ" ที่ถามแบบเดียวกัน

              "นี้พวกคุณเชื่อหรือคะ ว่าพวกคุณเนคมาดูซัมจะทำอย่างที่พวกคุณได้ยินมาจริงๆกันนะคะ" รีฟกล่าว

              นิคบอก "แค่เชื่อคำพูดของพวกบีสทอยด์ที่พวกคุณได้ยินมากันนั้น บอกตรงๆนะ ว่าพวกคุณไม่ฉลาดเอาเสียเลยที่ไปเสียรู้กับคำพูดที่ผ่านการเตี้ยมไว้แล้วน่ะ" แล้วก็พูดย้ำไปอีกว่า "ที่สำคัญไปกว่านั้น เซอร์อิลดินและเซอร์ลาเวนเด้ก็ยืนยันให้พวกคุณได้ยินมานั้น ล้วนแล้วเป็นแผนของทางเรานี้แหละ"

              "คำพูดของพวกนายเองต่างหากละที่ไม่น่าเชื่อถือกันน่ะ" นาตาเช่บอก

              มิวนิสกล่าว "แต่พวกนายสองคนคาดผิดในเรื่องมาหยุดยั้งพวกเราไว้ เพราะในไม่ช้า พวกคุณสไปค์ก็ต้องมาช่วยแน่นอนน่ะ"

              "แต่นั้นก็ขึ้นกับว่าพวกเขาจะรอดไปได้เองหรือเปล่านะสิ" นิคบอก เพราะในเวลานี้ "ป้ากกกกก" แรมเบจพุ่งชกใส่ซีลเลเจี้ยนที่บุกเข้ามาจนล้ม "แกร้งงง แกร้งงงง ฉึกกก ป้ากกก" รอมมิชใช้ง้าวฟาดฟันใส่ซิลเลเจี้ยนที่ใช้ทวนยาวจนปัดทวนหลุดและแทงซ้ำเข้าที่ท้อง พร้อมกับถีบออกจากคมง้าวไป แลนไซท์ 4 ตนบุกมาพร้อมกับมาสเก็ตซิล 6 ตนรีบรุดเข้ามา "ป้ากกก เปรี้ยงงง โครมมมมม" บรอนเซอรูท ทินเหมาลี และเลอแชนกระโดดเข้าปะทะใส่ โดนบรอนเซอรูทใช้พลองสามท่อนหวดปัดกระบี่ของมาสเก็ตซิลตัวลูกน้องล้มไปสองตน แล้วก็หมุนตัวถีบใส่ตัวหัวหน้าให้ล้ม ทินเหมาลีหวดง้าวทำลายทวนของแลนไซท์ขาดไป 3 อันแล้วก็ฟันใส่ตัวที่สี่ซึ่งบุกเข้ามาจนปลิวด้วยออร่านกเพลิงอัดกับต้นไม้ เลอแชนเข้าจัดการกับมาสเก็ตซิลที่เหลือด้วยใบมีดหลังแขนทิ้ง โดยฟันปัดแอคเซลเบลดของตัวหัวหน้าขาดสะบั้นลง "ฟึ่บๆๆๆๆ ป้ากกก ป้ากกก ป้ากกก" บาร์ทใช้วิชาตัวเบาถีบใส่ซิลเลเจี้ยนให้ล้มกลิ้ง พร้อมกับโดดลงมาใช้กระบี่คู่ "เชร้งง เชร้งงง เชร้งงง" ปัดการฟาดฟันกระบี่ของมาสเก็ตซิลอีก 4 ตนแล้วก็ "ฉึกๆๆๆๆๆ" กระหน่ำแทงจนเกราะมีรูทะลุหลายรูด้วยกัน เซาท์เวสเลยชักดาบเข้าสู้กับบาร์ทอย่างรวดเร็ว แต่ "เชร้งๆๆๆๆ เคร้งงงงง" บาร์ทใช้กระบี่คู่ฟาดฟันปัดดาบของเซาท์เวสท์จนกระเด็งไปในกระบวนที่ 5 ด้วยกัน แต่.... "ฟ้าวววว ป้ากกกก" ฮีธกระโดดถีบใส่บาร์ทไปเต็มๆ พร้อมกับ "ฟ้าววว ป้ากก ป้ากก ป้าก ป้าก ป้าก" รีกัลพุ่งจู่โจมใส่รอมมิชและแรมเบจเข้าช่วยพวกทรอยอาร์ที่ล้มลงไป "ฮึยยย" สไปค์กระโดดถีบใส่บรอนเซอรูทและเลอแชนจนล้มไป

              "ลูกพี่สไปค์ นึกว่าพี่จะโดนจับได้เสียอีกน่ะ" เซาท์เวสท์บอก

              "ฉันไม่มีทางยอมให้ใครจับได้กันหรอกน่ะ" สไปค์กล่าว

              เลอแชนบอก "อย่าได้แม้แต่จะคิดหนีกันน่ะ พวก เพราะอีกไม่ช้า ทหารของนายพลเพอซิอัสจะมาถึงแล้ว"

              "ต่อให้มาถึง ก็จับพวกเราไม่ได้หรอก" สไปค์บอก แล้วก็ดีดนิ้ว พร้อมกับเดินถอยออกมา เพราะยานสอดแนมที่จอดอยู่นั้น "แกร็กๆๆๆๆ" เปิดเอาป้อมปืน 4 ลำกล้องจากจมูกยานออกมา "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ระดมยิงกระสุนแสงเข้าใส่พวกบรอนเซอรูทจนต้องรีบถอยออกมาโดยเร็ว ฮีธเลยรีบเอาปืนยาวคาเทริฟมาสเก็ตมาไล่ยิง แต่สไปค์รีบยื่นแขนออกด้านข้างมาขวางหน้าฮีธไว้

              "จะขวางทำไมกันวะ สไปค์" ฮีธถาม

              สไปค์บอก "เราแค่ไล่พวกสหายของพวกเนคเกอร์ไว้ แต่ทหารของนายพลเพอซิอัสยังอยู่ ดังนั้น เราต้องรีบถอนตัวออกไปกันเสียก่อนน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะ นาตาเช่และมิวนิสยังอยู่ในวงล้อมของพวกไทรเวเซอร์ละสิครับ ลูกพี่" รีกัลบอก

              สไปค์พยักหน้า และสั่งการให้ "ทุกคน รีบพาคนเจ็บขึ้นยานเดียวนี้เลย และให้ใครที่ยังไม่เจ็บตัวมาช่วยกันรีบระดมยิงไล่พวกทหารโดยเร็ว ฮีธ เซาท์เวส ขึ้นไปสตาร์ทยาน พอเราขนคนเจ็บขึ้นยานหมด เราจะออกจากที่นี้โดยเร็วเลย"

              "เข้าใจแล้วละครับ ลูกพี่" เซาท์เวสรับคำสั่งและรีบวิ่งไปกับฮีธเพื่อขึ้นยานโดยเร็ว ซิลเลเจี้ยนรีบโยนคาเทริฟมาสเก็ตให้สไปค์เอามาช่วยรีกัลยิงไล่พวกทหารของเพอซิอัสที่ตามมาสมทบพอดี

              "บ้าชะมัด เนคเกอร์และฟิเกซอทไม่น่าหาเรื่องกันเสียเลย" สไปค์สบถพร้อมกับเหนี่ยวไกยิงใส่โดยเร็ว

              ส่วนพวกสเตรดาร์ธนั้น.... "พวกเธอเกือบไม่รอดกันแล้วน่ะ" ซินแบทกล่าว โดยพวกนักรบที่อยู่บนเรือเข้าคุ้มกันพวกอับดุลลอยด์ขึ้นเรือมาครบแล้ว

              อับดุลลอยด์บอก "แต่ไม่คิดเลยว่าพวกสหพันธมิตรจะวางแผนเล่นงานพวกเรากันแบบนี้เลยน่ะ"

              "ไม่แปลกหรอก เพราะฉันเริ่มรู้สึกได้ว่า พวกทหารที่ประจำการมันเบาบางลงจนคิดว่ากองทัพที่ประจำการด้วยคงมีปัญหา ซึ่งมันง่ายเกินไปที่พวกนั้นจะหละหลวม หากไม่เพราะว่าพวกนั้นมันจงใจทำอย่างงั้นจริงๆ" ซินแบทบอก "และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะฉันเจอคนงานในท่าเรือคนหนึ่งเดินไปบอกกับคนที่หน้าตาไม่คุ้น ซึ่งพวกนี้เอาวิทยุออกมา บ่งบอกได้ว่า พวกกองกำลังประจำการในเมืองนี้ มันไม่ได้หละหลวม แต่พวกนั้นปลอมตัวเป็นพลเมือง แฝงตัวเข้ามาเพื่อหลอกพวกเราให้ตายใจกันนะสิ"

              กฤษณาบอก "และ....ฉันเห็นแม่ค้าคนหนึ่งที่อยู่นอกร้านอันเป็นจุดรวมพลของพวกนายสามคนติดต่อแบบเดียวกันกับท่านซินแบท เลยรู้ว่า พวกนายต้องถูกจับได้กันแน่นอน ฉันเลยรีบพาเพื่อนๆมาช่วยพวกนายที่กำลังโดนฝ่ายตรงข้ามหกคนเล่นงานเข้าให้น่ะ"

              "งั้น ไอ้พวกหมวกแดงมันรู้มาแต่แรกแล้วสิ ว่าพวกเราแฝงตัวเข้ามาในเมืองกันน่ะ ถึงว่าสิ ว่าทำไมเมื่อเช้ายังหาพวกมันไม่เจอเลยน่ะ" คมกริชบอก

              โมฮัมมัคบอก "พวกมันไม่เพียงร่วมในแผนนี้ไม่ว่า มันยังเรียกเพื่อนอีกสามคนมาเล่นงานพวกเราเพื่อถ่วงเวลาให้พวกมันแห่มาแบบนี้ เจอเมื่อไหร่จะเล่นให้เจ็บไปข้างหนึ่งเลยน่า"

              "แต่ตอนนี้เราต้องหนีออกจากดาวดวงนี้กันแล้วละ" ซินแบทบอก แล้วก็กดปุ่ม "ปี้บๆๆๆ" เพื่อให้กราบซ้ายของเรือเปิดเอา "อี้ดด แกร็กๆๆๆ" ป้อมมิไซล์ 16 ช่องจำนวน 5 ป้อมออกมา โดยที่พวกนักรบสเตรดาร์ธที่เข้าคุ้มกัน รีบกระโดดขึ้นเรือโดยเร็ว ซึ่งพวกทหารกับพวกเซเทธรีบรุดลงมา "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" รีบวิ่งหลบมิไซล์ขนาดเล็กที่ยิงใส่ท่าเรือจนวินาศสันตะโรไปอย่างจังๆ พร้อมกับ "ขอตัวกลับก่อนละ" ซินแบททุบปุ่มสีเขียวเข้า ซึ่งก็ "วึงๆๆๆๆๆๆๆ แฟ้วววววว" เรือเรืองแสงขึ้นมาพร้อมกับพุ่งทะลวงหายไปจากท่าเรือภายในชั่วพริบตา....

              "บ้าชะมัดเลย พวกมันเล่นหนีไปแบบนี้เลยหรือวะ" น็อกกี้สบถ

              "แสดงว่าพวกสเตรดาร์ธเตรียมการไว้ในกรณีที่พวกเราหรือกองทัพเรือไล่ล่าและต้อนให้จนมุมกันแน่ๆละ" โมคุโตะบอก

              โดซี่กล่าว "แต่ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะเทเลพอร์ตหนีออกไปกันเสียได้น่ะ....ให้ตายสิ...."

              "นี้กริมเบอรี่น่ะ ตอนนี้พวกพี่ใหญ่กำลังไล่ต้อนพวกทรอยอาร์กันอยู่ และต้องการให้พวกพี่มาช่วยโดยด่วนนะคะ" กริมเบอรี่ติดต่อมา

              เซเทธบอก "ได้ เพราะว่าพวกสเตรดาร์ธมันลอยนวลไปแล้วนะสิ"

              "ผมเห็นแล้วละครับ และนั้นเป็นเรื่องที่เหนือคาดมากๆเลย ที่พวกสเตรดาร์ธเล่นแบบนี้กันน่ะ" ริบอยกล่าว

              เพอซิอัสบอก "ตอนนี้พวกเธอรีบไปช่วยพวกบรอนเซอรูทไล่ต้อนพวกสไปค์กันโดยเร็วเถอะ"

              ตัดมาฝั่งเวลเซน่ากันบ้าง โดยในเวลานี้....

              "ฉั้วะ ฉั้วะ ฉับบบ" ลิเนียร์ตี้และไซโคลเนียเข้าฟาดฟันใส่ว็อกซิคด้วยเบลดเพคบัสเตอร์และสกายไฮซ์ซอร์ดจนขาดสะบั้นลง "ชรี้ดดดดด ป้ากกกก" อเมซอเนลเจอแลคที่ป้องกันด้วยโลห์กลับต้านทวินเจ็ทดริลของวิลด้าไม่อยู่ จนโลห์ถูกเจาะทะลุถึงตัวไปในทันที พร้อมกับบินเข้าต่อกรกับอเมซอเนลมัคไซท์ "แชดดดด แชดดดด แชดดดดด" สเปียริทใช้เรย์แซทแคนน่อนไลท์กันยิงเข้าใส่อเมซอเนลแดเนค 4 ตัวให้ส่วนหน้าอกทะลุไป แต่บางส่วนแห่มาใช้ทวนแสงเข้าแทงใส่ "แชบบบบ แชบบบ แชบบบ" สเปียริทโต้ตอบด้วยพรีม่าร็อดโดยเร็ว โดยที่พีวิลบุกเข้ามา "หวืมมมมม ป้ากก ป้ากกก" ใช้อีเนลเซี่ยมร็อดสู้กับดาบแสงของว็อคซิค 2 ตัวจนกระจุย "ฉั้วะ ฉับ เชร้งงง ฉั้วะ" มาสวาร์ทาร์ใช้วาทรัลคาลิเบอร์ฟาดฟันใส่ว็อคซิคให้ขาดสะบั้นลง โดยพวกเฟลาเลี่ยมมากับพวกเดลอาเนี่ยนจำนวนหนึ่ง "ฉั้วะ ฉับบบ ฉึกกก ปังๆๆๆๆๆ ตรูมมม" ฟรอนารีนโดนไกซ์ใช้โซลิดเบลดฟาดฟันฟรอนารีนพังไปสองตัว ตัวที่สามถูกแทงและกราดยิงวัลแคนอาร์มในระยะเผาขนจนระเบิดไป โดยที่เฮเรเค้นกับเทรอนเร็กซ์เข้ามาช่วยยำพวกฟรอนารีนไปด้วย "หวับบบบบ ฉึกกกก เปรี้ยะๆๆๆๆ" มิลด์เจอว็อคซิคบุกมาในระยะประชิด เธอจึงหลบและแทงด้วยอาร์มิคไนฟ์แล้วช็อตใส่ให้หุ่นลัดวงจร พร้อมกับ "แชดดดดด" ยิงมาสแตงค์ไรเฟิ่ลเป่าในระยะเผาขนให้กระจุย "ป้ากกกกก ป้ากกก ป้ากกกก" เนคมาดูซัมชกฟรอนารีนและว็อกซิคที่บุกเข้ามาจนกระจุยด้วยไมท์ตี้โบลท์นัคเคิ้ลทั้งสองด้าน

              เดลก้าซอร์ท 6 ตัวบุกเข้าจู่โจมอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนด้วยดาบยาวพลังอนุภาค "แชบบบบบ แชบบบบบ แคร้งงงง แชบบบบบ หวับบบ เคร้งงงง" ฟูลออเรสใช้ปริซึมเบลดสองเล่มฟาดปัดป้องดาบ ในขณะที่เมดิน่าใช้ปริซึมฮัลบาร์ดเหวี่ยงดาบของเดลก้าซอร์ทกระเด็นพร้อมกับฟันขาดสะพายแล่งกระจุยไป "ซูมมมมม เคร้งงงง หวับบบ ฉั้วะๆ" ฟูลออเรสที่ถูกเดลก้าซอร์ทกดด้วยดาบ ฮึดสู้ด้วยการเร่งเครื่องจนปัดดาบเดลก้าซอร์ทกระเด็น แล้วก็ตัดหัวหุ่นสองตัวขาดออกจากกัน "หนอยยยย เดลก้าบีม" ทหารเดลอาเนี่ยนยิงลำแสงจากส่วนหน้าอก "อิชเชเตียนบีมมมมมม" ฟูลออเรสสวนกลับด้วยลำแสงจากหน้าผากเข้าปะทะและต้านลำแสงให้ย้อนกลับไป "ป้ากกก ตรูมมมม" จนทะลุอกของเดลก้าซอร์ทตัวที่สามให้ระเบิดไป "แชดดด แชดดดด" เดลก้าซอร์ท 2 ตัวยิงลำแสงเข้าใส่เมดิน่า ซึ่งเธอรีบตั้งป้องกันด้วย "ปริซึมโปรเทคชั่นวอล" โดยเร็ว แล้วก็สวนกลับด้วย "ปริซึมสไลเซอร์" การซัดบูมเมอแรงใบมีดสองอันพุ่งเข้า "ฉั้วะๆๆๆ ตรูมมม" ตัดหัวและลำตัวของเดลก้าซอร์ททั้งสองจนขาดสะบั้นและระเบิดไป

              "ขนาดกองรบเฟลาเลี่ยมคนละกองกับของแม่ทัพเดอาร์ยังหยุดไม่อยู่เลยหรือเนี้ย" ทหารเดลอาเนี่ยนกล่าว

              นายกองบอก "แจ้งให้พวกเมคครอฟิคและซีรีสตรัลส่งซุปเปอร์วอร์บอทออกมาเดียวนี้เลย"

              "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" บรอซซอร์ทและซุปเปอร์วอร์บอทของซีรีสตรัลเคลื่อนตัวออกมา โดยเป็นหุ่นที่ผสมกันระหว่างจักรกล หิน และผลึกด้วยกัน ซึ่งก็บินมาถึง 8 ตัว ในขณะที่บรอซซอร์ทมาเพียง 10 ตัวด้วยกัน "พวกมันส่งหุ่นติดผลึกล้อเลียนฝั่งพวกเรากันแล้วละ" บัลโต้บอก ซีรีสตรัลที่ควบคุมร่างขนาดใหญ่เท่าซุปเปอร์วอร์บอทกล่าว

              "พวกแกบีบให้เราใช้คริฟไฟแทน สุดยอดร่างอันแข็งแกร่งและไร้เทียมทานนี้มาสู้กันไว้เลยน่ะ" แล้วก็ "แกร็กๆๆๆๆ ครี้งงง" ตกผลึกขึ้นที่มือจนกลายเป็นดาบผลึกเล่มยาวเข้า "แคร้งงงง แคร้งงงง" สู้กับอิชเชเตียนที่ใช้ดาบปริซึมเบลดทั้งสองเล่ม โดยบุกมาทีเดียวสองตัวด้วยกัน "ฟ้าวววว แคร้งงงงง" ตัวที่สามบุกเข้าฟาดแขนดาบเข้าใส่ฟาร์โอเวี่ยนซึ่งใช้ง้าวต้านรับไว้ "อ้า....." แต่ก็ต้านแรงไม่อยู่จนเมดิน่าและฟาร์โอเวี่ยนถูกปัดกระเด็นไป

              "พลังของพวกนั้น แรงกว่าที่คิดไว้น่ะ" เมดิน่ากล่าว โดยตอนนี้คริฟไฟแทนระดมยิงลำแสงจากปลายนิ้วแหลมเข้าใส่ฟาร์โอเวี่ยนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ "แกร็กๆๆๆ ฟ้าวววว" คริฟไฟแทนตกผลึกขึ้นที่กำปั้นพร้อมกับยิงหมัดผลึกขนาดใหญ่เข้าใส่ "ป้ากกกกก" ซึ่งก็อัดอิชเชเตียนจนหมัดผลึกแตกกระจุยเป็นเศษเล็กเศษน้อยอย่างจังๆ

              "นี้พวกแก เลียนแบบซัดเด้นนัคเคิ้ลเลยหรือเนี้ย" ฟูลออเรสกล่าว

              "นั้นไม่ดีแล้วละ ฟูลออเรส เมดิน่า การโจมตีเมื่อกี้นี้ทำให้อิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนเสียหายไป 40 เปอร์เซนต์แล้วละ" แอนเดรียบอก

              บัลโต้กล่าว "นั้นแปลว่าพวกมันคิดจะจัดการกับอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนกันแต่แรกละสิ"

              "เออ แย่แล้วละคะ ซุปเปอร์วอร์บอทของพวกเมคครอฟิคตรงมาทางเราแล้วคะ" เอเลียเน่กล่าว

              บัลโต้จึงสั่งให้ "โต้ตอบด้วยขีปนาวุธไอเอ็มพีเดียวนี้เลย" ยิงจรวดไอเอ็มพีเข้าใส่ แต่ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" บรอซซอร์ทระดมยิงปืนกลลำแสงเข้าถล่มจรวดไอเอมพีจนระเบิดไปกันหมด

              "ดูท่าว่า พวกมันจะโต้ตอบการช็อตให้ลัดวงจรกันเสียแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก

              นักรบซีรีสตรัลกล่าว "ต่อให้เจ้ามีหุ่นติดผลึกอันทรงพลังอยู่ แต่มีแค่สองตัวเช่นนี้ พวกเจ้าไม่มีทางทำอะไรพวกเรากันหรอก" แล้วก็ "เอานี้ไปเลย คริฟมิไซล์" ยิงจรวดผลึกออกจากส่วนท้องไปอย่างรวดเร็ว โดยพุ่งเข้าใส่ยานไทรแองเกิ้ลอย่างรวดเร็ว

              "บ้าชะมัด พวกมันกะจะจมไทรแองเกิ้ลกันแล้ววะ" คลอเวฟบอก

              เบติสบอก "ฟูลออเรส เมดิน่า รีบหยุดมิไซล์...." แต่คริฟไฟแทนเข้ามา "ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว" ขวางและสกัดกั้นอิชเชเตียนพาวเวิร์ดและฟาร์โอเวี่ยนพาวเวิร์ดกันไว้ จนมิไซล์ผลึกพุ่งเข้ามายังยานไทรแองเกิ้ล

              "บริคซ์ รีบหลบเร็วเข้าสิวะ" คลอเวฟกล่าว

              "พยายามอยู่ แต่มิไซล์มันมาเร็วเกินไป จนไม่สามารถกางบาเรียได้เลยน่ะ" บริคซ์กล่าว

              แอมเบอร์ที่ตื่นตระหนกตกใจกันนั้นก็ "แวบบบบ" เรืองแสงขึ้นพร้อมกับ "ครืดดด แกร็กๆๆๆ" เปลี่ยนปืนสแควร์เวฟแคนน่อนให้เป็นปืนกระบอกหนาสี่กระบอกขึ้นมา "ตรุ้งงงง ตรุ้งงง ตรุ้งงง ตรุ้งงงง ตรุ้งงงง" โดยยิงออกจากกระบอกบนซ้ายตามเข็มนาฬิกาก่อนจะยิงพร้อมกันทีเดียวสี่กระบอกจน "เพล้ง เพล้ง เพล้ง เพล้ง เพล้ง เพล้ง เพล้ง" คริฟมิไซล์ที่ยิงเข้าใส่ไปนั้น แตกกระจุยเป็นเศษเล็กเศษน้อยในทันที

              "ตะกี้นี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันละเนี้ย" บัลโต้อุทานขึ้นมาอย่างตกใจไม่น้อย

              "แอมเบอร์ ว่าแต่ เธอทำอะไรกับไทรแองเกิ้ลกันละ" ลิเนียร์ตี้ติดต่อไปหาแอมเบอร์ ซึ่งตอบไปว่า

              "ฉันแค่ รีบหาทางหยุดยั้งมิไซล์ผลึกนี้ไว้โดยเร็วนะคะ ซึ่ง ดูเหมือนว่าฉันคงจะเปลี่ยนเวฟแคนน่อนเป็นอย่างอื่นแล้วคะ"

              "เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นนิ เปลี่ยนเป็นปืนอะไรกันละ" โฟรซ่าถาม

              บริคซ์เช็คดูจากมอนิเตอร์ก็พบว่า "แอมเบอร์เปลี่ยนปืนใหญ่สี่กระบอกด้านหน้าเป็น โซนิคแคนน่อนกันแล้วละ โดยที่ตัวปืนนั้นแปรสภาพเอาไว้เพียง 3 นาทีเท่านั้นน่ะ" 

              "ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ฉันจะทำอย่างงั้นได้นะคะ" แอมเบอร์กล่าวโดยที่เธอไม่รู้ว่าเธอทำแบบนี้ได้

              เนคมาดูซัมบอก "แต่ดูเหมือนว่าพวกเดลอาเนี่ยนจะเริ่มชะงักขึ้นกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ฟูลออเรส เมดิน่า รีบลงมือโดยเร็วเลย"

              "เข้าใจแล้วละครับ" ฟูลออเรสกล่าวพร้อมกับ "ดับเบิ้ลซัดเด้นนัคเคิ้ล" ซัดหมัดจรวดความเร็วสูงพุ่งเข้า "ป้ากกกก เปรี้ยงงง" ชกทะลวงใส่หัวคริฟไฟแทนจนกระจุยไปสองหัวอย่างจังๆ "ดับเบิ้ลปริซัมสไลเซอร์" เมดิน่าซัดบูมเมอแรงใบมีดกรีดคริฟไฟแทนเข้า "หวับๆๆๆๆๆๆ แกร้งๆๆๆๆๆ" ปะทะใส่คริฟไฟแทนสองตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็กรีดตามตัวคริฟไฟแทนให้เป็นรอยร้าว แม้คริฟไฟแทนพยายามจะใช้ดาบฟันใส่ แต่ "กรี้กกกกกกกก ฉั้วะ ฉับ" บูมเมอแรงหมุนกลับมากรีดตรงคออย่างต่อเนื่องจนสับหัวคริฟไฟแทนขาดสองหัวในทันที อีกสี่ตัวสาดลำแสงจากส่วนหน้าอกเข้าใส่ "อิชเชเตียนบลัสเตอร์" ฟูลออเรสสาดลำแสงจากหน้าอกเข้าต้านใส่ "ปั้กๆๆๆๆๆๆ ครืนนนนนน เปรี้ยง ตูมๆๆๆๆ บรึมมมม" จนเข้าบดขยี้คริฟไฟแทนกระจุยไปสองตัว ส่วนเมดิน่านั้น "แว้งงงง เปร้งๆๆๆๆๆ" เธอสร้างปริซึมโปรเทควอลสะท้อนลำแสงที่คริฟไฟแทนสาดเข้าใส่ให้กระจายเป็นลำแสงหลายเส้นพุ่งมา "ฟ้าววว ป้ากๆๆๆๆๆๆ" อัดใส่บรอซซอร์ทที่กำลังบุกเข้าใส่พวกไทรเวเซอร์จนล้มกลิ้งไปในทันที แล้วก็ "สเปคตรัมแฟลช" สาดลำแสงกระจายเข้าใส่คริฟไฟแทน ซึ่งเข้าปะทะใส่ตรงส่วนที่เป็นจักรกลจนพังกระจุยไป พวกบรอซซอร์ทที่โดนเล่นงานก็ซ่อมแซมตนเองและบุกเข้าใส่ต่อ

              "ซูมมมมมมมมมม ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆ" เบติสกราดยิงเมลเบิร์นทอชเชอร์และฟรีซเวฟลันเชอร์แผดเผาและแช่แข็งใส่บรอซซอร์ทที่นำหน้ามา 3 ตัวให้เสียหายขึ้นมา อีก 4 ตัวบุกเข้าใส่ด้วยการทะยานขึ้นสูง แต่.... "แชดดดดด ป้ากกกกก ตรูมมมม" ตัวแรกถูกไซโคลเนียยิงเทมเพสต้าบัสเตอร์ไรเฟิ่ลเป่าทะลุแขนขวาให้กระจุยไป ต่อด้วย "ฟิ้วๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆ พรึ่บบบบบ ตรูมมม" โดนฟลาแน็กซ์ซัดมีดสั้นระเบิดเพลิงแผดเผาตรงคอจนระเบิดไป ตัวที่สองนั้นถูก "แคร้งๆๆๆๆๆ" อิคกรีทบินโฉบเฉียวและจู่โจมด้วยใบมีดปีกนางแอ่นที่แขน ตามด้วย "ฟ้าววว กรี้กกกกกกกก" สวอนน่าทิ้มทวินเจ็ทดริลที่ขาแทงใส่หลังคอบรอซซอร์ท จนมันหันมาเพื่อใช้ดาบแสงฟันใส่ "เมเทโอสไตร์คเกอร์" วิลด้าพุ่งเข้าโดยยื่นสว่านและหัวเข่าไปข้างหน้า "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ" จู่โจมใส่บรอซซอร์ทอย่างต่อเนื่องพร้อมกับมาอยู่ตรงหน้าและ "แชดดดดด ป้ากกกก" ยิงสครูว์อิมพัลส์ไรเฟิ่ลเจาะร่างบรอซซอร์ททะลุสองรูและระเบิดแหลกเป็นจุลไป โดยที่วิลด้ารีบบินหนีออกไปโดยเร็ว ตัวที่สามนั้น "ฟ้าวๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆๆ" โดนจิลใช้ไคท์บัสเตอร์ระดมยิงใส่ไม่ยั้ง เปิดช่องให้ "ฉั้วะ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ลิเนียร์ตี้พุ่งเข้าจู่โจมด้วยการฟาดฟันเบลดเพคบัสเตอร์เข้าใส่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับ "แชดดด แชดดด" ใช้เรย์แซทบลัสต์ช้อตกันยิงใส่ แม้มันจะบุกเข้าใส่เพื่อจัดการกับลิเนียร์ตี้ "ฟิ้วๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆ" เนคกี้และเนคกัสยิงมิไซล์เข้าสกัดกั้นไว้ จนเปิดช่องให้ "ไมท์ตี้โบลท์นัคเคิ้ล" เนคมาดูซัมพุ่งเข้ามา "เปรี้ยงงงง ตรูมมม" ชกเข้าที่หน้าอกของบรอซซอร์ทจนเป่าส่วนหลังระเบิด แล้วก็ร่วงลงมากองกับพื้น ตัวที่สี่นั้น "เปรี้ยะๆ แชดดด แชดดด แชดดดด" โฟรซ่า แอนเดรีย มิลด์และสเปียริทระดมยิงจากระยะไกลอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็บุกเข้าใส่พร้อมกับซ่อมแซมตนเองไป โดยเตรียมแขนดาบเพื่อแทงใส่มิลด์ "แว้งงงง แกร้งงงง" แอนเดรียใช้โปรเทคต้าไคท์สร้างกำแพงพลังงานต้านคมดาบไว้  "เสร็จพวกเราล่ะ" สเปียริทบอกโดยเตรียมเรย์แซทแคนน่อนเลฟกันมาจ่อพร้อมกับ มาสแตงค์ไรเฟิ่ลติดรีพัลเซอร์ชิลด์ตรงปากกระบอกปืน และเมย์ไนซ์บัสเตอร์ไรเฟิ่ลเข้า "แชดดดดดดดดด แชบบบบ แชดดดดดด เปรี้ยะๆๆ" ยิงจ่อเผาขนให้หุ่นกระจุยไป สามตัวแรกที่ถูกแช่แข็งนั้นก็กระเทาะน้ำแข็งที่เกาะตัวออก "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว ป้ากก ป้ากก ป้ากกก" พวกไรแกทยิงบูสเตอร์ฟิสท์ชกเข้าใส่จนเกราะแตกร้าวอย่างจังๆ "ฉั้วะ ป้ากกกก ฉับ" พาแรมใช้ใบมีดหลังแขนฟันตัดขาซ้ายที่เสียหายให้ขาดไป พาลกีสหวดหมัดติดหนามจนชกขาขวาให้กระจุย แม้มันจะหวดแขนฟันใส่ก็โดนเทรอนเร็กซ์ใช้ขวานฟันแขนขวาขาดสะบั้นลง "บรูทรัลฟิสท์" สเตฟอร์ดกระหน่ำต่อยใส่บรอซซอร์ทที่เสียหายอย่างต่อเนื่องแล้วก็ถอยออกมา "ตรุ้งงงง บรึมมม" ยิงเข้าที่หัวด้วยบัสเตอร์บาซูก้าจนระเบิดไป ตัวที่สองนั้น "ฟ้าว แกร็กก" โดนแฮมชัคยิงกระสุนแช่แข็งเข้าที่หน้า "เพี้ยะๆๆๆ เพี้ยะ" และโดนชาร์เครฟและเวลลิทหวดแส้ใส่ไม่ยั้งจนทำให้มันสับสนจับทางไม่ถูก "เอานี้ไปกินซะสิ" คลอเวฟซัดออคตาแกรมแฮมเมอร์เข้า "เปรี้ยงงงงง" บดขยี้ส่วนหัวจนบุบไปเต็มๆ ตัวที่สามเจอกับไลเอิร์ท ดิเรนท์และวูลเฟลล่าพุ่งเข้าข่วนใส่ส่วนขาอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ยังวิ่งต่อไปได้อีก "ตรุ้งๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" ไกซ์ระดมยิงโชลเดอร์มาโครลันเชอร์อัดใส่บรอซซอร์ทจนหัวไหล่ ขา ต้นขา แขน มือ หน้าอกโดนยิงจนเสียหายไป แล้วก็ "แวบบบบบ" อัดพลังฉาบคมดาบโซลิดเบลดสองเล่มเข้า "หวับบบ ฉั้วะ" ฟันใส่บรอซซอร์ทจนตัดหัวและท้องขาดสะบั้นไปในทันที

              "เหลืออีกสามตัวแล้วละ" บัลโต้บอก

              "แชดดด แชดดด แชดดด" จายด์ระดมยิงการีสต้าแคนน่อนเข้าใส่บรอซซอร์ทอีกสามตัวให้เสียหายไป "ฟ้าววววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ" แอบไบออสพาพวกเฮเรเค้นเข้าระดมโจมตีใส่ด้วยอาวุธดาบใส่บรอซซอร์ทตัวแรกที่ตามหลังมาอย่างหนักหน่วง โดยปิดซิงด้วย "ฉึกกก แกร็กๆๆๆๆ กร็วมมมม" การแทงกิซซาร์ดเรซเซอร์และแปรสภาพเป็นเรลลันเชอร์ "แชดดดดดดดด" ยิงใส่ท่อนบนทีเดียวสองข้างจนเป่าส่วนหัวกระจุยไป ตัวที่สองนั้น "ฟ้าวว จึกกก ป้ากกกก" โดนบีทเทมพุ่งจู่โจมด้วยเพคบัสเตอร์ที่หลังขาจนเป่าแขนซ้ายให้เป็นรู "ฟิ้วๆๆๆๆๆ แว้งๆๆๆๆๆ" บัลตาฟรียิงกระสุนหิ้งห้อยเข้าเป่าระเบิดแสงใส่บรอซซอร์ทจนชะงักงันและ "ฉั้วะ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" มัลแด็กซ์บุกไปพร้อมกับมาสวาร์ทาร์เข้าฟาดฟันใส่บรอซซอร์ทอย่างรวดเร็ว แม้มันพยายามจะยิงลำแสงจากดวงตา "แชดดดดด ป้ากกก" มาสวาร์ทาร์มือไวกว่าโดยยิงครอสเซี่ยมไรเฟิ่ลเจาะส่วนหัวเมคครอฟิคให้ระเบิดไป ตัวที่สามนั้น "ฟ้าวววว เปรี้ยงงง ตรูมมมม" พีวิลซัดเอนเนลซอนคลัสเตอร์พุ่งเข้าไปบดขยี้แขนซ้ายให้กระจุย เพื่อให้

              "ขอเอาคืนสักทีแล้วกันน่ะ ไอ้พวกเมคครอฟิคเอ้ย ไฟร์เยอร์ธันเดอร์คิกกกกก" เจเนลพุ่งเข้าถีบด้วยลูกถีบเพลิงสายฟ้าพิฆาต "ฟ้าวววว ป้ากกกกก" ซึ่งก็ถีบจนบรอซซอร์ททะลุตัว แล้วล้มลงมา "โครมมมม ตรูมมมม บรึมมมม" ระเบิดในทันทีที่ล้มคว้ำกับพื้นไป

              "กองรบที่พวกเราส่งไปนั้น ไม่เหลือแล้วละครับ" ทหารเดลอาเนี่ยนกล่าว

              "หนอยยยย งั้นก็รีบส่งกองยานออกมาโดย...." นายกองกล่าว

              แต่ปลายสายแจ้งมาว่า.... "ยุทธการของพวกเราในคราวนี้ ล้มเหลวแล้วละ สั่งการให้ล่าถอยกลับไปเดียวนี้เลย"

              "ท่านบูเรนนอฟ แต่พวกเรายังมีโอกาสชนะกันอยู่นะครับ" นายกองแย้ง

              บูเรนนอฟแจ้งย้ำอีกว่า "กองรบที่พันธมิตรส่งไปพร้อมกับวอร์แมชชีนและซุปเปอร์วอร์บอทรุ่นใหม่นั้น ไม่สามารถจู่โจมเมืองแห่งการวิจัยของพวกแมนิเกเตอร์ได้ แถมยังสูญเสียกำลังพลไปมากเช่นนี้ อยาดันทุรังหาเรื่องเจ็บตัวกันเสียจะดีกว่า อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันมิให้ประตูมิติของพวกเราถูกยึดไปได้กันน่ะ"

              "รับทราบแล้วละครับ" นายกองเดลอาเนี่ยนตอบแล้วก็ "ปี้บบบ" ทุบปุ่มสีแดงเพื่อ "แว้งๆๆๆๆๆ" เทเลพอร์ตฐานทัพหายไปพร้อมกับประตูดาราในทันที

              เลย์เยลกล่าว "พวกเดลอาเนี่ยนถอนตัวไปพร้อมกับฐานทัพกันด้วยนะคะ"

              "เยี่ยม พวกนั้นคงเห็นว่าสู้กับพวกเราไปก็ไม่มีประโยชน์เลยสิน่ะ" แอนเดรียบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "ไม่หรอก พวกเดลอาเนี่ยนคงไม่โง่มากพอที่จะบุกจู่โจมพวกเรา ที่มีกองกำลังดาวฤกษ์ประจำการกันอยู่ หากแต่พวกเดลอาเนี่ยนหาไม่เจอก็เท่านั้นเองแหละ"

              "และเป็นไปตามที่ข้าคาดไว้ พวกเดลอาเนี่ยนเล็งจู่โจมเมืองของพวกเจ้า เพื่อที่จะตามหาพวกเราที่อำพรางตนเองและค่ายผู้ลี้ภัยกันไว้ แม้ว่านั้นจะเสี่ยงไม่น้อยที่ทหารเฟลาเลี่ยมสามารถมองเห็นพวกเราได้เลยก็ตาม เหตุผลที่พวกเดลอาเนี่ยนคิดจะรุกรานเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์ฯเพื่อท้าทายพวกเรานั้น เป็นไปตามที่คาดไว้เลยน่ะ" ซาดีริลกล่าว

              พีวิลบอก "และที่พวกคุณไม่ปรากฎตัวออกมานั้น ก็เพื่อทดสอบพวกเราไปด้วยสิครับ"

              "การทดสอบของพวกเจ้านั้นมันแค่ช่วงต้นเองน่ะ เพราะพวกเดลอาเนี่ยนและเหล่าศัตรูที่ไม่หวังดีต่อความมั่นคงของพวกเจ้ายังอยู่เลยน่ะ" ซาดีริลบอก "และข้าหวังว่า พวกเจ้าคงจะแก้ปัญหาเรื่องของสายลับนั้นได้เองบ้างน่ะ"

              บัลโต้บอก "บรูโน่ ว่าแต่ บิล นิคและรีฟแก้ปัญหาเรื่องสายลับสองตัวนั้นได้หรือยังละ"

              "เพื่อนผมแจ้งมา ว่าจัดการได้แล้วละครับ" บรูโน่บอก โดยย้อนกลับไปในเวลาเดียวกันกับที่พวกเขารับมือกับพวกเดลอาเนี่ยนกันนั้น "ย้ากกกกกกกก" มิวนิสหวดทวนเพลิงเข้าใส่ดาบน้ำแข็งของนิคจนแตกกระจุยไป ในขณะที่ "ย้ะๆๆๆๆๆๆๆ" นาตาเช่รั่วแทงหอกพลังสายฟ้าเข้าใส่รีฟที่โต้ตอบไม่ทันจนเธอถูกแทงและช็อตไปด้วย

              "ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะหยุดยั้งพวกเราไปได้ละน่า" มิวนิสกล่าว

              "นี้พวกเธอกระจอกเลยหรือไง ทำไมถึงล้มง่ายมากเช่นนี้ มันไม่คุ้มกับที่ออกแรงกันเลยน่ะ" นาตาเช่บอก

              รีฟกล่าว "เรารู้ว่า เราสู้พวกคุณไม่ได้ก็จริง แต่....เราแค่ถ่วงเวลาให้ความช่วยเหลือมาถึงได้ก็ดีแล้วละ"

              "ความช่วยเหลืออย่างงั้นนะหรือ" มิวนิสกล่าวอย่างหัวร่อ ไม่ทันไรก็ "ฟ้าววววว หวับบบบ" มีทหารในชุดเกราะ PCA เสยหมัดซ้ายชกเข้าใส่มิวนิส ซึ่งรีบยกทวนมาบล็อกไว้

              นาตาเช่บอก "แค่คนเดียว จะมาช่วยขวางพวกเรานะหรือ ไม่มีทางหรอก" นาตาเช่กล่าวพร้อมกับบุกเข้าแทงหอกใส่ "แกร้งงงง" แต่ทหารในชุดเกราะ PCA ยกแขนซ้ายมาป้องกันคมหอกที่แทงใส่เอาไว้ แล้วก็ "ป้ากกก" ใช้หลังแหวนปัดหัวหอกให้งอไปอย่างจังๆ "หนอยยย นี้แก กล้าทำหอกของฉันงอเลยหรือ ยกโทษให้ไม่ได้แล้วละ" นาตาเช่เลยใช้กงเล็บไฟฟ้าเข้ามา "หวับๆๆๆๆ ฟืบๆๆๆๆๆ" ไล่ข่วนใส่ทหารชุดเกราะ PCA ซึ่งรีบโยกหลบหลีกการข่วนของนาตาเช่อย่างทันควัน

              "นี้เธอสู้กันจริงๆ หรือว่าทำท่าลูกแมวข่วนกันแน่ละเนี้ย" ทหารพูดสบประมาท จนนาตาเช่ได้ฟังก็โมโห

              "กล้าหาว่าฉันเป็นลูกแมวนะหรือ" แล้วก็จ้วงกงเล็บเข้าใส่ แต่ "หวับบบ หมับ!!!!" ทหารในชุดเกราะเอี้ยวตัวหลบและคว้าจับแขนขวาที่จ้วงแทงใส่ "หวับบบบ โครมมมม โครมมมมม" จับทุ่มข้ามหัวไปเต็มแรง และจับทุ่มฟาดกับพื้นไปอีกที "ว้ากกกกก" ทหารคนนั้นหวดหมัดชกลงไปยังนาตาเช่ ซึ่ง "กึกกก" ก็หยุดหมัดก่อนที่จะชกใส่หน้ากากของนาตาเช่ไว้ ทว่า "ย้ากกกก" มิวนิสพุ่งเข้ามาเสยแทงทวนใส่ทหารคนนั้น... "ฟ้าววว ป้ากกก" ทว่าตนกลับถูกจู่โจมอย่างรวดเร็ว จนมิวนิสล้มลงกับพื้นไป

              "นึกว่าจะไม่มาช่วยเสียแล้วน่ะ คุณพลัสเชอริท" ทหารในชุด PCA กล่าว เมื่อเห็นพลัสเชอริทโผล่มาตรงหน้า

              มิวนิสบอก "แก ไอ้หุ่นกระป๋อง กล้าเล่นงานฉันแบบนี้ งั้นก็โดนแทงเสียเหอะ" แล้วก็พุ่งเข้าใส่ "ฟ้าวววว ฉึกกกก" จนทวนแทงทะลุร่างพลัสเชอริทอย่างจังๆ "ไม่แน่จริงเลยนิ ไหนบอกว่าแกเป็นมือสังหารที่ว่องไวและจู่โจมสายฟ้าแลบกันละ"

              "ลักษณะนิสัยของคุณที่ตรงกับที่ได้ฟังจากเนคมาดูซัมและฟิเกซเล่ามานั้น 100 เปอร์เซนต์ตรงเผง และอยู่ในการคำนวณกันไว้แล้วละ" พลัสเชอริทบอกโดยที่ตนยังถูกแทงอยู่ ซึ่งก็ "แชบบบบบ เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" ร่างเกิดคลื่นซ่าพร้อมกับช็อตมิวนัสอย่างจัง

              "อะ อะไรเนี้ย นี้แก ใช้ดัมมี่หลอกเลยหรือ อือ ขะๆๆ ขยับตัว ไม่ได้..."  ส่วนตัวจริงก็โผล่มาจ่อสไตรเดอร์เบลดเอาไว้

              "ถ้าคุณฉลาดให้ได้ยิ่งกว่าเลดี้ฟรีเซียละก็ คุณก็คงไม่พลาดท่ากันตั้งหลายครั้ง เหมือนกับน้องสาวของบารอนวินเซนท์หรอกน่ะ"

              "สมกับที่คุณพ่อว่าไว้ไม่มีผิดเลยน่ะ ว่าคุณเป็นเครื่องคำนวณเดินได้ที่น่ากลัวมากที่สุดเลยน่ะ" ทหารกล่าว

              พลัสเชอริทบอก "จะดีกว่ามาก หากคุณถอดหน้ากากออกมากันดีกว่าน่ะ เจ้าหน้าที่บิล" ทหารพยักหน้าแล้วก็ถอดหน้ากากออก

              "บ้าน่า นี้นาย เป็นพวกสเตรดาร์ธอย่างงั้นนะหรือ นี้มันเป็นเรื่องบัดซบมากๆเลยนะเนี้ย" นาตาเช่เห็นใบหน้าของบิลที่เป็นชายผิวเข้ม เหมือนกับพวกสเตรดาร์ธก็สบถอย่างไม่พอใจ

              มิวนิสบอก "งั้นแกก็คงเป็นคนของพวกสเตรดาร์ธที่ให้ความร่วมมือกับพวกสหพันธมิตรกันอย่างงั้นละสิ นั้นก็เป็นข้ออ้างให้พวกเราก่อสงครามกันได้แล้วละ"

              "น้อยๆหน่อยน่า ฉันเป็นลูกครึ่งอเมริกากับแอฟริกา ซึ่งอย่างหลังนั้น เป็นพวกนิโกรเหมือนกับพวกสเตรดาร์ธกันก็จริง...." บิลบอก "นั้นไม่แปลกหรอกที่ทรอยอาร์อย่างพวกนายและสายลับอีกสองคน จะเข้าใจว่าแมนิเกเตอร์ผิวสีหรือลูกครึ่งแอฟริกานั้นจะมองว่าเป็นพวกสเตรดาร์ธ ส่วนหนึ่งเพราะ พวกนายไม่เคยลงไปที่โลกในเขตบรองซ์หรือเขตคนดำกันนี้เองน่ะ"

              มิวนิสกล่าว "สายลับอีกสองคนนะหรือ นี้อย่าบอกน่ะ ว่าเซอร์อิลดินและเลดี้เลเวนเด้นั้น...."

              "เกรงว่าสายลับสองคนที่มาก่อนหน้าพวกคุณนั้น เจอหน้าเจ้าหน้าที่บิล และเข้ามาเล่นงานเพราะความเข้าใจผิดๆและแยกแยะไม่ออกกันไว้ก่อนหน้าที่พวกคุณจะมา แน่นอน ว่าถ้าไม่เพราะพวกเรามาช่วย เขาคงไม่รอดมาหยุดพวกคุณกันหรอกน่ะ" พลัสเชอริทบอก

              นาตาเช่กล่าว "แต่ถึงพวกนายจับพวกเราไว้ คุณสไปค์และพวกก็หาเรื่องหนีออกมาได้อยู่แล้วละ"

              "ต่อให้สไปค์กับพวกรอดจากเงื้อมมือของพวกทหารของนายพลเพอซิอัสกันก็จริง.....แต่ยานอวกาศซ่อนพลางนั้นคงหนีฟิเกซไม่พ้นหรอก" พลัสเชอริทบอก

              มิวนิสได้ฟังก็ได้เห็นการสู้รบบนจอโทรทัศน์ในเมือง "ถ้าแกอยู่ที่นี้ละก็ แย่ละสิ คุณสไปค์...."

              "ตอนนี้ เราคงต้องจับตัวพวกนายไปขังรวมกับพวกสายลับของพวกนายกันเสียหน่อยแล้วละ" บิลบอก และหันมาถาม "นิค รีฟ ลุกขึ้นมาช่วยโดยด่วนเถอะ" นิคพยักหน้า และรีบพาตัวมิวนิสไป ส่วนรีฟก็นำตัวนาตาเช่ไปด้วย

              พลัสเชอริทกล่าว "ผบ.บัลโต้ พวกเราทุกๆคน นาตาเช่ บาลานซ์ และมิวนิส โคลานซ์ ถูกพวกเราจับกุมได้แล้วละ"

              "เยี่ยม ตอนนี้พวกเดลอาเนี่ยนเองก็ล่าถอยกันไปแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก

              บัลโต้กล่าว "หวังว่า ฟิเกซคงจะจับตัวไอ้พวกทรอยอาร์ที่หนีออกมาจากเฟิร์สฮิลล์กันบ้างน่ะ"

              "ตื้ดๆๆๆๆๆๆ" เจเนลรับสายติดต่อเข้ามา "รีบอยเองนะครับ คุณเจเนล ตอนนี้เรามีข่าวร้ายมาบอก พวกสายลับของสเตรดาร์ธหลบหนีไปแล้วละครับ" ริบอยกล่าว

              เจเนลบอก "งั้นหรือ...แล้วพวกทรอยอาร์ล่ะ"

              "คุณบรอนเซอรูทกับพวกทหารของนายพลเพอซิอัสพยายามบุกเข้าโต้ตอบ แต่เกรงว่าพวกทรอยอาร์จะหนีไปได้แล้วละคะ" ริเกิร์ลบอก

              เนคมาดูซัมบอก "วางใจได้น่า พวกสไปค์หนีไม่พ้นพวกเราอยู่แล้ว" แล้วก็บอก "ฟิเกซ สไปค์มาทางพวกเราแล้วละ"

              "ฟ้าวววววว" ยานสอดแนมของทรอยอาร์บินออกจากเฟิร์สฮิลล์ และพุ่งทะยานผ่านเขตป่าเขาเพื่อเข้าสู่เขตทะเลทรายโดยเร็ว "ไว้ให้เรากลับมาก่อนเหอะ รับรอง ไอ้พวกแมนิเกเตอร์นั้นโดนแน่" ฮีธพูดด้วยความหงุดหงิดไปพร้อมกับขับยานด้วย

              สไปค์กล่าว "ตอนนี้เราเสียเปรียบในเรื่องกำลังคนกัน เพราะส่วนมากบาดเจ็บอยู่ แถมส่วนหนึ่งก็ถูกควบคุมตัวกันด้วย เราทำได้ดีที่สุดก็เกินพอแล้วน่า"

              "แล้วเราจะเข้าไปช่วยนาตาเช่และมิวนิสกันยังไงละครับ ลูกพี่" รีกัลถาม โดยที่ซิลเลเจี้ยนเข้ามาพันแผลไว้

              สไปค์บอก "ตอนนี้เราต้องแทรกซึมเข้าไปในเมือง ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับสายของพวกเราที่...."

              "ฟ้าววววววววว" ไม่ทันไร ควอดทารอสซาลมาร์สพุ่งทะยานขึ้นจากทรายออกมาขวางตรงหน้าอย่างจังๆ "ควอดทารอสซาลมาร์ส!!! นี้พวกมันดักซุ่มไว้เลยหรือวะ" ฮีธสบถขึ้นมา และยิ่งโกรธมากกว่าเดิม

              "เกรงว่าพวกนายต้องลงจอดกันแล้วน่ะ" เมื่อได้ยินเสียงปลายสายดังเข้ามา เป็นฟิเกซนี้เอง

              "ฟิเกซอท เนคเกอร์คงจะสั่งให้นายดักทางพวกเรานะหรือ" สไปค์บอก "แต่ นายคนเดียวไม่มีทางจับพวกเรากันได้หรอก"

              ฟิเกซตอบ "แน่ใจหรือ...." ไม่ทันไรก็ "ฟ้าวววว ฟึ่บๆๆ" พวกฟลาแน็กซ์บินลงมาดักหลังไว้ "ซูมมมมมมม" ไซโคลเนียบินมาดักทางซ้าย วิลด้าบินมาอยู่ข้างขวาอย่างทันควัน สไปค์ได้เห็นก็กัดฟันด้วยความหงุดหงิด

              "อย่าพยายามทำอะไรโง่ๆเลยน่ะ เพราะเรารู้ว่าพวกเธอมีคนเจ็บอยู่ และเราเองก็ไม่อยากจะซ้ำเติมพวกเธอกันด้วยน่ะ" วิลด้าบอก

              ฟิเกซกล่าว "หวังว่านายกับพวก ซึ่งเป็นกลุ่มอัศวินระดับตองอู คงจะฉลาดมากพอที่จะตัดสินใจได้ว่าควรจะทำเช่นไรกันน่ะ"

              "ได้ทีเอาใหญ่เลยน่ะ ไอ้สี่แขน" ฮีธสบถแบบหงุดหงิดไม่น้อย

              สไปค์บอก "และพวกนายคงไม่ทำอะไรโง่ๆด้วยการเล่นงานนาตาเช่และมิวนิสกันหรอกน่ะ"

              "พี่สไปค์ พวกนั้นไม่ทำอะไรพี่กับพวกเลยหรือครับ" มิวนิสบอก เมื่อสไปค์ถูกควบคุมตัวมาอยู่ในห้องขังที่ยานแรคแทซไว้

              สไปค์บอก "พี่ รีกัลและฮีธเจ็บตัวเล็กน้อย แต่ที่ตามมาด้วยล้วนเจ็บหมดน่ะ" และหันมาถาม "แล้วพวกเธอสองคนเอง ดีแล้วละที่ไม่เจ็บตัวมากน่ะ"

              "เราไม่เจ็บตัวกันหรอกคะ แต่เจ็บใจที่เสียรู้กับนายคนนี้ไปได้น่ะ" นาตาเช่กล่าว โดยชี้ไปยังบิลที่ยืนอยู่กับบรูโน่

              ฮีธบอก "นี้แกเป็นสเตรดาร์ธมาแต่แรกอย่างงั้นสิน่ะ ถึงได้ช่วยพวกสหพันธมิตรมาหลอกพวกเรากันน่ะ"

              "อีกรายแล้วละสิ ที่เข้าใจผิดกันไปใหญ่โตเลยน่ะ" บรูโน่บอก

              บิลบอก "ฉันว่าฉันคงไม่ได้รับงานไปแทรกซึมในเขตดาวของพวกสเตรดาร์ธแล้วละ ตราบใดที่โดนเข้าใจแบบนี้เลยน่ะ"

              "หมอนี้ไม่ใช่สเตรดาร์ธแท้ๆกันหรอกน่ะ" สไปค์บอก

              ฮีธกล่าว "แล้วนายรู้ได้ไง ว่าไอ้มืดนี้ไม่ใช่พวกสเตรดาร์ธกันจริงๆเลยน่ะ ในเมื่อไอ้พวกแขกอวกาศแถบสเตรดัสท์มันเป็นพวกเจ้าเล่ห์กันนิ"

              "สเตรดาร์ธที่ไหนมีตราธงลายแดงขาวและมีพื้นสีน้ำเงินที่แปะดาวเล็กๆหลายดวงกันละ อีกอย่าง ทั้งคนและแมนิเกเตอร์บนโลกเอง ไม่ได้มีสีผิวเหมือนกับพวกเรา แต่มีสีเหลืองบ้าง สีดำบ้าง แม้กระทั่งสีน้ำตาลแบบหมอนี้กับสเตรดาร์ธเองก็ด้วย ซึ่งประเทศทางทวีปตะวันตกไกลนั้นก็มีคนผิวสีแบบนี้ปะปนกับคนที่อาศัยอยู่ถมเถไปกันน่ะ" สไปค์บอก

              บิลกล่าว "สมแล้วที่คุณไม่เพียงเป็นอัศวินระดับพระกาฬของทรอยอาร์ แต่ยังเป็นนักศึกษาที่รู้ถึงต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ของพวกคุณ รวมถึงประวัติศาสตร์จากโลกของพวกเราด้วย"

              "เดียวก่อนน่ะ เมื่อกี้นี้นายบอกว่า นอกจากพวกเราแล้ว สายลับสองคนก็พลาดท่าเพราะเข้าใจผิดแบบนี้นั้น...." นาตาเช่บอก

              แล้วก็มีคนพูดออกมาจากห้องข้างๆ "....เป็นพวกเราเองแหละครับ ท่านหญิงนาตาเช่" โดยพวกเขาเห็นอิลดินและลาเวนเด้ถูกขังอยู่

              "เซอร์อิลดิน เลดี้ลาเวนเด้ นี้พวกคุณถูกจับมาอย่างงั้นนะหรือ" มิวนิสบอก

              ลาเวนเด้กล่าว "คะ พวกเราถูกจับมาเพราะ....คนๆนี้กันนะคะ" โดยหันหน้ามายังบิล ซึ่งก็ยิ้มขึ้นมาไว้

              "แล้วพวกคุณพึ่งจะถูกจับมาอย่างงั้นนะหรือ" มิวนิสกล่าว

              อิลดินบอก "พวกเราถูกจับมาตั้งแต่เมื่อวานซืนแล้วละครับ นับตั้งแต่....ข้อความที่พวกเราพยายามจะส่งไปเตือนดาวแม่ว่าอย่าส่งสายลับเข้ามา เพราะเราทราบมาว่า....มือขวาของมหาประธานาธิบดีวางแผนกับพวกนายพลเพอซิอัสให้จับกุมสายลับทุกคนที่อยู่ในเมือง และที่กำลังมาถึงนี้กันไว้ ได้ถูกขัดขวางกันมาหลายครั้ง เราเลยพยายามเตือนให้พวกคุณรีบหนี แต่ก็..." และมองหน้าบิลด้วยความเครียดแค้นขึ้น

              "นี้แสดงว่า แกรวมหัวกับทุกๆคน เพื่อจับพวกเรากันเลยหรือวะ" ฮีธบอก

              บรูโน่บอก "แล้วก็พวกสเตรดาร์ธที่แฝงตัวเข้ามาด้วย เพราะเราทราบมาว่ามีพวกมันแฝงตัวเข้ามาในฐานะคนเดินเรือแปลกหน้ากับเรือที่ไม่มีข้อมูลอย่างชัดเจน แต่ที่พี่ใหญ่ปล่อยให้เคลื่อนไปตามน่านน้ำกันนั้น ก็เพื่อสร้างความประมาทให้ฝ่ายนั้น เหมือนที่เราทำกับพวกนายเองแหละ"

              "เดียวก่อนน่ะ ถ้าสองคนนี้ถูกจับ แล้วใครมาช่วยพวกเธอสองคนกันละ" สไปค์กล่าว

              แล้วเซอร์อิลดินและเซอร์ลาเวนเด้ที่เข้ามาช่วยนาตาเช่และมิวนิสก็โผล่มา "ก็พวกเราเองนะสิ" อิลดินตัวปลอมกล่าว แล้วทั้งสองก็ถอดหน้ากากเพื่อเผยโฉมหน้า ซึ่งก็คือ...

              "สองสามีภรรยาโอดิล....พวกคุณสองคนมันเจ้าเล่ห์พอๆกันกับคู่กรณีของคุณเลยน่ะ" สไปค์สบถ เมื่อเห็นเบติสและวิลด้าอยู่ตรงหน้า

              "พวกเรามิได้เจ้าเล่ห์เหมือนกับเกรนิฟซ์สักหน่อยน่ะ แต่มิวนิสและนาตาเช่เองต่างหาก ที่รู้ไม่เท่าทันเองต่างหากละ" เบติสบอก

              วิลด้ากล่าว "เธอสองคนคิดว่าการเข้ามาสืบหาข้อมูลจากแดนศัตรูโดยไม่ถูกจับได้นั้น มันเป็นงานง่ายๆที่ไม่จำเป็นต้องออกแรงกันนั้น พวกเธอคิดผิดถนัดแล้วละ เพราะพวกศัตรูที่ให้ข้อมูลเข้ามาง่ายๆนั้น พวกนี้ตั้งใจจะจัดการกับพวกมือสมัครเล่นและพวกอ่อนประสบการณ์กันไว้แต่แรกแล้วน่ะ"

              "ดีแล้วที่พวกเธอสองคนพลาดท่าให้กับพวกเรา ถ้าเป็นพวกเฮซเทิร์ซละก็ เกรงว่าพวกเธอสองคนคงไม่รอดกลับไปหาวินเซนท์และฟรีเซียกันหรอก" เบติสบอก

              รีกัลกล่าว "ลุงก็พูดได้นิ ก็เพราะว่าลุงกับพวกได้เปรียบพวกเรากันอยู่แล้วละ"

              "ว่าแต่ จะให้เราควบคุมตัวไปส่งที่เรือนจำหรือเปล่าละครับ" บิลบอก

              เบติสส่ายหน้า "สงสัยว่าเธอคงจะผิดหวังแล้วละ" แล้วก็บอกไปว่า "เพราะว่าเราจำต้องส่งตัวพวกนักโทษกลับไปทรอยอาร์กันแล้วน่ะ"

              "แว้งงงงงงง" ไม่ทันไร ยานทรอแจนอาร์คสองลำบินเข้ามาตรงหน้ากองรบของบัลโต้และไทรเวเซอร์ "วินเซนท์และฟรีเซียมาถึงแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก

              เอเรียเน่กล่าว "เออ มีข้อความจากยานของฝ่ายทรอยอาร์มา ว่าให้ส่งตัวพวกนักโทษทุกคนที่พวกเราจับตัวมาน่ะคะ"

              "นี้เราจะต้องส่งมอบนักโทษกันเลยหรือวะ" บัลโต้บ่นอย่างไม่พอใจมากๆ

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "สภาพของเราและของพวกท่านในตอนนี้ไม่พร้อมรบต่อไปได้นะครับ ผบ.บัลโต้" 

              แล้วยานทรอแจนอาร์คก็บินมาตรงหน้า วินเซนท์และฟรีเซียเดินลงจากยานมา โดยที่พวกไทรเวเซอร์และพวกบัลโต้ ควบคุมตัวพวกสไปค์ออกมาด้วย วินเซนท์และฟรีเซียที่เห็นนาตาเช่และมิวนิสที่ถูกบิลและนิคควบคุมตัวอยู่ โดยที่น้องๆทั้งสองมีสีหน้าที่หวั่นเกรงต่อพี่ทั้งสองขึ้นมา "ไม่นึกเลยว่า พวกคุณจะโต้ตอบพวกเรากันถึงเพียงนี้เลยน่ะ" ฟรีเซียกล่าว

              บัลโต้บอก "และพวกคุณก็กล้ามากพอ ถึงขั้นที่เดินลงมาตัวเปล่าและดาบคนละเล่มแบบนี้ ทั้งๆที่ฝ่ายเรามีปืนจ่ออยู่ทั่วกันแล้ว ที่เนคมาดูซัมและฟิเกซเล่ามาก็เป็นจริงสิน่ะ"

              "รวมถึงพวกคุณด้วย ดีแล้วละที่ทั้งพวกสไปค์ นาตาเช่และมิวนิสเจอกับพวกคุณ ถ้าเป็นพวกสเตรดาร์ธละก็...." วินเซนท์กล่าว แล้วก็มองมายังเซอร์อิลดินและเลดี้ลาเวนเด้ที่ถูกเบติสและวิลด้าจับมาด้วย "เราแค่มารับพวกพ้องของเราที่อยู่ในความควบคุมของพวกคุณ หวังว่าพวกคุณคงไม่หักหลังพวกเรากันหรอกน่ะ" วินเซนท์บอก

              บัลโต้กล่าว "งั้นก็ฝากไปบอกผู้บัญชาการของคุณ สังฆราชบาทหลวงของพวกคุณด้วย ว่าถ้าคิดจะชนะพวกเราละก็ อย่าใช้วิธีส่งสายลับเข้ามา หรือแม้กระทั่งมือสังหารกันด้วยน่ะ"

              "นี้แค่คำเตือนจากฝ่ายเรา เพราะพวกเราอยู่ในสภาวะสงคราม หวังว่าพวกคุณทั้งหมดคงจะไม่คิดซ้ำเติมพวกเรากันหรอกน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              ฟิเกซกล่าว "ถ้าไม่ติดว่าพวกคุณเป็นฝ่ายตรงข้ามกับสังฆราชริชเชลลิอาร์ลละก็ เราคงต้องกักตัวพวกสไปค์ไปนานแล้ว หากแต่....พวกเราไม่ต้องการปะทะกับพวกคุณที่พยายามเข้าช่วยพวกเขากันไว้น่ะ"

              "งั้นก็ฝากบอกผู้นำของคุณ รวมถึงนายแม่รัคชูมี่ด้วย ว่าพวกเราจะต่อสู้กับพวกคุณแบบตรงไปตรงมา หากแต่เราต้องทำตามคำสั่งของราชาออสเฟรย์กันไว้น่ะ" ฟรีเซียบอก โดยที่พวกบัลโต้ส่งพวกสไปค์กลับไปแล้ว แต่ก็นึกขึ้นมาได้เลยรีบตะโกนขึ้น

              "เดียวก่อน ยังมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้สะสางกันด้วยน่ะ"

              "นี้พวกคุณคิดจะเรียกร้องอะไรจากพวกเรากันละ" วินเซนท์ถาม

              บัลโต้บอก "ทางเราไม่ได้เรียกร้องจากพวกคุณสองคนหรอก..." แล้วก็ชี้ไปยังฮีธ "แต่เป็นฮีธ เรย์เดอร์เองต่างหากละ ที่ต้องรีบชดใช้"

              "แล้วจะให้ชดใช้อะไรกันมิทราบละ" ฮีธถามแบบอวดดี

              บัลโต้กล่าว "คนของเราที่เฟิร์สฮิลล์แจ้งมา ฮีธกับรีกัลไปกินข้าวในร้านอาหาร แล้วออกไปโดยไม่จ่ายเงิน ซึ่งกลายเป็นสาเหตุที่มีการทะเลาะกับคนในร้านถึงสองคน แม้ไม่มีใครตาย แต่จะไปโดยไม่มีการจ่ายเงินให้นั้นไม่ได้เป็นอันขาดเลยละ" สไปค์เลยมองหน้าฮีธอย่างหงุดหงิดไม่น้อยที่ฮีธไปก่อเรื่องขึ้นมา รวมถึงรีกัลที่หน้าจ๋อยเพราะมีส่วนร่วมด้วย

              "อยากจะชดใช้ค่าอาหารที่ไม่อร่อยอย่างงั้นใช่มั้ย งั้นจ่ายด้วยนี้แล้วกัน" ฮีธเลยหยิบเงินออกมาแล้วโยนให้ฟิเกซรับ เป็นธนบัตรสีฟ้า 3 ใบ และเหรียญทองรูปกางเขน 5 เหรียญ

              ฟิเกซกล่าว "เออ ผบ.บัลโต้ ฮีธจ่ายเป็นเงินเดบัลม่า ซึ่งเป็นสกุลเงินเก่าของชาวซัลคาเรี่ยนที่ไม่ได้ใช้มาเมื่อ 30 ปีก่อนแล้วละครับ"

              "บ้าชะมัด นี้แกจ่ายด้วยเงินที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้เลยหรือวะ" บัลโต้โวย

              ฮีธบอก "ก็เรามาแทรกซึมที่นี้ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวสักหน่อยนิ แค่เอานี้ไปจ่ายก็เกินพอแล้วละ" เนคมาดูซัมเลยส่ายหน้าให้กับบัลโต้เพื่อไม่ให้มีเรื่อง จนผบสส.กัดฟันกรอดๆด้วยความหงุดหงิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะตนเป็นคนสั่งให้ปล่อยตัวพวกสไปค์ไปแล้ว

              "หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกในสนามรบครั้งหน้ากันน่ะ" สไปค์บอก

              เนคมาดูซัมบอก "และ กรุณามาอย่างตรงไปตรงมาจะดีกว่าน่ะ เพราะกระสุนปืนจากพวกเราพร้อมหยุดพวกนายกันได้ทุกเมื่อ ถ้าพวกนายโผล่มาโดยที่เราไม่ต้องการกันน่ะ" แล้วพวกสไปค์ก็เดินทางกลับไปพร้อมกับวินเซนท์และฟรีเซีย ด้วยการเคลื่อนตัวออกจากดาวด้วยความเร็วเหนือแสงไปในทันที

              "พี่ ไอ้เวรนั้นมันจ่ายด้วยเงินแบบนี้ แล้วเราจะชดใช้ค่าข้าวที่ไอ้เบื้อกสองตัวนั้นยังไงดีละ เพราะร้านนั้นเขารับเงินบาทด้วยน่ะ" บรูโน่บอก

              บัลโต้กล่าว "งั้นนายออกเองแล้วกัน บรูโน่ นายรีบเปลี่ยนเงินแกลดอลเป็นเงินบาทที่ตู้แลกเปลี่ยนเงินตราในเวลเซน่าเลยดีกว่า"

              "ไอ้กุ๊ยฮีธ มันกวนตีนไม่เลิกเลยน่า" คลอเวฟบอก

              เจเนลบอก "ถ้าไม่ติดว่ามันไม่มีอาวุธหรือไม่ได้สวมเกราะเสียก่อนละก็ คงได้โดนกระทืบไปนานแล้วละ"

              "นั้นคงเป็นบรรทัดฐานในการจัดการกับพวกแขกไม่ได้รับเชิญกันได้เลยสิคะ" ลิเนียร์ตี้บอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ใช่ ดีน่ะ ที่เป็นพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธ ถ้าเป็นพวกเดลอาเนี่ยนละก็ พวกเราคงเสียบุคลากรไปนานแล้วละ เพราะพวกเดลอาเนี่ยนไม่ได้แค่มาล้วงความลับกันอย่างเดียว แต่มาเพื่อก่อวินาศกรรมเพื่อตัดกำลังพวกเรากันด้วยน่ะ"

              "ตอนนี้ เราคงต้องรายงานให้กับนายพลเพอซิอัสให้ทราบกันดีกว่าน่า" เนคมาดูซัมออกความเห็น

              บัลโต้พยักหน้า "แม้จะรู้ว่าแผนการบ้านแมลงสาปของพวกเราล้มไม่เป็นท่า เพราะแมลงสาปกลุ่มหนึ่งบินหนีไปแล้ว และเราต้องปล่อยอีกกลุ่มไปด้วยน่ะ"

              "ไม่คิดเลยว่า สไปค์กับพวกที่บุกมาแทรกซึมในเขตป่าเขาใกล้กับเฟิร์สฮิลล์จะเตรียมพร้อมไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินกันด้วยน่ะ" เพอซิอัสบอก "ดีน่ะ ที่ทางเราเตรียมรับมือกับการป้องกันสกัดกั้นการจับกุมของพวกสไปค์เอาไว้ แม้ว่าเราไม่สามารถเข้าใกล้ไปได้เลยก็ตามน่ะ"

              พีวิลบอก "พวกบรอนเซอรูทคงจะเจ็บตัวไม่น้อยเลยสิครับ"

              "ดีที่พวกเขาหลบหลีกและถอยกลับมาได้เสียก่อนน่ะครับ ไม่เช่นนั้น พวกเขาคงโดนยิงไปแล้ว เพราะพวกคุณสไปค์ติดตั้งปืนเลเซอร์ยิงต่อเนื่องเอาไว้กันนะครับ" นีลเซนท์บอก

              ฟิเกซบอก "สไปค์คงรู้ว่าพวกเราพร้อมรับมือกับการมาของพวกเขาอยู่แล้ว เลยเตรียมการเอาไว้กันนี้แหละ" แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "แย่หน่อย ที่แผนเสียสูญไปส่วนหนึ่งเพราะ นาตาเช่และมิวนิสแฝงตัวเข้ามาเสียได้น่ะ"

              "และไม่ใช่แค่สไปค์คนเดียวที่แฝงตัวเข้ามา ฮีธ เรย์เดอร์และรีกัล วูลฟ์ลงมาที่เมืองนี้ คงเพื่อที่จะมาแจ้งเรื่องนาตาเช่และมิวนิสแน่นอน หากแต่...." เพอซิอัสกล่าวและนำภาพที่นาเดียและคีธปะมือกับฮีธและรีกัลกันในร้าน

              "....ยัยนาเดียเตะไอ้กุ๊ยล้มเลยหรือกระนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลยน่า" สเปียริทบอก

              "นั้นก็ไม่แปลกหรอก นาเดียฝึกมวยไทยเหมือนกับที่เฟรดฝึกกันนี้แหละ หากแต่ เธอไม่ค่อยได้ใช้สู้อย่างจริงจังก็เท่านั้นเอง" พีวิลบอก

              เพอซิอัสกล่าว "ทางเราเองก็มีข้อมูลของคีธอยู่ด้วย ว่าตอนอยู่กองทัพนั้น ก็เก่งทักษะด้านเทควันโด้มาก่อน นั้นไม่แปลกเลยที่เขาโต้ตอบรีกัลด้วยการถีบและเตะได้เร็ว เพราะเรารู้ว่ารีกัลว่องไวมากแค่ไหนกันน่ะ" แล้วก็พูดต่อ "และทั้งคู่ รวมถึงเฟรด มาร์ตินเองไม่ได้แค่ปะมือกับพวกทรอยอาร์ แต่ก็ปะมือกับสายลับ ไม่สิ สมุนขององค์ชายจาฟฟาร์ลกันซะมากกว่า" แล้วก็นำภาพของพวกเฟรดที่ปะมือกับพวกอับดุลลอยด์กันด้วย

              "แจ่ม สามตัวนี้บุกเข้ามาในเมืองแบบนี้ ก็คงเสร็จไอ้พวกเด็กเกรียนสามตัวแล้วสิ" คลอเวฟบอก

              เพอซิอัสพยักหน้า "ที่จริงแล้ว เมื่อวาน สมุนผมปรกข้างขวาเห็นพวกน็อกกี้ก่อน และรีบเรียกพวกอีกสองคนมาคุย แต่ดูเหมือนว่าคีธจะเห็นพวกนั้นแล้วแจ้งพวกน็อกกี้ให้ทราบไว้ เพราะพวกนั้นไม่เห็นกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่กับผนังด้านบน ซึ่งคีธใช้แอปต่อเข้าระบบกล้องวงจรปิดเพื่อถ่ายภาพพวกนั้นไว้น่ะ จนทั้งสามตามมาช่วยพวกเฟรดกันนี้แหละ" แล้วก็นำภาพของพวกน็อกกี้ที่เข้ามาสมทบกันด้วย

              "ไม่คิดเลยว่า สมุนขององค์ชายจาฟฟาร์ลที่เป็นแค่เด็กวัยรุ่น จะมีฝีมือไม่ต่างจากพวกเฮเรเค้นเลยนะคะ" แอนเดรียบอก

              แอบไบออสกล่าว "นักรบสเตรดาร์ธในช่วงวัยรุ่นจะได้รับการฝึกฝนการใช้อาวุธและทักษะการต่อสู้กัน เพื่อเกณฑ์พวกเขาเข้าสู่กองทัพกันนี้แหละ"

              "แล้วพวกสเตรดาร์ธมันลอยนวลได้ไงกันน่ะ" บัลโต้ถาม

              เพอซิอัสบอก "ดูเหมือนว่าองค์ชายจาฟฟาร์ลจะรู้ว่าสมุนทั้งสามอาจถูกจับได้แน่ๆ เลยส่งสมุนหญิงและพรรคพวกเข้ามาช่วยไว้นะสิ" แล้วก็นำภาพที่กฤษณาพาพวกเข้าเล่นงานพวกเฟรดและรีบพาพวกอับดุลลอยด์หนีไป "และสายลับฝ่ายสเตรดาร์ธเอง ก็เตรียมตัวหนีหากว่าพวกนั้นถูกจับได้กันด้วยน่ะ" แล้วก็นำภาพเรือของซินแบทที่พุ่งหายไปต่อหน้าต่อตาพวกโมคุโตะที่รีบลงมาด้วย

              "นี้ไอ้พวกสเตรดาร์ธมันมีเทคโนโลยี่เทเลพอร์ตกันด้วยหรือวะ" คลอเวฟบอก

              แอบไบออสกล่าว "เปล่า วิธีที่พวกสเตรดาร์ธเอาเรือหนีไปนั้น คือ ชีฟโฟลด์ เป็นการเคลื่อนย้ายยานอวกาศหรือนาวาในดวงดาวไปโผล่ยังอีกดวง หรือออกจากดาวแบบเร่งด่วนกันน่ะ ซึ่งเทคโนโลยี่นี้ เป็นการนำยานอวกาศที่สร้างขึ้นบนดาวออกไปนอกอวกาศเพื่อทดสอบระบบขับเคลื่อนภายในสภาวะสูญญากาศกันไว้ หรือโยกย้ายกำลังพลยานรบจากดาวดวงหนึ่งไปอีกดวงหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปได้กันน่ะ"

              "เหมือนกับที่ผบ.ฮาซาเดนโยกย้ายกองยานรบจากนอกดาวลงไปที่ดาวอย่างงั้นสิน่ะ" พีวิลบอก

              แอบไบออสพยักหน้า "ทำนองนั้น หากแต่ชีฟโฟลด์นี้ มันเป็นเทคโนโลยี่รุ่นแรกๆของการเคลื่อนย้ายยานรบด้วยความเร็วเหนือแสง ซึ่ง....มันมีความผิดพลาดและคลาดเคลื่อนได้สูงมาก จากการที่ยานพุ่งออกนอกดาวไป แล้วไปโผล่ห่างจากจุดหมายไปไกลมาก เผลอๆอาจจะไปโผล่ในโซนที่เป็นอันตราย อย่างเขตดาวเคราะห์น้อย พื้นที่ขยะอวกาศ หลุมดำ ไปจนถึงพระอาทิตย์กันด้วย ดังนั้น กองกำลังพันธมิตรมนุษย์เลยไม่ให้ใช้ชีฟโฟลด์ ซึ่งรวมถึงไปยานอวกาศด้านพาณิชย์และการคมนาคมในอวกาศกันด้วยน่ะ"

              "แล้วทางกองทัพนายจัดการยังไงกับการนำยานอวกาศเข้าไปในดวงดาว หรือเคลื่อนจากดาวดวงหนึ่งไปอีกดวงกันน่ะ" บัลโต้ถาม

              แอบไบออสบอก "นายพลเกรย์สันสั่งให้พัฒนาเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดร์ฟให้มีคุณสมบัติแบบชีฟโฟลด์ แต่ให้ติดตั้งระบบเอไอที่ช่วยระบุพิกัดและตำแหน่งที่หมายให้มีความแม่นยำมากขึ้น แม้ว่านั้นหมายถึงการใช้พลังงานจากเตาพลังงานหลักเองจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยก็ตาม อย่างน้อยก็ช่วยให้กองยานรบฝ่ายพันธมิตรมนุษย์เข้าถึงที่หมายได้ โดยไม่เสียกำลังพลจากการเข้ามาในดวงดาวกันนี้แหละ"

              "แต่ดูเหมือนว่า กองทัพของนายจะมีเกลือเป็นหนอน ขายความลับนี้ให้พวกสเตรดาร์ธกันแล้วสิน่ะ" คลอเวฟบอก

              แอบไบออสพยักหน้า "และเกลือเป็นหนอนนั้นก็คือไอ้คิฟทรอนอฟนี้แหละ ที่ขายเทคโนโลยี่และแปลนพัฒนาเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดร์ฟให้กับพวกสเตรดาร์ธ ซึ่งไม่เพียงพัฒนาเครื่องยนต์ชีฟโฟลด์ที่เป็นเทคโนโลยี่รุ่นเก่าให้ดีขึ้นเทียบเท่ากับรุ่นใหม่ แต่พวกนั้นประยุกต์ถึงขั้นเอาเครื่องยนต์ไปใส่ไว้ในเรือที่ตกแต่งให้ดูโทรมๆกันไว้ด้วยนะสิ"

              "นั้นก็ทำให้เรารู้แล้วว่า พวกสเตรดาร์ธแทรกซึมเข้ามาในดาวโดยผ่านการตรวจจับจากภายนอกกันยังไงน่ะ" บัลโต้บอก

              เพอซิอัสกล่าว "ใช่ และจากการที่พลเรือนสองคน นั้นก็คือ เฟรด มาร์ตินและนาเดีย ออโต้นั้น ได้ปะมือกับสมุนของจาฟฟาร์ล ซึ่งเป็นนักรบของสเตรดาร์ธ โดยเจอกับพวกสไปค์มาก่อนหน้ากันแล้ว แม้ว่า เฟรดจะพบกับสไปค์โดยไม่รู้ว่าเขาเป็นสายลับของทรอยอาร์แฝงตัวเข้ามาถึงสองครั้งก็ตาม....ทางเราเลยคิดที่จะนำตัวพวกเขาทั้งสองมาสอบปากคำกันไว้ ว่ารู้เรื่องจากอีกฝ่ายกันแค่ไหนน่ะ"


              "เออ ท่านนายพล ท่านคิดที่จะสอบปากคำเฟรดอย่างงั้นนะหรือครับ" พีวิลบอก

              เพอซิอัสบอก "เราแค่อยากรู้จากเฟรดว่า เฟรดบอกอะไรกับสไปค์ไปมากแค่ไหนกันน่ะ"

              "ถ้าท่านจะสอบปากคำเฟรด ท่านเองก็ต้องสอบปากคำแดนไปด้วย ท่านเองก็น่าจะรู้ดีเลยนิ" บัลโต้กล่าว เพอซิอัสพยักหน้าเพราะเขารู้เรื่องของแดน มาร์ตินกับหน่วยรบวิหคเงากันมาก่อนแล้ว บัลโต้พูดต่อ "ถ้าท่านสอบปากคำเฟรด ก็เท่ากับว่าเราทำให้เฟรดรู้ฐานะของแดนที่ไม่ได้เป็นแค่พลทหารธรรมดากันอย่างเดียวแล้ว ซึ่งนั้นหมายถึง ท่านเพิ่มความเสี่ยงให้ครอบครัวมาร์ตินและคนข้างเคียงไปด้วยน่ะ เผลอๆอาจจะทำให้เฟรดไม่พอใจที่พ่อของเขาหลอกลวงกันไว้น่ะ"

              เพอซิอัสบอก "ส่วนหนึ่งเพราะ เจ้าหน้าที่แดน ไม่ได้บอกกับเฟรดเรื่องฐานะของหัวหน้าหน่วยรบวิหคเงาหรือฐานะของไดนาไมท์ฟอลคอนเลยสินะ"

              "ที่ถูกคือ บอกไม่ได้เลยมากกว่านะครับ ท่านนายพล" พีวิลบอก

              เพอซิอัสกล่าว "ผบสส.บาโธโรมิว แจ้งให้เจ้าหน้าที่แดน มาร์ตินกลับเฟิร์สฮิลล์โดยด่วน แล้วแจ้งให้เขาทำการสอบปากคำเฟรด มิใช่ในฐานะของทหาร แต่เป็นพลเรือน และเป็นพ่อกับลูกกันน่ะ"

              "ได้อยู่แล้วละ" บัลโต้บอกแล้วก็เดินไปติดต่อแดนโดยเร็ว

              มาสวาร์ทาร์บอก "ท่านนายพลเห็นทักษะการต่อสู้ของเฟรด นาเดีย คีธ และพวกน็อกกี้แล้วนิ คงมีความเห็นยังไงกันบ้างละครับ"

              "บอกตรงๆน่ะ ว่าแทบไม่เชื่อเลยว่าพวกเขามีฝีมือกันไม่น้อย แต่...." เพอซิอัสบอก "....น็อกกี้ แจ็สและแด็กซ์ แม้จะเป็นทหารเหมือนกับคีธ ไกซ์และมิลด์กันก็ตาม แต่พวกเขาเองก็มีประวัติในเรื่องขัดคำสั่ง ทะเลาะวิวาทไปจนถึงกระทำโดยพลการกันด้วยแล้ว ฉันคิดว่าจูเดทต้าน่าจะคุมพวกนี้ได้บ้าง แต่กับเฟรดและนาเดียที่ไม่รู้ว่าพวกเขาอยากจะเข้าร่วมกองทัพกันด้วยหรือเปล่าน่ะ"

              พีวิลกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะเฟรดมีอคติกับทางกองทัพ และอาจจะต่อต้านมากขึ้น เพราะพวกเรามีส่วนปิดบังสถานะของคุณแดนเลยสิครับ"

              "ใช่ และเราเองก็ไม่อยากจะบีบบังคับนาเดีย หากเธอไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้ร่วมกับพวกเราและพวกเธอกันด้วยน่ะ แม้ว่าเธอจะสู้กับฮีธได้ แต่ก็แค่ในช่วงที่เขาไม่ได้ใส่เกราะกันเลยน่ะ" เพอซิอัสบอก

              ฟิเกซกล่าว "เพราะถ้าฮีธเอาจริง นาเดียคงถูกฆ่าตายแน่นอนน่ะ"

              "ตอนนี้ ฉันขอให้พวกเธอประจำการที่นี้ไปสักระยะหนึ่งก่อน เพราะ....ยังมีเรื่องผู้ลี้ภัยกันอยู่ รวมถึงการเก็บกวาดเศษซากกองรบของพวกเดลอาเนี่ยนกันไว้ด้วยน่ะ" เพอซิอัสกล่าว "ส่วนเรื่องของเฟรดนั้น หวังว่าเจ้าหน้าที่แดนคงจะช่วยได้บ้างน่ะ"

              บัลโต้บอก "นั้นก็ดีกว่าให้ทหารไปจับตัวเฟรดมาสอบเองเลยน่ะ"

              "ถ้าเช่นนั้น เลิกการติดต่อเพียงเท่านี้แล้วกัน" เพอซิอัสตัดสายโดยทันที

              เนคมาดูซัมบอก "ฉันรู้สึกกังวลเรื่องสไปค์กันบ้างแล้วละ แม้จะไม่รู้ว่าสไปค์รู้เรื่องจากเฟรดมากน้อยแค่ไหนกันน่ะ"

              "นายกลัวว่า สไปค์จะมีศัตรูเพิ่มเป็นคุณแดนหรือเปล่าละ" พีวิลกล่าว เนคมาดูซัมส่ายหน้า

              ฟิเกซบอก "เรากลัวว่า สไปค์อาจจะเห็นเฟรดเป็นศัตรูกันนะสิ เพราะฮีธและรีกัลไปหาเรื่องกับนาเดียและคีธกันแล้ว แม้จะไม่รู้ว่านาเดียเป็นเพื่อนกับเฟรด แต่ถ้ารู้ขึ้นมา คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆเลยละ"

              "เราไม่รู้ว่าเรื่องต่อจากนี้จะเกิดอะไรกันบ้าง เอาเป็นว่าตอนนี้ เราทำในส่วนที่พวกเราทำไปก่อนแล้วกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              บัลโต้กล่าว "เพราะเราไม่ควรจะมากังวลเรื่องเฟรดกับสไปค์ รวมถึงพวกพ้องทั้งสองฝ่ายหรอก พวกเดลอาเนี่ยนและพวกริดโอต่างหากที่เราควรจะกังวลน่ะ"

              "แม้กระทั่งยัยแอมเบอร์ด้วยหรือเปล่าละ" สเปียริทบอก

              เนคมาดูซัมบอก "ความสามารถของแอมเบอร์ในคราวนี้ได้ช่วยเราเอาไว้ แม้ว่ามันน่าแปลกใจไม่น้อย แต่....เกรงว่าทางสถาบันเองก็มีเรื่องให้ค้นคว้าเพิ่มกันสักหน่อยแล้วละ"

              "แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับนาตาเช่และมิวนิสกันละคะ" ลิเนียร์ตี้ถาม

              จิลบอก "นั้นสิ ทั้งสองออกจากบ้านมาเป็นสายลับโดยพลการเช่นนี้ คงจะโดนลงโทษไปนานแล้วละ"

              "บารอนวินเซนท์และเลดี้ฟรีเซียแม้จะไม่พอใจมากๆกับการกระทำของนาตาเช่และมิวนิส แต่....พวกเขาก็มีเหตุมีผลกันบ้างน่ะ" ฟิเกซกล่าว

              บัลโต้บอก "และคงฉลาดมากพอที่จะไม่หาเรื่องซ้ำเติมพวกเรากันในคราวนี้เลยน่ะ"

              ที่ดวงจันทร์นอกดาวทรอเจียน ยานทรอแจนอาร์คของวินเซนท์และฟรีเซียมาถึงฐานแล้ว

              "แผนการแทรกซึมเขตเมืองใกล้กับสถาบันวิจัยล้มเหลว เพราะฝ่ายตรงข้ามเตรียมพร้อมจับกุมสายลับของพวกเราเอาไว้แต่แรกเช่นนี้....นั้นไม่แปลกใจเลยที่เซอร์อิลดินและเลดี้ลาเวนเด้พลาดท่าและถูกสองสามีภรรยาโอดิลสวมรอยแทนเสียได้น่ะ" อาวเซนบอก

              บัฟบอก "แสดงว่าพวกเขาคงรู้ว่าพวกเราส่งสายลับแฝงตัวมาแต่แรกเลยสิครับ"

              "แล้วเซอร์อิลดินและเลดี้ลาเวนเด้ละคะ" ฟรีเซียถาม

              อาวเซนตอบ "ฉันสั่งลงโทษทั้งสองด้วยการพักงานไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะพลาดพลั้งถูกศัตรูจับได้ แต่การที่พวกเขาถูกสวมรอยจนนาตาเช่และมิวนิสถูกจับตัวไปนั้น ก็คือความผิดพลาดร้ายแรงไม่น้อย ถ้าเป็นพวกสเตรดาร์ธ ท่านกับบารอนคงได้สูญเสียน้องชายและน้องสาวไปนานแล้ว" และหันมาถาม "แต่....ฉันอยากจะรู้สาเหตุที่ทั้งสองเล่นงานสายลับทั้งสองที่ควรจะไปกับพวกสไปค์กันทำไมละ"

              "คือ.....ผมแค่ต้องการให้พี่สาวยอมรับในความสามารถของผม เพราะพี่สาวยังเห็นผมไม่เป็นผู้ใหญ่มากพอ ถ้าภารกิจสำเร็จโดยที่ทำลายหุ่นยักษ์ทิ้งไปได้แล้ว พี่ผมก็คงเปลี่ยนใจได้น่ะ" มิวนิสบอก

              นาตาเช่กล่าว "หนูต้องการให้พี่ชายยอมรับในตัวหนูว่าหนูมีความสามารถมากพอ ที่จะเป็นกำลังสำคัญให้กับตระกูลของพวกเรากันนะคะ"

              "อืมมมมม บารอนวินเซนท์ เลดี้ฟรีเซีย นาตาเช่และมิวนิสอายุถึงเกณฑ์ที่จะเป็นอัศวินได้แล้ว ทำไมถึงยังให้ทั้งคู่อยู่ในสถานะอัศวินระดับล่างกันละ" อาวเซนถาม 

              วินเซนท์บอก "นาตาเช่หัวไวและมีฝีมือก้าวหน้ากันก็จริง แต่....ประสบการณ์ของเธอยังน้อยอยู่ รวมถึงไม่รู้จักระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ ผมจึงเห็นว่ายังเร็วไปที่จะให้นาตาเช่เป็นอัศวินนะครับ"

              "มิวนิสแม้จะมีความตั้งใจที่จะสู้รบและมีความเก่งกาจมากจนได้ตำแหน่งแลนไซท์กันก็จริง แต่ความวู่ว่ามและเลือดร้อน ไม่รู้จักคิดอย่างถี่ถ้วนและลงมือก่อนคิดทีหลังนั้น คือเหตุผลที่ฉันไม่อนุมัติให้มิวนิสเข้าเป็นอัศวินเลยนะคะ" ฟรีเซียให้เหตุผลเหมือนกับวินเซนท์

              อาวเซนบอก "ฉันก็คิดเช่นนั้นน่ะ เพราะทั้งสองเองก็หลงเชื่อในอุบายของฝ่ายตรงข้ามไว้ แม้ว่านั้นเป็นความผิดพลาดเพราะประสบการณ์ยังน้อยและไม่รู้เท่าทันก็จริง แต่ ถ้าเป็นกลุ่มศัตรูอย่างพวกสเตรดาร์ธ ความผิดพลาดนั้นมันหมายถึงชีวิตพวกเธอสองคนเลยน่ะ"

              "พวกเราทราบดีแล้วละครับ คะ" มิวนิสและนาตาเช่กล่าว

              อาวเซนบอก "แต่ฉันจะไม่ลงโทษพวกเธอสองคนนั้น ไม่ได้อยู่แล้วละ" แล้วก็บอก "ดังนั้น ฉันจะสั่งให้พวกเธออยู่ฝึกฝนกับเหล่าอัศวิน ภายใต้การดูแลจากคนของฉันตลอดเวลากันน่ะ"

              "ก็ยังดีกว่า โดนปลดจากตำแหน่งแล้วกันน่ะ" มิวนิสบอก

              อาวเซนกล่าว "แย่หน่อย ที่ฉันต้องลดตำแหน่งของเธอให้เท่ากับนาตาเช่แล้วละ มิวนิส อย่างน้อย ก็ถือซะว่าพวกเธอเท่าเทียมกันแล้วน่ะ" มิวนิสได้ฟังก็หงุดหงิดไม่น้อย แต่ก็ต้องพยักหน้ารับโดยดี "บารอนวินเซนท์ เลดี้ฟรีเซีย คงรู้ใช่มั้ย ว่าไม่ใช่แค่น้องของพวกเธอจะต้องโดนลงโทษกันไว้ แต่พวกเธอสองคนเองก็ด้วยน่ะ"

              "หมายความว่าไงกันนะครับ" วินเซนท์บอก

              อาวเซนอธิบายไปว่า "เหตุผลที่น้องๆของพวกเธอสองคนลักลอบแทนที่สายลับของเรานั้น ส่วนหนึ่งเพราะพวกเธอสองคนไม่สามารถฝึกฝนให้พวกเขาอยู่ในโอวาทจนฝ่าฝืนและขัดคำสั่งขึ้นมา ส่งผลให้แผนการเสียหายไปด้วย เท่ากับว่าพวกเธอสองคนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องกันทั้งหมดเช่นกัน" แล้วก็สั่งให้ "ต่อจากนี้ไป.....บารอนวินเซนท์ เธอต้องฝึกมิวนิสในฐานะสุภาพบุรุษนักรบ ส่วนเลดี้ฟรีเซีย จงฝึกนาตาเช่ในฐานะอิสตรีผู้กล้ากันด้วย"

              "ได้ไงกันละคะ ท่านแม่ทัพใหญ่ จะให้หนูฝึกกับคนตระกูลโคลานซ์กันนะหรือคะ" นาตาเช่บอก

              อาวเซนบอก "ถ้าหนูกับมิวนิสไม่เอา เกรงว่าฉันคงต้องปลดพวกเธอสองคนจากสถานะนักรบเป็นการถาวรและส่งกลับบ้านเดิม ฐานไม่ยอมรับบทลงโทษจากผู้บังคับบัญชาสูงสุดกันน่ะ" แล้วก็พูดไปอีกว่า "ถ้าพวกเธอสองคนยังทำตัวแบบนี้อีก ฉันคงต้องถอดกลุ่มตระกูลบาลานซ์และโคลานซ์ออกจากกองทัพหลักเป็นการถาวรด้วย อยากให้มันเกิดขึ้นเลยมั้ยละ"

              "..........ไม่ครับ ท่านแม่ทัพใหญ่" มิวนิสกล่าว

              นาตาเช่ตอบ ".....ถ้าเพื่อให้เราอยู่ในสนามรบเพื่อช่วยพวกพี่ชายรบกับพวกศัตรูละก็ หนูยินดีอดทนและรับการลงโทษกันนะคะ"

              "ดีแล้วละ ที่พวกเธอยอมทำตามไว้ แต่....ฉันก็ยังส่งคนมาจับตาดูพวกเธอสองคนอยู่ดีนี้แหละ" อาวเซนบอก "ต่อมา สไปค์ ฮีธ แล้วก็รีกัล ภารกิจของพวกเธอเองก็ล้มเหลวแบบเดียวกันกับนาตาเช่และมิวนิส หากแต่....พวกเธอต้องเสียกำลังคนส่วนหนึ่งไปให้ฝ่ายสหพันธมิตรด้วยนั้น คงรู้ใช่มั้ย ว่าพวกเธอจะโดนลงโทษอะไรกันบ้าง"

              สไปค์บอก "เราทราบดี ว่าพวกเราหนีมาโดยที่ทิ้งพวกพ้องกันไว้นะครับ"

              "โดยเฉพาะฮีธและรีกัล ที่ไปก่อเรื่องกับชาวเมืองแถวนั้น จนทำให้ทหารที่ประจำการรู้ตัวและส่งกำลังมาจับกุมนั้น ที่จริง ฉันจะลงโทษพวกเธอสองคนในสถานหนัก ฐานทำให้เราต้องเสียกำลังคนไปด้วย" อาวเซนกล่าว "แต่เพราะพวกเธอรอดมาได้โดยที่ยังปกป้องคนส่วนที่เหลืออยู่ให้กลับมาได้ ฉันถือว่านั้นเป็นข้อลดหย่อนผ่อนโทษ จากโทษหนักให้เบาลง ด้วยการลงโทษพวกเธอสองคนให้ไปทำงานในโรงอาหารตลอด 2 สัปดาห์ พวกเธอจะรับไว้มั้ยละ"

              ฮีธบอก "ขอบคุณมากนะ ลุง แม้ว่านั้นดีกว่าถูกจับขังคุกเลยน่ะ"

              "แต่ เธอห้ามขโมยเงินที่อัศวินของเราจ่ายมาเข้ากระเป๋าตัวเองไว้ เพราะฉันทราบมา ว่าเธอกินข้าวที่เมืองนั้นแล้วไม่จ่ายเงินไว้ เช่นเดียวกับรีกัล ที่ห้ามไปแอบขโมยกินอาหารกันด้วยน่ะ" อาวเซนตำหนิทั้งฮีธและรีกัลไว้ด้วย แล้วก็หันมายัง...."สไปค์ ในฐานะที่เธอเป็นหัวหน้าหน่วยแฝงตัว แม้ว่าเธอไม่ได้ข้อมูลสำคัญใดๆกลับมา และช่วยพวกอัศวินปกป้องตนเองจนพาหลบหนีไปได้ก็จริง แต่ความสะเพร่าที่เธอเผลอปล่อยให้มิวนิสและนาตาเช่แฝงตัวเข้ามานั้นยังถือเป็นความผิดกันอยู่ ดังนั้น ฉันจะลงโทษเธอด้วยการพักสถานะอัศวินเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อให้เธอกลับไปเรียนหนังสือแทนแล้วกัน และห้ามฝึกฝนด้านอาวุธไปด้วย เว้นแต่ออกกำลังกายกันน่ะ"

              สไปค์ตอบ "ขอบคุณมากครับ ท่านแม่ทัพใหญ่...."

              "หวังว่า ท่านบารอนและท่านเลดี้ คงจะฝึกลูกศิษย์คนใหม่ได้ดีบ้างน่ะ" บัฟกล่าว วินเซนท์มองหน้ามิวนิสด้วยสายตาที่หงุดหงิดเล็กๆ เช่นเดียวกับฟรีเซียที่มองนาตาเช่แบบเดียวกัน

              สไปค์กล่าว "และน่าหงุดหงิดไม่น้อย ที่ไม่รู้ว่าพวกนักรบวิหคเงานั้นเป็นใครก็ตาม....จนเปิดช่องให้เนคเกอร์และฟิเกซอท รวมถึงพวกสหพันธมิตรแซงหน้าเราไปได้ก็ตามน่ะ"

              "แต่การที่ฝ่ายนั้นบอกกับพวกเราให้สู้กับอย่างตรงไปตรงมานั้น บ่งบอกได้ว่า ศัตรูที่มาจากเขตอวกาศฝั่งตะวันออกนั้นทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายกันด้วย และฝ่ายสหพันธมิตรก็คงรู้ว่าพวกเราเป็นปรปักษ์กับริชเชลลิอาร์ลกันด้วยแล้ว พวกเขาถึงได้ปล่อยตัวพวกเธอกันไว้นี้แหละ" อาวเซนบอก

              บัฟกล่าว "กลัวว่าริชเชลลิอาร์ลจะรู้ถึงความล้มเหลวของเรา และเอาตรงนี้มากดดันพวกเรากันนะสิครับ" อาวเซน สไปค์ วินเซนท์และฟรีเซียพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

              "แต่พี่ได้ยินมาว่าเธอแต่งเป็นเมดในร้านอาหารนั้นใช่มั้ยละ" วินเซนท์กล่าว นาตาเช่พยักหน้า พี่ชายเลยต้องบอกไปว่า "ร้านอาหารที่ใช้เมดเป็นบริกรนั้น เขาไม่สวมหูกระต่ายและใส่กระโปรงสั้นแบบนั้นหรอกน่ะ"

              เช่นเดียวกับฟรีเซียที่ตำหนิมิวนิสด้วย "และ ไม่มีบริกรร้านไหนใช้สองมือถือถาดอาหารมาทีเดียวพร้อมกันหรอกน่ะ ต่อให้เธอถือทุกอย่างในคราวเดียวก็ตามน่ะ"

              ตัดมายังพวกสเตรดาร์ธกันบ้าง ที่โรงทหารส่วนพระองค์ จาฟฟาร์ลพาพวกเดินทางกลับลงมากันแล้ว

              "ฝ่ายสหพันธมิตรทำแบบนั้นกับพวกเราก็ไม่แปลกใจหรอกน่ะ เพราะศัตรูของพวกนั้นคือพวกเดลอาเนี่ยนที่มีแสนยานุภาพที่เกรียงไกร และใช้ทุกวิธีการเพื่อรุกรานเขตอวกาศฝั่งที่พวกเราอยู่กันน่ะ องค์ชาย" แม่ทัพใหญ่กาซิมกล่าว จาฟฟาร์ลพยักหน้า และฟังแม่ทัพใหญ่เล่าต่อ "นั้นไม่แปลกเลย ที่ซินแบทต้องรีบพาลูกน้องของท่านกลับมาก่อน ซึ่งก็ทำให้พวกนั้นรู้ว่าเราแทรกซึมเข้ามาในดาวของพวกนั้นได้ไงน่ะ"

              จาฟฟาร์ลบอก "และเป็นไปตามที่ฉันคาดเดาไว้ไม่มีผิด ว่าพวกเธอสามคนต้องก่อเรื่องวุ่นวายให้พวกทหารมันรู้ตัวเสียได้น่ะ"

              "ก็ใครจะไปรู้ละครับ องค์ชาย ว่าคู่กรณีพวกเราสามตัวจะอยู่ในเมืองกันน่ะ" โมฮัมมัคบอก

              อับดุลลอยด์บอก "และไม่คิดเลยว่าพวกนั้นจะร่วมมือกับพวกทหารในเมืองมาจับพวกเราเสียได้น่ะ"

              "เพราะอย่างงั้นแหละ ฉันถึงส่งกฤษณาและพวกนักรบหญิงติดตามพวกเธอสามคนไปด้วยนะสิ" จาฟฟาร์ลบอก "และพวกเธอคงไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลยละสิ"

              คมกริชบอก "ถึงเราไม่รู้ความเคลื่อนไหวของพวกนั้น แต่เราก็รู้ว่าโครงสร้างของเมือง รวมถึงเส้นทางภายในเมืองนี้เป็นยังไงกันบ้างนะครับ องค์ชาย แม้ว่าจะได้ไม่ครบก็ตามน่ะ"

              "พวกเธอน่าจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสมบูรณ์มากกว่านี้ ถ้าพวกเธอสามคนไม่ไปหาเรื่องกับศัตรูเก่าเสียก่อนน่ะ" กาซิมตำหนิพวกอับดุลลอยด์ไปด้วย และหันมาถาม "ในเมื่อฝ่ายสหพันธมิตรโต้ตอบเรากันแบบนี้ เราควรจะทำเช่นไรละครับ องค์ชาย"

              จาฟฟาร์ลบอก "พวกเราประมาทฝ่ายสหพันธมิตรมากเกินไปนะสิ ว่าพวกนั้นลดความแน่นหนาในการรักษาความปลอดภัยเพื่อเซตให้เป็นกับดักจับกุมสายลับขึ้นมา ซึ่งพวกนั้นไม่เพียงจับพวกเรา แต่จับพวกทรอยอาร์ที่แฝงตัวเข้ามาในเมืองกันด้วยแล้ว เท่ากับว่าเราไม่สามารถส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปได้น่ะ"

              "ถ้าเราส่งสายลับเข้าไปไม่ได้ ก็เท่ากับว่าเราไม่สามารถรู้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายสหพันธมิตรเลยสิครับ" กาซิมถาม

              จาฟฟาร์ลบอก "รวมถึงพวกเทเนดีนกับพันธมิตรสุดเลวนั้นด้วย ถ้าขนาดพวกอับดุลลอยด์และผู้การซินแบทถูกไล่กวดจนหนีหัวซุกหัวซุนมา ครั้งต่อไป สมุนของพวกเทเนดีนเองก็คงโดนเป่าหัวกระจุยไปแน่นอน" แล้วก็กล่าวไปว่า "ในฐานะที่พวกเธอสามคนทำงานพลาด ฉันจะต้องลงโทษพวกเธอ ด้วยการเป็นลูกมือผู้การซินแบทสัก 3 อาทิตย์แล้วกัน โดยที่เพื่อนพ้องของพวกเธอสามคนจะไปเป็นลูกเรือกันด้วย"

              "แล้วกฤษณาละครับ" คมกริชถาม

              จาฟฟาร์ลบอก "ตอนนี้การฝึกนอกดาวของเราจบลงไปแล้ว กฤษณากับเหล่านักรบหญิงก็ต้องฝึกร่วมกับทหารหญิงของพวกกัสลินไปอีกสามอาทิตย์ โดยที่ฉันกับแม่ทัพใหญ่กาซิมไปดูการฝึกด้วยตัวเองกันน่ะ"

              "หว่า นี้ต้องกลับไปเมาคลืนเลยหรือเนี้ย" โมฮัมมัคกล่าวด้วยน้ำเสียงอ๋อยๆเพราะเขาเมาคลืนมาก่อนแล้ว

              ซินแบทบอก "อย่างน้อย คลื่นสมุทรและลมทะเลจะช่วยพัดความวู่ว่ามของพวกเธอไปได้ละน่า"


              วกกลับมาที่เฟิร์สฮิลล์ ในสถานีอนามัย

              "เฟรด ลูกไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" แดนรีบเข้ามาเฟรดที่ออกมาจากห้องพยาบาลกันแล้ว โดยที่ต้นแขนซ้ายมีผ้าพันแผลเอาไว้

              "ผมไม่เป็นไรนะครับ หมอเบ็ตตี้ช่วยทำแผลไว้กันนะครับ" เฟรดตอบและหันมาถาม "ว่าแต่ พ่อดูร้อนรนมากๆเลยนะ"

              "แน่ละ เพราะพ่อรู้ว่าลูกถูกคนทำร้ายมา มีหรือที่พ่อจะไม่นิ่งนอนใจกันไว้น่ะ" แดนบอก แล้วก็เดินพาเฟรดกลับไปที่บ้านด้วยกัน "ตอนที่พ่อไม่อยู่นิ ลูกเจอเพื่อนใหม่เลยสิน่ะ"

              เฟรดบอก "ว่าแต่ เพื่อนทหารของพ่อบอกเองเลยหรือ พ่อถึงรู้เรื่องกันได้น่ะ"

              "ก็ไม่มีอะไรมากหรอกน่ะ พ่อแค่อยากรู้ว่าเพื่อนคนนั้นเป็นคนยังไงนะสิ" แดนถาม เพราะเขาทราบเรื่องของสไปค์จากบัลโต้มาก่อนแล้ว

              เฟรดบอก "สไปค์ เขาเป็นเพื่อนที่ตัวใหญ่กว่าผม และดูแก่กว่าผมมากๆก็จริง แต่ลึกๆแล้ว ผมรู้สึกสงสารเขามากเลยนะครับ"

              "สงสารเขานะหรือ ยังไงกันละ" แดนถามกลับ

              เฟรดตอบ "พ่อแม่ของเขาเสียไป เหลือแต่น้องสาวของเขากันนะสิครับ ซึ่งผมคิดว่าเขาคงเดินทางมาที่นี้เพื่อหาหนทางรักษาน้องสาวของเขาไว้นะครับ"

              "รู้ได้ไง ว่าเขามานี้เพื่อหาวิธีรักษาน้องสาวของเขาน่ะ" แดนถามไปบ้าง

              เฟรดเลยตอบกลับมา "เขาพูดถึงน้องสาวของเขาว่าเธอสุขภาพไม่ดีกันนะครับ แต่น่าเสียดายมากที่เขาไม่ได้เข้าไปดูภายในเมือง เพราะเขาขอตัวกลับไปเสียก่อนนะครับ"

              "......นั้นเพราะลูกน้องของสไปค์เข้ามาในเมืองและก่อเรื่องขึ้นมาสิน่ะ" แดนคิดในใจกันไว้แล้วถามต่อ "แล้วลูกพูดถึงพ่อให้เขารู้กันแค่ไหนน่ะ"

              เฟรดบอก "เออ....ผมแค่บอกเขาไปว่า พ่อเป็น พลทหารต็อกต๋อยที่หาเรื่องเจ็บตัวมากที่สุดในช่วงมหาสงครามกันนะครับ ซึ่งเขาก็เข้าใจกันนะครับ ว่าผมกับแม่ต้องดูแลพ่อมากแค่ไหนน่ะ"

              "หรือ แต่ลูกพูดจาดูถูกพ่อไปหน่อยน่ะ ในเรื่องที่พ่อหาเรื่องเจ็บตัวกันน่ะ" แดนบอก แม้ในใจก็โล่งใจไม่น้อยที่เฟรดพูดถึงเขาให้สไปค์รู้เพียงเท่านั้น

              เฟรดกล่าว "แต่ผมไม่เข้าใจก็คือ พ่อถามผมเรื่องนี้ทำไมกันละครับ"

              "เฟรด ถ้าเกิดว่าเพื่อนที่ลูกเจอเป็นคนไม่ดี และคิดปองร้ายเพื่อนๆของลูกขึ้นมา ลูกจะทำยังไงละ" แดนถามกลับ

              เฟรดตอบแบบไม่แน่ใจเท่าไหร่ไปว่า "พ่อเคยบอกเลยนิครับ ว่าถ้าเพื่อนผมใครก่อเรื่องอะไรไป ผมก็ต้องห้ามเขาเอาไว้ด้วยคำพูดอยู่แล้ว"

              "แล้วถ้าเขาพูดแล้วไม่ฟังขึ้นมาล่ะ และโต้ตอบลูกจนลูกเจ็บตัวขึ้นมา ลูกจะทำยังไง" แดนบอก

              เฟรดกล่าว "พ่อพูดเหมือนกับว่าสไปค์หรือคนรู้จักของผมเป็นศัตรูกันแบบนี้น่ะ ทำไมถึงถามเช่นนั้นละครับ"

              "พ่อแค่อยากให้ลูกระวังตัวกันไว้ และเตรียมตัวเตรียมใจหากวันนั้นมาถึง เพราะ....พ่อไม่อยากให้ลูกเสียใจในภายหลังนะสิ" แดนกล่าว แล้วก็ตบไหล่เฟรดไว้ "พ่อรู้น่ะ ว่าที่ลูกเข้าช่วยนาเดียและเพื่อนทหารคนนั้นไว้ เพราะลูกไม่อยากให้เขาเดือดร้อน แต่ลูกก็ต้องแยกแยะให้ออกและรู้สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ ซึ่งลูกก็คิดเองได้แล้ว หากแต่ต้องไตร่ตรองกันให้มากขึ้นก็เท่านั้นเอง"

              เฟรดบอก "แล้วพ่อรู้ได้ไง ว่าผมเข้าช่วยนาเดียและคีธไว้ ในเมื่อผมไม่ได้บอกพ่อเสียหน่อยน่ะ"

              "ลูกดูถูกเซนส์และสังหรณ์ของพ่อต่ำไปหน่อยน่ะ เฟรด ถ้าไม่เพราะตรงนี้ พ่อคงไม่รอดกลับมาหาลูกและแม่ได้หรอกน่ะ" แดนกล่าวพร้อมชี้มาที่หัว

              เฟรดได้ฟังก็ถอนใจขึ้นมา "พ่อก็อ้างแบบนี้ทุกที่ แล้วก็กลับมาบ้านแบบเจ็บตัวกันซะทุกที่เลยน่ะ"

              "งั้นลูกกลับบ้านได้เองน่ะ พ่อจะรีบตามไปแล้วกัน" แดนบอก เฟรดพยักหน้าแล้วรีบกลับไปที่บ้าน ซึ่งแดนก็เปลี่ยนท่าทีจากยิ้มแย้มมาเป็นจริงจังขึ้นมา "รู้น่ะ ว่าเธอแอบจับตาเฟรดอยู่น่ะ มาริ" แดนพูด โดยที่มาริเดินออกมาจากร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆ

              "หัวหน้าคะ ลูกชายของหัวหน้าคุยกับอัศวินกางเขนขาวกันมาถึง 2 ครั้ง โดยที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นศัตรูกับทางเราน่ะ"

              "มาริ เธอรู้มั้ย ว่าความจริงอาจจะช่วยทำให้เรากระจ่างในสิ่งที่เราไม่รู้หรือสงสัยขึ้นมาได้ มันก็ทำให้พวกเราเจ็บปวดได้เช่นกัน หากว่าความจริงนั้นมันเลวร้ายเกินรับได้น่ะ" แดนบอก "ที่สำคัญ เธอก็น่าจะรู้ดีแล้วนิ ว่านอกจากพวกไทรเวเซอร์แล้ว ฉันยอมให้เฟรดรู้ฐานะที่แท้จริงของฉันและพวกเธอไม่ได้เลยน่ะ"

              มาริกล่าว "ฉันทราบดีแล้วคะ แต่ว่า...."

              "เฟรดไม่รู้ว่าสไปค์เป็นพวกทรอยอาร์ที่คิดเป็นศัตรูกับทางเรา ถ้าเธอพูดกับเฟรดแบบนั้นไป ฉันกลัวว่านอกจากเขาไม่เชื่อแล้ว เขาจะยิ่งถามเธอกลับว่าเธอรู้เรื่องนี้ได้ไง เผลอๆก็เจาะลึกไปถึงฉันด้วยน่ะ" แดนกล่าว

              มาริได้ฟังก็ลังเลอยู่บ้างกับคำพูดของแดน "แต่คุณจะปล่อยให้เฟรด รู้เรื่องนี้ด้วยตัวเองเลยหรือ รู้ว่าเพื่อนที่เขาพบเจอกันแค่ครั้งสองครั้งเป็นศัตรูโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวกันเลยหรือ"

              "เฟรดเป็นลูกผู้ชายมากพอ เหมือนกับสไปค์ ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นจริง ฉันอยากให้พวกเขาแก้ปัญหาเยี่ยงลูกผู้ชายด้วยตัวเองนี้แหละ อีกอย่าง ฉันสั่งคีธให้มาดูเฟรดอีกต่อด้วย เขาจะช่วยแจ้งฉันอยู่เป็นระยะๆเลยน่ะ" แดนบอก "แต่ถ้าเธอยังอยากจะจับตาดูเฟรด ก็ย่อมได้ แต่....ขออย่างเดียวก็คือลดอคติลงบ้างน่ะ"

              มาริส่ายหน้า "คงยากคะ เพราะลูกของคุณไม่เหมือนกับคุณเลยนิ"

              "เฟรดเป็นเฟรด ฉันเป็นฉันน่ะ มาริ เธอก็ยังเป็นตัวเธออยู่ จะให้เป็นหรือเหมือนคนอื่นไปได้ไงละ...." แดนกล่าว "....ตอนนี้เธอกลับไปก่อนแล้วกันน่ะ"

              มาริพยักหน้า "หัวหน้าเองก็ระวังตัวในเรื่องที่หัวหน้ารับผิดชอบกันด้วยนะคะ" แล้วก็ "ฟึ่บบบ" กระโดดหายไปโดยเร็ว

              ในขณะเดียวกัน ที่สถาบันริดิวิแนนท์ ในวันต่อมา

              "เออ นี้มันหมายความว่าไงกันละครับ ที่ว่าเราสองคนไม่ต้องมาประจำการที่นี้กันน่ะ" นิคถาม

              รีฟบอก "นั้นสิคะ ในเมื่อพวกเรายังทำการทดสอบการต่อสู้ไม่จบเลยน่ะ"

              "การทดสอบนั้นจบไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วละ" อีธานบอก โดยให้วูลลิเซียมาอธิบาย

              "ในช่วงที่พวกเธอรับมือกับมิวนิสและนาตาเช่ที่เวลเซสแควร์กันนั้น แม้ว่าพวกเธอจะสู้กับนักรบที่มีประสบการณ์รบที่น้อยกว่าพวกเธอ จนแพ้ไปได้กันก็จริง....แต่...ฉันเริ่มรู้ว่าพวกเธอยังไม่ปรับปรุงตัวกันเลยน่ะ"

              "หมายความว่ายังไงละคะ ที่ยังไม่ปรับปรุงตัวน่ะ" รีฟถาม

              วูลลิเซียเลยนำคลิปเสียงมา "แล้วแฟนนายเองละ ไม่คิดไปช่วยเลยหรือ" มิวนิสถาม

              นิคตอบกลับไปว่า "สงสัยว่าเราคงมีอะไรที่เหมือนกันแล้วละมั่ง"

              "ก็แค่คำพูดของผมกับฝ่ายตรงข้ามกันนิ มันไม่เห็นเกี่ยวอะไรกันเลยน่ะ" นิคถาม

              วูลลิเซียบอก "เกี่ยวสิ เพราะว่าฉันได้ตรวจสอบข้อมูลการทำงาน และสอบถามหัวหน้าแคร์เรี่ยนกันมาแล้ว พบว่า เธอ ต่อสู้กับศัตรูโดยรีบจัดการโดยเร็ว ทั้งๆที่ศัตรูนั้นมีความแข็งแกร่งมากที่สุด โดยที่รีฟ....ต้องการจะมาช่วยเหลือเธอเอาไว้ เพราะมันเป็นภาระที่ต้องทำ แต่เธอกลับปฏิเสธความช่วยเหลือ และคิดจะจัดการกับศัตรูนั้นเพียงคนเดียว ซึ่งนั้นบ่งบอกได้เลยว่า เธอจงใจปฏิเสธความช่วยเหลือจากรีฟกันเลยน่ะ"

              "งั้นที่นิคบอกว่า เขามีอะไรที่เหมือนกับมิวนิส ก็คือ...." เจเนลถาม

              วูลลิเซียบอก "มิวนิสบอกว่าเขาไม่ได้เป็นแฟนกับนาตาเช่ แต่คำพูดของนิคนั้น มันไม่ได้แค่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรกับรีฟในฐานะแฟน แต่มันหมายรวมถึง ในฐานะของเพื่อนร่วมงานกันด้วย" แล้วก็ตอบไปว่า "ดังนั้น คนที่ทำงานโดยไม่สนใจเพื่อนร่วมงาน ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีม หรือแม้กระทั่งเข้าไปช่วยเวลาที่เขาตกที่นั่งลำบากกันละก็ ฉันคงให้ทำการทดสอบในสถาบันนี้ไม่ได้แล้วละ เพราะนั้นทำให้ทางเราต้องเสียเวลาที่มีค่าไปด้วย"

              "ก็ใครใช้ให้รีฟมาร่วมทีมกับผมกันละ" นิคตอบกลับแบบไม่สนใจ

              โฟรซ่าบอก "นี้เธอพูดแบบไม่สนใจความรู้สึกของรีฟกันเลยหรือไงยะ"

              "ก็ใครให้ผมสนใจกันละ อีกอย่าง หัวหน้าแคร์เรี่ยนไม่ได้บอกให้ผมดูแลเธอกันด้วยนิ" นิคอ้าง

              เจเนลบอก "ถึงแคร์เรี่ยนไม่พูดหรือสั่งให้ได้ยิน ถ้าเธอมาด้วยกับรีฟแล้วไม่รับผิดชอบแล้วละก็ ก็คือเธอขัดคำสั่งแคร์เรี่ยนไปแล้วละ"

              "ถึงแม้แคร์เรี่ยนจะเป็นครีซีแทนที่เจ้าระเบียบและใช้อารมณ์ไปบ้าง แต่เรื่องที่เธอไม่ให้อภัยมากที่สุดนอกเหนือจากพวกหน้าไหว้หลังหลอก พวกทรยศหักหลังและพวกที่คิดไม่ซื่อ ก็คือพวกที่ไม่ทำตามกฎ พวกที่ไม่ให้ความสำคัญต่อเพื่อนร่วมทีม หรือแม้กระทั่งลืมเรื่องทีมเวิร์ค ซึ่งอย่างหลังนั้น คือเรื่องที่เธอจะไม่พูดออกมาให้ได้ยิน แต่จะให้คนที่เป็นเป้าหมาย แก้ไขได้ด้วยตัวเอง เพราะเธอจะไม่พูดกับพวกที่ไม่ทำตามกันหรอกน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              ฟิเกซกล่าว "ถึงแคร์เรี่ยนไม่บอกกับพวกเรา เราก็รู้แล้วละ ว่าเธอกับรีฟเป็นตัวปัญหาที่ต้องให้พวกเรามาแก้ไขกันนี้แหละ"

              "ถึงจะให้พวกคุณมาแก้ ยังไงผมก็ไม่ยอมให้รีฟช่วยกันหรอกน่ะ และจะไม่พูดให้พวกคุณรู้...." นิคบอก     

              จิลกล่าว "เพราะว่ารีฟ ทำให้คุณพลัดพรากจากเฮเลนที่ถูกไวล์สเลฟจับล้างสมอง ทั้งๆที่รีฟเขาช่วยคุณจากเงื้อมมือและกับดักที่วางไว้เพื่อจับคุณให้อยู่หมัดเลยสิน่ะ คุณน่าจะละอายใจมากกว่านี้บ้างสิ"

              "......" นิคได้ฟังก็พยายามจะโวย แต่....

              "อย่ามาเฉไฉไม่รู้เรื่องเลยดีกว่าน่า นิโคลัส ต่อให้จิลพูดแบบไม่มีหลักฐาน แต่ถ้าเธอร้อนตัวออกมา นั้นบ่งบอกได้ว่าที่จิลพูดออกไป มันเป็นเรื่องจริงกันน่ะ" เจเนลบอก

              จายด์กล่าว "ยอมรับมาแต่โดยดีเถอะน่ะ ว่ามันเป็นเรื่องจริงกันน่ะ ถ้าเธอยังดื้อด้านแบบนี้ เกรงว่าเธอต้องเจ็บตัวมากกว่าเดิมกันน่ะ"

              "ผมแค่ ต้องการจะช่วยเฮเลนกลับมาจากเงื้อมมือของไวล์สเลฟกันให้ได้น่ะ อีกนิดเดียว เฮเลนก็จะรอดมาได้แล้ว ถ้าเธอ ไม่เข้ามาคว้าตัวฉันไว้เสียก่อนน่ะ" นิคกล่าวและโทษรีฟเอาไว้

              ฟิเกซบอก "ถึงเธอช่วยเฮเลนให้รอดมาได้ แต่เธอกลับถูกไวล์สเลฟครอบงำได้เป็นผลสำเร็จขึ้นมา มันคุ้มกับที่เธอเสี่ยงกันเลยหรือ"

              "นั้นสิ ในเมื่อไวล์สเลฟเป็นศัตรูที่เจ้าเล่ห์และใช้อุบายทุกวิธีเพื่อบรรลุเป้าหมายกันอยู่แล้ว มันรู้ว่าเธอจะมาช่วยเฮเลน เลยใช้เฮเลนเป็นกับดักเพื่อจับตัวเธอเป็นการแลกเปลี่ยนไปเอง" เนคมาดูซัมพูดโดยที่ฟังจากแอร์ไพล์มมิสมาก่อนหน้าแล้ว "เธอโชคดีมากเลยน่ะที่รีฟมาช่วยเอาไว้ แต่เธอก็ไม่ควรเอาเรื่องนี้มาเป็นความผิดของรีฟที่ทำให้เสียคนรักไป ในเมื่อเธอเองนี้แหละ ที่ประมาทไวล์สเลฟมากจนเกินไปน่ะ"

              นิคบอก "แล้วพวกคุณไปอยู่ที่ไหนกันละ ถ้าพวกคุณอยู่ด้วย ผมคงไม่...."

              "....ป้ากกกก" เจเนลเลยบุกเข้ามาจับนิคกดกับพื้นไว้ "เธอคิดว่า เธอคนเดียวเอาชนะศัตรูโดยไม่หวังพึ่งคนอื่นเลยหรือ เธอคิดว่าแค่ไม่ต้องการความช่วยเหลือคนอื่น เพียงเพราะเขาทำให้เธอเสียคนรักไปนั้น มันดีแล้วใช่มั้ยละ" เจเนลบอก

              นิคถามกลับ "แล้วคุณมีคนรักกันบ้างหรือเปล่า คุณสูญเสียใครที่อยู่ต่อหน้าแล้วไปช่วยอะไรไม่ได้กันบ้างมั้ยละ ถ้าคุณไม่มี แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามผมหรือตำหนิผมได้ล่ะ"

              "ถึงฉันไม่มีแฟนหรือคนรัก แต่เธอไม่มีสิทธิ์มาเมินเฉยต่อความช่วยเหลือของคนที่ช่วยเธอกันไว้น่ะ" เจเนลบอก

              นิคกล่าว "แล้วจะให้ผมรับความช่วยเหลือจากคนที่ทำให้ผมสูญเสียคนรักไปนะหรือ...ผมไม่เอาด้วยหรอก"

              "แล้วถ้าเกิดว่าแฟนของเธอไม่กลับมาเป็นแฟนของเธอคนเดิม แต่เลวร้ายยิ่งกว่ากันละ เธอไม่คิดที่จะหยุดยั้งแฟนสาวของเธอกันเลยใช่มั้ย" เจเนลย้ำ นิคได้ฟังก็ไม่ตอบ "....เธอกลัวละสิ ที่ต้องเปื้อนเลือดแฟนสาวของเธอ เธอกลัวที่จะต้องเป็นคนฆ่าแฟนของเธอทิ้ง เธอกลัวที่จะต้องสูญเสียคนรักไปด้วยมือของตนเอง ถึงขั้นที่ไม่กล้าลงมือทำอะไรกันเลยน่ะ"

              นิคบอก "แล้วจะให้ผมเผชิญหน้ากับเธอแบบที่คุณทำอยู่นะหรือ ผมไม่เอาด้วยหรอก"

              ".....เกรงว่า คนที่แคร์เรี่ยนเกลียดมากที่สุด จะไม่ใช่ฉันกับไวล์สเลฟแล้ว แต่เป็นนายเองต่างหากละ" เจเนลกล่าว แล้วก็ลุกขึ้นจากตัวนิคไว้ "ฉันกับพวกเคยถูกครองคอร์ดใช้เล่ห์อุบายกดดันมาตั้งหลายครั้งและคิดที่จะเอาคืนกันโดยตลอด แต่นายกลับไม่คิดที่จะทำอะไรที่จะหยุดยั้งไวล์สเลฟ หรือแม้กระทั่งแฟนสาวของนาย ที่เกือบจะพานายติดกับกันเช่นนั้น ถึงนายจะขอฝึกฝนเรากันหลายครั้ง นายก็แพ้วันยังค่ำอยู่ดีนี้แหละ ตราบใดที่นายไม่อดทนและยอมรับความช่วยเหลือกันไว้ เหมือนที่ฉันยอมรับในความช่วยเหลือจากพีวิลและพวกลูกพี่กันไว้น่ะ" นิคได้ฟังก็รู้สึกจิตตกไม่น้อย

              รีฟถาม "หัวหน้าวูลลิเซียคะ ว่าแต่ จะให้พวกเราทำอะไรกันต่อละคะ ในเมื่อพวกเราไม่ได้มาทดสอบที่นี้กันน่ะ"    

              "ตราบใดที่นิคและเธอยังทำงานเป็นทีมด้วยกันไม่ได้ ฉันคงให้ทดสอบความสามารถของพวกเธอไม่ได้กันน่ะ" วูลลิเซียบอก และหันมาถาม "ผบสส.บัลโต้ พอจะอนุมัติให้ทั้งสองรับการฝึกพิเศษเพื่อขัดเกลานิสัยกันได้มั้ยละคะ"

              บัลโต้ได้ฟังก็... "เกรงว่า ฉันคงต้องให้พวกนายดัดนิสัยเจ้าหน้าที่นิโคลัสให้รู้ถึงทีมเวิร์คกันเสียแล้วละ"

              "ถ้าเพื่อทำให้นิคและรีฟทำงานร่วมกันได้ละก็ ย่อมได้ละครับ ผบ.บัลโต้" เนคมาดูซัมกล่าว นิคและรีฟได้ยินก็ตกใจไม่น้อย เจเนลเลยเอาเมทัลเบลดจ่อตรงคอไว้

              สเตฟอร์ดบอก "พวกเธอสองคนคงจะรู้จากแคร์เรี่ยนดีน่ะ ว่าการฝึกของพวกเราเป็นยังไงน่ะ"

    โปรดติดตามในตอนต่อไป ในตอนที่ 17 ปฏิบัติการณ์พอร์ตคอร์เบิ้ลอันคาดไม่ถึง เมื่อนาวิกทรยศเผยตัว
    ตอนหน้า พวกไทรเวเซอร์ถูกส่งไปหยุดยั้งการจู่โจมพอร์ตคอร์เบิ้ลของพวกเดลอาเนี่ยน ซึ่งคู่กรณีเก่าของคลอเวฟได้เผยธาตุแท้ที่อาจจะทำให้ปฏิบัติการณ์ของพวกไทรเวเซอร์แป็กได้ในทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×