ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Del-Ahnian War

    ลำดับตอนที่ #29 : ตอนที่ 15 ปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือยานผู้ลี้ภัยจากเดลอาเนี่ยน เทพและเทพีกางปีกผลึกแก้วโบยบิน ครึ่งแรก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9
      0
      28 ก.ย. 64

              ในช่วงค่ำหลังเหตุการณ์ที่ไวซ์อาร์วี่ ในห้องอาบน้ำที่เวเซอร์เฮาส์

              "เฮ้อออ รู้สึกดีเลยน่า ที่ได้ยืดเส้นยืดสายจนร่างกายหายดีกันน่ะ" สเปียริทบอกหลังจากลงไปนั่งแช่น้ำร้อนในอ่างอาบน้ำกันแล้ว

              ลิเนียร์ตี้ที่กำลังขัดตัวด้วยสบู่กล่าว "ว่าแต่ ที่ห้องน้ำในโรงแรมไม่มีอ่างจากุซซี่กันเลยหรือ"

              "มี แต่ทุกวันที่เข้าไปก็มีคนจองกันทั้งนั้นนะ" จิลกล่าว โดยอยู่ในอ่างก่อนหน้าสเปียริทแล้ว

              ไซโคลเนียบอก "นี้คงจะไม่ได้กั้กตังค์ไว้ทำอย่างอื่นกันเลยสิ โฟรซ่า" โดยที่เธอเอาฟักบัวฉีดน้ำตรงรอบวงแขนระหว่างแขนกลกับลำตัวของเธอกันอยู่

              "ทำไงได้ละ ห้องที่มีสระจากุซซี่ดันไม่ได้อยู่ในค่าใช้จ่ายสำหรับพักฟื้นกันเลยน่ะ แถมห้องพักที่เราอยู่ ก็มีแค่ฟักบัวกับตู้กระจกเท่านั้นเองน่ะ" โฟรซ่ากล่าว ซึ่งเธออยู่ในอ่างด้วย

              แอนเดรียกล่าวพลางสระผมไปด้วยว่า "แต่อย่างน้อย ผบ.บัลโต้ออกตังค์ให้ แถมพวกคุณเบติสเองก็จ่ายด้วยเงินสดเพียงครึ่งเดียวกันแล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหากันเลยนิคะ"

              "ปัญหานะมีละสิ เพราะโรงแรมนี้มีพวกโนมฟอร์มเป็นลูกค้าทั้งนั้น เนี้ย ตอนขึ้นจากสระมา ก็เห็นโนมฟอร์ม 4 ตนแซวเป็นเชิงหลีหญิงกันให้นะ" จิลบอก

              สเปียริทหัวเราะไปว่า "ขนาดตัวเตี้ยเป็นเด็ก ก็ยังมีเด็กมาแซวเหมือนพวกผู้ใหญ่ขี้หลีละสิน่า"

              "งั้นหรือ....แต่...เธอเองก็ทรหดเอาเรื่องเลยน่า....ก่อนที่จะมาปะทะกับพีทกันน่ะ" โฟรซ่ากล่าวโดยเดินเข้ามาใกล้กับสเปียริท

              "นี้ อย่ามาขัดจังหวะเวลาคนกำลังผ่อนคลายได้มั้ยกันละ" สเปียริทบ่น โดยที่โฟรซ่าจับนิ้วชี้ซ้ายของสเปียริทขึ้น

              "อา ผิวกายของเธอนิทนไม่ใช่เล่นๆเลยนิ ไม่แปลกเลยน่า ที่เธอจะรอดจากการไล่กวดของพวกซีรีสตรัลกันตั้งสามสี่วัน แถมยังได้รับการบำรุงดูแลผิวจากชนเผ่าแท่งผลึกกันเลยสิน่า" โฟรซ่าบอก โดยลูบไปตามแขนซ้ายของสเปียริท จน... "อี้คคค" สเปียริทร้องลั่นเพราะเจ็บตรงข้อพับซ้ายเข้า "อ่า แม้จะมีผิวกายที่แข็ง แต่มิใช่กับส่วนที่อ่อนอย่างข้อพับเลยสิน่ะ"

              สเปียริทได้ฟังก็โวยกลับทันที "นี้.....นี้เธอ โอกาสมีตอนอยู่ในห้องพักก็มีอยู่เยอะ แล้วทำไมถึงไม่ทำเลยละยะ"

              "ทำไงได้ล่ะ ถ้าไม่ติดว่าฉันต้องรับผิดชอบดูแลเธอกับจิลในช่วงพักฟื้นกันละก็น่า.... แต่ก็ดีแล้ว ที่เวลานั้นหมดเสียก่อนน่า" โฟรซ่ากล่าว สเปียริทยั้วะเลยตั้งท่าเตรียมชก

              แอนเดรียบอก "เออ หยุดหาเรื่องตีกันในห้องน้ำได้มั้ยคะ"

              "นั้นสิ ถ้าห้องน้ำพัง พวกเนคมาดูซัมที่รอข้างนอกจะไม่ได้ใช้จริงๆเลยน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก

              แล้วก็มีอีกเสียงหนึ่งบอก "และไม่คิดเลยว่า คนอย่างคุณจะเป็นพวกเสือไบเสียได้น่ะ"

              "....เสียงนี้....นี้เธอใช่มั้ยละ คาเซคาว่า" โฟรซ่ากล่าว "ฉันอาจจะมองไม่เห็นเพราะดวงตาฝั่งขวาของฉันมีแต่ไอร้อนเกาะอยู่ แต่รู้ว่าเธอหลบอยู่ในห้องนี้กันแล้ว ออกมาเดียวนี้เลย"

              แล้วผนังใกล้กับอ่างล้างหน้าก็ขยับจนเผยตัวมาริเอาผ้าเลียนแบบผนังห้องน้ำออกไป "คุณรู้ได้ไง ว่าฉันพลางตัวอยู่ในห้องน้ำตั้งนานกันน่ะ" มาริถาม

              "ถึงผนังจะเป็นเซตเดียวกันและราบเรียบเหมือนกัน แต่ ห้องอาบน้ำนี้เปิดฮีทเตอร์สำหรับทำความร้อนอยู่ ถึงเธอพยายามจะทนแค่ไหน ก็คงทนร้อนไม่ไหวอยู่ดีละน่า" โฟรซ่าบอก

              สเปียริทกล่าว "และเธอคงเป็นนินจาที่ไม่อดทนเอาเสียเลยน่า ทันทีที่เธอโวยออกมา ผ้าที่เธอใช้พลางแนบกับผนังมันสั่นตามเสียงโวยของเธอด้วยน่ะ"

              "คุโนอิจิต่างหากละ เรียกให้ถูกๆหน่อยสิคะ" มาริบอก

              ไซโคลเนียกล่าว "แต่ เธอเข้ามาอยู่ในห้องนี้นานนิ คงไม่ได้มาดูพวกเราอาบน้ำกันใช่มั้ยละ"

              "ก็แค่อยากจะมาอาบน้ำด้วยนะคะ เพราะที่บ้าน เครื่องทำน้ำร้อนมันชำรุด กว่าแฮรี่จะซ่อมก็คงใช้เวลานานมาก เลยต้องแอบมาที่นี้เพื่อเซอร์ไพร์สคุณโฟรซ่า ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอนิสัยเลสของคุณเสียได้น่ะ" มาริบอก

              โฟรซ่าได้ฟังก็โมโห "คิดว่าฉันเป็นเลสเปี้ยนน่ะหรือ ที่ฉันทำกับสเปียริทนั้น แค่แหย่เล่น ตามประสาของรุ่นพี่ของคนที่ใกล้ชิดกับรุ่นน้องก็เท่านั้นเองน่า"

              "ถ้าแหย่เล่นจริง แล้วที่มาจับก้นฉันอยู่นิ แหย่เล่นเลยหรือยะ" สเปียริทย้อน

              โฟรซ่าได้ฟังก็หงุดหงิดไม่น้อย "มาริ ถ้าฉันเป็นเลสตามที่เธอสงสัยจริง ฉันคงทำมากกว่านี้ไปแล้ว แต่บังเอิญว่าผิวกายของสเปียริทนั้นมันชวนให้ใช้คลื่นความถี่กระตุ้นก็เท่านั้นเองแหละ"

              "พอเลยคะ คุณโฟรซ่า ยอดสไนเปอร์ที่ชาญฉลาดอย่างมาก น่าจะรู้จักคิดให้เป็นผู้ใหญ่กันได้แล้วนะคะ" มาริบ่น พร้อมกับถอดชุดนินจาและลงอาบโดยทันที "อ่า....ดีหน่อย แม้ว่าจะแคบไปหน่อยน่า" มาริกล่าวอย่างรู้สึกดีไม่น้อย

              สเปียริทบอก "เออ เธอใกล้ชิดกับโฟรซ่าเกินไปหน่อยแล้วละมั่ง"

              "อย่างน้อย แค่เบรคไม่ให้ก่อเรื่องวุ่นก็ถือว่าเกินพอแล้วละคะ" แอนเดรียบอก

              ลิเนียร์ตี้กล่าว "นั้นสิคะ อย่างน้อยก็ไม่มีใครมาพังห้องน้ำกันหรอกคะ"

              "ก้อกๆๆๆๆ" มีคนเคาะกระจกห้องน้ำมาจากข้างนอก "โอ้ว นายบื้อหาเรื่องแกล้งอีกละสิ" สเปียริทบอก

              จิลกล่าว "เป็นไปไม่ได้หรอกมั่ง คลอเวฟอยู่ในฟูลบาร์ ไม่น่าโผล่มาตอนนี้กันหรอก"

              "ต่อให้ไม่ใช่คลอเวฟ แต่คงไม่ดีแน่ๆที่อยู่ๆมีพวกชีกอโผล่เข้ามาถ้ำมองกันน่ะ" โฟรซ่าบอก แล้วก็สั่ง "ไซโคลเนีย เปิดกระจกเดียวนี้เลย"

              ไซโคลเนียพยักหน้า แล้วก็เดินเข้ามาใกล้กับกระจก โดยที่โฟรซ่าก้าวออกมาพร้อมกับขันใส่น้ำไว้ ซึ่งเมื่อไซโคลเนียเปิดกระจกออกไป "จ๊ะเอ้ ทำอะไรกันอยู่ละ" มีคนโผล่หน้าเข้ามา แต่ "ซ่า" โดนโฟรซ่าสาดเข้าไปเต็มๆ จนเผยหน้าของ...

              "อ้า คุ คุณโรซารี่เองหรือ" ลิเนียร์ตี้อุทานขึ้นมา

              "ก็ใช่นะสิ อุตสาห์โผล่มาหมายจะทำท่าตกกะใจกันสักหน่อย ไม่น่าโดนสาดเข้าเต็มๆเลยน่า" โรซารี่กล่าวโดยที่เธอถูกสาดจนเปียกปอนไปหมดแล้ว

              สเปียริทบอก "นี้หล่อน หล่อนมาทำอะไรแถวนี้กันละ ในเมื่อเธอควรจะอยู่กับพวกบรอนเซอรูทมิใช่หรือ"

              "บรอนเซอรูทกับพวกผู้ชายยังอาบน้ำไม่เสร็จกันนะสิ ซึ่งพวกทินเหมาลีรอนานไม่ได้ เลยต้องไปใช้ห้องน้ำที่บ้านครอบครัวโอดิลกันแล้ว ฉันก็เลยมาแวะที่บ้านของพวกเธอ เผื่อจะขออาบน้ำกันสักหน่อยน่ะ" โรซารี่บอก

              สเปียริทบอก "งั้นหรือ ถ้าเธออยากอาบน้ำละก็ เราอนุญาตเลยแล้วกัน"

              "แต่อย่าทำแบบนั้นีอีกจะได้มั้ยละคะ พวกเราใจหายกันหมดเลยคะ" แอนเดรียบอก

              โรซารี่กล่าว "แบบนั้นก็ไม่สนุกกันพอดีนะสิ" แล้วก็ยื่นขาเข้ามาข้างใน

              "เดียวๆๆๆๆๆ นี้เธอจะเข้าผ่านหน้าต่างเลยหรือยะ" ไซโคลเนียบอก

              โรซารี่บอก "ก็แน่ละสิ เวลาประตูล็อกก็ทำแบบนี้ตลอดกันน่ะ"

              "เออ เข้าทางประตูหลังบ้านจะดีกว่า ปีนเข้ามาในนั้นเกิดมีคนมาเห็นจะคิดว่ามีคนลามกปีนเข้ามาในห้องนะคะ" แอนเดรียบอก

              โรซารี่กล่าว "ประตูมันล็อกอยู่นะ เปิดให้หน่อยสิ" แอนเดรียได้ฟังเช่นนั้นเลยยืมผ้าบังผนังแล้วก็เดินออกจากห้องน้ำไปเปิดประตูให้โรซารี่เข้ามาอาบน้ำต่อ 

              "พวกผู้หญิงอาบน้ำนานจังเลยนะเนี้ย" เจเนลบ่นโดยรออาบน้ำ ด้วยการเล่นวีดีโอเกมส์แข่งกับพีวิลอยู่ ส่วนพวกเนคมาดูซัมก็นั่งอยู่บนโซฟา กำลังอ่านหนังสือกันอยู่

              สเตฟอร์ดถาม "ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้นในห้องน้ำกันน่ะ แอมเบอร์"

              "เออ เกรงว่าจะมีคนเข้ามาอาบเพิ่มถึงสองคนด้วย นั้นคือ คุณมาริ และคุณโรซารี่นะคะ" แอมเบอร์รายงาน

              เจเนลบ่น "ไม่ต้องเดาหรอก บรอนเซอรูทกับพวกอาบน้ำนานแน่ๆเลยละ"

              "แต่อย่างน้อย แค่พวกสเปียริทไม่ตีกันจนห้องน้ำพังก็เกินพอแล้วละ" เนคมาดูซัมกล่าว

              หลังจากนั้นเวลาผ่านไป พวกแมนิเกเตอร์หญิงก็อาบน้ำเสร็จ แล้วพวกผู้ชายก็เข้าไปอาบต่อ "พยากรณ์อากาศในระบบดาวกรูเยียร์ในวันนี้ ทวีปฝั่งตะวันออกมีเมฆครึ้มอยู่ทั่ว ซึ่งจะเกิดพายุฝนทั่งสแตนเลสสติลให้เป็นเสาเข็มในบางพื้นที่ ทางตอนใต้ของดาวจะมีพายุหิมะโหมกระหน่ำจากเขตขั้วโลกใต้ขึ้นมาทางตอนเหนือ ส่งผลให้วันหยุดฤดูร้อนกลายเป็นฤดูหนาว ขอให้นักท่องเที่ยวเตรียมเสื้อกันหนาวเอาไว้ และแนะนำว่าขอเป็นแบบสามชั้น เพราะอุณหภูมิหลังพายุหิมะพัดผ่านมานั้น ติดลบศูนย์ถึงลบ 40 องศา ทางตอนเหนือและฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเป็นต้นมานั้น...." นักข่าวพยากรณ์อากาศฝั่งสมาพันธ์อวกาศรายงาน โฟรซ่าเลยเปลี่ยนช่อง ซึ่งก็เจอกับ.... "ณ.ทวีปโซนร้อนที่ดาวเตลุงลุง 6 เกิดเหตุน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหล่งเหล่ง เข้าท่วมเขตชุมชนจนกลายเป็นเมืองบาดาลไป 10 กว่าเมืองด้วยกัน เช่นเดียวกับทวีปอังคอลด้า เกิดพายุฝนตกขี้หมูไหลคนอะไรมารวมตัวกันอย่างหนักหน่วง จนทำให้เมืองได้รับความเสียหายจากอุทกภัยไปกว่าครึ่ง สืบเนื่องมาจากการบริหารจัดการน้ำที่ล้มเหลว แก่งแย่งสัมปทานซ่อมแซมระบบระบายน้ำ ไปจนถึง มีกองโจรไปทุบอ่างเก็บน้ำด้วยหุ่นยนต์ซ่อมแซม ซึ่งอย่างหลังนี้ ตัวการเป็นผู้ที่เคยถูก...."

              "สภาพอากาศของระบบดาวแต่ละแห่งนิ ดีๆทั้งน่านเลยน่ะ" โฟรซ่าบ่น แล้วก็เปลี่ยนช่องมาเป็นรายการเพลงต่อ

              แอนเดรียกล่าว "แต่อย่างน้อยก็ไม่มีข่าวเกี่ยวกับการก่อการร้ายของพวกคิฟทรอนอฟก็ถือว่าเกินพอแล้วคะ"

              "ไม่หรอก แอนเดรีย ถ้าไม่มีข่าวของคิฟทรอนอฟก็เป็นเรื่องแย่กันพอดีนะสิ เพราะเราต่างรู้ว่าคิฟทรอนอฟทำทุกอย่างเพื่อเอาคืนทุกฝ่ายที่ทำกับเขาไว้นะ" โฟรซ่าบอก

              ไซโคลเนียกล่าว "และถ้าไม่มีข่าวปรากฎให้เห็น ก็แสดงว่าหมอนี้ต้องเตรียมวางแผนอะไรบ้าๆมาเล่นงานพวกเรากันอย่างไม่ต้องสงสัยเลยละ"

              "หมายถึงการใช้พวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธออกต่อสู้กับพวกเราเลยสิคะ" แอมเบอร์บอก โฟรซ่าพยักหน้า

              สเปียริทบอก "หรือไม่ก็ส่งลูกน้องเข้ามาก่อความเดือดร้อนซ้ำเติมพวกเรา ในเวลาที่เรามีพวกริดโออยู่ด้วย ซึ่งคนทรยศอย่างคริฟทรอนอฟคงไม่ลงมาช่วยออกไปได้แน่ๆเลยละ"

              "ยิ่งเรามีพวกเดลอาเนี่ยนเป็นศัตรูหลักกันด้วยแล้ว เรายิ่งประมาทฝ่ายมหาจักรวรรดิ์กันไม่ได้แล้วละ" จิลกล่าว

              ลิเนียร์ตี้บอก "ถ้าขนาดพวกนั้นร่วมมือกันจับกุมพวกเราเอาไว้ ก็เท่ากับว่าพวกนั้นร่วมมือเพื่อยึดครองระบบดาวของพวกเราได้แน่นอนน่ะ"

              "แต่ตอนนี้ ความน่าเบื่อกำลังจะครอบงำพวกเราเต็มที่กันแล้วน่า" โฟรซ่าบ่นเพราะรายการบันเทิงแทบไม่มีละครเลย

              แอมเบอร์บอก "ช่องรายการส่วนมากนั้น เขาโยกเอาละครตอนดึกมาอยู่ช่วง 1 ทุ่มเป็นต้นไป และเอารายการมีสาระเข้ามาแทนแล้วคะ"

              "แล้วผังรายการของดาวบ้านเราล่ะ" ลิเนียร์ตี้ถาม

              แอมเบอร์กล่าวโดยเช็คข้อมูลผังรายการไว้ "เกรงว่า ช่วงนี้จะมีแต่ข่าวกัน เพราะสถานีโทรทัศน์ส่วนมากนั้นยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยกันอยู่นะคะ"

              "นั้นเป็นข้อเสียของการรุกรานของพวกเดลอาเนี่ยนละสิน่า" สเปียริทกล่าว โดยโฟรซ่าเปิดช่องมายัง....

              "โครมมม ป้ากกกก" ช่องถ่ายทอดสดที่มีมนุษย์ดาวหมูตัวโตกระแทกใส่มนุษย์ต่างดาววัว "บิ้กแฮมกระแทกสกัดกั้นมอนตาด้าคาวจนลูกหลุดไปแล้ว ถือเป็นการเข้าสกัดกั้นการทำแต้มของทีมสติลคาวเป็นครั้งที่ 4 แล้ว พวกเขาจะทำแต้มตีเสมอกับทีมพอร์คช็อคเกอร์ได้หรือเปล่า เพราะเวลาการแข่งครึ่งหลังเหลือเพียงแค่ 2 นาที 20 วินาทีกันแล้ว" โฆษกกล่าว โดยพวกมนุษย์ดาววัวโยนลูกส่งไปให้ลูกทีมที่ถือไม้ตีลูกพุ่งเข้ามาให้พุ่งไปยังพวกพ้องที่กระโดดเข้ามารับ แต่... "ฟ้าววว หมับบบ" มนุษย์ต่างดาวหมูตัวโตกระโดดเข้าคว้ารับมาได้ "จบเห่แล้วละครับ จบเห่แล้วละครับ กับทีมสติลคาว ที่ถูกลูกทีมหมายเลข 5 กระโดดคว้าลูกและโอกาสชนะลงไปได้ ทำให้ทีมสติลคาวพลาดโอกาสเข้าชิงแชมป์กับทีมเบโอเวฟ ตัวเต็งชาวดาวเบโอแร็กก้าไปอย่างน่าเสียดายเลยนะครับ"

              "เอ้....ผะๆๆๆ เผ่าเบโอแร็กก้า แข่งกีฬาเป็นด้วยหรือกระนี้...." สเปียริทอุทานอย่างตกตะลึง

              โฟรซ่ากล่าว "ตลกล่ะ เผ่านี้ไม่น่าจะสวมชุดกีฬาและลงแข่งกันได้เลยนิ เพราะพวกนี้เหมาะกับการแปลงเป็นสัตว์ประหลาดออกสู้กับพวกศัตรูกันซะมากกว่าน่ะ"

              "เกรงว่า มันจะเป็นอย่างงั้นแล้วนะสิ" พีวิลออกจากห้องน้ำมา

              สเตฟอร์ดบอก "เพราะก่อนหน้าที่พวกแรซัลก้าจะรุกรานนั้น พวกเบโอแร็กก้าเป็นชนเผ่ากลุ่มน้อยที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน สแมคบอล ร่วมกันกับชนเผ่าต่างดาวในเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์เลยนะ ซึ่ง...ตามข้อมูลนั้น หัวหน้าเผ่าซูลดีฟท์เป็นคนคัดเลือกนักกีฬาส่งเข้าแข่งขันมาตั้ง 15 ครั้งแล้วละ"

              "เออ จะว่าไป มันก็ใช่น่า ตอนที่หัวหน้าเผ่าซูลดิฟท์มากับพวกเราเพื่อรับการพิจารณาคดีที่ส่งคนไปลักพาตัวผู้การมิลเดียมานั้น เขาแทบไม่รู้สึกตื่นกลัวต่อสภาพแวดล้อมที่เจริญรุ่งเรืองหรือภายในสภาสูงกันเลยน่ะ" จิลกล่าวโดยนึกถึงตอนที่พวกเขาช่วยซูลดิฟท์มาจากการคุกคามของพวกเวโนมิไนซ์ของเวสเทรซได้

              สเปียริทบอก "นั้นสิ นึกว่าเขานิ่ง เพราะเคยถูกจับมาขึ้นศาลสูงในหอประชุมสภาสูงกันตั้งหลายครั้งจนชินชากันมิใช่หรือ"

              "เปล่าหรอก เพราะซูลดิฟท์เคยมาที่ดิสก์เวิร์ดในฐานะตัวแทนรองชนะการแข่งสแมคบอลกันมาก่อน และได้รับรางวัลเป็นถ้วยเอาไว้นะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว "เพียงแต่...ซูลดิฟท์เห็นว่าถ้วยรางวัลมันมีค่าเกินไป และไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรได้ ก็เลยประทับรอยมือให้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเคยพาลูกเผ่ามาแข่งจนได้ชัยชนะในระดับนั้นเองนี้แหละ"

              แอนเดรียบอก "คงจะกลัวว่าถ้วยรางวัลที่ได้มา มันมีค่าจนอาจจะถูกขโมยหรือทำหายได้เลยสิคะ"


              "แต่กีฬานี้มันเหมือนอเมริกาฟุตบอลมิใช่หรือ ทำไมถึงมีผู้เล่นใช้ไม้ตีเหมือนเล่นลาครอสเลยน่ะ" โฟรซ่ากล่าว

              สเตฟอร์ดบอก "เท่าที่ถามผู้การฮาซาเดนมา สแมคบอลนั้นเป็นกีฬาที่รวมเอา ฟุตบอล อเมริกาฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล ด็อดจ์บอล ฮอคกี้ และลาครอสเอาไว้ด้วยกัน หลักๆคือใช้ลูกบอลในสนามทำแต้มด้วยการยิงใส่ประตูฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเข้าโกล ปะทะกับแป้นไฟบนหน้าโกล ซัดลูกให้ผ่านเสาสูงหลังโกล ไปจนถึงใช้ไม้ตีลูกบอลให้อัดฝ่ายตรงข้ามให้ล้ม ซึ่งอย่างหลังนั้นจะให้แต้มค่อนข้างสูงมาก และถ้าทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนคนในสนามน้อยกว่าครึ่ง ก็จะเป็นฝ่ายชนะไปเลยละสิ"    

              "แบบนั้นก็ง่ายนะสิ ใครหน้าไหนก็สามารถน็อกนักกีฬาฝ่ายตรงข้ามร่วงกันได้หมดโดยไม่สนกติกากันเลยน่ะ" สเปียริทกล่าว

              แอบไบออสบอก "แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านักกีฬาเหล่านั้นจะทำได้เสมอไปหรอกน่ะ เพราะกติกาของเกมส์นี้คือ ห้ามเล่นงานนักกีฬาจนบาดเจ็บถึงขั้นลงแข่งไม่ได้ และถ้าหากนักกีฬาโดนเล่นงานจนเสียชีวิต คนที่กระทำก็จะถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งเป็นการถาวรและถูกส่งมาคุมขังในเรือนจำแทน ซึ่งกติกาเหล่านี้ช่วยเบรคมิให้พวกนักกีฬาที่ชอบใช้ความรุนแรงก่อเรื่องเกินควรไปได้มาก และ...ทีมบางทีมก็ต้องแข่งแบบใช้สมอง ใช้กลยุทธ์ในการเล่น และใช้คนให้ถูกกับแผนการเล่นให้มากขึ้น รวมถึงรับมือกับพวกชอบเล่นนอกเกมส์และเล่นผิดกติกาอย่างจงใจเองด้วย เพราะสแมคบอลเป็นกีฬาที่ค่อนข้างรุนแรงเอาเรื่องเลยน่ะ"

              "แล้วฝั่งพวกคุณที่เป็นพวกมนุษย์นิ เคยลงแข่งกันบ้างมั้ยละคะ" แอนเดรียถาม

              แอบไบออสกล่าว "นอกเหนือจากลูกน้องของผู้การดัสท์แพทแล้ว พวกนายทหารตัวโตๆหุ่นนักกีฬาในหน่วยรบที่ 1 ถึง 16 ของกองรบที่ 21 เองก็เคยแข่งในฐานะตัวแทนฝ่ายมนุษย์กันมาแล้ว ซึ่งพวกเขาต้องใช้เวลาในการศึกษาวิธีการเล่นที่ต้องใช้ทักษะกีฬาที่หลากหลาย เพราะพวกเขาจะมาเตะบอล เดาะบอล หยิบลูกและวิ่งชาร์จฝ่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามกันอย่างเดียวไม่ได้แล้ว เนื่องจากว่าฝ่ายตรงข้าม จะใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อทำแต้มให้ชนะกัน ซึ่งแม้พวกเขาชำนาญกีฬามา แต่ก็พยายามได้ดีมาก แม้จะแพ้ฝ่ายตรงข้ามมากันน่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "ซึ่งฉันตั้งใจจะลงแข่งด้วยกันกับทีมเหล่านี้กันแล้วล่ะ"

              "แต่สุดท้าย ผู้การทิคแซทมาเบรคไว้ก่อนเลยสิครับ สิบเอก" พีวิลบอก

              แอบไบออสยิ้มแห้งก่อนตอบไปว่า "รวมถึงภรรยาของฉันเองด้วย ที่มาห้ามเพราะไม่อยากให้ลูกเห็นฉันกลับมาแขนขาหักหรือนั่งรถเข็นกันทุกครั้งที่ไปเข้าแข่งนี้แหละ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะกลัวว่าโจเซฟินกับเกร็กจะจำและเอาไปเล่นจนเจ็บตัวเสียเองสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              แอนเดรียกล่าว "แต่ก็ดีแล้วละคะ ที่คุณไม่ลงแข่งไว้ เพราะการแข่งขันนี้ รุนแรงเอาเรื่องมาก ซึ่งพวกเราคงไม่อยากลงแข่งเกมส์นี้แน่ๆเลยคะ"

              "แต่คงยากที่จะหลีกเลี่ยงการแข่งแบบนี้แล้วละ เพราะในช่วงการประลองศึกราชันย์ยอดนักสู้แห่งจักรวาลจบลง คนของแม่ทัพไซบัลจ์มาแจ้งไว้ ว่าพวกเราอาจจะได้ลงแข่งสแมคบอลกันแน่นอนเลยละ" มาสวาร์ทาร์บอก

              ไซโคลเนียบอก "ทั้งๆที่พวกบรอนเซอรูทไม่มาด้วยกันกับพวกเราเลยหรือ"

              "คงเป็นเช่นนั้นแล้วละ และเราคงห้ามพวกเฮเรเค้นลงแข่งไม่ได้ด้วย เพราะเท่าที่ทราบมา ทีมที่ลงแข่ง ต้องมีตัวสำรองลงสนามแทนตัวหลักมากกว่า 20 คน แต่ไม่เกิน 40 คนขึ้นไป เพราะอัตราการบาดเจ็บของนักกีฬามีสูงถึง 8 ต่อ 2 ด้วยกันน่ะ" พลัสเชอริทบอก

              จิลบอก "ถ้าเป็นคลอเวฟน่ะ คงพูดว่า พวกนี้ไม่ได้มาแข่งกันจริงๆหรอก แต่มารุมกระทืบฝ่ายตรงข้ามให้หมดสนามเลยซะมากกว่าน่ะ"

              "และพวกที่เล่นแบบขาวสะอาดก็หาได้ยากในเกมส์นี้กันแล้ว ยิ่งเป็นพวกเดลอาเนี่ยนด้วยนั้น คนที่ฆ่านักกีฬาในสนาม นอกจากจะไม่ผิดกติกา แต่ยังได้รับการเชิดชูกันด้วยนะสิ" สเตฟอร์ดบอก

              สเปียริทกล่าว "พวกเดลอาเนี่ยนคิดว่าตัวเองเป็นใครกันน่ะ ถึงไม่คิดลงโทษคนที่ฆ่าคนในสนาม แต่ยังไปเชิดชูกันแบบนี้ มันน่าโมโหเสียจริงๆเลยน่ะ"

              "นั้นไม่แปลกหรอก เพราะพวกเดลอาเนี่ยนใช้สแมคบอลเป็นตัวคัดเลือกคนเข้าร่วมกองทัพกันไว้ พวกนักกีฬาที่เป็นเผ่าหลักซึ่งได้ชัยชนะมานั้น จะได้รับการอภัยโทษในการฆ่าลูกทีมฝ่ายตรงข้ามในสนามและได้เข้าสู่กองทัพในฐานะนายทหารอันทรงเกียรติ ซึ่งเป็นตำแหน่งของนายทหารที่เก่งกาจ และผ่านการแข่งขันที่ต้องใช้พลังและความสามารถเป็นอย่างมากเอาชนะไปได้นะสิ" ฟิเกซกล่าว

              จิลบอก "แม้กระทั่งพวกที่โกงหรือทรยศเองก็ถูกลบล้างกันนะหรือ นั้นไม่น่าให้อภัยอย่างแรงแล้วน่ะกับการปล่อยให้คนเลวมันลอยนวลกันแบบนี้เลยน่ะ"

              "นั้นแหละ คือกระบวนการเกณฑ์คนเข้ากองรบของพวกเดลอาเนี่ยนกันละ ซึ่งสมาพันธ์อวกาศเองก็คัดเลือกยอดนักกีฬาที่มีความสามารถอันโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาเป็นส่วนหนึ่งของกองรบกันทั้งนั้น หากแต่ฝ่ายสมาพันธ์อวกาศเป็นริเริ่มก่อน แล้วพวกแมทเฟลิมก็นำขนบธรรมเนียมเอาไปให้พวกเดลอาเนี่ยน จนเป็นที่กว้างขวางกันในเขตอวกาศฝั่งตะวันออกกันนี้แหละ" สเตฟอร์ดบอก

              จายด์กล่าว "และพวกเดลอาเนี่ยนก็เอาขนบธรรมเนียมมาปรับจนให้ดูเลวร้ายกว่าฝั่งสมาพันธ์กันเสียด้วย นั้นไม่แปลกใจเลยที่พวกนักรบที่เข้ามารุกรานถึงดุร้ายและไม่ยอมฟังใครกันน่ะ"

              "และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ผู้แพ้หรือผู้ที่อ่อนแอจะถูกกำจัดไป ต่อให้พวกเขาถูกตัดสินให้แพ้แบบไม่ยุติธรรม ก็ต้องลงเอยด้วยการจบชีวิตกันไปซะทุกครั้งเลยน่ะ" ฟิเกซบอก

              แอนเดรียกล่าว "พวกเดลอาเนี่ยนคงไม่ยอมให้โอกาสกับคนที่ล้มเหลวเลยสิคะ"


              พูดถึงพวกเดลอาเนี่ยนกันแล้ว ที่เขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยน สถานีอวกาศยานที่ 5 ของดาวมาร์ตัน-4

              "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กองรบเดลอาเนี่ยนบุกจู่โจมและถล่มใส่สถานีอวกาศกันอย่างยกใหญ่ ด้วยฟรอนารีน กันวอร์ค และเดลกาซอร์ท ซึ่งได้นำกองรบรถถังโฮเวอร์คราฟ ยานบินต่อสู้ด้วยความเร็วสูง ยานบินทิ้งระเบิด และยานบินขับไล่เข้ามา "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว" ฝูงยานบินพุ่งเข้าใส่หมายจะโจมตีใส่ยานอวกาศทรงยาว 5 ลำที่กำลังจะออกจากท่ากันอยู่ แต่.... "ฟ้าวว ฟ้าววว ฉืบๆๆๆๆๆๆ" ยานบินเหล่านั้นขาดสะบั้นเพราะสายลมพัดผ่านถึงสองสายด้วยกัน

              "หนอยยย ไอ้ ไอ้มือสังหารจากเงาเมฆา คิดหรือว่าพวกเราจะมองไม่เห็นพวกแกกันน่ะ" นักบินเดลอาเนี่ยนที่ควบคุมเครื่องบินขับไล่กล่าวพร้อมกับ "ฟ้าวๆ เปรี้ยงง เปรี้ยงง" ยิงจรวดไฟฟ้าให้ระเบิดใส่จน "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ" ปรากฎซุปเปอร์วอร์บอทอิคารอไนซ์สองตัว หากแต่ทาสีน้ำเงิน และส่วนหัวนกตัวหนึ่งนั้นมีจงอยปากแหลมเอาไว้ทั้งสองตัวขึ้นมา

              "ศิษย์พี่เซรีน ระบบพลางตัวของแอร์สเปคเทรี่ยนใช้การไม่ได้แล้วละครับ" นักบินอัลแทเรี่ยนที่อยู่ในคอกพิตอันมืดมิดกล่าว

              "นั้นไม่จำเป็นกันแล้วละ โครว์เชด ต่อให้แอร์ไซเดอร์หายตัวไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะชนะพวกเดลอาเนี่ยนไม่ได้หรอกน่ะ" เสียงของนักบินอัลแทเรี่ยนเพศหญิงกล่าว โดยตอนนี้เดลกาซอร์ททะยานขึ้นด้วยส่วนเท้าเจ็ทพร้อมกับดาบยาวพลังอานุภาคไว้ "แฟ้ววว เปรี้ยงงงง" แต่ถูกยิงด้วยกระสุนพลังคลื่นเสียงโซนิคเข้าไปจนทำให้เกราะหน้าอกบุบเข้าไปอย่างฉับพลัน โดยเป็นฝีมือของอัสแทรมิคสีเขียวสลับขาวที่มีปืนยาวพาดบ่าซ้ายไว้

              "ต้องการให้ช่วยบ้างมั้ยละ" เสียงของชาวอัลแทเรี่ยนหญิงที่ควบคุมกล่าวกับอัลแทเรี่ยนหญิงที่อยู่ในคอกพิตอันมืดมิด ซึ่งตอบกลับไปว่า

              "ขอบใจสำหรับความหวังดีน่ะ เครนิลล่า แม้ว่าเธอจะเข้ากับพวกเราเพราะต่อต้านแนวทางและคำสั่งของกัลดีม่า จนเผ่าของเธอพลอยเดือดร้อนและต้องลี้ภัยมาด้วยน่ะ"

              "แน่ละ เพราะเรื่องที่จักรพรรดินีมิวนัสหาเรื่องเจ็บตัวกันนั้น ทำให้พวกเราต้องรีบลงมือกันแล้ว แมนิเกเตอร์หญิงผิวเข้มน่าจะฟาดให้หัวหลุดไปได้ก็ดีแล้วน่า เครนิส" นักบินแมทเฟลิมหญิงที่ควบคุมแคทครอฟสีส้มบุกมาด้วยกงเล็บพลังงานความร้อนเข้า "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ" ข่วนใส่กันวอร์คและฟรอนารีนพร้อมกับแคทครอฟอีก 15 ตัวที่โต้ตอบด้วยความเร็วสูงกัน

              เครนิสตอบ "พวกไทรเวเซอร์ทำได้ดีที่สุดก็เกินพอแล้วละ เจกรอน่า" แล้วก็ "ฟ้าววว ฟ้าววว ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" บินหลบหลีกปืนแสงจากฟรอนารีนที่มีเครื่องบินเข้ามาประกอบร่าง พร้อมกับโต้ตอบด้วยปืนแสงที่แขนซ้ายจนเป่าฟรอนารีนกระจุยไป "ฟ้าววว ฟ้าววว" เดลกาซอร์ทสองตัวทะยานขึ้นมาหมายจะจัดการกับอัสแทรมิคของเครนิส แต่... "ตรุ้งงงงง ตรุ้งงงง" อีคารอไนซ์สีน้ำเงินทั้งสองยิงกระสุนคลื่นเสียงโซนิคเข้าใส่เดลกาซอร์ทจนปลิวกระเด็น "ครี้งงงงง ฟ้าวววว" แอร์ไซเดอร์ของเซรีนซัดปีกบูมเมอแรงกลางหลังเข้า "ฉั้วะๆๆๆ" กรีดตัดท้องเดลกาซอร์ท ตามด้วยสับท้อง แขนทั้งสองข้างและผ่าหัวขาดเป็นสองซีกในทันที "ฟิ้วๆๆๆ แกร้ง หวับๆๆๆ กรี้กกกกกก ฉั้วะ" ส่วนตัวที่สองถูกแอร์สเปคเทรียนของโครว์เชดซัดดาวกระจายที่เป็นปีกตรงหัวไหล่ทั้งสองข้างและหัวเข่า กรีดตัดเดลกาซอร์ทขาดเป็นสองซีกไปในทันที

              "ตรึงๆๆๆๆๆ" เดลกาซอร์ท 20 ตัวบุกมาพร้อมกับฟรอนารีนจำนวนหนึ่ง แต่.... "ตุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆ" ฟรอนารีนจำนวน 20 เครื่องถูกกระหน่ำยิงด้วยกระสุนความร้อนสูงจนกระจุยไป แล้วก็ "แชดดด แชดดด แชดดดด" ลำแสงพุ่งเข้าสอยฟรอนารีนให้ร่วงไปสามเครื่อง "ตรุ้งงๆๆๆๆๆ หึมๆๆๆๆ แฟ้วว แฟ้ว ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก" เดลกาซอร์ท 6 ตัวถูกถลุงจากระยะไกลจนได้รูที่ลำตัว เช่นเดียวกับอีก 8 ตัวถูกลำแสงความร้อน 2 สายยิงทะลวงไปพร้อมกัน โดยเป็นฝีมือของหุ่นไบดัลโวลที่สวมหมวกโจรสลัดและมีคลีบฉลามอยู่ด้านบน ซึ่งติดตั้งปืนใหญ่แบบสามลำกล้องบนหัวไหล่ทั้งสอง เดินมากับหุ่นบรูซาน็อกซ์ที่ติดอาวุธหนักเอาไว้ รวมถึงปืนใหญ่กันด้วย

              "มึงยิงเยอะกว่ากูเลยน่ะ กริซซิก" โจรสลัดฉลามโหดผู้เป็นคนขับไบดัลโวลโจรสลัดฉลามกล่าวกับนักบินหมีดุที่ควบคุมบรูซาน็อกซ์ติดอาวุธหนัก ซึ่งตอบกลับไปว่า

              "แล้วมึงจะมาแย่งเป้ากูที่อยู่ฝั่งขวากันทำไมวะ ครีซ"

              "เอิ่ม อย่าทะเลาะกันได้มั้ยละคะ ตอนนี้เรามีผู้เดือดร้อนที่กำลังจะออกจากระบบดาวกันอยู่นะคะ" เสียงผู้หญิงกล่าวโดยควบคุมเมอมาร์คสีฟ้าอ่อน ซึ่งถือปืนยาวยิงลำแสงสีฟ้าโจมตีใส่กันวอร์คให้ร่วงกันอยู่

              "ดอลฟูลนิสพูดถูกน่า กริซซิก ครีซ ถ้าไม่เห็นแก่คนของพวกเราที่โดยสารไปด้วย ก็เห็นแก่เพื่อนที่ช่วยให้เรารอดมากันบ้างสิ" เครนิสกล่าว

              "หมายถึงไอ้มือป่วนจากเขตอวกาศฝั่งใต้นะหรือ แม้หมอนั้นจะช่วยให้เรารู้ว่า วีรบุรุษที่ปราบพวกอาครีเดี่ยมนั้นเลวบรมแค่ไหน หมอนั้นก็ไม่ใช่ยอดนักสู้ที่ดีมากเลยน่ะ" ครีซกล่าวอย่างหงุดหงิดไม่น้อย

              โครวเชดบอก "มือป่วนไซเมี่ยนเป็นเพื่อนกับพวกไทรเวเซอร์กันน่ะ ครีซ ตอนนี้เรามีหน้าที่ช่วยเขาและพวกผู้เดือดร้อนจากการคุกคามของพวกเดลอาเนี่ยน ให้ไปถึงมือฝ่ายสหพันธมิตรกันอยู่น่ะ"

              "ฉับบบ ฉั้วะ ฉับ" ไดเรปซาร์ทสีแดงเข้มโดยมีตาขวาเป็นคาเมร่าอายและไม่มีเขาติดด้านข้างหัวถือขวานสองเล่มที่ร้อนฉ่า ฟันใส่เดลกาซอร์ทจนขาดสะบั้นลงไป 3 ตัว ในขณะที่ไดเรปซาร์ทตัวสีเงินกระโดดเข้ามา "ฟ้าววววววววว ป้ากกกก กรี้กกกกกก ฉั้วะ" ใช้แขนซ้ายปล่อยลูกตุ้มเข้าอัดใส่เดลกาซอร์ท จนชะงักและใช้แขนขวายิงเลื้อยกงจักรกรีดผ่าหัวและลำตัวขาดโดยทันที "กรอดดดดด ไอ้พวกเดลอาเนี่ยน กล้าวอนหาเรื่องกับเร็กซอน คูลซาวเดอร์กันแบบนี้ แน่จริงก็เข้ามาสิวะ" นักรบซอร์แรคที่มีบอดี้สมส่วนสวมเกราะนักรบกล่าว โดยอีกตนที่ควบคุมไดเรปซาร์ทสีแดงบอก

              "อีกนานมั้ยละ วิเวลลี่ ที่เธอกับพวกลูกๆของเธอซ่อมยานของพวกเราเสร็จกันน่ะ"

              "เรากำลังเร่งเต็มที่แล้วละ ริชาร์ท" อินเซคเที่ยนหญิงกล่าว โดยที่เธอควบคุมแอนเทอไบน์เข้าซ่อมแซมยานลำใหญ่ที่จอดอยู่ใกล้กับยานขนส่งทั้งห้าลำเอาไว้ "วิโด้ วิเด้ วิดี่ วิดดอม ซ่อมระบบลอยตัวด้านนอกเสร็จรีบไปช่วยน้องอีก 4 ตนติดแผ่นเกราะยานโดยเร็ว อาแรคคัส ลูกกับพวกน้องๆซ่อมบูสเตอร์เสร็จหรือยังละ" เธอถามต่อแอทเทอไบน์ที่มีหกแขนที่ควบคุมวอร์แมชชีนคอร์สไปเดอร์สีดำหลายตัวกันอยู่

              "จวนแล้วครับ แม่ ส่วนท่อเชื้อเพลิงที่ 2 ถึง 3 มันเสียหายมาก ถ้าไม่ซ่อมให้ดี เดียวยานก็เผาพวกเราได้เลยนะครับ"

              "ลูกกับพวกน่าจะซ่อมตั้งแต่ก่อนที่พวกเดลอาเนี่ยนจะมากันได้แล้วน่า" วิเวลลี่บอก

              เซรีนกล่าว "เอาละ ไซเมี่ยน นายรีบนำยานลี้ภัยออกบินไปเดียวนี้เลย พวกเราคงจะตามไปด้วยไม่ทันแล้วละ"

              "แล้วพวกคุณจะอยู่นี้พร้อมกับลูกน้องที่อยู่บนยานของพวกคุณ ที่สถานีอวกาศยานลำพังจนถูกพวกเดลอาเนี่ยนจู่โจมกันนะหรือ ผมว่าไม่ดีหรอกมั่ง" ไซเมี่ยนกล่าวโดยอยู่ที่หอควบคุมสัญญาณ แล้วก็ "ปี้บบบ" ทุบปุ่มที่กระพริบขึ้นมา ซึ่งก็ "ครืดดดดดด แกร็ก แว้งๆๆๆๆๆ" เลื่อนนำเสาประตูดาราออกมา ซึ่งได้เปิดช่องทางห้วงมิติกันไว้ "แว้งงงง แฟ้วววว แฟ้วววว แฟ้ววววว แฟ้วววว แฟ้วววว" โดยยิงลำแสงดึงยานขนส่งที่มีเหล่าผู้ลี้ภัยทั้งห้าลำเข้าไปในประตูโดยเร็ว "แว้งๆๆๆๆๆๆ" เช่นเดียวกับวอร์บอทและซุปเปอร์วอร์บอทที่อยู่รอบๆสถานีอวกาศและใกล้กับยานอวกาศกันด้วย

              "เฮ้ย นี้แก....เซตหุ่นและยานของพวกเราเข้าประตูมิติกันเลยหรือวะ" ริชาร์ทกล่าวอย่างอึ้งๆ

              "ใครใช้ให้แกทำแบบนี้กันละ ในเมื่อ พวกเราต้องอยู่นี้เพื่อสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนและพันธมิตรแสบกันไว้น่ะ" เร็กซอนสบถ

              ไซเมี่ยนกล่าว "นั้นเป็นคำขอของผู้นำของพวกคุณเหลือไว้ก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งพวกคุณต้องรอดชีวิตไปให้ได้ อย่างน้อย ก็รอดจนเจอกับพวกพ้องที่หายตัวไปก่อนหน้าพวกคุณกันนี้แหละ"

              "ผู้นำอาร์ซไพล์มน่ะหรือ" เครนิสกล่าว ไซเมี่ยนพยักหน้า

              เซรีนบอก "เข้าใจแล้วละ ว่าทำไมผู้นำอาร์ซไพล์มถึงไว้ใจคนนอกที่เป็นแมนิเกเตอร์มือป่วนอย่างเธอกันเลยน่ะ"

              "แล้วเราจะถูกส่งไปพร้อมกับผู้ลี้ภัยกันหรือเปล่าละ" เจกรอน่าบอก

              ไซเมี่ยนกล่าว "ผมเซตพิกัดของพวกคุณเอาไว้อีกทางหนึ่ง ซึ่ง...ผู้นำอาร์ซไพล์มเคยส่งเพื่อนพ้องของพวกคุณส่วนหนึ่งไปก่อนหน้ากันแล้วละ"

              "ถ้าส่งพวกเราไปไม่เจอตัวพี่โคเซวิค หรือแม้กระทั่งรองหัวหน้าอาชิลน่ากันละก็....นายโดนกระทืบแน่ๆ" กริซซิกกล่าว แล้วก็ "แว้งๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆๆ" ลำแสงจากประตูดาราจัดการดึงวอร์บอท ซุปเปอร์วอร์บอทและยานอวกาศของพวกเขาเข้าไปโดยเร็ว

              ไซเมี่ยนยิ้ม แล้วก็ "คงถึงเวลาของฉันแล้วละ" พร้อมกับหยิบรีโมทมา "ปี้บบบบ ตรูมมมมม" เป่าระเบิดหอส่งสัญญาณไปก่อนที่พวกเดลอาเนี่ยนจะบุกเข้ามาถึง และ "วูววววววว" ประตูดาราก็ปิดตัวลง


    TriVESER The Manigator Saga : The Dell-Arnian War
    ตอนที่ 15 ปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือยานผู้ลี้ภัยจากเดลอาเนี่ยน เทพและเทพีกางปีกผลึกแก้วโบยบิน

              เช้าวันต่อมา ที่ป่าบนหุบเขาใกล้กับเขตเมือง 

              "ฟึ่บๆๆๆๆ ปึ้กๆๆๆๆๆ" บรอนเซอรูทรับมือกับพีวิลที่ออกหมัดเข้าใส่อย่างรวดเร็วด้วยฝ่ามือ ในขณะที่ "ฟึ่บๆๆๆๆ หวับๆๆๆๆๆ" เจเนลระดมเตะและถีบใส่บาร์ทที่โยกตัวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับ "ฟึ่บๆๆๆๆ หวับๆๆๆๆ" ระดมแทงด้วยดรรชนีทั้งสองข้างใส่เจเนล ซึ่งรีบใช้มือทั้งสองปัดป้องไปอย่างรวดเร็ว "ว้ากกก" พีวิลชกใส่บรอนเซอรูทซึ่งเอี้ยวหลบและ "หมับบบ หวับบบบ" คว้าจับแขนขวาที่ชกใส่แล้วทุ่มข้ามหัวไป แต่ "หวับๆๆๆๆ ตึกกก ฟ้าวววว" พีวิลตีลังกาม้วนตัว 5 รอบและลงสู่พื้น พร้อมกับพุ่งเข้าถีบใส่บรอนเซอรูทอย่างรวดเร็ว "ป้ากกกก" บรอนเซอรูทไขว้แขนป้องกันเอาไว้ จนเท้าครูดกับพื้นถอยหลังไป 5 เมตรด้วยกัน

              "โว้ว นี้เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเอาเรื่องเลยนะเนี้ย" น็อกกี้กล่าว

              แด็กซ์บอก "แน่ละ การต่อสู้ของอดีตมนุษย์ที่ทรงพลังและมิวแทนอยด์ผู้ยอดยุทธ์กันทั้งสองคู่นั้น หาดูได้ยากเลยนะเนี้ย"

              "นั้นไม่ได้หาดูยากหรอกน่า เพราะลูกพี่พีวิลและเจเนลสู้กับคุณบรอนเซอรูทนั้น เป็นเรื่องที่เราเห็นเป็นประจำตอนมาฝึกฝนวิชาต่อสู้กันแล้วน่ะ" เฮเรเค้นบอก

              ไลเอิร์ทกล่าว "ซึ่งครั้งแรก พวกเขาก็ฝึกกันแบบนี้แหละ หากแต่ คนที่ฝึกกับลูกพี่เจเนล เป็นลูกพี่เซเทธกันน่ะ"

              "นี้แสดงว่าพวกนายเห็นจนชินมาแล้วสิ" แจ็สบอก "แต่ก็สุดยอดมากเลยน่าที่เห็นการต่อสู้แบบนี้ ทั้งๆที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นกันน่ะ"

              เทรอนเร็กซ์บอก "ถ้าไม่เพราะความเกรียนของพวกนายสามตัว พวกนายคงไม่มาดูการฝึกแบบชิดขอบสนามกันหรอกน่ะ"

              "แกร้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทินเหมาลีใช้ง้าวสู้กับพลองของสเปียริทและง้าวของจิลที่กวาดแกว่งใส่อย่างรวดเร็ว โดยที่สเปียริทบุกนำไปก่อนด้วยการกระทุ้งใส่ทินเหมาลี ซึ่งกวาดแกว่งง้าวปัดรับไว้ จากนั้นก็กระทุ้งง้าวใส่ง้าวของจิลที่กวาดแกว่งมาอย่างต่อเนื่องด้วย "หวับบบบ" แล้วก็หวดขาเตะใส่จิล ซึ่งรีบก้มหลบอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กระโดดหลบการเตะกวาดพื้นของสเปียริทกันด้วย

              "เหลือเชื่อ นี้คุณทินเหมาลีรับมือกับคุณสเปียริทได้เลยหรือเนี้ย" เมดิน่าบอก

              ฟูลออเรสกล่าว "นั้นสิ และคุณจิลที่ดูแล้วเสียเปรียบทั้งขนาดตัวนั้น ไม่นึกเลยว่าจะว่องไวกันแบบนี้เลยน่ะ"

              "นั้นไม่แปลกหรอก เพราะคนที่สามารถรับมือกับพละกำลังของอาเจ้สเปียริทได้นั้น มีแต่อาเจ้ทินนี้แหละ" ไกซ์บอก

              มิลด์กล่าว "และที่คุณจิลฝึกกับคุณทินเหมาลีกันนั้น ไม่ใช่แค่ครั้งแรกหรอกน่ะ เพราะตอนฟอร์มทีมเวเซอร์เป็นครั้งแรก คุณทินเหมาลีอยากรู้ว่าคุณจิลสู้กันยังไง เลยใช้ง้าวเข้าจู่โจมใส่ ปรากฎว่าคุณจิลเทเลพอร์ตหลบหลีกไปมา คุณทินเหมาลีเลยขอให้คุณจิลหลบหลีกด้วยพละกำลังขาและความว่องไวของขนาดตัวกัน ซึ่งคุณจิลแทบไม่ได้ใช้พลังจิตในการหลบเลยสักครั้งนะคะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะในบางครั้ง การหลบด้วยการเทเลพอร์ตไปนั้น อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับคู่ต่อสู้ที่จับทางหรือว่องไวกว่าได้นะสิ" วิลด้ากล่าว

              เบติสบอก "และพวกมนุษย์เทียมสโทรเพธบางตนที่ถูกย่อส่วนจนขีดความสามารถในการสู้รบลดลงไปนั้น บางตนที่ใช้พลังจิตไม่ได้ก็ใช้ความว่องไวที่ยังพอมีอยู่หลบหลีกกันได้ หรือไม่ก็ใช้อาวุธที่ไม่ถนัดเข้าจู่โจม อย่างหอกหรือกงเล็บกันนี้แหละ เพราะเคยเห็นพวกสโทรเพธในสภาพแบบจิลสู้กันมาก่อนแล้วน่ะ"

              "แปลว่าคุณคงจะเจอคนแคระที่เดิมเป็นเอลฟ์ย่อส่วนสู้กันมาก่อนสิคะ" เมดิน่าบอก

              มิลด์บอก "อ่า นี้คงจะฟังหนูแมบิลีนเล่าให้ฟังมาก่อนละสิ"

              "แต่....ลุงจายด์นิ สุดยอดมากเลยน่ะ" ฟูลออเรสบอก เพราะจายด์โต้ตอบการบุกของทอฟคานิค สเตฟอร์ดและคลอเวฟกันอย่างหนักหน่วง หลังจากที่สเตฟอร์ดและคลอเวฟพุ่งกระแทกด้วยเกราะหัวไหล่ และท่าถีบขาคู่ของทอฟคานิคใส่ "นั้นเหมือนคิงคองสู้กับกอริลล่า 3 ตัวกันนี้แหละ" ไกซ์พูดเปรียบเปรยกันไว้
    "แล้วคุณเนคมาดูซัมไปไหนกันละคะ ทั้งๆที่เขาน่าจะมาร่วมฝึกด้วยน่ะ" เมดิน่าบอก วิลด้าเลยชี้ไปที่เนคมาดูซัมที่ใช้ดาบใหญ่ที่ทำด้วยไม้โอ็ค รับการโจมตีของเนคกี้และเนคกัสที่ใช้ดาบใหญ่ทำด้วยไม้โอ็คเช่นกัน "ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้ากๆๆๆๆ ปึกก ป้ากๆๆๆๆ" เนคกี้บุกเข้ากวาดแกว่งดาบใหญ่เข้าใส่เนคมาดูซัมอย่างต่อเนื่อง แต่ถูกถีบล้ม เนคกัสเลยบุกเข้ามาฟาดใส่เนคมาดูซัมไปสี่ห้าที่ด้วยกัน

              "โว้ว ไม่นึกมาก่อนว่าคุณเนคมาดูซัมจะใช้ดาบใหญ่เป็นเลยน่ะ" ฟูลออเรสบอก

              "หัวหน้าเนคมาดูซัมใช้ดาบใหญ่กันตั้งนานจากคุณเนคคูคัสมาแล้วละ" ไกซ์บอก "เดิมทีฉันอยากจะฝึกกับเขาเพื่อใช้โซลิดเบลดสองเล่มให้คล่องๆกันก็จริง แต่พอมาเห็นเนคกี้และเนคกัสโดนหวดจนถอยครูดไป เลยขอบายดีกว่าน่ะ"

              เบติสบอก "การฝึกของพวกแกตไทซ์ด้วยกันเองนั้น แรงและหนักหนาเกินกว่ามนุษย์โคลนอย่างเธอจะรับไหวหรอกน่ะ ไกซ์ แม้กระทั่งมิวแทนอยด์ระดับซีอย่างพวกเธอสองคนเองด้วยน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาถูกสร้างให้เป็นเผ่าพันธุ์นักรบที่แข็งแกร่งและทรงพลังเลยสิคะ" เมดิน่าบอก

              วิลด้าพยักหน้า "และมีเหตุมีผลกันบ้างด้วย แม้ว่าแกตไทซ์บางตนที่เข้าประจำการกับกองทัพที่แรซัลก้ามาจะมีพฤติกรรมและนิสัยที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการที่พวกเขามีสังคมแบบชนเผ่าเหมือนกับควอเดี่ยม เพียงแต่พวกเขามิได้มีผู้นำเพียงหนึ่งเดียวเหมือนกับควอเดี่ยมที่มีนายแม่เป็นผู้นำสูงสุดกันน่ะ"

              "แล้วคุณเนคคูคัสเป็นผู้นำของพวกแกตไทซ์กันจริงหรือเปล่าละครับ" ฟูลออเรสบอก

              เบติสกล่าว "แม่ทัพเนคคูคัสเป็นแค่ตัวแทนฝ่ายทหารและเผ่าแกตไทซ์ที่ถูกส่งมาจากดาวแกตโตเดี่ยนกันเท่านั้นเองน่ะ ส่วนผู้นำนั้น ก็มีการสลับสับเปลี่ยนไปตามวาระ ซึ่งเธอน่าจะรู้ ว่าเวลาบนดาวแกตโตเดี่ยนมันเดินเร็วกว่าเวลามาตราฐานบนแรซัลก้าหรือบนโลกของเธอถึง 5 เท่าด้วยกัน เลยทำให้ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าเดียวตนนั้นเป็น เดียวเปลี่ยนมาเป็นตนนั้น และผ่านไปไม่กี่เดือน แกตไทซ์อีกตัวก็รับช่วงต่อ ซึ่งก็ทำให้ชาวซัลคาเลี่ยนอย่างฉันและวิลด้าเองก็สับสนอยู่ตลอดเวลาเลยน่ะ"

              "แปลว่าตำแหน่งผู้นำของพวกแกตไทซ์คงอยู่ได้ไม่ยืดเลยสิครับ" ไกซ์บอก

              เบติสพยักหน้า "ไม่ใช่อยู่ไม่ยืดหรอก ไกซ์ เพราะมีบางเรื่องและบางเหตุการณ์ที่ต้องให้ผู้นำออกจากดวงดาว ไปรับภาระอันสำคัญจากพวกพ้องที่แรซัลก้ากันไว้ และคงไปนานจนไม่ได้กลับมาอีกเลย เหมือนกับเผ่าควอเดี่ยมส่วนที่อยากออกนอกดาวที่เวลายาวนานถึง 4 เท่าด้วยกันนี้แหละ"

              "แสดงว่า เผ่าแกตไทซ์และเผ่าควอเดี่ยมในช่วง 40 ปีของแรซัลก้าเอง ก็มีประวัติศาสตร์อันยาวนานบนดาวของพวกเขากันหลากหลายเลยสิครับ" ฟูลออเรสบอก

              วิลด้ากล่าว "และเธอก็คงต้องใช้เวลาศึกษาประวัติศาสตร์ 200 ปีของแกตไทซ์และ 160 ปีของควอเดี่ยมกันแล้วละ ว่าทั้งสองเผ่าพานพบเรื่องราวกันยาวนานแค่ไหนเลยน่ะ แม้ว่าควอเดี่ยมจะรักษาองค์ความรู้อันยาวนานเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่าแกตไทซ์จะเก็บไว้ได้หรือเปล่านะสิ"

              "แฮกๆๆๆๆ" สามพี่น้องมาสซั่มหอบเหนื่อยจากการฝึกฝนไว้ "เธอสองคนทำได้ดีมากเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว

              เนคกัสบอก "พี่ใหญ่ยังมือหนักเหมือนเช่นเคยเลยนะครับ ขนาดผมป้องกันเอาไว้ก็ยังล้มอยู่น่ะ"

              "แถมพี่เองก็ไม่เปิดช่องว่างไว้ด้วยแล้ว หนูคิดว่าพี่ยิงปืนมากจนอ่อนซ้อมเรื่องดาบกันนะคะ" เนคกี้กล่าว

              เนคมาดูซัมตอบ "พี่ขัดเกลาทักษะเพลงดาบพอๆกันกับการใช้ปืนกันนี้แหละ เนคกี้ เพราะว่าพ่อได้สอนให้พี่จดจำอยู่เสมอ ว่าเราใช้อะไรรับมือกับพวกศัตรูกันน่ะ" แล้วก็ตั้งดาบปักกับพื้น ซึ่งเนคกี้และเนคกัสทำตาม "กลับไปพักได้แล้วละ"

              "ดูเหมือนว่านายจะเอาจริงเอาจังในเรื่องฝึกเนคกี้และเนคกัสกันมากเลยน่ะ เนคเกอร์" มาสวาร์ทาร์กล่าวโดยที่เนคมาดูซัมเดินออกมา

              "นับแต่พวกพีวิลถูกพวกเดลอาเนี่ยนจับตัวไปนั้น ฉันแน่ใจได้ว่า ทีมของเราต้องมีคนขาดหายไปแน่นอน แม้ว่าเราจะช่วยพวกเขากลับมาได้อย่างรวดเร็วก็จริง แต่ครั้งหน้า....อาจจะยาวนานและยุ่งยากกว่าที่เราคิดแน่ๆเลยละ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะเราเล่นงานจักรพรรดินีของแมทเฟลิมจนอาการสาหัสปางตายกันสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              เนคมาดูซัมพยักหน้า "และไม่ใช่แค่เดลอาเนี่ยนอย่างเดียว ยังมีรัฟแพนเนสกับพวกที่อาจจะกลับมาในสภาพที่แย่กว่าคราวก่อน องค์ชายเทเนดีนผู้โฉดชั่วกับเหล่าสมุน ซึ่งคริฟทรอนอฟคงส่งทั้งสองมาเล่นงานพวกเรา โดยแถมไวล์สเลฟกับพวกฮาร์ฟครีซีแทนมาด้วย ซึ่งนั้นไม่แย่เท่ากับองค์ชายจาฟฟาร์ลและกองรบของเขา กับ...."

              "สไปค์และกลุ่มอัศวินกางเขนขาว แล้วก็ตระกูลบาลานซ์กับโคลานซ์สิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว "....ฉันเห็นฟิเกซฝึกกับฟลาแน็กซ์ มัลแด็กซ์ เวลลิท และดิเรนท์กันอย่างจริงจัง ไม่เหมือนคราวก่อนที่ฝึกฝนอย่างสบายใจกันได้น่ะ"

              เนคมาดูซัมบอก "สภาพการณ์ของพวกเรา ไม่สิ ระบบดาวของพวกเราคือถูกศัตรูรอบกรอบเอาไว้ทุกด้าน โดยที่ภายในมีคนที่พร้อมจะแทงใส่เราจากข้างหลังได้ทุกเมื่อ....ยิ่งเป็นตัวการที่นำเข้าพวกเฮซเทิร์ซและอยู่เบื้องหลังการสูญเสียของพวกพ้องในทุกการรบกับพวกเฮซเทิร์ซ รวมถึงสมรภูมิที่โฟรเดริล-4 ด้วยนั้น อย่าว่าแต่ฉันกับฟิเกซเลย ขนาดแอร์ไพล์มมิสและแคร์เรี่ยนเองก็เจ็บใจไม่น้อยเลยน่ะ"

              "นั้นทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่นายแม่รัคชูมี่พูดไว้เมื่อ 3 วันก่อน หลังจากที่เราช่วยริบอยและริเกิร์ลจากพวกริดโอไว้น่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าวโดยนึกถึงเรื่องหลังจากที่พวกเขาพูดเรื่องสแมคบอลเสร็จแล้ว

              "เออ นายแม่รัคชูมี่ติดต่อเข้ามากันนะคะ" แอมเบอร์รายงาน

              "คงจะมาพูดกับเราว่า รู้เรื่องที่เกิดกับพวกพีวิลนั้นมาก่อนหน้าแน่ๆเลยวะ" คลอเวฟบอก

              ฟิเกซบอก "ใช่ แต่จะดีกว่ามาก หากเรารู้ตัวล่วงหน้าว่าพวกเรากำลังจะมีปัญหาขนานใหญ่ ซึ่งรวมถึงเรื่องที่เรารู้ว่ามีคนทรยศแฝงตัวอยู่กับกองยานรบเก่ากันน่ะ"

              "แอมเบอร์ ต่อสายเข้ามาเลย" เนคมาดูซัมสั่ง แล้วภาพโฮโลแกรมของรัคชูมี่ก็โผล่มา

              "พวกเธอคงอยากจะรู้ว่า ฉันยังรู้ถึงลางร้ายที่เกิดขึ้นกับพีวิล สเปียริทและเจเนไซด์ทีมกันดี แต่ไม่เตือนให้พวกเธอรับรู้ รวมถึงเรื่องที่รู้ว่ามีตัวการตัวเดียวกันที่ชักจูงพวกเฮซเทิร์ซเข้ารุกรานแรซัลก้า ซึ่งได้ดึงพวกเดลอาเนี่ยนเข้ามารุกรานกันเลยสิน่ะ" รัคชูมี่บอก

              "ใช่ และจะดีกว่ามาก หากป้ารีบแจ้งกับพวกเราถึงลางร้ายนี้กันก่อน ผมกับพวกจะได้รับมือกันน่ะ" เจเนลบอก

              รัคชูมี่บอก "พวกเดลอาเนี่ยนในคราวนี้ ร้ายกาจและมีพันธมิตรเยอะ ถึงพวกเธอจะโต้ตอบพวกนั้นด้วยการแปลงร่างไว้ พวกนั้นก็เล่นงานพวกเธอจนสูญเสียความสามารถในการแทรนซิ่งไปเสียเองนี้แหละ...." แล้วก็บอกไปว่า "ส่วนเรื่องคนทรยศที่อยู่เบื้องหลังทั้งการรุกรานแรซัลก้าของเฮซเทิร์ซ และการรุกรานระบบดาวที่พวกเราอยู่ของพวกเดลอาเนี่ยนนั้น ถึงฉันไม่ได้ใช้ญาณทิพย์ ลางสังหรณ์ที่ฉันกับนาไลน์รับรู้มานั้นล้วนมาถูกทางแล้วละ"

              "เดียวก่อนนะคะ นี้อย่าบอกน่ะคะ ว่าป้ากับแม่ทัพนาไลน์รู้มาก่อนแล้ว ว่าในกองทัพจักรวรรดิ์ มีหนอนบ่อนไส้อยู่แต่ก่อนแล้วน่ะ" สเปียริทกล่าว

              ฟิเกซบอก "ป้ากับพ่อน่าจะบอกกับผมก่อนก็ได้นิ อย่างน้อย ก็ให้ผมเตรียมตัวในการตามหาหมอนั้นก็ได้น่ะ"

              "เพราะว่าเธอทำอะไรโดยไม่คิดหลังจากที่รู้เรื่องกันนี้แหละ ฟิเกซอท ฉันถึงไม่คิดจะบอกเธอถึงเรื่องนั้นนะสิ พอๆกันกับเรื่องที่เธอไม่ชอบอยู่กับที่ได้เป็นเวลานานตั้งเป็นปีด้วยน่ะ" รัคชูมี่ตำหนิ "และต่อให้ฉันหรือนาไลน์ไม่เตือน นายพลเพอซิอัสและจอมพลแฮซกริฟก็ต้องเบรคพวกเธอไว้ เพราะว่าพวกเธอในตอนนี้ ยังไม่รู้ตัวตนของคนทรยศที่ก่อการเอาไว้ได้อย่างแท้จริงเลยน่ะ"

              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะ พวกเราไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าตัวการเป็นใคร และถึงมีก็ต้องแน่ใจว่าที่เราจับมานั้นไม่ใช่ตัวปลอมหรือแพะรับบาปแทนตัวจริงเลยละสิครับ"

              "ถูกต้องแล้วละ มาสวาร์ทาร์ เหมือนเช่นที่พวกเธอช่วยเหลือคนในทั้งสองจากเงื้อมมือของพวกริดโอที่ยังไม่รู้ว่าลูกๆของเพดูน่า คนในก่อนหน้าทั้งสองนั้นเป็นผู้สืบทอดภารกิจต่อจากเธอกันไว้น่ะ" รัคชูมี่กล่าว

              พีวิลบอก "เพดูน่านั้น เป็นชื่อแม่ของริบอยและริเกิร์ลอย่างงั้นละสิครับ"

              "ใช่ และโชคดีมาก ที่ฉันรู้จักกับเธอในช่วงที่เธอทำงานให้กับเจ้าสัวรีธฟอนโซ่กันเสียด้วย ในช่วงที่พวกริดโอล้มเหลว ฉันถึงได้รู้ว่า คนที่ฉลาดแต่เจียมเนื้อเจียมตัวมากที่สุดอย่างเธอนั้น ต้องทำเรื่องที่เหนือคาดไม่ถึงช่วยเหลือทางการและนาไลน์มาไม่น้อย ชนิดที่ริดโอบาราน่าซึ่งเป็นเจ้าพ่อหัวไบร์ทและเจ้าเล่ห์เพทุบายตัวเอ้เองยังไม่รู้เลยว่า เมียน้อยคนใช้ฉลาดเหนือกว่ากันน่ะ แม้จะรู้ว่าตอนนี้เธอได้จากไปหลังจากคุณนายริดโอเสียชีวิตไปแล้วน่ะ" รัคชูมี่บอก

              คลอเวฟกล่าว "ฉลาดมากจนสร้างโปรแกรมดักฟังและรวบรวมข้อมูลแบบเนียนโคตรๆ แล้วก็สอนให้ลูกๆทั้งสองคนนำไปประยุกต์ใช้และสร้างต่อเลยสิน่ะ"

              "แน่นอน ว่าพวกเธอทำถูกแล้วละที่ช่วยลูกๆของเพดูน่ามาอยู่ที่นี้ ดังนั้น เรื่องที่พวกเธอรับมือกับพวกริดโอจึงเป็นเรื่องง่ายก็จริง แต่...." รัคชูมี่บอก "พวกเธอน่าจะรู้น่ะ ว่ารุ่นลูกอาจจะรู้ถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับรุ่นพ่อและลุงมาก่อนแล้ว ริดโอบุลท์และพวกเองก็ไม่ยอมให้ความผิดพลาดที่เคยนำพาให้พวกพ่อของเขาต้องจบเห่มาเกิดกับพวกเขาได้แน่นอน ดังนั้น....ฉันหวังว่าพวกเธอคงจะใช้ประสบการณ์ตอนที่เป็นตัวแทนฝ่ายอธรรมให้เป็นประโยชน์กันบ้างน่ะ"

              พลัสเชอริทกล่าว "และพวกนี้มีหนอนบ่อนไส้ช่วยเหลือกันด้วยแล้ว โอกาสที่เราทำงานพลาดย่อมมีสูงขึ้นด้วยสิน่ะ"

              "อย่างหนึ่งที่พวกเธอรู้ได้ในตอนนี้ก็คือ การหยุดยั้งการรุกรานของพวกเดลอาเนี่ยน สกัดกั้นการบุกของพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธ และขัดขวางแผนการของพวกริดโอนั้น คือการขัดขวางแผนการของหนอนบ่อนไส้ไปในตัวด้วย เพราะหนอนบ่อนไส้ติดต่อกับพวกเดลอาเนี่ยน และได้แลกเปลี่ยนความเคลื่อนไหวของฝ่ายเราให้กับอาวุธยุทโธปกรณ์ฝ่ายเดลอาเนี่ยนมา โดยผ่านพวกริดโอที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ซึ่งพวกริดโอเองก็ติดต่อกับทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันเอาไว้แล้ว ผ่านริชเชลลิอาร์ลและเหล่าบุตรไม่รักดีของอัลลาดินที่ 4 กันน่ะ" รัคชูมี่บอก "ถ้าพวกเธอหยุดยั้งการรุกรานลงได้ หรือแม้กระทั่งหาหลักฐานที่เป็นตัวข้อมูลเชื่อมโยงกันได้ละก็ นั้นก็เท่ากับว่าพวกเธอสามารถเข้าใกล้ตัวการใหญ่ที่แท้จริงกันไว้ แม้ว่านั้นหมายถึงอันตรายที่พวกเธอจะต้องพบเจอยิ่งเยอะกว่าเดิมด้วยน่ะ"

              โฟรซ่าบอก "เรื่องนี้พวกเราเองก็ระมัดระวังกันอย่างเต็มที่แล้วนะคะ"

              "ใช่ แต่ถึงพวกเธอจะรอดพ้นจากการปองร้ายและการคุกคามของฝ่ายตรงข้ามกันทุกรูปแบบกันก็จริง แต่....ความสูญเสียอาจจะตกกับคนอื่นที่ใกล้ชิดกันเสียเอง ซึ่งฉันรู้สึกได้ว่า ความสูญเสียดังกล่าวนี้ พวกเธอมิอาจหลีกเลี่ยงกันได้แล้วละ" รัคชูมี่บอก จนทุกๆคนรู้สึกหวั่นเกรงกันอย่างมาก

              "แล้ว เราไม่มีทางไหนที่หลีกเลี่ยงหรือลดทอนให้ความสูญเสียมันเบาบางลงไปเลยหรือคะ" แอนเดรียบอก

              "ก็อย่างที่บอกไปเมื่อกี้แล้วน่ะ แอนเดรีย ว่าถึงพวกเธอหนีมันได้ แต่คนอื่นอาจจะรับแทน มีแต่ต้องเผชิญหน้ากับมันเท่านั้นแหละ" รัคชูมี่บอก "นอกจากพวกเธอต้องหยุดยั้งการรุกรานของพวกรุกรานและระมัดระวังการปองร้ายกันแล้ว มันถึงเวลาที่พวกเธอต้องปรับปรุงยุทโธปกรณ์สำหรับรับมือกับพวกศัตรูกันไว้ เพราะพวกเธอกำลังรับมือกับศัตรูที่แข็งแกร่งและเก่งกาจขึ้นมาบ้างแล้วน่ะ"

              พีวิลถาม "นี้แสดงว่าเผ่าต้นสังกัดของทางเราเริ่มมีการสนับสนุนเลยสิครับ"

              "พีวิล ตอนนี้ทางอีเนอไมนด์ได้ส่งเอนเนอจี้ร็อด และอะไหล่สำหรับซ่อมแซมอาร์มชู้ตเตอร์ของเธอด้วย เพราะรีนนาสเห็นว่าเหตุที่เธอถูกลักพาตัวไปนั้น เพราะเธอแทบไม่มีอาวุธอย่างอื่นนอกเหนือจากหมัดเลย ต่อมามาสวาร์ทาร์ ไฮลอร์ดอากาเมมนอสได้ส่งแปลนครอสเซียมมาสเก็ตและเซลพลังงานครอสเซี่ยม รวมถึงครอสเซี่ยมไรเฟิ่ลสำหรับคาเมเรดของเธอ เพราะอากาเมมนอสเบื่อหน่ายกับการที่เธอเอาแต่ใช้ดาบเวลาขับโมบิลลอยด์กันน่ะ" รัคชูมี่บอก

              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะพวกบรูซาเรมหรือพวกแดคน็อกซ์อาจจะเน้นใช้อาวุธปืนเล่นงานพวกเราเลยสิครับ"

              "แล้วการสนับสนุนของกลุ่มอื่นกันล่ะครับ ป้า" เนคมาดูซัมถาม

              รัคชูมี่ตอบ ".....ตอนนี้มาดามเจมมิสส่งแปลนสำหรับเสริมประสิทธิภาพของเพรโทรแน็กซ์สองเครื่องไปให้วูลลิเซียเพื่อทำการสร้างขึ้นมากันแล้ว แม้ว่าทรอลลอฟหรือดีสโทนอฟเองยังไม่ได้ให้การสนับสนุนอย่างอื่นให้พวกเธอ เช่นเดียวกับทาลดีสและพวกสโทรเพธ ที่ตอนนี้ แยกย้ายกันสร้างฐานย่อยเพื่อช่วยในการปฏิบัติการณ์ในส่วนที่เผ่าอื่นๆเข้าไปไม่ถึงกันน่ะ"

              "ปฏิบัติการณ์ในส่วนที่เผ่าอื่นๆเข้าไปไม่ถึง หรือว่าบุกยึดทุกเผ่าและเมืองหลวงโดยรอบกันแน่ละ" จิลกล่าวเพราะแน่ใจว่าทาลดีสคงคิดการยึดดาวแคสเซรอน-4 กันแน่นอน

              รัคชูมี่กล่าว "ฉันหวังว่าตอนนี้คาราล่าคงรับมือกันได้บ้างน่ะ"

              "แล้วไอ้คุณพี่แพนทานิคยังสะสมกองกำลังเอาไว้เลยสิ" คลอเวฟบอก

              รัคชูมี่กล่าว "ฉันได้ติดต่อกับเกลดีนที่อยู่บนเกาะไว้แล้ว ว่าพวกแพนทานิคสร้างฐานทัพเอาไว้ใต้ท้องทะเลเพื่อทำการฝึกซ้อมกำลังรบและสร้างกองเรือกันอยู่ แน่นอนว่าฉันส่งควอเดี่ยมทะเลออกไปตรวจสอบอย่างลับๆด้วย ซึ่งเกลดีนบอกกับฉันไว้ ว่าถ้าเธอกลับมาที่ดาวแคสเซรอน-4 ด้วยตัวเอง เกลดีนจะอนุมัติความช่วยเหลือไปให้กันน่ะ"

              "ไม่มีทางหรอกป้า หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่กลับไปกันหรอก" คลอเวฟกล่าว

              รัคชูมี่ได้ฟังก็ถอนใจแบบไม่อ้าปาก "เอาเถอะ เพราะอย่างน้อย เธอก็มีหนังสืออัพเกรดปืนใหญ่กันอยู่แล้ว แต่จะดีกว่านี้ หากเฮฟโวลของเธอได้รับการซ่อมแซมที่ถูกที่ควร เกลดีนเลยฝากแปลนสำหรับซ่อมเฮฟโวลกันไว้ ซึ่งรวมถึงเฮฟโวลกันสตาร์คกันด้วยน่ะ"

              "นั้นช่วยได้มากเลยนะครับ เพราะผมไม่ได้ใช้กันสตาร์คตั้งนานแล้วน่ะ" จายด์บอก

              รัคชูมี่บอก "ตอนนี้ พวกเธอควรจะฝึกซ้อมเพื่อให้พร้อมรับมือกับศึกหนักที่อาจจะมาก็เป็นได้ ส่วนทางเราและผู้ว่าการเซริซ่าจะช่วยเบรคมิให้ลูกเผ่าในนี้ออกไปนอกเขตดาวกันน่ะ เพราะ ข่าวเรื่องที่พวกเธอส่วนหนึ่งถูกจับตัวไป จนพวกเธอที่เหลือต้องแห่ไปช่วย ได้ทำให้พวกชนเผ่าส่วนหนึ่งเริ่มวางแผนจะบุกจู่โจมพวกเดลอาเนี่ยนกันแล้วละ"

              "แม้กระทั่งพวกเราด้วยสิครับ" ฟิเกซกล่าว

              รัคชูมี่พยักหน้า "เกรงว่าการที่เธอออกไปผจญภัยในเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนนั้น ได้จุดประกายให้เพื่อนพ้องร่วมรุ่นของเธอหรืออ่อนกว่าเธอเริ่มหาเรื่องออกจากเมืองกันแล้ว ทางที่ดี ฉันแนะว่าเธอควรจะอยู่ในระบบดาวนี้ ช่วยเหลือพวกเนคเกอร์รับมือกับพวกศัตรูกันดีกว่า" แล้วก็บอกไปว่า "หรือ....เธอต้องรับผิดชอบด้วยการไปช่วยเหลือพวกเพื่อนพ้องของเธอกันไว้ หากฉันรู้ว่าพวกเขาหายไปจากหมู่บ้านและดาวดวงที่เราอยู่กันด้วยน่ะ"

              "ผมทราบดีอยู่แล้วละครับ ป้า" ฟิเกซตอบ

              รัคชูมี่กล่าว "หวังว่าพวกเธอทุกคนคงจะดูแลตนเองและปกป้องทุกๆคนบนดาวของพวกเธอจากภัยคุกคามกันบ้างน่ะ ขอให้โชคดีแล้วกัน" แล้วก็ตัดการติดต่อไป

              "นั้นคงเป็นเหตุผลที่พวกเราต้องมาฝึกซ้อมกันในป่าตลอด 3 วันที่ผ่านมาเลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "เราต้องเตรียมพร้อมกันไว้ทุกด้านน่ะ มาส แม้ว่านั้นจะเป็นการเร่งรีบมากเกินไปหน่อย แต่...เวลามันมีน้อยมาก และความเป็นความตายมันจะมาตอนไหน ใครต้องสูญเสียใครไปบ้าง ถ้าไม่เตรียมพร้อม ก็เท่ากับว่าพวกเราช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลยน่ะ"

              "หรือแม้กระทั่งช่วยพวกเราเองด้วยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว "แต่ฉันคิดว่า ที่นายฝึกเนคกี้และเนคกัสให้เก่งกล้านิ เพราะนายรู้ว่าเพื่อนพ้องชาวแกตไทซ์จะต้องโผล่มากันเลยสิน่ะ"

              เนคมาดูซัมบอก "และพวกเขาคงไม่ยอมคุยกับเราดีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันซึ่งมีส่วนในการที่พวกเขาต้องสูญเสียดาวแกตโตเดี่ยนไปนั้น เรื่องการต่อสู้คงหลีกเลี่ยงกันไม่ได้อยู่แล้วน่ะ"

              "แต่นายกับเนคกี้และเนคกัสเองก็ควรจะรู้ไว้น่ะ ว่าพวกนายไม่ได้สู้กับเพื่อนร่วมเผ่ากันเอง เพราะพวกเราจะร่วมสู้กับพวกนายกันด้วยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

               เนคมาดูซัมบอก "เพราะว่าพวกเราต่างเป็นไทรเวเซอร์กันแล้วสิน่ะ" แล้วทั้งหมดก็เดินออกไป

              ณ.หุบเขาเซนต์แทเซีย ดาวทรอเจียน ราชวังของทรอยอาร์ ก่อนหน้าเมื่อ 3 วันก่อน

              "พระครูพัลจินสอนเจ้าไปถึงไหนแล้วละ ออสเทรย์" องค์ราชาออสเฟรย์ที่ 2 กล่าวกับเด็กหนุ่มผมสั้นสีฟ้าอ่อนในชุดผู้สูงศักดิ์สีน้ำเงินที่เข้ามาในท้องพระโรง ซึ่งตอบกลับไปว่า

              "ท่านพระครูสอนข้าในเรื่องหลักศาสตร์การปกครองและการบริหารชั้นสูงจนข้าเข้าใจได้หมดแล้วละครับ ท่านพ่อ"

              "ว่ามาเลย ว่าพระครูสอนเจ้ากันยังไงบ้าง" ออสเฟรย์ที่ 2 บอก

              องค์ชายออสเทรย์บอก "หลักการปกครองคนนั้น ไม่เพียงเราต้องปกครองผู้คนด้วยความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมั่นคง ไม่หวั่นไหวหรือสั่นครอนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ตาม เราต้องนำพาผู้คนทั้งหลายให้อยู่อย่างสงบสุขกันนะครับ"

              "นั้นเป็นเรื่องที่กษัตริย์อย่างเราสมควรทำกันอยู่แล้วน่ะ แล้วมีอะไรอีกบ้างมั้ยละ" ออสเฟรย์ที่ 2 กล่าว

              องค์ชายออสเทรย์บอก "....แม้เราจะเป็นผู้ปกครองคนก็จริง แต่ราษฎรที่แม้จะเป็นทรอยอาร์ด้วยกัน ล้วนมีแนวความคิดที่แตกต่างกันไป พวกเรามิอาจจะบีบบังคับพวกเขาด้วยกำลัง เพราะนั้นหมายถึงการสร้างรอยแยกให้เกิดช่องว่างระหว่างฝ่ายเรากับฝ่ายเขาให้กว้างขึ้น เช่นเดียวกับความพยายามใช้วาทะศิลป์เพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดของเขานั้น ล้วนทำได้ยาก หากว่าคนๆนั้นยังยึดถือและเชื่อมั่นในความคิดของเขามากจนเกินไป แม้ว่าเราจะทำให้ส่วนมากเชื่อในคำพูดของเราเลยก็ตาม" แล้วก็หยุดพูดไปพักหนึ่งก่อนจะพูดต่อไปว่า "มีแต่เราต้องเข้าหาพวกเขา ทำความเข้าใจกับพวกเขากันอย่างลึกซึ้ง เพราะคนบางกลุ่มล้วนมีเหตุผลของพวกเขา ซึ่งอาจจะขัดกับความคิดของเรากันไม่น้อย ถ้าไม่ทำให้ผู้คนที่มีความแตกแยกเข้าใจในแนวความคิดของเรา ด้วยความเข้าใจในความคิดของอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งและใจจริง แล้วก็พิสูจน์ให้เขาเชื่อว่าเราสามารถทำเช่นนั้นได้เองกันแล้วไซร์ ความแตกแยกก็จะบังเกิดอยู่ตลอดนะครับ"

              "ใช่ นั้นแหละคือหลักความเชื่อของทรอยอาร์ที่ยึดถือกันอยู่ และเป็นคำสอนที่มารดรเทพของพวกเราได้สอนสั่งเอาไว้ ว่าพวกเราต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อทำให้ทรอยอาร์มีอนาคตที่ดียิ่งขึ้น ในฐานะที่ท่านเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดราชบัลลังก์ ท่านก็ต้องเรียนรู้หลักความเชื่อของพวกเรากันมากกว่านี้กันน่ะ" ริชเชลลิอาร์ลกล่าว

              ออสเฟรย์บอก "ขอบคุณมากครับ ท่านมหาสังฆราช แต่....ผมแค่สงสัยอยู่หนึ่งเรื่องและต้องการจะถามเสด็จพ่อกับท่านสังฆราชกันนะครับ"

              "ว่ามาได้เลย ออสเทรย์" ออสเฟรย์ที่ 2 กล่าว

              ออสเทรย์เลยถามไปว่า "พวกท่านเคยพูดว่า องค์จักรพรรดินีมารดรเทพของเรา ได้ถูกพวกสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์และกองกำลังสมาพันธ์อวกาศกำจัดและปิดตายดาวแรซัลก้ากันใช่มั้ยละครับ แต่...เท่าที่ผมทราบมา ว่ากองรบเหล่านั้นมีวีรบุรุษที่เป็นบุตรของแม่ทัพแกตไทซ์และควอเดี่ยม ซึ่งเป็นยอดนักรบผู้ทรงคุณธรรมและผู้ยึดมั่นในความดีกันแล้วนิครับ"

              "แต่ลูกๆทั้งสองกลับไม่รักดี ไม่เพียงนำพาหายนะมาสู่ดาวบ้านเกิด แต่ยังชักนำเผ่าควอเดี่ยมที่สูงส่งให้กลายเป็นกลุ่มผู้รุกรานแรซัลก้า จนนำพาหายนะมาให้กับมารดรเทพกันแล้ว แมนิเกเตอร์เหล่านั้นคือศัตรูที่สมควรจะต้องกำจัดให้สิ้นซากกันอยู่แล้วละ" ริชเชลลิอาร์ลบอก

              ออสเทรย์กล่าว "แล้วท่านคิดว่าจักรพรรดินีมารดรเทพที่เราเคารพนับถือกันนิ เป็นคนเลวจริงหรือเปล่าละครับ"

              "ลูกพยายามจะสื่ออะไรกันแน่ละ ออสเทรย์" ออสเฟรย์ที่ 2 ถาม

              ออสเทรย์บอก "ชาวทรอยอาร์อย่างพวกเราส่วนมากต่างเชื่อว่าฝ่ายกบฎจากโลก ที่พิชิตบิดรเทพลงไปได้นั้นได้โค่นล้มมารดรเทพลงไป แต่....ข้าได้ยินมาว่า แรซัลก้าได้นำกองกำลังของพระนางซึ่งมีเทพแห่งสงครามเข้าร่วมก่อการรุกรานเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์ฯ จนฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ต้องเข้ามาหยุดยั้ง แถม....ยังใช้วีรบุรุษแห่งอากรีเดี่ยมที่เป็นบุตรของนายพลทิลเทอแรนและท่านหญิงเมซ่า บุตรีของท่านแม่ทัพใหญ่โอลดาธ ก่อการเป็นอันทรยศต่อต้นสังกัดกันนั้น นั้นนะหรือคือการกระทำอันทรงเกียรติของผู้ที่เรียกตนเองว่าวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งแรซัลก้า ผู้ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์มารดรเทพและผู้สั่งการกองรบให้มีการรุกราน ซึ่งมันผิดกฎที่วางเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด" แล้วก็เล่าไปอีกว่า "อีกทั้งตัวแทนเผ่าแกตไทซ์และควอเดี่ยมเองก็สู้อย่างยุติธรรม แต่ฝ่ายแรซัลก้ากลับใช้กองรบไปถล่มดาวแกตโตเดี่ยนและควอดาน่าจนพังพินาศกันนั้น บวกกับว่าแม่ทัพทั้งสองล้วนเป็นผู้ทรงคุณธรรมกันด้วยแล้ว พวกเราจะหาว่าพวกเขาเป็นคนเลวนั้น มันไม่ต่างจากการกระทำของแม่ทัพใหญ่กันเลยหรือ"

              "ท่านออสเทรย์ ข้าไม่รู้น่ะ ว่าท่านรู้อะไรมา แต่พวกเราเชื่อว่าพวกสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์คือศัตรูก็คือศัตรูที่ต้องกำจัด เรื่องของแพททริค ทิลเทอแรนนั้นเป็นเรื่องที่แรซัลก้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ท่านอย่าพยายามเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนั้นจะดีกว่า" ริชเชลลิอาร์ลบอก

              ออสเทรย์บอก "ที่ท่านรู้และเชื่อเช่นนี้ เพราะมารดรเทพเข้าฝันมาบอกท่านจริงหรือเปล่าละขอรับ องค์สังฆราช"

              "ออสเทรย์ ข้ารู้ว่าเจ้ายังไร้เดียงสาและยังไม่รู้ถึงหลักความเป็นจริงของเรื่องที่เป็นอยู่ ดังนั้น ข้าจึงขอให้เจ้าอย่าเอาความเชื่อนี้ไปบอกคนอื่นเป็นอันขาด เพราะข้าไม่อยากจะลงโทษเจ้ากันน่ะ" ออสเฟรย์ที่ 2 ห้ามไว้

              ออสเทรย์กล่าว "ลูกขออภัยที่เสียมารยาทต่อท่านพ่อนะขอรับ" แล้วก็คำนับต่อริชเชลลิอาร์ล "และข้าขออภัยที่ใช้ความโง่เขลามาพูดคุยกับท่านนะครับ"

              "ข้าไม่ถือสาต่อความเชื่อของท่านหรอกน่ะ องค์ชายออสเทรย์" ริชเชลลิอาร์ลกล่าว แล้วออสเทรย์ก็โค้งคำนับพร้อมกับเดินออกจากท้องพระโรงไป ริชเชลลิอาร์ลพยายามจะพูด แต่ออสเฟรย์ที่ 2 แบมือห้าม

              "ถ้าคิดจะอ้างว่าออสเทรย์เป็นนอกรีตละก็...อย่าดีกว่าน่ะ ริชเชลลิอาร์ล"

              "แต่ฝ่าบาทได้ยินแล้วนิครับ ว่าองค์ชายออสเทรย์เชื่อว่าฝ่ายศัตรูมีเหตุมีผล ก็เท่ากับว่าเป็นคนนอกรีตเหมือนกับคนอื่นๆกันด้วยน่ะ" ริชเชลลิอาร์ลอ้างเหตุผล

              ออสเฟรย์ที่ 2 กล่าว "คนที่คิดตรงข้ามหรือคิดต่างกันนั้น มิใช่พวกนอกรีตเสมอไปกันหรอกน่ะ ที่ออสเทรย์พูดมาก็มีเหตุผล โจรย่อมมีเหตุผลที่ต้องออกไปจี้ปล้น เพื่อปากท้องของตนเองและผู้อื่นฉันได้ ชนเผ่าต่างดาวอื่นๆหรือพวกแมนิเกเตอร์ต่างเผ่าเองก็มีเหตุผลด้วยเช่นกัน พระราชาที่ไม่ฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและหลากหลาย เพื่อนำมาใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ โดยใช้ความคิดเห็นของตนเองและคนอื่นที่ไม่ยอมรับความคิดเห็น ก็จะเป็นพระราชาเผด็จการ ปกครองคนให้ต้องคล้อยตามคำสั่งกันแบบนี้ ราษฎรของข้าไม่ใช่ข้าทาสเหมือนกับชนชั้นต่ำของแรซัลก้ากันเสียเลยน่ะ"

              "ที่ท่านพูดมา ข้าเข้าใจดีแล้วละครับ" ริชเชลลิอาร์ลตอบกลับไป และพูดต่อไปว่า "แต่ ท่านออสเทรย์ยังอ่อนเกินไปที่จะรับช่วงต่อจากท่านเลยนะขอรับ"

              ออสเฟรย์ที่ 2 บอก "ออสเทรย์อายุ 19 ย่าง 20 กันแล้วน่ะ ถึงเขาจะอ่อนต่อโลกมากจนมองว่าเขาอ่อนแอและไม่เหมาะขึ้นครองราชย์ แต่... พระราชาที่ดีต้องอ่อนโยนต่อราษฎร์และเข้มแข็งจากจิตใจ จึงจะเป็นผู้นำที่ดีกันนี้แหละ"


              "แล้วท่านอาซิวอลน์ละครับ องค์ชายใหญ่นั้นเป็นขุนพลผู้ทรงอำนาจ ซึ่งได้รับการเรียนรู้วิชาการต่อสู้จากท่านแม่ทัพใหญ่อาวเซนมาอย่างรวดเร็วนั้น เหมาะจะเป็นผู้นำได้นะครับ" ริชเชลลิอาร์ลแนะนำองค์ชายอีกคน ซึ่งออสเฟรย์ที่ 2 กล่าว

              "อาซิวอลน์เก่งเรื่องการต่อสู้และเป็นนักรบที่แข็งแกร่งตามที่ท่านว่ามาใช่มั้ย แต่ถ้าเขาคู่ควรกับบัลลังก์ของข้า ก็คงไม่ไปมีเรื่องกับพวกขุนนางน้อยใหญ่จนมีคนบาดเจ็บกันตั้งหลายครั้งหรอกน่ะ ซึ่งข้าสั่งลงโทษลูกคนนี้ไปตั้งหลายที แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่สำนึกผิดเสียทีกันน่ะ"

              "แล้วทำไมไม่ลองใช้แนวคิดของท่านออสเทรย์กันเสียเลยละครับ อย่างน้อย พ่อลูกก็ควรจะพูดคุยปรับความเข้าใจกันได้นะครับ" ริชเชลลิอาร์ลบอก

              ออสเฟรย์ที่ 2 ส่ายหน้า "จนกว่าลูกคนนี้จะสำนึกผิดจริง ข้าถึงจะไปคุยกันนี้แหละ และข้าหวังว่าท่านคงไม่เผลอไปเสี้ยมสอนให้ข้ากระด้างกระเดื่องกับข้ากันอีกน่ะ"

              "ขอรับ แล้ว เรื่องจะส่งกองกำลังของเราไปช่วยนักโทษของเรากันละครับ" ริชเชลลิอาร์ลกล่าว

              ออสเฟรย์ที่ 2 กล่าว "ตระกูลอาเทแรมยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ให้กับลูกๆกันอยู่ ตระกูลบาลานซ์และโคลานซ์ออกไปฝึกที่ดวงจันทร์พร้อมกับกลุ่มอัศวินกางเขนขาวซึ่งยังฝึกไม่เสร็จกันอยู่.... กองรบอัศวินพายัพที่ 5 ถึง 9 พอจะได้มั้ยละ"

              "ได้อยู่แล้วละขอรับ แต่...ถ้าพวกเขาพลาดพลั้ง ทำไมถึงไม่ส่ง 4 ขุนพลตระกูลโดฟกังเลยละครับ" ริชเชลลิอาร์ลแนะนำ

              ออสเฟรย์ที่ 2 บอก "หมายถึง คาวเซอร์ ซาวเซอร์ ฮาวเซอร์ และดาวเซอร์ละสิน่ะ หวังว่าสกรีทรอไนท์แมสซีฟเฟอร์ของพวกเขาจะหยุดพวกไทรเวเซอร์ที่มีอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนกันบ้างน่ะ"

              "ขุนพลตระกูลโดฟกังนะหรือ เป็นจริงหรือครับ ท่านบาทหลวง" สไปค์บอก โดยครอสพอลติดต่อเข้ามา

              "เป็นจริงแน่นอน ริชเชลลิอาร์ลส่งตระกูลนี้ตามหลังกองรบอัศวินพายัพที่ 5 ถึง 9 ไปแล้ว ซึ่ง....พวกนี้ควรจะอยู่เฝ้าปราสาทหรือราชธานีหลักกันซะมากกว่า"

              "ริชเชลลิอาร์ลคิดจะตัดกำลังทหารคุ้มกันองค์ราชาไปทีละกองสองกอง โดยส่งพวกนั้นไปให้พวกไทรเวเซอร์ปราบลงเลยสิครับ" บัฟบอก

              ครอสพอลพยักหน้า "ตระกูลโดฟกังเอง แม้ว่าจะเป็นพวกหยิ่งยโสโอหังไปบ้าง แต่ฝีมือการสู้รบถือว่าไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งพ่อของเธอเองก็ให้ความเคารพพวกนั้นกันไว้แล้ว"

              "และพวกนี้ก็มีสกรีทรอไนท์สวมเกราะแบบพิเศษสำหรับต่อสู้กับพวกเฮซเทิร์ซกันด้วย ถ้าพวกนี้พ่ายให้กับไทรเวเซอร์ ก็เท่ากับว่าเราสูญเสียยุทโธปกรณ์ชิ้นเยี่ยมไปเลยนะครับ" วินเซนท์บอก

              ครอสพอลบอก "วางใจได้ ตระกูลโดฟกังส่งแบบแปลนสำหรับพาร์ทชุดเกราะสำหรับสกรีทรอไนท์ของพวกเขาให้กับพวกเรา เผื่อในกรณีที่พวกเขาไม่ได้กลับมา ซึ่งฉันได้ส่งข้อมูลไปให้พวกเธอกันแล้วละ"

              "หวังว่าเนคเกอร์และฟิเกซอทคงจะไม่กำจัดพวกโดฟกังกันบ้างน่ะ เพราะตระกูลนี้เคยมีเรื่องกับเผ่าแกตไทซ์และควอเดี่ยมกันมาก่อนน่ะ" สไปค์บอก

              ฟรีเซียกล่าว "ทั้งสองคงสู้โดยไม่ใช้ความแค้นส่วนตัวกันหรอกน่ะ สไปค์"


              ที่ดาวซาฮัลด้า พระราชวังอาเลบาบัล ท้องพระโรง เมื่อ 3 วันก่อนเช่นกัน

              "ตอนนี้ พวกเราทราบข่าวมาว่า พวกไทรเวเซอร์ที่ถูกลักพาตัวไปนั้นได้กลับมากันเรียบร้อยแล้วละครับ ท่านพ่อ" มูราดินกล่าวต่ออัลลาดิมที่ 4 ซึ่งจาฟฟาร์ลติดต่อผ่านโฮโลแกรม

              "ถูกจับหรือ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ" จาฟฟาร์ลถาม

              "เจ้าคงจะอยู่ฝึกฝนลูกน้องของเจ้านานจนไม่ได้รู้ข่าวคราวกันเลยน่ะ จาฟฟาร์ล" มูราดินตำหนิน้องชาย จนอัลลาดิมที่ 4 กล่าว

              "มูราดิน อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้จาฟฟาร์ลฟังได้มั้ยละ"

              "ขอรับท่านพ่อ จากความเคลื่อนไหวที่คนของเราแฝงตัวเข้าไปนั้น ในช่วง 10 วันก่อน ลูกทีมตัวหลักของไทรเวเซอร์ถูกสมุนหุ่นยนต์ของพวกเดลอาเนี่ยจับตัวไป ในช่วงที่พวกนั้นกำลังจู่โจมเขตเมืองที่ว่ากันว่ามีแก็งริดโอแฝงตัวกันอยู่ ส่งผลให้พวกเขาออกนอกดวงดาวไปช่วยพวกพ้องที่ถูกจับไป ซึ่งถูกพามายังโคลอสเซี่ยมของพวกแมวอวกาศและได้ทำร้ายจักรพรรดินีของพวกแมวอวกาศจนอาการสาหัสเลยละครับ" มูราดินนำภาพการประลองที่สเปียริทจัดการกับมิวนัสลงอย่างจังๆ เช่นเดียวกับภาพการหลบหนีของพวกไทรเวเซอร์ที่ช่วยพวกพีวิลกลับไปได้ "แม้ว่าพวกที่ถูกลักพาตัวไปนั้นจะอาการสาหัส แต่ 1 สัปดาห์หลังจากนั้น พวกเขาก็โต้ตอบพวกศัตรูที่บุกยึดเมืองแห่งเดิมลงจนได้นะครับ"

              จาฟฟาร์ลบอก "โอ้ว นั้นคงเป็นพละกำลังที่คาดไม่ถึงของนักสู้หุ่นยนต์หญิงตนนี้ละสิน่ะ และคงจะทรงพลังถึงขั้นพิชิตจักรพรรดินีแห่งแรซัลก้ากันด้วยสิ"

              "รวมถึงตัวจักรพรรดิ์ที่บุกยึดโลกที่ระบบสุริยะด้วยนี้แหละ จาฟฟาร์ล" มูราดินกล่าว "ท่านพ่อ ตอนนี้เทเนดีนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ได้โปรด ให้ข้าส่งกำลังออกไปจัดการกับพวกมันเถอะครับ"

              อัลลาดิมที่ 4 กล่าว "เจ้าไม่ต้องไปกันหรอก เพราะกัสลิน ฟัลดิน ยัลบิน และซัสฟิน ขันอาสาก่อนหน้าลูกแล้วละ"

              "นี้น้องหญิงที่ 5-8 คิดจะออกรบกันนะหรือ ทั้งๆที่พวกเธอน่าจะอยู่ฝึกทหารที่ดาวดวงที่ 7 กันมิใช่หรือ" จาฟฟาร์ลบอก

              มูราดินบอก "เกรงว่าพวกน้องสาวของเราอยากจะออกไปสู้กับพวกไทรเวเซอร์เต็มแก่แล้วละ ส่วนหนึ่งก็เพราะนายกับพวกลูกน้องได้ออกนอกดาวด้วยน่ะ"

              "กลัวว่าน้องหญิงทั้งสี่จะอ่วมเหมือนจักรพรรดินีแมวอวกาศกันซะมากกว่าน่ะ ยิ่งพวกเธอเหล่านั้นเป็นประเภทหัวดื้อและไม่เชื่อหากไม่โดนด้วยตัวเองกันแล้ว เกรงว่ากลับมาในสภาพพิการถาวรกระมั่ง" จาฟฟาร์ลกล่าวอย่างหวั่นเกรง

              มูราดินบอก "....อย่างน้อยการตายของพวกเธอก็คือข้ออ้างที่เราจะประกาศสงครามกับพวกสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์เต็มรูปแบบ โดยจู่โจมพวกนั้นไปพร้อมกับพวกทรอยอาร์ที่ส่งคนบุกมากันด้วยน่ะ"

              "ท่านพี่ใหญ่ครับ" จาฟฟาร์ลแย้ง

              อัลลาดิมที่ 4 บอก "มูราดิน ถึงพวกเธอจะหัวดื้อและรั้นมากแค่ไหน ก็ยังเป็นน้องสาวของเจ้ากันอยู่น่ะ ข้าหวังว่า เหล่านักรบไทรเวเซอร์คงจะปราณีต่อเหล่าน้องสาวของเจ้ากันบ้างน่ะ"


              วกกลับมาที่แคสเซเดียน-3 เฟิร์สฮิลล์ เวเซอร์เฮาส์ หลังจากการฝึกจบลงแล้ว

              "เอาละ มาดูรายการข่าวช่วงบ่ายดีกว่าน่ะ" เจเนลกล่าวโดยเปิดโทรทัศน์จอแบนเปิดดูข่าว ซึ่งก็....

              "หน่วยชิลบาร์บิลและหน่วยไซเบอร์ฟอส ได้เข้าขัดขวางหน่วยรบของทรอยอาร์ที่บุกรุกเขตชุมชนนิวเบอลินของกรีนยูรอนเปี้ยนกันเป็นหนที่สามแล้ว รายงานระบุว่า พวกทรอยอาร์บุกจู่โจมเขตชุมชนและเขตเกษตรกรรมเพื่อหวังจะดึงกองทหารให้เข้ามา แต่แผนการกลับล้มเหลวเสียก่อนนะคะ" นักข่าวแมนิเกเตอร์สาวจากโลก ที่มีดวงตาหุ่นยนต์แบบสามเหลี่ยมข้างซ้ายกล่าว

              "นั้นเพราะ 2 ครั้งแรก พวกเขาปะมือกับพวกสเตรดาร์ธที่โผล่มาในเขตเมืองนิวริออนจาเนโด้และเมืองวีทรอยซ์ ซึ่งประสานงานกับตำรวจไซบอร์คในเขตเมืองกันไว้น่ะ" พลัสเชอริทกล่าว

              นักข่าวชายที่เป็นชาวซัลคาเลี่ยนบอก "นับว่าเป็นการต่อสู้ของเหล่าไซบอร์คผู้ผดุงความยุติธรรมกันนะครับ" แล้วก็.... "ส่วนพวกสเตรดาร์ธนั้น เกรงว่าคงต้องอยู่เรือนจำกันสักหน่อยแล้วละครับ เพราะว่ากองรบของเรดเมลแกนเข้าสกัดกั้นพวกสเตรดาร์ธที่บุกเข้าจู่โจมนิคมอุตสาหกรรมมัสตาบุทกันไว้ พร้อมกับกองยานรบที่ 11 ซึ่งเข้าโต้ตอบยานรบและกองรบโมบิลลอยด์ของสเตรดาร์ธ จนยานรบพังพินาศลงกลางเขตทุ่งร้างกันไปแล้วนะครับ"

              "เห็นว่าทหารในกองมีบาดเจ็บกันเสียเป็นส่วนมากเลยนิคะ" นักข่าวสาวกล่าวกับนักข่าวชาย ซึ่งตอบไปว่า

              "นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอนะครับ ต่อด้วยข่าวต่อมา เมื่อช่วงบ่ายโมงครึ่งของวันนี้ กองรบสเปซวิชกองบินที่ 501 502 และ 503 สนธิกับกองทัพอากาศของบลูโรเซียทเข้าจู่โจมอาวุธทรงผลึกของพวกเดลอาเนี่ยนกลุ่มมนุษย์ผลึกต่างดาว เพื่อสกัดกั้นการบุกของฝ่ายตรงข้ามมิให้สร้างความเสียหายให้กับเขตเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกันไปได้นะครับ" โดยนำภาพของสกรีแทนมาร์คทูแบบขาไอพ่นติดอาวุธเข้าระดมยิงใส่ยานรบขนาดกลางและใหญ่ของพวกซีรีสตรัล โดยพวกมันยิงลำแสงเข้าใส่ แต่ "เปร้งๆๆๆๆ" สเปซวิชใช้โลห์วงกลมเวทย์มนต์ป้องกันเอาไว้พร้อมกับบุกจู่โจมจนเปลือกเกราะด้านนอกแตกออกจนเผยแกนกลาง และ "แชดดดด" ตัวจ่าฝูงยิงปืนยาวเจาะทะลุแกนกลางจนกระจุยไปในทันที ในขณะที่อาร์ซโทรนของบลูโรเซียท "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆ ครืนนน" ยิงมาโครมิไซล์พร้อมกับโซนิคแคนน่อนเข้าถล่มใส่ยานน้อยใหญ่ของซีรีสตรัลจนกระจุยไป และสอยยานลำใหญ่เข้าตรงสะพานเดินเรือจนเผยแกนกลางออกมา จนหัวหน้าฝูงบินทิ้งระเบิดถล่มซ้ำให้กระจุยไป

              "แม้ว่าเมื่อวาน พวกเธอเกือบถูกลอบสังหารโดยพวกล่าแม่มดอย่างพวกทรอยอาร์กันก็ตาม ต้องขอบคุณหน่วยมิวแทนอยด์ทีม T ซึ่งมาร่วมซ้อมรบด้วยกัน เข้าสกัดกั้นขัดขวางจนพวกล่าแม่มดต้องเป็นฝ่ายถูกล่าเสียเอง และได้จับกุมพวกเธอ แม้จะมีบางส่วนถูกสังหารไปก่อนแล้วนะคะ" นักข่าวสาวกล่าวโดยนำภาพนักสู้มิวแทนอยด์ในชุดสกินสูทสีแดงสลับเขียว ควบคุมตัวมาสเก็ตซิลและแลนไซท์หญิงที่ถูกล็อกอยู่ในลูกบาศก์ผลึกกันไว้

              นักข่าวชายบอก "นั้นไม่แปลกหรอกครับ พวกนักล่าแม่มดนี้พยายามจะมีพลังแต่กลับไม่มีเลยต้องกำจัดทิ้งเพื่อไม่ให้ใครมีพลังได้กันนะครับ" แล้วก็เล่าต่อ "พูดถึงเดลอาเนี่ยนในเวลานี้ กรมตำรวจได้จับกุมสายลับชาวแดคน็อกซ์ที่ลักลอบเข้ามาในเมืองเซาท์ฮาวน์ โดยได้สังหารนักธุรกิจแมนิแฟคเตอร์จากดาวชื่อเดียวกับเมืองลงไป พร้อมกับบอดี้การ์ดทั้งสองคนด้วยนะครับ"

              "ไม่ทราบว่า คนๆนั้นชื่ออะไรละคะ" นักข่าวสาวถาม

              นักข่าวชายตอบ "ฟีส ฟีส ดาร์บาร์ดครับ แมนิแฟคเตอร์ผู้นี้เดิมเป็นนายตำรวจมากความสามารถ แต่....จากรายงานมา เขามีเอี่ยวกับการคอรัปชั่นในดาวที่เขาอยู่ และได้สังหารเพื่อนร่วมงานอย่าง เจฟฟี่ โดวาร์ดลง จนฟีสต้องหลบหนีมาอยู่ที่ดาวของเราในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเหตุการณ์กวาดล้างไวซ์อาร์วี่ครั้งที่สองจบลง ฟีสได้แจ้งกับทางกองทัพจะขอมอบตัวเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนที่เขาร่วมมือ แต่สุดท้ายก็จบชีวิตลงที่ตึกสูงของเขาเองนะครับ"

              "คิดว่าเป็นฟีสร่วมมือกับแก็งค์ริดโอกันหรือเปล่าละคะ" นักข่าวสาวถามด้วยความสงสัย

              นักข่าวชายตอบ "เปล่าครับ แต่เป็นคามาลตัสต่างหาก ที่ส่งฟีสเข้ามาเพื่อใช้อันธพาล และลูกน้องออกตามหาอดีตหัวหน้าแก็งค์กริเดี้ยนโร็คที่อยู่ในดาวดวงนี้กันอยู่ รวมถึงติดต่อกับคนของแก็งค์ริดโอเพื่อบ่อนทำลายแก็งค์จากภายในกันนะครับ รายละเอียดของการสืบสวนครั้งนี้จะแจ้งให้ทราบกันภายหลัง" แล้วเจเนลก็เปลี่ยนเป็นอีกช่องหนึ่ง

              "หน่วยรบวิหคได้หยุดยั้งการบุกของพวกสเตรดาร์ธกันอีกครั้งแล้วละครับ เมื่อช่วง 10 โมงเช้า พวกนักรบสเตรดาร์ธบุกเข้าจู่โจมเมืองรีเวอร์ดูล ในช่วงที่มีการแข่งฟุตบอลกระชับมิตรระหว่างเทรอนและซัลคาเลี่ยนกันอยู่ ซึ่งพวกเขาเข้าหยุดยั้งเหล่านักรบได้ก่อนที่พวกเขาจะจุดระเบิดพลีชีพกันนะครับ" นักข่าวชายผิวดำกล่าว

              นักข่าวชายที่เป็นไซบอร์คบอก "เช่นเดียวกันกับพวกทรอยอาร์จำนวน 25 ตนบุกจู่โจมทัณฑ์สถานกัลคาแทรซ ซึ่งได้ควบคุมตัวเหล่าทหารทรอยอาร์ที่ถูกจับกุมที่เลนิลเกรดและทะเลทรายเวลแซนดร้าเอาไว้ ซึ่งหน่วยฮาร์ฟครีซีแทนของกองกำลังพิทักษ์ดวงดาวที่ประจำการอยู่ เข้าสกัดกั้นพวกทรอยอาร์เอาไว้เป็นผลสำเร็จ พร้อมกับจับกุมคนส่งสัญญาณให้พวกที่บุกเข้าช่วยเหลือ จนแผนการของฝ่ายทรอยอาร์พังไม่เป็นท่าเลยนะครับ"

              "ตกลง พวกทรอยอาร์จะมาช่วยพวกพ้อง หรือมาอยู่เป็นเพื่อนนักโทษกันแน่ละครับ" นักข่าวผิวดำถามกลับ

              นักข่าวไซบอร์คชายบอก "อย่างน้อย หวังว่าทัณฑ์สถานคงจะมีพื้นที่สำหรับคนที่เข้ามาใหม่กันบ้างนะครับ"

              "สามวันที่ผ่านมา กลุ่มยอดนักสู้ผู้พิทักษ์ก็ออกโรงในเวลาที่พวกเราไม่ได้มีงานเข้ามาเลยสิน่ะ" โฟรซ่าบอก

              พีวิลกล่าว "นั้นก็บ่งบอกได้ว่า พวกเราได้กระตุ้นให้แมนิเกเตอร์ทุกตนที่เคยร่วมรบในมหาสงคราม ลุกขึ้นมาต่อสู้กับพวกศัตรูกันบ้างนะครับ"

              "และต้องขอบใจริบอยและริเกิร์ลกันด้วย เพราะตามที่อ่านข่าวในแพดมา อาชญากรรมของริดโอในช่วง 3 วันหลังจากนั้น ก็เริ่มเบาบางลงกันแล้ว เพราะกรมตำรวจรับทราบข้อมูลและลงมือทำกันแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก โดยนำภาพข่าวในตอนนี้มา...

              "สุดท้าย เทศมนตรีแอทตันทลายซ่องและหอนางโลมในไวซ์อาร์วี่ลงเป็นผลสำเร็จแล้วสิน่ะ" ฟิเกซบอก

              "นั้นก็ทำให้ไวซ์อาร์วี่ปลอดอาชญากรรมลงไปได้บ้างนะคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว

              ไซโคลเนียบอก "และเมืองพักผ่อนชายทะเลก็กลับมาสดใสแบบไร้มลทินกันเลยสิน่ะ"

              "ใช่ แต่ก็อย่าลืมน่ะ ว่าพวกริดโอซ่องสุ่มอยู่ที่ดาวของเรามาตลอด 4 เดือน การที่พวกนั้นเสียไวซ์อาร์วี่ไปนั้น ทำได้แค่ทุบแหล่งซ่องสุ่มของพวกริดโอให้พังไปเพียงส่วนเดียวเองน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก "เพราะพวกนั้นมีฐานซ่องสุ่มใหญ่อยู่ตามเมืองทุกแห่งอย่างแน่นอนน่ะ"

              คลอเวฟบอก "ซึ่งการบุกถล่มเมืองเหล่านั้นก็คงทำให้เราเป็นเหมือนช่วงที่รับใช้กองทัพของครองคอร์ดเลยสิน่ะ"

              "นั้นคงทำให้พวกริดโอต้องระมัดระวังตัวยิ่งกว่าเดิม หวังว่าสิ่งประดิษฐ์ที่แม่ของริบอยและริเกิร์ลทำไว้คงจะช่วยได้อีกบ้างน่ะ" พีวิลบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะตอนนี้ พวกนักล่าเงินรางวัลที่พวกริดโอนำเข้าไป ไปอยู่ในซังเตกันแล้ว หนอนบ่อนไส้คงจะติดต่อพวกเดลอาเนี่ยนให้นำกองรบบุกเข้ามาถล่มเรากันอย่างแน่นอนเลยละ"


              "กิ้งก้อง กิ้งก้อง" เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น พลัสเชอริทเลยเดินไปดูข้างนอก คลอเวฟเดา "โพโบโวโล่อีกละสิ"

              พลัสเชอริทส่ายหน้า "แดน มาร์ตินมาหาพวกเรากันน่ะ"

              "คุณแดนมาน่ะหรือ...." พีวิลกล่าว แล้วก็เดินออกจากบ้าน โดยที่พวกพ้องตามมาด้วย

              "นึกแล้วว่าพวกเธอต้องกลับมาที่บ้านในเวลานี้จนได้สิน่ะ เพราะฉันรู้มาว่าพวกเธอออกไปฝึกฝนเหล่าลูกศิษย์ของพวกเธอที่เขตป่าหลังเมืองกันน่ะ" แดนกล่าว

              "เออ คุณคงมาหาพวกเรา เพราะเทรอนเร็กซ์หรือไลเอิร์ท หาเรื่องทะเลาะกับเฟรดเลยสิครับ" มาสวาร์ทาร์ถาม

              แดนส่ายหน้า "ถ้าทำแบบนั้น แรมเบจก็กระทืบลูกศิษย์คุณกันพอดีละสิครับ คุณมาส" แล้วก็บอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไปว่า "ที่ผมมา เพราะ....เรื่องทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันนี้แหละ"

              "งั้นก็เข้าไปในบ้านก่อนเลยนะครับ" พีวิลกล่าวและพาแดนเข้าไปในบ้าน ซึ่งเล่ารายละเอียดไปว่า

              "ผบสส.บัลโต้เล่ามา ว่าพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธที่บุกรุกเข้ามาในช่วง 3 วันที่ผ่านมานั้น แค่เดินทางล่วงหน้ามาเพื่อเปิดช่องให้กองรบกลุ่มอื่นตามมาสมทบกันทีหลัง ซึ่งผบสส.สอบปากคำพวกนักโทษทั้งสองฝ่ายจนได้ข้อมูลของฝ่ายที่ตามมาสมทบกันได้แล้วละ"

              "แล้วกองรบทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกลุ่มที่ตามหลังมานิ เป็นใครกันบ้างละคะ" สเปียริทถาม

              แดนบอก "พวกทรอยอาร์ส่งตระกูลโดฟกังทั้ง 4 มา ในขณะที่ฝ่ายสเตรดาร์ธนั้น จะส่งองค์หญิงที่ 5 ถึง 8 ตามมาสมทบกันไว้ พวกที่มาล่วงหน้านั้น มาเพื่อบันทอนกำลังรบให้อ่อนด้อยลงด้วยการจู่โจมกลุ่มทหารหรือนักรบที่สำคัญรองจากพวกเรา และพวกเธอกันนี้แหละ"

              "ตระกูลโดฟกังนะหรือ ริชเชลลิอาร์ลส่งกองรบนกพิราบเถื่อนลงมาเลยหรือกระนี้" เนคมาดูซัมได้ฟังก็กล่าวอย่างหวั่นเกรงขึ้นมา

              คลอเวฟถาม "พอจะเล่าได้มั้ย ว่าไอ้ตระกูลพิราบอะไรนั้น มันแน่แค่ไหนกันวะ เนคเกอร์"

              "ตระกูลโดฟกังเป็นตระกูลนักรบที่ขึ้นชื่อในเรื่องใช้กำลังตัดสินและแก้ปัญหากันทุกเรื่อง แม้ว่าพวกนี้เป็นพวกวาจาสามหาว หยิ่งยโสลำพองตนและไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับกองรบอัศวินจากกองอื่นหรือตระกูลอื่นกันก็จริง...." เนคมาดูซัมกล่าว

              ฟิเกซบอก "แต่ความจงรักภักดีต่อกองกำลังองครักษ์และองค์กษัตริย์นั้น ถือว่ามีอยู่มากมาย เพราะว่าตระกูลนี้เข้าช่วยปกป้องออสเฟรย์ที่ 2 จากกลุ่มผู้ปองร้ายไว้ได้ จนออสเฟรย์ที่ 2 ได้ยกย่องพวกโดฟกังให้เป็นผู้พิทักษ์ผู้เข้มแข็ง ซึ่งพวกโดฟกัง ผู้ซึ่งก้าวร้าวต่อทุกฝ่าย ทราบซึ้งและแสดงความเคารพยกย่องออสเฟรย์ที่ 2 ในฐานะผู้มีพระคุณและได้สาบานว่าพวกเขาจะปกป้ององค์ราชาและทายาทจากภัยอันตรายทุกรูปแบบกันไว้ ซึ่งนั้นก็ช่วยลดความโอหังและก้าวร้าวลงไปน่ะ"

              "แล้วนั้นไม่ทำให้พวกนั้นลำพองใจที่มีองค์กษัตริย์ถือหาง และใช้ตรงนั้นเป็นข้ออ้างเวลาไปหาเรื่องกับพวกทรอยอาร์กลุ่มอื่นกันเลยหรือ" สเตฟอร์ดถาม

              เนคมาดูซัมบอก "ถึงพวกโดฟกังจะก้าวร้าวกับคนอื่น แต่ก็ฉลาดมากพอที่จะไม่ทำตัวให้เลวกว่าริชเชลลิอาร์ลกันนะสิ เพราะพวกนั้นก็ไม่ชอบขี้หน้ามหาสังฆราชจอมเจ้าเล่ห์เหมือนกับกลุ่มจงรักภักดีต่อออสเฟรย์ที่ 2 กันด้วย และหลังจากที่ได้รับการยกย่อง พวกนี้แทบไม่ก่อเรื่องกับใครเลย หากไม่มีใครไปแส่หาเรื่องกับพวกโดฟกังเสียก่อนนะ"

              "แต่...ที่พวกโดฟกังออกรบมานิ คงไม่ได้เป็นเพราะคำสั่งของราชาที่ได้คำแนะนำจากริชเชลลิอาร์ลละสิ" พีวิลกล่าว

              ฟิเกซพยักหน้า "นั้นแหละคือข้อเสียของพวกโดฟกังละ เพราะถึงพวกเขาไม่ชอบขี้หน้าริชเชลลิอาร์ล แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งขององค์ราชาที่พวกเขาได้ให้คำสาบานกันไว้ แม้ว่าพวกเขาจะเคยก่อเรื่องให้เผ่าควอเดี่ยมและแกตไทซ์กันมาก่อนก็ตามน่ะ"

              "อย่าบอกน่ะ ว่าไอ้เวรเหล่านั้นมันด่าพ่อล้อแม่ รุมกระทืบเพื่อนร่วมเผ่าของพวกนายทั้งสองกันน่ะ" คลอเวฟบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "พวกนั้นแค่อยากลองของกันน่ะ ว่าพวกเราในฐานะชนเผ่าที่โอเวอร์เดสและโอเวอร์เรสสร้างมานั้น มีดีและแข็งแกร่งแค่ไหนกันน่ะ ซึ่ง ท่านพ่อและลุงนาไลน์ช่วยเบรคเอาไว้ เพราะพวกเราไม่ควรจะบ้าจี้ทำตามที่พวกโดฟกังต้องการกัน จนพวกเราพลอยถูกมองว่าเป็นคนไปหาเรื่องกองนักรบพิทักษ์องค์ราชาไปโดยถาวรนะสิ"

              "แต่การที่พวกนั้นบุกมาที่ดาวดวงนี้ แสดงว่าริชเชลลิอาร์ลคิดจะกำจัดผู้พิทักษ์และผู้จงรักภักดีต่อออสเฟรย์ที่ 2 ออกไปทีละกลุ่มสองกลุ่มกันเลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์คาดเดา

              แดนบอก "แล้วกลุ่มอัศวินกางเขนขาว กับตระกูลบาลานซ์และโคลานซ์ก็อยู่ในกลุ่มจงรักภักดีด้วยละสินะ" และหันมาถาม "แล้วพวกสเตรดาร์ธในคราวนี้ล่ะ"

              "องค์หญิงที่ 5 ถึง 8 นั้น บอกกันตามตรงน่ะ ว่าทั้งสี่ ล้วนเป็นองค์หญิงที่ไม่เพียงแข็งแกร่ง แต่ยังเก่งกาจในเรื่องต่อสู้กันเสียด้วยนะสิ" แอบไบออสบอก "ตามข้อมูลของสายลับที่อยู่ที่ซาฮัลด้า องค์หญิงกัสลิน ฟัลดิน ยัลบินและซัลฟิน เป็นบุตรีของอัลลาดิมที่ 4 ที่เป็นยอดนักรบหญิงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดและเก่งกาจมากที่สุด พวกเธอนำกองนักรบทั้งชายและหญิงออกรบต่อกรกับโจรทะเลทราย และพวกสลัดอวกาศที่รุกล้ำเข้ามาที่ดาวจนได้ชัยชนะมาหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงกองรบพันธมิตรมนุษย์เองก็ล้วนต้องกลับไปแบบบอบช้ำไม่น้อย เพราะทั้งสี่ไม่ออกรบด้วยตนเอง แต่โมบิลลอยด์ของทั้งสี่เอง ก็ตัวใหญ่และแข็งแกร่งเอาเรื่องเลยละ"

              เจเนลบอก "ประมาณว่าเหยียบกับระเบิดไปหลายลูกก็ดี โดนนิวเคลียร์ลูกโตๆลงตรงๆ ก็ยังไม่ตายอย่างงั้นละสิ"

              "เออ มันเกินไปหน่อยนะ เจเนล แต่ด้วยสถิติที่องค์หญิงทั้งสี่สู้กับกองรบที่เฮนรี่ ไนท์และแพททริคส่งไปนั้น พิสูจน์ได้ว่าพวกเธอน่ากลัวจนเราเข้าใกล้สเตรดัสท์เซคเตอร์ไม่ได้เลยน่ะ" แอบไบออสส่งแพดที่เปิดข้อมูลเอาไว้มาให้

              ไซโคลเนียบอก "อะไรเนี้ย กิซเบลด 450 เครื่อง กิซแลนซ์ 360 เครื่อง กิซสครีมีทาร์ 440 เครื่อง กิซเรเฟียร์ 340 เครื่อง กิซซอร์ดและฟาลชีอ้อนอย่างละ 270 เครื่อง กิซแอ็กซ์ 380 เครื่อง กิซแดกเกอร์และกิซไนฟ์อย่างละ 420 เครื่อง ยานรบวอร์ครุยเซอร์ 50 ลำ พาหนะทั้งบกและอากาศรวม 620 หน่วย พวกหล่อนนั้น เหนือกว่าสเปียริทเลยหรือ"

              "นั้นสิ ขนาดพวกเราบุกมาพร้อมกับเหล่าลูกน้องของเทคไครด์เอง ยังไม่ถล่มเยอะถึงเพียงนี้เลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก

              จิลบอก "ที่ฝั่งบนโลกไม่เยอะ เพราะกำลังรบและกำลังผลิตน้อยเกินไปซะมากกว่าน่า"

              "งั้นไอ้ที่กองยานที่ 7 ที่กลับไปเพียงน้อยนิด คงไม่ใช่ฝีมือขององค์หญิงทั้งสี่เลยละสิ" โฟรซ่าบอก

              แอบไบออสกล่าว "เกรงว่าจะเป็นฝีมือของพวกเธอกันด้วย เพราะในช่วงเวลานั้น องค์หญิงทั้งสี่ พาหน่วยรบของพวกเธอออกลาดตระเวนนอกดาวกันนะสิ"

              "แล้วพวกองค์หญิงทั้งสี่ มีขนาดตัวเท่าพวกเธอ หรือว่าเท่าจายด์กันน่ะ" แดนถาม

              แอบไบออสส่ายหน้า "เกรงว่า จายด์คงจะรับมือกับองค์หญิงทั้งสี่ไม่ได้แน่ๆละครับ" แล้วก็เอาภาพองค์หญิงทั้งสี่ ซึ่งมีขนาดตัวเท่ากับจาฟฟาร์ล แต่ตัวเตี้ยกว่า 1-2 เซนติเมตรเท่านั้น

              "รูปร่างแบบนี้ ตบหลายทีคงไม่ทำให้พวกนี้เจ็บแปล๊บๆกันหรอก เผลอๆมือจะไปก่อนกันน่ะ" โฟรซ่าบอก

              สเปียริทกล่าว "และคงจะไม่ได้ใส่เกราะด้วยละสิ"

              "ข่าวร้าย ลูกๆของอัลลาดิมที่ 4 ที่ฝึกฝนเป็นนักรบกันนั้นก็สวมเกราะทั้งตัวด้วยน่ะ แม้กระทั่งเทเนดีนเองก็เช่นกันน่ะ" แอบไบออสบอก

              คลอเวฟกล่าว "และยัยพวกนี้ คงเป็นประเภทดื้อด้านไม่ยอมจำนนจนกว่าจะบดขยี้อีกฝ่ายให้ราบคาบเหมือนใครบางคนเลยสิน่ะ"

              "และคงจะงี่เง่าจนหาเรื่องใส่ตัวเหมือนกับใครบางคนด้วยเช่นกันน่ะ" สเปียริทย้อนบ้าง เพราะคลอเวฟแอบด่าเธอลับหลังไปก่อนแล้ว

              เนคมาดูซัมเลยต้องรีบพูดห้ามปรามไว้ "พอเลย สเปียริท คลอเวฟ" เพื่อที่จะถาม "หัวหน้าแดน คิดว่าพวกนี้จะบุกจู่โจมกันที่ไหนละครับ อย่างน้อยพวกเราจะได้รับมือได้ทันน่ะ"

              "แย่หน่อยก็คือ พวกเชลยทั้งสองฝ่ายไม่ยอมเปิดปากพูดกันเลยนะสิ ว่าจะบุกจู่โจมกันตรงไหนน่ะ" แดนบอก

              เจเนลกล่าว "งั้นคงต้องขึ้นกับว่าแอร์ไพล์มมิสตรวจจับการมาของทั้งสองฝ่ายว่าจะลงมาตรงไหนกันน่ะ"

              "ถ้าเช่นนั้น ฉันหมดธุระแล้ว ขอตัวกลับไปดูเมย์และเฟรดแล้วกันน่ะ" แดนกล่าวและลุกขึ้นเพื่อออกจากบ้าน

              พีวิลบอก "รักษาตัวด้วยนะครับ คุณแดน" แดนยิ้มและเดินออกไป

              "ฉันรู้สึกว่าตอนนี้พวกเราเหมือนถูกหลอกใช้กันเสียแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก

              แอนเดรียถาม "หมายถึง สังฆราชริชเชลลิอาร์ลส่งพวกโดฟกังเพื่อทำให้การอารักขาองค์ราชาทรอยอาร์เหลือน้อยลง จนเข้าควบคุมการปกครองได้ทั้งหมดเลยสิคะ"

              "ถูกแล้วละ แอนเดรีย การส่งกองรบของริชเชลลิอาร์ลในคราวนี้ ได้บ่งชี้ถึงความทะเยอทะยานของเขาได้เป็นอย่างดี และรู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ คงไม่เป็นผลดีต่อพวกทรอยอาร์ส่วนมากกันอย่างแน่นอน" มาสวาร์ทาร์บอก

              แอบไบออสกล่าว "แม้กระทั่งราชทายาทมูราดินเองก็ด้วย ที่ดันคิดเหมือนกับริชเชลลิอาร์ลกันน่ะ"

              "ราชทายาทมูราดินนะหรือ หมายความว่าไงกันน่ะ แอบไบออส" เจเนลถาม

              แอบไบออสบอก "ตามรายงานของกลุ่มสายลับได้ไปสืบมา ต่อให้มูราดินมีสถานะเป็นว่าที่มหาราชาองค์ถัดไป หากอัลลาดิมที่ 4 สวรรคตกันแล้ว แต่....เพราะอัลลาดิมที่ 4 มีบุตรตั้ง 70 องค์ ซึ่งแม้บางองค์จะเป็นคนดีหรือสนับสนุนและปกป้องมูราดิน แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ต่อต้านและเป็นศัตรูต่อมูราดินกันด้วย ดังนั้น มูราดินจึงคิดเหมือนกับริดโอบาราน่าคิดต่อพวกแก็งค์มาเฟียกลุ่มอื่นๆที่แรซัลก้ากันนี้แหละ"

              "คงไม่ได้หมายความว่า มูราดิน มองน้องๆเป็นคู่แข่งและศัตรูไปเลยสิน่ะ" สเปียริทบอก

              แอบไบออสพยักหน้า "องค์หญิงทั้งสี่เองก็เช่นกัน เพราะว่าพวกเธอทั้งสี่เก่งกาจมากจนเกินไป เลยทำให้มูราดินคิดว่าหากพวกเธอคิดกระด้างกระเดื่องต่อตนขึ้นมา คงไม่เป็นผลดีต่อเขาแน่นอน การส่งพวกเธอลงมาสู้กับพวกเรา ก็คือการตัดเสี้ยนหนามเป็นการล่วงหน้านี้แหละ"

              "แล้วองค์หญิงทั้งสี่ มีสถานะเป็นผู้ปกป้อง หรือเป็นผู้ท้าทายมูราดินกันละครับ สิบเอก" พีวิลถาม

              แอบไบออสบอก "ทั้งสี่เป็นผู้สาบานต่อมูราดินและอัลลาดิมที่ 4 ว่าจะจงรักภักดีและปกป้องชีวิตของทั้งคู่ รวมถึงชาวสเตรดาร์ธทั้งระบบเอาไว้ เพียงแต่มูราดินใจแคบและมองน้องๆทุกตนเป็นตัวปัญหาก็เท่านั้นเองนะสิ"

              "แสดงว่า ทั้งทรอยอาร์และสเตรดาร์ธส่งกองรบที่เป็นเหมือนโลห์ลงมาเพราะโลห์มาขัดขวางผลประโยชน์ส่วนตัวเองละสิน่า" โฟรซ่าบอก

              แอนเดรียกล่าว "ถ้าพวกเขาทั้งสองฝ่ายเฉลียวใจหรือปฏิเสธไปได้ก็ดีสิคะ อย่างน้อยพวกเราไม่อยากจะมีเรื่องกับคนที่สู้เพื่อปกป้องคนที่สำคัญมากที่สุดกันเลยนะคะ"

              "คงยากน่ะ แอนเดรีย ฝ่ายทรอยอาร์และสเตรดาร์ธส่งพวกจงรักภักดีโดยผ่านความเห็นชอบจากตัวผู้นำสูงสุดกันแล้ว ถ้าพวกเขาขัดขืนหรือไม่ทำตามก็จะเป็นการผิดคำสาบานที่ให้ไว้กันน่ะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

              แอบไบออสบอก "และเรารู้ว่าพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธจะลงมือกันเช่นไร ดังนั้น เราก็ต้องเตรียมการกันไว้นี้...."

              "กิ้งก้อง กิ้งก้อง" เสียงออดดังขึ้นอีกแล้ว ฟิเกซเลยเดินไปดูข้างนอกแทน ซึ่งก็.... "ฟิเกซสะดุ้งแบบนี้ นายพลจูเดทต้ามาแน่ๆละสิ" ไซโคลเนียบอก

              เนคมาดูซัมถาม "นายพลจูเดทต้ามาหาถึงบ้านเราหรือเปล่าละ"

              "เปล่า....แต่เป็นตัวลูกสาวเองนี้แหละ" ฟิเกซบอก

              คลอเวฟกล่าว "ถ้าเป็นลูกสาวละก็ ไม่จำเป็นต้องออกไปกันละมั่ง....ต่อให้เธอเป็นลูกป้าท่านนายพลเลยน่ะ"

              "แต่....ฉันแนะนำว่า เราต้องออกไปกันเดียวนี้แล้วละ เพราะถ้าไม่ออกไปหรือออกไปช้า พวกเราคงต้องยืนชูแขนสองข้างยาวจนถึงดึกเลยละ" ฟิเกซบอก

               เนคมาดูซัมกล่าว "และฉันแนะนำว่า พวกเราทั้งหมดต้องลุกเดียวนี้เลย ต่อให้ไม่ชอบเลยก็ตามน่ะ" แล้วทั้งหมดก็แห่ออกมาจากบ้านกัน ซึ่งก็เจอกับหญิงสาวผมสีเทาร่างบึกบึนในชุดทหารยืนอยู่

              "โว้ว เธอมีคู่แข่งแล้วละ สเปียริท" โฟรซ่าแซว

              สเปียริทกล่าว "อ่า ฉันพอเข้าใจแล้วละ เธอคนนี้คงจะมือหนักถึงขั้นต่อยหน้าแกตไทซ์ล้มคว่ำได้เลยสิน่ะ"

              "และคุณก็อาจจะโดนต่อยคว่ำด้วยเลยมั้ยละ ร้อยโทสฟีร่า" ทหารหญิงกล่าว แล้วก็แนะนำตัว "เกือบลืมไป ฉันคือ ร้อยตรีโดโรรีน บุตรสาวคนโตของคุณพ่อเพอซี่และคุณแม่จูดี้ ผู้บังคับบัญชาของพวกคุณทั้งหมด ฉันถูกส่งมาเพื่อรับผิดชอบในการตรวจตราความปลอดภัยเมืองนี้ในช่วงกลางคืน ตามคำสั่งของจอมพลแฮซกริฟและผบสส.บาโธโรมิวของพวกคุณ ซึ่งฉันรับผิดชอบเมืองนี้ ในช่วงที่พวกคุณออกนอกเขตระบบดาวไปปฏิบัติการณ์ที่อื่นกันด้วย"

              โฟรซ่าบอก "เออ ไม่อยากจะบอกน่ะ แต่เธอยศรองจากพีวิลแล้ว ทำไมไม่ทำความเคารพต่อพวกเรากันก่อนละ"

              "...." โดโรรีนได้ฟังเลย "ฟึ่บบบ" ทำวันทยาหัตถ์ต่อพวกไทรเวเซอร์ที่ทำวันทยาหัตถ์ตอบไปด้วย "ต่อให้คุณอาวุโสกว่าหัวหน้าเนคเกอร์กันก็จริง แต่....ฉันมองว่าคุณทำตัวไม่เหมาะสมกันเสียเลยน่ะ" โดโรรีนบอก

              โฟรซ่าได้ฟังก็ถาม "ไม่เหมาะสมนะหรือ ตรงไหนที่เธอมองว่าฉันไม่เหมาะสมกันละ"

              "ถ้าคุณไม่เหมาะสมจริง แล้วทำไมคุณถึงแหย่ร้อยโทสฟีร่าเหมือนกับว่าเป็นเสือใบกันมิทราบละ" โดโรรีนตำหนิ โฟรซ่าถึงกับอ้าปากค้าง สเตฟอร์ดและพีวิลถึงกับส่ายหน้าขึ้นมา

              สเปียริทบอก "เดียวก่อนน่ะ นี้เธอได้ยินใครเล่ามากันใช่มั้ยละ ถึงได้พูดกันแบบไม่มีหลักฐานเลยน่ะ"

              "ฉันไม่ได้ฟังใครเล่ามาหรอก แต่เห็นมากับตัวนี้แหละ และเห็นก่อนหน้าจอมยุทธ์โรซารี่จะปีนเข้าทางหน้าต่างกันเสียอีกน่ะ" โดโรรีนอ้าง สเปียริทได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย

              พลัสเชอริทบอก "แปลว่า คุณคงจะพลางตัวอยู่หลังบ้านแบบที่ไม่มีใครสังเกตุเห็น และผมก็อยู่หน้าบ้านกันด้วย เลยไม่รู้ว่าคุณซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลาสิน่ะ"

              "สมแล้วที่คุณประมวลผลได้ไวมากนะ คุณพลัสเชอริท แต่หวังว่าคุณคงจะมีปากเสียงออกความเห็นมากกว่านี้กันบ้างน่ะ" โดโรรีนบอก

              โฟรซ่าถาม "แต่ ฉันไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึ่งน่ะ เธอบอกว่าเธอมีหน้าที่ตรวจตราภายในเมืองช่วงกลางคืนใช่มั้ย แล้วมาด้อมๆมองๆพวกเรากันทำไมละยะ"

              "คุณแม่ยังไม่แน่ใจว่า พวกคุณบางคนที่พึ่งผ่านการถูกจับลักพาตัวไปนั้น หายดีทั้งทางกายและทางใจกันหรือเปล่า เพราะถึงพวกคุณบอกว่าไม่เป็นไรกันก็จริง แต่มันต้องมีสักอย่างที่หลุดหรือตกหล่นไปแน่นอน" โดโรรีนกล่าว "อันที่จริง คุณแม่กะจะมาดูพวกคุณด้วยตัวเอง แต่บังเอิญว่าคุณแม่งานยุ่ง เลยฝากให้ฉันซึ่งรับผิดชอบในเวรตรวจตราภายในเมืองตอนกลางคืน ให้ช่วยดูพฤติกรรมของพวกคุณในช่วงเย็นและช่วงดึกกันไว้ เผื่อว่าพวกคุณตนใดตนหนึ่งเผลอออกอาการผิดปกติที่เป็นอันตรายต่อผู้คนในเมืองนี้กันน่ะ"

              สเปียริทบอก "แล้วเธอก็คงแอบดูพวกเรามาตลอด 3 วันที่ผ่านมาเลยสิ"

              "ในเมื่อคุณสังเกตุพวกเราในห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังบ้านไป ก็เท่ากับว่าไม่ได้สังเกตุพวกเนคมาดูซัมที่อยู่ส่วนหน้ากันเลยสิคะ" ลิเนียร์ตี้บอก

              โดโรรีนกล่าว "ตอนที่พวกคุณไม่อยู่ในบ้าน ซึ่งคุณคงจะถอดแอมเบอร์ออกจากตัวควบคุมที่อยู่ใต้โซฟาไปติดตั้งที่ไทรแองเกิ้ลนั้น ฉันได้ติดตั้งกล้องเล็กเอาไว้ตามจุดต่างๆ ซึ่งพวกคุณคงไม่เห็นมันหรอก แม้กระทั่งแอมเบอร์เองก็หาไม่เจอกันด้วยน่ะ"

              "กล้องเล็กนะหรือ....นี้มันเกินไปหน่อยน่ะ" เจเนลบ่น

              คลอเวฟกล่าว "พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนิ และไม่ได้มีความคิดอะไรแย่ๆถึงขั้นต้องเอากล้องไปติดตั้งไว้น่ะ"

              "ถึงพวกคุณอาจจะไม่ได้ทำตัวแย่ๆอย่างที่พูด ทั้งฉันและคุณแม่จูดี้ ยังไม่เชื่ออยู่ดี ว่าพวกคุณจะคุมความประพฤติของตนเองได้กันน่ะ โดยเฉพาะคุณที่แอบไปหลับที่บาร์เหล้าเพียงตนเดียว ซึ่งดูน่าสงสัยมากที่สุดกันด้วย" โดโรรีนกล่าว "ฉันแค่จะมาแจ้งว่า ฉันอาจจะแวะมาดูพวกคุณ หรือไม่ก็พวกคุณและคุณนายโอดิลที่อยู่ฝั่งตรงข้าม รวมถึงเพื่อนมิวแทนอยด์ที่อยู่ถัดไปกันด้วย เพราะคุณแม่จูดี้แน่ใจว่าผู้ว่าการกะเทยที่ดูแลเมืองนี้ คงคุมไม่อยู่แน่นอนเลยละ"

              ฟิเกซบอก "ผู้ว่าการโพโบโวโล่คุมพวกเราอยู่มือไปนาน ก่อนหน้าที่พวกท่านนายพลเพอซิอัสจะถูกส่งมาประจำการที่นี้กันแล้วน่ะ"

              "ดีแล้วละคะ คุณฟิเกซอท และกรุณาช่วยอยู่เป็นที่กันนานๆหน่อยนะคะ เพราะ....นายแม่รัคชูมี่ฝากให้ฉันมาตรวจสอบคุณด้วย" โดโรรีนกล่าว ฟิเกซได้ฟังก็ถึงกับส่ายหน้าขึ้นมา "รวมถึงคุณด้วยน่ะ หัวหน้าเนคเกอร์ ในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้ากอง คุณต้องได้รับการจับตามองดูกันเป็นพิเศษเลย ดังนั้น หวังว่าคุณคงไม่ทำให้คุณพ่อหงุดหงิดกันบ้างนะคะ" แล้วก็ทำวันธยาหัตถ์ก่อนเพื่อเดินลงไปยังเขตเมืองด้านล่างกัน

              คลอเวฟบอก "โอ้ว กูเชื่อแล้ววะ ว่าลูกสาวคนนี้ ลูกไม้หล่นใกล้ต้นมากๆเลยวะ"

              "แน่ละ โดโรรีนเป็นลูกสาวคนโตของนายพลเพอซิอัสและนายพลจูเดทต้า ซึ่งเธอ มีทุกอย่างที่นายพลจูเดทต้าเป็นอยู่ แม้ว่าเธอจะมือหนักและหุนหันพลันแล่นไปหน่อยก็ตามน่ะ" ฟิเกซบอก

              จิลถาม "แล้วคุณโดโรรีนผู้นี้ ก็คงออกรบที่โฟลเดริม-4 เมื่อ 3 ปีก่อน โดยรอดชีวิตจากการรบในครั้งนั้นมาเลยสิน่ะ"

              "เหตุผลเดียวที่โดโรรีนรอดจากแนวหน้านั้น เพราะเธอ ไปต่อยหน้าทหารทรอยอาร์ปากดีเข้านะสิ เลยทำให้นายพลจูเดทต้าต้องลงโทษด้วยการให้เธอเฝ้าโรงทหารแนวหลัง แทนที่จะให้เธออยู่แนวหน้า จนกว่าเธอจะคุมอารมณ์ได้กันนี้แหละ" เนคมาดูซัมบอก

              สเปียริทกล่าว "และทหารทรอยอาร์ปากดี คงไม่ใช่นายฮีธอะไรนั้นละสิน่ะ"

              "ไม่ใช่อยู่แล้วละ เพราะทหารทรอยอาร์ปากดีที่ว่านั้น ได้ตายเพราะพวกเดลอาเนี่ยนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนกันแล้วนะสิ" ฟิเกซบอก

              ไซโคลเนียกล่าว "หมายถึงลูกชายตระกูลอาเทแรคที่ถูกผู้เป็นพ่อทอดทิ้งและหนีเอาตัวรอดไปเพียงลำพัง ในยุทธการขัดขวางการยึดแคสไลน์-6 ของพวกเดลอาเนี่ยนสิน่ะ"

              "แต่ โดโรรีนไม่ไปใช้กำลังกับพวกทหารเหล่านั้นเลยนิ แม้ว่าพวกเขาจะพูดลามปามหรือแทะโลม ก็น่าจะทำเป็นหูทวนลมกันก็ได้นิ" โฟรซ่าบอก

              แอนเดรียกล่าว "พอจะรู้เหตุผลที่โดโรรีนเป็นอย่างงี้กันบ้างสิคะ"

              "ความจริงแล้ว โดโรรีน สนิทกับเนสตัน ลูกชายคนโตของนายพลเพอซิอัสนะสิ" เนคมาดูซัมบอก "เท่าที่ฟังมาจากคุณพ่อเล่ามา โดโรรีนเคารพชมชอบเนสตันมาตั้งแต่เด็กและยึดถือเป็นตัวอย่างให้เธอเข้าเป็นทหาร ส่งผลให้เธอเป็นเด็กสาวที่กล้าหาญเหมือนกับพี่ชาย มากจนทำให้ใครต่อใครคิดว่า เธอเป็นน้องชายฝาแฝดของเนสตันด้วยน่ะ"

              ไซโคลเนียบอก "คงจะประมาณว่า แทนที่จะใส่กระโปรง สวมบรา กลับแต่งตัวเป็นผู้ชายและทำตัวเป็นทอมบอยเลยสิน่ะ"

              "ใช่ แต่เนสตันต่างจากโดโรรีนก็ตรงที่จะไม่ใช่อารมณ์และมีน้ำอดน้ำทนมากกว่า นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้โดโรรีนซึ่งควรจะออกรบร่วมกับพี่ใหญ่ รอดชีวิตจากการบุกจู่โจมปราการหลักในครั้งนั้นเองแหละ" เนคมาดูซัมบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "งั้น เนสตันผู้เป็นต้นแบบได้เสียชีวิตไปแล้ว นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้โดโรรีนทำตัวเป็นเด็กผู้ชายมากกว่าตัวตนที่เป็นอยู่กันเลยสิน่ะ"

              "ถูกต้องแล้วละ เพราะการที่โดโรรีนเป็นแบบนี้ เนื่องจากว่าเธอไม่อยากจะลืมตัวตนเดิมของเนสตันที่จากไปแล้ว แม้ว่านั้นจะหมายถึงเธอไม่มีโอกาสได้แต่งงานเลยก็ตาม ฉันคิดว่าเหตุผลที่นายพลจูเดทต้าเอาโดโรรีนมาด้วย ก็เพื่อขัดเกลานิสัยของเธอให้ลดทอนความห้าวของเธอลงกันบ้างน่ะ" ฟิเกซบอก

              สเปียริทกล่าว "ทั้งๆที่เมืองเรามีผู้ว่าการกะเทยปากลำโพงคุมกันอยู่สิน่า"

              "งั้นเรากลับไปกินข้าวกันดีกว่าน่ะ เพราะมันใกล้เวลาข้าวเย็นแล้วน่ะ" จายด์บอก

              สเตฟอร์ดบอก "นั้นสิ อย่างน้อย เราก็ต้องมีแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้กันละน่า"


              ที่บ้านของครอบครัวมาร์ติน ที่ชุมชนแมนิเกเตอร์ชาวไทย

              "เออ พ่อคงไม่ได้ไปหาพวกไทรเวเซอร์กันอีกละสิ" เฟรดถาม เพราะแดนกลับมาที่บ้านช้ากว่าที่คิดไว้ นั้นคือห้าโมงเย็นด้วยกัน

              แดนบอก "พ่อแค่เอาเรื่องที่พ่อรับทราบมาไปแจ้งให้พวกเขาทราบกันนะสิ และเป็นงานที่ผู้บังคับบัญชาของพ่อสั่งมาด้วย"

              "แล้วผู้บังคับบัญชาของพ่อไม่แจ้งกับพวกเขาเองเลยหรือ" เฟรดกล่าว

              แดนตอบ "หัวหน้าของพวกเขางานยุ่งกันน่ะ เลยฝากให้พ่อซึ่งงานว่างอยู่ ให้ออกไปแจ้งกับพวกเขาเสียหน่อย ซึ่ง....เป็นเรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้บุกรุกดาวของเรากันอยู่น่ะ"

              "ทั้งๆที่พ่อออกแต่เช้าเพราะมีงานยุ่งกันเลยหรือ พ่อไม่เคยบอกเลยหรือว่าพ่อไปไหนมากันน่ะ" เฟรดถามอย่างไม่เชื่อ

              แดนกล่าวไปว่า "เอาเป็นว่า พ่อก็กลับมาหาลูกและแม่กันได้ก็ดีแล้วละ เฟรด" แล้วก็บอกไปว่า "เรารีบไปกินข้าวด้วยกันเถอะน่ะ"

              "อา คุณแดน ตกลงนิอยู่กินข้าวที่บ้านเลยหรือครับ" แฮรี่บอก เมื่อเขามาถึงหน้าบ้านกันแล้ว

              แดนกล่าว "โอ้ว ว่าแต่ ของที่ฉันสั่งไว้ มาแล้วสิน่ะ"

              "ครับ หลอดไฟนีออน 5 แท่ง ท่อพีวีซี 10 ท่อ และไม้สูบส้วมที่สั่งให้ผมซื้อมานะครับ" แฮรี่นำของที่แดนสั่งไว้เอามาให้

              เฟรดบอก "ดีแล้วละ เพราะหลอดไฟในบ้านติดๆดับๆอยู่ตลอดเลยนะครับ คุณแฮรี่ แม้กระทั่งมีหนอนตัวเป้งโผล่ขึ้นคอห่านกันด้วยน่ะ"

              "อย่าว่าแต่หนอนเลย เฟรด ที่บ้านในชุมชนจีน งูเห่าตัวเป้งโผล่มาถึง 5 ตัว และมีอีก 3 ตัวโตๆซ่อนอยู่หลังผนังด้วยน่ะ" แฮรี่กล่าว

              แดนบอก "ดีน่ะ ที่อาแป๊ะกับลูกๆมาเห็นเข้าและให้ทหารมาตรวจสอบดู ไม่งั้นคงโดนงูงาบเข้าทั้งตัวไปนานแล้วละ"

              หลังจากนั้นแฮรี่ก็อยู่กินข้าวกับแดน เฟรดและเมย์ในบ้าน จนแดนพาแฮรี่ไปส่งที่ปากซอย

              "พวกคุณไทรเวเซอร์ทราบเรื่องแล้วสินะครับ หัวหน้า" แฮรี่กล่าว

              แดนพยักหน้า "แม้ว่าพวกเขาจะรู้เรื่องและพร้อมรับมือกันไว้ เพราะว่าเนคมาดูซัมและฟิเกซรู้จักพวกทรอยอาร์ เช่นเดียวกับแอบไบออสที่ได้ข้อมูลจากผู้การฮาซาเดนกันมาแล้ว แต่ฉันดูออก ว่าพวกเขารู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องที่เขารับรู้กันมาก่อนน่ะ"

              "หมายถึงเรื่องพวกเดลอาเนี่ยนจะปองร้ายพวกเขา หรือว่าพวกริดโอจะส่งคนมาจัดการกับคนในที่พวกเขาช่วยมาเลยหรือครับ" แฮรี่เดา

              แดนส่ายหน้า "เรื่องหนอนบ่อนไส้ที่แฝงตัวอยู่ในกองทัพกันต่างหากละ แฮรี่ และเป็นรายเดียวกันที่ชักนำพวกเฮซเทิร์ซเข้ามารุกรานแรซัลก้าในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผบสส.บาโธโรมิวก็แจ้งกับฉันและแทนเอาไว้แล้วน่ะ"

              "แสดงว่า พวกเขารู้ว่าการรุกรานในคราวนี้ มีตัวการที่ต้องการสร้างความไม่สงบเลยสิครับ" แฮรี่กล่าว

              แดนพยักหน้า "เพราะอย่างงั้นแหละ ผบสส.บาโธโรมิวและหัวหน้านอร์มังดี ขอร้องให้ฉันทำการสืบเรื่องหาตัวหนอนบ่อนไส้อย่างลับๆเสียหน่อยน่ะ"

              "แล้วจะให้สืบจากไหนก่อนละครับ" แฮรี่ถาม

              แดนตอบ "ฉันลงมือสืบจาก นายทหารชาวซัลคาเลี่ยนที่ไม่ได้อยู่ที่ดาวในช่วงเดลอาเนี่ยนรุกรานกัน เพราะคนๆนั้นจะต้องออกไปติดต่อกับพวกเดลอาเนี่ยนเพื่อให้สัญญาณการบุก และติดต่อกับทรอยอาร์และสเตรดาร์ธให้พร้อมนำกองกำลังบุกไว้แน่นอน"

              "รวมถึงให้ที่ซ่อนต่อพวกริดโอ ให้การสนับสนุนด้านกำลังคนและปิดบังการซ่องสุ่มของพวกเขามาตลอด 4 เดือนเลยสิครับ" แฮรี่กล่าว

              แดนพยักหน้าและพูดต่อ "ฉันส่งมาริเข้าไปสืบกันในวันนี้ พบว่า มีนายทหารที่เราต้องการอยู่ในกองทัพฝั่งเรากันจริงๆ หากแต่คนๆนี้ไม่ได้ออกจากดวงดาวแคสเซเดี่ยน-3 หรือหนีไปแคสเซรอน-4 และรอดตายจากการรุกรานครั้งแรกกันด้วย"

              "แล้วคุณรู้หรือครับว่าคนๆนั้นเป็นใครกันน่ะ" แฮรี่ถาม

              แดนส่ายหน้า "ถึงรู้ แต่ความจริงอาจจะฆ่าเราให้ตายได้อยู่แล้ว เพราะถ้าขนาดผู้พันไบท์ที่อาวุโสกว่าฉันเองยังถูกฆ่าตายได้ นับประสาอะไรกับพวกเรากันด้วย ซึ่ง....ฉันปิดเรื่องนี้ต่อเฟรดเอาไว้ เพราะไม่อยากให้เขากับเมย์ต้องรับเคราะห์ จากเรื่องที่ฉันกระทำการอยู่ เช่นเดียวกับภารกิจสำคัญของพวกเราด้วย"

              "แต่คุณก็น่าจะบอกกับพวกคุณไทรเวเซอร์ก็ได้นิครับ" แฮรี่กล่าว

              แดนส่ายหน้า "แล้วทำให้พวกเขาหลุดออกนอกภารกิจหลักกันอย่างงั้นนะหรือ ฉันคิดว่า พวกเขาคงไม่เสี่ยงพลาดท่ากับเรื่องสืบหาตัวการใหญ่ตนนี้หรอก และจะดีกว่ามาก หากพวกเขาสืบเรื่องนี้ไปทีละขั้นๆ ด้วยตัวของพวกเขาเองกันแล้ว" และพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไว้ "แม้ว่าฉันอาจจะต้องไปก่อนพวกเขาก็ตาม และฉันไม่อยากให้พวกเขามีอันเป็นไปเหมือนกับฉัน จากความพยายามสืบหาความจริงอันนี้กันได้เลยน่ะ"


              หลังจากนั้น เช้าวันต่อมา ที่กองบัญชาการกองรบที่ 11

              "รู้น่ะ ว่าการที่เธอทำกับสเปียริทตอนอาบน้ำนั้น เป็นการแหย่เล่น เพราะว่าเธอมีผิวกายหนาและแข็งเกินแอนดรอยจากซัลคาเลี่ยน กับสั่งสอนให้สเปียริทเคารพกันก็จริง" จูเดทต้าตำหนิโฟรซ่าและสเปียริทในห้อง "แต่....พฤติกรรมแบบนี้ ฉันยังมองว่ามันไม่เหมาะสมกันเสียเลยน่ะ ต่อให้เธอมีสถานะเป็นรุ่นพี่ของร้อยเอกแอนเดอร์สันก็ตาม ฉันยังไม่แน่ใจว่า ตอนที่เธอเป็นมนุษย์ เธอทำแบบนี้มาก่อน หรือว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำกันแน่ละ"

              โฟรซ่ากล่าว "ฉันถูกกระทำแบบนี้มา 3 ครั้งตอนเป็นนักเรียนนายทหารกันนะคะ ซึ่งรุ่นพี่มาแหย่ฉันที่มีผิวสวยไปหน่อยก็เท่านั้นแหละ"

              "ไม่ใช่เพราะว่าเธอฉลาดเกินหน้าเกินตาพวกเขาเลยหรือ" สเปียริทกล่าว

              จูเดทต้ากระแอ่มห้ามสเปียริทไว้ "ถึงเธอจะถูกกระทำแบบนั้นมาก่อนนะ โฟรซ่า แต่...ต่อให้เธออ้างว่านี้เป็นการละลายพฤติกรรมและทำให้รุ่นน้องเคารพรุ่นพี่กันไว้ก็จริง ฉันยังมองว่านั้นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องอยู่ดี ซึ่งทหารรุ่นพี่ที่ทำกับทหารรุ่นน้องที่เกณฑ์เข้ามานั้น โอกาสที่รุ่นน้องมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปในเชิงที่แย่หรือเกิดท่าทีต่อต้านรุ่นพี่ถึงกับต้องเอาคืนนั้น มีสูงมากๆ ซึ่งฉันได้ลงโทษทางวินัยต่อรุ่นพี่เหล่านั้น และไล่พวกเขาไปอยู่แนวหน้าเป็นการลงโทษไปแล้ว แม้ว่านั้นหมายถึงการส่งพวกเขารับโทษด้วยความตายกันก็ตามน่ะ"

              "และคงจะลงโทษรุ่นน้องที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนและกระทำแบบเดียวกับรุ่นพี่เลยสิคะ" สเปียริทบอก

              จูเดทต้าพยักหน้า "แต่ ถึงเธออาจจะเห็นด้วยกับฉันก็จริง ฉันยังคิดว่าเธอยังไม่ได้ให้ความเคารพต่อสมาชิกที่เป็นรุ่นพี่เพื่อนของเธอกันหรอกน่ะ สเปียริท แม้ว่าเธอจะรอดจากการไล่ล่าของมนุษย์ต่างดาวมา 4-5 วัน โดยที่เธอบอกว่าไม่เป็นไรกันก็จริง ฉันยังหวั่นเกรงต่อพฤติกรรมก้าวร้าวและรุนแรงของเธออยู่น่ะ"

              "ฉันทราบดีแล้วคะ และพยายามทำสมาธิเพื่อจะให้จิตใจมันสงบกันบ้าง แม้ว่ามันรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเลยละคะ" สเปียริทกล่าว

              จูเดทต้าบอก "หงุดหงิดเพราะโฟรซ่าแหย่ในห้องน้ำ หรือว่าจิตเธอไม่นิ่งกันแน่ละ" สเปียริทเองตอบไม่ได้ "แต่....ฉันขอแนะนำว่าพวกเธออย่าทำแบบนี้เป็นอันขาดนะ เพราะมันไม่ใช่แค่ลูกทีมคนอื่นๆจะไม่สบายใจกับเรื่องนี้ แต่มันหมายถึงหน้าตาของโดยรวมทั้งหมด ซึ่งคงไม่ดีแน่ๆที่มีคนรู้ว่าอดีตกองรบที่เป็นหัวหอกของฝ่ายเรา มีสมาชิกที่เบี่ยงเบนทางเพศ จนมีบางคนเผลอทำผิดกฎข้อที่ 13 ขึ้นมา ซึ่ง....ฉันเจอคนแบบนี้มา 20 กว่าคน และฉันได้ลงโทษพวกเขาทั้งหมดจนออกจากราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"

              "นี้แปลว่า ลูกสาวทอมบอยของคุณจะต้องมาแวะดูพวกเราในช่วงกลางคืนเลยสิคะ" โฟรซ่าบอก

              จูเดทต้ากล่าว "ทำไงได้ละ เอไอดูแลบ้านและยานรบของเธอไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจตราที่ดีเอาเสียเลย ฉันเลยต้องส่งโดโรรีนออกไปสังเกตุการณ์กันเอง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องที่พวกเธอสองคนก่อขึ้นมาอย่างเดียว แต่ฉันหมายถึงพวกเธอทั้งหมดเองด้วยน่ะ"

              "กะแล้วว่า ต้องโดนตำหนิด้วยเรื่องพรรค์นี้จนได้สิน่า" สเตฟอร์ดบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "แทบไม่คิดเลยว่าเรื่องในห้องน้ำนั้นจะเป็นประเด็นให้นายพลจูเดทต้าตำหนิเอาได้ นั้นไม่แปลกหรอก ที่เธอจะเอาจริงกับเรื่องพรรค์นี้น่ะ"

              "คงไม่ได้หมายความว่า นายพลจูเดทต้าเคยเจอรุ่นพี่ลวนลามมาก่อนละสิ" สเปียริทบอก

              ฟิเกซกล่าว "เปล่า แต่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นเลสเปี้ยนเองต่างหากละที่ไม่เพียงแต๊ะอั้งกับเธออย่างเดียว เพื่อนร่วมรุ่นคนนั้นทำกับคนอื่นอีกด้วย ซึ่งครูและผู้บังคับบัญชาเองก็ไม่สนใจใยดี เพราะเพื่อนร่วมรุ่นมีพ่อเส้นใหญ่กันน่ะ"

              "แล้วเพื่อนคนนั้นยังอยู่หรือเปล่าละ" คลอเวฟบอก

              ฟิเกซบอก "ป้าวิลด้าบอกมา เพื่อนคนนั้นไปแหย่กับทหารหญิงตัวล้ำบึกเข้า เลยโดนต่อยจนเสียโฉม ตามด้วยกระทืบจนซี่โครงหัก ซึ่งทหารหญิงคนนั้นโดนลงโทษแต่ได้รับอภัยโทษให้เป็นทหารเกณฑ์ และเสียชีวิตจากการคุกคามของเฮซเทิร์ซอย่างองอาจ จากการเอาตัวเข้าป้องกันเพื่อนทหารชาย 5 คนที่หนีจากเงื้อมมือของพวกเฮซเทิร์ซกัน ส่วนเพื่อนของนายพลจูเดทต้า....พอหายดีก็ออกจากราชการไปเป็นคุณโสฯ แล้วก็....เสียชีวิตไปเลยนะสิ"

              "ด้วยกามโรคนะหรือ" โฟรซ่ากล่าว

              เนคมาดูซัมกล่าว "ด้วยการเล่นซาดิสต์ของน้องสาวของริดโอบาราน่านะสิ เธอโดนทั้งแส้ใบมีด ตะบองไฟฟ้าแรงสูง ห่วงยางบีบอัดควบคุมด้วยระบบเอไอ และอื่นๆอีกมากจนซี่โครงที่ยังไม่ฟื้นตัว หักทิ้มปอดและหัวใจจนเสียชีวิต ศพถูกเป่าปลิวออกนอกหอนางโลมด้วยระบบควบคุมแรงโน้มถ่วงจำลองที่ปรับความแรง หวังจะส่งศพให้ลอยออกนอกดาวแรซัลก้ากันน่ะ"

              "น้องสาวตัวดีของริดโอบาราน่าทำกรรมแล้วปิดไม่มิดเลยน่า" โฟรซ่าบอก

              พีวิลบอก "ผมหวังว่ารุ่นพี่คงไม่ทำแบบนี้กับสเปียริทอีกน่ะ และสเปียริท ฉันหวังว่าคงไม่ใส่ใจจนหาเรื่องกับรุ่นพี่กันอีกละ"

              "ถ้ารุ่นพี่เธอไม่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน หรือยังทำแบบนี้กันละก็น่า พีวิล" สเปียริทตอบกลับ

              มาสวาร์ทาร์บอก "และถึงเราอยู่นอกขอบเขตคำสั่งของนายพลจูเดทต้าหรือนายพลเพอซิอัส เราก็ไม่ควรทำแบบนี้กันอีกน่ะ"

              "ส่วนหนึ่งเพราะว่าพวกเดลอาเนี่ยน ทรอยอาร์และสเตรดาร์ธสิน่ะ อย่างน้อยถ้าเราไม่ทำเรื่องบ้าๆให้ลูกสาวคนโตของนายพลจูเดทต้าจับผิดเราได้หรอกน่ะ" โฟรซ่าบอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "พอดีเลย นายพลเพอซิอัสและผบ.บัลโต้เรียกพวกเราด้วยเรื่องพวกเดลอาเนี่ยนนี้แหละ และเป็นเรื่องที่สำคัญเอามากด้วยน่ะ"

              "หวังว่าการที่ภรรยาฉันตำหนิพวกเธอสองคน คงจะสำนึกและไม่ทำอะไรบ้าๆกันอีกน่ะ" เพอซิอัสกล่าว โดยที่พวกไทรเวเซอร์มาประชุมกันแล้ว

              บัลโต้ติดต่อจากสำนักงานใหญ่ที่แมนิเกรโปลิสมาว่า "สเตฟอร์ด โฟรซ่า ไซโคลเนีย แล้วก็ฟิเกซ พวกนักล่าเงินรางวัลตัวดีที่ตามล่าค่าหัวพวกนายสี่ตัว ซึ่งถูกพวกเราจับกุมกันได้นั้น ให้ข้อมูลสำคัญต่อพวกเรามาแล้วละ แม้ว่านั้นจะหมายถึงการใช้กำลังเลยก็ตามน่ะ"

              "ว่าแต่ พวกรัมกาวน์และมาตูเวนนั้น มีข้อมูลสำคัญอะไรที่ต้องเรียกพวกเรามากันละครับ" พีวิลถาม

              บัลโต้ตอบ "จากข้อมูลที่เราได้จากปากคำและคอมพกพาของพวกมันนั้น ดูเหมือนว่าพวกนั้นตั้งใจจะจับกุมสมาชิกกลุ่มต่อต้านจักรวรรดิ์เดลอาเนี่ยน ที่หลบหนีไปพร้อมกับผู้ลี้ภัยที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากเรือนจำของพันธมิตรของพวกเดลอาเนี่ยน ซึ่งรวมไปถึง.....เหล่านักโทษที่พวกแมทเฟลิมกักขังเอาไว้ใต้โคลอสเซี่ยมที่ดาวทาสแมวของพวกมันด้วยน่ะ"

              "เดียวก่อนน่ะ นี้อย่าบอกน่ะ ว่าพวกนักโทษที่อยู่ในโคลอสเซี่ยมที่เป็นพวกโหดๆนั้น มันหลุดออกมาหลังจากที่เราหลบหนีออกไปนอกดาวกันแล้วน่ะ" จิลบอก เพราะเธอเห็นพวกนักโทษตัวดุๆ อยู่ในห้องขังในช่วงที่ถูกจับตัวมา

              บัลโต้บอก "เปล่า ที่ถูกพาตัวไปนั้นเป็นพวกชนพื้นเมืองและชนเผ่าเมืองขึ้นที่พวกแมทเฟลิม จับมาเป็นเหยื่อให้พวกนักโทษตัวโตๆและโหดๆไล่ล่าในสนามกันก็เท่านั้นเอง ซึ่งพวกกลุ่มต่อต้านฉวยโอกาสตอนที่พวกแมทเฟลิมนำตัวจักรพรรดินีซึ่งบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก และทหารในนั้นก็โดนเป่ากลิ้งในช่วงที่ช่วยเหลือพวกพีวิลออกไป บุกเข้าช่วยเหล่านักโทษที่อ่อนแอออกมาจากห้องขังใต้โคลอสเซี่ยม และปล่อยพวกตัวโตๆที่ยังหลงเหลืออยู่ ให้เตะถ่วงพวกทหารแมทเฟลิมที่พึ่งมาถึง ไม่ให้ไล่ตามมาได้กันนี้แหละ"

              "แล้วสมาชิกกลุ่มต่อต้านที่พวกนักล่าทั้งสองกลุ่มติดตามมานิ เป็นใครกันบ้างละ" มาสวาร์ทาร์ถาม

              บัลโต้ตอบ "จากการแปรข้อมูลในคอมพกพาของตัวหัวหน้านั้น ก็มีตั้งแต่....ชาร์เครค เดอครีซ หรือโจรสลัดฉลามโหดครีซ ชาวดาวชาร์จอว์ อดีตนาวิกโยธินที่เป็นตัวตั้งตัวตีต่อต้านพวกเทรโอเซี่ยม ด้วยการจมเรือรบและยานรบ 50 ลำด้วยซุปเปอร์วอร์บอท เข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านเพื่อแก้แค้นให้เพื่อนที่ถูกจักรวรรดิ์เทรโอเซี่ยมสังหาร ต่อมา กริซซิก บาริสตัส ทหารบรูซาเรม เคยอยู่กองรบอาวุธหนักมาก่อน และไม่พอใจที่ชนเผ่าของตนก้มหัวให้กับพวกเดลอาเนี่ยน เหมือนกับเพื่อนพ้องที่มีความเห็นเดียวกัน จึงร่วมก่อกบฎด้วยการจู่โจมฐานทัพสำคัญของพวกบรูซาเรมถึง 15 ครั้ง แต่พวกบรูซาเรมโต้ตอบกลับไปได้ทุกครั้งและถูกหมายหัวให้จับตายสถานเดียวในทันทีที่เจอตัวกันด้วยน่ะ"

              "ไอ้มนุษย์ฉลามนั้นมันบ้าดีเดือดเอาเรื่องเลยนะเนี้ย" คลอเวฟกล่าวชมชอบต่อครีซ จนสเปียริทย้อนไปว่า

              "อย่างน้อยก็คงไม่แส่หาเรื่องด้วยนิ้วกลางขั้นเทพของนายกันหรอกมั่ง"

              "ต่อมาก็คือ ริชาร์ท ลอสเวลลิค ทหารรับจ้างของเผ่าซอร์แรค หมอนี้ประวัติโชกโชนไม่น้อย จากการนำลูกน้องจำนวน 40 ตนสู้กับทหารนักรบซอร์แรคจำนวนนับร้อยจนกำชัยชนะมา แล้วก็บุกจู่โจมฐานทัพของพวกเดลอาเนี่ยนกันตั้งหลายครั้ง แต่ครั้งล่าสุดนั้นเขาเสียลูกน้องไป 4 ตนเพราะพวกไซเอมเทรี่ยนวางกับดักขัดขวางพวกริชาร์ทไว้ ส่งผลให้ต้องล่าถอยไปร่วมมือกับ เร็กซอน คูลซาวเดอร์ ชาวไดโนโซน่า ชนเผ่าเมืองขึ้นของพวกซอร์แรคที่ต้องการปลดแอกเป็นอิสระภาพจากการปกครองที่กดขี่ข่มเหงมานาน เข้าต่อกรกับพวกซอร์แรคไปหลายสิบครั้งกันนี้แหละ" บัลโต้บอก แล้วก็นำภาพมนุษย์ต่างดาวหัวตะกวดและมนุษย์หน้ากิ่งก่าสวมหมวกมีเขาให้ดู

              เนคมาดูซัมกล่าว "และคงจะเป็นนักรบที่เก่งกาจและน่าหวาดกลัวอย่างมากเลยละสิ"

              "แค่นายเห็นก็กลัวจนข้อต่อสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยละสิ" คลอเวฟบอก มาสวาร์ทาร์เลยกระแอ่มเป็นเชิงห้ามไว้

              บัลโต้เลยเล่าต่อ "ที่ว่ามานี้ ล้วนโดนพวกเดลอาเนี่ยนโต้ตอบกันทั้งนั้น จนต้องเบนเข้มมาร่วมมือกับกลุ่มต่อต้านพวกเดลอาเนี่ยน โดยผ่านจากสองตนนี้" แล้วก็นำภาพชาวอัลแทเรี่ยนสามตน ตนหนึ่งเป็นมนุษย์นกหญิงที่สวมแว่นดำ อีกตนเป็นอีกาสีดำ ตนที่สามเป็นอัลแทเรี่ยนนกกระสาหญิงที่สวมผ้าโพกหัวและใส่แว่น "เซรีน แวนิชนอยเล และคอร์นาร์ด โครว์เชด ทั้งคู่เป็นสมาชิกของชาร์โดวเฟเธอร์ กลุ่มมือสังหารของอัลแทเรี่ยน ซึ่งไม่เพียงมีหน้าที่แทรกซึมจักรวรรดิ์ของชนเผ่าอื่นเพื่อสืบหาข้อมูลความเคลื่อนไหว แต่ยังมีหน้าที่เป็นนักล่าสังหารเข้าจัดการกับตัวบุคคล ที่เป็นภัยต่อจักรวรรดิ์ของตนและของเดลอาเนี่ยนด้วย แต่ตอนนี้ทั้งคู่เป็นคนทรยศต่อองค์กรด้วยการสังหารหัวหน้าคนก่อน ที่ได้รับคำสั่งจากพวกเดลอาเนี่ยนให้สังหารชนเผ่าเมืองขึ้นที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับฝ่ายต่อต้าน โดยที่มีอัลแทเรี่ยนหญิงตนที่สามนาม โมนีเลน่า เครนิลล่า อดีตทหารในหน่วยปฏิบัติการณ์ที่ 5 ซึ่งมีประวัติไม่ยอมทำตามคำสั่งของเบื้องบน ที่ให้กำจัดศัตรูกันตั้งหลายครั้งเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือจนพามายังกลุ่มต่อต้านไว้"

              "คงไม่ได้หมายความว่า อัลแทเรี่ยนตนที่สามที่ชื่อเครนิลล่า เป็นสมาชิกกลุ่มต่อต้านกันนะหรือ" ไซโคลเนียบอก

              บัลโต้บอก "ตามข้อมูลนั้น เธอเข้าร่วมเพราะเธอไม่ชอบการวางตัวของพวกทหารที่เธอเข้าร่วม เนื่องจากว่าตระกูลของเธอไม่เห็นชอบให้มีการรุกรานระบบดาวอื่นกันมาตั้งหลายครั้ง และพยายามห้ามจักรพรรดิ์อัลแทเรี่ยนมาหลายที แต่ก็ไม่เป็นผล เธอเลยเลือกการเข้าร่วมกลุ่มต่อต้านแทน เพราะนั้นช่วยให้จักรพรรดิ์หยุดทำอะไรบ้าๆขึ้นมากันน่ะ"

              "แต่กลายเป็นว่ามันเป็นการกระตุ้นให้จักรพรรดิ์อัลแทเรี่ยนยิ่งส่งกำลังไปปราบปรามมากกว่าเดิมน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

              บัลโต้กล่าว "เครนิลล่ามิได้ทำการเพียงคนเดียว แต่เธอร่วมมือกับ วิเวลลี่ โฟร์แฮนดิล ชาวอินเซคเที่ยมเลดินบัส ช่างกลที่ไม่พอใจกับแนวทางของพวกอินเซคเที่ยม ภายใต้การคุมของนางพญาคลาแคร็กซ์ที่ทำให้เพื่อนร่วมเผ่าไม่มีอิสระทางความคิด ซึ่งเธอมีลูกหลายตน รวมถึง อาแรคคัส สไปเดล โฟว์แฮนดิล ลูกชายที่เกิดกับชนเผ่าแมงมุมดำและน้องๆอีก 15 ตนเป็นลูกมือ ต่อด้วย เจกรอน่า บริจเก็ต ทหารชาวแมทเฟลิมหน่วยลาดตระเวนที่เป็นฝ่ายต่อต้านการปกครองของมิวนัส และ ดอลฟูลนิล แคลลอน ชาวเทรโอเซี่ยมดอลเฟน ชนกลุ่มน้อยที่เป็นทาสของพวกเทรโอเซี่ยม สมาชิกกลุ่มกบฎที่หลบหนีมาร่วมกับกลุ่มต่อต้าน ซึ่งนำโดย...." แล้วก็นำภาพของบุรุษผิวสีเทาผมสีทอง ตาสีน้ำเงิน ซึ่งมีรอยแผลหลากสีติดตามใบหน้าและลำตัว "แม่ทัพพายัพชาวเดลอาเนี่ยน อาร์ซไพล์ม ผู้ก่อตั้งกลุ่มกบฎด้วยการรวบรวมเหล่าชนเผ่าที่ตกอยู่ใต้อำนาจของจักรวรรดิ์ทั้ง 12 เข้าขัดขวางแผนการรุกรานเขตอวกาศของทางสมาพันธ์ของพวกเดลอาเนี่ยนมาโดยตลอด ซึ่งก็ได้ชัยชนะและพ่ายแพ้กันมาตั้งหลายครั้งด้วยกัน ส่วนตัวอาร์ซไพล์มเองก็สาหัสปางตายมาหลายครั้ง ล่าสุด เขาก็เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 6 วันก่อนน่ะ"

              "นั้นก็บ่งบอกได้ว่า พวกเดลอาเนี่ยนก็ต้องมีสักคนที่ไม่พอใจในแนวทางของมหาจักรพรรดิ์และจักรวรรดิ์ทั้งหมดเองสิน่ะ" เพอซิอัสบอก

              บัลโต้บอก "ตามข้อมูลที่ได้มา อาร์ซไพล์มถือเป็นนายทหารที่มีเหตุมีผลมากที่สุด รวมถึงเป็นคู่แข่งของแม่ทัพใหญ่บูเรนนอฟกันด้วย นั้นจึงไม่แปลกเลยที่สถิตแพ้ชนะจะสูสีกัน แม้ว่าส่วนมากพวกเขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบกันก็ตามน่ะ"

              "แล้วพวกเขาคงจะช่วยเหลือกลุ่มผู้ลี้ภัยและชนเผ่าเมืองขึ้นกันโดยตลอดสิคะ" แอนเดรียบอก

              เจเนลกล่าว "แล้วไอ้พวกนักล่าเงินรางวัลคงจะไล่ล่าพวกกองกำลังต่อต้านนี้ เพื่อให้กองทัพเดลอาเนี่ยนชิงตัวผู้ลี้ภัยกลับไปได้เลยสิน่ะ"

              "ใช่ แต่เพราะพวกนายไปก่อเรื่องให้พวกแมทเฟลิมเสียหาย และไปกระทืบหัวหน้ากิลด์บาวโฟว์จนอ่วมอรทัยแล้ว พวกนักล่าเงินรางวัลสองกลุ่มเลยเบนเข็มมาทางพวกนายทั้งสี่ ไม่สิ พวกนายทั้งหมดเลยนี้แหละ เพราะคนที่กระทืบหัวหน้ากิลด์บาวโฟว นอกจากสเตฟอร์ด คลอเวฟก็ร่วมแจมด้วยน่ะ" บัลโต้กล่าว  "และพอเสร็จจากการจัดการกับพวกนาย พวกเขาถึงจะบุกไปจัดการกับพวกกองกำลังต่อต้านต่อ ซึ่งไม่เพียงจับตัวสมาชิกตัวเอ้ที่มีค่าหัวรวมกันเป็นหลักพันล้านกันอย่างเดียว พวกนั้นทราบว่า มือป่วนของพวกเรา ร่วมมือกับพวกกองกำลังต่อต้านในการพาผู้ลี้ภัยหนีออกนอกเขตอวกาศกันด้วยน่ะ"

              ฟิเกซบอก "ผบ.คงไม่ได้หมายความว่า ไซเมี่ยนให้ความช่วยเหลือกองกำลังต่อต้านของอาร์ซไพล์มอย่างงั้นนะหรือ"

              "เป็นเช่นนั้น เพราะสายของกิลด์แจ้งพบตัวไซเมี่ยนที่ยังอยู่ที่ดาวมาร์ตัน-4 เพียงแต่อยู่ที่สถานีอวกาศยานคนละที่กับที่พวกนายบุกจู่โจมไป ซึ่งเห็นสมาชิกของกองกำลังต่อต้านนำผู้ลี้ภัยขึ้นยาน โดยสายของกิลด์เองได้แจ้งกับกองทหารเดลอาเนี่ยนที่ประจำการเอาไว้ เผื่อว่ากลุ่มนักล่าทั้งสองกลุ่มไม่สามารถบุกมาได้กันนี้แหละ" บัลโต้บอก "ซึ่งฉันได้ให้ทางหน่วยที่ 29 เช็คข้อมูลการสื่อสารของพวกเดลอาเนี่ยนมา พบว่ายานขนส่งผู้ลี้ภัยทั้งหลายนั้น ออกจากดาวมาร์ตัน-4 ตรงดิ่งมาทางเรากันในวันนี้แล้วละ พร้อมกับสมาชิกกองกำลังต่อต้านเองด้วย"

              เนคมาดูซัมกล่าว "คงไม่ได้หมายความว่า พวกเดลอาเนี่ยนจะส่งกองยานมาไล่ตามจับผู้ลี้ภัยเลยสิครับ"


              "ที่ถูกก็คือ พวกมันมาเพื่อสังหารผู้ลี้ภัยกันซะมากกว่า เพราะในกลุ่มนั้นมีส่วนหนึ่งที่เป็นนักการเมือง นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ นักธุรกิจ นักคิดค้นและนักประดิษฐ์ แล้วก็ผู้มีฝีมือที่มีความคิดต่อต้านฝ่ายมหาจักรวรรดิ์หลบซ่อนอยู่ด้วย ซึ่งถ้าพวกลี้ภัยเข้าไปในเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์ ก็เท่ากับว่าพวกมันพลาดโอกาสที่จะกำจัดศัตรูของมหาจักรวรรดิ์ไปอย่างแน่นอนน่ะ" บัลโต้บอก

              เพอซิอัสกล่าว "แล้วถ้าเกิดว่าในนั้นมีอาชญากรตัวจริงที่ลี้ภัยมาเพื่อก่อความเดือดร้อนในเขตอวกาศของทางสมาพันธ์ รวมถึงพวกสายลับที่เดลอาเนี่ยนส่งมากันละ"

              "เรื่องนี้ฉันได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอวกาศและกองกำลังพิทักษ์อวกาศ เพื่อมาคัดกรองเหล่านักโทษ อาชญากรร้ายไปจนถึงสายลับของพวกเดลอาเนี่ยนกันแล้ว เพราะว่าพวกคนร้ายที่หนีไปอยู่ในเขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยน ส่วนหนึ่งมาจากเขตอวกาศของทางสมาพันธ์ฯด้วยกันน่ะ" บัลโต้บอก

              เนคมาดูซัมกล่าว "กรมตำรวจอวกาศนะ อาจจะมาเพราะคนร้ายหลบหนีมาอยู่แล้ว แต่กองกำลังพิทักษ์อวกาศนั้นคงไม่น่ามากันหรอกน่ะ"

              "ถ้าเป็นซีคเทมพลาร์แอสเทลน่าละก็ เธอไม่มาหรอก แต่กองยานแพลตตินั่มอามาด้าจะส่งตัวแทนมาควบคุมตัวนักโทษกันไว้น่ะ" บัลโต้กล่าว "ตอนนี้ ฉันจึงอยากจะให้นายแบ่งกองกำลังกันไว้ก่อนน่ะ"

              มาสวาร์ทาร์บอก "คงไม่ได้หมายความว่า กองรบทรอยอาร์และสเตรดาร์ธมาถึงแล้วหรือครับ"

              "ใช่ หน่วยลาดตระเวนพื้นที่ทะเลทรายเวลแซนดร้าของบรูโน่แจ้งมา ว่าพวกสเตรดาร์ธและทรอยอาร์ตั้งป้อมขึ้นอยู่ทางตอนเหนือของซากฐานทัพเก่าของเดลอาเนี่ยนไว้ โดยทรอยอาร์อยู่ทิศตะวันออก สเตรดาร์ธอยู่ทางทิศตะวันตกกันน่ะ" บัลโต้บอก และนำแผนที่ระบุจุดจอดยานเอาไว้ "และคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ที่ทั้งสองกองนั้นบุกมาถล่มสถาบันได้ เพราะเซริซ่าพยายามคิดค้นระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษ รวมถึงระบบตรวจคนเข้าเมืองกันอยู่น่ะ"

              เจเนลบอก "รวมถึงชิ้นส่วนเสริมความแข็งแกร่งให้กับทางเราด้วยสิ"

              "ดังนั้น พวกเธอจึงต้องออกแบ่งกำลังออกเป็นสองกลุ่มและรับมือกับการบุกทั้งสองทิศทางไปด้วยกันไว้น่ะ" เพอซิอัสบอก

              บัลโต้แนะนำ "กองรบที่คุ้มกันสถาบันวิจัยของริดีวิแนนท์นั้น นอกจากอิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนแล้ว เนคมาดูซัม ฟิเกซ และแอบไบออส พวกนายต้องป้องกันสถาบันไว้ ที่เหลือนั้นคือพีวิล มาสวาร์ทาร์ คลอเวฟให้ไปกับยานไทรแองเกิ้ล สมทบกับกองยานของฝ่ายเราที่เข้าช่วยเหลือกลุ่มผู้ลี้ภัยและหยุดการไล่ล่าของพวกเดลอาเนี่ยน ซึ่งฉันจะให้พวกนายเลือกลูกทีมกันเดียวนี้เลย"

              "ว่าแต่พวกเดลอาเนี่ยนมีกองรบอะไรติดตามมาบ้างละ" วิลด้าถาม

              บัลโต้บอก "ไบรอันกับหน่วยที่ 29 ตรวจจับการสื่อสารของพวกเดลอาเนี่ยนมา พบว่าบูเรนนอฟส่งพวกแดคน็อกซ์ ซีรีสตรัล เมคครอฟิคมาพร้อมกับเฟลาเลี่ยม ด้วย ส่วนพวกเทรโอเซี่ยมและอัลแทเรี่ยน บรูซาเรม ซอร์แรค และแมทเฟลิมนั้น บูเรนนอฟยังต้องให้กองรบดังกล่าวคุ้มกันฐานการผลิตยานรบสำคัญๆเอาไว้ โดยกองรบที่เหลือเข้าปราบปรามกลุ่มกบฎที่ยังหลงเหลือกันอยู่นะสิ"

              "รวมถึงจับตัวไซเมี่ยนเลยสิน่ะ" ฟิเกซกล่าว

              บัลโต้พยักหน้า "แม้ข้อมูลการสื่อสารนั้นบอกว่า ไม่เจอร่างของไซเมี่ยนอยู่ในหอส่งสัญญาณที่ระเบิดไป หลังจากที่ส่งสมาชิกกลุ่มต่อต้านและยานลี้ภัยมาแล้ว นั้นบ่งบอกได้ว่าไซเมี่ยนยังรอดอยู่กันนี้แหละ"

              "งั้นก็ฟอร์มทีมกันเดียวนี้เลยดีกว่าน่ะ" เพอซิอัสแนะนำ เนคมาดูซัมพยักหน้า แล้วก็ใช้เวลาเรียกรวมพวกลูกทีมระดับรองเข้ามา

              "พวกเธอบางคนอาจจะได้ไปสถาบันวิจัยริดีวิแนนท์ แต่บางคนอาจจะต้องตามพวกเราขึ้นยานไทรแองเกิ้ลมุ่งหน้าไปยังอวกาศเพื่อเข้าช่วยผู้ลี้ภัยกันไว้ ซึ่งพวกเราเซตสมาชิกทีมตัวหลักไปแล้ว เหลือแต่พวกเธอนี้แหละที่ต้องเลือกว่าฝ่ายไหนต้องไปด้วยน่ะ"

              "แล้วพวกคุณครูเลือกใครให้ไปกลุ่มไหนบ้างละครับ" ฟลาแน็กซ์ถาม

              มาสวาร์ทาร์บอก "กลุ่มที่อยู่สถาบันนั้น มีเนคมาดูซัม ฟิเกซ แอบไบออส ลิเนียร์ตี้ พลัสเชอริท สเตฟอร์ด โฟรซ่า และแอนเดรีย ซึ่ง ฟูลออเรสและเมดิน่าต้องอยู่ที่สถาบัน เพราะสถาบันริดิวิแนนท์ได้สร้างพาร์ทเสริมพลังให้อิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนกันแล้ว เช่นเดียวกับไกซ์และมิลด์ด้วย เพราะบรูโน่กับกองรบต้องการความช่วยเหลือจากพวกเธอกันอยู่น่ะ"

              "แล้วพวกเดลอาเนี่ยนบุกเข้ามาที่ดาวเหมือนกันกับที่ไล่กวดยานของผู้ลี้ภัยกันหรือเปล่าละ ครู" ไรแกทบอก

              มาสวาร์ทาร์กล่าว "บรูโน่แจ้งมาว่าพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธนำกองรบชุดหลักลงมาที่ดาว หลังจากที่ส่งกองรบย่อยๆลงมาในช่วง 3 วันที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายคงจะขนเอาโมบิลลอยด์ที่แข็งแกร่งอย่างมากมาแน่นอน"    

              "แบบนั้นก็แจ่มนะสิ อย่างน้อยจะได้สู้กับพวกมันได้มันส์มือหน่อย" เทรอนเร็กซ์บอก

              ดิเรนท์ถาม "แล้ว หน่วยรบวิหคของคุณแดนกับพวกคุณบาร์ทละคะ"

              "เกรงว่า คงไม่ได้มาด้วยนะสิ เพราะพวกเขาต้องช่วยบรอนเซอรูทปกป้องเขตเมืองนี้ในช่วงที่พวกเราออกนอกเมืองกันอยู่ ซึ่งเมื่อวานหน่วยรบวิหคเงาของคุณแดนพึ่งออกปฏิบัติการณ์มาก่อนแล้วน่ะ" พีวิลบอก

              ไกซ์กล่าว "จะว่าไปก็ใช่นะ ลูกพี่ เพราะผมเองก็ดูข่าวมาแล้วน่ะครับ" และหันมาถาม "แล้วที่เหลือนั้น ลูกพี่ต้องออกนอกดาวไปเลยสิครับ"

              "ฉันต้องไปกับมาสวาร์ทาร์ สเปียริท เจเนไซด์ทีม คลอเวฟ และไซโคลเนียต้องไปกับยานไทรแองเกิ้ลแล้วละ โดยคุณเบติส และคุณวิลด้าก็ตามไปด้วยนะสิ" พีวิลกล่าว

              เจเนลบอก "แอร์ไพล์มมิสเองก็จะมาช่วยกันด้วยน่ะ ดังนั้นก็วางใจได้เลยน่ะ"

              "งั้นก็มาเริ่มเลยดีกว่าน่ะ ว่าเราจะเลือกใครไปด้วยน่ะ" โฟรซ่าบอก

              เพอซิอัสกล่าว "และต้องเลือกจำนวนที่เหมาะสมด้วย เพราะหน่วยย่อยของเธอมีแค่เจ็ดทีมกันน่ะ"

              "คงต้องเน้นสมดุลย์สักหน่อยแล้ว เพราะฝั่งเรามีนักบินโมบิลลอยด์ตั้ง 4 หน่วยกันน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

              มาสวาร์ทาร์บอก "ฝั่งนายต้องใช้ 3 ทีม ส่วน 4 ทีม ต้องช่วยงานพวกเรากันแล้วน่ะ" 

    ต่อช่วงที่ 2
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×