ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #59 : ตอนที่ 26 เยือนแดนแมนิเกเตอร์สี่แขน หมัดดาวหางที่ส่องประกาย กับยุทธการหยุดรถถังขนาดยักษ์ บทถังเงินใหญ่...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14
      0
      16 ก.ย. 64

              "ฟ้าวววววววววววววววว" ไม่ทันไร วัตถุความเร็วสูงนั้นก็พุ่งลงมาและหยุดกลางอากาศไว้ โดยเป็นโมบิลลอยด์แปลกหน้าโผล่มา "ผะ ผู้การมิทด็อกครับ ไม่ทราบนะครับว่ามันมาได้ไง แต่ แต่ดูเหมือนว่านั้นจะ..." ทหารคนสนิทกล่าวโดยที่นำภาพของโมบิลลอยด์ดังกล่าวออกมา ซึ่งมิทด็อกใช้ไม้เบสบอลยักษ์หวดไดร์ฟอาร์มเมอร์จนพังไป ก็ได้เห็นภาพจากในหมวกอย่างอึ้งๆ
              "บะ บ้าน่า นะ นั้นมัน....กิซ กิซเซเบอร์นิน่า แต่ แต่มัน...มัน....น่าจะหายสูญไปตั้ง 5 ปีแล้วนิ"
              "ฝั่งนายมันเกิดอะไรขึ้นน่ะ โคเคส" มาสวาร์ทาร์บอก
              โคเคสกล่าว "ทหารสื่อสารเชื่อมสัญญาณสื่อสารในปราการนั้นคงจะรู้ว่า วัตถุที่พุ่งฝ่าชั้นบรรยากาศนั้นมันเป็น กิซซีรีย์เบอร์สิบที่หายสูญไปอย่างแน่นอนนะสิ"
              "จริงดิ กิซเซเบอร์มันโผล่มาอย่างงั้นนะหรือ" แอร์ไพล์มมิสบอก
              โคเคสบอก "ฉันเองก็ไม่ทราบเหมือนกันน่ะ ว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง แต่...ฉันรู้สึกได้ถึงปัญหาที่จะเกิดกับผู้การมิทด็อกกัน...."
              "ผบสส. คะ เออ ท่านควรดูนี้กันก่อนคะ" ทหารสื่อสารหญิงที่เป็นมิวแทนอยด์ตาโตข้างซ้ายกล่าว โดยเปิดภาพซูมของกิซเซเบอร์จากระยะไกล ซึ่งก็... "กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พรวดดดด" ส่วนแขนมีการขยับอย่างต่อเนื่องและเปิดหลังแขนออกเพื่อให้บางอย่างโผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเหมือนกระบอกปืนหากแต่ตัวลำกล้องนั้นมีเขี้ยวแหลมทั้งบนและล่างไว้ โดยที่มีสายระยางค์เกาะตามกระบอกปืน ซึ่งมีของเหลวเหนียวเกาะอยู่โดยระเหยออกไปแล้ว
              "เฮลิค เบย์แทนด์ นายเห็นอย่างที่ฉันเห็นหรือเปล่าละ" โคเคสกล่าวอย่างอึ้งๆ
              "สงสัยว่า เราจะได้เห็นภยันตรายในคราบของเอเลี่ยนอันน่ากลัวกันแล้วละ เซริซ่าคงจะไม่ค่อยชอบกันแน่ๆ" เฮลิคกล่าวอย่างอึ้งๆ เช่นเดียวกับลูกเรือของทุกกองไว้
              เบย์แทนด์บอก "นั้นคงจะเป็นการนำระบบอาวุธของโมบิลลอยด์ ที่....ถูกมวลชีวภาพกลืนกินไว้อย่างแน่นอนเลยละครับ"
              "หึมๆๆๆๆๆๆ" กิซเซเบอร์นั้นหันปืนจากแขนขวามา "แชดดดด แชดดดดด แชดดดดด แชดดดดด" ยิงลำแสงสีม่วงเข้าใส่ป้อมปืนใหญ่อย่างต่อเนื่องจนระเบิดวินาศสันตะโรไปทั่ว ซึ่งมิทด็อกพยายามรีบโดดหลบ แต่... "เหวออออ" ก็โดนแรงระเบิดไปอย่างจังๆ ซึ่งกิซเซเบอร์บินวนไป "แชดๆๆๆ" ยิงอีกสี่นัดเข้าใส่ป้อมปืนไปด้วย แต่ก็.... "หือออ" นักบินสังเกตุเห็นกองรบของโคเคสเลยบุกเข้ามา "ฟ้าวววววว" และกิซเซเบอร์ก็บุกเข้าใส่เมทัลแล็กซ์ของโคเคสอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็... "กึกกกก พึ่บบบบ กึกๆๆๆๆๆ ครี้งงงงง" หุบตัวปืนเข้าไปในแขนขวาแล้วก็ดึงดาบยาวจากแขนซ้ายออกมาเพื่อใช้แทงใส่ ซึ่งก็.... "ฟึ่บบบบบบบ" โคเคสรีบยกปืนขึ้นมาจ่อใส่กิซเซเบอร์เอาไว้
              "ผอ ผบสส. ครับ" ทหารสหพันธมิตรกล่าวอย่างหวาดกลัว เพราะโคเคสตกเป็นเป้าของกิซเซเบอร์ไว้ แม้จะชักปืนมาโต้ตอบไว้ก็ตาม ซึ่งตัวโคเคสเองก็รู้สึกหวาดกลัวที่ถูกจู่โจมในระยะประชิด แต่ก็ต้องทำใจแข็งและแสดงความดุดันไว้ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ถึงความหวาดกลัวขึ้นมา ซึ่งพวกลูกน้องทั้งหมดก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะนั้นจะทำให้โคเคสพลอยซวยไปด้วย "กืออออ อือออออ กรรรรร" กิซเซเบอร์ส่งเสียงพร้อมกับส่วนกลางหน้าผากและหน้าอกนั้น มีดวงตาที่ขยับไปมากันด้วย
              "พอได้แล้วละ แอบไบออส นายหมดหน้าที่กันแล้วละ" มีเสียงหนึ่งติดต่อกลับมา ซึ่งทำให้นักบินที่ควบคุมกิซเซเบอร์นั้นพยักหน้าพร้อมกับ "ฟึ่บบบบบ" หุบเก็บมีดเข้าที่แขนซ้าย และ... "วึมๆๆๆ ฟ้าววววว" ทะยานออกไปจากดาวโดยเร็ว โคเคสได้เห็นก็ถึงกับถอนใจอย่างโล่งอก เช่นเดียวกับทหารทุกคน รวมถึงพวกเฮลิคด้วย
              "ขอบใจมากน่ะ ที่พวกเธอไม่รีบลงมือกันเลยน่ะ" โคเคสบอก
              "ขอโทษด้วยนะครับ ผบสส. ที่แม้พวกเราอยู่ด้วย แต่ก็...ช่วยอะไรท่านมิได้เลยครับ" ทหารชายกล่าว
              โคเคสพยักหน้า "....กับศัตรูที่เราไม่รู้จักเช่นนี้ ถ้าเราลงมือโดยไม่รู้ถึงอันตรายขึ้นมานั้น ไม่เพียงแค่ฉันจะพลาดท่า แต่พวกเธอเองจะถูกสังหารเสียเองน่ะ" แล้วก็สั่งการให้ "พลสื่อสาร ติดต่อไปหาผู้การมิทด็อกหน่อย ไม่ว่าเขาจะเป็นหรือตายแล้วน่ะ"
              "ครืดดดด โอ้ยยย ใครก็ได้ มาช่วยฉันเดียวนี้เลย" เสียงของมิทด็อกดังขึ้นมา
              โคเคสเลยติดต่อไปว่า "ผู้การมิทด็อก ผู้การมิทด็อก ผู้การไม่เป็นไรใช่มั้ยละครับ"
              "โค โคเคสนะหรือ นึกแล้วว่านายคงไม่ได้อยู่สั่งการบนยานเลยสิน่ะ แต่ก็ดีเลย เพราะฉันต้องการให้นายมาช่วยฉันโดยด่วน" มิทด็อกกล่าว
              โคเคสถาม "แล้วตอนนี้ ผู้การขยับตัวได้หรือเปล่าละ"
              "กิซเซเบอร์นั้นยิงถล่มใส่ป้อมปืนจนซากเหล็กมันหล่นทับใส่ขาและแขนขวาของฉันไว้นะสิ อย่างน้อย ป้อมปืนคงจะไม่เสียหายถึงขั้นยิงไม่ได้กันหรอกน่ะ" มิทด็อกกล่าว "ในเมื่อนายมาก็ดีแล้ว รีบมาช่วยโดยด่วนเลย อย่างเร็วด้วย..."
              โคเคสถาม "แล้วไม่เรียกลูกน้องที่คุมห้องควบคุมกันเลยหรือครับ"
              "ไม่จำเป็น ถ้าให้พวกเขาลงมากันหมด แล้วจะเหลือใครซ่อมระบบที่อาจจะเสียหายได้กันละ พวกนายรีบมาโดยเร็วเลย" มิทด็อกบอก แต่ไม่ทันไรก็... "วืออออออ" พลังงานในชุดดับลงเช่นเดียวกับระบบสื่อสารด้วย
              โคเคสกล่าว "ผู้การมิทด็อก ผู้การมิทด็อก พลสื่อสาร ติดต่อไปที่ห้องควบคุมเดียวนี้เลย"
              "ใครก็ได้ รีบมาช่วยพวกเราและผู้การมิทด็อกกันเดียวนี้เลย" ทหารคนสนิทกล่าว
              โคเคสบอก "พวกเราได้ยินเสียงของพวกคุณและผู้การมิทด็อกแล้ว ทางเราจะมาช่วยกันนี้แหละ" และหันมาถาม "แล้วสภาพของปืนใหญ่ละ"
              "ผลของการโจมตีเมื่อครู่นั้น ทำให้ส่วนเชื่อมต่อพลังงานจากเตาปฏิกรณ์และตัวปืนขาดจากกัน ระบบนำร่องและระบบยิงเสียหาย ซึ่งเราไม่สามารถยิงทำลายป้อมปราการของพวกครีซีแทนได้เลยนะครับ" ทหารคนสนิทบอก "ซึ่งพวกเราโชคดีมากที่ส่วนสั่งการนั้นมีโครงสร้างที่หนาแน่นเพื่อป้องกันการโจมตีทางยุทธการไว้ แต่คงไม่ดีแน่ๆ หากพวกศัตรูมันโจมตีกันต่อนะครับ"
              โคเคสกล่าว "พวกคุณส่งใครลงไปช่วยผู้การมิทด็อกกันโดยด่วนเลยน่ะ เดียวพวกเราจะไปช่วยเอง"

              ทางด้านพวกเวเซอร์นั้น.... "เฮลิคสั่งตรงมา ว่าถึงแม้ปืนใหญ่จะใช้การไม่ได้เลยก็ตาม ให้เราบุกโจมตีและช่วยตัวประกันโดยเร็วเลย" มาสวาร์ทาร์บอก
              คลอเวฟกล่าว "สงสัยว่าพวกเราต้องประจัญบานกันแล้วละ บริคซ์ เดินเครื่องเต็มกำลัง แอร์ไพล์มมิส นายพาพวกตามเรามาเลย"
              "รับทราบ" แอร์ไพล์มมิสกล่าวโดยนำบาร์คทรอนบุกฝ่าตามนอร์ติลุสไป ซึ่งตรงดิ่งมายังแคนซาแดนซ์เบอร์สองไว้
              "ป้อมปืนเลเซอร์ ต้านทานพวกมันเดียวนี้เลย" แคนเนทสั่งการยิงปืนเลเซอร์โต้ตอบไว้ ซึ่งยิงเข้าใส่นอร์ติลุสที่ประจัญบานเข้ามา "ฟ้าววววว แว้งงงงง" เนคมาดูซัมรีบนำฟอร์เทสซิกัสบินเข้ามา "โบลท์มิลเลอร์วอล" สร้างสนามพลังกระจกขนาดใหญ่สะท้อนเลเซอร์กลับไปถล่มใส่ป้อมเลเซอร์ตรงส่วนบนไว้ แต่พวกบาร์คทรอนแห่ออกมาพร้อมกับเตรียมยิงปืนใหญ่ไว้ "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" "ตรุ้งๆๆๆๆๆ" "ครืนนนนนน" "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" บรูโน่ ไกซ์และมิลด์ถล่มด้วยมัลติมิไซล์ลันเชอร์ โชลเดอร์มาโครลันเชอร์และอีเรเซอร์แคนน่อนเข้าถล่มใส่พวกบาร์คทรอนจนพังพินาศไป แต่พวกที่อยู่ภาคพื้นนั้นบุกเข้ามา "ตรุ้งๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" เนคกี้และเนคกัสบุกโจมตีด้วยแคลชเชอร์เกรเนดจนกระเจิง โดยที่กองรบภาคพื้นบุกเข้าโจมตีใส่พวกบาร์คทรอนแบบเต็มกำลัง "เบอร์ 1 3 และ 5 จัดการกับพวกเวเซอร์เดียวนี้เลย" แคนเนทส่งแคนซาแดนซ์ 3 คันใหญ่บุกเข้ามา แต่ก็... "เอนเนลซอนคลัสเตอร์" พีวิลซัดลูกบอลพลังอีเนลเซี่ยมกำลังสูงออกไป และโยนขึ้นไปให้เจเนลจัดการด้วย "ธันเดอร์แฟลชคิก" ถีบขาคู่พลังสายฟ้าส่งลูกบอลพลังอีเนลเซี่ยมให้พุ่งเข้าใส่เบอร์ 1 จน "ตรูมมมมม" เป่าทำลายฐานด้านบนของแคนซาแดนซ์เบอร์ 1 ให้สลายหายไปอย่างจังๆ ส่วนเบอร์ 3 นั้นก็เตรียมยิงปืนใหญ่ด้านข้างเข้าใส่ "ไรเดนโควเซน" "ครอสเซี่ยมเอเซอร์แฟลช" พลัสเชอริทยิงลำแสงไฟฟ้าพร้อมกันกับมาสวาร์ทาร์ที่อัดพลังขึ้นที่วาทรัลคาลิเบอร์และแทงออกไปเป็นดาบแสงเข้าประสานใส่ป้อมปืนทั้งสองข้างของแคนซาแดนซ์เบอร์ 3 จนระเบิดไปอย่างจังๆ "ตรุ้งง ตรุ้งงง ตรุ้งงงง" สเตฟอร์ดและจายด์ยิงบัสเตอร์บาซูก้าและการีสต้าแคนน่อนเข้าใส่พร้อมกับปืนใหญ่ของนอร์ติลุสเข้าซ้ำตรงป้อมด้านบนของเบอร์สามจนระเบิดเหลือแต่ท่อนล่างไว้ ส่วนเบอร์ 5 นั้น "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" "แชดๆๆๆๆๆ" "ฟิ้วๆๆๆๆ แชดดดดด" "แชดดด แชดดดด" โฟรซ่าใช้เมย์ไนซ์ชู้ตเตอร์ยิงเข้าใส่ป้อมปืนด้านข้าง ในขณะที่ไซโคลเนียถล่มอีกซีกหนึ่งให้พังด้วยไซโคลนมิไซล์บัสเตอร์และเรย์แซทไรเฟิ่ลคัสตอมที่ยืดกระบอกเพื่อเพิ่มพลังการยิง โดยที่จิลใช้จีเลเซอร์แคนน่อนยิงพร้อมกับไซโคไคท์บัสเตอร์ยิงทำลายป้อมปืนทั้งหมดของป้อมเบอร์ 5 ไว้ ซึ่งสเปียริทและลิเนียร์ตี้ใช้เรย์แซทแคนน่อนระดมยิงใส่พวกบาร์คทรอนไม่ให้เข้ามายุ่ง แล้วทั้งหมดก็บุกเข้าใส่แคนซาแดนซ์เบอร์ 2 ซึ่งเตรียมยิงปืนใหญ่ด้านข้างไว้แล้ว "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แอร์ไพล์มมิสและพวกระดมยิงมิไซล์และจรวดเข้าใส่ป้อมปืนใหญ่ด้านข้างเข้าอย่างหนักหน่วงจนทำลายฝั่งขวาไปได้ แต่แคนเนทส่งพวกบาร์คทรอนออกมาแล้ว
              "ไม่ยอมให้ยิงได้หรอก พลาซอนบีมวัลแคน พลาซอนไรเฟิ่ล ซาลมาร์สแคนน่อน กราดยิงพร้อมกัน" "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดด แชดดดด ตรุ้งๆๆๆ" ฟิเกซเลยบินเข้ามากราดอาวุธทุกอย่างเข้าถล่มใส่บาร์คทรอนให้กระจุยไป จนแคนเนทเตรียมยิงป้อมปืนออกมาเป็นลำแสงไว้ "กินนี้ไปเลย ไทดัลแคนน่อน" คลอเวฟยิงคลื่นพลังไฮโดรฟอสไว้ ซึ่งก็ต้านลำแสงจากป้อมปืนด้านซ้ายกันอยู่ หากแต่แคนเนทพยายามยิงต้านกดดันไว้
              "ไม่ดีแล้วโว้ย ถ้าขืนลำแสงผลักมาถึงเรือเมื่อไหร่ เกมโอเวอร์เมื่อนั้นแหละวะ" บริคซ์กล่าว
              "ช่วยไม่ได้แล้ว งั้นฉันจะช่วยพวกนายเองแล้วกัน" เนคมาดูซัมบอก พร้อมกับ "ฟึ่บบบ แกร็ก" ตั้งท่าเงื้อหมัดขวาขึ้น เพื่อสะสมพลังควอตไซเซอร์เอาไว้
              "นี้คิดจะใช้เกรทสเตรทเตอร์ในสภาพนี้นะหรือ" สเตฟอร์ดกล่าว
              "แต่ จะใช้ได้ทั้งๆที่ควบคุมโมบิลลอยด์นั้นเลยหรือ ทั้งๆที่เนคมาดูซัมใช้เพลงหมัดได้ไม่เต็มที่เลยน่ะ" พีวิลกล่าว
              เนคกัสบอก "วางใจได้นะครับ ฟอร์เทสซิกัสนั้นถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแกร่งถึงขั้นรองรับพลังควอตไซเซอร์อันทรงพลังมากถึงหลายสิบเท่ากันไว้ได้อย่างแน่นอนน่ะ" ซึ่งตอนนี้หมัดขวาของฟอร์เทสซิกัสของเนคมาดูซัมเรืองแสงสีทองขึ้นมา โดยที่เนคมาดูซัมใช้สายตาล็อกเป้าตรงปากลำกล้องด้านบนอีกสองอันที่แคนเนทจะยิงออกไปกันจน "ปี้บๆๆๆ"
              "ฉันไม่ยอมให้เสียป้อมปืนใหญ่ไปกันหรอก ตายซะ" แคนเนทยกไกปืนและเหนี่ยวไกขึ้นจนยิงลำแสงออกมาอีกสองสาย แต่ก็ไม่เร็วกว่าเนคมาดูซัมที่สวนกลับด้วย
              "เกรทสเตรทเตอร์ เมเทโอฟิสท์แคนน่อน ชู้ตตตตตต" ซึ่งก็เสยหมัดออกไปเช่นเดียวกับฟอร์เทสซิกัสที่ชกออกไปเต็มแรง "หึมๆๆๆๆๆๆ ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนน" จนเกิดลำแสงขนาดใหญ่ที่มีหมัดยักษ์สีทองเป็นหัวกระสุนพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจน "ป้ากกกกกกกก" ผลักลำแสงสองสายที่พุ่งออกจากป้อมปืนแคนซาแดนซ์จน "เปรี้ยงงงงง" เป่าป้อมปืนส่วนบนให้กระจุยเป็นรอยและ "ตรูมมมมม" ระเบิดไปอย่างจังๆ โดยที่คลื่นปืนใหญ่ไทดัลแคนน่อนเองก็เสยด้านข้างตามไปด้วย
              "ว่าแต่ พวกนักโทษจะไม่เป็นไรเลยหรือ" ลิเนียร์ตี้บอก     
              จิลกล่าว "วางใจได้น่ะ เพราะว่าแคนเนทกักตัวทีมแทรกซึมเอาไว้ตรงส่วนหลังของแคนซาแดนซ์กันแล้วนะสิ" ซึ่งเธอใช้พลังจิตในการตรวจหาจิตใจอันหวาดกลัวของลูกทีมของสิบเอฟรอฟตัน ที่ตอนนี้ ต่างหวาดกลัวกันสุดขีดไปแล้ว
              "ที่เหลือก็คือ บุกชาร์จกันตรงๆแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              คลอเวฟกล่าว "โอเค บริคซ์ เดินเครื่องเต็มกำลังไปเล้ยยยยยย"
              "รับทราบ" บริคซ์กล่าวและเดินเครื่องเรือนอร์ติลุสบุกชาร์จฝ่ากองรบบาร์คทรอนและไดร์ฟอาร์มเมอร์แบบดับเครื่องชน ซึ่งส่วนหัวเรือนั้น "ครี้งงงงงง" นำดาบที่ซ่อนไว้ในพื้นดาดฟ้าเรือออกมา "ฉึกกกก โครมมมมมมมม" แทงใส่ป้อมด้านบนของแคนซาแดนซ์เบอร์สองให้ทะลุไปเต็มๆ แคร์เรี่ยนเลยนำบาร์คทรอนเข้ามา "ฉั้วะๆๆๆ ฟันเพื่อเปิดช่องทางเอาไว้ โดยให้แอร์ไพล์มมิสพาพวกบรอนเซอรูทบุกเข้าไปข้างในโดยเร็ว "วาโช้ววววววว" บรอนเซอรูทกระโดดเข้าถีบใส่เบลดคัตเตอร์ที่บุกเข้ามาจนล้ม แล้วก็ใช้พลองสองท่อนหวดฟาดใส่พวกกราวนด์บิลเดอร์กันอย่างหนักหน่วง "ซูมมมมมมม" ฮีทเบิร์นเนอร์พ่นไฟลงมาหมายจะเผาพวกลูกทีมของแอร์ไพล์มมิส แต่ทินเหมาลีกระโจนเข้ามาหมุนควงง้าวดูดไฟแล้วก็ "ฟึ่บบบบ กวี้กกกก" ตวัดฟาดสร้างคลื่นคมมีดรูปนกเพลิงพุ่งเข้าไปจัดการกับฮีทเบิร์นเนอร์ให้แดดิ้น แล้วก็เล่นงานพวกโคลด์ฟรีซเซอร์ที่บุกเข้ามาจนมอดไหม้ไปด้วย "ธันเดอร์สไตร์คบีม" "อีเลคทริคสปาร์คช็อค" โวลท์เลคทริคเกอร์ปล่อยลำแสงไฟฟ้าและกระสุนบอลไฟฟ้าออกจากปลายนิ้ว แต่ทอฟคานิคบุกชาร์จเข้ารับไว้เพราะพลังไฟฟ้าทำอะไรกับผิวหินผาของตนไม่ได้ "เพลงหมัดห้าขุนเขาเย้ยยุทธจักร" ทอฟคานิคจึงเข้าชกใส่โวลท์เลคทริคเกอร์ด้วยหมัดหินผาเข้าใส่โวลท์เลคทริคเกอร์ไปห้าดอกจนถูกต่อยปลิวกระเด็นไปอัดกับชั้นลอยถึง 3 อกทะลุไปถึงหลังเพียง 2 ตัวด้วยกัน "ไฮย้า ย้า" โมคุโตะหวดทอนฟาเข้าใส่กราวนด์บิลเดอร์จนหมวกก่อสร้างบุบเหมือนกับตามตัวที่ถูกกระทุ้งใส่ "หมับบบ กร็อบบบบ กร็อบบบ" ทินเหมาลีจับพวกครีซีแทนอาร์มมี่บิดหักแขนและขาไว้ พร้อมถีบส่งมา "ฉั้วะ ฉั้วะ" เลอแชนฟาดฟันใส่ด้วยมีดหลังแขนที่หมุนเป็นวงล้อสับให้เป็นชิ้นๆไป นาเวลพยายามโจมตีใส่พวกบรอนเซอรูทจากด้านบน แต่ก็.... "ย้า" แคร์เรี่ยนกระโดดขึ้นมาพร้อมกับใช้ทวินสแลชเชอร์ฟาดฟันใส่นาเวลให้ล้ม แล้วก็นำตัวเป็นโลห์กำบังรับกระสุนจากพวกอาร์มมี่ พร้อมกับใช้กราฟคาไบน์ยิงฉมวกติดระเบิดปักใส่อาร์มมี่ให้ระเบิดไปกันหมด ด้านเซเทธ ฟันดิวเรค แอร์ไพล์มมิสและซิลเวเทรทรีบบุกตามที่จิลระบุไว้ โดยได้เข้าปะทะกับพวกครีซีแทนที่บุกเข้าสกัดตามคำสั่งของแคนเนท ซึ่งก็ต้านเอาไว้ไม่อยู่... "ป้ากกก" ฟันดิวเรคยืดหมัดติดสนับมือชกใส่อาร์มมี่ที่เฝ้าห้องนักโทษจนล้ม ในขณะที่อีก 3 ตัวนั้น "แชดๆๆๆๆๆ" แอร์ไพล์มมิสและซิลเวเทรทยิงกราฟคาไบน์ออกเป็นเลเซอร์เข้าสอยร่วงไว้ แม้จะมีพวกอาร์มมี่อีก 4 ตัวที่บุกมาจากด้านหลัง "ลูกถีบกิเลนบิน" ก็โดนเซเทธพุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว
              "พวกคุณคงเป็นสิบเอกรอฟตันและทีมแทรกซึมของผู้การมิทด็อกใช่หรือเปล่าละ" ฟันดิวเรคถามอย่างจริงจัง
              รอฟตันกล่าว "ออกตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆมีเจสเตอร์โผล่มาช่วยกัน แล้วพวกนายคงจะเป็นพวกสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ที่เขาเล่าลือกันละสิ"
              "นี้คงไม่ได้รับคำสั่งจากไอ้มิทด็อกให้มาเก็บพวกเรา เพื่อไม่ให้เราฟ้องมันที่ศาลทหารกันหรอกน่ะ" ลูกน้องคนหนึ่งกล่าว
              ลูกน้องอีกคนบอก "พวกเราเกือบตายเพราะพวกนายก็เกินพอแล้ว แต่นี้พาพวกครีซีแทนมาด้วยแบบนี้ พวกเราจะเชื่อได้เลยหรือ"
              "ฟังให้ดีน่ะ พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแลมซีนีไนซ์กันอีกต่อไปแล้ว และอยู่กับพวกโคเคสเพื่อต่อต้านแรซัลก้ากันไว้น่ะ" แอร์ไพลม์มิสบอก
              ซิลเวเทรทกล่าว "อีกทั้งตอนนี้ผู้การเสือผู้หญิงคนนั้นก็ประสบอุบัติเหตุกันอยู่ ซึ่งตอนนี้ พวกคุณไม่ต้องตกเป็นเป้าพร้อมที่นี้กันแล้วนะ"
              "จริงหรือ....เอาไงดีละครับ หัวหน้า" ลูกน้องคนหนึ่งกล่าวอย่างดีใจแต่ก็ยังไม่แน่ใจขึ้นมา แม้ส่วนมากจะดีใจและสะใจที่มิทด็อกโดนเล่นงานกันบ้าง
              รอฟตันถาม "แล้วใครอนุมัติให้พวกนายลงมาช่วยพวกเรากันละ"
              "นายพลเกรย์สัน ทิลเทอแรนอนุมัติให้พวกเราลงมากันนะสิ" เซเทธบอก
              รอฟตันพยักหน้าและบอกไปว่า "ดี เพราะพวกเราตั้งใจจะย้ายจากกองรบเฮงซวยนี้ไปอยู่กองรบที่ 2 กันเดียวนี้เลย" ซึ่งคำตอบนั้นได้ทำให้เซเทธ... "ฉั้วะๆๆๆ" ใช้กระบี่โครมเมทาเลี่ยมฟันลูกกรงให้ขาดสะบั้นลง แล้วรีบพาทีมแทรกซึมหนีออกมาโดยเร็ว ด้วยการใช้บาร์คทรอนมารับเอาไว้
              "พวกแอร์ไพล์มมิสช่วยตัวประกันไปแล้วละครับ" ครีซีแทนกล่าว โดยตอนนี้ เนคมาดูซัมพาพวกเวเซอร์มาอยู่ตรงโดมแก้วไว้
              "เอาละ แคนเนท แผนการสั่วๆของแกจบเห่ลงแล้ว ยอมจำนนกันดีกว่า"
              "นึกแล้วว่า พวกนายต้องโต้ตอบกันจนได้ แม้ว่าเรื่องปืนใหญ่นั้นจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยก็ตาม" แคนเนทบอก "แต่....พวกนายคิดว่าพวกเราสร้างแคนซาแดนซ์กันเพียงเท่านี้และอยู่ที่นี้กันเลยหรือ พวกนายคิดผิดเหมือนกับผู้การมิทด็อกกันชัดๆเลยน่ะ"
              พีวิลกล่าว "เดียวก่อนน่ะ นี้อย่าบอกน่ะ ว่านายมีฐานการสร้างแคนซาแดนจำนวนมากจากที่อื่นกันด้วยน่ะ"
              "เป็นเช่นนั้น เพราะดาวอีก 2 ดวงนั้น เราได้ทำการสร้างแคนซาแดนซ์จากใต้ดาวกันอย่างลับๆ โดยที่กองรบของพวกทิลเทอแรนเองก็ไม่รู้ ส่วนอีก 4 ดวงนั้น แค่ตัวหลอกก็เท่านั้นแหละ" แคนเนทกล่าว โดยตอนนี้ บาร์คทรอนของพวกแอร์ไพล์มมิสและไดร์ฟอาร์มเมอร์ของพวกบรอนเซอรูทบินออกมากันแล้ว "อ้อ อย่างน้อย พวกนายก็คงไม่มีแรงมากพอที่จะหยุดไพ่ตายของเราหรอกน่ะ" โดยตอนนี้แคนซาแดนซ์เบอร์ 10 ซึ่งก็คือถังเงินยักษ์ของสครูซ แมสดัฟท์ได้เคลื่อนตัวแล้ว ส่วนเบอร์สองนั้นก็เคลื่อนถอยหลังไปพร้อมกับเบอร์ 6 และ 7 ด้วย
              "โอ้ว นั้นไม่ค่อยดีแล้วละเนี้ย" สเตฟอร์ดบอก
              "แคนซาแดนซ์เบอร์สิบ ดับเครื่องชนใส่พวกเวเซอร์ได้" แคนเนทสั่ง แต่ไม่ทันที่ลูกน้องจะกดปุ่มได้นั้น "หึมๆๆๆๆๆๆๆ วึงงงงง" แคนซาแดนซ์เบอร์สิบหรือถังเงินยักษ์ได้ลอยขึ้นและเอียงเอาด้านหลังขนานกับพื้นไว้ "ซูมมมมมมม"
              คลอเวฟบอก "เอ้ย ถังเงินยักษ์กำลังจะทะยานออกนอกอวกาศไปแล้วละ"
              "เออ นี้ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้นละเนี้ย" เนคกี้กล่าว
              มิลด์บอก "แผนการส่งถังเงินขึ้นฟ้าได้ผลกันจริงๆแล้วละ แม้ว่าจะเป็นห่วงไม่น้อยเพราะกลัวว่าแคนเนทจะรู้ทริคนี้กันหรือเปล่าน่ะ"
              "ส่งถังเงินขึ้นฟ้านะหรือ นี้แสดงว่า พวกนายควบคุมระบบขับเคลื่อนของเบอร์สิบได้กันละสิ" เนคกัสกล่าว
              แต่เนคกี้แย้ง "เป็นไปไม่ได้น่า ระบบควบคุมของพวกครีซีแทนไม่สามารถแฮคหรือยึดควบคุมกันได้เลยนิน่า"
              "เป็นไปได้สิ เพราะว่าพวกคุณแอร์ไพล์มมิสและคุณเบย์แทนด์ที่ช่วยกันแกะแผงวงจรจากบาร์คทรอนและไดร์ฟอาร์มเมอร์มาเช็คดู จนรู้ถึงระบบการควบคุมจากระยะไกลกันไว้ ซึ่งพวกเขาใช้ตรงนี้แหละมาเพื่อทดสอบการควบคุมแคนซาแดนซ์ให้อยู่ในกำมือของพวกเราได้น่ะ" ฟูแรมกล่าว
              บรูโน่ถาม "แบบนั้นก็แจ่มไปเลยสิ แล้วเราสามารถควบคุมแบบนี้ได้อีกหรือเปล่าละ"
              "เกรงว่าคงไม่ได้หรอกน่ะ เพราะว่าระบบวงจรของพวกครีซีแทนมีโปรเทคที่กันมิให้เราแฮคซ้ำสองได้ ดังนั้นเราจึงต้องแฮคให้มันทำงานได้เพียงแค่หนเดียวเองน่ะ" มิลด์บอก
              ไกซ์กล่าว "แล้วเธอสั่งให้มันบินขึ้นข้างบนเลยหรือ"
              "ใช่ เพราะอย่างน้อยเราก็สามารถเอาถังเงินกลับไปให้ผู้ว่าจ้าง และทำให้ภารกิจรองของเราลงเอยด้วยดีนี้แหละ" มิลด์กล่าว
              บรูโน่บอก "เยี่ยม แต่กลัวว่ามันจะระเบิดถังเงินกันเสียเองนี้แหละ"
              "ว้าววววว ถังเงินบิน....ด้าย...." คลอเวฟกล่าวอย่างอึ้งทึ่ง เมื่อเห็นถังเงินของเศรษฐีสครูซบินขึ้นด้วยกำลังเครื่องยนต์ในระดับเต็มที่ และบินไปอย่างรวดเร็วจนพ้นชั้นเมฆกันแล้ว เช่นเดียวกับฝ่ายเฮลิคกันด้วย
              "มันจะเอาถังเงินไปแล้วละครับ" โอเปเรเตอร์กล่าว
              "หึ ร้ายนักน่ะ พวกสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์..." แคนเนทกล่าวพร้อมกับ... "ครืดดดดด" เปิดปุ่มสีแดงออกมาและ "ปึกกก ปี้บบบบ" ทุบปุ่มลงไปเต็มแรงเพื่อเปิดระบบ "ระบบทำลายตัวเองเบอร์สิบ ทำงาน" ซึ่งก็.... "วาบบบบบบบบบบบบบ ตรูมมมมมมมมม" จุดระเบิดเตาพลังงานข้างหลังแคนซาแดนซ์เบอร์สิบให้ระเบิดวินาศสันตะโรกลางอากาศขึ้นมา ส่วนตนก็รีบนำแคนซาแดนซ์ที่เหลือเพียง 3 หน่วยถอยหนีไปโดยเร็ว
              "โอ้ว มันเล่นทุบกระปุกยักษ์แล้วเผ่นหนีไปเลยหรือวะ" เจเนลสบถ
              "เมื่อกี้นี้ นายพูดอะไรไปมิทราบละ บรูโน่" ไกซ์บอกอย่างหงุดหงิดไม่น้อย บรูโน่หน้าจ๋อยไปสามนิ้วด้วยกัน
              เฮลิคกล่าว "ช่างเถอะ ไกซ์ เพราะถึงเราไม่ทำลายถังเงินทิ้ง พวกครีซีแทนก็ต้องลงมือเสียเองน่ะ"
              "นี้โคเคสน่ะ ตะกี้นี้ฉันเห็นท้องฟ้าเกิดการระเบิดขึ้นมานั้น มันเกิดเรื่องอะไรกันละ" โคเคสกล่าว
              เฮลิคบอก "เกรงว่า เราจะโดนลุงของผู้การดอแนคโวยตลอด 24 ชั่วโมงกันแล้วละ เพราะภารกิจรองล้มเหลว ภารกิจหลักนั้นสำเร็จไปได้เพียง 2 ใน 3 เลยน่ะ"
              "ว่าแต่ ผู้การมิทด็อกจะเป็นอะไรบ้างละ" พีวิลถาม
              โคเคสบอก "ตอนนี้กองรบที่ถอนตัวไปก่อนหน้านั้นได้มาสมทบและช่วยพวกเราเปิดทางเข้าไปในป้อมปืนใหญ่ยักษ์ เพื่อทำการช่วยเหลือไว้ คาดว่าน่าจะเจอตัวผู้การมิทด็อกในไม่ช้าแล้ว ว่าแต่ ทีมแทรกซึมล่ะ"
              "พวกเราช่วยพวกเขาออกมากันหมดแล้วละ โคเคส แล้วก็ ช่วยแจ้งให้นายพลเกรย์สันในเรื่องย้ายพวกเขาไปอยู่กองรบของผู้การฮาซาเดนให้ด้วย" แอร์ไพล์มมิสบอก
              โคเคสกล่าว "ขอบใจพวกนายมากน่ะ แม้ว่าแคนเนทจะกลับไปพร้อมแคนซาแดนซ์ส่วนหนึ่ง หรือที่แอบสร้างไว้โดยที่เราไม่รู้กันก็ตาม เดียวเราจะไปรวมพลกันที่นั้นแล้ว...."

              "กริ้ง" ฉับพลันก็มีบางอย่างหล่นลงพื้น ซึ่งทหารแมนิเกเตอร์หุ่นยนต์ชายรีบมาเก็บดู "เหรียญเงินนิน่า ผบสส.ครับ" และนำมาให้โคเคสดู ซึ่งก็... "กริ้ง กริ้ง กริ้งๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร เหรียญเงินและเหรียญทองก็ร่วงลงมาจากฟากฟ้าในทันที
              "นี้ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยละเนี้ย" ไกซ์กล่าวอย่างอึ้งๆ เพราะตอนนี้เงินจากถังเงินที่ระเบิดกลางอากาศนั้นได้ร่วงลงจากชั้นเมฆกันแล้ว
              "เยี่ยม การระเบิดเมื่อครู่นั้นคงทำลายเปลือกนอกให้สลายไป แต่ก็เป่าพวกเหรียญเงินเหล่านั้นให้ร่วงมาด้วยน่ะ" มิลด์กล่าวโดยรีบโผล่ออกมาจากคอกพิต ซึ่งไม่ทันไรก็ "กึกก" เพชรก็หล่นใกล้ๆกับเธอซึ่งเป็นโคตรเพชรขนาด 40 กะรัตด้วยกัน
              บรูโน่บอก "เฮ้ย พวกเรา รีบออกมาข้างนอกเพื่อมาโกยสมบัติจากฟากฟ้ากันเลย ปรากฎการณ์ธรรมชาตินี้มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น รีบออกมาก่อนเลย" ซึ่งพองเพื่อนทหารรุ่นเดียวกันที่อยู่ในกองรบโมบิลลอยด์ก็แห่ลงมาเก็บโกยสมบัติของสครูซ ตั้งแต่เหรียญเงิน พันธบัตร ทองแท่ง เพชรนิลจินดา แล้วก็สมบัติมากมายที่หล่นลงจากฟ้ากันด้วย
              "นั้นคงเป็นรางวัลชดเชยที่พวกเราและพวกเขาเหน็ดเหนื่อยกันมาเลยสินะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              โฟรซ่ากล่าว "นั้นไม่แปลกใจหรอก ที่พวกบรูโน่จะคึกคักกันปานนี้เลยน่า"
              "เฮ้อ พวกเขานิเหลือเกินจริงๆเลยน่า ให้ตายสิ" เนคกี้บ่นอย่างเอือมระอา
              เนคกัสบอก "แต่อย่างน้อย พวกเขาก็ควรได้อะไรตอบแทนกันบ้างนะครับ พี่"
              "ว่าแต่ ไอ้ที่อยู่ในถังเงิน มันมีเท่านี้เองหรือวะ" คลอเวฟบอก
              เบย์แทนด์กล่าว "เกรงว่าที่เราเจอและเก็บได้มานั้น มันจะแค่ 4 ส่วน 50 จากทั้งหมดที่อยู่ในถังเงิน ซึ่งผลจากการระเบิดนั้น ได้เป่ากระจายมวลสารที่อยู่ในภาชนะที่แตกออก กระจายไปทั่วทุกมุมของดาวดวงนี้กันแล้วนะครับ" โดยในตอนนี้ ชุมชนยากจนทั่วทุกมุมของดาวนั้นต่างก็เริงร่าเพราะฟ้ามาโปรดช่วยพวกเขาด้วยเงินทองจากถังเงินที่แตกกระจุยของสครูซกันด้วย เว้นแต่พวกโกงกินที่ไม่ได้อะไรเลย นอกจากเศษชิ้นส่วนถังเงินที่ถูกเป่าระเบิดจนหล่นใส่บ้านพักและที่อยู่อาศัยกันไปด้วย
              "เออ พวกเธอทุกๆคน ฉันรู้น่ะ ว่าพวกเธอดีใจและเริงร่ามากๆเหมือนได้รางวัลมาฟรีๆ แต่ทางเราต้องบอกข่าวร้ายกับพวกเธอด้วยน่ะ ว่า....ไอ้รางวัลนั้นมันไม่ใช่ของพวกเรา แต่เป็นของคนอื่นที่ถูกขโมยมา ดังนั้น ที่ๆพวกเธอเก็บได้มาทั้งหมดนี้ ทางเราจะต้องคืนให้เขาไปทั้งหมดกันนี้แหละ" เฮลิคแจ้งประกาศกันไว้ จนทำเอาบรูโน่และพองเพื่อนถึงกับร้องโอดโอยด้วยความเสียดาย
              "อะไรวะ นี้เราต้องคืนไอ้ที่เราเก็บได้ให้กับไอ้เป็ดขี้ตื้ดนั้นเลยหรือวะ" บริคซ์บ่นอย่างหงุดหงิดเพราะกะจะนำนอร์ติลุสลงไปช่วยบรูโน่เก็บสมบัติกันพอดี
              "แล้ว ส่วนที่ไม่ได้อยู่กับพวกเราละคะ" ลิเนียร์ตี้ถาม จนทำเอาทุกๆคนนึกขึ้นมาได้พอดี ว่าการระเบิดของถังเงินนั้น ได้กระจายทุกอย่างออกไปทั่วดาวกันแล้ว
              โคเคสบอก "ถือซะว่า เราช่วยทำบุญให้คนบนดาวดวงนี้เลยแล้วกันน่ะ เพราะ....พวกเราคงไม่ใจร้ายกับชาวต่างดาวที่ลำบากยากเข็ญกันมานานแล้วนะ"
              "นั้นสิน่ะ เพราะยังไงเสีย เงินทองจำนวนมาก ต่อให้เก็บไว้เยอะมากมายแค่ไหน ตายไปก็เอาไปด้วยไม่ได้อยู่ดีนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์พูดให้ทุกๆคนคิดได้ไว้
              พีวิลบอก "เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเราไม่ได้หวังอะไรตอบแทนเป็นตัวเงินแต่แรกแล้วน่ะ"
              "ถ้าเช่นนั้นก็รีบถอนตัวกลับดีกว่าน่ะ เพราะตอนนี้ ผู้การมิทด็อกได้รับการช่วยเหลือออกมา และรอดตายมาได้แล้วละ" โคเคสกล่าว
              เฮลิคบอก "งั้นฉันจะส่งคนไปรับทีมของนายแล้วกันนะ โคเคส"

              หลังจากนั้น พวกโคเคสก็เดินทางออกจากดาวบราดิลทันที
              "ดีแล้วละ ที่มิทด็อกรอดตายมาได้ แม้ว่าเขาจะเกือบทำให้พวกเธอเสียพรรคพวกไปแล้วน่ะ" นายพลเกรย์สันกล่าวโดยติดต่อเข้ามาที่สะพานเดินเรือแรคแทซกันแล้ว
              โคเคสบอก "แต่ผมก็คิดว่าผู้การมิทด็อกนั้นต้องการจะหยุดพวกครีซีแทนกันจริงๆ หากแต่ใช้วิธีการที่ผิดๆและไม่ได้ให้ความสำคัญต่อรอบข้างจนมีคนตกเป็นเหยื่อของพวกครีซีแทนกันไม่น้อยเลยนะครับ ซึ่งการที่เขาประสบเหตุจากการถูกโจมตีนั้น เป็นเรื่องที่เราคาดไม่ถึง และไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า จึงต้องขออภัยด้วย"
              "แค่พวกเธอมายอมรับและขอโทษต่อความผิดพลาด แม้ว่าเธอจะก่อหรือไม่ก็ตามให้ฉันรับทราบไว้ ก็ถือว่าดีแล้วละ โคเคส" นายพลเกรย์สันบอก "ตอนนี้ฉันได้รับหน่วยของรอฟตันมาประจำการที่กองยานที่สองของฮาซาเดนในฐานะนาวิกโยธินไว้แล้ว ซึ่งอย่างน้อย ให้อยู่กันคนละกองซะ จะได้ไม่ต้องมีปัญหากับมิทด็อกในช่วงสถานการณ์เลวร้ายกันเลยน่ะ"
              เฮลิคบอก "แล้วผู้การมิทด็อกเป็นยังไงบ้างละครับ"
              "แค่ส่วนขาสองข้างและแขนขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส จำต้องพักรักษาตัวยาว 3 สัปดาห์ ซึ่งนั้นหมายความว่า กองรบที่ 7 จะต้องให้รองหัวหน้ามารักษาการณ์แทน จนกว่ามิทด็อกจะหายดีและพร้อมปฏิบัติการณ์ได้กันน่ะ" เกรย์สันบอก โดยตอนนี้มิทด็อกถูกจับใส่เผือกเหล็กที่แขนขวาและขาทั้งสองข้างไว้ "ซึ่ง การที่มิทด็อกเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ความผิดของพวกเธอ แต่เป็นความผิดของเขาที่ออกไปแก้ปัญหาโดยไม่ได้ให้ลูกน้องตามมาด้วย และมีเจตนาไม่ดีต่อกลุ่มลูกน้องที่เป็นคู่กรณี ถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้เลยน่ะ"
              โคเคสถาม "ถ้าผู้การมิทด็อกแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับภารกิจที่ทำอยู่ให้ออกได้ เขาคงจะไม่ถูกส่งมานอนโรงพยาบาลทหารกันนะครับ"
              "แล้วท่านมีความเห็นยังไงกับศัตรูปริศนาที่บุกโจมตีป้อมปืนใหญ่ในคราวนี้ละครับ" เฮลิคถาม
              เกรย์สันบอก "ฉันเกรงว่า เรื่องที่กิซเซเบอร์โผล่มาโจมตีมิทด็อกนั้นจะทำให้ทิคแซทเกิดความสงสัยและอาจจะออกไปตามล่ากิซซีรีย์เบอร์สิบที่หายไปตั้ง 5 ปีกลับมา โดยที่เราไม่รู้ว่า กิซเซเบอร์นั้นกลับมาได้ไง และโจมตีมิทด็อกไปทำไมกันน่ะ"
              "เรื่องนี้ผมไม่รู้ว่าจะบอกดีมั้ยละครับ แต่....ผมสังเกตุเห็นส่วนปุ่มแก้วตรงหน้าผากและกลางหน้าอก เหมือนมีลูกตาปรากฎด้วยนะครับ แถมระบบอาวุธนั้นดูแปลกประหลาดอย่างมากนะครับ" โคเคสบอก
              เกรย์สันได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย "อืมมมมม งั้นนะหรือ ฉันต้องขอบใจเธอมากน่ะ โคเคส ที่มาบอกเรื่องนี้และโชคดีมากแล้ว ที่เธอไม่โดนกิซเซเบอร์ฆ่าตายกันเสียก่อนน่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "ตอนนี้ฉันจะนำเงินและทรัพย์สินที่พวกเธอเก็บมาได้นั้นไปคืนสครูซเอง ส่วนเรื่องกิซเซเบอร์นั้น ฉันจะห้ามทิคแซทเอาไว้ เพราะอย่างน้อย เขาไม่ควรจะละทิ้งการงานไปเสียก่อนนะ" โดยโคเคสได้ฝากทรัพย์สินส่วนที่เก็บได้ทั้งหมดไปพร้อมกับทีมของรอฟตัน ซึ่งขึ้นกระสวยอวกาศไปยังกองยานที่ 2 ที่สนับสนุนกองรบของมิทด็อกไว้ โดยยานพยาบาลได้นำตัวมิทด็อกออกไปด้วย
              "เพราะว่าคุณเกือบเสียผู้การมิทด็อกไปแล้ว คุณก็ไม่อยากจะเสียผู้การทิคแซทกันไปด้วยนะครับ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนทรัพย์สินที่เหลือนั้น ทางเราคงจะไปเอามาจากชนเผ่าบนดาวกันไม่ได้ด้วยนะครับ"
              "พวกเธอทำได้ดีแล้วละ ฉันจะไปอธิบายให้สครูซรับทราบเอง พวกเธอรีบกลับไปที่กองยานของพวกเธอกันดีกว่าน่ะ เกรย์สัน ยุติการติดต่อ" เกรย์สันบอกและตัดการติดต่อไป
              โคเคสกล่าว "โอเค ตอนนี้พวกเราคงต้องกลับไปเช็คดูที่ควอดาน่ากันแล้วละ"
              "เผื่อว่า ป้ารัคชูมี่กับพวกคงจะไม่เสียเผ่าและกลุ่มนักรบไปสักสี่ห้ากลุ่มกันหรอกน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โคเคสบอก "เฮลิค แจ้งให้กองรบเรดมูนและกรีนแพลนเนตเดินทางกลับไปก่อนน่ะ ส่วนที่อยู่บนยานลำนี้ ให้ย้อนกลับที่หมายเดิมน่ะ"

              "นึกแล้วว่าพวกเจ้าต้องกลับมากันจนได้สิน่ะ" รัคชูมี่กล่าว โดยนำพวกควอเดี่ยมมาต้อนรับกันตรงทะเลสาปพัลดิฟไว้
              โคเคสบอก "พวกเรากลับมาเพราะพวกเราเป็นห่วงพวกท่านกันนะครับ"
              "ดีแล้วละ ที่พวกเจ้าอุตสาห์เป็นห่วงพวกเรากันไว้ แต่ ตอนนี้ ข้าแนะนำว่าพวกเจ้าควรจะไปที่หมู่บ้านของพวกเรากันก่อนน่ะ" รัคชูมี่บอก แล้วก็ให้นักรบควอเดี่ยมพาพวกโคเคสเดินเข้าป่าไปยังอีกทางหนึ่ง และเดินยาวมาจนถึง
              "โอ้ว นั้นคงเป็นหมู่บ้านของนายสิน่ะ ฟิเกซ" สเตฟอร์ดกล่าว เมื่อมาอยู่ในหมู่บ้านของพวกควอเดี่ยม ซึ่งก่อร่างสร้างบ้านแถวสามชั้น แนบชิดกับเขตป่าและต้นไม้เอาไว้ โดยที่ชาวควอเดี่ยมซึ่งเป็นชาวบ้านก็ได้โผล่มาเห็นพวกพีวิลกัน ทั้งลูกเด็กเล็กแดงไปจนถึงผู้เฒ่าผู้ใหญ่ด้วยกัน
              "ส่วนหนึ่งเพราะว่าพวกเขายังคิดว่าพวกเราเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาหลับอย่างไม่เป็นสุขกันน่ะ" พีวิลกล่าว
              คูลิแนนซ์บอก "เปล่าหรอก พวกเขาเห็นพวกเจ้าเป็นแมนิเกเตอร์แปลกหน้าต่างเผ่ากันน่ะ ซึ่งพวกลูกเผ่าที่อยู่ในหมู่บ้านโฟร์เทรดิลนั้น ต่างก็รู้เรื่องสงครามของแรซัลก้าและพวกท่านกันมาแต่แรกแล้วนะสิ"
              "พวกเขาคงจะมองพวกเราว่าเป็นพวกรวมมิตร คือรวมแมนิเกเตอร์หลายแบบเอาไว้เป็นกลุ่มเดียวงั้นสิ" คลอเวฟบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "ภาวนาว่าพวกเราคงไม่ถูกพาขึ้นเขียงและตัดหัวกันหรอกน่ะ"

              และแล้วพวกโคเคสก็ถูกพามาขึ้นบันไดซึ่งนำไปยังบ้านพักของนายแม่ของพวกควอเดี่ยมอย่างรัคชูมี่ ซึ่งสร้างบ้านเป็นแบบสามเหลี่ยมเอาไว้ด้วยกัน โดยให้... "โคเคส เฮลิค เนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ ฟิเกซ พีวิล สเปียริท สเตฟอร์ด เจเนล ลิเนียร์ตี้ เนคกี้ และเนคกัส ให้เข้ามาได้ ที่เหลือให้ออกไปรอข้างนอกกันก่อนน่ะ" รัคชูมี่สั่ง
              โฟรซ่าบอก "สงสัยว่านายแม่คงไม่อยากให้ห้องโถงแคบเพราะจายด์งั้นสิ"
              "เปล่าเลย นายแม่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับพวกเขากันนี้แหละ" คูลิแนนซ์บอก
              คลอเวฟกล่าว "ยัยบื้อมีความสำคัญอะไรนักหนาถึงได้ให้เข้าไปด้วยน่ะ"
              "ข้าเองก็ไม่รู้หรอกน่ะ ว่าแมนิเกเตอร์หญิงที่ถือหอกนั้นมีความสำคัญแค่ไหน แต่นายแม่เชื่อว่านางเป็นแมนิเกเตอร์นักรบที่มีความสำคัญอย่างมากอยู่ด้วยน่ะ" คูลิแนนซ์บอก
              จิลกล่าว "สเปียริทสำคัญมากถึงขนาดนั้นเลยหรือ..." แล้วก็เดินไปพิงตรงประตู
              คูลิแนนซ์เลยห้ามไว้ "ยามเฝ้าประตูด้านในกันไม่ให้ท่านใช้พลังจิตแอบฟังได้หรอก เพราะพวกเขาทำตามคำสั่งนายแม่ไว้น่ะ" ซึ่งนั้นก็ทำให้จิลจ๋อยไปตามๆกัน
              "ก่อนอื่นเลย ข้าต้องบอกว่า เนคคูคัสได้สละชีพไปเพื่อเปิดโอกาสให้ทางเราเตรียมพร้อมโต้ตอบพวกครีซีแทนที่แลมซีนีไนซ์ส่งมาหลังจากที่พวกเจ้าไปแล้วราว 8 ชั่วโมงก่อนหน้า จนสามารถขับไล่พวกนั้นไปได้อยู่แล้ว หากแต่...." รัคชูมี่กล่าว "....ดาวแกตโตเดี่ยนที่ปราศจากแกตไทซ์ได้ล่มสลายไปโดยไซมาเทนแล้วละ" เนคกี้และเนคกัสถึงกับเสียใจมากเพราะพวกเขาไม่ได้กลับบ้านเกิดกันอีกแล้ว
              เนคมาดูซัมบอก "ท่านพ่อสั่งเสียอะไรให้พวกเรากันอีกมั้ยละครับ ป้า"
              "นอกเหนือจากฝากให้เจ้าดูแลเนคกี้และเนคกัส พร้อมทั้งสอนสั่งน้องทั้งสองให้เป็นทหารหรือนักรบกันแล้ว ข้าฝากให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อที่จะอยู่เป็นกำลังสำคัญของโคเคสในการหยุดยั้งโอเวอร์เรสและแรซัลก้าไว้ ซึ่งมันรวมถึงการตามหาพี่น้องแกตไทซ์ที่ได้ออกไปจากดาวกันแล้ว" รัคชูมี่บอก "หากแต่ ข้ารู้แค่ว่า พี่น้องแกตไทซ์ทั้งหลายที่ออกเดินทางจากดาวแม่ที่ล่มสลายไปแล้วนั้น ได้ไปยังระบบอวกาศอันไกลโพ้น ซึ่งโอเวอร์เรสกับพวกไม่มีทางเสียกำลังพลไปกับการตามหาพวกแกตไทซ์ที่ไม่รู้ว่าไปหนีอยู่ที่ไหน แต่ด้วยเผ่าแกตไทซ์ในเวลานี้แข็งแกร่งและทรงพลังกันแล้ว ข้าคิดว่า พวกเขาคงเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอนเลยน่ะ"
              โคเคสกล่าว "แปลว่า แมนิเกเตอร์แกตไทซ์ก็คงจะกระจัดกระจายไปทั่วอวกาศกันละสิครับ"
              "แน่นอน เพียงแต่เรื่องของครีซีแทนและกองรบแรซัลก้านั้น จะเป็นตัวดึงพวกเจ้าออกจากการตามหาพวกแกตไทซ์กันอย่างแน่นอน ตราบใดที่โอเวอร์เรสและกองทัพจักรวรรดิ์ของพระนาง ไม่ถูกหยุดยั้ง ภารกิจการกอบกู้แกตไทซ์ก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน" รัคชูมี่บอก
              โคเคสกล่าว "แล้วความปลอดภัยของพวกท่านละครับ นายแม่"
              "แม้ว่าข้าสามารถเรียกกำลังรบจากอาณาบริเวณใกล้เคียงมาช่วยกันแล้วก็ตาม ควอดาน่าและแมนิเกเตอร์ควอเดี่ยมในตอนนี้ได้กลายเป็นเป้าหมายที่สองของพวกแรซัลก้ากันไว้แล้ว ซึ่งเรื่องนี้แหละที่ข้าหวั่นเกรงมาโดยตลอด พอๆกันกับลูกเผ่าทั้งหลายกันด้วย" รัคชูมี่กล่าว "ต่อให้นาไลน์พยายามหาหนทางเพื่อหยุดยั้งมิให้พี่น้องของเราต้องสูญสิ้น ก็คงหาได้หยุดไซมาเทนไม่อยู่ดี ซึ่งนั้นเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทางเราจำต้องสะสมกำลังอาวุธเอาไว้ เพื่อปกป้องพวกพ้องของเรากันไว้น่ะ"
              พีวิลบอก "นั้นไม่แปลกใจเลยที่ท่านสร้างโมบิลลอยด์เอาไว้ โดยมอบให้ฟิเกซเลยสิครับ"
              "ใช่ เพราะข้ายอมให้ฟิเกซลุยเดี่ยวตัวเปล่าๆไปไม่ได้หรอก แม้ว่าเขาจะใช้โมบิลลอยด์ของพวกเจ้าสู้กันแล้วก็ตาม อย่างน้อยเขาก็ช่วยเหลือพวกเจ้ากันแล้วละน่ะ" รัคชูมี่บอก
              เฮลิคบอก "งั้นเช่นนั้น ก็ให้พวกเรารับผิดชอบด้วยการส่งคนมาช่วยเหลือพวกท่านกันบ้างสิครับ เพราะว่าพวกเราเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกท่านสูญเสียความสงบสุขกันน่ะ"
              "ความสงบสุขของพวกเรามันพังทลายไปตั้งแต่แลมซีนีไนซ์ประกาศสงครามกับชาวดาวฤกษ์กันแล้วละ เฮลิค นอร์มังดี หากแต่พวกท่านมาช่วยทำให้พวกเราสามารถหายใจได้ก็ตาม ในฐานะนายแม่ของชาวควอเดี่ยมทุกคนบนดาวดวงนี้ จึงขอบคุณพวกเจ้าที่มาช่วยเอาไว้กันน่ะ" รัคชูมี่บอก
              โคเคสบอก "นั้นเป็นสิ่งที่พวกเราสมควรทำกันนะครับ นายแม่"
              "ตอนนี้ ชาวควอเดี่ยมต่างไม่พอใจกับการกระทำของจักรวรรดิ์แรซัลก้ากัน ซึ่งพวกเขาอยากจะช่วยพวกท่านในการสู้กับพวกครีซีแทนและเหล่าบริวารกองรบของไซมาเทนกันก็ตาม แต่...ตราบใดที่ทางเรายังไม่ได้รับรู้ถึงชัยชนะของพวกเจ้าที่มีต่อพวกครีซีแทน ที่เตรียมแผนการโจมตีดาวฤกษ์ทั้ง 18 ดวงของพวกแอตทาเวี่ยนเอาไว้ละก็ เรื่องที่พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสหพันธมิตรของพวกท่าน คงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน" รัคชูมี่กล่าว แล้วก็ส่งตลับเหล็กกลมมาให้โคเคส "นี้คือแปลนสำหรับซ่อมบำรุงและดัดแปลงควอดทารอสซาลมาร์ส ซึ่งเป็นข้อมูลสำเนาที่ข้าทำขึ้นเพื่อให้นายช่างและช่างสรรพวุธของท่านสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้ โดยรวมถึงข้อมูลแปลนของฟอร์เทสซิกัสที่เนคคูคัสเหลือเอาไว้ด้วยน่ะ"
              เนคมาดูซัมกล่าว "นี้คงเป็นการเตรียมพร้อมอีกอย่างที่นอกเหนือจากให้เผ่าแกตไทซ์อพยพออกไปจากดาวเลยละสิครับ"
              "ใช่ เนคคูคัสเป็นแกตไทซ์ที่เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อม แม้ว่าในทีแรก ข้ามองเขาว่าเป็นคนที่ไม่รู้จักคิดและไม่รู้จักพัฒนาตัวกันเลยก็ตาม แต่นับจากที่ภรรยาของเขาเสียไป จนเหลือเจ้าและน้องอีกสองไว้นั้น เขาก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดราวกับเป็นคนละคนเลยน่ะ" รัคชูมี่บอก
              เนคกัสกล่าว "แสดงว่าท่านพ่อคงจะเตรียมใจไว้แต่แรกเลยสิครับ ป้ารัคชูมี่"
              "เนคกี้ เนคกัส ต่อจากนี้ พวกเจ้าไม่เพียงต้องอยู่ในความดูแลของเนคเกอร์แล้ว ข้าหวังว่าพวกเจ้าคงจะให้ความร่วมมือกับพองเพื่อนของเนคเกอร์คนอื่นๆกันด้วยน่ะ" รัคชูมี่บอก
              เนคกี้กล่าว "ได้อยู่แล้วคะ ป้ารัคชูมี่ เพราะได้เห็นพวกเขาสู้กับพวกครีซีแทนด้วยโมบิลลอยด์กันแล้ว ฉันจะพยายามปรับตัวเข้าหาทุกๆคนกันให้ได้นะคะ"
              "เนคมาดูซัม นอกเหนือจากเรื่องฝึกด้านการต่อสู้และการใช้อาวุธนั้น ฉันจะสอนในเรื่องวิชาความรู้ให้เลยแล้วกันน่ะ เพราะอย่างน้อย เนคกี้และเนคกัสจำเป็นต้องมีความรู้อย่างอื่นกันบ้างน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก พีวิลพยักหน้า
              สเตฟอร์ดบอก "ถ้าคิดจะลองสู้กับพวกเราละก็ ก็ให้มาบอกได้น่ะ เพราะพวกเราพร้อมไว้แล้วน่ะ"
              "งั้นก็ ขอความรบกวนด้วยนะครับ" เนคกัสกล่าว เนคกี้พยักหน้าตาม
              ฟิเกซบอก "งั้นเรื่องของเนคเกอร์ก็จบลงแล้วสิน่ะ ป้า...." และพยายามลุกจากเก้าอี้เพื่อออกไปข้างนอก
              "ฟิเกซ ป้าตัดสินใจแล้วละน่ะ ว่าป้าจะให้เจ้า เป็นนักรบตัวแทนของเผ่าเราในกองกำลังของโคเคสกันก่อนน่ะ" รัคชูมี่กล่าวขัดจังหวะไว้ก่อน ฟิเกซได้ฟังก็ต้องนั่งลงไว้
              เจเนลบอก "เออ นายแม่พูดจริงหรือเปล่าละครับ"
              "เรื่องนี้ข้าคิดดีแล้วละ ว่าฟิเกซถึงคราวที่ต้องแบกรับและแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะนักรบควอเดี่ยมที่ไม่เห็นด้วยกับการคุกคามอวกาศของพวกแรซัลก้ากันไว้ ซึ่งอย่างน้อย การเป็นนักรบนั้นจะช่วยขัดเกลาให้เจ้านึกถึงแต่ส่วนรวมมากกว่าการนึกถึงแต่ตัวเอง เพื่อทำให้ข้าวางใจได้บ้าง เพราะว่าตอนนี้ ข้าหวั่นเกรงว่าพ่อของเจ้า ไม่เพียงไม่อาจจะหยุดยั้งไซมาเทนและพวกไว้ได้ เผลอๆเขาอาจจะเป็นศัตรูกับพวกเราไปด้วย ไม่ว่าจะด้วยความจำใจถูกบังคับมา หรือถูกครอบงำจนเปลี่ยนเป็นคนละคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าอย่างแน่นอน" รัคชูมี่กล่าว จนทำให้ฟิเกซกังวลกันไม่น้อย
              ฟิเกซบอก "นี้แปลว่า ถ้าขนาดไซมาเทนสั่งให้แลมซีนีไนซ์เอาเรื่องจนลุงเนคคูคัสมีอันเป็นไปเช่นนี้ พ่อก็คงพลอยซวยตามที่ป้าคิดไว้สิ"
              "แม้ว่าข้าจะมีบริวารนักรบอยู่มาก แต่ไม่มีใครหน้าไหนที่กล้าและเสี่ยงยิ่งไปกว่าเจ้ากันแล้ว ดังนั้น ข้าหวังว่าการที่เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของกองรบเวเซอร์และกลุ่มสหพันธมิตร จะช่วยให้เจ้ารู้จักรับผิดชอบต่อคนอื่นกันบ้างน่ะ" รัคชูมี่กล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "เรื่องดูแลฟิเกซนั้นไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ ป้า เดียวผมจะช่วยดูแลให้เอง"
              "ให้ฉันจัดการเรื่องฟิเกซกันดีกว่าน่ะ เนคมาดูซัม เพราะว่านายมีน้องสองคนต้องดูแลอยู่แล้ว อย่างน้อยฉันกับโฟรซ่าจะช่วยจับตาดูฟิเกซให้เลยแล้วกันน่ะ" สเตฟอร์ดขันอาสาไว้
              เจเนลบอก "นั้นก็ดีแล้วละ ลูกพี่ เพราะพีวิลและมาสวาร์ทาร์ต่างต้องดูแลพวกไทรเมร่าและไกซ์กับมิลด์ ส่วนผมจะได้รับผิดชอบต่อจายด์และจิลกันบ้างน่ะ"
              "รับผิดชอบนะหรือ เห็นนายแหย่จิลอยู่เป็นประจำกันเลยน่ะ" สเปียริทกล่าวจนเจเนลหงุดหงิดอย่างมาก
              รัคชูมี่กล่าว "ฟิเกซ ถ้ายังไง ก็ทำตัวดีๆกับเพื่อนๆแล้วกันน่ะ ถ้าฉันรู้ว่าเธอก่อเรื่องให้ได้ยิน รับรองว่าเธอโดนแน่นอน"
              "ครับ ป้า...เฮ้ออออ" ฟิเกซตอบรับและถอนใจยาวๆ

              รัคชูมี่ยิ้มและหันมายังสเปียริท "เจ้าคงจะเป็น สเปียริท เมดออฟสเปียร์ แมนิเกเตอร์หญิงปริศนาที่เป็นตัวแปรสำคัญในชัยชนะต่อบิดรเทพและกองทัพจักรวรรดิ์เลยสิน่ะ" นายแม่ควอเดี่ยมถามต่อสเปียริท ซึ่งพยักหน้าแทนคำตอบ "และเหตุผลที่เจ้าเข้าร่วมกับโคเคส ร่วมสู้กับพีวิลและพองเพื่อนนั้น เพื่อค้นหาตัวตนของเจ้าเลยสิน่ะ"
              "เออ นายแม่ครับ นี้นายแม่รู้ว่า สเปียริทเป็นใครมาจากไหนกันนะหรือครับ" พีวิลบอก
              รัคชูมี่กล่าว "รู้สิ แม้ตลอดเวลาที่สเปียริทร่วมสู้กับเจ้าจนได้เบาะแสเกี่ยวกับตัวตนของนางมาหลายต่อหลายครั้ง โดยต้องการเพียงแค่ความจริงไว้ ซึ่งนั้นคงไม่แปลกใจที่จิตใต้สำนึกของเจ้านั้น คอยเตือนไม่ให้เจ้าคล้อยตามคำพูดคำลวงของคนที่ร้ายกาจมากที่สุดเลยสิน่ะ"
              "คะ แล้วนายแม่จะช่วยทำให้ฉันฟื้นฟูความจำได้มั้ยละคะ" สเปียริทกล่าว
              รัคชูมี่คิดและพิจารณาไว้ "อืมมมมม ข้าขอดูก่อนน่ะ ว่าตั้งแต่ตอนที่เจ้าลืมตาขึ้นมาครั้งแรกนั้นเจ้าผ่านอะไรมาบ้าง ดังนั้น ช่วยทำใจให้สบายและอย่าหลับตาเป็นอันขาดเลยน่ะ" สเปียริทพยักหน้า แล้วรัคชูมี่ก็... จ้องตาเธอเขม่งเพื่อทำการอ่านความทรงจำนับแต่สเปียริทฟื้นขึ้นมาจากแคปซูลในเขตทะเลทรายกองซากยานบนโลก เดินทางไปกับพีวิลและมาสวาร์ทาร์มาถึงหมู่บ้านบีสทอยด์เผ่างู ข้ามทะเลทรายไปถึงป่าเขี้ยวเสือของเกรทไทเกอร์ เจอกับคลอเวฟ มุ่งหน้าไปยังเอาท์คอมด์ของโคเคสและถูกปฏิเสธมา จนแยกทางกับพีวิลและมาเจอกันอีกครั้งเพราะเนโมพาพวกบุกโจมตีจนต่อสู้กัน พบพานเหตุการณ์ที่เทมเดน ต่อกรกับพวกอีเนอไมนด์ ศึกต่อกรกับพวกโซลูนาสตี้ สู้กับแอตแลนไทซ์และครอสตรีม ประสบเหตุถูกคลอเวฟจับตัวไปพร้อมกับพีวิลและมาสวาร์ทาร์ไปที่ปีรามิลด้าเพื่อท้าสู้กับไพล์มเทค ร่วมสู้กับพวกโคเคสจนปราบพวกครอสตรีมลง ซึ่งเฟอคาน่า ขุนพลของครอสตรีมได้เห็นเงาของเธอไว้ ตามด้วยความจริงจากจีเนฟาร์รี่ที่เป็นตัวการที่ทำให้สเปียริทถูกส่งมาที่ทะเลทรายกองซากยาน แล้วก็ร่วมมือกันสู้กับโอเวอร์เดสจนกำชัยชนะไว้ รวมถึงเหตุการณ์ต่อสู้กับครีซีแทนในเวลานี้ "อืมมมม บนโลกนั้นเจ้าคงจะเจอเรื่องราวมามากมายสิน่ะ แล้ว ทุกคืน เจ้าฝันเห็นอะไรบ้างละ"
              "ภาพร่างเงาขนาดยักษ์ใหญ่ที่ไม่ชัดเจน ภาพเงาคนทั้งสิบที่ถืออาวุธและบุกเข้าใส่ฉัน ภาพร่างยักษ์ที่ฉันมองไม่ชัดเจน ตามด้วยนักรบที่ถือหอกแล้วยื่นมือมาทำอะไรบางอย่าง และสุดท้าย ก็คือภาพหญิงสาวที่หันหลังอยู่ในกระจก ซึ่งภาพสุดท้ายนี้แหละคะที่เห็นในฝันอยู่ตลอดเวลานะคะ" สเปียริทกล่าว
              รัคชูมี่พยักหน้าพร้อมกับบอกว่า "งั้นหรือ....อืมมมมม ดีแล้วละที่เจ้ามากับโคเคสกันไว้ เพราะเวลาแห่งความจริงนั้นมาถึงแล้วละ"
              "ความจริงนะหรือครับ นายแม่รู้ว่าสเปียริทเป็นใครกันละครับ" พีวิลบอก
              รัคชูมี่กล่าว "ข้าพูดในสิ่งที่ข้าพอจะรู้ได้กันน่ะ" แล้วก็บอกกับสเปียริทไปว่า "สเปียริทเอ๋ย เจ้าเป็นแมนิเกเตอร์จากแรซัลก้า ผู้ที่ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยพลังอันแข็งแกร่ง ที่จะสามารถชนะแมนิเกเตอร์ทุกตนของแรซัลก้า แม้กระทั่งพิชิตโอเวอร์เดสและโอเวอร์เรสลงได้กันนี้แหละ"
              "เป็นความจริงหรือครับ นายแม่" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              รัคชูมี่พยักหน้า "ด้วยพละกำลังมหาศาล พรสวรรค์การต่อสู้อันเก่งกาจ และพลังอันเหนือผู้ใดเทียมทาน บวกกับจิตใจที่เข้มแข็งนั้น ได้ทำให้สเปียริทเป็นแมนิเกเตอร์ที่ทรงอำนาจมากที่สุด หากแต่ได้สร้างความหวาดกลัวและหวั่นเกรงต่อแมนิเกเตอร์ทุกเผ่าของแรซัลก้า จนถึงขั้นต้องส่งยอดนักรบที่เก่งกาจที่สุดออกไปต่อกร ซึ่งก็ไม่มีใครหน้าไหนเอาชนะลงไปได้อย่างแน่นอน" แล้วก็พักหายใจไปพร้อมกับจิบชาที่วางบนโต๊ะไปสักพัก พร้อมกับเล่าต่อไปว่า "แต่มิใช่กับไซมาเทน องค์ชายเทพแห่งสงคราม ผู้ซึ่งมีความเก่งกาจถึงขั้นที่ทำให้ราชทายาทต้องถูกขับไล่ เหล่าพี่น้องทั้งสิบถูกสังหาร ซึ่งไซมาเทนได้สู้กับสเปียริทกันอย่างหนักหน่วง จนกำชัยชนะมาและได้ยึดเอาหัวใจซีกหนึ่งของเจ้าไว้กับตัว ซึ่งไซมาเทนคิดจะทำลายร่างของเจ้าให้สิ้นสูญกันอยู่แล้ว ถ้าไม่เพราะว่าเจ้ามีเพื่อนฝูงช่วยพาเจ้าหลบหนีออกจากแรซัลก้า เพื่อพาเจ้าไปหลบซ่อนและรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งน่าเสียดายเหลือเกิน ที่สหายคนหนึ่งในกลุ่มเป็นคนทรยศต่อเจ้า สังหารเพื่อนคนอื่นๆและส่งเจ้าไปตายพร้อมกับยานที่โดยสารไว้ พร้อมกับทำลายหลักฐานตัวตนของเจ้าไว้"
              "จีเนฟาร์รี่คือเพื่อนคนนั้นสินะ และยัยนั้นก็เข้ากับโอเวอร์เดสมาเพื่อตอแยฉันอยู่ตลอด ซึ่งหล่อนก็สิ้นชีพลงแล้วน่ะ" สเปียริทบอก และหันมาถาม "แต่เพราะแค่นั้นหรือ ที่ทำให้โอเวอร์เรสกับโอเวอร์เดสหวั่นกลัวถึงกับต้องส่งไซมาเทนมาพิชิตฉันลงนะคะ"
              รัคชูมี่กล่าว "แล้วเจ้าอยากจะรู้ใช่มั้ย ว่ามันเพราะเหตุใด ที่ไซมาเทนต้องกำจัดเจ้าให้สิ้นซากลงไปกันน่ะ" สเปียริทพยักหน้า
              "พอจะให้คำตอบกันได้มั้ยละครับ นายแม่" พีวิลถาม
              รัคชูมี่บอก "ฉันเกรงว่า โอเวอร์เดสและโอเวอร์เรส ได้สังหารพ่อแม่ของสเปียริทลงแล้วนะสิ เพราะพวกเขาทั้งสองนั้น เป็นแมนิเกเตอร์ขุนนางที่จงรักภักดีต่อจักรพรรดิและจักรพรรดินีอย่างมาก โดยพยายามเป็นผู้ที่คอยเกลี้ยกล่อมให้ผู้นำทั้งสองรับฟังปัญหาของประชาชน หากแต่พวกขุนนางและชนชั้นสูงกังฉินนั้นรวมหัวกันกดดันและใส่ร้ายทั้งสองในข้อหาเป็นกบฎต่อราชบัลลังก์ โดยอ้างเหตุผลการมีตัวตนของเจ้าไว้ จนผู้นำทั้งสองก็หลงเชื่อและสั่งประหารทิ้ง ซึ่้งนั้นก็ได้ทำให้สเปียริทแค้นถึงขั้นต้องหลบหนีเข้าป่าเขาเพื่อเก็บตัวฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้ทุกแขนงและสร้างอาวุธขึ้นมาเพื่อต่อกรกับเหล่านักรบแมนิเกเตอร์ที่ทางจักรวรรดิ์ ไม่สิ พวกกังฉินถ่อยส่งมากำจัดทิ้ง ซึ่งสเปียริทก็กำชัยชนะมาหลายต่อหลายครั้ง แม้จักรวรรดิ์จะต่อกรกับพวกเฮซเทิร์ซ สเปียริทก็ออกไปปราบคนเลวที่อยู่นอกเขตเมืองจักรวรรดิ์จนสร้างชื่อเสียงให้ผู้คนกันไม่น้อยจนมีเพื่อนฝูงอยู่มากมาย แต่สุดท้าย....ไซมาเทนก็มาทำลายทุกอย่างทิ้งลงจนเป็นเช่นนี้แหละ"
              "แล้วไม่มีหลักฐานบ่งบอกว่าพ่อแม่ของสเปียริทนั้นเป็นใครเลยหรือครับ" พีวิลกล่าว
              รัคชูมี่ส่ายหน้า "เกรงว่าโอเวอร์เรสได้ทำลายทิ้งไปหมดแล้วละ ซึ่งฉันพยายามจะร้องขอให้ยุติเรื่องราวอันเลวร้ายนี้ แต่ก็เกือบเอาตัวไม่รอดกันนะสิ"
              "งั้นเองหรือคะ.... แปลว่าฉันคงจะจมปลักกับความแค้นที่ต้องสูญเสียพ่อแม่กันมาแล้วสิ" สเปียริทบอก
              รัคชูมี่กล่าว "แต่โชคดีมาก ที่เจ้าสูญเสียความทรงจำไปครึ่งหนึ่ง จนสูญเสียความแค้นในใจที่มีอยู่ก่อนไป ซึ่งเจ้ายังโชคดีมากที่ยังคงทักษะและพลังในตัวเอาไว้ เช่นเดียวกับความไม่ให้อภัยต่อความอยุติธรรมกันด้วย แม้ว่านั้นจะมาจากพวกกังฉินของแรซัลก้าก็ตามน่ะ"
              "ซึ่งบนโลกเองก็เกิดเรื่องทำนองนี้ แต่เราก็สามารถคลี่คลายสถานการณ์กันได้นะครับ" พีวิลกล่าว
              รัคชูมี่บอก "ใช่ สเปียริท ฉันขอร้องอะไรอย่างหนึ่งได้มั้ยละ"
              "ว่ามาเลยคะ" สเปียริทกล่าว
              รัคชูมี่ขอร้องให้ "แม้เจ้าจะรู้ความจริงที่ข้าเล่ามาให้แล้ว เจ้าอย่าสู้ด้วยความแค้นเป็นอันขาดเลยน่ะ เพราะนั้นจะเป็นการทรยศต่อจิตใต้สำนึกที่แท้จริงที่คอยปรามเจ้าไม่ให้หลงเชื่อคำลวงกันได้ และจงเข้มแข็งและยืนหยัดสู้ต่อไป ไม่ว่าเจ้าจะได้ความจำกลับมาหรือไม่ก็ตามน่ะ"
              "อ้าว แล้วนายแม่ไม่ได้ฟื้นฟูความจำของสเปียริทกันเลยหรือครับ" มาสวาร์ทาร์ถาม
              รัคชูมี่บอก "ความทรงจำของสเปียริทนั้นมีบาดแผลที่จำเป็นต้องให้เธอเป็นคนสมานเอง ฉันทำได้แค่ชี้แจงถึงเรื่องอดีตที่พอมองเห็นได้เท่านั้น ซึ่งมันจะดีกว่ามาก หากสเปียริทจดจำความทรงจำที่ขาดหายไปและรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอไว้น่ะ"
              "นั้นสิคะ เพราะปัญหานั้นเป็นปัญหาของฉันแล้ว แม้ฉันไม่สามารถจดจำได้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ก็ไม่สำคัญไปว่าตอนนี้ฉันรู้ตัวเองแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่นะคะ" สเปียริทกล่าว
              รัคชูมี่ตอบ "นั้นก็ดีแล้วละ สเปียริท เพราะอย่างน้อยเจ้าก็เข้าใจในสถานอดีตแมนิเกเตอร์แรซัลก้าเหมือนเช่นที่พีวิลและมาสวาร์ทาร์รวมถึงสเตฟอร์ด ยอมรับในสถานะแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์กันแล้วน่ะ"
              "เพราะว่าพวกเราต่างก็ได้สิ้นชีพและสูญสิ้นความเป็นมนุษย์จนถูกคืนชีพให้กลายเป็นแมนิเกเตอร์ไปแล้ว แม้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ความเป็นมนุษย์เดิมได้กลายเป็นเพียงแค่อดีตไปแล้วนะครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              สเตฟอร์ดกล่าว "เช่นเดียวกับเธอด้วยน่ะ สเปียริท ตอนนี้เธอเป็นอดีตแมนิเกเตอร์แรซัลก้ากันแล้วน่ะ"
              "แปลว่า ตอนนี้ เราทำได้แค่สู้รบกับพวกครีซีแทน และหยุดยั้งการคุกคามของพวกแรซัลก้าเลยสิครับ" โคเคสบอก รัคชูมี่พยักหน้า

              เนคมาดูซัมถาม "แล้วป้าจะให้ลิเนียร์ตี้มาร่วมฟังด้วยทำไมละครับ"
              "เนคเกอร์ เจ้าคงไม่รู้สิน่ะ ว่าลิเนียร์ตี้ ผู้ซึ่งเป็นเมดลิคซ์จากอีเนอไมนด์นั้น ทำไมถึงมาอยู่กับเจ้าและมีความแตกต่างจากอีเนอไมนด์ตนอื่น ซึ่งรวมถึงพีวิลด้วยน่ะ" รัคชูมี่ถาม
              เนคมาดูซัมถาม "พอจะบอกได้มั้ยละครับ ป้า ว่าลิเนียร์ตี้มีอะไรที่นอกเหนือจากระบบเอไอที่พัฒนาจนรู้ผิดชอบชั่วดีกันนะครับ"
              "ลิเนียร์ตี้ แบมือและเผยพลังของเจ้าให้ข้าดูหน่อยได้มั้ย" รัคชูมี่ขอ ลิเนียร์ตี้เลยทำตามซึ่งก็... "แว้ง แว้ง แว้ง" แสดงพลังแสงสีชมพูขึ้นมา ซึ่งรัคชูมี่ได้เห็นขึ้นมาแล้ว ก็บอกไปว่า "นึกแล้วเชียว ว่าเจ้ามีพลังของเพรแครทไดรมอนด์อยู่ ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ลิเนียร์ตี้ต่างจากเมดลิคซ์ตนอื่นและเหนือกว่าพวกอีเนอไมนด์ในแง่ของพลัง ซึ่งอาจจะเทียบเคียงกับพีวิลได้อย่างแน่นอน" และบอกไปอีกว่า "บวกกับว่าสมองกลของเจ้านั้นพัฒนาขีดความสามารถที่ไปไกลกว่าพวกอีเนอไมนด์จนเรียนรู้ทักษะของกองรบอื่นๆของโอเวอร์เดสมาด้วยแล้ว เจ้าจึงคู่ควรกับพลังของเพชรแห่งแสงที่ทรงพลัง ซึ่งเจ้าในตอนนี้ มิใช่เป็นเมดลิคซ์อย่างเดียวแล้ว หากแต่เป็น แมนิเกเตอร์ไทป์เพรแคร์เดี่ยน แล้วน่ะ"
              "แล้วเพรแคร์เดี่ยนนิ มันเป็นแมนิเกเตอร์แบบไหนกันละ" เฮลิคบอก
              เนคกี้กล่าว "เท่าที่ฟังมาจากคุณแม่เล่ามา เพรแคร์เดี่ยนเป็นนามของแมนิเกเตอร์หญิงที่มีพลังเหนือมนุษย์อันทรงพลัง ซึ่งทำหน้าที่เป็นนักสู้ผดุงความยุติธรรมบนแรซัลก้ากันมาเมื่อ 30 ปีก่อนแล้ว ซึ่งเพรแครทไดรมอนด์นั้น คือเพชรที่แฝงพลังงานแห่งแสงดังกล่าว อันเป็นหลักฐานบ่งบอกว่าแมนิเกเตอร์หญิงนั้นเป็นเพรแคร์เดี่ยนกันนะคะ ซึ่งฉันไม่คิดเลยว่า ลิเนียร์ตี้จะเป็นนักรบหนึ่งในนั้นไปได้น่ะ"
              "แล้วเพรแคร์เดี่ยนในตอนนี้ละ" โคเคสถาม
              เนคกัสส่ายหน้า "หลังจากที่โอเวอร์เรสมีบัญชาให้มีการรุกรานอวกาศนั้น เหล่าเพรแคร์เดี่ยนต่างก็ออกมาต่อต้าน จนถูกไซมาเทนนำกำลังมากวาดล้าง ทำให้ในตอนนี้ไม่เหลือนักรบเพรแคร์เดี่ยนกันแล้วนะครับ"
              "แต่ฉันไม่เข้าใจเลยนะคะ ว่าฉันมีพลังแบบนั้นตั้งแต่ตอนไหนกันน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              รัคชูมี่บอก "ฉันคิดว่า ในช่วงที่หนูอยู่บนดาวทาเดม-7 นั้น หนูมีปัญหาเรื่องเตาพลังงานอีเนลเซี่ยมขัดข้องใช่มั้ยละ"
              "คะ ในตอนนั้นเตาพลังงานของฉันเกิดรั่วไหลขึ้นในระหว่างเดินทางมา ซึ่งฉันคิดว่าฉันคงไม่มีโอกาสรอดอีกแล้ว แต่แล้วก็มีคนโผล่มาพร้อมกับเอาอะไรบางอย่างเข้าไปในร่าง และหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยนะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              รัคชูมี่กล่าว "ฉันคิดว่านักรบเพรแคร์เดี่ยนที่เหลือรอดนั้นคงจะมอบเพรแครทไดรมอนด์ให้เธอเพื่อเป็นผู้สืบทอดอย่างแน่นอน และถ้าให้ฉันเดา นักรบคนนั้นก็คงไม่มีชีวิตอยู่ต่อแล้วละ" แล้วก็มองตาของลิเนียร์ตี้ไว้ "แต่ฉันมองเห็นชาตะกรรมของหนูในภายภาคหน้าแล้ว ว่าหนูจะต้องประสบเหตุมีอันเป็นไปจนถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอนเลยละ"
              "เฮ้ ป้ารัคชูมี่ นี้ป้าพูดเล่นหรือเปล่าละครับ" เนคมาดูซัมกล่าวอย่างไม่พอใจขึ้นมา
              รัคชูมี่บอก "ฉันไม่ได้พูดเล่นๆ แม้ว่าชาตะกรรมของลิเนียร์ตี้นั้นจะต้องประสบกับความตาย จนทำให้เจ้าต้องพลอยรับเคราะห์จนเกือบเอาตัวไม่รอดไปด้วยก็ตามนะ เนคเกอร์" เนคมาดูซัมพอรู้ว่าตัวเองจะประสบเคราะห์แบบเดียวกันก็หน้าซีดลง นายแม่ควอเดี่ยมจึงปลอบใจไปว่า "แต่....ด้วยชาตะกรรมของเจ้ากับลิเนียร์ตี้นั้น แม้จะผ่านความตายมาได้ ก็ต้องกลับมาได้เช่นกัน หากแต่ต้องเจอกับการเผชิญหน้าที่ไม่คาดคิดกันด้วย ซึ่งมันขึ้นกับเจ้าแล้วน่ะ เนคเกอร์ ว่าเจ้าจะทำให้เรื่องมันลงเอยด้วยดีหรือเลวร้ายกันน่ะ"
              "แล้วพวกเราละครับ" พีวิลถาม
              รัคชูมี่กล่าว "ข้าคงไม่อาจจะมองอนาคตของพวกเจ้ากันได้หรอกน่ะ เพราะตราบใดที่พวกเจ้าไม่ได้เป็นคนลงมือให้ภาพที่ข้ามองเห็นในทีแรกซึ่งมืดมัวนั้น สามารถมองเห็นได้ชัดเจนกันเลยก็ตาม เพราะถ้าขนาดธรรมชาติยังมีผันแปรเปลี่ยนแปลงไปได้เช่นไร เรื่องที่เราคิดว่ามันต้องเป็นเรื่องดีก็ย่อมพลิกกลับเป็นเรื่องร้ายๆขึ้นได้เช่นกัน ต่อให้ข้ามีญาณทิพย์วิเศษแค่ไหน ข้าก็ย่อมมองภาพที่ไม่ตรงกับที่เกิดขึ้นมาได้อยู่แล้ว แม้ว่าในตอนนี้ พวกครีซีแทนพยายามทำเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นไปได้ขึ้นมา ซึ่งนั้นหมายถึง พวกครีซีแทนจะไม่มีใครหน้าไหนหยุดยั้งได้แน่นอน"
              "แสดงว่า เรื่องที่พวกครีซีแทนดัดแปลงจนสามารถเพิ่มพลังจากผลึกไครฟารินนั้นก็เป็นความจริงสิครับ" โคเคสบอก
              รัคชูมี่พยักหน้า "ข้าจะส่งศพของพวกครีซีแทนให้คนของพวกเจ้าวินิจฉัยและหาทางแก้ไขเอาไว้ ซึ่งข้าหวังว่าพวกเจ้าคงจะหยุดยั้งแลมซีนีไนซ์เอาไว้ให้ได้ แม้ว่านั้นจะหมายถึงพวกมันได้บุกดาวฤกษ์ทั้ง 18 ดวงของพวกแอตทาเวี่ยนกันเลยก็ตาม....ทุกอย่างขึ้นกับพวกเจ้าแล้วน่ะ โคเคส"
              "เข้าใจแล้วละครับ นายแม่" โคเคสบอก และทั้งหมดก็ลุกขึ้น
              รัคชูมี่กล่าว "ขอให้พวกเจ้ามีชัยเหนือแลมซีนีไนซ์และเหล่าครีซีแทนอีวิลกูลาร์กันด้วยน่ะ แล้วก็ ฟิเกซ เนคเกอร์ ขอให้โชคดีแล้วกันน่ะ" ฟิเกซพยักหน้าเช่นเดียวกับเนคมาดูซัมด้วย โดยได้ออกจากห้องเพื่อพาทั้งหมดกลับสู่แกรนด์เอ็กโซดัสอาร์คโดยเร็ว

              "นายแม่ครับ ท่านก็น่าจะรู้ดีแล้วนิครับ ว่าสเปียริทนั้นมีสถานะเป็น...." คูลิแนนซ์เดินเข้ามาถามรัคชูมี่ ซึ่งให้คำตอบไปว่า
               "....เจ้ายังเชื่อว่าสเปียริทเป็นเจ้าหญิงที่ถูกลืมเลยสิน่ะ แต่....ข้าไม่อยากจะทำลายขวัญกำลังใจของพวกโคเคสลงไปเพราะความจริงตรงนี้กันหรอก"
              "ทั้งๆที่เจ้าหญิงแอสเซนนั้น ถ้าเธอไปที่ไหน ที่นั้นต้องพบกับความย่อยยับกันนะครับ" คูริแนนซ์กล่าว
              รัคชูมี่ตอบ "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วทำไมโคเคสและพวกถึงมาอยู่ต่อหน้าข้าพร้อมกับสีหน้าที่เป็นปกติกันได้ละ นั้นก็แสดงว่า เรื่องที่เจ้าหญิงองค์สุดท้ายไปไหนต้องพบกับความวิบัตินั้นก็ไม่เป็นความจริงแน่นอน เป็นแค่เรื่องเล่าอ้างจากคนที่มีอคติและมองในแง่ร้ายเพียงด้านเดียวเท่านั้นเองน่ะ"
              "แต่ นายแม่เคยเป็นคนทำนายให้โอเวอร์เดสและโอเวอร์เรสกริ้วจนเกือบเอาชีวิตท่านไปแล้วนะครับ" คูลิแนนซ์กล่าว
              รัคชูมี่พยักหน้า "ข้าแค่เตือนพวกเขาให้แก้ไขปัญหาที่คาราคาซังกันมาตลอด 40 ปีกันแล้วน่ะ ว่าความที่พวกเขาเป็นแมนิเกเตอร์ที่ทรงพลังยิ่งกว่านั้นจะทำลายแรซัลก้าลงด้วยมือของพวกเขาเอง หาใช่ทำลายทุกเผ่าพันธุ์ในอวกาศกันไม่เลยน่ะ"
              "งั้นเรื่องที่ท่านทำนายให้กับท่านเนคเกอร์และลูกน้องที่มีสถานะเป็นเพรแคร์เดี่ยนนั้น ก็เป็นแค่โกหกงั้นละสิ" คูริแนนซ์ถาม
              รัคชูมี่ส่ายหน้า "....เปล่าเลย ข้ามองเห็นเงาหัวของลิเนียร์ตี้ค่อนข้างรางเรือนในช่วง 2 นาทีแรก ก่อนที่ฉันจะมองเห็นหน้าตาของลิเนียร์ตี้ที่อยู่ข้างใต้ขึ้นมาอย่างชัดเจน ซึ่งเนคเกอร์เองก็มีสภาพแบบนั้นเช่นกัน นั้นก็คือ เงาด้านหลังลางเลือนในช่วง 5 นาทีแรกแต่ก็กลับมาเด่นชัดขึ้นมาอย่างมาก เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าชาตะกรรมของทั้งคู่ ต้องผ่านความเป็นความตายกันเสียก่อน พวกเขาถึงจะกลายเป็นยอดนักรบที่แข็งแกร่งกันไปได้น่ะ" แล้วก็จิบชาไว้ก่อนจะวางแก้วลง "ตอนนี้ข้าอยากจะให้เจ้าไปเจรจากับลูกเผ่าที่เหลือ ซึ่งรวมถึงพวกแนชเชี่ยนและชาร์เมี่ยนกันด้วยน่ะ เพราะกำลังจากอินเวเที่ยนคงไม่พอแน่นอน"
              "รับทราบแล้วละครับ นายแม่" คูริแนนซ์กล่าว
              รัคชูมี่มองดูน้ำในแก้วชาของเธอก่อนจะพูดไปว่า "....ข้ายังไม่ได้บอกกับโคเคสกันเลยน่า ว่าแม้จะชนะสงครามนั้นไปได้ แต่....เขาต้องสูญเสียพวกพ้องคนสำคัญไปสอง โดยคนแรกต้องสิ้นสูญเพื่อสละชีพให้ส่วนมากไปต่อโดยไม่หวนกลับมากันอีก ส่วนคนที่สองนั้น ต้องเสียสละตนเพื่อความอยู่รอดของเผ่าแมนิเกเตอร์ทั้งหมดที่มีพวกเรารวมอยู่ของโคเคสไว้ ซึ่งนั้นเป็นชาตะกรรมที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้แน่นอน แม้กระทั่งข้าเองก็ตามน่ะ"

    โปรดติดตามตอนต่อไปในตอนที่ 27 ยุทธการช่วยเหลือชาวแอตทาเวี่ยน การตอบโต้ของโคเคสและฮาซาเดน
    ตอนหน้า แลมซีนีไนซ์ส่งครีซีแทนนักรบมนุษย์ไปโจมตียานของซารีทิสที่ควบคุมตัวทอมฮาซาเดนไปที่ดาวแม่ ซึ่งทำให้พวกโคเคสต้องร่วมมือกับแอสเทลน่าไปช่วยเหลือกันโดยเร็ว เพราะแลมซีนีไนซ์วางแผนรุกฆาตขึ้นมาแล้ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×