ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #51 : ตอนที่ 23 ปฏิบัติการณ์แรกกับพวกราศีสิงห์และเผ่าขาล ยุทธการปล้นรถไฟและรถบรรทุกสุดหฤโหด บทหยุดสองขบวน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 38
      0
      15 ก.ย. 64

              ขบวนรถไฟที่นำคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่แล่นไปตามรางรถไฟในเส้นทางหุบเขาไปอย่างรวดเร็ว "เหอะ ปานนี้พวกมันคงตามไม่ทันหรอกมั่ง" ครีซีแทนกราวนด์บิลเดอร์กล่าว
              อาร์มมี่หญิงบอก "แน่ละ เพราะพวกเรารู้เส้นทางไว้แล้ว น้ำหน้าอย่างพวกมันคงไปไม่ทันเวลากันได้หรอก" แล้วก็ติดต่อไปว่า "ขบวนรถบรรทุก ขับต่อไป พยายามหลอกล่อให้พวกมันติดตามผิดทิศทางกัน...."
              "โป้งงงงงง" เสียงปืนดังขึ้น โดยที่อาร์มมี่หญิงชะงักพร้อมกับรูที่อกซ้ายซึ่งปรากฎขึ้น แล้วก็... "หวือออ โครมๆๆๆๆ" ร่วงตกรถไฟไปอย่างจังๆ ซึ่งกราวนด์บิลเดอร์หันมาและหันกลับไปเห็น โฟรซ่ายืนซ้อนท้ายส่องยิงใส่อาร์มมี่จนร่วงไป โดยที่พวกเนคมาดูซัมแห่แหนตามมาด้วย "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมจัดการกราดยิงใส่กราวนด์บิลเดอร์ให้ร่วงลงไปอีกราย "เปิดได้สวยมากเลยน่ะ โฟรซ่า" คลอเวฟบอก
              โฟรซ่ากล่าว "เดียวพวกที่เหลือก็คงจะรู้แล้วละ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกที่อยู่ท้ายขบวนกันน่ะ"
              "จายด์ ขับอยู่บนๆไว้ เผื่อช่วยเก็บพวกไบค์เหล่านี้หากพวกเราโดดขึ้นขบวนรถได้กันน่ะ" สเตฟอร์ดแจ้งบอก
              จายด์กล่าว "เข้าใจแล้วละ แต่ยังไงก็ระวังด้วย เพราะเราคงไม่ได้เจอแค่ขบวนเดียวแน่นอนน่ะ" แล้วทั้งหมดก็ไล่กวดรถไฟไป โดยไม่รู้ว่า "แกร็กๆๆ" ขบวนรถไฟสงครามอีกสองขบวนที่จอดซุ่มอยู่ระหว่างทางได้เชื่อมทางรถไฟเพื่อแล่นตามมาอย่างรวดเร็ว จนเข้าล้อมพวกเนคมาดูซัมไว้
              "แจ่ม พวกมันกั้กไว้เพื่อเล่นงานเราจนได้วะ" คลอเวฟบอก โดยตอนนี้ตู้ขบวนรถไฟเปิดออกพร้อมกับอาร์มมี่ 5 นายออกมาเพื่อยิงกราฟคาไบน์เข้าใส่ "โป้งงง โป้งงง" คลอเวฟเลยนำอิมแพคบัคส์ออกมายิงขาของอาร์มมี่ให้กระจุยจนล้มเสียหลักไปสาม ในขณะที่อีกฝั่งนั้น "ตรุ้งงง ตรุ้ง ตรุ้งงงง" ลิเนียร์ตี้ส่องยิงอาร์มมี่ให้ล้มไป 2 ตน โดยที่โฟรซ่าหนุนช่วยด้วย "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" เดริงเจอร์แมกนั่มยิงเข้าที่ตาและปากของครีซีแทนอาร์มมี่จนพวกมันเจ็บตัวไป
              "ลงไปเลย" ฟันดิวเรคยืดแขนเข้าจับขาอาร์มมี่ที่อยู่ตู้ขวาให้ล้มกลิ้งไปกับพื้น ส่วนเฮเรเค้นก็ดึงพวกอาร์มมี่จากฝั่งซ้ายลงมาด้วย "ปู้นนนนนน" รถไฟสองขบวนด้านข้างเคลื่อนตัวแซงหน้าเพื่อให้ตู้ขบวนที่สามโผล่มา พร้อมกับป้อมปืนลำแสงที่หมุนกระบอกปืนหันมาไว้ "หึมมมมม แชดดดดดดด" โดยยิงมาทางเนคมาดูซัม "โบลท์รีเฟรคเตอร์" เนคมาดูซัมเลยใช้บาเรียสะท้อนลำแสงจากปืนของขบวนขวาไว้ ในขณะที่ขบวนซ้ายนั้น... "ตายซะ" ครีซีแทนที่คุมปืนใหญ่เตรียมจะยิง แต่... "ฟ้าววววว ตรูมมมม บรึมมมม" ป้อมปืนกลับถูกโจมตีจนระเบิดไป ซึ่งเป็นฝีมือจายด์นี้เอง
              "หนอยยย ยังมีพวกอีกหรือวะ" ครีซีแทนอาร์มมี่ยั้วะแล้วก็เตรียมยิงบาซูก้า "ฮึยยยย" ทอฟคานิคยกห่าก้อนหินขึ้นจากหุบเขาที่อยู่ไกลออกไปให้พุ่งเข้ามา "เอาไปเลยยย" แบร็อคและจายด์เลยทุ่มก้อนหินเข้าใส่ขบวนรถไฟขบวนขวาอย่างจังๆ ซึ่งก็... "ฟ้าวววว โครมมมม" เบลดคัตเตอร์ที่อยู่ในขบวนซ้ายถูกก้อนหินกระแทกทะลุเข้ามาจนหลังหักไป
              "เอากลับไปเลย" เนคมาดูซัมเลยสะท้อนลำแสงกลับคืนใส่ตู้ขบวนขวาจน "ตรูมมมมมม บรึมมมม" ตู้ขบวนระเบิดไปอย่างจังๆ
              "หนอยยย เตรียมตัวตายเสียเหอะ สปินนิ่งวิล...." เบลดคัตเตอร์ที่อยู่ในขบวนขวายิงกงจักรเข้าใส่ "โป้งงงงง" แต่ดันพูดและออกอาวุธช้าไปหน่อยเลยถูกคลอเวฟยิงจนอกเป็นรูเสียเอง "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ" "ปั้กๆๆๆๆๆ" เซเทธซัดลูกดอกเข้าพร้อมกับมีดสั้นของฟันดิวเรคปักคาอาร์มมี่จนแดดิ้นไปสาม อีกตนนั้นโดนเลอแชนซัดใบมีดโค้งกรีดเข้าที่ตาจนเสียการมองเห็นไปอย่างจังๆ "นี้แน่ๆๆ" บราไทน่า แบร็อค เรปไซท์ และไลเอิร์ทโยนระเบิดขวดเข้าใส่ตู้ขบวนรถไฟทั้งสองขบวน จนทำให้ไฟลุกไหม้อย่างจังๆ
              "แย่แล้ว ขบวนกลางจะสอยพวกเราแล้วละ" โฟรซ่าบอก เพราะเห็นอาร์มมี่มาพร้อมกับบาซูก้าไว้
              "ยิง" อาร์มมี่สั่งยิงบาซูก้าออกไปสามลูกด้วยกัน "ฟ้าวววววว" กระสุนบาซูก้าถูกยิงออกมาทีเดียวสามลูก หากแต่พวกมันไม่รู้เลยว่า คลอเวฟ สเตฟอร์ดและเนคมาดูซัมขับมาใกล้ๆกัน "ฟ้าว ป้าก" คลอเวฟเลยรีบตบบาซูก้าลูกที่มาฝั่งตนให้ออกด้านข้างจน "ตรูมมมมม" เป่าระเบิดขบวนฝั่งซ้ายจนเหลือหัวขบวนไว้ "ฟ้าวววววววว หมับบบบ" สเตฟอร์ดจับลูกที่มาทางตนไว้ด้วยมือซ้าย แล้วก็ "หวับๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมมม บรึมมมม" เขวี้ยงไปยังหัวขบวนให้ระเบิดเต็มๆจนขบวนฝั่งขวาต้องหยุดชะงักไปเต็มๆ แล้วก็ลูกที่มาทางเนคมาดูซัมนั้น "ไม่ใช่ของพวกเรา เอาคืนไปเลย" เนคมาดูซัมใช้สองมือคว้าจับกระสุนบาซูก้าแล้วก็โยนกลับไป "ตรูมมมมมมม" เป่าพวกอาร์มมี่ที่ยิงบาซูก้าจนกระเจิงไปทั้งสี่นายด้วยกัน
              "ดีนะที่บาซูก้ามันยิงกระสุนออกมาไม่เร็ว ไม่งั้นพวกเราเสร็จแน่ๆเลยวะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ต่อไปก็ตาพวกเราปล้นรถไฟกันแล้วละ" แล้วก็เร่งเครื่องนำทีมไปยังท้ายขบวน จากนั้นก็ปรับเป็นโหมดอัตโนมัติ โดยที่ลิเนียร์ตี้และโฟรซ่าโดดขึ้นขบวนรถก่อน "หวับๆๆๆ ปั้ก" โฟรซ่าเลยนำแท่งเหล็กมาเสียบกับพื้นขบวนเอาไว้ "แมกเนตโรป ชู้ต" เนคมาดูซัมยิงลำแสงแม่เหล็กเข้าตรึงกับแท่งเหล็กที่โฟรซ่าปักยึดไว้ ซึ่งพวกเฮเรเค้นที่ตามหลังมารีบต่อขบวนไว้โดยเร็ว แล้วก็โดดขึ้นขบวนรถไฟกันทั้งหมด โดยที่เนคมาดูซัมปรับให้โฮฟไบค์เหล่านี้แล่นไปจอดกลางทางไว้
              "พวกมันบุกขึ้นมาได้แล้วละครับ" กราวนด์บิลเดอร์ติดต่อไป
              นายกองจึงสั่งการให้ "ตัดขบวนทิ้งไปซะเดียวนี้เลย" ไม่รอช้า ครีซีแทนงานก่อสร้างรีบรุดเข้าใช้แขนสว่านเพื่อเจาะตัวเชื่อมขบวนให้ขาดจากกัน แต่ "ปังๆๆๆๆๆๆ" โฟรซ่าและลิเนียร์ตี้ยิงเดริงเจอร์แมกนั่มสอยให้ร่วงไป เบลดคัตเตอร์ 7 ตนเลยรีบรุดตามมา "ฟ้าววว ป้ากกก โครมมม เปรี้ยงงง" ดิเรนท์ วูลเฟลล่า ไลเอิร์ท แบร็อค เฮเรเค้น บราไทน่าและเรปไซท์กระโจนเข้าเล่นงานเบลดคัตเตอร์ด้วยกงเล็บและดาบอย่างรวดเร็ว โดยที่คลอเวฟ เนคมาดูซัม สเตฟอร์ดรีบรุดไปตามขบวนรถ ซึ่งหัวขบวนส่งพวกแอร์ฟอสเข้ามา "แชดๆๆๆๆๆๆ" ยิงเลเซอร์ลงมาเล่นงานพวกเฮเรเค้นจากกลางอากาศอย่างจังๆ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สเตฟอร์ดและเนคมาดูซัมกราดยิงใส่พวกแอร์ฟอสที่บินเข้ามาจนร่วงไป 3-4 ตัวด้วยกัน กราวนด์บิลเดอร์เลยบุกเข้ามาพร้อมกับยิงก้อนหินขนาดใหญ่ให้พุ่งออกไป "วอเตอร์เวฟ" คลอเวฟเลยซัดพลังคลื่นน้ำอัดทำลายก้อนหินและพุ่งเข้าเล่นงานกราวนด์บิลเดอร์ไปอย่างจังๆ
              "รีบทำลายตู้ขบวนนั้นโดยเร็วเลย" ครีซีแทนแอร์ฟอสสั่ง และบินตรงไปเพื่อใช้สว่านติดปลายปืนเจาะ แต่... "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ลิเนียร์ตี้ยิงใส่พวกแอร์ฟอสให้บินหลบหลีกไป "หนอยยย น่ารำคาญมากนักนะ เตรียมตัว..." แอร์ฟอสตนหนึ่งยั้วะและเตรียมจะยิงลิเนียร์ตี้ หากแต่ตนดันบินสูงเกินจน "โป้งงงงง" หัวโขกเข้ากับโครงสะพานด้านบนไปเต็มๆ และร่วงลงมา "ป้างงง ป้างงง" โดนโฟรซ่าส่องยิงจนตาแตกทะลุไปหลังหัวพร้อมกับเพื่อนอีกตนด้วยกัน ส่วนที่เหลือนั้น "เหวออออ ป้ากกกก โครมมม เปรี้ยงงง" ก็ชนกับปากอุโมงค์ลอดภูเขาไปเสียเองเพราะมัวเล็งมาที่พวกเนคมาดูซัมนจนไม่มองตัวเองว่ากำลังบินมาถึงทางลอดหุบเขากันแล้ว
              "โอ้ว แลมซีนีไนซ์เกณฑ์พวกสมองกลวงมาด้วยหรือวะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "เปล่าเลย พวกนั้นแค่ไม่ฉลาดและโฟกัสไปที่พวกเรามากเกินไปหน่อยน่ะ รีบไปที่คอนเทนเนอร์เลยดีกว่า" แล้วทั้งหมดก็มายังคอนเทนเนอร์ที่ติดขบวนตู้ที่สามไว้ "แกร็งงงง" คลอเวฟเลยใช้แองเกอร์แอ็กซ์ทำลายล็อกคอนเทนเนอร์จนพังและเปิดตู้ออกมา ซึ่งก็ต้องตกใจไม่น้อย
              "โอ้ว เนคมาดูซัม เหล่านี้ถือเป็นเสบียงได้หรือเปล่าวะ" คลอเวฟถาม เพราะที่เห็นในตู้นั้นมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก หากแต่ผู้คนบางคนนั้น สวมเสื้อสีขาว ผู้ชายใส่กางเกงสีดำเข้ม ผู้หญิงใส่กระโปรงยาวสีดำเอาไว้ บางคนเป็นมนุษย์หากแต่มีผิวกายสีขาวไม่ถึงกับซีดมากนัก บางคนมีแขนขาเป็นแขนหุ่น เช่นเดียวกับมีหูติดเสาอากาศ สวมหมวกโดยเห็นส่วนผมติดไว้ด้วย
              "พวกนี้ นั้นมันชาวซัลคาเลี่ยนนิน่า" เนคมาดูซัมบอก
              สเตฟอร์ดบอก "พวกนี้นะหรือ พลเมืองแมนิเกเตอร์ภายใต้การปกครองของโอเวอร์เรสกันน่ะ แต่ แต่ทำไมชาวเมืองที่ควรจะอยู่ที่แรซัลก้าถึงมาอยู่นี้ได้ละเนี้ย"
              "ถ้าให้เดา ฉันคิดว่าพวกครีซีแทนจับชาวซัลคาเลี่ยนมาเป็นทาสรับใช้เสียเองแล้วละ" เนคมาดูซัมสรุป
              โฟรซ่ากล่าว "ไม่แปลกใจแล้วละ เพราะครีซีแทนถูกใช้เป็นทาสมานาน พอพวกนั้นมีโอกาสก็เอาคืนเสียบ้างน่ะ"
              "แล้วพวกที่มีแขนขาเป็นจักรกลนั้น ถือเป็นซัลคาเลี่ยนด้วยหรือวะ" คลอเวฟถาม
              ลิเนียร์ตี้บอก "พวกนี้คือ ลิมฟ่าซัลคาเลี่ยน เป็นชาวซัลคาเลี่ยนมนุษย์หุ่นยนต์ โดยพวกเขามีแขนขาเป็นจักรกลได้สองทาง คือเป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือเป็นชาวซัลคาเลี่ยนที่อวัยวะใช้การไม่ได้เลยทดแทนด้วยอวัยวะเทียมและจักรกลเหมือนอย่างที่เห็นนะคะ"
              "ว่าแต่ พวกคุณมานี้เพื่อช่วยพวกเรานะหรือ แต่คงไม่ให้พวกเราใช้แรงงานกันหรอกนะครับ" ชาวซัลคาเลี่ยนผมสีทองแดงกล่าว
              สเตฟอร์ดบอก "แล้วว่าแต่ พวกคุณถูกพวกครีซีแทนใช้แรงงานกันยังไงละ"
              "พวกเราถูกพวกครีซีแทนสั่งให้ขุดเจาะเหมืองหาแร่ที่พวกมันต้องการ พอเราหามาไม่ทันหรือหามาไม่ตรงที่พวกมันต้องการ ก็โดนรุมทำร้ายเอานะคะ" หญิงชาวซัลคาเลี่ยนที่มีแขนกลทั้งสองข้างกล่าว "แม้พวกเราจะมีแขนขากลที่ทำให้งานเดินไว แต่พวกครีซีแทนกลับให้พวกเรากินข้าวได้น้อย โดยตอนนี้พวกเราทั้งหมดกำลังจะถูกส่งไปพร้อมกับอาวุธที่พวกมันสร้างไว้นะคะ"
              เนคมาดูซัมบอก "สรุปคือพวกคุณเป็นชาวซัลคาเลี่ยนเดิมสิน่ะ แต่แขนขากลนั้น หากไม่มีหมอที่ชำนาญการ ก็คงติดตั้งและผ่าตัดไม่ได้กันหรอก"
              "เพราะอย่างงั้นแหละคะ พวกครีซีแทนเลยไปพาพวกหมอเดเมี่ยนมาดูแลพวกเราให้พร้อมทำงานกันแล้วครับ" ชาวซัลคาเลี่ยนชายอีกคนบอก
              เนคมาดูซัมได้ฟังก็สบถขึ้นมา "เดเมี่ยนนะหรือ โอ้ว ไอ้พวกครีซีแทน..."
              "ว่าแต่ หมอเดเมี่ยนเก่งมากเลยหรือ พวกครีซีแทนถึงต้องไปจับตัวมากันน่ะ" โฟรซ่าถาม
              ลิเนียร์ตี้ตอบ "หมอเดเมี่ยนเป็นหมอลิมฟาซัลคาเลี่ยน ซึ่งไม่เพียงสามารถรักษาชาวซัลคาเลี่ยนปกติให้หาย แต่ยังช่วยดูแลพวกครีซีแทนและลิมฟาซัลคาเลี่ยน รวมถึงจัดการติดตั้งแขนขากลให้แมนิเกเตอร์ที่เสียแขนขาเอาไว้ โดยรวมแล้ว เขาเป็นหมอที่มีฝีมือการรักษาแมนิเกเตอร์แบบชีวภาพกับจักรกลในตัวนะคะ"
              "แล้วหมอคนนั้นอยู่ขบวนนี้หรือเปล่าละ" สเตฟอร์ดบอก
              ลิมฟาซัลคาเลี่ยนชายที่มีตาคาเมร่าถึงสองตาบอก "หมออยู่รวมกับพวกแพทย์ที่อยู่ตู้ขบวนถัดไปอีก 2 ขบวนนะครับ"
              "เบย์แทนด์ เราต้องการเฮฟไดซ์มาช่วยนำตัวประกันเหล่านี้ออกไปโดยเร็วน่ะ" คลอเวฟบอก
              เบย์แทนด์กล่าว "คงยากนะครับ เพราะผมสแกนตู้รถไฟที่พวกคุณอยู่ด้วยแล้ว พบว่า นอกจากจะมีการขนตัวประกันถึง 5 ตู้ขบวนแล้ว ตู้ขบวนด้านหน้าอีก 5 ขบวนนั้นล้วนเป็นขบวนติดอาวุธอย่างป้อมปืนเลเซอร์ โดยที่มีป้อมมิไซล์ต่อต้านอากาศยานไว้ด้วย ซึ่งพวกคุณต้องรีบทำลายก่อนเพื่อให้พวกเราขนย้ายตัวประกันไปได้นะครับ"
              "ช่วยไม่ได้ เราต้องรีบจัดการกับตู้ขบวนนั้นให้ราบคาบไปซะเดียวนี้แล้วละ" เนคมาดูซัมบอก "เบย์แทนด์ แล้วฝั่งพีวิลล่ะ"
              เบย์แทนด์ตอบกลับมา "ตอนนี้กำลังไล่กวดกองรถบรรทุกกันอยู่นะครับ"

              "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" อาร์มมี่ที่ยืนอยู่บนรถบรรทุกจำนวน 8 คันกราดยิงใส่พีวิลที่ไล่กวดตามมา โดยที่ส่งรถจี้บจำนวน 10 คัน ขับแบบถอยหลังเพื่อให้ทหารอาร์มมี่เตรียมยิงด้วยบาซูก้า "แชดดดดดด เปรี้ยงงง" มาสวาร์ทาร์ยิงครอสเซียมไรเฟิ่ลเป่าใส่อาร์มมี่จนล้มลง แล้วก็ "แชดดดดด" จิลยิงจีเลเซอร์กันเข้าเล่นงานคนขับลงจนทำให้รถจี้บล้มคว้ำไปอย่างจังๆ "ฟิ้วววว ฟิ้วววว ฟิ้ววววว" สเปียริทเลยยิงแฟลชแอร์โรวเข้าใส่รถจิ้บจนถูกคนขับไปถึงสามคัน ซึ่งก็ทำให้รถเสียการทรงตัวไป "โครมมมม โครมมมม ตรูมมมม" และชนกันเองจนระเบิดไป "ฟ้าววววว ฟ้าววววว" เจเนลและพีวิลเลยบึ่งทะยานขึ้นมาพร้อมกับ "หึมๆๆๆๆๆ แชดดดดด ฟ้าวววว ตรูมมมมมม" เจเนลยิงใส่รถจี้บที่อยู่เบื้องล่างจนระเบิดไปคันหนึ่ง ส่วนพีวิลนั้น "เอนเนอจี้โบลท์" ซัดลูกพลังลงไปจน "พรึ่บบบ โว้ววววว" เผาพวกอาร์มมี่กับรถจี้บจน "ตรูมมมม" ระเบิดไปพร้อมกับคันที่ถูกเจเนลยิงจนร่วงไป "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าววววว" พวกครีซีแทนนำโฮฟไบค์ออกมาจากด้านหลัง ไล่กวดพวกพีวิลไปด้วย
              "ดูเหมือนว่าพวกครีซีแทนจะรับมือเรามาดีแล้วละ" พลัสเชอริทบอก
              "เรารู้ดีแล้วละ ว่าเรื่องไล่โจมตีกองเสบียงมันไม่มีทางง่ายแบบนี้หรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยตอนนี้พวกโฮฟไบค์ควบไล่ขนาบข้างโดยที่เบลดคัตเตอร์ใช้สแลชคลอว์ฟันใส่ "ฉึกกก ฉั้วะ" แต่มาสวาร์ทาร์แทงใส่คนขี่แล้วดึงออกมาฟันใส่เบลดคัตเตอร์จนคอถูกกรีดลง และรถก็ล้มคว้ำจน "ตรูมมมม" ระเบิดไปไม่ว่ายังเป็นตัวกีดขวางให้ "หวือออ โครมมมม โครมมม" พลขี่โฮฟไบค์สองตนเลี้ยวโค้งจนเทกระจาดมาให้พวกที่ตามหลังชนเข้าให้ ตัวที่สามนั้นบึ่งทะยานข้ามโฮฟไบค์ที่ไหม้ไฟขึ้นมา แต่ก็... "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมมม" โดนพีวิลกราดยิงอาร์มชู้ตเตอร์จากใต้ท้องรถจนระเบิดไปเอง "ฟ้าววววว" คันหนึ่งบุกเข้าขนาบข้างไซโคลเนีย พีวิลและเจเนลไว้ "ตาย!!!" อาร์มมี่เสยดาบปลายปืน หมายจะแทงใส่รถของพีวิลและสเปียริท แต่พีวิลโยกหลบออกมาก่อนพร้อมกับโยกกลับมา "หมับบบบ" คว้าจับกราฟคาไบน์แล้วก็ "ลงไป" กระชากให้อาร์มมี่ร่วงตกรถลงไปกลิ้งคลุกฝุ่นลง โดยที่สเปียริทใช้หอกของเธอโต้ตอบดาบปลายปืนของอาร์มมี่ที่ซ้อนท้ายรถคันซ้ายมา จน... "ฉึกกก" แทงถูกตัวรถจนโฮฟไบค์ขาดสองท่อนและทำให้คนขับและผู้ซ้อนล้มลงไปกองกับพื้นเต็มๆ ส่วนเจเนลเองก็ทำเช่นกัน หากแต่ "ฟ้าวววว โครมมม" โยกกลับมาพร้อมกับถีบให้โฮฟไบค์ของครีซีแทนล้มคว้ำไปเต็มๆ แต่พวกอาร์มมี่เตรียมยิงจากข้างหลัง "ไซโคบิท โปรเทคโหมด" จิลเลยใช้พลังจิตควบคุมไซโคบิทรวบเป็นโลห์ป้องกันไว้พร้อมกับ "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงเลเซอร์เข้าใส่พวกครีซีแทนที่ลอบกัดจากข้างหลังให้ร่วงระนาว "ฟึ่บๆ" อาร์มมี่เสยแทงดาบปลายปืนสองข้างพร้อมกัน แต่ไซโคลเนียเอียงตัวหลบออกมาพร้อมกับ "ฉั้วะๆ" ใช้แอร์ฟอสคัตเตอร์ฟันทำลายปืนทิ้ง แล้วก็ "วินด์สแลช" ซัดคมมีดสายลมกรีดตัดโฮฟไบค์ขาดเป็นสองซีกจน "ตรูมมม บรึมมมมม"
              "ปังๆๆๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดดด แชดดดดด ตรุ้ง ตรุ้ง ตรุ้งงงง" พวกครีซีแทนที่ไล่กวดตามหลังมาก็กระหน่ำโจมตีกันอย่างหนักหน่วง "ตรูมมม ตูมๆๆๆๆ บรึมมม บรึมมม บรึมมมม" จนพวกพีวิลและพลัสเชอริทต้องเร่งเครื่องหนีออกมาอย่างโดยเร็ว แถมยังมีรถจี้บขับพุ่งเข้ามาโดยที่เปิดเอาใบเลื้อยออกมา "หวือออ หวือออ หวือออ หวืออออ" พวกพีวิลเลยโยกหลบหลีกการพุ่งชนของรถจี้บติดใบเลื้อยเอาไว้จน "โครมมมม ป้ากกก ตูมมมม" ชนกับพวกโฮฟไบค์ร่วงไปเต็มๆ "ย้า" ทินเหมาลีปล่อยกระสุนพลังเข้าทำลายรถจี้บตรงฐานล้อจนรถเสียการทรงตัวจน "โครมมม โครมมมม โครมมมม" กลิ้งกระดอนมาทางบรอนเซอรูทไว้ "ฝ่ามือมังกรปฐพี สองหัตถ์แยกภูผา" บรอนเซอรูทเลยปรับให้รถขับเคลื่อนอัตโนมัติเพื่อใช้สองฝ่ามือพุ่งเข้า "ฟ้าวววว ฉึกก" จนเกิดพลังรูปฝ่ามือขนาดใหญ่ทิ้มรถจิ้บไว้ "ว้ากกก" "โครมมมม" แล้วก็สบัดฝ่ามือออกด้านข้างจนรถจี้บที่ลอยอยู่ ขาดสะบั้้นเป็นสองท่อนจน "โครมมมม ป้ากกก ป้ากกกก ตรูมๆๆๆ" ท่อนด้านหน้าชนกับโฮปไบค์พังไปสามเครื่อง ท่อนด้านหลังกระเด็นไปเล่นงานโฮฟไบค์ร่วงอีก 4 หน่วยด้วยกัน "ดูเหมือนว่าพวกครีซีแทนจะประจำอยู่รถบรรทุกแบบสิบล้อกันแล้วละ" บรอนเซอรูทบอก
              เจเนลกล่าว "และพวกมันคงต้องขนทุกอย่างที่พวกมันผลิตไปได้นั้น เอาไปใส่ไว้ในคอนวอยสามคันเป้งนี้แน่ๆเลยละ" โดยชี้มายังคอนวอยสามคันที่อยู่ด้านหน้าสุดไว้
              "ถ้าอาวุธที่พวกมันสร้างและผลิตมานั้นใส่ไว้ในคอนเทนเนอร์ที่แข็งแกร่งมากเช่นนี้ เรื่องความเสียหายจากการโจมตีของพวกเราคงไม่น่ามีปัญหา แต่มันจะดีมาก หากเราทำให้มันเสียหลักไปเองน่ะ" พีวิลบอก
               มาสวาร์ทาร์บอก "ไม่เวิร์คหรอก พีวิล ตะกี้นี้นายก็เห็นแล้วนิ ว่าบรอนเซอรูทและทินเหมาลีเกือบตายเพราะเล่นเจาะยางรถกันเลยน่ะ"
              "แน่ละ เพราะเราไม่อยากจะโดนคอนวอยเทกระจาดบดขยี้เอาได้เลยน่า" จิลบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "ตอนนี้ที่เราควรทำก็คือ ต้องรีบบุกไปยังคอนวอยกันโดยเร็วนะ" แล้วก็ส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ในโฟร์ทโบทเกี่ยวกับเส้นทางของพวกครีซีแทนไป "เพราะอีก 450 กิโลเมตรต่อจากนี้จะไปถึงสะพาน ซึ่งมีพวกครีซีแทนเฝ้าอยู่ฝั่งตรงข้าม ถ้าเราไปช้าหรือไปไม่ทัน รถบรรทุกจะตรงดิ่งไปยังท่าอวกาศยาน และทุกอย่างจะจบเห่ลงทันทีเลยน่ะ"
              "แล้วรถไฟเองก็ด้วยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              พลัสเชอริทบอก "ขบวนรถไฟจะไปถึงในเวลาไล่เลี่ยงกัน ซึ่งหวังว่าเนคมาดูซัมและพวกคงจะหยุดยั้งได้ทันบ้างน่ะ"
              "งั้นเรารีบไปก่อนเลยดีกว่า" พีวิลกล่าว แล้วทั้งหมดก็รีบรุดไปโดยเร็ว ซึ่งรถบรรทุกสิบล้อเปิดตู้บรรทุกออกมาเผยให้เห็น
              "นะ นั้นอะไรกันน่ะ" บรอนเซอรูทกล่าวโดยที่เห็นหุ่นขนาดเท่าจายด์หากแต่เป็นลักษณะของหุ่นยนต์เสียซะมากกว่า แถมมีส่วนหัวแบบหมวกติดไวเซอร์ตัวทีไว้ โดดลงจากรถบรรทุกลงมาพร้อมกับใช้ส่วนล้อด้านข้างขับเคลื่อนไว้
              "นั้นคงเป็นไดร์ฟอาร์มเมอร์ที่พวกครีซีแทนพูดถึงจายด์ตอนที่อยู่เอสเปรโด้แน่ๆเลยละ" จิลบอก
              พีวิลกล่าว "แต่ตัวโตกว่าแบบนี้แสดงว่าครีซีแทนคิดจะใช้มันเพื่อจัดการกับพวกเราแน่ๆละ" ไดร์ฟอาร์มเมอร์ก็พุ่งลงจากรถพร้อมกับพุ่งชกเข้าใส่โฮฟไบค์ของพีวิล แต่พีวิลโยกหลบออกมาได้ก่อน "แชดดดด แชดดดด แชดดดด" ไซโคลเนียและมาสวาร์ทาร์ยิงใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ด้วยปืนแสง แต่นอกจากจะไม่ระคายผิวแล้ว ครีซีแทนที่ควบคุมก็หันมา "แชดดด แชดดด แชดดด" ยิงกระสุนแสงออกจากส่วนแขนปืนข้างซ้าย โดยที่เจเนลรีบโยกหลบออกไป "สปาร์คช็อค" และยิงกระสุนไฟฟ้าทำให้ไดร์ฟอาร์มเมอร์ชะงัก แต่ก็ได้แค่ชั่วขณะหนึ่ง "เอนเนอจี้โบลท์" พีวิลเลยปล่อยกระสุนพลังเข้าตรงหน้าอกไดร์ฟอาร์มเมอร์ไปบ้าง แต่ก็ทำให้ผงะไปแค่นิดเดียวเอง "ฟ้าวววว" แล้วมันก็พุ่งเข้ามาเพื่อชกใส่มาสวาร์ทาร์ แต่... "ฟ้าวววววววว" มาสวาร์ทาร์เร่งเครื่องไปเต็มแรงผ่านไดร์ฟอาร์มเมอร์ไปอย่างจังๆ
              "หึๆๆๆ คิดหนีนะหรือ ไม่มีทางกันเสีย..." ครีซีแทนกล่าวและหันมา แต่... "ฉึบบบบบ" ท่อนบนที่ครีซีแทนควบคุมอยู่นั้นหมุนโดยท่อนล่างยังไม่ขยับตาม ทั้งนี้ เพราะมาสวาร์ทาร์โจมตีก่อนด้วย
              "แม้จะเสี่ยงกับการใช้เอดจ์สแลชเชอร์จัดการเลยก็ตาม แต่นั้นก็คุ้มแล้วละ" มาสวาร์ทาร์เบลดที่เรืองแสงเอาไว้ ซึ่งพลังแสงที่เคลือบดาบก็ดับวูบลงพร้อมกับถูกเก็บไว้ในฟักดาบของมาสวาร์ทาร์ตามเดิม แต่ก็...
              "นึกหรือว่าจัดการกับพวกเราที่ใช้ไดร์ฟอาร์มเมอร์ลงได้นั้น จะหยุดพวกเราไปได้น่ะ ไอ้โง่" ทหารครีซีแทนนำไดร์ฟอาร์มเมอร์ออกมา โดยมีตัวหนึ่งที่มีส่วนแขนเป็นหนามสว่านสามอัน ส่วนตัวหัวหน้านั้นมากับส่วนแขนปืนที่ยาวพร้อมกับติดป้อมมิไซล์ไว้ด้วย ซึ่งไดร์ฟอาร์มเมอร์ 5 ตัวก็แล่นด้วยระบบล้อเลื่อนใต้เท้าไว้
              "ตายซะ" ไดร์ฟอาร์มเมอร์ปกติพุ่งชกเข้าใส่บรอนเซอรูทและทินเหมาลี แต่ทั้งคู่ก็รีบโยกหลบออกมาได้ก่อน อีกตัวนั้นบุกเข้ามาเล่นงานพีวิลและสเปียริท แต่ "โฮลด์เซอเคิ้ล" สเปียริทตรึงไดร์ฟอาร์มเมอร์ให้ชะงักงันจน "ป้ากกก โครมมม" ให้พีวิลชกด้วยฮาร์ดนัคเคิ้ลจนขาขวาขาดกระจุยและล้มลงเสียหลักไป จนตัวแรกบุกเข้ามาเพื่อชกซ้ำ "ฟรีซสแปรชเชอร์" จิลยิงกระสุนน้ำแข็งเข้าแช่แข็งขาขวาจนทำให้มันล้มเสียหลักลง และเปิดช่องให้... "มีเดี้ยมมิไซล์ ยิง" ไซโคลเนียยิงมิไซล์จากแขนทั้งสองข้างเข้าทำลายไดร์ฟอาร์มเมอร์ที่ล้มจนระเบิดลง ไดร์ฟอาร์มเมอร์แบบแขนสว่านก็ซัดหัวสว่านติดโซ่พุ่งเข้าใส่บรอนเซอรูท แต่บรอนเซอรูทก็รีบโยกหลบออกมา โดยที่มันรีบดึงส่วนมือกลับ "ฉั้วะ" เจเนลใช้เมทัลเบลดตัดสายสลิงจนขาดสะบั้น พร้อมกับ "ฝ่ามือคลื่นมังกรทอง" บรอนเซอรูทซัดคลื่นพลังเข้าใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์จนเป่าส่วนหัวหลุดอย่างจังๆ แต่ก็หาได้หยุดไดร์ฟอาร์มเมอร์แบบแขนหนามไปได้ และยังมีอีกตัวบุกเข้ามาหมายเล่นงานพลัสเชอริท ซึ่งตัวหัวหน้านั้นก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ระดมยิงมิไซล์และปืนยาวยิงต่อเนื่องเข้าใส่ไปอีก
              "ช่วยไม่ได้ ต้องจัดหนักกันเดียวนี้แล้วละ" พีวิลบอก
              "ได้อยู่แล้วละ บิท แอทแทค" จิลใช้ไซโคบิทพุ่งเข้าโจมตีใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ของตัวหัวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไซโคบิทก็พุ่งหลบหลีกมิไซล์ที่ปล่อยออกมาได้อย่างรวดเร็วและ "แชดๆๆๆๆๆ" ระดมยิงใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ด้านบนจนทำให้ส่วนป้อมมิไซล์ระเบิดไปพร้อมกับส่วนหัวอย่างจังๆ "เฟรมบลัสต์" เจเนลยิงกระสุนเพลิงเข้าใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ติดแขนหนามที่ปราศจากส่วนหัว จนไฟครอกตัวครีซีแทนไปอย่างจังๆ และ... "แชดดดด ตรูมมม" โดนสเปียริทยิงลำแสงกระจายจากส่วนลูกแก้วสาดใส่จนระเบิดไป อีกตัวนั้นพยายามจะเล่นงานพลัสเชอริท แต่... "แฟงค์สไลเซอร์" พลัสเชอริทซัดดาวกระจายออกจากกระจกหน้าออกไป "กรี้กกกกกกกกกก กรี้กกกกกกกกกก" "ป้ากกกก" ไถลใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์แขนหนามที่ด้านหน้าจนล้มเสียหลักลง "ซุพรีมบลัสต์" พีวิลปรับระบบให้รถขับเคลื่อนอัตโนมัติเพื่อที่จะโจมตีด้วยกระสุนพลังขนาดใหญ่เข้าใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์แขนหนามจนระเบิดไป ครีซีแทนตัวหัวหน้าเลยรีบยิงปืนยาวเข้าใส่
              "งานนี้พังไปคันหนึ่งไม่เสียหายกันบ้างน่ะ" ไซโคลเนียบอก
              "วางใจได้น่า ไซโคลเนีย เพราะยังไงเสียเธอก็ไม่ต้องใช้โฮฟไบค์กันอยู่แล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              ไซโคลเนียพยักหน้าก่อนจะบิดคันเร่งให้ "วึงๆๆๆๆ ฟ้าววววว" พุ่งเข้าใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ตัวหัวหน้า ซึ่งเห็นไซโคลเนียดับเครื่องชนมาก็รีบกระหน่ำยิงใส่ แต่ "ซูมมมมมมมม" ไซโคลเนียใช้เจ็ทแพ็คเร่งจังหวะสองให้โฮฟไบค์พุ่งเร็วขึ้นกว่าเดิม จน... "ฟ้าววววว โครมมมมม" หัวโฮฟไบค์พุ่งเจาะเข้าตรงด้านหน้าไดร์ฟอาร์มเมอร์ไปอย่างจังๆ โดยที่ไซโคลเนียบินหลบออกมาและ... "ฟึ่บบบ ฟึ่บบบ" นำกระบอกจรวดยาวสองอันที่ติดด้านหลังออกมา โดยยืดกระบอกยาวให้กลายเป็นจรวด "มาโครมิไซล์ ชู้ตตตต" แล้วก็ซัดจรวดยาวสองอันพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว "ฟ้าวววววว ฟ้าวววววว ตรูม ตรูมมมม บรึมมมมมม" และเป่าระเบิดใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ไปพร้อมกับโฮฟไบค์จนระเบิดแดดิ้นลงไป จากนั้นก็บินนำพวกพีวิลให้บุกเข้ามายังหัวรถคอนวอยไว้ "ฟ้าวววว โครมมมมม" ไซโคลเนียบุกเข้าจัดการกับพลขับครีซีแทนด้วยการชกเข้าที่ข้างหัวและดึงตัวออกจากรถจนร่วงลงไปกลิ้งกับพื้นไปหลายตลบด้วยกัน จากนั้นก็... "โครมมม โครมมม ป้ากกก" เข้าไปในหัวรถพร้อมกับเล่นงานครีซีแทนอีกตนที่นั่งมาจนร่วงตกรถไปอีก แล้วก็เข้ามาควบคุมรถไว้ โดยใช้เท้าเหยียบเบรค "ปู้นนนนน บรืนนนนนน โครมมมม" แต่ดันไปเหยียบคันเร่งเสียเอง จนชนท้ายคันที่สองไปอย่างจังๆ
              "ไม่ใช่หรือเนี้ย งั้นก็ต้องชะลอความเร็วแล้วกัน" ไซโคลเนียเลยต้องเหยียบครัชเพื่อเปลี่ยนเกียร์ให้ต่ำลงโดยเร็ว จนทำให้คอนวอยคันท้ายไปช้าลง พีวิลและเจเนลเลยเร่งเครื่องไปที่คอนวอยคันที่สาม ส่วนพลัสเชอริทก็เอาโฟร์ทโบทไปจอดเทียบกับคอนวอยคันที่สอง เพื่อให้ตนเข้าไปควบคุม แต่ครีซีแทนที่เป็นพลขับโผล่มาพร้อมกับจ้วงดาบปลายปืน "หมับบบบ โว้ววว" แต่โดนโมคุโตะจับกระบอกปืนและดึงให้ลงมากระแทกกับพื้นโฟร์ทโบท "โครมมม" แล้วก็ชกซ้ำตรงด้านหลังของครีซีแทนทหารจนล้มแน่นิ่ง กริมเบอรี่ก็กระโดดถีบใส่อีกตัวที่นั่งติดกันจนร่วงตกรถไปด้วย เพื่อให้พลัสเชอริทโดดเข้ามา "ฟึ่บบ แกร็กกก" ใช้ดรรชนีทิ้มเข้าตรงระบบคอมพิวเตอร์และทำการยึดระบบควบคุมเอาไว้ "ฟ้าววว แกร็กกก" มาสวาร์ทาร์เอาโฮฟไบค์เชื่อมต่อกับคันของเจเนลและพีวิลไว้ โดยให้ทั้งคู่กระโดดขึ้นไปยังหัวคอนวอยคันที่สาม ซึ่งเจเนลไต่ขึ้นข้างบนไว้ พีวิลจัดการกระชากประตูออก แต่ครีซีแทนคนขับรีบนำปืนออกมา "ฮึยยยย" "เปรี้ยงงง" เจเนลที่อยู่ด้านบนเลยลงมาถีบใส่อีกด้านจนอัดผู้โดยสารที่นั่งใกล้ๆอัดกับคนขับไปเต็มๆ จนร่วงลงกับพื้นกลิ้งกระเด็นกระดอนไป ซึ่งคอนวอยคันที่สามก็โดนยึดไปแล้ว
              "เบย์แทนด์ เช็คคอนเทนเนอร์บนคอนวอยสามคันได้มั้ยละ" พีวิลกล่าว
              เบย์แทนด์ได้นำยานแรคแทซบินมาพร้อมกับตรวจสอบไว้ "คอนเทนเนอร์ติดสแกนชิลด์ไว้ ดังนั้น ผมอยากให้พวกคุณจอดรถเพื่อเช็คด้วยตาตัวเองสักหน่อยนะครับ"
              "ได้อยู่แล้วละ" พีวิลบอก และจัดการจอดรถ ซึ่งพลัสเชอริทและไซโคลเนียก็เบรครถเอาไว้แล้ว พร้อมกับลงมาเช็คดูด้วยกล่องบรรจุภัณฑ์ในคอนเทนเนอร์คอนวอยคันที่สองที่ไซโครเนียชนท้ายไว้
              "หวังว่าผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในนั้นไม่แตกหักเสียหายไปเพราะเธอหรอกน่ะ" สเปียริทบ่น โดยที่หยิบเอากล่องที่อยู่ใกล้ประตูออกมา ซึ่งเจเนลจัดการแงะด้วยเมทัลเบลดเพื่อเปิดกล่องดู ก็พบว่า...
              "อืมมม กะแล้ว ว่ารถบรรทุกพวกนี้ขนอาวุธไปจริงๆด้วยน่ะ" พีวิลบอก โดยหยิบกราฟคาไบน์ออกมาจากกล่องมาดู
              "ดีแล้วละ ที่เราจัดการหยุดล็อตสุดท้ายไว้ได้ แม้ว่าเราไม่สามารถสกัดกั้นสินค้าที่ส่งไปก่อนหน้าก็ตามน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              พลัสเชอริทบอก "ที่ปรึกษาเบย์แทนด์ นำเฮฟไดซ์ลงมาเก็บคอนเทนเนอร์จากคอนวอยเหล่านั้นมาเลย"
              "รับทราบ ตอนนี้ผมได้รบกวนสัญญาณสื่อสารเอาไว้เพื่อมิให้พวกครีซีแทนที่ส่งพวกไปโจมตีพวกแอตทาเวี่ยนรู้ตัวได้ทันนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว "ที่สำคัญก็คือ ตอนนี้พวกคุณเนคมาดูซัมกำลังหยุดรถไฟที่กำลังขนทาสไปที่อื่นกันอยู่นะครับ"
              สเปียริทกล่าว "ทาสที่ว่ามานั้นเป็นพวกชาวอาณานิคมละสิ"
              "เออ ผมว่าตอนนี้พวกคุณรีบรุดไปช่วยพวกคุณเนคมาดูซัมดีกว่านะครับ" เบย์แทนด์บอก โดยส่งข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งไว้
              มาสวาร์ทาร์บอก "หวังว่าพวกครีซีแทนคงไม่เพิ่มปัญหามาให้กันเสียก่อนน่ะ"

              ตัดมาทางด้านแอสเทลน่ากันบ้าง ซึ่งในเวลานี้...
              "ท่านนักล่า พวกครีซีแทนเอาเกราะยักษ์ออกมากันแล้วละครับ" นักรบแอตทาเวียนชายชุดแดงสลับขาวกล่าว
              แอสเทลน่าได้เห็นพวกครีซีแทนนำไดร์ฟอาร์มเมอร์ออกมาเป็นจำนวน 100 เครื่องก็กล่าวอย่างไม่พอใจเลยว่า "พวกนั้นคิดว่าจะบดขยี้พวกเราด้วยเกราะหนาแบบนั้นนะหรือ นักรบอัลดร้ามัล กางสนามพลังป้องกัน เปิดปืนใหญ่สเปเซี่ยน ยิงใส่พวกมันให้ล้มไปซะ"
              "รับทราบ" นักรบแอตทาเวี่ยนรับคำสั่งและเปิดระบบปืนใหญ่ที่วางตั้งไว้ "ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว" โดยยิงกระสุนพลังออกไปถล่มใส่พวกครีซีแทนจน "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ระเบิดวินาศสันตะโรไปอย่างจังๆ บางลูกเป่าส่วนแขนจนระเบิด บางลูกเป่าทำลายส่วนบนจนเห็นตัวครีซีแทนที่ขับเคลื่อนไว้ บางลูกเป่าทำลายไดร์ฟอาร์มเมอร์จนเล่นงานถึงคนขับลงได้ หากแต่พวกที่โดนไปนั้น แค่ 7 จาก 100 ที่บุกเข้ามากัน "เจอพลังแสงแห่งอัลทรามัสท์ไปเลย แช้ร์" เหล่านักรบชุดขาวลายแดงกับแดงสลับขาวซัดกงจักรพลังแสงเข้าเล่นงานไดร์ฟอาร์มเมอร์อย่างหนักหน่วง จากกำลังทั้งหมด 93 เหลือเพียงแค่ 82 เพราะ 11 ตัวแรกนั้นเคลื่อนทัพมาเป็นแนวกำแพงรับกงจักรแสงเอาไว้จนตัวขาดแดดิ้นตามอาร์มเมอร์ไป
              "ไอ้พวกดาวฤกษ์หน้าโง่ ด้วยไดร์ฟอาร์มเมอร์โกไลแอทที่แข็งแกร่งนั้น เหมาะสำหรับเป็นเป้ารับกงจักรแสงของพวกแกกันได้ละวะ" ครีซีแทนอาร์มมี่กล่าวพร้อมกับ "แชดๆๆๆๆ" ยิงปืนกลความเร็วสูงเข้าใส่สนามพลัง ซึ่งกระสุนกลับไม่ทะลุสนามพลังแสงของพวกดาวฤกษ์แต่อย่างใด "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" "ตรูมๆๆๆๆๆ" แต่พวกที่ติดป้อมมิไซล์และระเบิดแรงสูงมานั้นก็ถล่มใส่บาเรียแสงอย่างต่อเนื่อง
              "บาเรียของพวกเราเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่คิดไว้เลยละคะ" นักรบอัลดรามัลหญิงรายงาน
              แอสเทลน่าบอก "ถ้ายานของเราไม่โดนยิงร่วงจนพลังงานในยานเหลือไม่พอสำหรับใช้ป้องกันอย่างเต็มที่ก็คงดีละสิ โต้ตอบพวกมันต่อไป"
              "พวกดาวฤกษ์มันต้านพวกเราไม่หยุดเลยละครับ" นายกองครีซีแทนกล่าวกับแคนเนทที่อยู่บนยานภาคพื้นดินไว้
              แคนเนทบอก "พยายามยิงต่อไป จนกว่าพวกโคเคสจะมาถึง แล้วค่อยยิงด้วยปืนใหญ่อานุภาคนี้ไปเลยน่ะ"
              "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" ครีซีแทนระดมโจมตีอย่างหนักหน่วงจน "วือออออออ" สนามพลังดับวูบลงอย่างรวดเร็ว ไดร์ฟอาร์มเมอร์เลยบุกชาร์จเข้าใส่อย่างรวดเร็ว แอสเทลน่าและชาวแอตทาเวียนเลยบุกเข้าโต้ตอบด้วยปลอกแขนดาบแสงเข้าใส่พวกครีซีแทนอย่างรวดเร็ว "ย้า ย้า ย้า" แอสเทลน่าใช้ปลอกแขนดาบแสงไซโคคัตเตอร์ที่เป็นดาบแสงสีฟ้า ส่วนสีเขียวนั้นคือวอยด์เอดจ์เข้า "ฉึบ ฉับ ฉั้วะ" ฟาดฟันตัดแขนขวาที่ชกมาจนขาด แล้วก็สะบัดแขนตัดขาทั้งสองของไดร์ฟอาร์มเมอร์ขาด พร้อมกับ "ซูมมมมมมม ครืนนนน" อัดพลังไซโคคัตเตอร์จนคมดาบโพยพุ่งและแทงใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ไปเต็มๆ เหล่านักรบอัลดร้ามัลก็บุกเข้าถีบและชกใส่ไดรฟ์อาร์มเมอร์อย่างรวดเร็ว แต่ก็... "หมับบบบ โครมมมม" ถูกไดรฟ์อาร์มเมอร์จับตัวและฟาดกับพื้น เพื่อเตรียมกระทืบซ้ำ "ว้ากกกก" อัลดร้ามัลปล่อยแสงจากฝ่ามือ "แชดดดดดดดดดดด ปั้กๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมม" สาดอัดใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์จนระเบิดไป 5 เครื่องด้วยกัน แต่... "ฟ้าวววว ชรี้ดดดดดด ป้ากๆๆๆๆๆ" ไดร์ฟอาร์มเมอร์โกไลแอทเสยมือหนามแทงใส่ร่างอัลดร้ามัลท์จนแดดิ้นลง ซึ่งจากร่างมนุษย์กลายสภาพเป็นร่างต่างดาวที่หมดสิ้นพลัง เพราะตรากลางหน้าอกได้แตกแหลกละเอียดไป "หนอยยย ลงไปเลย" เหล่าอัลดร้ามัลท์ที่เห็นพวกพ้องถูกสังหารเลยซัดกงจักรพลังแสงเข้าใส่ แต่... "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไดร์ฟอาร์มเมอร์ติดอาวุธหนักโปรยมิไซล์ลงมาเป่าพวกอัลดร้ามัลจนกระเจิดกระเจิงไปอย่างจังๆ แอสเทลน่าเห็นเช่นนั้นเลยรีบรุดไป แม้จะมีไดร์ฟอาร์มเมอร์บุกเข้ามาอีก 5 ตัวด้วยกัน "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟึ่บๆๆๆๆ" แอสเทลน่าซอยเท้าวิ่งอย่างรวดเร็วพร้อมกับเคลื่อนไหวโยกย้ายอย่างรวดเร็วจนเกิดภาพเงาติดตาพวกครีซีแทนไว้ "ฟึ่บ ฉั้วะ ฟึ่บ ฉั้วะ ฟึ่บ ฉับ ฟึ่บ ฉืบบบ ฟึ่บบบ ฉั้วะ" แล้วก็โผล่มาตรงหน้าพวกไดร์ฟอาร์มเมอร์พร้อมกับใช้วอยด์เอดจ์ฟันใส่เต็มแรงจน ไดร์ฟอาร์มเมอร์ห้าตัวถูกฟันขาดสะบั้นลง แล้วก็อัดพลังจิตขึ้นที่มือขวาจนเกิดประกายไฟฟ้าอันมหาศาล จากนั้นก็ซัดออกเป็นลูกบอลพลังไป "ฟ้าวววววว เปรี้ยงงง เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆ" ลูกบอลพลังนั้นพุ่งขึ้นฟ้าและสาดสายฟ้าลงมาอัดใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ติดอาวุธหนักจน "ตรูมๆๆๆๆๆๆ" ป้อมมิไซล์และระเบิดถูกสายฟ้าฟาดจนระเบิดเป่าท่อนบนกระจุยไป แต่พวกครีซีแทนอาร์มมี่บุกมาพร้อมกับโฮฟไบค์จำนวน 200 หน่วยตรงมาขนาบข้างด้วยกัน

              "กรรรรรรรรรรร" แชร์คาสบุกกระโจนเข้าเล่นงานหน่วยโฮฟไบค์พร้อมกับนักรบไทกรอชจนอัดพวกครีซีแทนร่วงจากโฮฟไบค์ไป "ปลอดภัยดีนะ ท่านนักล่า" แชร์คาสบอก โดยทิ้มกงเล็บใส่อาร์มมี่ให้แดดิ้นลง ซึ่งพวกนักรบที่ตามมาด้วยอีกสองนั้นกรีดคอพวกครีซีแทนซ้ำอีกที แอสเทลน่าพยักหน้า
              "ท่านซิมบาสคงมาด้วยสิน่ะ" แอสเทลน่าบอก โดยตอนนี้พวกเลโอเซนกระโดดเข้ามา "ฉึกกก ฉั้วะๆๆๆๆ" ใช้กงเล็บสี่ซี่ทิ้มแทงและข่วนใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์กันอย่างหนักหน่วง โดยที่นักรบเลโอเซนบางตนใช้ขวานคมเดียวเฉาะจนเกราะไดร์ฟอาร์มเมอร์เป็นรอยไว้ แม้กระทั่งผ่าเฉาะแขนขาดไปด้วย ซึ่งพวกไทกรอซและเลโอเซนเข้าระดมเล่นงานพวกโฮฟไบค์และไดร์ฟอาร์มเมอร์กัน ซิมบาสเลยใช้กงเล็บยาวเข้าเล่นงานพวกโฮฟไบค์ที่บุกมาจนตัวขาดพร้อมไบค์สามท่อนอย่างจังๆ แชร์คาสก็บุกเข้าโจมตีไดร์ฟอาร์มเมอร์โดยหลบหลีกการโจมตีด้วยหมัดชกลงมา และไต่ขึ้นด้านหลังไดร์ฟอาร์มเมอร์พร้อมกับใช้กงเล็บแทงหัวหุ่นออก แล้วก็ใช้กงเล็บกรีดคอครีซีแทนจนแดดิ้นลง แต่มีคันหนึ่งบุกเข้ามายังกับแอสเทลน่าที่จัดการกับไดร์ฟอาร์มเมอร์ไว้ แม้เธอหันมาก็ไม่ทันการแล้ว เพราะอาร์มมี่ที่ขี่มาจ่อกราฟคาไบน์ในระยะประชิดมากด้วย
              "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แต่ครีซีแทนอาร์มมี่นั้นถูกกระหน่ำยิงจากระยะไกลจนชะงักงันกลางอากาศไว้และ "โว้วววววววววว" "บรึมมมมมม" ระเบิดแหลกเป็นจุลพร้อมกับเสียงโอดโอยของครีซีแทนอาร์มมี่ตนนั้นที่แดดิ้นลง "แว้งงง" แอสเทลน่าที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็วาร์ปออกมาได้ และหันมายัง "ทำไมต้องมีเจ้ากับพวกเข้ามาสอดด้วยละ" แอสเทลน่าบอกเมื่อเห็นโคเคสใช้แรปิดเดเตอร์มาโรวเดอร์กราดยิงใส่ ซึ่งก็ทำให้พวกหน่วยโฮฟไบค์เห็นเข้าก็บุกตรงมาแถมมีกำลังหนุนมาอีกด้วย
              "แย่หน่อยนะ ที่เราไม่ยอมให้ต่างดาวอย่างพวกท่านต้องเดือดร้อนกันแล้วน่ะ" โคเคสบอก บัลโต้ก็โผล่มาพร้อมกับ "ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าวววว" โฟร์ทบลัสต์ลันเชอร์ยิงจรวดเข้าใส่พวกครีซีแทนที่แห่แหนกันมาอย่างหนักหน่วง จนทำให้เกิดควันระเบิดคลุ้งไปทั่วเขตทะเลทรายด้วยกัน ซึ่งก็หาได้หยุดพวกครีซีแทนที่บุกฝ่ากลุ่มควันไม่
              "พวกเจ้าหยุดพวกมันไม่ได้กันหรอกน่ะ" แอสเทลน่ากล่าว
              "เราสองคนอาจจะไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับพวกเขาสักหน่อยนิ" บัลโต้บอก เพราะว่า... "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ฉั้วะๆๆๆๆๆๆๆๆ" บูมเมอแรงสีเทาพุ่งเข้ากรีดพวกครีซีแทนที่โผล่ออกมาจากกลุ่มควันจนล้มลงพร้อมกับรอยกรีดตามร่าง โดยเฉพาะตรงตาและตรงคอไว้ โดยเป็นฝีมือของเกรทไทเกอร์และเหล่าบีสทอยด์แมวใหญ่ที่ซัดเข้ามา
              "เหอะ พวกแมนิเกเตอร์หน้าสัตว์นั้น คิดหรือว่าจะสู้กับพวกเรากันได้น่ะ" ครีซีแทนอาร์มมี่กล่าวโดยพาพวกเบลดคัตเตอร์ และกราวนด์บิลเดอร์ออกมากันด้วย
              "ถึงเราจะไม่เก่งหรือแข็งแกร่งกว่า แต่ก็ฉลาดพอที่จะรับมือกับพวกแกกันได้นี้แหละ" เกรทไทเกอร์กล่าว แล้วก็สั่งบุกประจัญบานโดยเร็ว "กรรรรรร" บีสท์เมนเสือโคร่งบุกเข้าใช้ดาบกงเล็บฟันใส่กราวนด์บิลเดอร์จนขาซ้ายขาดและล้มลง แล้วก็โดดหลบการโจมตีของอีกตัวด้วยสว่านไปได้ทัน ซึ่งแวร์นิมอลสิงโตภูเขาใช้กงเล็บข่วนกลางหลังกราวนด์บิลเดอร์ตนนั้นและถีบส่งมา "ฉึกกกกก" ให้บีสท์เมนเสือดำแทงด้วยกงเล็บโครมเมทาเลี่ยมเข้าที่หน้าอกไปอย่างจังๆ "ฉั้วะๆๆๆๆๆ" แวร์นิมอลจากัวร์ใช้ดาบติดส้นเท้าหมุนด้วยฝ่ามือเข้ากรีดใส่เบลดคัตเตอร์สามตัวที่แห่มาอย่างรวดเร็วจนแดดิ้นไป "หวับๆๆๆๆ กร็อกกกก โครมมม โครมๆๆๆ" แวร์นิมอลสิงโตซัดลูกตุ้มเข้ามัดคออาร์มมี่จนล้มเสียหลัก แต่ก็รีบโดดหลบการโจมตีด้วยปืนที่ยิงโดยพวกที่ตามหลังมา "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว" "ปั้กๆๆๆๆๆ" ไวลด์แพนเธอร์ซัดกระบี่เข้าปักหน้าของอาร์มมี่พร้อมกับโผล่มา "หมับๆ ฉั้วะ" ใช้ง่ามนิ้วมือทั้งสองหนีบด้ามดาบทั้งหกเล่มออกมาพร้อมกับฟันหัวจนขาดเป็นชิ้นๆไป แต่ไดร์ฟอาร์มเมอร์บุกเข้ามาพร้อมกับกำปั้นขนาดใหญ่ "หวับๆๆๆๆๆ แกร็กๆ โครมมมม" เกรทไทเกอร์ซัดลูกตุ้มติดเชือกมัดขาไดร์ฟอาร์มเมอร์จนล้มกระแทกพื้น และทำให้ครีซีแทนอาร์มมี่ที่ขี่อยู่หลุดลงมา ไวลด์แพนเธอร์เลยจับตัวคนขับออกมาทุ่มใส่ "โครมมมม" พวกโฮฟไบค์ที่มาสมทบจนเสียหลักไป เกรทไทเกอร์เลยบุกเข้าช่วยลูกเผ่าทั้งเสือและสิงห์เข้าจัดการกับพวกครีซีแทนอย่างรวดเร็ว แต่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ 3 ตัวบุกเข้ามาพร้อมกับแขนหนามไว้ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ฟ้าววว ฟ้าววว" โคเคสและบัลโต้เลยเข้ามาช่วยด้วยการยิงถล่มไดร์ฟอาร์มเมอร์ด้วยแรปิดเดเตอร์และโฟร์ทบลัสต์ลันเชอร์จนระเบิดไปทั้งสามตัวด้วยกัน แต่เบลดคัตเตอร์บุกเข้ามาพร้อมกับสแลชคลอว์ หมายจะจัดการกับโคเคส... "ตรุ้งงงงง" บัลโต้เลยใช้ช็อคแคนน่อนยิงเป่าเบลดคัตเตอร์ให้ล้มไปสองตัวด้วยกัน ตัวที่สามนั้นก็... "หวับบบบ" โคเคสกระโดดหลบออกมาแม้จะแบกปืนโตเอาไว้กับตัวแล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "โครมมมมม" กราดยิงใส่ระยะประชิดดันส่งเบลดคัตเตอร์ไปอัดกับกราวนด์บิลเดอร์จนถูกลูกหลงไปด้วย กราวนด์บิลเดอร์อีกตัวบุกมาด้วยแขนสว่าน "หวับ ควับๆๆๆ แกร็ก" บัลโต้บรรจุดกระสุนเจาะเกราะเข้าตรงปากกระบอก "ตรุ้งง ปั้ก" และยิงเข้าใส่กราวนด์บิลเดอร์ตัวนั้น ซึ่งไม่ได้แค่เจาะตรงหน้าอกเพียงอย่างเดียว "ตี้ดๆๆๆๆ WHAT THE HELL!!! ตรูมมมมมมมม" ยังส่งเสียงมาพร้อมกับเป่าระเบิดกราวนด์บิลเดอร์จนเหลือท่อนล่างไปอย่างจังๆ แต่เบลดคัตเตอร์บุกเข้ามาจากข้างหลังโคเคสและบัลโต้ที่ระดมยิงช่วยพวกไทกรอซและเลโอเซนกันอย่างรวดเร็ว "ฟ้าวววว" แอสเทลน่าเลยบุกเข้ามาจัดการกับเบลดคัตเตอร์จนตัวแยกเป็นห้าท่อนในทันที
              โคเคสกล่าว "นั้นคงไม่มีอะไรติดค้างเลยสิน่ะ"
              "ข้าไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมเจ้ากับพวกถึงทำให้ท่านเอสเซคาร่าเชื่อใจนักน่ะ เพราะว่าเจ้ามีความสามารถในการต่อสู้ที่แม้อาวุธของเจ้าจะเป็นตัวถ่วงอย่างมาก แต่ข้ามองเห็นความพยายามของเจ้าจากการต่อสู้กันไว้ แต่...ถ้าคิดที่จะทำให้ข้าเชื่อใจได้ละก็ คงอีกยาวกันละน่ะ" แอสเทลน่าบอก "เนคมาดูซัมไม่มากับพวกเจ้าด้วย คงมีธุระเลยละสิ"
              โคเคสกล่าว "ฉันส่งพวกเขาไปจัดการเรื่องที่พวกครีซีแทนแอบทำในเวลาเดียวกันกับที่พวกมันเล่นงานพวกท่านกันน่ะ"
              "หึ พวกครีซีแทน เจ้าเล่ห์และร้ายกาจมากมายเลยน่ะ" แอสเทลน่ากล่าวอย่างไม่พอใจมากนักที่เสียรู้ให้กับฝ่ายตรงข้าม
              โคเคสบอก "ยังไงเสีย ท่านรีบไปช่วยพวกพ้องของท่านดีกว่าน่ะ"
              "ดูเหมือนว่าเกรทไทเกอร์และโคเคสจะเก่งกาจไม่น้อยเลยน่า" ซิมบาสกล่าว
              แชร์คาสบอก "เกรทไทเกอร์และพวกเผ่าเดียวกันนั้นมีฝีมืออยู่เหมือนกัน ซึ่งแม้จะรู้ว่าสู้พวกครีซีแทนไม่ได้ก็ยังสู้ต่อ หึ ไม่แปลกใจแล้ว ที่เป็นกำลังสำคัญให้กับโคเคสกันน่ะ"
              "แต่ ฉันคิดว่าโคเคสคงไม่ได้พาพวกเผ่าแมวใหญ่มาแน่ๆ เพราะโคเคสต้องใช้มากกว่านั้นบ้างน่ะ" ซิมบาสบอก
              แชร์คาสพยักหน้า "ใช่ เพราะเห็นพวกที่หน้าตาเหมือนสเนคไคท์ก็ดี เหมือนพวกอุลซอยด์กับพวกตะกวดอวกาศก็ช่าง คงต้องมีมากกว่าหนึ่งอยู่แล้วละ"

              ด้านพวกเนคมาดูซัมในตอนนี้ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ป้างงง ป้างงง ป้างงง" "ตรุ้งงง ตรุ้งงง ตรุ้งงงงง" "ตุ้งงง ตุ้งงง" เนคมาดูซัม สเตฟอร์ดและโฟรซ่ายิงพวกอาร์มมี่จนร่วงตกรถไฟในช่วงที่มุ่งหน้าไปยังตู้ขบวนที่ห้าถัดจากด้านหลังไว้ โดยที่มีพวกเบลดคัตเตอร์และกราวนด์บิลเดอร์โดดข้ามจากขบวนรถไฟที่อยู่ทางซ้าย ซึ่งคลอเวฟและลิเนียร์ตี้เป่าด้วยบัคส์อิมแพคและอิมแพคชู้ตเตอร์จนร่วงลงพื้นไปกันหมด ส่วนที่เหลือยังโดดขึ้นมาบนตู้ขบวนหนึ่งถึงสองไว้ "ป้ากกก โครมมม เปรี้ยงง พลั้วก โป้งงงง" พวกเฮเรเค้นและพวกเซเทธไล่จัดการกับพวกเบลดคัตเตอร์และกราวนด์บิลเดอร์กันอย่างหนักหน่วง "แกร้งงงง ฉั้วะ ฉับบบ" ไลเอิร์ท ดิเรนท์และวูลเฟลล่าข่วนใส่เบลดคัตเตอร์ร่วงไป ในขณะที่ไรแกท บุลพลาทและแบร็อคจัดการกับพวกกราวนด์บิลเดอร์ด้วยกำปั้น เขาขวิดและกงเล็บหมีไป "กร้องงงงง" เฮเรเค้นเตะเข้ากลางหลังกราวนด์บิลเดอร์หลังจากที่คลานเลียดพื้นไปอยู่ข้างหลัง ส่งมาให้บราไทน่าหนีบและบิดหัวหลุดด้วยขากรรไกรจระเข้ ส่วนเรปไซท์นั้นล่องหนและถีบและกระแทกเบลดคัตเตอร์ให้ร่วงตกตู้ไป เซเทธ ฟันดิวเรค เลอแชนและทอฟคานิคไล่จัดการกับพวกอาร์มมี่ที่บุกขึ้นมาจนแดดิ้นกันหมด "โว้ว ย้ากกก" จายด์ไล่เตะพวกกราวนด์บิลเดอร์ที่โดดขึ้นมาจนร่วงตกรถไฟไปด้วย กราวนด์บิลเดอร์พยายามใช้แขนสว่านเจาะ แต่... "หวับบบ ฉึกกกก" จายด์จับแขนมาทิ้มใส่พวกเดียวกันที่อยู่ด้านข้าง แล้วถีบตกรถไฟไป "แครกเกอร์บอมส์" จายด์ยิงระเบิดเข้าใส่ขบวนรถไฟของพวกครีซีแทนจนระเบิดเป่าพวกมันที่ก้าวออกมาจนปลิวตกรถไฟกันทั้งหมด แต่พวกครีซีแทนที่อยู่หัวขบวนนั้นส่งพวกแอร์ฟอสออกมารับมือกันโดยเร็ว "ตายเสียเหอะ" พวกแอร์ฟอสบุกโฉบเข้ามาด้วยสว่านติดปลายปืน แต่... "หวับบบ โป้งงงง" สเตฟอร์ดกระโดดเข้ามาหวดค้อนอัดใส่หน้าจนพุ่งไปอัดกับเสาสะพานอย่างจังๆ "บ็อกซ์บัสเตอร์" เนคมาดูซัมยิงมิไซล์จากส่วนหัวไหล่เข้าเป่าใส่แอร์ฟอสที่บินอยู่จนร่วงไป แล้วก็กราดยิงใส่พวกแอร์ฟอสที่บินมาจนร่วงไปกันหมด แต่ยังมีอีกตัวบินอ้อมมายังเนคมาดูซัมจากข้างหลัง "ฟอสโบล์ท" ลิเนียร์ตี้เลยซัดกระสุนพลังออกจากฝ่ามือโดยซัดออกแบบเดียวกันกับพีวิลหากแต่ "ฟ้าววววว ปึ้กกก" เธอรีบซัดเร็วไปหน่อยจนทำให้แอร์ฟอสได้แค่มึนหน้าเท่านั้น จนทำให้มันเตรียมยิงใส่ "ปังๆๆๆๆๆ" โฟรซ่าเลยยิงเดริงเจอร์แมกนั่มด้วยมือซ้ายอัดใส่แอร์ฟอสให้ชะงักแน่นิ่งจน "โป้งงงง" ชนกับเสาสะพานแทน "คงต้องควบคุมการใช้พลังกันสักหน่อยน่ะ" โฟรซ่าบอก ลิเนียร์ตี้พยักหน้า และยิงปืนสั้นสอยพวกแอร์ฟอสจนร่วงไป
    "พวกมันเล่นงานพวกเราจนตกรถหมดเลยครับ" อาร์มมี่มารายงาน นายกองบอก "ขบวนรถติดอาวุธ จัดการกับพวกมันซะ" โดยขบวนรถไฟที่อยู่ทางซ้ายเปิดเอาป้อมปืนออกมาจากส่วนหัวรถจักรไว้ ซึ่งมาพร้อมกับไดร์ฟอาร์มเมอร์ติดอาวุธหนักไว้
              "โอ้ว มึงมีเพื่อนมาแล้ววะ จายด์" คลอเวฟบอก
              ทอฟคานิคกล่าว "พวกนี้เป็นพวกครีซีแทนด้วยหรือ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยน่ะ"
              "นั้นไดร์ฟอาร์มเมอร์ หุ่นขับเคลื่อนขนาดหนักแต่เล็กกว่าโมบิลลอยด์ สำหรับพวกครีซีแทนกันนะสิ" เนคมาดูซัมบอก
              สเตฟอร์ดกล่าว "พวกนั้นคงคิดว่าตัวเปล่าๆคงสู้พวกเราไม่ได้เลยเล่นแบบนี้สิน่ะ" ซึ่งตอนนี้ไดร์ฟอาร์มเมอร์ติดอาวุธหนักโปรยมิไซล์ออกมา "ฮึยยยย" ทอฟคานิคเลยซัดก้อนหินจากรอบๆเข้ามาเป็นเป้าให้มิไซล์ถล่มไว้ แต่ยังเหลือบางส่วนลงมาด้วย "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ปังๆๆๆๆๆๆๆ" "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆ" พวกเนคมาดูซัมเลยกระหน่ำยิงกันอย่างยกใหญ่จนเป่ามิไซล์ลงไปได้กันหมด
              "ถ้าขืนพวกมันยิงมิไซล์เข้าใส่คอนเทนเนอร์ลงแบบนี้ คงไม่เป็นผลดีต่อคนที่อยู่ในนั้นแน่ๆเลยละ" เนคมาดูซัมกล่าวพร้อมกับบรรจุแมกกาซีนใหม่
              "งั้นคงต้องทำลายขบวนนี้ให้พังก่อนแล้วละ" จายด์กล่าว พร้อมกับใช้ "ร็อคเก็ตบัสเตอร์" ยิงจรวดเข้าใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ติดอาวุธจนระเบิดไป แต่ก็เป่าแค่ส่วนด้านหน้าอกและส่วนหมวกไว้ ซึ่งพวกที่เหลือก็กราดยิงปืนกลเข้ามา "โบลท์รีเฟรคเตอร์" เนคมาดูซัมสร้างสนามพลังป้องกันกระสุนเอาไว้ได้ "ฟ้าววว ฟ้าววว" สเตฟอร์ดเลยใช้เครื่องยิงจรวดโฟร์ทบลัสต์ลันเชอร์เข้าใส่ไดร์ฟอาร์มเมอร์ติดอาวุธอีก 3 ตัวที่บุกเข้ามาจนระเบิดไปตรงแขนและขาไป โดยที่เนคมาดูซัม ลิเนียร์ตี้และคลอเวฟระดมยิงใส่แบบไม่ยั้ง ครีซีแทนที่ควบคุมไดร์ฟอาร์มเมอร์ซึ่งเหลือตรงด้านหน้าไว้ก็ยิงมิไซล์ "โป้งงงงง" ก็โดนโฟรซ่าส่องหน้าผากทะลุไปอย่างจังๆ จนทำให้ล้มหงายหลังและ "แกร็ก ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" มือก็กดสวิตซ์ยิงมิไซล์ ซึ่งตัวหุ่นล้มหลังฟาดพื้นจนมิไซล์พุ่งขึ้นข้างบน แล้วก็ลงมา "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆ บรึมมมม" มิไซล์เป่าลงตู้ขบวนที่อยู่ไปถึงด้านหลังอีก 3 ตู้จนระเบิดต่อเนื่องไป "นัดเดียว ก็ทำให้พวกมันจอดได้ง่ายๆแล้วละ" โฟรซ่าบอก
              "แต่ยังเหลือปืนใหญ่อีกกระบอกกันน่ะ พวก" เซเทธบอก เพราะตอนนี้ปืนใหญ่ตรงหัวขบวนนั้นก็เตรียมยิงใส่กันแล้ว "แชดดดดดดดดดดดดดดด ป้ากกกกก ตรูมๆๆๆๆๆๆ บรึมมมม" แต่ก็มีลำแสงยิงเข้าใส่ปากกระบอกปืนจนระเบิดทั้งป้อมและหัวรถจักรไปอย่างจังๆ จนทำให้รถไฟนั้นหยุดลง
              "พึ่งจะมาถึงเลยหรือ" โฟรซ่ากล่าว เพราะไซโคลเนียโผล่มาและช่วยยิงปืนแสงไว้

              "พวกเราพึ่งจะเสร็จจากการยึดรถบรรทุกมาน่ะสิ" ไซโคลเนียกล่าว โดยตอนนี้... "ฟ้าวววววววว" โฟร์ทโบทของพลัสเชอริทตรงมาเทียบกับตู้ขบวนรถไฟ พร้อมกับพวกพีวิลโดดมาสมทบกันแล้ว
              "ดูเหมือนว่าพวกนายต้องการให้เราช่วยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              "ใช่ ช่วยให้เราเคลียร์ไอ้รถไฟนั้นโดยเร็วกันนี้แหละ" คลอเวฟบอก ไม่ทันไรก็ "แกร็ก ครืดดดด หึมๆๆๆๆ แชดดดดด" ส่วนหัวรถจักรก็เปิดเอาปืนใหญ่ออกมาพร้อมกับยิงลำแสงที่สะสมพลังไว้ "ฟึ่บๆๆๆๆๆ" "ป้ากกกกก" ทั้งหมดรีบก้มลง แม้กระทั่งจายด์เองก็ต้องก้มตามจนเกือบถูกลำแสงสาดใส่ไปอย่างจังๆ ซึ่งลำแสงก็ทำลายโครงสะพานด้านบนไปแล้ว "ดีนะที่นายก้มให้ต่ำกว่านี้ ไม่งั้น หลังนายไหม้หมดแน่ๆเลยละ" คลอเวฟบอก
              จายด์กล่าว "บอกตรงๆว่ามันชักจะไม่ตลกแล้วละ" แล้วก็ยิงร็อคเก็ตบัสเตอร์เข้าใส่ "ตรูมมมม" ซึ่งก็เป่าระเบิดป้อมปืนที่อยู่ใกล้ๆไป
              "ก่อนจะโจมตีมันได้ถนัดๆนั้น ตัดการเชื่อมของรถไฟกันก่อนน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              สเตฟอร์ดกล่าว "ให้ฉันจัดการเองดีกว่า" แล้วก็โดดลงมาตรงตู้ขบวนเชื่อมพลังงาน โดยจัดการวางระเบิดพลาสติกติดไว้ แต่แอร์ฟอสและอาร์มมี่แห่มาเข้าขัดขวางไว้ "เอนเนอจี้โบลท์" "เรซเซอร์เอดจ์" พีวิลและมาสวาร์ทาร์ซัดพลังเข้าจัดการกับพวกแอร์ฟอสและอาร์มมี่ไปเพียงบางส่วน "ไมโครมิไซล์ ชู้ต" ไซโคลเนียถล่มด้วยมิไซล์ขนาดเล็กเข้าก่อกวนพวกอาร์มมี่และแอร์ฟอสไป แม้จะมีบางส่วนบินลงมาบนคอนเทนเนอร์ก็ตาม "ปั้กๆๆๆๆๆ โครมมม เปรี้ยงงง โครมมม" พวกบรอนเซอรูทและพวกเฮเรเค้นต่างเข้าโรมรันเข้าใส่แอร์ฟอสกันอย่างหนักหน่วงด้วยกงเล็บและเพลงมวย แต่อาร์มมี่แห่แหนกันมาเพื่อเล่นงานสเตฟอร์ด "แฟงค์สไลเซอร์" พลัสเชอริทซัดดาวกระจายเข้ากรีดอาร์มมี่จนล้ม "วอเตอร์เวฟ" คลอเวฟสาดคลื่นน้ำเข้าทำให้อาร์มมี่เสียหลักไป "แฟลชแอร์โรว" สเปียริทยิงธนูแสงเข้าเล่นงานอาร์มมี่ที่เตรียมยิงจนล้มตกรถไป แต่แอร์ฟอสยังแห่เข้ามา "หวับๆๆๆๆ" ลิเนียร์ตี้ซัดกงจักรบนหัวเข้าเล่นงานอาร์มมี่จนล้ม และ... "ป้ากกก โครมมม ฉึกกก" โดนเจเนลเตะขัดขาจนอาร์มมี่ล้มกระแทกพื้น ซึ่งทำให้พวกซัลคาเลี่ยนที่อยู่ข้างในตกใจ และยิ่งกลัวหนักกว่าเดิม เมื่อเจเนลแทงเมทัลเบลดซ้ำอีกที แล้วก็ดึงตัวอาร์มมี่ลงจากรถไป "ฟรีซสแปรชเชอร์" จิลยิงกระสุนน้ำแข็งเข้าเล่นงานพวกอาร์มมี่ให้ชะงักไป
              "เอาละ ติดตั้งเรียบร้อยแล้วละ" สเตฟอร์ดบอก จายด์เลยรีบดึงตัวสเตฟอร์ดขึ้นมาโดยเร็ว ซึ่งก็... "โปร้งงงง แกร็กก" ระเบิดเป่าทำลายตัวเชื่อมขบวนจนพัง ซึ่งก็ทำให้หัวขบวนรถไฟแล่นไปโดยไม่มีตู้ขบวนต่อท้ายไว้

              "มันตัดขบวนขนคนไปแล้วละครับ" ทหารครีซีแทนกล่าว
              นายกองบอก "โยกย้ายไปอยู่อีกฟากเดียวนี้เลย เราต้องทำลายพวกมันไปพร้อมกับพวกแรงงานเหล่านี้ไปเลย" แล้วครีซีแทนก็ควบคุมรถไฟให้ลอยขึ้น พร้อมกับหมุนหันหัวมาด้านหน้า โดยแล่นมาอยู่ฝั่งซ้ายไว้ ซึ่งพวกครีซีแทนเตรียมป้อมปืนกลไว้ยิงแล้ว
              "ไม่มีทางให้แกได้ยิงหรอก" เลอแชนและกริมเบอรี่ทุ่มพวกแอร์ฟอสให้ปลิวไป "โครมๆ ตรูมมม" "ย้า ย้า" โมคุโตะทุ่มแอร์ฟอสที่โดนอัดด้วยทอนฟ่าส่งไปอัดกับป้อมปืนกลอีกป้อมจนล้ม เช่นเดียวกับทินเหมาลีงัดศัตรูให้ปลิวไปยังป้อมปืนใหญ่ลำแสง และ... "กระสุนนกเพลิงพิฆาต" ปล่อยกระสุนพลังเข้าเป่าทำลายแอร์ฟอสและป้อมปืนใหญ่ไปอย่างจังๆ แต่ก็มีพวกแอร์ฟอสแห่มาได้เรื่อยๆ "ลูกถีบกิเลนบิน" เซเทธพุ่งถีบแอร์ฟอสจนปลิวกระเด็นไปอัดกับป้อมปืนอย่างจังๆ "จีแฮมเมอร์" จายด์ซัดลูกตุ้มอัดแอร์ฟอสให้ปลิวกระเด็นไปอัดกับตู้ขบวนถึง 5 ตัวในการโจมตีครั้งเดียว "ฮึยยยย ฝ่ามือยางยืดดดด" แอร์ฟอสสองตัวถูกฟันดิวเรคฟาดฝ่ามือยืดยาวจนหน้าอกบุบไปเต็มๆ และถึงแม้จะคลายอาการเจ็บเพื่อยิงสวน แต่... "แชดๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆ" แอร์ฟอสทั้งสองตัวหันมายิงพวกเดียวกันเสียเอง เพราะฟันดิวเรคไม่ได้แค่ฟาดฝ่ามือ แต่ยังใช้ดรรชนีควบคุมจุดการเคลื่อนไหวของครีซีแทนแอร์ฟอสให้เล่นงานพวกเดียวกันเองไว้  "ฮึยยย ฮึยยย ฮึยยยย" ทอฟคานิคดึงก้อนหินจากหน้าผาขึ้นมาให้ไรแกท แบร็อคและบุลพลาททุ่มใส่หัวรถจักรไว้อย่างต่อเนื่อง จน "โป้งงงง ตรูมมม" หินก้อนหนึ่งกระแทกกับเครื่องยนต์โฮเวอร์เอาไว้จนระเบิดอย่างจังๆ ส่งผลให้พลังการขับเคลื่อนถูกตัดทอนลง "เอาไปนี้ไปเลย ซุพรีมบลัสต์" "เครเซนท์เรซเซอร์" "พลังฝ่ามือคลื่นมังกรทอง" "ชาร์จช็อต ยิง" พีวิล มาสวาร์ทาร์ บรอนเซอรูทและเจเนลระดมยิงใส่ป้อมปืนจนป้อมปืนใหญ่ลำแสงเสียหายไปอย่างจังๆ แต่พวกครีซีแทนยังดื้อด้านด้วยการให้หัวรถจักรเคลื่อนถอยหลังมาประจัญหน้า หวังจะยิงปืนใหญ่ลำแสงปิดฉากในคราวเดียว
              "มันกะจะกวาดพวกเราเละกันแล้วละ" บรอนเซอรูทกล่าว
              "ไม่มีทางเลือกแล้ว จัดหนักกันไปเลย" เนคมาดูซัมกล่าวแล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้ซีคเก้ไรเฟิ่ลและบ็อกซ์บัสเตอร์ยิงใส่ป้อมปืนใหญ่เลเซอร์ไป
              "มาช่วยเนคมาดูซัมยิงกันดีกว่า" พีวิลบอก
              "เอางั้นก็ได้วะ" คลอเวฟบอก พร้อมกับเตรียมไฮโดลิคแคนน่อนเอาไว้ ซึ่งพีวิล มาสวาร์ทาร์ ลิเนียร์ตี้ โฟรซ่า สเปียริท สเตฟอร์ด พลัสเชอริท ไซโคลเนีย เจเนล จายด์ จิลเตรียมอาวุธปืนเอาไว้ แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "แชดดด แชดดดด แชดดดดด แชดดดดด แชดดดดดด" "ฟิ้วๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำสาดทั้งอาร์มชู้ตเตอร์ ครอสเซียมไรเฟิ่ล เดริงเจอร์แมกนั่ม โพริด็อดซ์ ชูริเคนชู้ตเตอร์ เทมเพสต้าไรเฟิ่ลและมีเดี้ยมมิไซล์เข้ากระหน่ำใส่ พร้อมกับ "สปาร์คช็อค" "ร็อคเก็ตบัสเตอร์" "ฟรีซสแปรชเชอร์" "ปิ้วๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" ป้อมปืนใหญ่ลำแสงยังสะสมพลังไว้แม้จะรับความเสียหายจากการกระหน่ำยิงต่อเนื่องจนป้อมปืนเสียหายไปอย่างจังๆ แถมด้วยกระสุนไฟฟ้า จรวดมิไซล์กำลังสูงและกระสุนน้ำแข็ง ยิ่งทำให้ปืนใหญ่พังเร็วยิ่งขึ้น
              "มันจะยิงใส่เราแล้วคะ" ลิเนียร์ตี้บอก โดยตอนนี้ปืนใหญ่กำลังจะปล่อยลำแสงออกมาแล้ว  
              "หนอยยยยย งั้นไม่รอแล้ว ยิงแม่มเลยแล้วกัน" คลอเวฟบอก แล้วก็...
              "เฮ้ย เดียวสิ คลอเวฟ" บรอนเซอรูทร้องห้าม จนพวกพีวิลได้ยินเลยรีบถอยมา แต่ก็... "ซูมมมมมมมมมม" คลอเวฟปล่อยพลังออกไปกันแล้ว ซึ่งเนคมาดูซัมได้ยินก็... "หวืออ โครมมม" รีบล้มหน้าฟาดพื้นโดยที่มือยังถือซีคเก้ไรเฟิ่ลเอาไว้อยู่จนคลื่นพลังไฮโดรฟอสผ่านหลังเนคมาดูซัมไปอย่างฉิวเฉียดจน "ครืนนนนนนน ป้ากกกกกกก" คลื่นพลังงานน้ำกำลังสูงพุ่งเข้าอัดกับปากกระบอกปืนจน "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมมมมม" ยิงปะทะกับลำแสงที่กำลังปล่อยออกมาจากปากลำกล้องจนระเบิดไป แล้วก็ "ตูมๆๆๆๆๆ หวือออออ โครมมมมม" ล้มเสียหลักเอียงไปทางฝั่งขวา เทกระจาดพุ่งตกสะพานลงสู่เบื้องล่างและ "หวือออออออออออออ ตูมๆๆๆ บรึมมมมม" ระเบิดต่อเนื่องแหลกเป็นจุลไปในที่สุด
              "ฮะ ฮ่า...เป็นไงละ เห็นถึงพลังของฉันแล้วใช่มั้ยละ" คลอเวฟกล่าวอย่างลำพองใจไม่น้อย
              "ใช่ นายถล่มหัวรถจักรเอาไว้กันก็จริงอยู่น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เจเนลกล่าว "แต่...นายกำลังวอนหาเรื่องใส่ตัวอยู่น่า" ไม่ทันไร เนคมาดูซัมคล้องปืนซีคเก้ไรเฟิ่ลไว้และตรงมาเอาเรื่องกับคลอเวฟ ซึ่งก็ตกใจไม่น้อย
              "นายนิ ทำบ้าอะไรของนายกันแน่วะ" เนคมาดูซัมตวาดถาม
              คลอเวฟบอก "ทำอะไรนะหรือ ก็รีบหยุดปืนใหญ่ยังไงละ แม้ว่า นายจะยืนขวางทางปืนของฉันไว้ก็ตาม แต่...ยังดีที่นายยังหูไม่หนวกกับอาการกราดยิงไม่เลือก เลยรอดมาได้น่ะ"
              "ใช่ และนั้นเป็นโชคดีของฉันที่หลังของฉันไม่แหกเพราะปืนใหญ่ของนาย แต่นายจะโชคร้ายเพราะนายจะโดนโบ๊กให้นี้แหละ" เนคมาดูซัมกล่าว
              คลอเวฟบอก "หรือ แต่นั้นเป็นความผิดนายนี้แหละที่ดันยืนบื้อเสียเองน่ะ" แต่คลอเวฟกลับทำให้เรื่องมันแย่ลงเพราะเนคมาดูซัมฉุนกึ่กและบุกเข้ามา จนมาสวาร์ทาร์ต้องรีบเข้ามาเบรคไว้ก่อน ส่วนจายด์ก็ลงไปเบรคขบวนรถเอาไว้แล้ว
              "พอเลยๆ หยุดทะเลาะกันได้แล้วน่า ไม่กลัวว่าตัวประกันในนั้นจะยิ่งกลัวพวกเรามากขึ้นเลยหรือ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลกล่าว "นั้นสิ ตอนนี้เราเบรคขบวนขนแรงงานของพวกครีซีแทนไว้แล้ว อย่ามามีเรื่องกันในเวลานี้จะดีกว่าน่า"
              "แล้วพวกนายไม่ห้ามหรือทำอะไรกันบ้างเลยหรือ" เนคมาดูซัมบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ไว้เสร็จเรื่องจากที่นี้ เดียวกลับขึ้นยาน โคเคสจะจัดการเรื่องของพวกนายทั้งสองเลยแล้วกัน" ซึ่งดาบมือหนึ่งพูดพร้อมสีหน้าและดวงตาที่จริงจังเอาไว้ แม้เนคมาดูซัมจะไม่เห็นด้วย แต่ก็....
              "เอางั้นก็ได้ เพราะในกลุ่มแรงงานเหล่านั้นอาจจะมีคนที่เราตามตัวกันอยู่ เผื่อว่าคงไม่เป็นอะไรไปเสียก่อนน่ะ"
              "นายก็อย่าลืมด้วย ว่านายเป็นคนก่อเรื่องเองกับมือเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์เตือน คลอเวฟได้ฟังก็ไม่สบอารมณ์ แต่เพื่อภารกิจจึงรีบลงจากตู้ขบวนมา "แกร็กกก แอ็ดดดด แอ็ดดดด แอ็ดดด" จัดการเปิดทุกคอนเทนเนอร์ไว้ ซึ่งพวกแมนิเกเตอร์ซัลคาเลี่ยนที่ถูกขังก็รีบออกมาอย่างดีใจไม่น้อย กับอิสรภาพของพวกเขาไว้
              "ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า พวกครีซีแทนจะทำกับพลเมืองของโอเวอร์เรสกันได้ถึงเพียงนี้เลยน่ะ" ทินเหมาลีบอก
              "แน่ละ เพราะว่าชาวซัลคาเลี่ยนใช้พวกครีซีแทนเป็นเหมือนแรงงานทาส และถูกกดขี่กันมานาน จึงไม่แปลกที่พวกนั้นจะย้อนรอยกลับมาเสียบ้างน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "เห็นได้จากการที่พวกเขามีแขนที่เป็นหุ่นยนต์กันทั้งหมดแบบนี้ ซึ่งนั้นเป็นการสูญเสียอวัยวะที่ติดตัวมาแต่กำเนิดกันด้วยสิน่ะ"
              "นั้นสำหรับชาวซัลคาเลี่ยนธรรมดาที่ถูกพวกครีซีแทนกระทำย้ำยีจนแขนขาของพวกเขากลายเป็นเช่นนี้ไป แม้พวกเขาไม่อยากได้แขนขากลของพวกนั้นไว้ เพราะนั้นจะทำให้พวกเขาสูญเสียเลือดเนื้อที่พ่อแม่ให้มาไปส่วนหนึ่ง แต่เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ พวกเขาจำต้องยอมรับมันไว้ แม้ว่านั้นจะทำให้พวกเขามีสถานะเป็นเหมือนลิมฟ่าแบบผมเลยก็ตามนะครับ" แมนิเกเตอร์ลิมฟ่าซัลคาเลี่ยนหนุ่มเดินมา ซึ่งเขาสวมชุดแบบชาวซัลคาเลี่ยนปกติ หากแต่สวมกางเกงสีขาว รองเท้าสีดำพื้นหนาสีเขียว มีแขนกลทั้งสองข้าง สวมหมวกเหล็กที่ปล่อยปอยผมยาวสีดำสองข้างไว้ด้านหน้า พร้อมด้านหลังที่ยาวปิดคอไว้ ใบหน้าคมสัน แม้จะมีดวงตากลทรงกลมตรงตาซ้ายไว้ก็ตาม "และ....พวกคุณคงจะเป็น สหายของลูกแม่ทัพขวาที่ลือกันไปทั่ว ว่าพวกคุณชนะบิดรเทพจากโลก ดาวดวงที่ 3 ของระบบสุริยะจักรวาลกันด้วยแล้ว ไม่แปลกใจแล้วละที่คำเล่าลือจะเป็นจริงมาตรงหน้ากระผมเลยน่ะ"
              เจเนลถาม "ว่าแต่ นายเป็นใครกันแน่วะ"
              "เจเนล พูดดีๆหน่อย คนๆนี้เขาเป็นหมอที่พวกเราต้องการตามตัวมาด้วยน่ะ" สเตฟอร์ดกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "หมอคนนี้แหละ คือเดเมี่ยน ทรัลเกน หมอเทวดาที่มีฝีมือการรักษาแมนิเกเตอร์ทุกชนิดที่อยู่บนแรซัลก้า ซึ่งเป็นหมอหนุ่มไฟแรงที่ฉันและแมนิเกเตอร์ในอวกาศรู้จักกันเป็นอย่างดี และหวังว่าเขาคงไม่ตกกระไดพลอยโจรกันแบบนี้หรอกน่ะ"
              "อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอนั้นแหละ คุณเนคมาดูซัม แม้กระทั่งเรื่องที่พวกคุณมาช่วยพวกเรา โดยทิ้งโอกาสหยุดพวกครีซีแทนขนอาวุธไปให้พวกแลมซีนีไนซ์กันที่กองรบหลักเลยก็ตามน่ะ" เดเมี่ยนบอก
              พีวิลกล่าว "ต้องบอกตามตรงน่ะ คือว่า อาวุธของพวกครีซีแทน ถูกพวกเรายึดไว้หมดแล้วนะสิ"
              "โอ้ว นั้นไม่แปลกใจแล้ว ว่าทำไม กองรบของบิดรเทพโอเวอร์เดสถึงพ่ายเร็ว เพราะมียอดนักรบอย่างพวกนายอยู่ด้วยนี้เองน่ะ" เดเมี่ยนกล่าว "แล้วพวกนายไม่รีบไปช่วยหัวหน้าของนายกันเลยหรือ เพราะตอนนี้พวกครีซีแทนน่าจะบดขยี้ด้วยปืนใหญ่แบบเดียวกันที่พวกมันติดตั้งไว้ในหัวขบวนรถไฟกันน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "โคเคสกับพวกเรา ล้วนเตรียมพร้อมไว้ทุกอย่างเสมอนั้นแหละ หมอเดเมี่ยน"

              โดยตอนนี้.... "แชดดดดดดด ตรูมมมม" ยานปราการภาคพื้นถูกแรคแทซของเบย์แทนด์กระหน่ำยิงไปอย่างจังๆแล้วจนทำให้ปืนใหญ่ที่เตรียมจะยิงพวกโคเคสและแอสเทลน่าหยุดชะงักลง
              "ปืนใหญ่ได้รับความเสียหายจนยิงไม่ได้แล้วละครับ" นายกองกล่าว
              แคนเนทได้เห็นก็กล่าวไปว่า "....โคเคส แอคเมนโด้ เก่งกาจสมคำเล่าลือเช่นนี้ หึ ถอนตัวกลับกองรบหลักเดียวนี้เลย" แล้วพวกครีซีแทนในปราการเคลื่อนที่ก็เทเลพอร์ตหายไปกันหมด แม้กระทั่งพวกที่ยังอยู่ในสนามรบกันด้วย จนพวกไทกรอซ เลโอเซนและพวกโคเคสต่างเฮลั่นขึ้นมา โดยที่ลิเนียร์ตี้เปิดแพดส่งเสียงไว้
              "ว่าแต่ หมอคงไม่คิดที่จะปฏิเสธพวกเรากันละสิน่ะ" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ถ้าไม่อยากจะเป็นศัตรูกับทางจักรวรรดิ์และมารดรเทพละก็ พวกเราก็ไม่บีบบังคับกันได้หรอกน่ะ"
              "เออ...พวกคุณช่วยพวกเราเอาไว้ใช่มั้ยละครับ ถ้ายังไง ให้พวกเราช่วยพวกคุณได้มั้ยละ" ลิมฟาซัลคาเลี่ยนชายกล่าว
              ชาวซัลคาเลี่ยนหญิงบอก "พวกเราสวดอ้อนวอนเพื่อหวังขอความกรุณาและความปราณีจากมารดรเทพเพื่อหวังจะให้พระนางช่วยปลดปล่อยพวกเราจากการเป็นทาสของพวกครีซีแทน แต่พอได้ยินพวกมันบอกว่า พวกมันได้รับอำนาจตรงจากท่านไซมาเทนและมารดรเทพด้วยแล้ว เท่ากับว่าพวกเราถูกพวกเขาทอดทิ้งให้ต้องพบกับชาตะกรรมเลวร้ายเลยนะคะ"
              "พวกเราไม่ได้เป็นพวกเดียวกันกับที่กดขี่พวกนั้นกันเสียเลย แต่ดันมาจับตัวพวกเรากันไว้ และบีบบังคับให้เราขุดแร่ ขนแร่ ทำเหมือง สร้างฐาน สร้างป้อม ผลิตอาวุธ ด้วยสองมือของพวกเราเองก็แบบนี้ แม้พวกเราไม่อยากจะต่อสู้ แต่มันทนไม่ได้กันแล้วละครับ" ชาวซัลคาเลี่ยนชายผมสีเขียวเข้มกล่าว
              ลิมฟ่าซัลคาเลี่ยนหญิงที่มีตาเป็นจักรกลพร้อมกับส่วนหูที่เป็นส่วนหูติดเสาอากาศกล่าว "ให้พวกเราช่วยพวกคุณ หยุดยั้งการกระทำอันเลวร้ายของจักรวรรดิ์ของพวกเราด้วยกันเถอะคะ เพราะพวกเราไม่อยากจะกลับไปทุกข์ทรมานกันแล้วนะคะ"
              "ทุกข์ทรมานนะหรือ หมายความว่าไงกันน่ะ นี้ตกลงพวกคุณก็โดนเป็นทาสของครีซีแทนด้วยนะหรือ" เซเทธกล่าว
              ซัลคาเลี่ยนชายที่ปากใหญ่กล่าว "ไม่ใช่เลย พวกเราส่วนหนึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ยของพวกแมนิเกเตอร์ชนชั้นขุนนางและชนชั้นสูงในแรซัลก้า ซึ่งพวกเรามาจากเขตชุมชนที่ยากจนข้นแค้นอย่างมาก กับอำนาจการปกครองที่ไม่เพียงเลวแหลกเพราะนายอำเภอหรือผู้ว่าการเป็นพวกโกงกินและหาผลประโยชน์ใส่ตัว ไม่ทำคุณประโยชน์และพัฒนาชุมชนให้มันดีขึ้น จนทำให้ครอบครัวของพวกเราต้องขายพวกเราไปเป็นแรงงานทาส ทั้งๆที่ กฎค้าทาสนั้นถูกสั่งห้ามกันมานานแล้ว แต่กลับมีคนรื้อฟื้นจนทำให้พวกเราต้องถูกพวกขุนนางและชนชั้นสูงกดขี่กันอย่างมาก แม้พวกเราจะถูกปล่อยตัวไปเพราะหมดกำหนดเวลาการใช้งาน ก็ยังถูกขายไปให้พวกครีซีแทนต่อด้วยแล้ว พวกเราถึงได้รู้ว่า ความยุติธรรมมันไม่มีอยู่ในแรซัลก้ากันแล้วน่ะ"
              "ว่า ว่ายังไงน่ะ แรซัลก้า แย่ถึงขนาดนั้นเลยหรือ" สเปียริทกล่าวโดยที่เธอยังรู้สึกอึ้งอย่างมาก แล้วหันมาถาม "แล้วไม่มีผู้รักษากฎหมายอย่างตำรวจหรือทหารมาแก้ไขกันบ้างเลยหรือ"
              ลิมฟ่าซัลคาเลี่ยนหญิงที่คางเป็นเหล็กกล่าวไปว่า "ถึงมี พวกเขาเป็นแค่เครื่องมือของพวกขุนนางถ่อยสถุลที่เอารัดเอาเปรียบคนระดับล่างกันนี้แหละ และไม่ใช่แค่นั้นน่ะ พวกขุนนางยังมีส่วนร่วมในการคุกคามดาวต่างๆของชนเผ่าต่างดาว เพื่อหวังจะยึดทุกอย่าง ตั้งแต่บ้านเมือง โรงงาน ย่านการค้า ที่นาแปลงไร่ แหล่งแร่และทรัพยากร หรืออื่นๆที่พวกมันต้องการไปเป็นของพวกมันเอง ซึ่งพวกครีซีแทนจะมอบดาวที่พวกมันกวาดล้างพวกต่างดาวให้ราบคาบ ซื้อขายเพื่อให้พวกขุนนางจับจองสร้างเป็นอาณาจักรของพวกนั้นเสียเองกันน่ะ"
              "นั้นมัน....แย่เอามากๆแล้วละ เพราะเรื่องรุกรานดาวที่มีชนเผ่าต่างดาวของทางสมาพันธ์อวกาศนั้นก็แย่พออยู่แล้ว นี้ถึงกับแลกเปลี่ยนระบบดาวให้พวกชนชั้นสูงและขุนนางถ่อยเหล่านั้น ราวกับว่าเป็นการซื้อขายที่ดินยังไงยังงั้นแบบนี้ นั้นเป็นสิ่งที่โอเวอร์เรสอนุญาตให้ทำอย่างงั้นได้นะหรือ" เนคมาดูซัมกล่าว
              เดเมี่ยนบอก "เกรงว่า เรื่องนี้มันจะเป็นจริงแล้วละ เพราะพวกครีซีแทนมันบอกกับเราว่า พอพวกมันกวาดล้างที่นี้เสร็จ ดาวดวงนี้ที่ยังเหลือแร่ไว้เกินครึ่งของจำนวนเต็มนั้น จะถูกขายต่อให้พวกขุนนางเอาไปทำธุรกิจเหมืองแร่หาเงินเข้ากระเป๋ากันเองนะสิ"
              "บอกตรงๆน่ะ แรซัลก้าหนักหนากว่าเทมเดนเป็นร้อยเท่าแล้วละ" พลัสเชอริทกล่าว
              สเปียริทพยักหน้า "และถ้าพวกเขาพูดด้วยความรู้สึกเจ็บปวดแบบนั้น แสดงว่า... ไม่มีใครหน้าไหนหยุดความเหลวแหลกนี้ลงได้เลยหรือ ไม่มีใครที่สามารถต่อต้านหรือกำจัดปัญหาเสร็งเคร็งนี้กันได้เลยหรือ"
              ซัลคาเลี่ยนชายตาเดียวบอก "ถึงมี องค์ชายไซมาเทนก็ทำลายไปจนหมดแล้วละ ทั้งราชทายาทผู้เก่งกาจและเป็นว่าที่จักรพรรดิ์คนต่อไป ทั้งพี่น้องที่เก่งกาจทั้งความรู้และความสามารถ แม้กระทั่ง....องค์หญิงที่ถูกลืมกันด้วย"
              "องค์หญิงที่ถูกลืมนะหรือ" พีวิลถาม
              ซัลคาเลี่ยนเกือบทุกคนต่างไม่พูดถึง เว้นแต่... "เคยมีข่าวลือกันว่า โอเวอร์เรสมีบุตรและบุตรีรวมทั้งหมด 12 คนด้วยกัน หากแต่ มีคนที่ 13 ปรากฎขึ้นมา ซึ่งชาวเมืองส่วนใหญ่ต่างเล่าลือกันว่า องค์หญิงผู้นี้คือผู้นำพาหายนะมาให้จักรวรรดิ์ทั้งปวง ซึ่งชาวซัลคาเลี่ยนทั้งหมดนั้น ต่างก็ไม่พูดถึงหรือไม่คบค้ากับองค์หญิงคนนั้น เพราะกลัวว่าเธอจะนำพาความล่มจมและความทุกข์มาให้ ซึ่งนั้นเป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อไซมาเทนปล่อยให้พวกเฮซเทิร์ซบุกโจมตีพระราชวังของเหล่าบุตรของบิดรเทพและมารดรเทพลง จนทำให้องค์ราชทายาทหายสาปสูญ พี่น้องทั้ง 10 ล้มตายลงด้วยมือของไซมาเทน ส่วนองค์หญิงที่ถูกลืมนั้น ก็ได้สูญหายไปด้วยเช่นกัน ซึ่ง...แม้องค์หญิงลำดับที่ 13 นั้น จะเคยมีตัวตนจริง แต่...การที่เธอได้หายสูญไปนั้น คือวันแรกที่แรซัลก้าเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยละ" เดเมี่ยนอธิบายแทน
              "แล้วไม่มีใครเอ่ยถึงชื่อองค์หญิงกันบ้างเลยหรือ" โฟรซ่าถาม
              เดเมี่ยนบอก "ทุกๆคนรวมถึงชาวซัลคาเลี่ยนที่อยู่ในแรซัลก้านั้น ถูกไซมาเทนบัญชาให้ ใครก็ตามที่เอ่ยถึงการมีตัวตนขององค์หญิงลำดับที่ 13 เอ่ยถึงชื่อจริง เอ่ยถึงเรื่องราวต่างๆที่องค์หญิงกระทำไว้ รวมถึงเรื่องของราชทายาทและเหล่าพี่น้องที่ถูกสังหารไปด้วยแล้ว คนๆนั้นต้องตายสถานเดียว ซึ่งก็มีตัวอย่างกันไว้ด้วย นั้นคือ....เหล่าข้ารับใช้ในพระราชวังที่เหลือรอด ทุกคน...ล้วนไม่รอดน้ำมือของไซมาเทนกันแล้วละ"
              "องค์ชายไซมาเทนไม่เพียงร้ายกาจ หากแต่เหี้ยมโหดอำมหิตกันแบบนี้ มันให้อภัยไม่ได้แล้วละ" พีวิลกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "ในเมื่อพวกคุณทั้งหมดไม่คิดจะกลับไปแรซัลก้า และคิดจะช่วยพวกเราหยุดยั้งจักรวรรดิ์กันด้วยแล้ว หวังว่าพวกคุณคงจะให้ความร่วมมือกันบ้างละน่ะ" ซึ่งพวกชาวซัลคาเลี่ยนที่ถูกจับเป็นเชลยก็เฮลั่นขึ้นด้วยความดีใจอย่างมาก
              "ความเหลวแหลกของแรซัลก้านั้น ทำให้พลเมืองของโอเวอร์เรสทุกข์มากมายเช่นนี้ ต่อให้ล้ำหน้าทรงพลังและเกรียงไกรมากแค่ไหน ความเหลวแหลกและความอยุติธรรมก็ยิ่งขยายตัวจนเกาะดาวทั้งดวงลงไปแล้วกันน่ะ" สเปียริทบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "แถมไซมาเทนก็เป็นแมนิเกเตอร์ที่น่ากลัวมากๆ ถ้าถึงขนาดฆ่าพี่น้องและขู่ให้ทุกๆคนไม่พูดถึงพี่น้องคนอื่นๆ รวมถึงน้องคนสุดท้องที่ถูกลืมกันด้วยแล้ว เราเจอศัตรูที่น่าเกรงกลัวที่สุดกันแล้วละ"
              "นั้นไม่แปลกใจเลย ที่พวกซัลคาเลี่ยนเข้ามาร่วมกับพวกเรา เพราะแรงกดดันจากความอยุติธรรมและความเสื่อมถอยของระบบสังคมบนดาวกันน่ะ" บรอนเซอรูทบอก
              เลอแชนกล่าว "จักรพรรดิ์เส็งเคร็งไม่ว่า ยังแพร่เชื้อเฮงซวยไปทั่วจักรวาลผ่านการรุกรานระบบดาวเช่นนี้ ประจานหลายร้อยทีคงไม่มีทางหายขาดไปได้หรอก" โดยตอนนี้ยานเฮฟไดซ์ได้มาถึงกันแล้ว
              "ดูเหมือนว่าโรคร้ายจากแรซัลก้า คงมีแต่พวกคุณกับพวกโคเคสเท่านั้นที่เป็นวัคซีนรักษากันด้วยแล้วละ" เดเมี่ยนกล่าว
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "และวัคซีนจะดียิ่งขึ้น หากหมอกับพวกมาหนุนเสริมกันด้วยน่ะ"

              แล้วหลังจากนั้น พวกเวเซอร์ก็มาสมทบกับพวกโคเคสกันตรงซากยานของแอสเทลน่า ที่ตอนนี้.... กองรบของทอมฮาซาเดนขับไล่พวกครีซีแทนออกไปกันหมดแล้ว
              "พวกเจ้าพลาดเรื่องสำคัญไปเยอะมากเลยน่ะ แม้จะรู้ว่าพวกเจ้ามีเรื่องที่ต้องไปจัดการกับแผนหลังฉากของพวกครีซีแทนเลยก็ตามน่ะ" แอสเทลน่าบอก เมื่อเห็นเนคมาดูซัมมากับพวกเวเซอร์แล้ว "แต่ถ้าให้ข้าเดา เจ้าคงจะโดนพวกเดียวกันยิงใส่จนเกือบตายแล้วสิน่ะ"
              โคเคสได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย บัลโต้ถาม "ว่าแต่ ใครเป็นคนก่อเรื่องทำร้ายเพื่อนร่วมทีมกันมิทราบวะ" พวกเวเซอร์ทุกคน เว้นแต่ลิเนียร์ตี้ ชี้มาที่คลอเวฟกันหมด
              "คลอเวฟ กลับไปที่แรคแทซ คงต้องคุยกันหน่อยแล้วละ" โคเคสคาดโทษคลอเวฟเอาไว้
              แอสเทลน่าบอก "อย่างน้อย เจ้าก็มีความรับผิดชอบในฐานะผู้นำของเหล่าแมนิเกเตอร์หัวกบฎกันบ้างละนะ ถึงแม้ว่าการมาของท่านและพวก อาจจะขัดขวางการสู้รบของพวกเราเลยก็ตาม แต่หวังว่าคงไม่มาโผล่แบบนี้อีกน่ะ"
              "คงยากนะครับ ตราบใดที่ยังมีพวกคุณประสบความเดือดร้อนอยู่ พวกเราก็จะรีบไปช่วยกันนี้แหละ" โคเคสกล่าว
              มาสวาร์ทาร์ถาม "ท่านเกรทไทเกอร์ ท่านคงจะลำบากมากเลยสิน่ะ"
              "ไฟท์กับครีซีแทนแม้จะยากไปสักหน่อย แต่...นั้นเป็นบรรทัดฐานสำหรับการสู้รบของพวกบีสทอยด์อย่างพวกเราแล้วละ" เกรทไทเกอร์กล่าว "และ พวกเธอเองก็ช่วยพวกเวเซอร์สู้กันด้วยแล้ว มีใครบาดเจ็บหรือเจ็บตัวกันบ้างหรือเปล่าละ"
              ไลเอิร์ทบอก "นั้นก็แค่สิวๆน่ะ ลุงเกรท แต่ไอ้พวกทหารนิ ไม่ว่าจะบินได้หรือไม่ มันก็หาเรื่องยิงพวกเราอยู่เป็นเนื่องๆเลยน่า"
              "แถมยังต้องสู้บนรถไฟกันด้วยแล้ว ขนาดผมที่ยังทำเป็นเล่นเองยังต้องจริงจังเลยนะ ลุง เพราะไอ้พวกครีซีแทนมันไม่กระจอกอย่างที่คิดด้วยน่ะ" เฮเรเค้นกล่าวอย่างซีเรียสเอามากๆ
              แบร็อคบอก "ต่อให้พวกมันไม่ได้ใส่เกราะโครมเมทาเลี่ยม พวกมันก็เล่นพวกเราเกือบตายกันด้วยนะครับ ครู" วูลเฟลล่าและพวกที่เหลือพยักหน้า
              "นั้นคงต้องฝึกพวกเธอให้รู้การใช้อาวุธปืนสำหรับการป้องกันตัวจากการโจมตีระยะไกลกันแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              แอสเทลน่าบอก "แต่การตัดสินใจเอาลูกทีมที่ไม่ได้มีการเตรียมตัวที่ดีมาด้วยแบบนี้ นับว่าพวกคุณยังอ่อนหัดกันบ้างนะคะ"
              "แล้วจะอธิบายกับการที่เธอและพวกถูกพวกศัตรูสอยจนยานร่วงลงมากันเลยละ" โทมาสกล่าวโดยที่เขาเดินทางมาถึงพอดี "แม้กระทั่งขัดคำสั่งเอสเซคาร่าซารีทิสกันเช่นนี้ ไม่กลัวว่าเธอจะถูกลงโทษกันเลยหรือ"
              แอสเทลน่าบอก "ถ้าเพื่อหยุดยั้งการคุกคามของพวกครีซีแทนลงไปได้ซะ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการช่วยพวกคุณให้สู้กับพวกมันที่อยู่บนดาวดวงอื่นได้ดีก็เกินพอแล้วละ ซึ่ง ฉันไม่จำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น แม้กระทั่งคุณเองด้วย"
              "พูดดีๆหน่อยนะ พวกเราอุตสาห์มา...อืออ เออ อึก อืมม" ดิเรนท์กล่าว ไม่ทันไรก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
              บุลพลาทกล่าว "เกิดอะไรขึ้นเนี้ย ทำไมถึง รู้สึก หายใจไม่สะดวกเลยละ" แน่นอนว่าพวกเฮเรเค้นเอง รวมถึงเกรทไทเกอร์ก็ด้วย
              "นักล่าแอสเทลน่า...ทางเราเป็นฝ่ายเสียมารยาท ต้องขอโทษด้วยนะครับ" โคเคสกล่าว แอสเทลน่าเลยดีดนิ้วเพื่อทำให้ความกดดันหายไป
              เกรทไทเกอร์ที่หายใจหอบถี่ๆหลังจากที่ถูกกดดันด้วยอำนาจจิต ก็กล่าวขึ้น "สมแล้วที่เป็นพลังจิตของชนเผ่าดาวฤกษ์ที่ทรงอิทธิพลในอวกาศกันน่ะ แฮกๆๆๆ"
              "เออ พวกเฮเรเค้นไม่น่ามีพลังจิต แต่ทำไมถึงโดนกันด้วยวะ" คลอเวฟถาม
              เนคมาดูซัมบอก "เกรงว่า สัญชาตญาณของสัตว์ในตัวบีสทอยด์นั้น ก็เป็นตัวกระตุ้นให้แอสเทลน่าเกิดความหวั่นเกรงกันด้วยนะสิ เพราะชาวแอตทาเวี่ยน หากเจอกับอันตรายที่มาในรูปของสัตว์ประหลาดหรือสัตว์ร้าย ก็จะเปล่งรังสีอำมหิตหรือกระแสจิตที่เกิดจากความรู้สึกต่อต้านออกมา ก่อนที่จะใช้สู้รบกันนะสิ"
              ทั้งๆที่พวกเราบางคนเป็นมนุษย์กึ่งสัตว์ด้วยนะหรือ" ดิเรนท์กล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "สงสัยว่า ครูต้องบอกกับพวกฟลาแน็กซ์ที่เหลือให้ทราบกันไว้แล้วละ"
              "เธอกำลังทำให้คนอื่นๆเจ็บปวดกันเช่นนี้ ทั้งๆที่เธอขัดคำสั่งของเอสเซคาร่าซารีทิสกันไว้ รวมถึงการปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนอื่นแล้ว ไม่รู้สึกสำนึกผิดหรือละอายใจกันบ้างเลยหรือ" โทมาสถาม
              แอสเทลน่าบอก "คำพูดนี้ฉันควรจะใช้กับคุณซะมากกว่าน่ะ ทั้งๆที่คุณควรจะอยู่กับแม่ในตอนนั้นแล้วแท้ๆเลยน่ะ"
              "แม่นะหรือ เดียวก่อนน่ะ..." โทมาสบอก และหันมาถามไปว่า "นักล่าฟาเดลน่าเป็นแม่ของเธอนะหรือ...แล้วนางไปไหนกันละ"
              แอสเทลน่าได้ฟังก็ตวาดใส่ไปว่า "คุณไม่มีสิทธิ์เอ่ยชื่อแม่ของฉัน โดยเฉพาะเอ่ยต่อหน้าพวกแมนิเกเตอร์กันด้วยน่ะ"
              "เออ ว่าแต่ มันเรื่องอะไรกันน่ะ ผู้การฮาซาเดน" บัลโต้บอก โทมาสส่ายหน้าเพราะไม่ต้องการให้ใครรับรู้ จนกระทั่ง...
              "ดูเหมือนว่าเวลานั้นจะต้องมาถึงจนได้แล้วละ ทั้งๆที่ เวลานั้นกลับมีพวกแมนิเกเตอร์มาร่วมด้วยเลยก็ตามน่ะ" ซารีทิสมาถึงพอดี "....ถึงปิดบังไปก็รั้งจะสร้างความสงสัยขึ้นมา แม้ความจริงอาจจะทำให้ผู้การฮาซาเดนทำในสิ่งที่เลวร้ายเลยก็ตาม อย่างน้อย ทุกคนมีสิทธิ์ที่ต้องรับรู้กันไว้"
              "กานาฟ่า อิรีซิส เอสเซคาร่าซารีทิส ลำบากท่านแล้วละครับ" โคเคสกล่าว เกรทไทเกอร์กับพวกเฮเรเค้นเลยต้องก้มทำความเคารพไว้
              ซารีทิสพยักหน้าพร้อมกับบอกว่า "ไม่ต้องมากพิธีหรอกน่ะ เพราะว่าข้ามาเพื่อเรื่องสำคัญสำหรับแอสเทลน่ากันนี้แหละ"
              "เอสเซคาร่า ท่านอย่าทำลายความเชื่อมั่นของข้าจะได้มั้ยละคะ" แอสเทลน่ากล่าว
              ซารีทิสส่ายหน้า "แล้วเจ้าคิดจะกุมความลับชาติกำเนิดที่ทำให้เจ้าต้องสูญเสียแม่แท้ๆ ซึ่งทำให้เกียรติยศของวงศ์ตระกูลของแม่ของเจ้าต้องพังทลายลงกันไปถึงเมื่อไหร่ละ ความลับต่อให้ปกปิดด้วยการโยนหลุมดำไป สักวันก็ต้องปรากฎขึ้นมาให้คนอื่นรับรู้กันได้อยู่แล้วน่ะ" และหันมาทางพวกโคเคส หากแต่ระงับอำนาจความกดดันเอาไว้ก่อนแล้ว
              "ท่านเอสเซคาร่าซารีทิส ท่านรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับนักล่าฟาเดลน่ากันละครับ เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่น่ะ" โทมาสบอก
              ซารีทิสถาม "ถ้าท่านรู้ความจริงนี้ แล้วท่านจะยอมรับมันได้มั้ย แล้วท่านกล้าพอที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ให้นายพลเกรย์สันรับทราบหรือไม่ แล้วท่านคิดที่จะทำการใดๆต่อไปหากว่าความลับถูกเปิดเผยโดยบุคคลที่สามที่นอกจากที่ยืนอยู่ตรงนี้ไว้ ต่อให้การกระทำของท่านนั้นทำให้ท่านกลายเป็นคนเลวร้ายก็ตาม ความจริงที่ทำให้ท่านต้องเสียสิ่งที่สร้างมา เสียความน่าเชื่อถือต่อทุกฝ่าย แม้กระทั่งเสียความเป็นพ่อที่ท่านไม่รู้ว่าท่านมีสถานะนั้นด้วยใช่มั้ย"
              "แม้ข้าพเจ้ารู้ว่าความจริงอาจจะทำลายทุกอย่าง แต่ข้าพเจ้ายินดีจะยอมรับมัน หากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ข้าพเจ้าเคยช่วยไว้ก็ตามนะครับ" โทมาสกล่าวแม้ในใจจะเกิดความสงสัยกันไม่น้อย
              ซารีทิสพยักหน้าและตอบไปว่า "แอสเทลน่า....ขอโทษต่อผู้การโทมาส ทิลเทอแรน ผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเจ้ากันเดียวนี้เลย"

              "หา...." พวกโคเคสอุทานขึ้นมา เช่นเดียวกับทอมฮาซาเดนที่ยังอึ้งๆอยู่ "ดะ เดียวก่อนน่ะ นักล่าแอสเทลน่ากับผู้การฮาซาเดน...." โฟรซ่าบอก
              ฟันดิวเรคบอก "ช็อคเด้งอย่างแรงเลย นี้หูของฉันเฟื่อนไปหรือเปล่าเนี้ย"
              "ตะกี้นี้ ท่านเอสเซคาร่าพูดว่า ผมเป็น...." โทมาสกล่าว
              ซารีทิสพยักหน้า โดยบอกไปว่า "ใช่ แอสเทลน่าเป็นบุตรีที่เกิดจากสายเลือดเผ่ามนุษย์ของท่าน กับสายเลือดชาวแอตทาเวี่ยนของฟาเดลน่า ลูกน้องคนสำคัญของฉัน ซึ่งตอนนี้ นางได้สละชีพเพื่อรักษาเกียรติยศที่นางทำเพื่อปกป้องชื่อเสียงของท่าน หลังจากที่นาง ต้องโทษฐานมีบุตรกับคนต่างเผ่าโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากทางสภาอาวุโสของแอตทาเวียน แม้ว่าการพบปะกันระหว่างท่านกับนาง จะเป็นเพราะอุบัติเหตุกันเลยก็ตาม ซึ่งฉันก็เข้าใจเป็นอย่างดีนี้แหละ"
              "งั้นนางก็ไม่อยู่แล้วสิน่ะ แต่ เรื่องมันเกิดเมื่อ 20 ปีกันแล้วนิ แล้วทำไม...แอสเทลน่าถึงได้..." โทมาสบอก
              ซารีทิสบอก "ข้าส่งแอสเทลน่าไปฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้และวิชาการต่างๆบนดาวช้าง ตามกฎเกณฑ์ปฏิบัติต่อชาวแอตทาเวี่ยนครึ่งเลือด โดยเวลาบนดาวที่นางรับการเรียนรู้นั้น เวลาอวกาศตามมาตราฐาน 1 ปีจะเท่ากับ 25 ปีบนดาวช้างด้วยกัน ซึ่งนางใช้เวลา 75 ปีบนดาว ฝึกฝนจนกลายเป็นนักล่าที่มีฝีมือฉกาจฉกรรจ์ ที่รู้วิชาการต่อสู้แบบโพรทร้าและนาสเทดิมแล้วละ"
              "7 75 ปีนะหรือ อายุแบบนั้นมัน คุณยายแล้วนิน่า" ไรแกทกล่าว จนแอสเทลน่าจ้องมองไรแกทอย่างไม่พอใจ
              มาสวาร์ทาร์บอก "แน่ละ ชาวแอตทาเวี่ยนเป็นต่างดาวที่อายุยืนกว่าพวกเธอเป็นร้อยปีกันแล้วนะสิ"
              "ใช่ เพราะตอนนี้แอสเทลน่ามีอายุได้ 91 ปีแล้วละ ซึ่งถือว่ายังอายุน้อยหากเทียบกับผู้อาวุโสที่มีอายุถึงพันหนึ่งด้วยกัน ส่วนข้านั้น ข้าใช้ชีวิตมาตลอด 4 ศตวรรษ 4 ทศวรรษ และ 4 ปีกันแล้วละ" ซารีทิสบอก
              วูลเฟลล่าบอก "ขนาดพวกเราอายุเกิน 50 ยังถือว่าแก่แบบนี้ ถ้าพวกเราอายุแบบพวกคุณคงจะไม่ไหวกันแล้วละคะ แหะๆๆๆ"
              "โพรทร้าและนาสเทดิมนั้น มันคืออะไรกันน่ะครับ" โคเคสถาม
              ซารีทิสกล่าว "โพรทร้านั้นเป็นกลุ่มแอตทาเวียนบริสุทธิ์ ซึ่งใช้และชำนาญพลังจิตแห่งแสงสว่าง เป็นชนเผ่าเลือดบริสุทธิ์ขนานแท้และเป็นผู้ปกครองของชนเผ่ากันในเวลานี้ แม้ว่าจะมีเหล่าสมาชิกที่มาจากยุคก่อนๆอยู่มากมาย แต่ก็เป็นผู้อาวุโสที่มากด้วยความรู้จากยุคสมัยเก่าก่อนที่ผ่านพ้นกันมานาน ซึ่งฉันกับฟาเดลน่าคือกลุ่มโพรทร้า บุตรแห่งดาวฤกษ์ขนานแท้กันน่ะ" แล้วก็อธิบายไปว่า "ส่วนนาสเทดิม ก็คือชาวดาวฤกษ์ที่ไม่แท้ กล่าวคือ เป็นชาวดาวฤกษ์ที่มีแนวทางต่างกับโพรทร้า มีทั้งพวกไม่รับฟังคำสอนจากเบื้องบนหรือส่วนมาก พวกขบถคิดต่าง พวกดื้อรั้นและต่อต้านแต่ไม่ถึงกับหนักหนามากนัก รวมถึงพวกครึ่งเลือด ซึ่งชาวดาวฤกษ์อย่างพวกเราถือว่าเป็นชนเผ่าที่ไม่บริสุทธิ์ ไม่คู่ควรที่อยู่ร่วมกันบนดาวเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีอัตลักษณะของชาวแอตทาเวี่ยนทั้งทางกายภาพไปจนถึงมีอายุขัยที่ยืนยาว แต่ส่วนมากแล้ว พวกนาสเทดิมถูกขับไล่ให้ไปอยู่ดาวอื่นที่ไม่ให้แสงจากดาวฤกษ์ส่องไปถึง ทำให้นาสเทดิมส่วนมากใช้พลังแห่งเงามืดที่เกิดจากความว่างเปล่าเป็นพลังสำคัญไว้ ทั้งอำพรางตัวจากการถูกจับตาของพวกโพรทร้าและใช้ต่อสู้เพื่อป้องกันตัวไว้ พลังแสงของนาสเทดิมจึงเป็นสีเขียวอ่อนและเข้ม ตามสภาพกายที่ห่างจากแสงสว่างไปมากแค่ไหนก็ตามน่ะ"
              "นั้นไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมแอสเทลน่าถึงใช้ปลอกแขนดาบแสงถึงสองสีกันเลยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              พีวิลถาม "แล้วพวกชุดแดงนี้ เป็นชาวแอตทาเวียนประเภทไหนกันน่ะ"
              "ชาวอัลดร้ามัลนั้น เป็นชนเผ่าแอตทาเวียนที่ออกไปนอกขอบเขตแสงสว่างของดาวฤกษ์ของพวกเรา และไปตั้งรกรากบนดาวกันไว้นะสิ" ซารีทิสบอก "หากแต่ ดวงอาทิตย์เดิมของดาวของพวกอัลดร้ามัลนั้นดับสูญไปด้วยเหตุธรรมชาติ พวกอัลดร้ามัลเลยสร้างเตาพลังงานแสงจำลองมาจากแสงสว่างของดาวฤกษ์บ้านเกิดดั่งเดิม เพื่อความอยู่รอดของพวกเขาไว้ ซึ่งถึงแม้ว่าแสงนั้นจะไม่แท้จริง เพราะเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมา แต่แสงที่พวกเขาสร้างนั้นได้เปลี่ยนอัตลักษณ์ของพวกเขาให้แข็งแกร่งขึ้นและทรงพลังจนมีสถานะเทียบเท่ากับพวกเรา แต่ชาวโพรทร้าส่วนมากก็ยังปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนกับชาวนาสเทดิมอยู่ดีนะ"
              บัลโต้ถาม "ประทานโทษเถอะน่ะ เอสเซคาร่า ไอ้ระบบดาวที่ว่ามานั้น มันคงลงท้ายด้วยเลข 78 หรือเปล่าละ"
              "ถ้าเป็นเนบิวล่า M78 ของชนเผ่าที่สอนชาวอัลดร้ามัลให้รู้วิชาการต่อสู้และการปล่อยแสงแล้วละก็...เนบิวล่าที่ว่านั้นไม่อยู่แล้วละ เพราะ...เนบิวล่า M78 ถูกโยกย้ายไปอยู่อวกาศอื่นเพื่อมิให้พวกเฮซเทิร์ซนำสัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวขนาดใหญ่มาเป็นเครื่องมือสำหรับการรุกราน กันเมื่อ 180 ปีก่อน หากแต่ พวกเขามอบสถานะกองกำลังพิทักษ์อวกาศให้กับพวกเราสืบต่อไว้ก่อนที่ ผู้นำของดาวดังกล่าวนั้นจะพาเหล่านักรบที่เคยเดินทางมากู้โลกจากภัยคุกคามขนาดใหญ่นี้ในช่วงศตวรรษที่ 20 ไปอยู่ในอวกาศที่ต้องการความช่วยเหลือของพวกเขากันแล้วละ ส่วนระบบดาวของพวกอัลดร้ามัลนั้น ก็คืออีปซีลอนหมายเลข 807 กันน่ะ" ซารีทิสบอก
              พีวิลกล่าวกับมาสวาร์ทาร์ไปว่า "สงสัยว่า เราคงไม่ได้เจอพวกยอดมนุษย์จากอาณาจักรแห่งแสงกันแล้วละ มาสวาร์ทาร์"  

              "แต่ อุบัติเหตุที่ทำให้ผู้การฮาซาเดนกับนักล่าของท่านนั้น คงไม่ได้ประมาณว่า ยานของทั้งคู่ร่วงตกบนดาวที่ห่างไกลความช่วยเหลือ แล้วก็ต้องอยู่ด้วยกันจน....นักล่าแอสเทลน่าถือกำเนิดขึ้นมาในภายหลังจากที่ความช่วยเหลือมาถึงแล้วสินะครับ" โคเคสเดา
              ซารีทิสพยักหน้า "ความคาดเดาของเจ้ามาถูกจุดแล้วละ ซึ่งข้ารู้ดีว่าเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นกับฟาเดลน่าอย่างแน่นอน เพราะถึงจะเป็นมนุษย์ก็ดีหรือแอตทาเวี่ยนก็ช่าง ก็หนีไม่พ้น อำนาจธรรมชาติของชายหญิงกันไปได้หรอกน่ะ"
              "หลังจากนั้น ท่านแม่ก็เลี้ยงดูข้ามาในฐานะแม่แท้ๆ ตลอดเวลาที่ข้าเกิดและโตมาอยู่บนดาวนั้นต้องถูกพี่น้องและเพื่อนฝูงดูถูกดูแคลนว่าเป็นลูกไม่มีพ่อบ้าง เป็นลูกประหลาดบ้าง พ่อเป็นใครมาจากไหนก็ไม่ยอมบอก และไม่ยอมปรากฎตัวขึ้นมาเลย จนกระทั่งเรื่องบานปลายถึงขั้นสภาสูงสอบปากคำแม่ บีบคั้นแม่ให้สารภาพว่าพ่อของข้าเป็นใคร แต่แม่ก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งข้ารู้จากปากของท่านซารีทิสไว้ แม้ข้าพยายามจะบอกกับทางสภาเพื่อปล่อยแม่ของข้าไว้ แต่สุดท้ายก็..." แอสเทลน่ากล่าว พร้อมกับถามด้วยความตัดพ้อไปว่า "แล้วท่านหายหัวไปไหนกันน่ะ ท่านซึ่งควรจะโผล่มาเพื่อแก้ต่างให้กับทางสภา เพื่อช่วยแม่ของข้าไว้ อย่างน้อยท่านก็ควรจะมาเยี่ยมข้ากับแม่กันบ้างสิ"
              โทมาสส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า "ฉัน....นับจากที่ฉันได้รับการช่วยเหลือมานั้น ฉันก็ ถูกกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลของทางกลุ่มพันธมิตร ซึ่งตลอดที่อยู่ในนั้น ฉันแทบไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแม่ของเธอเลย และไม่สามารถออกไปจากแคปซูลการแพทย์มาตลอด 3 ปีเต็ม เพราะเบื้องบนคิดว่า ฉันติดอยู่บนดาวดวงนั้นมานาน 4 เดือน จนมีโรคร้ายแทรกซ้อนกันหรือเปล่า แม้จะออกมาจากแคปซูลได้ ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นให้ร่างกายกลับมาหายดีพร้อมกลับมาทำงานตามปกติอีก 2 เดือนกันนี้แหละ"
              "แค่นั้นเองหรือ นี้แปลว่า ท่าน ไม่รู้เรื่องแม่ของข้ากันเลยใช่มั้ย และท่านก็คงจะลืมแม่ของข้าไปแล้วใช่มั้ยละ" แอสเทลน่าบอก
              โทมาสบอก "ไม่ ฉันยังเป็นห่วงแม่ของเธออยู่เสมอ หากแต่....ฉันกับแม่ของเธอต่างก็เป็นนักรบ ที่อยู่ในตระกูลที่ทรงอิทธิพลเหมือนกัน เป็นลูกที่ไม่ได้มีบทบาทสำคัญเหมือนกัน แม้อารมณ์และอุปนิสัยต่างกันเลยก็ตาม" และถอดหมวกออกพร้อมกับระลึกความหลังไปว่า "แต่ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา เราต่างรู้ใจกันและกัน หากแต่เราต่างเคารพซึ่งกันและกันในฐานะของทหารกับนักรบ โดยฉันรู้ว่า การกลับไปของแม่ของเธอจะทำให้เรื่องต้องด่างพล้อย และฉันคิดที่จะออกไปแก้ต่างให้ แต่ฉัน กลับไม่สามารถทำได้ เพราะฉันไม่อาจจะทำให้วงศ์ตระกูลของฉันผิดหวัง แม้ว่าฉันจะทำให้แม่ของเธอต้องมีมลทิน ซึ่งก็ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจมาตลอด 20 ปีเต็มๆ แต่แม่ของเธอก็รู้ดีว่า ถ้าเธอเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป เรื่องนี้จะกระทบต่อทุกฝ่าย ต่อความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรมนุษย์กับกลุ่มชาวดาวฤกษ์ และต่อสมาพันธ์อวกาศกันด้วย เพราะแม้เธอจะเป็นฝ่ายเสียเกียรติ แต่ก็ไม่เสียสัตยาบัณความเป็นนักรบกันไว้น่ะ"
              "พอ พอได้แล้ว พอได้แล้วคะ ฉันฟังมามากแล้ว ต่อให้นั้นเป็นเหตุผลที่แท้จริงกันแค่ไหน....ทุกอย่างมันสายไปแล้วละคะ" แอสเทลน่าบอก และพยายามก้าวเดินไป
              ซารีทิสบอก "....ฉันต้องขอโทษด้วยนะ แอสเทลน่า แม้ฉันสามารถปิดบังความจริงไปได้ แต่ฉันก็ยอมให้เธอกับผู้การฮาซาเดนเจ็บปวดกับความลับที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยกันไม่ได้หรอกน่ะ ต่อให้ฉันต้องเป็นฝ่ายผิดกฎเกณฑ์กันก็ตาม"
              "นั้นก็ดีแล้วคะ เพราะอย่างน้อย มันก็ดีกว่าให้ ผู้ที่ใช้พลังควอตไซเซอร์ บีบบังคับให้ต้องปริปากพูดกันน่ะ" แอสเทลน่ากล่าว
              ซารีทิสแบมือเพื่อสร้าง "แว้งงงง ครี้งงงง" แคปซูลแก้วครอบร่างแอสเทลน่าไว้ "ผู้นำโคเคส ผู้การฮาซาเดน ในเมื่อพวกท่านรู้เรื่องนี้แล้ว ถ้าไม่คิดจะปิดบังเรื่องนี้ ข้าหวังว่าพวกท่านคงคิดหาทางแก้ปัญหาที่กำลังจะตามมากันด้วยนะคะ"
              "แต่ เรื่องนี้มีแต่พวกเราเท่านั้นที่รู้กันแล้วนิครับ" โคเคสบอก
              ซารีทิสส่ายหน้า "ถึงพวกท่านจะรู้ แต่ถ้าพวกท่านพูดให้คนอื่นทราบ ก็จะเป็นการกระจายข่าวออกไป ซึ่งมันจะดีกว่ามาก หากท่านควบคุมพรรคพวกของท่านไว้ได้กันนะคะ" แล้วก็หันมาทางทอมฮาซาเดนไว้ "ส่วนท่านผู้การเองก็เช่นกัน ข้าหวังว่าท่านต้องระวังตัวให้มากกันสักหน่อยนะคะ" แล้วซารีทิสก็พาแอสเทลน่าหายตัวไป โดยที่เรือทัลดามิสก็ดึงซากยานของแอสเทลน่ากับพวกอัลดร้ามัลหายไปด้วย
              "ผมหวังว่า พวกคุณคงจะรู้ว่าควรทำเช่นไรกันบ้างนะครับ" โทมาสกล่าว
              บัลโต้บอก "แล้วผู้การคงไม่คิดจะปิดเงียบไปตลอดละสิน่ะ ถึงแม้เรื่องที่เกิดมันเกิดเมื่อ 20 ปีก่อนก็ตามนะครับ"
              "แล้วเรื่องที่เอสซาคาร่าเตือนนั้น คงไม่ได้ประมาณว่า มีใครนอกเหนือจากพวกเรารู้และแอบไปปล่อยข่าวกันเลยสิครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เกรทไทเกอร์กล่าว "แบบนั้นก็ยิ่งแย่กันพอดีนะสิ ยิ่งถ้าเป็นพวกที่มีเรื่องกับคุณและตระกูลของคุณด้วยนั้น เรื่องนี้ถือว่าอาจจะเป็นเรื่องอื้อฉาวกันใหญ่โตไปเลยก็ได้น่ะ"
              "เรื่องนี้ผมทราบดี ว่าควรรับมือกันยังไง แต่....หวังว่าพวกคุณคงไม่ทำให้เรื่องมันแย่ลงไปกว่าเดิมกันเลยนะครับ" โทมาสบอก แล้วก็เดินทางกลับไป
              โคเคสบอก "....พวกเราไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกน่ะ ผู้การฮาซาเดน แม้พวกเรารู้เรื่องนี้กันแล้ว แต่...เราไม่ยอมให้เรื่องนี้มาทำให้การหยุดยั้งพวกครีซีแทนชะงักลงไปได้กันหรอกน่ะ"

               ที่แกรนเอ็กโซดัสอาร์ค ห้องประชุมหลักในส่วนบัญชาการ หลังจากที่พวกโคเคสเดินทางกลับมาและประชุมกันจบลงแล้ว
              "ตอนนี้ แมนิเกเตอร์ซัลคาเลี่ยนที่ถูกพวกครีซีแทนจับมาใช้แรงงานในเหมืองบนดาวฟาทาเร่นั้น ได้ตัดสินใจเข้าร่วมรบกับพวกเราแล้วละ" โคเคสบอก
              เฮลิคถาม "แล้วจะแน่ใจได้ไง ว่าพวกเขาเข้าร่วมกับพวกเราอย่างบริสุทธิ์ใจ หาใช่เป็นอุบายของพวกศัตรูกันน่ะ"
              "ชาวซัลคาเลี่ยนทั้งแบบมนุษย์และลิมฟ่าที่เราไปช่วยมานั้น ล้วนแล้ว เป็นชนชั้นต่ำที่ถูกกดขี่จากความอยุติธรรมในระบบการเมืองการปกครองของแรซัลก้า และถูกขายต่อให้ครีซีแทน หรือถูกพวกครีซีแทนจับมาใช้เป็นทาสเสียเองนั้น มีความไม่พอใจต่อจักรวรรดิ์บ้านเกิดของพวกเขาเป็นอันมาก ดังนั้น พวกเขาจึงมีความตั้งใจที่จะช่วยพวกเราสู้กันอยู่แล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลกล่าว "เพราะถ้าถูกกดขี่จนความภักดีต่อบ้านเกิดถูกทำลายไปจนหมดสิ้นด้วยแล้ว พวกเขาก็ถือว่าพวกเขาไม่มีบ้านเกิดให้กลับไปกันด้วยนะ"
              "แทบไม่เชื่อเลยว่า จักรพรรดิ์แมนิเกเตอร์ที่น่าเกรงขาม จะมีสภาพที่แย่กว่าเมืองของพวกมนุษย์บนโลกตั้ง 10 เท่าเสียอีกน่ะ" อีธานบอก
              คลอเวฟบอก "ที่ถูกคือเป็นร้อยเท่าเลยต่างหากละ"
              "แล้วพวกเขาจะคุ้นเคยกับระบบเทคโนโลยี่และเครื่องมือเครื่องใช้ของพวกเรากันเลยหรือ เพราะพวกเขาอยู่บนดาวที่มีทุกอย่างที่ล้ำหน้ากว่าพวกเราเลยน่ะ" ด็อดเจอร์บอก
              บัลโต้กล่าว "ถึงไม่คุ้น ยังไงพวกเราก็ต้องเป็นฝ่ายสอนพวกเขา ต่อให้พวกเขาไม่อยากจะรับฟังหรืออวดฉลาดว่าพวกเขาเก่งพอแล้ว ก็ต้องสอนด้วยน่ะ"
              "แม้ฉันจะไม่เห็นด้วยกับหลักการของนายก็ตาม แต่...เราไม่รู้ว่าแมนิเกเตอร์จากแรซัลก้าคิดเห็นหรือมีความเชื่อกันยังไง อย่างน้อย เราต้องสร้างความคุ้นเคยกับพวกเขาไว้ก่อนละน่ะ" เฮลิคบอก
              เดเมี่ยนกล่าว "พวกคุณก็มาถามผมก็ได้นิครับ เพราะว่าหมอย่อมรู้นิสัยและความคิดของคนไข้กันอยู่แล้วนะครับ"
              "เออ ว่าแต่ พวกนายจะเอาหมอมาทำไม ในเมื่อพวกเราเองก็มีหมออยู่หนึ่งหน่วยแล้วนิ" บัลโต้ถามเพราะพึ่งมารู้ว่าพวกเวเซอร์ช่วยเดเมี่ยนที่เป็นหมอมาด้วย
              โคเคสบอก "เซริซ่าทำงานเพียงคนเดียวไม่ไหวหรอก อีกอย่าง เดเมี่ยนมีพื้นเพมาจากแรซัลก้า ย่อมรู้ดีว่าทุกๆคนที่มาด้วยนั้นมีนิสัยยังไงบ้าง น่าจะเป็นประโยชน์กันได้บ้างละน่ะ"
              "อีกอย่าง นอกจากชาวอาณานิคมที่ถูกแปรสภาพให้เป็นแมนิเกเตอร์ไปแล้ว พวกซัลคาเลี่ยนที่อพยพหนีออกมาจากแรซัลก้าหรือถูกกองกำลังจักรวรรดิ์จับกุมมาใช้ทำงานหรือทำอะไรก็ตาม ก็ถือว่าเป็นหนึ่งเป้าหมายด้วยเช่นกัน ซึ่ง...ฉันรู้ดี ว่าลำพังเซริซ่ากับทีมแพทย์ในยานของพวกเรา คงเอาไม่อยู่แน่นอน หากพวกเราช่วยๆๆๆๆ พวกแมนิเกเตอร์จนมีอัตราเยอะเกินกำลังทีมหมอของทางเราไปได้ ต่อให้จัดตั้งทีมมาอีกสองสามที ก็คงเอาไม่อยู่กันน่ะ" โคเคสกล่าวโดยมองไปถึงเป้าหมายระยะยาวด้วย
              วูลลิเซียถาม "แล้วถ้าเกิดว่าพวกที่เราช่วยเกิดแสดงบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อพวกเรากันละคะ"
              "อืมมม เรื่องนี้ก็น่าคิดไม่น้อย แต่...อย่างน้อย เราก็ต้องมีทางแก้กันบ้าง เพราะ การต่อสู้กับครีซีแทนและพวกจักรวรรดิ์แรซัลก้านั้น เราต้องใช้มากกว่าอาวุธกับยุทโธปกรณ์ที่เรามี ซึ่งก็คือบุคลากรที่เก่งๆ มีความสามารถและความตั้งใจจริงที่ช่วยเหลือพวกเราได้ พอๆกันกับความช่วยเหลือจากต่างดาวของทางสมาพันธ์อวกาศกันด้วย" โคเคสกล่าว
              เบย์แทนด์บอก "ตอนนี้เราประสบความสำเร็จในการสร้างความเชื่อถือต่อเผ่าไทกรอซและเลโอเซนกันแล้ว แม้ว่านั้นจะทำให้เกรทไทเกอร์กับพวกต้องลำบากเพิ่มเลยก็ตาม"
              "ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเลยละ เบย์แทนด์" เนคมาดูซัมถาม
              เบย์แทนด์บอก "เพราะว่า ทั้งสองเผ่านั้นชื่นชอบในการต่อสู้อยู่แล้ว ถ้ารู้ว่ามีคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจอยู่ด้วย คนในเผ่าก็คิดที่จะบุกเข้าไปท้าทายสู้กันด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่สู้กันระหว่างแมวใหญ่ด้วยกันเอง แต่มันหมายถึงกับเผ่าใดๆก็ได้ ที่เห็นว่าเก่งกาจมากพอที่จะทำให้กงเล็บของพวกเขาได้ข่วนกันบ้างละครับ"
              "สรุปคือ พวกบีสทอยด์มีคู่ต่อสู้จากต่างดาวมาท้าสู้แล้วสิ คงจะวุ่นวายน่าดูสิน่ะ" คลอเวฟบอก
              เบย์แทนด์กล่าว "ไม่เลยครับ เพราะพวกไทกรอซและเลโอเซนจะไม่ไปท้าดวลกันในสเปซโคโลนี่หรือสเปซอาร์คกันหรอกครับ เนื่องจากว่าพวกเขาไม่ชอบที่ต้องสู้อยู่ในหลอดแก้วขนาดใหญ่ แต่ถ้าพวกบีสทอยด์ตั้งรกรากบนดาวมา การต่อสู้ย่อมเกิดอย่างแน่นอน เผลอๆอาจจะไปเรียกเผ่าอื่นมาร่วมด้วยอีกทีนะครับ"
              "มาสวาร์ทาร์ นายคงจะจัดการกับเรื่องนี้ได้เลยสิน่ะ" โคเคสกล่าว มาสวาร์ทาร์พยักหน้า โดยตอนนี้เขาจัดการลงโทษพวกเฮเรเค้นที่ทำผิดกฎด้วยการแบกถังน้ำขนาดใหญ่ทำด้วยโครมเมทาเลี่ยมใส่น้ำเต็มถังทั้งสองถังแล้วยืนถือแบบขาเดียวไว้แล้ว
              เฮลิคบอก "ส่วนเรื่องหัวหน้าเผ่าบีสทอยด์ที่เหลือ ฉันจะช่วยหัวหน้าเผ่าเกรทไทเกอร์อีกแรงหนึ่งแล้วกันน่ะ"
              "เซริซ่า ฉันจะให้เธอเป็นคนช่วยสอนงานหมอเดเมี่ยนให้เขาคุ้นเคยกับระบบการรักษาในยานของพวกเราไว้ ส่วนหมอเดเมี่ยน ผมหวังว่าหมอคงจะให้ความร่วมมือ รวมไปถึงถ่ายทอดการแพทย์ที่คุณรู้ให้ทีมแพทย์ของพวกเราด้วยนะครับ" โคเคสบอก เซริซ่าพยักหน้า
              เดเมี่ยนบอก "ด้วยความยินดีอยู่แล้วละครับ หัวหน้าโคเคส แต่ ผมสนใจเรื่องสุขภาพของพวกเวเซอร์กันด้วยนะครับ"
              "เซริซ่ารู้เรื่องของพวกเรากันหมดแล้วน่ะ หมอ ไปถามเธอได้เลยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              คลอเวฟบอก "หวังว่าหมอคงจะไม่ช็อกกับอุปนิสัยของหมอเดิมของเรานะ"
              "วางใจได้นะ เพราะว่าหมอเจอคนไข้ที่เสียชีวิตมาเยอะแล้วละ" เดเมี่ยนกล่าวโดยถอดถอนใจกับชาวซัลคาเลี่ยนบางคนที่ไม่มีชีวิตอยู่ต่อจนออกจากเหมืองไปได้เลย
              โคเคสบอก "ด็อดเจอร์ นายพอจะแบ่งทีมช่างของนายมาเช็คดูยุทโธปกรณ์ของพวกครีซีแทน ทั้งอาวุธที่เราขนมาจากรถบรรทุก แล้วก็ที่เราเก็บกู้มาได้กันมั้ยละ"
              "ถ้าหมายถึงพวกปืนยาว ไอ้หุ่นตัวใหญ่เท่าจายด์กับมอเตอร์ไซด์บินได้พร้อมเรือลอยพื้นนั้น ไม่มีปัญหา แต่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านอีเลคทรอนิคและคนที่เคยสร้างมันมาช่วยดูสักหน่อย เพราะฉันไม่คุ้นกับเทคโนโลยี่ต่างดาวเลย แม้จะรู้ข้อมูลจากเครื่องมือที่ผู้การฮาซาเดนให้มาก็ตามน่ะ" ด็อดเจอร์บอก
              เบย์แทนด์กล่าว "งั้นผมจะช่วยอีกแรงแล้วกันนะครับ" โคเคสพยักหน้าอนุมัติไว้
              "บัลโต้ นายจัดการแจ้งให้กองรบทั้งสี่ทำการฝึกฝนกองรบในยานอาร์คไปพลางๆ ซึ่งเรื่องจะให้ฝึกนอกอวกาศนั้น เรายังต้องพัฒนาสร้างเครื่องมือสำหรับออกสู่อวกาศและปฏิบัติการณ์นอกยานเอาไว้ ดังนั้น เราคงต้องใช้ห้องสร้างแรงดึงดูดกันสักหน่อยแล้วละ" โคเคสบอก
              บัลโต้พยักหน้า "รับรองว่าคงจะสนุกแน่ๆละสิน่า"
              "แล้วจะเอายังไงกับคลอเวฟดีละ โคเคส" สเปียริทถามถึงการลงโทษคลอเวฟไว้
              โคเคสบอก "ฉันคิดว่า ฉันหาวิธีลงโทษที่เหมาะสมกันแล้วละ" คลอเวฟได้ฟังก็งงๆเพราะไม่รู้ว่าโคเคสจะลงโทษคลอเวฟกันแบบไหน
              "อะไรกันวะเนี้ยยยย" คลอเวฟกล่าวโดยที่เขาถูกมัดแขนขากับจานแม่เหล็กกลมและครอบแก้วไว้ ซึ่งถูกจับใส่ในห้องควบคุมแรงดึงดูดพร้อมกับพวกบรอนเซอรูท โดยกระโดดเด้งไปตามผนังและกระจกไว้ ซึ่งกระจกเป็นแบบหนาสุดกู่ขนาดเนคมาดูซัมชกยังไม่ร้าว และเป็นโดมที่ขยายจากห้องเดิมให้กว้างขึ้น "วาโช้วววว เพลงหมัดไร้แรงดึงดูด" โมคุโตะกระโดดชิ่งพร้อมกับต่อยให้คลอเวฟปลิวมา "ลูกเตะลอยระล่อง" ฟันดิวเรคเตะฟาดส้นส่งคลอเวฟลงมา "ศรีษะหินผา" ทอฟคานิคกระโดดโขกหัวส่งคลอเวฟปลิวมา "ฝ่ามือหมุนติ้ว" กริมเบอรี่ฟาดฝ่ามือจนคลอเวฟหมุนเป็นลูกข่างไว้ ต่อด้วย "หัตถ์หมุนวงล้อนำโชค" เลอแชนจับคลอเวฟหมุนเป็นวงล้อตามเข็มนาฬิกาไป แล้วก็ส่งมา "ลูกเตะย้อนเวลาไปอดีต" เซเทธกลับหัวใช้เท้าหมุนคลอเวฟแบบย้อนศรไป "เอ้า ลูกบอลหมุนกลิ้ง" ทินเหมาลีจับด้านข้างและหมุนคลอเวฟกลิ้งหน้าคว้ำลง บรอนเซอรูทเลยโดดขึ้นมาและเตะกลับ "มันต้องหมุนแบบนี้ต่างหากละ" จนหมุนคลอเวฟกลับหลังไปหลายตลบด้วยกัน
              "นั้นคงเป็นการลงโทษที่เหมาะสมกันจริงๆแล้วละ ฮะๆๆๆ" เนคมาดูซัมบอก "แล้วห้องนี้พวกนายสร้างมาก่อนเลยหรือ"
              โคเคสบอก "ห้องทดลองแรงดึงดูดนั้นเป็นห้องที่ดร.รีไลฟ์เวอรี่กับทีมวิจัยรีดีวิเนียนสร้างขึ้นมา เพื่อทดสอบการปรับตัวเข้ากับสภาวะไร้แรงดึงดูดในอวกาศกันนี้แหละ เพราะดร.รีไลฟ์เวอรี่ไม่สามารถออกไปนอกห้องทดลองขึ้นไปอวกาศได้ ดังนั้น พวกเขาเลยสร้างห้องจำลองแรงดึงดูดและแรงโน้มถ่วงไว้นี้แหละ"
              "ดูเหมือนว่าพวกคุณบรอนเซอรูทจะสนุกมากเลยนะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              ไซโคลเนียกล่าว "นั้นเป็นหนที่สามแล้วที่พวกเขาอยู่ในห้องทดลองนี้นะ แม้ครั้งแรกพวกเขาจะวิตกจริตกับการที่พวกเขาไม่สามารถทรงตัวในสภาพไร้แรงดึงดูดกันน่ะ"
              "เฮ้ ว่าแต่ จะหยุดได้หรือยังวะ" คลอเวฟถามโดยที่โดนพวกบรอนเซอรูทเอาท่อแอร์มาไล่ตีกันอย่างสนุกสนาน
              สเปียริทบอก "ยัง เพราะพวกเราจะให้นายเป็นเป้าเคลื่อนที่ให้พวกไกซ์และมิลด์มาฝึกในห้องนี้ ซึ่งไม่ใช่แค่กลุ่มเดียวน่ะ แต่จะมีหลายสิบกลุ่มด้วยกันน่ะ"
              "ถึงพวกทหารวัยรุ่นฝึกกันไปหมดแล้ว เดียวฉันจะไปเรียกพวกเฮเรเค้นมาซ้อมในห้องนี้ต่อเลยแล้วกัน เพราะการลงโทษนาย มันอีกยาวน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เจเนลกล่าว "นั้นสาสมกับที่นายหาเรื่องยิงใส่เนคมาดูซัมกันน่ะ"
              "พวกคุณน้าบรอนคงจะเห็นลุงคลอเวฟเป็นของเล่นไปแล้วสินะคะ" แมบิลีนกล่าว
              เอโอลีนหัวเราะพร้อมกับบอกว่า "ไม่ใช่หรอกจ๊ะ เพราะลุงคลอเวฟทำตัวไม่ดี พวกลุงๆน้าๆในกลุ่มเลยต้องทำแบบนี้เพื่อสอนให้เขาไม่ทำแบบนี้อีกนะจ๊ะ"
              "แล้วทำไมพวกคุณลุงถึงไม่ลองเอาลุงจายด์เข้าไปบ้างเลยหรือคะ" แมบิลีนถาม
              จิลกล่าวไปว่า "อันนี้คงต้องคิดกันนิดหนึ่งน่ะจ๊ะ แมบิลีน ซึ่งเราคิดว่าห้องนี้คงไม่กว้างพอแล้วละ"
              "ถ้าเป็นห้องใหญ่สุดนั้นก็พอว่าไปอย่างน่ะ" สเตฟอร์ดบอก โดยหมายถึงห้องควบคุมแรงดึงดูดที่ตนกับโฟรซ่าบุกไปถล่ม แล้วพีวิลกับพวกเข้ามาขัดขวางในช่วงที่ทั้งคู่ทำงานให้กับเทคไครด์
              อีธานเลยพูดห้ามไปว่า "อย่าดีกว่านะครับ นับแต่ครั้งนั้นพวกเราต้องลำบากมาซ่อมแซมกันแทบแย่เลยนะครับ"
              "ถ้าหากห้องนี้มันกว้างไม่พอรองรับกับพวกทหารที่มาฝึกได้จริง ก็คงต้องแบ่งส่วนหนึ่งออกไปฝึกนอกอาร์คแล้ว หากแต่ พวกคุณพอจะทำเป็นโซนกั้นเขตได้มั้ยละ" โคเคสบอก
              เอโอลีนกล่าว "วางใจได้เลยคะ เพราะว่าทางเรารู้ว่าห้องทดลองนี้คงไม่กว้างพอสำหรับเหล่าทหารฝึกใหม่เลย เราจึงสร้างสนามพลังสำหรับฝึกซ้อมเอาไว้ แน่นอนว่า เราได้ตัดชุดอวกาศไว้เป็นจำนวนมาก นับจากพวกเรามีวัตถุดิบสร้างใยผ้าสังเคราะห์พิเศษกันมากพอแล้วนะคะ"
              "แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ เราควรให้พวกทหารและทุกๆคนคุ้นกับที่นี้ก่อน แล้วค่อยให้ออกนอกอวกาศกันก็พอน่ะ แม้ว่านั้นจะทำให้การทดลองของพวกคุณมีปัญหาเลยก็ตามน่ะ" โคเคสกล่าว
              พลัสเชอริทบอก "หมดเวลาของพวกนายแล้ว ต่อไปก็คงให้พวกทหารเข้ามากันได้แล้วละ" อีธานเลยกดแพดเพื่อเปลี่ยนแรงดึงดูดในห้องให้กลับสู่สภาวะเหมือนเดิม บรอนเซอรูทและน้องๆเลยออกมา เว้นแต่คลอเวฟที่ยังอยู่กลางห้องไว้
              "เอาเป็นว่าตอนนี้ เราคงปล่อยให้คลอเวฟเป็นเป้าซ้อมกันเลยดีกว่า เพราะอย่างน้อย เบย์แทนด์ก็คงจะตรวจเช็คอาวุธปืนกันแล้วละ" พีวิลบอก
              ไม่ทันไร เบย์แทนด์ก็เข้ามาพอดี "เร็วเหลือเกินน่ะ ว่าแต่ สแกนปืนของพวกครีซีแทนง่ายมากเลยสิน่ะ" เจเนลบอก
              "เรามีปัญหาแล้วละครับ" เบย์แทนด์กล่าว พวกเวเซอร์และโคเคสได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย แล้วทั้งหมด (เว้นแต่คลอเวฟ)ก็มาที่ห้องทดสอบอาวุธของเบย์แทนด์ "คือว่า จากคำพูดของชาวซัลคาเลี่ยนที่ถูกพวกครีซีแทนบังคับให้สร้างปืนนี้ขึ้นมา เขาบอกว่า ปืนทุกกระบอกนั้น ถ้าไม่มีคำสั่งอนุมัติหรืออนุญาตจากพวกครีซีแทน ปืนเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้ได้เลยนะครับ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "แล้วนายไม่ได้ทำการแกะปืนออกมาดูเลยหรือ"
              "ชาวซัลคาเลี่ยนคนนั้นบอกมานะครับ ว่าต่อให้แกะปืนมาเพื่อเช็คหลักการทำงานของมัน กลไกที่อยู่ในตัวปืนมันจะทำลายทุกชิ้นส่วนที่เป็นตัวสำคัญของปืนให้พังไปทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่แค่กระบอกเดียวนะครับ เพราะผมสแกนตรวจสอบดู พบว่าทุกกระบอกติดกลไกแบบนี้ไว้หมดเลยนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว
              โฟรซ่าบอก "แต่ ทำไมเนคมาดูซัมถึงใช้ได้กันเลยละ ทั้งๆที่ปืนมันน่าจะเซตให้ใช้ได้กันทั้งหมดแล้วนิ"
              "คือว่า ตอนที่หัวหน้าใช้ปืนกราฟคาไบน์นั้น หัวหน้าใช้โค้ดรหัสของแลมเซนที่แกะมาจากส่วนแขน ทำการเปิดรหัสเอาไว้นะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              เจเนลบอก "งั้น นายก็ลองใช้รหัสที่ว่านั้นกับปืนพวกนี้ก็ได้นิ"
              "ไม่ได้หรอก รหัสของหัวหน้ากองของครีซีแทนที่ตายไปแล้วนั้น มันใช้ปลดล็อกปืนได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ" เนคมาดูซัมกล่าว "ที่มันเป็นเช่นนี้ เพราะว่า พวกครีซีแทนเคยประสบปัญหาพวกศัตรูแอบแย่งหรือขโมยปืนมาใช้กันมาก่อน เลยทำให้พวกมันต้องเซตระบบป้องกันเอาไว้ แม้พวกมันจะทำปืนหล่นจนฝ่ายตรงข้ามแย่งมาใช้ มันก็ยิงไม่ออกอยู่ดีนี้แหละ"
              พีวิลกล่าว "นั้นไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมพวกครีซีแทนถึงปล่อยให้พวกเรายึดปืนมาได้ เพราะพวกมันรู้ว่าต่อให้เราขโมยมา ก็ย่อมใช้ไม่ได้อยู่แล้วละ"
              "แล้วไม่มีทางแก้อื่นใดเลยหรือไงกันน่ะ" สเตฟอร์ดถาม
              เนคมาดูซัมบอก "มันมีอยู่สองทางแก้ด้วยกัน คือ...วิธีแรก ต้องจับตัวครีซีแทนระดับผู้บัญชาการกองทัพหรือหัวหน้ากองมา โดยแคนเนทเองนั้นก็คุมพวกอาร์มมี่ทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งปืนที่เรายึดมานั้นก็คือผลงานจากกองรบของแคนเนท แน่นอนว่า ปืนทุกกระบอก ถ้าจะใช้การได้ แคนเนทต้องเป็นคนอนุมัติเอาไว้ แต่ตอนนี้ แคนเนทถอนทัพกลับทัพหลักซึ่งอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เสียด้วยน่ะ"
              "แบบนั้นก็แย่ละสิ เราน่าจะจับตัวมันมาก็ได้นิ" เจเนลบอก
               พีวิลกล่าว "พวกเราทำอย่างงั้นไม่ได้หรอกน่ะ เพราะแคนเนทน่าจะเดาออกแล้ว ว่าพวกเรามาที่ดาวดวงนี้เพื่อขัดขวางการส่งเสบียงอาวุธและแรงงานทาสเอาไว้ ไม่ได้มาเพื่อจับกุมแคนเนทไว้แต่แรกกันนะสิ"
              "แลมซีนีไนซ์กับพวกครีซีแทนที่ตั้งกำลังกองรบหลักเองก็น่าจะมีกำลังมากมายอยู่ด้วยแล้ว สภาพกำลังรบของเราเองก็ยังไม่พร้อมเสียด้วย ฉันไม่อยากจะเสี่ยงกับการจับกุมนายทหารระดับสูงจนต้องเสียลูกน้องไปโดยใช่เหตุเลยน่ะ" โคเคสบอก และหันมาถาม "แล้วอีกวิธีละ"
              เนคมาดูซัมบอก "วิธีที่ 2 นั้น คือต้องให้ครีซีแทนช่างสรรพวุธมาจัดการปลดล็อกปืนทุกกระบอกเอาไว้ แม้ปืนนี้พวกครีซีแทนจะสั่งให้พวกซัลคาเลี่ยนผลิตขึ้นมา แต่...ก็รู้แปลนและโครงสร้างของปืนทุกกระบอกเอาไว้ เพื่อทำการซ่อมบำรุงหรือปรับแต่งปืนตามสภาพการรบที่กำลังจะเกิดขึ้นกันด้วย ซึ่งครีซีแทนที่รู้หลักการทำงานของปืนและอาวุธทุกประเภทนี้ ก็มีแต่ครีซีแทนที่เป็นช่างสรรพวุธเท่านั้นแหละ"
              "อาวุธทุกประเภทที่ว่ามานิ มันหมายถึงแขนอาวุธนี้ด้วยใช่มั้ยละ" จายด์กล่าว
              ลิเนียร์ตี้ตอบ "คะ เพราะช่างสรรพวุธจะมีข้อมูลอาวุธของครีซีแทนแบบเวิร์คเกอร์มาสเตอร์ทั้งหมดไว้ ซึ่งไม่เพียงช่วยปรับจูนหรือซ่อมแซมแขนดังกล่าว หากแต่เป็นที่ปรึกษาของพวกเวิร์เกอร์มาสเตอร์ในการใช้อาวุธต่างๆนี้ไปด้วย แน่นอนว่า ช่างสรรพวุธเองก็ย่อมรู้เรื่องเกี่ยวกับอาวุธประเภทอื่นๆไม่ว่าจะของพวกแมนิเกเตอร์อื่นๆ ของพวกสมาพันธ์อวกาศ และของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ด้วย ซึ่งช่างสรรพวุธก็เชี่ยวชาญในด้านนั้นเป็นอย่างดีมากเลยนะคะ"
              "งั้นก็ดีละสิ ถ้างั้นพวกเราก็ตามหาช่างนั้นมาซะก็สิ้นเรื่อง" เลอแชนกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "แต่คงยากน่ะ เพราะ แลมซีนีไนซ์คงจะรวบรวมพวกช่างสรรพวุธมาไว้ในกำมือกันแล้ว และมันคงไม่ยอมให้พวกเราพาตัวไปได้แน่ๆเลยละ"
              "เออ หัวหน้าคะ แล้วถ้าเป็นเพื่อนครีซีทาฟอสที่หัวหน้ารู้จักกันละคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "นายรู้จักกับพวกครีซีแทนทหารกันอย่างงั้นนะหรือ เนคมาดูซัม"
              "ถึงลิเนียร์ตี้ไม่พูดถึง ฉันก็กะจะพูดถึงอยู่แล้วละน่า" เนคมาดูซัมกล่าวและเปิดข้อมูลของครีซีแทนหมวกสีแดงแต่มีขนนกสีเงินติดตรงหมวกกับบอดี้สีขาวสลับแดงออกมา "สหายครีซีแทนตนนี้คือ แอร์ไพล์มมิส เป็นครีซีทาฟอสสังกัดแอร์ฟอส ฉันรู้จักกับแอร์ไพล์มมิสมาเมื่อ 8 ปีก่อน โดยหมอนี้อยู่หน่วยบินที่ 14 ซึ่งมีหน้าที่คุ้มกันยานรบ นอกจากจะเก่งกาจเรื่องการสู้รบกลางอากาศแล้ว ยังเป็นหัวหน้าสั่งการหน่วยรบที่ฉลาดกันไม่น้อยด้วยนะสิ"
              ไซโคลเนียกล่าว "แล้วนายคนนี้ก็คงจะขับเครื่องบินเป็นสิน่ะ"
              "ยานบิน อากาศยาน ยานอวกาศแบบต่างๆ แอร์ไพล์มมิสสามารถควบคุมมาอย่างช่ำชองแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก "ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ แอร์ไพล์มมิสมีน้องสาวที่ทำหน้าที่เป็นพยาบาลดูแลชาวครีซีแทนที่ประจำการอยู่ที่ดาวดวงไหนสักแห่ง อีกทั้งหมอนี้ก็เป็นเพื่อนกับครีซีแทนทุกประเภทไม่ว่าจะผ่านการรบกับเฮซเทิร์ซมาหรือไม่ก็ตาม ฉันหวังแค่ว่า หมอนี้คงไม่ให้ความร่วมมือกับแลมซีนีไนซ์ขายพรรคพวกที่อยู่นอกการควบคุมไปให้เพื่อรักษาชีวิตกันหรอกน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็เท่ากับว่าพวกเราเสียกลุ่มคนที่รู้ตื้นลึกหนาบางของพวกแลมซีนีไนซ์กันไปด้วยละสิ"
              "ว่าแต่ เพื่อนที่แอร์ไพล์มมิสรู้จักนั้น ก็มีพวกช่างสรรพวุธด้วยใช่มั้ยละ" สเตฟอร์ดบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "แอร์ไพล์มมิสเป็นเพื่อนซี้กับ ฟูแรม หลานชายของฟูริแกรม สรรพวุธรุ่นเก๋าที่ช่วยเหลือกองรบจักรวรรดิ์แรซัลก้าในการสู้กับพวกเฮซเทิร์ซมาก่อนน่ะ"
              "หลานของฟูริแกรมนะหรือ นี้ครีซีแทนเป็นพวกหุ่นที่ให้กำเนิดบุตรเหมือนกับนายและพวกหรือเปล่าละครับ" เบย์แทนด์บอก เนคมาดูซัมส่ายหน้า
              ลิเนียร์ตี้บอก "พวกครีซีแทนถูกผลิตขึ้นมาจากโรงงานเฉพาะหรือศูนย์กลางผลิตหลักโดยตรงนะคะ ซึ่งการที่พวกครีซีแทนจะเป็นพี่หรือน้องได้นั้น ขึ้นกับตัวเอไอที่มีรหัสตัวตนตรงกัน แต่คนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาจะมีสถานะเป็นพี่ ที่เหลือซึ่งตื่นตามหลังมานั้นจะเป็นน้องตามลำดับ ส่วนลำดับความเป็นพ่อหรือปู่นั้น นอกจากรหัสตัวตนตรงกันแล้ว มันขึ้นกับรุ่นที่พวกเขาถูกผลิตมาก่อนหลังด้วย ซึ่งรุ่นที่ผลิตขึ้นมาก่อนรุ่นล่าสุดและมีรหัสตัวเลขชุดก่อนตรงนั้นจะถูกตั้งสถานะเป็นปู่และพ่อตามลำดับนะคะ"
              "เข้าใจแล้วละ พวกครีซีแทนที่ถูกผลิตมาเป็นรุ่นแรกๆแต่มีระยะเวลาห่างจากรุ่นล่าสุดเป็นสิบปีหรือมากกว่าสองสามปีคงจะเป็นรุ่นปู่ย่า และลดหลั่นลงมาจากรุ่นปู่ย่าก็เป็นรุ่นพ่อกับแม่กันด้วย ที่พูดมานิ ถูกต้องมั้ยละ" โฟรซ่ากล่าว ลิเนียร์ตี้พยักหน้า
              พีวิลถาม "แล้วนายรู้จักกับฟูแรมบ้างหรือเปล่าละ"
              "ฉันรู้จักกับฟูแรมและปู่ฟูริแกรมมาตั้งแต่รบกับเฮซเทิร์ซเมื่อ 3 ปีก่อน ปู่ฟูริแกรมมักจะตำหนิฉันเรื่องทำอาวุธพังบ้าง ไม่รู้จักดูแลรักษาอาวุธของตัวเองบ้าง หรือแม้กระทั่ง บ่นตัดพ้อไม่ยอมซ่อมให้เองด้วยนะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              เบย์แทนด์บอก "แต่ลึกๆแล้วคุณก็เคารพเขาเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งที่เป็นห่วงเป็นใยคุณมากเลยสิครับ"
              "แล้วตอนนี้ทั้งสองคนนั้นอยู่ที่ไหนกันละ" โคเคสถาม
              เนคมาดูซัมบอก "ปู่ฟูริแกรมพาฟูแรมไปทำงานที่ดาวดวงไหนสักแห่งนี้แหละ แล้วไม่ได้ข่าวคราวอีกเลยนับแต่นั้นมา ซึ่งฉันก็เป็นห่วงปู่ฟูริแกรมไม่น้อย เพราะสภาพภายในของปู่แกไม่ค่อยดีกันเลยน่ะ"   
              "หวังว่าแอร์ไพล์มมิสจะรู้ว่าทั้งสองกับพวกครีซีแทนที่อยู่นอกกำมือของแลมซีนีไนซ์ยังอยู่หรือเปล่าน่ะ" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แม้ว่าตอนนี้เราจะรู้เรื่องไม่เป็นเรื่อง ระหว่างนักล่าแอสเทลน่ากับผู้การฮาซาเดนกันน่ะ"
              "แล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันละครับ" เบย์แทนด์บอก
              โคเคสกล่าว "เดียวฉันจะเรียกทุกๆคนในฐานมาคุยกันสักหน่อย รวมถึงพวกหัวหน้าเผ่าบีสทอยด์เองด้วยน่ะ"

    โปรดติดตามตอนต่อไป ในตอนที่ 24 ปฏิบัติการณ์สะท้านฟ้า การปะทะกับมิตรสหายเก่าบนสมรภูมิสูงสี่หมื่นฟุต
    ตอนหน้า ครีซีแทนแอร์ฟอสนำกำลังยานรบที่ถูกผลิตขึ้นใหม่ล่าสุดออกสู่ดาวคาชาน่า เพื่อไปสมทบกับทัพหลักของพวกแลมซีนีไนซ์ ซึ่งแอร์ไพล์มมิสกับพวกถูกส่งมาร่วมรบกันด้วย พวกเวเซอร์จะช่วยเหลือพวกแอร์ไพล์มมิสไปพร้อมกับหยุดยั้งกองยานรบได้หรือไม่
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×