ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #41 : ตอนที่ 18 ยุทธการกอบกู้แทแรนเซียคืน ศึกปะทะพ่อแม่ลูกอันน่าเจ็บปวด บทซามูไรปะทะอัศวิน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25
      0
      13 ก.ย. 64

              "ว้ากกกกกก" สิ้นเสียงระฆัง โครเต้พุ่งเข้าใส่ด้วยการลอยเหนือพื้นอย่างรวดเร็ว "ย้ากกกกก" มาสวาร์ทาร์วิ่งเข้าใส่โดยที่กุมดาบให้คมชี้ลงพื้นไว้ "หวับบบบบ หวับบบ" "เกร้งงงงงง" แล้วทั้งสองก็บุกเข้ามาพร้อมกับฟาดดาบใส่ไปอย่างรวดเร็ว "แกร็กๆๆๆๆๆๆๆ เคร้งงงงง" ดาบของทั้งคู่ปะทะใส่กันอย่างต่อเนื่อง จนทั้งสองโดดถอยหลังออกมา "ว้ากกก ว้ากกก ย้ากกก" โครเต้หวดดาบฟาดฟันใส่มาสวาร์ทาร์ที่ใช้ดาบปัดรับอย่างใจเย็น แล้วก็ "ฟ้าวววว หวืบบบบ" แทงดาบใส่มาสวาร์ทาร์ซึ่งรีบโยกหลบออกมาพร้อมกับ "ป้ากกก" กระทุ้งหัวไหล่ขวาทำให้โครเต้เสียหลัก แล้วก็ก้าวถอยหลังมาสองก้าวไว้ เมื่อโครเต้ที่ถูกกระแทกจนล้ม ลุกขึ้นมาพร้อมตั้งท่าดาบเข้า "ย้ากกกกกกก" มาสวาร์ทาร์ตะโกนพร้อมกับวิ่งเข้ามา "เคร้งๆๆๆๆๆๆ" หวดดาบใส่โครเต้ที่ตั้งดาบปัดรับเพลงดาบที่ฟาดฟันมาอย่างรวดเร็วจนแทบต้านรับไม่ทัน มาสวาร์ทาร์เลยเงื้อดาบขึ้นเพื่อฟาดลง แต่ "ป้ากกกก" โครเต้ถีบให้มาสวาร์ทาร์ล้มไปอย่างจังๆ "แพทเทิร์นของนายเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเลยน่ะ" โครเต้บอก โดยหวดดาบฟันใส่มาสวาร์ทาร์ ซึ่งหมุนตัวหันดาบไปข้างหลังต้านรับไว้ได้
              "หากแต่คราวนี้ เราต่างมีพลังเหนือกว่าคราวก่อนเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วก็หวดฟาดฟันใส่โครเต้ที่ใช้สไครเดอร์ซอร์ดปัดรับด้วยมือเดียวไปสามทีด้วยกัน
              "แม้จะรู้ว่านายใช้เวลา 10 วันที่เฟอคาน่าให้มาไปฝึกฝีดาบให้กล้าแกร่งขึ้น แต่ฉันก็ไม่มีทางยอมให้นายได้เช่นกัน" โครเต้บอกพร้อมกับอาบพลังดาบสไครเดอร์ซอร์ดไว้ พร้อมกับ "สไครเดอร์สแลช" ซัดคลื่นคมดาบวิ่งตามพื้นไปห้าคลื่นด้วยกัน "เรซเซอร์เอดจ์" มาสวาร์ทาร์รูดดาบให้เรืองแสงและซัดดาบไปสามที ซึ่งคลื่นคมดาบแรกพุ่งทำลายคลื่นคมดาบไปสองอัน อันที่สองทำลายอีกสองอัน และอันที่สามพุ่งผ่านอันสุดท้ายมาถึงตัวโครเต้ แต่... "ฉั้วะ เปรี้ยงงง ตรูมๆ" โครเต้หวดดาบทำลายคลื่นคมดาบที่สามทิ้งไป "นายคำนวณพลังที่ใช้ในการโจมตีเพียงสามทีให้คุ้มค่าเลยน่ะ มาสวาร์ทาร์ แต่....สไครเดอร์ซอร์ดของฉันยังเหลือพลังอยู่กันน่ะ" แล้วก็พุ่งเข้ามาตรงหน้ามาสวาร์ทาร์และ "แชบบบบบ" ฟาดดาบเข้าใส่มาสวาร์ทาร์เบลดที่ยังเรืองแสงอยู่ แม้จะไม่สว่างเท่าดาบของโครเต้เลยก็ตาม
              "แม้นายเหลือพลังในดาบมากกว่าที่ฉันมี แต่นายก็คงไม่ได้เสียพลังไปเยอะอย่างที่ฉันคิดไว้แน่ๆ แม้ว่านั้นจะทำให้ฉันเจ็บตัวไปมากก็ตาม" มาสวาร์ทาร์บอกพร้อมกับ "ป้ากกก" เตะให้โครเต้ล้มพร้อมกับก้าวถอยหลังไปอีกสี่ก้าวเต็มๆ
              "โอกาสชนะของนายมาทั้งที ทำไมต้องปล่อยมันไปดื้อๆกันละ" โครเต้กล่าว
              มาสวาร์ทาร์ตอบ "ถ้าฉันรีบปิดเกมส์โดยที่นายยังงัดทุกอย่างไม่หมด มันก็แย่พอดีนะสิ โครเต้ เผลอๆ นายจะโต้ตอบฉันจนพิชิตลงไปได้ซะมากกว่า"
              "เหมือนที่นายเชื่อว่า นายยังใช้ดาบของนาย ทั้งๆที่ยังมีเกรซคาลิเบอร์อยู่ในมือและได้มันมาจากทราเวยน์แบบนี้ ระวังเหอะ ความเชื่อมั่นของนายจะฆ่านายเองน่ะ" โครเต้กล่าว
              มาสวาร์ทาร์ตอบ "แม้กระทั่งจุดมุ่งหมายของนายเองก็ด้วยน่ะ โครเต้ อย่าเสียเวลาโต้เถียงกันเลยดีกว่า" แล้วก็อัดพลังจนมาสวาร์ทาร์เบลดเรืองแสงขึ้น "เพราะนั้นจะทำให้พวกที่เหลือรอเก้อกันนี้แหละ"
              "งั้นอย่าเสียใจที่เร่งให้นายแพ้เร็วแล้วกัน" โครเต้ไม่พูดอะไรมากนอกจากฉาบดาบให้เรืองแสงจนออร่าส่องประกาย พร้อมกับบุกเข้าใส่มาสวาร์ทาร์ที่ฉาบดาบจนเป็นมีออร่าขึ้นเช่นกัน "แชบๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทั้งคู่ต่างหวดดาบใส่ไม่ยั้งอย่างต่อเนื่อง "คาลามิตี้สไคร์ด" โครเต้แทงดาบเป่าพลังคลื่นควงสว่านพุ่งเข้าใส่ ซึ่งมาสวาร์ทาร์เอี้ยวหลบมาได้ทัน เนื่องจากคลื่นควงสว่านนั้น "ฟ้าวววว เปรี้ยงงง ตรูมมมม" แรงถึงขั้นเจาะทะลวงสนามพลังครอสเซียมไประเบิดที่นั่งคนดูพังเป็นรูใหญ่ๆไป แล้วก็ "ว้ากกกก" โครเต้ซัดคลื่นดาบพุ่งเข้าไปอีก มาสวาร์ทาร์เลยแทงดาบให้เกิดลำแสงเข้า "เปรี้ยงงงง" ปะทะกับพลังคลื่นควงสว่านจนระเบิดไป "เพลงดาบพิฆาต เพลงดาบสายฟ้าแลบ" มาสวาร์ทาร์เลยพุ่งเข้าบุกใส่ด้วยความเร็วสูงและฟันใส่ แต่... "เคร้งงงง" โครเต้ต้านดาบเร็วปานสายลมของมาสวาร์ทาร์เอาไว้ได้ แล้วก็ "ป้ากกก" ถีบมาสวาร์ทาร์ให้เสียหลักแล้วก็... "ฟ้าว ฟ้าว ฟ้าว ฟ้าว" เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงจนเห็นภาพเงาติดตาไว้ แล้วก็โผล่มาข้างหลังและด้านหน้าพร้อมกัน "ชาร์โดว์บริซ" โครเต้บุกฟันใส่มาสวาร์ทาร์จากการโจมตีสองด้านไว้ ซึ่งก็... "แคร้งงงงง" มาสวาร์ทาร์ใช้ดาบกดดาบของโครเต้เอาไว้
              "นายพยายามทำให้ฉันไขว่เขว่ด้วยการใช้เงาของนายมาข้างหลังเพื่อให้ฉันหันหลังมารับไว้ แต่จริงๆแล้ว นายตั้งใจจะบุกแทงใส่ฉันไว้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ไม้ตายคราวก่อนที่ฉันเกือบเสียท่าไปนั้น ฉันเดาออกแล้วละ" แล้วก็ผลักโครเต้ให้ถอยออกไปห่างๆไว้
              "ถ้าเช่นนั้นก็เจอนี้หน่อยแล้วกัน" โครเต้จับดาบให้อยู่ในแนวราบแล้วก็... "ควับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" หมุนตัวด้วยความเร็วสูงบุกเข้ามา โดยที่มาสวาร์ทาร์พยายามจะยกดาบ แต่... "เปรี้ยงงง" กลับต้านการโจมตีดุจลมพายุไปไม่อยู่ด้วยท่าไม้ตาย "ชโทรมแองกริฟ" โครเต้เลยหยุดหมุนไปสักครู่ก่อนจะชาร์จพลังดาบขึ้นมาใหม่แล้วก็ "ควับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" หมุนตัวดุจพายุและบุกเข้าใส่อีกครั้ง
              "ถ้านายคิดจะหมุนแบบลูกข่างละก็ ฉันก็โต้นายด้วยไม้ตายนี้เช่นกัน" มาสวาร์ทาร์รีบบุกเข้ามาพร้อมกับหมุนขดตัวดุจวงล้อเรืองแสงเข้า "เพลงดาบวงล้อยักษ์พิฆาต" ซึ่งก็พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วเช่นกัน "ฟ้าววว กรี้กกกกกกกกกกกกก กรี้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก" แม้การปะทะครั้งแรกทั้งสองจะถูกเป่าดีดไปสักพัก แต่ก็กลับมาปะทะใหม่กันอย่างยาวมากจน... "เปรี้ยงงงง" โครเต้กลับเป็นฝ่ายถูกดีดไปอย่างจังๆ ส่วนมาสวาร์ทาร์ก็ลงสู่พื้นแม้ดาบจะปักกับพื้นเวทีเลยก็ตาม และเสียเวลาในการดึงดาบไว้
              "เสร็จฉันละ สไครเดอร์ซอร์ด เอรัปชั่นบลัสต์" โครเต้เลยกระโดดขึ้นสูงพร้อมกับแทงดาบลงพื้น ส่งพลังครอสเซียมไปล้อมรอบมาสวาร์ทาร์ไว้ "แวบบบ ตรูมๆๆๆ" จนเป่าระเบิดรอบด้านอย่างจังๆ หากแต่มาสวาร์ทาร์รีบโดดขึ้นมาและอาศัยแรงระเบิดที่พุ่งปะทุขึ้นเสริมกับพลังโจมตีไว้
              "ใครเสร็จใครกันแน่ เพลงดาบนางแอ่นร่อนโฉบ" มาสวาร์ทาร์พุ่งลงมาในแนวเฉียงแล้วก็ "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว" หวดฟันในจังหวะที่เท้าแตะพื้น แล้วก็หมุนตัวและฟันไปสองรอบ ซึ่งโครเต้รีบหลบออกมาได้ก่อนที่คมดาบจะถึงตัวเสียอีก "ว้ากก โซนิคเชร็ดเดอร์" แล้วก็ชาร์จพลังดาบเข้าซัดคลื่นคมดาบแบบสามเหลี่ยมขนาดใหญ่เข้าใส่ "เครเซนท์เรซเซอร์" มาสวาร์ทาร์สวนกลับด้วยคลื่นคมดาบเสี้ยวจันทร์ขนาดใหญ่พุ่งเข้าปะทะไปอย่างจังๆ แล้วก็... "แกร้งงงงง" ทั้งคู่วิ่งเข้าใส่พร้อมกับปะดาบไว้
              "พลังของนายยังร้ายกาจและอันตรายกว่าเดิมเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              โครเต้กล่าว "แต่นายก็แซงจนทัดเทียมกันเช่นนี้ แม้ว่าฉันจะไล่ต้อนให้นายจนมุม นายก็ยังหาทางหลุดออกมาได้เองจนได้สิน่ะ" แล้วทั้งคู่ก็โดดออกมาพร้อมตั้งหลักไว้ พร้อมกับ.. "หวับบบบ เคร้งงง" มาสวาร์ทาร์หวดดาบเสยขึ้น แต่โครเต้ก็ตั้งบล็อกเอาไว้แม้จะโดนดาบงัดจนเสียหลักไปก็ตาม โครเต้เลยหวดดาบด้วยการจับสองมือเข้าใส่มาสวาร์ทาร์ให้เต็มแรง ซึ่งมาสวาร์ทาร์ก็ใช้สองมือจับดาบต้านไว้เช่นกัน แล้วก็หวดดาบใส่ไปไม่ยั้ง จนกระทั่ง... "ดูท่าว่า การดวลแบบนี้จะยิ่งยืดเยื้อและไม่ยอมจบสิ้นกันแน่ๆ หากยังต้านทานกันแบบนั้นเลยละ"
              "ถ้าให้เดา นายไม่มีทางที่จะปิดบังเรื่องไม้ตายของนายที่ยังไม่ได้ใช้กัน ซึ่งนายก็ใช้ท่วงท่าและไม้ตายของนายที่เคยใช้ในการดวลครั้งก่อนมาจนหมดชุดแล้วด้วย" มาสวาร์ทาร์กล่าว "อีกอย่าง ฉันก็รู้ด้วยว่า นายเองก็มีพลังแบบเดียวกับฉันและพีวิลอยู่ ถ้าให้เดา นั้นคงเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับนายเลยสิน่ะ"
              โครเต้ส่ายหน้าพร้อมกับกล่าว "ทางเลือกสุดท้ายนะหรือ เปล่าเลย มาสวาร์ทาร์ ไอ้ไพ่ใบสุดท้ายและทางเลือกสุดท้ายนั้น แค่หลักประกันสำหรับพวกที่รู้ว่าตัวเองจะแพ้อยู่ แต่ในกรณีของฉัน คือหลักประกันของผู้กำชัยชนะกันนี้แหละ"
              "ถ้านายมั่นใจมากขนาดนั้นละก็ แสดงมันออกมาให้ดูเลยสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าวและชูดาบมาตรงหน้าโครเต้ ซึ่งยิ้มพร้อมกับจับดาบมาตรงหน้า
              "จงดูซะ นี้คือพลังที่แท้จริงของฉัน กุญแจแห่งชัยชนะที่ไร้ผู้ใดเทียมทาน ด้วยร่างอันแข็งแกร่งและทรงพลังทั้งปวง อะไรซ์อัพ" แล้วก็ชูดาบขึ้น ซึ่งก็ปรากฎเสาพลังครอสเซียมโพยพุ่งพร้อมกับ ชุดเกราะของโครเต้ที่แปรเปลี่ยนไป โดยเกราะเดิมของโครเต้ที่มีสีเขียวแก่กลายเป็นสีเขียวอ่อนกันทั้งหมด ส่วนหน้ากากที่ปิดแค่ส่วนตากลับปิดทั้งหน้าไว้ด้วยหน้ากากแบบตะแกร่ง เข้ากับส่วนหมวกที่ยังครอบทั้งหัวโดยที่ส่วนเขาด้านข้างยาวขึ้นมา ส่วนสไครเดอร์ซอร์ดนั้นขยายคมจนดาบยาวและปลายดาบนั้นกลายเป็นคมกางเขนไป "นามของข้าในตอนนี้ มิใช่โครเต้สไครเดอร์กันแล้ว หากแต่เป็น... อัลดร้าโครเต้สไครเดอร์ กันแล้วละ"
              "นะ นั้นนะหรือ ร่างจริงของท่านแม่ทัพใหญ่กันน่ะ" พาราไดน์กล่าวอย่างอึ้งๆ
              ครูเซเดนหญิงบอก "ท่านโครเต้ ทรงพลังมากถึงเพียงนี้จะต้องเอาชนะคนทรยศอย่างมาสวาร์ทาร์อย่างแน่นอน"
              "ไม่น่าเชื่อว่าโครเต้จะเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้กันน่ะ" เควนตินกล่าว
              จอมพลลอนเฟลบอก "ไม่เลย โครเต้เปลี่ยนไปตั้งแต่กลายเป็นสมุนรับใช้โอเวอร์เดสไปนานแล้ว หากแต่นี้เป็นการเผยคราบที่แท้จริงไว้น่ะ"
              "ตานายแล้วละ มาสวาร์ทาร์" อัลดร้าโครเต้สไครเดอร์กล่าว
              มาสวาร์ทาร์เลยเก็บดาบไว้ข้างหลัง "ในเมื่อนายใฝ่หาชัยชนะแม้จะมีแรงแค้นอยู่ในใจเป็นตัวผลักดัน แต่ฉันในฐานะดาบที่มีไว้ปกป้องผู้อ่อนแอนั้นไม่ยอมให้นายได้ใจไปมากกว่านี้หรอก แปลงร่าง" แล้วมาสวาร์ทาร์ก็ทำท่าแปลงร่างขึ้นพร้อมกับ "แวบบบบบ ฟ้าววววว" เสาพลังครอสเซียมโพยพุ่งพร้อมกับเปลี่ยนทรงเกราะของมาสวาร์ทาร์จนกลายเป็น... "ด้วยพลังและเกียรติแห่งครอสตรีม และด้วยหัวใจกับจิตวิญญาณอันเป็นตัวตนของฉันที่ยังคงอยู่ในตอนนี้ เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ได้ปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าแล้ว อัลดร้าโครเต้สไครเดอร์ เตรียมตัวไว้ให้ดีแล้วกัน"
              "นั้นนะหรือ ร่างแทรนซิ่งของอาจารย์ของเราน่ะ โคตรเท่ห์เป็นบ้าเลยวะ" พาลกิสกล่าว
              อิคกรีทบอก "สุดยอด นี้อาจารย์สามารถแปลงร่างได้เช่นนี้ โอกาสชนะก็คงมาแล้วสิน่ะ"
              "เหลือเชื่อ เรื่องที่คุณมาสวาร์ทาร์แปลงร่างได้เหมือนกับลูกพี่พีวิลนั้น ท่าจะเป็นจริงแล้วสิเนี้ย" ไกซ์บอก
              บัลโต้กล่าว "ได้เห็นเป็นบุญตาเหมือนกันวะ ว่ามาสวาร์ทาร์เองก็กลายเป็นยอดแมนิเกเตอร์ได้เช่นกันน่ะ"
              "เตรียมตัวไว้อย่างงั้นนะหรือ เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ ต่อให้นายเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ชัยชนะก็น่าจะรู้กันแล้วนิ" อัลดร้าโครเต้กล่าว
              เซย์เคนมาสวาร์ทาร์บอก "...แพ้ชนะยังตัดสินกันไม่ได้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย ทางเดียวพิสูจน์ได้ว่าชัยชนะอยู่กับใคร ก็เข้ามาเลย"

              "ว้ากกกกกก" อัลดร้าโครเต้บุกชาร์จมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับหวดดาบไฮสไครเดอร์ซอร์ดเข้าฟันใส่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์จนเป่ามาสวาร์ทาร์ปลิวถอยหลังไปอย่างจังๆ แต่ก็เบรคด้วยปีกพลังครอสเซียมไว้เสียก่อน "พลังดาบของนายเพิ่มขึ้นแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้กันหรอก" แล้วก็บุกเข้าใช้ชินมาสวาร์ทาร์เบลดฟาดฟันใส่อัลดร้าโครเต้ด้วยความเร็วเช่นกัน "หวับบบ ป้ากกกก" แล้วก็ฟาดใส่อัลดร้าโครเต้ให้ถอยไปเช่นกัน หากแต่ถอยเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นเอง "หึ" โครเต้ลำพองใจแล้วก็บุกเข้ามา "เคร้งงงง เคร้งงงง แคร้งงง เคร้งงงง" ใช้ไฮสไครเดอร์ซอร์ดฟาดฟันใส่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ที่ใช้ชินมาสวาร์ทาร์เบลดปัดป้องและฟาดฟันไปอย่างรวดเร็ว โดยที่โครเต้ได้ทำให้สนามพลังรอบเวทีหายไป เพื่อทำให้การต่อสู้ไม่ถูกจำกัดเพียงแค่พื้นเวทีกันแล้ว เนื่องจากทั้งสองสามารถบินได้ในสภาวะแทรนซิ่งอยู่ "เคร้งงง แคร้งงงงงง แกร็กๆๆๆๆๆๆๆ เคร้งงงง" ทั้งคู่ต่างฟาดฟันดาบและปะดาบใส่กันอย่างจังๆ อัลดร้าโครเต้จึงโจมตีด้วย "ชาร์โดวแลนซ์" การซัดทวนขนาดยาวเข้าใส่ "ไชน์นิ่งเรเฟียร์" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์เลยสวนกลับไปบ้าง ซึ่งแม้จะซัดดาบเรียวเล็กเข้ามาแต่ "จึกๆๆๆๆ" คมดาบเรียวเล็กเจาะทะลวงปลายแหลมของทวนทะลุและ "ตรูมๆๆๆๆๆ" ระเบิดไปกันทั้งหมด "แดกเกอร์ลันเชอร์" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ยิงกระสุนมีดสั้นเข้าใส่อัลดร้าโครเต้ ซึ่งก็สวนคืนด้วย "อาร์คฮอร์น" ส่วนปลายเขายาวสองข้างยิงเลเซอร์ทำลายทิ้งไปกันหมด "แวบบบบบ" อัลดร้าโครเต้อัดพลังจนคมดาบเรืองแสงขึ้นมา "อิลลูชั่นไดซ์" พร้อมกับพุ่งเข้าใส่โดยแยกร่างไว้ "ฟ้าว ฉั้วะ ฟ้าวๆ ฉั้วะ ฉั้วะ ฟ้าวๆๆๆๆๆ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" แล้วก็ปรากฎตัวเข้าฟันใส่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์อย่างรวดเร็วจากด้านหลัง ต่อมาก็ด้านข้าง ตามด้วยรอบทิศไปสี่ดอกถ้วน จนเซย์เคนมาสวาร์ทาร์อยู่ในวงล้อมรูปดาวห้าแฉกไว้ ก่อนที่อัลดร้าโครเต้จะบุกลงมาฟันใส่ "ฟ้าวว เปรี้ยงงง" จนทำให้เกราะของเซย์เคนมาสวาร์ทาร์มีรอยฟันปรากฎอยู่ทั่ว
              "สมแล้วที่นายมีพลังแทรนซิ่งและพลังครอสเซียมที่ทรงพลังอยู่ ถ้าเป็นนักรบครอสตรีมอวดดีอย่างทราเวยน์ คงได้ตายในดาบแรกหรือดาบที่สองไปนานแล้วละ" อัลดร้าโครเต้บอก
              "เคยมีนิยามไว้ ว่าถ้าไม่เจ็บก็คงไม่หราบจำละสิ แต่แย่หน่อย ที่ฉันไม่คิดจะแพ้นายเดียวนั้นหรอก" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์เลยพุ่งผ่านอัลดร้าโครเต้ไปอย่างรวดเร็ว
              "แค่พุ่งไปอย่างรวดเร็วจะทำอะไร..." โครเต้ยังพูดไม่จบก็ "ชรี้งงงง ชรี้งงง" ผลึกบนเกราะหัวไหล่มีรอยฟันประทับสองรอยตามด้วย "ชรี้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" คมเขี้ยวพลังครอสเซียมปรากฎเข้าฟาดฟันใส่อัลดร้าโครเต้ไปสิบดอกจนมีรอยฟาดฟันที่พุ่งเข้ามาถาโถมใส่ไปด้วย
              "นายคิดว่าฉันพุ่งไปโดยไม่ทำอะไรนั้น นายถึงได้โดนเพลงดาบคมวายุสลาตันไปเองนี้แหละ" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์กล่าวโดยในจังหวะที่พุ่งผ่านไปนั้น ก็ตวัดดาบชินมาสวาร์ทาร์เบลดไปจนเกิดคลื่นคมดาบที่โครเต้เองมองไม่เห็น ซึ่งก็ลงมือด้วยความเร็วที่ตามองไม่เห็นตามด้วย
              "ฉันคงประมาทนายไปอย่างมากเลยน่ะ และลืมไปว่านายมีเพลงดาบที่ได้รับการถ่ายทอดมาแต่เด็กๆ เหมือนที่ฉันได้รับการสอนเพลงดาบจากตระกูลของฉันมาด้วยนี้แหละ" อัลดร้าโครเต้บุกเข้าฟาดฟันใส่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ที่ยังใช้ดาบเรืองแสงอยู่ "แม้ว่าฉันจะเป็นยอดขุนพลของแทแรนเซียที่ได้ขึ้นตำแหน่งด้วยความสามารถอันแท้จริงจนเกิดความภาคภูมิใจให้กับวงศ์ตระกูลกันก็จริง แต่ สิ่งที่ฉันได้เห็นในราชอาณาจักรอันรุ่งเรืองและเกรียงไกรมาตั้งแต่สถาปนาอาณาจักรขึ้นในยุคทองนั้น กลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ชนชั้นสูงเอาแต่อยู่สุขสบายบนความทุกข์ของพวกชนชั้นต่ำที่ถูกกดขี่และกีดกันพร้อมทั้งต้องเสียภาษีอย่างหนัก ในขณะที่พวกผู้ดีเองก็ไม่ต้องเสียอะไรเลย ถ้าพวกนั้นมีขุนนางที่เกาะเป็นปรสิตดูดเลือดจากอำนาจของกษัตริย์ แม้พวกนั้นจะอ้างว่าทำตามรับสั่งขององค์กษัตริย์และเชื่อฟังคำบัญชากันก็จริง แต่พวกนั้นมันก็แค่หน้าไหว้หลังหลอกพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจยังไม่ว่า พวกมันยังควบคุมองค์กษัตริย์ให้อยู่ในกำมือเป็นเหมือนหุ่นเชิดกันเช่นนี้ แม้กษัตริย์เองพยายามจะมีอำนาจเพื่อหยุดยั้งพวกมัน แต่วงจรอุบาทว์นี้มันไม่มีทางจบสิ้นไปได้หรอก เพราะพวกขุนนางมันก็มีทายาทที่พร้อมจะสานต่อความชั่วของพวกมันเอาไว้ อย่าว่าแต่พวกกังฉินเลย ขนาดพวกตงฉินที่จงรักภักดี ยังแปรพักตร์และทรยศฉันจนต้องมีสภาพเช่นนี้ คิดหรือว่าจะให้อภัยกันได้น่ะ"
              เซย์เคนมาสวาร์ทาร์กล่าว "แต่มนุษย์เองใช่ว่าจะเลวเหมือนที่นายคิดอยู่น่ะ เพราะว่ามีบางคนที่ต้องกระทำความเลวเพราะถูกบังคับ ถูกควบคุมและถูกข่มขู่ แม้จะมีหนทางเลือกเอาไว้ก็ตาม อีกอย่าง พวกที่ทรยศนายและควบคุมแทแรนเซียในเวลานี้ก็โดนลงโทษอย่างสาสมกันแล้ว ใยจะต้องเอาเรื่องถึงขั้นทำลายบ้านเมืองของนายกันอีกละ"
              "แทแรนเซียมันเกินเยียวยาแล้วละ มาสวาร์ทาร์ ตราบใดที่อำนาจกษัตริย์นั้นมีคนควบคุมมันและใช้ไปในทางที่ผิด หรือกษัตริย์เองก็ใช้อำนาจผิดๆต่อให้คนๆนั้นมีจิตใจดีงามและเมตตาปราณีกันแค่ไหน เวลาที่ผ่านพ้นไปนั้นจะเปลี่ยนแปลงคนๆนั้นให้เลวลงตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ตาม" อัลดร้าโครเต้บอก "ท่านโอเวอร์เดสได้ชี้ทางสว่างให้กับข้าแล้ว ว่ามนุษย์ที่เอาแต่สร้างปัญหาและความวุ่นวายขึ้นตลอดเวลานั้น สมควรแล้วที่จะต้องถูกกำจัดให้สิ้นซากไปซะ เช่นเดียวกับแทแรนเซีย ที่ตอนนี้ ข้าเห็นแล้วว่ามันเกินเยียวยากันแล้ว ตราบใดที่อาณาจักรที่เปลือกงดงามแต่ด้านในเน่าเฟะนั้นไม่ถูกทำลายสิ้น วงจรแห่งความเหลวแหลกก็จะวนไปเรื่อยๆจนอาณาจักรล่มสลายลงด้วยมือของมันนี้แหละ" แล้วก็ฟาดดาบใส่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ไปด้วย
              "มนุษย์แม้จะทำความผิดหรือสร้างความเลวร้ายก็ตาม แต่ก็ย่อมมีสักคนที่สำนึกในความผิดที่ตัวเองได้ก่อ รู้จักแก้ไขให้มันถูกต้องไม่ว่าจะสายเกินไปหรือไม่ก็ตาม แม้กระทั่งหยุดยั้งพวกคนชั่วและคนที่คิดแบบเดียวกับนายนั้นก็ด้วย ถ้าขนาดแมนิเกเตอร์เองยังมีฝ่ายต่อต้านฝ่ายที่คุกคาม พวกมนุษย์เองก็มีทั้งดีและเลวด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งต่อให้เราไม่ไปทำเขา ผลกรรมที่เขาก่อไว้ย่อมสนองตอบอย่างแน่นอน หากแต่มันจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเองแหละ"
              "นายคิดที่จะปกป้องพวกมนุษย์ที่จิตใจแปรเปลี่ยนได้ง่ายๆกันเลยละสิ แต่ฉันไม่ยอมปล่อยให้พวกมันอยู่รอดไปได้หากไม่มีการลงทัณฑ์ที่สมควรกันไปได้หรอก" อัลดร้าโครเต้กล่าว
              เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ถาม "แต่การกระทำของนายในตอนนี้ มันยิ่งทำให้นายเลวลงกันเลยน่ะ โครเต้ นายไม่เพียงทำลายชื่อเสียงของบรรพบุรุษที่สร้างสมมาจนย่อยยับ แต่นายทรยศต่อความจงรักภักดีต่อองค์ราชา คำสาบานที่นายให้ไว้ แม้กระทั่งตัวของนายก็ยังหักหลังกันเช่นนี้ ถ้านายจะอ้างว่านายขายความเป็นมนุษย์กันไปตั้งแต่นายตื่นขึ้นมาอีกครั้งนั้น มันก็ตรงอยู่แล้ว เพราะว่าตอนนี้นายเป็นแค่ปีศาจแห่งความแค้นและต้องการทำลายล้างอีกฝ่ายให้พังพินาศเพื่อสนองความต้องการของนายเองนี้แหละ"
              "และมันจะดีกว่านี้ หากนายไม่มาขวางทางฉันเอาไว้ก่อนน่ะ ซึ่งฉันจะไม่ต้องเสียลูกน้องไปมากและไม่ต้องสูญเสียท่านอาทรัสเตอร์กันด้วย อาณาจักรแทแรนเซียจะต้องพังพินาศด้วยคมดาบและความพิโรธของฉันไปซะ" อัลดร้าโครเต้บอก
              เซย์เคนมาสวาร์ทาร์กล่าว "แล้วหลังจากนั้นละ โครเต้ ถ้าแทแรนเซียพังพินาศไป นึกหรือว่าเพลิงแค้นของนายจะยุติลงกันน่ะ ไม่เลย โครเต้ มันจะยิ่งทำให้นายเสาะหาเป้าหมายมาสนองความต้องการทำลายล้างของนายกันมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงนายจะควบคุมสติของนายไม่ได้แล้ว ตัวนายก็พลอยทำลายตัวเองลงไปทีละนิดๆตามไปด้วย แน่นอนว่า นายไม่เพียงกำจัดพวกเราและชาวโลกให้หมดลง เผลอๆ นายจะบุกไปจัดการกับโอเวอร์เดสและพวกที่เหลืออยู่เอง ซึ่งสิ่งที่นายทำอยู่ในตอนนี้ แทบจะเหมือนกับพวกกังฉินโกงกินและพวกปฏิวัติที่พยายามจะเปลี่ยนแผ่นดินไปเรื่อยๆจนกว่ากษัตริย์จะทำตามที่พวกนั้นต้องการ พอกษัตริย์หมดอำนาจหรือไม่สามารถอยู่บัลลังก์ก็ไปหาคนอื่นมาแทนกันด้วย แน่นอน ว่านายกับคนพวกนั้น จำต้องมีใครมาหยุดยั้งวงจรเลวๆนี้เอาไว้อย่างถูกต้องเท่านั้น เหมือนที่ฉันจะหยุดยั้งนายกันยังไงละ"
              "นายเปรียบเปรยฉันกับคนพวกนั้น คงคิดจะทำให้ฉันบันดาลโทสะจนเสียสติและทำลายตัวฉันเองสิน่ะ หึ แต่ตอนนี้มันไม่มีผลแล้ว เพราะฉันจะสู้กับนายให้ถึงที่สุดกันนี้แหละ" อัลดร้าโครเต้กล่าวและอัดพลังจนเกิดออร่าคลื่นเพลิงขึ้น "ดีไมซ์อินเฟอร์โน่ซอร์ด" พร้อมกับหวดดาบออร่าพลังเพลิงเข้าใส่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์จนเพลิงครอสเซียมแผดเผาไปทั่วร่าง
              แต่มาสวาร์ทาร์ยังไม่ยอมแพ้ "ชินมาสวาร์ทาร์เบลด เพลงดาบแสงอัสนีบาต" แล้วก็บุกเข้าใส่ด้วยดาบครอสเซียมที่เปล่งประกายสายฟ้าขึ้นที่คมดาบแล้วก็ "ฉั้วะ หวับ ฉับ" ฟาดฟันเป็นรอยกางเขนใส่อัลดร้าโครเต้ไปเต็มๆ "เฮ้ยยยยย" "ว้ากกกกกก" ทั้งคู่จึงบุกเข้าฟาดฟันด้วยดาบไปเต็มๆ ซึ่งก็... "ฉืบบบบ เพล้งงงง" ส่วนหมวกของเซย์เคนมาสวาร์ทาร์ถูกผ่าจนแตกและเผยหมวกของมาสวาร์ทาร์เดิมปรากฎแทนที่ "ฉึบบบ เปร๊าะ" ส่วนเขาด้านขวาของอัลดร้าโครเต้ก็หักขาดเช่นกัน "ฮึยยย โว้วววว" "ฟึ่บบบ ซูมมมมมมมมมม" โครเต้อัดพลังออร่าจนเกิดเพลิงผลาญขึ้นและขยายคลื่นเพลิงให้ยาว "ฮืมมมมม หือออ" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์เผ่งสมาธิเพื่อทำให้ดาบของตน "เปรี้ยะๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" เกิดออร่าสปาร์คขึ้นที่ดาบอย่างรุนแรง "โว้วววววว ย้ากกกกกก" แล้วโครเต้ก็หวดดาบเพลิงขนาดใหญ่เข้าใส่ "ว้ากกกกกก" มาสวาร์ทาร์ก็หวดดาบสวนกลับไปจน "เคร้งงงงง เปรี้ยงงง ตรูมมมมม" เกิดการระเบิดขึ้นมาและเป่าทำลายส่วนกลางป้อมปราการจนแหลกเป็นจุลไป
              "พะ พลังรุนแรงมันเลยหรือเนี้ย" บัลโต้กล่าว
              โคเคสบอก "แทบไม่แปลกใจหรอก ที่พลังของทั้งสองมันแรงถึงขั้นทำลายปราการอันแข็งแกร่งลงได้ส่วนหนึ่งกันน่ะ แม้ว่าจะเป็นพลังครอสเซียมเหมือนกันก็ตาม"
              "ว่าแต่ ท่านขุนพลล่ะ" แรมลอชถาม
              เฟอคาน่าตอบ "ยังอยู่ หากแต่พลังของทั้งสองนั้นลดลงไปกว่าครึ่งด้วยน่ะ" โดยตอนนี้ อัลดร้าโครเต้เสียเกราะหัวไหล่และเกราะแขนไปแล้ว เช่นเดียวกับส่วนหน้ากากแตกไปซีกหนึ่ง ในขณะที่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ ส่วนเกราะร้าวเป็นจุดๆ โดยที่ส่วนปีกนั้นแตกร้าวไปครึ่งส่วนแล้ว แต่ยังเข้าสู้ด้วยการฟาดดาบฟันใส่ จนมาสวาร์ทาร์ได้แผลตรงกลางหน้าอก ในขณะที่โครเต้โดนฟันเข้าที่เอวซ้ายไว้ แม้จะสมานแผลไปได้ก็ตาม
              "ยังไม่ยอมแพ้กันเลยหรือ มาสวาร์ทาร์ ขนาดโดนพลังดาบเข้าปะทะไปซะอย่างงั้นเลยน่ะ" อัลดร้าโครเต้กล่าว
              เซย์เคนมาสวาร์ทาร์บอก "คำถามนั้นฉันควรจะเป็นคนถามมากกว่าน่ะ โครเต้ สภาพของพวกเราในตอนนี้ มีแต่ต้องตัดสินกันไปข้างหนึ่งนี้แหละ"
              "มีคนหนึ่งยืนอยู่ อีกคนต้องล้มลง นั้นคือกฎของการดวลของพวกเรา แพ้คือตาย ชนะคือรอด มาจบการดวลครั้งนี้เลยดีกว่า" อัลดร้าโครเต้ตัดสินใจชาร์จดาบขึ้นมาเต็มกำลังจนดาบเรืองแสงและมีพลังออร่าครอสเซียมโพยพุ่งเอาไว้
              "ใช่ และเราต่างก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียกันแล้ว ตัดสินด้วยดาบเท่านั้นแหละ" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์จับดาบเพ่งสมาธิจนคมดาบเรืองแสงพร้อมพลังออร่าโพยพุ่งตามไปด้วย จนทำให้ปราการแกรนฟอร์เทสซิโม่สั่นไหวและ "ตรูมมมม เพล้งงงง เปรี้ยงงง โครมมม" พังเสียหายเป็นจุดๆไปด้วย
              "ไฮสไครเดอร์ซอร์ด เดรทเดสทรั่คชั่นเดลีทเทอร์" อัลดร้าโครเต้เตรียมใช้ท่าไม้ตายจนออร่าที่โพยพุ่งมานั้นกลายเป็นพลังแสงเคลือบคมดาบสีเขียวแก่ ในขณะที่ของเซย์เคนมาสวาร์ทาร์นั้น "ชินมาสวาร์ทาร์เบลด เอเซอร์เอ็กเซคิวชั่นเอดจ์!!!" ก็ใช้ท่าไม้ตายเช่นกัน หากแต่โครเต้บุกเข้ามาก่อน "ซูมมมม เปรี้ยงงง" ส่วนมาสวาร์ทาร์นั้นก็ระเบิดพลังครอสเซียมและบุกทะยานเข้ามาด้วยร่างที่เรืองแสงสีเขียวอ่อนไว้ "โว้ววววว" "ว้ากกกกกก" แล้วทั้งคู่ก็บุกเข้าฟาดฟันใส่พร้อมกัน "วาบบบบ เปรี้ยงงงงงง" จนทำให้ปราการลอยฟ้าได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วงไปหลังจากการปะทะดาบกันด้วย โดยที่ทั้งคู่ยังปะดาบกันอยู่ "แกร็กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เคร้งงงง ตรูมมม" ซึ่งเมื่อปะดาบจนถึงที่สุด ทั้งคู่ก็ผลักตนเองออกไปโดยเร็ว จนเกิดคลื่นช็อคกระจายไปทั่วปราการอย่างจังๆ ซึ่งก็ทำให้กำแพงหน้าปราการระเบิดตามไปอีก "ว้ากกกก ย้ากกกก" อัลดร้าโครเต้บุกฟาดเข้าใส่ด้วยดาบที่เรืองแสงสู้กับเซย์เคนมาสวาร์ทาร์ที่ใช้ดาบเรืองแสงเช่นกัน "เฮ้ยยย ว้ากกกก" "ฮึยยย ย้ากกกกก" โครเต้หวดดาบหมายจะฟันใส่มาสวาร์ทาร์ที่บุกเข้าจ้วงแทงใส่ "แคร้งงงงง ฉึกกกก" ดาบของโครเต้สับตรงหัวไหล่ขวาของเซย์เคนมาสวาร์ทาร์ไปเต็มๆ หากแต่ดาบของมาสวาร์ทาร์แทงทะลุท้องของโครเต้ไปอย่างจังๆ จนทั้งคู่ลอยลงสู่พื้น แล้วดึงดาบเข้ามาเพื่อ... "โว้วววววววว" บุกเข้าใส่พร้อมกับฟันดาบเข้าเต็มแรงจน "เปรี้ยงงงงง" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์และอัลดร้าโครเต้หันหลังให้กัน ซึ่งตัวปราการนั้นลอยต่ำลงมาโดยเฟอคาน่าควบคุมไว้ "ตึงงง" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ถึงกับเข่าทรุดลงกับพื้น ซึ่งทำให้พวกเวเซอร์และโคเคสตกใจกันไม่น้อย
              "นั้นก็รู้ผลแล้วสิ....ว่าท่านแม่ทัพ...หือ...." เฟอคาน่ากล่าวอย่างลำพองใจเช่นเดียวกับพวกครอสตรีม เธอกลับรู้สึกได้ถึง... "ไม่จริงน่ะ เป็นไปไม่ได้หรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์ยังผงกหัวขึ้นพร้อมกับดึงดาบขึ้นจากพื้นไว้
              "พอได้แล้วละ โครเต้ ต่อให้นายมีแรงก็คงทำได้แค่ยืนเป็นศพค้างในท่าเตรียมฟาดดาบลงกันดีๆนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์พูดขึ้นเพราะตอนนี้ อัลดร้าโครเต้.... "แวบบบบ แวบบบบ" มีรอยฟันขาดสะพายแล่งรอยใหญ่ขึ้นที่กลางหน้าอกที่ยังเรืองแสงอยู่จน "เปรี้ยงงงงง" รอยฟันนั้นเป่าระเบิดเกราะของอัลดร้าโครเต้แตกกระจุยไปอย่างจังๆ เช่นเดียวกับไฮสไครเดอร์ซอร์ดที่... "แกร็กก เพล้ง" มีรอยร้าวและแตกกระจุยแหลกละเอียดตามไปด้วย
              "ฉันเข้าใจแล้วละ ว่าทำไม ท่านอาทรัสเตอร์ถึงให้พวกเราดวลกันในครั้งแรก นั้นเพราะเขารู้ ว่าไม่วันใดวันหนึ่ง เราคนใดคนหนึ่งจะต้องเป็นฝ่ายทรยศและอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับครอสตรีมขึ้นมา โดยมีคนหนึ่งต้องรับภาระดูแลครอสตรีมเพื่อหยุดยั้งคนทรยศนั้นไว้ ซึ่งนั้นจะทำให้เราสองคน มีเหตุผลและแรงผลักดันตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้น แม้ต่างฝ่ายจะผลักดันตนเองไปคนละทางก็ตาม เพื่อที่จะดวลตัดสินกันจนถึงที่สุด แม้จะรู้ว่าตัวเองจะต้องพ่ายแพ้ในศึกนี้และต้องเอาชีวิตไปทิ้งเลยก็ตาม" โครเต้กล่าว "แต่ฉันไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึ่ง ฉันทรงพลังกว่านายเพราะว่ามีแรงแค้นต่ออาณาจักรที่สิ้นหวังและไม่มีทางเยียวยา เช่นเดียวกับขุมกำลังระดับเทพและเก่งกาจเสมอกัน แต่นายกลับมีแรงสนับสนุนเป็นพวกแมนิเกเตอร์ต่างชนิด ต่างนิสัยและความคิดกับความเชื่อ แม้กระทั่งขีดความสามารถก็ยังแตกต่างจนแทบจะไม่มีทางชนะได้นิ แล้วทำไม นายถึง เอาชนะฉันไปได้ละ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "สิ่งที่ฉันต่างจากนายก็คือ ความเชื่อมั่นต่อผู้อื่นยังไงละ โครเต้"
              "ความเชื่อมั่นอย่างงั้นนะหรือ" โครเต้กล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "....ที่ฉันมาดวลกับนายได้นั้น ไม่ใช่แค่ตัวฉันเพียงคนเดียวหรอก ถ้าไม่มีแรงผลักดันที่มาจากความเชื่อใจของพรรคพวกทุกๆคน ทั้งพวกลูกศิษย์ ทั้งสหายร่วมรบ ทั้งเพื่อนที่เชื่อใจได้และคนที่ฉันสาบานว่าจะปกป้อง ที่แม้จะรู้ว่านิสัยของพวกเขาแต่ละคนต่างกัน บางคนเชื่อฟังได้ดี บางคนกลับดื้อรั้นและหัวแข็งไม่รับฟังสิ่งใดๆ ซึ่งหากไม่ปรับตัวเพื่อรับมือกับนิสัยของแต่ละคน ก็ไม่มีทางที่จะเรียนรู้มุมมองของอีกฝ่ายว่าคิดยังไงกันบ้าง ซึ่งนั้นหมายถึง แนวความคิดในการแก้ไขสถานการณ์ที่ว่ามานั้นจะมีแค่มุมแคบ ไม่ได้กว้างไกลและมีตัวเลือกเยอะ แม้ตัวเลือกที่เยอะจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดีก็ตาม แต่ฉันเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ที่แม้จะน้อยนิด ว่าจะต้องเกิดขึ้นมาได้หากพวกเราเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นมาเอง เหมือนเช่นที่เชื่อว่า แทแรนเซียจะสงบสุขและมีระเบียบ เพราะฉันเชื่อว่า องค์ราชาหรือราชินีจะต้องปกครองทุกฝ่ายให้อยู่ร่วมกันแม้จะมีปัญหาแต่ก็สามารถแก้ไขได้เสมอ แม้ว่านั้นจะมาช้าหรือไม่ก็ตาม" แล้วก็มองมายังโครเต้ไปว่า "ผิดกับนาย ที่ไม่เพียงไม่เชื่อมั่นในตัวกษัตริย์หรือเหล่าคนดีที่ต้องการแก้ไขและหยุดยั้งความวุ่นวายเอาไว้ แต่นายกลับละทิ้งความเชื่อมั่นที่ตัวเองมีแต่เดิมไว้เพื่อเดินเส้นทางแห่งความแค้น แม้นายจะมีอำนาจสั่งการผู้อื่นที่มีตำแหน่งด้อยกว่า แต่เมื่อนายปราศจากความเชื่อใจหรือปรับตัวเพื่อรับมือกับพวกลูกน้องของนายที่ถล่ำลึก หรือแม้กระทั่งไปส่งเสริมให้พวกเขาทำตัวแย่กว่านี้ เท่ากับว่านายได้ทำให้พรรคพวกที่นายควรจะเชื่อใจในตัวนายหายไปทีละคนสองคน จนเหลือนายเพียงคนเดียว นั้นไม่แปลกใจเลย ที่ทราเวยน์คิดจะโค่นล้มนายเพราะนายไม่ได้ทำให้ทราเวยน์ ยอมจำนนและเชื่อฟังนายเหมือนเช่นที่นายทำกับเฟอคาน่าและแรมลอชด้วย ซึ่งว่ากันตามจริงแล้ว นายได้ทำลายครอสตรีมลงด้วยมือของนายเองต่างหากละ"
              "ความเชื่อใจอย่างงั้นนะหรือ นายผ่านปัญหาต่างๆมาได้เพราะความเชื่อใจในคนอื่นอย่างงั้นสิน่ะ แล้วถ้าเกิดว่าพรรคพวกหรือคนที่นายรักหรือทุ่มเทชีวิตเพื่อปกป้องนั้น เกิดคิดคดและหักหลังเมื่อที่ฉันเป็นขึ้นมาละ นายยังจะไม่ชักดาบอยู่อีกหรือ" โครเต้ถาม
              มาสวาร์ทาร์ชะงักไปพักใหญ่ก่อนจะตอบไปว่า "....ถึงพวกเขาจะทำเช่นนั้น ล้วนต้องมีเหตุและผลที่กระตุ้นให้พวกเขาก่อเรื่องกันไว้ ต่อให้เขาทำเลวแค่ไหน ก็สมควรที่จะได้รับโทษที่ได้ก่อไว้ รวมถึงโอกาสแก้ไขและไถ่โทษในสิ่งที่ทำลงไปด้วย แม้โทษนั้นจะร้ายแรงแค่ไหน ก็ย่อมให้อภัยกันได้เสมอ" แล้วก็พูดไปอีกว่า "การฆ่าคนที่ยังมีโอกาสแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองได้ก่อ ก็ไม่ต่างอะไรไปกว่าการตัดโอกาสให้พวกเขาได้ไถ่โทษจนทำให้เขากลายเป็นคนผิดไปโดยปริยาย และทำลายคนที่จะมาช่วยเหลือนายเวลาที่นายประสบเหตุเดียวกันเพื่อทดแทนบุญคุณที่ได้ช่วยเหลือเขาไปด้วยนั้น มันก็แย่พอกันกับไปฆ่าคนบ้าที่ก่อเรื่องโดยขาดสติหยั่งคิดและไม่มีเหตุและผลมารองรับ ทั้งๆที่คนบ้าคนนั้นโดนผลกรรมที่ได้ก่อไว้ลงโทษจนมีสภาพที่ไม่สามารถคิดหรือตั้งสติกันไว้แล้วน่ะ"
              "งั้นนะหรือ แต่นายในตอนนี้ก็สังหารคนบ้าอำนาจอย่างฉันไปด้วย นายก็ผิดบาปไม่น้อยไปกว่ากันละสิ" โครเต้กล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ที่นายบ้าในตอนนี้เพราะมีเหตุผลผลักดันอยู่ ฉันจึงไม่รู้สึกผิดบาปอะไรหรอกน่ะ แม้จะรู้ว่าตัวเองได้ทำบาปไป ซึ่งแม้จะไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ เรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว แต่ฉันอยู่กับมันได้ เพราะฉันปล่อยวางอดีตอันเจ็บปวดลง และอยู่กับปัจจุบัน เพื่อทำให้อนาคตในวันพรุ่งนี้นั้นดีขึ้น แม้จะรู้ว่าวันพรุ่งนี้มันจะเลวร้ายจนยากที่จะแก้ไขอะไรได้ก็ตาม ฉันก็ยังก้าวเดินไปได้พร้อมกับพรรคพวกที่เชื่อใจฉันไปด้วย แม้นายจะต้องหยุดลงแค่กลางทาง เพราะว่านายยังยึดติดกับอดีตจนบ่วงโซ่ได้รั้งเท้านายเอาไว้ทำให้นายไปต่อไม่ได้กันนี้แหละ แม้ฉันจะตัดโซ่นั้นทิ้ง แต่นายก็หมดสิ้นกำลังไปกับการดิ้นรนเอาตัวเองให้หลุดจากโซ่ที่ยังมัดนายได้อยู่ หากนายไม่ปล่อยวางบุญคุณความแค้นในอดีตกันน่ะ"
              "นั้นก็สายเกินไปสำหรับฉันแล้วละ มาสวาร์ทาร์ แม้นายจะบอกว่าฉันพ่ายแพ้ในการดวลนี้เพราะว่าฉันทำตัวเองกันก็จริง แต่ฉันก็ได้สู้กับนายอย่างเต็มที่เยี่ยงนักรบกันแล้ว ผลการดวล รู้ผลกันแล้วละ" โครเต้กล่าวโดยที่สายตาเลือนลางไว้ "ถึงบรรพบุรุษและวงศ์ตระกูลจะไม่ยอมรับ ไม่ให้อภัย และไม่ให้มีชื่อของฉันจารึกเอาไว้ก็จริง แต่...ฉันก็ไม่เสียใจหรอก เพราะนั้นเป็นการตัดสินใจของตัวฉันเอง แม้จะรู้ว่าแทแรนเซียย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามที่ฉันหวั่นเกรงก็ตาม ฉันก็ยังเชื่อเสมอ ว่าองค์ราชาหรือราชินีคนใหม่นั้น จะทำตามในสิ่งที่นายเชื่อกันบ้าง แม้ฉันจะทำลายความเชื่อส่วนนั้นทิ้งไปด้วยความแค้นก็ตาม....ตอนนี้นายก็ชนะอย่างสมเกียรติและภาคภูมิกันจริงๆแล้วละ เอชมาสวาร์ทาร์ เดอะคาตานะลอร์ด ดาบแห่งผู้พิทักษ์และผู้ปกป้องอย่างแท้จริง" ซึ่งคำพูดสุดท้ายนั้นคือการตั้งสถานะใหม่ของผู้กำชัยเหนือแม่ทัพแห่งครอสตรีมกันแล้ว โครเต้ สไครเดอร์ แม่ทัพใหญ่ของครอสตรีมได้สิ้นชีพลงบนเวทีอันทรงเกียรติในแกรนฟอร์เทสซิโม่ โดยที่ร่างของเขานั้น... "ฟู่วววววว" สูญสลายกลายเป็นฝุ่นลอยไปกับสายลมของท้องทุ่งรอบนอกแทแรนเซียแล้ว "ควับๆๆๆ ฉึกกก" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์จึงหมุนดาบและปักลงพื้นไว้ แล้วก็ "ปึกกก" กำหมัดซ้ายชกกับฝ่ามือขวาแสดงความเคารพไว้
              "หลับให้สบายเถอะน่ะ โครเต้ สไครเดอร์ ศัตรูและสหายหนึ่งเดียวที่ทัดเทียมกัน จงเป็นสายลมที่อยู่คู่นภาของแทแรนเซียเพื่อมองดูราชอาณาจักรจากเบื้องสูง ไม่ว่าจะผ่านทั้งเรื่องดีร้ายทุกข์สุขมา ตราบชั่วนิรันดร์" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์เลยดึงดาบพร้อมกับก้าวเดินออกมา

              "ตึกๆๆๆๆๆๆ" ฉับพลันพวกนักรบพาราไดน์ เทมพาร่าและครูเซเดนโผล่มาพร้อมกับ "ครี้งๆๆๆๆๆๆ" ชักอาวุธออกมากันไว้ "โครเต้ตายไปแล้ว การดวลก็รู้ผลกันไปแล้ว ยังไม่ยอมรับในผลแพ้ชนะกันเลยหรือ" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์บอก
              ครูเซเดนกล่าว "ถึงท่านโครเต้ตายไป แต่ยังเหลือท่านเฟอคาน่าและท่านแรมลอชอยู่ บัญชาของทั้งสองคือกำจัดเจ้าให้สิ้นซากไปซะ ในฐานะคนทรยศที่สังหารผู้นำของพวกเรากันนี้แหละ คาตานะลอร์ด"
              "เปรี้ยงงงงงง ตรูมมมมม" ไม่ทันไรก็มีเสียงฟ้าผ่าฟาดจนเกิดการระเบิดขึ้นมา "ครูครับ แย่แล้ว เฟอคาน่าสาดพลังสายฟ้าเข้าใส่ฟรีททรอจันไปแล้วละครับ" ฟลาแน็กซ์ติดต่อเข้ามา โดยที่เฟอคาน่านำกองรบที่เหลือไว้
              "มันจะมากไปแล้วนะ เฟอคาน่า ผลการดวลราวนด์ดูอัลก็รู้ผลไปแล้ว ใยจะต้องสู้กันอีกละ" พีวิลบอก
              "แม้ผลแพ้ชนะจะเป็นยังไง พวกเราในฐานะดาบหอกและโลห์ของโอเวอร์เดสจะไม่หยุดลงเพียงแค่นั้นกันหรอก" แรมลอชกล่าว
              เฟอคาน่าบอก "ท่านโครเต้ได้จากไปแล้วก็จริง แต่พวกเราที่เป็นลูกน้องของท่านโครเต้จะไม่หยุดเพราะความพ่ายแพ้กันหรอก เพราะเราจะต้องสานต่อเจตนารมณ์ของท่านโครเต้จนกว่าจะบรรลุผลกันนี้แหละ" โดยที่เธอสั่งพวกนักรบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพวกนักรบสามแบบและพวกควบคุมคาเมเรทก็ตาม "ด้วยแรงผลักดันที่พวกเราเสียท่านโครเต้จะเป็นพลังแห่งชัยชนะแก่พวกเรากันนี้แหละ"
              "ฟ้าววว เคร้งงงงง" ไวซ์ไมเซลเลยบุกเข้าโจมตีใส่บรอนเซอรูท ทินเหมาลีและเลอแชนที่ป้องกันด้วยอาวุธไว้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับไวซ์แลงค์ที่บุกเข้าโจมตีใส่พวกทอฟคานิคด้วย "ตอนนี้เราเสียเวลากันมามากแล้ว ถึงคราวที่ต้องถูกลงโทษกันแล้วละ" ไวซ์ไมเซลบอก
              บรอนเซอรูทกล่าว "ใครกันแน่ที่กรรมจะตามสนองกันเลยน่ะ" แล้วก็อัดพลังคลื่นมังกรเป่าไวซ์ไมเซลอย่างจังๆ
              "โว้ววววว" แรมลอชบุกเข้าโจมตีด้วย "แชดดด แชดดด แชดดดด" ครอสเซียมบลัสต์แคนน่อนจากส่วนโลห์เข้าใส่ "ตรูมมมม บรึมมมม ตรูมมมม" จนเป่าสเตฟอร์ด จายด์และคลอเวฟปลิวกระเด็นไปอย่างจังๆ "ตายซะเถอะ คาออสติคธันเดอร์" เฟอคาน่าปล่อยพลังสายฟ้าเล่นงานจิลและไซโครเนียไปอย่างจังๆ "ลงไปซะ เรนออฟแลนซ์" แล้วก็ซัดหอกขึ้นฟ้าเพื่อให้กลายเป็นห่าฝนหอกร่วงลงมาทิ้มแทงใส่พีวิลและพวก "โฮลด์เซอเคิ้ล" สเปียริทสร้างวงกลมอาคมต้านป้องกันห่าหอกเอาไว้ และเปลี่ยนมาเป็นพลังไม้ตาย "คาลามิตี้อาร์มฟอล" ท่าซัดหอกเรืองแสงขึ้นฟ้าเพื่อให้กลายเป็นห่าฝนหอกที่เยอะกว่าของเฟอคาน่าที่ซัดไปถึง 10 เท่าด้วยกัน จนสังหารพวกเทมพาร่าร่วงไปอย่างจังๆ กองรบคาเมเรทและยานแซคไรเซอร์บุกระดมโจมตีใส่กองรบภาคพื้นและภาคอากาศ แต่ก็... "แชดดด แชดดด แชดดดด" กองรบของโคเคสระดมโจมตีด้วยปืนพลังงานกำลังสูง ซึ่งไม่เพียงทำให้พวกครอสตรีมเสียเปรียบ แต่ยังถูกโต้ตอบกลับไปอีกด้วย "อีเรเซอร์แคนน่อน ยิง" มิลด์ยิงปืนใหญ่กำลังสูงเข้าเป่าใส่แซคไรเซอร์ ซึ่งลำแสงอานุภาพได้พุ่งทะลวงคาเมเรทและไฮคาเมเรทร่วงแดดิ้นไป "ป้ากกกกก ตรูมมมมมม" จนเป่าแซคไรเซอร์ทะลุและระเบิดวินาศสันตะโรกลางอากาศอย่างจังๆ โดยที่พวกครอสตรีมแห่แหนบุกมาไม่กลัวเกรงต่อเศษซากยานที่ร่วงตกลงมาทับใส่ก็ตาม "อัลติเมทบัสเตอร์สไตร์ค" ไกซ์บุกฟาดฟันใส่พวกคาเมเรทครูเซนสามทีด้วยโซลิดเบลดฉาบด้วยพลังเพเรเนี่ยมของโซลาสตี้ไปหกตัว แล้วก็ปิดท้ายด้วย "โชลเดอร์มาโครลันเชอร์" สาดกระสุนจากปืนใหญ่ส่วนหัวไหล่เข้ากวาดทำลายอีก 10 ตัวให้แดดิ้นไป ซึ่งเควนตินและกองรบแทแรนเซียต่างระดมต้านทานพวกครอสตรีมกันอย่างสุดฤทธิ์
              "พีวิล รีบไปช่วยมาสวาร์ทาร์โดยเร็วเถอะ พวกเราจะยันพวกมันไว้เอง" โฟรซ่าบอก
              พีวิลกล่าว "เข้าใจแล้วละ" แล้วก็ตั้งท่าแปลงร่างขึ้น "แปลงร่างงงง" กลายเป็นเบรซอนพีวิลพุ่งทะยานไปยังแกรนฟอร์เทสซิโม่โดยเร็ว
              "ไม่ให้ไปช่วยกันได้หรอก" เฟอคาน่าเตรียมจะซัดหอกเข้าใส่เบรซอนพีวิล แต่.... "แว้งงงง ปึกๆๆๆๆๆๆ" จิลโผล่มาเกาะหลังแล้วก็ทุบใส่หัวเฟอคาน่าอย่างต่อเนื่องก่อนจะเทเลพอร์ตหายไป "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ป้งๆๆๆๆๆๆๆ" "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" "แว้ง ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แล้วก็รีบกางโลห์พลังต้านทานกระสุนปืนจากสเปียริท โฟรซ่าและไซโครเนียไว้
              "คู่ต่อสู้คือพวกเราน่ะ ยัยแม่มด อย่าหันไปทางอื่นกันสิยะ" ไซโคลเนียบอก
              "ต่อให้เธอไม่ยอมรับในผลการดวลก็ไม่เป็นไร แต่ก็ไม่ควรจะรังควานคนอื่นๆกันไปด้วยน่ะ" โฟรซ่าบอก
              สเปียริทกล่าว "ถ้าอยากจะตายมากนักละก็ พวกเราจะสังเคราะห์ให้แล้วกัน" แล้วก็บุกเข้าโจมตีด้วยหอกของเธอโต้ตอบใส่หอกของเฟอคาน่าที่กวาดแกว่งไปมา พร้อมกับสาดพลังสายฟ้าอัดใส่ แม้สเปียริทบล็อกด้วยโลห์ที่แขนซ้ายก็ตาม "เบิร์ดไดเวอร์" ไซโคลเนียพุ่งเข้าโฉบอัดใส่เฟอคาน่าจากกลางหลัง "ฟรีซสแปรชเชอร์" จิลยิงกระสุนน้ำแข็งเข้าแช่แข็งเฟอคาน่าจนน้ำแข็งเกาะแขนซ้ายเอาไว้ "นี้แน่" โฟรซ่ากระทุ้งหัวเคียวอัดที่ท้องของเฟอคาน่าแล้วก็เกี่ยวเหวี่ยงรอบแล้วก็ฟันใส่กลางหลังไปดอกใหญ่ แต่เฟอคาน่าหายตัวไปและมาโผล่ข้างหลังแล้วก็ "เปรี้ยงๆๆๆ" สาดพลังสายฟ้าอัดใส่โฟรซ่า จิลและไซโครเนียไปเต็มๆ สเปียริทเลยกระโดดเข้ามา "ลูกถีบมังกรบิน มังกรคู่ควงสว่าน" หมุนตัวถีบขาคู่บิดเกรียวควงสว่านอัดใส่เฟอคาน่าที่บล็อกด้วยโลห์พลังจนแตกกระจุยด้วยพลังถีบไปเต็มๆ
              ด้านเจเนลและพลัสเชอริทรีบพาพวกเฮเรเค้นบุกเข้าตะบันหน้าพวกกองรบครอสตรีม ช่วยพวกทหารราบแทแรนเซียไว้โดยเร็ว "สปาร์คช็อค" เจเนลยิงกระสุนไฟฟ้ามาให้พลัสเชอริทเพื่อชาร์จดาบพลังไฟฟ้าให้กับคิลเลอร์เบลด โดยบุกเข้าจัดการกับเทมพาร่าได้ก่อนด้วยไม้ตาย "ไลท์นิ่งริปเปอร์" จนช็อตและฟันพวกเทมพาร่าให้แดดิ้นไปเป็นสิบ ส่วนเจเนลนั้นก็โจมตีด้วย "เฟลมบลัสต์" ยิงใส่พวกพาราไดน์จนล้มแล้วก็ใช้เมทัลเบลด "ฉั้วะ" ฟันใส่ดาบใหญ่ครอสเซียมจนหักแตกไปครึ่งท่อนแล้วก็ "ฉั้วะ ฉับบบ" กระโดดฟันเสยใส่ครูเซเดนโดยที่โดดข้ามหัวลงมาฟันผ่าให้ขาดครึ่งเป็นสองซีกในทันที

              "ตายซะ คาตานะลอร์ด" เทมพาร่าบุกเข้าโจมตีด้วยหอกหมายจะจัดการกับเซย์เคนมาสวาร์ทาร์ที่อ่อนแรง แต่ก็... "ฟ้าววว ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก ป้าก" เบรซอนพีวิลพุ่งเข้าใส่ในสภาพลูกบอลแสงสีน้ำเงินล้มพวกเทมพาร่าล้มกลิ้งไปอย่างรวดเร็ว และโดดลงมาตั้งท่าสู้เอาไว้
              "เบรซอนพีวิล แก แกโผล่มาช่วยคนทรยศกันเลยหรือไง" ครูเซเดนกล่าว
              "พวกแกไม่ยอมรับในผลการดวลอย่างยุติธรรมโดยที่ทั้งสองฝ่ายสู้กันถึงที่สุดเช่นนี้ เท่ากับว่านายคิดทรยศต่อโครเต้กันไปด้วย ซึ่งในฐานะลูกผู้ชายนั้น ฉันยอมให้พวกแกหลู่เกียรติของโครเต้ไปไม่ได้แล้วละ" เบรซอนพีวิลกล่าว
              พาราไดน์บอก "โอหัง แม้ท่านโครเต้ตายเพราะราวนด์ดูอัล แต่พวกเราจะไม่ยอมให้คนทรยศรอดไปจัดการกับท่านโอเวอร์เดสกันหรอก เตรียมตัวตายได้ ไอ้เบรซซิ่งแฮนด์พีวิล" แล้วก็กระโดดเข้าใช้ดาบที่เรืองแสงฟันใส่เบรซอนพีวิลที่หลบหลีกไปมา และใช้โลห์ที่มีคมมีดครอสเซียมกระทุ้งใส่ "โครมมมมมม ป้ากกกก" แต่เบรซอนพีวิลเสยหมัดขวาตรงทะลวงโลห์ครอสเซียมจนแตกกระจุยไปพร้อมกับแขนซ้ายของพาราไดน์แล้วก็ "เปรี้ยงงงง หวับๆๆๆๆๆ โครมมมม" โดนซ้ายตรงตะบันหน้าพาราไดน์จอมโอหังจนบิดเกรียวลงไปกระแทกพื้นแดดิ้นกองกับพื้นอย่างจังๆ
              "ยังมีใครกล้าโอหังอีกหรือเปล่าละ" เบรซอนพีวิล
              "ก็ทั้งหมดนี้แหละ" ครูเซเดนกล่าวแล้วสั่งให้พวกนักรบทั้งหมดประจัญบานเข้าใส่ โดยที่พาราไดน์สิบห้าตนบุกเข้ามา "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ใช้ชินมาสวาร์ทาร์เบลดฟันใส่จนพาราไดน์ตัวขาดเป็นสองท่อน และสองซีกไปสามตน เบรซอนพีวิลกระโดดหลบการแทงหอกของเทมพาร่าสองตนและ "เลสเซเคนด์สไตร์ค" พุ่งเข้าเตะเสยอัดหน้าของเทมพาร่าล้มไปหนึ่ง แล้วก็ "รีโวลเวอร์ฟิสท์" พุ่งเข้าชกตรงหน้าอกเทมพาร่าพร้อมกับอัดพลังใส่ในระยะประชิดจนเป่าเทมพาร่าปลิวขึ้นไปกลางอากาศลงมากระแทกพื้น แต่เทมพาร่า 4 ตนยิงลำแสงจากครอสเซียมเรลกันและไรเฟิ่ลเข้าใส่หมายจะจัดการกับเบรซอนพีวิล "ไชน์นิ่งเรเฟียร์" มาสวาร์ทาร์เลยซัดดาบเรียวเล็กเรืองแสงเข้าปักใส่เทมพาร่าให้ระเบิดไปทั้งสี่ตน แล้วก็... "หวับ ฉั้วะ ฉับ ป้ากกก" หมุนตัวกระโดดตวัดดาบตัดคอครูเซเดนที่บุกมาด้วยทวนครอสเซียมขนาดใหญ่และฟันใส่ท้องจนขาด พร้อมกับถีบให้ลำตัวกระเด็นไปอัดใส่พาราไดน์ให้ล้ม เปิดช่องให้ "สุพรีมเอ็กซ์ทรีมบลัสต์" เบรซอนพีวิลปล่อยกระสุนพลังขนาดใหญ่ทำลายทิ้งไปพร้อมกับเทมพาร่าอีกสองตนที่ป้องกัน แต่ก็ต้านพลังอีเนลเซียมกำลังสูงจนระเบิดไป "ฮึยยย" "ฉั้วะ" แล้วก็ฟันใส่ครูเซเดนอีกตนที่ถือดาบใหญ่มาจนตัวขาดเป็นสองซีกตามดาบอย่างฉับพลัน ครูเซเดนอีก 4 ตนก็บุกเข้ามาพร้อมกับดาบใหญ่ในมือที่ตกผลึกครอสเซียมไว้ "ไฮเปอร์เอนเนลซอนพันช์" พีวิลเลยใช้พลังหมัดอีเนลเซียมกำลังสูงพุ่งเข้าใส่ "ฟ้าววววว ป้ากกกกก" ทะลวงใส่ตัวแรกไป ตามด้วย "ป้ากกกก เปรี้ยงงง" พุ่งเข้าชกใส่ที่หัวครูเซเดนตัวที่สองจนล้มแล้วก็จับขามาฟาดกับพื้นเต็มๆก่อนจะลงมาชกซ้ำจนหมัดทะลุร่างและ "โครมมม" พื้นเวทีร้าวกระจายจากใต้พื้นไว้ เบรซอนพีวิลรีบดึงหมัดขึ้นมา "ป้ากกกก" อัปเปอร์คัตใส่ครูเซเดนตัวที่สามให้ปลิวและ "เปรี้ยงงงง" ชกใส่ตรงท้องจนทะลุเป็นรู แล้วก็ "ฟ้าวววววว โครมมมม เปรี้ยงงงง" พุ่งทะลวงใส่ตัวที่สี่ แม้จะบล็อกด้วยโลห์ใหญ่ไว้ แต่ก็ต้านไม่อยู่จนโลห์กระจุยเป็นรูตามร่างของมันที่มีรูโหว่งขนาดใหญ่และล้มลง "ตรูมมม บรึมมมม ตูมมม เปรี้ยงงง" ระเบิดร่างแหลกเหลวไปทั้งสี่ตัวด้วยกัน

              "โว้ววว ว้ากกกกก" แรมลอชหวดดาบใหญ่ครอสเซียมเข้าฟาดฟันใส่คลอเวฟที่ใช้ทุเรียนเหล็กปัดป้องไว้ "ย้ากกกก" จายด์เลยใช้กิโยตินคัตเตอร์หวดเข้าใส่แรมลอชไปสามทีด้วยกัน ซึ่งก็ป้องกันด้วยโลห์ไว้อย่างหนักแน่น "นี้แน่" สเตฟอร์ดหวดค้อนใส่โลห์ของแรมลอชไปสามทีหนักๆ ด้วยกัน ซึ่งก็... "เปรี้ยะ" แรมลอชตกใจเมื่อเห็นโลห์ที่แตกร้าวขึ้นมา "เป็นไปไม่ได้น่า โลห์ของข้าไม่มีทางที่จะทุบให้แตกได้เลยนิ หรือว่าแกตัวใหญ่มากจึงทุบจนแตกเลยละสิ" แรมลอชบอก
              จายด์กล่าว "ฉันไม่ได้ออกแรงอะไรมากสักหน่อยนิ เพราะถึงฟาดแรงไปก็จะเสียแรงไปอย่างเปล่าประโยชน์น่ะ" แล้วก็ถีบซ้ำเพื่อทำให้แรมลอชถอยไปเพียง 4 เมตรเท่านั้น
              "ถ้าอยากจะรู้ก็บอกอะไรให้ก็ได้นะเฟ้ย โลห์ของแกน่ะมันร้าวมิใช่แค่พวกเราหรอก แต่แกคิดว่าร่างเกราะของแกทนทานต่อการโจมตีทุกประเภทไปได้จริง และคิดว่ามันแข็งแกร่งมากพอแล้ว จึงไม่เห็นรอยขีดข่วนและรอยร้าวที่ปรากฎจากภายในกันเสียเลย บวกกับแกยิ่งใช้มันโดยไม่ซ่อมเพราะคิดว่ามันไม่เป็นไรนั้น มันก็ยิ่งผุกร่อนลงไปทีละนิดๆจนแกไม่รู้ตัวกันแล้วน่ะ" คลอเวฟกล่าวพร้อมกับซัดวอเตอร์เวฟเข้าใส่ไปไม่ยั้ง จนแรมลอชยิงปืนใหญ่เข้าใส่ สเตฟอร์ดวิ่งฝ่าไปพร้อมกับใช้ค้อนหวดกระสุนครอสเซียมกลับไปด้วย แล้วก็พูดไปว่า
              "อีกทั้งพวกเราเองก็มีพละกำลังเทียบเท่ากับนายด้วย แม้การป้องกันจะเป็นการโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดก็จริง แต่มันจะไร้ความหมาย หากแกไม่ซ่อมแซมให้พร้อมใช้ได้เต็มร้อย และยังใช้ทั้งที่ผุๆอย่างงั้น จึงไม่แปลกหรอกที่มันจะแตกร้าวกันน่ะ" จากนั้นก็หวดค้อนอัดใส่โลห์ข้างซ้ายของแรมลอช "หวับบบ ก้องงงง เปรี้ยะ เปรี้ยงงงงง" ให้แตกกระจุยไปอย่างจังๆ ครั้นจะยิงปืนใหญ่เข้าใส่สเตฟอร์ดเพื่อเป่าซ้ำ "ร็อคเก็ตบัสเตอร์" จายด์ยิงจรวดเข้าใส่แรมลอชจนระเบิดเป่าปืนใหญ่พังกระจุยไป แต่แรมลอชก็บุกเข้ามาใช้ดาบใหญ่เพื่อฟันใส่ "นี้แน่" คลอเวฟเลยซัดแอตแลนไทรเดนท์ปักเข้าตรงหน้าอกซึ่งทำให้ตรงหน้าอกขวาร้าวไปเต็มๆ พร้อมกับ "วอร์ชิฟดรอป" กระโดดพุ่งถีบใส่แรมลอชให้กระเด็นไปอีกที
              "ถึงโลห์ฉันจะแตกร้าวเพราะไม่ได้ดูแลกันมากก็จริง แต่ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะกำชัยชนะให้กับครอสตรีมในฐานะโลห์อันไร้พ่ายกันนี้แหละ" แรมลอชบุกเข้ามาใช้ดาบใหญ่กวาดแกว่งใส่จายด์ที่หวดขวานใส่อย่างรวดเร็ว
              "ในเมื่อนายเป็นโลห์ ฉันก็คือกำแพงยักษ์ที่จะต้านรับการโจมตีทุกรูปแบบไม่ให้มายุ่งกับพรรคพวกของฉันนี้แหละ" จายด์กล่าวพร้อมกับถีบใส่แรมลอชให้ล้ม แล้วก็ "หวับบบบบ เป๊าะ" คมขวานกิโยตินผ่าเข้าดาบใหญ่ครอสเซียมอย่างจังๆ แล้วก็กดแรงเพื่อ "เพล้งงงง" ผ่าให้ดาบใหญ่แตกกระจุยไปอย่างจังๆ แล้วก็ฟาดเข้าใส่หมายจะผ่าให้ขาด แต่แรมลอชยังใช้โลห์อีกข้างมาป้องกันไว้ "โครมมมม" ด้วยพละกำลังของจายด์นั้นได้ทำให้เท้าของแรมลอชทั้งสองข้างจมดินไปเต็มๆ
              "ปิดฉากเลย" คลอเวฟถือโอกาสนี้รีบบุกไปพร้อมกับสเตฟอร์ดโดยเร็ว "นี้แน่" แล้วก็หวดแองเกอร์แอ็กซ์สองอันเข้าใส่แรมลอชตรงสีข้างซ้ายไปพร้อมกัน ส่วนสเตฟอร์ดบุกเข้ามาหวดค้อนใส่ด้านหลังของแรมลอชจนทำให้เข่าทรุดลง "ว้ากกกกก" จายด์เลยกดขวานให้แรงขึ้นจน "โครมมมม ฉับ!!!!!" ขวานผ่าโลห์ไปพร้อมกับแขนซ้ายและส่วนหัวกับท่อนบนอย่างจังๆ
              "......ทะ ท่านโครเต้ อภัยให้ข้าด้วย ที่ไม่สามารถปกป้องท่านไว้ ด้ายยยยยยย" จายด์กล่าวและรีบถอนขวานออกมาแล้วก็ตั้งป้องกันไว้ เพราะแรมลอชนั้น "แวบบบบบ ตรูมมมมม" ร่างระเบิดแหลกเหลวไปเพราะขวานผ่าแกนหัวใจครอสเซียมจนระเบิดไปแล้ว

              "เทเลพอร์ตแอทแทค" จิลเทเลพอร์ตไปมาพร้อมกับยิงจีเลเซอร์กันเข้าขัดขวางเฟอคาน่าที่คิดจะใช้พลังครอสเซียมเพื่อคืนชีพให้พวกลูกน้องไว้ แล้วก็ "ไซโคบิท ซีคแอนด์แอทแทค" ใช้ไซโคบิทที่อยู่ในแบ็คแพ็คพุ่งเข้าโจมตีใส่เฟอคาน่าดุจดาบที่พุ่งทิ้มแทงใส่
              "บะ บ้าน่า แกใช้ไม้ตายควบคุมอาวุธของฉันทั้งๆที่แกสู้กับพวกลูกน้องที่อยู่กลางอากาศกันเลยหรือ" เฟอคาน่ากล่าว
              จิลบอก "พลังจิตของฉันถ้าสั่งให้ไซโคบิทวนรอบและยิงใส่เธอได้ ฉันก็ควบคุมให้มันพุ่งใส่เธอได้เช่นกันนี้แหละ"
              "ตอนนี้ไม้ตายของเธอนั้น โดนพวกเราโต้ตอบกันไปหมดแล้วละ เฟอคาน่า" ไซโคลเนียซัดไซโคลนเรซเซอร์เข้าใส่เฟอคาน่าจากด้านข้าง ซึ่งโลห์พลังครอสเซียมต้านทานไม่อยู่กันแล้วจนเธอถูกลมกรีดไปทั่วร่างอย่างจังๆ โฟรซ่าเลยบุกเข้ามาด้วยโซลริปเปอร์ฟาดฟันใส่ไปอย่างรวดเร็ว
              "ถึงคราวที่เธอต้องไปเจอกับโครเต้กันเสียแล้วน่ะ" แล้วก็หวดเคียวเกี่ยวจนทำให้เกราะหน้าอกหลุดติดคมเคียวไปด้วย จนเผยท่อนร่างที่หน้าอกมีผลึกครอสเซียมฝังอยู่ไว้
              "มันจะมากไปแล้วน่ะ...." เฟอคาน่าแค้นเลยแทงหอกเพื่อสร้างคมหอกพุ่งเข้าทิ้มแทงใส่พวกโฟรซ่า แต่สเปียริทเข้ามาโต้กลับด้วย "เทาซันอาร์มแทรปเปอร์" การแทงหอกลงพื้นเข้าสกัดคมหอกที่เฟอคาน่าแทงเอาไว้จนหมดทุกดอกด้วยกัน แล้วก็บุกเข้าใช้หอกปะทะใส่กันอย่างหนักหน่วงและรวดเร็ว "ฉันอยากจะรู้นัก ว่าทำไม เธอเป็นแค่แมนิเกเตอร์แปลกหน้าแต่กลับมีพลังที่กล้าแกร่งและเหนือกว่า ทั้งๆที่มีอัตราพลังเพียงครึ่งเดียว ยังสามารถชนะและโต้ตอบฉันได้เช่นนี้เลยน่ะ"
              สเปียริทกล่าว "แล้วเธอจะถามไปเพื่ออะไร ในเมื่อฉันในตอนนี้ยังจำอดีตไม่ได้เลยกันน่ะ แต่ที่ฉันรู้ในตอนนี้ก็คือ เธอไม่มีทางชนะกันด้วยน่ะ" พร้อมกับกวาดแกว่งหอกสู้กับเฟอคาน่าไปด้วย
              "ไม่มีทางชนะน่ะหรือ เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเธอโดนฉันเล่นงานไปเช่นนี้ไม่น่าที่จะ...." เฟอคาน่ากล่าว และต้องชะงักลง เพราะสายตาของเธอนั้นได้เห็นบางอย่างจากสเปียริทขึ้นมากันแล้ว "มะ หมายความว่าไงกัน งะ เงาของเธอ...มันไม่น่าจะเป็นเงาของเธอเลยนิ....เพราะแม้ว่ามันจะแตกหักและร้าวมาก่อน เหมือนกับสภาพพลังของเธอที่มีอยู่ แต่....มันยิ่งใหญ่มาก มากเกินกว่าตัวเธอเป็นอยู่กันเลยน่ะ"
              สเปียริทกล่าว "นี้เธอเสียสติไปแล้วหรือ กับการที่รู้ว่าตัวเธอใกล้จะแพ้แล้วนะ"
              "เธอคงไม่ได้มาจากแรซัลก้าละสิน่ะ....แต่มันไม่น่าเป็นไปได้หรอก ที่เธอจะมีพลังแบบนั้นอยู่ในตัวกันได้ ไม่มีวันที่เธอจะมีได้หรอก และฉันจะไม่ยอมให้เธอชนะกันด้วยน่ะ" เฟอคาน่ากำหอกพร้อมกับ "ครี้งงงงงง เพล้งงง" ทำให้คมหอกตกผลึกครอสเซียมจนกลายเป็นคมหอกที่ยาวใหญ่ขึ้นมา "หวับ หวับ หวับ หวับ" แล้วก็กวาดแกว่งใส่สเปียริทอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง ซึ่งสเปียริทเองก็หวดหอกใส่โดยไม่ชาร์จพลังไว้ แต่ก็... "เกร้งงงง เปรี้ยะ" หอกของเธอปะทะกับคมหอกของเฟอคาน่าจนหอกครอสเซียมแตกร้าวขึ้น เฟอคาน่าแม้จะได้ยินเสียงและได้เห็นแต่ก็ยังดันทุรังจน "หวับบบ เกร้งงงง เปรี้ยะ เกร้ง เปรี้ยะ เกร้งๆๆๆ เปรี้ยยยย เปร๊าะ" หอกครอสเซียมที่งอกยาวนั้นแตกร้าวไปทีละนิด จนสเปียริทหวดหอกของเธอเข้า "หวับบบบ เปรี้ยงงงง" ทำลายคมหอกครอสเซียมของเฟอคาน่าจนแตกกระจุยไป แต่เธอก็ยังหันปลายด้ามมาเปลี่ยนเป็นคมหอกไปอีก "ฉันจะพิสูจน์ว่า สิ่งที่ฉันเห็นเงาของเธอนั้น มันไม่มีทางเป็นภาพลวงตาแน่นอน และไม่มีทางเลยที่เธอจะไปถึงตัวท่านจักรพรรดิ์และพิชิตลงไปได้ในสภาพเช่นนั้นเลยน่ะ" แล้วเฟอคาน่าก็บุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว
              สเปียริทกล่าว "เธอบอกว่าฉันจะพิชิตโอเวอร์เดสลงนะหรือ พูดเหมือนเหลือเชื่อ แต่ฉันไม่ยอมให้เธอมาขวางได้หรอก" แล้วก็กระโดดเข้า "เปรี้ยงงงงงง" ถีบใส่เฟอคาน่าที่ท้องด้วยลูกถีบมังกรบินไปเต็มๆ
              "พลังการทำลายแบบนั้น อึกกก อั้กกก" เฟอคาน่ากล่าวไม่ทันไรก็กระอักเลือดออกมา แต่ยังดันทุรังฝืนทนบุกด้วยพลังครอสเซียมอันร้อนแรงของเธอไว้
              "น่าสมเพชจริงๆ เลยน่า แม่มดเขียวมรกต" สเปียริทหมุนควงหอกพร้อมกับ "วาบบบบบ" อัดพลังของเธอขึ้นที่คมหอกจนเรืองแสงขึ้นมา "กระบวนท่าไม้ตายพิฆาต เพลงหอกมังกรเทพร่ายรำ" แล้วก็กระโดดเข้า "หวับบบบ ฉั้วะ" หวดฟันใส่ในแนวเฉียงเข้าตรงข้อเท้าของเฟอคาน่าจนเธอล้มลงพร้อมกับข้อเท้าซ้ายแหว่งไป "หวับบบ ป้ากกกก โครมมม" จากนั้นก็ฟาดคมหอกอัดเฟอคาน่าลงกับพื้นไปเต็มแรง แล้วก็งัดขึ้นมา "มิลเลี่ยนสไปค์" และรั่วกระหน่ำแทงใส่เฟอคาน่าไปหลายดอก แล้วก็ "ดิสคัสเซอคูล่าแลนซ์" หมุนตัวควงหอกฟาดฟันใส่เฟอคาน่าไปหกที จากนั้นก็ "ไชน์นิ่งสแมช" หวดหอกฟาดใส่เต็มแรงผ่านร่างเฟอคาน่าพร้อมกับ "ควับๆๆๆๆๆ ฉึกกกก" แทงใส่ร่างเฟอคาน่าแล้วก็ "หวับบบบ เปรี้ยงงงงงงง" ฟาดซ้ำกับพื้นไปเต็มแรงอย่างจังๆ โดยที่แม่มดเขียวมรกตนั้นแม้จะมีพลังกล้าแกร่ง แต่ก็ต้องมีอันถูกสยบลงด้วยน้ำมือของสเปียริทไว้ จนเธอพยายามลุกขึ้นมาและได้เห็น
              "ชัดเจนแล้ว ฉันได้เห็นแล้ว ตัวตนของเธอนั้น ฉันรู้แล้วละ ว่าตัวจริงของเธอเป็นใครกัน แม้ว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นั้น มันจะนำพาความเศร้าโศก กับบาปอันหนักอึ้งที่เธอเองจะต้องแบกรับมันไว้ทั้งชีวิตก็ตาม"
              "จะมาแช่งอะไรฉันอีกละ ยัยแม่มด ถ้าเธอรู้ตัวจริงของฉันได้ ก็คงรู้ละสิ ว่าฉันเป็นใครกันน่ะ" สเปียริทบอก
              เฟอคาน่ากล่าว "....เธอยังจำอดีตไม่ได้ก็ดีแล้ว เพราะว่าเธอมีพลังแบบเดียวกันกับองค์จักรพรรดิ์และจักรพรรดินีอยู่ แม้จะมีแค่ครึ่งเดียวกับร่างอันบอบช้ำแบบนี้ไว้ แต่มันก็มากพอ สำหรับชัยชนะที่เธอจะมอบให้โคเคส ให้กับมาสวาร์ทาร์และพรรคพวกของเธอในตอนนี้และภายภาคหน้าด้วย เพราะสิ่งที่ฉันได้เห็นนั้น คือร่างเงาขนาดยักษ์ใหญ่ของเธอ เทพียักษ์ที่มีสิบแขน ซึ่งถืออาวุธหลากหลาย แม้จะมีสภาพเหมือนกับรูปปั้นที่แตกหักเสียหายไป จนแขนเหลือเพียงแค่ 4 ตามสภาพที่เธอเป็นอยู่เลยก็ตาม นั้นแหละคือโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอกันละ"
              "ฉันนะหรือ เทพีร่างยักษ์น่ะ เป็นไปไม่ได้หรอกน่า....เธอเสียสติเลยพล่ามอะไรที่ไร้สาระเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองรอดไปได้ละสิ" สเปียริทได้ฟังก็ไม่เชื่อ
              เฟอคาน่าบอก "คำพูดของฉันคือความจริงที่ตรงเผง ไม่เหมือนกับของจีเนฟาร์รี่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคำพูดปลิ้นปล้อนและหลอกลวงเพื่อปิดบังตัวเองเอาไว้ แม้จะไม่รู้หรอกน่ะ ว่าเธอได้ตำแหน่งองค์หญิงมายังไง แต่ตอนนี้ฉันรู้เรื่องกันแล้ว หากแต่....เธอในตอนนี้ไม่ถึงเวลาที่จะมารับรู้ความจริงจากปากของฉันกันหรอก แม้สิ่งที่เธอจะทำต่อจากนี้นั้น จะนำพาความทุกข์อันหนักหนามาใหเลยก็ตาม ถ้าเธอได้พลังและเศษเสี้ยวความทรงจำของเธอกลับคืน และจำความทุกอย่างได้เอง หรือมีคนมากระตุ้นให้เธอตื่นขึ้นมาก็ตาม เวลานั้นแหละ ที่เธอจะต้องหลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้ากับสิ่งที่เธอทำเองแหละ"
              "มันก็เป็นการแช่งทางอ้อมดีๆแหละน่า และต่อให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นกับฉันจริงๆ ฉันก็ยินดีแบกรับมันได้อยู่แล้ว ต่อให้ไม่รู้เลยว่าอดีตของฉันนั้นมันเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม ครอสตรีมก็ไม่เหลือรอดแล้ว โอเวอร์เดสไม่มีดาบและโลห์ไว้คุ้มกะลาหัวกันด้วย เมื่อเราจัดการกับพวกแอตแลนไทซ์เสร็จสิ้นลง จักรพรรดิ์ก็จะเป็นรายต่อไปเองแหละ" สเปียริทบอก
              เฟอคาน่ายิ้มพร้อมกับบอกว่า "หึๆๆๆๆ แกกำลังทำปัจจุบันเพื่อนำพาไปสู่อนาคตที่ดีกว่าละสิน่ะ หึๆๆๆๆๆ จงจำสิ่งที่ฉันพูดไว้แล้วกัน ว่าชัยชนะของเธอเหนือองค์จักรพรรดิ์และจักรพรรดินี คือกุญแจแห่งความเศร้าโศกกับสิ่งที่เธอก่อเองแหละ" แล้วร่างของเธอก็สิ้นใจลงกับพื้นพร้อมกับ "ตรูมมมมมมมมม" ระเบิดแหลกเหลวสลายหายไปในทันที
              "ต่อให้ทุกข์แค่ไหน ฉันก็จะผ่านมันไปให้ได้เลย คอยดูสิ" สเปียริทกล่าว

              "ว้ากกกกก" เลอแชนหมุนตัวดุจพายุแล้วก็ "ครี้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำโจมตีใส่ไวซ์ไมเซลด้วยพายุหมุนคมมีดรอบตัวจนกรีดร่างแม่ทัพสัตว์ประหลาดจนได้ไปหลายแผลด้วยกัน "หนอยยย ไอ้ลูกชั่ว..." ไวซ์ไมเซลเสยฝ่ามือเพื่อตะบบคอเลอแชน แต่... "หมับบบบ" กริมเบอรี่คว้าจับแขนขวาของไวซ์ไมเซล แล้วก็ "ปึกก ปึกกก" แทงเข่าใส่หน้าอกของไวซ์ไมเซลไปสองที แล้วก็ "ย้า" "ป้ากกก กร็อบบบบบ" จับยืดแขนขวาและฟาดท่อนแขนที่กระดูกแปรสภาพเป็นเหล็กทุบจนแขนขวาหักไปเต็มๆ พร้อมกับถีบให้ออกไป ก่อนที่ไวซ์ไมเซลจะใช้ปีกดาบมาแทงใส่ "ย้า" ทินเหมาลีกระแทกหัวไหล่อัดใส่ไวซ์แลงค์ให้ชะงัก เปิดช่องให้ฟันดิวเรคบุกมาจากด้านหลัง "ฟ้าววว จึกๆๆๆๆๆ" ยืดแขนมาสกัดจุดเข้าตรงกลางหลังไวซ์แลงค์เพื่อทำให้เธอขยับตัวไม่ได้เพราะถูกสกัดจุดไว้ ไวซ์ไมเซลเลยโกรธจัดเลยใช้ดาบปีกคู่บนแทงใส่กริมเบอรี่ แต่... "ฝ่ามือทุบหินผา" โมคุโตะกระโดดฟาดฝ่ามือเข้า "ป้ากกก กร้องงงงง" ฝ่าปีกดาบคู่บนที่ทำด้วยอัลตร้าสติลแตกหักไปครึ่งหนึ่งทั้งสองข้างอย่างจังๆ แล้วก็กระทุ้งศอกส่งไวซ์ไมเซลมาให้.... "ลูกถีบกิเลนบินสายฟ้าแลบ" เซเทธพุ่งเข้าถีบด้วยความเร็วสูงจน "ป้ากกก กร็อบบบบ เปรี้ยะๆๆๆ ตรูมมม" ฝ่าเท้าถีบไปถึงกระดูกสันหลังช่วงเอวจนแตก และทำความเสียหายให้กับระบบควบคุมดาบปีกคู่กลางไว้ พร้อมกับถีบส่งมาให้ทอฟคานิค "เปรี้ยงงงงง" ชกด้วยกำปั้นหินงอกใหญ่จนหน้ากากและหมวกซีกขวาแตกกระจุยไปเต็มๆ ไวซ์ไมเซลเลยคิดจะสาดพลังสายฟ้าเข้าใส่ "หวืดดดดด หมับบบบ" ฟันดิวเรคจับหัวของไวซ์ไมเซลจากด้านหลังและกระชากมือดึงตัวไวซ์ไมเซลให้ฟาดกับพื้นไปเต็มๆ แม้จะรีบลุกขึ้นมาได้ก็ "ฟ้าววว ฉึกกก" โดนทินเหมาลีซัดง้าวปักคาหน้าอก โดยที่บรอนเซอรูทบุกเข้ามาดึงง้าวออกจากร่าง แล้วก็โยนง้าวขึ้นฟ้า "วาต้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เพื่อกระหน่ำซัดหมัดชกใส่ไวซ์ไมเซลไปหลายดอก ต่อด้วย "วาโช้ว ต้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" การหวดพลองสองท่อนเข้าใส่ไวซ์ไมเซลจนเกราะบุบไปหลายจุด แล้วก็ต่อประกอบเป็นพลองในจังหวะที่ง้าวลงมาที่มือซ้ายและ "ย้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" รั่วแทงทั้งพลองและง้าวใส่ร่างไวซ์ไมเซลจนมีรูพรุนไปเต็มๆ แล้วก็กระทุ้งส่งให้ชะงัก เพื่อปิดฉากด้วย "อิงฟ้าฆ่ามังกร ดรรชนีมังกรนพเก้าเย้ยยุทธจักร" ทิ้มดรรชนีที่อัดพลังลมปราณขึ้นและแทงใส่กลางหน้าอกของไวซ์ไมเซลจน "จึกกก เปรี้ยงงงงง กวี้กกกกก" เป่าพลังคลื่นมังกรทองเก้าตัวที่บินออกมา และบินย้อนกลับตรงมา "เปรี้ยงงง ตรูมมมม" เป่าด้านหลังของไวซ์ไมเซลจนแดดิ้นไปอย่างจังๆ
              "เห็นถึงความโกรธกริ้วของพวกเราแล้วหรือยังละ ไวซ์ไมเซล" เลอแชนบอก
              เซเทธกล่าว "ต่อให้แกเป็นแมนิเกเตอร์ที่แข็งแกร่งจริง แต่แกก็มีเนื้อมีเลือด ย่อมเจ็บตัวจนช้ำในและทรมานอย่างแสนสาหัสเหมือนเช่นที่แกทำกับพวกเราและน้องๆกันนี้แหละ"
              "มันจบลงแล้วละ ไวซ์ไมเซล กรรมที่แกก่อไว้มันตามมาทันแล้วน่ะ" บรอนเซอรูทกล่าว
              ไวซ์ไมเซลที่เจ็บสาหัสนั้นถึงกับหัวเราะขึ้น "แกหัวเราะเยาะเย้ยพวกเรานะหรือ" ฟันดิวเรคโวยลั่นด้วยอารมณ์โกรธขึ้นมา
              "เปล่าหรอก ฉันหัวเราะกับความโง่ของพวกแกนี้แหละ" ไวซ์ไมเซลยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นยืน "แม้ฉันจะพ่ายแพ้ให้กับพวกแก แต่แย่หน่อย ที่นั้นจะเป็นชัยชนะของพวกเรากันนี้แหละ"
              โมคุโตะกล่าว "ชัยชนะของแกนะหรือ หมายความว่ายังไงกันน่ะ"
              "จะบอกอะไรให้ก็ได้น่า ในแกนหัวใจของฉันมีต่อมเชื้อโรคและสารพิษที่อยู่ข้างใน ซึ่งหากเกิดเหตุที่ถึงแก่ชีวิตขึ้นมา แกนหัวใจนั้นจะระเบิดพร้อมกับเป่ากระจายเชื้อโรคและสารพิษ ซึ่งจะฆ่าทุกชีวิตรวมถึงพวกแมนิเกเตอร์ให้แดดิ้นลงไปในรัศมี 40 กิโลเมตรด้วยกันน่ะ" ไวซ์ไมเซลกล่าว
              ทอฟคานิคบอก "และแกคงจะให้มันมาฆ่าพวกเราด้วยละสิ"
              "ช่าย แม้ฉันจะตายไป แต่อย่างน้อยก็ขอให้ลากแกลงนรกลงไปด้วย ดังนั้น...." ไวซ์ไมเซลกล่าว
              โดยที่ไวซ์แลงค์เดินเข้ามา "บะ บ้าน่า นี้แม่หลุดจากการสกัดจุดของฟันดิวเรคไปได้ไงกันน่ะ" ทินเหมาลีกล่าว
              "ได้สิ เพราะไวซ์แลงค์สามารถปรับเปลี่ยนร่างกายกันอยู่แล้ว การสกัดจุดของแกเพื่อหยุดเธอนั้นไม่มีผลกันหรอก" ไวซ์ไมเซลบอก และสั่งการให้... "เอาละ ไวซ์แลงค์ รีบไปซะ กลับไปดำเนินการให้กับท่านโอเวอร์เดส ปลุกพวกลูกๆของพวกเราที่เหลือให้ขึ้นมากัน...."

              แต่ไม่ทันไร ไวซ์แลงค์หันมาพร้อมกับ "ฉึกกกกกกกก" ใช้ปีกมีดคู่กลางแทงใส่หน้าอกขวาเข้าเต็มๆ "....คุณไม่มีทางสั่งให้ฉันทำเช่นนั้นได้อีกต่อไปแล้วละ และฉันจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายลูกๆและพรรคพวกกันด้วย" ไวซ์แลงค์กล่าว   
              "คุ คุณแม่ นี้คุณแม่ ตื่นขึ้นมาได้เลยหรือ แต่ แต่ว่า...." ทอฟคานิคกล่าว
              ไวซ์แลงค์บอก "พ่อของลูกบอกว่าแม่สามารถสั่งร่างกายให้ขยับได้ดั่งใจนึกใช่มั้ย ตอนนี้แม่ได้สั่งให้สมองสยบชิปที่ฝังในหัวของแม่ไปได้แล้ว เพื่อที่จะหยุดยั้งพ่อของพวกลูกๆลงด้วยชีวิตของแม่เองแหละ แม้ว่านั้นจะทำให้พวกลูกๆเศร้าใจเลยก็ตาม"
              "หยุดยั้งพ่อด้วยชีวิต นี้แม่เอาจริงเลยหรือ ทั้งๆที่ไอ้เวรนั้น..." เซเทธกล่าว
              ไวซ์แลงค์กล่าว "ในตัวของแม่นั้นมีระเบิดสลายอนุภาคเอาไว้ ซึ่งแม่เซตให้มันทำงานขึ้นเพื่อสลายสิ่งที่พ่อของลูกใช้ฆ่าทุกๆคนลง นั้นก็มากพอที่จะปกป้องทุกชีวิตไม่ว่าจะอยู่บนพื้นหรือฟากฟ้ากันแล้วน่ะ" และหันมากล่าวไปว่า "พวกลูกๆเติบใหญ่กลายเป็นคนดีตามที่แม่คาดหวังไว้ไม่มีผิด การตัดสินใจส่งพวกลูกๆให้คนดีๆที่หุบเขาหอเมฆาดูแลนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะถ้าพวกลูกๆอยู่กับอาจารย์เฟยหลง ผู้ซึ่งผ่านโลกมาอย่างยาวนานนั้น แม้ว่านั้นจะทำให้ลูกๆรู้จักแต่การต่อสู้เพียงอย่างเดียว จนอาจจะนำพาพวกลูกๆมาสู่โลกแห่งความวุ่นวายก็ตามน่ะ"
              "ที่จริง เรารู้สึกโกรธและไม่พอใจกับการกระทำของคุณแม่ แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าแม่อยากให้เราทำเพื่ออยากให้เราเป็นคนดี และต้องการให้พวกเราหยุดยั้งพ่อเอาไว้กันน่ะ" โมคุโตะบอก
              ทินเหมาลีบอก "แต่แม่ก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลยนิคะ"
              "ถึงแม่จะอยู่รอดไปได้ แต่การกระทำของแม่นั้น ขุนพลครองคอร์ดกับพวกคงไม่ให้อภัยแน่นอน อีกอย่าง พวกลูกๆก็เติบใหญ่จนสามารถทำอะไรได้เองแล้ว ดังนั้น แม่อยากจะให้พวกลูกๆอยู่เพื่อส่วนรวมกันต่อไป แค่นี้แม่ก็ไม่หวังอะไรมากแล้ว" ไวซ์แลงค์กล่าวแล้วก็ทิ้มแทงใส่ไวซ์ไมเซลจนปีกมีดทั้งหกแทงทะลุร่างไปแล้ว "บรอนเซอรูท ทินเหมาลี ดูแลตัวเองเช่นเดียวกับดูแลพวกน้องๆด้วยละ พร้อมกับช่วยโคเคสและพรรคพวกเอาไว้ด้วย และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกลูกๆก็อย่ายอมแพ้หรือยอมจำนนไปได้เป็นอันขาด" โดยในตอนนี้เบรซอนพีวิลพาเซย์เคนมาสวาร์ทาร์บินออกมาจากปราการแกรนฟอเทสซิโม่กันแล้ว โดยที่พวกฟลาแน็กซ์และมัลแด็กซ์รีบมาช่วยคุ้มกันไปด้วย
              บรอนเซอรูทกล่าว "พะ พวกเราจะจำเอาไว้กันนะครับ คุณแม่"
              "ขอบใจมากน่ะ ลูกๆของแม่" ไวซ์แลงค์กล่าว โดยได้ถอดหมวกออกเผยใบหน้าที่อยู่ใต้หมวกไว้ ซึ่งหัวของเธอโล้นแต่มีรอยเย็บติดที่หน้าผากและหลังหัวไว้ พร้อมกับพาไวซ์ไมเซลบินขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงกันโดยเร็ว ซึ่งในตอนนี้หน้าอกของเธอก็ร้อนผ่าว อันเนื่องจากเธอได้จุดระเบิดกันไปแล้ว
              "ไม่มีประโยชน์กันหรอกน่า ไวซ์แลงค์ ต่อให้เธอสละชีพเพื่อกำจัดฉันลงไปกันก็จริง ถ้าฉันตายไป แมนิเกเตอร์ที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนลูกหน้าโง่ทั้งแปดให้กลายเป็นปีศาจแห่งการทำลายล้างนั้นจะต้องตื่นขึ้นมา เช่นเดียวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ดูแลพวกลูกๆ ที่เหลืออยู่นั้นจะสอนพวกเขาให้กลายเป็นนักรบที่น่ากลัวและสานต่องานของฉันขึ้นมา ถึงตอนนั้นแหละ ที่โลกจะต้องกลายเป็นของลูกๆของเรากันน่ะ"
              "แม้ฉันไม่สามารถหยุดแมนิเกเตอร์ที่คุณสร้างเพื่อทำให้พวกบรอนเซอรูทกลายเป็นปีศาจกันก็ตาม แต่....คุณไม่มีสิทธิ์มาเปลี่ยนลูกๆของเราให้เป็นเหมือนคุณกันไปได้หรอก" ไวซ์แลงค์กล่าว
              ไวซ์ไมเซลถาม "อย่าบอกน่ะ ว่าเธอเองทำอะไรกับคอมพิวเตอร์ของฉันกันน่ะ"
              "เมื่อฉันตายไปแล้ว โปรแกรมมาเธอร์จะทำงานขึ้นมาและลบข้อมูลเก่าของคุณลง หากแต่ระบบปฏิบัติการณ์ที่ทำหน้าที่ดูแลพวกลูกๆและเหล่าสัตว์เทพนิยายที่คุณสร้างมา จะทำงานต่อ หากแต่ มันจะดูแลและสอนสั่งพวกลูกๆไว้ ให้พวกเขา เรียนรู้จากธรรมชาติที่พวกเขาเคยอยู่อย่างสงบและสันโดษ ไม่ข้องแวะกับโลกภายนอกและเติบโตเป็นแมนิเกเตอร์ที่ดี เหมือนที่ฉันได้ทำกับพวกบรอนเซอรูทไว้" ไวซ์แลงค์บอก "แม้จะรับประกันไม่ได้เลยว่า ภายภาคหน้าพวกเขาจะอยู่รอดไปได้สักกี่ปี แต่....ฉันก็ภูมิใจแล้วกับการที่พวกเขาจะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนกันนี้แหละ"
              ไวซ์ไมเซลบอก "ทำไม...กันละ ทำไมคุณชอบขัดผมอยู่เรื่อย โดยเฉพาะในเรื่องการควบคุมสัตว์กันเลยน่ะ"
              "แม้สิ่งที่คุณสร้างมาจะผิดธรรมชาติกันเลยก็ตาม แต่ลึกๆแล้ว คุณอยากจะสร้างความฝันในวัยเด็กที่อยากจะให้โลกมีสัตว์เทพนิยายปรากฎขึ้นมา แม้ว่าความฝันของคุณนั้นจะเป็นรูปเป็นร่างได้จริง แต่ก็เกิดขึ้นผิดเวลาก็เท่านั้นเอง" ไวซ์แลงค์บอก "เช่นเดียวกับลูกๆของพวกเรา พ่อแม่ของพวกเราทำได้แค่เลี้ยงดู สั่งสอนและแนะแนวให้กับพวกเขา มิใช่ยัดเยียดและบีบบังคับเหมือนที่คุณทำอยู่ แม้สิ่งที่เราสองคนทำนั้นจะทำให้พวกลูกๆและน้องๆของพวกบรอนเซอรูทกำพร้า แต่นั้นก็ดีแล้วละ ที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง จากสภาพแวดล้อมที่ห่างไกลจากสังคมมนุษย์และความวุ่นวายทั้งปวงด้วย"
              ไวซ์ไมเซลกล่าว "ไม่ว่ายังไง คุณก็คิดไกลกว่าที่ผมคิดเสียอีก แม้จะผิดหวังไปบ้าง แต่....พวกเขาก็เป็นลูกๆของพวกเรา...กัน...."
              "แวบบบบบบบ ตรูมมมมมมมมมม" ระเบิดสลายอนุภาคในตัวไวซ์แลงค์ทำงานและเป่าร่างของเธอกับไวซ์ไมเซล แม่ทัพสัตว์ประหลาดจนแดดิ้นลงในความสูง 2,400 ฟุตจนท้องฟ้าสว่างขึ้นมาในชั่วระยะหนึ่งไว้ "แม่ของเรา....จากไปแล้วละ พี่ใหญ่" เซเทธกล่าวโดยที่หลั่งน้ำตาด้วยความเศร้าโศกกับการจากไปของพ่อแม่ของพวกเขา เช่นเดียวกับทินเหมาลีและน้องๆด้วย "ฟิ้ววววว จึกๆๆๆๆๆ" ปีกมีดของไวซ์แลงค์ร่วงลงมาปักอยู่ตรงหน้าไว้ ซึ่งหลงเหลือจากการระเบิดไว้ด้วย
              บรอนเซอรูทบอก "ใช่....เราจะไม่ลืมการเสียสละของแม่ของเรา ที่หยุดยั้งพ่อของพวกเราจนวินาทีสุดท้าย เพื่อให้พวกเราได้พบเจอกับเพื่อนที่เหมือนกับพวกเรากันด้วยน่ะ"
              "ท่านไวซ์ไมเซลและท่านไวซ์แลงค์ตายไปแล้วละคะ" เทมพาร่าบอก
              ครูเซเดนระดับนายกองที่เหลืออยู่กล่าว "อย่าให้การตายของท่านแรมลอชและท่านเฟอคาน่าต้องสูญเปล่าอีกเลย ฆ่าพวกมันซะ" ซึ่งพวกครอสตรีมแห่แหนมาจนกองรบแทแรนเซียและพวกโคเคสเริ่มต้านทานไม่อยู่แล้ว
              "แชด แชด แชด แชด" ยานฟรีททรอจันยิงปืนใหญ่อีอ้อนเข้าใส่คาเมเรทจนพังไปสามเครื่อง พร้อมกับยิงมิไซล์เข้าใส่กองรบครอสตรีมจนกระเจิงไป เซย์เคนมาสวาร์ทาร์กล่าว "ยานของจอมพลลอนเฟลยิงยิงอาวุธได้นิ ทั้งๆที่โดนเล่นงานตรงสะพานเดินเรือเลยนิน่า"
              ลอนเฟลกล่าวผ่านสปีคเกอร์จากสะพานเดินเรือไปว่า "ลืมแล้วหรือ ว่าสะพานเดินเรือนั้นจะต้องมีห้องปฏิบัติการณ์สำรองเอาไว้ ซึ่งมีไว้เพื่อสะพานเดินเรือเดิมใช้การไม่ได้เลยน่ะ ซึ่ง ฉันเกือบจะไม่รอดเสียแล้วน่า" โดยตอนนี้หลังของเขาเลือดออกท่วมตัวบ่งชี้ถึงอาการสาหัสจากการถูกเล่นงานไว้ "ตอนนี้พวกเธอที่เหลือทั้งหมดรีบหนีไปซะเดียวนี้เลย"
              "ท่านจอมพล นี้ท่านคงไม่ได้คิดที่จะ ใช้ตัวเองส่งพวกครอสตรีมกันทั้งหมดหรอกน่ะ" โคเคสบอก
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "เป็นเช่นนั้น กองรบองครักษ์ของโอเวอร์เดสแส่หาเรื่องเอง แม้ว่านั้นจะทำให้ฉันไม่สามารถหนีไปไหนได้ก็ตาม" โดยตอนนี้พวกครอสตรีมระดมยิงปืนแสงเข้าใส่ฟรีททรอจันจนฐานด้านหน้าข้างซ้ายพังไปแล้ว ตามด้วยข้างขวาที่ถูกยิงกันด้วย "แต่...นั้นก็พอแล้ว สำหรับการทำสงครามกับพวกแมนิเกเตอร์ แม้ว่าจะไม่สามารถไปถึงจุดที่สู้กับพวกโอเวอร์เดสก็ตาม ถ้าเพื่อส่งให้พวกเธอทั้งหมดเข้าสู้กับโอเวอร์เดสได้ละก็ ถึงตายก็ไม่เสียใจกันหรอกนะ"
              "ท่านจอมพล แต่ท่านไม่เห็นจะต้องทำเช่นนี้เลยนิ" เควนตินกล่าว
              จอมพลลอนเฟลตอบ "ถึงฉันรอดไปได้ แทแรนเซียก็ไม่มีที่ให้ยืนหรือให้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในบั่นปลายของชีวิตกันอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งฉันเป็นทหาร และเป็นจอมพล การได้ตายในสนามรบอย่างทรงเกียรตินั้น คือวาระสุดท้ายที่ฉันได้เลือกเอาไว้กันนี้แหละ" แล้วก็กล่าวไปว่า "เซอร์เควนติน แม้ว่าเธอจะเป็นเพื่อนสนิทขององค์หญิง แต่อย่าได้กระทำซ้ำเติมต่อพระนางเป็นอันขาด เหมือนอย่างที่ฉันเป็นอยู่นี้แหละ ไม่อย่างงั้นเธอจะต้องรู้สึกเสียใจไปจนวันตายกันเลยน่า และจงช่วยเหลือพระนางจนสุดความสามารถกันด้วย"
              "ท่านจอมพล....ผมจะจำเอาไว้กันนะครับ" เควนตินบอก
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "โคเคส แอคเมนโด้ ทีแรก ฉันคิดว่าเธอรวบรวมแมนิเกเตอร์ต่อกรกับโอเวอร์เดสเพื่อขึ้นควบคุมโลกเสียเอง แต่จากการที่ได้เห็นเพื่อนๆของเธอสู้กับพวกครอสตรีมนั้น ทำให้ฉันได้เห็นแล้วว่า เธอทำเพื่อปกป้องโลกและพวกพ้องของเธอมากแค่ไหน แม้จะรู้ว่า ภายภาคหน้า ชัยชนะที่เธอได้จะเป็นวาระสุดท้ายของพวกเธอ เมื่อมวลมนุษยชาติหันปืนมาทางพวกเธอกันน่ะ"
              "เปล่าเลยครับ ท่านจอมพล ชัยชนะของพวกเราที่มีต่อพวกโอเวอร์เดส คือภารกิจสุดท้ายของพวกเราบนโลกใบนี้ เพราะต่อจากนี้ไป พวกเราจะไม่ย้อนกลับมาที่นี้ ในฐานะศัตรูที่คุกคามโลกกันแล้วละครับ" โคเคสบอก
              จอมพลลอนเฟลได้ฟังก็ยิ้มขึ้นแม้จะแปลกใจไม่น้อยกับสิ่งที่โคเคสตอบมา "....งั้นข่าวลือที่ว่าเธอเจอกับดร.รีไลฟ์เวอรี่นั้น ก็เป็นเรื่องจริงสิน่ะ นั้นก็วางใจได้เลยว่าพวกเธอคงได้เจอกับพวกโอเวอร์เดสในอวกาศกันอย่างแน่นอน แม้นั้นจะหมายถึง ศึกครั้งใหม่ที่กว้างใหญ่กว่าโลกใบแคบๆนี้เสียอีกน่ะ" แล้วก็บอกไปว่า "โลกใบเก่าแห่งนี้ ไม่มีที่ให้กับพวกเธออยู่อาศัยเมื่อปราศจากโอเวอร์เดส หากแต่อวกาศกว้างไกลนั้น คือสถานที่อันยิ่งใหญ่ที่บ้านของพวกเธอจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งไม่ช้าก็เร็วพวกเธอได้เจอมันมาแน่นอน แม้จะต้องสู้กับพวกแมนิเกเตอร์ในอวกาศก็ตาม"
              "คุณรู้เรื่องของพวกโอเวอร์เดสที่ยังอยู่ในอวกาศเลยหรือ" โคเคสบอก
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "ถ้าโอเวอร์เดสที่พวกเราคิดว่าหายสูญไปเมื่อ 40 ปีก่อน และกลับมาที่โลกนี้ในอีก 20 ปีต่อมานั้น ถ้ามันไม่หลบซ่อนในโลกก็ต้องถูกส่งไปอวกาศอย่างแน่นอน เพราะในตอนนั้นแทบไม่มีใครหน้าไหนฆ่าหรือทำลายโอเวอร์เดสกันได้เลย แต่ถ้าเป็นพวกเธอละก็ ฉันเชื่อว่าพวกเธอต้องทำได้แน่นอน ดังนั้น จงถอยไปเสียเถอะ เพราะฉันได้จุดระเบิดเตาพลังงานอนุภาคกำลังสูงไว้แล้ว"
              "ท่านจอมพล เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมรบกับยอดทหารของราชอาณาจักรอันเกรียงไกรกันนะครับ" โคเคสกล่าว โดยตอนนี้พวกพีวิลกลับขึ้นยานกันหมด เช่นเดียวกับกองรบที่โคเคสส่งสัญญาณให้ถอยไปแล้ว โดยกองรบแทแรนเซียนั้นได้เควนตินพาถอยหนีไปด้วย
              จอมพลลอนเฟลบอก "คลื่นลูกเก่าถูกคลื่นลูกใหม่ซัดผ่านไป บ่งบอกถึงยุคสมัยใหม่ที่จะมาถึง ยุคสมัยของคนรุ่นใหม่กับแนวความคิดใหม่ๆ แม้สิ่งเก่าๆจะต้องถูกลืมเลือนไปเลยก็ตาม แต่อย่างน้อย ฉันก็ได้นำทางให้เหล่าหนุ่มสาวก้าวเดินไปในอนาคตที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเองแล้ว.... ในฐานะคนรุ่นเก่าที่อยู่กับราชอาณาจักรนี้และปกป้องมาหลายสิบปีเต็ม คงได้เวลาเกษียณแบบถาวรแล้วละ" แล้วก็กดปุ่มเมื่อเห็นว่าพวกครอสตรีมเข้ามาในยานกันแล้ว ซึ่งเตาพลังงานอิอ้อนนั้น ครูเซเดนพยายามจะแทงทวนหมายจะทำลายทิ้ง แต่ก็... "แวบบบบบบบบบบบบบ ตรูม!!!!!!!!!!" ยานฟรีททรอจันได้ระเบิดพลังอิอ้อนกำลังสูงกวาดพวกครอสตรีมที่เข้ามาใกล้จนวอดวายวินาศสันตะโรไปกันหมด ไม่ว่าจะอยู่ในและนอกยานก็ตาม
              "ท่านจอมพล...ขอบคุณมากนะครับ" เควนตินกล่าวทั้งน้ำตาไว้
              โคเคสบอก "การเสียสละของท่านในคราวนี้ ไม่ใช่แค่ชาวแทแรนเซียที่อยู่ในสนามรบแห่งนี้ได้รับรู้ แต่พวกเราเหล่าแมนิเกเตอร์ทุกตนนั้น อยากขอบคุณท่านในฐานะตัวแทนมนุษย์ที่ช่วยเหลือพวกเราตราบจนวินาทีสุดท้ายด้วย" แล้วก็กล่าวไปว่า "ทั้งหมด ไว้อาลัยท่านจอมพลลอนเฟล 3 นาที รวมถึงผู้ที่เสียชีวิตในศึกครั้งนี้กันด้วย"
              "มาสวาร์ทาร์ นายรู้สึกไม่ดีต่อพวกครอสตรีมเหล่านั้นเลยสิน่ะ" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์ส่ายหน้า "...พวกเขาจงรักภักดีต่อโครเต้ และต้องเคารพการตัดสินใจของผู้เป็นแม่ทัพใหญ่จากผลของการดวลราวนด์ดูอัลกันแล้ว แต่ฉันลืมคิดไปเสียสนิท ว่าพวกนี้ ก็จงรักภักดีต่อครองคอร์ดและโอเวอร์เดสด้วย น่าเสียดายจริงๆ ที่พวกนั้นต้องมาตาย เพราะความจงรักภักดีแบบผิดๆแล้วน่ะ" แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองบนฟ้า "อีกอย่าง ฉันได้ปลดปล่อยโครเต้จากความพยาบาทในใจของเขา เช่นเดียวกับตัดโซ่ตรวนที่พันธนาการดวงวิญญาณของเขาที่ยึดติดกับความแค้นออกไปแล้ว แม้จะรู้สึกแย่ที่ภายภาคหน้าจะต้องสู้กับพี่น้องและพรรคพวกของโครเต้ที่ล่วงหน้าไปเพื่อรอพวกเราที่อวกาศ แต่...นั้นก็เป็นโอกาสที่จะหยุดยั้งการสังเวยชีพแบบโง่ๆของพวกครอสตรีมกันได้แล้วละ"
              "เช่นเดียวกับอีเนอไมนด์ แอตแลนไทซ์ แล้วก็ โซลูนาสตี้ด้วยสิน่ะ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ชัยชนะเหนือกองรบทั้งสี่ของโอเวอร์เดสนั้น มันแค่ครึ่งแรกบนโลกเท่านั้นเอง ครึ่งหลังที่เราต้องเจอนั้น อาจจะหนักหนายิ่งไปมากกว่านี้อีก แน่ละ เพราะว่านั้น เป็นชาตะกรรมของพวกแมนิเกเตอร์ที่ต้องพบพานกับการต่อสู้อันไม่จบสิ้นกันน่ะ"

              หลังจากนั้น ข่าวการสูญเสียจอมพลลอนเฟลบนชัยชนะของแทแรนเซียที่แลกกับพวกครอสตรีมนั้นก็ได้กระจายไปทั่วเขตเมือง ซึ่งทำให้ชาวแทแรนเซียต่างก็ไว้อาลัยต่อผู้เสียสละในการรบครั้งนี้ไว้ จึงทำให้บรรยากาศในเมืองนั้นดูเศร้าหม่องลง แม้พวกเขาจะกำชัยชนะไว้ แต่ก็ชั่วขณะหนึ่ง เพราะชัยชนะนี้เป็นจุดเริ่มต้นสงครามครั้งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า
              "ตอนนี้งานพระราชเพลิงศพท่านจอมพลเสร็จสิ้นไปแล้ว ผลของการรบในครั้งนี้อาจจะทำให้พวกโอเวอร์เดสเคลื่อนไหวกันในไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งนั้นอาจจะทำให้เรามีเวลาเตรียมตัวที่น้อยมากไปด้วยน่ะ" ราชทายาทมาร์กาเล็ตบอก กับพวกโคเคสที่อยู่ในท้องพระโรง
              เควนตินกล่าว "แต่ชัยชนะของพวกเราและพวกท่านนั้น ได้ทำให้กลุ่มประเทศในมหาสมาพันธ์ยุโรปเตรียมรวบรวมกำลังรบเพื่อมาหนุนช่วยพวกเรา พร้อมกันกับเครือพันธมิตรเอเชียใหญ่ที่ได้เคลื่อนทัพออกมากันด้วยน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะในเวลานี้ โอเวอร์เดสเสียกองกำลังองครักษ์ไปเกือบหมดแล้ว เช่นเดียวกันกับเด็ดชีวิตแม่ทัพคนสำคัญไปอีกสองหน่วยด้วยน่ะ" บัลโต้บอก
              โคเคสกล่าว "แม้จะสุ่มเสี่ยงกับการที่โอเวอร์เดสแสดงความพิโรธขึ้นมาก่อนเวลาอันควร และนั้นหมายถึงการสูญเสียของกองรบของกลุ่มประเทศทั้งสองไว้ แต่ถ้าเพื่อซื้อเวลาให้พวกคุณเตรียมพร้อมกำลังรบใหม่ขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นการเสียสละที่มีความหมายแล้วละ"
              "แล้วตอนนี้ องค์ราชินีเอลิเซด้าละครับ" พีวิลถาม
              มาร์กาเล็ตกล่าว "เสด็จแม่ทรงประชวรหนัก หลังจากที่ทราบข่าวการเสียชีวิตของท่านจอมพลมาแล้ว แม้หมอหลวงจะพยายามเยียวยา แต่ก็ทำได้แค่ยื้อชีวิตให้อยู่ได้เพียงแค่ 3 วันเท่านั้น ซึ่งนั้นหมายถึง ฉันจะต้องสืบต่อตำแหน่งผู้นำของแทแรนเซียและปกครองประเทศแห่งนี้ขึ้นมา ในฐานะองค์ราชินีของประเทศนี้" และถอดถอนใจไปสักพักก่อนจะพูดต่อไปว่า "ซึ่งฉันรู้ดี ว่าการที่ฉันได้ตำแหน่งราชินีนั้น ส่วนหนึ่งพวกคุณมาช่วยไว้ อาจจะทำให้ทั่วโลกครหาว่าฉันสมคบกับพวกแมนิเกเตอร์จนกลายเป็นพวกเดียวกันกับพวกคุณก็เป็นได้เลยน่ะ"
              "องค์หญิง ท่านลืมไปแล้วหรือ ว่าพวกโคเคสแค่ผ่านมาช่วยเหลือพวกเราโดยไม่หวังอะไรตอบแทน และพวกเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า ทำเพื่อคืนรอยยิ้มและความสงบสุขให้กับคนทั้งโลก ก่อนที่จะออกไปจากโลกใบนี้นะครับ" เควนตินบอก
              มาร์กาเล็ตได้ฟังก็อึ้ง แต่ก็ตั้งสติไว้ได้ "....แปลว่า พวกท่านจะเดินทางสู่อวกาศเลยสิน่ะ อืมมมมม โลกใบนี้ไม่พร้อม ไม่สิ ไม่มีที่ให้พวกคุณอยู่ต่อไปได้แล้ว ประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติอาจจะสร้างความผิดพลาดอันใหญ่หลวงจนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรากับพวกคุณ เป็นแค่เส้นขนานที่ไม่มีทางบรรจบกันได้แน่นอน แต่ถ้าพวกคุณไปยังอวกาศ และเจอกับเฮนรี่ ไนท์แล้วละก็ บางที พวกคุณยังพอมีโอกาสได้พบกับบ้านหลังใหม่ของพวกคุณก็เป็นได้น่ะ"
              "นั้นแหละคือ เจตจำนงของพวกเรากันนะครับ เพราะถ้าเรายังดึงดันจะอยู่บนโลกต่อไป เราจะต้องเจอกับหายนะอย่างแน่นอน" โคเคสกล่าว "แม้ภาระนั้นมันจะยิ่งใหญ่เกินตัวผม แต่ผมยังมีพวกพ้องที่เชื่อใจได้คอยช่วยเหลือไว้ด้วยนะครับ ซึ่งนั้นจะเป็นเรื่องหลังจากที่กำชัยเหนือโอเวอร์เดสก็ตาม โลกใบนี้เป็นของพวกคุณโดยสมบูรณ์แล้วละ"
              มาร์กาเล็ตกล่าว "....ฉันไม่มีอะไรจะให้กับพวกคุณได้ไปมากกว่า อวยพรให้พวกคุณทั้งหมดโชคดีแล้วกัน"
              "แต่สำหรับผม พวกคุณจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เพื่อยืนยันว่าพวกคุณไม่ใช่ศัตรูที่โอเวอร์เดสส่งมา ให้กับเฮนรี่ ไนท์และพวกรับรู้ไว้นะครับ" เควนตินกล่าวและหยิบเอาเหรียญตราสีเงินออกมาจากกล่องที่เขาเตรียมไว้ ให้กับโคเคสดู "เหรียญตรานี้ มันเหรียญตราของผู้การเกรย์แนช ทิลเทอแรนในช่วงที่เขาได้รับตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของฝ่ายสหพันธ์โลก ช่วงยุคทองตอนต้นนิ แต่ คุณมีเหรียญตราที่ควรจะหายสาปสูญไปพร้อมกับคนในตระกูลทิลเทอแรนชุดสุดท้ายแบบนี้ หรือว่าคุณก็...."
              "เกรย์แนช ทิลเทอแรนคือปู่ทวดของผม ซึ่งผมสืบสายเลือดจากพ่อที่เป็นคนในตระกูลทิลเทอแรนบนโลกกับแม่ของผมที่เป็นลูกสาวท่านแม่ทัพของแทแรนเซีย โดยที่คนในตระกูลทิลเทอแรนที่เหลืออยู่ก็ยอมรับผมกับแม่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ซึ่งเป็นความภูมิใจของตระกูลทิลเทอแรนบนโลกที่ได้มีลูกหลาน ซึ่งมีสายเลือดชาวแทแรนเซียและทิลเทอแรนอยู่ในตัวไว้" เควนตินกล่าว "คุณพ่อของผมฝากเหรียญตรานี้ไว้ให้ผม ก่อนจะออกไปรบกับโอเวอร์เดสเมื่อ 20 ปีก่อน โดยสั่งเสียไว้ว่า หากว่าสักวันหนึ่ง ผมหรือลูกหลานของผม มีโอกาสได้ออกสู่อวกาศขึ้นมา ถ้าได้พบเจอกับเฮนรี่ ไนท์แล้ว คนในกองทัพของพี่ชายของปู่ทวดผมอยู่ด้วยนั้นไม่เชื่อและคิดว่าผมแอบอ้าง เหรียญตรานี้คือหลักฐานบ่งบอกว่า ผมกับลูกหลานเป็นลูกหลานของพี่ชายของนายพลเกรย์สันที่ยังอยู่บนโลกเอาไว้กันนะครับ"
              เฮลิคบอก "จริงสิ เฮนรี่ ไนท์ไม่ได้ขึ้นไปอวกาศกับกลุ่มมนุษย์เพียงคนเดียว แต่ก็พาผู้การเกรย์สัน ทิลเทอแรน ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงที่เป็นนายทหารคนแรกในตระกูลทิลเทอแรนที่ได้ออกสู่อวกาศด้วยนิน่า"
              "และตัวเกรย์สันเองก็เป็นนายทหารมากความสามารถที่สุดในช่วงยุคทองนั้นๆด้วย ซึ่งตอนนี้น่าจะช่วยเหลือเฮนรี่ ไนท์ สู้กับพวกแมนิเกเตอร์จากแรซัลก้าอย่างแน่นอนเลยละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เควนตินกล่าว "นอกจากเหรียญตราที่จะช่วยให้พวกคุณรอดจากการถูกลุงทวดเกรย์สันขัดขวางเอาไว้ ผมยังมีจดหมายจากผมที่เขียนไว้เพื่ออธิบายว่า พวกคุณคือตัวแทนของผมที่เป็นลูกหลานของน้องทวดของลุงทวดส่งมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการหยุดยั้งภัยคุกคามจากอวกาศนี้ ซึ่ง ผมอยากให้คุณเก็บทั้งสองสิ่งไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในเวลาที่คุณเจอกับกองกำลังของลุงทวดของผมด้วยนะครับ"
              "ขอบใจสำหรับของขวัญที่เธอมอบให้น่ะ เควนติน หวังว่าปู่ทวดของเธอคงจะได้หลับอย่างสบายใจได้แล้ว แม้ว่านั้นจะทำให้เธอกับพวกไม่มีโอกาสได้พบหน้ากับลุงทวดเกรย์สันเลยน่ะ" โคเคสบอก และรับเอาเหรียญตรากับจดหมายไว้
              เควนตินบอก "แม้ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ลุงทวดเกรย์สันมีลูกมีหลานกันแล้วหรือยัง แต่ผมเชื่อว่า พวกคุณน่าจะช่วยเหลือพวกเขากันได้บ้างนะครับ"
              "แต่ตอนนี้ พวกคุณควรจะเตรียมพร้อมรับมือกับการคุกคามของกองรบที่เหลือของโอเวอร์เดสกันได้แล้ว แม้ว่าที่แห่งนี้พวกคุณจะไม่ได้มาร่วมพิธีราชาภิเษกเลยก็ตามน่ะ" มาร์กาเล็ตกล่าว
              โคเคสกล่าว "พวกเราเองก็รบกวนกันมามากแล้ว ขอบคุณมากนะครับ องค์หญิง แล้วก็ขุนพลเควนตินด้วย"

              แล้วทั้งหมดก็เดินทางกลับสู่นอร์ติลุสผ่านเส้นทางลับ และนำทัพทั้งหมดกลับสู่เวลเซน่าในทันที
              "เฮ้อ ทีแรกฉันคิดว่าน่าจะได้แกะศพของพวกครอสตรีม โดยที่พวกนี้ยังอยู่แล้วแท้ๆ ไม่คิดเลยว่า การรบในครั้งนั้นจะเป็นวาระสุดท้ายของพวกนั้นไปเสียได้น่ะ" เซริซ่ากล่าวโดยที่เหล่าลูกมือลากศพของพวกครอสตรีมมาขึ้นเตียงเพื่อผ่าศพดู
              แอนเดรียถาม "คุณคงจะเสียใจกับการจากไปของพวกพ้องของคุณเลยสิน่ะ" ต่อมาสวาร์ทาร์ที่มาดูสภาพศพของพาราไดน์ที่สิ้นชีพและผ่านการงัดแงะเกราะออกไปกันแล้ว
              "แค่อดีตพวกพ้องและลูกน้องเก่าก็เท่านั้นแหละ แม้พวกเขาจะรับใช้คนอื่นกันก็ตาม แต่นั้นก็เป็นการตัดสินใจของพวกเขาอยู่แล้วละ" มาสวาร์ทาร์กล่าวอย่างสังเวชใจ ซึ่งเซริซ่าทำการตรวจเช็คร่างกายด้วยการใช้เอ็กซ์เรย์สแกนร่างพาราไดน์เอาไว้ ก่อนจะลงมือผ่าศพพร้อมกัน ซึ่งก็ใช้เวลาไปประมาณ 5 นาทีไว้ "ถึงผมจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศต่อกองรบและพรรคพวก แต่...ถ้าเพื่อแก้ไขความผิดพลาดของพวกเขาแล้วละก็ การตัดสินใจเดินไปจากกองรบครอสตรีมเพื่อมาร่วมกับพวกโคเคสนั้น ถือว่าตัดสินใจได้ถูกทางแล้วละ"
              แอนเดรียกล่าว "แม้ว่านั้นจะทำให้มือคุณต้องเปื้อนเลือดพวกพ้องก็ตาม แต่คุณก็ทำดีที่สุดแล้วละ เพราะเท่าที่ทราบมานั้น แมนิเกเตอร์ภายใต้อำนาจของโอเวอร์เดสถูกบีบบังคับให้ต้องสู้แบบนี้ แปลว่าพวกมนุษย์เองก็คงไม่ปราณีและไม่ยอมรับฟังด้วยเช่นกันน่ะ"
              "หวังว่าเวลาที่ผ่านพ้นไปจะสิบหรือร้อยปี คงได้เปลี่ยนความคิดของพวกมนุษย์กันไปแล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เซริซ่ากล่าวหลังจากที่ผ่าศพเรียบร้อยแล้ว "โอ้ว พวกนี้เป็นเหมือนที่เธอว่ามาจริงๆด้วยนะ มาสวาร์ทาร์ ว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ หากแต่ถูกแทนที่ด้วยแกนพลังครอสเซียมอันทรงพลังที่ทำให้พวกเขาปลดปล่อยความสามารถที่หลับไหลและความฉลาดรอบรู้ให้กว้างไกลมากขึ้น รวมไปถึงเรียนรู้องค์ความรู้จากบรรพบุรุษที่สืบสายเลือดมาไว้กันด้วย แม้ว่านั้นจะทำให้พวกเขาเป็นกองกำลังนักรบที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู้ และเป็นพวกองครักษ์พิทักษ์โอเวอร์เดสกันด้วยก็ตามน่ะ" แล้วก็อธิบายไปว่า "สภาพอวัยวะจากที่เห็นนั้น จะถูกดัดแปลงให้อวัยวะนั้นเสื่อมสภาพน้อยลงจากผลของพลังครอสเซียมที่อยู่ในร่างกายที่กระจายไปทั่วร่าง ซึ่งแม้จะถูกฆ่าในเวลาอันสั้น แต่อวัยวะเกือบทั้งหมดล้วนมีสภาพใหม่เหมือนพึ่งตายมาเมื่อกี้นี้ ไม่ใช่ตายมาก่อนที่จะเป็นแมนิเกเตอร์กันน่ะ"
              "พูดง่ายๆก็คือ ครอสตรีมพยายามจะคงสภาพเหล่านักรบไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนจะถูกส่งไปรบแนวหน้าเลยสิน่ะ" วูลลิเซียกล่าว
              เซริซ่าบอก "แกนพลังงานเองก็เช่นกัน แม้จะมีค่ารังสีที่เทียบเท่าแร่ยูเรเนี่ยม พลูโตเนี่ยมและแร่กัมตภาพรังสีอยู่ก็จริง แต่กลับไม่เป็นอันตรายต่อเจ้าของร่าง เพราะคลื่นรังสีที่ฉันตรวจสอบจากร่างของมาสวาร์ทาร์หลังจากที่กลับมาจากการดวลกับทราเวยน์นั้น พบว่าแกนพลังงานครอสเซียมมีค่าปนเปื้อนที่น้อยถึง 0.0000000000000004 เปอร์เซนต์ แม้จะมีปริมาณอนุภาคที่เยอะกว่า จนเป็นอันตรายได้ก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องแปลกไม่น้อยสำหรับแร่ชนิดนี้ ที่ใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับเหล่านักรบระดับพระกาฬของโอเวอร์เดสกันน่ะ"
              "แล้วเรื่องที่สภาพร่างกายของคุณมาสวาร์ทาร์ตอนที่เขาเสียพลังไปละคะ" แอนเดรียถาม
              เซริซ่ากล่าว "ในช่วงที่ตรวจเช็คร่างกายของมาสวาร์ทาร์นั้น ฉันถือวิสาสะเอ็กซ์เรย์ร่างกายของเขาไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว ก็พบว่า แกนหัวใจของเขาถูกบล็อกด้วยแม่กุญแจเอาไว้ทำให้พลังงานที่ส่งไปตามร่างกายนั้นถูกจำกัดให้น้อยลง ซึ่ง แม้ฉันอยากจะให้วูลลิเซียช่วยแกะมันออกก็จริง แต่....ตามข้อมูลที่ฉันตรวจสอบร่างกายของพีวิลดูแล้ว พบว่าแกนพลังงานของเขานั้นถูกแพทรีออทเปลี่ยนเป็นวงแหวนควบคุมแกนหัวใจอันใหม่ที่แกะมาจากเตาพลังงานในโฮปป้าสคาโพรนอส แต่ย่อส่วนให้มันจ่ายพลังงานในร่างพีวิลได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้นมา ฉันจึงรู้เลยว่า ทางเดียวที่จะแก้แม่กุญแจนี้ออก จะต้องเป็นระดับหัวหน้ากองรบเท่านั้นที่จะทำได้"
              "แต่เนื่องจากว่าตอนนั้น โครเต้เป็นหัวหน้าและแม่ทัพของพวกครอสตรีม ซึ่งตั้งจะท้าดวลกับฉันไว้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำเช่นนั้นไว้ เว้นเสียแต่ หัวหน้าเก่าอย่างท่านอาทรัลเตอร์เท่านั้นที่จะแก้ได้ แม้ว่าเขาจะมาแก้เอาตอนที่...." มาสวาร์ทาร์บอก
              เซริซ่ากล่าว "แม้จะไม่ได้เจอหน้ากันตรงๆ ก็คงรู้ว่า อดีตแม่ทัพผู้นี้เป็นคนที่คุณให้ความเคารพยกย่องไม่น้อย เช่นเดียวกับโครเต้ด้วย แม้จะรอดพ้นจากการถูกสังหารอย่างทารุณก็คงอยู่ได้ไม่นานหรอกน่ะ"
              "เรื่องนั้นผมทราบดีแล้วน่ะ ท่านอาทรัลเตอร์ได้รับการคืนชีพมาในสภาพที่ถูกฆ่าตายไป ซึ่งร่างกายนั้นก็ไม่สมบูรณ์อยู่แล้ว บวกกับว่าท่านแม่ทัพชราภาพอยู่ในโลกนี้มานานมาก แม้จะได้รับพลังอันมากมายในร่างไว้ แต่ด้วยสภาพกายที่เปราะบางเพราะสภาพทั้งสองอย่างที่ว่ามาข้างต้นนั้น ทำให้เขาไม่สามารถฟื้นฟูพลังครอสเซียมได้เอง และส่งผลให้ร่างกายของเขาเสื่อมสภาพเร็วเมื่อเขาลงสนามรบและออกต่อสู้อย่างหนักหน่วงกันก็ตาม จนตัวเขาอยู่ได้อีกไม่นาน เลยใช้ทุกวินาทีมีค่าในการฝึกฝนเหล่าสมาชิกและสอนสั่งพวกเขาไว้ ซึ่งรวมถึงฝึกฝนผมกับโครเต้ที่ผ่านการคืนชีพมาอยู่ในครอสตรีมกันด้วย" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยมองดูฝ่ามือของเขาไว้ "ถ้าโครเต้ปล่อยวางความแค้นที่มีต่อแทแรนเซีย และก้าวเดินต่อไปโดยนำคำสอนของท่านอาทรัลเตอร์มาใช้ได้ ปานนี้ครอสตรีมก็คงไม่พังพินาศลงด้วยมือของเขา ของทุกๆคน หรือแม้กระทั่งของผมด้วย"
              วูลลิเซียกล่าว "ฉันไม่ค่อยรู้ว่าจิตใจของพวกแมนิเกเตอร์นั้นคิดยังไงกันบ้าง เพราะถ้าขนาดมนุษย์โลกเองยังคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายไม่ได้เช่นนี้ นั้นก็คงไม่ประหลาดใจหรอกน่ะ แม้ฉันจะรู้ว่าแร่ครอสเซียมนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นที่โลกของเราจริงๆหรอกน่ะ"
              "หมายความว่ายังไงกันน่ะ วูลลิเซีย" เซริซ่าถาม
              วูลลิเซียเปิดมอนิเตอร์เผยโมเลกุลผลึกสีเขียวที่เรียงรายกันเป็นลูกโซ่ไว้ "ฉันตรวจสอบดูแกนหัวใจและให้ลูกน้องนำไปวิเคราะห์กันแล้ว พบว่าแร่นี้ มันก็เหมือนกับอีเนลเซียมกันนี้แหละ ซึ่งตัวข้อมูลโมเลกุลของแร่ทั้งสองนี้ มันไม่ได้อยู่ในสารบบข้อมูลแร่และรหัสเคมีใดๆที่อยู่บนโลกใบนี้เลย แม้ว่ามันจะถูกสร้างและสังเคราะห์ขึ้นที่โลกเพื่อผลิตเป็นแกนหัวใจจำนวนมากสำหรับแมนิเกเตอร์หนึ่งตัวด้วยกันก็ตาม แต่ต้นกำเนิดมันไม่ได้อยู่ที่โลกแน่นอน" แล้วก็สรุปไปว่า "ซึ่งแร่สองอย่างนี้ก็ไม่เคยปรากฎในช่วง 40 ปีก่อน ตอนที่โอเวอร์เดสและเหล่าแมนิเกเตอร์อาละวาดบนโลกครั้งแรกกันด้วย แต่การปรากฎตัวของแร่ครอสเซียมนั้น พบว่าแกนหัวใจนั้นมันถูกสร้างขึ้นเมื่อราวๆ 24 ปีก่อน เช่นเดียวกับอีเนลเซียม ที่ถูกค้นพบขึ้นเมื่อ 21 ปีก่อน แน่นอนว่า แร่ทั้งสองอย่างนี้ ไม่น่าถูกสร้างขึ้นโดยพวกแมนิเกเตอร์ที่เหลือรอดบนโลกได้แน่ๆ ซึ่ง ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ...."
              "....โอเวอร์เดสค้นพบหรือสร้างแร่ครอสเซียมและแร่อีเนลเซียมขึ้นจากแร่ซัลก้า และนำเข้ามาในช่วงกลับมาที่โลกหลังจากหายตัวไปจากโลกในอีก 20 ปีต่อมา จากนั้นก็ใช้แร่ทั้งสองอย่างนี้สร้างกองรบครอสตรีมและอีเนอไมนด์ ซึ่งแร่อีเนอไมนด์นั้นน่าจะไว้ทีหลังเพราะสามารถขยายตัวแร่ให้มีปริมาณใหญ่และเพิ่มจำนวนได้เร็วถึงขั้นที่ไม่สามารถควบคุมได้ เลยต้องสร้างกองรบแอตแลนไทซ์ขึ้นมาแทน ซึ่งก็ใช้เวลาเกือบ 15 ปีกว่าจะควบคุมอีเนลเซียมเอาไว้ โดยในช่วงเวลานั้น แพทรีออทก็ถูกฆ่าตายหลังการปฏิวัติไม่สำเร็จพอดี เลยเป็นตัวเลือกในการสร้างแม่ทัพคุมกองรบอีเนอไมนด์ขึ้นมาด้วยน่ะ" มาสวาร์ทาร์คาดการณ์ไว้
              วูลลิเซียกล่าว "และด้วยมวลอะตอมที่ฉันนำมาเปรียบเทียบกันระหว่างอีเนลเซียมและครอสเซียมกันแล้ว พบว่า ประจุของทั้งคู่นั้นมีขั้วประจุที่ไม่เข้ากัน ซึ่งจะทำให้เกิดการสปาร์คขึ้นจนระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นมา เมื่อพลังงานสองอย่างนี้ปะทะกันไว้ แน่นอนว่า เธอกับพีวิลเองก็คงจะรู้เลยใช้วิธีดังกล่าวมารับมือกับพวกครอสตรีมเลยสิน่ะ"
              "นั้นจึงไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไม ทั้งอีเนอไมนด์และครอสตรีมถึงไม่มีเรื่องผิดใจกัน เพราะสองแม่ทัพต่างรู้ว่าหากลูกน้องปะทะกันด้วยพลังขึ้นมา ความเสียหายอาจจะรุนแรงไปไม่น้อยอย่างแน่นอน เพราะพลังงานของทั้งคู่เหมือนวัตถุระเบิดที่พร้อมจะปะทุอย่างรุนแรงขึ้นมาได้แน่นอนน่ะ" เซริซ่ากล่าว
              แอนเดรียบอก "แล้วถ้าเกิดว่าคุณกับพีวิลไม่ทะเลาะกันขึ้นมา พวกเราคงไม่แย่ไปหน่อยเลยหรือคะ"
              "ถึงทะเลาะกันจริง อย่างมากก็พยายามจะไม่ให้รุนแรงถึงขั้นนั้นหรอกนะครับ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วก็ลุกขึ้นจากเตียงไว้ "ตอนนี้ผมมีเรื่องที่ต้องไปจัดการกับพวกเฮเรเค้นสักหน่อย ในเรื่องที่โม้ต่อทุกๆคนว่าผมเก่งกาจมากขนาดนั้นเลยน่ะ"
              เซริซ่ากล่าวไปว่า "ส่วนหนึ่งเพราะกลัวว่าจะโม้เกินเลยจากความเป็นจริงเลยสิน่ะ ถ้าอย่างงั้นก็รีบไปกันก่อนที่ฉันจะได้ยินพยาบาลซุบซิบจนไม่เป็นอันทำงานด้วยน่ะ"

              "มั่นใจหรือ ว่าจะให้เราใช้พวกนี้มาตีเป็นดาบกันน่ะ" ด็อดเจอร์ถามทินเหมาลีและเลอแชนที่นำมีดปีกของไวซ์แลงค์ไว้
              "ตอนนี้เราล้างคราบเลือดของพ่อเส็งเคร็งออกไปจนหมดแล้ว ที่เหลือก็คือ ขอความกรุณาช่วยตีเป็นกระบี่ด้วยเถอะน่ะ"
              "อืมมมม ตัวปีกมีดพวกนี้ ถ้าเป็นอัลตร้าสติลละก็ เรื่องหลอมใหม่นั้นได้อยู่แล้ว แต่รู้ใช่มั้ย ว่าถ้าหลอมขึ้นเป็นอาวุธนั้นจะต้องใช้โดยทันทีเลยน่ะ แม้เก็บเอาไว้ก็ต้องผ่านการเช็ดล้างเอาไว้ด้วยน่ะ" ด็อดเจอร์กล่าว
              ทินเหมาลีบอก "เรื่องนั้น มาสวาร์ทาร์เล่าให้เราฟังแล้วละ ว่าดาบที่ใช้โลหะเดียวกันกับเกราะของเขานั้นต้องดูแลกันเช่นไรน่ะ" แล้วก็บอกไปอีกว่า "อีกอย่าง กระบี่อันใหม่นี้ เดิมเป็นอาวุธของคุณแม่อยู่ จึงเป็นได้ทั้งของดูต่างหน้าและเครื่องรางคุ้มครองพวกเราด้วยคะ"
              "แล้วไม่คิดจะตามหาพวกน้องๆของพวกเธอกันเลยหรือ เพราะเห็นได้ยินว่าไวซ์ไมเซลมีน้องๆซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งกันน่ะ" ด็อดเจอร์ถาม
              เลอแชนบอก "ถ้าคุณแม่ส่งพวกเราไปหาท่านอาจารย์เฟยหลงบนเขาสูงใหญ่กันได้ แม่ของเราก็คงจะช่วยให้น้องๆของพวกเราอยู่รอดไปได้เช่นกันน่ะ และ..เมื่อปราศจากเงื้อมมือของโอเวอร์เดสและพวกแล้ว ปานนี้พวกเขาคงจะได้อยู่อย่างสงบกันด้วยน่ะ" ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานนัก ณ.เกาะลับแห่งหนึ่งในมหาสมุทรแปรซิฟิกนั้น "ครืดดดดดด ครืดดดดดด" ภายในฐานลับ แคปซูลสองอันเปิดออกมาพร้อมกับเด็กชายและเด็กหญิงที่หน้าตาเหมือนกับบรอนเซอรูทและทินเหมาลีก็ก้าวออกมา แล้วหันมาเห็นแคปซูลที่เรียงรายกันนับร้อย ที่ตอนนี้ เด็กๆที่เป็นพี่เป็นน้องของเด็กสองคนได้ลืมตาตื่นขึ้นมากันแล้ว ซึ่งใกล้ๆกันนั้น พวกสัตว์เทพนิยายเองก็ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน พร้อมกับคอมพิวเตอร์ภายในฐานที่ทำงานขึ้นด้วย ซึ่งโปรแกรมของไวซ์แลงค์ได้ทำงานตามที่เธอเซตไว้แล้ว "เริ่มต้นกางสนามพลังล่องหนปิดเกาะและรัศมีทะเลโดยรอบ 60 กิโลเมตรไว้ และได้เวลาดูแลเด็กแล้ว"

              ตัดมาที่ปราการของโอเวอร์เดสบนหุบเขาทมิฬ ที่ตอนนี้....
              "พวกเราเสียครอสตรีมไปพร้อมกันกับไวซ์ไมเซลและไวซ์แลงค์ ซึ่งทำให้เราขาดคนมาควบคุมพวกสัตว์ประหลาดกันแล้วนะครับ" เกซิคบอก
              จีเนฟาร์รี่กล่าว "ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านพ่อคะ ท่านช่วยไปลงโทษพวกโคเคสกันเดียวนี้เลยคะ"
              "ไม่จำเป็นหรอก จีเนฟาร์รี่ แม้ข้าจะเสียเหล่าองครักษ์ฝีมือดีไปไม่น้อย แต่....ข้ายังมีกองเรือของพวกแอตแลนไทซ์อยู่ ต่อให้พวกมนุษย์เข้าโจมตีขนาบข้างไปได้ก็คงไม่มีทางถล่มปีรามิลด้าไปได้หรอก" โอเวอร์เดสกล่าว และสั่งการให้ "ครองคอร์ด จงไปสั่งการให้เกซเฟลิครับทราบกันเดียวนี้เลย ว่าให้เตรียมกองเรือไว้ถล่มพวกอเมริกาและแอฟริกาที่บุกเข้ามา และให้พร้อมสำหรับการรับมือกับพวกโคเคสกันด้วย"
              ครองคอร์ดพยักหน้า "รับทราบแล้วละครับ"
              "แต่ ท่านโอเวอร์เดสครับ ถ้าเราเสียพวกแอตแลนไทซ์ขึ้นมา เกรงว่าพวกเราอาจจะ...." เกซิคบอก
              โอเวอร์เดสกล่าว "ข้ารอเวลาที่จะออกไปจัดการกับพวกโอหังทั้งมนุษย์และพวกแมนิเกเตอร์หัวกบฎกันเดียวนี้แล้ว ดังนั้น เกซิค เจ้าจงร่วมรบกับข้าเป็นครั้งสุดท้าย หากวันนั้นมันมาถึงกันด้วยน่ะ"
              "ท่านผู้คุมกฎ...." จีเนฟาร์รี่เรียกเกซิคมากระซิบไว้ข้างนอก "ข้าเห็นว่าเราจำต้องหยุดท่านพ่อไว้ให้ได้แล้วละ เพราะถ้าขนาดพวกครอสตรีมยังพ่ายแพ้เช่นนี้ พวกเราเองก็คงจะ..."
              เกซิคบอก "แม้ว่าข้าจะถูกท่านโอเวอร์เดสลงโทษ แต่ข้ายอมให้เราเสียองค์จักรพรรดิ์กันไม่ได้หรอก เพราะข้าจะเรียกกองรบจากแรซัลก้าให้ลงมาที่โลกเดียวนี้ด้วย"
              "ข้าหวังว่าท่านคงจะลงมือได้ก่อนที่ท่านพ่อจะรู้ตัวด้วยนะ" จีเนฟาร์รี่กล่าว
              เกซิคบอก "มีแต่ ท่านเทพสงครามเท่านั้นที่จะกำจัดพวกกบฎลงได้ แม้ว่านั้นจะต้องลงเอยด้วยการกวาดล้างพวกมนุษย์ให้หมดโลกและระบบสุริยะก็ตาม เพราะมาถึงขั้นนี้แล้ว ข้าจะยอมเสียจักรวรรดิ์ของพวกเราไม่ได้เด็ดขาด"

              ด้านครองคอร์ดก็มาถึงปีรามิลด้ากันแล้ว เกซเฟลิคยืนขึ้นจากบัลลังก์โดยที่ครองคอร์ดมาถึง
              "โครเต้โง่มากที่สังเวยดาบและโลห์ไปให้พวกกบฎกันด้วยน่ะ" เกซเฟลิคบอก
              ครองคอร์ดกล่าว "เราเสียครอสตรีมและไวซ์ไมเซลไปแล้ว แต่เราจะไม่ยอมแพ้ให้กับพวกโคเคสจนปล่อยพวกนั้นไปจัดการกับท่านโอเวอร์เดสกันหรอกน่ะ" และบอกไปว่า "อีกอย่าง ข้ารู้มานานแล้ว ว่าเกซิคตั้งใจจะเรียกท่านเทพสงครามให้ลงมาที่โลกโดยเร็วน่ะ"
              "แล้วท่านจะปล่อยให้ผู้คุมกฎหน้าโง่มันลงมือได้เลยหรือ" เกซเฟลิคกล่าว
              ครองคอร์ดยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า "....เกซิคไม่มีทางทำได้หรอก เพราะข้าจัดการกับระบบสื่อสารจากโลกไปแรซัลก้ากันแล้ว ถึงข้าไม่ทำหรือลืมลงมือ ท่านเทพสงครามคงไม่สนใจสละเวลาลงมาที่โลกจนการคุกคามอวกาศของแรซัลก้าขาดตอนกันไปได้หรอกน่ะ"
              "นั้นก็ดีแล้วละ เพราะเรื่องที่เทพสงครามพ่ายแพ้บนโลกนั้นคงจะทำให้จักรพรรดินีของพวกเราแค้นกันอีก จนพวกกบฎได้ใจและโจมตีกลับจนกำชัยมาได้นั้น หึ ข้าจะบดขยี้พวกมันให้ราบคาบก่อน โดยเฉพาะ ไอ้สถุลคลอเวฟด้วย ที่ควรจะกลายเป็นเศษเหล็กภายใต้ความลึก 3 หมื่นฟุตกันน่ะ" เกซเฟลิคกล่าว
              ครองคอร์ดถาม "แล้วท่านไม่กลัวว่าแผนการลับของท่านจะถูกขัดขวางกันเลยหรือ"
              "หมายถึงเมอริด้าสิน่ะ ถึงนางรู้ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะนางไม่มีทางต้านโปรแกรมในชิปที่ข้าเซตเอาไว้ตอนสร้างนางและไพลม์เทคแล้วละ" เกซเฟลิคกล่าว "ตอนนี้ฉันไสหัวการ์ดเชสเตอร์ไปแล้ว ถึงมันจะหาทางกลับมาที่โลกได้ ทุกอย่างก็คงสายไปแล้วน่ะ"
              ครองคอร์ดบอก "แม้ว่าท่านกับข้าอาจจะพ่ายแพ้ตามครอสตรีมไป แต่ความหวั่นเกรงของเราจะไม่มีทางเป็นจริงไปได้ เพราะเราจะหยุดพวกกบฎสหพันธมิตรนี้ลงด้วยมือของพวกเราเองแหละ"
              "เพื่อชัยชนะของพวกเราและของท่านโอเวอร์เดส" เกซเฟลิคบอก โดยชูแขนขึ้น เหล่าสมุนแอตแลนไทซ์ทั้งหมดต่างเฮลั่นขึ้นมา ครองคอร์ดกล่าว "และเพื่อโลกของพวกเราเหล่าแมนิเกเตอร์นี้แหละ อีเนอไมนด์ ครอสตรีมและโซลูนาสตี้ได้เสียสละมามากแล้ว เราจะไม่ยอมให้พวกเขาต้องตายเปล่ากันหรอก"

    โปรดติดตามตอนต่อไป ในตอนที่ 19 วาระสุดท้ายของครองคอร์ดและแอตแลนไทซ์ ความจริงของรักสามเส้าอันแสนเศร้า
    ตอนหน้า เพื่อที่จะเข้าถึงตัวโอเวอร์เดสและเริ่มต้นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย แอตแลนไทซ์จะต้องถูกกวาดล้างก่อน โดยพวกโคเคสร่วมมือกับทางอเมริกาและแอฟริกาโจมตีปิรามิลด้าในศึกสี่เส้า ซึ่งคลอเวฟได้กลับมาปะทะกับไพลม์เทคและเมอริด้า จนได้รู้ถึงความจริงที่เกิดขึ้น แม้จะต้องแลกกับสองชีวิตไปเลยก็ตาม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×