ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #40 : ตอนที่ 18 ยุทธการกอบกู้แทแรนเซียคืน ศึกปะทะพ่อแม่ลูกอันน่าเจ็บปวด บทศึกแทลิลเดอ้อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 28
      0
      13 ก.ย. 64

              "ก้องๆๆๆๆๆ" สเตฟอร์ดเคาะประตูเหล็กที่มีทหารของลอนเฟลเฝ้า เพื่อทำให้ทหารทั้งสองรีบเปิดประตูเข้าไปดู "หวืดดด หมับบบ ฟึ่บบบ" ฟันดิวเรคเลยยืดแขนจับหัวทหารดึงเข้ามาข้างใน ส่วนอีกคนนั้น... "ป้ากกกกก" โดนเจเนลโผล่มาถีบให้ล้ม แล้วก็ลากขาเข้ามา "เปรี้ยงงง" ให้สเตฟอร์ดเตะเข้าจนสลบลง เซเทธเลยรีบวิ่งออกมา "ฟึ่บๆๆๆๆ ตึกก ฟึ่บบบบ ฟึ่บบบ ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว" และโดดขึ้นบนกำแพงเพื่อเข้าจัดการกับพวกทหารที่เฝ้าบนกำแพงฐานทัพให้สลบเหมือดกันหมด โดยยืนหน้าและโบกมือเพื่อให้สัญญาณไว้ สเตฟอร์ดพยักหน้าและรีบเดินออกมาแล้วก็ "แกร็ก ปี้บๆๆๆ" ติดระเบิดแรงสูงไว้ที่กำแพง โดยที่เจเนลเอาระเบิดอีกสามชุดมาช่วยติดไปด้วย ส่วนเควนตินก็พาพวกเดินออกไปก่อน แล้วก็ "ปี้บบบ" "ตรูมมมม บรึมมมม ตูมมมมม" กดสวิตซ์ให้ระเบิดทำลายกำแพงทิ้ง
              "หวออออ หวออออ หวออออ หวอออออ" สัญญาณเตือนภัยนอกฐานทัพดังขึ้น "พวกศัตรูบุกมาในตอนที่เราวุ่นวายเลยหรือวะ" ทหารของลอนเฟลส่วนหนึ่งรีบรุดมาดู โดยที่ส่วนมากในตอนนี้ทะเลาะเบาะแว้งกับเรื่องที่ถูกเปิดโปง ซึ่งเป็นฝีมือของพลัสเชอริทที่นำหลักฐานเรื่องแย่ๆจากปากของบิลลี่และพองเพื่อนของเควนตินที่ไปรู้เห็นเรื่องราวของพวกขุนนางกังฉินและพวกทหารปฏิวัติเผยแพร่กันไปทั่วแล้ว พอพวกทหารโผล่หน้าออกมา "เปรี้ยงงง" ทอฟคานิคพุ่งเข้าถีบใส่นายทหารจนล้มลงไปสลบเหมือดกับพื้น "ฟึ่บๆๆๆ กร็อบบบ" กริมเบอรี่กระโดดข้ามหัวทหารและจัดการหักคอให้หักเพียงครึ่งเดียว เลอแชนเตะกวาดตัดขาทหารให้ล้มแล้วก็ "ป้ากกก" กระทืบซ้ำจนสลบลง โมคุโตะกระทุ้งศอกใส่นายทหารและจับทุ่มข้ามหัวลงกับพื้น แล้วก็จับนายทหารที่บุกมาด้วยมีดด้วยการทุ่มตวัดขาลงให้ล้มกับพื้นและชกซ้ำที่กลางหลังให้สลบไปอีก "ปังๆๆๆๆๆๆ" ทหารอีกสองนายกราดยิงปืนกล แต่บรอนเซอรูทใช้กระบองสองท่อนหมุนควงปัดกระสุนออกไปทุกนัดด้วยกัน แล้วทินเหมาลีก็... "ป้าบบบ ป้าบบบ" กระโดดเข้าฟาดฝ่ามือใส่ทหารสองนายไปอย่างจังๆ

              ด้านพวกโฟรซ่าเองก็... "แง....แง้....พ่อจ๋า พ่อหนูอยู่ไหนกันน่ะ" เสียงเด็กร้องไห้ดึงขึ้นให้พวกทหารที่เฝ้าอยู่ตามสวนรอบปราสาท โดยเสียงนั้นเป็นเสียงของจิลที่ใช้สปีคเกอร์บิท ไซโคบิทแบบติดลำโพงส่งเสียงเรียกพวกทหารให้มา แล้วก็... "ป้ากกก เปรี้ยงงง" โฟรซ่ากระทุ้งพันท้ายปืนรีโวลเวอร์ไรเฟิ่ลเข้าหลังทหารรายแรก จากนั้นฟาดพันท้ายปืนอัดเข้าที่หน้าทหารคนที่สองจนล้มและเตะซ้ำเข้าที่หน้าไปอีกทีให้สลบแน่นอน พร้อมกับสบัดหน้าเพื่อให้พีวิลพามาร์กาเล็ตและพวกส่วนหนึ่งออกมา แล้วก็... "ปุ๊ ปุ๊ ปุ๊" ใช้ริมฟ็อกซ์แบบติดกระบอกเก็บเสียงยิงกระสุนยาสลบเข้าใส่พวกทหารที่เฝ้าตรงประตูหน้าให้ล้มลง จากนั้นพีวิลก็เดินมาตรงมุมปราสาทและเหล่มามองดูพวกทหารที่ยืนเฝ้าอยู่ใกล้ๆ "แกร็ก" จากนั้นก็เปิดอาร์มชู้ตเตอร์ตรงหลังแขนซ้ายออกมา พร้อมกับ.... "ปัง ปัง" "โพละ โพละ" ยิงลงพื้นให้กระจุยเพื่อพื้นระเบิดขึ้น จนพวกทหารได้ยินและรีบตรงเข้ามา "ฟ้าววว ป้ากกกก" พีวิลเลยรีบวิ่งเข้าชกใส่ทหารจนตัวล้มบิดเกรียวควงสว่านลงไปกองกับพื้นไปนายหนึ่ง อีกนายนั้นก็ "แว้งงง บั้มมมมม โครมมม" โดนจิลเทเลพอร์ตใช้ฮิปแอทแทคเล่นงานเข้าที่หน้าทหารจนล้มกลิ้งไปเต็มๆ
              "ว่าแต่ องค์ราชินี บรรทมอยู่ห้องไหนกันละเพคะ" จิลถาม
              "ชั้นสองหน้าต่างที่สามนะ" มาร์กาเล็ตบอก พีวิลเลยให้พวกทหารสหพันธมิตรที่มาด้วย ช่วยไปดูต้นทาง เพื่อให้จิลกระโดดเหยียบฝ่ามือของพีวิลที่ใช้เป็นแท่นดีดส่งขึ้นไปตรงขอบหน้าต่างโดยเร็ว ซึ่งโฟรซ่าที่แยกออกไปนั้น "ปุ๊ ปุ๊" ยิงใส่พวกทหารที่เฝ้าประตูเข้าปราสาทล้มไปสองนาย แล้วก็... "ปุ๊ ปุ๊ๆๆๆ" ใช้ริมฟ็อกซ์อีกกระบอกที่เก็บเสียงแต่ใช้กระสุนจริง ยิงเป่าใส่กล้องวงจรปิดที่อยู่ตามจุดต่างๆรอบนอกปราสาทให้พังไปหมด จนพวกทหารที่คุมระบบกล้องวงจรปิดรีบวิ่งออกมา ซึ่งราชินีเอลิเซด้านั้น
              "ข้ารู้สึกได้ถึงความวุ่นวายข้างนอกกันด้วย หรือว่า..." แล้วก็หันมาเห็นจิลไต่ออกมาจากหน้าต่างพอดี "เจ้า คงจะเป็นแมนิเกเตอร์ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มเวเซอร์ ภายใต้คำสั่งของโคเคส วีรบุรุษผู้กลายเป็นแมนิเกเตอร์ที่กำลังทำสงครามกับโอเวอร์เดสกันสิน่ะ"
              "สมแล้วที่องค์ราชินีเป็นผู้นำที่ปราดเปรืองถึงขั้นที่รู้ถึงความคิดของอีกฝ่ายกันนะคะ" จิลกล่าวและก้มคำนับไว้ พร้อมกับแจ้งให้ราชินีทราบว่า "ตอนนี้กองกำลังสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ร่วมมือกับกองกำลังกอบกู้ชาติเข้าคลี่คลายสถานการณ์กันแล้ว แม้ว่านั้นจะให้เพื่อนเราคนหนึ่งช่วยสร้างความปั่นป่วนของพวกทหารของจอมพลลอนเฟลไว้จนต้องเดือดร้อนกันไปทั่ว ทางเราก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ"
              เอลิเซด้าบอก "ข้าพอจะทราบข่าวลือเกี่ยวกับแม่มดผู้หยั่งรู้ที่ปรากฎในเทมเดนมาก่อน จึงไม่แปลกเลยที่พวกเจ้าจะใช้วิธีนี้บนอาณาจักรของพวกเราไว้ เพราะพวกขุนนางและพวกปฏิวัติทำตัวพวกเขาเองไว้น่ะ แล้วมาร์กาเล็ตคงปลอดภัยดีสิน่ะ"
              "องค์หญิงปลอดภัยดีนะคะ ตอนนี้ทางเราก็รีบพาองค์หญิงมากันแล้วคะ" จิลบอก
              เอลิเซด้าพยักหน้า "แต่ ลอนเฟลมีขุมกำลังทางทหารมากมายอยู่ในมือ การมาของพวกเจ้านั้นคงจะไร้ความหมายกันด้วยน่ะ"
              "วางใจได้คะ เสด็จแม่ เพราะว่าพวกเราและพวกเขา แก้ไขสถานการณ์กันแล้วนะคะ" มาร์กาเล็ตกล่าว โดยตอนนี้โฟรซ่าและพีวิลพาเจ้าหญิงมาพบกับผู้เป็นแม่กันแล้ว เอลิเซด้าได้เห็นก็รู้สึกดีใจอย่างมาก ที่รู้ว่าบุตรีของตนปลอดภัยโดยดี
              พีวิลบอก "ตอนนี้เรารีบไปควบคุมตัวจอมพลลอนเฟลดีกว่านะครับ"

              ที่ท้องพระโรงของปราสาท ตอนนี้จอมพลลอนเฟลกำลังมีปากเสียงกับขุนนางหนุ่มผู้หนึ่งอยู่
              "ท่านจอมทัพ ตอนนี้ภายในเมืองวุ่นวายกันอย่างมากแล้ว ทำไมกองกำลังของท่านถึงไม่หยุดยั้งสถานการณ์กันได้เลยละ" ขุนนางหนุ่มกล่าว
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "เซอร์คาบัค สถานการณ์ในเมืองตอนนี้ ทางเรากำลังแก้ปัญหากันอยู่ อีกไม่ช้าทุกอย่างจะดีขึ้น ขอให้วางใจได้เถอะน่า"
              "วางใจได้นะหรือ ข้าเกรงว่าท่านทำเกินหน้าที่ไปแล้วต่างหากละ ไม่แปลกใจเลยที่อยู่ๆท่านพ่อของข้าจะถูกท่านสั่งลงโทษกันง่ายๆ ทั้งๆที่ท่านเป็นคนให้ความร่วมมือกับท่านพ่อในการควบคุมองค์ราชินีเช่นนี้น่ะ" เซอร์คาบัคกล่าว "อีกอย่าง ข้าสั่งการให้ท่านพาตัวมาร์กาเล็ตมา โดยไม่ให้เธอเป็นอะไรไปกันนั้น ทำไมข้าได้ยินมาว่าท่านสั่งกดสวิตซ์ระเบิดทำลายฐานที่มั่นไปกันละ ในเมื่อคนของท่านสามารถบุกเข้าไปจับกุมพวกกู้ชาติหน้าโง่กันได้น่ะ"
              จอมพลลอนเฟลบอก "เรื่องนั้นคนของข้าได้ทำไว้แล้ว อีกไม่ช้าพวกเขาก็จะพาตัวองค์หญิงมาตรงหน้า พร้อมกับสมาชิกผู้ที่พยายามจะคืนอำนาจให้กับราชินีและปลดปล่อยพวกขุนนางหน้าโง่เหล่านั้นกันได้น่ะ"
              "ขอให้เป็นจริงเถอะ เพราะนับแต่พวกแมนิเกเตอร์ของโคเคสต่อกรกับพวกครอสตรีมที่เฝ้าปราการนรกแตกนั้น ข้ากลัวว่าพวกนั้นจะมาถึงนี้และขัดขวางพวกเรามิให้หนีไปจากที่นี้กันได้น่ะ ทั้งๆที่พวกเรารู้ดี ว่าไม่มีทางไหนเลยที่จะสู้กับไอ้ยักษ์บั่กลั่นนั้นน่ะ" เซอร์คาบัคบอก
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "นั้นคงเป็นคำพูดของท่านสิน่ะ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการโยกย้ายราษฎรประเทศนี้ให้ออกไปจากนี้กันน่ะ" แล้วก็เดินมาพร้อมกับบอกว่า "ในฐานะที่เจ้ายังหนุ่มยังแน่นนิ หัดทำอะไรเพื่อประเทศชาติกันเสียบ้าง มิใช่พึ่งใบบุญจากผู้เป็นพ่อเสพสุขมาจนถึงบัดนี้กันน่ะ"
              "และท่านเองก็ควรจะยุติความทะเยอทะยานกันได้แล้วละ ท่านจอมพล" เสียงของราชินีเอลิเซด้าดังขึ้นพร้อมกับพวกพีวิลที่มาด้วยกันกับ...
              "มาร์กาเล็ต นี้ยังไม่ตายเลยหรือ โอ้ว ข้าเป็นห่วงท่านมากเลยน่ะ แม้ว่าเพื่อนๆของข้าจะแจ้งบอกเรื่องของท่านแล้วก็ตามน่ะ" เซอร์คาบัคบอกเมื่อเห็นมาร์กาเล็ตโผล่มาด้วย
              "ใช่ ข้าเองก็ต้องขอบใจท่านมากที่อุตสาห์เป็นห่วงข้า แต่....ข้าไม่คิดเลยว่า ท่านจะขลาดเขลาและขี้โกงเหมือนกับพ่อของท่านไม่มีผิดเลยน่ะ" มาร์กาเล็ตบอก
              เซอร์คาบัคพูดกลบเกลือนไปว่า "พูดอะไรอย่างงั้นละ ข้าพเจ้าเป็นห่วงท่านจริงๆเลยน่ะ และท่านคงจะเดือดร้อนกันละสิ เพราะว่าท่านจอมพลนั้น...."
              "ป้ากกกกก" ไม่ทันไรจอมพลลอนเฟลก็ชกใส่คาบัคจนลงไปกองกับพื้น "ท่านต่อยข้าหรือ รู้หรือเปล่า ว่าข้าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในสภาขุนนางกันน่ะ"
              จอมพลลอนเฟลเลยชักปืนยาวออกมาจ่อตรงหน้าคาบัคไว้ "ใช่ และความโง่เง่าของท่านนี้แหละ ที่ทำให้ข้าเสียโอกาสที่จะกำจัดผู้สืบทอดของเอลิเซด้าลง เพราะข้าจะยอมให้ใครมาขัดขวางแผนการสร้างความเกรียงไกรให้กับแทแรนเซียไปมิได้ต่างหาก"
              "นี้ท่านคิดจะกำจัดมาร์กาเล็ตอย่างงั้นนะหรือ ท่านจอมพล ทำแบบนั้นมันเข้าข่ายปลงพระชนม์กันเลยน่ะ" เอลิเซด้าบอก
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "ข้ามีเหตุผลที่ทำเช่นนั้นได้ เพราะว่าองค์หญิงเกี่ยวข้องกับแมนิเกเตอร์ที่เป็นตัวการนำพาหายนะมาสู่ราชอาณาจักรกันนี้แหละ ใช่ ต่อให้เป็นฝ่ายที่ต่อต้านโอเวอร์เดสจริง ก็ย่อมเป็นแมนิเกเตอร์กันอยู่แล้ว นั้นแหละคือโอกาสที่ข้าต้องการกันละ"
              "แปลว่าท่านคาดการณ์ไว้แต่แรกแล้วสิ ว่าพวกเราจะมาร่วมด้วยในเรื่องกอบกู้ประเทศแห่งนี้น่ะ" พีวิลกล่าว
              โฟรซ่าบอก "....ส่วนหนึ่งเพราะท่านคงจะทราบถึงวีรกรรมของพวกเรา ที่สามารถทำให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้นั้นให้เป็นไปได้ เลยฉวยโอกาสนี้เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองเป็นฝ่ายเหนือกว่า ด้วยการประกาศว่าพวกเราเป็นพวกเดียวกันกับโอเวอร์เดส แล้วค่อยจัดการรุกฆาตทีเดียวอย่างงั้นสิน่ะ"
              "ถูกต้อง ส่วนหนึ่งเพราะข้าคาดเดาเจตนาที่ตั้งใจจะช่วยเหลือมวลมนุษย์ของโคเคสกันไว้แล้ว ว่าการกอบกู้ประเทศนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน และการมีแมนิเกเตอร์มาร่วมด้วยนี้แหละ คือการสร้างจุดด่างพล่อยให้กับฝ่ายกอบกู้ และสร้างโอกาสงามๆให้กับข้ากันนี้แหละ" จอมพลลอนเฟลบอก "เซอร์คาบัคกับเหล่าขุนนางที่เป็นเพื่อนของพ่อมันนั้น รวมหัวกับขุนนางจากนอกอาณาจักรเพื่อนำพาพวกชนชั้นสูงไปที่บังเกอร์นอกเมือง ซึ่งไม่เพียงเป็นการผิดกฎที่ห้ามไม่ให้ใครหน้าไหนออกไปจากเมืองได้ไม่ว่า ขุนนางที่ยืนข้อเสนอทางรอดนั้น ก็ไม่ใช่ขุนนางที่ไหนหรอก แต่เป็นสมุนปากโป้งของโอเวอร์เดสที่แฝงตัวเข้ามาเองต่างหากละ"
              จิลกล่าว "หมายถึง เกซิคอย่างงั้นสิน่ะ แต่กฎที่ห้ามไม่ให้ใครออกนอกเมืองนั้น คงไม่น่าใช่คำสั่งขององค์ราชินี แต่เป็นคำสั่งของท่านละสิ"
              "พวกเจ้าเดาเก่งเกินไปหน่อยแล้วละ ถึงขั้นที่รู้ว่าข้าคิดยังไงกับท่านราชินีกันมาตลอดด้วย แม้พระราชาองค์ก่อนจะไม่รู้ความ เพราะฉันปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ด้วย ไม่นึกเลยว่าจะมีคนล่วงรู้กันเสียได้น่ะ" จอมพลลอนเฟลกล่าว
              เอลิเซด้ากล่าว "แล้วท่านก็ปิดเงียบไว้ เพราะกลัวว่าเรื่องนี้จะทำให้เจ้าไม่มีที่ยืนในราชสำนัก และถูกพวกทรราชใช้เป็นเครื่องมือบีบบังคับเลยสิน่ะ"
              "ใช่ ตอนนี้ความลับนั้นก็ไม่มีในโลกแล้ว สิ่งที่ข้าต้องการจริงๆก็คือ ข้าต้องการความรักและความเชื่อใจจากท่าน เหมือนที่ท่านมอบให้กับองค์ราชาด้วย และข้าอยากจะสร้างชื่อเสียงให้แทแรนเซียยิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งกันน่ะ" จอมพลลอนเฟลบอก
              พีวิลกล่าว "ถ้าท่านคิดอยากจะให้ท่านเอลิเซด้าเชื่อใจและมอบความรักให้ท่านจริง แล้วท่านร่วมมือกับพวกทรราชก่อการปฏิวัติไปทำไมกันละ"
              "นั้นสิ ถึงองค์ราชินีไม่เอาความ แต่ท่านก็สร้างจุดด่างพล่อยและทำลายชื่อเสียงของท่านพังไปส่วนหนึ่งแล้ว ต่อให้แก้ตัวยังไงก็ไม่มีทางลบชื่อเสียที่ท่านสร้างไปได้หรอก" โฟรซ่ากล่าว
              จิลบอก "วางอาวุธแล้วให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของพวกเราและพวกเจ้าหญิงจะดีกว่า"
              "ไม่มีทาง แทแรนเซียจะไม่มีทางด่างพล่อยเพราะไปร่วมมือกับพวกอมนุษย์อย่างพวกแกกันไปได้หรอก มีแต่พวกเราเท่านั้น ที่จะสร้างชื่อเสียงให้แทแรนเซียและโลกทั้งใบนี้เองแหละ" จอมพลลอนเฟลตะโกนใส่
              มาร์กาเล็ตกล่าว "ถ้าท่านกอบกู้ประเทศนี้จริง ประเทศนี้ก็คงจะถูกปกครองโดยอมนุษย์อย่างท่านไปแล้วนะคะ"
              "อมนุษย์นะหรือ หมายความว่าองค์หญิงมองข้าเป็นแมนิเกเตอร์อย่างงั้นนะหรือ" จอมพลลอนเฟลกล่าว
              มาร์กาเล็ตบอก "อมนุษย์ที่ข้าพูดถึงนั้น คือคนที่ละทิ้งความดีในจิตใจของตนเอง โดยถูกกิเลสภายนอกมารุมเร้าบวกกับจิตใจที่คิดเข้าข้างตนเองโดยไม่แยแสถึงความรู้สึกของคนรอบข้างว่าต้องการอะไรกันแน่ ซึ่งเหล่าขุนนางที่โค่นล้มอำนาจของเสด็จพ่อนั้นก็ล้วนแล้ว ทำเพื่อต้องการอำนาจที่เกินขอบเขตตำแหน่งที่ตัวเองได้รับ ไม่รู้จักพอในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อำนาจมากขึ้น จึงไม่แปลกเลยที่พวกเขากล้าละทิ้งความจงรักภักดีและความซือสัตย์ ถึงขั้นทำให้ท่านพ่อและคนดีๆล้มตายไปไม่น้อย แม้ท่านจะเป็นผู้จงรักภักดีที่สามารถกอบกู้สถานการณ์ลงไปได้จริง" แล้วก็พูดไปอีกว่า "แต่เพราะท่านยังตัดความรักที่มีต่อท่านแม่ ซึ่งเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้และไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน บวกกับว่าตอนเด็กๆนั้นท่านเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกลืม ซึ่งนั้นเป็นแรงผลักดันจากอดีตที่ทำให้ท่านมีความมานะพยายามไต่ตั้งตัวเองจนมาถึงระดับจอมพล โดยที่ท่านแม่แค่ให้กำลังใจท่านเพื่อให้ท่านเป็นนายทหารที่ปกป้องประเทศชาติไว้อย่างภักดี และละทิ้งความต้องการส่วนตัวเพื่อส่วนรวม อย่างน้อยท่านก็เป็นกำลังช่วยเหลือท่านแม่ได้อยู่แล้ว ไม่นึกเลย ว่าท่านจะเดาเจตนาของท่านแม่ผิดไปเสียได้ และทำให้ท่านก็พลอยถูกครอบงำจนกลายเป็นเช่นนี้นะคะ"
              "แล้วเรื่องกอบกู้ประเทศและสร้างความเกรียงไกรนั้นก็ข้ออ้างนะหรือ" พีวิลกล่าว
              มาร์กาเล็ตส่ายหน้า "เขาเกิดความอิจฉาต่อพวกคุณนะคะ ว่าไม่วันใดวันหนึ่ง พวกคุณอาจจะทรงพลังมากพอที่จะสู้กับพวกโอเวอร์เดสกันได้ ถึงขั้นที่แย่งชิงโอกาสสำคัญที่เขาจะทำเพื่อบ้านเมืองเอาไว้ แม้ว่าในตอนนั้นพวกคุณยังมีกำลังไม่พอเพียง แต่ด้วยเวลาผ่านไปนั้น พวกคุณกำชัยชนะมาหลายครั้งจนทำให้ท่านจอมพลต้องใช้อำนาจมาควบคุมผู้คน รวมถึงท่านแม่เอาไว้ นั้นจึงเป็น 1 ใน 3 เหตุผลที่ทำให้เขาร่วมมือในการปฏิวัติครั้งนี้ เพราะอย่างน้อย เขาเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ท่านแม่ยอมเชื่อฟังเขาบ้างนะคะ"
              "ท่านจอมพล ข้าเข้าใจในความต้องการของท่านแล้วละ ว่าตลอดที่ผ่านมานั้น ท่านทำเพื่อข้ามามากแล้ว หากแต่ท่านนึกถึงตนเองจนละเลยความจงรักภักดีต่อราชบัลลังก์และประชาชนส่วนรวมกันเท่านั้นเอง" เอลิเซด้ากล่าว และเดินหน้าเข้ามา
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "มันสายไปแล้วที่ท่านจะมาเข้าใจความคิดของข้าพเจ้ากันน่ะ เพราะตอนนี้กองรบของข้าพเจ้าก็คงจะมาถึงกันแล้วละ"
              "พวกเขามาไม่ได้หรอก เพราะพวกเราเข้าขัดขวางไว้แล้วน่ะ" โฟรซ่าบอก โดยตอนนี้จิลนำแพดมาเสนอภาพของกองทหารที่ถูกกองกำลังกู้ชาติและพวกสเตฟอร์ดเข้าช่วยกอบกู้ไว้ได้ เช่นเดียวกับภายในเขตเมืองที่ตอนนี้พวกทหารของลอนเฟลถูกพวกกองกำลังกู้ชาติควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ด้วย จอมพลลอนเฟลเลยหันปืนมาจ่อตรงเอลิเซด้าไว้
              "พอได้แล้วละ ลอนเฟล อย่าให้เรื่องมันเลวร้ายไปกว่านี้เลย ท่านไม่ใช่คนเลวร้ายโดยกำเนิดเลย แค่ท่าน หลงผิดไปชั่วขณะเท่านั้นเอง และข้าอยากให้ท่าน แก้ไขในความผิดที่ก่อไว้กันด้วย อย่างน้อย ก็ถือว่าเป็นคำขอร้องจากพระสหายอย่างข้าบ้างเถอะน่ะ"
              "องค์ราชินี...." จอมพลลอนเฟลกล่าว แม้จะจ่อปืนตรงหน้าเอลิเซด้า และใจแข็งเพื่อที่จะเหนี่ยวไก แต่สุดท้ายก็... "แกร็ก" จอมพลผู้แข็งกร้าวที่เห็นสายตาที่จริงจังของพระนาง จึงยอมจำนนด้วยการโยนปืนทิ้งไป เพื่อให้เหล่ากองกำลังกู้ชาติเข้ามาควบคุมตนและเซอร์คาบัคเอาไว้ หลังจากนั้นก็...
              "ตามราชโองการของราชินีเอลิเซด้านั้น ด้วยความช่วยเหลือของกองกำลังกู้ชาติ ได้ทำให้สถานการณ์ความวุ่นวายนี้จบลงไปได้ด้วยดี หากแต่ เหล่าผู้ก่อการในครั้งนี้จะต้องได้รับโทษตามที่ก่อไว้" เควนตินรับหน้าที่ประกาศโองการจากเอลิเซด้าไว้ "จอมพลลอนเฟล หัวหน้ากลุ่มปฏิวัตินั้น ได้ร่วมเป็นหัวหน้าก่อการยึดอำนาจจากข้าพเจ้ากันไว้ และใช้อำนาจที่มีนั้นกดขี่ข่มเหงชนชั้นสูงเอาไว้ แม้จะทำไปด้วยเจตนาที่ดี เพื่อกอบกู้สถานการณ์ และมีความดีความชอบในการรับใช้ประเทศชาติ บวกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น แม้โทษตายจะละเว้นได้ แต่โทษเป็นยังอยู่ องค์ราชินีจึงสั่งให้ยึดทรัพย์ของท่านจอมพลครึ่งหนึ่งให้เป็นของหลวง และให้โอกาสท่านจอมพลนำทัพไปต่อสู้กับพวกโอเวอร์เดสกันเป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะนักรบของราชอาณาจักรของพวกเรา"
              "นั้นนะหรือบทลงโทษของจอมพลผู้หยิ่งยะโสกันน่ะ" สเปียริทบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "ไม่หรอก เพราะการนำทัพไปสู้กับพวกครอสตรีมนั้น ก็คือการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ซึ่งนั้นเป็นการทำคุณไถ่โทษในสิ่งที่เขาก่อไว้นี้แหละ"
              "เซอร์คาบัค แม้จะเป็นบุตรชายของเซอร์โทรปิดอส ผู้นำกลุ่มปฏิวัติในการก่อการครั้งก่อนและครั้งนี้ และไม่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิวัติทั้งสองครั้งโดยตรง แต่เนื่องจากว่าเขาได้สร้างความเดือดร้อนต่อผู้คนนับไม่ถ้วนนั้น ความผิดที่ก่อสมควรจะได้รับการลงโทษ ดังนั้น ทั้ง 50 คดีที่เซอร์คาบัคก่อขึ้นนั้น จะเหมารวมเป็นโทษทัณฑ์ทั้งหมด ไม่มีการละเว้นหรืออุทธรณ์ให้ โดยจะตัดสินโทษกันในมะรืนนี้ จึงให้มีการคุมขังเซอร์คาบัคไว้ก่อน" เควนตินกล่าว "ต่อด้วยเหล่าขุนนางที่มีส่วนในการปฏิวัติ แล้วก็เหล่าชนชั้นสูงที่มีคดีและความผิดติดตัวแต่ปิดบังเอาไว้กันนั้น องค์ราชินีได้ทราบความและตัดสินใจควบคุมตัวพวกเขามาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเจ้ากรมตุลาการลูบลันโด้ ตัดสินโทษตามโทษทัณฑ์ที่ได้ก่อเอาไว้ เพื่อคืนความเป็นธรรมและความสุขให้กับราษฎรทุกๆคน จึงประกาศไว้ให้ทราบโดยทั่วกัน"
              ซึ่งภายในเมืองนั้น ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนต่างก็สรรเสริญและดีใจต่อองค์ราชินีที่กลับมาครองบัลลังก์ตามเดิม "องค์ราชินีจงเจริญ จงเจริญ"

              กลับมาที่นอร์ติลุส ซึ่งจอดอยู่ใกล้ๆกับหุบเขาทิฟาน่า
              "ดูเหมือนว่า การเปิดโปงความชั่วของเธอนั้นเกือบจะไปไม่เป็นเสียแล้วละน่า" โฟรซ่าบอก
              ทินเหมาลีกล่าว "นั้นสิ ถ้าเป็นคนธรรมดา ปานนี้คงเลือดตกยางออกไปนานแล้ว ดีที่รู้วิชาหมัดมวยไว้ก่อน ไม่งั้นแย่แน่ๆเลยละ"
              "แต่นั้นก็ทำให้แทแรนเซียมีตำนานแม่มดเปิดโปงเกิดขึ้นมาอีกที่แล้วละ แม้ว่าเมืองแห่งที่สองนี้จะยืนยาว ไม่เหมือนกับเทมเดนที่เกิดขึ้นแป็บเดียว ก็ราบเป็นหน้ากองเลยละ" สเตฟอร์ดบอก
              เจเนลกล่าว "และอีกหลายสิบประเทศที่เอาเรื่องนี้ไปลือกันไปทั่วทวีปแล้วละ"
              "ต้องขอบใจเธอมากเลยน่ะ บิลลี่ ที่มีส่วนทำให้งานกอบกู้บ้านเมืองนั้น ลุล่วงไปได้ด้วยดีน่ะ" พีวิลกล่าว
              บิลลี่บอก "ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะอย่างน้อยผมแค่อยากให้เมืองนี้มันดีกว่าเก่าเท่านั้นเองแหละ"
              "แล้วต่อจากนี้เธอจะทำอะไรกันต่อละ" บรอนเซอรูทกล่าว
              บิลลี่บอก "รอบๆนี้ไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดการสู้รบครั้งใหญ่แน่นอน ถ้าผมอยู่ในเมืองนี้คงไม่ช่วยให้มันดีขึ้นแน่ๆ ดังนั้น ผมเลยอยากจะออกเดินทางไปหาพี่ชายของผมสักหน่อยน่ะ"
              "คงยากน่า เพราะหลังจากที่เราแยกจากจิมมี่ไป ก็ไม่ได้ข่าวคราวอีกเลยน่ะ" มิลด์บอก
              ไกซ์กล่าว "นายออกเดินทางไปคนเดียวคงไม่ดีแน่ ถ้ายังไงไว้ให้เราจัดการกับพวกครอสตรีมก่อน แล้วค่อยพานายไปส่งจะดีกว่าน่ะ"
              "นั้นสิ ตอนนี้เราอยู่ในระยะสายตาของโอเวอร์เดสแล้ว ออกไปตอนนี้เธอโดนเล่นงานแน่นอนน่ะ" ไซโคลเนียบอก
              สเปียริทกล่าว "ฉันรู้สึกได้ถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่แผ่กระจายมาจากทางตอนเหนือกันน่ะ"
              "รวมถึงพวกครอสตรีมด้วย การมาของพวกเราคงจะทำให้โครเต้และพวกต้องโผล่มาแน่ๆเลยละ" พีวิลบอก
              จายด์กล่าว "หวังว่าโอเวอร์เดสคงจะไม่บันดาลโทสะถึงขั้นทำลายแทแรนเซียกันหรอกน่ะ"
              "แทบไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าด้วยความช่วยเหลือของพวกท่าน แทแรนเซียที่ถูกพวกกังฉินและโกงบ้านกินเมืองก็กลับสู่สภาวะเดิม แม้ว่านั้นจะแค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นเองน่ะ ซึ่งพวกเราขอบคุณพวกคุณมากๆเลยน่ะ" เควนตินกล่าว
              บัลโต้บอก "พวกเราไม่ต้องการรางวัลอะไรมากไปกว่าคำขอบคุณแล้วละ เพราะเราไม่อยากจะให้ประเทศนี้ถูกครหาว่าให้ความช่วยเหลือพวกเรากันเลยน่ะ"
              "เอาเป็นว่า พวกเราแค่ผ่านมาและให้ความช่วยเหลือพวกท่านกันก็พอ ซึ่งด้วยเหตุการณ์นี้ อาจจะทำให้พวกครอสตรีมรู้เรื่องเลยก็ได้น่ะ" โคเคสกล่าว
              เควนตินพยักหน้า "ตอนนี้จอมพลลอนเฟลได้เรียกรวมพลกองรบของเขาที่หลงเหลืออยู่ ให้เตรียมพร้อมออกรบโจมตีพวกครอสตรีมตามบัญชาของท่านเอลิเซด้ากันแล้ว แต่...มันจะดีกว่ามาก หากพวกท่านเข้ามาช่วยเหลือท่านจอมพลในการรบครั้งนี้ ซึ่งพวกเราเองก็จะร่วมรบกันไปด้วย แม้ว่าเหล่าพวกพ้องของเราจะไม่เอาด้วยก็ตาม"
              "แต่เราต่างก็มีศัตรูเป็นพวกครอสตรีมกันอยู่แล้ว เราไม่อาจนิ่งนอนใจปล่อยให้พวกเธอโดนฆ่าตายด้วยคมหอกคมดาบครอสเซียมกันหรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เควนตินบอก "แม้ว่าตอนนี้ทางเราพึ่งจะมารู้ว่า ท่านจอมพลติดตั้งระบบที่ให้พวกชนชั้นสูงออกรบกันแบบบีบบังคับเลยก็ตาม แถมเขายังใช้เซอร์โทรปิดอสมาควบคุมโมบิลทรูปเปอร์เซฟิคดิสคอยด์กันด้วยน่ะ" แล้วก็เอาภาพของเซอร์โทรปิดอสที่อยู่ในแคปซูลโหลแก้วบรรจุของเหลว ซึ่งร่างของเขานั้นถูกตัดแขนและขา เชื่อมต่อกับสายไฟและสายเคเบิ้ลเข้ากับด้านหลังและบนหัวไว้ด้วย
              "โอ้ว ไอ้ตัวหัวโจกมันลงเอยด้วยการเป็นมนุษย์โหลดองไปซะได้วะ" บัลโต้กล่าว
              เบย์แทนด์บอก "ผมไม่คิดมาก่อนเลยนะครับ ว่าระบบประคองชีพทหารผ่านศึกที่เก่งกาจให้ควบคุมร่างจักรกลขึ้นมานั้น ยังคงใช้งานได้อยู่ ทั้งๆที่เทคโนโลยี่นี้ถูกสหพันธ์โลกจำกัดไม่ให้มีการใช้งาน เพราะสิ้นเปลืองงบประมาณในการดูแลทั้งร่างจักรกลเปลือกนอกและการดูแลร่างของทหารดังกล่าวเลยนะครับ"
              "แต่แทแรนเซียยังมีเทคโนโลยี่แบบนี้หลงเหลืออยู่ จึงไม่แปลกเลย ที่ลอนเฟลจะนำมันกลับมาใช้ แม้ที่ใช้เป็นตัวควบคุมนั้นจะไม่ใช่ทหารเลยก็ตามน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เควนตินบอก "แต่ด้วยระบบปฏิบัติการณ์ทางทหารนั้นจะทำให้โทรปิดอชเป็นจักรกลสงครามที่น่าเกรงขามกัน แม้สภาพสมองของโทรปิดอชนั้นจะตายไปนานแล้วน่ะครับ" และหันมาถาม "ว่าแต่ พวกคุณจะออกรบช่วยเหลือพวกเรากันตอนไหนละครับ"
              "ตอนนี้เราจะให้พวกเธอกับพวกลอนเฟลล่วงหน้าไปก่อน แม้นั้นจะเป็นการใช้พวกนายเพื่อหยั่งเชิงพวกครอสตรีมกันก็ตาม การมาของลอนเฟลนั้นจะทำให้โครเต้ที่รู้เรื่อง สูญเสียความสุขุมรอบคอบและขัดคำสั่งต่อโอเวอร์เดสตามที่คาดการณ์เอาไว้น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              โคเคสกล่าว "หรือไม่ก็ส่งขุนพลที่เหลือออกมากันด้วย แล้วตัวเองก็โผล่มาจัดการทีหลังเช่นกัน สงครามครั้งนี้อาจจะทำให้แทแรนเซียเดือดร้อนเพราะความพิโรธของโอเวอร์เดสกันก็ตาม แต่ด้วยความรับผิดชอบของพวกเรา พวกเราจะชดใช้ในสิ่งที่เรามีส่วนด้วยกันเลยน่ะ"
              "ผมคงหวังว่าเรื่องที่คุณหวาดกลัวจะไม่เกิดขึ้นกันอีกนะครับ" เควนตินกล่าว แล้วปิดการติดต่อไป โคเคสบอก "เอาละ บัลโต้ เฮลิคส่งกองรบมาช่วยแล้วหรือยังละ"
              บัลโต้บอก "เฮลิคส่งเรดมูนและเยลโลว์สตาร์มาถึงกันแล้ว จะให้เราปิดการซ่อนพรางเลยมั้ยละ"
              "แม้นั้นจะเสี่ยงกับการที่ครองคอร์ดรู้ว่าเรามาโผล่หน้าบ้านโอเวอร์เดสแล้ว เปิดโอกาสให้พวกมันโจมตีพวกเราในทันทีก็ตาม มาถึงขั้นนี้ มันต้องวัดดวงกันสักตั้งแล้วละ" โคเคสกล่าว
              เบย์แทนด์พยักหน้าและปิดระบบซ่อนพรางไว้ จนนอร์ติลุสโผล่ออกมา ซึ่งไวเบิร์นได้เห็นภาพจากดวงตาอันใหญ่โตเอาไว้แล้ว "พวกโคเคสมันมาโผล่หน้าปราการของท่านแล้ว และพวกมันอยู่ใกล้กับแทแรนเซียด้วยน่ะ" ครองคอร์ดกล่าวกับโครเต้ให้รับทราบเอาไว้
              "มาสวาร์ทาร์มาโผล่ตรงหน้าข้าจนได้สิน่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะออกรบกันเดียวนี้แหละ" โครเต้กล่าว
              ครองคอร์ดทัดทาน "แต่ คำสั่งขององค์จักรพรรดิ์นั้น ไม่ให้ท่านนำทัพออกไปโดยพลการกันน่ะ"
              "แล้วจะปล่อยให้กองรบของพวกโคเคสและของพวกแทแรนเซียโผล่มาถล่มปราการแกรนฟอลเทสซิโม่กันนะหรือ ไม่มีทางหรอก" โครเต้ปฏิเสธ โดยที่ไวซ์ไมเซลก็เห็นด้วย
              "เราจะให้พวกเวเซอร์มาหยามกันถึงที่ไม่ได้เด็ดขาด การมาของพวกมันก็คือการวิ่งลงหลุมศพที่ข้าเตรียมเอาไว้กันนี้แหละ" แล้วก็กล่าวกับครองคอร์ดไปว่า "ซึ่งข้าหวังว่า การรบของพวกเรานั้นจะทำให้พวกสหพันธมิตรอ่อนแอลงจนไม่อาจจะเอาชนะแอตแลนไทซ์กันได้หรอกน่ะ"
              "เฮ้ออ ท่านไม่ยอมเสียโอกาสงามๆไปเลยสิน่า" ครองคอร์ดกล่าว "ในเมื่อพวกท่านทั้งสองต้องการเช่นนั้น ข้าก็คงไม่ห้ามพวกท่านแล้วละ เรื่องของพวกท่าน ข้าจะรับผิดชอบเอง"
              โครเต้กล่าว "ข้าหวังว่าท่านจะปกป้องเกซเฟลิคและพวกแอตแลนไทซ์กันด้วยน่ะ" แล้วก็ออกไปจากห้องวางแผนไว้ เพื่อนำกองรบครอสตรีมออกรบครั้งสำคัญกันแล้ว ด้วยการนำแกรนฟอสเทสซิโม่ออกมา
              "ท่านพ่อคะ แม่ทัพโครเต้นำปราการป้องกันออกไปแล้วละคะ" จีเนฟาร์รี่มารายงานต่อโอเวอร์เดสไว้
              เกซิคบอก "ครองคอร์ดคงจะห้ามโครเต้ไม่ได้แน่ๆ หรือไม่ก็ขัดคำสั่งของท่านไว้แน่นอนนะครับ ท่านโอเวอร์เดส ถ้ายังไงก็มีบัญชาให้..."
              "ไม่ต้อง โครเต้กำลังจะออกรบในฐานะดาบและหอกของข้ากันอยู่ แม้ข้ารู้อยู่แล้วว่าโครเต้ตั้งใจจะทำอะไรกันก็จริง แต่...เราจะยอมเป็นฝ่ายตั้งรับอย่างเดียวก็คงไม่ได้เสียด้วยน่ะ" โอเวอร์เดสบอก "ดังนั้น ข้าจะให้พวกเจ้าดูการต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่างเอชมาสวาร์ทาร์กับโครเต้ สไครเดอร์ไว้ ซึ่งการรบครั้งนี้จะชี้ชัดว่า พวกเราควรจะทำเช่นไรกันในเวลานี้น่ะ"
              เกซิคกล่าว "ข้าหวังว่า ดาบของท่านโครเต้จะทำลายพวกกบฎให้แดดิ้นลงไปกันน่ะ"

              เขตทุ่งร้างแททิลเดอ้อน ทางตอนเหนือของแทแรนเซีย กองรบของแทแรนเซียก็เคลื่อนทัพออกมา ซึ่งจอมพลลอนเฟลเป็นผู้นำทัพในคราวนี้
              "ศัตรูของเมื่อวานกลายมาเป็นมิตรแท้ในวันนี้ แม้จะอยู่ต่างฝ่ายและเป็นอริกันหนักหนาแค่ไหน พอเกิดเรื่องเลวร้ายชนิดที่คนกลุ่มเดียวไม่สามารถกระทำด้วยกันได้ฉันใด ทุกฝ่ายทั้งดีและเลวย่อมจับมือกันฉันนั้น ทั้งๆที่ฉันสมควรจะอยู่ในเรือนจำในฐานะอาชญากรแผ่นดินแล้วแท้ๆน่ะ" ลอนเฟลบอก โดยที่ควบคุมสั่งการอยู่ในยานรบภาคพื้นทรอจันฟรีท ซึ่งนำทัพเซฟิคแบบอัศวินจำนวน 450 เครื่อง(ซึ่งได้ถอดระบบมารีโอเน็ตออกไปแล้วทุกเครื่อง) ในจำนวนนั้น มีนักรบที่พิการและปางตายเชื่อมต่อด้วยระบบรีเบิร์ส ซึ่งเซอร์โทรปิดอชก็อยู่ในโหมดควบคุมเพื่อการสู้รบครั้งนี้ การ์ดฟิลด์ 400 เครื่อง รถถังหนัก 800 คัน ซึ่งติดป้อมอาวุธและปืนใหญ่เอาไว้ และกำลังทหาร 5,000 นาย มุ่งหน้าขึ้นเหนือไป
              เควนตินบอก "ผมหวังว่า ความเมตตาปราณีขององค์ราชินีที่มอบโอกาสสำคัญให้กับท่านไว้ จะช่วยให้เรากำชัยชนะตามที่ท่านคาดไว้นะครับ"
              "แม้ว่าเธอจะเกลียดชังฉันแค่ไหน ศัตรูในตอนนี้ของพวกเราที่อยู่ตรงหน้านั้นก็คืออดีตแม่ทัพโครเต้ที่กลายเป็นแมนิเกเตอร์ไปแล้ว ซึ่งฉันรู้ดีว่า ฉันคงไปไม่ถึงจุดที่ได้สู้กับโอเวอร์เดสเลยก็ตาม" จอมพลลอนเฟลบอก "ถ้าเพื่อปกป้องอาณาจักรแห่งนี้ไว้ซะ ถึงตายก็ไม่เสียใจนักหรอก"
              เควนตินพยักหน้า "ที่สำคัญก็คือ เราควรจะโฟกัสไปที่การสู้รบตรงหน้าของพวกเรานะครับ"
              "ทะ ท่านจอมพล แย่แล้วละครับ พวกครอสตรีม มันเอาปราการบินมาตรงหน้าพวกเราแล้วละครับ" ทหารของลอนเฟลรายงานไว้ โดยตอนนี้แกรนฟอสเทสซิโม่ได้แล่นลงสู่พื้นแล้ว
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "พวกนั้นมาจนได้เลยสิน่ะ ทุกหน่วยเตรียมการสู้รบได้แล้ว" แล้วกองรบทั้งหมดก็พร้อมสำหรับการทำสงครามกันทั้งหมด โดยที่พวกครอสตรีมนำทัพพวกอัศวินมังกร ไวเบิร์นไรเดอร์ กริฟฟอนไรเดอร์ เปกาซัสไรเดอร์ ยูนิคอร์นไนท์ออกมาพร้อมกับกองรบของเฟอคาน่าและแรมลอช ซึ่งคุมกองรบเทมพาร่าทั้งหมด 4 พันหน่วยและครูเซเดน ทั้งหมด 3,600 หน่วยด้วยกัน
              "ฟ้าวววว ตึกกกก" แล้วนักรบในเกราะสีเขียวเข้มทั้งตัว โดยสวมหมวกที่มีบั้งครอสเซียมที่แหลมยื่นไปข้างหน้าโดยส่วนตานั้นปิดหน้ากากเอาไว้ได้ปรากฎตัวขึ้นมา นักรบผู้นั้นก็คือ โครเต้สไครเดอร์นี้เอง จอมพลลอนเฟลเลยก้าวออกมาข้างนอกสะพานเดินเรือไว้ เพราะโครเต้โผล่มาตรงหน้าดาดฟ้าสะพานเดินเรือกันแล้ว "ท่านกล้ามากเลยน่ะ ที่มาแหย่หนวดเสือกันถึงที่เลยน่ะ ท่านจอมพล" โครเต้กล่าว
              จอมพลลอนเฟลกล่าว "เซอร์โครเต้ ท่านมาที่นี้คงจะมาเพื่อทักทายก่อนจะเปิดศึกใหญ่ และเตรียมจะบุกแทแรนเซียตามเจตจำนงที่ท่านตั้งใจไว้เลยสิน่ะ" แล้วก็นำปืนไรเฟิ่ลกระบอกเดิมมาจ่อตรงหน้า "สิ่งที่พวกปฏิวัติมันทำกับท่านนั้น พวกนั้นก็ได้ชดใช้กรรมไปแล้ว ใยจะต้องมาแก้แค้นและกวาดล้างบ้านเกิดที่ท่านสาบานจะปกป้องกันไว้ทำไมละ"
              "ข้าค้นพบสัจธรรมที่แท้จริงจากปากของท่านโอเวอร์เดสยังไงละ ว่าต่อให้กอบกู้ความสงบสุขแค่ไหน หรือทำให้โลกมันน่าอยู่เพียงไร มนุษย์ที่จิตใจสามารถถูกเปลี่ยนแปลงจากสภาพแวดล้อมหรือความอ่อนแอในจิตใจและในกายนั้น ก็จะสร้างปัญหาให้กับโลกแบบไม่รู้จักจบจักสิ้นกันนี้แหละ เพราะขนาดเพื่อนของข้าที่ได้ดิบได้ดี ยังละโมบโลภมากรู้จักพอและปิดบังความผิดที่ได้ก่อไว้ แม้ห้ามปรามก็ไม่ฟังฉันใด ชาวเมืองทุกๆคนเองก็ต้องเป็นไปด้วยฉันนั้น ซึ่งไม่ใช่แค่แทแรนเซียหรอกที่เป็น แต่มันหมายรวมถึงคนบนโลกทั้งหมดด้วย ซึ่งท่านโอเวอร์เดสได้ตัดสินให้คนบนโลกไม่ควรจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป" โครเต้บอก "แม้แต่ท่านเองที่สาบานว่าจะปกป้องกษัตริย์และราชทายาทเองก็พลอยเป็นไปกับพวกที่หักหลังข้าไว้เช่นนี้ ต่อให้ท่านกลับตัวกลับใจได้ แต่ก็ย่อมมีคนแบบท่านเกิดขึ้นมาอีก 3-4 คน ไม่สิ เป็นสิบเป็นร้อยคนขึ้นมาแทนที่ ซึ่งนั้นสมควรแล้วหรือ ที่ข้าควรจะปกป้องอธิปไตยที่หักหลังความจงรักภักดีที่ข้าอุทิศชีวิตให้กันน่ะ"
              จอมพลลอนเฟลบอก "มนุษย์แม้รู้ว่าทำผิด แต่ก็รู้จักแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองได้ก่อ แม้จะไม่อาจลบล้างมลทินที่ติดตัวไปได้ มนุษย์ทุกๆคนก็มีสิทธิ์ที่จะแก้ไขความผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น ท่านเองก็เช่นกัน ที่อุตสาห์ได้ชีวิตใหม่กลับมาทั้งที แต่กลับเป็นศัตรูต่อพวกเรา ต่อมวลมนุษยชาติแบบนี้ ถึงแก้แค้นจนสำเร็จได้จริง ท่านคิดว่า มันจะจบเรื่องเองนะหรือ ในเมื่อผลที่ตามมานั้น จะทำให้ท่านต้องจมปลักกับความแค้นที่ต้องกวาดล้างมนุษย์ให้ราบคาบไปทั้งโลกน่ะ"
              "ข้ารู้อยู่แล้วว่าต่อให้กวาดล้างแทแรนเซียให้ราบคาบ มนุษย์ที่หลงเหลือเองก็ไม่ควรปล่อยเอาไว้ด้วยเช่นกัน...ซึ่งข้าได้สาบานที่จะปกป้องท่านโอเวอร์เดสเอาไว้ ด้วยการกำจัดทุกคนที่กล้ามาประจัญหน้านายเหนือหัวสูงสุดของข้านี้แหละ" โครเต้กล่าว "...ซึ่งข้าไม่เสียใจและไม่ละอายใจในสิ่งที่ทำกันหรอก เพราะตอนนี้ ข้าละทิ้งความเป็นมนุษย์และอดีต รวมถึงเจตจำนงเดิมเพื่อแลกกับการแก้แค้นกันไว้แล้ว แน่นอน ว่าข้าไม่ลังเลใจที่จะเชือดท่านให้ตายด้วยคมดาบของข้าหรอก"
              จอมพลลอนเฟลได้ฟังก็ลดปืนลงพร้อมกับบอกว่า "ในเมื่อท่านตัดสินใจเช่นนี้ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากจะเป็นกำแพงพิทักษ์ราชอาณาจักรของพวกเรา ปกป้องทุกชีวิตไม่ว่าจะดีหรือเลวให้พ้นจากเงื้อมมือวิญญาณร้ายอย่างท่านนี้แหละ" โครเต้ได้ฟังก็ "แว้งงงง" หายตัวไปอยู่ที่ระเบียงสูงของแกรนฟอร์เทซิโม่ไว้

              "กองรบครอสตรีมทุกหน่วยจงฟัง ท่านโอเวอร์เดสบัญชาให้พวกเรากำจัดผู้บุกรุกหน้าปราการของท่านไว้ ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจงกวาดล้างกันซะให้หมด แม้กระทั่งพวกศัตรูหลักของพวกเราเองที่อาจจะมาถึงในไม่ช้าก็ด้วย จงสู้ในฐานะดาบและหอกขององค์จักรพรรดิ์ พิทักษ์และปกป้องดุจโลห์อันแข็งแกร่งของท่านโอเวอร์เดส เผาผลาญเพลิงแห่งครอสเซียมใส่พวกศัตรูให้มอดไหม้ไปซะ" โครเต้ชูดาบขึ้นและประกาศกร้าวต่อเหล่านักรบทั้งมวล
              "พวกเราคือดาบและหอกของท่านโอเวอร์เดส ผู้พิทักษ์อันแข็งแกร่งดุจโลห์และกำแพงปกป้ององค์จักรพรรดิ์ เพลิงสีเขียวของพวกเราจะแผดเผาโลกทั้งใบเอาไว้"
              "ด้วยเกียรติยศและอำนาจของราชอาณาจักรอันรุ่งเรืองของพวกเรา แม้จะผ่านความเลวร้ายที่ถาโถมเข้ามาหรือคุกคามจากภายในจนเกิดความทุกข์ยากนับครั้งไม่ถ้วน แต่พวกท่านทั้งหลายจงจำเอาไว้เสมอ ว่าสายเลือดของแทแรนเซียของพวกเรานั้น เข้มข้นเหมือนกับความจงรักภักดีต่อแผ่นดินเกิด แม้การต่อสู้จะลงเอยด้วยความสูญเสีย แต่พวกเราจะไม่เสียใจที่ได้สู้เยี่ยงนักรบของราชอาณาจักรแห่งนี้ ดังนั้น...ถึงเวลาที่พวกเราจะแสดงให้พวกอมนุษย์เหล่านั้นได้เห็นกันแล้วละ" จอมพลลอนเฟลกล่าว เหล่าทหารทั้งหลายก็เฮลั่นขึ้นมาเช่นเดียวกับเควนตินและเหล่าพองเพื่อนด้วย ลอนเฟลจึงสั่งการให้ "ประจัญบานได้"
              โครเต้สั่งในเวลาเดียวกันไปว่า "บุกได้"
              แล้วการต่อสู้ระหว่างกองรบแทแรนเซียและกองรบครอสตรีมก็เริ่มขึ้น เหล่าทหารแทแรนเซียทั้งทหารภาคพื้นและกองรถถังระดมโจมตีด้วยอาวุธปืนอิอ้อนไรเฟิ่ลเข้าใส่เหล่าทหารยูนิคอร์นที่บุกมาจนล้มไปเป็นสิบ แต่พวกพาราไดน์และเทมพาร่านั้น "แชดดดด แชดดด แชดดดด แชดดดด" พาราไดน์ใช้ครอสเซียมมาสเก็ตยิงใส่พวกทหารแถวหน้าจนมีรูทะลุเช่นเดียวกับพวกที่อยู่แถวถัดมาที่ถูกยิงด้วยเช่นกัน เทมพาร่าใช้ครอสเซียมเรลกันยิงเข้าใส่ "แชดดดด ตรูมมมมม" รถถังเบาจนเกราะทะลุเป็นรูและระเบิดปลิวขึ้นไป จนทำให้ขบวนทหารราบต้องกระจัดกระจายไป "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" "แชดดดด แชดดดดด แชดดดด" ไวเบิร์นไรเดอร์ใช้กระสุนเพลิงกรดจากปากไวเบิร์นพ่นใส่พร้อมกับยิงป้อมมิไซล์ครอสเซียมลงสู่กองรบรถถังจากฝั่งซ้ายไป โดยที่พวกกริฟฟอนไรเดอร์ใช้ปืนครอสเซียมแคนน่อนยิงลงพื้นไปด้วย จนเป่ากองรบฝั่งซ้ายและขวาไปพร้อมกับ "แชดดดด แชดดดด" "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าวว" รถถังหนักยิงปืนใหญ่อิอ้อนพร้อมกับป้อมมิไซล์ 24 ช่องกับเครื่องยิงจรวด 4 ลำท่อเข้าเป่าใส่กองรบไวเบิร์นและกริฟฟอนให้แดดิ้น "กรรรรร" "ฟู้ววววววววววววววววววว" เหล่าอัศวินมังกรสั่งมังกรน้ำเงินพ่นไอเย็นเข้าแช่แข็งกองรบรถถัง โดยที่พลอาวุธหนักระดมยิงใส่พวกมังกร แต่ก็ "เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง" มังกรเหลืองพ่นสายฟ้าลงมาช็อตพวกทหารกล้าจนตัวดำตอตะโกไปกันหมด ส่วนมังกรแดงนั้นก็พ่นไฟความร้อนสูงแผดเผากองรบรถถังหนักให้ระเบิดไป ในขณะที่มังกรเขียวนั้นแล่นลงมา "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" เพื่อให้อัศวินมังกรพาราไดน์โจมตีด้วยหอกครอสเซียมใส่พวกทหารจนล้มลง ซึ่งก็.... "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดนกองรถถังติดปืนกลพลาสม่า 8 ลำกล้องกระหน่ำยิงจนพวกอัศวินมังกรร่วงไป 20 ตนด้วยกัน "สกัดกั้นกองรบภาคพื้นด้วยระเบิดเดียวนี้เลย" จอมพลลอนเฟลสั่งการให้กองทหารอาวุธหนัก "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงปืนครกเข้าถล่มใส่กองรบครูเซเดนที่บุกเข้ามา
              "แว้งงงง แว้งงงง" เฟอคาน่าและเหล่าเทมพาร่ากางสนามพลังครอสเซียมเข้า "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ป้องกันระเบิดที่พุ่งลงมาได้หมดทุกนัดพร้อมกับ... "ย้า ย้า" ซัดหอกครอสเซียมให้ลอยขึ้นฟ้าเช่นเดียวกับหอกอันอื่นๆของพวกเทมพาร่าไปพร้อมกัน แล้วก็ "ฟ้าววววว โครมมมม" หอกขนาดใหญ่เรืองแสงสีเขียวพุ่งลงมากลางกองรบฝั่งซ้ายจนกลบทุกอย่างที่คมหอกปะทะให้เหลือเพียงหลุมขนาดใหญ่ไว้
              โครเต้บอก "จังหวะนี้แหละ กองรบคาเมเรท รุกฆาตเดียวนี้เลย" แล้วพวกคาเมเรทก็บุกประจัญบานออกมาจากปราการแกรนฟอร์เทสซิโม่ เพื่อบุกโจมตีใส่ยานรบภาคพื้นไว้
              "เหล่าอัศวินพิทักษ์แทแรนเซีย แสดงพลังให้เหล่านักรบพิทักษ์โอเวอร์เดสถึงพลังของมวลมนุษยชาติซะ" จอมพลลอนเฟลกล่าว แล้วกองรบเซฟิคกราไนท์กับการ์ดฟิลด์ก็บุกประจัญบานขึ้น โดยที่เซฟิคของโทรปิดอชและเหล่าทหารเดนตายก็ "ฉั้วะ ฉับ ฉึก" โจมตีด้วยกงเล็บพลังอิอ้อนเข้าใส่คาเมเรทครูเซน พร้อมกับหมุนตัวข่วนคาเมเรทพาราดีฟพังไปสองเครื่อง ในขณะที่เซฟิคกราไนท์ของเหล่าทหารกล้านั้นใช้ดาบอิอ้อนฟาดฟันใส่พวกคาเมเรทพาราดีฟไป แม้จะถูกคาเมเรทเทมพาลแทงด้วยหอกจนทะลุคอกพิตไปถึงตัวร่างนายทหารที่อยู่ในแคปซูลแดดิ้นไปด้วยกันกับร่างใหม่ที่พังเสียหายไปแล้วก็ตาม รวมถึงเหล่าทหารของลอนเฟลและอดีตกองกำลังกู้ชาติที่ต่อสู้กับพวกครอสตรีมกันไปด้วย "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะๆๆ" เควนตินใช้เซฟิคลาเซนคา ซึ่งเป็นเซฟิคใส่เกราะอัศวินสีขาวสลับม่วงเข้าฟาดฟันใส่ด้วยดาบอีอ้อนที่ยาวกว่าปกติ ผ่าร่างคาเมเรทเทมพาลจนขาดครึ่ง แล้วก็โยกหลบปืนแสงครอสเซียมที่พาราไดน์ยิงใส่ "แชดดดด แชดดดด" เควนตินเลยใช้ไฮแลนเดอร์ไรเฟิ่ลยิงลำแสงอิอ้อนสปาร์คทะลุร่างคาเมเรทพาราดิฟจนตัวทะลุระเบิดไป
              "เห็นถึงพลังของลาเซนคา ยอดขุนพลพิทักษ์แทแรนเซียในสมัยที่โอเวอร์เดสนำทัพบุกมาเมื่อสิบปีก่อนแล้วหรือยังละ" เควนตินกล่าวและยิงลำแสงเข้าทำลายพวกคาเมเรทเพื่อช่วยพรรคพวกและเหล่าทหารของลอนเฟลกับทหารแทแรนเซียเอาไว้ เพื่อเปิดช่องให้ลอนเฟล "ตรุ้งๆๆๆๆ" ยิงปืนใหญ่เข้าถล่มใส่พวกครอสตรีมที่บุกเข้ามาจนต้องถอยห่างออกไป
              "ฟ้าวววว โครมมมม" ฉับพลัน คาเมเรทตัวใหญ่ที่ติดโลห์ทั้งสองอันที่แขนก็ถูกส่งลงมากลางสนามรบ ซึ่งขุนพลแรมลอชรีบกระโดดขึ้นไปควบคุมไว้ "พวกครอสตรีมส่งขุนพลมา หยุดมันไว้ให้ได้" จอมพลลอนเฟลกล่าว โดยตอนนี้เหล่าทหารกล้าและเซอร์โทรปิดอชก็บุกโจมตีด้วยการบุกแบบตั้งแถวเรียงหนึ่ง "ฟ้าววว ฉั้วะๆๆๆๆ" ห้าตัวแรกพุ่งเข้าฟาดฟันใส่คาเมเรทของแรมลอชด้วยดาบอีอ้อนอย่างต่อเนื่อง ตามด้วย "แชดๆๆๆๆๆๆ" อีก 7 ตัวเคลื่อนที่สลับไปมาและยิงปืนแสงอิอ้อนเข้าใส่ ซึ่งแรมลอชป้องกันด้วยโลห์ไว้ จากนั้นเซอร์โทรปิดอชก็บุกเข้ามา "แคว้งงงง แคว้งงง แกร้กกก ป้ากกก" ใช้กงเล็บข่วนใส่โลห์ใหญ่สองอันของแรมลอชอย่างหนักหน่วง พร้อมกับ "แชดดดด" ยิงลำแสงจากดวงตาและหน้าผากเข้าซ้ำในระยะประชิดไปจน "ตรูมมมม" ระเบิดขึ้นมา "สำเร็จมั้ยละ" จอมพลลอนเฟลกล่าว แต่เมื่อควันได้สลายตัวลง คาเมเรทของแรมลอชกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
              "หึ ไม่มีอะไรที่โลห์รุคครอทของข้าต้านทานไม่ได้กันน่ะ" แรมลอชบอก พร้อมกับ... "ฟ้าวววว เปรี้ยงงง" ชกใส่แขนกงเล็บเซฟิคของโทรปิดอชจนแขนขวากระจุยไปทั้งแขน แม้จะเหลือแขนซ้ายไว้เพื่อแทงใส่ตรงกลางคอกพิตของคาเมเรทรุคครอท แต่ก็... "หมับบบบ" แรมลอชจับแขนซ้ายพร้อมกับ "กรือออ กร็อบบบ โครมมมม" บีบท่อนแขนพร้อมกงเล็บแหลกเป็นจุลไป แล้วก็ "ครี้งงงงง" โลห์แขนซ้ายนั้นดันเอาดาบใหญ่ออกมา "ฉึกกกก" แทงใส่เซฟิคกราไนท์ของโทรปิดอช ผ่าเข้าตรงคอกพิตและ "ฉั้วะ" เสยอัปเปอร์คัตเพื่อสับท่อนบนให้แยกออก โดยที่ร่างของโทรปิดอชนั้นขาดตามและ "ตรูมมมมมม" ระเบิดพาร่างหัวหน้าพวกยึดอำนาจกษัตริย์ไปสู่โลกหน้าในทันที แม้พวกเซฟิคกราไนท์ของเหล่าทหารเดนตายจะบุกโจมตีด้วยดาบ หรือระดมยิงใส่ ก็ไม่ระคายผิวโลห์ของรุคครอทเลย แล้วก็ "ฉั้วะ ฉั้วะ" ฟาดดาบใหญ่ติดโลห์ฟันใส่พวกถือดาบจนขาดสะบั้นไปกันหมด แล้วก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" ยิงกระสุนครอสเซียมจากโลห์ทั้งสองข้างเข้าทำลายพวกเซฟิคกราไนท์พลปืนจนล้มไปกันหมด เปิดช่องให้พวกครอสตรีมนำทัพบุกรุกคืบไปอีก ทั้งพลขี่สัตว์ประหลาด พลเดินเท้าและกองรบคาเมเรทด้วย ซึ่งได้ตีโต้ฝ่ายแทแรนเซียกันแล้ว
              "สงสัยว่า ท่านเข้าใกล้เป้าหมายกันแล้วสิน่ะ" ไวซ์ไมเซลกล่าว
              โครเต้บอก "ถ้ามาสวาร์ทาร์กับพวกโคเคสไม่โผล่มาช่วยละก็ เห็นที ข้าคงไม่มีทางเลือกไปกว่าการต้องทำลายกองรบนี้ทิ้งไป..."

              "แชดๆๆๆๆๆๆๆ" "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" ลำแสงพุ่งลงมาจากภาคพื้นเข้าถล่มใส่กองกำลังนักรบครอสตรีมและพวกนักรบขี่สัตว์ประหลาดจนแดดิ้นไปกันทั้งหมด แม้เฟอคาน่าจะป้องกันด้วยสนามพลังไว้เลยก็ตาม "พวกโคเคสมากันแล้วละ" เฟอคาน่าบอก เพราะเห็นเรือนอร์ติลุสมากับเฮฟไดซ์ 40 ลำ แรคแทซ 2 ลำ มอเดอร์ดิฟ 10 ลำและแคร์แลนด์อีก 10 ลำ มาพร้อมกับกองรบการ์เซนท์ติดท่อนล่างตีนตะขาบ ออฟโรด เทอร์โบเจ็ท จำนวนทั้งหมด 50 เครื่อง กองรบฟาลครีด้า 80 เครื่อง อาร์ซโทรน 2 แบบ 60 เครื่อง เซนครีท 40 เครื่อง อัลติเมทเอท แพนเซสไซน์ไนน์ ไซน์เกน เกรฟเซน ลอรด์วาทรัล ฟาลครีด้าของสเปียริท ฟาลครีด้ามิลซากัน ฟาลครีด้าสกายไฮซ์ กานีสต้า อาร์ซโทรนบาบาโลน เฮฟโวลทริสตรอน กันสตาร์ค และไรเดนโคว ออกสู่สนามรบ โดยที่โคเคสสั่งการอยู่ในนอร์ติลุสไว้
              "หึ พวกนี้คิดว่าด้วยกำลังเท่านี้จะหยุดพวกเราและเหลือไว้เพื่อสู้กับท่านโอเวอร์เดสกันเลยหรือ สิ้นคิดจริงๆ" ไวซ์ไมเซลบอก
              "ส่งแซคไรเซอร์ออกไปบดขยี้พวกโคเคสกันเดียวนี้ ให้ยานรบลอยฟ้าของพวกมันร่วงทำลายพวกมันไปด้วยกัน" โครเต้ส่งแซคไรเซอร์ออกไปทั้งหมด 16 ลำด้วยกัน ซึ่งก็ระดมยิงปืนใหญ่ครอสเซียมออกไป
              "ยานเฮฟไดซ์ใช้บาร์ดิเคดอัมเบลล่าได้เลย" บัลโต้สั่งการกองยานเฮฟไดซ์ของรบเรดมูนและเยลโลว์สตาร์กางบาเรียพลังแสงรูปร่มกันแดดขนาดใหญ่เข้า "เปร้งงง ปร้างๆๆๆๆๆๆ" สะท้อนลำแสงให้ออกไปคนละทิศละทาง พร้อมกับปืนใหญ่โปรตอนไดนาโมแคนน่อนยิงสวนกลับไป จนทำลายกองรบคาเมเรทพังไปเกือบครึ่งพร้อมยานรบแซคไรเซอร์หนึ่งลำร่วงลงมาถล่มใส่กองรบภาคพื้นและพวกขี่สัตว์ล้มไปส่วนหนึ่งด้วยกัน
              "ปืนใหญ่ทั้งภาคอากาศและภาคพื้น ยิงใส่ฝ่ายตรงข้ามพร้อมกัน" โคเคสสั่งการ ทั้งกองยานเฮฟไดซ์และกองเรือแคร์แลนด์ระดมยิงปืนใหญ่กระหน่ำใส่พวกครอสตรีมกันอย่างหนักหน่วงไปไม่น้อย
              "กองรบภาคพื้นเสียหายหนักมากแล้ว พวกเราต้านทานการโจมตีแบบหนักหน่วงไม่ได้นานหรอกน่ะ โครเต้" เฟอคาน่าบอก
              โครเต้กล่าว "แซคไรเซอร์ที่เหลือ ส่งไฮคาเมเรทลงไปเดียวนี้เลย ให้มันรู้ถึงความโอหังที่กล้ามาท้าทายพวกเราและท่านโอเวอร์เดสกันน่ะ" แล้วยานแซคไรเซอร์ก็ส่งคาเมเรทตัวสีเขียวหลายสิบตัวลงสนามมาเสริมทัพกับพวกคาเมเรทปกติสามแบบไว้
              "ระวังหน่อยนะ พวก คาเมเรทพวกนี้เฟอคาน่านำร่างของพวกครอสตรีมที่พ่ายแพ้แก่พวกเรามาก่อนไปใส่ไว้เพื่อให้เป็นร่างนักรบยักษ์ที่น่ากลัวกันนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์กล่าวโดยชักดาบเตรียมเอาไว้
              สเปียริทกล่าว "พูดง่ายๆ ว่าเราต้องเจอกับพวกศัตรูเก่าในคราบใหม่อย่างงั้นละสิ แม้ว่านั้นจะทำให้เรื่องบุกของพวกเราเป็นเรื่องยากเลยน่ะ"
    "กองรบเวเซอร์ พวกนายมีหน้าที่ช่วยเหลือกองรบแทแรนเซียเอาไว้ รวมถึงโต้ตอบและหยุดพวกขุนพลทั้งสองเอาไว้ด้วยน่ะ" โคเคสกล่าว "บรอนเซอรูทกับพวกจะอยู่บนเรือลำนี้เพื่อทำการคุ้มกันเอาไว้ แม้จะสู้กับพวกโมบิลลอยด์ไม่ได้ก็ตาม แต่ก็น่าจะดึงพวกครอสตรีมหรือครองคอร์ดให้ลงมาตรงนี้ก็ได้น่ะ"
              สเตฟอร์ดบอก "ที่ถูกก็คือ ไวซ์ไมเซลละสิน่ะ"
              "พวกนายรีบไปช่วยกองรบแทแรนเซียกันดีกว่า ทางนี้ให้พวกเราจัดการเองเหอะ" เซเทธกล่าว
              ทอฟคานิคบอก "อย่าช้าอยู่เลย เพราะเราก็รู้แล้ว ว่าไวซ์ไมเซลต้องโผล่มาตรงนี้กันเลยน่ะ"

              "ถ้าเช่นนั้นก็ หน่วยโมบิลลอยด์กองรบเวเซอร์ บุก" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วก็นำทีมโมบิลลอยด์บุกเข้าโจมตีพวกไฮคาเมเรทที่บุกมาพร้อมกับคาเมเรทโดยเร็ว ซึ่งไฮคาเมเรท 10 ตัวบุกเข้าใช้ดาบครอสเซียมและหอกที่ฉาบด้วยพลังออร่าครอสเซียมเอาไว้ เข้าใส่กานีสต้าที่หลบด้วยการเทเลพอร์ตแล้วยิงจีเลเซอร์แคนน่อนสวนกลับจนยิงหัวหลุด แต่ตัวไฮคาเมเรทยังขยับได้อยู่ แถมบางตัวก็บุกมาด้วยดาบใหญ่หมายจะฟันใส่คลอเวฟและสเตฟอร์ดไปด้วย
              "แพทเทิร์นมันเหมือนกับที่เราเคยสู้ไม่มีผิดเลยวะ" เจเนลบอกโดยใช้ไฮเมทัลเบลดต้านคมดาบครอสเซียมของไฮคาเมเรทไว้ แล้วรีบหลบการยิงครอสเซียมไรเฟิ่ลจากคาเมเรทเทมพาลเข้า
              "นั้นแหละคือความน่ากลัวของพลังครอสตรีมยังไงละ แม้ตัวจะตายไปแล้ว แต่จิตที่เป็นหนึ่งเดียวกับพลังนั้นสามารถหาร่างใหม่สถิตได้ ดุจเป็นเหมือนพลังวิญญาณคนตายกันนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วรีบบุกเข้าใช้วาทรัลคาลิเบอร์ฟันใส่ไฮคาเมเรทให้แดดิ้นด้วยการฟันถูกตรงส่วนหน้าอกให้ขาดสะบั้นจนระเบิดไปสามเครื่อง ซึ่งปรากฎไอพลังครอสเซียมที่ระเบิดจากร่างและสลายหายไป
              "พูดง่ายๆว่าเรากำลังสู้กับไอ้นักรบผีอย่างงั้นละสิครับ" ไกซ์กล่าวพร้อมกับกราดยิงดับเบิ้ลวัลแคนอาร์มเข้าใส่คาเมเรทครูเซนให้ระเบิดไปก่อนที่มันจะฟาดดาบใหญ่เข้าเล่นงานการ์ดฟิลด์ของทางแทแรนเซีย แต่...พอคาเมเรทครูเซนระเบิด ไอพลังครอสเซียมก็พุ่งเข้ามาที่ไฮคาเมเรท และ... "แว้งงงง" หลอมรวมกันจนไฮคาเมเรทเดิมถือหอก ตอนนี้เพิ่มดาบใหญ่ที่ดึงมาจากซากคาเมเรทครูเซนกันแล้ว
              "และเธอก็ไปเพิ่มพลังให้ไฮคาเมเรททั้งๆที่ยังเหลือพวกมันอยู่เพียบกันเลยน่ะ ไกซ์" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยตอนนี้ได้เรียกพวกดิเรนท์กับพวกกองรบหุ่นยนต์และมิวแทนอยด์เข้ามาต่อสู้กับพวกครอสตรีมบนภาคพื้นกันแล้ว
              "แบ่งทีมเป็นสองสามทีมกันเลยดีกว่า เพราะพวกครอสตรีมเริ่มนำยานมาถล่มพวกแทแรนเซียกันแล้วน่ะ" โฟรซ่าออกความเห็น
              มาสวาร์ทาร์เห็นด้วย "โฟรซ่า เธอนำสเปียริท จิล ไซโคลเนีย และมิลด์สนับสนุนกองรบภาคอากาศหยุดพวกกองยานไว้ สเตฟอร์ด นายพาจายด์และคลอเวฟไปหยุดแรมลอชไว้ จัดการกับเจ้านั้นได้ก่อน จะทำให้กำลังใจของพวกมันเสียสูญเพราะขาดกำแพงใหญ่เอาไว้กันนี้แหละ ที่เหลือ ตามฉันไปจัดการกับพวกไฮคาเมเรทปกป้องพวกแทแรนเซียกันเดียวนี้เลย"
              "โอเคเลย มาสวาร์ทาร์" เจเนลกล่าว แล้วพวกเวเซอร์ก็แยกเป็นสามกลุ่มด้วยกัน ซึ่งตอนนี้แรมลอชบุกเข้ามาใกล้จะถึงทรอจันฟรีทแล้ว "ตรุ้ง ตรุ้ง ฟิ้วววว ฟิ้วววว" "ตรูม ตูมมม ตูมมม ซ่า" แต่ก็ถูกสเตฟอร์ดใช้เฮฟวี่เกรเนดลันเชอร์และบัสเตอร์บาซูก้ายิงใส่พร้อมกันกับการีสต้าแคนน่อนและอควอติคบอม จนทำให้คาเมเรทรุคครอทชะงักลง
              "พวกแกกล้ามาขวางทางข้าเลยสิน่ะ แต่พวกแกไม่มีทางทำลายโลห์ที่ท่านแม่ทัพใหญ่มอบให้กันหรอก" แรมลอชเลยบุกมาพร้อมกับดาบติดโลห์ไว้ โดยเล็งมาที่จายด์ก่อน "แกร้งงงงง ชรี้ดดดดดด" แต่จายด์ใช้เฮอริเคนแฟงค์ แขนสว่านต้านดาบครอสเซียมเอาไว้ เปิดช่องให้ "โครมมมมมม" คลอเวฟเสยออคต้าแกรมชิลด์อัดใส่จนรุคครอทถอยมา "ป้ากกก" โดนสเตฟอร์ดหวด "ร็อคเก็ตสเลดเจอร์" เข้าจนทำให้ส่วนหัวไหล่ซ้ายที่ถูกทุบปลิวกระเด็นออกไปอย่างจังๆ

              ด้านโฟรซ่าและพวกนั้นก็บุกจู่โจมพวกครอสตรีมด้วย "แชดดดดด แชดดดด แชดดดดด" เรย์แซทแคนน่อนแบบลองค์กับเรย์แซทไรเฟิ่ลคัสตอมยิงเข้าทะลวงใส่กองรบคาเมเรทและพวกอัศวินมังกรให้แดดิ้นลง แต่ไฮคาเมเรทบินเข้ามา 8 ตัวพร้อมกับยิงพลังสายฟ้าเข้าใส่ "ฟิ้วๆๆๆๆ" จิลเลยใช้ไคท์เข้าป้องกันไว้ และโจมตีกลับด้วย "บริซซาร์ดแอทแทค" ปืนพลังพายุที่แขนซ้ายเป่าพลังพายุหิมะแช่แข็งไฮคาเมเรทที่บินเข้าใกล้จนร่วงแตกกระจุยกับพื้นไป 4 ตัว อีกสี่ตัวนั้นถอยออกมาได้ก่อน แต่ถูก... "อาร์คช็อคเกอร์" ของมิลด์ตรึงไว้ แล้วก็ "เปรี้ยะๆๆๆ" โฟรซ่าปิดฉากด้วยเมย์ไนซ์ชู้ตเตอร์ส่องเข้าตรงหน้าอกจนเป่าไฮคาเมเรทกระจุยไป จากนั้นก็บุกเข้าช่วยกองบินอาร์ซโทรนและฟาลครีด้าโจมตีแซคไรเซอร์กับกองรบคาเมเรทโดยเร็ว ในขณะที่พวกมาสวาร์ทาร์นั้น "ฟ้าวว ฉั้วะๆๆๆ" พลัสเชอริทบุกเข้าจัดการกับคาเมเรทพาราดีฟจนตัดลำตัวขาดด้วยโซลิดคาตาน่าพังไป 4 เครื่องเข้าช่วยพวกทหารราบแทแรนเซียไว้ แต่ไฮคาเมเรทมาพร้อมกับครอสเซียมแคนน่อน "เอานี้ไปเลย โชลเดอร์มาโครลันเชอร์" ไกซ์ระดมยิงด้วยกระสุนพลังเพเรเนี่ยมกำลังสูงเป่าทำลายไฮคาเมเรทจนตัวทะลุเป็นรูไป 6 ตัวรวด เข้าช่วยเควนตินเอาไว้ได้ทัน "นึกว่าจะไม่มาเสียอีกแล้วน่ะ" เควนตินกล่าวโดยใช้ไฮแลนเดอร์ไรเฟิ่ลยิงให้คาเมเรทเทมพาลทะลุ แต่ไฮคาเมเรทดึงพลังมาเพิ่มพลังจนปล่อยพลังสายฟ้าจากส่วนไวเซอร์เข้าเล่นงานกองรบการ์ดฟิลด์ไว้
              "ดูท่าว่า เราต้องรีบกวาดพวกครอสตรีมให้ราบคาบก่อนเลย แม้ว่านั้นจะทำให้โครเต้เกิดบันดาลโทสะไปมากก็ตามเลยน่ะ" เจเนลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก  "อาจจะไม่เข้าท่าที่ต้องใช้ไม้นี้ เพราะเสี่ยงต่อการถูกเฟอคาน่าชิงลงมือก่อนอย่างแน่นอน พีวิล ลงมือเดียวนี้เลย"
              "เข้าใจแล้วละ" พีวิลเลยสร้างลูกบอลพลังอีเนลเซียมขึ้น เฟอคาน่าเห็นดังนั้นก็...
              "ไม่ยอมให้แกได้ทำหรอก เบรซซิ่งแฮนด์พีวิล" แล้วก็ชาร์จพลังครอสเซียมเพื่อชิงลงมือด้วยการสาดขึ้นฟ้า จน "ครืนๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงงง" เกิดสายฟ้าฟาดเข้ามายังไซน์เกน แต่... "เปรี้ยงงงงง" มาสวาร์ทาร์ชูวาทรัลคาลิเบอร์ขึ้นเป็นสายล่อฟ้า ดูดซับพลังครอสเซียมมาไว้จนดาบเรืองแสงขึ้นแล้วก็... "ย้ากกกก" หวดดาบฟาดลงกับพื้นเต็มๆจน "ฟ้าววววว ตรูมมมมมม" เกิดพลังคลื่นวิ่งผ่านกองรบเทมพาร่าของเฟอคาน่าจนเป่ากองรบที่อยู่ด้านหลังตายเป็นร้อยอย่างจังๆ "ฉันน่าจะจัดการกับเจ้าก่อนน่ะ เอชมาสวาร์ทาร์" เฟอคาน่าเลยเรียกคาเมเรทบิลชอทที่อยู่ในป้อมปราการออกมา พร้อมกับบุกเข้าใส่ด้วยหอกครอสเซียม แต่ "เคร้งงงงงง" เจเนลบุกเข้าใช้ไฮเมทัลเบลดฟาดฟันต้านไว้ โดยที่พลัสเชอริทเข้ามาร่วมแจมด้วย "แฟงค์เชร็ดเดอร์" การซัดดาวกระจายอัดใส่ด้านข้างคาเมเรทบิลชอทจนเกราะโลห์หัวไหล่บุบไปอย่างจังๆ "ย้า" เฟอคาน่าเลยใช้พลังสายฟ้าครอสเซียมเข้าเล่นงานพลัสเชอริท มาสวาร์ทาร์ก็บุกเข้ามาต้านด้วยครอสเซียมคาตาน่าแล้วก็ "เคร้งงงง เชร้งงงง แกร้งงงงงง เชร้งงง" ใช้ดาบคู่ฟาดฟันโต้ตอบเฟอคาน่าอย่างรวดเร็ว
              "เสร็จหรือยังวะ พีวิล" เจเนลกล่าวพลางถีบใส่คาเมเรทให้ล้มแล้วก็แทงด้วยไฮเมทัลเบลดซ้ำเข้าที่กลางหลังเพื่อดับชีพทั้งคาเมเรทและพาราไดน์ที่ควบคุมไปด้วยกัน
              พีวิลบอก "40 เปอร์เซนต์คงไม่หนักหนามากหรอกน่ะ เอ้า เอนเนลซอนคลัสเตอร์ ไปเลย" แล้วก็ซัดลูกบอลพลังอีเนลเซียมออกไป แต่.... "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ ตรูมมมม" เฟอคาน่าปล่อยพลังสายฟ้าจากฝ่ามือเข้าทำลายลูกบอลไปได้ ในจังหวะที่เธอต้านดาบของมาสวาร์ทาร์อยู่ แต่ทว่า... "กะแล้ว ว่าต้องมาอีหรอบนี้ เลยชาร์จอีกลูกเผื่อไว้เองแหละ เอ้า เจเนล ส่งไปเลย" พีวิลซัดลูกบอลขึ้นสูง ซึ่งแม้เฟอคาน่าจะรีบโต้กลับ แต่...เจเนลที่กระโดดขึ้นสูงแล้วก็...
              "อาจ้ากกกกก เจเนลชู้ตไปเลย" หมุนตัวตีลังกาเตะลูกบอลพลังให้พุ่งลงมายังกองรบครอสตรีม "ป้ากกกกกก ตรูมมมมมมม" เมื่อพลังอีเนลเซียมปะทะกับครอสเซียมขึ้นมา จึงเกิดการระเบิดเป็นเสาพลังพุ่งเสยขึ้นไป "เปรี้ยงงงง" จนสอยแซคไรเซอร์สามลำที่พยายามถอยหนีไปร่วงลงมา "ตรูมมม บรึมมม เปรี้ยงงงง" บดขยี้กองรบครอสตรีมที่อยู่ภาคพื้นไปจนหมด
              "ว้าววว มันต้องให้ได้อย่างงี้สิวะ" เทรอนเร็กซ์กล่าวอย่างสะใจอย่างมาก
              เรปไซท์บอก "เห็นแบบนี้กูรู้สึกใจชื่นขึ้นมาบ้างแล้ววะ"
              "นั้นเป็นการโจมตีประสานที่รุนแรงและได้ผลดีเสียด้วยน่ะ" เวลลิทบอก
              ดิเรนท์กล่าว "พวกเราเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกันละน่า" แล้วก็เข้าช่วยเหลือทหารราบไล่จัดการกับพวกนักรบครอสตรีมที่บุกมาใกล้กับกองรบของแทแรนเซียไว้
              "ชู้ตได้แต้มใหญ่มากเลยนะ เจเนล" พีวิลบอก
              เจเนลกล่าว "ดีน่ะ ที่นายเตรียมอีกดอกไว้ ไม่งั้นเราคงเป็นฝ่ายเละเป็นโจ๊กไปเสียเองแล้วละ"
              "สถานการณ์เริ่มแย่แล้วสิ" ไวซ์ไมเซลกล่าวโดยเดินออกไป
              โครเต้บอก "มาสวาร์ทาร์พาพีวิลมาด้วยเพราะรู้ว่า พลังของครอสตรีมและอีเนอไมนด์ปะทะกันจะรุนแรงไปไม่น้อย จนสามารถทำลายฝ่ายเราให้ย่อยยับลงได้เช่นนี้ เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว"
              "งั้นนายเตรียมตัวสำหรับการดวลของนายจะดีกว่า ส่วนฉัน จะออกไปสะสางเรื่องลูกๆที่ไม่รักดีนี้เอง" ไวซ์ไมเซลกล่าว แล้วก็เทเลพอร์ตหายไปโดยเร็ว ซึ่งก็... "ฟ้าววววววววววว" ไวซ์ไมเซลโผล่มากลางสนามรบบนฟากฟ้าโดยมาอยู่เหนือกองรบของโคเคสกันอยู่ และบินตรงมายัง "ตึกกกก" ตรงดาดฟ้าเรือนอร์ติลุสไว้ "ในที่สุดก็เจอกันอีกครั้งเลยน่ะ ลูกๆของฉัน" ไวซ์ไมเซลเงยหน้าและทักท้ายพวกบรอนเซอรูทไว้
              ทอฟคานิคกล่าว "ยังจะมีหน้ามาอ้างตนเป็นพ่อต่อหน้าพวกเรากันอีกหรือ ในเมื่อแกทำอะไรกับคนอื่นๆ แม้กระทั่งแม่ของพวกเราเองด้วยน่ะ"
              "โอ้ว พวกเธอไม่น่าจะโมโหกันเลยนิ ในเมื่อ เราต่างก็ได้พบหน้ากันเป็นครอบครัวกันแล้วน่ะ" ไวซ์ไมเซลพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่แฝงความวิปลาสเอาไว้
              เลอแชนบอก "ครอบครัวนะหรือ หึ ถ้าแกเป็นพ่อของเราจริง แล้วทำไม ทำไมต้องฆ่าแม่ของเราที่พยายามห้ามนายเพื่อเตือนสติกลับมา ทำไมต้องสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาเพื่อสร้างความเดือดร้อนกับคนทั้งโลก และแถมยังจับพวกมนุษย์กลายพันธุ์มาขังเพื่อใช้พวกเขาเป็นวัสดุในการสร้างพี่น้องของพวกเรา แม้กระทั่งเปลี่ยนพวกเราให้เป็นอย่างงี้โดยไม่ได้ขอกันสักหน่อยด้วย ตอบมาสิ ว่าทำไปเพื่ออะไรกัน"
              "อา ดูเหมือนว่าพวกลูกๆคงไม่รู้หรอกน่ะ ว่า...พ่อพยายามจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกๆเองน่ะ" ไวซ์ไมเซลกล่าว
              กริมเบอรี่บอก "ถ้าจะมอบสิ่งที่ดีให้กับพวกเราจริง ก็หยุดรังควานพวกมิวแทนอยด์ ร่วมมือกับพวกเราหยุดโอเวอร์เดสกันไม่ดีกว่าหรือ"
              "พ่อทำไม่ได้หรอก เพราะว่า พ่อต้องการที่จะให้พวกมนุษย์หน้าโง่นั้น ได้รู้จักกับความทรมานที่โดนดูถูกดูหมิ่นกันนี้แหละ" ไวซ์ไมเซลบอก "สภากระทรวงวิทยาศาสตร์และพวกสหพันธ์โลกนั้น มองผลงานของพ่อที่สร้างพวกสัตว์เทพนิยายว่าเป็นผลงานที่สามารถนำจินตนาการมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้ ซึ่งพ่อรู้สึกภูมิใจไม่น้อย จนกระทั่งพ่อมารู้ว่า นักวิชาการและนักวิจารณ์ รวมถึงนักอนุรักษ์ธรรมชาติเองโจมตีพ่อว่าสร้างสัตว์ขึ้นมาด้วยวิธีที่ฝืนธรรมชาติและอาจจะทำให้ระบบนิเวศน์เสียหายลง ซึ่งทีแรกพ่อก็เฉยๆอยู่หรอก แต่ไม่ทันไรก็มีคนมาเสนอให้ช่วยสร้างสัตว์เทพนิยายเหล่านั้นเพื่อใช้งานเป็นอาวุธ เป็นเครื่องมือสำหรับสร้างความเดือดร้อน โดยที่พ่อไม่ต้องการให้ผลงานนี้ถูกใช้ และปฏิเสธมาโดยตลอด หลังจากนั้น คนของสหพันธ์มาเสนอการคุ้มครองโปรเจคของพ่อไว้ เพื่อให้พ่อวางใจได้ว่า การผลิตและสร้างสัตว์เทพนิยายจะไม่ถูกใช้ในทางที่ผิด โดยที่พ่อไม่รู้ว่าทุกอย่างมันเป็นแค่การหลอกลวงทั้งนั้น"
              ทินเหมาลีกล่าว "หลอกลวงอย่างงั้นนะหรือ"
              "ใช่ สหพันธ์โลกต้องการโปรเจคสร้างสัตว์เทพนิยายมาเพื่อให้พ่อสร้างพวกมันเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบุกอวกาศกันยังไงละ แน่นอนว่า เรื่องที่นักวิชาการและนักอนุรักษ์ออกมาโจมตีนั้น สหพันธ์โลกเป็นตัวการสนับสนุนและบีบบังคับให้พ่อต้องยอมจำนนไป ซึ่ง....นั้นเป็นการหลอกลวงที่เลวร้ายมากๆ เพราะว่าพ่อได้เผลอสร้างพวกมันให้เป็นอาวุธไปแล้ว อนิจจา ที่พวกมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพของท่านโอเวอร์เดสในภายหลัง แม้ว่าท่านโอเวอร์เดสจะต้องม้วนเสื่อหนีหายไปตั้ง 20 ปีก็ตาม" ไวซ์ไมเซลบอก "เมื่อทุกอย่างสิ้นหวัง พ่อกับแม่ก็ถูกตามล่า แม้ว่าพวกเราจะโยกย้ายเปลี่ยนที่พักอาศัยและต้องปลอมแปลงโฉมหน้ากันตลอดเวลาก็ตาม จนกระทั่งหาห้องแลบทดลองแห่งใหม่ขึ้น เพื่อสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ พ่อตัดสินใจที่จะ เพิ่มตัวเลือกในการควบคุมสัตว์ประหลาดขึ้นมา เพราะพ่อมั่นใจว่าสัตว์ไร้สมองเหล่านั้นจะไม่สามารถอยู่ในการควบคุมของพ่อได้แน่นอน และตัวควบคุมนั้นจะต้องเชื่อฟังคำสั่งพ่อทุกประการโดยไม่มีการไต่ถามหรือโต้แย้งใดๆทั้งสิ้นนี้แหละ"
              ฟันดิวเรคบอก "คงไม่ได้หมายถึงพวกเราละสิ"
              "ถูกต้อง....ตัวเลือกที่ว่านั้นก็คือ พวกลูกๆนี้แหละ ซึ่งในตอนนั้นพวกลูกๆเป็นแค่เซลไข่ที่ผ่านการปฏิสนธิด้วยเชื้ออุสจิของพ่อในช่วงที่เป็นมนุษย์ และได้เก็บรักษาเอาไว้ในห้องทดลองลับที่ไม่มีใครหน้าไหนได้เห็นไว้ ทีแรก พ่อกะจะสร้างพวกลูกๆขึ้นมาเดียวนั้น แต่...แม่ของลูกกลับเข้ามาขวาง ซึ่งแม้พ่อจะจัดการกับแม่ของลูกๆไปได้ พ่อกลับเป็นฝ่ายถูกสัตว์ร้ายที่พ่อสร้างขย้ำไปเสียก่อนน่ะ" ไวซ์ไมเซลกล่าว
              เซเทธบอก "นั้นก็สมควรแล้วละ ที่แกกล้าทำได้แม้กระทั่งพวกเรากันน่ะ"
              "แย่หน่อยนะ ที่พวกลูกๆก็เกิดมาได้ เพราะว่าพ่อกับแม่ได้โอกาสแก้ตัวจากท่านโอเวอร์เดสที่รู้เรื่องของพ่อเอาไว้ ซึ่งพวกเราทั้งสองก็ได้สร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมา และพยายามจะสร้างขุมกำลังของพวกเราเอง แม้ว่ามันจะลงเอยด้วยความล้มเหลวเลยก็ตาม แต่...พ่อก็ไม่ลืมพวกลูกๆทั้งหมดไว้ ซึ่งในตอนนั้นแม่ของลูกก็ห้ามปรามอะไรพ่อไม่ได้แล้วด้วย เพราะพ่อเซตให้แม่อยู่ในโหมดควบคุมเอาไว้ แล้วก็...เลือกพวกลูกๆทั้งแปดมาเพื่อเป็น นักรบที่เก่งกาจที่สุดของพ่อทั้งแปดคน ซึ่งพ่อใช้แค่วิธีการตัดแต่งพันธุกรรมและเปลี่ยนแปลงเซลร่างกายของพวกลูกๆให้มีเอกลักษณ์เฉพาะขึ้นมา แม้ว่าจะเป็นแค่เด็กทารก แต่ด้วยการคำนวณของคอมพิวเตอร์และการคาดเดาของพ่อ พวกลูกทั้งแปดนั้นจะต้องกลายเป็นแมนิเกเตอร์ที่ทรงพลังอย่างแน่นอน และคิดว่า พวกลูกๆจะเป็นมือและเท้าช่วยพ่อและแม่ครองโลกได้แน่ๆ"
              โมคุโตะส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า "แต่ดูเหมือนว่าคุณแม่จะสู้กับอำนาจบ้าๆของแก และรู้ว่าแกทำอะไรลงไป เลยพาพวกเราไปให้พ้นจากมือของแก ด้วยการพาไปส่งที่หุบเขาหอเมฆาเลยสิน่ะ"
              "ใช่ แม่ของลูกโกหกพ่อว่าพวกลูกๆมีสภาวะที่เซลในร่างกายเสื่อมสภาพลงจากการดัดแปลงยีนดังกล่าว ซึ่งนั้นจะทำให้ลูกๆตายไปอย่างแน่นอน แม้พ่อจะไม่เชื่อเลยว่า พวกลูกๆทั้งแปดจะเป็นผลงานที่ผิดพลาดเลยก็ตาม แต่เพราะไม่อยากจะให้พวกลูกๆต้องตายต่อหน้าพ่อที่สร้างพวกลูกๆขึ้นมาเองเช่นนี้ พ่อเลยปล่อยให้แม่พาพวกลูกๆไปทิ้งที่ไหนก็ได้ แล้วพ่อก็พาพวกน้องๆไปไว้ที่เกาะอื่น เพราะไม่แน่ใจว่า พวกเขาจะรอดได้หรือเปล่า" ไวซ์ไมเซลบอก "พ่อก็เลยจับพวกมิวแทนอยด์ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกมาเพื่อเสาะหายีนกลายพันธุ์ที่สามารถทำให้พวกลูกๆที่เหลือกลายเป็นยอดนักรบและมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ แม้ว่าพ่อจะยังไม่รีบ เนื่องจากว่าพ่อมีงานยุ่งมากๆ จนกระทั่ง...การมาของพวกลูกๆที่ปิรามิลด้านั้น ทำให้พ่อรู้ว่าพ่อถูกแม่ของลูกโกหกมาตลอด 20 ปีเต็มๆ และมาเช็คดูระบบคอมพิวเตอร์ที่ดูแลพวกลูกที่เหลือนั้น ก็พบว่าสภาพร่างกายไม่ได้มีความผิดปกติถึงแก่ชีวิตเลยสักคนเดียว แน่นอนว่ามันหมายถึงลูกๆทั้งแปดด้วย"
              บรอนเซอรูทกล่าว "คุณแม่ทำถูกทางแล้วที่พาพวกเราไปที่หุบเขาหอเมฆาไว้ให้ห่างจากคนบ้าๆอย่างแก แม้พวกเราจะอยู่บนยอดเขามาตลอด 20 ปีเต็ม แต่ก็ได้รับการเลี้ยงดูจากท่านอาจารย์กันเป็นอย่างดี และต้องขอบใจพวกพีวิลและมาสวาร์ทาร์ที่เดินทางขึ้นเขามาพร้อมกับความจริงที่เกิดขึ้นกับพวกเราในครั้งนั้น จนพาพวกเรามาเพื่อหยุดยั้งแกกันนี้แหละ"
              "หยุดยั้งฉันนะหรือ หึๆๆๆ ถึงลูกๆจะหยุดยั้งพ่อในฐานะสมาชิกของกองรบเวเซอร์ แต่ความจริงที่ว่าลูกสืบสายเลือดของพ่อและแม่นั้นไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้หรอก" ไวซ์ไมเซลกล่าว
              กริมเบอรี่บอก "ไม่ต้องพูดให้มากความแล้ว ไวซ์ไมเซล ความบ้าคลั่งของแกควรจะจบลงเพียงเท่านี้แหละ"
              "เดียวก่อนน่ะ พ่อพูดไปก่อนหน้านั้นแล้วนิ ว่าพวกเราได้พบหน้ากันครบแล้ว ทั้งพ่อ ทั้งลูก แล้วก็แม่ด้วย" ไวซ์ไมเซลกล่าวแล้วก็ "ฟึ่บบบ ตึก" ไวซ์แลงค์บินลงมาในทันที หากแต่...
              "ด้วยบัญชาของท่านโอเวอร์เดส ข้าจะกำจัดพวกเวเซอร์ให้สิ้นซากไปซะ" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและโหดเหี้ยมพร้อมกับ "ครี้งงงง" ควบคุมปีกมีดทั้งหกไว้เพื่อสู้กันแล้ว
              "เออ นี้แกทำอะไรแม่ของเรากันน่ะ" เซเทธบอก
              ไวซ์ไมเซลกล่าว "ทำอะไรนะหรือ ฉันก็แค่ อยากให้ศรีภรรยาและแม่ของพวกแกนั้น เชื่อฟังฉันเสียแต่โดยดียังไงละ"
              "ไวซ์แลงค์ในตอนนี้ถูกควบคุมด้วยชิฟควบคุมสมองกันอยู่นะ ซึ่งไวซ์ไมเซลนั้นใช้ชิฟนี้เพื่อควบคุมไวซ์แลงค์มาจัดการกับพวกคุณด้วยนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว
              เลอแชนสบถ "สารเลว น้ำหน้าอย่างแกไม่สมควรจะเป็นพ่อของพวกเราไปตั้งนานแล้ววะ"
              "จริงด้วย แกใช้แม่ของเราเป็นเครื่องมือโดยที่คุณแม่ไม่ยินยอมกันเช่นนี้ มันยกโทษให้ไม่ได้แล้วละ" โมคุโตะกล่าว
              บรอนเซอรูทบอก "ไวซ์ไมเซล การกระทำของแกมันเลวร้ายเช่นนี้ ไม่เพียงแกควบคุมแม่ของเรามาเป็นเครื่องมือสนองความต้องการของแก แต่แกยังเห็นชีวิตของพวกเราเป็นของเล่นที่แกสามารถละเลงหรือบิดเบี้ยวให้มันดูดีในสายตาของแก แต่ไม่ดีในสายตาของคนอื่นที่ปกติกว่านี้ เพราะจิตใจของแกมันบิดเบี้ยวไปนานแล้ว" แล้วก็ควงพลองวนรอบและชี้หน้าไปว่า "แม้ความจริงที่ว่าพวกเราเป็นลูกของแก ในเมื่อพ่อทำผิดและก่อกรรมทำเข็ณ ในฐานะที่พวกเราเป็นลูก จะหยุดยั้งแกลงโดยไม่รู้สึกผิดบาปใดๆทั้งนั้น เพราะแก ไม่มีความเป็นมนุษย์กันอีกต่อไปแล้วละ"
              "ไม่มีความเป็นมนุษย์นะหรือ พวกลูกๆเองก็เหมือนกับพ่อนี้แหละที่แม้จะมีกายเป็นมนุษย์ แต่บางอย่างที่ติดตัวพวกแกนั้นทำให้พวกแกประหลาดในสายตาคนอื่นนี้แหละ แม้คนรอบข้างพวกแกจะเป็นแมนิเกเตอร์ก็ตาม" ไวซ์ไมเซลบอก "ถ้าเช่นนั้นการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่มีคำว่าครอบครัวกันอีกต่อไปแล้วละ"
              ทินเหมาลีบอก "มันก็สมควรอยู่แล้ว สำหรับพวกเราที่ไม่ต้องลังเลใจกันอีกต่อไปแล้วน่ะ" แล้วการปะทะกันระหว่างพ่อแม่กับลูกทั้งแปดก็เริ่มต้นขึ้น

              "ฟ้าววว ฉั้วะๆๆๆๆ" ไซโคลเนียใช้สกายไลน์เนอร์ซอร์ดฟาดฟันใส่ไฮคาเมเรทจนร่วงไปเป็นสิบ แล้วก็ "อาร์มมิไซล์แคนน่อน ชู้ต" ยิงมิไซล์เข้าสอยไฮคาเมเรทที่กระหน่ำยิงใส่เธอจนหวิดถูกสอยร่วงจนมิไซล์ปักตรงหน้าอกและ "ตรูม บรึมๆๆๆๆ" เป่าระเบิดทำลายท่อนบนจนแดดิ้นไป "ฉึกกกก" มิลด์โจมตีด้วยอาร์มมิคไนฟ์ที่อัดพลังไฟฟ้าช็อตใส่ไฮคาเมเรทที่บุกมาด้วยดาบจนด้านหลังระเบิดแล้วก็ "แชดดดด" ยิงมาสแตงค์ไรเฟิ่ลในระยะประชิดเป่าให้กระจุยไป "ฟ้าวว ฉั้วะๆๆๆๆๆๆ" สเปียริทพุ่งเข้าฟาดฟันใส่ไฮเทมพาร่าสิบตัวด้วยวาลคัลลี่แลนเซอร์อย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้เรย์แซทแคนน่อนเอสโหมดทำลายคาเมเรทที่แห่มาเล่นงานหน่วยรบฟาลครีด้าได้อย่างทันควัน "ฟ้าวๆๆๆๆๆ" จิลใช้ไซคิกไคท์บัสเตอร์โจมตีเข้าใส่กองรบไฮคาเมเรทด้วยปืนเลเซอร์ แล้วก็ควบคุมให้เป็นรูปพัดเพื่อพุ่งโจมตีใส่คาเมเรทเทมพาลจนตัวขาดสะบั้นลง กองรบอาร์ซโทรนและฟาลครีด้าระดมโจมตีด้วยปืนแสงที่อัดพลังงานอีเนลเซียมเข้าถล่มใส่แซคไรเซอร์อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กองรบแทแรนเซียและพวกโคเคสระดมโจมตีพวกไฮคาเมเรทและคาเมเรทไปด้วย จนตอนนี้สถานการณ์ของพวกครอสตรีมตกเป็นรองเสียแล้ว
              "แมกเนตเบรคเกอร์" จายด์ระดมต่อยใส่รุคครอทของแรมลอชอย่างหนักหน่วง แม้จะป้องกันด้วยโลห์ก็ตาม และคิดจะสวนกลับแต่ก็... "บรูทรัล สแมชฟิสท์" สเตฟอร์ดกระหน่ำหมัดชกใส่รุคครอทจนตัวลอยขึ้นเหนือพื้นพร้อมกับอัปเปอร์คัตส่งให้ปลิวกระแทกพื้นไป แต่แรมลอชยังสู้ไว้และบุกมาด้วยดาบติดโลห์หมายจะแทงใส่สเตฟอร์ด "ว้ากกกกก" คลอเวฟเลยนำทริสตรอนบุกเข้ามาด้วยแอคตาแกรมชิลด์ "ป้ากกกกก โครมมมมม" ซึ่งทันทีที่ปลายดาบครอสเซียมปะทะกับตัวโลห์แปดเหลี่ยมมหากาฬ ดาบก็แตกร้าวและกระจุยไปพร้อมกับแขนซ้ายที่ติดโลห์ซึ่งถูกคลอเวฟชกจนกระจุยไปในคราวเดียว
              "บะ บ้าน่า โลห์ครอสเซียมของแรมลอชนะหรือจะถูกทำลายเพราะอาวุธของพวกแอตแลนไทซ์กันน่ะ เป็นไปไม่ได้หรอก" เฟอคาน่ากล่าวโดยเธอควบคุมดาบครอสเซียมให้บินเข้าเล่นงานพวกพีวิล แต่... "หวืมมม ป้ากๆๆ" พีวิลใช้อีเนลเซียมร็อดหวดทำลายดาบที่บินมาจนแหลกเป็นจุล "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะๆๆๆ" เจเนลใช้ไฮเมทัลเบลดฟาดฟันทำลายดาบบินและยิงด้วยจีบิ้กบัสเตอร์ทำลายหอกบินที่พุ่งเข้ามาจนหมด "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ" พลัสเชอริทกระจายพลังไฟฟ้าต้านดาบและหอกบินที่พุ่งมาในทิศทางที่พลัสเชอริทจับทางไม่ได้จนแหลกกระจุยกันหมด "พวกแก พวกแกสยบไม้ตายของข้าลงไปได้นิ พวกแกคงเพิ่มพลังมาหรือไปฝึกที่ไหนมากัน ถึงได้โต้ตอบพลังควบคุมอาวุธทั้งหมดไปได้กันน่ะ" เฟอคาน่ากล่าวโดยรีบชักดาบเข้าต้านมาสวาร์ทาร์ไว้
              "เราไม่มีความจำเป็นต้องบอกกับแม่มดเขียวที่ลำพองใจในพลังของตนเองและคิดว่าไม่มีทางแพ้พวกเราได้กันนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์กดดาบจนดาบของเฟอคาน่าแตกแล้วก็ "ฉั้วะๆๆ" ตวัดดาบฟันหัวและแขนทั้งสองข้างของบิลชอทขาดสะบั้นลง เช่นเดียวกับแรมลอชที่ "ป้ากกก จึก ตรูมมม" โดนคลอเวฟเล่นงานด้วยไฮโดรควอเดนท์ทิ้มทะลุโลห์ของรุคครอทจนเป่ากระเด็นไปทั้งแขนในคราวเดียว ส่งผลทำให้ทั้งคู่ต้องลงมาสู้ด้วยตัวเอง โดยที่เบย์แทนด์รีบเทเลพอร์ตโมบิลลอยด์ของพวกเวเซอร์ที่โดดลงมาสู้ด้วยตัวเองกลับเข้านอร์ติลุสกันโดยเร็ว แม้ว่าในตอนนี้ ไวซ์ไมเซลและไวซ์แลงค์บุกโจมตีใส่พวกบรอนเซอรูทบนดาดฟ้าเรือก็ตาม  
             
              "แคร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไวซ์แลงค์บุกโจมตีด้วยปีกใบมีดทิ้มแทงใส่ทินเหมาลีซึ่งป้องกันด้วยง้าวมังกรเขียวอย่างรวดเร็ว ซึ่งโมคุโตะและกริมเบอรี่ใช้ทอนฟาและเคียวด้ามยาวช่วยปัดป้องไปด้วย ในขณะที่ไวซ์ไมเซลบุกเข้าเล่นงานฟันดิวเรคที่ใช้มีดสั้นหกอันที่หนีบง่ามนิ้วไว้ โดยที่ฟันดิวเรคสบัดแขนยางเข้าโจมตีใส่ แต่ไวซ์ไมเซลสบัดดาบปีกคู่กลางจนทำให้มีดหลุดจากง่ามนิ้วซ้ายกัน "ฟันดิวเรค ลูกคนที่หก ฉันสร้างเจ้าให้เป็นมนุษย์ยางยืดที่มีส่วนของพลาสติกและโพลีเมอร์รวมกัน ซึ่งเป็นไอเดียที่ฉันตั้งใจจะให้เจ้าเป็นตัวตลกยางยืดที่มีร่างกายที่ยืดหยุ่นอย่างมาก แม้จะยืดแบบมีลิมิตเลยก็ตามน่ะ แต่เจ้าก็ยังโง่มากพอที่จะถูกดึงมาให้ข้าจัดการกันนี้แหละ" แล้วก็จับข้อมือที่ยืดเพื่อใช้ดรรชนีสกัดจุดพร้อมกับดึงเข้ามาเพื่อใช้ดาบปีกกลางฟันใส่ "หวืดดดดด" แต่ฟันดิวเรคโยกท้องเพื่อเลี่ยงคมดาบที่ฟันเข้าใส่อย่างฉิวเฉียด
              "แย่หน่อยนะ ที่ฉันเรียนวิชาดัดตนที่สามารถปรับสภาพร่างกายของฉันที่ยืดได้หดได้ รวมถึงพลิกแพลงร่างกายให้สามารถเล่นงานแกได้นี้แหละ" แล้วก็โยกส่วนขาที่ถอยเท้าไป ซึ่งก็ตีลังกากลับหลังเข้า "หวืบบบบ ป้ากกกก" และหวดส้นเท้าฟาดลงบนหัวไวซ์ไมเซลไปเต็มๆ แล้วถีบใส่ไวซ์ไมเซลโดดหลบออกมา ซึ่งรีบแทงใส่ด้วยดาบปีกคู่บนด้วยความเร็วสูง
              "แคร้งงงงงง" ทอฟคานิคใช้ด้ามตะบองเหล็กอันหนามาป้องกันคมดาบคู่บนเอาไว้ พร้อมกับต้านยันการกดทิ้มของไวซ์ไมเซลที่พล่ามไปด้วยว่า "ทอฟคานิค ลูกคนที่สี่ ฉันอยากจะให้เจ้าแข็งแกร่งดุจหินผาและมีพละกำลังที่ทรงพลังยิ่งกว่าขุนเขา ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เจ้าต้องดุดันและแข็งกร้าวมากกว่านี้ ชนิดที่พี่ของเจ้าเองก็หยุดเจ้าไม่อยู่กันน่ะ แต่เจ้ากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเลยน่ะ"
              ทอฟคานิคกล่าวโดยที่ยังยันอยู่ "แกอยากจะได้ความดุร้ายใช่มั้ย แต่คงยาก เพราะแกจะต้องเจ็บตัวกันนี้แหละ" แล้วก็โถมตัวเข้า "ป้ากกกก" เอาหัวโขกเข้าใส่ตรงกลางหน้าอกของไวซ์ไมเซล แล้วก็ "เปรี้ยงงงงง" ถีบด้วยฝ่าเท้าหินผาเข้าใส่หน้าอก แม้ไวซ์ไมเซลใช้ปีกดาบเข้าป้องกันเอาไว้ ต่อด้วยเซเทธเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพร้อมกับโผล่มาหวดฟันด้วยทวนจันทร์เสี้ยวคู่ใส่ แม้ไวซ์ไมเซลจะป้องกันด้วยปีกดาบเลยก็ตาม
              "ลูกคนที่สาม เซเทธ โอ้ว ว่องไวมากดีนิ เพราะว่าเจ้ามีร่างกายที่ว่องไวดุจสายลมและวิ่งได้เร็วกว่าชีตาร์มาแต่แรก แม้กระทั่งสายตาที่เฉียบคมสำหรับมองเห็นเป้าหมายเพื่อจัดการลงอย่างรวดเร็วนั้นก็ด้วย แต่จะดีมาก หากเจ้ามีกระดูกเหล็กที่ทนต่อการเจ็บตัวกันด้วยน่ะ" แล้วก็รั่วทิ้มแทงใส่อย่างรวดเร็ว ซึ่งเซเทธก็ใช้ทวนรั่วแทงไปด้วย
              "เลอแชนและกริมเบอรี่แปลกประหลาดเพราะแกก็เกินพอแล้ว อย่ามาคิดเปลี่ยนฉันให้ดูแย่ไปกว่านี้จะดีกว่าน่า" เซเทธกล่าวแล้วก็หมุนตัวใช้ทวนฟันใส่แต่ไวซ์ไมเซลใช้ปีกดาบคู่กลางต้านไว้ก่อนจะเสยแทงด้วยปีกดาบคู่บนและล่าง "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ เกร้งๆๆๆๆๆๆ" แต่ใบมีดโค้งพุ่งบินเข้ามาจากด้านหลัง จนไวซ์ไมเซลต้องผลักเซเทธออกเพื่อใช้ปีกดาบมาฟันปัดใบมีดเหล่านั้นไป
              "โอ้วๆๆๆๆ เลอแชน บุตรคนที่เจ็ดของฉัน ลูกช่างเป็นคนที่มีคมเขี้ยวอยู่รอบตัวตามที่พ่อหวังไว้ไม่มีผิดจริงๆ แต่ไม่นึกเลยว่าลูกจะกล้ามาหาเรื่องกับพ่อเช่นนี้ไปได้กันน่า" แล้วก็บุกเข้ามาฟาดฟันใส่เลอแชนที่ใช้คราดติดมีดสามเล่มปัดป้องไว้หลังจากที่ใช้ใบมีดจากตัวไปแล้ว
              "แกสร้างให้ฉันมีคมเขี้ยวรอบตัวใช่มั้ย งั้นฉันจะใช้มันเล่นงานแกให้เป็นชิ้นๆกันเลยสิวะ" เลอแชนกล่าวพร้อมกับหมุนตัวด้วยใบมีดที่โผล่จากใต้ฝ่าเท้าแล้วก็รั่วถีบใส่ไวซ์ไมเซลที่ใช้ปีกดาบรั่วแทงใส่ และเตรียมจะจ้วงแทงใส่ในคราวเดียว "ฟ้าววว หมับบบบ ฟึ่บบบ โครมมมม" ฟันดิวเรคยืดมือเข้าคว้าจับข้อเท้าของไวซ์ไมเซลและกระชากให้ล้มหน้าคว้ำ แต่มันก็รีบใช้ปีกดาบทิ้มลงพื้นยันเอาไว้ ซึ่งก็... "ว้ากกกก" "ย้ากกกกก" ทอฟคานิคกระโดดทิ้งตัวฟาดศอกซ้ายลงปีกหลังขวาไปเต็มๆ พร้อมกันกับการฟาดส้นเท้าตอกกลางหลังของเซเทธ จากนั้นก็รีบกลิ้งหลบออกมา "ป้ากกก" เลอแชนเตะเสยเข้าปลายคางไวซ์ไมเซลให้ปลิวไป แต่นั้นก็เปิดโอกาสให้ไวซ์ไมเซล... "กึกกก" กัดฟันตรงกรามซ้ายล่างเพื่อทำให้ชิปควบคุมในหัวไวซ์แลงค์ทำงาน "ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ป้ากก ป้ากก เปรี้ยงงงง" พุ่งโฉบโจมตีใส่เลอแชน เซเทธ และฟันดิวเรคอย่างรวดเร็ว พร้อมกับบุกมาเพื่อแทงใส่ทอฟคานิค "โครมมมมมม" ทอฟคานิคบล็อกด้วยกำแพงหินต้านไว้ได้ทันท่วงที โดยที่ไวซ์ไมเซลรีบตามไปซ้ำ "แว้งงงง เกร้งงงง" ทินเหมาลีโผล่มาใช้ง้าวมังกรเขียวเข้าฟาดฟันไว้
              "โอ้ว ทินเหมาลี ลูกสาวคนแรกของฉันแต่เป็นลูกคนที่สองด้วย ดูเหมือนว่าจะมีพลังจิตที่แข็งแกร่งจากการใส่ยีนนกเพลิงไปเลยสิน่ะ"
              "นกเพลิง นี้แกใส่ยีนหงษ์เพลิงในตัวฉัน ซึ่งทำให้ฉันมีพลังจิตอย่างงั้นนะหรือ" ทินเหมาลีกล่าว
              ไวซ์ไมเซลบอก พร้อมกับใช้ปีกดาบปัดการโจมตีด้วยทวนของทินเหมาลีที่มาอย่างเร็วไว้ "ใช่ แม้นั้นจะได้จากขนปีกนกเพลิงตัวแรกที่ทรงพลังมากที่สุด ซึ่งทำให้ลูกไม่เพียงมีพละกำลังมากทั้งๆที่กายภายนอกเป็นหญิงสาวธรรมดาอย่างเดียว แต่ยังมีพลังการฟื้นฟูร่างกายที่เหมือนนกเพลิงกันด้วยน่ะ อย่างเช่นนี้ไง" แล้วก็ทิ้มปีกดาบคู่ล่างเข้า "ฉึกกกกก" แทงตัดขาสองข้างของทินเหมาลีขาดสะบั้นไป แล้วก็ "ฉึกกกก" ใช้ดาบคู่กลางแทงเข้าลำตัวพร้อมกับ "ฉั้วะ" ฟันตัดแขนทั้งสองข้างของทินเหมาลีจนขาดไป
              "อาเจ้..." โมคุโตะร้องลั่นขึ้นด้วยน้ำเสียงของผู้หญิง เมื่อทินเหมาลีถูกผลักออกจากปลายดาบปีกของไวซ์ไมเซล
              "เจ้ห้า อาเจ้รองเรืองแสงด้วยน่ะ" กริมเบอรี่ร้องห้ามโมคุโตะไว้ เพราะทินเหมาลีที่ด้วนทั้งแขนและขานั้นเรืองแสงขึ้นมา "ซูมมมมมมม แว้งงงง แว้งงงง" รอยผ่าตรงรอบวงแขนและตรงใต้เข่ามาก็งอกแขนขาใหม่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
              "เหลือเชื่อ อาเจ้รองงอกแขนขาใหม่ได้น่ะ" โมคุโตะอุทานขึ้น
              "วิเศษ วิเศษจริงๆ สมแล้วที่ลูกเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมที่พ่อสร้างขึ้นไว้ ทั้งๆที่พ่อไม่แน่ใจว่า ลูกจะรับกับพลังที่พ่อมอบให้หรือเปล่าน่ะ" ไวซ์ไมเซลตบมือด้วยความดีใจ แม้ทินเหมาลีจะแปลกใจกับแขนขาที่งอกขึ้นมาใหม่ได้
              "แก เพื่อที่จะพิสูจน์สิ่งที่แกคิดนั้น ถึงกับต้องทำให้ฉันเกือบตายเช่นนี้ มันไม่น่าให้อภัยกันเสียเลยน่า" ทินเหมาลีกล่าวและซัดพลังฝ่ามืออัดใส่หน้าไวซ์ไมเซลไปเต็มๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนไว้โดยเร็ว พร้อมกับคว้าทวนมาต่อกรกับไวซ์ไมเซลที่ควบคุมปีกดาบเข้าฟาดฟันไว้
              "ไม่น่าให้อภัยเลยหรือ ลูกต้องขอบคุณพ่อด้วย ที่แสดงพลังอีกด้านหนึ่งไว้ แต่ แย่หน่อย เพราะถึงลูกจะรักษาบาดแผลที่หายไปได้เร็วพอๆกันกับงอกแขนขากลับมาใหม่ได้ แต่ถ้าหัวใจกับสมองลูกโดนเล่นงานก่อน ลูกก็ไม่รอดด้วยเช่นกัน" ไวซ์ไมเซลทิ้มปีกดาบทั้งหมดเพื่อจัดการกับทินเหมาลี แต่... "หวับบบบ ป้ากกกก" กริมเบอรี่ตวัดเตะท่อนขาไร้กระดูกเข้าฟาดใส่ไวซ์ไมเซลไปเต็มๆหนึ่งดอก จนตัวปลิวกระเด็นไปเต็มๆ แต่ก็ยังลุกขึ้นมาทำซ่าได้อยู่ "โอ้ว สุดยอดจริงๆเลยน่ะ กริมเบอรี่ ลูกคนที่แปด แรงเตะที่เสริมด้วยกล้ามเนื้อแบบเดียวกับของฟันดิวเรค เพื่อให้รับกับกระดูกที่แปรเปลี่ยนได้ของลูกนั้น แม้จะแรง แต่ก็ไม่พอที่จะหยุดพ่อไปได้หรอกน่ะ" แล้วก็บุกเข้ามาเพื่อชกใส่ตรงหน้าอกหวังจะทุบซี่โครงให้แตก "หมับบบบบ" แต่กริมเบอรี่มือไวและใช้แขนที่บิดท่อนกระดูกครึ่งท่อนล็อกแขนพร้อมกับ "กร็อบบบบ" บิดหักแขนซ้ายของไวซ์ไมเซลจนหัก แล้วก็... "ป้ากกกก" เตะเจาะยางต้นขาขวาไปเต็มแรงจนทำให้ไวซ์ไมเซลถึงกับทรุดไปอย่างจังๆ
              "แต่สิ่งที่แกทำกับอาเจ้แบบนั้น ยิ่งทำให้ฉันอยากจะเล่นงานแกให้คอหักไปข้างหนึ่งเลยน่ะ" กริมเบอรี่บอก
              "ถึงจะหักคอพ่อได้ แต่ลูกๆเองก็ไม่มีทางรอดแน่นอน" ไวซ์ไมเซลกล่าว และควบคุมให้ไวซ์แลงค์รีบมาช่วย แต่... "ฟ้าววว ปั้กๆๆๆๆๆๆ" เซเทธพุ่งเข้ามาขวางพร้อมกับรั่วถีบใส่ไวซ์แลงค์ที่ใช้ปีกดาบรั่วแทงตั้งรับไว้ โดยที่ฟันดิวเรคเข้ามาช่วยด้วย "อาต้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" การยืดหมัดทั้งสองรั่วต่อยใส่ตามไปอีกที แม้จะหลบลูกถีบและพลังฝ่ามือไปได้ ไวซ์แลงค์ก็ต้องใช้ปีกดาบเข้า "ครี้งงงงง โครมมม" ฟันใส่ก้อนหินที่ทอฟคานิคซัดเข้ามาจนแตกกระจุยไป "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว" ตามด้วยกระสุนทองแท่ง ก้อนผลึกแก้ว เพชรขนาดใหญ่ ซึ่งก็... "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" "เปรี้ยงงงง" ไวซ์แลงค์ใช้ปีกดาบฟันทำลายตั้งแต่ผลึกแก้วและทองแท่งจนกระจุย ขนาดเพชรที่ว่าแข็งสุดก็ต้องแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป
              "ย้า ย้า ย้า ย้า" โมคุโตะเลยบุกเข้าโจมตีด้วยทอนฟาเข้าใส่ไวซ์ไมเซลที่ใช้ปีกดาบต้านทานไว้ ไปพร้อมกับหมุนตัวถีบใส่ไวซ์ไมเซลไปด้วย "โมคุโตะ ลูกสาวคนที่สองและลูกคนที่ห้าของฉัน พ่อภูมิใจมากๆที่ลูกมีความแข็งแกร่งดุจชายชาตรี ถึงขั้นที่ทำให้ตัวเองมีกายที่แข็งแกร่ง แม้เพศสภาพของลูกจะเป็นผู้หญิงที่พ่อไม่อยากจะได้เพิ่มเลยก็ตามน่ะ เพราะพ่ออยากจะได้ลูกชายหกคนมากกว่า" ไวซ์ไมเซลบอก
              โมคุโตะกล่าว "เพราะอย่างงั้น แกถึงทำให้ฉันเปลี่ยนเป็นผู้ชายได้แต่เป็นเหมือนขันทีเลยสิน่ะ นั้นเป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องการเลยสักนิด เพราะเรื่องอยากจะแข็งแกร่งนั้น แม้เป็นหญิงก็ทำได้อยู่แล้ว ไม่ต้องให้แกมาทำให้สักหน่อยนิ"
              "แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะลูกยังเป็นแค่เด็กทารกแค่ 6 เดือนเอง แม้พ่ออยากจะเปลี่ยนเพศลูกไปซะ แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะอวัยวะเพศลูกเติบโตสมบูรณ์แล้ว พ่อก็เลยปรับให้ร่างกายของลูกเปลี่ยนให้เป็นเพศชายได้เองตามใจนึกอยู่แล้ว แม้นั้นอาจจะทำให้หลานที่อาจจะเกิดมากลายเป็นกระเทยหรือทอมไปเลยก็ได้น่า หึๆๆๆๆๆ" ไวซ์ไมเซลกล่าวแล้วก็บล็อกด้วยปีกดาบต้านปลายกระบอกที่โมคุโตะทิ้มเข้าใส่ไปเต็มๆ
              "ฉันหรือลูกที่เกิดมาจะเป็นยังไงก็ช่างแกเถอะน่า หมัดมังกรร่ายรำเหนือเมฆ" โมคุโตะหมุนทอนฟ่าเสยใส่ไวซ์ไมเซลไปสามดอก โดยจังหวะที่สามนั้นได้ทำให้ไวซ์ไมเซลผงะไปตามแรงฟาดของโมคุโตะเข้า แต่ก็...
              "เสร็จฉันละ" เป็นการเตรียมปีกดาบเพื่อเตรียมจ้วงแทงใส่โมคุโตะที่อยู่ในระยะประชิดและเท้าใกล้จะถึงพื้นด้วย
              "คลื่นฝ่ามือมังกรทอง" แต่บรอนเซอรูทซัดฝ่ามือพลังคลื่นอัดใส่ไวซ์ไมเซลอย่างจังๆ จนทำให้อุ้งดาบมารของมันเสียหลักไปด้วย และ... "เปรี้ยงงงง" โดนโมคุโตะถีบขาคู่ส่งมากองตรงหน้าบรอนเซอรูทไปด้วย "ที่แกสาธยายให้น้องๆของฉันฟังนั้น คงจะรู้เรื่องแล้วสิน่ะ" บรอนเซอรูทกล่าว
              ไวซ์ไมเซลกล่าว "โอ้ว บุตรคนโตของฉัน ลูกชายคนแรกที่ฉันภูมิใจและตั้งความหวังว่าจะสืบทอดทุกอย่างที่ฉันมีให้กับเจ้าดูแลไว้ แม้ว่าเจ้าในตอนนี้จะต่อต้านฉันที่เป็นพ่อแท้ๆเลยก็ตาม" แล้วก็บุกเข้ามาใช้ปีกดาบฟาดฟันและทิ้มแทงใส่บรอนเซอรูทที่ใช้กระบองสองท่อนหวดฟาดอย่างรวดเร็ว "พลังมังกรที่อยู่ในตัวเจ้านั้น ไม่ควรนำมาใช้กับข้าเลยน่า"
              "พลังมังกรนะหรือ มังกรฝรั่งแบบเดียวกันกับนักรบครอสตรีมขี่กันนะหรือ หรือว่ามังกรจีนกันแน่น่ะ" บรอนเซอรูทกล่าว
              ไวซ์ไมเซลบอก "มังกรจีนอยู่แล้วละ หลังจากที่สร้างมังกรตะวันตกเสร็จแล้ว ฉันกะจะสร้างทั้งมังกรจีนและพระยานาคขึ้นมา แต่ขุนพลครองคอร์ดเห็นว่ามันเกินจำเป็น เลยระงับโครงการสร้างไว้ แม้ฉันจะสร้างมังกรจีนขึ้นมาตัวหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ก็จำต้องทำลายทิ้งไปด้วยมือตัวเอง ซึ่งฉันก็ตัดสินใจ ลองใช้ยีนของมันเข้าไปในร่างของลูกตอนเป็นทารกไว้ และมันก็ได้ผลเสียด้วย เพราะต่อหน้าพ่อนั้น ลูกก็คือมังกรจีนที่ทรงพลังที่สุดกันยังไงละ" แล้วก็ถีบบรอนเซอรูทให้ล้มพร้อมกับชกใส่ แต่บรอนเซอรูทตั้งหลักได้ไวและซัดฝ่ามือโต้กลับไปโดยเร็ว "แต่เพราะพ่อกลัวว่าลูกจะควบคุมตัวเองไม่ได้ พ่อเลยฝังแทคควบคุมสติไว้ ซึ่งทีแรก พ่อกะจะใส่โปรแกรมควบคุมสมองไปด้วย น่าเสียดายที่แม่ของลูกตัดหน้าพ่อไปได้เสียก่อนน่ะ"
              "เพราะว่าแกคิดสร้างฉันให้เป็นหัวหน้าควบคุมพวกน้องๆและเชื่อฟังคำสั่งของแกโดยไม่มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่แกสั่งให้ทำสิน่ะ แต่แย่หน่อย ที่คุณแม่คงจะรู้ทันความคิดของแก เลยพาพวกเราไปให้ไกลๆแกเลยสิน่ะ" บรอนเซอรูทกล่าวพร้อมกับเปลี่ยนกระบองสองท่อนเป็นพลองยาวเข้าฟาดปัดใส่ดาบปีกของไวซ์ไมเซลไว้ "แต่การที่แกควบคุมแม่ให้ทำตามคำสั่งของแกเช่นนี้และใช้ให้มาสู้กับเรานั้น มันเป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้อยู่แล้วละ" บรอนเซอรูทกล่าวพร้อมกับทิ้มพลองเข้าตาซ้ายของไวซ์ไมเซลไปเต็มๆ แล้วก็ "อาโจ้ว อาโจ้ว โว้ววว วาช้าก" ชกใส่หน้าไปสองทีก่อนจะเตะเสยปลายคางให้ปลิวขึ้นฟ้า แต่ไวซ์ไมเซลเบรคตัวเองกลางอากาศและ "เปรี้ยงๆๆๆๆ" สาดพลังสายฟ้าอัดใส่พวกบรอนเซอรูทไปอย่างจังๆ
              ไวซ์ไมเซลบอก "และพวกแกก็ทำให้ข้าผิดหวังเช่นนี้ ข้าก็เอาพวกแกไว้ไม่ได้เช่นกัน"

              "แว้งงงงงง" ฉับพลัน ยอดปราการก็ส่องแสงฉายภาพโฮโลแกรมของโครเต้ไว้ ซึ่งพวกครอสตรีมก็รีบหยุดมือ เช่นเดียวกับไวซ์ไมเซลและไวซ์แลงค์ด้วย "เอชมาสวาร์ทาร์ เจ้ากับพวกเวเซอร์และกองกำลังสหพันธมิตรร่วมมือกับแทแรนเซียมาขัดขวางการคุกคามของข้าเช่นนี้ ข้าคงจะปล่อยให้เจ้าตายไม่ได้กันแล้วละ" โครเต้บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แปลว่า นายคิดจะตรึงฉันให้อยู่ในป้อมปราการ เพื่อที่นายจะดวลกับฉันเลยสิน่ะ"
              "ใช่ เพราะในเมื่อเจ้าปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าข้าไปแล้ว ดังนั้น ข้าจะดวลกับเจ้าด้วยกฎราวนด์ดูอัลกันเดียวนี้แหละ" โครเต้บอก
              เฟอคาน่ากล่าว "ทะ ท่านโครเต้ ท่านคิดจะดวลกับมาสวาร์ทาร์นะหรือ แต่ แต่ว่า..."
              "ไม่มีแต่ เฟอคาน่า การดวลครั้งนี้จะชี้ขาดในชัยชนะระหว่างพวกเราและพวกมันไว้ ดังนั้นขอให้ทุกๆคนหยุดมือกันเดียวนี้ แม้กระทั่งเจ้าสองตนด้วย ไวซ์ไมเซล ไวซ์แลงค์" โครเต้กล่าว ไวซ์ไมเซลได้ฟังก็ไม่สบอารมณ์ โครเต้เลยหันมาถาม "เอชมาสวาร์ทาร์ เจ้าไม่มีทางปฏิเสธการดวลแล้วละน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ปฏิเสธนะหรือ หึ ฉันตั้งใจจะสู้กับนายอย่างเต็มที่เองนี้แหละ"
              "ถ้าเช่นนั้นก็..." โครเต้ชูนิ้วพร้อมกับ "แวบบบบบบ" ป้อมปราการยิงลำแสงเข้าใส่มาสวาร์ทาร์และดึงตัวเข้าไปในปราการกันแล้ว พร้อมกับฉายภาพภายในห้องโถงกันด้วย "ในระหว่างการดวลด้วยราวนด์ดูอัลนั้น จะไม่มีการต่อสู้อื่นใดเกิดขึ้นกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ตาม ฝ่ายนั้นจะต้องถูกทำลายกันในภายหลังนี้เองแหละ" โครเต้บอกโดยที่มาสวาร์ทาร์ปรากฎตัวตรงปากทางเข้าด้านนอกแล้ว มาสวาร์ทาร์เลยวิ่งไปตามทางที่ไฟสว่างส่องนำทางมาจน...ถึงหน้าประตูใหญ่เอาไว้ "ครืดดดดดด ตรึงงงง" ประตูใหญ่นั้นเปิดออกโดยเป็นห้องโถงที่มีลานประลองทรงกลมอยู่กึ่งกลางห้องที่ขอบรอบนอกนั้นเป็นช่องว่างระหว่างเวทีดวลกับอัฒจันทน์ที่ปราศจากเหล่านักรบครอสตรีมกันแล้ว
              "สมแล้วที่นายยังละเว้นความแค้นที่มีต่อแทแรนเซียเพื่อมาดวลกับฉันตรงๆกันเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอกโดยก้าวเดินมาที่ลานประลอง สะพานที่เชื่อมต่อนั้นก็หดตัวไปอย่างทันควัน
              "เรื่องแทแรนเซีย ฉันจะจัดการหลังจากที่ชนะนายลงได้นี้แหละ" โครเต้บอก พร้อมกับโดดจากอัฒจันทน์เบื้องสูงลงสู่ลานประลอง "แว้งงงง" รอบเวทีสร้างกำแพงพลังครอสเซียมล้อมรอบขึ้นมา "แม้ว่าฉันจะมีตำแหน่งสูงสุดในการสั่งการพวกพ้องให้ทำตามคำสั่งได้ แม้กระทั่งสั่งให้ไปโจมตีหรือกวาดล้างแทแรนเซียให้สิ้นซากไปเลยก็ตาม โดยตำแหน่งนั้นฉันได้รับมาเพราะมีฝีมือและความสามารถทัดเทียมกว่านาย โดยที่นายน่าจะมีโอกาสนั้น แต่กลับมอบโอกาสให้ฉันแทนแบบนั้น ซึ่งฉันไม่อยากจะขอบคุณนายในเรื่องนี้เลย" โครเต้เล่าความในใจให้ฟัง
              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะ นายคิดว่าฉันสมควรเป็นแม่ทัพใหญ่นะหรือ ผิดแล้วละ โครเต้ ถ้าฉันยังดื้อดึงจะเอาตำแหน่งจากนาย เพราะกลัวว่านายจะใช้อำนาจดังกล่าวไปแก้แค้นตามที่แม่ทัพอาทรัสเตอร์ว่าเอาไว้ละก็ นายที่มีแรงแค้นผลักดันเป็นทุนเดิมก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้นมา ดังนั้น ฉันจำต้องสละตำแหน่งและละทิ้งโอกาสนั้นให้นาย แม้นั้นจะทำให้นายได้ใจมาจนถึงบัดนี้ และทำให้ครอสตรีมเหลวแหลกยิ่งกว่าแอตแลนไทซ์ด้วยน่ะ"
              "นายได้เห็นความทุเรศทุรังของเกซเฟลิคและพวกกับตาแล้วสิน่ะ หึๆๆๆ แต่ก็ช่างเถอะ เพราะแม้ฉันจะได้ตำแหน่งเดิมของท่านอาทรัสเตอร์มา แต่ฉันไม่รู้สึกภูมิใจเสียเลย ไม่ใช่เพราะว่า ฉันคิดที่จะบีบบังคับนายให้ทำอย่างงั้นหรอก" โครเต้กล่าวและชี้มาที่มาสวาร์ทาร์ "แต่ฉันจะรู้สึกภูมิใจมากกว่านี้ หากฉันสามารถโค่นนายลงไปได้นี้แหละ ซึ่งนายก็ทำให้ฉันมีเหตุผลที่จะสู้กับนายอย่างไม่ต้องลังเลใจใดๆทั้งนั้นแล้วน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "จะบอกว่าเพราะการทรยศของฉัน ทำให้นายมีโอกาสที่จะสู้กับฉัน ซึ่งนายจะรู้สึกภาคภูมิใจมากที่นายสามารถชนะฉันลงได้ด้วยตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่านายคู่ควรกับตำแหน่งของแม่ทัพอาทรัสเตอร์ละสิน่ะ"
              "ถูกต้อง แม้ว่าฉันจะต้องเสียพวกพ้องไปไม่น้อยเลยก็ตาม แต่ การดวลครั้งนี้แหละ ที่จะตัดสินว่า ใครกันแน่ ที่เป็นยอดนักรบครอสตรีมที่แข็งแกร่งที่สุด ในฐานะตัวแทนของท่านอาทรัสเตอร์ บิดาของครอสตรีมและปรมาจารย์ที่สอนสั่งทุกอย่างให้เราสองคนไว้น่ะ" โครเต้กล่าวและชักดาบครอสเซียม สไครเดอร์ซอร์ดออกมา
              มาสวาร์ทาร์บอก "ฉันเข้าใจเจตจำนงของนายแล้วละ โครเต้ นับแต่การดวลครั้งก่อนที่ลงท้ายด้วยการเสมอกันนั้น ทำให้นายไม่พอใจตัวเองและฉันที่ดันมีฝีมือและพลังเท่าเทียมกัน ทั้งๆที่นายเองก็มีพลังกล้าแกร่งกว่าที่ฉันเป็นอยู่ โดยที่ฉันเองไม่ทราบเรื่องนี้เลยก็ตาม" แล้วก็ชักดาบมาสวาร์ทาร์เบลดออกจากฟักพร้อมกับโยนลงกลางเวทีไว้ "แต่ในเมื่อฉันกับนายต่างมีพลังที่ทัดเทียมกันแล้ว การดวลของนายก็ถือว่าพร้อมทุกฝ่ายไปแล้วละ"
              "นายคงจะเตรียมใจที่จะสู้กับฉันอย่างเต็มที่สิน่ะ มาสวาร์ทาร์ ถ้าเช่นนั้น คนที่ยืนหยัดเป็นคนสุดท้ายคือผู้ชนะกันน่ะ ดาบมือหนึ่งผู้ทรยศต่อครอสตรีม เอชมาสวาร์ทาร์" โครเต้บอกและชูดาบไปข้างหน้า
              มาสวาร์ทาร์กล่าวและตั้งท่าดาบไว้ "แพ้ชนะ ขึ้นกับการดวลครั้งนี้แล้ว เข้ามาเลย แม่ทัพครอสตรีม โครเต้ สไครเดอร์"
              "ก้องงงง ก้องงงงง เกร้งงงงง ก้องงงงงงง ก้องงงง เกร้งงงง ก้องงงงง" เสียงระฆังดังขึ้น เฟอคาน่าบอก "การดวลราวนด์ดูอัลได้เริ่มขึ้นแล้ว"
              พีวิลได้ฟังก็บอกไปว่า "มาสวาร์ทาร์ พวกเราเชื่อเสมอว่านายต้องชนะอย่างแน่นอน"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×