ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 11 นครลอยฟ้าถึงคราววิกฤต ศึกตัดสินระหว่างรุ่นน้องและรุ่นพี่ บทศึกเหนือฟ้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 31
      0
      10 ก.ย. 64

              ณ.กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย หนึ่งในกลุ่มประเทศพันธมิตรเอเชีย ที่อยู่ในเขตสนามพลังอธิปไตย ซึ่งในเวลานี้
              "โครมมมมมม ตรึงงง ตรึงงงง โครมมมม ตรูม บรึมมมม" พวกลูนาสตี้แห่แหนมาด้วยกำลังพลเดินเท้าและเครซเดรทจำนวน 10 เครื่องเข้าโจมตีใส่ผู้คนในเมืองอย่างหนักหน่วง กองกำลังตำรวจและทหารรีบรุดเข้ามาเพราะศัตรูได้ปรากฎตัวเข้ามาในเมือง ทั้งๆที่พวกเขากางสนามพลังป้องกันไว้แล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล "แชดดดดด ตรูมมมม บรึมมม" เครซเดรทยิงปืนแสงถล่มใส่กองรถถังที่มุ่งหน้ามาจนระเบิดวินาศสันตะโร พวกแมนิเกเตอร์เองก็บุกเข้าสร้างความเสียหายกัน จนกระทั่ง... "แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง" โมบิลลอยด์บินได้ 4 ตัวพร้อมกับแพนเซสเซนไนน์โผล่มาใกล้กับตึกแฝดอันเป็นเทรดมาร์คของเขตเมือง ตรงดิ่งมายังเครซเดรทที่หันมาเห็นเข้า "บะ บ้าน่า กองกำลังกบฎโผล่มาได้ไง ในเมื่อพวกเรา...." เซนเครูทกล่าว โมบิลลอยด์บินได้ที่มีเอกลักษณ์ของสตรัลทรอนและมัคซ์ออนยิงปืนแสงเข้าใส่เครซเดรทจน "ป้ากกกก" ปืนแสงยิงทะลวงลำตัวซีกขวาและแขนขวาจนแหลกกระจุยพร้อมกับระเบิดกลางอากาศไป
              "ได้ผลจริงๆด้วยน่ะ ปืนลำแสงแบบเดียวกันกับฟาลครีด้ายิงได้แรงมากจริงๆ" บัลโต้ที่ควบคุมหุ่นภาคอากาศตัวใหม่รหัสอาร์ชโทรนสีแดงสลับเหลือง โดยที่อีกสามตัวนั้นเป็นสีเทาสลับแดงไป
              "เรย์แซทไรเฟิ่ลอันนี้ใช้อย่างระวังหน่อยนะครับ เพราะว่ามันเป็นรุ่นปรับขนาดให้หุ่นทั่วไปใช้กัน เลยต้องตัดทอนระบบยิงบางอย่างออกไปด้วยนะครับ" เบย์แทนด์ติดต่อเข้ามา
              บัลโต้บอก "มันก็จริงอยู่น่า ที่เราสร้างเอลเวนท์ไดน์ไว้ แต่ทำไมต้องสร้างอีกแบบออกมากันด้วยว้า ไม่ค่อยเข้าใจเลยน่ะ"
              "เอลเวนท์ไดน์ที่นายควบคุมอยู่นี้ มันเน้นตะลุมบอนคลุกวงในเท่านั้นเองวะ ไม่ได้เน้นใช้งานอาวุธปืนเหมือนกับการ์เซนท์และเมทัลแล็กซ์เสียหน่อย แถมระบบการเปลี่ยนฟอร์มนั้นก็ไม่เร็วกว่าที่คิดไว้ เลยสร้างไทป์แอชเกรย์ไดน์ขึ้นมาช่วยนายอีกแรงหนึ่งวะ" ด็อดเจอร์กล่าว โดยหมายถึงอาร์ชโทรนอีกสามตัวไว้
              "เออ ตอนนี้พวกลูนาสตี้บุกเข้ามาแล้วละคะ" มิลด์บอก โดยเธอจัดการใช้อินฟราเรดบีมยิงสาดใส่พวกสมุนลูนาสตี้ที่อยู่ภาคพื้นไว้
              "ช่วยไม่ได้แล้ว เบอร์หนึ่งถึงสาม ส่งกำลังพลลงมาเดียวนี้เลย" บัลโต้เลยให้อาร์ชโทรนแอชเกรย์ไดน์ลงพื้นนำพวกหน่วยทหารชุดหุ่นยนต์ลงมา "ตรึงๆๆๆๆๆๆ โครมมมม ป้ากกกก เปรี้ยงงงงง ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กลุ่มหนึ่งระดมอัดใส่เกรมฮอร์ทที่บุกมาด้วยแขนอันใหญ่โตด้วยกำปั้นกำลังสูงอัดใส่หน้ากากของเกรมฮอร์ทจนร่วง "ว้ากกกกก" ทหารชุดหุ่นยนต์กระโดดสูงพร้อมกับพุ่งลงมาถีบใส่เกรมฮอร์ทที่โดดสูงแต่ไม่สูงเท่าจนร่วงลงไปอัดกับรถพ่วงจนกระเจิง อีกกลุ่มหนึ่งกราดยิงปืนกลหนักติดกระสุนพิเศษเข้าใส่เบทชอนและเซนเครูทจนแดดิ้นลงไป "อาร์คช็อคเกอร์" มิลด์เปิดนำด้วยการยิงเครซเดรทสองตัวให้ช็อตแน่นิ่งไป เพื่อให้... "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ แชดดดด แชดดดด" อาร์ซโทรนเกรย์แอชไดน์สองตัวยิงนำด้วยไมโครมิไซล์เข้านำและเรย์แซทไรเฟิ่ลไทป์แอลแบบยิงลำแสงพิสัยไกลทะลวงใส่เครซเดรทสองตัวจนร่วงไป เหลืออีก 7 ตัวที่บุกเข้ามาด้วยดาบแสงมูนพลาสม่าซอร์ด "ว้ากกกก" ทหารอีกคนที่ควบคุมอาร์ซโทรนแอชเกรย์ไดน์ตัวที่สามใช้ลองค์พลาสม่าซอร์ด "หวืมมมมม ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ" ฟันใส่เครซเดรทพังไปตัวหนึ่งด้วยความยาวของดาบที่ยาวกว่าปกติจนสับแขนและขาขาดไป โดยที่มิลด์บินลงมาใช้อาร์มมิคไนฟ์ฟันเข้ากลางหลังจนเสยเครื่องยนต์ที่อยู่หลังหัวไหล่พังไปข้าง "ว้ากกกกก" บัลโต้บุกเข้าโจมตีด้วยดาบพลาสม่าซอร์ดขนาดใหญ่ และ... "หวืมมมม ฉับบบบ โช๊ะ" ผ่าขาดเครซเดรทขาดสะบั้นโดยเห็นเซนเครูทควบคุมอยู่ภายใน
              "บะ บ้าน่า ดาบของมันแรงกว่าเลยหรือ อ้ากกกกกก" เซนเครูทกล่าวก่อนที่ร่างจะถูกผ่าขาดสองท่อนและแดดิ้นไปกับหุ่นเครซเดรทของตนเข้า แต่อีกสี่ตัวบุกเข้ามายิงสาดใส่ไปอีก บัลโต้เลยโยกคันโยกด้านซ้ายเข้า "แกร็ก" ส่วนแขนซ้ายเอลเวนท์ไดน์ของตนปลดล็อกออก และ...
              "เจอหมัดจรวดหน่อยสิฟะ บูสเตอร์ฟิสท์" ซัดส่วนแขนซ้ายที่ติดเครื่องไอพ่นความเร็วสูงพุ่งเข้าใส่ "ป้ากกกกกก" จนเสยแขนขวาของเครซเดรทตัวหนึ่ง แล้ววกกลับมา "ฟ้าวววววว เปรี้ยงงงง" ชกใส่หลังหัวจนทะลุไปเต็มๆ เปิดช่องให้มิลด์สอยยิงด้วยมาสแตงค์ไรเฟิ่ลซ้ำจนระเบิดไป โดยที่เครซเดรทที่เหลืออีกสามตัวนั้น "แชดดดด แชดดดด แชดดดด" โดนแอชเกรย์ไดน์สามตัวยิงทิ้งลง แล้วก็... "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงปืนกลคู่ที่แขนทั้งสองข้าง ช่วยกองรบชุดหุ่นยนต์ถล่มพวกลูนาสตี้จนแดดิ้นลงไปไม่น้อย "ว้าว มุขหมัดจรวดนิ มันดีแบบนี้เองหรือวะเนี้ย ฮะๆๆๆ" บัลโต้กล่าวอย่างสะใจไม่น้อย

              ในวันต่อมา ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ อีกหนึ่งประเทศที่ยังหุ้มบาเรียไว้อยู่
              "ย้า..." สเปียริทบุกเข้าปะทะกับพวกเบทชอนจนแดดิ้นลงด้วยหอกสเปียริทแลนซ์ไป แต่ก็รีบหลบออกมาเพราะเบทชอนอีก 15 ตนและโฟรน่าระดมยิงไกลลงมาจากตึกสูงอยู่ "นึกหรือว่าฉันจะโดดไปไม่ถึงกันน่ะ" สเปียริทเลยกระโดดขึ้นไปยังตึกสูงอย่างรวดเร็วโดยที่พวกเบทชอนเองยังเหนี่ยวไกไม่ทัน จนโดดขึ้นมาอยู่สูงกว่าเบทชอนที่ตึกหลังหนึ่งไว้ "ฟิ้วๆๆๆๆ" แล้วก็ยิงธนูแสงลงมาเล่นงานเบทชอนร่วงไป 2 จาก 5 ตัวไว้ แต่พวกนั้นบุกเข้าใช้หัตถ์ความถี่สูงเข้าฟาดฟันใส่ จนสเปียริทต้องถอยออกมา "ดิสคัสเซอคูล่าแลนซ์" กระโดดหมุนควงหอกเข้าใส่เบทชอนที่ลอยอยู่จนถูกฟันใส่ไม่ยั้งแล้วก็ "ป้ากกก" ฟาดเบทชอนให้ร่วงลงกับพื้นไป แต่อีกสองตนบุกเข้ามาและ... "ฟ้าววว หมับๆ" ใช้แส้มัดใส่หอกไว้ แม้จะไม่สามารถดึงหรือกระตุกหอกให้หลุดจากมือสเปียริทไปได้เลย เปิดช่องให้... "แกร็ก ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้เพคชู้ตเตอร์ยิงใส่เบทชอนให้แดดิ้นลงไปสองตัว จากนั้นก็รีบวิ่งหลบการโจมตีจากตึกฝั่งตรงข้าม แล้วก็... "ย้า" วิ่งไปแบบสุดแรงเกิดพร้อมกระโจนข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม โดยที่เบื้องล่างนั้น พวกทหารกบฎใช้ปืนเลเซอร์ยิงใส่พวกลูนาสตี้ที่ออกอาละวาดไปทั่วกันแล้ว ซึ่งพวกเขาได้ใช้โลห์พลังงานป้องกันลำแสงไว้ บางคนยิงปืนช็อตไฟฟ้าแรงสูงอัดใส่พวกเซนเครูทไปด้วย "นี้แน่" สเปียริทกระแทกโลห์อัดใส่เบทชอนจนกระเด็นตกตึกไปสองและอัดกับส่วนประตูเข้าไปยังบันไดอย่างจังๆ พร้อมกับกราดยิงใส่เบทชอนด้วยเพคชู้ตเตอร์ร่วงไปสองตัว โฟรซ่าเลยวิ่งเข้ามา "ปังๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำยิงเดริงเจอร์แมกนั่มเข้าใส่ จนสเปียริทวิ่งหลบพร้อมกับสวนกลับด้วยปืนไป
              "ใช้ปืนได้หรือ แต่คงไม่มีทางโดนหรอก" โฟรซ่ากล่าวและกระหน่ำยิงใส่ แต่สเปียริทหมุนควงหอกอย่างรวดเร็วต่างโลห์ป้องกันเอาไว้ แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่โฟรซ่าที่ตีลังกาหลบหลีกกระสุนที่ยิงใส่ไว้ จนโฟรซ่าบุกเข้ามาพร้อมกับไขว้แขนโจมตีใส่ "เกร้งงงงง" แต่สเปียริทหยิบมีดดาบของเบทชอนที่ติดมือมาและประกอบเป็นมีดดาบสองคมเข้า และปะดวลกันอย่างหนักหน่วงจนทหารกบฎเอาชนะพวกลูนาสตี้ไปได้ "หึ เธอชนะศึกนี้ไปได้น่ะ แต่ต่อจากนี้พวกเราจะเล่นหนักกว่านี้กันน่ะ" โฟรซ่ากล่าวพร้อมกับถอนตัวไป
              สเปียริทบอก "ถ้าเป็นงั้นจริง ฉันรอรับมือกันได้เลย"
              อีกด้านหนึ่ง ที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่จนมีเขตเมืองสำคัญอยู่ในสนามพลังปกป้องอธิปไตยอยู่ไม่น้อย ซึ่งพวกลูนาสตี้เองก็ออกอาละวาดด้วยเช่นกัน
              "พวกเราเข้าไปหยุดยั้งพวกลูนาสตี้กันที่จตุรัสเทียนอันเหมินแล้วละ" ฟาลเคน่อนกล่าวโดยร่วมมือกับพวกบีสทอยด์แมลงต่อกรกับพวกลูนาสตี้ที่ขนพวกสัตว์ประหลาดมาอยู่เหนือจตุรัสเทียนอันเหมิน โดยที่ฟลาแน็กซ์ มัลแด็กซ์และบีทเทมร่วมมือกับพองเพื่อนรวมเผ่าพันธุ์สู้กันบนหลังคาตึกเก่าและตึกใหม่กันอย่างอุตลุต แม้กระทั่งพระราชวังต้องห้ามเองก็กลายเป็นสนามต่อสู้ระหว่างแมนิเกเตอร์ไทป์แมลงกับพวกมนุษย์ดัดแปลงจากดวงจันทร์ ที่เซียงไฮ้อันเป็นถิ่นเจ้าพ่อดุเอง ที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นสนามรบสำหรับพวกอังยี่มาเฟียจีนแล้ว แต่พวกบีสทอยด์เลื้อยคลานกับพวกสัตว์ใหญ่เข้าโรมรันใส่พวกเซนเครูทและเกรมฮอร์ทกันอย่างหนักหน่วง ด้านพวกบีสทอยด์เสือกับสิงโตต่อกรกับพวกลูนาสตี้กันกลางเมืองมาเก๊า ฮ่องกงเองก็เป็นลานต่อสู้ของพวกบีสทอยด์หมาป่า กวาง และหมีเช่นกัน ซึ่งกองรบทั้งหมด มาสวาร์ทาร์กับพลัสเชอริทเป็นคนนำ โดยทั้งคู่อยู่บนหลังคาพระราชวังต้องห้ามสู้กับ "เคร้งงงง เชร้งๆๆๆๆๆ" แดนเจอรอทที่ใช้กงเล็บดาบหกเล่มกันอยู่ มาสวาร์ทาร์โดนแดนเจอรอทกดดาบให้ล้ม แต่... "ป้ากกก" มาสวาร์ทาร์ถีบแดนเจอรอทออกไปพร้อมกับซัดเรซเซอร์เอดจ์เข้าใส่ แดนเจอรอทเลยหลบออกมา "ฟ้าวๆๆๆๆ แกร้ง เกร้ง เกร้งงง" พลัสเชอริทเลยพุ่งด้วยความเร็วสูงโจมตีใส่แดนเจอรอท แต่ปีศาจหน้ากากจมูกยาวป้องกันด้วยกงเล็บเอาไว้ "เหอะ พวกแกยังหวั่นเกรงต่อข้าอย่างมากละสิ" แดนเจอรอทพูดเยาะเย้ยไปพร้อมกับฟาดฟันใส่มาสวาร์ทาร์ไปด้วย
              "ฉันไม่ได้กลัวเกรงอะไรแกหรอก ก็แค่...ระมัดระวังในการต่อสู้เท่านั้นแหละ" แล้วก็ตวัดดาบเข้าฟาดฟันใส่ดาบกงเล็บจนหักไปสี่เล่มด้วยกัน
              "แผนการเข่นฆ่าชาวจีนด้วยยาพิษในตอนนี้ไม่มีทางสำเร็จไปได้หรอกน่ะ" พลัสเชอริทกล่าว เพราะว่าตอนนี้พวกเฮเรเค้นแยกย้ายกันไปทำลายระเบิดสารพิษเอาไว้แล้ว
              แดนเจอรอทได้ฟังก็กล่าวไปว่า "ถึงคราวนี้พวกแกจะหยุดยั้งไปได้ แต่หนที่สอง พวกแกหยุดไม่ทันแน่นอนเลยละ หึๆๆๆๆๆๆ" แล้วก็ถอนตัวไปเมื่อทราบว่ากองรบทั้งหมดเสียเปรียบอย่างมากแล้ว

              ไม่กี่วันต่อมา ที่ญี่ปุ่น ประเทศบ้านเกิดของมาสวาร์ทาร์ กลางกรุงโตเกียว
              "แชดๆๆๆๆๆๆ" เครซเดรท 20 เครื่องมาพร้อมกับสกายล็อตและไพโอล็อตบุกเข้าโจมตีใส่กองรบโมบิลทรูปเปอร์ทั้งเจ็ดแบบ ซึ่งผ่านการดัดแปลงและคัสตอมไมซ์มาเพื่อรับมือกับฝ่ายรุกรานจากดวงจันทร์ แต่ก็... "หึ หลงคิดว่าเป็นประเทศแห่งต้นแบบเทคโนโลยี่สร้างมนุษย์แปลงจากข้อมูลฮีโร่ที่ท่านเทคไครด์ได้มา นึกว่าจะแน่ ไม่เห็นเก่งตรงไหนกัน" สกายล็อตกล่าว โดยให้เครซเดรทแล่นลงเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะโอไดบะ แต่... "ฟ้าวววว ฉั้วะ" มาสวาร์ทาร์นำลอร์ดวาทรัลโผล่มาฟันใส่เครซเดรทจนแดดิ้นลงไป ตามด้วย... "แว้ง แว้ง แว้ง ซ่า แว้งงงง แว้งๆๆๆ" คอสทารอนไซน์เกน อัลติเมทเอท และฟาลครีด้าของสเปียริทก็ออกมา ส่วนเฮฟโวลของคลอเวฟเทเลพอร์ตมาจากใต้ทะเลเลยโผล่ขึ้นจากน้ำขึ้นมา "แชดดด แชดดดด" "ตรูม บรึมมม" พีวิลเปิดนำด้วยอีเนลเซียมไรเฟิ่ลยิงสอยเครซเดรทไปเครื่องหนึ่ง ส่วนสเปียริทก็ยิงเรย์แซทแคนน่อนแบบระยะไกลเข้าสอยเครซเดรททะลุและระเบิดกลางอากาศไป จนเครซเดรทสามตัวที่อยู่เหนือพื้นน้ำบุกเข้าโจมตีด้วยมูนพลาสม่าซอร์ด "ฟ้าววววว ฉั้วะ ฉับ" ไกซ์ฟาดโซลิดเบลดฟันใส่เครซเดรทร่วงไปสองตัว ทั้งๆที่ทั้งสองตัวใช้สนามพลังมูนพลาสม่าฟิลด์ป้องกันไว้ ด้านคลอเวฟเองก็ "ป้ากกก เปรี้ยงงงงงง ป้ากกกกก จึกกกก ป้างงงง" ใช้ไฮโดรควอดเดนชกทำลายสนามพลังของเครซเดรทแตกกระจุยไป แล้วก็ชกซ้ำจนหมุดพลังไฮโดรฟอสปักกลางลำตัวและยิงตอกส่งออกไปจนระเบิดเป็นจุลอย่างจังๆ ไพโอล็อตคิดจะยิงใส่เฮฟโวล แต่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไกซ์กราดยิงไล่ไพโอล็อตให้บินไปไกลๆ จนสกายล็อตยิงห่ามิไซล์เข้าใส่ แต่ไกซ์รีบถอยออกมาจนมิไซล์ระเบิดเป่าทะเลไป "ฟ้าววว แคร้ง เคร้งๆๆๆ" เครซเดรท 4 ตัวที่บุกโจมตีในระยะประชิดก็ถูกมาสวาร์ทาร์ฟันทิ้งด้วยวาทรัลคาลิเบอร์ไป "ฟ้าวววว จึกกกก แชดดดดด" เครซเดรทป้องกันด้วยสนามพลังต้านการโจมตีของฟาลครีด้าของสเปียริทที่ใช้เรย์แซทแคนน่อนเอไทป์พุ่งเข้าทิ้มใส่สนามพลังจนปากกระบอกทะลุและเปลี่ยนเป็นโหมดเอสยิงลำแสงกระจายอัดใส่เครซเดรทร่วงกระจุยไป "ว้ากกก เปรี้ยงงงง" พีวิลชกใส่เครซเดรทจนตัวปลิวไปอัดตึกรามบ้านช่องอย่างจังๆ แม้จะไม่โดนโตเกียวโดมเลยก็ตาม
              "สู้ระวังหน่อยน่ะ พีวิล พวกเรามานี้เพื่อปกป้องเขตเมือง ไม่ได้มาถล่มให้ยับเยิ่นกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลกล่าว "เข้าใจแล้วละ เพราะอย่างน้อยฉันจะพยายามไม่ให้พวกลูนาสตี้มาถล่มเทรดมาร์คในเมืองหลวงแห่งนี้กันหรอก"

              หลังจากนั้น วันต่อมา ที่เนโอสยามเซคเตอร์ กลางเมืองกรุงเทพ ประเทศไทย อันมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังถึง 4 แห่ง แม้ว่าจะปรับแต่งจนดูล้ำสมัยยิ่งกว่าที่เห็นในศตวรรษที่ 20 กันบ้างก็ตาม ก็ไม่วายที่จะ...
              "แคร้ง เคร้งงง เคร้งงงง" พีวิลใช้เอนเนอจี้ร็อดปะทะกับสเตฟอร์ดที่ขึ้นไปบู้กันในเนโอสยามดิสคอฟเวอรี่ หลังจากที่สเตฟอร์ดพาพวกไปอาละวาดกันในห้างมาบุญครอง ห้างเก่าที่ยังเป็นอมตะมาตลอด 200 ปีเต็ม จนพีวิลพาพวกกบฎออกมาจากประตูรถไฟใต้ดินที่จามจุรีสแควร์ตรงดิ่งมาที่ห้าง จนเข้าต่อกรต่อเนื่องกันตั้งแต่ชั้นแรกผ่านสกายวอร์คข้ามสี่แยกมา "แกร้งงงงง" พีวิลฟาดตะบองแสงอัดใส่ค้อนของสเตฟอร์ดเอาไว้ แต่... "หมับบบบ ฟ้าวววว โครมๆๆๆๆๆๆ ป้ากกก ครืดดดดด" โดนสเตฟอร์ดจับเข้าที่หน้าและเขวี้ยงซัดไปทะลุร้านจนทะลุจากดิสคอฟเวอรี่ ผ่านนิวสยามเซนเตอร์จากชั้นที่สาม ทะลุออกมาตรงลานหน้าสุพรีมสยามพาราก้อน โดยที่พีวิลรีบกางขาตั้งหลักไว้ เพราะสเตฟอร์ดกระโจนข้ามฟากมา "โครมมม" หวดค้อนลงจนทำให้พื้นแตกกระจุยไป สบโอกาสให้พีวิลวิ่งเข้าใส่ "ตึกๆๆๆ ฟึ่บบบ ปึ้กก ป้ากกกก" และเหยียบตรงหัวค้อนเข้าชกใส่สเตฟอร์ดไปเต็มๆดอกหนึ่ง และ... "ป้ากๆๆๆ" ต่อยใส่สเตฟอร์ดไปสามสี่หมัด แล้วก็... "เปรี้ยงงงงง ฟ้าววววว โครมมมมม" กุมหมัดคู่อัดส่งสเตฟอร์ดกระเด็นทะลุสถานีรถไฟฟ้าระบบไร้แรงดึงดูดข้ามฟากมายังนิวสยามเซนเตอร์วันจนอัดกับเซนเครูทที่กำลังอาละวาดและเล่นงานผู้คนรวมถึงตำรวจลงไปกองกับพื้น "โท้ว" พีวิลกระโดดข้ามทางรถไฟลอยฟ้าชั้นบนสุดข้ามฟากมาฝั่งตรงข้าม โดยที่สเตฟอร์ดวิ่งตรงมา "หวับๆๆๆๆ" หวดค้อนใส่พีวิลอย่างหนักหน่วง โดยที่พีวิลกระโดดหลบหลีกไปมา แล้วก็ถีบต้นขาซ้ายเพื่อเจาะยาง แต่... "ฟึ่บบบบ" โดนสเตฟอร์ดจับขาไว้ "เสร็จฉันละ สตรัมบิทบัสเตอร์" แล้วก็โยนให้พีวิลตัวลอยและคว้าตัวลงมา "ป้ากกก" อัดกระแทกกับเข่าไปเต็มๆ แล้วก็ "ป้ากกก ป้ากกก" จับฟาดกับพื้นไปสองที แล้วก็โยนขึ้นไป แล้วก็กระโดดขึ้นจับขาพีวิลให้หัวหันลงไปที่พื้นและ "ฟ้าววววว โครมมมมมม ตรูมมม" ทิ้งตัวลงใช้ไพลไดรเวอร์จับพีวิลกระแทกพื้นจนทะลุลงมาที่ชั้นแรกไปอย่างจังๆ สเตฟอร์ดเลยก้าวเดินต่อ แต่... "โอ้ว โดนหนักขนาดนี้ยังลุกขึ้นได้เลยน่ะ ไอ้น้อง" สเตฟอร์ดพูดเพราะรู้ว่า พีวิลไม่เสียท่าให้ง่ายๆ เพราะตามตัวมีผลึกอีเนลเซียมเกาะเอาไว้ตรงแขน หัว หน้าอก ด้านหลังเพื่อรับแรงกระแทกที่ได้รับจนผลึกแหลกละเอียดไปแล้ว พีวิลเลยบิดคอไปมาเพื่อให้กระดูกคอที่เคลื่อนกลับเข้าที่เดิม
              "ดีน่ะที่เซฟการ์ดเอาไว้ แต่ยังถือว่าเจ็บไม่น้อยเลยน่า" พีวิลบอก
              "แต่คราวนี้นายต้องงอมพระรามกันซะแล้วละ" สเตฟอร์ดกระโจนเข้าใช้ค้อนทุบใส่พีวิล แต่พีวิลโพหลบออกด้านข้างจนโดนแรงทุบเป่ากระเด็นมายังสยามเซนเตอร์ปาร์คด้านในไว้ จนเหล่าวัยรุ่นทั้งหลายวิ่งกันโกลาหลและจ้าละหวั่นกัน สเตฟอร์ดกระโดดลงมากระทืบใส่ พีวิลเลยสวนกลับด้วย "ทอร์เนโดว์สไปค์" จนทำให้สเตฟอร์ดร่วงลงกระแทกพื้น แต่สเตฟอร์ดลุกขึ้นมาพร้อมกับใช้ค้อนหวดเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ทำให้พีวิลต้องถอยออกมา และ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงอาร์มชู้ตเตอร์เข้าใส่ สเตฟอร์ดเลยโดดถอยหลังและ"ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้โพริด็อดซ์กันยิงสวนไปด้วย แม้กระสุนปืนที่ทั้งคู่ยิงไปนั้นจะยิงไม่โดนเลยก็ตาม จนทั้งสองคนบุกชาร์จเข้าใส่ "ป้ากกกกก" สเตฟอร์ดถีบใส่พีวิลตรงหน้าอกอย่างจังๆ แต่พีวิลก็กระโดดเข้า "เซเคนด์สไตร์ค" เตะเสยหน้าสเตฟอร์ดไปเต็มๆ ซึ่งก็โดนสเตฟอร์ดจับขาเหวี่ยงทุ่มพีวิลให้ทะลุร้านร็อคคาเฟ่ที่อยู่ด้านหลัง "ควับๆๆๆ ฟึ่บบบบ ฟ้าววววว" แต่พีวิลทรงตัวกลางอากาศและเอาเท้ามาเหยียบตรงหน้าต่างร้านพร้อมยันส่งตัวเองพุ่งเข้า "โครมมมม" ชกใส่สเตฟอร์ดไปเต็มแรงจน "ป้ากกกก โครม" ทะลุร้านที่อยู่ใกล้ๆจนกระเด็นออกไปยังถนนข้างนอกอย่างจังๆ โดยที่พีวิลรีบรุดมาเพื่อเข้าจัดการซ้ำ
              "วิธีเดิมใช้เป็นหนที่สองไม่ได้ผลนั้น นายเป็นคนบอกเองแล้ว ยังใช้กันอยู่อีกหรือ"
              "ก็ขนาดฉันเล่นงานนายซะแบบนั้น ก็ยังมีแรงเหลือบานสิน่ะ พีวิล" สเตฟอร์ดบอก
              พีวิลกล่าว "อย่าพยายามเลยดีกว่าน่า สเตฟอร์ด สมุนของพวกนายที่บุกโจมตีสวนลุมพินีและนิวเซนทรัลเวิร์ดนั้นโดนพวกโคเคสคลี่คลายสถานการณ์ไปแล้วละ" โดยตอนนี้โคเคสและพวกกบฎที่อยู่ลานหน้าเซนทรัลเวิร์ด และเฮลิคที่อยู่ในสวนลุมพินีจัดการกับพวกลูนาสตี้ด้วยแรปิดเดเตอร์มาโรวเดอร์และอาวุธปืนพลาสม่าไรเฟิ่ลไปด้วย
              "แม้ว่าเมืองนี้จะเกิดวุ่นวายมาก่อน แต่....ถ้าเป็นนายกับพวกละก็คงจะช่วยได้แน่ๆ" สเตฟอร์ดกล่าว
              พีวิลได้ฟังก็ชะงัก "นายคงจะรู้เรื่องของโฟรซ่าเลยละสิ แม้ว่านั้น..."
              "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สเตฟอร์ดกราดยิงใส่พีวิล แต่พีวิลกางสนามพลังป้องกันไว้เพื่อมิให้กระสุนหลุดเข้ามาโดนชาวเมืองที่อยู่ด้านหลัง "....ยกนี้พวกนายชนะกันน่ะ พีวิล แต่ นายกับพวกจะยิ่งทำให้เทคไครด์กริ้วหนักกว่านี้ ศึกหน้าจะเป็นการตัดสินระหว่างพวกเรากันละ" สเตฟอร์ดกระโดดขึ้นไปยังเครซเดรทบลัสเดรทที่โฟรซ่าควบคุมมารับพร้อมกับ "แว้งๆๆๆๆ" ถอนตัวไปพร้อมกับพวกลูนาสตี้กันแล้ว พีวิลได้เห็นก็ถอดถอนใจขึ้นมา และติดต่อไปยัง... "
              โคเคส เนโอสยามเซคเตอร์เคลียร์แล้ว รีบออกไปจากนี้กันได้เลย" พีวิลกล่าวเพราะตอนนี้ ตำรวจและทหารแห่มาล้อมรอบทิศ ซึ่งก็มาผิดเวลาไปเสียได้
              "ยกมือขึ้น และยอมให้เราจับดีๆซะดีกว่า" เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว โดยตอนนี้ทั้งตำรวจและทหารใช้ระบบอินฟราเรดติดอาวุธปืนจ่อพีวิลไปแล้ว
              พีวิลยิ้มพร้อมกับบอกว่า "เออ ขอโทษด้วยที่ต้องบอกว่า สวัสดี และลาก่อน" แล้วก็กระโดดขึ้นสูงในจังหวะที่ไซน์เกนพุ่งกลางอากาศและแวบหายไปในทันที เช่นเดียวกับพวกโคเคสเองด้วย ที่เทเลพอร์ตหายไปแล้ว

    MANIGATOR SAGA The Rebellion Soldiers ภาคโลกา
    ตอนที่ 11 นครลอยฟ้าถึงคราววิกฤต ศึกตัดสินระหว่างรุ่นน้องและรุ่นพี่


              ที่ยานเดธฮาเว่น ฐานทัพของพวกลูนาสตี้ กลางมหาสมุทรแปรซิฟิก 2 สัปดาห์ต่อมา
              "เรื่องนี้มันเลวร้ายมากๆเลยน่ะ ท่านเทคไครด์" เกซิคกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "....ยุทธการแก้แค้นของท่านในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ไม่ว่าจะเป็นแผนเข่นฆ่าด้วยสารพิษ แผนส่งคนไปถล่มกลางเมืองใหญ่ ย่านการค้าที่สำคัญๆในแถบเอเชีย ยุทธการบุกยึดประเทศที่เป็นด่านหน้าเข้าสู่เอเชีย หรือแผนการต่างๆที่ท่านส่งสมุนและนักรบเทเลพอร์ตเข้าไปในเขตเมืองที่มีสนามพลังอธิปไตยคุ้มครองเอาไว้นั้น สิ่งที่เราต้องการได้ยินก็คือ ชัยชนะโดยสมบูรณ์แบบ มนุษย์ตายเรียบ พวกกบฎไม่เหลือซาก แต่เรากลับได้ยินเป็น ความพ่ายแพ้หมดรูป สมุนของท่านกลับมาน้อยนิด และพวกกบฎกำชัยกันได้นั้น ข้าต้องการคำอธิบายจากท่านสักหน่อยน่ะ"
              เทคไคร์ดบอก "จนปานนี้ข้ายังไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมพวกกบฎถึงรู้แผนการของเราและหาทางโต้ตอบกลับแผนการไปได้ซะทุกครั้ง แม้ข้าพยายามจะสอดส่องหาตัวสายลับภายในกองรบของเรา โดยเฉพาะสเตฟอร์ดและโฟรซ่า ที่ส่อแววว่าจะหักหลังข้าได้ทุกเมื่อนั้น นอกจากจะไม่เจออะไรเลย ทั้งคู่ยังรอดพ้นจากข้อสงสัยกันเสียด้วยน่ะ"
              "ถ้าให้ข้าเดา ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นความผิดของท่าน ที่ปล่อยให้รีไลฟ์เวอรี่รอดไปได้ จนให้ความช่วยเหลือพวกกบฎกำชัยเหนือพวกท่านมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วน่ะ" จีเนฟาร์รี่โทษเทคไครด์ไว้ ซึ่งราชินีแห่งจันทรามรณะตอบสวนไปว่า
              "เรื่องของรีไลฟ์เวอรี่ ข้าได้ส่งคนไปจัดการแล้ว แต่....ทุกครั้งนอกจากจะไม่สามารถเอาชีวิตลงได้ มือสังหารที่ข้าส่งไปก็ล้วนแล้ว ถูกปราบไปจนหมดด้วย" พร้อมกับบอกไปว่า "ที่สำคัญ ข้าได้พูดเรื่องนี้ให้พวกท่านได้ยินไปนานแล้ว ว่าข้าตัดขาดความเป็นลูกของดร.รีไลฟ์เวอรี่ไปแล้ว เท่ากับว่าข้าได้พิสูจน์ความจงรักภักดีต่อท่านโอเวอร์เดสอย่างใจจริง ดังนั้น ถ้าท่านทั้งสองยังสงสัยและกังขาในเรื่องนี้อยู่ ก็เชิญพาข้าไปรายงานต่อท่านโอเวอร์เดสกันเลยมั้ยละ"
              "ว่ายังไงน่ะ" จีเนฟาร์รี่กัดฟันอย่างโกรธแค้นขึ้น
              เกซิคเห็นท่าไม่ดีจึงต้องห้ามปรามทั้งสองฝ่ายไว้ก่อนที่จะมีเรื่องไปมากกว่านี้ "ในเมื่อท่านยืนยันมาเช่นนี้ ข้าก็ไม่ควรจะสงสัยท่านอีก ส่วนท่านหญิงเอง ก็อย่าวู่ว่ามมากนัก เพราะท่านกับข้าเป็นผู้สนับสนุนและรับคำสั่งจากท่านโอเวอร์เดสให้มาดูแลพวกลูนาสตี้ไว้ อย่างน้อยก็เห็นแก่ท่านโอเวอร์เดสไว้ด้วยน่ะ" จีเนฟาร์รี่ได้ฟังก็สะบัดพัดปิดปากที่ทำหน้าบึ้งตึงด้วยความไม่พอใจ แม้เกซิคจะอ้างโอเวอร์เดสให้เธอหวั่นเกรงก็ตาม "เรื่องสำคัญยิ่งกว่าเรื่องความพ่ายแพ้ของพวกท่านทุกครั้งนั้น ก็คือเรื่องกำลังพลและกำลังอาวุธที่พวกท่านมีอยู่ ความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องของพวกท่านนั้นได้ล้างผลาญทั้งสองสิ่งนี้ไว้ไม่น้อย ถ้าท่านยิ่งสู้ยืดเยื้อ เกรงว่าท่านจะไม่เหลืออะไรกันเลยน่ะ"
              "สองมาตราการที่ข้าจะใช้ในการนี้ หนึ่งคือ ข้าจะเรียกกำลังหนุนจากดวงจันทร์ที่มีจำนวนเป็นแสน ซึ่งมีอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆที่ข้าเหลือไว้สำหรับสร้างกำลังพลเพิ่มเติมจากชาวโลก ตามแผนการคุกคามและแก้แค้นพวกมนุษย์บนโลกไว้ลงมาที่นี้ ซึ่งข้าจะใช้มาตราการนี้และเดียวนี้ด้วย" เทคไครด์กล่าว
              จีเนฟาร์รี่บอก "แล้วทำไมท่านไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากเฮคไซน์กับพวกล่ะ"
              "ข้ายังไม่รีบนำโซลาสตี้ลงมาให้พวกกบฎล้างผลาญกันได้หรอกน่ะ เพราะขุมกำลังที่อยู่บนดวงจันทร์นั้น น่าจะมีมากพอสำหรับจัดการกับพวกกบฎ แล้วก็กวาดล้างพวกรีไลฟ์เวอรี่ให้สิ้นซากไปพร้อมๆกันน่ะ" เทคไครด์บอก
              เกซิคกล่าว "นั้นก็ดีแล้วละ ยกกำลังสำรองทั้งหมดบนดวงจันทร์ให้ลงมาหนุนเสริม อย่างน้อยก็ทำให้พวกกบฎเสียเปรียบกันบ้างละน่า"
              "รีไลฟ์เวอรี่ต้องเสียใจแน่ๆกับการตัดสินใจบ้าๆแบบนั้นกันน่ะ" จีเนฟาร์รี่กล่าว แม้จะกลัวเกรงเทคไครด์กันไปบ้างก็ตาม
              เทคไครด์บอก "สั่งเปิดระบบเทเลพอร์ตกำลังพลสำรองที่อยู่บนดวงจันทร์ให้มาที่โถงกลางเดียวนี้เลย"
              "รับทราบแล้วคะ" เบทชอนกล่าวและจัดการเทเลพอร์ตกำลังรบบนดวงจันทร์ที่เหลือออกมา ซึ่งก็.... "แว้งงงงงง แว้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เทเลพอร์ตพวกลูนาสตี้จำนวน 4 หมื่นตนและเครซเดรทเพียง 600 เครื่องลงมา
              "เทเลพอร์ตลงมาแล้วคะ หากแต่ มีบางอย่างไม่ถูกต้องเลยละคะ" โฟรซ่ารายงาน
              "เกิดอะไรขึ้นกับกำลังพลสำรองทั้งหมดกันละ" เทคไครด์ถามอย่างสงสัย
              แดนเจอรอทที่ใช้แท่นลอยมองดูกองกำลังที่อิมพอร์ตมาจากดวงจันทร์และใช้สายตานับดู "กองรบจากดวงจันทร์ควรจะมีเยอะเป็นแสนคนมิใช่หรือ แล้วทำไม เหลือเพียง 40 เปอร์เซนต์กันนะครับ ท่านเทคไครด์"
              "ว่ายังไงน่ะ เจ้านับถูกต้องแล้วหรือ แดนเจอรอท" เทคไครด์ได้ฟังก็ไม่พอใจอย่างมาก แดนเจอรอทพยักหน้า
              สกายล็อตมาช่วยเสริม "....ไม่ผิดแน่นะครับ กองกำลังที่เหลืออยู่มาเพียงแค่ 4 หมื่นไม่ว่า คอนเทนเนอร์ที่ควรจะมีอุปกรณ์สำหรับแปรสภาพพวกมนุษย์ให้กลายเป็นพวกเรา รวมถึงเครื่องมืออื่นๆด้วยนั้นก็ไม่ปรากฎออกมาเลยนะครับ"
              "เป็นไปไม่ได้น่า พวกมนุษย์ที่อยู่บนดวงจันทร์นั้นไม่มีกำลังอาวุธมากพอที่จะกวาดล้างพวกเราที่หลบซ่อนอย่างมิดชิดลงไปได้หรอก แถมบังเกอร์ที่นั้นก็ติดระบบรักษาความปลอดภัยป้องกันการบุกรุกเข้ามาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่กองรบหกส่วนหายไปได้ไงกัน" เทคไครด์กล่าว
              เกซิคแนะนำ "ข้าคิดว่าควรจะลงไปถามพวกที่เหลือกันก่อนนะครับ" แล้วเทคไครด์ เกซิคและจีเนฟาร์รี่ก็ลงมาตรงลานกว้างกลางยานไว้
              "ท่านเทคไครด์ พวกเรามาสมทบท่านตามที่ท่านสั่งมาแล้วละครับ" เกรมฮอร์ทตนหนึ่งรายงาน
              เทคไครด์กล่าว "ข้าต้องการคำตอบ พรรคพวกของเจ้าหกหมื่นตนหายไปไหนกันมิทราบละ"
              "เออ....ด้วยคำสั่งของท่านที่ต้องการให้กองรบของพวกเราก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปมากกว่านี้ และมีขุมกำลังอันมากมายพร้อมสำหรับเอาคืนพวกกบฎที่หลุดออกมาจากโลกได้ในภายหลัง พวกเราส่วนที่เหลือได้รับเลือกให้ออกเดินทางไปยังแรซัลก้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วละคะ" เบทชอนกล่าว
              เทคไครด์บอก "แรซัลก้านะหรือ ข้าไม่ได้สั่งให้พวกเจ้าแบ่งกองกำลังออกเดินทางล่วงหน้ากันเสียเลยน่ะ ข้าสั่งให้พวกเจ้าทั้งหมดอยู่สะสมกองกำลังและพัฒนากองรบทั้งหมดเพื่อมาทดแทนกำลังรบที่ข้าเสียไปเป็นจำนวนมากกันนี้แหละ"
              "แต่ ท่านเป็นคนสั่งการมาอย่างงั้น เพราะวิสัยทัศน์ของท่านเล็งเห็นแล้วว่า กองรบลูนาสตี้อาจจะปราชัยลงได้ แม้โซลาสตี้เองจะบุกลงมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก และอาจจะถูกกวาดล้างตามพวกท่านไปด้วย ท่านเลยสั่งการให้พวกเราแบ่งกำลังรบส่วนมากให้ออกไปดักหน้าพวกกบฎกันไว้ เพื่อให้พวกที่เหลือรอดนั้นสะสมกองกำลังมาแก้แค้นแทนพวกท่านนี้แหละครับ" เกรมฮอร์ทกล่าว
              เทคไครด์บอก "แล้วเจ้ามีอะไรมายืนยันว่า ข้าเป็นคนสั่งให้พวกเจ้าทำเช่นนั้นไปได้ซะละ"
              "....ท่านได้บอกกับท่านเกซิค ให้มาสั่งการพวกเราให้แบ่งกำลังพลส่วนมากบนดวงจันทร์ รวมกับกำลังพลของโซลาสตี้กองละ 1 ใน 3 ให้ออกเดินทางไปแรซัลก้ากันนะครับ" เซนเครูทตาเดียวกล่าว เกซิคได้ฟังก็ตกใจอย่างมาก
              จีเนฟาร์รี่กล่าว "นี้ท่านแอบสั่งการลับหลังพวกเราอย่างงั้นนะหรือ"
              "ข้าไม่ได้เป็นคนสั่งสักหน่อยน่ะ เพราะข้าอยู่ที่เดธฮาเว่นมาโดยตลอด ไม่มีทางที่ข้าจะออกไปสั่งการแบบนั้นได้แน่ๆอยู่แล้วละ" เกซิคยืนยันในความบริสุทธิ์ของตน
              เบทชอนกล่าว "นั้นต้องเป็นท่านแน่ๆ เพราะว่าท่านได้บอกกับพวกเราไว้ว่า ถ้าอยู่ภายใต้คำสั่งของท่านเทพแห่งสงครามที่แรซัลก้ากันละก็ พวกเราจะได้แก้แค้นต่อพวกท่านกันยังไงละ"
              "เทพแห่งสงครามนะหรือ" จีเนฟาร์รี่กล่าว
              เกซิคได้ฟังก็ถึงกับกำหมัดแน่นๆ พร้อมกับบอกว่า "ท่านเทคไครด์ ท่านจีเนฟาร์รี่ ถึงเวลาที่ข้าจะต้องพาพวกท่านไปหาท่านโอเวอร์เดสแล้วละครับ เพราะข้ารู้ว่า ใครมันเป็นตัวการกันน่ะ"

              ที่ปราการของโอเวอร์เดส ณ.หุบเขาทมิฬ ห้องท้องพระโรง ครองคอร์ด ไวซ์ไมเซล เกซเฟลิคและโครเต้มายืนรออยู่นานแล้ว
              "ท่านมาถึงจนได้นะ นึกว่าจะไม่กลับมาแล้วเสียอีกน่ะ" ครองคอร์ดบอก เมื่อเห็นเกซิค จีเนฟาร์รี่และเทคไครด์มาถึงแล้ว
              เกซิคประเดิมต่อว่าทันที "ท่านทำเกินไปแล้วน่ะ ท่านขุนพล ท่านใช้น้ำเสียงของฉันหลอกพวกลูนาสตี้ให้ออกเดินทางไปอวกาศ แทนที่จะอยู่สแตนด์บายมุ่งหน้ามาเสริมทัพกับพวกเทคไครด์แบบนี้ รู้มั้ยว่าท่านมีความผิดแค่ไหนกัน..."
              "ตรึงงงง" โอเวอร์เดสกระทืบพื้นไปเต็มๆจนทำให้เกซิคชะงักด้วยความกลัว โดยที่จีเนฟาร์รี่และเทคไครด์เห็นเช่นนั้นก็ก้มคุกเข่าลง เช่นเดียวกับเกซิคด้วย ส่วนพวกครองคอร์ดก็คุกเข่าเพื่อแสดงความเคารพไปด้วย โดยครองคอร์ดตำหนิไปว่า "ท่านลืมไปแล้วหรือว่า ท่านอยู่ในเวลาไหน กาละเทศะมีหรือเปล่า" ซึ่งเกซิคไม่ตอบอะไรเพราะเป็นคำพูดที่เขาใช้กับครองคอร์ด โดยในเวลานี้เขาโดนคำพูดย้อนกลับคืนตัวเสียแล้ว
              "เกซิค ข้ารู้ว่าลูนาสตี้เป็นกองรบไพ่ตายใบสำคัญในเวลานี้ ที่กำลังต่อกรกับพวกกบฎและดำเนินยุทธการกวาดล้างพวกมนุษย์กันอยู่ แต่เจ้าคิดว่า กองรบของพวกเขาจะสามารถเอาชนะได้จริงๆเลยหรือ" โอเวอร์เดสกล่าว
              "ท่านโอเวอร์เดส กองรบลูนาสตี้เป็นกองรบแมนิเกเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นกองกำลังแรกที่ท่านได้สร้างมันขึ้นมาเพื่อใช้เป็นกองรบที่อันตรายมากที่สุด แต่ ท่านขุนพลครองคอร์ดอ้างตนเป็นข้าเพื่อที่จะใช้โอกาสนี้โยกย้ายกำลังไปที่แรซัลก้ากันเช่นนี้ การกระทำของเขาส่อแววว่าจะทรยศต่อพวกเรา ดังนั้น ข้าจึงอยากจะให้ท่านตัดสินลงโทษกัน" เกซิคกล่าว
              โอเวอร์เดสบอก "เจ้าคิดว่าลูนาสตี้จะชนะอย่างงั้นนะหรือ เจ้าคิดแค่นั้นเพียงด้านเดียวโดยไม่ได้คิดเผื่อว่าพวกเขาจะต้องปราชัยไปด้วยเช่นนี้ ถ้าเจ้ายังคิดแบบนี้ต่อไป เกรงว่าลูนาสตี้อาจจะถึงคราวพินาศไปเลยก็ได้น่ะ เพราะสภาพการณ์ระหว่างกลุ่มกบฎและพวกเจ้านั้น ชัยชนะมันชี้ไปทางพวกกบฎกันแล้วน่ะ"
              "แต่การกระทำของครองคอร์ดนั้นคือการกลั้นแกล้งพวกลูนาสตี้ทางอ้อมเลยนะครับ" เกซิคบอก
              โอเวอร์เดสกล่าว "ต่อให้พวกเจ้าทุ่มหน้าตักทั้งหมดลง เพื่อหวังจะชนะเพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้มองด้านที่เจ้าต้องพ่ายแพ้เช่นนี้ เจ้ากับพวกก็แพ้ไปเต็มๆแล้วละ ถึงแม้การกระทำของครองคอร์ดนั้นจะเป็นการข้ามหัวจนข้าอาจจะสั่งลงโทษสถานหนัก แต่ เหตุผลที่ครองคอร์ดต้องทำเช่นนี้เพื่อสร้างหลักประกันให้กับพวกลูนาสตี้และโซลาสตี้ไว้ เพราะ การที่มีกองรบส่วนที่เหลืออยู่ที่แรซัลก้าไว้นั้น กลุ่มลูนาสตี้และโซลาสตี้จะยังอยู่ ไม่พังพินาศลงด้วยน้ำมือของเจ้ากันหรอกน่ะ"
              "ที่สำคัญไปกว่านั้นนะ ท่านผู้คุมกฎ ท่านขุนพลอยู่ในฐานทัพของข้ามาโดยตลอดและปราการของแม่ทัพโครเต้ในบางครั้ง จึงไม่มีทางออกไปไหนได้อยู่แล้วน่ะ" เกซเฟลิคยืนยัน
              ไวซ์ไมเซลเสริมไปด้วยว่า "....อีกทั้งกองรบลูนาสตี้เองท่านกับท่านหญิงดูแลกันด้วยแล้ว ท่านขุนพลครองคอร์ดและพวกเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปสอดยุ่งธุระของพวกท่านกันในเวลานี้ให้เสียเรื่องกันหรอก"
              "อีกอย่างน่ะ ท่านก็รู้แล้วมิใช่หรือ ว่าท่านครองคอร์ดมีสิทธิ์ที่จะส่งกองกำลังของท่านโอเวอร์เดสไปให้ท่านจักรพรรดินีกันอยู่แล้ว ซึ่งนั้นหมายถึง กองรบลูนาสตี้และโซลาสตี้เองน่ะ" โครเต้บอก
              ครองคอร์ดกล่าว "....ที่สำคัญ คำสั่งส่งกองกำลังออกไปยังแรซัลก้านั้น ท่านโอเวอร์เดสก็เป็นคนอนุมัติมาแต่แรกด้วย ถ้าท่านไม่พอใจในการกระทำของข้าก็เท่ากับว่าท่านดูหมิ่นเหนือหัวของเราด้วยน่า" ซึ่งตนยิ้มอย่างเป็นต่อ
              "แต่ว่า กองกำลังสำรองของข้านั้นเหลือเพียง 2 ใน 5 กันแล้วนะคะ ท่านโอเวอร์เดส ข้าจำเป็นต้องใช้กำลังรบทั้งหมดที่มีเพื่อบดขยี้ทั้งพวกมนุษย์ พวกกบฎและพวกรีไลฟ์เวอรี่กันเลยนะคะ" เทคไครด์บอก
              โอเวอร์เดสถาม "แล้วทำไมถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากเฮคไซน์และพวกโซลาสตี้กันละ เจ้ายังคิดว่าความช่วยเหลือของพวกเขานั้นมันไม่จำเป็นเลยหรือ"
              "ข้า ข้าไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้กำลังจากพวกเขา ลูนาสตี้แข็งแกร่งเพราะว่าท่านมอบพลังและโอกาสให้กับพวกเรา ดังนั้น ข้าจะแสดงให้ท่านได้เห็น ว่าแม้ข้าไม่จำเป็นต้องเรียกพรรคพวกมาเพิ่ม พวกศัตรูของท่านจะต้องพังพินาศลงจนได้นะคะ" เทคไครด์ยืนยัน
              โอเวอร์เดสพยักหน้า "สมแล้ว ที่ข้าคืนชีพให้เจ้ากับพวกเป็นกลุ่มแรกๆ เอาไว้ ซึ่ง ข้าถือว่านั้นเป็น 1 โอกาสใน 3 ครั้ง ที่ข้ามอบให้แล้วกัน เพราะถ้าพวกเจ้าทำพลาดหมดทั้งสามครั้งขึ้นมา รู้ใช่มั้ย ว่าข้าจะเรียกทุกอย่างที่ใช้กับเจ้าและพวกคืนเดียวนั้นเลยละ"
              "ข้ารับทราบดีแล้วละคะ ท่านโอเวอร์เดส" เทคไครด์บอก
              โอเวอร์เดสกล่าว "เกซิค จีเนฟาร์รี่ เจ้าทั้งสองคนทำได้แค่สนับสนุนเทคไครด์ในการรบครั้งนี้ ห้ามทำเกินเลยไปมากกว่านั้นด้วย" และหันมายังพวกครองคอร์ดไปว่า "ส่วนพวกเจ้าเองก็ห้ามเคลื่อนไหวหรือก่อการอะไรให้ข้ารับรู้กันด้วยละ เพราะเรื่องยุทธการในครั้งนี้เป็นของลูนาสตี้ไว้น่ะ"
              "พวกข้าพเจ้ารับทราบแล้วละครับ" พวกครองคอร์ดกล่าวและก้มคำนับไว้
              โอเวอร์เดสบอก "พวกเจ้าจงไปให้พ้นหน้าข้าซะ ข้าต้องการอยู่อย่างสงบสักหน่อย"

              "ความผิดของท่าน มันเป็นความผิดของท่าน ที่ทำให้ท่านโอเวอร์เดสตำหนิพวกเรากันไว้น่ะ" เกซิคตำหนิใส่ครองคอร์ด ซึ่งหันกลับมาทำหน้ายิ้มใส่ หลังจากที่พวกเขาออกมาจากห้องโถงแล้ว
              "....ทีนี้ท่านก็ควรจะรู้แล้วสิน่ะ ว่าสถานะของผู้คุมกฎอย่างท่านนั้น ควรจะประกาศบัญชาของโอเวอร์เดสในฐานะของตัวแทนของท่าน มิใช่เป็นตัวเหนือหัวมาเองกันน่ะ ในเมื่อท่านเป็นผู้คุมกฎ แต่ดันใช้กฎเกณฑ์ทำตามใจชอบกันเช่นนี้ ท่านกำลังดูถูกตำแหน่งที่ท่านโอเวอร์เดสมอบให้เลยน่ะ"
              "ที่สำคัญไปกว่านั้น พวกเราทั้งหมดได้รับคำสั่งจากท่านโอเวอร์เดสให้รวบรวมกองกำลังและสร้างความแข็งแกร่งให้เหนือกว่าพวกกบฎโคเคสกันด้วย พวกเราไม่มีทางขัดคำสั่งและทำตามใจชอบอย่างที่ท่านคิดหรอกน่ะ" โครเต้กล่าว
              เกซเฟลิคบอก "ทางที่ดี ท่านก็ช่วยเทคไครด์และพวกหน้ากากจันทราให้ปราบกบฎโคเคสและเหล่าคนทรยศให้สิ้นซากไปเลย ดีกว่าจะมาตำหนิหรือสงสัยการกระทำของพวกเรากันด้วยน่ะ"
              "พวกท่านคอยดูเลยแล้วกัน ว่าพวกเราจะกวาดล้างพวกกบฎและพวกมนุษย์ให้สิ้นซากลงตามที่เทคไครด์สาบานเอาไว้ ถึงตอนนั้น พวกท่านจะหมดหน้าที่ไปเลยเพราะไม่มีศัตรูหน้าไหนให้พวกท่านได้สู้กันหรอก" จีเนฟาร์รี่บอก
              ครองคอร์ดกล่าว "แพ้ชนะยังสรุปเอาเองไม่ได้หรอกน่ะ ท่านหญิง ขนาดแพทรีออทที่มั่นใจว่ามีกองทัพมากมาย ก็ยังพ่ายให้กับพีวิล แถมยังถูกพวกกบฎกวาดล้างซะราบคาบเช่นนี้ ถ้าข้าไม่ลงมือ เทคไครด์จะไม่เหลือลูกน้องเลยสักคนไว้ใช้งานกันน่ะ"
              "ข้าอาจจะโกรธแค้นในการกระทำของท่านที่ทำข้ามหัวข้าไปกันนะ ท่านขุนพลครองคอร์ด" เทคไครด์กล่าวตำหนิ ซึ่งเกซิคยิ้มไว้แต่ก็ได้แค่สองวินาที เพราะว่า... "....แต่....ถ้าเหลือกองกำลังของข้าเอาไว้ที่แรซัลก้า พร้อมกับเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับสร้างกำลังพลไปด้วยแล้วละก็....ท่านทำถูกแล้วละ เพราะข้าต้องมั่นใจให้ได้ว่า หากพวกข้าพ่ายแพ้ในศึกนี้กันจริงๆ กองรบที่ท่านส่งไป ซึ่งรวมถึงโซลาสตี้ด้วยนั้น จะคงอยู่ต่อเพื่อแก้แค้นให้พวกเรากันด้วยน่ะ ดังนั้น ข้ายกโทษให้ท่านแล้วกัน"
              ครองคอร์ดพยักหน้า "เห็นท่านพูดอย่างงี้แล้ว ข้ารู้สึกเบาใจได้ แต่...ข้าหวังว่าท่านคงจะทำตามที่สาบานต่อท่านโอเวอร์เดสด้วยน่ะ" แล้วก็พาพรรคพวกเดินจากไป
              "ถึงพูดดีไปก็เถอะ ฉันยังคิดว่า ขุนพลครองคอร์ดตั้งใจจะแช่งซะมากกว่าน่ะ" จีเนฟาร์รี่กล่าว
              เทคไครด์ตอบด้วยน้ำเสียงที่กริ้วโกรธไปว่า "ช่างเถอะ ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อกำจัดพวกกบฎโคเคสกันเดียวนี้แล้วละ"

              ที่ฐานทัพของกบฎโคเคส ที่ปากีสถาน
              "2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกลูนาสตี้ใช้วิธีเทเลพอร์ตกำลังรบเข้าไปในเขตเมืองที่มีสนามพลังอธิปไตย เพื่อโจมตีจากข้างในให้วายวอด โดยมีเป้าหมายสำคัญก็คือ ทำลายเขตเมืองสำคัญๆของประเทศต่างๆ รวมไปถึงสถานที่สำคัญอย่างอาคารรัฐสภา มหาวิทยาลัย กองบัญชาการทางทหาร นิคมอุตสาหกรรม รวมไปถึง เขตชุมชนน้อยใหญ่แม้กระทั่งสลัมเองก็ไม่เว้น บ่งบอกได้เลยว่า เทคไครด์กับพวกลูนาสตี้ คิดที่จะโจมตีภูมิภาคเอเชียฝั่งตะวันออกไกลกันแล้ว" โคเคสกล่าว "แต่โชคดีมากที่ระบบซีคเกอร์ช่วยทำให้เรารู้แผนการของพวกนั้นไว้ และชิงลงมือโต้ตอบยุทธการเหล่านั้นมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งฉันขอบใจความร่วมมือของทุกๆฝ่ายกันไว้ด้วยน่ะ"
              เบย์แทนด์บอก "ไม่หรอกครับ หัวหน้าสั่งการโคเคส ส่วนหนึ่งเพราะพวกท่านต้องการจะหยุดยั้งพวกลูนาสตี้ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนกันอยู่แล้วนะครับ"
              "ด้วยความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี่ของพวกเธอทุกๆคนนั้น ทำให้เราสามารถผลิตอาวุธที่ทำด้วยโครมเมทาเลี่ยมขึ้นได้เป็นผลสำเร็จเมื่อ 12 วันที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าเราจะใช้อย่างลำบากเพราะความหนักของตัวอาวุธที่ตีด้วยแร่นี้เอาไว้ แต่ด้วยการฝึกฝนและการใช้งานได้จริงนั้น ทำให้พวกเราทั้งหมดสามารถใช้อาวุธได้เต็มประสิทธิภาพกันแล้วละ" เฮลิคบอก
              บัลโต้กล่าว "จากเมื่อก่อนที่พวกเราต้องทนใช้อาวุธเก่าๆ แต่ตอนนี้ อาวุธเก่าของพวกเราใหม่ถอดด้ามกันหมดแล้วละ"
              "แต่คงจะมีแค่อาวุธกันอย่างเดียวน่า เพราะถ้าอะไรเป็นโครมเมทาเลี่ยมหมด แม้กระทั่งเครื่องครัวด้วยแล้ว คงกินข้าวหรือทำกับข้าวลำบากแน่ๆเลยละ" ด็อดเจอร์บอกจนในที่ประชุมหัวเราะกันทั้งหมด
              เฮเรเค้นบอก "นั้นสิ ขนาดถือดาบอันใหม่ที่ตีผสมแร่เข้าไป มันเหมือนยกดัมเบลชัดๆเลยน่ะ"
              "แล้วมีอะไรจะอัพเดทกันบ้างหรือเปล่าละ นายช่างด็อดเจอร์" เฮลิคถาม
              ด็อดเจอร์บอก "นอกเหนือจากการผลิตฟาลครีด้าแบบใช้เป็นจำนวนมากได้แล้วนั้น ตอนนี้...เราได้สร้างยานบินสำหรับขนส่งกำลังพลขึ้นมา รวมถึงยานบินต่อสู้เอาไว้กันแล้ว แน่นอน ว่าเราได้ทำการซ่อมแซมมอเดอร์ดิฟที่เราเก็บกู้มาในช่วงก่อนและระหว่างสองสัปดาห์ที่ผ่านมา "
              "แต่....ยิ่งพวกเราสู้ชนะพวกเทคไครด์บ่อยเกินไปนิ ไม่กลัวว่าฝ่ายตรงข้ามมันจะยั้วะถึงขั้นเล่นกับพวกเราทุกๆคนแรงกันหรือเปล่าละครับ" นักวิจัยชื่ออีธานตั้งคำถาม จนที่ประชุมในห้องโถงทั้งหมดต่างก็กังวลไปด้วย
              มาสวาร์ทาร์บอก "นั้นเป็นเรื่องที่เราหวั่นเกรงไปด้วยนะสิ แม้เทคไครด์กับพวกยังไม่รู้ว่า พวกเรารู้แผนการของฝ่ายนั้นได้ยังไงกัน แต่สภาพการณ์ในตอนนี้ เทคไครด์คิดจะจัดการกับพวกเราขั้นเด็ดขาดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยละ"
              "เรื่องนี้เราต้องให้ความระมัดระวังอย่างมากด้วย เพราะพวกลูนาสตี้อาจจะโจมตีพวกเราตอนไหนก็ได้ ดังนั้น ฉันจึงอยากจะให้พวกเราทุกๆคนคอยระวังตัวกันให้มากแล้วกัน" โคเคสกล่าว "เฮลิค ตอนนี้พวกบีสทอยด์ที่บิดดราซิลนั้น ต้องการกำลังหนุนมาช่วยคุ้มครองพวกเขาเอาไว้กันด้วยนะ"
              เฮลิคพยักหน้า "เรื่องนี้ฉันสั่งการลงไปกันแล้วละ"
              "บัลโต้ พวกพ้องของเราที่ได้จากรัสเชีย ยุโรปและเอเชียที่ไปประจำการอยู่ที่โรงงานผลิตอาวุธ และสนามบินนั้น แจ้งบอกให้ด้วยน่ะ ว่าเราจะส่งโมบิลลอยด์และเสบียงไปหนุนช่วยกันน่ะ" โคเคสสั่ง
              บัลโต้พยักหน้า "เดียวฉันจะส่งทีมไปช่วยให้เองน่ะ โคเคส"
              "ที่เหลือนั้นขอให้กลับไปทำงานตามปกติด้วยละ การประชุมมีเพียงเท่านี้แหละ" โคเคสกล่าว แล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันไป
              เฮลิคเดินมารายงานต่อโคเคสว่า "ตอนนี้ กองรบฝ่ายมนุษย์มีความเคลื่อนไหวขึ้นมาแล้วละ หลังจากที่พวกลูนาสตี้อาละวาดใส่เขตเมืองของเครือพันธมิตรภูมิภาคเอเชียใหญ่นั้น ฝั่งประเทศสมาชิกของเครือพันธมิตรต่างก็จัดเตรียมกำลังพลเอาไว้เพื่อสู้รบกับพวกลูนาสตี้และโอเวอร์เดสกันอย่างเต็มที่แล้วละ"
              "สายข่าวที่เราส่งไปในช่วงปฏิบัติภารกิจนั้นช่วยได้มากเลยสิน่ะ" โคเคสบอก
              เฮลิคกล่าว "แต่ ฝ่ายมหาสหรัฐไม่สามารถส่งกำลังออกไปได้เลยนะสิ ลูนาสตี้เล็งเป้ามายังฐานทัพของทุกรัฐ ทุกประเทศในทวีปอเมริกาทั้งหมด ตั้งแต่เหนือยันใต้เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ซึ่งตัวอย่างก็โผล่มา จนทำให้ฝ่ายมหาสหรัฐเสียฐานทัพเรือไป 4 แห่ง ฐานทัพอากาศอีก 8 และฐานกองทัพบกอีก 11 โรงงานอาวุธอีก 6 แห่ง และศูนย์ฝึกอีก 15 ที่ด้วยกันน่ะ"
              "เทคไครด์ต้องการสร้างความหวาดกลัวต่อกองทัพขึ้นมา และกำลังจะเพิ่มแรงแค้นมาที่พวกเราทีละนิดๆกันแล้ว จากสภาพการณ์ในตอนนี้ เราทำอะไรก็ต้องระวังและมีสติกันสักหน่อยน่ะ" โคเคสบอก
              เฮลิคกล่าว "ยิ่งในช่วงนี้ เราได้ช่วยเหลือคนๆหนึ่งเอาไว้จากการถูกพวกลูนาสตี้ไล่ล่าเข้า แม้จะไม่รู้เลยว่า เขาไปโผล่ตรงนั้นได้ไงกันน่ะ"
              "หมายถึง นายอองรี แนชท์นะหรือ" บัลโต้เอ่ยนามของชายคนหนึ่ง ซึ่งย้อนความไปเมื่อ 4 วันก่อน

              "โฟรซ่าและพวกไล่ล่าผู้เคราะห์ร้ายคนหนึ่งในเขต SW 15 กันนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว ตอนนี้โคเคสและพวกพีวิลมุ่งหน้ามา "ฟ้าววววววว แชดดดด แชดดด แชดดดด" เบทชอนหญิงยิงปืนแสงมูนพลาสม่าไรเฟิ่ลเข้าถล่มใส่บุรุษผมสั้นสีดำมาใส่เสื้อกล้ามสีดำและกางเกงสีเขียวเข้ม ที่วิ่งหนีอย่างหัวซุกหัวซุนไว้ "เหวอออ" เขากระเด็นไปตามแรงระเบิดที่โฟรซ่าและพวกยิงใส่จนล้มลงไป
              "คราวนี้ไม่รอดกันแน่ๆละ" โฟรซ่ากล่าวพร้อมกับเตรียมปืนยาวฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลเพื่อยิงใส่ชายคนนั้นไว้ แต่.... "แชดดดด แชดดดด" เธอต้องรีบโยกหลบเลเซอร์ที่ยิงขึ้นมาเสียก่อน "แชดดด แชดดดด แชดดดด" ทหารกบฎระดมยิงปืนพลาสม่าไรเฟิ่ลขึ้นฟ้าเข้าใส่แอร์ไบค์ของเบทชอนจนร่วงลงสู่พื้นไปสามคันด้วยกัน "ไม่มีทางเลือกแล้ว แล่นลงมาจัดการกับพวกกบฎเดียวนี้เลย" โฟรซ่ากล่าวแล้วพวกแอร์ไบค์จำนวน 25 หน่วยร่อนลงมาเพื่อใช้ดาบใบเลื้อย แต่... "ฟึ่บ" พีวิลเลยนำแรปิดเดเตอร์พันนิชเชอร์ ซึ่งเป็นแรปิดเดเตอร์แบบ 5 ลำกล้องแต่มีความยาวลำกล้องที่ยาวกว่ามาโรวเดอร์ในระดับหนึ่งเข้า "กรืออออ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกเบทชอนที่ใช้สนามพลังป้องกันกลับถูกกระหน่ำยิงใส่จนบาเรียทะลุเพราะกระสุนที่ใช้นั้นเป็นกระสุนเจาะเกราะครอบจักรวาล ซึ่งทะลุได้ตั้งแต่เกราะหนาไปจนถึงสนามพลังป้องกันเอาไว้ "ปิ้วๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จนสอยร่วงไปถึง 23 จาก 25 หน่วยด้วยกัน
              "แจ่ม สอยซะเรียบแบบนี้ ไม่เหลือให้พวกเรายิงเลยน่า" สเปียริทบ่น โดยตอนนี้โฟรซ่ากระหน่ำยิงปืนลงมา จนสเปียริทต้องสวนกลับด้วยเพคชู้ตเตอร์อินแกรต้าขึ้นไป เช่นเดียวกับพวกทหารกบฎที่ไล่ยิงพวกโฟรซ่าไปด้วย แต่ทั้งหมดก็หลบออกมาได้ พร้อมกับบุกชาร์จเข้าใส่อย่างรวดเร็ว "ป้ากก เปรี้ยงงง ฉั้วะ ฉับ" " ว้ายยยย กรี้ดดด ว้ากกกก เหวอออ อ้ากก" และฟาดฝ่ามือความถี่สูงเข้าใส่พวกทหารจนล้มลงไป 8 นายด้วยกัน ส่วนโฟรซ่าบุกเข้าใส่สเปียริทไว้ "ย้า" สเปียริทเลยตวัดหอกเข้าฟันใส่แอร์ไบค์ของโฟรซ่าจนขาดสะบั้นและแยกออกเป็นสองซีกพุ่งไประเบิดข้างหลังแทน แล้วก็... "แกร้งงงงงง ครืดดดดด" ยกโลห์ขึ้นมาบล็อกการพุ่งลงมาถีบใส่ของโฟรซ่าจนพื้นสะเทือนไปอย่างจังๆ จนสเปียริทต้องปัดส่งโฟรซ่าให้ออกไป "ฟึ่บ เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ" โฟรซ่าเลยนำมีดดาบโครมเมทาเลี่ยมซึ่งอัดกระแสไฟฟ้าจากมือที่ถือไว้ ส่วนสเปียริทก็เก็บหอกไว้ที่หลังของเธอ พร้อมกับ "ครี้งงงง ครี้งงงง ควับๆๆๆๆ ป้ากกกก" ชักดาบโครมเมทาเลี่ยมสองเล่มออกจากฟักดาบและประกบเป็นดาบสองคมไว้ "ควับๆๆๆๆ" สเปียริทหมุนควงดาบสองคมเข้าใส่โฟรซ่าที่บุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว "แกร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โฟรซ่าหวดฟาดฟันดาบใส่แบบไม่ยั้งแม้จะฟันถูกดาบสองคมที่หมุนควงอย่างรวดเร็วไป "หวับบบบบ แกร้งงงงง" โฟรซ่าเลยหวดดาบในจังหวะที่สเปียริทหวดดาบสองคมฟาดสวนมาจนปะดาบกันอย่างหนักหน่วง "แกร้กกกกกกกกกกกกกกกกกกก เคร้งงงงง" ซึ่งไม่ต้องสืบหรือเขียนต่อให้เสียเวลา สเปียริทก็เป็นฝ่ายชนะโฟรซ่าอยู่ดี "ฟึ่บบบบ ก้องงงง" แต่โฟรซ่าที่ล้มเสียหลักนั้นก็หวดเตะใส่โลห์ของสเปียริทจนเสียหลักไป แต่ก็ "ป้ากกกก" ไม่ได้ช่วยให้เธอรอดพ้นก้อนหินที่โผล่ยื่นมาบนพื้นเข้าจนหัวของเธอกระแทกไปเต็มๆ
              "หัวหน้าโฟรซ่า หนอยยยยย" เบทชอนระดมยิงปืนแสงเข้าใส่สเปียริท จนพีวิลเข้ามาช่วยระดมยิงอาร์มชู้ตเตอร์เข้าใส่จนเป่าเบทชอนไปพร้อมกับแอรไบค์ได้ตัว หากแต่อีกสองตัวนั้นช่วยโฟรซ่าเอาไว้ได้ทัน แม้โฟรซ่าจะได้แผลแตกที่หัวไปเลยก็ตาม
              "ไม่ต้องตามหรอก สเปียริท เรามีคนที่ต้องช่วยเอาไว้กันน่ะ" พีวิลเบรคสเปียริทไปก่อน ซึ่งก็ทำให้สเปียริทได้แต่เจ็บใจที่ไม่สามารถจัดการกับโฟรซ่าลงได้ แม้จะทำให้เธอบาดเจ็บไปมากก็ตาม โคเคสเลยรีบไปดูชายผู้เคราะห์ร้ายนั้นไว้
              "นี้คุณ ทำใจดีๆไว้นะครับ ใครก็ได้ ตามแพทย์สนามมาเดียวนี้เลย เร็ว" โคเคสกล่าว โดยพวกทหารกบฎรีบแจ้งฐานหลักให้ส่งทีมแพทย์มาช่วยโดยเร็ว

              "ภารกิจในครั้งนั้น เราได้ทำให้โฟรซ่าอยู่รักษาตัวที่เดธฮาเว่นมาตลอด 4 วันเต็มๆ แต่เทคไครด์ก็ต้องหาเรื่องทำให้เธอถูกล้างสมองอย่างแน่นอนกันน่ะ" โคเคสบอก "แม้ว่าเขาจะได้สติขึ้นมาในวันต่อมา เรารู้แค่ว่าเขาชื่ออองรี แนชท์ เป็นนักบินที่หลงทางมาเท่านั้นเองน่ะ" โดยตอนนี้เข้ามาในห้องพักฟื้น ซึ่งชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายนามอองรียังนอนอยู่ โดยที่เบย์แทนด์และพีวิลคอยเฝ้าไข้อยู่
              "คุณก็มาเยี่ยมจนได้สินะครับ" อองรีกล่าวอย่างสุภาพต่อโคเคสที่แวะมา
              "ใช่ เราแวะมาดูอาการของคุณกันนะครับ เพราะว่าจากการตรวจร่างกายของคุณ พบว่าคุณรอนแรมอยู่ในทะเลทรายมาตลอด 6 วัน โดยไม่กินไม่ดื่มอะไรเลย บวกกับคุณถูกคนปองร้ายกันอยู่แล้ว เราเลยต้องเฝ้าดูอาการของคุณเป็นพิเศษกันนะครับ" โคเคสบอก
              บัลโต้กล่าว "และที่เราให้คนมาเฝ้าดูนั้น ก็เพื่อให้แน่ใจว่า นายจะไม่ลุกออกจากเตียงไปก่อเรื่องอะไรบ้าๆให้กับพวกเรากันหรอกน่ะ"
              "ว่าแต่ พวกคุณทั้งหมดนิ ไม่ใช่มนุษย์กันจริงๆเลยสิน่ะ แม้ว่าจะมีส่วนมากที่เป็นมนุษย์มีเนื้อมีหนังก็ตาม ผมสงสัยมานานแล้วว่าพวกคุณเป็นอะไรกันแน่ละ" อองรีบอก
              พีวิลบอก "ถ้าพวกเราบอกว่า พวกเราทั้งหมดคือแมนิเกเตอร์กันละครับ"
              "แมนิเกเตอร์นะหรือ....หมายถึงกลุ่มมนุษย์ดัดแปลง มนุษย์สังเคราะห์ผสมจักรกลหรือแม้กระทั่งเหล่าหุ่นยนต์ทรงมนุษย์กันอย่างงั้นนะละสิน่ะ" อองรีกล่าว บัลโต้ได้ฟังก็ถึงกับรีบชักปืนสั้นริมฟ็อกซ์ออกมา เช่นเดียวกับพีวิลที่เตรียมอาร์มชู้ตเตอร์ไว้แล้ว
              บัลโต้โวยลั่นไปว่า "แก แกเป็นทหารของฝ่ายไหนส่งมา พวกมหาสหรัฐ สมาพันธ์แอฟริกา เครือพันธมิตรเอเชีย หรือว่ามหาสหพันธ์ยุโรปกันแน่ละ"
              "พวกคุณพูดอะไรกันนะครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจกันสักหน่อยนะครับ ที่โลกมีกลุ่มแบบนี้ด้วยหรือ แล้วกลุ่มมหาสหพันธ์แห่งโลกนั้น ไม่อยู่แล้วหรือครับ" อองรีถามด้วยความประหลาดใจ
              เฮลิคได้ฟังก็อึ้งไปไม่น้อย "เออ นี้คุณคงไม่ใช่...ประชาชนในช่วงปลายยุคทองเมื่อ 40 ปีก่อนเลยหรือครับ"
              "ปลายยุคทองนะหรือ ไม่เลยนิครับ ผมไม่ได้อยู่ที่โลกมาตั้งนานแล้ว นี้ตกลง เวลามันผ่านไปมากเลยหรือครับ" อองรีกล่าว
              เบย์แทนด์ถาม "แสดงว่า คุณไม่ได้ตื่นขึ้นจากไทม์แคปซูลแช่แข็งบนโลกกันสินะครับ แสดงว่า คุณคงจะเป็นนักบินอวกาศที่ออกเดินทางไปในช่วงยุคทองกันแน่ๆ เพราะตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ผมรู้มา ว่ายุคนั้นพวกมนุษย์ออกเดินทางสู่อวกาศกันอย่างแพร่หลาย จนกระทั่ง ปี 2124 การติดต่อระหว่างโลกกับอวกาศนั้นขาดหายไป และนั้นก็เป็นจุดเริ่มเรื่องราวแย่ๆของโลกใบนี้กันนะครับ"
              "เออ ไม่ทราบว่าโลกในตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันบ้างละครับ" อองรีถาม เบย์แทนด์จำต้องเล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต่เรื่องการสร้างโอเวอร์เดส เรื่องมหาสงครามบนโลกระหว่างมนุษย์กับแมนิเกเตอร์ แล้วก็มหาสงครามในเวลานี้ไว้ จนอองรีกล่าว "แสดงว่าตอนนี้พวกคุณก็คือกลุ่มต่อต้านที่ยังสู้กับโอเวอร์เดสและพวกอยู่สินะ แต่...ผมเกรงว่าเรื่องที่พวกคุณจะออกเดินทางไปหาดาวดวงใหม่คงเป็นเรื่องยากแล้วละครับ"
              บัลโต้ถาม "หมายความว่าไงที่บอกว่ามันเป็นเรื่องยากกันน่ะ"
              "เพราะว่า ในอวกาศเองก็มีกลุ่มจักรวรรดิ์แมนิเกเตอร์อวกาศที่แรซัลก้าปรากฎขึ้นมานะสิครับ ซึ่งตอนนี้ จักรวรรดิ์ได้ส่งเหล่าแมนิเกเตอร์ออกยึดระบบดาวที่อยู่นอกเขตระบบดาวเจเนซิสกันไว้ จนทำให้กลุ่มสมาพันธ์อวกาศประสบกับความเดือดร้อนกันแล้วละครับ" อองรีบอก
              พีวิลกล่าว "จักรวรรดิ์แมนิเกเตอร์อวกาศที่แรซัลก้านะหรือ นี้อย่าบอกน่ะ ว่าพวกนั้นก่อความเดือดร้อนกันแล้วหรือครับ"
              "ใช่ครับ ในเวลานี้ เฮนรี่ ไนท์ ผู้นำกองกำลังฝ่ายมนุษย์และเป็นตัวแทนของมวลมนุษยชาติซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มสมาพันธ์อวกาศ ได้นำกองรบของเขาที่อยู่ตามดาวต่างๆที่พวกเขาไปตั้งรกรากไว้มาตลอด 30 ปีเต็มๆนั้น ออกมาต่อสู้กับพวกแมนิเกเตอร์เหล่านั้นไว้ หากแต่....แมนิเกเตอร์อวกาศเหล่านั้นไม่เพียงแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างเดียว ผมทราบมาว่า แรซัลก้าถูกปกครองโดยจักรพรรดินีโอเวอร์เรสกันนะครับ" อองรีบอก
              พีวิลย้อนชื่อของผู้นำแมนิเกเตอร์ในอวกาศ "จักรพรรดินีโอเวอร์เรสนะหรือ"
              "ครับ จักรพรรดินีได้เข้าปกครองดาวแรซัลก้านี้มาตลอด 50 ปีเต็มบนดาวดวงนี้ นับแต่ชาวอาณานิคมที่ไปตั้งรกรากนั้นถูกพวกต่างดาวโฉดนามเฮซเทิร์ซบุกรุกรานเอาไว้กันแล้วละครับ" อองรีบอก "ที่สำคัญ เฮนรี ไนท์เองก็พยายามติดต่อเรื่องนี้ไว้ แต่การติดต่อสื่อสารกลับถูกตัดขาดลง เพราะพวกเฮซเทิร์ซได้ทำลายระบบการสื่อสารจากอวกาศไปสู่โลกในตอนนั้นไว้ แม้จะหยุดยั้งพวกเฮซเทิร์ซไปได้ เฮนรี่ ไนท์กับพวกก็ไม่ได้ข่าวคราวบนโลกอีกเลยนะครับ"
              เฮลิคบอก "เข้าใจแล้วละ งั้นสาเหตุที่ชาวโลกตื่นตระหนกว่าการติดต่อจากเฮนรี่ ไนท์และชาวอาณานิคมอวกาศอันไกลโพ้นมันหายไปกันนั้น เพราะพวกต่างดาวเลวร้ายเป็นคนก่อเรื่องไว้เองน่ะ"
              "แล้วไอ้พวกสมาพันธ์อวกาศอะไรนั้นก็กักตัวเฮนรี่ ไนท์และพวกเอาไว้ละสิ" บัลโต้บอก
              อองรีกล่าว "ไม่ใช่เลยนะครับ แม้ว่าคำพูดของผมอาจจะทำให้พวกคุณบางคนไม่พอใจอย่างมาก แต่....ผมสาบานได้เลยนะครับ ว่าสิ่งที่ผมพูดมานั้นเป็นจริงทุกประการ เพราะว่าผมอยู่ในกองรบของเฮนรี่ ไนท์กันด้วยนะครับ"
              "งั้นหรือ แล้วถ้าเฮนรี่ ไนท์กับพวกยังมีชีวิตอยู่นิ หลังจากนั้น พวกเขาทำอะไรกันอยู่ล่ะ" พีวิลถาม
              อองรีเล่า "หลังจากที่พวกเขาสูญเสียการติดต่อระหว่างอวกาศสู่โลกไปแล้วนั้น พวกเขาตัดสินใจที่จะตั้งรกรากกันที่ระบบดาวที่ทางสมาพันธ์โลกจัดหาไว้ โดยที่บางส่วนอยู่ในสถานีอวกาศขนาดยักษ์ใหญ่อันเป็นศูนย์กลางหลักของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศ เช่นเดียวกับเฮนรี่ ไนท์ที่มีสถานะเป็นตัวแทนของมวลมนุษยชาติ หลังจากที่เขากับพวกเดินทางมายังเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศกันได้ 2 ปีนับจากที่เดินทางมานะครับ"
              "แปลว่าตอนนี้ เฮนรี่ ไนท์กับพวกกำลังสู้รบกับพวกแมนิเกเตอร์ในอวกาศกันเลยสิน่ะ" บัลโต้บอก
              อองรีกล่าว "ครับ หากแต่ เฮนรี่ ไนท์มีความต้องการที่จะรู้เรื่องราวบนโลก อันเป็นดาวบ้านเกิดที่เขากับพวกเดินทางจากมา แม้จะสูญเสียการติดต่อระหว่างโลกกับอวกาศไป แต่....การเดินทางด้วยความเร็วแสงนั้นยังมีอยู่ เฮนรี่ ไนท์จึงส่งผมและพวกเดินทางมาที่โลก หากแต่ว่า....ทันทีที่ผมเดินทางออกมาจากดวงจันทร์ ผมก็ถูกโจมตีจนพรรคพวกที่มาด้วยนั้น..."
              "ชัดเลย เทคไครด์ยังมีพรรคพวกนอกโลกเหลืออยู่จริงๆด้วยน่ะ" บัลโต้บอก
              พีวิลกล่าว "ดีแล้วละ ที่พวกเราตัดสินใจปักหลักต่อสู้กับโอเวอร์เดสและพวกลูนาสตี้ไว้ ถ้ารีบดึงดันออกนอกโลกโดยเร็วซะ คงไม่เป็นเรื่องดีแน่ๆเลยละ"
              "แล้วคุณคิดที่จะกลับสู่อวกาศกันเลยมั้ยละ" โคเคสบอก
              อองรีกล่าว "ถ้าเป็นไปตามที่พวกคุณเล่ามา หากพวกลูนาสตี้และแมนิเกเตอร์ในอวกาศไม่ถูกกำจัดจนหมดไปซะ ผมคงไม่สามารถกลับไปได้กันนะครับ แล้วระบบเดินทางความเร็วแสงนั้น"
              "วางใจได้เลยครับ ทางเราเก็บกู้ระบบนั้นไว้เพื่อให้คุณนำมันกลับไปให้กองกำลังของสี่กลุ่มประเทศทำการสร้างยานขึ้นมาใหม่ ซึ่งในระหว่างนี้ ผมคงต้องอยู่กับพวกคุณไปสักระยะกันนะครับ" อองรีบอก บัลโต้มองหน้าเฮลิคเพื่อขอความเห็น
              โคเคสบอก "....เบย์แทนด์ สภาพกายของอองรีเป็นยังไงบ้างละ"
              "อาการดีขึ้นมาก แต่บาดแผลจากการถูกพวกลูนาสตี้เล่นงานไปนั้น ยังต้องเยียวยากันต่อนะครับ" เบย์แทนด์บอก
              โคเคสกล่าว "ผมคงให้คุณอยู่ที่นี้ไปสักระยะ ไว้ให้ผมหาโอกาสหรือเวลาที่เหมาะที่ควร ผมจะส่งคุณไปให้ทางมหาสหรัฐเลยแล้วกันนะครับ"
              "ถ้าเป็นพวกคุณละก็ ผมก็วางใจได้แล้วละครับ" อองรีกล่าว แล้วโคเคสและพวกก็มารวมกันที่ห้องบัญชาการหลัก

              "จักรวรรดิ์แมนิเกเตอร์อวกาศที่แรซัลก้านะหรือ....อืมมมมม สงสัยว่าการเดินทางสู่ดาวดวงใหม่คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบกันแล้วละสิ" วูลลิเซียกล่าว
              "แล้วว่าแต่ พวกคุณรู้เรื่องพวกแมนิเกเตอร์ที่อยู่บนดาวแรซัลก้าดีแค่ไหนกันนะครับ เพราะว่าพวกคุณบางคนเคยทำงานให้กับพวกโอเวอร์เดสกันมาก่อนน่ะ" เบย์แทนด์ถาม
              มาสวาร์ทาร์บอก "เท่าที่ทราบมา แมนิเกเตอร์บนดาวแรซัลก้านั้นไม่เพียงแข็งแกร่งและทรงพลังยิ่งกว่าพวกเรา หากแต่พวกเขายังมีวิทยาการอันล้ำยุคทันสมัย ซึ่งเหนือชั้นกว่าเทคโนโลยี่ที่โอเวอร์เดสใช้สร้างพวกเราขึ้นมากันเสียอีก หลังจากที่โอเวอร์เดสสถาปนากองทัพทั้งสี่ อันได้แก่ ลูนาสตี้กับโซลาสตี้ ครอสตรีม แอตแลนไทซ์ และอีเนอไมนด์ขึ้นมาแล้ว โอเวอร์เดส ได้ใช้โลกเป็นสถานที่ทดสอบขีดความสามารถของแมนิเกเตอร์ไปพร้อมกับผลิตกำลังพลเพิ่มเติม ซึ่งกองรบไหนที่มีแมนิเกเตอร์ที่มีขีดความสามารถสูงตามความเห็นของครองคอร์ด ขุนพลของโอเวอร์เดสขึ้นมา กองรบนั้นจะต้องส่งพวกแมนิเกเตอร์ที่สร้างไว้ ส่งไปยังดาวแรซัลก้า เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพจักรวรรดิ์ในอวกาศกันนี้แหละ"
              "แสดงว่า กองรบอีเนอไมนด์ของเธอเองก็ถูกส่งไปเป็นส่วนมากเลยสิน่ะ" วูลลิเซียกล่าว
              พีวิลพยักหน้า "ถ้าครองคอร์ดส่งออกกำลังพลของอีเนอไมนด์ไปได้ กองรบที่เหลือแม้กระทั่งลูนาสตี้เองก็ต้องเป็นแบบนั้นไปด้วยเช่นกันนะครับ"
              "มันไม่น่าเป็นไปได้หรอกมั่ง ครองคอร์ดคุมสามกองแรกที่ยังอยู่บนโลก ส่วนลูนาสตี้นั้นมีไอ้เกซิคกับยัยจีเนฟาร์รี่คุมอยู่ ก็ไม่น่าที่จะ..." คลอเวฟแย้ง
              เบย์แทนด์กล่าว "เกรงว่า ที่คุณพูดมาจะไม่ใช่แล้วละครับ ข้อมูลล่าสุดระบุมา ว่าตอนนี้เทคไครด์กำลังมีปัญหากับครองคอร์ดในเรื่องแอบอ้างเป็นเกซิค โยกย้ายกำลังพลสำรองบนดวงจันทร์ขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาตกันนะครับ"
              "โอ้ว แจ่ม ไอ้หัวแหลมหาเรื่องกวนตีนข้ามเส้นจนได้สิวะ แหะๆๆๆ" คลอเวฟหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมาหลังจากที่ทราบเรื่อง
              มาสวาร์ทาร์ถาม "เบย์แทนด์ ว่าแต่ ครองคอร์ดส่งกำลังสำรองบนดวงจันทร์ที่มีอยู่ทั้งหมดนิ ไปมากน้อยแค่ไหนกันละ"
              "จากหนึ่งแสนที่ยังอยู่รั้งท้ายบนดวงจันทร์เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ตอนนี้เหลือเพียง 4 หมื่นที่เทเลพอร์ตลงมาแล้วละครับ ส่วนเครื่องมือแปรสภาพเป็นแมนิเกเตอร์นั้น...ก็อยู่กับกองรบที่ถูกส่งไปแรซัลก้ากันนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว
              เฮลิคบอก "บวกกับคงเหลือในตอนนี้เพียง 4,000 คน ก็ยังถือว่ายังเยอะพอตัวอยู่น่ะ"
              "แล้วเรื่องพวกแมนิเกเตอร์บนแรซัลก้านิ มันเชื่อถือได้มากเลยหรือ" เซริซ่าถาม
              โคเคสบอก "เท่าที่ฟังจากอองรีเล่ามา เขาคงเป็นทหารที่ได้รับคำสั่งจากเฮนรี่ ไนท์ให้เดินทางมาที่โลกเพื่อดูความเป็นไปที่เกิดขึ้นบนโลกในเวลานี้ หลังจากที่ขาดการติดต่อมาอย่างยาวนานกันไว้นะสิ เพราะว่า เฮนรี่ ไนท์กับกลุ่มมนุษย์ที่อยู่ในอวกาศนั้น คงจะไม่รู้วันเวลาที่แน่ชัดว่าโลกในตอนนี้ เวลาผ่านไปตั้ง 80 ปีแล้วน่ะ"
              "เดียวก่อนน่ะ เวลาในอวกาศมันสั้นมากเลยหรือไงกันวะ" บัลโต้บอก
              เบย์แทนด์กล่าว "มันเป็นความเหลื่อมล้ำระหว่างกาลเวลาของตัวเรากับสภาพภายนอกกันนะครับ ซึ่งเวลาที่เราอยู่ในอวกาศอาจจะใช้เวลาเหมือนอยู่ประมาณ ปีสองปี แต่กับโลกนั้น เวลามันผ่านไปราวสิบปี ร้อยปี หรือพันปี ขึ้นกับว่าเราอยู่ในระบบดาวที่ห่างจากโลกไปมากแค่ไหนกันนะครับ ดังนั้น กลุ่มมนุษย์ที่ไปกับพวกเฮนรี่ ไนท์จึงมีสภาพเหมือนในช่วงยุคทองเมื่อปี 2124 กันนะครับ"
              "ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ดาวแต่ละดวงที่อยู่ในระบบอวกาศต่างๆนั้น ล้วนแล้วมีระบบเวลาที่แตกต่างจากโลกกันไม่น้อย เหมือนกับประเทศต่างๆบนโลกที่มีเวลาช้าเร็วกว่าที่เราอยู่ บางดวงเวลาหนึ่งปีบนโลกจะเป็นสิบปีของดาวดวงนั้น บางดวงมีระยะเวลาที่มากกว่า 24 ชั่วโมงตามมาตราฐานบนโลกเรา บางดวงก็ใช้ระบบเวลาประจำดวงดาวที่แตกต่างกัน ซึ่งพวกเราต่างก็ศึกษาทฤษฎีนี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเวลาเราออกเดินทางไปดาวดวงต่างๆกันไว้ด้วยน่ะ" วูลลิเซียกล่าว
               โคเคสบอก "ดร.รีไลฟ์เวอรี่คงจะคาดการณ์ไว้แล้วว่า การเดินทางของพวกเราแม้จะยาวนานหรือรวดเร็วแค่ไหน โลกก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไป เหมือนกับว่า พวกเราเดินทางจากปัจจุบันมายุคอนาคตแบบเที่ยวเดียวและกลับไปไม่ได้กันด้วยสิน่ะ"
              "แล้วไม่มีเทคโนโลยี่สร้างไอ้ไทม์แมชชีนกันเลยหรือ..." บัลโต้กล่าว
              เบย์แทนด์กล่าว "องค์ความรู้การเดินทางข้ามกาลเวลากลายเป็นองค์ความรู้ต้องห้ามไปแล้วละครับ เพราะการเดินทางสู่อดีตนั้นจะส่งผลต่อประวัติศาสตร์ในยุคอนาคตอย่างมาก ซึ่งนั้นหมายถึงประวัติศาสตร์จะแปรเปลี่ยนและทำให้โลกเกิดความผิดเพี้ยนขึ้นมา แน่นอนว่า หัวหน้าสถาบันเองก็ห้ามพวกเราศึกษาความรู้ด้านนี้ เว้นแต่ศึกษาเรื่องความแตกต่างของเวลาในอวกาศกันเท่านั้นเองนะครับ"
              "ดีแล้วละ แม้ว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อันเลวร้ายในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาลงได้ แต่...อย่างน้อย นั้นก็เป็นสิ่งที่พวกมนุษย์และพวกเราควรจะยอมรับกันได้ ว่าเราควรจะอยู่กับปัจจุบันเพื่อทำอนาคตให้ดีกว่านี้ กันนี้แหละ" โคเคสบอก "ดังนั้น เรื่องอองรี เราต้องให้ความปลอดภัยต่อเขาจนกว่าเราจะหาทางส่งเขาไปให้เวสวิงตันและกองกำลังพิเศษที่ 12 ได้ พอๆกันกับเรื่องปะทะกับพวกลูนาสตี้ด้วย"
              คลอเวฟกล่าว "เออ ก่อนที่เราจะพูดเรื่องแผนการรับมือพวกเทคไครด์ ไม่ปลุกยัยนี้ให้หายเอ๋อก่อนเลยหรือ" เพราะเห็นสเปียริทยืนนิ่งมาโดยตลอด และไม่มีการพูดออกความเห็นเลยสักครั้ง

              "เออ สเปียริท ตื่นได้แล้ว" พีวิลกล่าว และจับไหล่ขยับตัวสเปียริทไปแรงๆจนเธอรู้สึกตัวและ "เพี้ยะ" ตบหน้าพีวิลไปเต็มๆ
              "คนบ้า อย่าเขย่าแรงๆสิ ไหล่ฉันหักเอากันพอดีนี้แหละ" สเปียริทโวย และหันมามองทุกๆคนที่จ้องกันอย่างยกใหญ่ "เออ พวกนายมองอะไรกันน่ะ"
              "เห็นเธอยืนนิ่งๆตั้งแต่เราพูดเรื่องแรซัลก้าและเรื่องเฮนรี่ ไนท์จากปากอองรีกันแล้วนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก และหันมาถาม "ว่าแต่ เธอยืนเหม่อมาตลอดนิ เกิดอะไรขึ้นกันละ"
              สเปียริทได้ฟังก็ชะงักลงก่อนจะตอบไปว่า "พอพวกนายพูดถึงแรซัลก้าและพวกแมนิเกเตอร์ขึ้นมานั้น มันทำให้ฉัน....รู้สึกได้ว่าฉันเคยอยู่ที่นั้นมาก่อนนะสิ แต่...อยู่ๆฉันก็ รู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันน่ะ"
              "ว่าแต่ตรงไหนของการพูดคุยของเรานั้น ที่ทำให้เธอนิ่งไปได้กันละ" เซริซ่าถาม
              สเปียริทบอก "อืมมมมม ตั้งแต่โคเคสบอกว่า แมนิเกเตอร์ที่แรซัลก้าคุกคามระบบดาวอื่นกันนะสิ แต่ ฉันไม่รู้เลยละ ว่ามันเพราะอะไร ฉันไปอยู่ที่แรซัลก้ากันยังไงน่ะ"
              "เอาเป็นว่า เธอทำใจให้สบายกันดีกว่าน่ะ สเปียริท เรื่องปัจจุบันในตอนนี้สำคัญกว่าน่ะ" พีวิลแนะนำ สเปียริทพยักหน้า
              โคเคสบอก "ถ้างั้นเราเลิกประชุมกันเพียงเท่านี้ก่อนแล้วกันน่ะ"
              "จากที่ฟังเธอเล่ามาเกี่ยวกับสเปียริทนั้น ฉันคิดว่าสเปียริทคงจะเป็นแมนิเกเตอร์ที่มาจากแรซัลก้ากันอย่างแน่นอน หากแต่ เธอเหมือนจะมีความพิเศษบางอย่างในตัว เธอจึงถูกโจมตีและไล่ล่าจนบาดเจ็บสาหัสพร้อมกับสูญเสียความจำเลยสิน่ะ" วูลลิเซียกล่าวกับเซริซ่าในห้องพักไว้
              เซริซ่าชงกาแฟมาสองแก้วพร้อมกับบอกว่า "แม้จะตกใจไม่น้อย ที่เธออาการสาหัสจนมีบาดแผลเป็นตามตัว แต่ก็มีพละกำลังอันมหาศาลและพลังอันกล้าแกร่งอยู่ในตัว แม้จะมีพลังเป็นครึ่งเดียวแล้วก็ตามน่ะ"
              "ที่ว่าแกนหัวใจของเธอนั้นมีแค่ครึ่งซีกเองนะหรือ อืมมมม เคสนี้ถือว่ามันน่าตกใจไม่น้อยเลยน่ะ ที่สเปียริทสามารถยืนอยู่ได้ ทั้งๆที่หากแมนิเกเตอร์มีแกนหัวใจเพียงครึ่งเดียวอยู่ นอกจากพลังจะถูกตัดทอนเหลือครึ่งเดียว ตัวแมนิเกเตอร์เองก็อยู่ได้อีกไม่นานเพราะสูญเสียพลังที่ถูกตัดทอนเพียงครึ่งเดียวกันด้วยน่ะ" วูลลิเซียบอก
              เซริซ่าถาม "ว่าแต่ เธอรู้วิธีที่จะซ่อมแกนหัวใจนั้นได้มั้ยละ"
              "แย่หน่อยนะ ที่แม้ฉันมีความรู้ด้านจักรกลที่สามารถช่วยซ่อมแซมอวัยวะหุ่นยนต์ของพวกพ้องของเธอได้ก็จริง แต่นั้นก็เป็นเรื่องยากเลยน่ะ" วูลลิเซียกล่าว "ถ้าสเปียริทเป็นแมนิเกเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นในแรซัลก้ากันจริงๆ แกนหัวใจของเธอนั้นก็ต้องเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากที่นั้นไว้อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าแกนหัวใจนั้นถูกทำลายไปมันก็ถือว่าช่วยอะไรไม่ได้ แต่ถ้าแกนหัวใจอีกครึ่งนั้นยังอยู่ เรายังพอประกบมันให้ติดกันได้ เพราะความรู้ด้านแกนหัวใจนั้น เรายังไม่ได้ศึกษากันอย่างเต็มที่เลยน่ะ"
              เซริซ่าถาม "ส่วนหนึ่งเพราะแกนหัวใจเป็นของเฉพาะที่ไม่สามารถสังเคราะห์หรือสร้างขึ้นได้เอง แม้กระทั่งเอาแกนหัวใจแบบอื่นมาหลอมรวมก็ไม่ได้ละสิ"
              "ใช่ แม้ฉันรู้สึกประหลาดใจในความสามารถด้านการต่อสู้ของสเปียริทที่มักจะแสดงให้คนอื่นตกใจไม่น้อย ยิ่งล่าสุดนั้น เธอหยิบอาวุธสนับมือดาบของพวกลูนาสตี้มาประกบเป็นดาบสองด้านและใช้มันต่อสู้ได้อย่างคล่องแคล้วแบบนี้ แสดงว่าเธอคงจะผ่านการฝึกฝนมาอย่างโชกโชนไม่น้อยแน่ๆเลยละ" วูลลิเซียบอก
              เซริซ่าบอก "ฝึกฝนนะหรือ อืมมมมม สเปียริทแต่งตัวคล้ายกับเป็นเจ้าสาวหรือองค์หญิงที่ไหนสักแห่งนะหรือจะฝึกการใช้อาวุธแบบนั้นได้น่ะ มันแทบไม่น่าเชื่อแม้จะเห็นอยู่เป็นประจำเลยก็ตามน่า"

              "บอกตรงๆนะ ว่าฉันรู้สึกได้ว่า ฉันมีความสัมพันธ์กับดาวแรซัลก้ากันมาก่อน แม้จะจำไม่ได้เลยว่าฉันได้เจอเรื่องดีหรือร้าย หรือทั้งสองอย่างมาก่อนหรือเปล่า" สเปียริทบอก "แต่พอได้ยินว่าแรซัลก้านำกำลังแมนิเกเตอร์คุกคามระบบดาวต่างๆนั้น ส่วนลึกในจิตใจของฉันกลับรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย แต่ไม่รู้ว่า ฉันควรจะพูดเช่นไรดีกันน่ะ"
              พีวิลได้ฟังก็รู้สึกเห็นใจไม่น้อย "ส่วนหนึ่งเพราะว่า คุณเป็นแมนิเกเตอร์จากที่นั้น คงจะรับไม่ได้สิน่ะ ว่าบ้านเกิดของคุณนั้น..."
              "...บ้านเกิดหรือ....ถ้าที่นั้นเป็นบ้านเกิดของฉันจริง แล้ว...ฉันไปเจอเรื่องอะไรที่ทำให้ฉันต้องบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นต้องใส่แคปซูลและส่งมาที่โลกกันด้วย...แม้ส่วนลึกในจิตใจของฉันต้องการให้ฉันสู้ต่อ เพื่อหาต้นเหตุของเรื่องนั้นซะก็ตามน่ะ" สเปียริทบอก
              พีวิลกล่าว "แปลว่าคุณคงจะมีใครที่ไม่ต้องการให้คุณอยู่ ถึงได้ปองร้ายคุณอย่างหนักหน่วง แม้คุณจะสู้อย่างเต็มที่ก็เกือบตายไปแล้วสิน่ะ"
              "ฉันก็พยายามคิดเช่นนั้นนี้แหละ..." สเปียริทบอก และหลับตาลง "ในช่วงที่ฉันชะงักงันกับคำว่าแรซัลก้านั้น ความจำบางอย่างมันแว่บเข้ามาในหัว ถึงห้าครั้งด้วยกัน"
              พีวิลได้ฟังก็ถาม "ห้าครั้งหรือ ว่าแต่ คุณจำอะไรได้บ้างละ"
              "ร่างเงาขนาดยักษ์ใหญ่ที่ฉันมองไม่ชัดเจน ภาพเหตุการณ์ที่ฉันเจอกับคนทั้งสิบคนที่เป็นแค่เงาลางๆ ซึ่งพวกนั้นถืออาวุธและบุกเข้าใส่ฉันอย่างรวดเร็ว ภาพร่างยักษ์ขนาดใหญ่ที่หันหน้ามามองซึ่งใบหน้ามืดมัวมากๆ ภาพของนักรบถือหอกที่กำลังใช้ฝ่ามือเพื่อทำอะไรสักอย่าง แล้วก็...." สเปียริทกล่าว และพยายามนึกภาพที่แว่บเข้ามาในหัวไว้ "....ภาพของหญิงสาวที่หันหลังซึ่งอยู่ในกระจกแก้ว ภาพสุดท้ายนี้แหละที่ฉันหลับฝันถึงทุกๆคืน ซึ่งฉันพยายามจะวิ่งเข้าไปหา แต่หญิงคนนั้นกลับห่างไกลไปไม่น้อยเลยน่ะ"
              พีวิลบอก "ความจำเหล่านั้น คงจะเป็นเหตุการณ์ในอดีตกันแน่นอน หากแต่ ต้องมีสักเหตุการณ์ที่ทำให้คุณเป็นอย่างงี้แน่นอน"
              "ฉันก็พยายามคิดเช่นนั้นน่ะ แต่ ฉันคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเสียที" สเปียริทบอก
              พีวิลกล่าว "แค่นั้นก็ดีแล้วละ สเปียริท ถ้าเราสามารถผ่านศึกนี้บนโลกลงไปได้แล้วละก็ พวกเราจะมุ่งหน้าสู่แรซัลก้าเพื่อค้นหาคำตอบด้วยกันเลยน่ะ อย่างน้อย เรื่องอดีตของคุณเองก็..."
              "ไม่เป็นไรหรอกน่ะ พีวิล ฉันไม่สนอะไรมากเกี่ยวกับอดีตของฉันหรอกน่ะ เพราะ ถ้าขนาดนายที่เป็นอดีตมนุษย์ได้ตัดสินใจที่จะสู้เพื่อปกป้องพวกแมนิเกเตอร์ที่อ่อนแอร่วมกันกับโคเคสได้ละก็ ฉันซึ่งเป็นอดีตแมนิเกเตอร์ที่ไม่รู้ที่มาที่ไปนั้น ก็จะขอร่วมสู้ไปกับนายกันนี้แหละ" สเปียริทกล่าวแล้วก็ยิ้มขึ้น "ต่อให้ฉันเป็นแมนิเกเตอร์ที่ดีหรือเลวแค่ไหน อดีตก็ส่วนอดีต ถึงไม่มีไทม์แมชชีนให้เราใช้กลับไปเพื่อดูอดีตที่ลางเลือนหรือไปแก้ไขมัน เรื่องที่เกิดไปแล้วก็ยังถือว่าเกิดขึ้นอยู่ดีนี้แหละ"
              พีวิลได้ฟังก็สบายใจไม่น้อย "...ดีแล้วละ สเปียริท แค่ได้ยินเธอคิดได้เช่นนี้ก็เกินพอแล้วละ"
              "ตกใจหมดเลยนะเนี้ย นึกว่าเจ้จะทำให้ลูกพี่เป็นห่วงเสียอีกน่ะ" ไกซ์กล่าว
              มิลด์บอก "นั้นสิ ทีแรก คุณสเปียริทยืนอึ้งอยู่ที่ประชุม นึกว่าคุณสเปียริทจะเครื่องดับวูบกลางคันไปเสียได้น่ะ"
              "แต่อย่างน้อย แค่คุณสเปียริทไม่เป็นไรก็ดีแล้วละ เพราะว่าตอนนี้พวกเราเองยังมีเรื่องต้องทำกันด้วยน่ะ" ดิเรนท์บอก
              เฮเรเค้นอ้าปากหาวกว้างๆไปว่า "ก้ากกกกกกก อ้าว ยังไม่หายง่วงเลยวะ ให้ตายสิ"
              "ยังไม่หายง่วงนะหรือ แล้วไอ้ที่นายแอบไปนอนหลังเสาตรงนั้นมาตลอด 4 ชั่วโมงจะอธิบายยังไงมิทราบละวะ" ไกซ์บ่น
              เฮเรเค้นกล่าว "ก็เมื่อคืนออกเวรตรวจตราด้านนอกเผื่อพวกลูนาสตี้จะบุกมาเสียหน่อย ทั้งคืนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน จนกระทั่งถึงเช้ากันนี้แหละ"
              "แล้วพวกพ้องของเธอละ ดิเรนท์ ตอนนี้พวกเขาทำอะไรกันอยู่น่ะ" มิลด์ถาม
              ดิเรนท์บอก "ตอนนี้เหล่าหัวหน้าเผ่าตัดสินใจที่จะเรียกเผ่ามัจฉาขึ้นมาเพื่อเป็นกองหนุนทางน้ำในการบุกโจมตีเดธฮาเว่นของลูนาสตี้ แล้วก็ฐานทัพของพวกแอตแลนไทซ์กันแล้ว แม้ว่าเราจะต้องผ่านพวกบีสทอยด์ดุๆน่ากลัวอยู่เผ่าหนึ่งกันน่ะ"
              "คงไม่ใช่บีสทอยด์สัตว์เทพนิยายกันละสิ" ไกซ์บอก
              เฮเรเค้นบอกทั้งที่ยังสลึมสลือไปว่า "เปล่าหรอก.....เพราะในกลุ่มบีสทอยด์ก็มีพวกเหมือนสัตว์เทพนิยายอยู่แล้ว อย่างมนุษย์หัววัวมิโนทอร์ มนุษย์เงือก  มนุษย์กิ่งก่า ครุฑ มนุษย์กากอยซึ่งเป็นมนุษย์ผสมค้างคาว นางแมวป่า และแม้กระทั่งกินรีและกินนร ซึ่งเป็นคนแต่มีขาเหมือนนกและมีปีกตรงเอวลงมา ที่มาจากหิมพานต์เองก็ยังมีเลยวะ"
              "ที่ว่ากินถั่วหิมพานต์เป็นอาหารนะหรือ" ไกซ์กล่าว
              ดิเรนท์บอก "จะบ้าหรือยะ หิมพานต์ที่ว่านั้นมันเป็นแดนดินพิศวงในตำนานของอินเดียกันต่างหากละ ไม่ใช่ชื่อถั่วสักหน่อยนิ"
              "แล้วบีสทอยด์แบบไหนที่ดุๆและน่ากลัวสุดๆล่ะ" มิลด์ถาม
              เฮเรเค้นกล่าว "ถ้าฉันบอกว่า โอเวอร์เดสสร้างพวกบีสทอยด์ไดโนเสาร์ขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์บีสทอยด์กันละ จะว่ายังไงเอ๋ย"
              "ไดโนเสาร์นะหรือ นี้อย่าบอกน่ะ ว่าโอเวอร์เดสค้นเจอก้อนอำพันที่มียุงดูดเก็บเลือดไดโนเสาร์มา แล้วใช้สร้างเป็นพวกบีสทอยด์กันน่ะ" ไกซ์กล่าว
              มิลด์ส่ายหน้าพร้อมกับบอกไปว่า "นั้นนะ มันวิธีการสร้างไดโนเสาร์เมื่อศตวรรษที่ 20 ซึ่งต้องใช้ดีเอ็นเอของกบมาทดแทนส่วนที่ขาดกันเท่านั้นเอง แต่สำหรับยุคทองที่ฉันอ่านจากฐานข้อมูลประวัติศาสตร์มานั้น พบว่า...พวกเขาสร้างไดโนเสาร์ขึ้น จากการสกัดเอาดีเอ็นเอที่ติดอยู่ในกระดูกฟอสซิสที่แห้งกร่างมานานนับสิบปี มาสร้างขึ้นมาได้โดยสมบูรณ์กัน จนสร้างเป็นธีมปาร์คที่ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยในช่วงนั้น เห็นว่าจะส่งไดโนเสาร์ไปนอกโลกด้วยละ"
              "จริงดิ คงไม่ได้หมายความว่าตอนนี้ก็มีพวกทีเร็กซ์อยู่บนดาวเนปจูนกันหรอกน่ะ" ไกซ์กล่าวอย่างอึ้งๆ
              เฮเรเค้นพูดติดตลกแกมดูถูกไปด้วยว่า "ถ้ามี แล้วเกิดพวกพันธมิตรหนุนของลูนาสตี้ขนมาด้วย คงมีเฮกันจริงๆแล้ววะ"
              "แล้วพวกบีสทอยด์ไดโนเสาร์พวกนั้น ไม่ได้มาร่วมกับพวกเธอกันเลยหรือ" มิลด์บอก
              ดิเรนท์ส่ายหน้าอย่างเครียดๆไปว่า "พวกเขาอยากจะร่วมอยู่แล้วละ หากแต่ พวกบีสทอยด์ไดโนเสาร์ต้องการให้พวกเขาอยู่ในระดับผู้นำกลุ่ม พูดง่ายๆก็คือ พวกเขาต้องการเป็นฝ่ายนำ มิใช่ฝ่ายตาม ต่อให้พวกเราพยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมให้พวกเขายอมร่วม แต่พวกเขาก็ยังยื่นเงื่อนไขบ้าๆนั้นอยู่เรื่อยๆเลยน่ะ"
              "และที่งี่เง่าที่สุดก็คือ เฮ้อออ ไม่อยากจะพูดออกมาโต้งๆเลย แต่ พวกบีสทอยด์ไดโนเสาร์เหล่านั้น แม่มโคตรโง่บรมสิ้นดีเลยวะ ถึงแม้ว่าจะมีบางตนที่มีสมองเยอะแม้จะมีเอกลักษณ์ของไดโนเสาร์บางพันธุ์ที่สมองเท่าเม็ดถั่วเอง ก็ยังอวดฉลาดทั้งๆไอคิวมันแย่กว่าพวกเราเสียอีกน่ะ ขนาดฉันที่หัวไม่ดี ก็ยังดูฉลาดกว่าพวกมันเสียด้วยซ้ำน่ะ" เฮเรเค้นพูดแบบตรงๆไม่ว่า ยังพูดเข้าข้างตนเองเปรียบเทียบกันจะๆไปด้วย
              ดิเรนท์บอก "แต่ถึงนายจะพูดเช่นนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่านายจะรอดจากการโดนครูมาสวาร์ทาร์ลงโทษในเรื่องไม่ตั้งใจเรียนกันสักหน่อยน่า"
              "ดีแล้วละ ที่หัวหน้าใหญ่โคเคสยังไม่เกณฑ์พวกไดโนเสาร์มาเข้าร่วมกองเสียก่อน ถ้าเกิดการเจรจาลุล่วงไปได้โดยมีข้อตกลงที่ได้เปรียบกันอย่างชัดเจนละก็ ฉันว่าคนที่ซวยจะเป็นนายซะมากกว่าน่า" ไกซ์บอก
              มิลด์กล่าว "แต่ไม่นึกเลยว่าจะมีบีสทอยด์ที่เราไม่รู้จัก พอๆกันกับเรื่องแมนิเกเตอร์ในอวกาศอีกด้วยน่า"
              "ก่อนหน้านี้ พวกบีสทอยด์ทั้งหมดต่างไม่พอใจอย่างมากที่มารู้ว่าพวกเขาไม่มีที่ให้อยู่บนโลกได้อีกต่อไปแล้ว เลยคัดค้านไม่ขอร่วมเป็นพันธมิตรหรือไม่ก็แยกตัวไปเพื่อสร้างหมู่บ้านแห่งใหม่ที่ประเทศอื่น แต่พอลูนาสตี้บุกโจมตีประเทศในกลุ่มเอเชียที่มีบาเรียหุ้ม ซึ่งรวมถึงบ้านเกิดอาจารย์มาสวาร์ทาร์เองก็พลอยซวยไปกับเขาด้วยนั้น ตอนนี้ ท่านพ่อกับทุกๆคน ต่างลงความเห็นกันแล้ว ว่าจะขอติดตามพวกนายไปหาดาวดีๆสักดวงตั้งรกรากกันไว้น่ะ" เฮเรเค้นบอก
              ดิเรนท์บอก "แน่ละ ประเทศที่พวกพ่อบุญธรรมอยากจะไปอาศัยอยู่ ดันถูกพวกลูนาสตี้โจมตีจนเริ่มมีการสะสมกองกำลังและเพิ่มความเข้มงวดในการกวาดหาผู้บุกรุกกันอย่างหนาแน่น ชนิดที่ซ่อนให้ลึกและเนียนแค่ไหนก็ยังเจอได้เลยนะสิ"
              "เออ พวกเธอทั้งสี่ไม่เข้าไปนอนเลยหรือจ๊ะ" แอนเดรียกล่าว เพราะเธอมาเห็นพวกเฮเรเค้นอยู่พอดี
              เฮเรเค้นบอก "คือว่า พวกเราแค่คุยกันเท่านั้นเองแหละครับ ครูแอนเดรีย ดังนั้น พวกเราจะกลับไปที่ห้องกันนะครับ"
              "ดีแล้วละ อย่างน้อยพวกเธอก็ควรจะหาเวลาอ่านหนังสือกันบ้างน่ะ และอย่านอนดึกด้วยละ" แอนเดรียบอก
              ไกซ์กระแอ่มตอบอย่างเขินๆไปว่า "เออ ครับผม" แล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันไป
              "ดูเหมือนว่า คุณจะเหนือยไม่น้อยเลยนะครับ" มาสวาร์ทาร์กล่าวและยื่นผ้าขนหนูมาให้
              แอนเดรียกล่าวไปว่า "อ้อ ไม่เป็นไรหรอกคะ เพราะฉันเองก็อยากจะช่วยเหลือพวกคุณกัน แม้ว่าฉันอ่อนแอเกินกว่าที่จะสู้ได้ก็ตาม ฉันก็ทำในสิ่งที่ฉันสามารถทำได้กันนะคะ"
              "อืมมมม แต่ยังไงเสีย คุณเองก็ควรจะป้องกันตัวกันสักหน่อยนะครับ เพราะไม่อย่างงั้น คุณก็คงจะ..." มาสวาร์ทาร์บอก
              แอนเดรียกล่าว "ฉันรู้คะ ว่าบางครั้งคุณอาจจะมาช่วยฉันไม่ทันการณ์ก็ตาม แต่...ฉันก็เข้าใจความรู้สึกของคุณ และเชื่อเสมอคะ ว่าคุณทำในสิ่งที่คุณควรจะทำกันอยู่แล้ว แค่นี้ฉันก็ไม่ถือโทษโกรธคุณหรอกคะ"
              "ถ้าคุณคิดเช่นนั้น ผมก็ไม่พูดอะไรมากแล้วนะครับ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              แอนเดรียบอก "หวังว่าคุณคงจะรักษาสุขภาพกันด้วย เพราะคุณดูเหนือยมากกว่าคนอื่นแล้วนะคะ" แล้วก็เดินจากไป ซึ่งมาสวาร์ทาร์เห็นแล้วก็ส่ายหน้าขึ้นมา
              "...เฮ้อออ เกือบเผลอพูดความจริงออกไปจนได้สิน่า มัตสึดะ"

              "หวอออออ หวอออออ หวอออออ หวอออออ" ฉับพลันสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นมา "แย่แล้วละคะ เรดาห์ตรวจจับสัญญาณของสเตฟอร์ดอยู่ห่างจากฐานทัพของเราในระยะ 4 กิโลเมตรออกไปกันนะคะ" เพลเรทรายงาน มาสวาร์ทาร์ที่ได้ฟังเลยรีบวิ่งไปที่ห้องบัญชาการหลักโดยเร็ว
              "สเตฟอร์ดมาคนเดียวหรือวะ นึกว่าจะมีพวกแห่มาด้วยเสียอีกน่ะ" คลอเวฟบ่นโดยที่มาอยู่ในห้องเช่นเดียวกับพีวิล พลัสเชอริทและสเปียริทแล้ว
              "แน่ใจน่ะ ว่าสเตฟอร์ดไม่มีสมุนติดตามมาด้วยกันน่ะ" โคเคสถาม
              เพลเรทรายงาน "เรดาห์ตรวจจับอาณาบริเวณโดยรอบแล้ว ไม่ปรากฎใครโผล่มาเลยคะ"
              "ปังๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆ" สเตฟอร์ดมาถึงก็ใช้ปืนโพริด็อดซ์ยิงรั่วถี่ๆบ้าง ยิงรั่วมากและน้อยสลับกันไป "ไอ้บ้านั้นกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ" บัลโต้ถาม
              พลัสเชอริทบอก "....เขาใช้ปืนยิงทำรหัสมอส เพื่อติดต่อกับพวกเราโดยไม่ให้มีคนอื่นๆที่เทคไครด์ส่งมาติดตามไปรายงานได้นะครับ"
              "แน่ละ เพราะว่าสเตฟอร์ดเดิมอยู่ในเขตหมู่บ้านที่การสื่อสารล้ำยุคยังเข้าไปไม่ถึง การติดต่อสื่อสารแบบเก่าอย่างโทรเลข จดหมายหรือแม้กระทั่งส่งรหัสมอสไปนั้นก็คือหนทางติดต่อเดียวที่ทำได้นี้แหละ ซึ่งสเตฟอร์ดใช้วิธีสื่อสารแบบเก่ามาประยุกต์ด้วยการใช้อาวุธนี้แหละ แม้จะเปลืองกระสุนเลยก็ตาม" พีวิลบอก
              สเปียริทถาม "แล้วนายคิดว่า เขาต้องการอะไรจากพวกเรากันละ"
              "วิเคราะห์จำนวนกระสุน จังหวะการยิง และรูปแบบรหัสแปรเป็นอักษร ประมวลผลออกมาได้ว่า ฉัน ต้องการ คุย กับพีท เพียงคนเดียว และมาเดียวนี้ นะครับ" พลัสเชอริทกล่าว
              พีวิลบอก "กะแล้วว่า สเตฟอร์ดต้องเรียกฉันมาคุยจนได้สิน่า ฉันจะไปเองแล้วกัน"
              "แต่มันเสี่ยงไม่น้อยนะ คุณพีวิล เพราะแม้เขามาเพียงคนเดียว คุณเองก็คงจะ..." เบย์แทนด์กล่าว
              พีวิลบอก "ถ้าสเตฟอร์ดมีลูกไม้จริง เขาคงจะยิงกระสุนระเบิดใส่เราประเดิมไปก่อนตั้งนานแล้วละ" แล้วก็เดินออกไปจากฐานพร้อมกับควบไทรไบค์เข้ามาโดยเร็ว
              "มาจนได้สิน่ะ พีวิล ฉันกลัวว่าโคเคสและพวกคงจะไม่รู้วิธีใช้รหัสแบบเก่ากันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              เมื่อเห็นพีวิลมาถึงแล้ว "....ต่อให้ถอดรหัสไม่ออก ฉันก็มาอยู่แล้วละ ว่าแต่ ที่มานี้ เทคไครด์คงไม่ได้สั่งให้นายมาถล่มที่นี้กันละสิ"
              "หึ....เปล่าเลย ฉันรีบมาหานายก่อน ก็เพื่อที่จะมาบอกกับนายในบางเรื่องเท่านั้นแหละ" สเตฟอร์ดกล่าวและเกิร์นเข้าเรื่อง "นายคงรู้แล้วสิน่ะ ว่าโฟรซ่าบาดเจ็บที่หัวเพราะแฟนสาวของนายกันน่ะ"
              พีวิลบอก "สเปียริทบอกเรื่องนี้มาเมื่อ 4 วันก่อนแล้วละ แต่คงไม่ได้มาเพื่อบอกข่าวร้าย จนมาเพื่อชำระแค้นกันละสิ"
              "ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง ฉันคงได้เขวี้ยงค้อนใส่ฐานทัพไปนานแล้วละ แต่ที่ฉันมานี้ ก็เพื่อจะมาบอกกับนายไปว่า.....ในไม่ช้า การต่อสู้ระหว่างพวกฉันกับพวกนายจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วละ" สเตฟอร์ดบอก
              พีวิลได้ฟังก็ชะงักแต่ก็ฝืนใจทำหน้าตึงเครียดใส่ไปว่า "เทคไครด์คงคิดจะแตกหักกับพวกเราเลยสิน่ะ"
              "ใช่ สองอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น พวกนายทำให้เทคไครด์ไม่พอใจอย่างมาก เพราะความล้มเหลวในทุกยุทธการที่พวกนายเข้าสกัดขัดขวางไปได้ทุกครั้ง ดังนั้น เทคไครด์จึงสั่งการให้พวกเราทั้งห้านั้น สู้กับพวกนายกันจนถึงที่สุด และหากพวกเราพ่ายแพ้อีก ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่จะต้องโดน โฟรซ่าเองที่ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าได้สติกลับมาหรือยังนั้นก็พลอยซวยไปด้วย นายเองก็น่าจะรู้ดีแล้วนิ" สเตฟอร์ดบอก
              พีวิลกล่าว "เรื่องจัดการกับพวกนายสองตนนั้น เราต่างรู้ดีแล้ว หากแต่ว่า เออไดน์..."
              "นี้นายยังเชื่อไอ้จอมหลอกลวงนั้นอยู่หรือ แม้ว่ามันจะขู่ฆ่าตัวเองไปได้จริง แต่คนอย่างมันนั้นคิดหรือว่าอยากจะตายจริงๆกันน่ะ" สเตฟอร์ดอ้าง และอธิบายไปว่า "ตอนนี้ นายกำลังลังเลใจอยู่น่ะ พีวิล เหมือนในตอนที่นายโผล่มาฉันกับโฟรน่าเพียงลำพังเพื่อเอาด็อคแท็คมาคืน พร้อมกับบอกเจตจำนงบ้าๆให้เราทราบกันไว้ ตอนนี้นายก็มีสภาพไม่ต่างกันนี้แหละ"
              พีวิลบอก "แต่เรื่องนี้กับเรื่องนั้นมันคนละเรื่องกันน่ะ แดนเจอรอทขู่ว่าหากมันตายขึ้นมา พวกนายสองคนเองก็จะ..."
              "สภาพของพวกเราและนายในตอนนี้ มันเหมือนคนตายไปนานแล้วน่ะ หากแต่ยังยืนได้อยู่ ยังหายใจได้อยู่ และยังมีสภาพเป็นเหมือนเช่นที่เรายังเป็นมนุษย์อยู่ เราบอกกับนายไปแล้วมิใช่หรือ ว่าความตายสำหรับแมนิเกเตอร์นั้น มันก็แค่เรื่องขี้ประติวเองน่ะ" สเตฟอร์ดบอก "ต่อให้นายช่วยพวกเราได้หรือไม่ มันไม่สำคัญอะไรมากหรอก เพราะเจตจำนงของฉันและของโฟรซ่าที่มีต่อนาย ก็คือให้นายกับพวกมาหยุดยั้งพวกเรา ก่อนที่พวกเราจะทำลายพวกนายทิ้งลงด้วยมือของพวกเราเองกันน่ะ"
              พีวิลบอก "แม้กระทั่งเตรียมใจที่จะตาย ทั้งๆที่ยังมีโอกาสไถ่โทษอยู่ตรงหน้าแล้วหรือ มันไม่ตลกเลยน่ะ"
              "นั้นขึ้นกับดวงและความรู้สึกของพวกพ้องของนายแล้วละ ว่าพวกเขาจะคิดกับพวกเรายังไงกันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก ก่อนที่จะขึ้นแอร์ไบค์ไปก็ได้ฝากบอกไปว่า "ครั้งสุดท้าย อย่ามาด้วยสีหน้าแบบนั้นเป็นอันขาด เพราะนายกำลังทำให้ความเป็นลูกผู้ชายของนายเสื่อมถอยลงไปด้วยมือของนายกันอยู่ ทิ้งความลังเลใจและหวาดกลัวนั้นไปซะ พีวิล และจงทำในสิ่งที่นายควรทำด้วย ไม่เช่นนั้น ฉันจะกระทืบนายให้แหลกคาเท้าของฉันซะ" แล้วสเตฟอร์ดก็ลาจากไป พีวิลเลยกลับมาบอกกับพวกโคเคสไว้
              "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แปลว่า เทคไครด์คิดจะจัดการกับพวกเราขั้นเด็ดขาดจริงๆกันแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              "แต่ปัญหาคือ พวกเขาจะใช้อะไรมาปิดเกมส์กับพวกเรากันละ ในเมื่อ ยุทธวิธีส่งกองรบและพวกโมบิลลอยด์ก็ล้วนแล้วโดนเราสกัดขัดขวางได้หมดเลยน่ะ" สเปียริทกล่าว
              เฮลิคบอก "แถมเราได้บุกถล่มฐานทัพลับที่พวกนั้นสร้างขึ้นเพื่อผลิตกำลังพลจากกลุ่มตัวประกัน โรงผลิตอาวุธลับ สถาบันค้นคว้าวิจัยสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นอันตรายต่างๆ ซึ่งทุกแผนล้วนแล้วเราหยุดเทคไครด์ไปได้ด้วยน่ะ"
              "พีวิล ตะกี้นี้สเตฟอร์ดพูดถึงเทคไครด์โดยไม่มี ท่าน นำหน้าด้วยใช่มั้ยละ" มาสวาร์ทาร์ถาม
              พีวิลพยักหน้า "ฉันคิดได้อย่างหนึ่งแล้วละ ว่า การต่อสู้ต่อจากนี้ จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว เขาเลยพูดโดยไม่สนใจว่า เทคไครด์เป็นผู้สั่งการสูงสุดกันเลยน่ะ"
              "หรือไม่ก็ หมอนั้นคิดทรยศกันหรือเปล่าวะ ถึงได้กล้าพูดชื่อเทคไครด์ออกมาตรงๆเลยน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              บัลโต้ได้ฟังก็เห็นด้วย "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง อย่างน้อยเราก็น่าจะได้พรรคพวกที่แข็งแกร่งมาถึงสองตนเลยน่ะ แม้ว่าทั้งสองกับพวกนั้นจะเคยเล่นงานลูกน้องของเรามาก่อนก็ตามน่ะ"
              "แต่ เรื่องที่แดนเจอรอทมีตัวจุดระเบิดที่ฝังอยู่ในตัวสเตฟอร์ดกับโฟรซ่าไปนั้น เราควรจะคิดเผื่อเรื่องล้มเหลวกันไปด้วยน่ะ" เซริซ่าบอก
              เฮลิคพูดเข้าเรื่องสำคัญเร่งด่วนไปว่า "ตอนนี้ ฉันมีเรื่องที่ยังไม่ได้แจ้งให้กับที่ประชุมใหญ่รับทราบกันเลยน่ะ ว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน กลุ่มประเทศของเครือพันธมิตรเอเชียใหญ่และสมาพันธ์ยุโรปที่ถูกพวกลูนาสตี้รุกรานมาก่อนนั้น พวกเขาได้ตัดสินใจอพยพผู้คนส่วนหนึ่งที่ต้องการจะหลีกหนีภัยสงคราม ด้วยการโยกย้ายไปอยู่ในเมืองลอยฟ้ากันแล้วละ"
              "เมืองลอยฟ้านะหรือ....แต่ เราไม่ได้เห็นมันอยู่บนฟ้ามาเลยน่ะ" บัลโต้บอก
              โคเคสกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มประเทศเหล่านั้นใช้ระบบสเตลท์เพื่อหลบการตรวจจับของพวกโอเวอร์เดสกันนะสิ ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ เมืองลอยฟ้าเหล่านั้นมันเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง จะบินตามการหมุนของโลกหรือบินย้อนศรกันก็ตามแต่สถานการณ์ด้วยนั้น บวกกับข้อมูลการเดินทางของเมืองเองก็เป็นความลับระดับสุดยอดด้วยแล้ว ทำให้ยากที่จะรู้ได้ว่า เมืองลอยฟ้านั้นผ่านประเทศไหนมาบ้างนะ"
              "แล้ว เมืองลอยฟ้านั้น มีอาวุธติดตั้งเอาไว้หรือเปล่าละ เพราะถ้าเกิดพวกลูนาสตี้มันหาทางยึดไว้ได้ขึ้นมาก็มิยิ่งแย่ไปกว่านี้ละสิ" สเปียริทบอก ทุกคนได้ฟังก็อดคิดตามไปไม่ได้ด้วย
              เฮลิคกล่าว "เมืองลอยฟ้านั้น มีอาวุธติดตั้งอยู่ตรงฐานด้านล่าง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมทุกอย่าง ตั้งแต่ระบบลอยฟ้า ระบบนำร่องและขับเคลื่อน ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ แม้กระทั่งระบบป้องกันภัยที่รุกล้ำขึ้นมาในตัวเมืองไว้ด้วย แน่นอนว่า ยิ่งเป็นช่วงที่โอเวอร์เดสคุกคามโลกด้วยนั้น ยิ่งมีการติดตั้งอาวุธเอาไว้อยู่มาก พร้อมกับกำลังทหารที่เฝ้าประจำการไว้ โดยที่มีกองหนุนเป็นอาสาสมัครที่เป็นชาวเมืองลอยฟ้า แล้วก็กลุ่มผู้ลี้ภัยที่เป็นเพื่อนหรือญาติกับพวกทหารที่พ่ายให้กับโอเวอร์เดสด้วยน่ะ"
              "ก็ได้บอกไปข้างต้นนี้แหละ ว่าทิศทางการเดินทางของเมืองลอยฟ้านั้นล้วนถูกปกปิดเป็นความลับ เช่นเดียวกับสถานที่สำหรับลงจอดเพื่อซ่อมบำรุง หรือเติมอะไหล่กับเสบียงที่บกพร่อง เนื่องจากว่าเมืองลอยฟ้าในช่วงนี้แทบไม่มีส่วนเพาะปลูกพืชผักหรือเลี้ยงสัตว์เลยนะสิ" โคเคสบอก
              เฮลิคเสริม "และบวกกับว่าผู้อพยพเองก็มีจำนวนเยอะกว่าอัตรารับสูงสุดของตัวเมืองด้วยแล้ว การที่เมืองจะต้องลงจอดเพื่อรับเสบียงจึงต้องเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และนั้นหมายถึงการเคลื่อนไหวของทางทหารที่ต้องปรากฎให้โอเวอร์เดสอย่างแน่นอน...."
              "แล้วเมื่อก่อนนั้น ถ้าเมืองลอยฟ้าขาดเสบียงขึ้นมา พวกเขาจะใช้ส่วนไหนของโลกเป็นจุดรับส่งเสบียงกันละครับ" เบย์แทนด์ถาม
              โคเคสวาดวงกลมกลางมหาสมุทรแปรซิฟิกเพื่อยืนยันสถานที่ดังกล่าวไว้ "อดีตสหพันธ์โลกได้สร้างเกาะลับเอาไว้บนมหาสมุทรแปรซิฟิกเพื่อใช้เป็นเช็คพอยน์สำหรับขนส่งน้ำและอาหาร รวมถึงเมล็ดพันธุ์พืชสำหรับนำไปปลูกในเมืองกันไว้ โดยพวกชาวเมืองลอยฟ้านั้น ทำแบบนี้มาตลอด 25 ปีกันแล้วนะสิ"
              "แต่ตอนนี้ เทคไครด์นำเดธฮาเว่นมาลงจอดกลางมหาสมุทรแปรซิฟิกกันไปแล้วนะสิ ดังนั้น เรื่องการปล้นเมืองอาจจะต้องเกิดขึ้นก็เป็นได้น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              โคเคสพยักหน้า "เผลอๆนั้นจะเป็นแผนการของเทคไครด์ที่นำมาใช้จัดการกับเราอย่างแน่นอนน่ะ"

              แล้วสเตฟอร์ดล่ะ  ตอนนี้ได้เดินทางกลับมาที่เดธฮาเว่นกันแล้ว
              "หึ นายออกไปจากที่แห่งนี้โดยพลการกันเช่นนี้ คงไม่ได้ไปปากโป้งบอกอะไรกับพวกกบฎกันหรอกน่ะ" แดนเจอรอทกล่าว โดยเดินออกมาหาสเตฟอร์ดที่เดินสวนมา
              "ฉันแค่จะไปแจ้งให้ฝ่ายนั้นทราบถึงชาตะกรรมสุดท้ายที่กำลังจะมาถึงเองแหละ ซึ่ง....ฉันรู้อยู่แล้วว่า ฉันทำอะไรกันอยู่น่ะ"
              "หรือ แต่คงไม่ได้หาเรื่องไปบอกกับพีวิลเกี่ยวกับโฟรซ่าหรอกน่ะ" แดนเจอรอทบอก ซึ่งสเตฟอร์ดได้ฟังก็นิ่งเงียบไว้ โดยฟังบุรุษสวมหน้ากากจมูกแหลมยาวสาธยายต่อ "อืมมมม ช่างเถอะ เพราะเรื่องที่นายออกไปประกาศต่อพวกกบฎถึงวาระสุดท้ายนั้น เดิมท่านเทคไครด์จะส่งข้าไปอยู่แล้ว แต่เพราะนาย ได้ทำให้เรื่องนี้มันง่ายขึ้นกว่าเดิมเลยน่ะ"
              สเตฟอร์ดบอก "เทคไครด์คงจะรอลงโทษฉันอยู่ละสิ"
              "แน่นอน แต่ท่านเทคไครด์คงไม่เล่นงานนายหรือโฟรซ่าให้งอมพระรามก่อนกันหรอก เดียวไม่มีใครส่งไปจัดการกับกบฎกันพอดีนะสิ" แดนเจอรอทกล่าว และขู่ไว้ว่า "ถ้านายหรือโฟรซ่า หรือไม่ก็นายทั้งสองตนหาเรื่องที่ทำให้แผนการของฉันเสียหายขึ้นมา ในฐานะที่ฉันเป็นหัวหน้าสั่งการนาย ฉันสามารถลงมือจัดการกับนายหรือโฟรซ่าให้ถึงตายก็ยังได้น่ะ"
              สเตฟอร์ดตอบย้อนไปว่า "คำพูดนั้นควรจะใช้กับนายซะมากกว่าน่ะ เออไดน์ และอย่าคิดน่ะ ว่านายมีไพ่ที่เหนือกว่าอยู่ในมือ แล้วจะทำให้พวกเราก้มหัวให้กันน่ะ" แล้วก็เดินเข้าฐานทัพไป เพื่อมารายงานต่อเทคไครด์ไว้
              "แดนเจอรอทคงจะเล่าให้เจ้าฟังแล้วน่ะถึงเรื่องที่เจ้าขัดคำสั่งออกไปโดยพลการกันน่ะ" เทคไครด์บอก สเตฟอร์ดพยักหน้า ราชินีจันทรากล่าว "แต่ก็ดีแล้วละ ที่เจ้ายังไม่รีบเล่นงานพวกกบฎก่อน เพราะฉันต้องการจะให้เจ้ากับพวก กำจัดพวกกบฎด้วยยุทธการครั้งสำคัญเอาไว้กันน่ะ"
              สเตฟอร์ดบอก "ด้วยคำสั่งของท่านเทคไครด์ที่มอบให้นั้น พวกเรา เหล่านักรบดรรชนีทั้งห้า จะกดพวกกบฎให้สิ้นซากไปเดียวนี้นะครับ"
              "ดีแล้วละ เจ้าจงไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อน อ้อ โฟรซ่าหายดีแล้ว ช่วยไปบอกให้เตรียมพร้อมเดียวนี้เลย" เทคไครด์กล่าว สเตฟอร์ดพยักหน้ารับคำสั่งและยืนขึ้น พร้อมกับเดินตรงมาที่ห้องพยาบาล ซึ่งโฟรซ่าลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว
              "โฟรซ่า ท่านเทคไครด์สั่งการให้พวกเรา เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสำคัญขึ้นมาแล้ว ดังนั้น ฉันจึงอยากจะให้เธอเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับสู้กับพีวิลและพวกกันสักหน่อย แม้ว่า เธอในตอนนี้จะไม่สามารถรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยก็ตามน่ะ"
              "แปลว่า ภารกิจที่ท่านเทคไครด์มอบให้นั้น เป็นภารกิจสุดท้ายสิน่ะ" โฟรซ่าบอก
              สเตฟอร์ดพยักหน้า "ถึงตอนนั้น เมื่อปราศจากพีวิลและพวกโคเคสแล้ว พวกเราทั้งหมดก็จะต้องจัดการกับพวกมนุษย์ทุกกลุ่มลง แม้ฉันหรือเธอ หรือเราสองคนจะไม่ได้อะไรตอบแทน แต่...มันก็ดีแล้วละ สำหรับคำสาปที่พวกแมนิเกเตอร์มอบให้พวกเรากันน่ะ" แล้วก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินหันหลังไว้ "ฉันไม่ขออะไรมากไปกว่า การได้เห็นเธอยืนอยู่ต่อไป แม้เธอจะรู้สึกตัวหรือไม่ ฉันก็เดาไม่ได้หรอก ว่าเทคไครด์ทำอะไรกับเธอไว้หรือเปล่า แม้แต่ฉันเองก็รู้สึกหวั่นเกรงต่อตัวเองเช่นกัน ดังนั้น ถ้าเธอได้ยินที่ฉันพูดมาแล้ว ก็ขอให้พยักหน้าสองทีเลยแล้วกันน่ะ" แล้วก็เดินออกจากห้องไป โดยไม่รู้ว่า โฟรซ่ากำมือขวาเอาไว้แน่นๆแล้ว
              "เราควรจะบอกกับท่านเทคไครด์ในเรื่องนี้เลยมั้ยละ สกายล็อต" ไพโอล็อตกล่าว
              สกายล็อตส่ายหน้า "ไม่ต้องหรอก ภารกิจของพวกเรานั้นแม้จะเป็นภารกิจสำคัญกันก็จริง แต่...มันก็เป็นภารกิจสุดท้ายของพวกเราทั้งห้ากันด้วย ซึ่งนั้นหมายถึง พวกเราทั้งสองคนจะต้องถูกทำลายไปด้วย ไม่ว่าเราจะชนะหรือแพ้พวกกบฎกันน่ะ"
              "เป็นไปไม่ได้หรอก ที่ท่านเทคไครด์จะกำจัดพวกเราหลังจากชนะศึกนี้กันไปด้วยน่ะ" ไพโอล็อตบอก
              สกายล็อตกล่าว "...แต่ความพิโรธของท่านเทคไครด์มาถึงขีดสุดแล้วละ ความปราชัยและความพ่ายแพ้ต่อพวกกบฎมาหลายต่อหลายครั้งได้ทำให้ความอดทนของท่านเทคไครด์หมดลงไป การตัดสินใจส่งพวกเราไปจัดการกับพวกกบฎนั้น ไม่เพียงวัดความจงรักภักดีและพิสูจน์ว่า ใครสมควรจะอยู่รับใช้ท่านเทคไครด์ต่อไปกัน ซึ่งฉันหวังแค่อย่างเดียวก็คือ พวกเราทั้งห้าจะรอดไปได้แน่นอน"
              "มันก็เป็นเช่นนั้นน่ะ ท่านเทคไครด์สร้างเราสองคนเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการรบภาคอากาศไปด้วย ซึ่ง ฉันไม่เพียงถูกสร้างมาเพื่อปกป้องท่านเทคไครด์ แต่เพื่อปกป้องเธอด้วยนะ ไพโอล็อต" สกายล็อตกล่าว
              ไพโอล็อตถาม "แต่ แต่ทำไมนายถึงต้องปกป้องฉันไว้ด้วยละ ทั้งๆที่ นายไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับฉันเลยน่ะ"
              "ฉันไม่สามารถพูดหรือบอกอะไรได้หรอกน่ะ ไพโอล็อต แต่...สักวันฉันจะต้องบอกเรื่องนี้ให้เธอเองแหละ" สกายล็อตกล่าว โดยหารู้ไม่ว่า
              "หึๆๆๆๆ ที่แท้ การที่แกหัวเสียเพราะไพโอล็อตโดนเล่นงานไปนั้น เพราะอย่างงี้เองสิน่ะ หึๆๆๆๆ ดูเหมือนว่า ข้าจะได้ข้อสรุปแล้ว"

              เช้าวันต่อมา ณ.ฐานทัพกลุ่มกบฎโคเคส ปากีสถาน
              "หัวหน้าโคเคสคะ มีบางอย่างไม่ปกติเกิดขึ้นแล้วคะ" เลย์เยลรายงาน
              โคเคสถาม "บางอย่างไม่ปกติเกิดขึ้นนิ อธิบายมาสิว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ"
              "ระบบซีคเกอร์ตรวจจับสัญญาณของพวกลูนาสตี้จำนวนมากเกาะกลุ่มกันเป็นกระจุกใหญ่ ซึ่งแต่เดิมนั้นมันอยู่ในเขตเดธฮาเว่นเหมือนเช่นเคยในช่วงตี 5 ครึ่ง หากแต่..." เลย์เยลกล่าว และนำภาพเปรียบเทียบระหว่างตอนตีหนึ่ง มาเทียบกับภาพในช่วง... "...แต่เมื่อ 8 โมงเช้า สัญญาณดังกล่าวนั้นมันเคลื่อนที่จากตำแหน่งฐานใหญ่มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อมุ่งหน้าไปยังอเมริกาเหนือ ไม่ทันไร มันก็หยุดนิ่งที่ชิคาโก้" แล้วเลย์เยลก็เปิดข่าวในช่วงเช้านี้ว่า
              "เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดแล้วละคะ ตอนนี้นครลอยฟ้าบาบิโลนอัลฟ่า เมืองลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่สมัยยุคทองช่วงกลาง ได้ลอยลำเหนือชิคาโก้พร้อมกับ....การมาของพวกลูนาสตี้จากในเมืองกันแล้วละคะ" นักข่าวหญิงรายงานอย่างอย่างหวาดกลัวขึ้นมา
              "โคเคส ลูนาสตี้ลงมือก่อเหตุแล้วสิน่ะ" คลอเวฟกล่าว โดยที่มาพร้อมกับพลัสเชอริท พีวิล มาสวาร์ทาร์และสเปียริทกันแล้ว โคเคสพยักหน้า เช่นเดียวกับบัลโต้ เฮลิคและเบย์แทนด์ขึ้นมาสมทบด้วย
              "คราวนี้มาเหนือเมฆกันจริงๆเลยสิวะ" บัลโต้กล่าว
              "สิ่งที่สเตฟอร์ดว่ามานั้นก็เป็นความจริงแล้วละสิ" พีวิลบอก แล้วหันมาถามเบย์แทนด์ที่ตรวจเช็คระบบซีคเกอร์ไปว่า "นายพอจะรู้ทิศทางของพวกลูนาสตี้กันบ้างหรือยังละ"
              เบย์แทนด์กล่าว "ผมคิดว่า เทคไครด์คิดจะรุกฆาตใส่พวกเรากันจริงๆแล้วละครับ" และกดปุ่มเพื่อระบุเส้นทางของพวกลูนาสตี้ ซึ่งได้เบนเข็มจากอเมริกาเหนือลากยาวไปทิศตะวันตกเฉียงใต้ตรงมายังอินเดียและปากีสถานด้วย
              "งานเข้าแล้ว เทคไครด์จะใช้บาบิโลนอัลฟ่าถล่มสถาบันของดร.รีไลฟ์เวอรี่ก่อนและบุกมาถึงเขตฐานทัพของเราด้วยน่ะ" เฮลิคกล่าว
              สเปียริทบอก "แต่ พวกลูนาสตี้คงมีแค่กำลังรบภาคอากาศกันเท่านั้นเอง ก็ไม่น่าที่จะเป็นห่วงอะไรกันเลยน่ะ"
              "ไม่หรอก ตรงข้ามเลย บาบิโลนอัลฟ่านั้นเป็นนครลอยฟ้า 1 ใน 5 แห่งในยุคทองช่วงกลางที่มีระบบอาวุธอันทันสมัย แม้ว่าอาวุธนั้นจะไม่ค่อยได้ใช้งานเพื่อรักษาพลังงานในการขับเคลื่อนและดูแลระบบไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ภายในตัวเมืองเลยก็ตามน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              พลัสเชอริทบอก "และพวกลูนาสตี้เองก็คงจะปรับแต่งอาวุธให้รุนแรงกว่าอย่างแน่นอนละครับ"
              "เลย์เยล ว่าแต่ กองกำลังรบจากกลุ่มเครือพันธมิตรมหาเอเชียออกมากันแล้วหรือยังละ" บัลโต้ถาม
              เลย์เยลรายงาน "ข่าวบาบิโลนอัลฟ่าถูกพวกลูนาสตี้ยึดไปถล่มชิคาโก้นั้น ได้ทำให้ทุกฝ่ายส่งกำลังรบออกไปรับมือกันแล้วละคะ" โดยตอนนี้เปิดภาพข่าวไว้แล้ว
              "ตอนนี้กองรบของกลุ่มมหาพันธมิตรเอเชียได้ทำการต่อกรกับพวกลูนาสตี้ที่กำลังเคลื่อนตัวมากันอยู่นะคะ หากแต่ สภาพการณ์ในตอนนี้..." นักข่าวภาคสนามกล่าว โดยตอนนี้ ฝูงเครื่องบินขับไล่ของเกาหลีเหนือและใต้โดนเครซเดรทติดกงเล็บของแดนเจอรอทเข้าฟาดฟันใส่จนพังไปหมด สตรัลทรอนและมัคซ์ออนของกองทัพญี่ปุ่นระดมโจมตีใส่เครซเดรทจำนวนสิบกว่าเครื่องกลับถูกยิงสวนคืนด้วยมูนพลาสม่าลันเชอร์ทิ้งไปจนราบคาบ ส่วนมัคซ์ออนของกองทัพไทยพยายามยิงขีปนาวุธพิสัยไกลเข้าใส่ ก็ไม่สามารถทะลวงผ่านสนามพลังมูนพลาสม่าฟิลด์ไปได้เลย และ... "แชดดดดดด แชดดดดดดด" มัคซ์ออนของกองทัพไทยถูกไพโอล็อตยิงทิ้งด้วยปืนพลาสม่าไปสองเครื่อง สกายล็อตบุกโฉบเข้ามา "ฟ้าววววว ฉับๆๆ ตรูมมมม" ใช้ปีกใบมีดกรีดตัดหัวมัคซ์ออนจนขาดสะบั้นลงไปทั้งสามเครื่องอย่างจังๆ "โครมมมม ตรูมมมม เปรี้ยงงงงง" สเตฟอร์ดและโฟรซ่านำเครซเดรทบลัสเทรดบุกโจมตีฟาดฟันใส่มัคซ์ออนและสตรัลทรอนของกองทัพอินโดนีเซียจนพังราบไปกันหมด แม้จะมีฝูงเครื่องบินขับไล่และมัคซ์ออนจากจีนบุกฝ่าไปได้ก็ตาม "แชดดดด แชดดดด แชดดดดด" มอเดอร์ดิฟก็ยิงปืนแสงจากส่วนตาถล่มใส่พวกมัคซ์ออนจนร่วงไปสิบเครื่อง ที่เหลือนั้นก็... "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" ระดมยิงมิไซล์ที่ออกมาจากปากปลาวาฬเข้าใส่ฝูงบินที่บุกฝ่ามาจนระเบิดไปกันหมด
              "สถานการณ์ในตอนนี้มันเลวระยำสุดๆเลยวะ" บัลโต้กล่าวเมื่อได้เห็นกองรบของกลุ่มพันธมิตรเอเชียถูกถล่มยับไป
              "พวกเราจำเป็นต้องลงมือกันเดียวนี้แล้วละ ก่อนที่พวกมันจะมาถล่มใส่พวกเราเป็นรายต่อไปกันน่ะ" โคเคสบอก
              เฮลิคกล่าว "แต่ เราจะสู้กับพวกลูนาสตี้ที่โจมตีภาคอากาศและมีจำนวนมากกันยังไงละ เพราะพวกนี้มียานรบที่สามารถสนับสนุนเรื่องการรบอยู่น่ะ"
              "วางใจได้น่า พวกนาย เพราะว่า พวกเราเองก็มียานรบที่เหนือชั้นกว่าพวกมันแล้วนิ" ด็อดเจอร์กล่าว โดยติดต่อเข้ามาในฐานทัพไว้
              "หวังว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมา นายคงใช้กันอย่างคุ้มค่ากันบ้างน่ะ พวก" โคเคสกล่าว

              เวลาผ่านไป จนกระทั่งถึง 1 ทุ่ม บาบิโลนอัลฟ่าได้เคลื่อนทัพตรงดิ่งมายังญี่ปุ่น โดยเป็นประเทศแรกของพวกลูนาสตี้ หลังจากที่กองรบของฝั่งเอเชียช่วยกันต้านทานมาตลอด 9 ชั่วโมงไป ก็หยุดผู้รุกรานจากจันทราไว้ ไม่อยู่
              "ระบุภายในประเทศทั้งหมดแล้ว ไม่มีซุปเปอร์ฮีโร่ปรากฎตัวขึ้นมาเลยสักตัว ไม่มีอาวุธหรือยุทโธปกรณ์อยู่ในอาณาบริเวณน่านน้ำสักชิ้นเลยคะ" โฟรซ่ากล่าว เทคไครด์บอกผ่านมอนิเตอร์ ซึ่งเธอจับตาดูจากที่เดธฮาเว่นไว้
              "ดีแล้วละ แม้จะเป็นประเทศหลักสำคัญของระบบเศรษฐกิจของเอเชียและเป็นผู้นำความก้าวหน้าในช่วงศตวรรษที่ 20 มาจนถึงบัดนี้แล้วก็ตาม ทำลายประเทศนี้ซะ แล้วทุกอย่างก็คงจะ..."
              "ตื้ดๆๆๆๆๆๆๆ" เรดาห์ในยานมอเดอร์ดิฟส่งสัญญาณขึ้นมา "มีกองยานรบของพวกเรามุ่งหน้ามาแล้วละครับ" เซนเครูทบอก
              เทคไครด์บอก "กองยานรบนะหรือ เฮคไซน์ลงมากันแล้วหรือไง ถึงได้...."
              "แชดดดดดดดดดดดดดดดด" "ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนน" "ป้ากกกกกกก ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บรึมมมม" ฝูงเครซเดรทจำนวน 50 เครื่องถูกสอยร่วงจากระยะไกลไปพร้อมกับมอเดอร์ดิฟ 4 ลำด้วยกัน "ลำแสงอานุภาค ลำแสงคลื่นไฮโดรฟอส นั้นไม่ใช่พวกโซลาสตี้แล้ว นั้นมันพวกกบฎกันชัดๆเลยน่ะ" สกายล็อตกล่าว
              เสียงบัลโต้บอก "พวกแกคิดว่าพวกเราจะทำซ่ากลางอากาศไม่ได้นะหรือ คิดผิดแล้วละโว้ย ไอ้พวกหน้ากากจันทรา" พร้อมกับปรากฎกองรบโมบิลลอยด์ภาคอากาศไว้ ซึ่งมีตั้งแต่การ์เซนท์แบบติดท่อนล่างเทอร์โบเจ็ทไว้ 30 เครื่อง ฟาลครีด้าจำนวน 30 เครื่อง อาร์ซโทรนเอลเวนท์ไดน์ 11 เครื่อง รวมของบัลโต้ไปด้วย อาร์ซโทรนแอชเกรย์ไดน์ 16 เครื่อง ซึ่งมี 2 เครื่องที่เฮลิคควบคุมอยู่ แพนเซสเซนไนน์ ฟาลครีด้าของสเปียริท เฮฟโวล อัลติเมทเอท คอสทารอนไซน์เกน ลอร์ดวาทรัลยืนอยู่บนมอเดอร์ดิฟของพวกกบฎ ซึ่งถูกดัดแปลงซ่อมแซมเสียใหม่ไว้ถึง 25 ลำด้วยกัน
              "พวกกบฎรีไซเคิ่ลยานรบของพวกเรากลับมาใช้ใหม่กันด้วยน่ะ" ไพโอล็อตบอก
              โฟรซ่ากล่าว "แต่ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะเก็บกู้ยุทโธปกรณ์ของพวกเรามาใช้ให้เป็นประโยชน์เลยสินะ"
              "ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าพวกนี้จะมาเสียได้น่ะ" แดนเจอรอทกล่าว
              สเตฟอร์ดบอก "แต่อย่างน้อย พวกนั้นก็ทัดเทียมกับพวกเรากันแล้วละ แม้ว่าพวกนั้นจะไม่มีทางฝึกทหารให้สู้รบภาคอากาศให้ชำนาญภายในสองสัปดาห์กันได้หรอก" และสั่งการให้ "กองรบทั้งหมด บุกโจมตีเดียวนี้เลย และเน้นโจมตีใส่ยานรบที่โมบิลลอยด์เหล่านั้นบินไม่ได้ยืนอยู่ไปด้วยซะ"
              "รับทราบ" นักบินลูนาสตี้ควบคุมเครซเดรทบุกเข้าใส่ยานมอเดอร์ดิฟ ซึ่ง... "แชดดด แชดด แชดดด" ระดมยิงมูนพลาสม่าลันเชอร์เข้าใส่ "แว้งๆๆๆๆ" เฮลิคและหน่วยแอชเกรย์ไดน์ปล่อยจานร่อนสองอันที่ติดข้างเอวหุ่นให้ลอยออกมา ตั้งแนวเป็นโลห์ป้องกันลำแสงพลังงานมูนพลาสม่าเอาไว้ได้ พร้อมกับ "แชดดด แชดดดด แชดดดด" ยิงสวนกลับใส่พวกเครซเดรทจนร่วงไป 8 จาก 12 เครื่องด้วยกัน "ปรับเป็นโหมดยิงไกลเดียวนี้เลย ยิง" หัวหน้าหน่วยฟาลครีด้าระดมยิงเรย์แซทแคนน่อนเข้าเล่นงานพวกเครซเดรทที่บุกแห่แหนเข้ามาจนร่วงไป 14 เครื่องด้วยกัน โดยมีเครื่องหนึ่งนั้น "เปรี้ยงงงง" โดนยิงเข้าใส่ส่วนบนของคอกพิตจนเล่นงานเบทชอนแดดิ้นลงไป ส่วนเครซเดรทกลับดับวูบลงไปด้วย แม้จะไม่เสียหายจนระเบิดเลยก็ตาม สกายล็อตเห็นท่าไม่ดีเลยบินเข้ามาเสียบแทนเบทชอนและ "ปี้บๆๆๆๆ" กดปุ่มเพื่อเซตระบบให้ตนเองควบคุมไว้ เช่นเดียวกับไพโอล็อตที่รีบบินเข้ามาเพื่อช่วยควบคุมไปด้วย จนตอนนี้ พวกนักรบของเทคไครด์ทั้งห้าต่างก็ใช้เครซเดรทกันแล้ว
              "ไอ้พวกนี้ มันจะมากไปแล้วน่ะ" สกายล็อตกล่าว แล้วก็... "แกร็ก ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กดปุ่มเพื่อเปิดส่วนบนของหัวไหล่และปล่อยมิไซล์ออกมา ซึ่งพวกเกรมฮอร์ทระดมยิงมิไซล์ออกจากท่อนแขนและหน้าแข้งตามไปด้วย
              "ฟาลครีด้าใช้โหมดเอส แอชเกรย์ไดน์ใช้ไมโครมิไซล์ ยิงสกัดขีปนาวุธเดียวนี้เลย" เฮลิคสั่งการโดยเร็ว ฟาลครีด้าและอาร์ซโทรนแอชเกรย์ไดน์โต้ตอบห่ามิไซล์ที่สกายล็อตถล่มเข้าใส่จน "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ห่ามิไซล์ทั้งหมดถูกถล่มไปกันหมด
              "หนอยยย ไอ้พวกกบฎ แก..." สกายล็อตยั้วะมากกว่าเดิม
              "ใจเย็นๆหน่อย สกายล็อต นายวู่ว่ามแบบนั้นมันไม่ใช่ตัวนายเสียเลยน่ะ" สเตฟอร์ดเตือน จนสกายล็อตได้ฟังก็ชะงักและรู้ตัวว่าเผลอปล่อยให้ความโกรธครอบงำเสียแล้ว
              "จริงด้วยน่ะ ฉันแค่โมโหไปหน่อยเอง จนเผลอเปิดช่องให้พวกกบฎโต้ตอบกันแล้วละ"
              "ให้ฉันจัดการเองดีกว่า" ไพโอล็อตกล่าวโดยควบคุมให้เครซเดรทใช้มูนพลาสม่าไรเฟิ่ล "กรึกกก ครืดดด" รางแม่เหล็กไฟฟ้าเลื่อนออกจากปากกระบอกปืน พร้อมกับเล็งมายังมอเดอร์ดิฟลำที่คลอเวฟยืนอยู่
              "เออ คุณคลอเวฟ ไพโอล็อตจะยิงใส่คุณแล้วละครับ" เบย์แทนด์กล่าว เพราะระบบซีคเกอร์ระบุเอาไว้
              "ไม่มีทางซะหรอกโว้ย" คลอเวฟเลยสาดยิงลำแสงไฮโดรเลเซอร์เข้าใส่เครซเดรทของสกายล็อตกับไพโอล็อตจน "แชดดดดดดดด" การยิงที่ควรจะยิงใส่ยานมอเดอร์ดิฟกลับต้องเปเสยขึ้นเนื่องจากถูกคลอเวฟระดมยิงใส่ไป
              "พวกนั้นรู้แพทเทิร์นการโจมตีของไพโอล็อตได้ไงกัน ในเมื่อ...พวกเรารับเอาแผนการต่อสู้จากท่านเทคไครด์มาใช้กันนิ" สกายล็อตบอก
              "สงสัยว่า พวกกบฎคงจะรู้จากซากศพสมุนของเราอย่างไม่ต้องสงสัยแล้วละ" โฟรซ่ากล่าว
              แดนเจอรอทบอก "ไม่น่าเป็นไปได้ พวกเราปรับรหัสอิมแพลนท์เอาไว้เพื่อมิให้พวกกบฎใช้เป็นตัวเชื่อมต่อรหัสสัญญาณกันได้หรอก"
              "จะยังไงก็ช่าง สั่งให้พวกเราทำให้พวกพีวิลร่วงจากยานกันเลยดีกว่า" สเตฟอร์ดกล่าว สกายล็อตพยักหน้าและสั่งเครซเดรท 10 ตัวบุกเข้าใส่ยานที่มาสวาร์ทาร์ยืนอยู่ เพื่อโจมตีใส่ยานมอเดอร์ดิฟไว้
              "พวกนั้นมันบุกมาทางเราที่คิดว่าพวกเราไม่สามารถโจมตีกลางอากาศได้เลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              "แสดงให้พวกลูนาสตี้มันเห็นหน่อย ว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เราทำอะไรกับโมบิลลอยด์ของเรากันบ้างละ" บัลโต้บอก
              ไกซ์กล่าว "รับทราบแล้ว หัวหน้าบัลโต้ เปิดระบบต้านแรงโน้มถ่วงได้เลย"

              "ครี้งงงงงง" ดวงตาของอัลติเมทเอทกระพริบเพื่อสตาร์ทระบบขับเคลื่อนตัวใหม่ที่ติดตั้งไว้กลางหลัง และ "วึมๆๆๆๆ ฟ้าวววว" ทะยานออกจากดาดฟ้ายานมอเดอร์ดิฟอย่างรวดเร็ว และ... "ว้ากกกก" ไกซ์หวดดาบโซลิดเบลดเข้า "ฉั้วะ" ผ่าเครซเดรทจนแขนซ้ายขาดสะบั้น พร้อมกับ "ฉั้วะ" หวดดาบฟันผ่าจากใต้วงแขนของเครซเดรทเสยขึ้นจากซ้ายไปขวา แล้วทะยานออกมาด้วยไอพ่นที่ขาในทันที โดยที่ตัวอัลติเมทเอทยังลอยตัวกลางอากาศอยู่ "ประจัญบานเลย" คลอเวฟกล่าวและสตาร์ทระบบต้านแรงโน้มถ่วง พาตัวเฮฟโวลพุ่งเข้า... "ป้ากกกกก" ใช้ขาซ้ายถีบใส่เครซเดรทไปเต็มๆแรง แล้วก็... "เปรี้ยงงงง" เสยหลังแหวนเข้าปาดคอกพิตด้านหน้าจนเห็นเซนเครูทนั่งตกใจไว้และ... "อควอติคบอม" คลอเวฟปิดฉากยิงระเบิดน้ำเป่าทำลายเครซเดรทตัวนั้นจนแดดิ้นไป "เฮฟวี่ฮาร์ดนัคเคิ้ล" พีวิลทะยานพร้อมกับ "ฟ้าวววว เปรี้ยงงงงงง เปรี้ยงงงง ควับๆๆๆๆ ฟ้าววว ป้ากกกกก โครมมมมม" พุ่งชกใส่เครซเดรทเข้าที่ท้องไปสองตัว แล้วก็ตีลังกาควงสว่านขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงมาชกใส่หัวเครซเดรทจนบุบเข้าถึงเตาพลังงานที่อยู่ในลำตัว แล้วก็ถอนหมัดออกมา "ฟึ่บบบบบ ตรูมมมมม บรึม บรึมมม" พร้อมกับโดดออกจากเครซเดรทตัวที่หัวบุบเข้าในซึ่งก็ระเบิดตามหลังเครซเดรทอีกสองตัวที่โดนจัดการไปแล้ว "วาทรัลคาริเบอร์ เพลงดาบผ่านภาในดาบเดียว(เทนคูวอิจิมอนจิกิริ)" มาสวาร์ทาร์นำลอร์ดวาทรัลบุกเข้าฟันใส่เครซเดรทจนตัวขาดครึ่งไป จากนั้นก็... "วาทรัลคาลิเบอร์ เพลงดาบตัววีพิฆาต" ทะยานขึ้นสูงและ "ฉับบบบ" ผ่าดาบในแนวเฉียงขาดสะพายแล่งไปก่อนที่จะ "ฉั้วะ" ผ่าเสยขึ้นจนรอยฟันเป็นรูปตัววีจนผ่าแยกส่วนที่อยู่ใต้คอกพิตลงไปขาดร่วงลงมา "ตรูมมมมม" แล้วก็... "วาทรัลคาลิเบอร์ เพลงดาบสังหารทมิฬ (อันเคนซัตสึ)" กระโดดฟาดดาบผ่าเครซเดรทตรงบ่าซ้ายจนขาดเป็นแนวตั้ง แล้วก็ "ฟัน" ตวัดดาบผ่าเป็นแนวนอนเป็นรูปกางเขนเข้า แล้วก็หมุนตัวออกจากเครซเดรทที่ถูกฟันจน "บรึมมมมมม"
              "บะ บ้าน่า นี้พวกแก สร้างระบบขับเคลื่อนแบบเดียวกับที่เครซเดรทใช้ได้เองเลยหรือ" สกายล็อตบอก
              ไกซ์กล่าว "ถูกเผงเลย ที่สำคัญ พวกเราสร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับปฏิบัติการณ์ในอวกาศกันอยู่แล้ว ดังนั้น ศึกกลางเวหานี้ เหมาะมากกับการทดสอบระบบนี้กันเองแหละ" แล้วก็กราดยิงวัลแคนอาร์มแบบสองลำกล้อง ซึ่งเป็นอีกอาวุธที่ถูกปรับเกรดเอาไว้เข้าใส่เครซเดรทให้ชะงักจน.... "ฟ้าวววววว ป้ากกกก เปรี้ยงงงง" ถูกบัลโต้ยิงบูสเตอร์ฟิสท์ชกทะลวงใส่ท้องและคอกพิตจนระเบิดไป
              "บ้าชะมัด เตรียมใช้อาวุธจากบาบิโลนอัลฟ่าเดียวนี้เลย" สกายล็อตบอก โดยตอนนี้บาบิโลนอัลฟ่าส่วนฐานล่างนั้น "แอ็ดดดด แกร็ก แกร็ก" ได้นำเอาปืนยาวสองกระบอกออกมา
              โคเคสที่รู้แผนการจากเบย์แทนด์ก็รีบสั่งการ "มอเดอร์ดิฟเบอร์ 4 ถึง 8 ออกไปรับหน้าและใช้ฟิลด์ป้องกันเดียวนี้เลย"
              "รับทราบ" กัปตันยานกล่าวและสั่งต้นหนควบคุมยานให้พุ่งออกไป ซึ่งมอเดอร์ดิฟอีก 3 ลำก็ออกมา "แว้งงงงง แว้งงง แว้งงงงง แว้งงงงง" กางสนามพลังป้องกันไว้ "แชดดดดด แชดดดดด แชดดดดด แชดดดดด แชดดดดดดด" "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมม" แม้จะป้องกันอาวุธเลเซอร์ไว้ได้ แต่ก็... "ยานเบอร์ห้าได้รับความเสียหายแล้วละคะ" เอเรียเน่บอก โดยตอนนี้มอเดอร์ดิฟลำที่ห้าได้ร่วงลงเพราะเครื่องยนต์ได้รับความเสียหายไว้
              "เทเลพอตส์ส่งยานกลับแนวหลังเดียวนี้เลย" โคเคสบอก เบย์แทนด์พยักหน้า และกดปุ่มสีน้ำเงินที่มอเดอร์ดิฟเบอร์ห้าให้หายไปจากสนามรบโดยเร็ว
              บัลโต้กล่าว "สงสัยว่าเราต้องประจัญบานเสียแต่อย่างเดียวแล้ววะ"
              "บัลโต้ นำทีมบุกประจัญบานใส่พวกลูนาสตี้ไว้ เฮลิค นำกำลังส่วนมากที่มี คุ้มกันพวกบัลโต้และยานรบเอาไว้ด้วย มาสวาร์ทาร์ นายนำทีมบุกไปยึดบาบิโลนอัลฟ่า หลังจากที่บัลโต้และเฮลิคโจมตีระบบป้องกันเอาไว้แล้วน่ะ" โคเคสสั่งการไว้ มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              พีวิลบอก "ทุกหน่วย ระวังเครซเดรทตัวที่มีกงเล็บ และอีกสองตัวไว้ด้วยละ"
              "รับทราบแล้วครับ คะ" พวกทหารกล่าว เหล่ากบฎก็นำการ์เซนท์ติดเทอโบเจ็ทบุกเข้ามา "ซูมมมมมมมมมมมม ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำยิงด้วยปืนกลหนักเข้าใส่เครซเดรทที่บุกเข้ามาเพื่อสอยยานร่วง เพื่อเปิดช่องให้ "ฟ้าวววววว ครี้งงงงง ฉึกกกก" การ์เซนท์อีกสองตัวพุ่งเข้าโจมตีด้วยเทอโบเจ็ทเป็นตัวขับเคลื่อนพร้อมกับนำส่วนดาบโครมเมทาเลี่ยมที่ติดหลังทั้งสองข้างแทงใส่เครซเดรททั้งสองตัวจนแดดิ้น พร้อมกับผลักตัวออกมาเพื่อมิให้โดนระเบิดไป "แชดดดด แชดดดด แชดดด" ฟาลครีด้าระดมโจมตีใส่ด้วยโหมดลำแสงยิงไกลเข้าใส่เครซเดรทจนร่วงไปเป็นสิบ แต่แดนเจอรอทบุกเข้ามา "ฟ้าววว แคว้กกกก" ฟันใส่ฟาลครีด้าจนตัวขาดไป 5 ตัวรวด เพราะหนีมาไม่ทัน แต่แดนเจอรอทยังไม่สะใจและคิดจะจัดการด้วยปืนกล "เบอร์ 13 ใช้เครื่องดูดพลังแม่เหล็กเดียวนี้เลย" โคเคสบอก
              "รับทราบครับ หัวหน้าใหญ่" กัปตันกล่าว แล้วตรงดาดฟ้ายานส่วนหน้าก็เปิดตะแกรงเหล็กขึ้นมา "แง้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง" "งึงง ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แกร้งงงงงงง" ซึ่งเหล่าชิ้นส่วนของฟาลครีด้าที่ถูกสับขาดนั้นก็พุ่งตรงไปติดตัวตะแกรงกันทั้งหมดด้วยกัน เนื่องจากโครงสร้างทั้งหมดของฟาลครีด้าฉาบแม่เหล็กเอาไว้ เลยทำให้การดึงดูดชิ้นส่วนเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ส่วนยานมอเดอร์ดิฟอีก 5 ลำก็ระดมยิงปืนเลเซอร์เข้าใส่เครซเดรทของแดนเจอรอทไว้
              "นักบินรอดปลอดภัยแล้วละคะ ชิ้นส่วนของฟาลครีด้าทั้งหมดเองก็เก็บกู้มาได้แล้วด้วย" เลย์เยลรายงาน
              "โล่งอก นึกว่าจะมีหลุดร่วงลงทะเลสักชิ้นสองชิ้นแล้วละ" โคเคสกล่าวอย่างโล่งใจไปไม่น้อย
              เบย์แทนด์กล่าว "ถ้ามีชิ้นส่วนหลุดลงไปใต้ทะเลและรัฐบาลญี่ปุ่นเก็บไปได้นิ คงไม่ใช่เรื่องดีเลยสินะ"

              "มีวิธีนี้เลยหรือ แต่ก็ยืดอายุให้รอดไปได้แค่ไม่กี่นาทีกันหรอก" แดนเจอรอทส่งเหล่าสมุนบุกเข้าใส่ยานมอเดอร์ดิฟหมายเลข 13 แต่... "แชดดดดด แชดดดด แชดดดดด" เฮลิคนำแอชเกรย์ไดน์ระดมยิงปืนแสงเรย์แซทไรเฟิ่ล โดยที่มิลด์เข้ามาหนุนช่วยไว้ จนทำให้เครซเดรทได้รับความเสียหายตรงขาและแขน แต่ทั้งหมดก็ยังบุกเข้ามาด้วยมูนพลาสม่าซอร์ดไว้พร้อมกับบุกเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
              "ทุกหน่วย เปิดโหมดเปลี่ยนฟอร์มเดียวนี้เลย" เฮลิคสั่งการ ทหารทั้งหมดกล่าว "รับทราบ" แล้วก็ปรับสวิตซ์ด้านหน้าเลื่อนลงมาจากโหมดโมบิลลอยด์เป็น... "ครืดดดดด แกร็กกกก" ส่วนแขนพับแนบกับส่วนหัวไหล่ไว้ เช่นเดียวกับส่วนหัวที่พับลงไปโดยที่ส่วนแบ็คแพ็คด้านหลังเลื่อนมาในแนวตั้ง ส่วนเกราะด้านหน้าเลื่อนมาเป็นส่วนหัวเครื่องบินไว้ "ฟึ่บบบบ แกร็กกก ครืดดด" ส่วนขาเหยียดไปข้างหลังและหุบส่วนขาล่างเลื่อนมาถึงต้นขา ส่วนเท้าแยกออกพร้อมกับส่วนไอพ่นที่เท้าเลื่อนออกมา ซึ่งไม่ใช่แค่เครื่องของเฮลิค แต่อีก 10 เครื่องเองก็เปลี่ยนฟอร์มเป็นโหมดยานด้วย "แชดดดด แชดดดดดด ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" เฮลิคและพวกระดมยิงปืนแสงเรย์แซทไรเฟิ่ลที่ติดบนบ่าขวาพร้อมกับไมโครมิไซล์เข้าใส่เครซเดรททั้งหมด แล้วก็บินเข้าโจมตีใส่เครซเดรทแบบพาดโพนหลบการยิงใส่ไป ชนิดที่พวกลูนาสตี้ที่ยังอึ้งกับแพทเทิร์นโจมตีแบบใหม่นี้โต้ตอบแทบไม่ทันไป "ฟ้าววววว ฟ้าวววววว ฟ้าวววววว" "แชดดด แชดดดด แชดดดด" จนถูกพวกเฮลิคระดมยิงด้วยเรย์แซทไรเฟิ่ลเข้าจากข้างหลังไปเต็มๆ แต่แดนเจอรอทกระโจนเข้ามาเพื่อเข้าจัดการกับเฮลิคไว้ "แชดดดดดด ป้างงงงงง" มิลด์เลยใช้มาสแตงค์ไรเฟิ่ลยิงจนแดนเจอรอทที่ป้องกันด้วยสนามพลังต้องถูกเป่าถอยไปอย่างจังๆ เฮลิคชูนิ้วโป้งให้กับมิลด์ไว้เพื่อเป็นการขอบคุณที่มาช่วยไว้ แต่แดนเจอรอทบุกเข้าใส่มิลด์เพื่อจัดการโดยเร็ว "แกร้งงงงงงง" ไกซ์เลยบุกเข้ามาป้องกันกงเล็บด้วยโซลิดเบลดไว้
              "เหอะๆๆๆๆๆ ไอ้เด็กโง่ คิดว่าจะหยุดฉันได้เลยหรือ เพราะต่อให้เป็นโคลนนิ่งของเบสรัลด์ ก็อปปี้ก็เป็นได้แค่ก็อปปี้กันน่ะ"
              "ต่อให้เป็นก็อปปี้ แต่ฉันก็ยังมีความเป็นยูนีคที่ต่างจากตัวจริงอยู่แล้วละน่า" ไกซ์บอก พร้อมกับ "ป้ากกกกก" ถีบเครซเดรทของแดนเจอรอทให้เซล้มไป แต่แดนเจอรอทก็ยิงกระสุนออกจากเครซเดรท ซึ่งก็... "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดนไกซ์ยิงทิ้งไปหมดจนกระสุนแตกเป็นละอองสีเขียวเข้า โดยที่ละอองเหล่านั้นได้ร่วงลงมาในจังหวะที่นกนางนวลบินอยู่ข้างใต้ และสัมผัสกับละอองเหล่านั้นจน "กวี้กกกกก" นกนางนวลพวกนั้นถูกกัดกร่อนจนเนื้อละลายกลายเป็นกระดูกร่วงสลายหายไป
               "กระสุนนั้นเป็นกระสุนกรดเลยน่ะ ดีที่นายยิงใส่ไปก่อน ไม่งั้นแย่แน่ๆเลยละ" มิลด์บอก
              "ดีแล้วละ ที่รีบยิงทิ้งไปก่อน เพราะกระสุนเหล่านั้นดูใหญ่กว่าที่ควรจะเป็นกระสุนสำหรับโมบิลลอยด์กันน่ะ" ไกซ์กล่าวอย่างหวั่นเกรง ในใจต่างก็คิดไว้แล้วว่า หากตนทะเล่อทะล่าเข้าไปคงจะมีสภาพแย่กว่าพวกนกนางนวลแน่นอน แดนเจอรอทเลยบุกเข้าใส่ แต่... "แคร้งงงงงง" มาสวาร์ทาร์บุกเข้ามาใช้ดาบต้านกงเล็บไว้
              "ไกซ์ มิลด์ ไปช่วยเฮลิคโดยเร็วเลย เร็วเข้าสิ" มาสวาร์ทาร์บอก ไกซ์และมิลด์พยักหน้าไว้ และรีบตามเฮลิคไปโดยเร็ว
              "ยังคิดจะสู้กับฉันแบบเดิมเลยหรือ แต่ พลัสเชอริทคงไม่มีทางไล่ตามมาถึงตรงนี้กันได้หรอกน่ะ" แดนเจอรอทกล่าวและหวดข่วนกงเล็บเข้าใส่มาสวาร์ทาร์ที่ใช้ครอสเซียมคาทาร์ป้องกันไว้ "แกร้งง กร้อง แกร้งๆๆๆๆๆๆ แชบบบบบ แกร้งงงงง"
              มาสวาร์ทาร์บอก "แม้ไม่มีความช่วยเหลือจากพลัสเชอริท แต่...ฉันไม่ยอมให้แกหลุดเข้าไปเล่นงานโคเคสได้หรอก" แล้วก็หวดดาบใส่เครซเดรทของแดนเจอรอทไปเต็มๆ จนสนามพลังแตกกระจุยไป ในขณะที่พีวิล สเปียริท และคลอเวฟบุกเข้ามาพร้อมกับบัลโต้ "ป้ากกกก ป้ากกกก เปรี้ยงงง เปรี้ยงงงง" พีวิลปะทะกับสเตฟอร์ดและโฟรซ่าอย่างหนักหน่วงด้วยอีเนลเซียมร็อดทั้งสองอันปะทะกับมูนพลาสม่าแฮมเมอร์ไว้
              "ไม่เลวเลยนิ พีวิล นึกว่าจะโดนเล่นงานเหมือนคราวก่อนเลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              "คราวก่อนนั้น เพราะว่าเครซเดรทของนายมันแกร่งเกินไป บวกกับโมบิลลอยด์ของเราไม่ได้พัฒนามาเพื่อรับมือกับพวกนายเช่นนี้ แต่คราวนี้ ฉันจะหยุดนายกับพวกไว้เองแหละ" พีวิลกล่าวแล้วก็หมุนควงตะบองเข้า "ป้ากกก" เสยตรงหัวเครซเดรทบลัสเทรดไปเต็มๆจนเขาจันทร์เสี้ยวแหว่งไปเสี้ยวหนึ่ง แต่โฟรซ่าระดมยิงปืนแสงเข้าใส่พีวิล ซึ่งก็ "เอนเนอจี้ชิลด์" พีวิลใช้พลังอีเนลเซียมสร้างสนามพลังป้องกันการโจมตีไว้ "ย้า วาลคัลลี่ แลนเซอร์" สเปียริทเลยบุกเข้ามาใช้หอกเข้า "แชบบบบ แชบบบ แชบๆๆๆๆ" ฟาดฟันและทิ้มแทงใส่เครซเดรทบลัสเทรดแบบไม่ยั้ง จนสเตฟอร์ดปัดป้องแทบไม่ทัน โฟรซ่าเลยต้อง.... "ฟึ่บบบบบ หวืบบบบบ ป้ากก แว้งงงง" ขยับขาเตะเสยขึ้นและถีบใส่ฟาลครีด้าไปเต็มๆ
              "ตะกี้แกถีบฉันเลยหรือ" สเปียริทกล่าวแล้วก็ใช้เรย์แซทแคนน่อนยิงใส่เครซเดรทบลัสเทรดไปหลายดอกด้วยกัน แต่โฟรซ่ารีบควบคุมให้หลบออกไปโดยเร็ว
              "ตะกี้นี้เธอทำหรือ โฟรซ่า" สเตฟอร์ดถาม
              โฟรซ่าตอบ "ฉันแค่ ไม่ต้องการให้ฝ่ายตรงข้าม เล่นงานพวกเราฝ่ายเดียวก็เท่านั้นแหละ"
              "ฟ้าวววววว ฟ้าววววว แชดๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆ" สกายล็อตและไพโอล็อตบุกเข้าเล่นงานสเปียริทเพียงฝ่ายเดียว "ฟูลอาร์มชู้ตเตอร์" "ไฮโดรเลเซอร์" พีวิลและคลอเวฟกราดยิงใส่เครซเดรททั้งสองไปโดยเร็ว แต่สกายล็อตควบคุมให้หลบการโจมตีไปได้ เช่นเดียวกับ "ปืนใหญ่อานุภาค ยิง" พวกลูนาสตี้สั่งยิงปืนใหญ่จากบาบิโลนอัลฟ่าเข้าใส่ยานมอเดอร์ดิฟอย่างจังๆ จนส่วนหัวยานได้รับความเสียหายไปเต็มๆ
              "ไม่เข้าท่าแล้วละ ถ้าพวกเราไม่ทำอะไรสักอย่างพวกเราคงโดนถล่มยับแน่ๆน่ะ" บัลโต้กล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "เราเสียเวลาอยู่ข้างนอกมากจนเกินไปแล้ว หัวหน้าบัลโต้ พยายามเล่นงานพวกสกายล็อตและไพโอล็อตให้มันมาทางพวกคุณเดียวนี้เลย"
              "มาสวาร์ทาร์ นายคิดแผนอะไรออกแล้วหรือ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "แผนนี้จำเป็นต้องเสี่ยงกันสักหน่อยแล้วละ ว่าเราจะมีลูกบ้าเยอะสักแค่ไหนกันน่ะ" แล้วก็... "ฟึ่บบบ ป้ากกก" แทงดาบเข้าใส่คาเมร่าอายของเครซเดรทของแดนเจอรอทไปเต็มๆ แล้วก็บินหนีไป
              "คิดจะหนีไปเพื่อหลอกล่อให้ติดกับนะหรือ ไม่มีทางกันหรอก" แดนเจอรอทเลยสั่งให้เครซเดรทจำนวน 8 เครื่องบินล้อมมาสวาร์ทาร์เอาไว้ เพื่อให้พวกนั้นระดมยิงมูนพลาสม่าไรเฟิ่ล แต่.... "ฟ้าววววววววววววว" "ฉั้วะๆๆๆๆๆๆๆ" บางอย่างพุ่งผ่านและตัดหัวเครซเดรททั้งแปดที่ห้อมล้อมมาสวาร์ทาร์จนขาดหมด แล้วก็.... "ฟ้าววว ฉับๆๆๆๆๆๆๆ" เครซเดรทกระตุกพร้อมกับมีรอยขีดพร้อมประกายไฟฟ้าปรากฎตามตัวจน "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมมมม" ระเบิดวินาศสันตะโรไปกันหมด แล้วก็.... "แว้งงงงง" ปรากฎร่างของ...
              "โมบิลลอยด์ตัวใหม่หรือกระนี้" มิลด์กล่าวอย่างอึ้งๆ เพราะโมบิลลอยด์ตัวนั้นไม่เพียงตัวสูงโย่งเหมือนกับฟาลครีด้า หากแต่ไม่ได้ติดบูสเตอร์ไว้ มีเพียงแค่แพลทเหล็กที่ติดคอเหมือนกับเป็นผ้าพันคอไว้ และมีอัตลักษณ์เป็นเหมือนนินจา ยืนกอดอกกลางอากาศไว้
              "แต่ มันมาจากไหนกันน่ะ ทำไมเรดาห์ถึงตรวจจับมันไม่ได้เลยน่ะ" โคเคสบอก
              เบย์แทนด์กล่าว "ผมคิดว่า มันคงจะอยู่ในสภาพอำพรางตัวเองจากการตรวจจับทุกชนิดทั้งเรดาห์และโซนาร์ เลยทำให้เราไม่เห็นมันอยู่ในเรดาห์เลยนะครับ"
              "ปลอดภัยดีนะ เอชมาสวาร์ทาร์" เสียงของพลัสเชอริทกล่าวโดยเผยตัวจากมอนิเตอร์ในลอร์ดวาทรัล ซึ่งพลัสเชอริทสอดแขนและขาไว้ในวงแหวนเข้า
              "พลัสเชอริท นายไปเอาโมบิลลอยด์มาจากไหนกันวะ" คลอเวฟถาม
              "ผมเป็นคนสร้างมันเอง แม้ว่าจะอิงตามข้อมูลของฟาลครีด้ามา แต่ผมสร้างขึ้นเพื่อให้เหมาะกับแพทเทิร์นการสู้รบของผมเองนะครับ" พลัสเชอริทบอก โดยตอนนี้ตนควบคุมโมบิลลอยด์แบบนินจาไว้
              "แล้วไม่มีชื่อตั้งไว้แต่แรกเลยหรือ" พีวิลบอก
              "ผมยังไม่ได้ตั้งขึ้นเอง แต่ โมบิลลอยด์ลิชกิชคอสตั่มนี้คงจะใช้ได้ดีแม้พึ่งจะติดตั้งระบบต้านแรงโน้มถ่วงไว้นะครับ" พลัสเชอริทกล่าว แล้วก็หลบหลีกการโจมตีของแดนเจอรอทอย่างรวดเร็ว
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ไรเดนโคว ชื่อนี้ควรจะเป็นชื่อโมบิลลอยด์ของนายกันน่ะ พลัสเชอริท"
              "ไรเดนโควนะหรือ เออ มันแปลว่าอะไรกันละ" สเปียริทบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แสงอัสนีบาตยังไงละ พลัสเชอริทมีอาวุธและแพทเทิร์นการโจมตีเป็นพลังไฟฟ้าที่ว่องไวดุจสายฟ้าฟาดอยู่ในตัว โมบิลลอยด์ที่เข้ากับเขาเองก็มีคุณสมบัติสองอย่างนี้ไว้ สมควรแก่ชื่อนี้กันแล้วละ"
              "ไรเดน(Rai-den)ที่ว่านิ เขียนแบบเดียวกับที่อ่านว่าเรย์เดน(Raid-en)อย่างงั้นสิน่ะ มาสวาร์ทาร์" พีวิลกล่าว มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              "ยืนยันชื่อที่ได้รับมา ไรเดนโคว คอมแบทเซต ฟูลฟังชั่นออน" พลัสเชอริทกล่าว โมบิลลอยด์ทรงนินจาก็ตอบสนองต่อชื่อและตอบรับคำสั่งด้วยการตั้งท่าสู้รบขึ้นมา
              "จะมีชื่อหรือไม่ ยังไงเสีย แกก็ต้องถูกกำจัดก่อนอยู่ดีนี้แหละ" สกายล็อตกล่าวและนำเครซเดรทประจัญบานพร้อมกับระดมยิงปืนแสงและมิไซล์ใส่ไรเดนโกว "ไลท์นิ่งเวบ" พลัสเชอริทยิงกระสุนไฟฟ้าออกไปสิบนัด ซึ่งก็... "ฟึ่บบบบ" กระสุนแตกออกเป็นตาข่ายใยแมงมุมเข้าป้องกันลำแสงและห่ามิไซล์เอาไว้ สกายล็อตเลยบุกเข้าโจมตีด้วยดาบที่ซ่อนไว้ที่แขนของเครซเดรท "โซลิดคาตานะ เซต" พลัสเชอริทดึงดาบคาตานะที่ซ่อนไว้ในแขนออกมา "แกร้งงงงงง" พุ่งเข้าฟันใส่ในจังหวะที่สกายล็อตบุกเข้ามาจน "ป้ากกกก" ส่วนหัวไหล่ถูกสับขาดแหว่งไป แต่ไม่ถึงกับตัดให้แขนขาดกันนัก "ฟ้าวววววว" สกายล็อตเลยบินย้อนศรพร้อมกับยิงมูนโซลิดเลเซอร์เข้าใส่ พลัสเชอริทนำไรเดนโกวหลบหลีกไป แม้ว่าแดนเจอรอทจะบุกเข้ามาจากข้างหลังแล้วก็ตาม "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว" พลัสเชอริทพุ่งไปอย่างรวดเร็ว และเร็วยิ่งกว่าฟาลครีด้าเสียอีก จนสกายล็อตไล่ตามไปแทบไม่ทัน "คราวนี้ไม่พลาดแน่ ตายซะ" สกายล็อตกล่าวเมื่อสังเกตุว่าพลัสเชอริทพุ่งเข้าใส่มา แต่ไพโอล็อตบอก "เดียวก่อน ข้างหลังนั้นมัน..."
              "แชดดดดดด" สกายล็อตเหนี่ยวไกไปแล้ว จนมูนพลาสม่าลันเชอร์ยิงลำแสงกำลังสูงออกไปยังไรเดนโกว แต่...
              "ลำแสงยิงเข้าสู่เป้าหมาย ตรงแพทเทิร์นที่ตั้งไว้พอดี" พลัสเชอริทคำนวณไว้นานแล้วจึง... "ฟึ่บบบบบ" โยกหลบออกด้านข้างขวาไปจนลำแสงนั้น "แชดดดดดดดด ป้ากกกกก ตูมๆๆๆๆๆๆๆ บรึมมมมม" ยิงถูกมอเดอร์ดิฟของพวกลูนาสตี้จนพังไปอย่างจังๆ
              "หึๆๆๆๆ ดูเหมือนว่า ตาของนายจะเริ่มมองเห็นสีน้ำเงินแล้วสิ" แดนเจอรอทกล่าวอย่างหัวร่อกับความผิดพลาดของสกายล็อตที่ดันไปยิงถูกพวกเดียวกันไว้เสียเอง แล้วตนก็รีบเข้าไปใช้กงเล็บเพื่อฟาดฟันใส่ แต่.... "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าววววว" พลัสเชอริทยังหลบหลีกการโจมตีของแดนเจอรอทกันอยู่ แดนเจอรอทเลยยิงกระสุนกรดเข้าใส่ "ตรุ้งๆๆ" พลัสเชอริทยิงไลท์นิ่งเวบเข้ากักกระสุนกรดเอาไว้จน "ตรูมๆๆๆๆๆ" กระสุนกรดระเบิดแตกออก แต่แดนเจอรอทกระโจนเข้ามา "แคว้กกกก" ข่วนด้วยกงเล็บเข้าใส่ไรเดนโกวไปเต็มๆ "หึ คิดว่าฉันจะไม่โจมตีเลยหรือไอ้...." แดนเจอรอทกล่าวอย่างลำพังใจ แต่หารู้ไม่ว่าที่ฟันอยู่นี้ มิใช่ไรเดนโกว แต่เป็นเครซเดรทที่เกรมฮอร์ทควบคุมอยู่จน "ตรูมมมมมม" เตาพลังงานมูนพลาสม่าระเบิดเข้าใส่ แต่แดนเจอรอทโผละออกมาได้เสียก่อนและเห็นพลัสเชอริทบุกเข้ามาจากด้านข้าง "ฟี้ววว" แดนเจอรอทยิงกงเล็บทริปเปิ้ลคลอว์เข้าใส่ แต่ "ฟ้าวววว ฉึบบบบบ กรี้งๆๆๆๆๆ" กงเล็บดังกล่าวถูกบางอย่างผ่านตัวไปจนขาดเป็นสองส่วนด้วยกัน แล้วก็... "แฟงค์เรซเซอร์" ซัดดาวกระจายแบบเดียวกันกับแฟงค์สไลเซอร์ แต่มีขนาดใหญ่และแยกเป็นสองอันเข้า "กรี้กกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฉั้วะ" ถากใส่เครซเดรทของแดนเจอรอทจนแขนขาดทั้งสองข้าง แล้วก็ "ฟ้าววววว ฉั้วะ" พลัสเชอริทพุ่งชาร์จเข้าฟันใส่เครซเดรทของแดนเจอรอทซ้ำจนหุ่นระเบิดไป ส่วนแดนเจอรอทนั้น... "ฟ้าววว หมับบบบ" สกายล็อตรีบบินมารับตัวไว้
              "จังหวะนี้แหละ รีบบุกไปก่อนเลย ที่เหลือฉันจะจัดการเอง" พลัสเชอริทกล่าว

              มาสวาร์ทาร์บอก "พีวิล คลอเวฟ สเปียริท ดันเครซเดรทของสเตฟอร์ดและโฟรซ่าไปที่บาบิโลนอัลฟ่าเดียวนี้เลย" แล้วรีบนำลอร์ดวาทรัลบินตามสกายล็อต ไพโอล็อตและแดนเจอรอทไป
              "พวกนายรีบจัดการกับตัวขุนพลของเทคไครด์โดยเร็วเลย ฉันกับพวกที่เหลือจะยันพวกนี้ไว้เอง" บัลโต้บอก พีวิลพยักหน้า สเปียริทเลยต้องใช้เรย์แซทแคนน่อน "แชดดด แชดดด แชดดดด" ยิงเพื่อกันมิให้สเตฟอร์ดหนีไปไหนได้ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลกราดยิงฟูลอาร์มชู้ตเตอร์เข้าใส่ขาของเครซเดรทบลัสเทรดจนระเบิดไปสองข้าง แต่โฟรซ่ายังใช้เครื่องยนต์ที่หลังหัวไหล่ทั้งสองข้างอยู่ "ว้ากกกกก" คลอเวฟเลยบุกชาร์จเข้า "เปรี้ยงงงง" ใช้ออคตาแกรมชิลด์ข้างซ้ายชกเข้าที่หัวเครซเดรทบลัสเทรดจนหัวหลุดกระจุยไป พร้อมกับ... "ฟึ่บบบบ" "ป้ากกกก" ใช้อันข้างขวาชก แต่สเตฟอร์ดใช้มือขวายัน แม้คลอเวฟจะใช้มือซ้ายก็ยังโดนต้านไว้อยู่ดี
              "ต่อให้มีพละกำลังมากแค่ไหน แต่อย่าลืมสิ ว่าบลัสเทรดเครื่องนี้มีกำลังเครื่องมากกว่าที่คิดไว้กันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              "เหอะ กำลังเครื่องโมบิลลอยด์ของแกมันแรงกว่าของฉันก็จริง แต่....นายคิดว่าฉันจะโต้ตอบนายแบบนั้นน่ะ คิดผิดแล้วละ" คลอเวฟบอก แล้วพีวิลและสเปียริทก็... "ซูมมมมมมมมม ฟ้าววววววววววววว" เร่งเครื่องพร้อมกับดันเฮฟโวลของคลอเวฟเอาไว้ ซึ่งด้วยกำลังเครื่องของทั้งไซน์เกนและฟาลครีด้า ที่ถูกเสริมแกร่งมาได้ทำให้เฮฟโวลมีแรงผลักดันที่มากกว่าเครซเดรทบลัสเทรดถึงสามเท่าด้วยกัน
              "แรงขับเคลื่อนของทั้งสามนั้นแรงมาก ถ้าเราต้านไว้ก็คง..." โฟรซ่าบอก
              "ไม่ต้องกลัวหรอก แค่ปล่อยให้พวกนั้นเร่งเครื่องจนบูสเตอร์ระเบิด ทุกอย่างก็จบเกมส์กันแล้ว" สเตฟอร์ดบอก และเร่งเครื่องสู้กันบ้าง
              คลอเวฟบอก "คิดจะยันพวกกูนะหรือ คิดว่าพวกกูกระจอกมากสิน่ะ อย่ามาดูถูกกันหน่อยเลยดีกว่าน่า" แล้วก็ดันคันโยกไปเต็มแรง ซึ่งก็ "แกร็กๆๆ" บูสเตอร์ด้านข้างสองอันเปิดขยายใหญ่ขึ้นพร้อมกับ "หึมๆๆๆๆๆ ซูมมมมมมมมมมมมมมมมม" เร่งเครื่องพลังไฮโดรฟอสเต็มกำลังจนดันบลัสเทรดให้พุ่งเข้าใส่กองยานของพวกลูนาสตี้ไว้
              "ต้านพวกมันไว้ให้ได้" เบทชอนกล่าวโดยรีบสั่งโจมตีใส่ แต่... "ฟ้าววววว ป้ากกก โครมมมม" บลัสเดรทโดนเสยเข้ากับสะพานเดินเรือจนมอเดอร์ดิฟพังร่วงไป ตามด้วย... "ป้ากกก โครมๆๆๆๆๆๆ" ชนใส่แนวกำแพงของเครซเดรทอย่างต่อเนื่องจนพวกมันกระเจิดกระเจิงไป ส่วนพวกพีวิลนั้นกางบาเรียป้องกันเอาไว้เพื่อกันมิให้ความเสียหายเกิดกับตัวโมบิลลอยด์ของพวกเขาไว้
              "เตรียมปืนใหญ่ยิงใส่พวกมันเดียวนี้เลย" เกรมฮอร์ทกล่าว
              สกายล็อตบอก "ไม่ได้หรอก เดียวโดนทั้งสเตฟอร์ดและโฟรซ่ากันพอดีหรอก พยายามยิงใส่พวกกบฎกันก็...." แต่แย่หน่อย หน่วยฟาลครีด้าระดมยิงไกลเข้าใส่ยานมอเดอร์ดิฟแล้ว ส่วนยานมอเดอร์ดิฟของฝ่ายกบฎก็เคลื่อนทัพตรงมายังบาบิโลนอัลฟ่าไว้.... "หึมๆๆๆๆ แชดดดดดด" "ป้ากกกกก" ยิงปืนใหญ่กำลังสูงเข้าใส่ระบบป้องกันของบาบิโลนอัลฟ่าไว้ แม้จะเสี่ยงกับการที่โดนยิงไปเลยก็ตาม พวกเครซเดรทพยายามบุกเข้าใส่ แต่... "ฟ้าวววววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ไกซ์บุกเข้าฟาดฟันใส่เครซเดรทด้วยโซลิดเบลด โดยที่อาร์ซโทรนแอชเกรย์ไดน์โจมตีด้วยลองค์พลาสม่าซอร์ดอย่างทันควัน "ว้ากกกก" บัลโต้ใช้เฮฟวี่พลาสม่าซอร์ดฟาดฟันใส่เครซเดรทจนกระเจิงไปแล้วก็ยิงบูสเตอร์ฟิสท์ทะลวงใส่เครซเดรทไปด้วย ซึ่งเอลเวนท์ไดน์บุกเข้าซัดหมัดจรวดจัดการกับเครซเดรทตาม "แชดดด แชดดดด แชดดด" มิลด์ช่วยเฮลิคโจมตีด้วยมาสแตงค์ไรเฟิ่ล พร้อมกับเปลี่ยนมาใช้ปืนกลหนักกราดยิงใส่พวกที่เข้าโจมตีการ์เซนท์แบบเทอโบเจ็ท และใช้สปาร์คช็อคเกอร์ยิงใส่เครซเดรทให้ชะงักจนถูกการ์เซนท์เทอโบเจ็ทและฟาลครีด้าสาดยิงใส่จนร่วง เช่นเดียวกับไรเดนโกวของพลัสเชอริทเข้าโจมตีอย่างเร็วเช่นกัน
              "ว้ากกกก ย้า" คลอเวฟที่ผลักบลัสเทรดของสเตฟอร์ดและโฟรซ่าก็ "เปรี้ยงงงง ฟ้าววววว เพล้งงงง โครมมมม" ถีบส่งเครซเดรทบลัสเทรดจนทะลุโดมแก้วของบาบิโลนอัลฟ่าและกระแทกกับตึกที่อยู่ข้างในไปด้วย "รีบไปตามไปดีกว่าน่ะ เพราะ พวกมันบุกมาถึงกับดักกันแล้วนิ" แดนเจอรอทกล่าว
              สกายล็อตบอก "หวังว่าเรื่องนี้คงจะลงเอยไปได้ด้วยดีกันน่ะ" โดยที่มาสวาร์ทาร์ตามมาโดยตลอดแล้ว
              "ตรงตามแผนที่นายวางไว้เลยวะ มาสวาร์ทาร์ สมุนทั้งห้าเข้าไปในเมืองกันแล้ว" คลอเวฟบอก
              สเปียริทกล่าว "พวกเราก็ต้องตามพวกนั้นไปด้วยเช่นกันเลยน่ะ"
              "ในเมื่อเทคไครด์ต้องการให้เรื่องนี้มันจบ งั้นพวกเรามาจัดการให้จบๆไปเลยดีกว่าน่ะ" พีวิลบอก แล้วทั้งสี่ก็มุ่งหน้าเข้าไปในโดมเมืองบาบิโลนอัลฟ่าไว้
              "ตึกรามบ้านช่องในเมืองนี้ดูหนาแน่นกว่าที่เทมเดนไม่มีผิดเลยน่ะ" สเปียริทบอก
              "และเป็นสถานที่เหมาะแก่การซุ่มโจมตีกันด้วยนะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              พีวิลแจ้งให้... "เบย์แทนด์ โมบิลลอยด์ของเราใช้พลังงานไปเยอะมากแล้ว เทเลพอร์ตไซน์เกน ฟาลครีด้า เฮฟโวลและลอร์ดวาทรัลกลับยานเดียวนี้เลย" แล้วก็ปลดเข็มขัดเพื่อลงจากหุ่นแล้ว
              "แปลว่าพวกนายพร้อมจะลงไปลุยกับพวกสเตฟอร์ดกันจริงๆสิน่ะ" โคเคสกล่าว พีวิลพยักหน้า
              เบย์แทนด์บอก "งั้น ขอให้พวกคุณโชคดีแล้วกันน่ะ" แล้วก็จัดการเทเลพอร์ตโมบิลลอยด์ทั้งห้ากลับยานมอเดอร์ดิฟของโคเคสโดยเร็ว ส่วนพวกพีวิลก็ออกจากคอกพิตลงมาที่ถนนกลางเมืองกันแล้ว พร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสำคัญนี้ขึ้นมา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×