ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Titan Savior

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 2 การทดสอบของทศภารดรเทพ ครั้งที่สอง การปะทะของดาบและหมัด ช่วงท้าย

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 63


              "อาชเชอเรน ความเห็นของเจ้าล่ะ" เรฟีเทนกล่าว
              อาชเชอเรนพยักหน้า "ถึงแม้ว่าเจ้าพี่สามสามารถทำให้เบรซซิ่งแฮนด์พีวิลอยู่ในสภาพสาหัสจนสู้ต่อไม่ได้ก็จริง....." เธอตัดสินและหันมายังโคคูเดน "เจ้าพี่สาม ข้าขอโทษด้วยนะคะ ที่ข้าต้องบอกว่า ถึงท่านจะชนะพีวิลได้ แต่ท่าน.....ก็แพ้พีวิลไปแล้วคะ" แน่นอน ว่าผลการดวลของโคคูเดนและพีวิล คือ เสมอ
              "เจ้าว่ายังไงน่ะ เจ้าบอกว่า ข้าแพ้พีวิลนะหรือ" โคคูเดนกล่าวอย่างไม่พอใจ อาชเชอเรนพยักหน้าอีก จนองค์ชายสามถาม "อาชเชอเรน เจ้าคงมีเหตุผลที่อธิบายถึงผลการตัดสินของเจ้ากันละสิ"
              องค์หญิงคันศรอธิบาย "ในจังหวะที่ท่านทำลายอาวุธในมือข้างสุดท้ายของพีวิลนั้น..... ข้าเห็น.....พีวิลเสยหมัดขวา ซึ่งเป็นอาวุธชิ้นสุดท้าย ชกเข้าที่ท้องของท่านพร้อมกับเป่าตัวเองให้ออกห่าง จากแรงระเบิดที่เกิดจากไม้ตายของท่านทำลายอาวุธของพีวิลทิ้ง ซึ่งความแรงของมันนั้น แม้จะทำให้เกิดรอยแผลไหม้ แต่ถ้าอยู่ในระยะใกล้หรือประชิดแบบคลุกวงใน.....หมัดของพีวิล จะทะลุท้องไปหลังของท่านได้ในทันที หากเขาใช้พลังในระดับสูงสุดกับการออกหมัดในจังหวะที่สามนะคะ"
              "!!!!!!!" โคคูเดนชะงักและนึกถึงในจังหวะที่ตนหวดตะบองใส่ตะบองของพีวิลจนแตก แต่ "หวับบบบ เปรี้ยงงงงง" พีวิลพุ่งเข้าชกใส่ตนด้วยหมัดขวาทะลวงไส้ทะลุท้องอย่างจังๆ "นี้เจ้าคิดจะทำอย่างที่อาชเชอเรนว่ามาหรือ" โคคูเดนถาม
              พีวิลบอก "ถ้าผมทำเช่นนั้น ผมก็ต้องแพ้ฟาลว์เพราะฆ่าท่านคาเวที จนคิโคเดนมีข้ออ้างให้นำกองรบมายึดระบบดาวของพวกเราได้แน่นอน ซึ่งนั้นเป็นเป้าหมายที่คิโคเดนต้องการกันน่ะ" แล้วก็เอามือซ้ายปาดเลือดออกจากมุมปาก "หากแต่นี้เป็นการดวลระหว่างผมกับท่าน ซึ่งผมรู้ว่าผมต้องแพ้ท่านในครั้งนี้ เลยเลือกที่จะใช้แมกนั่มฟิสท์เป่าพลังเล่นงานท่านพร้อมกับดีดตัวเองออกมาได้ก่อน ซึ่งผมรู้....ว่าองค์ชายที่เชื่อมั่นในตนเองสูงอย่างท่าน ต้องมองข้ามความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยไปได้แน่นอน"
              "............" โคคูเดนยั้วะและคิดจะเอาเรื่องพีวิล "ฟึ่บบบบบบบ ฟึ่บบบบบบบ" เรฟีเทนและอาชเชอเรนใช้ลอว์เซเบอร์และคันศรออกมาไขว้ขวางโดยเร็ว "ยอมรับเถอะ เจ้าพี่สาม ไม่เช่นนั้น ผมกับอาชเชอเรนต้องหยุดท่านแล้วละ" เรฟีเทนกล่าว
              อาชเชอเรนบอก "เจ้าพี่สาม ถ้าไม่เห็นแก่คำตัดสินของข้า ท่านก็เห็นแก่เจ้าพี่ใหญ่กันบ้างนะคะ"
              "........" โคคูเดนหยี่ตาด้วยความโกรธและมองมายังพีวิล ซึ่งแสดงสีหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว "สายตาแบบนั้น.....ขนาดแพ้ยังดุดันเช่นนี้....." โคคูเดนคิดไปพักหนึ่งก่อนจะบอกว่า "เจ้าโชคดีมากเลยน่ะ พีวิล ที่เจ้าโต้ตอบข้าลงได้ เพียงแต่ ครั้งต่อไป.....ข้าจะพิพากษาเจ้าให้แพ้แบบไม่ให้เจ้าแก้ตัวได้อีกเลยน่ะ"
              พีวิลบอก "หวังว่าท่านคงจะยอมรับในผลการตัดสินที่เกิดขึ้น มากกว่าคำตัดสินจากท่านเพียงฝ่ายเดียวบ้างน่ะ"
              "หึ....." โคคูเดนไม่พูด แล้วหันมายังสเปียริท "แอสเซน ข้าไม่คิดเลย ว่าเจ้าเลือกคนที่ใกล้เคียงและเหมือนกับเจ้าเช่นนี้ แต่ถึงไง ข้าก็ไม่ยอมรับกันง่ายๆหรอกน่ะ" โคคูเดนกล่าว
              สเปียริทบอก "ตราบใดที่ท่านยังคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ และไม่ยอมรับในความผิดพลาดที่ท่านก่อไว้กันละก็ ข้าคงไม่ยอมรับท่านได้หรอกคะ"
              "ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า ผู้ที่ยังคงความดื้อดึงเอาตนเองเป็นที่ตั้งได้หรอกน่ะ" โคคูเดนกล่าวและหันหลังเดิน
              สเปียริทบอก "แล้วท่านเองที่ก้มหัวให้กับคิโคเดน ทั้งๆที่ท่านกับพวกมีเยอะกว่าเช่นนี้ ท่านไม่ละอายใจเลยหรือ"
              "เรฟีเทน อาชเชอเรน เรากลับกันเถอะ" โคคูเดนบอก เรฟีเทนและอาชเชอเรนพยักหน้า แล้วเดินตามโคคูเดนไป
              แคไรน์บอก "แอสเซน แม้ผลลัพธ์ของการดวลไม่เป็นไปตามที่ท่านโคคูเดนคาดไว้ แต่....ข้าหวังว่า ท่านคงจะดูแลสหายของท่านให้หายดีกันบ้างน่ะ"
              "ฉันไม่คิดเลยน่ะ ว่าเธอจะภักดีกับคนที่ทำให้พ่อของเธอติดตะรางได้เช่นนี้น่ะ" สเปียริทกล่าว
              แคไรน์บอก "ต่อให้ท่านอ้างว่าท่านมิได้สังหารมารดรเทพเอง ข้ากับพวกคงเชื่อได้ยากนะคะ" แล้วก็พาพวกจัสต์เมนท์ฟิสท์กลับขึ้นยาน และเดินทางออกจากดาวไป
              "อือออ" พีวิลล้มคุกเข่าลง "พีวิล ไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" สเปียริทเข้ามาประคอง โดยที่พวกเมนซิกส์ทีนที่เหลือเข้ามาสมทบ
              เจเนลกล่าว "นายนิมันเหลือเกินเลยน่ะ พีท ที่ใช้แรงเพื่อยืนขึ้นมาได้น่ะ"
              "ฉันยังพอมีแรงอยู่บ้าง แม้จะบาดเจ็บจนสู้ต่อไม่ได้ก็ตาม ถ้าไม่ทำให้โคคูเดนซ้ำเติม ฉันก็ตายไปนานแล้วละ" พีวิลกล่าว และหันมายังสเปียริท "ขอโทษด้วยนะ สเปียริท ที่...."
              สเปียริทกล่าว "....พีวิล นายนิมันบ้าที่สุดเลย ที่ทำให้ฉันเกือบจะร้องไห้แล้วน่ะ"
              "ถึงนายจะแพ้ แต่นายก็สู้จนถึงที่สุดแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              แอบไบออสกล่าว "แม้เธอจะไม่เสี่ยงบุกเข้าไปเพื่อล้มโคคูเดน แต่อย่างน้อย เธอก็ใช้วิธีอื่นเอาชนะองค์ชายสามได้แล้วนะ ร้อยเอก"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ นายไม่เร็วพอที่จะบุกเข้าไปต่อยหน้าโคคูเดนละสิน่ะ" คลอเวฟบอก
              พีวิลกล่าว "โคคูเดนคงรู้เรื่องไซมาเทนจากคิโคเดนมาแล้ว เท่ากับว่าเขาไม่ยอมให้ตนเองซ้ำรอยเดิมได้แน่นอน แค่ต่อยเข้าที่ท้องก็ถือว่า ปราณีที่สุดแล้วละ"
              "แต่ตอนนี้ เธอต้องไปพักผ่อนกันก่อนน่ะ" โฟรซ่ากล่าวแล้วก็ทรุดลง
              สเตฟอร์ดบอก "เธอเองก็ควรจะพักด้วยนะ โฟรซ่า เพราะเธอใช้แรงไปในการสู้กับองค์หญิงอาชเชอเรนไม่น้อยเลยน่ะ"
              "ฉันเองก็ด้วย เพราะเรฟีเทนก็เก่งและแกร่งเช่นกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              ฟิเกซกล่าว "ถ้าเช่นนั้น เราคงต้องกลับไปหาป้าตามเดิมแล้วละ"

              ที่ยานชั้นลาบัลย่า นอกดาวแคสเซรอน-4
              "ผมไม่อยากจะทำให้เจ้าพี่สามโกรธและผิดหวังหรอกนะครับ แต่....ภาพจากโดรนก็ให้ผลเหมือนกับ สายตาของเจ้าพี่หญิงรองกันน่ะ" แมคเคลเลนบอก แล้วนำภาพการต่อสู้ในช่วงที่โคคูเดนใช้ไม้ตาย "หวับบบ เปรี้ยงงง" ปะทะกับพลองในมือซ้ายของพีวิล แต่ "หวับบบ" พีวิลก้มลงและ "แมกนั่มฟิสท์" เสยหมัดขวา "ป้างงงงง" เป่าตัวเองพร้อมกับส่งพลังอัดใส่หน้าท้องของโคคูเดนและดีดตัวพีวิลออกไป แม้จะโดนแรงระเบิด จนเกราะหน้าอกกระจุยไปก็ตาม
              "ไอ้กระหร่องแขนโตมันเล่นวิธีหนีเอาตัวรอดและเล่นงานพี่สามเช่นนี้ ร้ายซะจริงๆ" แอคเคนบอก
              "แต่พลังที่นายอดีตมนุษย์ใช้ คงไม่แรงพอที่จะพิฆาตใครได้หรอกมั่ง" แคมิเรนบอก
              แมคเคลเลนกล่าว "เกรงว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นนะสิ" แล้วก็นำภาพการต่อสู้ของพีวิล "แมกนั่มฟิสท์" โดยภาพแรกพีวิลต่อยใส่ทอฟนิคซ์ที่อยู่ประจำฐานในแอฟริกา "ป้างๆๆๆ เปรี้ยงงง" โดยเป่าพลังในระยะเผาขนไป 5 ทีจนหลังกระจุยไป "ป้างๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" เฮอคูลอนของเกซเฟลิค แม่ทัพตนแรกของแอตแลนไทซ์ถูกพีวิลเล่นงานจนไฮโดรฟอสแทงค์กลางหลังสองอันกระเด็นพร้อมกับหลังกระจุย "แฟ้วๆๆๆ ป้าก" เวโนมิไนซ์แบบฮาร์ดเดรมอลถูกพีวิลใช้เซเคนด์สไตร์คเตะเข้าที่หน้าแล้วก็พุ่งมาต่อยเข้าที่ท้อง "แมกนั่มฟิสท์" พร้อมกับ "ป้างๆๆๆๆ เปรี้ยงงง" อัดพลังใส่จนเกราะกระดองกลางหลังแตกกระจุยและเป่าสันหลังกระเด็นพร้อมชิ้นเนื้อไปด้วย "ท่าหมัดของพีวิลอันนี้ ไม่เพียงใช้พลังอีเนลเซี่ยมในตัวอัดใส่ศัตรูในระยะเผาขน เพื่อสร้างความเสียหายเข้าใส่ภายในร่างของศัตรูอย่างหนักหน่วง จนด้านหลังแตกกระจุยตามแรงตอกอัด ซึ่งหนึ่งการตอกพลังเข้าไป มีพลังเป็น 2 เท่าของแรงหมัดชกปกติ 10 ตัน บวกกับจำนวนครั้งสูงสุดคือ 6 ครั้ง รวมแล้ว พีวิลใช้พลังโจมตี 120 ตันหรือมากกว่านั้น บดขยี้ศัตรูให้กระจุยตามที่เห็นนะครับ" แมคเคลเลนวิเคราะห์
              "ข้อมูลที่นายนำเสนอมานั้นเป็นข้อมูลเก่า ถ้าดูจากตอนนี้แล้ว ไม้ตายนี้คงมีพลังมากเป็น 3-5 เท่าแน่นอนน่ะ" เรฟีเทนบอก
              แมคเคลเลนพยักหน้า "จากที่ผมเห็นนั้น พีวิลใช้เอนเนลซอนแคลช ซึ่งมีพลังมากขึ้นเท่าตัว แม้จะไม่อาจต้านท่าไม้ตายของเจ้าพี่สามได้ก็ตาม...." แล้วก็เปิดแว่นสแกนเนอร์มาส่องดูตรงช่องท้อง และฉายให้พวกเรลโลเซนได้เห็น "....มันก็มีพลังมากพอที่จะจู่โจมเจ้าพี่สามให้มีรอยช้ำบนท้อง และผลักตนเองให้พ้นจากรัศมีระเบิดของไม้ตายของท่าน ลดทอนความเสียหายที่เข้าถึงตัวลงในระดับที่ปลอดภัย แม้จะมีโอกาส 67 เปอร์เซนต์ ที่พีวิลจะหนีไม่รอดเลยก็ตามน่ะ" รอยช้ำรูปหมัดสี่เหลี่ยมจตุรัสสีครามประทับบนหน้าท้องของโคคูเดน
              "ถึงแม้จะใช้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ในเวลาอันสั้น เพื่อให้ตนเองรอดและมีโอกาสเอาชนะข้าได้ก็ตาม ข้ายังมองพีวิลเป็นอดีตมนุษย์ที่อ่อนแออยู่ดี" โคคูเดนยังยืนกรานคำเดิม
              คิโคเดนกล่าว "ข้าไม่แปลกใจกันหรอกน่ะ ว่าไซมาเทนมักจะพูดเสมอ ว่าต่อให้เจ้าพัฒนาฝีมือมาตลอดแค่ไหน เจ้าก็ยังเป็นที่สามกันอยู่ดี เพราะว่าเจ้าคิดแบบนี้ และไม่ฟังคำเตือนจากข้า ก่อนไปสู้กับพีวิลเลยน่ะ"
              "ท่านพูดขัดกันอย่างมากเลยน่ะ เจ้าพี่ใหญ่ ในเมื่อท่านเคยเอาชนะพีวิลและพวกพ้องมาก่อนแล้วนิ" โคคูเดนกล่าว
              ฟอสเซอเรนบอก "แม้ว่าพีวิลจะเป็นแมนิเกเตอร์ที่มีความแข็งแกร่ง เป็นที่สามรองจากเนคเกอร์ มาสซั่ม และคาตานะลอร์ดมาสวาร์ทาร์เลยก็ตาม...." แล้วก็ถอนใจก่อนพูดว่า "แต่จากที่ข้าเห็น พีวิล เป็นแมนิเกเตอร์ที่มีพลังมากที่สุดเทียบเท่ากับเนคเกอร์และคาตานะลอร์ด และสูสีกับแอสเซนกันด้วยนะสิ"
              "พี่หญิงใหญ่คะ พี่พูดมั่วๆหรือเปล่าละคะ" เรลโลเซนบอก
              คลอวูเดนกล่าว "นั้นสิ นายอดีตมนุษย์อย่างพีวิลไม่น่าจะมีพลังเทียบเท่ากับแอสเซน และการที่มันชนะเจ้าพี่สามได้ ก็แค่โชคช่วยและลูก...."
              "....พวกเจ้าลืมแล้วหรือ ว่าตอนแข่งไตรกีฬานั้น พีวิลและแอสเซนต่างสูสีด้วยกันทั้งคู่ แม้พีวิลจะเป็นอดีตมนุษย์ที่เคยตายมาแล้ว ซึ่งพวกเรามองว่าพีวิลอ่อนกว่าแอสเซนที่เป็นเหมือนพวกเราเลยก็ตาม" อาชเชอเรนบอก "แต่จากการที่เห็นในการสู้ระหว่างพีวิลและเจ้าพี่สามนั้น ข้าเห็นว่าพีวิล ไม่เพียงฝึกฝนร่างกายให้เข้มแข็งอยู่ตลอด แต่ยังขัดเกลาทักษะการต่อสู้ การควบคุมการใช้พลัง ควบคุมสมาธิให้อยู่กับการต่อสู้ จนรู้วิธีแก้ไขเฉพาะหน้าได้ในเวลาอันสั้น รวมถึงแยกแยะได้ว่าวิธีไหนควรใช้ วิธีไหนไม่ควรใช้ ซึ่งถือเป็นหลักฐานบ่งบอกของการเป็นยอดนักรบและนักสู้ที่แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับที่แอสเซนเป็นอยู่นะคะ"
              แคมิเรนกล่าว "แต่ถึงกระนั้น พีวิลก็ยังแพ้เจ้าพี่สามกันอยู่ดี ต่อให้ใช้พลังเต็มที่เลยก็ตามนะคะ"
              "เจ้าอาจจะคิดว่า ต่อให้ใช้พลังเต็มที่ พีวิลไม่ชนะตามที่เจ้าว่ามาก็จริง" ฟอสเซอเรนบอก "แต่ถ้าพีวิลอยู่ในท่ายืนและทำแบบนั้นขึ้นมา พวกเจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าพี่สามกันละ"
              โคคูเดนยิ่งตกใจ เมื่อนึกถึงตอนที่พีวิล "เปรี้ยงงงง" ชกทะลวงอกจนบดขยี้แกนหัวใจของตนเองกระจุยไป "แบบนั้นข้าก็แพ้มันแน่นอน แต่ทำไม พีวิลถึงไม่ทำเช่นนั้นละ"
              "พีวิลแยกแยะออก ว่านี้เป็นการดวลระหว่างเจ้าพี่สามกับเขา ซึ่งนั้นหมายถึง เขาต้องแสดงฝีมือและพลังให้ท่านได้เห็นว่า พีวิลไม่ใช่อดีตมนุษย์กระจอกอย่างที่ท่านและพวกเราส่วนมากคิดกัน แม้ว่าพีวิลจะมีหลายวิธีที่จะเอาชนะท่านได้ รวมถึงการชกทะลวงอกท่านให้กระจุยเหมือนที่พิชิตศัตรูทั้งหลายมาก่อนด้วย แต่ที่พีวิลไม่ทำ เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าถ้าออกอาวุธไม่ทัน ต่อยออกไปแล้วไม่ทะลุอกจริง ก็ต้องโดนท่านเล่นงานเสียเอง และถ้าพีวิลทำสำเร็จ เจ้าพี่ใหญ่ก็จะโกรธจนคิดนำทัพมารุกรานดาวดวงนี้อย่างแน่นอน" ครอสเซอเรนกล่าว "การที่พีวิลเลือกที่จะประทับรอยแผลให้ท่านนั้น ถือว่าเป็นวิธีที่ปราณีมากที่สุดกันแล้วนะครับ"
              เรฟีเทนกล่าว "พีวิลรู้ตัวว่าตนเองมาเพื่อดวลกับท่านเลยแสดงฝีมือเท่าที่เขาสามารถทำได้ แม้จะเหลือหมัดเท้าในช่วงสุดท้าย แต่ก็เป็นอาวุธสุดท้ายที่เหลืออยู่ของนักรบ แต่ท่านกลับใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสินเพื่อบีบให้ท่านชนะโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ต่อให้อาชเชอเรนไม่เป็นกรรมการ ผมก็คงเห็นว่าท่านแพ้เพราะตนเองแล้วละ"
              "แต่ เจ้าพี่ใหญ่ก็เอาชนะพีวิลไปแล้วนิ มันก็ไม่น่า...." โคคูเดนกล่าว คิโคเดนลุกขึ้นพร้อมกับชูนิ้วโป้งและนิ้วชี้ขึ้น ซึ่งก็....เรืองแสงสีน้ำเงินขึ้นที่นิ้วชี้ และสีม่วงที่นิ้วโป้ง
              "เดียวสิ ขนาดท่านใช้เพียงนิ้วเดียวหยุดการโจมตี ยังเหลือรอยช้ำเลยหรือ" แคมิเรนบอก
              "ตอนที่ข้าใช้นิ้วชี้หยุดหมัดของพีวิลที่ใช้ไม้ตายมาจัดการกับข้านั้น ข้าสามารถสยบพีวิลได้ในนิ้วเดียวกันก็จริง หากแต่.....ข้าสัมผัสถึงพลังอันยิ่งใหญ่จากหมัดของพีวิลผ่านนิ้วชี้ของข้า ซึ่งมีระดับพลังที่สูงกว่าตอนที่ปะทะกับไซมาเทนเสียอีก แม้พีวิลจะทุ่มพลังไปอย่างเปล่าประโยชน์เลยก็ตาม" คิโคเดนกล่าว "พอข้าใช้นิ้วโป้งหยุดการโจมตีด้วยหอกไร้หัวของแอสเซนไปนั้น ข้ากลับพบว่า พลังของนางก็สูงส่งขึ้นแต่อยู่ในระดับเดียวกับพีวิล ที่แม้จะใช้พลังไปเยอะ แต่ไม่มากเท่ากับพลังในตัวของมันที่มีเท่ากับแอสเซน เนคเกอร์และคาตานะลอร์ด เผลอๆอาจมากกว่าข้าและไซมาเทนเสียด้วยซ้ำเลยน่ะ"
              โคคูเดนบอก "แล้วมันเพราะอะไรกันละ เจ้าพี่ใหญ่ ที่ทำให้พีวิลชนะข้าได้น่ะ"
              "นั้นเพราะว่าในหมู่สหายกองกำลังไทรเวเซอร์ พีวิลเป็นแมนิเกเตอร์ที่เจียมตัวและถ่อมตนมากที่สุด ซึ่งแม้นั้นจะเป็นการทำให้ตนเองดูด้อยกว่าผู้อื่น แต่....นั้นช่วยให้พีวิลประมาณตนเองได้ว่า ต้องสู้กับศัตรูแบบไหน สู้ในระดับใด และสู้ไปแล้วได้ผลเช่นไรด้วย ซึ่งรวมถึงรู้ตัวดีว่าถึงสู้ไปก็แพ้แน่นอนด้วย แม้จะมีพลังในตัวที่สูงมาก แต่ก็รู้จักใช้พลังที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดและรู้วิธีรับมือกับศัตรูทุกรูปแบบ รวมถึงรู้กาละเทศะด้วย ว่ากำลังสู้กับใคร อยู่ในสถานการณ์ไหน จะได้ใช้พลังให้เหมาะสม ซึ่งเป็นหลักการที่ถูกต้องของพวกแมนิเกเตอร์ต่อสู้กันน่ะ" คิโคเดนกล่าว "ในขณะที่เจ้าใช้อคติของตนเองเป็นที่ตั้ง เอาอารมณ์อยู่เหนือเหตุและผล แม้เจ้าจะใช้วิชาศัสตราเทวะโต้ตอบการจู่โจมของพีวิลและเอาชนะไปได้จริง แต่เจ้าก็เผลอเปิดช่องโหว่ให้พีวิลเห็นจนโจมตีใส่ไปหลายที และมีรอยช้ำที่ท้องของเจ้าไปด้วย นั้นไม่แปลกใจเลย ที่เจ้าซ้ำรอยเดิมแบบเดียวกันกับไซมาเทน หากแต่มันแย่ตรงที่เจ้าทำตัวเองน่ะ"
              โคคูเดนกล่าว "เจ้าพี่ใหญ่ คงไม่ได้หมายความว่า พีวิลอาจเป็นบุรุษผู้มีหัตถ์มรณะและหัตถ์เทวะ ผู้ที่สามารถเอาชนะข้าได้นะหรือ"
              "ถึงเจ้าพี่ใหญ่ไม่พูดต่อ ข้าก็ยืนกรานเช่นเดียวกัน โดยมีเรฟีเทนและอาชเชอเรนหนุนอีกแรงนะคะ" ฟอสเซอเรนบอก
              โคคูเดนบอก "แต่ถึงกระนั้น ข้าก็ไม่ยอมรับว่าพีวิล...."
              "โคคูเดน เจ้าเป็นถึงผู้นำทศภารดรเทพ ซึ่งแม้จะเป็นรองต่อข้าและไซมาเทนผู้จากไปแล้วก็ตาม การดวลระหว่างเจ้าและพีวิลมันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่าตราบใดที่เจ้ายังสู้ด้วยการเอาตนเองเป็นที่ตั้ง เจ้าก็ยังแพ้พีวิลอยู่เช่นเดิม ซึ่งนั้นก็ถือเป็นบทลงโทษที่เหมาะสมกับเจ้าแล้ว เจ้าอย่าบีบให้ข้า.......ต้องปลดเจ้าแล้วเอาฟอสเซอเรนหรือเรฟีเทนมาขึ้นเป็นอันดับสามแทนเจ้าจะดีกว่า ถ้าเจ้าไม่ปรับปรุงตนเองให้ดีกว่านี้ ไม่ทำให้เจ้าแข็งแกร่งเหนือกว่าพีวิลอย่างถูกต้องซะ ไอ้ที่พูดไปเมื่อกี้ต้องเกิดแน่นอน" คิโคเดนกล่าว
              โคคูเดนกล่าว "ถ้าท่านทำเช่นนั้น ก็เท่ากับว่าข้าเป็นผู้ที่มีความผิดติดตัวเลยละสิ ข้ายอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้....."
              "ถ้างั้น ข้าไม่มีทางเลือก นอกจากต้องเผยเรื่องนั้น...." คิโคเดนเอ่ย
              โคคูเดนตะโกนลั่น "ได้ เจ้าพี่ใหญ่ ข้าขอไปพิจารณาตนเองตามที่ท่านต้องการแล้วกัน" จากนั้นก็เดินออกไป
              "เออ เจ้าพี่ใหญ่คะ ว่าแต่เรื่องนั้นของเจ้าพี่สาม...." เรลโลเซนถาม
              คิโคเดนย้ำ "กับพวกเจ้าทั้งสามที่แพ้เพื่อนๆของแอสเซนมานั้น ไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้จากข้าได้หรอก เพราะมันไม่ใช่กงการอะไรของพวกเจ้าหรอกน่ะ" ฟอสเซอเรนและพวกพี่ๆนอกเหนือจากคลอวูเดนและแคมิเรนพยักหน้าเห็นด้วย พวกสามใบเถาเลยเดินออกจากสะพานเดินเรือไป
              "พี่ใหญ่ พี่ก็น่าจะรู้ดีแล้วนิ ว่าพี่สาม ยึดถือความถูกต้องมากที่สุดเลยน่ะ" แอคเคนบอก
              ครอสเซอเรนกล่าว "แต่ความถูกต้องที่มีความผิดรวมอยู่ด้วยนั้น มันไม่ใช่ความถูกต้องที่แท้จริงหรอก แม้นั้นจะเป็นสิ่งที่ แอสเซนเคยพูดไว้ก็ตาม"
              "แต่แอสเซนก็ก่อความผิดอันใหญ่หลวงต่อแรซัลก้ากันเช่นนี้ คำพูดที่เธอว่ามาจึงเชื่อถือไม่ได้แน่นอน" คิโคเดนกล่าว "ตอนนี้ ผลการดวลก็เป็นที่รู้ผลกันแล้ว ข้าจึงขอให้พวกเจ้ายอมรับในผลนี้เลยน่ะ"
              ฟอสเซอเรนกล่าว "ถ้าเป็นเรื่องนั้นข้ายอมรับได้นะคะ"
              "งั้นพวกเจ้าไปเตรียมตัวสำหรับการดวลครั้งต่อไปแล้วกัน" คิโคเดนบอก
              ครอสเซอเรนและพวกพยักหน้า "จริงอยู่ ที่เจ้าพี่ใหญ่รู้ความลับอันใหญ่หลวงของเจ้าพี่สาม จนสามารถทำให้เจ้าพี่สามยอมแต่โดยดีเลยก็จริง" ครอสเซอเรนคิดในใจ และมองมายังคิโคเดน "หากแต่....ต่อให้ปิดบังจนพวกเราส่วนมากไม่รู้ ข้าก็เห็น....ว่าเจ้าพี่ใหญ่นั้นโกรธกริ้วหนักกว่าเจ้าพี่สามตั้งหลายเท่าด้วยกัน ถึงผลลัพธ์ที่ไม่อยากจะได้นะ"

              ที่หมู่บ้านโฟรเทรดิล เช้าวันต่อมา
              "ดูเหมือนว่าโคคูเดนจะทำให้นายอ่วมจนตื่นสายสิน่ะ พีวิล" สเปียริทกล่าวโดยที่เธอมานั่งตรงโต๊ะกินข้าวนอกที่พักกัน ซึ่งพีวิลพึ่งจะมาถึง
              "อย่างน้อยก็ดีกว่าหลับไปนานกว่า 3 วันแล้วก็ไม่ตื่นเลยนะสิ" พีวิลบอกและนั่งลงพร้อมกับตักข้าวใส่จานไม้ เพื่อกินข้าวด้วยกัน
              "ดีแล้วละ ที่นายตื่นขึ้นมา แม้บาดแผลตามตัวนายจะไม่หายเลยน่ะ" สเปียริทบอก "แต่ฉันคิดว่านายจะตายคามือโคคูเดนเสียอีกน่ะ"
              พีวิลพยักหน้า "ผมรู้อยู่แล้วละ ว่าถ้าไม่รอดก็ต้องตายอยู่แล้วน่ะ หากแต่....ผมไม่ยอมให้โคคูเดนชนะไปได้หรอกน่ะ"
              "เหตุผลที่นายไม่ยอมให้โคคูเดนชนะไปได้นิ เพราะนายไม่ยอมรับในความถูกต้องของโคคูเดนละสิ" สเปียริทถาม
              พีวิลกล่าว "โคคูเดนคิดว่าตนเองถูกเสมอ เพราะว่าตนเป็นผู้คุมกฎ เป็นผู้รู้เรื่องกฎระเบียบของทุกอย่าง ตนเองต้องมีระเบียบ ทำอะไรต้องถูกต้อง ไม่ให้มีความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยเกิดขึ้น แม้จะเป็นความผิดที่ตนเองก่อไว้ ก็ไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด อีกทั้งยังใช้วิธีการผิดๆเพียงเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายกัน เพราะเห็นว่าสิ่งที่ตนทำมันถูกต้องนั้น โคคูเดนก็ไม่ต่างอะไรไปกว่าคนร้ายที่ข่มเหงผู้อื่นอย่างเทรแซท กาเบลแบนเยอร์และมาโดวเวลเดอร์หรอกน่ะ"
              "ฉันก็เห็นด้วยนะ พีวิล เพราะโคคูเดนเป็นพี่คนที่สามในหมู่พี่ๆของฉัน แม้จะแข็งแกร่งและชาญฉลาดมากที่สุดในหมู่พี่ทั้งสิบ แต่....แย่ตรงที่เขายึดถือความถูกต้องของตนเอง มากกว่าความถูกต้องของส่วนรวม แล้วใช้กฎเกณฑ์ที่บัญญัติขึ้นมาไปในทางที่ผิดเช่นนี้ จนทำให้คนผิดไม่ถูกลงโทษอย่างจริงจัง และทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องถูกปรักปรำและกลายเป็นแพะเสียเองน่ะ" สเปียริทบอก
              พีวิลกล่าว "เพียงแต่ ผมก็เหมือนกับโคคูเดน ตรงที่เอาตนเองเป็นที่ตั้งกันนะสิ" แล้วก็แบมือมา "เพื่อไถ่บาปที่ผมสังหารผู้คนที่ผมต่อสู้ปกป้องในฐานะทหารของมนุษย์ ผมเลือกที่จะพลีชีพไปพร้อมกับอีเนอไมนด์ ซึ่งนั้นก็ทำให้แพทรีออทได้เปรียบและเกือบจะกำจัดผมทิ้งแล้ว ถ้าไม่เพราะว่าแพทรีออทเตือนถึงผลของการกระทำของผมไว้"
              "เพราะถ้านายไม่อยู่ ท่านพ่อโอเวอร์เดสก็สั่งการกองรบที่เหลืออีกสามมาบดขยี้พวกเราจนราบคาบกันละสิน่ะ นายถึงได้ฮึดสู้ต่อน่ะ" สเปียริทกล่าว
              พีวิลบอก "ไม่ใช่แค่แพทรีออท แต่คุณเองก็ด้วย ที่เตือนสติไม่ให้ทำอะไรโง่ๆไว้ จนผมรู้ว่า นับตั้งแต่ติดตามมาสวาร์ทาร์ไปเข้าร่วมกับท่านประธานาธิบดีพร้อมกับคุณนั้น คิดผิดมาตลอด แม้คิดได้จนเกือบสายไปก็ตาม ผมก็คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจฮึดสู้ต่อ เพื่อปกป้องคุณและทุกๆคนจากการคุกคามเลยน่ะ"
              "แต่สุดท้าย นายก็เสี่ยงเอาตัวเองเข้าแลกกับโคคูเดนเช่นนี้ ถ้านายพลาดขึ้นมาละ พีวิล" สเปียริทถาม
              พีวิลตอบ "ผมกับคุณรู้แล้วนิ ว่าทุกการต่อสู้ มันต้องเสี่ยงอันตรายกันทั้งนั้น อีกอย่าง โคคูเดนเองก็เป็นยอดนักรบที่แข็งแกร่ง เป็นผู้บัญญัติกฎเกณฑ์ที่ชาญฉลาด หากแต่ใช้ความถูกต้องไปในทางที่ผิด มองตนเองเป็นที่ตั้งและเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ถ้าผมไม่เตือนสติเขา ก็ต้องเป็นคุณที่ต้องไปเสี่ยง ซึ่งผมยอมให้คุณพลาดพลั้งไปไม่ได้เด็ดขาด"
              "ส่วนหนึ่ง ก็เพื่อหยุดยั้งมิให้โคคูเดนถล่ำลึกจนกู่ไม่กลับเลยสิน่ะ" สเปียริทกล่าว
              พีวิลกล่าว "โคคูเดนก็เหมือนตัวผมในตอนนั้น ที่ยึดติดกับตนเองมากจนเกินไป และรู้ว่าตนเองก่อความผิดพลาดเอาไว้หลายเรื่อง แต่เลือกที่จะปิดบังไม่ให้ใครรับรู้ รวมถึงพวกเรากันด้วย" แล้วก็มองดูฝ่ามือที่มีรอยร้าว ซึ่งมีอยู่น้อยมาก "....การที่เขารีบลงมือกับผมโดยเร็ว มิใช่แค่เอาชนะผมอย่างเดียว แต่เขามีความรู้สึกหวาดกลัวแฝงมาด้วยน่ะ"
              "ความกลัวนะหรือ เท่าที่รู้มา โคคูเดนไม่เคยกลัวเกรงอะไรทั้งนั้นเลยนิ นอกเหนือจากไซมาเทนและ....." สเปียริทกล่าว และชะงักขึ้นมา "....นายกำลังจะบอกว่า คิโคเดนรู้เรื่องบางอย่างของโคคูเดนที่ก่อไว้เมื่อ 3 ปีก่อนสิน่ะ"
              พีวิลพยักหน้า "ถึงผมไม่รู้ว่า โคคูเดนเคยก่อเรื่องอะไรไว้ เพราะว่า...ผมยังเป็นสมุนตนหนึ่งของแพทรีออทที่ทำงานภายใต้คำสั่งของครองคอร์ด และโอเวอร์เดสที่โลกอยู่ แต่จากการปะทะในเวทีเมื่อวานนั้น แม้โคคูเดนจะใช้ทักษะการต่อสู้ได้อย่างเต็มเปี่ยมแค่ไหน เขาก็ปิดบังความอ่อนแอมากขึ้น เหมือนที่ผมสู้โดยรู้ถึงความอ่อนแอของตนเองดีแล้วน่ะ"
              "เฮ้อออ ถ้าฉันได้ออกไปจากแรซัลก้า แล้วแอบไปอยู่ในกองรบของพวกคิโคเดนแล้วละก็....ฉันน่าจะรู้เรื่องการรบของพวกเฮซเทิร์ซหลังโฟรเดริม-4 กันบ้างน่ะ" สเปียริทถอนใจ
              พีวิลกล่าว "แต่คุณก็ไม่ทำ เพราะคุณมีปัญหาหลายเรื่องที่คุณเคยเจอและต้องแก้ไขเรื่องเหล่านั้นก่อน รวมถึงแก้ปัญหาที่พวกโคคูเดนก่อไว้ให้จบเลยสิน่ะ"

              "เออ พีท แอสซี่ นึกว่าจะคุยเรื่องไปออกเดตที่ไหนละสิ" ไซโคลเนียกล่าว โดยที่เธอกับพวกพ้องมาถึงพอดี
              สเปียริทโวยลั่น "พอเลย ฟริตซีร่า ได้ทีเอาใหญ่เลยน่ะ กับการเผือกเรื่องชาวบ้านน่ะ"
              "ทีแรก เราคิดว่าเธอกับพีทจะทำอีหรอบเดิมเสียอีกน่า" โฟรซ่าบอกอย่างล้อเล่น แต่กล่าวอย่างจริงจังในภายหลัง "แต่....ฉันก็อยากจะบอกเหมือนกัน ว่าองค์หญิงอาชเชอเรนก็กลัวด้วยน่ะสิ"
              สเปียริทบอก "อาชเชอเรนนะหรือ เป็นไปไม่ได้น่า อาชเชอเรนแม้จะปิดหน้าท่อนล่างไม่ให้ใครได้เห็น และเป็นคนใจเย็นที่สุดในกลุ่ม แม้จะไม่แสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็บอกผ่านสายตาที่ฉันมองดูแล้วไม่มีความกลัวตรงไหนเลยนิ"
              "แต่มิใช่หลังจากที่ฉันเล่นงานเธอด้วยการซุ่มยิงหรอกน่ะ แม้เธอจะสู้อย่างจริงจังราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็ตาม" โฟรซ่าบอก "แต่ถ้าเธอจะสู้เพื่อเอาชนะฉันได้จริง อาชเชอเรนก็ต้องใช้วิธีพุ่งมาตรงหน้าฉัน แบบเดียวกับที่พีทโผล่มาตรงหน้าคู่ต่อสู้ แต่เร็วกว่า 0.001 วินาที มากกว่าหลบหลังต้นไม้และจู่โจมจากด้านหลังเลยน่ะ"
              คลอเวฟบอก "องค์หญิงหัวแหลมนั้นอยู่ป่าบ่อย เลยเลือกจะอยู่หลังต้นไม้และพุ่มไม้เพื่อโจมตีแบบเธอละสิ"
              "ไม่หรอก เท่าที่รู้มา อาชเชอเรนมักจะไม่ค่อยหลบซ่อน ถ้าไม่เห็นว่ารอบด้านในป่าอันตรายเกินไปนะสิ" ฟิเกซกล่าว "แต่การที่อาชเชอเรนหลบหลังต้นไม้ เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าโฟรซ่าอันตรายเกินไปที่จะปะทะกันตรงๆ ต่อให้ใช้ปืนสั้นหรือมือเปล่าก็ตาม ยิ่งรู้ว่าโฟรซ่าหลบหลีกและโต้ตอบการโจมตีจากระยะไกลได้ แทนที่จะหนี อาชเชอเรนเลือกที่เสี่ยงต่อสู้ เพราะรู้ว่าเธอไวกว่ากระสุนปืนสองนัดจากเดริงเจอร์แมกนั่มน่ะ"
              สเปียริทบอก "นั้นไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมอาชเชอเรนถึงเรียกเธอว่า ยมฑูต กันน่ะ"
              "บอกตามตรง นี้เป็นคำสบประมาทที่เจ็บที่สุดแล้วน่ะ" โฟรซ่ากล่าว
              คลอเวฟถาม "เฮ้ มาส ว่าแต่ นายสู้กับเรฟีเทนนิ นายคงไม่ได้เห็นถึงความหวาดกลัวของมันผ่านดาบเลยละสิ"
              "แม้เรฟีเทนจะสู้อย่างสุขุมรอบคอบและไม่มีเพลงดาบไหนที่จู่โจมใส่ฉันไปตรงๆเลยก็ตาม....แต่การที่เรฟีเทนใช้เพลงดาบของตัวเองโต้ตอบเพลงดาบของฉัน โดยไม่ก้าวเท้าออกไปเลยนั้น โดยปกติ คนทั่วไปจะคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องขยับเท้าก็ชนะได้ก็ตาม" มาสวาร์ทาร์บอก "แต่ในสายตาของนักดาบ ถ้าเรฟีเทนไม่เน้นตั้งรับโดยไม่ขยับไปไหน อย่างเดียวที่เป็นไปได้คือ เรฟีเทนไม่คิดเสี่ยงกับการปะทะกับฉัน จากการที่มีข้อมูลด้านเพลงดาบแบบซามูไรของฉันน้อยมากจนเกินไปนะสิ"
              แอนเดรียบอก "แต่ว่าในดาบแรกนั้น เรฟีเทนจ้วงแทงใส่คุณโดยที่คุณฟาดดาบใส่ไปแล้วนิคะ"
              "ไม่เลย แอนเดรีย ถ้าเรฟีเทนจะจ้วงแทง เขาต้องรีบลงมือก่อนที่ฉันจะหวดดาบออกไปแล้ว แต่ที่เขาไม่รีบแทง เพราะรู้ว่าถ้าแทงออกไป ดาบจะแทงไม่ถูกตัวฉันได้แน่นอน เลยแทงเพื่อหยุดดาบของฉันไปก่อนน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เจเนลบอก "นั้นก็ดีแล้วละ ที่ไซมาเทนและครองคอร์ดให้ข้อมูลการต่อสู้ของพวกเราเพียงประปราย ไม่งั้นเราแย่แน่ๆ"
              "แต่ฉันไม่คิดเช่นนั้นหรอกน่ะ เจเนล เพราะต่อให้มีข้อมูลครบหรือไม่ เหล่าทศภารดรเทพก็มีความแข็งแกร่งและความเก่งกาจเหนือกว่าพวกเราอยู่ดีนะสิ" เนคมาดูซัมบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "ขนาดพวกสามใบเถาเองก็เสียเปรียบพวกเราในทีแรก แต่กลับเอาชนะพวกเราในตอนท้ายได้เลยนะ"
              "แม้พวกเขาขาดการฝึกฝนและขัดเกลาการต่อสู้ในช่วงครึ่งปีมา แต่ด้วยประสบการณ์ตลอด 20 ปีหลังของแรซัลก้านั้น บ่งบอกว่าพวกเขามีความเก่งกาจไม่น้อยอยู่นะสิ" ฟิเกซกล่าว
              แอบไบออสกล่าว "ทีนี้ เราผ่านครึ่งทางกันแล้ว เหลืออีก 4 รายจาก 10 ที่มาดวลกับพวกเรากัน หากแต่เรายังเหลือเพียง 9 รายแล้วน่ะ"
              "ว่าแต่ การดวลในครั้งนี้คงไม่มีการแก้มือละสิ" โฟรซ่ากล่าว
              สเปียริทบอก "นั้นไม่แน่หรอกน่ะ เพราะการทดสอบครั้งนี้ พวกทศภารดรทุกตนต้องดวลกันให้ครบ จะขาดเหลือใครไม่ได้เด็ดขาด และบางครั้ง พี่ 1 ตนสามารถดวลกับคู่ต่อสู้ได้ถึง 3-4 รายด้วยกันน่ะ"
              "เดียวก่อนน่ะ นี้อย่าบอกนะว่าคิโคเดนกะให้พี่น้องของมันมาเล่นงานพวกเราส่วนมากในครั้งต่อไปละสิ" คลอเวฟสบถ
              เนคมาดูซัมกล่าว "เป็นเช่นนั้นแหละ เพราะเคยได้ยินว่า มีกลุ่มนักรบในแรซัลก้าจำนวน 5 หรือ 8 ตน มาท้าทายพวกโคคูเดน ด้วยการสู้แบบ 1 ต่อ 4 และ 5 พร้อมกัน สุดท้ายก็แพ้กลับไปแบบหมดรูปเลยน่ะ"
              "ฉันแน่ใจว่า พวกเราที่เหลือคงต้องรับมือกับคู่ต่อสู้เพียงหนึ่งเดียวอย่างแน่นอน" มาสวาร์ทาร์กล่าว "ดังนั้น พวกนายเองก็เตรียมพร้อมให้ดีแล้วกันน่ะ"
              สเตฟอร์ดบอก "แม้เราอาจจะแพ้คู่ต่อสู้เพียงรายเดียว แต่เราไม่ยอมให้คิโคเดนได้ใจไปมากกว่านี้หรอกน่ะ"
              "เห็นด้วยอย่างยิ่ง ตอนนี้เรารีบไปฝึกซ้อมจะดีกว่าน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว "พีวิล นายกับมาสวาร์ทาร์พักฟื้นให้หายดีเสียก่อนน่ะ" พีวิลและมาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              "หวังว่าการดวลครั้งต่อไป คงไม่มีปัญหาเกิดขึ้นกันบ้างน่ะ" พีวิลบอก
              "จะดีหรือครับ ท่านคิโคเดน" เฮอมิสกล่าว
              คิโคเดนพยักหน้า "แมคเคลเลนเสนอแผนการนี้เอง ซึ่งการดวลของพวกโคคูเดนช่วยตัดกำลังลงไปเยอะพอ จนเปิดช่องให้พวกเราบรรลุเป้าหมายนี้แหละ"
              "แต่การทำแบบนั้น มันเหมือนข้ามหัวแอสเซนและพวกเช่นนี้เลยนะคะ" เลเบรน่าปราม
              คิโคเดนกล่าว "ถ้าเพื่อตัดกำลังมิให้แอสเซนกับพวกไปหยุดยั้งข้า จนพวกแมนิเกเตอร์ทั้งปวงเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมละก็ ข้าไม่สนใจหรอก พวกที่ทรยศต่อแผ่นดินบ้านเกิดและท่านแม่ต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม เช่นเดียวกับแอสเซนและพวกไทรเวเซอร์ด้วย"
              "แล้วไม่กลัวว่าสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์จะมีมาตราการเตรียมไว้เลยหรือครับ" เฮอมิสบอก
              คิโคเดนบอก "ถึงมี ข้าไม่สนใจหรอก ว่าท่านแม่จะมีข้อห้ามยังไง เพราะท่านแม่ตายไปแล้ว และคำสั่งเสียที่เหลือไว้ก็มีแค่ให้พวกทรอยอาร์เท่านั้น ไม่มีผลต่อว่าที่จักรวรรดิ์เทพอย่างข้าไปได้หรอกน่ะ" โดยหารู้ไม่ว่า มีใครบางตนแอบฟังอยู่ "เฮอมิส เลเบรน่า ข้าขอให้พวกเจ้าอย่าบอกใครเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้น ข้าคงต้องลงโทษพวกเจ้าสถานหนักนี้แหละ"

    โปรดติดตามตอนต่อไป กับตอนที่ 3 การทดสอบของทศภารดรเทพ ครั้งที่สาม ยักษ์ วิทยะ แผนลวง
    ตอนหน้า คิโคเดนส่งองค์ชายทั้งสองท้าสู้แบบหนึ่งต่อหมู่มาก ไปพร้อมกับส่งกองรบส่วนหนึ่งจู่โจมไทรแองเกิ้ล ที่จอดอยู่ในตัวเมืองหลวง เพื่อนำข้อมูลสำคัญบางอย่างมา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×