ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 กองกำลังหัวหอกกลับมาอีกครั้ง เมื่อภัยคุกคามอันใหญ่ยิ่งมาเยือน ครึ่งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 63


              ณ.ดาวพราชัลธิต้า ดาวดวงที่ 5 ในระบบกัมบานิล เขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศ เวลาบนดาวตามเวลามาตราฐานบนโลก 9 โมง 20 นาที
              "วึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แฟ้วววววว" บนฟากฟ้าของดวงดาวส่งเสียงกึกก้องอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเสียงวัตถุพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นยานอวกาศลำยาวที่มีปีกสี่แฉกหมุนรอบตัวไว้ โดยบินตรงมายังเขตซากเมืองที่มียานอวกาศสีทองแล่นลงจอดบนพื้นทรายกันถึง 4 ลำ ซึ่งมีมนุษย์ต่างดาวผิวสีเทาผมสีขาวในชุดเกราะสีทองคำขาวชูคฑาเรืองแสงนำทางให้ยานอวกาศลำยาวมุ่งหน้ามา "วืออออออออออ ตึงงงงงง" เพื่อทำการลงจอดกับพื้นทรายเอาไว้ "แว้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไรยานก็ปล่อยแสงลงมา ก่อตัวเป็นกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้าเหล่านักรบต่างดาวทั้ง 5 รายกัน ซึ่งตัวหัวหน้าเป็นนักรบหญิงในชุดสีขาวที่มีแถบเกราะสีแดงตามตัว ผมสีขาวขุ่นกับเปียยาวสามเปีย สวมปลอกแขนสีทองข้างขวา สีเงินข้างซ้าย เดินมาพร้อมกับเหล่าบุคคลในชุดสีเทาที่สวมเสื้อกั้กติดแถบเรืองแสงไว้ นักรบต่างดาวที่สวมหมวกยาวสีทองเดินมากล่าวกับนักรบหญิงว่า "กานาฟ่าซารีทิส(ด้วยเกียรติแห่งซารีทิส) ซีคเทมพลาร์แอสเทลน่าแห่งยานเรเซเฟียร์ เจ้ามาตรงเวลาเหมือนเช่นเคยเลยน่ะ"
              นักรบหญิงพยักหน้าและตอบกลับไปว่า "กานาฟ่าซารีทิส เอสเซคาร่าเฟริโทรนแห่งนาวาแสงแห่งรอสบูส ดูเหมือนว่าพวกท่านจะจัดการกับศัตรู และเขตชุมชนที่อยู่รอบๆนี้ไปด้วยน่ะ" โดยที่เธอชี้มายังซากบ้านเรือนที่ทำด้วยหินที่แตกหักพังไป
              "พวกเราแค่ปราบปรามพวกเฮซเทิร์ซซึ่งได้ยึดชุมชนแห่งนี้ไว้ โดยที่พวกเราได้ส่งคนเข้าไปช่วยประชาชนในเมืองมาก่อนจะลงมือกวาดล้างกันไปแล้วละน่ะ ซีคเทมพลาร์" เฟริโทรนกล่าว โดยตอนนี้ชาวบ้านที่เป็นชนเผ่าต่างดาวหัวแหลมมีรอยหยัก 3 รอยบนหัวในชุดผ้าสีขาวหม่นๆอยู่ในม่านสนามพลังสีฟ้าไว้ โดยที่เหล่านักรบต่างดาวได้นำศพของพวกเฮซเทิร์ซออกมากันด้วย "ท่านแน่ใจน่ะ ว่าเศษเดนของลิ้วล้อผู้เป็นญาติของอดีตบิดาของท่านหมดไปแล้วจริงๆน่ะ เพราะการมาของพวกเฮซเทิร์ซเหล่านี้ เหมือนพวกมันผ่านแนวป้องกันทั้งฝั่งเหนือและตะวันตกเข้ามาได้กันจริงๆน่ะ"
              "ข้าคิดว่า ลิ้วล้อของคิฟทรอนอฟคงต้องเป็นผู้ปล่อยข่าวไปได้แน่ๆ หากแต่สภาอาวุโสยังไม่อนุญาตให้ทางเรานำกองยานไปกำจัดพวกนั้นโดยตรง ต่อให้เราปกป้องเขตอวกาศนี้มาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่....พวกเราร่วมมือกับทางสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์หยุดความทะเยอทะยานของเดลมูดัลแห่งเดลอาเนี่ยนไว้น่ะ" แอสเทลน่าบอก
              "ท่านคงคิดว่า คิฟทรอนอฟคงจะถูกพวกนอกกฎหมายในเขตอวกาศภาคกลางกำจัดไปแล้วสิ" โฟริโทรนบอก
              "สหายไทรเวเซอร์บอกกับข้าไว้เมื่อ 3 ปีก่อน ว่าคิฟทรอนอฟเสียทุกอย่าง แม้กระทั่งสติสตังของเขาเอง เผลอๆอาจจะเสียชีวิตไปด้วยนะคะ" แอสเทลน่าพยักหน้า และหันมาถาม "ตอนนี้ ข้าได้นำเหล่านักโทษมาเพื่อบูรณะซากชุมชนให้กลับมาเป็นเมืองกันแล้ว แม้ว่าข้าต้องนำเหล่านักโทษส่วนหนึ่งเข้ามา หลังจากที่ยานลำเดิมของข้านั้น...."
              "....อัปปางด้วยน้ำมือของเหล่าสัตว์ประหลาดจากเขตอวกาศภาคกลางจนต้องเทเลพอร์ตเหล่านักโทษทุกคน รวมถึงคนสำคัญๆออกมากันด้วยสิน่ะ" เโฟริโทรนกล่าวโดยหันมายังนักโทษเบอร์ 369 ผู้มีผมเผ้ายาว แก้มสองข้างสีดำเป็นแถบ ซึ่งยืนอยู่แถวหน้าสุด "อย่าเสียเวลาอยู่เลย เพราะเราไม่แน่ใจว่าพวกเฮซเทิร์ซจะกลับมากันหรือเปล่าน่ะ"
              แอสเทลน่าพยักหน้า "เอาละ พวกนายทุกๆคน ได้เวลารับมอบหมายงานกันได้แล้ว"

              "กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครืนนนน ฟึ่บๆๆๆๆๆ กร้องๆๆๆๆๆ" เหล่านักโทษที่เป็นชาวลิงอวกาศมอนคาเพคซ์ ปูอวกาศแคนค็อกซ์ กระทิงอวกาศทอรัสโกตัวโตๆหยิบเศษก้อนหินที่กองระเนระนาดมาโยนขึ้นยานบรรทุกลอยฟ้า เพื่อขนไปแปรรูปเป็นอิฐและปูนนำมา "ครืดดด กร้องเกร้งๆๆๆๆ" ให้นักโทษชาวไก่อวกาศชิคครอท อารีแดคซ์ชนเผ่าแพะต่างดาว แรททาวชนเผ่าหนูอวกาศ และมนุษย์ต่างดาวแบบมนุษย์แต่มีหลากสีทำการก่อร่างสร้างอาคารชุมชนให้กลับมาเหมือนใหม่ "อึบบบ เออ" นักโทษ 369 ขนก้อนหินก้อนย่อมๆออกจากกองซากปรักหักพังที่ทับอาคารสำคัญๆกัน โดยเอาไปไว้ในตะกร้ายานบรรทุกลอยพื้น แล้วรีบกลับมาขนใหม่กัน "เฮ้ นายขยันแบบนี้ คงไม่คิดจะรีบออกจากคุกกันละสิน่ะ" นักโทษหนุ่มผู้มีผิวลายหินผาสีเงิน ซึ่งมีผมเป็นเกล็ดผลึกสีน้ำเงินสลับกับสีแดงในชุดนักโทษสีเทา สวมเสื้อกั้กสีดำติดแถบแสงกล่าวกับนักโทษเบอร์ 369 ที่เดินมาสวมหมวกนิรภัยและถุงมือกัน
              "ตรงข้ามเลย เพราะการที่ผมอยู่ในความดูแลของพวกคุณแอสเทลน่านั้น จะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนกันซะมากกว่านะครับ" นักโทษ 369 ตอบ แล้วก็ "ปี้บๆๆ" กดปุ่มบนเครื่องตอกหิน "กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เพื่อใช้ตอกเศษหินที่ใหญ่กว่าให้แตกออกจนเป็นก้อนเล็กๆพอหยิบใส่ตะกร้าที่วาง แล้วเอาออกไปเทข้างนอก "ที่คุณพูดมานิ คงไม่ได้คิดหาเรื่องหนีไปเมื่อเช่นเคยสิครับ คุณเมคโซ่"
              "นายเห็นฉันถูกนักรบหญิงเรืองแสงนี้ลากเข้าซังเตเหมือนเช่นเคยละสิน่ะ นายมีชื่อเรียกหรือเปล่าละ ถึงได้เรียกชื่อฉันกันได้น่ะ" เมคโซ่ มนุษย์ต่างดาวผิวหินถาม
              นักโทษเบอร์ 369 แนะนำตัว "เบย์แทนด์ เบย์แทนด์ ครอสฟอร์ด แมนิเกเตอร์นักค้นคว้า หนึ่งในตัวแทนของกลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ ที่อยู่ในเขตดาวอีสทาล่าฟรอนเทียร์ ผมอยู่ในความดูแลของซีคเทมพลาร์ในฐานะนักโทษทางการเมืองมาตลอด 4 ปีแล้วละครับ"
              "นักโทษทางการเมืองนะหรือ นายคงไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มชนเผ่าที่เล่าลือกันไปทั่วจักรวาล ว่าเป็นพวกทรงพลังไร้เทียมทานอย่างมาก ถึงขั้นที่ทำให้ฝ่ายอวกาศทางทิศตะวันออกต้องโกลาหลมาตลอด 3 ปีกันเลยสิน่ะ" เมคโซ่บอก
              เบย์แทนด์พยักหน้า "แต่ถ้าให้ผมเล่าว่าผมอยู่นี้ได้ไงละก็ เกรงว่าผมคงต้องเล่ายาวสักหน่อยแล้วละครับ" จากนั้นเขาก็รีบทำงาน โดยที่เมคโซ่เอง "กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" นำเครื่องตอกมาช่วยเจาะอีกแรง "แล้วคุณมาจากไหนละครับ" เบย์แทนด์ถาม
              "เออ ฉันมาจากดาวบ้านเกิดของฉัน ซึ่ง.....ต่อให้พวกนายเก่งกาจแค่ไหน ก็คงหาไม่เจอง่ายๆหรอกน่ะ" เมคโซ่บอก "เพราะดาวบ้านเกิดของฉันและดาวดวงอื่นๆเองก็ไม่อยู่กับที่เป็นเวลานานๆกัน ซึ่งฉันได้รับมอบหมายให้มาที่เขตอวกาศนี้ด้วยเรื่องบางอย่าง ที่ฉันบอกกับทางซีคเทมพลาร์และลูกน้องของเธอไปแล้วน่ะ"
              เบย์แทนด์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะ ผู้นำหรือกลุ่มปกครองคงไม่อยากให้คุณแพร่งพรายความลับออกไปเลยสิครับ แล้วคุณมานี้ด้วยเรื่อง...."
              ".....ทำงานไปเหอะ เดียวลูกน้องของซีคเทมพลาร์มาเห็นคงไม่ดีแน่ๆเลยละ" เมคโซ่กล่าว จากนั้นทั้งคู่กับเหล่านักโทษที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงก็เจาะเอาเศษหินออก จนกระทั่ง.... "นิ นี้มัน...." เมคโซ่อุทานโดยเห็นบางอย่างอยู่ใต้กองเศษหินอย่างจังๆ
              "นักโทษ 1082 ลงไปข้างล่างกันอย่างงั้นนะหรือ นักโทษ 369" แอสเทลน่าเดินมาที่เกิดเหตุหลังจากที่เหล่านักโทษต่างก็มาออรวมกลุ่มกัน ตรงพื้นหลุมที่ถูกเปิดออกจนเห็นประตูกลไกที่อยู่เบื้องล่าง
              "ครับ ผมกับแมนิโคทเห็นคุณเมคโซ่โดดลงไปข้างล่าง เลยรีบกันพวกนักโทษที่เหลือไว้ เนื่องจากมีเพื่อนนักโทษตะโกนร้องลั่นให้ได้ยินกันนะครับ" เบย์แทนด์เล่า โดยเขากับเพื่อนนักโทษที่เป็นลูกครึ่งไทกรอชหรือเสืออวกาศกับสกอเปรซหรือแมงป่องอวกาศยืนอยู่
              "เป็นความจริงหรือเปล่าละ นักโทษ 472" แอสเทลน่าถามนักโทษลูกครึ่งเสือและแมงป่องที่ยืนอยู่
              "จริงแน่นอนละ พี่สาว ถ้ายังไม่เชื่อก็ให้พี่มาดูในหัวก็ยังได้เลยน่ะ" แมนิโคทยืนยันและพูดเชิงท้าด้วย
        
              แอสเทลน่าเลยเดินลงไปพร้อมกับ "แว้งงงงง" แบฝ่ามือขวาและเปล่งแสงเข้าใส่บานประตูเหล็ก "แวบบบ แกร็กๆๆๆๆ  ปี้บ ครืดดดดดด" โดยทำให้กลไกในประตูขยับและเปิดออกโดยอัตโนมัติ จากนั้นแอสเทลน่าก็เดินเข้าไป โดยที่เบย์แทนด์เดินตามไปด้วย "นั้นคงจะเป็นบังเกอร์ที่ถูกสร้างอยู่ใต้อาคารแน่ๆเลยละครับ" เบย์แทนด์กล่าวโดยที่เห็นสายไฟฟ้าติดตรงขอบอุโมงค์เหล็กที่มีฝุ่นเกาะอยู่ทั่ว
              "นั้นบ่งบอกได้ว่า ใครก็ตามที่สร้างบังเกอร์นี้ไว้ คงสร้างมาก่อนหน้าที่จะมีชนเผ่ามาตั้งรกรากสร้างเขตชุมชนอยู่อาศัยกันแน่นอน" แอสเทลน่ากล่าว "หวังว่า เมคโซ่คงจะไม่หลงทางเสียเองกันน่ะ" โดยที่เธอเดินไปตามทาง ซึ่งเธอใช้แสงจากคมดาบแสงวอยด์เอดจ์คอยนำทาง และใช้นิ้วชี้ขวาติดตามเมคโซ่เข้ามา
    จนมาถึงห้องที่มีไฟสว่างอยู่ และ....
              "บ้าที่สุด อีกนิดเดียวแล้วแท้ๆ พวกมันดันหนีไปได้น่ะ" เมคโซ่สบถด้วยความโกรธกริ้ว โดยที่เขาเดินไปเตะโต๊ะเหล็กที่อยู่ตรงกลาง พร้อมกับต่อยเข้ากับกำแพง
              "ใช่ และนายเองก็คงจะคิดหนีกันด้วยละสิ" แอสเทลน่าเดินเข้ามาเห็นก็กล่าวขึ้น และ "แว้งงงง งึงงงง" แบมือขวาตรึงร่างเมคโซ่ให้ลอยกลางอากาศเอาไว้
              "คุณกำลังเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วน่ะ ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกที่อยู่ในห้องนี้สักหน่อยน่ะ" เมคโซ่บอก
              "เออ คุณแอสเทลน่า คุณควรมาดูนี้นะครับ" เบย์แทนด์บอก โดยชี้มายังภาพวาดขนาดใหญ่ ซึ่งมีชนเผ่ากับดาวหลายดวง เข้าปะทะกับดาวดวงใหญ่ที่มีกองทัพเป็นยานและร่างอมนุษย์สีดำเข้มกันอยู่ "นะ นั้นมัน...." แอสเทลน่าเห็นก็อุทานและหันมาถาม "นายมาที่ระบบอวกาศนี้ คงมาด้วยเรื่องนี้ละสิน่ะ"
              "ใช่ แต่พวกกองรบฝ่ายอวกาศกางเขนใต้ขวางผมเอาไว้ จนผมต้องถูกขังและปล่อยให้พวกมันลอยนวลไปได้ ปานนี้มันคงไปก่อเรื่องที่ระบบดาวไหนสักแห่งแล้วละมั่ง" เมคโซ่บอก
              แอสเทลน่าได้ฟังก็หันมาถาม "นักโทษ 369 เช็คดูคอมพิวเตอร์ที ว่าพวกนี้มุ่งหน้าไปไหนกันน่ะ" เบย์แทนด์เดินเข้าไปเช็คคอมพิวเตอร์ที่ยังเปิดใช้งานกันอยู่ ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเข้าระบบหลักกันได้
              "เออ....คุณแอสเทลน่า ผมว่าพวกนี้มุ่งหน้าไปไหนกันนะครับ" เบย์แทนด์บอกด้วยน้ำเสียงที่หวั่นวิตก
              แอสเทลน่าเดินมาโดยที่ดึงตัวเมคโซ่มาด้วย ซึ่งเธอเห็นก็ตกใจอย่างมาก "สงสัยว่า เราต้องรีบไปกันแล้วละ สหายของพวกนายเจองานใหญ่เกินอัตรารับได้แล้วละ"

              แมนิเกเตอร์ ชนเผ่ามนุษย์วิทยะ ผลงานของมวลมนุษยชาติที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิทยาการอันเก่าแก่ล้ำสมัย ซึ่งได้ผลักดันมวลมนุษยชาติเข้าสู่ยุคทองอันรุ่งเรืองและสงบสุข ทว่า พวกมนุษย์กลับหวาดกลัวพวกเขาอย่างมาก จนกลายเป็นชนวนสงครามขนานใหญ่ ที่ได้แยกมวลมนุษยชาติบนโลกกับแมนิเกเตอร์ทั้งหลาย ออกเป็นเส้นขนานอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่ โคเคส แอคเมนโด้ ผู้นำเหล่าแมนิเกเตอร์บนโลก ได้รวบรวมสมัครพรรคพวกแมนิเกเตอร์ทั่วโลกทั้งมิตรและศัตรู ต่อสู้กับเหล่าแมนิเกเตอร์ชั่วร้ายที่คุกคามมวลมนุษย์บนโลกและในอวกาศ พิสูจน์ตนเองให้กับกลุ่มสมาพันธ์อวกาศ กลุ่มสังคมในเขตอวกาศกางเขนใต้ และกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ กลุ่มมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในอวกาศ ยอมรับในพลังและความสามารถของพวกเขา จนทำให้พวกเขา มีบ้านหลังที่สองขึ้นมา นั้นคือ อีสทาล่าฟรอนเทียร์
    แน่นอน ว่าสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ไม่อาจมาถึงจุดนี้ได้ เมื่อปราศจากความช่วยเหลือจาก กองกำลังเวเซอร์ กองกำลังหัวหอก ศูนย์รวมเหล่าแมนิเกเตอร์ที่เป็นอดีตสมุนผู้เก่งกาจ แมนิเกเตอร์ตัวอันตรายและผู้เชี่ยวชาญในด้านการต่อสู้ต่างๆไว้ โดยพวกเขาอัพเกรดเป็นไทรเวเซอร์ขึ้น เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากกลุ่มมหาจักรวรรดิ์สหัสดารา เดลอาเนี่ยน ซึ่งมีเป้าหมายในการคุกคามจักรวาลฝั่งใต้มาเป็นของพวกตน ในยามที่สหพันธมิตร เจอศัตรูรอบด้านทั้งนอกและในพร้อมกัน จนพวกไทรเวเซอร์สามารถกำชัยชนะเหนือพวกเดลอาเนี่ยน และยับยั้งขัดขวางศัตรูภายในและภายนอก นำความยุติธรรมมาให้กับผู้ที่ถูกศัตรูอันเป็นผู้ทรยศที่แท้จริงสังเวยทิ้งลงไปได้ จนตอนนี้ ชื่อเสียงของพวกเขา เป็นที่เลืองลือไปทั่วจักรวาลด้วยกัน
    แต่หารู้ไม่ว่า บนชื่อเสียงที่พวกเขาได้มา พวกเขาต้องแลกกับการเสียสละของคนดีๆและพวกพ้องส่วนหนึ่งไปด้วย ซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่พวกเขาจำต้องแบกรับมันไว้ เพื่อเตือนใจพวกเขาให้รู้ว่า พวกเขาจะต้องสู้ต่อไปกันให้ได้ เช่นเดียวกับ การที่พวกเขา ต้องมาเจอกับ

    มหันตภัยที่น่ากลัวกันอย่างมากอีกด้วย นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ....

    TriVeser Manigator Saga: Hyperstar Trooper ภาคแปดดารา
    ตอนที่ 1 กองกำลังหัวหอกกลับมาอีกครั้ง เมื่อภัยคุกคามอันใหญ่ยิ่งมาเยือน


              ณ.ดาวแคสเซเดี่ยน-3 ดาวหลักในระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์ ของสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ 3 ปีต่อมา หลังจากที่ศึกใหญ่กับเดลอาเนี่ยนยุติลง
              "ซวบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เหล่าทหารในชุดลายพลางสีเขียวขี้ม้าคาดผ้าพันคอสีเหลืองถือปืนยาววิ่งอยู่ในป่ามาอย่างดุดัน ซึ่งพวกเขาส่ายปืนยาวไปมา "ฟึ่บๆๆๆๆ" พวกทหารอีกกลุ่มคาดผ้าพันคอสีเขียวอ่อนโผล่ออกมาจากพุ่มไม้พร้อมกับ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่พวกทหารผ้าพันคอเหลืองจนล้มกลิ้งไป 4 ใน 6 รายด้วยกัน โดยอีกสองรายรีบโดดหลบและ "ปังๆๆๆๆๆๆ" ยิงใส่ทหารคาดผ้าพันคอสีเขียวให้ล้มลงทั้ง 5 ราย จากนั้นก็รีบวิ่งตรงไปในป่า "หน่วย 2 รีบตรงไปก่อนเลย พวกเราหน่วย 3 โดนยิงร่วงไปแล้วน่ะ" ทหารผ้าพันคอเหลืองติดต่อไปหาอีกหน่วย
               โดยทางนั้ยตอบกลับมาว่า "งั้นพวกนายรีบตามไปสมทบกันทีหลังเลย" ทหารหน่วย 2 ผ้าพันคอเหลืองตอบกลับวิ่งตรงไปยังเป้าหมายกันอย่างรวดเร็ว
              "เจอธงแล้วละ" ทหารในหน่วยสองตนหนึ่งเห็นธงสีเขียวปักอยู่ตรงหน้า เลยรีบวิ่งตรงไป โดยไม่รู้เลยว่า "ฟ้าววววว เปรี้ยงงงง" ทหารตนที่วิ่งนำหน้ามาถูกบางอย่างถีบจนล้มกลิ้งไปอย่างจังๆ
              "อะไรวะเนี้ย" ทหารอีกตนในหน่วยผ้าพันคอเหลืองอุทาน โดยอีกสามรายรีบชักปืนมา "ฟ้าวววว ป้ากกก" ทหารตนหนึ่งถูกบุรุษตัวเขียวพุ่งถีบจากแนวเฉียงลงมาจนล้มกลิ้ง "ฟ้าววว หมับบบบ หวืดดดดด ซวบบบ ป้ากกก" ตนที่สองถูกแขนที่ยืดออกมาจากพุ่มไม้จับตัวเข้าไปจนมีเสียงปะทะดังออกมา "ฟ้าวววว ฟ้าววววว" จากนั้นก็มีเด็กสาวผมดำมีหูแมวสีดำในชุดกางเกงดำและเกราะสีดำพุ่งเข้าจับตัวทหารจ่าฝูงมา โดยมาพร้อมกับอมนุษย์หน้าขาวติดปีกนกที่หัวและกลางหลังสีแดงพุ่งคว้าจับทหารที่อยู่ใกล้เข้า "ตึกๆๆๆๆๆๆ ป้ากกกก ฟ้าวววว โครมมมม" เด็กสาวจิกหน้าทหารและลากครูดกับพื้นไปอัดกระแทกกับต้นไม้ ในจังหวะเดียวกับที่มนุษย์ปีกนกคว้าจับทหารมากระแทกกับโคนต้นไม้ต้นเดียวกันอย่างจังๆ ส่วนธงสีเขียวนั้น "หมับบบบ แกร็ก" โดนบุรุษสวมเกราะสีขาวมีผลึกแหลมสีเขียวนำมาติดไว้ที่หลัง และเดินออกจากป่าพร้อมกับถือปืนยาวออกมา

              "ตอนนี้แหละ รีบไปเอาธงก่อนเลย" ทหารหน่วยผ้าพันคอเขียวจำนวน 2 หน่วยบุกเข้ามา "เฮ้ยยยยย" ทหารผ้าพันคอเหลืองจำนวน 4 รายโผล่มาพร้อมกับ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่พวกผ้าพันคอเขียวจนล้มไป 4 ราย แต่พวกผ้าพันคอเขียวมีจำนวนมากกว่า "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" เลยยิงสวนใส่จนทหารผ้าพันคอเหลืองทั้งสี่ล้มทั้งหมด
              "ฟึ่บๆๆ" ไม่ทันไร ก็มีมนุษย์หุ่นยนต์ตัวโต หัวไหล่กลมหน้าเหลี่ยมถือปืนยาวออกมา "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปุ๊ๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่พวกผ้าพันคอเขียวล้มไป 6 ราย แต่อีก 2 หน่วยก็รีบมาสมทบกันเพื่อกราดยิงใส่จนทั้งสองรีบก้มหลบ "ฟึ่บบบบบ" ฉับพลันก็มีมนุษย์หุ่นยนต์ตัวใหญ่กว่าสองตัวแรก ซึ่งมีธงสีเหลืองติดอยู่กลางหลังโผล่มา พร้อมกับ "แกร็ก ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ชักปืนยาวกระบอกดำกราดยิงใส่พวกผ้าพันคอเขียวร่วงไปกันหมด ในจังหวะที่... "ตึกๆๆๆๆๆๆๆ" เด็กสาวในชุดเกราะดำเดินมาพร้อมกับอมนุษย์ทรงตั้กแตนหัวด้วงคีมเขียว อมนุษย์หัวสิงโตสีเหลือง อมนุษย์ปักษาแดง และอมนุษย์หัวแบบงู ตรงมายังพวกทหารผ้าพันคอเหลืองและ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ชักปืนสั้นมากราดยิงใส่พวกทหารผ้าพันคอเหลืองทั้ง 2 หน่วยให้ร่วง แม้กระทั่งสองรายที่รอดมาก่อนหน้า ที่ตามมาก็ "ปังๆๆๆๆๆ" โดนอมนุษย์หัวงูกระหน่ำยิงด้วยปืนสั้นสองลำกล้องจนร่วงตาม "เฮ้ย ระวัง" อมนุษย์ตั้กแตนหัวด้วงคีมเขียวตะโกนเพราะเห็นบางอย่างจากข้างหน้าเลยรีบวิ่งไป จน "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ" ตนเองถูกยิงล้มลงโดยมนุษย์หุ่นยนต์ตนหนึ่งที่อยู่หลังต้นไม้ ซึ่งโผล่มาพร้อมกับอีกตน ที่มีหน้าอกบ่งบอกว่าเป็นเพศหญิง
              "มัลแด็กซ์ หนอยยยย เนคกี้ เนคกัส มันจะมากไปแล้วน่ะ" อมนุษย์หัวงูเห็นเลยเรียกชื่อมนุษย์หุ่นทั้งคู่ เลยชักปืน "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มนุษย์หุ่นยนต์นามเนคกี้เลยกราดยิงใส่อมนุษย์หัวงูจนล้ม
              "เฮเรเค้น!!!!" เด็กสาวร้องลั่นแล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆ" ใช้ปืนสั้นลำกล้องคู่สองกระบอกยิงใส่เนคกี้ให้ล้ม จนอีกตนรีบวิ่งถอยไป "ลาแน็คซ์ ไลเอิร์ท ระวังด้วย เนคกัสหนีไปคงเป็นกับดักแน่ๆน่ะ" เด็กสาวบอกกับอมนุษย์นกและสิงโตที่มองดูร่างของเพื่อนพ้องที่ถูกยิงไป
              "เธอไม่สั่งเราก็รู้แล้วละน่า ดิเรนท์" อมนุษย์หัวสิงโตบอก โดยรีบบุกไปไล่ตาม "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แต่กลับถูกเนคกัสที่หันกลับมาหลังจากวิ่งหนีไปแล้ว กราดยิงซ้ำจนล้ม "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปุ๊ๆๆๆๆๆๆๆ" ฟลาแน็กซ์และดิเรนท์เลยยิงสวนกลับไปจนเนคกัสล้มเข่าทรุด แต่ก็โถมแรงชักปืนมา "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงใส่ดิเรนท์จนล้มลงอย่างจังๆ "แกร็ก ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ฟลาแน็กซ์ยังไม่ทันจะเดินไปดูร่างของดิเรนท์ ก็ต้องถูกยิงจนล้ม โดยมนุษย์หุ่นยนต์ตัวโตกับปืนยาวสองกระบอกที่เดินออกมา
              "ปังๆๆๆๆ" ไม่ทันไร มนุษย์หุ่นยนต์ก็รีบโพไปข้างซ้ายโดยเร็ว จน "ปุ๊ๆๆๆๆ" กระสุนปักคาต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังอย่างจังๆ โดยฝีมือของนักรบเกราะขาวติดผลึกเขียวบนหัวที่ถือปืนยิงจากระยะไกล "ฟึ่บบบบ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มนุษย์หุ่นยนต์ตัวโตใช้ปืนในมือซ้ายกราดยิงใส่ จนนักรบเกราะขาวรีบวิ่งหลบกระสุนมาอย่างรวดเร็ว และ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปุ๊ๆๆๆๆๆๆ ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงสวนกลับใส่มนุษย์หุ่นยนต์จนต้นไม้ที่ใช้กำบังกระจุยไป 3 ต้น "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" บีบให้มนุษย์หุ่นยนต์ตัวโตใช้ปืนยาวในมือขวากราดยิงใส่ต้นไม้ ที่อยู่ห่างจากนักรบเกราะขาวผลึกเขียวให้กระจุย จนอีกฝ่ายไร้ที่กำบังกันกระสุน "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" นักรบเกราะขาวกราดยิงสวนกลับไป จนกิ่งไม้หักโค่นมาขวางมนุษย์หุ่นยนต์กันอย่างจังๆ โดยที่ตนชักปืนในมือขวา แต่... "แกร็กๆๆๆ" ปืนส่งเสียงแต่ไม่ส่งกระสุนออกไป           "ชิ หมดแมกซะได้สิน่ะ" มนุษย์หุ่นยนต์สบถ พร้อมกับตะโกนไปว่า "นายไม่มีที่ให้หนีแล้วน่ะ มาส ถ้าให้ฉันเดา นายเองก็เหลือกระสุนเพียงนัดสองนัดแล้วสิ"
              "ปืนของนายกระบอกหนึ่งหมดกระสุนแล้วสิน่ะ เนคมาดูซัม และฉันรู้ ว่านายคงเหลือกระสุนนัดเดียวในปืนที่อยู่ในมืออีกข้างไว้น่ะ" นักรบเกราะขาวผลึกเขียวบอกโดยที่จ่อปืนมา "ตอนนี้เวลาไม่พอแล้ว คงต้องจบเรื่องกันเดียวนี้แหละ"
              มนุษย์หุ่นยนต์บอก "ใช่ เตรียมจบเห่ได้แล้วละ คาตานะลอร์ด!!!" แล้วตนกับฝ่ายตรงข้าม ขยับนิ้วชี้เหนี่ยวไกพร้อมกัน "ปังงงงงง" ปืนส่งเสียงดังขึ้นมา

              "ตื้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากลำโพง พร้อมกับบอกว่า "หมดเวลา ทั้งทีมเหลืองและทีมเขียว ไม่มีใครชนะ เพราะหัวหน้าใหญ่ โดนยิงพร้อมกัน" โดยที่มนุษย์หุ่นยนต์และนักรบเกราะขาวติดผลึกเขียว มีรอยเปื้อนแดงบนเกราะกันทั้งคู่ โดยที่ทั้งคู่กระพริบตา บ่งบอกว่า ทั้งคู่ไม่ได้ตายกันจริงๆ
              "ขอบใจมากนะ แอมเบอร์ ที่สรุปผลมาเช่นนี้น่ะ" แมนิเกเตอร์มนุษย์หุ่นยนต์เผ่าแกตไทซ์นามเนคมาดูซัมกล่าว
              "ต่อให้ฉันเหลือกระสุนในแมกเพียงนัดเดียว แต่ถูกยิงพร้อมกันแบบนั้นก็ต้องแพ้อยู่ดีละสิน่า" นักรบเกราะขาวผลึกเขียวนามมาสวาร์ทาร์บอกอย่างยอมรับ แล้วก็ "ปรี้ดดดดดดดด" หยิบนกหวีดมาเป่า จนพวกทหารผ้าพันคอเหลืองและผ้าพันคอเขียวที่โดนยิง รีบลุกขึ้นยืน
              เช่นเดียวกับ "จบเกมส์แล้วสิครับ พี่เนคกี้" เนคกัสบอกโดยที่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเนคกี้ แมนิเกเตอร์แกตไทซ์ฝาแฝดหญิงที่มีรอยเปื้อนสีแดงติดตามตัวและหน้าผากกัน
              "หวังว่าฝ่ายเราคงเป็นฝ่ายชนะกันบ้างน่า" เฮเรเค้น แมนิเกเตอร์บีสทอยด์งูกล่าวและลุกขึ้นยืนโดยที่มีรอยเปื้อนสีแดงบนตัวกัน ซึ่งเขากับเพื่อนอีกสี่ตนก็ลุกขึ้นด้วย
              ไลเอิร์ท แมนิเกเตอร์บีสทอยด์สิงโตสบถ "แน่ละ นายกับมัลแด็กซ์โดนสอยร่วงด้วยกระสุนซอสมะเขือเทศกันเช่นนี้ มันไม่เข้าท่าเสียเลยน่า" แล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดรอยเปื้อนตามตัวกัน
              "นายเองก็ทะเล่อทะล่าโดนเนคกัสที่หนีแบบหลอกแล้วยิงสวนกลับมากันด้วยน่ะ" ฟลาแน็กซ์ แมนิเกเตอร์บีสทอยด์นกไทป์บีสท์เมนตำหนิ
              ดิเรนท์ แมนิเกเตอร์บีสทอยด์ฮาร์ฟบีสท์เสือดำกล่าว "นั้นสิ ขนาดเนคกัสโดนฉันกับฟลาแน็กซ์รุมยิง ยังดันทุรังต่อได้อีกน่ะ"
              "ทำไงได้ละ ก่อนที่ฉันจะล้ม ฉันต้องสอยใครสักคนให้ร่วงลงก่อนอยู่ดีละน่า" เนคกัสบอก
              มัลแด็กซ์ แมนิเกเตอร์บีสทอยด์ตั้กแตนหัวด้วงคีมบอก "นายเองก็อย่าลืมน่ะ ว่าถ้านายเดี้ยงแล้ว นายไม่สามารถขยับนิ้วเพื่อยิงสวนไปได้กันหรอก"
              "ตอนนี้เรารีบกลับไปรวมพลกันก่อน เดียวพี่ใหญ่และคุณมาสวาร์ทาร์บ่นแย่เลยน่ะ" เนคกี้กล่าว แล้วเธอก็พาทั้งหมดมารวมพลกับเหล่าทหารทั้งหลายที่ลุกขึ้นหลังจากโดนยิงมา
              "ว่าแต่ พวกเราเก่งพอที่จะได้รับคัดเลือกกันเลยหรือเปล่าละครับ" ทหารผ้าพันคอเหลืองบอก อีกตนที่อยู่กลุ่มเดียวกันกล่าว "ผลออกมานิ พวกเราเป็นฝ่ายชนะหรือเปล่าละครับ"
              "พวกเรารบกันเป็นทีมเวิร์คตามคำแนะนำของคุณแล้ว พอจะให้พวกเรารับการฝึกจากพวกคุณเลยมั้ยละคะ" ทหารหญิงที่สวมผ้าพันคอเขียวถาม อีกตนที่อยู่กลุ่มเดียวกันกล่าว "นั้นสิครับ แล้วจะให้เราอยู่ในทีมพี่ดิเรนท์หรือพี่ฟลาแน็กซ์ดีมั้ยละ"
              "เออ รู้น่ะ ว่าพวกเธอตื่นเต้นกันไม่น้อย แต่....เราเรียกพวกเธอมารวมกลุ่มกัน ก็เพื่อให้พวกเธอออกจากป่ากลับไปที่พักกันก่อนน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "เฮเรเค้น ดิเรนท์ ฟลาแน็กซ์ ไลเอิร์ท มัลแด็กซ์ เนคกี้ เนคกัส นำทุกๆคนออกจากป่าไปได้เลย ครูกับเนคมาดูซัมจะตามไปทีหลังเอง"
              "รับทราบครับ/คะ" พวกแมนิเกเตอร์ที่มาสวาร์ทาร์สั่งมาตอบกลับ แล้วนำทุกๆคนออกจากป่าไปก่อน
    เนคมาดูซัมบอก "ว่าแต่ นายเห็นใครในทีมที่นอกเหนือจากพวกไทรเมร่า มีแววกันบ้างมั้ยละ มาสวาร์ทาร์"

              "ฉันคิดว่า คำตอบของฉันน่าจะเหมือนกับของนายกันบ้างน่ะ เนคมาดูซัม จากประสบการณ์ตรงของฉันแล้ว พวกเด็กๆในทีมของฉันนั้น.....หาแววไม่ได้สักตนน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าวพร้อมกับใช้แม่เหล็ก "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ เกร้งๆๆๆๆๆ" ดูดเก็บปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในป่ากันให้หมด โดยที่เนคมาดูซัมใช้เครื่องดูดปลอกกระสุนที่ตกพื้นเก็บไปด้วย มาสวาร์ทาร์เลยเล่าต่อ "แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กันมีแบบแผนกันก็จริง แต่ก็ไม่ทำตามที่สั่ง ไม่ทำตามแผนการและคำแนะนำที่ฉันให้ไว้ พวกเขาสู้เหมือนตอนที่พวกเขากำลังเล่นเกมส์ออนไลน์กัน เลยคิดว่า ในสนามรบ พวกเขาสามารถคอนตินิวได้เมื่อพลาดท่าเสียทีให้กับพวกศัตรูกันได้น่ะ"
              เนคมาดูซัมส่ายหน้า "เพราะในสนามรบแห่งความเป็นจริง ใครที่พลาดท่าโดนศัตรูเล่นงาน ถ้าไม่ตาย ก็ต้องพิการอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน ซึ่งทีมของนายไม่ฟังคำเตือนจนถูกพวกฉันเล่นงานกลับไปกันนี้แหละ"
              "ถ้าฉันให้พวกเขาเข้าร่วมทีม นอกจากพวกเขาจะหาเหาใส่หัวจากการที่ทำโดยไม่ฟังคำเตือนจากผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้าหน่วย หรือทำออกนอกคำสั่งหรือทำตรงข้ามกับที่สั่งไว้ พวกเขายังทำให้ทีมที่มีประสบการณ์เหนือกว่าพลอยซวยไปด้วยแน่นอน ดังนั้น ฉันจึงเห็นว่า พวกที่ทำเป็นเล่นและเห็นสนามรบเป็นแค่เกมส์ ไม่ผ่านการประเมินด้วยประการทั้งปวงนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ดีแล้วละ และต่อให้มีกองรบอื่นรับเข้ามา ก็คงไม่ให้ออกรบกันง่ายๆ จนกว่าพวกนี้ได้รับการฝึกฝนกันเต็มที่ก่อนจะถูกส่งออกไปแนวหน้ากันจริงๆ เพราะในสนามรบของจริง โหดร้ายและอันตรายมากกว่าที่คิดกันไว้น่ะ"
              "นายพูดตามประสบการณ์ในสมรภูมิโฟรเดริม-4 มาก่อนสิน่ะ แล้วความเห็นของนายต่อพวกเด็กๆในทีมของนายกันละ" มาสวาร์ทาร์บอกและหันมาถาม
    เนคมาดูซัมส่ายหน้า "พวกเด็กเกรียนที่เป็นนักเลงสุดเก๋านั้น ทำตัวไม่ต่างจากพวกแพคทีสหัวร้อนกันดีๆนี้แหละ พวกนี้ไม่เพียงพุ่งออกไปโดยไม่ฟังคำสั่งไม่ว่า เด็กบางรายเองโยนปืนที่ยิงไม่ออก แล้วกระโดดเข้าไปกระทืบทีมของนาย แถมยังมีพวกเอาปืนไปใช้ฟาดต่างไม้หน้าสามกันอีกด้วยน่ะ"
              "ไม่แปลกใจหรอก ที่พวกนี้เป็นชุดแรกที่โดนพวกเฮเรเค้นกระทืบก่อนกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก แล้วถามต่อ "คิดว่าพวกแสบๆเหล่านี้ มีสักคนที่ถูกใจนายบ้างมั้ยละ"
              เนคมาดูซัมตอบ "ต่อให้พวกนี้ซ่าและเก๋าถึงขั้นตีกับพวกวัยรุ่นชาวซัลคาเลี่ยนต่างโรงเรียนก็ดี หรือไม่กลัวเกรงตำรวจก็ดี พวกนี้ไม่ได้มีเจตจำนงอยากจะปกป้องอธิปไตยกันจริงๆเสียเลย แค่อยากได้ชื่อเสียงมาประดับบารมีทำให้ตัวเองดูโดดเด่น แต่ไม่มีพรสวรรค์และความสามารถที่ตรงใจฉันเลยสักตนไม่ว่า ฉันสามารถเดาได้เลยว่า ถ้าพวกนี้ถูกส่งไปอยู่แนวหน้ากันจริงๆ เกรงว่าพวกนี้จะเป็นชุดแรกที่โกยแนบไปเสียก่อน ดังนั้น ฉันคงไม่ให้ทีมของฉันผ่านเช่นกัน"
              "เอาเป็นว่า เราคงต้องฝึกพวกเฮเรเค้นที่อยู่กับเรา และส่วนที่ยังอยู่ที่เมลลอท-4 ให้เก่งขึ้นพร้อมที่จะเป็นสมาชิกทีมหลักกันเสียแล้วละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              "นั้นขึ้นกับว่า ผบสส.ของพวกเราจะยอมอนุมัติงบประมาณให้เราได้หรือเปล่าน่ะ" เนคมาดูซัมพยักหน้า แล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากป่า ตรงมายังค่ายหลัก ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์ฝึกกำลังพลสำรองเวอเด้เบเร่ต์ บนทวีปเวสทรอนของทางสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์กัน

              "กลับมากันแล้วสิคะ คุณมาสวาร์ทาร์ คุณเนคมาดูซัม" แอนเดรีย แมนิเกเตอร์ริดิวิเนี่ยนมิวแทนอยด์คลาสเอ หญิงสาวในชุดบาร์โค้ดสวมปลอกแขนแถบแสงสีส้มที่อยู่ในเต้นท์สีเขียวกล่าว เมื่อมาสวาร์ทาร์และเนคมาดูซัมมาถึงแล้ว เนคมาดูซัมพยักหน้า
              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกเฮเรเค้นพาพวกมารวมพลแล้วพาไปกินข้าวเที่ยงละสิน่ะ"
              "คะ เพียงแต่มีส่วนหนึ่งที่ต่อคิวกันอยู่นะคะ" แอนเดรียชี้ไปยังซุ้มสีขาวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีแมนิเกเตอร์หญิงสาวผมสั้นสีแดงมีใบมีดโค้งเล็กๆสามอันติดบนหัว กับแมนิเกเตอร์เด็กหญิงในชุดสีขาวติดเป้สีดำนั่งอยู่ โดยที่เหล่าทหารถือพัด สวมหมวก ติดเข็มกลัดยี่ห้อ เลิฟลี่แองเจิ้ล กันไว้
              "ผมดีใจมากเลยนะครับ ที่ได้จับมือกับคุณจิลและคุณลิเนียร์ตี้ตัวเป็นๆเลยนะครับ" แมนิเกเตอร์เด็กหนุ่มเชื้อสายเซอเบียกล่าวกับแมนิเกเตอร์เด็กหญิงและหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า
              "ขอบคุณมากคะ ที่คุณสนับสนุนพวกเรากันไว้ หวังว่าคุณคงจะโชคดีกันบ้างนะคะ" แมนิเกเตอร์หญิงสาวนามลิเนียร์ตี้กล่าว
              แมนิเกเตอร์เด็กหญิงนามจิลบอก "หมดเวลาแล้วละคะ ขอรายต่อไปหน่อยคะ" จากนั้นแมนิเกเตอร์เด็กหนุ่มลิมฟ่าซัลคาเลี่ยนหัวสีแดงก็มาจับมือและขอลายเซ็น จากนั้นทั้งสองก็ต้องจับมือกับพวกทหารเกณฑ์ทั้งชายและหญิงอีกหลายสิบรายด้วยกัน
              "ขนาดทั้งคู่ประกาศไปแล้ว ว่าทั้งคู่พักงานเพลงมาช่วยพวกเรากันแท้ๆ ไม่คิดเลยว่า ทหารเกณฑ์ในค่ายเองก็เป็นฐานแฟนๆของยัยลิเนียร์ตี้และยัยเปี้ยกจิลกันเลยน่ะ" สเปียริท แมนิเกเตอร์หญิงผิวสีม่วงเข้มผมสีม่วงอ่อนในชุดกังฟูสวมเสื้อกั้กสีดำบ่น หลังจากที่เดินเข้ามา
              แอนเดรียกล่าว "ทำไงได้ละ สเปียริท นับแต่ตอนที่ลิเนียร์ตี้และจิลโชว์ตัวเป็นครั้งแรกนั้น ได้สร้างกระแสความดังให้ทั้งดาวเป็นที่รับรู้กันไปแล้ว ขนาดพวกนักเรียนหญิงเองก็พลอยร้องเพลงตามกันด้วยน่ะ"
              "และมีพวกวัยรุ่นหญิงแห่มาสมัครเข้ากองรบของเรา เพราะคิดว่าพวกเราจะนำพาพวกเธอเข้าสู่วงการนักร้องกัน ทั้งๆที่ความจริงแล้ว พวกเราเป็นกองกำลังหัวหอกที่ปราบปรามภัยคุกคามอันร้ายแรงกันน่ะ ไม่ใช่บริษัทเอเจนซี่คัดเลือกคนมาเป็นดาราสักหน่อย" สเปียริทกล่าว และถอนใจขึ้นมา "ที่มันเป็นเช่นนี้ เพราะเราไม่ได้ลบไอ้เวปรู้ไปซะทุกเรื่องลงไปเมื่อสามปีก่อน โดยเวปนั้นปล่อยข่าวลือว่า พวกเราสามารถปั้นเหล่าเด็กวัยรุ่นเกรียนๆให้เป็นยอดฮีโร่กัน ทั้งๆที่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่สักนิดเลยน่ะ"
              เนคมาดูซัมบอก "พวกเราเองก็ไม่ทราบด้วย ว่ายังมีเพื่อนพ้องหรือสมาชิกในเวปสานต่อในสิ่งที่ราฟโฟ่ทำเอาไว้เมื่อ 3 ปีก่อนกัน และคงจะได้ข้อมูลจากชาวเมืองเฟิร์สฮิลล์ ที่ได้เห็นโฉมหน้าของพวกเฟรดและน็อกกี้ในตอนที่สู้กับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธที่บุกเมืองมาแน่ๆเลยละ"
              "ทั้งๆที่พวกเรากำชับพวกเขาว่าอย่าปล่อยข่าวหรือเปิดเผยข้อมูลกันไว้แล้วแท้ๆ สุดท้ายเวปบอร์ดมาสเตอร์คนใหม่ก็ล้วงลูกเปิดเผยกันจนได้ เลยทำให้มีแมนิเกเตอร์บนดาวดวงนี้ แห่แหนมาขอพวกเราคัดเลือกทีม ซึ่งเราก็ปฏิเสธกันไปซะทุกครั้งนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์บอก "เพราะพวกเขาไม่รู้เลยว่า ที่พวกเราฝึกฝนพวกเฟรดและพวกน็อกกี้กันนั้น ไม่ใช่แค่เพราะพวกเขาจับพลัดจับพลูได้ชุดเกราะมาสวมจนสู้กับพวกเดลอาเนี่ยนกัน แต่เพราะว่าพวกเขาได้รับคัดเลือกจากผบ.บัลโต้ให้มาแทนสมาชิกชุดเก่าที่สภาพร่างกายไม่ไหวแล้วต่างหากละ"
              แอนเดรียบอก "พวกเฟรดเองต่างก็มีพรสวรรค์และทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่นยิ่งกว่าพวกคุณแดน ในขณะที่พวกน็อกกี้แม้จะทำตัวมีปัญหา แต่ก็เข้าร่วมเพราะมีเจตจำนงที่อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระการต่อสู้ของพวกเรา และอยากจะสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยกันจริงๆ ซึ่งพวกเราก็อนุญาตให้พวกเขาเข้าร่วม และรับการฝึกจากพวกเราเพื่อให้พวกเขา สานต่อภารกิจในการหยุดยั้งการคุกคามของพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันไว้น่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะเธออยู่กับพวกเขาตอนถูกพวกเดลอาเนี่ยนลักพาตัวไปสิน่ะ" สเปียริทบอก แอนเดรียพยักหน้า
              เนคมาดูซัมบอก "ตอนนี้มันใกล้จะเลยเที่ยงแล้ว สเปียริท จัดการให้ที" แล้วก็ส่งโทรโข่งให้
              "รับทราบแล้วละ" สเปียริทรับโทรโข่งพร้อมกับตะโกนไปว่า "เอาละ เหล่าโอตะและติ่งเหาฉลามของเลิฟลี่แองเจิ้ลทั้งหลาย รู้น่ะ ว่าพวกเธออยากจะเจอหน้า จับมือ อยากได้ลายเซ็นกัน แต่นี้มันเวลากินข้าวเที่ยงแล้ว ดังนั้น ขอเชิญพวกเธอทั้งหมดนี้ ไปต่อแถวรับข้าวเที่ยงที่โรงอาหาร เลิฟลี่แองเจิ้ลจะได้กินข้าวให้อิ่มเพื่อมาทำให้พวกเธอพอใจกันต่อในช่วงบ่ายหรือช่วงเย็นนี้แหละ"
              แต่ว่า "พวกเรารอนานได้อยู่แล้วละน่า ป้ามืด" โอตะชาวซัลคาเลี่ยนผิวขาวสวมหมวกพูดท้าทายขึ้นมา
              "กรอดดดดดด" สเปียริทถึงกับเดือดดาลขึ้นมา "อะแอ่ม" มาสวาร์ทาร์เลยกระแอ่มเป็นเชิงห้ามไว้ก่อน พร้อมกับ.... "ปรี้ดดดดดดดดด" เป่านกหวีดจน "ตรึงๆๆๆๆๆๆ" แมนิเกเตอร์ชายร่างใหญ่ในชุดเกราะท่อนบนสีขาวท่อนล่างสีดำเดินเข้ามา ทำให้ทั้งโอตะและติ่งแฟนคลับตกใจกันยกใหญ่
              "เออ กรุณาไปกินข้าวก่อนนะคะ อย่างน้อย พวกเราไม่ได้ไปไหนเลยนะคะ" จิลบอก แล้วเหล่าโอตะและติ่งเหาฉลามทั้งหลายก็ต้องรีบไปต่อแถวกินข้าวในโรงอาหารกันโดยเร็ว จน "เฮ้ออออ" ทั้งลิเนียร์ตี้และจิลถอนใจอย่างโล่งอก "ขอบใจมากนะ จายด์ ที่มาทันเวลาไว้น่ะ" จิลกล่าว
              แมนิเกเตอร์ตัวโตนามจายด์ ตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันรู้ดีว่าพวกทหารเกณฑ์เหล่านี้ ให้ครูฝึกประจำฐานมาไล่คงไม่ไปง่ายๆแน่ๆน่ะ"

              "ดีแล้วละ ถ้าจายด์ไม่มานิ ฉันกับจิลคงไม่ได้กินข้าวเที่ยงแน่ๆ" ลิเนียร์ตี้บอก พร้อมกับหยิบกระติกน้ำมาดื่ม เช่นเดียวกับจิลที่หยิบขวดน้ำมาดื่มด้วย "ฉันเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นซุป'ตาร์ในช่วงศตวรรษที่ 20 แล้วละ ว่าเวลาดังมากๆจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากมากมายกัน จนหาความเป็นส่วนตัวกันไม่ได้เลยน่ะ"
              "แถมยังต้องออกสายไปที่นั้นที่นี้แบบนันสตอปกันอีก เพื่อให้แฟนๆรู้จักเราภายในเวลาสัปดาห์เดียวแบบนี้ แถมยังต้องรักษาหน้า ระวังการกระทำ หรือเจอเรื่องยุ่งๆต่างๆ เพื่อมิให้แฟนๆผิดหวังกันด้วยนั้น สู้กลับไปขึ้นขับโมบิลลอยด์ ถือหอกถือดาบออกไปสู้กับพวกศัตรูโหดๆ ยังจะดีกว่ากันน่ะ" จิลบอก
              "ที่นายพลจูเดทต้าว่าไว้ เกี่ยวกับข้อเสียของการเป็นดาราคนดังนั้น คงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยสิน่ะ" แอนเดรียบอก
              ลิเนียร์ตี้พยักหน้า "ขนาดเราขอยุติงานเพลงมาเมื่อปีที่แล้ว เพื่อให้โอกาสแมนิเกเตอร์วัยรุ่นสาวรายอื่นๆได้เป็นดารารุ่นต่อๆไป จะได้ไม่มีคำครหาว่า เป็นแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้ริอาจสวมชุดสวยๆร้องเพลงบนเวที กันเสียบ้างน่ะ ที่ไหนได้ แฟนคลับยังแห่มาได้เรื่อยๆน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาคิดว่า แมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้อย่างพวกเรา ทำเป็นแค่อย่างเดียวคือการช่วยเหลืองานทางทหารหรือมีบทบาทกันในสนามรบกัน ทั้งๆที่ความจริงแล้ว แมนิเกเตอร์แบบพวกเราเองก็มีความสามารถอย่างอื่นที่แมนิเกเตอร์ทั่วไปทำกันนะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "แน่ละ แอนเดรียเปิดแชนอลทำกับข้าว โดยเอาพวกเรามาเป็นผู้ช่วย ในขณะที่พวกเราเองก็โชว์ความสามารถแปลกๆ จนผบ.บัลโต้ดันปิ้งไอเดียทำรายการวาไรตี้ ด้วยการเอาพวกเรามาแข่งขันแปลกๆกัน ตั้งแต่จับพวกเรามาแต่งตัวเหมือนตัวการ์ตูน แล้วเอาไปวิ่งหนีมนุษย์ชุดดำที่มีบทลงโทษแสบๆ แข่งตอบคำถาม แข่งเล่นตลกและมุขฮา แข่งทำอาหารแปลกๆ และอีกหลายร้อยอย่างในรายการอับเบรแฮมเวเซอร์ของพวกเราเมื่อ 2 ปีก่อนกันน่ะ"
              "รายการของพวกเราที่มีคอนเซปไม่ต่างจาก รายการของตลกเพื่อตลกและดำเนินการโดยตลกของญี่ปุ่นเมื่อศตวรรษที่ 20 เพียงแต่ มีพวกเราและเหล่าแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้ รวมถึงเหล่าทหารรุ่นเดียวกับพวกเฮเรเค้นและพวกเฟรดเป็นผู้ร่วมในรายการกันด้วย ซึ่งเราเสียเวลา 2 ปีในการทำรายการนี้ขึ้นมากัน ไปพร้อมกับการที่พวกเราต้องเป็นวิทยากรให้กองรบอื่นและเผ่าต้นสังกัดของพวกเราเองด้วย" มาสวาร์ทาร์บอก
              สเปียริทกล่าว "แน่ละ รายการของพวกเรา แต่ต้องมาทำรายการกันทุกวัน เพื่อเก็บสต็อกเทปไว้ฉายเป็นสัปดาห์ๆ จนพวกเราต้องใช้สมองคิดและออกแบบรายการกันในเวลาสองสามวัน พร้อมกับการเตรียมตัวสำหรับการลงแข่งขันในรายการของทางสมาพันธ์อวกาศกันด้วยน่ะ ซึ่งนั้นก็ทำให้เรามีงานเยอะเกินอัตราที่ควรจะเป็น จนท่านนายพลตำหนิในเรื่องประสิทธิภาพการปฏิบัติการณ์ที่ด้อยลงเช่นนี้ ไม่รู้ว่าผบ.บัลโต้คิดอะไรกันแน่ละ"
              "นั้นไม่แปลกใจหรอกน่ะ เพราะผบ.บัลโต้ต้องการให้พวกเราเตรียมพร้อมกันตลอดเวลา ในยามที่พวกเราไม่อาจจะออกปฏิบัติการณ์กันได้นี้แหละ" เสียงนั้นมาจากแมนิเกเตอร์หุ่นยนต์นินจาสีทองเหลือง มากับบุรุษสวมหมวกกลมสีน้ำเงินผู้มีแขนทรงกระบอกและหมัดสีน้ำเงินทั้งสองข้าง เดินมากับบุรุษสวมเกราะสีขาวมีเขาสีแดงสามเขาบนหัว มนุษย์เหล็กหัวไหล่ทรงกลมสองข้างและติดแทงค์คู่กลางหลัง และบุรุษผิวขาวมีผมปล้องหนวดสีดำติดบนหัวที่ปิดกระดองสีขาว สวมเกราะสีขาวที่มีฟันหยักอยู่ตรงกลาง สวมกางเกงหนังสีน้ำตาลกัน "อีกอย่าง รายการการแข่งขันแต่ละอย่างนั้น ถือเป็นการฝึกฝนทางร่างกายของพวกเราไปในตัวกันด้วย ในยามที่พวกเรามีงบประมาณไม่พอเพียงกันน่ะ"
              มนุษย์เหล็กทรงหัวไหล่กลมบอก "ว่าแต่ พวกแฟนคลับของเลิฟลี่แองจี้ของเรานั้น ไปกินข้าวกันแล้วสิ"
              "ถูกแล้วละ คลอเวฟ พวกเราพึ่งจะให้จายด์มาไล่ไปเมื่อกี้นี้น่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าวต่อมนุษย์หุ่นยนต์หัวไหล่กลมกัน "พลัสเชอริท แอบไบออส พีวิล เจเนล พึ่งจะให้เหล่าทหารกลุ่มของพวกนายไปพักกินข้าวกันสิน่ะ"
               มนุษย์หุ่นยนต์สีทองเหลืองนามพลัสเชอริทบอก "ทางเราจัดการให้สองกลุ่มของพวกเราไปอยู่ในโรงอาหารกันไว้แล้วละ มาสวาร์ทาร์"
              "แม้ว่าจะมีบางส่วนยังไม่เลิกราที่จะหาเรื่องกับพวกคู่อริกัน แต่เราก็จัดการโดยไม่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเจ็บตัวกันแล้วน่ะ" บุรุษผมปล้องหนวดสีดำนามแอบไบออสบอก          
              "ตอนที่ฉันกับเจเนลสาธิตให้เห็นวิธีต่อสู้แบบไทรเวเซอร์ ให้พวกเด็กวัยรุ่นนักเลงและพวกแก็งค์อันธพาลประจำโรงเรียนดังๆ เห็นกันไปแล้ว ว่าการต่อสู้ของพวกเราจริงจังมากแค่ไหน แต่ไม่คิดเลยว่า..." บุรุษเกราะและหมวกสีน้ำเงินนามพีวิลบอก แล้วก็ถอนใจขึ้นมา

              "คงไม่ได้มีพวกเด็กที่แอบพนันขันต่อว่านายหรือเจเนลจะชนะกันละสิน่ะ" สเปียริทบอก พีวิลพยักหน้า
              บุรุษสามเขานามเจเนลบอก "...แย่ยิ่งกว่านั้นน่ะ พวกเด็กเหล่านี้พอเห็นเราหยุดเพื่อเบรคพวกที่แอบพนันกันอยู่นั้น พวกนักเลงและแก็งค์อันธพาลมาถึงก็ยกพวกกันยกใหญ่ ฉันกับพีทต้องให้พวกคลอเวฟที่อยู่ด้วยมาช่วยเบรคพวกเด็กๆเหล่านี้เสียเองนะสิ" จากนั้นก็ยืนพิงเสาและกอดอกด้วยความหงุดหงิด "ถ้าไม่ติดว่าพวกเรามานี้ในฐานะวิทยากรและผู้คุมพวกเด็กเกรียนๆแสบๆ ที่ก่อเรื่องเดือดร้อนจนตำรวจเอาไม่อยู่ ต้องโยนเรื่องมาให้ศูนย์ฝึกกำลังพลสำรองแห่งนี้รับผิดชอบ และขอแรงจากพวกเรามาอีกทีหนึ่งละก็น่า...."
              "อย่างน้อย พวกเรามานี้ เพื่อมาดัดนิสัยพวกเด็กวัยรุ่นให้ลดความคึกคะนองและเห็นถึงภาระหน้าที่อันหนักอึ้งของพวกเราว่า การเป็นทหารก็ดี เป็นแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้ก็ดีนั้น มันไม่ได้เป็นกันง่ายๆ ภายในเวลาต่อสู้ของยอดมนุษย์หรือราเมงสำเร็จรูปสุกได้ที่กันหรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
    เนคมาดูซัมบอก "และพวกนายคงไม่ได้บ้ายอตามเด็กที่ขอร้องให้ช่วยเปิดทางลัดให้ละสิ"
              "บอกกันตามตรงน่ะ ว่าพวกเด็กวัยรุ่นเหล่านี้ ทั้งเทรอมก็ดี ซัลคาเลี่ยนก็ดี ชักจะแย่กว่ารุ่นของไกซ์และมิลด์กันเสียแล้วน่ะ เพราะพวกเขาสักแต่ว่าอยากจะเป็น แต่ไม่ได้มีเจตจำนงที่อยากจะอุทิศตนเพื่อปกป้องอธิปไตยเหมือนกับพวกเรากันจริงๆหรอกน่ะ" พีวิลบอก "ซึ่งถ้าฉันหรือเจมส์ปล่อยให้พวกเด็กๆเหล่านี้ผ่านเข้าไปได้ กลัวว่าพวกเขาจะต้องเสียอะไรที่มากกว่าสติสัมปะชัญญะกันแน่ๆ เพราะพวกเรามีตัวอย่างแย่ๆอยู่กลุ่มหนึ่งกันไปแล้วน่ะ"
              แอบไบออสบอก "พวกเราไม่ใช่พวกแพททริคที่ส่งพวกอยากดังเข้าสนามรบ จนไปลงเอยที่ถุงเก็บศพส่งไปให้ญาติพี่น้องจัดงานศพให้กันหรอก ต่อให้เด็กขอร้องผู้ปกครองเอาเงินมากองตรงหน้าเป็นจำนวนมากหรือข่มขู่พวกเราสารพัดอย่างกันยังไง พวกเรายังยืนยันจุดเดิม ว่าไม่มีทางอย่างแน่นอนน่ะ"
              "แล้วฝั่งนายกับมาสล่ะ เนคเกอร์ ไอ้พวกเด็กเกรียนแบบไอ้พวกน็อกกี้นิ มีแววกันบ้างมั้ยละ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ต่อให้พวกเด็กๆฝั่งเรามีหรือไม่ พวกเราคงไม่ยอมให้พวกไม่ฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาหรือพวกล้ำเส้นโชว์เก๋าแบบนาย ผ่านไปได้อยู่ดีหรอกน่ะ"
              "สงสัยว่าพวกเราคงต้องทำให้พวกเขาผิดหวังกันอีกละสิคะ" แอนเดรียบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "นั้นก็ดีกว่าให้พวกเขาประสบกับอันตรายจนถึงแก่ชีวิตกันละนะ" แล้วก็บอก "แอมเบอร์....เช็คตารางเวลาได้มั้ย ว่าเราจะติดประกาศกันตอนไหนละ"
              "แว้งงงงง" ตลับแปดเหลี่ยมที่วางบนโต๊ะฉายภาพโฮโลแกรมเป็นผู้หญิงทรงกระบอกขึ้นมากล่าว "ช่วงบ่ายนี้ คือช่วงที่นายทหารในค่ายรับฝึกพวกเด็กๆเหล่านี้ออกไปยังหุบเขารอบค่าย ตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงครึ่งถึงสองโมง ดังนั้น พอพวกเด็กๆไปกันหมดแล้ว น่าจะติดป้ายกระดาษกันได้นะคะ"
              สเปียริทบอก "เยี่ยม ก่อนที่พวกเราจะจากไป คงต้องให้พวกเด็กๆรู้คำตอบกันจริงเสียทีแล้วละ"
              "ดีแล้วละ ถึงแม้ว่าเราจะต้องกลับไปที่เฟิร์สฮิลล์แล้วพักยาว โดยที่ทำให้แฟนๆส่วนมากผิดหวังกันก็ตาม อย่างน้อยแค่มาร้องเพลงให้พวกเขาตอนขามาวันแรกก็เกินพอแล้วละ" จิลบอก
              "เออ ตอนนี้เรากินข้าวเที่ยงกันดีกว่าน่ะ" แอนเดรียบอก

              "นี้ผ่านไป 3 ปีแล้วสิคะ นับตั้งแต่พวกคุณกำชัยชนะเหนือมหาจักรวรรดิ์เดลอาเนี่ยนกันแล้วน่ะ" แอมเบอร์กล่าว โดยที่พวกเนคมาดูซัมกินข้าวเที่ยงไปด้วย
              พีวิลบอก "แม้ว่าเวลาผ่านไปสามปีแล้วก็ตาม แต่พวกเราอยู่บนดาวดวงนี้ในระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์มาได้ 4 ปีแล้ว ซึ่งพวกเราต่างได้พบเจอเรื่องแย่ๆกันมา แม้นั้นจะทำให้กองทหารส่วนมากเกือบเสียสูญอย่างเห็นได้ชัดน่ะ"
              "แน่ละ เมื่อ 2 ปีก่อน เราเจอปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ อันเนื่องมาจากธนาคารอวกาศถูกไอ้พวกกริเดี้ยนโร็คปล้นเงินจำนวน 20 ล้านแกลดอลไป แม้พวกมันจะเสียลูกน้องไปเพียงสิบคนที่พยายามจะขโมยเงินจากยานหุ้มเกราะไปก็ตาม นั้นก็ทำให้สมาพันธ์อวกาศให้งบประมาณกับทางเราน้อยลง จากการที่พวกเขาเจียดงบส่วนมากไปกับการฟื้นฟูความเสียหายของดาวที่ถูกรุกรานในช่วงมหาสงคราม จนส่วนมากกลับอยู่ในสภาพเดิมกันแล้ว" คลอเวฟบอก "และพอทางเราได้งบประมาณน้อยลง ท่านมหาประธานาธิบดีของพวกเราจำต้องตัดใจ ใช้งบส่วนมากฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับประชาชนหลังเจอเหตุสงครามและอาชญากรรม โดยตัดงบที่ควรให้กองทัพลงครึ่งหนึ่ง เพื่อนำงบส่วนนั้นไปเสริมอีกที จนทำให้ทุกกอง แม้กระทั่งของพวกเราเอง ต้องปลดกำลังพลออกตาม เพราะไม่อย่างงั้น กองรบต้องยุบเพราะเงินกองกลางหมดแน่นอน"
              จายด์กล่าว "แต่อย่างน้อย บริคซ์ก็คิดถูกแล้วที่ปลดลูกเรือส่วนหนึ่งให้ไปคุมท่าเรือกันต่อ เผื่อว่าสถานการณ์ด้านการเงินกระเตืองขึ้น จะได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งเลยน่ะ" โดยตักข้าวจากถาดมากินด้วย
              "แม้ว่าบริคซ์ไม่อยากจะปลดพวกลูกเรือส่วนหนึ่งออกไปเลยก็ตาม เพราะบริคซ์เห็นลูกเรือเป็นเหมือนพี่น้องของมันด้วย แต่ถ้าหมอนั้นไม่ทำเช่นนั้น ผบ.บัลโต้จะเป็นผู้ลงมาจัดการเอง ซึ่งนั้นยิ่งทำให้บริคซ์เจ็บปวดยิ่งกว่ากันน่ะ" คลอเวฟกล่าวอย่างเห็นใจต่อหัวหน้าลูกเรือประจำยานไทรแองเกิ้ลกัน
              มาสวาร์ทาร์บอก "ฉันเองก็ต้องแจ้งบอกกับทางหัวหน้าเผ่าบีสทอยด์ที่เมลลอท-4 ถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีปัญหา จนถึงขั้นที่ฉันต้อง....ลดภาระด้วยการให้พวกไทรเมร่าส่วนหนึ่งเข้ามาที่ดาว ส่วนที่เหลือนั้นให้อยู่ที่เมลลอท-4 ต่อไป แม้นั้นจะทำให้พวกหัวหน้าเผ่าบางส่วนไม่ค่อยพอใจเลยก็ตามน่ะ"
              "แต่อย่างน้อยฉันก็ช่วยอธิบายเรื่องทุกอย่างให้พวกเขาเข้าใจกันได้นะคะ แม้ว่าเราต้องอยู่โดยที่เรามีคนช่วยเพียงครึ่งเดียวก็ตามนะคะ" แอนเดรียบอก
              สเปียริทถอนใจขึ้นมา "แน่ละ พอเรื่องกองทัพถูกตัดงบประมาณ ยัยโฟรซ่าก็เริ่มจุกจิกจู้จี้เรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น งกเงินและทำตัวเค็มมากขึ้นกว่าเดิม ยังดีที่ผบ.บัลโต้ส่งยัยโฟรซ่าพร้อมกับสเตฟอร์ดและยัยไซโคลเนียออกไปเป็นกลุ่มนักล่าเงินรางวัล ส่งไปดูลาดเลาในเขตอวกาศภาคกลางเหมือนเช่นเคยแล้วน่ะ"
              "ว่าแต่ เพื่อนสี่แขนของนายไม่ได้กลับมาบ้านกันเลยสิน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ฟิเกซออกไปยังเขตอวกาศภาคกลางเพื่อออกตามหาไซเมี่ยนมาสองปีแล้ว ในเวลาที่เทาฟาดิลและซาแรคพัฒนาโมบิลลอยด์รุ่นใหม่จากควอดทารอสจนเสร็จสมบูรณ์ไปเมื่อ 2 เดือนแล้ว ป้ารัคชูมี่เองก็รู้ดี ว่าฟิเกซคงต้องรอดจากปัญหาที่เขาเจออย่างแน่นอน"

              "แน่ละ เพราะทีมของลูกพี่สตีฟและอาเจ้โฟรน่ารวมถึงไซโคลเนียจะต้องเจอตัวฟิเกซกันอย่างไม่ต้องสงสัยหรอกน่ะ" เจเนลบอก "แน่นอน ว่าการที่ฟิเกซอยู่ด้วย เลยทำให้พวกลูกพี่กลับมาหาพวกเรา ในช่วงที่พวกเรา....ถูกทางสมาพันธ์อวกาศเรียกตัวมาเข้าร่วมอีเวนท์การแข่งขันสำคัญๆถึงสามอย่างด้วยกันน่ะ"
              พีวิลบอก "อย่างไตรกีฬาอวกาศ ศึกประลองราชันย์แห่งนักสู้จักรวาล แล้วก็สแมคบอลกันละสิน่ะ"
              "ใช่ เริ่มจากไตรกีฬาอวกาศกันก่อน นับตั้งแต่ เดลวาท สถาปนาสาธารณรัฐเอาท์เดนท์ขึ้นมาเมื่อ 3 ปีก่อนนั้น กองกำลังยูเนี่ยนพีชก็ได้เปิดตัวกันจริงๆเสียที แม้ว่านั้นจะต้องทำให้ทางสมาพันธ์อวกาศต้องคุมเข้มพวกเขากันหนักมากเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว "และปีแรกหลังชัยชนะของเดลอาเนี่ยนผ่านไป 3 เดือน แม่ทัพใหญ่ไซบัลจ์เรียกพวกเราและยูเนี่ยนพีชให้มาร่วมแข่งขันกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการกันแล้วน่ะ"
              แอบไบออสบอก "เพราะครั้งแรกๆ เราลงแข่งเพราะต้องปกป้องผู้การเกรเบคที่ร่วมลงแข่งในครั้งล่าสุดกัน จากพวกป่วนงานที่คิฟทรอนอฟส่งมาก่อกวนกันไว้ แต่ครั้งที่สองนั้น พวกเราต้องลงแข่งกันหมดนี้แหละ เพราะพวกยูเนี่ยนพีชลงสมัครกันเป็นส่วนมากกันน่ะ"
              "แน่ละ ว่าฉันต้องพยายามว่ายแบบตีขามากกว่าต้องพึ่งระบบขับเคลื่อนจากไฮโดรฟอสแทงค์เสียเอง ซึ่งมันยากกว่าที่คิดเสียอีกน่ะ" คลอเวฟบอก
              สเปียริทกล่าว "เพราะนายพึ่งพาระบบขับเคลื่อนใต้น้ำบ่อยเกิน เลยใช้แขนขาน้อยกว่าที่คิดไว้กันนี้แหละน่า"
              "ที่เธอพูดอย่างดีใจนิ เพราะเธอกับพีวิลชนะการแข่งในครั้งที่สอง เฉือนชนะเฟลิคและอิลมิค รองหัวหน้าของโคเซวิคไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีกันละน่ะ" จิลบอก
              พีวิลบอก "ก็ไม่คิดเลยนิ ว่าอัลแทเรี่ยนอย่างอิลมิคจะว่ายน้ำเป็น ขี่จักรยานได้ และวิ่งได้เร็วกว่าที่คิดไว้กันน่ะ พอๆกันกับเฟลิคที่ว่ายนำมาก่อนจนขึ้นเป็น 20 อันดับแรกๆกันเลยนะสิ"
              "ต่อจากครั้งที่สองมา ยูเนี่ยนพีชก็ซุ่มฝึกแข่งกันอย่างหนัก ในขณะที่พวกเรามีงานเยอะมากจนไม่มีเวลาซ้อมกันอย่างเต็มที่หลังกองทัพถูกตัดงบลง ทำให้ยูเนี่ยนพีชชนะเลิศ ในขณะที่พวกเราได้แค่ที่สามเองน่ะ" เจเนลบอก "และครั้งที่สามเอง พวกเราก็มีเวลาฝึกซ้อมมากขึ้นหลังจากที่พวกเราจัดสรรเวลาได้ลงตัวกันแล้ว แต่พวกยูเนี่ยนพีชรับมือกับภัยคุกคามจากเขตอวกาศภาคกลางกันบ่อย จนเวลาซ้อมของพวกนั้นมีน้อยมาก เราได้ที่สองไป พวกนั้นก็ได้ที่สาม ส่วนผู้ชนะเลิศ.... หนุมานคาบถ้วยรางวัลไปแล้วละ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ฮัลมาร์คแม้จะอยู่รั้งท้ายจนไม่น่าจะชนะ แต่จริงๆแล้ว เขาตีโต้กลับมาในช่วงที่จะขึ้นฝั่ง ในช่วงปั่นจักรยานเข้าสู่จุดเช็คพอยน์ แล้วก็วิ่งเข้าสู่ระยะ 10 เมตรก่อนถึงเส้นชัยได้น่ะ จนสมาพันธ์อวกาศได้ชื่อเสียงกลับมาบ้างน่ะ"
              "สรุปเลยน่ะ การแข่งไตรกีฬาของพวกเรานั้น เราได้สามอันดับแรกๆไปครองครั้งละปีด้วยกัน แม้ว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พวกเราเจอเรื่องยุ่งๆกันไม่น้อยน่ะ" สเปียริทบอก "ส่วนการแข่งสแมคบอลนิ นายน่าจะดีใจแล้วมิใช่หรือ ที่เฮโลลิคเตอร์และพวกเฮฟบัสเตอร์ไม่ได้เข้าร่วมกันซะทุกปีเลยน่ะ"
              คลอเวฟบอก "มันก็จริงอยู่น่ะ ที่ไอ้ปากดีลิคเตอร์และพวกลูกสมุนของมันพลาดแมทซ์ประจำปีไปตั้ง 3 ปีกันก็จริง แต่พอไม่มีมันโผล่หน้ามา ฉันก็เหมือนขาดตัวถูกเยาะเย้ยกันอยู่ดีนี้แหละ"

              "แน่ละ เพราะนอกจากพวกเราต้องแข่งกับทีมของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศและพันธมิตรมนุษย์ รวมถึงยูเนี่ยนพีชกันด้วยแล้ว พวกสเตรดาร์ธเองก็ลงแข่งด้วยเช่นกันน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              คลอเวฟกล่าว "แล้วก็พวกอัศวินทรอยอาร์อีกกลุ่มหนึ่งที่มาลองดีกับพวกเราบนเวทีพื้นหญ้าเทียมกับการแย่งบอลมาทำแต้มกัน ซึ่งเรา ก็ต้องเรียกตัวสมาชิกทีมกองกำลังหลังฉากและพวกไทรเมร่าที่เหลือมาฝึกซ้อม เพื่อร่วมลงแข่งกันทั้งสองทีมกันด้วย ทั้งๆที่....กองกำลังหลังฉากส่วนมากเองก็โดนระงับการออกปฏิบัติการณ์จากผบ.บัลโต้ด้วยน่ะ"
              "พวกเฟรดและพวกน็อกกี้ต้องถูกส่งไปเรียนที่มหาวิทยาลัยทหาร โดยที่กีล บิลและฟอนโรว์ สามพี่น้องดิสตินเองก็ต้องไปร่วมเรียนด้วย เพราะเบื้องบนทราบมา ว่าพวกทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธแทบไม่มีใครส่งกองกำลังมาก่อเรื่องในเขตอวกาศของสมาพันธ์ฯมาตลอด 3 ปีแล้วนะสิ" เนคมาดูซัมบอก "นั้นไม่แปลกใจเลย เพราะหลังจากที่เดลอาเนี่ยนปราชัยไปได้ 4 เดือน คุณคูลิแนนซ์ที่อยู่ในดาวเมลลอท-4 มาแจ้งเราไว้ ว่าเหล่าอัศวินทรอยอาร์ฝ่ายภักดีนำทัพกอบกู้ระบบดาวเทรสตีด และขับไล่ริชเชลลิอาร์ลออกไปจากระบบดาวกันแล้ว ซึ่งพวกเราเองก็แปลกใจกันไม่น้อยเลยน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ส่วนหนึ่งเพราะ ริชเชลลิอาร์ลมีขุมกำลังมากกว่าฝ่ายภักดีกันอย่างมากเลยสิน่ะ"
              "ไม่เพียงแค่กองยานที่อยู่รั้งท้ายที่มีเยอะกว่าฝ่ายแม่ทัพอาวเซนถึง 3 เท่าตัว ริชเชลลิอาร์ลยังมีเหล่าอัศวินเทวดาที่มีจำนวนเยอะกว่ากันอีกด้วย ซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่ๆที่สไปค์กับเหล่าอัศวินกางเขนขาวและพวกทรอยอาร์ของอาวเซนจะฝ่ากองรบเข้าไปที่ดาว แล้วบุกเข้าช่วยองค์ราชาจนบีบให้ริชเชลลิอาร์ลต้องโกยแน่บไปที่อื่น ที่มิใช่เขตอวกาศภาคเหนือของพวกเฮซเทิร์ซกันได้น่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              แอนเดรียบอก "แถมคุณคูลิแนนซ์เองก็ไม่ได้บอกเรากันอีกด้วย คงจะเพราะมีเหตุผลที่สำคัญมากแน่ๆเลยละคะ"
              "ใช่ เพราะเราคุยเรื่องสแมคบอล แต่ดันออกนอกประเด็นไปหาพวกทรอยอาร์กันแล้วน่ะ" เจเนลบอก "ปีแรกที่พวกเรากับกองกำลังหลังฉากลงสู่สนามเพื่อแข่งกับฝ่ายสมาพันธ์อวกาศและพันธมิตรมนุษย์ โดยมีตัวเต็งอย่างพวกยูเนี่ยนพีช แถมด้วยแขกไม่ได้รับเชิญอย่างพวกอัศวินทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธกันด้วย ซึ่งพวกเราได้แค่ถ้วยรองชนะเลิศ จากการที่เราแพ้ยูเนี่ยนพีชเพียงแค่ 2 คะแนนกัน โดยที่กองกำลังหลังฉาก ตกรอบ 4 ทีมสุดท้ายไปได้น่ะ"
              คลอเวฟบอก "ต่อมาพวกเราก็พยายามฝึกซ้อมกัน หลังจากที่เอาเวลาหมดไปกับการเล่นมุขตลกกับเกมส์วิ่งไล่จับกัน แน่นอน ว่าในปีที่สอง เราได้ถ้วยที่สาม ยูเนี่ยนพีชได้รองชนะเลิศ ส่วนกองกำลังหลังฉาก โดยเฉพาะไอ้สามเกรียน โอ้อวดกันยกใหญ่หลังจากที่พวกเขาได้แชมป์มาครองกันน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "นั้นบ่งบอกได้ว่า ทั้งพวกเฟรดและพวกน็อกกี้ตอนอยู่มหาวิทยาลัย รวมถึงนิคและรีฟที่ถูกส่งไปดูแลแมนิเกเตอร์จากคูลดาลนัสเอง ก็ฝึกซ้อมทางร่างกายไปพร้อมกับการเรียนและการทำงานด้วยน่ะ"
              "แต่อย่างน้อย ปีที่สามนี้ เราก็ได้ชัยชนะมาแล้วนิน่า จากความพยายามของพวกเรากัน แม้ว่ากองกำลังหลังฉากขอถอนตัวไปก่อน จนกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ได้รองชนะเลิศเหนือพวกยูเนี่ยนพีชกันน่ะ" จิลบอก
              คลอเวฟบอก "มันก็จริงอยู่น่ะ ที่พวกเราได้แชมป์เป็นหนที่สองกัน แต่....พอไม่มีไอ้ปากดีลิคเตอร์และพวกให้โดนเยาะเย้ยถากถางกันนี้สิ"

              "นั้นก็ดีกว่า ให้พวกทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธครองแชมป์กลับไปได้ละน่า เพราะทั้งสองฝ่ายไม่ได้แค่ส่งคนมาลงแข่งแค่สแมคบอลกันอย่างเดียวน่ะ" แอบไบออสบอก
              พีวิลพยักหน้า "ศึกประลองราชันย์ยอดนักสู้แห่งจักรวาลในสามปีที่ผ่านมานี้ ทั้งพวกเราและพวกกองกำลังหลังฉากก็ต้องเข้าร่วมอีก ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกทรอยอาร์และพวกสเตรดาร์ธเข้าร่วมการประลองกันด้วย ซึ่ง....เราก็รู้ดี ว่าทุกปี องค์ชายสามจาฟฟาร์ลแห่งสเตรดาร์ธและเหล่านักรบตัวเอ้ของเขาเอง เข้าร่วมการประลองพร้อมกันกับเหล่านักรบจากเผ่าย่อยๆในสังกัดของจาฟฟาร์ลกัน จนกลายเป็นสาเหตุในการดึงพวกทรอยอาร์เข้าร่วมกันด้วยน่ะ"
              "ในช่วงปีแรกหลังศึกเดลอาเนี่ยนจบลง เราต้องแบ่งออกเป็นห้าทีม นั้นคือทีมสามทหารเสือ ซึ่งมีฉัน มาสวาร์ทาร์ และพีวิล ทีมสามสาว อันมีสเปียริทเป็นหัวหน้า แอนเดรียและลิเนียร์ตี้เป็นลูกทีม ตามด้วยทริปเปิ้ลแดนเจอร์ทีม ซึ่งมีคลอเวฟ แอบไบออสและพลัสเชอริท ตามด้วยเจเนไซด์ทีมของเจเนล และทีม 4 คนเพียง 1 ทีม นั้นคือทีมนำร่องของสเตฟอร์ดกับฟิเกซกัน เพราะตามกฎแล้ว ทีมต่อสู้สามารถมีลูกทีมได้ 3-5 รายต่อทีม โดยส่งลงสนามได้สามรายสู้กัน ส่วนอีกสองนั้นเป็นตัวช่วยกันไว้น่ะ" เนคมาดูซัมบอก "แน่นอน ว่า 3 ปีที่ผ่านมา เราเจอพวกอัศวินทรอยอาร์ที่ลงแข่งเป็นชุดแรกๆ เพื่อหวังจะชนะเราและจาฟฟาร์ลกัน แต่ก็ตกรอบคัดเลือก 32 ทีมกันทั้ง 3 ทีม ส่วนพวกจาฟฟาร์ล แพ้ในรอบ 16 ทีมกันทั้ง 2 ทีม จนพวกเราเป็นฝ่ายชนะเหนือเจเนไซด์ทีมด้วยกันน่ะ"
              เจเนลบอก "แน่ละ เพราะฉันคิดว่านายคงจะแพ้ฉัน จากเรื่องของพวกบรอนเซอรูทกันได้น่ะ" พอเจเนลพูดจบ ทุกๆคนก็มีสีหน้าเศร้าสร้อยลง
              "ฉันรู้ดีแล้วน่ะ ว่าพวกบรอนเซอรูทเอง ถ้าพวกเขารอดไปได้ พวกเขาก็เข้าร่วมการประลองกันแน่นอนเลยน่ะ" พีวิลบอก "พอพวกเขาไม่อยู่ ฉันเลยต้องพยายามเต็มที่ในส่วนของเขาไปด้วย ซึ่งบรอนเซอรูทบอกให้ฉันเข้มแข็งในส่วนของเขาไว้ แม้ว่านั้นจะ...."
              ลิเนียร์ตี้บอก "ไม่ใช่นายเพียงตนเดียวหรอกน่ะ ที่เสียใจกับการจากไปของพวกบรอนเซอรูทกัน เพราะพวกเราเองก็รู้สึกเสียใจด้วยกันมาตลอด 3 ปีนี้แหละ"
              "แน่นอน ว่าถ้าพวกบรอนเซอรูทยังอยู่ หมอนั้นคงไม่ดีใจหรอกน่ะ ที่เห็นนายซึมเศร้าแบบนี้กันได้น่ะ" คลอเวฟบอก
              เจเนลกล่าว "นั้นสิ พีท เพราะงั้นแหละ ลูกพี่และอาเจ้เลยฝากให้ฉันช่วยเตือนสตินายกันไว้เสมอๆ เพราะกลัวว่านายอาจจะ...."
              "ฉันขอบใจในความหวังดีของนายและของพวกเรากันด้วยน่ะ ถึงแม้ว่าเราต้องอยู่โดยแบกรับบาดแผลจากผู้ที่จากไปกันก็ตาม เราก็ต้องก้าวเดินต่อไปได้กันนี้แหละ" พีวิลบอก

              พลัสเชอริทบอก "งั้นเรากลับเข้าประเด็นหลักเลยดีกว่าน่ะ แม้ว่าครั้งแรกพวกเราชนะ โดยที่กองกำลังหลังฉากสละสิทธิ์เพราะอ่อนแรงจากการต่อสู้ ทำให้ทีมของฉันต้องเจอกับทีมของนายก่อน ส่วนเจเนไซด์ทีมก็ไม่ได้ปะมือกับพวกหน่วยรบวิหคกันเลยน่ะ"
              "แม้เราจะได้ตำแหน่งแชมป์มาเป็นครั้งแรก แต่ครั้งที่สองและสามนี้สิ" สเปียริทบอก "เพราะไม่เพียงจาฟฟาร์ลยังไม่เลิกล้มความตั้งใจกันอีก จนฝั่งทรอยอาร์ต้องส่งพวกอัศวินกางเขนขาวพร้อมกับ ทีมสิงห์มังกรปักษีลงสนามกันไปด้วยน่ะ"
              เนคมาดูซัมบอก "ทีมนั้นนำโดยบาวเซน ผู้นำกลุ่มอัศวินราชสีห์เขี้ยวทอง ลูกชายของแม่ทัพอาวเซน เป็นหัวหน้าทีมพร้อมกับพี่น้องบาลานซ์และโคลานซ์กัน ซึ่งพวกเฟรดและพวกน็อกกี้ยังรักษาตำแหน่งแชมป์ไว้ แม้จะมีรายหนึ่งในทีมของสไปค์เอาคืนได้เป็นผลสำเร็จกันน่ะ"
              "ไอ้บ้าฮีธ เรย์เดอร์มันล้มนาเดีย ออโต้กันจนชนะไม่ว่า มันยังบุกมาเอาเรื่องซ้ำกันอีกจนร้อนถึงพวกเราและพวกสไปค์แยกออกมา ก่อนที่กรรมการจะปรับให้ฮีธแพ้ฟาลว์ไปเสียเองน่ะ" แอบไบออสบอก "ส่วนทีมสติลลิมบ์ พอสู้เอาชนะพวกลูกน้องจาฟฟาร์ลลง ก็ต้องมาแพ้พวกบาวเซนกันอีก ทำให้ทีมวูเซียทที่ชนะพวกสเตรดาร์ธมาเอาคืนลงได้ในเวลาต่อมาเลยน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "ส่วนพวกเรานั้น....ก็เจอกับกลุ่มนักสู้แปลกหน้าทั้ง 4 รายกันด้วย ซึ่งพวกเขาก็เก่งเอาเรื่องเลยน่ะ"
              "หมายถึง ไอ้ตัวหัวกระบอกหน้าขาว ไอ้มนุษย์เหล็กผิวสีสนิมขึ้นทั้งตัวและสวมแว่นตลอดเวลา ไอ้มนุษย์หัวแหลมที่มีผิวแวววาวเหมือนยัยบื้อ แล้วก็ไอ้หัวยางยืดนั้นใช่มั้ยละ" คลอเวฟกล่าว พลัสเชอริทพยักหน้าและบอก "พวกเขาเรียกตนเองว่ารีไซคอนทีม ซึ่งพวกเขาอ้างตนเองว่าเป็นชนเผ่าต่างดาวกลุ่มหนึ่ง เข้าร่วมการประลองกับเหล่านักสู้และนักรบของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศกัน แน่นอน ว่าพวกเขาอยู่คนละสายกับฝั่งที่มีทรอยอาร์และสเตรดาร์ธเข้าร่วมกันน่ะ"
              "และพวกนี้ก็ชนะพวกเรากันในการประลองครั้งที่สองกัน ซึ่งพวกเขาเองก็ทึ่งกับพลังและความสามารถของพวกเรา แม้ว่าพวกเราจะมีเวลาฝึกซ้อมน้อยกันก็ตามน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก "แต่ ครั้งที่สามนั้น ทำให้พวกเราตื่นตระหนกไม่น้อย ในตัวสปอนเซอร์ลึกลับที่ให้การสนับสนุนการประลองครั้งนี้ไว้น่ะ"
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ใช่ พวกเราทราบมาจากแม่ทัพไซบัลจ์ว่า สปอนเซอร์ผู้นั้นเรียกชื่อตนเองว่า คิโคเดน กันนะสิ"

              "หมายถึงองค์ราชทายาทของแรซัลก้าที่หายสาปสูญกันละสิคะ" แอนเดรียบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "เพราะว่าแม่ทัพไซบัลจ์เคยได้ยินชื่อของคิโคเดนขึ้นมา จากการที่เขาได้ข้อมูลของไซมาเทน เทพแห่งสงครามจากแรซัลก้าผู้นำกองรบจักรวรรดิ์แรซัลก้ารุกรานเขตอวกาศในช่วงมหาสงครามกัน จนรู้ว่าคิโคเดนเกี่ยวข้องกับไซมาเทนกันแน่นอน การประลองครั้งที่สามของพวกเราและกองกำลังหลังฉาก เลยกลายเป็นการปฏิบัติการณ์ลับ ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อที่จะเข้าใกล้ตัวคิโคเดน ว่าเป็นตามที่ทางเราสงสัยกันหรือเปล่า และเกี่ยวข้องกับชัยชนะของทรอยอาร์ฝ่ายภักดีกันหรือไม่น่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ การที่สไปค์และพวกแม่ทัพอาวเซนชนะริชเชลลิอาร์ลได้ คงมาจากความช่วยเหลือของคิโคเดนเลยสิน่ะ" จายด์บอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้าแล้วก็เล่าต่อ "ไม่ใช่แค่ฉันกับเผ่าแกตไทซ์ ฟิเกซและเผ่าควอเดี่ยม เหล่าแมนิเกเตอร์ในแรซัลก้าที่ยังอยู่ในดาวและอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสหพันธมิตร รวมถึงพวกทรอยอาร์ ที่รู้จักกับคิโคเดนแค่ชื่อ แต่รู้ถึงความแข็งแกร่งไร้เทียมทานขององค์ราชทายาทผู้สืบราชบัลลังก์ต่อจากโอเวอร์เรสกันเป็นอย่างดี เพราะขนาดพวกเฮซเทิร์ซยังราบคาบด้วยน้ำมือของคิโคเดนได้ มีหรือ ที่ริชเชลลิอาร์ลจะไม่เผ่นออกไปนอกดาวแล้วไม่กลับมาอีกเลยกันน่ะ"
              "แต่ ไอ้คิโคเดนที่นายและพวกเราสงสัยกันนิ มันเป็นแค่ตัวปลอมที่โดนเล่นงานซะยับเยิ่นกันแล้วมิใช่หรือวะ" คลอเวฟบอก
              เนคมาดูซัมบอก "แม้จะเป็นตัวปลอม เพราะตัวจริงจะไม่โดนซ้อมจนดับอนาจเหมือนหมาข้างถนนกัน แต่จากที่เห็นสภาพของตัวปลอมกันนั้น บ่งบอกได้เลยว่า ตัวปลอมคงเป็นแค่เหยื่อล่อให้ตัวจริงโผล่หัวมา เพราะคิโคเดน ไม่เพียงออกกฎอสมมุติเทพเพื่อมิให้พวกแมนิเกเตอร์ในแรซัลก้าทำตัวเสมอตนและบิดรเทพกับมารดรเทพ รวมถึงพวกแอบอ้างตนเป็นตัวแทนแห่งเทพอย่างริชเชลลิอาร์ลกัน ราชทายาทเทพเองไม่โปรดอย่างมากกับการมีแมนิเกเตอร์แต่งองค์ล้อเลียนตนเอง ซึ่งก็ไม่แปลกหรอก เพราะพวกที่ทำแบบนี้ ถ้าไม่โดนองครักษ์ของคิโคเดนลงโทษสถานหนัก....ก็ต้องเป็นฝีมือราชทายาทเทพเองนี้แหละ"
              "แม้ว่าจะมีเรื่องสปอนเซอร์ที่เดี้ยงไปแล้ว แต่การประลองก็ยังดำเนินต่อไปเลยสิน่ะ" เจเนลบอก
              พีวิลบอก "หลังจากเรื่องนั้นจบลง พวกทรอยอาร์ทั้งสองทีมก็สละสิทธิ์เอาดื้อๆ ในขณะที่จาฟฟาร์ลและสเตรดาร์ธเองก็ขอถอนตัว เพราะมีเรื่องที่ต้องไปเคลียร์ ส่งผลให้ทั้งสองกลุ่มถูกสั่งแบนห้ามลงสนามไปโดยปริยาย พวกเราที่เหลืออยู่กับกลุ่มแข่งขันที่เหลือนั้น ต้องลงแข่งต่อจนต้องแพ้ทีมรีไซคัลอีกเช่นเคยนะสิ"
              "ใช่ แม้เรื่องการประลองนี้มันจบลงแบบมีบางอย่างที่ค้างคาใจกันก็ตาม พวกเราก็ไม่อยู่ในฐานะที่ทำอะไรได้กันอยู่ดีนี้แหละ" เนคมาดูซัมกล่าว "แน่นอน ว่าพวกเราไม่เพียงต้องออกปฏิบัติการณ์พร้อมกับชนเผ่าต้นสังกัดกัน พวกเราเองก็ต้องไปเป็นวิทยากรให้กับกองกำลังอื่นๆในดาวดวงนี้ แม้กระทั่ง มาเพื่อฝึกฝนพวกเด็กเกและเกรียนเหล่านี้ด้วยน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกเขายังไม่รู้เลยว่า การเป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังของเรานั้น ต้องเจออะไรที่หนักหนายิ่งกว่าการต่อสู้กับภัยคุกคามที่อันตรายยิ่งกว่า ยิ่งในช่วงนี้ พวกเฮซเทิร์ซโผล่มาที่เขตอวกาศฝั่งเรา จนต้องลำบากกองกำลังพิทักษ์อวกาศของชนเผ่าดาวฤกษ์ และกรมตำรวจอวกาศให้เข้ามาจัดการกันเอง แน่นอน ว่าพวกมันก็มาหาเรื่องกับพวกเรากันด้วยน่ะ"
              "พวกมันร้ายกาจยิ่งกว่าตอนที่เจอในยุทธการโฟรเดริม-4 กัน แม้ว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนโอเดลอาเนี่ยนไม่ได้ส่งกองรบมารุกรานพวกเรา อันเนื่องมาจากกลุ่มชนเผ่าหลักฟอร์มกลุ่มไตรภาคีทำสงครามภายในกันเอง ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยออกจากเขตอวกาศฝั่งตะวันออกเข้ามาที่เขตอวกาศฝั่งสมาพันธ์กันทั้งนั้นน่ะ" เนคมาดูซัมเล่า "และนั้นต้องลำบากพวกนายและชนเผ่าอื่นกันด้วยน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "พวกเราไม่ลำบากกันหรอกน่ะ เพราะว่าพวกเรามีคติที่ว่าปัญหาของนายก็คือของพวกเรากันด้วย ซึ่งพวกเรายึดถือแนวทางนี้มาตลอด 3 ปี จนพวกเราผ่านเรื่องแย่ๆกันไว้ด้วยน่ะ"
              "แต่ตอนนี้ เราคงต้องทำให้พวกเด็กๆทั้งหลายผิดหวังกันเสียแล้วละ เพราะพวกเราเห็นว่า พวกเขายังไม่พร้อมที่จะรับภาระอันใหญ่ยิ่งแบบที่พวกเราทำกันอยู่เลยน่ะ" พีวิลบอก เนคมาดูซัมพยักหน้า แล้วก็หยิบป้ายโปสเตอร์มา
              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกเขาควรจะมีอนาคตที่ดีกว่าโด่งดังด้วยการอยู่ในกองทัพ ซึ่งสำหรับพวกเรา มันไม่ใช่เรื่องสนุกและตื่นเต้นอย่างที่พวกเขาคิดไว้กันน่ะ"

              "อะไรกันเนี้ย นี้มันไม่จริงใช่มั้ยละ" เหล่าเด็กแสบทั้งหลายที่กลับจากการฝึกมาดูป้ายประกาศที่สรุปผล ซึ่งพวกเนคมาดูซัมติดป้ายบอกไปว่า "ทางเราไม่มีความตั้งใจจะคัดเลือกทุกๆคนให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรากันแต่แรก ฉะนั้น พวกเธอทั้งหมดควรจะยอมรับในการตัดสินใจของพวกเรากันไว้ เพื่อตัวพวกเธอทั้งหมดเอง จากกองกำลังไทรเวเซอร์"
              "ได้ไงน่ะ พวกเขาปฏิเสธพวกเรากันนะหรือ ในเมื่อพวกเราแสดงความสามารถให้พวกเขาเห็นกันแล้วนิ" แมนิเกเตอร์วัยรุ่นซัลคาเลี่ยนบ่น
              อีกรายที่เป็นเทรอมกล่าว "ทั้งหมดมันความผิดของพวกนายเองต่างหากละ ที่ทำให้พวกกองกำลังหัวหอกปฏิเสธพวกเรากันน่ะ"
              "เออ แต่ในประกาศระบุพวกเราทั้งหมดเลยน่ะ" แมนิเกเตอร์วัยรุ่นหญิงสวมแว่นจากแคเมรูนกล่าว
              วัยรุ่นหญิงลิมฟ่าซัลคาเลี่ยนกล่าว "นี้แปลว่าพวกเราไม่มีคุณสมบัติด้วยละสิ งั้นคงต้องหาวิธีอื่นแล้วละ"
              "เกรงว่า พวกเขาดักทางไว้ด้วยนะสิ" แมนิเกเตอร์อเมริกาแอฟริกันกล่าวโดยชี้มายังข้อความเล็กๆที่เขียนต่อท้ายว่า "ถ้าพวกเรารู้ว่าพวกเธอหาทางลัดด้วยการไปเป็นแมนิเกเตอร์ต้นสังกัดกันละก็ พวกเธอคงไม่สนุกแน่ๆกับการที่ต้องสูญเสียชีวิตวัยรุ่นไป เพียงเพื่อจะเป็นเหมือนกับพวกเรากัน ซึ่งพวกเราไม่ยอมให้พวกเธอทำเช่นนั้นแน่นอน หรือต่อให้เอาพ่อแม่วางเงินมากองไว้ พวกเราก็ยังยืนยันคำเดิมอยู่ดี"
              "กองกำลังหัวหอกดักทางแบบนี้ มันน่าโมโหกันจริงๆน่ะ" แมนิเกเตอร์ซัลคาเลี่ยนหัวตั้งสีแดงสบถ แล้วก็รีบเดินพาพวกพ้องออกไป
              "ลูกพี่ดาธาล ว่าแต่ พวกพี่จะไปไหนกันน่ะ" ลูกน้องที่สวมแว่นหนาเตอะถาม
              "ถามได้ ฉันจะออกนอกค่ายไปเข้าเมืองกันสักหน่อยน่ะ" ดาธาลสบถ แล้วก็พาพวกพ้องออกไป เว้นแต่ลูกน้องที่สวมแว่นหนาเตอะซึ่งเดินถอยหลังไป "ถ้านายกลัวก็กลับไปได้เลย แต่ถ้ารู้ว่านายฟ้องพวกไทรเวเซอร์ละก็ นายโดนยำตรีนแน่" ว่าแล้วดาธาลเดินพาพวกออกไป
              เช่นเดียวกับ "ไม่กลัวว่าพวกพี่เฮเรเค้นจะตามเจอเลยหรือ เพราะพวกเขาล้วนเป็นศิษย์ของคาตานะลอร์ดที่แสบเอาเรื่องเลยน่ะ ฮวางจอน" วัยรุ่นหญิงชาวจีนถามตัวหัวหน้าที่เป็นวัยรุ่นหนุ่มชาวเกาหลีไว้ผมตั้ง ซึ่งพาพวกพ้องชายหญิงออกไปอีกทางกัน
              "ช่างประไรสิ แค่เราไปโดยที่พวกเขาไม่เห็นก็เกินพอแล้วน่า" ฮวางจอนบอก "ถ้าเธอกับใครในกลุ่มกลัว ก็ไปให้พ้นๆหน้าเลยไป และอย่าบอกกับพวกไทรเวเซอร์วะ ไม่งั้น น่าดู" แล้วก็พาพวกส่วนมากไป ทิ้งให้ส่วนที่ยังกลัวอยู่กับแมนิเกเตอร์หญิงจีนไว้
              ซึ่งก็.... "กะแล้วว่ามันต้องมีพวกดื้อด้านจนได้สิน่า" คลอเวฟกล่าวหลังจากที่พวกเฮเรเค้นมาแจ้งเตือน หลังจากที่ลูกน้องแว่นหนาเตอะและสาวหมวยกลับมาที่ค่ายเพื่อแจ้งเรื่องกัน
              "หัวหน้าค่าย ว่าแต่ระบบกล้องวงจรปิดยังทำงานอยู่หรือเปล่าละครับ" พีวิลบอกกับหัวหน้าค่าย ซึ่งพามายังห้องควบคุมกล้องวงจรปิดพร้อมสเปียริทกัน
    หัวหน้าค่ายบอก "โชคดีมากที่พวกเราติดตั้งระบบเพดูน่าซิสเทมเอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งระบบนี้ดีมากๆในการดักจับพวกพ่อค้าเร่ที่ลอบเข้ามาขายของในค่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตกันน่ะ" โดยจับภาพของพวกดาธาลที่พาพวกข้ามปีนข้ามรั้วออกนอกค่ายเข้าป่าไป เช่นเดียวกับ "โอ้ว นี้ยังเหลืออีกหลุมเลยหรือ นึกว่ากลบหมดแล้วเสียอีกน่ะ" หัวหน้าค่ายกล่าวอย่างหงุดหงิด เมื่อเห็นฮวางจอนพาพวกคลานลอดใต้รั้วผ่านหลุมที่ขุดอยู่หลังพุ่มไม้เอาไว้
              "สงสัยว่าคุณต้องตำหนิลูกน้องกันหน่อยแล้วนะคะ" สเปียริทบอก
              หัวหน้าค่ายกล่าวอย่างกังวลมากๆเมื่อเห็นพวกเด็กๆเข้าป่าไป "แบบนี้ไม่ดีแล้วละ เขตป่าฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือมันลึกมาก ถึงขั้นที่ทหารเข้าไปยังหลงทาง จนต้องให้หน่วยกู้ภัยและทีมลาดตระเวนใกล้เคียงออกตามหาทางภาคอากาศกันด้วย" แล้วก็ส่ายหน้า "อีกอย่าง เรารู้ว่าขอบเขตของระบบใหม่นี้ มันได้แค่ 4 เมตรจากรั้วเท่านั้น ซึ่งผมคงให้พวกคุณหลงทางไม่ได้เลยนะครับ"
              "อย่าห่วงไปเลยครับ เพราะเรามีทางแก้ในเคสนี้อยู่แล้วละ" พีวิลบอกแล้วก็ "แกร็ก" สบัดแขนซ้ายเพื่อนำคอมแพดออกมา "แอมเบอร์ ติดตามเป้าหมายรหัสเหล่านี้ที่เข้าป่าฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือจากค่ายนี้ให้หน่อยน่ะ"
              แอมเบอร์แจ้งบอก "รับทราบแล้วละคะ" แล้วก็ปรากฎแผนที่ภายในป่า ซึ่งมีจุดสัญญาณของพวกดาธาลและฮวางจอนปรากฎขึ้นในเขตป่ากัน โดยส่งข้อมูลเข้าจอมอนิเตอร์ให้
              "ดีเลย เพราะอย่างน้อยผมจะได้ส่งทีมค้นหาไปตามตัวได้ถูกหน่อยน่ะ" หัวหน้าค่ายบอก แต่ทว่า... "ตี้ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ภายในแผนที่เขตป่าฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ปรากฎจุดสีแดงขึ้นมาอยู่กลางป่ากัน โดยมีกรอบรอบ และสี่เหลี่ยมและวงกลมสามสี่อันปรากฎอยู่ข้างในกรอบด้วย
              สเปียริทบอก "เกรงว่า ต้องเป็นหน้าที่ของพวกเราแล้วละคะ คุณรีบแจ้งผบ.บัลโต้ส่งกำลังมาช่วยโดยด่วนเลย"

              "ลูกพี่ๆ เราเจออะไรบางอย่างกันด้วยน่ะ" ลูกน้องของฮวางจอนเห็นบางอย่างอยู่ในป่ากัน ซึ่งก็เห็นเหล่ามนุษย์สวมเกราะสีดำสลับสีเหลืองส้ม ถือปืนกระบอกหนาสี่ลำกล้องจำนวน 4 ตน เดินมาพร้อมกับมนุษย์ต่างดาวตัวผอมผิวสีเงินมีเกล็ดสีขาวติดตามตัว สวมหมวกปิดหน้า สวมเกราะสีเงินมีกระโปรงแถบสีฟ้าจำนวน 5 ตน และมนุษย์ต่างดาวสวมเกราะสีน้ำเงินมีลวดลายสีส้มตรงขาและตามตัวเข้ากับหมวกสีเงินจำนวน 4 ตนเดินผ่านมา
              ลูกน้องผมทรงเกาหลีกล่าว "หน้าตาพวกมันไม่เหมือนเดลอาเนี่ยนเลยนะเนี้ย"
              "ยังไงก็ช่าง พวกเราจะบุกเข้าไปจัดการกับมันจากข้างหลังกันโต้งๆนี้แหละ" ฮวางจอนกล่าว
              ลูกน้องรายแรกบอก "พวกมันมีปืนกันนะ ลูกพี่ ท่อนไม้ที่เราคว้าหยิบมาคงจะน็อกพวกมันได้หรอกน่ะ"
              "อย่างน้อยเราก็ต้องได้หน้ามากกว่าไอ้ดาธาลนั้นละว้า" ฮวางจอนบอก
               ในขณะที่พวกดาธาลเองก็.... "ไม่ไหวน่ะ ลูกพี่ พวกมันมีอาวุธปืนกันครบมือเช่นนี้ เรารีบกลับไปให้พวกไทรเวเซอร์มาช่วยดีกว่า" เจอกลุ่มผู้ไม่หวังดีชุดเดียวกันอยู่ด้วย
              "จะกลัวไปทำไม พวกเรารีบทุบหัวพวกมันโดยเร็วซะ พวกมันก็ไม่...." ดาธาลบอก
              ไม่ทันไรก็ "ฟึบบบ" ทหารชุดเกราะสีดำสีทองหันปืนมา "ตุ้งๆๆๆ" หันปืนสี่ลำกล้องกระหน่ำยิงกระสุนพลังเข้า "ป้ากๆๆๆ ตรูมมมม" จนเป่าเนินดินที่ดาธาลและพวกอยู่จนกระจุยไป
              "....ตายละ นี้มันเล่นแรงไปแล้วหรือเนี้ย" ดาธาลอุทานลั่น "ฟึ่บๆๆๆๆ" ทหารตัวผอมผิวสีเงินบุกเข้ามาโดยจ่อปืนยาวทรงกระบอกกลมสีเงินใส่พวกดาธาลกัน           "พวกแกเห็นพวกเราแล้วสิน่ะ" ทหารตัวผอมสีเงินกล่าว
              "รีบจับพวกมันเข้าไปในค่ายโดยเร็วเลย" จ่าฝูงทหารเกราะสีน้ำเงินตะโกนลั่น เพื่อให้ทหารนำตัวพวกดาธาลมา
              ในเวลาเดียวกันกับ "ฟึ่บบบ" ทหารเกราะสีน้ำเงินหันปืนกระบอกทรงกลมมา "แชดดดด เปรี้ยงงงง" ยิงลำแสงสีส้มใส่ต้นไม้ที่อยู่ใกล้กับพวกฮวางจอนจนเป็นรูไหม้ทะลุ แล้วก็ล้มหักลงมา "เฮ้ย" ฮวางจอนกับพวกอุทานลั่นเพราะส่วนต้นไม้ล้มลงมา "เรารีบหนีโดยเร็วเถอะ ลูกพี่" ลูกน้องของฮวางจอนบอก
              "เรื่องอะไรจะหนีกันเล่า ในเมื่อเรามีอาวุธกันอยู่...." ฮวางจอนกล่าวโดยชูกิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่เก็บมา "แชดดดด ป้ากกกก" แต่ทหารเกราะสีน้ำเงินยิงใส่กิ่งไม้จนกุดหายไปเกือบหมด "แชดๆๆๆ" พวกทหารผิวสีเงินหันปืนมายิงลำแสงลงพื้นจนพื้นหญ้าและก้อนหินกลายเป็นน้ำแข็งอย่างฉับพลัน
              "พวกสู่รู้อย่างพวกแกสมควรจะถูกดับชีพกันแล้วละ" ทหารผิวสีเงินกล่าวโดยที่จ่อปืนมายังพวกฮวางจอนกัน
              "พวกแกคงไม่ใช่พวกเดลอาเนี่ยนกันละสิน่ะ" ฮวางจอนกล่าวอย่างหวาดกลัวขึ้นมา
              ทหารจ่าฝูงเกราะสีดำทองบอก "พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกฝั่งตะวันออกกันหรอก และพวกแกทั้งหมดนี้...." แล้วก็จ่อปืนใส่พวกฮวางจอน "....จะได้ตายไปพร้อมกับพวกพ้องของแกอีกกลุ่มหนึ่งกันด้วย ฐานมาขัดขวางพวกเรากันน่ะ"
              "อีกกลุ่มนะหรือ" ฮวางจอนกล่าวอย่างตกใจ เพราะรู้ว่าอีกพวกที่ว่ามานี้คือพวกดาธาลกัน
              จ่าฝูงบอก "ใช่ ตอนนี้พวกแกจะไม่มีทางได้รับรู้กันหรอก ว่าพวกเราเป็นใครกันแล้ว" จากนั้นก็ "ฟึ่บ" ชูมือขึ้น เพื่อให้ทหารของตนเตรียมยิงใส่พวกฮวางจอน เช่นเดียวกับพวกดาธาลกันด้วย "ได้เวลาตายกันแล้วละ" จ่าฝูงเกราะสีน้ำเงินเตรียมเหนี่ยวไกเพื่อยิงใส่พวกดาธาลที่กลัวจนตัวสั่นกัน

              "ฟ้าวววววว ป้ากกกกก" ไม่ทันไร จ่าฝูงเกราะสีน้ำเงินถูกขัดจังหวะด้วยบางอย่างที่พุ่งปะทะเข้าที่มือถือปืนมาอย่างแรงและเร็วมาก เช่นเดียวกับ "เปรี้ยงงงงงง" จ่าฝูงเกราะสีดำส้มถูกต่อยจนล้มกองกับพื้น โดยที่ส่วนหน้ากากบุบเป็นรอยสี่เหลี่ยมหยักสี่แถบด้วยกัน "ลุ ลูกพี่ นิ นี้แก....มาได้ไงกันเนี้ย" ลูกน้องที่สวมเกราะสีส้มอุทานลั่น เมื่อได้เห็น พีวิลยืนอยู่ตรงหน้าในท่าเหยียดหมัดซ้าย โดยที่เขาสวมผ้าพันคอสีน้ำเงิน ยืนอยู่ตรงหน้าฮวางจอนและพวกกันอยู่
              "ลุ ลูกพี่ ครูฝึกเกราะสีน้ำเงินมาอยู่ตรงหน้าเราตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ" ลูกน้องผมตั้งกล่าวกับฮวางจอน
              "นั้นแหละ คือการบุกมาอย่างเร็วจนตามองแทบไม่ทัน ของเบรซซิ่งแฮนด์พีวิล บุรุษหมัดเพลิงสีน้ำเงินของอีเนอไมนด์ หนึ่งใน 3 ตัวตั้งตัวตีนำท่านประธานาธิบดีและกองกำลังต่อต้านกำชัยเหนือโอเวอร์เดสบนโลก หนึ่งในสามผู้นำของกองกำลังไทรเวเซอร์ ฮีโร่ของพวกเรากันละ" ฮวางจอนกล่าวอย่างดีใจไม่น้อย เมื่อพีวิลยืนอยู่ตรงหน้า "แม้ว่าเขาจะเจอเรื่องที่ต้องสูญเสียพวกพ้องไปในการรบกับพวกเดลอาเนี่ยนเมื่อ 3 ปีก่อน จนไม่คิดว่าเขาจะสู้ต่อไปได้เลย แต่เขายังเร็วและหมัดแรงกว่าที่คิดไว้กันน่ะ" ฮวางจอนเล่าต่อ
              พีวิลบอก "พวกนายหน้าตาไม่เหมือนพวกเดลอาเนี่ยนกันนิ คงเป็นพวกเฮซเทิร์ซละสินะ"
              "แกคิดว่าพวกเราเป็นพวกเดียวกันกับพวกคนเถื่อนจากทางเหนือละก็ คิดผิดแล้วละ เพราะว่าพวกเรา กลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเน็ต จะมาจัดการกับใครก็ตามที่มาขวางทางพวกเรากันนี้แหละ" ทหารเกราะสีส้มดำบอก "ทหารแฟคมาส เผามันเลย"
              โดยสั่งทหารเกราะสีน้ำเงินถือปืนกระบอกกลมมา "แชดดดด" ยิงลำแสงสีส้มแสดเข้าใส่พีวิล "ฟึ่บบบบบ" ซึ่งชูฝ่ามือขวามา "กึงงงงง" ทำให้ลำแสงสีส้มถูกสยบจนก่อตัวเป็นลูกบอลพลังงานที่แปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน แล้วก็ "เอนเนอจี้โบลท์ รีเวิร์สช็อต" ซัดลูกบอลพลังสีน้ำเงินที่ลุกโชนเข้าใส่พวกเกราะดำสีส้ม "เปรี้ยงงงงง ตรูมมมม" ทะลุท้องไประเบิดข้างหลังอย่างจังๆ "ไม่จริง มันต้านลำแสงพลังแมกม่าที่ยิงใส่ แล้วซัดกลับมาทะลุเกราะของสโตนอลที่แข็งแกร่งที่สุดกันได้เลยหรือ"
    "ถึงไงก็ช่าง ยังไงมันไม่มีทางเล่นงานพวกเรา เหล่าทหารไอซ์ติก้ากันหรอก เจอปืนยาวพลังความเย็นจัดไป...." ทหารผิวสีเงินเตรียมปืนทรงกระบอกเพื่อยิงใส่พีวิล "ฟิ้วๆ เกร้งๆ" แต่กลับถูกบางอย่างปะทะใส่ปืนจนกระเด็นลงพื้น "ปังๆๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นก็มีเสียงปืนดังลั่น "ป้าก แว้งงงง" ทหารผิวสีเงินรีบตบปุ่มสี่เหลี่ยมผืนผ้าบนเกราะให้เรืองแสงขึ้นจนก่อสนามพลังทรงกลมที่กลายเป็นสีขาวขุ่น "ปุ๊ๆๆๆ ปุ๊ๆๆๆ เปรี้ยะๆๆ เพล้งงงง" เข้าป้องกันกระสุนที่ยิงใส่สนามพลังถึง 8 นัดจนสนามพลังแตกกระจุย และทะลุเข้าตัวทหารสองตนที่อยู่ข้างในจนทรุดลง "มันยิงสนามพลังของเราแตกได้ไงกันเนี้ย" ทหารไอซ์ติก้าอุทานลั่น และยิ่งตกใจมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นพลัสเชอริท ลิเนียร์ตี้ และจิลมาสมทบกับพีวิลกัน
              "เกรงว่าบาเรียน้ำแข็งคงจะต้านเดริงเจอร์แมกนั่มที่ดัดแปลงกันไม่ได้แน่นอนน่ะ" พลัสเชอริทบอก
              "พวกเธอรีบออกจากป่าไปเดียวนี้เลย ให้พวกเราจัดการเองดีกว่า" ลิเนียร์ตี้กล่าวโดยถือปืนเดริงเจอร์แมกนั่มเอาไว้ทั้งสองมือ
              ลูกน้องของฮวางจอนบอก "เออ ให้พวกเราดูพวกคุณสู้กันได้มั้ยละ ว่าพวกคุณแจ่มยิ่งกว่าตอนร้องเพลงบนเวทีกัน"

              "ตุ้งๆๆๆ" ทหารสโตนอลชักปืนยิงกระสุนแสงเข้าใส่ "ไซโคบิท" จิลใช้พลังจิตควบคุมแพลทว่าวบินติดปืนแสงพุ่งออกจากเป้หลัง "แว้งง เปร้งๆๆๆ" สร้างโลห์พลังงานเข้าป้องกันกระสุนแสงสี่นัดโดยเร็ว "พวกคุณจะรอดกลับไปรับลายเซ็นดีๆ หรือว่าจะให้ไปรับจากในห้องฉุกเฉินหรือห้องดับจิตกันละคะ รีบไปหาเนคกี้และเนคกัสกันเดียวนี้เลยคะ" ลิเนียร์ตี้บอก ฮวางจอนเลยต้องรีบพาลูกน้องหนีออกไปโดยเร็ว
              ทหารแฟคมาสเลยเอาปืนแสงแมกม่ายิงใส่ "ฟรีซสแปรชเชอร์" จิลใช้แขนปืนข้างซ้ายยิงกระสุนเกล็ดน้ำแข็งเข้า "ป้ากกก ป้ากก ป้ากก แกร็กๆๆๆๆๆ" ใส่พวกแฟคมาส 3 ตนจนถูกแช่แข็งไป แต่ "ซูมมมมมมมม" มีเปลวไฟลุกออกจากส่วนหัวไหล่ด้านบนละลายน้ำแข็งกัน ทหารสโตนอลเลยเตรียมยิงใส่ลิเนียร์ตี้ที่ยิงด้วยเดริงเจอร์แมกนั่มสองกระบอกเข้าใส่ "ฟิ้วววว เกร้งงง" พลัสเชอริทยิงมีดสั้นพุ่งเข้าใส่ทหารสโตนอลจนมีดสั้นกระเด็นออก "เปรี้ยงงงงงง" และเป่าระเบิดไฟฟ้าแรงสูงเข้าใส่ แต่ทหารสโตนอลกลับไม่เป็นไร แม้ปืนจะถูกช็อตจนลัดวงจรไปเลยก็ตาม ทหารไอซ์ติก้า 3 ตนเลยใช้ปืนยาวเพื่อยิงใส่พลัสเชอริท
              "ลิเนียร์ตี้ สลัคเกอร์" ลิเนียร์ตี้รวบใบมีดสามเล่มบนหัวให้กลายเป็นกงจักรและ "ฟ้าวววว ฉั้วะๆๆ" ซัดพุ่งโค้งแฉลบเข้าตรงหมวกของทหารไอซ์ติก้าสามตนจนเสียจังหวะไป "ย้ากกกก" ทหารสโตนอลเลยบุกเข้ามาด้วยมีดสั้นทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่วสีเทาในมือ โดยมีสองตนเตรียมปืนเพื่อยิงใส่
              "อาร์มชู้ตเตอร์" พีวิลยืนแขนสองข้างออกไป "แกร็กๆๆๆๆๆ อี้ดดดด ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งปลอกแขนด้านนอกสามด้านเลื่อนเอาปืนสองลำกล้องที่ซ่อนไว้ออกมากราดยิงใส่ทหารสโตนอลทั้งสอง "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงงงง เปรี้ยงงงงง" ซึ่งกระสุนสะเก็ดอีเนลเซี่ยมขนาดเล็กแต่ยิงมาด้วยความเร็วสูงและต่อเนื่อง ได้เจาะทะลุเกราะหน้าอกของทหารสโตนอลสองรายจนทะลุและแตกกระจุย โดยเผยรอยกระสุนบนหน้าอกของทั้งสองไปด้วย สโตนอลที่เหลือเลยบุกเข้าแทงใส่พีวิล "ฟึ่บบบบบ" ซึ่งโผล่มาตรงหน้าและ "เซเคนด์สไตร์ค" สบัดขาขวาเข้า "เปรี้ยงงง" เตะก้านคอใส่มาอย่างแรงและเร็วจนอัดทหารสโตนอลล้มโดยหมวกเกราะได้กระจุยไป พวกทหารไอซ์ติก้าและแฟคมาสเห็นเช่นนั้นเลยรีบจู่โจม "แชดๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไรก็มีลำแสงยิงมาจากด้านบนและด้านหลังใส่พวกไอซ์ติก้าและแฟคมาสอย่างหนักหน่วง แม้พวกไอซ์ติก้ากางบาเรียป้องกันเอาไว้ "แว้งงงง" จิลโผล่มาตรงหน้าทหารไอซ์ติก้าที่อยู่ในบาเรียทรงกลมและ "ฟึ่บบบ ครี้งงงง" หุบส่วนมือขวาเข้าไปข้างในแขนแล้วมีเข็มแหลมออกมา
              "จีนีดเดิ้ลสไปค์" จิลจ้วงแทงแขนขวาเข้า "หวับบบ จึกกก เพล้งงงงงง" เจาะทำลายบาเรียน้ำแข็งจนแตก แต่ทหารไอซ์ติก้ารีบชักปืนสั้นมา "แชดดด แว้งงงง" แม้จะเหนี่ยวไกยิงใส่ แต่จิลก็หายตัวไป "นี้แน่" และมาโผล่จากข้างหลังพร้อมกับถีบขาคู่เข้ากลางหลังจนล้ม "ฟิ้วๆๆๆๆๆ แว้งงงง แชด ป้างๆๆ" จากนั้นไซโคบิทด้ามยาวบินลงมาต่อกันเป็นกลีบดอกไม้และสร้างโลห์พลังงานป้องกันลำแสงไว้
              "ฟอสโบลท์" ลิเนียร์ตี้ซัดกระสุนพลังพุ่งเข้าใส่ทหารไอซ์ติก้าจนบาเรียแตกกระจุย "ลิเนียร์ตี้คิกกกกก" แล้วก็กระโจนเข้ามา "เปรี้ยงงง" ถีบเข้าใส่หน้าของทหารไอซ์ติก้าจนส่วนหน้าของหมวกบุบคาเท้าไปเต็มๆ "แว้งงงง แชด แชด แชด ป้างๆๆ" แล้วก็รีบใช้โลห์พลังฟอสชิลด์ป้องกันลำแสงแช่แข็งไว้ "ย้า" จากนั้นก็กระโจนเข้ามา "ฟึ่บบบบ" นำปืนกระบอกทรงหกเหลี่ยมสั้นสีแดงที่พาดไว้หลังเอวออกมา "โดรมอนอิมแพคชู้ตเตอร์!!!!" สิ้นคำ ลิเนียร์ตี้ก็ "แกร็ก ตรุ้งงงงง เพล้งงง เปรี้ยงงงง" เหนี่ยวไกจนปากกระบอกปืนเป่าพลังคลื่นอัดกระแทกอันรุนแรงออกไปเป่าบาเรียน้ำแข็งกระจุย พร้อมกับตัวทหารไอซ์ติก้าที่กระเด็นตามแรงยิง โดยเกราะแตกกระจุยและเผยใบหน้าที่อยู่หลังหน้ากาก เป็นมนุษย์มีเขี้ยวติดตรงแก้ม ตาโตแนวเฉียงและมีผมหยักสีขาวบนหัวกัน "ฮึยยยยย" ทหารแฟคมาสเลยรีบหันปืนมา "หวับๆๆๆๆ" พลัสเชอริทเลยพุ่งผ่านตัวเหล่าทหารแฟคมาสทั้งห้าไป "แกผ่านพวกเราแบบนี้ งั้นแกกลายเป็นเหล็กเหลวไปเสียเหอะ" ทหารแฟคมาสกล่าวโดยหันมาเพื่อเล่นงานพลัสเชอริท
              "พวกนายไม่มีทางโต้ตอบอะไรได้ 100 เปอร์เซนต์กันหรอก เพราะพวกนายตายไปแล้วน่ะ" พลัสเชอริทบอก
              ทหารแฟคมาสกล่าว "น่าขัน แกหาว่าเราตายไปอย่างงั้น..." ไม่ทันไรก็ "ฉืบบบบ" หมวกเหล็กหลุดออกจากหัวเผยโฉมหน้าที่เป็นมนุษย์ผิวสีเทาแต่มีเพลิงลุกบนหัว "ฉืบบบบ" ตามด้วยแขนสองข้างที่ขาด "ฉืบบบ ฉืบบบ ฉืบบบบ" รายถัดมาเอวขาด หัวหลุดจากคอ ขาหลุดออกจากเท้าและเข่า ทหารแฟคมาสทั้งห้าขาดหลุดเป็นท่อนๆอย่างพร้อมเพียงกัน
              ".....เหตุผลการตายนั้น คือพวกนายโดนสไตรเดอร์คาตาน่า ซึ่งปล่อยคลื่นความถี่สูงผ่าร่างของพวกนายขาดในจังหวะที่ฉันพุ่งผ่านพวกนายไปนานแล้ว ถ้าพวกนายขยับตัว เท่ากับว่าพวกนายทำให้อวัยวะที่ถูกตัดขาดหลุดออกอย่างง่ายดายในเวลาเพียง 3 วินาทีเท่านั้นแหละ"
              "โอ้ยยย นิพวกแก....คงเป็นศัตรูที่ร้ายกาจของพวกรุกรานจากฝั่งตะวันออกละสิน่ะ พวกแกมันร้ายกาจสมคำเล่าลือกันจริงๆ" ทหารสโตนอลจ่าฝูงที่โดนพีวิลต่อยคว่ำและเตะซ้ำจนหมวกหลุดกล่าว พีวิลเลยชูแขนปืนอาร์มชู้ตเตอร์ข้างซ้ายจ่อตรงหน้า จ่าฝูงกล่าว "แต่ คิดหรือว่าพวกแกจะขัดขวางพวกเราอีกกลุ่มหนึ่งกันได้น่ะ"
              พีวิลยิ้มและบอกไปว่า "ถ้าพวกเราแค่สี่รายอาจจะไปไม่ทัน ก็มิได้หมายความว่า พวกนายอีกกลุ่มจะรอดไปได้หรอกน่ะ"

              "นี้พวกแกเป็นใครกันแน่วะ" จ่าฝูงแฟคมาสที่โดนบางอย่างปะทะใส่โวยลั่น โดยที่วัตถุนั้นปลิวกระเด็นกลับมา "หวับๆๆๆๆๆ หมับ" อยู่ในมือของมาสวาร์ทาร์ ซึ่งเป็นฟักดาบของมาสวาร์ทาร์เบลด ดาบคู่ใจของคาตานะลอร์ดมาสวาร์ทาร์นี้เอง
            "ทะ ไทรเวเซอร์มาช่วยเราแล้วละ" ดาธาลกล่าวอย่างดีใจขึ้นมา เมื่อแอบไบออส แอนเดรียและเจเนลมาสมทบกัน
              "ไทรเวเซอร์นะหรือ พวกแกคงจะเป็นกองกำลังที่เอาชนะพวกศัตรูจากฝั่งตะวันออกกันละสิน่ะ" จ่าฝูงแฟคมาสบอก
              ทหารสโตนอลบอก "แต่ต่อให้แกแกร่งหรือทรงพลังแค่ไหน ก็หาได้เป็นศัตรูกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตอย่างพวกเรากันหรอก"
              "เดธซิลเวอร์พลาเนตนะหรือ ชื่อไม่คุ้นเลยวะ" เจเนลบอก
              แอนเดรียกล่าว "พวกเธอทั้งหมดรีบวิ่งไปหาพวกเฮเรเค้นแล้วออกจากป่าเดียวนี้เลย"
              "ให้พวกเราร่วมสู้กับพวกคุณกันไมได้เลยหรือ" ดาธาลบอก ไม่ทันไร "ตุ้งๆๆๆๆๆ" ทหารสโตนอล 4 ตนกระหน่ำยิงปืนแสงสี่ลำกล้องเข้า "โปรเทคชั่นสเฟียร์" แอนเดรียรีบกางบาเรียพลังงานเพเรเนี่ยมทรงกลมเข้าป้องกันพวกดาธาล "เปร้งๆๆๆๆๆๆๆ" จากกระสุนแสงที่กระทบใส่บาเรียโดยเร็ว "ฟึ่บบบ ครืดด แกร็ก" เจเนลสบัดแขนซ้ายเพื่อหุบมือเข้าไปในแขนที่ดันลำกล้องปืนสีดำออกมา "จีบัสเตอร์" เจเนลใช้มือขวารองแขนซ้ายที่เป็นแขนปืน "ทิ้วๆๆๆ" กระหน่ำยิงกระสุนแสงใส่ทหารสโตนอลจน "ปั้กๆๆๆๆ เปรี้ยงงง" เป่าเกราะแตกกระจุยไป "เรซเซอร์เอดจ์" มาสวาร์ทาร์กำดาบผลึกเขียวให้เรืองแสงสีเขียวและสบัดฟาดคลื่นคมดาบทรงจันทร์เสี้ยวสีเขียวพุ่งไป "ฉับบบบบ" ผ่าร่างสโตนอลขาดครึ่งไป
              "พวกเธอควรจะได้รับการฝึกให้พร้อมก่อน เพราะที่พวกเธอเจอมานี้ อันตรายเกินไปกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วก็ "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้โชลเดอร์บีมกันตรงบ่าสองข้าง "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ระดมยิงทำลายอาวุธปืนของฝ่ายตรงข้ามทิ้งกันหมด
              "วอนหาเรื่องแล้วน่ะ พวกแก งั้นเจอนี้หน่อยสิ" ทหารแฟคมาสนำกระบอกทรงสี่เหลี่ยมสีเทาออกมา "แว้งงงงง" สร้างคมดาบหยักสีแดงส้มออกมา พวกไอซ์ติก้าสบัดกระบอกไฟฉายให้ยาวพร้อมกับ "ครี้งงงงง" สร้างคมหอกสีฟ้าขาวสามแฉกออกมา ส่วนทหารสโตนอลชักดาบทรงสี่เหลี่ยมสีเทาออกมา
              "รีบไปเดียวนี้เลย!!!" แอนเดรียตะโกนพร้อมกับ "ฟึ่บบบ" นำสปีดครอสโบว์กันออกมา "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงลูกดอกอย่างต่อเนื่อง "แว้ง ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทหารไอซ์ติก้ากางบาเรียสีขาวครอบตัวเองจนลูกดอกปักกับบาเรีย แต่ไม่เจาะทะลุเข้าไป "ว้ากกกกก" ทหารแฟคมาสบุกเข้ามาด้วยแมกม่าซอร์ดในมือ "ชาร์จคิก" เจเนลพุ่งมาถีบใส่ทหารแฟคมาสให้ปลิวกระเด็น "ป้ากกกก โครมมม" อัดกับต้นไม้ไปเต็มแรง ทหารไอซ์ติก้าบุกเข้ามาในสภาพที่กางบาเรียป้องกันไว้ โดยที่พวกสโตนอล 4 ตนบุกเข้ามา "เคร้งงงง" มาสวาร์ทาร์เลยวิ่งเข้าฟาดดาบใส่ทหารสโตนอลอย่างทันควัน "เคร้งๆๆๆ" จากนั้นก็เข้าฟาดฟันใส่อีกสามรายที่บุกเข้ามาด้วย "เฮ้ยยยยยย" ทหารแฟคมาสอีก 3 รายหวดดาบแมกม่าใส่แอบไบออสที่หลบหลีกอย่างทันควัน ซึ่งพวกมันหวดดาบอย่างดุเดือด โดยมีไฟลุกจากหัวไหล่ทั้งสองข้างระบุถึงความดุดันและร้อนแรงของฝ่ายตรงข้ามด้วย "ตาย!!!" ทหารแฟคมาสหวดดาบสีแดงที่เรืองแสงขึ้นมา "แคว้กกกก" แต่ต้องชะงักเมื่อเกราะหน้าอกถูกข่วนเป็นแผลสามรอยจากขวาไปซ้าย "หวับ ฉั้วะ" แอบไบออสพุ่งผ่านตัวทหารแฟคมาสที่โดนข่วนโดยมีดาบโค้งเรียวยาวสีขาวอยู่ในมือขวา ซึ่งทหารตนนั้น "ฉูดดดด" ถูกฟันเข้าที่ท้องจนเลือดสาดออก "แป๊ะๆๆๆๆ ฉ่าๆๆๆๆ" กระเด็นลงพื้นจนเกิดไฟลุกขึ้นมา "ฉ่า...." ส่วนดาบโค้งเรียวยาวก็ไฟไหม้ตาม "ระวังตัวสีน้ำเงินด้วย พวกนี้มีลาวาเป็นเลือดกันน่ะ" แอบไบออสบอก โดยรีบโยนดาบกระดูกขาวทิ้งให้มันมอดไหม้โดยเร็ว

              "แน่ละ พวกที่นายปะทะนั้นมันเป็นไทป์หัวร้อนกันนิ แต่ไม่นึกว่ามันจะร้อนถึงเพียงนั้นเลยน่ะ" เจเนลกล่าว โดยตอนนี้ "หวับๆๆๆๆๆ" รีบถอยหลบการจ้วงแทงของพวกไอซ์ติก้าเข้า "ฟลอบบี้ดิสก์คัตเตอร์" แอนเดรียสบัดมือขวาเหนือมือซ้ายซัดพลังแผ่นดิสก์สี่เหลี่ยมจัตุรัสแบนสีส้มต่างดาวกระจายเข้า "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆ" ปักใส่บาเรียของพวกไอซ์ติก้าจนแตกร้าวกัน "เย็นมากใช่มั้ย งั้นละลายลงด้วยนี้เลย เฟรมบลัสต์ ชาร์จช็อต" เจเนลหันจีบัสเตอร์ที่ขยายลำกล้องให้กว้างและ "หึมๆๆๆๆๆๆ ซูมมมมม" ยิงกระสุนเพลิงขนาดใหญ่พุ่งเข้า "ป้ากๆๆๆๆ" ทะลวงบาเรียและตัวทหารไอซ์ติก้าจนไฟครอกกัน โดยสองตนแรกล้มในสภาพตัวดำเป็นตอตะโก อีกสามนั้นบุกเข้าใส่ "ฟ้าววว เปรี้ยงงงง" กระสุนเพลิงขนาดใหญ่พุ่งมาเผาทหารสโตนอลที่เข้ามาเล่นงานมาสวาร์ทาร์จากข้างหลังจนไฟครอกตัวไป
              "คุณเจเนล รีบไปช่วยคุณมาสวาร์ทาร์เดียวนี้เลย ฉันจะจัดการเองคะ" แอนเดรียกล่าวแล้วก็วิ่งเข้าใส่ทหารไอซ์ติก้าที่ถือหอกน้ำแข็งเข้ามา "เกร้งงง เกร้งงงง" จ้วงแทงใส่แอนเดรีย "เซฟการ์ดอาร์มเมอร์ ออน" แต่ไม่เข้าถึงตัวเพราะปลายหอกทิ้มกับเกราะโฮโลแกรมสีส้มที่ปกคลุมรอบตัวแอนเดรียไว้ "ฮึยย ย้า" ทหารไอซ์ติก้าเห็นเช่นนั้นเลยดึงหอกมาเพื่อจ้วงแทงใหม่ "ฟึ่บบบ หมับๆ" แอนเดรียจึงใช้ฝ่ามือสองข้างจับตรงโคนหัวหอกโดยที่หลังมือทั้งสองข้างเรืองแสงสีส้มขึ้น "กร็อบบบบ เปรี้ยงงงง" พร้อมกับบีบโคนหัวหอกให้แหลกคามือไป "ไฮย้า" จากนั้นก็กระชากหอกดึงตัวทหารไอซ์ติก้าเข้ามา "เปรี้ยงงงง" ฟาดฝ่ามืออัดใส่กลางหน้าอกจนเกราะของทหารไอซ์ติก้าทั้งสองแตกกระจุยและกระเด็นปลิวออกไป "หวับบบ กรี้กกกกกกก" ตัวที่สามจ้วงแทงใส่แอนเดรีย ซึ่งเธอสร้างโลห์รอบแขนขวาของเธอบล็อกหัวหอกที่แทงมา แล้วก็ "เปรี้ยงงงง" เตะตัดขาใส่ทหารไอซ์ติก้าล้มลง จากนั้นก็คว้าจับตัวมา "โครมๆๆๆ" ทุ่มฟาดกับพื้นไป 4 ทีก่อนจะ "เมดเดนสแลมโทรว์" เหวี่ยงตัววน 3 รอบและทุ่มเข้า "ป้ากกกก" อัดใส่ทหารแฟคมาสที่เข้าเล่นงานแอบไบออสกันจนล้มลง "ฮึยยยย" ทหารแฟคมาสหวดดาบแมกม่าเข้า "ฉั้วะ" ฟันตัดแขนท่อนล่างข้างขวาของแอบไบออสขาด จนมีรอยผ่าสีแดงดำปรากฎกัน
              "หวับๆๆๆๆ" แอบไบออสเลยรีบเขย่งโดดถอยหลังไป โดยที่แฟคมาสซึ่งถูกทหารไอซ์ติก้าอัดล้มก็พยายามลุก แอบไบออสเหลือบไปเห็นหอกน้ำแข็งอยู่ "หมับบบบ ฉึกกกก ฉ่า....." เลยรีบกระโจนมาใช้แขนซ้ายดึงหอกมาแทงเข้ากลางหลังทหารแฟคมาสจนร่างมีควันขึ้น "ว้ากกกก" ทหารแฟคมาส 3 ตนเลยบุกเข้าใส่แอบไบออส "คลอว์ไบค์คิก" แอบไบออสเลยใช้เบลดทาลอน อุ้งเล็บเท้าสามซี่เข้า "ฉั้วะๆๆ" หมุนตัวเตะใส่หน้ากากของพวกแฟคมาสไปตัวละดอก แล้วก็ "ฉั้วะๆๆ" ใช้หอกน้ำแข็งมาฟาดฟันใส่ทหารแฟคมาสจนเป็นรอยและ "ฉ่า......." ร่างควันขึ้นจากการถูกความเย็นจัดเข้าแทรกอย่างฉับพลัน "โอ๊ะโอ" แอบไบออสอุทานเพราะมือซ้ายถูกแช่แข็ง เนื่องจากหอกได้รับความเสียหายจากการล้มกระแทกมาก่อนหน้าแล้ว "ย้ากกกก" ทหารแฟคมาสตนสุดท้ายวิ่งเข้ามาฟันแขนซ้ายจนขาดลง "ไฟเจอไฟหน่อยเป็นไง" แอบไบออสกล่าวโดยที่ฝ่าเท้าขวาของเขาลุกเป็นไฟสีเขียวแล้วก็ "หวับบบบ" สบัดขาและตวัดใส่ด้วยท่า "อีวิลเฟรมคลอว์ คิก" สาดเพลิงกรดสีเขียวขนาดใหญ่เข้าแผดเผาใส่ทหารแฟคมาสอย่างจังๆ "กะ อะๆๆๆ ว้ากกกกก" ซึ่งก็แผดเผาทหารแฟคมาสให้สลายเป็นตอตะโกในบัดดล
              "พวกแก....ร้ายนักน่ะ" ทหารสโตนอลอีก 2 ตนรีบบุกเข้าใส่มาสวาร์ทาร์อย่างบ้าบิ่น โดยตนหนึ่งบุกมาจากด้านหลัง "เคร้งงงงงง" เจเนลโผล่มาใช้ฝ่ามือ ซึ่งสร้างดาบสีดำขึ้นมาแทนที่รับดาบของฝ่ายตรงข้ามไว้
              "แย่หน่อยนะ ที่ดาบของแกคงไม่คมจนเมทัลเบลดของฉันฟันไม่เข้าหรอก" เจเนลกล่าวแล้วก็ "ป้ากกกก" ถีบตัวทหารสโตนอลถอยพร้อมกับ "หวับ หวับ ฉั้วะๆ" ฟาดฟันใส่หน้าอกประทับแผลกากบาทให้พวกสโตนอล มาสวาร์ทาร์ยิ้มพร้อมกับ "เกร้งๆๆๆ" ฟาดดาบโต้ตอบใส่ทหารสโตนอลอย่างไม่ยั้ง "ว้ากกกกก" ทหารสโตนอลที่โดนเล่นงานก็เงื้อดาบหมายฟันใส่ "ฟ้าวววววว" มาสวาร์ทาร์พุ่งผ่านตัวทหารสโตนอลในท่าถือดาบด้วยมือขวาหันคมไปด้านข้าง "เปรี้ยงงงงง" เกราะหน้าอกแตกกระจุยพร้อมกับเลือดสีฟ้าไหลออกมา "บะ บ้าน่า แกฟันผ่านเกราะเข้าถึงเนื้อหุ้มผิวศิลาได้ไง ในเมื่อดาบของแกมันเป็นผลึกแข็งที่เปราะบางกว่าเกราะที่เสริมแร่ธาตุอันแข็งแกร่งกันน่ะ" ทหารสโตนอลบอกโดยที่ตนยืนค้างไว้
              "มาสวาร์ทาร์เบลดของฉันอาจจะเปราะบาง แต่หากเสริมด้วยจิตวิญญาณอันแน่วแน่ของฉันไปด้วย ไม่มีเกราะไหนที่ฉันฟันไม่เข้าหรอกน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอกโดยกำด้ามดาบ ซึ่งคมดาบที่มีรอยร้าว "แว้งงงง" เรืองแสงลบรอยขีดข่วนและรอยร้าวไปจนหมด
               เจเนลบอก "และพวกนายคิดผิดที่มาหาเรื่องกับพวกเรากันน่ะ" แล้วก็พุ่งเข้ามา "หวับบบ ฉั้วะ" กระโจนฟาดดาบเสยขึ้นใส่ด้านหน้าทหารสโตนอลจนชะงัก โดยที่เจเนลกระโดดข้ามหัวหันหลังมา "ไรซิ่งซันเซตเบรค" ฟาดดาบมือเมทัลเบลดลงมา "ฉับบบบบ" ผ่ากลางหลังลงจน "ฉืบบบบ" ทหารสโตนอลขาดสองท่อนล้มออกด้านข้างไปทันที
              "ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ คุณแอบไบออส" แอนเดรียกล่าว
              แอบไบออสพยักหน้า แล้วก็ "กุกๆๆๆๆๆๆ พรวดดดด พรวดดดดด" รอยแผลตัดตรงแขนทั้งสองข้างเกิดการกระตุกและมีแขนงอกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็สบัดของเหลวที่ปกคลุมแขนใหม่ทั้งสองข้างอยู่ "ดูท่าว่า พวกศัตรูหน้าใหม่นี้ อันตรายกว่าที่คิดแล้วละ" แล้วก็ "ร้อยเอก ฝั่งเธอกับพวกเป็นไงบ้างละ"
              "ทางเราเคลียร์พวกศัตรูพร้อมกับให้พวกเด็กฝึกกลับไปพร้อมกับเนคกี้และเนคกัสกันแล้ว ฝั่งสิบเอกเป็นไงบ้างละครับ" พีวิลบอก
              แอนเดรียบอก "ทางเราก็จัดการไปแล้วละคะ คุณพีวิล พวกเฮเรเค้นพาพวกดาธาลออกจากป่ากันแล้วคะ"
              "แต่....ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามเริ่มจะรู้แล้วว่า เกิดอะไรขึ้นกับหน่วยลาดตระเวนสองกลุ่มนั้นแล้วคะ" แอมเบอร์บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "....เรื่องนั้นเรารู้แล้ว ให้เป็นหน้าที่ของเนคมาดูซัมกับพวกกันดีกว่า"

              "หน่วยลาดตระเวนสองหน่วยขาดการติดต่อไปแล้วละครับ" ทหารแฟคมาสรายงานต่อหัวหน้าหน่วยที่เป็นชาวสโตนอลสีเหลืองส้ม ซึ่งเป็นบุรุษหัวผลึกสีม่วงเข้ม
              "งั้นเริ่มแผนขั้นที่สองกันเดียวนี้ เตรียมส่งหน่วยยานเกราะขนกำลังพลเข้าจู่โจม...." หัวหน้าหน่วยสั่ง
              "แฟ้ววววว ตรูมมมมม" ไม่ทันไรก็มีจรวดพุ่งใส่ประตูค่ายจนระเบิด ตามด้วย "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" ห่ามิไซล์แปดลูกพุ่งเข้าใส่หอสังเกตุการณ์ใกล้กับประตูทั้งสองข้างจนระเบิดไป จนพวกเดธซิลเวอร์พลาเน็ตรีบแห่ออกมา "พะ พวกแกหาพวกเราเจอได้ไง ในเมื่อพวกเราตั้งค่ายโดยที่พวกแกเองก็ไม่รู้เรื่องน่ะ" หัวหน้าหน่วยไอซ์ติก้ากล่าว เมื่อเห็นจายด์ชูแขนซ้ายที่มีควันขึ้น เช่นเดียวกับเนคมาดูซัมมีควันขึ้นตรงหัวไหล่ทั้งสองข้าง โดยเกราะหัวไหล่สองข้างเลื่อนปิดลงโดยเร็ว
    คลอเวฟบอก "พวกมึงไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ว่าหาพวกแกเจอยังไง เพราะพวกเราจะกระทืบพวกมึงให้ยับ ฐานมาใช้พื้นที่รอบค่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพวกเรากันน่ะ"
              "งั้นเตรียมตัวตายได้เลย เพราะพวกแกไม่มีทางทำอะไรพวกเรากันได้หรอก" ทหารสโตนอลกล่าวโดยถือโลห์ขนาดใหญ่เดินบุกนำมา ซึ่งพวกแฟคมาสวิ่งนำมาก่อน "เฮ้ยยยย" คลอเวฟเลยกำหมัดขวาขึ้นแล้วก็ "โอเชี่ยนเกย์เซอร์" ชกลงพื้นไปเต็มแรงจน "กึกๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง ป้ากกก" เกิดเสาน้ำพุพุ่งเสยขึ้นอัดใส่พวกแฟคมาสจนปลิวกระเด็น โดยที่พวกมันถูกพลังไฮโดรฟอสสาดในระยะใกล้จนร่างแข็งตัวและร่วงลงมากระแทกกับพื้นตัวแหลกไป ส่วนที่เหลือต่างก็ปลิวล้มแต่เกราะแตกจากการถูกแรงดันน้ำอันรุนแรงกระแทกใส่ไปด้วย "ว้ากกกก เฮ้ยยยยย" ทหารไอซ์ติก้ากรูกันเข้ามาด้วยหอกน้ำแข็งในมือ
              "ย้า" สเปียริทกระโจนด้วยพลองคริสทรัลร็อดในมือ "หวับบบ เกร้งๆๆๆๆ" หวดฟาดต่อกรกับพวกไอซ์ติก้ากันอย่างรวดเร็ว จนพวกไอซ์ติก้าเสียหลักจากการถูกสเปียริทฟาดพลองมาอย่างเร็วและแรงกัน "ตาย" ทหารไอซ์ติก้า 4 ตนจ้วงแทงหอกโดยกางบาเรียป้องกันไว้ "เจอนี้หน่อยสิ อาด้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สเปียริทเลยจับพลองแล้วก็ "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำรัวแทงพลองเข้าอัดใส่พวกไอซ์ติก้าอย่างต่อเนื่อง "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพล้งๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จนบาเรียของไอซ์ติก้าแตกร้าวและโดนกระหน่ำแทงล้มไปสาม ตัวที่ 4 พยายามป้องกันอย่างเต็มที่ "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพล้ง ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แต่ก็ต้านไม่อยู่ จนสเปียริท "หวับๆๆๆๆๆๆๆ" ควงพลองอย่างรวดเร็วเพื่อกระทุ้งพลองเข้าที่หน้าผากทหารไอซ์ติก้าไปเต็มๆด้วยท่า "มิลเลี่ยนสไปค์!!!" จนหมวกที่สวมแตกกระจุยพร้อมหน้าผากของไอซ์ติก้าตนนั้นแตกเลือดสาดอย่างจังๆ "ย้ากกก" ทหารแฟคมาสที่เหลือรอดบุกมาด้วยดาบแมกม่า "ป้ากกก" สเปียริทเลยกระทุ้งด้วยพลองเข้าที่ท้องและ "ไฮย้า" ตะเบ็งเสียงแล้วงัดตัวทหารแฟคมาสทุ่มข้ามหัวเธอไป "โครมมมม" อัดกับทหารไอซ์ติก้าที่บุกมาจนล้มลงไปด้วยกัน "ดีสคัสเซอคูล่าแดนซ์" จากนั้นก็ "หวับๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆๆ" ใช้สองมือควงพลองอย่างรวดเร็วโดยควงไปด้านซ้าย ขวาและด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เข้าปัดหอกน้ำแข็งของพวกไอซ์ติก้าที่ดาหน้ามาจนกระเด็นหลุดมือ แล้วก็ "หวับๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" ใช้แขนสองข้างคล้องคริสทรัลร็อดหมุนตัวหวดใส่พวกไอซ์ติก้าให้กระเจิงไป จากนั้นก็ "ย้า" กระโดดขึ้นสูงเข้าใส่ทหารสโตนอลที่เตรียมยิงใส่แล้วก็พุ่งลงมา "ย้า ลูกถีบมังกรบิน!!!!" เหยียดขาซ้ายไปข้างหน้า "เปรี้ยงงงง ป้ากกกก อุว้ากกกกก" ถีบใส่ทหารสโตนอลตัวโตจนเกราะหน้าอกแตกกระจุยในทันทีที่ผ่าเท้าของสเปียริทปะทะกับตัวเกราะกันแล้ว และปลิวกระเด็นไป "ฟ้าวววว โครมมมม โครมมมม" ทะลุกำแพงค่าย เข้าไปพังอาคารที่อยู่ข้างในตาม
              "หวับๆๆๆๆๆๆ ฉั้วะๆๆๆๆๆๆ" พวกแฟคมาสถูกบางอย่างพุ่งตัดหัวขาดไป 7 ตนด้วยกัน "หมับๆ" โดยย้อนกลับมาในมือของคลอเวฟ เป็นขวานทรงสมอเรือสองเล่มกัน "ย้า" คลอเวฟฟาดแองเกอร์แอ็กซ์สองเล่มเข้าเฉาะใส่ทหารแฟคมาสจนล้มกลิ้งไป "หวับบบ ฉั้วะ" ตัวที่สองถูกคลอเวฟหวดขวานฟันในแนวขวางพร้อมกันจนคอและท้องขาดออกจากกัน "ฉับบบบบ ป้ากกกก" ตัวที่สามโดนคลอเวฟสับแขนขาดแล้วก็ถีบเข้าที่หน้าให้ปลิวไป "ระวังตัวด้วยละ ยัยบื้อ ไอ้ตัวน้ำเงินนั้น มันมีเลือดเป็นลาวา อาจจะละลายผิวของเธอได้เลยน่ะ" คลอเวฟบอก โดยที่เขาใช้พลังไฮโดรฟอสฉาบกับแองเกอร์แอ็กซ์ ซึ่งไม่เพียงเสริมพลังการสับเกราะให้ขาด แต่ยังป้องกันเลือดลาวาจากตัวพวกแฟคมาสกันด้วย
              "ฉันรู้แล้วละ เพราะรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากตัวพวกไฟลุกบนหัวไหล่ที่แรงเกินความร้อนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมากันน่ะ" สเปียริทบอก โดยเปลี่ยนคริสทรัลร็อด "แว้งงง ครี้ง" เป็นดาบสองปลายเข้า "ฉั้วะๆๆๆๆ" ฟาดฟันใส่พวกไอซ์ติก้าจนตัวขาดสะบั้น คลอเวฟตวัดขวานฟันเสยขึ้นเพื่อซัด "วอเตอร์เวฟ" คลื่นน้ำวิ่งตามพื้นพุ่งเข้า "ป้ากกกก" อัดใส่พวกแฟคมาสจนล้มกลิ้งไป "มันจะมากไปแล้วน่ะ เจอโฟร์ทพัลเซอร์ไปซะ" ทหารสโตนอลรีบนำปืนสี่ลำกล้องมา "ตุ้งๆๆๆ" กระหน่ำยิงใส่คลอเวฟ "ฮึยยยย" แต่คลอเวฟกระโดดขึ้นสูงด้วยแทงค์กลมสองอันที่ปล่อยพลังน้ำดันตัวเองขึ้นสูง แล้วก็ทิ้งตัวพุ่งลงมาในแนวเฉียง "วอร์ชิฟดรอปปปปป" เข้าจู่โจมด้วยท่าถีบขาคู่ "เปรี้ยงงงงงง โครมๆๆๆๆๆๆๆ" เข้าถีบทำลายเกราะของสโตนอลผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งล้มกลิ้งกระเด็นกระดอนไปหลายตลบด้วยกัน

              ส่วนเนคมาดูซัมและจายด์นั้น "ตุ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เหล่าทหารสโตนอลในค่ายรีบยิงกระสุนแสงเข้า "โบลท์รีเฟรคเตอร์" เนคมาดูซัมนำแพลทกลมกลางหลังออกมา "แว้งๆๆๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สร้างบาเรียทรงกลมสีทองป้องกันกระสุนพลังงานที่กระทบมา จากนั้นก็สะท้อนกระสุนเหล่านั้นกลับคืนเจ้าของจนล้มกลิ้งไป "จีฟิงเกอร์ช็อต ออลไฟว์โหมด" จายด์หุบมือซ้ายนำปืนห้าลำกล้องออกมายิงกระสุนพลังพลาสม่าออกไปพร้อมกัน "ป้ากกก ป้ากกกก" เจาะทะลวงบาเรียของไอซ์ติก้าจนแตกและล้มในสภาพถูกยิงห้านัดลงไปทั้งสองราย "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมใช้ซีคเก้ไรเฟิ่ลทั้งสองกระบอกกราดยิงใส่พวกแฟคมาสที่ถือปืน ทั้งอยู่บนพื้น อยู่บนหลังคาที่พักหรือคลังแสงจนล้มกลิ้งไปกันหมด "ว้ากกก" ทหารสโตนอลบุกมาด้วยดาบเหล็กก็ "หวับบบบ ฉึกกกก" โดนเนคมาดูซัมใช้ซีคเก้ไรเฟิ่ลติดดาบปลายปืนข้างซ้ายทิ้มเข้าที่ท้องของทหารสโตนอลและ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่ในระยะเผาขนจนทหารสโตนอลกระตุกและล้มลง "แครกเกอร์บอมส์" จายด์ยิงลูกระเบิดออกไปยังพวกแฟคมาสที่อยู่หลังกำแพงจน "ตรูมมมม แกร็ก ตูมๆๆๆ" เป่าระเบิดใส่กำแพงจนพังโดยแตกสะเก็ดออกเป็นสี่ลูกเป่าระเบิดซ้ำอีกที "รีบใช้ปืนใหญ่โซนิคบัสเตอร์ลันเชอร์เดียวนี้เลย" หัวหน้าหน่วยสั่งพวกสโตนอลรีบใช้อาวุธเป็นปืนกระบอกโตออกมา "บ็อกซ์บัสเตอร์ ชู้ต" เนคมาดูซัมเปิดส่วนหัวไหล่สองข้างพร้อมกับ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" ปล่อยมิไซล์พุ่งขึ้นไป แล้วก็พุ่งลงมาถล่มใส่พวกสโตนอลให้ยับลง
              "ไม่มีทางเลือกแล้ว รีบเปิดเครื่องส่งสัญญาณเดียวนี้เลย!!!" หัวหน้าหน่วยสั่งการลูกน้อง "รับทราบ เตรียมนำเสาส่งสัญญาณพิสัยไกลออกมาเดียวนี้แล้วละ"
              "ครืดดดดดด กึกๆๆๆๆๆ" ฉับพลันก็มีเสากรวยติดวงแหวน 5 วงโผล่ออกมาจากค่ายกัน "สงสัยว่ามันจะเรียกกองหนุนแล้วละ" จายด์บอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "จายด์ เป่าเสานั้นให้ร่วงโดยเร็วเลย"
              "ได้เลย ร็อคเก็ตบัสเตอร์" จายด์หันแขนซ้ายขึ้นในแนวเฉียงและ "แฟ้วววววว" ยิงจรวดออกไป "แว้งๆๆๆๆๆ ตรูมมมม" แต่อาคารหลักสร้างสนามพลังป้องกันจรวดไว้ได้ แถม "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกสโตนอล แฟคมาสและไอซ์ติก้าระดมยิงใส่จน "แว้งงงงง" เนคมาดูซัมรีบใช้โบลท์รีเฟรคเตอร์สร้างกำแพงพลังสะท้อนกลับโดยเร็ว เพราะอาวุธแต่ละอย่างรุนแรงเกินกว่าจะให้จายด์มาป้องกันไว้
              "สเปียริท ศัตรูนำเสาส่งสัญญาณออกมา และมีสนามพลังป้องกันไว้ ช่วยจัดหนักให้หน่อย" เนคมาดูซัมบอก
              สเปียริทกล่าว "รู้แล้วละ เดียวจัดให้" แล้วเธอก็ "หวับๆๆๆ ปึกกก ครี้งงงงง" กระทุ้งพลองลงพื้นจนเกิดกลุ่มหอกพุ่งขึ้นตรึงพวกศัตรูเอาไว้ จากนั้นก็ "แว้งงงงง ฟึ่บบบ วี้งๆๆ" จับพลองเปลี่ยนเป็นคันศรด้วยมือซ้าย แล้วก็สบัดนิ้วชี้กลางและนางข้างขวาเพื่อนำธนูพลังแสงออกมา ขึ้นสายพลังแสง พร้อมกับหันศรขึ้นไป "เอาไปกินซะ คาลามิตี้อาร์มฟอล" แล้วก็ "ฟิ้ววววว" นิ้วทั้งสามปล่อยธนูให้พุ่งขึ้นไป "แว้งๆๆ" ก่อตัวเป็นวงเวทย์รูปหัวใจสามอันเหนืออาคารหลักของฝ่ายตรงข้าม "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปริๆๆๆๆๆ" โดยวงเวทย์สามอันปล่อยห่าหอก ทวน ง้าว ตรีศูล และอาวุธยาวแบบต่างๆพุ่งลงมาปะทะกับสนามพลังจนแตกร้าวและ "เปรี้ยงงง ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ฉึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆ บรึมมมม" แตกกระจุยเพื่อให้ห่าหอกและอาวุธยาวตกลงมาทิ้มแทงใส่เสาส่งสัญญาณจนระเบิดแหลกเป็นจุลไป โดยสร้างความเสียหายให้กับเครื่องสร้างสนามพลัง "ครืนนนน" จนทำให้ห้องสั่งการได้รับความเสียหายจนจอมอนิเตอร์ระเบิดตามไปด้วย
              "รีบหนีกันเดียวนี้เลย" หัวหน้าหน่วยสั่งลูกน้องที่เหลือออกมากันโดยเร็ว ซึ่งพอออกมาทางประตูหลักเข้า "ชะ...." หัวหน้าหน่วยก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเนคมาดูซัมกับเหล่าไทรเวเซอร์ทั้งหลายมายืนอยู่ตรงหน้า "แกร็กๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็ชักปืนออกมาจ่อกัน โดยที่ลูกน้องทั้งนอกและในค่าย ลงไปกองกับพื้นหมดแล้ว
              "เลือกเอา ระหว่างยอมจำนนเดียวนี้ หรืออยากดื้อด้านจนได้รับกระสุนตะกั่วผสมโครเมี่ยมเป็นรางวัลกันน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              "บัดซบเอ้ย" หัวหน้าหน่วยสบถแล้วก็ "แกร็กๆๆๆๆๆ" โยนปืนลง เหล่าลูกน้องที่เหลือเลยต้องโยนตาม
              พีวิลบอก "เกรงว่าภารกิจของพวกนายจะจบเห่ จนภารกิจของพวกเราสำเร็จไปได้ด้วยดีแล้วละ"
    ต่อช่วงที่ 2 กัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×