ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 พีวิล บุรุษหัตถ์เพลิงสีน้ำเงิน กับจุดเริ่มต้นของการกบฎครั้งยิ่งใหญ่ บทกำเนิดพีวิล

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 64


              กลางสมรภูมิรบแห่งหนึ่ง ฟากฟ้าที่ถูกครอบคลุมด้วยรัตติกาล ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่ตอนนี้ถูกไฟครอบคลุมจนมอดไหม้ และมีซากศพเกลือนกราดเต็มไปหมด
              เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ที่มวลมนุษยชาติได้เผชิญหน้ากับภัยคุกคามครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่ใช่กลุ่มผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่องค์กรชั่วร้ายที่หวังยึดครองโลก ไม่ใช่พวกมนุษย์ต่างดาวหรือสิ่งเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด หากแต่ เป็นสิ่งที่มวลมนุษยชาติสร้างขึ้นมา และในเวลานี้ พวกมัน กำลังสร้างความสิ้นหวังให้กับผู้ที่มีชีวิตอยู่และความวายปวงต่อผู้ที่ต่อต้าน เหมือนเช่น กลุ่มซากศพที่กองระเนระนาดกันในเวลานี้ ซึ่งเป็นศพของเหล่าทหารชายหญิงที่สังเวยชีพเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามดังกล่าว
              "แฮกๆๆๆๆๆๆ" ทหารหนุ่มพยายามวิ่งอย่างสุดชีวิตไปพร้อมกับปืนยาวในมือ ซึ่งเขาได้วิ่งหนีอะไรบางอย่างอยู่ "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงฝีเท้าที่วิ่งไล่ตามมาด้วยความเร็วสูงนั้น ได้วิ่งแซงหน้านายทหารหนุ่มผู้นั้น โดยปรากฎมาในร่างของทหารหญิง แต่เนตรของเธอเรืองแสงสีน้ำเงินพร้อมกับ "ควี้งงงงง" ใบมีดสีน้ำเงินโผล่มาจากแขนเสื้อหมายจะฟาดฟันใส่นายทหารหนุ่ม แต่ "ปัง" นายทหารหนุ่มมือไวกว่าจึงเหนี่ยวไกเป่านายทหารหญิงผู้ปองร้ายผู้นั้นจนได้รูบนหน้าผาก พร้อมกับกราดยิงใส่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"  พวกนายทหารหญิงที่กระโจนเข้ามาจนร่วงลงพื้นไปกันหมด ซึ่งนายทหารหนุ่มรีบวิ่งไปโดยเร็ว เพราะ.... "วี้งงงง" นายทหารหญิงสามคนที่ถูกกระหน่ำยิงไปนั้นกลับลุกขึ้นมา พร้อมกับร่างที่มีรูพรุนจากกระสุนปืน พวกเธอจึงถอดชุดออกเผยให้เห็นธาตุแท้ นั้นคือแอนดรอยผู้หญิงที่มีใบหน้าครึ่งล่าง แต่ส่วนตานั้นถูกครอบด้วยแว่นสีฟ้าและหมวกพร้อมกับส่วนเขาแนบหูยาวสีน้ำเงินไว "ตายซะ" แอนดรอยหญิงกล่าวพร้อมกับกระโจนเข้าใส่โดยที่มีกงเล็บสีน้ำเงินที่นิ้วหมายจะทิ้มใส่คอของทหารหนุ่ม "หวับบบบ ป้ากกกกกกกก" แต่แอนดรอยหญิงนั้นกลับชะงักไปหลังจากที่นายทหารหนุ่มเอี้ยวหลบการโจมตีไว้ โดยที่ส่วนหลังของแอนดรอยเผยส่วนมือเหล็กที่ทะลุออกมาและดึงออกจากตัวไป ซึ่งทหารหนุ่มผู้นี้ สวมปลอกแขนจักรกลเอาไว้ทั้งสองข้าง แอนดรอยหญิงทั้งสองเลยมองหน้าและบุกเข้าใส่พร้อมกัน โดยที่ตนหนึ่งเคลื่อนไหววนรอบนายทหารหนุ่ม ในขณะที่อีกคนบุกเข้ามาตรงๆ "หวับบบบบ" โดยใช้มีดดาบที่แขนเข้าฟันใส่ แต่ทหารหนุ่มไม่หลบ "ป้ากกกกกก โครมมมม" กลับชกสวนจนทำให้แขนซ้ายติดแขนดาบหักสะบั้นลง ในจังหวะที่แอนดรอยอีกตัววิ่งมาข้างหลังด้วยมีดดาบที่แขนขวา "เปรี้ยงงงงงง" ทหารหนุ่มหวดหลังแหวนขวาอัดปะทะใส่หน้าแอนดรอยจนปลิวตีลังกาไปสี่ตลบลงมากองกับพื้น พร้อมกับใบหน้าที่พังเสียหายซึ่งเผยให้เห็นหน้าหุ่นยนต์ที่อยู่ใต้หนังมนุษย์ไว้ แต่นายทหารหนุ่มกลับหันมาเห็น "แว้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" เนตรสีน้ำเงินปรากฎจากกลุ่มควันขึ้นมา "แค่สามคนยังไม่พอจริงๆด้วยสิน่ะ" บุรุษหนุ่มกล่าว
              "ฟ้าวววววววววว ตรึงงงง" ฉับพลันก็ปรากฎหุ่นหลังค่อมแต่มีร่างเพียวยาวโดดลงมาล้อมรอบบุรุษทหารหนุ่ม ซึ่งพวกนี้มีส่วนหัวที่ลิ่มและมีปากที่ซิกแซกอยู่ ตามด้วย "ตึงๆๆๆๆๆๆ" หุ่นตัวโตที่มีใบหน้าสีน้ำเงิน ซึ่งมีท่อนแขนขาทรงกลมวิ่งเข้ามา "เป้าหมายต่อต้านพวกเราอย่างเห็นได้ชัด เอาไงดีละครับ" หุ่นปากซิกแซกถามอย่างกลัวเกรง
              หุ่นตัวโตบอก "ไม่ต้องพูดมาก จัดการเลย"
              "กรรรรรร" หุ่นหลังค่อมคำรามและบุกเข้าใส่นายทหารหนุ่มด้วยกงเล็บที่มือ โดยที่พวกมันบุกเข้ามาเพื่อสังหารทหารหนุ่ม แต่... "หวับบบ" เขาหลบการโจมตีของหุ่นเหล่านั้นด้วยการตีลังกาหลบการทิ้มกงเล็บใส่แล้วก็ "ป้ากกกก" อัปเปอร์คัตเข้าตรงปลายคางเป่าส่งหุ่นหลังค่อมให้ปลิวขึ้นฟ้า ตามด้วย "แกร็ก แว้งงงง" ชายหนุ่มสะบัดแขนที่ปลอกแขนของเขาซึ่งทำให้ส่วนมือเรืองแสงขึ้น แล้วก็ "เปรี้ยงงงง" ชกอัดหัวหุ่นหลังค่อมที่บุกเข้ามาให้แหลกคาพื้นไป แล้วก็ชกซ้ำอีกทีเพื่อให้แน่ใจว่ามันตายแล้ว จากนั้นก็.... "ป้ากกก โครมมม เปรี้ยงงง ป้ากกก" เข้าต่อกรกับหุ่นหลังค่อมด้วยกำปั้นจนล้มพวกมันไปถึง 4 ตัว จนหุ่นตัวโตบุกเข้ามา "หวึมมมมม เปรี้ยงงงงง" ใช้ตะบองเรืองแสงสีฟ้าหวดลงพื้นเข้าใส่นายทหารหนุ่ม ซึ่งก็กระโดดถอยหลังไป พร้อมกับหลบหลีกการหวดใส่อย่างบ้าคลั้งของมันไปด้วย "แกร็ก" ชายหนุ่มสะบัดแขนเพื่อให้กระบอกปืนคู่ที่ติดแขนซ้ายโผล่มา และยื่นส่วนแขนไปข้างหน้า "กินนี้ซะสิ" ชายหนุ่มกล่าวและ "ตรุ้งงงงงง ตรุ้งงงง" ยิงกระสุนออกไปยังหุ่นตัวโตจน "ตรูมมมมมมมมมมมม" ระเบิดเป่าร่างท่อนบนของมันอย่างจังๆ แต่มันแค่ชะงักลงเพราะชายหนุ่มเห็นดวงตาส่องแสงสีน้ำเงินออกมาจากกลุ่มควันไว้ โดยที่มันบุกเข้ามาหมายจะหวดตะบองใส่บุรุษหนุ่ม "หวับบบบบบ" ซึ่งชูแขนขึ้นเพื่อชกใส่ตะบองแสงเข้า "ปริๆๆๆๆๆ ตรูมมมมมม" ทันทีที่หมัดกระทบกับตัวกระบองแสงเข้า ก็เกิดรอยแตกขึ้นจนทำให้ตะบองระเบิดขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้ส่วนปลอกแขนขวาของบุรุษหนุ่มเกิดเพลิงสีน้ำเงินลุกโชนอย่างจังๆ เปิดช่องให้หุ่นตัวโตเงื้อท่อนแขนและหมัดสีน้ำเงินหมายจะชกใส่ "ว้ากกกกกกกกกกก" "ป้ากกกกก" แต่บุรุษหนุ่มได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เขาจึงซัดหมัดที่ลุกโชนด้วยเพลิงสีน้ำเงินเข้าใบหน้าอันเหลี่ยมหนาสีน้ำเงินไปเต็มแรง จนดวงไฟที่ตาทั้งสองข้างดับลงพร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้น บ่งบอกถึงความปราชัยของมันให้พรรคพวกที่กำลังโผล่มา ซึ่งบุรุษหนุ่มรู้สึกเจ็บที่แขนขวาอยู่ แม้จะใส่ปลอกแขนติดอาวุธไว้ แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ได้รับมา เขาจึงข่มความเจ็บปวดนี้เพื่อที่จะต่อกรกับศัตรูที่บุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว
              จนกระทั่งพายุแห่งความโกลาหลก็ผ่านพ้นไป "แฮกๆๆๆๆๆๆๆ อั้ก อึกกก" ทหารหนุ่มอยู่ในสภาพเลือดโทรมกายจากการต่อสู้อันดุเดือด โดยที่มีซากของเหล่าศัตรูที่เขาพิชิตลงไปกองเรียงรายล้อมเขาเอาไว้ ในตอนนี้ กายของเขาถึงขีดจำกัดจนเข่าทรุดไปข้างหนึ่ง แขนสองข้างที่สวมปลอกแขนที่พังเสียหายไป กลับมีแผลฉกรรจ์จนไม่สามารถยกขึ้นมาใช้สู้กับพวกศัตรูที่อยู่รอบนอกและพร้อมจะสังหารเขาได้ในไม่กี่วินาที "หยุดก่อน...." เหล่าหุ่นทั้งสามแบบที่เป็นพวกเดียวกันกับที่ถูกชายหนุ่มจัดการนั้นต้องชะงักกับเจ้าของเสียง ซึ่งเป็นบุรุษสวมหมวกและชุดทหารสีน้ำเงิน แต่มีแขนขาเป็นเหล็กก้าวออกมา โดยตรงมายังนายทหารหนุ่มที่สติใกล้จะเลือนรางด้วยความอ่อนแรง "เจ้าสู้ได้ดีมาก แต่น่าเสียดาย ที่เจ้ามาได้เท่านี้แหละ" ซึ่งบุรุษสวมหมวกแบมือมาตรงหน้าอกของนายทหารหนุ่ม โดยที่มีพลังงานแสงสีน้ำเงินอยู่ที่มือเหล็ก และ.... "เปรี้ยงงงงงงงงงง" สมรภูมิรบอันดุเดือดก็จบลงด้วยเสียงดังกัมปนาทที่ครอบคลุมไปทั่วทุกตารางเมตรไว้ พร้อมกับชีวิตของนายทหารหนุ่มที่ล้มลง

              หลังจากนั้น.... "สภาพกาย ใช้งานได้ 65 เปอร์เซนต์ การฟื้นฟูสภาพกายด้วยการดัดแปลงขั้นต้น ยุติลงด้วยดีคะ" เสียงผู้หญิงดังขึ้นโดยที่สติของบุรุษหนุ่มนั้นแม้จะรางเลือนไปบ้าง แต่ก็ยังพอได้ยินอยู่ แม้ในตอนนี้ร่างของเขานั้นจะเปลือยเปล่า หัวโล้นและมีส่วนผลึกปิดอยู่ด้านหน้าศีรษะ หน้าอกมีส่วนจักรกลฝังอยู่โดยที่มีดวงไฟสีน้ำเงินอยู่ตรงกลางที่ยังส่องแสงอยู่ ส่วนขายังปกติดีแต่ปราศจากแขนทั้งสองข้าง มีส่วนกางเกงเหล็กที่ปิดส่วนสำคัญเอาไว้
              เสียงผู้หญิงอีกคนบอก "ชีพจรคงที่ คลื่นสมองเป็นปกติ อวัยวะเกือบ 2 ใน 3 ทำงานได้เหมือนเดิม แกนหัวใจทำงานได้สมบูรณ์แบบเลยคะ"
              "ดี แล้วว่าแต่ ส่วนแขนล่ะ" อีกเสียงซึ่งเป็นเสียงของบุรุษกล่าว
              เสียงผู้หญิงคนแรกรายงานอย่างไม่สู้ดีเลยว่า "ขออภัยคะ ส่วนแขนนั้นเสียหายอย่างมากจากการต่อสู้ที่ผ่านมา โดยที่เสียหายเพียงแค่ท่อนแขนส่วนล่าง ทำให้เราไม่สามารถฟื้นฟูได้เลยคะ"
              "ถ้าเช่นนั้นก็ต่อแขนใหม่ซะสิ โดยใช้แขนรุ่นใหม่ที่ฉันดัดแปลงขึ้นมาก็ได้น่ะ" เสียงบุรุษออกความเห็น
              เสียงผู้หญิงคนที่สองบอก "เข้าใจแล้วละคะ ว่าแต่ จะให้จัดการกับเขาเลยมั้ยคะ"
              "ได้ และเดียวนี้เลย" เสียงบุรุษกล่าว ซึ่งสติสัมปะชัญญะของชายหนุ่มก็ดับวูบลง โดยที่ร่างของเขานั้น "ครืดดดดด ตรึงงงง" เตียงที่มีร่างของบุรุษนายทหารหนุ่มถูกดึงลงมายังห้องแห่งหนึ่ง ซึ่งในทันทีที่เตียงเลื่อนลงมากลางห้องแล้ว ผนังห้องก็ส่องสว่างพร้อมกับแขนจักรกลเพื่อเริ่มกระบวนการสำคัญขึ้น "อี้ดดดดดดดดด หนืดดดดดดดดดดด อี้ดดดดด แกร็กกกก ฟู้วววววววววว" ส่วนโครงแขนได้เลื่อนมายังกรอบสีเหลี่ยมที่มีสารเหนียวสีน้ำเงินอยู่ตรงกลาง ซึ่งโครงมือได้เลื่อนลงไปเคลือบกับสารเหนียวจนก่อเป็นตัวมือ พร้อมกับส่วนแม่พิมพ์ที่เข้ากดส่วนมือทั้งสองด้านเพื่อประสานให้ตัวมือมีความหนาใหญ่ขึ้นมา "อี้ดดดดดด แกร็กกกกก ชี้บบบบบบ" แขนกลได้ดึงร่างบุรุษหนุ่มให้ลอยขึ้นเพื่อทำการสวมโครงเหล็กเอาไว้พร้อมกับแขนกลติดเครื่องเชื่อมให้โครงเหล็กติดกันทั้งสองด้าน "อี้ดดดด กรึกกกกก" ส่วนแขนที่มีฝ่ามืออันใหญ่โตที่ผ่านการเคลือบได้เข้าสู่โม่ขนาดย่อมทั้งสองข้าง ซึ่งภายในนั้น "อี้ดดดดด แกร็กๆๆๆๆ ชี้บบบบ แกร็กๆๆๆๆ" ก็มีกรรมวิธีในการประกอบส่วนท่อนแขนครอบกับโครงแขนเอาไว้ โดยติดตั้งปืน ระบบอีเล็คทรอนิคไปพร้อมกับต่อส่วนแขนไปด้วย "อี้ดดดดดดด กรึ้ก แกร็กๆๆๆ" ด้านล่างนั้นก็ทำการประกอบเกราะท่อนขา โดยทำการประกอบส่วนหน้าแข้งที่มีแผงผลึกสีน้ำเงินสองอันเข้ากับฝ่าเท้าอันใหญ่กลมไว้ พร้อมกับส่วนเกราะหลังขาที่ถูกประกอบเข้าด้วยกัน "อี้ดดดด แกร็ก แกร็ก อื้ดดดด พรึ่บบบ ซวบบบบ" ส่วนแขนกลต่อประกอบเกราะบนหน้าอก โดยเชื่อมแผ่นเกราะที่เป็นแผ่นใสสีน้ำเงินประกอบกับส่วนด้านข้างและด้านหลัง ทำให้เหมือนสวมเสื้อกั๊กสีน้ำเงิน โดยแผ่นเกราะกลางหน้าอกนั้นต่อประกอบเข้าทับกับส่วนดวงไฟกลางหน้าอกไว้ พร้อมกับสวมเข็มขัดผลึกสีน้ำเงินที่มีกางเกงขาสั้นสีดำปิดทับส่วนต้นขาไว้ "อี้ดดดด แกร็ก แกร็ก" โม่ส่วนขาเข้าสวมกับท่อนขา ซึ่งเกราะบู้ทนั้นต่อประกอบเข้ากับส่วนขาและเท้าไว้ "ครืดดด แกร็กกกก" โม่ที่มีแขนกลนั้นต่อเข้ากับส่วนใต้ข้อศอกซึ่งมีข้อต่อเชื่อมที่ฝังไว้ในส่วนแขนที่เหลือไว้ "อี้ดดดดด" ส่วนแขนกลที่มาจากข้างหลังนั้นได้นำส่วนหมวก ที่มีส่วนด้านหน้าที่กลมยื่นออกมา "ครืดดด กรึกกก อี้ดดด แกร็กๆๆๆ" เข้าสวมทับกับศีรษะของบุรุษนั้น โดยที่ส่วนยื่นของหมวกยึดเข้ากับส่วนหน้าผากของเขาไว้ พร้อมกับกลไกได้ล็อกส่วนหมวกเข้ากับหัวของเขาด้วย ส่วนโม่ก็เลื่อนออกเผยให้เห็นแขนกลและส่วนบู้ทขาที่ประกอบเสร็จแล้ว แขนกลที่ยึดส่วนหลังนำร่างของเขายืนกับพื้นไว้ "กระบวนการประกอบบอดี้ชุดเกราะ เสร็จสิ้น และสมบูรณ์แบบ สภาพกาย 80 เปอร์เซนต์ ซึ่งระบบฟื้นฟูร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ พลังงานจากแกนหัวใจ ให้พลัง 100 เปอร์เซนต์อย่างต่อเนื่อง ชิปควบคุมสติสัมปะชัญญะ อยู่ในโหมดเปิดทำงาน" เสียงของผู้หญิงกล่าว
              "เอาละ สุดยอดอาวุธอันภาคภูมิใจของฉัน สมุนเอกระดับมาสเตอร์พีชที่ฉันสร้างขึ้นมา จงลืมตาซะ พีวิล" เสียงบุรุษกล่าวขึ้น
              ชายหนุ่มในมาดใหม่นั้นลืมตาขึ้น โดยที่ดวงตาของเขาส่องสว่างสีน้ำเงินให้เห็น พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "รับทราบแล้วละครับ ท่านแพทรีออท"

    และนั้นคือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของสายพันธุ์อันทรงพลังที่สุดขึ้นบนโลกใบนี้ นั้นคือตำนานของ....

    MANIGATOR SAGA: The Rebellion Soldiers ภาคโลกา
    ตอนที่ 1 พีวิล บุรุษหัตถ์เพลิงสีน้ำเงิน กับจุดเริ่มต้นของการกบฎครั้งยิ่งใหญ่


              ณ.กองบัญชาการของกองพันที่ 15 นอกเขตรัฐชิคาโก้ มหาสหรัฐอเมริกา
              "เหล่าทหารหาญทั้งหลาย ที่พวกเรามารวมตัวกันในวันนี้ เพื่อรำลึกถึงเหล่าพี่น้องร่วมชาติที่ได้สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของพวกเราจากมหาสงครามอันเลวร้ายที่สุดในประวัติการณ์" นายพลเดเทม ผบ.ของกองรบนี้กล่าวขึ้นต่อเหล่าทหารภายใต้บัญชาที่มารวมตัวกัน "ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้เผชิญหน้ากับพวกแมนิเกเตอร์ กลุ่มผู้รุกรานที่น่าสะพรึ่งกลัว เหล่ามนุษย์จักรกล มนุษย์ดัดแปลง มนุษย์ผ่าตัดต่อชีวภาพ แม้กระทั่งหุ่นยนต์และสัตว์ประหลาดเหล่านั้น ล้วนแล้วเป็นผลงานของผู้นำพาความวายปวงที่ทำให้พวกเรา สูญเสียญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงและคนที่เรารู้จักไปไม่น้อย การต่อสู้ในครั้งนี้ ได้ปรากฎเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งพวกเขา อุทิศตัวเพื่อต่อสู้ ปราบปราม กวาดล้าง สังหาร และพิฆาตพวกมันให้สิ้นซาก แม้ว่าจะต้องแลกกับชีวิตของพวกเขาไปแล้วก็ตาม พวกเราจึงไม่ควรที่จะลืมเลือนการเสียสละของพวกเขาในตลอด 20 ปีที่ผ่านมากันด้วย"
              พลทหารนายหนึ่งกล่าวกับพลทหารหญิงไปว่า "....ทำไมต้องให้นายพลคนนี้มาพูดสุนทรพจน์กันเล่า"
              "ทำไงได้ละ ผบ.คนเก่าของเราโดนพวกแมนิเกเตอร์ฆ่าตายไป คนอื่นๆที่มาคุมก็อยู่ระหว่างการรวบรวมและฝึกกำลังพลอยู่ด้วย ที่นายพลเดเทมมานี้ ก็เพื่อมาคุมพวกเราต่อเพื่อไม่ให้พวกเราขาดคนสั่งการกันน่ะ" พลทหารหญิงกล่าว
              ทหารชายแย้งแบบกระซิบไปว่า "ทั้งๆที่ตาแก่นั้น เป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อน และก่อคดีทุจริตงบประมาณทางทหารจนกองรบรถถังไม่สามารถซ่อมแซมรถถังและถูกพวกแมนิเกเตอร์ถล่มยับไม่เป็นชิ้นดีเนี้ยน่ะ ถ้าให้คนนี้คุม สู้ไม่ให้ร้อยเอกแอนเดอร์สันมาคุมเองจะดีกว่าหรือ"
              "ร้อยเอกแอนเดอร์สันตายไปเมื่อ 2 ปีกว่าแล้วนะ เพราะหน่วยรบของเขาและตัวเขาเองถูกพวกแมนิเกเตอร์แบบอีเนอไมนด์ฆ่าตายแบบไม่เหลือซาก ในระหว่างเข้าไปช่วยเขตชุมชน แล้วกำลังเสริมมาไม่ทันเลยน่ะ" พลทหารหญิงเอ่ย
              ทหารชายยังไม่เชื่อ "....ไม่จริง ร้อยแอนเดอร์สันถูกหักหลังโดยนายทหารจากหน่วยอื่นกันซะมากกว่า และไม่ชอบเอาเสียเลย ที่ตาแก่นั้นได้รับความช่วยเหลือจากร้อยเอกแอนเดอร์สันมาแล้วแท้ๆ"
              "ทำไงได้ละ ร้อยเอกแอนเดอร์สันเป็นคนประเภทที่เห็นใครเดือดร้อนหรือมีปัญหาก็จะยื่นมือมาช่วยเสียซะทุกครั้ง ต่อให้คนที่ถูกช่วยจะเป็นพวกเลวระยำกันด้วยน่ะ" เพื่อนทหารหนุ่มเอ่ยถึงอุปนิสัย
              ทหารชายบ่น "....เกรงว่าร้อยเอกตายไปแล้วจะหลับไม่สนิทกันพอดีนะสิ หากมารู้ว่าบางส่วนที่ได้รับการช่วยเหลือนั้น ยังไม่สำนึกผิดเหมือนกับไอ้ตาแก่...."

              "หวออออออออออออออ" สัญญาณเตือนดังขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมกับนายทหารคนหนึ่งเข้ามารายงาน "แย่แล้วละครับ แมนิเกเตอร์ไทป์อีเนอไมนด์มุ่งหน้ามาทางเราแล้วละครับ"
              นายพลเดเทมได้ฟังจึงสั่งการไปว่า "ทหารทุกนาย เตรียมพร้อมการสู้รบกันเดียวนี้เลย" พวกทหารทั้งหมดแถวตรง แม้กระทั่งพวกที่ซุบซิบก็ต้องทำตามเพราะภาระหน้าที่ของพวกเขา เป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด
              กองรบของแมนิเกเตอร์อีเนอไมนด์เคลื่อนทัพมาอย่างช้าๆ โดยที่เห็นกองรบรถถังและกองรบปืนใหญ่ประจำการอยู่ในเขตชานเมือง "ท่านแพทรีออท นายพลเดเทมนำกองรบมาเตรียมรับมือกับพวกเราแล้วละครับ" นายทหารมนุษย์ดัดแปลงผมสีน้ำเงินที่มีแขนกลทั้งสองข้างกล่าวกับผู้เป็นนาย แพทรีออทมองจากระยะไกลด้วยตาคาเมร่าทั้งสองข้างไว้พร้อมกับหัวเราะขึ้นก่อนจะพูดว่า
              "ไอ้เฒ่าหัวงูนั้นมันคิดว่ากองรบเหล่านี้จะทำอะไรได้นะหรือ คิดผิดเสียแล้ว พลาทูนั่ม สถานะกองรบของเราละ"
              "เมดลิคซ์ 150 ตน กริมลิคซ์ 100 ตน ทอฟนิคซ์ 80 ตน ไทรไบค์ 40 คัน กราแทงค์ 30 คัน พร้อมรับคำสั่งจากท่านแล้วครับ" พลาทูนั่มรายงาน ซึ่งแอนดรอยหญิงนั้นมีชื่อเรียกว่าเมดลิคซ์ เหล่าหุ่นทรงคล้ายกิ่งก่าและหลังค่อมนั้นคือ กริมลิคซ์ และหุ่นตัวโตที่มีใบหน้าสีน้ำเงินเข้ากับส่วนหมวกกลมนั้น ก็คือทอฟนิคซ์ ซึ่งก็ชนิดของสมุนของกองรบของแพทรีออทในเวลานี้ และทหารหนุ่มหันมาถาม "ว่าแต่จะให้ใช้เปกาซัส เบฮีมอท หรือเคลเบรอสกันละดีครับ"
              แพทรีออทบอก "ไวซ์ไมเซลคงจะเพาะเกินจำนวนกันเลยสิน่ะ แต่ ให้เขาเก็บไว้ให้ทางเราใช้คราวหน้ากันก่อนเถอะ เพราะฉันจะให้ เขา จัดการกับพวกนี้เอง"
              "มันจะดีหรือครับ เพราะว่ากองพันนี้ คนๆนั้นเคย..." พลาทูนั่มบอก
              แพทรีออทบอก "ไพ่ตายใบนี้ปราศจากความปราณีเป็นที่เรียบร้อยแล้วละ" โดยที่บุรุษผู้นั้นอยู่ในกลุ่มกองรบกันด้วย หัวหน้าจึงสั่งการให้... "พีวิล ลงมือพร้อมกับกองรบได้เลย"
              "รับทราบ" บุรุษหนุ่มตอบรับ และยกแขนกลซึ่งขยับนิ้วเพื่อให้แน่ใจว่าพร้อมสำหรับการสู้รบนี้ขึ้น
              แพทรีออทจึงสั่งการให้ "อีเนอไมนด์ อย่าปล่อยให้กองรบนี้รอดไปได้ซะ"
              "แว้งๆๆๆๆๆ" เหล่ากองรบทั้งหมดรับคำสั่งและบุกเข้าใส่อย่างรวดเร็ว "พวกมันบุกมาแล้ว" นายทหารชายคนที่นินทาผบ.กล่าวเพราะเห็นพวกศัตรูบุกมาแล้ว
              นายพลเดเทมสั่งการให้ "ทหารราบต้านทานการบุกเอาไว้ กองรบรถถังและปืนใหญ่ ถล่มพวกมันอย่าให้เข้ามาใกล้ฐานได้เป็นอันขาด" และแล้วก็.... "ตรุ้ง ตรุ้ง ตรุ้งงงงง" เหล่าเมดลิคซ์และกริมลิคซ์ที่กรูกันเข้ามา ส่วนหนึ่งก็วิ่งฝ่ากระสุนรถถังและปืนใหญ่ไปได้ แต่ส่วนหนึ่งก็ถูกเป่ากระเจิงไป "แกร็ก ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กริมลิคซ์ที่วิ่งเข้าใส่ก็ใช้ปืนที่ซ่อนไว้ในแขนทรงกระบอกทั้งสองข้างยิงใส่พวกทหารที่อยู่แนวหน้าจนล้มไป "อึก อั้ก อ้ากกก อ้า.... แอ้" เหล่าทหารราบชายหญิงต่างถูกยิงจนล้มลง แต่ส่วนมากก็พยายามยิงสวนกลับด้วยไรเฟิ่ลเพื่อหวังว่าจะสอยพวกศัตรูให้ร่วงไป "ย้า" เมดลิคซ์ที่ตกเป็นเป้ากระสุนกระโดดขึ้นสูงและ "ครี้งงงง" "ฉั้วะ อ้ากกกก" ใช้มีดดาบติดแขนเข้าฟันใส่ทหารชาย โดยที่อีก 4 ตนกระโดดเข้าสังหารทหารด้วยมีดดาบไปด้วย เหล่าทหารพลระเบิดก็ถอดสลักเพื่อเขวี้ยงระเบิด "แกร็ก ปังๆๆๆๆ" เมดลิคซ์อีก 4 ตนระดมยิงใส่พวกพลขว้างระเบิดด้วยปืนสั้นยิงกระสุนแสงจนทำให้พวกเขาบาดเจ็บและตายเพราะระเบิดที่ยังไม่ได้ขว้างไว้
              "ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ เป็นเถ้าถ่านไปซะเถอะ" เหล่าทหารปืนไฟจำนวน 10 นายเข้าใช้ปืนเพลิงแผดเผาพวกเมดลิคซ์และกริมลิคซ์ที่บุกเข้ามาจนไฟครอกลง ในขณะที่ส่วนหนึ่งบุกเข้าโจมตีด้วยปืนแสงก็.... "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆ แชดดดดดด" เหล่าทหารถือปืนพลังไฟฟ้ายิงลำแสงไฟฟ้าช็อตพวกเมดลิคซ์ที่บุกเข้าเล่นงานพวกทหารจนร่างถูกช็อตและระเบิดไปถึง 5 ตัว "ตาย ตายซะ เจอปืนเทสร่าคอยด์ไปหน่อยสิ" ทหารอีกคนใช้ปืนยิงลำแสงไฟฟ้าช็อตกริมลิคซ์จน "เพล้งๆๆๆ" แผ่นผลึกสีฟ้าตามตัวแตกไปพร้อมกับส่วนตาทั้งสองข้างลงไปชักดิ้นชักงอก่อนจะระเบิดไป โดยที่รถถังติดปืนใหญ่เตรียมจะยิง "ฟ้าววววว ตรูมมมมม" แต่ ลำแสงสีน้ำเงินได้พุ่งเข้าทำลายรถถังจนระเบิดไปถึงสองคัน โดยฝีมือของทหารร่างยักษ์อย่างทอฟนิคซ์ ที่ถือปืนใหญ่ทรงกระบอกออกมายิงกระสุนพลังสีน้ำเงินเข้าทำลายกองรบปืนใหญ่ก่อนที่มันจะใช้ยิงทำลายกองรบที่อยู่ข้างหลังไว้ ซึ่งก็... "แชดดดด แชดดดดด" ยิงถล่มใส่กองบัญชาการจนทำลายโรงนอนทหาร คลังแสง โรงซ่อมบำรุง แม้กระทั่งอาคารหลักก็โดนถล่มไปด้วย "ตรึงๆๆๆๆ" พวกทอฟนิคซ์ส่วนหนึ่งบุกเข้ามาด้วยตะบองพลังงาน แม้จะวิ่งช้ากว่าสองพวกแรก แต่ด้วยร่างกายอันกำยำและแข็งแกร่ง ทำให้กระสุนปืนไม่อาจจะยิงทะลุร่างของพวกมันไปได้เลย "วี้วววววว ตรูมมมม" ขนาดโดนปืนครกยิงจากแนวหลังมา ก็หาได้สยบทหารร่างโตเหล่านี้ไม่ได้ จน.... "หวับบบ กร็อกกกก" ทหารหญิงคนที่นินทาผบ.เป็นเหยื่อรายแรกที่โดนหวดจนคอหักก่อนที่รายอื่นๆจะโดนทอฟนิคซ์ฟาดทหารอีกนายให้หัวบุบเข้าไปถึงลำตัว พลปืนไฟและปืนไฟฟ้าก็โจมตีใส่ จนไฟครอกและช็อตร่างทอฟนิคซ์ แต่.... "แว้งงงงงง" ไฟที่ครอกร่างอันใหญ่โตและพลังไฟฟ้าที่ช็อตร่างพวกมันไปนั้นกลับถูกดูดหายไปในแผงหน้าอกพร้อมกับหัตถ์ที่มีไฟลุกกับไฟฟ้าขึ้นมา "บะ บ้าน่า พวกมันควรจะถูกไฟครอกหรือไม่ก็ถูกไฟช็อตลงไปเหมือนเมื่อก่อนกันนิ" ทหารพลปืนไฟฟ้ากล่าวก่อนที่เขาจะ.... "ป้ากกกกก" ถูกชกจนไฟช็อตร่างซึ่งทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดเพราะประจุไฟฟ้าต่างขั้วที่มีอานุภาคพลังรุนแรงปะทะกัน ในขณะที่พวกพลปืนไฟฟ้าที่เหลือก็โดนกระทืบ ส่วนพวกพลปืนไฟก็.... "เปรี้ยงงงง ตรูมมม อั้กๆๆๆๆ อ้ากกกกก" โดนทอฟนิคซ์ที่มีหมัดเพลิงชกจนถังแก็สด้านหลังระเบิดและดิ้นทุรนทุรายเพราะไฟครอกร่างเข้า
              "แย่แล้วละครับ พลปืนไฟและพลปืนไฟฟ้าถูกพวกตัวโตถล่มยับไปแล้วละครับ" ทหารคนสนิทกล่าว
              นายพลเดเทมบอก "บ้าน่า คราวก่อนพวกเราจัดการกับพวกมันด้วยวิธีนั้นแล้วนิ หนอยยยยย ไอ้แพทรีออท มันโต้กลับได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ"
              "ดูเหมือนว่า ทอฟนิคซ์ที่เพิ่มพลังให้สามารถดูดกลืนพลังงานจากอาวุธของฝ่ายตรงข้าม จะใช้ได้ผลเลยนะครับ" พลาทูนั่มกล่าว
              แพทรีออทบอก "เดเทมก็อย่างงี้แหละ เพราะต่อให้มีอาวุธดีแค่ไหน ตราบใดที่ไม่หัดพัฒนาตัวเองให้ทันต่อสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ หนทางชนะก็ไม่มีให้เดินไปแล้วละ" โดยที่มองเห็นพวกทหารพลเครื่องยิงจรวดออกมาพร้อมกับพลสไนเปอร์ที่นำปืนเลเซอร์ออกมา "แชดๆๆๆๆๆๆ" พลสไนเปอร์ยิงสอยพวกกริมลิคซ์ที่เข้าเล่นงานพวกพลระเบิดจนข้างหูทะลุเป็นรู พร้อมกับสอยตาของทอฟนิคซ์ที่วิ่งมาพร้อมกับยิงบาซูก้าพลังงานจนล้มกลิ้งไป "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" "ตรูมมมม บรึมมมมมม ว้ากกกก อ้ากกกกก" พลเครื่องยิงจรวดก็ถล่มด้วยจรวดเข้าใส่แนวหลัง ซึ่งทำลายกราแทงค์พังไป 4 คัน ทอฟนิคซ์ 5 ตัว และเมดลิคซ์ที่อยู่แนวหลังอีก 7 ตัวร่วงไป
              "กองรบแนวหลังของพวกมันถอยไปแล้วครับ" นายทหารคนสนิทกล่าว เมื่อเห็นพวกอีเนอไมนด์ล่าถอยไป
              เดเทมบอก "ดี ให้ทุกหน่วย ตามไปซ้ำเติมพวกมันเดียวนี้เลย"

              "ฟึ่บ!!!!!" ฉับพลันก็มีเงาพุ่งกระโจนออกจากกลุ่มแนวหลังลงมายังพวกทหารราบที่บุกเข้าใส่ตามคำสั่ง "ตรูมมมมม" ซึ่งพวกทหารก็ปลิวกระเด็นไปอย่างจังๆ เมื่อเงานั้นพุ่งกระทบพื้น ซึ่งพวกทหารที่ตามหลังมาก็ได้เห็น.... แมนิเกเตอร์ในชุดเกราะสีน้ำเงินแนบตัวพร้อมกับแขนกลที่มีมือสีน้ำเงินอยู่ "บะ บ้าน่า แมนิเกเตอร์ตนนี้ มัน...." นายทหารชายที่นินทาลับหลังผบ.อุทานขึ้น จนทหารอีกคนที่เห็นหน้าก็รีบชักปืนหมายจะยิงใส่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆ" "ปิ้วๆๆๆๆๆ" หากแต่กระสุนกลับไม่ระคายผิวเกราะตามตัวของแมนิเกเตอร์นามพีวิลไปได้เลย ซึ่งทำให้พวกทหารที่เหลือรีบใช้ปืนกลหนักเพื่อยิงให้พรุน "พึ่บบบบ แกร็ก" พีวิลสะบัดแขนซ้ายเพื่อให้เกราะรอบแขนทั้งสามด้านเผยปืนกลคู่ออกมา และหันมายังพวกทหาร โดยที่สายตาของเขาจับจ้องมาและ "ปี้บๆๆๆๆ" ล็อกเป้าพวกทหารเหล่านี้ไว้อย่างรวดเร็ว "อาร์มชู้ตเตอร์" พีวิลกล่าวแล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ปืนกลทั้งหกกระบอกที่แขนลั่นกระสุนสะเก็ดผลึกสีน้ำเงินออกไปอย่างรวดเร็วจน "อึ้ก อั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สังหารพวกทหารที่เตรียมปืนกลหนักจนเกราะมีรูพรุนจากด้านหน้าไปข้างหลัง ทหารชายคนดังกล่าวเลยรีบบุกด้วยปืนกลติดดาบปลายปืน "หมับบบบบ แกร็กกกก" แต่พีวิลกลับจับปลายกระบอกปืนเอาไว้ พร้อมกับบีบปืนไรเฟิ่ลจนหักงอไป ซึ่งทหารชายคนนั้นเห็นหน้าพีวิลก็...
              "...คุณ กลับมาเพื่อทำลายพวกเรานะหรือ เจ็บใจนัก เอาชีวิตเพื่อนผมคืนมา" รีบชักมีดที่เก็บไว้ตรงเอวมาแทง แต่.... "หวับบบบ เปรี้ยงงงงง" พีวิลกลับหลบออกและชกใส่นายทหารคนนั้นจนมีรูทะลุที่ติดเพลิงสีน้ำเงินไว้ จนพลทหารหนุ่มสิ้นชีพลงในทันที ส่วนพีวิลนั้น "พรึบบบบ" มือก็ลุกโชนด้วยเพลิงสีน้ำเงินสลายเลือดและเนื้อที่ติดมากับมือให้หายไป แล้วก็... "ฟ้าววววว ป้ากกกกกก ป้ากกกก ป้ากกกก" บุกเข้าจัดการกับพวกทหารแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยการชกใส่ด้วยแขนพิฆาตภายในหมัดเดียว โดยที่สีหน้าของพีวิลนั้นไร้ซึ้งอารมณ์และเหตุผลไปจนหมดสิ้นแล้ว
              "แพทรีออทส่งไพ่ตายลงมาเล่นงานพวกเราแล้วละครับ" ทหารชายกล่าวก่อนจะถูกพีวิลกระโดดหลบกระสุนระเบิดและกราดยิงด้วยอาร์มชู้ตเตอร์จนตายไป
              "ใครก็ได้ ขอกำลังหนุนมา อ้ากกกก" ทหารอีกหน่วยก็โดนพีวิลซัดกระสุนพลังเข้าจนเป่าระเบิดใส่ไป
              "เอาไงดีละครับ ไพ่ตายมันถล่มกองรบของเราราบคาบ จนพวกพ้องที่เหลือนั้นบุกเล่นงานต่อไปเลยนะครับ" ทหารคนสนิทบอก
              เดเทมบอก "ส่งหุ่นเกราะไป ฉันจะออกไปจัดการกับมันเอง"
              "โครมมมมม ป้ากกกก โครมมมม" ทอฟนิคซ์เข้าจัดการกับเหล่าทหาร ในขณะที่กริมลิคซ์เข้าขบกัดคอพวกทหารปืนเลเซอร์พร้อมกับใช้กงเล็บทิ้มเข้าที่หน้าอกซ้ำ โดยส่วนหนึ่งก็เข้าโจมตีด้วยปืนกลที่แขนเข้าใส่พลเครื่องยิงจรวดร่วงไปสามนาย เมดลิคซ์กระหน่ำยิงใส่ปากกระบอกช่องยิงจรวดจนระเบิดสังหารพลเครื่องยิงจรวด โดยที่พลทหารที่ทำหน้าที่อารักขาก็โดนเมดลิคซ์สังหารด้วยมีดดาบติดแขนไป โดยที่กองรถถังระดมยิงใส่แนวหลังของกองพันที่ 15 อย่างหนักหน่วง จนกระทั่ง... "ตรึง ตรึง ตรึง" มีหุ่นขนาดย่อมก้าวเดินออกมา "เวรแล้ว พวกมนุษย์นำบิ้กโทรลออกมากันแล้ววะ" กริมลิคซ์ตนหนึ่งกล่าว โดยที่หุ่นตัวนั้นเป็นหุ่นของเดเทมที่ควบคุมไว้ ซึ่งมีแขนซ้ายที่ติดปืนกลหนักกราดยิงใส่พวกอีเนอไมนด์ที่อยู่ห่างออกไปจนกระเจิง ตามด้วยการยิงมิไซล์จากแขนขวาเข้าใส่กราแทงค์จนระเบิดไปสองคันด้วยกัน "ว้ากกกกกก" ทอฟนิคซ์สามตัวบุกเข้าใส่บิ้กโทรลของเดเทมโดยใช้กำปั้นที่ตกผลึกสีน้ำเงินเข้าชกใส่ "โครมมมมม" แต่บิ้กโทรลชกใส่ทอฟนิคซ์ทั้งสามจนปลิวไป พร้อมกับบุกเข้ามา "โครมมมม" "อ้ากกกก" กระทืบหน้าอกของทอฟนิคซ์ให้พังไป แล้วก็กราดยิงใส่อีกสองตัวให้ร่วงในระยะเผาขน
              "เห็นหรือยัง กับบิ้กโทรล สุดยอดหุ่นเกราะศึกที่ทรงพลังที่สุด ซึ่งทางเราได้โมดิฟายมาเพื่อกำจัดพวกแกกันทั้งหมดนี้แหละ" เดเทมกล่าว โดยเล็งมายังพวกกริมลิคซ์ที่พยายามจะบุกเข้าใส่
              "ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" แต่เดเทมกลับถูกยิง แม้เกราะป้องกันของบิ้กโทรลจะหนาจนกระสุนยิงไม่เข้าเลยก็ตาม ซึ่งคนที่ยิงนั้น.... "แกเองสิน่ะ ดีเลย เพราะฉันจะบดขยี้แกด้วยบิ้กโทรลกันนี้แหละ" เดเทมควบคุมบิ้กโทรลเข้ามายังพีวิล พร้อมกับชกใส่ด้วยกำปั้นขนาดยักษ์ "หึ" พีวิลเห็นเช่นนั้นจึง.... "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าววว" ใช้พลังในตัวเร่งความเร็วและหลบหลีกด้วยความเร็วสูงหลบการโจมตีด้วยการชกลงพื้นไป เดเทมเลยกราดยิงด้วยปืนกลหนักเข้าใส่ "ตึกๆๆๆๆๆๆๆ" "ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" แต่พีวิลวิ่งเร็วมากจนกระสุนยิงลงพื้นไปกันหมด และโผกระโจนพร้อมกับ "แกร็ก ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ระดมยิงอาร์มชู้ตเตอร์ทั้งสองข้างพร้อมกันเข้าใส่ตรงเอว ซึ่งในตอนนี้พีวิลยิงปืนทั้งหมด 12 กระบอกเข้ากราดใส่บิ้กโทรลไปอย่างจังๆ "เหอะ ถึงยิงไปหลายกระบอกก็ไม่ระคายกันหรอก" เดเทมยิงมิไซล์เข้าใส่พีวิล "ตรูมมมม" จนทำให้พีวิลปลิวกระเด็นกลางอากาศไปอย่างจังๆ
              "ท่านแพทรีออท เกรงว่าท่านตั้งความหวังไว้มากเกินไปแล้วนะครับ" พลาทูนั่มกล่าวอย่างใจคอไม่ดี แต่แพทรีออทยิ้มพร้อมกับพูดไปว่า
              "ใครบอก เดเทมได้ฆ่าตัวเองต่างหากละ"
              "หึ...." พีวิลที่ปลิวกระเด็นไปนั้น ไม่ได้เสียท่าอย่างที่พลาทูนั่มหรือเดเทมคิด เพราะเขารีบกระโดดขึ้นสูงในจังหวะเดียวกันกับที่มิไซล์ยิงเข้าใส่และระเบิดขึ้นมา ซึ่งแรงระเบิดนั้นได้ส่งพีวิลปลิวขึ้นสูงจากพื้นไป "ฮาร์ดนัคเคิ้ล เอนเนลซอนแคลช" พีวิลกล่าวโดยที่กำปั้นข้างขวาของเขาเรืองแสงสีฟ้าขึ้น พร้อมกับ "ฟ้าววววววว" พุ่งลงมาในแนวเฉียงเข้าใส่บิ้กโทรลอย่างรวดเร็ว แล้วก็... "ป้ากกกกก เปรี้ยงงงงงง ตรูมมมมมม" ชกเข้าใส่เกราะด้านหน้าของบิ้กโทรลจนบุบและระเบิดไปเต็มๆ จนเซผงะไปอย่างจังๆ แต่เดเทมก็หวดแขนขวาเข้าชก "หวับบบบ ป้ากกกก โครมมมมมมม เปรี้ยงงงงง" พีวิลสวนกลับด้วยซ้ายตรงปะทะกับหมัดเหล็กขนาดใหญ่ของบิ้กโทรล ซึ่งพลังหมัดเสริมกับพลังงานที่เพิ่มมานั้นทำให้กำปั้นเหล็กกล้าถึงกับบุบและถูกบีบอัดจนแขนกระจุยไปในเวลาอันสั้น "หวับบบบบ โครมมมมม" แล้วก็ชกซ้ำที่แขนซ้ายตามจนกระจุย และเปิดช่องให้พีวิลทิ้มมือขวาที่ยังเรืองแสงอยู่จิกเข้าตรงแผ่นเกราะหน้าอกและ "แกร็ก โครมมมม หวับๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กกก" กระชากออกมาจนแผ่นเกราะนั้นปลิวกระเด็นลงมาปักกับพื้น เผยให้เห็นนายพลชราที่มีอาการสาหัสจากการต่อยเมื่อก่อนหน้า ซึ่งนายพลเดเทมได้เห็นหน้าของพีวิลก็ถึงกับหน้าซีดเหมือนไก่ต้ม เพราะว่า.... "ธะ เธอเองนะหรือ นึกว่าจะถูกฆ่าตายจนศพไม่เหลือซากเสียอีก และตอนนี้ คงจะมาตอบแทนที่ช่วยชีวิตฉันไว้สิ" เดเทมพูดเหมือนรู้จักกับพีวิลมาก่อน
              "หมายความว่ายังไงกัน" พีวิลถาม
              เดเทมตอบทั้งๆที่อาการสาหัสอยู่แล้ว "จำไม่ได้เลยหรือ ฉันเคยถูกไอ้พวกเวรที่มาโจมตี แล้วได้เธอพาพวกมาช่วยเอาไว้ แต่น่าสมเพชจริงๆ ที่เธอกลายเป็นพวกเดียวกับไอ้เวรแพทรีออทไปเสียได้ รู้งี้น่าจะฆ่าให้ตายก่อนจะดี..."
              "หมดคำพูดแล้วสิน่ะ" พีวิลกล่าว พร้อมกับเงื้อหมัดขึ้นและ... "ป้ากกกกก" "อ้ากกกกกก" ชกใส่ร่างของนายพลเดเทมที่ยังติดอยู่ในตัวหุ่นทั้งอย่างงั้นจนสิ้นชีพลง
              แพทรีออทยิ้มกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงสั่งการต่อไปว่า "ทุกหน่วย จัดการอย่าให้เหลือซากไปซะ"
              หลังจากนั้น กองบัญชาการกองพันที่ 51 ก็ถึงคราวพังพินาศ ซากรถถัง ปืนใหญ่และซากศพเหล่าทหารทั้งระดับบนไปล่าง ต่างก็กองกระจัดกระจายกันไปทั่ว พร้อมกับการจากไปของกองทัพหายนะสีน้ำเงินที่น่ากลัวของแพทรีออท นามว่า กองรบอีเนอไมนด์

              ที่ฐานทัพหลักของพวกอีเนอไมนด์ โฮปป้าสคาโพลนอส 3 วันต่อมา
              "วาลว์-1 ถึง 10 ในตอนนี้ สร้างกำลังพลขึ้นมาทดแทนในส่วนที่พวกเราขาดไปกันแล้วคะ" เมดลิคซ์นางหนึ่งมารายงานต่อแพทรีออท ซึ่งติดต่อทางไกลเข้ามา
              เมดลิคซ์อีกตนรายงานว่า "ฐานการผลิตรถถังกราแทงค์เสร็จสิ้นไปแล้ว 10 คัน ภายใน 2 วัน ก็จะได้ครบจำนวนที่ให้ไว้แล้วละคะ"
              "ทำได้ดีมาก แล้วการต่อต้านของฝ่ายกบฎล่ะ" แพทรีออทถามกริมลิคซ์ ซึ่งตอบไปว่า
              "กบฎโคเคสที่อยู่ในเขตอเมริกาต้องล่าถอยไป โดยพวกเราได้เผาทำลายฐานที่มั่นของพวกมันลงไปแล้วนะครับ" โดยในตอนนี้ หน่วยทอฟนิคซ์ใช้เครื่องพ่นไฟสีน้ำเงินเข้าแผดเผาหมู่บ้านจนมอดไหม้ไปกันหมด
              "ถึงล่าถอยไปได้ ก็มีโอกาสสร้างขุมกำลังขึ้นใหม่ได้ หากมีโอกาส กำลังคนและทรัพยากรมากพอ ตามไปจัดการให้สิ้นซากซะ คาวาดัน" แพทรีออทกล่าว
              กริมลิคซ์ที่เป็นตัวหัวหน้าตอบรับคำสั่งว่า "รับทราบแล้วครับ"
              "แล้วตอนนี้ พีวิลเป็นยังไงบ้างละ" แพทรีออทถามทอฟนิคซ์ตนหนึ่ง โดยเขารายงานว่า
              "ด้วยความช่วยเหลือของเขา ตอนนี้ กองรบที่ซีแอทเทิ้ลถูกถล่มไปแล้วละครับ" ซึ่งพีวิลบุกเข้าโจมตีกองรบด้วยอาร์มชู้ตเตอร์เข้าใส่ทหารราบจนล้มกลิ้ง แต่เหล่าทหารก็นำหุ่นแบบบิ้กโทรลออกมาโดยหวังจะสอยพีวิลให้ร่วงด้วยแขนติดมิไซล์ แต่... "เอนเนอจี้โบลท์" พีวิลแบมือข้างขวาและซัดกระสุนพลังงานพุ่งเข้า "ป้ากกกก ตรูมมมม" อัดใส่ท่อนขาซ้ายจนระเบิด ตามด้วยการซัดกระสุนพลังเข้าใส่เครื่องยนต์ข้างหลังจนระเบิดสังหารทหารที่ควบคุมเอาไว้ แม้กองรบยานเกราะหกล้อบุกเข้ามาด้วยปืนกลติดป้อมมิไซล์ พีวิลก็เข้าช่วยทอฟนิคซ์ติดปืนใหญ่ด้วยการ.... "ฟ้าวววว เปรี้ยงงงง ตรูมมมมม" กระโดดขึ้นสูงพร้อมกับพุ่งทิ้งดิ่งและชกลงไปกลางป้อมและยานเกราะจนบุบและระเบิดไป เปิดช่องให้พวกทอฟนิคซ์กระหน่ำด้วยปืนใหญ่เข้าใส่ยานเกราะจนระเบิดไปทีละคันสองคัน ส่วนพีวิลนั้น ก็ลุกขึ้นมาจากกลางซากรถถังไว้ พร้อมกับมองดูพวกอีเนอไมนด์ถล่มกองรบของมนุษย์จนราบคาบไป
              "เยี่ยม พีวิลไม่ทำให้พวกเราผิดหวังกันจริงๆ ตอนนี้ สั่งให้ทุกหน่วยพักเหนื่อยกันไว้ก่อนน่ะ อ้อ บอกให้พีวิลไปพักด้วย" แพทรีออทกล่าว ทอฟนิคซ์ตัวหัวหน้าพยักหน้า จากนั้น พลาทูนั่มก็เดินเข้ามา
              "ท่านแพทรีออทครับ มีเรื่องสำคัญจะมารายงานกันนะครับ"
              "ว่ามาเลย พลาทูนั่ม" แพทรีออทสั่ง
              พลาทูนั่มพยักหน้าพร้อมกับแจ้งข่าวว่า "คือว่า ขุนพลครองคอร์ด เดินทางมาถึงที่นี้กันแล้วละครับ คาดว่าน่าจะมาด้วยเรื่องตรวจสอบกำลังรบของพวกเราในตอนนี้นะครับ"
              "ท่านขุนพลคงจะทราบเรื่องของพีวิลกันดีสิน่ะ แจ้งให้เขาเข้ามาได้เลย" แพทรีออทรับทราบจึงอนุญาต พลาทูนั่มพยักหน้าพร้อมกับเดินหลีกทางให้กับ แมนิเกเตอร์หุ่นรบเกราะสีเทาที่มีส่วนหัวที่แหลม ใบหน้าเจ้าเล่ห์ มีส่วนขาเป็นขาบู้ทเดินเข้ามาในห้อง ซึ่งแพทรีออทปิดการสื่อสาร และยืนขึ้นทำความเคารพด้วยการกำหมัดหันแขนมาแนบกับหน้าอกและก้มหัวลง "ขุนพลครองคอร์ด ลำบากท่านเดินทางมานี้แล้วสิครับ"
              แมนิเกเตอร์หัวแหลมนามครองคอร์ดพยักหน้าและพูดกับแพทรีออทอย่างเป็นกันเองว่า "ท่านแม่ทัพ ข้าไม่ได้มาอย่างเป็นทางการ เลยไม่ได้แจ้งให้ท่านทราบ ไม่ต้องมากพิธีกันหรอก"
              "เข้าใจแล้วละครับ" แพทรีออทตอบรับ และหันมาถามว่า "ว่าแต่ ขุนพลครองคอร์ดเดินทางมานี้ คงจะมาเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของพวกเราสิครับ"
              ครองคอร์ดพยักหน้า "ถูกต้อง และข้ามาเพื่อประเมินผลยอดขุนพลคนล่าสุดของท่านไปด้วยนี้แหละ ซึ่งข้าอยากจะเดินคุยกับท่านสักหน่อยน่ะ"
              "งั้นข้าจะพาท่านไปดูการทำงานของเราแล้วกัน พลาทูนั่ม ให้ทุกๆคนทำงานไปตามปกติแล้วกัน" แพทรีออทกล่าวและสั่งการลูกน้องคนสนิทไว้ พลาทูนั่มพยักหน้า โดยที่แพทรีออทและครองคอร์ดเดินออกจากห้องไปตามทางเดินไว้ หารู้ไม่ว่า
              "พีวิล นายนิมัน...." พลาทูนั่มแสดงความไม่พอใจต่อผู้เป็นนายนัก

              "แพทรีออท นี้ก็ผ่านไป 5 ปีแล้วนะ นับแต่ท่านจักรพรรดิ์มอบโอกาสหนที่สองให้กับเจ้าในการสร้างขุมกำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายที่เจ้าประสบกับความล้มเหลวนิ ยังจำได้หรือเปล่าละ" ครองคอร์ดถามเข้าประเด็นและเตือนความจำไปในตัว
              แพทรีออทตอบ "ข้ายังจำได้ดี ข้าในตอนนั้นเป็นนายทหารที่ต่อต้านการปกครองของประธานาธิบดีหน้าหมู ซึ่งร่วมมือกับพวกกังฉินโกงกินและทำให้บ้านเมืองเสียหายจนเกิดความวุ่นวายถึงขั้นที่มีการประท้วงอย่างรุนแรง แต่ไอ้ประธานาธิบดีหน้าหมูนั้นมีกำลังทหารอันแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าเสียลูกน้องไปไม่น้อย ถึงขั้นที่ต้องใช้พวกไซบอร์กออกไปจัดการ น่าเสียดาย ที่ไอ้หน้าหมูนั้นมันรู้เรื่องจากสายลับที่ส่งไปแฝงตัว ทำให้ข้าพเจ้าถูกพวกมันกวาดล้างและถูกฆ่าตายไป ในช่วงที่ข้าพเจ้าสิ้นสตินั้น ท่านกับจักรพรรดิ์โอเวอร์เดสได้พาข้ามา พร้อมกับยื่นข้อโอกาสให้ข้ากลับมาแก้แค้นไอ้หน้าหมูนั้น ด้วยการสร้างขุมกำลังแมนิเกเตอร์อีเนอไมนด์ ไปแก้แค้นไอ้หน้าหมูกับพวกพ้องได้เป็นผลสำเร็จกันน่ะ"
              "แล้วเจ้าก็เผาประธานาธิบดีหน้าหมูคนนั้นให้กลายเป็นหมูหันแบบเกรียมเป็นเถ้าถ่าน พร้อมกับพวกกังฉินและญาติพี่น้องทั้งหลายคาสภากลาง เป็นการประกาศศักดาว่าเจ้าได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าก็ได้แก้แค้นสมใจเลยสิน่ะ" ครองคอร์ดกล่าว
              แพทรีออทบอก "บุญคุณที่ท่านกับท่านจักรพรรดิ์มอบให้ ข้าได้ตอบแทนด้วยการทำงานรับใช้พวกท่านไว้นี้แหละ" โดยเดินผ่านพวกเมดลิคซ์ที่กำลังซ้อมยิงปืน และฝึกต่อสู้กันเองตามห้องต่างๆ
              "ในตอนนี้ อีเนอไมนด์เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมากที่สุด เพราะว่าพวกเจ้าได้ขยับขยายขอบเขตของพวกเจ้าด้วยการโจมตีไปที่บังเกอร์ลี้ภัยของพวกมนุษย์ที่ยังหลับสนิทไม่รู้เรื่องราวและระวังตัวมากเลยสิน่ะ" ครองคอร์ดกล่าว ซึ่งตอนนี้เดินผ่านมายังห้องโถงใหญ่ ที่มีแคปซูลของเหล่ามนุษย์ที่ถูกผลึกสีน้ำเงินเกาะตามตัว โดยที่กริมลิคซ์นำแท่นบินมาเพื่อนำร่างมนุษย์ที่มีผลึกตามตัวออกไป
              "ส่วนหนึ่ง เป็นเพราะคำแนะนำของท่านเองแหละ ที่แนะนำให้ข้าในเรื่องการใช้พลเมืองที่ยังจำศีลอยู่ในหลุมหลบภัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด แม้ว่าพวกเขา จะหลบหนีการคุกคามจากท่านจักรพรรดิ์เมื่อ 40 ปีก็ตาม"
              "กว่าพวกนั้นจะรู้ว่า พวกเขาหนีกำมือของท่านโอเวอร์เดสไม่พ้น มันก็สายเกินแก้แล้ว เพราะพวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเจ้า หรือไม่ก็กองรบอื่นๆกันไปแล้วนะ หึๆๆๆๆๆ" ครองคอร์ดบอก และหันมายังห้องสายพาน ซึ่งเข้าสู่กระบวนการผลิตเมดลิคซ์ กริมลิคซ์และทอฟนิคซ์กันอยู่ โดยอีกด้านนั้น เหล่ามนุษย์ที่มีผลึกสีน้ำเงินเกาะอยู่ได้ถูกนำเข้ามาในห้อง ซึ่งเมดลิคซ์และทอฟนิคซ์ทำการควบคุมแขนกลให้ประกอบชุดเกราะกันจนกลายเป็นกริมลิคซ์หนึ่งตัว ซึ่งก็ขยับตัวหลังจากที่กระบวนการสร้างนั้นเสร็จสิ้น "ตามความเห็นของเจ้า อีเนลเซียมให้ประโยชน์กับพวกเจ้าเช่นไรกันละ"
              แพทรีออทบอก "ผลึกพลังงานอันทรงคุณค่าที่ท่านโอเวอร์เดสมอบให้นั้น ไม่เพียงทำให้ผู้ที่ผลึกเกาะตามตัวหรือถูกฝังเข้าไปในร่างกายนั้น มีพลังอันมหาศาล แต่ยังมีความรวดเร็วทั้งการกระทำ ความคิด การตัดสินใจ และการฟื้นฟูที่เพิ่มขึ้น เหนือกว่าพวกมนุษย์ธรรมดาหลายเท่า ถึงแม้ว่าเหล่าสมุนภายใต้บัญชาของข้าพเจ้า จะไม่ได้เป็นมนุษย์กันแล้วก็ตามน่ะ" ความนัยของแพทรีออทนั้น ลูกน้องใต้บังคับบัญชาล้วนแล้วเป็นมนุษย์และหุ่นด้วยกันทั้งสิ้น
              "อีกข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ มันสามารถขยับขยายตัวของมันเองได้ ตราบใดที่ยังมีพลังงานหรือแร่ธาตุอื่นไปกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์และเจริญเติบโต แม้ว่าอีเนลเซียมจะเป็นแค่แร่ที่เกิดจากการสังเคราะห์เทียม แต่ก็ให้พลังงานที่เข้มข้นและบริสุทธิ์ เทียบเท่ากับสินแร่บริสุทธิ์ที่เกิดตามธรรมชาติ แต่ไม่สามารถทดแทนได้แบบต้นไม้หรือสิ่งมีชีวิต เหมือนที่อีเนลเซียมเป็น..." ครองคอร์ดอธิบายข้อดีของแร่อันเป็นแหล่งพลังงานของพวกอีเนอไมนด์ ซึ่งถูกเก็บเอาไว้ในส่วนที่เป็นโรงเพาะปลูก โดยที่ผลึกเหล่านั้นตกผลึกสร้างก้อนธาตุขึ้นมาได้เอง จากการที่กริมลิคซ์ปล่อยกระแสไฟฟ้าหรือใช้แสงอาทิตย์เทียมยิงใส่ จนทำให้เกิดการตกผลึกขึ้นมา เพื่อให้ทอฟนิคซ์เอาสว่านมาเจาะสกัดเพื่อนำแร่ไปเข้าสู่กระบวนการแปรรูปหรือเปลี่ยนเป็นพลังงานในทันที
              แพทรีออทบอก "ที่ท่านพูดมานิ กำลังจะถามข้าว่า ข้าคิดจะหักหลังท่านโอเวอร์เดสอย่างงั้นสิ"
              "แล้วคำตอบของเจ้าคงจะเป็นอย่างที่ข้าสงสัยไว้เลยสิน่ะ" ครองคอร์ดถามกลับ
              แพทรีออทยิ้มพร้อมกับตอบแบบตรงๆว่า "ของขวัญที่ทรงคุณค่าดุจฟ้าประทานมานั้น ไม่มีทางทำให้ข้าเปลี่ยนใจคิดเป็นศัตรูกับท่านโอเวอร์เดสกันได้หรอกนะ ท่านขุนพลครองคอร์ด" แล้วก็พาขุนพลหัวแหลมยืนบนแท่น และควบคุมให้มันพาทั้งคู่ลงไปยังชั้นล่างสุด อันมีแท่งผลึกสีน้ำเงินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางไว้ "ที่จริง ข้าควรจะขอบคุณท่านโอเวอร์เดสซะมากกว่าที่มอบโอกาสทอง ให้ข้าดำเนินแผนการไปตามที่ท่านมอบให้มาเป็นอย่างดี ดังนั้น ข้าไม่มีทางดูหมิ่นหรือทำให้ท่านโอเวอร์เดสผิดหวังด้วยการทรยศหักหลังอย่างที่ท่านคิดกันหรอกน่ะ"
              "แม้กระทั่ง ผลงานชิ้นเยี่ยมอันล่าสุดก็ด้วยละสิ" ครองคอร์ดเอ่ยถึงพีวิล ซึ่งทำเอาแพทรีออทที่กล่าวอย่างภูมิใจต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมา ขุนพลหัวแหลมที่เห็นสีหน้าของผู้นำอีเนอไมนด์จึงพูดต่อไปว่า "แพทรีออท ท่านได้สร้างพลาทูนั่ม ซึ่งเป็นอดีตทหารคนสนิทที่จงรักภักดีต่อท่านมากที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เมื่อก่อนนี้ ท่านส่งเสริมพลาทูนั่มให้ก้าวหน้าและตั้งใจทำงานตามคำสั่งของท่านมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แต่....หลังจากที่ท่านสร้างพีวิลขึ้นมาแล้ว ข้าเกรงว่า การกระทำของท่าน อาจจะทำให้พลาทูนั่มเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมาก็เป็นได้ เนื่องจากท่านให้ความสนใจหมดไปกับขุนพลหมัดเพลิงผู้นั้นไปแล้วน่ะ"
              แพทรีออทบอก "ข้ารู้ว่าพลาทูนั่มรู้สึกเช่นไร แต่....การที่ข้าทำเช่นนี้ ก็เพื่อให้แน่ใจว่า พลาทูนั่มจะสามารถจัดการกับพีวิล หากว่ามีเหตุที่ทำให้พีวิลไม่ทำตามคำสั่ง หรือคิดทำตัวเป็นศัตรูกับพวกเราไม่ว่าจะเหตุผลกลใดก็ตาม แต่ ไม่ว่ายังไง พีวิลไม่มีทางมาต่อต้านกข้าได้ง่ายๆหรอก"
              "แน่ละ เพราะว่าท่านเป็นคนเปลี่ยนยอดวีรบุรุษที่เก่งกล้าที่สุดของพวกมนุษย์ให้กลายเป็นศัตรูตัวเอ้ที่ไม่ว่าจะไปโผล่ตรงไหนของโลก พีวิลก็ไม่แคล้วต้องถูกพวกมนุษย์ที่เกลียดเข้ากระดูกดำฆ่าทิ้งอยู่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านคิดไว้สิน่ะ" ครองคอร์ดพูดเดาทางความคิดของแพทรีออท จนอีกฝ่ายหันมาถาม
              "....แล้วตามความเห็นของท่านนั้น ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พีวิลมีข้อผิดพลาดตรงไหนให้ท่านมาตำหนิข้าได้กันละ"
              "ในช่วงยุทธการปราบเฮลดรอย จักรกลชีวภาพที่เสียการควบคุมและออกอาละวาดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ข้าจำต้องใช้ทั้งกองรบแอตแลนไทซ์ของแม่ทัพเกซเฟลิค กองทัพอัศวินครอสตรีม และกองรบอีเนอไมนด์ของเจ้า เพราะข้าประเมินได้ว่า เฮลดรอยมันร้ายกาจกว่าที่คิดไว้ เนื่องจากว่าพวกมันได้กลืนกินพวกมนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้เคียง ครอบงำพวกหุ่นยนต์ที่อยู่ในหลุมหลบภัยต่างๆ แม้กระทั่งกองรบพี่น้องแห่งเหล็กก็ไม่เว้น ต้องตกเป็นเหยื่อของเฮลดรอยไปกันทุกราย" ครองคอร์ดเล่าเรื่องที่เกิดก่อนหน้าให้แพทรีออทฟัง ซึ่งนายพลก็ออกความเห็นว่า
              "ข้ายังจำได้ดี พวกนี้มันอันตรายเกินกว่าจะควบคุมได้ ซึ่งไม่ใช่แค่พวกมนุษย์ที่ต้องหวาดกลัว เนื่องจากคอมแมนโดวรหัสเวเฟอร์กับพวกเองที่ลงไปกำจัด ก็ยังถูกพวกมันกลืนกินไปซะได้ จนพวกเราทุกฝ่ายรู้ว่า ถึงได้พวกนี้มาเป็นแนวร่วม พวกเราคงเสร็จพวกมันอย่างแน่นอน"
              "และการรบในครั้งนั้น ถือว่าหนักหน่วงไม่น้อย จนสถานการณ์ย้ำแย่ถึงขั้นที่ชัยชนะหลุดมือของข้าไป ซึ่ง....ข้าต้องขอบใจพีวิลด้วย ที่เข้ามาช่วยข้าจากการถูกเฮลดรอยที่ใช้ร่างของคอมแมนโดวเวเฟอร์มาสังหาร ด้วยการ...." ครองคอร์ดกล่าวโดยหวนนึกถึงตอนที่คอมแมนโดว์ผู้โชคร้ายนั้น "ฟ้าวววว ป้ากกกกก" ถูกพีวิลพุ่งเข้ามาชกใส่หน้าเต็มๆ แล้วก็... "พรึบบบบบ ควับๆๆๆๆๆๆๆๆ" จุดเพลิงสีน้ำเงินที่ฝ่ามือทั้งสองข้างแล้วก็เหวี่ยงหมุนแขนทะยานขึ้น ซึ่งก็แผดเผาพวกเฮลดรอยให้มอดไหม้ด้วยเพลิงพลังอีเนลเซียมไว้ได้ ส่วนครองคอร์ดที่เกือบตายก็ถอนใจอย่างโล่งอก
              "เรื่องนั้นถือว่าเป็นความดีความชอบของพีวิลที่ช่วยท่านไว้ แม้ในภายหลัง ข้าบอกกับเขาว่า ท่านมีสถานะเป็นเช่นไรกันน่ะ"  แพทรีออทบอก
              "ใช่ พีวิลติดหนี้บุญคุณข้าไว้เมื่อครั้งที่เขาทำงานให้กับเจ้ามาแล้วน่ะ" ครองคอร์ดบอก และเล่าต่อ "หลังจากนั้น ข้าก็ได้ติดตามการทำงานของพีวิล เช่นเดียวกันกับนักรบแมนิเกเตอร์จากกลุ่มต่างๆที่ร่วมรบกับข้าในการปราบพวกเฮลดรอยในครั้งนั้นมาตลอด 2 ปี ซึ่ง ผลงานชิ้นเยี่ยมของเจ้าทำได้ดีเกินมาตราฐานของข้ากันเลยน่ะ"
              แพทรีออทบอก "มิกล้า ส่วนหนึ่งเพราะท่านเห็นความสำคัญของพีวิลและอีเนอไมนด์ของพวกเรากันเป็นอย่างดีเลยนะครับ"
              "แล้วจะจัดการส่งเขาไปทำงานชิ้นโตให้กับท่านจักรพรรดินีกันได้หรือยังละ" ครองคอร์ดถาม
              แพทรีออทที่ยิ้มกลับมีสีหน้าที่หวั่นเกรง "ท่านโอเวอร์เดสมีบัญชาให้ท่านต้องส่งกำลังรบที่ผลิตและฝึกฝนเสร็จสิ้นออกไปนอกโลก ซึ่งทางครอสตรีมและแอตแลนไทซ์ตอบตกลงกันไปแล้ว ส่วนลูนาร์ตี้เองก็ปฏิเสธไม่ส่งกำลังไปหากไม่ถึงคราวจวนตัวจริงๆ ดังนั้น จึงเหลือเพียงท่านเท่านั้นที่ข้ายังไม่ได้ข้อสรุปกันน่ะ" แล้วตนก็ตอบเลี่ยงๆไปว่า "เรื่องนี้ ให้ข้าติดต่อกับท่านโอเวอร์เดสเองจะได้มั้ยละ ขุนพลครองคอร์ด"

              "อืมมมมมม ข้าคิดไว้แล้วว่าท่านจะต้องมาไม้นี้ ถ้าเช่นนั้น ข้าจะจัดให้เดียวนี้เลยแล้วกันน่ะ" ครองคอร์ดได้ฟังก็ตอบตกลง แพทรีออทพยักหน้าเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายยินยอมให้แล้ว จึงนำแท่นลอยขึ้นมายังห้องโถงหลัก เพื่อให้ครองคอร์ดส่งหุ่นเล็กฉายภาพโฮโลแกรมของ แมนิเกเตอร์ที่มีกายาอันใหญ่โต ใบหน้าอันน่าเกรงขาม ซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ขนาดยักษ์ใหญ่ โดยที่ตรงหน้าของผู้นำฉายภาพโฮโลแกรมของครองคอร์ดและแพทรีออท ซึ่งคุกเข่าคำนับแสดงความเคารพต่อ
              "องค์จักรพรรดิ์โอเวอร์เดส บิดรเทพผู้ไร้เทียมทาน ผู้นำสูงสุดของพวกเรา ข้า แม่ทัพแพทรีออท มาเพื่อชี้แจงต่อท่านเหนือหัวสูงสุดด้วยตัวข้าเอง" แพทรีออทเอ่ยนามของเหนือหัวของเขาและครองคอร์ด
              "ลุกขึ้นได้แล้ว แม่ทัพแพทรีออท" โอเวอร์เดสกล่าว แพทรีออทได้ฟังก็ลุกขึ้นพร้อมกับครองคอร์ด แล้วก็รับฟังเหนือหัวกล่าวขึ้นว่า "เจ้าคงจะมาด้วยเรื่องการส่งออกกำลังพลของเจ้าแล้วสิน่ะ"
              แพทรีออทพยักหน้าและบอกไปว่า "ขอรับ ท่านโอเวอร์เดส และข้าจะมาบอกว่า ข้าต้องการเวลาในการเพิ่มกำลังพลทดแทนในส่วนที่เสียหายไปอีกสักอาทิตย์หรือนานกว่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่า กำลังพลของข้านั้นจะแสดงประสิทธิภาพให้ดีกว่ากองอื่นๆกันนะครับ"
              "....แต่ ข้าทราบมาว่า กำลังรบของท่านนั้น ไม่เพียงมีการพัฒนาด้านศักยภาพที่รวดเร็วและเพิ่มจำนวนได้อย่างมากมายมหาศาล เหนือกว่ากองรบอื่นๆอีก 4 กอง จนแทบจะเป็นขุมกำลังรบที่ทรงอิทธิพลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แม้ว่าการก่อตั้งกองรบจะมาทีหลังสุดเพียง 5 ปีก็ตาม การที่ท่านยืดเวลาการส่งกำลังรบนั้น ทำให้ท่านโอเวอร์เดสคิดว่าท่านคิดไม่ส่งกำลังรบและวางแผนก่อกบฎกันอยู่น่ะ" แมนิเกเตอร์ที่ยืนบนแท่นลอยใกล้กับหน้าอกของโอเวอร์เดสกล่าวขัด เขาผู้นั้นสวมหมวกทรงสูงประทับชฎาครึ่งวงกลมมาในชุดคล้ายนักพรต แต่จริงๆแล้ว เขามีสถานะเป็น...
              "ท่านผู้คุมกฎเกซิค ที่ท่านพูดมานั้น มันเป็นคำพูดของท่านโอเวอร์เดส หรือว่าเป็นของท่านกันมิทราบละ" ครองคอร์ดกล่าว
              "ขุนพลครองคอร์ด ข้าไม่อยากจะมีปากเสียงกับท่านต่อหน้าท่านโอเวอร์เดสกันนะ แต่ความสงสัยของข้าก็เป็นความสงสัยของท่านโอเวอร์เดสเช่นกัน" เกซิคบอก และชี้แจงไปว่า "ท่านขุนพลยังไม่ทราบกันน่ะ ว่ากองรบอีเนอไมนด์กองที่ 15 ไปมีเรื่องกับกองรบของแอตแลนไทซ์ จนเกิดการตะลุมบอนอย่างหนักหน่วง ยังไม่พอ กองรบที่ 31 ที่ถูกส่งไปควบคุมโรงผลิตไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ที่คาเมรูน กระทำการเกินกว่าเหตุจนทำให้เตานิวเคลียร์ระเบิด ส่งผลให้มีมนุษย์ล้มตายไปไม่น้อยและหลบหนีออกจากชุมชนที่เป็นเขตของพวกบีสทอยด์เผ่าลิงยักษ์กันด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพราะว่าคำสั่งการของท่านไม่ครอบคลุมไปถึงกองรบที่นับวันยิ่งเพิ่มจำนวนยิ่งขึ้นจนเกินการควบคุมกันแล้วน่ะ"
              แพทรีออทบอก "สองเรื่องนี้ เรื่องแรก กองรบแอตแลนไทซ์เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ซึ่งข้าพเจ้าได้สั่งลงโทษพวกนี้ด้วยการไปใช้แรงงานผลิตพาหนะและหุ่นรบกันแล้ว ซึ่งข้าได้พูดคุยและอธิบายเรื่องนี้ให้เกซเฟลิคทราบด้วย ส่วนเรื่องที่สองนั้น หัวหน้ากองรายงานมาเอง ว่าการระเบิดเตาปฏิกรณ์เป็นฝีมือของพวกมนุษย์ที่ต้องการหลอกพวกเราไปติดกับและกำจัดทิ้งภายในคราวเดียว โดยไม่แยแสชีวิตมนุษย์ที่อยุ่ในเขตชุมชนที่ยังอยู่รั้งท้ายไว้เลย ทำให้พวกเราต้องหลบหนีไปพร้อมกับพวกมนุษย์ทั้งหมด โดยเรื่องนี้ได้ชี้แจงให้กับหัวหน้าเผ่าลิงยักษ์รับทราบกันแล้วนะครับ"
              "เรื่องที่แพทรีออทว่ามานั้น ข้ายืนยันได้ เพราะว่าข้าเป็นคนรับรายงานมาเองนะครับ ท่านโอเวอร์เดส" ครองคอร์ดช่วยพูดให้แพทรีออทเพิ่มความน่าเชื่อถือไว้ โอเวอร์เดสพยักหน้า แต่ยังไม่ตำหนิเกซิคในเรื่องนี้ และหันมาถามแพทรีออทว่า
              "แต่ กำลังรบของเจ้าเองก็ถือว่าเยอะจนเกินการควบคุมตามที่เกซิคว่าไว้กันแล้วน่ะ ถ้าเจ้าไม่ลดจำนวนกองรบของเจ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การถ่ายทอดคำสั่งของเจ้าก็จะไม่ครอบคลุมไปถึงกองรบอื่นๆทั้งเก่าและใหม่ไปด้วย ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลสำคัญที่ข้าต้องการให้เจ้าสามารถควบคุมกองรบได้เต็มประสิทธิภาพ มิใช่สร้างๆและเก็บเอาไว้โดยไม่มีการปล่อยออกไปกันได้น่ะ แพทรีออท"
              "คำเตือนของท่าน ได้ลบล้างความโง่เขลาของข้าลงไปได้แล้วละครับ" แพทรีออทบอก "เรื่องการส่งกำลังรบออกนอกโลกนั้นข้าทำได้แน่ๆนะครับ แต่....พีวิลและพลาทูนั่มไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะออกนอกโลกกันได้เลยนะครับ"
              เกซิคบอก "แต่ ทั้งคู่ล้วนแล้วเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของท่านที่สร้างขึ้นมา และมีประสิทธิภาพเหนือกว่าแมนิเกเตอร์ตนอื่นๆกันแล้ว ท่านคิดจะเก็บทั้งคู่ไว้อีกหรือ ในเมื่อทั้งคู่ถึงเกณฑ์ที่จะส่งไปทำงานนอกโลกกันแล้วน่ะ"
              "ด้วยความเคารพ ท่านผู้คุมกฎ พลาทูนั่มยังต้องเรียนรู้อีกมาก และยังเร็วไปที่จะส่งออกไปรับใช้ท่านจักรพรรดินีในตอนนี้ ส่วนพีวิล แม้จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าพลาทูนั่มและมีผลงานมากมายในการปฏิบัติการณ์กัน แต่....ยังมีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถส่งออกไปนอกโลกตามที่สั่งมากันนะครับ" แพทรีออทให้เหตุผล
              โอเวอร์เดสกล่าว "....พีวิลยังคงใช้แกนหัวใจที่ไม่สามารถสร้างพลังงานได้ด้วยตัวเอง และต้องพึ่งพลังงานอีเนลเซี่ยมภายในขอบเขตอย่างงั้นนะหรือ"
              "ครับ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าพีวิลจะไม่มีทางออกนอกคำสั่งหรือมีการหนีออกไปนอกเขตอิทธิพลของพวกเรา ข้าพเจ้าจึงติดตั้งแกนหัวใจแบบที่ดึงพลังงานที่อยู่ในขอบเขตควบคุมของพวกเราไว้ ซึ่งถ้าพีวิลหนีออกไปนอกเขตขึ้นมาไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ เขามีเวลาเพียง 2 วันในการเดินทางเข้าสู่เขตรัศมีพลังงาน มิเช่นนั้น ร่างกายของเขาที่ปราศจากพลังงานอีเนลเซียมหล่อเลี้ยงจะเสื่อมสภาพและถึงแก่ชีวิตไปในทันที ชนิดที่ไม่สามารถคืนชีพได้อีกเลยนะครับ"
              เกซิคกล่าว "แล้วถ้าเรื่องที่ผลงานชิ้นเยี่ยมอันล่าสุดนั้นหักหลังจริงๆขึ้นมาละ ท่านจะรับผิดชอบไหวมั้ยละ"
              "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ข้าพเจ้าไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องแสดงความรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียวนะครับ" แพทรีออทตอบ
              โอเวอร์เดสกล่าว "ถ้าเช่นนั้น ข้าจะรอดูไปสักระยะหนึ่ง ไว้ให้เจ้าตัดสินใจได้แล้วกัน" และหันมายังผู้คุมกฎ "เกซิค รายงานสถานการณ์ในตอนนี้ให้แม่ทัพแพทรีออทรับทราบกันได้แล้ว"
              "ขอรับ ท่านโอเวอร์เดส" เกซิคกล่าว และนำม้วนคัมภีร์ที่ดึงออกมาเป็นโฮโลแกรมคล้ายม้วนกระดาษไว้พร้อมกับอ่านว่า "มีรายงานแจ้งมาว่า พวกกบฎของโคเคสมักจะหลบหนีการตามล่ากวาดล้างของกองรบอื่นๆรวมถึงกองรบของพวกท่านเองไปได้ซะทุกครั้ง ทางเราสงสัยว่า ในจักรวรรดิ์ของพวกเรา จะมีคนทรยศแอบให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฎในการหลบหนีการตามล่าไปได้ซะทุกครั้ง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง ว่าจะต้องเป็นแมนิเกเตอร์ในสังกัดอีเนอไมนด์ ครอสตรีม หรือแม้กระทั่งแอตแลนไทซ์กันอย่างแน่นอน"
              ครองคอร์ดถาม "แล้วเหล่าลูนาสตี้และพวกละ ท่านเกซิค พวกแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์อวกาศนั้นไม่เคยรายงานต่อข้าเลยสักครั้ง ก็มีสิทธิ์เป็นพวกนี้ก็ได้"
              "เทคไคร์ด ผู้นำของลูนาสตี้มารายงานเรื่องนี้กับตัวเธอเองแล้วละ ท่านครองคอร์ด" เกซิคกล่าว ซึ่งทำเอาขุนพลหัวแหลมไม่พอใจอย่างมาก เกซิคเลยรายงานต่อ "ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงแจ้งให้ท่านแพทรีออท และแม่ทัพของอีกสองกองคอยตรวจสอบลูกน้องใต้บังคับบัญชาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะแค่แมนิเกเตอร์แปรพักตร์ตนเดียว ก็มีสิทธิ์สร้างความเสียหายให้กับพวกเราทั้งหมดได้อย่างแน่นอน"
              "ข้าจะรับไปจัดการกันเดียวนี้แหละ ท่านผู้คุมกฎ" แพทรีออทกล่าว
              เกซิคพยักหน้าและอ่านต่อ "เรื่องต่อมานั้นคือ ท่านหญิงจิเนฟารี่ บุตรบุญธรรมของท่านโอเวอร์เดสได้ฟื้นตัวจากการเดินทางอย่างยากลำบากกันแล้ว ซึ่งท่านหญิงจะมาช่วยท่านครองคอร์ดตรวจงานของกองรบต่างๆที่ประจำการอยู่ทั่วโลก ซึ่งข้าหวังว่าพวกท่านคงจะให้ความร่วมมือในการต้อนรับแขกคนสำคัญ พอๆกันกับการอารักขาท่านหญิงไปด้วยนะ"
              "ท่านเกซิค ข้าไม่เห็นจะทราบเรื่องนี้กันมาก่อนเลยนิ" ครองคอร์ดถาม
              เกซิคอธิบายไปว่า "ที่ท่านไม่รู้ก็ไม่แปลก เพราะว่าท่านร่วมมือกับกองรบครอสตรีมในการถล่มกองเรือรบของฝ่ายมนุษย์กันเมื่อ 4 อาทิตย์ก่อน ซึ่งท่านหญิงเดินทางมาถึงในตอนนั้นพอดีนี้แหละ ดังนั้น ท่านก็ควรจะช่วยท่านหญิงในเรื่องนี้กันหน่อยน่ะ" ครองคอร์ดจำต้องรับคำสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
              "เรื่องให้การอารักขาท่านหญิง ข้าจะทำตามอย่างเต็มที่เลยนะครับ ท่านโอเวอร์เดส" แพทรีออทรับคำสั่ง โอเวอร์เดสพยักหน้ารับ โดยให้เกซิคชี้แจงเรื่องสุดท้าย
              "....เรื่องสุดท้ายนี้ เกี่ยวข้องกับพวกบีสทอยด์ ตอนนี้เผ่าแรดได้ทำสงครามกับเผ่าด้วงในเรื่องเขตแดนกันอยู่ ข้าจึงอยากจะให้พวกท่านส่งนักรบมือดีลงไปแก้ไขสถานการณ์ในครั้งนี้กันด้วยน่ะ ซึ่งท่านคงจะไม่ปฏิเสธกันเลยนะ"
              "ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าจะจัดการดัดแปลงพีวิลให้ออกรบนอกขอบเขตกันเลยนะครับ" แพทรีออทตอบรับ
              โอเวอร์เดสกล่าว "ถ้าเช่นนั้น ข้าหวังว่าเจ้าคงจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังกันน่ะ" แล้วเกซิคก็สบัดมือเพื่อทำให้โฮโลแกรมของครองคอร์ดและแพทรีออทหายไป

              "ท่านแพทรีออท ในเมื่อท่านรับคำสั่งเช่นนี้ ข้าหวังว่าท่านคงจะทำตามกันได้เสียทีละน่ะ" ครองคอร์ดกล่าว โดยในตอนนี้เดินไปตามทางเดินกันอยู่
              แพทรีออทบอก "แต่ข้ารู้สึกว่าท่านขุนพลกับผู้คุมกฎจะไม่ถูกกันในช่วงระยะนี้กันเลยน่ะ"
              "เกซิคทำอะไรที่ข้ามหน้าข้ามตาข้าอยู่เสมอ ถ้ามันรับเรื่องจากเทคไครด์ตัดหน้าข้าได้ เรื่องที่มันไม่บอกข้าเรื่องบุตรบุญธรรมของท่านโอเวอร์เดสมาช่วยงานพวกเรา ก็ถือว่าดูถูกข้าเช่นกันนี้แหละ" ครองคอร์ดกล่าว "ถ้าไม่ติดว่ามันมีหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดบัญชาของท่านโอเวอร์เดสละก็น่ะ...."
              แพทรีออทออกความเห็น "ข้าคิดว่า ท่านผู้คุมกฎเองก็มีเหตุผลของเขาเอง แม้ว่าเหตุผลของเขาจะขัดกับความคิดของท่านก็ตาม ซึ่งข้าเป็นแค่คนนอกก็ไม่อยากจะก้าวก่ายกันนะ ท่านขุนพล"
              "ตอนนี้ เจ้ารีบจัดการตามที่ท่านโอเวอร์เดสสั่งมาจะดีกว่าน่ะ อย่างน้อย ปัญหาของท่านเองควรจะลดทอนให้น้อยลงไปกันบ้างละน่ะ" ครองคอร์ดบอก และเดินออกไปข้างนอก "....ข้าจะกลับมาเช็คดูกองรบของท่านเป็นระยะๆ เพื่อติดตามความคืบหน้าของท่านกันอีกแล้วกันน่ะ ท่านแพทรีออท" แพทรีออทพยักหน้า แม่ทัพหัวแหลมจึงกระโดดพร้อมกับ "ซูมมมมมมมมมมม ฟ้าววววววววว" ใช้เจ็ทบู๊ททะยานขึ้นและบินออกไปอย่างรวดเร็ว
              แพทรีออทบอก "ข้าจะจำไว้แล้วกันนะ ท่านขุนพล"

              หลังจากนั้น อีก 2 วันต่อมา กลางทะเลทรายในแถบอิสราเอล
              "แกร้งๆๆๆๆๆๆๆ ป้ากกกก โครมมมม" บีสทอยด์แบบแรด ซึ่งมีทั้งมนุษย์หัวแรดและหุ่นทรงมนุษย์ที่มีเขาแรดเข้าปะทะกับบีสทอยด์แบบด้วง ซึ่งมีตั้งแต่ด้วงคีม ด้วงแรด ด้วงเขี้ยวกว่าง และด้วงอื่นๆ โดยที่เป็นมนุษย์ร่างด้วง กับมนุษย์หุ่นที่มีส่วนอวัยวะของด้วงติดอยู่ ซึ่งแบบหุ่นทรงมนุษย์สัตว์นั้นจะเหมือนกับพวกแรด ตรงที่มีร่างเป็นมนุษย์ แต่มีดวงตาสีดำคล้ายแว่นกันแดดที่มีเนตรเรืองแสงแทนแววตาให้เห็น ทั้งสองฝ่ายต่างก็เข้าโรมรันกันอย่างหนักหน่วง อมนุษย์ด้วงแรดพุ่งเข้าปะทะกับหุ่นแรดตัวโตๆ จนโดนขวิดปลิวกระเด็นไป มนุษย์หุ่นด้วงคีมกระโจนเข้าใส่มนุษย์หัวแรดพร้อมกับจับล็อกด้วยคีมที่แขนและจับทุ่มฟาดพื้นไปมา บ้างก็ประลองกำลังผลักดันกันไปมาเป็นเวลาเกือบ 10 นาทีเต็มแล้ว ยังไม่มีใครชนะกันเลย เพราะพวกแรดแม้จะมีความแข็งแกร่งและดุดัน แต่พวกด้วงเองก็มีความทนทานและมีจำนวนที่มากกว่าพวกแรดอยู่สองเท่า ทำให้การสู้รบนั้นยืดเยื้อกันไปไม่น้อย
              "ฟ้าววววว ตรูมมมมมมม" แล้วการต่อสู้ตลอด 10 นาทีเต็มก็จบลง ด้วยการมาของพีวิลที่ลงมากลางสมรภูมิระหว่างแรดและด้วงด้วยการพุ่งชกลงพื้นไปอย่างจังๆ "เฮ้ย ไอ้หมอนั้นมัน...." บีสทอยด์แบบมนุษย์ด้วงกว่างกล่าว
              มนุษย์หัวแรดบอก "ไอ้หัตถ์เพลิงสีน้ำเงิน พีวิล ที่เขาเล่าลือกันนิหว่า ว่ามันใช้หมัดเดียวพิฆาตศัตรูมาหลายคนแล้วน่ะ"
              "....." พีวิลชูแขนกลซึ่งเปิดนำปืนกลออกมาทั้งสองข้าง จ่อมายังทั้งสองฝ่ายไว้ ซึ่งทำเอาพวกบีสทอยด์ทั้งสองฝ่ายยั้วะจัดขึ้นมา จนกระทั่ง "ครืดดดดดดดดด เอี้ยดดดดด" กราแทงค์จำนวน 4 คันมาถึง พร้อมกับพลาทูนั่มเดินลงมาด้วยกันกับทอฟนิคซ์และเมดลิคซ์จำนวนละ 15 ตนกันด้วย
              "หยุดมือก่อน พีวิล พวกเรามานี้เพื่อสงบศึก มิได้มาก่อให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้" พลาทูนั่มสั่งห้ามไว้ ซึ่งพีวิลพยักหน้าและเก็บปืนไว้ที่แขนลง พลาทูนั่มเห็นเช่นนั้นจึงหันมาถามว่า "พวกท่านทะเลาะกันด้วยเหตุผลแค่ที่ทำกินของพวกท่านล้ำเส้นแบบนี้เลยหรือ"
              จ่าฝูงที่เป็นหุ่นมนุษย์แรดก้าวเดินเข้ามา "...ของมันแน่อยู่แล้ว ทหารอีเนอไมนด์ เพราะไอ้พวกด้วงนั้นมันล้ำเส้นเข้าถิ่นของพวกเราก่อนทำไมละ"
              "ล้ำเส้นนะหรือ แล้วทีพวกแกล่ะ ที่ชอบสร้างเสียงสั่นสะเทือนรบกวนพวกเราที่อยู่ใต้ดินลงไป จนทำให้ดินถล่มเกือบฝังพวกลูกๆของพวกเรากันไปแล้วน่ะ" ผู้นำที่เป็นหุ่นด้วงเขี้ยวยาวแย้งกลับ
              จ่าฝูงแรดย้อน "....แล้วใครใช้ให้พวกแกทำรังอยู่ใต้ดินจนลามมาถึงไร่ผักของพวกเราจนมีผักหายไปกันละ ก็ต้องเป็นฝีมือของพวกแกกันแน่ๆแหละ"
              "พอกันที พวกท่านต่างได้รับอาณาบริเวณจากบิดรเทพให้ไปตั้งเผ่าพันธุ์กันไว้ แต่กลับมาขัดแย้งเพราะเหตุผลไม่เข้าท่ากันแบบนี้ ไม่กลัวท่านบิดรเทพพิโรธกันบ้างเลยหรือ" พลาทูนั่มกล่าว จนทำให้ทั้งสองฝ่ายที่เกือบมีเรื่อง เกิดความหวั่นเกรงขึ้นมาบ้าง พลาทูนั่มเลยสั่งการให้... "กองรบที่หนึ่ง ลงไปตรวจที่รังของเผ่าด้วง กองรบที่สอง เข้าไปเช็คในพื้นที่ของพวกแรด ตรวจตราอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของปัญหาดังกล่าว ซึ่ง พวกท่านทั้งสองฝ่าย กรุณาให้ความร่วมมือกันหน่อยน่ะ"
              ทั้งหมดเว้นแต่พีวิลตอบ "เข้าใจแล้วละครับ คะ"

              และแล้วการตรวจสอบก็ดำเนินไปราว 3 นาที
              "ทางเผ่าด้วงในตอนนี้ รังของพวกเขามีการขุดตรงตำแหน่งแหล่งน้ำบาดาล ทำให้รังของพวกเขาถูกน้ำท่วมไปส่วนหนึ่ง จนต้องขุดรังหนีน้ำไปให้ไกลจนมาถึงเขตแดนของพวกแรด โดยในตอนนี้ พวกเราจัดการปรับเปลี่ยนรังที่โดนน้ำท่วมให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำใต้ดินไว้แล้วละครับ" กริมลิคซ์ที่เป็นหัวหน้ากองแรกกล่าวโดยจัดการสร้างส่วนเก็บน้ำใต้ดินให้กับพวกด้วงไว้
              พลาทูนั่มบอก "แล้วพวกด้วงนั้นก็ขุดไปโดยไม่รู้ว่าได้ล้ำเส้นมาที่เขตแดนของเผ่าแรดเลยละสิ"
              "พวกเขามารู้เอาก็ตอนที่เผ่าแรดฝึกซ้อมด้วยการวิ่งนะครับ" กริมลิคซ์รายงาน ซึ่งได้ไปสอบถามพวกด้วงกันแล้ว
              เมดลิคซ์ที่เป็นหัวหน้ากองที่สองกล่าว "ทางด้านเผ่าแรดที่มีปัญหาเรื่องพืชผักสูญหายไปนั้น เราตรวจพบแล้วคะ ว่าเป็นฝีมือของตุ๋นขนาดยักษ์ที่ทำรังใต้ดินใกล้กับพวกด้วงไว้ ไปขโมยไป ซึ่งพวกเราขุดจนพบว่ามันกักอาหารไว้สำหรับหนีหนาวกันอยู่ ตอนนี้เราได้จัดการโยกย้ายมันไปอยู่รังที่่อื่นกันนะคะ"
              "แล้วขอบเขตการขุดของพวกด้วงนั้น อยู่ใกล้กับไร่พืชผักกันหรือเปล่า" พลาทูนั่มถาม
              เมดลิคซ์บอก "ขอบเขตรังใต้ดินยังขุดไปไม่ถึงเองนะคะ คาดว่า การขุดขยายรังนั้นน่าจะชะงัก เพราะรู้ว่าไปล้ำเส้นเผ่าอื่นกันแล้วคะ"
              "พวกท่านทั้งสองนิ ทำไมถึงไม่พูดคุยกันให้รู้เรื่องกันไปเลยละ" พลาทูนั่มที่ได้ฟังก็ย้อนถามจ่าฝูงทั้งสองเผ่า
              จ่าฝูงเผ่าแรดบอก "ก็พวกเราโมโหมากนะสิ ที่รู้ว่าพวกด้วงมันล้ำเส้นกันน่ะ"
              "พวกเราไม่พอใจที่พวกแรดมาทำให้พวกเราตกใจกันก่อนทำไมเล่า" จ่าฝูงเผ่าด้วงก็เถียงแบบไม่แพ้กัน
              พลาทูนั่มจำต้องห้ามปรามไว้ "พวกท่านมัวแต่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกโดยไม่ได้ถามไถ่อีกฝ่ายถึงต้นสายปลายเหตุจริงๆเช่นนี้ ไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมพวกมนุษย์ธรรมดาถึงทำสงครามกันนัก เพราะความเห็นไม่ลงรอยและสำคัญตัวเองสูงเกินเหตุกันนี้แหละ" แล้วก็เปล่งพลังขึ้นที่ฝ่ามือทั้งสองจนจ่าฝูงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา "ดังนั้น เพื่อมิให้ปัญหานี้เกิดขึ้น ข้าคงต้องลงโทษพวกท่านเสีย...."
              "แกร็ก" เสียงดังมาจากข้างหลัง พลาทูนั่มเหล่มายังพีวิลที่จ่อด้วยอาร์มชู้ตเตอร์ไว้ "พีวิล นายทำอะไรกันแน่ละ" พลาทูนั่มถามด้วยความไม่พอใจ
              พีวิลตอบไปแบบไม่แยแสว่า "เป็นคำสั่งของท่านแพทรีออท ให้ข้ามาจับตาดูท่าน ไม่ให้ก่อเรื่องเกินกว่าเหตุแบบเดียวกับผู้นำบีสทอยด์ทั้งสองกันนี้แหละ เพราะคำสั่งของท่านโอเวอร์เดสคือการคลี่คลายความขัดแย้งให้สงบลง มิใช่ทำให้เรื่องมันบานปลายตามที่ท่านพูดมากันน่ะ"
              "ชิ..." พลาทูนั่มสบถด้วยความไม่พอใจ แต่พอเห็นสีหน้าของพีวิลที่จริงจังและแฝงเร้นด้วยความเย็นชา ตนจึงดับพลังงานลง พร้อมกับบอกว่า "เคราะห์ดีมาก ที่ท่านกับพวกไม่มีใครถึงตาย และรู้ว่าพวกท่านทำไปเพราะความจำเป็นกัน ข้าจะไม่ถือสาหาความกันอีก ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความขัดแย้งบ้าๆนี้อีกละก็ ข้าจะให้กองรบของพวกเรามาประจำการที่นี้ จับตาดูพวกท่านทุกฝีก้าวและให้ลงมือขั้นเด็ดขาดได้ในทันที โดยไม่มีการพิจารณาเหมือนคราวนี้อีก เพราะครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายกันน่ะ"
              จ่าฝูงทั้งสองกล่าว "ขะ ขอบคุณมากครับ ที่ท่านเตือนสติพวกเราไว้" และหันหน้ามาทำดีด้วยความกลัวเกรงขึ้นมา
              "สิ่งที่ท่านแพทรีออทเตือนข้าเกี่ยวกับท่านนั้นเป็นจริงทุกประการ ซึ่งก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ท่านไม่มีโอกาสไปทำงานให้กับท่านจักรพรรดินีกันเลยนะ ท่านพลาทูนั่ม" พีวิลกล่าว
              พลาทูนั่มบอก "แล้วทีเจ้าล่ะ พีวิล เจ้ากล้าลงมือกับพวกบีสทอยด์โดยไม่ฟังคำสั่งฉันเช่นนี้ ดีที่ฉันมาเบรคไว้เสียก่อน ไม่งั้นมันจะเลวร้ายตั้งแต่เจ้าลั่นกระสุนออกไปแล้วละ"
              "อย่างน้อย ท่านก็รู้ว่าตัวเองควรจะแก้ไขในความผิดที่ตัวเองก่อไว้กันน่ะ ท่านพลาทูนั่ม" พีวิลบอก ซึ่งทั้งตนและพลาทูนั่มมาถึงแคมป์ของกองรบประจำที่อิสราเอลกันแล้ว
              พลาทูนั่มกล่าว "ไม่ต้องมาเตือนข้าเลยน่ะ พีวิล ต่อให้ท่านแพทรีออทเห็นเจ้าเป็นนักรบฝีมือดีระดับมาสเตอร์พีชกันก็ตาม เจ้าเป็นแมนิเกเตอร์ที่มาทีหลังข้า ซึ่งเป็นทหารคนสนิทของท่านแพทรีออท ดังนั้น เจ้าควรจะให้ความเคารพต่อข้าไว้ด้วย"
              "ทั้งๆที่ ท่านยังข่มความโกรธเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้เลยหรือ ท่านแพทรีออทบอกกับข้าว่า คนที่ใช้โทสะและโมหะเข้าสู้ก็ไม่ต่างอะไรไปกว่าจุดไฟครอกตัวเองดีๆนี้แหละ" พีวิลเตือนด้วยความหวังดี
              พลาทูนั่มขี้เกียจจะเถียงเลยตัดบทไปว่า "....พอได้แล้วละ พีวิล เรื่องของข้าขอให้ยุติเพียงเท่านี้ และรับงานชิ้นสำคัญไปทำซะ" แล้วก็เปิดแผนที่โฮโลแกรมออกมา "สายของเรารายงานมาว่า พวกมนุษย์ได้ตั้งกำลังซ่องสุ่มอยู่ในเขตหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างจากฐานทัพไปไกลราว 15 กิโลเมตรด้วยกัน ซึ่งพวกมันได้ร่วมมือกับพวกกบฎโคเคสที่หลบซ่อนในอาณาบริเวณโดยรอบให้เข้ามาโจมตีพวกเราที่ตั้งฐานทัพในแถบนี้กันอยู่น่ะ"
              "แปลว่า พวกมนุษย์กับพวกกบฎโคเคสนั้นจะโจมตีพวกเรา หากพวกเขาพร้อมเลยสิ" พีวิลกล่าว
              พลาทูนั่มพยักหน้า "....เราจะไม่ยอมให้พวกกบฎได้ลงมือเล่นงานพวกเรากันได้หรอกน่ะ พีวิล ใครก็ตามที่ให้ความร่วมมือกับพวกกบฎ ไม่ว่าจะเป็นพวกมนุษย์หรือว่าพวกแมนิเกเตอร์ก็ตาม คำสั่งของท่านแพทรีออทคือ ต้องกวาดล้างพวกกบฎเหล่านั้นให้ราบคาบกันไปซะ"
              "แต่ โคเคสกับพวกกบฎนั้นไม่ประสบความสำเร็จในการสู้รบกับพวกเรามาซะทุกครั้ง เราไม่มีความจำเป็นต้องไปยุ่งอะไรกับพวกเขากันเลย ควรจะปล่อยให้พวกเขาประสบกับความพ่ายแพ้จนกลุ่มกบฎแตกคอกันเองจะไม่ดีกว่าเลยหรือ" พีวิลออกความเห็น
              พลาทูนั่มบอก "....เจ้าคงจะไม่ทราบกันหรอกน่ะ ว่าในระยะนี้ พวกกบฎเอาตัวรอดไปได้ซะทุกครั้งพร้อมกับแมนิเกเตอร์ระดับชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือหรือไม่ก็ตาม เพราะปกติแล้ว กองรบของเราและกองรบอื่นๆที่รู้ข่าวจะต้องลงมือก่อนหน้าพวกกบฎ เพื่อทำให้พวกมันกลับไปด้วยมือเปล่าๆไม่ได้อะไรเลยตามที่เจ้าว่า แต่ในคราวนี้ พวกเราไม่ควรจะรอให้พวกมันแพ้พ่ายด้วยฝีมือของพวกมันเองแล้วนะ พีวิล เราจำต้องจัดการกับกบฎให้สิ้นซากไปซะ"
              "แล้วมีเหตุผลอะไรที่โคเคสจะต้องกบฎต่อพวกเรา ต่อจักรพรรดิ์กันเลยละ" พีวิลถาม
              พลาทูนั่มบอก "แสดงว่า ท่านแพทรีออทคงไม่ได้เล่าให้เจ้าฟังในเรื่องนี้สิน่ะ ได้ ข้าจะทำให้เจ้าเข้าใจได้เองแหละ" และเล่าให้ฟังว่า "โคเคส แอคแมนโด้ เดิมเป็นนายทหารธรรมดาที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนาย แต่มีร่างกายที่อ่อนแอและไม่เหมาะกับการรับใช้ชาติ กลับได้รับเลือกให้เข้าโครงการซุปเปอร์โซลเยอร์พร้อมกับเพื่อนพ้องที่มีสมรรถนะทางร่างกายที่ต่ำเกินมาตราฐาน ซึ่งพวกมนุษย์สร้างพวกเขาเพื่อมาจัดการกับพวกเราและท่านโอเวอร์เดส โดยได้สร้างความเสียหายให้กับกองรบของพวกเราที่อยู่ทางยุโรปเหนือและแอฟริกาเป็นอย่างมาก เพราะโคเคสกับพวกบุกโจมตีไปที่สถานการผลิตแมนิเกเตอร์เสียเป็นส่วนใหญ่"
              "ข้าพอจะได้ยินอยู่บ้าง แต่ทำไมถึงมารับใช้จักรพรรดิ์กันละ" พีวิลถามด้วยความสงสัย
              พลาทูนั่มกล่าว "เจ้าคงจะทราบน่ะ ว่าโคเคสและพวกต่อสู้เพื่อพวกมนุษย์กันจนมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมากันก็จริง แต่เมื่อมีคนชอบก็ย่อมมีคนเกลียด คนเหล่านั้นได้ใส่ไฟปรักปร่ำโคเคสกับพวกว่าเป็นพวกศัตรูที่ท่านโอเวอร์เดสส่งมาเพื่อแผนการก่อการร้าย ซึ่งจริงๆแล้วเป็นแผนการของท่านครองคอร์ดที่ต้องการพวกโคเคสมาเป็นกองกำลังของท่านโอเวอร์เดส ด้วยการส่งแมนิเกเตอร์อย่างพวกเราไปแฝงตัวลอบสังหารบุคคลสำคัญในช่วงที่โคเคสและพวกรับรางวัลเมื่อ 4 ปีก่อน ต่อหน้าประชาชนและชาวเมืองทุกคนแบบเห็นคาตา จนทำให้พวกโคเคสต้องหนีหัวซุกหัวซุนกับความผิดที่ไม่ได้ก่อ มาเจอกับท่านขุนพลครองคอร์ดที่นำกำลังครอสตรีมมาช่วยเหลือ ซึ่งพวกโคเคสเองก็ไม่มีที่ไปกันแล้ว จึงจำต้องรับใช้ศัตรูที่เขาสาบานว่าจะทำลายล้างให้สิ้นซากไปซะ"
              "แล้วโคเคสก็รู้ความจริง เลยหันมาก่อกบฎเลยสิน่ะ" พีวิลคาดเดา
              พลาทูนั่มพยักหน้า "ใช่ พอโคเคสทราบว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นแผนการของขุนพลครองคอร์ด เขาจึงรวบรวมเหล่าพวกพ้องซุปเปอร์โซลเยอร์และเหล่าทหารที่ถูกพวกมนุษย์หรือพวกเราจับมาทดลองอาวุธหรือดัดแปลงให้เป็นหุ่นหรือมนุษย์ชีวภาพต่างๆ ก่อตั้งเป็นกลุ่มกบฎต่อต้านพวกเรากันขึ้นมา ซึ่งโคเคสกับพวกนั้นเป็นปัญหาขนานใหญ่ที่เราต้องกำจัดให้สิ้นซากไปซะ แม้ว่าในตอนนี้ สภาพการณ์ของพวกนั้นย้ำแย่ตามที่เจ้าคิดก็ตาม"
              "ส่วนหนึ่งเพราะว่าเขากับพวกกลับไปแก้ต่างให้พวกมนุษย์ก็ไม่ได้กันแล้ว พวกเขาจึงมีทางเดียวก็คือเดินหน้าเท่านั้นสิน่ะ" พีวิลบอก
              พลาทูนั่มบอก "โคเคสกับพวกในตอนนี้เดินบนสะพานเชือกที่พร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ แต่คงไม่ดีแน่ๆ หากปล่อยให้พวกนั้นข้ามสะพานมาอีกฝั่งหนึ่งไปได้กันน่ะ" และอธิบายไปว่า "ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ฉันจำได้นะ ว่านายได้เข้าต่อกรกับพวกกบฎโคเคสที่กบดานอยู่ในแถบอเมริกากลางมาตั้ง 3 ครั้งด้วยกันน่ะ"
              "จำได้ เพราะครั้งแรกนั้น พวกกบฎได้ร่วมมือกับเหล่าพี่น้องแห่งเหล็กกล้า กลุ่มทหารของพวกมนุษย์ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อกอบกู้ความสงบสุขมาสู่มือมนุษย์ ในการต่อสู้กับพวกมนุษย์กลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้นิวเคลียร์ยิงถล่มใส่โอเวอร์เดสแล้วกัมตภาพรังสีเข้าแปรสภาพผู้คนและสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เคียงไปโดยปริยาย แต่การร่วมมือครั้งนั้นสูญเปล่า เพราะท่านแพทรีออทส่งข้ากับพวกไปโจมตีจนสังหารพวกกบฎและทำลายพวกพี่น้องแห่งเหล็กกล้ากองหนึ่งไปจนหมด" พีวิลกล่าว "ครั้งที่สอง พวกกบฎใช้พวกกลายพันธุ์มาโจมตีพวกเรา ในเวลาเดียวกันกับนายพลเนโม นายทหารกองกำลังคนบ้า ที่เคยรับผิดชอบในเรื่องการกวาดล้างพวกแมนิเกเตอร์และพวกมนุษย์กลายพันธุ์จนมีคนรับเคราะห์ถึงตาย และถูกรัฐบาลของพวกมนุษย์ตามจับอยู่ นำกองรบมาผสมโรงจนทำให้การรบดูวุ่นวาย แต่สุดท้าย ข้าก็ทำลายกองรบกบฎไปได้ครึ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับกองรบของเนโมและพวกมนุษย์กลายพันธุ์ที่เหลือรอดไปด้วยกำลังไม่ถึงครึ่ง ครั้งที่สามนั้น พวกเราโต้ตอบพวกกบฎที่หลอกล่อพวกเราไปยังดงพวกหุ่นยนต์รับใช้บ้าคลั่ง ซึ่งออกมาต่อต้านพวกมนุษย์ที่สร้างพวกมันและพวกเราที่พยายามจะนำพวกมันมาเป็นแนวร่วม ข้าก็เข้าทำลายทั้งกบฎและพวกหุ่นยนต์นั้นอีกทีหนึ่ง"
              พลาทูนั่มบอก "พวกไนน์ซีรีย์เหล่านั้น แม้จะเป็นหุ่นยนต์ที่พวกมนุษย์สร้างมาเพื่อให้พวกมันทำงานแทน แต่พอบ้าคลั้งเพราะผลจากอาวุธที่พวกมนุษย์ใช้เพื่อสู้กับท่านโอเวอร์เดส พวกมันก็เป็นตัวอันตราย พอๆกันกับกองรบคนบ้าของเนโมและพวกกลายพันธุ์นี้แหละ พีวิล"
              "และไม่แคล้ว พวกเฮลดรอยก็ครอบงำทั้งสามกลุ่มไว้ จนท่านขุนพลครองคอร์ดต้องรวบรวมกำลังรบของพวกเราเข้ากับอีกสองกองไว้จนสามารถปราบปรามพวกมันลงไปได้กันน่ะ" พีวิลกล่าว
              พลาทูนั่มบอก "เฮลดรอยก็ถูกกวาดล้างลงไปแล้ว ความสนใจของพวกเราในตอนนี้อยู่ที่พวกกบฎกันนะ พีวิล ดังนั้น งานนี้นายจะต้องกำจัดพวกกบฎและพันธมิตรที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายนี้ให้สิ้นซากไปซะ โดยฉันจะส่งกำลังรบส่วนน้อยไปหนุนช่วยนายอีกแรงหนึ่ง"
              "แต่กองรบกบฎนั้นมันซ่องสุ่มอยู่ในเขตชุมชน อาจจะมีกำลังพลเยอะกว่าที่คิดไว้ก็ได้น่ะ" พีวิลบอก
              พลาทูนั่มกล่าว "สายของเราแจ้งมาอีกว่า แมนิเกเตอร์ทรยศอยู่ด้วยกันกับพวกกบฎ ถ้าหยุดคนทรยศลงได้ พวกกบฎโคเคสจะหมดสิ้นเขี้ยวเล็บไปในทันที ดังนั้น เราจะปล่อยให้คนทรยศลอยนวลกันไม่ได้เด็ดขาด"
              "ถ้าเพื่อยับยั้งไม่ให้พวกกบฎลุกหือถึงขั้นขัดขวางแพทรีออท ข้าจะไม่ยอมให้มันลอยนวลไปได้หรอก" พีวิลกล่าว และเดินออกไปโดยที่ใช้ฝ่ามือแตะแท่งผลึกอีเนลเซียมที่อยู่ในห้อง
              พลาทูนั่มเห็นพีวิลเดินออกไปก็กดสวิตซ์เพื่อเรียกเมดลิคซ์ กริมลิคซ์และทอฟนิคซ์เข้ามา "เมดลิคซ์ T83V44 กริมลิคซ์ K93AE6  ทอฟนิคซ์ Q72V54 ข้าจำเป็นต้องเรียกพวกนายทั้งสามเข้ามาเพื่อรับภารกิจสำคัญบางอย่าง"
              "หมายถึงให้เราไปช่วยพีวิลกันอย่างงั้นนะหรือ พลาทูนั่ม เหอะ ไอ้หน้าอ่อนนั้นกล้าสะเออะเป็นสมุนเอกของท่านแพทรีออทได้ไง ในเมื่อนายสมควรจะเป็นสมุนเอกแล้วนิ" กริมลิคซ์ K93AE6 กล่าว
              เมดลิคซ์ T83V44 ถาม "พลาทูนั่ม นายเรียกพวกเรามานี้ คงให้เราไปจัดการเก็บพีวิลเองสิน่ะ"
              "จัดการกับพีวิลนั้นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่มันไม่ใช่ตอนนี้...." พลาทูนั่มบอกวัตถุประสงค์ที่แท้จริงไว้กับพรรคพวกทั้งสาม "บอกกันตามตรงน่ะ ว่าพักนี้ พีวิลทำเกินขอบเขตและภาระหน้าที่ที่ท่านแพทรีออท ชนิดที่ข้ามหัวฉันไปตั้งหลายครั้งแล้ว ต่อให้นี้เป็นคำสั่งของท่านแพทรีออทที่ให้ฉันจับตาดูพฤติกรรม แต่ไม่ใช่ให้มาทำตัวเป็นนายทั้งๆที่พีวิลมาทีหลังเลยน่ะ"
              ทอฟนิคซ์ Q72V54 กล่าว "ถ้านายไม่ให้เรากำจัดมัน แล้วจะให้เรามองอยู่เฉยๆเลยหรือ"
              "ที่เรียกพวกนายมานี้ ก็เพื่อจับผิดพีวิลกันนะสิ ว่าหมอนั้นมีท่าทีที่เปลี่ยนไปกันหรือเปล่า เนื่องจากว่าในช่วง 2 ปีก่อน แม้มันจะปฏิบัติภารกิจในการสังหารคนที่มันเคยปกป้องมาในช่วงที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มันเหมือนลังเลใจ จนหวิดถูกพวกมนุษย์ถล่มด้วยจรวดเข้า แม้มันจะรอดไปได้อย่างหวุดหวิดเลยก็ตาม และมีบางครั้งที่มันเห็นคนที่มันเคยช่วยแล้วชะงักไปซะอย่างงั้น" พลาทูนั่มบอก "และหมู่บ้านที่ฉันส่งมันไปทำงานนั้น ก็เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่พีวิลเคยให้การช่วยเหลือมาก่อนเสียด้วย แถมไม่มีพวกกบฎกบดานอยู่เลยสักคนกันน่ะ"
              เมดลิคซ์ T83V44 กล่าว "แสดงว่า นายสั่งให้พีวิลไปฆ่าคนโดยที่ไม่เกี่ยวกับภารกิจที่ท่านแพทรีออทสั่งการมานะหรือ"
              "ท่านแพทริออทสั่งให้พวกเราตั้งฐานทัพแห่งนี้เพื่อ....สร้างความเดือดร้อนให้พวกกบฎและคนทรยศเผยตัวกันนะสิ....และหมู่บ้านแห่งนั้นไม่เพียงเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับภารกิจนี้ แต่มันหมายถึงการพิสูจน์ให้เรารู้ว่าพีวิลจะมีท่าทีเป็นเช่นไรกันน่ะ" พลาทูนั่มอธิบาย
              กริมลิคซ์ K93AE6 บอก "และถ้าพีวิลมันยังลังเลตามที่นายสงสัย พวกเราก็มีสิทธิ์ที่จะจัดการทิ้งด้วยข้อหาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของคนทรยศสิน่ะ"
              "ใช่ แม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนทรยศก็ตาม ภารกิจโจมตีหมู่บ้านก็จะเป็นตัวพิสูจน์กันอยู่แล้วน่ะ" พลาทูนั่มบอก "ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับพีวิลนั้น ฉันจะเป็นคนรายงานให้ท่านแพทรีออททราบไปตามความจริงแทน พวกนายทำตามที่พวกนายเห็นสมควรกันดีกว่า"
              ทอฟนิคซ์ Q72V54 กล่าว "เข้าใจแล้วละ พลาทูนั่ม เพราะยังไงพวกเราก็ตั้งใจจะกำจัดพีวิลให้พ้นๆทางอยู่แล้วน่ะ"
              "ไว้รอข่าวดีจากพวกเราเลยแล้วกันน่ะ พลาทูนั่ม ตอนนี้ นายทำตัวเป็นปกติก็พอแล้วน่ะ" เมดลิคซ์ T83V44 บอกทิ้งท้าย ก่อนจะพาเพื่อนเดินออกไป
              พลาทูนั่มมองตามหลังด้วยความหวังขึ้นมา "พีวิล อีเนอไมนด์ไม่มีที่ว่างสำหรับนายกันหรอก"

              "พวกนาย เป็นเพื่อนของพลาทูนั่มที่ถูกส่งมาร่วมภารกิจนี้สิน่ะ" พีวิลกล่าวเพราะสามสหายเข้ามาหาพอดี
              กริมลิคซ์ K93AE6 บอก "พลาทูนั่มเห็นว่านายคนเดียวอาจจะสู้กับพวกกบฎไม่ได้ เลยให้พวกเรามาช่วยงานนายนี้แหละ"
              "มั่นใจน่ะ ว่าพลาทูนั่มไม่มีแผนอื่นใดที่ฝากพวกนายไว้กันน่ะ" พีวิลถาม
              เมดลิคซ์ T83V44 ตอบ "ไม่มีหรอก เพราะนายเป็นยอดนักรบระดับสุดยอดที่มีความสามารถเทียบเท่ากับพลาทูนั่มและเป็นที่ไว้วางใจของท่านแพทรีออทกันเช่นนี้ มีหรือที่พวกเราจะหาเรื่องกระทำลับหลังกันได้น่ะ"
              "ที่สำคัญไปกว่านั้นน่ะ พีวิล หากภารกิจนี้สำเร็จ ไม่ใช่แค่นายตนเดียวที่จะได้รับความไว้วางใจจากพวกเราและพลาทูนั่มที่ส่งพวกเรามาช่วย รวมถึงท่านแพทรีออทที่เป็นคนเริ่มแผนการกันอย่างเดียว แต่มันหมายถึงความไว้วางจากท่านโอเวอร์เดสกันเลยน่ะ" ทอฟนิคซ์ Q72V54 พูดเยิ่นยอ แต่พีวิลเย็นชาเกินกว่าจะรับรู้ได้ หากยังพูดตอบกลับว่า
              "ทุกวันนี้ท่านแพทรีออทก็ได้รับความไว้วางใจจากท่านโอเวอร์เดสกันอยู่แล้ว ถึงพวกนายไม่พูด ฉันก็รู้สาแก่ใจตั้งนานแล้วละ" และเดินตรงไปขึ้นรถกราแทงค์ที่จอดไว้
              "พูดดีไปเหอะ ไว้ให้แกปล่อยไก่ออกมาได้ก่อนเถอะ แล้วแกจะรู้สึก" กริมลิคซ์ K93AE6 พูดดูถูก
              ทอฟนิคซ์ Q72V54 กล่าว "พวกเราก็รีบไปกันเลยดีกว่า"

    ต่อพาร์ทต่อไปกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×