ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 5 สมรภูมิทะเลทรายอัสนีบาตกึกก้อง กองพันแมงมุมทองคำปรากฎ ครึ่งแรก
ในเขตดาวทั้งแปดดวงของเอทพลาเนส ระหว่างดาวแฟคม่าและดาวไอซ์ติค
Triveser Manigator Saga: Hyperstar Trooper ภาคแปดดารา
ตอนที่ 5 สมรภูมิทะเลทรายอัสนีบาตกึกก้อง กองพันแมงมุมทองคำปรากฎ
หลังจากนั้น พวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชก็ซักซ้อมวางแผนเรื่องภูมิประเทศและภูมิอากาศของแซนดอมกัน โดยที่กองกำลังหลังฉากเองก็....
"ฟ้าวววววว ฟ้าววววววว ฟ้าวววววว ฟ้าวววววววว" แล้วยานทั้งสี่ลำพุ่งฝ่าชั้นบรรยากาศของดาวแซนดอม โดยมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่ผู้ส่งสาสน์แจ้งมา อันเป็นเมืองหินผาอยู่กลางหุบเขาใหญ่ ที่มีเสาทองคำมียอดปิรามิดล้อมรอบเขตเมือง 7 ต้นด้วยกัน
ณ.พระราชวังทองคำ กลางนครหลวงฟาโรต้า ท้องพระโรง ลาคาดัลกำลังนั่งบัลลังก์ ล้อมรอบด้วยโฮโลแกรมวินโดว์ที่มีกราฟแสดงผล ตารางรายรับรายจ่ายต่างๆ แม้กระทั่งเรื่องอื่นๆอีกมาก
"พวกแมนิเกเตอร์ มันซุ่มอยู่แต่แรกแล้วหรือวะ" ซอร์แรคบอก โดยเข้าปะทะกับเทรอนเร็กซ์ที่หวดขาถีบและใช้ขวานฟันใส่ ในขณะที่พวกบรูซาเรมพยายามยิงใส่พวกเฮเรเค้น "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไกซ์เข้ามากราดยิงทริปเปิ้ลวัลแคนอาร์มเข้าใส่ลาสแบรทจนพัง "เจออาร์คเรลกันหน่อยสิ" ทหารแซนดาลยิงปืนรางไฟฟ้าเข้าใส่ไกซ์ "ฟึ่บบบบบ ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆ ตรูมมมม" คลอเวฟโผล่มาด้วยทริสตรอนดีวาสเทรดกราดยิงไฮโดรเลเซอร์แกตลิ่งเป่าสตาร์แซนดัสพังไป 4 ตัวจนระเบิดไป พวกแซนดาลรีบนำสตาร์แซนดัสบุกเข้าเล่นงานพวกไลเอิร์ทกัน "แชด แชด แชด แชด" สเปียริทพุ่งขึ้นมาใช้เรย์แซทแคนน่อนไรท์อาร์มยิงลำแสงกระจายถล่มสตาร์แซนดัสจนพัง ไปพร้อมกับเพรเดแคทที่รีบหันป้อมปืนใหญ่มายิงใส่ "ฟ้าวว ตรึงงง" พอลงพื้น แคทครอฟส่วนหนึ่งบุกเข้ามา "หวับบบ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" สเปียริทโต้ตอบด้วยพรีม่าร็อดโหมดทวินแลนเซอร์ฟาดฟันใส่จนตัวขาดสะบั้นไปกันหมด "ฟูลออเรส รถถังซีรีสตรัลกำลังจะยิงใส่พวกไลเอิร์ทและเฮเรเค้นกันแล้วละ" ไกซ์บอก โดยตอนนี้ไลเอิร์ทและเฮเรเค้นไล่จัดการกับพวกแมทเฟลิมและบรูซาเรมอยู่ ซึ่งตนก็เห็นคริฟแทงค์หันป้อมปืนเพื่อยิงปืนแสงใส่
"จัดให้เลย ปริซึมฮาร์ดแคนน่อน กระสุนแตกสะเก็ด ยิง" ฟูลออเรสเหนี่ยวไกยิงปืนใหญ่ที่ประทับบ่าของอิชเชเตียน "ตรุ้งงงงง ตรุ้งงงงง" ซึ่งก็ยิงกระสุนผลึกพุ่งขึ้นไป และ "หวับบบ เป๊าะ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" แตกกระจายเป็นฝนสะเก็ดผลึกโชนโครคิฟจำนวนมากพุ่งลงมาถล่มใส่คริฟแทงค์จนพัง "แชดดดด แชดดดด แชดดดดด ป้ากกก เปรี้ยงงง ตรูมมม บรึมมมม" มิลด์ใช้มาสแตงค์ไรเฟิ่ลยิงถล่มคริฟเดลต้าและคริฟซีคเกอร์ให้พัง พวกแซนดาลเห็นท่าไม่ดีเลยรีบนำยานขนกำลังพลล่วงหน้าไปก่อน "จะให้ตามไปได้มั้ยละ ลุง..." พาลกีสกล่าว
"ครืนนนนนนน" ยานอวกาศทรงกระบอกสีเงินขาวมีแถบดำ ซึ่งมีจุดแสงปรากฎขึ้นหลายจุดอยู่ทั่วลำยาน เคลื่อนตัวมายังกองยานไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชกัน "นั้นคงจะเป็นยานของพวกเทคนอตสิน่ะ" โดซี่บอก เนคมาดูซัมพยักหน้า
มาสวาร์ทาร์บอก "พวกเราพึ่งจะได้เห็นยานรบของพวกเทคนอตกันเป็นครั้งแรกเอง ซึ่งนั้นบ่งบอกว่า พวกเขาก็เป็นชนเผ่าที่รักสงบและจะไม่ใช้กำลัง หากสถานการณ์มันไม่หนักหนากันอย่างแท้จริงเลยน่ะ"
"เพียงแต่สถานการณ์อันหนักหนานั้นเป็นพวกเดลอาเนี่ยนที่ร่วมมือกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันนี้แหละ" โคเซวิคบอก "แม้ตอนนี้เราปลดปล่อยดาวไปได้ 2 ดวง แต่นั้นก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมันเตรียมโต้ตอบพวกเรากันเต็มที่แล้วน่ะ"
เนคมาดูซัมบอก "ไม่แปลกใจหรอก ที่เมคโซ่แจ้งข่าวเรื่องพวกเดลอาเนี่ยนแห่มาหนุนเสริมกันได้น่ะ"
"พวกท่านคงจะรออยู่นานแล้วสิน่ะ แม้ว่าตอนนี้ข้าได้รับคำสั่งจากท่านพ่อในการนำกองรบมาช่วยเหลือพวกท่าน แล้วก็กองรบของไฟโรนและราชาแอทเทรติคกันก็ตามน่ะ" เทคเนล่าบอก "โชคดีมาก ที่ลาวาฟมิได้กำจัดบุคคลสำคัญอีกรายที่ถูกคุมขังเอาไว้ เรายังพอมีความหวังกันบ้างน่ะ"
คลอเวฟถาม "บุคคลสำคัญอย่างงั้นนะหรือ ไอ้หัวร้อนนั้นมันขังใครไว้กันละ"
"ข้าพเจ้าเองแหละ" เสียงของบุรุษจมูกยาวแต่มีเขาบนหน้าผากกล่าว โดยเขาอยู่ในห้องพยาบาลกัน
โดซี่เห็นก็อุทานขึ้นมา "เออ สาบานได้มั้ย ว่านี้เป็นหนึ่งในชนเผ่าดาวแปดดวงกันน่ะ เพราะเห็นแล้วเหมือนอัลแทเรี่ยนแปลงเป็นมนุษย์เลยน่ะ"
"นั้นเป็นชาวแอรอทกันนะครับ คุณโดซี่ พวกเขาต่างจากพวกอัลแทเรี่ยนที่แปลงเป็นมนุษย์ ตรงที่จมูกยื่นออกมาสั้นกว่า มีเขาบนหน้าผาก และไม่มีปีกกลางหลังเลยนะครับ" พีวิลบอก "และถ้าให้เดา นายคงจะเป็นผู้พิทักษ์ดวงดาวเหมือนกับเมคโซ่เลยสิน่ะ"
ชาวแอรอทบอก "สมแล้วที่เป็นหนึ่งในสมาชิกกองกำลังที่สู้กับพวกรุกรานจากฝั่งตะวันออกกันน่ะ แม้ว่าฉันจะรู้สึกตกใจไม่น้อยที่พวกหัวมีจงอยจะล้อเลียนพวกเราทางอ้อมกันก็ตามน่ะ"
"แล้วนายมีชื่อหรือเปล่าละ" โคเซวิคถาม
ผู้พิทักษ์ชาวแอรอทบอก "เซฟิสตัน คือนามของฉันเอง ฉันคืออัศวินนภา ผู้ทำตามคำสั่งของท่านเลดี้สตราทอสฟ่า ในการลงมาสอดแนมดูความเคลื่อนไหวของลอร์ดลาวาฟ หนึ่งในสมาชิกตัวหลักของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนต ซึ่งฉันได้ข้อมูลมา ว่าลาวาฟสมคบคิดกับพวกรุกรานจากฝั่งตะวันออก เพื่อเตรียมก่อการยึดราชบัลลังก์และดาวไฟมาเป็นของตนกันไว้น่ะ ฉันจึงรีบรุดเข้าไปตรวจสอบตามที่ได้รับข้อมูลมาอย่างรวดเร็วกันน่ะ" แล้วก็ถอนใจขึ้นก่อนจะพูดว่า "แต่ ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าลาวาฟมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งกันไม่ว่า พวกนั้นมีอาวุธที่รุนแรงและเหนือกว่าฝ่ายเราและแฟคม่าขององค์ชายไฟโรนอย่างเห็นได้ชัด จนฉันเสียท่าให้กับพวกมันเลยน่ะ"
"และถูกลาวาฟจับกุม เพื่อรีดเอาข้อมูลความเคลื่อนไหวของนายออกมากันสิน่ะ" อิลมิคบอก แม้จะไม่ชอบเซฟิสตันที่มีหน้าตาล้อเลียนตนอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
เซฟิสตันบอก "ฉันเลือกที่จะเป็นฝ่ายยอมจำนนต่อพันธมิตรของลาวาฟไว้ เพราะอย่างน้อย ฉันต้องเซฟตัวเองเพื่อที่จะรอดกลับไปช่วยท่านเลดี้ให้ได้ แม้จะรู้ว่า พวกคนทรยศเหล่านั้น ต้องควบคุมดาวแอร์คราวนด์ให้เป็นกองบัญชาการฝูงยานบินเพื่อก่อสงครามกับเขตอวกาศภาคกลางกันแน่นอน"
"นายตัดสินใจถูกต้องแล้วละ เพียงแต่เรายังให้นายรีบกลับดาวกันไปไม่ได้หรอก" เนคมาดูซัมบอก
เซฟิสตันกล่าว "แต่พวกนายจะปล่อยให้ท่านเลดี้ถูกพวกคนทรยศควบคุมตัวไว้นะหรือ นั้นไม่ดีเลยน่ะ ต่อให้พวกนายปลดปล่อยดาวไฟและดาวน้ำแข็งไปได้ แต่พวกแอรอทเองคงไม่ปล่อยพวกนายไว้แน่ๆน่ะ"
"ท่านเซฟิสตัน ตอนนี้เราอยากจะให้ท่านพักรักษาตัวกันไว้ เพื่อให้ท่านพร้อมช่วยเหลือกองกำลังไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชในการกอบกู้ดาวแอร์คราวนด์กันได้นี้แหละ" เทคเนล่าบอก
เซฟิสตันได้ฟังก็พยักหน้า "เอางั้นก็ได้น่ะ เห็นแก่ว่าท่านเป็นหัวหน้าของพวกเรา หวังว่าท่านคงจะทำตามที่สัญญาไว้น่ะ"
"ฉันคงต้องขออภัยกันด้วย เพราะเซฟิสตันเป็นห่วงเป็นใยต่อท่านสตาทอสฟ่ากันอย่างมากเลยน่ะ" เทคเนล่าบอก
แอนเดรียกล่าว "เราเข้าใจดีคะ ว่าเขาเป็นห่วงผู้อื่นกัน เพียงแต่คงไม่ดีแน่ๆที่ออกไปทั้งๆที่สภาพกายยังไม่หายดีเลยนะคะ"
"แล้วท่านมานี้ คงไม่ได้แค่ส่งมอบทรัพยากรเพิ่มเติมกันเลยสิน่ะ" เฟลิคบอก
เทคเนล่ากล่าว "ที่ฉันมานี้ เพื่อที่จะมาสอบปากคำลาวาฟและเฟยอร์จซึ่งถูกควบคุมตัวสักหน่อย โดยทางเราหวังจะได้ข้อมูลสำคัญในแผนการที่พวกเขาร่วมมือกับกลุ่มผู้รุกรานฝั่งตะวันออกกันสักหน่อยน่ะ" และหันมาถาม "พวกคุณจะแวะมาเพื่อรับรู้ข้อมูลกันได้น่ะ"
"ย่อมได้อยู่แล้ว เพราะเราอยากรู้ว่า ตัวเอ้ที่จับมานั้น มันวางแผนอะไรกับพวกเดลอาเนี่ยนกันไว้น่ะ" โคเซวิคกล่าว
เนคมาดูซัมบอก "ท่านเทคเนล่า ท่านพอจะส่งยานมาหาเรากันหน่อยน่ะ"
"พวกแกคงจะกลับมานี้เพื่อดึงข้อมูลที่พวกเรารู้กันละสิน่ะ" ลาวาฟแม้ถูกจับกุมก็ยังปากดีกันเหมือนเดิม เมื่อเห็นเนคมาดูซัมและพวกโคเซวิคขึ้นยานมาด้วย "เสียใจด้วย ที่ฉันไม่ยอมให้ข้อมูลพวกพันธมิตรของฉันกับพวกแกกันไปได้หรอก"
อิลมิคกล่าว "ที่แกไม่บอกนิ แปลว่าแกคงจะมีระเบิดแรงสูงฝังไว้ในอก ซึ่งจะฆ่าแกทันทีที่แกพล่ามอะไรบางอย่างที่พวกเดลอาเนี่ยนไม่ต้องการไว้เลยสิน่ะ"
"เออ ทางเราตรวจสอบร่างของลาวาฟกันแล้ว ปรากฎว่ามันไม่มีวัตถุอันตรายฝังอยู่ในร่างเลยนะสิ" เทคเนล่ากล่าว
มาสวาร์ทาร์บอก "แปลว่า พวกเดลอาเนี่ยนคงไว้ใจพวกนายกันอย่างมากเลยสิน่ะ" และหันมาถาม "และถ้าให้เดา พวกนายทั้งสอง คงไม่ยอมเปิดปากบอกอะไรกับทางเราเลยสิน่ะ"
"แต่ถ้าจะให้ไฟโรนและแอทเทรติคมาก้มหัวให้แกสองตัวละก็ ฉันเดาได้ว่า น้ำหน้าอย่างแกคงไม่ยอมบอกอยู่ดีสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
เฟยอร์จกล่าว "ในเมื่อพวกแกรู้เช่นนี้ งั้นพวกแกก็กลับไปเสีย แล้วรอให้พวกพ้องของเราและมันเทิร์คมากำจัดพวกแกทิ้งไปเสียจะดีกว่าน่ะ เพราะยังไงซะ แผนการกวาดล้างจักรวาลแห่งนี้ของพวกเรานั้นไม่มีทางขัดขวางไปได้หรอก"
"ส่วนหนึ่งเพราะว่า.....นั้นเป็นแผนการที่พวกนายใช้เพื่อหักหลังพวกเดลอาเนี่ยน ที่ยื่นมือมาช่วยพวกนายยึดอำนาจจากองค์ชายไฟโรนและราชาแอทเทรติค แลกเปลี่ยนกับอาวุธและกำลังพลช่วยพวกเดลอาเนี่ยนกำจัดศัตรูผู้ต่อต้านประจำดาว รวมถึงกองรบเทคนอตให้ราบคาบกันสิน่ะ" จิลบอก จนลาวาฟและเฟยอร์จได้ฟังก็ตกใจมาก
ลาวาฟอ้าง "นี้แก ไอ้ตัวเปี้ยก แกคิดหรือว่าจะทำให้ฉันปริปากด้วยการพูดพล่อยๆออกมาน่ะ"
"ฉันไม่ได้พูดพล่อยๆน่ะ เพราะฉันรู้ว่า นายคิดที่จะอดทนให้มากพอ จากนั้นก็ใช้เลือดลาวาทำลายตัวล็อกประตูนี้ แล้วบุกเข้าปล้นยานลำนี้ ด้วยการจับกุมเทคเนล่าเอาไว้เป็นตัวประกัน แล้วนำยานบุกถล่มกองรบเทคนอตเปิดทางให้มันเทิร์คพาพวกถล่มซ้ำกันสิน่ะ" จิลบอก "แต่บอกตรงๆน่ะ ว่าแผนนี้ สิ้นคิดอย่างแรงเลย เพราะต่อให้นายบ้าบิ้นมากแค่ไหน แต่ก็คงไม่รู้หรอก ว่าระบบรักษาความปลอดภัยบนยานลำนี้เหนือกว่าความบ้าได้โลห์ของนายกันเลยน่ะ" ลาวาฟได้ฟังเช่นนั้นก็ทำได้แค่กัดฟันกรอดๆ เพราะจิลพูดในสิ่งที่ตนคิดไว้กันทั้งหมด
เฟยอร์จบอก "แค่กลหลอกเด็กแบบนี้ นายยังพลาดเช่นนี้เลยน่า แต่คงใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก"
"แต่ฉันรู้น่ะ ว่านายคงคิดว่า ยัยตัวเปี้ยกนี้แค่ฟังเรื่องจากแอทเทรติคมา แล้วก็พูดเพื่อให้ฉันเผลอปริปากบอกข้อมูลสำคัญไปแบบนี้ ยัยนี้ไม่มีพลังจิตที่อ่านใจฉันได้หรอก และไม่มีทางที่ฉันจะยอมขายความลับที่ฉันได้ฟังจากผู้หวังดีที่ช่วยฉันและพวกเราในกลุ่มกันไว้ กันละสิน่ะ" จิลบอก เฟยอร์จสะดุ้งเฮือกขึ้นมา เพราะจิลพูดตามที่คิดไว้ทุกประการ
เจเนลบอก "ท่านลอร์ดเฟยอร์จ ต่อให้จิลตัวเตี้ยกว่าพวกเรา แต่เธอแน่กว่านายและไอ้หัวร้อนกันเห็นๆแบบนี้ ยังจะไม่เชื่อกันอีกหรือ"
"หรือถ้าพวกแกอยากจะดื้อด้านต่อไปก็ย่อมได้น่ะ เพราะว่าจิลคงจะอ่านทะลุไปถึงความทรงจำแย่ๆในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่นกันไว้ ซึ่งเรารอฟังกันอยู่น่ะ" คลอเวฟบอก
มาสวาร์ทาร์กล่าว "ถ้าไม่อยากให้จิลแฉให้พวกนายทั้งสองอายจนก้มหน้าไม่ขึ้นแบบนี้ ทางที่ดี พวกนายให้ความร่วมมือกับทางเราเลยดีกว่าน่ะ"
"ในเมื่อพวกแกเล่นกันแบบนี้ ช่าย นอกเหนือจากพวกพันธมิตรจากฝั่งตะวันออกไกลนั้น พวกเราก่อการยึดอำนาจจากพวกแอทเทรติคขึ้นมา บนคำแนะนำของผู้หวังดีทั้งสองกันนี้แหละ" เฟยอร์จบอก "แน่นอน ว่าทั้งสองนั้นแนะนำให้พวกเราสนับสนุนและช่วยพวกพันธมิตรจากฝั่งตะวันออก เพื่อยืมและยึดเทคโนโลยี่ประตูมิติของพวกมัน มาใช้เรียกมหาดารามรณะออกมาแทนที่กองยานรบจากเขตอวกาศของพวกมันนี้แหละ"
โคเซวิคบอก "นี้แปลว่า พวกแกหลอกใช้กองรบเดลอาเนี่ยนให้ทำเช่นนี้เองสิน่ะ"
"ถูกต้อง เพราะพวกเราส่วนหนึ่ง เห็นพวกรุกรานจากฝั่งตะวันออกเป็นแค่เครื่องมือในแผนการของพวกเราทั้งหมดกันนี้แหละ แม้จะรู้มาว่า นอกเหนือจากพวกไทรเวเซอร์แล้ว ยังมีพวกแกที่เป็นฝ่ายต่อต้านพวกมันเป็นพวกศัตรูตัวเอ้กันด้วยน่ะ" ลาวาฟกล่าว "หลังจากที่เรากับมันเทิร์คโค่นเทคนอตลงไปได้แล้ว พวกพันธมิตรจากฝั่งตะวันออกจะเข้ากอบโกยทรัพยากรและเทคโนโลยี่ของเทคนอตมาใช้สร้างประตู หรือเปลี่ยนดาวเป็นสถานีประตูมิติสำหรับนำกองยานรบของพวกมันเข้ามาในเขตอวกาศแห่งนี้ แต่พวกเรา จะตลบหลังพวกมันด้วยการเปลี่ยนประตูมิติให้เปิดช่องทางเรียกมหาดารามรณะปรากฎออกมากันเองนี้แหละ"
มาสวาร์ทาร์บอก "แล้วนายใช้อะไรเรียกมหาดารามรณะกันมิทราบละ"
"พวกแกเคยบอกว่า พวกแกไม่มีความจำเป็นต้องบอกเคล็ดลับให้พวกเรารู้ใช่มั้ย พวกเราก็จะทำแบบพวกแกกันนี้แหละ" ลาวาฟอ้างวลีเด็ดของพวกไทรเวเซอร์มาใช้กัน
คลอเวฟสบถ "พวกมึงอยู่หลังลูกกรง ยังกล้ามาล้อเลียนเรากันเช่นนี้เลยน่ะ"
"คำถามต่อไปเลยแล้วกันน่ะ แล้วไอ้ผู้หวังดีทั้งสองตัวนั้น มันเป็นใครกันวะ" โคเซวิคบอก
เฟยอร์จกล่าว "พวกเราไม่มีทางทรยศต่อตัวแทนทั้งสองไปได้หรอก แม้ว่าพวกเราจะรู้เรื่อง แต่พวกเขาคงรู้ว่าฉัน หรือไอ้ลาวาฟต้องโดนผู้มีพลังจิตอ่านใจได้แน่ๆ พวกเขาเลยช่วยปิดกั้นความลับตรงนี้ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วน่ะ"
"พวกนายคงอ้างเพื่อไม่ให้เราได้อะไรจากพวกแกกันละสิ จริงมั้ยละ จิล" เจเนลบอก
จิลส่ายหน้า "เกรงว่าลอร์ดเฟยอร์จพูดมาจะจริงแล้วละ เพราะ....ตอนที่ฉันจะใช้การอ่านใจของเฟยอร์จและลาวาฟเพื่อหาข้อมูลตัวผู้หวังดีทั้งสอง กลายเป็นว่า มีบางอย่างบล็อกปิดกั้นอย่างฉับพลันเสียได้เลยน่ะ" เจเนลเลยหันมายังลาวาฟและเฟยอร์จซึ่งยิ้มให้ ก็ถึงกับหน้าบึ้งใส่ในทันที
"เราได้เท่านี้ก็เกินพอแล้วละ" เนคมาดูซัมกล่าว
โคเซวิคบอก "ว่าแต่ พวกคุณคงไม่มีการทรมานนักโทษเพื่อเค้นเอาความลับกันเลยสิน่ะ"
"จากที่ฉันเห็นมานั้น ต่อให้ใช้เครื่องมือในการทำให้นักโทษเปิดปากออกมา ทั้งลาวาฟและเฟยอร์จคงไม่เผยข้อมูลที่พวกคุณอยากได้เลยนะคะ" เทคเนล่าบอก
โคเซวิคพยักหน้า "งั้นพวกเราได้เท่านี้ก็เกินพอแล้วละ" แล้วก็เดินพาพวกออกไป
"งั้นทางเราฝากตัวนักโทษทั้งสองให้พวกท่านรับผิดชอบกันด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว แล้วก็พาพวกเดินตามโคเซวิคไปด้วย
ลาวาฟกล่าว "เชิญพวกแกสู้แบบหลงทิศกันได้เลย เพราะไม่ว่ายังไง พวกเราก็แซงหน้าพวกแกไปหลายก้าวแล้วละ"
"ที่พวกคุณออกไปกันนิ แสดงว่าพวกคุณเองก็คงได้ข้อมูลสำคัญมาแล้วสิน่ะ" เทคเนล่าบอกโดยที่เดินมายังห้องว่าง ซึ่งพวกเนคมาดูซัมและโคเซวิคเดินมาเพื่อกลับยาน
โคเซวิคพยักหน้า และหันมาถามว่า "แต่ปัญหาคือ พวกมันเรียกไอ้ดาวมรณะที่ว่านั้นออกมากันยังไงละ เพราะพวกมันยังไม่ยอมบอกอะไรเราเลยน่ะ"
"พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตสามารถเรียกดาวมรณะออกมาได้นั้น เพราะว่า...." เทคเนล่าบอก ".....พวกเขาได้ขโมยเศษเสี้ยวของดาวมรณะที่บรรพบุรุษของเราเก็บเอาไว้ เพื่อศึกษาโครงสร้างภายในมหาดารามรณะ และค้นหาจุดอ่อนในการทำลายล้างมัน โดยทางเราได้ทำการวิจัยเรื่องนี้มาตลอด 400 ปีเต็มเลยนะคะ"
เนคมาดูซัมบอก "แล้วบรรพบุรุษของพวกคุณนั้นคงได้มันมาในช่วงที่หนีมายังจักรวาลแห่งนี้เลยสิน่ะ"
"ถูกแล้วคะ ในช่วงที่มหาดารามรณะดึงดาวของเราเข้ามานั้น กองยานแพลตตินั่มอามาด้าได้ยิงลำแสงเข้าทำลายเปลือกนอกของมหาดารามรณะ จนทำให้มีเศษซากส่วนหนึ่งกระเทาะออกมา แน่นอน ว่าบรรพบุรุษของพวกเราได้นำชิ้นส่วนเหล่านั้นเพียงส่วนน้อยมาเก็บไว้สำหรับการวิจัยระยะยาวกันอย่างลับๆ หลังจากที่กองยานชาวดาวฤกษ์ส่งมหาดารามรณะเข้าสู่ห้วงมิติอื่นไปแล้ว" เทคเนล่าบอก "หลังจากนั้นอีก 130 ปีถัดมา บรรพบุรุษพวกเราพบว่า ชิ้นส่วนเหล่านี้พยายามที่จะดึงดูดหรือเรียกส่วนที่เหลือ ซึ่งก็คือมหาดารามรณะให้ปรากฎขึ้นมา พอพวกเรารู้ว่าแม้เหลือชิ้นส่วนเพียงเล็กน้อย มันก็มีอำนาจมากพอที่จะนำพาหายนะกลับมาได้อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใช้กับเครื่องมือที่เปิดช่องทางต่างมิติหรือห้วงมิติอื่นกัน ดังนั้น บรรพบุรุษของพวกเราในรุ่นนั้น จึงนำชิ้นส่วนดังกล่าวไปปิดตายในส่วนเก็บกักวัตถุอันตราย เพื่อมิให้ผู้ไม่หวังดีนำมันไปใช้ก่อเรื่องขึ้นมา...."
เฟลิคบอก "แต่หลังจากนั้น เวลาผ่านไปถึงช่วงรุ่นของพวกคุณ เดธซิลเวอร์พลาเนตก็รู้เรื่องและส่งคนมาช่วงชิงชิ้นส่วนเหล่านั้นไปสิน่ะ"
"คะ พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้นส่งคนมาลอบจู่โจมขบวนขนส่งวัตถุอันตรายจากส่วนปิดผนึกเดิม ไปยังสถานที่แห่งใหม่ที่มีระบบป้องกันที่หนาแน่นและทันสมัยมากขึ้น แม้ว่าทางเราพยายามที่จะสกัดกั้นมิให้พวกนั้นหนีไปพร้อมกับชิ้นส่วนดังกล่าว แต่สุดท้ายก็...." เทคเนล่าบอก
มาสวาร์ทาร์กล่าว "แสดงว่าพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตคงรู้เรื่องนี้มาเป็นอย่างดี และร่วมมือกับพวกเดลอาเนี่ยนก่อนหน้าการบุกปล้นกันไว้เลยสิน่ะ" แล้วก็พูดต่อ "....ที่สำคัญ พอปล้นชิ้นส่วนของมหาดารามรณะไปจากดาวเทคโนตันแล้ว เดธซิลเวอร์พลาเนตเองยังคงเหลืออีกส่วนหนึ่งไว้ เพราะต้องการให้พวกนั้นขโมยของอีกอย่างจากพวกเทคนอตไปอีกด้วย"
"สตาร์โคลอสซัสที่อยู่ในบังเกอร์ลับสิน่ะ มาส" พีวิลกล่าว
มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ทั้งเรื่องการบุกปล้นชิ้นส่วนของมหาดารามรณะก็ดี และการขโมยสตาร์โคลอสซัสไปก็ดี ล้วนเป็นแผนการของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่อาศัยความร่วมมือของพวกเดลอาเนี่ยนกันไว้ เพราะการปล้นครั้งแรก เพื่อดึงความสนใจของกองกำลังเทคนอตบนดาวเอาไว้ ให้อีกกลุ่มที่มีพวกเดลอาเนี่ยนร่วมด้วย เตรียมการขโมยสตาร์โคลอสซัสออกจากบังเกอร์ลับ ด้วยการใช้ประตูมิติของฝ่ายเดลอาเนี่ยนให้เป็นประโยชน์กันน่ะ"
"และคงจะส่งส่วนหนึ่งไปให้ลาวาฟและเฟยอร์จนำไปโมดิฟายกันก่อนหน้า เหมือนกับที่พวกเราและพวกนายเจอมากันเลยสิน่ะ" โคเซวิคบอก
เนคมาดูซัมกล่าว "ซึ่งพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตเองก็คงรู้เรื่องของพวกเราและของพวกนายจากปากของพวกเดลอาเนี่ยนมา และรู้ดี ว่าตราบใดที่ยังมีพวกเราและพวกนายอยู่ แผนการดังกล่าวต้องมีปัญหากันแน่ๆ พวกมันเลยร่วมมือกับพวกเดลอาเนี่ยน ส่งคนไปก่อเรื่องในระบบดาวของเราและเขตอวกาศของสมาพันธ์อวกาศ โดยอาศัยเมคโซ่ที่ถูกมันเทิร์คหลอกล่อให้ออกนอกดาว จากการใช้ข่าวลวงว่ามันเทิร์คหลบหนีออกนอกดาว และทำให้เมคโซ่มาถึงเขตอวกาศของสมาพันธ์ฯช้าลง จนมาถึงเขตของพวกนายนี้แหละ"
"งั้นที่ฉันกับฝูงยานบินขัดขวางเมคโซ่ที่นำยานบินฝ่าเขตแดนอย่างรวดเร็ว ก็เป็นแผนของพวกมันอย่างงั้นนะหรือ" อิลมิคกล่าว เนคมาดูซัมพยักหน้า
พีวิลบอก "เพราะว่าทั้งพวกเราและพวกนายต่างก็ไม่รู้จักพวกเอทพลาเนสได้ดีเท่ากับชาวดาวฤกษ์และสมาพันธ์อวกาศกัน ดังนั้น พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตจึงใช้ประโยชน์จากพวกนายที่เป็นต้นเหตุให้เมคโซ่ทำภารกิจล่าช้า สร้างเหตุผลให้ทางสมาพันธ์อวกาศส่งพวกนายไปกับพวกเรา ที่เข้ามาจัดการกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตส่วนหนึ่งที่ล่วงหน้ามาที่แคสเซเดี่ยน-3 กันไว้ เพราะพวกนั้นคงจะรู้จากพวกเดลอาเนี่ยนมาแล้ว ว่าซีคเทมพลาร์แอสเทลน่า เป็นพัศดีอวกาศที่รับผิดชอบในการควบคุมตัว และจับกุมเหล่านักโทษสุดโหดและมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดมากๆนั้น เป็นสหายร่วมรบกับพวกเรา เช่นเดียวกับ เอสเซคาร่าซารีทิสกันด้วย"
"เข้าใจแล้วละ เพราะซีคเทมพลาร์ก็รู้ว่าเจ้าเมคโซ่เป็นชาวดาวหิน และเป็นส่วนหนึ่งของเอทพลาเนสกันด้วย พอรู้ว่าเมคโซ่มาด้วยเหตุผลอะไร เธอเลยรีบมาแจ้งกับพวกนาย เพื่อให้พวกนายเดินทางมาที่ระบบดาวแห่งนี้เลยสิน่ะ" อิลมิคกล่าว พีวิลพยักหน้า
เทคเนล่าบอก "แต่เราไม่คิดเลยว่า พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตและกลุ่มผู้รุกรานจากฝั่งตะวันออก จะวางแผนเล่นงานพวกคุณทั้งสองกลุ่มกันเช่นนี้ได้ พวกเขานิช่างเลวร้ายเสียจริงๆเลยน่ะ"
"ยิ่งในตอนนี้ เราจัดการกับลาวาฟและเฟยอร์จกันไปแล้ว ที่เหลือที่ยังอยู่ในดาวทั้งสี่ดวงและดาวสโตนยอนนั้น คงไม่นิ่งเฉยกันไว้แน่ๆน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
เทคเนล่ากล่าว "งั้นฉันคงต้องให้ความช่วยเหลือกับพวกคุณด้วยการสืบความเคลื่อนไหวให้กันนะคะ"
"คุณควรจะสืบไปถึงกลุ่มมือที่สามที่เข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ด้วยน่ะ" พีวิลบอก
มาสวาร์ทาร์กล่าว "มือที่สามนะหรือ....นี้คงไม่ได้หมายความว่า เฟยอร์จยังมีกลุ่มโจรสลัดอีกกลุ่มที่เราไม่รู้จักกันเลยหรือ"
"นั้นแหละคือปัญหาละ เพราะ ในระหว่างที่ฉันและไกซ์อยู่ที่ไอซ์ติคนั้น ทางเราได้พบเจอคอนเทนเนอร์ลับอยู่ในหุบเขาน้ำแข็งกัน ซึ่ง....เจ้าของสินค้าเหล่านี้....คือกลุ่มโจรสลัดตัวเป้งที่เรารู้กันมาแล้วนะสิ" พีวิลบอก
เนคมาดูซัมกล่าว เมื่อได้เห็นภาพดังกล่าวมา "....นั้นไม่ดีแล้วสิเนี้ย"
Triveser Manigator Saga: Hyperstar Trooper ภาคแปดดารา
ตอนที่ 5 สมรภูมิทะเลทรายอัสนีบาตกึกก้อง กองพันแมงมุมทองคำปรากฎ
"กองกำลังโจรสลัดอวกาศกรัมสกิซนะหรือ...." เฟรดกล่าว เมื่อเขากับพวกมานั่งคุยกันในโรงอาหารที่ไทรแองเกิ้ล
น็อกกี้ถาม "ไกซ์ ว่าแต่ ไอ้เจ้าของคอนเทนเนอร์ที่พวกนายเจอมานิ มันน่ากลัวแค่ไหนละ พวกลุงหมีควายถึงทำหน้าบอกบุญไม่รับเลยน่ะ"
"เท่าที่ฟังจากลูกพี่พีวิลเล่ามาน่ะ เห็นว่าเป็นกลุ่มโจรสลัดที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด น่าเกรงขามอย่างมากที่สุด และไร้ความปราณีใดๆมากที่สุดกันด้วย ขนาดที่ว่าเคยมีก๊กโจรเล็กใหญ่ในเขตอวกาศไปท้าทายพวกนั้น ล้วนไม่ได้รอดกลับไปกันซะทุกกลุ่ม แถมผู้ที่ท้าทายบางส่วนเองก็ศพไม่สวยกันด้วยน่ะ" ไกซ์บอก
คีธกล่าว "ที่คุณพีวิลพูดมา คงจะเบรคนายและพวกน็อกกี้ไม่ให้ออกนอกภารกิจกันละสิ"
"ทีแรกฉันก็คิดเช่นนั้นแหละ แต่....พอฉันลองไปถามพวกเฮเรเค้นด้วยเรื่องนี้ พวกนั้นก็ยืนยันมาเลย ว่าเรื่องของพวกกรัมสกิซนั้นมีอยู่จริงๆเลยแหละ" ไกซ์กล่าว แล้วก็ส่งแพดข่าวมาให้ทุกๆคนอ่านดู
วิลด้าบอก "ภาวนาว่า ทุกๆคนคงจะไม่เจอกับพวกนี้กันบ้างน่ะ"
"ทุกๆคนที่คุณพูดถึงนิ หมายถึงพวกเราทั้งหมดเลยหรือคะ" นาเดียบอก
มิลด์กล่าว "เปล่าหรอก คุณวิลด้าหมายถึง กองยานบุกเบิกที่พวกคุณเบติสกับครอบครัวเฟรมิเดรก้าโดยสารไป เพื่อมุ่งหน้าสู่เขตอวกาศภาคกลางในการสำรวจบุกเบิกหาดาวดวงใหม่กัน ซึ่งกองยานส่วนมากเข้าไปในส่วนลึกของเขตอวกาศภาคกลาง ในขณะที่กลุ่มของพวกคุณเบติสที่ต้องลงจอดฉุกเฉิน และอีกสามสี่กลุ่มต้องอยู่รั้งท้ายและทิ้งไว้อยู่ข้างหลังกันนะสิ"
"แสดงว่าพวกคุณเองก็ไม่เคยรู้สิ ว่าเขตอวกาศภาคกลางนั้นมีอันตรายร้ายแรงและมีกลุ่มโจรสลัดเหล่านี้ปรากฎกันเลยน่ะ" เฟรดถาม
เบติสบอก "ใช่ เพราะข่ายสัญญาณสื่อสารคลื่นควอนตั่มของยานที่ฉันกับครอบครัวรวมถึงพวกเราที่อยู่รั้งท้ายสุดนั้น ไปไม่ถึงกองยานที่เข้าไปในส่วนที่ลึกมากของเขตอวกาศภาคกลางกัน ซึ่งถ้าระบบสื่อสารของกองยานใช้การไม่ได้ หรือมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาขึ้นมา อีกทั้ง ก่อนออกเดินทาง พวกเราเองก็ไม่รู้เลยว่า ในเขตอวกาศภาคกลางนั้นจะมีอันตรายร้ายแรงกันถึงเพียงนี้ โดยคิดแค่ว่า เราจะหาดาวดวงใหม่ที่ดีกว่าแรซัลก้ากันไว้น่ะ"
"ลุงกับป้าคงไม่รู้เรื่องกบฎอากรีเดี่ยมกันละสิ ว่าพวกมันก็มาจากเขตอวกาศภาคกลางกันน่ะ" แด็กซ์บอก
วิลด้าบอก "เรื่องกบฎอากรีเดี่ยมนั้น พวกเรารู้เพียงแค่ว่าพวกนี้น่าจะอยู่ในเขตอวกาศสมาพันธ์อวกาศกันเท่านั้นแหละ อีกอย่าง กองยานบุกเบิกเองก็มีกองยานรบส่วนหนึ่งทำหน้าที่อารักขากันไปด้วย สำหรับรับมือกับภัยอันตรายที่เราไม่เคยเห็นและทราบกันมาก่อนนะสิ"
"แล้วพวกกรัมสกิซเหล่านั้นมีโฉมหน้าเป็นเช่นไรบ้างละ" มาริถาม
ไกซ์ถอนใจและบอกไปว่า "นั้นแหละคือ ปริศนาต้องห้ามของพวกกรัมสกิซกันนะครับ คุณคาเซคาว่า เพราะ....ใครก็ตามที่เห็นโฉมหน้าของพวกกรัมสกิซ ล้วนมิได้รอดกลับไปกันทั้งนั้นไม่ว่า พวกเขาคงได้เจอกับการตายที่หนักหนายิ่งกว่า ตั้งแต่ เอาศพไปเผาที่ดวงอาทิตย์ ไปจนถึง โยนลงหลุมดำกันเลยน่ะ"
"แม้กระทั่งเห็นโฉมหน้าตัวหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดเองก็ด้วยเลยหรือ" แด็กซ์บอก
ไกซ์พยักหน้า เมดิน่าบอก "แสดงว่าใครก็ตามที่อยากจะเห็นโฉมหน้าของตัวหัวหน้าและสมาชิกทั้งหมดของกรัมสกิซ ต่างก็มีจุดจบที่แย่อย่างมากเลยสิน่ะ" และหันมาถาม "แล้วไอ้คอนเทนเนอร์ที่พวกนายเจอมานิ คงไม่ได้มีอะไรที่ร้ายแรงกว่างั้นสิ"
"คอนเทนเนอร์อาจจะไม่มีสินค้าสำคัญอะไรที่อยู่ข้างในกันก็จริง แต่...." ไกซ์บอก ".....ตรงมุมภายในคอนเทนเนอร์มีตัวส่งสัญญาณระยะไกลระดับหลายปีแสงอยู่ ซึ่งมันจะส่งสัญญาณระบุให้ทางกรัมสกิซรู้ และส่งคนมาเก็บกู้สินค้าในตู้ไป ซึ่งตามที่ลูกพี่พีวิลบอกไว้ ว่าพวกที่มาเก็บกู้ คงได้รับคำสั่งให้กำจัดใครก็ตามที่รู้เรื่องคอนเทนเนอร์นี้ด้วยน่ะ"
วิลด้าบอก "แล้วพวกเฟยอร์จมันได้คอนเทนเนอร์เปล่ามาทำไมล่ะ"
"จากปากคำของสมุนไอซ์ติก้าของเฟยอร์จที่คุมคอนเทนเนอร์เปล่านี้ ก็เพื่อที่จะส่งคอนเทนเนอร์เปล่าไปไว้ในท้องพระคลังของราชาแอทเทรติค โดยหวังจะยืมมือพวกกรัมสกิซที่ส่งกลุ่มเก็บกู้ลงมากำจัดพวกแอทเทรติคที่เจอคอนเทนเนอร์นี้ไว้ โดยที่พวกเฟยอร์จ ปิดกั้นการส่งสัญญาณของคอนเทนเนอร์เหล่านั้นไว้ จากนั้นก็สตาร์ทเครื่องขึ้นใหม่ในทันที ที่พวกลูกพี่และยูเนี่ยนพีชเก็บคอนเทนเนอร์เปล่าออกมาจากที่ซ่อนกันแล้ว" ไกซ์กล่าว "โชคยังดี ที่หัวหน้าโคเซวิค ให้เมคครอฟิคโอแอดทำลายตัวส่งสัญญาณเหล่านี้จนหมดเกลี้ยงไว้ และสอบปากคำลูกน้องเพิ่มเติมกันด้วย ว่าเฟยอร์จส่งคนไปขโมยคอนเทนเนอร์ของพวกกรัมสกิซมาไว้ในยานที่มีตัวปิดกั้นสัญญาณออกนอก นำมาไว้ในดาวดวงนี้เลยนะสิ"
น็อกกี้กล่าว "นี้อย่าบอกน่ะ ว่าไอ้เฟยอร์จอะไรนั้น มันไม่เคยเจอตัวพวกกรัมสกิซเลยหรือ"
"ไม่เคย เพราะเฟยอร์จอยากจะเจอพวกกรัมสกิซเต็มแก่ โดยหวังยืมมือพวกนั้นมากำจัดแอทเทรติค แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเฟยอร์จไม่อยากมีจุดจบก่อนที่เขาจะยึดดาวมาเป็นของเขา เลยต้องใช้วิธีขโมยของๆพวกกรัมสกิซมาเสียเองนะสิ" ไกซ์กล่าว
เฟรดบอก "นั้นบ่งบอกได้ว่า พวกกรัมสกิซคงยอมเสียของๆพวกเขาบางส่วน เพื่อรักษาความลับของพวกเขาไว้เลยสิน่ะ"
"และพวกกรัมสกิซก็คงไม่คิดที่จะช่วยเฟยอร์จกันจริงๆ สิน่ะ" แฮรี่บอก ไกซ์พยักหน้า
น็อกกี้กล่าว "แปลว่าความพยายามของเฟยอร์จเอง ก็คงคว้าอากาศธาตุกันอย่างเดียวละสิ" แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "แสดงว่าพวกนี้ไม่เพียงน่าเกรงขามและอันตรายอย่างมาก แต่ยังเป็นพวกเก็บรักษาความลับเรื่องตัวตนของตัวหัวหน้าแก็งค์และพวกพ้องกันอย่างมากมายกันเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลย ที่ป้าโดซี่เบรคพวกเราไม่ให้ออกนอกประเด็นกันน่ะ"
"ว่าแต่ฟูลออเรสไปไหนกันน่ะ" มาริถาม
เมดิน่าบอก "ฟูลออเรสเอาชุดเซฟการ์ดสองชุดไปคืนรุ่นพี่อีธานและรุ่นพี่เอโอลีนกันแล้วนะคะ ก่อนที่พวกเฮเรเค้นจะมาเจอแล้วเอาไปเล่นอะไรบ้าๆกันน่ะ" เมดิน่าบอก
"เอากลับมาเดียวนี้นะเฟ้ย ไอ้พวกบ้า" ฟูลออเรสโวยลั่นก่อนจะวิ่งไล่ตามเฮเรเค้น ไลเอิร์ท เรฟไซท์ และชาร์เครฟ ซึ่งสวมชุดเซฟการ์ดพร้อมกับเฮเรเค้น วิ่งไปตามทางเดินกัน
นาเดียบอก "เกรงว่า ไม่ทันแล้วละมั่ง"
"ให้ตายสิ แค่ขโมยชุดแอบไปแกล้งให้พวกลูกเรือของลุงบริคซ์ตกใจเล่น ไม่นึกเลยว่าจะต้องโดนแบบนี้เลยน่ะ" ไลเอิร์ทบอก โดยตอนนี้ได้สวมชุดอวกาศหนาเตอะออกมาช่วยเฮเรเค้น เรฟไซท์และชาร์เครฟ เช็ดทำความสะอาดนอกยานไทรแองเกิ้ลกันอยู่ ซึ่งมีจายด์และคลอเวฟที่สวมหมวกอวกาศยืนคุมกันด้วย
เรฟไซท์กล่าว "ทำงานไปเหอะน่า เดียวเราจะโดนลุงคลอเวฟยันโครมออกนอกยานกันเสียก่อนน่ะ" แล้วก็ใช้ลูกกลิ้งเช็ดยาขัดเงาบนพื้นดาดฟ้ายานกันไปด้วย
"ดีน่ะ ที่พวกเธอไม่ทำให้ชุดพัง ไม่อย่างงั้น พวกเธอต้องทำงานชดใช้กันอีกยาวเลยน่ะ" จายด์บอก
คลอเวฟกล่าว "ชุดเซฟการ์ดของฟูลออเรสและเมดิน่านั้น ราคาครึ่งแสนเลยนะ"
"โอ้ว เจริญละ ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมไอ้เนิร์ดถึงไล่ตามกันแบบเอาเป็นเอาตายกันเลยน่ะ" เฮเรเค้นกล่าว แล้วก็พุ่งไปพร้อมกับใช้ลูกกลิ้งขัดพื้นรอบนอกด้วย แต่ชาร์เครฟยืนนิ่งอยู่"เฮ้ย ไอ้หลาม มึงจะมายืนอู้ทำไมกันวะ...." เฮเรเค้นเลยเดินมาโวย พอหันมาข้างนอก ก็ต้องชะงักลง
"นี้พวกเธอ อยากจะลงไปทำความสะอาดตรงปล่องบูสเตอร์ยานของเราหรือไงกัน...." คลอเวฟเดินมาโวยลั่นกัน
"ลุง ลุง ดาวเคราะห์ดวงนั้นมัน...." ไลเอิร์ทแจ้งบอก คลอเวฟเลยหันมาเห็น....ดาวแซนดอมที่เคลื่อนตัวกันอย่างช้าๆ ซึ่งก็ "ครืนนนนนน" มีคลื่นไอพ่นสีน้ำเงิน 6 คลื่นพุ่งออกจากดาวขับเคลื่อนกันอย่างช้าๆ จนเรฟไซท์และจายด์เห็นกันไปด้วย
"โฮ่ย เนคเกอร์ มึงรีบแจ้งไอ้หมีควายกับโดซี่โดยด่วน เราเจอปัญหาแล้ววะ" คลอเวฟรีบแจ้งเตือนโดยเร็ว
"ท่านเทคเนล่าคะ ดาวแซนดอมพยายามจะเคลื่อนออกนอกกลุ่มกันแล้วละคะ" ทหารเทคนอตกล่าว
เทคเนล่าได้ฟังเช่นนั้นเลยรีบติดต่อไปยัง.... "ท่านลาคาดัล นี้ท่านคิดว่าท่านกำลังทำอะไรมิทราบละคะ" ราชาแห่งแซนดอม
"ข้าทำอะไรนะหรือ ข้าแค่อยากจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกันก็เท่านั้นเองแหละ" ลาคาดัลบอก
เทคเนล่ากล่าว "ทั้งๆที่ท่านกับชาวแซนดาลเองก็ตกเป็นเป้าหมายการยึดครองของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันนะหรือ ท่านเองไม่กลัวเลยหรือไงละคะ"
"ข้าจะกลัวไปทำไม ในเมื่อตอนนี้....กองรบของข้าเข้าคลี่คลายสถานการณ์ทุกอย่างกันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้าขอบอกเลยว่า ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกท่านหรือกองกำลังตัวแทนของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศกันหรอกน่ะ" ลาคาดัลบอก "ฉะนั้น ข้าจึงอยากจะขอร้องให้ท่านแจ้งกับโอเวอร์เซียร์ อนุญาตให้ข้าไปทำธุรกิจกันเสียหน่อยน่ะ" เทคเนล่าได้ฟังเลย.... "แว้งงงง ปี้บๆๆๆ" เรียกวินโดว์โฮโลแกรมออกมารอบตัวและใช้ฝ่ามือขวากดวินโดว์สามแผง แล้วก็กดวงกลมสีแดงขึ้นจน "ครืนนนน หวู่....." ไอพ่นที่ดาวแซนดาลได้ดับหายไปในทันที
"ต่อให้ท่านกับพวกแก้ไขปัญหานั้นได้ ก็ใช่ว่า เราจะให้ท่านนำดาวออกนอกขอบเขตของพวกเรากันได้นะคะ" เทคเนล่าบอก
"ต่อให้ท่านหญิงหยุดข้าไม่ให้นำดาวออกนอกระบบดาวกันก็ตาม ท่านไม่มีทางหยุดข้าดำเนินธุรกิจกันอยู่ดีนี้แหละ" ลาคาดัลกล่าว "หวังว่าท่านคงไม่คิดก่อเรื่องเป็นศัตรูกับข้ากันบ้างน่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีพวกตัวยุ่งมาขัดขวางการเจรจาธุรกิจกับลูกค้ารายใหญ่จากที่อื่นกันอยู่น่ะ" แล้วก็ตัดการติดต่อไป
เทคเนล่าส่ายหน้าพร้อมกับ "แจ้งยานไทรแองเกิ้ล อินสเปคทรัลและไฮด์เดาท์กันเดียวนี้เลย"
"พวกเราเห็นแล้วละ ว่าลาคาดัลคงคิดจะหาเรื่องหนีปัญหาที่เกิดขึ้นกันได้น่ะ" โคเซวิคบอก เพราะทราบจากเนคมาดูซัมกันแล้ว และหันมาถาม "แล้วท่านจัดการกับลาคาดัลลงได้แล้วละสิ"
เทคเนล่ากล่าว "ข้าแค่สั่งหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ดาราในดาวแซนดอมเอาไว้ แต่ข้าแน่ใจว่า ลาคาดัลและพวกคงหาทางสตาร์ทเครื่องยนต์กลับมาใหม่กันอย่างแน่นอนน่ะ"
"แล้วท่านไม่ได้ส่งกองรบของพวกท่านลงไปนิ คงไม่เพราะว่าพวกท่านเคยมีเรื่องกับพวกแซนดอมกันมาก่อนสิคะ" โดซี่กล่าว
เทคเนล่าพยักหน้า "เมื่อสามชั่วรุ่นของพวกเรา กองรบของเราไล่ล่ากองโจรแซนดอมที่บุกเข้ามาเพื่อขโมยเครื่องเร่งปฏิกิริยาพลังงานไปจากสถาบัน ซึ่งกองโจรนั้นสร้างความโกรธกริ้วให้กับฝ่ายกองรบที่ไล่ล่าอย่างมาก ถึงขั้นที่กองรบใช้อาวุธหนักถล่มที่ซ่อนทุกแห่ง โดยไม่สนใจว่าพวกกองโจรหลบอยู่ในเขตชุมชนกัน ซึ่งแม้กองโจรแซนดอมถูกปราบลงพร้อมกับนำเครื่องเร่งปฏิกิริยากลับมา แต่นั้นก็ทำให้ชาวแซนดอมส่วนมากเกลียดชังพวกเราที่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหากัน จนท่านปู่สั่งลงโทษกองรบนั้นด้วยโทษสถานหนักกัน เนื่องจากว่ากองรบนั้นไม่เพียงทำให้ชาวแซนดอมส่วนมากล้มตาย แต่ยังลงโทษกองโจรเหล่านั้นด้วยการแขวนศพประจานชาวแซนดอมกันไว้ให้ชุมชนที่เหลือกันด้วยน่ะ"
"แสดงว่ากองโจรแซนดอมที่เป็นตัวก่อเรื่องนั้น เป็นพวกที่แสบสันต์อย่างมากเลยสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
เทคเนล่ากล่าว "อีกทั้งสมาชิกส่วนมากในกองรบฝ่ายเราเองก็เป็นพวกอ่อนไหวมากเสียด้วย แม้ฝ่ายเราส่งอีกทีมไปแก้ไขสถานการณ์ลงได้ ความเสียหายก็บังเกิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกแซนดอมเหล่านั้น คงเกลียดชังพวกเรากันอยู่ แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 3 ชั่วรุ่นแล้วก็ตามน่ะ"
"นั้นคือเหตุผลที่พวกท่านไม่สามารถนำทัพลงไปแก้ไขสถานการณ์เอง เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนกับพวกคุณในช่วงนั้นเลยสิน่ะ" พีวิลกล่าวและหันมาถาม "ถ้าลาคาดัลไม่มีคุณสมบัติในการเป็นองค์ราชาปกครองดาว หรือมีความประพฤติไปในทางที่เสื่อมเสียกันนิ คิดว่าทางแซนดอมจะให้ใครปกครองแทนกันนะครับ"
เทคเนล่าบอก "ลาคาเมส พี่ชายของลาคาดัลกันนะสิ ว่ากันตามจริงแล้ว เขาสมควรเป็นผู้นำของแซนดอมมากกว่าลาคาดัลกัน เนื่องจากว่า เขามีความเป็นผู้นำที่สูง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อชาวแซนดาลกันทุกตน และมีความสามารถในด้านการปกครองและทางทหารที่เด่นชัดมากที่สุดด้วยนะ"
"แล้วเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของลาคาดัลกันละ" เฟลิคบอก
เทคเนล่ากล่าว "ทางเราได้ทราบข่าวเพียงแค่ว่า ลาคาเมสฆ่าตัวตายเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ปลงพระชนม์ราชาองค์ก่อน ทั้งๆที่ตามหลักแล้ว ถ้าองค์ราชาสิ้นพระชนม์แบบมีเงื่อนงำกัน ชาวแซนดาลจะต้องเริ่มต้นการสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำกัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการสืบค้นกัน หากว่าผู้ลงมือนั้นมีผู้เกี่ยวข้องร่วมด้วยหลายฝ่าย ซึ่งชาวแซนดาลส่วนมากนั้น กลุ่มหนึ่งคิดเหมือนกับมันเทิร์คและลาวาฟ ในเรื่องก่อสงครามกับพวกเรา อีกกลุ่มหนึ่ง คือพวกนึกถึงผลประโยชน์ของตนเองเหมือนกับลาคาดัล และอีกกลุ่มหนึ่งนั้น คือพยายามจะหนีออกจากระบบดาวเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกัน หรือ....เบื่อหน่ายกับการอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเรากันแล้วนะสิ" แล้วก็บอกไปว่า "พอเราทราบมาว่า ลาคาเมสฆ่าตัวตายจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลอบปลงพระชนม์ราชาองค์ก่อนกัน ลาคาดัลจึงขึ้นครองราชย์ต่อและสั่งห้ามรื้อฟื้นเรื่องนี้กันไว้ จนทำให้ชาวแซนดาลเกิดความกังขาในการกระทำของลาคาดัลกัน แม้ว่าลาคาดัลทำไปเพื่อให้เรื่องมันจบลงก่อนที่ความวุ่นวายจะบานปลายใหญ่โตกันก็ตาม แถมได้สาบานต่อพวกผู้นำรวมถึงท่านพ่อของข้าไว้ ว่าจะเป็นผู้นำที่ดีและปกครองแซนดอมให้มีแต่ความผาสุขกัน ซึ่งเรารู้ดี ว่าลาคาดัลสาบานแค่ปากเปล่าเท่านั้นเอง"
"พวกท่านคิดว่า ไอ้เวรนั้นมันเป็นฆาตกรที่กระทำปิตุฆาตกันหรือเปล่าละ" อิลมิคบอก
เทคเนล่ากล่าว "พวกเรามิอาจด่วนสรุปเพียงเพราะข้อสมมุติฐานในเชิงลบกันหรอกน่ะ แม้ว่าท่านเดฟทรอลจะสงสัยเหมือนกับพวกท่าน เนื่องจากว่าท่านเดฟทรอลและพ่อของลาคาเมสกับลาคาดัล เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก่อน และรู้จักกับลูกชายทั้งสองกันด้วยนะ"
"แล้วท่านคิดว่า ลูกค้ารายใหญ่ของลาคาดัลนั้น เป็นใครกันละ เพราะถ้าลูกค้านั้นไม่สำคัญมากมายจริงๆ ก็คงไม่กล้าเอาดาวออกไปนอกเขตกันหรอกน่ะ" โดซี่บอก
เทคเนล่าส่ายหน้า "นั้นแหละคือปัญหาละคะ เพราะว่าพวกเราไม่สามารถส่งใครลงไปสืบข่าวคราวภายในดาวแซนดอมกันมาสามชั่วรุ่นแล้ว เราจึงไม่รู้ว่าลาคาดัลติดต่อใครจากนอกเขตของพวกเรากันหรือเปล่า ซึ่งคงไม่ดีแน่ๆ หากลาคาดัลค้าขายกับกลุ่มอาชญากรรมหรือพวกโจรสลัดอวกาศกันน่ะ"
"พวกคุณทราบเรื่องพวกกรัมสกิซกันบ้างหรือเปล่าละ" มาสวาร์ทาร์ถาม
เทคเนล่าบอก "เรื่องของกลุ่มโจรสลัดที่ทรงอำนาจและอิทธิพลมากที่สุด เช่นเดียวกับเป็นกลุ่มที่มีความลึกลับและทำตัวเป็นปริศนามากที่สุดกันด้วย พวกเราทั้งแปดเผ่าเองก็ทราบเรื่องนี้ และพยายามหลีกเลี่ยงมิให้พวกเราเผ่าใดเผ่าหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขามาโดยตลอด แม้เฟยอร์จพยายามไม่น้อยที่อยากจะได้ความร่วมมือจากพวกเขาไว้ แต่โชคดีมาก ที่พวกกรัมสกิซฉลาดมากพอที่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนรู้โฉมหน้าของพวกเขากันได้นะคะ" แล้วก็หยุดพูดไปพักหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า "แน่นอน ว่านั้นคงไม่ดีแน่ๆ หากลูกค้ารายสำคัญของลาคาดัล เป็นหนึ่งในพวกกรัมสกิซกันน่ะ"
"แปลว่าก่อนที่เราจะลงไปจัดการกับลาคาดัลและพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่ดาวแซนดอมนั้น เราต้องรู้ให้ได้ก่อน ว่าลูกค้าตัวเป้งของลาคาดัลเป็นใครงั้นสิ" อิลมิคบอก
เทคเนล่าพยักหน้า "ในช่วงนี้ ฉันจะปรับเปลี่ยนเครื่องสร้างสนามพลังแดนเจอร์ชิลด์ให้เป็นเกราะป้องกันอนุภาคไฟฟ้ากันไว้ เพราะพวกคุณจำเป็นต้องใช้มันในการปฏิบัติการณ์ที่แซนดอม ซึ่งทางเราคงต้องใช้เวลากันสักหน่อยนะคะ"
"ถ้าเช่นนั้น พวกเราคงต้องเตรียมพร้อมในเรื่องพื้นที่บนดาวแซนดอมกันแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก
โคเซวิคกล่าว "อย่างน้อย เราต้องพร้อมสำหรับการรบบนพื้นทรายที่อาจจะมีทรายดูดขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นก็เป็นได้น่ะ"
หลังจากนั้น พวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชก็ซักซ้อมวางแผนเรื่องภูมิประเทศและภูมิอากาศของแซนดอมกัน โดยที่กองกำลังหลังฉากเองก็....
"มันจะได้เลยหรือวะ กับการต้องมาตรวจสอบเครือข่ายสื่อสารของพวกแซนดอมกันเลยน่ะ" แจ็สกล่าว
น็อกกี้บอก "นั้นสิ ดาวทะเลทรายนั้น สภาพอากาศล้วนมีแต่พายุฟ้าผ่าปกคลุมทั่วทั้งดาวกันแบบนี้ เราคงแอบฟังการสื่อสารของตัวผู้นำกับตัวลูกค้ารายใหญ่นั้นไม่ได้แน่ๆ เพราะกระแสไฟฟ้าในชั้นบรรยากาศก่อกวนกันไว้น่ะ" โดยตอนนี้สามหน่อกับคีธอยู่ในห้องคอมพิวเตอร์หลักกัน
"ฉันคิดว่า ราชาแห่งแซนดอมนั้น คงรู้อยู่แล้วน่ะ ว่าสภาพแวดล้อมบนดาวนั้นเป็นเช่นไร และเป็นอุปสรรค์ต่อลูกค้านอกระบบดาวกันเช่นไรด้วย" คีธกล่าว และอธิบายไว้ "ดังนั้น ทางเดียวที่จะเขาจะสื่อสารกับลูกค้านอกระบบดาวนั้นได้ ก็คงมีแต่ ต้องเปิดช่องว่าง ด้วยการกระจายอนุภาคไฟฟ้าที่ปกคลุมชั้นบรรยากาศออกให้กว้างพอ ในการรับคลื่นสัญญาณสื่อสารที่ส่งมาจากภายนอกเข้ามาได้นี้แหละ"
น็อกกี้กล่าว "พูดง่ายๆก็คือ นายคิดที่จะดักจับสัญญาณสื่อสารจากภายนอกที่เข้ามา ด้วยการแฮคเข้าข่ายสัญญาณเพื่อแอบฟังไอ้ลูกค้าลึกลับติดต่อกับไอ้ราชาแห่งดาวทรายเลยสิน่ะ"
"ถูกต้อง น็อกกี้ นายเช็คตรงชั้นบรรยากาศกันได้เลย ว่ามันมีช่องว่างปรากฎอยู่ตรงไหนของดาว แจ็ส เตรียมล็อกเป้าคลื่นสัญญาณสื่อสารระยะไกลเอาไว้ พอมันมาปุ๊บ นายก็ล็อกตัวคลื่นสัญญาณนี้ เพื่อให้ฉันเจาะรหัสสัญญาณเข้าไปกันได้น่ะ" คีธบอก
แด็กซ์กล่าว "เยี่ยม หวังว่าวิชาที่พวกเราเรียนมาคงจะใช้ประโยชน์กันได้น่ะ"
"ตี้ดๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร เรดาห์ส่งเสียงเตือนขึ้นมา น็อกกี้เลยรีบเช็คดู "เรดาห์พิสัยไกลตรวจจับอนุภาคไฟฟ้าที่กระจายตัวออกจนสร้างช่องว่างกันแล้วละ"
คีธถาม "แล้วตำแหน่งที่อนุภาคไฟฟ้ากระจายตัวออกไปนั้น มันตรงไหนละ"
"ตำแหน่งหมายเลข 942 จานดาวเทียมนั้นอยู่ใกล้กับพระราชวังเลยน่ะ" น็อกกี้กล่าว
แจ็สบอก "คีธ องค์ราชาดาวทรายนั้น....มันแจ้งเหตุฉุกเฉินให้กับกลุ่มลูกค้ากันไว้แล้ว ว่ามันออกไปไหนไม่ได้เลยน่ะ"
"เยี่ยม แจ็ส รอคลื่นสัญญาณจากภายนอกที่พุ่งเข้ามาไว้ด้วย เดียวฉันจะจัดการที่เหลือให้เอง" คีธกล่าว หลังจากนั้นเวลาผ่านไป 2 นาทีครึ่ง.... "ปี้บๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงตรงเคาน์เตอร์ของแจ็สดังขึ้นมา
"มันมาแล้วละ คีธ" แจ็สบอก แล้วก็ "ครืดดดด แกร็ก" จับคันบังคับมากดปุ่ม "แว้งๆๆๆๆๆๆ" จานดาวเทียมบนโมดูลย์ 4 ปล่อยคลื่นเข้ามา "กี้งงงงง" มอนิเตอร์ด้านหน้าระบุ "คลื่นสัญญาณจากภายนอก ติดตามได้สำเร็จ แต่สัญญาณอยู่ในโหมดโปรเทค" ขึ้นมา
"คงไม่ยอมให้เรารู้ละสิ ว่าเป็นใคร แต่แย่หน่อย ที่แม้ฉันไม่เก่งเรื่องอาวุธสงครามเหมือนคุณลุง ฉันก็หาเรื่องพังกำแพงเข้าไปได้อยู่ดีนี้แหละ" คีธกล่าวแล้วก็ "แกร็กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เปิดฉากใช้สกิลแฮคกิ้งเจาะระบบโปรเทคคลื่นสัญญาณสื่อสารจากภายนอกกัน โดยที่แจ็สยังคงล็อกข่ายสัญญาณให้สามารถติดตามได้ แต่ไม่ถึงกับสกัดขัดขวางไว้ ซึ่งก็ใช้เวลาราว 3 นาทีด้วยกัน จนกระทั่ง.... "เจาะเข้าไปได้แล้วละ แจ็ส เปิดโหมดแอบฟังได้เลย" คีธกล่าว แจ็สเลยกดปุ่มตามนั้นไว้ ซึ่งน็อกกี้ แจ็สและแด็กซ์หยิบหูฟังออกมา เช่นเดียวกับคีธ ซึ่งเปิดโหมดบันทึกเสียงไว้ด้วย.... โดยพวกเขาแอบฟังบทสนทนากันมาตลอด จนกระทั่งจบการสนทนาลง
แด็กซ์บอก "ดีแล้วละ ที่พวกเรามากับพวกไกซ์ด้วยน่ะ"
"ฉันจัดการเปรียบเทียบเสียงปลายสายกันไว้แล้ว เหมือนจะผิดหวังนิดๆ แต่ก็ดีกว่าเราไม่ได้อะไรกลับมากันน่ะ" แจ็สบอก
คีธกล่าว "ถึงเวลารายงานผลการปฏิบัติการณ์ของพวกเรากันแล้วละ"
"ไอ้สามเกลอสติลลิมบ์รู้ตัวลูกค้าตัวเอ้ของราชาดาวทรายกันแล้วละ" เรฟไซท์บอก
แบร็อคกล่าว "แปลว่างานนี้เป็นความดีความชอบของพวกมันเลยสิเนี้ย รู้งี้พวกเราน่าจะไปเรียนมหาวิทยาลัยทหารกันบ้างก็ดีแล้วน่ะ"
"เกรงว่าคงไม่ได้หรอกมั่ง เพราะพวกพี่ใหญ่ไม่มีงบมากพอในการส่งพวกนายทั้งก๊วนไปเรียนมหาวิทยาลัยทหารกันหรอก" เนคกัสบอก
ดิเรนท์กล่าว "พวกนายลืมไปแล้วหรือ ว่าถ้าส่งพวกนายไปด้วย เกรงว่าพวกครูจะเสียเงินฟรี จากการที่พวกนายแห่ไปฟัดกับพวกยูนิตซีโร่กัน จนถูกทางนั้นไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเสียเองน่ะ"
"เผลอๆ พวกนายอาจจะสร้างความเสียหายให้กับอาคารเรียนกันไม่น้อย จนพาลทำให้พวกคุณมาสวาร์ทาร์ต้องชดใช้ไปมากเลยนะยะ" นาเดียบอก
ฟลาแน็กซ์กล่าว "สำคัญในตอนนี้ เราต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าใครติดต่อไปหาราชาแห่งแซนดอมกันก่อนน่ะ"
"เราได้เช็คข้อมูลการสนทนาระหว่างลาคาดัลกันไว้แล้ว ซึ่งก็ยืนยันในคำพูดของพวกน็อกกี้ว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆเลยน่ะ" พีวิลบอก
ไกซ์กล่าว "แล้วลูกค้ารายสำคัญนั้น เป็นใครกันละ ลูกพี่"
"งั้นเริ่มเลยแล้วกันน่ะ" พีวิลกล่าว มาสวาร์ทาร์และเนคมาดูซัมพยักหน้า พีวิลเลย "ปี้บๆๆๆ" กดไฟล์เสียงขึ้นมา
"ท่านราชาลาคาดัล มีเหตุติดขัดอันใดหรือ ถึงไม่สามารถมาที่นัดหมายกันได้น่ะ" โดยเป็นเสียงของชายร่างใหญ่กันขึ้นมา
"เสียงนี้มัน....ไอ้องค์ชายรองนิหว่า" แรมเบจบอก
ช็อปเปอร์กล่าว "ดูแรนซิลแห่งสเตรดาร์ธนะหรือ ไม่น่าเป็นไปได้น่ะ เพราะองค์ชายรองน่าจะอยู่ในสเตรมเซคเตอร์กันมิใช่หรือไง"
"ฟังให้จบก่อนสิ" รอมมิชบอก
โดยที่ลาคาดัลชี้แจงไปว่า "ถึงท่านบาราแคนแห่งสเตมบัลท์ ข้าต้องขออภัยด้วย ที่เราไม่สามารถออกไปขายสินค้าชิ้นเยี่ยมให้กับท่านได้ เนื่องจากว่ามีเหตุบางอย่างที่ขัดขวางทางกันอยู่น่ะ"
"โอ้ว งั้นหรือ พอจะบอกได้มั้ย ว่าปัญหาที่เป็นอุปสรรค์ของท่านนั้น เป็นเช่นไรกันหรือ" ปลายสายกล่าว
ลาคาดัลบอก "ท่านคงไม่ทราบหรอกน่ะ ว่าดาวจักรกลที่เป็นตัวผู้นำนั้น ไม่เพียงขัดขวางไม่ให้ข้าออกมาจากระบบดาวกันอย่างเดียว แต่....ตัวแทนของดาวจักรกลนั้น ได้เรียกกองกำลังจากเขตอวกาศทางตอนใต้มาขัดขวางถึงสองสามกองกันด้วยน่ะ"
"สองสามกองนะหรือ พอจะทราบมั้ย ว่าพวกนั้นเป็นใคร" ปลายสายถามด้วยความสนใจ
ลาคาดัลบอก "เห็นว่าเป็นกองกำลังยูเนี่ยนพีชจากดาวสคอลลอน ที่อยู่ตอนเหนือของฝั่งอวกาศภาคใต้ ส่วนอีกสองกองนั้น เห็นว่ามาจากระบบอีสทาด้าอะไรสักอย่างนี้แหละ"
"อีสทาล่าฟรอนเทียร์ใช่มั้ย แล้วกองกำลังนั้นมากับยานรบทรงสามเหลี่ยมกันละสิน่ะ" ปลายสายบอก
ลาคาดัลกล่าว "ท่านบาราแคนคงจะได้ยินชื่อเสียงของกองกำลังไทรเวเซอร์อะไรนั้นดีสิน่ะ แต่ล่าสุด มันเรียกกองหนุนเสริมออกมาจนทำให้ดาวไฟและดาวน้ำแข็งที่ควรจะตกเป็นของผู้นำที่แท้จริง ถูกพวกนั้นปราบจนทางเราเสียดาวไปสองดวงกันแล้วน่ะ"
"วิเศษ ถ้าเช่นนั้น ข้าจะนำวิธีแก้ปัญหามาช่วยเหลือท่านเอง ดังนั้น ท่านไปสั่งการกองรบของท่านให้พร้อมรับมือกับปัญหาที่ท่านกำลังประสบกันดีกว่าน่ะ" ปลายสายบอก
ลาคาดัลกล่าว "งั้นหรือ แต่ท่านเองจะมาได้หรือ ในเมื่อตอนนี้ ดาวของเรามีกลุ่มพันธมิตรจากฝั่งตะวันออกอยู่ด้วยน่ะ"
"งั้นท่านเลือกพื้นที่ให้พวกเราตั้งฐานกันดีๆหน่อยนะ เพราะเราไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมของดาวของพวกท่านนั้นหนักหนาแค่ไหนกันน่ะ" ปลายสายกล่าว
ลาคาดัลบอก "ได้ งั้นข้าจะไปเซตโลเกชั่นให้พวกท่านเอง และ หวังว่าท่านคงจะไม่ลืมเรื่องธุรกิจกันบ้างน่ะ"
"ไม่ลืมอยู่แล้วละ ท่านลาคาดัล หวังว่าท่านคงจะมีสินค้าดีๆที่ทางเราอยากได้กันบ้างน่ะ" ปลายสายบอก
ลาคาดัลกล่าว "ถ้าเช่นนั้น มะรืนนี้ท่านมาได้เลยน่ะ ข้าส่งพิกัดเอาไว้แล้ว และขอยุติการติดต่อเลยแล้วกัน" จากนั้นการสนทนาก็จบลง
"ลูกค้าของราชาดาวทรายคือองค์ชายรองแห่งสเตรดาร์ธเองหรือกระนี้" รีฟบอก
นิคหันมาถาม "แล้วแน่ใจหรือ ว่าเป็นตัวองค์ชายดูแรนซินกันจริงๆ มิใช่ผู้อื่นแปลงเสียงมาหลอกกันได้น่ะ"
"ผมเปรียบเทียบเสียงของปลายสายเข้ากับฐานข้อมูลที่พวกเรามี ปรากฎว่า น้ำเสียงนั้นเป็นขององค์ชายดูแรนซินกันอย่างแน่นอน เพียงแต่ มีการแปลงเสียงเพื่อมิให้อีกฝ่ายรู้ว่านั้นเป็นใครกันน่ะ" แจ็สบอก
คีธกล่าว "และจากบทสนทนาของราชาดาวทรายกับดูแรนซินนั้น ดูเหมือนว่าองค์ชายรองจะรู้แล้วละครับ ว่าพวกเราโผล่มาอยู่ในที่แบบนี้กันน่ะ"
"แต่ มันจะเป็นไปได้หรือ องค์ชายรองไม่เคยออกมาจากระบบดาวสเตรมเซคเตอร์กันมาตลอด 3 ปี จะมาโผล่ในเขตอวกาศภาคกลางกันได้น่ะ" นาเดียบอก
มาริกล่าว "ถึงดูแรนซินจะไม่ออกมาจากระบบดาว ก็ใช่ว่า เขากับพวกจะอยู่ที่ระบบดาวของพวกสเตรดาร์ธกันเสมอไปหรอกน่ะ" แล้วก็คาดเดากันขึ้นมา "และการที่ดูแรนซินสามารถติดต่อกับลาคาดัลกันได้นั้น ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ เขากับกองรบสเตรดาร์ธอยู่ในเขตอวกาศภาคกลางกันนี้แหละ"
"แล้วมันจะมาที่เขตอวกาศอันเป็นแดนของพวกนอกกฎหมายกันไปทำไมวะ" แรมเบจถามอย่างไม่เข้าใจ
รอมมิชบอก "องค์ชายรองแห่งสเตรดาร์ธคงรู้ว่า ที่ๆอันตรายที่สุดก็คือที่ๆปลอดภัยมากที่สุดกันนะสิ อีกอย่าง การที่พวกเขากับพวกจาฟฟาร์ลพ่ายแพ้ในศึกชิงเมือง ในช่วงที่พวกเดลอาเนี่ยนบุกรุกเข้ามาในระบบดาวของเราเมื่อ 3 ปีก่อนนั้น ได้ทำให้ฝ่ายสเตรดาร์ธรู้ถึงขีดความสามารถของพวกเราและทุกเผ่าในสหพันธมิตรกันไปแล้ว ทางเดียวที่พวกสเตรดาร์ธจะสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือพวกเรา ก็คือ....ขยับขยายอาณาเขตของพวกเขาให้ขวางทางพวกเรากันนี้แหละ"
"รอมมิชคาดการณ์มาถูกเผงเลยละ เพราะราชอาณาจักรทองคำสเตรดาร์ธเอง ก็มีประชากรแมนิเกเตอร์ในระบบดาวอยู่มากมาย ซึ่งมีกลุ่มนักรบอยู่หลายกลุ่ม เช่นเดียวกับกลุ่มกองโจรและผู้ก่อการร้ายกันด้วยน่ะ" แอบไบออสบอก "แน่นอน ว่าถ้าพวกเราหรือฝ่ายสมาพันธ์อวกาศรู้ว่าสเตรดาร์ธส่งกองยานเข้าสำรวจเขตอวกาศภาคกลางกันขึ้นมา ผู้ฝูงทริปเปิ้ลที ผบ.โทมาส และจอมพลอาแซนจะต้องมาแจ้งกับพวกเราให้ทราบกันเพื่อขัดขวางเอาไว้ ซึ่งนั้นก็ทำให้พวกนั้นใช้แผนดึงดูดความสนใจของพวกเรากันไว้นะสิ"
เฟรดบอก "อย่าบอกนะครับ ว่าการแข่งขันสแมคบอลและการประลองราชันย์นักสู้แห่งจักรวาลเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานั้น...."
"เกรงว่าจาฟฟาร์ลกับพวกจะเป็นแม่เหล็กดึงพวกเรา ออกห่างจากการเคลื่อนไหวของพวกสเตรดาร์ธเสียแล้วนะสิ" แฮรี่บอก "และการที่จาฟฟาร์ลและพวก อยู่ๆก็ถอนตัวไปในช่วงล่าสุดนั้น คงจะได้รับแจ้งจากบ้านเกิดมา ว่าการขนส่งประชากร กำลังพล รวมถึงวัตถุดิบสำหรับการตั้งรกรากเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องอยู่เพื่อดึงพวกเรากันอีกน่ะ"
โรซารี่กล่าว "ไม่คิดเลยจริงๆว่าไอ้พวกแขกอวกาศสเตรมจะเหลี่ยมจัดถึงเพียงนี้น่ะ"
"แล้วพวกนายติดตามปลายสายไปได้หรือเปล่าละ เซวอน" เฟรดถาม
คีธส่ายหน้าและตอบไปว่า "ฉันพยายามจะแกะรอยสัญญาณสื่อสารของดูแรนซินว่ามันมาจากดาวไหนกัน แต่....องค์ชายรองคงจะรู้ว่าพวกเราหรือพวกไทรเวเซอร์อาจจะแกะรอยได้ เลยสกัดกั้นฉันเอาไว้กัน เพราะถ้าดึงดันทำต่อ บทสนทนานี้อาจจะถูกลบทิ้งไปเลยก็ได้น่ะ"
"แสดงว่า พวกสเตรดาร์ธคงไม่ยอมให้พวกเราเข้าขัดขวางแผนการตั้งรกรากของพวกมันเลยสิน่ะ" มัลแด็กซ์บอก
เนคกี้ถาม "แล้วเราคงต้องปะทะกับพวกสเตรดาร์ธกันด้วยสิคะ"
"ใช่ ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่เรารู้ในตอนนี้ก็คือ ดูแรนซินคงจะได้ข้อมูลมา ว่าลาคาดัลแห่งแซนดอมโฆษณาสินค้าเป็นพลังงานไฟฟ้าจากดาวแซนดอมของเขาเอง เขาจึงติดต่อสื่อสารเข้าไปหาลาคาดัลในฐานะของลูกค้าที่สนใจในสินค้ากัน เพียงแต่เขาจะไม่เปิดเผยโฉมหน้าของตัวเขาเอง เพื่อไม่ให้พวกลาคาดัลรู้ว่าลูกค้าผู้นี้ก็มาจากเขตอวกาศทางตอนใต้เหมือนกับพวกเรากันน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "แน่นอน ว่าการที่ดูแรนซินมาซื้อพลังงานไฟฟ้าจากลาคาดัล เป็นไปได้อย่างเดียวก็คือ....อาณานิคมแห่งใหม่ ประสบปัญหาด้านพลังงานอย่างเห็นได้ชัดเลยน่ะ"
เฟรดบอก "แปลว่า พวกเขาเองตั้งรกรากบนดาวที่ไม่รู้สภาพแวดล้อมว่ามันหนักหนากว่าที่คิดเลยสิครับ"
"อย่าว่าแต่พวกเราและพวกเธอเลย ที่ไม่รู้ว่าดาวแต่ละดวงในเขตอวกาศภาคกลางนั้นเป็นยังไง พวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธเองก็เหมือนกับเราด้วย" คลอเวฟบอก
"ฉันเห็นว่า ตอนนี้เราต้องรีบชิงลงมือก่อนที่ดูแรนซินและพวกสเตรดาร์ธจะมาถึง อย่างน้อย เราต้องสร้างความได้เปรียบกันไว้ก่อนน่ะ" โดซี่บอก
"ว่าแต่ เราสามารถนำยานวาร์ปเข้าไปในดาวด้วยความเร็วเหนือแสงได้มั้ยละ" ลิเนียร์ตี้บอก
"บริคซ์แจ้งบอกมา ว่าเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดร์ฟของเรายังซ่อมแซมไปได้ครึ่งทาง ซึ่งในสภาพนั้นคงไม่สามารถพุ่งเข้าไปในดาวด้วยวิธีนั้นได้หรอกน่ะ" คลอเวฟกล่าว
"แล้วถ้าเป็นยานอินสเปคทรัลของเราละ" น็อกกี้บอก
นาเดียกล่าวขัดทันที "ลุงช่างโควินไคล์บอกมา ว่าเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดร์ฟของเราทำงานหนักมาก ถ้าเราใช้วิธีพุ่งเข้าไปในดาวทั้งอย่างงั้น พวกเราคงไม่มีทางกลับไปยังอีสทาล่าฟรอนเทียร์ได้ หรือถึงทำได้ เราต้องใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ที่มีอยู่แบบช้าๆ จนพวกเรามาถึงระบบดาวของพวกเราได้ในอีก 20-30 ปีถัดมาเลยน่ะ"
"แปลว่า ทางเดียวที่เราทำได้ก็คือ ต้องฝ่าชั้นบรรยากาศของดาวแซนดอมกันสถานเดียวละสิน่า" เจเนลบอก
ไกซ์กล่าว "ถ้าเราสามารถเจาะชั้นบรรยากาศที่มีม่านอนุภาคพลังไฟฟ้าปกคลุมให้เป็นรูโตๆได้ก็คงดีละสิ"
"จะว่าไปแล้ว ราชาดาวทรายขยายรูด้วยการกระจายอนุภาคไฟฟ้าเพื่อเปิดสัญญาณสื่อสารกันใช่มั้ยละ" ฟูลออเรสบอก "ผมคิดว่าผมได้วิธีแล้วละ"
แรมเบจถาม "แล้ววิธีการของเธอนั้น คืออะไรกันหรือ"
"สร้างสนามพลังผลึกโชนโครคิฟครอบยานทั้งลำ แล้วพุ่งฝ่าชั้นบรรยากาศกันนะครับ" ฟูลออเรสกล่าว "ด้วยการใช้ปริซึมโปรเทคชั่นวอลของฟาร์โอเวี่ยนติดพาร์ทฮาร์ดแคนน่อน ที่เสริมพลังป้องกันเป็นวงกว้าง สร้างเป็นบาเรียหุ้มยานไทรแองเกิ้ลโดยรอบ โดยที่ผมจะทำหน้าที่ถ่ายโอนพลังงานไปให้ ซึ่งมากพอจนผ่านฟากฟ้ากันไปได้นี้แหละ"
เมดิน่าบอก "เออ ทฤษฎีที่นายว่ามานั้น รุ่นพี่บอกว่ามันไม่ได้กันนะสิ"
"ไม่ได้นะหรือ หมายความว่าไงที่ว่ามันไม่ได้กันน่ะ" ฟูลออเรสบอก
มินอร์ตี้เดินเข้ามาพร้อมกับบอกว่า "ถ้าเธอจะกางกำแพงเพื่อคลุมยานไทรแองเกิ้ลทั้งลำกัน เธอต้องใช้พลังงานมากกันไปด้วย ต่อให้เชื่อมต่อพลังงานจากไทรแองเกิ้ลโดยตรงมา แต่ชั้นบรรยากาศที่มีประจุไฟฟ้านั้น มีความหนาราว 4,500 ฟุต และมีประจุไฟฟ้าอยู่ราว 65,000 โวลท์กัน ซึ่งต่อให้ทำเช่นนั้นได้ ฟาร์โอเวี่ยนกับอิชเชเตียนคงได้พังหรือหมดพลังก่อนที่หัวยานจะถึงปลายทางกันได้พอดีนะสิ" โดยนำภาพที่ไทรแองเกิ้ลใช้วิธีการที่ฟูลออเรสคิดมา ซึ่งยานผ่าชั้นบรรยากาศลงมา แต่ได้แค่ส่วนหัวทะลุถึงชั้นท้องฟ้า จนยานถูกไฟฟ้าช็อตระเบิดไป
"ถ้างั้นก็ ผมจะใช้อิชเชเตียนมัคซ์สไตร์ค เจาะชั้นบรรยากาศเพื่อสร้างช่องว่างขนาดใหญ่กันเลยมั้ยละ" ฟูลออเรสบอก
มินอร์ตี้กล่าว "ต่อให้เธอทำงั้นได้จริง แล้วเธอจะหาทางบินตามเข้าไปได้หรือ ในเมื่อเธอต้องใช้พลังงานเยอะมากในการทำเช่นนั้นเลยน่ะ"
"วิธีการของเธอที่ว่ามานั้นมันก็ดีอยู่น่ะ ฟูลออเรส แต่....เราต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่เธอได้รับกันด้วยน่ะ" แอนเดรียบอก
พีวิลกล่าว "ที่สำคัญ ถ้าเราเสียเธอและอิชเชเตียนไปก่อนจะเริ่มยุทธการกัน ย่อมหมายถึงพวกเราเสียตัวช่วยไปอีกหน่วยด้วยน่ะ"
"แล้วมันไม่มีวิธีการไหนที่ดีแล้วหรือครับ" ฟูลออเรสกล่าว
ไม่ทันไร โคเซวิครีบแจ้งเข้ามาโดยทันที "เออ ไม่รู้น่ะ ว่ามันเกิดเรื่องอะไร แต่เทคเนล่าแจ้งพวกเราและพวกนายในเรื่องการเข้าสู่ดวงดาวกันแล้วนะสิ"
"มีผู้ก่อกวนเครื่องควบคุมชั้นบรรยากาศกันน่ะหรือ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
เทคเนล่าพยักหน้า "ในช่วงที่เราหาหนทางเพื่อส่งพวกคุณเข้าไปในดาวแซนดอมโดยไม่ให้ลาคาดัลรู้ตัวกันนั้น อยู่ๆ ก็มีผู้ก่อกวนเสาควบคุมชั้นบรรยากาศจนทำให้อนุภาคไฟฟ้าที่อยู่ในชั้นบรรยากาศเบาบางลงในระดับน้อยกว่า 20 เปอร์เซนต์ด้วยกัน ซึ่งอยู่ในขั้นที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารกันน่ะ"
"แต่ก็เป็นอันตรายต่อทุกระบบภายในยานกันละสิน่ะ" เฟลิคบอก
เทคเนล่าอธิบาย "ตอนนี้ทางเราได้ปรับแดนเจอร์ชิลด์ของพวกคุณให้ป้องกันกระแสไฟฟ้าไว้ ซึ่งหุ่นรบของพวกคุณก็ถูกปรับตามไปด้วยเช่นกัน" แล้วก็อธิบายกันขึ้นมา "เพียงแต่ ฉันต้องเตือนพวกคุณไว้ ว่าสนามพลังนั้น ป้องกันสายฟ้าได้ในระดับอ่อนและปานกลางกัน ไม่สามารถป้องกันในระดับที่รุนแรงมากกว่านั้น และไม่สามารถป้องกันได้เกินขีดจำกัดกันไว้น่ะ"
"แล้วเราใช้ยางป้องกันไม่ได้เลยหรือ" ไซโคลเนียกล่าว
เทคเนล่าบอก "พลังไฟฟ้าบนดาวแซนดอมนั้น มีประจุอนุภาคที่รุนแรงมากกว่าฉนวนกันไฟฟ้าจะรับได้นะสิ ฉันจึงต้องให้พวกคุณระมัดระวังมากกว่านี้เลยน่ะ"
"เออ.....ขอขัดจังหวะหน่อยนะ" เครนิสกล่าว เพราะเธอได้ยินเสียงดังขึ้นมา "มีการส่งข้อความมาที่ยานของเรา ไทรแองเกิ้ลและอินสเปคทรัล จากภาคพื้นดาวแซนดอมนะคะ"
โคเซวิคบอก "เอาขึ้นจอเลย อย่างน้อยเราก็ต้องรู้ให้ได้ ว่าใครส่งมากันน่ะ"
"ได้เลยคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าวโดยรับคำสั่งจากเนคมาดูซัม หลังจากที่เธอได้ข้อความมา ซึ่งหน้าจอมอนิเตอร์เหนือหน้าต่างด้านหน้าเผยภาษาประหลาดขึ้นมา 3 แถวด้วยกัน
เนคมาดูซัมบอก "แอมเบอร์ พอจะใช้โปรแกรมแปลภาษาที่เราได้จากเทคเนล่าได้มั้ยละ"
"จัดให้คะ" แอมเบอร์กล่าว โดยแปลงอักขระที่อยู่บนหน้าจอมอนิเตอร์ จนปรากฎข้อความที่ว่า....
อิลมิคบอก "เยี่ยม ถ้าเราไม่ลงไปข้างล่างก็คงไม่รู้ละสิ ว่าคนที่ส่งมานั้นเป็นใครกันละ"
"งั้น พวกเราออกเดินทางก่อนเลยแล้วกันน่ะ แอมเบอร์ โดซี่ เปิดสเตลท์ไดร์ฟกันเดียวนี้เลย" เนคมาดูซัมบอก
โคเซวิคกล่าว "อย่างน้อยต้องให้เร็วกว่าเจ้าลาคาดัลกันด้วยน่ะ"
"ฟ้าวววววว ฟ้าววววววว ฟ้าวววววว ฟ้าวววววววว" แล้วยานทั้งสี่ลำพุ่งฝ่าชั้นบรรยากาศของดาวแซนดอม โดยมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่ผู้ส่งสาสน์แจ้งมา อันเป็นเมืองหินผาอยู่กลางหุบเขาใหญ่ ที่มีเสาทองคำมียอดปิรามิดล้อมรอบเขตเมือง 7 ต้นด้วยกัน
"โอเค เรานำยานลงจอดในหุบเขาตามที่ทางนั้นแจ้งมาแล้วละ" คลอเวฟบอก "แต่จะดีกว่ามากหากเราเอาอาวุธไปด้วยน่ะ"
เนคมาดูซัมกล่าว "ที่ถูกนั้น คือนายห้ามใช้นิ้วเทพนี้กับผู้ส่งสัญญาณกันจะดีกว่าน่ะ" โดยได้ชูนิ้วกลางแต่เอามือซ้ายมาสบัดป้องไว้
"นายยังคิดว่าฉันจะทำอย่างงั้นจริงๆนะหรือ....ไม่เอาน่า พวก ฉันไม่ทำเช่นนั้น...." คลอเวฟอ้าง แต่เนคมาดูซัม พีวิล มาสวาร์ทาร์ ลิเนียร์ตี้ สเปียริท สเตฟอร์ดจ้องหน้าคลอเวฟด้วยสายตาหยี่ เนื่องจากว่าพวกเขารู้นิสัยคลอเวฟดี
แอมเบอร์บอก "ฉัน ลูกเรือทุกตนและบุคลากรในยานเป็นพยานด้วยคะ"
"จะให้เราลงไปด้วยเลยมั้ยละ" โดซี่บอก
สเตฟอร์ดกล่าว "เธอกับพวกสแตนด์บายไว้ก่อน เพราะเราต้องให้พวกเธอเป็นก้างขวางพวกดูแรนซินไว้น่ะ"
"อย่ารอช้าเลย เราต้องลงไปหาตัวผู้ส่งข้อความกันก่อนน่ะ" โคเซวิคบอก
เนคมาดูซัมหยิบซีคเก้ไรเฟิ่ลที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์ออกมา "หวังว่าฝ่ายนั้นคงไม่หาเรื่องหันอาวุธมาทางเราก่อนน่ะ"
"ตึกๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ พีวิล สเปียริท คลอเวฟ เจเนไซด์ทีม ฟิเกซ สเตฟอร์ด โฟรซ่ามาพร้อมกับโคเซวิค เฟลิค อิลมิค กริซซิก ครีซ ริชาร์ท เร็กซอน เซรีนและโครวเชด โดยทั้งสองกลุ่มเดินลงจากยาน เข้าสู่ตัวเมืองกัน ซึ่งไม่ปรากฎใครอยู่ในเมืองเลย "เราน่าจะเอาพลัสเชอริทลงมาด้วยน่ะ" คลอเวฟบอก
มาสวาร์ทาร์กล่าว "ทำไงได้ละ ต่อให้พลัสเชอริทมีพลังไฟฟ้า แต่คงไม่ดีแน่ที่ลัดวงจรด้วยพลังไฟฟ้าที่เหนือกว่ากันน่ะ"
"เออ พวกเรา ระวังหน่อยน่ะ ฉันสัมผัสถึงอันตรายรอบด้านกันน่ะ" เซรีนบอก เพราะเธอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวบางอย่าง กริซซิกเลยหยิบปืนกลอนุภาคอัตโนมัติออกมา
โคเซวิคห้าม "อย่าพึ่งเหนี่ยวไก ต่อให้บ้านช่องร้างเหมือนไม่มีใครอยู่มาเป็นทศวรรษ ก็อาจจะมีใครอยู่ในนั้น ฉันไม่อยากให้นายพลั้งมือกันได้น่ะ"
"ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร พวกทหารแซนดาลโผล่ออกมาจากหน้าต่างทั้งชั้นบนไปจนถึงชั้นล่าง บางส่วนโผล่ออกมาจากตรอกและซอย บางส่วนโผล่มาจากหลังคา รวมถึง "ฟ้าวๆๆๆๆๆ" โผล่ออกมาจากพื้นอย่างฉับพลันทั้งด้านหน้า และด้านหลังจน.... "โฮ่ พวกมันซุ่มเงียบถึงขนาดนี้เลยหรือวะ" ริชาร์ทโวยลั่นขึ้นมา เพราะตอนนี้ทหารแซนดาลล้อมเอาไว้ทุกด้านกันหมดแล้ว "ฟึ่บบบบ" โดยทั้งหมดนำไม้คฑาลูกแก้วสายฟ้ามาจ่อทั้งสองกลุ่มด้วยกัน
"นี้กะจะไม่ให้เรารอดเลยหรือไงน่ะ" เจเนลกล่าว
"ลาคาดัลส่งพวกแกมาอย่างงั้นนะหรือ" แซนดาลโซลเยอร์ตนหนึ่งกล่าวโดยที่เขากับพวก มีเกราะสีทองที่สีจางกว่าปกติแถมมีแถบสีดำตามตัวกันด้วย
พีวิลบอก "พวกเรามานี้ เพื่อมาหาผู้ส่งข้อความนี้ให้กับทางเรา มิใช่ราชาลาคาดัลส่งมาหาพวกคุณกันน่ะ" แล้วก็เปิดข้อความตัวอักขระที่ได้รับมา
"ต่อให้มีข้อความอักขระกัน ก็ใช่ว่าพวกเราจะเชื่อได้...." แซนดาลโซลเยอร์กล่าวอย่างไม่เชื่อ
"พอได้แล้วละ" มีเสียงของบุคคลผู้หนึ่งดังขึ้นมา ซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาวผิวสีเทามีรอยหยักสีขาวบนหัวห้าเส้น มีรอยแผลเป็นจากหูพาดมายังดั้งจมูก สวมชุดสีทองติดชายผ้าสีเทาก้าวเดินออกมา "....ฉันคือผู้ที่เรียกแขกเหล่านี้ให้มาแก้ไขปัญหาที่ลาคาดัลก่อเอาไว้กันนี้แหละ"
"นายคงเป็น ลาคาเมส พี่ชายของลาคาดัล ราชาองค์ปัจจุบันละสิน่ะ" ฟิเกซกล่าว บุรุษชาวแซนดาลพยักหน้า บ่งบอกว่าเขาคือลาคาเมส พี่ชายของลาคาดัลกัน
"ถูกต้องแล้วละ กองกำลังไทรเวเซอร์ แล้วก็ กองกำลังยูเนี่ยนพีช ฉันนึกแล้วว่าพวกนายต้องลงมาตามข้อความที่ฉันส่งไปนอกดาวกัน โดยที่คนของฉันพึ่งจะช่วยให้พวกนายเข้ามาในดาวดวงนี้กันอย่างปลอดภัยแล้วน่ะ" ลาคาเมสบอก แล้วก็ก้าวเดินเข้ามาตรงหน้า "พวกนายคงจะมีคอมเมนท์เกี่ยวกับเหล่าลูกน้องของฉันกันบ้างน่ะ"
"การที่ลูกน้องของนายดักซุ่มจู่โจมพวกเราแบบที่พวกเราไม่รู้ว่าพวกเขาดักอยู่รอบด้านกันนั้น บ่งบอกว่า นายเป็นผู้บังคับบัญชาที่เก่งกาจกันไม่น้อยเลยน่ะ" เฟลิคบอก
มาสวาร์ทาร์บอก "และคงจะมีระเบียบวินัยกันอย่างมาก ไม่เช่นนั้นทหารของนายคงมีผู้หนึ่งทำพลาดด้วยการโผล่หัวออกมาให้เราเห็นกันอย่างแน่นอนเลยละ"
"แต่ต่อให้ฉันสอนพวกทหารให้สู้อย่างสมเกียรติและองอาจมากแค่ไหน ก็ไร้ความหมายไปทันที เมื่อไอ้น้องชายเฮงซวย ควบคุมประชาชนและทหารส่วนมากอยู่ในกำมือของมันไว้น่ะ" ลาคาเมสกล่าว
พีวิลบอก "แสดงว่า ท่านคงได้เห็นลาคาดัลใช้เครื่องล้างสมองหมู่ แบบเดียวกันกับที่มันเทิร์คทำไว้เลยสิน่ะ"
"ใช่ ในช่วงที่ฉันกับเหล่าทหารมุ่งหน้าไปยังเมืองฝั่งตะวันออกเพื่อเรียกรวมพลจากที่นั้น แต่ทหารในเมืองกลับโผล่มาจู่โจมพวกเราไม่ว่า พวกนั้นยังอ้างคำสั่งของลาคาดัลกันอีกด้วย ทั้งๆที่พวกเขาเกลียดลาคาดัลเข้าไส้อย่างมาก ไม่มีทางเลยที่จะกล้าพูดว่า ท่านลาคาดัลผู้องอาจ กันไปได้หรอก" ลาคาเมสบอก "ดังนั้น ฉันจึงสรุปได้ว่า ลาคาดัลใช้วิธีครอบงำชาวเมืองและเหล่าทหารส่วนมากบนดาวให้กลายเป็นพวกพ้องของมัน โดยได้รับข้อมูลจากเทคเนล่ามา ว่ามันเทิร์คกับพวกใช้วิธีแบบเดียวกันกับดาวอื่นๆกันด้วยน่ะ"
โคเซวิคบอก "นายพูดถึงเทคเนล่าห้วนๆนิ นายคงไม่ได้หมายความว่า นายเองก็..."
"....ถูกแล้วละ ฉันคือผู้พิทักษ์ดวงดาวประจำดาวแซนดอม ซึ่งเป็นมา 4-5 ปีแล้วน่ะ" ลาคาเมสบอก "ส่วนหนึ่งเพราะว่าฉันรู้ดี ว่าภัยคุกคามในอดีตจะต้องกลับมาจากการกระทำของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนต ที่ต้องการเรียกมหันตภัยในอดีตมากวาดล้างทุกชีวิตในเขตอวกาศนี้ ไม่สิ ทั้งจักรวาลนี้ รวมไปถึงสมาพันธ์อวกาศกัน ฉันจึงตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มผู้พิทักษ์ดวงดาว เพื่อปราบปรามภัยคุกคามจากภายนอกและภายในกัน ซึ่งรวมถึงการกระทำของน้องชายเฮงซวยนี้ด้วย"
เนคมาดูซัมกล่าว "แต่ในตอนนี้ นายกับพวกตกที่นั่งลำบากจากสถานการณ์ที่ลาคาดัลและพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตก่อขึ้นมาสิน่ะ"
"ใช่ ประชาชนส่วนมากต่างไม่ชอบขี้หน้าลาคาดัลกันทั้งนั้น เพราะลาคาดัลวางแผนจะขายพลังงานในดาวดวงนี้ไปให้ลูกค้าจากระบบดาวอื่น แม้กระทั่งพวกโจรสลัดและองค์กรอาชญากรรมในเขตอวกาศนี้กันด้วย โดยหารู้ไม่ว่า พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตต้องการพลังงานของดาวดวงนี้ไปใช้ในการเรียกมหันตภัยในอดีต เพียงแต่ไม่รู้ว่า พวกมันจะเรียกมหาดารามรณะออกมาได้ยังไงน่ะ" ลาคาเมสกล่าว
มาสวาร์ทาร์บอก "เกรงว่าตอนนี้เราต้องอธิบายให้พวกนายทราบเรื่องของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันแล้วละ"
"เฮ้ออออ บรรพบุรุษของท่านหญิงเทคเนล่าไม่น่าเก็บชิ้นส่วนของมหันตภัยไว้กับตัวมาตลอด 400 ปีกันเลยน่า" ลาคาเมสรำพันหลังจากที่ฟังพวกพีวิลเล่ามาแล้ว "และถ้าให้เดา พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตต้องใช้ชิ้นส่วนนั้นครอบงำชาวเมืองและทหารฝ่ายฉันกันอย่างแน่นอนเลยละ"
เฟลิคถาม "อะไรที่ทำให้พวกนายคิดเช่นนั้นได้ละ"
"เพราะฉันได้ฟังจากท่านปู่เล่ามา ว่าพวกดาวมรณะนั้น ไม่เพียงมีพลังที่สามารถลบทุกอย่างให้สูญหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีพลังในการครอบงำผู้คนเป็นจำนวนมากกันอีกด้วย แม้ว่าบรรพบุรุษของเราทำลายตัวการไปได้ แต่ตราบใดที่ชิ้นส่วนยังคงเหลืออยู่ อำนาจการครอบงำนั้นก็ต้องคงอยู่เช่นกัน แม้ว่าเศษชิ้นส่วนนั้นอันตรายเกินไปที่จะแตะต้องหรือสัมผัสได้ หากไม่มีอะไรป้องกันไว้น่ะ" ลาคาเมสบอก "แม้ไม่รู้ว่าพวกมันเอาชิ้นส่วนอันตรายนั้นออกมาได้ไง แต่การที่ลาคาดัลครอบงำประชาชนส่วนมากกันไว้เช่นนี้ แสดงว่าพวกมันค้นคว้าสร้างเครื่องล้างสมองจากชิ้นส่วนนั้นได้อย่างแน่นอน"
กริซซิกบอก "งั้นเราก็ทำลายเครื่องนั้นก็ได้แล้วนิหว่า"
"มันก็ใช่ แต่พวกนายยังหาชิ้นส่วนที่พวกมันขโมยไปจากพวกเทคนอตกันไม่เจอใช่มั้ยละ" ลาคาเมสกล่าว "แต่ตอนนี้ พวกนายต้องช่วยพวกเรากอบกู้ดาวคืนจากเจ้าลาคาดัลกันเสียก่อนน่ะ"
เนคมาดูซัมกล่าว "เรื่องนั้นเราทำได้อยู่แล้วละ เพียงแต่ต้องพึ่งความร่วมมือจากพวกนายกันนี้แหละ"
"นั้นแหละคือปัญหาละ เพราะต่อให้ฉันหลอกทุกๆคนว่าฉันได้ฆ่าตัวตายไปแล้ว ลาคาดัลที่ยังหวาดกลัวและระแวงไม่น้อยว่าฉันยังไม่ตายนั้นต้องเล่นแรงกันอย่างแน่นอน" ลาคาเมสบอก "ยิ่งในตอนนี้ลาคาดัลกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตได้กองยานเสริมของพวกรุกรานจากฝั่งตะวันออกกันนั้น คงไม่ดีแน่ที่พวกลาคาดัลเห็นหน้ากันน่ะ"
โคเซวิคบอก "ส่วนหนึ่งเพราะนายกลัวว่านายจะแพ้ลาคาดัลเลยนะสิ"
"เปล่าเลย ฉันไม่อยากจะทำร้ายพวกเดียวกัน เพราะลาคาดัลครอบงำพวกทหารและประชาชนของดาวดวงนี้ให้ตกอยู่ในอำนาจของมัน แม้ฉันจะโกรธแค้นในสิ่งที่มันทำกับคนบนดาวดวงนี้มากแค่ไหน ฉันจะไม่ทำร้ายเพื่อนร่วมเผ่ากัน แม้จะเป็นการป้องกันตัวและโต้ตอบการประทุษร้ายไว้ก็ตาม มีแต่ลาคาดัลและพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตเท่านั้นแหละ ที่ฉันจะจัดการกับมันให้สาสมไว้น่ะ" ลาคาเมสกล่าว "ดังนั้น ฉันจึงต้องพึ่งพวกนายทั้งสองกลุ่มจัดการกับลาคาดัลและพวกกันให้ได้นี้แหละ"
อิลมิคบอก "แต่จะดีกว่ามาก หากพวกนายช่วยเราป้องกันสายฟ้าฟาดแบบไม่มีการบอกกล่าวกันเสียก่อนน่ะ"
"ท่านลาคาเมส มีเรื่องแล้วละคะ" ชาวแซนดาลหญิงมารายงานต่อลาคาเมส ซึ่งได้ฟังรายงานจากการกระซิบและพยักหน้าขึ้น
เข้าใจแล้วละ เธอรีบไปได้แล้วละ" ลาคาเมสบอก "คนของเราที่สอดส่องตรงหุบเขา เห็นเหล่าทหารของลาคาดัลอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งฉันคิดว่าพวกมันคงมาเพื่อเสาะหาที่ซ่อนของฉันอย่างแน่นอนเลยละ"
"แบบนั้นก็ดีเลย เพราะว่าพวกเรากะจะไปจัดการให้นายกันนี้แหละ" เจเนลบอก
ลาคาเมสพยักหน้า "ได้ แต่ระวังด้วยละ เพราะทหารฝ่ายลาคาดัลนั้น สามารถลงมือจัดการกับพวกนายได้ทุกระยะ และต่อให้สภาพอากาศโล่งแจ้งกัน พวกมันก็หาเรื่องเล่นงานพวกนายด้วยสายฟ้าฟาดกันอยู่ดีนี้แหละ"
"อย่าห่วงไปเลย เพราะเราจะเล่นงานพวกมันแบบไม่ให้พวกมันรู้ว่ามันโดนอะไรกันบ้างละ" คลอเวฟบอก
โคเซวิคกล่าว "งั้นเรารีบลงมือกันก่อนดีกว่าน่ะ"
ในเขตทะเลทรายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่หมายเลข 164 ทหารแซนดาลของลาคาดัลจำนวนหนึ่งเคลื่อนพลมาด้วยยานโฮเวอร์คราฟกัน ซึ่งมียานทรงปีรามิดจำนวน 10 ลำมาด้วย "ตำแหน่งนี้แหละ เหมาะแล้วละ" ทหารแซนดาลหัวหน้าหน่วยกล่าว โดยให้ทหารลงมา "ครืดดดด ตรึงงงง อี้ดดดด อี้ดดด อี้ดดดด" ยานทรงปีรามิดลงจอดบนพื้นพร้อมกับขยายส่วนปีรามิดให้ใหญ่ขึ้นมา และยืดส่วนยอดขึ้นสูง
"อนุภาคพลังไฟฟ้าในพื้นที่นี้มีเยอะมาก เราคงได้เยอะพอที่จะจ่ายพลังงานให้กับกองรบไล่ล่าที่กำลังมาถึงกันบ้างน่ะ" ทหารระดับล่างกล่าว อีกตนที่อยู่ใกล้ฐานก็... "ปี้บบบบ" กดปุ่มตรงเสาที่คลี่ยอดปีรามิดให้เป็นแผงเรืองแสงสีทองออกมา "แว้งงง แว้งงง แว้งงง แว้งงงง" แผงนั้นเปล่งแสงขึ้นสี่ทีจน "ครืนนนนนน ครืนนนนน" ฟากฟ้าเหนือพื้นที่ที่ปลอดโปร่งได้มืดครึ้มอย่างฉับพลัน โดยมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ".....เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ แฟ้ววววววว เปรี้ยงงง" จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดลงมาเบื้องล่าง แต่กลับพุ่งลงมาตรงยอดปีรามิดที่ยืดขึ้นสูงอย่างฉับพลัน "เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดลงมาที่ยานแบบเดียวกันอีก 9 ลำในเวลาต่อมา "เปรี้ยะๆๆๆๆ งึงๆๆๆๆๆๆ" สายฟ้าที่ฟาดลงไปนั้นทำให้ฐานปีรามิดเรืองแสงสีทองขึ้น ตามด้วย "ครืดดดดด กึก" สายพานนำโหลสีดำที่มีแคปซูลแก้วเรืองแสงสีทองออกมาถึง 6 อัน โดยยานปีรามิดอีก 9 นั้นก็นำโหลแคปซูลแบบเดียวกันออกมาด้วย
"อย่างงี้นี้เอง พวกนั้นเก็บเกี่ยวพลังงานกันแบบนี้เลยสิน่ะ ป้า" น็อกกี้บอก
โฟรซ่ากล่าว "ยานทรงปีรามิดนั้นคงใช้เสาล่อฟ้าดึงดูดอนุภาคไฟฟ้าในรูปของสายฟ้าฟาด นำมาบรรจุใส่โหลแคปซูลที่เก็บกักอนุภาคไฟฟ้าเอาไว้อย่างที่ฉันเห็นนี้แหละ" โดยที่เธอใช้ฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลติดกล้องระยะไกลเพื่อสอดแนมเก็บข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามกัน "เมดิน่า ฟูลออเรส คิดว่าพวกนั้นเรียกสายฟ้าลงมายังไงละ"
"เสาเรืองแสงนั้น ฉันได้สแกนดูแล้ว ปรากฎว่ามันใช้วิธีการส่งอนุภาคโปรตอนขึ้นไปรวบรวมอนุภาคไฟฟ้าที่ลอยอยู่ในท้องฟ้า ให้ก่อตัวรวมกันในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว ซึ่งเสานั้นสามารถควบคุมอนุภาคไฟฟ้าที่รวบรวมเอาไว้ให้ก่อตัวเกิดเป็นสายฟ้าฟาดลงมายังตำแหน่งที่ต้องการ โดยในกรณีนี้คือลงมายังยานเก็บเกี่ยวพลังงานที่ยืดเสาล่อฟ้าไว้นะคะ" เมดิน่าบอก
ฟูลออเรสกล่าว "และถ้าพวกแซนดาลใช้วิธีดังกล่าวนั้นเก็บพลังสายฟ้าลงมาจากฟากฟ้าได้ พวกนั้นก็สามารถควบคุมอนุภาคไฟฟ้าที่อยู่ในอากาศรอบรัศมี ที่พวกนั้นยืนอยู่ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อพวกนั้นได้เช่นกัน จากการที่สแกนเนอร์ยังทำงานได้ตามปกติและไม่ถูกรบกวนด้วยอนุภาคไฟฟ้าเหมือนปกติกันนะครับ"
"ถึงว่าสิ ว่าทำไมพวกมันถึงไม่โดนฟ้าผ่าลงไป เป็นเพราะว่าพวกมันเบี่ยงสายฟ้าไม่ให้โดนตัวพวกมันนี้เองกันน่ะ" แจ็สบอก
น็อกกี้กล่าว "ถ้าพวกมันควบคุมสายฟ้าได้ ก็เท่ากับว่าพวกมันสามารถเล่นงานพวกเราได้เช่นกันนะ ป้า เราไม่มีวิธีไหนจัดการมันได้เลยหรือ"
"มีอยู่แล้วละ เพียงแต่ ผมรอคำสั่งจากคุณกันอยู่น่ะ" เสียงนิคบอก
โฟรซ่าพยักหน้าและสั่งการให้ "ได้เลย ฉันขอเบอร์สามไปจัดการกับพวกเสกฟ้าผ่าเหล่านั้นหน่อยน่ะ"
"ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนน" ไม่ทันไร บรรยากาศแปรเปลี่ยนอย่างฉับพลัน จากการมีลมแรงพัดผ่านมา "พะ พายุทรายมาตอนไหนละเนี้ย ในเมื่อสภาพอากาศไม่น่ามีพายุทรายพัดมาทางเราได้น่ะ" ทหารแซนดาลหญิงบอก
หัวหน้าหน่วยบอก "ทุกหน่วย รวมกลุ่มกันไว้ ส่วนหนึ่งปกป้องสินค้าที่จะนำส่งไปให้ท่านลาคาดัลกัน ที่เหลือ จัดการกับพวกศัตรูที่ดาหน้ามากันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสมุนของลาคาเมสที่รอดตายมา หรือพวกศัตรูจากสมาพันธ์อวกาศกันน่ะ"
"แว้งงง แว้งง" ในช่วงที่พายุทรายพัดอย่างรุนแรงจนแซนดาลโซลเยอร์ไม่เห็นทัศนวิสัยโดยรอบนั้น ได้ปรากฎดวงตาเรืองแสงสองคู่ขึ้นมากลางพายุทรายกัน "แว้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ตามด้วยหลายสิบคู่ปรากฎขึ้นมา "มาเยอะเช่นนี้ งั้นเตรียมตัวตายได้...." ทหารหัวหน้าหน่วยกล่าวโดยเตรียมคฑาสายฟ้าไว้พร้อม แต่.... "ฟ้าววว เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ" ทหารแซนดาลตนหนึ่งตัวช็อตอย่างฉับพลันจนล้มลงไปกองกับพื้นในสภาพที่ควันขึ้นทั้งตัว ตามด้วย "ฟ้าวๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆๆ" ทหารอีก 5 ตนโดนเล่นงานแบบเดียวกัน "หวับๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" ตามด้วยอีก 5 ตนที่คุ้มกันยานเก็บเกี่ยวพลังสายฟ้าโดนบางอย่างกระแทกใส่เข้าที่หน้าอย่างต่อเนื่อง "เหวอออ เฮ้ยยย ว้ากกก" ทหารแซนดาล 3 ตนที่ยืนหันหลังด้วยความระแวดระวังก็โดนลากเข้าไปในพายุทรายกัน
"พวกศัตรูเคลื่อนไหวกันอย่างรวดเร็ว ผมพยายามตามหามันอยู่ เพื่อที่จะยิง...." ทหารที่คุมยานติดป้อมปืนสายฟ้าฟาดนั้นกล่าว แต่ก็... "หมับบบบ ฟึ่บบบบ โครมมมม กร็อบบบบ" โดนมืออันใหญ่โตจับตัวมากระแทกจนกระดูกหักกัน "เหวอออ ว้ากกกก โว้วววว" ทหารแซนดาลของลาคาดัลกลุ่มหนึ่งร้องลั่นขึ้นมา "เฮ้ยยยยยย" ทหารแซนดาลที่ถือคฑาสายฟ้าซึ่งหันไปรอบๆก็โดนมืออันโตคว้าตัวหายเข้าพายุทรายไป โดยที่ทหารแซนดาลทยอยหายไปอย่างรวดเร็ว
"ฮึยยยย แน่จริงก็โผล่หัวออกมาเร็วๆหน่อยสิฟะ ไอ้พวก...." หัวหน้าหน่วยโวยลั่น
"ฟ้าววววว เปรี้ยงงงง ป้ากกกก โครมมมมมม" แต่ก็มีบางอย่างพุ่งปะทะใส่หัวหน้าหน่วยและทหารแซนดาลที่เหลืออีก 2 ตนอย่างฉับพลัน จนกระทั่ง.... "หน่วยที่ 15 เกิดอะไรขึ้น พวกนายน่าจะรวบรวมพลังสายฟ้าเพื่อนำไปส่งให้ท่านลาคาดัลกันมิใช่หรือ" ทหารแซนดาลของลาคาดัลอีกกลุ่มติดต่อเข้ามา
หัวหน้าหน่วยบอก "เราเจอปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่เราคลี่คลายสถานการณ์กันแล้วละ" และหันมาถาม "ตอนนี้พวกนายมุ่งหน้ามาสมทบกับพวกเราหรือเปล่าละ"
"ในเมื่อพวกนายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว หน่วยที่ 12 ของเราจะมุ่งหน้าไปยังโซนที่ 161 เพื่อค้นหาที่ซ่อนของลาคาเมส ซึ่งคาดว่ามันกับพวกต้องบุกมาที่นี้ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากพวกนายกันสักหน่อยน่ะ" ทหารแซนดาลกล่าว
หัวหน้าหน่วยบอก "เข้าใจแล้ว เดียวพวกเราจะตามไปแล้วกัน"
"งั้นฝากด้วยละ เพราะท่านฟีบัสรับคำสั่งจากท่านลาคาดัลให้กำจัดลาคาเมสทิ้งไปซะ ก่อนที่มันจะเจอกับพวกอาคันตุกะที่เล่นงานลอร์ดลาวาฟและเฟยอร์จกันเสียก่อนน่ะ" ทหารแซนดาลบอกและตัดการติดต่อไป
โดยหารู้ไม่ว่า.... "โคเซวิค เนคมาดูซัม....ได้ยินแล้วใช่มั้ยละ ตอนนี้พวกสมุนลาคาดัลกลุ่มที่สองตรงมาทางพวกนายแล้วละ" สเตฟอร์ดติดต่อไป ซึ่งทหารแซนดาลหน่วยที่ 15 นั้น ถูกพีวิล เจเนล สเปียริท คลอเวฟ ลิเนียร์ตี้ พวกสลิทเทิ้ล ไวลด์แฟงค์ ดีฟไทด์และไดนอนเล่นงานกันหมดแล้ว
"ครืนนนนนนนนนนนน ครืนนนนนนน" พวกแซนดาลหน่วยที่ 12 เคลื่อนตัวบนทะเลทรายกันอย่างรวดเร็ว ก็ต้องมาพบกับ.... "ฟ้าวววว ตรูมมมมม" ยานโฮเวอร์คราฟถูกจรวดพุ่งเข้าใส่จนระเบิดกระจุยไป ซึ่งทหารแซนดาลที่โดยสารมา ต่างปลิวกระเด็นไปตามแรงระเบิดกันหมด ตามด้วย "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัม เนคกี้ เนคกัส ฟิเกซ พลัสเชอริท แอบไบออส โคเซวิค กริซซิก ริชาร์ท ครีซ และเร็กซอนโผล่ออกมาจากใต้ทราย "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมเปิดนำด้วยซีคเก้ไรเฟิ่ลและบ็อกซ์บัสเตอร์เข้าใส่พวกแซนดาลที่ขี่โฮเวอร์ไบค์สีทองจนล้มกลิ้ง พวกทหารแซนดาลส่วนหนึ่งรีบโดดลงจากยานขนส่งกำลังพลมาเพื่อเข้าจัดการ โดยมีส่วนหนึ่งถือป้อมปืนที่มีลูกแก้วสายฟ้าติดตรงปลายพร้อมโลห์สีทองด้วย "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ" เนคกี้และเนคกัสกราดยิงด้วยแกตไรฟอลแบบกระสุนกับบ็อกซ์บัสเตอร์เข้าถล่มใส่ทหารถือโลห์จนกระเจิง "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าวว ฟ้าววว ตรูมมมมม บรึมมมม ตรูมมมม บรึมมมม" พลัสเชอริทและฟิเกซกราดยิงแรปิดเดเตอร์มาโรวเดอร์ ปืนกลพวง 6 ลำกล้องหนัก อาวุธเทรดมาร์คของกองกำลังไทรเวเซอร์และสหพันธมิตรถล่มใส่ทหารแซนดาลจนเกราะสีทองแตกกระจุย โดยที่แอบไบออสใช้โฟร์ทบลัสต์ลันเชอร์ยิงจรวดออกจากช่องยิงทั้งสี่ถล่มใส่ยานขนส่งกันอย่างหนักหน่วง "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดด แชดดด แชดดด แชดดดด" กริซซิกเหนี่ยวไกปืนกลอัตโนมัติกราดยิงห่ากระสุนอนุภาคใส่พวกทหารแซนดาล ที่พยายามป้องกันด้วยบาเรียพลังไฟฟ้าเอาไว้จนทะลุ โคเซวิค ริชาร์ท ครีซและเร็กซอนถล่มด้วยปืนใหญ่อนุภาคแบบพกพากันอย่างหนักหน่วง "ตุ้งๆๆๆๆๆๆๆ" จายด์โผล่มาจากหลังเสาพร้อมกับช่วยกราดยิงจีฟิงเกอร์ช็อตเข้าซ้ำกัน "กรอดดดดด เราโดนซุ้มโจมตีเลยหรือเนี้ย" ทหารแซนดาลที่เหลือรอดกล่าวโดยพยายามจะใช้คฑาสายฟ้ายิงใส่ "ฟ้าววววว ตรูมมมม" จายด์ยิงร็อกเก็ตบัสเตอร์ถล่มยานหุ้มเกราะจนระเบิดพุ่งขึ้นไปและร่วงลงมาอัดใส่พวกทหารแซนดาลจนกระเจิง
"หน่วยที่ 15 รีบมาเดียวนี้เลย เราโดนฝ่ายตรงข้ามจู่โจ...." จ่าฝูงหน่วยที่ 12 ติดต่อขอกองหนุน แต่ "โป้งงงงง" ส่วนหมวกด้านหลังและด้านหน้าปรากฎรูทะลุกันเต็มๆ พร้อมกับ "เฮ้.......เฮ้ยยยยยยยยย ว้ากกกก โว้ยยยยยยยยย" เทรอนเร็กซ์และพวกโวยลั่นขึ้นพร้อมกับดาหน้าบุกเข้าใส่หน่วยที่ 12 โดยมีพวกพีวิลวิ่งตามมาด้วย เช่นเดียวกับโฟรซ่าที่ขี่คอสเตฟอร์ดวิ่งมา โดยที่เธอถือปืนยาวส่องยิงไกลกันอยู่
"ไม่คิดเลยว่า พวกนายจะใช้หุ่นรบของนายติดอาวุธสร้างพายุทรายขนาดย่อม เล่นงานสมุนลาคาดัลกลุ่มหนึ่งให้สูญเสียทัศนวิสัยโดยรอบ ก่อนให้พวกพ้องของนายที่ล่วงหน้าไปอย่างแนบเนียนลอบจู่โจมในช่วงพายุโหมกระหน่ำกัน โดยอีกกลุ่มเข้าเล่นงานหน่วยที่ใหญ่กว่าด้วยอาวุธหนักก่อนที่ฟากฟ้าจะเกิดสายฟ้าฟาด แล้วรอให้กลุ่มแรกตามมาสมทบเพื่อซ้ำเติมกันเช่นนี้เลยน่ะ" ลาคาเมสกล่าวต่อมาสวาร์ทาร์และเฟลิคที่เปิดมอนิเตอร์โฮโลแกรมแสดงผลการต่อสู้นอกเมืองกัน แล้วหันมาถาม "ต่อจากนี้ พวกนายจะทำเช่นไรกันละ"
เฟลิคบอก "นายเป็นพี่ชายของลาคาดัลนิ นายคงรู้นิสัยและพฤติกรรมของลาคาดัลกันละสิ ว่าเขาคิดหรือทำอะไรหากมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นน่ะ"
"ถ้าลาคาดัลกำลังเตรียมงานสำหรับธุรกิจของมันอยู่ แล้วบังเอิญมีเรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นมา ไม่ว่ามันจะร้ายแรงและสำคัญมากมายแค่ไหน ลาคาดัลจะต้องสั่งสมุนมือขวาอย่างฟีบัสให้เคลียร์ทุกอย่างลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็ตามกันน่ะ" ลาคาเมสบอก
มาสวาร์ทาร์กล่าว "และถ้าเกิดว่าลูกค้าของลาคาดัลเดินทางมาที่ดาวดวงนี้ขึ้นมาละ"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ลาคาดัลก็เลวมากแล้วละ กับการเอาทรัพยากรของดาวดวงนี้ไปให้คนภายนอก ยิ่งถ้าเป็นพวกโจรสลัดอวกาศหรือองค์กรชั่วร้ายขึ้นมา ลาคาดัลก็ต้องได้รับโทษเยี่ยงผู้ทรยศต่อชาวแซนดาลทั้งปวงกันนี้แหละ" ลาคาเมสกล่าว และถอนใจขึ้นมา "น่าเสียดายจริงๆ ที่ประชาชนส่วนมากถูกลาคาดัลครอบงำเอาไว้ พูดแล้วมันน่าโมโหเสียจริงๆ"
มาสวาร์ทาร์กล่าว "อย่าห่วงไปเลย ท่านลาคาเมส เพราะเราจะทวงประชาชนจากลาคาดัลกลับมาให้ท่านเอง"
"แล้วพวกนายมีแผนจัดการกันเช่นไรละ" ลาคาเมสบอก
เฟลิคกล่าว "ขึ้นกับว่านายจะให้ความร่วมมือกับพวกเรา ในเรื่องเมืองแต่ละแห่ง ฐานทัพแต่ละที่ และสถานที่สำคัญบนดาวดวงนี้กันยังไงบ้างน่ะ"
ณ.พระราชวังทองคำ กลางนครหลวงฟาโรต้า ท้องพระโรง ลาคาดัลกำลังนั่งบัลลังก์ ล้อมรอบด้วยโฮโลแกรมวินโดว์ที่มีกราฟแสดงผล ตารางรายรับรายจ่ายต่างๆ แม้กระทั่งเรื่องอื่นๆอีกมาก
"องค์ราชา ข้าพเจ้ามีข่าวสำคัญจะมาบอกนะครับ" ฟีบัส มือขวาชาวแซนดาลกล่าวกับลาคาดัล
"หน่วยรบที่ฉันส่งไปตามล่าเจ้าพี่นั้น ประสบความสำเร็จแล้วสิน่ะ" ลาคาดัลถามกลับ
"เกรงว่าตอนนี้ เรามีปัญหากันนะครับ เพราะทางเราขาดการติดต่อของหน่วยที่ 12 และ 15 กันนะครับ" ฟีบัสกล่าว
ลาคาดัลบอก "แสดงว่าเจ้าพี่กับพวกที่เหลือนั้นคงจะดิ้นรนต่อสู้กันเลยสิน่ะ ฟีบัส สั่งการให้กองรบที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 3 กอง โดยใช้ทั้งพวกทหารและสตาร์ทรูปเปอร์ ไปพร้อมกับกองกำลังพันธมิตร มุ่งหน้าไปจัดการกับพวกเจ้าพี่กันเดียวนี้ อ้อ อนุมัติให้ใช้สายฟ้าฟาดได้เลย"
"รับทราบแล้วละครับ" ฟีบัสบอก แล้วรีบวิ่งออกจากวังไป
ลาคาดัลบอก "ต่อให้เจ้าพี่เจอกับพวกกองกำลังจากนอกระบบดาวมา ข้าไม่ยอมให้เจ้าพี่ขวางธุรกิจของข้าไปได้หรอก" แล้วก็แจ้งให้ "กองรบที่ 23 จัดเตรียมพื้นที่สำหรับแขกของพวกเราให้ด้วย"
"ครืนนนนนนนนน ครืนนนนนนน ครืนนนนนนนนนน" ยานโฮเวอร์คราฟขนส่งกำลังพลจำนวน 40 คันมา สตาร์แซนดัสจำนวน 60 เครื่องมากับคริฟแทงค์ คริฟเดลต้า คริฟซีคเกอร์ และวอร์บอทกับวอร์แมชชีนของ.... "ไอ้ตะกวดกับไอ้พวกหมีบ้านั้น ยังไม่เข็ดอีกหรือไงกันวะ" คลอเวฟสบถ หลังจากที่เห็นวอร์บอทและวอร์แมชชีนของซอร์แรคกับบรูซาเรมเคลื่อนตัวมา
สเปียริทบอก "กะแล้ว ว่ายัยจักรพรรดินีมิวนัสรู้เรื่องที่พวกเราก่อกวนพวกแมทเฟลิมกันแล้วน่ะ" เมื่อเธอเห็นเพรเดแคทและแคทครอฟเคลื่อนตัวเข้ามาด้วย แล้วก็ติดต่อไปหา "มิลด์ สภาพอากาศในตอนนี้เป็นเช่นไรบ้างละ"
"ไม่ดีเลยคะ สงสัยว่าลาคาดัลคงรู้ว่าเรามาขัดขวางแผนการของเขาแน่ๆ สภาพอากาศในวันนี้จึงเหมือนบรรยากาศมาคุกันนะคะ" มิลด์บอก เนื่องจากว่าท้องฟ้ามีสีมีดครึ้มทั้งๆที่มีแดดจ้าอยู่
"ไม่แปลกใจหรอก เพราะในกลุ่มนั้นมียานควบคุมสายฟ้าอยู่ด้วยน่ะ" คลอเวฟกล่าว และติดต่อไปหา "มาส พวกมันมาแล้ว จะให้เอายังไงละ"
"จัดการเดียวนี้เลย" มาสวาร์ทาร์บอก คลอเวฟพยักหน้า แล้วก็สั่งการให้ "ไกซ์ มิลด์ ฟูลออเรส จัดหนักก่อนเลย" จากนั้นก็.... "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ห่ามิไซล์หัวสามเหลี่ยมขนาดเล็กพุ่งขึ้นจากหลังหุบเขาและพุ่งลงมาถล่มใส่กองรบสตาร์แซนดัส แมทเฟลิม ซอร์แรค บรูซาเรม และซีรีสตรัลกันอย่างหนักหน่วง "ฟ้าวววว ครืดดดดดดด" อัลติเมทเอทเกราะสีเขียวขี้ม้าพร้อมกับปืนโตสองกระบอกสไลด์หน้าผาลงมา โดยปลดระบบพลางตัวออกแล้วก็ "ทริปเปิ้ลวัลแคนอาร์ม โชลเดอร์ไมโครลันเชอร์ ออลอินชู้ต" กราดยิงปืนกลสามลำกล้องที่หลังแขนทั้งสองข้างกับ "แกร็กๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ป้อมมิไซล์ขนาดเล็กที่หัวไหล่ทั้งสองข้างโปรยห่ามิไซล์ถล่มใส่พวกซีรีสตรัลจนแตกกระจุยไป "ฟึ่บๆๆๆๆๆ" การ์เซนครีทของสลิทเทิ้ลทีม ไวลด์แฟงค์ทีม และไดนอนทีมปลดการพลางตัวเป็นหน้าผาออกแล้วโดดลงสนามรบกัน "ฟ้าวววววว อี้ดดด แชบบบ แชบบบ แชบบบ แชบบบบ ตรูมๆๆๆๆ" มิลด์บินทะยานมาด้วยแพนเซสเซนไนน์ที่ไม่ติดพาร์ท ใช้รีพัลเซอร์ชิลด์ยิงลำแสงลงมาเล่นงานสตาร์แซนดัสกัน
"จัดให้เลย ปริซึมฮาร์ดแคนน่อน กระสุนแตกสะเก็ด ยิง" ฟูลออเรสเหนี่ยวไกยิงปืนใหญ่ที่ประทับบ่าของอิชเชเตียน "ตรุ้งงงงง ตรุ้งงงงง" ซึ่งก็ยิงกระสุนผลึกพุ่งขึ้นไป และ "หวับบบ เป๊าะ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" แตกกระจายเป็นฝนสะเก็ดผลึกโชนโครคิฟจำนวนมากพุ่งลงมาถล่มใส่คริฟแทงค์จนพัง "แชดดดด แชดดดด แชดดดดด ป้ากกก เปรี้ยงงง ตรูมมม บรึมมมม" มิลด์ใช้มาสแตงค์ไรเฟิ่ลยิงถล่มคริฟเดลต้าและคริฟซีคเกอร์ให้พัง พวกแซนดาลเห็นท่าไม่ดีเลยรีบนำยานขนกำลังพลล่วงหน้าไปก่อน "จะให้ตามไปได้มั้ยละ ลุง..." พาลกีสกล่าว
"เออ เกรงว่าคงไม่ทันแล้ววะ" คลอเวฟบอก เพราะตนเห็นสตาร์แซนดัสเครื่องหนึ่ง "เปรี้ยะๆๆๆๆ แชดดด" สะสมพลังไฟฟ้ายิงขึ้นไปบนท้องฟ้า จนก่อเกิดเมฆฟ้าผ่าเกาะกลุ่มกัน และ...
"เทรอนเร็กซ์ เรฟไซท์ วูลเฟลล่า หลบเร็ว" มิลด์กล่าวเมื่อเธอคำนวณจุดที่ฟ้าผ่าลงมา แต่.... "ครืนนน เปรี้ยงงงงง" สายฟ้าฟาดลงมายังการ์เซนครีทของเทรอนเร็กซ์ เรฟไซท์และวูลเฟลล่าแบบเต็มๆจนเกิดระเบิดขึ้นมา
"ไม่มีใครหน้าไหนที่โดนฟ้าผ่าของเราแล้วรอดไปได้กันหรอกน่ะ" ทหารแซนดาลกล่าว โดยที่ควันระเบิดจางลง จนพวกนั้นต้องตกใจขึ้นมา เพราะว่า....
"เกือบไปแล้ว นึกว่าร่มผลึกแก้วจะป้องกันไม่ได้เสียอีกน่ะ" วูลเฟลล่ากล่าวอย่างโล่งอกเมื่อเหนือหัวหุ่นการ์เซนครีทของเธอ มีร่มติดผลึกโชนโครคิฟทรงแปดเหลี่ยมโผล่ขึ้นมา เช่นเดียวกับเทรอนเร็กซ์และเรปไซท์ด้วย
"คริสตัลอัมเบรล่าและคริสตัลชิลด์ อุปกรณ์กันฟ้าผ่าจากพาร์ทโชนโครคิฟที่เหลือบานนั้น จนคุณมินอร์ตี้เอามาดัดแปลงเป็นเครื่องป้องกันสำหรับโมบิลลอยด์ไซส์ปกติใช้ได้ผลจริงๆด้วยน่ะ" ฟูลออเรสบอก
เรฟไซท์กล่าว "แบบนั้นเราก็ไม่ต้องกลัวเรื่องฟ้าผ่าลงหัวเราแล้วสิ ในเมื่อเรามีโลห์เทพกันน่ะ"
"เกรงว่า โลห์เทพที่พวกนายใช้ไปนั้น ความทนทานมันลดเหลือ 40 เปอร์เซนต์กันแล้วน่ะ" มิลด์บอก
เทรอนเร็กซ์กล่าว "แม่งไม่ตลกแล้วละ แค่โดนทีเดียวยังลดเกินครึ่งแบบนั้น คงต้องจัดการกับพวกเวรนี้ให้ได้ก่อนที่จะเสกฟ้าผ่ากันแล้ววะ"
"หยุดมันให้ได้ แล้วรีบใช้สายฟ้ากันโดย...." ทหารแซนดาลกล่าวแต่.... "ฟ้าววววว ฉั้วะๆๆๆ" ดิเรนท์บุกเข้าใช้กงเล็บสองซี่กับใบมีดตรงส้นข่วนจนสตาร์แซนดัสพังเป็นท่อนๆ "ตรุ้งงง ตรุ้งงง ตรุ้งงง ตรูมมม บรึมมม ตรูมมมม" คลอเวฟจัดการถล่มสตาร์แซนดัสด้วยไฮโดรบาซูก้าจนกระเจิง
"เจอหนีบหน่อยสิ ไอ้หุ่นหัวดำ" ทหารแซนดาลบุกเข้าใช้คีมไลท์นิ่งไวส์เพื่อหนีบอัลติเมทเอทเฮฟวี่เวพพ่อน แต่.... "ฉึกกก ฉึกก" สตาร์แซนดัสสองตัวกลับถูกแทงด้วยปืนยาวติดดาบปลายปืนที่เลื่อนจากข้างหลังมาข้างหน้า "เฮฟวี่บัสเตอร์ไรเฟิ่ล ชู้ต" ไกซ์เหนี่ยวไกทั้งสองข้างพร้อมกับ "แชดดดด แชดดดด ตรูมมม บรึมมมม" ยิงลำแสงสีทองออกจากปากลำกล้องเป่าสตาร์แซนดัสปลิวขึ้นไประเบิดกลางอากาศกัน "นี้นายยังไม่เลิกใช้ดาบโตกันอีกหรือ ทั้งๆที่พาร์ทนี้มันเป็นพาร์ทอาวุธหนักกันเลยน่า" ไลเอิร์ทบ่น
"มันก็จริงที่เฮฟวี่เวพพ่อนพาร์ทมันมีอาวุธหนักทั้งเซตกันก็จริง แต่ฉันต้องมีอาวุธไว้ประชิดตัวกันบ้างละน่า" ไกซ์บอก แล้วก็ "ปี้บๆๆๆๆๆๆๆ" ล็อกเป้าเพื่อถล่มด้วยโชลเดอร์ไมโครลันเชอร์เข้าใส่สตาร์แซนดัสกัน
พาลกีสบอก "เราไม่ไล่ตามพวกมันไปเลยหรือ เจ้"
"ไม่ต้อง เพราะทุกอย่างอยู่ในแผนของมาสวาร์ทาร์แล้วละ" สเปียริทบอก พร้อมกับ "หวับบบบ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ฟาดพรีม่าร็อดฟันใส่แคทครอฟจนตัวขาดไป โดยในตอนนี้ "ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" ยานขนส่งกำลังพลเคลื่อนผ่านร่องเขากัน "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" ผาทั้งสองด้านระเบิดวินาศสันตะโรขึ้นจนกระเทาะก้อนหินจำนวนมากลงมาทับใส่กองรบกัน เพียงแต่ยานทุกลำกางบาเรียพลังไฟฟ้าป้องกันเอาไว้ และเคลื่อนออกจากเส้นทางผ่านหุบเขาไป "ครืนนนนนน เปรี้ยง เปรี้ยงง เปรี้ยงงง" แต่ก็ต้องมาเจอกับสายฟ้าฟาดลงใส่ยานขนส่งจนบาเรียสลายไปกันหมด
"บะ บ้าน่า ฟ้าผ่าโดนพวกเราได้ไง ในเมื่อพวกเราควบคุมสายฟ้าได้น่ะ" ทหารแซนดาลกล่าวอย่างตกใจและรีบพาพวกโดดลงจากยานที่ตอนนี้เครื่องดับจากการถูกสายฟ้าฟาดไปเมื่อครู่นี้
"แกร็กๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร เนคมาดูซัมก็พาพวกไทรเวเซอร์ที่เหลือโผล่มาล้อมเอาไว้ "อาวุธของพวกแกทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอกมั่ง เพราะคฑาสายฟ้าของเรานั้น...." ทหารแซนดาลกล่าว แต่.... "ซู่ ป้าก เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" แอนเดรียใช้ปืนฉีดน้ำดับเพลิงสาดใส่ทหารแซนดาลจนตัวช็อตไปอย่างจังๆ
"....สายฟ้าอาจจะฟาดใส่พวกเราเร็ว แต่....ถ้าโดนน้ำสาด ต่อให้มีผิวหนาที่แข็ง พวกแกก็ตกเป็นเป้านิ่งได้แน่นอนน่ะ" สเตฟอร์ดบอก แล้วก็นำปืนฉีดน้ำมากระหน่ำยิงใส่แซนดาลอีกสามตนให้น็อก จนพวกแซนดาลที่เหลือต้องวางอาวุธโดยเร็ว พร้อมกับ... "ทีมหนึ่ง เคลียร์ ทีมสองเป็นไงบ้างละ" สเตฟอร์ดติดต่อไปหา
"ทีมสองที่ดักหลังเคลียร์เช่นกันแล้วละ" โฟรซ่าบอก โดยเธอ พีวิล เจเนลและพวกชาร์เครฟโผล่มาดักหลังและเล่นงานด้วยวิธีเดียวกัน
ทหารแซนดาลบอก "พวกแกซวยแล้วละ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา กองรบหนุนที่อยู่ในเมืองของพวกเราก็จะมาจัดการกับพวกแกกันทั้งหมดนี้แหละ รวมไปถึง เจ้าลาคาเมสกันด้วย"
"หรือ แล้วพวกเราจะรอคอยการมาของพวกพ้องของแกเลยแล้วกันน่ะ" เจเนลกล่าว แล้วพวกซีรีสตรัลนำโดยทริฟตัน "แชดดด แกร็กๆๆๆๆๆ" ใช้ลำแสงตกผลึกจัดการกับพวกแซนดาลที่ยังไม่ออกจากร่องเขากัน โดยเข้าจัดการกับพวกที่เหลือไปด้วย
"หัวหน้าเฟลิคแจ้งมา ว่าตอนนี้ ทีมของจ่าฝูงอาชิลน่าและเครนิส รวมถึงทีมของนาย จัดการเรียบร้อยแล้วละ" ทริฟตันบอก
"สเปียริท คลอเวฟ ฝั่งนายเป็นไงบ้างละ" พีวิลบอก
คลอเวฟกล่าว "พวกเดลอาเนี่ยนที่ตามมาด้วยนั้น มันถอยไปแล้ว ส่วนสมุนของลาคาดัลนั้น....เละตุ้มเป๊ะไปแล้ววะ" โดยตอนนี้กองรบแซนดาลที่ตามมาด้วยนั้น ถูกถล่มยับไปหมดแล้ว
วันต่อมา เขตเมืองลาวัค เมืองใหญ่สำคัญบนทวีปฝั่งตะวันออก ซึ่งตอนนี้กองรบแซนดาลของลาคาดัลล้อมรอบเมืองกัน "แชดดด แชดดด แชดดดด" สตาร์แซนดัสที่อยู่นอกกำแพงฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ถูกลำแสงยิงจนพังไปสามเครื่องจากระยะไกล "เฮ้!!!!!!!" ไรแกท แบร็อค บุลฟลาทร้องลั่น โดยมากับพีวิล เจเนไซด์ทีม สเตฟอร์ด โฟรซ่า ไซโคลเนีย ลิเนียร์ตี้ พลัสเชอริท แอบไบออส เบติสและวิลด้า "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆ แชดด แชดดด แชดดด แชดดด ซูมมมมม แฟ้วๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดด" พวกเขาเปิดนำด้วยการกระหน่ำยิงใส่สตาร์แซนดัสกันอย่างหนักหน่วง "ศัตรูบุกจู่โจม รีบโต้ตอบพวกมันโดยเร็วเลย" หัวหน้ากองแซนดาลรีบสั่ง
ทหารแซนดาลบอก "กองหนุนเสริมของฝ่ายพันธมิตรมาถึงแล้วละครับ" โดยมีลาสแบรท จูลาสโต้กลุ่มหนึ่งเคลื่อนพลเข้ามาจากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้
"ดี งั้นรีบให้พวกนั้นมาช่วยหยุดพวกมันเดียวนี้เลย" หัวหน้ากองกล่าว แต่ทว่า.... "ครืดดด ตรุ้งๆๆๆ ตรูมๆๆๆ" ลาสแบรทเครื่องหนึ่งขยับแขนปืนใหญ่ยิงกระสุนอนุภาคเป่าถล่มใส่สตาร์แซนดัสจนกระเจิง "ฟ้าวๆๆๆๆ" จูลาสโต้ส่วนหนึ่งบุกเข้าจู่โจมสตาร์แซนดัสที่ตกตะลึงด้วยขวานและค้อนสับกันอย่างหนักหน่วง
"หัวหน้า ฝ่ายพันธมิตรหันมาเล่นงานพวกเรากันแล้วละครับ" ทหารแซนดาลพยายามใช้ไลท์นิ่งไวส์จู่โจม แต่ "ฟิ้วๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆ" ลาสแบรทตัวที่สองยิงมิไซล์จากป้อมด้านหลังถล่มใส่จนระเบิดไป
"สงสัยว่าฝ่ายตรงข้ามคงจะยึดหุ่นมาใช้แน่ๆ เตรียมใช้สายฟ้าฟาดได้!!!!" หัวหน้ากองสั่ง "ครืนนนน เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆ" แล้วท้องฟ้าก็ฟาดฟ้าผ่าลงใส่พวกไทรเวเซอร์และกองหนุนเดลอาเนี่ยนกันด้วย "หวับบบ หวับบบ หวับบบบ หวับบบบ หวับบบ หวับบบบ" พวกพีวิลรีบหลบหลีกและใช้คริสตัลชิลด์ป้องกันสายฟ้าโดยเร็ว ในขณะที่กำลังหนุนเดลอาเนี่ยนหลบหลีกกันอย่างอุตลุต "ฟ้าวววววว เปรี้ยงงงงงงง" ไม่ทันไร สายฟ้าก็ฟาดลงใส่เครื่องล้างสมองแบบเต็มๆจน "วืออออออ" เครื่องหยุดการทำงานลงพร้อมกับ "แชดดดดด ป้ากกก ตรูมมมม" ลำแสงสองเส้นพุ่งทะลวงใส่เครื่องล้างสมองเหนือเมืองจนระเบิดลง
"นี้พวกเรา มาอยู่ตรงหน้าสายพานกันทำไมละเนี้ย" ชาวแซนดาลรู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงที่กำลังทำงานต่อประกอบชิ้นส่วนอาวุธบนสายพาดกัน
"เดียวสิ นี้เราภักดีกับลาคาดัลนะหรือ เป็นไปไม่ได้น่า พวกเราไม่มีทางรับคนขายดาวของเราเป็นผู้นำได้หรอก" ชาวแซนดาลที่อยู่ในตัวเมืองก็หันมาเห็นโปสเตอร์ลาคาดัลแปะทั่วเมืองกัน ต่างก็รีบมาฉีกทิ้งโดยทันที
"ชาวเมืองรู้สึกตัวและเริ่มก่อจราจลกันแล้วละครับ" ทหารที่คุมในเมืองกล่าว
หัวหน้ากองสบถ "ไอ้พวก....ฮึยยยย รีบใช้อาวุธใส่ประชาชนเดียวนี้ นี้เป็นคำ....."
ไม่ทันไร ฟ้าก็ผ่าลงบนหอสั่งการนอกเมืองโดยทันที "ฟ้าววววว ฟ้าววววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" วิลด้า ไซโคลเนีย โฟรซ่าและลิเนียร์ตี้บินเข้ามาในตัวเมือง ซึ่งพวกสตาร์แซนดัสของฝ่ายลาคาดัลต่างตกใจกันไม่น้อย เมื่อเห็นทั้งสี่นำอาวุธปืนออกมาเพื่อยิงใส่ อีกทั้งกองรบโดยรอบถูกกวาดยับไปหมดแล้ว
"ตอนนี้เราได้เมืองลาวัคมาแล้ว พร้อมกับอีก 3 เมืองก่อนหน้าที่พวกนายยึดมาด้วยน่ะ" ลาคาเมสกล่าวโดยที่เขานั่งเก้าอี้ผู้ว่าการเมืองลาวัค แทนที่นายกองแซนดาลภายใต้คำสั่งของลาคาดัลกันแล้ว "แม้ฉันจะตกใจมากกับการที่พวกนายใช้หุ่นแบบเดียวกับเหล่าผู้รุกรานจากฝั่งตะวันออกมาหลอกพวกลาคาดัลกันน่ะ"
โดยหันมายังโคเซวิคและกริซซิก
"ยุทธวิธีหลอกพวกทหารแซนดาลของลาคาดัลด้วยวอร์บอทฝั่งเดลอาเนี่ยนนั้น ได้ผลชะงัดแม้ว่านายกองของเมืองนี้จะรู้ว่าพวกเรายึดหุ่นมาใช้เลยก็ตามน่ะ" กริซซิกบอก
"แน่ใจน่ะ ว่าแผนการบุกของพวกนายนั้นจะได้ผลกันจริงๆ เพราะฉันเห็นทหารลูกกระจอกในเมืองนี้ขาดหายไปสองสามหน่วยกันน่ะ" ลาคาเมสบอก
มาสวาร์ทาร์กล่าว "วางใจได้ เพราะว่าพวกเรา ได้แฮคเข้าระบบสื่อสารและส่งข่าวลวงให้ทางนครหลวงทราบ ว่ากองรบเดลอาเนี่ยนคลี่คลายสถานการณ์เอาไว้แล้ว แน่นอน ว่าลาคาดัลคงไม่สงสัยหรอก ว่าพวกเราต่างหากละที่เป็นผู้ส่งข่าว มิใช่พวกเดลอาเนี่ยนแต่อย่างใด"
"เพียงแต่ตอนนี้ ฉันต้องแน่ใจว่า ลาคาดัลจะไม่เหลือกองรบไว้คุ้มกะลาหัวได้ก่อนน่ะ แม้ว่าทุกการบุกของพวกนายนั้นจะมีความเสี่ยงไม่น้อยก็ตาม" ลาคาเมสบอก
พีวิลกล่าว "นายกำลังบอกว่า ลาคาดัลอาจมีกับดักวางไว้อยู่สิน่ะ"
"ลาคาดัลละโมบโลภมาก แต่ไม่ฉลาดมากในเรื่องกลยุทธศึก เขาจึงให้ฟีบัส สมุนมือขวาของมันรับผิดชอบในการวางแผนและสั่งการกองรบกันไว้ ซึ่งไอ้มือขวารายนี้ ฉลาดแกมโกงและมากเล่ห์เพทุบายกันไม่น้อย เรื่องการบุกของพวกเราอาจจะมีปัญหาแน่ๆ หากเจ้านั้นปากโป้งบอกลาคาดัลไว้" ลาคาเมสบอก "หวังว่าลาคาดัลโง่มากพอ จนไม่เชื่อฟังคำเตือนของเจ้าฟีบัสไปได้หรอกน่ะ"
พีวิลบอก "คงต้องขึ้นกับการวัดดวงกันแล้วละ ว่าลาคาดัลจะโง่ตามที่นายว่ามาก่อนน่ะ"
"เออ ท่านลาคาดัล เขตเมืองลาวัคกับเมืองข้างเคียงอีก 6 แห่ง ปลอดภัยจากการบุกของพวกลาคาเมสกันแล้วละครับ" ฟีบัสรายงาน
ลาคาดัลบอก "ดี ต่อให้เจ้าพี่ส่งใครมา แต่เรามีกองกำลังพันธมิตรอันเกรียงไกรอยู่ ต่อให้บุกกี่สิบรอบ ผลก็เหลวเปลวเหมือนเดิมนี้แหละ" และหันมาถาม "ตอนนี้กองรบที่ 23 จัดพื้นที่เสร็จหรือยังละ"
"ตอนนี้แขกของท่านมาถึงที่แล้วละครับ และพวกเขาเองก็พร้อมรอท่านในวันพรุ่งนี้แล้วด้วย โดยพวกเขาไม่อยู่ที่ดาวดวงนี้เป็นเวลานานนะครับ" ฟีบัสกล่าว
ลาคาดัลบอก "นั้นไวกว่าที่แจ้งไว้เสียอีกน่ะ แต่ อย่างน้อย เราก็ไม่ควรให้แขกนั้นแตกตื่นด้วยการแจ้งข่าวที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เลยน่ะ"
"แต่....มันจะดีหรือครับ เพราะถ้าไม่มีกองทหารคุ้มกัน เกิดลาคาเมสและพวกกองกำลังเหล่านั้นบุกมา...." ฟีบัสทัดทาน
ลาคาดัลกล่าว "....ช่างประไรสิ เพราะว่าฉันมีอำนาจควบคุมสายฟ้าอยู่ในมือ ดังนั้น ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีทางทำอะไรฉันและพวกลูกค้ากันได้หรอกน่ะ" แล้วก็บอก "ฉันจะฝากการสั่งการกองทหารที่อยู่ในเมืองนี้และที่อยู่ในฐานทัพที่ยังไม่ถูกบุกยึดไว้ให้เจ้าดูแล ปกป้องเมืองของฉันเอาไว้ให้สุดความสามารถ อย่าให้พวกเจ้าพี่แห่มายึดได้เป็นอันขาด"
"เข้าใจแล้วละครับ" ฟีบัสบอก
ลาคาดัลลุกขึ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋ามา "ถ้าฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองแห่งนี้ ฉันจะมาเฉ่งนายก่อนเป็นรายแรกนี้แหละ" แล้วก็เดินออกจากท้องพระโรงไป "เพราะฉันจะไม่เสียกำไรก้อนโตที่ฉันได้จากลูกค้ารายใหญ่ไป เพื่อซ่อมแซมเมืองหรือราชวังแห่งนี้ที่พังเพราะความงี่เง่าของนายกันได้หรอก"
"ได้อยู่แล้วละครับ" ฟีบัสกล่าว พอลับตาลาคาดัล เขาก็แจ้งให้.... "กองรบที่เหลือทั้งหมด แบ่งกำลังครึ่งหนึ่งมาปกป้องนครหลวงแห่งนี้ไว้ พร้อมกับแจ้งกองกำลังพันธมิตรให้นำกำลังรบเป็นหุ่นขนาดใหญ่ และยานรบไว้จัดการกับพวกไทรเวเซอร์กับยูเนี่ยนพีชด้วย ส่วนกองรบที่ไปอารักขาท่านลาคาดัลนั้น ให้รีบมาช่วยกันได้เลย" "รับทราบแล้วละครับ คะ" นายกองทั้งหลายรับคำสั่งกันทั้งหมด
โดยที่ฟีบัสไม่รู้เลยว่า "แผนขั้นแรกสำเร็จแล้วละ สหายไทรเวเซอร์ เราจะเริ่มแผนขั้นสองได้เลย" บาร์ทกล่าว
ต่อช่วงที่ 2เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น