ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3 ปฏิบัติการณ์ร็อคสแตมบิต บนดาวหินผาอันหนักหน่วง ครึ่งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 63


              ที่ห้องประชุมภายในยานไฮด์เดาท์ เนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ พีวิล สเตฟอร์ดและโฟรซ่ามาหาโคเซวิค เฟลิค อิลมิค และอาชิลน่า
              "จากที่เราได้ฟังรายละเอียดของผู้นำดาวทั้งเจ็ดจากแกรนด์โอเวอร์เซียร์มานั้น บอกตามตรงน่ะ ว่าราชาดาวทรายนั้น มันน่ากวนส้นเท้าได้โลห์กันจริงๆ" โคเซวิคบอก
              อิลมิคเสริม "ราชาลาคาดัลนั้น นอกจากจะไม่สนใจเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบดาวกันไม่ว่า ในช่วงที่พวกเดลอาเนี่ยนนำกองยานมารุกราน หมอนั้นก็สั่งการกองรบดาวทรายของมัน ออกไปหาเรื่องกับพวกเดลอาเนี่ยนกลุ่มอัลเทรแมท โดยอ้างว่ามันรับมือได้ แต่พอเอาเข้าจริง พวกอัลเทรแมทเหนือกว่า จนต้องลำบากกองรบชาวดาวจังกรอล ชาวดาววอเทลและชาวดาวแอรอทต้องเข้ามาช่วยขับไล่กันไว้ ซึ่งลาคาดัล ไม่สำนึกผิดในการกระทำของเขากันไม่ว่า เขายังหาว่ากองรบที่มาช่วยนั้น สอดยุ่งไม่เข้าเรื่องกันอีกด้วยน่ะ"
              "นั้นไม่แปลกใจหรอก ที่พวกสโตนอคกลุ่มที่จับกุมเรา บ่นให้ฟัง ว่าเพราะลาคาดัล ทำให้กองรบส่วนหนึ่งต้องกลายเป็นกลุ่มกองกำลังต่อต้าน และถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในกลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเนตกันเลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              พีวิลถาม "แต่ที่ผู้นำดาวอื่นๆรวมถึงแกรนด์โอเวอร์เซียร์ไม่ลงโทษนิ คงไม่ใช่แค่ลาคาดัลคุมแหล่งพลังงานไฟฟ้าเอาไว้ในกำมืออย่างเดียวสิน่ะ"
              "แกรนด์โอเวอร์เซียร์และเหล่าผู้นำที่เหลือ กลัวว่าลาคาดัล จะนำดวงดาวออกนอกกลุ่มดาว เพื่อขายพลังงานไฟฟ้าให้กับกลุ่มไหนก็ได้ในเขตอวกาศแห่งนี้ แม้กระทั่งพวกกองโจรกันด้วย เพราะความสนใจของลาคาดัล มีแค่การทำกำไรก้อนโตเข้ากระเป๋าตนเอง ไม่สนใจว่าประชาชนบนดาวจะเดือดร้อนแค่ไหนน่ะ"           เฟลิคบอก "และการส่งใครก็ตามลงไปห้ามปรามหรือแก้ปัญหาในดาวแซนดอม ลาคาดัลเองก็จะใช้เป็นข้ออ้างในการแยกตัว เผลอๆอาจจะก่อสงครามก็เป็นได้นะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "คงมีแต่พวกเราเท่านั้นที่จะลงไปแก้ไขปัญหากันเลยสิน่ะ"
              "แต่ปัญหาคือ ดาวแซนดอมในเวลานี้ ชั้นบรรยากาศเต็มไปด้วยพายุสายฟ้าปกคลุมกันอย่างหนาแน่น ซึ่งต่อให้ยานของเราติดสนามพลังป้องกันที่หัวหน้าเทคเนล่านำมาติดตั้ง ก็คงไม่มีทางต้านทานอนุภาคไฟฟ้าอันรุนแรงไปได้แน่ๆ" อาชิลน่าบอก
              เนคมาดูซัมบอก "แสดงว่าลาคาดัลคงไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปขัดขวางแผนการของเขาได้แน่ๆเลยสิน่ะ แล้วดาวดวงอื่นล่ะ"
              "ดาววอเทเชี่ยนนั้น แม้ว่ายานของนายและของเราสามารถดำน้ำได้ แต่จากที่เขตเมืองในดาว ล้วนแล้วอยู่ในความลึกเกินกว่า 14,000 ฟุตจากใต้ทะเลกัน ซึ่งคงเป็นไปได้ยาก กับการนำยานลงไปที่เมือง โดยไม่ถูกแรงกดดันน้ำบดขยี้ไปพร้อมกับพวกเรากันได้น่ะ" เฟลิคบอก "ส่วนดาวแอร์คราวนด์นั้น ในช่วงนี้มีกระแสลมแรงพัดผ่านอยู่ และมีพายุขนาดใหญ่ปรากฎกันด้วย ซึ่งยานทั้งสองลำคงฝ่าพายุไปไม่ได้แน่ๆเลยละ"
              มาสวาร์ทาร์ถาม "แล้วดาวจังกรอเรสล่ะ"
              "แกรนด์โอเวอร์เซียร์ได้แจ้งให้ชาวจังกรอลทำแผนที่เอาไว้ เพราะพื้นที่ป่าทึบนั้นมันมีบางจุดที่ยังมิได้มีการสำรวจ บางจุดมีกลุ่มสัตว์ป่าแปลกหน้าที่มาอาศัยในดาว ซึ่งมีทั้งสัตว์ป่าพื้นเมืองไปจนถึงสัตว์ป่าจากดาวอื่นที่อาศัยและปรับตัวอยู่กับดาวดวงนี้ได้ ซึ่งการทำแผนที่นั้น ต้องใช้เวลานานราว 4 วันหรือนานกว่านั้น กว่าจะเสร็จสมบูรณ์เลยน่ะ" เฟลิคอธิบาย
              อาชิลน่าบอก "และกลุ่มสำรวจทำแผนที่ก็ต้องมีกองรบคุ้มกัน เผื่อว่าพวกจังกรอลที่เป็นพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตจะดักซุ่มกันได้สิน่ะ"

              "แล้วผู้นำนอกเหนือจากลาคาดัลนิ แต่ละคนมีนิสัยกันยังไงบ้างละ" พีวิลถาม
              เฟลิคบอก "เริ่มจากราชาเดฟทรอล ราชาของวอเทเชี่ยนรุ่นที่ 51 เขาเป็นราชาที่อาวุโสมากที่สุดในกลุ่ม และมีความสามารถในการปกครอง การจัดการด้านพาณิชย์ รวมถึงความมั่นคงกันด้วย แม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำที่ดีในสายตาของชาววอเทลส่วนมาก รวมถึงอีก 7 ดาวกันก็ตาม แต่การกระทำของเขาไปขัดผลประโยชน์ของชาววอเทลบางกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกพ่อค้าตลาดมืดที่ค้าขายของนอกดาวโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเดฟทรอลส่งกองรบไปปราบปรามกันด้วยกองเรือรบใต้น้ำมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังมีเหล่าสมุนส่วนน้อยที่หลุดรอดไปได้ ซึ่งก็กลับมารวบรวมชาววอเทลหัวอ่อนให้เป็นแนวร่วมมาต่อต้านเดฟทรอลมาหลายต่อหลายครั้งกัน จนทำให้กลุ่มต่อต้านชาววอเทลมีจำนวนมากขึ้น บางกลุ่มถึงขั้นเรียกกลุ่มโจรสลัดจากนอกระบบดาวมาหนุนช่วยอีกด้วยน่ะ"
              "พวกกบฎวอเทลเหมือนงูไฮดร้ากันชัดๆ พอตัดหัวหนึ่งขาด มันก็งอกอีกสองหัวขึ้นมาแทนที่แบบไม่จบไม่สิ้นกันน่ะ" สเตฟอร์ดพูดเปรียบเปรย
              มาสวาร์ทาร์บอก "และกลุ่มต่อต้านวอเทลคงจะได้แรงสนับสนุนจากชาวเทรโอเซี่ยมกันเลยสิน่ะ"
              "ใช่ เพราะมีแต่กองยานรบของจักรพรรดิ์ฮาชูลั่มเท่านั้น ที่เข้าไปในดาวแห่งมหาสมุทรนั้นได้ ต่อให้ชนเผ่าหลักอื่นๆพยายามดัดแปลงยานรบ วอร์แมชชีนและวอร์บอทให้ใช้งานในน้ำได้ ก็คงรบได้ไม่ดีเท่าต้นตำรับอย่างเทรโอเซี่ยมนี้แหละ" เฟลิคบอก
              อาชิลน่ากล่าว "ต่อมาก็คือดาวแอร์คราวนด์ ปกครองโดยเลดี้สตราทรอฟ่า รานีรุ่นที่ 43 เธอเป็นผู้ปกครองที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อชนเผ่าของเธอที่อาศัยอยู่บนเกาะลอยฟ้าและภาคพื้นกันเป็นส่วนหนึ่ง แต่มิใช่อีกส่วนหนึ่ง ที่ไม่เห็นด้วยกับการให้เธอขึ้นปกครอง เพราะพวกแอรอทฝ่ายปรปักษ์นั้น เห็นว่าเธอไม่มีความเหมาะสมในฐานะผู้นำ เนื่องจากพวกเขาต้องการให้ผู้นำของพวกเขาขึ้นปกครองเสียเอง เพื่อที่พวกเขาจะได้บรรลุเป้าหมายกัน ตั้งแต่เรื่องผลประโยชน์จากการปกครองเกาะลอยฟ้าทุกเกาะ เรื่องการครอบครองเกาะของฝ่ายตรงข้ามเพื่อกดให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้ลง รวมถึงเรื่องการเป็นผู้กุมอำนาจทางทหารของดาวดวงนี้ ซึ่งสตราทรอฟ่ารู้เรื่องของกลุ่มแตกแยกเหล่านี้เป็นอย่างดี จากการที่เธอมีพลังจิตอันสูงส่งไว้ เธอจึงส่งเหล่าอัศวินนภา ซึ่งเป็นเหล่านักรบชาวแอรอทที่เก่งกาจมากที่สุดออกไปจัดการกับกลุ่มแตกแยกภายในแอร์คราวนด์กันนี้แหละ"
              "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พวกเราคงไม่ต้องเข้าไปก้าวก่ายในดาวแอร์คราวนด์กันหรอกมั่ง คุณอาชิลน่า" อิลมิคกล่าว
              อาชิลน่าส่ายหน้า "ฉันยังพูดไม่จบเลยน่ะ เพราะถึงแม้เลดี้สตราทรอฟ่าจะส่งเหล่าอัศวินนภาทั้งหลาย ออกไปแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจากกลุ่มแตกแยกต่างๆกัน แต่เธอไม่รู้ว่า ในกลุ่มอัศวินนภา ก็มีคนของพวกชนเผ่าแตกแยกรวมอยู่ด้วย ซึ่งพวกอัศวินเหล่านั้นแหละ คือตัวปากโป้งบอกความเคลื่อนไหวให้ทุกกลุ่มรับรู้กัน เนื่องจากว่าเธอขาดการติดต่อของเหล่าอัศวินที่ภักดีกับเธอมานานมากแล้วนะสิ"
              "และที่แย่ก็คือ กลุ่มแอรอทที่บุกมาจู่โจมนั้น ก็เป็นเผ่าย่อยที่คิดก่อการกบฎต่อเลดี้สตราทรอฟ่าแต่ก็ไม่สำเร็จกัน จนต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตไปโดยปริยายนี้แหละ" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ต่อให้เธอมีพลังจิตอันกล้าแกร่ง แต่มาเสียตรงไว้ใจคนผิดๆกันนี้แหละ" และหันมาถาม "แล้วผู้นำของชาวจังกรอลล่ะ"

              "รานีอาเมลเซด้า ผู้นำของจังกรอลรุ่นที่ 108 เธอเป็นผู้นำที่ดี เป็นผู้รักสงบอย่างมาก แต่เวลาที่มีภัยคุกคามเข้ามา เธอจะไม่นิ่งเฉยและลงมือจัดการกับภัยคุกคามไปพร้อมกับลูกเผ่าของเธอ แน่นอน ว่าเธอได้ส่งกลุ่มนักรบในเผ่าออกติดตามหาต้นตอและกำจัดทิ้ง ก่อนที่ภัยคุกคามจะลุกลามไปมากกว่านี้น่ะ" โฟรซ่าบอก "เพียงแต่ เธอไม่ทราบเลยว่า การส่งเหล่านักรบออกไปติดตามหาต้นตอแห่งความวุ่นวายนั้น จะกลายเป็นการส่งมอบลูกสมุนชุดใหม่ให้กับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตออกไปก่อเรื่องนอกระบบดาว ในเขตอวกาศภาคกลางกันน่ะ"
              พีวิลบอก "รุ่นพี่พูดเหมือนกับว่าเคยเจอมาก่อนแล้วสิครับ"
              "ใช่ เราเห็นพวกนักรบจังกรอลบุกจู่โจมขบวนสินค้าของดาวนาเนียส-2 ซึ่งขนส่งชิ้นส่วนจักรกลไปยังสถานีอวกาศในระบบดาวรานัฟด้า แม้ว่าพวกเราที่อยู่ใกล้นั้นจะรีบรุดไปที่เกิดเหตุ และได้เข้าปะทะกับพวกจังกรอลที่บุกเข้ามาในยาน จนพวกมันต้องถอยหนีไปพร้อมกับชิ้นส่วนจักรกลในยาน 2 ลำกับผู้โดยสารอีก 15 รายที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของนักรบจังกรอลกัน" โฟรซ่าบอก
              สเตฟอร์ดบอก "แล้วหลังจากนั้นอีก 3 วันถัดมา เราก็เจอกับพวกนักรบจังกรอลเข้าจู่โจมกลุ่มนักล่าเงินรางวัลในเขตดาวลูบัม ซึ่งรวมตัวกันเพื่อไล่ล่าพวกนักรบจังกรอลในเหตุปล้นขบวนสินค้าที่นาเนียส-2 โดยพวกเราเข้ามาช่วยจัดการกับพวกมันไว้ได้ทัน จากนั้นพวกจังกรอลก็ออกไปก่อเรื่องกับกลุ่มโจรสลัดและกองโจรอื่นๆกันไปด้วย บ่งบอกได้ว่า พวกนี้ทำเพื่อชักศึกเข้าบ้านกันเลยน่ะ"
              "นั้นไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมระบบดาวแปดดวงของพวกเอทพลาเนสถึงมีแขกไม่ได้รับเชิญบุกรุกเข้ามากันบ่อยๆ ถ้าไม่เพราะว่ามีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งปาหินทะลุกระจกหน้าบ้านกันน่ะ" โคเซวิคพูดเปรียบเปรยกัน "ซึ่งนั้นรวมถึงพวกเดลอาเนี่ยนกันด้วยแน่ๆเลยละ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พวกเราคงต้องรีบหยุดยั้งพวกเดลอาเนี่ยนกันให้ได้ก่อนแล้วละ"
              "แล้วอีกสามรายที่เหลือนั้น...." อาชิลน่าบอก "องค์ชายไฟโรน ผู้นำรุ่นที่ 44 ของแฟคม่า เป็นบุตรคนรองที่สืบทอดต่อจากราชาไฟร์ยาทที่เสียชีวิตไป ซึ่งผู้นำส่วนมากเห็นด้วยกับการขึ้นครองราชย์กันน่ะ"
              โฟรซ่าบอก "เป็นบุตรคนรองขึ้นครองราชย์นิ แล้วคนโตล่ะ"
              "นั้นแหละคือปัญหาละ เพราะลอร์ดลาวาฟ บุตรคนโตนั้น มีนิสัยโหดเหี้ยมและมีความต้องการจะเป็นผู้นำกลุ่มดาวทั้งแปด เพื่อนำกองยานกวาดล้างระบบดาวในเขตอวกาศภาคกลางให้สิ้นซาก ถือเป็นการขัดต่อคำสัญญาต่อสมาพันธ์อวกาศ ที่ว่าจะไม่รุกรานดาวดวงอื่นกันน่ะ" อาชิลน่ากล่าว "แน่นอน ว่าลอร์ดลาวาฟเองไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็รีบหลบหนีออกไปก่อนที่ทหารแฟคม่าจะตามจับตัว ซึ่งพวกทหารแฟคม่าที่เข้าร่วมกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น ล้วนแล้วเป็นพวกสมุนของลาวาฟกันทั้งนั้นน่ะ"
               พีวิลบอก "แปลว่าพวกที่เข้าข้างลอร์ดลาวาฟเองก็เยอะใช่ย่อยเลยสิน่ะ"
              "แค่ลอร์ดลาวาฟยังไม่เท่าไร ราชาแอคเทรติค ผู้นำรุ่นที่ 21ของดาวไอซ์ติคเองก็แย่พอกัน เขาได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากมารดาของเขาที่เสียไป ซึ่งเหล่าสภาบนดาวเห็นชอบให้เขาขึ้นครอง มากกว่าพี่น้องของพวกเขาที่ล้วนแล้วมีความประพฤติไม่ดี ราว 6 ตนด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้น ต้องสงสัยว่าแอบติดต่อสมคบคิดกับกลุ่มกองโจรในเขตอวกาศภาคกลาง สร้างความเดือดร้อนในเขตเมืองบนดาวกัน และอีก 2 รายนั้น โกงงบประมาณบ้านเมืองเอาไปซื้ออาวุธเพื่อใช้ก่อปฏิวัติกันด้วยน่ะ" อาชิลน่าบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "แล้วอีกสามรายที่เหลือนั้นละ คุณอาชิลน่า"
              "ทั้งสามนั้น รายหนึ่งไร้ความสามารถในการปกครอง รายถัดมามีสภาวะทางจิตไม่ปกติ และ....รายที่สามชื่นชอบการพนัน ถึงขั้นหลบหนีออกจากดาวไปคาสิโนอวกาศ โดยขโมยเงินงบหลวงส่วนหนึ่งไปหมดที่บ่อนกันแล้วนะสิ" อาชิลน่ากล่าว
              อิลมิคบอก "ประวัติเสียแบบนั้น ขืนให้ขึ้นบัลลังก์ อาณาจักรได้เจ็งบ้งอย่างไม่ต้องสงสัยเลยละ"

              "แล้วรานีเจเดร่าแห่งสโตนอคนั้นละ...." เนคมาดูซัมกล่าว แต่ไม่ทันไรก็....
              "รายละเอียดนั้น ควรจะไปคุยกันที่ดาวของฉันเลยมั้ยละ เพราะนั้นดีกว่าการที่พวกนายมาสุ่มหัววางแผนอะไรบ้าๆลับหลังพวกเรากันน่ะ" เมคโซ่กล่าว
              "ใครใช้ให้นายเข้ามาในยานของเรากันละ ในเมื่อฉันสั่งไม่ให้ใครหน้าไหนหลุดเข้ามาได้ แม้กระทั่งแมงหวี่สักตัวกันน่ะ" โคเซวิคกล่าวอย่างไม่พอใจ
              เนคมาดูซัมบอก "โคเซวิค นายลืมไปแล้วหรือ เมคโซ่เป็นผู้พิทักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์ของฝ่ายเอทพลาเนส โดยขึ้นตรงต่อผู้นำของเขา และหัวหน้าเทคเนล่าที่เป็นผู้สั่งการตรงกันด้วย ดังนั้น การที่เขาเข้ามาในไฮด์เดาท์ได้ จึงไม่ใช่เรื่องยากหรอก"
              "ไม่แปลกใจหรอก เพราะนายมันอาศัยความเป็นเจ้าถิ่นกันนิหว่า" อิลมิคบอกอย่างไม่สบอารมณ์
              พีวิลกระแอ่มห้ามอิลมิคไว้ "นายคงจะแนะนำให้เราไปที่ดาวสโตนอคกันเลยสิน่ะ"
              "ใช่ ฉันรู้ว่า ท่านแกรนด์โอเวอร์เซียร์เอง แม้ว่าจะอนุญาตให้พวกนายต่อกรกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตในระบบดาวของพวกเรากัน แต่ก็ไม่อนุญาตให้พวกนายค้นคว้าข้อมูลแล้วนำข้อมูลไปจากระบบดาวกันได้หรอกน่ะ เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้องค์ความรู้อันเก่าแก่ถูกใช้ไปในทางที่ผิดกัน แม้ว่าพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้นจะเป็นกลุ่มแรกที่ก่อเรื่องแบบนี้กัน" เมคโซ่บอก "ดังนั้น ฉันจึงอยากจะให้พวกนายเข้าใจความรู้สึกของแกรนด์โอเวอร์เซียร์กันด้วย ว่าเขาทำเพื่อปกป้องความรู้ของพวกเรากันไว้น่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกเรารู้ ว่าแกรนด์โอเวอร์เซียร์ทำไป เพราะมีเหตุผลที่สมควรต้องทำไว้น่ะ เราจึงไม่ถือสากันหรอกน่ะ"
              "แม้ว่าพวกนายส่วนมากจะไม่พอใจกับการที่ได้รางวัลน้อยไปหน่อย แต่ทางดาวเราก็ไม่แน่หรอกน่ะ" เมคโซ่ยื่นข้อเสนอกัน "พวกนายคงจะทราบแล้วสิน่ะ ว่าดาวหินของพวกเรานั้นเป็นศูนย์รวมแหล่งแร่ธาตุอันมีค่ามาตลอด 400 ปีที่ผ่านมากันน่ะ"
              โคเซวิคกล่าว "เอาเข้าประเด็นเลยดีกว่าน่ะ เมคโซ่ เพราะฉันรู้ดี ว่านายคงไม่ได้ให้แร่ธาตุจำนวนมากให้กับพวกเราและพวกไทรเวเซอร์กันฟรีๆ หากเราไม่ทำอะไรให้นายกันน่ะ"
              "ท่านแกรนด์โอเวอร์เซียร์และรานีเจเดร่าสั่งการให้ฉัน รีบพาพวกนายทั้งสองกลุ่มลงไปที่ดาวสโตนยอนกันก่อน รายละเอียดนั้น เราจะคุยกันที่ท้องพระโรงกันเลย" เมคโซ่บอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "หวังว่าที่นายแจ้งกับเรามานั้น จะเป็นเรื่องจริงกันบ้างน่ะ"
              "เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนั้น ฉันจะกล้าล้อเล่นได้ทีไหนกันเล่า" เมคโซ่บอก
              อาชิลน่ากล่าว "ถ้าเช่นนั้น พวกเราจะรีบออกเดินทางกันเดียวนี้เลยน่ะ" โคเซวิคพยักหน้า

              "แปลว่าตอนนี้เราต้องไปดาวสโตนยอนก่อนสิคะ" แอมเบอร์บอก เนคมาดูซัมพยักหน้าหลังจากที่พาพีวิล มาสวาร์ทาร์ สเตฟอร์ดและโฟรซ่ากลับขึ้นยานไทรแองเกิ้ลกันแล้ว
              สเปียริทบอก "ที่เราต้องรีบไปก่อนนั้น เพราะพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตและพวกเดลอาเนี่ยนที่อยู่ในดาวนั้น เคลื่อนไหวแล้วสิ"
              "ก็มีส่วนน่ะ ไม่เช่นนั้นรานีเจเดร่าและแกรนด์โอเวอร์เซียร์คงไม่ให้เมคโซ่มาแจ้งเราอย่างเร่งด่วนเลยน่ะ" พีวิลบอก
              คลอเวฟบ่น "รู้น่ะ ว่านี้เป็นเรื่องด่วนฉุกเฉินกัน แต่พวกนาย ไม่จำเป็นต้องเอาไอ้หัวเกล็ดหินนิขึ้นมาบนสะพานเดินเรือกันได้มั้ยวะ" เพราะเห็นเมคโซ่อยู่ในสะพานเดินเรือกันแล้ว
              "คลอเวฟ นายลืมไปแล้วหรือ ว่าเมคโซ่มีสถานะเป็นผู้พิทักษ์ดวงดาว ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนของดาวบ้านเกิดกัน ถ้าเขาไม่กลับไป แล้วนายจะผ่านวอร์มูนของพวกสโตนยอนกันได้เลยหรือ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เนคมาดูซัมกล่าว "ตอนนี้ แอสเทลน่าก็กลับไปยังเขตอวกาศของฝั่งสมาพันธ์อวกาศกัน เพื่อไปช่วยกองกำลังพิทักษ์อวกาศและกองกำลังของสมาพันธ์อวกาศ หยุดพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่คุกคามเขตอวกาศกันอยู่ ดังนั้น มีแต่เมคโซ่เท่านั้นที่จะช่วยให้เราเข้าถึงดวงดาวกันได้น่ะ"
              "แน่นอน และผมเองก็คงไม่ไปแตะต้องของๆพวกคุณกันอยู่แล้วละน่า" เมคโซ่กล่าว โดยที่เขายืนอยู่ใกล้กับเคาน์เตอร์ควบคุมที่สเตฟอร์ดประจำอยู่
              คลอเวฟโวยกลับ "หรือ.... แล้วจะอธิบายในเรื่องมือของมึงที่แตะคอนโซลควบคุมปืนใหญ่กันได้มั้ยละ ไอ้...." เมคโซ่เห็นก็รีบชักมือขึ้นโดยเร็ว
              "คลอเวฟ ไฮด์เดาท์ลอยลำกันแล้ว รีบนำไทรแองเกิ้ลขึ้นได้แล้วละ" เนคมาดูซัมชี้ไปยังไฮด์เดาท์ที่ทะยานขึ้นจากท่ากันแล้ว
              คลอเวฟบอก "รู้แล้วละน่า ไทรแองเกิ้ลของกองกำลังไทรเวเซอร์ ขอออกจากท่าเทียบยานกันได้แล้ว"
              "อนุมัติตามคำขอ เราจะปลดสมอแม่เหล็กออกจากยานของคุณในทันที" เจ้าหน้าที่ชาวเทคนอตกล่าว โดยที่สปอร์ตไลท์สีม่วงที่เรืองแสงอยู่สองข้างยานไทรแองเกิ้ล "วืออออ" ได้ดับลง คลอเวฟเลยเปิดระบบลอยลำใต้ท้องยานเพื่อนำไทรแองเกิ้ลทะยานขึ้นไป จนบินตามยานไฮด์เดาท์พร้อมยานเดาท์เทรสกัน จนกระทั่งมาถึงดาวสโตนยอน ซึ่งมีวอร์มูนโคจรรอบนอกดาวอยู่มากมาย
              "สเตฟอร์ด ว่าแต่ ดวงจันทร์ดวงไหนวะ ที่มึงกับพวกโดนจับกุมไปน่ะ" คลอเวฟถาม
              "เออ คลอเวฟ เรื่องนี้ให้มันแล้วไปแล้วเหอะน่า" สเตฟอร์ดพูดตัดบทเพราะไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องแย่ๆต่อ
              เนคมาดูซัมกล่าว "และการที่นายหาเรื่องกดปุ่มยิงปืนใหญ่ใส่ดวงจันทร์สงครามนั้น ไม่ใช่ความคิดที่เข้าท่ากันน่ะ"
              "เข้าใจแล้วน่า พวก" คลอเวฟบ่น โดยตอนนี้ทหารสโตนอลระดับนายกองคุมวอร์มูนติดต่อเข้ามา
              "โอ้ว ผู้พิทักษ์เมคโซ่ นึกว่าจะถูกพวกคนทรยศจัดการไปแล้วเสียอีกน่ะ" นายกองสโตนอลกล่าวเมื่อเห็นหน้าเมคโซ่อยู่ในสะพานเดินเรือ
              "ฉันยังเร็วไปที่จะมาตายกันได้หรอกน่ะ" เมคโซ่กล่าวและหันมาถาม "ท่านเจเดน่าไม่เป็นไรใช่มั้ยละ"
              นายกองสโตนอลบอก "องค์รานีไม่เป็นอะไรมากหรอกน่ะ แค่เป็นห่วงนายก็เท่านั้นแหละ และหวังว่านายคงจะมีคำอธิบายในความล่าช้ากันบ้างน่ะ"
              "เข้าใจแล้วละ งั้นช่วยเปิดทางให้กองยานจากสมาพันธ์อวกาศเข้าไปได้แล้ว" เมคโซ่พูดอย่างจริงจัง นายกองสโตนอลพยักหน้าแล้วก็ "ครืนนนนนนนน" นำวอร์มูนที่อยู่ตรงหน้าออกห่างไป เพื่อให้ยานไฮด์เดาท์และยานไทรแองเกิ้ลแล่นลงสู่ดาวสโตนยอนกัน
              โดยหารู้ไม่ว่า "ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้วละครับ" ทหารสโตนอลตนหนึ่งติดต่อกับใครบางคนอย่างลับๆอยู่

    TriVeser Manigator Saga:Hyperstar Trooper ภาคแปดดารา
    ตอนที่ 3 ปฏิบัติการณ์ร็อคสแตมบิต บนดาวหินผาอันหนักหน่วง


              "ฟ้าววววววววววววว" ยานไทรแองเกิ้ลและยานไฮด์เดาท์แล่นผ่านชั้นบรรยากาศลงสู่ดาวสโตนยอนกันแล้ว "ว่าไงละ เห็นสภาพแวดล้อมบนดาวของฉันแล้ว คงจะทึ่งไม่น้อยละสิ" เมคโซ่บอก เมื่อยานลอยลำอยู่เหนือหุบเขาสูงใหญ่หลากหลายชั้น คละเคล้ากันไป โดยที่มีเมืองตั้งอยู่บนชั้นหุบเขาต่างๆกัน ซึ่งบางจุดมีป้อมปืนและป้อมมิไซล์ติดตั้งเอาไว้ด้วย
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าเราไม่แปลกใจกันหรอก เพราะว่าเราก็มีเมืองที่สร้างติดหุบเขากันไว้ด้วยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              "พวกนายสร้างเมืองแบบเดียวกับพวกเรากันเลยหรือ คงจะสร้างแล้วไม่คงทนแบบพวกเราเลยละสิ" เมคโซ่ถาม
              เนคมาดูซัมบอก "เราสร้างเฟิร์สฮิลล์ขึ้นมา จากการนำแพลทส่วนเมืองในเอ็กโซดัสอาร์ค ยานอวกาศขนาดใหญ่สำหรับเดินทางหาดาวดวงใหม่ในช่วงมหาสงครามกับจักรวรรดิ์แรซัลก้า มาติดตั้งไว้บนหุบเขา ซึ่งเราได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างด้านใต้ พร้อมกับสร้างระบบสาธารณูปโภคข้างใต้เมืองกันไว้ เพราะเขตหุบเขาที่เราใช้ตั้งพื้นที่เมืองแห่งแรกนั้น มันติดกับเขตทะเลทางตอนใต้กันน่ะ"
              "เราเลยมีระบบกลั่นกรองน้ำเสียจากครัวเรือนเอาไว้ก่อนจะส่งไปยังท้องทะเล แม้ว่าเราจะมีแหล่งน้ำธรรมชาติจากเขตป่าเขากัน แต่เราก็ต้องนึกถึงสภาพแวดล้อมด้านนอกเมืองกันด้วยน่ะ" พีวิลบอก
              เมคโซ่ถาม "แสดงว่าพวกนายเองก็ไม่อยากให้บ้านของพวกนายเองสกปรกและโสมมกันอย่างมากเลยสิน่ะ" แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "แต่ถ้าดาวของฉันเป็นแบบพวกนายบ้างก็คงดีละสิ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะนายต้องอยู่บนดาวที่มีสภาพแวดล้อมแย่ตลอดทั้งวัน จนผิวหนังของพวกนายเป็นเกล็ดหินเลยสิน่ะ" สเปียริทกล่าว
              เมคโซ่กล่าว "เปล่าเลย ที่ฉันและทุกคนบนดาวดวงนี้มีผิวแบบนั้น มันเป็นมาตั้งแต่เกิดแล้วนะสิ อีกอย่าง เรื่องที่ดาวของเรามีปัญหามลภาวะปกคลุมนั้น เพราะว่าโรงงานเกือบทุกแห่งบนดาวของเราไม่ยอมใช้ระบบกลั่นกรองไอเสียจากปล่องควันเลยนะสิ"
              "แอมเบอร์ ว่าแต่ ดาวดวงนี้ยังพอมีออกซิเจนให้หายใจกันบ้างมั้ยละ" แอนเดรียถาม
              แอมเบอร์บอก "แม้ว่าสภาพอากาศมีฝุ่นควันปนเปื้อนราว 30 เปอร์เซนต์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับคาร์บอนมอนออกไซด์อย่างละ 10 เปอร์เซนต์ แต่ยังมีก๊าซออกซิเจนในบริมาณมากพอที่จะหายใจได้นะคะ"
              "วางใจได้น่า สภาพอากาศบนดาวของเราสามารถหายใจได้อยู่แล้วน่า" เมคโซ่กล่าวอย่างวางใจ
              คลอเวฟบอก "ขอให้เป็นอย่างที่นายพูดมาเหอะน่ะ เพราะถ้าเราออกจากยานไปแล้วเจอพายุพัดจนยานเปรอะฝุ่นเกือบทั้งลำละก็ นายโดนแน่นอน"
              "ตอนนี้ นายเอายานไปจอดเทียบท่ากันดีกว่าน่ะ คลอเวฟ" เนคมาดูซัมกล่าวเตือน คลอเวฟพยักหน้า
              โดยตอนนี้ "หวือออออ ตรึงงงงง" ได้นำยานไทรแองเกิ้ลลงจอดเทียบท่าอวกาศยานในช่องอุโมงค์ของหุบเขาสูงใหญ่ยักษ์ ส่วนยานไฮด์เดาท์ก็จอดโดยแยกยานเดาท์เทรสออกไปกันแล้ว เมคโซ่จึงเดินนำเนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ พีวิล โคเซวิค เฟลิคและอิลมิคเดินไปตามทางของเมืองหลวงในหุบเขาสูง ตรงมายังราชวังที่มีเทวรูปเทพีแกะสลักด้วยหินประทับอยู่เบื้องบน
              "ผู้พิทักษ์เมคโซ่มากับตัวแทนของกองกำลังไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชกันแล้วละครับ" ทหารสโตนอลกล่าวต่อรานีเจเดร่า หญิงชาวสโตนอลผมสีเขียวในชุดเกาะอกเหล็กสีเงินมีกระโปรงยาวทำด้วยเหล็กสีดำนิลนั่งอยู่บนบัลลังก์ ซึ่งมีทหารสโตนอลหญิงสี่ตนเป็นองครักษ์กัน
              "ขออภัยด้วยนะครับ องค์รานี ถึงความล่าช้าของข้าพเจ้ากันนะครับ" เมคโซ่ก้มคุกเข่ากล่าวต่อรานีของตน 
              "ข้าทราบดี ว่าเจ้าต้องประสบปัญหากันขึ้นมา แม้ว่าปัญหาที่เจ้าเจอมานั้น จะมาจากการกระทำของเจ้ากันก็ตาม...." เจเดรน่ากล่าว แล้วก็ลุกขึ้นยืน "แต่ในเมื่อเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยได้ดีนั้น ข้าจึงรู้สึกวางใจได้บ้างน่ะ"
              "ในเมื่อท่านรานีวางใจเช่นนี้ ข้าพเจ้าก็รู้สึกโล่งใจกันบ้างนะครับ" เมคโซ่กล่าว
              เจเดร่าบอก "ถ้าไม่เพราะว่าเจ้าต้องโทษจากซีคเทมพลาร์มาก่อน ข้าคงได้สั่งให้ทหารควบคุมตัวเจ้าออกไปแก้ไขปัญหาภายนอกกันไปนานแล้วละ" แล้วก็เดินกลับมานั่งที่บัลลังก์กัน "พวกท่านคงจะเป็นกองกำลังไทรเวเซอร์จากระบบอีสทาล่าฟรอนเทียร์ และยูเนี่ยนพีชจากดาวสแคลลอนกันละสิน่ะ"
              "ใช่ ข้าพเจ้า โคเซวิค กริซเซน หัวหน้ากองกำลังยูเนี่ยนพีชจากสาธารณรัฐเอาท์เดนท์ พวกเรามานี้เพื่อไถ่โทษที่ไปขัดขวางภารกิจของผู้พิทักษ์เมคโซ่กันไว้นะครับ" โคเซวิคบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "ส่วนข้าพเจ้า เนคเกอร์ มาสซั่ม หัวหน้ากองกำลังไทรเวเซอร์จากกลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ พวกเรารับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในระบบดาวของพวกท่าน หลังจากที่ได้จัดการกับคนของท่านที่อยู่ในกลุ่มขบวนการก่อการร้ายที่คุกคามดาวของเรากันแล้วละครับ"
              "ข้าทราบมานานแล้วละ ว่าคนภายใต้การปกครองของข้าส่วนหนึ่งเข้ากับกลุ่มผู้ที่อยากจะเรียกมหันตภัยที่บรรพบุรุษของพวกเรา ขับไล่ออกไปให้กลับมานั้น จะก่อเรื่องกันในเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศไปแล้ว แต่ข้าต้องขอบใจในการขัดขวางแผนการของฝ่ายเดธซิลเวอร์พลาเนตของพวกท่านเนคเกอร์ และการแสดงความรับผิดชอบของพวกท่านโคเซวิคกันด้วย" เจเดร่ากล่าว แล้วก็พยักหน้าให้เมคโซ่ที่คุกเข่าอยู่ ลุกขึ้นยืนมา เพื่อเริ่มเข้าประเด็นหลัก "แต่ตอนนี้ ข้าจำต้องการความช่วยเหลือจากพวกท่านทั้งสองกอง ในการขัดขวางแผนการของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตบนดาวของข้ากันโดยเร็วที่สุดแล้วละ"
              เมคโซ่พยักหน้า แล้วทั้งหมดมาที่ห้องประชุมอันมีโต๊ะกลมสีเงิน โดยมีผนังถ้ำติดแผ่นเหล็กเอาไว้ "ท่านเจเดน่า ตอนที่ข้าพเจ้าไม่อยู่นิ เกิดเรื่องวุ่นวายที่ดาวของเรากันมากแค่ไหนละครับ" เมคโซ่ถามเข้าประเด็น โดยให้ตัวแทนทั้งสองกลุ่มมานั่งใกล้โต๊ะกลมแล้ว

              "ข้าบอกตามตรงน่ะ ว่าสถานการณ์นั้นไม่ค่อยดีเอาเสียเลยนะสิ" เจเดร่ากล่าว แล้วก็กดปุ่มแผนที่บนดาวที่เปลี่ยนจากทรงกลม คลี่ออกมาเป็นแผ่นเรียบกัน โดยระบุจุดแดงขึ้นบนแผนที่ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าจุดสีเขียวกัน "พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่แฝงตัวในดาวของเรานั้น ไม่เพียงเข้าจู่โจมเขตเมืองสำคัญๆ 20 กว่าแห่งตามจุดต่างๆของดาวของเราในช่วง 4 วันที่ผ่านมา แต่ยังยึดเขตโรงงานอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งผลิตทั้งพาหนะต่างๆ ไปจนถึงสตาร์ทรูปเปอร์และยานรบ รวมถึงเขตเหมืองแร่สำคัญๆอีก 24 แห่งด้วยกัน แม้ว่ากองรบของพวกเราพยายามไม่น้อยในการปกป้องเขตเมือง เขตโรงงานและเขตเหมืองแร่ที่หลงเหลืออยู่ จนขับไล่ฝ่ายตรงข้ามกันไปได้ก็ตาม แต่เรายิ่งสูญเสียกำลังรบลงไปมากขึ้น จากการที่พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตได้แรงสนับสนุนจากพวกต่างดาวฝั่งตะวันออกด้วยขุมกำลังรบแบบนี้แหละ" โดยเปิดภาพของหุ่นทรงหมี หุ่นหัวหมีติดปืนใหญ่และอาวุธหนัก รวมถึงหุ่นหัวนกและยานทรงนกกันด้วย
              "อุลไซน์ไดซ์และลาสแบรทของพวกบรูซาเรม อัสแทรมิคและวิงค์เซปเตอร์ของพวกอัลแทเรี่ยน นี้มันเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่น่ะ" อิลมิคบอก
              "นายคงไม่ได้คิดว่า พวกที่โผล่มานี้ เป็นพวกญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย หรือแม้กระทั่งศัตรูคู่อาฆาตอย่างงั้นละสิ" เมคโซ่บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ไม่หรอก บรูซาเรมเป็นหนึ่งในกลุ่มไตรภาคีแกรนด์ฮอร์ท ซึ่งเป็นปรปักษ์กับอัลแทเรี่ยนที่เป็นแกนนำของไตรภาคีอัลเทรแมทกัน จึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่ศัตรูสองกลุ่มจะรวมหัวกันได้น่ะ"
              "ข้าเกรงว่า มันเป็นไปแล้วนะสิ เพราะไม่ใช่แค่สองเผ่านี้ แต่สายลับของข้ายังเห็นกลุ่มต่างดาวมนุษย์หินส่วนหนึ่งที่โผล่มาพร้อมกับอีกสองเผ่านี้กันด้วยน่ะ" เจเดน่ากล่าว พร้อมกับนำภาพของมนุษย์ต่างดาวทรงหินและผลึกสีฟ้า มากับมนุษย์ต่างดาวแมวป่าและมนุษย์ต่างดาวแบบแมลงกันด้วย
              "ซีรีสตรัลรวมหัวกับพวกอินเซคเที่ยนและแมทเฟลิมกันเลยหรือ ทั้งๆที่สองพวกหลังนั้นเห็นพวกซีรีสตรัลที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอีบอนสโตนเครด ไตรภาคีกลุ่มที่สามที่ก่อสงครามกับสองไตรภาคีแรกไปแล้วนิ" โคเซวิคบอก
              "ถ้าพวกเขาขัดแย้งกันเองตามที่พวกท่านว่าไว้ ทางเราก็ต้องเห็นพวกที่อยู่ในภาพนี้ต่อกรกันเองไปนานแล้วละ" เจเดร่ากล่าว
              พีวิลบอก "แปลว่า ยังมีส่วนหนึ่งที่ไม่ได้เข้าร่วมในสงครามกลางอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนกันจริงๆ และดำเนินภารกิจในการเข้าครอบครองเขตอวกาศภาคกลางกันแน่ๆสิน่ะ" และหันมาถาม "แล้วฝ่ายเดลอาเนี่ยนที่สนับสนุนพวกเดธซิลเวอร์สตาร์นั้น มีกำลังอาวุธนอกเหนือจากนี้บ้างมั้ยละ"
              "เท่าที่สายลับของข้าเห็นมานั้น พวกรุกรานจากฝั่งตะวันออกขนเอาคอนเทนเนอร์ขนาดเล็กใหญ่ลงจากยานมา เพียงแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันน่ะ" เจเดน่าบอก
              โคเซวิคกล่าว "นั้นไม่ดีแล้วละ พวกมันนำเข้าอาวุธร้ายแรงจากเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนมาเช่นนี้ พวกมันคงคิดจะปิดเกมส์กันเสียแล้วละ"
              "แน่นอน เพราะพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตได้ส่งคนมาขโมยสตาร์โคลอสซัสจากพวกเทคนอตไป โดยตอนนี้ทีมติดตามของเทคนอตแจ้งกับฉันและผู้นำที่เหลือรับทราบไว้ ว่าพวกนั้นได้นำสตาร์โคลอสซัสหนีกลับเข้าดาวของพวกเรา โดยไม่ปรากฎยานอวกาศบินออกนอกดาวเทคโนตันเข้ามาในดาวของเราได้เลยนะสิ" เจเดร่าบอก
              เฟลิคกล่าว "พวกศัตรูขโมยหุ่นตัวโตไปจากดาวเทคนอตโดยไม่ได้หนีออกนอกดาวกัน แสดงว่าพวกมันนำหุ่นตัวโตหนีเข้าประตูมิติมาโผล่ในดาวกัน ซึ่งพวกเดลอาเนี่ยนคงไม่ยอมเสี่ยงถูกดวงจันทร์ปราการสอยร่วงก่อนเข้าไปในดาวได้แน่นอนน่ะ"
              "ใช่ และดาวดวงนี้เป็นดาวที่เต็มไปด้วยทรัพยากรแร่ธาตุอันมหาศาลอยู่ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ผู้รุกรานฝ่ายตะวันออกจะใช้ที่นี้ผลิตฐานกำลังรบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ่นรบขนาดใหญ่อย่างสตาร์โคลอสซัสนี้แหละ" เจเดร่ากล่าว
              เนคมาดูซัมกล่าว "นั้นคือเหตุผลสำคัญที่ต้องเรียกพวกเรามาที่ดาวดวงนี้ เพื่อขัดขวางพวกศัตรูให้ได้ก่อนสิน่ะ"
              "ถูกต้อง และที่แย่ไปกว่านั้นน่ะ เมคโซ่ ฉันเกรงว่า ศัตรูที่เจ้าตามหานั้น ยังอยู่ที่นี้กันนะสิ" เจเดร่ากล่าว เมคโซ่ได้ฟังก็ตกใจไม่น้อย เจเดร่าเลยเปิดภาพของบุรุษชาวสโตนอลผิวหินสีดำผมสีเหลืองมะกอกในชุดสีเงิน
              "ลอร์ดมันเทิร์ค นี้มันไม่ได้หนีไปอย่างงั้นเลยหรือ" เมคโซ่สบถ
              "ลอร์ดมันเทิร์คไม่ได้หนีออกจากดาวพร้อมกับพวกที่รุกรานเขตอวกาศฝ่ายสมาพันธ์กันอย่างที่นายคิดหรอก แต่เขากบดานอยู่ที่ดาวนี้มาตลอด และเป็นผู้ติดต่อกับพวกรุกรานจากฝั่งตะวันออกให้มากบดานที่ดาว พร้อมกับนำพวกสโตนอคในกลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเนตก่อความเดือดร้อนบนดาวในช่วงที่นายไม่อยู่ ซึ่งฉันพยายามเตือนนายไปหลายที นายก็ไม่ฟังเลยน่ะ" เจเดร่าบอก เมคโซ่ถึงกับโมโหไม่น้อย
              พีวิลถาม "ลอร์ดมันเทิร์คที่ท่านว่ามานั้น คงไม่ใช่คนที่...."
              "....มันเทิร์คสังหารน้องชายของเมคโซ่ทิ้ง หลังจากที่น้องชายของเมคโซ่จัดการกับเพื่อนของมันเทิร์ค ที่พยายามจะค้าอาวุธให้กับพวกโจรสลัดในเขตอวกาศนี้ ด้วยการเอาไปคุมขังในคุกเหว หลังจากที่น้องของเมคโซ่ตาย เมคโซ่พยายามจะตามล่าเอาตัวมันเทิร์คมาลงโทษ ซึ่งมันเทิร์คหลบหนีไปได้ทุกครั้ง เพราะมันเทิร์ครู้ทางหนีทีไล่ภายในดาวดวงนี้เป็นอย่างดี และมีพวกพ้องสนับสนุนอยู่เยอะ ซึ่งล้วนแล้วเป็นพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันทั้งนั้น" เจเดร่ากล่าว "แน่นอน ว่าเขาพร้อมที่จะทวงบัลลังก์นี้กลับมากันอีกครั้ง ซึ่งฉันยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาดเลยน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "อย่าบอกน่ะ ว่ามันเทิร์คนั้นก่อกบฎต่อท่านเลยสิน่ะ"

              "ใช่ มันเทิร์คเป็นบุตรชายของลอร์ดแมนทรัลที่ 34 ผู้ปกครองดั่งเดิมของดาวหินแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับบรรพบุรุษชาวเทคนอตกัน เพราะเขาคิดว่าตนแข็งแกร่งกว่าจากการมีแหล่งแร่ธาตุอันมหาศาลอยู่ทั่วทุกมุมของดาว มีขุมกำลังที่แข็งแกร่งจากแร่ธาตุที่ขุดมารวมถึงมีดวงจันทร์สงครามอยู่ไม่น้อย เลยไม่ยอมรับในความช่วยเหลือจากบรรพบุรุษชาวเทคนอตกัน จนกระทั่งพวกมหาดารามรณะส่งกองรบมา ซึ่งสังหารเหล่าทหารที่แข็งแกร่งลงไปครึ่งหนึ่ง แมนทรัลรุ่นแรกสู้แต่ก็พ่ายแพ้ จนบรรพบุรุษของฉันและเมคโซ่ พาพวกเข้ามาขับไล่พวกศัตรูกลับไป โดยที่บรรพบุรุษของฉัน ซึ่งเป็นผู้ปลุกขวัญกำลังใจเหล่าทหารในช่วงนั้นให้ฮึดสู้ขึ้นมา ได้รับการแต่งตั้งเป็นรานีปกครองดาวมาหลายรุ่นด้วยกัน ส่วนแมนทรัลรุ่นแรกก็เสียชีวิตลง โดยที่ลูกชายของเขาที่เหลือรอดมานั้น ได้สาบานว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อทวงบัลลังก์กลับมา แน่นอน ว่าเหล่าบรรพบุรุษของพวกเราขัดขวางแผนการของลูกหลานของแมนทรัลมาหลายต่อหลายครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะแมนทรัลที่ 34 ตั้งใจจะขึ้นตนเองเป็นผู้นำกลุ่มดาว และอยู่เหนือพวกเทคนอตกันอีกด้วยน่ะ" เจเดร่ากล่าว
              เมคโซ่กล่าว "และมันก็ได้แรงสนับสนุนจากพวกชนเผ่าจากฝั่งตะวันออกเช่นนี้ ท่านเจเดร่า อนุมัติให้ข้าพเจ้าออกไป...."
              "เมคโซ่ ฉันเข้าใจในความรู้สึกของเจ้าดี แต่....เรื่องนี้มันมิใช่ปัญหาของเจ้าเพียงผู้เดียว แต่เป็นปัญหาของชาวสโตนอลภายใต้การปกครองของข้าด้วย" เจเดร่ากล่าวห้ามเมคโซ่เอาไว้ "ที่สำคัญ ฉันไม่อยากให้เจ้ารีบร้อนจนพลาดพลั้งให้กับมันเทิร์คกันได้ ดังนั้น ฉันจึงต้องให้พวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชรับผิดชอบในเรื่องนี้แล้วกันน่ะ" เมคโซ่ได้ฟังก็ไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะขัดคำสั่งกัน
    เนคมาดูซัมถาม "ว่าแต่ พอมีข้อมูลของฐานทัพและสถานที่สำคัญที่อยู่ในกำมือของพวกมันเทิร์คกันมั้ยละครับ"
              "มีอยู่แล้วละ และหวังว่าพวกคุณคงจะวางแผนด้านกลยุทธ์เอาไว้ เพราะลอร์ดมันเทิร์คและพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตชำนาญในพื้นที่นี้เป็นอย่างดีเลยน่ะ" เจเดร่ากล่าว แล้วก็ให้ข้อมูลของสถานที่ต่างๆไว้ กับพวกเนคมาดูซัม และพวกโคเซวิคกัน โดยที่เมคโซ่ได้ฟังก็ไม่กล้าโต้เถียงกันต่อ
              "ฉันบอกได้ตามตรงน่ะ ว่าเมคโซ่มันหัวร้อนกว่าที่คิดไว้เลยน่ะ" อิลมิคบอก
              "แน่ละ เพราะว่าเขามารู้เอาในภายหลัง ว่าศัตรูที่เขาคิดว่าได้หนีออกนอกดาวไปนั้น ยังไม่ได้ไปไหนไกลเลย แถมยังก่อความเดือดร้อนกันอีกด้วยน่ะ" พีวิลบอก
              โคเซวิคบอก "ใช่ แถมไอ้ลอร์ดมันเทิร์คนั้น ไม่เพียงใช้บริการลูกสมุนของมันที่เข้ากับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตเข้าจู่โจมเขตเมือง เขตเหมืองแร่และสถานที่สำคัญจนยึดไปเป็นของมันไม่ว่า มันยังสมคบกับพวกเดลอาเนี่ยน จนได้แรงสนับสนุนในการบุกจู่โจมกันอีกด้วย ซึ่งเรายอมให้มันเกิดขึ้นไปไม่ได้เด็ดขาด"
              "งานนี้ เราต้องรีบหยุดยั้งพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตให้ได้โดยเร็วที่สุดกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เฟลิคกล่าว "แต่ยังไงเสีย นายกับพวกเองก็ต้องรอบคอบกันไว้น่ะ เพราะ....พวกนายเคยปฏิบัติการณ์ล้มเหลวมาถึง 5 ครั้งด้วยกัน แม้จะไม่ได้มาจากพวกเดลอาเนี่ยนเลยน่ะ"
              "ใช่ เพราะว่าพวกเราเอาเวลาหมดไปกับการทำรายการตลก แถมยังใช้เวลาหมดไปกับการซ้อมเพื่อเข้าแข่งขันสามรายการใหญ่ๆกัน จนทำให้พวกเราปฏิบัติการณ์ได้ไม่เต็มที่ถึง 5 ครั้ง ซึ่งนายพลเพอซิอัสตำหนิพวกเราและแนะนำให้พวกเราตัดบางอย่างที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้เราโฟกัสไปที่งานหลักกันเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งการหยุดพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตบนดาวของเราไม่ให้เรียกดาวมรณะออกมาได้นั้น ก็คือการแก้ตัวที่ประสบความสำเร็จนี้แหละ" พีวิลบอก "แล้วพวกนายไม่มีแผนการมารองรับเลยหรือ"
              อิลมิคถาม "พวกเราสมควรจะถามคำถามนั้นกับพวกนายซะมากกว่าน่ะ"
              "ตอนนี้ ทางเราต้องเตรียมการไว้ให้พร้อมเสียก่อนน่ะ เพราะพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่เป็นชาวสโตนอลนั้น มีพวกเดลอาเนี่ยนหนุนนำกันด้วยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              "แน่ละ ภารกิจแรกบนดาวของเราเองก็ดันอยู่ห่างจากทิศตะวันออกเฉียงใต้จากนี้ไปอีก 60 กิโลเมตร ซึ่งเป็นค่ายทหารขนาดย่อมที่ถูกยึดไปเมื่อวานซืนกัน ถ้าพวกศัตรูบุกเข้ามา นั้นหมายถึงพวกเราเจองานเข้าก่อนแน่นอน" โคเซวิคกบอก
              "ถ้าเช่นนั้น เราคงต้องเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจกันแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เฟลิคบอก "แน่นอน ว่าพวกนายคงไม่ยอมให้รานีต้องสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติการณ์ของพวกเรากันบ้างน่ะ"

              "สรุปคือ เราจะเริ่มแผนปฏิบัติการณ์กันในวันพรุ่งนี้ละสิน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก เมื่อเนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์และพีวิลกลับมาที่ยานกันแล้ว
               เนคมาดูซัมพยักหน้า "ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เราจะเริ่มภารกิจกันในวันพรุ่งนี้เองแหละ ซึ่งงานนี้เราไม่ควรจะพลาดกันตั้งแต่เริ่มต้นเลยน่ะ"
              "แต่พวกเดลอาเนี่ยนหนุนนำพวกกบฎสโตนอลกันนิ เราจะรับมือไหวเลยหรือคะ" แอนเดรียกล่าว
              ไซโคลเนียกล่าว "อย่าห่วงไปเลยน่า แค่ฉันนำยานเพริบาทรอสบินหลบป้อมปืนเข้าไปซะ ทุกอย่างก็ง่ายแล้วละ"
              "เกรงว่ามันไม่ง่ายกันนะสิ ไซโคลเนีย" เนคมาดูซัมบอก แล้วก็เปิดแผนที่โฮโลแกรมรอบหุบเขากัน "ค่ายทหารสามแห่งนั้น ล้วนแล้วมีระบบป้องกันการบุกจากอากาศยานกันไว้ ด้วยป้อมปืนพัลเซอร์ที่ยิงเร็วกว่าป้อมปืนปกติของยานเรา รวมถึงเรดาห์ของชาวสโตนอลที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถตรวจจับยานหรือพวกศัตรูที่อำพรางตัวเข้ามาได้ชัดเจนกันด้วย ซึ่งยากแก่การนำเพริบาทรอสบินเข้าไปได้น่ะ"
              สเตฟอร์ดบอก "และพวกเดลอาเนี่ยนเองก็เข้ามาเกี่ยวด้วย เท่ากับว่าพวกมันก็มีวอร์บอทเตรียมรอเราไว้เลยสิน่ะ"
              "ใช่ ดังนั้น เราต้องวางแผนกันอย่างรัดกุมและลดความเสียหายให้น้อยที่สุด เพราะฝ่ายตรงข้ามมันมีตัวประกันเอาไว้กันน่ะ" พีวิลบอก
              คลอเวฟกล่าว "หวังว่าพวกยูเนี่ยนพีชคงจะไม่หาเรื่องถล่มค่ายจนบีบให้พวกเดลอาเนี่ยนเชือดนักโทษเดี้ยงไปหมดกันบ้างน่า"
              "ว่าแต่ ในช่วงที่พวกลูกพี่ปลอมเป็นกลุ่มนักล่าเงินรางวัลในเขตอวกาศภาคกลางกันนิ คงไม่ได้ออกไปติดตามหาขุมทรัพย์ในอวกาศกันเลยละสิ" เจเนลถาม
              โฟรซ่าส่ายหน้า "ถ้ามันมีจริง เราคงไม่ต้องมาปลอมเป็นกลุ่มนักล่าเงินรางวัลเพื่อรวบรวมข้อมูลให้พวกนายกันได้หรอกน่ะ อีกอย่าง ถึงเราจะหาลายแทงขุมทรัพย์แล้วติดตามไปจนเจอนั้น เกรงว่าเจ้าของที่แท้จริงคงไม่ยอมให้เราเอามหาสมบัติออกไปได้หรอกน่ะ"
              "เจ้าของที่แท้จริงนะหรือคะ คุณโฟรซ่า" แอนเดรียบอก โฟรซ่าพยักหน้า
              สเตฟอร์ดบอก "ที่จริง ฉันควรจะเล่าให้พวกนายฟังตั้งแต่อยู่ที่ดาวเทคนอตกันแล้วน่ะ ว่านอกเหนือจากกลุ่มเอทพลาเนสแล้ว ในเขตอวกาศนั้นมีองค์กรชั่วร้าย กลุ่มกองโจรปล้นสะดม โจรสลัดอวกาศ ไปจนถึงกลุ่มก่อความไม่สงบอีกหลายสิบหลายร้อยกลุ่มกันด้วยน่ะ"
              "นั้นไม่แปลกใจหรอก ที่ซาบัลท์และซาเบล่าพาพวกเพชรฆาตห้าสีออกติดตามหากองยานบุกเบิกที่เข้ามาในเขตอวกาศแห่งนี้ แล้วดันเจอพวกศัตรูจนทำให้ทั้งสองกลุ่มหลุดออกนอกเส้นทางจนไปจบที่เขตอวกาศของพวกเดลอาเนี่ยนเมื่อ 3 ปีก่อนกันแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              ฟิเกซบอก "แต่กลุ่มโจรสลัดที่เป็นเจ้าของขุมทรัพย์อันมหาศาลนี้ ถือว่าเป็นตัวเป้งที่น่าเกรงขามอย่างมาก อย่าว่าแต่พวกนักล่าเงินรางวัลที่เป็นเจ้าถิ่นในเขตอวกาศนี้ไม่กล้าเข้าใกล้ พวกกองโจรที่พวกเราเจอและจับตัวมานั้น ล้วนกลัวเกรงพวกโจรสลัดนี้ บางกลุ่มเอง ยังแช่งให้พวกเราเจอกับพวกนั้นแล้วประสบกับความวายวอดไปด้วยน่ะ"

              "แล้วไอ้กลุ่มโจรสลัดอวกาศที่น่าเกรงขามที่ว่านิ มันเป็นใครกันวะ" คลอเวฟถาม
              สเตฟอร์ดบอก "กลุ่มโจรสลัดลึกลับ กรัมสกิซ มีคำเล่าลือมาว่า กลุ่มโจรสลัดอวกาศเหล่านี้ มีชื่อเสียงน่าเกรงขามอย่างมาก จากการต่อกรกับโจรก๊กต่างๆในเขตอวกาศภาคกลางกัน ตั้งแต่กลุ่มเล็กๆเพียงแค่สิบตน ไปจนถึงกลุ่มองค์กรโจรสลัดขนาดใหญ่จนกำชัยชนะมาหลายต่อหลายครั้ง จนมีเหล่านักล่าเงินรางวัลและกลุ่มต่อสู้ต่างๆ ทั้งในและนอกเขตอวกาศภาคกลางเข้ามาท้าทายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าพวกนั้นไม่โดนโค่นจนหมดเกลี้ยง ก็ต้องมีผู้รอดตายเพียง 2-3 ตนที่รอดกลับมา ถ้าไม่พิการก็ปางตายกัน อีกทั้งยังปล้นพวกคนร่ำรวย พวกพ่อค้าพาณิชย์ที่อยู่ในเขตอวกาศนี้หรือพวกนอกเขตที่หลงทิศเข้ามา ได้ทรัพย์สินมาครอบครองไว้เป็นจำนวนมาก โดยเอาไปไว้ตามระบบดาวในเขตนี้กัน แน่นอน ว่าพวกนักล่ามหาสมบัติที่คิดจะได้สมบัติจากพวกกรัมสกิซนั้น ล้วนแล้วต้องลงเอยด้วยการเป็นผีเฝ้าทรัพย์กันทั้งนั้นแหละ เพราะกรัมสกิซวางกับดักเอาไว้ในที่ซ่อนสมบัติกันทุกแห่งด้วยกัน"
              "แสดงว่า ในเขตอวกาศภาคกลางเอง ไม่มีเผ่าไหนไม่รู้จักกับไอ้กรัมสกิซที่ว่านั้นเลยสิน่ะ" เจเนลกล่าว
              ไซโคลเนียพยักหน้า "ฉันลองถามเด็กต่างดาวที่อยู่ในระบบดาวแห่งหนึ่งถึงชื่อนี้ปุ๊บ เท่านั้นแหละ เด็กกลัวจนร้องไห้ยกใหญ่ แถมยังมีบางตนที่ฉี่ราดด้วยน่ะ"
              "สงสัยว่าพ่อแม่คงจะใช้ชื่อโจรสลัดเหล่านี้ขู่เด็กได้สนิทเลยสิ" สเปียริทบอก และหันมาถาม "แล้วพวกกรัมสกิซนิ หน้าตาเป็นยังไงกันหรือ"
              โฟรซ่าส่ายหน้า "นั้นแหละคือ ปริศนาต้องห้ามระดับสุดยอดของพวกกรัมสกิซกัน เพราะขนาดมีพวกโจรสลัดในกลุ่มของพวกนั้น อยากจะรู้ว่าตัวนายใหญ่ มีโฉมหน้าเป็นเช่นไร เลยบุกเข้าไปหา จากนั้นในเวลาต่อมา พวกที่อยากรู้กลายเป็นศพเละไม่สวยกัน ซึ่งบ่งบอกได้ว่า โทษของการสอดรู้สอดเห็นนั้นให้ข้อสรุปเช่นไร แน่นอน ว่านอกกลุ่มเองที่พยายามจะสืบเรื่องของพวกกรัมสกิซ ล้วนจบในสภาพศพไม่สวยหรือตายแบบไม่เหลือเศษซากเลยละ"
              "ที่รุ่นพี่โฟรน่าว่ามานิ คงเป็นเรื่องจริงเลยสิครับ" พีวิลบอก
              สเตฟอร์ดพยักหน้า "นักล่าเงินรางวัลกลุ่มที่เคยร่วมงานกับเรา เคยแนะนำเอาไว้ ว่าอยากจะอยู่ในเขตอวกาศนี้ต่อไปได้นานๆ อย่าคิดริอาจล่วงรู้ความลับของพวกกรัมสกิซ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โฉมหน้าที่แท้จริงของตัวหัวหน้าใหญ่ ซึ่งไม่มีใครหน้าไหนเห็นหน้าตัวหัวหน้าโจรสลัดชื่อเดียวกันกับชื่อกลุ่มนี้มานานแสนนานมากแล้ว แน่นอน ว่ารวมถึงการห้ามเข้าไปยุ่งเรื่องของพวกกรัมสกิซกันด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่า พวกนี้มีหน้าตาเป็นเช่นไรนะสิ"
              "เพราะใครก็ตามที่เห็นหน้าหรือเจอกับพวกกรัมสกิซ ล้วนไม่ได้มีชีวิตกลับไปเลยสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              ฟิเกซพยักหน้าแล้วก็บอกว่า "ดังนั้น ฉันจึงอยากจะให้พวกนายรีบเตือนพวกเฮเรเค้นที่อาจจะได้ยินข่าวนี้กันไว้ เพราะ คงไม่ดีแน่ หากพวกกรัมสกิซรู้ว่า กองกำลังหัวหอกของฝ่ายสหพันธมิตร ซึ่งพิชิตกองรบมหาจักรวรรดิ์เดลอาเนี่ยน และโค่นแม่ทัพใหญ่บูเรนนอฟที่น่าเกรงขามจนทำให้เดลมูดัลสิ้นพระชนม์นั้น ตามหาพวกนั้นกันอยู่นะสิ"
              "ยิ่งตอนนี้ เราเจอสถานการณ์ที่พวกเดลอาเนี่ยนจะยึดระบบดาวนี้ได้ทุกเมื่อนั้น มันไม่ใช่เวลาที่เราจะออกผจญภัยกันเสียด้วยน่ะ" พีวิลบอก
              แอบไบออสบอก "ร้อยเอกพูดถูกแล้วละ สำคัญในตอนนี้ก็คือ ไล่พวกเดลอาเนี่ยนออกไปจากระบบดาวทั้งแปดดวง หยุดพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตไม่ให้เรียกดาวมรณะออกมากันได้เสียก่อน เรื่องอื่นนั้นถือเป็นประเด็นรองกันน่ะ"

              "เออ ขอขัดจังหวะได้มั้ยละคะ คือว่า พวกไทรเมร่ารู้เรื่องกลุ่มโจรสลัดตัวเป้งกันแล้วคะ" แอมเบอร์บอก
              เมนซิกส์ทีนได้ฟังก็สะดุ้งขึ้น จิลบอก "แอมเบอร์ ขอดูหน่อยได้มั้ย ว่าพวกไหนรู้เรื่องพวกกรัมสกิซกันน่ะ"
              "จัดให้คะ" แอมเบอร์บอก แล้วก็เปิดภาพของพวกไทรเมร่ากัน
              "โว้ว ไม่ยักกะรู้นะเนี้ย ว่าในเขตอวกาศนี้ มีกลุ่มโจรสลัดอวกาศโคตรเก๋าที่สุดกันด้วยหรือเนี้ย ชักอยากจะเจอแล้วละสิ" ไลเอิร์ทบอก โดยที่เขากับพวกไรแกทมาดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ที่ห้องคอมสำหรับวางแผน
              "แต่ กลุ่มโจรสลัดเหล่านี้ มันขี้อายหรือเปล่าเนี้ย ถึงได้ไม่อยากให้ใครรู้โฉมหน้าของพวกนี้ รวมถึงตัวนายใหญ่กันเลยน่ะ" แบร็อคบอก
              ฟลาแน็กซ์กล่าว "แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ล้อเล่นกันน่ะ เพราะขนาดมีสมาชิกในกลุ่มที่อยากจะรู้เหมือนกับพวกนายเอง ยังโดนเชือดจนศพแหลกไม่เป็นชิ้นดีกันด้วย แถมบางรายเอง ก็ถูกส่งไปตายในที่แปลก อย่างจับโยนลงลาวาบ้าง ดีดส่งพระอาทิตย์บ้าง เอาไปให้ฝนอุกกาบาตบดขยี้ หรือที่แย่ที่สุด นั้นคือโยนลงหลุมดำก็ยังมีเลยน่า"
              "ช่างประไรสิ นั้นยิ่งทำให้พวกเราเกิดอยากท้าทายกันมากขึ้นไปอีกนี้แหละ" เทรอนเร็กซ์กล่าวอย่างไม่สนใจ "เอ้ โจรสลัดตัวหัวหน้าของกลุ่มกรัมสกิซอะไรนั้น น่าจะเป็น ตาแก่หนวดขาวที่ยาวเฟื้อย ถือดาบทรงโตที่ผ่าเรือรบลำโตขาดบ้างมั้ยน่า"
              มัลแด็กซ์กล่าว "มันก็จริงอยู่น่า ที่หัวหน้าโจรสลัดนี้ แข็งแกร่งและทรงพลังอย่างมากจนปราบโจรก๊กอื่นทั้งน้อยใหญ่ในเขตอวกาศนี้ให้ราบเป็นหน้ากองกันอยู่แล้ว แต่ ไอ้ตรงที่มีดาบโตผ่าเรือรบลำเป้งขาดนิ มันไม่ตรงกับรูปประพันธ์ที่นายว่ามาเลยน่ะ"
              "ก็กูคิดแบบนี้เอง แล้วจะทำไมละ" เทรอนเร็กซ์อ้าง
              ชาร์เครฟบอก "ฉันคิดว่า ไอ้หัวหน้าโจรสลัดนั้น ตัวเป็นยาง สวมเสื้อกั้กสีแดงสลับเหลือง สวมหมวกฟาง มีเพื่อนหน้าตาแปลกๆ มีเรือหัวเสือติดพระอาทิตย์กันด้วยน่ะ"
              "ที่ว่ามาเพื่อนเป็นนักดาบจอมหลงทาง มีกุ๊กขาดำขี้หลี มีต้นหนสาวผมสีส้มสุดโกง มีพลปืนจมูกยาวช่างประดิษฐ์ มีหมอเป็นกวางเรนเดียร์แปลงร่างได้ มีนักศึกษาที่งอกแขนขาออกจากตัว มีนักดนตรีเป็นผีโครงกระดูก และมีช่างซ่อมเรือเป็นไซบอร์คสวมกางเกงว่ายน้ำอย่างงั้นใช่มั้ยละ ไอ้หลาม" เรฟไซท์บอก "กูว่า มึงหยุดอ่านการ์ตูนนั้นเป็นถาวรจะดีกว่าน่ะ เพราะมึงบรรยายได้ชัดเจนมากเลยวะ"
              ไลเอิร์ทบอก "ที่ถูกควรจะเป็นมึงซะมากกว่าน่ะ"
              "เกรงว่าหัวหน้าโจรสลัดนั้น น่าจะเป็นบุรุษชุดแดงที่มีอาวุธสุดเทพที่ยิงลำแสงเลี้ยวโค้งไปได้ตามใจนึกกันนี้แหละ" เฮเรเค้นบอก
              ไลเอิร์ทกล่าว "แล้วโจรสลัดนั้นมีคู่หูเป็นแอนดรอยหญิงตัวดำๆ ปราบโจรสลัดมนุษย์แก้วที่มีแขนเป็นตะขอด้วยหมัดจรวดแขนเทียมใช่มั้ยละ มึงก็เหมือนชาร์เครฟกับเรฟไซท์กันดีๆแหละว้า"
              "แล้วนายละ ไลเอิร์ท เห็นเอาแต่ว่าชาร์เครฟ เรฟไซท์และเฮเรเค้น เรื่องโฉมหน้าหัวหน้าโจรสลัดกันนิ นายคิดว่าหัวหน้าโจรสลัดควรมีหน้าตาเป็นเช่นไรกันน่ะ" มัลแด็กซ์บอก
              ไลเอิร์ทกล่าว "ของฉันน่ะ ง่ายๆเลย หัวหน้าโจรสลัดผู้นี้ เป็นชายหนุ่มผมยาว มีรอยแผลเป็นลากยาวจากตาซ้าย สวมชุดโจรสลัดสีดำ เป็นเจ้าของเรือรบลำสีเขียวที่มีหัวกระโหลกติดบนหัวยาน สร้างโดยเพื่อนตัวเตี้ยที่เป็นแฟนกับโจรสลัดสาวในชุดแดง ที่มียานเป็นเรือโจรสลัดผสมกับเรือเหาะเซปเปรินสีน้ำเงินกันน่ะ"
              "แล้วโจรสลัดสาวก็เป็นพี่สาวของนักเดินทางหญิงในชุดสีดำกับหมวกทรงสูง นั่งรถไฟอวกาศสาย***ไปทั่วจักรวาลกันอย่างงั้นละสิน่ะ" เรฟไซท์บอก ไลเอิร์ทได้ฟังก็ยิ้มแหยงๆ
              เฮเรเค้นบอกอย่างไม่สบอารมณ์ "ว่าแต่เขา อีเหนาเป็นซะเองมั้ยละ ไอ้แมวหง่าว"
              "บอกตรงๆน่ะ ตอนนี้อยากจะริบแพดของพวกเฮเรเค้นมาปิดแอ๊ปอ่านการ์ตูนออนไลน์ลงกันเสียแล้วละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              คลอเวฟบอก "ที่พวกเฮเรเค้นอ้างอิงมานิ ตัวละครในการ์ตูนของบ้านนายในช่วงศตวรรษที่ 20 กันทั้งน่านเลยน่ะ"
              "เราต้องหยุดพวกเฮเรเค้นกันโดยเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะหาเรื่องหนีออกนอกยานกันได้นะคะ" แอนเดรียบอก
    สเปียริทกล่าว "แถมจะไปโดยที่เรามีเรื่องยุ่งแบบนี้ คงให้ไปไหนไม่ได้แล้วละ"
              "แอมเบอร์ ล็อกประตูห้องคอมเอาไว้ พีวิล สเปียริท แอนเดรีย ตามฉันมา ถึงเวลาที่จะต้องลงโทษพวกสอดยุ่งไม่เข้าเรื่องกันแล้ว" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วพาพีวิล สเปียริท แอนเดรียออกไปจากห้องประชุม ลงมายังห้องคอมวางแผนงานโดยเร็ว

              "พวกนายคงไม่คิดจะแอบออกไปจากยาน แล้วออกตามหากลุ่มโจรสลัดกันงั้นสิ" ฟลาแน็กซ์ถาม โดยที่ยังไม่รู้ว่าพวกมาสวาร์ทาร์มาถึงห้องแล้ว
              "แล้วเราจะอยู่ในยานโดยไม่ได้ออกไปรบกันเลยหรือ ไม่ดีหรอกมั่ง ให้พวกเราออกไปผจญภัยกันเสียบ้างก็ยังดีน่ะ" เทรอนเร็กซ์บอก
              เฮเรเค้นกล่าว "อย่างน้อย นั้นเป็นการพิสูจน์ว่า หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดที่ว่าน่าเกรงขามนั้น หน้าตาจะเป็นเช่นไรกันนะสิ"
              "แล้วไม่กลัวว่า พวกอาจารย์จะรู้หรือ ในเมื่อแอมเบอร์เองก็น่าจะมองเราอยู่น่ะ" มัลแด็กซ์บอก
              ไลเอิร์ทบอก "วางใจเหอะน่า อาจารย์กับพวกคงไม่ว่างมายุ่งเรื่องพวกเรากัน...." ไม่ทันไรก็ "ครืดดดด" ประตูเปิด มาสวาร์ทาร์ แอนเดรีย พีวิลและสเปียริทยืนอยู่ตรงหน้าพอดี "ได้หรอกน่ะ จริงมั้ยละ พวก...." ไลเอิร์ทกล่าว พอหันหน้ามาก็ถึงกับสะดุ้งโหย่งขึ้น หลังจากที่เทรอนเร็กซ์ ชาร์เครฟ เฮเรเค้น พาแรม พาลกีส และเรฟไซท์สะดุ้งไปก่อนหน้าแล้ว
              "เออ อรุณสวัสดิ์ครับ อาจารย์" เฮเรเค้นบอก โดยพยายามจะเดินผ่าน แต่... "โป้งงงง" มาสวาร์ทาร์หวดพัดกระดาษลงหัวเฮเรเค้นทันที
              "หวังว่าพวกเธอคงจะเข้าใจกันบ้างน่ะ ว่าความพยายามจะสอดรู้สอดเห็นเรื่องของกลุ่มโจรสลัดที่น่ากลัวที่สุดในแถบนี้ มันไม่ได้ให้อะไรไปมากกว่าการที่พวกเธอหายสาปสูญเป็นการถาวรเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าวกับพวกไทรเมร่าที่เหลืออยู่ในห้องพร้อมกับเนคกี้และเนคกัส ส่วนพวกเฮเรเค้นที่พยายามจะออกจากห้อง โดนจับยืนขาเดียวพร้อมกับสวมหมวกทรงกรวยขาวไว้ด้วย
              "แสดงว่าพวกนั้นโหดจริงอย่างที่พี่ฟลาแน็กซ์ว่าไว้เลยสิครับ" อีคกริทถาม
              โฟรซ่าพยักหน้า "ต่อให้เรื่องนี้เป็นแค่คำเล่าลือที่ไม่มีมูล แต่เรื่องนี้ไม่เชื่อก็อย่าได้ท้าทายกันได้เป็นอันขาดเลยน่ะ แม้ฉันกับพวกเองก็อยากจะรู้อยู่เต็มอกแล้ว แต่ถ้ารู้และทำแบบพวกเธอ แล้วไม่รอดกลับมากันเลยนั้น สู้พวกเรามาจัดการกับพวกเดลอาเนี่ยนและพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันดีกว่า"
              "แม้กระทั่งเรื่องเสาะหาขุมทรัพย์ของพวกกรัมสกิซกันด้วย นั้นก็เป็นเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสียกันเลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              ดิเรนท์กล่าว "แล้วถ้าเกิดว่า พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น ได้แรงสนับสนุนจากพวกโจรสลัดเหล่านั้นขึ้นมาละคะ...จะว่ายังไง"
              "..............." พวกเมนซิกส์ทีนในห้องถึงกับพูดไม่ออก ลิเนียร์ตี้บอก "เราคงได้แค่หวังว่า พวกสโตนอคที่อยู่ฝ่ายเดธซิลเวอร์พลาเนต ใช้บริการจากเหล่าโจรสลัดก๊กอื่นมากกว่าจะเป็นพวกกรัมสกิซกันนะจ๊ะ" เนคกี้บอก "ขอให้เป็นเช่นนั้นจริงๆนะคะ คุณลิเนียร์ตี้ เพราะตอนนี้พวกเรากับพวกยูเนี่ยนพีช ต่างอยู่ในถิ่นของพวกกรัมสกิซไปแล้วนะคะ"
              "เนคกี้พูดตรงประเด็นเลยละ เพราะในเขตอวกาศนี้ ส่วนมากล้วนอยู่ในเขตอิทธิพลของพวกกรัมสกิซกันทั้งนั้นน่ะ" ฟิเกซกล่าว
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "เราคงเลี่ยงไม่ได้แล้วในการปะทะกับกลุ่มโจรสลัดที่น่าเกรงขามที่สุดกันเลยน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ พวกเราไม่ทราบหน้าค่าตาของพวกโจรสลัดเหล่านี้มาก่อนเลยสิครับ" บีทเทมบอก
              วูลเฟลล่ากล่าว "แบบนั้นก็แย่กันพอดีละสิคะ ถ้าอยู่ๆ พวกเราดันไปเล่นงานคนของกลุ่มโจรสลัดนั้นขึ้นมา แล้วมีพวกนั้นโผล่มาล้อมพวกเรากันทั้งบางแล้วน่ะ"
              "ใจเย็นก่อน วูลเฟลล่า ตอนนี้อย่าไปกลัวเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจะดีกว่าน่ะ" แอนเดรียปลอบใจไว้
              มาสวาร์ทาร์บอก "เพราะเรามีภารกิจในการหยุดยั้งพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตและพวกเดลอาเนี่ยนบนดาวดวงนี้ เป็นประเด็นหลักกันก่อนนี้แหละ"
              "คิดว่าพวกคุณโคเซวิค จะรู้เรื่องนี้กัน แล้วหาเรื่องออกไปนอกดาวกันหรือเปล่าละ" แบร็อคถาม
              คลอเวฟบอก "ถึงเธอไม่ถาม พวกเราก็จะไปถามไอ้หมีควายหมวกแดงกันอยู่แล้วละ"
              "เมื่อกี้นี้ นายว่าฉันหรือหา คุณกัปตันทีมหุ่นกระป๋อง" ไม่ทันไรกระดานไวท์บอร์ดเปลี่ยนเป็นภาพโคเซวิคกันทันที จนทำเอาคลอเวฟสะดุ้งอย่างจังๆ "ว่าแต่ พวกนายปรึกษาเรื่องแผนการบุกกันอยู่หรือเปล่าละ" โคเซวิคถาม
              เนคมาดูซัมกล่าว "พวกเราชี้แจงกับทุกๆคนเรื่องกลุ่มโจรสลัดกรัมสกิซนี้แหละ เลยอยากจะถามฝั่งนายสักหน่อยน่ะ"
              "ฉันเองก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับกลุ่มโจรสลัดเหล่านั้นจากครีซมาแล้ว พวก...." โคเซวิคบอก
              เฟลิคกล่าว "เพียงแต่ เราไม่ควรจะเสียเวลากับเรื่องที่เป็นอันตรายต่อพวกเรากันอย่างมาก เพราะเรื่องของพวกเดลอาเนี่ยนบนดาวดวงนี้ สำคัญยิ่งกว่าเลยน่ะ"
              "เราเลยอยากจะรู้ว่า พวกนายเตือนลูกสมุนของพวกนายกันแล้วหรือยังละ เลยรีบติดต่อมาหากันน่ะ" อิลมิคบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "ทางเราจัดการกันให้เรียบร้อยแล้วละ ต้องขอบใจข้อมูลตรงจากทีมดูลาดเลากันด้วย ที่ช่วยให้เรารู้เรื่องสำคัญในเขตอวกาศแห่งนี้น่ะ"
              "ดีเลย เพราะว่าพรุ่งนี้ พวกเราจะเริ่มปฏิบัติการณ์กันแล้วน่ะ ดังนั้น พวกนายเองก็คงจะพร้อมกันบ้างน่ะ" โคเซวิคบอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น เรายุติการติดต่อจะดีกว่า เพราะเราจะเริ่มวางแผนงานกันแล้วละ"

              หลังจากนั้น ทั้งสองกลุ่มก็วางแผนด้านยุทธการกันจนถึงช่วงเย็น แล้วก็หลับตั้งแต่หัวค่ำกัน เพื่อเก็บแรงไว้ทำภารกิจกันแล้ว
            "ลิเนียร์ตี้ ลิเนียร์ตี้...." เสียงของผู้หญิงดังขึ้นในหัวของลิเนียร์ตี้ ซึ่งเธอหลับไหลกันอยู่ จนสติของเธอได้ยินขึ้นมา
              "เสียงนี้ ท่านโฮร่าโพลก้า นี้ท่านคงไม่คิดที่จะเรียกฉันมาอีกละสิคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
             ข้ารู้ ว่าเจ้าต้องพัวพันกับปัญหาอันวุ่นวายกันอย่างแน่นอน แม้ว่าข้ากับพวกเพรแครเดี่ยนจะอยู่ในเขตอวกาศเดียวกันกับเธอและพวก แต่ข้าไม่บอกให้เจ้ารู้หรอกน่ะ ว่าเราอยู่ที่ไหนกันน่ะ" เสียงของโฮร่าโพลก้า หัวหน้ากลุ่มเพรแครกิส ซึ่งเป็นเหล่านักรบเพรแครเดี่ยนที่มีปีกนางฟ้ากลางหลัง ติดต่อกับลิเนียร์ตี้ด้วยโทรจิตระยะไกลกัน
                 ลิเนียร์ตี้กล่าว "นั้นสิคะ เพราะพวกท่านคงไม่อยากจะให้ใครตามเจอเลยสิคะ" และหันมาถาม "แต่....ทำไม ท่านถึงไม่ตอบรับเสียงของฉันเสียเลยละ"
              "ในตอนที่เจ้าอยากจะให้ข้าพาเจ้ามาหาพวกเรา หลังจากที่ต้องเจอกับงานหนักหนาที่เจ้าและจิลรับผิดชอบในฐานะไอดอลนักร้องกันละสินะ" โฮร่าโพลก้าบอก "ที่จริงแล้ว ที่ของพวกเรามิใช่ที่หลบซ่อนของผู้ที่คิดหลบหนีปัญหากันเลยน่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาที่มิได้รับการสะสางให้มันจบสิ้นด้วยตัวของเจ้าเอง หรือด้วยความช่วยเหลือจากผู้อื่นกัน ซึ่งการที่ข้าจะให้ทาเลเวียและอาเดเลียพาตัวเจ้ามาหาข้าได้นั้น มีแค่เรื่องเดียว นั้นคือเรื่องที่เจ้าใช้พลังก่อเรื่องกัน เรื่องที่ข้ายังค้างคาใจในการกระทำของเจ้า หรือรับรู้เรื่องที่หนักหนาเกินกำลังของเจ้าและพวกจะรับได้เท่านั้นแหละ"
                 ลิเนียร์ตี้กล่าวอย่างเข้าใจ "แปลว่า ท่านกำลังจะทดสอบว่าฉันจะทำยังไงกับเรื่องงานบันเทิงที่เข้ามามากมายกันละสิคะ"
              "ถูกต้อง การที่เจ้าและจิล ตัดสินใจที่จะยุติงานบันเทิงเพื่ออุทิศตนให้กับงานหลักที่เจ้ากับจิลควรจะทำกันอยู่นั้น บงบอกว่าเจ้าสามารถแก้ไขปัญหาได้เอง ซึ่งข้าก็เห็นด้วยครึ่งหนึ่งในเรื่องที่เจ้ายุติงานบันเทิงที่มีมากเกินอัตราที่เจ้ากับจิลจะรับได้ เพราะความโด่งดังของเจ้านั้น คือแม่เหล็กดึงดูดความสนใจของทุกๆคนที่ชื่นชอบเจ้าและเกลียดชังเจ้าไปด้วย ซึ่งอาจจะบันทอนความเป็นส่วนตัวของเจ้าลงไปได้อย่างต่อเนื่องกันเลยน่ะ" โฮร่าโพลก้าบอก "แต่อีกครึ่งที่ข้าไม่เห็นด้วยก็คือ การที่เจ้าย้อนกลับเข้าสู่วังวนแห่งความวุ่นวายด้วยการเข้ามาต่อสู้กัน ถึงแม้ ว่าเจ้าจะฝึกฝนขัดเกลาการต่อสู้ผ่านการประลองกับพวกนักรบของทางสมาพันธ์อวกาศก็ดี ฝึกฝนทางร่างกายจากการแข่งไตรกีฬาและสแมคบอลกัน แต่ทั้งสามอย่างนี้ ล้วนทำให้เจ้าหักโหมมากไปหน่อย จนส่งผลถึงการปฏิบัติภารกิจกันไปเลยน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "นั้นสิคะ แต่ถ้าไม่มีการแข่งขันเหล่านี้ ฉันคงต้องเจอกับแฟนนานุแฟนอีกมากที่ตามตื้อจนอยู่ไม่เป็นสุขแน่ๆละคะ อย่างน้อย ฉันอยากให้พวกแฟนๆสนใจไอดอลกลุ่มอื่นๆกันบ้างคะ"
              "ดีแล้วละ ลิเนียร์ตี้ ที่เจ้าเปิดโอกาสให้ผู้อื่นกันบ้างน่ะ" โฮร่าโพลก้ากล่าว "แม้ว่าเรื่องที่เจ้าทำอยู่นี้ จะมีความวุ่นวายในระดับร้ายแรงและหนักหนาอย่างมาก เกินกว่าที่เจ้าและพวกพ้องจะขัดขวางกันได้น่ะ"
              ลิเนียร์ตี้ถาม "แล้วท่านคงไม่คิดที่จะดึงข้าออกไปกลางคันสิคะ"
              "ข้ายังไม่คิดทำเช่นนั้นหรอกน่ะ เพราะนั้นเป็นการขัดขวางภารกิจที่เจ้าสมควรทำกันอยู่ไว้ ซึ่งคงไม่ดีแน่ ที่พวกไทรเวเซอร์จะตามหาเจ้าจนเสียงานไปได้น่ะ" โฮร่าโพลก้าบอก "ข้าจึงถือว่านี้เป็นบททดสอบที่ข้าให้เจ้าไว้ ซึ่งข้าแนะนำให้ว่า เจ้า ต้องเข้มแข็งและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์ที่เกิดขึ้นกันด้วย ที่สำคัญ ไม่ว่าความเป็นจริงจะโหดร้ายแค่ไหน เจ้าจะต้องรับเอาไว้ให้ได้แล้วกันน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้กล่าวอย่างเข้าใจปนประหลาดใจโดยเฉพาะในเรื่อง "ความเป็นจริงนะหรือคะ คงไม่ได้มีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นกับฉันหรือคะ"
              "ข้าบอกได้เท่านี้แหละ ลิเนียร์ตี้ และเจ้าไม่ต้องเก็บไปคิดในเสียสมาธิกันหรอก จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง เจ้าก็จะรู้เองแหละ" โฮร่าโพลก้าบอก "ดังนั้น เจ้าจงหลับให้สบายแล้วกันนะ ลิเนียร์ตี้"
              ลิเนียร์ตี้พยักหน้าทั้งๆที่หลับอยู่ "ขอบคุณมากคะ ท่านโฮร่าโพลก้า" แล้วการติดต่อด้วยโทรจิตก็จบลง

              "ท่านโฮร่าคะ ท่านคงจะติดต่อไปหาสาวกลิเนียร์ตี้กันละสิคะ" อาเดเลีย องครักษ์ของโฮร่าโพลก้ากล่าว
    ทาเลเวียบอก "ท่านยังไม่คิดที่จะพาสาวกลิเนียร์ตี้มาหาเรากันละสิคะ"
              "ข้าไม่คิดจะเข้าไปยุ่งย่ามกับปัญหาที่ลิเนียร์ตี้ประสบกันอยู่หรอก เพราะปัญหาที่ว่ามานั้น มันยิ่งใหญ่มากจนข้า ไม่อาจจะเข้าไปช่วยได้ และไม่สามารถหลีกหนีมันไปได้ แม้ข้ารู้สึกได้ว่า มีอำนาจที่น่ากลัวยิ่งกว่า ชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุร้ายเหล่านี้กันอยู่ก็ตาม" โฮร่าโพลก้าบอก "แต่เพื่อมิให้พวกเราพลอยเดือดร้อนกันไปด้วย ข้าจึงหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่านั้นจะเป็นการทอดทิ้งให้ลิเนียร์ตี้กับพวกต้องเผชิญหน้ากับปัญหาจนต้องพ่ายแพ้ไปเองน่ะ"
              อาเดเลียบอก  "ส่วนหนึ่งเพราะ ลิเนียร์ตี้และพวกไทรเวเซอร์ สามารถแก้ไขปัญหาที่เจออยู่นี้ได้เองสิคะ"
              "ใช่ เพราะข้ารู้ดี ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับดาวทั้งแปดที่มาจากจักรวาลอื่นนั้น มีอำนาจที่น่ากลัวชักใยอยู่เบื้องหลังกันอยู่ เพียงแต่พวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชยังไม่รู้เรื่องก็เท่านั้นแหละ ว่ากำลังเดินบนฝ่ามือของผู้ไม่หวังดีกันไว้แล้วน่ะ" โฮร่าโพลก้าบอก "ฉะนั้น ข้าจึงให้ลิเนียร์ตี้กับพวกสะสางปัญหานี้ อย่างน้อย เธอกับพวกก็สามารถขัดขวางมิให้ปัญหาที่ใหญ่หลวงนี้ออกมาพร้อมกับอำนาจที่น่ากลัวกันได้นี้แหละ"
              ทาเลเวียบอก "อำนาจที่น่ากลัวกันนิ ท่านทราบมั้ยคะ ว่ามันคืออะไรละคะ"
              "ถึงข้าบอกพวกเจ้าไป นั้นจะทำให้พวกเราเจอหายนะกันไปเลยนะสิ" โฮร่าโพลก้าบอกแล้วก็หยิบตลับไพ่ออกมา "เพียงแต่ ข้ารู้สึกได้ถึงจิตของสหายทั้งสองของลิเนียร์ตี้กัน ซึ่งข้าไม่อาจจะพูดออกมาด้วยคำพูดได้ แม้จะรู้ว่า ลิเนียร์ตี้จะต้องเจอกับอะไรกันบ้างน่ะ"
              อาเดเลียถาม "สหายทั้งสองของลิเนียร์ตี้นิ ใครกันบ้างละคะ"
              "ฟึบ" โฮร่าโพลก้าเดินหันหน้ามายังองครักษ์ทั้งสองพร้อมกับ "หวับบบบ หมับๆ" สบัดแขนขวาไปอย่างเร็ว จนอาเดเลียใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางข้างขวาคีบบางอย่างที่พุ่งเข้ามา ส่วนทาเลเวียใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับบางอย่างที่พุ่งมาทางเธอด้วย ซึ่งบางอย่างนั้นก็คือ... "ไพ่ทาล็อตที่ฉันส่งให้พวกเธอนั้น คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสหายทั้งสองของลิเนียร์ตี้ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดมากที่สุด รองจากเนคเกอร์ มาสซั่มกันน่ะ"
              อาเดเลียและทาเลเวียเลยนำไพ่มาดู ทั้งคู่ถึงกับตกใจขึ้นมา "ทะ ท่านโฮร่าคะ นี้ท่านคงไม่ได้หมายความว่า..."
              "ถูกต้อง ความเปลี่ยนแปลงของสหายทั้งสองของลิเนียร์ตี้นั้น รายหนึ่งจะทำให้ความจริงอันเลวร้ายที่ปิดบังอยู่ถูกเปิดเผยกันขึ้นมา อีกรายจะถูกผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าเปิดเผยสถานะที่ถูกปิดตายมานาน รายแรกนั้นอาจจะทำให้พวกไทรเวเซอร์แตกแยกกัน เพราะเธออันตรายเกินไปที่ลิเนียร์ตี้และทุกๆคนจะหยุดยั้งไว้ได้ แม้กระทั่งตัวเธอเองก็ตาม" โฮร่าโพลก้ากล่าว โดยชี้มายังอาเดเลีย ซึ่งถือไพ่ปีศาจไว้ในมือ ส่วนทาเลเวีย ได้ไพ่จักรพรรดินีไว้ "ส่วนอีกราย คือจุดเปลี่ยนอันยิ่งใหญ่ที่มีผลต่อทั้งสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ และจักรวรรดิ์แรซัลก้ากันอีกด้วย หากสถานะของเธอถูกเปิดเผยขึ้นมา แม้ว่าตอนนี้ ส่วนมากในแรซัลก้าต่างก็รู้จักเธอไปแล้วน่ะ"
              ทาเลเวียบอก "แล้วมันจะเกิดขึ้นตอนไหนละคะ"
              "ถ้าเป็นรายแรก อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลานี้ แต่รายหลังนั้น ถ้าพวกเขากลับไปยังเขตอวกาศของทางสมาพันธ์กันละก็ มันต้องเกิดแน่นอน เพราะผู้มีอำนาจที่เปิดเผยโฉมหน้าของสหายอีกรายนั้น ยังหลบซ่อนอยู่ในศูนย์กลางของสมาพันธ์อวกาศกันนี้แหละ" โฮร่าโพลก้าบอก "ที่สำคัญ ข้าไม่สามารถเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะเรื่องที่ลิเนียร์ตี้และพวกต้องพบเจอ มันไม่สามารถหลีกเลี่ยงกันได้แล้วละ"
              อาเดเลียกล่าว "ภาวนาว่าสาวกลิเนียร์ตี้คงจะผ่านเรื่องที่ท่านว่ามากันได้บ้างนะคะ"

              เช้าวันต่อมา ที่ค่ายทหารทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ตำแหน่ง T-64
              "หวังว่าพวกศัตรูที่รานีเจเดร่าส่งมา คงจะบุกมากันจริงๆบ้างน่า" ทหารสโตนอลหญิงกล่าวกับทหารบรูซาเรม ซึ่งเป็นต่างดาวทรงหมีสวมเกราะสีแดงเข้ม ติดแถบสีแดงบนหัวไหล่กัน 
              "ต้องมาแน่นอน เพราะพวกนั้นคงไม่ยอมให้พวกเราและพวกนายบุกเข้ามาจู่โจมกันได้หรอกน่ะ" บรูซามเรมกล่าว แล้วก็เปิดภาพบนหุบเขาที่อยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งมีหุ่นทรงหมีและตะกวดติดปืนใหญ่อยู่บนชั้นหุบเขา 8 ชั้นด้วยกัน "ด้วยอุลไซน์ไดซ์และโกแซคซอนติดป้อมมิไซล์ต่อต้านอากาศยานนั้น พวกมันไม่มีทางบุกมาได้อยู่แล้ว"
              "แน่ละ เพราะว่าพวกนั้นคงเห็นกองรบของพวกท่านมาขวางกันอยู่แล้วนิ" ทหารสโตนอลชายกล่าว "ส่วนทางถนนนั้น เรามีด่านตั้งไว้เพื่อกันผู้บุกรุกแฝงตัวเข้ามาได้ทุกรูปแบบ แน่นอน ว่าต่อให้ใครแฝงตัวหรือปลอมตัวเข้ามา ก็ไม่มีทางจับได้กันหรอก"
              ทหารอัลแทเรี่ยนกล่าว "ต่อให้พวกไทรเวเซอร์หรือพวกยูเนี่ยนพีชรวมหัวกัน ก็คงไม่มีทางบุกฝ่ามาได้กันหรอก"
              "แล้วเราจะทำไงกับพวกนักโทษกันดีละ" นักรบบรูซาเรมถาม
              ทหารอัลแทเรี่ยนบอก "ไม่เห็นยาก เราก็นำตัวพวกนักโทษมาติดตั้งระเบิดรีโมทเอาไว้ พอพวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชเข้าใกล้ขึ้นมา เราจะกดสวิตซ์ระเบิดเพื่อสังหารพวกมันไปพร้อมกัน แน่นอน ว่าเราจะแสร้งทำเป็นควบคุมตัวนักโทษไว้ในขบวนรถ เพื่อขนไปส่งที่ท่าอวกาศยานหมายเลข 16 กัน ซึ่งพวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชก็รู้ จนรีบรุดเข้าช่วย โดยไม่รู้เลยว่าพวกมันกำลังจะถูกประหารกันในไม่ช้าเลยน่ะ"
              "ถ้าเช่นนั้น เรารีบลงมือกันเลยดี...." ทหารสโตนอลหญิงบอก
              ไม่ทันไรก็มีทหารชาวสโตนอลสองนายเดินเข้ามา "รายงานครับ คนของพวกเราจับกุมผู้พิทักษ์เมคโซ่กันแล้วละครับ"
              "เยี่ยม แบบนี้พวกเราก็ได้เปรียบฝ่ายรานีเจเดร่ากันแล้วละ" ทหารสโตนอลหญิงกล่าว แล้วก็รีบเดินไปที่ลานกว้างพร้อมกับทหารบรูซาเรมและอัลแทเรี่ยน โดยที่มีทหารสโตนอลควบคุมตัวเมคโซ่อยู่ราว 10 ตนด้วยกัน "เป็นไงละ ท่านผู้พิทักษ์ โดนจับแบบนี้ มันเสียฟอร์มแย่ละสิน่ะ" ทหารสโตนอลหญิงเยาะเย้ย
              เมคโซ่ที่ถูกควบคุมตัวโวย "พวกแก ถ้าฉันรอดไปได้ละก็ รับรองว่าพวกแกไม่รอดแน่ๆ"
              "หรือ ขนาดแกยังโดนท่านลอร์ดมันเทิร์คหลอกให้ออกนอกดาวกันเช่นนี้ พวกเราก็ไม่กลัวแกกันไปได้หรอกน่ะ" ทหารสโตนอลหญิงบอก และหันมาถาม "ว่าแต่ พวกนายเจอตัวผู้พิทักษ์นั้นยังไงละ"
              หัวหน้าหน่วยบอก "พวกเราพบตัวผู้พิทักษ์นี้พยายามปีนป่ายผาในจุดบอดรอบนอกฐานกัน โดยตำแหน่งนั้นไม่มีวอร์บอทของกองรบพันธมิตรของพวกเราตั้งอยู่ด้วยนะสิ"
              "แต่โชคดีมาก ที่ทางเราเจอตัวผู้พิทักษ์นี้ไว้ได้เสียก่อน ไม่เช่นนั้น พันธมิตรของพวกเราคงเสียวอร์บอทไปนานแล้วละ" ทหารสโตนอลหญิงในทีมกล่าว โดยโยนระเบิดรีโมทกองกับพื้นไว้
              ทหารสโตนอลหญิงที่เป็นหัวหน้ากล่าว "ดี ฉันต้องขอบใจพวกนายกันบ้างน่ะ ที่หยุดผู้พิทักษ์นี้ไว้ ฉะนั้น พวกนายรีบนำตัวผู้พิทักษ์ไปคุมขังพร้อมกับพวกนักโทษเหล่านี้เลยดีกว่า"
              "รับทราบแล้วครับ" หัวหน้าหน่วยกล่าวพร้อมกับคุมตัวเมคโซ่ไปในฐานที่ใช้คุมขังกัน
              นักรบบรูซาเรมบอก "เออ คิดว่าหัวหน้าหน่วยของพวกนายนิ รู้จักฉลาดมากไปหน่อยนะ ว่ามั้ยละ"
              "วางใจได้น่า หัวหน้าหน่วย 10 ผู้นี้ฉลาดอย่างมาก ถ้าไม่เพราะเขาช่วย พวกเราคงยึดที่นี้อย่างเงียบเชียบกันไม่ได้หรอกน่ะ" จ่าฝูงหญิงกล่าว "ตอนนี้พวกท่านรีบนำหุ่นรบของท่านไปตั้งเพิ่มเติมกันดีกว่าน่ะ"
              ทหารอัลแทเรี่ยนบอก "และพวกนายเองก็รีบโยกย้ายเหล่านักโทษออกไปเดียวนั้นเลย ก่อนที่พวกไทรเวเซอร์และพวกยูเนี่ยนพีชจะ...."

               "ฟ้าวววว ปั้กกกก" ไม่ทันไรก็มีมีดสั้นพุ่งปักตรงต้นแขนซ้ายของทหารอัลแทเรี่ยนกัน "ใคร ใครเล่นงานฉันวะเนี้ย" ทหารอัลแทเรี่ยนสบถ ทหารบรูซาเรมเห็นทหารอัลแทเรี่ยนสองตนที่ยืนหันหลังแต่มี.... "ปีกสีดำ หยุดไอ้สองตัวนั้นเดียวนี้เลย" ทหารบรูซาเรมบอกกับพวกลูกน้อง ซึ่งก็.... "แชดๆ" ใช้ปืนยาวอนุภาคยิงลำแสงสีส้มตรงมาที่ทหารอัลแทเรี่ยนปีกดำทั้งสอง
              "ป้ากกก เปรี้ยงงงง" ลำแสงทะลวงร่างทหารอัลแทเรี่ยนทั้งสองอย่างฉับพลัน จากนั้นก็เหลือเพียงชุดเกราะที่กองกับพื้นโดยที่ส่วนหน้าอกและหลังทะลุทั้งสองอันด้วยกัน ส่วนผู้ที่อยู่หลังชุดเกราะนั้น โดดลงมาในคราบของ.... "เซรีน โครว์เชด นี้พวกแก....ผ่านระบบตรวจจับไปได้ไงกันน่ะ" ทหารอัลแทเรี่ยนโวยเมื่อเห็นเซรีนและโครว์เชดในคราบของอัลแทเรี่ยนอีกากันแล้ว
              "นึกหรือ ว่าระบบตรวจจับของพวกนาย ซึ่งไปแย่งจากพวกไซเอมนอยด์นั้น จะทำให้เราพลาดท่าไปได้นะ" โครว์เชดบอก
              เซรีนกล่าว "เพราะต่อให้ระบบดีแค่ไหน แต่ตราบใดที่ระบบยังยืนยันรหัสของทหารชุดที่มาด้วยโดยไม่มีการสแกนเพิ่มเพื่อแยกแยะตัวบุคคลให้ดีเพียงไร มันก็ไร้ประโยชน์กันอยู่แล้วละ" แล้วก็ "ฟึ่บบบบบ ปั้ก" ซัดมีดสั้นปักเข้าตาซ้ายของทหารอัลแทเรี่ยนตนนั้น และ "ตี้ด ตี้ด" มีเสียงดังขึ้นที่มีดสองทีจน "ตรูมมมมมม" มีดระเบิดเป่าหัวทหารอัลแทเรี่ยนให้กระจุยไป
              "จัดการกับพวกมันสองตัวเดียวนี้เลย" ทหารบรูซาเรมสั่ง แล้วพวกบรูซาเรมก็แห่มาด้วยกงเล็บพลังอนุภาคร้อนกัน "ครี้งงงงงง ฟ้าวววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ" โครว์เชดหยิบดาบยาวสีดำที่ติดหลังแขนซ้ายออกมาฟันตัดแขนทหารบรูซาเรมขาดไป 4 ตน "ฟ้าวๆๆๆๆ" ทหารอัลแทเรี่ยนบินขึ้นสูงและโฉบเข้าใส่เซรีน ซึ่งเธอพุ่งขึ้นไป "ฉั้วะๆๆๆๆๆๆ" ฟาดฟันใส่พวกทหารอัลแทเรี่ยนโดยไม่กลัวต่อกงเล็บหลังแขนของพวกมัน ด้วยมีดสั้นยาวอยู่ตรงร่องนิ้วทั้ง 4 จน "ฉืบๆๆๆๆๆๆ" ข่วนสับร่างทหารอัลแทเรี่ยนหลุดเป็นชิ้นๆ แล้วก็ "ฟึ่บๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ" ซัดมีดสั้นในร่องนิ้วทั้ง 8 ปักใส่ทหารสโตนอลทั้ง 8 จนทะลุเกราะกัน "บะ บ้าน่า เกราะของพวกเราทำด้วยแกรนนิตเที่ยมที่แข็งแกร่งกว่า ไม่น่าจะถูกมีดสั้นที่ทำด้วยโลห์สั่วๆแทงทะลุไปได้เลยนิ" จ่าฝูงหญิงบอก
              "แย่หน่อยนะ เพราะพวกเราฝึกฝนจนสามารถใช้ดาบและมีดแทงทะลุโลหะแข็งเกือบทุกชนิดกันได้แล้วละ" เซรีนกล่าวพร้อมกับ "ฟึ่บบบ ฉั้วะๆๆ" ดึงดาบยาวสีดำที่พาดหลังเอวฟันใส่ทหารอัลแทเรี่ยนที่ดาหน้าเข้ามา "ฟึ่บ หวับๆๆๆๆๆ เกร้ง ฟ้าวๆ ฉั้วะๆๆๆๆ" โครว์เชดซัดดาวกระจายสี่แฉกสีดำใหญ่ออกไป โดยดาวกระจายแยกออกเป็นสองอัน และพุ่งเข้าเฉือนใส่พวกบรูซาเรมและทหารสโตนอลจนปืนโฟร์พัลเซอร์หักพังไปด้วย
              "เตรียมปืนโซนิคแคนน่อนมายิงเดียวนี้...." จ่าฝูงหญิงบอก
              "ตรูมมมมม" ไม่ทันไรก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น "หัวหน้า เราถูกโจมตีจากระยะไกลกันแล้วละครับ" ทหารบรูซาเรมที่ควบคุมอุลไซน์ไดซ์กล่าว
              จ่าฝูงบรูซาเรมบอก "ก็รีบยิงสวนกลับไปเลยสิ"
              "ฝ่ายตรงข้ามอยู่นอกระยะยิงสูงสุดของพวกเรากันนะครับ" ทหารบรูซาเรมบอก ไม่ทันไรก็.... "เปรี้ยะ ตรูมมมม" โกแซคซอนติดปืนกลต่อสู้อากาศยานถูกสอยร่วงตาม แล้วก็ "แชดดดด ตรูมมมม" ลำแสงพุ่งจากระยะไกลเข้าถล่มใส่อุลไซน์ไดซ์ 3 ตัวจนกระจุยไป
              จ่าฝูงสโตนอลบอก "ไม่มีทางเลือกแล้ว รีบแจ้งให้ทหารนำตัวประกันทั้งหมดนี้ออกจากฐานกัน...."
              "โครมมมมมม" ไม่ทันไร ทหารสโตนอลที่อยู่ในฐานปลิวออกมากองกับพื้นถึง 3 ตนด้วยกัน "มันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้นละเนี้ย" จ่าฝูงสโตนอลหญิงกล่าว เมื่อเห็น...           "หน่วยที่ 10 นี้มันหมายความว่าไงกันน่ะ" พวกสโตนอลที่จับตัวเมคโซ่กันไว้ ก้าวเดินออกมาโดยถือดาบไว้ในมือ "ดาบนั้น นี้แก...." จ่าฝูงบรูซาเรมเห็นดาบถึงกับโวยลั่นขึ้นมา
              "เกรงว่าพวกคุณจะรู้ช้าไปเสียแล้วละน่ะ คุณจ่าฝูงบรูซาเรม" หัวหน้าหน่วย 10 กล่าวพร้อมกับ "หมับบบ โครมมม" ใช้มือจิกตรงปุ่มตรงบ่าและกระชากชุดเกราะออกจนส่วนที่เหลือหลุดลงตาม เผยโฉมหน้าของ....
              "ไอ้อัศวินสีเขียวของไทรเวเซอร์ นี้แก....จัดการกับพวกสโตนอลและสวมรอยไปแล้วสิ" จ่าฝูงบรูซาเรมกล่าว เมื่อเห็น เอช มาสวาร์ทาร์ปรากฎตัวอยู่ตรงหน้า โดยที่พวกทหารสโตนอลที่เหลือก็ปลดเกราะออก จนเผยโฉมหน้าของเฮเรเค้น ไรแกท แบร็อค บุลฟลาท เรฟไซท์ ไลเอิร์ท ชาร์เครฟ แฮมชัค เทรอนเร็กซ์ พาลกีส และพาแรมออกมาด้วย

              "งั้น พวกแกหลอกพวกเราด้วยผู้พิทักษ์เมคโซ่ละสิ" จ่าฝูงหญิงกล่าวแล้วก็ชักปืนออกมา "ฟึ่บบ ป้าก ฟ้าวววว เปรี้ยงงง หวับๆๆๆๆๆๆ หมับบบ" มาสวาร์ทาร์ชิงลงมือด้วยการใช้มือซ้ายตบปลายด้ามดาบ เพื่อยิงฟักดาบเข้าอัดใส่มือซ้ายที่ชักปืนจนปืนกระเด็นหลุดมือไป ส่วนฟักดาบกระเด็นกลับมายังมือมาสวาร์ทาร์เข้า "ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทหาร จัดการกับพวกแมนิเกเตอร์ไปซะ" ทหารสโตนอลรีบสั่งพวกสโตนอลถือดาบหินผาออกมา "ฟึ่บๆๆๆๆๆ" พวกเฮเรเค้นเลยชักอาวุธออก แล้วบุกไปพร้อมกับมาสวาร์ทาร์ที่ถือมาสวาร์ทาร์เบลดพร้อมฟักดาบกัน "ฟ้าวววว ป้ากกกก" เฮเรเค้นกระโดดถีบใส่หน้าทหารสโตนอลไปเต็มๆ พร้อมกับ "หวับบบ ฉั้วะๆๆๆ" ฟันด้วยโครมเมทาเลี่ยมคาตาน่าใส่ข้อพับขาและหลังเอวไป พร้อมกับยืดแขนเข้า "ป้ากกก" ตบข้างหัวทหารสโตนอลที่บุกมาเล่นงานไลเอิร์ทจากข้างหลังจนล้ม เปิดช่องให้ "ฮึย ย้าๆๆๆๆๆๆ" ไลเอิร์ทพุ่งเข้ามารั่วถีบใส่ทหารสโตนอลตนนั้นแบบต่อเนื่องและ "แคร้งงงง" ข่วนใส่หน้ากากให้พวกสโตนอลล้มลง "แคร้งๆๆๆๆ" แบร็อคข่วนด้วยกงเล็บหมีกริซลีย์ที่คมกริบข่วนจนดาบหินผาขาดและข่วนใส่เกราะจนมีรอยข่วนที่ไม่ลึกมาก แต่แรงพอจนทำให้พวกสโตนอลเจ็บตัวไป "มออออออ" บุลฟลาทพุ่งกระแทกเอาเขาควายน้ำแทงใส่ทหารสโตนอลแล้วก็ขวิดเสยข้ามหัวไปอัดกับอีกตนจนล้ม แล้วก็ "ฟ้าววววว เปรี้ยงงง" กระโดดถีบขาคู่ด้วยกีบเท้าวัวไบสันเข้ากลางหลังทหารสโตนอลจนล้มกระแทกพื้นไป "แคร้งงง เคร้งงง เคร้งงง แคร้งงงงง" เทรอนเร็กซ์ใช้ขวานสู้กับพวกทหารสโตนอลที่ฟาดอาวุธมาอย่างดุดัน โดยที่พาลกีสหวดตะบองหนาม พาแรมใช้ดาบโค้งสู้กับพวกสโตนอลกันอย่างอุตลุตกัน โดยที่พวกสโตนอลส่วนหนึ่งบุกเข้ามาข้างหลังพร้อมกับทหารบรูซาเรม "ซ่าๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" แฮมชัคโพเข้ากระหน่ำยิงกระสุนจากแขนปลาเสือพ่นน้ำใส่พวกสโตนอลจนชะงักลง "ฮึยยยย" ไรแกทกระโดดขึ้นไปและลงมากระทืบพื้นจนเกิดแรงสั่นสะเทือนเล่นงานพวกบรูซาเรมและสโตนอลบางรายให้ล้มกลิ้ง แต่มีบางตนบุกเข้ามาด้วยดาบ "เปรี้ยงงงง" ทหารสโตนอลกลับถูกไรแกทเสยหมัดกอริลล่าเหล็กตะบันหน้าจนหมวกหลุดจากหัวล้มลงไปกองกับพื้น "เฮ้ย ย้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ชาร์เครฟพุ่งเข้ารั่วถีบเท้าติดฟันปลาปิรันย่าใส่ทหารบรูซาเรม จนทั้งเกราะและหน้าถูกถีบจนได้แผลกัดไปทั่ว
              "เฮ้ย นี้แน่" เรฟไซท์โผล่มาจากข้างหลังและใช้ดาบคมเลื้อยฟันใส่พวกบรูซาเรมตรงหลังคอไปตนหนึ่ง แล้วก็รีบหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทหารบรูซาเรมจะข่วนใส่ "เพี้ยะ" ชาร์เครฟเลยหวดแส้ปลากระเบนที่แขนซ้ายเข้าตาทหารบรูซาเรมตนนั้นไปเต็มๆ "เคร้งงงง ป้ากกก" มาสวาร์ทาร์หวดดาบต้านดาบหินผาของพวกสโตนอลไว้ และโต้กลับด้วยการถีบหัวเข่าซ้ายของสโตนอลที่อยู่ข้างหน้าไปเต็มแรงจนทหารสโตนอลเจ็บและล้มในท่าคุกเข่า "หวับ ฉั้วะ" เปิดช่องให้มาสวาร์ทาร์หวดดาบฟันตัดหัวทหารสโตนอลขาด จากนั้นก็ "ป้ากกก" หวดฟักดาบที่อยู่หลังเอวเข้าหน้ากากของทหารสโตนอลและ... "ฉั้วะ" ฟันตัดคอขาดตาม โดยที่พวกอัลแทเรี่ยนบินเข้ามาหมายจะจัดการกับพวกชาร์เครฟกัน "ฟ้าวๆๆๆ ป้ากๆๆๆ" ไม่ทันไร ก็มีปลอกแขนและบู๊ทของสโตนอลพุ่งเข้าอัดกลางหลังทหารอัลแทเรี่ยนจนพวกมันเจ็บหนักถึงกับต้องลงพื้นไป "หวับๆๆๆๆ ฟ้าววว ฉั้วะๆๆๆ" และถูกจู่โจมจากภาคอากาศจนพวกอัลแทเรี่ยน 4 ตนคอขาดลงในทันที โดยเผยโฉมหน้าของทหารสโตนอลที่เข้ามาช่วย ซึ่งก็คือพลัสเชอริทนี้เอง "ตรงนี้ให้ฉันจัดการเอง นายรีบไปช่วยทั้งสองดีกว่า" พลัสเชอริทบอก พร้อมกับ "ฟ้าวๆๆๆๆๆ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" ใช้ไลท์นิ่งอิลลูชั่นแยกร่างเข้าจัดการกับทหารบรูซาเรมและสโตนอล เข้าช่วยพวกเรฟไซท์และเทรอนเร็กซ์เอาไว้ได้ทัน

                 "เข้าใจแล้วละ" มาสวาร์ทาร์กล่าวพร้อมกับ "ตึกๆๆๆๆๆๆๆ" วิ่งฝ่าพวกทหารสโตนอลที่นำโฟรท์พัลเซอร์กระหน่ำยิงใส่ "ฟึ่บๆๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มาสวาร์ทาร์สบัดดาบของตนปัดกระสุนพัลเซอร์ที่พุ่งเข้ามาให้ย้อนกลับไป "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ" เล่นงานพวกสโตนอลให้ล้มลงกันหมด จนบีบให้พวกที่เหลือบุกเข้ามาด้วยดาบหินผา "หวับบบ ฉั้วะๆๆ" ฟาดลงในแนวเฉียงขวาไปซ้ายและตวัดเสยขึ้นจนเป็นรูปตัววี แล้วก็ฟันตัดคอทหารสโตนอลรายแรกทิ้ง "หวับบบบ ฉั้วะๆ" จากนั้นก็พุ่งฟันเข้าที่ท้องและวิ่งผ่านตัวมาฟันเข้าหลังเอวซ้ำให้ตัวทหารรายที่สองขาดแยกบนล่างตาม "หวับบบบ หวับบบ เกร้งงงง ฉึกกก ฉั้วะๆๆ" ทหารสโตนอลตนที่ 3 หวดดาบใส่มาสวาร์ทาร์ แต่มาสวาร์ทาร์หลบพร้อมกับฟาดดาบกดให้ดาบหินผาปักคาพื้นแล้วก็ฟันที่เอว หน้าอกและคอของทหารสโตนอลตนที่ 3 อย่างทันควัน "หวับบบ ป้ากกกก หวืออออ" ตามด้วยก้มหลบดาบของทหารตนที่สี่ที่หวดมาในแนวขวาง แล้วก็หมุนตัวเตะตัดขาทหารตนที่ 4 ให้ล้มเอาสีข้างลง "ฟึ่บบบบ หวับ ฉับ โครมมมม" จากนั้นก็กระโดดเงื้อดาบฟาดฟันตรงสีข้างขวาของทหารตนที่ 4 อัดกับพื้นจนแตกร้าวและตัวขาดไปในทันที "แก....ไอ้ศัตรูของท่านฟุโกลว์ อย่าอยู่เลย" ทหารอัลแทเรี่ยนพาพวกบุกโฉบเข้าใส่ มาสวาร์ทาร์เหล่มายังทหารบรูซาเรมที่พาพวกมาข้างหลังโดยเตรียมยิงใส่มาสวาร์ทาร์กันแล้ว "ช่างไม่เจียมเสียเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยพวกบรูซาเรมนั้น "แกร็ก ตรุ้งๆๆๆๆๆ" เหนี่ยวไกยิงกระสุนอนุภาคสีส้มเข้ามา "ฟึ่บ ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟ้าวววววว" ตนจึงวิ่งเข้าใส่พวกอัลแทเรี่ยนพร้อมกับกระโดดขึ้นสูง "ฟึ่บบบ ป้ากกกก โครมมมม" เพื่อเหยียบหัวทหารอัลแทเรี่ยนตัวหัวหน้าหน่วยให้เสียหลักจนหัวเกือบปักพื้นเข้า ซึ่งพวกอัลแทเรี่ยนพุ่งเข้ามาเจอกับ..... "เหวอออ" ทหารอัลแทเรี่ยนทั้งหลายที่บุกเข้ามานั้น อุทานลั่นเมื่อพวกเขาเจอกับกระสุนอนุภาคที่พวกบรูซาเรมหัวร้อนยิงออกไป "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" เป่าระเบิดใส่จนยับไปทั้งกลุ่ม ส่วนพวกบรูซาเรมนั้น "เครเซนท์เรซเซอร์" เจอคลื่นคมดาบสีเขียวขนาดใหญ่พุ่งเข้า "ฉับๆๆๆๆๆๆ" ผ่าร่างขาดครึ่งบนล่างพร้อมกันโดยทันที
              "ไม่มีทางเลือกแล้ว รีบนำตัวประกันออกมาเดียว...." จ่าฝูงหญิงกล่าว
              แต่ไม่ทันไรก็... "ตึกๆๆๆๆๆๆ แกร็กๆๆๆๆๆ" เจอกับทหารสโตนอลที่ถูกคุมขังแห่แหนออกมานอกฐานล้อมพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตและพวกเดลอาเนี่ยนที่เหลือน้อย จากการถูกมาสวาร์ทาร์และพวกไทรเมร่า แล้วก็เซรีนกับโครว์เชดจัดการไปแล้ว "เกรงว่าพวกแกต้องกลายเป็นตัวประกันไปเสียแล้วละมั่ง...." เมคโซ่บอก โดยตอนนี้เขาได้เข้าช่วยเหล่าทหารที่ถูกคุมขังเป็นเชลยออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
              "หัวหน้าอาชิลน่า ข้างนอกเคลียร์หรือยังละคะ" เซรีนถาม
              อาชิลน่ากล่าว "เรียบร้อยแล้วละ พวกบรูซาเรมและซอร์แรคยังใช้ระบบเรดาห์แบบเดิมกันอยู่ เราจึงได้เปรียบในเรื่องการโจมตีนอกระยะกันเลยน่ะ" โดยตอนนี้เธอได้ใช้คอสมิคดับเบิ้ลอาร์มแบบปืน ติดลำกล้องยาวพิเศษพร้อมอะแดฟเตอร์เสริมแรงขับและพลังการยิงในระยะไกล ในขณะที่โฟรซ่าควบคุมฟาลครีด้ามิลซากัน-4 ใช้เมย์ไนซ์บัสเตอร์ไรเฟิ่ลแบบติดลำกล้องยาวพิเศษแบบเดียวกันจู่โจมกันด้วย โดยที่ทีมอาบินอลช่วยเหลืออีกที
              "และถ้าแกคิดจะใช้ระเบิดจัดการกับพวกเราละก็ คงยากน่า เพราะกลินซ์เบรสอันนี้ ปลดระเบิดเพียงหนึ่งอันปุ๊บ ที่เหลือก็โดนปลดไปทั้งหมดกันนี้แหละ" เมคโซ่นำปลอกแขนที่มีปุ่มทรงกลมซึ่งยืดแขนกลออกมา
              มาสวาร์ทาร์บอก "และทางเราคงไม่ยอมให้พวกนายปากโป้งบอกพวกที่เหลือกันไปได้หรอกน่ะ"
              "ต่อให้แกยึดค่ายนี้ได้ แต่คิดหรือ ว่าจะหยุดกองหนุนที่จะมาถล่มพวกแกหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้น่ะ" จ่าฝูงบรูซาเรมกล่าว
              พลัสเชอริทบอก "เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้นกันหรอกน่ะ เพราะว่าทางยูเนี่ยนพีชดักทางเอาไว้แล้วละ"

                 "ว่ายังไงน่ะ" จ่าฝูงบรูซาเรมอุทาน โดยในช่วงที่พวกมาสวาร์ทาร์ต่อกรกันอยู่นั้น "ครืนนนนนนนนนน ครืนนนนนน ครืนนนนนนนน" อุลไซน์ไดซ์แบบติดล้อวิบากมาพร้อมกับอุลแคลชเชอร์ รถถังหัวหมีติดสว่านคู่ อุลแลนเดอร์ รถบรรทุกติดอาวุธหนักขนาดใหญ่ โดยมากับโกแซคซอน โรดแซคซอน ซึ่งเป็นวอร์แมชชีนตะกวดติดล้อ แล้วก็เรปแทงเกอร์ รถถังตะกวดห้าหัวขนาดใหญ่ ซึ่งขนาดเล็กมากันจำนวนละ 60 เครื่อง ในขณะที่ขนาดใหญ่มาอย่างละ 20 คันด้วยกัน "เราได้รับสัญญาณจากทีมของเราที่อยู่ในค่ายใกล้กับนครหลวงของดาวหินแล้ว รีบตรงไปโดยเร็วเลย" หัวหน้ากองชาวบรูซาเรมที่ควบคุมอุลแคลชเชอร์กล่าว
    "วี้ววววววว ตรูมๆๆ" ไม่ทันไรก็มีกระสุนขนาดย่อมสามนัดพุ่งเข้ามาเป่าถล่มโรดแซคซอนจนกระจุยไป "บ้าชะมัด นี้พวกแก ดักรออยู่แต่แรกเลยหรือวะ ไอ้กริซซิก" นักรบซอร์แรคจ่าฝูงที่ควบคุมเรปแทงเกอร์บอก เมื่อเห็นบรูซาน็อกซ์ดูนบัลติคาร์ดยืนพร้อมกับไบดัลโวลชาร์คสแปรโรว์ที่นั่งคุกเข่า เพื่อยิงปืนใหญ่ชิฟแคลชเชอร์แคนน่อนเข้าใส่
              "ถ้าพวกแกอยากจะไปช่วยพวกพ้องละก็ ผ่านพวกเราไปให้ได้ก่อนเซ่" ครีซบอก
              "แล้วแกอย่าเสียใจที่มาท้าทายพวกเรากันละ เฮ้ย จัดการแม่มเลย" หัวหน้ากองบรูซาเรมสั่งพวกอุลไซน์ไดซ์บุกเข้า "ตรุ้งๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" โดยใช้ปืนใหญ่พิสัยไกล ปืนใหญ่อัตโนมัติและห่ามิไซล์ยิงถล่มใส่ "แฟ้วววว แฟ้วววว แว้งๆๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆ ปร้างๆๆๆๆ" ฟาลครีด้าดีเฟนด้าและฟาลครีด้ากานีสต้าโผล่มาใช้โปรเทคต้าไคท์และไซโคไคท์บัสเตอร์ กางกำแพงพลังงานป้องกันกระสุนและลำแสงอนุภาคกันอย่างรวดเร็ว "แชดดด แชดดด แชดดด แชดด แชดด ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ" ตามด้วยฟาลครีด้าแอทแทคก้าและพรีม่าใช้เรย์แซทบลัสต์ช็อตกันและเรย์แซทแคนน่อนไรท์อาร์ม ยิงลำแสงกระจายเข้าทำลายห่ามิไซล์ทิ้ง "อิคนิสแคนน่อน" เจกรอน่าและทีมวอลเกนโผล่มาระดมยิงปืนใหญ่อนุภาคขนาดใหญ่เข้าถล่มใส่อุลไซน์ไดซ์จนพังไป ในขณะที่ดอลฟูลนิสและทีมเทรลเวฟยิงเดฟท์ช็อตลันเชอร์ ซึ่งเป็นปืนยาวพิสัยไกลเข้า "ป้ากกก เปรี้ยงงง ป้ากกก ป้ากกก" โดยส่งกระสุนพลังอนุภาคเจาะทะลวงเปลือกเกราะโกแซคซอนและโรดแซคซอนจนพังไปหลายสิบเครื่องด้วยกัน
              "หนอยยยยย พวกแก ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ กล้าหาเรื่องกันใช่มั้ย เดียวข่วนให้แหลกไปพร้อมกันเลย" นักรบซอร์แรคยั้วะเลยนำโกแซคซอนบุกเข้ามา โดยเลื่อนส่วนลำตัวด้านหน้าขึ้นมาพร้อมกับข่วนกงเล็บใส่ลิเนียร์ตี้ "หวับบบบ แชดดด ป้ากกก" ซึ่งเธอรีบนำแอทแทคก้าบินถอยหลังและยิงเรย์แซทบลัสต์ช็อตกันสวนกลับจนโกแซคซอนพังทะลุไป "หึมๆๆๆๆ แชดดดดด หวับบบบ ป้ากๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" สเปียริทใช้เรย์แซทแคนน่อนเลฟอาร์มยิงลำแสงลากยาวจากขวาไปซ้ายเข้าถล่มกองรบโรดแซคซอนให้กระจุย "แชดดดดด แชดดดด แชดดดด ป้ากก ป้ากก ป้ากกก" แอนเดรียใช้เรย์แซทลองค์ลันเชอร์เน้นยิงถล่มป้อมมิไซล์และปืนใหญ่ของอุลไซน์ไดซ์ให้พังไป "ฟิ้วๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆ แชดดดด" จิลใช้ไคท์บัสเตอร์บินเข้ายิงใส่อุลไซน์ไดซ์ตัวที่พยายามบุกเข้ามาจนป้อมปืนพัง และยิงซ้ำด้วยจีเลเซอร์แคนน่อนให้พังไป โดยที่เจกรอน่ากับดอลฟูลนิสช่วยกันยิงถล่มซ้ำกันอีกที
              "เอาปืนใหญ่นี้ไปกินสิวะ" นักบินบรูซาเรมที่ควบคุมอุลแลนเดอร์ยิงปืนใหญ่จากด้านหน้าเข้าใส่พวกลิเนียร์ตี้จน ทั้งหมดรีบถอยออกมา "เจอแทงเกอร์แคนน่อนหน่อยสิฟะ" นักรบซอร์แรคใช้ส่วนหัวกิ่งก่าอ้าปากที่เป็นส่วนแขนยิงกระสุนอนุภาค เข้าใส่ครีซและกริซซิกจนทั้งคู่ต้องรีบป้องกันเอาไว้ "หึมๆๆๆๆ ครืนนนนนนน" กริซซิกเลยยิงปืนใหญ่อนุภาคบนหัวไหล่เข้า "ป้ากกกก ป้ากกกก ตรูมมมม บรึมมมม" เป่าอุลแลนเดอร์และเรปแทงเกอร์จนพัง "ตรุ้ง!!!!" ครีซยิงชิฟแคลชเชอร์แคนน่อนทีเดียวหกนัดเข้า "ป้ากๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" ทะลวงใส่อุลแลนเดอร์ 3 คันและเรปแทงเกอร์อีก 3 คันใหญ่จนพัง "มิไซล์ ยิง" ทหารบรูซาเรมยิงมิไซล์จากส่วนด้านบนของอุลแลนเดอร์ขึ้นไป โดยที่อุลแคลชเชอร์นั้น "ฟ้าวๆๆๆ" ยิงมิไซล์จากป้อมด้านหลังสี่นัดเข้า "ตรุ้งๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" เจกรอน่าจำต้องยิงมิไซล์จากป้อมบนหัวไหล่สองข้างถล่มมิไซล์จากด้านหน้าทิ้ง "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แคทครอฟวอลเกนอีก 9 หน่วยยิงห่ามิไซล์ขึ้นไปสกัดกั้นห่ามิไซล์ของฝ่ายตรงข้ามที่พุ่งลงมา "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จนเป่าระเบิดวินาศสันตะโรไป "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ" ครีซสวนกลับด้วยเครื่องยิงตอปิโดจากหลังแขนเข้าถล่มใส่อุลแลนเดอร์และอุลแคลชเชอร์ให้พัง "ทวินอาร์มลันเชอร์ ยิง" กริซซิกกระหน่ำยิงเฮฟวี่บาซูก้าและเฮฟวี่แกตลิ่งเข้า "ฟ้าวววว ป้ากกก ป้ากกก ตรูมมม บรึมมม" โดนกระสุนจากเฮฟวี่บาซูก้าพุ่งทะลวงใส่หัวหลักตรงกลางของเรปแทงเกอร์จนระเบิดไป 2 คัน "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ ตรูมมม บรึมมม" ตามด้วยห่ากระสุนอนุภาคจากเฮฟวี่แกตลิ่งยิงเป่าอุลแคลชเชอร์ที่พุ่งเข้ามาจนระเบิดไปสองคันเช่นกัน "ชิ ไอ้พวกนี้มันบุกได้เรื่อยๆเลยวะ" ครีซบอก

              "โฮ่ย ทริฟตัน มาช่วยโดยด่วนเลย" เจกรอน่าบอก ไม่ทันไรก็ "ฟ้าวววว ตรึงงงง" หุ่นซุปเปอร์วอร์บอทเปลือกหินผาที่มีผลึกสีฟ้าติดตามตัวปรากฎตรงหน้าพวกกริซซิกกัน "นั้นมันคริฟไฟแทน แทรซครอนนิหว่า หนอยยย ไอ้พวกยูเนี่ยนพีช...." ทหารบรูซาเรมสบถ "อุลแคลชเชอร์ เจาะทะลวงแม่มเลย"
    "รับทราบแล้ว ลูกพี่" ทหารบรูซาเรมนำอุลแคลชเชอร์บุกเข้ามา คริฟไฟแทนแทรชครอนยืนนิ่งพร้อมกับ "แกร็กๆๆๆๆๆ ครี้งงงงง" งอกผลึกสีฟ้าขึ้นที่ฝ่าเท้าทั้งสองข้างจนเคลือบหน้าแข้งเกือบทั้งหมด แล้วก็ "หวับบบ เปรี้ยงงงง" ใช้เท้าขวาเตะเสยสว่านของอุลแคลชเชอร์ให้ปลิวกระเด็นขึ้นมา และ "เปรี้ยงงงงง" ใช้เท้าซ้ายถีบอุลแคลชเชอร์จนสว่านด้านหน้าสองอันพังพินาศและเป่ารถสว่านยักษ์ให้ "โครมมมม ตรูมมมม" พุ่งไปทับอุลแลนเดอร์จนพังไปด้วยกัน "ตายๆๆๆๆ" นักรบซอร์แรคกลุ่มหนึ่งควบคุมเรปแทงเกอร์เข้า "ทิ้วๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆ" ระดมยิงกระสุนอนุภาคและลำแสงจากปากตะกวดทั้งบนและล่างใส่คริฟไฟแทนแทรชครอน "ตูมๆๆๆๆๆ บรึมมม" จนได้รับความเสียหายไปไม่น้อย จากการที่เศษหินร่วงหลุดจากตัว "แกร็กๆๆๆๆ ครี้งๆๆ" แต่ผลึกก็งอกปิดทับตามตัวและซ่อมแซมร่างให้กลับมาเหมือนใหม่ "แกร็กๆๆๆๆๆๆ ครี้งงงงง" พร้อมกับสร้างลูกบอลผลึกขึ้นมา "คริฟบอล เอาไปเลย" คริฟไฟแทนกล่าวแล้วก็ "ป้ากกกก" ใช้เท้าเตะลูกบอลผลึกให้พุ่งเข้าใส่เรปแทงเกอร์ "ป้ากกกกก หวือออ โครมมมม ตรูมมมมม" โดยลูกบอลพุ่งอัดกับท่อนบนของตัวรถถังให้หลุดออกไป แล้วโดนลูกบอลผลึกทับบดขยี้ซ้ำ โดยที่ท่อนล่างนั้นยังเคลื่อนไปสักพักก็ "ตรูมมม" ระเบิดตาม จากนั้นก็ "ฟึ่บ ฟึ่บ ครืดดดด" หุบส่วนมือเข้าไปในแขนเพื่อนำส่วนลำกล้องปืนออกมา "หึมๆๆๆๆๆๆๆ แชดดดดด แชดดดดดด" ยิงลำแสงสาดใส่อุลแคลชเชอร์ อุลแลนเดอร์ และเรปแทงเกอร์ที่บุกเข้ามาจนพังพินาศไปเป็นจำนวนมากกัน
              "เราเสียรถศึกไปไม่น้อยแล้วโว้ย" นักรบซอร์แรคบอก
              จ่าฝูงบรูซาเรมกล่าว "ฮึยยยยย พวกเรา ถอยด่วน" แล้วก็พาพวกล่าถอยกลับไปโดยเร็ว จากเดิมที่ขนกองรบวอร์แมชชีนขนาดใหญ่จำนวนมากมา ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่สิบหน่วยแล้ว
              "เฮ้อออ เกือบไปแล้วสิเนี้ย" จิลบอกอย่างโล่งอก
              แอนเดรียกล่าว "ต้องขอบคุณคุณทริฟตันมากนะคะ ที่มาช่วยพวกเราเอาไว้กันนะคะ"
              "ไม่เป็นไรหรอก แค่ได้ออกมาช่วยทุกๆคน ก็ถือว่าพอใจมากแล้วละ" ทริฟตันที่อยู่ในร่างคริฟไฟแทนแทรซครอนกล่าว
              กริซซิกบอก "แม้ว่าจะรู้สึกหงุดหงิดที่มึงแย่งซีนพวกเราไป แต่ก็ดีแล้วที่รีบออกมาช่วยไว้น่ะ" แล้วก็ติดต่อไปหา "พี่ชาย เราไล่ไอ้พวกกองหนุนออกไปกันหมดแล้ว ว่าแต่ฐานแห่งแรกล่ะ"
              "เซรีนแจ้งมา ว่ามาสวาร์ทาร์และพวกยึดค่ายแห่งแรกได้เป็นผลสำเร็จแล้วละ" โคเซวิคบอก "ตอนนี้พวกนายรีบถอนตัวกลับโดยด่วนเลย อย่างน้อย พวกที่ล่าถอยไปนั้นคงไม่ย้อนกลับมาถล่มซ้ำกันหรอกน่ะ"
              ครีซบอก "แน่ละ เพราะภารกิจในวันแรกของพวกเรานั้น ประสบความสำเร็จกันแล้วละ"
              "บอกตรงๆนะ ว่าไอ้พวกมนุษย์ต่างดาวหินนั้น หินสมชื่อเลยน่ะ" เทรอนเร็กซ์บอก โดยที่พวกเขากลับเข้ายานไทรแองเกิ้ลกันแล้ว
              แบร็อคบอก "นั้นดิ แม้ฉันไปลับกงเล็บให้คมมากแล้ว พวกมันก็ยังมีแข็งกว่ากันด้วยน่ะ"
              "ไม่แปลกใจหรอก ว่าทำไมอาจารย์ถึงให้เราระวังตัวเวลาสู้กับพวกผิวหินกันน่ะ เพราะพวกนี้ทำให้เราเจ็บตัวจากการจู่โจมกันนี้เอง" เรฟไซท์บอก และหันมาถาม "ว่าแต่ อีกสองเผ่าที่บุกมาตอนแรกนิ ร้ายกาจแค่ไหนวะ"
              เฮเรเค้นบอก "เผ่าไฟนั้นบอกตามตรงน่ะ ว่าการเชือดให้เลือดสาดนั้น ไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องแล้วละ เพราะเลือดของพวกเผ่าไฟนั้น มันเป็นลาวาดีๆนี้แหละ"
              "จริงดิ นี้พวกเผ่าไฟนั้น มันมีเลือดที่ร้อนแรงเอาเรื่องเลยหรือวะ" พาลกีสบอก
              ไลเอิร์ทบอก "เห็นคุณแอบไบออสพูดมานี้แหละ ว่าตอนใช้ดาบกระดูกของแกฟันเข้าไปปุ๊บ ดาบก็ละลายปั้บเลยนะสิ"
              "แล้วไอ้เผ่าน้ำแข็งนั้น คงจะกระจอกมากสิ ถึงได้กางบาเรียป้องกันเอาไว้น่ะ" แฮมชัคบอก
              ไรแกทบอก "ไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมพวกเราต้องเลี่ยงการปะทะในระยะใกล้ เพราะต่างดาวแต่ละเผ่าอันตรายทั้งนั้นน่ะ"
              "แต่อย่างน้อยพวกเธอก็น่าจะรู้แล้วน่ะ ว่าการปะทะกับพวกศัตรูที่เป็นคนบนดาวดวงนี้แบบไม่มีการเตรียมพร้อมนั้น อันตรายแค่ไหนกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              ชาร์เครฟกล่าว "เรารู้แล้วละ อาจารย์ ว่าไอ้พวกดาวหินนิ หินสมชื่อกันจริงๆน่ะ"
              "แล้วทางเราไม่มีอาวุธไหนที่จะรับมือพวกที่แข็งป้ากๆหรือพวกที่อันตรายกว่านี้เลยหรือ อาจารย์" พาแรมถาม
              มาสวาร์ทาร์บอก "ตอนนี้เรายังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธของทุกดาวกันได้นะสิ เราจึงต้องใช้เท่าที่เรามีไปก่อนน่ะ"
              "ลำบากพวกเธอแล้วน่ะ" โฟรซ่ากล่าวกับพวกลิเนียร์ตี้ที่ไปกับพวกกริซซิกกัน
              สเปียริทกล่าว "บอกตามตรง ว่าต่อให้พวกบรูซาเรมและซอร์แรคไม่มีพวกสโตนอลหนุนช่วยมา พวกเราสู้ได้ยากกว่าเดิมเลยละ"
              "ถ้าไม่เพราะว่ายูเนี่ยนพีชมีมาตราการสำรองอย่างคุณทริฟตันละก็ รับรองว่าเราแย่แน่ๆเลยละคะ" แอนเดรียบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "นั้นสิ วอร์แมชชีนของซอร์แรคและบรูซาเรมล้วนมีเยอะกว่าฝ่ายเรากันเช่นนี้ เราควรจะหาตัวช่วยเพิ่มสักหน่อยนะคะ"
              "คงไม่ได้หรอก เพราะเราทิ้งการ์เซนครีทของพวกเฮเรเค้นไว้ที่ดาวแคสเซเดี่ยน-3 ซึ่งเราให้คุณวูลลิเซียไปจูนเครื่องใหม่ยกชุดเมื่อปีที่แล้ว จนไม่รู้ว่าจะแล้วเสร็จตอนไหนน่ะ" จิลบอก
              แอนเดรียกล่าว "แม้ว่าเราทำไปเพราะยังไม่อยากให้พวกเขามาเสี่ยงอันตรายเกินไป แต่จากรูปการณ์ในตอนนี้ เราควรต้องเรียกพวกคุณเบติสกลับมากันด่วนแล้วละคะ"
              "คงยากน่ะ เพราะเรามาไกลเกินไป อีกทั้งเราเองไม่รู้ว่าที่ระบบดาวของเราผ่านไปนานแค่ไหนนะสิ" สเปียริทบอก
              โฟรซ่าพยักหน้า "เอาเป็นว่าตอนนี้ เราได้แรงสนับสนุนในด้านกำลังพลส่วนหนึ่งมาแล้ว พรุ่งนี้ เรายังมีงานด่วนกันด้วยน่ะ

                   "กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" รถไฟพลังแม่เหล็กเคลื่อนตัวบนรางอยู่เหนือร่องผา ซึ่งพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตควบคุมกัน โดยมีพวกอัลแทเรี่ยนและอินเซคเที่ยนโดยสารมาด้วย "หวังว่าฝ่ายตรงข้ามคงจะไม่เจอพวกเรากัน...." หัวหน้าขบวนขนส่งชาวสโตนอคบอก ไม่ทันไรก็ "อั้ก" ทหารสโตนอลที่ยืนเฝ้าข้างหลังร้องลั่นก่อนจะร่วงตกเหวลงไป "ศัตรูบุกมาแล้ว รีบรับมือโดยเร็วเลย" หัวหน้าขบวนกล่าว
              พวกทหารสโตนอลที่อยู่ในตู้ขบวนรีบประจำสถานีรบกัน "วืออออออออ" เพราะพีวิลและเนคมาดูซัมนำโฮฟไบค์ มอเตอร์ไซด์ลอยเหนือพื้นแล่นไปตามรางแม่เหล็กออกมาจากอุโมงค์ที่อยู่ด้านข้างเข้า "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกทหารสโตนอลกระหน่ำยิงโฟร์พัลเซอร์เข้าใส่ "แว้งงงงง ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลใช้เอนเนอจี้การ์ดป้องกันกระสุนพัลเซอร์ ในขณะที่เนคมาดูซัมปัดสะท้อนกระสุนให้พุ่งไปกระทบกับขอบผาด้านข้างแทน แล้วก็ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงใส่พวกสโตนอลที่อยู่ข้างหลังจน "ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมม" กำบังต้านทานกระสุนตะกั่วโครเมี่ยมและสะเก็ดอนุภาคอีเนลเซี่ยมที่ยิงมาต่อเนื่องกันไม่ไหว จนระเบิดเป่าพวกทหารให้ร่วงตกเหวไป 5 ราย "กวี้กกกกกกก" ทหารอินเซคเที่ยนที่อยู่ในขบวนเลยรีบบินเข้าใส่พร้อมกับยิงเหล็กไนเข้าใส่ "แว้งงงง ปั้กๆๆๆๆๆ" สเปียริทใช้โฮลด์เซอเคิ้ลหยุดห่าเหล็กไนเอาไว้พร้อมกับ "ฟ้าวววว ป้ากกกก" ซัดวงกลมอาคมพุ่งไปอัดใส่พวกอินเซคเที่ยนให้ร่วงลงมา "ฟ้าววววว ฟ้าววววว ฟ้าววววว" พวกอัลแทเรี่ยนกระโดดจากขบวนรถจากด้านข้างและบินเข้ามา "แกร็กๆ ป้างงงงง ป้างงง ป้างงงง" พวกที่บินมาด้านข้างซ้ายของเนคมาดูซัมโดนลิเนียร์ตี้ใช้โดรมอนอิมแพคชู้ตเตอร์ยิงเป่าให้กระเด็นไป "โครมๆๆๆๆ" ฝังกับพนังผาเข้าเต็มๆ ส่วนพวกที่บุกมาทางขวาของพีวิลนั้น "มิลเลี่ยนสไปค์" โดนสเปียริทที่นั่งซ้อนท้ายกระหน่ำแทงใส่จนเกราะของอัลแทเรี่ยนแตกร้าวและร่วงตกเหวตาม ทหารสโตนอลเลยนำโซนิคแคนน่อนกระบอกโตออกมา "ครืนนนนนนนน ตรูมมมม" ยิงคลื่นเสียงพุ่งเข้าใส่เนคมาดูซัมและพีวิล "หนอยยย" ทั้งสองไม่มีทางเลือกนอกจาก "หวับบบ หวับบบบ" ขับโฮฟไบค์ลงข้างทางจนร่วงลงเหวไป
              "พวกมันร่วงลงไปแล้วครับ หัวหน้า" ทหารสโตนอลที่ถือปืนใหญ่กล่าวยืนยัน หัวหน้าขบวนบอก "ดี งั้นรีบนำรถมุ่งหน้ากันไปเดียวนี้....."

              "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไรก็มีเสียงปืนดังพร้อมกับเสียงกระทบจากขอบขบวนจากฝั่งขวาของตู้ท้ายกัน "หนอยยย ยังมีพวกมันอยู่อีกหรือเนี้ย" ทหารถือปืนใหญ่กล่าวโดยพยายามเงยหน้าหาตัวการ "เปรี้ยงงงงง" แต่หมวกก็แตกทะลุพร้อมกับตัวทหารล้มและร่วงลงเหวพร้อมกับปืนใหญ่โซนิคแคนน่อนเข้า "เจอเป้าหมายที่อยู่เหนือขอบผาฝั่งตะวันออกของเรากันแล้วครับ" ทหารที่ประจำตู้ถัดมาเห็นโฟรซ่าถือฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลยิงโดยนั่งซ้อนท้ายสเตฟอร์ดที่ขี่โฮฟไบค์กันอยู่
              "สอยมันให้ร่วงตาพวกพ้องของมันเดียวนี้เลย" หัวหน้าขบวนกล่าว แล้วตู้ขบวนจากด้านหน้าไป 3 ตู้นั้น "ครืดดด แกร็ก" เปิดป้อมมิไซล์ออกมาจากด้านข้างและด้านบน "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ยิงมิไซล์นำวิถีขึ้นไปยังสเตฟอร์ดและโฟรซ่าเข้า "หวับ หวับ หวับ หวับ" สเตฟอร์ดเลี้ยวรถหลบห่ามิไซล์ที่พุ่งลงมา "ตรูมๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งก็หลบหลีกมิไซล์ที่พุ่งมาจากด้านบน แต่ที่ออกมาจากด้านข้างนั้น "ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" เป่าถล่มผนังผาขึ้นไปจนใกล้ถึงตัวสเตฟอร์ดเข้า "ตรูมมมมม" โดยมิไซล์ได้พุ่งเป่าระเบิดใส่ด้านหน้าสเตฟอร์ดที่กำลังจะมาถึงจน "หวับบบบบ หวือออออ" หักเลี้ยวโฮฟไบค์ลงเหวกัน "มันร่วงไปแล้วละครับ หัวหน้า" ทหารคุมตู้ขบวนอาวุธหนักบอกอย่างดีใจมากๆ
              "แน่ใจหรือ...." สเตฟอร์ดกล่าวพร้อมกับ "ปี้บ" กดปุ่มสีน้ำเงินขึ้น "แกร็กๆๆ วึงๆๆๆๆ ซูมมมมม" เพื่อเปิดช่องไอพ่นใต้คันรถด้านหน้า ตรงกลางและด้านหลังให้เรืองแสงเพื่อยกรถให้ลอยอยู่กลางอากาศ โดยที่ไอพ่นด้านหลังนั้นจุดประทุขึ้นอย่างรวดเร็ว "รถของพวกมันลอยได้เลยหรือเนี้ย" ทหารคุมตู้ขบวนกล่าวอย่างอึ้งๆ เช่นเดียวกับพวกทหารที่อยู่ในตู้ขบวนทั้ง 8 ตู้ด้วย "ป้างงงงง อุ๊ก" ทหารสโตนอลถูกโฟรซ่ายิงเข้าตรงปากจนหน้ากากทะลุและล้มเอาท่อนบนคาดกับตู้ไป "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปิ้วๆๆ ฟุ๊บๆๆๆ ปิ้วๆๆๆๆ ฟุ้บๆๆ ตรูมๆๆๆๆ บรึมมม" สเตฟอร์ดกราดยิงโพริด็อดซ์กันเข้าใส่ตู้ขบวนติดอาวุธหนัก โดยยิงเข้าใส่ช่องยิงมิไซล์จนระเบิดเป่าทั้งตู้ให้กระจุยไป "ปังๆๆๆๆ ปิ้วๆๆ ปั้ก ปั้ก" โฟรซ่าชักปืนเดริงเจอร์แมกนั่มยิงโต้ตอบพวกทหารที่อยู่ตู้ด้านหลังอย่างจังๆ พวกอินเซคเที่ยนและอัลแทเรี่ยนที่อยู่ด้วยเลยบินเข้ามาเพื่อจัดการกับสเตฟอร์ดและโฟรซ่า "อ้านนนนนนนนนนนน" แต่เหล่านักรบนกอวกาศและแมลงอวกาศต้องอึ้งเมื่อได้ยินเสียงโฮฟไบค์ของพีวิลทะยานขึ้นสูงมา "หวับ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลขับโฮฟไบค์ให้หันข้างมา เพื่อกราดยิงอาร์มชู้ตเตอร์ทั้งสองกระบอก เข้าใส่พวกอัลแทเรี่ยนและอินเซคเที่ยนที่ยังอึ้งอยู่จนร่วงระนาว โดยที่สเปียริทช่วยกราดยิงอินเกรต้าเพคชู้ตเตอร์เข้าเสริมอีกที "อ้านนนนนนนนนนนน" ตามด้วยเนคมาดูซัมบึงทะยานเฮฟไบค์ขึ้นจากเหวมา แม้จะไม่สูงเท่าพีวิลก็ตาม "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แต่ก็อยู่ในระดับความสูงเดียวกับพวกอินเซคเที่ยนและอัลแทเรี่ยนที่เหลืออยู่ เพื่อกราดยิงซีคเก้ไรเฟิ่ลสองกระบอกสอยทั้งนกอวกาศและแมลงอวกาศให้ร่วงตกเหวไป "ฟึ่บบบ อ้าน วึงๆๆๆๆๆๆ" ทั้งคู่เลยรีบเก็บอาวุธเพื่อบิดแฮนด์ควบคุมโฮฟไบค์ให้ลอยกลางอากาศไว้ "เป็นไงละ กับการโมดิฟายโฮฟไบค์โฉมใหม่ที่เหมาะกับงานนี้เลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              "บอกตามตรงน่ะ มันก็เหมือนเอาเครื่องยนต์แอร์ไบค์ของพวกนายมาใส่โฮฟไบค์ทาวชิลด์กันดีๆนี้แหละ" เนคมาดูซัมบอก
              สเปียริทกล่าว "เคราะห์ดีมากที่เราติดตั้งชิ้นส่วนนี้ไว้ ไม่งั้นเราลงเหวยาวแน่นอนเลยละ"
              "ใช่ เพราะฉันไม่อยากร่วงลงเหวอีกรอบแล้วนะสิ โฟรซ่าบอก โดยตอนนี้ "แกร็กๆ ป้างงงงง เปร้งงงง" เธอใช้ฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลยิงตัวเชื่อมขบวนให้พัง เพื่อตัดขบวนรถ 5 ขบวนหลังออกไป เนคมาดูซัมและพีวิลรีบขับแซงไปยังตู้ขบวนหน้าสุด โดยพวกทหารสโตนอลเตรียมใช้โซนิคแคนน่อน "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมยิงมิไซล์จากบ็อกซ์บัสเตอร์เข้าเล่นงานพวกทหารสโตนอลให้ร่วงลงไป "เอนเนอจี้โบลท์" "ฟอสโบลท์" พีวิลและลิเนียร์ตี้ซัดกระสุนพลังเข้าใส่ตู้ขบวนด้านหน้าจนระเบิดไป แม้หัวหน้าขบวนรีบยกปืนเข้ามา "ย้า" สเปียริทกระโดดขึ้นสูงพร้อมกับฟาดคริสทรัลร็อดทุบปืนทิ้งแล้วก็ "ปึกกก โครมมมมม" กระทุ้งพลองอัดที่ท้องและผลักอัดกับพื้นไปเต็มๆ
              "เกรงว่า พวกเราขอยึดขบวนรถของพวกเธอไปแล้วกันน่ะจ๊ะ" สเปียริทกล่าว ซึ่งก็ทำให้พวกทหารสโตนอลที่ยังเหลืออยู่บนขบวนนั้นต้องวางอาวุธโดยเร็ว เป็นอันสรุปผลในการยึดขบวนรถขนเสบียงกันแล้ว
              "ขบวนรถรางเบอร์ 1 โดนยึดแล้ว ฝั่งพวกนายล่ะ" เนคมาดูซัมกล่าวโดยอยู่บนยานของพวกสโตนอลที่นำพวกตนขึ้นมาบนพื้นไว้
              โคเซวิคบอก "3 ขบวนที่หนีเข้าอุโมงค์ผ่านหุบเขานั้น โดนเราสกัดกั้นไว้เรียบร้อยแล้วละ" โดยที่ตนกับทีมของริชาร์ทเข้าขวางไว้พอดี "แล้วก็ทหารของฝั่งเมคโซ่เองก็หยุดขบวนรถที่พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตจะขนเสบียงกันไว้แล้วน่ะ"
              "เยี่ยม นั้นพอขัดขวางพวกมันไม่ให้ใช้ทรัพยากรที่ยึดจากค่ายแห่งแรกและที่อื่นๆไปใช้ได้บ้างน่ะ" พีวิลบอก
              โคเซวิคกล่าว "แม้ว่าจะมีส่วนหนึ่งหนีไปได้จริง แต่คิดหรือ ว่าเราจะให้พวกมันได้ใจไปมากกว่านี้กันน่ะ"

                   หลังจากนั้น วันต่อมา ยานบินของพวกสโตนอลที่มีพวกอัลแทเรี่ยนคุ้มกัน และขบวนยานโฮเวอร์คราฟของแมทเฟลิมเคลื่อนตัวบนทะเลทราย โดยมีสตาร์สโตนอคคุ้มกันไว้ โดยฝูงยานบินเคลื่อนตัวผ่านเขตชุมชนฝั่งปัจฉิม ขบวนยานโฮเวอร์คราฟไปทางบรูพา
    "ฟ้าววววววว ฟ้าวววววว ฟ้าวววววว" ไม่ทันไรก็มียานบินทรงสามเหลี่ยมหัวนกสีดำบินเข้ามาพร้อมกับฝูงบินอัสแทรมิคท็อปเกล ฟาลครีด้าสกายไฮซ์ และไรเดนโควไล่กวดเข้ามา "หนอยยยยย พวกศัตรูมันบุกมาแล้วน่ะ" ทหารสโตนอลบอก ทหารอัลแทเรี่ยนกล่าว "เราจะจัดการขัดขวางพวกมันเอง รีบนำยานตรงเข้าฐานเดียวนี้เลย" แล้วก็นำวิงค์เซปเตอร์บุกไปพร้อมกับวิงค์ฮาเคน ยานหัวนกทรงสามเหลี่ยมและอัสแทรมิคจำนวนหนึ่งบุกเข้าใส่ "เอานี้ไปเลย ไซโคลนมิไซล์สตอร์ม" ไซโคลเนียกระหน่ำยิงห่ามิไซล์จากหน้าแข้ง ข้างต้นขาและหัวไหล่เข้าถล่มใส่ฝูงบินวิงค์เซปเตอร์กัน "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เครนิสนำหน่วยรบถล่มอัสแทรมิคที่บุกเข้ามาด้วยเทอไบน์ไรเฟิ่ลจนร่วงไปเป็นจำนวนมาก "แฟ้ววววว ฟิ้วๆๆๆๆ แชด แชด แชด" อิลมิคนำยานชาร์โดววิงค์ฮาเคนยิงทั้งมิไซล์และเลเซอร์จากจงอยปากถล่มใส่วิงค์ฮาเคนจนร่วงไป 3 ลำด้วยกัน พวกสโตนอลเลยรีบนำยานหนีไป สวนทางกับซุปเปอร์วอร์บอทอิคารอไนซ์ที่บุกเข้ามาถึง 3 ตัว "แชดดดดด แชดดดด" นำวิงค์บีมลันเชอร์มากระหน่ำยิงใส่ "หวับๆๆๆๆ" พวกอิลมิคเลยรีบบินหลบลำแสงอย่างรวดเร็ว "ฟ้าววว ฟ้าววว" แอร์ไซเดอร์และแอร์สเปคเทรี่ยนพุ่งเข้ามา "ฟึ่บบบ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" จู่โจมด้วยมีดสั้นไฟฟ้าแรงสูงสับแขนขาของอิคารอไนซ์ขาดไปรายละตัว "ฟ้าวววว หวับบบ เกร้ง" อิคารอไนซ์ตัวที่สามหวดหอกเข้าใส่เซรีนกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งเธอรีบใช้วิงค์เบลดที่ข้างหลังต้านรับคมหอกไว้ "ฟ้าววววว ฟิ้วๆๆๆๆๆ" โครว์เชดบินเข้ามาซัดมีดสั้นเข้าใส่ แต่ "หวับ" อิคารอไนซ์รีบบินหลบออกมาพร้อมกับใช้วิงค์บีมลันเชอร์ยิงสวนกลับ "ฟ้าววววว ตรูมมม บรึมมม" อิลมิคยิงจรวดลูกยาวเข้าเป่าระเบิดใส่อิคารอไนซ์จนชะงักงัน "หึมๆๆๆๆๆ แชดดดดด" ไซโคลเนียปิดท้ายด้วยการยิงเทมเพสต้าบัสเตอร์ไรเฟิ่ลทะลวงส่วนต้นคอของอิคารอไนซ์จน "ป้ากกก ตรูมมมม" เป่าส่วนหัวระเบิดไป

                   ส่วนทางด้านกองยานรบนั้น "แง้วววววว" ทหารแมทเฟลิมควบแคทครอฟและเพรเดแคทหุ่นทรงแมวป่าบุกเข้าสกัดกั้นกิซเซเบอร์ ควอดเทตทรอส หน่วยรบอาบินอลและเทรลเวฟที่บุกเข้ามา "ตรุ้งๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆ" เพรเดแคทระดมยิงปืนลำแสงอนุภาคต่อเนื่องเข้าใส่ "ตรูมๆๆๆๆๆ" แอบไบออส ฟิเกซ อาชิลน่าและดอลฟูลนิสรีบหลบหลีกพร้อมกับ "แชดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดด" โต้ตอบสวนกลับด้วยอาวุธปืนแสงจนบดขยี้เพรเดแคทที่วิ่งเข้ามาจนพัง แม้แคทครอฟจะกระโดดขึ้นสูงเพื่อเข้าตะบบ "ทิ้วๆๆๆๆๆ แชดดดด" ฟิเกซกราดยิงพลาซอนบีมวัลแคนเข้าใส่แคทครอฟ 4 ตัวให้ชะงัก ในขณะที่แอบไบออสยิงเดธอายบีมทะลุขาแคทครอฟตัวที่เข้าตะบบจนขาระเบิด "แชดดดดด แชดดดด ป้ากๆ ตรูมๆ" ทีมของดอลฟูลนิสใช้อาบีสไรเฟิ่ลยิงสอยแคทครอฟสองตัวให้พัง "แชดดดด แชดดดด" ทีมอาบินอลระดมยิงใส่แคทครอฟตัวที่เสียจังหวะไปพร้อมกับแคทครอฟและเพรเดแคทอีก 3-4 ตัวให้ร่วง "หวับบบ กร้อบบบบ กร้อบบบบ" แอบไบออสใช้กิซซาร์ดเรลลันเชอร์งับเพรเดแคทสองตัวที่กระโจนเข้ามาพร้อมกัน แล้วก็จับมาอยู่ข้างหน้า "แชดดดดดดดดดด เปรี้ยงงงงง ตรูมมมม" พร้อมกับยิงลำแสงส่งเพรเดแคทสองตัวปลิวไปอัดกับสตาร์สโตนอค 3 ตัว ซึ่งเตรียมใช้โซนิคแคนน่อนจนระเบิดไปด้วยกัน "แย่แล้วละคะ เป้าหมายกำลังออกนอกระยะยิงของพวกเราแล้วคะ จ่าฝูง" ทหารเฟลาเลี่ยมกล่าว ฟิเกซบอก "อย่าห่วงไปเลย เพราะถึงแม้พวกมันจะหนีไปได้ ก็ใช่ว่าจะหนีพ้นกันหรอกน่ะ" แล้วก็ "ฉั้วะๆๆๆ" ใช้เทตทรอสเบลดแบบหอกฟาดฟันใส่สตาร์สโตนอคที่บุกจู่โจมด้วยสว่านจนขาดสะบั้นไป 4 ตัวด้วยกัน
              "แชดดดด ตรูมมมม" ขบวนยานโฮเวอร์คราฟของสโตนอคที่หนีการจู่โจมของพวกอาชิลน่าถูกถล่มอย่างจังๆ โดยคลอเวฟและจายด์ที่มาดักหน้าไว้ "ยังมีพวกมันมาดักหน้าเลยหรือเนี้ย" ทหารสโตนอคบอก แล้วก็ถล่มด้วยมิไซล์บอมส์เข้าใส่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลและเจเนลนำคอสทารอนไซน์เกนและเกรฟเซนกราดยิงทำลายมิไซล์บอมส์จนระเบิดไป แล้วก็ "ป้ากกก ป้ากกก" พีวิลบุกเข้าใช้เฮฟวี่ฮาร์ดนัคเคิ้ลชกใส่สตาร์สโตนอคจนกระจุยไปสองตัว "ฟ้าววว ป้ากกก ป้ากกก" คลอเวฟใช้ออคตาแกรมชิลด์ปะทะใส่สตาร์สโตนอคจนพังไปทั้งคู่ "แมกเนตเบรคเกอร์" จายด์ชกด้วยหมัดพลังแม่เหล็กจนบดขยี้สตาร์สโตนอคให้พังไปทั้งสองตัว "ฉั้วะๆๆๆ" เจเนลหวดดาบไฮเมทัลเบลดฟันทำลายสตาร์สโตนอคไป 4 ตัวจนขบวนยานโฮเวอร์คราฟต้องรีบเบรคออก เช่นเดียวกับ "แฟ้ววววว ฟิ้วๆๆๆๆ เปรี้ยงๆๆๆๆ" ฝูงยานบินขนส่งของสโตนอคถูกพลัสเชอริทเข้ามาดักหน้า และยิงสปาร์คแดกเกอร์เป่าระเบิดใส่ด้านหน้าจนชะงักงันเข้า "นำยานลงดีๆ หรือว่าจะให้เฉือนทิ้งกันละ" พลัสเชอริทบอก พวกสโตนอคกลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเนตทั้งสองกลุ่ม จำต้องยอมจำนนโดยเร็ว

              "นั้นไม่ดีแล้วละครับ ลอร์ดมันเทิร์ค ตลอด 4 วันที่ผ่านมานั้น เราเป็นฝ่ายเสียหายกันอย่างต่อเนื่องเลยครับ" ที่ปรึกษากล่าวกับลอร์ดมันเทิร์คที่นั่งดูแผนที่ดาว ซึ่งจุดสีแดงของตนที่มีเยอะอยู่ กลายเป็นสีเขียวไปอย่างรวดเร็ว
              "สมแล้วที่เป็นฝีมือของกองกำลังหัวหอกของกลุ่มชนเผ่าจากระบบดาวพรมแดนฝั่งตะวันออก ที่ร่วมมือกับกองกำลังฝ่ายกบฎเอาชนะพวกพันธมิตรของเราไปได้กันน่ะ" มันเทิร์คกล่าวอย่างเย็นใจขึ้นมา
              "แต่เราสูญเสียนิคมอุตสาหกรรมหนักไป 20 กว่าแห่ง เขตเหมืองแร่ที่เรายึดมาอีก 34 แห่ง ฐานทัพทางทหารต่างๆอีก 50 แห่งกันจากการลงมือของพวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีช จนส่งผลให้พวกทหารฝั่งรานีเจเดร่าเกิดความฮึกเหิมและลุกคืบไปเรื่อยๆ ถ้าขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป นอกจากเราจะสูญเสียแรงสนับสนุนจากพันธมิตรของเราแล้ว เผลอๆเราจะ...." ที่ปรึกษาบอก
              มันเทิร์คลุกขึ้นพร้อมกับบอกไปว่า "....ถ้าพวกมันจะบุกยึดปราการเดคครอทแห่งนี้ละก็ ให้มันบุกเข้ามายึดไปได้เลยสิ"
              "ท่านลอร์ดครับ นี้ท่านบ้าไปแล้วหรือไงละครับ ปราการแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งเราไม่ควรจะเสียมันไปเลยนะครับ" ที่ปรึกษาได้ฟังก็ตะโกนลั่น
              มันเทิร์คจึง "ฟึ่บบบ โครมมมม" ตะบบหน้าที่ปรึกษาอัดกับผนังหินไปเต็มๆ "ทั้งหมดล้วนอยู่ในแผนการของฉันที่วางเอาไว้แล้วละ แน่นอน ว่าต่อให้ยัยเจเดร่ามีพวกดี แข็งแกร่งและทรงพลังแค่ไหน มันก็แค่อีโง่ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะมานั่งบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านปู่ทวดของฉันเคยนั่งมาได้หรอกน่ะ"
              "แผนการของท่านนะหรือครับ" ที่ปรึกษากล่าว
              มันเทิร์คเลยปล่อยที่ปรึกษาลงกับพื้น พร้อมกับบอกว่า "กว่าพวกนั้นจะรู้ถึงแผนการที่แท้จริงของฉัน มันก็สายเกินไปแล้วละ" แล้วก็แจ้งให้ "บอกให้ทหารของเราส่วนหนึ่งเฝ้าฐานที่มั่นนี้ไว้ ส่วนกองรบพันธมิตรของฉันนั้น พวกเขาได้ชี้แจงแผนการกับฉันไว้แล้ว ดังนั้น ฉันจะให้แกรับผิดชอบฐานทัพนี้เอาไว้กันน่ะ"
              "รับทราบแล้วละครับ ท่านลอร์ดมันเทิร์ค" ที่ปรึกษาบอก
              ลอร์ดมันเทิร์คยิ้มก่อนบอกไปว่า "แน่จริงก็เข้ามาได้เลย ไอ้พวกไทรเวเซอร์ ไอ้พวกยูเนี่ยนพีช พวกแกไม่ได้ช่วยยัยเจเดร่าปราบฉันหรอก แต่ช่วยให้ฉันได้บัลลังก์คืนมาต่างหาก"

              "ตอนนี้ พวกเราได้ขุมกำลังกลับมาราว 60 เปอร์เซนต์แล้วละครับ" แม่ทัพของเจเดร่ากล่าวต่อเจเดร่าในห้องประชุมแผนการ
              "ต้องขอบคุณพวกท่านมากๆเลยน่ะ ที่ช่วยให้พวกเราได้ดาวหินกลับมากันบ้างนะ" เจเดร่ากล่าวกับพวกเนคมาดูซัมและโคเซวิค
              "พวกเราแค่ทำในสิ่งที่พวกเราต้องทำกันเท่านั้นเองแหละครับ" เนคมาดูซัมกล่าว
              โคเซวิคบอก "แต่ท่านเองยังวางใจไม่ได้เลยสิครับ ว่าการยึดฐานทัพคืนจากลอร์ดมันเทิร์คนั้น คงชนะมันไม่ได้เลยน่ะ"
              "ท่านคงจะคิดเหมือนที่ฉันคิดอยู่สิน่ะ ผู้นำโคเซวิค เพราะมันเทิร์คมีแรงสนับสนุนจากผู้รุกรานฝั่งตะวันออกกันอยู่มาก แค่ยึดฐานทัพมาได้เยอะจนกำลังรบของเรากลับมาได้เกินครึ่ง ยังไม่ถือว่าได้เปรียบกันหรอก" เจเดร่ากล่าว แล้วก็เปิดภาพหุบเขาที่มีป้อมปราการเหล็กกล้าเป็นหอทรงสูงติดกำแพงรอบหุบเขากัน "สายลับฝ่ายเราได้ข้อมูลมาว่า มันเทิร์คติดต่อกับเพื่อนฝูงจากดาวอื่นที่เป็นตัวแกนนำกลุ่มกบฎต่อผู้นำของดาวแต่ละดวง เว้นแต่แซนดอมให้มารวมพลกันที่ปราการเดคครอทที่อยู่ทางตอนใต้ในตำแหน่งพี-167 ซึ่งคงไม่ดีแน่ ที่จะให้พวกมันเทิร์ครวมหัวกันบุกจู่โจมพวกเราในคราวเดียวเลยน่ะ"
              พีวิลบอก "ความหมายของท่านคือ เราจำต้องชิงลงมือก่อนสิครับ"
              "ใช่ กำหนดการมาของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตจากดาวอื่นนั้นคือเช้ามะรืนนี้ ดังนั้น เรารอให้มันเทิร์คทำสำเร็จไม่ได้เป็นอันขาด" เจเดร่ากล่าว "ตอนนี้ ฉันได้จัดยุทโธปกรณ์และซ่อมแซมหุ่นรบของพวกคุณกันไว้อย่างดีแล้ว เช่นเดียวกับกองรบส่วนหนึ่งของฉันที่จะติดตามพวกคุณไปด้วยน่ะ"
              เฟลิคพยักหน้าและกล่าว "แบบนั้นดีเลยครับ เพราะเรามั่นใจว่าการบุกยึดปราการแห่งนี้ คงไม่สำเร็จได้หากไม่มีพวกคุณนะครับ"
              "ดี งั้นพวกคุณกลับไปเตรียมพร้อมกันเดียวนี้เลย" เจเดร่ากล่าว
              เมคโซ่ถาม "ถ้าเช่นนั้น ผมจะร่วมในยุทธการนี้กันด้วยนะครับ ท่านเจเดร่า อย่างน้อย ผมก็ควรจะ...."
              "ฉันเสียใจด้วยน่ะ เมคโซ่ แต่ฉันจำต้องให้เธออยู่ที่นี้ไปก่อนน่ะ" เจเดร่าสั่ง เมคโซ่ได้ฟังก็ไม่พอใจขึ้นมา
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ท่านเจเดร่าคงไม่คิดว่า มันเทิร์คจะมีแผนสกปรกที่คาดไม่ถึงอยู่เลยสิครับ"
              "ถูกต้องแล้วละ ฉันรู้ว่ามันเทิร์คฉลาดหลักแหลมอย่างมาก ถึงขั้นที่วางแผนมาหลายชั้นหลายขั้นตอนด้วยกัน จึงไม่แปลกใจเลย ที่มันเทิร์คหาทางหนีทีไล่กันได้ตลอดน่ะ" เจเดร่าบอก "และเป้าหมายของมันเทิร์ค นอกเหนือจากการได้ขึ้นครองดาวดวงนี้ ซึ่งเท่ากับว่าเขาสามารถควบคุมกองรบเกือบทั้งหมดและวอร์มูนของพวกเรา ควบคุมแหล่งทรัพยากรของดาวดวงนี้ แม้กระทั่งดาวดวงนี้กันด้วย ก็คือการได้เหยียบย้ำซ้ำเติมฉันให้ลงไปกันบ้างน่ะ"
              อิลมิคบอก "อย่างน้อย ถ้าเมคโซ่อยู่ด้วย ท่านก็วางใจได้เลยสิน่ะ"
              "เอางั้นก็ได้น่า แม้ว่าผมจะทำอะไรไอ้มันเทิร์คไม่ได้ก็ตาม อย่างน้อยต้องมีใครสักตนที่ปกป้องท่านไว้กันน่ะ" เมคโซ่ยอมรับในความเห็นของเจเดร่าและทุกๆคนที่เห็นด้วยไว้
              เนคมาดูซัมบอก "งั้นพวกเราก็ฝากท่านเจเดร่าให้นายรับผิดชอบด้วยละ"
              "หวังว่าพวกนายคงจะจัดการยึดฐานแห่งนั้น และนำตัวมันเทิร์คกลับมาตรงหน้าให้ได้กันละ" เมคโซ่กล่าว
              โคเซวิคพยักหน้า "งั้นรอรับฟังข่าวดีแล้วกันน่ะ พวกเรา ขอตัวกันก่อนละ" แล้วทั้งสองกลุ่มก็เดินออกจากห้องไป โดยหารู้ไม่ว่าในพระราชวังมีความเคลื่อนไหวบางอย่างเกิดขึ้นมาเสียแล้ว
    ต่อช่วงที่ 2 กัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×