ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 เริ่มต้นการดวลของทศภารดร ยกแรก สามใบเถาสุดซ่า ช่วงท้าย
เลเบรน่ามองหน้าเฮอมิส ซึ่งพยักหน้าให้ เธอจึงกล่าวว่า "ผลการดวลของทั้งสามคู่นั้น...." แล้วก็หยุดพูดไปพักหนึ่ง พร้อมกับตัดสินให้ ".....ท่านคิโคเดนกับทศภารดรที่เหลือ ตัดสินให้.... เสมอกัน!!!!" ลิเนียร์ตี้ แอนเดรีย และไซโคลเนียถึงกับถอนใจ
ที่ยานรบชั้นลาบัลย่า นอกดาวแคสเซรอน-4 สะพานเดินเรือ
การดวลของทศภารดรครั้งแรกจบลงไปแล้ว แต่คิโคเดนยังมีน้องอีก 7 ที่จะส่งลงสนามเพื่อดวลกับเมนซิกส์ทีนที่เหลืออีก 12 ตนด้วยกัน
โปรดติดตามในตอนต่อไป กับตอนที่ 2 การดวลของทศภารดรเทพ ครั้งที่สอง การปะทะของดาบและหมัด
ตอนหน้า คิโคเดน ส่งน้องชายฝีมือระดับต้นๆทั้งสองไปดวลกับดาบมือหนึ่งและหัตถ์เพลิงสีน้ำเงินกัน หากแต่มีน้องตนหนึ่งที่คิดหยั่งเชิงสเปียริทก่อน
"ได้ไงน่ะ พวกเรา เสมอนะหรือ ในเมื่อ พวกเราชนะพวกเพื่อนๆของแอสเซนกันแล้วนิ" แคมิเรนโวยลั่น
เรลโลเซนบอก "เธอคิดว่าพวกเราเสมอพวกเพื่อนๆของแอสเซนกันยังไงมิทราบละยะ"
"ต่อให้ท่านคิโคเดนไม่ลงมาอธิบาย ทั้งข้าและเซอร์เฮอมิสต่างก็เห็นการต่อสู้ของพวกท่านกับเหล่าสหายของท่านแอสเซนกันแล้ว" เลเบรน่าบอก "ท่านเรลโลเซน ท่านคิดว่า กระบี่คิวตี้เซเบอร์ในมือของลิเนียร์ตี้แตกหักไปนั้น คือชัยชนะของท่านเลยสิน่ะ"
เรลโลเซนกล่าว "แน่ละ เธอบอกเองนิ ว่าอาวุธของใครหัก เท่ากับว่าผู้นั้นแพ้แล้วนิ"
"แต่คิวตี้เซเบอร์ของลิเนียร์ตี้ มันยังเหลือคมอยู่ แม้จะสั้นกุดแล้วก็ตาม อีกทั้งเธอยังใช้พลังแทนคมกระบี่ด้วยนั้น บ่งบอกได้ว่า เธอยังมีสภาพพร้อมจะสู้ได้อยู่ ตรงตามกฎของแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้ที่ท่านไซมาเทนว่าไว้ เมื่อแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้ปราศจากอาวุธในมือ พวกเขาจะใช้พลังในตัวที่เหลืออยู่กับอาวุธที่แม้จะหักสั้นจนไม่มีคมเป็นอาวุธชิ้นสุดท้าย ต่อให้แมนิเกเตอร์ตนนั้นไม่มีทางเอาชนะได้เลยก็ตาม" เลเบรน่ากล่าว "อันที่จริง ข้าควรจะตัดสินให้ท่านแพ้ลิเนียร์ตี้เสียด้วยซ้ำ จากการที่ท่าน หันหลังให้ลิเนียร์ตี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ประมาทมาก ต่อให้ท่านจะอ้างว่าท่านจะหันกลับมาโต้ตอบได้ก็ตาม ถ้าท่านไซมาเทนยังอยู่ ท่านหญิงคงจะสิ้นท่าจากการถูกแทงข้างหลังเป็นรอบที่สองแน่นอน"
เรลโลเซนได้ฟังก็ถึงกับหน้าบึ้ง "แต่อาวุธของฉันทำด้วยผลึกอัญมณี ที่ไม่มีทาง...." แล้วก็ชูทวนผลึกมา แต่หัวทวนแตกหักไปครึ่งส่วนแล้ว
"แล้วฉันแพ้ยัยปีศาจผมยาวได้ไงกันละ" แคมิเรนบอก
เฮอมิสกล่าว "แอนเดรียเป็นแมนิเกเตอร์มิวแทนอยด์ที่มีทักษะการต่อสู้ที่ด้อยกว่าสมาชิกรายอื่น รวมถึงท่านแอสเซนกันก็จริง แต่....." แล้วก็กระทุ้งดาบใหญ่ลงพื้น "....เธอเป็นแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้สายตั้งรับและโต้ตอบสวนกลับที่เก่งกาจที่สุด ซึ่งการที่ท่านโดนแอนเดรียโต้ตอบการโจมตีในช่วงแรกๆนั้น บ่งบอกได้ว่า เธอรู้ว่าการบุกโจมตีใส่ท่านนั้นไม่อาจเอาชนะได้แต่แรกน่ะ"
"แต่ฉันก็ทำให้เธอสาหัสไปพร้อมกับอาวุธพังแล้ว ฉันจะแพ้ได้ไงละ" แคมิเรนถาม
เฮอมิสกล่าว "ด้วยความเป็นมิวแทนอยด์ แอนเดรียสามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้ในเวลาอันสั้น แม้จะฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ก็ตาม" จากนั้นก็ชูดาบมาที่ตรีศูลย์ "แล้วท่านจะอธิบายเรื่องอาวุธของท่านยังไงมิทราบละ" แคมิเรนเลยนำตรีศูลย์คู่ใจของเธอ ซึ่ง....ปลายง่ามหักทั้งสามง่าม แถมโคนง่ามรวมถึงด้ามจับแตกร้าวไปด้วย
"อาวุธของเจ้าพี่หักนะหรือ นี้คงไม่ใช่พลังวิเศษของยัยนั้นละสิ" เรลโลเซนบอก
เลเบรน่ากล่าว "ถึงแอนเดรียไม่ได้ใช้พลังในตัวเพื่อโกงการดวลหรือรู้วิธีโต้ตอบวิชาของท่านจากท่านแอสเซนกันก็ตาม....แต่จากที่เห็นนั้น แมนิเกเตอร์สายป้องกันอย่างแอนเดรีย ใช้วิธีสะท้อนพลังการโจมตีของท่าน ให้ย้อนกลับมาเล่นงานท่านเอง ซึ่ง....อาวุธของท่านคือหลักฐานที่แน่นหนาที่สุดแล้วคะ"
"เดียวก่อนน่ะ...." คลอวูเดนเลยดูคมเคียวของเธอ "เป๊าะ เกร้งๆๆๆๆๆ" ซึ่งปลายและตัวคมเคียวท่อนกลางหักร่วงลงมา "แล้วฉันแพ้ยัยผีไซบอร์คได้ไง ในเมื่อเธอไม่น่าแกร่งพอเลยน่ะ" คลอวูเดนถาม
เฮอมิสบอก "จริงอยู่ที่แมนิเกเตอร์ต่อสู้ภาคอากาศอย่างไซโคลเนีย ไม่น่าจะแกร่งหรือทรงพลังกว่าท่าน โดยที่เธอมีแขนขาหุ่นยนต์เลยก็ตาม" แล้วก็บอก "แต่ที่เธอสามารถโต้ตอบท่านได้นั้น เพราะเธอมีความกล้าเสี่ยงตายมาเป็นแรงผลักดันให้เธอสู้กับท่านอย่างเต็มที่นี้แหละ"
"กล้าเสี่ยงตายนะหรือ....มันเกี่ยวอะไรกับการที่ยัยนั้นได้เปรียบฉันเลยละ" คลอวูเดนกล่าว
เฮอมิสบอก "ไซโคลเนียเป็นแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์ ที่ตายและคืนชีพมาสองรอบเช่นกัน ซึ่งแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์อย่างเธอและพวก เตรียมตัวเตรียมใจที่จะสู้ตายกันอยู่แล้ว แม้จะรู้ดีว่าสู้ไปอาจจะไม่ชนะ หรืออาจจะสิ้นชีพไปเลยก็ตาม อีกทั้งเธอ ท่านแอสเซนและพวกพ้องไทรเวเซอร์ ผ่านการต่อสู้กับศัตรูสุดโหด เผชิญหน้ากับอันตรายจากพวกเดลอาเนี่ยนและศัตรูในเขตอวกาศภาคกลางกันมาหลายต่อหลายครั้ง จิตใจจึงมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าท่าน ผู้ซึ่งคืนชีพมาจากความตายเพียงครั้งเดียว แต่ไม่สนใจที่จะขัดเกลาให้ตนเองแข็งแกร่งเพื่อรับมือกับศัตรูที่เหนือกว่ากันได้น่ะ"
"แน่นอน ว่านั้นเป็นข้อได้เปรียบที่น่ากลัวของพวกแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์ในเวลานี้ รวมถึงพวกไทรเวเซอร์ ที่มีสมาชิกส่วนมาก เป็นแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์ ซึ่งท่านแอสเซนเป็นอดีตซัลคาเลี่ยนที่คืนชีพหลังจากที่ตายไปแล้วด้วย การที่ท่านประมาทศัตรู แม้จะได้เปรียบไซโคลเนียในตอนท้ายแล้วก็ตาม" เลเบรน่ากล่าว "แต่จากการที่ท่านกล้ากระโจนใส่ไซโคลเนียเพื่อจัดการกับเธอลงนั้น มันส่อเจตนาว่า ท่านกล้าแหกกฎเกณฑ์การดวลของกลุ่มทศภารดรกันด้วย อย่าว่าท่านคิโคเดนหรือพวกท่านโคคูเดนเลย ถ้าท่านไซมาเทนยังอยู่ ลำดับของท่านควรจะสลับกับของท่านเรลโลเซนกันซะมากกว่า" คลอวูเดนหน้าบึ้งกับคำตัดสิน
เฮอมิสกล่าวกับพวกลิเนียร์ตี้ "พวกท่านทั้งสาม ถึงแม้ว่าผลการตัดสินนั้นทำให้พวกท่านรอดไปได้จริง แต่.....มันยังไม่จบเรื่องกันหรอกน่ะ"
"เจ้าพี่คะ คราวนี้เราอาจจะเสมอ แต่คราวหน้าไม่แน่หรอกคะ" เรลโลเซนบอก
แคมิเรนกล่าว "นั้นสิคะ ครั้งนี้เรามาเพื่อท้าดวล ครั้งหน้า เราสามารถเล่นงานพวกนี้ได้อยู่นะคะ"
"ก็ได้ ในเมื่อเธอทั้งคู่ว่าเช่นนั้นละก็น่ะ...." คลอวูเดนกล่าว แล้วหันมายังลิเนียร์ตี้และพวก พร้อมกับบอกว่า ".....ต่อให้พวกเธอรอดจากการดวลครั้งนี้ก็ตาม ต่อแต่นี้ไป พวกเราทั้งสามจะไม่เลิกราจนกว่าพวกเธอจะพ่ายแพ้พวกเราโดยสมบูรณ์กันนี้แหละ"
แคมิเรนหันมายังสเปียริท "แอสเซน แม้เราไม่รู้ว่าเธอสอนวิชาที่เธอแอบดูพวกเราฝึกให้เพื่อนเธอสู้จนสูสีพวกเรากันยังไงก็ตาม แต่....เราขอบอกตามตรง ว่าไม่ว่าเธอจะทำเช่นไร เธอไม่มีทางชนะเราได้หรอก"
"ถ้าขนาดพวกเราทั้งสิบรวมกันยังสยบเธอลงได้ ครั้งนี้เราก็ชนะเธอได้เช่นกันน่ะ" เรลโลเซนบอก
คลอวูเดนกล่าว "แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น เพื่อนๆของเธอจะต้องเละคามือพวกเราอยู่แล้ว เพราะพวกเรา มองเพื่อนๆของเธอเป็นแค่ตุ๊กตาเปราะๆ และผีตายโห่งกันนี้แหละ"
"หืม......." ทว่าคำพูดของคลอวูเดนกลับทำให้เหล่าแมนิเกเตอร์ส่วนมากที่มาดูเกิดความไม่พอใจกัน แคมิเรนกล่าว "เออ เกรงว่าเจ้าพี่พูดไม่ได้ดูรอบด้านเลยนะคะ"
เฮอมิสกล่าว "การดวลในวันนี้ ถือว่ารู้ผลแล้ว พวกเรา ขอตัวเดินทางกลับก่อนแล้วกัน"
"ครืนนนนนนนน ครืนนนนนนน ครืนนนนนนนนน" ยานเฟอแกลิคนำเวทีประลองทั้งสามเข้าไปในยาน รวมถึงเหล่าสเปซไนท์และพวกเรลโลเซนด้วย และบินทะยานออกจากดาวไป "พวกเธอไหวมั้ยละ" โฟรซ่าบอก
แอนเดรียพยักหน้า "บอกตามตรงนะคะ ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้น แข็งแกร่งกว่าสเปียริทเสียอีกน่ะ"
"ขนาดฉันพยายามโจมตียัยคลอวูเดนไปหลายที แต่ยัยนั้นโต้ตอบได้ตลอดเช่นนี้ สมแล้วที่เป็นหนึ่งในทศภารดรเทพน่ะ" ไซโคลเนียบอก
ลิเนียร์ตี้กล่าว "ดีที่พวกเราใช้เวลาตลอด 4-5 เดือนที่ผ่านมาฝึกฝนการต่อสู้กันแล้ว ไม่เช่นนั้น พวกเราพ่ายแพ้ภายใน 10 วินาทีกันแล้วละ" แล้วก็ชูคิวตี้เซเบอร์มา "หากแต่....ครั้งต่อไปนี้สิ"
"ถ้าเช่นนั้น พวกเรากลับไปหาป้ารัคชูมี่เลยดีกว่าน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
สเปียริทบอก "ทุกๆท่านคะ พวกเราจะเดินทางกลับแล้ว ลิเนียร์ตี้กับพวกต้องการพักผ่อน ช่วยหลีกทางด้วยน่ะ"
ที่ยานรบชั้นลาบัลย่า นอกดาวแคสเซรอน-4 สะพานเดินเรือ
"ข้าไม่ต้องพูดย้ำซ้ำให้มากความกันอีกน่ะ คลอวูเดน แคมิเรน และเรลโลเซน" คิโคเดนกล่าว เมื่อสามใบเถาแสบมาอยู่ตรงหน้า
เรฟีเทนกล่าว "อันที่จริง เจ้าพี่ใหญ่ควรจะตัดสินให้พวกเธอแพ้เสียด้วยซ้ำเลยน่ะ"
"แพ้เลยหรือ อีแค่เรารู้ข้อมูลของคู่ต่อสู้ทั้งสามเพียงนิดหน่อยเนี้ยนะคะ" เรลโลเซนอ้าง
แมคเคลเลนบอก "ข้อมูลที่เจ้าพี่รองรวบรวมมานั้น มันมีบางส่วนขาดหาย ไม่สมบูรณ์ รวมถึงเป็นข้อมูลเก่าเมื่อ 4 ปีก่อนกัน ซึ่งตามหลักแล้ว ข้อมูลที่ได้จากวอร์โอบิลิคซ์นั้น เป็นแค่ข้อมูลตั้งต้นที่ไม่ได้อัพเดตเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องการต่อสู้กับเดลอาเนี่ยนของแอสเซนกับพวกไทรเวเซอร์ เมื่อ 3 ปีก่อนด้วยน่ะ"
"แล้วข้อมูลจากไอ้พวกหุ่นกระป๋องที่มือขวาหัวแหลมของท่านพ่อ มันดีมากเลยหรือคะ" แคมิเรนถาม
แมคเคลเลนกล่าว "พวกเธอคงไม่รู้หรอกน่ะ ว่าแอสเซนและพวกไทรเวเซอร์ เดินทางมาที่โลกก่อนหน้าพวกเรา ซึ่งอดีตแม่ทัพครองคอร์ด สมุนมือขวาของท่านพ่อ รวบรวมข้อมูลขีดความสามารถของแอสเซนกับพวกไทรเวเซอร์ในช่วงที่อยู่บนโลกหนที่สอง มาใส่ไว้ในหัวเมทาลอยด์เลเจี้ยนกันน่ะ" แล้วก็นำภาพ "เคร้งๆๆๆๆๆๆๆ" ลิเนียร์ตี้ฟาดฟันพวกแอตแลนไทซ์อดีตมนุษย์ด้วยคิวตี้เซเบอร์และ "หวับๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" ซัดกงจักรลิเนียร์ตี้สลัคเกอร์ปะทะอัดใส่แอตแลนไทซ์ห้าตัวให้ล้ม "หวับบบ เพี้ยะ" แอนเดรียสบัดปอยผมฟาดอัดใส่ทหารไซบอร์คกลายพันธุ์ให้ล้ม แล้วก็ "ฉึกกก ฟึ่บบบบ เปรี้ยงงง" ใช้อัมเบรแลนซ์ทิ้มใส่ไซบอร์คกลายพันธุ์ตัวอ้วนเข้าที่ท้องและตอกให้กระเด็นไป "แฟ้วววววว แฟ้วววว แฟ้วววว ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ไซโคลเนียบินโฉบเข้าจู่โจมใส่โซลูนาสตี้กลุ่มยูเรนอยด์ฝ่ายตรงข้ามด้วยกริฟสเปียร์ แล้วก็ "เคร้ง ฉึก ป้ากกก แฟ้ววววว ตรูมมมม" แทงใส่เกรมฮอร์ท โซลูนาสตี้ตัวโตที่บินด้วยเจ็ทแพ็คด้วยแอร์ฟอสคัตเตอร์ที่หลังแขนขวา และถีบให้ออกไปเพื่อซ้ำด้วยมิเดี้ยมมิไซล์
"ให้ตายสิ ยัยพวกนี้สู้เยอะกว่าที่คิดเลยน่ะ" คลอวูเดนกล่าว
แอคเคนบอก "แน่ละ พวกเรามีพวกเฮซเทิร์ซเป็นคู่ต่อสู้ แต่แอสซี่และเพื่อนๆ ฟัดกับศัตรูทุกประเภท ตั้งแต่แมนิเกเตอร์ของท่านพ่อ ท่านแม่ เจ้าพี่รอง รวมถึงพวกทรอยอาร์ สเตรดาร์ธ พวกเดลอาเนี่ยน ที่มีต่างดาวเยอะเป็นสิบเผ่า แล้วก็พวกศัตรูในเขตอวกาศภาคกลางกันอีก ซึ่งนั้นก็มากพอให้แอสซี่และพวกเก่งกาจมากขึ้นน่ะ"
"แต่พวกเราสู้กับพวกเฮซเทิร์ซตั้ง 20 ปี เป็นห้าเท่าของที่ยัยแอสเซนและเพื่อนๆตัวแสบเสียอีกนะคะ" แคมิเรนกล่าว
ฟอสเซอเรนบอก "ถึงกระนั้น พวกเธอก็ประมาทเพื่อนๆของแอสเซนไม่น้อย แม้ว่าพวกเธอสามารถแก้ตัวในช่วงท้ายลงได้ก็ตาม สำหรับพวกเราแล้ว พวกเธอยังคงอยู่ลำดับที่ 10 ลงไปกันอยู่ดี"
"ดังนั้น ฉันจึงสั่งลงโทษพวกเธอด้วย การผ่านอิมมอร์ทอลวอร์ภายในเวลามากกว่าครึ่งวัน ซึ่งถ้าพวกเธอตนใดตนหนึ่งพลาดหรือล้มเหลว จะต้องกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น ด้วยอาวุธที่เราให้มา ห้ามใช้อย่างอื่นเป็นอันขาด" คิโคเดนกล่าว
เรลโลเซนบอก "อ่า....พี่น่าจะส่งเราไปฝึกกับพวกสเปซไนท์ มากกว่าให้สู้ในซีมูเลเตอร์ระดับยากโคตรของเจ้าพี่แปดเสียอีกน่ะ"
"งานนี้พี่ไม่ช่วย เพราะพวกเธอไม่สนใจเองน่ะ" แมคเคลเลนกล่าว
แอคเคนถาม "ในเมื่อพวกคลอวูเดนลงเอยเช่นนี้ พี่ใหญ่ ส่งข้าพเจ้าลงไปดวลกับเพื่อนๆของแอสซี่เลยดีกว่า"
"เจ้าพี่ใหญ่ ให้โอกาสพวกเราอีกรอบได้มั้ยคะ" เรลโลเซนบอก อาชเชอเรนจ้องหน้าจนน้องเล็กลำดับสิบสองไม่กล้าขอร้อง เช่นเดียวกับพี่สาวอีกสองตนด้วย
"แสดงว่าท่านยังไม่รีบให้ใครลงไปเลยสิครับ" ครอสเซอเรนถาม
"แมคเคลเลน จัดการเรื่องพวกคลอวูเดนเดียวนี้ ที่เหลือ ไปเตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน" คิโคเดนกล่าว โคคูเดนและพวกพยักหน้าแล้วเดินออกไป เฮอมิสและเลเบรน่าเดินเข้ามา
"ข้าขออภัยด้วยที่รีบขวางทางคลอวูเดนนะคะ" เลเบรน่ากล่าว
"ถ้าเจ้าไม่ทำ เฮอมิสก็ลงมือแทนเจ้าแล้วละ" คิโคเดนกล่าว "แม้ว่าแอสเซนและพวกพ้องจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม นับตั้งแต่การปะทะในดิสก์เวิร์ดแล้วนั้น บ่งบอกได้ว่า แอสเซนและพวกมีการเตรียมพร้อมที่ดีในช่วงครึ่งปีหลังเลยน่ะ"
เฮอมิสบอก "ตามความเห็นของท่าน ท่านคิดจะส่งใครไปดวลกับเพื่อนๆของท่านแอสเซนละครับ"
"พรุ่งนี้ข้าจะให้คำตอบแล้วกัน เจ้ากับเลเบรน่าไปเตรียมเวทีดีกว่า" คิโคเดนบอก เฮอมิสพยักหน้า
เลเบรน่ากล่าว "นายคงไม่กล้าสักถามท่านคิโคเดนอีกละสิ"
"ในฐานะที่ฉันเป็นมือขวาของท่านคิโคเดน ฉันรู้ดี ว่าท่านคิโคเดนคิดจะส่งใครไปสู้กับเพื่อนๆของท่านแอสเซนน่ะ" เฮอมิสบอก "ฉันทายว่า ท่านคิโคเดนคิดจะสั่งสอนตัวจุดไฟสองตัว เป็นคู่ต่อไปกันน่ะ"
เลเบรน่าบอก "แต่ฉันเดาว่า ท่านคิโคเดนจะส่งท่านฟอสเซอเรนไปสั่งสอนนายแม่ราคาชูเมล เพื่อให้หลานชายอย่างฟิเกซอทมาสู้กันซะมากกว่าน่ะ"
วกกลับมาที่ฝั่งพวกไทรเวเซอร์ ที่สภาเผ่า หมู่บ้านโฟรเทรดิล
"พวกเราทำดีที่สุดแล้วละคะ" ลิเนียร์ตี้บอก พร้อมกับนำถาดใส่คิวตี้เซเบอร์ที่คมกุด และเศษกระบี่ที่รวบรวมมาได้ ให้รัคชูมี่ดู
ฟิเกซกล่าว "ป้ามีความเห็นเป็นเช่นไรละครับ"
"ทั้งคลอวูเดน แคมิเรน และเรลโลเซน แม้จะเป็นบุตรแห่งเทพที่อ่อนด้อยในวิชาการต่อสู้สามอันดับล่าง แต่พลังและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ฟื้นคืนชีพกลับมาและสู้กับพวกเฮซเทิร์ซอย่างต่อเนื่องนั้น ยังทำให้พวกเธอเหนือกว่าได้อยู่ดีนะสิ" รัคชูมี่บอก "และต่อให้พวกเธอทั้งสามรอดจากการดวลกับสามใบเถาแห่งทศภารดรเทพแล้ว ฉันกลัวว่ามันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอกน่ะ"
เนคมาดูซัมพยักหน้า "ป้าคงไม่ได้บอกว่า พวกองค์หญิงคลอวูเดนไม่เลิกราวีลิเนียร์ตี้ แอนเดรียและไซโคลเนียเลยสิครับ"
"ใช่ ถึงแม้ว่าคิโคเดนจะให้พวกทศภารดรเทพทำการทดสอบพวกเธอ ผ่านการต่อสู้เหมือนที่ส่งสามใบเถามาสู้กับพวกลิเนียร์ตี้แล้วก็ตาม ฉันรู้ดี ว่าคิโคเดนต้องการกระตุ้นให้พวกโคคูเดนเป็นศัตรูกับพวกเธอ เพื่อยั่วโมโหสเปียริททางอ้อม จากการที่พวกเธอพ่ายแพ้พวกทศภารดรเทพแบบหมดรูป หลังจากการดวลครั้งแรกจบไปแล้วน่ะ" รัคชูมี่บอก
มาสวาร์ทาร์กล่าว "ส่วนหนึ่ง เพราะว่ามีพี่น้องบางรายกังขาและไม่ยอมรับในการตัดสินเลยสิครับ"
"อันที่จริงแล้ว คิโคเดนอยากจะให้พวกเรลโลเซนแพ้ซะมากกว่า หากแต่....ถ้าทำแบบนั้น พวกโคคูเดนจะมองคิโคเดนว่าตัดสินไม่ยุติธรรม และถ้าให้พวกเรลโลเซนชนะทั้งๆที่พวกเธอเสียเปรียบพวกลิเนียร์ตี้ นั้นจะทำให้พวกแมนิเกเตอร์ที่ดูการประลองเห็นว่าคิโคเดนลำเอียงเข้าข้างน้องๆของตนเอง อย่างแรกนั้นจะทำให้พวกโคคูเดนมีท่าทีต่อต้าน อย่างหลังนั้นคือสิ่งที่คิโคเดนต้องการ แต่ยังไม่รีบทำในตอนนี้นะสิ" รัคชูมี่บอก เพราะอย่างหลังคือสิ่งที่เกิดขึ้นมา
โฟรซ่ากล่าว "และถ้าให้เสมอ แมนิเกเตอร์ที่มาจากแรซัลก้าจะรู้ดี ว่าคิโคเดนมีความยุติธรรมอยู่บ้างและยังเห็นว่าเป็นผู้นำที่ดี พร้อมจะให้การสนับสนุนพวกเขามากกว่าพวกเราเลยสิคะ"
"นั้นแหละคือจุดมุ่งหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในการทดสอบของทศภารดรเทพยังไงละ ซึ่งดีที่ฉันสั่งให้พวกเราไปอธิบายให้พวกเขาเข้าใจและรู้จักแยกแยะกันมาครึ่งปีแล้ว แม้บางส่วนจะไม่เห็นด้วยเลยก็ตามน่ะ" รัคชูมี่กล่าว
จิลบอก "แล้วกระบี่ของลิเนียร์ตี้แตกนิ เท่ากับว่าลิเนียร์ตี้ไม่มีอาวุธมาสู้เลยสิคะ"
"เกรงว่า ลิเนียร์ตี้ ต้องใช้คิวตี้เซเบอร์เป็นอาวุธเท่านั้น เพราะ....." รัคชูมี่กล่าวและชี้มายังลิเนียร์ตี้ ".....ท่านโอเวอร์เรสต้องการให้ผู้สืบทอดพลังแกนหัวใจของเพรแครทฮัลลี่ รวมถึงคิวตี้เซเบอร์ ลงโทษสามใบเถาแห่งทศภารดรเทพ ในข้อหาย้ำยีกลุ่มเพรแครทปริ้นเซสให้อับอาย ด้วยการใช้กฎอสมมุติเทพเป็นข้ออ้าง ให้สาสมกับที่ทำเอาไว้กับ หน่วยผู้พิทักษ์ภายใต้คำสั่งของมารดรเทพนะสิ" ทั้งหมดเว้นแต่ลิเนียร์ตี้ตกใจมากๆ
ฟิเกซกล่าว "แต่เท่าที่รู้มา มารดรเทพไม่เคยออกคำสั่งลงโทษผู้ที่หาเรื่องกับพวกเพรแครทมาก่อนเลยนิครับ"
"ท่านโอเวอร์เรสรู้ดี ว่าถ้าปกป้องพวกเพรแครทเดี่ยนตลอด พวกแมนิเกเตอร์หรือชาวซัลคาเลี่ยนที่เป็นฝ่ายต่อต้านก็หาทางเล่นงานพวกเพรแครทเดียนได้อยู่ดี ซึ่งพวกสามใบเถาแห่งทศภารดรเทพคือหนึ่งในนั้น การปล่อยให้พวกเพรแครทเดี่ยนโดนเล่นงาน โดยไม่มีการลงโทษเดียวนั้น ก็เพื่อมีเรื่องและเหตุผลให้ฮัลลี่เข้าไปลงโทษได้ โดยไม่ต้องมีคำสั่งตรงหรืออนุญาตแต่อย่างใด ซึ่งการที่เพรแครทฮัลลี่อยู่นอกกลุ่มก็เพื่อให้เธอมีสิทธิ์ลงโทษพวกนี้ได้ โดยไม่ผิดต่อกฎของเพรแครทเดี่ยนแต่อย่างใด" รัคชูมี่บอก "และถ้าฮัลลี่ไม่สามารถทำได้หรือมีสภาพไม่สามารถสู้ต่อได้อีก เธอจำต้องมีผู้สืบทอดต่อ ซึ่งนั้นคือเหตุผลที่ลิเนียร์ตี้ต้องรับช่วงคำสั่งลงโทษพวกคลอวูเดนกันนี้แหละ"
ไซโคลเนียบอก "ลินี่จะเป็นผู้ลงโทษพวกสามใบเถานะหรือ ไม่ไหวหรอกคะ ขนาดตนเดียวเรายังเอาชนะไม่ได้เลยนะคะ"
"นั้นสิคะ ป้ารัคชูมี่ ต่อให้ท่านแม่มอบคำสั่งลงโทษพวกคลอวูเดนให้ลิเนียร์ตี้ไปทำ แต่เอาเข้าจริง มันไม่ได้เลยนะคะ" สเปียริทบอก
รัคชูมี่กล่าว "ฉันก็ถามคำถามแบบเดียวกันกับท่านโอเวอร์เรสมาแล้ว ซึ่งท่านโอเวอร์เรสอนุโลมให้ว่าถ้าผู้สืบทอดต่อจากฮัลลี่รับมือกับสามใบเถาไม่ได้นั้น ลิเนียร์ตี้สามารถมีเพื่อนมาช่วยได้ 2 ตนด้วยกัน ซึ่งหมายถึง เธอด้วยน่ะ สเปียริท"
"ถ้าเช่นนั้น แปลว่า ฉันกับไซโคลเนียเองก็ต้องช่วยลิเนียร์ตี้ด้วยสิคะ" แอนเดรียบอก ไซโคลเนียถาม "แต่ยัยองค์หญิงสามแสบไปทำอะไรให้กับพวกเพรแครทที่ว่านั้นละคะ" "สามใบเถาแห่งทศภารดรเทพ มองพวกเพรแครทปริ้นเซสว่าทำตัวเป็นองค์หญิง ตีตนเสมอตัวทั้งๆที่เป็นสามัญชน แม้ว่าพวกเธอไม่ได้ตีเสมอ แค่มีความสามารถจนเรียกข่านว่าเป็นเจ้าหญิงแค่ในนามกันก็ตาม" ลิเนียร์ตี้บอก "สามใบเถาสู้กับพวกเพรแครทปริ้นเซสจนชนะ และลงโทษด้วยการให้พวกเธอสวมชุดเดรสกระสอบทราย แม้พวกเธอตายก็ต้องเอากระสอบทรายคลุม ห้ามเอาออก ไม่เช่นนั้น เธอกับพวกจะส่งพวกทหารมาเชือดทิ้งนะสิ"
โฟรซ่ากล่าว "ที่เธอพูดออกมานิ เพราะเธอรู้จากความทรงจำของฮัลลี่หรือเปล่าละ"
"ตอนที่ฉันถูกท่านโฮร่าโพลก้าพาตัวไปออกระบบดาว เพื่อรับการฝึกฝนการควบคุมพลัง จนถูกคนของพวกมอสวอร์ทจับตัวไปนั้น ฉันเห็นรูปปั้นของพวกเธออยู่ในสภาพนั้น แม้ทีแรกจะไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม แต่พอสู้กับเรลโลเซน ฉันก็อนุมานเรื่องทุกอย่างได้นะสิ" ลิเนียร์ตี้บอก
รัคชูมี่กล่าว "ดีแล้วละ ที่ฉันปล่อยให้โพลก้าพาเธอไปฝึก อย่างน้อยก็ช่วยให้เธอได้เจอกับกลุ่มเพรแครทรุ่นแรกๆที่ก่อตั้งมา แต่ยังไม่ตื่นขึ้นมาเลยน่ะ"
"ปัญหาคือ ลิเนียร์ตี้จะต้องใช้อาวุธดาบอันเป็นตัวแทนของฮัลลี่ไปลงโทษกันนิ ท่านคงจะซ่อมมันไม่ได้เลยสิครับ" เนคมาดูซัมบอก
รัคชูมี่กล่าว "ลิเนียร์ตี้ หยิบคิวตี้เซเบอร์มา และตั้งสมาธิให้อยู่กับกระบี่เท่านั้นน่ะ"
"ท่านจะให้ฉัน ซ่อมแซมอาวุธที่รับช่วงจากคุณฮัลลี่เองนะหรือคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว รัคชูมี่พยักหน้า ลิเนียร์ตี้ได้ฟังเลยหยิบคิวตี้เซเบอร์ที่เหลือคมกุดขึ้น แล้วก็หลับตา "วึ่ง วึ้งงง วึ้งงงง วึงงงงง วึ่งงงง" คมกระบี่ที่กุดเรืองแสงพร้อมกับ "วี้งๆๆๆๆๆๆ" เศษกระบี่ที่หักเรืองแสงพร้อมกัน แล้วก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ลอยและพุ่งขึ้นไป "วี้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" รวมกับคมกระบี่ที่กุดสั้นอย่างรวดเร็วจน "แวบบบบบบ ครี้งงงงงงง" คมกระบี่ที่กุดสั้นเรืองแสงและยืดออก จนกลายเป็นคมกระบี่แบบสามเหลี่ยมหน้าจั่วยาว แต่มีปลายเป็นทรงข้าวหลามตัด "นี้ฉัน ซ่อมกระบี่ได้นะหรือ แต่มันเพราะอะไรละคะ" ลิเนียร์ตี้อุทาน
ฟิเกซกล่าว "ป้า นี้คงไม่ได้หมายความว่า คิวตี้เซเบอร์นั้น...."
"แม้ว่าคิวตี้เซเบอร์นี้จะเป็นอาวุธเดิมของเพรแครทฮัลลี่ที่จากไปแล้ว แต่บัดนี้....คิวตี้เซเบอร์ ยอมรับเธอเป็นผู้สืบทอดตนใหม่ ด้วยการฟื้นคืนสภาพคมกระบี่ให้อยู่ในโฉมใหม่ ที่เหมาะสมกับเธอเองนะ ลิเนียร์ตี้" รัคชูมี่กล่าว ลิเนียร์ตี้พยักหน้า
เนคมาดูซัมกล่าว "ดีแล้วละ ลิเนียร์ตี้ อย่างน้อยเธอยังพอมีหวังอยู่น่ะ"
"ฉันรู้ดีแล้วละ ถ้าไม่เพราะนายก็คือทุกๆคนนี้แหละ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
ไซโคลเนียบอก "ลินี่นิ โชคดีเหลือเกินน่ะที่ซ่อมแซมอาวุธได้ แม้ว่าเราจะสามารถซ่อมด้วยวิธีปกติ แต่ก็...."
"ไม่หรอก อันที่จริงแล้ว อาวุธเป็นเพียงสื่อกลางในการแสดงฝีมือและทักษะการต่อสู้ของพวกเธอแต่ละตน ซึ่งสามารถซ่อมแซมหรือทดแทนกลับมาได้อยู่แล้ว" รัคชูมี่บอก แล้วชี้มายังแอนเดรียและไซโคลเนีย "....แต่สิ่งที่ทำให้พวกเธอแข็งแกร่งขึ้น มาจากความพยายามในการฝึกฝนตนเอง ไม่ใช่แค่ทางร่างกายและทักษะการต่อสู้ แต่เป็นจิตใจ ไม่ว่าจะสู้เพื่อปกป้องผู้อื่น สู้ด้วยการเสี่ยงอันตราย และสู้เพื่อหยุดยั้งเหตุร้ายไว้ สิ่งนี้แหละ ที่ทำให้พวกเธอต่างจากทศภารดรเทพและคิโคเดนอย่างเห็นได้ชัดน่ะ"
แอนเดรียกล่าว "คุณพูดเหมือนรู้ว่า ทศภารดรเทพมีการฝึกฝนเพียงน้อยนิดหรือคะ"
"พวกเขาฝึกด้วยการสู้กันเอง รวมถึงรับมือแค่พวกเฮซเทิร์ซ ซึ่งทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมาทุกครั้งที่สู้ รวมถึงขัดเกลาทักษะการต่อสู้ให้แข็งแกร่งขึ้นมาเลยก็ตาม แต่มิใช่กับพวกเธอ ที่ใช้หลักการเดียวกัน แต่มีเจตจำนงของความเป็นนักสู้ ตรงที่ไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอย ไม่ยอมจำนนเมื่อเจออุปสรรค์ขวางหน้า โดยเฉพาะเจอกับศัตรูที่หลากหลาย ตั้งแต่ศัตรูเก่าไปจนถึงศัตรูใหม่ๆที่ไม่เคยเจอมาก่อน ทำให้พวกเธอมีประสบการณ์ด้านการต่อสู้ที่โชกโชนยิ่งกว่าพวกทศภารดรเทพที่สู้กับเฮซเทิร์ซมาตลอด 20 ปีด้วยกัน" รัคชูมี่บอก "อีกทั้งก่อนหน้านั้นพวกเธอส่วนหนึ่งที่เป็นทหารมาก่อนด้วย และยังจำประสบการณ์เดิมก่อนจะเป็นแมนิเกเตอร์ได้ดี เลยทำให้พวกเธอมีประสบการณ์คูณด้วยสองตามไปด้วยน่ะ"
เจเนลบอก "มันก็จริงนะ ป้า เพราะเราเคยปะมือกับกองรบของโอเวอร์เดสมาก่อนแล้วนิ"
"รวมถึงพวกเราที่รบภายใต้คำสั่งของพวกคิโคเดนกันด้วยสิครับ" ฟิเกซกล่าว
รัคชูมี่บอก "เพียงแต่ ฉันยังต้องเตือนพวกเธอที่เหลือ ว่าอย่าได้ประมาทพวกทศภารดรเทพเป็นอันขาด เพราะต่อให้พวกเขารู้ข้อมูลพวกเธอจากของเดิมหรืออัพเดทเพิ่มเติมมา พวกเขาเป็นพวกแมนิเกเตอร์ที่แข็งแกร่งอย่างมาก แม้จะไม่เหนือกว่าคิโคเดนเลยก็ตาม ขอให้พวกเธอจำเอาไว้ให้ดีด้วยละ"
"พวกเรารู้อยู่แล้วละน่า ป้า" คลอเวฟบอก
พีวิลถาม "นายแม่รัคชูมี่ ว่าแต่ นอกเหนือจากคำสั่งลงโทษพวกสามใบเถาแห่งทศภารดรเทพนั้น โอเวอร์เรสยังมีคำสั่งอื่นนอกเหนือจากนี้ฝากให้ท่านหรือเปล่าละครับ"
".....เธอคงคิดว่า นอกเหนือจากคำสั่งสุดท้ายของท่านโอเวอร์เรสที่มีต่อพวกทรอยอาร์นั้น ฉันยังเก็บไว้อยู่สิน่ะ" รัคชูมี่กล่าว "....สังหรณ์ของเธอมาถูกทางแล้วละ พีวิล นับตั้งแต่รู้ว่าคิโคเดนควบคุมพวกทรอยอาร์ไปเมื่อ 3 ปีก่อนนั้น ได้ทำให้คำสั่งลับพิเศษที่ซ่อนไว้มีผลอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงสิ่งที่คิโคเดนทำในตอนนี้ด้วย"
สเปียริทพยักหน้า "สมแล้วที่ท่านแม่คาดการณ์ไว้ว่ามันต้องเกิดเรื่องแบบนี้เลยน่ะ"
"แล้วท่านคิดว่า คิโคเดนจะส่งใครมาท้าดวลกับพวกเราละครับ" เนคมาดูซัมถาม
รัคชูมี่บอก "ถึงฉันจะไม่รู้นิสัยของคิโคเดนเลยก็ตาม ฉันเดาออกได้ว่า คิโคเดน เลือกที่จะปล่อยให้น้องตนหนึ่งออกอาละวาด ส่งอีกตนหนึ่งไปถล่มทวีปหนึ่งให้กระเจิง หยั่งเชิงฝีมือของพวกเธอหรือแม้กระทั่งส่งมาสั่งสอนฉัน แต่ที่เป็นไปได้ที่สุด ก็คงจะเป็น...."
"ท่านหมายถึง คิโคเดนจะส่งโคคูเดนและเรฟีเทนมาสู้กับผมและพีวิลละสิครับ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
รัคชูมี่พยักหน้า "เธอทั้งสอง สเปียริท และโคเคส คือ 4 บุคคลผู้เริ่มต้นการก่อกบฎและหายนะของท่านโอเวอร์เดสและท่านโอเวอร์เรส แม้นั้นจะเป็นการทดสอบ แต่ก็ปิดบังความแค้นส่วนตัวของคิโคเดนไม่ได้หรอกน่ะ" แล้วก็บอก "โคคูเดนและเรฟีเทน เป็นพี่น้องที่มีฝีมือระดับต้นๆในกลุ่มทศภารดรเทพ ดังนั้น เธอทั้งสองคงจะจำคำเตือนกันไว้น่ะ"
การดวลของทศภารดรครั้งแรกจบลงไปแล้ว แต่คิโคเดนยังมีน้องอีก 7 ที่จะส่งลงสนามเพื่อดวลกับเมนซิกส์ทีนที่เหลืออีก 12 ตนด้วยกัน
โปรดติดตามในตอนต่อไป กับตอนที่ 2 การดวลของทศภารดรเทพ ครั้งที่สอง การปะทะของดาบและหมัด
ตอนหน้า คิโคเดน ส่งน้องชายฝีมือระดับต้นๆทั้งสองไปดวลกับดาบมือหนึ่งและหัตถ์เพลิงสีน้ำเงินกัน หากแต่มีน้องตนหนึ่งที่คิดหยั่งเชิงสเปียริทก่อน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น