ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 กองกำลังหัวหอกกลับมาอีกครั้ง เมื่อภัยคุกคามอันใหญ่ยิ่งมาเยือน ครึ่งหลัง

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 63


    ช่วงที่ 2
              4 นาทีต่อมา ที่เกิดเหตุเดิม ตอนนี้ยานเฮฟไดซ์ของกองทัพจำนวน 4 ลำกับเฮฟไดซ์ลำโตลงจอดมากันเรียบร้อยแล้ว
              "นึกว่าพวกนายจะมือตกเสียอีกน่ะ หลังจากที่พวกนายปฏิบัติภารกิจล้มเหลวมา 4-5 ครั้งด้วยกันน่ะ" โซเฟียท มอร์แลน หัวหน้ากองยานของกองกำลังพิทักษ์ดวงดาวของฝ่ายสหพันธมิตรกล่าว โดยที่เธอลงมาดูที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งกันแล้ว
              สเปียริทบอก "ไอ้ 4-5 ครั้งนั้นมันช่วงปีที่แล้วนะยะ โซเฟียท อีกอย่าง ศัตรูในคราวนี้ มันไม่ได้ล้อเล่นกันเสียแล้วละ"
              "แน่ละ พวกมันแต่ละตัวนิ ร้ายกันทั้งนั้นเลยน่ะ แถมศพของพวกนี้ก็ลำบากทหารที่มาขนด้วยกันน่ะ" คลอเวฟบอก โดยพวกทหารที่ขนศพของพวกสโตนอลนั้นต้องใช้มากกว่า 6 รายในการยกขึ้น ศพของพวกแฟคมาสนั้นร้อนจนพวกทหารต้องเอาถังดับเพลิงมาดับความร้อนจากร่างกาย ส่วนพวกไอซ์ติก้านั้นกลายเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว จนพวกทหารต้องใช้ปืนเพลิงมาละลายน้ำแข็งต่อ
              "พวกนี้ไม่เหมือนกับพวกเฮซเทิร์ซที่ออกอาละวาดในช่วงนี้กันเลยน่า" โซเฟียทบอก
              "พวกมันเรียกตนเองว่า เดธซิลเวอร์พลาเนต กันนะสิ แม้จะไม่รู้ว่าพวกนี้เป็นต่างดาวจากไหนกันเลยก็ตามน่ะ" เจเนลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "แต่การที่พวกมันพยายามจะส่งสัญญาณออกนอกดาวไปนั้น คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เราเลยต้องชิงลงมือกันโดยเร็วเสียก่อนน่ะ"
              "เพราะกลัวว่าพวกมันจะเรียกกองหนุนจากระบบดาวที่ไหนสักแห่งมาซ้ำเติมพวกเรากันสิน่ะ" โซเฟียทบอก และหันมายังพวกดาธาลและฮวางจอนที่โดนกักตัวโดยเดลิค นอร์มังดี ผู้บังคับการหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษที่มาด้วยอยู่ "สงสัยว่าฉันกับพวกเดลิคคงต้องคุมพวกเด็กๆเหล่านี้กันเสียแล้วละ"
              คลอเวฟบอก "แน่ละ พวกนี้อยากเป็นฮีโร่มาก แม้จะไม่มีใครตาย ก็คงออกจากค่ายฝึกนี้ไปไหนไม่ได้กันอยู่ดีนี้แหละ"
              "และคงหมดสิทธิ์ได้รับคัดเลือกกันด้วย เพราะเราไม่ให้ทหารที่รับเด็กเหล่านี้ต้องเสี่ยงอันตรายจากการกระทำบนพื้นฐานอยากเด่นเป็นฮีโร่ จนต้องไปเป็นชื่อจารึกบนอนุสรณ์สถานผู้พลีชีพกันหรอกน่ะ" โซเฟียทบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "และพวกเราก็ไม่อยากจะเป็นเหมือนผู้การแพททริคกัน ในเรื่องส่งพวกเด็กวัยรุ่นเข้าทางลัดจนต้องตายอย่างรวดเร็วกันเลยน่ะ แม้ว่านั้นจะทำให้เราเหมือนเสนาธิการวาลโทรน่าที่ขัดขวางความฝันของพวกเขาไว้น่ะ"
              "เพราะเราไม่อยากให้พวกเขาต้องประสบกับอันตรายจนถึงแก่ชีวิตกันนะคะ" แอนเดรียบอก
              โซเฟียทบอก "ตรงนี้ฉันจัดการเองแล้วกัน ว่าแต่ พวกนายคงยังมีเรื่องที่ค้างคากันเลยสิน่ะ"
              "เกรงว่าเราคงต้องกลับไปที่เฟิร์สฮิลล์เพื่อรายงานภารกิจที่คาดไม่ถึงให้กับท่านนายพลเพอซิอัสกันนะครับ" พีวิลบอก โซเฟียทพยักหน้า
              เนคมาดูซัมบอก "เพราะเราได้ให้เลิฟลี่แองเจิ้ลอยู่มอบลายเซ็นให้พวกทหารเกณฑ์กันหมดแล้วละ" โดยตอนนี้ยานรบทรงสามเหลี่ยมแบนทะยานออกจากป่ามา แล้วพวกเขาก็ขึ้นยานเดินทางกลับสู่เฟิร์สฮิลล์ เมืองแห่งแรกของเหล่าแมนิเกเตอร์บนดาวแคสเซเดี่ยน-3 ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของทวีปอีสทรอนกัน

                  ที่กองบัญชาการกองรบภาคพื้นที่ 11 ประจำเมืองเฟิร์สฮิลล์ ห้องผู้บังคับบัญชาการ
                   "งานเดิมของพวกเธอก็คือการคุมเหล่าพวกเด็กเกเรที่ทำผิดกฎและถูกส่งมาฝึกดัดนิสัยกันที่เวอเด้เบเร่ต์ภายใน 3 วันที่ผ่านมานี้ แม้ว่าพวกเธอจะไม่ประเมินให้เด็กเหล่านั้นผ่าน เนื่องจากว่ามี 2 กลุ่มที่เป็นอริต่อกัน ถูกจับในข้อหาทะเลาะเบาะแว้งกลางสี่แยกเมืองฟิคาโก้ กลุ่มหนึ่งเป็นพวกลูกคนรวยชาวซัลคาเลี่ยนที่มีความประพฤติไม่ดี และอีกกลุ่มนั้น เป็นพวกลูกนักการเมืองและข้าราชการที่นิสัยเสียกัน ซึ่งพวกเธอทำถูกแล้ว ในเรื่องที่ไม่ให้พวกเขาผ่านประเมินกันได้" เพอซิอัส อาซิมอฟ ผู้บังคับบัญชาการกองรบที่ 11 ผู้สั่งการตรงของพวกไทรเวเซอร์ กล่าวกับเนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์และพีวิลในห้องทำงาน "แต่....เรื่องบุกจัดการกับผู้รุกรานแปลกหน้ากันนั้น แม้พวกเธอจะคลี่คลายสถานการณ์ลงไปได้นิ ฉันยังเห็นว่าพวกเธอลงมือเร็วไปหน่อยน่ะ"
              พีวิลบอก "ท่านนายพลครับ ฝ่ายตรงข้ามนำเสาส่งสัญญาณออกมา ซึ่งพวกเราต้องคาดเดาว่า ฝ่ายตรงข้ามต้องเรียกกำลังเสริมออกมาอย่างแน่นอนนะครับ"
              "เพราะถ้าพวกเรายืนนิ่งหรือไม่ทำอะไรขึ้นมา เกิดกองยานของฝ่ายตรงข้ามปรากฎขึ้นมานอกดาวกันจริงๆ เกรงว่ากองยานที่คุ้มกันนอกดาวของเราเองจะเอาไม่อยู่กันด้วยนะครับ" เนคมาดูซัมบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ยิ่งพวกศัตรูเหล่านั้นเป็นกลุ่มผู้คุกคามที่เราไม่เคยเจอมาก่อน และเรารู้ถึงอันตรายจากการปะทะกับฝ่ายตรงข้ามมาตรงๆ พวกเราต้องรีบหยุดยั้งฝ่ายตรงข้ามด้วยการทำลายเสาส่งสัญญาณทิ้ง ก่อนที่พวกนั้นจะทำการได้สำเร็จนะครับ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะพวกเธอใช้มาตราฐานการรับมือกับพวกเดลอาเนี่ยนเป็นตัวตั้งละสิน่ะ" เพอซิอัสบอก "แต่ การที่พวกเธอทำลายเสาสัญญาณทิ้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่ายังมีพวกมันอีกกลุ่มสองกลุ่มกันหรือเปล่า ซึ่งการที่พวกเธอทำลายพวกนั้นทิ้งไป ไม่เพียงพวกเธอทำให้พวกที่เหลือรีบกบดานหลบซ่อนกันอย่างมิดชิดมากขึ้น หรือโยกย้ายฐานไปอยู่ที่อื่นกันด้วยนั้น เรากลับไม่สามารถติดตามหาพวกที่เหลือกันได้เลย ดังนั้น ฉันยังถือว่าพวกเธอมีข้อผิดพลาดกันอยู่ หากการลงมือของพวกเธอได้สร้างความเสียหายที่หนักหนาเกินความคาดเดากันไว้น่ะ"
              เนคมาดูซัมพยักหน้าและบอกไปว่า "ผมทราบดีแล้วละครับ ท่านนายพล"
              "แม้ว่าพวกเธอจะแก้ตัวในเรื่องการปฏิบัติการณ์นี้มาได้เหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากที่พวกเธอเสียเวลา 2 ปีหมดไปกับการทำรายการตลกล้อกันเล่นก็ดี ฝึกซ้อมสำหรับการแข่งขันทั้งไตรกีฬาอวกาศ สแมคบอล หรือศึกประลองยุทธ์อวกาศกันก็ดี จนทำให้ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานโดยรวมของพวกเธอด้อยลงไป 20 เปอร์เซนต์แล้วก็ตาม ซึ่งโชคดีมากที่พวกเธอยุติการทำรายการอับเบรแฮมเวเซอร์ ให้เลิฟลี่แองเจิ้ลยุติงานเพลงไป และให้พวกเธอจัดสรรเวลาทำงานตามคำแนะนำของจูเดทต้ามาแล้ว แต่พวกเธอเองก็อย่าลืมด้วยน่ะ ว่าพวกเธอ คือส่วนหนึ่งของกองกำลังสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ และเป็นตัวแทนของชนเผ่าแมนิเกเตอร์ที่แคสเซรอน-4 กันด้วย ซึ่งพวกเราเองก็ถือคติที่ว่า ปัญหาของพวกเธอหนึ่งกอง คือปัญหาของพวกเราทั้งกองรบทั้งปวงกันด้วย คงจะไม่ลืมจากสมองของพวกเธอกันไปเลยสิน่ะ" เพอซิอัสกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกเราไม่ลืมสิ่งที่พวกเรายึดถือกันไว้เลยนะครับ ท่านนายพล แม้กระทั่งการเสียสละของพวกพ้องที่ช่วยให้พวกเราอยู่มาได้กันนะครับ"
              "ดีแล้วละ ที่พวกเธอยังจดจำไว้ แม้ว่า เธอจะจำจนทำให้เธอแทบไม่มีสมาธิกับงานที่ทำกันอยู่น่ะ ร้อยเอกแอนเดอร์สัน" เพอซิอัสเอ่ยชื่อเดิมของพีวิลขึ้นมา
              เจ้าตัวจึงตอบ "ผมทราบดี ว่าผมไม่อาจจะลบภาพการตายของพวกบรอนเซอรูทไปได้เลย จนทำให้ผมเสียสมาธิและทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่เพราะเรื่องภัยคุกคามในครั้งนี้ ทำให้ผมต้องมีสมาธิกันมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อทุกๆคนที่ยังอยู่กันนะครับ"
              "หวังว่าเธอคงจะยืนหยัดต่อไปได้ในส่วนของผู้ที่จากไปกันบ้างน่ะ" เพอซิอัสบอก

              ไม่ทันไรก็.... "ตื้ดๆๆๆๆๆๆ" มีเสียงดังเข้ามาในห้อง พร้อมกับเสียงดังจากลำโพง "พ่อครับ ผบสส.บาโธโรมิวเดินทางมาที่นี้กันนะครับ"
              "ขอบใจมากน่ะ นีลเซนท์ ดูเหมือนว่า เรื่องกลุ่มผู้รุกรานแปลกหน้านี้ จะไปเร็วกว่าที่คิดแล้วละ" เพอซิอัสกล่าว แล้วเครื่องบินทรงนกเพริแกนรหัส เพริแกรม บินเข้ามายังเฟิร์สฮิลล์ โดยแล่นลงจอดลานบินบนอาคารกองบัญชาการกัน "ครืดดดดด" ประตูห้องทำงานเปิดออก เผยบุรุษในชุดทหารสีเขียวสวมหมวกนายทหารติดดาวบนหมวกไว้เคราแหลมบนคางเดินเข้ามา ซึ่งก็คือ บัลโต้ บาโธโรมิว ผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์ดวงดาวนี้เอง เพอซิอัสยืนขึ้นพร้อมกับวันทยาหัตถ์ เช่นเดียวกับพวกเนคมาดูซัมด้วย บัลโต้เลยวันทยาหัตถ์ตาม และเอามือลง
              "นึกว่าพวกนายจะไม่รอดจากพวกแปลกหน้ากันเสียอีกน่ะ" บัลโต้กล่าวทักต่อสามผู้นำของไทรเวเซอร์ที่อยู่ในห้อง
              "พวกเราทำเพื่อหยุดยั้งการคุกคามของผู้บุกรุกแปลกหน้ากันนะครับ ผบ.บัลโต้ อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเพิ่มความรุนแรงในการรุกรานเข้าไปด้วยนะครับ" พีวิลบอก
              บัลโต้กล่าว "แม้ว่าพวกนายจะรีบลงมือ ทั้งๆที่ควรจะรอพวกโซเฟียทมาสมทบกันก็ตาม แต่ดีแล้วละ ที่พวกนายรีบหยุดยั้งเอาไว้ได้ทันพอดี ไม่อย่างงั้น พวกเราได้เจองานเข้าระดับบิ้กเบิ้มเกินอัตราการรับมือของพวกเรากันอย่างแน่นอนเลยละ"
              "หมายความว่ายังไงกันละครับ ผบสส.บาโธโรมิว" เพอซิอัสบอก
              บัลโต้กล่าว "รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันคงเล่าไม่ได้ดีมากนัก คงต้องให้เป็นหน้าที่ของเพื่อนเก่าของพวกนายเล่าเสียแล้วละ"

               "เพื่อนเก่าของเราหรือครับ" เนคมาดูซัมกล่าว จากนั้น "ครืดดดด" ประตูเปิดออก แอสเทลน่าเดินเข้ามาในห้อง ตามด้วยเบย์แทนด์ที่เดินเข้ามา
              "กานาฟ่าซารีทิส นายพลเพอซิอัส อาซิมอฟ แล้วก็ สหายไทรเวเซอร์ ฉันนึกอยู่แล้ว ว่าผู้รุกรานแปลกหน้านี้ เอาพวกนายไม่อยู่แน่นอนเลยละน่ะ" แอสเทลน่าทักทาย
              "กานาฟ่าซารีทิส ซีคเทมพลาร์แอสเทลน่า ว่าแต่ ท่านกับนักโทษครอสฟอร์ดมาที่นี้ ด้วยเหตุใดกันละครับ" เพอซิอัสบอก
    แอสเทลน่ากล่าว "เดิมที ฉันกับกลุ่มนักโทษนั้น ควรจะอยู่บูรณะเขตชุมชนในดาวพราชัลธิต้า หลังจากที่พวกเฮซเทิร์ซบุกรุกเข้าสร้างความเสียหาย จนกองยานแพลตินั่มอามาด้าภายใต้การนำของเอสเซคาร่าโฟริโทรนเข้ามาจัดการกับพวกมันจนราบคาบนั้น นักโทษรายหนึ่งที่อยู่ในความควบคุมของพวกเรา ได้พบเจอกับสถานที่ลับที่อยู่ใต้ซากวิหารในเขตชุมชนกันอยู่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฉันต้องพาพวกเดินทางมาแจ้งข่าวกับผบสส.บาโธโรมิว แล้วก็ท่านมหาประธานาธิบดีกันด้วยน่ะ"
              "ท่านมหาประธานาธิบดีโคเคสนะหรือครับ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แอสเทลน่าพยักหน้า
              เนคมาดูซัมถาม "ว่าแต่ พวกเดธซิลเวอร์สตาร์นั้น เกี่ยวอะไรกับสถานที่ลับใต้วิหารที่นายกับพวกนักโทษทำงานกันอยู่ละ เบย์แทนด์"
              "เกี่ยวข้องสิครับ เพราะว่าสถานที่ที่ผมกับคุณแอสเทลน่าไปเจอมา หลังจากที่ตามหาคุณเมคโซ่ที่เข้าไปในสถานที่แห่งนั้น มันเป็นฐานซ่องสุ่มของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันนะสิครับ" เบย์แทนด์บอก แล้วก็ "ปี้บ" กดปุ่มบนมือถือเพื่อฉายภาพที่เขาได้ถ่ายมา "จากการตรวจสอบของผมและคนของเอสเซคาร่าโฟริโทรนที่มาเช็คเพิ่มเติม ทำให้พวกเราทราบว่า พวกเขาสร้างฐานลับใต้วิหารแห่งนี้ขึ้น เพื่อการรุกรานจักรวาลที่พวกเราอยู่ด้วยบางอย่างที่เลวร้ายอย่างมาก และใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้มากๆเลยนะครับ" จากนั้นก็ฉายภาพโบราณที่มีดาวสีเงินขนาดใหญ่กับภาพมนุษย์ต่างดาว 7-8 กลุ่มกับดาวอีกหลายสิบดวงหันอาวุธปะทะกัน
              "นี้คงไม่ได้หมายความว่า เราต้องเจอกับดาวขนาดใหญ่กันละสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              "ฉันกลัวว่า พวกนาย ไม่สิ จักรวาลทั้งปวงนี้ จะเจอการคุกคามระดับดวงดาวกันเสียแล้วนะสิ" แอสเทลน่าบอก "เพราะพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่พวกนายปะทะกันนั้น พวกมันมานี้ เพื่อเรียกมหาดารามรณะดวงนี้ให้เข้ามาในอีสทาล่าฟรอนเทียร์ เพื่อสร้างความวิบัติให้กับระบบดาวของพวกนาย และทุกระบบดาวในจักรวาลนี้ให้วายวอดไปเลยนะสิ" ทั้งเนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์ พีวิล และเพอซิอัสถึงกับตกใจไม่น้อย
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "นั้นมันหนักหนากว่าที่คิดไว้เลยสิน่ะ"
              "แต่ พวกต่างดาวที่เราปะทะกันนิ หน้าตาเหมือนกับชนเผ่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันนั้น เกี่ยวข้องกันยังไงละ ซีคเทมพลาร์" พีวิลถาม
              แอสเทลน่ากล่าว "เกี่ยวสิ เพราะพวกชนเผ่าทั้งแปดนี้ คือกลุ่มชนเผ่าเอทพลาเนส ซึ่งพวกเขาได้ปะทะกับการคุกคามของมหาดารามรณะนี้เมื่อ 4 ศตวรรษที่แล้ว โดยที่พวกเขาหนีภัยร้อนแรงจากดาวดวงนี้มาพึ่งร่มเงาของสมาพันธ์อวกาศกันน่ะ"
              "400 ปีก่อนนิ มันหลังจากที่เดลอาเนี่ยนบดขยี้ออร์เลี่ยนจนราบคาบด้วยซาบราดร้า ซึ่งก็พังเสียหายอย่างหนักหน่วงจากการเอาคืนของออร์เลี่ยนไปตั้ง 100 ปีต่อมากันนิน่า" เนคมาดูซัมบอก "เธอคงไม่ได้บอกว่า ไอ้ภัยคุกคามระดับดวงดาวนิ มันเคยบุกมาที่ฝั่งสมาพันธ์อวกาศกันแล้วน่ะ"
              แอสเทลน่าพยักหน้าและบอกว่า "ท่านยายของฉันได้ร่วมรบกับกองยานแพลตินั่มอามาด้าในช่วง 400 ปีก่อน หลังจากที่ดาวดวงโตดวงนี้ ไล่ตามชนเผ่าทั้งแปดที่เหลือรอดมา โดยโผล่มาใกล้กับระบบดาวที่เป็นที่ตั้งของเรือนจำดัลทาริฟ ซึ่งพวกเรากับกองรบของสมาพันธ์อวกาศ รวมถึงชนเผ่าทั้งแปดเหล่านี้ ทุ่มเทกำลังจนส่งดาวมรณะให้หายไปจักรวาลของเรากันได้นะสิ"
              "ส่งดาวมรณะหายไปจากจักรวาลที่เรายืนอยู่นะหรือ....กองกำลังดาวฤกษ์กับกองกำลังสมาพันธ์อวกาศมิได้ทำลายดาวดวงนั้นเลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
    แอสเทลน่าพยักหน้า "ด้วยความทรงจำของท่านยายที่เหลือไว้ บวกกับความรู้จากเอสเซคาร่าเฟริโทรน ซึ่งเป็นหลานชายของเอสเซคาร่ารุ่นก่อนหน้าที่ร่วมรบในครั้งนั้น บ่งบอกไว้ว่า ดาวดวงนั้นไม่เพียงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ชนิดที่อาวุธกำลังสูงของพวกเราเองทำได้แค่สร้างรอยขีดข่วนกัน ดาวดวงนั้นยังสร้างขุมกำลังรบอันน่ากลัวที่ทำด้วยปฏิสสารที่เป็นอันตรายอย่างมาก แม้พวกเราโชคดีมากที่ได้ข้อมูลการรับมือจากทั้งแปดเผ่า ซึ่งพวกเขาได้ปะทะกับการคุกคามของดาวมรณะนี้มาแล้ว จนมีชนเผ่าหนึ่งจัดการสร้างช่องว่างห้วงมิติ ส่งมหาดารามรณะกับกองรบไปอยู่ห้วงมิติอื่นที่ห่างไกลจากจักรวาลที่พวกเราอยู่ ซึ่งนั้นจะทำให้ภายภาคหน้า ดาวมรณะดวงนี้จะย้อนกลับมาที่จักรวาลนี้กันอีกครั้งหนึ่งกันน่ะ"
              "และพวกเขาทั้งแปดเผ่าเอง ก็คงไม่สามารถทำลายดาวดวงนั้นลงได้เลยสิน่ะ" พีวิลบอก
              แอสเทลน่าพยักหน้า "ต่อให้พวกนายมีพลังกล้าแกร่ง หรือใช้พลังสะเก็ดดาวหางควอตไซเซอร์อันทรงพลังกันแค่ไหน ฉันกลัวว่าพวกนายคงไม่มีทางทำลายดาวยักษ์ที่เกือบจะทำให้จักรวาลของพวกเราต้องวายวอดเมื่อ 400 ปีก่อนไม่ได้แน่นอนเลยละ"
              "งั้นที่เธอกับเบย์แทนด์เดินทางมาหาพวกเรา เพื่อมาแจ้งเตือนเรื่องนี้กันสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              เบย์แทนด์กล่าว "ครับ เพราะผมตรวจเช็คคอมพิวเตอร์ของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันแล้ว พบว่าพวกนั้นคิดจะสร้างฐานส่งคลื่นสัญญาณพิสัยไกล เพื่อเรียกมหาดารามรณะให้เดินทางมาที่ระบบดาวของพวกคุณกัน ซึ่งถ้าพวกนั้นทำสำเร็จ ทั้งอีสทาล่าฟรอนเทียร์ ทั้งเขตอวกาศของเดลอาเนี่ยนและทุกระบบดาวในจักรวาลแห่งนี้ คงถูกทำลายไปได้อย่างแน่นอนนะครับ"
              "ใช่ และไอ้พวกต่างดาวสามพวกที่โซเฟียทแจ้งมานั้น ล้วนพกอาวุธร้ายแรงมา บ่งบอกว่าพวกมันมานี้เพื่อรุกรานดาวของพวกเรากัน เพื่อเตะถ่วงกองรบของพวกเราที่ไม่สามารถรับมือกับพวกนั้นได้ ซื้อเวลาให้พวกมันเรียกดาวบ้านี้มาที่ระบบดาวของพวกเรากัน แน่นอน ว่านั้นรวมถึงพวกนายกันด้วยที่ต้องแยกย้ายกันไปช่วยทุกกองรบกันน่ะ" บัลโต้บอก
              เพอซิอัสกล่าว "แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะโชคดี ที่พวกไทรเวเซอร์อยู่ใกล้กับพื้นที่ซ่องสุ่มของฝ่ายรุกรานกันเช่นนี้ ทำให้เราหยุดเหตุร้ายนี้ลงไปได้เลยสิน่ะ"
              "เกรงว่านั้นไม่จบเรื่องกันหรอกคะ เพราะพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น ไม่ได้แค่ลงมือกับที่ระบบดาวของพวกคุณกันอย่างเดียว หลังจากที่โฟริโทรนแจ้งเรื่องให้กับกองยานในกองกำลังพิทักษ์ดวงดาวที่อยู่ตามระบบดาวต่างๆกันนั้น ปรากฎว่า มีอีก 16 ระบบดาวที่มีพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตซ่องสุ่มเพื่อสร้างฐานส่งสัญญาณแบบที่พวกนั้นใช้กับดาวดวงนี้ด้วย" แอสเทลน่ากล่าว โดยนำแผนที่เขตอวกาศภาคใต้ ซึ่งปรากฎวงกลมสีแดงขึ้นทั้ง 16 จุดด้วยกัน "และไม่ใช่แค่ระบบดาวที่เป็นสมรภูมิในมหาสงครามกันอย่างเดียว แต่ระบบดาวที่ตกสำรวจบางระบบอยู่ 3 ที่เองก็ตกเป็นเป้าด้วย ตอนนี้แม่ทัพไซบัลจ์กับผบ.ชาลตันแห่งกองกำลังพันธมิตรมนุษย์ได้ส่งกำลังรบไปตรวจสอบกันแล้วละ"
              เนคมาดูซัมบอก "แสดงว่าเธอมานี้เพื่อให้พวกเราไปช่วยงานพวกเขาเลยสิน่ะ"

              "เปล่า เพราะว่าท่านแม่ทัพไซบัลจ์และประธานสภาบาแลมโซ่ สั่งให้ฉันพาพวกนาย ไปรับภารกิจที่ดิสก์เวิร์ดกันเดียวนี้เลย เพราะเรื่องนี้ถือเป็นมาตราการฉุกเฉินแบบเร่งด่วนกัน ซึ่งพวกนายคงไม่มีวันได้พักแน่ๆเลยละ" แอสเทลน่าบอก
              พีวิลถาม "คุณบอกว่า กลุ่มดาวที่เรียกตนเองว่าเอทพลาเนสนิ ลี้ภัยจากการคุกคามของดาวมรณะดวงนั้นกันใช่มั้ย แต่ พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น....เหมือนกับพวกเอทพลาเนสในรูปถ่ายกันเลยน่ะ"
              "ความจริงแล้ว พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น เป็นพวกเอทพลาเนสกันนะสิครับ" เบย์แทนด์บอก
              เพอซิอัสกล่าว "เธอกำลังจะบอกว่า พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น คือพวกกลุ่มเอทพลาเนสที่เป็นพวกก่อการร้ายอย่างงั้นสิน่ะ"
              "เป็นเช่นนั้นนะครับ และพวกเขาเองก็ออกจากระบบดาวของพวกเขาที่ตั้งอยู่ในเขตอวกาศภาคกลางกัน เพื่อมาก่อเรื่องนี้กันด้วยนะครับ" เบย์แทนด์บอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "ระบบอวกาศภาคกลางกันนะหรือ ว่าแต่ บรรพบุรุษของพวกคุณกับสมาพันธ์อวกาศเมื่อ 400 ปีก่อนนิ มิได้ให้พวกเขาอยู่ในเขตอวกาศของสมาพันธ์กันเลยหรือ"
              "คือว่าพวกเขานั้น ไม่อยากจะเบียดเบียนชนเผ่าในเขตอวกาศอื่น รวมถึงระบบดาวนพเคราะห์สุริยะหรือที่ระบบเจเนซิลกันด้วย พวกเขาเลยมุ่งหน้าสู่เขตอวกาศภาคกลาง โดยอาสารับผิดชอบในการปราบปรามพวกนอกกฎหมายที่อยู่ในเขตอวกาศเหล่านั้นไปด้วย เพื่อเป็นการตอบแทนความร่วมมือของบรรพบุรุษของเราและของสมาพันธ์อวกาศกันไว้ แม้ว่าพวกสมาพันธ์อวกาศเองพยายามไม่น้อยที่จะให้พวกเอทพลาเนสเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธ์อวกาศกันก็ตาม แต่การตัดสินใจของพวกเขานั้น ได้สร้างความกังวลใจต่อสมาพันธ์อวกาศมาตลอด 400 ปีกันด้วยนะสิ" แอสเทลน่าบอก
              พีวิลบอก "ส่วนหนึ่งเพราะกลัวว่าพวกเดลอาเนี่ยนหรือพวกเฮซเทิร์ซจะครอบครองพวกเอทพลาเนสกันเลยสินะ"
              "แต่ในเมื่อมีพวกศัตรูจากเอทพลาเนสออกมากันนิ พวกที่เหลือคงไม่ได้หาทางส่งใครมาขัดขวาง หรือมาแจ้งขอความช่วยเหลือกับทางสมาพันธ์อวกาศกันใช่มั้ยละ" เนคมาดูซัมบอก
              แอสเทลน่าพยักหน้า "เพราะอย่างงั้นแหละ ฉันถึงต้องพานักโทษคนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกเดธซิลเวอร์สตาร์กันอย่างดี มาด้วยยังไงละ"

              "โว้ว พวกคุณคงเป็นเพื่อนยอดนักรบระดับพระกาฬที่ครอสฟอร์ดพูดถึงเลยสิน่ะ หึๆๆๆๆ" เมคโซ่กล่าวเมื่อเห็นสามผู้นำของไทรเวเซอร์เดินเข้ามาในห้องสอบปากคำกัน
              คลอเวฟบอก "ไอ้มนุษย์หินนั้น คือผู้ที่มาแจ้งข่าวพวกรุกรานเหล่านั้นเลยสิน่ะ เบย์แทนด์" โดยมองผ่านกระจกห้องสอบปากคำ
              "ครับ คุณเมคโซ่ เป็นนักโทษชาวสโตนอลรหัส 1082 ถูกจับกุมมาเมื่อ 5 เดือนก่อน ฐานขับยานฝ่าด่านสกัดกั้นป้องกันฝั่งเหนือของระบบอวกาศนี้ แถมยังเปิดระบบอาวุธยิงใส่กองป้องกันเอาไว้ แม้ถูกจับกุมหลังจากที่ทำให้ยานเสียหายลง แต่คุณเมคโซ่หาเรื่องหลบหนีออกจากการคุมขัง กรมตำรวจอวกาศเลยต้องส่งคุณเมคโซ่มาอยู่ในความดูแลของคุณแอสเทลน่า ซึ่งให้ลูกน้องในหน่วยต่อสู้ที่ 78 รับผิดชอบสกัดกั้นมิให้คุณเมคโซ่หลบหนีไปได้นะครับ" เบย์แทนด์เล่า
              ลิเนียร์ตี้บอก "ว่าแต่ เขาคงจะไม่ผ่านระบบดาวสคอลลอนกันหรอกน่ะ"
              "เกรงว่าคุณคาดผิดแล้วละครับ คุณลิเนียร์ตี้ เพราะว่าคุณเมคโซ่ไปซ่ากับกองรบยูเนี่ยนพีชเข้า เลยถูกผู้ฝูงอิลมิคตามไล่ล่ากันตลอด 4 ชั่วโมงจนจับตัวคุณเมคโซ่ไปให้กรมตำรวจอวกาศกันนะครับ" เบย์แทนด์บอก
              แอบไบออสกล่าว "แล้วหมอนั้นคงไม่ได้บอกสาเหตุที่แท้จริงกับพวกยูเนี่ยนพีชหรือแม้กระทั่งกองรบสมาพันธ์อวกาศกันเลยหรือ"
              "แสดงว่านักโทษผู้นี้คงได้รับมอบหมายภารกิจในการหยุดยั้งพวกเดธซิลเวอร์พลาเนต หรือถูกส่งมาเพื่อแจ้งข่าวกับประธานสภาบาแลมโซ่แน่ๆสิน่ะ" พลัสเชอริทคาดเดา
              เจเนลบอก "และคงเป็นพวกหัวแข็งมากๆ พอๆกันกับพวกเพโทรน็อกซ์กันแน่ๆเลยละ"
              "คุณเมคโซ่ ทางเรารู้ว่าตอนนี้ศัตรูที่คุณติดตามมานั้น มีเป้าหมายกันเช่นไรแล้ว ซึ่งพวกเราได้หยุดยั้งและขัดขวางพวกนั้นกันไว้แล้วด้วยนะครับ" พีวิลบอก
    เมคโซ่กล่าว "พวกนายนิเก่งสมคำเล่าลือกันจริงๆเลยน่ะ ไม่แปลกใจเลย ที่พวกศัตรูจากเขตอวกาศภาคตะวันออกเองพยายามมาราวีกับดาวของฉัน และอีก 7 ดวงกันด้วย แม้พวกนายจะเหนือกว่าพวกนอกคอกที่พยายามนำเข้าหายนะจากอดีตกลับมากันแล้วแท้ๆน่ะ"
              "แปลว่าพวกนั้นคงจะเป็นพวกบูชาดาวมรณะดวงนั้นเลยสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              เมคโซ่กล่าวไปว่า "เปล่า พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น ล้วนแล้วเป็นพวกกบฎและอาชญากรระดับร้ายแรง ที่ไม่เพียงก่อการเพื่อยึดอำนาจการปกครองมาเป็นของพวกมันอย่างเดียว แต่....พวกนั้นเชื่อว่า การกลับมาของหายนะในอดีตนั้น คือการชำระล้างภัยคุกคามทั้งปวงให้สูญสิ้นไปซะ ดังนั้น องค์ราชาส่วนมากรวมถึงรานีของผม มีบัญชาให้ผมกับพวกเดินทางไปที่สมาพันธ์อวกาศมาแจ้งข่าวให้รับทราบไว้น่ะ"
              "แล้วคุณก็นำยานพุ่งผ่านพรมแดนทางเหนือของสมาพันธ์อวกาศกันทำไมละ คงไม่ได้เพราะแค่รู้ว่าพวกนั้นล่วงหน้าไปที่ระบบอวกาศนี้ไปนานแล้วสิน่ะ" เพอซิอัสบอก
              เมคโซ่บอก "ผมถูกสมุนของพวกมันดักซุ่มโจมตีจนเหลือผมเพียงผู้เดียว แน่นอน ผมต้องรีบมุ่งหน้าไปที่สมาพันธ์ให้ทันก่อนที่พวกมันจะตามผมเข้ามาได้ แต่เพราะว่ากองรบจากฝั่งเหนือไม่เพียงไม่ฟังผม พวกนั้นยังดักจับผมจนคลาดกับพวกมันไปตั้ง 5 เดือนเต็มเช่นนี้เลยน่ะ"
              "แล้วทำไมคุณถึงไม่อธิบายให้ทั้งกองรบยูเนี่ยนพีชฟังเลยหรือ คงเพราะว่าพวกนี้เป็นพวกเดียวกันกับพวกเดลอาเนี่ยนสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เมคโซ่กล่าว "ระบบดาวของผมและพวกเจอพวกฝั่งตะวันออกรุกรานมา อยู่ๆก็ดันมีพวกนี้มาขวาง ผมก็ต้องรีบตรงไปโดยเร็ว ซึ่งผมพึ่งถูกศัตรูไล่ล่ามาหยกๆเลยน่ะ"
              "ว่าแต่ คุณกับพวกไม่ได้รับรู้ความเคลื่อนไหวภายในเขตอวกาศของฝั่งสมาพันธ์อวกาศกันเลยสินะครับ ว่าตอนนี้ ยูเนี่ยนพีชและกลุ่มเอาท์เดนท์ที่เป็นอดีตเดลอาเนี่ยนนั้น เป็นส่วนหนึ่งของทางสมาพันธ์อวกาศมาเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วละครับ" พีวิลบอก
              เมคโซ่บอก "พวกเราไม่ค่อยทราบเรื่องราวภายในสมาพันธ์อวกาศกันมากมายหรอกน่ะ เพราะพวกเรามีหน้าที่ต่อกรกับพวกนอกกฎหมายและกลุ่มอาชญากรในเขตอวกาศภาคกลางกัน ยิ่งในช่วงนี้ ที่ฝั่งตะวันออกโผล่มาเป็นเนื่องๆนั้น พวกเราจึงต้องเหมาพวกฝั่งตะวันออกนี้ไว้ก่อน เพราะรู้ชื่อเสียของพวกนั้นเป็นอย่างดีเลยละ" แล้วก็ยื่นหน้ามา "อีกอย่าง ผมได้รับมอบหมายจากรานีของผมให้ตรงไปแจ้งข่าวกับทางสมาพันธ์อวกาศกันเท่านั้น มิได้มาถูกจับกุมเยี่ยงนักโทษจนพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตแซงหน้าผมไปไกลกันเสียหน่อยน่ะ"
              "แต่คุณก็ทำผิดฐานขับยานฝ่าแนวเขตป้องกันและไม่หยุดยานตามที่ยูเนี่ยนพีชสั่งห้ามให้หยุดกันไปแล้ว คุณน่าจะแจ้งกับซีคเทมพลาร์ให้เธอไปรับเรื่องก็ได้แล้วนิครับ" พีวิลบอก
              เมคโซ่กล่าว "ผมได้รับคำสั่งให้มาแจ้งกับตัวผู้นำสมาพันธ์อวกาศกันเท่านั้น อย่างอื่นที่รานีไม่ได้บอกเอาไว้ ก็คือไม่จำเป็นต้องทำกันด้วย แม้กระทั่งพวกคุณเองก็ตามน่ะ"
              "งั้นเหตุผลที่คุณถูกส่งมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านประธานสภาบาแรมโซ่กันให้ได้นั้น คงไม่ได้มีแค่เรื่องที่พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตก่อเรื่องในเขตอวกาศภาคใต้กันอย่างเดียวละสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เมคโซ่พยักหน้า "และปัญหาเหล่านั้นควรจะได้รับแก้ไขตั้ง 5 เดือนกันแล้ว ถ้าไม่เพราะว่ากองกำลังฝ่ายสมาพันธ์อวกาศกลุ่มใหม่หาเรื่องจับกุมผมไปได้เสียก่อน เพราะทันทีที่ผมได้แจ้งกับผู้นำฝ่ายสมาพันธ์เรียบร้อย ภารกิจต่อไปของผมก็คือ ไล่ล่าพวกนั้นไม่ให้ก่อการได้สำเร็จ ซึ่งพวกคุณช่วยงานผมได้มากเลยน่ะ"
              "ขอบใจมากสำหรับความร่วมมือในเรื่องข้อมูลกันน่ะ" บัลโต้บอก
              เพอซิอัสจึงสั่งการให้ "เกรงว่าพวกเธอคงไม่ได้กลับไปนอนพักที่บ้านแล้วละ เพราะพวกเธอต้องออกจากดาวภายใน 15 นาทีกันเดียวนี้เลย"
              "เอางั้นเลยหรือครับ ท่านนายพล" เนคมาดูซัมบอก
              "แม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในระบบดาวของเมคโซ่นั้น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรากันก็จริง แต่ถ้าปัญหาที่ระบบดาวทั้งแปดนั้นถูกพวกเดลอาเนี่ยนคุกคามกันด้วยนั้น เป็นจริงขึ้นมา นั้นหมายความว่าพวกเดลอาเนี่ยนอาจจะได้ผลประโยชน์จากพวกดาวทั้งแปดอย่างแน่นอน" เพอซิอัสบอก
              "แน่นอน ว่าเราจะส่งพวกนายไปแจ้งเรื่องนี้ต่อประธานสภาบาแลมโซ่ที่ดิสก์เวิร์ดกันไว้ แม้ว่าการมาของพวกนายนั้น จะต้องเจอกับวุฒิสมาชิกรายหนึ่งที่พยายามขอร้องความช่วยเหลือจากพวกนายกัน พวกนายก็ไม่ต้องบ้าจี้คล้อยตามคำขอของมันให้พวกนายทำผิดกฎเสียเองได้เลย แม้นั้นหมายถึงเราทำลายโอกาสในการได้เพิ่มงบประมาณแผ่นดินมาจุนเจือกองทัพของเรากันก็ตาม เพราะพวกเรายังพอมีหนทางอื่นอยู่กันน่ะ" บัลโต้กล่าวเชิงแนะนำไปด้วย
              พีวิลตอบ "อย่าห่วงไปเลยครับ เพราะถึงพวกเราจะหย่อนยานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่พวกเราจะไม่ทำผิดกฎกันอย่างแน่นอนนะครับ"
              "ถ้าเช่นนั้น พวกเธอรีบขึ้นยานไทรแองเกิ้ลกันได้เลย ฉันได้แจ้งกับหัวหน้าลูกเรือให้ทราบไว้แล้วละ" เพอซิอัสกล่าว
              ทั้งสามกล่าว "รับทราบแล้วละครับ"

              "ลำบากนายแล้วน่ะ บริคซ์ ที่ต้องทำงานในยาน ซึ่งมีลูกเรือเพียงแค่ครึ่งเดียวน่ะ" คลอเวฟกล่าวกับบริคซ์ที่ติดต่อเข้ามา โดยตอนนี้ทั้งหมดอยู่ในยานไทรแองเกิ้ลกันแล้ว
              "ทำไงได้ละ ฉันจำเป็นต้องให้ลูกเรือส่วนหนึ่งอยู่ดูแลท่าเรือ ในช่วงที่โดซี่พาพวกไปทำงานนอกดาวกันอยู่น่ะ" บริคซ์บ่น
              "โดซี่คงจะอยู่ที่แคสไลน์-6 กันสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              บริคซ์กล่าว "เปล่าหรอก เธอพาทีมกองกำลังหลังฉากส่วนหนึ่งออกไปช่วยคุ้มกันกองรบ ที่รับผิดชอบเรื่องการซ่อมแซมสเปซโคโลนี่วินเดเคทอร์ ที่อยู่รอบดาวของเรากันแล้วน่ะ" โดยนำภาพสเปซโคโลนี่ ซึ่งสร้างขึ้นจากซากยานรบของพวกเดลอาเนี่ยนที่ลอยอยู่นอกดาว จนสร้างเป็นโคโลนี่ได้ถึง 6 แห่ง
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าพวกที่อยู่บนดาวอยากจะเข้ามาอยู่ในโคโลนี่อันเป็นยานรบที่พวกเดลอาเนี่ยนใช้รุกรานกันกระมั่ง" สเปียริทบอก
              บริคซ์กล่าว "แต่อย่างน้อย นั้นเป็นผลงานร่วมสร้างของพี่ใหญ่ในการใช้ซากยานของฝ่ายตรงข้ามให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนกันบ้าง แม้ว่าพวกเราจะประสบความสำเร็จในการพัฒนาดาวสองดวงของเรากันแล้วน่ะ
              "หมายถึงแคสไลน์-6 และแคสแนค-2 ละสิน่ะ" พีวิลบอก
              บริคซ์พยักหน้า "หลังจากที่ดาวแคสไลน์-6 ประสบความสำเร็จในการปรับแต่งผิวดวงดาว จนพัฒนาสร้างพื้นที่เกษตรกรรมเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ รวมถึงทำประมงกันได้เมื่อ 2 ปีก่อน รวมถึงจัดสร้างพื้นที่อนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่ากันไว้แล้ว ทำให้โปรเจคพัฒนาพื้นผิวของแคสแนค-2 ที่มันดูแย่กว่าได้เริ่มต้นและดำเนินการจนเสร็จสิ้นไป แม้โปรเจคนั้นจะทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเอาเสียเลยน่ะ"
              "แน่นอน เพราะท่านประธานาธิบดีของเราใช้งบส่วนหนึ่งจากกองทัพ เอาไปเพิ่มให้กับโปรเจคเทอร่าฟอร์มเมอร์ดาวในระบบของเราถึงสองดวงด้วยกัน จนทำให้นายต้องปลดลูกเรือของนายออกไปอีกส่วนหนึ่งด้วยน่ะ" คลอเวฟบอก
              บริคซ์กล่าว "อย่างน้อย ดาวที่อดีตเสนาธิการวาลโทรเกนใช้ซ้อมรบในดาวนั้น ได้เปลี่ยนจากพื้นดินแห้งแล้งกลายเป็นดาวที่เหมือนกับโลกของเรา ซึ่งเหมาะจะเป็นดาวดวงที่สองของเรา หรือไม่ก็ของพวกบีสทอยด์ หากว่าโปรเจคพัฒนาโครงประตูมิติให้มีขนาดใหญ่นั้นเสร็จสมบูรณ์กันบ้างน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะพวกเราได้ข้อมูลการเดินทางเข้ามาในดวงดาวจากการรุกรานของพวกสเตรดาร์ธมา บวกกับข้อมูลวิทยาการสร้างประตูมิติของออร์เลี่ยน ทำให้รัฐมนตรีวูลลิเซียดำเนินโปรเจคสเปซเกตเวย์กันแล้ว ซึ่งถ้าเสร็จสิ้น พวกเราสามารถเดินทางไปยังดาวดวงใดก็ได้ในเขตอวกาศภาคกลาง ไม่ว่าดาวดวงนั้นจะอยู่ไกลจากระบบดาวไปมากแค่ไหนก็ตามนะคะ" แอมเบอร์สรุป "หากแต่ปัญหาเรื่องพลังงานที่ใช้กับประตูนั้น เราจำต้องใช้พลังงานเพเรเนี่ยมเป็นปริมาณมาก เลยทำให้รัฐมนตรีวูลลิเซียพัฒนาสถานีอวกาศแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ลงสู่ภาคพื้นดาว ไชน์นิ่งฟลาวเวอร์ขึ้นมา รับพลังงานแสงอาทิตย์ส่งมายังดาวของเราและแคสเซรอนกันด้วยคะ"
              สเปียริทบอก "ซึ่งนั้นก็ใช้งบไปไม่น้อย แม้ว่าเราจะใช้ซากยานรบและฐานทัพของพวกเดลอาเนี่ยนชุดหลังการรุกรานด้วยซาบราดร้ามาสร้างสถานีอวกาศกัน จนโพโบโวโล่เรียกเก็บภาษีจากรายเดือนเป็นรายสัปดาห์เสียเองน่ะ"
              "แถมยังต้องเพิ่มกองยานมาคุ้มกันไว้ เพื่อมิให้สถานีนั้นใช้เป็นปืนใหญ่ถล่มภาคพื้นเสียเองด้วยน่ะ" จิลบอกโดยที่เธอคุมเคาน์เตอร์ระบบสื่อสารกัน "นี้อีกนานมั้ยเนี้ย กว่าพวกเราจะออกสำรวจอวกาศภาคกลางกันได้น่ะ"
              บริคซ์บอก "ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็ เห็นว่าตอนนี้ท่านประธานาธิบดีส่งกองยานออกสำรวจเขตภาคกลางกันไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วนะสิ"
              "2 ปีก่อนนะหรือ นั้นมันช่วงเดียวกับที่เราเข้าร่วมการประลองศึกราชันย์ยอดนักสู้แห่งจักรวาลกันนิน่า นี้แปลว่านายเองคงไม่รู้เรื่องละสิ" คลอเวฟบอก บริคซ์บอก "ฉันเองพึ่งจะทราบจากพี่ใหญ่มาเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนนี้แหละ ว่าพี่มีปัญหาเรื่องกองยานสำรวจที่มักจะกลับมาเพียงแค่ลำเดียว แถมยานลำนั้นก็เป็นยานอวกาศลำที่สองที่ทางรัฐบาลค้นพบมาเมื่อปีที่แล้วเองน่ะ"
              "แล้วผบ.บัลโต้มีเล่ารายละเอียดกันหรือเปล่าละ" เนคมาดูซัมบอก
              บริคซ์ส่ายหน้า "ถึงพี่ใหญ่จะหงุดหงิดกับเรื่องบ้าๆนี้ แต่พอฉันถามพี่ พี่ใหญ่ก็บ่ายเบี่ยงพูดเปลี่ยนเรื่องกันไม่ว่า ยังขอร้องให้ฉันติดต่อหรือพูดคุยกับบรูโน่กันด้วย บ่งบอกเลยน่ะ ว่าพี่ใหญ่คงรู้เรื่องนี้ แต่ยังไม่พร้อมที่จะขอร้องพวกนายกันเลยน่ะ"
              "สำคัญในตอนนี้คือ เราต้องมุ่งหน้าไปสมาพันธ์อวกาศกันเสียก่อนน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              มาสวาร์ทาร์ติดต่อไปหา "พวกเธออยู่ในยานกันครบแล้วสิน่ะ"
              "ว่าแต่ พวกครูจะเรียกพวกไรแกทมาช่วยเลยมั้ยละ" เฮเรเค้นกล่าว
              แอนเดรียบอก "ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เพราะคุณแอสเทลน่าจะพาพวกเขาจากเมลลอท-4 มาส่งที่ดิสก์เวิร์ดเอง เพียงแต่ พวกเขาควรจะอยู่ช่วยงานลูกเรือในยานกันไปพลางๆก่อนน่ะ"
              "เฮ้อออ สงสัยว่าเทรอนเร็กซ์คงจะบ่นแย่ละสิ ที่ต้องมาช่วยงานในยาน แทนที่จะได้ออกรบกันน่ะ" ไลเอิร์ทกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ทำไงได้ละ ผลจากเศรษฐกิจขาลงนั้นทำให้ท่านประธานาธิบดีต้องตัดงบประมาณให้กองทัพครึ่งหนึ่ง เอาไปฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจมาตลอด 2 ปีเต็ม จนทำให้ทางเราต้องลดจำนวนลูกเรือที่คุมในยานออกไปส่วนหนึ่งถึงสองครั้งเลยน่ะ" แล้วก็บอก "หากแต่เรื่องฝึกฝนและเรียนนั้นยังคงมีอยู่บ้างน่ะ"
              "ดีเลย อาจารย์ เพราะพวกเราไม่ได้เรียนมา 2 ปีเต็มแล้วละคะ หลังจากที่ท่านประธานาธิบดีต้องตัดงบลงไปเลยน่ะ" ดิเรนท์บอก
              มัลแด็กซ์บอก "ก็ยังดีกว่าให้พวกเราไปเรียนพร้อมกับพวกเฟรดที่มหาวิทยาลัยทหารกันนี้แหละ เพราะในมหาวิทยาลัยมีนักเรียนตัวเอ้ 52 รายที่ยังสอบไม่ผ่านหลักสูตรกันเลย ซึ่งไม่รู้ว่าพวกเฟรดและพวกน็อกกี้จะโดนยำมากน้อยแค่ไหนน่ะ"
              "แน่ละ ยัยนาเดียเองก็พึ่งแพ้ไอ้กุ๊ยฮีธมาเมื่อปีที่แล้ว ต่อมาก็กำชัยชนะลงไปได้ในแมทซ์ปีต่อมา เธอเลยต้องระวังการพบปะกับหน่วยศูนย์กันมากขึ้นกว่าด้วยน่ะ" เฮเรเค้นบอก
              ไลเอิร์ทกล่าว "ดีที่พวกทรอยอาร์ไม่เคลื่อนไหวมาตลอด 2 ปี จนไอ้กุ๊ยและไอ้มนุษย์หมาบ้ามันมาไม่ได้ เช่นเดียวกับไอ้สามหน่อสมุนขององค์ชายสามนั้นด้วย จนทำให้พวกน็อกกี้เซ็งกับวิชาที่เรียนอยู่นี้แหละ"
              "ตอนนี้พวกเธอทำให้พวกเราเสียเวลากันแล้วน่า" เนคมาดูซัมบอก แล้วก็สั่ง "คลอเวฟ นำยานออกได้เลย"
              คลอเวฟกล่าว "ไม่ต้องบอก กูก็รู้แล้วละน่า ไทรแองเกิ้ล ออกทะยานได้" แล้วก็ "ครืนนนนนนน" ยานไทรแองเกิ้ลเคลื่อนตัวออกจากอู่จอดยานที่อยู่ในหุบเขา ซึ่งลานบินทะยานเลื่อนขึ้นจากท้องทะเล พายานสามเหลี่ยมทะยานขึ้นสู่อวกาศนอกดาวกัน โดยบินมายังสถานีอวกาศที่โคจรรอบดาวกัน

              "จะไปออกปฏิบัติการณ์กันสิน่ะ แม้ว่า 6 เดือนก่อนพวกนายไปเพื่อเข้าร่วมการประลองกันน่ะ" แมนิเกเตอร์หุ่นไทป์ครีซีแทนหญิงสวมหมวกหัวกลมนามแคร์เรี่ยนติดต่อเข้ามา
              "ว่าแต่ ตอนนี้แอร์ไพล์มมิสสบายดีบ้างสิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              "นึกว่าพวกนายยังอยู่ฝึกทหารเกณฑ์แล้วไม่ออกมากันเสียอีกน่ะ" แมนิเกเตอร์หุ่นสวมหมวกเบเร่ต์แดงตัวสูงกล่าว
              สเปียริทบอก "นึกว่านายจะตัวหดมาตลอด 3 ปีเสียอีกน่า คุณที่ปรึกษาทางทหารของผู้นำเรย์แม็กซ์"
              "ดีนะเนี้ย ที่ฉันอยู่พักฟื้นและช่วยงานเรย์แม็กซ์ในเรื่องจัดหาขุมกำลังกัน แม้ว่าตอนนี้ ครีซีแทนอย่างพวกเรานั้นต้องหารายได้พิเศษกันในโรงงานอุตสาหกรรมที่แคสเซเดี่ยน-3 โดยได้ค่าจ้างน้อย แต่ได้อย่างสม่ำเสมอกันน่ะ" แอร์ไพล์มมิส ที่ปรึกษาทางทหารของครีซีแทนกล่าว "2 ปีก่อนนั้นร่างของฉันกลับสู่สภาพเดิมแล้ว แม้ฉันรู้เรื่องที่ผบ.บัลโต้ตัดงบประมาณทางทหารลง จนแคร์เรี่ยนและพวกไอรีสต้องขึ้นมาประจำการที่สถานีอวกาศเสียเองเช่นนี้ ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้เลยน่ะ"
              เจเนลบอก "พวกเราเองก็ด้วยน่ะ พวก ถึงแม้เราอยากจะหาหนทางแก้ที่ดีกว่านี้ แต่ก็...."
              "นั้นไม่แปลกใจหรอก ตอนที่เราอยู่บนแรซัลก้านั้น สภาขุนนางบีบให้พวกเราส่วนหนึ่งต้องถูกปลดประจำการและลดจำนวนลงเพื่อรักษาพลังงาน ซึ่งนั้นทำให้มีส่วนหนึ่งก่อกบฎขึ้นมา โดยที่ฉัน แอร์ไพล์มมิส แล้วก็นายกับฟิเกซเอง ต้องเดินทางไปกับรอชแมนเพื่อจัดการกับกลุ่มกบฎที่เกาะอิลพาดีสเมื่อปีจักรวรรดิ์ที่ 34 กันน่ะ" แคร์เรี่ยนบอก "ตอนนี้ พวกนายรีบนำยานมารับเสบียงอุปกรณ์จากทางเรากันได้แล้วละ"
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ว่าแต่ พอติดต่อไปหาพวกลุงเบติสได้มั้ยละ"
              "อ่า พอดีเลย มีสายตรงจากยานเฮฟไดซ์อินสเปคทรัลกันด้วยละ" แคร์เรี่ยนบอก โดยต่อสายเข้ามา

              "อ่า กะแล้วว่าพวกนายต้องออกปฏิบัติการณ์นอกดาวกันจนได้สิน่ะ เพราะเห็นยานของซีคเทมพลาร์บินออกไปกันแล้วน่ะ" หญิงอ้วนในชุดทหารสวมหมวกกล่าว
              "แอสเทลน่าล่วงหน้าไปก่อนเราแล้วน่ะ โดซี่ เพราะเธอต้องแวะไปที่เมลลอท-4 เพื่อรับพวกไทรเมร่าที่เหลือมาส่งกับพวกเราน่ะ" เนคมาดูซัมบอก แล้วก็มีชายตัวสูงในชุดนักบินสีเขียวติดแผ่นเกราะสีแดงโผล่มาพร้อมกับหญิงผมขาวในชุดนักบินด้วย
              "ส่วนหนึ่งคงจะเป็นเรื่องผู้รุกรานแปลกหน้าที่พวกเธอจัดการมาในช่วงบ่ายเลยสิน่ะ"
              "ใช่ครับ คุณเบติส คุณวิลด้า เพียงแต่พวกศัตรูส่วนที่เหลือรอดนั้น แอสเทลน่าผนึกพวกนี้เพื่อนำไปไว้ที่ดัลทาริฟ-4 หลังจากที่พาพวกเทรอนเร็กซ์มาส่งที่ดิสก์เวิร์ดกันนะครับ" พีวิลบอกกับเบติส ร็อดดิเกรส โอดิล ยอดนักบินหัวหน้าหน่วย OD89 ทีมปฏิบัติการณ์โมบิลลอยด์ประจำกองกำลังไทรเวเซอร์
              หญิงหัวขาวนามวิลด้า ภรรยาของเบติสกล่าว "แต่แย่หน่อยนะ เพราะทางเราเองยังอยู่ในช่วงซ่อมแซมโคโลนี่บิ้กซีรอนกันอยู่ ซึ่งทางเราคงทิ้งงานตรงนี้ไม่ได้แน่ๆเลยละ"
              "และการซ่อมแซมคงไม่เสร็จสิ้นใน 2-3 วันเลยสิครับ" พีวิลบอก เบติสพยักหน้า แล้วก็มีหน้าจอเล็กปรากฎขึ้น พร้อมกับชายหญิงในชุดบาร์โค้ดแบบเดียวกับแอนเดรีย แต่ใส่เสื้อโค้ทในห้องแลบ
              "คุณเบติส คุณวิลด้า ฟูลออเรสและเมดิน่าเป็นยังไงบ้างละครับ" ชายสวมแว่นผมดำกล่าว
              "ฟูลออเรสและเมดิน่าก็สบายดีนี้แหละคะ คุณอีธาน คุณเอโอลีน แม้เขาไม่ค่อยชอบเลยกับงานซ่อมแซมสเปซโคโลนี่นี้ แต่เมดิน่าดูสนอกสนใจมากๆ โดยเฉพาะกับการตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์ของพวกเดลอาเนี่ยนที่ติดมากับยานกันนะคะ" วิลด้าบอก
              เอโอลีนกล่าว "ช่วยเรียกฟูลออเรสและเมดิน่ามาได้มั้ยละคะ"
              "ลูกพี่กับพวกจะออกจากดาวกันแล้วสิครับ" เด็กหนุ่มผมดำในชุดไพล็อตสีดำเดินมาพร้อมกับเด็กสาวที่มีหูกลมผมบลอนด์เหลืองในชุดไพล็อตสีขาว ตามด้วยเด็กหนุ่มผมยุ่งสีส้มมีสะเก็ดสีเงินติดตามหัว และเด็กสาวผมสีลายหินอ่อนในชุดบาร์โค้ดกัน
              "ใช่แล้วละ ไกซ์ มิลด์ ฟูลออเรส เมดิน่า พวกเราจะตรงไปที่ดิสก์เวิร์ดเพื่อแจ้งเรื่องให้ประธานสภาบาแลมโซ่รับทราบถึงเรื่องผู้รุกรานกันน่ะ" แอนเดรียบอก
              "นี้พวกศัตรูมันบุกเข้ามาที่ดาวกันเลยหรือ แต่ทำไมกองยานถึงไม่ทราบกันเลยละ" ไกซ์ ฮาสตัน แมนิเกเตอร์มนุษย์โคลนนักบินอัลติเมทเอทในทีมกล่าว
              มิลด์ อาลเดย์ แมนิเกเตอร์แอนดรอยนักบินแพนเซสเซนไนน์บอก "เกรงว่าพวกรุกรานนั้นคงจะโผล่มาด้วยระบบพลางตัวรุ่นใหม่ล่าสุด จนระบบตรวจจับของพวกเราเองไม่สามารถตรวจจับได้แน่ๆกันน่ะ"
              "นั้นไม่แปลกหรอก เพราะกลุ่มผู้รุกรานนั้น หน้าตาไม่คุ้นไม่ว่า พวกนั้นก็มีอาวุธที่ร้ายกาจกันอีกด้วยนะสิ" เจเนลบอก
              ฟูลออเรส แลมบาร์ท แมนิเกเตอร์ริดิวิเนี่ยนมิวแทนอยด์คลาสบี นักบินเพรโทรแน็กซ์อิชเชเตียนกล่าว "อย่าบอกนะ ว่าพวกรุกรานที่พวกคุณปะมือมาบนดาว เป็นพวกชนเผ่าต่างดาวในเขตอวกาศภาคกลางกันเลยน่ะ"
              "พวกนั้นอยู่ในเขตอวกาศภาคกลางน่ะ ใช่ แต่....พวกเขามิได้อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับพวกเรานะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก
              เมดิน่า แดลิล แมนิเกเตอร์ริดิวิเนี่ยนมิวแทนอยด์คลาสบี นักบินเพรโทรแน็กซ์ฟาร์โอเวี่ยนบอก "คุณพระช่วย นี้เราถูกรุกรานโดยชนเผ่าต่างดาวที่มาจากอีกจักรวาลหนึ่งเลยหรือกระนี้...." แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "แต่....พวกคุณคงมิได้ทำลายข้าวของที่พวกนั้นขนมากันเลยสินะ"
              "ถ้าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่พวกนั้นขนมาละก็ มันถูกส่งไปให้สถาบันริดิวิแนนท์ที่เมืองเวลเซน่า เพื่อให้แผนกวิจัยวิทยาการต่างดาวค้นคว้ากันแล้วละ" เอโอลีนบอก "และหวังว่าเธอกับฟูลออเรสคงจะไม่สร้างความเสียหายเพิ่มในช่วงซ่อมแซมสเปซโคโลนี่กันบ้างน่ะ"
              เมดิน่าบอก "อย่าห่วงไปเลยคะ รุ่นพี่ หนูกับมิลด์จะช่วยดูไกซ์และฟูลออเรสให้เองนะคะ"
              "เออ.... รุ่นพี่ ว่าแต่ แมบิลีน ไม่มาด้วยหรือครับ" ฟูลออเรสถามถึงลูกสาวของอีธานและเอโอลีน
              อีธานบอกไปว่า "วางใจได้ เพราะฉันฝากแมบิลีนให้วูลลิเซียดูแลให้แล้วละ วางใจเรื่องที่ลูกแอบหนีขึ้นยานขนส่งมาได้เลย"
              "แต่ยังไงก็ระวังหน่อยนะคะ เผื่อว่าแมบิลีนแอบมีแกตเจ็ทช่วยอีกสองสามชิ้นด้วยนะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              มิลด์กล่าว "พวกคุณเองก็ระวังตัวด้วย เพราะการที่เราเจอกับผู้รุกรานที่แปลกหน้าในเวลาเดียวกันที่พวกเฮซเทิร์ซบุกมานอกดาวกันด้วยนั้น มันรู้สึกไม่ดีเลยนะคะ"
              "ผมกับพวกรู้สึกเหมือนกับลุงและป้ากันแล้วละ ว่าพวกเฮซเทิร์ซนั้น ร้ายกาจสมชื่อกลุ่มผู้รุกรานจากฝั่งเหนือที่แรซัลก้าปะทะกันด้วย คู่หูของผมเองก็เกือบแย่เลยน่ะ" ไกซ์กล่าว
              ฟูลออเรสบอก "ทั้งๆที่ฝั่งตะวันตกมีพวกทรอยอาร์คุ้มกัน ฝั่งเหนือมีสาธารณรัฐเอาท์เดนท์กับยูเนี่ยนพีช ฝั่งตะวันออกเองก็มีพวกเราและพวกคุณอยู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่า ทำไมพวกเฮซเทิร์ซถึงโผล่ข้ามมายังเขตอวกาศของทางสมาพันธ์ฯกันได้น่ะ"
              "ความสงสัยนั้นเก็บเอาไว้ก่อนจะดีกว่าน่ะ เพราะพวกเธอต้องช่วยพวกเราซ่อมแซมสเปซโคโลนี่ที่ถูกพวกเฮซเทิร์ซจู่โจมมากันด้วย" โดซี่กล่าว
              แอนเดรียบอก "ตอนนี้ พวกเฟรดยังสบายดีอยู่สิคะ"
              "บาร์ทและช็อปเปอร์แวะไปเยี่ยมกันเป็นพักๆแล้วละ และอีกไม่ช้าพวกเขาก็จะออกจากมหาวิทยาลัยตามกำหนดหลักสูตรกันแล้ว เพียงแต่พวกเขาคงไม่ได้ออกปฏิบัติการณ์กันก็เท่านั้นเอง แค่ให้ช่วยเรื่องเล็กๆน้อยๆในยานลำนี้เลยน่ะ" โดซี่บอก "แต่ถ้าพวกนายมีปัญหาอะไรขึ้นมา หรือเจอพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธเข้ามายุ่งด้วยละก็ พวกเราจะรีบตามไปเลยแล้วกัน แม้ไม่รู้ว่าพวกนายอยู่ตรงไหนในเขตอวกาศฝั่งภาคกลางกันน่ะ"
              พีวิลพยักหน้า "งั้นพวกเราไปก่อนแล้วกันน่ะ"
              "ขอให้โชคดีนะครับ ลูกพี่" ไกซ์บอก แล้วตัดการติดต่อไป
              "เสบียงจากแคสเซรอน-4 โหลดเข้ายานของนายเรียบร้อยแล้ว ขอให้โชคดีในการเดินทางแล้วกัน" แคร์เรี่ยนกล่าว
              "และขอให้พวกเธอช่วยปกป้องระบบดาวนี้ให้ด้วยละ แคร์เรี่ยน" เนคมาดูซัมบอก แล้วยานไทรแองเกิ้ลก็เคลื่อนออกจากดาวแคสเซเดี่ยน-3 ตรงดิ่งไปยังดาวดวงที่ 10 ซึ่งมีควอนตั่มรีเลย์อยู่
              สเปียริทกล่าว "อย่าพยายามขับยานจนเอากราบครูดกับตัวรีเลย์อีกน่ะ"

              "รู้แล้วละน่า ยัยบื้อ คิดว่าฉันจะขับยานชนกันสักครั้งมั้ยละ" คลอเวฟกล่าว และหันหน้ามามองทุกๆคนที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งทำตาหยี่ใส่ บ่งบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่คลอเวฟอ้างมา
              "เปิดโหมดเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสง ตั้งพิกัดเดินทางไปยังระบบเมฆอวกาศริชเวิร์ท ระบบไฮเปอร์ไดร์ฟเดินเครื่องเต็มกำลัง เข้าสู่ควอนตั่มรีเลย์เพื่อออกเดินทาง" แอมเบอร์กล่าว โดยที่คลอเวฟนำยานมุ่งไปใกล้กับควอนตั่มรีเลย์ "หวึมๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แฟ้ววววววว" ควอนตั่มรีเลย์ขนาดใหญ่ดึงยานไทรแองเกิ้ลให้เข้ามา โดยที่ร่องกลางเรืองแสงขึ้นพร้อมกับส่งยานสามเหลี่ยมพุ่งออกไป "วู้ววววว แอมเบอร์ฟ้าวเฟี้ยวแล้วละจ้า!!!" แอมเบอร์ตะโกนลั่นขึ้นเมื่อยานไทรแองเกิ้ลพุ่งไปอย่างรวดเร็ว
              "แอมเบอร์ เสียงเธอรำคาญยิ่งกว่าลิเนียร์ตี้เลยนะยะ" สเปียริทบ่น
              เนคกัสบอก "นั้นก็ยังดีกว่าคุณคลอเวฟขับยานเสยกับยานอีกลำ หรือครูดกับเศษซากสถานีอวกาศหรือเศษดาวเคราะห์น้อย จนคุณแอมเบอร์อุทานลั่นไปละครับ"
              "บอกตรงๆน่ะ ว่าเอไอควบคุมระบบในยานของเรา เริ่มกระตุ้งกระติ้งกันมากขึ้นแล้วน่า ลิเนียร์ตี้ เธอน่าจะเอาเวลาจากการซ้อมร้องเพลงมาปรับจูนแอมเบอร์ให้สงบเสงี่ยมลงไม่ดีกว่าเลยหรือ" คลอเวฟบ่น
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "ฉันว่า นายควรจะเป็นรายแรกที่ควรจะได้รับการปรับจูนกันซะมากกว่าน่า โดยเฉพาะเรื่อง....ความจำในด้านการเงินน่ะ"
              "เราไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดหรือรื้อฟื้นเรื่องที่มันซ้ำๆซากๆกันเสียหน่อยน่ะ" พีวิลบอก "ว่าแต่ นายคืนเงินที่ยืมพวกเราไปได้หรือยังละ"
              คลอเวฟบ่น "โธ่ พีวิล ตอนนี้ฉันก็คืนเงินที่ติดนายกับพวกกันอยู่แล้วนิน่า"
              "นั้นมันของสัปดาห์ที่แล้ว พวกเราหมายถึงในช่วงสองปีที่ผ่านมาต่างหากละ" เนคมาดูซัมบอก "แอมเบอร์ ทวนให้คลอเวฟฟังอีกรอบสิ"
              แอมเบอร์บอก "คะ คุณคลอเวฟ คุณยืมเงินจากคุณพีวิล 2,500 แกลดอล คุณเจเนล 2,400 แกลดอล คุณลิเนียร์ตี้ 2,300 แกลดอล คุณมาสวาร์ทาร์ 2,440 แกลดอล คุณเนคมาดูซัม 3,200 แกลดอล คุณแอนเดรีย 1,750 แกลดอล คุณสเปียริท 4,100 แกลดอล คุณแอบไบออส 3,020 แกลดอล คุณจายด์ 2,700 แกลดอล คุณจิล 2,660 แกลดอล คุณฟิเกซ 3,000 แกลดอล คุณไซโคลเนีย 2,900 แกลดอล คุณโฟรซ่า 2,140 แกลดอล คุณสเตฟอร์ด 3,550 แกลดอลจากปีที่แล้ว รวมกัน 38,860 แกลดอล บวกกับเงินที่คุณยืมไปในช่วงปีนี้ ทั้งจากพวกคุณเนคมาดูซัมและพวกคุณบริคซ์ไปนั้น คุณติดหนี้ราว 94,500 แกลดอลกันเลยนะคะ"
              "นายติดหนี้พวกเราเป็นแสนแบบนี้ นายเอาไปทำอะไรมิทราบกันละยะ" สเปียริทบอก
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "นายเองก็น่าจะรู้น่ะ ว่าตอนนี้นายติดทัณฑ์บนห้ามออกไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทนอกเขตเฟิร์สฮิลล์กันไม่ว่า ทั้งเรื่องเมาสุรา เรื่องเที่ยวผู้หญิง หรือแม้กระทั่งเรื่องเอาเงินไปพนันที่ลอสแซงเทสนั้น ก็ล้วนแล้วเป็นกฎข้อห้ามกันทั้งนั้นนิ ถามหน่อยเหอะ เงินที่นายยืมพวกเรามา มันไปไหน"
              "ฉันบอกแล้วไง ว่าเดียวจะใช้คืนพวกนายกันแล้ว หากฉันหาเงินมาได้กันบ้างน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ดีน่ะ ที่นายยืมจากพวกเราไป ถ้าพวกเรารู้ว่านายไปขอเงินจากแพนทานิคซ์กันละก็ เกรงว่านายต้องทำงานให้เยอะกันเป็นปีเลยละ"
              "เรื่องนั้นไว้ทีหลังก่อนได้มั้ย เพราะเรื่องภัยคุกคามจากดาวแปดดวงนั้นสำคัญกว่าเลยน่ะ" คลอเวฟพูดเปลี่ยนเรื่องโดยเร็ว
              เนคมาดูซัมบอก "หวังว่านายคงไม่แกล้งความจำเสื่อมฉับพลัน ในทันทีที่เราถามนายเรื่องนี้กันบ้างน่ะ"

                   "แฟ้ววววว แว้งงงงงง" แล้วยานไทรแองเกิ้ลก็บินมาถึงเขตเมฆอวกาศริชเวิร์ท อันมีดิสก์เวิร์ด สถานีอวกาศทรงเต่าขนาดยักษ์ใหญ่ที่มีช้างค้ำโดมแก้วอยู่บนกระดอง ศูนย์กลางอำนาจการปกครองของสมาพันธ์อวกาศลอยลำอยู่ โดยมีกองยานห้อมล้อมเอาไว้ด้วย "เซตระบบ IFF กันไว้ เพื่อป้องกันการยิงสวนของฝ่ายตรงข้ามแล้วละ" ลิเนียร์ตี้กล่าว โดยมอนิเตอร์เหนือหน้าต่างด้านหน้าเผยภาพของนายทหารชายออกมา
              "ดีแล้วละ ที่พวกนายแจ้งบอกกับทางเรากันไว้ได้ทันน่ะ ไม่งั้น กองยานอื่นๆที่มิใช่ของฉันสั่งการ คงเล่นงานพวกนายกันได้แน่ๆเลยละ" นายทหารชายบอก
              "ผู้การเกรเบค ซีคเทมพลาร์มาถึงหรือยังละครับ" พีวิลกล่าวกับนายทหารนาม เกรเบค ทิลเทอแรน ผู้บังคับการกองยานอารักขาดิสก์เวิร์ด ภายใต้กองกำลังพันธมิตรมนุษย์ขึ้น
              "ซีคเทมพลาร์ส่งผู้โดยสารจากเมลลอท-4 มาถึงที่นี้แล้ว เชิญพวกนายนำยานไปเทียบท่าหมายเลข 16 ได้เลย" เกรเบคบอก จากนั้น ยานไทรแองเกิ้ลก็เคลื่อนตัวเข้าไปในดิสก์เวิร์ด เพื่อจอดเทียบท่ากัน แล้วพวกไทรเวเซอร์ก็ลงจากยาน
              "อาจารย์ นึกว่าอาจารย์จะไม่มาเสียอีกน่ะ" ไรแกท แมนิเกเตอร์บีสทอยด์แรดขาวมีแขนเป็นกอริลล่าและขาช้างกล่าว เมื่อมาสวาร์ทาร์และพวกลงจากยานกัน
              แอนเดรียบอก "ดูเหมือนว่าพวกเธอคงจะลำบากเลยสิน่ะ"
              "พวกเรารอคอยเวลาที่จะได้เจอกับอาจารย์กันอีกครั้งนะคะ" เวลลิท แมนิเกเตอร์บีสทอยด์วาฬเพชรฆาตกล่าว
              วูลเฟลล่า แมนิเกเตอร์บีสทอยด์หมาป่าสาวบอก "ว่าแต่ กองทัพอนุญาตให้พวกเราออกปฏิบัติการณ์ภาคสนามกันได้เลยหรือคะ"
              "พวกเราเรียกตัวพวกเธอมาเพื่อให้พวกเธอมาช่วยงานในยาน แต่มิได้อนุญาตให้ออกภาคสนามกันนะจ๊ะ" แอนเดรียบอก
             ชาร์เครฟ แมนิเกเตอร์บีสทอยด์ฉลามขาวบ่น "อะไรกันนะ อาจารย์ นี้จะให้เราทำงานในยานกันเลยหรือ"
              "พวกนายก็ไม่ควรจะบ่นเลยน่ะ เพราะขนาดป้าโดซี่เองยังต้องให้พวกเฟรดและไอ้พวกน็อกกี้ไปเรียนรวมกับไอ้พวกหน่วยศูนย์ตัวเอ้กันด้วยน่ะ" ไลเอิร์ทบอก
             พาลกีส บีสทอยด์ไดโนเสาร์หัวค้อนอุทาน "จริงดิ แบบนั้นพวกสามหน่อมันไม่โดนหน่วยศูนย์ยำตรีนเลยหรือวะ เพราะแต่ละรายนิ แสบๆทั้งนั้นน่ะ"
              "แสบจนไอ้เนิร์ดและยัยปลาไหลพยายามเลี่ยงไม่มามหาวิทยาลัยทหารตลอด 2 ปีเลยวะ" แบร็อค บีสทอยด์หมีเสริม
            บีทเทม บีสทอยด์ด้วง น้องชายของมัลแด็กซ์บอก "ว่าแต่ พวกคุณครูมาที่ดิสก์เวิร์ดโดยที่ซีคเทมพลาร์ วาร์ปพวกเราขึ้นยานมาด้วยนิ คงไม่ได้เจอเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นอีกละสิ"
              "เดลอาเนี่ยนมันกลับมาซ่าอีกแล้วใช่มั้ยละ ครู" พาแรม บีสทอยด์ไดโนเสาร์หัวลิ่มถาม
              เทรอนเร็กซ์ บีสทอยด์ทีเร็กซ์แต่มีปีกปูเทราโนดอนและเขาไทรเซราท็อปบนบ่ากล่าว "หรือว่าพวกเฮซเทิร์ซออกอาละวาดเหมือนในช่วงนี้กันละสิ"
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าเรื่องที่พวกครูเจอมานั้น ระยำยิ่งกว่าเฮซเทิร์ซเสียอีกน่ะ" เฮเรเค้นบอก
              เรปไซท์ บีสทอยด์อีกัวน่ากล่าว "ยิ่งกว่าเลยหรือ พอจะบอกได้มั้ยว่าไอ้ศัตรูใหม่นิ มันเป็นพวกไหนกันน่ะ"
              "เออ พวกครูจะรีบไปกันหรือคะ" บัลตาฟรี บีสทอยด์ผีเสื้อหญิงถามเมื่อเห็นพวกมาสวาร์ทาร์เดินไป
              ลิเนียร์ตี้บอก "รายละเอียดนั้น เฮเรเค้นและพวกฟลาแน็กซ์จะเล่าให้ฟังเองนี้แหละ ตอนนี้พวกเราจะรีบไปแจ้งกับประธานสภาบาแลมโซ่กันน่ะ" แล้วเธอกับพวกขึ้นรถบรรทุกลอยเคลื่อนตัวออกจากท่าเทียบยานเข้าไปในดิสก์เวิร์ดกัน
              "หา ศัตรูเป็นพวกต่างดาวที่มาจากเขตอวกาศภาคกลางกันนะหรือ" แฮมชัค น้องชายของชาร์เครฟ บีสทอยด์ฉลามหัวค้อนกล่าว
                ฟลาแน็กซ์บอก "และไม่ใช่แค่นั้นน่ะ พวกนั้นบุกมาเพื่อก่อการร้ายบนดาวที่เราอยู่ ซึ่งพวกอาจารย์ปะมือกับพวกมันและถล่มฐานที่มั่นของพวกมันไปแล้วน่ะ"
                "ว่าแต่ พวกครูหาพวกศัตรูที่ว่านั้นเจอนิ คงไม่ได้มาจากการปฏิบัติการณ์เลยสิครับ" อิคกรีด บีสทอยด์นกอินทรีถาม
                ฟลาแน็กซ์กล่าว "เปล่าหรอก ในระหว่างที่พวกครูสรุปผลการฝึกพวกเด็กเกรียนที่ก่อเรื่อง จนถูกส่งมาดัดนิสัยในค่ายเวอเด้เบเร่ต์อยู่นั้น มีพวกเด็กแสบสองกลุ่มออกนอกค่ายไปเจอกับพวกศัตรูลึกลับดังกล่าว จนพวกครูต้องรีบตามไปช่วย โดยให้พวกเราพาพวกเด็กเกรียนเหล่านั้นกลับเข้าค่ายไปเลยนะสิ"
                "แล้ว นายไม่ได้เข้าแถวไปจับมือและขอลายเซ็นคุณจิลและคุณลิเนียร์ตี้กันบ้างเลยหรือ" บุลฟลาท บีสทอยด์กระทิงสามประสานถาม
                เฮเรเค้นบอก "กูมิใช่โอตะสายเดียวกับบรูโน่สักหน่อยนะเฟ้ย อีกอย่าง ถึงจะเข้าแถวได้ ก็คงไม่ถึงคิวฉันได้หรอก เพราะทหารเกณฑ์แห่มาเป็นสิบๆด้วยกันเลยน่ะ"
                "แสดงว่าคุณจิลและคุณลิเนียร์ตี้ดังและฮิตจริงๆเลยน่า ขนาดพวกเราเองยังเปิดเพลงของทั้งคู่ให้ฟังตั้งแต่เช้าด้วยนะ" สวอนน่า บีสทอยด์หงส์ขาวกล่าว
              บราไทน่า บีสทอยด์งูสาวแต่มีกระดองเต่าและขาติดฟันจระเข้บอก "ไม่แปลกใจหรอก เพราะเราเห็นพวกคุณเนคมาดูซัมพาคุณจิลและคุณลิเนียร์ตี้ไปเจอกับผู้การมิลเดีย เพื่อช่วยวิเคราะห์ว่าจะดังหรือเปล่า ซึ่งดูแล้ว มันน่าจะดังจริงๆกันตามที่ผู้การว่าไว้เลยน่ะ"
                "แต่มันก็ดังเกินจนทำให้ทั้งสองมีงานเข้าเยอะจนรับไม่ไหวแล้วนะสิ" เนคกี้บอก
              ฟูแรม ครีซีแทนนายช่างสรรพวุธประจำกองกล่าว "เพราะอย่างงั้นแหละ ทั้งคุณจิลและคุณลิเนียร์ตี้ เลยต้องยุติงานเพลงแบบระยะยาวกัน เพื่อให้ทั้งคู่มีสมาธิกับงานหลักกันมากขึ้นด้วยน่ะ" แล้วก็มองไปรอบๆโรงเก็บหุ่น "แน่นอน ว่าผลจากเศรษฐกิจขาลงนั้นทำให้รัฐบาลต้องตัดงบประมาณส่วนของกองทัพไปช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจกัน ทำให้คุณบริคซ์ต้องลดจำนวนลูกเรือลงแล้วให้ไปคุมท่าเรือในเฟิร์สฮิลล์เสียเองน่ะ" โดยเห็นทีมช่างที่มีจำนวนน้อยลง

              "แม้กระทั่งลุงเบติสและป้าวิลด้าก็ด้วยละสิ" ชาร์เครฟชี้ไปที่แท่นตั้งโมบิลลอยด์ 4 อัน รวมถึงอันใหญ่สองอันด้วย
              ฟูแรมบอก "คุณเบติสและคุณวิลด้า แม้จะไม่ได้รับราชการในฐานะนายทหารของกองยานซัลคาลาสมา แต่ตามหลักแล้ว ทั้งคู่ยังทำงานให้กับทางเราและทางกองทหารชาวซัลคาเลี่ยนด้วย แน่นอน ว่าทั้งคู่เลยพาพวกไกซ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมไปด้วยกันเลยน่ะ"
              "แล้วไอ้เนิร์ดและยัยปลาไหลนั้นละ" ชาร์เครฟถาม
              ไลเอิร์ทบอก "ทั้งคู่เรียนจบเป็นนักวิจัยระดับล่างกันในปีนี้กันก็จริง เห็นว่าตอนนี้ ทั้งคู่ช่วยงานลุงเบติสและป้าวิลด้าซ่อมแซมสเปซโคโลนี่กันน่ะ"
              "ซ่อมแซมสเปซโคโลนี่ หมายถึงแบบทรงกระบอกติดกระจกและมีแผงโซลาร์เซลสามแผงรุ่นมาตราฐานกันอย่างงั้นนะหรือ" บีทเทมถามโดยคิดว่าสเปซโคโลนี่นั้นเป็นแบบทรงกระบอกยาวขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีวงแหวนรอบ และมีแผงโซลาร์เซลสามแผงยาวๆติดอยู่ตรงปลายกัน เนคกัสเลยนำภาพของสเปซโคโลนี่ที่พวกเบติสรับผิดชอบไปซ่อมแซมกัน
              เทรอนเร็กซ์บอก "เยี่ยม ลุงผบ.บัลโต้หาเรื่องเล่นง่ายกับเศษซากยานรบของพวกเดลอาเนี่ยนที่ลอยเคว้งนอกดาวกันซะให้คุ้มละสิ"
              "แล้วไม่กลัวว่าพวกเดลอาเนี่ยนจะยั่วะกันเลยหรือ" ไรแกทถาม
              ดิเรนท์บอก "คงยากน่ะ เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เราได้ยินแต่ข่าวฝ่ายไตรภาคีนั้นก่อสงครามกันไม่เว้น จนมีผู้ลี้ภัยหนีเข้ามาฝั่งเรากันมากขึ้นเลยน่ะ"
              "แต่เรากลับเจอปัญหาเศรษฐกิจขาลงกันด้วย ราคาข้าวของแพงขึ้น พวกเราต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น และต้องประหยัดพลังงานกันมากขึ้นอีกด้วย ต่อให้คุณวูลลิเซียคิดโปรเจคสถานีพลังงานแสงอาทิตย์มาแล้วก็ตามน่ะ" เนคกี้บอก
              ชาร์เครฟบอก "ส่วนพวกเราก็เจอกับพวกเฮซเทิร์ซออกอาละวาดกัน ซึ่งคุณคูลิแนนซ์เองยังต้องเรียกกองหนุนจากป้ารัคชูมี่มาช่วยแล้วก็ตาม ไม่ว่าอยู่ที่ไหน พวกเราก็อยู่ไม่เป็นสุขกันเลยน่า"

              ที่เซนเตอร์บาเบลท์ หอคอยกลางภายในดิสก์เวิร์ด ศูนย์กลางของกลุ่มปกครองของมนุษย์ต่างดาวและสำนักงานใหญ่ของฝ่ายพันธมิตรมนุษย์
              "กองกำลังไทรเวเซอร์จากอีสทาล่าฟรอนเทียร์ เข้ามาแล้วละครับ ท่านจอมพล" ทหารฝ่ายมนุษย์มารายงานต่อผู้บังคับบัญชา เมื่อพวกเนคมาดูซัมเดินเข้ามา ผู้บังคับบัญชาที่นั่งหันหลัง เลยหันกลับมา ซึ่งเป็นบุรุษหน้าเหลี่ยมที่มีแผลเป็นกากบาทตรงดั้ง ลากยาวมาจนถึงกรามและผ่านคิ้วสองข้าง
    "ท่านจอมพลชาลตัน พวกเรามาเพื่อแจ้งข่าวด่วนกับท่านประธานสภาบาแรมโซ่กันนะครับ" เนคมาดูซัมบอก โดยได้ทำวันทยาหัตถ์ไว้
              "พวกเธอมาสายเพียง 5 นาทีเองนิ มันไม่ดีเอาเสียเลยน่ะ" บุรุษผู้มีแผลเป็นกากบาทกล่าวกลับ นามของเขาคือ อาแซน ชาลตัน ผู้บังคับบัญชาการทางทหารของกองกำลังพันธมิตรมนุษย์คนใหม่ "ต่อให้พวกเธอได้รับความเชื่อถือจากฝ่ายสมาพันธ์ จากเกรย์สันและโทมาสกับพวกพี่น้องกันก็ตาม สำหรับฉันแล้ว พวกเธอเป็นแค่เหล่าแมนิเกเตอร์ที่อันตรายเกินกว่าที่ทางเราจะควบคุมกันได้ เว้นแต่ผู้นำของพวกเธอ แล้วก็กองรบดาวฤกษ์เท่านั้นแหละ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกเราทราบดีแล้วละครับ ท่านจอมพลชาลตัน เพราะแค่มาสายเพียงเสี้ยววินาที ความผิดพลาดและความเสียหายย่อมเกิดได้หนักหนากันอยู่แล้วละครับ"
              "พวกเธอจะบอกว่า มาสายดีกว่าไม่มาเลยสิน่ะ แม้นั้นจะเป็นเหตุผลของพวกเธอ แต่สำหรับฉัน ฉันมองว่านั้นเป็นข้อแก้ตัวกันอยู่ดีนี้แหละ" อาแซนบอก "ท่านผู้นำเฮนรี่ รออยู่กับท่านประธานสภากันแล้วละ" แล้วก็ "ปี้บๆๆๆๆ" กดปุ่มเพื่อให้พื้นห้องประชุมลอยขึ้นไปเบื้องบนนำพาอาแซนและพวกไทรเวเซอร์ไปด้วย ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอประชุมสภาสูงของสมาพันธ์อวกาศ
              "ฉันทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในแคสเซเดี่ยนจากซีคเทมพลาร์กันไว้แล้วละ กองกำลังไทรเวเซอร์ และทางเรารู้ดี ว่าพวกเธอต้องเข้ามาขัดขวางกลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเนตกันอย่างแน่นอน" บาแลมโซ่ ประธานสภาสูงชาวลิเบรมของสมาพันธ์อวกาศกล่าว
              "นั้นเป็นสิ่งที่พวกเราต้องทำกันนะครับ ท่านบาแลมโซ่ เพราะพวกเราไม่ยอมปล่อยให้ผู้รุกรานก่อการตามใจชอบได้ เหมือนที่พวกเดลอาเนี่ยนคิดจะใช้ระบบดาวมายึดครองสมาพันธ์ไปได้นะครับ" เนคมาดูซัมบอก
              แม่ทัพไซบัลจ์ แม่ทัพชาวลิเบรมบอก "แม้ว่าพวกเธอจะมีงานรัดตัว อย่างเป็นจำอวดในรายการตลกก็ดี เป็นนักกีฬาร่วมแข่งขันในไตรกีฬาอวกาศและสแมคบอลก็ดี รวมถึงเข้าร่วมการประลองยุทธ์กันก็ดี พวกเธอเองไม่รู้สึกเหนื่อยกันบ้างเลยหรือ"
              "เราเองก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะครับ ท่านแม่ทัพไซบัลจ์ แม้เราจะมีเวลาพักน้อย แต่เราก็ไม่ลืมภาระหน้าที่ในฐานะกองกำลังหัวหอกของฝ่ายสหพันธมิตรและกองกำลังสำคัญของสมาพันธ์อวกาศ กันด้วยนะครับ" พีวิลบอก
              เฮนรี่ ไนท์ ผู้นำฝ่ายพันธมิตรมนุษย์บอก "แต่ดีแล้วละ ที่พวกเธอยุติงานในวงการบันเทิงเพื่อมารับผิดชอบในงานเดิมที่พวกเธอควรทำกันอยู่ เพราะท่านประธานาธิบดีบอกกับฉันไว้ ว่าพวกเธอทำหลายอย่างพร้อมกันจนประสิทธิภาพการปฏิบัติการณ์ด้อยลงจนทำภารกิจล้มเหลวไป 5 ภารกิจเมื่อปีที่แล้วน่ะ"
              "สำคัญในตอนนี้คือ สถานการณ์ในตอนนี้ ที่พวกเฮซเทิร์ซปรากฎในเขตอวกาศของเรากันอย่างมีปริศนาแล้ว ยังมีเรื่องของกลุ่มเอทพลาเนสในเขตอวกาศภาคกลางกัน ซึ่ง....ตัวแทนเมคโซ่ แม้จะกระทำความผิดจนถูกจับกุมและทำให้พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตเข้าแทรกซึม เพื่อก่อการในเขตอวกาศของพวกเราในช่วง 5 เดือนก่อนกันแล้ว ทางเราจึงต้องขอโทษในความไม่รู้เจตนากันด้วยน่ะ" บาแรมโซ่กล่าวต่อเมคโซ่ที่มากับแอสเทลน่ากัน
              "นั้นก็ดีแล้วละครับ ที่พวกคุณยังมีความรับผิดชอบกันบ้าง อย่างน้อย พวกคุณก็ควรจะรู้เรื่องที่เกิดในกลุ่มดาวของพวกเราสักหน่อยน่ะ" เมคโซ่บอก
              "แต่ก่อนอื่นเลย เราคงต้องให้คู่กรณีมาร่วมฟังด้วยน่ะ" ไซบัลจ์กล่าว แล้วก็ "ครืดดดด ตรึงงงง" โต๊ะประชุมส่วนหนึ่งเลื่อนขึ้นมา ซึ่งมีชายสี่คนนั่งอยู่ คนหนึ่งสวมชุดทหารสีเขียวเข้มแบบเดียวกับอาแซน แต่อีกสามนั้น ตนหนึ่งตัวโตใส่ชุดทหารสีแดงเข้มพร้อมหมวกเบเร่ต์สีแดงมีผมเผ้ารุงรังจมูกสีดำ ตนหนึ่งตัวสูงโย่งมีหนวดติดตรงคางทั้งสองข้างสวมชุดทหารชายเสื้อยาว ตนหนึ่งสวมชุดทหารสีดำ มีจมูกยาวและแว่นสีส้มที่ตาซ้ายด้วย
              "ผบ.ฮาซาเดน โคเซวิค เฟลิค อิลมิค นึกว่าจะไม่มาร่วมเสียอีกนะครับ" พีวิลกล่าว
              "ฉันทราบเรื่องจากแอสเทลน่าแล้ว ว่าพวกนายปะทะกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันแล้ว และรู้ด้วยว่า พวกนายต้องชนะพวกนั้นได้แน่นอนน่ะ" โทมาส ฮาซาเดน ทิลเทอแรน ผู้นำตระกูลทิลเทอแรนและผบ.กองยานรบที่ 1 กล่าว "และพอทราบว่ายูเนี่ยนพีชได้ควบคุมตัวแทนเมคโซ่เอาไว้ จนทำให้เขาไม่สามารถปฏิบัติการณ์หยุดยั้งพวกศัตรูจากกลุ่มดาวในเขตอวกาศภาคกลาง ฉันเลยต้องเรียกพวกเขามาร่วมด้วยนะสิ"
              โคเซวิค กริซเซน หัวหน้ากองรบยูเนี่ยนพีชชาวบรูซาเรมกล่าว "ก็ใครจะไปรู้ละ ว่ายานรบลำนั้นมาด้วยเรื่องสำคัญอย่างมากน่ะ"
              "นั้นสิ อยู่ๆยานลำนั้นมันบินผ่านขอบเขตความดูแลของพวกเราไปดื้อๆ ทางเราไม่สอยทิ้งก็บุญโขแล้วละ" อิลมิค เทลวินด์ หัวหน้าฝูงบินรบของยูเนี่ยนพีชชาวอัลแทเรี่ยนให้เหตุผล
              เฟลิค เชครอน หัวหน้ากองยานรบของยูเนี่ยนพีช ชาวเทรโอเซี่ยมบอก "พอผู้นำเดลวาททราบจากผู้การทอมมี่และซีคเทมพลาร์มา ท่านเลยสั่งการให้พวกเรามาที่ดิสก์เวิร์ดเพื่อมารับฟังคำชี้แจงจากประธานสภากัน แม้จะรู้ว่าพวกนายต้องมาด้วยก็ตามน่ะ"
              "พวกเรามา ก็เพื่อมาช่วยคลี่คลายปัญหาที่เกิดกับชนเผ่าทั้งแปดของเมคโซ่กันนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก
              ไซบัลจ์กล่าว "ในเมื่อทุกฝ่ายมากันแล้ว ตัวแทนเมคโซ่ ชาวสโตนอล อธิบายปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบดาวทั้งแปดให้ทั้งไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชรับทราบกันได้เลย"

              "เข้าใจแล้วละครับ" เมคโซ่บอก แล้วก็เล่าเรื่องให้ฟัง "พวกคุณคงจะรู้แล้วน่ะ ว่าพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น ได้ออกจากกลุ่มดาวของพวกเรามายังเขตอวกาศของพวกคุณ เพื่อสร้างความเสียหายให้กับกองรบของพวกคุณทั้งหลาย ไปพร้อมกับการเรียกมหาดารามรณะที่ถูกส่งออกนอกจักรวาลของพวกเราให้กลับมากันอีกครั้งแล้ว ซึ่งทีจริง ปัญหาของพวกเรานั้น พวกเราต้องเป็นฝ่ายแก้ไขกันได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่า...."
              เนคมาดูซัมบอก "เพียงแต่ว่า พวกคุณเกิดปัญหาภายในระบบดาวกันอย่างงั้นสิน่ะ"
              "ใช่ ในช่วงเวลาที่พวกเดธซิลเวอร์พลาเน็ตรวมตัวกันสะสมกำลังอาวุธกันนั้น ดาวแต่ละดวงของพวกเราเกิดปัญหาขัดแย้งภายในกันอย่างใหญ่หลวงกัน ตั้งแต่ปัญหาความแตกแยกภายในชนเผ่า ไปจนถึง การรวมตัวก่อการกบฎต่อต้านผู้นำเพื่อชิงอำนาจมาเป็นของตนเองกันด้วยนะครับ" เมคโซ่บอก "แน่นอน ว่าแค่ปัญหาภายในกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้นก็ทำให้กองรบทั้งเจ็ดเกิดความวุ่นวายกันมากพอแล้ว เรายังมีภัยคุกคามจากภายนอกที่หนักหนายิ่งกว่ากัน โดยเฉพาะ จากกลุ่มกองยานที่มาจากเขตอวกาศฝั่งตะวันออกกันนะครับ"
              โคเซวิค อิลมิคและเฟลิค รวมถึงพวกไทรเวเซอร์ก็ตกใจมาก โคเซวิคบอก "นี้อย่าบอกน่ะ ว่าไอ้กองยานของพวกเนโอเดลอาเนี่ยน มันเจอระบบดาวของพวกนายกันอย่างงั้นสิน่ะ"
              "ถูกแล้วละครับ เพราะกลุ่มผู้บุกรุกที่เข้าจู่โจมดาวของพวกเรานั้น หน้าตาใกล้เคียงกับพวกคุณกันนี้แหละ" เมคโซ่บอก "และการที่ผมรีบหนีมานี้ เพราะกลัวว่าพวกคุณจะจับตัวผมไปส่งพวกนั้นไว้ ถ้าไม่เพราะว่านักโทษเบย์แทนด์อธิบายให้ผมทราบว่า พวกคุณเป็นกลุ่มกบฎต่อต้านฝ่ายอวกาศทิศตะวันออกกันมาก่อน และร่วมสู้กับพวกไทรเวเซอร์กันแล้วละก็...."
              อิลมิคโวย "แล้วทำไมนายไม่บอกกับเรากันก่อนวะ ว่านายมานี้ด้วยเหตุฉุกเฉินน่ะ"
              "ที่ตัวแทนของเมคโซ่ทำไป เพราะเขาไม่ทราบมาก่อนนะสิ ว่ายูเนี่ยนพีชและสาธารณรัฐเอาท์เดนท์แยกจากพวกเดลอาเนี่ยนกันเมื่อ 3 ปีแล้วน่ะ" โทมาสให้เหตุผล
              เฮนรี่บอก "ตัวแทนเมคโซ่ แล้วยังมีอีกกลุ่มที่นอกเหนือจากนี้บ้างหรือเปล่าละ"
              "นอกเหนือจากกลุ่มโจรปล้นสะดม กลุ่มโจรสลัดอวกาศ และพวกนอกกฎหมายในเขตอวกาศภาคกลางกันนั้น ก็มีเพียงแค่พวกมาจากฝั่งตะวันออกเท่านั้นแหละ" เมคโซ่บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เป็นตามที่ผู้นำเดลวาทว่าไว้เมื่อ 3 ปีก่อนเป๊ะเลย เผ่าหลักของเดลอาเนี่ยน มีส่วนหนึ่งที่มิได้เข้าร่วมในสงครามภายใน พาพวกเข้าสู่เขตอวกาศภาคกลางกันแล้วน่ะ"
              "แล้วยังมีปัญหานอกเหนือจากนี้กันบ้างมั้ยละ" ไซบัลจ์ถาม
              เมคโซ่ส่ายหน้า "ผมได้รับคำสั่งให้มาแจ้งกับทางพวกคุณให้รีบส่งความช่วยเหลือมาคลี่คลายสถานการณ์กันเท่านั้น ไม่ได้รับคำสั่งให้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟังกัน ซึ่งพอผมเสร็จจากนี้แล้ว ผมก็จะไปจัดการกับพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่ล่วงหน้ากันให้สิ้นซากนี้แหละ แม้ว่าผมจะเหลือเพียงตนเดียวแล้วน่ะ"
              "ถึงแม้ว่าอิลมิคจะทำผิดที่ขัดขวางคุณกันก็ตาม แต่คุณเองต่างหากละ ที่ไม่ยอมบอกรายละเอียดของภารกิจให้คนอื่นรู้ แม้กระทั่งซีคเทมพลาร์แอสเทลน่ากันด้วยน่ะ" พีวิลบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "รู้น่ะ ว่านายมานี้เพื่อทำตามคำสั่งกัน แต่....ถ้านายบอกกับแอสเทลน่าเร็วกว่านี้ นายก็น่าจะทำภารกิจจนจบไปตั้งแต่ 5 เดือนก่อนแล้วละ"

              "อืมมมมมมมม" บาแรมโซ่ใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะบอกไปว่า "ในฐานะของผู้นำของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มเอทพลาเนสนั้นหนักหนาเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถแก้ไขได้เองไม่ว่า ระบบดาวของพวกเขายังถูกพวกเผ่าหลักของเดลอาเนี่ยนคุกคามกันด้วยเช่นนี้ ถ้าพวกเดลอาเนี่ยนยึดดาวทั้งแปดลงไปได้สำเร็จ ก็เท่ากับว่าพวกเดลอาเนี่ยนสามารถนำกองทัพของทั้งแปดดาวลงมารุกรานสมาพันธ์อวกาศกันอย่างแน่นอน ซึ่งเรายอมให้พวกเดลอาเนี่ยนทำสำเร็จไปไม่ได้เด็ดขาด" แล้วก็บอก "เพียงแต่ด้วยความที่เรารู้เรื่องการคุกคามของพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตช้าเกินไปนั้น ฉันจำต้องสั่งการให้ทุกกองรบทั้งหมดรับผิดชอบในการปราบปรามพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตกันเป็นการด่วนที่สุดน่ะ"
              ไซบัลจ์บอก "เรื่องนั้นผมจะประสานงานกับกรมตำรวจอวกาศ หน่วยตรวจตราและลาดตะเวนอวกาศ และกองกำลังพิทักษ์อวกาศออกตามปราบปรามพวกผู้ก่อการร้ายจากกลุ่มเอทพลาเนสเองนะครับ"
              "อืมมมม แล้วก็ กองกำลังไทรเวเซอร์ และ กองกำลังยูเนี่ยนพีช จากสถานการณ์ในตอนนี้ ฉันขอสั่งให้ พวกเธอทั้งสองกอง มุ่งหน้าไปยังระบบดาวของเอทพลาเนสกันเลยน่ะ" บาแลมโซ่บอก
              เมคโซ่กล่าว "เออ ท่านผู้นำ มันจะดีหรือ ที่จะให้....ยูเนี่ยนพีช...."
              "ตามหลักแล้ว ฉันตั้งใจจะส่งกองกำลังไทรเวเซอร์เข้าคลี่คลายสถานการณ์กัน หากแต่....เรารู้ดีว่าปัญหาที่คุกคามระบบดาวของพวกเธอนั้นมีพวกเดลอาเนี่ยนเข้ามาเกี่ยวด้วย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พวกไทรเวเซอร์คงรับมือไม่ได้แน่นอน" บาแลมโซ่กล่าว "ที่สำคัญ กองกำลังยูเนี่ยนพีชและกองกำลังไทรเวเซอร์เองก็ผ่านการปะทะและรับมือกับพวกเดลอาเนี่ยนมาเมื่อ 3 ปีก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงเหมาะเป็นตัวเลือกนี้ อีกอย่าง นั้นเป็นการไถ่โทษที่ยูเนี่ยนพีชทำให้เธอเสียงานไปด้วยน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "และคุณคิดว่าคุณจะหยุดพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตได้เพียงลำพังกันเลยหรือ...."
              "......" เมคโซ่ได้ฟังก็ไม่พูดอะไรมากนัก "ในเมื่อท่านผู้นำว่ามา ผมก็ไม่มีอะไรจะค้านแล้วละครับ"
              บาแลมโซ่บอก "ถ้าเช่นนั้น เราให้เวลาพวกเธอเตรียมพร้อมออกเดินทางสู่เขตอวกาศภาคกลางกันในอีก 2 ชั่วโมง ดังนั้น พวกเธอควรจะใช้เวลาให้มีค่ากันสักหน่อยน่ะ"

              "แม้ว่าตอนนี้พวกเธอมีเวลามากพอที่จะใช้ให้คุ้มค่าก่อนจะออกปฏิบัติการณ์กันก็ตาม แต่อย่างน้อย นั้นก็มีเวลาพอที่พวกเธอจะช่วยไขความกระจ่างกันสักหน่อยน่ะ" อาแซนกล่าว โดยตอนนี้เขากับพวกไทรเวเซอร์อยู่ที่ห้องประชุมกันแล้ว
              เนคมาดูซัมถาม "ว่าแต่ ท่านอยากให้เราไขความกระจ่างในเรื่องไหนละครับ"
              "พวกเธอรู้จักกับเดรมิงเกล คาดาสลี่มั้ยละ" อาแซนบอก
              เจเนลบอก "หมายถึงวุฒิสมาชิกเดรมิงเกล จากเทรเซี่ยน-2 กันนะหรือ พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดีเลยละครับ"
              "ว่าแต่ ท่านวุฒิสมาชิกก่อเรื่องอะไรขึ้นละคะ" แอนเดรียถาม
              อาแซนกล่าว "เดรมิงเกลไม่ได้ก่อเรื่องใดๆหรอก แค่ฉันอยากถามพวกเธอว่า....." แล้วก็ทำสายตาหลี่ลงพร้อมกับถามเข้าประเด็นไปว่า ".....พวกเธอให้การสนับสนุนกับเดรมิงเกลในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมากันจริงๆหรือเปล่า"
              "ให้การสนับสนุน วุฒิสมาชิกเดรมิงเกลนะหรือครับ" พีวิลบอก
              คลอเวฟกล่าว "ตลกละ ท่านจอมพล 6 เดือนที่ผ่านมา พวกเราทำงานในฐานะวิทยากรให้กับกองรบบนแคสเซเดี่ยน-3 โดยที่พวกเราไม่ได้ยุ่งอะไรกับวุฒิสมาชิกเดรมิงเกลนั้นเลยน่ะ"
              "ถ้าพวกเธอไม่ได้ให้การสนับสนุน แล้วไอ้ที่พาดหัวข่าวนี้ คิดว่าเดรมิงเกลแอบอ้างงั้นหรือ" อาแซนบอก แล้วก็เปิดหัวข่าวที่ว่า "เดรมิงเกลพร้อมขึ้นนั่งในสภาสูง ด้วยแรงสนับสนุนจากกองกำลังหัวหอก"
              ลิเนียร์ตี้บอก "ข่าวนี้มันตั้งแต่เมื่อไหร่ละคะ"
              "2 สัปดาห์ที่แล้วนะสิ พอฉันทราบข่าวนี้ ฉันเลยรีบไปสอบถามกับโทมาสกันแล้ว เพราะฉันตั้งใจจะยุติการสนับสนุนพวกเธอกันไว้ เนื่องจากว่าพวกเธอหรือผู้นำอาจจะให้วุฒิสมาชิกแมนิแฟคเตอร์ผู้นี้ ได้ทางลัดขึ้นเก้าอี้ในสภาสูงนี้แน่นอน" อาแซนบอก "แต่ โทมาสและเฮนรี่ ไนท์ พูดด้วยประโยคเดียวกัน ว่าพวกเธอและฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ของพวกเธอนั้น จะทำอะไรก็ต้องมีเหตุมีผลกัน รวมถึงแยกแยะผิดถูกชั่วดีกันอีกด้วย ซึ่งถ้ามหาประธานาธิบดีของเธอไม่ทำแบบนั้น ปานนี้ แมนิเกเตอร์ทุกตัวและทุกเผ่าในอีสทาล่าฟรอนเทียร์ก็จะกลับมาระรานระบบดาวในสมาพันธ์อวกาศกันอีกรอบแน่นอน ดังนั้น ฉันจึงอยากถามว่าพวกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า"
              มาสวาร์ทาร์บอก "คือเมื่อ 3-4 ปีก่อน เราบอกกับท่านวุฒิสมาชิกเดรมิงเกลไปแล้ว ว่าทางเราไม่สนับสนุนเขากัน ไม่ว่าจะเขาจะยื่นเงื่อนไขมาช่วยพวกเรา เพื่อหวังใช้ชื่อเสียงของพวกเราให้เป็นเครื่องมือในการไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดกัน เพราะเราปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ท่านมหาประธานาธิบดีตั้งเอาไว้แต่แรกแล้วละครับ"
              "กฎเกณฑ์ที่พวกเธอยึดถือมานิ มันเป็นกฎแบบไหนละ" อาแซนถาม
              พีวิลบอก "กฎข้อที่ 23 ห้ามกองทหารเข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมืองหรือตัวนักการเมือง ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งก็ตาม เพื่อมิให้ฝ่ายการเมืองใช้กองทหารเป็นเครื่องมือในเรื่องทุจริตมิชอบ หรือเรื่องที่เป็นภัยต่อความมั่นคง อีกทั้งเพื่อเป็นการจำกัดขอบเขตของฝ่ายการเมือง ไม่ให้เข้ามาก้าวก่ายล้ำเส้นเรื่องภายในกองทัพกันมากจนเกินควร ซึ่งไม่ใช่แค่ในระบบดาวของพวกเรา แต่....รวมถึงภายในสมาพันธ์อวกาศกันด้วยนะครับ"
              "แปลว่า พวกเธอทั้งหมดนิ ไม่ได้ตั้งใจที่จะช่วยเดรมิงเกลกันแต่แรกนะหรือ" อาแซนกล่าว
              สเปียริทบอก "ท่านจอมพลคะ 3 ปีที่ผ่านมาพวกเราเอาเวลาหมดไปกับการทำรายการตลกแข่งขันกันเอง และมีกองทหารจากสมาพันธ์มาท้าทายฝ่ายเราก็ดี เตรียมตัวสำหรับการแข่งขันสามอย่างของทางสมาพันธ์อวกาศกัน ซึ่งพวกเราวุ่นมากจนไม่ได้ยุ่งกับเดรมิงเกลกันเลยนะคะ"
              "และที่เราเห็นข่าวนั้น บ่งบอกได้ว่า เดรมิงเกลแอบอ้างใช้ชื่อเสียงของพวกเรา โดยที่พวกเรามิได้เห็นชอบแต่แรกกันเลยนะคะ" จิลบอก
              แอบไบออสกล่าว "อีกอย่าง พวกเราเองไม่ได้เข้ามายุ่งย่ามเรื่องการปกครองของพวกคุณ และของทุกเผ่าในสมาพันธ์อวกาศกันอยู่แล้ว จากการที่เราอยู่ในอีสทาล่าฟรอนเทียร์กันมาตลอด 3 ปี เว้นแต่ตอนที่พวกเราออกเดินทางมาที่เขตอวกาศนี้ ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันและเรื่องสำคัญๆอย่างในตอนนี้ด้วย ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปคุยกับเดรมิงเกลมา 3 ปีแล้วละ"
              "มันก็จริงอยู่น่ะ อดีตสิบเอกเฟอร์แดน เพราะมหาประธานาธิบดีมีนโยบายกันมิให้พวกแมนิเกเตอร์อันตรายแบบเดียวกับเธอออกไปนอกเขตกัน แม้ว่าสามปีก่อน พวกของเธอหลุดคอกไปก่อเรื่องที่ซาฮัลด้าในสเตรมเซคเตอร์กันก็ตามน่ะ" อาแซนบอก "สรุปคือ พวกเธอไม่ได้ให้ความช่วยเหลือกับวุฒิสมาชิกเดรมิงเกลเลยสิน่ะ"
              เนคมาดูซัมกล่าว "ต่อให้พวกเรายากจนขัดสนแค่ไหน พวกเรายังยึดถือในกฎไม่ให้ความช่วยเหลือของฝ่ายการเมืองจากภายในและนอกกัน เพื่อมิให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาควบคุมพวกเรากันได้ เพราะมีแค่กองทัพเท่านั้นที่คุมพวกเรา ส่วนท่านประธานาธิบดีนั้น แม้จะเป็นตัวแทนผู้ปกครองและฝ่ายการเมือง แต่ก็ทำเพื่อประชาชนทั้งปวงในอีสทาล่าฟรอนเทียร์นะครับ"
              "อืมมมมม ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเป็นพวกแมนิเกเตอร์ที่ฉันไม่ชอบขี้หน้า พอๆกันกับพวกที่มาจากแรซัลก้า พวกพันธมิตรของแรซัลก้า หรือแม้กระทั่งจากสเตรมเซคเตอร์กันไว้ก็ตาม เพราะฉันเห็นว่าพวกเธอคุมยาก ไม่เชื่อฟังคำสั่งใคร ทำตามใจตนเอง ก่อเรื่องสร้างความเดือดร้อนไปทั่วหย่อมหญ้า และทะเยอทะยานสูงกันก็ตาม" อาแซนกล่าว "โทมาสก็ดี ทิคแซทก็ดี ฮัลไทร์ก็ดี เกรเบคก็ดี มิลเดียก็ดี ผู้นำเฮนรี่ก็ดี แม้กระทั่งเกรย์สันก็ดี ต่างก็เชื่อมั่นในตัวพวกเธอกับมหาประธานาธิบดีและพวกของเธอกัน ในส่วนที่พวกเธอ ยึดถือในความถูกต้อง รู้จักผิดชอบชั่วดี ยอมรับในการกระทำของตนเองไม่ว่าจะผิดจริงหรือไม่ก็ตาม และนึกถึงกฎเกณฑ์มาก่อนความรู้สึกส่วนตัว แม้ว่าพวกเธอส่วนมากจะมีลักษณะของผู้ที่พร้อมจะแหกกฎเกณฑ์หรือต่อต้านกันได้ทุกเมื่อก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการเมืองของทุกฝ่ายกันด้วยน่ะ"
              พลัสเชอริทบอก "พวกเราเห็นตัวอย่างที่ไม่ดีมาหลายตัวแล้ว เราจึงไม่คิดที่จะซ้ำรอยเดิมกันอีกเลยนะครับ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะว่าพวกเธอเคยเป็นฝ่ายรุกรานและก่อเรื่องกันมาก่อน เลยทำให้รู้ว่าพวกเธอไม่ควรจะทำซ้ำอีกครั้งสิน่ะ แม้ว่านั้นเป็นเรื่องดีของพวกเธอ ที่ทำให้ทั้งกองรบชาวดาวฤกษ์และสมาพันธ์อวกาศยอมรับในตัวพวกเธอกับฝ่ายสหพันธมิตรฯกันเลยก็ตาม" อาแซนบอก "ฉันหวังว่า การปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ พวกเธอคงไม่คิดที่จะปิดบังความผิดของตนเอง แล้วซ้ำรอยเดิมเหมือนกับที่แพททริคกับพวกทำเอาไว้กันหรอกน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ครับ ท่านจอมพล งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ"
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าจอมพลอาแซนเอง ก็เหมือนกับนายพลเพอซิอัสของพวกเรานี้แหละ เพียงแต่....ท่านมีอคติกับทางเรากันแต่แรกน่ะ" สเปียริทบอก
              แอบไบออสกล่าว "ทำไงได้ละ เมื่อ 22 ปีก่อน ท่านนายพลต้องสูญเสียกำลังรบไปครึ่งหนึ่ง ในการปะทะกับกองยานซัลคาลาสที่ออกมาสำรวจหาระบบดาวของพวกสเตรดาร์ธกัน แน่นอน ว่าหนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้น ก็มีน้องชายของเขารวมอยู่ด้วยน่ะ"
              "นั้นไม่แปลกใจเลย ที่ลุงเบติสและป้าวิลด้าหลบเลี่ยงเวลามางานศพของท่านนายพลเกรย์สันเมื่อ 3 ปีก่อน ต่อให้ทั้งลุงและป้าไม่ได้เป็นผู้เหนี่ยวไกยิงเลยก็ตาม ความสูญเสียก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              คลอเวฟกล่าว "แต่มันน่าหงุดหงิดไม่น้อยน่ะ ที่ผบ.ฮาซาเดนน่าจะเป็นผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของฝ่ายพันธมิตรมนุษย์กันน่ะ"

              "คลอเวฟ เรื่องมันแล้วไปแล้ว อย่าเอามาใส่ใจจะดีกว่าน่ะ" พีวิลบอก แล้วนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากสงครามกับเดลอาเนี่ยนครั้งล่าสุดผ่านไป 6 เดือนด้วยกัน ที่พวกไทรเวเซอร์มาที่ดิสก์เวิร์ดกันอีกครั้ง
              "ผมขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของท่านนายพลเกรย์สันกันน่ะ ผบ.ฮาซาเดน" โคเคส แอคเมนโด้ มหาประธานาธิบดี ผู้นำของฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์กล่าวโดยที่เขามากับบัลโต้ และพวกไทรเวเซอร์
              "ท่านพ่อจากไปหลังจากที่ศึกปะทะกับเดลอาเนี่ยนจบลงไปแล้ว ท่านไปด้วยความหมดห่วงกันแล้วละ ผู้นำโคเคส" โทมาสกล่าว โดยมากับทิคแซท บุตรคนที่ 3 ฮัลไทร์ บุตรคนที่ 6 เกรเบค บุตรคนที่ 9 และมิลเดีย บุตรสาวคนสุดท้อง ซึ่งสวมชุดทหารคาดผ้าดำที่หัวไหล่ซ้ายด้วย เช่นเดียวกับดาริม ภรรยาของโทมาสกับทอมสัน บุตรชายวัย 1 ขวบที่มาร่วมในงานศพกัน
              "ขอบใจที่นายมาด้วยน่ะ โจเซฟ" ทิคแซทกล่าวกับแอบไบออสที่สวมสกินสูทแบบชุดนายทหารพันธมิตรมนุษย์เดิมมา
              "ผมเองก็ต้องมาแสดงความเคารพในฐานะลูกน้องของผู้ฝูงกันนะครับ" แอบไบออสบอก แล้วทั้งหมดก็มาร่วมในงานศพของนายพลเกรย์สัน ทิลเทอแรน ผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของกองทหารฝ่ายพันธมิตรมนุษย์ ผู้จากไปอย่างสงบด้วยวัย 58 ปีกัน
              "ในงานนี้ มีนายทหารของฝ่ายมนุษย์มาเยอะนิ แสดงว่านายพลเกรย์สันมีชื่อเสียงและอิทธิพลมากเลยสิน่ะ" บัลโต้บอก
              "เปล่าเลย ผบ.บัลโต้ นายทหารที่มาเยอะนิ ไม่ใช่แค่พวกที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือพวกเรากันฝ่ายเดียว แต่ยังมีฝ่ายตรงข้ามกับพวกเรากันอยู่ด้วยนะสิ" ฮัลไทร์บอก
              โฟรซ่า แมนิเกเตอร์ลูนาสตี้หญิง พลปืนสไนเปอร์ของไทรเวเซอร์กล่าว "ถ้าให้เดาน่ะ ที่พวกนายทหารเหล่านี้มางานศพนั้น คงมาเพื่ออยากจะรู้ว่า ใครสมควรเป็นผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากนายพลเกรย์สันละสิน่ะ"
              "ถูกแล้วละ นั้นไม่แปลกใจหรอก เพราะพวกที่มาเข้าร่วมในงานนั้น ล้วนแล้วเป็นนายทหารที่อยากจะก้าวหน้ากันทั้งนั้นแหละ" เกรเบคบอก
              สเตฟอร์ด แมนิเกเตอร์โซลาสตี้ชายร่างใหญ่กล่าว "และคงจะนั่งในตำแหน่งเดิมมานานจนรากงอกฝั่งเก้าอี้ตัวเดิมเลยสิน่ะ"
              "แต่อย่างน้อย ผบ.ฮาซาเดน ที่เป็นผู้นำของตระกูลทิลเทอแรนก็สมควรได้ตำแหน่งนั้นอยู่แล้วนิ" ไซโคลเนีย แมนิเกเตอร์ลูนาสตี้หญิง หน่วยต่อสู้ภาคอากาศกล่าวอย่างมั่นใจขึ้นมา
              มิลเดีย น้องสาวคนสุดท้องที่อุ้มซาเฟียน่า ลูกสาวของเธอกันอยู่ บอกขัดขึ้นมา "ไม่เลย เกรงว่าพวกนายคงไม่ชอบแน่ๆกับผลการตัดสินดังกล่าวน่ะ"
              "ทุกๆท่าน ผมทราบดีว่า พวกท่านซึ่งเป็นเหล่านายทหารระดับสูงต่างมารวมตัวกันนั้น ต่อให้มาเคารพศพของเกรย์สันกันหรือไม่ก็ตาม ทุกท่านเองก็คงรู้ว่าการเสียชีวิตของสหายเก่าของผมนั้น คือเหตุผลที่พวกท่านมารวมตัวกันไว้แล้ว" เฮนรี่กล่าว "แต่ผมขอแจ้งให้ทุกๆท่านทราบกันเอาไว้เลยว่า คำตัดสินที่ผมจะพูดกันในงานศพนี้ ล้วนแล้วมาจากมติเสียงส่วนมากของกองทัพ ซึ่งท่านประธานสภาบาแลมโซ่ได้เห็นชอบในตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการสูงสุดคนต่อไปกัน โดยที่ผลการตัดสินนั้น ตรงกับคำสั่งเสียของนายพลเกรย์สันกันอีกด้วย" เหล่านายทหารต่างก็ลุ้นกันยกใหญ่ ผิดกับฝั่งของโทมาสและพวกเองที่ทำหน้านิ่ง
              "ผู้ฝูง ที่ไม่แสดงสีหน้าเหมือนกับพวกทหารนิ เพราะรู้ผลมาแต่แรกแล้วนะหรือ" แอบไบออสบอก
              "ใช่ และพวกนายเองคงไม่ชอบกันหรอกน่ะ แม้ว่านี้เป็นการตัดสินใจของพี่รองและของพวกเราเองกันก็ตามน่ะ" ทิคแซทบอก
              เฮนรี่ก็แจ้งประกาศไปว่า "หนึ่งชื่อที่ผมจะประกาศต่อจากนี้ไป คือผู้รับตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการสูงสุดทางทหารของฝ่ายพันธมิตรมนุษย์คนที่สอง และผู้ที่ถูกประกาศชื่อ ขอให้ก้าวออกมากันเดียวนี้เลย" จากนั้นเหล่านายทหารในกลุ่มต่างก็ลุ้นตัวโก่ง เว้นแต่นายทหารผู้หนึ่งที่ยืนกอดอก ซึ่งก็คือ.... "ผู้บังคับบัญชาการสูงสุดคนที่สองต่อจากนายพลเกรย์สัน ทิลเทอแรนคือ......นายพลอาแซน ชาลตัน ผบ.กองกำลังคุ้มภัยระบบดาวฝั่งเหนือของสมาพันธ์อวกาศที่ 4 จากดาวโมนาโต้-5" เฮนรี่ ไนท์ประกาศชื่อกัน

              "เอ้!!!! เฮ้ยยยย หา!!!" เหล่านายทหารระดับกลางและสูงบางนายอุทานขึ้น เช่นเดียวกับนายทหารส่วนหนึ่งที่ตบมือกับผลลัพธ์ที่ออกมา ส่วนฝั่งโทมาสและน้องๆนั้น ได้แต่พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เมื่ออาแซน ชาลตันลุกขึ้นและเดินมารับการแต่งตั้งจากเฮนรี่ ไนท์กันเบติสและวิลด้าที่นั่งอยู่ก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดกัน
              "เออ ลุง ป้า เกิดอะไรขึ้นกันละครับ ทำไมถึงทำหน้าบอกบุญไม่รับต่อนายพลผู้นี้เลยน่ะ" ไกซ์กล่าว
              "เบติสและวิลด้าทำหน้าแบบนั้นไม่แปลกหรอก เพราะนายพลอาแซน เคยเสียลูกน้องและพี่น้องไปกับการปะทะกับกองยานรบซัลคาลาสเมื่อ 19 ปีก่อนนะสิ" แอบไบออสบอก
              ฟิเกซ แมนิเกเตอร์ควอเดี่ยมผู้มีสี่แขนบอก "จะว่าไปก็ใช่น่ะ กองยานซัลคาลาสที่ลุงเบติสและป้าวิลด้านำทีมร่วมเดินทางไปนั้น ก็มีนายพลเพอซิอัสและนายพลจูเดทต้าที่ดำรงตำแหน่งที่รองผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าฝ่ายวางแผนยุทธการด้วย เคยปะทะกับกองยานของฝ่ายพันธมิตรมนุษย์ที่มีนายและผบ.ทิคแซทที่อยู่ในหน่วยรบพิเศษร่วมด้วยนิน่า"
              "ใช่ และนั้นก็ทำให้นายพลอาแซนเกลียดพวกแมนิเกเตอร์กันขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกมาจากแรซัลก้ากันนี้แหละ" แอบไบออสบอก
              พีวิลถาม "แล้วนายพลท่านนี้ เคยออกรบในช่วงมหาสงครามกันด้วยหรือเปล่าละครับ"
              "เคยร่วมรบกันมาก่อนนี้แหละ เพียงแต่เขากับกองรบไม่ให้ความร่วมมือกับทางเรา เนื่องมาจากเขารู้ว่ากองรบของพี่ใหญ่นั้นเล่นงานกองรบของเพื่อนของท่านนายพลจนอ่วมไปกว่าครึ่งเลยน่ะ" ฮัลไทร์กล่าว
              ทิคแซทบอก "คุณพ่อเลยเกลี้ยกล่อมให้ท่านนายพลอาแซนช่วยเหลือพวกเรากัน แม้ว่าเขาจะรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย เพราะรู้ว่าพวกเราช่วยเหลือพวกนายในช่วงมหาสงครามกัน เลยคิดว่าพวกเราคงเป็นเหมือนพวกพี่ใหญ่กันแน่ๆ จนกระทั่งไซเมี่ยนเปิดโปงแผนชั่วของพวกพี่ใหญ่กัน นั้นทำให้ท่านนายพลที่มีอคติต่อพวกเราที่อาจจะเป็นเหมือนพี่ใหญ่กับพวกด้วยนั้น ยอมรับในตัวพวกเรากัน แต่ยังไม่ค่อยเชื่อใจพวกนายกันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับนายทั้งสองด้วยน่ะ ต่อให้พวกนายอยู่ห่างจากยานของท่านนายพลและไม่ได้เป็นผู้เหนี่ยวไกยิงเองก็ตาม" แล้วก็หันมายังเบติสและวิลด้ากัน
              "ถึงพวกเราจะเป็นคนก่อหรือไม่ มันก็เป็นความผิดของพวกเรากันเต็มๆนี้แหละ" วิลด้าบอก
              คลอเวฟบอก "แต่ พวกผบ.ไม่คัดค้านกันบ้างเลยหรือ ที่ยอมให้นายพลที่เกลียดพวกเรากันอย่างมากนั้นมารับช่วงต่อ ทั้งๆที่ตำแหน่งนั้นควรจะเป็น...."

              "ของฉัน ผู้ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาการต่อจากคุณพ่อ เมื่อพี่ใหญ่ไม่อยู่ในโลกนี้เลยสิน่ะ" โทมาสบอก "ความจริงแล้ว ทั้งฉันและคุณพ่อ เป็นผู้ตัดสินใจให้นายพลอาแซน รับตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการสูงสุดต่อจากคุณพ่อ มาตั้งแต่ช่วงที่มิลเดียสำนึกผิดกันแล้วนะสิ"
              โคเคสบอก "คุณกับนายพลเกรย์สันตัดสินใจเช่นนั้นมาก่อนหน้าที่ผู้การแพททริคกับพวกจะถูกเปิดโปงกันนะหรือครับ"
              "ใช่ ตามความเป็นจริงแล้ว คนที่ควรจะมาสานต่อตำแหน่งของคุณพ่อก็คือพี่ใหญ่ หากว่าพี่ใหญ่ยังไม่ตายกันก็จริง แต่พอฉันกับคุณพ่อรู้ว่าพี่ใหญ่ทำตัวแย่และก่อเรื่องกันเยอะไม่ว่า พี่ใหญ่กับพวกน้องๆเองก็ใช้อำนาจไปในทางที่ผิดกัน จนดึงผู้มีอิทธิพลทั้งหลายเข้ามาร่วมด้วย โดยหนึ่งในนั้นคือเหล่านายทหารระดับกลางและล่างที่ต้องการตั่วฟรีสำหรับตำแหน่งสูงๆกันด้วย" โทมาสกล่าว "เพื่อมิให้พี่ใหญ่ก่อเรื่องหลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งต่อจากท่านพ่อกันได้อีก พ่อกับฉันจึงตัดสินใจ ขัดขวางพี่ใหญ่ ด้วยการมอบตำแหน่งให้นายพลอาแซน ซึ่งเป็นนายทหารรุ่นราวคราวเดียวกับท่านพ่อ ผู้มีประสบการณ์มากกว่าพวกเรา มีความรับผิดชอบในหน้าที่อย่างสูง มีวิจารณญาณในเรื่องถูกผิดได้ดี นึกถึงความยุติธรรมและความถูกต้อง ชิงชังพวกโกงกินและทุจริตทุกประเภท แม้กระทั่งพวกพี่ใหญ่เองด้วยน่ะ"
              เจเนลถาม "แล้วพวกผบ.นิ คงไม่คิดที่จะถอนตัวเลยสิน่ะ"
              "บอกตามตรงน่ะ ว่านับตั้งแต่พี่ใหญ่กับพวกถูกเปิดโปงความชั่วไปนั้น ได้ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลทิลเทอแรนของเราเสียหายไปเกือบครึ่งก็เกินพอแล้ว แม้การตัดสินใจของพี่รองและคุณพ่อนั้น จะทำให้พวกที่ชิงชังและเป็นปรปักษ์กับพวกเราได้เปรียบกันมากขึ้นก็ตาม แต่....ท่านนายพลอาแซนเองก็ยังให้โอกาสพวกเรามีที่ยืนในกองทัพ แม้เราอาจจะต้องถูกลดบทบาทลงไปก็ตามน่ะ" เกรเบคบอก
              ฮัลไทร์กล่าว "ในช่วงที่ฉัน พี่รองและพี่สามนำกองรบไปที่โลกมนุษย์เพื่อปราบปรามพวกเฮซเทิร์ซที่รุกรานกันนั้น คนที่ช่วยอุดช่องโหว่ในสายบังคับบัญชาที่หายไปจากการที่พวกเราไม่อยู่นั้น ก็คือนายพลอาแซนกันนี้แหละ และเขาเองก็ทำได้ดีมากเสียด้วยน่ะ"
              "จะว่าไปมันก็ใช่น่ะครับ เพราะนายพลเกรย์สันเองก็เห็นว่า พวกคุณยังเร็วไปที่จะรับภาระอันหนักอึ้งจากการสั่งการกองทหารฝ่ายมนุษย์ รวมไปถึงควบคุมเหล่าทหารที่พร้อมจะหาเรื่องกับพวกเรากันได้น่ะ" โคเคสบอก
              บัลโต้กล่าว "และพวกนายเองก็ได้ตำแหน่งสูงๆมานั้น ครึ่งหนึ่งคงมาจากนายพลเกรย์สันเลยสิน่ะ ท่านนายพลผู้นี้ถึงมีอคติกับพวกนายรวมถึงพวกแพททริคกันด้วยน่ะ"
              "เพียงแต่....พวกนายเองก็อย่าวอนหาเรื่องให้นายพลเกลียดพวกนายเพิ่มกันละ เพราะถึงแม้ว่าท่านนายพลจะรู้ชื่อเสียงของพวกนาย ในฐานะผู้กอบกู้ความสงบสุขจากแรซัลก้าและเดลอาเนี่ยนมาก็ตาม ในสายตาของนายพลอาแซน เขามองพวกนายไม่ต่างจากพวกแรซัลก้า ทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันนี้แหละ" มิลเดียกล่าว
              โฟรซ่าบอก "เพราะว่าพวกเราอันตรายมากกว่าผู้คุกคามทั้งสองกลุ่มกันสิน่ะ นั้นไม่แปลกใจเลยที่นายพล เออ ท่านจอมพลคนใหม่จะมีอคติกับพวกเราเช่นนี้"

              "อืมมมมมม" อาแซนเดินมายังโคเคสและพวกไทรเวเซอร์กัน "เธอคงเป็นผู้นำแอคเมนโด้ละสิน่ะ" อาแซนกล่าว โคเคสพยักหน้า อาแซนเลยมองมายังพวกไทรเวเซอร์ รวมถึงแอบไบออส เบติสและวิลด้าที่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรด้วย "ศัตรูในอดีตคือมิตรในปัจจุบัน ต่อให้ฉันอยากจะแค้นพวกนายมากแค่ไหน น้องชายของฉันกับเหล่าทหารที่ตายไปในครั้งนั้นก็ไม่กลับมากันแน่นอน ต่อให้พวกนายดึงพวกเขากลับจากหลุมกันมาก็ตาม ฉันยังแยกแยะได้อยู่น่ะ ว่าฉันควรหรือไม่ควรทำกันบ้างน่ะ"
              "เพราะไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ทหารก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ต่อให้เป็นคำสั่งที่ไม่เข้าท่ากันก็ตามน่ะ" เบติสบอก
              วิลด้ากล่าว "หวังว่า ท่านคงมิใช่พวกผูกใจเจ็บจนสะสมความแค้นมาลงที่พวกเรากันบ้างน่ะ เพราะอย่างน้อย พวกเรามาเพื่อเคารพศพของนายพลเกรย์สัน ในฐานะของตัวแทนฝ่ายทหารในกลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ มิใช่ทหารชาวซัลคาเลี่ยนเมื่อ 20 กว่าปีก่อนน่ะ"
              "ท่าทางของพวกนายทั้งสองนั้น บ่งบอกได้ว่าพวกนายยังรู้สึกผิดอยู่บ้าง ดังนั้น ฉันขอให้เรื่องในอดีตมันจบลงเพียงเท่านี้จะดีกว่าน่ะ" อาแซนบอก แล้วก็หันมายังพวกไทรเวเซอร์ "พวกเธอเอง รวมถึงอดีตสิบเอกที่เป็นลูกน้องของทิคแซทนิ คงจะไม่แฮปปี้กับชัยชนะอันยิ่งใหญ่รอบที่สองกันละสิน่ะ"
              เนคมาดูซัมกระแอ่มก่อนบอกไปว่า "ชัยชนะของพวกเราที่ได้มานั้น มันแลกกับการเสียสละของแมนิเกเตอร์ที่ดีๆไปไม่น้อย รวมถึงสหายร่วมรบกับพวกเรากันด้วย คือเหตุผลที่พวกเราต้องเจียมตัวกันตลอดเลยนะครับ"
              "นั้นคงเป็นคำพูดของแมนิเกเตอร์ ที่ก่อเรื่องในเขตเมืองที่ซีคเทมพลาร์รับผิดชอบก่อนเกิดมหาสงครามจากแรซัลก้าละสิน่ะ" อาแซนกล่าว "ฉันทราบเรื่องและชื่อเสียงของพวกเธอกันมาไม่น้อยเลยน่ะ แม้ว่าพวกเธอจะเคยร่วมมือกับพวกโทมาสกันมาตลอดกันก็ตาม หวังว่าพวกเธอ คงไม่คิดก่อเรื่องแหกคอกต่อฉันกันบ้างน่ะ" คลอเวฟได้ฟังก็มีสีหน้าโมโห "ฟึ่บบบบ" เนคมาดูซัมสบัดแขนขวาเป็นเชิงห้ามไว้
              โคเคสบอก "กองกำลังไทรเวเซอร์ที่ข้าพเจ้ารับผิดชอบนั้น รู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่และไม่คิดจะซ้ำรอยเดิมกันนะครับ"
              "ขอให้ที่เธอว่ามานิ เป็นเช่นนั้นได้ตลอดไปเถอะน่ะ ผู้นำแอคเมนโด้" อาแซนกล่าวแล้วก็เดินถอยหลังไป
              จากนั้นเหตุการณ์ก็หวนกลับสู่ช่วงปัจจุบันกัน "เอาเป็นว่าตอนนี้ เรารีบไปจัดการกับเรื่องที่ค้างคากันเสียก่อนนะ" เนคมาดูซัมบอก

              ที่คฤหาสน์ตระกูลทิลเทอแรน
              "รู้น่ะ ว่าที่พวกเธอทั้งสองยุติงานเพลงเพื่อมาทำงานหลักได้อย่างเต็มที่นั้น เพื่อที่จะเลี่ยงงานหนักในวงการบันเทิงกันก็จริง" มิลเดียกล่าวกับลิเนียร์ตี้และจิลกัน "แล้วไม่กลัวพวกแฟนคลับจะโวยเลยหรือ เพราะการที่พวกเธอทั้งสองทำเช่นนี้ มันเหมือนดรอปคิกใส่พวกแฟนๆกันเลยน่ะ"
              จิลบอก "เรายอมให้พวกเขาผิดหวังที่พวกเราตัดสินใจเช่นนี้ ดีกว่าเราทั้งสองเดี้ยงเพราะรับงานเยอะเกินตัว จนแฟนๆเสียใจกันซะมากกว่านะคะ"
              "บอกตามตรงนะคะ ว่าการเป็นไอดอลนั้น หนักหนากว่าที่คิดไว้ตามที่นายพลจูเดทต้าว่ามาจริงๆเลยนะคะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              มิลเดียพยักหน้า "ใช่ เพราะเวลาที่ดาราหน้าใหม่มีชื่อเสียงขึ้นมานั้น โดยเฉพาะกับดาราแบบไอดอลอย่างพวกเธอนั้น ผู้จัดการก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อผลักดันให้ดาราหน้าใหม่เป็นที่รู้จักกันให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มงานโชว์ตัว ออกสายร้องเพลง ไปเข้าร่วมรายการวาไรตี้ต่างๆนาๆ แม้กระทั่งไปร่วมเล่นละครเล่นหนังกันด้วย ซึ่งฉันเห็นพวกหน้าใหม่ๆที่ส่องประกายเจิดจ้ากันมากมายมาหลายปี ล้วนดับแสงลงจากสภาพร่างกายที่ไม่ได้พักผ่อนกันจนล้มป่วยกันไปหลายราย หนักสุดคือ อาจไปอยู่ในสถานบำบัดทางจิต อันเนื่องมาจากความเครียดสะสมจากการทำงานอย่างหักโหมแบบนันสตอปเลยน่ะ" แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "ดีแล้วละ ที่พวกเธอรีบถอนตัวมาก่อน ไม่งั้น พวกเธอคงไม่ได้ช่วยเหลือพวกพ้องของเธอหยุดภัยคุกคามกันเหมือนเดิมแน่ๆเลยละ"
              "แล้วคุณมิลเดียเอง ตอนนี้อยู่ในกรมประชาสัมพันธ์ของกองทัพกันแล้วนิ ยังมีงานบันเทิงเข้ามาด้วยมั้ยละคะ" ลิเนียร์ตี้ถาม
              มิลเดียกล่าว "นับแต่ท่านอาแซนเข้ามาคุมบังเหียนภายในสายบังคับบัญชาของพวกเรานั้น ท่านได้สังขายนาโครงสร้างของกองทัพกันใหม่หมด ด้วยการโยกย้ายนายทหารให้ไปประจำการที่ดาวดวงอื่น โดยลดจำนวนทหารที่เยอะเกินให้ไปอยู่ในกองรบอื่นที่ต้องการกำลังคนที่เหมาะสม รวมถึงเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ของนายทหารนั้นๆไปด้วย" แล้วก็จิบน้ำดื่มกัน "จากเดิมฉันทำงานในหน่วยสนับสนุนแนวหลังที่ 5 ตอนนี้ฉันต้องมารับผิดชอบในกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นงานที่ฉันถนัดกันอย่างมาก เพียงแต่ลดงานบันเทิงให้น้อยลง เพื่อให้ฉันมีสมาธิกับงานที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงดูแลลูกกันด้วยน่ะ"
              "แล้วไม่มีพวกทหารจากหน่วยหรือกองอื่นที่อยากจะเป็นดารามาแข่งกับพวกเรากันเลยหรือคะ" จิลบอก
              มิลเดียพยักหน้า "ก็ยังมีอยู่บ้างนี้แหละ ซึ่งฉันได้แต่ปฏิเสธพวกเขาไป พร้อมกับยื่นคำขาดด้วย ว่าถ้าอยากจะเป็นดารา ก็ให้ไปยื่นใบลาออกแล้วไปอยู่กับเอเจนซี่ดาราแทน แล้วไม่ต้องกลับมาในกองทัพกันอีก แน่นอน ว่าคำขาดนี้ได้ผลชะงัดแล้วละ"
              "แม้ว่านั้นหมายถึงการที่คุณโดนตอกกลับว่าดังแล้วขัดขวางไม่ให้คนอื่นดังเลยสิคะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              มิลเดียถอนใจขึ้นมา "ใช่เลยละ เพราะพวกทหารรุ่นใหม่ๆคงยังเชื่อว่าฉันซึ่งเป็นทั้งดาราและนายทหารนั้น คือประตูไปสู่ความโด่งดังกัน ทั้งๆที่พวกเขาพึ่งจะผ่านการฝึกจากค่ายทหารมาแล้วแท้ๆแบบนี้เลยน่ะ" แล้วก็หันมาถาม "ว่าแต่ พวกเธอคงไม่บ้าจี้ให้คนแบบเดียวกับที่ฉันเจอมา สมหวังกันได้ละสิ"
              "พวกเรามิใช่แพททริคและพวกสักหน่อยนิคะ เพราะเราไม่ยอมให้ประชาชนของพวกเราต้องมาตายเพื่อที่อยากจะดังหรือเป็นเหมือนพวกเรากันนะคะ" จิลบอก
              มิลเดียพยักหน้า "ดีแล้วละ เพราะถ้าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น คนทั่วไปก็จะโทษเป็นความผิดของพวกเธอไปเต็มๆ สู้หยุดไม่ให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น แม้จะทำให้คนอื่นไม่สมหวังกันก็ตามจะดีกว่าน่ะ"

              "พวกนายคงจะลำบากไม่น้อยเลยน่ะ กับข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโคเคสประกาศตัดงบกองทัพลงเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจขาลงให้กลับมาเป็นปกติกันได้น่ะ" โทมาสบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "พวกเราพยายามกันอย่างเต็มที่แล้วละ ผบ.ฮาซาเดน แม้ว่าพวกเราส่วนหนึ่งต้องลงไปช่วยพวกลูกเรือทำงานด้วยกันก็ตาม อย่างน้อย ท่านประธานาธิบดีก็ช่วยเหลือประชาชนกันได้ก็เกินพอแล้ว"
              "โคเคสเองก็ทำเพื่อประชาชนไม่น้อยเลยน่ะ ดีแล้วที่พวกนายจัดการกับเดลอาเนี่ยน ทรอยอาร์และสเตรดาร์ธลงไปได้ จนทั้งสามฝ่ายไม่มารุกรานกันอีกเลยน่ะ" ทิคแซทบอก
              แอบไบออสบอก "ทรอยอาร์กับสเตรดาร์ธ หลังจากที่พ่ายแพ้พวกเรา ก็กลับไปแก้ปัญหาภายในดาว จนระบบดาวของพวกเราปลอดจากพวกอัศวินและเหล่านักรบมาสามปีแล้ว เช่นเดียวกับพวกเดลอาเนี่ยนที่ก่อสงครามใส่กันเองน่ะ" และหันมาถาม "ผู้ฝูงเองก็คงจะได้รับผลกระทบจากการที่ท่านจอมพลอาแซนจัดระเบียบกันสิครับ"
              "ก็ไม่หนักหนามากหรอกน่ะ พี่รองแค่ถูกลดจำนวนยานรบลงครึ่งหนึ่ง จากวอร์ครุยเซอร์ 20 ลำมาเป็น 10 ลำ พร้อมกับลดขอบเขตการปฏิบัติการณ์ให้อยู่ในบางเขตเท่านั้น ส่วนฉันเอง นอกจากจะต้องสั่งการเหล่าหน่วยรบทั้งชุดเดิมที่ยังอยู่ หลังจากที่ท่านจอมพลอาแซนสั่งให้ฉันโยกย้ายสมาชิกทีมเก่าบางส่วนไปประจำที่กองรบอื่น แล้วฝึกฝนนักบินชุดใหม่ที่ผ่านการเกณฑ์และฝึกฝนมาเป็นอย่างดีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา" แล้วก็ถอนใจก่อนจะเล่าต่อ "จากนั้นท่านจอมพลก็สั่งให้ฉันช่วยเรื่องการสอบสวนภายในกิซซาเทม จนต้องสั่งปิดโรงงานเกือบทุกแห่งลง เนื่องมาจากโรงงานเหล่านั้น ผลิตชิ้นส่วนและอาวุธของกิซซีรีย์ไปให้ฝ่ายสเตรดาร์ธนำไปใช้ก่อความเดือดร้อนในช่วง 3 ปีก่อน ซึ่งก็ทำให้สายการผลิตกิซซีรีย์รุ่นเก่าต้องปิดตัวลง และให้ทีมพัฒนาอาวุธในกองทัพลงมาควบคุมการสร้างกิซซีรีย์ขึ้นมาใหม่ยกชุดด้วยกัน โดยที่กองรบซึ่งยังใช้กิซซีรีย์รุ่นเก่านั้น ต้องปลดประจำการกิซซีรีย์รุ่นแรกเจ็ดในเก้าหน่วยลง เพื่อเอากิซซีรีย์รุ่นใหม่มาแทนที่กันน่ะ"
              แอบไบออสบอก "แล้วผู้ฝูงกับพวกต้องเสียเวลาในการปรับตัวกับกิซซีรีย์รุ่นใหม่เลยสิน่ะ"
              "ทำนองนั้นแหละ เพราะกิซแซนไลน์ กิซซีรีย์รหัส GZMX นั้น นำเทคโนโลยี่ที่ใช้สร้างกิซซีรีย์ 9 ตัวแรกมาประยุกต์สร้างใหม่ ให้ต่างจากกิซเซเบอร์ของนายกันอย่างมากเลยน่ะ" ทิคแซทบอก
              แอบไบออสกล่าว "ดีแล้วที่จอมพลอาแซนสังขายนากิซซาเทมเสียใหม่ เพื่อจะได้สร้างโมบิลทรูปเปอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฝ่ายพันธมิตรมนุษย์กันจริงๆ มากกว่าสร้างเพื่อให้แมนิเกเตอร์ขโมยหรือนำไปใช้กันเลยน่ะ"
              "แล้วผู้การฮัลไทร์และเกรเบคล่ะละ ผบ.ฮาซาเดน" เนคมาดูซัมถาม
              โทมาสบอก "เกรเบคยังทำงานคุ้มกันดิสก์เวิร์ดเหมือนเช่นเดิม เพียงแต่ลดจำนวนคนในกองลง เพื่อให้ทหารหน่วยอื่นถูกส่งมาช่วยงานตามไปด้วย ซึ่งเกรเบคก็ยอมรับ เพราะเกรเบคให้ความเคารพกับจอมพลอาแซนอย่างมาก เขาจึงเป็นคนแรกที่สนับสนุนให้นายพลอาแซนรับช่วงต่อจากพ่อนี้แหละ" แล้วก็เงยหน้าขึ้น "ส่วนฮัลไทร์และฝูงบินใต้คำสั่งของเขานั้น นอกเหนือจากปฏิบัติการณ์ลาดตระเวนในเขตอวกาศกันแล้ว ฮัลไทร์กับทีมถูกส่งไปที่หน่วยครูฝึกเพื่อฝึกเหล่านักบินยานรบความเร็วสูงรุ่นใหม่ๆกัน ซึ่งฮัลไทร์และทีมได้ฝึกฝนสร้างฝูงบินชุดใหม่ๆป้อนเข้าเป็นส่วนหนึ่งในกองยานรบมาตลอด 2 ปีแล้ว แม้ว่าฝูงบินที่ผ่านการฝึกจากฮัลไทร์มาจะได้ออกบินกันจริงๆ แต่ก็ต้องมีสารวัตรทหารคอยจับตาดูอีกทีด้วยน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะต้องแน่ใจว่า ใครก็ตามที่ฝึกจากคนในกลุ่มตระกูลทิลเทอแรนนั้น จะไปไม่ก่อเรื่องเหมือนกับที่แพททริคทำกันสิครับ" เนคมาดูซัมบอก
              โทมาสพยักหน้า "แม้จอมพลอาแซนทำเพื่อให้แน่ใจว่าฉันกับพวกจะไม่ซ้ำรอยเดิมเหมือนกับพวกพี่ใหญ่กัน จนทำให้ความสำคัญของพวกเราถูกลดลงไป แต่ไม่ถึงกับหายจากกองทัพกันอย่างสิ้นเชิงมาก เพราะจอมพลอาแซนรู้ถึงผลกระทบดังกล่าวกันไว้ จึงต้องทำเพื่อควบคุมทั้งฝ่ายสนับสนุนพวกเราและฝ่ายเป็นปรปักษ์กับเราให้ทำงานไปด้วยกันน่ะ"
              "บอกตามตรงน่ะ ว่าผบ.กับนายพลเกรย์สันตัดสินใจถูกแล้วละ ที่เลือกจอมพลอาแซนมาเป็นผบสส.ทางทหารกันน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โทมาสพยักหน้าอีก ทิคแซทบอก "แม้พวกเราจะเลือกโยนโอกาสดีๆทิ้งไป เพราะพวกเราต้องการแสดงให้กองทัพเบื้องบนเชื่อว่า ตระกูลทิลเทอแรนไม่ใช่พวกยึดติดกับชื่อเสียงและฐานอำนาจเกินควร เหมือนกับที่พี่ใหญ่เป็นอยู่ จนทำให้ฝ่ายตรงข้ามกับพวกเราได้ใจยิ่งขึ้นก็ตาม อย่างน้อย นั้นก็ทำให้พวกเราอุทิศตนกับหน้าที่ของพวกเรากันมากขึ้น เหมือนกับที่พวกนาย อุทิศตนกับการต่อสู้เพื่อปกป้องระบบอวกาศของสมาพันธ์อวกาศกันนี้แหละ"
              "ตอนนี้ คุณลาเลียสบายดีเลยสิน่ะ" แอบไบออสบอก
              ทิคแซทกล่าว "ใช่ เธอฝากฉันบอกนายด้วยละ ว่าอย่าหักโหมกันมากนัก เวลาออกปฏิบัติการณ์เองก็ต้องให้พวกพ้องมาช่วยด้วยอีกแรงหนึ่งบ้าง ต่อให้ร่างกายของนายงอกแขนขาออกมาได้ แต่นายก็ต้องระวังให้มากด้วย ยิ่งกับศัตรูหน้าใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่านั้น นายต้องระวังตัวพร้อมกับพวกพ้องของนายด้วยน่ะ"
              "ผมเข้าใจดีแล้วละ เพราะว่าไม่ใช่แค่ปัญหาภายในจากระบบดาวทั้งแปดกันแล้ว ที่เราต้องกังวลกันอย่างมากน่ะ" แอบไบออสบอก
              เนคมาดูซัมกล่าว "แต่ปัญหาที่ใหญ่ระดับดาวนั้นต่างหากละ ที่เราต้องกังวลกันจริงๆนี้แหละ"

              "พวกคุณคงจะได้เห็นข่าวกันแล้วสินะ ผมกะจะบอกกับพวกคุณกันอยู่แล้วน่ะ" เดรมิงเกล คาดาสลี่ วุฒิสมาชิกแมนิแฟคเตอร์กล่าวกับพีวิล สเปียริท เจเนล จายด์ และเรมมิส อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ครูของไซเมี่ยนยอดมือป่วน
              "เดรมิงเกล นี้มันไม่ตลกเลยน่ะ นายแอบอ้างชื่อของพวกไทรเวเซอร์เอาไปป่าวประกาศกันแบบนี้ นายไม่กลัวว่าศัตรูของพวกไทรเวเซอร์จะมาหาเรื่องกับนายได้ละ" เรมมิสบอก
              "ไม่เอาน่า อาจารย์เรมมิส ผมจะไปกลัวทำไม ในเมื่อกองกำลังหัวหอกของฝ่ายสหพันธมิตรก็ต้องมาจัดการกับพวกศัตรูปองร้ายกันอยู่แล้วน่ะ" เดรมิงเกลบอก
    คลอเวฟบอก "แต่รู้อะไรมั้ยละ ว่าตอนนี้พวกเราจะมาเอาเรื่องมึงกันเดียวนี้แล้วละ"
              "อย่า คลอเวฟ ตะบันหน้าวุฒิสมาชิกเดรมิงเกลจะยิ่งทำให้เราดูแย่ลงกว่าเดิมเลยน่ะ" พีวิลห้ามไว้ และหันมายังเดรมิงเกลพร้อมกับบอกว่า "พวกเราบอกกับคุณไปตั้งแต่สามปีก่อนกันมิใช่หรือ ว่าพวกเรามีกฎว่าห้ามยุ่งเกี่ยวหรือให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มการเมืองต่างๆ รวมถึงบุคคลทางการเมือง ซึ่งคุณที่เป็นวุฒิสมาชิกเองก็อยู่ในข่ายนี้ ไม่ว่าคุณจะร้องขอหรืออ้อนวอนแค่ไหนก็ตามนะครับ"
              เดรมิงเกลบอก "เพราะอย่างงั้นแหละ ผมเลยต้องทำแบบนี้ อย่างน้อยทำให้พวกคุณโผล่หน้ามาที่บ้านผมกันแล้วนะสิ"
              "นั้นเป็นไอเดียที่เฮงซวยมากเลยนะคะ" สเปียริทบอก
              เจเนลกล่าว "ถามหน่อยเหอะ ไอ้ที่พวกเราบอกกับนายเมื่อ 3 ปีก่อนนิ ทำไมถึงไม่ทำกันเลยละ อย่างน้อย ต่อให้เสียโอกาสได้นั่งเก้าอี้ ก็ยังได้ความเคารพนับถือจากเหล่าแมนิแฟคเตอร์ทั้งหลายกันด้วยน่ะ"
              "แล้วพวกคุณไม่รู้เลยหรือ ว่าพวกแมนิแฟคเตอร์ส่วนหนึ่งนั้น ให้ความช่วยเหลือกับพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันน่ะ" เดรมิงเกลบอก "แม้ว่าผมจะอยู่ในตำแหน่งนี้กันก็จริง แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ได้ทำอะไรกันสักอย่าง เหมือนเห็นพวกเราเป็นกลุ่มบุคคลขั้นสองหรือพวกรากหญ้าที่ไม่มีความสำคัญใดๆเลย ต่อให้พยายามกันแค่ไหน ต่อให้ทำตามแนวทางของเฮนรี่ ไนท์กันแทบตาย ถ้าเบื้องบนไม่อนุญาตมันก็ไม่มีความหมาย เพราะว่าผมไม่มีแรงสนับสนุนจากพวกคุณ ทั้งๆที่ผมช่วยพวกคุณกันอยู่แล้วน่ะ"
              จายด์บอก "พวกเราขอบใจในความหวังดีของคุณกันบ้าง แต่จะดีกว่ามาก หากคุณไม่ป่าวประกาศกันเช่นนี้ ทั้งๆที่พวกเราไม่ต้องการกันเลยน่ะ"
              "แต่อย่างน้อย ผมก็รู้ว่าสหพันธมิตรของคุณขัดสนเรื่องเงินทองกันไม่น้อย ถ้ามีความช่วยเหลือของผมเข้ามากันละก็ ปานนี้กองทัพก็คงไม่ลดจำนวนกำลังพลและโยกย้ายไปอยู่กองรบอื่น เพื่อเป็นการลดงบประมาณจนกระทบถึงพวกคุณกันไปนานหรอกน่ะ ถ้าพวกคุณไม่ช่วยให้ผมนั่งในตำแหน่งสูงกว่าวุฒิสมาชิกกันน่ะ" เดรมิงเกลบอก
              เจเนลบอก "แต่ต่อให้ไม่มีคุณช่วย พวกเราก็หาทางแก้กันได้เองอยู่แล้ว เพราะเรา ยอมเลือกที่จะแก้ไขปัญหาความลำบากด้วยตัวของเรา มากกว่ามาพึ่งพาคุณจนต้องกลายเป็นเครื่องมือเพื่อผลักดันให้คุณอยู่สูงกว่าเฮนรี่ ไนท์กันเสียเอง ซึ่งเราไม่อยากจะถูกหลอกใช้กันแบบนี้หรอก"
              "และเราจะแน่ใจได้ไง ว่าช่วยคุณจนสำเร็จแล้ว คุณจะเลิกมาขอพวกเรากันต่อได้อีกน่ะ" สเปียริทบอก
              เรมมิสบอก "อีกอย่าง เฮนรี่ ไนท์ให้นายอยู่ในตำแหน่ง เพื่อให้นายช่วยดูแลพวกแมนิแฟคเตอร์ในกลุ่มกันไว้ก็ถือว่าดีพอแล้ว อีกอย่าง นายควรจะให้ความช่วยเหลือพวกพ้องในกลุ่มกัน มากกว่าจะเอาเงินส่วนมากหมดไปกับความพยายามที่จะไต่ตำแหน่งสูงๆกันได้น่ะ"
              "แล้วจะปล่อยให้ไอ้พวกวุฒิสมาชิกจากกลุ่มระบบดาวใกล้กับคูลดาลนัสมันกดดันพวกเราฝ่ายเดียวเลยหรือ พวกพ้องเราส่วนหนึ่งให้ความร่วมมือกับสเตรดาร์ธและทรอยอาร์กันนั้น เพราะว่าฉันไม่มีอำนาจไปควบคุมพวกเขากันไว้แต่แรก พวกวุฒิสมาชิกจากกลุ่มดาวปกครองพิเศษเองก็พยายามขัดขวางแผนการของฉันมาหลายต่อหลายครั้ง จนฉันทนไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อให้พวกนั้นหยุดทำอะไรบ้าๆลงไป ฉันก็เป็นได้แค่นักการเมืองต็อกต๋อยที่พร้อมจะถูกถีบลงจากสภาสูงกันนี้แหละ" เดรมิงเกลบอก
              เจเนลบอก "เฮนรี่ ไนท์ให้พวกวุฒิสมาชิกจากกลุ่มปกครองพิเศษมาที่ดิสก์เวิร์ดนั้น มิใช่แค่ให้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มสภาปกครองฝ่ายมนุษย์กันอย่างเดียว แต่เพื่อที่จะควบคุมพวกเขาไม่ให้คิดก่อการอะไร ที่เป็นการต่อต้านทั้งสมาพันธ์อวกาศและพันธมิตรมนุษย์กันไปได้ต่างหากละ เพราะกองรบของผู้การเกรเบคกับกองรบชุดอารักขา ทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตุการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มนั้นมาตลอดน่ะ"
              "นายเองยังไม่รู้หรอกน่ะ ว่าเฮนรี่ ไนท์เองไม่ใช่คนที่นิ่งดูดายและไม่สนใจความเห็นจากผู้อื่นกันเลย เพราะว่าเขาได้พิจารณาเรื่องนโยบายที่นายนำเสนอมาแล้ว เพียงแต่....มันไม่ผ่านมติในที่ประชุมกันก็เท่านั้นเองแหละ" เรมมิสบอก "ส่วนเรื่องพวกที่ช่วยเหลือทรอยอาร์และสเตรดาร์ธนั้น ต่อให้พวกนี้รอดจากการควบคุมเพราะอยู่นอกขอบเขตของนายกันแค่ไหน แต่เชื่อเถอะ ว่าพวกเขาคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน เพราะตอนนี้ไม่มีพวกสเตรดาร์ธและทรอยอาร์ปรากฎตัวมาตลอด 3 ปีกันอยู่แล้วน่ะ"
              เดรมิงเกลบอก "แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ต้องมีอำนาจมากขึ้นเพื่อให้แมนิแฟคเตอร์ของเราอยู่รอดต่อไปกันได้ มากกว่าจะอยู่หลบๆซ่อนๆในเครือข่ายลับๆกัน จนมีส่วนหนึ่งไปช่วยพวกทรอยอาร์และสเตรดาร์ธกันได้"
              "เพราะงั้น คุณเลยอ้างชื่อพวกเราไป เพื่อให้คุณมีแรงสนับสนุนจากทางเรา และคุณจะได้ตอบแทนด้วยการสนับสนุนพวกเราตอบละสิน่ะ" พีวิลบอก
              เดรมิงเกลบอก "ใช่ และผมต้องการแค่คำตอบเดียว ว่าคุณจะช่วยผมให้มีตำแหน่งสูงกว่าพวกวุฒิสมาชิกจากระบบดาวใกล้กับคูลดาลนัสกันบ้างหรือเปล่าละ"
              "................" พวกพีวิลนิ่งคิดไปพักใหญ่ จนพีวิลต้องมาตอบไปว่า "ขอโทษด้วยนะครับ ท่านวุฒิสมาชิกเดรมิงเกล แต่พวกเรา ยังยืนกรานคำเดิม ว่า พวกเราไม่สนับสนุนคุณในเรื่องนี้กันจริงๆ"
              เดรมิงเกลได้ฟังก็ยั้วะกว่าเดิม "นี้แปลว่า พวกคุณอยากจะลำบากกันมากใช่มั้ย ถึงได้ปฏิเสธความต้องการของผมที่หวังดีกันน่ะ"
              "ถ้าอยากจะหวังดีกับเรากันจริงๆ แล้วนายแอบอ้างชื่อของพวกเราไปทำไมกันละ" เจเนลบอก
              คลอเวฟบอก "ที่นายทำเช่นนี้ มันไม่เพียงเป็นการข้ามหัวพวกเรากันอย่างเดียว แต่มันหยามน้ำหน้าเราทางอ้อมไปด้วย ซึ่งนายควรจะโดนยำตรีนกันอย่างแน่นอน"
              "แต่ถ้าคุณคิดจะใช้บทสนทนาของเราเอาไปดัดแปลงกันละก็ อย่าดีกว่านะคะ เพราะว่า....อาจารย์เรมมิส แจ้งกับคณะกรรมการตรวจสอบการเลือกตั้งให้มาร่วมเป็นพยานกันด้วยนะคะ" สเปียริทบอก โดยตอนนี้ "ฟึ่บๆๆๆๆๆ" เหล่ากกต.โผล่เข้ามาในห้องกันทั้งหมดโดยมีเครื่องบันทึกเสียงและกล้องบันทึกภาพกันด้วย
              จายด์กล่าว "ดังนั้น คุณควรจะสั่งลบหัวข่าวนั้นโดยเร็ว ดีกว่ามาดันทุรังจนคุณต้องไปหาเสียงในไอซียูเสียเอง ซึ่งนี้เป็นคำเตือนสุดท้ายของพวกเรากันนะครับ"
              "..........." เดรมิงเกลได้ฟังก็ถึงกับส่ายหน้า เพราะผิดหวังเป็นหนที่สองกัน
              "ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะครับ ขอเชิญพวกคุณกลับไปได้แล้วละครับ" เรมมิสบอก แล้วพวกกกต.ก็เดินจากไป
              พีวิลบอก "ต้องลำบากคุณแล้วนะครับ ที่ไปเรียกกกต.มาช่วยน่ะ"

              "ไม่เป็นไรหรอก ฉันจำต้องหยุดเดรมิงเกลไม่ให้มายุ่งกับพวกนายกันเท่านั้นแหละ เพราะฉันรู้ ว่าการที่เขาอ้างให้พวกนายช่วยกันนั้น เดรมิงเกลมิได้คิดที่จะช่วยพวกเรากันจริงๆเสียหน่อยน่ะ" เรมมิสกล่าว
              เจเนลบอก "แน่ละ เพราะเราเห็นวุฒิสมาชิกตัวยุ่งของเรา เหมือนกับตาแก่วอลเดนกันนี้แหละ"
              "ตรงที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่จุดสูงสุด โดยไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อนกันสิน่ะ ฉันทราบเรื่องมาจากหมอเดเมี่ยนเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วน่ะ" เรมมิสบอก
              คลอเวฟบอก "แต่วุฒิสมาชิกนั้นก็คงไม่รู้หรอก ว่าใครก็ตามมาหยามกับพวกเรา หรือหาเรื่องท้าทายความถูกต้อง ล้วนจบไม่สวยเช่นนั้นแหละ"
              "แต่ ไม่กลัวว่าวุฒิสมาชิกเดรมิงเกลจะหาทางเลือกอื่นกันบ้างเลยหรือ ในเมื่อเราปฏิเสธเขาไปเช่นนั้นน่ะ" จายด์บอก
              เรมมิสพยักหน้า "แบรนดอนบอกกับฉันไว้แล้วละ ว่าเดรมิงเกลแวะเวียนไปหาวุฒิสมาชิกวิลแซนด์กันบ่อยมากขึ้น โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น แบรนดอนไม่เพียงเห็นกลุ่มคนน่าสงสัยแวะเวียนมาบ้านวุฒิสมาชิกวิลแซนด์กันอย่างเดียว พักนี้เหมือนเขาไปเล่นกล้ามมายังไงยังงั้นน่ะ"
              "เล่นกล้ามนะหรือ วุฒิสมาชิกที่สูญเสียลูกเมียในอุบัติเหตุคงอยากจะเปลี่ยนแปลงตนเองกันเลยสิคะ" สเปียริทบอก
              เรมมิสส่ายหน้า "ถ้าวิลแซนด์กล้ามโตเพื่อให้ตนเองดูไม่อ่อนแอกันก็พอว่าไปอย่างน่ะ แต่....แบรนดอนเห็นวิลแซนด์ตัวใหญ่กว่าคนปกติกันอย่างมาก จนคิดว่าวิลแซนด์ไปฉีดสเตรลอยด์มาเยอะแน่ๆน่ะ"
              "แล้วตอนนี้วุฒิสมาชิกวิลแซนด์ยังอยู่หรือเปล่าละครับ เพราะ ถ้าฉีดสเตรลอยด์เป็นเวลานานราว 3 ปี อาจมีผลเสียต่อร่างกายกันจนถึงแก่ชีวิตเลยก็ได้นะครับ" พีวิลบอก
              เรมมิสบอก "ถ้าจะบอกว่า ยังมีชีวิตอยู่ละก็ ใช่ แต่ถ้าถามว่าเขาอยู่บ้านหรือไม่ คำตอบมีทั้งใช่และไม่เลยนี้แหละ เพราะในบางครั้ง วิลแซนด์มักจะไม่อยู่บ้านเป็นเวลานานๆ ทั้งๆที่วุฒิสมาชิกวิลแซนด์ไม่ได้รับงานให้ออกไปดูงานที่ระบบดาวอื่นเลยน่ะ"
              "แบรนดอนยังช่างสังเกตุเหมือนเช่นเคย แม้ว่าตอนนี้เขาได้ทำงานอยู่ในสำนักงานทนายความแล้วสิน่ะ" จายด์บอก
              เรมมิสพยักหน้า "ใช่ แม้ว่าเขาได้รับงานว่าความให้กับชาวบ้านระดับล่างที่โดนกดขี่ข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรมกัน ชนะบ้างแพ้บ้าง แบรนดอนก็ทำได้ดีที่สุดอยู่แล้ว ต่างจากพวกที่จบจากคณะอื่นแล้วแอบอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายมาช่วยเหลือผู้อื่นกัน ซึ่งที่เข้ามาแอบอ้างกันนั้น โดนสำนักงานทนายความและศาลสูง ฟ้องกลับจนหงอเป็นกุ้งไปแล้วละ"
              "ต่อให้ทำตัวเป็นผู้รู้กฎหมาย แต่ถ้าไม่ได้เรียนมาทางด้านนั้นกันจริงๆ มันก็เชื่อไม่ได้กันละน่า" เจเนลบอก
              เรมมิสกล่าว "แม้ว่าจะทำไปด้วยเจตนาดีแค่ไหน ถ้าไม่มีพื้นฐานหรือศึกษากฎหมายมาไม่ดีพอก็ไม่มีความหมายกันหรอกน่ะ ขนาดฉันเองก็รู้ว่าตนเคยทำผิดกฎกันมาด้วยน่ะ" แล้วก็พูดเข้าเรื่องที่อยากจะพูดจริงๆก็คือ "ตอนนี้ซาดูร่ากับเซดเดี่ยม ลูกชายของเธอกับไซเมี่ยน สบายดีกันแล้วน่ะ"
              "ซาดูร่ากับลูก อยู่กับพวกคุณละสิคะ" สเปียริทพูดเชิงกระซิบเพราะไม่แน่ใจว่าจะมีใครได้ยินหรือเปล่า
              เรมมิสพยักหน้าและเล่าต่อ "แม้ว่าพวกกริเดี้ยนโร็คจะปรากฎตัวเพียงประปรายกัน โดยไม่เห็นตัวคามาลตัสโผล่หัวมา แต่....นั้นบ่งบอกได้ว่า คามาลตัสพยายามที่จะหาตัวไซเมี่ยน ด้วยการจับตัวซาดูร่ากันให้ได้นี้แหละ ซึ่งนั้นก็ทำให้อดีตสมุนแก็งค์กริเดี้ยนโร็คที่ยังไม่เข้าร่วมกับคามาลตัส หลบซ่อนไปอยู่ตามดาวต่างๆ เพื่อให้รอดจากสายตาของพวกกริเดี้ยนโร็คของคามาลตัส จากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือพวกเสียผลประโยชน์กันด้วย ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ซาดูร่าต้องพาลูกมาอยู่กับพวกเรา ก่อนที่ฉันกับทุกๆคน ตัดสินใจให้เธอไปหลบซ่อนในที่แห่งหนึ่ง ซึ่งฉันคงบอกพวกนายกันไม่ได้หรอกน่ะ"
              "เพราะต่อให้มีข่าวประกาศว่าไซเมี่ยนตายแล้ว คามาลตัสที่หัวดื้อมากๆ คงไม่เชื่อแน่ๆว่าไซเมี่ยนตายจริงเลยน่ะ" เจเนลบอก
              คลอเวฟพยักหน้า "ว่าแต่ ไอ้คามาลตัสนั้น คงจะอยู่เบื้องหลังการปรากฎตัวของพวกเฮซเทิร์ซที่ข้ามกำแพงของพวกทรอยอาร์และยูเนี่ยนพีชกันด้วยสิน่ะ"
              "เป็นเช่นนั้นแหละ เพราะนอกจากคิฟทรอนอฟแล้ว คามาลตัสเองก็รู้ที่ทางภายในเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์กันทุกระบบดาวนี้แหละ เลยให้ความช่วยเหลือพวกเฮซเทิร์ซกันไว้น่ะ" เรมมิสบอก "ดังนั้น ฉันกับเครือข่ายแมนิแฟคเตอร์จึงต้องให้ความร่วมมือกับทางการ เพราะผู้การโทมาสและเฮนรี่ ไนท์รู้ดี ว่าพวกเราเป็นกลุ่มเดียวที่รู้ความเคลื่อนไหวของพวกแมนิแฟคเตอร์ รวมถึงพวกกริเดี้ยนโร็คของคามาลตัสกัน แน่นอน ว่าพวกเราจะแจ้งพวกนายหากว่าคามาลตัสกับพวกก่อเรื่องกันด้วยน่ะ"
              พีวิลบอก "งั้นคุณเองก็ต้องระวังตัวด้วยละครับ เพราะคามาลตัสเองก็รู้ว่า คุณเป็นครูของไซเมี่ยนกันน่ะ"
              "หวังว่าพวกนายเจอตัวไซเมี่ยนและบอกกับเขาด้วย ว่าไม่ต้องกลับมา หากคามาลตัสและพวกยังลอยนวลกันอยู่น่ะ" เรมมิสบอก "และขอให้พวกนายโชคดีแล้วกันน่ะ"
              เจเนลบอก "งั้นพวกเราจะไปส่งคุณถึงที่ ก่อนจะไปขึ้นไทรแองเกิ้ลกันน่ะ"

              "เรื่องเดรมิงเกลนั้น จัดการเรียบร้อยแล้วสิน่ะ" เนคมาดูซัมบอก เมื่อพวกพีวิลเดินทางกลับขึ้นยานไทรแองเกิ้ล หลังจากพาเรมมิสไปส่งที่มหาวิทยาลัยกันแล้ว พีวิลพยักหน้า
              คลอเวฟบอก "บอกตามตรงน่ะ เนคเกอร์ ฉันเบื่อที่จะฟังนักการเมืองพล่ามนั้นพล่ามนี้กันแล้ว ทั้งเรื่องอยากจะช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากความยากลำบาก ช่วยแก้ปัญหาที่เราประสบกันอยู่ และทำเพื่อพวกเราทั้งหมดกัน อีโด่ ทีพวกเราสู้แทบตาย ยังไม่ทำให้มันยอมรับกันเลยหรือไงน่ะ"
              "ช่างเถอะน่า คลอเวฟ ท่านวุฒิสมาชิกเดรมิงเกลเลือกของเขาเอง การที่เขาเมินเฉยต่อคำเตือนของเราเมื่อสามปีก่อนเอง ก็คือการตัดสินใจของเขาด้วยน่ะ" พีวิลบอก
              แอมเบอร์กล่าว "แต่ แล้วถ้าเกิดว่าวุฒิสมาชิกเดรมิงเกลทำตามที่เขาขอมากันจริงๆ พวกคุณก็น่าจะรับข้อเสนอกันบ้างนะคะ"
              "แอมเบอร์ เธอไม่รู้หรอกน่ะ ว่าถ้าเราทำตามที่เขาขอ เขาก็จะไม่หยุดขอเราไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่พวกเราเองมีเรื่องที่ต้องทำกันอยู่แล้วน่ะ อีกทั้งเราได้ข้อมูลมาจากลูกชายและคุณเรมมิสถึงเรื่องของเดรมิงเกลมาก่อนหน้า เท่ากับว่าเรามีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธกันนี้แหละ" สเปียริทบอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "เราเองก็มีกฎของพวกเราในเรื่องไม่สนับสนุนกลุ่มการเมืองและบุคคลทางการเมืองกันด้วย จึงไม่มีทางที่พวกเราจะทำผิดกฎในเรื่องนี้กันหรอก"
              "ส่วนหนึ่งเพราะพวกนายเองก็มีกฎเกณฑ์ของพวกนายที่ยึดถือกันไว้แต่แรกสิน่ะ" เฟลิคติดต่อเข้ามาในสะพานเดินเรือ
              โคเซวิคบอก "แต่ตอนนี้ พวกเราต้องรีบไปแก้ไขสถานการณ์ในระบบดาวทั้งแปดดวง ที่อยู่ในเขตอวกาศภาคกลางกันก่อนเถอะ แม้ว่าพวกนายเองไม่เคยไปมาก่อนเลยน่ะ"
              "แล้วพวกนายก็ไม่เคยไปมาก่อนเลยสิ" มาสวาร์ทาร์บอก
              โคเซวิคกล่าว "ทำไงได้ละ พวกเราเองก็งานยุ่งพอๆกันกับพวกนายนี้แหละ อีกอย่าง เขตอวกาศภาคกลางนั้นเป็นเขตของพวกนอกกฎหมายมาหลายร้อยปีกันแล้ว เลยทำให้กองยานสำรวจของแต่ละดาว ไม่กล้านำยานออกไปสำรวจเพียงลำพัง จำต้องมีกองยานรบติดตามไปด้วย เพราะพวกกองโจรสลัดอวกาศนั้นชอบบุกจู่โจมพวกยานสำรวจและยานอวกาศพาณิชย์กันด้วย หรือไม่ก็ ยานเหล่านั้นต้องติดอาวุธหรือว่าจ้างทหารหรือนักล่าเงินรางวัลมาช่วยคุ้มกันด้วยอีกทีน่ะ ซึ่งนั้นก็ทำให้เขตอวกาศภาคกลางนี้ เป็นเป้าหมายของพวกนักผจญภัยและนักสำรวจอวกาศผู้รักความท้าทายกันแน่นอนน่ะ"
              "รวมถึงพวกเราและพวกนายเลยสิน่ะ แม้ว่าพวกเราไม่สามารถออกนอกระบบดาวของพวกเราเองก็ตามน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              โคเซวิคพยักหน้า "ว่าแต่ พวกนายเรียกหน่วยหุ่นรบของพวกนายมาแล้วหรือยังละ"
              "เราให้หน่วย OD89 รั้งท้ายเอาไว้ เพื่อให้พวกเขามาช่วย ในยามที่พวกเราและพวกนายเจอปัญหากันเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              อิลมิคบอก "ว้าแย่จังเลยน่ะ เพราะว่าพวกเราส่วนหนึ่งคิดถึงหน่วยรบเหล่านั้นกันด้วยน่า" และถาม "แล้วตัวแทนเมคโซ่ละ"
              "ฉันได้ให้เมคโซ่ใส่รหัสพิกัดดาวทั้งแปดดวงกันไว้แล้ว ว่าแต่ ของพวกนายล่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก โดยตอนนี้เมคโซ่มาช่วยพวกฟลาแน็กซ์คีย์ข้อมูลพิกัดไว้
              เฟลิคบอก "ซีคเทมพลาร์ได้พิกัดกลุ่มดาวจากเมคโซ่มาให้เราแล้วละ ตอนนี้ เราจำต้องออกเดินทางไปยังเขตอวกาศภาคกลาง เพื่อไปยังกลุ่มดาวทั้งแปดกันนี้แหละ"
              "ส่วนแม่ทัพไซบัลจ์และผู้การทอมมี่จะรับผิดชอบจัดการกับพวกเฮซเทิร์ซ และพวกเดธซิลเวอร์พลาเน็ตที่แทรกซึมเข้ามาในเขตอวกาศเอง ที่เหลือก็คือเป็นงานของพวกเรากันละ" โคเซวิคบอก โดยตอนนี้ นำยานไฮด์เดาท์บินออกมาพร้อมกับเดาท์เทรส 2 ลำด้วยกัน ส่วนยานไทรแองเกิ้ลออกจากท่าเทียบยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
              "ตอนนี้ ฉันจะนำทางให้พวกนายเอง เพราะฉันมีธุระที่ต้องการกันด้วยน่ะ" แอสเทลน่าติดต่อเข้ามาในไทรแองเกิ้ล เมื่อยานเรเซเฟียร์เคลื่อนตัวออกมากันแล้ว
              "เธอจะส่งพวกนักโทษที่รุกรานดาวของเราแล้วสิน่ะ ทั้งๆที่เธอน่าจะใช้พวกนั้นตามหาพวกที่เหลือกันแล้วน่ะ" สเปียริทบอก
              แอสเทลน่ากล่าว "ทีมสอบสวนของท่านซาดีริลได้รับผิดชอบตรงนั้นให้แล้ว พวกนายเองก็พร้อมออกเดินทางกันได้เลย"
              "เข้าใจแล้วละ แอมเบอร์" เนคมาดูซัมกล่าวและสั่งแอมเบอร์โดยทันที
              "เริ่มต้นเดินทางสู่พิกัดที่หมาย ในขอบเขตอวกาศภาคกลาง ตามที่ได้เซตเอาไว้ เปิดระบบไฮเปอร์ไดร์ฟด้วยกำลังสูงสุด ผ่านการนำทางของยานเรเซเฟียร์ นับถอยหลังภายใน 2 นาที ขอให้ทุกท่านในยานหาที่ยึดเอาไว้ด้วยคะ" แล้วลูกเรือทั้งหลาย รวมถึงพวกไทรเมร่ารีบหาที่เกาะทันที "นับถอยหลังออกเดินทางในอีก 10 วินาที 9....8....7....6....5....4....3....2....1...... ระบบขับเคลื่อนความเร็วเหนือแสงเดินเครื่อง ออกเดินทางได้คะ"
              "แว้งๆๆๆๆๆๆ แฟ้วววววว วึมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แฟ้ววววว แฟ้วววว แฟ้วววว แฟ้ววววว" ยานเรเซเฟียร์ออกตัวพุ่งไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยยานไทรแองเกิ้ล ยานไฮด์เดาท์ที่เชื่อมกับยานชั้นเดาท์เทรสสองลำ ทะยานออกไปจากดิสก์เวิร์ดโดยทันที บาแลมโซ่มองออกไปข้างนอก โดยที่เฮนรี่ ไนท์ยืนอยู่ "นั้นขึ้นกับว่าพวกเขาจะแก้ไขสถานการณ์ภายในกลุ่มดาวทั้งแปดนั้นได้หรือเปล่าน่ะ" เฮนรี่กล่าว
              บาแลมโซ่บอก "ถ้าพวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีช ไม่สามารถหยุดยั้งปัญหานั้นได้ พวกเราไม่เพียงจะต้องถูกพวกเดลอาเนี่ยนคุกคามกัน แต่....ภยันตรายในอดีตกาลจะต้องล้างผลาญทุกอย่าง ซึ่งพวกเดลอาเนี่ยนที่สูญเสียซาบราดร้าไปแล้ว ไม่มีทางชนะได้อีกเลย รวมถึงพวกเฮซเทิร์ซเองด้วยน่ะ...."

    การเดินทางของพวกไทรเวเซอร์และกองกำลังยูเนี่ยนพีชในเขตอวกาศภาคกลางได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    โปรดติดตามในตอนต่อไป กับตอนที่ 2 เมนซิกส์ทีนรวมตัวอีกครั้งที่กลุ่มดาวแปดดวง ประเดิมศึกกลางเมืองไซเบอร์
    ตอนหน้า ไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชมาถึงดาวเทคโนตัน ดาวศูนย์กลางของกลุ่มดาวทั้งแปด เพื่อมารับฟังข้อมูลจากผู้นำกลุ่ม แต่ทว่า พวกเดธซิลเวอร์สตาร์ในกลุ่มดาวส่งกองรบเข้ามาจู่โจมกันไว้ ทั้งสองกองจะรับมือกันได้หรือไม่
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×