Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 5 สมรภูมิทะเลทรายอัสนีบาตกึกก้อง กองพันแมงมุมทองคำปรากฎ ครึ่งหลัง

ช่วงที่ 2

          เช้าวันต่อมา ณ.พื้นที่ตั้งของกลุ่มลูกค้ารายสำคัญของลาคาดัล ซึ่งได้ตั้งเต๊นท์ผ้าใบสีขาวเอาไว้หลายหลัง รวมถึงมีรถบรรทุกเคลื่อนผ่านบนพื้นคอนกรีตหนาๆกันด้วย "ฟ้าววววว" ยานบินรูปเต่าทองแล่นลงจอดหลังจากที่บินมาถึงกันแล้ว โดยที่ทหารสวมชุดเกราะที่ส่วนหมวกเป็นทรงผ้าโพกหัวติดแว่นสามตนเห็น จึงติดต่อไปหา "เจ้าบ้านมาถึงแล้วละครับ"

          ปลายสายบอก "ดี ตอนนี้ฉันพร้อมแล้วละ"

          "ครืดดดด กึกกก" ยานบินเปิดประตูด้านข้างเพื่อนำบันไดออกมา ลาคาดัลและทหารแซนดาลจำนวน 4 ตนเดินลงมาจากยานบิน โดยที่เหล่าทหารสวมเกราะสีทองจำนวนหนึ่งนั้น "ฟึ่บบบบบ" ยืนตั้งแถวเรียงหนึ่งขนาบข้างไว้ "ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก" จากนั้นลูกค้ารายใหญ่ผู้ที่มีร่างกายใหญ่โตสวมชุดเสื้อชายยาว ไว้ผมยาวสีขาวติดเครายาวเอาไว้ มากับทหารชายสามหญิงหนึ่ง ซึ่งทหารชายนั้นมีผิวสีเข้ม โดยมีคนหนึ่งที่พันหน้าเอาไว้ ส่วนทหารหญิงนั้นคลุมผ้าปิดปากและโพกผ้าคลุมหัวด้วย "ไม่นึกเลยว่า ท่านจะนำกองรบของท่านมาด้วยน่ะ ท่านบาราแคน" ลาคาดัลบอก

        บาราแคน บุรุษร่างใหญ่กล่าว "ข้านำกองรบมานี้เพื่อให้ท่านวางใจได้ ว่าพวกเราสามารถปกป้องตนเองจากปัญหาที่เกิดขึ้นบนดาวดวงนี้ได้นะสิ"

          "ฉันไม่ชอบการปลอมตัวกันเสียเลย ต่อให้ต้องหลอกไอ้มนุษย์ต่างดาวที่เป็นเจ้าถิ่นเลยก็ตามวะ" ทหารผิวดำผมสีน้ำตาลเข้มบ่น

          ทหารชายอีกคนที่พันหน้าเอาไว้บอก "กูก็พอกันเลย ถ้าไม่เพราะคำสั่งของท่านละก็...."

          "อะแอ่ม" บาราแคนกระแอ่มขึ้นมา ก่อนจะบอกว่า "ท่านลาคาดัล เวลาไม่คอยท่า ข้าแนะนำว่าท่านควรจะลงมือกันเลยดีกว่าน่ะ" ลาคาดัลพยักหน้า แล้วก็ "แป๊ะๆๆๆๆ" ตบมือห้าทีเพื่อสั่งทหารให้นำปีรามิดสีทองห้าอันลงจากยานมา

          "ปีรามิดนี้นะหรือ คือสินค้าที่ผู้นำของเราจะซื้อกันน่ะ" ทหารชายผมทรงหยักกล่าวอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นพวกแซนดาลนำปีรามิดสีทองมาตรงหน้า

          "นี้คือ ไลท์นิ่งเนซัส เครื่องมือสำหรับเก็บกักพลังสายฟ้าจากท้องฟ้าบนดาวดวงนี้ ซึ่งมีปริมาณพลังงานที่สูงค่าอย่างมาก มากพอที่ท่านจะหาแหล่งพลังงานจากที่ไหนมาแทนที่มันไม่ได้แน่นอน" ลาคาดัลกล่าว โดยให้เหล่าทหารนำปีรามิดสีทอง 5 อันไปวางไว้บนผืนทรายกัน "ปี้บๆๆๆๆ" ทหารแซนดาลกดปุ่มบนฐานปีรามิดขึ้น เพื่อ "ครืดดดดด แกร็ก" ยืดยอดปีรามิดขึ้นสูงโดยยอดปีรามิดคลี่ตัวออกเป็นแผงดาวกระจายสีทองขึ้นมา

          "ขอถามอะไรหน่อยนะ ว่าท่านจะนำสายฟ้าลงมายังไง ในเมื่อท้องฟ้าแจ่มใสออกอย่างงั้นน่ะ" บาราแคนถาม

          "ท่านถามมาตรงประเด็นเลยละครับ" ลาคาดัลกล่าว โดยทหารส่วนหนึ่งนำเสาสีทองที่มียอดปีรามิดเล็กๆออกมา "ครืดดด แกร็ก" พร้อมกับเปิดการใช้งานด้วยการยืดยอดเสาและคลี่ยอดปีรามิดให้เป็นแผงเรืองแสงสีทอง "เพราะการจะเก็บสายฟ้าลงมาได้นั้น เราจะต้องใช้ อะเราเซอร์ไพลอน ส่งประจุอนุภาคขึ้นไปบนฟากฟ้า เพื่อรวบรวมประจุไฟฟ้าที่กระจายอยู่เต็มไปหมด รวมตัวกันจนก่อเกิดเป็นเมฆฟ้าผ่าขนาดย่อม ซึ่งเราสามารถควบคุมให้อนุภาคไฟฟ้าก่อตัวและฟาดลงมาตรงไหนก็ได้ ตามที่เราต้องการกันน่ะ"

          บาราแคนบอก "ท่านพูดเหมือนกับว่าท่านใช้เวทย์มนต์เสกและควบคุมสายฟ้าได้ดั่งใจนึกสิน่ะ"

          "วิทยาการของพวกเรานั้นต่างจากเวทย์มนต์ของพวกหัวเก่าอย่างเห็นได้ชัดเลยนะครับ" ลาคาดัลบอก แล้วก็พยักหน้าให้ทหาร "ปี้บๆๆๆๆ" กดปุ่มที่แผงควบคุมในมือถือ "แว้งงง แว้งงงงง แว้งงงงง แว้งงงง" แผงพลังแสงของอะเราเซอร์ไพลอนเรืองแสงขึ้นมา จนทำให้ท้องฟ้าเหนือค่ายของบาราแคนที่แจ่มใส แปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มอย่างรวดเร็ว จากการที่เมฆดำก่อตัวขึ้นมา "ครืนนนน ครืนนน ครืนนนน ครืนนนน เปรี้ยะๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงงง เปรี้ยงงงงง" ซึ่งได้ส่งเสียงฟ้าร้องกึกก้องขึ้นก่อน ตามด้วยสายฟ้าฟาดลงมาที่ไลท์นิ่งเนซัสทั้งห้าอันอย่างจังๆ "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ แว้งงง แว้งงง แว้งงง แว้งงง แว้งงงง"

          ทหารหญิงถาม "เหลือเชื่อ ปีรามิดไม่เป็นอะไรเลยหลังจากถูกฟ้าผ่ากันนิ ท่านใช้วัสดุอะไรมาทำกันละ"

          "เป็นความลับทางเทคนิคกันนะ ไลท์นิ่งเนซัสนั้น พอรับพลังไฟฟ้าจากสายฟ้าฟาดลงมาแล้ว เครื่องจะทำการรวบรวมพลังงานไฟฟ้าที่ถูกส่งมาในนี้ ด้วยการเก็บกักอยู่ในแคปซูลแก้วที่เราทำขึ้น เพื่อให้พวกท่านสามารถขนส่งไปไหนต่อไหนได้ โดยที่พลังงานในแคปซูลนี้ สามารถอยู่ได้นาน 5 เดือนเต็ม และพลังงานในนี้ มากพอที่จะจ่ายพลังให้กับชุมชนใหญ่ได้นานเป็นปีเลยละครับ" ลาคาดัลกล่าว โดยที่ปีรามิดสีทองนั้นได้นำแคปซูลพลังงานเรืองแสงสีทองออกมา

บาราแคนเลยให้ทหารผมหยักและทหารผมสีน้ำตาลเดินมาใช้เครื่องมือที่ข้อมือซ้าย "วืดดดดดดด ครี้งงงงงง" ตรวจสอบพลังงานจากแคปซูลจนพบว่า "นายท่านครับ เครื่องวัดพลังงานจากแคปซูลแล้ว มันมีพลังราว 56,000 กิก้าโวลท์เลยละครับ" ทหารผมสีน้ำตาลบอก

          "ว่าแต่ ข้าจะได้แคปซูลเหล่านี้กันยังไงละ" บาราแคนถาม

          ลาคาดัลบอก "นั้นขึ้นกับว่า ท่านกับพวกมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าชิ้นเยี่ยมของข้ากันบ้างนะครับ" บาราแคนพยักหน้าให้กับทหารผ้าพันแผล "แป๊ะๆๆๆๆ" ตบมือ 5 ทีให้ทหารสวมเกราะ "บรืนนนนนนน" ขับรถบรรทุกแล่นมาพร้อมกับ "ทองคำแท่งบริสุทธิ์จำนวน 60,000 แท่งนี้ คิดว่าจะซื้อได้เท่าไหร่กันละ" บาราแคนบอก

          "แคปซูลพลังงานไฟฟ้าของข้า น่าจะใช้ทองคำเหล่านั้น เยอะในระดับหมื่นแท่งนะครับ" ลาคาดัลต่อรอง ทหารหญิงเลยรีบเดินไป แล้วก็กลับมาพร้อมกับเหล่าทหารหญิงสวมเกราะ ถือโคตรเพชรก้อนโตมา โดยอีก 28 ตนก็แบกโคตรเพชรมาคู่ละก้อนด้วยกัน "โคตรเพชรขนาด 640 กะรัต จำนวน 10 ก้อนนี้ เจ้าเห็นว่ามันมีค่ามากมายแค่ไหนน่ะ" บาราแคนกล่าว

          "ในความเห็นของผมนั้น 5 ก้อนคงได้แค่แคปซูลหนึ่งหน่วยเท่านั้นเองละครับ" ลาคาดัลตัดราคาครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ตนได้ผลกำไรกันมากขึ้น

          ทหารผ้าพันแผลบอก "แล้วมึงอยากจะได้อะไรกันมิทราบละ ในเมื่อเรามีเท่าที่เรามีกันวะ"

          "ผมขอดูอาวุธของพวกท่านสักหน่อยนะ ซึ่งผมอยากรู้ว่าพวกท่านรับมือกับพวกบุกรุกกันยังไงละ" ลาคาดัลบอก ทหารผมสีน้ำตาลส่ายหน้าไว้

บาราแคนจึงกล่าวไปว่า "ย่อมได้อยู่แล้ว" จากนั้นก็ "เป๊าะ" ดีดนิ้วขึ้น "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆ" ทหารชุดเกราะทั้งหลายรีบวิ่งมาต่อแถวหน้ากระดานตรงหน้าลาคาดัล พร้อมกับ "ฟึ่บบบบบบบ" นำปืนยาวต่างขนาดออกมาด้วย "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นก็ปรากฎเป้ายิงขึ้นที่ผืนทรายที่อยู่คนละฝั่งจำนวน 30 เป้า "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปุ๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดยเป้าชุดแรกถูกยิงถล่มจนพังไป 20 เป้า จากนั้นก็มีเป้าของพวกไทรเวเซอร์โผล่มา "ตรุ้งๆๆๆๆๆ แฟ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทหารชุดเกราะก็ยิงจรวดและระเบิดเข้าถล่มใส่จนเป้าของพวกไทรเวเซอร์กระจุยไปกันหมด "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นก็มีเป้าของหน่วยรบวิหค ทีมวูเซียทและสติลลิมบ์โผล่มาในระยะห่าง 10 เมตร "ซูมมมมม ซูมมมมมม ซูมมมมม ซูมมมมม ซูมมมมมม" ทหารอีกชุดหนึ่งเดินมาใช้ปืนยาวติดเครื่องพ่นไฟแผดเผาเป้าเหล่านั้นจนกระจุย "ฟึ่บๆๆๆๆๆ" จากนั้นทหารที่อยู่แถวหน้าที่ถอยออกมา นำปืนกระบอกยาวที่มีปากกระบอกเป็นกระจกใสสีเทา "หึมๆๆๆๆ แชด แชด แชด แชด แชด แชด แชด แชด" ยิงลำแสงพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนทะลุเป้าที่เหลืออีก 10 ให้แตกกระจุยไป "สุดยอด แบบนั้นสิ ผมค่อยวางใจกันได้หน่อยหนึ่งน่ะ" ลาคาดัลกล่าวอย่างลิงโลดกับแสนยานุภาพที่นำมา

          "แล้วว่าแต่ ท่านคงอยากจะได้อาวุธจากทางเราเลยละสิ" บาราแคนบอก

          ลาคาดัลจึงส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า "ไม่เลย ข้าพเจ้าไม่เก่งในเรื่องอาวุธกันหรอก อีกอย่าง การค้าอาวุธนั้นเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ซึ่งผมไม่อยากจะซื้อความเดือดร้อนเข้าตัวเองหรอกน่ะ" แล้วก็หยิบแพดมาคำนวณราคา "แน่นอน ว่าผมตัดสินใจได้ครับ ว่าแคปซูลแต่ละอันนั้น จะมีราคาเท่าไหร่นะครับ" จากนั้นก็ยื่นแพดมาตรงหน้าพวกทหารลูกน้องของลาคาดัล

          "นี้มันจะมากเกินไปแล้วน่ะ แกคิดราคาแคปซูลหนึ่งอันด้วยทองคำ 20,000 แท่งเลยหรือวะ" ทหารที่พันผ้าที่หน้าโวยลั่น

          ทหารหญิงบอก "สำหรับพวกเรา โคตรเพชรที่อยู่ตรงหน้านี้ ราคามากกว่าเพชรปกติที่ผ่านการเจียระไนตั้ง 10 เท่า แต่นี้ท่านตั้งราคาเพชร 10 ก้อนต่อแคปซูลหนึ่งอันด้วยนิ ท่านกะจะโก่งราคาพวกเราเลยหรือไง"

          "ผมแค่อยากจะรู้ว่า พวกท่านมีทรัพย์มากพอที่จะซื้อสินค้าของผมกันบ้างหรือเปล่าน่ะ ซึ่งถ้าพวกท่านมีเยอะกว่าที่คิดไว้ ผมพอจะพิจารณาลดราคาลงในระดับหนึ่งกันได้บ้างน่ะ" ลาคาดัลบอก

          ทหารผมสีน้ำตาลบอก "เรากลัวว่าท่านจะอัพราคาขึ้นเป็นสองสามเท่ากันซะมากกว่าน่ะ เพราะเราเคยเจอคนแบบท่านอยู่เยอะ ซึ่งต่อให้เอาทรัพย์สินมีค่าที่มากกว่ามากอง ท่านก็คงไม่คิดจะลดราคาลงตามที่พูดไว้หรอก"

          "พวกเจ้าพอได้แล้วละ" บาราแคนบอก แล้วก็กล่าวไปว่า "เราไม่อยากให้การเจรจาต้องยืดเยื้อไปมากกว่านี้แล้ว ข้าตกลงซื้อเลยแล้วกัน"

          ลาคาดัลบอก "วิเศษ งั้นท่านก็รีบจ่ายมาได้เลยครับ"

          "ได้อยู่แล้ว" บาราแคนกล่าว พร้อมกับ "แป๊ะๆๆๆ แป๊ะๆ" ตบมือสองจังหวะ โดยจังหวะแรกตบไปสี่ที จังหวะสองอีกสองที จน "ตึกๆๆๆๆๆๆๆ" เหล่าทหารสวมเกราะที่ทดสอบอาวุธมานั้น "ฟึ่บๆๆๆๆ" แห่มาตรงไลท์นิ่งเนซัสและอะเราเซอร์ไพลอนโดยเร็ว

          "เดียวก่อนน่ะ คนของท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ทั้งสองอย่างนั้นไม่ใช่สินค้าที่ข้าจะขายสักหน่อยน่ะ" ลาคาดัลบอก

          "ข้าคิดว่า การซื้อแค่แคปซูลที่บรรจุพลังงานอยู่เป็นจำนวนมากนั้น คงได้ไม่คุ้มกับที่ข้ากับพวกเสียเวลาเดินทางมาที่ดาวของเจ้ากันได้แน่ๆ ดังนั้น มันจะดีกว่ามาก หากข้าจะซื้อ ปีรามิดเก็บสายฟ้าและเสาควบคุมประจุไฟฟ้าของเจ้ามาเสียเอง ด้วยราคาเดียวกันกับแคปซูลเหล่านี้เองแหละ" บาราแคนบอก

          ลาคาดัลบอก "ข้าขายเพียงแค่แคปซูลพลังงานเท่านั้นน่ะ และถ้าพวกท่านเอาทั้งเสาและปีรามิดนั้นไป แล้วข้าจะเอาอะไรไปขายลูกค้ารายอื่นกันละ"

          "ถ้าเจ้าไม่อยากจะเสียของเหล่านั้น เจ้ามีสองทางเลือก ระหว่างลดราคาแคปซูลเหล่านี้ลงตามที่เราต้องการ หรือ....ขายทั้งปีรามิดและเสานี้ในราคาเดียวกับแคปซูลกันนี้แหละ" บาราแคนบอก โดยเหล่าทหารสวมเกราะถืออาวุธปืนจ่อตรงทหารของลาคาดัลที่มีเพียง 10 ตนเท่านั้น "และที่สำคัญ ข้าไม่ชอบพ่อค้าที่เอารัดเอาเปรียบเพื่อหวังผลกำไรจำนวนมากกันด้วย เพียงแต่ข้าไม่อยากจะวอนหาเรื่องกับต่างดาวอย่างเจ้า ฉะนั้น เจ้าควรจะคิดให้ดีๆ เพื่อที่เจ้ารอดกลับไปค้าขายให้ผู้อื่นกันได้น่ะ"

          ลาคาดัลได้ฟังก็รีบบอกไปว่า "ก็ได้ๆๆๆๆ งั้นข้าจะลดราคาแคปซูลลงเพียงครึ่งเดียวแล้วกันน่ะ"

          ดี เจ้าตัดสินใจถูกต้องแล้วละ" บาราแคนบอก แต่ไม่ทันไร.... "แชดดดดด ป้ากกกก" มีลำแสงยิงจากด้านข้างเข้าใส่บาราแคนจน "พรึบบบบบบ" ไฟลุกแขนซ้ายอย่างจังๆ

          "องค์ชาย ไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" ทหารผมสีน้ำตาลโวยลั่นขึ้นมา

          "ข้าไม่เป็นไรหรอก ธาลเดน เพียงแต่......." บาราแคนกล่าวโดยหันมายังทหารแซนดาลทั้ง 15 ตน โดยมีตนหนึ่งถือปืนกระบอกขาวสลับแดงในมืออยู่

          ลาคาดัลบอก "พวกเจ้า ไปเอาอาวุธของฝ่ายตรงข้ามกันได้ไง"

          "ได้สิ เพราะว่าทหารของท่านนั้น มิใช่ทหารของท่านอย่างแท้จริงนะสิ" บาราแคนบอก

          ทหารแซนดาลทั้งหลายจึง "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สลัดเกราะออก จนเผยให้เห็น.... "กะแล้วว่าต้องเป็นพวกมึงจนได้สิน่ะ ไอ้กองรบชุดเกราะของฝ่ายสหพันธมิตร พวกมึงกล้าแฝงตัวเข้ามาเล่นงานท่านดูแรนซินกันได้น่ะ" ทหารผ้าพันแผลโวยลั่น เมื่อเห็นกองกำลังแบ็คไซด์คอมแบทในชุดยูนิฟอร์มกันแล้ว

          "พวกเรากล้าได้ไม่แปลกหรอก เพราะว่าเรารู้แล้ว ว่าพวกแกต้องมาที่ดาวดวงนี้เพื่อมาซื้อขายกับลาคาดัลกันน่ะ ไฟร์แอนท์อิคนีด" ช็อปเปอร์บอก "รวมถึงพวกนายด้วย มดนรกดอสเซอร์ แมลงทับร้อยแผลธาลเดน แม่ม่ายดำไดซ์ซี่ ต่อให้ปลอมชื่อปลอมแซ่ แต่ตราบใดที่พวกนายไม่ปลอมตัวเหมือนเหนือหัวของนาย ก็ไม่มีความหมายกันหรอกน่ะ"

          เฟรดกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะ คุณไม่ชอบการปลอมตัวเป็นผู้อื่น จากการที่คุณหวิดถูกพวกคุณพีวิลจับได้พร้อมกับพวกองค์ชายจาฟฟาร์ลเมื่อสามปีก่อนสิน่ะ คุณธาลเดน คุณถึงหงุดหงิดก่อนเป็นรายแรกเลยน่ะ"

          "ที่แกพล่ามได้นิ ส่วนหนึ่งแกคงรู้จากพวกไทรเวเซอร์สิน่ะ ไอ้เหยี่ยวดินระเบิดรุ่นสอง เฟรด มาร์ติน แกน่าจะโดนท่านจาฟฟาร์ลกระทืบตายไปแล้วแท้ๆ ไม่น่ารอดมาได้กันหรอก" ธาลเดนบอก

          ทหารหญิงไดซ์ซี่ชูกำปั้นซ้ายขึ้น "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ" เหล่าทหารชุดเกราะแห่แหนออกมาพร้อมกับอาวุธในมือแล้ว "เกรงว่าต่อให้แกรู้เรื่อง แกคงหนีพวกเราไปไม่ได้หรอกน่ะ"

          "พวกแกทำอะไรกับลูกน้องที่มาอารักขาฉันกันละ" ลาคาดัลเห็นและถาม

          แรมเบจบอก "เกรงว่าพวกนั้นเสร็จเราไปตั้งนานแล้ว ปานนี้ พวกมันคงยังไม่ตื่นหรอกมั่ง"

          "ท่านลาคาดัล เกรงว่าท่านควรจะรีบกลับไปกันได้แล้ว เพราะที่แห่งนี้ไม่ปลอดภัยกันแล้วละ" บาราแคนบอก แล้วก็ "ฟึ่บบบบ" ชูนิ้วโป้งหันลงพื้น เหล่าทหารสวมเกราะเลยชักปืนมา "หวับๆๆๆๆๆ ฉึกกกก" รอมมิชควงง้าวขึ้นเหนือหัวพร้อมกับปักลงพื้นจนเกิดกำแพงหินขึ้นมาล้อมรอบพวกเฟรดกัน "ฟึ่บบบบ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆ ฟ้าวๆๆๆๆๆ" ทหารชุดเกราะกราดยิงทั้งปืนกล จรวดและระเบิดเป่าถล่มใส่ "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ บรึมๆๆๆๆๆๆ" จนกระเทาะกำแพงหินที่ล้อมรอบจนแตกกระจุยไปหมด โดยที่พวกกองกำลังหลังฉากทุกตนสวมชุดเกราะออกรบแล้ว

          "อะไรเนี้ย นี้พวกนั้นมีเกราะสวมด้วยหรือ เป็นไปได้ไงกันน่ะ" ลาคาดัลโวยลั่นขึ้นมา

          "จะบอกอะไรให้ก็ได้น่ะ ท่านลาคาดัล พวกนี้เป็นพันธมิตรของพวกไทรเวเซอร์กันนะสิ" บาราแคนบอก และหันมายังพวกกองกำลังหลังฉาก "แต่เกรงว่าต่อให้พวกเจ้าบุกมานี้ได้ พวกเรา กองรบของราชอาณาจักรทองคำสเตรดาร์ธ คงไม่ปล่อยให้พวกเจ้ารอดไปได้กันหรอก" พร้อมกับสั่งเหล่าทหารทั้งหลายไว้

          บาร์ทกล่าว "แย่หน่อยน่ะ ที่พวกเราเข้ามาได้ ก็หาเรื่องออกมาได้กันนี้แหละ"

          "ถึงไม่ใช่พวกองค์ชายจาฟฟาร์ล แต่อย่างน้อย ขอฟัดกับพวกแกสักหน่อยก็ยังดีละวะ" น็อกกี้บอก

          เฟรดกล่าว "ถ้าพวกท่านกล้าวอนหาเรื่องกับเราละก็...." แล้วก็กวักมือขวาเข้ามา "แน่จริงก็เข้ามาเลยสิ องค์ชายแมงมุมทองคำ ดูแรนซิน!!!"

          "สเตรมทรูปเปอร์ จัดการกับพวกชุดเกราะปากดีเหล่านี้ซะ" ไดซ์ซี่สั่ง เหล่าทหารนักรบถือดาบโค้ง ขวานและตะบองเข้ามา "บุกเลย!!!!" รอมมิชบอก แล้วทั้ง 15 ตนก็บุกเข้าใส่โดยเร็ว "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ ป้ากกกก ป้ากกก" โรซารี่ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าเหยียดขาคู่ถีบใส่สเตรมทรูปเปอร์หญิงที่ถือกระบี่ยาวจนล้ม จากนั้นก็ "หวับๆๆๆ กร้องๆๆๆๆ" นำตะบองกลมสองอันจากหลังเอวมาโต้ตอบสเตรมทรูปเปอร์หญิงที่ถือตะบองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง "หวับบบบ ป้ากกกก หวับๆๆๆ ปึกกกก" จากนั้นก็หลบการหวดตะบองของสเตรมทรูปเปอร์หญิงที่ฟาดมา ด้วยการหลบออกด้านข้างและหวดตะบองในมือขวาฟาดเข้าที่หัว จากนั้นก็ควงตะบองในมือซ้ายหันหัวตะบองกลมกระทุ้งใส่ท้องสเตรมทรูปเปอร์หญิงที่บุกมาข้างหลังให้จุก พร้อมกับ "หวับบบ ป้ากกก" ลุกขึ้นสบัดขาถีบสูงเสยปลายคางสเตรมทรูปเปอร์หญิงที่อยู่ข้างหลังจนล้ม "หวับบบ ฟ้าววววว ฟ้าววว กร้องๆ" จากนั้นก็กำด้ามตะบองให้หัวตะบองกลมเรืองแสงสีเขียวและซัดออกโดยตะบองติดโซ่สีเขียว พุ่งเข้าอัดใส่หน้าสเตรมทรูปเปอร์สองตนที่ถือคาดัลท์ไรเฟิ่ลจนล้ม "เคร้งงงง แคร้งงง เคร้งงงง" ช็อปเปอร์หวดขวานสู้กับสเตรมทรูปเปอร์ที่ถือขวานมาอย่างดุดัน "รีบเฉาะมันให้ได้ก่อนที่มันจะหุ้มตัวให้แข็งขึ้น" สเตรมทรูปเปอร์ตัวหัวหน้าหน่วยบอกกับลูกน้องให้แห่มาใช้ขวานรุมโจมตีใส่ช็อปเปอร์ "ไม่มีทางซะหรอก เพลงขวานเหล็กไหล คมอัสนีบาตผ่าเส้นขอบฟ้า" ซึ่งกำด้ามขวานให้คมเกิดประกายสายฟ้าเข้าแล้วก็ "หวับๆๆๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" ซัดขวานเข้าปะทะใส่พวกสเตรมทรูปเปอร์กัน

          "เคร้งงง แคร้งงงง เคร้งงงง เคร้งงงงงง" แรมเบจหวดดาบฟันใส่สเตรมทรูปเปอร์ที่ถือดาบโค้งเข้ามาจนล้มกลิ้งไปหลายตน "ซูมมมมมมมมมมมมม ซูมมมมมมมมมม" ทหารสเตรมทรูปเปอร์รีบนำคาดัลท์ไรเฟิ่ลติดปืนพ่นไฟฉีดเพลิงเข้าใส่ "พรึบบบบ แว้งงงงง" แรมเบจนำดาบโค้งดูดซับพลังเพลิงเข้ามาแล้วก็ "เพลงดาบอัคนี เพลิงพลาญเหนือแม่น้ำแดง" หวดดาบซัดคลื่นเพลิงแผดเผาใส่พวกสเตรมทรูปเปอร์จนไฟครอกตาม "ดับเบิ้ลแอสเซาท์ไรเฟิ่ล" แฮรี่กราดยิงปืนกลสองลำกล้องเข้าใส่สเตรมทรูปเปอร์จนล้มไปกันหมด "โว้ยยยยยย" ทหารสเตรมทรูปเปอร์ถือกริชยาวเข้ามาเพื่อแทงใส่แฮรี่ "กร้องงงง" ซึ่งรีบยกแขนหันหลังแขนอันหนามาป้องกันเอาไว้ "วาช้ากกกก" คีธวิ่งเข้ามา "เปรี้ยงงง" ถีบสเตรมทรูปเปอร์ให้ล้ม พร้อมกับ "วอลแกรมไรเฟิ่ล มัคซ์ร็อคเก็ต" ยิงจรวดเข้าใส่สเตรมทรูปเปอร์ที่ถือคาดัลท์ไรเฟิ่ลติดเครื่องยิงจรวดอยู่บนรถบรรทุก "ตรูมมมมม" จนเป่ารถบรรทุกปลิวขึ้นไปพร้อมกับสเตรมทรูปเปอร์ 3 ตนกันด้วย "ฟ้าวววว ซูมมมมมมมมมมมมมม" น็อกกี้กระโจนเข้าสาดเพลิงฮ็อดร็อดเบิร์นเนอร์ใส่สเตรมทรูปเปอร์ที่ถือหอกจนมอดไหม้ แล้วก็ "เคร้งงง เคร้งงงง อ้านๆๆๆ หวับๆๆๆ ปั้ก" หวดขวานไนโตรแอ็กซ์ใส่สเตรมทรูปเปอร์ล้มไป 2 แล้วก็บิดคันเร่งให้คมขวานเรืองแสงพร้อมกับซัดปักคาบ่าขวาของสเตรมทรูปเปอร์ถือขวาน พร้อมกับวิ่งเข้ามา "ฉั้วะ" จับขวานฟันซ้ำอีกที "วอลแกรมไรเฟิ่ล พลาสม่าบลัสต์" จากนั้นก็นำปืนยาวสองลำกล้องออกมา "แฟ้ววว ตรูมมมม" ยิงกระสุนพลาสม่าเข้าใส่สเตรมทรูปเปอร์ถือไชน์นิ่งแคนน่อน 2 ตนให้กระเด็น "กริฟซอร์ด" เฟรดนำสนับมือสีแดงออกมา "ครี้งงงงงง" โดยที่สนับส่วนบนสร้างคมดาบทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่วสีดำคมสีขาวออกมา "เคร้งงง แคร้งงงง เคร้งงงง เคร้งงงงงง" สู้กับสเตรมทรูปเปอร์ถือดาบโค้งแต่ไม่ใหญ่เท่ากับพวกที่สู้กับแรมเบจกัน "เคร้งงงง ฟึ่บบ ป้ากกก หวับบบ เปรี้ยงงงง ปึ้ก ฟึ่บบบ ป้ากกก" โดยที่ใช้ดาบกดสเตรมทรูปเปอร์ตนแรกที่บุกเข้ามาพร้อมกับแทงเข่าใส่ที่ท้อง จากนั้นก็สบัดศอกซ้ายเข้าหน้ารายที่สองที่บุกมาข้างหลัง จากนั้นก็เสยโก่งสนับมืออัดหน้าตนที่สามให้ชะงัก เปิดช่องให้เฟรดกระโดดแทงศอกลงหัวจนหมวกแตกเป็นสองซีกในทันที "กริฟทอนฟ่า นี้แน่ นี้แน่ นี้แน่" นาเดียบุกจู่โจมด้วยสนับมือติดนีอ้อนร็อดสองอันฟาดใส่สเตรมทรูปเปอร์ที่ถือตะบองจนล้ม แล้วก็ "ป้ากกก หมับ หวับๆๆๆ โครมมม" กระทุ้งปลายยาวของทอนฟ่าเข้าที่ท้องสเตรมทรูปเปอร์หญิง แล้วใช้ทอนฟ่าอันขวาเกี่ยวตรงหลังคอและเหวี่ยงทุ่มไปอัดกับอีกสองรายให้ล้ม "ฟ้าววววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆ" มาริพุ่งหลบหลีกกระสุนที่พวกสเตรดาร์ธกราดยิงเข้ามา และยิงซ้ำด้วยชูริเคนแมชชีนกันเล่นงานซ้ำ "เจ้ ระวัง" แด็กซ์ตะโกน เพราะสเตรดาร์ธเกราะรัคซอน ซึ่งสวมเกราะหนายิงจรวดเข้ามา "แฟ้ววววว ตรูมมมม บรึมมมม" แต่มาริหลบออกอย่างรวดเร็วเสียก่อน "อิมแพคเกรเนด" แด็กซ์สวนกลับด้วยเครื่องยิงกระสุนระเบิดที่ด้านบนและล่างท่อนแขนข้างซ้าย "ตรุ้งๆๆๆ ตรูมๆๆๆ" จนเป่าถล่มรัคซอนสองตนกระเด็นไป สเตรมทรูปเปอร์ 3 ตนเตรียมไชน์นิ่งแคนน่อนมา "ไม่ให้ยิงได้หรอก เลเซอร์โซนิคบีมมมมม" แจ็สยิงลำแสงจากฝ่ามือขวาเข้า "แชดดดดด ป้ากกก ตรูมมมม" เป่าระเบิดสเตรมทรูปเปอร์ที่ใช้ไชน์นิ่งแคนน่อนให้ปลิว "ยิงแสงมาใช่มั้ย เจอลำแสงนี้หน่อยเป็นไง วอลแกรมไรเฟิ่ล ไชน์นิ่งลันเชอร์" แจ็สสาดลำแสงความเร็วสูงพุ่งอัดใส่รัคซอนที่วิ่งเข้ามาจนกระเด็นไป

         "กองรบดียิปโต้ ออกมายำพวกสหพันธมิตรนี้หน่อยเร็ว" อิกนีดตะโกนลั่น แล้วเหล่านักรบชุดเกราะสีทองทรงฟาโรห์ชุดหนึ่ง แต่มีโลห์ที่แขนซ้ายและสวมหน้ากากแบบมัมมี่พุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก "พวกมัมมี่เกราะทองมาแล้ว" น็อกกี้บอก โดยตอนนี้เหล่าดียิปโต้ส่วนหนึ่ง "ครืดดดด แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กลุ่มหนึ่งยิงไชน์นิ่งแคนน่อนจากส่วนแขนซ้ายลงมา "หว่า" นาเดียรีบโดดหลบออกมาก่อนที่จะโดนลำแสงระดมอัดใส่ เช่นเดียวกับแรมเบจและบาร์ทรีบวิ่งหนีออกมา "เอานี้ไปเลย ดริฟท์ไดมอนด์ ชาร์จช็อต" นิคกระหน่ำยิงกระสุนเกล็ดน้ำแข็งขนาดใหญ่เข้าแช่แข็งพวกดียิปโต้ที่บินอยู่ให้ร่วงลงมา แต่ "ซูม" พวกดียิปโต้รีบทะยานขึ้นด้วยไอพ่นกลางหลังก่อนที่ปลายเท้าจะกระทบกับพื้นไป "ไชน์นิ่งแฟลร์ ชาร์จช็อต" รีฟยิงกระสุนระเบิดพลุแสงต่อเนื่องใส่พวกดียิปโต้ส่วนหนึ่ง ซึ่งรีบบล็อกด้วยโลห์เอาไว้

          "แย่ละสิ พวกมันต้านทานอาวุธของพวกคุณเข้าให้แล้วละ" น็อกกี้บอก โดยที่พวกวูเซียทรีบตั้งบล็อกป้องกันไว้

          "ยังหรอก เพราะเรามีอาวุธขั้นเทพอยู่ใกล้ตัวแล้วน่ะ น็อกกี้ นายกับพวก รีบยิงสวนเลยดีกว่า" แฮรี่บอก โดยหันมายังอะเราเซอร์ไพลอน คีธเลยโยนตลับกลมให้มาริ "ฟึ่บ หวับๆๆๆๆๆ แกร็ก" รับแล้วก็ซัดใส่เสาอะเร๊าเซอร์ไพลอนอย่างทันควัน "แว้ง ปี้บๆๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นคีธก็เปิดโฮโลแพดที่แขนซ้ายอย่างรวดเร็ว โดยที่ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดด แชดดด ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งงงง ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แฟ้ว" เฟรด นาเดียกราดยิงวอลแกรมไรเฟิ่ลเลเซอร์ช็อตเข้าใส่พวกดียิปโต้กัน โดยที่น็อกกี้ แจ็สและแด็กซ์กระหน่ำยิงวอลแกรมไรเฟิ่ลไปด้วย

          "พวก ล็อกเป้าใส่พวกดียิปโต้ด้วยวอลแกรมไรเฟิ่ลไว้เลย" คีธบอก เฟรดและพวกพยักหน้าแล้วก็หันปืนขึ้นไปยังพวกดียิปโต้กัน จากนั้นก็ "ฟึ่บ ปี้บบบ" กดปุ่มตรงวงกลมสีแดงให้เป็นสีเขียวเข้า "แว้งๆๆๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เพื่อควบคุมอะเร๊าเซอร์ไพลอนให้สร้างเมฆดำฟาดสายฟ้าใส่พวกดียิปโต้ช็อตเป็นลูกโซ่ ใส่จนร่วงลงกับพื้นไปเป็นส่วนมาก

          "พะๆๆๆ พวกแก ควบคุมอาวุธลับนี้ได้เลยหรือ ฮึยยยยย" ลาคาดัลโวยด้วยความไม่พอใจ แต่พอแรมเบจและช็อปเปอร์ก้าวเดินเข้ามา ลาคาดัลที่ยั้วะก็เริ่มกลัวและรีบวิ่งหนีขึ้นยานบินไป "ฉันจะไปเรียกกองรบมาจัดการกับพวกแกกันเดียวนี้เลย" โดยที่ทหารฝ่ายตนขึ้นตามไปด้วย จนยานบินรีบทะยานออกไป

          น็อกกี้บอก "เราไม่ต้องตามไอ้ราชาเวรนี้เลยสิน่ะ ลูกพี่แฮรี่"

          "ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของพวกมาสวาร์ทาร์และผู้การโคเซวิคไว้แล้ว คุณโดซี่สั่งให้เรายันพวกสเตรดาร์ธ ไม่ให้พวกมันหลุดออกไปทำซ่ากับพวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชกันก็พอน่ะ" แฮรี่บอก

          นาเดียกล่าว "เกรงว่า เราจะยั่วะโมโหพวกแมงมุมทองคำแล้วละคะ"

          "พวกแกแสบมากเลยนะ ที่เข้ามาก่อกวนพวกเรากันได้น่ะ" ดอสเซอร์โวยลั่นขึ้นมา

          ไดซ์ซี่กล่าว "ก่อนที่พวกเราจะตามไปจัดการกับพวกไทรเวเซอร์ เราขอคิดบัญชีเมื่อ 3 ปีก่อนกันเดียวนี้แหละ" แล้วก็หยิบตราออกมา "แกร็ก แว้งๆๆๆ" ไดซ์ซี่ ดอสเซอร์ อักนีด และธาลเดนสวมเกราะปิดทั้งตัว โดยที่ดอสเซอร์สวมเกราะแบบมีเขี้ยวใบมีดกลางหลัง แขนขาเป็นเกรียวสว่านสีแดง ธาลเดนสวมเกราะโลห์รูปปีกแมลงทับ อักนีดสวมเกราะสีแดงประทับตรามดสีแดงบนหัวและมีเครื่องพ่นไฟที่หลังแขนสองข้าง ส่วนไดซ์ซี่สวมเกราะสีดำติดแขนกลพร้อมปืนยาวและดาบโค้งมา ดอสเซอร์นำหอกยาว อักนีดงัดตะบองสีดำเรืองแสงสีแดง ส่วนธาลเดนงัดขวานออกมา

          "หึ" ดูแรนซินแสยะยิ้มแล้วก็จิกตรงเสื้อคลุมแล้วก็ "ฟึบบบบบ" สบัดชุดออกเผยชุดเกราะสีทองขนาดใหญ่ที่มีหน้าอกสีทองคำขาว โดยมีหมวกทรงผ้าโพกหัวสีขาวติดตราแมงมุมกับหน้ากากสีดำนิลกัน "หมดเวลาร้องขอความช่วยเหลือกันแล้ว เตรียมตัวไว้ได้เลย" ดูแรนซินบอก

          เฟรดกำกริฟซอร์ดเอาไว้ "หวังว่าท่านคงลงเอยเหมือนเมื่อ 3 ปีกันบ้างน่ะ"

          วกกลับมาที่ฟาโรต้า ซึ่งในเวลานี้

          "ลาคาเมสพาพวกมาแล้วละครับ" ทหารแซนดาลในเมืองแจ้งให้ฟีบัสทราบ โดยเห็นกองรบไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชโผล่มาพร้อมกับกองรบแซนดาลของลาคาเมสกัน

          "ฟีบัส ฉันรู้น่ะ ว่าแกยังอยู่ในเมืองนี้ และลาคาดัลเองก็ไม่อยู่ด้วย ดังนั้น ฉันจะกลับมาทวงสิ่งที่ท่านพ่อส่งมอบให้จากพวกแกกลับมากันเดียวนี้แหละ" ลาคาเมสประกาศกร้าว

          "ทั้งๆที่แกเป็นผู้ลอบสังหารบิดาของแกอย่างงั้นนะหรือ เรื่องอะไรจะให้แกได้ครองบัลลังก์กันเล่า" ฟีบัสบอก "และการที่แกนำกองรบจากนอกระบบดาวมารุกรานนครหลวง เราถือว่าเป็นกบฎกันน่ะ"

          โคเซวิคบอก "แล้วพวกแกล่ะ พวกแกรวมหัวกับพวกเดลอาเนี่ยนที่เป็นผู้รุกรานจากเขตอวกาศฝั่งตะวันออกมายึดดาวดวงนี้ พวกแกก็ไม่ต่างอะไรไปกว่าคนทรยศกันละน่า"

          "แค่ความร่วมมือจากภายนอกที่ยื่นมือมาช่วยพวกเราสร้างความมั่นคงของดาวดวงนี้ ให้หลุดพ้นจากอำนาจของพวกเทคนอตที่สร้างกฎเกณฑ์ไม่ให้เราทำอะไรได้ตามใจชอบก็เท่านั้นเองแหละ แม้กระทั่ง เรียกดาวมรณะมาลงโทษพวกสมาพันธ์อวกาศกันด้วย" ฟีบัสบอก โดยประโยคหลังแม้กระทั่งนั้น ฟีบัสพูดด้วยน้ำเสียงแหลมเหมือนคนโรคจิตกัน

          คลอเวฟกล่าว "ลายออกแล้วละสิน่ะ ไอ้เบื้อก" และหันมาถาม "แล้วแกคงอยู่เบื้องหลังการตายของราชาองค์ก่อนอย่างงั้นละสิ"

          "ฉันทำตามคำสั่งของลาคาดัลให้จัดการกับพระราชาองค์เดิมที่ยังทำตามแนวทางของบรรพบุรุษ ที่ขัดขวางแผนการของพวกเรากันไว้ แน่นอน ว่ามันกะจะให้ฉันทำให้พระราชาเป็นอัมพาตจนไม่สามารถทำงานได้ ฉันเลยตัดสินใจจัดการดับชีพพระราชานั้นซะ ซึ่งโชคดีมาก ที่ลาคาเมสอยู่ข้างนอกด้วย ฉันจึงใช้โอกาสนี้ใส่ความมัน ให้เป็นฆาตกรเสียเองนี้แหละ" ฟีบัสบอก "แน่นอนว่าเหล่าทหารที่อยู่ใกล้ก็ต้องรีบมาจัดการกับลาคาเมสกันแน่นอน เพียงแต่ ลาคาเมสฉลาดมากพอที่จะแสร้งทำเป็นตาย เพื่อมิให้พวกเราตามจับกุมไปได้เสียก่อน ซึ่งนั้นก็ทำให้พวกองค์ราชาส่วนมากไม่เชื่อจริงๆ เพราะฉันพึ่งมารู้ว่า ลาคาเมสเป็นผู้พิทักษ์ดวงดาวของดาวดวงนี้โดยไม่ได้มีการแจ้งเป็นทางการกันไว้น่ะ"

          พีวิลบอก "แล้วนายก็หลอกใช้ลาคาดัลที่ขึ้นครองราชย์ต่อ ด้วยการแอบเอาพลังงานไฟฟ้าส่วนหนึ่งไปให้พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตเลยสิน่ะ"

          "ลาคาดัลอยากจะขายพลังงานให้กับพวกจากระบบดาวอื่นในเขตอวกาศนี้ เพื่อเก็งกำไรจากลูกค้าทั้งหลายมาเป็นเงินของตนเองกัน เพียงแต่ราชาองค์ก่อนและลาคาเมสไม่อนุญาต เพราะไม่อยากให้ดาวถูกสูบทรัพยากรอันมีค่าไปจนหมด เหลวไหลสิ้นดี พวกเราอยู่มาได้ตลอด 4 ร้อยปี เพราะพลังงานสายฟ้าของดาวดวงนี้มีมากเหลือล้นไม่จบไม่สิ้น แต่มามัวเก็บกักไว้โดยไม่ได้เอาส่วนมากออกไปเช่นนี้ แถมพวกเทคนอตก็จำกัดการใช้พลังงานให้แค่อยู่ในกลุ่มดาวของพวกเรา มันก็แย่พอดีเลยละสิ" ฟีบัสบอก "ดังนั้น เราจึงตัดสินใจที่จะใช้พลังอันยิ่งใหญ่ของดาวดวงนี้ เรียกมหันตภัยมาเคลียร์พวกต่างดาวทั้งหลายให้ราบคาบไปซะ จนเหลือพวกเราที่เหลือรอดนี้แหละ"

          สเปียริทบอก "ส่วนหนึ่งเพราะพวกนายคิดจะทำลายมหาดารามรณะทิ้ง แล้วประกาศต่อผู้เหลือรอดทั้งหลาย ว่าพวกแกคือผู้กอบกู้กันอย่างงั้นละสินะ บอกตามตรงเลยนะ ว่าคนที่คิดแผนการบ้าๆแบบนี้ จบเห่ไม่สวยมาแล้วน่ะ"

          "ความคิดของนายมันไม่ต่างจากคนในศตวรรษที่ 20 ช่วงต้น ที่คิดว่า โลกมีทรัพยากรธรรมชาติมากมายเหลือล้นพอที่จะนำมาใช้ได้โดยไม่กลัวหมดไป จนทำให้พวกเขาใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง ส่งผลให้ในเวลาต่อมา ทรัพยากรเหล่านั้นหร่อยหลอลงจนไม่มีให้ใช้ในอีก 10-20 ปีข้างหน้ากัน ซึ่งนั้นก็ทำให้มนุษย์ต้องหาพลังทดแทนอย่างอื่นกันไว้น่ะ" มาสวาร์ทาร์เปรียบเปรยการกระทำของฟีบัสและพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตบนดาวดวงนี้กับคนบนโลกในอดีตกาลไว้ "ที่องค์ราชาของแซนดอมองค์ก่อนๆและแกรนด์โอเวอร์เซียร์ฟิวเจนท์จำกัดการใช้พลังงานนั้น ก็เพื่ออนุรักษ์พลังงานของดาวดวงนี้ให้ชนรุ่นหลังได้ใช้กันต่อไป ซึ่งการที่พวกนายอยู่มาได้ตลอด 400 ปีนั้น เพราะบรรพบุรุษของพวกนายเห็นแก่พวกนายในอนาคต แต่พวกนายไม่เพียงทำให้ดาวสูญเสียพลังงานอย่างมาก แต่นายกำลังจะทำให้ชนรุ่นหลังก่อสงครามเพื่อชิงพลังงานที่มีอยู่น้อยนิด แถมยังเอาพลังงานไปใช้ทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยเช่นนี้ พวกเรายอมให้พวกนายทำสำเร็จไปไม่ได้หรอก"

          ลาคาเมสบอก "ก่อนที่ลาคาดัลจะกลับมา ฉันขอสั่งสอนแกก่อนแล้วกัน"

          "พวกแกไม่มีทางขัดขวางแผนการของพวกเราไปได้หรอก เพราะทางเราได้พลังงานส่วนหนึ่งจากดาวดวงนี้ไปให้ลอร์ดมันเทิร์คกันแล้ว" ฟีบัสบอก "ฉะนั้น พวกแกทั้งหลาย เตรียมตัวตายได้เลย เพราะฉันจะทำลายพวกแกให้ทันก่อนที่ท่านลาคาดัลมาถึงกันน่ะ"

          โดยกองรบแซนดาลฝั่งฟีบัสเคลื่อนตัวออกมา ลาคาเมสบอก "เกรงว่าลาคาดัลไม่มีทางมาถึงได้หรอก เพราะเราจะจัดการกับกบฎผู้ทรยศอย่างพวกแกลงตรงนี้แหละ"

           "ประจัญบานเลย" เนคมาดูซัมกล่าว แล้วพาพวกบุกประจัญบานไปพร้อมกับกองรบแซนดาลของลาคาเมส "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ" สตาร์แซนดัสยิงอาร์คเรลกันเข้าใส่กองรบสตาร์แซนดัสของฝ่ายตรงข้ามให้ล้มลง แต่สตาร์แซนไดซ์ ซึ่งเป็นสตาร์แซนดัสสองตัวประกอบบนล่างพุ่งเข้ามา "ธันเดอร์แคนน่อน" ใช้แขนขวาที่มีแง่งหนามสีทองสองแง่งยิงลำแสงสายฟ้าเข้า "ป้ากกก ตรูมๆๆๆๆ" ถล่มใส่สตาร์แซนดัสจนพังไป จากนั้นสตาร์แซนไดซ์หันแขนขวาเพื่อยิงใส่การ์เซนครีทของพวกไลเอิร์ทที่นำหน้ามา "ฟ้าววว ตรูมมม แกร็กๆๆๆๆ" แต่กลับถูกกระสุนพลังเข้าปะทะจนตัวหุ่นถูกแช่แข็งอย่างฉับพลัน "เฮ้ยยยย" ไลเอิร์ทกระโดดขึ้นไปถีบใส่จนตัวหุ่นแตกกระจุย "ฟ้าวว ฟ้าววว ป้ากๆ แกร็กๆๆๆๆ พรึ่บบบบ" จากนั้นสตาร์แซนไดซ์อีกสองตัวที่อยู่ใกล้ก็ถูกยิง โดยตัวหนึ่งถูกแช่แข็ง อีกตัวถูกไฟครอกอย่างฉับพลันกัน ด้วยฝีมือของเบติสกับไคโอเบิร์นเนอร์บลัสต์บอมเบอร์พุ่งมาจากข้างหลัง "ตึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เพรเดแคท แคทครอฟ ลาสแบรท อุลไซน์ไดซ์ โกแซคซอน จูลาสโต้ และเรปแทงเกอร์บุกเข้าใส่ โดยระดมจู่โจมใส่พวกไทรเวเซอร์และแซนดาลของลาคาเมสอย่างหนักหน่วง "แว้งๆๆๆๆๆๆๆ แว้งๆๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆๆๆๆๆ" แอนเดรียใช้ฟาลครีด้าดีเฟนด้าติดพาร์ทเซนติเนลล่า ซึ่งเป็นเกราะคล้ายผ้ากันเปื้อนเพิ่มพลังของโปรเทคต้าไคท์ให้ต้านทานการโจมตีของพวกเดลอาเนี่ยน โดยมีเนคมาดูซัมใช้ฟอสเทสซิกัสติดพาร์ทการ์เดี้ยนฟิสท์ขยายโลห์พลังป้องกันเสริมด้วยอีกที "แชดดดดด แชดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดดด" มาสวาร์ทาร์กับลอร์ดวาทรัลบรีสคาดิลสาดยิงครอสเซียมแลนซ์ลันเชอร์เข้าใส่พวกซอร์แรค ในขณะที่พวกแมทเฟลิมถูกสเปียริท ลิเนียร์ตี้สาดลำแสงกระจายเข้าถล่มใส่ ตามด้วยหน่วยของอาชิลน่า และดอลฟูลนิสไล่ยิงพวกบรูซาเรมตาม "ครืนนนนน ครืนนนนน ครืนนนนน" เรปแทงเกอร์บุกเข้าใส่โดยเตรียมยิงปืนใหญ่อนุภาคที่หัวตะกวดทั้งสองข้างเข้าใส่พวกไทรเวเซอร์ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" เจกรอน่าและทีมวอลเกนถล่มด้วยจรวดและระเบิดจากแถวหลังอย่างหนักหน่วง ทำให้พวกบรูซาเรมนำอุลแลนเดอร์และอุลแคลชเชอร์จำนวนละ 10 คันเข้ามา "ตรุ้ง ตรุ้ง ตรุ้ง แชดดดดด" คลอเวฟ จายด์ สเตฟอร์ดและไซโคลเนียยิงถล่มจากแนวหลัง เข้าใส่อุลแลนเดอร์จนส่วนหัวรถด้านหน้าพังด้วยบลัสต์บาซูก้ากับการีสต้าแคนน่อน ในขณะที่อุลแคลชเชอร์เสียสว่านด้านหน้าไปจากเทมเพสต้าบัสเตอร์ไรเฟิ่ลและไฮโดรบาซูก้ากัน "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดดดดดดด แชดดดด" ไกซ์นำอัลติเมทเอทเฮฟวี่เวพพ่อนถล่มด้วยโชลเดอร์ไมโครลันเชอร์และเฮฟวี่บัสเตอร์ไรเฟิ่ลสองกระบอก ถล่มใส่อุลแคลชเชอร์และอุลแลนเดอร์ที่เหลือจนชะงัก เรปแทงเกอร์เลยรีบเล็งโจมตีใส่ไกซ์และเบติสที่หนุนช่วยพวกเฮเรเค้นที่ไล่จัดการกับพวกพ้องของตนอยู่ "แชดดดด ป้ากกกก" กลับถูกลำแสงสองเส้นพุ่งทะลวงใส่ตรงส่วนหัวด้านหน้าสองข้างจนพัง จากฝีมือของฟาร์โอเวี่ยนติดพาร์ทปืนใหญ่ฮาร์ดแคนน่อนที่บินออกมา "แกร็กๆๆๆๆๆ ครี้งงง ครี้งงงงง" พร้อมกับตกผลึกที่มือทั้งสองข้าง โดยข้างซ้ายเป็นปืนกลพวงห้าลำกล้อง ข้างขวาเป็นปืนยาวกระบอกหนา "ปริซึมสปีดแกตลิ่ง ปริซึมบลัสต์ลันเชอร์ ออโตชู้ต" เมดิน่ากราดยิงห่ากระสุนสะเก็ดผลึกโชนโครคิฟเข้าใส่เรปแทงเกอร์ ที่พุ่งเข้ามากับตัวที่เสียแขนหัวกิ่งก่าด้านหน้าไปเมื่อครู่ จนสะเก็ดพุ่งทะลุอกถึงเตาพลังงานอนุภาคจนระเบิด ส่วนอีก 3 หน่วยที่บุกมาก็โดนกระสุนแสงอัดและแตกระเบิดพังไปด้วย "ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว" พวกสตาร์แซนดัสส่วนหนึ่งบินเข้ามาด้วยบูสเตอร์กลางหลัง "เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" ระดมยิงอาร์คเรลกันเข้าใส่พวกเทรอนเร็กซ์ ไลเอิร์ทและเฮเรเค้นจากกลางอากาศกัน "ฟึ่บๆๆๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆๆๆ" โดยพวกเฮเรเค้นรีบกางคริสตัลอัมเบรล่าป้องกันไว้โดยเร็ว "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆ" พีวิลนำไซน์เกนกันเนอร์บุกกราดยิงทริปเปิ้ลอาร์มชู้ตเตอร์พร้อมกับอีเนลเซี่ยมมิไซล์จากด้านข้างหัวไหล่ ขึ้นไปสอยสตาร์แซนดัสจนร่วง แต่สตาร์แซนไดซ์ส่วนหนึ่งบุกเข้ามาใช้แขนคีมหนีบข้างซ้ายที่มีประจุไฟฟ้าเข้า "เตรียมตัวถูกโวลเทจกริปเดียวนี้เลย" ทหารแซนดาลกลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเนตกล่าว "ตุ้งๆๆๆ ปั้กๆๆๆ ตรูมมมมม" แต่หุ่นกลับถูกกระสุนพลังขนาดเล็กสี่นัดยิงเข้าใส่ท่อนบนและท่อนล่างจนระเบิดไป โดยฝีมือของ "นายพลาดแล้วนะ พีท" เจเนลกล่าวโดยใช้เกรฟเซนติดพาร์ทกันเนอร์ ซึ่งเปลี่ยนหัวปืนสองข้างเป็นช่องยิงสี่ช่องที่ข้างซ้าย แล้วก็ "หึมๆๆๆๆๆๆ แฟ้วววววว ป้าก ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมมมมม" สะสมพลังขึ้นที่แขนข้างขวายิงออกเป็นกระสุนพลังพุ่งอัดใส่สตาร์แซนไดซ์ จนทิ้งลูกบอลพลังอัดปะทะซ้ำอย่างต่อเนื่องจนหุ่นระเบิด ซึ่งสตาร์แซนไดซ์ที่ตามมาอีก 6 ตัวก็โดนถล่มตามจนระเบิดไปด้วย

          "ระวังหน่อยนะครับ คุณเจเนล กันเนอร์พาร์ทใหม่อย่างควอดบุลเล็ตบัสเตอร์ที่ข้างซ้าย และไฮเปอร์บัสเตอร์ที่ข้างขวานั้น มีช่วงดีเลย์การใช้งานกันไว้ค่อนข้างนาน ดังนั้นเวลาจะใช้คุณต้องชาร์จเผื่อไว้ด้วยนะครับ" ฟูแรมบอก เจเนลกล่าว "ใช่ ฉันเห็นแล้วละ" โดยมองไปยังมอนิเตอร์แสดงผลอาวุธทั้งสองข้างที่ระบุผล "Right Arm Cooldown in 15 Seconds Left Arm 60% Charging" กันอยู่  ซึ่งตนรีบหลบการโจมตีของสตาร์แซนไดซ์ที่ใช้โวลเทจกริปเข้าจู่โจม "หึมๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ บรึม" พีวิลเลยสะสมพลังอีเนลเซี่ยมที่ปากกระบอกทั้งหกและกระหน่ำยิงลูกบอลพลัง เข้าใส่สตาร์แซนไดซ์จนแตกระเบิดไปอย่างจังๆ

"ระวังหน่อยนะ เจมส์ อาวุธที่นายใช้ยังต้องปรับอีกเยอะเลยน่ะ" พีวิลบอก เจเนลพยักหน้า โดยตอนนี้พวกสตาร์แซนดัสและแซนไดซ์บุกเข้ามาหมายจะใช้คีมพลังไฟฟ้าเข้าเล่นงานกันอย่างรวดเร็ว "ฟ้าวววววว ฟ้าวววว กรี้กกกกก กรี้กกกกกก ป้ากๆ" สตาร์แซนไดซ์สองตัวถูกกงจักรขวานพุ่งกรีดส่วนหน้าอกและผ่าท่อนบนขาดครึ่งไป โดยที่กงจักรขวานสองอันพุ่งกลับมา "กรึกกก กรึกกก" ติดกับส่วนแขนคู่นอกของควอดเทตทรอสของฟิเกซ ซึ่งมีรูปทรงเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง เพราะท่อนล่างมีสี่ขา และทั้งสี่ขาหุ้มเกราะขาเอาไว้ ซึ่งปลายเท้าลอยเหนือพื้น 4 เมตรด้วยกัน "พาร์ทเหมือนพัลเลทอร์นของซาแรคนั้น น่าจะทำให้ติดพื้นเหมือนเดิมบ้างน่ะ" ฟิเกซบอก

          "พัลเลทอร์นพาร์ทสำหรับควอดเทตทรอสนั้น เป็นรุ่นต้นแบบกันน่ะ คุณฟิเกซ แม้มันจะเหมือนเพิ่มส่วนขาอีกคู่ไว้ข้างหลัง แต่สมรรถนะภาพของมันนั้นยังเร็วกว่าของเดิมเลยนะ" ฟูแรมติดต่อมา

          ฟิเกซกล่าว "เร็วเพราะมีเครื่องยนต์แบบซาลมาร์สใช้กันซะมากกว่าน่า" แล้วก็ "ฟึ่บบบ ครี้งงงงง" หยิบเทตทรอสเบลดสองอัน สะบัดด้ามให้ยืดยาวออกมา "ฟ้าวววววว เคร้งงงง" บุกเข้าใช้เทตทรอสเบลดแบบหอกฟันใส่สตาร์แซนดัสให้ขาดสะบั้น "หวับบบบ หวับบบบ ชรี้ดดดดด กรี้กกกก ฉั้วะๆ" จากนั้นก็ควบคุมแขนคู่นอกสบัดชาร์แครมโทมาฮอคสองข้างเข้าผ่าสตาร์แซนไดซ์ที่บุกมาด้านข้างจนขาดสะบั้น "ฟ้าวววววว" สตาร์แซนไดซ์อีกเครื่องบุกมาจากข้างหลังพร้อมกับใช้คีมโวลเทจกริปเข้าหนีบ "ฟึ่บบบ แกร็ก" ฟิเกซรีบเหยียบแป้นเท้าตรงกลางขึ้น "ครืดดดด" ขาคู่หลังเลื่อนขึ้นมาพร้อมกับ "แว้งงงง ฟ้าวววว ฉึกกกกก" สร้างคมดาบพลังแสงที่ปลายเท้าแทงใส่สตาร์แซนไดซ์และ "หวับบบ ฉั้วะ ตรูมมมม" ขาคู่หลังสบัดไปด้านข้างจนผ่าสตาร์แซนไดซ์ขาดสะบั้นลงให้ระเบิดไป "สตีดเบลดฟีทเปลี่ยนเป็นดาบแสงเลยหรือ แจ่มมากเลยน่ะ ซาแรค" ฟิเกซกล่าวเชิงขอบคุณแล้วก็ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" กราดยิงพลาซอนวัลแคนใส่สตาร์แซนดัสให้พังไป

"กองรบพันธมิตรและกองรบของเราต้านการบุกของพวกมันไม่ได้เลยละครับ" ทหารแซนดาลฝั่งลาคาดัลรายงาน

ฟีบัสบอก "ช่วยไม่ได้ แจ้งให้ยานรบและหุ่นขนาดใหญ่ของฝ่ายพันธมิตรบุกเข้าถล่มใส่ได้เลย"

               ไม่ทันไร ภายในเมืองก็ปรากฎยานรบของพวกซอร์แรค แมทเฟลิมและบรูซาเรมเคลื่อนตัวออกสู่สนามรบ พร้อมกับไดเรปซาร์ทและบรูซาน็อกซ์ รวมถึงแคทเทอบอส ซุปเปอร์วอร์บอทของพวกแมทเฟลิมจำนวนละ 15 เครื่องกันด้วย

          "กลุ่มหุ่นยักษ์และยานรบของพวกเดลอาเนี่ยนออกจากเมืองแล้วละ" ไรแกทบอก

          "โคเซวิค บอกให้ลูกน้องของนายพร้อมเดียวนี้เลย"  เนคมาดูซัมบอก โดยตอนนี้ แคทเทอบอสบุกเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยกงเล็บดาบยาว เพื่อเข้าจัดการกับพวกไทรเมร่าที่นำหน้าอยู่ "หวับๆๆๆๆๆ ฉับ ฉับ" แคทเทอบอสสองตัวถูกขวานพุ่งผ่าตรงบ่าเข้าจนชะงักงันลง พร้อมกับ "ฟ้าวววว ป้ากกกก" ริชาร์ทกระโจนเข้าถีบใส่แคทเทอบอสจนฉีกท่อนบนขาด จากนั้นก็ "หวับบบ เปรี้ยงงงง" พุ่งเข้าชกใส่แคทเทอบอสตัวที่สองจากข้างหลังอย่างทันควันโดยบีบเตาพลังงานอนุภาคที่อยู่ในมือแหลกตาม "ฟ้าววววว กร้องงงงง" เร็กซอนบุกจู่โจมด้วยเดสทรอยแฮมเมอร์อัดใส่บรูซาน็อกซ์ตรงหน้าอกจนหุ่นระเบิดไป "ฟ้าวววว ฉั้วะๆๆๆๆ" แคทเทอบอส 5 ตัวถูกเซรีนใช้ดาบบูมเมอแรงปีกฟาดฟันจนตัวขาดไป เช่นเดียวกับ "สเปคเทรี่ยนเซเบอร์" โครว์เชดสร้างดาบอนุภาคขนาดยาวจากหลังแขนขวาเข้า "หวับบบบ ฉืบๆๆๆๆๆๆ" ฟันใส่แคทเทอบอส 7 ตัวให้ตัวขาดพร้อมกันก่อนที่จะบุกเข้ามา จนเหลือตัวเดียวที่บุกเข้าใส่ "ฟ้าวววววว ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆ" อิลมิคเลยนำชาร์โดววิงค์ฮาเคนบินโฉบและโปรยไมโครมิไซล์ลงพื้นสกัดกั้นแคทเทอบอสเข้า "ว้ากกกก" อาแรคคัสกระโจนเข้า "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำจู่โจมด้วยแขนทั้งหกใส่แคทเทอบอสอย่างไม่ยั้งจนแคทเทอบอสยับเยิ่นและ "ตรูมมม" หุ่นระเบิดไปในทันที "ตรุ้งๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดด แชดดดด ปังๆๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆๆ แชดด แชดด แว้งๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆ" ครีซ กริซซิก และวิเวลลี่กระหน่ำถล่มใส่ไดเรปซาร์ทและบรูซาน็อกซ์ให้ยับเยิ่นกัน ยานรบทั้งสามลำเลยรีบเตรียมยิงจรวดและปืนแสงจากอากาศสู่ภาคพื้น "แชด แชด แชด แชด แชด" เครนิสและเจกรอน่านำทีมบุกจู่โจมใส่ยานรบบรูซาน็อกซ์ แมทเฟลิมและซอร์แรคกันอย่างหนักหน่วง "เปรี้ยะ เปรี้ยะ ป้ากก ป้ากก ตรูมมม บรึมมมม" โฟรซ่าใช้ฟาร์ไซน์บัสเตอร์ไรเฟิ่ลสองกระบอกยิงใส่ป้อมปืนอนุภาคของยานรบของซอร์แรคจนระเบิดไป "ฟ้าววววววว ฟิ้วๆๆๆๆๆ แชดดดด แชดดดด" มิลด์นำแพนเซสเซนไนน์ติดพาร์ทเฮฟวี่เมทัลอาร์มยิงมิไซล์พ็อด พร้อมกับมาสแตงค์บัสเตอร์ลันเชอร์เข้าใส่หัวยานรบของบรูซาน็อกซ์ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆ แว้งๆๆๆๆ ป้ากก ป้ากก" ซึ่งพวกมันป้องกันตัวด้วยการใช้ปืนเลเซอร์ยิงเร็วจัดการกับห่ามิไซล์ และป้องกันลำแสงอนุภาคพลาสม่าด้วยบาเรียตาม "แชดดดด กรี้กกกก เปรี้ยงงง ตรูมมมม" แต่วิลด้าบินมาใช้สครูวอิมพัลซ์ลันเชอร์ยิงซ้ำตรงจุดเดิม จนลำแสงทะลวงบาเรียอนุภาคเข้าถึงหัวยานจนระเบิดไป "ครืดดด ครืดดด ครืดดดด" ยานของซอร์แรคปรากฎคริฟไฟแทนโผล่ออกมาจากยานกัน "หนอยยย พวกตะกวดให้พวกซีรีสตรัลโดยสารมาด้วยกันแบบนี้ ไม่ดีแน่ๆเลยละ" เจกรอน่ากล่าว

          จิลบอก "พวกนั้นคิดผิดแล้วละ แคลชนอยน์ลันเชอร์ พลังงานเต็มที่" แล้วก็ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเข้าเล่นงานพวกคริฟไฟแทนจน "ปริๆๆๆๆๆ เปรี้ยะ" ร่างของพวกมันแตกร้าวอย่างจังๆ เปิดช่องให้ทีมของเจกรอน่า "ตรุ้งๆๆๆๆๆ" โจมตีด้วยป้อมมิไซล์และอิคนีสแคนน่อนเข้าพิฆาตคริฟไฟแทนให้กระจุยไป

"เตรียมตัวตายได้เลย ยัยบริจเก็ตคนทรยศ" กัปตันยานแมทเฟลิมกล่าวและนำยานพุ่งเข้ามาหมายจะจัดการกับเจกรอน่าและทีมวอลเกน "อิชเชเตียนเฮอริเคนนนนนน" ฟูลออเรสสาดพลังพายุสะเก็ดโชนโครคิฟอัดใส่ยานของพวกแมทเฟลิม จนพังส่วนด้านข้างยานทั้งสองข้างพร้อมกันแล้วก็ "ซูมมมมม ชรี้ดดดดดดดดดด แว้งงงงงง" พุ่งทะยานโดยชูแขนปริซึมดริลสไตร์คข้างขวาที่หมุนอย่างรวดเร็วเพื่อใช้ไม้ตาย "อิชเชเตียน สติงเกอร์แคลชเชอร์!!!!" ท่าพุ่งเจาะสว่านด้วยความเร็วสูง "ฟ้าวววววววววววว ป้ากกก เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆ โปร้งงงงง" ทะลวงจากหัวยานทรงหัวแมวไปยังท้ายยานอย่างรวดเร็ว ซึ่งฟูลออเรสเจาะทะลวงทุกจุดผ่านส่วนเตาพลังงานไปด้วยจน "ตูมๆๆๆๆๆๆ บรึมมมมม" ยานระเบิดจากภายในอย่างต่อเนื่องจนระเบิดวินาศสันตะโรขึ้นอย่างจังๆ ส่วนอีกสองลำ "ตรุ้งๆๆๆ แชดด แชดด แชดด แชดดด" ไทรแองเกิ้ลยิงปืนใหญ่พลังคลื่นถล่มใส่ยานของซอร์แรคให้พัง ในขณะที่ไฮด์เดาท์ยิงปืนใหญ่อนุภาคทะลวงใส่ยานบรูซาน็อกซ์ซ้ำจนกระจุย

          "ท่านลาคาดัลมาหรือยังละ" ฟีบัสบอกอย่างกระวนกระวายกัน

          ทหารแซนดาลรายงาน "เราขาดการติดต่อจากยานบินของท่านลาคาดัลกันนะครับ เป็นไปได้ว่าพวกมันปิดกั้นการสื่อสารไว้นะครับ"

          "เป็นไปไม่ได้น่า พวกมันไม่น่ามีกำลังรบมากพอที่จะยึดฐานทัพส่วนมากไปได้เลยนิน่า ในเมื่อฐานทัพแต่ละแห่งนั้น ถ้าไม่ใช่พวกเราจริงๆ ก็คง...." ฟีบัสกล่าว และสะดุ้งขึ้น "สะ เสร็จกัน....เราพลาดเสียแล้ว"

          ลาคาเมสติดต่อเข้ามา "นายคงรู้แล้วสิน่ะ ถึงอุบายที่ทางเราใช้กับกองรบฝ่ายนายกันไว้ ซึ่งแม้ว่านั้นจะเป็นเรื่องงี่เง่าและไม่อยากทำ แต่....มันก็ได้ผลกันแล้วละ"

          "แกใช้ทหารที่แกรวบรวมมาปลอมตัวเป็นฝ่ายเรา หลอกพวกทหารฝ่ายเราที่พวกแกไปไม่ถึง เพื่อให้พวกนั้นเปิดสนามพลังป้องกันออกจนพวกพันธมิตรของแก ถล่มเครื่องล้างสมองทหารที่เราใช้ให้พังไปเลยสิน่ะ" ฟีบัสบอก "แสดงว่า ฐานทัพโดยรอบเมืองนี้ก็คงจะ..."

          ลาคาเมสบอก "พวกเขารู้สึกตัวกันทั้งหมดแล้ว ว่าพวกเขาโง่มากที่ภักดีต่อลาคาดัลกัน ดังนั้น พวกเขาจึงแก้ตัวด้วยการเอาคืนลาคาดัลที่เข้ามาขอความช่วยเหลือกัน ซึ่งฉันคิดว่า ลาคาดัลคงรีบหนีไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นอีกสามสี่กลุ่มกันแน่ๆ"

          "บัดซบเอ้ย...." ฟีบัสสบถ

          ทหารแซนดาลแจ้งข่าวมา "แย่แล้วละครับ กำแพงด้านนอกฝั่งตะวันออกและตะวันตกถูกถล่มแล้วละครับ" แล้วก็นำภาพ "ฟ้าววววว ตรึงงงง" พลัสเชอริทนำพวกมัลแด็กซ์กระโดดข้ามกำแพงฝั่งตะวันออก หลังจากที่กองรบฝั่งลาคาเมสจัดการกับกองทหารที่ป้องกันไปเป็นส่วนมาก "ตรูมมมมมม" กำแพงฝั่งตะวันตกโดนเป่าถล่มโดยแอบไบออส ซึ่งพาพวกเวลลิทและพวกฟลาแน็กซ์เข้ามาด้วย

          "ร้อยเอก ทุกๆคน เราเข้ามาในเมืองได้แล้วละ ฝั่งพวกเธอละ" แอบไบออสติดต่อเข้ามา

          พีวิลกล่าว "พวกเราฝ่าเข้ามาได้กันแล้วละครับ สิบเอกและพลัสเชอริทช่วยจัดการพวกที่อยู่ในเมืองให้ด้วย" โดยตอนนี้พวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชบุกเข้ามาในเมืองกันแล้ว

          "คิดว่าฟีบัสจะใช้สายฟ้าฟาดลงมาในเมืองกันหรือเปล่าละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว

          ลาคาเมสบอก "ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะกฎมีระบุไว้ ว่าห้ามใช้สายฟ้าฟาดลงมาในเขตเมือง รวมถึงนครหลวง ใครฝ่าฝืนก็ต้องได้รับโทษสถานหนักกันเลยน่ะ" แล้วก็พูดอีกว่า "แต่ฉันแน่ใจว่า ฟีบัสต้องฝ่าฝืนกฎเพื่อหยุดพวกเรากันแน่นอน"

          "คุณแจ้งให้ทหารของคุณช่วยคุ้มกันประชาชนไว้จะดีกว่าน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว

          ลาคาเมสพยักหน้า โดยให้ทหารแซนดาลฝ่ายตน "แชด แชด แชด ตูมๆๆๆ" ยิงทำลายเครื่องล้างสมองที่อยู่รอบเมืองกันไว้ "พวกนายรีบจัดการกับฟีบัสกันโดยเร็วเลย"

          "ฮึยยยยย ไปเตรียมโคลอสซัสมาเดียวนี้ ฉันยอมทำลายเมืองนี้ให้ราบไปซะ ดีกว่าปล่อยให้พวกมันขัดขวางการส่งพลังงานไปให้มันเทิร์คได้น่ะ" ฟีบัสบอก

          ทหารแซนดาลรายงาน "รับทราบ"

               "แคร้งงงง เคร้งงง แคร้งงง เคร้งงงง" ธาลเดนหวดขวานเข้าสู้กับน็อกกี้และช็อปเปอร์ ซึ่งใช้ขวานเป็นอาวุธ โดยพยายามเฉาะใส่ตรงต้นแขน แต่ธาลเดนเลื่อนโลห์ตัวแมลงทับมาบล็อกป้องกันไว้ตลอด "แฟ้ววว หมับบบ" คีธใช้เลเซอร์วิปมัดตัวธาลเดนตรงแขนซ้ายไว้เพื่อดึงเข้ามา แต่ "ฮึยยยย" ธาลเดนกลับดึงตัวคีธเพื่อใช้ขวานหวดฟันใส่ "เกร้งงงง" คีธโต้ตอบด้วยปลายเท้าวอลเจอร์ทาลอนยันต้านคมขวานไว้และ "ป้ากกกก" ถีบใส่ธาลเดนให้ล้ม "ครืนๆๆๆๆๆ ฟ้าวววว" ดอสเซอร์มุดดินลงและพุ่งขึ้นมาหมายจะจัดการกับรีฟที่ไม่ทันระวังตัว "ย้า หมัดเมขลาล่อแก้ว" นาเดียกระโจนพุ่งเข้ามา "เปรี้ยงงง" ชกด้วยหมัดใส่ดอสเซอร์เข้าหลังปีกซ้ายจนเสียหลักลง "หวับๆๆๆๆ ฟึ่บๆๆๆๆ" รอมมิชบุกไปพร้อมกับรีฟที่ใช้กราฟฮัลบาร์ดฟาดฟันโต้ตอบใส่อย่างรวดเร็ว "เฮ้ยยยย  อิคนีดหวดตะบองหินเพลิงเข้าสู้กับโรซารี่ที่ใช้ตะบองเพลิงเป็นอาวุธอย่างหนักหน่วง จนมันเตรียมใช้ไฟร์แอนท์เบิร์นสาดใส่ "ดริฟไดมอนด์" นิคยิงกระสุนเกล็ดน้ำแข็งเข้าแช่แข็งอิกนีดอย่างจังๆ "เพล้งงง" แต่มันก็ใช้ความร้อนกระเทาะน้ำแข็งหลุดออกมาอย่างรวดเร็ว และบุกเข้ามาด้วยตะบองหินเพลิง "ฟึ่บบบ ป้ากกกก" แฮรี่พุ่งเข้ามาเสยหมัดต่อยเข้าหน้าอิคนีดให้ล้มกลิ้งลงกับพื้น "ไวโดวเลคแคนน่อน" ไดซ์ซี่ใช้ปืนยาวติดเอวทั้งสองข้างยิงลำแสงความเร็วสูงพุ่งใส่มาริและแจ็ส "ฟ้าววว ฟ้าววว" ทั้งคู่รีบพุ่งหลบออกด้านข้างอย่างรวดเร็ว "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ" มาริกราดยิงชูริเคนแมชชีนกันเข้าใส่ พร้อมกับ "เลเซอร์โซนิคบีม" เลเซอร์จากฝ่ามือของแจ็สเข้าใส่ "แชดดดด ฟ้าววว ปั้กๆๆๆๆ ตรูมมม" ไดซ์ซี่จึงใช้ปืนติดเอวยิงส่งเธอลอยขึ้นจนดาวกระจายปักคาพื้น เช่นเดียวกับลำแสงพุ่งลงพื้นจนระเบิดไป "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ เคร้งงง" แต่บาร์ทหมุนควงสว่านและฟาดกระบี่ในมืออัดใส่ไดซ์ซี่จนเธอล้มลง "เคร้งงงงง แกร้งงงงง ป้ากกก ป้ากกกก" เฟรดและแด็กซ์ป้องกันด้วยดาบและสว่านต้านดาบโค้งของดูแรนซินที่ฟาดเข้ามา แต่ต้านแรงไม่อยู่จนปลิวกระเด็นไปกองกับพื้น "ว้ากกกกก" แรมเบจวิ่งเข้ามาใช้ดาบเหล็กเตรียมหวดฟาดใส่ "ทาแรนทูรั่มฟอสเวป" ดูแรนซินซัดใยแมงมุมพลังแสงเข้าใส่แรมเบจ "ฮึยยย" ซึ่งหวดดาบผ่าใยแมงมุมพลังแสงจนขาดสะบั้น แล้วก็ "หวับบบ เกร้งงงงง" กระโจนหวดดาบในแนวขวางปะทะดาบโค้งของดูแรนซิน "ป้ากกก" องค์ชายรองเลยถีบแรมเบจให้กระเด็นไป

          "ดูท่าว่า พวกเจ้าจะเก่งกาจมากขึ้นจากคราวก่อนนั้น คงจะมาจากการฝึกฝนเพื่อสู้กับจาฟฟาร์ลเลยสิน่ะ" ดูแรนซินบอก

          แด็กซ์กล่าว "พวกเราไม่ใช่พวกนิ่งนอนใจอยู่เฉยๆแล้วฝีมือด้อยค่าลงไปจนอ่อนแอมากหรอกน่ะ องค์ชาย แม้ว่าท่านยังแข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนเลยก็ตามน่ะ"

          "แต่ที่ท่านกับพวกไม่แตกตื่นหลังจากที่เห็นพวกเราโผล่มากันนิ คงเพราะรู้ว่าพวกเราต้องแห่มาที่ระบบอวกาศนี้เลยสิน่ะ" เฟรดบอก

          ดูแรนซินพยักหน้า "เจ้าพี่มูราดินคาดการณ์เอาไว้เมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว ว่าพวกเจ้าจะต้องรู้เรื่องที่พวกเรานำกองยานไปตั้งรกรากในเขตอวกาศภาคกลางกันอย่างแน่นอน แม้พวกเจ้าจะมีปัญหาด้านเศรษฐกิจจนไม่สามารถเริ่มโครงการบุกเบิกอวกาศเลยก็ตาม" แล้วก็ยิงลำแสงจากปลอกแขนเข้าใส่เฟรดและแด็กซ์ ซึ่งรีบยืนบล็อกเอาไว้ "และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเราทราบเรื่องที่ผู้รุกรานจากเขตอวกาศภาคกลางบุกรุกบนดาวดวงที่สามของเจ้า จนเป็นเหตุให้พวกไทรเวเซอร์รีบออกเดินทาง จากนั้นพวกเจ้าก็ไล่ตามมาทีหลัง เพียงแต่ เราไม่รู้ว่าพวกเจ้าไปโผล่กันตรงไหนเลยนี้สิ"

          "แต่หลังจากที่แกติดต่อกับลาคาดัลมานั้น แกก็รู้ว่าพวกเราโผล่มาที่ไหนกันเลยสิน่ะ แล้วแกได้ที่ตั้งของดาวดวงนี้กันยังไง ในเมื่อระบบดาวนี้มันไม่อยู่เป็นที่ได้นานๆเลยน่ะ" แรมเบจบอก

          ดูแรนซินบอก "เอาเป็นว่า ข้าได้มาจากแหล่งข้อมูลอันมีค่าของอวกาศแห่งนี้กันก็พอละน่า" แล้วก็ "ทาแรนทูรั่มเดสทรอยแฟงค์" หวดดาบโค้งซัดคลื่นคมดาบกากบาทเข้าใส่แรมเบจ "ฟอลคอนไดนาไมท์" เฟรดหวดดาบที่อัดพลังซัดออกเป็นคลื่นพลังสีแดงพุ่งปะทะใส่คลื่นคมดาบสีขาว "ไฮเปอร์อิมแพคดริลบลัสต์" แด็กซ์ยืดสว่านเฮฟวี่ดริลด้วยพลังเต็มเหนี่ยวพุ่งทะลวงใส่คลื่นพลังให้กระจุยไป

          ตัดมาทางด้านพวกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีช "เปรี้ยะๆๆๆๆ เปรี้ยงงงงงง" ลานหน้าพระราชวังมีสายฟ้าพุ่งทะยานขึ้นมาพร้อมกับ "สตาร์โคลอสซัสของพวกแซนดาลที่ขโมยมาจากบังเกอร์โผล่มาแล้วละคะ" แอมเบอร์บอก

          ลาคาเมสกล่าว "ฟีบัส ต่อให้แกมีอาวุธที่ขโมยมาจากคลังปิดผนึกของแกรนด์โอเวอร์เซียร์กันไว้ แกก็ไม่มีทางชนะไปได้หรอก"

          "ฉันยอมให้เมืองนี้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน ดีกว่าให้แกกับพวกปลดปล่อยประชาชนทั้งหลายให้หลุดพ้นจากอำนาจการควบคุมของพวกเรากันไปได้หรอก" ฟีบัสกล่าว แล้วก็ "ครืนนนน ครืนนนน ครืนนนน เปรี้ยงงง เปรี้ยงงงง เปรี้ยงงงง" เสกสายฟ้าฟาดลงมาใส่เขตชุมชนที่พวกลาคาเมสเข้าช่วยไว้

          "ลาคาเมส พวกนายไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" พีวิลบอก

          "พวกเรายังไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันให้สตาร์แซนดัสติดธันเดอร์ชิลด์ไว้ป้องกันสายฟ้ากันแล้ว แต่คงไม่ดีแน่ๆ หากปล่อยให้มันฟาดลงมาอีกครั้งสองครั้งเลยน่ะ" ลาคาเมสบอก โดยตอนนี้ตนกับพวกกางบาเรียพลังสายฟ้าต้านทานไว้ ซึ่งตัวบาเรียเริ่มลางเลือนลงไปบ้างแล้ว

          โคเซวิคบอก "คงไม่มีทางเลือก นอกจากต้องกระทืบไอ้บ้านี้ทิ้งแล้วละ"

          "เตรียมตัวถูกโคลอสซัสแซนดัสไทล์ช็อตจนไหม้เป็นตอตะโกเสียเหอะ" ฟีบัสบุกเข้าจู่โจมด้วย "สปาร์คแลช" ส่วนแขนขวาที่มีกงเล็บสามซี่อ้าออกและปล่อยแส้ไฟฟ้าจากช่องยิงตรงกลาง หวดเข้าใส่พลัสเชอริท "แฟ้วววว โครมมม เปรี้ยะๆๆๆ" ซึ่งรีบนำไรเดนโควถอยหลังหลบออกไปโดยเร็ว จนแส้ไฟฟ้าฟาดลงพื้นถนนจนไหม้เป็นตอตะโกโดยทิ้งประกายไฟฟ้าไว้ด้วย "แชดด แชดดด แชดดด แชดดดด ปังๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆ" พวกยูเนี่ยนพีชและไทรเวเซอร์กระหน่ำโจมตีด้วยอาวุธทั้งหลายกันอย่างหนักหน่วง "แว้งงง เปร้งๆๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆๆ" ฟีบัสเปิดธันเดอร์การ์ดป้องกันการโจมตีไว้ พร้อมกับ "แฟ้วววว เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงงง" บุกจู่โจมด้วยแขนดาบไฟฟ้าข้างซ้ายใส่ดูนบัลติคาร์ด เดซาร์ไกสต์ กราดิซาวลาร์ดและชาร์คสแปรโรวกันอย่างจังๆ "ซัดเด้นดริลนัคเคิ้ล" ฟูลออเรสซัดหมัดจรวดสว่านพุ่งเข้าใส่ฟีบัส แต่มันหลบออกมาอย่างทันควัน แล้วก็ "ธันเดอร์แคลชแคนน่อน" ฟีบัสยิงปืนใหญ่จากด้านหลังขึ้นฟ้าจน "ครืนนนน ครืนนน ครืนนน" ฟากฟ้ากึกก้องจนฟูลออเรสรีบถอยออกมา แต่ "ฟ้าวววว เปรี้ยงงงงง" สายฟ้าพุ่งฟาดใส่อิชเชเตียนในแนวเฉียงอย่างจังๆ "ฟูลออเรส ไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" ไกซ์บอกด้วยความตกใจ

          "ฉันไม่เป็นไรหรอก ดีหน่อยหนึ่ง ที่ฉันใช้ดริลสไตร์คบล็อกพลังสายฟ้าไว้ได้เสียก่อน แม้มันจะพุ่งมาตรงคอกพิตเลยน่ะ" ฟูลออเรสสูดหายใจยาวๆหลังจากที่ตกใจจากการตกเป็นเป้าของสายฟ้า แต่ก็โล่งใจเพราะตนหวิดเดี้ยงไปได้

          ฟีบัสบอก "เกรงว่าแกไม่มีทางหรอกได้หรอก สปาร์คบาร์เรจ" แล้วก็ใช้สปาร์คแลชอ้ากงเล็บเพื่อสร้างลูกบอลไฟฟ้า ซัดออกไปหลายๆลูก "ปริซึมโปรเทคชั่นวอล" เมดิน่าบินเข้ามากางบาเรียปริซึมยาวเข้าป้องกันห่าลูกบอลไฟฟ้าที่พุ่งเข้ามาอย่างทันท่วงที โดยที่ฟีบัสเตรียมจะใช้ธันเดอร์แคลชแคนน่อน "ฟ้าววววว ชรี้ดดดด ป้ากกกก" แต่หมัดจรวดสว่านที่ฟูลออเรสซัดออกไป ได้วกกลับมาอัดใส่แขนซ้ายจนพังกระจุยไป "ชิ" ฟีบัสเลยกดปุ่มเพื่อปลดแขนซ้ายที่หักครึ่งออกไป "ฟ้าวววววว" สตาร์แซนดัสเครื่องหนึ่งบินออกจากผนังตึกสีทองที่อยู่ใกล้ๆ พร้อมกับ "ครืดดด แกร็กกกก" ส่วนแบ็คแพ็คติดยอดปีรามิดกลางหลังยืดออก "ฟึบบบ ครืดดดด แกร็กกก" ส่วนหน้าอกเลื่อนไปข้างบนโดยที่ส่วนหัวหุบเข้าไปข้างในลำตัว ส่วนแขนเลื่อนไปแนบกับส่วนท้อง ส่วนขาสองข้างติดแนบจนเปลี่ยนเป็นส่วนหัวไหล่ที่มีส่วนแขนเป็นหนามแหลม แล้วบินเข้ามา "ครืดดดด แกร็กกก" ประกอบเป็นแขนซ้ายข้างใหม่ขึ้นมา "ตรุ้งงง ตรุ้งงงง" เบติสยิงกระสุนระเบิดเพลิงและน้ำแข็งเข้าแผดเผาแขนขวาและแช่แข็งแขนซ้ายไปพร้อมกัน "ขอสักทีหนึ่งเหอะ" ไกซ์ยิงถล่มด้วยไมโครลันเชอร์และเฮฟวี่บัสเตอร์ไรเฟิ่ลเข้าซ้ำ แต่.... "ฟ้าววว ตรูมมม บรึมมมม" สตาร์แซนไดซ์สองตัวเข้ามารับแทน โดยที่ท่อนบนของหุ่นตัวซ้ายและท่อนล่างของตัวขวารีบปลดออก เพื่อมาประกอบเปลี่ยนเป็นส่วนแขนโดยเร็ว แล้วก็ "เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง" สาดสายฟ้าเข้าใส่พวกเมนซิกส์ทีนและพวกอาชิลน่าจนต้องรีบหลบหลีกกันอย่างอุตลุต

          "เฮ้ย แย่แล้วโว้ย" คลอเวฟสบถเพราะสายฟ้าพุ่งมาทางตน โดยที่ทริสทรอนของตนหลังติดตึกกันแล้ว

          "ฟ้าววว เปรี้ยงงงง" สายฟ้าฟาดใส่ทริสตรอนอย่างจังๆ เพียงแต่..... "กรอดดดด" เนคมาดูซัมนำฟอร์เทสซิกัสบุกเข้ามาใช้มิลเลอร์วอลต้านพลังสายฟ้าเอาไว้ แล้วก็ "ฮา" สะท้อนพลังสายฟ้าย้อนกลับใส่ฟีบัสไป "เปรี้ยงงงงงง ป้ากกก" แม้มันจะใช้ธันเดอร์การ์ดป้องกันไว้ แต่พลังสายฟ้าที่เนคมาดูซัมซัดมานั้นได้ทำลายสนามพลังทิ้งลง "ไหวมั้ยละ คลอเวฟ" เนคมาดูซัมบอก

          คลอเวฟกล่าว "กูไม่ได้ขอให้มึงช่วยสักหน่อยนะ เนคเกอร์ แม้ว่าตอนนี้ มึงช่วยหยุดไอ้เวรนั้นไว้ก็ตามน่ะ"

          "ต่อให้พวกแกทำลายบาเรียสายฟ้าไว้ แต่ฉันยังใช้พลังสายฟ้ากันได้อยู่น่ะ" ฟีบัสบอก โดยพุ่งเข้ามาหมายจะเล่นงานเมดิน่า

"ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" วิลด้าใช้ฟาสท์แทรคมิไซล์ยิงถล่มใส่ พร้อมกับ "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไซโคลเนียโปรยห่ามิไซล์ขนาดเล็กเข้าซ้ำ โดยที่มิลด์ยิงมิไซล์จากมิไซล์พ็อดเสริมเข้าไป "ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มิไซล์ระเบิดใส่โคลอสซัสแซนดัสไทล์อย่างหนักหน่วง แต่มันก็หลบหลีกออกไปอย่างรวดเร็ว "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆ แชดดด แชดดด แชดดด แชดดด" เครนิส เจกรอน่า ดอลฟูลนิสและทีมของพวกเธอระดมโจมตีใส่ฟีบัส ซึ่งรีบหลบหลีกด้วยความเร็วสูงกัน "ป่วยการเปล่า ป่วยการเปล่า น้ำหน้าอย่างพวกแกไม่มีทางโจมตีฉันไปได้หรอก เพราะว่าพวกเราได้จูนโคลอสซัสตัวนี้ให้ว่องไวกว่าพวกแกหลายเท่าด้วยกันน่ะ" ฟีบัสบอก

          สเตฟอร์ดบอก "ถึงว่าสิ ว่าทำไมแกถึงอยู่ไม่นิ่งกันตลอดเวลาเลยนะ"

          "ต่อให้พวกแกมีอาวุธหนักอยู่ในมือ แต่ถ้ายิงฉันไม่โดนก็ไม่มีความหมายหรอก" ฟีบัสกล่าว แล้วก็ยิงกระสุนไฟฟ้าเข้าทำลายกระสุนจากบลัสต์บาซูก้าของสเตฟอร์ดที่ยิงเข้ามา

          "ทีนี้แหละ ฉันจะทำลายยานของพวกแกให้พังไปข้างหนึ่งเลย" ฟีบัสยิ้มขึ้นโดยเล็งมายังยานไฮด์เดาท์และยานไทรแองเกิ้ลเข้า "แล้วแกจะต้องเสียใจที่กล้ามาหาเรื่องกับพวกเรากันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก

          "งั้นพวกแกเตรียมตัวตายได้เลย" ฟีบัสบอกแล้วก็กดปุ่ม "ครืนๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆๆ แฟ้ววววว" ท้องฟ้ากึกก้องขึ้นพร้อมกับเสียงประจุไฟฟ้าก่อตัวเป็นสายฟ้าที่ฟาดลงมา "เปรี้ยงงงงงงง"

          แต่สายฟ้านั้นมิได้ฟาดลงยานของไทรเวเซอร์หรือยานของยูเนี่ยนพีช กลับเป็น... "มันฟาดโดนตัวมันเองเลยหรือเนี้ย" ลาคาเมสอุทาน

          ฟีบัสกล่าว "เกิดอะไรขึ้นเนี้ย มันควรจะผ่าโดนยานของพวกมัน ทำไมถึงผ่าโดนตัวฉันได้ละเนี้ย" โดยที่ตัวชาจากการถูกช็อต แม้จะอยู่ในคอกพิตที่มีฉนวนกันไฟฟ้าไว้

          "แกพลาดแล้วละ ฟีบัส ที่แม้แกจะว่องไวจนเรายิงไม่โดนตัวนายกันได้จริงๆ...." เนคมาดูซัมบอก "....แต่....นายไม่เร็วพอที่จะหลบหลีกการโจมตีทางอ้อมที่แฝงมากับการโจมตีของพวกเรากันหรอกน่ะ"

          ฟีบัสบอก "ทางอ้อมนะหรือ แกใช้อะไรมาจัดการกับฉันกันละ"

          "สะเก็ดโลหะเล็กๆยังไงละ ในมิไซล์ทุกลูกที่พวกเราและพวกไทรเวเซอร์ใช้กับนายในตอนที่พุ่งหลบหลีกไปนั้น มีเศษสะเก็ดโลหะแฝงเอาไว้ ซึ่งในช่วงที่มิไซล์ระเบิดในจังหวะที่แกหลบไปนั้น แรงระเบิดได้เป่าเศษสะเก็ดโลหะชิ้นเล็กๆพุ่งเล็ดลอดเข้าไปในข้อต่อสตาร์โคลอสซัสของนายทุกจุด โดยที่นายเองไม่รู้ตัวกัน ว่านายมีฉนวนนำไฟฟ้าขนาดเล็กๆติดอยู่ในสตาร์โคลอสซัสของนายไว้น่ะ" เครนิสกล่าว "และในกลุ่มสะเก็ดโลหะเล็กๆนั้น ก็มีแผ่นแม่เหล็กขนาดเล็กแฝงไว้ เพื่อทำให้ระบบระบุเป้าหมายเรรวน จากที่ต้องสาดสายฟ้ามาถล่มยานของพวกเราและของไทรเวเซอร์ มันแปรเปลี่ยนมาฟาดใส่หุ่นของนายที่ถูกระบุว่าเป็นหุ่นรบของฝ่ายเรากันน่ะ"

          ฟีบัสบอก "นี้แปลว่า พวกแกไม่ได้โจมตีฉันให้โดน ก็เพื่อหวังผลเช่นนี้เลยหรือ"

          "แน่นอน เพราะเรารู้แล้ว ว่านายต้องปรับหุ่นสตาร์โคลอสซัสของนายให้ไวดุจสายฟ้าฟาดจนพวกเราป้องกันไม่ได้ก็ตาม" เนคมาดูซัมบอก มาสวาร์ทาร์บอก           "เพียงแต่ นายมิใช่นายทหาร เป็นเพียงแค่กุนซือหรือที่ปรึกษาที่มีอาวุธอยู่ในมือ ซึ่งมีคนไปปรับให้ใช้งานได้ง่ายๆ แต่ไม่รู้ซึ้งถึงระบบการทำงานของมันอย่างแท้จริง รวมถึงรู้รายละเอียดปลีกย่อยของสิ่งที่ใช้อยู่ แม้กระทั่งเหตุเล็กๆน้อยๆที่อาจจะเป็นปัญหาก้อนโตๆกันด้วย ซึ่งด้วยเหตุผลเหล่านี้แหละ ที่เป็นต้นเหตุแห่งความปราชัยของนายลงแล้วละ"

          "หนอยยยย ฉันจะต้องรีบจัดการกับพวกแกกันให้ได้เลย" ฟีบัสพยายามจะควบคุม แต่ "เปรี้ยะ" ภายในคอกพิตเต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าที่ไหลเวียนจนช็อตมือของเขาอย่างจังๆ

          "ท่านฟีบัสกำลังแย่ รีบเข้าไปช่วยโดยเร็วเลย" ทหารแซนดาลกลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเนตรีบรุดไปช่วย แต่.... "ฟ้าว ฉั้วะๆๆๆๆ ฉึกๆๆๆ" ฟิเกซนำควอดเทตทรอสพัลเลทอร์นบุกจู่โจมด้วยเทตทรอสเบลดแบบหอก และชาร์แคลมโทมาฮอคฟาดฟันใส่สตาร์แซนไดซ์จนตัวขาดไปหลายตัว แต่สตาร์แซนไดซ์สองตัวรีบโผล่มาจากยอดหอคอยใกล้กับพระราชวัง เพื่อสาดพลังสายฟ้าเข้าใส่อาแรคคัสและวิเวลลี่ที่กำลังซ่อมซุปเปอร์วอร์บอทของพวกกริซซิกกันอยู่ "เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง" คริฟไฟแทนแทรซครอนเข้ามารับสายฟ้าฟาดไว้อย่างจังๆ พร้อมกับ "แชดดดด แชดดด" ยิงลำแสงจากฝ่ามือเข้าใส่สตาร์แซนไดซ์สองตัวจนพัง "ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว" สตาร์แซนไดซ์อีกสี่ตัวโผล่ออกมาจากสวนสาธารณะและสวนหลวง พร้อมกับสตาร์แซนดัสอีกเป็นสิบๆหน่วย เพื่อมาหนุนช่วยฟีบัสกัน "ตุ้งๆๆๆ ฟ้าวววว ป้ากกก ตรูมๆๆ" แต่ถูกเจเนลถล่มด้วยควอดบุลเล็ตบัสเตอร์และไฮเปอร์บลัสต์บัสเตอร์จนพังไปจนหมด "หวับๆๆๆๆ หวับๆๆๆๆ ฉั้วะ ฉั้วะ" เซรีนและโครวเชดซัดบูมเมอแรงและดาวกระจายปีกเข้าตัดแขนโคลอสซัสแซนดัสไทล์จนขาด "ฟ้าววว ฟ้าววว เกร็งงงง แคร้งงง" แม้สตาร์แซนดัสจะบินมาประกอบชิ้นส่วน แต่... "โว้ว เหวอๆ ว้ากๆๆๆ" ทหารแซนดาลถูกไฟฟ้าลัดวงจรช็อตตามไปด้วย "เอาให้รวนไปข้างหนึ่งเลย นี้แน่" คลอเวฟกราดยิงไฮโดรเลเซอร์และไฮโดรบาซูก้าเข้า "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ ซ่า!!! ซ่า!!!! ซ่า!!!! ซ่า!!!!!" ซึ่งห่าลำแสงพลังไฮโดรฟอสและระเบิดน้ำได้เล่นงานแซนดัลไทล์อย่างหนักหน่วงจน "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆ บรึมมมมม" สตาร์โคลอสซัสของฟีบัสระเบิดจากการลัดวงจรจนเป่าส่วนหัวปลิวขึ้นไป ในขณะที่ส่วนตัวที่เหลือนั้นล้มลงมากระแทกกับพื้น "ตรูมมม" จนส่วนหลังระเบิดอย่างหนักหน่วง

          "หวับๆๆๆๆๆๆ โครมมมม" ส่วนคอกพิตของฟีบัสปลิวกระเด็นตีลังกาลงมากระแทกกับพื้นไป ซึ่งฟีบัสอ่วมสาหัสจนชาไปทั้งตัวนั้น "หวือออ ตรึงๆๆๆๆๆๆๆ" โมบิลลอยด์ของพวกไทรเวเซอร์และวอร์บอทของยูเนี่ยนพีชมาจ่อตรงหน้า "ครืดดด แกร็กๆๆๆๆๆๆ" ทั้งหมดจ่ออาวุธตรงมายังคอกพิตของฟีบัสกันไว้ "บะๆๆๆๆๆๆ บัด โซๆๆๆๆๆๆๆ โบๆๆๆๆๆ ที่สุดเลย" ฟีบัสพูดติดอ่างหลังจากถูกช็อตจนประสาทการพูดกระตุกตาม

          ลาคาเมสบอก "พวกนายเล่นแรงกันไปหน่อยน่ะ แม้จะไม่ทำให้ถึงตายเลยก็ตามน่ะ"

          "แต่อย่างน้อย เราจัดการไปได้หนึ่งหน่วยแล้วละ ท่านลาคาเมส" เฟลิคบอก

          สเตฟอร์ดบอก "ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งหน่วย คงต้องลำบากในการตามหากันเลยสิน่ะ"

          "ถ้าเป็นลาคาดัลละก็....ตอนนี้จนมุมและติดกับเป็นที่เรียบร้อยแล้วละ" ลาคาเมสบอก "ลาเชียน่า ลูกน้องของฉันที่อยู่ในกองบัญชาการที่ห้าทางฝั่งปัจฉิมแจ้งมา ว่าเธอกับพวกหลอกลาคาดัลให้มาซ่อนในกองบัญชาการนี้ ซึ่งพาไปอยู่ในห้องขังเคลื่อนที่ไว้ และกำลังจะมาถึงในไม่ช้าแล้วละ"

          เนคมาดูซัมบอก "ภาวนาว่า คงไม่เหลือเศษเดนที่ฟีบัสเหลือไว้ให้ไปช่วยลาคาดัลกันบ้างน่ะ"

          "ตี้ดๆๆๆๆๆๆๆ" สัญญาณติดต่อดังเข้ามาในยานไทรแองเกิ้ล บริคซ์จึงรับสายโดยทันที "ดูแรนซินคงหนีไปแล้วสิน่ะ" บริคซ์กล่าว

          โดซี่บอก "นายไม่เดาผิดไปสักครั้งจะได้มั้ยละ ปัดโธ่"

          "คุณโดซี่ ตอนนี้พวกเฟรดเป็นยังไงบ้างละครับ" พีวิลบอก

          โดซี่กล่าว "ดีหน่อยหนึ่งน่ะ ที่ดูแรนซินไม่ดันทุรังมากพอ และรู้ว่าตนยังมีเรื่องที่ต้องทำกันไว้นะสิ" โดยที่เธอเล่าในช่วงที่ดูแรนซินปะมือกับกองกำลังหลังฉากกัน

             "พอแค่นี้ดีกว่าน่ะ" ดูแรนซินบอกและเก็บดาบไว้ข้างหลัง จนเหล่าลูกน้องทั้งหลายตกใจ

             "เออ องค์ชาย จะรีบหยุดมือทำไมละครับ ในเมื่อตอนนี้เรายังสู้ไม่จบเลยน่ะ" ธาลเดนกล่าว

          "ขืนเราอยู่นาน เกรงว่าเราจะโดนเจ้าถิ่นกักตัวจนออกไปไม่ได้ซะมากกว่าน่ะ" ดูแรนซินกล่าว "อีกอย่าง พวกเราไม่ควรถูกกักตัวไว้ จนทำให้ดาวที่เราตั้งรกรากมานั้น มีช่องว่างในการคุ้มกันที่กว้างเกินจนเป้าหมายหลักที่เราต้องการกำจัดทิ้ง ชิงลงมือไปได้ซะก่อนน่ะ"

          ไดซ์ซี่บอก "ท่านกลัวว่าคนทรยศทั้งสองกลุ่มจะแว้งกัดพวกเราละสิคะ"

          "คนของไอ้กุหลาบพิษและไอ้ดาบเย็นนั้น มันแค้นเทเนดีนอย่างมาก ไม่มีทางทำเช่นนั้นได้หรอกน่ะ" ดูแรนซินบอก

มาริบอก "ถ้าให้พวกเราเดานะคะ ท่านกับพวกคงคิดมาเก็บสแปร์ที่พวกท่านพี่โฟรซ่าทิ้งไว้เมื่อ 3 ปีก่อนให้สิ้นซากเลยสิ"

          "เจ้าเดาเก่งดีนิ แม้ว่าเจ้ากับพวกจะไม่ได้ปะทะกับไอ้เทเนดีนและพวก รวมถึงพวกมือขวาของไอ้แก่สังฆราชทรอยอาร์กันด้วย ซึ่งถ้าฉันเดาน่ะ 3 ปีที่พวกมันออกมาไม่ได้นิ ไทรเวเซอร์เล่นแรงมากเลยสิน่ะ แม้จะไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ เพราะต่อให้ฆ่าไอ้เทเนดีนทิ้ง ก็ไม่ได้ช่วยให้พวกพ้องที่โดนไอ้น้องเวรฆ่าตายกลับคืนมาได้แน่นอน" ดูแรนซินบอก "แต่ก็ดีหน่อยหนึ่ง ที่พวกนั้นมอบโอกาสให้ฉันและพวก ตามมาจัดการถึงที่คุ้มกะลาหัวของพวกมันได้อยู่แล้วละ"

          แรมเบจบอก "นั้นคงเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่แกกับพวกดั้นด้นมาที่เขตอวกาศภาคกลางกันเลยสิน่ะ"

          "แน่นอน และฉันขอเตือนอะไรพวกนายสักหน่อยนะ" ดูแรนซินกล่าว "ตอนนี้ พวกเราอาจจะมีเป้าหมายในการขยับขยายอาณาเขตของพวกเราให้เหนือกว่าพวกนายกันอยู่ก็จริง แต่ พวกเรามาเพื่อที่จะกำจัดศัตรูตัวเอ้ที่หลุดรอดไปได้ให้สิ้นซากไปซะ ก่อนที่มันจะมีโอกาสเอาคืนได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางเรารู้ดี ว่าพวกนายมานี้ด้วยภารกิจสำคัญบางอย่างในการช่วยเหลือพวกไทรเวเซอร์ก็ตาม ดังนั้น ฉันขอให้พวกนายฝากบอกพวกไทรเวเซอร์ด้วย ว่าให้หลีกทางไปซะเดียวนี้เลย"

          น็อกกี้บอก "ถ้าเราหรือพวกไทรเวเซอร์ไม่ทำตามนิ คงไม่ได้หมายความว่าพวกแกจะตามมาเอาเรื่องพวกเรากันอย่างงั้นสิ"

          "เรามานี้เพื่อมาสำเร็จโทษองค์ชายเทเนดีนกับพวกกองโจรที่หลบหนีออกจากสเตมเซคเตอร์ มากบดานในเขตอวกาศแห่งนี้ เช่นเดียวกับรับผิดชอบในการดูแลกลุ่มบุกเบิกระบบดาวกันด้วย ตามพระบัญชาของราชทายาทมูราดินที่ให้ไว้เมื่อสามปีก่อนกัน" ไดซ์ซี่บอก "แน่นอน ว่าถ้าเราแจ้งเรื่องที่พวกนายวอนหาเรื่องกับพวกเราถึงดาวที่ตั้งรกรากมา หรือถูกพวกเทเนดีนหลอกใช้กันก็ตาม รู้ใช่มั้ย ว่าผลที่ตามมามันจะร้ายแรงแค่ไหนน่ะ"

          บาร์ทกล่าว "นึกแล้ว ว่าพวกนายต้องเห็นพวกเราเป็นต้นเหตุให้สเตรดาร์ธก่อสงครามกับฝ่ายสหพันธมิตรกันอีกละสิ"

          "ถ้าพวกคุณตั้งรกรากบนดาว เพียงเพื่อต้องการให้ประชาชนของพวกคุณมีที่พำนักพักพิงที่ดีกว่า หรือทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกคุณ แม้กระทั่งติดตามล่าศัตรูตัวเอ้ที่หลบหนีมาในนี้กันนั้น พวกเราที่มีกำลังเพียงแค่น้อยนิด คงไม่กล้ามาวอนหาเรื่องกับพวกคุณกัน จนพาลนำความเดือดร้อนมาให้พวกเราที่อีสทาล่าฟรอนเทียร์กันแน่นอน" เฟรดบอก "แต่อย่างน้อย พวกคุณก็ควรระวังพวกเดลอาเนี่ยนด้วยแล้วกัน"

          ธาลเดนบอก "ถ้าเป็นพวกเดลอาเนี่ยน เรารู้เรื่องที่พวกมันมาที่เขตอวกาศนี้แล้ว และไม่ต้องทายหรอก ว่าเป็นความผิดของใครที่ทำให้พวกมันโผล่มาในเขตอวกาศนี้น่ะ"

          "พวกเจ้าพูดพอแล้วใช่มั้ย สั่งการให้ทหารที่ยังดีๆอยู่ พาคนเจ็บและเก็บกู้นักรบดียิปโต้ขึ้นยานของเราเดียวนี้เลย" ดูแรนซินสั่งการให้องครักษ์ทั้งสี่จัดการลงมือโดยเร็ว ก่อนจะหันหลังเพื่อเดินจากไป ก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า "พวกเจ้ากับพวกไทรเวเซอร์เอง อย่าตายเสียละ ไม่งั้น ข้ากับจาฟฟาร์ล ไม่มีใครให้ระบายอารมณ์กันไว้น่ะ" หลังจากนั้นก็ "ครืนนนนนนน" ยานมาฮาลครอสปรากฎขึ้นตรงหน้า โดยที่ดูแรนซินกับพวกสเตรดาร์ธขึ้นยานกันหมดแล้ว ซึ่งยานได้ลอยลำเหนือฟากฟ้าและ "แฟ้ววววว แว้งงงงง" พุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงจนหายไปจากสายตาของพวกกองกำลังหลังฉากโดยเร็ว

          รีฟบอก "ดูท่าว่าองค์ชายดูแรนซินไม่ได้เห็นพวกเราเป็นศัตรูกันจริงๆเลยนะคะ"

          "ไม่หรอก รีฟ ไม่ว่ายังไงสเตรดาร์ธก็ยังมองพวกเราและไทรเวเซอร์เป็นศัตรูตัวเอ้กันอยู่ดีนี้แหละ" โรซารี่บอก

          แฮรี่บอก "คุณโดซี่ เห็นและได้ยินแล้วใช่มั้ยละครับ"

          "ฉันทราบเรื่องแล้วละ และฉันตั้งใจจะติดต่อไปหาพวกไทรเวเซอร์กันด้วย เพราะตอนนี้พวกเขาคงกอบกู้นครหลวงกันแล้วละ" โดซี่บอก "พวกเธอรีบกลับขึ้นยานกันเดียวนี้เลย"

          นาเดียกล่าว "คะ เพราะพวกเรามีปัญหาเรื่องเม็ดทรายแทรกเข้าไปในตัวชุดเกราะกันแล้วคะ"

          ที่ท้องพระโรงฟาโรต้า ลาคาเมสยืนอยู่ตรงหน้าบัลลังก์ สมาชิกไทรเวเซอร์และยูเนี่ยนพีชยืนขนาบข้าง ในขณะที่ทหารแซนดาลของลาคาเมส ลากตัวลาคาดัลที่ถูกมัดด้วยโซ่ และโดนลากมาอยู่ตรงหน้า

        "คุกเข่า!!!" ทหารแซนดาลสั่งให้ลาคาดัลทำตาม แต่ลาคาดัลยืนนิ่งพร้อมทำหน้าบึ้งไว้

          "ทหาร ปลดโซ่ตรวนลาคาดัลเดียวนี้ ในเมื่อมันไม่อยากให้คุกเข่า ก็ให้ยืนไปเถอะ" ลาคาเมสสั่ง ทหารแซนดาลทั้งสองโค้งคำนับแล้วก็ตรงไปปลดโซ่ออก จากนั้นก็เดินออกไป ลาคาเมสเลยกล่าว "ลาคาดัล ทีนี้นายรู้สึกเหมือนกับฉันหรือยัง ที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน เพราะถูกเพื่อนร่วมเผ่าทอดทิ้ง ถูกขับไล่ ถูกปฏิเสธความช่วยเหลือ และถูกไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย จากการที่นายครอบงำพวกเขาให้อยู่ภายใต้คำสั่งของนายกันแล้วน่ะ"

          "เจ้าพี่พูดได้นิ เพราะว่าเจ้าพี่เป็นผู้ชนะแล้ว ผู้ที่ชนะนั้นสามารถทำอะไรก็ได้กับผู้แพ้กันน่ะ" ลาคาดัลบอกอย่างโอหังขึ้นมา "แล้วฟีบัสล่ะ ตายแล้วหรือยัง"

อิลมิคเลยลากฟีบัสที่โดนมัดโซ่ตรวนไว้ "ยังดี ที่เราทำให้มันขยับตัวไม่ได้ เว้นแต่ปากของมัน ซึ่งเราปิดเอาไว้ไม่ให้พล่ามจนเสียเรื่องไปได้หรอกน่ะ" อิลมิคบอก

          "แต่ก็ดีแล้ว เพราะอย่างน้อย มันสมควรจะโดนบ้าง ฐานทำนอกเหนือจากที่สั่งไว้น่ะ" ลาคาดัลบอก

          ลาคาเมสกล่าว "แปลว่า จากเดิม นายแค่ต้องการให้ท่านพ่อป่วยหนักอย่างมากเท่านั้น มิใช่ต้องการให้ตายอย่างงั้นสิน่ะ"

          "ของมันแน่อยู่แล้วละ ถ้าไม่มีท่านพ่ออยู่ ผมก็จะได้มีสิทธิ์ใช้อำนาจของท่านพ่อทำเรื่องธุรกิจของผมได้อยู่แล้วละ" ลาคาดัลอ้าง "ส่วนเจ้าพี่เอง ผมกะจะใส่ความท่านพี่ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ท่านพ่อป่วยหนักหนากันไว้ แต่เจ้าฟีบัสทำเกินกว่าที่สั่งไปเสียได้ แม้ว่านั้นเป็นเรื่องดีมาก ที่จะได้เขี่ยท่านออกไปไกลๆจากการทำธุรกิจของผมเป็นการถาวร และจะดีกว่านี้ ถ้าท่านพี่ตายจริงๆไปซะเลยนี้แหละ"

          มาสวาร์ทาร์กล่าว "ทีแรก นายพูดเพื่อให้เราเห็นใจนายกัน แต่นั้นแค่ครึ่งเดียว เพราะนายเผยธาตุแท้ออกมา ว่านายเกลียดชังลาคาเมสอย่างมากเลยน่ะ"

          "ฉันอยากจะรู้มานานแล้ว ว่านายเกลียดฉันมาตลอดถึงขั้นที่อยากจะให้ฉันหายไปกันนั้นน่ะ มันเพราะอะไรกัน" ลาคาเมสถาม

          ลาคาดัลบอก "เจ้าพี่คงไม่รู้หรอกน่ะ ว่าเจ้าพี่ได้แย่งของที่ผมอยากได้มาตลอดเวลากัน ตั้งแต่ของเล่น ของกิน ของรางวัล แม้กระทั่งความเคารพยกย่อง ชื่อเสียง เกียรติยศ เจ้าพี่ได้มันไปหมด แต่ผมกลับไม่ได้อะไรเลยเช่นนี้ ทั้งๆที่ผมเป็นลูกของท่านพ่อนั้น มันไม่ยุติธรรมกันเสียเลย" แล้วก็ชี้หน้าลาคาเมสขึ้นมา "ขนาดผมพยายามจะเสนอแนวทางให้ผู้คนรับรู้ แต่เจ้าพี่ดันมาขัดขวางกันไม่ว่า ทุกๆคนกลับปฏิเสธและไม่ยอมรับในแนวทางของผมเช่นนี้ ทั้งหมดมันเพราะเจ้าพี่นี้แหละ ที่แย่งทุกอย่างไปจากผมกันน่ะ"

          "น้อยๆหน่อยนะ ลาคาดัล เรื่องของเล่น ของกิน และของรางวัลสมัยเด็กๆนั้น ฉันได้ก็เพื่อที่จะเอามาให้นายกัน เพราะฉันเห็นว่านายเป็นน้องชาย ฉันจึงมอบให้เพื่อเป็นการแสดงความรักระหว่างพี่น้องกัน ส่วนเรื่องความเคารพยกย่อง ชื่อเสียงและเกียรติยศกันนั้น ฉันได้มาจากความสามารถที่ฉันทำเพื่อส่วนรวม คอยดูแลทุกข์สุขของประชาชน อุทิศตนให้กับคนบนดาวดวงนี้อย่างจริงใจ ให้สมกับฐานะขององค์ราชทายาทกัน แต่นาย....แสดงออกด้วยความเห็นแก่ตัว พยายามเสนอนโยบายที่บัดทอนความเจริญและสร้างความวุ่นวาย อย่างการจำกัดการใช้พลังงานของชุมชนระดับล่าง ส่งเสริมการค้าขายกับกลุ่มพ่อค้าแปลกหน้าในเขตอวกาศภาคกลางที่ไม่น่าไว้วางใจ แม้กระทั่งการขายพลังงานของดาวดวงนี้ให้ชาวดาวจากระบบดาวอื่น ซึ่งนั้นเป็นการทำลายทรัพยากรของดาวของเราที่อนุรักษ์มาตลอด 400 ปีกันทางอ้อม ซึ่งถ้าฉันไม่ขัดขวางนายไว้ นายก็จะทำลายความรุ่งเรืองของดาวของเรากันน่ะ" ลาคาเมสให้เหตุผล

          ลาคาดัลบอก "ผมจะทำอะไรก็ได้กับดาวดวงนี้ ในเมื่อผมเป็นทายาทของผู้นำดาวดวงนี้กัน อีกอย่าง พลังงานของดาวของเราใช้ไปกี่พันปี ก็ไม่มีทางหมดไปกันแน่นอน และ....ทุกเผ่าในเขตอวกาศนี้ ก็จะได้พลังงานแบบของเรากันไปใช้ เท่ากับว่าเราช่วยให้ทุกเผ่าเจริญรุ่งเรืองกันมากขึ้น นี้สิ คือหนทางที่ถูกต้องกันนี้แหละ"

          "นี้นายโง่หรือบ้าเลยหรือ ชนเผ่าส่วนมากในเขตอวกาศภาคกลางนั้น ล้วนเป็นอาชญากรและกลุ่มองค์กรชั่วร้ายกันเลยน่ะ" กริซซิกกล่าว

ไซโคลเนียบอก "ถ้านายขายพลังงานจากดาวดวงนี้ไปให้พวกมัน ก็เท่ากับว่านายให้พวกมันใช้พลังของดาวดวงนี้ไปก่อความเดือดร้อน ต่อให้นายได้ผลกำไรงามๆ แต่นายจะได้คำสาปแช่งจากผู้เดือดร้อนทั้งหลายกันด้วยน่ะ"

          "และต่อให้นายขายพลังนั้นกับพวกลูกค้าของนาย คิดหรือว่าพวกเขาจะไม่ขอเพิ่มจนถึงขั้นสร้างเครื่องสูบพลังงานไฟฟ้าไปจากดาวของเรา ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่พวกเรายอมให้เกิดขึ้นไม่ได้มาตลอด 400 ปี แต่นายกำลังจะทำให้ดาวของเราล่มจม และทำให้ระบบดาวที่เหลืออีก 7 ดวงพลอยกระทบไปด้วยนั้น อย่าว่าแต่ฉันเลย ท่านพ่อเองก็ค้านหัวชนฝากันอยู่แล้วและต้องการให้นายเลิกล้มความคิดนั้นไปซะ แต่ไม่คิดเลยว่า นายจะ...." ลาคาเมสบอก

          ลาคาดัลกล่าว "นั้นคือผลของความลำเอียงที่พ่อเห็นเจ้าพี่ดีกว่าผมนี้แหละ อีกอย่าง ผมมีสิทธิ์ที่จะมีทรัพย์สินที่สร้างขึ้นได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของผมเอง และมีสิทธิ์มากพอที่จะใช้พลังงานทำอะไรก็ได้ตามใจชอบกันอยู่แล้ว แค่ไม่มีเจ้าพี่และท่านพ่ออยู่ ผมก็ได้ในสิ่งที่ผมได้มาแล้วละ"

         "นายคิดว่าตัวนายเป็นใครกัน ถึงได้แสดงความเห็นแก่ตัวอย่างแรงกล้าเช่นนี้เลยน่ะ" สเปียริทตะโกนลั่นขึ้นมา "นายไม่เพียงเห็นว่าตนเองเป็นลูกของพระราชาของดาวดวงนี้ เลยคิดว่าตนอยู่เหนือกฎหมายทุกอย่างจนสามารถทำตามใจชอบกันได้ไม่ว่า นายยังเห็นทั้งพี่และพ่อเป็นตัวขัดขวางนาย ทั้งๆที่พวกเขาต้องการให้นายหยุดทำลายดาวดวงนี้ทางอ้อมกันเช่นนี้ นายน่าจะโดนมากกว่าลูกน้องนายเสียอีกน่ะ"

          ลาคาดัลบอก "แล้วเธอคิดว่าเธอเป็นใครกันถึงกล้ามาว่าฉันเช่นนี้น่ะ"

          "ลาคาดัล ต่อให้สหายของกองกำลังไทรเวเซอร์ปากดีและขึ้นเสียงกับนาย เพราะเธอกับพวกเป็นคนนอกระบบดาวกัน แต่ที่เธอว่ามานั้น มันถูกเผงทั้งหมดแล้ว ซึ่งในฐานะของพี่ชายของนาย ฉันรู้สึกผิดหวังมากๆ ที่นายไม่เพียงไม่สำนึกผิดแต่ยังโอหังกันเช่นนี้ ฉันคิดถูกแล้ว ที่ขัดขวางนายในเรื่องการค้ากำไรด้วยพลังงานของดาวของเรากันน่ะ" ลาคาเมสบอก

          ลาคาดัลบอก "ต่อให้เจ้าพี่พาคนมาขัดขวางผมไม่ให้ขายพลังงานให้กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มแรกได้ มันก็สายไปแล้วละ...."

          "แกคงไม่ได้ส่งพลังงานไฟฟ้าส่วนหนึ่งไปให้ไอ้มันเทิร์คเลยสิน่ะ" คลอเวฟกล่าว

          ลาคาดัลกล่าว "ช่าย มันเทิร์คต้องการพลังงานไฟฟ้าจำนวน 1 ใน 5 ของดาวดวงนี้ไปใช้ในแผนการเรียกมหาดารามรณะกันขึ้นมา ซึ่งผมก็ให้มันไปซะ จะได้จบเรื่องกัน และผมก็จะได้นำดาวดวงนี้ไปขายพลังงานให้กับระบบดาวอื่น ถ้าไม่เพราะว่าอีลูกสาวของฟิวเจนท์มาขวางไว้ได้ละก็...."

          "เทคเนล่ารู้ดี ว่านายกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ เลยต้องเบรคนายไว้ก่อน เพื่อมิให้นายพาพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตที่กบดานบนดาวดวงนี้ลอยนวลไปด้วยน่ะ" ลาคาเมสบอก

          ลาคาดัลกล่าว "แต่นังนั้นขวางผมและส่งพวกนี้มาช่วยเจ้าพี่กัน จนทำให้ผมมีสภาพเช่นนี้แหละ"

          "ลาคาดัล ฉันรู้ดีน่ะ ว่านายคงไม่กล้านำดาวออกไปจากระบบดาวนี้ได้แน่ๆ หากไม่เพราะคำปรึกษาจากฟีบัสกันแน่ๆ เพราะฉันทราบมาว่า ฟีบัสเป็นลูกน้องที่มันเทิร์คและพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตส่วนที่เหลือส่งมาช่วยเหลือนาย ที่เป็นสมาชิกตัวหลักกันไว้" ลาคาเมสบอก "ดังนั้น ฉันขอถามนายเลยน่ะ ว่านายนำดาวดวงนี้ออกจากระบบดาวกันนั้น นายทำเองหรือเปล่าละ"

          ลาคาดัลบอก "ผมคงทำอย่างงั้นไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่เพราะ คำแนะนำของตัวแทนทั้งสองที่ให้ไว้ ในช่วงที่ผม....ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร หลังจากที่ส่งพลังงานไฟฟ้าของดาวให้มันเทิร์คไปแล้ว เพราะถ้าผมอยู่ต่อ มันเทิร์คจะส่งกองรบสโตนอคสร้างสถานีสูบพลังงานบนดาวกัน ซึ่งนั้นทำให้ผมสูญเสียพลังงานไฟฟ้าของดาวไปส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน"

          "ตัวแทนทั้งสองนะหรือ....นายคงจะไม่รู้ชื่อเลยละสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยที่อิลมิคเหล่มายังฟีบัสที่ยิ้มอยู่ใต้ผ้ามัดปากอยู่

          ลาคาดัลเลยพูดต่อไปว่า "สองตนที่ว่านั้นก็คือ กาเบลแบนเยอร์ นักรบเกราะสีสนิม กับ มาโดเวลเดอร์ นักรบเกราะดำเมี่ยม ทั้งสองอ้างว่า พวกเขาคือตัวแทนของดารามรณะ ส่งมาเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือผม เหมือนที่พวกเขา ช่วยกลุ่มนักรบจังกรอลหัวรุนแรง เหล่าอัศวินแอโรดกลุ่มแตกแยก และกลุ่มต่อต้านวอเทลกันนี้แหละ"

          "กาเบลแบนเยอร์ มาโดเวลเดอร์นะหรือ แล้วนายพอรู้มั้ย ว่าทั้งสองนั้นอยู่ไหนแล้วน่ะ" พีวิลถาม

          ลาคาดัลกล่าว "หึๆๆๆๆๆ ถ้าฉันรู้ คงบอกไปนานแล้วละ เพราะทั้งสองเดียวก็มาเดียวก็ไปกันนี้แหละ แน่นอน ว่าผมต้องการความช่วยเหลือไอ้สองตัวนี้กันเต็มแก่แล้ว เพราะทั้งสามกลุ่มเองก็ได้ความช่วยเหลือจากทั้งสองนี้ในการรวบรวมกองรบมาต่อต้านกลุ่มผู้นำกันแล้ว ส่วนเรื่องพวกพันธมิตรจากฝั่งตะวันออกนั้น ก็แค่เครื่องมือที่ช่วยให้แผนการของมันเทิร์คและพวกสำเร็จไปได้ก็เท่านั้นเองแหละ"

          "นี้แปลว่า มันเทิร์คและพวกเดธซิลเวอร์พลาเนตใช้พวกเดลอาเนี่ยนกันจริงๆสิน่ะ" โคเซวิคบอก

          ลาคาดัลบอก "แต่ถ้าจะบีบให้ฉันพูดว่าใครนำกลุ่มไหนละก็ คงยากแล้วละ เพราะ...ฉันไม่สนใจอะไรเลย นอกจาก ทำกำไรเข้ากระเป๋าของฉันเองแหละ"

          "นายนิมัน...." ลาคาเมสรำพันด้วยความเอือมระอาต่อความอวดดีของน้องชายของเขา จนกระทั่ง... "อือ..." ลาคาดัลชักขึ้นมา จนลาคาเมสกล่าว "ลาคาดัล เป็นบ้าอะไรของนายกันละ"

          ลาคาดัลกุมที่ท้อง "รู้สึกร้อนๆจากภายใน เหมือนบางอย่างในร่างผม กำลังหายไปกัน อย่างรวดเร็วเลย...." ฉับพลัน ปากก็มีแสงจ้าออกมา จากนั้นก็เป็นรูหู ช่องจมูกและดวงตากันด้วย

          "ลาคาดัล ทำใจดีๆไว้น่ะ" ลาคาเมสบอก

          ลาคาดัลกล่าว "อาๆๆๆๆ นี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย ทำไมฉันถึง...." ไม่ทันไร ร่างของลาคาดัลก็ "แว้งงงงงง" เรืองแสงจ้าขึ้นมาอย่างฉับพลัน ซึ่งทำให้ทั้งพวกไทรเวเซอร์ ยูเนี่ยนพีชและลาคาเมสรีบยกแขนป้องแสงจ้าไว้ จน "วูบบบบบ" แสงดับลงอย่างฉับพลัน เพียงแต่ลาคาดัล.... ไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าลาคาเมสและพวกกองกำลังทั้งสองอีกต่อไปแล้ว เหลือไว้เพียงรอยไหม้ตรงที่ลาคาดัลยืนอยู่

          "นี้มันเกิดเรื่องอะไรกันวะเนี้ย ไอ้ลาคาดัล มันหายตัวไปได้งั้นหรือวะ" กริซซิกกล่าว

          ลิเนียร์ตี้บอก "แอมเบอร์ ติดตามตัวสัญญาณของลาคาดัลให้หน่อย เผื่อว่าลาคาดัลจะใช้ระเบิดแสงอำพรางแล้วรีบหนีไปในจังหวะที่เราป้องแสงอยู่น่ะ"

          "เออ ลิเนียร์ตี้ ทุกๆคน เกรงว่า....ฉันติดตามตัวสัญญาณของลาคาดัลไม่ได้แล้วละ" แอมเบอร์กล่าว

          พลัสเชอริทบอก "คงไม่ได้เพราะว่า ระเบิดแสงมีผลรบกวนกล้องวงจรปิดกันละสิ"

          "ไม่เลยคะ เพราะลาคาดัลไม่ได้ใช้ระเบิดแสงเลย ซึ่งฉันลองได้ปรับภาพเหตุการณ์เป็นแบบสโลว์โมชั่นแล้ว พบว่า แสงนั้น ไม่เพียงมาจากภายในตัวของลาคาดัล แต่มัน....ดึงลาคาดัลหายไปอย่างรวดเร็วเลยละคะ" แอมเบอร์บอก

          ลาคาเมสเห็นก็ถึงกับส่ายหน้า "หรือว่า ดาวมรณะ จัดการกับลาคาดัลไปเรียบร้อยแล้วละ"

          "ดาวมรณะนะหรือ....หมายถึงมหันตภัยในอดีตกาลที่พวกคุณหลบหนีมาตลอด 400 ปีอย่างงั้นละสิน่ะ" เครนิสบอก

          เจกรอน่าบอก "อย่าบอกน่ะ ว่าไอ้พวกศัตรูตัวเอ้ที่พวกคุณส่งดาวไปอยู่มิติอื่นนิ มันทำแบบนี้กับบรรพบุรุษของพวกคุณกันน่ะ"

          "หึๆๆๆๆ เหอะๆๆๆๆ ฮะๆๆๆๆๆ" ฟีบัสหัวเราะขึ้นมา "กะแล้ว ว่าลาคาดัลต้องเผยความโง่กันจนได้ เสียแรงที่เป็นบุคคลระดับสูงในกลุ่ม ที่ไม่เชื่อฟังคำเตือนจากสมาชิกรายอื่น แต่ไปสนเรื่องของตนเองเช่นนี้ สมควรแล้วละ"

          เจเนลบอก "ที่นายพูดมาเช่นนี้ แสดงว่า นายรู้แต่แรกแล้วสิ ว่าลาคาดัลต้องเจออะไรกันน่ะ"

          "ช่าย ลาคาดัลทำผิดกฎฐานพูดเอ่ยชื่อตัวแทนทั้งสองนี้ให้ผู้อื่นได้ยิน หรือแม้กระทั่งฝ่ายตรงข้ามรับรู้กัน จะต้องถูกส่งไปอยู่ในดาวมรณะกันขึ้นมา ซึ่งสมาชิกทุกตนในองค์กรของเรา แม้กระทั่งบุคคลระดับสูงเอง รู้สาแก่ใจดีว่าจะต้องพบกับจุดจบเช่นไรกันน่ะ" ฟีบัสบอก "แน่นอน ว่าสมาชิกระดับสูงเองได้รับภูมิคุ้มกันด้านจิตใจกันไว้ เพื่อมิให้พวกเขาเผยความลับนั้นจนต้องไปลงเอยที่ดาวมรณะ มีแต่ลาคาดัลเท่านั้นที่ไม่ได้รับภูมิ เพราะมันสนเรื่องวางแผนด้านธุรกิจขายพลังงานของมันไว้เท่านั้นเองน่ะ"

          อิลมิคถาม "แล้วอะไรที่ทำให้ลาคาดัลกับบุคคลระดับสูงหายไปได้กันละ"

          "หึๆๆๆๆ ฉันไม่อยากจะไปหาลาคาดัลกันตอนนี้หรอกน่ะ เพราะฉันอยากจะอยู่เพื่อหัวเราะเยาะเย้ยกับความโง่เง่าของมัน ที่เป็นผู้นำที่อวดดีแต่โง่เง่าเต่าตุ่นอย่างมาก จนนำพามันไปสู่หายนะกันแล้วละ ฮะๆๆๆๆๆๆ" ฟีบัสหัวเราะขึ้นมา ลาคาเมสหันมายังโคเซวิคก็ส่ายหน้า

          เนคมาดูซัมบอก "ลาคาเมส เราได้ข้อมูลเท่านี้ก็เกินพอแล้วละ"

          "อืมมม ทหาร ลากตัวฟีบัสไปคุมขังในห้องใต้ดิน ลงโทษสถานหนัก ในข้อหาปลงพระชนม์ลาคาดัลต่อหน้าข้า และอยู่เบื้องหลังเหตุความวุ่นวายบนดาวดวงนี้ ในฐานะสมุนของกลุ่มเดธซิลเวอร์พลาเนตกัน" ลาคาเมสสั่งการให้ทหารแซนดาล คุมตัวฟีบัสที่หัวเราะเยี่ยงคนบ้าไปคุมขังโดยเร็ว "ดังนั้น ฉันจึงอยากจะให้พวกนายพักอยู่ที่นี้กันก่อน ซึ่งฉันได้ปรับสภาพท้องฟ้าให้ปลอดโปร่งไว้แล้วละ"

          คลอเวฟบอก "ขอให้เป็นเช่นนั้นกันบ้างน่ะ"

          "นายบอกว่า ไอ้พระราชาตัวแสบบนดาวทรายที่พ่ายแพ้และถูกจับมานั้น หายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกลุงคลอเวฟกันเลยหรือวะ" น็อกกี้กล่าวกับพวกไกซ์ที่เล่าเรื่องให้ฟัง "เออ สงสัยว่าไอ้บ้านั้นมันหาเรื่องลอยนวลและคงอยู่ที่ดาวดวงนี้กันอีกละสิ"

          เรฟไซท์บอก "เว้ากันซื่อๆเลยน่ะ ว่าพวกเราก็เหมือนกับพวกนายกันนี้แหละที่ถามเรื่องจากครูมาสวาร์ทาร์เล่ามาน่ะ"

          "แต่ตอนนี้ มันเป็นเรื่องจริงเสียแล้วละ เพราะฉันเช็ควีดีโอจากกล้องผ่านสายตาของคุณพลัสเชอริทมา พบว่าลาคาดัล หายไปพร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้าในตัว ซึ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ว่า...." มิลด์บอก "....คุณแอมเบอร์เอง ก็ไม่สามารถแกะรอยมันได้เลย แถมไม่มีปฏิกิริยาประจุไฟฟ้ารบกวนระบบสื่อสารและระบบจับภาพปรากฎขึ้นมาด้วยน่ะ"

          นาเดียบอก "นี้คงไม่ได้หมายความว่า ราชาดาวทรายตนนั้น โดนผีลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตากันเลยหรือ"

          "ถ้ามันมีผีจริง ครูมาสวาร์ทาร์คงมองเห็นไปนานแล้วละ" ดิเรนท์บอก

          นิคถาม "แสดงว่า ลาคาดัลคงจะเผลอก่อเรื่องอะไรบ้าๆขึ้นมา จนส่งผลให้เขาต้องหายสูญไปอย่างฉับพลันเลยสิน่ะ"

          "เห็นว่าลาคาดัลปากไม่มีหูรูดหรือไงกันนี้แหละ ไปเผลอบอกชื่อบางอย่างออกมา แล้วจากนั้น มันก็หายแว่บไปอย่างฉับพลันกันเลยนี้แหละ" ไลเอิร์ทบอก

          บาร์ทกล่าว "นั้นบ่งบอกได้ว่า พวกเดธซิลเวอร์พลาเนตนั้น มีวิธีลงโทษของผู้เปิดโปงความลับขององค์กรกันอย่างเฉียบขาดและเกินคาดมาก ถึงขั้นทำให้พวกเราหวั่นเกรงขึ้นมาเสียด้วยน่ะ"

          "เกินคาดมาก มากจนไม่คิดเลยว่า นั้นจะทำให้ต่างดาวอวดดีต้องโดนอะไรที่แย่กว่าโทษประหารเสียอีกน่ะ" แรมเบจเปรย

เฟรดกล่าว "สงสัยว่าพวกศัตรูที่พวกเราต้องพบเจอนั้น น่ากลัวอย่างเห็นได้ชัดเลยน่ะ"

          "แล้วเรื่องปะมือกับดูแรนซินนั้นละ" ไกซ์ถาม

          เฟรดบอก "พวกเราตั้งใจจะมารายงานให้กับพวกคุณพีวิลรับทราบกันไว้แล้วนะสิ"

          ณ.ดาวกันมาดุล-4 อาณานิคมในเขตอวกาศภาคกลางของพวกสเตรดาร์ธ ดูแรนซินและกองรบเดินทางกลับมาโดยเร็ว

          "ปี้บๆๆๆๆ" ดูแรนซินเดินเข้ามาในห้องทำงานของตน พร้อมกับเปิดระบบสื่อสารขึ้น หลังจากที่เดินทางกลับมาแล้ว "แว้งงงงง" เครื่องฉายภาพโฮโลแกรมเปิดภาพชายร่างสูงสวมผ้าโพกหัว ไว้หนวดไว้เคราไม่หนามากขึ้นมา "เจ้าพี่รองดูเหนือยมากนิ คงไม่ได้แค่ปะมือกับพวกเทเนดีนที่โผล่มากันละสิน่ะ" ชายร่างสูงบอก

          ดูแรนซินกล่าว "ยิ่งกว่านั้นนะ จาฟฟาร์ล ดูท่าว่าพวกนักรบชุดเกราะตัวเอ้ที่ปะมือกับนายในการประลองของฝ่ายสมาพันธ์อวกาศนั้น จะโผล่มาขวางทางพวกเราตามที่คาดไว้แล้วละ จาฟฟาร์ล"

          "นึกแล้วเชียว ว่าไม่วันใดวันหนึ่ง พวกแขนขาเหล็กก็ดี หน่วยรบวิหคก็ช่าง แม้กระทั่งอริของพวกพี่รองเองก็ต้องรู้เข้าจนได้ ว่าเจ้าพี่ใหญ่ส่งผมและพวกมากันพวกเขาและพวกไทรเวเซอร์กันไว้น่ะ" จาฟฟาร์ล องค์ชายสาม หัวหน้ากองรบคชสารทองคำกล่าว "ว่าแต่ เจ้าพี่รองพาพวกไปที่ระบบดาวไหนกันละ"

          ดูแรนซินตอบ "ฉันเจอและปะทะกับกองรบชุดเกราะที่ดาวทรายของระบบดาวแปดดวงกันนะสิ"

          "ระบบดาวแปดดวงนิ ที่เขาเล่าลือว่าเป็นกลุ่มดาวที่แปลกประหลาดอย่างมากที่สุด ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในเขตอวกาศภาคกลางกันเลยสิน่ะ" จาฟฟาร์ลกล่าวตามที่เขารับทราบเรื่องมา "ถ้าให้เดาน่ะ คงเป็นเรื่องพวกไทรเวเซอร์แน่ๆเลยละ"

          ดูแรนซินบอก "ใช่ ฉันทราบข้อมูลที่ได้รับมา ว่าระบบดาวแปดดวง เหมือนจะมีกลุ่มหนึ่งส่งกองรบออกไปก่อเรื่องกันในเขตอวกาศของฝ่ายสมาพันธ์กันอยู่ ซึ่งรวมถึงอีสทาล่าฟรอนเทียร์กันด้วย เป็นเหตุให้สมาพันธ์อวกาศส่งพวกไทรเวเซอร์กับพวกยูเนี่ยนพีช มุ่งหน้ามาแก้ปัญหาภายในระบบดาวดังกล่าวกันนี้แหละ"

          "แล้วพวกไทรเวเซอร์ก็เจอเรื่องยุ่งจนทำให้ซีคเทมพลาร์ต้องไปเรียกกองกำลังหลังฉาก ที่ยังคงอยู่ที่อีสทาล่าฟรอนเทียร์ให้มาช่วยกันเช่นนี้ แล้วเจ้าพี่ทำเช่นไรกันดีละครับ" จาฟฟาร์ลบอก

          ดูแรนซินกล่าว "ไม่ต้องทำอะไร เพราะพวกไทรเวเซอร์และพวกยูเนี่ยนพีชกำลังอยู่ในช่วงจัดการกับต้นเหตุของปัญหากันอยู่ เพราะฉันทราบมาว่าพวกศัตรูที่ดาวแปดดวง มันวอนหาเรื่องส่งกองรบส่วนหนึ่งลงมาที่ซาฮัลด้ากันด้วย นายช่วยจัดการกับพวกมันให้ได้มั้ยละ"

          "วางใจได้เลยครับ เจ้าพี่รอง เพราะว่าผมกับพวก ได้จัดการกับพวกนั้นไปแล้ว" จาฟฟาร์ลบอก โดยตอนนี้ทหารใต้บัญชาของตนลากศพพวกแซนดาลกับสโตนอลส่วนหนึ่งออกไปวางกองในลาน เช่นเดียวกับศพของพวกแฟคม่าด้วย

          ดูแรนซินบอก "ส่วนฉันก็ส่งคำเตือนให้กองกำลังหลังฉากบอกพวกไทรเวเซอร์ ไม่ให้มาสอดยุ่งเรื่องของพวกเรากันแล้วน่ะ"

          "แต่ยังไงท่านก็ต้องระวังตัวไว้ให้มากนะครับ ในเรื่องของเทเนดีน..." จาฟฟาร์ลกล่าว

          ดูแรนซินบอก "....ข้ารู้ดีแล้วละ จาฟฟาร์ล ว่าเทเนดีนอาจกบดานอยู่ในดาวดวงไหนก็ได้ แม้กระทั่งดวงที่อยู่ใกล้กับพวกพี่กัน แต่ตอนนี้ เจ้ากับพวกควรดูแลเขตเมืองกูดารัลและดาวซาฮัลด้าจากพวกศัตรูแปลกหน้ากันไว้แล้วกันน่ะ"

          "รับทราบแล้วละครับ เจ้าพี่รอง ขอให้เจ้าพี่รักษาตัวด้วยนะครับ" จาฟฟาร์ลบอก

          ดูแรนซินพยักหน้า "เช่นกันนะ จาฟฟาร์ล ฝากบอกท่านพ่อและเจ้าพี่ใหญ่กันด้วย" แล้วก็ตัดการติดต่อไป พร้อมกับเดินออกมาข้างนอก ซึ่งยานจอดเทียบท่ากลางเมืองของพวกสเตรดาร์ธ ที่ได้ขยับขยายขอบเขตภายในดาวดวงนี้กันแล้ว

แม้จะเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นในช่วงท้ายภารกิจ แต่อย่างน้อย ดาวแซนดอมได้รับการปลดปล่อยพร้อมกับได้ผู้นำที่แท้จริงกลับมาแล้ว เหลือดาวอีก 4 ดวง
โปรดติดตามตอนต่อไป ในตอนที่ 6 ยุทธการกอบกู้ดาวเมฆา ท่ามกลางพายุและฝนดาวตก
ตอนหน้า กองรบทั้งสามรีบมุ่งหน้าไปช่วยกอบกู้ดาวแอร์คราวนด์ตามคำขอของเซฟิสตันไว้ โดยที่พวกแอรอทฝ่ายศัตรูเตรียมเรียกฝนอุกกาบาตเข้ามา พวกเขาจะปลดปล่อยดาวได้ทันก่อนฝ่ายศัตรูจะปล่อยเกาะลอยออกไปนอกดาวทั้งหมดหรือไม่