ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga Titan Savior

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 เริ่มต้นการดวลของทศภารดร ยกแรก สามใบเถาสุดซ่า ช่วงแรก

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 63


              ณ.ดาวราโอรอน อดีตดาวแกนหลักของกลุ่มสมาพันธ์อวกาศตอนเหนือของกลุ่มต่างดาว 12 ราศี ปัจจุบัน ดาวหลักของพวกเฮซเทิร์ซ
              "ตรูมมมม โครมมมม ป้ากกกก เปรี้ยงงงง เชร้งงงง ฉั้วะ ฉับ ฉึก โครมมมม ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงการต่อสู้กึกก้องไปทั่วดาว ซึ่งดังมาจากเขตซากเมืองหลวงอันเป็นอารยธรรมดังเดิมของกลุ่มสมาพันธ์อวกาศดาวเหนือ หากแต่...ซากเมืองเต็มไปด้วยซากศพของเหล่าเฮซเทิร์ซทั้งหลายนอนกลาดเกลือน เช่นเดียวกับหุ่นรบของอีกฝ่าย ซึ่งถูกหุ่นขนาดใหญ่ลากออกจากกองซากอมนุษย์เฮซเทิร์ซขนาดใหญ่กัน
              "ไม่คิดเลย ว่าเราจะได้เห็นการต่อสู้อันยิ่งใหญ่กันได้น่ะ" อัศวินหญิงผมสีเขียวสลับสีเหลืองอ่อนในชุดเกราะหนา แต่มีรอยขีดข่วนอยู่ทั่วและถือธงศึกที่ขาดวิ่นกล่าว ซึ่งเธอหันมายังอัศวินเกราะสีทองที่เลิกหน้ากากปิดหน้าออกมา "เฮอมิส คิดว่า ท่านราชทายาทเทพ...จะชนะได้มั้ยละ"
              อัศวินหนุ่มนามเฮอมิสบอก "ไม่ใช่คำว่า จะชนะหรอก ท่านคิโคเดนและเหล่าทศภารดรเทพ ต้องชนะ กันต่างหากละ เลเบรน่า"
              "ส่วนหนึ่งเพราะ ถ้าท่านคิโคเดนและพวกไม่ชนะ เฮซเทิร์ซก็จะเหิมเกริมยิ่งกว่าเดิมสิน่ะ" อัศวินเกราะมังกรสีน้ำเงินกล่าว
              เฮอมิสพยักหน้า "ใช่แล้วละ ท่านบารอนวินเซนท์ ถ้าไม่กำจัดคอมพัลแซคลงซะ ก็จะไม่สามารถสยบพวกเฮซเทิร์ซที่เหลือลงได้แน่นอนน่ะ"
              "ต่อให้เรารู้ว่า ผู้นำของเฮซเทิร์ซมีโฉมหน้าที่แท้จริงเป็นเช่นไร แต่การกระทำของเขามันเกินตัวตนเดิมของเขาไปไกลแล้วน่ะ" อัศวินหญิงในเกราะรูปนกเพลิงแดงบอก
              เฮอมิสตอบ "สำหรับท่านคิโคเดน คอมพัลแซคต้องถูกทำลายเท่านั้นแหละ เลดี้ฟรีเซีย"
              "ครืนนนน เปรี้ยงงงงงงงง" ที่ศูนย์กลาง เกิดแรงระเบิดสั่นสะเทือนไปทั่วดาวอย่างรุนแรง แม้จะไม่ทำให้ซากเมืองพังพินาศไปเลยก็ตาม จน.... "เฮอมิส ข้างล่างเกิดอะไรขึ้นน่ะ" หญิงผมสั้นขาวกล่าว โดยที่เธอยืนอยู่ในสะพานเดินเรือของยานลำใหญ่ ซึ่งรายล้อมด้วยยานรบอีกหลายลำที่ถล่มยานรบสีดำที่อยู่นอกดาวกัน
              "สัญญาณสื่อสารขาดหายไป เพราะแรงระเบิดจากเบื้องล่างกันนะครับ หัวหน้าเทสซ่าโมน่า" โอเปเรเตอร์กล่าว
              "แรงระเบิดจากเบื้องล่าง ไม่ต้องสงสัยหรอก ว่า ใครเป็นผู้ชนะกันน่ะ" หญิงผมขาวนามเทสซ่าโมน่าบอก แล้วก็สั่งการให้ "เปิดสแกนเนอร์ตรวจสอบจุดต้นเหตุ และต่อสัญญาณสื่อสารขึ้นใหม่เดียวนี้เลย" เหล่าโอเปเรเตอร์ในสะพานเดินเรือรีบลงมือโดยเร็วจน... "ครืดดดด ครืดดด ครืดดดด" มีเสียงสัญญาณสื่อสารติดขัดขึ้นมา จน....
              "นี้เกสเลอร์ กาออสไทร์ฟ ถึงยานอาร์คใหญ่ ได้ยินบ้างมั้ย...." เสียงเด็กหนุ่มติดต่อเข้ามา
              "หัวหน้าเทสซ่าโมน่าคะ นี้ฮัลเมล่านะคะ พอจะบอกได้มั้ย ว่ามีใครเป็นอะไรบ้างมั้ยคะ" เสียงเด็กสาวบอกอย่างร้อนรน โดยที่สัญญาณสื่อสารเริ่มมีการเชื่อมต่อหลายจุด
              "หัวหน้าครับ เราสามารถรับการสื่อสารจากท่านแม่ทัพใหญ่ได้นะครับ" โอเปเรเตอร์หุ่นยนต์บอก
              "ต่อสายมาเลย" เทสซ่าโมน่ากล่าว แล้วภาพก็ปรากฎภาพของเฮอมิส "ท่านลอร์ดคิโคเดนและพวก เป็นยังไงบ้างละ" เธอถาม
              เฮอมิสพูดย้อน "คำถามนั้นควรเป็นของพวกเรามากกว่าน่ะ เธอพอเช็คได้มั้ยละ"
              "ได้อยู่แล้วละ" เทสซ่าโมน่าบอก แล้วหันมายังซัลคาเลี่ยนลิมฟ่าหญิงผมบ็อบสีดำในชุดโค้ท
              "ข่าวดี สัญญาณพลังงานของท่านแกรนด์อาร์คลอร์ดและทศภารดรเทพ ยังคงอยู่ ที่จุดกลางของฐานทัพของเฮซเทิร์ซกันน่ะ" เธอกล่าว
              "พี่ชายคะ พี่ชายคะ มีข่าวแจ้งมาคะ" หญิงสาวในชุดเกราะรีบวิ่งมากล่าวกับชายหนุ่มที่มีแผลเป็นตรงแก้มซ้ายและตาขวาในชุดเกราะสีขาว
              "ขอให้เป็นข่าวดีบ้างน่ะ พอลลีน" ชายหนุ่มนามสไปค์ เอสเวิร์ดเลี่ยน อัศวินยูนิคอร์นสามเขา หัวหน้ากลุ่มอัศวินกางเขนขาวของกองรบอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทรอยอาร์กล่าว
              "ตอนนี้ ท่านลอร์ดคิโคเดนและทศภารดร โค่นนายใหญ่ของเฮซเทิร์ซลงได้แล้วละคะ" หญิงสาวกล่าว สไปค์ได้ฟังก็ยิ้ม เช่นเดียวกับเหล่าอัศวินที่อยู่ในสนามรบ
              "ถ้าเช่นนั้น พวกเรา รีบไปดูเลยดีกว่า" บาวเซน อัศวินสิงโตทองคำ ลูกชายของแม่ทัพใหญ่อาวเซนกล่าว

              "อืออออ อา....." เสียงร้องโอดโอยดังขึ้น พร้อมกับร่างของชายชราที่มีสายไฟและสายเคเบิ้ลเชื่อมต่อตามตัว โผล่ออกมาจากหุ่นยักษ์ขนาดใหญ่สีทอง ที่พังเสียหายจากการปะทะอันยิ่งใหญ่ ลงมาตรงหน้าแมนิเกเตอร์ตัวสูงใหญ่ที่มีใบหน้าเข้มดำ สวมเกราะขนาดใหญ่พร้อมกับดาบเล่มโต "แก....กรนด์อาร์คลอร์ดคิโคเดน แกกับพวก กล้ามากที่เอาชนะข้าลงได้เลยน่ะ" ชายชรากล่าว
              แมนิเกเตอร์ตัวสูงใหญ่กล่าวกลับ "บอกตรงๆน่ะ ว่าแกเหิมเกริมกันไม่น้อย ที่กล้ามารุกรานเขตดาวของพวกเรากันได้น่ะ คอมพัลแซค" เขาคือ คิโคเดน แกรนด์อาร์คลอร์ด ผู้นำกองยานเนโอแรซัลก้า องค์ราชทายาทเทพของจักรวรรดิ์แมนิเกเตอร์ ซึ่งก้าวเดินมาตรงหน้าชายชรา ผู้เป็นผู้นำของพวกเฮซเทิร์ซ คอมพัลแซค พร้อมกับเอาดาบมาจ่อตรงหน้า "แต่ตอนนี้ แกปราชัยไปแล้วละ"
              "ทั้งหมดที่พวกแกทำมานั้น คงเป็นคำสั่งของไอ้เฮนรี่ ไนท์ละสิ ในเมื่อมันไม่สามารถบุกมาหาข้า เพราะสมาพันธ์อวกาศกลัวเกรงข้ากับพวกกันแล้ว มันเลยสั่งการพวกแกผ่านเมนคอมพิวเตอร์ที่แรซัลก้ากันละสิ" คอมพัลแซคบอก
              แมนิเกเตอร์ชายตนหนึ่งกล่าว "แกคิดว่า พวกเราทั้งหมดนี้เป็นแมนิเกเตอร์ของผู้นำของพันธมิตรมวลมนุษยชาตินะหรือ"
              "มันไม่ใช่มนุษย์กันจริงๆหรอก มันเป็นแมนิเกเตอร์ เป็นพวกเดียวกับพวกแกเองแหละ ถ้าไม่เพราะมัน พวกแกก็คงไม่ถูกสร้างขึ้นมา หลังจากการทำลายล้างครั้งแรกของฉันเมื่อหลายสิบปีก่อน จนพวกแกบดขยี้ฉันถึงที่เองน่ะ" คอมพัลแซคบอก "ดังนั้น เหตุผลที่ฉันต้องส่งกองกำลังมาบดขยี้พวกแกให้ราบคาบกันนั้น ก็เพื่อที่จะยึดสมาพันธ์อวกาศที่พวก 12 ราศี บังอาจหนีจากเงื้อมมือของข้าให้มาเป็นของข้า จักรพรรดิ์ของกลุ่มมวลมนุษยชาติที่แท้จริงกันนี้แหละ"
              แมนิเกเตอร์หญิงตนหนึ่งบอก "แกนะหรือ คือตัวแทนมนุษยชาติ ในเมื่อตอนนี้ แกมันเป็นจอมมารดีๆนี้เองแหละ"
              "คอมพัลแซค เจ้าเข้าใจผิดไปอย่างมหันต์เลยน่ะ ว่าพวกเรามิได้ถือกำเนิดเพราะคำสั่งของเฮนรี่ ไนท์กันหรอก" แมนิเกเตอร์หญิงอีกตนกล่าวด้วยน้ำเสียงอันมีเมตตา
              แมนิเกเตอร์ชายตนที่สองบอก "ท่านแม่ของเราคือผู้ที่คืนชีพบรรพบุรุษชาวซัลคาเลี่ยนขึ้นจากการทำลายล้างของแก ซึ่งก็ทำให้แกส่งขุมกำลังมารุกรานราชอาณาจักรของท่านแม่กันตลอด จนทำให้มีเหตุผลให้พวกเราต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านของพวกเรานี้แหละ"
              "ซึ่งทั้งหมดเป็นเพราะคำสั่งของไอ้แมนิเกเตอร์อย่างเฮนรี่ ไนท์เองแหละ" คอมพัลแซคบอก
              แมนิเกเตอร์ชายตนที่สามกล่าว "แกคิดว่า ไอ้ผู้นำมวลมนุษยชาติที่แกว่ามานั้น สั่งแม่ของเราได้นะหรือ ตอแหลน่า ผู้นำมวลมนุษย์คนนั้นไม่มายุ่งกับพวกเรา นับตั้งแต่พวกเรายังไม่เกิดขึ้นจากท้องท่านแม่เลยนะโว้ย"
              "ทะ ท้องของท่านแม่นะหรือ....พวกแกหมายความว่ายังไง เฮนรี่ ไนท์ ไม่ได้สร้างพวกแกเลยหรือ" คอมพัลแซคบอกอย่างอึ้งๆ
              คิโคเดนกล่าว "เฮนรี่ ไนท์ ยังอยู่ที่ดิสก์เวิร์ดมาหลายสิบปี แม้ตัวเขาจะดูไม่แก่แม้จะอยู่ในสถานีอวกาศขนาดใหญ่ยักษ์มาตลอดเวลาเลยก็ตาม ไม่ใช่แค่เพราะว่าเวลารอบตัวเขาไปช้าอย่างเดียว....." แล้วก็บอก ".....ข้าพึ่งมารู้ว่า เฮนรี่ ไนท์มีสภาพอ่อนวัยตลอดเวลา ซึ่งมนุษย์อย่างแกน่าจะรู้จักดีแล้วนิ"
              ".....เฮนรี่ ไนท์เป็นเฟสยูธนะหรือ.....แล้วนิ อย่าบอกน่ะ ว่าพวกแกถือกำเนิดจากคอมพิวเตอร์แม่ที่สร้างพวกแกขึ้นมาเลยน่ะ" คอมพัลแซคบอก
              แมนิเกเตอร์ชายตนที่ 4 บอก "เปล่า ท่านแม่พัฒนาสร้างร่างกายอันใหญ่โตขึ้นเอง ซึ่งท่านแม่ได้เจอกับท่านพ่อกับเหล่าแมนิเกเตอร์บนโลก และพาพวกเขามาอยู่ที่แรซัลก้า โดยที่ท่านพ่อกับท่านแม่ ใช้กระบวนการสืบพันธุ์เยี่ยงมนุษย์ ให้กำเนิดพวกเรากันนี้แหละ"
              "จักรกล สร้างจักรกลแบบเดียวกันกับสิ่งมีชีวิตนะหรือ นี้มัน......แหกกฎของธรรมชาติ ของจักรวาล และความเป็นจริงเช่นนี้.....ถึงยังไงเสีย ข้าต้องกำจัดพวกแกทิ้งอยู่ดีนี้แหละ เพื่อมิให้สายพันธุ์อย่างแกเหนือพวกมนุษย์...." คอมพัลแซคได้ฟังก็โวยลั่น แม้จะอ่อนแรงไปเลยก็ตาม
              คิโคเดนบอก "....แกไม่มีสิทธิ์อ้างตนเป็นตัวแทนของมนุษย์ หรือแม้กระทั่งมนุษย์ไปได้หรอก เพราะแก....สร้างปีศาจร้ายขึ้นมารุกรานพวกเรา ก่อความเดือดร้อนให้กับจักรวรรดิ์ของพวกเรา เพียงเพื่อที่จะอยู่เหนือผู้นำของพวกมนุษย์อย่างเฮนรี่ ไนท์กัน ด้วยการแลกความเป็นมนุษย์จนแกเป็นเช่นนี้...." แล้วก็เลื่อนดาบออกมา "ในฐานะของว่าที่ของจักรพรรดิ์ของแมนิเกเตอร์ จักรวรรดิ์ของพวกเราจะต้องไม่มีแกกับพวกเหลืออยู่"
              "ถึงแกจะฆ่าข้าให้ตาย แต่....สมุนเศษเดนที่เหลือก็ต้องมาหาเรื่องพวกแกกันอยู่ดี และถ้าข้าตาย นั้นหมายถึง แกเปิดกล่องแพนโดร่าออก....." คอมพัลแซคขู่ แต่ "ฉับบบบบ" ดาบเอมเพไคเซอร์ผ่าเข้าร่างคอมพัลแซคไปเต็มๆ
              "....ฉันไม่สนใจหรอก ว่าการตายของแกจะนำพาหายนะมาให้ยังไง ฉันสนแค่อย่างเดียว....." แล้วก็กำด้ามดาบแน่นๆ ".......คือความฉิบหายวายวอดของแกและพวกเฮซเทิร์ซกันนี้แหละ" จนคมดาบเรืองแสงขึ้น
              "ไอ้แมนิเกเตอร์ตัวโต นี้แก....แกคิดว่าแกเป็นใครกันวะ" คอมพัลแซคโวย คิโคเดนกล่าว "....ฉันคือ ราชทายาทเทพ เป็นบุตรแห่งบิดรเทพโอเวอร์เดสและมารดรเทพโอเวอร์เรส อมนุษย์สถุลผู้หลงตัวเอง ถึงขั้นสร้างกลุ่มผู้รุกรานทั้งหลายเหล่ส่งออกไปก่อความเดือดร้อนให้กับระบบดาวที่ท่านพ่อของเรายึดครอง รวมถึงระบบดาวของท่านแม่มาตลอด 40 ปี อย่างแกเองนั้น....." แล้วก็ดึงดาบออกและเงื้อดาบขึ้น ".....สิ้นสูญไปจากจักรวาลกันได้แล้ว คอมเวล พาลแซค" พร้อมกับ "หวับบบบบ"
           "เปรี้ยงงงงงงงงงง ตรูมมมมมม" เมื่อดาบฟาดลงใส่คอมพัลแซค ก็เกิดเสาระเบิดโพยพุ่งทะยานอย่างจังๆ ส่วนคอมพัลแซคนั้น "มะ ไม่จริง นอกจากจะแพ้เฮนรี่ ไนท์แล้ว แมนิเกเตอร์ทั้งหลายนั้น เหนือกว่าข้า ผู้เป็นจักรวรรดิ์ของมวลมนุษยชาตินะหรือ เกรี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" ร่างขาดสะบั้นเป็นสองซีกและกระจุยจนเศษชิ้นเนื้อและอวัยวะสลายไปกับอากาศธาตุ เหลือไว้เพียงหลุมระเบิดขนาดใหญ่กัน ซึ่งเฮอมิสและพวกมาถึงกันพอดี
              "......." เหล่าอัศวินทั้งหลายนิ่ง โดยที่คิโคเดนและเหล่าพี่น้องหันหน้ามา "แกรนด์อาร์คลอร์ด ทศภารดรเทพ จงเจริญ!!!!!!!!!" เฮอมิสกล่าว และชูดาบขึ้น "เฮ เฮ้ เฮ้ โว้ววววว เฮ้...." เสียงกู่ร้องของเหล่าอัศวินทั้งหลายทั้งในและนอกดาวลั่นขึ้นมา
              แมนิเกเตอร์ชายบอก "เจ้าพี่ใหญ่ จบเรื่องแล้วสิครับ"
              คิโคเดนพยักหน้า "ถึงเวลาที่เราต้องกลับระบบดาวเทรสตีดแล้วละ"
              "เจ้าพี่ใหญ่ ท่านคงไม่ได้หมายความว่า....." แมนิเกเตอร์หญิงร่างอวบกล่าว
              คิโคเดนตอบ ".....เราจะพักรบกันหนึ่งเดือน จากนั้น....." แล้วก็เดินหันหลัง พร้อมกับบอกว่า "...พวกเราจะไปเยี่ยมแอสเซนที่อีสทาล่าฟรอนเทียร์แล้วละ"

    และนั้นคือจุดเริ่มต้นของมหาสงครามอันใหญ่ยิ่งของ....
    TriVeser Manigator Saga: The Titan Savior
    ตอนที่ 1 เริ่มต้นการดวลของทศภารดร ยกแรก สามใบเถาสุดซ่า

              ณ.ระบบดาวอีสทาล่าฟรอนเทียร์ พรมแดนตะวันออกไกลของสมาพันธ์อวกาศ อันเป็นระบบดาวของสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์
              หลังจากการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ระหว่างกองกำลังหัวหอกอย่างกองกำลังไทรเวเซอร์ กับมหาดารามรณะที่ถูกเควโทรดิมัส แมนิเกเตอร์พลังจิตครอบงำหมู่เข้ายึดครอง และอยู่เบื้องหลังการก่อเรื่องในเขตอวกาศภาคกลางจบลงไปได้ครึ่งปีนั้น ทั้งระบบดาวนี้ และทุกระบบดาวในเขตอวกาศของสมาพันธ์อวกาศเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวอีกครั้ง แม้จะฟื้นได้ช้าก็ตาม สมาพันธ์อวกาศก็ไม่ได้ปล่อยการ์ดลงแต่อย่างใดเลย
              ที่ดาวแคสเซเดี่ยน-3 แมนิเกรโทรโปลิส ทำเนียบเงิน ศูนย์กลางการปกครองของมหาประธานาธิบดีโคเคส แอคเมนโด้ ผู้นำของกลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์
              "นี้มันตั้งเดือนกว่าแล้ว นับตั้งแต่ ทางเราได้ข่าวจากกองยานแพลตตินั่มอามาด้าแจ้งมา ว่าคิโคเดนและกองยานเนโอแรซัลก้า กำชัยชนะเหนือพวกเฮซเทิร์ซด้วยการบดขยี้คอมพัลแซคให้กระจุยไปน่ะ" นายทหารหัวเกรียนลำบึ่กในชุดสีเขียวกล่าว โดยอยู่ในที่ประชุมเหล่าทหารทั้งหลายรวมถึงตัวแทนฝ่ายการเมือง ซึ่งมีโคเคส มหาประธานาธิบดีเป็นประธานในการประชุม
              นายทหารชายในชุดสีกรมท่าบอก "เรื่องนั้นเรารู้อยู่แล้วละ ผบสส.บาโธโรมิว เพราะมันทำให้เรานั่งไม่ติดเก้าอี้เลยน่ะ"
              "ฉันก็เห็นด้วยกับนายพลเพอซิอัสกันน่ะ ต่อให้เฮซเทิร์ซถูกกวาดล้างไปแล้วก็จริง...." นายพลหญิงในชุดทหารสีเขียวแต่ติดแถบน้ำเงินบอก ".....แต่กองรบผู้กำชัยชนะก็ต้องมาหาเรื่องกับพวกเราเช่นกันน่ะ"
              ตัวแทนฝ่ายการเมืองบอก "พวกคุณคงไม่คิดจะยอมจำนนต่อฝ่ายกองยานของราชทายาทเทพเหล่านั้นเลยสิน่ะ"
              "พวกเราไม่ยอมจำนนกันได้หรอก เพราะถ้าพวกเรายอม นั้นหมายถึงคิโคเดนจะสามารถยึดระบบดาวนี้ได้โดยสมบูรณ์ ซึ่งพวกเรายอมไม่ได้เป็นอันขาด" นายพลหญิงในชุดสีกรมท่ากล่าว
              แต่นายทหารอีกรายบอก "แต่....ถ้าเราสู้กัน ก็หาได้เอาชนะกองรบที่ราชทายาทเทพนำมาได้หรอก ถ้าขนาดพวกเฮซเทิร์ซยังพ่าย นับประสาอะไรกับพวกเราละ"
              "อีกอย่าง เรารู้ดี ว่าถึงพวกเรายอมจำนน ราชทายาทคิโคเดน ซึ่งเห็นพวกเราส่วนหนึ่ง เป็นผู้ทรยศต่อดาวบ้านเกิดนั้น คงไม่เอาพวกเราไว้แน่นอน" นายทหารอาวุโสกล่าว เขาผู้นี้คือ จอมพลแฮซกริฟ อดีตหัวหน้ากองยานจักรวรรดิ์ ผู้กุมอำนาจทางทหารของฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ในเวลานี้
              "จริงอย่างที่ท่านแฮซกริฟว่าไว้ ถ้าพวกเรารวมถึงแมนิเกเตอร์ในแคสเซรอน-4 รวมกัน อาจจะพอต้านทานคิโคเดนไปได้จริง แต่เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดเลยนะครับ" นายทหารหนุ่มชุดเขียวบอก
              "แม้ว่าเดลิคพูดมา อาจจะทำให้ทั้งฉันและพวกเราในที่ประชุมไม่ชอบเลยก็ตาม....." นายทหารหัวเกรียนล้ำบึกบอก เขาคือ บัลโต้ บาโธโรมิว ผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์ดวงดาว และหันมายังโคเคส "ท่านมีความเห็นเป็นเช่นไรละ ท่านมหาประธานาธิบดี"
              โคเคสได้ฟังแล้วก็ลุกขึ้นยืน "จากสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเราทั้งหลายไม่ควรแตกตื่น ส่งผลไปถึงประชาชนทั้งหลายที่อยู่ในระบบดาวนี้ เกิดความวุ่นวายจนพวกเราและพวกคุณไม่สามารถหยุดยั้งไว้ได้ก็ตาม....ตามความเห็นของผมนั้น เราต้องนิ่งเฉยกันไว้ก่อน"
              "นิ่งเฉยแล้วปล่อยให้ราชทายาทเทพมันข่มเหงพวกเราเลยหรือ" เลอวองค์ หัวหน้าพรรคครีโมเครทกล่าว
              โคเคสกระแอ่มก่อนแล้วอธิบายว่า "ผมรู้ดี ว่าการมาของราชทายาทคิโคเดนและพวกนั้น คือการบีบบังคับให้สหพันธมิตรแมนิเกเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ์เนโอแรซัลก้าของเขา ซึ่งเท่ากับว่า คิโคเดนกล้าประกาศตนเป็นศัตรูกับสมาพันธ์อวกาศ เหมือนที่มารดรเทพโอเวอร์เรสทำเมื่อ 4 ปีก่อนก็ตาม ถ้าเราเป็นฝ่ายบุกหรือหาเรื่องก่อน นั้นหมายถึง คิโคเดนจะมีเหตุผลในการทำสงครามกับพวกเราในระบบดาวของเราเอง ซึ่งนั้นไม่ต่างจากการที่เดลอาเนี่ยนยึดระบบดาวของพวกเราได้อยู่ดี..." แล้วก็ลุกขึ้น "....แน่นอน ว่าสงครามระหว่างแมนิเกเตอร์ด้วยกันเองก็ต้องเกิดขึ้นอีกรอบ แต่เราจะเสียเปรียบอย่างมาก ถ้าคิโคเดนนำกองยานรบทั้งหมดมาเอาเรื่องกับพวกเราได้น่ะ"
              "ความนัยของท่านก็คือ....เราต้องเป็นฝ่ายรับเพียงฝ่ายเดียว แม้จะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลยสิครับ" นายทหารชุดกรมท่ากล่าว เขาผู้นี้คือ เพอซิอัส อาซิมอฟ ผู้บังคับบัญชาการกองรบภาคพื้นที่ 11 ผู้สั่งการตรงของกองกำลังไทรเวเซอร์
              โคเคสพยักหน้า "ดังนั้น ผมจึงขอให้พวกท่านควบคุมประชาชนและคนใต้บังคับบัญชาให้นิ่งสงบไว้ก่อน และนี้ไม่ใช่คำขอร้องอย่างเดียว แต่เป็นคำสั่งด้วย เพราะ....ผมไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งระหว่างแมนิเกเตอร์กันเองบานปลายจนเกิดเป็นมหาสงครามตามที่คิโคเดนหวังไว้ และนำพาความสูญเสียมาให้ประชาชนทั้งปวงกันด้วยนะครับ"
              ".............." ในที่ประชุมต่างนิ่งไม่กล้าท้วงติงหรือคัดค้านแต่อย่างใด จนกระทั่งการประชุมยุติลง "ดีแล้วละที่นายแสดงความรับผิดชอบออกมาได้น่ะ" บัลโต้บอก
              โคเคสพยักหน้าและถอนใจ "บอกตามตรงน่ะ ว่าต่อให้คิโคเดนไม่มา ฉันรู้สึกตึงเครียดไม่น้อยแล้ว ถ้าวันนั้นมาถึงกันจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรน่ะ"
              "บอกตรงๆน่ะ ว่าท่าทีของเหล่านายทหารทั้งหลายปรากฎเด่นชัดมาก ส่วนที่อยู่กับฝ่ายเรานั้น ไม่คิดจะกลับไปและอยู่ช่วยพวกเรา แต่....ส่วนที่เหลือซึ่งมาจากกองยานบุกเบิกที่ได้รับการช่วยเหลือส่วนหนึ่งนั้น.....เริ่มเกิดความหวาดกลัวกันแล้วน่ะ" แฮซกริฟบอก
              บัลโต้บอก "ท่านจอมพล ท่านไม่คิดที่จะบีบบังคับพวกเขากันละสิ"
              "ผบ.บาโธโรมิว คำถามนั้นฉันควรจะถามฝ่ายเธอมากกว่าน่ะ" แฮซกริฟพูดย้อน บัลโต้พยักหน้า เพราะฝ่ายตนที่เป็นพวกเทรอม ซึ่งเป็นแมนิเกเตอร์มาจากโลกนั้น เลือกที่จะไม่ยอมจำนนและคิดต่อสู้กัน
              รัฐมนตรีโยธาและวิศวกรรมนามด็อดเจอร์กล่าว "แต่อย่างน้อย เราต้องคิดเผื่อว่าคิโคเดนจะยิงถล่มเขตเมืองและสถานที่สำคัญจากนอกดาว เหมือนที่พวกนั้นทำกับเขตเมืองอาณานิคมของพวกสเตรดาร์ธกันน่ะ"
              "เรื่องนั้น ฉันรู้ดีแล้วละ ว่าคิโคเดนกำชัยเหนือราชทายาทมูราดีนกันยังไงน่ะ" โคเคสบอก และสั่งการให้ "เชื่อมต่อไปที่แคสเซรอน-4 ได้เลย" แล้วคอมพิวเตอร์ก็ต่อสายและฉายภาพโฮโลแกรมของหญิงผมยาวสวมแว่นในชุดข้าราชการออกมา
              "ฝ่ายการเมืองและฝ่ายทหารยังลังเลว่าจะสู้หรือยอมจำนนกันสิน่ะ" เธอกล่าว
              "ถูกแล้วละ เซริซ่า แม้ท่านประธานาธิบดีสั่งให้ทุกฝ่ายควบคุมสถานการณ์เลยก็ตาม แต่ทั้งฉัน และพวกเรามองออก ว่ามันต้องเกิดเรื่องโกลาหลอันใหญ่หลวงแน่นอน" บัลโต้บอกกับเซริซ่า ไนติงเกล ผู้ว่าการของดาวแคสเซรอน-4 อย่างหงุดหงิดใจไม่น้อย
            เดลิค นอร์มังดี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษ ภายใต้กองกำลังป้องกันดวงดาวกล่าว "ยิ่งในช่วง 4 เดือนก่อนนั้น ผมทราบเรื่องที่มีสายลับแฝงตัวเข้ามา ซึ่งผมพยายามไม่น้อยในการสกัดกั้นหยุดยั้งไปได้ทุกครั้ง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้นะครับ"
              "คิดว่านั้นเป็นสายของคิโคเดนหรือเปล่าละ" บัลโต้กล่าว
              เดลิคส่ายหน้า "ผมยังฟันธงอะไรไม่ได้เลยนะครับ แม้จะมีข้อมูลของคนในกองรบของคิโคเดน ทั้งเก่าและใหม่นั้น แต่ดูเหมือนว่าคิโคเดนได้ข้อมูลจากพวกทรอยอาร์ที่ถูกจับกุมมา เลยทำให้ฝ่ายนั้นไหวตัวได้นะครับ"
              "แค่เราไม่เปิดช่องว่างก็เกินพอแล้วน่ะ หัวหน้านอร์มังดี" เพอซิอัสกล่าว และหันมาถาม "ผู้ว่าการไนติงเกล ตอนนี้ กองกำลังหัวหอกที่ประจำการอยู่ที่ดาว เป็นยังไงบ้างละ"
              เซริซ่ากล่าว "วางใจได้คะ ท่านนายพลอาซิมอฟ พวกเขายังฝึกฝนอยู่ เช่นเดียวกับเตรียมการให้เหล่าแมนิเกเตอร์ในดาวพร้อมรับมือกันนะคะ"

              "ช่วยเรียกพวกเขามาได้มั้ยละ" บัลโต้กล่าว เซริซ่าพยักหน้า แล้วภาพโฮโลแกรมก็เปลี่ยนเป็นแมนิเกเตอร์สามตน โดยตนแรกเป็นแมนิเกเตอร์มนุษย์หุ่นยนต์เกราะสีขาว ตนที่สองเป็นแมนิเกเตอร์มนุษย์สวมเกราะมีผลึกสีเขียวบนหัว ตนที่สามเป็นแมนิเกเตอร์มนุษย์สวมเกราะสีน้ำเงินและมีแขนสองข้างใหญ่กว่า
              "เนคเกอร์ เธอกับกองกำลังอยู่ที่โน่น มีความคืบหน้าอะไรบ้างมั้ย" เพอซิอัสถาม
              "ตอนนี้ เผ่าแกตไทซ์กำลังฝึกฝนเหล่านักรบให้พร้อมรับมือกับกองรบของคิโคเดนแล้วละครับ ท่านนายพล" มนุษย์หุ่นยนต์สีขาวนามเนคเกอร์ มาสซั่ม หรือเนคมาดูซัม แกตไทซ์เฮฟวี่คอมมานโด้ หัวหน้ากองกำลังไทรเวเซอร์กล่าว
              "การฝึกเหล่านักรบครอสตรีมของไฮลอร์ดดำเนินไปได้ด้วยดี หลังจากที่ทางเราฝึกกับพวกครีซีแทนไปแล้วละครับ" มนุษย์สวมเกราะมีผลึกสีเขียวบนหัวนาม เอชมาสวาร์ทาร์ คาตานะลอร์ดแห่งครอสตรีม รองหัวหน้ากองกำลังรายงาน
              "ส่วนกลุ่มอีเนอไมนด์นั้น การฝึกร่วมกับแอตแลนไทซ์และสโทรเพธเมื่อสองวันก่อน แม้จะเกิดปัญหาไปบ้าง แต่ก็จัดการให้ลงตัวได้แล้วละครับ" มนุษย์แขนโตสองข้างเกราะสีน้ำเงินนามพีวิล เบรซซิ่งบลูฟิสท์แห่งอีเนอไมนด์ รองหัวหน้าอันดับสองแจ้ง
              บัลโต้พยักหน้า "ดีแล้วละ ที่พวกนายมารายงานให้เป็นระยะๆเลยน่ะ"
              "แล้ว เมดเดนออฟสเปียร์ล่ะ" เพอซิอัสถาม
              พีวิลตอบ "สเปียริทกำลังฝึกฝนการต่อสู้ให้กับพวกไทรเมร่าอยู่ เพื่อเตรียมรับมือหากคิโคเดนส่งกองรบเข้ามาในเขตเมืองหลวงนะครับ"
              "ดีแล้วละ เพราะถึงแม้ว่าคิโคเดนจะส่งคนมาพร้อมกับสาสน์ท้าดวลกันแล้วก็ตาม พวกนายคงจะรู้ดี ว่าคิโคเดนคงไม่ได้แค่มาท้าดวลกันน่ะ" บัลโต้กล่าว
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "ด้วยข้อมูลที่เราได้รับมาในช่วงที่พวกเราอยู่ในเขตอวกาศภาคกลางนั้น ได้ทำให้พวกเรารู้ข้อมูลของกำลังรบฝ่ายเนโอแรซัลก้ากันบ้าง แม้จะไม่ได้รับทราบเรื่องมาตลอดครึ่งปีเต็มก็ตาม พวกเราก็เตรียมพร้อมไว้ดีนะครับ"
              "ต่อให้ในเวลานี้ มหาจักรวรรดิ์เดลอาเนี่ยนก่อสงครามชิงบัลลังก์กันก็ตาม หวังว่าพวกนายคงไม่ทำให้คิโคเดนมีสิทธิ์เหนือพวกเรากันบ้างน่ะ" บัลโต้บอก
              พีวิลกล่าว "แล้วทางท่านประธานาธิบดีเอง ยังชี้แจงให้ทุกฝ่ายอย่าพึ่งลงมือเลยสิครับ"
              "ถูกแล้ว เพราะด้วยขุมกำลังของคิโคเดนในเวลานี้มีเหนือกว่า ซึ่งนั้นหมายถึงเขาพร้อมที่จะทำสงครามกับสมาพันธ์อวกาศกันก็ตาม ไม่ว่าพวกเราจะลงมือยังไง เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบกันอยู่ดี" โคเคสกล่าว
              มาสวาร์ทาร์ถาม "นายพลเพอซิอัส ท่านจอมพลแฮซกริฟ สภาพของกองยานเป็นเช่นไรละครับ"
              "ฉันยังไม่ให้กองยานออกไปนอกดาวกันก่อน ตราบใดที่ยังไม่มีคำสั่งตรงเลยน่ะ" แฮซกริฟบอก
              เพอซิอัสกล่าว "จูเดทต้าแจ้งมา ว่าตอนนี้ ตัวแทนของคิโคเดนที่ถูกส่งมานั้น ยังอยู่ในการควบคุมตัวกันเป็นปกติ โดยที่เธอไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการคุกคามเลยน่ะ"
              "หวังว่าตลอด 1 เดือนกับสัปดาห์หนึ่งที่อยู่แคสเซรอน-4 ของพวกนายคงจะไปได้สวยบ้างน่ะ" บัลโต้บอก
              เนคมาดูซัมพยักหน้า "พวกเราทราบดีแล้วละครับ"
              "ถ้าเช่นนั้น ทางเราจะยุติการติดต่อกับพวกเธอแล้วกันน่ะ" แฮซกริฟบอก แล้วเซริซ่าเข้ามาแทนที่พวกเนคมาดูซัม
              "งั้นพวกเราไปก่อนเลยนะครับ" พีวิลกล่าว
              "ขอให้โชคดีแล้วกันน่ะ" โคเคสบอก
              จากนั้นพวกเนคมาดูซัมก็เดินออกจากห้องทำงานของเซริซ่า "บอกตามตรงน่ะ ว่าข่าวชัยชนะเหนือพวกเฮซเทิร์ซของคิโคเดนนั้น กระทบกับพวกเราและสหพันธมิตรอย่างรุนแรงแล้วละ" เนคมาดูซัมบอก
              "ใช่ ดีที่พวกเราส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวให้พวกอากาเมมนอสรับรู้มาในช่วงที่เราอยู่ในเขตอวกาศภาคกลาง เลยทำให้พวกเขาเตรียมแผนการสู้รบกันไว้แล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลบอก "รวมถึงเรื่องที่เพื่อนเก่าของสเปียริทมาถึงด้วย ซึ่งนั้นทำให้เรารู้เรื่องคิโคเดนกันนี้แหละ"
              "แต่ในทางกลับกัน ข้อมูลขีดความสามารถในการต่อสู้ของพวกเราในช่วงมหาสงคราม ซึ่งไซมาเทนรวบรวมมานั้น ทำให้คิโคเดนและพวกมีข้อได้เปรียบบ้างละ" มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              เนคมาดูซัมกล่าว "และคิโคเดนเองก็มีข้อมูลของพวกเราในช่วง 3 ปีครึ่งก่อนด้วย นี้แหละคือความกังวลของฝ่ายเรากันละ"

              ย้อนกลับไปเมื่อ 1 เดือน 1 สัปดาห์ และ 3 วันก่อน ที่เฟิร์สฮิลล์ เมืองแห่งแรกของเหล่าแมนิเกเตอร์กลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ พื้นที่ความรับผิดชอบของกองกำลังไทรเวเซอร์และกองกำลังภาคพื้นที่ 11
              "บอกตรงๆน่ะ ว่าการฝึกในคราวนี้ตึงเครียดยิ่งกว่าเก่าน่ะ" หญิงผมตั้งยาวสีบลอนด์แต่ปรกหน้าด้านขวาในชุดเกราะสีเขียวกล่าว โดยมากับแมนิเกเตอร์แบบหุ่นแอนดรอยหญิงผิวสีม่วงในชุดกังฟู แอนดรอยหญิงผมสั้นสีแดงสวมชุดเกราะสีขาวแถบแดง แมนิเกเตอร์เด็กหญิงหมวกกลมมีแถบแก้วสีชมพูติดหูท่อสีม่วงสั้นๆสองข้าง สวมชุดเกราะกระโปรง หญิงสาวผมสั้นสีบลอนด์อ่อนในชุดหนังสีแดงกับแขนขาหุ่นยนต์ และหญิงผมยาวสีส้มในชุดกระโปรงสั้นลายบาร์โค้ด ปลอกแขนแถบแก้วสีส้มและถุงน่องสีแสด ทั้งหกเดินลงจากเขาไปยังเขตชุมชนด้านบน
              โดยคนแรกสุดบอก "ไม่แปลกใจหรอก โฟรซ่า นับตั้งแต่เราทราบจากชาวดาวฤกษ์ ว่าคิโคเดน บรรลุเป้าหมายของตนเองไปเป็นที่เรียบร้อยนั้น ทำให้พวกเราทั้งหมดนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยน่ะ"
              "ถ้าให้เดาน่ะ เป้าหมายถัดไปของคิโคเดน คงเป็นพวกเราแน่ๆเลยละ" แมนิเกเตอร์เด็กหญิงกล่าว เธอคือจิล G-3 สมาชิกหน่วยเจเนไซด์ทีม และสมาชิกตัวหลักเมนซิกส์ทีนตัวเล็กที่สุด หญิงสาวผมสั้นในชุดหนังสีแดงบอกอย่างกลัวเกรง
              "อย่าพูดเป็นลางได้มั้ย จีนี่ มันไม่เข้าท่าเลยน่า" เธอคือไซโคลเนีย แมนิเกเตอร์สาวจากกลุ่มโซลูนาสตี้ สมาชิกหญิงที่บินได้เพียงตนเดียว
              "คิดว่าคิโคเดนกับพวกจะมุ่งตรงมายังระบบดาวแคลเกียรัสและเบย์เบรดินมั้ยคะ คุณโฟรซ่า" หญิงผมยาวสีส้มถาม เธอคือแอนเดรีย หรือ เอเดรียน เดลวีแองนู บุตรีของอัลบาร์ค เดลวีแองนู ผู้สร้างโอเวอร์เดส ปัจจุบัน มิวแทนอยด์หญิงคลาสเอสคู่ สมาชิกหญิงที่เป็นครูในกอง
              หญิงผมตั้งยาวนามโฟรซ่า สมาชิกหญิงที่อาวุโสที่สุดในกลุ่ม แมนิเกเตอร์หญิงจากโซลูนาสตี้กล่าว "ตราบใดที่คิโคเดนและพวกยังไม่มีข้อมูลที่ตั้ง ซึ่งพวกเราลบทิ้งไปเมื่อครึ่งปีก่อน โดยที่ไม่มีการมาเช็คดูความเปลี่ยนแปลงกันละก็ เรายังวางใจได้บ้างน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะในกองรบของคิโคเดน มีองค์ชายวิทยะที่เก่งด้านคอมพิวเตอร์ด้วยสิน่ะ สเปียริท" แอนดรอยหญิงผมสั้นสีแดงกล่าวกับแอนดรอยหญิงผมยาวผิวสีม่วง แอนดรอยหญิงผมแดงนั้นคือลิเนียร์ตี้ เพรแครทเมดลิคซ์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์ด้านคอมพิวเตอร์และสนับสนุนการสู้รบ
              แอนดรอยผิวสีม่วงพยักหน้าและพูด "ใช่ อีกทั้งแมคเคลเลนมีไอเดย่าอยู่ด้วย โอกาสที่พวกเขาหาที่ตั้งของพวกแคลเกียสและเบย์บาลิคเจอ ย่อมเกินครึ่งแน่นอน" เธอคือสเปียริท เมดเดนออฟสเปียร์ แมนิเกเตอร์แอนดรอยหญิงตัวแรก ที่เข้าร่วมกับกองรบสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ในช่วงมหาสงครามบนโลก
              "ที่พวกเราทำไป ก็คงจะสูญเปล่าละสิ" จิลบอก สเปียริทพยักหน้าอย่างซีเรียส
              ไซโคลเนียบอก "แถมพวกเราเองก็ไม่กล้าบุกไปหาเรื่องกับพวกคิโคเดน ต่อให้พวกนี้พำนักที่เทรสตีดแล้วก็ตามน่ะ...."
              "เออ.....สเปียริท มีคนมารออยู่หน้าบ้านกันน่ะ" แอนเดรียสังเกตุเห็น หญิงสาวผมสั้นสีขาวในชุดเสื้อสีแดงกางเกงขายาวสีขาว เดินอยู่หน้าบ้านเวเซอร์เฮาส์ อันเป็นที่พักของเมนซิกส์ทีน กลุ่มสมาชิกตัวหลักทั้ง 16 ของกองกำลังไทรเวเซอร์ สเปียริทชะงักขึ้นมา ต่อให้ไม่เห็นหน้ากันเลยก็ตาม
              โฟรซ่าบอก "นั้นคงจะ มิใช่ เพื่อนเก่าสมัยเด็กของเธอเลยสิน่ะ"
              "เกรงว่า จะใช่นะสิ หากแต่ เธอไม่น่ามาที่นี้ได้น่ะ" สเปียริทกล่าว
              ลิเนียร์ตี้บอก "เราเดินเข้าไปหาเลยดีกว่าน่ะ"
              "เออ ขอโทษนะคะ ว่าแต่ ที่นี้เป็น...." หญิงสาวผมสั้นสีขาวหันมาถามพวกโฟรซ่ากัน ซึ่งพอเห็นหน้าสเปียริทปุ๊บ เธอกลับทักไปว่า "แอ แอสเซน นี้เธอใช่มั้ย"
              สเปียริทพยักหน้า และทักกลับ "โมน่า....เทสซ่าโมน่า เป็นเธอเองสิน่ะ"
              "ใช่จริงๆด้วยน่ะ แอสเซน ไม่คิดเลย ว่าจะได้เห็นเธอกันจริงๆน่ะ" หญิงสาวนามเทสซ่าโมน่ารีบวิ่งเข้ามากอดสเปียริทกันอย่างรวดเร็ว
              "เออ โมน่า รู้น่ะ ว่าเธอดีใจ แต่...เธอทำต่อหน้าเพื่อนๆของฉันนะยะ" สเปียริทบอก
              "อ้าวหรือ แหะๆๆๆๆ โทษทีน่ะ เพราะว่าฉันได้ทราบข่าวคราวเรื่องเธอมาตลอด และเกิดความตื่นเต้นไม่น้อยเวลาเจอหน้าเธอ หลังจากที่ไม่ได้เจอมาตลอด 20 ปีเต็มเลยน่ะ" เทสซ่าโมน่ากล่าว แล้วรีบเดินออกมาโดยทันที
              โฟรซ่าบอก "แสดงว่า เธอเป็น เพื่อนสมัยเด็กของ สเปียริทละสิน่ะ"
              "คะ ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ" เทสซ่าโมน่าบอก "ฉันชื่อโมน่า เทสซ่าโมน่า ชาวซัลคาเลี่ยน บุตรีของคุณพ่อวินซี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
              ลิเนียร์ตี้บอก "ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ แม้ว่าคุณจะไม่ได้เจอหน้าสเปียริทมาหลายปีก็ตามน่ะ"
              "เช่นกันนะคะ คุณลิเนียร์ตี้ แม้ว่าคุณจะเป็นแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้ที่ร่วมรบพร้อมกับแอสเซนมานานก็ตาม แต่เรื่องที่คุณกับคุณจีน่าเป็นไอดอลชื่อดังแบบนี้ ทั้งฉันและพวกเราต่างก็รู้ด้วยนะคะ" เทสซ่าโมน่าบอก แล้วก็หยิบมือถือมา "จะว่าอะไรมั้ย หากขอลาย...."
              โฟรซ่ากระแอ่มก่อน แล้วพูดขัดไปว่า ".....อย่าดีกว่าน่า ต่อให้เธอเป็นเพื่อนเก่าของสเปียริท เธอไม่ควรมาหลอกพวกเรากันแบบนี้เลยน่ะ"
              "คุณนิ เข้มงวดตามที่เล่าลือเลยน่ะ คุณโฟรซ่า ไม่แปลกใจเลยที่คอยขัดแอสเซนอยู่น่ะ" เทสซ่าโมน่าบอก
              สเปียริทกล่าว "ถึงฉันเคยเป็นเพื่อนของเธอ ที่ไม่ได้เจอหน้ามาตั้ง 20 ปี จนฉันเกือบจะลืมชื่อและหน้าของเธอไปแล้วก็ตาม" และหันมาถาม "....ที่เธอมานิ เป็นคำสั่งของคิโคเดนสิน่ะ"
              "......" เทสซ่าโมน่านิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนใจและบอกว่า "ที่เธอพูดเช่นนี้ แปลว่า เธอรู้ความเคลื่อนไหวของท่านคิโคเดนและพวกเราในช่วงที่ไล่ล่าพวกเฮซเทิร์ซ กลุ่มที่หนีเข้าเขตอวกาศภาคกลางละสิน่ะ"
              สเปียริทพยักหน้า "ถ้าเธอกับพวก คิดว่ากลุ่มโจรสลัดกรัมสกิซที่เป็นเจ้าถิ่นของเขตอวกาศภาคกลาง รวมถึงกลุ่มดาวอีกหลายร้อยแห่งในเขตอวกาศนี้ รวมถึงพวกเราไม่รู้เรื่องของเธอและพวกคิโคเดนละก็ คิดผิดถนัดแล้วละ โมน่า"
              "งั้นเธอก็ยอมรับแล้วสิ ว่าเป็นผู้ส่งจดหมายท้าดวลปลอมให้กับพวกน้องๆขององค์ชายมูราดีนแห่งสเตรดาร์ธให้มาท้าดวลกับทศภารดร แทนที่จะสู้รบกับกองรบทรอยอาร์กันน่ะ" เทสซ่าโมน่าถาม
              สเปียริทตอบ "ต่อให้เป็นศัตรูต่อกัน จากการกระทำของนายพลวอลเลนซ์ บนคำสั่งและคำแนะนำของเสนาธิการวอลเดนสไตน์ ผู้ทรยศต่อแรซัลก้า แผ่นดินเกิดแห่งแรก ราชอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ทรอยอาร์และมหาราชอาณาจักรสุพรรณสเตรดาร์ธ ต่างก็เป็นแมนิเกเตอร์ด้วยกันกับพวกเรา ไม่ควรจะสิ้นชีพด้วยสงครามที่ทำให้เขตอวกาศภาคกลางไม่สงบ และยาวนานเกินเป็นปีจนทำให้ระบบดาวใกล้เคียงและที่อยู่ในเขตของสมาพันธ์อวกาศเดือดร้อนไปได้หรอกน่ะ"
              "แล้วเธอและพวก มิได้ช่วยให้มูราดีนและพวกสเตรดาร์ธกำชัยชนะกันจริงๆละสิ" เทสซ่าโมน่ากล่าว
              สเปียริทตอบ "มูราดีนก็เหมือนกับคิโคเดน ตรงที่กลัวว่าพวกเราจะขัดขวางความเจริญ อีกทั้งการกระทำของมูราดีนในเวลานั้น คือการแส่หาเรื่องล้างผลาญพี่น้องและพวกสเตรดาร์ธทั้งที่อยู่ในแนวหน้าและแนวหลัง ซึ่งอย่างหลังนั้น มูราดีนจะสังเวยประชาชนสเตรดาร์ธทั้งปวงไปกับชัยชนะที่ไม่มีทางได้ ซึ่้งเป็นเรื่องที่ฉันและพวก ยอมให้เกิดไม่ได้เด็ดขาด" แล้วก็บอก "ต่อให้ฉันและพวกร่วมมือกับพวกองค์ชายรองดูแรนซินและองค์ชายสามจาฟฟาร์ลกันก็ตาม แต่พวกเราช่วยอพยพพวกสเตรดาร์ธให้ไปอีกระบบดาว เพราะรู้สาแก่ใจดี ว่าพวกเราไม่ควรแส่หาเรื่องกับคิโคเดน ด้วยการคล้อยตามมูราดีนกันหรอกน่ะ"  
              "แม้ว่าเธอจะกำชัยชนะเหนือท่านมารดรเทพและท่านเทพแห่งสงครามมา โดยไม่ลงมือสังหารท่านมารดรเทพ เธอยังห่วงใยผู้อื่นมากกว่าตัวเองเลยน่ะ" เทสซ่าโมน่ายิ้มและพูด
              สเปียริทบอก "ฉันหวังว่าเธอคงไม่เปลี่ยนไปหลังจากที่รับใช้คิโคเดน จนสามารถบดขยี้พวกเฮซเทิร์ซกันได้หรอกน่ะ"
              "ว่าแต่ เราจะยืนอยู่นี้ แล้วแดดสะท้อนผิวเธอเข้าตาฉันแบบนี้ ไม่เข้าท่าเลยน่า" เทสซ่าโมน่ากล่าว
              สเปียริทตอบ "ถ้าเช่นนั้น พวกเราเข้าบ้านก่อนดีกว่า เพราะอีกเดียวพวกเราจะมาถึงแล้วละ"

              "นั้นคงจะเป็นสมาชิกตัวหลักของเธอเลยสิน่ะ" เทสซ่าโมน่าบอก หลังจากที่เธอเข้ามาในเวเซอร์เฮาส์ โดยที่สมาชิกตัวหลักที่เหลือเข้ามาในบ้านแล้ว
              มนุษย์หุ่นยนต์เกราะหนาหัวไหล่กลมบอก "เฮ้ ยัยบื้อ เพื่อนเธอดูกระหร่องกว่าที่เคยเห็นมาก่อนเลยน่ะ"
              "วาจาแมวๆของคุณนิ สมคำเล่าลือเลยน่ะคะ กราดิเอเตอร์มารีนคลอเวฟ แอตแลนไทซ์ตัวเอ้ที่มีปัญหาในกองและแอสเซนมากที่สุดเลยน่ะ" เทสซ่าโมน่าบอกโดยเอ่ยชื่อหุ่นยนต์ตัวหนาได้ครบถ้วน จากนั้นก็ชี้มายังแมนิเกเตอร์หนุ่มที่สวมหมวกที่มีเขาสีแดงสามเขา "คุณคงจะเป็นเจเนล G-1 หัวหน้าทีมเจเนไซด์ที่เก่งกาจจนบดขยี้หอคอยแก้วของแม่ทัพฟรีทเทรเซียละสิ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะเธอรู้ข้อมูลของเราที่อยู่ในช่วงมหาสงครามของแรซัลก้าละสิ" ชายสามเขาแขนกระบอกกลมสองข้างนามเจเนลตอบ
              เทสซ่าโมน่ากล่าว "นอกจากชัยชนะเหนือขุนพลซัลวาสที่เก่งกาจที่สุดของคุณ เรื่องของคุณตีฝ่าออกจากหอคอยแก้วนั้น ฉันกับทุกๆคนก็รับรู้ด้วยนะคะ"
              "ขนาดเธอยังอยู่ในยานอาร์คที่โอเวอร์เรสสร้างขึ้นอย่างลับๆ ยังคงรู้ข้อมูลกันเลยสิน่ะ" ชายร่างโตหัวล้านนามจายด์ G-2 สมาชิกตัวโตที่สุดในกลุ่มตัวหลักทั้ง 16 บอก
              หุ่นยนต์นินจาสีทองเหลืองกล่าว "แม้ว่าจะรับผิดชอบเรื่องการดูแลยานอาร์ค จนคิโคเดนและพวกยึดเข้ามา ก็ยังมีโอกาสได้รับรู้ข่าวสารนอกยานอาร์คสิ"
              "ถูกแล้วละคะ ไอรอนพลัสเชอริท ไพล์มซีโร่อัลฟ่าของพวกเมทาลอยด์เลเจี้ยน ผลงานชิ้นเอกของอดีตแม่ทัพครองคอร์ดที่จากไปแล้วน่ะ" เทสซ่าโมน่าเอ่ยชื่อหุ่นนินจาทองเหลือง ซึ่งพยักหน้าแทนคำตอบ "คุณโจเซฟ เฟอร์แดน ไม่คิดเลยนะ ว่าจะได้เจอกับอดีตเอสไพล็อตของฝ่ายพันธมิตรมนุษย์ ผู้ปะมือกับมังกรร้อนเย็นร็อดดิเกรสและเหยี่ยวสาวเฟรมิเดรก้า แต่กลายเป็นเดธเทนแอบไบออส ภายใต้การควบคุมของเวสเทรซ จนฮึดสู้มาอยู่กับพวกไทรเวเซอร์และร่วมรบกับแอสเซนเลยน่ะ" เธอกล่าวกับแมนิเกเตอร์มนุษย์ผิวหน้าขาว มีหนวดปล้องดำเป็นผมติดหมวกกระดองสีเหลืองอ่อน ซึ่งเป็นสมาชิกรายถัดมา โดยตอบไปว่า "สมกับที่เป็นบุตรีของยอดผู้รอบรู้ที่สุดในแรซัลก้า แม้จะรู้เรื่องความเคลื่อนไหวทางทหารเลยก็ตามน่ะ"
              "สำหรับฉัน ฉันต้องรับรู้ให้ได้ทุกเรื่องกันนะคะ" เทสซ่าโมน่าบอก และหันมายังชายร่างบึกที่สวมเสื้อกล้ามและกางเกงขายาวสีเขียว โดยมีแถบเหล็กติดตรงแสกผมสีดำ "คุณคงจะเป็นสเตฟอร์ด แมนิเกเตอร์เหนือมนุษย์ผู้ชำนาญด้านการวางระเบิด เพลงมวยปล้ำ และมีพละกำลังมากจนสะเทือนแผ่นดิน แถมเป็นรุ่นพี่ของเบรซซิ่งแฮนด์พีวิลและเจเนล G-1 ด้วยสิคะ"
              ชายล้ำบึกนามสเตฟอร์ดบอก "ถ้าคิดจะยอเพื่อให้เคลิ้มละก็ ขอผ่านดีกว่าน่ะ"
              "นั้นสิคะ เพราะข้อมูลที่ฉันรับรู้มา ว่าคุณเป็นแฟนของคุณโฟรซ่าด้วยนะคะ" เทสซ่าโมน่าบอก และหันมายังแมนิเกเตอร์หุ่นยนต์ที่มีสี่แขน โดยมีแขนอีกคู่ตรงสีข้าง "คุณคือฟิเกซอท แลมด้า รามาสด้า บุตรชายของแม่ทัพซ้ายนาไลน์ลูดอส หลานชายของราคาชูเมล อดีตที่ปรึกษาของท่านโอเวอร์เรส ผู้ซึ่งเป็นนายแม่คนปัจจุบันของควอเดี่ยมสิคะ"
              แมนิเกเตอร์หุ่นยนต์สี่แขนนามฟิเกซตอบ "ที่คุณรู้สถานะเดิมของคุณป้านั้น แสดงว่าคุณศึกษาข้อมูลมาดี สมกับเป็นลูกสาวของท่านอาจารย์วินชี่เลยสิคะ"
              "แน่นอน ว่าเรื่องของคุณกับคุณเนคเกอร์ มาสซั่มนั้น มีหรือที่ฉันไม่รู้เรื่องเลยนะคะ" เทสซ่าโมน่าบอก โดยเอ่ยกับเนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์และพีวิลที่มาด้วย
              "ในเมื่อคุณรู้เรื่องพวกเราเช่นนี้ คงไม่ต้องแนะนำตัวกันมากความหรอกน่ะ" เนคมาดูซัมบอก
              "ใช่ เพราะว่าคุณ ผู้ที่ควรจะอยู่กับคิโคเดนและกองยานเนโอแรซัลก้า ซึ่งยังอยู่ที่เทรสตีด อันเป็นระบบดาวของพวกทรอยอาร์นั้น ไม่ควรจะมาที่นี้กันเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก "แต่ถ้าคุณมานี้ด้วยยานอวกาศจริง ความหมายมีเพียงหนึ่งเดียวก็คงจะเป็น...."
              เทสซ่าโมน่าพยักหน้าและพูดอย่างจริงจัง "คะ ท่านคาตานะลอร์ดเอชมาสวาร์ทาร์ ท่านคิโคเดนส่งฉัน มาเป็น ผู้ส่งสาสน์ท้าดวลนะคะ"
              "กะแล้วเชียว ว่าเธอไม่ได้มาหาสเปียริทเพื่อมาเที่ยวหรือมาเยี่ยมเพื่อนละสิ" โฟรซ่าบอก
              สเปียริทกล่าว "โมน่า ทำหน้าที่ที่คิโคเดนสั่งไว้ให้จบเดียวนี้เลย"
              "ได้เลย แอสเซน" เทสซ่าโมน่าพยักหน้า แล้วก็หยิบการ์ดเหล็กวางบนโต๊ะแก้ว และ "ปี้บบบ" กดปุ่มสีแดงตรงปลายการ์ด เพื่อให้ปุ่มสี่เหลี่ยมบนการ์ด "แวบบบบบบบ" ฉายภาพของคิโคเดนออกมา "ไม่ได้เจอกันซะนานเลยน่ะ แอสเซน แล้วก็เหล่ากองกำลังหัวหอกไทรเวเซอร์ แห่งสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์"
              "ไอ้คิโคเดน....." คลอเวฟสบถอย่างโมโหเมื่อเห็นหน้าคิโคเดนขึ้น พีวิลเลยชูแขนซ้ายขวางหน้าคลอเวฟโดยเร็ว เพื่อฟังคิโคเดนพูด
              "......ถึงแม้ว่าฉันและพวกโคคูเดนรับรู้ว่า เธอ ผู้ซึ่งควรจะเสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีก่อน คืนชีพขึ้นที่โลกและร่วมด้วยช่วยเหล่ากบฎของโคเคส แอคเมนโด้ ก่อตั้งกองรบเวเซอร์ ต่อต้านอำนาจของท่านพ่อโอเวอร์เดส ผู้ปกครองโลกในช่วง 44 ปีก่อนบนโลก จนพิฆาตสี่กองรบ โค่นท่านพ่อ ตามด้วยช่วยเหลือเหล่าแมนิเกเตอร์ขบถ มาต่อต้านท่านแม่ โค่นไซมาเทน น้องชายของข้ากับกองรบ ยึดกองรบทั้งแปดและกองยานจักรวรรดิ์ส่วนหนึ่งของจอมพลแฮซกริฟมาเป็นของพวกเจ้า จนแรซัลก้าถูกปิดตายหลังท่านแม่สิ้นชีพไปแล้ว ได้โผล่หัวมาต่อหน้าพวกเรฟีเทน และอยู่เบื้องหลังการสู้รบของพวกสเตรดาร์ธและทรอยอาร์เมื่อครึ่งปีก่อนก็ตาม" แล้วก็หยุดพูดก่อนบอกว่า "ถึงเจ้ากับพวกจะกอบกู้ความสงบสุขด้วยการพิฆาตเควโทรดิมัสกับสุดยอดอาวุธระดับมหาดารากันได้ก็ตาม แต่เกรงว่า เวลาแห่งความสงบสุขของพวกเจ้าจะต้องจบสิ้นลงแล้วละ"
              "......มันคิดที่จะนำกองยานมายึดระบบดาวของพวกเราละสิ" เจเนลบอก
              คิโคเดนกล่าว "......แม้ว่าเจ้ากับพวกจะช่วยให้ข้าพิพากษาคามาลตัส หัวหน้าแก็งค์กริเดี้ยนโร็คผู้โอหังอย่างมาก จากการที่มันกล้าส่งคนมาลอบสังหารข้าในช่วงที่ข้าเป็นวุฒิสมาชิกของพวกมนุษย์ ให้แหลกไปพร้อมกับแก็งค์ของมันและพวกเฮซเทิร์ซที่ล่าถอยหนีเข้าเขตอวกาศภาคกลาง รวมไปถึงจัดการกับรัฟแพนเนสและพวกตำรวจคนบาปที่กลายสภาพเป็นพวกไอรอนไนท์ อัศวินหุ่นยนต์ที่ราชาออสเฟรย์ที่ 2 สั่งห้ามไปแล้ว จนข้าสามารถลงโทษริชเชลลิอาร์ล มหาสังฆราชสุดเลวผู้ใช้ทรอยอาร์เป็นเครื่องมือมารุกรานแรซัลก้าของข้า หลังจากที่มันกล้าแบ่งแยกจักรวรรดิ์ของข้าไปเป็นของมันแล้วก็ตาม มันมิได้ช่วยลบความผิดของพวกเจ้าที่ทำกับข้าและพวก รวมถึงแรซัลก้าไปได้แน่นอน" จากนั้นก็ชูนิ้วมายังสเปียริท "ดังนั้น ข้าอยากจะรู้เหลือเกิน ว่ากองกำลังหัวหอกของเจ้านั้น แน่สมคำเล่าลือที่ข้าได้ฟังจากเหล่าอัศวินทรอยอาร์กันหรือเปล่า เมื่อ....ข้ามีเหล่าคู่ต่อสู้ระดับเก่งกาจมาให้พวกพ้องของเจ้าได้ปะทะกันน่ะ"
              "คงไม่ได้หมายความว่า....คิโคเดนจะให้เราปะทะกับ...." ฟิเกซกล่าว แม้จะรู้สาแก่ใจดีก็ตาม
              คิโคเดนบอก "......แอสเซน เจ้ายังจำกฎการดวลระหว่างทศภารดรกันได้มั้ยละ ว่าหากใครมียอดนักรบที่มีฝีมือเก่งกาจ ไม่ว่าจะเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มบุคคล เหล่าทศภารดรที่เหลือจะทำการทดสอบพวกเขากัน ซึ่ง.....ข้า อนุญาตให้พวกทศภารดร.....ทดสอบกับเหล่าสหายของเจ้านี้แหละ"
              "ดะ ดวลกับพวกทศภารดรนะหรือ....เอาจริงดิ พวกเรารู้ ว่าพวกพี่ของสเปียริทแต่ละตนไม่ธรรมดาเลยน่ะ" ไซโคลเนียบอก
              คิโคเดนกล่าว "....อนึ่ง ข้าขอเตือนไว้ ว่าเพื่อนๆของเจ้าต้องปรากฎตัวเพื่อมาดวลกับทศภารดรที่เลือกคู่ต่อสู้เหล่านั้นกัน ถ้าเขาหรือเธอไม่ปรากฎตัว แล้วสเปซไนท์ของข้าที่ส่งไปด้วยจับได้ขึ้นมา.....เหล่าแมนิเกเตอร์ที่เป็นต้นสังกัด จะต้องเดือดร้อนแทน แน่นอน ว่าข้าหมายรวมถึง พวกเวโนมิไนซ์ที่อยู่บนทวีปลอร์เดเซรอธ และเพโทรน็อกซ์ที่อยู่บนทวีปเดียโบโรมกันด้วย" แล้วก็บอก "ดังนั้น ก่อนที่ข้ากับพวกจะมาถึง เจ้าคงจะบอกกับพวกพ้องของเจ้าให้พร้อมสำหรับการดวลกันบ้างน่ะ"
              "ระยำเอ้ย มันเล่นอย่างงี้เลยหรือวะ" คลอเวฟสบถ
              คิโคเดนกล่าว "ยังมีอีกหนึ่งกฎที่ว่าไว้น่ะ แอสเซน ว่า เจ้าของนักรบหรือกลุ่มนักรบ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือว่าเป็นเพื่อนพ้อง จะไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าทำเพียงแค่ดู ส่วนเรื่องแพ้ชนะ ข้าจะให้ตัวแทนของข้าเป็นผู้ตัดสินเอง ซึ่งเจ้าจะต้องยอมรับในการตัดสินสถานเดียว ไม่มีการโต้แย้งใดๆทั้งสิ้นน่ะ" แล้วก็บอก "แล้วเจอกันใหม่ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หวังว่าเจ้ากับพวกคงจะดูแลเทสซ่าโมน่า ผู้เป็นเพื่อนของเจ้าได้บ้างน่ะ" จากนั้นภาพโฮโลแกรมของคิโคเดนก็หายไป
              "ถ้าให้เดาน่ะ เธอคงโต้แย้งคิโคเดนไม่ได้เลยละสิ" สเปียริทบอก
              เทสซ่าโมน่ากล่าว "เธอก็น่าจะรู้ ว่าฉันไม่กล้าขัดคำสั่งได้หรอกน่า แม้ฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดของท่านคิโคเดนเลยก็ตามน่ะ"
              "เนคมาดูซัม จากที่ฟังมานิ....นายมีทางเลือกอื่นบ้างมั้ยละ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              เนคมาดูซัมส่ายหน้า "....ไม่มีแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้หรือนักรบซัลคาเลี่ยนตนไหนที่เป็นตัวแทนของเผ่า กล้าปฏิเสธ ไม่รับการทดสอบจากทศภารดรเทพกันได้หรอกน่ะ เพราะถ้าทำเช่นนั้น คนรอบข้างนักรบหรือเหล่าแมนิเกเตอร์จะมีความผิดและต้องได้รับโทษแทนเจ้าตัวเลยน่ะ"
              "ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไซมาเทนจะเป็นผู้เบรคไม่ให้เหล่าทศภารดรไปยุ่งกับแกตไทซ์และควอเดี่ยมกัน เพียงแต่....บัดนี้ ไซมาเทนไม่อยู่แล้ว เท่ากับว่าไม่มีกำแพงเบรคทศภารดรไม่ให้ปะทะกับทั้งสองเผ่าได้เลยน่ะ" ฟิเกซกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "สรุปคือ มีแต่ต้องปะทะกับทศภารดรเทพสถานเดียวเลยสิน่ะ"
              "แล้วจะเอายังไงกับเพื่อนของเธอดีละ" คลอเวฟถาม
              ไม่ทันไร นายทหารหญิงสวมแว่นเดินเข้ามาในเวเซอร์เฮาส์พร้อมกับทหารอีก 3 ตน "คุณคงจะเป็นนายพลจูเดทต้า อาซิมอฟ รองผู้บังคับบัญชาที่เข้มงวดที่สุดเลยสิคะ" เทสซ่าโมน่าบอก เมื่อมองหน้านายทหารหญิงที่เดินเข้ามา
              "สมแล้วที่เป็นบุตรสาวของผู้รอบรู้เทสซ่าวินซี่ ที่รู้ว่าฉันมาที่นี้เพื่ออะไรกันน่ะ" นายทหารหญิงนามจูเดทต้ากล่าว เทสซ่าโมน่าพยักหน้า แล้วยืนขึ้น
               "ในฐานะที่ฉันเป็นตัวแทนที่ท่านคิโคเดนส่งมานั้น ฉันไม่คิดที่จะกระทำการใดๆที่ทำให้พวกคุณหวั่นเกรงได้นะคะ" จากนั้นก็เดินไปยังทหารที่ตามมาด้วย โดยหันมายังสเปียริท "รู้ใช่มั้ย ว่าเธอกับพวก ต้องทำเช่นไรน่ะ"
              "ไม่ต้องย้ำให้มากความเลยน่ะ โมน่า ว่าฉันตัดสินใจอะไรไปแล้วน่ะ" สเปียริทบอก
              เทสซ่าโมน่าพยักหน้า "หวังว่าเธอกับพวกคงจะโชคดีบ้างน่ะ" แล้วเธอก็เดินไปพร้อมกับพวกทหาร

              หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผ่านไปจนถึงช่วงปัจจุบัน ที่ดาวแคสเซรอน-4 หมู่บ้านโฟรเทรดิล ชุมชนศูนย์กลางของควอเดี่ยม
              "ฉันรู้ว่า พวกเธอเป็นห่วงเรื่องที่ทางเราไม่ได้ข่าวเรื่องคูลิแนนซ์และพวกบีสทอยด์ที่เมลลอท-4 มานานแล้วน่ะ" แมนิเกเตอร์หุ่นยนต์หญิงสี่แขนในชุดกระโปรงกล่าว โดยนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ กลางห้องโถงของสภาเผ่าควอเดี่ยม เธอคือนายแม่ราคาชูเมล นายแม่ของควอเดี่ยมตนปัจจุบัน มีอีกชื่อว่า รัคชูมี่ โดยกล่าวกับเมนซิกส์ทีนทุกตนที่อยู่ในห้องโถง
              แอบไบออสบอก "อย่าบอกนะ ว่าพวกคิโคเดนส่งตนหรือหุ่นสำรวจจนพบเจอพวกบีสทอยด์กันน่ะ"
              "ฉันก็คิดเช่นนั้น หากแต่ คิโคเดนยังไม่รีบปรากฎตัวที่ระบบเจเนซิลกันได้ ตามที่เทาฟาดิลแจ้งข่าวมาหรอกน่ะ" รัคชูมี่กล่าว "หากแต่ ฉันรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามอีกกลุ่มที่หลุดรอดจากมัดตราสังของท่านโอเวอร์เรสกันนะสิ"
              สเปียริทบอก "เคราซไซท์ละสิคะ"
              "แม้ว่าการใช้พลาเนทกราเดี้ยนโอ็บ สนามพลังปกคลุมดาวแรซัลก้าเพื่อกันมิให้แมนิเกเตอร์ในดาวออกมา และกันมิให้ผู้บุกรุกทั้งหลายเข้าไปได้ก็ตาม แต่เวลา 4 ปีที่ผ่านมานั้น คงทำให้สนามพลังเสื่อมถอยลงไปทีละนิด จนเคราซไซท์สามารถหาทางส่งกำลังรบออกนอกดาวไปได้โดยไม่ให้กองรบของสมาพันธ์อวกาศพบเจอกันน่ะ" รัคชูมี่บอก "ด้วยข้อมูลจากตัวแทนของเคราซไซท์ที่ส่งไปช่วยพวกเฮซเทิร์ซที่เข้ามาในเขตอวกาศภาคกลางนั้น ได้ทำให้รู้ว่า เคราซไซท์คิดใช้พวกเฮซเทิร์ซเป็นเครื่องมืออย่างไม่ต้องสงสัยเลยน่ะ"
              เจเนลบอก "ป้าคงไม่ได้หมายความว่า เคราซไซท์คิดจะจับพวกเฮซเทิร์ซมาดัดแปลงเลยสิครับ"
              "ไม่ใช่แค่เฮซเทิร์ซกลุ่มเดียวที่ตกเป็นเหยื่อ ฉันกลัวว่า....ชาวซัลคาเลี่ยนที่ติดอยู่ในแรซัลก้าเองจะถูกดัดแปลงไปแล้วนะสิ" รัคชูมี่กล่าว สเปียริทพยักหน้า
              พีวิลบอก "ถึงกระนั้น พวกเราคงทำอะไรเคราซไซท์และพวกกันไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเรายังมีเรื่องของคิโคเดน...."
              "เกร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร เสียงกริ่งเหล็กดังเข้ามา คลอเวฟได้ฟังก็สบถ "ชักจะไม่เข้าท่าแล้วสิ"
              รัคชูมี่พยักหน้าและยืนขึ้น "พายุมาถึงแล้วละ"

              "หึมๆๆๆๆๆๆ แฟ้วววววว" นอกดาวแคสเซรอน-4 มีเสียงดังกึกก้องหลายทีก่อนจะมียานอวกาศพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว "นะ นั้นมันยานอวกาศของกองยานเนโอแรซัลก้านิน่า" แมนิเกเตอร์หุ่นครีซีแทนกล่าวกับแมนิเกเตอร์หญิงสวมหมวกและชุดกระโปรงสีแดง เมื่อเห็นยานรบขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นมา
              "แจ้งทางแคสเซรอนให้รับทราบเดียวนี้เลย" แมนิเกเตอร์หญิงหมวกแดงกล่าว
              "ไม่ได้นะ ไอรีส ฝ่ายนั้นเตรียมการขัดขวางการสื่อสารไว้แล้ว เราไม่สามารถแจ้งเตือนกันได้หรอกน่ะ" แมนิเกเตอร์ชายหมวกแดงรีบวิ่งเข้ามาโดยเร็ว
              ครีซีแทนที่อยู่ในสถานีกล่าว "หัวหน้าแอร์ไพล์มมิส แล้วเราจะปล่อยให้กองยานเนโอแรซัลก้ามายึดดาวแคสเซรอน โดยปราศจากการต่อต้านเลยหรือครับ"
              "ทุกอย่างเป็นไปตามที่นายแม่รัคชูมี่ว่าไว้เมื่อครึ่งปีก่อนแล้ว พวกเราทำได้แค่อย่างเดียว คือปกป้องแคสเซเดี่ยน-3 กันนี้แหละ" แมนิเกเตอร์ชายหมวกแดงนามแอร์ไพล์มมิสกล่าว
              ไอรีสบอก "มีแต่พวกไทรเวเซอร์เท่านั้นที่จะทำได้เลยสิคะ"
              "นั้นคงเป็นระบบดาว ที่แอสเซนอยู่ละสิครับ" อัศวินหนุ่มในชุดเกราะสีทองนามเฮอมิสกล่าวกับคิโคเดน ซึ่งนั่งบนบัลลังก์ พร้อมกับแมนิเกเตอร์ชายหญิง 5 คู่
              "แอสเซนอยู่ในระบบดาวที่ติดกับถิ่นพวกเดลอาเนี่ยนกันนิ คงจะอยู่ไม่เป็นสุขเลยละสิ" แมนิเกเตอร์หญิงที่สวมหมวกทรงกลม สวมชุดเดรสกระโปรงสั้นมีตราจันทร์เสี้ยวประทับหน้าอกกล่าว
              "ถ้าให้เดานะ แอสเซนต้องนอนในรูหนูซอมซ่อหรือบนเตียงผุๆ พร้อมกับพวกทหารหน้าดุๆกันแน่ๆเลยละ" แมนิเกเตอร์หญิงผมยาวสวมชุดเกราะติดกระโปรงยาวสีครามกล่าว
              แมนิเกเตอร์หญิงผมสั้นในชุดกระโปรงเดรสสั้นเสมอเข่า มีตราเพชรประทับหน้าอกบอก "นั้นสิ เพราะน้ำหน้าอย่างเธอคงไม่มีทางนอนสบายเหมือนนอนอยู่ในบ้านหรอกน่ะ หึๆๆๆๆๆ"
              "คลอวูเดน แคมิเรน เรลโลเซน พวกเธอดูถูกแอสเซน ก็เหมือนกับดูถูกฉันที่สามารถนอนอยู่ได้ทุกที่กันน่ะ" แมนิเกเตอร์หญิงสวมหมวกแหลมในชุดเสื้อคลุมแขนยาวสีเขียว ซึ่งปกเสื้อใหญ่ปิดหน้าส่วนล่างกล่าว
              แมนิเกเตอร์หญิงหน้าอวบในชุดเสื้อแขนยาวพร้อมกางเกง มีตราวงเวทย์ดาวหกแฉกประทับบนหน้าอกกับหมวกติดลูกแก้วกลมบนหน้าผากกล่าว "อาชเชอเรนพูดถูก แม้แอสเซนจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพวกเรา เธอสามารถปรับตัวเข้ากับผู้อื่นและเลือกจะอยู่ต่อไปเช่นนี้ บ่งบอกว่าเธอเข้มแข็งไม่น้อยน่ะ"
              "แต่ พวกนั้นไม่น่าเปลี่ยนแอสซี่ที่น่ารักน่าเอ็นดู หยาบคายกันเสียเลยน่า เจ้าพี่หญิงใหญ่ฟอสเซอเรน" แมนิเกเตอร์ร่างบึกที่มีใบหน้าเป็นยักษ์มีเขี้ยวกล่าว
              แมนิเกเตอร์ในชุดนักบวชสีขาวและใบหน้ายาวเดินมามองดูดาวดวงที่สาม "นั้นคงจะเป็นดาวนครหลวงของกลุ่มสหพันธมิตร ซึ่งพวกทรอยอาร์พยายามในการบุกโจมตีเมื่อ 3 ปีก่อนแต่ก็ไม่สำเร็จเลยนั้น แสดงว่าแอสเซนและพวกไทรเวเซอร์คงรู้และเข้าขัดขวาง แม้จะอยู่ในสภาวะสงครามกับมหาจักรวรรดิ์อวกาศเลยน่ะ"
              "รวมถึงสเตรดาร์ธกันด้วยน่ะ ครอสเซอเรน" แมนิเกเตอร์หัวกลมมล ใบหน้าเหลี่ยมมีขอบดำรอบคางกับดวงตาเหลี่ยม สวมเกราะมีตราตาชั่งประทับไว้ "แต่จากที่รู้มา การที่ระบบดาวดวงนี้ยังไม่มีกองยานของเดลอาเนี่ยนมา แปลว่าแอสเซนกับพวกไทรเวเซอร์ ขับไล่พวกมันไปได้ซะทุกครั้งเลยสิน่ะ"
              คิโคเดนกล่าว "นั้นคงจะเป็นคำตัดสินจากความเห็นของเจ้าสิน่ะ โคคูเดน"
              "ถึงกระนั้น สมาพันธ์อวกาศส่งโคเคส แอคเมนโด้กับกลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ ที่มีกองยานรบส่วนมากของจอมพลแฮซกริฟมาอยู่ในพรมแดนใกล้ถิ่นของเดลอาเนี่ยนเลยน่ะ" แมนิเกเตอร์ชายสวมหมวกเล็ก ชุดเกราะมีตราโลห์กระบี่สองเล่มไขว้บนหน้าอก พร้อมกับผ้าคลุมติดหัวไหล่ซ้ายเดินมามองดูดาวแคสเซเดี่ยน-3 เช่นเดียวกับแมนิเกเตอร์ชายหมวกกระบอกสีดำมีหนามติดหูพร้อมกับตราถ้วยทดลอง อตอมมิค และชิปอีเลคทรอนิคเดินมาวิเคราะห์
              "สมาพันธ์อวกาศตั้งสมมุติฐานว่ามหาจักรวรรดิ์จากฝั่งตะวันออก จะบดขยี้กองรบแมนิเกเตอร์ที่กำชัยชนะเหนือท่านพ่อ ท่านแม่ และเจ้าพี่รองไซมาเทนลงได้ แต่ดูเหมือนว่า สมมุติฐานจะผิดถนัดจริงๆเสียด้วยน่ะ เจ้าพี่ห้าเรฟีเทน"
              "ถึงกระนั้น ก็มิได้หมายความว่า แอสเซนจะมีความผิดฐานร่วมมือกับกองกำลังกบฎโค่นท่านพ่อ ท่านแม่ ทำให้แรซัลก้าถูกปิดตายไปพร้อมกับเคราซไซท์กันได้หรอกน่ะ แมคเคลเลน" โคคูเดนกล่าวกับแมนิเกเตอร์หมวกกระบอกดำ
              คิโคเดนถาม "พวกเจ้าคิดว่าแอสเซนอยู่ที่ดาวดวงไหนกันละ"
              "จิตของแอสเซน อยู่รวมกันกับจิตของแมนิเกเตอร์ตนอื่นอีก 15 แล้วก็....." ฟอสเซอเรนกล่าว "....รุ่นพี่ราคาชูเมลอยู่ที่ดาวดวงที่ 4 นะคะ" แล้วภาพก็จับมายังดาวแคสเซรอน-4
              เรลโลเซนบอก "แอสเซนคิดว่าจะซ่อนอยู่ในดาวที่มีป่าทึบหนาเช่นนี้ คงจะรอดพ้นจากพวกเรากันละก็ คิดผิดถนัดแล้วละ"
              "ถ้าเช่นนั้น เจ้าพี่ใหญ่ รีบเรียกกองยานที่เหลือให้มาสมทบ แล้วบุกไปตามล่าแอสซี่เลยดีกว่า" แมนิเกเตอร์หน้ายักษ์กล่าว
              โคคูเดนบอก "แอคเคน พวกเรามาที่พรมแดนตะวันออกไกลนี้ เพื่อทำการทดสอบพวกไทรเวเซอร์ของแอสเซน ด้วยบททดสอบของพวกเรา ซึ่งเราจะไม่ใช้กองยานรบที่เหลือเข้ามาสอดยุ่งด้วยน่ะ"
              "นั้นสิคะ ต่อให้เพื่อนของแอสเซนแน่แค่ไหน พวกนั้นก็มิใช่ศัตรูของเราอยู่ดี" คลอวูเดนบอก
              เรฟีเทนกล่าว "ถึงกระนั้น พวกเธอก็รู้ ว่าแอสเซนและพองเพื่อนไทรเวเซอร์ของเธอ โค่นเควโทรดิมัสที่ใช้ดาวยักษ์ใหญ่เป็นอาวุธลงได้เมื่อครึ่งปีก่อน ถึงแต่ละรายจะดูอ่อนกว่าที่เห็น พวกเธอก็ไม่ควรประมาทเลยน่ะ"
              "แต่ปัญหาคือ ใครตนใดหรือกลุ่มใดจะลงไปก่อนกันละครับ" เฮอมิสถาม
              เรลโลเซนเดินมาเสนอตัว "เจ้าพี่ใหญ่คะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ให้เราสามใบเถาลงไปประเดิมด้วยการสู้กับเพื่อนตัวดีของแอสเซนเลยดีกว่าคะ"
              "ไปสู้หรือว่าไปแกล้งให้หนักข้อกันซะมากกว่า เจ้าพี่ใหญ่ ให้กระผมเริ่มต้นก่อนเลยครับ" แมคเคลเลนเสนอตัวแย่งกัน
              แคมิเรนแย้ง "เจ้าพี่แปดจะลงไปประลอง หรือว่าส่งกองรบไปกวาดล้างพวกเวโนมิไนซ์และเพโทรน็อกซ์ในดาวดวงนั้น ตามที่ได้รับข้อมูลมาซะมากกว่า เพราะเรารู้ ว่าพี่คิดจะเรียกกองยานรบเสริมมาก่อนมิใช่หรือ"
              "พี่ใหญ่ ให้ผมลงไปก่อนเลย ไม่ต้องสนพวกนี้หรอก" แอคเคนบอก
              คลอวูเดนกล่าว "พี่เจ็ดจะไปหาเรื่องทะเลาะกันซะมากกว่าจะไปดวลตามบททดสอบกันนะ" แล้วก็บอก "เจ้าพี่ใหญ่ ช่วยตัดสินหน่อยได้มั้ยละคะ"
              "......." คิโคเดนนั่งมองหน้าพวกโคคูเดนแล้วก็ลุกขึ้น "ถ้าเป็นเรื่องนั้น ข้าจัดการให้แล้วละ ว่าจะส่งใครไปก่อนน่ะ" พร้อมกับหยิบแพดฉายวินโดวโฮโลแกรมออกมา เรลโลเซนและแคมิเรนยิ้ม
              คลอวูเดนกล่าว "แบบนี้ดีแล้วละคะ เจ้าพี่ใหญ่"
              "ถ้าเช่นนั้น พวกเจ้ารีบไปเตรียมตัวเดียวนี้เลย" คิโคเดนกล่าว สามใบเถาพยักหน้าและเดินออกจากสะพานเดินเรือไป หากแต่... "เฮอมิส ไปกับเลเบรน่า ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของข้าเดียวนี้เลย"
              เฮอมิสพยักหน้า "ขอรับ ท่านคิโคเดน"

    ต่อช่วงกลาง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×