ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #327 : คนธรรมดาก็สามารถเป็นผู้นำคนอื่นได้ บทเรียนจาก Nobunaga Concerto

ครั้งหนึ่งผมได้เขียนถึงมังงะ Nobunaga Concerto  มังงะแนวอิงประวัติศาสตร์มาแล้ว แต่คราวนี้ผมจะพูดถึงซีรีย์ทีวีซีรีย์จากการ์ตูนเรื่องนี้ ที่ฉายไปไม่นานนี้เอง (ตอนที่ผมเขียนบทความอยู่นี้ ซีรีย์ยังไม่จบ)

ดูการรีวิวได้ที่ http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=125456&chapter=305

Nobunaga Concerto  เป็นผลงานของนักเขียนการ์ตูน Ishii Ayumi ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มมัธยมปลายชื่อซาบุโร่ จากยุคปัจจุบันที่ย้อนเวลามาสู่ยุคเซนโกคุ และที่นั้นเขาได้พบเห็น “โอดะ โนบุนากะ” ตัวจริงที่กำลังหนีจากปัญหาในตระกูล ทันทีที่โนบุนากะเห็นซาบุโร่ ก็พบว่าซาบุโร่นั้นมีหน้าตาคล้ายตนเป็นอย่างมาก เขาเลยให้ซาบุโร่เป็นโนบุนากะแทนเขา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์โนบุนากะในอีกรูปแบบที่ไม่มีในตำราเล่มไหนกล่าวถึง

Nobunaga Concerto  ภาคทีวีซีรีย์นั้น เป็นผลงานของผู้กำกับ Fujikawa Yuusuke  และคนรับบทซาบุโร่พระเอกของเรื่องนั้นก็เป็นนักแสดงมากฝีมือชุน โองุริ (Shun Oguri) (คนเดียวที่รับบทเป็นคุโด้ ชินอิจิ ในเรื่องโคนันนั้นแหละ) หลังจากที่ผมได้ดูทีวีซีรีย์ตอนแรกผมก็พบว่าภาคทีวีนั้นดำเนินเรื่องแตกต่างจากมังงะโดยสิ้นเชิงจนผมต้องเอามาเขียนแยกอีกบทความเลยทีเดียว

 

Nobunaga Concerto  ภาคคนแสดง

อย่างที่ผมบอกเอาไว้ว่า Nobunaga Concerto  ภาคทีวีมีเนื้อหาแตกต่างจากมังงะโดยสิ้นเชิง ดังนั้นใครที่ไม่ได้อ่านมังงะก็สามารถดูอนิเมะได้อย่างสบายใจ (แต่ขอให้รู้เรื่องประวัติโนบุนากะแบบคร่าวๆ สักหน่อยก็พอ) ซึ่งสิ่งที่เหมือนกันมีเพียง พระเอกชื่อซาบุโร่ และสับเปลี่ยนตัวเองเป็นโนบุนากะเท่านั้น ส่วนเนื้อหาของเรื่อง, ลักษณะของตัวละครในเรื่อง, นิสัย-บทของตัวละคร ล้วนแตกต่างจากมังงะโดยสิ้นเชิง

Nobunaga Concerto  ยังคงเป็นเรื่องราวของซาบุโร่ (รับบทโดยชุน โองุริ) เด็กหนุ่มมัธยมปลาย ที่ได้ย้อนยุคมายังยุคเซนโกคุ และที่นั้นเขาก็ได้พบโนบุนากะที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายเขาเป็นอย่างมาก

โนบุนากะตัวจริงนั้นมีนิสัยค่อนข้างเด็ดขาด หากแต่เขามีร่างกายอ่อนแอ ทำให้ไม่สามารถรับมือปัญหาในตระกูลได้  เขาจึงต้องหนีจากตระกูลออกมา

และเมื่อโนบุนากะเห็นซาบุโร่ที่มีหน้าคล้ายกับตน จึงยกให้ซาบุโร่เป็นโนบุนากะ ซึ่งซาบุโร่ก็รับหน้าที่นี้เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นเพียงการแสดง และเห็นว่ามันสนุกดี

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ซาบุโร่เป็นโนบุนากะสักพักก็พบว่ามันไม่ใช่การแสดง แต่เป็นของจริง และมันก็ไม่ใช่เรื่องสนุกเลย เพราะเต็มไปด้วยปัญหา ไม่ว่าจะเป็น แรงกดดันการเป็นผู้นำ การถูกปองร้ายโดยน้องชายของตัวเอง การรุกรานจากแคว้นอื่นๆ ซึ่งมีกี่ชีวิตก็ไม่พอ

ซาบุโร่เป็นเพียงเด็กมัธยมปลายธรรมดา ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรเลย  แถมไม่เคยเป็นผู้นำใครมาก่อน (ขนาดเป็นหัวหน้าห้องก็ไม่เคยเป็น) ไม่เคยรับผิดชอบอะไรนั้น เมื่อได้ยินความจริงนี้เขาก็กลัว และพยายามหนีจากปัญหาเหมือนโนบุนากะคนก่อน

  
Nobunaga Concerto ฉบับอนิเมะ

อย่างไรก็ตาม ซาบุโร่ก็ได้ขึ้นนำเป็นผู้นำตระกูลโอดะ ภายใต้การสนับสนุนของคนใกล้ชิด และสิ่งแรกที่ซาบุโร่ทำหลังจากเป็นผู้นำก็คือต้องการให้ทุกคนมีความสุข จึงกำหนดนโยบายเอาใจใส่ลูกน้อง ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดวันหยุด, การ, การกำหนดให้อาหารสามมื้อ (สมัยก่อนญี่ปุ่นไม่ค่อยมีกิน เลยกำหนดแค่อาหารเช้าและอาหารเย็น) รวมไปถึงการยกดินแดนของตนให้แก่ญาติที่ไม่ชอบขี้หน้าเพื่อสานสัมพันธ์

แต่กลายเป็นว่า สิ่งที่ซาบุโร่ทำ สร้างความไม่พอใจให้แก่หลายฝ่าย ข้ารับใช้ไม่พอใจในวันหยุดที่ซาบุโร่ให้เพราะคิดว่าซาบุโร่ไม่ให้ความสำคัญแก่พวกเขา ซาบุโร่ให้อาหารสามมื้อก็มองว่าสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุทั้งๆ ที่มีทรัพยากรจำกัด รวมไปถึงความไม่พอใจที่ซาบุโร่ยกดินแดนญาติให้ง่ายๆ ทั้งๆ ที่ผ่านมารบกันแทบตาย

ทำให้โอดะ โนบุยูกิ น้องชายของโนบุนากะรวมรวมคนที่ไม่พอในซาบุโร่ (โนบุนากะ) ก่อการกบฏขึ้นเพื่อชิงผู้นำตระกูลโอดะ ซึ่งซาบุโร่นั้นไม่ได้เก่งเรื่องกลยุทธ์ หรือการสงครามเลย ทำให้ช่วงแรกๆ กองทัพของซาบุโร่จนมุม

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กองทัพของซาบุโร่กำลังจะพ่ายแพ้นั้นเอง ก็ได้มีพันธมิตรที่ไม่คาดฝันมาช่วยเหลือ นั้นคือญาติที่ซาบุโร่ยกดินแดนให้ง่ายๆ ได้เกิดสำนึกความมีน้ำใจของซาบุโร่ จึงยกทัพมาช่วยเหลือขณะที่ซาบุโร่ลำบาก ผลสุดท้ายกองทัพของซาบุโร่ก็สามารถเอาชนะดองทัพของโนบุยูกิได้อย่างเด็ดขาด  

หลังเหตุการณ์การก่อกบฏของโนบุยูกิ กองทัพของซาบุโร่ก็มีความเป็นปึกแผ่นสามัคคีมากขึ้น หลายคนได้รับรู้แล้วว่า  ซาบุโร่เป็นผู้นำที่ดี เป็นคนจริงใจ ใส่ใจลูกน้อง และนั่นทำให้ทุกคนนับถือซาบุโร่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน  

            ....แต่นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาอันน้อยนิดของโนบุนากะ ที่ซาบุโร่ต้องเผชิญเท่านั้น

อย่างที่บอกเอาไว้ตอนต้น Nobunaga Concerto ในทีวีซีรีย์กับในมังงะนั้นมีความแตกต่างกันมากๆ เหมือนกับว่าภาคทีวีซีรีย์แค่เอาชื่อตัวเอกมาใช้เท่านั้น ส่วนการดำเนินเรื่องดัดแปลงเป็นของตัวเอง ไม่ได้อ้างอีกจากมังงะเลย (แม้จะมีบางฉากมาจากมังงะ แต่น้อยโครตๆ)

ความจริงก็ไม่แปลกนักที่ซีรีย์ทีวีทำไมตรงกับต้นฉบับมังงะ เพราะที่ผ่านมา Liar Game, หมอจิน, ยอดเชฟของโนบุนากะ เองก็ทำไม่ตรงต้นฉบับ สาเหตุเพราะมังงะเหล่านี้ยังไม่จบ ทำให้ผู้เขียนบทต้องดัดแปลงจากต้นฉบับอีกที ซึ่งบางเรื่องก็ดี บางเรื่องก็ไม่ดี (อย่างกรณีภาคหนังโรง) บางเรื่องก็ดัดแปลงจนแทบไม่เหลือเค้าโครงต้นฉบับเดิม แล้วมาวัดดวงอีกทีว่าประสบความสำเร็จดีหรือไม่ หากดีก็ทำซีซั่นสองอีกต่ไป

 

อิเคดะ ซึเนโอะ พี่ชายบุญธรรมของโนบุนากะ (รับบทโดน โอซามุ มุคาอิ )

(ในมังงะบทอย่างกับตัวประกอบ ในทีวีซีรีย์อย่างหล่อ จิ้นวายกระจาย)

ซาบุโร่ในภาคทีวีซีรีย์นั้นแตกต่างจากภาคมังงะในสิ้นเชิง  แต่กระนั้นหากตามความรู้สึกแล้วซาบุโร่ในภาคทีวีซีรีย์ดูแล้วสมจริงมากกว่าต้นฉบับเสียอีก เพราะซาบุโร่ในภาคมังงะนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะซิวๆ มากเกินไป คือเห็นอะไรก็เป็นเรื่องสนุกไปหมด ราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องเครียดๆ หนักหัวสมองของซาบุโร่ แต่ซาบุโร่ในทีวีซีรีย์นั้นแม้จะทำตัวให้สนุก หรือบางช่วงบ้าๆ บอๆ  แต่ก็มีความเป็นมนุษย์ธรรมดามากกว่า คือ มีกลัวตก จิตตกบ่อยครั้ง แต่กระนั้นก็มีจิตใจเมตตากรุณา ไม่ชอบสงคราม เชื่อใจพวกพ้องและข้ารับใช้ ซึ่งดูแล้วเข้าถึงมากกว่า

ขณะที่ตัวละครคนอื่นๆ ก็แตกต่างจากต้นฉบับมังงะโดยสิ้นเชิง อย่าง คิโจ (โค ชิบาซากิ) ภรรยาของโนบุนากะในภาคมังงะเป็นสาวเรียบร้อย แต่ในทีวีซีรีย์กับเป็นสาวซึนเดเระปากร้ายซะงั้น อีกคนก็อิเคดะ ซึเนโอะ (รับบทโดยโอซามุ มุคาอิ) พี่ชายบุญธรรมของโนบุนากะ ในภาคมังงะเป็นตัวประกอบอดทน (ต้องมาคอยรับมุกซาบุโร่บ่อยๆ ) แต่ในภาคทีวีกลายเป็นตัวหลัก หล่อเลิศ แต่ที่ฮ่าสุดๆ คือ คาซึอิ ชิบาตะในมังงะเป็นลุงวัยกลางคนขรึมๆ แต่ในภาคทีวีกลายเป็นคนเรียกเสียงฮ่าไปได้ เรียกได้ว่าทุกตัวละครในเรื่องเปลี่ยนทั้งคาแร็คเตอร์และนิสัยจนเกือบหมดก็ว่าได้

ซาบุโร่นำแสดงโดย ชุน โองุริ

ปกติผมไม่ค่อยได้ดูพวกทีวีซีรีย์ญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ แถมผมเองรู้สึกด้านลบกับพวกภาพยนตร์คนแสดงที่สร้างจากการ์ตูน ที่ผ่านมาทำได้ห่วยแตก ไม่เป็นสับประรดมากๆ นักแสดงเล่นก็แข่ง บทก็ทื่อ แต่กระนั้นผมก็ตามดู เพราะเห็นว่าเป็นแนวอิงประวัติศาสตร์ อย่างน้อยก็น่าจะทำดีขึ้นมาบ้าง (แม้ภาพยนตร์ญี่ปุ่นจากมังงะหรือเกมจะห่วย แต่ทีวีซีรีย์น่าประทับใจพอสมควร)

ปรากฏว่าผมดูแล้วติดซะงั้น

คือมีอะไรหลายอย่างที่น่าชื่นชมครับ แม้เนื้อหาไม่ตรงมังงะ แต่ความสนุกภาคทีวีซีรีย์ก็ไม่ได้ด้อยกว่าต้นฉบับเลย กลับกันก็ทำได้อย่างน่าติดตาม และมีประเด็นใหม่ๆ มาเล่นอยู่ตลอด ส่วนใหญ่การดำเนินเรื่องก็เป็นไปตามเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในประวัติศาสตร์ของโนบุนากะ และปัญหาที่โนบุนากะต้องเผชิญ เป็นต้นว่า สู้รบกับโนบุยูกิ, ไปพบกับพ่อตาไซโต โดซัง, สู้ศึกกับอิมากาว่า โยชิโมโตะ, ยึดแคว้นมิโนะ, สร้างความสัมพันธ์กับชิบาตะ คัทสึอิเอะ ฯลฯ (ตอนที่เขียนบทความ มังงะยังอยู่ในช่วงศึกอยู่) หากประวัติศาสตร์แบบในตำราเรียนเหมือนโนบุนากะจะสามารถผ่านไปได้ง่ายๆ  แต่ซาบุโร่ในทีวีซีรีย์นี้ตรงกันข้าม กว่าจะผ่านเหตุการณ์เหล่านี้แทบเอาชีวิตไม่พอ

ซาบุโร่ในทีวีซีรีย์มีนิสัยอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนซาบุโร่ในมังงะ ตรงที่ เป็นคนชอบหนีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ซาบุโร่จะหนีตลอด โดนน้องชายปองร้ายก็หนี, ไปพบไซโต โดซังก็หนี อะไรก็หนีหมด ซึ่งก็น่าเห็นใจซาบุโร่ เพราะพี่แกจู่ๆ ก็มารับแบกรับปัญหาทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ของตัวเอก แถมปัญหาที่ว่ามันหนักโครตๆ

แม้ว่าจะมีหลายครั้งที่ซาบุโร่หนีปัญหา และไม่มีความเป็นผู้นำเสียเลย แต่กระนั้นสุดท้ายซาบุโร่ก็สามารถผ่านปัญหาเหล่านี้มาได้ และเขาก็กลายเป็นผู้นำได้อย่างมั่งคง แสดงให้เห็นว่าคนธรรมดาอย่างเราๆ เองก็สามารถเป็นผู้นำกับเขาได้

หากเราดู Nobunaga Concerto ฉบับมังงะ จะพบว่าเป็นซีรีย์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมียอดขายดีมากในญี่ปุ่น  คือจากสถิต 12-18 พฤษภาคม 2014 โนบุนากะเล่ม 10 มียอดขายติดอันดับ 7 ด้วยยอดขาย 67,532-68,315 เล่ม!!

ถ้าถามว่า Nobunaga Concerto มีอะไรดี ทำไมถึงได้ฮิต สาเหตุก็คือเป็นที่พระเอกซาบุโร่ที่เป็นพระเอกที่เราจับต้องได้.... กล่าวคือ หากพูดถึงโนบุนากะแล้ว โนบุนากะถือเป็นผู้นำที่หลายคนชอบ แต่ในขณะเดียวกับหลายคนมักติดภาพโนบุนากะต้องเท่ ต้องเหี้ยมแบบจอมมาร มีความเด็ดขาด ทำให้การ์ตูนที่มีโนบุนากะปรากฏอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นพระเอกหรือตัวร้ายก็ตาม) ก็มักมาแนวๆ นี้ตลอด จนกระทั่งซาบุโร่มาเปลี่ยนภาพลักษณ์โนบุนากะใหม่ ซึ่งเป็นโนบุนากะที่มีความเป็นมนุษย์แบบคนเรา ที่ไม่ได้เก่งอะไรเลย และเราสามารถจับต้องได้

แม้ว่าซาบุโร่จะไม่มีความเป็นผู้นำเลยสักนิด ไม่ได้เก่งเรื่องวางแผน เชี่ยวชาญการศึกอะไรเลย แถมยังชอบทำอะไรบ้าๆ บอๆ ให้คนอื่นต้องปวดหัวอยู่เรื่อย  แต่อย่างไรก็ตามซาบุโร่มีสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ นั้นคือ “ความจริงใจ” และเพราะความจริงใจสามารถเป็นโนบุนากะได้อย่างมั่นคง และเอาตัวรอดทุกครั้ง แม้จะมีปัญหามากมาย ท่ามกลางศัตรูรอบด้าน

ทุกอย่างที่ซาบุโร่บกพร่อง ถูกทดแทนด้วย คนรอบตัวของซาบุโร่ ที่ล้วนแต่มีคนเก่ง ที่มีทั้งบุ๋น และบู๊ บู๊ และที่สำคัญคือมีความจงรักภักดี เพียงแค่ซาบุโร่แสดงความจริงใจ เชื่อใจพวกเขาเท่านั้น พวกเขาก็จะแสดงฝีมือเต็มที่จนได้รับผลตอบแทนที่ดีตามมา

หากเราดูประวัติโนบุนากะ จะเห็นว่าโนบุนากะนั้นไม่สนใจชาติกำเนิดของข้ารับใช้ ขอให้มีผลงานดี โนบุนากะก็ตอบแทนตามผลงาน  แสดงให้เห็นว่าโนบุนากะมีความเชื่อใจลูกน้องเป็นอย่างมาก และนั้นทำให้ลูกน้องเองต่างตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของตนจนถึงที่สุด ยกตัวอย่าง โทโยโทมิ ฮิเดโยชิที่ตอนแรกเป็นเพียงคนเลี้ยงหมา แต่โนบุนากะได้ให้โอกาส จนทำให้ฮิเดโยชิเลื่อนขั้น จนสามารถกลายเป็นผู้นำคุมประเทศได้ในเวลาต่อมา

ซาบุโร่มีความจริงใจ ไม่มีการเสแสร้ง หากเชื่อใจใคร ก็จะเชื่อจนถึงที่สุด แม้ว่าจะมีบางครั้งที่คนที่ซาบุโร่เชื่อใจจะหักหลังก็ตาม แต่ซาบุโร่ก็ไม่โกรธ ซ้ำยังให้อภัย ซึ่งบางคนก็ซาบซึ้งความจริงใจและมารับใช้ซาบุโร่ต่อ ขณะที่บางคนไม่ได้ซาบซึ้งความจริงใจเหล่านี้พร้อมที่จะหักหลังทุกเมื่อมีโอกาส

ตอนที่ผมเขียนบทความอยู่นี้ ผมพึ่งดู Nobunaga Concerto ทีวีซีรีย์ตอนที่ 7 ซึ่งเป็นตอนที่ซาบุโร่โดนหักหลัง (อีกแล้ว) จากคนที่ไว้ใจ และคิดว่าจะเป็นเพื่อนกันได้  (ในมังงะซาบุโร่ไม่จิตตกสักนิด) ก็น่าคิดเหมือนกันว่าคนเรานี้เวลาเชื่อใจคนอื่นๆ มากๆ แล้วหากเกิดโดนคนไว้ใจหักหลังขึ้นมานี้ จากความเชื่อใจกลายเป็นความแค้นชนิดแทบไม่เผาผี และจะเอาให้ตายเลยทีเดียว

โดยภาพรวมแล้ว Nobunaga Concerto ทีวีซีรีย์ ถือว่าสนุก (หากไม่สนใจเรื่องไม่ตรงต้นฉบับ) แม้ว่าจะมีจุดบกพร่องอยู่บ้าง โดยเฉพาะบทของตัวละครที่น่าจะให้ความสำคัญกว่านี้ อย่าง “เจ้าลิง” (โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ) ที่น่าจะเป็นตัวแปรของเรื่อง แต่กลับกลายเป็นตัวละครที่ถูกคนอื่นขโมยซีนบ่อยครั้ง อย่างน่าสงสาร

            ที่น่าชื่นชมคือดารานักแสดงที่นำแสดงในเรื่อง แม้นักแสดงแต่ละคนหน้าตาไม่เหมือนต้นฉบับก็ตาม  หากแต่ด้านฝีมือการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึง แสดงได้ดีมากๆ  โดยเฉพาะซาบุโร่ ที่แสดงโดย ชุน โองุริ

ดาราคนนี้มากด้วยความสามารถจริงๆ ตอนแรกกำลังคิดว่าจะสามารถรับบทเป็นซาบุโร่อายุ 15 ปีได้หรือเปล่า เพราะชุนเองก็อายุ 30 ปีแล้ว หากแต่พอมาดูก็พบว่าทำได้ไม่มีที่ติด เพราะตัวนักแสดงเองก็รับบทเป็นเด็กหนุ่มหลายบทบาทจากทีวีซีรีย์และภาพยนตร์หลายเรื่องมาแล้ว

คนธรรมดาสามารถเป็นผู้นำได้ เพียงแต่ว่าเราจะสามารถรับมือกับความเครียด ความกดดันจากสถานการณ์รอบข้างได้หรือเปล่า เราไปถึงสิ่งที่ต้องตัดสินใจ เพียงไม่กี่คำของเราหากหมายถึงอนาคตและองค์กรของเราและพรรคพวกได้ และบางครั้งหากเราตัดสินใจตามอารมณ์ผลลัพท์ที่ออกมาอาจเลวร้ายก็เป็นได้

โดยภาพรวมแล้ว Nobunaga Concerto ทีวีซีรีย์ ถือว่าสนุก (หากไม่สนใจเรื่องไม่ตรงต้นฉบับ) แม้ว่าจะมีจุดบกพร่องอยู่บ้าง โดยเฉพาะบทของตัวละครที่น่าจะให้ความสำคัญกว่านี้ อย่าง “เจ้าลิง” (โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ) ที่น่าจะเป็นตัวแปรของเรื่อง แต่กลับกลายเป็นตัวละครที่ถูกคนอื่นขโมยซีนบ่อยครั้ง อย่างน่าสงสาร

            ที่น่าชื่นชมคือดารานักแสดงที่นำแสดงในเรื่อง แม้นักแสดงแต่ละคนหน้าตาไม่เหมือนต้นฉบับก็ตาม  หากแต่ด้านฝีมือการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึง แสดงได้ดีมากๆ  โดยเฉพาะซาบุโร่ ที่แสดงโดย ชุน โองุริ ดาราคนนี้มากด้วยความสามารถจริงๆ ตอนแรกกำลังคิดว่าจะสามารถรับบทเป็นซาบุโร่อายุ 15 ปีได้หรือเปล่า เพราะชุนเองก็อายุ 30 ปีแล้ว หากแต่พอมาดูก็พบว่าทำได้ไม่มีที่ติด เพราะตัวนักแสดงเองก็รับบทเป็นเด็กหนุ่มหลายบทบาทจากทีวีซีรีย์และภาพยนตร์หลายเรื่องมาแล้ว

ผมเคยอ่านบทความหนึ่ง ที่เขียนว่าเป็นดาราญี่ปุ่นนั้นไม่ง่ายเลย หากเป็นดาราไทยที่ว่ายากแล้ว ดาราญี่ปุ่นยากกว่าหลายเท่า ไม่ใช่ว่าแค่หน้าตาก็เป็นได้เลย แต่ดาราญี่ปุ่นนั้นต้องเริ่มไต่เต้าจากบทเล็กๆ เล่นอยู่นาน กว่าที่จะได้รับบทตัวละครหลัก (น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมภาพยนตร์คนแสดงที่สร้างจากการ์ตูน ดาราหน้าไม่ค่อยเหมือน)

และก็เป็นธรรมดา ดูซีรีย์ละครทีวีญี่ปุ่นแล้ว หันมาดูซีรีย์ทีวีละครไทย ของญี่ปุ่นนั้นมีละครที่หลากหลาย ไล่ตั้งแต่เซ็นไต, ดราม่า, คอเมดดี้, ชีวิตวัยเรียน ไปจนถึงอิงประวัติศาสตร์ ส่วนละครไทยยังคงวนเวียนอยู่กับละครน้ำเน่าฉากจิกกัดโชว์ความร้ายของนางอิจฉาแบบบ้าคลั่งขาดผัวไม่ได้อยู่เช่นเดิม  แม้ว่าช่วงหลังๆ ทีวีละครไทยพยายามที่จะมีความหลากหลายมากขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถเต็มปากว่าละครไทยตอนนี้ดีเลิศหรือมีคุณภาพมากขึ้น  เพราะเนื้องานก็ยังคงต้องปรับปรุงอยู่เช่นเดิม ซึ่งจะนานหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ผู้ผลิตจะตระหนักถึงเรื่องนี้หรือเปล่า

สุดท้ายนี้ผมก็ขอบคุณคนทำซับไทย Nobunaga Concerto นะครับที่ทำให้ผมเปิดหูเปิดตากับละครญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น หวังว่าจะทำซับจนจบซีรีย์นะครับ