ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบทแห่งข้า
    ข้าลืมตาขึ้นอย่างอิดโรยในตอนสายของวันหนึ่ง  วันนี้กระมังที่คนทั่วไปเรียกมันว่า ’วันแห่งการปลดปล่อย’ ข้าพยายามพยุงร่างกายขึ้นเพื่อนั่งบนเตียงนอนอย่าอ่อนล้า เตียงนอนที่อ่อนนุ่มและขาวสะอาด  บริสุทธิ์เสียราวกับว่ามันเป็นเตียงของคนแห่งแสง
ถ้าเช่นนั้น ข้ามาทำอะไรที่นี่?
อาจเป็นเพราะเมื่อคืนก่อน ข้าได้ข้ามพ้นเขตแดนเรนจ์ไชส์ ผ่านประตูซองการ์ สู่อาทูอัน  สวรรค์ชั้นเบื้องบนสุด
แต่ว่าที่นี่เขาต้องรับข้าหรือ?
เจ็บเหลือเกิน มันทรมานเหลือเกิน ความเจ็บเช่นนี้  ความเจ็บปวดที่ยากจะแบกรับ กายข้าอ่อนล้าไร้สิ้นซึ่งเรี่ยวแรง ผิวหนังข้าแสบร้อนราวลุกไหม้ 
ท่านเอย.. บางทีข้าอาจมาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเสียแล้ว 
ทว่าความเจ็บปวดเช่นนี้ข้าเคยได้รับมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ของแปลกอะไร
ความเจ็บปวดเมื่อครั้งที่ข้า  ตัดสินใจใช้ชีวิตนางมารในทางแห่งแสง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ แม่! อย่าตีน้อง พอเถอะแม่...ข้าขอร้อง ” ข้ารีบวิ่งเข้าไปหลบในป่าทันทีที่พี่ชายข้ารั้งมือแม่เอาไว้
“ เจ้าอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวเบรว์ฟ  นั่งนี่มันลูกปีศาจ  เจ้าไม่เห็นหรือ? ”
ข้าทรุดตัวลงกับโคนต้นไม้ ขณะที่เสียงด่าของแม่ยังไล่ตามหลัง ข้าก้มลงดูรอยไม้ที่แม่จารึกไว้ที่ขา น้ำตาข้ารินไหลเพราะความเจ็บปวด  ข้าเกลียดชีวิตเช่นนี้เหลือเกิน มันทรมานอยู่มากไม่ใช่หรือ ที่ข้าต้องทนรับการลงโทษในเรื่องที่ข้าเองไม่ได้ก่อเลย
พี่ชายของข้าพอเล้าโลมให้อารมณ์แม่สงบก็ลัดเลาะเข้ามาในป่าพร้อมอาหารห่อใหญ่ในมือห่อหนึ่ง พี่เดินมาที่เดิม ที่ซึ่งข้ามานั่งหลบแม่อยู่เสมอๆ พอพี่เห็นข้าก็เดินเข้ามาหา
“ เจ้าอย่าคิดมากเลย แผลนั่นสักพักคงจะหายเจ็บ ” เบรว์ฟปลอบประโลมข้าอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง พี่พูดพลางขยับเข้ามาใกล้เพื่อทำแผลให้ข้า
“ แล้วแผลที่ใจข้าเล่า ” ข้าถามทั้งน้ำตา
“ แม่ตีข้าได้เป็นร้อยๆครั้ง ทั้งๆที่แม่ไม่เคยมีเหตุผล ”  พี่เงยหน้าขึ้น ละจากแผลที่ทำ เขาเอื้อมมือมาลูบหัวข้าเบาๆอย่างทนุถนอม
“ ช่างเขาเถิด  วันนี้เจ้านอนที่นี่ได้ไหม พอดึกๆพี่จะหอบผ้าห่มมานอนเป็นเพื่อน ”  ข้าพยักหน้ารับ พลางซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของพี่
“ พี่เป็นคนเดียวในโลกนี้ที่รักข้า พี่เป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ข้าต้องการ ”
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   
    “ วันนี้พี่เข้าไปซื้อของในเมือง ” เบรว์ฟเล่า พลางโยนกิ่งไม้แห้งๆที่หาไว้เข้ากองไฟสำหรับให้ความอบอุ่น พี่ออกมาหาข้าพร้อมเสื้อคลุมและผ้าห่ม
    “ เห็นเขาคุยกันว่า กษัตริย์เรลไรอัลกับเคร้าเยนาร์ด ส่งคนออกค้นหา เด็กชายที่พวกเขาเชื่อกันว่า เป็นบุตรแห่งเทพและมาร ” 
    “ เป็นไปได้อย่างไรที่เด็กคนนั้นจะเป็น ข้าหมายถึง เทพและมารที่ไหนจะมาสมสู่กันได้ ”
    “ เรื่องนั้นพี่ไม่รู้หรอก แต่ที่ได้ยินมา คือคนพวกนั้นเขามุ่งหน้ามาที่หมู่บ้านของเรา ”
    “ แบบนี้นี่เองแม่ถึงตีข้า  หากคนที่เขามาตามหาเป็นเด็กผู้หญิง แม่คงฆ่าข้า หรือส่งข้าให้คนพวกนั้นไปแล้ว ”
    “ แม่น่ะ  รักเจ้ามากกว่าที่เจ้ารู้นะอีย์วาร์ ”
    “ พี่อย่าหลอกข้าเลย ” ข้าพูดพลางสบตาพี่
    “ ข้าได้ยินแม่คุยกับคนครัวของบ้านขุนนางว่าข้าไม่ใช่ลูกแท้ๆ  พี่เก็บข้าได้ที่แม่น้ำ แล้วพี่จึงขอให้แม่กับพ่อเลี้ยงข้าเอาไว้ ”
    ข้าหยุดพูดทันที่ที่นึกขึ้นมาได้ว่า เรื่องของพ่อทำร้ายความรู้ของพี่มากเพียงใด
    “ ข้าขอโทษ ”
    “ ช่างเถิด พี่เพียงแต่ลองคิดดูว่า หากคนพวกนั้นผ่านทางมา พี่จะขอตามเขาไปเป็นทหารได้หรือไม่?  เจ้าก็รู้วาพี่อยากเป็นทหารมาแต่ไหนแต่ไร ได้ขี่ม้าออกท่องเที่ยวไปทั่วแผนดิน ทำงานรับใช้กษัตริย์  ได้ช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน นั่นน่ะคือความฝันของพี่เชียวนะ ”
    ข้ายิ้มกับความฝันที่แสนสุขของพี่ครู่หนึ่งจึงนึกอะไรขึ้นได้ ซึ่งพี่ก็สังเกตเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไป
    “ ทำไมหรือ? ”
    “ หากพี่ไปเป็นทหาร ข้าก็ต้องอยู่กับแม่ 2 คน ”  พี่มองหน้าข้าอย่างห่วงใย ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
    “ พี่เพียงแต่คิดเล่นๆเท่านั้นแหละ  ไม่ไปจริงๆหรอก ” พี่ยิ้มอย่าอ่อนโยน
    “ แต่หากพี่อยากไป ”
    “ เด็กโง่.. ไม่ใช่เจ้าคนเดียวหรอกนะที่พี่เป็นห่วง พี่เองก็ต้องดูแลแม่เหมือนกัน ”
    ข้าพยักหน้ารับ เบรว์ฟพี่ข้าเป็นคนดี เขากล้าหาญ มีน้ำใจและเสียสละเสมอ
    “ เบรว์ฟ  พี่ว่าข้าเป็นลูกปีศาจจริงไหม  สัญลักษณ์บนหน้าผากนี่เป็นของคนบาป  นักบวชเขาทักข้า ”
    “ ใครเขาจะว่าอย่างไรก็ช่างเถิด ” เบรว์ฟ พูดอย่างไม่แยแส
    “ เจ้าฟังคำพี่นะอีย์วาร์ ไม่ว่าใครเขาจะมองเจ้าเป็นลูกปีศาจหรือไม่ เจ้าย่อมรู้ดีว่าเจ้ามีความดีงามมากกว่าหลายๆคน ที่ชี้หน้าแล้วเรียกเจ้าว่าลูกปีศาจเสียอีก ตราบใดที่เจ้าไม่ได้ทำร้ายผู้อื่น เจ้าก็ยังคงเป็นคนแห่งแสงเสมอ ”
    ตอนนั้นคำว่า ’คนแห่งแสง’ ดูจะสร้างความสว่างให้กับจิตใจของข้าอยู่ไม่น้อย แต่หลังจากนั้นไม่นานหรอกท่าน ความหวังอันริบหรี่ของข้าก็พลันมอดดับลงแทบไม่เหลือเชื้อถ่าน
    วันรุ่งขึ้นข้ากลับบ้าน ทำงานบ้านตาปกติ แม่เดินเฉียดขาไปมา ทำเหมือนว่าข้าไม่อยู่แถวนั้น
    ‘ ไม่เห็นก็ดี ’ ข้าคิด
    ข้าคงต้องเล่าให้ท่าน ..ท่านผู้เป็นดั่งแสงสว่างได้รับรู้เรื่องราวของข้าไว้ก่อน  บ้านของข้ามี 3 คน ซึ่งข้าไม่ขอนับรวมพ่อที่ตายจากไปนานแล้ว เพราะท่านรับลูกธนูแทนพี่ชายข้าในป่าเมื่อครั้งที่พ่อมาพี่ไปล่าสัตว์ด้วย ตัวข้าไม่ใช่ลูกแท้ๆหรอกท่าน  พี่เขาเก็บข้ามาเลี้ยง
    พี่เล่ามาแต่เดิมแม่เองก็รักข้าไม่ต่างจากพี่ แต่ในวันที่พ่อตาย  หน้าผากของข้าก็ปรากฏสัญลักษณ์ของคนบาปขึ้นมา  อักษรรูนสีดำบนหน้าผากที่อ่านได้ว่า ’ความมืด’ แม่จึงสรุปว่าข้าเป็นตัวกาลกิณี เป็นสาเหตุให้พ่อตาย
    หลังจากนั้นก็เช่นที่ท่านทราบ แม่เกลียดข้ายิ่งหว่าสิ่งใดๆในโลก พี่บอกข้าว่าอย่าไปสนใจคำพูดของแม่ พี่ว่าวันที่พ่อตาย ข้ายังคงนอนอยู่ในเปลทีบ้าน ไม่ได้เป็นผู้ง้างคันศร พี่ว่าที่ต่างหากที่เป็นคนฆ่าพ่อ เพราะพ่อรับธนูดอกนั้นแทนพี่ ข้าไม่เคยพูดเรื่องพ่ออีกเลย เพราะรู้ว่ามันทำร้ายจิตใจของพี่มาก พี่เอง..ก็เลี่ยงที่จะกล่าวถึงเรื่องของพ่อเช่นกัน
    ถึงชีวิตของข้าจะเติบโตมาแบบนั้น.. แต่ในจิตใต้สำนึกที่แท้จริงของข้า บอกข้าเสมอมาว่า ข้าเป็นคนของโลกมืด พี่ของข้าพูดผิดท่านที่ว่าหากข้าไม่ทำร้ายใครก็ยังคงเป็นคนแห่งแสง เพราะแท้จริงแล้ว  ข้าเป็นคนของฝ่ายภูติโดยกำเนิด ข้าค้นพบมนต์ดำในตัวข้าโดยบังเอิญโดยที่ข้าไม่ตั้งใจ ข้ามักเรียกลมเรียกฝนได้ เพียงข้าอยากให้ตก มันก็ตกลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย  และข้ามักทำให้สิ่งของแตกสลายเสมอเพียงแค่จ้องมอง
    แต่แม่..แม่สังเกตเห็นพลังในตัวข้า นั่นทำให้แม่รังเกียจข้า สายตาของแม่บอกความดูแคลน เย้ยหยัน
    นังลูกปีศาจ แม่เรียกข้าแบบนั้น  น่าสมเพช . พวกผิดธรรมขาติ พวกฆาตกร
    ข้ารู้สึกได้ ความปรารถนาของข้า เป็นจริงได้ทุกครั้ง ทุกเรื่อง  ไม่ว่าเรื่องนั้นจะรายแรงแค่ไหน มันรุนแรงมากขึ้นทุกๆครั้ง
    ตอนนั้น . ข้าเพียงอยากให้แม่รับรู้ว่าข้าเจ็บ รู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดจากการเฆี่ยนตีบ้าง  ข้าอยากให้แม่ลองเจ็บปวด แม้จากคมดาบได้ยิ่งดี  ความกระหายของข้า  ข้ารู้ว่ามันจะสัมฤทธิ์ผล แต่ข้าก็ยังไม่หยุดความคิดนั้น อาจเพราะ ข้าได้รับสายตาที่แสดงถึงความรังเกียจจากแม่อยู่ทุกๆวัน  เพียงคิดเท่านั้นแหละ ท่าน  เรื่องปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้นในคืนถัดมา  เรื่องปาฏิหารย์ที่ชักจูงข้ากลับสู่เผ่าพันธ์  เรื่องปาฏิหารย์ของข้า .
ถ้าเช่นนั้น ข้ามาทำอะไรที่นี่?
อาจเป็นเพราะเมื่อคืนก่อน ข้าได้ข้ามพ้นเขตแดนเรนจ์ไชส์ ผ่านประตูซองการ์ สู่อาทูอัน  สวรรค์ชั้นเบื้องบนสุด
แต่ว่าที่นี่เขาต้องรับข้าหรือ?
เจ็บเหลือเกิน มันทรมานเหลือเกิน ความเจ็บเช่นนี้  ความเจ็บปวดที่ยากจะแบกรับ กายข้าอ่อนล้าไร้สิ้นซึ่งเรี่ยวแรง ผิวหนังข้าแสบร้อนราวลุกไหม้ 
ท่านเอย.. บางทีข้าอาจมาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเสียแล้ว 
ทว่าความเจ็บปวดเช่นนี้ข้าเคยได้รับมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ของแปลกอะไร
ความเจ็บปวดเมื่อครั้งที่ข้า  ตัดสินใจใช้ชีวิตนางมารในทางแห่งแสง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ แม่! อย่าตีน้อง พอเถอะแม่...ข้าขอร้อง ” ข้ารีบวิ่งเข้าไปหลบในป่าทันทีที่พี่ชายข้ารั้งมือแม่เอาไว้
“ เจ้าอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวเบรว์ฟ  นั่งนี่มันลูกปีศาจ  เจ้าไม่เห็นหรือ? ”
ข้าทรุดตัวลงกับโคนต้นไม้ ขณะที่เสียงด่าของแม่ยังไล่ตามหลัง ข้าก้มลงดูรอยไม้ที่แม่จารึกไว้ที่ขา น้ำตาข้ารินไหลเพราะความเจ็บปวด  ข้าเกลียดชีวิตเช่นนี้เหลือเกิน มันทรมานอยู่มากไม่ใช่หรือ ที่ข้าต้องทนรับการลงโทษในเรื่องที่ข้าเองไม่ได้ก่อเลย
พี่ชายของข้าพอเล้าโลมให้อารมณ์แม่สงบก็ลัดเลาะเข้ามาในป่าพร้อมอาหารห่อใหญ่ในมือห่อหนึ่ง พี่เดินมาที่เดิม ที่ซึ่งข้ามานั่งหลบแม่อยู่เสมอๆ พอพี่เห็นข้าก็เดินเข้ามาหา
“ เจ้าอย่าคิดมากเลย แผลนั่นสักพักคงจะหายเจ็บ ” เบรว์ฟปลอบประโลมข้าอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง พี่พูดพลางขยับเข้ามาใกล้เพื่อทำแผลให้ข้า
“ แล้วแผลที่ใจข้าเล่า ” ข้าถามทั้งน้ำตา
“ แม่ตีข้าได้เป็นร้อยๆครั้ง ทั้งๆที่แม่ไม่เคยมีเหตุผล ”  พี่เงยหน้าขึ้น ละจากแผลที่ทำ เขาเอื้อมมือมาลูบหัวข้าเบาๆอย่างทนุถนอม
“ ช่างเขาเถิด  วันนี้เจ้านอนที่นี่ได้ไหม พอดึกๆพี่จะหอบผ้าห่มมานอนเป็นเพื่อน ”  ข้าพยักหน้ารับ พลางซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของพี่
“ พี่เป็นคนเดียวในโลกนี้ที่รักข้า พี่เป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ข้าต้องการ ”
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   
    “ วันนี้พี่เข้าไปซื้อของในเมือง ” เบรว์ฟเล่า พลางโยนกิ่งไม้แห้งๆที่หาไว้เข้ากองไฟสำหรับให้ความอบอุ่น พี่ออกมาหาข้าพร้อมเสื้อคลุมและผ้าห่ม
    “ เห็นเขาคุยกันว่า กษัตริย์เรลไรอัลกับเคร้าเยนาร์ด ส่งคนออกค้นหา เด็กชายที่พวกเขาเชื่อกันว่า เป็นบุตรแห่งเทพและมาร ” 
    “ เป็นไปได้อย่างไรที่เด็กคนนั้นจะเป็น ข้าหมายถึง เทพและมารที่ไหนจะมาสมสู่กันได้ ”
    “ เรื่องนั้นพี่ไม่รู้หรอก แต่ที่ได้ยินมา คือคนพวกนั้นเขามุ่งหน้ามาที่หมู่บ้านของเรา ”
    “ แบบนี้นี่เองแม่ถึงตีข้า  หากคนที่เขามาตามหาเป็นเด็กผู้หญิง แม่คงฆ่าข้า หรือส่งข้าให้คนพวกนั้นไปแล้ว ”
    “ แม่น่ะ  รักเจ้ามากกว่าที่เจ้ารู้นะอีย์วาร์ ”
    “ พี่อย่าหลอกข้าเลย ” ข้าพูดพลางสบตาพี่
    “ ข้าได้ยินแม่คุยกับคนครัวของบ้านขุนนางว่าข้าไม่ใช่ลูกแท้ๆ  พี่เก็บข้าได้ที่แม่น้ำ แล้วพี่จึงขอให้แม่กับพ่อเลี้ยงข้าเอาไว้ ”
    ข้าหยุดพูดทันที่ที่นึกขึ้นมาได้ว่า เรื่องของพ่อทำร้ายความรู้ของพี่มากเพียงใด
    “ ข้าขอโทษ ”
    “ ช่างเถิด พี่เพียงแต่ลองคิดดูว่า หากคนพวกนั้นผ่านทางมา พี่จะขอตามเขาไปเป็นทหารได้หรือไม่?  เจ้าก็รู้วาพี่อยากเป็นทหารมาแต่ไหนแต่ไร ได้ขี่ม้าออกท่องเที่ยวไปทั่วแผนดิน ทำงานรับใช้กษัตริย์  ได้ช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน นั่นน่ะคือความฝันของพี่เชียวนะ ”
    ข้ายิ้มกับความฝันที่แสนสุขของพี่ครู่หนึ่งจึงนึกอะไรขึ้นได้ ซึ่งพี่ก็สังเกตเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไป
    “ ทำไมหรือ? ”
    “ หากพี่ไปเป็นทหาร ข้าก็ต้องอยู่กับแม่ 2 คน ”  พี่มองหน้าข้าอย่างห่วงใย ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
    “ พี่เพียงแต่คิดเล่นๆเท่านั้นแหละ  ไม่ไปจริงๆหรอก ” พี่ยิ้มอย่าอ่อนโยน
    “ แต่หากพี่อยากไป ”
    “ เด็กโง่.. ไม่ใช่เจ้าคนเดียวหรอกนะที่พี่เป็นห่วง พี่เองก็ต้องดูแลแม่เหมือนกัน ”
    ข้าพยักหน้ารับ เบรว์ฟพี่ข้าเป็นคนดี เขากล้าหาญ มีน้ำใจและเสียสละเสมอ
    “ เบรว์ฟ  พี่ว่าข้าเป็นลูกปีศาจจริงไหม  สัญลักษณ์บนหน้าผากนี่เป็นของคนบาป  นักบวชเขาทักข้า ”
    “ ใครเขาจะว่าอย่างไรก็ช่างเถิด ” เบรว์ฟ พูดอย่างไม่แยแส
    “ เจ้าฟังคำพี่นะอีย์วาร์ ไม่ว่าใครเขาจะมองเจ้าเป็นลูกปีศาจหรือไม่ เจ้าย่อมรู้ดีว่าเจ้ามีความดีงามมากกว่าหลายๆคน ที่ชี้หน้าแล้วเรียกเจ้าว่าลูกปีศาจเสียอีก ตราบใดที่เจ้าไม่ได้ทำร้ายผู้อื่น เจ้าก็ยังคงเป็นคนแห่งแสงเสมอ ”
    ตอนนั้นคำว่า ’คนแห่งแสง’ ดูจะสร้างความสว่างให้กับจิตใจของข้าอยู่ไม่น้อย แต่หลังจากนั้นไม่นานหรอกท่าน ความหวังอันริบหรี่ของข้าก็พลันมอดดับลงแทบไม่เหลือเชื้อถ่าน
    วันรุ่งขึ้นข้ากลับบ้าน ทำงานบ้านตาปกติ แม่เดินเฉียดขาไปมา ทำเหมือนว่าข้าไม่อยู่แถวนั้น
    ‘ ไม่เห็นก็ดี ’ ข้าคิด
    ข้าคงต้องเล่าให้ท่าน ..ท่านผู้เป็นดั่งแสงสว่างได้รับรู้เรื่องราวของข้าไว้ก่อน  บ้านของข้ามี 3 คน ซึ่งข้าไม่ขอนับรวมพ่อที่ตายจากไปนานแล้ว เพราะท่านรับลูกธนูแทนพี่ชายข้าในป่าเมื่อครั้งที่พ่อมาพี่ไปล่าสัตว์ด้วย ตัวข้าไม่ใช่ลูกแท้ๆหรอกท่าน  พี่เขาเก็บข้ามาเลี้ยง
    พี่เล่ามาแต่เดิมแม่เองก็รักข้าไม่ต่างจากพี่ แต่ในวันที่พ่อตาย  หน้าผากของข้าก็ปรากฏสัญลักษณ์ของคนบาปขึ้นมา  อักษรรูนสีดำบนหน้าผากที่อ่านได้ว่า ’ความมืด’ แม่จึงสรุปว่าข้าเป็นตัวกาลกิณี เป็นสาเหตุให้พ่อตาย
    หลังจากนั้นก็เช่นที่ท่านทราบ แม่เกลียดข้ายิ่งหว่าสิ่งใดๆในโลก พี่บอกข้าว่าอย่าไปสนใจคำพูดของแม่ พี่ว่าวันที่พ่อตาย ข้ายังคงนอนอยู่ในเปลทีบ้าน ไม่ได้เป็นผู้ง้างคันศร พี่ว่าที่ต่างหากที่เป็นคนฆ่าพ่อ เพราะพ่อรับธนูดอกนั้นแทนพี่ ข้าไม่เคยพูดเรื่องพ่ออีกเลย เพราะรู้ว่ามันทำร้ายจิตใจของพี่มาก พี่เอง..ก็เลี่ยงที่จะกล่าวถึงเรื่องของพ่อเช่นกัน
    ถึงชีวิตของข้าจะเติบโตมาแบบนั้น.. แต่ในจิตใต้สำนึกที่แท้จริงของข้า บอกข้าเสมอมาว่า ข้าเป็นคนของโลกมืด พี่ของข้าพูดผิดท่านที่ว่าหากข้าไม่ทำร้ายใครก็ยังคงเป็นคนแห่งแสง เพราะแท้จริงแล้ว  ข้าเป็นคนของฝ่ายภูติโดยกำเนิด ข้าค้นพบมนต์ดำในตัวข้าโดยบังเอิญโดยที่ข้าไม่ตั้งใจ ข้ามักเรียกลมเรียกฝนได้ เพียงข้าอยากให้ตก มันก็ตกลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย  และข้ามักทำให้สิ่งของแตกสลายเสมอเพียงแค่จ้องมอง
    แต่แม่..แม่สังเกตเห็นพลังในตัวข้า นั่นทำให้แม่รังเกียจข้า สายตาของแม่บอกความดูแคลน เย้ยหยัน
    นังลูกปีศาจ แม่เรียกข้าแบบนั้น  น่าสมเพช . พวกผิดธรรมขาติ พวกฆาตกร
    ข้ารู้สึกได้ ความปรารถนาของข้า เป็นจริงได้ทุกครั้ง ทุกเรื่อง  ไม่ว่าเรื่องนั้นจะรายแรงแค่ไหน มันรุนแรงมากขึ้นทุกๆครั้ง
    ตอนนั้น . ข้าเพียงอยากให้แม่รับรู้ว่าข้าเจ็บ รู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดจากการเฆี่ยนตีบ้าง  ข้าอยากให้แม่ลองเจ็บปวด แม้จากคมดาบได้ยิ่งดี  ความกระหายของข้า  ข้ารู้ว่ามันจะสัมฤทธิ์ผล แต่ข้าก็ยังไม่หยุดความคิดนั้น อาจเพราะ ข้าได้รับสายตาที่แสดงถึงความรังเกียจจากแม่อยู่ทุกๆวัน  เพียงคิดเท่านั้นแหละ ท่าน  เรื่องปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้นในคืนถัดมา  เรื่องปาฏิหารย์ที่ชักจูงข้ากลับสู่เผ่าพันธ์  เรื่องปาฏิหารย์ของข้า .
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น