ตอนที่ 1 : ZERO [new]
Zero
ชีวิตของนาแจมิน
“น่ารักจังนะครับ” เสียงแหบของเด็กหนุ่มตัวน้อยพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมา ดวงตากลมมองไปทางพ่อกับแม่ของตัวเองที่กำลังนั่งสวีทกันอยู่ที่สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ แม่ของเขาดูเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกเลยกว่าได้ ที่พ่อของเขารักมากขนาดนี้ ราชาแวมไพร์ผู้ยิ่งใหญ่กลับยอมสยบให้กับมนุษย์ตัวจ้อยเสียได้
“นั่นสินะครับ” แวมไพร์ตัวสูงที่เป็นองครักษ์ของราชาผู้ยิ่งใหญ่ตอบรับเบาๆ
“…ความรักนี่มันดีจริงๆ หรอครับ” คนตัวผอมพึมพำออกมาเสียงเบา แล้วคิดไปถึงพี่ชายของตัวเองที่ตอนนี้คงกำลังทรมานกับสิ่งที่เรียกว่าความรักอยู่
“คุณแจมินรักท่านคริสกับคุณจงแดไหมครับ”
“รักสิครับ”
“แล้วรู้สึกดีไหม”
“…”
“สักวันคุณแจมินจะต้องเจอคนที่เหมาะกับคุณครับ”
“ไม่หรอกครับ แจมินไม่อยากมีคนรักหรอก แจมินแค่อยากจะอยู่กับท่านพ่อท่านแม่แล้วก็ท่านพี่ไปเรื่อยๆ” ชานยอลไม่ตอบอะไรอีก เขามั่นใจว่าคุณหนูตัวน้อยก็รู้อยู่แก่ใจดีว่ามันเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะไม่มีทางที่ราชาแวมไพร์ผู้ยิ่งใหญ่จะปล่อยให้ลูกชายที่เป็นมนุษย์ต้องตายไปตามอายุขัยแน่นอน แล้ววิธีแก้ไขก็มีอยู่วิธีเดียว
.
.
“ฮึก ฮึก มินฮยอน..”
“นาแจมิน” ร่างผอมบางเด็กตัวน้อยที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่หน้าหลุมศพของใครบางคนสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อโดนมือเย็นเฉียบคว้าแขนเอาไว้ ด้วยพละกำลังของอีกฝ่ายที่เหนือกว่ามนุษย์มากร่างผอมจึงเซถลาไปด้านหลังเล็กน้อย เพียงแค่นี้แจมินก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแน่นอน แน่หละ ที่เหยียบอยู่นี่ก็ไม่ใช่โลกมนุษย์เสียหน่อย
“นายเป็นใคร” ดวงตากลมที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาหันไปจ้องหน้ากับอีกฝ่ายทันที
“…” ชายหนุ่มดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชาจนแจมินหวาดกลัว
“ปล่อยนะ ฉันเจ็บ” เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบทั้งยังบีบแขนเขาแรงขึ้นแจมินจึงเริ่มโวยแล้วซ่อนความกลัวไว้ในใจ แม้นาแจมินจะเป็นเด็กมนุษย์ที่เกิดมาจากพ่อที่เป็นแวมไพร์กับแม่ที่เป็นมนุษย์และอาศัยอยู่ในเมืองแวมไพร์ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่กลัวแวมไพร์ซะหน่อยนี่
“นายปล่อยให้พี่ฉันตาย” เสียงทุ้มตอบกลับมาเรียบๆ หากแต่แววตายังคงดุดัน
“ฉันเจ็บนะ ! นายพูดอะไรของนาย” ดวงตากลมเหลือบมองแขนของตัวเองที่เริ่มขึ้นรอยริ้วแดงเป็นรอยนิ้วทั้งห้าของอีกฝ่าย แม้จะพยายามบิดแขนออกจากการจับกุมแค่ไหนแต่ก็ไม่สำเร็จเสียที
“มินฮยอนไงละ”
“ฉ..ฉันเปล่า” ดวงตากลมหันไปมองภาพของคนที่ยิ้มอยู่หน้าป้ายหลุมศพ น้ำตาก็เหมือนจะไหลออกมาอีกครั้ง แต่เขาก็กลั้นเอาไว้
“ฉันจะทำให้นายรู้สึกทรมานเหมือนกับที่พี่ของฉันรู้สึก..ดูให้ดีนะมินฮยอน ฉันจะแก้แค้นให้นายเอง” คนตรงหน้าพูดเสียงเรียบ ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็กระชากร่างผอมเขาไปใกล้ เขี้ยวคมที่ปรากฏขึ้นจากริมฝีปากได้รูปนั่นเริ่มทำให้แจมินสั่นกลัวอย่างจริงๆ เสียที
“ฮึก ปล่อยนะ” แจมินดิ้นขัดขืนจนเขี้ยวคมบาดซอกคอขาวเล็กน้อย เพียงแค่กลิ่นเลือดที่ติดอยู่ที่ปลายจมูกกับรสชาติหอมหวานที่ติดอยู่ที่ปลายลิ้นก็ทำเอาดวงตาของแวมไพร์หนุ่มกลายเป็นสีแดงวาบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเขี้ยวคมที่เตรียมจะฝังลงบนซอกคอขาว
“เจโน่ ! นายจะทำอะไร !” เสียงทุ้มของผู้มาใหม่ที่คงจะได้กลิ่นเลือดของคนตัวผอมถึงได้รีบวิ่งตามมา ดังมาจากข้างหลัง ก่อนร่างของแวมไพร์ที่คุกคามมนุษย์ตัวน้อยจะโดนดึงออกไป ร่างของแจมินก็ทรุดลงไปที่พื้นทันที ร่างผอมสั่นไหวเล็กน้อยทั้งดวงตากลมยังคงเบิกค้างด้วยความหวาดกลัว
“อ่อน..ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ” คนตัวผอมเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินเสียงคำดูถูกจากอีกฝ่าย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาเป็นอย่างที่อีกฝ่ายว่านั่นแหละ
“เจโน่ ! ขอโทษแจมินเดี๋ยวนี้เลย”
“…”
“เจโน่ !” แจฮยอนตะโกนลั่นอย่างคนหัวเสีย แต่ก็ยังคงได้รับความเย็นชาตอบกลับมา ดวงตาเรียวเล็กเหลือบมองหน้าพี่ชายเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนเคย
“ผมรู้จักชื่อตัวเองน่า เรียกอยู่ได้” ไม่รอให้พี่ชายเรียกชื่ออีกรอบ เจโน่ก็เดินหนีไปทางอื่นอย่างรวดเร็วด้วยความรำคาญ โดยไม่ลืมที่จะหันมามองแจมินอย่างคาดโทษเอาไว้อีกรอบ “ครั้งหน้านายตายแน่”
“เจโน่ !! น้องคนนี้นี่มันจริงๆ ขอโทษนะแจมิน นั่นน้องชายของพี่เอง” แวมไพร์หนุ่มหันหน้ามาหามนุษย์ตัวน้อยที่นั่งนิ่งอยู่ที่พื้น มือเย็นเฉียบแตะแขนของแจมินเบาๆ แต่นั่นก็ทำให้คนตัวผอมสะดุ้งตกใจเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” แจมินพึมพำเสียงแผ่ว แจฮยอนจึงค่อยๆ พยุงร่างผอมของคนที่ถือว่าเป็นน้องให้ลุกขึ้นยืนช้าๆ มือขาวซีดและเย็นเฉียบแตะลงบนซอกคอของแจมินเบาๆ เลือดสีสดก็หยุดไหลทันที
“คงเป็นรอยแผลสักพัก เดี๋ยวก็หายไปเองไม่ต้องกังวลนะ”
“ขอบคุณครับ”
เฮือก !
ดวงตากลมโตเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจ ทำไมอยู่ดีๆ ถึงนึกถึงเรื่องสมัยเด็กขึ้นมาได้นะ ทั้งๆ ที่มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว นาแจมินลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ
“อ้าว แปลกจังทำไมวันนี้ถึงตื่นเร็ว” คนเป็นแม่เดินเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้ม จงแดเดินไปเปิดหน้าต่างให้แสงลอดผ่านเข้ามาแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ห้องสว่างมากนัก เพราะที่เมืองแวมไพร์ไม่ได้มีแสงสว่างมากขนาดนั้นแม้ว่าจะเช้าแล้วก็ตาม
“ฮื้อ ยังง่วงอยู่เลย” พอคนเป็นแม่นั่งลงบนเตียง แจมินก็ทิ้งตัวลงบนตักนุ่มของแม่แล้วกอดเอวคนเป็นไว้แน่นอย่างออดอ้อน
“ลุกขึ้นแล้วไปอาบน้ำล้างหน้าเลย ชานยอลตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว”
“ขออีกสิบนาที”
“ไม่ได้ วันนี้มีคนอื่นมาทานข้าวด้วย รีบลงไปเลย”
“แทยงมาหรอ?” เสียงของแจมินร่าเริงขึ้นมาทันที แต่คนเป็นแม่ได้แต่เงียบแล้วส่ายหน้าไปมา ทันใดรอยยิ้มของแจมินก็ค่อยๆ หายไปทันที นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่เจอพี่ชายของตนเอง
“งั้นเดี๋ยวลงไปนะครับ ท่านแม่ลงไปก่อนเลย”
พอจัดการตัวเองเสร็จคนตัวผอมก็รีบลงมาท่ีห้องอาหารทันที แต่ร่างผอมก็ต้องชะงักเมื่อพบกับคนที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร ดวงตากลมสบตากับดวงตาเรียวของชายหนุ่มที่อยู่ในฝันเข้าโดยบังเอิญจนต้องรีบก้มหน้าลงเมื่อพบดวงตาดุดันจากอีกฝ่ายที่ส่งกลับมา
“สวัสดีครับท่านอาทั้งสอง แจฮยอน..เจโน่” แจมินเอ่ยทักแขกเบาๆ ยิ่งพูดถึงชื่อคนสุดท้ายเสียงก็แผ่วจนแทบจะหายไปในลำคอ ตอนนี้อีกฝ่ายดูโตมากกว่าเดิมอีก แจมินรู้สึกประหม่าไม่น้อยเลยทีเดียว
“สวัสดีแจมิน มานั่งสิๆ ไม่ได้เจอกันตั้งนานโตขึ้นเยอะเลย”
“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วหละ”
“19 ครับ”
“อ๋อ เพราะแบบนี้อี้ฟานถึงได้รีบสินะ” อี้ชิงพึมพำเสียงเบา แต่นั่นก็ทำให้แจมินขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“ครับ???”
“อ้าว..อี้ฟานยังไม่ได้บอกลูกหรอ”
“วันนี้ที่พ่อเรียกบ้านอี้ชิงมาเพราะจะคุยเรื่องงานแต่งของเรากับเจโน่หนะ”
“ห๊ะ !!! ท่านพ่อว่ายังไงนะ / ว่าไงนะครับ!!”
---------------------------------
มาใหม่เง้อ ฝากด้วยนะคะ U.U
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่โน่อย่าแกล้งน้องงงง ;-;
โน่แจมชอบคู่นี้มากกกกกกกกกกก