ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อลวนรักร้าย ฉบับยัยไฮโซ

    ลำดับตอนที่ #1 : แรกพบ

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 50


           ขึ้นชื่อว่าเมืองกรุง ศูนย์กลางของความเจริญก้าวหน้าทั้งทางการสื่อสาร การเรียนรู้ การคมนาคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครองและสิ่งต่างๆมากมาย โดยเฉพาะบนโลกปัจจุบันนี้ที่เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ายึดครองจิตใจของผู้คน กระทั่งบิดเบียนความต้องการจากสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต กลับกลายเป็นความต้องการครอบครองสิ่งเสริมเติมแต่ง ทุกๆย่างก้าวของความเจริญและความมั่งคั่งทางวัตถุ ต่างก็แลกด้วยอีกหนึ่งก้าวถอยหลังของสิ่งที่เรียกว่าคุณธรรม แม้กระทั่งบนท้องถนนที่ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรไปมาของผู้คนมากมาย หากแต่กลับไม่เคยทักทายเพื่อนที่ยังไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่หรือที่ใดก็ตาม  ครั้นยามแสงตะวันใกล้ลับขอบฟ้า อันเป็นสัญญาณเตือนผู้คนให้ได้รับรู้ความเป็นไปของกาลเวลาที่ซึ่งไม่เคยหันกลับมามองเหล่าสิ่งมีชีวิต ทั้งๆที่ต่างฝ่ายก็ต่างดิ้นรนไขว่คว้ามัน

           "ว๊ายย!! จะรีบไปตามวัวหาย หรือไล่ควายที่ไหนย่ะ ชาวบ้านชาวช่องเขาเดินอยู่ ไม่มีตามองรึไง " ถ้อยคำก่นด่าเปร่งออกมาจากร่างบาง เมื่อรถคันใหญ่แล่นผ่านด้วยความเร็ว พาให้แอ่งน้ำสาดกระเซนโดนคุณเธอเข้าให้

           "ว๊ายยยยยย!" น้ำอีกระลอกซัดเข้ากลางร่างระหงส์ ขณะถอยรถกลับมาด้วยความเร็วไม่แพ้ขาไป ร่างที่ว่าเปียกโชกแล้วยิ่งเข้าสู่ความหมดสภาพไปโดยปริยาย

           "ออกมานะ ออกมาเด๋วนี้เลย มันบ้าอะไรกันเนี่ย"หญิงสาวย่างสามขุมไปยังตัวปัญหา รัวกำปั้นทุบกระจกหน้ารถ

           "เอ่อ ขอโท....."

           "แค่นั้นมันพอแล้วรึไง ฉันไม่คิดว่าคนขับรถกระป๋องอย่างนายจะมีปัญญาจ่ายแม้แต่ค่าซักรีดสำหรับชุดสวยๆนี่หรอกนะ"

           "งั้น...บางทีถ้......."
           
           "ถ้างั้นหรอ กับอีแค่ตัดสินใจว่าจะรับผิดชอบยังไง จำเป็นต้องลังเลอีกงั้นหรอ!" อาการอ้ำอึ้งของชายหนุ่มหน้าใหม่ ไม่ได้ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของเธอดีขึ้นเลย
            
           "คือว่า ผมไม่คิดว่า..."

           "ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่โตอะไร มันคงไม่เป็นการยากถ้าคุณจะกรุณาฟังเหตุฟังผลแล้วหยิบมันมาใช้ซะบ้าง" ชายหนุ่มอีกคนที่เธอเพิ่งจะสังเกตุเห็นความมีตัวตนของเขา ได้ก้าวออกมาจากฝั่งซ้ายของรถ นัยน์ตาคมเข้มจ้องมองหญิงสาวที่กำลังเต้นเป็นเจ้าเข้า เมื่อรู้ว่าตนถูกกล่าวหา

           "อ้อ! น่ะ นะ นี่ นี่คุณกำลังด่าฉันอย่างงั้นหรอ คุณว่าว่าฉันรู้จักใช้เหตุผลอย่างงั้นหรอ" 

          "เปล๊า เปล่าเลยคุณ ผมกำลังชมคุณด้วยความปลื้มใจเป็นที่สุดเลยหล่ะ" ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เป็นเหตุให้หญิงสาวมองเกมส์ออก

           ใช่แล้ว นายนี่กำลังเล่มเกมส์สงครามประสาทกับฉัน คิดจะยั่วฉันใช่มั้ย หน๋อยยย~
           "ถ้างั้นที่เพื่อนคุณขับรถไม่เอาถ่าน หอบน้ำหนึ่งกิโลลิตรสาดใส่ฉันเนี่ย คงมีเหตุผลมากใช่มั้ย หรือว่าเซลล์รับภาพที่จอตามีปัญหา ตาบอด ตาเข ตาเหล่รึไงย่ะ"

           "ขอโทษนะครับ ถ้าคุณจะใช้เซลล์รับภาพที่จอตาอันปรกติของคุณมองซักนิดนึงว่าเพื่อนผมไม่ใช่คนขับ ดังนั้นก็คงจะเป็นคุณที่ตาบอด ตาเข ตาเหล่มองอะไรผิดๆ แล้วมากล่าวหาเพื่อนผม" 

           หญิงสาวตั้งท่าจะเถียง หากแต่สายตาเจ้ากรรมมองไปพบพวงมาลัยอยู่ทางด้านซ้ายของรถ 
        
           อั๊ยยย นี่มันรถนอกรุ่นเก๊ากึก พวงมาลัยสลับขวาเป็นซ้ายโฮให้ตายเหอะ นิ่งไว้ๆ

           "แล้วยังไง จะคุณ หรือเพื่อนคุณยังไงก็มารถคันเดียวกัน ต้องรับผิดชอบทั้งคู่นั่นแหละ อีกอย่าง พวกนายอยากกระแดะใช้รถนอกทำไมหล่ะ คิดจะอวดรวยเมื่อสิบปีที่แล้วอ่ะดิ" ท่าทางไม่ลดละของแต่ละฝ่ายยิ่งเป็นน้ำมันลาดบนกองเพลิงโทสะของทั้งคู่
      
           "ครับ ที่ผมกระแดะมันฟังดูแย่กว่ากระแดะใส่ชุดแพงๆที่เจ้าของรถนอกเมื่อสิบปีที่แล้วไม่มีปัญญาจ่ายค่าซักรีดเดินตามถนนเยอะเลย จริงมั้ยครับ"

           นิ่ง นิ่งไว้ๆอย่าปล่อยให้เขาคุมเกมส์ โอ๊ยย จะมาเจ้าเข้าต่อหน้านายนี่ไม่ได้เด็ดขาด!!

           "จะยังไงก็แล้วแต่ ฉันก็กระแดะแบบไม่หนักหัวใคร แต่รถกระป๋องของคุณมันกระแดะมาหนักหัวฉัน เพราะงั้นเพื่อเป็นการชดใช้ คุณจะต้องพาฉันไปส่งที่...เอ่อ...ที่บ้าน ที่บ้านแม่ของเพื่อนของพ่อของน้องของรุ่นพี่ที่โรงเรียนของอาของฉัน" 

          "จะบอกว่าบ้านคุณเองก็พูดมาเถอะครับ ผมไม่ใช่พวกโรคจิตที่จะคอยตามตื้อคุณหรอก แล้วยิ่งคุณในสภาพเนี่ยแล้วละก็....ไม่น่าพิศวาทอย่างแรง" ใบหน้าที่ยิ้มอย่างมีชัยของชายหนุ่ม ไม่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพทางอารมณ์ที่ดีให้แก่คู่สนทนาเลยแม้แต่น้อย หากแต่เธอก็ปฏิเสธความจริงที่เธอคิดว่าเธอยังคงกลัวเขาไม่ได้เช่นกัน 

          
    แต่ให้ตายเหอะ จะให้ฉันเดินกลับบ้านเองในสภาพอย่างงี้เนี่ยนะ เด่วก่อน แล้วให้เขาไปส่งมันอันตรายต่างกันยังไงเล่า โอ้ย!!~ อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องฉาบปู้เดินเข้าหมู่บ้านพร้อมน้ำโสโครกพวกนี้หนิ ถึงอย่างงั้นก็เหอะ มือถือดันแบตหมดอีกต่างหาก ทำไมโชคไม่เข้าข้างฉันมั่งนะ
           เดี่ยวก่อน บางทีถ้าเกิ.....

           "ไม่ต้องเสียเวลาคำนวณข้อดีข้อเสียขนาดนั้นหรอกครับ เพราะนอกจากคุณที่ไม่มีอะไรจะเสียแล้วก็ไม่มีข้อดีในตัวเองเนี่ย เวลาของผมก็ได้หมดไปอย่างน่าเสียดาย เพราะงั้น....ลากันตรงนี้แหละ สวัสดีครับ" เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ขายาวๆก็ได้พาเขาขึ้นรถพร้อมตะโกนเรียกเพื่อนชายอีกคนที่ยืนอ้ำอึ้งให้ขึ้นรถ และด้วยความเร็วเหนือแสงก็ได้นำพารถกระป๋องพร้อมผู้โดยสารแล่นลับสายตาไป

           "เฮ้ย นี่คุณ คุ๊ณณณณ โฮ๊ะ ให้ตายเหอะ ให้ตาย ให้ตายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ต้นไม้แถวนี้มันดูดความเป็นสุภาพบุรุษของผู้ชายทั้งประเทศแทนคาร์บอนไดออกไซด์ไปแล้วรึไงนะ ฮึ่ยกลับมาเดี่ยวนี้น้าาาาา~"

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×