ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fontana รักนี้ ฉันขอล่ะ!

    ลำดับตอนที่ #4 : Capitolo III

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 54


            ฉันเดินจากแผงลอยมาได้สักพักแล้ว  เดินทะลุผ่านซอยนู่นตรอกนี้อยู่หลายรอบกว่าจะมาถึงถนนทางไปสถานทูต  ฉันต้องไปขอความช่วยเหลือจากอันโตนีโอ  เขาเป็นนักการทูตทำงานอยู่ที่นั่น...ใกล้จะถึงแล้ว

                กรี๊ด!”

                นั่นเป็นเสียงของฉันเองล่ะ  รถอัลฟา โรเมโอคันหนึ่งเฉี่ยวฉันเสถอยหลังสะดุดรองเท้าตัวเองไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น  เจ็บชะมัดเลย  ขับรถยังไงของเขาเนี่ย  ประตูรถด้านซ้ายเปิดออกพร้อมกับคำพูดที่ฉันฟังแล้วไม่ค่อยรื้นหูเสียเลย

                “Cieco!” (ตาบอด)

                “Non Io…” (ฉันไม่ได้...)

                เธอ/นาย

                ฉันกับเขาพูดขึ้นมาพร้อมกันด้วยความตกใจ  จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงกันล่ะ  คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือนายผมสีน้ำตาลที่บาร์กาแฟเมื่อตอนสาย  นี่มันอะไรกันจะมาตามฆ่าปิดปากฉันหรือไง  แล้วนั่นอะไรน่ะ

                เลือด!

                ที่แขนเสื้อสูทข้างซ้ายของเขามีรอยเลือดไหลออกมาเป็นทาง  ตรงหัวไหล่มีจุดเข้มที่แสดงถึงบาดแผล  ฉันได้แต่จ้องมองรอยแผลนั้น

                จะไปไหน เขาถาม

                ไปไหนก็เรื่องของฉัน โอ๊ย!”

                ฉันพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน  แต่ข้อเท้าเจ้ากรรมมันดัดพลิกให้ฉันกลับไปนั่งลงท่าเดิม  เขาได้แต่ยืนมองฉันเฉยๆ ไม่ทำอะไร  คิดจะช่วยหน่อยก็ไม่ได้หรือไงยืนมองอยู่อย่างเดียวเลย

                ขึ้นรถ

                หา!”

                “Please get in the car.”

                “What?

                “Don’t need to say.”

                ...

                “Come on!”

                พูดไม่ทันขาดคำก็เดินมากระชากต้นแขนฉันให้ลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาไป  เขากระชากประตูรถด้านขวาแล้วผลักฉันเข้าไปนุ่งที่เบาะ  พร้อมกับกระแทกมันกลับเพื่อปิด  ส่วนตัวเขาก็เดินอ้อมไปทางด้านซ้ายตรงที่นั่งคนขับ  นี่กำลัง...เกิดอะไรขึ้น

                นายจะพาฉันไปไหน ฉันถาม

                ... เขาไม่ตอบ

                ฉันถามว่าจะพาฉันไปไหน

                เงียบแล้วก็อยู่เฉยๆ!”

                เฮือก!

                รู้สึกเหมือนเขามีอิทธิพลขึ้นมาทันทีทันใด  ไม่ใช่ว่าฉันกลัวนะ  แค่เกรงใจเฉยๆ T^T

                เขาสตาร์ทเครื่องออกตัวอย่างรวดเร็วอย่างที่ฉันตั้งตัวไม่ทัน  เข็มขัดก็ยังไม่ได้คาดเลย  ฉันเอื้อมมือไปคว้าเข็มขัดนิรภัยที่อยู่เหนือไหล่มาคาดอย่างรวดเร็ว  ก่อนที่ฉันจะกลิ้งไปกลิ้งมาเป็นลูกบอลช้ำไปทั้งตัว

                ฉันชะเง้อคอเพื่อมองดูหัวไหล่ข้างซ้ายของเขาที่บาดเจ็บ  ถึงแม้มันจะทุลักทุเลเพราะความเร็วที่ใช้ในการขับขี่รถยนต์ของเขา  เสื้อสูทผ้าวูลสีเทาถูกย้อมด้วยสีแดงคล้ำจนแห้งกรัง  เขาไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมานกับบาดแผล  แต่ใบหน้าเขาแสดงออกถึงความแค้น...มากกว่า

                นั่งดีๆก็แล้วกัน เขาพูด

                ฉันจะนั่งดีและสบายกว่านี้ถ้านายยอมลดความเร็วลงหน่อย  ที่นี่เขาไม่มีกฎหมายควบคุมความเร็วรถหรือไงกันนะ  T_T

     

    ช่วงเวลาเดียวกันนั้น...

                ระหว่างที่จอตโตขับรถออกมาจากบริเวณหลังบาร์  เขาสังเกตเห็นเหตุการณ์ได้แค่บางส่วนเท่านั้น   เขารู้แค่ว่าถ้าออสกาอยู่เหนือกว่าเมื่อไร  เรื่องทุกอย่างก็จบ...เมื่อนั้น

                เขาพยายามเอื้อมมือเพื่อเปิดช่องเก็บของฝั่งที่นั่งข้างคนขับเพื่อเก็บปืน  ด้วยความที่เขาต้องใช้มือซ้ายที่แขนบาดเจ็บขับรถแทน  ทำให้เขาเสียการควบคุมเล็กน้อยและไม่ทันได้มองทางข้างหน้า

                “Damn!”

                จอตโตหักพวงมาลัยรถไปทางขวาอย่างรวดเร็วเพื่อหลบให้พ้นไม่ชนกับคนตรงหน้า  ไหล่ซ้ายของเขากระแทกกับประตูรถทำให้รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา  เขาเปิดประตูรถด้วยความไม่พอใจที่มีคนมาทำให้เขาเสียเวลา

                “Cieco!”

                เขาตะโกนออกไปโดยที่ไม่สนว่าคนตรงหน้าจะเป็นใคร 

                “Non Io...

                ถ้อยคำที่เอ่ยยังไม่ทันครบประโยคก็ต้องชะงักลง 

                เธอ/นาย!”

                หญิงสาวยันตัวลุกขึ้นยืน  ชายหนุ่มจึงเอ่ยสกัดไว้

                จะไปไหน เขาถาม

                ไปไหนก็เรื่องอขงฉัน โอ๊ย!”

                ยังไม่ทันได้ขยับตัวอะไรมากเธอก็ล้มพับกลับไปนั่งอยู่ท่าเดิม  มายาวีมองหน้าจอตโตด้วยความไม่พอใจ  ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรระหว่างที่เขาขับรถเฉี่ยวเธอกับที่เขาไม่ช่วยพยุงเธอขึ้นยืน

                ด้วยสัญชาตญาณที่เขาสามารถสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว  ที่มุมตึกตรงนั้นมีคนกำลังจ้องมองเขาอยู่  จอตโตรู้ทันทีว่าเป็นใคร

                ไวจริงนะออสกา

                ไม่ต่างกันนัก  คนตรงมุมตึกก็สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายรู้ตัวแล้วว่าเขาตามมา  ออสกาทำเวลาได้ดีในการติดตามล่าเป้าหมาย  เขาไม่ได้เจอเป้าหมายแค่หนึ่งแต่เป็นสอง  ช่างง่ายดายเหลือเกิน

                ยิงปืนนัดเดียว ดันได้นกสองตัว

                ใครจะอยู่ให้แกล่าล่ะ

                ก็คอยดูสิ

                จิตใต้สำนึกของทั้งสองกำลังต่อสู้กันแม้ร่างกายจะไม่ได้ขยับก็ตาม  จอตโตมองคนตรงหน้าว่าจะทำอะไรต่อกับเธอดี  และเขาได้ตัดสินใจแล้ว...

                ขึ้นรถ

                หา!”

                “Please get in the car.”

                “What?

                “Don’t need to say.”

                ...

    เธอได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดจา  จอตโตเห็นอย่างนั้นจึงไม่พอใจเท่าไหร่

                “Come on!”

                จอตโตตรงเข้าไปจับต้นแขนของเธอให้ลุกขึ้น  โดยที่เขาไม่สนใจว่าข้อเท้าของเธอยังเจ็บอยู่หรือเปล่า  เขาจัดการพาเธอขึ้นรถเรียบร้อยด้วยวิธีการที่ค่อนข้างสุภาพสำหรับเขา 

    นายจะพาฉันไปไหน เธอพูด

    ... เขาเงียบ

    ฉันถามว่าจะพาฉันไปไหน

    เงียบแล้วก็อยู่เฉยๆ!”

    จอตโตสตาร์ทเครื่องออกตัวค่อนข้างรวดเร็ว  เขาเหลือบมองคนข้างๆ ที่ค่อนข้างตกใจและเธอยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย  เขามองเธอด้วยหางตาคอยสังเกตพฤติกรรมของเธอว่าเป็นอย่างไร  เขาได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมาให้คนข้างๆ ได้ยิน

    การเดินทางพึ่งจะเริ่มต้นขึ้น  เขาต้องไปตั้งหลักก่อนที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง  บาดแผลที่ถูกกระสุนบั่นทอนกำลังของเขา  ไหล่ซ้ายของเขาชาดิกไร้ความรู้สึก  แต่เขาก็พยายามขับรถให้ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ

               

                จะขึ้นรถลงเรือแอ่วเหนือหรือจะล่องใต้ไม่เคยหวั่น  แค่นั่งรถมากับนายผมน้ำตาลนี่แล้วมีชีวิตรอดได้ก็ถือว่าฉันยังมีบุญอยู่  ไม่รู้ว่าจะพาฉันไปไหน  หลับไปตื่นหนึ่งแล้วก็ยังไม่ยอมบอกว่าจะพาไปไหน  โทรศัพท์เจ้ากรรมก็โดนเขายึดไปอีก  ตอนนี้ฉันไม่สามารถติดต่อใครได้เลยแม้แต่มัสลินน้องสาวตัวเอง

                ไปหาซื้อของกินของใช้สิ

                ฉันมองธนบัตรสีส้มมูลค่าห้าสิบยูโรในมือของเขา  มัวแต่คิดอะไรเพลินเลยไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว  จากการคาดเดาของฉัน  เขาขับรถขึ้นเหนือตอนนี้น่าจะอยู่ในเขตแคว้นตอสกานาแล้ว  เราสองคนอยู่ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่มีซุปเปอร์มาร์เกตอยู่ด้วย  ฉันยังคงมองธนบัตรในมือของเขาโดยที่ไม่แตะต้องมัน

                “Arrogante” (หยิ่ง)

                ไม่ได้หยิ่ง แค่ไม่เข้าใจว่าจะให้ฉันซื้อของใช้ไปทำไม

                เธอจะต้องไปอยู่กับฉัน

                หา!” O_O!

                ของหายหรอหามากี่รอบแล้ว ไม่ต้องพูดมาก รีบไปรีบมาหาอะไรมาให้กินด้วยหิว!”

                เทศนาเสร็จก็ยัดธนบัตรใส่มือฉันพร้อมกับเอื้อมมาเปิดประตูให้ฉันเดินลงไป  หิวทำไมไม่ไปหาซื้อกินเองล่ะพ่อคุณ  แล้วฉันจะรู้ไหมว่านายจะกินอะไร!

                เดี๋ยว

                เขาพูดขึ้นก่อนที่ฉันจะปิดประตูรถ

                ซื้ออุปกรณ์ทำแผลมาด้วย

                ฉันชะงักไปครู่หนึ่ง  ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าเขาบาดเจ็บต้องทำแผล  เห็นแก่ที่นายบาดเจ็บแล้วกันนะฉันจะเชื่อฟังที่นายบอกแล้วกัน

    อืม

    ทำงานมาก็เกือบสองปีแล้ว  เข้าแข่งขันชิงรางวัลก็คว้าถ้วยรางวัลมาก็หลายงาน  แต่จะมาแพ้ให้กับ...น้ำดื่มนี่นะ

    ประเทศนี้ก็ไม่รู้อะไร  น้ำแร่กับน้ำโซดาขวดหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ  ฉันยืนดูอยู่นานว่าอันไหนมันน้ำแร่อันไหนมันน้ำโซดา  เอาไงเอากันล่ะทีนี้  ตัดสินใจหยิบไอ้ที่อยู่ใกล้ที่สุดเนี่ยแหละ  และเพื่อความปลอดภัยหยิบอีกแบบไปด้วยขวดหนึ่งแล้วกัน

    นึกว่าตายคาร้านซะแล้ว

    ที่เห็นนี่วิญญาณ

    อาเมน

    ไอ้...

    ไม่ต้องสนใจส่งน้ำดื่มให้เขาไปก่อนเลยหนึ่งขวด  ช่วยเป็นหนูทดลองทีว่ามันคือน้ำแร่หรือเปล่า  รอจังหวะให้เขาดื่มก่อนแล้วฉันค่อยดื่มตาม  ดูจากปฏิกิริยาแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นแสดงว่าปลอดภัย J

     แต่ว่า...

    แค่กๆ

    จะบ้าตาย!  ทำไมของฉันมันถึงกลายเป็นน้ำโซดาไปได้ล่ะ  ขวดก็เหมือนกันนะดูดีแล้วด้วย  นายผมน้ำตาลหันมามองฉันที่เอาแต่ไอ  ช่วยอธิบายหน่อยสิว่านี่มันมาได้ไง T_T

    น้ำโซดาสินะ

    ... (- -)(_ _)(- -)

                เอานี่ไปน้ำแร่

                แล้วเขาก็ส่งน้ำอีกขวดหนึ่งที่ฉันซื้อมาเพื่อความปลอดภัยมาให้ฉัน  ฉันดื่มเข้าไปอย่างเร็วเพื่อให้รสชาติของน้ำโซดามันหายไป  ค่อยยังชั่วหน่อยดีนะที่ซื้อมาเผื่อด้วย

                เห็นพูดภาษาอิตาเลียนได้ แค่นี้อ่านไม่ออกหรอ

                อ่านได้แต่แปลเองไม่เป็น

                อืม

                ว่าแต่นายไม่เจ็บแผลหรอ

                ...

                เขาเงียบไปสักพักเหมือนพึ่งจำได้ว่าตัวเองมีแผล  ฉันเห็นเขาทำหน้าใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งเลยไม่กวน  กำลังย้อนเวลาดูอดีตอยู่หรอว่าตัวเองไปทำอะไรมา

                เดี๋ยวเราไปหาโรงแรมพักสักคืน...

                ...

                แล้วเธอก็ทำแผลให้ฉันด้วย

                เอาใหม่ดิ

                จำไม่ได้แล้ว ว่าแต่...เธอชื่ออะไร

                มายาวี เรียกวีก็พอ

                ฉันชื่อ...

                ...

                จอตโต ยินดีที่ได้รู้จัก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×