คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Capitolo II
กาแฟไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเอสเปรสโซ อิตาลีเป็นมารดาของเอสเปรสโซห้ามพลาดเด็ดขาด
ฉันนั่งอยู่ในบาร์กาแฟรอมัสลินกับตะวันที่ออกไปซื้อทีรามิสุของหวานขึ้นชื่อของอิตาลี เพราะเมื่อวานตอนทานมื้อเย็นมัสลินไม่ได้อยู่ทานของหวาน ถ้าทานมื้อไหนแล้วไม่ได้ทานทีรามิสุก็เหมือนไม่ได้ลิ้มรสอาหารอิตาเลียนที่แท้จริง เจ้าตัวรู้อย่างนั้นก็ตื่นแต่เช้าลากตะวันออกไปหาซื้อทันที
“L’utente accetta di accettare l’offerta o meno.” (คุณยินยอมที่จะรับข้อเสนอหรือไม่)
“Non!” (ไม่)
ทุกคนในบาร์หันไปทางพวกเขาเป็นตาเดียว ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งยืนรายล้อมพวกเขาอยู่ จากที่สังเกตการณ์น่าจะเป็นบอดี้การ์ด ส่วนผู้ชายที่นั่งอยู่สองคนคงเป็นหัวหน้าของพวกเขา ฉันพอรู้ภาษาอิตาลีพอสมควรเลยจับใจความได้นิดหน่อย พวกเขาคงกำลังตกลงอะไรกันบางอย่างแต่ตกลงกันไม่ได้ ดูท่าทางพวกเขาสองคนน่ากลัวจัง แต่หน้าตาดีทั้งคู่เลย >//< (อย่าพึ่งบ้าผู้ชาย!) คนหนึ่งผมสีน้ำตาลเอาแต่ทำหน้าเครียด คนหนึ่งผมสีดำดูเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไร
“Sleale!” (ไม่ยุติธรรม)
“In modo equo e coerente.” (ยุติธรรมที่สุดแล้ว)
นายผมสีน้ำตาลก็ค้านอย่างเดียว ส่วนนายผมดำก็แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนเขาเหนือกว่ามาก ท่าทางจะไม่ใช่ตกลงกันทางธุรกิจอย่างที่ฉันคิดไว้ตอนแรกแล้วล่ะสิ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
“แต่นั่นมันเขตทำมาหากินของพวกฉันนะ”
“แล้วยังไงล่ะ”
อ้าวพูดไทยได้กันซะงั้น คนไทยหรอนั่นหล่อปานเทพบุตรขนาดนี้เชียวหรอ หน้าก็ตะวันตกกันชัดๆ แต่ดันเป็นคนเอเชียกันนี่นะ Gosh!
“คนเขามองกันทั้งร้านแล้วนะ ช่วยสงบสติอารมณ์หน่อยสิน้องชาย”
“ฉันไม่ใช่น้องแก”
ตกลงว่าเขาเป็นพี่น้องกันหรอ นายคนผมสีน้ำตาลเป็นน้องชายของนายผมสีดำ พี่น้องกันจะมาทะเลาะอะไรกันนอกจากเรื่องผู้หญิง แต่ที่ฟังมาเหมือนกำลังตกลงเรื่องอาณาเขตกันอยู่
“อยากให้คนเขารู้กันหรือไงว่าเราคุยอะไรกัน”
“จะรู้ได้ไง คนละชาติภาษากันจะฟังออกได้ไง”
อย่างน้อยก็มีฉันคนหนึ่งนะ ^_^”
“ลูกน้องนายไปหาเรื่องลูกน้องฉัน นายต้องรับผิดชอบ”
“ฉันว่ามันคงไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกมั้ง”
ฉันรับรู้ถึงความมาคุภายในบาร์ที่มันมากขึ้น ลูกค้าบางส่วนทยอยออกจากบาร์กันอยู่เรื่อยๆ ฉันก็อยากจะออกอยู่นะถ้าไม่ติดต้องรอสองคนนั้น นั่งจิบกาแฟไปสามถ้วยแล้วทำไมยังไม่มากันสักที!
“ใครก็อยากยึดครองซิซิลีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่แกดันโชคดีที่พ่อให้แกไปคุมงานที่นั้น”
“แล้วไง เรื่องแค่นี้ฉันไม่สน แต่ที่สนคือ...”
หูฉันผึ่งรอฟังประโยคต่อไปที่พวกเขากำลังสนทนากัน แค่เรื่องย้ายตำแหน่งกันมันก็ไม่เท่าไหร่นี่นา ทำเรื่องให้มันใหญ่ขึ้นมาทำไมกันก็ไม่รู้ จิบกาแฟต่อดีกว่า...
“ฉันรู้มาว่าแกกำลังจะตั้งแฟมิลี่ แกจะทรยศพ่อ แกจะยึดซิซิลี แกติดสินบนรัฐมนตรีไว้หลายคน แล้วแกก็...”
ตอนนี้ฉันไม่ได้จิบกาแฟแล้วล่ะ แต่กำลังกระดกอย่างรวดเร็วเพราะลุ้นมากเกินไป สิ่งที่ได้ยินฉันไม่อยากเชื่อเลย และก็ไม่อยากเชื่อด้วยว่าเรื่องพวกนี้ยังมีอยู่ในประเทศนี้...มาเฟีย
“จะ-ฆ่า-ฉัน”
“แค่กๆ”
เอาแล้วสิไอ้กาแฟบ้ามันทำพิษฉันซะแล้ว เขาสองคนมองมาที่ฉันแล้วอ่ะทำไงดีล่ะทีนี้ ฉันไออยู่สักพักอาการก็ดีขึ้น ฉันมองนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายซึ่งบอกว่าแปดโมงครึ่งแล้ว นี่สองคนนั้นหายไปเป็นชั่วโมงเลยหรอเนี่ย ฉันอยากกลับแล้วนะ T_T
“Come
“Bene.” (สบายดีค่ะ)
ฉันตอบกลับไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ควรจะภูมิใจดีไหมที่ครั้งหนึ่งเคยคุยกับมาเฟีย -_-“
แล้วความภาคภูมิใจของฉันก็หมดลงเมื่อแขกที่อยากรับเชิญก็มาถึงที่ แบบที่ชีวิตนี้ถ้าหนีไม่พ้นคือฉัน...ตาย
“พี่วีกลับกันเถอะ เค้าได้ขนมมาแล้วนะ ซื้อไปเผื่อพี่พรีมด้วยล่ะ” ^_^
“ถ้าอย่างนั้น...ก็รีบไปกันเถอะ”
ไม่รอช้าให้ใครมาเรียนเชิญ ฉันคว้ากระเป๋าสะพายพร้อมกับลากข้อมือของมัสลินกับตะวันให้ออกมาจากบาร์โดยเร็ว ก่อนที่จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ฉันพาทั้งสองคนเลี้ยวเข้าซอยแคบๆ แห่งหนึ่งก่อนจะเริ่มบทสนทนา
“สองคนกลับไปก่อนนะ”
“ทำไมล่ะพี่วี”
“เถอะน่า พี่มีธุระ”
ฉันดุนหลังให้ทั้งสองคนเดินออกจากซอยตรงกลับไปบ้านของอันโตนีโอกับพรีมที่อยู่ไม่ไกลนัก ส่วนตัวฉันเองเดินไปที่ร้านแผงลอยร้านหนึ่งที่เดินผ่านไปเมื่อกี้ ฉันหยิบมีดพกอันหนึ่งขึ้นมาดูและตัดสินใจที่จะซื้อมัน
“Quanto.” (เท่าไหร่)
ฉันถามราคากับผู้ชายวัยกลางคนที่เป็นคนขาย เขาไม่ตอบแต่ใช้นิ้วแตะกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่ไม่ไกล
“สองยูโร”
ฉันล้วงกระเป๋ากางเกงหาเหรียญยูโรที่คาดว่ามีอยู่สองเหรียญพอดี ราคาก็เอาการเหมือนกันนะตั้งแปดสิบกว่าบาท ฉันยื่นเงินให้เขาแล้วออกเดินทันที ไม่รู้ว่าควรจะไปแจ้งความหรือว่าทำอะไรดี แต่ว่าตอนนี้ ฉันกำลังเดินไปที่...สถานทูต
ณ บาร์กาแฟ
หลังจากที่เธอ ‘มายาวี’ ฟังการสนทนาระหว่าสองพี่น้อง ‘ออสกา’ และ ‘จอตโต’ เธอต้องรีบออกจากบาร์ทันทีเพราะเธอก็เป็นคนไทยเหมือนกับเขาทั้งสองคน แต่ต่างตรงที่พวกเขาพวกคำว่าอิตาเลียนมาด้วย เธอรู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกันบ้างและเธออาจเป็นภัยต่อเขา
“ชักสนุกแล้วสิ”
ออสกาแสยะยิ้มร้ายและเยือกเย็นอย่างที่เขาชอบทำ นั่นยิ่งทำให้คนตรงหน้าเครียดกว่าเดิม อารมณ์คุกรุ่นกว่าเก่าเป็นเท่าตัว จอตโตรู้ดีว่าออสกาจะทำ...อะไร
“แกมัน...”
เขาชี้หน้าออสกาอย่างเหลืออด แต่เขาก็ยับยั้งไม่ให้ตัวเองลงมือกับออสกาได้ แล้วตัวออสกาล่ะเขาคิดอะไรอยู่กันแน่
“รู้สึกว่าแกจะรู้แผนของฉันหมดแล้ว และก็มีแม่สาวคนนั้นพ่วงมาด้วยอีกคน”
“...”
“คงต้องเพิ่มเป้าหมาย”
“...”
จอตโตได้แต่ยืนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรกลับไป เขากำลังสังเกตการณ์คนตรงหน้าว่าจะทำอะไรต่อไป
“เลวี”
“ครับบอส”
ชายผิวขาวข้างออสการับคำสั่ง
“เคลียร์พื้นที่”
“Andare!” (ไป)
เลวีหันไปตะโกนไล่ลูกค้าทุกคนในบาร์ ทุกคนทำตามโดยดี แม้แต่เจ้าของบาร์และพนักงานต่างก็พากันออกจากบาร์อย่างรวดเร็ว
“แกจะทำอะไร”
“โทษทีนะน้องชาย เพราะนายและแม่นั่น...”
“...”
“ฉันเลยต้องดำเนินการทุกอย่างเร็วขึ้น”
หลังจากที่สังเกตการณ์อยู่สักพัก เขาก็ได้คำตอบจากคำถามที่เขาได้ตั้งไว้ จอตโตค่อยๆ ขยับมือมาวางตรงด้ามปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอว ลูกน้องของเขาเริ่มมีปฏิกิริยาตามเขาทีละคนสองคน ออสกามองดูปฏิกิริยาตรงหน้า ก่อนที่เขาจะ...
“ฆ่ามันซะ...”
“...”
“รวมถึงเธอคนนั้นด้วย”
กระบอกปืนทุกกระบอกถูกชักออกมาประจันหน้าพร้อมกัน เหมือนเครื่องเล่นถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราว แล้วก็กดเล่นใหม่อีกครั้งอย่างช้าๆ จอตโตถูกกลืนหายเข้าไปในกลุ่มลูกน้องของเขา ก่อนที่ทุกอย่างจะ...
“คุณจอตโตหนีไปครับ”
“จัดการมัน!”
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังถี่ขึ้นภายในบาร์กาแฟ ชายชุดดำของทั้งสองฝ่ายต่างล้มลงนอนจมกองเลือดทีละคนสองคน จอตโตหนีออกมาตั้งแต่เสียงปืนดังครั้งแรก เขาลัดเลาะออกมาทางหลังบาร์และตรงไปที่อัลฟา โรเมโอ 159 สีแดงเลือดหมูของเขาที่จอดอยู่ข้างบาร์
“จะรีบไปไหนหรอน้องรัก”
จอตโตชะงักที่เห็นออสกายืนพิงรถของเขาอยู่ เขาเล็งปืนไปทางออสกาที่ทำหน้านิ่งไม่รู้สึกสาอะไรเหมือนที่ผ่านๆ มา
“Damn!” จอตโตสบถ
“ไม่สุภาพเลยนะ”
“มันก็เรื่องของฉัน”
ออสกาแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจ ในมือกำลังแกว่งมีดพกไปมาอย่างสนุกมือ ทั้งสองจ้องตาประสานกัน ไม่มีใครเริ่มโจมตีหรือเริ่มบทสนทนาใหม่ พวกเขาได้แต่...จ้องกันนิ่ง
“ถ้าแกไม่เริ่ม...”
“...”
“ก็ต้องเป็นฉัน”
ปึก!
“แก!”
ปัง!
ออสกาขว้างมีดตรงไปข้างหน้าแต่จอตโตหลบทัน ทำให้มีดไปปักกับเสาไม้ที่อยู่ใกล้ๆ จอตโตจะยิงตอบโต้แต่ก็ถูกกระสุนจากปืนของออสกายิงสกัดเข้ามาก่อน ตอนนี้เขากำลัง...บาดเจ็บ
ของเหลวสีคล้ำไหลมาตามแขนเสื้อสูทผ้าวูลสีเทาข้างซ้ายของจอตโต มือขวาที่ยังถือปืนอยู่ก็ทำหน้าที่กุมบาดแผลไปด้วย ออสกายังคงแสยะยิ้มเหมือนเดิมในมือซ้ายถือปืนค้างอยู่กลางอากาศ เขายืนชมผลงานตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
“แกคงลืมว่าฉันยิงปืนมือซ้าย” ออสกาพูด
“ถอยไปซะ!”
“ถ้าฉันไม่ถอยล่ะ”
“แกก็ตายน่ะสิ”
เสียงลูกน้องของจอตโตคนหนึ่งดังมาจากข้างหลังของออสกา เขากระโจนใส่ออสกาทำให้เสียหลักลงไปนอนกับพื้นทั้งคู่ ลูกน้องของจอตโตตะครุบปืนในมือออสกาไว้ ทั้งสองคนกำลังแย่งปืนกัน
“คุณจอตโตหนีไปครับ”
“แต่ว่า...”
“รีบไปเถอะครับ”
จอตโตอาศัยช่วงที่ทั้งสองกำลังแย่งปืนกันและออสกาก็ขยับไปไหนไม่ได้ เพราะถูกลูกน้องของเขาทับอยู่วิ่งไปที่รถของเขาทันที พร้อมกับสตาร์ทเครื่องออกตัวออกไป
“แกอยากตายหรือไง”
“ถึงตายผมก็ไม่ให้คุณไปไหนหรอก”
“ถ้าอย่างนั้นมาลองกันว่าใครจะตายก่อน”
ออสการวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดพลิกตัวเองให้ไปอยู่ด้านบนแทน ทั้งสองคนแย่งปืนกันสุดกำลังไม่มีใครยอมใคร
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ทั้งสองคนต่างตาค้างกันไปทั้งคู่โดยที่ไม่รู้ว่า กระสุนนัดนั้นใครเป็นคนยิงและใครเป็นคนที่ถูกยิง
ออสกายืนขึ้นเต็มความสูงมองลูกน้องของจอตโตกุมท้องของตัวเอง พร้อมกับของเหลวสีคล้ำที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย เขาแสยะยิ้มอีกครั้งมองคนตรงหน้าด้วยความสะใจ
“คนที่ตายไม่ใช่ฉัน....”
“...”
“แต่เป็นแกต่างหากล่ะ!”
ปัง!
กระสุนอีกนัดพุ่งเข้าใส่กลางหน้าอกลูกน้องของจอตโต เขาหัวเราะอย่างสะใจกับการกระทำตรงหน้า ร่างแน่นิ่งไม่ไหวติงกลายเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเขา
“และรายต่อไปก็คือแก...จอตโต”
ความคิดเห็น