ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fontana รักนี้ ฉันขอล่ะ!

    ลำดับตอนที่ #3 : Capitolo II

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 54


                อากาศแจ๋มใสเหมาะกับการมานั่งจิบกาแฟ  มาโรมทั้งทีถ้าไม่ได้จิบกาแฟก็เสียดายแย่  ที่นี้เขาขึ้นชื่อเรื่อง
    กาแฟไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง  โดยเฉพาะเอสเปรสโซ  อิตาลีเป็นมารดาของเอสเปรสโซห้ามพลาดเด็ดขาด

                ฉันนั่งอยู่ในบาร์กาแฟรอมัสลินกับตะวันที่ออกไปซื้อทีรามิสุของหวานขึ้นชื่อของอิตาลี  เพราะเมื่อวานตอนทานมื้อเย็นมัสลินไม่ได้อยู่ทานของหวาน  ถ้าทานมื้อไหนแล้วไม่ได้ทานทีรามิสุก็เหมือนไม่ได้ลิ้มรสอาหารอิตาเลียนที่แท้จริง  เจ้าตัวรู้อย่างนั้นก็ตื่นแต่เช้าลากตะวันออกไปหาซื้อทันที

                “L’utente accetta di accettare l’offerta o meno.” (คุณยินยอมที่จะรับข้อเสนอหรือไม่)

                “Non!” (ไม่)

                ทุกคนในบาร์หันไปทางพวกเขาเป็นตาเดียว  ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งยืนรายล้อมพวกเขาอยู่  จากที่สังเกตการณ์น่าจะเป็นบอดี้การ์ด  ส่วนผู้ชายที่นั่งอยู่สองคนคงเป็นหัวหน้าของพวกเขา  ฉันพอรู้ภาษาอิตาลีพอสมควรเลยจับใจความได้นิดหน่อย  พวกเขาคงกำลังตกลงอะไรกันบางอย่างแต่ตกลงกันไม่ได้  ดูท่าทางพวกเขาสองคนน่ากลัวจัง  แต่หน้าตาดีทั้งคู่เลย >//< (อย่าพึ่งบ้าผู้ชาย!)  คนหนึ่งผมสีน้ำตาลเอาแต่ทำหน้าเครียด  คนหนึ่งผมสีดำดูเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไร

                “Sleale!” (ไม่ยุติธรรม)

                “In modo equo e coerente.” (ยุติธรรมที่สุดแล้ว)

                นายผมสีน้ำตาลก็ค้านอย่างเดียว  ส่วนนายผมดำก็แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนเขาเหนือกว่ามาก  ท่าทางจะไม่ใช่ตกลงกันทางธุรกิจอย่างที่ฉันคิดไว้ตอนแรกแล้วล่ะสิ  มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น

                แต่นั่นมันเขตทำมาหากินของพวกฉันนะ

                แล้วยังไงล่ะ

                อ้าวพูดไทยได้กันซะงั้น  คนไทยหรอนั่นหล่อปานเทพบุตรขนาดนี้เชียวหรอ  หน้าก็ตะวันตกกันชัดๆ แต่ดันเป็นคนเอเชียกันนี่นะ  Gosh!

                คนเขามองกันทั้งร้านแล้วนะ ช่วยสงบสติอารมณ์หน่อยสิน้องชาย

                ฉันไม่ใช่น้องแก

                ตกลงว่าเขาเป็นพี่น้องกันหรอ  นายคนผมสีน้ำตาลเป็นน้องชายของนายผมสีดำ  พี่น้องกันจะมาทะเลาะอะไรกันนอกจากเรื่องผู้หญิง  แต่ที่ฟังมาเหมือนกำลังตกลงเรื่องอาณาเขตกันอยู่

                อยากให้คนเขารู้กันหรือไงว่าเราคุยอะไรกัน

                จะรู้ได้ไง คนละชาติภาษากันจะฟังออกได้ไง

                อย่างน้อยก็มีฉันคนหนึ่งนะ ^_^”

                ลูกน้องนายไปหาเรื่องลูกน้องฉัน นายต้องรับผิดชอบ

                ฉันว่ามันคงไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกมั้ง

                ฉันรับรู้ถึงความมาคุภายในบาร์ที่มันมากขึ้น  ลูกค้าบางส่วนทยอยออกจากบาร์กันอยู่เรื่อยๆ  ฉันก็อยากจะออกอยู่นะถ้าไม่ติดต้องรอสองคนนั้น  นั่งจิบกาแฟไปสามถ้วยแล้วทำไมยังไม่มากันสักที!

                ใครก็อยากยึดครองซิซิลีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่แกดันโชคดีที่พ่อให้แกไปคุมงานที่นั้น

                แล้วไง เรื่องแค่นี้ฉันไม่สน แต่ที่สนคือ...

                หูฉันผึ่งรอฟังประโยคต่อไปที่พวกเขากำลังสนทนากัน  แค่เรื่องย้ายตำแหน่งกันมันก็ไม่เท่าไหร่นี่นา  ทำเรื่องให้มันใหญ่ขึ้นมาทำไมกันก็ไม่รู้  จิบกาแฟต่อดีกว่า...

                ฉันรู้มาว่าแกกำลังจะตั้งแฟมิลี่ แกจะทรยศพ่อ แกจะยึดซิซิลี แกติดสินบนรัฐมนตรีไว้หลายคน แล้วแกก็...

                ตอนนี้ฉันไม่ได้จิบกาแฟแล้วล่ะ  แต่กำลังกระดกอย่างรวดเร็วเพราะลุ้นมากเกินไป  สิ่งที่ได้ยินฉันไม่อยากเชื่อเลย  และก็ไม่อยากเชื่อด้วยว่าเรื่องพวกนี้ยังมีอยู่ในประเทศนี้...มาเฟีย

                จะ-ฆ่า-ฉัน

                แค่กๆ

                เอาแล้วสิไอ้กาแฟบ้ามันทำพิษฉันซะแล้ว  เขาสองคนมองมาที่ฉันแล้วอ่ะทำไงดีล่ะทีนี้  ฉันไออยู่สักพักอาการก็ดีขึ้น  ฉันมองนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายซึ่งบอกว่าแปดโมงครึ่งแล้ว  นี่สองคนนั้นหายไปเป็นชั่วโมงเลยหรอเนี่ย  ฉันอยากกลับแล้วนะ  T_T

                “Come va.(เป็นไงบ้างครับ) นายผมดำหันมาถามฉัน

                “Bene.” (สบายดีค่ะ)

                ฉันตอบกลับไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ควรจะภูมิใจดีไหมที่ครั้งหนึ่งเคยคุยกับมาเฟีย -_-“

                แล้วความภาคภูมิใจของฉันก็หมดลงเมื่อแขกที่อยากรับเชิญก็มาถึงที่  แบบที่ชีวิตนี้ถ้าหนีไม่พ้นคือฉัน...ตาย

                พี่วีกลับกันเถอะ เค้าได้ขนมมาแล้วนะ ซื้อไปเผื่อพี่พรีมด้วยล่ะ ^_^

                ถ้าอย่างนั้น...ก็รีบไปกันเถอะ

                ไม่รอช้าให้ใครมาเรียนเชิญ  ฉันคว้ากระเป๋าสะพายพร้อมกับลากข้อมือของมัสลินกับตะวันให้ออกมาจากบาร์โดยเร็ว  ก่อนที่จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น  ฉันพาทั้งสองคนเลี้ยวเข้าซอยแคบๆ แห่งหนึ่งก่อนจะเริ่มบทสนทนา

                สองคนกลับไปก่อนนะ

                ทำไมล่ะพี่วี

                เถอะน่า พี่มีธุระ

                ฉันดุนหลังให้ทั้งสองคนเดินออกจากซอยตรงกลับไปบ้านของอันโตนีโอกับพรีมที่อยู่ไม่ไกลนัก  ส่วนตัวฉันเองเดินไปที่ร้านแผงลอยร้านหนึ่งที่เดินผ่านไปเมื่อกี้  ฉันหยิบมีดพกอันหนึ่งขึ้นมาดูและตัดสินใจที่จะซื้อมัน

                “Quanto.” (เท่าไหร่)

                ฉันถามราคากับผู้ชายวัยกลางคนที่เป็นคนขาย  เขาไม่ตอบแต่ใช้นิ้วแตะกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่ไม่ไกล

                สองยูโร

                ฉันล้วงกระเป๋ากางเกงหาเหรียญยูโรที่คาดว่ามีอยู่สองเหรียญพอดี  ราคาก็เอาการเหมือนกันนะตั้งแปดสิบกว่าบาท  ฉันยื่นเงินให้เขาแล้วออกเดินทันที  ไม่รู้ว่าควรจะไปแจ้งความหรือว่าทำอะไรดี  แต่ว่าตอนนี้  ฉันกำลังเดินไปที่...สถานทูต

     

      บาร์กาแฟ

                หลังจากที่เธอ มายาวีฟังการสนทนาระหว่าสองพี่น้อง ออสกาและ จอตโต  เธอต้องรีบออกจากบาร์ทันทีเพราะเธอก็เป็นคนไทยเหมือนกับเขาทั้งสองคน  แต่ต่างตรงที่พวกเขาพวกคำว่าอิตาเลียนมาด้วย  เธอรู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกันบ้างและเธออาจเป็นภัยต่อเขา

                ชักสนุกแล้วสิ

                ออสกาแสยะยิ้มร้ายและเยือกเย็นอย่างที่เขาชอบทำ  นั่นยิ่งทำให้คนตรงหน้าเครียดกว่าเดิม  อารมณ์คุกรุ่นกว่าเก่าเป็นเท่าตัว  จอตโตรู้ดีว่าออสกาจะทำ...อะไร

                แกมัน...

    เขาชี้หน้าออสกาอย่างเหลืออด  แต่เขาก็ยับยั้งไม่ให้ตัวเองลงมือกับออสกาได้  แล้วตัวออสกาล่ะเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

    รู้สึกว่าแกจะรู้แผนของฉันหมดแล้ว และก็มีแม่สาวคนนั้นพ่วงมาด้วยอีกคน

    ...

    คงต้องเพิ่มเป้าหมาย

    ...

    จอตโตได้แต่ยืนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรกลับไป  เขากำลังสังเกตการณ์คนตรงหน้าว่าจะทำอะไรต่อไป 

    เลวี

    ครับบอส

    ชายผิวขาวข้างออสการับคำสั่ง

    เคลียร์พื้นที่

     “Andare!” (ไป)

                เลวีหันไปตะโกนไล่ลูกค้าทุกคนในบาร์  ทุกคนทำตามโดยดี  แม้แต่เจ้าของบาร์และพนักงานต่างก็พากันออกจากบาร์อย่างรวดเร็ว

                แกจะทำอะไร

                โทษทีนะน้องชาย เพราะนายและแม่นั่น...

                ...

                ฉันเลยต้องดำเนินการทุกอย่างเร็วขึ้น

                หลังจากที่สังเกตการณ์อยู่สักพัก  เขาก็ได้คำตอบจากคำถามที่เขาได้ตั้งไว้  จอตโตค่อยๆ ขยับมือมาวางตรงด้ามปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอว  ลูกน้องของเขาเริ่มมีปฏิกิริยาตามเขาทีละคนสองคน  ออสกามองดูปฏิกิริยาตรงหน้า  ก่อนที่เขาจะ...

                ฆ่ามันซะ...

                ...

                รวมถึงเธอคนนั้นด้วย

                กระบอกปืนทุกกระบอกถูกชักออกมาประจันหน้าพร้อมกัน  เหมือนเครื่องเล่นถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราว  แล้วก็กดเล่นใหม่อีกครั้งอย่างช้าๆ  จอตโตถูกกลืนหายเข้าไปในกลุ่มลูกน้องของเขา  ก่อนที่ทุกอย่างจะ...

                คุณจอตโตหนีไปครับ

                จัดการมัน!”

                ปัง! ปัง! ปัง!

                เสียงปืนดังถี่ขึ้นภายในบาร์กาแฟ  ชายชุดดำของทั้งสองฝ่ายต่างล้มลงนอนจมกองเลือดทีละคนสองคน  จอตโตหนีออกมาตั้งแต่เสียงปืนดังครั้งแรก  เขาลัดเลาะออกมาทางหลังบาร์และตรงไปที่อัลฟา โรเมโอ 159 สีแดงเลือดหมูของเขาที่จอดอยู่ข้างบาร์ 

                จะรีบไปไหนหรอน้องรัก

                จอตโตชะงักที่เห็นออสกายืนพิงรถของเขาอยู่  เขาเล็งปืนไปทางออสกาที่ทำหน้านิ่งไม่รู้สึกสาอะไรเหมือนที่ผ่านๆ มา 

                “Damn!” จอตโตสบถ

                ไม่สุภาพเลยนะ

                มันก็เรื่องของฉัน

                ออสกาแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจ  ในมือกำลังแกว่งมีดพกไปมาอย่างสนุกมือ  ทั้งสองจ้องตาประสานกัน  ไม่มีใครเริ่มโจมตีหรือเริ่มบทสนทนาใหม่  พวกเขาได้แต่...จ้องกันนิ่ง

                ถ้าแกไม่เริ่ม...

                ...

                ก็ต้องเป็นฉัน

                ปึก!

                แก!”

                ปัง!

                ออสกาขว้างมีดตรงไปข้างหน้าแต่จอตโตหลบทัน  ทำให้มีดไปปักกับเสาไม้ที่อยู่ใกล้ๆ  จอตโตจะยิงตอบโต้แต่ก็ถูกกระสุนจากปืนของออสกายิงสกัดเข้ามาก่อน  ตอนนี้เขากำลัง...บาดเจ็บ

                ของเหลวสีคล้ำไหลมาตามแขนเสื้อสูทผ้าวูลสีเทาข้างซ้ายของจอตโต  มือขวาที่ยังถือปืนอยู่ก็ทำหน้าที่กุมบาดแผลไปด้วย  ออสกายังคงแสยะยิ้มเหมือนเดิมในมือซ้ายถือปืนค้างอยู่กลางอากาศ  เขายืนชมผลงานตัวเองอย่างภาคภูมิใจ

                แกคงลืมว่าฉันยิงปืนมือซ้าย ออสกาพูด

                ถอยไปซะ!”

                ถ้าฉันไม่ถอยล่ะ

                แกก็ตายน่ะสิ

                เสียงลูกน้องของจอตโตคนหนึ่งดังมาจากข้างหลังของออสกา  เขากระโจนใส่ออสกาทำให้เสียหลักลงไปนอนกับพื้นทั้งคู่  ลูกน้องของจอตโตตะครุบปืนในมือออสกาไว้  ทั้งสองคนกำลังแย่งปืนกัน

                คุณจอตโตหนีไปครับ

                แต่ว่า...

                รีบไปเถอะครับ

                จอตโตอาศัยช่วงที่ทั้งสองกำลังแย่งปืนกันและออสกาก็ขยับไปไหนไม่ได้  เพราะถูกลูกน้องของเขาทับอยู่วิ่งไปที่รถของเขาทันที  พร้อมกับสตาร์ทเครื่องออกตัวออกไป

                    แกอยากตายหรือไง

                ถึงตายผมก็ไม่ให้คุณไปไหนหรอก

                ถ้าอย่างนั้นมาลองกันว่าใครจะตายก่อน

                ออสการวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดพลิกตัวเองให้ไปอยู่ด้านบนแทน  ทั้งสองคนแย่งปืนกันสุดกำลังไม่มีใครยอมใคร 

                ปัง!

                เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด  ทั้งสองคนต่างตาค้างกันไปทั้งคู่โดยที่ไม่รู้ว่า  กระสุนนัดนั้นใครเป็นคนยิงและใครเป็นคนที่ถูกยิง 

                ออสกายืนขึ้นเต็มความสูงมองลูกน้องของจอตโตกุมท้องของตัวเอง  พร้อมกับของเหลวสีคล้ำที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย  เขาแสยะยิ้มอีกครั้งมองคนตรงหน้าด้วยความสะใจ

                คนที่ตายไม่ใช่ฉัน....

                ...

                แต่เป็นแกต่างหากล่ะ!”

                ปัง!

                กระสุนอีกนัดพุ่งเข้าใส่กลางหน้าอกลูกน้องของจอตโต  เขาหัวเราะอย่างสะใจกับการกระทำตรงหน้า  ร่างแน่นิ่งไม่ไหวติงกลายเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเขา 

                และรายต่อไปก็คือแก...จอตโต

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×