ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ลอบทำร้าย
"เป็นไง ดีฟ รีอา ทำได้รึเปล่า? เราทำไม่ค่อยได้อ่ะ" เรฟเป็นผู้ทำลายความเงียบหลังจากออกมาจากห้องสอบได้พักใหญ่ และกำลังเดินไปส่งรีอาที่โรงแรม
"อืม ก็ตอบไปมั่วๆ ก็อย่างที่ลุงคนนั้นบอกแหละมั้ง ถ้าพวกเรารู้หมดอยู่แล้ว แล้วโรงเรียนจะมีไว้ทำไม ช่างเหอะ มาคิดตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร รอดูผลที่บ้านละกัน" รีอาพูดอย่างปลงตก
"ดีฟ แล้วนายอ่ะ" เรฟหันหน้าไปทางดีฟ
"ก็ คงพอๆกับนายแหละ" ดีฟไม่กล้าบอกว่าเคยเรียนมาหมดแล้วตอนอยู่ในปราสาท ท่านพ่อของเขาสั่งให้อาจารย์เข้ามาสอนทุกวันทั้งด้านความรู้ทั่วไป วิชาด้านการปกครอง และวิชาการต่อสู้หลายแขนง ยกเว้นเวทย์มนต์ ซึ่งบางทีเขาก็เคยคิดเป็นปมด้อยว่าทำไมไม่มีพลังเวทย์เลย แต่หลังๆ ก็เฉยๆ และทำใจยอมรับมันได้ ข้อสอบที่ทำไปนั้น เขารู้คำตอบแทบทุกข้อ แต่ดีฟไม่ต้องการให้คนอื่นสงสัยจึงแกล้งทำผิดๆถูกๆไปบ้าง อย่างไรเขาก็ไม่แคร์อยู่แล้วว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน
"นี่ เรายังไม่ได้แนะนำตัวเองกันเลยใช่มั้ย" ดีฟหยุดกึก โดยไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้า ทำให้รีอาที่จ้ำเดินให้ทันฝีเท้าของเด็กหนุ่มทั้งสองอย่างตามมาติดๆหยุดไม่ทัน หน้าของเด็กสาวที่สูงไม่พ้นไหล่ของดีฟชนหลังดีฟไปเต็มแรง หงายหลังลงไปก้นกระแทกพ้น ทำเอาเจ้าตัวจุกไม่น้อย นั่งอยู่ที่พื้นพร้อมน้ำตาเล็ดเล็กน้อยอย่างไม่สนใจใคร
ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็อดบ่นกระปอดกระแปดออกมาไม่ได้
"โอ๊ย จะหยุดเดินก็ไม่บอกไม่กล่าวก็มั่งเลย ดูซิเนี่ย เจ็บชะมัด"
"อ่า ขอโทษนะรีอา เราไม่ได้ตั้งใจ" ดีฟพูดพลางยื่นมือไปดึงรีอาให้ลุกขึ้นจากพื้น
"ชั้น รีอา ซาเรจ แม่มดฝึกหัดแห่งอาเรเซีย"
"ดีฟ ไลท์วีน๊อซ นักพเนจร ไร้สังกัดครับ"
"เรฟ โซลลี่ วูฟล์ แห่งซีโมส"
"เอ๋ เรฟเป็นหมาป่าเหรอ ทำไมอยู่ในร่างนี้ได้นานจังเลยล่ะ" รีอาจ้องไปที่ใบหน้าของเรฟ ที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนหมาป่า
"อืม ก็...อ่า.. นี่ รีอา เลิกจ้องได้แล้ว!!"เรฟเมื่อถูกจ้องหน้าก็เริ่มเขินเหมือนกัน แต่คนจ้องกลับไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งเจ้าของใบหน้าทนไม่ไหว จนต้องเบือนหน้าหนีไปเอง
"ซีโมส อืมๆ เผ่าวูฟล์ อ๋อ ฮิๆๆ นึกออกล่ะ ได้ยินว่าลูกชายของท่านหัวหน้าเผ่าวูลฟ์จะมาสมัครเรียนที่แมรีดัสในปีนี้ นายก็คือ ลูกชายหัวหน้าเผ่าคนนั้นล่ะสิ มิน่า อืมๆๆ" รีอาพูดเองเออเองอยู่คนเดียว เมื่อหันกลับขึ้นมามองก็พบว่าเรฟเดินไปไกลแล้ว รีอาจึงรีบวิ่งตามไปล้อเลียน 'ท่านชายเรฟ' ส่วนดีฟก็ค่อยๆเดินตามไป นึกยินดีที่ไม่มีใครถามอะไรกับฉายา 'นักพเนจร' ของเขา
"นี่ไปพักที่เกวียนของเรามั้ยจะได้ไม่ต้องเสียค่าโรงแรม แล้วจะได้คุยกันได้ด้วย" เรฟเอ่ยชวนดีฟหลังจากที่ส่งรีอาเสร็จแล้ว และกำลังเดินไปตามทางหลักของเมือง ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังจะโรยราไปจากท้องฟ้ายามเย็น
"ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป ก็ดีนะ เราเหลือเงินไม่มากแล้วด้วย ขอบใจมาก ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึง 1 วันเลย ทำไมนายถึงไว้ใจเราล่ะ" ดีฟพูดความจริง เพราะตอนเขาหนีออกมาจากปราสาท เขาหยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอที่เดินทางเร่ร่อนไปได้เป็นปี แต่ต้องไม่ใช่พักในโรงแรมแพงๆ ที่โก่งราคาขึ้นมาเนื่องจากเป็นช่วงที่มีการเปิดรับสมัครนักเรียนที่มีปีศาจจากทั่วทุกสารทิศเข้ามาในเมืองอย่างนี้
"ก็ไม่รู้สิ แค่รู้สึกถูกโฉลกด้วย ก็เท่านั้นแหล่ะ" เรฟกับดีฟเดินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงโรงแรมที่ดีฟพัก ดีฟขอตัวเข้าไปหยิบสัมภาระ แต่นักพเนจรอย่างเขาก็มีข้าวของเพียงน้อยนิดที่จำเป็นเท่านั้น 20 นาทีต่อมา เขาก็เดินมาหาเรฟที่นั่งรออยู่ที่ล๊อบบี้ของโรงแรม
"ขอโทษทีนะที่ช้า พอดีต้องไปเช็คเอ๊าท์น่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอก ไปกันเหอะ" เรฟพูดจบก็เดินนำไปที่เกวียนของเขาซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมไม่มากนัก
"นายอยู่คนเดียวเหรอ" ดีฟถามขึ้นเมื่อเข้าไปในเกวียนขนาดไม่ใหญ่มากแต่พื้นที่ข้างในกลับกว้างขวาง ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีฟูกกับผ้าห่มอยู่ที่มุมหนึ่งของเกวียน พร้อมที่จะนำออกมาใช้ได้อย่างสะดวกสบาย
"อือ เรามาคนเดียวน่ะ แม่เราก็อยากให้ใครมาเป็นเพื่อนหรอก แต่เราโตแล้ว กะอีแค่เดินทางมาเรียนไม่จำเป็นต้องมีใครมาดูแลหรอก แล้วนายอ่ะ ทำไมมาคนเดียว" เรฟเดินไปค้นหาผ้าห่มกับฟูกอีกชุดจากกล่องเก็บของที่วางชิดติดผนังที่เมื่อปิดกล่องก็จะสามารถใช้เป็นเก้าอี้ได้อีกด้วย
"อ๋อ พ่อเราก็อยู่ที่บ้านแหละ ที่เมืองหลวง ส่วนแม่เราเสียแล้ว" ดีฟตอบไปพร้อมๆกับนำสัมภาระออกมาวาง และจัดฟูกให้เข้าที่
"เสียใจด้วยนะ" จากนั้นเรฟก็เงียบไป ทั้งสองนอนคุยกันอีกซักพักก็ดับไฟ แล้วเข้าสู่นิทราไปอย่างรวดเร็ว
แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างของเกวียนมากระทบใบหน้าของเด็กหนุ่มสองคนที่นอนหลับใหลอยู่ภายในเกวียน เสียงนกขับขานอยู่แว่วๆ ทำให้หมาป่าแห่งซีโมส กับนักพเนจรตื่นขึ้นอย่างช้าๆ
"นี่ๆ ตื่นกันรึยางงง" เสียงที่มาก่อนตัวของเด็กสาวนามรีอา ต่อให้คนที่ยังไม่ตื่น ก็ต้องตื่น
"จะตะโกนไปถึงไหนเนี่ย เจ๊" เรฟชะโงกหน้าออกไปพร้อมกับคำพูดที่ทำเอาสาวน้อยโมโห หัวฟัดหัวเหวี่ยง
"นี่ มาเรียกชั้นว่า 'เจ๊' ได้ยังไง ห๋า ชั้นไม่ใช่เจ๊นายนะ แล้วก็นายแก่กว่าชั้นซะอีก"
"อืม อายุไม่ให้แต่ หน้าให้ ฮ่าๆๆๆ" ขณะที่เรฟกำลังหัวเราะร่วนอยู่นั้น ดีฟก็ได้ยินเสียงดัง โป๊ก!!! โป๊กๆๆๆๆ!!!! T_Tจากนั้นก็มีเสียงคนร้อง โอดโอย ตามมาพร้อมกับเสียงพึมพำตามมา
"แค่แซวแค่นี้ต้องรุนแรงด้วย" เรฟบ่นพร้อมกับคลำหัวปอยๆ
"ฮิๆๆ ดีสมน้ำหน้า เพิ่งรู้จักแค่วันเดียว ใครใช้ในลามปามกันล่ะยะ ฮิๆ" รีอาทำหน้าแบบสะใจสุดๆ จากนั้นก็หันไปหาดีฟ
"นี่ๆ ดีฟๆ ไปเดินเล่นที่ตลาดกัน"
"เธอจะไม่ชวนเรามั่งเรอะ โธ่เรามันไม่มีใครสนใจ" เรฟทำหน้าน้อยใจแบบโอเวอร์มากๆ
"เวอร์เกินแล้วย่ะ พ่อคุณ จะไปก็ไปสิยะ ไม่มีใครห้ามนิ"
"อืม ไปสิ"ดีฟที่ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้วลุกเดินออกมานั่งรออยู่หน้าเกวียน รอให้เรฟจัดการธุระเสร็จก่อน จึงเริ่มออกเดินไปยังตลาดซึ่งอยู่ไกลพอตัว
ทั้งสามคนเที่ยวเล่นกันจนพอใจแล้ว ก็พากันเดินกลับไปส่งรีอาที่โรงแรมเมื่อเวลาใกล้พลบค่ำ แล้วจากนั้นหนุ่มน้อยสองคนก็เดินกลับไปยังเกวียนที่พัก ขณะที่เดินผ่านตรอกเล็กๆ เรฟก็สังเกตเห็นแสงวิบวับที่สะท้อนกับแสงไฟสลัวๆของถนน และแสงจันทร์ที่เริ่มปรากฏแล้ว ด้วยสายตาของหมาป่าอย่างเรฟการมองในที่สลัวๆ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเห็น จึงสะกิดดีฟให้ลองมองตาม ดีฟพยายามเพ่งมองว่ามันคืออะไร
"ระวัง!!!!!!" เรฟตะโกนขึ้น พร้อมๆกับมีดสั้นที่ถูกปามาจากเงามืด โดยมีเป้าหมายคือดีฟ
ทันทีที่เรฟตะโกน ดีฟก็กระโดดหลบอย่างรวดเร็ว หันหน้ากลับมาเผชิญกับคนร้ายที่ทำการจู่โจมด้วยมีดสั้นเมื่อตะกี้ แต่ก็ช้าเกินไป คนร้ายได้หายไปกับเงามืดในตรอกเล็กๆอย่างไร้ร่องรอย ส่วนเรฟที่ตั้งท่าจะวิ่งตามก็ถูกดีฟดึงไว้ก่อน
"ไม่ต้องตามหรอก เรฟ" ดีฟทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดีฟเจออย่างนี้น่ะสิ เขาเองยังสงสัยเลยว่าเพราะอะไรเขาถึงโดนลอบทำร้าย ทั้งๆที่นักพเนจรอย่างเขาไม่น่ามีศัตรู จะมีก็แต่อีกฐานะหนึ่งของเขา ซึ่งไม่น่ามีใครล่วงรู้
"ทำไมล่ะ" เรฟมองหน้าดีฟ แบบที่ต้องการคำตอบจริงๆ
"เดี๋ยวมันก็มาลอบทำร้ายเราอีกเองแหละ ไม่ต้องตามไปให้เหนื่อยเปล่าหรอก เพราะเราวิ่งตามไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว แต่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทุกที ขอบใจนะเรฟ ถ้านายไม่เตือนเราคงได้เลือดตกยางออกอีกแน่เลย" ดีฟกล่าวอย่างไม่ใส่ใจกับเรื่องที่โดนลอบทำร้ายเท่าไหร่นัก
ทั้งสองก้าวเดินต่อไปตามทางที่ไปสู่เกวียนของเรฟอย่างช้าๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงใบหน้าที่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยของเรฟ เป็นอย่างเดียวที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ เมื่อถึงเกวียน ที่นอนก็ถูกนำออกมาจัด เพื่อเตรียมเข้านอนอีกครั้ง ดีฟกำลังจะหลับหากไม่มีเสียงของเรฟถามขึ้นมา
"ดีฟ เราถามได้ไหม ว่าทำไมนายถึงโดนลอบทำร้ายล่ะ" เรฟที่ลืมตาโพลงท่ามกลางความมืดของรัตติกาล ที่มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาเกวียนทำให้มองเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มทั้งสองได้อย่างเลือนลาง
"ได้สิ แต่เราไม่รู้คำตอบหรอก เพราะเราเองก็งงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทำไปเพื่ออะไร" ดีฟตอบทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
"อืม แปลกจริงๆ นายก็ต้องระวังตัวมากๆหน่อยละกัน" จากนั้นอีกไม่นานเรฟก็ผล่อยหลับไป
"ขอบใจนะ เรฟ" ดีฟพึมพำเบาๆ แล้วก็หลับไปอีกคน
_____________________________________________
^_^
เมนต์หน่อยค่า นะคะ จะได้เอาปรับปรุงค่ะ ขอบคุณนะคะทุกๆท่านที่อ่าน
"อืม ก็ตอบไปมั่วๆ ก็อย่างที่ลุงคนนั้นบอกแหละมั้ง ถ้าพวกเรารู้หมดอยู่แล้ว แล้วโรงเรียนจะมีไว้ทำไม ช่างเหอะ มาคิดตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร รอดูผลที่บ้านละกัน" รีอาพูดอย่างปลงตก
"ดีฟ แล้วนายอ่ะ" เรฟหันหน้าไปทางดีฟ
"ก็ คงพอๆกับนายแหละ" ดีฟไม่กล้าบอกว่าเคยเรียนมาหมดแล้วตอนอยู่ในปราสาท ท่านพ่อของเขาสั่งให้อาจารย์เข้ามาสอนทุกวันทั้งด้านความรู้ทั่วไป วิชาด้านการปกครอง และวิชาการต่อสู้หลายแขนง ยกเว้นเวทย์มนต์ ซึ่งบางทีเขาก็เคยคิดเป็นปมด้อยว่าทำไมไม่มีพลังเวทย์เลย แต่หลังๆ ก็เฉยๆ และทำใจยอมรับมันได้ ข้อสอบที่ทำไปนั้น เขารู้คำตอบแทบทุกข้อ แต่ดีฟไม่ต้องการให้คนอื่นสงสัยจึงแกล้งทำผิดๆถูกๆไปบ้าง อย่างไรเขาก็ไม่แคร์อยู่แล้วว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน
"นี่ เรายังไม่ได้แนะนำตัวเองกันเลยใช่มั้ย" ดีฟหยุดกึก โดยไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้า ทำให้รีอาที่จ้ำเดินให้ทันฝีเท้าของเด็กหนุ่มทั้งสองอย่างตามมาติดๆหยุดไม่ทัน หน้าของเด็กสาวที่สูงไม่พ้นไหล่ของดีฟชนหลังดีฟไปเต็มแรง หงายหลังลงไปก้นกระแทกพ้น ทำเอาเจ้าตัวจุกไม่น้อย นั่งอยู่ที่พื้นพร้อมน้ำตาเล็ดเล็กน้อยอย่างไม่สนใจใคร
ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็อดบ่นกระปอดกระแปดออกมาไม่ได้
"โอ๊ย จะหยุดเดินก็ไม่บอกไม่กล่าวก็มั่งเลย ดูซิเนี่ย เจ็บชะมัด"
"อ่า ขอโทษนะรีอา เราไม่ได้ตั้งใจ" ดีฟพูดพลางยื่นมือไปดึงรีอาให้ลุกขึ้นจากพื้น
"ชั้น รีอา ซาเรจ แม่มดฝึกหัดแห่งอาเรเซีย"
"ดีฟ ไลท์วีน๊อซ นักพเนจร ไร้สังกัดครับ"
"เรฟ โซลลี่ วูฟล์ แห่งซีโมส"
"เอ๋ เรฟเป็นหมาป่าเหรอ ทำไมอยู่ในร่างนี้ได้นานจังเลยล่ะ" รีอาจ้องไปที่ใบหน้าของเรฟ ที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนหมาป่า
"อืม ก็...อ่า.. นี่ รีอา เลิกจ้องได้แล้ว!!"เรฟเมื่อถูกจ้องหน้าก็เริ่มเขินเหมือนกัน แต่คนจ้องกลับไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งเจ้าของใบหน้าทนไม่ไหว จนต้องเบือนหน้าหนีไปเอง
"ซีโมส อืมๆ เผ่าวูฟล์ อ๋อ ฮิๆๆ นึกออกล่ะ ได้ยินว่าลูกชายของท่านหัวหน้าเผ่าวูลฟ์จะมาสมัครเรียนที่แมรีดัสในปีนี้ นายก็คือ ลูกชายหัวหน้าเผ่าคนนั้นล่ะสิ มิน่า อืมๆๆ" รีอาพูดเองเออเองอยู่คนเดียว เมื่อหันกลับขึ้นมามองก็พบว่าเรฟเดินไปไกลแล้ว รีอาจึงรีบวิ่งตามไปล้อเลียน 'ท่านชายเรฟ' ส่วนดีฟก็ค่อยๆเดินตามไป นึกยินดีที่ไม่มีใครถามอะไรกับฉายา 'นักพเนจร' ของเขา
"นี่ไปพักที่เกวียนของเรามั้ยจะได้ไม่ต้องเสียค่าโรงแรม แล้วจะได้คุยกันได้ด้วย" เรฟเอ่ยชวนดีฟหลังจากที่ส่งรีอาเสร็จแล้ว และกำลังเดินไปตามทางหลักของเมือง ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังจะโรยราไปจากท้องฟ้ายามเย็น
"ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป ก็ดีนะ เราเหลือเงินไม่มากแล้วด้วย ขอบใจมาก ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึง 1 วันเลย ทำไมนายถึงไว้ใจเราล่ะ" ดีฟพูดความจริง เพราะตอนเขาหนีออกมาจากปราสาท เขาหยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอที่เดินทางเร่ร่อนไปได้เป็นปี แต่ต้องไม่ใช่พักในโรงแรมแพงๆ ที่โก่งราคาขึ้นมาเนื่องจากเป็นช่วงที่มีการเปิดรับสมัครนักเรียนที่มีปีศาจจากทั่วทุกสารทิศเข้ามาในเมืองอย่างนี้
"ก็ไม่รู้สิ แค่รู้สึกถูกโฉลกด้วย ก็เท่านั้นแหล่ะ" เรฟกับดีฟเดินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงโรงแรมที่ดีฟพัก ดีฟขอตัวเข้าไปหยิบสัมภาระ แต่นักพเนจรอย่างเขาก็มีข้าวของเพียงน้อยนิดที่จำเป็นเท่านั้น 20 นาทีต่อมา เขาก็เดินมาหาเรฟที่นั่งรออยู่ที่ล๊อบบี้ของโรงแรม
"ขอโทษทีนะที่ช้า พอดีต้องไปเช็คเอ๊าท์น่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอก ไปกันเหอะ" เรฟพูดจบก็เดินนำไปที่เกวียนของเขาซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมไม่มากนัก
"นายอยู่คนเดียวเหรอ" ดีฟถามขึ้นเมื่อเข้าไปในเกวียนขนาดไม่ใหญ่มากแต่พื้นที่ข้างในกลับกว้างขวาง ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีฟูกกับผ้าห่มอยู่ที่มุมหนึ่งของเกวียน พร้อมที่จะนำออกมาใช้ได้อย่างสะดวกสบาย
"อือ เรามาคนเดียวน่ะ แม่เราก็อยากให้ใครมาเป็นเพื่อนหรอก แต่เราโตแล้ว กะอีแค่เดินทางมาเรียนไม่จำเป็นต้องมีใครมาดูแลหรอก แล้วนายอ่ะ ทำไมมาคนเดียว" เรฟเดินไปค้นหาผ้าห่มกับฟูกอีกชุดจากกล่องเก็บของที่วางชิดติดผนังที่เมื่อปิดกล่องก็จะสามารถใช้เป็นเก้าอี้ได้อีกด้วย
"อ๋อ พ่อเราก็อยู่ที่บ้านแหละ ที่เมืองหลวง ส่วนแม่เราเสียแล้ว" ดีฟตอบไปพร้อมๆกับนำสัมภาระออกมาวาง และจัดฟูกให้เข้าที่
"เสียใจด้วยนะ" จากนั้นเรฟก็เงียบไป ทั้งสองนอนคุยกันอีกซักพักก็ดับไฟ แล้วเข้าสู่นิทราไปอย่างรวดเร็ว
แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างของเกวียนมากระทบใบหน้าของเด็กหนุ่มสองคนที่นอนหลับใหลอยู่ภายในเกวียน เสียงนกขับขานอยู่แว่วๆ ทำให้หมาป่าแห่งซีโมส กับนักพเนจรตื่นขึ้นอย่างช้าๆ
"นี่ๆ ตื่นกันรึยางงง" เสียงที่มาก่อนตัวของเด็กสาวนามรีอา ต่อให้คนที่ยังไม่ตื่น ก็ต้องตื่น
"จะตะโกนไปถึงไหนเนี่ย เจ๊" เรฟชะโงกหน้าออกไปพร้อมกับคำพูดที่ทำเอาสาวน้อยโมโห หัวฟัดหัวเหวี่ยง
"นี่ มาเรียกชั้นว่า 'เจ๊' ได้ยังไง ห๋า ชั้นไม่ใช่เจ๊นายนะ แล้วก็นายแก่กว่าชั้นซะอีก"
"อืม อายุไม่ให้แต่ หน้าให้ ฮ่าๆๆๆ" ขณะที่เรฟกำลังหัวเราะร่วนอยู่นั้น ดีฟก็ได้ยินเสียงดัง โป๊ก!!! โป๊กๆๆๆๆ!!!! T_Tจากนั้นก็มีเสียงคนร้อง โอดโอย ตามมาพร้อมกับเสียงพึมพำตามมา
"แค่แซวแค่นี้ต้องรุนแรงด้วย" เรฟบ่นพร้อมกับคลำหัวปอยๆ
"ฮิๆๆ ดีสมน้ำหน้า เพิ่งรู้จักแค่วันเดียว ใครใช้ในลามปามกันล่ะยะ ฮิๆ" รีอาทำหน้าแบบสะใจสุดๆ จากนั้นก็หันไปหาดีฟ
"นี่ๆ ดีฟๆ ไปเดินเล่นที่ตลาดกัน"
"เธอจะไม่ชวนเรามั่งเรอะ โธ่เรามันไม่มีใครสนใจ" เรฟทำหน้าน้อยใจแบบโอเวอร์มากๆ
"เวอร์เกินแล้วย่ะ พ่อคุณ จะไปก็ไปสิยะ ไม่มีใครห้ามนิ"
"อืม ไปสิ"ดีฟที่ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้วลุกเดินออกมานั่งรออยู่หน้าเกวียน รอให้เรฟจัดการธุระเสร็จก่อน จึงเริ่มออกเดินไปยังตลาดซึ่งอยู่ไกลพอตัว
ทั้งสามคนเที่ยวเล่นกันจนพอใจแล้ว ก็พากันเดินกลับไปส่งรีอาที่โรงแรมเมื่อเวลาใกล้พลบค่ำ แล้วจากนั้นหนุ่มน้อยสองคนก็เดินกลับไปยังเกวียนที่พัก ขณะที่เดินผ่านตรอกเล็กๆ เรฟก็สังเกตเห็นแสงวิบวับที่สะท้อนกับแสงไฟสลัวๆของถนน และแสงจันทร์ที่เริ่มปรากฏแล้ว ด้วยสายตาของหมาป่าอย่างเรฟการมองในที่สลัวๆ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเห็น จึงสะกิดดีฟให้ลองมองตาม ดีฟพยายามเพ่งมองว่ามันคืออะไร
"ระวัง!!!!!!" เรฟตะโกนขึ้น พร้อมๆกับมีดสั้นที่ถูกปามาจากเงามืด โดยมีเป้าหมายคือดีฟ
ทันทีที่เรฟตะโกน ดีฟก็กระโดดหลบอย่างรวดเร็ว หันหน้ากลับมาเผชิญกับคนร้ายที่ทำการจู่โจมด้วยมีดสั้นเมื่อตะกี้ แต่ก็ช้าเกินไป คนร้ายได้หายไปกับเงามืดในตรอกเล็กๆอย่างไร้ร่องรอย ส่วนเรฟที่ตั้งท่าจะวิ่งตามก็ถูกดีฟดึงไว้ก่อน
"ไม่ต้องตามหรอก เรฟ" ดีฟทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดีฟเจออย่างนี้น่ะสิ เขาเองยังสงสัยเลยว่าเพราะอะไรเขาถึงโดนลอบทำร้าย ทั้งๆที่นักพเนจรอย่างเขาไม่น่ามีศัตรู จะมีก็แต่อีกฐานะหนึ่งของเขา ซึ่งไม่น่ามีใครล่วงรู้
"ทำไมล่ะ" เรฟมองหน้าดีฟ แบบที่ต้องการคำตอบจริงๆ
"เดี๋ยวมันก็มาลอบทำร้ายเราอีกเองแหละ ไม่ต้องตามไปให้เหนื่อยเปล่าหรอก เพราะเราวิ่งตามไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว แต่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทุกที ขอบใจนะเรฟ ถ้านายไม่เตือนเราคงได้เลือดตกยางออกอีกแน่เลย" ดีฟกล่าวอย่างไม่ใส่ใจกับเรื่องที่โดนลอบทำร้ายเท่าไหร่นัก
ทั้งสองก้าวเดินต่อไปตามทางที่ไปสู่เกวียนของเรฟอย่างช้าๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงใบหน้าที่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยของเรฟ เป็นอย่างเดียวที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ เมื่อถึงเกวียน ที่นอนก็ถูกนำออกมาจัด เพื่อเตรียมเข้านอนอีกครั้ง ดีฟกำลังจะหลับหากไม่มีเสียงของเรฟถามขึ้นมา
"ดีฟ เราถามได้ไหม ว่าทำไมนายถึงโดนลอบทำร้ายล่ะ" เรฟที่ลืมตาโพลงท่ามกลางความมืดของรัตติกาล ที่มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาเกวียนทำให้มองเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มทั้งสองได้อย่างเลือนลาง
"ได้สิ แต่เราไม่รู้คำตอบหรอก เพราะเราเองก็งงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทำไปเพื่ออะไร" ดีฟตอบทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
"อืม แปลกจริงๆ นายก็ต้องระวังตัวมากๆหน่อยละกัน" จากนั้นอีกไม่นานเรฟก็ผล่อยหลับไป
"ขอบใจนะ เรฟ" ดีฟพึมพำเบาๆ แล้วก็หลับไปอีกคน
_____________________________________________
^_^
เมนต์หน่อยค่า นะคะ จะได้เอาปรับปรุงค่ะ ขอบคุณนะคะทุกๆท่านที่อ่าน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น