ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดีฟ หนุ่มน้อยแห่งโลกปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มเรื่อง

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 49


    เริ่มแต่งครั้งแรกวันที่ 30/10/05

    ยกมาเรื่อง "ดีฟ" นะคะ พอดีนิยายในไอดีหายไปตอนเกิดความเปลี่ยนแปลงเวปเด็กดี ไม่สามารถกลับไปอัพเรื่องนี้ได้ค่ะจึงมาลงใหม่ เพื่อให้สามารถอัพเรื่องได้ค่ะ

    รบกวนช่วยคอมเมนต์หน่อยนะคะ แต่งเป็นเรื่องแรกน่ะค่ะ ขอบคุณนะคะทุกๆท่านที่อ่านเรื่องนี้

    ________________________________



          "ไม่!!! อาริม ข้าจะไป แม้ท่านจะห้ามยังไงก็ตาม ตราบใดที่ท่านพ่อไม่บอกเหตุผลกับข้า ว่าทำไมข้าถึงไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอก ข้าโตแล้วนะ ข้าขอแค่เหตุผล เหตุผลเท่านั้น บอกข้ามาสิ!!!"เสียงดังขึ้นจากเด็กหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาวนวล นัยน์ตาสีเทา รูปร่างสูงเพรียว กำลังตะโกนใส่ชายอีกคนที่มีอายุเข้าวัยกลางคนแล้ว



            "คือนายท่าน..........." อาริมทำท่าจะพูดแล้วก็หยุดไป

    เมื่อเด็กหนุ่มเห็นดังนั้น ก็มองตาที่มีความหมายว่าให้พูด แต่จนแล้วจนรอด อาริมก็ยังไม่ยอมพูดต่อ เด็กหนุ่มจึงกล่าวคำลาแล้วก็หันหลัง เดินออกไปจากห้องทันที



             "ท่านดีฟ!!! อย่าเพิ่งไป!!" อาริมพูดออกมา แต่ก็ไม่ทันแล้วเนื่องจากเด็กหนุ่มที่กำลังโกรธไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง หรือแม้แต่จะหยุดฟังพระอภิบาลที่เลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิดเลย



              เด็กหนุ่มกลับมาที่ห้องของตัวเอง เก็บของใส่กระเป๋า เดินออกจากห้องและแอบหนีออกมาจากปราสาท หรือ บ้านที่เขาอยู่มาถึงสิบสามปี



              ดีฟได้ออกเดินทางเร่ร่อนเพื่อเผชิญโลกที่เขาอยากเห็น โลกปีศาจที่อยู่มาตั้งแต่เกิดแต่ไม่เคยได้ออกมาเดินเล่น ได้แต่เพียงมองผ่านหน้าต่างจากบนปราสาทเท่านั้น ดีฟอยู่ในฐานะของเจ้าชาย ลูกของราชาปีศาจ แม้ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกแท้ๆของราชาปีศาจจริงหรือไม่ เพราะดีฟไม่มีพลังเวทย์เลย ทั้งที่ราชาปีศาจพ่อของดีฟนั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกปีศาจ ดีฟจึงได้แต่ฝึกปรือวิชาดาบ รวมถึงอาวุธอื่นๆ จนกระทั่งไม่มีใครในปราสาทจะสู้ได้แล้ว ดีฟจึงเกิดความเบื่อ อยากออกไปข้างนอก แต่ก็ถูกท่านพ่อสั่งห้ามออกไป เมื่อถามเหตุผล ก็ไม่มีใครยอมตอบ ดีฟจึงโมโหและออกเดินทางไปในที่สุด



              "เรียน ท่านไลท์ .... ท่านดีฟได้หนีออกไปทางประตูตะวันตกแล้วขอรับ จะให้ตามไปไหมขอรับ" ชายวัยกลางคนที่ได้ชื่อว่าคนสนิทของราชาปีศาจ เข้ามารายงานเรื่องที่ดีฟหนีออกไป



              "ไม่ต้องตาม ข้าก็เดาไว้อยู่แล้วว่าลูกหัวดื้อของข้าจะหนีออกไป เฮ้อ.....เจ้าก็เลี้ยงลูกของข้ามาตั้งแต่เกิดนิ อาริม เจ้าน่าจะรู้นิสัยดีฟดีว่าถึงไปตามเขาก็ไม่กลับหรอก จนกว่าเขาจะได้สิ่งที่ต้องการ" ชายที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกับดีฟแต่ดูมีอายุมากกว่าตอบ พลางถอนใจด้วยความอ่อนล้า



              "จริงๆ ท่านก็บอกเหตุผลกับท่านดีฟไปก็ได้นี่ ขอรับ" อาริมกล่าว



              "อีกไม่นานเขาก็จะรู้เอง อีกไม่นาน อีกไม่นานก็จะถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เฮ้อ!!" ไลท์พิงไปยังพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน พร้อมๆกับก้มลงทำงานต่อ อาริมจึงขอตัวออกไปจากห้อง

              

               ....



      ....



               ดีฟได้ออกเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ผ่านเมืองน้อยใหญ่ ผ่านป่า เผชิญสัตว์ต่างๆมากมาย นอนกลางดิน กินกลางทรายอย่างไม่สะทกสะท้าน ดีฟออกเดินทางมาได้ครึ่งปีแล้ว และยังสนุกกับการเดินทางเร่ร่อน อย่างไม่มีจุดหมาย



               จนกระทั่งมาวันหนึ่ง ดีฟเดินทางเข้าสู่เมืองแมดิส พบป้ายประกาศ รับสมัครนักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียนแมรีดัส ซึ่งดีฟเกิดความคิดว่า 'เดินทางมาตั้งครึ่งปีแล้ว แต่ยังไม่มีเพื่อนเลย ถ้าเราเข้าเรียนในโรงเรียนก็จะได้มีเพื่อน' ดีฟจึงพักอยู่ที่เมืองนี้จนกระทั่งถึงวันเปิดรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียน และดีฟก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากเนื่องจาก ในวันรับสมัคร กลับมีผู้คนและปีศาจมากมายมาต่อแถวรอสมัครเรียน มีทั้งมนุษย์หมาป่า คนแคระ ยักษ์ตาเดียว ฯลฯ อีกมากมาย



               ดีฟงงกับฝูงชนที่คลาคล่ำอยู่หน้าโรงเรียน เขาไม่คาดคิดว่าจะมีปีศาจใส่ใจกับการศึกษาขนาดนี้ ถึงได้มีเหล่าปีศาจมาสมัครมากมาย 



               เขามองไปรอบๆ เพื่อมองหาบุคคลที่อาจจะอธิบายเขาได้ก็เหลือบไปเห็นแมค้าขายแอปเปิ้ลเป็นเหยื่อในการตอบคำถามของเขาที่อยู่ใกล้ที่สุด



               "เอ่อ พี่ครับ โรงเรียนแมรีดัสนี่ดังมากเลยเหรอครับ ทำไมมีคนสมัครเข้าเรียนเยอะจัง" ดีฟถามพลางทำหน้าใสซื่อ แบบไม่รู้เรื่องจริงๆ



                แม่ค้าจึงหันไปมองหน้าดีฟแบบงงๆ ว่ายังมีคนไม่รู้จักโรงเรียนแมรีดัสได้ไง แต่เมื่อเห็นใบหน้าอันแสนซื่อ จึงตอบออกมาว่า "หือ ไปอยู่ไหนมาน้องชาย โรงเรียนแมรีดัส เป็นโรงเรียนเดียวในโลกปีศาจนี้ ที่เปิดการเรียนสอน เนื่องจากที่อื่นเค้ารับไม่ไหวหรอก ปีศาจหลายเผ่าพันธุ์ ซะขนาดนั้น ที่นี่เค้าเปิดมานานแล้ว เลยรู้ว่าจะต้องรับมือยังไง เป็นโรงเรียนสอนทุกอย่าง แบ่งเป็นหลายส่วนตามแต่ความถนัดน่ะ ต้องสอบเข้านะ ไอ้น้อง แต่ไม่ยากหรอกไปลองสมัครดูสิ อายุถึงรึเปล่าเนี่ย เค้ากำหนดที่ 14 ปี นะ" แม่ค้าผู้ใจดี บรรยายพลางมองหน้าเด็กหนุ่มไปพลาง คิดว่าไอ้เด็กหนุ่มคนนี้มันน่าตาดีแฮะ แต่ยังดูเด็กอยู่เลย



                "ครับ ถึงครับ ผมอายุ 14 พอดีเลยครับ" ดีฟตอบพร้อมกับทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม



                "ก็ดี ลองไปสมัครดู ขอให้ได้ล่ะกันนะน้องชาย" แม่ค้าตอบไปยิ้มไป



                ดีฟจึงขอบคุณแล้วเดินไปต่อแถวสมัคร พลางคิดในใจว่า 'จะได้ไหมเนี่ย ไม่รู้จะต้องทดสอบแบบไหน ยิ่งไม่มีพลังเวทย์เลยเนี่ยสิ เฮ้อ.....'



                เมื่อถึงคิวของดีฟ ดีฟก็ยื่นใบสมัครให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นลูกครึ่งระหว่างแวมไพร์กับมนุษย์ เมื่อรับไปอ่านผ่านๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมาถามดีฟว่า



                 "เผ่าพันธุ์อะไรครับ"



                 "เอ่อ.. อ่า คือ ผมไม่ทราบครับ ต้องบอกด้วยเหรอครับ?? คือ ผมไม่รู้ว่าตัวเองอยู่เผ่าไหนอ่ะครับ" ดีฟถามกลับแบบงงๆ เจ้าหน้าที่ก็มองหน้าดีฟกลับแบบงงๆเช่นกัน พลางคิดในใจว่า 'มีปีศาจที่ไม่รู้เผ่าพันธุ์ตัวเองด้วยแฮะ'



                 "โอเค ไม่เป็นไร ดีฟ ไลท์วีน๊อซ นักพเนจร เชิญเดินตามเส้นสีเหลืองไป เข้าประตูที่ 1 เลยครับ ขอให้โชคดีนะครับ" เมื่อบอกทางให้ดีฟ แล้วหันไปเรียกผู้สมัครคนต่อไป



                 ดีฟเข้าไปในประตูที่บอก ก็เห็นปีศาจที่มาสมัครเรียนมากมายกำลังนั่งรอคิว เพื่อที่จะทำการทดสอบอยู่ โดยจะมีปีศาจสาวสวยตนนึงเป็นผู้เรียกชื่อคนที่จะต้องเข้าไปทำการทดสอบที่ดีฟยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง



                 "ดีฟ ไลท์วีน๊อซ, เรฟ โซลลี่, รีอา ซาเรจ เชิญตามมาค่ะ พร้อมจะเริ่มการทดสอบรึยังคะ" ปีศาจสาวสวยผมสีแดงเพลิงเรียกดีฟ กับผู้สมัครอีกสองคน



                 ปีศาจที่มาสมัครต่างก็มองกลุ่มที่ถูกขานชื่อกัน เนื่องจากคนที่ลุกขึ้นเป็น เด็กหนุ่มหน้าตาดี ผมสีดำยาวที่รวบไว้ข้างหลัง ตาสีเทาอย่างดีฟ ผู้ชายอีกคนที่ถูกเรียกก็มีนัยน์ตาสีทอง ผมสีน้ำตาลซอยสั้น เข้ากับหน้าที่ติดจะดูดี ที่ชื่อ เรฟ และอีกคน รีอา เป็นเด็กสาวที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าสวยหวาน ด้วยใบหน้ารูปไข่ ตาโต ผมสีเงิน นัยน์ตาสีไพลิน ที่เข้ากันได้กับใบหน้าอย่างประหลาด ทั้งสามคนลุกขึ้นแล้วเดินตามปีศาจสาวสวยเข้าไปที่ห้องหนึ่ง เป็นห้องที่ใหญ่มากแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสนามฟุตบอลได้เลยที่เดียว ปีศาจสาวเดินนำพามาที่โต๊ะที่มีชายชราคนหนึ่งนั่งรออยู่ จากนั้นปีศาจสาวก็ออกไปจากห้อง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×