คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หมาน้อยชื่อไรดีนะ
บทที่ 1 หมาน้อย
"ว้าว น่ารักๆๆๆ" ฉันมองไปรอบๆด้วยความตื่นตาตื่นใจกับความน่ารักของสัตว์หลากชนิดในโซนนี้มากๆ
แม้แต่พี่สาวกับคุณแม่ที่เดินมาเหนื่อยยังหันซ้ายหันขวาเดินไปดูร้านนู้นร้านนี้ อย่างอดไม่ได้ ลูกหมา ลูกแมว หลากหลายพันธุ์ กระต่ายน้อยน่ารักทั้งหลายลานตาไปหมด
พวกเราเดินชมไปเรื่อยๆจนไปสะดุดตากับลูกหมาโกลเด้นรีทีฟเวอร์ที่อยู่กับเพื่อนๆ สองสามตัวของมันในกล่องพลาสติกใบหนึ่งที่ตั้งอยู่หน้าชายคนขาย
มันหน้าตาน่ารักสุดๆ ตัวพอๆกับแตงโมสองลูกรวมกัน นัยน์ตาสีดำของมันจับจ้องมาที่พวกเราที่หยุดยืนอยู่หน้ากล่องพลาสติก ขนสีทองนุ่มมากๆเมื่อได้สัมผัส หูสั้นๆที่ทิ้งตัวลงมาข้างๆใบหน้าเล็กของมันก็เสริมให้มันดูน่ารักยิ่งขึ้น
พี่บุ๊คอุ้มมันขึ้นมาแล้วมองไปทางคุณแม่ของฉันอย่างสื่อความหมายเด่นชัด
คุณแม่ของฉันก็ลังเลอยู่สักพัก มองลูกสาวอีกสองคนเพื่อขอความเห็นแต่ก็ได้คำตอบที่เหมือนจะเห็นด้วยกับพี่ชาย ในที่สุดก็ตัดสินใจบอกว่า "ก็ได้ แต่บุ๊คต้องเป็นคนเลี้ยงนะ"
ดั่งคำตัดสินที่จะอนุญาตให้เลี้ยงเจ้าหมาน้อยตัวนี้ พี่ชายของฉันรวมทั้งฉันและพี่สาวก็เผลออดยิ้มออกมาอย่างดีใจไม่ได้
"แล้วจะเอาตัวไหนละคะ" พี่จูน พี่สาวของฉันหันไปถามความเห็นของทุกคน
"เอาตัวนี้แหละ หรือว่าไงละ" พี่บุ๊คโชว์ตัวที่เขาอุ้มอยู่ในตอนแรกให้ทุกคนดู
"ตามใจบุ๊คเหอะ" คุณแม่ของฉันตอบกลับไป ส่วนฉันกับพี่จูนก็ไม่คัดค้านอะไร
พี่บุ๊คจึงตกลงราคา และขอคำแนะนำในการเลี้ยงสุนัข ส่วนฉันก็ไปซื้ออาหารสุนัขและอุปกรณ์จำเป็นเช่น ชามน้ำ ชามข้าว ปลอกคอ เป็นต้น
คนขายอาหารสุนัขมองเจ้าหมาน้อยที่พี่บุ๊คอุ้มอยู่แล้วบอกว่า
"ตอนนี้มันยังเด็กอยู่ระวังหน่อยนะ มันจะตายค่อนข้างง่าย ต้องประคบประหงมมันมากๆหน่อย" คนขายอาหารสัตว์เลี้ยงแนะนำ แต่ก็ทำให้พวกเราตกใจมาวูบหนึ่ง
"กลัวจังเลยอ่ะ กลัวซื้อมันมาแล้วเลี้ยงมันไม่ดีพอ ก็กลัวมันจะตาย จะกลายเป็นเอามันมาทรมานเปล่าๆรึเปล่าเนี่ย เฮ้อ!!" คุณแม่ของฉันถอนหายใจอย่างกังวลในสวัสดิ์ภาพของเจ้าหมาน้อยในมือของพี่บุ๊ค
"งั้นเอางี้ละกันนะ ตอนกลางวันให้มันวิ่งเล่นนอกบ้านแต่ตอนกลางคืนเอามันเข้ามาในบ้าน ยุงจะได้ไม่กัดไง อย่างนี้ก็จะได้มีโอกาสเป็นหลายๆโรคน้อยลงไงคะ ดีเปล่าคะ" ฉันเสนอออกไป
"มันก็ดีหรอกนะ แต่ว่า... แม่ไม่อยากให้มันวิ่งในบ้านอ่ะ เดี๋ยวจะไปยุ่งกับตี่จู้ มันจะไม่ดีน่ะ" คุณแม่ครุ่นคิดถึงวิธีที่จะทำให้มันไม่ไปยุ่งกับศาลเจ้าหลังสีแดงของคนจีนที่ตามบ้านเรือนจะวางไว้ที่พื้น ไม่ได้ยกขึ้น
"งั้นก็เฉพาะกลางคืนเอาใส่กรงแล้วยกเข้าบ้าน แล้วตอนเช้าค่อยปล่อยออกมาดีไหมคะ" พี่จูนออกความคิดบ้าง
พี่ชาย และคุณแม่ก็ลงความเห็นว่าน่าจะดีที่สุดจึงไปเดินหาซื้อกรงให้มันอีก
สุดท้ายฉันก็เลยมาเดินจ้ำๆอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โดยมีกรงอันใหญ่อยู่ในมือข้างหนึ่ง เดินเคียงคู่ไปกับพี่จูนที่แบกกรงอีกข้างอยู่อย่างทุลักทุเลด้วยความเกะกะมากกว่าหนัก เพราะที่ซื้อมาเป็นกรงพลาสติกแบบที่ราคาปานกลาง ทนในระดับหนึ่ง และไม่หนักเท่าไหร่ พี่บุ๊คก็อุ้มเจ้าหมาน้อยหนักราวๆ 5 กิโลเดินลิ่วๆอยู่ข้างหน้า ส่วนคุณแม่เดินแบกถุงอาหารสุนัขกับชามข้าวชามน้ำของเจ้าหมาน้อย
ไม่น่าเชื่อ!!! พวกเราเดินหลงทางในจตุจักร T_T เดินทะลุออกมาถนนใหญ่อีกทีก็อยู่ไกลจากที่จอดรถมากอยู่ดูสิ่งของรวมทั้งน้องหมาแสนน่ารักตัวนี้แล้ว หนักไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนพวกเราก็ตามประสาคนไม่ค่อยออกกำลังกาย แทบจะหมดแรงไปกับการเดินวนไปวนมา ตัดสินใจเรียนตุ๊กตุ๊ก ให้ไปส่งที่จอดรถ ยัดกันเข้าไปในรถตุ๊กตุ๊ก 4 คน 1 ตัว พร้อมกรง เล่นเอาขยับไปไหนไม่ได้เลย
(หลายคนคงคิดว่า แค่ 4 คนเองไม่เห็นเยอะเลย แต่ถ้าทราบขนาดตัวของพวกเราแล้ว อาจจะไม่คิดอย่างนั้น ไปเดากันเอาเองนะคะว่าพวกเราตัวขนาดไหน บอกให้ว่าไม่ใช่ตัวเล็กแน่นอนค่ะ T_T)
ไปถึงที่จอดรถก็มีปัญหาอีก พวกเราต้องหาทางบรรจุกรงเข้าไปในรถยนต์ซีดาน 4 ประตู พูดง่ายๆก็รถเก๋งธรรมดานั่นแหละค่ะ กว่าจะนำกรงขึ้นรถได้ เล่นเอาเหงื่อแตกกันอีกรอบ
ขณะที่พวกเราเดินทางกลับ โดยพี่สาวนั่งหน้าอุ้มหมาน้อยไว้ พี่ชายขับรถ แล้วฉันกับคุณแม่นั่งอยู่ข้างหลังพร้อมกับกรงซึ่งกินพื้นที่ 2 คนเต็มๆไป ฉันนั่งตะแคงตัวไปตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้านเลยทีเดียว เล่นเอาเมื่อยสุดๆ
"จะให้มันชื่อไรดีคะ" ฉันถามขึ้นมาจากประตูรถด้านหลังเพราะฉันกำลังถูกอัดติดกับประตูรถอยู่
"เอาชื่อไทยๆนะ" เสียงคุณแม่ดังมาจากประตูหลังอีกข้าง =_="
"ตัวมันอ้วนดีนะ" พี่จูนพูดพลางอุ้มหมาน้อยอายุ 2 เดือนขึ้นมาดู
"งั้น ชื่อ....
_________________________________________
คุณผู้อ่านคิดว่าสุนัขของเราจะชื่อไรคะ ^_^ ลองคิดเล่นๆนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ถ้าไม่ดีตรงไหน บอกให้ปรับปรุงได้นะคะ
ความคิดเห็น