ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] The Series : Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี Yugjack ft. Bammark (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter six ::: 100% :::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 341
      8
      4 ก.พ. 60



    Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี

    วอเทอร์

    ตอนที่ 6

     

     

     

     

              ยูคยอมกลับมาอยู่ในห้องพักของแจ็คสันอีกครั้งนึงในเดือนนี้ ถ้าวัดจากระดับความสนิทกัน ยูคยอมเป็นคนที่เขาไม่สนิทแต่มาห้องบ่อยเป็นอันดับที่หนึ่งเลย ส่วนมาร์คก็หายหน้าหายตาไปจะคุยกันในมือถือแล้วก็เจอกันแค่ในมหาลัยเพียงเท่านั้น

     

    “จะอาบน้ำเลยไหมครับ”แจ็คสันเดินไปเปิดแอร์เปิดไฟที่ห้องโถง เผื่อว่าอีกคนจะอยากนั่งเล่นอยู่อีกสักหน่อย ก็เล่นเดินไปซนอยู่กับของที่เขาตั้งโชว์ไว้แบบคราวที่แล้วนี่นะ คงยังไม่ง่วงหรอกใช่ไหม

     

    “อืม อาบเลยก็ได้ไม่รบกวนเกินไปใช่ไหม”ยูคยอมถามเพื่อเช็คความแน่ใจ

     

    “ไม่หรอกครับ เดี๋ยวผมไปหาแปรงสีฟันกับผ้าเช็ดตัวให้นะครับ นั่งรอแป๊บนึง"แจ็คสันเดินไปในครัว ตรงตู้ที่ใช้เก็บพวกของต่างๆในห้องคอนโด โดยเฉพาะเครื่องใช้ในห้องน้ำที่เขาซื้อมาตุนไว้เยอะมาก

     

    "รุ่นพี่ครับ นี่แปรงสีฟันกับผ้าเช็ดนะครับใช้เสร็จแล้ววางไว้ในห้องน้ำได้เลย"แจ็คสันยื่นอุปกรณ์อาบน้ำให้กับอีกฝ่ายยูคยอมรับไปและเอ่ยขอบใจนิดนึงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป คราวนี้ไม่เปิดผิดประตูแล้ว

     

              หลังจากอาบน้ำไปซักพักยูคยอมก็เดินออกมาจากห้องน้ำสภาพพันผ้าเช็ดตัวไว้อย่างหมิ่นเหม่เป็นที่หวาดเสียวของยูคยอมน้อยไม่พอ เดือดร้อนมาถึงแจ็คสันอีกด้วยตั้งหาก

     

    "แล้วชุดของผมล่ะ"ยูคยอมถาม

     

    "จริงสิผมลืมไปเลย"แจ็คสันเดินเข้าห้องนอนไปหาเสื้อมาให้ยูคยอมใส่ ยูคยอมเดินตามหลังของแจ็คสันเข้าไปด้วย ห้องโถงถูกเปิดแอร์ไว้เย็นจัดเลยแหล่ะ หลังอาบน้ำใหม่ๆใครๆก็ต้องหนาวทั้งนั้น

     

    “ใส่เสื้อยืดอันนี้ไปก่อนนะครับ มันใหญ่สุดแล้ว”แจ็คสันยื่นเสื้อยืดลายมินิมอลเท่ๆตัวหนึ่งให้ยูคยอม

     

    "ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว นายก็ไปอาบน้ำเถอะตาปรือหมดแล้วนะเด็กน้อย"ยูคยอมยีเส้นผมนุ่มนิ่มของแจ็คสัน

     

    "ครับ งั้นเดี๋ยวผมขอไปอาบน้ำก่อน"แจ็คสันคว้าผ้าเช็ดตัวลายตัวการ์ตูนผืนโปรดออกไปและก้าวเข้าห้องน้ำ ยูคยอมที่แต่งตัวเสร็จแล้วก็นอนลงบนเตียงรอแจ็คสัน มือกว้างก็จัดการสไลด์จอมือถือไปมาเพื่อเช็คข่าวต่างๆ

     

    "อ้าว รุ่นพี่ยังไม่นอนอีกหรอครับ"แจ็คสันแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา เพราะปกติเวลาเล่นเหนื่อยมาทั้งวันแบบนี้เขาหลับโดยที่ไม่อาบน้ำก็ยังได้

     

    "รอนอนพร้อมนายน่ะ"ยูคยอมตอบเรียบๆแต่ทำเอาคนฟังกลับเขินจนหน้าแดงหูแดง ง่วงก็ง่วง แต่เจอแอทแทคขนาดนี้อีแจ็คสันหลับไม่ลงเลยค่ะ(กลับหลุมมึงไปอิผีแจ็คเกอรีน-*-)

     

    "อ่าครับ"แจ็คสันตอบอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เดินไปแต่งตัวเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดนอนมาสวมใส่

     

    "จริงๆแจ็คสันนี่ก็เอวคอดเหมือนนะ พึ่งจะสังเกต"ยูคยอมเอ่ยชมออกมาเบาๆ เหมือนเห็นแผ่นหลังขาวเนียนไล่สายตาลงมาเรื่อยๆจนถึงเอวคอดของแจ็คสัน ขาวเนียนน่าขย้ำ

     

    "อย่ามองสิครับ!"แจ็คสันหันไปโวยวายใส่อีกคน (.///.);;;

     

    "ฮ่าๆ โทษทีๆ"ยูคยอมหัวเราะเบาๆ แถมพร้อมเอามือปิดตายามที่แจ็คสันหันมามองดุๆ แจ็คสันแต่งตัวเสร็จแล้วก็นั่งเช็ดผมของตัวเองต่อ

     

    "มาเดี๋ยวช่วยเช็ด"ฝ่ามือหนาแตะที่หลังมือของแจ็คสันเบาๆก่อนจะแย่งผ้าผืนเล็กมาช่วยเช็ดหัวกลมที่ผสมกลิ่นหอมของแชมพูสระผม

     

    "ขอบคุณครับ"แจ็คสันเอ่ยขอบคุณส่วนยูคยอมก็พยักหน้ารับเบาๆแล้วเดินไปตากผ้าผืนเล็ก ถ้าไม่ตากเดี๋ยวเชื้อราจะขึ้นเอาได้

     

    "ผมจะปิดไฟนอนแล้วนะ"แจ็คสันเดินไปที่สวิตซ์ไฟตรงประตูก่อนจะเอ่ยให้สัญญาณ ยูคยอมเดินไปนั่งรออีกคนที่เตียง จะให้นอนก่อนเลยก็เกรงใจ ที่นอนๆตอนแรกก็แค่นอนเล่นเฉยๆยังไม่ได้หลับ

     

    ฟึ่บ

     

              สวิตซ์ไฟที่คอยให้แสงสว่างถูกตัดลงเรียบร้อยแล้ว แจ็คสันที่สายตาไม่ค่อยชินกับความมืดสักเท่าไหร่บวกกับสายตาสั้นก็รีบเดินไปที่เตียงแต่ก็เพราะวัตถุแปลกประหลาดอย่างคิมยูคยอมที่นั่งอยู่ข้างเตียงของเขานี่แหล่ะดันเกิดมาขายาว จะไม่อะไรเลยถ้าเกิดเขาไม่สะดุดล้มทับอีกฝ่ายอย่างจัง

     

    "อ้ะ เหวอ~! 0[]0"แจ็คสันตกใจเขาเซไปทับยูคยอมอย่างไม่ทันตั้งตัวส่วนยูคยอมก็หงายหลังลงไปอย่างแรงจากการกดทับของอีกคนบนตัว กลิ่นผิวหอมๆจากการพึ่งอาบน้ำใหม่ๆกระทบเข้ากับจมูกของยูคยอม

     

              กลิ่นช่างรัญจวนใจเสียจริง ทั้งๆที่ยูคยอมก็ใช้ครีมอาบน้ำและแชมพูสระผมของแจ็คสันเหมือนกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยคือความรู้สึกของแจ็คสันและยูคยอม เสียงหัวใจของทั้งคู่ที่มันดังระรัว ใจมันเต้นแรงเสียจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน

     

    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

     

              แสงไฟจากริมระเบียงที่ลอดส่องผ่านมาจากทางหน้าต่างทำให้ยูคยอมและแจ็คสันสามารถมองเห็นกันและกันได้ภายในความมืด แววตาของแจ็คสันหลุกหลิก เขาไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน การรับมือจากสถานการณ์แบบนี้จึงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเขา ถ้าคนที่เขาล้มใส่เป็นมาร์คเพื่อนรักของเขาหรือจินยองจะไม่รู้สึกแปลกเท่านี้มาก่อนเลย

     

    แต่ดันเป็นคนที่เขาชอบ...

     

              ความเงียบแล่นเข้ามาปกคลุมระหว่างเขาทั้งคู่อยู่นานหลายนาที จนเมื่อแจ็คสันได้รับรู้ถึงบทบาทของตัวเองเมื่อถูกอีกฝ่ายดันออก แต่กลับโดนพลิกลงข้างล่างแทน

     

              ความใกล้ชิดในระดับนี้ทำเอาแจ็คสันหายใจไม่ทั่วท้องและทำอะไรไม่ถูก สายตาที่เริ่มชินกับความมืดบวกกับมีแสงของด้านนอกลอดผ่านเข้ามาบอกได้อย่างดีว่าสายตาของยูคยอมที่มองมานั้นมันแผดเผาเขาแค่ไหนกัน เขาเหมือนกับช็อกโกแลตบาร์ที่เจอความร้อนเพียงนิดเดียวก็หลอมละลายเสียแล้ว มันช่างอึดอัดกับสถานการณ์ตรงหน้า

     

    “เอ่อ ผมอยากไปนอนแล้ว”แจ็คสันเอ่ยออกมาในที่สุด ยูคยอมนิ่งมากจนเขารู้สึกหวั่นๆ ยูคยอมจริงๆแล้วกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่นะ แต่ที่แน่นอนเลยถ้ารีบหนีจากใต้อาณัติของอีกคนเขานี่แหล่ะจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถึงจะชอบอีกฝ่ายมากแค่ไหนก็คงต้องหักห้ามใจ อีกคนคงไม่มีทางคิดแบบเดียวกันกับเขาหรอกอย่างแน่นอน

     

    “โทษที”ยูคยอมค่อยๆผละออกและลุกขึ้นนั่งก่อนจะค่อยๆสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนาของแจ็คสัน แจ็คสันก็ทำเพียงแค่ล้มตัวลงนอนข้างๆอย่างง่ายๆ เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆที่เหนื่อยมากขนาดนี้แต่ทั้งแจ็คสันและยูคยอมยังไม่มีใครสามารถหลับได้ลงเลย

     

    “ยังไม่นอนอีกหรอ”เสียงยูคยอมที่เป็นคนเอ่ยเปิดบทสนทนาก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

     

    “ก็.. ครับ นอนไม่หลับน่ะ”แจ็คสันตอบเบาๆ ในสมองมันมีความคิดมากมายที่ตีกันรุงรังไปหมด อีกใจหนึ่งก็พยายามบอกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็มีความสุขมากแล้ว แต่อีกใจหนึ่งมันก็ร้องว่าไม่พอ อยากจะแสดงความเป็นเจ้าของให้มากกว่านี้

     

    “อืม นอนไม่หลับเหมือนกัน”ยูคยอมบอก

     

    “งั้น เปลี่ยนมานอนคุยกันไหม ก็คงไม่ได้แย่เท่าไหร่หรอกมั้ง”แจ็คสันเสนอความคิดเห็นออกไป เขาเปลี่ยนท่านอนมาตะแคงข้างหันหน้าเข้าหายูคยอม

     

    “ดีเหมือนกัน”ยูคยอมบอกอย่างเห็นด้วย ไหนๆก็นอนไม่หลับแล้วจะให้มานอนลืมตาในความมืดนิ่งๆก็ไม่ใช่เรื่องดีน่ายินดีซักเท่าไหร่

     

    “พี่เคยฝันไหม”แจ็คสันถาม

     

    “ก็เคยนะ แต่ไม่ค่อยบอกหรอก”ยูคยอมตอบ

     

    ผมเคยดูหนังเรื่องนึง ที่ดินแดนของมนุษย์เราน่ะ จริงๆแล้วยังมีดินแดนที่เราไม่รู้จักอีกหลายดินแดนเลยนะ ไม่มีในแผนที่ไม่มีในพิกัดไหนๆเลย ที่นั่นน่ะเป็นดินแดนของพวกยักษ์”แจ็คสันเงียบไปก่อนจะเอ่ยเล่าต่อ

     

    “เล่าต่อสิ”ยูคยอมร้องบอก

     

    ในดินแดนยักษ์น่ะ ก็จะมียักษ์อยู่หลายพวกมากมายเลยล่ะ ทั้งยักษ์กินคน ยักษ์ดูดเลือด ยักษ์ขี้โมโห ยักษ์รักสงบ ยักษ์แล่เนื้อ จนถึงยักษ์ล่าความฝัน ที่หลงเหลืออยู่เพียงตนเดียวในดินแดนแห่งนั้น”แจ็คสันเงียบไปอีกครั้ง

     

    “ยักษ์จะเอาความฝันไปทำไมกัน”ยูคยอมเอ่ย

     

    “ใช่ไหมล่ะ จริงๆแล้วยักษ์ตัวนี้น่ะ เป็นยักษ์ขี้เหงา ไม่ค่อยมีเพื่อนคบ วันๆจมอยู่กับการล่าความฝันของพวกมนุษย์ในเขตของดินแดนแห่งความฝันมีเรื่องเร้นลับอยู่มากมายจนวันหนึ่งที่ยักษ์ตัวนั้นได้ไปล่าความฝัน เขาได้พบกับเด็กสาวคนนึงชื่อว่าโซฟี่ เธอเป็นเด็กสาวนอนดึก เอาง่ายๆเธอไม่เคยมีความฝันเลยตั้งแต่จำความได้

     

    ยักษ์ล่าความฝันได้พาเธอกลับไปด้วยที่ดินแดนยักษ์จนเขาและเด็กสาวคนนั้นมีกิจกรรมทำร่วมกันและได้กลายเป็นสหายรักกันในเวลาไม่นาน เมื่อยักษ์ได้พาโซฟี่ไปที่ดินแดนแห่งความฝัน เขาก็ได้พบกับละอองความฝันสีทอง มันคือฝันดี เป็นฝันดีที่สุดที่เคยมีมา ปกติจะเป็นฝันสีต่างๆ แทบไม่มีสีทองเลย แล้วยักษ์ล่าความฝันตนนั้นก็ได้พบกับมันอีกครั้งทำให้เขามีความสุขมากๆกับเด็กสาวที่ชื่อโซฟี่ จนเมื่อวันหนึ่งเกิดเรื่องร้ายๆเขาทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกันไปคนละที่ ฟังดูเศร้าแต่แท้จริงๆแล้วทั้งสองคนยังคงติดต่อกันอยู่ อยู่ในจิตใจและเสียงในความฝัน ...พี่ว่าน่ารักไหม?”

     

    “หลับแล้วหรอครับ”แจ็คสันพูดเบาๆ พยายามเพ่งมองหน้าอีกฝ่ายในความมืด

     

    “ฝันดีนะครับรุ่นพี่ ขอให้ฝันเป็นสีทองนะครับ”แจ็คสันกระซิบเบาๆข้างหูก่อนจะลากผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอีกฝ่ายมากกว่าเดิม

     

    .

     

    .

     

    .

     





     

              แดดยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างของคอนโดเข้ามา แสงเหล่านั้นส่งผลให้คนที่กำลังฝันหวานตื่นจากหลับใหลเสียที แจ็คกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับดวงตาให้รับกับแสงยามเช้า เมื่อคืนกว่าจะนอนก็ดึกแล้ว ต่อที่น่าตกใจกว่านั้นคือการที่เขานั้นตื่นขึ้นมาและพบกับใบหน้าหล่อเหลาในยามหลับใหลของยูคยอม จมูกที่โด่งเป็นสันกำลังบอกว่าอีกฝ่ายนั้นยังหลับอยู่ โดยลมร้อนๆที่มันเป่าฟู่ๆใส่หน้าผากเขาอยู่ เห้อ แจ็คสันกำลังฝันอยู่หรือเปล่านะ นี่มันยิ่งกว่าฝันสีทองสำหรับเขาอีก

     

    “รุ่นพี่ครับ”แจ็คสันใช้มือเล็กๆของตัวเองตบอกของยูคยอมเพื่อเป็นการปลุกเขาไม่อยากจะนอนแบบนี้นานๆซักเท่าไหร่ เมื่อยน่ะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลหลักเลยคือเขากลัวอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงหัวใจของเขามากกว่า

     

    “รุ่นพี่ครับตื่นเถอะครับ”แจ็คสันดิ้นนิดหน่อยเพื่อให้ร่างที่มากอดก่ายที่ตัวเขาได้ขยับออก ไม่ตื่นไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ถอยออกไปหน่อยแล้วกัน แบบนี้มันใกล้ชิดเกินไปอันตรายต่อใจของเขา

     

    “อืมม”ยูคยอมขมวดคิ้ว ความรู้สึกเหมือนมีลูกแมวมาสะกิดที่หน้าอกของตัวเองอยู่อย่างไรอย่างนั้น มันช่างกวนใจเสียเหลือเกิน เขาลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าลูกแมวในความคิดนั้นคือแจ็คสันหวังแฟนบอยสุดน่ารักของเขานั่นเอง อ่า จริงสิ เมื่อคืนเขามารบกวนแจ็คสันนี่นะ

     

    “เช้าแล้วหรอ อืออ กี่โมงน่ะแจ็คสัน”ยูคยอมที่ยอมถอนอ้อมกอดออกไปก็ลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนอย่างงัวเงีย เส้นผมสีแดงเพลิงนั้นฟูฟ่องไม่เป็นทรงอย่างเคย แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความหล่อของยูคยอมลดน้อยลงเลยสักนิดเดียว แต่ภาพมันกลับทำให้คนพบเห็นคิดว่าช่างเซ็กซี่เหลือเกิน

     

    “จะเจ็ดโมงแล้วครับ”แจ็คสันที่เหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลข้างเตียงก็เอ่ยบอกเวลาออกไป

     

    “ยังเช้าอยู่เลย”ยูคยอมบ่นพร้อมหาววอด มือหนาขยี้หัวตัวเองอย่างพยายามจะทำให้ตัวเองแอคทีฟมากขึ้น แต่เปล่าเลย เช้าๆแบบนี้เขาโครตง่วง

     

    “พี่จะนอนต่อก่อนก็ได้นะเดี๋ยวผมไปทำอาหารเช้าให้”แจ็คสันลุกออกจากเตียง เดินไปสวมสลิปเปอร์ก่อนจะเดินไปทางประตูห้องเพื่อตรงไปเข้าครัวทำมื้อเช้า

     

    “โอเค เดี๋ยวเสร็จแล้วมาปลุกอีกทีนะ รบกวนด้วย”ยูคยอมนอนต่ออย่างไม่ต้องสืบ และดูเหมือนว่าจะหลับไปเสียแล้ว แจ็คสันได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเป็นเด็กของยูคยอมที่ไม่เคยมีใครที่ไหนได้เห็น ตอนอยู่บนเวทีน่ะ สุดยอดแห่งคาริสม่า ตอนนี้ไม่หลงเหลือคราบความเป็นนักร้องต้นแบบแล้ว มีแค่นายยูคยอมคนธรรมดาเท่านั้น

     

              แจ็คสันเดินมุ่งตรงไปที่ห้องครัวเปิดดูตู้เย็น มีอาหารแช่แข็งเต็มตู้ แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่ยังพอมีพวกของสดสำหรับทำอาหารอยู่ มื้อเช้านี้เป็นข้าวสวยร้อนๆกับซุปกระดูกวัวหอมๆก็คงพอกินได้อยู่ล่ะมั้งนะ ไม่งั้นก็คงต้องไปซื้อของสำหรับทำอาหารเพิ่มเติมแล้วล่ะ

     

              แจ็คสันเริ่มจากการหุงข้าว ตักข้าวสารเม็ดสวยใส่หม้อหุงก่อนจะนำไปซาวล้างน้ำอยู่หลายรอบเพื่อเช็คความสะอาดแล้วค่อยนำไปใส่ในหม้อหุงไฟฟ้าที่จะถูกใช้เมื่อเขานั้นไม่ต้องปั่นโปรเจ็คแล้วกินเพียงแค่อาหารไม่โครเวฟ พอหุงข้าวเสร็จก็จัดการผัดกระดูกวัวกับหัวหอมและผักอื่นๆจนหอม จากนั้นก็นำไปต้มต่อในหม้อซุปที่ตั้งไฟอ่อนไว้ตอนแรก

             

              อาหารมื้อเช้าสำหรับแจ็คสันและยูคยอมเสร็จแล้วเรียบร้อย เขาถอดผ้ากันเปื้อนออกก่อนจะเดินเข้าห้องไปไม่ได้จะไปปลุกยูคยอมหรอก เขาแค่จะไปอาบน้ำก็เท่านั้น ตัวมีแต่กลิ่นอาหารแถมยังเหม็นเหงื่ออีก แบบนี้ยูคยอมคงอ้วกแน่ระหว่างกินอาหารฝีมือของเขา

     

    .

     

    .

     

    .

     

              หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็ออกมาแต่งตัวอยู่ที่มุมเดิมกับเมื่อคืน เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงคนมากวนแกล้งแซวเขาแบบเมื่อคืนอีกแล้ว นอนนานจังแฮะนี่มันก็แปดโมงหน่อยๆแล้วด้วย ขืนนอนนานกว่านี้ยูคยอมก็คงสมองฝ่อพอดี(แจ็คสันมีความเชื่อที่ว่านอนนานแล้วจะขี้ลืมแม่ของแจ็คสันบอกแจ็คสันมาตอนที่ยังเด็กๆเพราะแจ็คสันงอแงไม่ไปโรงเรียน)

     

    “พี่ครับสายแล้วนะครับตื่นได้แล้วมั้ง"แจ็คสันที่อยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นใส่สบายกำลังยืนปลุกยูคยอมอยู่ เขาได้พบความจริงที่ว่าคนๆนี้ทั้งขี้แกล้งและขี้เซา พักผ่อนนานเสียจนเขาคิดว่าอีกคนกำลังซ้อมตาย

     

    "สายแล้วหรอ"ยูคยอมตื่นขึ้น สีหน้าดูสดใสกว่าครั้งที่ตื่นในตอนแรก

     

    "ครับ ไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วตามไปที่โต๊ะกินข้าวนะ"แจ็คสันดึงพับผ้าห่มอย่างคล่องแคล่ว มือก็ทำไป ปากก็บ่นไป

     

    "ครับๆ รับทราบครับผม"ยูคยอมยอมเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระหรือเอาง่ายๆคำสั่งของแจ็คสันนั่นแหล่ะ

     

              ทั้งคู่นั่งกินข้าวเช้าด้วยกันเงียบๆ ไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากคุยแต่เพราะกับข้าวที่แจ็คสันทำมันอร่อยมากต่างหาก ยูคยอมถึงก้มหน้าก้มตากินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ปริปากพูดสักคำเดียว แจ็คสันได้แค่แอบอมยิ้มคนเดียวเงียบๆ

     

    "เอานมช็อกโกแลตไหมครับ ในตู้ยังมีอยู่เลย"ยูคยอมกินข้าวเสร็จแล้ว แจ็คสันที่ลอบมองอยู่จึงถามออกไป

     

    "ได้เหรอ"ยูคยอมดึงทิชชู่มาเช็ดปากหลังจากรวบช้อนส้อมในมือเพราะทานข้าวจนหมดแล้ว

     

    "ได้สิครับ เอาหน่อยไหม"แจ็คสันลุกเดินไปเปิดตู้เย็น

     

    "แจ็คสันชอบกินนมรสอะไร"ยูคยอมไม่ได้ตอบแต่ถามคำถามออกไปแทน

     

    "ผมชอบรสสตรอว์เบอร์รี่"แจ็คสันก่อนจะเลิกคิ้วนิดนึง ในใจพลางคิดว่าอีกฝ่ายจะถามเขาทำไมกัน

     

    "งั้นเอารสนั้น"ยูคยอมบอกนมที่อยากกินก่อนจะพูดต่อ"แจ็คสันชอบกินอะไรผมก็อยากจะกินอันนั้นด้วย"ประโยคถัดมาทำเอาแจ็คสันที่กำลังเทนมชะงักไปนิดนึงก่อนจะเทต่อไป ยูคยอมทำเขาใจเต้นแรงอีกแล้ว...

     

              เป็นแบบนี้เขาจะตัดใจจากอีกฝ่ายได้ยังไง ดูคำพูดแต่ละคำสิ ช่างล่อลวงใจให้ตกหลุมรักของยูคยอมเต็มเปาเลยล่ะ

     

    "ลองกินดูครับ"แจ็คสันยื่นนมรสโปรดของเขาให้ยูคยอมได้ลองดื่ม

     

    "ขอบคุณนะ"ยูคยอมยิ้มกว้างให้กับเขา ช่างเป็นยิ้มที่สว่างไสวสำหรับเขาเสียจริง แจ็คสันอยากจะเก็บรอยยิ้มนั้นไว้คนเดียว

     

    "ครับ"แจ็คสันก็ยิ้มน้อยๆให้ยูคยอมด้วย

     

              มื้อเช้าผ่านไปอย่างเรียบง่าย ยูคยอมกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในคอนโดของแจ็คสัน ส่วนแจ็คสันนั้นกำลังเก็บกวาดทำความสะอาดห้องไปตามประสาของเขา บ่ายนี้เขาต้องไปทำงานที่ร้านพี่แจบอม เอาจริงๆเวลาทำงานของเขามันเมื่อไหร่ก็ได้ ว่างก็มาทำแค่นั้น เพราะพี่แจบอมให้สิทธิพิเศษกับเขา

     

              ก็นะแถมตำแหน่งเพื่อนแฟนอีกด้วย แต่เวลาจินยองหนีไปติ่งยูคยอมทีไร พี่แจบอมก็จะงอนจินยองทุกที แต่ทั้งคู่ก็ยังคบกันอยู่จนถึงทุกวันนี้

     

    "ไม่ทำงานหรอครับ"แจ็คสันเอามือปาดเหงื่อที่ไหลย้อยใบหน้า อากาศเที่ยงๆแบบนี้มันก็ร้อนเป็นพิเศษละนะยิ่งทำงานด้วย

     

    "ไม่ วันนี้พักผ่อน"ยูคยอมตอบสบายๆเขาพึ่งจะเล่นคอนที่นี่จบ เพราะงั้นเขายังพอมีเวลาว่างอีกหลายวันก่อนจะเริ่มเดินทางไปเตรียมคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศ

     

    "เป็นศิลปินนี่ดีจังนะครับ ว่างบ๊อยบ่อยเลยนะ"ยูคยอมเหลือบมองเสี้ยวหน้าหวานๆของแจ็คสันที่เอ่ยแกมประชดเขาออกมา

     

    "จริงๆก็ควรไปซ้อม แต่ว่าอยากอยู่กับแจ็คสันมากกว่า"ยูคเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่จบประโยคของแจ็คสัน

     

    กึก

     

              แจ็คสันชะงักอีกแล้ว เขาได้ค้นพบแล้วว่าเขาแพ้วาจาหวานๆของอีกฝ่ายมากเพียงไหน เจอแบบนี้เขาก็ไปไม่เป็นเหมือนกันนะ

     

    "จะ จะมาอยากอยู่กับผมทำไมครับ ไม่มีอะไรให้ทำสนุกๆหรอกนะครับ"เสียงเจ้ากรรมดันสั่น กลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะรู้เสียงหัวใจของตัวเองที่มันแอบดังจากคำพูดคำนั้น

     

    "กลัวคนแถวนี้คิดถึง ถ้าเกิดว่าไปทัวร์คอนเสิร์ตนานๆ"ยูคยอมบอกอีก  ใช่เลย เขาพูดถูก ตอนทัวร์เฟิร์สทคอนเสิร์ต ยูคยอมหายออกไปจากสาระบบชีวิตเขาประมาณนึงได้ ทำได้แค่เพียงตามเสพรูปจากแฟนๆที่อื่นอัพลงมาในโซเชียล คิดถึงมากๆเลยแหล่ะ แต่ใครจะไปยอมรับล่ะ

     

    "มั่วแล้วนะครับ ผมไม่คิดถึงพี่หรอก"แจ็คสันบอก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาถูพื้นต่อไป ทำเป็นไม่สนใจเสียงพูดของยูคยอม

     

    "จะไม่คิดถึงกันจริงๆหรอ"

     

    "รู้ไหม.. แค่ไม่ได้เจอกันสองสามชั่วโมง ผมก็คิดถึงแจ็คสันจนแทบบ้าอยู่แล้ว ...เพราะงั้น จะไม่คิดถึงกันจริงๆหรอ"ยูคยอมพูดจบทุกอย่างอยู่ในความสงบ นิ่งและเงียบ

     

    แกร๊ง

     

    พรืด

     

              แจ็คสันปล่อยไม้ถูพื้นทิ้งและย่อตัวนั่งลงยองๆกับพื้นก่อนจะใช้ฝ่ามือขาวๆปิดใบหน้าของตัวเองไว้พยายามซ่อนใบหน้าที่เขินจนแดงกล่ำของตัวเองไว้ให้ถึงที่สุด

     

    "แจ็คสัน"ยูคยอมเรียก และเดินมาตรงหน้าแจ็คสันก่อนจะนั่งยองเหมือนกันกับแจ็คสันก่อนจะเอื้อมมือไปปิดหูและเอ่ยบางอย่างออกมา

     

    "รู้แล้วว่าเขิน แต่ถ้าจะปิด ก็ปิดให้หมดด้วยสิ ..หูแดง หึ"ยูคยอมขำในลำคอเมื่อแจ็คสันเปลี่ยนจากจับหน้ามาจับหูตัวเองแทน ปฏิกิริยาอีกฝ่ายช่างน่ารักเสียจริง คงต้องขาดใจตายแน่ๆถ้าต้องไม่ได้เจอหน้าของแจ็คสันไปอีกหลายๆเดือน เพราะหลังจากนี้เขามีทัวร์คอนเสิร์ต

     

    “ทำไมชอบแกล้งอยู่เรื่อย”แจ็คสันบ่นอุบอิบเบาๆ แต่เขาก็ได้ยิน ใครบอกล่ะ ที่ทำไปทั้งหมดน่ะ ไม่ได้อยากแกล้งซะหน่อย แต่เพราะว่าชอบ J

     

    “ให้ช่วยถูห้องต่อไหม มัวแต่เขินเดี๋ยวห้องไม่สะอาดไม่รู้ด้วยนะ”ยูคยอมยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเลี่ยงไปหยิบไม้ถูพื้นขึ้นมาถือไว้ในมือ เอาจริงๆก็อยากจะช่วยนะ แต่ถูไม่เป็นหรอก เขาทำได้ทุกอย่างยกเว้นงานบ้านจริงๆ

     

    “นั่งดูทีวีไปก่อนเถอะครับ”แจ็คสันแย่งไม้ถูมาถือไว้เองก่อนจะเริ่มทำความสะอาดห้องอีกครั้ง พยายามหลบสายตาของยูคยอมที่จับจ้องมองมาที่เขา ถูบ้านอยู่ก็ยังจะมอง คนๆคนนี้นี่มันจริงๆเลย แจ็คสันไม่รู้จะรับมือยังไงแล้ว

     

              หลังจากทำความสะอาดห้องทั้งหมดเสร็จก็ใกล้เวลามื้อเที่ยงแล้ว แจ็คสันเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ที่ไม่มีกลิ่นเหงื่อของตัวเอง พร้อมกับล้างหน้าล้างตาชำระคราบเหงื่อจากการทำงาน

     

              พอออกมาดูก็เจอกับคนตัวโตกำลังนอนกอดอกอยู่บนโซฟาตัวยาวของเขา เผลอทีไรก็แอบหลับทุกทีเลยนะผู้ชายคนนี้ ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรใช่ไหม แต่รู้ไหมหน้าใสๆแววตาซื่อๆรอยยิ้มกว้างๆนั้นร้ายกาจและขี้แกล้งแค่ไหน




     

    แจ็คก็คิดนะ ?

     



    ว่าแจ็คอยากเอาคืน :)




     

              ปากกาเมจิกสีสดใสหลากสีถูกแจ็คสันหยิบขึ้นมาเขาจะเอาคืนยูคยอมด้วยการวาดหน้าใส่อีกฝ่าย แค่คิดถึงหน้าเหวอๆของยูคยอมตอนเห็นหน้าตัวเองก็สนุกจะแย่แล้ว เอาล่ะ เขาจะเริ่มวาดแล้วนะ

     

    ป๊อก!

     

              ฝาปากกาถูกดึงออกมา แจ็คสันค่อยๆขยับตัวอย่างช้าๆกลัวว่ายูคยอมจะตื่นขึ้นมาก่อนและโดนจับได้ เขาค่อยๆย่องไปใกล้ยูคยอมเรื่อย แต่เหมือนคนบนฟ้าจะไม่เป็นใจ

     

    "อ๊ะ"

     

    จุ๊บ

     

              แจ็คสันเบิกตากว้างเพราะเขาดันสะดุดพรหมห้องแล้วล้มใส่ยูคยอมมันจะไม่เป็นปัญหาอะไรเลยถ้าเกิดล้มแล้วแจ็คสันไม่ไปจูบกับอีกฝ่ายพอดี บ้าจริง ใจของแจ็คสันเต้นระรัว ยูคยอมลืมตาขึ้นมาสบตากับเขาแล้ว

     

              ยูคยอมใช้มือข้างซ้ายจับเข้าที่ท้ายทอยของแจ็คสันก่อนจะขยับริมฝีปากบดเบียดจูบอันเร่าร้อนแต่ก็หอมหวานราวกับน้ำเชื่อมแจ็คสันรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวมือเล็กๆทั้งสองข้างขยุ้มเสื้อที่แผ่นอกของยูคยอมแข้งขาเหมือนจะอ่อนแรงลงไปเสียดื้อ

     

    "อื้ออ อึก อะ"แจ็คสันส่งเสียงร้องออกมาเสียงหวานแหบของเขามันดึงดูดยูคยอมได้เป็นอย่างดี

     

              ริมฝีปากหยักของยูคยอมไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจู่โจมเขาเลย เขาจะหายใจไม่ออกแล้ว แต่ยูคยอมยังคงขบเม้มริมฝีปากของเขา ลิ้นร้อนๆนั้นก็สอดแทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดเขาราวกับจะพันธนาการตัวเขาเอาไว้ด้วยบทรจูบเร่าร้อนครั้งนี้ เขาจะตายแล้ว แจ็คสันทำได้แค่หลับตาปี๋เอาไว้หัวใจเต้นแรงราวจะหลุดออกมา

     

    "ฮื่ออ"แจ็คสันเริ่มหายใจไม่ออก ยูคยอมกักตัวและลมหายใจของเขาไว้นานเกินไป เขาจะขาดอากาศอยู่แล้ว มือบางทุบอกของยูคยอม จนในที่สุดแจ็คสันก็ได้อิสระคืนมา

     

    "อึก แฮ่ก แฮ่ก"แจ็คสันหน้าแดงกล่ำ

     

              จริงๆก็ไม่ได้แดงหน้าหรอก ตอนนี้มันเรียกว่าแดงได้ทั้งตัวเลยต่างหาก ยูคยอมดึงตัวแจ็คสันให้ขึ้นมานั่งบนตักของเขา แจ็คสันที่หัวสมองขาวโพลนก็โอนอ่อนตามอย่างว่าง่าย ไม่ได้มีท่าทีอิดออดอะไร

     

    "..."

     

    "..."

     

              เป็นสภาวะเดธแอร์ที่น่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของแจ็คสันแล้ว เขาจะพูดอะไรดี ไม่สิเขาควรทำยังไงกับความรู้สึกตอนนี้

     

    "แจ็คสัน/พี่ครับ"เวรกรรม พอจะพูดก็ดันมาพูดพร้อมกันอีก

     

    "..."

     

    "พูดก่อนเลย"ยูคยอมบอกแจ็คสันเงียบไปอึดใจนึงก่อนจะพูดออกมา

     

    "ผม คือ เอ่อ"แจ็คสันอ้ำอึ้งเขาไม่รู้จะต้องเรียงประยคยังไงให้มันเข้าที

     

    "จะพูดอะไร"ยูคยอมถามย้ำอีก

     

    "คืออ เมื่อกี้ เอ่อ ทำไมถึง...ล่ะ"แจ็คสันอายจนไม่กล้าเอ่ยคำๆนั้นออกมา เสียงเขามันแผ่วเบา ไม่กล้าพูดออกมาอย่างเต็มปาก

     

    "ไม่รู้สิร่างกายมันไปเอง"

     

    "แต่ว่าแจ็คสันมาจูบผมก่อนทำไม จะลักหลับกันหรอ"ยูคยอมส่งสายตาเจ้าเล่ห์

     

    "เปล่านะไม่ใช่แบบนั้น!"แจ็คสันส่ายหน้าพรืด ความจริงคือเขาก็แค่จะเอาคืนยูคยอมที่ชอบมาแกล้ง แต่ดันผิดพลาดจนได้

     

    "แล้วยังไงล่ะ ผมหลับอยู่ดีๆแต่ตื่นเพราะว่าแจ็คสันปลุกด้วยจุมพิตเลยนะ ฮ่าๆ ผมไม่ใช่เจ้าหญิงในโรงแก้วสักหน่อยปลุกกันดีๆก็ได้"

     

              ยูคยอมเอื้อมมือไปเขี่ยเส้นผมนิ่มที่ยาวทิ่มตาของแจ็คสันให้อีกฝ่าย และใช้ฝ่ามือหนานั่นลูบหัวเบาๆ แจ็คสันเขินหน้าแดงไม่หาย ยิ่งเจออะไรแบบนี้อีก แจ็คสันไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ

     

    "งือออ ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมบอกไม่ได้หรอก"

     

    "งั้นผมจะเข้าใจว่าแจ็คสันน่ะ จูบผมเพราะแอบชอบผมนะ"

     

    "บ้าหรอ! ฮื่ออ รุ่นพี่อย่าแกล้งผมสิครับ ผมอายนะ"แจ็คสันน่ะไม่เคยมีแฟนก็เพราะความจืดชืดของตัวเอง การไม่สนใจในแฟชั่นของแจ็คสันนั่นแหล่ะ ที่พาลทำให้คนไม่เข้าหา แต่มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ความสำคัญมันอยู่ตรงที่เขาไม่เคยมีแฟนใช่ไหมล่ะ นอกจากไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

     

    เขายังเสียจูบแรกไปทั้งๆที่ไม่ได้เป็นแฟนกับยูคยอมอีกด้วย

     

    "แกล้งที่ไหน ก็สารภาพมาสิ"ยูคยอมทำเป็นเอียงหูไปฟังอีกฝ่าย

     

              แจ็คสันที่ทำอะไรยูคยอมไม่ได้ ก็ได้แต่ส่งเสียงไม่พอใจ และดิ้นขลุกขลักออกจากตักของอีกฝ่าย แต่ยูคยอมก็ล็อกไว้เสียแน่น ไม่ให้หนีได้เลย

     

    "ปล่อยผมนะ!"แจ็คสันพูดดุมือก็ตีๆไหล่ยูคยอมหวังจะปลดพันธนาการนี้ได้

     

    "ไม่ปล่อย จริงๆผมรู้นะว่าแจ็คสันจะแกล้งผมคืนในเมื่อไม่ยอมรับก็ต้องโดนลงโทษ"

     

    "อะไร พี่มั่วแล้วผมจะไปกล้าแกล้งพี่ได้ยังไง"แจ็คทำเฉไฉไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง ยูคยอมเลยชูปากกาเมจิกในมือขึ้นมาให้แจ็คสันดู แจ็คสันจึงยอมจำนนในที่สุด

     

    "งืออ ตกลงพี่จะลงโทษอะไรผมอ่า"แจ็คสันโวยวาย ไถลตัวลงไปนั่งกับพื้นพรหมในห้องเอาหน้าฟุบกับโต๊ะกระจกก่อนจะพูดตัดพ้อออกมา

     

    "ผมก็เป็นแค่แฟนคลับตัวเล็กๆคนนึงเท่านั้นเอง เงินก็ไม่ค่อยมี มาอยู่ที่นี่ก็ห่างพ่อกับแม่ ตอนแรกๆก็เข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้อีกด้วย ยังต้องมาเจอกับคนใจร้ายแกล้งกันได้ลงคอ..."แจ็คสันตัดพ้อเสียยาวยืด อ้างทุกสิ่งในชีวิตขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจ แจ็คสันน่ะคิดมาก บทลงโทษของยูคยอมไม่ได้น่ากลัวหรอกนะ

     

    "เดี๋ยวก่อนแจ็คสัน นายคิดว่าผมจะลงโทษอะไรกันงั้นหรอ ผมดูใจร้ายหรือไง หื้ม"ยูคยอมย่อตัวลงไปนั่งข้างล่างกับแจ็คสันก่อนจะเอามือเท้าโต๊ะแล้วเอ่ยบทลงโทษที่แสนอันตราย 'กับใจแจ็คสัน'

     

    "นายจะไปเดทกับผมที่ย่านดาวน์ทาวน์ได้ไหม"ยูคยอมเอ่ย

     

    "นี่ไงบทลงโทษโหดร้ายมาก เหะ เมื่อกี้นี้พูดว่ายังไงนะ"แจ็คสันสมองเบลอไปชั่วขณะ ถ้าเขาฟังไม่คิดหรือไม่ได้เข้าข้างตัวเองมากจนเกินไป ยูคยอมกำลังชวนเขาไปเดท!

     

    "ไป-เดท-กัน"ยูคยอมย้ำกับแจ็คสันอย่างชัดถ้อยชัดคำ คราวนี้แจ็คสันมีสติได้ยินเต็มๆสองรูหู

     

    "จะบ้าหรือไง!0_0 ไม่เชื่ออะ ฮัลโหลๆนี่ใช่แจ็คสันไหม"แจ็คสันหันไปหยิกแขนตบตีตัวเองแถมยังทึ้งผมไปมาอีก เรื่องที่เขาเจอมันเกินกว่าที่เขาคาดเดาเอาไว้มากโข เขาต้องรับมือยังไงกับผู้ชายคนนี้ แล้วแฟนคลับธรรมดาๆอย่างเขาคนนี้มีสิทธิ์ไปเดทกับอีกฝ่ายได้ด้วยหรอ หรือพระเจ้าจะเห็นใจแจ็คสันจริงๆนะ ถ้าอย่างนั้นแจ็คสันก็ขอขอบคุณพระเจ้าและจะขอน้อมรับความหวังดีครั้งนี้ไปด้วยแล้วกัน เรื่องอะไรเขาจะปฏิเสธคนที่ชอบกันเล่า

     

    "พูดจริงๆนะ คำตอบล่ะตกลงว่าไง"ยูคยอมสบตากับอีกฝ่ายฝ่ามือซนๆก็ไม่เคยอยู่นิ่งบีบแก้มแจ็คสันจนคิดว่าจะยืดติดมือไปเสียแล้ว

     

    "ตกลงสิ"แจ็คสันตอบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มกว้างโอกาสของเขามาแล้ว โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับยูคยอม

     

    "งั้นวันศุกร์นี้ว่างไหม"ยูคยอมเลือกวันที่ตารางงานของเขานั้นโล่งสุดๆ เขามีเวลาให้แจ็คสันได้ทั้งวันเพียงแต่ตอนสายของวันเขามีถ่ายแบบนิดนึงก่อนจะว่าง รับแจ็คสันไปกองถ่ายด้วยกัน แล้วจากนั้นก็ค่อยไปเดทกันก็คงจะได้อยู่

     

    "ว่างครับ วันศุกร์สัปดาห์นี้ที่มหาลัยมีงานเกษตรแฟร์เลยงดเรียน งานมีถึงหกโมงเย็นเลยล่ะครับ แต่ว่าผมก็ต้องไปช่วยเพื่อนบ้างนะ ไม่ไปช่วยเลยก็น่าเกลียดแย่"แจ็คสันอธิบายออกมา

     

    "เปลี่ยนใจแล้ว งั้นไปเดทที่นั่นกัน ดาวน์ทาวน์ไว้ค่อยไปหลังจากนี้ก็ได้"

     

    "แต่ว่า... จะดีหรอครับ ที่นั่นคนเยอะพอประมาณเลยนะ ถ้าคนจำได้ขึ้นมาก็วุ่นแน่ๆ"แจ็คสันอธิบายอย่างมีเหตุผล อย่าลืมสิว่ายูคยอมไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นคนของสังคมนี่เนอะ

     

    "ไม่เป็นไรหรอก ก็ทำแบบเดิม แต่คราวนี้สัญญาจะไม่พาวิ่งแล้ว วันนั้นเห็นหอบหน้าแดง สงสาร ฮ่าๆๆ"ยูคยอมหัวเราะกว้าง จำวันแรกที่เจอกันได้ไหม ยูคอมไปนั่งเล่นที่แม่น้ำและพาแจ็คสันวิ่งหนีแฟนคลับมาด้วยกัน

     

    "ก็ได้ครับ เป็นข่าวขึ้นมาไม่รู้ไม่สนด้วยแล้วนะครับ"แจ็คสันยู่ปากอย่างน่ารัก ก็ยูคยอมดื้อใส่เขานี่นา

     

    "ครับผม แล้วแต่คุณท่านแจ็คสันเลยครับ"ยูคยอมทำท่าตะเบ๊ะรับคำสั่ง แจ็คสันเห็นท่าทางน่ารักนั่นก็โกรธไม่ลง อยากจะจับมาหอมแก้มเสียจริงถ้าไม่ติดว่าเกรงใจแล้วก็กลัวอีกฝ่ายโกรธอะนะ

     


    อย่าพูดถึงเรื่องจูบซี่


     

    นั่นมันเป็นอุบัติเหตุ

     


              ถ้าเกิดอยู่ๆไปรุ่มร่ามใส่คงโดนตะบันหน้าหงายกลับมาเป็นแน่แท้อย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้อีกฝ่ายจะใจดีแค่ไหนก็ตาม

     

    โครกก~

     

              เสียงท้องร้องของแจ็คสันดังขึ้นมาขัดบทสนทนาเสียก่อนทั้งคู่จึงต้องหาข้าวกลางวันทานกัน ไม่แบบนั้นแจ็คสันคงต้องงอแงเพราะโมโหหิวแน่ๆ ยูคยอมน่ะไม่รู้สึกอะไรหรอกเพราะปกติกินข้าวไม่ตรงเวลาอยู่แล้ว

             

              แต่บางทีกินข้าวตรงเวลากับคนที่อยากกินด้วยเนี่ย ก็ดีเหมือนกันนะ แต่เอาจริงๆต่อให้เป็นเวลาไหนก็ตาม ถ้ากินกับแจ็คสันยูคยอมก็อยากกินด้วยทั้งนั้น

     

    "กินข้าวกันเถอะ"แจ็คสันพูด ยูคยอมไม่ได้ตอบรับอะไรแต่ก็ไปทานข้าวกับแจ็คสัน ฝีมือการทำอาหารแจ็คสันถือว่าใช้ได้เลยนะ

     

              จะว่าไปเขาก็ทำอะไรที่มันชัดเจนนะ แต่ทำไมแจ็คสันเหมือนไม่รู้เลยว่าเขานั้นคิดยังไงกับตัวเอง หรือแจ็คสันจะชอบเขาแค่ไอดอลกับแฟนคลับแค่นั้น ถ้าเป็นอย่างนั้น ยูคยอมคงเศร้าน่าดู เห็นขี้แกล้งหรือขี้เต๊าะๆ จริงๆก็แอบคิดมากนะครับ เอาเถอะ จีบไปเรื่อยๆก็ได้

     

     

    .

     

     

    .

     

     

    .

     

    "แจ็คสันผมต้องไปแล้วหล่ะ ยูคยอมเอ่ยเมื่อมองเวลาจากนาฬิกาแฟนเมดลายยูคยอมบนผนัง ชีวิตของเขาผ่านไปแล้วอีกวันหนึ่งอย่างง่ายดาย เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ คำพูดนี้เป็นเรื่องจริงที่สุดอย่างหาข้อโต้แย้งไม่ได้แต่เขาจะทำอะไรได้ล่ะ จะใช้ช้อนตักเก็บความสุขใส่โหลไว้ไม่ได้เสียด้วยสิ

     

    "อ้าว จะไปแล้วหรอ"แจ็คสันร้องขึ้นมาอย่างเสียดายเขากำลังแข่งเล่นเกมพีเอสพีกับยูคยอมอยู่ ดูเหมือนว่าการแข่งขันที่ยังไม่จบเกมเป็นอันต้องยกเลิกแล้วล่ะ

     

    "ไว้เจอกันวันศุกร์ เดี๋ยวมารับนะรอที่ข้างล่างเลย"ยูคยอมนัดแนะอีกทีเพื่อเช็คความแน่ใจว่าแจ็คสันจะไม่ลืมนัดของเขา

     

    "โอเคเดี๋ยวเดินไปส่งนะ"แจ็คสันวางเกมลุกขึ้นไปคว้าโทรศัพท์มือถือกระเป๋าสตางค์และคีย์การ์ดเตรียมจะออกไปส่งยูคยอมที่ล็อบบี้ด้านล่าง

     

    "ไม่เอา แจ็คสันเล่นเกมต่อเถอะ เดี๋ยวผมลงไปเองได้"ยูคยอมปฏิเสธ จริงๆแล้วเขาหวงขาขาวๆที่โผล่พ้นออกมาจากกางเกงขาสั้นตัวบางของแจ็คสันต่างหาก ให้ลงไปเจอคนอื่นๆสภาพนี้เขาคงต้องหึงตายแน่ๆ

     

    "ทำไมล่ะเดี๋ยวแจ็คลงไปส่งได้ไม่เป็นไร"แจ็คสันบอก

     

    "ถ้าอยากลงไปส่งแจ็คสันก็ต้องไปเปลี่ยนกางเกงอีกนะ รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวลงไปเอง ไปนะ"ยูคยอมพูดพร้อมมองใบหน้าอีกฝ่ายก่อนจะไล่สายตาลงมาที่ขาขาวเนียนของแจ็คสันทำให้แจ็คสันคว้าเหมือนอิงที่โซฟาขึ้นมาปิดก่อนจะโบกมือลายูคยอมรัวๆ ยูคยอมได้แต่ยิ้มขำและโบกมือตอบก่อนจะออกจากห้องของแจ็คสันไป

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

    ร้านอาหารของอิมแจบอม

     

              คงไม่ลืมกันใช่ไหมว่าเย็นนี้เขามีทำงานพาร์ทไทม์มีร้านอาหารของพี่แจบอม เขากำลังเดินไปเดินมาในร้านอย่างวุ่นๆ ช่วงนี้ที่ร้านมีโปรโมชั่นพิเศษๆ ลูกค้าก็เลยเยอะเป็นพิเศษอีกด้วย

     

              ส่งผลให้แจ็คสัน จินยองและแจบอมทำงานกันหนักเป็นพิเศษไม่ทีเวลาไม่มีเวลามานั่งคุยเล่นกันเหมือนวันก่อนๆ แต่ถึงมีโปรโมชั่นลดราคา ร้านอาหารของเขาก็ยังคงได้กำไรอยู่ดี

     

              ต่อให้ลูกค้าเยอะกว่านี้ก็ยอม เพราะเขากำลังเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกับจินยองน่ะสิ แค่เห็นรอยยิ้มของจินยอง แจบอมก็มีความสุขมากแล้ว

     

              ยามที่ปากเล็กๆนั่นเล่าเรื่องราวต่างๆหรือกำลังดื้อดึงใส่เขาก็อยากดึงมาจูบแรงๆให้หายหมั่นเขี้ยว แฟนเขาน่ารักนี่ ใครจะว่าหลงแฟนเขาก็ไม่สนใจหรอกนะ จินยองน่ะขี้อ้อน :)

     

              ตกเย็นมาร้านของแจบอมก็ปิดรับลูกค้าแล้ว เพราะเนื่องจากวัตถุดิบทำอาหารในครัวเริ่มหมดลง ร้านอาหารเขาซื้อของใหม่วันต่อวัน ขายให้หมดเท่าที่ซื้อวัตถุดิบมา ไม่มีการมาค้างสต็อกไว้

     

              เขาขึ้นชื่อเรื่องความสดและสะอาดเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แจบอมคงมาตรฐานอย่างนี้เอาไว้นั่นเป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าเราเห็นแก่เงิน ตามใจลูกค้า คนที่เสียหายท้ายที่สุดแล้วก็คงเป็นตัวเขาเอง

     

    "เห้อออ วันนี้ลูกค้าเยอะมากเลยยย"จินยองไถลตัวไปกับเคาท์เตอร์คิดเงิน แจ็คสันเองก็นั่งฟุบหน้าอยู่ดีโต๊ะสำหรับลูกค้าเขาเดินเสิร์ฟอาหารจนขาจะพันกันอยู่แล้ว เหนื่อยเป็นบ้า

     

    "เอาน่าเด็กๆ ใช้งานหนักค่าตอบแทนก็หนักตามนะ สนใจไหมล่ะแจ็คสัน"แจ็คสันมองซองค่าตอบแทนสำหรับการทำงานอย่างสนใจ ปกติซองที่ได้จะเป็นสีขาว แต่คราวนี้กลับเป็นซองน้ำตาล เมื่อรับมาแจ็คสันก็รีบเช็คยอดเงินที่ได้รับทันที มันมากเพียงพอที่เขาจะเอาไปเปย์ของออฟฟิเชี่ยลของยูคยอมอีกหลายๆงานเลยแหล่ะ

     

    "ได้เยอะดีจัง"จินยองยิ้มร่าเมื่อเห็นจำนวนเงิน

     

              จริงๆจินยองก็รวยอยู่แล้วนะ เป็นคุณชายบ้านหลังละหลายสิบล้าน แต่เขามักจะดีใจกับการเก็บเงินออมเล็กๆน้อยๆนี่ เหมือนว่าเขาได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้างแล้ว

     

    "วันนี้เหนื่อยกันแย่เลย ขอบคุณสำหรับการตั้งใจทำงานนะ กลับบ้านได้แล้วแหล่ะ"แจบอมยิ้มให้แจ็คสันเขาเดินไปหาจินยองก่อนจะนั่งเล่นกันกระหนุงกระหนิงกันสองคน ทำให้แจ็คสันต้องเฟดตัวเองออกมาอย่างเงียบๆ แหงล่ะก้างขวางคอคนรักกันมันบาปนะครับ

     

              ผมยังไม่ได้เล่าเรื่องยูคยอมให้จินยองฟังเลย คงต้องถามจินยองแล้วล่ะว่าจะเอายังไงต่อ จินยองน่ะเชี่ยวชาญเรื่องความรัก เคยเล่าให้เขาฟังด้วยว่าเสียจูบแรกไปตั้งแต่อนุบาลแล้ว บางครั้งเรื่องราวของจินยองก็ทำเอาผมแอบอึ้งเหมือนกันนะ

     

              ผมถอดผ้ากันเปื้อนที่เป็นยูนิฟอร์มของร้านพี่แจบอมออกแล้วกำลังจะเดินออกไปแต่จินยองเดินสวนกลับเข้ามาพอดี ผมสะกิดจินยองก่อนจะลากเข้ามาหลบๆพี่แจบอมนิดนึงก่อนจะคุยเรื่องยูคยอม

     

    "มีอะไรหรอแจ็คกี้"จินยองหน้างงๆถามผม

     

    "เอ่อ คือ"หึ้ย พอได้เวลาอย่างนี้ก็พูดไม่ออกอีก

     

    "อะไรน่ะ มีอะไรหรือเปล่า"จินยองจับตัวผมพลิกสำรวจไปมา

     

    "ไม่ๆไม่ คือเรา เราจะไปเด..กับยูคยอม"มาอีกแล้ว ไอ้การเสียงเบาลงตอนจะพูดเรื่องที่ไม่มั่นใจ โธ่เอ๊ยแจ็คสัน ตั้งสติก่อนสิมีแต่จินยองที่จะช่วยได้นะ (ปรึกษามาร์คมีหวังโดนตีก้นลาย)

     

    "หะ อะไรกับยูคยอมมี่อปป้านะ เราขอฟังอีกที"จินยองขมุ่นก่อนจะยื่นหูไปฟังใกล้ๆ แจ็คสัน เขาเหมือนได้ยินอะไรบางอย่างแต่ก็ฟังไม่รู้เรื่อง

     

    "ไป...เดทน่ะ"อ๊าซ รู้สึกหน้าร้อนชะมัด ฮื้อ แม่ครับแจ็คจะระเบิดอยู่แล้ว ถ้ามันจะลำบากต่อใจขนาดนี้ เขาจะไม่ตกลงตั้งแต่แรกเลย

     

    "จริงหรอ! อุ๊บ"แจ็คสันเอื้อมมือมาปิดปากจินยองทันที ก็เจ้าตัวเล่นตกใจเบอร์แรง ถึงในร้านจะมีกันแค่สามคนก็เถอะ แต่แจ็คสันก็อายอยู่ดีนะ

     

    "อื้อ ก็อย่างที่บอกนั่นแหล่ะ เราจะทำยังไงดีอะ เราไม่เคยไปเดทกับใครมาก่อนเลย"แจ็คสันสีหน้าเครียดขึ้นถนัดตาแต่ว่านะ จินยองซะอย่างมีหรอที่จะช่วยแจ็คสันไม่ได้

     

    "คิดถูกแล้วที่มาปรึกษาเรา จินยองจะช่วยแจ็คกี้แปลงโฉมเอง แจ็คกี้จะต้องน่ารักสุดๆในสายตาของยูคยอมเลยแหล่ะ"จินยองพูดอย่างตื่นเต้น

     

    "งั้นหรอ ขอบใจนะจินยอง"แจ็คสันยิ้มร่าออกมา ดีใจที่จินยองจะช่วย

     

    "อ่าหะ ไม่เป็นไร ไหนๆวันนี้ก็เลิกงานเร็วแล้วเราไปเดินเล่นที่ห้างกันเถอะ"

     

    "อ้อเอาดิ"แจ็คสันเออออไปกับจินยองด้วย ดีเลยแหล่ะ เพราะเขาจะได้ไปซื้อวัตถุดิบมาไว้ทำอาหารที่คอนโดด้วย แต่เดี๋ยวแวะไปกดเงินระหว่างทาง เพราะเขาไม่ค่อยได้พกเงินสดเยอะๆซักเท่าไหร่พกไม่เคยเกินหกพันวอนหรอกก็ไม่ชอบซื้ออะไรนอกจากของกินอยู่แล้วนี่นา

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

    ร้านทำผม

     

    "จินยองจะทำผมหรอ"แจ็คสันถามออกมาทันทีที่โดนจินยองลากมาเข้าร้านทำผม ผมจินยองก็ยังไม่ได้ยาวมากนะเอาจริงๆแล้วจะตัดอีกหรอ พี่แจบอมคงทำใจไม่ได้แน่ๆ

     

    "ไม่หรอก เราจะพาแจ็คสันมาทำตั้งหากล่ะ"

     

    "เห้ยไม่เอาอะ"แจ็คสันส่ายหน้าพรืด ทำผมครั้งนึงแพงจะตายตอนที่มาร์คจับทำสีทองที่ผมก็แพงมากกว่าจะเก็บเงินใช้คืนให้มาร์คได้นี่ลำบากมาก มันเป็นค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพราะงั้นเขาจะหักจากเงินที่เปย์ยูคยอมมาคืนมาร์ค เอาเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ใช้กับอะไรฟุ่มเฟือยเขาเองก็รู้สึกไม่ดีซักเท่าไหร่ บอกแล้วถึงได้ออกมาทำงานไงล่ะ

     

    "ทำไมอะ ทำเหอะ ไม่ได้ตัดนะ เพราะแจ็คกี้ผมยาวๆแบบนี้กำลังน่ารักเลยแหล่ะ อ้ะฟังก่อนๆ เรื่องเงินถ้าแจ็คกี้เกรงใจก็ค่อยทยอยมาคืนทีหลังก็ได้ ดีจะตาย เป็นอันว่าตกลงนะ"

     

    "แต่ว่า.."

     

    "ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแจ็คกี้ นายอยากไปเจอยูคยอมสภาพดีๆไหมล่ะ"จินยองพูดเหตุผลสำคัญออกมาซึ่งแจ็คสันก็แทบตกลงทันทีโดนที่ไม่คิดอะไรให้มากความแล้ว

     

    "พี่ครับ พาเพื่อนมาทำผม ย้อมดำเข้มๆเลยนะครับ ทั้งหัวเลยย้อมคิ้วด้วย แล้วก็เคลือบเคราตินด้วย อ้อ เล็มๆหน้าม้าให้เข้าทรงด้วยครับ"

     

    "ได้เลยค่ะน้องจินยอง แหม มีเพื่อนแซ่บๆแบบนี้ไม่เคยพามาร้านพี่เลยนะคะ มาค่ะพี่จัดให้เต็มที่เลย"จีมินหญิงสาวช่างตัดผมคนเก่งของร้านพิจารณาแจ็คสันปราดเดียวเธอก็รู้แล้วว่าแจ็คสันน่ะแซ่บแค่ไหน เพียงแต่ลุคภายนอกมันพาลทำให้แจ็คสันหมองลงก็เท่านี้ แต่ยังโชคดีที่ผมสีทองยังพอขับใบหน้าให้ดูหล่อขึ้นถ้าสภาพมาเฉิ่มกว่านี้จีมินก็จนใจเหมือนกันนะ

     

    "น้องชื่ออะไรคะ"จีมินหันมาถามแจ็คพลางดึงข้อมือให้ตามเข้ามานั่งทำผมด้วย

     

    "เอ่อ แจ็คสัน หวังแจ็คสันครับ"แจ็คสันตอบเบาๆออกไป สายตากลับมาพร่าเลือนไปเมื่อแว่นสี่เหลี่ยมอันโตถูกถอดออกไป หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่าเขาสายตาสั้น เขาสั้นเยอะเสียด้วยนี่แหล่ะปัญหาในการมองเห็นของเขา

     

    "ค่า เดี๋ยวพี่จะทำผมให้เราสุดฝีมือเลยนะ ไว้ใจพี่ได้"จีมินบอกก่อนจะเริ่มลงมือทำผม เธอใช้สเปรย์ฉีดๆเตรียมบำรุงเส้นผมของแจ็คสันก่อนจะใช้สีดำมาย้อมตามที่ลูกค้าต้องการ เขาทำมามากกว่า5ปีแล้วเรื่องแบบนี้เขาชำนาญถึงขั้นสูงสุดแล้วล่ะ มีหรอที่ช่างจีมินจะทำพลาด ใครมาตัดผมกับร้านของจีมินก็มีแต่ติดใจทุกราย ดาราใหญ่ๆหลายคนยังเข้าร้านนี้เลย

     

     

    สามชั่วโมงผ่านไป

     

              แจ็คสันเดินไปหาจินยองที่หนังอ่านนิตยาสารรอแก้เบื่อพลางๆอยู่ จินยองเงยหน้าขึ้นมาเจอแจ็คสันก็ต้องชะงักไป แจ็คสันหล่อมาก หล่อจนจินยองใจเต้นแรงเลยล่ะ เพื่อนเขาแซ่บมากจริงๆด้วย

     

              แต่พอดูรวมๆแล้ว แจ็คสันไม่ได้ดูแมนซักเท่าไหร่ จะเรียกว่ายังไงนะ มันดูเซ็กซี่แล้วก็ยั่วยวนมากขึ้นมากกว่า แจ็คสันเซ็กซี่มากจริงๆกับผมสีนี้ เขาต้องยอมรับจริงๆ

     

    "สวยมากเลยแจ็คคคกี้~ "จินยองลุกขึ้นมาบีบแก้มแจ็คสันส่ายไปมาอย่างน่ารัก แจ็คสันน่ะเป็นคนปากแดง แถมขาวจัดอีก

     

              ยิ่งทำผมสีดำก็ยิ่งเห็นว่าเขานั้นเซ็กซี่มากจริงๆ ผมสีดำใบหน้าขาวๆริมฝีปากชมพู คือสีมันตัดกันทั้งหมดนั้นแต่มันกับเข้ากันอย่างลงตัว แจ็คสันหล่อและเซ็กซี่มากจินยองขอลงความเห็นครับ!

     

    "จริงหรอ เราว่ามันแปลกๆง่ะ ไม่มั่นใจเลย"แจ็คสันผู้ทิ้งแฟชั่นไว้ข้างหลังถึงกับไปไม่เป็นกับอาการตื่นเต้นของจินยอง

     

    "ไม่ต้องคิดมากนี่มันดีมากๆเลยต่างหากล่ะ"จินยองยิ้มกว้างก่อนจะเอานิ้วจิ้มหัวคิ้วของแจ็คสันให้คลายออกและใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างยืดมุมปากให้เหมือนแจ็คสันกำลังยิ้มอยู่ แจ็คสันหล่อมากจริงๆเขาจะพูดคำนี้ไปจนกว่าจะกลับบ้านเลย

     

    "โอเค เราจะไม่คิดมากแล้วกัน"แจ็คสันยืนรอจินยองที่กำลังจ่ายเงินให้กับจีมินอยู่

     

    "เท่าไหร่หรอจินยอง"

     

    "หมื่นห้าอะ"จินยองตอบสบายๆ

     

    "ไม่เชื่ออะ ตอนนั้นมาร์คเคยพาไปทำตั้งห้าหมื่นวอน"แจ็คสันถามจินยองอีกรอบ

     

    "ตกลงเท่าไหร่"

     

    "อะๆบอกก็ได้ สามหมื่นวอน"จินยองยอมบอกราคาค่าทำผมกับแจ็คสัน

     

    "โอเค เดี๋ยวเราไปกดเงินแล้วจะเอามาคืนนะ"แจ็คสันบอกเขาไม่อยากติดหนี้ใครไว้นานๆหรอกแล้วก็เขายังมีเงินเก็บจากการทำงานอยู่พอสมควร

     

    "ได้ๆ แต่เดี๋ยวค่อยไปกดแล้วกัน เรายังแปลงโฉมแจ็คสันไม่เสร็จเลยนะถ้าไม่ไปตอนนี้ร้านอาจจะปิดได้”จินยองบอกจบแล้วลากแขนแจ็คสันไปต่อ เขาพาแจ็คสันเลี้ยวเข้าร้านหน้าตาแปลกๆอีกร้านหนึ่งที่ข้างในร้านมีแต่พวกผู้หญิง แจ็คสันได้แต่ยืนหูแดงตามจินยองต้อยๆไม่กล้าเงยหน้าไปสบตากับใครในร้าน จนมีมาพาแจ็คสันไปห้องๆนึงนั่นแหล่ะแจ็คสันถึงยอมเงยหน้าขึ้นมา

     

    “เดี๋ยวเปลี่ยนชุดที่ห้องนี้นะคะ แล้วเข้าไปที่ประตูขวามือนั้น”พนักงานหน้าตาดีๆคนนึงเอ่ยบอกกับแจ็คสันก่อนจะเดินออกไปที่หน้าเคาท์เตอร์ดังเดิม แจ็คสันมองชุดในมือก่อนจะเปลี่ยนไป พบว่าเค้ามีแค่กางเกงขาสั้นสีขาวตัวเดียวกับชุดคลุมอาบน้ำ จินยองพาเขามาทำอะไรเนี่ยงงไปหมดแล้ว แต่ตอนนี้รีบไปตามที่พนักงานบอกจะดีที่สุด

     

              พอแจ็คสันเดินเข้ามาที่ห้องตามที่พนักงานบอกก็เจอจินยองอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่จินยองกำลังนอนแช่น้ำนมโดยที่มีคนกำลังขัดไปตามแขนและแผ่นหลังให้ สักพักเส้นผมสีเข้มของจินยองก็ถูกเสยขึ้นตามโดยครีมพอกหน้าอะไรบางอย่างจินยองทำเพียงแค่นอนหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น แจ็คสันยืนอ้าปากค้างคนเดียวได้ไม่นานก็มีคนเรียกให้เขาไปอ่างที่อยู่ข้างๆกับจินยอง เขาถูกยัดใส่ลงไปในอ่างน้ำนมเหมือนกับจินยองเป๊ะๆ ก่อนที่จะโดน

     

    แครกก

     

    “อ๊ากกก เจ็บๆๆๆ จินยองๆๆๆ โอ๊ย! พี่ครับๆๆเบาหน่อย”แจ็คสันกรีดร้องออกมาทันทีที่โดนพนักงานสาวสวยขัดผิวของเขาแรงๆ แจ็คสันอยากจะบ้าตายอายกว่านอนแก้ผ้าให้เขาอาบน้ำให้ก็ไอ้ตรงกรีดร้องเหมือนผีเข้าที่เป็นอยู่ตอนนี้นี่แหล่ะ เจ็บจนน้ำตาไหลซึมๆออกมาที่หางตาเลยแหล่ะครับ ลองโดนดูจะรู้เลย จินยองทำได้ยังไงไม่ร้องเลยสักแอะ

     

              ช่วงเวลาแห่งความโหดเหี้ยมสำหรับแจ็คสันได้หมดลงไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเขาล้างตัวออกมาแต่งตัวใส่ชุดที่ใส่มาในตอนแรกเรียบร้อย จินยองสิหน้าตาระรื่นยืนสดชื่นจ่ายเงินอยู่หน้าเคาท์เตอร์ คอยดูคราวหน้าเขาจะไม่มาเข้าร้านนี้อีกแล้ว พนักงานมือหนักมากทำแรงแบบเจ็บชิบหา*เลยครับนั่งร้องไห้เป็นตุ๊ดอยู่ในอ่างเลย อายมากไหมถามใจดู

     

    “อะแจ็คกี้”จินยองยื่นถุงบางอย่างที่เป็นผลิตภัณฑ์ของทางร้านให้แจ็คสัน แจ็คสันก็รับไปถือไว้ สงสัยคงจะให้ช่วยถือล่ะมั้ง

     

    “อันนี้ของนายนะ”จินยองบอกมาอีก แจ็คสันหันขวับไปมอง ของเขาอะไรอะจินยองซื้ออะไรให้ ถุงก็โครตหนัก

     

    “เนี่ยของพวกนี้นายต้องใช้บ้างนะ จะทาแค่ครีมตามตลาดตามร้านสะดวกซื้อไม่ได้เข้าใจไหม”จินยองบอก“มันจะช่วยบำรุงผิวของนายให้ดีมากของพวกนี้ เพราะงั้นนายต้องใช้มันทุกวันให้สม่ำเสมอ ต้องดูแลตัวเองบ้างนะแจ็คสันไม่งั้นชาตินี้อย่าหวังเลยว่าจะมีแฟน”

     

    “โหยยจินยองอ่า แล้วดูพาเราเข้าแต่ละร้านแพงๆทั้งนั้น เรายิ่งไม่ค่อยมีเงินอยู่อ่า”แจ็คสันโอดครวญเอื้อมไปคว้ามือจินยองให้รับถุงใส่ของบำรุงกลับคืนไปแต่จินยองก็ไม่ยอมรับคืน

     

    “ถือว่าซื้อให้แล้วกัน”จินยองบอกแล้วลากแจ็คสันออกมาจากร้านเสริมสวยไปต่อที่ร้านเจาะสัก เดี๋ยวนะ ร้านเจาะหูงั้นหรอ

     

    “จินย๊องงงงเรากลัวเข็มมมไม่อ๊าววว”แจ็คสันสติแตกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยกับเพื่อนที่แสนเอาแต่ใจของเขา

     

     

    .

     

     

    .

     

     

    .

     






     

              หลังจากที่แจ็คสันโดนจินยองลากพาไปเข้าร้านนู้นร้านนี้อย่างสนุกแล้วทุกอย่างก็จบลงโดยการที่พี่แจบอมขับรถมารับเขาทั้งคู่แวะไปส่งแจ็คสันที่บ้านก่อนจะพาตัวเองและจินยองกลับบ้านไป ความพีคอยู่ตรงที่พี่แจบอมดันหึงเขากับแจ็คสันน่ะสิ เพราะสภาพแจ็คสันที่เปลี่ยนไปทำให้พี่แจบอมจำไม่ได้ เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ

     

    จินยอง!ไหนบอกว่ามากับแจ็คสันไง!’

     

    ก็ใช่ไง อะไรของพี่เสียงดังทำไม

     

    อย่ามาโกหกแล้วหมอนั่นที่เดินตามมาเป็นใคร เดี๋ยวนี้หัดโกหกพี่แล้วหรอ

     

    หมอไหนวะก็มากับแจ็คสันสองคน พี่แจบอมหาเรื่องจินยองป่ะเนี่ย

     

    จะไม่ยอมรับใช่ไหม ได้ มึง! เห้ย นี่แจ็คสันหรอแจบอมเหมือนสติหลุดไปชั่วขณะที่ได้ค้นพบว่าคนที่มากับจินยองก็แจ็คสันจริงนั่นแหล่ะ แต่สภาพมัน

     

    หล่อเหี้*ๆ

     

    เนี่ยอะแจ็คสันไง น่ารักใช่ไหมล่ะ มีตาก็หัดดูบ้างนะ หรือว่าเงิงมันยื่นขึ้นมาปิดตาหมดแล้วหะ วุ่นวายจริงๆเลยพี่แจบอมเนี่ยจินยองเอื้อมมือไปบิดเอวแฟนหนุ่มของตัวเองที่โวยวายเป็นคนบ้าแล้วมานั่งสำนึกผิดที่หลัง

     

    จ้ะๆ ต่อไปนี้พี่จะดูดีๆจ้ะที่รัก โอ๊ยๆเค้าเจ็บนะตัวเองแจบอมเอี้ยวตัวไปตามแรงบิดพุงของจินยอง ตัวเล็กแต่ดุ หมาชิวาว่าชัดๆเลย

     

     

    .

     

     

    .

     

     

    .

     

              และเรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหล่ะ อาการเหมือนกับว่าเขาควรจะดีใจครึ่งนึงร้องไห้ครึ่งนึง คิดดูเหมือนกับว่าเขาดูดีขึ้นมากจนพี่แจบอมจำไม่ได้ไง แต่อีกมุมนึงเขาขี้เหร่ขนาดนั้นเลยหรือไงถึงได้แตกต่างกับสภาพตอนนี้มากนัก โถ่เอ้ย คิดแล้วมันก็เจ็บจี๊ดๆเหมือนกัน ก็คนมันไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้นี่นา สายตาคนอื่นมองหรือจับจ้องก็ทำให้อึดอัดด้วย แจ็คสันชอบชีวิตเชยๆเฉิ่มๆแบบนี้ของตัวเองที่สุดแล้วแหล่ะ วันนี้ช่างวุ่นวายสำหรับเขาเหลือเกิน อยากจะนอนเต็มแก่แล้ว ฝันสีทองกันทุกคนเลยนะครับ

     

     

    คุยกันซักแป้บนึง : โอเคเรามาต่อแล้ว ตอนนี้ปั่นนานมาก สาระไม่ค่อยมีแต่งทีก็ออกทะเล ฮืออออ เราขอโทษผู้อ่านทุกท่านด้วย ตอนหน้าจะพยายามปั่นให้เร็วกว่านี้เจ้าค่ะ เราเรียนหนักด้วย แถมยังต้องหาเงินเปย์เหล่าก็อตเซเว่นน้อยๆที่น่ารักและดีต่อใจ อย่าลืมไปโหวตงานมาม่าให้เหล่าก็อตเซเว่นด้วยล่ะ ปั่นวิวกันด้วยนะยูคยอมฝากมา อ้อๆ ไม่ต้องไปทวงคยอมคืนจากปิ๊งป่องหรอกนะ คยอมน่ะเป็นของทุกคนอยู่แล้ว รักทุกคนนนนน จุ้บ อิอิ เจอกันตอนหน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×