คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter two ::: 100% :::
Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี
วอเทอร์
ตอนที่ 2
รีไรท์ 22/10/59 (แก้คำผิดและสกุลเงิน)
และแล้ววันนี้ก็มาถึง
‘วันเปิดจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตคิมยูคยอม’
วันนี้ผมเตรียมตัวมาอย่างดีนั่งนับเงินนับแล้วนับอีกเอาจนชัวร์ว่ายังไงก็ไม่มีทางขาดตกบกพร่องอย่างแน่นอน
เหลืออีกสิบนาทีเว็บเริ่มประกาศให้เข้าจองบัตรได้แล้ว
ผมโชคดีหน่อยที่ที่คอนโดอินเทอร์เน็ตค่อนข้างรวดเร็วเพราะว่าเปิดรับสัญญาณ4Gแบบ2600MHzแล้ว
ผมนั่งใจจดจ่อรอซื้อบัตรแทบไม่กระดิกไปไหนเลย
อ้อ ๆหลายๆคนก็ถามถึงมาร์คเพื่อนผมใช่ไหมล่ะ
จากตอนที่แล้วที่ฟาดฟันกับน้องแบมแบมอยู่
มาร์คมันก็งอนไปตามระเบียบแหล่ะครับที่แบมแบมไปแกล้งมันแล้วก็ผมไม่ยอมช่วย โถ่
เรื่องแบบนี้มันก็พูดยากเนาะ เรื่องของคนสองคน
แถมผมยังเอาเรื่องของตัวเองไม่รอดเลยด้วย
คิมยูคยอมตั้งแต่จัดรายการวันนั้นก็ไม่มาจัดอีกเลย คิดถึงชะมัด
แต่เราจะได้เจอกันในงานคอนเสิร์ตที่จะมาถึงแล้วนี่เนาะ
แค่คิดก็ตื่นเต้นจบแทบรอไม่ไหวแล้วอะให้ตายสิ
Tink
‘Live
Stream KimYuGyeom เด็กน้อยของคิมยูคยอมเข้ามาเล่นกัน’
ผมตกใจมากใจเต้นแรงเลยก็ว่าได้
คนบ้าอะไรพึ่งบ่นถึงอยู่ดีๆก็มาจัดรายการให้หายคิดถึงเฉยเลย เหมือนได้ยินความคิดของพวกแฟนๆยังไงยังงั้นเลยนะ
ผมกดเข้าไปดูเพื่อฆ่าเวลาแต่ตั้งใจไว้แล้วต่อให้อยากดูแค่ไหนก็ต้องมากดบัตรให้ทันให้ได้
(สวัสดีเด็กน้อยของผมทุกคน
เป็นยังไงกันบ้างครับไม่ได้เจอกันตั้งนาน)
ความคิดเห็นของแฟนคลับหลายๆคนถูกพิมพ์ขึ้นมาเต็มตรงช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างของหน้าจอ
ผมไม่ได้พิมพ์อะไรออกไปเพียงแค่อยากเข้ามาฟังยูคยอมพูดก็เท่านั้นเอง
แค่ดูให้หายคิดถึงเฉยๆน่ะ อ้อ
แต่ก่อนหน้านี้ผมดูคลิปที่รายการวิทยุที่คิมยูคยอมไปออกมาแล้ว
เขาโดนทำโทษได้ตลกมาก โดนจับแต่งหน้าเป็นผู้หญิง ซึ่งมันตลกมากสำหรับผมทั้งตลกทั้งน่ากลัวในเวลาเดียวกันเลยแหล่ะ
ฮ่าๆ
(คิดถึงผมกันไหมครับ? ผมน่ะคิดถึงทุกคนมากๆเลยนะ)ว่าแล้วยูคยอมก็ทำมือเป็นมินิฮาร์ทมาให้ทางกล้อง
(พอดีว่าวันนี้ผมเบื่อๆ
มีเวลาอีกเกือบๆ10นาทีก่อนจะไปถ่ายแบบ เพราะว่าเตรียมตัวเสร็จแล้วก็เลยนั่งเซ็งอยู่ตอนนี้)
(อืมมม ทำอะไรกันดีล่ะ
วันนี้ผมไม่มีเกมมาเล่นกับทุกคนหรอกนะ)
‘พักผ่อนบ้างนะครับ’ผมพิมพ์คำนี้ออกไปท่าทางของยูคยอมดูจะเพลียๆและเหนื่อยจากการทำงานมากๆเลย
เดาว่าเขาต้องนอนน้อยแน่ๆเลย
(ไหนอ่านคอมเม้นท์หน่อย
ใครคิดถึงผมกดหัวใจส่งมาให้ด้วยนะครับ)
(วันนี้ทุกคนน่ารักจังเลย
อ้อ วันนี้คอนเสิร์ตของผมเปิดจองบัตรแล้วนะยังไงก็อย่าลืมไปดูกันด้วยนะครับ
//คิมยูคยอมเตรียมถ่ายได้แล้วค่ะ! อืม ดูเหมือนว่าผมจะต้องไปแล้ว ลาก่อนนะครับเด็กน้อยทุกคน บาย)
ยูคยอมปิดกล้องไปแล้วและตอนนี้ผมก็พบว่าอีกไม่กี่วินาทีเว็บจะอนุญาตให้จองบัตรคอนเสิร์ตแล้ว
ผมวางมือถือไว้ใกล้ๆมือตอนนี้เริ่มกดรีเฟรชหน้าจอต้องจองบัตรให้ทันให้ได้
3
2
1
เปิดจองแล้ว! ผมกดคลิกเม้าส์ด้วยความเร็วมากๆในใจก็ลุ้นว่าจะได้ที่นั่งตามที่ต้องการรีบกดรีบเลือกผมมองแผนผังที่นั่งดูมาตลอดหลายวัน
ผมเลือกโซนมาก่อนหน้านี้แล้วเหลือก็แค่ซื้อให้ทันแล้วสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ก็ได้มาถึงแล้ว
ผมจองบัตรสำเร็จ! เห้อ
โล่งอกถ้าเกิดว่าจองไม่ทันกว่าจะได้เจอกับยูคยอมอีกคงต้องเหมาอัลบั้มเข้าไซน์เลยแน่ๆ
“ยูคยอมอ่า
ผมจองบัตรแล้วนะครับเจอกันในคอนเสิร์ตนะ”ผมเดินไปกระโดดกอดตุ๊กตาหมีขนนุ่มที่อยู่บนเตียง
ตุ๊กตาหมีตัวนี้ชื่อว่าคิมยูคยอมครับ
ผมซื้อมันมาเพราะว่าเจ้าตัวนี้เหมือนเป็นตัวแทนของยูคยอมเลยก็ว่าได้
น่ารักมากจริงๆ ผมชอบมากๆเลยแหล่ะ
In your eyes nose lips
the way..ติ๊ด!
"ไงจินยองมีอะไรหรือเปล่า"จินยองโทรเข้ามาหาผมครับ
ทุกคนยังจำจินยองกันได้หรือเปล่า
จินยองที่เป็นเพื่อนพนักงานที่ร้านอาหารของพี่แจบอมไง
"เราจะบอกแจ็คกี้ว่าเราได้ไปคอนเสิร์ตแล้วนะ!"จินยองบอกออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"หะ
จริงหรอ! สุดยอดไปเลยจินยอง!"ผมเองก็ดีใจไม่แพ้กันเลย
ก็จะได้มีเพื่อนไปดูคอนด้วยกันแล้วนี่เนาะอย่างน้อยก็ไม่ต้องไปล่าของแจกคนเดียวที่หน้าคอนแล้วแหล่ะ
ระหว่างดูคอนผมคงไม่มีเวลาสนใจใครนอกจากยูคยอมแล้วเพราะงั้นไม่ได้นั่งบัตรใกล้กันก็ไม่เป็นไร
"อื้ม
งั้นวันไปคอนเราไปรับแจ็คที่บ้านนะ เดี๋ยวให้คนขับรถที่บ้านขับรถไปให้เอง"
"ตกลง
ขอบใจมากนะจินยองงี่ แค่นี้ก่อนนะ"ผมตอบกลับไป
"โอเค
บายแจ็คกี้ ไว้เจอกัน"เอ้อ ผมยังไม่ได้บอกทุกๆคนใช่ไหมครับ
จินยองน่ะถึงแม้ว่าจะมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารเล็กๆแต่ว่าก็เป็นพวกคนรวยลูกคุณหนูเลยก็ว่าได้เวลาที่ไปตามติ่งยูคยอมกับจินยองน่ะวิเศษสุดๆไปเลยเพราะจินยองน่ะทำอะไรที่แฟนๆหลายๆคนทำไม่ได้แต่กลับทำได้ตั้งหลายอย่าง
สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ
จริงๆแล้วผมก็มีเงินเก็บอยู่บ้างเพราะว่าที่บ้านเป็นไร่ชาที่ต่างจังหวัด
พ่อกับแม่ของผมจะส่งเงินมาให้ทุกๆเดือนละสามแสนวอน หักค่าน้ำไฟและอาหารกับอินเทอร์เน็ตไปแล้วเงินผมก็ยังเหลือเยอะอยู่ดี
บวกกับผมมาทำงานพิเศษด้วย
บางเดือนเลยทำให้เงินเหลือเยอะมากๆแต่ถ้าช่วงไหนที่มหาลัยมีงานประเพณีล่ะก็เงินของผมก็จางๆลงบ้างเลยแหล่ะ
ส่วนใหญ่ก็ออกตรงที่ขาดไปนิดๆหน่อยกับเลี้ยงขนมเพื่อนๆ
วันนี้ผมว่างทั้งวันเลยก็ว่าได้ งานพิเศษก็ไม่มี
จริงๆแล้วต้องไปเรียนแต่เพราะว่าอาจารย์บอกว่ามีสัมนาต่างประเทศก็เลยแคนเซิลคลาสไป
จริงๆแล้วผมไม่ได้ออกไปไหนมาไหนข้างนอกมานานแล้วนะ ถ้าไม่นับไปทำงานกับไปบ้านมาร์ค
อืม นั่งๆนอนๆมาก็หลายชั่วโมงแล้ว วันนี้ไปเดินเล่นกันดีกว่า อากาศก็ดีมากๆอีกด้วย
พอหาข้อสรุปได้แล้วผมก็เตรียมตัวออกไปข้างนอก
สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ไว้ที่หลัง
ผมใส่หนังสือกับนมช็อกโกแลตไว้ในเป้ใบนี้แหล่ะครับ
วันนี้ถ้าไปนอนอ่านหนังสือเล่นที่สวนก็คงจะดี
ผมชอบอ่านหนังสือเพราะว่ามันสนุกดี มันเหมือนเสริมสร้างจินตนาการของเราเพิ่มมากขึ้นด้วย
อย่างเช่นถ้าเป็นนิยายสืบสวนเราก็จะได้ใช้ความคิดวิเคราะห์ใช่ไหมล่ะ
แถมยังอยากอ่านต่ออีก นั่นเป็นจุดขายของหนังสือที่ทำหลายๆภาคเลยแหล่ะ
.
.
.
สวนสาธารณะริมแม่น้ำ
ฟืดดดด~
ผมสูดลมหายใจเข้าปอดตัวเองลึกๆ อากาศที่นี่สดใสและปลอดโปร่งมากๆเลยทีเดียว
แถมดอกไม้กับต้นไม้ก็ถูกปลูกไว้เสียเต็มไปหมด
บริเวณนี้จึงเป็นสถานที่ที่บรรยากาศก็ดีอากาศก็ดี
ผมวางเป้สะพายหลังไว้ที่โคนต้นไม้ขนาดใหญ่ก่อนจะนั่งหลังพิงกับต้นไม้เหมือนกันและเริ่มหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
มีทั้งหนังสือฝึกภาษา หนังสือการ์ตูน
ผมอ่านหนังสือหลายแนวมากๆเพราะว่าการอ่านหนังสือพวกนี้มันมีแนวคิดที่เหนือความคาดหมายสอดแทรกไว้อยู่เสมอแหล่ะ
.
.
.
จ๋อม จ๋อม จ๋อม
เสียงอะไรบางอย่างกระทบกับพื้นแม่น้ำ
ที่นี่สงบมากๆและนั่นทำให้เสียงน้ำมันดังพอที่ผมจะได้ยินเสียงมัน
ผมลดหนังสือในมือลงละสายตาจากหนังสือเล่มหนาพวกนี้ก่อนจะมองออกไปที่ริมแม่น้ำ
พบชายคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิปาก้อนหินอยู่ ผมได้แต่มองตาม
มานั่งคนเดียวแบบนี้แปลว่าต้องมีเรื่องให้คิดใช่ไหมล่ะ
เขากำลังไม่สบายใจอยู่หรือเปล่านะ ผมควรทักเขาดีไหม
.
.
.
"ขอโทษนะครับ
ขอผมนั่งด้วยได้ไหม"ผมชั่งใจอยู่นานก่อนในที่สุดจะเอ่ยทักเขาออกไป
"...ครับ"ผู้ชายคนนั้นตอบรับผมออกมาเบาๆเขาขยับแว่นกันแดดและผ้าปิดปากเล็กน้อย
และหมวกที่สวมอยู่ด้วยเช่นกัน
"ทำไมถึงมาคนเดียวล่ะครับ"ผมตัดสินใจถามออกไป
"...ก็ปกตินี่ นายไม่เคยมาคนเดียวหรอ"
"อ่า
ก็จริง สงสัยคุณอยากจะอยู่คนเดียว ผมมากวนใช่ไหม ขอโทษนะ งั้นผมกลับ..."
"ไม่เป็นไร
นั่งต่อเถอะ
ผมไม่ได้ว่าอะไร"ผู้ชายคนนั้นพูดขัดขึ้นมาก่อนที่ผมจะพูดจบนั่นเลยทำให้ผมตัดสินใจนั่งอยู่ต่อ
"แล้วนายล่ะมาทำอะไร
คนเดียวเหมือนกันไม่ใช่หรอ"เขาถามผมกลับ
"ผมแค่มาหาที่อ่านหนังสือเล่น
แล้วได้ยินเสียงน้ำก็เลยเจอคุณ"ผมฉีกยิ้มให้เขาเล็กน้อย
"ผมทำเสียงรบกวนใช่ไหมขอโทษทีนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกคุณ
ผมเลิกอ่านไปแล้ว มานั่งคุยกับคุณแทนก็ไม่ได้แย่อะไร ไม่เหงาดี"ผมมองหน้าเขา
เขาแค่พยักหน้าให้ผมเฉยๆ
"นี่
ผมถามจริงๆทำไมคุณต้องปิดหน้าตัวเองขนาดนั้นล่ะ
คุณไม่มั่นใจในใบหน้าของตัวเองหรอ"ผมถามอย่างสงสัย
เขาหันมามองผมแล้วส่ายหน้าเบาๆ
"ไม่จริงน่า
ถ้าคุณมั่นใจแล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดหน้าขนาดนั้นล่ะ รู้ไหม
คนเราทุกคนมีคุณค่าในตัวเองทั้งนั้นแหล่ะ หน้าตาไม่ได้วัดจิตใจคนหรอกนะ
บางทีหน้าตาดีอาจจะเป็นคนไม่ดีก็ได้
อันนี้แม่กับพ่อผมสอนมา"ผมอธิบายให้เขาฟัง
"นายอยากเห็นหน้าผมหรอ"อีกฝ่ายถามผมออกมา
"อื้ม
ก็ต้องอยากสิ เวลาคุยกันเราก็ต้องมองหน้ากันสิ แต่นี่ไม่เห็นเลย ฮ่าๆ
แต่ถ้าคุณไม่โอเคก็ไม่เป็นไรหรอกนะ"
ผู้ชายคนนั้นกำลังถอดหมวกออก
เส้นผมสีแดงเพลิงที่ดูคุ้นตาถูกปรากฏออกมา
แว่นตากันแดดสีทึบอันใหญ่ก็ถูกถอดออกเผยให้เห็นคิ้วเข้มเป็นเส้นเรียงสวยกับดวงตาอันทรงเสน่ห์ที่เขารู้สึกคุ้นเคย
เหมือน เหมือนมากเกินไป! ผู้ชายคนนี้ อย่าบอกนะว่าคือเขา...
'คิมยูคยอม!'
ผ้าปิดปากถูกดึงออกมาและนั่นทำให้ผมต้องเบิกตากว้าง
พร้อมกับเอามือปิดปากตัวเอง พระเจ้า ใครก็ได้บอกผมทีว่าผมไม่ได้ฝันไป
นี่มันเกินความคาดหมายเลยนะ ใครจะคิดว่าผมจะได้เจอ เขามาถ่ายแบบอยู่ที่เมืองนี้หรอ
หรือเขาอาศัยอยู่ที่นี่
"คะ
คิมยู คะ คยอม"ผมชี้ไปที่หน้าเขา
ผมเอามือทึ้งผมตัวเองหันหน้ากลับไปมองที่แม่น้ำหันกลับมามองเขาอีกที
ยูคยอมส่งยิ้มมุมปากให้กับผม
"คุณไม่ได้ถ่ายแบบอยู่หรอ"ผมถามออกไปตอนนี้ตื่นเต้นมากตัวสั่นไปหมดแล้ว
นั่นน่ะ คิมยูคยอมเลยนะ
"ถ่ายเสร็จตั้งนานแล้ว
เพราะว่าจะมีทัวร์คอนเสิร์ตผู้จัดการเลยให้มาพักเดินเล่นได้"เขาตอบออกมาในท่าทีสบายๆ
"ดูไลฟ์สดด้วยหรอนายน่ะ"ยูคยอมใส่หมวกกลับตามเดิมเขาถามผมด้วยท่าทางสบายๆ
"ผมชื่อแจ็คสันนะครับ!
ผมติดตามรุ่นพี่มานานแล้ว ชอบเพลงของพี่มากๆเลย
ผมฝึกเล่นกีต้าร์เพื่อเล่นเพลงของพี่เลยนะครับ! ผมชอบพี่มากจริงๆ อัลบั้มใหม่ของพี่ผมซื้อแล้วนะครับไม่รู้ว่าจะจองทันไหม
แต่ผมก็ซื้อไปแล้ว บัตรทัวร์คอนเสิร์ตของพี่ผมก็ซื้อแล้วนะครับ
ผมจะไปดูรุ่นพี่อย่างแน่นอน!"ผมหอบหายใจหนักหลังจากที่พูดไปยาวเป็นหางว่าวก็โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆนี่ครับ
อยากพูดอะไรต้องรีบบอกเอาไว้ก่อน
"นายโอเคใช่ไหมใจเย็นๆนะ"สีหน้าของยูคยอมดูเหวอไปเลยเมื่อเจอผมรัวใส่เป็นชุด
ก็ผมชอบเขานี่นา แถมเขายังลูบหลังผมด้วย โอ๊ย แจ็คสันคนนี้บอกเลยว่าโครตฟิน
"รุ่นพี่ครับขอผมกอดรุ่นพี่ได้ไหม"ผมกลั้นใจถามออกไป
ถึงคำพูดผมจะดูเป็นคนด้านๆก็เถอะแต่จริงๆแล้วผมอายมากๆเลยนะ แต่ถ้าได้เนี่ยมันก็คุ้มใช่ไหมล่ะ
"ได้สิ
แต่ค่าตัวผมแพงนะ คุณจ่ายไหวใช่ไหม"คิมยูคยอมกอดผม! แจ็คสันคนนี้จะเป็นบ้าตาย
แง แม่จ๋าพ่อจ๋า หนูได้กอดกับเขาแล้วนะ น้องแจ็คฟิน งืออ
"ผมไม่มีเงินเยอะหรอกนะครับ"ผมกอดตอบแน่นมากก่อนจะพูดออกมา
ไม่รู้แหล่ะ ได้กอดแล้ว อิอิ
"ไม่เป็นไร
ผมขอแค่นมช็อกโกแลตที่กระเป๋าของคุณจะได้ไหม"ยูคยอมถอนอ้อมกอดออกแล้วชี้มาทางกระเป๋า
"ได้สิครับ
จริงๆผมไม่ได้ชอบกินรสนี้แต่เพราะว่ารุ่นพี่ชอบกินผมเลยซื้อติดบ้านไว้เต็มเลยแหล่ะครับ"ผมเล่าอย่างร่าเริง
การคุยเรื่องยูคยอมเป็นอะไรที่สนุกมาก แต่นี่มันดีกว่าอีกถ้าคุยกับยูคยอมตัวเป็นๆเลย
"หึหึ
แจ็คสันใช่ไหม นายน่ารักดีนะ ทั้งหน้าตาและก็นิสัยเลย
ขอบคุณมากนะ"ยูคยอมเจาะนมช็อกโกแลตของผมดื่ม ทุกคนได้ยินไหม
เขาชมว่าผมน่ารักด้วยแหล่ะ ผมจะจดจำวันนี้ไปจนตายเลย
"รุ่นพี่ก็...
ตัวจริงหล่อมากๆเลยนะครับ ไม่คิดว่าจะได้อยู่ใกล้ขนาดนี้"ผมชมตอบกลับไป
"อ่าหะ
ขอบใจนะ"ยูคยอมใช้มือที่ว่างอีกข้างยีเส้นผมสีสว่างของแจ็คสัน
"ครับไม่เป็นไรๆ
ผมเต็มใจให้มากๆเลยครับ”ผมยิ้มกว้างให้กับยูคยอม
เขาหล่อมากๆเลยครับทุกคน
เส้นผมสีแดงของเขาอีกมันทำให้เขาดูเซ็กซี่มากๆถึงแม้จะแค่กำลังดื่มนมอยู่ก็ตามทีเถอะนะ
ผู้ชายคนนี้ทำผมหลงใหลคลั่งไคล้ไปถึงไหนกัน
“รุ่นพี่จะไปทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกเลยหรอครับ”ผมถามออกไป
“ใช่แล้ว
เริ่มจากเอเชียก่อนจะไปที่แถบอเมริกา ยุโรปและจะกลับมาเล่นที่เอเชียอีกรอบ
ฟังดูยาวใช่ไหมล่ะ”ยูคยอมหันมามองผม
สายตาคมๆนั่นกำลังจ้องตาของผมอยู่ เพราะผมก็มองเขาเหมือนกันผมถึงได้รู้ยังไงล่ะ
“ครับ
ผมจะคอยติดตามนะครับ อยากให้ถึงวันคอนเสิร์ตเร็วๆจัง แต่ตอนนี้ก็ดีมากๆเหมือนกัน”
ฮือออ ทุกคนน ผมเขินอ่า เขากำลังนั่งข้างๆผมเลย
ผมพูดอะไรออกไปน่าอายจัง
“ฮ่ะๆ
ใจเย็นแจ็คสัน นายชอบผมขนาดนั้นเลยหรอ”ยูคยอมมองผม
“ชอบสิครับ! รุ่นพี่น่ะทั้งเก่งทั้งเท่ ร้องเพลงก็เพราะไหนจะเล่นดนตรีเก่งอีก
แถมยังตั้งใจทำงานมากๆเลยด้วย คงจะเหนื่อยใช่ไหมล่ะครับ
แต่ว่าพวกเด็กๆทุกคนน่ะรักแล้วก็ชื่นชมรุ่นพี่มากๆเลยนะครับ
พวกเราทุกคนรอที่จะได้พบกับรุ่นพี่ในคอนเสิร์ตอยู่ พวกเราประทับใจในความพยายามของรุ่นพี่มากๆเลยนะครับ
เพราะฉะนั้นอย่ายอมแพ้นะครับ แฟนๆทุกคนกำลังรออยู่”ผมพูดยาวเหยียดอีกแล้วให้ตายสินี่ผมกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่นะ
ผมเพ้อเจ้ออีกแล้วอ่า สติไอ้แจ็คสันสติแกอยู่ไหนนน!
“...นาย”
“กำลังสารภาพรักกับผมอยู่หรอ”
บึ้มมม
เพราะคำพูดนั้นที่ออกมาจากปากของคิมยูคยอมนั่นทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนๆขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
นั่นสิเขากำลังพยายามจะพูดอะไรล่ะ ให้ตายเถอะ สับสนจังเลย
เรากำลังคุยเรื่องคอนเสิร์ตไม่ใช่หรอ ไหงยูคยอมถึงพุ่งเป้ามาที่เขาได้หล่ะ
ทำแบบนี้เขาก็ไปไม่เป็นน่ะสิ แค่นี้ก็อายจะตายอยู่แล้ว
ตกลงว่าการได้มาเจอกับคิมยูคยอมแบบเอ็กซ์คลูซีฟแบบนี้มันดีหรือไม่ดีกันแน่หล่ะ
ฮืออ ที่รู้ๆตอนนี้ผมอายมาก!
“ผะ ผม
ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผม ผมแค่หมายถึงแฟนคลับของพี่ทุกคนตั้งหาก
พี่ไม่ได้ฟังผมพูดใช่ไหมล่ะ”
“ฟังอยู่สิ
ก็นายบอกชอบผมอยู่ไง”
“ผมเปล่านะ!!!”ผมตกใจรีบปฏิเสธ “เอ่อคือ ผมชอบพี่ แต่ผมหมายถึง
อ่าห์ งงอะ ตกลงเรากำลังพูดเรื่องอะไรกัน”ผมเอามือกุมหัวตัวเอง
ตอนที่ผมเผลอตะโกนออกไปด้วย มีบางคนกำลังมองมาที่เราสองคนด้วย
บรรยากาศชักจะรู้สึกแปลกๆ
ซุบซิบๆ ซุบซิบๆ
“อ่า
แย่แล้วสิ แจ็คสันสะพายกระเป๋าเร็ว”ยูคยอมบอกกับผม
“หืม
อะไรหรอครับ”ผมถามเขาอย่างงงๆแต่ก็ยอมทำตามที่บอกโดยไม่ได้ขัดขืนอะไร
“ส่งมือมา”ยูคยอมยื่นมือมาตรงหน้าผมก่อนจะบอกให้ผมยื่นมือให้จับ
จับสิครับจะปฏิเสธทำไม
“อะไรอะพี่”ผมยังคงงงไม่หายแต่พอหันไปมองจากทางด้านหลัง เห็นว่าเริ่มมีผู้คนจำนวนย่อมๆกำลังมองมาทางพวกผมสองคนอยู่นั่นทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่า
เราเริ่มจะถูกจับได้แล้วล่ะว่านี่คือคิมยูคยอม
“สาม สอง
หนึ่ง แจ็คสันวิ่ง!”ยูคยอมกระชากมือผมไปด้วย
ผมตกใจกับเหตุการณ์ตอนนี้มากแต่เพราะว่าโดนดึงมาด้วยก็เลยต้องออกแรงวิ่งตามคนขายาวกว่าที่วิ่งอย่างรวดเร็วจนผมนั้นแทบตามไม่ทัน
ก็เล่นสูงกว่าผมหลายสิบเซนแบบนั้นวิ่งก็เร็วกว่าขาก็ยาวกว่า
กรี๊ดดดดดดดด
“คิมยูคยอม! คิมยูคยอม! คิมยูคยอม!”เสียงแฟนคลับไล่หลังพวกเรามา
ยูคยอมหันไปมองแค่แว้บเดียวก่อนจะออกแรงวิ่งไปอีก
“แฮ่ก
แฮ่ก แฮ่ก”เสียงหอบหายใจของผมเองครับ
ปกติผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแบบนี้มันทำให้ผมเหนื่อยมากๆเลยแหล่ะหายใจก็แทบจะไม่ทัน
“แจ็คสันทนไว้ก่อน”เขาพูดออกมาฝ่ามือใหญ่ๆนั่นยังคงกระชับฝ่ามือของผมเอาไว้แน่นมาก
“พี่ทิ้งผมไว้ตรงนี้ก็ได้ครับ
ใกล้จะถึงคอนโดผมแล้วด้วย”ผมตอบออกขาของผมมันเริ่มหมดแรงจนก้าวแทบไม่ออกแล้ว
“หรอ
งั้นดีเลย คอนโดที่อยู่ข้างหน้าใช่ไหม ขอผมเข้าไปหลบพวกแฟนคลับหน่อยแล้วกัน”ยูคยอมว่าแล้วเปลี่ยนเป้าหมายเป็นวิ่งไปที่คอนโดของผมแทนตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าเขาจะวิ่งไปไหน
แต่ที่แน่ๆคือไม่ใช่คอนโดผมแน่นอน ฮืออ ผมขัดเขาไม่ได้ใช่ไหม
แต่ว่าให้ตายเถอะผมจะทำยังไงดีก็ที่คอนโดมีแต่รูปรุ่นพี่ยูคยอมอยู่เต็มไปหมดเลย
ให้ไปเก็บห้องตอนนี้ไม่ทันแล้วด้วย
.
.
.
ห้อง 852
แกร่ก แอ๊ด
“รุ่นพี่เข้ามาก่อนครับ
เอ่อ แต่ก่อนเข้ามา ผมขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหมครับ?”ผมถามออกไปอย่างอายๆ
“หืม
ว่าไง”ยูคยอมมองอย่างสงสัย
“คือ
ห้องผมมัน ค่อนข้างจะแปลกๆเพราะงั้น อย่าขำนะครับ”ผมมองหน้าเขาและขมวดคิ้วน้อยๆก็ใครมันจะไปคิดว่ารูปของคนที่ชอบถูกแปะไว้ทั่วห้องและวันหนึ่งมันจะมีคนในภาพมาที่ห้องของตัวเองจริงๆเล่า
“อ้อ
ได้สิ ผมเข้าได้แล้วใช่ไหม ปวดขาจะแย่”ว่าจบยูคยอมก็แทรกตัวเข้ามาในห้องของผม
อธิบายแบบคร่าวๆก็คือห้องผมเป็นโทนสีขาวแทบจะทั้งห้อง แต่ว่ามันถูกแต่งแต้มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์สีแดงซะส่วนใหญ่เพราะว่าผมต้องการให้บรรยากาศคล้ายกับมียูคยอมอยู่ด้วยก็เท่านั้นเอง
แต่มันไม่ใช่แค่นั้นไง
คือผมยังมีพวกรูปของยูคยอมในอิริยาบถต่างๆแปะอยู่ตามผนังห้องบ้างใส่กรอบรูปบ้าง
ที่หนักกว่านั้นคือเรียงเป็นตัวอักษรเลย แถมที่ริมห้องยังเป็นชั้นวางหนังสือที่ผมเรียงอัลบั้มของยูคยอมเอาไว้อีกเป็นตับ
ฟิกเกอร์คิมยูคยอม ตุ๊กตาคิมยูคยอม หมอน แก้วน้ำ จิ๊กซอว์
ของออฟฟิเชี่ยลและของแจกงานแฟนไซน์ที่จินยองให้มาอีก
พูดตามตรงผมอยากจะวาร์ปหายไปจากตรงนี้
“โห
ห้องนาย... ทำผมอึ้งไปเลย”ยูคยอมเดินไล่ดูรูปของตัวเองตามผนังไปเรื่อยๆ
บางรูปก็หัวเราะ บางรูปก็โวยวายออกมาว่าเขาไม่หล่อ และอีกมายมาย
แถมยังรื้อจิ๊กซอว์ออกมานั่งเล่นเรียงกันใหม่อีกด้วย
“เฮ้ยๆ
รุ่นพี่อย่าซนสิครับ เดี๋ยวของผมพังนะ”ยูคยอมกำลังเอื้อมมือไปเล่นกับบ้านฟิกเกอร์ที่ผมซื้อมาในราคาหลายหมื่นวอน รู้ไหมหลังใหญ่แบบนี้ผมต้องใช้เวลาประกอบนานเท่าไหร่เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นยูคยอมผมก็หวงของครับ
“ขี้หวงจัง”เขาบ่นออกมา
“ไม่ได้หรอกครับ
อะไรที่เกี่ยวกับพี่ยูคยอมผมดูแลดีทั้งนั้นแหล่ะ”ผมพูดอย่างหวงๆก่อนจะดึงมือเขาออกจากบ้านฟิกเกอร์
“เดี๋ยวนะ
แต่นี่ผมยูคยอมเลยนะ ผมเองก็แตะไม่ได้หรอเนี่ย ฮ่าๆ ทำไมเด็กน้อยของผมตลกจัง”เขามองผมแล้วขำออกมา โถ่ ก็ถ้ามันพังขึ้นมาจะให้ผมทำยังไงล่ะ
“ขอนิดนึง
พี่อะไปนั่งดีๆที่โซฟาดีกว่าเดี๋ยวผมเอาน้ำให้นะ”
“โอเคๆ”ยูคยอมทำตามที่แจ็คสันบอกอย่างว่าง่ายด้วยการไปนั่งเล่นที่โซฟาแต่ไม่วายสำรวจสิ่งของนั่นนี่ของแฟนคลับตัวเล็กของเขา
“นี่ครับน้ำ”แจ็คเดินถือน้ำมาให้ยูคยอม แต่ก็ต้องตกใจกับของที่ยูคยอมถือไว้ในมือ
“เฮ้ย
พี่ทำอะไร”แจ็คสันถลาเข้าไปแย่งของในมือยูคยอมออกมา ก็ที่ยูคยอมถืออะ
เป็นรูปที่แจ็คสันตัดต่อไว้คือมันเป็นรูปที่ยูคยอมถ่ายแบบกับนางแบบสาวคนหนึ่งแล้วแจ็คสันก็ถ่ายรูปเอาหน้าตัวเองไปแปะทับไว้
“ฮ่าๆ
น่ารักดีออกไม่เห็นต้องอายเลย”ยูคยอมขำกับท่าทางของแจ็คสันที่กำลังอาบน่าแดงกอดกรอบรูปไว้แนบอก
“พี่ห้ามล้อผมนะ
ไม่งั้นผมเลิกติ่งพี่แน่ บ้าจริงๆเลยอ่า”แจ็คสันโอดครวญออกมา
สิ่งที่เขาเก็บเป็นความลับทั้งนั้นถูกเปิดเผยต่อหน้าของยูคยอมหมดแล้วดีนะที่ยังไม่ได้เข้าไปในห้องนอน
ก็ห้องนอนอะ มีทั้งโปสเตอร์ทั้งสแตนดี้เท่าขนาดจริง ตุ๊กตาอีกหลายตัวเลยอายแย่
เขาได้แต่นั่งลงที่โซฟาอย่างปลงๆ
“ขอพี่เข้าห้องน้ำหน่อยนะ”
“ครับอยู่ขวามือ”แจ็คสันตะโกนตอบไป ยูคยอมเดินเอาแก้วไปเก็บก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ
“ซ้ายมือใช่ไหม”ยูคยอมพูด
หืม เดี๋ยวนะ
เมื่อกี๊ยูคยอมพูดว่าอะไรกับเขานะ
“พี่! เดี๋ยว!”แจ็คสันตะโกนออกไป
แกร่ก
แอ๊ด
“หืม?
เอ่อ นี่มันอะไร”ยูคยอมไล่สายตาทั่วห้อง อ่า
มันไม่ใช่ห้องน้ำแหล่ะแต่ว่าเป็นห้องส่วนตัวของแฟนคลับเขาเอง
แต่ว่าในห้องนี่จะมีอะไรที่เป็นของตัวเองแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาบ้างไหมนะ
สรุปๆรวมๆเลยคอนโดทั้งห้องก็มีแต่เขาทั้งนั้น
เอาจริงๆเขาไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไรหรอกนะเขาก็แค่เขินน่ะที่มีคนมาชอบเขาขนาดนี้
“รู้ไหมที่นายทำแบบนี้น่ะ
ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนะ ไม่คิดเลยว่าแฟนๆจะชอบผมกันขนาดนี้”ยูคยอมหันมาพูดกับคนตัวเล็กที่ดูเหมือนจะช็อกไปแล้วที่เขาเจอความลับขั้นสุดยอดในห้องของตัวเอง
พอเห็นแบบนี้แล้วมันก็ทำให้เขาเขินขึ้นมาเหมือนกันจากตอนแรกๆมันก็ขำๆแหล่ะ
“รุ่นพี่ก็อย่าไปเปิดห้องใครดูแบบนี้สิครับ...”แจ็คสันเสียงดูไม่ค่อยดรแถมสีหน้าก็เหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกด้วย
“อ่า
ขอโทษๆ นายอย่าร้องไห้สิ”ยูคยอมแตะไหล่ของแจ็คสันที่ยืนก้มหน้างุดๆอยู่ตรงหน้าเขา
“ผมอายอะ! ฮึก ทำไมรุ่นพี่ทำแบบนี้”แจ็คสันปาดน้ำตาตัวเองป้อยๆเขาทั้งอายทั้งโกรธอีกฝ่าย
ก่อนหน้านี้ก็บอกจะไม่หัวเราะด้วยแท้ๆ ทำไมเขาถึงได้น้อยใจอีกฝ่ายแบบนี้นะ
ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะมาอ่อนไหวอะไรเอาตอนนี้
ก็ความลับทั้งชีวิตของเขาถูกเปิดเผยหมดเลยโดยเจ้าของเรื่องราวแห่งความลับทั้งหมดนี่
เป็นใครจะไม่อายบ้างล่ะ เคยอายมากๆจนร้องไห้กันไหม
นั่นแหล่ะถ้าใครเคยเป็นเหมือนกันก็คงจะเข้าใจความรู้สึกเขาดี
“แจ็คสันอ่า”ยูคยอมเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆก่อนจะช้อนใบหน้าของเขาขึ้นให้สบตากัน
“ผมขอโทษนะที่ทำให้แจ็คสันต้องอาย”ยูคยอมบอกออกมา ผมพยายามดึงหน้าตัวเองออกจากมือ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”ผมตอบออกไปสายตาหลบไม่มองหน้าของเขา
“แจ็คสันมีรูปผมเยอะๆแบบนี้ก็ดีออก
เพราะงั้นอย่าร้องไห้เลยนะ แจ็คสันไม่เหมาะกับน้ำตาหรอก”ว่าแล้วยูคยอมก็ใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาของผมออก
“ระ รุ่นพี่ปล่อยหน้าผมได้แล้ว ผะ ผมโอเคขึ้นแล้วครับ”แจ็คสันบอก
ราวกับว่าตอนนี้เขาตั้งสติได้แล้ว คนตรงหน้าคือใคร และตัวเองคือใคร
เพราะฉะนั้นต้องทำตัวดีๆนะแจ็คสัน เตือนสติตัวเองเอาไว้
“โอเค
ไม่ร้องไห้แล้วน่ารักมากเลย”ยูคยอมยีเส้นผมนุ่มนิ่มของแจ็คสัน
“พี่... ใจดีกับแฟนคลับแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่า”แจ็คสันถามออกมา ฝ่ามือกว้างของยูคยอมชะงัก
“ไม่รู้สิ
ไม่เคยได้ใกล้ชิดแฟนคลับขนาดนี้หรอก มีนายคนแรก”ยูคยอมบอก
“แบบนั้นหรอครับ
อ้า จริงสิพี่จะเข้าห้องน้ำใช่ไหม ตามสบายเลยนะครับ”ผมเอื้อมตัวไปบิดลูกบิดประตูห้องน้ำเปิดให้ยูคยอมก่อนจะปลีกตัวออกมานั่งเล่นที่ห้องรับแขก
วันนี้ของช่างวุ่นวายเสียจริงๆเลย ในความคิดตอนแรกที่แค่คิดว่าจะนั่งเล่นสบายๆที่สวนสาธารณะก็ดันไปเจอกับคนที่ตัวเองชอบ แถมทำเรื่องขายน่าไปตั้งมากมาย ที่บ้ากว่านั้นคือเขาดันไปร้องไห้ใส่อีกฝ่ายอีกตั้งหาก โอย พ่อครับ แม่ครับ แจ็คสันขอโทษ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ยิ่งถ้ามาร์ครู้นะโดนดุยาวแน่ๆ
มาร์คยิ่งเจ้าระเบียบจัดอยู่ด้วยไม่ว่าจะเรื่องไหนๆก็ตาม
แต่นั่นแหล่ะเป็นเหตุผลของความสมบูรณ์แบบต่างๆที่อยู่รอบตัวมาร์ค
เว้นก็แต่เพื่อนอย่างผมที่ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบในชีวิตของมาร์ค ก็คนอื่นๆเขาก็ว่ากันมาน่ะ
ส่วนมาร์คน่ะเขาก็แค่บอกว่าไม่จำเป็นต้องไปแคร์คนพวกนั้น
ผมก็เลยเฉยๆไปและเราก็เป็นเพื่อนรักกัน
ครืดด ซ่า
เสียงชักโครกทำงานตามกลไกของมันดังขึ้นมาและเสียงประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกมา
ยูคยอมออกมาพร้อมกับขายาวๆของตัวเองที่กำลังก้าวมาหาผม
“พี่ไม่กลับบ้านไปพักหรอครับ
ออกไปตอนนี้พวกแฟนคลับคงไปกันหมดแล้วแหล่ะ”ผมเอ่ยถาม
“ไม่อยากให้ผมอยู่ที่นี่หรอ”ยูคยอมถามผมและทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
“เปล่าสักหน่อยครับ
ผมแค่คิดว่ารุ่นพี่คงจะอึดอัดที่อยู่ในห้องของผม”ผมตอบไปตามที่ตัวเองคิด
มือก็ไล่อ่านข่าวสารในมือถือไปด้วยไม่ได้หันไปมองหน้าของยูคยอมหรอก
“ไม่นี่
อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน ห้องนายน่ารักดี”ยูคยอมชมออกมาสายตาคมยังคงจ้องไปที่ร่างบางของแจ็คสัน
“...ครับ”ผมไม่รู้จะพูดอะไรก็ตอบออกไปแบบตัดบทสนทนา
“นายนี่ชอบผมจริงๆหรือเปล่า
ผมนั่งอยู่ข้างๆขนาดนี้แล้วจะไม่สนใจกันจริงๆหรอ”
“ผมจะเลิกชอบพี่แล้ว-3-”แจ็คสันพูดออกมาอย่างความรู้สึกอยากแกล้งอีกฝ่าย
“เฮ้
นายทำแบบนั้นไม่ได้นะ-0-”ยูคยอมท้วงออกมาก่อนจะตีหน้ายุ่งๆอย่างไม่พอใจ
“ไม่รู้สิน้า”แจ็คสันพูดแหย่อีกคนก่อนจะส่ายหัวดุ๊กดิ๊กไปมาตรงหน้าของยูคยอมอย่างกลั่นแกล้งอีกฝ่าย
“นายเคยไปงานแฟนไซน์ของผมหรือเปล่า”เขาถามแฟนคลับตัวเล็กข้างๆ
“ไม่เคยไปหรอกครับ
จะเอาเงินที่ไหนไปเปย์บั้มพี่ล่ะ
แต่เพื่อนของผมเคยไปนะไม่รู้ว่าไปได้ยังไงเหมือนกัน
พี่ต้องจำเพื่อนของผมไม่ได้แน่ๆแฟนคลับพี่เยอะจะตายไปนี่”
“จำได้สิ
ไหนลองบอกชื่อมาๆ”ยูคยอมท้วงออกมาทันที
เพราะปกติแล้วเขาค่อนข้างใส่ใจแฟนคลับเป็นพิเศษ
“เพื่อนผมชื่อจินยอง
ไงล่ะนึกไม่ออกล่ะสิ”แจ็คสันชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างจับผิด
ใช่เขานึกไม่ออกจริงๆก็ทำไงได้อะแฟนๆมากันเยอะมากๆเลยนี่
“ย่าห์
แต่ผมจำแจ็คสันได้นะ”ยูคยอมบอกอย่างเอาใจอีกฝ่ายและไม่ยอมแพ้
“เราพึ่งเจอกันวันนี้เองครับพี่อย่ามามั่วแบบนี้สิ”แจ็คสันแย้งออกมา
“อ่าแบบนี้ไม่ได้หรอ
ฮ่ะๆ”ยูคยอมหัวเราะออกมา ก็เขาเล่นไปตีรวนใส่อีกฝ่าย
“คุยกับพี่แล้วผมปวดหัวจริงๆเลย
เอ้อ แต่จะว่าไปพี่เซ็นต์อัลบั้มให้ผมหน่อย ผมซื้อทุกบั้มเลยนะแต่ยังไม่มีลายเซ็นต์เลย”แจ็คสันว่าแล้วไปรื้อปากกาเซ็นต์ชื่อกับกองอัลบั้มผลงานมากมายมหาศาลของยูคยอมออกมาให้อีกฝ่ายเซ็น
“โห
คราวหลังทยอยเอามาให้เซ็นนะมาทีเดียวแบบนี้เยอะเกินไปไหมเนี่ย”ยูคยอมบ่นออกมาเขาคว้าปากกามาแกะฝาออกก่อนจะเริ่มเซ็นต์ชื่อเป็นของขวัญให้แจ็คสัน
“ก็มาหาบ่อยๆดิพี่แล้วก็เอาอัลบั้มมาให้ผมด้วยจะได้ไม่ต้องซื้อโอเคไหม
ฮ่าๆ”
“โอเคเดี๋ยวส่งมาให้
ฝากให้เพื่อนด้วยแต่อย่าไปบอกนะว่าผมจำเขาไม่ได้ แฟนๆยิ่งขี้งอนกันอยู่
เหมือนแฟนคลับบางคนแถวเนี้ย”ยูคยอมแกล้งพูดยั่วอีกฝ่าย
“ย่าห์คิมยูคยอม! ผมจะเลิกเปย์พี่จริงๆเลยนะ ให้ตายสิทำไมพี่ชอบแกล้งผมเนี่ย”แจ็คสันบ่นๆอีกฝ่าย แต่ก็ยังใจจดใจจ่ออยู่กับลายเซ็นที่อีกคนกำลังเซ็นให้
“ปากไม่ตรงกับใจเลยจริงๆนะ”ยูคยอมยังคงไม่เลิกแกล้งแจ็คสัน แจ็คสันได้แต่เก็บอาการฮึดฮัดไว้ในใจคนเดียว
ยูคยอมไม่เห็นจะเหมือนในทีวีเลยสักนิด ตัวจริงน่ะขี้แกล้งคนอื่นไปทั่ว
ทุกคนอย่าไปชอบกันนะครับ ไม่ดีหรอก ดิสเครดิตซะเลย
“อะ
เสร็จแล้ว”แจ็คสันที่เห็นว่าเสร็จแล้วเขาก็เอาอัลบั้มทั้งหมดมากางเรียงไว้ก่อนจะถ่ายรูปอวดเพื่อนๆในแชทกลุ่มนั่งคุยกับเพื่อนๆไปได้สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังมีศิลปินใหญ่นั่งร่วมห้องอยู่อีกคน
ถามจริง นี่จะไม่กลับบ้านใช่ไหม?
“รุ่นพี่ครั...อะ
อ้าว หลับหรอ”เห้ยมาหลับในห้องของเขานี่นะ
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไงล่ะทีนี้
_______________________________________________________________________________
โปรดติดตามตอนต่อไป
คุยกันซักแป้บนึง
: สวัสดีแฟนนิยายของเจ้ เจอกันอีกครั้งในตอนที่สองเนาะ อาจจะดูมึนๆงงๆไปหน่อย
ให้อภัยชั้นทีเด็กๆ นิยายเรื่องนี้แต่งสดนะคะ ถ้าเกิดว่ามาอัพแปลว่าพึ่งแต่งเสร็จ
แต่ถ้ายังไม่อัพ ตอนนั้นยังแต่งไม่เสร็จนะ
เพราะงั้นขึ้นอยู่กับตัวเองว่าจะสามารถแต่งได้อ้ะเป่า อิอิ จุ๊บๆ
ความคิดเห็น