คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chapter seventeen ::: 100% :::
**มีดราม่าเล็กน้อยนะคะ ใครกินขนมอยู่วางก่อนแป้บนึงเดินไปหยิบทิชชู่มาซับน้ำตา ไม่เหมาะกับคนอ่อนไหวน้า ใครอ่านไม่ไหวก็ข้ามได้จ้าเพราะเป็นดราม่าคู่รอง**
**เราแอบรีไรท์เนื้อหาส่วนน้องแบมที่ยืนอยู่หน้าบ้านนิดนึง ลืมใส่คำบรรยาย เดี๋ยวคนอ่านจะงงว่าทำไมแบมพูดแบบนั้นกับเด็กผู้หญิงคนนั้น ก็คือน้องไม่ได้สนใจและน้องก็ไม่ได้คิดอะไรน่ะค่ะ อารมณ์เด็กผู้ชายแบบนี้แหล่ะ เชื่อเลยว่านี่เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของน้องแบมนะคะ**
Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี
วอเทอร์
ตอนที่ 17
เวลายามเช้า ห้องนอนทั้งห้องขณะนี้เงียบสงัด มองไปบนเตียงก็ปรากฏร่างของคนทั้งสองกำลังนอนกอดกันอยู่บนเตียงหลังนิ่ม ในวันที่พวกเขาไม่ต้องเร่งรีบ นอนกอดกันจนถึงเช้า ไม่ต้องรีบตื่นแต่งตัวเพื่อออกไปเรียนหรือออกไปทำงานที่ไหน
ในที่สุดคนบนเตียงก็ขยับตัวน้อยๆ รู้สึกสบายตัวเมื่อรับรู้ได้ว่ากำลังนอนหลับอยู่ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เป็นแจ็คสันนั่นเองที่ตื่นขึ้นมาก่อนยูคยอม คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมของแฟนหนุ่มตัวโต
ดวงตาคมปิดสนิทเปลือกตาสีเข้มยามถูกเครื่องสำอางประทินโฉมถูกลบล้างออกไปหมดแล้ว ยามได้มองไม่ว่าจะมุมไหนคนตรงหน้าก็ช่างดูดียิ่งนัก หน้าผากเนียนลามมาจนถึงสันจมูกโด่งที่กำลังสูดลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ยูคยอมยังคงหลับสนิทและไม่รู้สึกตัว
แจ็คสันเอื้อมมือไปปัดเส้นผมสีแดงเพลิงที่มันยุ่งเหยิงจนขึ้นมาปิดตาของร่างสูง ร่างเล็กไม่ได้ขยับอะไรไปมากกว่านั้น เขานอนมองร่างสูงไปเรื่อยๆ จวนสายตาเกือบจะปิดลงอีกครั้ง แต่ก็ต้องตื่นขึ้นเพราะว่าอีกคนขยับตัว
ยูคยอมขมุ่นคิ้วนิดๆ คนตัวโตกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับตัวให้ชินกับแสงแดดในยามเช้า หันมาก็พบกับใบหน้าน่ารักของแจ็คสัน คนตัวสูงระบายยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะเปลี่ยนขยับตัวตะแคงข้างมามองเด็กตัวเล็กอย่างเต็มตา
"ตื่นแล้วไม่เรียกนะ"เป็นเขาเองที่เอ่ยทักอีกฝ่ายออกไปก่อนในยามเช้านี้
"ตื่นยังไม่ถึงหนึ่งนาทีเลย"แจ็คสันบอกหัวกลมกดซุกอกอุ่นของยูคยอมอีกครั้งหนึ่ง ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของยูคยอมแว่วมา
"อ้อนแต่เช้า หึหึ"ยูคยอมหัวเราะออกมาเบาๆ เด็กขี้อ้อนตัวเล็กมุดเข้าซุกอกของเขาไม่เลิกจนยูคยอมต้องลุกขึ้นนั่งส่วนแจ็คสันก็ยังคงนอนหน้าแนบกับหมอนอยู่อย่างนั้น
"กอดหน่อย"แจ็คสันชูแขนซ้ายขึ้นข้างหนึ่งพร้อมกับพูดบอก ยูคยอมเอ็นดูในความน่ารักของเด็กตัวเล็กจึงยอมเขยิบตัวไปเป็นหมอนข้างให้เด็กน่ารักกอดเล่นอย่างสบายใจ พออนุญาตเด็กน้อยก็เด้งตัวขึ้นมาสวมกอดเขาทันที
"กอดพอยังตัวเล็ก"ยูคยอมถึงกับต้องเอ่ยปากถามขึ้นมา ไม่ได้ไม่ชอบที่โดนคนตัวเล็กกอดหรอก แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะกอดเขาแน่นจนเหมือนว่าจะหลับคาอกของเขาไปอีกรอบนึง ยูคยอมวางมือบนแผ่นหลังเล็กของแจ็คสันพร้อมเขย่าเบาๆ
"งื่อ ง่วง"แจ็คสันบ่นออกมาเสียงงัวเงีย ตื่นก่อนแต่แรก แต่ก็กลับง่วงงุนเสียอย่างนั้น
"ไปอาบน้ำปะ จะได้สดชื่น"ว่าแล้วยูคยอมก็ดันตัวแจ็คสันให้ยืนขึ้นแจ็คสันที่ขี้เกียจลุกก็ถึงกับเกาะคอยูคยอมเอาไว้แน่นจนร่างสูงต้องเดินหิ้วปีกเด็กขี้เซาตัวอวบมาด้วย
"ยืนดีๆก่อนเร็ว"ยูคยอมบอกแจ็คสันที่ยืนหันมาทางเขาเท้าเล็กๆเหยียบอยู่บนหลังเท้าของเขาส่วนแขนเล็กๆนั่นก็เอื้อมมาคล้องคอเขาไว้ ยูคยอมจัดการแกะแขนนิ่มออกจากคอเขาและจับตัวแจ็คสันหมุนหันไปส่องทางกระจก
"งื่อ"คนตัวเล็กตอบรับในลำคอ
"ตัวเล็กแปรงฟัน"ยูคยอมส่งแปรงสีฟันที่ถูกบีบยาสีฟันไว้เรียบร้อยให้กับแจ็คสัน คนตัวเล็กพยักหน้างึกงักรับมาก่อนจะเอายัดเข้าปากตัวเองทันที รสชาติแสบซ่าของยาสีฟันทำเอาแจ็คสันหายง่วงได้ไปเป็นปลิดทิ้ง คนตัวเล็กบ้วนปากอะไรเรียบร้อยแล้วก็จัดการล้างหน้าจนสะอาดแล้วใช้ผ้าขนหนูซับหน้าจนแห้ง ยูคยอมเดินออกไปจากห้องน้ำแล้วทิ้งให้แจ็คสันได้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายตัวเอง
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็เดินกลับไปหายูคยอมก็เจออีกคนยืนถือขวดซีรั่มบำรุงผิวอยู่ ยูคยอมที่เห็นแจ็คสันอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันอะไรเสร็จแล้วก็จับอีกคนให้เงยหน้าขึ้น ฝ่ามือหนาข้างหนึ่งเสยผมแจ็คสันขึ้นจนเห็นหน้าผากขาวเนียน ยูคยอมบีบซีรั่มลงไปบนใบหน้าห้าจุด แจ็คสันตาปี๋รับสัมผัสจากยูคยอมที่กำลังนวดหน้าให้เขาจนซีรั่มใสๆนั้นซึมลงไป
"อื้ออยูคยอม มือหนักจัง"แจ็คสันเบะปากแล้วบ่นออกมา
"โทษที"แจ็คสันไม่ได้เอ่ยรับอะไรต่อท้ายยูคยอม จนจัดการบำรุงผิวหน้าให้คนตัวเล็กเสร็จนั่นแหล่ะ ยูคยอมถึงได้ละไปอาบน้ำบ้าง
"ไปแต่งตัวดีๆ เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน"ว่าแล้วร่างสูงก็เดินเข้าห้องน้ำไป
แจ็คสันเดินไปเลือกเสื้อผ้าที่พับเก็บไว้ในกระเป๋าขึ้นมาใส่ กางเกงขาสั้นเลยเข่าลายพรางถูกหยิบยกขึ้นมาใส่ในวันนี้ เสื้อที่สวมก็เป็นเสื้อแขนยาวผ้าฝ้ายเนื้อดีสีเรียบๆอย่างสีดำ
แต่งตัวเสร็จแล้วแจ็คสันก็นั่งดูทีวีในห้องรอยูคยอมที่กำลังอาบน้ำ มือเล็กๆลูบท้องตัวเองเมื่อจู่ๆก็เกิดอาการสั่นๆประท้วงว่าร่างกายของเขาหิวแล้วและต้องการอาหาร ร่างเล็กทำเป็นไม่สนใจก่อนจะนั่งดูการ์ตูนช่องเคเบิลต่ออย่างสบายอารมณ์
ยูคยอมเดินออกมาจากห้องน้ำพบคนตัวเล็กที่นอนดูทีวีอยู่อย่างสบายใจก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เขารีบเดินไปแต่งตัวให้รวดเร็วที่สุดและจัดการกับตัวเองเรียบร้อย
"ทาลิปให้มั่งดิ"แจ็คสันที่หันไปมองเห็นยูคยอมกำลังยืนทาลิปบาล์มอยู่เลยเอ่ยร้องขอบ้าง ยูคยอมพยักหน้าก่อนจะหันมาจับหน้าเขาเชิดขึ้นและกดทาลิปที่ริมฝีปากเบาๆ
"เดี๋ยวก่อนแจ็คสัน"เมื่อทาเสร็จแจ็คสันก็เดินไปคว้าหมวกแก็ปมาใส่ไว้และกำลังจะเดินไปใส่รองเท้า ยูคยอมที่สังเกตเจออะไรบางอย่างที่ไม่เป็นที่น่าพอใจจึงเรียกเอ่ยทักขึ้นมา แจ็คสันสะดุ้งนิดๆด่อนจะหันไปถามว่ามีอะไร
"กางเกงสั้นไปไหม?"ซวยแล้วแจ็คสัน อยากจะกัดลิ้นนอนดิ้นตายตรงนี้ เขารีบดึงกางเกงให้ลงมาจนถึงเข่า แต่ก็ติดสะโพกอะจะให้ดึงยังไงมันก็ยังคงดูสั้นอยู่ดี
"สั้นหรอ ไม่นา"แจ็คสันรีบยัดเท้าเล็กๆลงในรองเท้าคอนเวิร์สไฮทันที
"มานี่ดิ้"เฮือกกก เอาแล้วแจ็คสัน ยูคยอมกวักมือเรียกเขา ร่างสูงใช้มือเลิกเสื้อแขนยาวของเขาขึ้นจนเห็นพุง เขาพยายามที่จะปิดเสื้อลง
"ฮื่ออ มีอะไรเหรอ"แจ็คสันที่กระดึ้บมาหายูคยอมแล้วโดนดึงเสื้อไว้เอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
"กางเกงสั้น เสื้อยังยาวอีก แบบนี้ควรโดนตีไหม"ยูคยอมถามก่อนจะจับแจ็คสันให้ขยับหันหลัง มือหนายกขึ้นทำท่าคล้ายจะตีก้นแจ็คสัน
"เห้ยไม่เอา"แจ็คสันร้องประท้วงทันทีที่ได้ยินคำว่าตีออกจากปากยูคยอม
"งั้นก็ไปเปลี่ยน"ยูคยอมออกคำสั่งทันทีที่เด็กดื้อบิดตัวจะหนีเขา
"ใส่ตัวนี้ไม่ได้หรอ"แจ็คสันถามเสียงอ่อย ก็เขาอยากใส่ขาสั้นบ้างนี่ ใส่เดฟมาแทบทั้งชีวิตแล้ว อึดอัดจะตาย มาเที่ยวก็อยากแต่งตัวสบายๆบ้าง
"ได้"ว่าจบยูคยอมก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเอง ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ กางเกงสแลคขาสั้นสีดำ อา ให้ตายเถอะนี่ยูคยอมกำลังงอนแล้วประชดแจ็คสันงั้นหรอ แต่ช่างเถอะจะใส่อะไรแจ็คสันก็ชอบเพราะยูคยอมหล่อ(?)
"...."แจ็คสันได้แต่นั่งมองนิ่งๆโดยๆม่ได้เอ่ยอะไรออกไป ร่างเล็กเม้มปากแน่นเผลอกัดปากตัวเอง
"...อย่ากัด"เสียงยูคยอมดังขึ้นมาพร้อมกับนิ้วโป้งที่แตะริมฝีปากเขาเบาๆ เขาคลายอาการกัดปากออก แต่ก็ไม่ยอมสบตากับยูคยอม ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไง ได้แต่โทษตัวเองในใจว่าทำไมถึงได้ดื้อกับอีกฝ่ายแบบนี้ แต่คิดดูอีกทีการที่เขาขาสั้นก็ไม่ผิดอะไรสักหน่อย เห้อ
"ไม่โกรธได้ไหม จะไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้แหล่ะ"แจ็คสันใช้มือเล็กๆจับเสื้อของยูคยอมเอาไว้ คนตัวเล็กก้มหน้าก้มตาไม่มองหน้ายูคยอม
"เห้อ เอาเถอะไม่เป็นไร จะใส่ก็ได้ พี่แค่โมโหตัวเองที่ขี้หึงเรามากเกินไป"ยูคจับมือของแจ็คสันมากุมไว้แล้วเอ่ยออกมา แจ็คสันบีบมือยูคยอมกลับแล้วเอ่ยตอบ
"แจ็คขอโทษนะที่ดื้อกับพี่"แจ็คสันบอกอย่างรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร ช่างมันไม่ต้องคิดมากแล้ว ไม่หิวหรือไง ไปกินข้าวกันดีกว่าปะ"ยูคยอมเปลี่ยนเรื่องก่อนจะเดินไปใส่รองเท้า เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกเขาเลยหันมาพูดกับแจ็คสัน
"แจ็คสันหยิบกระเป๋าเป้ไปด้วย จะพาไปเล่นน้ำเดี๋ยวไม่มีเสื้อเปลี่ยน"ยูคยอมบอก แจ็คสันที่ดูเซ็งๆก็สีหน้าสดใสขึ้นมาทันที ร่างเล็กวิ่งดุ๊กดิ๊กไปหยิบกระเป๋าเป้ที่มี่ผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าชุดใหม่ในห้องก่อนจะเดินออกมา
"หยิบมาเรียบร้อยแล้ว"ยูคยอมพยักหน้ารับเฉยๆก่อนจะเป็นคนที่คว้ากระเป๋าเป้มาสะพายไว้แล้วเดินกอดคอแจ็คสันออกไปทานข้าว
ยูคยอมเดินกอดคอคุยกันกระหนุงกระหนิงกับแจ็คสันไปตลอดทางที่ไปทานข้าว แจ็คสันตัวแสบก็เล่นซนเสียจนยูคยอมเวียนหัว ตอนแรกที่เดินกอดคอก็เปลี่ยนมาเป็นลากอีกคนให้เดินตาม แสนซนเหลือเกินพอรู้ว่าจะพาไปเล่นน้ำก็กระดี๋กระด๋าเชียวนะ เด็กน้อยจริงๆ
"เดี๋ยวแจ็คไปตักให้พี่รอนี่แหล่ะ"แจ็คสันบอกยูคยอม คนตัวสูงก็พยักหน้าตกลง กระเป๋าเป้ที่หิ้วมาด้วยก็ถูกวางไว้บนเก้าอี้ข้างตัว อีกฝั่งที่ว่างอยู่ก็เป็นที่นั่งของแจ็คสัน
แจ็คสันเดินดูอาหารเช้าที่รีสอร์ทจัดไว้ให้ มันเป็นอาหารสไตล์อเมริกันเบรกฟาสต์ เขาตักไข่ดาวไส้กรอกแฮมและเบคอนไปให้ยูคยอม พร้อมกับขนมปังปิ้งอีกหนึ่งแผ่น พอดูแยมที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ก็เกิดลังเลขึ้นมา ยูคยอมคงจะกินแยมมั้ง หรือจะกินนมข้นหวานกันนะ หยิบไปสองแบบเลยแล้วกัน ถ้าอีกคนไม่กินเขาจะกินเอง
เมื่อได้อาหารสำหรับยูคยอมครบคนตัวเล็กก็เดินกลับไปที่โต๊ะพบว่ายูคยอมกำลังนั่งรออยู่ พอเห็นแจ็คเดินถือถาดอาหารเข้ามาเขาก็ลุกขึ้นไปช่วยอีกคนถือ พร้อมกับบอกว่าเดี๋ยวจะไปเอาน้ำมาให้
ตอนนี้เป็นตาของยูคยอมที่บริการแจ็คสันบ้างแล้ว เขาคว้าแก้วน้ำใบย่อมมาสองใบก่อนจะใช้ใบหนึ่งกดนมสตรอว์เบอร์รีมาให้แจ็คสันที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะ ส่วนอีกใบก็กดใส่น้ำเปล่า หยิบเครื่องดื่มทั้งของตัวเองและของแฟนตัวเล็กเสร็จเรียบร้อยก็ยกกลับไปที่โต๊ะ เห็นแจ็คสันกำลังนั่งเอนหลังและใช้สองมือถือและกัดขนมปังปิ้งเคี้ยวแก้มตุ่ย ช่างน่ารักน่าเอ็นดู
"กินเก่ง"ยูคยอมทักก่อนจะทยอยลำเลียงแก้วเครื่องดื่มวางบนโต๊ะและวางถาดเก็บไว้ซ้อนทับถาดอาหารที่แจ็คสันยกมาตอนแรก
"ไม่สักหน่อย กินนิดเดียวเอง จริงๆ"แจ็คสันตอบกลับมาแต่มือเล็กๆที่กำลังตักไก่อบซอสกินคำโตนั่นทำให้ยูคยอมแสร้งส่ายหัวและทำสีหน้าเอือมระอาออกมา
"ส่ายหน้าไมมม พี่อะ !"แจ็คขมวดคิ้วทำหน้างอและร้องงอแงเป็นเด็กๆ แจ็คสันไม่ได้กินเก่งนะ กินนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ ทำไมอะ ไม่เชื่อหรอ
"ก็ดูกินสิ น้อยมากเลยครับ แบ่งแก้มกินด้วยหรอเรา"ยูคยอมว่าออกมา แล้วใช้มือปัดเศษขนมปังให้แจ็คสัน(กินเลอะแทบทุกอย่างที่ใส่ปากนั่นแหล่ะ) คนตัวเล็กก็พยักหน้าเป็นการขอบคุณให้เท่านั้น คือมันเหมือนกับว่าเขาเริ่มจะชินกับการที่มียูคยอมคอยเช็ดปากเช็ดจมูกให้แล้ว
"แล้วไมล่ะ พอดีแฟนมีเงินอะครับกินเท่าไหร่ก็ได้"แจ็คสันตอบไปอย่างกวนๆ จนยูคยอมหัวเราะออกมาอย่างชัดเจนไม่ใช่ทำเพียงแค่ขำเสียงหึหึในลำคออย่างที่เคยเป็น
"จริงหรอครับ มีแฟนแล้วหรอ แฟนชื่ออะไรหรอครับ"ยูคยอมเองก็รับมุขแกล้งถามกลับ
"ชื่อ....ชื่อ..."แจ็คสันเรียกเสียงยาวทำหน้านึกๆแล้วก็ขมวดคิ้วเหมือนนึกไม่ออกว่าแฟนชื่ออะไรน้า จนยูคยอมหมั่นไส้บีบแก้มไปแรงๆหนึ่งที
"โอ๊ย นึกออกแล้วครับชื่อคิมยูคยอมสุดหล่ออ"แจ็คสันร้องโอดโอยพร้อมกับรีบตอบชื่อออกมา ก่อนจะยิ้มหวานขยิบตาให้ข้างหนึ่งอย่างภาคภูมิใจในชื่อแฟนตัวเอง
"น่ารักมาก"ยูคยอมพูดออกมาอย่างพอใจ เขานั่งทานข้าวเช้ากับแจ็คสัน ทานไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบอะไร นั่งคุยกันไปเรื่อยๆถามเรื่องทั่วไปนู่นนั่นนี่ ผลัดกันเล่าเรื่อง เรื่องที่ทำงานเขาบ้างเรื่องที่โรงเรียนของแจ็คสันบ้าง ระหว่างที่ไม่เจอกันคนตัวเล็กทำอะไรอยู่แจ็คสันก็เล่ามันออกมาทั้งหมดไม่มีกั๊ก
หลังจากที่ใช้เวลาไปกับการทานข้าวเช้าแสนเอื่อยเฉื่อยเสร็จแล้ว แจ็คสันกับยูคยอมก็ไปเดินเล่นกัน มันเป็นทางที่ต้องเดินผ่านเพื่อที่จะเชื่อมไปทางน้ำตกสีใสที่ยูคยอมตั้งใจจะพาเด็กน้อยของเขาไปลงเล่น ยามเช้าอากาศยังคงดีอยู่ แต่ในตอนนี้ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาสายแล้วอากาศเริ่มอุณหภูมิสูงขึ้นก็มีเหงื่อไหลกันบ้างล่ะ ดีที่เขาเลือกที่จะใส่กางเกงขาสั้นสบายตัว
มือถือแจ็คสันมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นคนตัวเล็กที่กำลังคุยจ้อกับแฟนตัวโตต้องชะงักไปและหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องบางขึ้นมาดูก่อนจะพบว่าเป็นมาร์คที่โทรมา
(นายอยู่ไหน?)เสียงมาร์คดังลอดจากปลายสาย
"ภูเขา กับยูคยอม"แจ็คสันตอบออกไป
(อา ให้ตายเถอะ)มาร์คครางอย่างหมดหวัง จนแจ็คสันเกิดความสงสัยและต้องถามว่าอีกคนเป็นอะไรมีเรื่องกลุ้มใจอะไรหรือเปล่า
"อยากจะเล่าอะไรให้เราฟังหรือเปล่า"แจ็คสันถามหยั่งเชิงออกไปหูเล็กๆพยายามฟังเสียงที่ตอบกลับมาปลายสาย
(...ทะเลาะกับแบมแบมมาอะ ฮึก..)เสียงสะอื้นที่ฟังแล้วช่างน่าสงสารดังออกมาจากปลายสาย ใจของแจ็คสันชาขึ้นมาทันทีเลย มาร์คที่แสนเข้มแข็งแล้วร้องไห้ยากกับทุกเรื่องนั้นถึงกับเสียน้ำตาให้เรื่องของแบมแบม คิดว่าสภาพทั้งแบมและมาร์คคงระหองระแหงกันทั้งคู่ คนตัวเล็กรีบตอบกลับปลายสายทันที
"มาร์คใจเย็นๆก่อน ไม่ร้องนะไม่ร้อง"แจ็คสันพูดตอบ ยูคยอมที่สังเกตเหตุการณ์อยู่เงียบๆก็จับมือแจ็คสันและบีบมันเบาๆ
( ฮึก แย่ มันรู้สึกแย่ไปหมดเลยแจ็คสัน ฮือ เจ็บ อึก)มาร์คเริ่มที่จะพูดเล่าไม่รู้เรื่อง ราวกับอีกฝ่ายเสียสติไปแล้ว แจ็คทำได้เพียงแค่รับฟังในตอนนี้ เขาเป็นห่วงมาร์คอยากจะอยู่ปลอบใจเพื่อนตัวเล็กแต่ก็คงเป็นเพียงแค่ความคิด เขากลับไปหามาร์คตอนนี้ไม่ได้
"ไม่เป็นไรนะมาร์ค ไม่ร้องสิ มาร์คคนเก่งของแจ็คอยู่ไหนน้า ไม่ร้องๆ"แจ็คสันพูดเอ่ยปลอบใจเพื่อนรักของตัวเอง แม้คำพูดปลอบใจจะดูเด็กน้อยและไม่อาจทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่มันก็ทำให้มาร์ครู้ว่าแจ็คสันยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อเขาเสมอ
(ฉัน...ต้องทำยังไงหรอแจ็คสันมันถึงดี)มาร์คพูดเสียงสั่น เสียงแหลมๆของมาร์คยามนี้ขึ้นจมูก ลมหายใจที่พ่นก็ฟังดูติดขัด เชื่อว่ามาร์คคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้ว แจ็คสันไม่รู้ว่าระหว่างทั้งคู่มันเกิดอะไรขึ้น แต่เขาต้องเคลียร์กับแบมแบมให้รู้เรื่องให้ได้ กล้าดียังไงที่มาทำให้มาร์คเสียใจแบบนี้ แจ็คสันรู้สึกโกรธแบมแบมไม่น้อยเลยในเวลานี้
.
.
.
มาร์คนอนขดตัวเป็นก้อนกลมอยู่บนเตียง ไหล่บางสั่นสะท้านกายเล็กสั่นไหว มาร์คร้องไห้ราวกับจะขาดใจ เรี่ยวแรงที่มีอยู่ก็หดหาย รู้สึกไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น แค่นึกถึงสิ่งที่แบมแบมพูดตอกหน้าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ มาร์คก็พาลจะร้องไห้เสียอีกครา
"...ฮึก อึก ฮือ ฮึก"
'ผมกับเธอไม่ได้มีอะไรกัน ทำไมไม่เชื่อวะ รู้ไหมทำแบบนี้มันน่ารำคาญ !'
เสียงตะคอกของแบมแบมดังก้องวนอยู่ในหัวใจของมาร์คซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ แม้มาร์คจะโตแล้วแต่หัวใจมาร์คก็เป็นสิ่งที่บอบบางเหมือนกันนะ ตอนนี้ความรู้สึกมาร์คมันชาไปหมดแล้ว ความรู้สึกที่ดีๆต่อกันที่เขายอมมอบให้เด็กข้างบ้านที่ชื่อแบมแบม ตอนนี้มันแทบจะหายไปทั้งหมดแล้ว แต่เขาก็คิดถึง ตอนที่รักกันอยู่ดี กว่าจะผ่านเรื่องราวต่างๆมามันไม่ง่ายเลย
'ไว้มาเที่ยวด้วยกันอีกนะ'
มาร์คมีความสุขมาก ยามที่ได้ไปเดทกับแบมแบม
'ผมชอบอันนี้อะ พี่ลองกินดูสิ'
มาร์คยอมกิน ทั้งๆที่ในใจอยากจะตะโกนว่าเขาไม่ได้ชอบกินมัน
'ผมซื้อมาให้ คิดว่าเล่มนี้พี่น่าจะชอบ'
มาร์คยังคงแสดงอาการดีใจที่ได้มัน ถึงแม้ว่าหนังสือที่แบมให้มาเขาจะซื้อมาอ่านแล้ว
ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะว่ามาร์ครักแบม ใช่มาร์ครักแบม รักมากๆเลยด้วย ที่ทะเลาะกันก็เพราะว่ารัก เพราะว่าหวง แต่ดูเหมือนว่า...
แบมแบมจะไม่เข้าใจเขาเอาเสียเลย
มาร์คอ่อนแอมากจริงๆ เขาไม่ไหวแล้ว ร่างกายมันชาไปหมด มาร์คยกมือข้างซ้ายของเขาที่นิ้วนางมันถูกสวมด้วยแหวนเงินเรียบๆ แบมแบมเป็นคนใส่ให้เขาในวันที่ครบรอบของเราทั้งคู่ มาร์คดีใจ วินาทีนั้นมาร์คใจเต้นแรงและดีใจ มาร์คส่งยิ้มกว้างให้กับแบมแบม แม้มูลค่าของมันจะไม่สูงแต่ค่าทางจิตใจมันมีมาก มองดูแหวนในมือแล้วก็นึกขำ ดูสภาพของเขากับแบมแบมตอนนี้สิ
"...เรา ฮึก เราไม่นี่ ไม่ได้อยาก ให้เธอรำคาญเรา"มาร์คใช้สองมือกอดตัวเองเอาไว้ เขาร้องไห้อย่างหนักจนเผลอหลับไป
รู้สึกตัวตื่นอีกที ก็เพราะว่าร่างกายฟื้นสภาพได้นอนเต็มที่แล้ว เหลือบมองนาฬิกาเรือนสวยที่ฝาผนังเขาได้แต่ถอนหายใจ เป็นเวลาสี่โมงเย็น แม่ของเขาพึ่งเลิกงานที่บริษัท แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างเขากับแบมแบม แต่ดีแล้ว แม่จะได้ไม่เป็นห่วง เขาโตแล้วต้องจัดการกับปัญหาเอง แต่ตอนนี้ให้ไปเจอหน้าแบมแบมตรงๆเขาคงทำไม่ไหว แต่ใจมันก็ดันคิดถึงและอยากเจอเหลือเกิน อยากให้แบมมาคอยปลอบโยนเขาในตอนนี้
ท้องเริ่มประท้วงขออาหารแต่มาร์คไม่มีอารมณ์จะกินอะไรทั้งนั้น เขาคว้าตุ๊กตาตัวโตมากอด ในหัวจินตนาการว่าแบมแบมกำลังกอดปลอบใจเขาอยู่ ทำเหมือนว่าเรายังคงรักกัน
รักงั้นเหรอ อา ให้ตายสิ ความรักของแบมแบมเป็นรูปแบบไหนนะ ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผมนัก เจ็บที่อกข้างซ้ายชะมัดเลย ไม่อยากมีความรักแล้ว เกลียด ทุกๆอย่างที่เป็นในตอนนี้ มาร์คกำลังหมดศรัทธาในความรัก
เสียงรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นหน้าบ้าน ไม่ใช่บ้านเขาแต่เป็นบ้านของแบมแบม มันเป็นความหวังของมาร์ค เขาจำได้ดีว่านั่นคือเสียงรถของแบมแบม มาร์ครีบวิ่งลงไปที่ด้านล่างของบ้าน อย่างน้อยได้เห็นหน้าแบมแบมสักหน่อยก็ยังดี แต่เขาจะไปแบบแอบๆเพราะไม่อยากให้แบมแบมเจอเขา น้องอาจจะไม่อยากเจอก็ได้ในตอนนี้
"..แบมเมื่อไหร่นายจะเลิกกับพี่เขา"เสียงใสๆของผู้หญิงถามขึ้น มาร์คที่ยิ้มกว้างวิ่งลงมาอย่างมีกำลังใจก็ชะงักตัวแข็งทื่อ ดวงตากลมสั่นระริก มือเล็กๆกำลังอุดหูของตัวเอง กลัว มาร์คกลัวคำตอบของแบมแบม
"ก็ กำลังคิดอยู่ แต่ไม่รู้จะบอกยังไง"แบมแบมตอบหญิงสาวออกไปเธอเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนของเขา รู้จักกันเพราะว่าเธอเข้ามาทักทาย เธอเข้ามาพูดคุยกับเขาในช่วงเวลาที่แบมแบมอ่อนแอจากเรื่องของมาร์ค เราทั้งคู่ทะเลาะกันมาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่แบมแบมเลือกที่จะเพิกเฉยมันออกไป พอถูกถามโดยคำถามแบบนี้เด็กหนุ่มก็เลือกที่จะตอบปัดๆไปตอบแบบไม่ได้ทันคิดอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครที่เขารัก กำลังได้ยินคำพูดแสนร้ายกาจนั้นอยู่
ฮึก พระเจ้า บอกมาร์คทีว่ามันไม่จริง นี่มันชัดเจนเต็มๆหูสองข้างของเขาเลยนะ แบมแบมไม่
แบมแบมไม่รักเขาอีกต่อไปแล้ว
ร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นปูนที่หน้าบ้านของตัวเอง เขาได้ยินทุกอย่างชัดเจนเต็มสองหู ตอนนี้คำว่ารักที่เขาได้ฟังอยู่ทุกวันมันช่างเลือนรางเหลือเกิน ให้ทำยังไงแบมแบมถึงจะรักกัน หรือว่าเขาต้องปล่อยมือจากแบมแบมไปจริงๆ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ใจของเขาก็เจ็บ เจ็บมากๆเลยด้วย มาร์คไม่สมควรได้รับความรักจากใครงั้นหรอทำไมพระเจ้าถึงใจร้ายกับเขานัก แต่นี้ก็เจ็บมากพอแล้ว พอกันทีได้โปรดเถอะนะ มาร์คเจ็บ จนทนไม่ไหวแล้ว...
달력 안에 있는
(เรื่องราวในปฏิทิน)
오래 전에 약속했던
(ที่เราเคยวาดมันไว้ สัญญากันเอาไว้)
몇 월의 며칠
(ถึงมันจะผ่านมานานแล้ว)
너에겐 다 잊혀져 있었다면
(แต่ถ้าเธอกลับลืมเรื่องราวทั้งหมดไปแบบนี้)
내가 지워야지 뭐
(บางทีฉันก็น่าจะลืมๆมันไปได้เหมือนกัน)
.
.
.
โรงพยาบาล
สถานที่ที่ทุกคนไม่อยากเข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้ แต่บางที มันก็ไม่มีทางเลือก มาร์คนอนนิ่งอยู่บนเตียง ที่นอนนิ่งเพราะเขาไม่รู้สึกตัว โดรินนั่งเก้าอี้ข้างๆเตียงคนป่วย หลังจากที่เธอกลับมาจากที่ทำงานและถึงบ้านนั้น เธอก็เจอกับร่างของมาร์คที่นอนฟุบอยู่ที่พื้นหน้าบ้าน ใจของเธอตกลงไปที่ตาตุ่มทันที เธอเกือบจะทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาร์คนอนแน่นิ่งแบบนี้อยู่บนพื้นมานานแค่ไหนแล้ว
ภาพลูกชายหัวแก้วหัวหวานของเธอเริ่มมองไม่ชัดเนื่องจากน้ำใสๆที่ไหลมาบดบังม่านตาเอาไว้ แต่ก็คงเป็นโชคดีของเธอที่เธอยังพอมีสติอยู่บ้าง มือเรียวรีบคว้าโทรศัพท์มือถือและโทรตามรถพยาบาลทันทีที่ได้สติ มาร์คถึงมือของหมอแล้วในที่สุด แต่ตอนที่แพทย์เรียกพบ คำบอกกล่าวของนายแพทย์ไม่สามารถทำให้ใจที่เจ็บปวดของโดรินดีขึ้นมาได้เลย เพราะว่าอาการของมาร์คไม่สู้ดีนัก
นึกโทษตัวเองอยู่ในใจ หรือว่าเขาจะปล่อยปละละเลยลูกชายมากเกินไปเลยส่งผลให้มีชะตากรรมเช่นนี้ หลายวันที่ผ่านมาก็สังเกตอยู่ว่ามาร์คดูไม่ปกติ ทุกทีที่ได้เจอหน้าลูกชายของเขามักจะยิ้มร่าเริงและเข้ามาอ้อนเสมอ แต่ครั้งนี้มันดูแปลกไป มาร์คไม่ยิ้มให้เขาเห็นมาสักพักหนึ่งแล้ว โดรินคิดไม่ตกจริงๆว่ามาร์คกำลังมีปัญหาอะไรกับใคร ตอนนี้เขาร้อนใจจนแทบบ้า มาร์คหลับไปตั้งแต่ตอนนั้น จนในตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น
‘อาการของลูกชายของคุณค่อนข้างน่าเป็นห่วงนะครับ จากที่หมอตรวจดูแล้วการที่เขาหมดสติไปเกิดจากสภาวะความเครียดและความกดดัน คุณได้สังเกตลูกชายของคุณบ้างหรือเปล่าครับ เขาดูมีอะไรที่ไม่ได้บอกคุณไหมหรือดูไม่เหมือนเดิมคุณต้องช่วยประคับประคอง ต้องคอยดูแลเขาให้ดี แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งคือ เขาเป็นโรคขาดสารอาหาร มันส่งผลต่อเนื่องมาจากสภาวะความเครียด ลูกชายของคุณอาจจะเบื่ออาหาร เก็บตัวและมีอาการคล้ายๆโรคซึมเศร้า คนที่มีความเครียดมักจะไม่ค่อยอยากรับประทานอาหาร ทีนี้พอต่อมไทรอยด์ถูกความเครียดไปกระตุ้นจะส่งผลให้ต่อมไทรอยด์สลายสารอาหารมากกว่าปกติและไม่มีอาหารมาทดแทนจึงทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารพ่วงด้วย ให้เขานอนพักคอยตรวจอาการไปสักระยะหนึ่งก่อนแล้วกันนะครับ ระหว่างนี้หมอจะคอยดูแลจ่ายยาและอาหารที่เหมาะสมกับคนไข้ให้ ขอให้คุณแม่เข้มแข็งและช่วยดูแลลูกชายด้วยนะครับ เดี๋ยวหมอขอตัวก่อน’
หลังจากที่ได้ฟังหัวใจของคนที่เป็นแม่ก็แทบสลาย โดรินบอกขอบคุณนายแพทย์ที่ช่วยรักษาลูกชายของเธอก่อนจะออกมาจากห้องด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ไม่ต่างกัน ช่วงนี้เขาไม่เห็นว่ามาร์คจะมีปัญหาอะไรกับใคร จะเห็นก็แต่ก่อนหน้านี้ที่มีแบมแบมคอยอยู่เป็นเพื่อนมาร์ค
จริงสิ ถ้าเขาโทรไปถามเรื่องมาร์คกับแบมแบมน่าจะพอรู้อะไรบ้างล่ะ !
ตู๊ดดด ตู๊ดดด ตู๊ดดด...ติ๊ด!
(ครับ)
“น้องแบมลูก”โดรินเอ่ยออกไป
(ม๊ามีอะไรหรือเปล่าครับ)
“ม๊ามีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย ตอนนี้หนูสะดวกคุยไหม”เธอถามเพื่อนลูกชายออกไป
(ก็.. ได้ครับ เรื่องอะไร)แบมแบมถามกลับน้ำเสียงปกติ
“ช่วงนี้พี่มาร์คเขามีปัญหาอะไรกับใครหรือเปล่าคะ”โดรินถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ ในหัวคิดไม่ตกเรื่องลูกชายของเธอ
(ทำไมหรอครับ)
“มาร์คเขา เข้าโรงพยาบาลน่ะจ่ะ แม่ ฮึก แม่ไม่รู้เลยว่าเขาเจอกับอะไรมาทำไมถึงมีสภาพแบบนี้ได้ น้องแบมพอจะรู้ไหมลูก”โดรินสะอึกสะอื้นทั้งที่ยังไม่ทันพูดจบดี แบมแบมที่เป็นคนปลายสายเองพอได้ยินแบบนั้นก็ช็อคไปเหมือนกัน คนตัวสูงรีบเอ่ยถามทันที
(โรงพยาบาลอะไรครับม๊า ผมจะรีบไป)
ตึก ตึก ตึก ตึก !
แบมแบมวิ่งเข้ามาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ได้แต่ภาวนาให้มาร์คไม่เป็นอะไรมาก เขาพลาดเอง เขาผิดเองทุกๆอย่าง อยากจะเอ่ยขอโทษกับมาร์ค กับคุณป้า แต่มาทำตอนนี้มันก็ดุเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว แบมแบมคนโง่เอ้ย นายทำอะไรลงไปวะ ทำลายมาร์คแบบนี้ได้ยังไง
แบมแบมมาถึงหน้าลิฟต์แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามันช่างช้าอย่างนี้ แบมแบมเปลี่ยนทิศทางจากที่ยืนรอลิฟต์ร่างสูงก็เปลี่ยนไปวิ่งขึ้นบันไดแทนและเมื่อมาถึงชั้นที่มาร์คพักอยู่ แบมแบมวิ่งไปตามโถงทางเดินหาห้องของมาร์คและเมื่อเขาเจอ แบมแบมรีบผลักประตูเข้าไปก่อนจะพบร่างของมาร์คที่นอนให้น้ำเกลือนิ่งสนิทอยู่บนเตียงใบหน้าหวานที่เคยส่งยิ้มให้เขาบัดนี้ซีดเซียวราวกับคนไร้เลือด แบมแบมรู้สึกหน้าชา เจ็บปวดยิ่งกว่าโดนมีดแทง แต่ถ้าเลือกได้เขาก็อยากโดนมีดแทงมากกว่าที่ต้องมาเจอมาร์คในสภาพแบบนี้ แบมแบมเดินไปหาแม่ของมาร์คที่นั่งก้มหน้าร้องไห้เงียบๆอยู่ที่โซฟา ร่างสูงทำอะไรไม่ถูก เขาเอื้อมมือไปกุมมือแม่ของมาร์คเอาไว้เบาๆ
“ม๊าครับ ผมขอโทษ ความผิดของผมเอง ผมขอโทษครับ”แบมแบมคุกเข่าลงตรงหน้าโดรินพร้อมเอ่ยขอโทษมันซ้ำๆ ใบหน้าใสของชายหนุ่มเปื้อนไปด้วยรอยน้ำตา เขาไม่สามารถเข็มแข็งได้อีกแล้ว การกระทำจากเด็กโง่ๆคนหนึ่งอย่างเขาส่งผลต่อใครมากมาย ทำไมทำอะไรไม่คิดแบบนี้ล่ะแบมแบม นายมันแย่ที่สุดในโลกใบนี้เลย
“ไปคุยกับม๊าข้างนอกนะ”แม่ของมาร์คยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วเปิดประตูเดินออกไปยืนรอแบมแบมที่ด้านหน้า เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมาร์คลูกชายของเขา ทำไมแบมแบมถึงได้พร่ำบอกขอโทษเขาซ้ำๆ ทั้งๆที่เขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าใช่แบมแบมที่เป็นคนผิด
“ม๊าครับ”แบมแบมเดินตามออกมาเอ่ยเรียกโดริน
“ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับมาร์คหรอ บอกแม่ได้ไหม”โดรินเปลี่ยนสรรพนามที่คุ้นเคยของแบมและมาร์ค ในตอนนี้เขาไม่ไว้ใจแบมแบมอีกต่อไปแล้ว ในใจของเธอมั่นใจไปครึ่งหนึ่งแล้วว่าแบมแบมมีส่วนเกี่ยวข้องเต็มๆ
“...คือผม เป็นผมเองที่ทะเลาะกับพี่มาร์คครับ เรามีปากเสียงกันนิดหน่อย แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะเป็นแบบนี้”
“ทะเลาะเรื่องอะไรกัน”โดรินถามตรงประเด็นก่อนที่เธอจะทนไม่ไหวอีกต่อไป
“คือผมยังไม่เคยได้บอกแม่ อันที่จริงผมกับพี่มาร์คเราคบกันมาได้สักพักแล้วครับ”
“อันนั้นแม่รู้”พอแม่มาร์คพูดจบแบมแบมชะงักไปเล็กน้อย แม่มาร์คคงสังเกตเห็นมานานแล้วสินะ เป็นเขาเองที่ไม่ยอมเปิดเผยออกมา
“เราทำอะไรมาร์คหรือเปล่า”โดรินถามคำถามที่เขากลัวคำตอบที่สุดออกไป เธอนิ่งมากจนแบมแบมไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย เด็กหนุ่มมีแต่ความรู้สึกผิดที่กัดกินไปทั่วทั้งหัวใจในตอนนี้
“ผม เปล่าครับไม่มีเรื่องแบบนั้น แต่ผม ตะคอกใส่พี่เขา เราพูดกันไม่ค่อยเข้าใจ”แบมแบมก้มหน้าลงคอตก เด็กน้อยวัยสิบแปดที่ไม่มีความยั้งคิดในตอนที่ทำอะไรลงไปได้แต่เศร้า ภาพในหัวของเขายังคงเป็นภาพของมาร์คที่สะท้อนไปมาตีกันจนยุ่งเหยิง เขาไม่น่าทำแบบนั้นลงไปเลยจริงๆ มาร์คเป็นสิ่งที่แสนล้ำค่าและเปราะบางมาก แต่เขาก็ยังทำ แบมแบมนี่มันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
“แม่ไม่คิดเลยว่าแบมจะใจร้ายกับลูกชายแม่แบบนี้”แม่ของมาร์คตัดพ้อออกมา เธอโกรธแบมแบม แต่เธอเป็นผู้ใหญ่เธอจะต้องไตร่ตรองอะไรให้มากกว่านี้เสียก่อนที่ด่วนตัดสินใจสรุปเรื่องราว
“แม่จะให้อภัยแบม ก็ต่อเมื่อเราทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว โอเคไหม ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ เพราะงั้นช่วยแม่ดูแลมาร์คด้วยนะ แม่เชื่อว่ามาร์คก็ยังต้องการเราอยู่เหมือนกัน ตอนนี้เราต้องเป็นกำลังใจให้พี่เขา”คุณนายต้วนพูดออกมาอย่างใจเย็นสมกับเป็นตระกูลผู้ดีเก่าแก่ มีความสุขุมและความเมตตา
“ขอบคุณครับแม่ที่ให้โอกาสผม ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างที่แล้วมาอีก ขอบคุณจริงๆครับ”แบมแบมบอกกับแม่ของมาร์ค โดรินพยักหน้ารับและกอดแบมแบมเล็กน้อยก่อนที่ทั้งคู่จะเดินกลับเข้าไปในห้องพักฟื้นของมาร์ค
“แบมช่วยอยู่เฝ้าพี่เขาหน่อยได้ไหม แม่จะไปเตรียมเสื้อผ้ากลับมานอนค้างที่นี่”โดรินเอ่ยร้องขอแบมแบม เด็กหนุ่มหันไปก่อนจะตอบปฏิเสธและเสนอทางเลือกอื่นให้กับคนเป็นแม่
“แต่แม่ต้องไปทำงานคงจะไม่ดีเท่าไหร่ถ้าลายาว เอาเป็นว่าช่วงนี้ผมจะคอยดูแลพี่เขาให้เองนะครับ ช่วงนี้โรงเรียนผมหยุดบางวันที่มีเรียนก็คาบว่างครับ มีเวลาคอยดูพี่เขาได้แม่ไม่ต้องห่วง ผมอยากมาดูแลพี่มาร์ค ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย..”แบมแบมเสนอออกไป โดรินคิดอยู่สักพักจึงยอมตอบตกลง ก็ดีเหมือนกัน เพราะว่าช่วงนี้มีโปรเจคใหญ่ที่บริษัทของเธอค่อนข้างจะวุ่นวาย กับประชุมบอร์ดบริหารที่แสนยุ่งยากก็มีบ่อยเหลือเกิน ถ้ามัวพะวงเรื่องมาร์คเธอคงทำงานได้ไม่เต็มที่
“งั้นแม่ฝากด้วยนะแบม ไว้เลิกงานพรุ่งนี้แม่จะเข้ามาดูพี่เขา เดี๋ยวเรากลับบ้านไปเสื้อผ้าแล้วกันพอเรามาเดี๋ยวแม่ค่อยกลับบ้าน ขับรถดีๆอย่ารีบล่ะ อย่าทำให้แม่ต้องเป็นห่วงไปอีกคนนึง”โดรินฝากฝังมาร์คไว้กับแบม เธอบอกให้แบมแบมไปเก็บของใช้ส่วนตัวมาเพื่อที่จะมาเฝ้าไข้มาร์คและในท้ายประโยคเธอก็ได้เอ่ยเตือนดักทางเจ้าเด็กน้อยแบมแบมไว้ด้วย ขี่รถกลางค่ำกลางคืนน่ะมันอันตราย ถึงเขาจะโกรธแบมแบมแต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่เป็นห่วงเด็กคนนี้
แบมแบมขี่รถของเขากลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน แม่ของแบมแบมเองก็รับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วผ่านจากแม่ของมาร์ค แบมแบมเลยรีบเก็บของและขับรถกลับไปที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว แม่มาร์คที่กำลังรอแบมแบมอยู่พอเห็นขายาวของอีกคนก้าวเข้ามา เธอจึงลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวที่จะไป เธอเดินไปหอมแก้มมาร์คที่เตียง ก่อนจะหันไปลากับแบมแบมและเดินจากไป
.
.
.
แบมแบมเดินเข้าไปใกล้ๆเตียงคนป่วย ร่างสูงส่งมือของตัวเองไปลูบผมเบาๆ คนตัวเล็กคงต้องกำลังทรมานอยู่มากแน่ๆ เขายังจำได้ดีที่มาร์คบอกว่าเกลียดโรงพยาบาลไม่ชอบกลิ่นไม่ชอบเข็มและไม่อยากฉีดยา มาร์คเหมือนเด็กน้อยในสายตาและความรู้สึกของเขา อาจจะเป็นเพราะมาร์คขี้อ้อนและก็เอาใจเก่ง
ร่างสูงเผลอนึกย้อนไปในวันแรกๆที่เขาได้เจอกับมาร์คหลังจากที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่ตอนเด็กตอนนั้น มาร์คน่ารักยิ้มหวาน สดใสและเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางฝูงชน ล้อมรอบไปด้วยเพื่อนๆ และคงเป็นโชคดีของเขาอีกครั้งหนึ่งที่ได้พบว่าบ้านของมาร์คนั้นอยู่ข้างๆบ้านของเขา ใกล้แค่เอื้อมเท่านี้เอง พอเห็นแบบนี้ก็เริ่มมีกำลังใจ แบมแบมเดินหน้าจีบมาร์คอย่างเต็มที่ มีเจ็บๆแสบๆบ้างในเวลาที่โดนมาร์คด่าสวนกลับมา แต่เขารักของเขาเพราะงั้นด่าเท่าไหร่ก็ยอม
คิดแล้วก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว จนได้หลุดจากภวังค์นั่นแหล่ะ เขาถึงต้องกลับมามองความเป็นจริงตรงหน้าเสียที และนั่นทำให้เขารับรู้ได้ว่าเขาได้ทำร้ายคนที่เขารักที่สุดลงไปแล้ว เขารู้ตัวว่าจากนี้ไประหว่างเค้ากับมาร์คมันคงไม่มีทางเป็นแบบเดิมได้อีกต่อไปแล้ว หวังแค่ว่าเวลาจะช่วยเยียวยาจิตใจของมาร์คให้ดีขึ้นจากอาการบอบช้ำ
“...อื่อ แบม”เสียงที่ดังแผ่วเรียกชื่อเขาออกมาทำเอาแบมแบมตกใจคนตัวสูงมองจดจ้องไปที่ใบหน้าสีซีดของมาร์ค แฟนตัวเล็กของแบมแบมนั้นยังคงนอนนิ่งหลับตาปิดสนิทมีแต่เพียงเสียงที่ลอดออกมาอย่างแผ่วเบาให้พอได้ยินเท่านั้น
“...เราขอโทษนะ ฮึก”มาร์คขมวดคิ้ว ดวงตาสวยปิดสนิทราวกับอีกคนกำลังเพ้ออยู่ หยาดน้ำใสๆไหลซึมออกมาจากตาคู่สนิทของมาร์ค แบมแบมรีบจับมือเล็กของมาร์คเอาไว้ เขาพยายามจะตั้งใจฟังว่ามาร์คพูดว่าอะไร
“ไม่เป็นไรนะมาร์ค ไม่เป็นไรแบมอยู่นี่นะครับ”แบมโน้มตัวลงกอดคนป่วยบนเตียงเอาไว้ราวกับกอดปลอบประโลม มันคงจะดีมากถ้ามีแบมในเวลาที่มาร์คกำลังต้องการ แต่ตอนนี้มาร์คไม่ได้สติรับรู้อะไรอีกแล้ว คนตัวเล็กนอนเพ้อเพราะพิษไข้เล่นงาน
“ฮือ อย่ารำคาญเราเลย ฮึก เราขอโทษ เรารักเธอนะ”เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของมาร์คดังไปทั่วทั้งห้อง แต่ที่แน่ชัดกว่านั้นคือคำพูดในตอนที่อีกคนไม่ได้สติเอ่ยออกมา มันช่างบาดลึกลงไปในจิตใจของแบมแบม แบมแบมจุกจนพูดไม่ออก เขารู้สึกเกลียดตัวเองที่สุดก็ตอนนี้นี่แหล่ะ ทำอะไรไม่คิดผลสุดท้ายของการทำโง่ๆลงไปก็อย่างที่เห็น มาร์คแทบเป็นแทบตายอยู่ในตอนนี้ แบมแบมนี่มันเด็กโง่ของแท้เสียจริงๆเลย
“พี่มาร์ค ไม่ต้องขอโทษ แบมผิดเอง ขอโทษ แบมขอโทษ”แบมพูดขอโทษซ้ำๆไปราวกับจะให้มันสื่อไปถึงหัวใจของมาร์ค แต่ตอนนี้หัวใจดวงน้อยที่มันบอบช้ำจากการโดนทำร้ายไม่สามารถรับรู้ได้ถึงคำขอโทษและความรู้สึกของแบมแบมได้อีกแล้ว วันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดทั้งของมาร์คและของแบม
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป
คุยกันสักแป้บนึง : อิอิ มีดราม่า วรั้ย ตอนหน้าไม่ม่าละ เพราะชั้นเปลี่ยนคู่55555 นักอ่านอย่าพึ่งปารองเท้าใส่ช้านค่า ชอบไม่ชอบยังไงติชมกันได้น้า บทสุดท้ายก่อนจบเรากินมาม่าอยู่และปณ.มาส่งชัคกี้ยูคยอมค่ะ ดีใจเผลอหวีด ลืมตัว และไม่อินแล้ว555555 หวังว่าระหว่างที่อ่านกันอยู่ทุกคนจะอินกับมันนะคะ รักคนอ่านทุกคนเลยยยยย นิยายเรื่องนี้อัพไม่เท่ากันนะคะ ว่างก็อัพไม่ว่างก็ไม่อัพ ตามนั้นนนน 5555 ส่วนใหญ่ไปทางค่อนข้างว่าง ความผีคือยังเขียนเสร็จเลยไม่อัพ อะไรประมาณนี้ จุบุจุ้บ รักคนอ่านทุกคน
ปล.เรามีแพลนสำหรับซีรีเรื่องหน้าแล้วนะคะแนวนางเอกโดนรังแกไม่ทราบว่าอยากเห็นคู่ไหนกัน แต่เรื่องนี้ยังไม่จบนาจาอันนี้เป็นโปรเจคเลิฟเดอะซีรีย์ของเราเฉยๆ อะๆ จะสปอยล์ชื่อเรื่องไว้ก็ได้
ปล.2 จะมากดอัพตอนใหม่อ้าว คนติดตาม51คน ดีใจอะครึ่งร้อยแล้วววว ฮ๊อยยยย เป็นเส้นทางที่เหนื่อยแต่คุ้มค่ามากเลย เรากดดูตลอดเลยว่าใครชื่ออะไรกันบ้าง จำคนอ่านได้ทุกคนแหล่ะ
NEXT STATION :
The Series : Thunder Bully Love รักอันตรายนายอันธพาล
อยากเห็นคู่ไหนเม้นท์ไว้เลยน้า ขอรับประกันความสนุก เรื่องนี้ดราม่าแต่ไม่ดราม่าบีบหัวใจนะคะ ดราม่าแค่จี๊ดเดียว ที่เหลือหวานแบบกวนส้นตีน5555555 ไงก็ฝากเลือกกันด้วยนะทุกคน เม้นท์ได้ทุกคนเราไม่ว่าๆๆๆ
1. - Markgyeom
2. - Yugjack
3. - Jaegyeom (ยองแจนะคะบ่าใจ้บ่าวบี)
กางเกงที่แจ็คสันใส่นะคะ จริงๆเป็นแบบผู้ชายแต่หาไม่ได้ คือเราเคยเห็นผู้ชายในซีรีย์เลิฟซิกใส่เลยจับมาให้แจ็คสันใส่มั่งเพราะมันน่าร้ากกกกก
รองเท้าคอนเวิร์สคู่ใจนางแจ็ค ระหว่างที่กำลังลงรูปอยู่สารภาพตามตรงคิดว่าคนอ่านน่าจะลืมประเด็นเสื้อผ้าเจียเจียไปแล้ว ใช่ไหม ตอบบบ บอกมานะ55555 แต่คือมันน่ารักง่ะ เข้ากันมากกับพี่แจ็ค เลยเอามาอัพให้ดูกันจะได้คิดเหมือนกับที่เราคิด
ความคิดเห็น