ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] The Series : Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี Yugjack ft. Bammark (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter eleven ::: 100% :::

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 59


     

    Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี

    วอเทอร์

    ตอนที่ 11

     

     

     

     

     

     

              อีกห้าวันจะถึงวันเกิดของแจ็คสัน วันนี้เป็นวันที่ยี่สิบสาม และวันที่ยี่สิบแปดก็เป็นวันเกิดของเขา ถ้าเกิดว่าไม่ลืม วันเกิดของเขามันตรงกับวันเดียวที่จัดงานแฟนไซน์รอบพิเศษรอบหลังจบทัวร์คอนเสิร์ตของยูคยอม ครั้งนี้จินยองก็ได้ไป เพราะจินยองเปิดพรีบั้มแบบขาดทุนก็เลยได้เข้างานแฟนไซน์ครั้งนี้ด้วย ส่วนตัวเขาก็เพราะวันนั้นยูคยอมให้ตั๋วมา รู้สึกโกงนิดๆแฮะ โอกาสมาก็คว้าไว้เฉยๆเท่านั้นเอง-.-

     

              วันนี้เป็นอีกวันที่หมดไปกับการเรียนอันแสนน่าเบื่อสำหรับใครหลายๆคน แต่เขาไม่เบื่อเพราะว่าจะได้เจอมาร์ค เพราะมาร์คน่ารักเขาก็เลยชอบเวลามีมาร์ค หลังเลิกคลาสเรียนวันนี้เขาไปนั่งกินชานมไข่มุกด้วยกันที่ห้างในย่านดาวน์ทาวน์ หาอะไรทำแก้เบื่อก่อนจะเจอมรสุมกับกองงานและการสอบสุดโหด สองสามวันก่อนสอบมาร์คจะมาค้างที่ห้องและเราจะติวเข้มให้กันอยู่แล้ว มีมาร์คเขาก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นแล้วล่ะ

     

    "เมื่อวานฉันไปเข้าชมรมมา"มาร์คชวนแจ็คสันคุย เราทั้งคู่อยู่กันคนละชมรม แจ็คสันอยู่ชมรมวาดการ์ตูน ส่วนมาร์คอยู่ชมรมไอทีทำงานเกี่ยวกับพวกคอมพิวเตอร์

     

    "ทำไมง่ะ"แจ็คสันถามออกไป ปากบางดูดชานมแก้วโตก่อนจะเคี้ยวไข่มุกหนุบหนับอย่างเอร็ดอร่อย แก้มใสๆกระเพื่อมกลมป๊องยามที่คนน่ารักเคี้ยวมันไปมา

     

    "เจอผู้ชายคนนึงหน้าตาก็น่ารักดีนะ ตัวเล็กๆผิวขาวๆ คือเห็นหมอนั่นกำลังเล่นฮีโร่ออฟนิวเอิร์ธอยู่"ชมรมของมาร์คนั้นส่วนใหญ่สมาชิกชมรมก็เซียนเล่นเกมนี่แหล่ะครับ เวลาใช้งานจริงตามชื่อชมรมน่ะแทบไม่มีเลยต่างหากไม่แปลกที่เด็กในชมรมจะเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อนๆกัน มาร์คเองก็เล่น(มีแต่แจ็คสันนั่นแหล่ะที่ไม่เล่น ว่างๆก็กินๆนอนๆวาดรูปอ่านหนังสือและติ่ง<ดูมีสาระมาก>)

     

    "งี้ก็จอยกันเพลินเลยอะดิ พูดถูกไหม ฮ่ะๆ"แจ็คสันล้อเพื่อนอย่างขำๆ มาร์คอะน่ารักเป็นพวกเข้ากับคนอื่นง่ายๆไม่แปลกหรอกถ้าจะได้เล่นด้วยกัน แต่ในความน่ารักของมาร์คก็มีความเป็นผู้ใหญ่มีอะไรที่ดูโตกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันมากๆ แจ็คสันเองก็ยังเกรงใจมาร์คอยู่บ่อยๆเลย

     

    "จะเหลือหรอ หมอนั่นเล่นโครตเก่งอะ ไม่ต้องใช้ท่าไม้ตายก็คิลฉันเป็นสิบๆรอบได้เลย เหลือเชื่อมาก เลเวลก็ขึ้นเอาๆขึ้นอย่างกับวันนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เล่นเกม"มาร์คเล่าด้วยสีหน้าจริงจัง แจ็คสันหัวเราะ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เขาหัวเราะให้กับคำพูดที่ช่างเปรียบเปรยของมาร์ค เพื่อนของเขาน่ารักจังเลยว่าไหม

     

    "ฮ่ะๆ หรอ แล้วคนนั้นเขาชื่ออะไรล่ะ"มาร์คดูดชานมอึกใหญ่ก่อนจะเอ่ยตอบ

     

    "ชื่อยองแจ ชเวยองแจ แต่ฉันเรียกแจน หน้าตาน่ารักดี เหมาะดีออก"

     

    "ขนาดนั้นเลยอ้อ อยากเจอบ้างจัง"

     

    "ถ้าเจอฉันว่านายต้องชอบเขามากแน่ๆ"

     

    "แหมม~ จ้าๆ แล้วระหว่างแจ็คสันกับยองแจใครน่ารักมากกว่ากันครับผมม"แจ็คสันทำมือเป็นดอกไม้บานไว้ใต้คางตัวเองแล้วส่งขยิบตาข้างนึงให้มาร์ค

     

    "ยองแจดิ ฮ่าๆ แล้วนี่ตาเป็นอะไร ต้อกระจกหรอขยิบจังเลย"มาร์คยืดแก้มแจ็คสันออกมา พอถูกแจ็คสันแว้ดใส่ก็หัวเราะอย่างพออกพอใจ ทำไมทุกคนถึงแกล้งแจ็คสันแบบเน้~ (-0-)

     

    "อิ่มแล้วอะ ไปเดินเล่นกันเถอะ"แจ็คสันที่กินน้ำชาหมดไปนานแล้วเอ่ยชวนขึ้น มาเที่ยวด้วยกันทั้งทีมัวแต่นั่งก้มหน้าเล่นมือถือก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่นัก แจ็คสันที่จอมซนจึงออกปากชวนเพื่อนรักหน้าใสไปเดินเที่ยวด้วยกัน

     

    "เอาดิ"มาร์คคว้ากระเป๋าครัชหนังมันปลาบมาถือไว้สมาร์ทโฟนเครื่องคู่ใจถูกยัดไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังทางขวาเช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนของแจ็คสันที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังทางขวาของกางเกงแจ็คสัน

     

    "ช่วงนี้มีแต่บูธขายเครื่องประดับกับเสื้อผ้าอะเนาะ"แจ็คสันพูดขึ้นมาเมื่อเดินไปตามทางเดินเขาทั้งคู่เจอแต่ของพวกนี้

     

    "ก็จริง แต่สวยดีนะบางอันก็น่าสนใจ"มาร์คตอบทั้งๆที่สายตามองไปร้านขายเครื่องประดับแนววินเทจร้านหนึ่ง

     

    "อยากไปดูใกล้ๆไหมอะ ไปดูกันเถอะ"แจ็คสันเดินจับมือกับมาร์คไปดูเครื่องประดับร้านนั้นร้านนี้มากมาย จนมาหยุดอยู่ที่ร้านที่มาร์คมองมันตั้งแต่แรกแล้ว

     

    "ชอบหรอ เราเห็นนะว่ามองนานแล้ว"แจ็คสันถามและพูดอย่างรู้ทันมาร์ค คนตัวบางไม่มีอะไรจะเถียงเพราะที่แจ็คสันพูดอยู่ก็เรื่องจริง เขาแค่สะดุดตาเครื่องประดับชิ้นหนึ่งในร้านนั้นต่างหาก

     

    "มันก็สวยดี คงดีถ้าได้ใส่มัน"มาร์คบอกเขาหยิบสร้อยสีเงินเส้นที่มองมานานแล้วขึ้นมาดู มันเป็นเหมือนสร้อยคู่ตัวสร้อยเป็นสีเงินเงาวาวแลดูเรียบหรู ตัวรายละเอียดมีลักษณะเป็นห่วงวงกลมสองอันคล้องเกี่ยวกันไว้อยู่และเหมือนจะดึงไม่ได้อีกด้วย

     

    "พี่ครับ เอาเส้นหนึ่ง"มาร์คว่าแล้วยื่นสร้อยให้คนขายไป ปากพูดว่าเส้นเดียวแต่ในมือนั้นหยิบเป็นคู่เถอะ คิดจะเอาไปใส่กับใครงั้นหรอมาร์กี้ คึคึ แจ็คสันคนนี้ไม่ได้ชิปอะไรเลยจริงๆนะ

     

    "ถ้าแบมแบมรู้คงดีใจเนาะ"แจ็คสันฉีกยิ้มใสซื่อกว้างๆ ทำให้มาร์คอยากจะยกเก้าอี้ฟาดหัวอีกฝ่ายเลยทีเดียว รู้แล้วยังจะแซวกันอีก

     

    "พ่*ง !"มาร์คด่าหนึ่งคำก่อนจะเดินหนีนำไป ปกติมาร์คไม่ค่อยได้พูดคำหยาบ แต่สงสัยจะเขินจริงอะไรจริงถึงได้เสียความเป็นตัวเองแบบนี้ไปเลย

     

              แจ็คสันที่เมื่อยขาก็พามาร์คหยุดเดินและนั่งลงที่บ่อน้ำพุแห่งใหญ่กลางห้างนั่งเล่นสไลด์มือถืออย่างสบายใจ กล้องหน้าของมือถือถูกกดถ่ายภาพใบหน้าของเพื่อนรักทั้งสองคน ร่างบางนั่งส่องข่าวต่ออย่างอารมณ์ดี แจ็คสันเข้มแข็งมาก จนถึงวันนี้คำด่าทอต่างๆนานาของพวกชาวเน็ตในตอนนี้ไม่สามารถส่งผลอะไรกับแจ็คสันอีกแล้ว เขาเข้มแข็งขึ้นมากหลังจากได้คุยกับคุณแม่ตัวเอง ไม่อยากให้ใครต้องมานั่งดูแลเลยพยายามทำตัวเข้มแข็งเอาไว้ดีที่สุดแล้ว นอกจากคนอื่นจะไม่สมเพชแล้วยังป้องกันตัวเองจากอันตรายที่มาจากคนอื่นด้วย

     

    "นี่แจ็คสัน"

     

    "หืมว่าไงมาร์ค"

     

    "ช่วงนี้คิมยูคยอมอะไรนั่นหายไปไหนเสียล่ะ"

     

    "....อืม เราก็.. ไม่รู้สิถ้ารู้แล้วจะบอกนะ"แจ็คสันตอบพาลเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด มาร์คลูบหลังมืออีกฝ่ายเบาๆเหมือนกับจะให้อีกคนรู้ว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้ เอาจริงแจ็คสันก็ไม่ได้เศร้าเรื่องที่ยูคยอมหายไปหรอก แต่แค่พอได้ยินชื่อของยูคยอมแล้วมันพาลทำเขาเศร้าออกมาอย่างเสียไม่ได้ คิดถึงจังถ้ามียูคยอมอยู่ข้างๆแจ็คสันก็คงไม่เหนื่อยเท่าขนาดนี้หรอก คงจะมีกำลังใจสู้กับปัญหามากกว่านี้ ตอนนี้ทำได้เพียงแค่ปลง

     

    "ไม่เป็นไรนะ อย่าไปใส่ใจคนอื่นเลย นายยังมีฉันรู้ใช่ไหม"มาร์คโอบไหล่เล็กของเพื่อนรักเอาไว้

     

    "ขอบคุณนะมาร์ค ที่นายบอกเรามันก็จริงอะ จริงทั้งหมดเลย เห้อ"แจ็คสันถอนหายใจออกมายาวเหยียดศีรษะเล็กเอียงพิงซบไหล่ของมาร์ค มือขาวของมาร์คก็ยังทำหน้าที่กอดปลอบประโลมแจ็คสันเป็นอย่างดี

     

    "คิดมากไปได้ นายยังเป็นเด็กวัยรุ่นเพราะงั้นก็ใช้ชีวิตให้มันสนุกๆไปเลยดิจะไปแคร์อะไรมากมาย เนอะ"มาร์คพยักเพยิดหน้าอย่างขอความคิดเห็น เขามักจะรู้วิธีดูแลแจ็คสันและรับมือกับความเศร้าของแจ็คสันได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะเรียนปีเดียวกับเขาแต่มาร์คก็อายุมากกว่า ความคิดความอ่านก็เลยดูโตและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าต่างจากเขาที่ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์รุนแรงอะไรได้เลยสักอย่าง มีมาร์คนี่ดีจริงๆ แจ็คสันรู้สึกตัวเอง โชคดีเหลือเกินที่มีทั้งมาร์คแม่มาร์ค และป๊ากับม๊าที่รักเขา เขารักทุกๆคนมากด้วย

     

    "ไปเดินเล่นกัน"

     

    "อื้อไปๆ"แจ็คสันเดินไปตามแรงลากของมาร์ค มาร์คก็เดินจับมือแจ็คสันดูของใช้ไปมา แวะเข้าร้านนั้นร้านนี้จนมาหยุดร้านที่แจ็คสันค่อนข้างขยาดมันเสียสักหน่อย

     

    ไม่ใช่ร้านสปาแบบที่จินยองพาไป

     

    ไม่ใช่ร้านกัดสีผมชวนแสบหัว

     

    แต่มันคือร้านเจาะหู(._.")

     

    "มาร์คจะเจาะหรอ"

     

    "เปล่าอะ"

     

    "อ่องั้นเราไปกันเถอะเนอะๆ"แจ็คสันพยายามดึงมือของมาร์คให้ไปเดินโซนอื่นแทน

     

    "เป็นอะไรเล่า ขอฉันแวะก่อนสิ"พูดจบมาร์คก็เดินเข้าร้านไปเลยทิ้งแจ็คสันไว้ตรงหน้าร้าน แจ็คสันเหงื่อตกมือบางยามผลักประตูเข้าไปก็สั่นนิดๆ เขาเดินหนีบๆไปหามาร์คที่กำลังยืนอยู่หน้าชั้นวางจิวใส่หู

     

    "นายว่าอันไหนสวยกว่ากัน"มาร์คหยิบจิวรูปซิปสีดำมันปลาบขึ้นมาชูตรงหน้า อีกอันเป็นรูปห่วงหนาๆสีเงินวาวแจ็คสันคิดว่ามันสวยทั้งสองอันแหล่ะ แต่ก็เลือกๆไป

     

    "อันสีเงินสวยกว่านะ"แจ็คสันบอกออกไป มาร์คพยักหน้าแล้วเดินไปจ่ายเงินค่าจิว แจ็คสันเห็นมาร์คซื้อได้แล้วก็เลยบอกอีกฝ่ายว่าขอออกมารอข้างนอกแทน รออยู่ไม่นานเสียงกรุ๊งกริ๊งที่หน้าประตูก็ดังขึ้นเป็นมาร์คที่เดินออกมาจากร้านนั้นนั่นแหล่ะ

     

    จึ้กๆ

     

              แรงปะทะที่ต้นแขนเบาๆจากมาร์คเรียกสายตาจากแจ็คสันได้เป็นอย่างดีจนต้องเอ่ยปากถามว่ามีอะไรหรือเปล่าถุงพลาสติกสีทึบถูกส่งมาให้แจ็คสัน

     

    "อะไร?"แจ็คสันถาม

     

    "ให้เป็นของขวัญวันเกิด"มาร์คพูด"แฮปปี้เบิดเดย์ล่วงหน้านะ"มาร์คยิ้มให้แจ็คสันยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวมาร์คน่ารักอีกแล้ว แจ็คสันชอบมาร์คที่สุดเลย

     

    "ขอบคุณนะมาร์ค"เขาเอ่ยออกมาก่อนจะเก็บมันใส่ลงในกระเป๋าเป้ที่สะพายไว้ที่หลัง

     

    "อืมไม่เป็นไร"มาร์คตอบรับเรียบๆเอาจริงคือมาร์คกำลังเขินอยู่เลยพยายามเงียบนิ่งเอาไว้

     

    ฟึ่บ

     

              แจ็คสันสวมกอดมาร์คจากทางด้านข้างก่อนที่แก้มใสจะไถไปมาข้างๆไหล่ของมาร์ค

     

    "รักน้า"แจ็คสันมองสบตากับอีกฝ่ายเรียวแขนมาร์คเองก็ถูกส่งมาเกี่ยวรั้งโอบกอดเอวของเขาเอาไว้ มาร์คเองก็เอ่ยคำบอกรักให้แจ็คสันเช่นกัน

     

    "งือรักเหมือนกันนะ"มาร์คพูด

     

              ทั้งมาร์คและแจ็คสันใช้เวลาเดินเล่นด้วยกันในห้างทั้งวัน ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ใช่วันพิเศษอะไร แต่สำหรับทั้งคู่มันคือความพิเศษ

     

              การเที่ยวเล่นสำหรับวันนี้ใกล้จบลงแล้ว นาฬิกาเดินไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ เข็มสั้นของมันบอกเวลาหกโมงเย็นเข็มยาวก็บอกจำนวนนาทีที่ล่วงเลยมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ในเวลาช่วงเย็นแบบนี้ บรรยากาศรอบข้างกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อผู้คนที่หลั่งไหลกันเข้ามาในยามที่พวกเขาเลิกงานกันแล้ว แต่สำหรับพวกเด็กๆนี่เป็นเวลากลับบ้าน

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

    "มาร์ควันนี้นอนห้องเราปะ"แจ็คสันถามขึ้นมาเมื่อมาร์คขับรถเลี้ยวเข้ามาที่คอนโดที่เขาอาศัยอยู่

     

    "นอนๆไม่ได้มานอนคุยกันนานแล้ว"มาร์คพูดออกมา แจ็คสันก็คิดว่ามันจริงอย่างที่พูดแหล่ะ สิ่งต่างๆมากมายทำให้เขากับมาร์คไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันอย่างเหมือนเคย อาจจะเป็นเพราะมาร์คมีแบม ส่วนตัวแจ็คสันเองก็มียูคยอม เวลาให้เพื่อนของทั้งคู่เลยอาจจะลดลงไปบ้าง

     

    "เอาดิ คิดถึงนะเนี่ยรู้ไหม"แจ็คสันบีบแก้มมาร์คส่ายไปมา มาร์คก็ทำเพียงแค่แยกเขี้ยวใส่

     

    "ไม่นอนด้วยละ"มาร์คบอกนั่นทำเอาแจ็คสันต้องง้อแทบไม่ทัน ทั้งคู่เล่นกันกระหนุง กระหนิงไปตลอดทางขึ้นห้อง

     

    "ไหน มีไรจะคุยกับแจ็คหรอ"แจ็คสันเป็นคนเปิดบทสนทนาขึ้นมาเมื่อทั้งคู่อาบน้ำเรียบร้อยและกำลังนอนเล่นด้วยกันบนเตียงหลังใหญ่ของแจ็คสัน

     

    "มีๆ แต่เดี๋ยวค่อยคุย ตอนนี้อยากบอกมากเลยว่าหลอนห้องของนายมาก แสตนดี้เท่าขนาดจริงนี่เมื่อไหร่จะเอาออกไปตั้งที่อื่นเล่า !"มาร์คบ่นๆออกมามานอนกี่ทีก็บ่นๆแต่แบบนี้ล่ะ เอาจริงมาร์คก็แค่อยากแซวแจ็คสัน เห็นเพื่อนรักทำหน้างอใส่ก็สะใจเล่นดี

     

    "เมื่อไหร่จะเลิกบ่นเหมือนกันนั่นแหล่ะ เดี๋ยวก็งับหัวซะหรอก"แจ็คสันบ่นกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ฟิคเรื่องนี้มีแต่คนขี้บ่นเสียจริงๆเลย-*-

     

    "เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน"มาร์คด่าแจ็คสันออกมาอย่างเจ็บแสบแล้วเอาขาเรียวๆมาวางพาดตัวของแจ็คสัน

     

    "นิสัยไม่ดี"แจ็คสันทุบไปที่ไหล่มาร์คแรงๆสองทีก่อนจะเปลี่ยนเป็นวาดแขนกอดร่างบางของมาร์คเอาไว้แล้วเอาหัวซบที่ตัวของมาร์ค

     

    "แต่หล่อไง"

     

    "ขี้โม้"

     

    "บ้านรวยด้วยนะ"

     

    "มั่นหน้า"

     

    "เรียนคณิตก็เก่ง"

     

    "ขี้บ่น"

     

    "แต่มีเพื่อนติงต๊อง"

     

    "มาร์ค !"แจ็คสันทุบไหล่มาร์คแรงๆอีกหนึ่งที

     

    "โอย ตีซะลืมไปเลยว่าเคยเป็นเพื่อนกัน"มาร์คบ่นอุบมือขาวๆก็ลูบตัวเองบริเวณที่โดนเพื่อนรักฟันกระต่ายทุบตี ไม่ได้เจ็บหรอกสำออยไปงั้นๆ แจ็คสันไม่ค่อยทำให้เจ็บหรอก ติดจะกลัวเขาโกรธ แต่บางครั้งเราทั้งคู่ก็ชอบแหย่กันแรง ก็มีบ้างนิดๆหน่อยๆ

     

    "มาร์คแม่งกวนตี*"แจ็คสันบอกแล้วมองหน้าอย่างกับจะหาเรื่องมาร์ค มาร์คเลยกอดแจ็คสันเอาไว้แถมลูบผมเบาๆ

     

    "โอ๋ๆ แจ็คสัน มาร์คไม่กวนแล้ว"แจ็คสันระบายยิ้มออกมาและกอดเอวมาร์คตอบแน่นๆก่อนจะคลายอ้อมกอดออก

     

    "ปิดไฟกันไหม เอาโคมไฟอันนั้นออกมาเล่นกันเถอะ !"แจ็คสันชวน พวกเขาทั้งคู่มีของที่เป็นสิ่งของสำคัญของกันและกัน ในสมัยตอนม.ปลาย มันเป็นโคมไฟที่ออกแบบลายที่ครอบพอกดเปิดสวิตซ์ไฟมันจะทำให้ทั้งห้องกลายเป็นกาแล็กซี่ขนาดย่อมๆได้เลย

     

    "สวยเหมือนเดิมเลยอะ รู้สึกเหมือนตอนอยู่เกรดสิบสองเลย"มาร์คพูด ตาใสจ้องมองไปเรื่อยๆที่ผนังห้อง บัดนี้ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นจักรวาลที่มีแต่เขากับแจ็คสันเพียงสองคน

     

    "อือสวยเนอะ"แจ็คสันตอบเรียบๆริมฝีปากบางฮัมเพลงออกมาเบาๆ เพลงที่ทั้งมาร์คและเขาชอบฟังมันทั้งคู่

     

    ' You are my starlight 맘을 비춰 (เธอเป็นแสงดาวของผม เป็นคนที่คอยส่องสว่างให้ใจของผม)'

     

              มาร์คหันไปมองหน้าแจ็คสันเล็กน้อยแขนเรียวพาดกอดเพื่อนรักเอาไว้มาร์คร้องท่อนต่อไปอย่างรู้หน้าที่

     

    '함께 있으면 온종일 꿈꾸는 기분

    (เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันช่างเหมือนกับในความฝัน)'

     

    'You are my starlight 행복해져

    (เธอคือแสงดาวของผม ผมมีความสุขจัง)

    선물 같아 너란 사랑

    (ความรักของเธอเป็นราวกับของขวัญ)'

     

              คราวนี้แจ็คสันและมาร์คร้องประสานเสียงกันออกมาเลย เพื่อนรักทั้งสองคนก็ได้ใช้เวลาในค่ำคืนที่มานอนด้วยกันไปอย่างคุ้มค่า ความสัมพันธ์ของเพื่อนกันมันช่างงดงาม ไม่ว่าจะห่างกันเท่าไหร่ ไม่ว่าจะไกลกันแค่ไหน มันก็ยังคงต่อกันติดเหมือนเดิมภายในเวลาแป๊บเดียว

     

    "ขอโทษนะที่ไม่ค่อยใส่ใจเหมือนแต่ก่อน"แจ็คสันบอกกับมาร์ค

     

    "ไม่คิดมากดิ แล้วก็ขอโทษเหมือนกันด้วย ฉันก็ไม่ค่อยได้มีเวลาให้นายอย่างเคย"

     

    "ไม่ๆ เราไม่คิดมาก ทางนี้ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ"แจ็คสันบอก เขาส่ายหน้าเป็นพัลวันประกอบเพื่อบอกกับมาร์คว่าจริงๆแล้วเขาไม่ดีเอง เพื่อนกันมักจะไม่ยอมให้เพื่อนแบกรับความผิดไว้ฝ่ายเดียวหรอก แจ็คสันเชื่อแบบนั้น

     

    "มาร์ครักแจ็คสันนะ"เป็นอีกครั้งหนึ่งในรอบวันที่แจ็คสันได้ยินคำนี้ และมาร์คเองก็ได้พูดคำนี้ เขารู้สึกแค่ว่าอยากจะบอก บอกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร มันก็คงไม่แปลกที่เขาจะใช้คำนี้ซ้ำๆ

     

    "แจ็คสันรักมาร์คที่สุดเลย รักมากกว่าที่มาร์ครักแจ็คสันอีก"

     

    "หึ ยอมแล้วครับยอมแล้ว"มาร์คหัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดีหลังมือถูกยกทาบไปกับหมอนข้างๆศีรษะเพื่อแสดงความจำนนต่อเพื่อนรักของตัวเอง

     

    "ดีมากจำเลยมาร์ค"แจ็คสันรับมุขแถมใส่บทบาทสุดแสนอาภัพให้มาร์คอีก มาร์คบึนปากใส่นิดหน่อย ดวงตาสวยปรือปรอยใกล้จะปิดลงแล้ว มาร์คที่ถูกความง่วงเข้าครอบงำก็เผลอหลับตาลงอย่างไม่รู้ตัว จนในที่สุดก็กลายเป็นการหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอแทน แจ็คสันเองก็อยู่ในลักษณะที่ไม่ได้แตกต่างกันกับมาร์คสักเท่าไหร่ เพราะความเหนื่อยและเพลียทำให้เผลอหลับกันไปทั้งคู่อย่างไม่รู้ตัว

     

              ค่ำคืนนี้อาจจะไม่มีคำบอกฝันดี แต่ก็เป็นค่ำคืนที่พวกเขานั้นรู้สึกดีต่อกันที่สุด เหมือนเป็นการขอบคุณกันและกันโดยที่ไม่ต้องพูดหรือต้องสื่ออะไรให้มากความอีกแล้ว

     

              เพื่อนเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อเรามากรองจากพ่อและแม่เลย แจ็คสันให้ความสำคัญมาร์คในระดับนั้น มาร์คเองก็เช่นกัน

     

    เอาเป็นว่าคืนนี้ฝันดีนะมาร์ค ฝันดีนะแจ็คสัน

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

    เช้าวันที่28 เดือนมีนาคม

     

              แจ็คสันอยู่ในอาการตื่นเต้นเบอร์แปดเบอร์เก้าเมื่อวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง เขารีบอาบน้ำตั้งแต่เช้าอากาศจะหนาวเขาก็ไม่หวั่น(ที่ห้องมีน้ำอุ่น-.-) ตอนนี้ก็นั่งหล่อๆอยู่ในห้องเฉยๆไม่ได้ทำอะไร งานแฟนไซน์ของยูคยอมเริ่มในตอนเที่ยงพอดี

     

              ตอนนี้เขากำลังรอจินยองเพื่อนร่วมติ่งอีกคนมาหาที่ห้องและออกไปงานพร้อมกัน สไตล์การแต่งตัววันนี้ก็ต้องเข้ากับงานที่ไปนิดหน่อยบวกกับวันเกิดของเขาด้วย หมวกแก็ปที่ชอบใส่ในวันนี้ไม่ได้ถูกยกขึ้นมาใช้ เสื้อยืดตัวโคร่งก็ไม่ได้หยิบขึ้นมาใส่ ชุดวันนี้กลับเป็นสไตล์ที่ดูแล้วสุภาพเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีดำกริบถูกใส่ทับในไว้ช่วงด้านหน้าด้านหลังชายเสื้อของมันถูกปล่อยยาวลงไป ดูเท่ดีไปอีกแบบ กางเกงยีนส์กลายเป็นสีเข้มจัดแทนสีซีด แถมไม่ใส่แบบขาดเข่าอย่างปกติอีกด้วย คือแจ็คสันมิกซ์เสื้อผ้าทุกอย่างใหม่หมดเลย

     

              แต่ที่ดูแปลกตาไปกว่าทุกวันคือกล้องDSLRตัวหนักคล้องสะพายอยู่ที่คอ คอนแทคเลนส์ที่จินยองซื้อให้ไม่ได้ใส่มาด้วยกันแต่แปรเปลี่ยนเป็นแว่นตาทรงวินเทจเจ้าเก่าเจ้าเดิม(อารมณ์เหมือนเพื่อนคู่ใจ)

     

    "อา จริงสิ โทรหาหม่าม๊าก่อนดีกว่า"แจ็คสันที่พึ่งนึกขึ้นได้ก็ล้วงมือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาก่อนจะสไลด์หน้าจอไปที่รายการการโทรออกแต่กลับมีสายเข้ามาเสียก่อน

     

    In your e...ติ๊ด!

     

    "ฮัลโหลม๊า"แจ็คสันกดรับสายอย่างรวดเร็วเมื่อหน้าจอเป็นแม่ของตนที่โทรมา กำลังอยากโทรหาอยู่พอดี

     

    (น้องเจียรับสายม๊าเร็วเชียวน้า)เสียงแซวจากคุณแม่ยังสาวเอ่ยออกมาตามสาย

     

    "ก็หนูคิดถึงม๊านี่นา นี่ว่ากำลังโทรหาอยู่พอดีเลย"แจ็คสันบอกอย่างออเซาะคุณแม่ตัวเอง

     

    (จ้าๆลูกชายม๊า วันนี้วันเกิดเรานี่เนาะ เป็นยังไงบ้างล่ะ)

     

    “ก็ดีอะม๊า วันก่อนก็มาร์คมานอนด้วยที่ห้องอะ ได้คุยกันเรื่องเครียดๆเดี๋ยวนี้หนูก็ไม่ค่อยคิดมากแล้ว”แจ็คสันเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปตามความจริงให้กับแม่ตัวเองฟัง โซเฟียรู้สึกโล่งใจมากขึ้นเมื่อลูกชายของเธอไม่ได้อยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วงอย่างที่เธอกำลังกังวล สงสัยเรื่องนี้ต้องขอบคุณมาร์คเสียหน่อยแล้วที่ช่วยดูแลเจียเอ่อร์ให้เขา

     

    (ดีแล้วล่ะเจียเจีย วันนั้นล่ะโทรมาร้องไห้เป็นเด็กๆเลยน้า ฮ่ะๆ)คุณนายแห่งตระกูลหวังเอ่ยแซวลูกชายสุดที่รัก

     

    "โถ่ม๊า ก็หนูตกใจนี่นา"แจ็คสันบ่นเสียงงุ้งงิ้งอย่างอายๆแม่ตัวเอง

     

    (ค้าคุณชาย ชีวิตก็แบบนี้แหล่ะ แต่ม๊าดีใจนะที่หนูยังนึกถึงม๊า)

     

    "ม๊าอย่าพาหนูเศร้าซี่ เจียลูกม๊าน้าเจียก็ต้องคิดถึงม๊าเป็นคนแรกสิครับ"แจ็คสันอ้อนคุณแม่ตัวเองอย่างน่ารัก

     

    (ปากหวานจังนะเรา เดี๋ยวพอมีแฟนก็ไม่อ้อนแม่แล้วสิเนี่ย ไปติดแฟนใช่ไหมเรา)

     

    "หนูไม่มีหรอกแม่ของแบบนั้น"แจ็คสันพูดเสียงแผ่วๆลงอย่างที่โซเฟียจับสังเกตได้ชัด เธอแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่รู้ว่าแจ็คสันมีแฟน ปกติเห็นคลั่งแต่คนในโปสเตอร์ที่หัวเตียง

     

    (ถ้ามีก็อย่าลืมพามาแนะนำให้ม๊ากับป๊ารู้จักน้าเจียเอ่อร์)

     

    "ครับๆ แต่หนูยังไม่มีนะ จริงๆนะม๊า"แจ็คสันบอกปฏิเสธ

     

    (โอเคม๊าเชื่อๆ ยังไงก็มีความสุขมากๆนะเจียเจีย คิดจะทำอะไรก็ให้รอบคอบ ขอให้ลูกชายม๊าเป็นเด็กดีและเป็นที่รักของเพื่อนๆ ดูแลสุขภาพด้วยหล่ะ)

     

    "ขอบคุณครับม๊า ปิดเทอมเจียจะไปหานะ ม๊าก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ รักม๊านะ"แจ็คสันให้สัญญากับคุณแม่คนสวยของเขาก่อนสองแม่ลูกตระกูลหวังจะร่ำลาและวางสายลง

     

              แจ็คสันนั่งยิ้มอยู่บนโซฟาสีแดงเข้มตัวเดิม เขานั่งดูรูปถ่ายที่เคยถ่ายกับแม่ รูปทุกรูปยังถูกเก็บไว้ในมือถือ เขามีรูปของแม่เยอะไม่แพ้รูปยูคยอมเลย เผลอๆก็อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ยังไงแม่ก็คือที่หนึ่งสำหรับเขาอยู่ดีล่ะนะ

     

               นั่งเล่นมือถือไปเรื่อยเปื่อยสักพักจินยองก็โทรมาบอกกับเขาว่ารออยู่ที่ด้านล่างคอนโดแล้ว แจ็คสันมองนาฬิกาข้อมือเรือนสวยของตัวเองเพื่อดูเวลา งานเริ่มตอนเที่ยง และนี่ก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว แจ็คสันต้องรีบไป เขาต้องเผื่อเวลาและเผื่อใจให้กับการจราจรที่มันติดขัดอีกด้วย

     

    “อ้าว พี่แจบอมสวัสดีครับ”แจ็คสันโค้งหัวทักทายเมื่อเห็นว่าคนขับรถไม่ใช่คุณลุงแจซอกอย่างที่คุ้นเคยแต่เป็นพี่แจบอมเสียเองที่เป็นคนขับรถให้กับเขาและจินยองในวันนี้

     

    “หวัดดีแจ็คสัน ไม่ลืมอะไรใช่ไหม”แจบอมถามเพื่อเช็คความพร้อมและความเรียบร้อย ก่อนหน้านี้เขาวนรถกลับไปเอาของมาให้จินยองตั้งหลายรอบ แต่เด็กหน้าแมวก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร ยังมีหน้ามาออดอ้อนให้เขาหายโกรธอีกตั้งหาก คือถ้าขับไปๆมาๆระหว่างบ้านตัวเองกับคอนโดแจ็คสันแบบนี้ ไปถึงงานก็คงสายพอดี แจบอมได้แต่สาปส่งแฟนตัวเล็กของเขาให้โดนเพื่อนโกรธอยู่ในใจ แต่แจ็คสันก็ดันไม่โกรธเคืองอะไรเลย

     

    “แจ็คกี้เอากล้องมาด้วยหรอ โห พึ่งเคยเห็น นี่มีนานยัง”จินยองพูดอย่างกระตือรือร้นเมื่อเห็นกล้องตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ของแจ็คสันคล้องอยู่ที่คอ

     

    “ก็นานแล้วนะ อันนี้เราซื้อตั้งแต่ไปทำงานที่ร้านช่วงแรกๆแล้วอะ”แจ็คสันเล่าให้เพื่อนฟังตามที่อีกฝ่ายสงสัยและอยากรู้

     

    “จริงดิ แต่พี่แจบอมให้เงินน้อยจะตายนะตอนนั้น”จินยองมองแจ็คสันด้วยอารมณ์ที่คาดไม่ถึง

     

    “อะแฮ่ม !”แต่หลังจากจบประโยคนั้นแจบอมก็กระแอมไอขึ้นมาเสียงดังเหมือนจะให้จินยองรู้ตัว เพื่อนจอมทะเล้นของเขาก็แลบลิ้นปลิ้นตากลับไปให้อย่างตลกๆ จนพี่แจบอมหมั่นไส้ดีดเหม่งนั่นแหล่ะ งอนไม่ยอมคุยกับพี่แจบอมเลย เอาสิครับเพื่อนผม

     

              แต่ไม่นานบรรยากาศบนรถก็กลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อพี่แจบอมเปิดเพลงของยูคยอมให้ฟังกันไปพลางๆบนรถ จินยองออกสเต็ปเต็มที่ ไม่ว่าจะเพลงโซโล่แดนซ์ โซโล่เครื่องดนตรี จินยองจัดเต็มทั้งหมด ส่วนผมก็มีโบกไม้โบกมือร่วมนิดหน่อย เกรงใจพี่แจบอมนี่นา พวกเพลงนี่จินยองน่าจะเปิดฟังที่บ้านทุกวันจนพี่แกเอียนแน่ๆ บางเพลงมีร้องตามได้ด้วย เปลี่ยนหลัวให้มาเป็นติ่งของแท้เลยจินยองงง =*=

     

              เราสองคนมาถึงสถานที่จัดงานกันแล้ว ส่วนแจบอมนั้นก็บอกว่าจะไปนั่งรอชิลล์ๆอยู่ที่ร้านกาแฟถ้าจะกลับบ้านแล้วให้โทรมาหา จินยองก็พยักหน้ารับโอเคเป็นมั่นเป็นเหมาะ จินยองเดินจับมือแจ็คสันไปต่อคิวรอเข้างานที่ที่จัดในครั้งนี้คล้ายๆกับโรงหนัง ด้านหน้าเป็นเวที ที่เหลือก็เป็นที่นั่งสำหรับแฟนๆ

     

              แจ็คสันตื่นตาตื่นใจมากๆที่ได้มางานนี้ เขาเองไม่เคยได้มาเลยสักครั้งและนี่เป็นครั้งแรก ความตื่นเต้นส่งผลให้แจ็คสันขาสั่นตัวสั่นไปหมดแล้ว ติ่งมาตั้งนานประสบการณ์เข้าไซน์ก็ไม่เคยมี มีแต่เอ็กซ์คลูซีฟอยู่ที่บ้านเขาเลย แบบนี้ก็ได้หรอ บางทีก็ใกล้ชิดเกินไปไม่ได้ตั้งตัวเลยเหอะ

     

    “ตื่นเต้นหรอมือสั่นเชียว”จินยองทักออกมาเมื่อสังเกตเห็นอาการของเพื่อนร่วมงาน

     

    “อื้ม เราไม่เคยมาอะ บรรยากาศสุดๆไปเลย”แจ็คสันตอบ

     

    “ระดับแจ็คกี้ยังต้องตื่นเต้นอะไรอีก ถึงขั้นไปสั่งที่คอนโดแล้วนี่ อิอิ”จินยองล้อเพื่อนฟันกระต่ายที่นั่งข้างกัน

     

    “บ้า จินยองพูดเกินไปมันไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อย วันนั้นพี่เขาก็มาส่งจินยองด้วยไม่ใช่แงะ อย่ามาทำเป็นแซวเราน่า”แจ็คสันพูดกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง จินยองยิ่งเห็นก็ยิ่งล้อใหญ่เลย แจ็คสันก็หน้าขึ้นสีขึ้นมาด้วยความอาย

     

    “อะแฮ่ม! แจ็คสันวันนี้ให้พี่ไปส่งที่บ้านไหมจ๊ะ ฮ่าๆๆ”จินยองเก๊กเสียงขึ้นมาล้อแจ็คสัน จนแจ็คสันอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ยกไม้ตายคือพี่แจบอมขึ้นมาขู่ จินยองเลยนั่งเงียบๆเป็นเด็กดีขึ้นมาเชียวล่ะ

     

              ตอนนี้ภาพบนหน้าจอที่เป็นหน้าปกอัลบั้มของคิมยูคยอมที่ถูกตั้งไว้เพื่อรอเวลาได้หายไปแล้วกลายเป็นจอสี่เหลี่ยมจอยักษ์สีดำแทน เพลงที่เปิดคลอบรรยากาศก็เปลี่ยนไปเป็นเงียบลงจนขายาวของยูคยอมก้าวออกมาจากหลังเวที

     

    'กรี๊ดดดดดดดดดดด !'

     

    'คิมยูคยอมอปป้า กรี๊ดดดด อร๊ายยย !'

     

              แจ็คสันสะดุ้งนิดหน่อยเพราะหญิงสาวข้างๆเขากรี๊ดดังสนั่นหวั่นไหวทั้งห้องมีกันแค่ห้าสิบกว่าคนนี่เล่นกรี๊ดสะเหมือนว่าอยู่ในคอนคนเป็นหมื่นๆ นี่ถ้ายูคยอมอยู่ใกล้กว่านี้คงจะหูชาแบบที่เขากำลังประสบพบเจออยู่ในตอนนี้ก็ได้

     

    "แจ็คกี้เตรียมกล้องเลยๆ"จินยองสะกิดเขายิกๆจนมือของเขาต้องรีบเลื่อนไปประทับที่กล้องตัวเก่งของเขา แจ็คสันยกขึ้นมาส่องลำกล้องก่อนจะกดถ่ายรูปของยูคยอมเก็บเอาไว้รัวมากๆ

     

    "สวัสดีครับเด็กๆทุกคน !"ยูคยอมเอ่ยทักทายผ่านไมโครโฟนสีดำที่เจ้าตัวถือจ่อปากไว้อยู่

     

    "คิดถึงทุกคนจังเลยครับ ทุกคนคิดถึงผมไหม ~!"ยูคยอมเอามือป้องไว้ที่หูข้างหนึ่งก่อนจะทำเป็นเอียงมาฟังคำตอบ ผมก็ตอบกลับไป ตะโกนเหมือนที่แฟนๆคนอื่นๆตะโกนกัน

     

    คิดถึงงงง !

     

    "โอเคๆรู้แล้วล่ะว่าคิดถึง"ยูคยอมเอ่ยสั้นๆในฮอลล์ตกอยู่ในความเงียบทำให้ยูคยอมเอ่ยออกมาอีกครั้ง"ฟังเพลงกันดีกว่าเนาะ ระหว่างที่กำลังฟังเพลง เตรียมแผ่นซีดีขึ้นมา อยากเซ็นต์ให้ทุกคนจะแย่แล้ว"ยูคยอมบอก เพราะว่าเขามีคนเดียว อาจจะทำให้ไม่สามารถดูแลแฟนคลับได้อย่างทั่วถึง อย่างน้อยก็ไฮทัชตอนจบงานละมั้งที่ทำให้เขาได้เจอหน้าบรรดาแฟนคลับชัดๆ

     

              ทีมงานหลังเวทีก็เปิดเพลงในอัลบั้มใหม่ของคิมยูคยอมขึ้นมา เปิดในระดับเสียงกลางๆ พอให้ฟังเพลินๆและสามารถนั่งคุยกันได้โดยที่ไม่ต้องแหกปาก ยูคยอมเดินไปนั่งลงตรงที่โต๊ะแจกลายเซ็นต์ก่อนที่สาวๆแถวAจะทยอยกันเดินขึ้นเวทีไปต่อคิวขอลายเซ็นต์และพูดคุยกับยูคยอม ผมอยู่แถวCรอไปอีกหน่อยก็ถึงตาของผมแล้วแหล่ะ แถวละสิบคนๆ ก็ครบแล้ว

     

    "แจ็คกี้ถ่ายรูปกัน"จินยองเรียกแจ็คสัน กล้องเซลฟี่มิเรอร์เลสถูกงัดขึ้นมาใช้ถ่ายรูปเท่ๆกับแจ็คสัน จินยองกดถ่ายไปรัวๆ บางรูปแจ็คสันหลุด บางรูปจินยองก็หยุดเสียเอง จนเจอรูปที่ดูดีที่สุดแล้วจินยองจึงเลือกโพสต์ลงโซเชียลมีเดียพร้อมกับแท็กชื่อแจ็คสัน

     

    "แจ็คกี้ๆถึงตาแถวเราแล้วไปกันเถอะ"จินยองสะกิดไหล่แจ็คสันจึ้กๆ กระต่ายอ้วนที่นั่งรอคิวก็รู้สึกตัวและเดินตามเพื่อของเขาไป ยูคยอมแจกลายเซ็นต์และคุยกับแฟนคลับบ้างนิดหน่อย แจ็คสันได้แค่แอบมอง ยามยิ้ม ยามหัวเราะ หรือสบตากับแฟนๆคนอื่น คือธรรมชาติทุกอย่างที่เป็นยูคยอม แจ็คสันชอบ ไม่ดิ แจ็คสันโครตชอบต่างหาก

     

    "สวัสดีครับจินยอง"ยูคยอมเอ่ยทักออกมาเมื่ออัลบั้มที่ให้มาเซ็นต์เป็นของจินยอง เด็กที่เป็นเพื่อนกับแฟนบอยตัวอวบของเขา แจ็คสันยังไงล่ะ เคยไปส่งที่บ้านครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ทำไมจะจำไม่ได้(จีบแบบเข้าทางเพื่อน) จินยองเองก็ดูดีใจไม่น้อยที่เขาจำตนได้ ก็แสดงออกทางสีหน้าว่าปลื้มปริ่มสะขนาดนั้น

     

    "อุ้ย จำได้ด้วย เขินจัง"จินยองร้องบอกอย่างอายๆนิ้วเรียวแก้เก้อด้วยการเอาผมยาวๆของตัวเองเลื่อนไปทัดข้างหู ริมฝีปากสีสดส่งยิ้มให้ยูคยอมอย่างน่ารัก ยูคยอมเองก็ยิ้มตอบอย่างเป็นกันเอง

     

    "จำได้สิครับ โอะ วันนี้มีตุ๊กตามาให้หรอ ขอบคุณนะครับ"ยูคยอมร้องออกมา เมื่อตุ๊กตามูมินขนาดกลางถูกจินยองส่งมาให้ ยูคยอมรับตุ๊กตาตัวนั้นไปก่อนจะลูบหัวมันเล่นเบาๆแล้วเขียนเซ็นต์อัลบั้มให้จินยองต่อ

     

    "แต่ก็แอบอยากได้ป้ายชื่อแบบคราวก่อนอีกนะครับ น่าเสียดายจังวันนี้ไม่มีหรอ"ยูคยอมเอ่ยออกมาอย่างเศร้าเสียดาย

     

    "อ๋อมีครับๆ แต่ผมไม่ได้ทำหรอกนะ รอคิวต่อไปให้ดีกว่าครับ"จินยองบอกยิ้มๆก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปที่จุดรอคิว พบกระต่ายอ้วนนั่งโยกหัวฟังเพลงอย่างสบายใจ มางานแฟนไซต์หรือมาปิกนิกเนี่ยยัยอ้วนเอ้ย !

     

              จินยองเดินออกไปพร้อมกับอัลบั้มในมือ แจ็คสันเองก็มัวแต่นั่งฟังเพลงไม่ได้สังเกต จนแฟนคลับผู้หญิงเธอสะกิดแจ็คสันให้รู้สึกตัว แจ็คสันผงะก่อนจะตั้งตัวได้แล้วรีบขนของเดินขึ้นไปหายูคยอมบนเวทีด้านหน้า

     

    "สวัสดีครับแจ็คสัน"ยูคยอมเอ่ยทักเขาออกมาก่อน

     

    "สวัสดีครับรุ่นพี่"แจ็คสันค้อมหัวให้อย่างนอบน้อมพร้อมด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ก่อนที่ส่งอัลบั้มให้อีกฝ่ายเซ็นต์ ยูคยอมรับเอาไว้และก้มหน้าก้มตาเซ็นต์ด้วยความตั้งใจ แลดูจะบรรจงเขียนเป็นพิเศษเลยก็ว่าได้ อิอิ

     

    "ดีใจจัง"ยูคยอมเอ่ย แต่สายตากำลังจดจ้องอยู่ที่โฟโต้บุ้คภายในอัลบั้ม

     

    "อะไรหรอครับ"แจ็คสันถามออกไปอย่างซื่อๆ

     

    "ที่มาวันนี้ ...ดีใจนะ"ยูคยอมพูดต่อช่วยไขข้อข้องใจให้กับแจ็คสันได้อย่างดีเยี่ยม

     

    "อะ อ๋อ ครับ"แจ็คสันถึงกับไปต่อไม่เป็น ก้อนเนื้อในอกแอบเต้นแรงตามคำพูดหวานๆจากอีกฝ่าย เขาได้แต่ยืนราวกับกำลังสงบนิ่งรออยู่อย่างนั้น

     

    "วันนี้แต่งตัวน่ารักดีนะ"ยูคยอมชวนคุยอีก แจ็คสันจะตัวแข็งทื่ออยู่แล้ว เขาได้แต่ตอบรับเงียบๆไม่มีปากมีเสียงใดๆ

     

    "ขอบคุณครับ"

     

    "ตื่นเต้นหรออ้วน สั่นเชียว"ยูคยอมคว้ามือขาวๆของแจ็คสันมาจับไว้ก่อนจะจับโยกไปมา พร้อมเอ่ยด้วยคำพูดสุดกวน เขาแค่ไม่อยากให้แจ็คสันรู้สึกอึดอัด ให้รู้สึกเหมือนปกติดีที่สุด ให้รู้สึกเหมือนว่าเราสนิทกัน

     

    "แจ็คไม่ได้อ้วนอ้ะ !"แจ็คสันเถียงออกไปเสียงไม่ดังมากแต่มีความข่มขู่อยู่ในน้ำเสียง ยูคยอมก็คือยูคยอมคนเดิมที่ชอบกวนประสาทจริงๆสินะ ตอนแรกไอ้เราก็ทำตัวไม่ถูกหรอก แต่ดูคนพี่ดิแม่งกวน_ีน !

     

    "ครับๆ ไม่อ้วนหรอกเนาะ"ยูคยอมยิ้มล้อ

     

    "เกลียด!"แจ็คสันข่มขู่ยูคยอมด้วยสายตา อีกฝ่ายจะกวนประสาทเขาไปถึงไหนกัน

     

    "เลิกงานแล้วรอข้างหน้านะ เดี๋ยวไปรับ"ยูคยอมบอกนัดแนะกับแจ็คสัน แจ็คสันเองก็พยักหน้าตกลงอย่างเช่นเคย เขาเคยปฏิเสธยูคยอมด้วยหรอเอาจริงๆ

     

    "อะ ผม.. ให้พี่นะ"แจ็คสันเอ่ยออกมายามที่ของขวัญแสนพิเศษถูกมอบให้กับแจ็คสัน ป้ายชื่อน่ารักที่ไม่คาดคิดว่าจะถูกทำโดยฝีมือแฟนบอยถูกนำมาคล้องคอโดยที่อีกฝ่ายร้องขอบอกให้เขาสวมให้หน่อย

     

    "ทำเองหรอน่ารักจัง"ยูคยอมเอ่ยชม

     

    "ซื้อมาจากมยองดงมั้งพี่ แบร่! ไปแล่ว"แจ็คสันแลบลิ้นใส่ มือเล็กๆกวาดเอาอัลบั้มขึ้นมากอดไว้แนบอกก่อนจะเดินลงมาจากเวทีและกลับเข้าที่นั่งของตัวเองไปยูคยอมได้แต่มองตามอย่างเอาเรื่องยัยเด็กจอมซน หลังเลิกงานแจ็คสันเละแน่

     

    "แจ็คสาน~ เซ็นต์เสียนานเชียวน้า คิวที่ต่อนายนี่หน้าโครตหงิกเลยรู้ป่าว ฮ่าๆ"จินยองแซวขำๆ มือเรียวก็หยิบขนมยัดใส่ปากต่อ กินไปอย่างสบายใจโดยไม่สนใจเพื่อนเลยแม้แต่น้อย

     

    "เออใช่ ไหนเอามาดูหน่อยว่ายูคยอมเขียนอะไรไว้บ้าง"จินยองว่าอย่างพึ่งนึกขึ้นได้แล้วแบมือจะขอดูเนื้อหาด้านในที่ได้รับการเซ็นต์

     

    "ยังไม่ได้ดูเหมือนกันอะ ขอเราดูก่อน"แจ็คสันบอกเพื่อนเรียบๆมือเล็กกางหน้าโฟโต้บุ้คออกมาดูก่อนจะพบกับข้อความที่อีกฝ่ายเซ็นต์ให้ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

     

    'To. My Wang Jackson

    ขอบคุณที่มาในวันนี้นะ ขอบคุณที่คอยติดตามกันมาตลอด จากนี้ไปจะตั้งใจมากขึ้น รักนะครับ -Yugyeom'

     

    "ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนี่นา"แจ็คสันบ่นออกมาเบาๆ มือเรียวส่งไปให้จินยองที่กำลังรออยู่อย่างใจจดใจจ่อ

     

              จินยองรับโฟโต้บุ้คมาถือไว้ในมือ มือเรียวกรีดหน้าหนังสือทีละหน้าจนพบจดหมายแปลกปลอมอะไรบางอย่าง เขาไม่รู้หรอกว่ามันมี แต่สัญชาติญาณของจินยองไม่เคยมีพลาด คนอย่างยูคยอมน่ะหรอจะไม่มาเต๊าะเพื่อนของเขา น้อยไปสิมาเอาอกเอาใจ ทำนู่นนี่ให้อย่าคิดนะว่าไม่รู้ แจ็คสันใสซื่อเกินไป เหมือนจะรู้ทันแต่ยัยกระต่ายอ้วนก็ยังด้อยประสบการณ์นัก

     

    "อะ ของแจ็คกี้"จินยองยื่นจดหมายให้เขาไม่ได้ถือวิสาสะในการเปิดอ่านจดหมายเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าตัวเขาจะอยากรู้มากก็ตาม

     

    "หื้ม มีนี่ด้วยงะ"แจ็คสันกำลังนั่งเช็ครูปของยูคยอมในกล้องก็เอ่ยออกมาติดจะงงๆเมื่อจินยองยื่นการ์ดอะไรบางอย่างให้เขา

     

    "ลองเปิดดูสิไม่แน่ใจเหมือนกันน่ะ"จินยองบอกแจ็คสันพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วคลี่กระดาษที่ถูกพับสอดไว้ออกมา

     

    ' ยังไม่ได้ลืมสัญญาใช่ไหม ? ที่ผมบอกว่าจะกลับมาทวงคำตอบจากแจ็คสัน งานเลิกแล้วเจอกันนะ ผมจะรอที่จะได้คุยกับแจ็คสัน -ยูคยอม'

     

    "..."แจ็คสันอ่านจบแล้วพับกระดาษที่มีข้อความลง แจ็คสันดูจะนิ่งไปหลังจากที่อ่านจบ มือเล็กๆที่ถือจดหมายแอบสั่นเบาๆ ใบหน้าหวานซับสีเลือดขึ้นมานิดๆจนคนมองผ่านๆอาจจะคิดว่าแจ็คสันร้อน แจ็คสันร้อนก็จริงแหล่ะ แต่ไม่ได้ร้อนเพราะอากาศ 'เขารู้สึกหน้าร้อนๆเพราะจดหมายของยูคยอมต่างหาก'

     

    "แหนะ หน้าแดงนะ"จินยองแกล้งแซวแจ็คสันอย่างเต็มที่ มือเรียวคว้ากระจกส่องหน้าขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ไปจ่อหน้าแจ็คสัน เพื่อนตัวเล็กฟันกระต่ายก็เผลอตะครุบหมับเข้าที่ข้างแก้มอย่างร้อนตัวเล็กๆก่อนจะหันไปแหวใส่เพื่อนขี้แกล้งอย่างปาร์คจินยอง

     

    "ขี้แกล้ง !"แจ็คสันว่าเข้าให้ แต่จินยองก็ยังคงหัวเราะชอบใจตามแบบฉบับตัวเอง เรื่องคู่ชงคู่ชิปไว้ใจพ่อสื่อจินยองสิครับ

     

              แจ็คสันเลิกสนใจจินยองแล้วดูรูปถ่ายของยูคยอมที่ถ่ายโดยเขาต่อ แทบทุกรูปที่ยูคยอมจะมองกล้อง มุมเผลอมีบ้างแต่ไม่เยอะ แจ็คสันนั่งดูไปยิ้มไปอย่างเพลิดเพลิน จนจินยองหันมาบอกกับเขาว่าการแจกไซน์จบลงแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายูคยอมยังมีเซอไพรส์พิเศษมาเล่นกับแฟนๆอยู่

     

    "วันนี้ผมมีของมาให้ทุกคนด้วย อยากได้กันไหมครับ !"ยูคยอมถามพลางยื่นไมค์มาทางแฟนๆที่นั่งกันเรียบร้อยบนเก้าอี้ สาวเล็กสาวใหญ่พากันกรี๊ดกร๊าดให้ความสนใจอย่างเต็มที่ยูคยอมกวาดสายตามองไปรอบๆก่อนจะหยุดที่แจ็คสันชั่วขณะหนึ่งแล้วสนใจกับแฟนคลับทุกๆคนต่อ

     

    "อะๆทุกคนหลับตา ใครแอบลืมตาผมไม่รักนะ"ยูคยอมพูดขู่แฟนๆ เสียงบ่นกระเง้ากระงอดดังขึ้นมาเล็กๆ จนเมื่ออยู่ดีๆก็มีเสียงกรี๊ดดังออกมา ทุกคนพร้อมใจกันลืมตาขึ้นมาทันที

     

              ภาพที่แจ็คสันได้เห็นคือบรรดาคัพเค้กสีหวานที่กำลังถูกยูคยอมและทีมงานเข็นออกมาเรียงรายอย่างยั่วใจบรรดาแฟนคลับตัวน้อยๆของยูคยอม หมวกคลุมผมและผ้ากันเปื้อนอย่างเชฟในภัตตาคารถูกยูคยอมสวมใส่เอาไว้ โฟกัสของแฟนคลับแปรเปลี่ยนจากยูคยอมมาเป็นคัพเค้กหน้าตาน่าทานทันที แต่ก็มีบางส่วนที่คว้ากล้องมาถ่ายกันอย่างรัวๆ จนยูคยอมต้องร้องเบรกแฟนๆเอาไว้ก่อน

     

    “อยากทานกันแล้วใช่ไหม โอเควันนี้ง่ายๆไม่มีอะไร เพราะผมทำมาแจกเด็กๆทุกคน !”ยูคยอมพูดด้วยเสียงที่ชวนตื่นเต้นแฟนแต่ละคนร้องดีใจไชโยกันทุกคน สาวๆละก็เป็นพวกเดียวกับของหวานล่ะนะ

     

    “เอาล่ะมาต่อคิวรับขนมกันได้เลย เชิญครับผม”ยูคยอมผายมือเป็นวงกว้างเพื่อเชื้อเชิญแฟนคลับในโซนแรกให้เดินออกไปรับขนมก่อน ทุกๆคนวางของไว้บนเก้าอี้แล้วเดินไปรับขนมจากยูคยอมก่อนจะนำมานั่งถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน

     

    ขอบคุณมากนะครับ

     

    ผมทำเองกับมือเลยนะ

     

    ดีใจที่มานะครับ

     

    ทานให้อร่อยนะครับ

     

    มีความสุขมากๆนะครับ

     

    ไม่อร่อยอย่าว่ากันนะฮ่าๆ

     

              หลายถ้อยคำถูกยูคยอมนำมาใช้เพื่อแสดงความรู้สึกในตอนนี้ เขาแจกคัพเค้กด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่แสนสดใส เหล่าเด็กน้อยของเขาเองก็ตอบรับกันอย่างน่ารักน่าชัง ทุกคนยิ้มแย้มและรับเค้กไปด้วยหัวใจที่พองโตด้วยความรู้สึกดี ผ่านไปไม่นานก็มาถึงคิวแจ็คสันกับจินยอง

     

    “คนนี้ให้ไม่ได้ครับ”แจ็คสันชะงักกึก ริมฝีปากบางที่เจือรอยยิ้มหุบลงไปน้อยจนกลายเกือบหน้านิ่ง ยูคยอมไม่ยอมให้เค้กแสนอร่อยนั่นกับเขาและผายมือเชิญออกกลับไปนั่งที่ที่เดิม แจ็คสันเดินออกมาด้วยใจห่อเหี่ยว เพื่อนๆในงานที่เห็นเหตุการณ์ก็พูดให้กำลังใจกันเล็กน้อย มีคนแบ่งเค้กให้กับแจ็คสันด้วย แจ็คสันส่งยิ้มให้และปฏิเสธน้ำใจไป เขารู้ว่านี่มันมีคุณค่าทางจิตใจของอีกฝ่ายเพราะงั้นจึงไม่ขอแชร์ขนมเค้กด้วยกันจะเป็นการดีที่สุด เขาได้แต่ยิ้มเจื่อนๆกลับไปนั่งรอพลางมองมือของตัวเอง ไม่รู้จะพูดอะไรดี ในลำคอมันแห้งผากเกินกว่าจะสามารถเปล่งเสียงหรือคำพูดใดๆออกมาได้

     

              แล้วยูคยอมก็ให้เค้กเสร็จสิ้นครบทุกคน ทุกๆคนได้เค้กกันหมดยกเว้นแจ็คสัน ทุกอย่างมันดูน่าอร่อย เขาที่ชอบทานของหวานอยู่แล้ว เกิดเรื่องแบบนี้แล้วรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อยเลย ได้แต่สงสัยว่าทำไมเป็นเขาที่ไม่ได้ยูคยอมจะแกล้งอะไรกัน

     

    พรึ่บ !

     

    ไฟดับ ?? เรื่องอะไรกัน...?

     

    [ แซงงิลชุกคาฮัมนิดา~
     เเซงงิลชุกคาฮัมนิดา~
     ซารังฮานึน แจ็คซึน ชี่~
     เเซงงิลชุกคาฮัมนิดา~ ]

     

    O_o!!!!!!!!

     

    แว้กกกกกกกกก !

     

              นี่เซอไพรส์เขาแบบนี้หรอเนี่ย ร้ายกาจ ยูคยอมร้ายกาจมากจริงๆ ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่ามีเหตุการณ์อะไรแบบนี้ในงานแจกลายเซ็นต์ด้วย ฮือ ยูคยอมทำเขาไปไหนไม่รอดเลเวลแปดสิบเก้าได้แล้วมั้งเนี่ย ที่รู้วันเกิดของเขาอาจจะเพราะว่าตอนลงชื่อเข้าร่วมงานที่ได้ลงชื่อตัวเองไว้ในเว็บไซต์ก็เป็นได้

     

    เป่าเทียนสิครับยูคยอมเอ่ย แจ็คสันจึงก้มหน้าเป่าลมเบาๆออกมาเพื่อดับเทียนเล็กๆบนเค้กวันเกิด แฟนๆทุกคนกรี๊ดกันระงม แสงแฟลชและเสียงถ่ายรูปสาดใส่เข้ามาจนแทบจะหูอื้อ แจ็คสันเองก็เผลอยิ้มกว้างออกมาไม่รู้ตัว แสงไฟกลับมาสว่างจ้าอีกครั้งโดยฝีมือของเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบไฟของสถานที่จัดงานแจกลายเซ็นต์

     

              ยูคยอมจูงมือแจ็คสันให้เดินขึ้นมาบนเวทีด้วยกันแจ็คสันเดินตามขึ้นไปอย่างอายๆเพราะทุกสายตาจับจ้องมาที่เขา และที่สำคัญยูคยอมจับมือเขาและพาไป โครตของโครตเขินแต่เขาก็พยายามทำใจไม่ให้สั่นออกมา แจ็คสันถูกพามานั่งลงที่เก้าอี้นวมที่ทีมงานเตรียมไว้ ด้านหน้าเป็นโต๊ะเตี้ยๆวางอยู่ เค้กวันเกิดสีสวยถูกวางลงบนโต๊ะตัวนั้นพร้อมกับยูคยอมที่ส่งมีดตัดเค้กให้กับเขา แจ็คสันรับมาและใช้ตัดแบ่งเค้กออกเป็นหลายชิ้น

     

    “ชอบไหม”ยูคยอมถามปากเปล่าไม่ได้ผ่านไมค์ การสนทนาจึงเป็นเรื่องที่ได้ยินกันเพียงสองต่อสองที่อยู่ใกล้ชิดกัน

     

    “ชอบมากๆ ขอบคุณนะครับ ตอนแรกเล่นเอาใจเสียเลย”แจ็คสันย่นจมูกใส่นิดนึง มือเรียวตัดเค้กเอาเข้าปากก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆ ยูคยอมมองการกระทำน่ารักที่ดูเป็นธรรมชาติของแจ็คสันอย่างยิ้มๆและเอ่ยต่อ

     

    “ใจเสียเหมือนกัน กลัวจะไปทำเราร้องไห้”ยูคยอมบอกความลับในใจออกมา แจ็คสันหน้าขึ้นสี ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลยจริงๆ แต่ก็คือคำตอบของยูคยอมมันก็ชัดเจนมากว่าแคร์เขา เขาเขินจัง

     

    “เป็นห่วงหรออ”แจ็คสันอมยิ้มก่อนจะถามลากเสียงยาวๆยูคยอมยีผมแจ็คสัน แอบได้ยินเสียงกรี๊ดจากแฟนๆคนอื่นเบาๆ เสียงกดถ่ายรูปยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง

     

    “ห่วงครับ”ยูคยอมจ้องตา แจ็คสันที่กำลังกินเค้กอยู่แล้วถูกจ้องตาก็เกิดอาการขัดเขิน แค่นี้ก็ฟินจนตัวจะแตกแล้วยังจะมาทำอะไรแบบนี้ให้อีก มือเรียวถูกยกขึ้นมาบังช่วงหน้าของตัวเองก่อนที่แจ็คสันจะหลบสายตาด้วยการหันหน้าหนีและเสมองไปทางอื่น

     

    “พี่กินไหม”แจ็คสันไม่อยากให้เกิดความเงียบนานเกินไปจึงชวนยูคยอมคุยบ้าง เขาเลือกที่จะชวนอีกฝ่ายให้กินเค้กวันเกิดสุดพิเศษนี้ด้วยกัน ยูคยอมพยักหน้าน้อยๆเป็นการตกลงและเอ่ยออกมาว่าอยากให้เขาเป็นคนป้อนให้ แจ็คสันมองค้อนใส่ไปทีหนึ่งก่อนจะยอมตัดเค้กแล้วป้อนให้ ขนาดก้มกินยังจะมีการช้อนตามามองหน้าเขาอีก ยูคยอมทำเกินไปแล้วนะ เขาจะขาดใจตายแล้วรู้บ้างไหมเนี่ย ถึงจะเคยใกล้ชิดมามากกว่านี้แล้วแต่ใครมันจะไปชินกันล่ะ คนบ้า .///.

     

              งานแฟนไซต์จบลงด้วยดีไปกับการไฮทัช แจ็คสันกำลังรอยูคยอมอยู่ที่ด้านหน้าฮอลล์จัดงานแฟนไซน์ ส่วนจินยองน่ะแล่นไปหาพี่แจบอมที่ร้านกาแฟตั้งแต่จบงานแล้ว ก่อนไปมีการมาแซะเขาเรื่องยูคยอมอีกด้วยนะ แล้วแถมบอกว่าจะกลับบ้านไปสวีทกับพี่แจบอมอย่างนั้นอย่างนี้ หมั่นไส้อ่า

     

              ก็เขากับยูคยอมไม่ใช่แฟนกันแบบสองคนนั้นนี่ จินยองน่าหมั่นไส้ที่สุด .เบะปากมองบน มือเล็กๆยังคงวุ่นวายกับกล้องถ่ายรูปที่พกติดตัวมาในวันนี้ด้วย เขายืนดูรูปไปและยิ้มไปด้วย บางรูปยูคยอมก็ทำหน้าเสียตลกจนเขาเผลอหัวเราะออกมาเสียงใส

     

    จึ้ก จึ้ก

     

              แรงสะกิดที่ไหล่จากด้านหลังทำให้แจ็คสันรู้ได้อย่างดีว่าคนที่เขากำลังรออยู่ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว

     

    "รอนานไหม โทษที พอดีอยู่ขอบคุณทีมงานนิดหน่อย"ยูคยอมเดินออกมา ร่างสูงอยู่ในเสื้อผ้าที่เป็นสไตล์ที่เจ้าตัวชอบใส่อยู่ประจำ และไม่ขาดหมวกแก็ปใบสีดำที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

     

    "ไม่เลย"แจ็คสันส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเก็บกล้องในมือลงกระเป๋าเรียบร้อยและทั้งคู่ก็เดินออกไปด้วยกันเพื่อไปขึ้นรถสปอร์ตคันหรูของยูคยอม

     

    "หิวข้าวหรือเปล่า"ยูคยอมชวนคุยหลังจากที่ขึ้นมานั่งประจำที่บนรถ

     

    "ไม่หิวๆ แล้ววันนี้เราไปไหนครับ"แจ็คสันถามเข้าประเด็น

     

    "วันนี้ไปไกลหน่อย"ยูคยอมพูด"มีเรื่องอยากจะคุยด้วยนิดหน่อย แล้วก็ถือว่าพาไปเที่ยวด้วย"เขาส่งยิ้มบางๆให้กับตุ๊กตาหน้ารถตัวกลม

     

    "อื้อ"ร่างเล็กพยักหน้ารับประมาณว่าเข้าใจแล้วและไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อ รู้สึกอึดอัดแปลกๆมันไม่ชอบมาพากลเอาเสียเลย แจ็คสันอึดอัดใจในเวลาแบบนี้ เพราะว่าข้อความในการ์ดนั่น ที่อีกฝ่ายบอกอยากจะทวงคำตอบจากเขา แจ็คสันคิดจนหัวจะแตกหมดแล้วนะ

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

    "ถึงแล้ว ที่นี่แหล่ะที่อยากพามา"แจ็คสันเปิดประตูรถเดินลงไปโดยมียูคยอมคอยเดินตามลงมา ก่อนที่ขายาวจะเป็นคนเดินนำหน้าแจ็คสันไป

     

    "โบสถ์หรอ"แจ็คสันพูดขาก็ก้าวตามหลังยูคยอมไป

     

    แอ๊ด กรึ่ก

     

              ยูคยอมเปิดประตูเข้าไปโดยเปิดค้างรอให้เขาเดินก่อนจะค่อยปิดประตูโบสถ์ลงอย่างเบามือแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้แถวเกือบๆด้านหน้า ยูคยอมประสานมือเข้าหากันก่อนจะเริ่มสวดภาวนาในใจ เขาอยากขอพรจากพระเจ้าให้ตนเองโชคดีก่อนที่จะเริ่มทำอะไรบางอย่าง

     

              แจ็คสันที่นั่งอยู่ข้างกันกำลังประสานมือในท่าทางที่ไม่ต่างไปจากยูคยอม แจ็คสันขอพรจากพระเจ้าให้ตัวเองโชคดีและขอให้พ่อแม่ของเขานั้นมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง

     

              ยูคยอมนั่งอย่างสงบ สายตาคมทอดมองไปที่รูปปั้นของพระผู้เป็นเจ้าตรงหน้าราวกับต้องการทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นขุ่นมัวได้สงบลง การใช้หลักธรรมเข้าช่วยทำให้เขาผ่อนคลายและรู้สึกใจเย็นมากขึ้น แจ็คสันสงบนิ่งเช่นเดียวกัน

     

    "ยูคยอม"เสียงเรียกชื่อของร่างสูงเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังของพวกเขาทั้งคู่ แจ็คสันหันกลับไปมองต้นเสียงเช่นกันและได้พบกับบาทหลวงท่าทางมีอายุท่านหนึ่ง บาทหลวงคนนั้นส่งยิ้มใจดีมาให้กับพวกเขา

     

    "หายไปเสียนานเลยนะ เป็นอย่างไรบ้างล่ะ"บาทหลวงชวนคุยด้วยท่าทางใจดีแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสำรวมต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า

     

    "ก็ดีขึ้นประมาณหนึ่งน่ะครับ"ยูคยอมตอบอย่างสำรวมและเอ่ยเล่าเรื่องต่อ"ช่วงนี้งานยุ่งๆผมเลยไม่ค่อยได้มาครับ แล้วก็ติดธุระกับคนนี้ด้วย"ยูคยอมพูดยิ้มๆชี้มือไปที่แจ็คสันที่กำลังยืนตัวกลมๆอยู่

     

    "ขอให้พระเจ้าคุ้มครองลูกนะ"บาทหลวงพูดกับแจ็คสัน ร่างเล็กยิ้มบางๆอย่างเรียบร้อย

     

    "ผมชื่อหวังแจ็คสันครับ เรียกแจ็คสันก็ได้"แจ็คสันแนะนำตัวกับบาทหลวง

     

              พวกเราคุยกันด้วยเรื่องราวของยูคยอมอยู่สักพักหลวงพ่อก็ขอตัวไปทำงานต่อ ผมและยูคยอมเดินออกมาจากโบสถ์เขาบอกว่ามีที่หนึ่งที่ไม่ไกลจากโบสถ์อยากจะพาไป แจ็คสันไม่มีความจำเป็นต้องขัดใจของยูคยอมก็ตามใจอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย

     

              ที่ที่ยูคยอมพามามันไม่ได้ไกลจากโบสถ์มากอย่างที่บอก เป็นเหมือนสวนสาธารณะขนาดย่อม แต่มีจุดเด่นคือดอกไม้สีฟ้าที่ถูกปลูกไว้รายล้อมทั้งสวน แจ็คสันไม่เคยมาที่นี่ นั่นทำให้ร่างเล็กยิ่งรู้สึกตื่นตาตื่นใจเข้าไปใหญ่ กล้องถ่ายรูปที่พกมาในวันนี้ถูกนำออกมาถ่ายภาพอย่างคุ้มค่ากับราคาสุดโหดของมัน

     

              แจ็คสันถ่ายวิวทิวทัศน์และธรรมชาติไปเรื่อยๆ เขาไล่สายตาและโฟกัสแต่ละส่วนของสถานที่แห่งนี้ กล้องขนาดพอเหมาะหันไปมาจนมาหยุดอยู่ตรงใบหน้าของยูคยอมที่มองกล้องมาเช่นกัน เขาที่ส่องกล้องอยู่ก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างสูงกำลังจ้องตา มันทำให้เขารู้สึกเขินจนต้องถอนสายตาออกจากรูกล้องแล้วทำเป็นเลื่อนดูรูปอื่นๆแทน เขาถูกยูคยอมเอามือดันหลังให้เดินมานั่งที่ม้านั่งข้างริมทางส่วนเจ้าตัวก็ขยับตัวเองไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับผม

     

    "แจ็คสัน"เสียงยูคยอมเรียก

     

    "ฮื่อ ครับ"แจ็คสันเลี่ยงที่จะใช้สายตามองยูคยอม เขาเสมองไปทางอื่นเรื่อยๆชมนกชมไม้ ผีเสื้อสีสวยบินมาเกาะที่ปลายจมูกแจ็คสัน คนตัวเล็กก็จ้องตามจนตาใสราวกับลูกแก้วมันเริ่มเอียงเข้าหากัน แล้วผีเสื้อตัวนั้นก็บินไป ยูคยอมอยู่เงียบๆก็หัวเราะออกมานิดหน่อย

     

    "ผมชอบมาที่โบสถ์ เพราะว่ามันช่วยให้ผมสงบลงได้ดีมาก เหมือนได้ผ่อนคลาย"ยูคยอมเล่าออกมา เขาเปิดเผยเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนแต่เป็นตัวตนของเขาให้แจ็คสันฟัง เขารับฟังคำบอกเล่าจากปากของยูคยอมอย่างให้ความสนใจ

     

    "ผมมักจะมาที่นี่เพียงคนเดียว เวลาผมขอพรจากพระเจ้าทุกๆครั้งผมจะขอให้เกิดเรื่องดีๆขึ้นกับชีวิตของผมเสมอ"ยูคยอมยังคงเล่าต่อ

     

    "แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ขอแบบนั้น เพราะว่าผมมากับแจ็คสัน"ยูคยอมจ้องมองลึกไปที่ดวงตาของผม ผมเขินและอายจนอยากจะหลบสายตาจากเขา แต่ผมไม่มีความกล้าพอ นัยน์ตาคมคู่นั้นทรงเสน่ห์จนผมไม่อาจจะละสายตาออกไปได้เลย กว่าสมองจะประมวลผลและตอบโต้บทสนทนากับอีกฝ่าย ผมถึงกับต้องใช้เวลาคิดสักพักใหญ่ๆไปเลย

     

    "แล้ว... พี่ขอพรว่าอะไร"ผมถามออกไปก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องการให้ถามกลับแบบนี้หรือเปล่าแต่ก็พลั้งปากถามออกไปแล้ว

     

    "ผมขอให้ความรักของผมโชคดี"ยูคยอมตอบ เขาเม้มปากตัวเองและเงียบไปในที่สุด ผมไม่ตอบอะไรไปเพียงแค่มองหน้าเขานิ่งๆและเผลอกัดปากตัวเองไม่รู้ตัว

     

    "ไม่รู้เหมือนกันว่าแจ็คสันจะคิดเหมือนกันไหม แต่ผมรู้สึก ผมคิดถึงแจ็คสันและหวงแจ็คสัน ไม่สบายใจเลยเมื่อไม่รู้ว่าแจ็คสันอยู่ไหนหรือทำอะไร แล้วพอได้เจอผมก็รู้สึกดี ความกังวลของผมมันก็หายไป ไม่ใช่แค่เรื่องตัวแจ็คสัน ทุกๆเรื่องผมแทบจะลืมมันไป ผมชอบแจ็คสัน ผมไม่เป็นแบบนี้กับใคร"ยูคยอมพูดออกมายาวๆยิ่งพูดผมก็ยิ่งเขิน ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบเขาหรือไม่ชอบคำพูดของเขา เกิดมา19ปีพึ่งจะเคยโดนสารภาพรักก็วันนี้แหล่ะ ผมก็แค่ทำตัวไม่ถูก แต่เรื่องแบบนี้ผมคงใช้สมองแก้ไม่ได้แล้วจริงๆ ใครมีคำแนะนำบอกผมทีครับ( ;_;)

     

    "คือ คือผม"แจ็คสันตื่นเต้นและตื้นตันเขาเรียบเรียงพูดออกมาไม่ถูก แต่ที่แน่ๆคำตอบที่มันโคตรชัดเจนเลย 'คือเสียงหัวใจของแจ็คสัน'

     

    "ผมไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไหมเนี่ย"ร่างบางถึงกับเสียสติและใช้มือขาวๆนั้นหยิกแขนเรียวของตัวเองจนต้องร้องโอ๊ยออกมา ยูคยอมเห็นแล้วก็อยากจะบ่นแจ็คสันเหลือเกินว่าจะทำร้ายตัวเองไปทำไมกัน

     

    "อย่าทำอย่างนี้สิ แขนช้ำแล้วนั่น"ยูคยอมอดที่จะพูดออกมาไม่ได้"แล้วคำตอบของผมล่ะ"ยูคยอมถามย้ำ

     

    "ง่ะ แจ็ค แจ็คไม่รู้"แจ็คสันก้มหน้ามองไปที่โต๊ะสีขาวที่กั้นกลางระหว่างม้านั่งของเขาทั้งคู่ เขาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆมือของเขาถูกฝ่ามือหนากุมเอาไว้แล้วถูกดึงให้มาสัมผัสกับใบหน้าใสๆ ยูคยอมสบตากับเขาอีกแล้ว ครั้งนี้เขาไม่มีโอกาสได้หนีเพราะคนตัวโตพูดดักเอาไว้

     

    "เป็นแฟนกัน"เสียงทุ้มต่ำเอ่ย สายตาที่จ้องมองแจ็คสันราวกับโดนสาป เขาไม่สามารถปฏิเสธยูคยอมได้จริงๆ อย่างเรื่องตอนนี้ ก็เช่นกัน

     

    "นะ"

     

     

    "พี่ชอบเรา"

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    "อะ อื้อ"

     

     

    ('_')(._.)('_')

     

     

              อ่า เขาตอบตกลงออกไปแล้วสินะ ใช่ไหม ตกลงนี่เรื่องจริงหรอ แล้วตอนนี้ต้องทำยังไงต่อ เขารู้สึกร้อนที่หน้า ความรู้สึกเหมือนตัวจะแตก ฟินจนตัวแตกอาจจะเป็นความรู้สึกแบบนี้ก็ได้มั้ง คิดไรไม่ออกแล้ว แม่ง ...เหมือนจะละลายเลยว่ะ

     

    "รู้สึก เหมือนจะละลายเลยอะ"แจ็คสันบอกคิ้วสวยขมวดกันขึ้นมาเล็กน้อย แจ็คสันสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ยูคยอมมองแล้วก็พลางคิดอะไรบางอย่างจนต้องพูดออกมาท่าทางเคร่งเครียด

     

    "แจ็คสัน"ยูคยอมเอ่ยเรียกชื่อออกมาก่อนและพูดต่อ

     

    "อย่าน่ารักไปมากกว่านี้ได้ไหม"

     

    "พี่เองก็เขินเหมือนที่เราเขินนั่นแหล่ะ"

     

    "มีแฟนน่ารัก"ยูคยอมยิ้ม ยิ้มกว้างสุดๆจนเหมือนแก้มจะแตกออกมา เขาแอบเห็นว่าใบหน้าหล่อนั้นขึ้นสีแดงเรื่อ คนตัวโตหันมองไปรอบๆแก้อาการเขิน

     

    "ฮื่อออ พอแล้ว ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนะ”แจ็คสันเบือนหน้าหนียูคยอม รู้สึกว่ามือไม้มันช่างเกะกะก็วันนี้แหล่ะไม่รู้ว่าจะต้องเอาไปวางไว้ตรงไหนเลยแจ็คสันไม่สามารถหุบยิ้มได้อีกด้วย ทุกอย่างตอนนี้มันมีความสุข แจ็คสันชอบ ชอบทุกอย่างที่เป็นตอนนี้ ยูคยอมเองก็ชอบมากเช่นกัน

     

              บรรยากาศยามเย็นท้องฟ้าทอแสงสีส้มอ่อนที่เคยดูเงียบเหงาวันนี้กลับไม่เป็นอย่างเคยสำหรับแจ็คสันและยูคยอมอีกแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีของขวัญหรูๆ ไม่มีอาหารรสเลิศ มีเพียงแค่บรรยากาศยามเย็นที่สวนสาธารณะเพียงเท่านั้น ทั้งคู่นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน ฝ่ามือหนาที่เคยกอบกุมมือเขาเอาไว้ ยูคยอมมีสิทธิ์ในตัวของแจ็คสันอย่างบริบูรณ์ เช่นเดียวกับแจ็คสันที่มีสิทธิ์ในตัวของยูคยอม ความสัมพันธ์ที่มีชื่อเรียกว่าแฟนไม่ใช่แฟนคลับ

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป

     

    คุยกันซักแป้บนึง : กรี๊ดดดดดดด เป็นแฟนกันแล้วเว้ยยยยย โอ้ยยยยย ตอนนี้ทำเอาคนเขียนเหงื่อตก ไม่รู้จะสื่ออารมณ์ออกมายังไงดี ปกติคนเราสารภาพรักกันยังไงนะ คือคนเขียนไม่มีฟีลนี้ว่ะ555555 โอ๊ยยย เอาเป็นว่าตอนนี้ใครไม่เม้นท์แกใจร้ายมากกก ชั้นแต่งมาเบอร์นี้แล้ว ฮริ้งงงง ขอให้ทุกคนชอบแล้วกันน ใครไม่ชอบชั้นชอบเองก็ได้ค่า จุบุ ตอนนี้มายาวหน่อย ชดเชยให้ตอนที่แล้วที่มันสั๊นสั้น อิอิ แถมลงให้ไวด้วยยย อยากอ่านตอนต่อไปล่ะสิ ฮึๆๆ รอยาวเลยจ้า คนเขียนติดสอบและค่ายลูกเสือน้า แต่จะพยายามมาอัพเดทเพิ่มเติม ถ้าตอนนี้มีคนเม้นท์อย่างน้อยสองคนชั้นจะพิจารณาดู ชอบอ่านทุกๆคอมเม้นท์มากจริงๆนะ เรารักคนอ่านทุกคนค่า ขอบคุณสำหรับกำลังใจ

     

     

    อันนี้คือเกมที่พี่มาร์คเล่นกับยองแจนะคะ

    สร้อยที่พี่มาร์คซื้อใส่คู่กับแบมแบมนั่นเอง

    นี่คือแจ็คสันวิ้งค์ใส่มาร์คตอนนั่งกินชานมไข่มุกด้วยกัน

    สวนดอกไม้สีฟ้าที่ยูคยอมพาไปค่ะ อันนี้เป็นสวนดอกไม้ของประเทศญี่ปุ่นน้า

    อันนี้คือตุ๊กตามูมินที่จินยองให้กับยูคยอมในงานแฟนไซน์ค่าเผื่อหลายคนไม่รู้จักและนึกภาพไม่ออก คนเขียนก็มีภาพมาประกอบให้ค่า ขอให้สนุกกับนิยายเราน้า รักส์ *0*
     

    。SYDNEY♔
    Orange Bobblehead Bunny
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×