ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] The Series : Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี Yugjack ft. Bammark (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter seven ::: 100% :::

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 60







    (แจ็คสันนิวลุคส์)
    ปล.มีเพลงอยากให้ฟังระหว่างอ่านตอนนี้ เนื้อเพลงอาจจะไม่เกี่ยวหรืออาจจะเกี่ยว แต่แนะนำให้ฟังเพื่อเสริมอรรถรส ใครอ่านบนมือถือ ไปเลยค่ะยูทูปเพลงชื่อ some


    Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี

    วอเทอร์

    ตอนที่ 7

     

     

     

     

     

     

     

              วันศุกร์เวลาแปดโมงเช้าของแจ็คสัน

     

              ร่างบางกำลังจัดการเตรียมตัวสำหรับงานเกษตรแฟร์ในวันนี้ งานเริ่มตอนเที่ยงตรง แต่ที่ต้องตื่นมาตั้งแต่ไก่โห่เพราะเขามีนัดสำคัญกับยูคยอมตั้งหาก

     

              เขายืนมองตัวเองในสภาพโฉมใหม่อยู่ครู่เดียวเท่านั้นจริงๆก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างที่ควรทำ แล้วออกมาแต่งตัวเพื่อรอยูคยอม

     

              ยืนอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าเกือบๆห้านาทีเพื่อชุดที่จะใส่ เลือกเสื้อทรงโอเวอร์ไซส์สีดำลายตัวหนังสือภาษาอังกฤษมาสวมใส่ แล้วก็กางเกงยีนส์เดฟสีซีดที่ขาดเข่า แต่สภาพดูแล้วมันขาดทั้งขาเลยตั้งหากล่ะ แทบจะขาดไปจนถึงกางเกงลิงของเขาอยู่แล้ว (เสื้อผ้าทั้งหมดนี้จินยองพาไปซื้อใหม่หมดเลยตอนไปแปลงโฉม)

     

    "ซี๊ดส์"แจ็คสันถึงกับสูดปากเพราะความเจ็บจี๊ดตรงบริเวณสะดือและหูทั้งสองข้างที่ไปเจาะมาได้รับการกระทบกระทั่งยามใส่เสื้อผ้า

     

              สำหรับแจ็คสันมันไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอก แต่มันเหมือนเจ็บแบบรำคาญๆอะ คือมันระแวงไงว่าจะไปโดน เขากลัวเจ็บอะ

     

              ตอนนี้ได้เวลาแล้ว เขาจัดการล็อกห้องให้เรียบร้อยแล้วเดินไปลงลิฟต์เพื่อตรงไปที่ล็อบบี้ ยูคยอมนัดเขาไว้เก้าโมงครึ่ง ตอนนี้เก้าโมงนิดๆแล้ว

     

              ผมเดินออกจากลิฟต์ก็พบกับยูคยอมกำลังนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ ที่ผมจำได้ก็เพราะว่าเขาไลน์มาบอกว่าใส่ชุดอะไร แถมรูปร่างสูงโปร่งโดดเด่นนั่นก็ทำให้สังเกตเจอเอาได้ง่ายๆ

     

    จึ้ก จึ้ก

     

    "ครับ?"ยูคยอมรับคำงง ผู้ชายตรงหน้าทักเขาทำไม

     

    "ไปกันเลยไหมครับ"ผมพูดออกไปแถมยิ้มหวานๆให้อีกหนึ่งที จินยองบอกพวกผู้ชายก็แพ้รอยยิ้มหวานๆทั้งนั้นแหล่ะ ผมก็ผู้ชายนะแต่ไม่ได้รู้สึกแพ้กับรอยยิ้มอะไรพวกนี้หรอก ถ้าแพ้ ก็แพ้เพราะ'ชอบ'

     

    "หืม แจ็คสันหรอ"ยูคยอมจับหน้าของแจ็คสันหันไปหันมาเพื่อเช็คให้แน่ใจกับความเปลี่ยนแปลงของแจ็คสัน เกิดอะไรขึ้นกับแฟนบอยของเขาล่ะเนี่ย

     

    "ทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะ"ยูคยอมพาแจ็คสันเดินออกไปขึ้นรถและชวนคุยไปด้วย

     

    "ก็อยากตามแฟชั่นบ้างน่ะครับ ไม่ดีหรอ._. "แจ็คสันถามอย่างเสียความมั่นใจ

     

    "ไม่หรอก แจ็คจะเป็นยังไงก็'น่ารัก'สำหรับผมเสมอแหล่ะ"ยูคยอมยิ้มมุมปากนิดๆ ท่าทางนิ่งเรียบติดจะไปทางเฉยชาเสียด้วยซ้ำแต่ไม่รู้ทำไมแจ็คสันถึงได้รู้สึกพิเศษอย่างนี้นะ

     

    (.///.)

     

    "แล้ววันนี้เราจะไปไหนกันก่อนหรอครับ"แจ็คสันหันไปถามยูคยอมที่กำลังขับรถอยู่

     

    "ผมมีถ่ายแบบน่ะ แจ็คสันคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าจะขอเวลาซักชั่วโมงก่อนเราจะไปที่มหาลัย"ยูคยอมถาม

     

    "ได้อยู่แล้วครับ"แจ็คสันตอบตกลงก่อนจะนั่งเงียบๆระหว่างทางไปทำงานของยูคยอม

     

    "ถึงแล้วล่ะ"ยูคยอมเรียกบอกแจ็คสัน ก่อนทั้งสองคนจะลงจากรถไป

     

              ยูคยอมเปิดประตูบริษัทเข้าไปก่อนจะเอ่ยทักทายกับพนักงานในสตูดิโออย่างคุ้นเคย วันนี้ยูคยอมมาถ่ายปกนิตยาสารรายสัปดาห์ชื่อดังของสำนักพิมพ์หนึ่ง เขาได้รับเชิญจากบก.ของหนังสือโดยตรงจึงได้ตอบตกลงทำงานก็แค่ถ่ายรูปขึ้นปกหนังสือ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงยูคยอมก็รับทำงานอยู่แล้ว เขาอยากจะเก็บเงินให้ได้เยอะๆเร็วๆเพื่อการตั้งตัวสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและเพียบพร้อมเหมือนอย่างคนอื่นๆ

     

    "อ้ะ พีดีคะ คุณคิมยูคยอมนายแบบของวันนี้มาแล้วค่ะ"หญิงสาวผู้ช่วยหันไปรายงานพีดีของงานนี้เพราะเธอได้พบยูคยอมแล้ว

     

    "สวัสดีครับ ผมยูคยอม คิมยูคยอมครับ ยินดีที่ได้ร่วมงาน"ยูคยอมโค้งหัวให้พีดีท่านนึงที่มีท่าทางอาวุโสอยู่ประมาณนึง แต่เขาไม่เคยร่วมงานกับพีดีคนนี้มาก่อนแต่เคยทำงานกับทีมงานของที่นี่มาแล้ว หวังว่าจะเป็นงานที่ดีนะ

     

    "ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ"เสียงทุ้มของพีดีตอบกลับมา

     

    "ครับ นี่เพื่อนของผม แจ็คสันครับ"ยูคยอมดึงแขนแจ็คสันให้ออกมาจากการหลบอยู่ข้างหลังเขา และแนะนำตัวแทนแจ็คสัน

     

    "สวัสดีครับ"พีดีส่งยิ้มให้แจ็คสันเล็กน้อย ส่วนแจ็คสันเองก็โค้งคำนับพร้อมส่งยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

              ผมกำลังนั่งรอคิมยูคยอมถ่ายแบบอยู่ การทำงานที่เป็นมืออาชีพของยูคยอมทำให้การถ่ายแบบของวันนี้ผ่านไปอย่างราบรื่น

     

              ผมนั่งมองเขาไปเรื่อยๆจนสักพักดูเหมือนว่าการถ่ายแบบของยูคยอมจะมีปัญหาอะไรบางอย่าง ช่างถ่ายภาพให้พักการถ่ายได้ ยูคยอมจึงเดินมานั่งพักตรงที่ผมนั่งอยู่ ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้เขา

     

    "ราบรื่นดีไหมครับ"ผมถามออกไป

     

    "ไม่สักเท่าไหร่ นายแบบอีกคนที่ต้องถ่ายคู่กันน่ะสิ เกิดอุบัติเหตุรถเสียอยู่กลางทาง ถ้ารอก็ไม่ทันแล้ว"

     

    "รอให้เขามาก็ได้นะครับ ผมก็ไม่ได้รีบอะไรสักหน่อย"

     

    "ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น ผมอยากไปเดทกับแจ็คสันมากกว่า"ยูคยอมพูดอย่างอ้อนๆก่อนจะพิงหัวมาที่ไหล่ผมแล้วพักสายตา

     

    "ขออยู่แบบนี้แป๊บนึงนะ"ยูคยอมเอ่ยทั้งๆที่ยังคงหลับตาแจ็คสันเอื้อมมือไปนวดข้างขมับให้เบาๆเผื่อว่ายูคยอมจะผ่อนคลายมากขึ้น ยูคยอมใส่ใจความรู้สึกของเขาขนาดนี้ คงไม่ผิดใช่ไหมที่เขาจะใส่ใจยูคยอมคืนบ้าง

     

              แจ็คสันลดมือลง เขารู้สึกแปลกๆเหมือนรับรู้ได้ว่ากำลังมีสายตาของคนอื่นๆมองมา จึงได้หันไปมองทางกองถ่ายที่กำลังปรึกษากันอยู่ก็พบสายตาของทุกคนมองมาจริงๆด้วยก่อนจะหันไปสุมหัวปรึกษางานกัน

     

    "น้องชื่อแจ็คสันใช่ไหมคะ"พี่ผู้หญิงหนึ่งในทีมงานเดินเข้ามาคุยกับเขา แจ็คสันพยักหน้าให้ไม่ได้เอ่ยอะไร ออกไปเขาติดจะงงๆด้วยซ้ำ

     

    "คือพี่มีเรื่องอยากให้น้องช่วย"

     

    ...อะไรวะ

     

    "คือน้องนายแบบที่ต้องถ่ายคู่คิมยูคยอมเขาเกิดปัญหามาไม่ได้กะทันหัน แล้วพี่เห็นน้องเป็นเพื่อนกับยูคยอมก็น่าจะถ่ายด้วยกันได้อยู่"

     

    "น้องช่วยมาถ่ายแบบกับยูคยอมหน่อยได้ไหมคะ"

     

     

    !!!!!

     

     

    "...ไม่ได้ครับ."เสียงยูคยอมชิงพูดขึ้นมาก่อนที่เขาจะยืนเต็มความสูงและส่งสายตาเย็นชาไปทางพี่ผู้หญิงคนนั้นที่ตอนนี้หน้าเสียอยู่ไม่น้อย

     

    "แต่ว่าคุณคิมคะ ทางนั้นมีปัญหามาไม่ได้จริงๆเราไม่มีทางเลือกมาก เพื่อนของคุณคิมเองก็ดูดีมากด้วยนะคะ"

     

    "...เดี๋ยวผมขอคุยกับเขาก่อน"แล้วทีมงานคนนั้นก็เดินออกไปพูดอะไรกับพีดีนิดหน่อย ก่อนที่พีดีจะมองมาทางเขา

     

    "แจ็คสันอยากถ่ายหรือเปล่า"ยูคยอมถามพร้อมจ้องตาอีกฝ่ายแจ็คสันสั่นหัวเบาๆ

     

    "ผมไม่ค่อยอยากถ่ายเท่าไหร่หรอก ตะ แต่ว่า มันเป็นทางที่จะช่วยพวกเขาได้นะ คือจะพูดยังไงดีล่ะ พี่เข้าใจที่ผมสื่อใช่ไหม"

     

    "เข้าใจ แต่ถ้าลำบากใจนายก็ไม่ต้องทำหรอก ผมไม่อยากบังคับแจ็คสัน และนี่มันก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเรา"ยูคยอมบอกมาอีกแจ็คสันก้มหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จนตัดสินใจได้กับประโยคถัดมาของยูคยอม

     

    "ถ้าเอาความจริง ผมหวงแฟน...บอยของผมนะ"ยูคยอมขี้แกล้ง... เขาแกล้งเว้นวรรคประโยคให้แจ็คสันเขินเล่นๆอีกแล้ว

     

    "ผมจะถ่ายแทนนายแบบคนนั้นเอง ถ้าออกมาไม่ดีก็อภัยให้ด้วยแล้วกันนะ ผมเองก็...อยากไปเดทกับยูคยอมจะแย่แล้ว"คราวนี้แจ็คสันไม่ยอมแพ้เหมือนกันคำพูดของแจ็คสันทำให้ยูคยอมเหมือนโดนค้อนทุบหัว ก่อนที่ตัวเองจะได้สติและเดินตามแจ็คสันที่เดินไปคุยกับทีมงาน

     

              การถ่ายทำงานก็กลับสู่สภาวะปกติอีกครั้งเมื่อได้แจ็คสันมาช่วยทำให้งานสามารถดำเนินต่อได้ ยูคยอมดูรูปที่เขาได้ถ่ายร่วมกับแจ็คสัน ส่วนแจ็คสันรายนั้นก็กำลังเปลี่ยนกลับไปใส่ชุดเดิมที่ใส่มาตอนแรกก่อนจะออกมาหายูคยอมและไล่อีกฝ่ายไปเปลี่ยนชุด

     

    ...แต่แปลกเฮะ วันนี้เขาไม่เจอผู้จัดการของยูคยอมเลย

     

              ปกติงานแบบนี้ต้องพกผู้จัดการมาด้วยไม่ใช่หรอ แล้ววันนี้ผู้จัดการสาวสวยคนนั้นเธอหายไปไหนซะแล้วล่ะ ทำเอาแจ็คสันแปลกใจอยู่ไม่น้อย หรือยูคยอมจะขอมาคนเดียวนะ

     

              แต่ช่างเถอะไม่มีอะไรสำคัญหรอก ดีเสียอีกเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งทนแรงกดดันจากสายตาของผู้จัดการ

     

    “แจ็คสันไปกันเถอะ”ยูคยอมสวมหมวกลายตัวอักษรภาษาอังกฤษลงบนหัวกลมของแจ็คสันเพื่อปิดบังใบหน้าของแจ็คสันไว้ ส่วนตัวเขาเองก็ใส่ในแบบเดียวกันแต่คนละสี

     

              ผมกับยูคยอมมาถึงมหาลัยในเวลาเที่ยงๆ เราเดินเลาะไปตามตึกเรียนเพื่อหลีกหนีฝูงชนที่อยู่ในงานตรงลานเอนกประสงค์ใหญ่ของมหาลัย

     

    "แจ็คสันเราจะไปที่ไหนกัน"ยูคยอมถามผมอย่างสงสัย ผมไม่ได้ตอบอะไรไปแต่จัดการลากแขนยูคยอมให้รีบเดิน งานเกษตรแฟร์วันนี้เปิดให้คนนอกเข้าได้ด้วย สำหรับนักศึกษาก็ไม่ต้องใส่ยูนิฟอร์ม เพราะงั้นวันนี้จึงวุ่นวายเป็นพิเศษ

     

              เมื่อมาถึงที่ซุ้มงานของกลุ่มผม ผมพายูคยอมไปนั่งหลบมุมในซุ้มก่อนจะบอกให้เขานั่งรอส่วนตัวเองก็มาขายของกับมาร์ค

     

    "หวัดดีมาร์ค"ผมทักออกไปก่อนจะช่วยมาร์คทำงาน

     

    "หวัดดี มาช้าจังฉันรอนายตั้งนาน ลูกค้าเยอะจนทำไม่ทันแล้วเนี่ย"มาร์คบ่นๆแต่มือก็ยังคงเขียนป้ายชื่อต่อไป

     

              ซุ้มของผมขายต้นไม้เหมือนกับคนอื่นๆนี่แหล่ะครับ แต่มีความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาคือการทำแท็กชื่อต้นไม้ ขายพวกต้นไม้ตั้งโต๊ะน่ารักๆ จริงๆงานเกษตรแฟร์วันนี้รวมไปถึงของตกแต่งบ้านและสวนด้วย ไม่ได้ขายเพียงแค่ต้นไม้

     

    ซุบซิบๆ ซุบซิบๆ

     

    "เอ่อ น้องคะ"ผู้หญิงคนหนึ่งที่มาซื้อต้นไม้เอ่ยเรียกขึ้นมาทำให้แจ็คสันเงยหน้าจากการทำป้ายขึ้นไปมอง

     

    "ผมหรอครับ?"แจ็คสันชี้ตัวเองอย่างงงๆ ก่อนจะเอ่ยถาม

     

    "ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?"รุ่นพี่คนนั้นพยักหน้าเบาๆพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น

     

    "เอ่อ ได้ครับๆ"แจ็คสันยิ้มตอบก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วมองไปที่กล้องเซลฟี่ของรุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้น ที่เขารู้ว่าเป็นรุ่นพี่ในมหาลัยเพราะว่าเป็นรุ่นพี่ของมาร์ค เธอถามชื่อของผมและซื้อต้นไม้ไปจำนวนหนึ่งก่อนจะจากไป มาร์คมองมาทางผมนิดหน่อยก่อนจะกลับไปตั้งใจทำป้ายชื่อสำหรับลูกค้าต่อ

     

              ซุ้มต้นไม้ของผมขายดีมาก มันใกล้หมดแล้ว แต่คนก็ยังเยอะอยู่ดี ตอนนี้ผ่านมาราวๆเกือบชั่วโมงได้แล้ว ผมแอบหันไปมองทางยูคยอมนิดหน่อยปรากฏว่านั่งหลับคอพับไปแล้ว จริงๆเลยผู้ชายคนนี้ ถ้าเหนื่อยจากทำงานแล้วก็น่าจะไปนอนพักสิ

     

              ผมรับลูกค้าอีกแป๊บหนึ่งก่อนจะส่งต่อร้านให้กับเพื่อนในซุ้มคนอื่นๆ เราจะผลัดเวรกัน ส่วนมาร์คน่ะหรอไปกับแบมแบมแล้วล่ะ วันนี้น้องมันแอบโดดเรียนมาหา ไม่แปลกใจเลย คงจะตามมาคุมความประพฤติมาร์คล่ะมั้ง เอาจริงๆก็คงหวง

     

              ผมเดินไปซื้อช็อกโก้เชคตรงซุ้มใกล้ๆกันถัดไปสองสามซุ้มสำหรับยูคยอม ส่วนผมกินขนมอยู่ ตอนขายมีสาวๆเอาขนมมาให้กันเต็มเลยพอๆกับมาร์ค แต่มันคงโยนให้แบมแบมกินหมด

     

    แปะ

     

    "ฮื่อ!"ยูคยอมสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมที่เล่นเอาแก้วช็อกโก้เชคไปแนบหน้าเขา

     

    "มันเย็นนะ ตกใจหมด"ยูคยอมบ่น แต่ก็รับน้ำไปดื่มอย่างชอบใจ แน่ล่ะนี่มันของโปรดของเขาเลยนี่นะ แจ็คสันน่ารักจริงๆ

     

    "ฮ่าๆ นิดหน่อยน่า ไปเดินเที่ยวงานกันเถอะ"แจ็คสันชวน ยูคยอมจึงยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินไปกับแจ็คสัน

     

    "คนเยอะชะมัด"เพราะว่าจำนวนคนที่เยอะมากและสถานการณ์ที่ดูวุ่นวายทั้งหมด เป็นการยากมากที่เขาจะเดินกับแจ็คสันอย่างสบายๆ เดทกันทั้งทีแต่เดินไกลกันอย่างกับไม่ได้มาด้วยกันเนี่ยนะ ยูคยอมขัดใจเสียจริง!

     

    "...อืมพี่ครับ ถ้าไม่ว่าอะไร"แจ็คสันหันมองหน้ายูคยอมนิดหน่อยก่อนจะหันหน้าออกมองไปข้างๆแทน

     

    "ขอผมเดินจับมือกับพี่ได้ไหม 'อยากเดินด้วยกัน' "แจ็คสันกำมือที่ชายเสื้อของตัวเองส่วนอีกมือหนึ่งก็ยื่นไปข้างๆเพื่อขอมืออีกฝ่าย แก้มใสที่ขึ้นซับสีเลือดบอกได้อย่างดีว่าแจ็คสันนั้นเขินมากแค่ไหนที่จะเอ่ยประโยคนี้ คิมยูคยอมได้แต่ยิ้มอย่างดีใจก่อนจะเอ่ยออกมา

     

    "ถ้างั้นก็ขออนุญาตด้วยแล้วกันนะ"ว่าแล้วฝ่ามืออุ่นของยูคยอมก็สอดประสานไปตามมือนุ่มนิ่มของแจ็คสันก่อนที่จะกระชับมือกันให้แน่นขึ้นและเดินไปด้วยกัน

     

              ผมเดินจับมือกับยูคยอมดูของในงานไปเรื่อยๆ อย่าหาว่าผมแร*หรือหน้าด้านอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ โอกาสทั้งทีได้อะไรก็คว้าเอาไว้ เรื่องถ่ายแบบนั่นก็เหมือนกัน ลัคกี้อินเลิฟลัคกี้อิมเกม คึคึ *0*

     

              ผมเดินไปเรื่อยๆจนยูคยอมพามาหยุดอยู่ที่ซุ้มๆหนึ่ง แต่ซุ้มนี้เป็นซุ้มเล่นเกมไม่ได้ขายของอะไร เป็นเกมเสี่ยงโชคธรรมดา ถ้าใครโชคดีก็จะได้รับเงินสดเป็นของรางวัลและถ้าเล่นแพ้ก็จะได้รับเสื้อยืดเป็นของปลอบใจ

     

    "เล่นกันเถอะแจ็คสัน"

    (=O=”)

     

              ยูคยอมผู้เสพติดการเล่นเกมทุกชนิดเอ่ยออกมา แจ็คสันผงะไปนิดนึงเขาเคยดูรายการของยูคยอมแข่งเกม ยูคยอมไม่เคยเล่นแพ้ใคร ถ้าเล่นแพ้ก็จะเล่นใหม่อีกเรื่อยๆจนกว่าจะชนะ ราชาแห่งเกมต้องยกให้ยูคยอมเลยเถอะ

     

    "เอาจริงหรอ มันเสี่ยงดวงนะถ้าพี่ไม่โชคดีจริงก็ไม่น่าจะชนะหรอก"แจ็คสันพูดออกไปตามตรง

     

    "เชื่อผมเถอะน่าสัญญาว่าจะเล่นแค่ตาเดียว"ยูคยอมบอกแล้วตรงไปที่ซุ้มเกมก่อนจะเจรจากับเจ้าของในซุ้ม

     

              ยูคยอมเลือกวงล้อเสี้ยวสีชมพูสดใส เสี้ยวนั้นก็เป็นเสี้ยวที่เล็กที่สุด ถ้าหมุนดีก็โดนแจ็คพ็อตแตก แต่ถ้าไม่ดีก็อดได้รับรางวัล ยูคยอมหมุนวงล้ออย่างดูแล้วค่อนข้างมั่นใจ

     

              ถ้าเป็นแจ็คสันเนี่ย ถอดใจเดินผ่านซุ้มนี้ไปนานมากแล้วเพราะเขาโครตห่วยเรื่องนี้เลย

     

    กึก กึก กึก

     

              วงล้อที่ถูกหมุนโดยฝีมือของยูคยอมช้าลงเรื่อยๆ คนที่อยู่ในละแวกนั้นต่างก็มุงดูกันอย่างลุ้นๆและสนอกสนใจ

     

    กึก... กึก...

     

    !!!!!!!!

     

    "แจ็คพ็อตแตกนะครับ โอ้โหสุดยอดไปเลย!"เอ็มซีของซุ้มทำหน้าที่ประกาศรางวัลอย่างตื่นเต้นยูคยอมที่เห็นผลรางวัลแล้วก็แอบยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างพอใจ

     

              ผมที่ดูอยู่ห่างๆก็ยกนิ้วโป้งให้เขาเพื่อบอกว่าเขานั้นเก่งมาก (^O^)b ยูคยอมรับรางวัลก่อนจะเดินดูซุ้มอื่นต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะจับมือผมในระหว่างที่เดินไปด้วยกัน

     

    "หิวข้าวหรือเปล่าครับ ซื้อขนมไปกินเล่นไหม"แจ็คสันถามยูคยอม

     

    "ก็ดี หิวนิดๆแล้วเหมือนกัน อยากกินช็อกโก้เชค"ยูคยอมบอก

     

    "กินวันละแก้วก็พอแล้วครับ เดี๋ยวก็อ้วนแย่หรอก"แจ็คสันเอื้อมมือบีบแก้มใสของยูคยอม ผิวดีเสียจริงเลยนะ หน้าหมั่นไส้อะ เขานี่ถ้าไม่บำรุงสิวก็คงขึ้นกันเต็มหน้าเลย เชื่อเถอะ

     

    "ไม่อ้วนหรอก ผมออกกำลังกายทุกวัน"ยูคยอมพูดอย่างดื้อรั้น อ้วนไม่อ้วนน่ะไม่เท่าไหร่ ถ้าเกิดกินมากๆแล้วน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมาก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพของยูคยอม แจ็คสันเป็นห่วงในจุดนี้มากกว่า

     

    "แต่วันนี้ห้ามกินครับ"แจ็คสันทำมือเป็นรูปกากบาทใส่ยูคยอมจึงทำให้ยูคยอมยอมแพ้ไป ถ้าคนบอกไม่ใช่แจ็คสันเขาก็ไม่ยอมหรอกนะ

     

    "โอเคครับยอมแล้วๆ แฟนบอยของผมทำไมโหดจังเลย"ยูคยอมบ่นอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะเดินดูของในงานต่อ

     

              ยูคยอมเป็นคนในวงการเพราะฉะนั้นการออกไปไหนมาไหนมันลำบากต่อตัวเขาและอีกฝ่ายที่เขานัดพบด้วย เขาจึงไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวแบบนี้สักเท่าไหร่

     

              ง่ายๆเลยคือแทบจะไม่เคยไปเดทมาก่อน กับแจ็คสันในวันนี้ถือว่าเป็นคนแรกตั้งแต่หมดสัญญาห้ามเดทเลยก็ว่าได้

     

    "รุ่นพี่ไปกินคิมบับกัน"แจ็คสันยื้อมือที่ถูกเกาะกุมด้วยฝ่ามือหนาเพื่อฉุดรั้งเป็นสัญญาณที่จะบอกว่าให้หยุดเดินก่อน

     

    "เอาสิ เดี๋ยวเลี้ยงเอง"ยูคยอมว่าแล้วหันไปสั่ง แจ็คสันไม่ได้ห้ามอะไร เพียงแต่คิดไว้แล้วว่าตอนจ่ายเงินเขาจะจ่ายเอง

     

    "คิมบับได้แล้วค่ะทั้งหมดสองพันวอน"เสียงคนขายวัยรุ่นดังบอก

     

    "นี่ครับเงิน"แจ็คสันชิงจ่ายตัดหน้ายูคยอมไปก่อนทำให้ยูคยอมหันไปมองหน้าของแจ็คสัน

     

    "ก็บอกว่าจะเลี้ยงเอง จ่ายเองทำไมล่ะ"ยูคยอมท้วง มือก็รับข้าวห่อสาหร่ายสุดโปรดมาถือไว้ในมือ

     

    "ผมไม่ได้ตกลงสักหน่อย นี่งานที่มหาลัยผมนะ ผมก็ต้องพาพี่เที่ยวสิ"

     

    "ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย ผมพาแจ็คสันมาเดทนะ"ยูคยอมแย้ง

     

    "โอะ กินเลอะอะ"ผมไม่สนใจอะไรเขาก่อนสายตาจะโฟกัสไปเห็นข้าวปั้นที่เลอะริมฝีปากของยูคยอมเลยปัดมันออก จากนั้นยูคยอมก็เงียบไปเลย แต่ผมเห็นนะว่าเขาก็หน้าแดงขึ้นมานิดหน่อย แก้มใสๆและผิวขาวๆนั่นทำให้ผมสังเกตเห็นได้ง่าย

     

    (>///<)

     

              โอเคอารมณ์อยากจะโวยวายของยูคยอมนั้นแทบจะพลันหายไปในทันทีเมื่อยูคยอมโดนแจ็คสันรุกกลับมาบ้าง เขาไม่ทันได้ตั้งตัวก็เลยทำตัวไม่ค่อยถูก แจ็คสันจะเล่นเขาคืนแบบนี้ใช่ไหม ได้เลย ไม่ใครก็ใครสักคนต้องเขินตายไปก่อนแน่

     

    "แจ็คสันขอกินอันของนายหน่อยได้ไหม"ผมร้องบอกเขา แต่คิมบับในมือของเราทั้งคู่ก็เหมือนกัน

     

    "มันก็เหมือนๆกันนะ"แจ็คสันดูงงๆแต่ก็ยอมยื่นมาให้

     

              แก้มใสๆของแจ็คสันเห่อขึ้นเป็นสีแดงนิดๆเพราะอากาศมันร้อนพอสมควร ดีที่เขาทั้งคู่หาที่นั่งต้นร่มไม้ได้พอดี แจ็คสันใช้ทิชชู่ซับตามกรอบหน้าของตัวเองเบาๆโดยมืออีกข้างก็กำลังแบ่งคิมบับให้ยูคยอม

     

    งั่บ!

     

    "..อะ!"แจ็คสันร้องออกมาปนตกใจนิดๆที่นิ้วเรียวของตนสัมผัสกับริมฝีปากหยักของอีกฝ่าย

     

              ยูคยอมงับเข้าที่คิมบับที่แจ็คสันถือ เอาจริงๆแจ็คสันนึกว่ายูคยอมจะหยิบไปถือกินเองไม่ได้จงใจจะป้อนให้สักหน่อย ยูคยอมชอบฉวยโอกาส แถมยังขบนิ้วของเขาอีกด้วย เป็นแบบนี้จะให้แจ็คสันทำยังไงได้ล่ะ ฮื่อ (-///-)

     

    "มะ...ไม่ให้กินแล้ว!"แจ็คสันชักมือกลับออกมาก่อนจะนั่งหันไปคนละด้านกับยูคยอม โธ่ ให้เขาสู้หน้ายูคยอมเขาต้องตายแน่ๆ เขาอาจจะกล้าหยิกแก้มอีกฝ่าย แต่แบบนี้มัน... ไม่ใช่เล่นกันปกติสักหน่อย แจ็คสันอายจะตายอยู่แล้วนะครับ ช่วยเลิกแกล้งทีเถอะนะ~!

     

     

    แต่ที่เกลียดมากกว่าการกระทำของยูคยอมทั้งหมด

     

     

    ก็สายตาของเขานี่แหล่ะ!

     

     

    แจ็คสันอยากจะบ้าตาย...

     

     

     

     

    .

     

     

    .

     

     

     

    .

     

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สามชั่วโมง

     

     

    "..."

     

    "..."

     

            เข้าสู่สภาวะเดธแอร์เมื่อทั้งเขาและยูคยอมไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาทั้งคู่ แจ็คสันเองก็ไม่รู้จะชวนอีกฝ่ายคุยอะไร และยูคยอมเองท่าทางคงจะคิดแบบเดียวกับเขาด้วยล่ะมั้ง

     

            ยูคยอมเดินกุมมือของแจ็คสันอยู่ เขาพาแจ็คสันออกมาจากงานเกษตรแฟร์ของมหาลัยแล้วเมื่อเห็นว่าเราเดินกันทั่วงานแล้ว ยูคยอมพาแจ็คสันเดินไปเรื่อยๆที่สวนดอกไม้ของมหาลัย

     

    "นี่"ยูคยอมตัดสินใจเรียก

     

    "ครับ? พี่มีอะไรหรอ"แจ็คสันหันไปตอบรับยูคยอม

     

    "ไม่คิดจะชวนคุยหน่อยหรอ"ยูคยอมบอก

     

    "ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมแค่กำลังคิดอะไรเพลินๆ แล้วก็ไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไรด้วย"

     

    "งั้นหรอ ...แล้วเรื่องที่คิดมีผมอยู่ในนั้นบ้างไหม"ยูคยอมสบตากับแจ็คสัน แถมรอยยิ้มหวานๆให้ด้วย แต่แววตาของแจ็คสันวูบไหวเล็กน้อย ที่ยูคยอมพูดมันก็ถูกแหล่ะ ในสมองของเขาคิดเกี่ยวกับยูคยอม แต่มันไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไหร่นักหรอก

     

    "เป็นอะไรไปสีหน้าดูไม่ดีเลยแจ็คสัน"ยูคยอมจับไหล่ของแจ็คสันก่อนจะเคลื่อนตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าของแจ็คสัน

     

    "มีอะไรก็บอกกันได้นะ ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม"ยูคยอมลูบหัวของแจ็คสันเบาๆแจ็คสันเบี่ยงหลบไปอย่างตกใจ แต่นั่นก็ทำให้ยูคยอมชะงักไปเช่นกัน

     

    "...ผม"แจ็คสันเงียบลงไปทั้งๆที่พึ่งพูดออกมาเพียงแค่พยางค์เดียวเท่านั้นเอง

     

    "ผมแค่ไม่เข้าใจ ว่าตอนนี้มันคืออะไรผมกำลังทำอะไรอยู่ พี่เป็นใครและผมเป็นใคร ผมแค่คิดว่า ผมไม่ควรมาอยู่ตรงจุดนี้"แจ็คสันส่ายหน้าเบาๆไหล่เล็กๆเริ่มสั่นเทิ้มขึ้นมา หยาดน้ำใสๆที่รินจากดวงตาที่ทอประกายนั่นช่างน่าสงสารจับใจ ยูคยอมเองก็รู้สึกเจ็บ ที่เขาทำให้แจ็คสันต้องรู้สึกเสียใจแบบนี้

     

    "ผมขอโทษ แต่แจ็คสันรู้อะไรไว้อย่างหนึ่งนะ ระหว่างเรามันไม่ใช่ฐานะของแฟนคลับกับศิลปินหรอก นายเป็นมากกว่านั้น นายพิเศษสำหรับผมนะ"ยูคยอมดึงแจ็คสันเข้ามากอด เด็กตัวเล็กในอ้อมกอดช่างน่าสงสาร

     

            ยูคยอมเผลอทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่ายไปเสียแล้ว มือหนาทำได้เพียงกอดปลอบประโลมเด็กน้อยเอาไว้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้มาก เขาเป็นใครแจ็คสันเป็นใคร เราทั้งคู่ก็รู้อยู่แก่ใจกันทั้งนั้น

     

    "อย่าร้องน่า เด็กโง่"ยูคยอมกระชับอ้อมกอด

     

    "อึ่ก! ว...วันนี้ที่เรามาเที่ยวด้วยกัน มันหมายความว่ายังไงหรอครับ ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นเลย แค่คิดว่าตรงนี้ไม่ใช่ที่ของผม ที่ใจมันก็โคตรเจ็บ ผมคิดมาก คิดไปสารพัดเลยว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไง ผมกลัวคำตอบของพี่ที่สุด"แจ็คสันซุกหน้าลงที่แผงอกกว้างยูคยอม ดีที่แจ็คสันกล้าพูดความรู้สึกของเขาออกมาตรงๆ ขอบคุณพระเจ้าจริงๆที่ส่งคนดีๆอย่างแจ็คสันมาให้ยูคยอมได้รู้สึกดีด้วย เขาเองก็คงต้องชัดเจนกับแจ็คสันสักทีจริงๆ

     

    "ขอโทษนะที่ทำให้คิดมากแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นผมคนนี้ก็จะบอกแฟนบอยขี้แงในอ้อมกอดของผมอย่างชัดเจนเลยนะ"

     

     

    'ผมเองก็..รู้สึกดีกับแจ็คสันนะครับ'

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

              เหตุการณ์ที่เล่ามาทั้งหมดข้างบน เป็นสาเหตุที่ทำให้แจ็คสันกระวนกระวายใจอยู่ในตอนนี้ตั้งหาก ใช่เรื่องเหตุการณ์ทั้งเป็นเรื่องจริง เพียงแต่มันได้ผ่านมานานหลายชั่วโมงแล้ว แต่สำหรับแจ็คสันนั้น เขายังคงรู้สึกเหมือนเรื่องมันพึ่งได้ราวๆห้านาทีที่แล้วนี่เอง

     

    "อ้ากกก แจ็คสันตอนนั้นพูดบ้าไรออกไปวะ!"แจ็คสันนอนดิ้นดีดตีขาบนเตียงอย่างระบายอารมณ์

     

              เขาแยกกับยูคยอมตั้งแต่ในเวลาทุ่มเศษๆแล้ว และตอนนี้เขากำลังวุ่นวายเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น ไม่รู้ว่าผีตนไหนมันเข้าสิงให้เขาทำแบบนั้นออกไป แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นยากที่จะรับมือกว่าอีก อยากรู้หรอว่าเกิดอะไรขึ้นต่อ คือว่า...

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    "อะไรนะครับ!?"แจ็คสันแข็งทื่อเป็นหินไปแล้วหลังจากที่ได้ยินประโยคสารภาพรักของยูคยอม เป็นคำพูดเรียบๆ แค่แผดเผาใจคนฟังเหลือเกิน เรี่ยวแรงของแจ็คสันแทบจะหมดไปทันทีที่ได้ยิน

     

     

    'ยูคยอมก็ชอบเขา'

     

     

    "ที่ผมไม่ได้แสดงออกอะไรชัดเจน เพราะผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแจ็คสันจะรู้สึกกับผมแบบไหน แจ็คสันให้ผมเป็นแค่พี่ชายหรือเปล่า อาจจะมากกว่านั้น ซึ่งผมไม่รู้เลย อยากจะแน่ใจมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ผมไม่อยากจะเก็บไว้แล้วเหมือนกัน"

     

    "ผมมั่นใจว่าความรู้สึกผมมันเป็นเรื่องจริง แล้วสำหรับแจ็คสันล่ะมันเป็นแค่การตลาดของแฟนคลับกับศิลปินหรือเปล่า จริงๆแล้วแจ็คสันไม่ได้ชอบผมหรือเปล่า"

     

    "ผมไม่สามารถควบคุมความรู้สึกทั้งหมดได้แล้ว แม้ว่าเราจะรู้จักกันไม่นาน ตั้งแต่วันนั้นที่แจ็คสันเป็นฝ่ายเข้ามาคุยกับผมก่อน ผมก็ชอบ แจ็คสันเป็นคนที่ผมอยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลา แจ็คสันน่ารัก แถมยังดีกับผมมากเลยด้วย"

     

    "ผมสร้างปัญหาให้แจ็คสันตั้งมากแต่แจ็คสันก็ไม่เคยทิ้งผมไปเลย แจ็คสันยังอยู่กับผมและไม่เคยผลักไสตัวผม แม้ว่าแจ็คสันจะเห็นด้านแย่ๆของผมแล้ว แต่แจ็คสันก็ยังอยู่กับผม ผมดีใจ ดีใจจริงๆนะ อยากจะขอบคุณพระเจ้าสักพันครั้งที่ส่งแจ็คสันมาให้รู้จักกับผม"

     

    ฉ่า

     

    (.////////.)

     

              เสียงที่เหมือนราวกับกำลังโดนย่างนี่ไม่ใช่อะไร สาเหตุก็มาจากใบหน้าของแจ็คสันที่ขึ้นสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆ หูขาวๆก็แดงเรื่อเข้มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แจ็คสันสายตาพร่ามัวไปหมด มันแทบจะอธิบายความรู้สึกทั้งหมดนี้ไม่ได้ แจ็คสันกำลังจะตาย ยูคยอมทำให้เขาไปไหนไม่รอดเสียแล้ว...

     

     

     

    "พะ พอแล้ว รู้แล้ว"แจ็คสันหน้าแดงเรื่ออย่างเห็นได้ชัด หูขาวๆเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มขึ้นอีก ในชีวิตของแจ็คสันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะโดนคนที่ชอบสารภาพรักแบบนี้

     

    "แต่แจ็คสันยังไม่ต้องตอบผม เรื่องระหว่างเรา ผมอยากจะศึกษาแจ็คสันให้มากกว่านี้ แจ็คสันไม่ต้องเปลี่ยนอะไร แค่เป็นแบบนี้ก็พอแล้ว ผมชอบที่แจ็คสันเป็นแบบนี้ หลังทัวร์คอนเสิร์ตจบ ผมจะกลับมาเอาคำตอบนะครับแจ็คสัน:) "

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

              นั่นคือคำพูดทั้งหมดของยูคยอมที่ได้บอกกับเขา แจ็คสันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชีวิตวัยรุ่น18ย่าง19ของเขาจะต้องมาเผชิญกับสถานการณ์รุนแรงต่อใจขนาดนี้มาก่อน ยูคยอมเป็นถึงดาราดัง ตัวเขาก็แค่แฟนคลับตัวเล็กๆเท่าฝุ่นผงเท่านั้นเอง ทำไมถึงได้มาอยู่ในสายตาของยูคยอมได้ขนาดนี้นะ

     

              แต่ที่แน่ๆเขารู้สึกดีมากๆ มากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ สิ่งที่เป็นเหมือนฝันของเขา มันกลับกลายเป็นความจริงขึ้นมาอย่างง่ายดาย เรื่องทั้งหมดมันช่างเหลือเชื่อ ยูคยอมกับเขาช่างห่างไกลกัน แต่ตอนนี้มันชิดเสียจนแจ็คสันตกลงไปในวังวนห้วงความรักของยูคยอมเสียแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนใจได้อีกแล้ว

     

    “...ยูคยอมอา”แจ็คสันกอดตุ๊กตามูมินตัวโตบนเตียงก่อนจะหันไปสบตากับแสตนดี้เท่าขนาดคนจริงของยูคยอมที่อยู่ตรงด้านมุมห้อง

     

    “...รู้ไหมว่าผมมีความสุขแค่ไหน ดีใจแค่ไหน”แจ็คสันอมยิ้มกับตัวเอง พอนึกถึงเรื่องในวันนี้ทีไรก็ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลยจริงๆ

     

    “...รีบๆกลับมาเอาคำตอบจากผมนะ ฮื่อออ”แจ็คสันเคลื่อนตัวนอนฟุบลงกับเตียงในแขนเล็กๆก็กอดตุ๊กตามูมินเอาไว้ราวกับว่ากำลังได้กอดยูคยอมอยู่ เขากอดแน่นเสียยิ่งกว่าอะไร ประหนึ่งจงอางกำลังหวงไข่เลยทีเดียวเชียว

     

              จริงสินะ เขาต้องเช็คโซเชียลในตอนนี้ก่อน ยูคยอมกำลังจะเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างประเทศ ตอนนี้เขาต้องรีบเช็คเที่ยวบินของยูคยอมในวันพรุ่งนี้ก่อน เหมือนเคยเห็นผ่านๆมาแล้วแต่ว่าไม่ได้จดมา

     

              เรื่องสำคัญแบบนี้ลืมได้ยังไงกันนะแจ็คสัน ให้ตายเลยเถอะ หรือเพราะเขาจะอยู่ใกล้ยูคยอมตัวจริงมากเกินไปเลยไม่ต้องตามติ่งเท่าแต่ก่อนแล้วนะ ติ่งที่ดีต้องเสมอต้นเสมอปลายและไม่เปลี่ยนเมนด้วย

     

              จำไว้ให้ดีนะชาวติ่ง ต่อให้เราจะไปติ่งใครเพิ่มมากมาย แต่เราก็จะไม่มีทางเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นนอกจากเมนคนเดียวในใจของเราหรอก อ้อ แต่หวังแจ็คสันคนนี้จะไม่ได้เป็นแค่ติ่งของยูคยอมอีกต่อไปแล้วนะ หึหึ

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป

     

    คุยกันซักแป้บนึง : อันยองงงงชาวเฟลิร์ทเลิฟ แอมซอรี่แอมขอโทษที่หายไปนานมาก กว่าจะเจียนตอนนี้ออกมาได้ มันยากมากจริง ต้องเค้นอารมณ์ความรู้และประสบการณ์ความรักและการเขียนนับร่วม10กว่าปี (ตั้งแต่ท้องแม่) ในการเขียนตอนนี้ อาจจะดูแปลกๆไปบ้าง ก็ให้อภัยเราที สัญญาว่าจะพัฒนางานเขียนของเราให้ดีขึ้นค่ะ อย่าลืม สามารถทวงฟิคได้ที่ @VayoIsis #ฟิคหนูหวังของยูค

              จะว่าไปเรายังไม่เคยได้อธิบายเลยเกี่ยวกับชื่อเรื่อง ชื่อนี้ได้มายังไง ก็คือเราใช้การเล่นเสียงของคำภาษาอังกฤษคือคำว่า First กับ Flirt ทุกคนจะเคยชินกับคำว่า First รักแรกพบอะไรในทำนองนี้ จริงเรื่องนี้ก็มีกลิ่นอายของรักแรกพบนิดหน่อย แต่คือก็ไม่ได้ไปทำนองนั้นเลย (ยูคยอมมาชอบแจ็คสันจริงๆก็ตอนได้คุยกัน) ซึ่งเรื่องทั้งหมด

              ที่เราเคยวางพล็อตเรื่องไว้มันจะเป็นแนวการรู้จักกัน มีความพิเศษต่อกัน ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก มีการจีบการศึกษาตัวตนของอีกฝ่าย เป็นอะไรที่ใสๆแต่ก็ไม่ใสตลอดไป สำหรับใครที่อยากลุ้นว่าเรื่องนี้มีฉากคัทไหม มีค่ะรับรองว่าแซ่บ อย่าลืมสิคะว่าพระเอกเราเป็นใคร ไม่ร้อนแรงไม่ใช่ยูคยอมค่ะทุกคน รับประกันความแซ่บเรื่องนี้เราจัดให้ครบทุกรสจริงๆเพราะเป็นงานเขียนเรื่องแรกที่แต่งไปและเอามาลงไปด้วย ประเดิมความรู้สึกที่มีทั้งหมดใส่ไว้ในนิยายเรื่องนี้ค่ะ อะไรครั้งแรกมักจะเป็นที่จดจำของเราเสมอๆเนอะ ไว้เจอกันตอนหน้าค่า
     


    O W E N TM.

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×